ประเทศแมนจู หรือเรียกอย่างทับศัพท์ว่า หมั่นโจวกั๋ว (จีน: 滿洲國; พินอิน: Mǎnzhōuguó; เวด-ไจลส์: Manchukuo) หรือชื่ออย่างเป็นทางการภายหลังปี ค.ศ. 1934 คือ จักรวรรดิแมนจูเรีย (จีน: 滿洲帝國; พินอิน: Mǎnzhōu Dìguó) เป็นรัฐหุ่นเชิดของจักรวรรดิญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในดินแดนแมนจูเรียและมองโกเลียในฝั่งทิศตะวันออกปัจจุบัน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1932 ถึง ค.ศ. 1945 ประเทศแมนจูเป็นรัฐที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่างจำกัดและอยู่ภายใต้การควบคุมของญี่ปุ่นโดยพฤตินัย
ประเทศแมนจู 滿洲國 (ค.ศ. 1932–1934) จักรวรรดิแมนจู 滿洲帝國 (ค.ศ. 1934–1945) | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ค.ศ. 1932–1945 | |||||||||
ตราพระราชลัญจกร (ค.ศ. 1934–1945) | |||||||||
ประเทศแมนจูในเขตยึดครองของจักรวรรดิญี่ปุ่น | |||||||||
สถานะ | รัฐหุ่นเชิดของจักรวรรดิญี่ปุ่น | ||||||||
เมืองหลวง | ซิงกิง (ฉางชุน) ถึง 9 ส.ค. 1945 () ถึง 18 ส.ค. 1945 | ||||||||
ภาษาทั่วไป | ภาษาญี่ปุ่น ภาษาจีนกลาง ภาษามองโกเลีย ภาษาแมนจู | ||||||||
การปกครอง | รัฐพรรคการเมืองเดียว ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญภายใต้เผด็จการทหารเบ็ดเสร็จ | ||||||||
ห้วหน้าฝ่ายบริหาร | |||||||||
• 1932–1934 | สมเด็จพระจักรพรรดิคังเต๋อ (ผู่อี๋) | ||||||||
จักรพรรดิ | |||||||||
• 1934–1945 | สมเด็จพระจักรพรรดิคังเต๋อ (ผู่อี๋) | ||||||||
นายกรัฐมนตรี | |||||||||
• 1932–1935 | |||||||||
• 1935–1945 | |||||||||
ประวัติศาสตร์ | |||||||||
• สถาปนา | 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1932 | ||||||||
• โซเวียตบุกครองแมนจู | สิงหาคม 1945 | ||||||||
สกุลเงิน | หยวนแมนจู | ||||||||
| |||||||||
ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ | จีน |
ประเทศแมนจู | |||||||||||||||||||||
ชื่อภาษาจีน | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
อักษรจีนตัวเต็ม | 滿洲國 | ||||||||||||||||||||
อักษรจีนตัวย่อ | 满洲国 | ||||||||||||||||||||
ความหมายตามตัวอักษร | ประเทศแมนจู | ||||||||||||||||||||
| |||||||||||||||||||||
ชื่อภาษาญี่ปุ่น | |||||||||||||||||||||
คันจิ | 満州国 | ||||||||||||||||||||
คานะ | まんしゅうこく | ||||||||||||||||||||
คาตากานะ | マンシュウコク | ||||||||||||||||||||
|
ดินแดนแห่งนี้นับเป็นรากเหง้าทางประวัติศาสตร์ของชนชาติแมนจูผู้สถาปนาราชวงศ์ชิงปกครองประเทศจีนในอดีต กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นได้เข้ายึดครองดินแดนดังกล่าวจากสาธารณรัฐจีนในปี ค.ศ. 1931 จากกรณีมุกเดน และในปีถัดมา (ค.ศ. 1932) ก็ได้มีการจัดตั้งรัฐบาลหุ่นเชิดขึ้นปกครอง โดยมีอ้ายซินเจว๋หลัว ผู่อี๋ อดีตจักรพรรดิองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ชิง เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินและจักรพรรดิแต่เพียงในนาม รัฐบาลแมนจูถูกล้มล้างในปี ค.ศ. 1945 หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงด้วยความพ่ายแพ้ของจักรวรรดิญี่ปุ่น ดินแดนซึ่งประเทศแมนจูได้ประกาศอ้างสิทธิอย่างเป็นทางการนั้น ในชั้นแรกถูกยึดครองโดยสหภาพโซเวียต หลังจากนั้นจึงได้มีการส่งมอบให้อยู่ภายใต้การปกครองของจีนต่อไป
กลุ่มชาติพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในแมนจูกัวคือ ชาวฮั่น ไม่ใช่ชาวแมนจูซึ่งเป็นที่มาของชื่อประเทศและจัดเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ส่วนน้อยในประเทศแมนจู นอกจากนี้ยังมีชาวเกาหลี ชาวญี่ปุ่น ชาวมองโกล ชาวรัสเซีย และกลุ่มชาติพันธุ์ขนาดเล็กอื่น ๆ ภูมิภาคมองโกลในทางตะวันตกของแมนจูกัวอยู่ภายใต้ระบบการปกครองที่แตกต่างกันเล็กน้อยจากส่วนกลาง โดยจัดการปกครองตามธรรมเนียมชาวมองโกลแทน ส่วนทางด้านทิศใต้ของคาบสมุทรเหลียวตงถูกปกครองโดยญี่ปุ่น โดยจัดพื้นที่ให้เป็นเขตเช่าของกองทัพคันโต
ประวัติ
ภูมิหลัง
หลังจากที่ชาวแมนจูพิชิตประเทศจีนสำเร็จ ชาวแมนจูจึงโค่นล้มอำนาจการปกครองของราชวงศ์หมิงและสถาปนาราชวงศ์ชิงขึ้นแทนที่ แต่อย่างไรก็ตามจักรพรรดิแมนจูกลับไม่รวมแผ่นดินการปกครองเกิดของพวกตนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีนอย่างเต็มที่นัก ระเบียบการปกครองโดยแบ่งแยกชนชาติดังกล่าวได้ดำเนินต่อมาจนกระทั่งจักรวรรดิของราชวงศ์ชิงเริ่มตกต่ำและแตกแยกในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19
เมื่ออำนาจของราชสำนักปักกิ่งอ่อนแอลง หัวเมืองขึ้นรอบนอกส่วนมากจึงแยกตนเองเป็นอิสระ (เช่น คัชการ์) หรือตกอยู่ในความความคุมของชาติมหาอำนาจลัทธิจักรวรรดินิยม ตลอดช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 นั้น จักรวรรดิรัสเซียนับเป็นชาติที่มีผลประโยชน์มากที่สุดที่ในดินแดนภาคเหนือของจักรวรรดิต้าชิง ในปี ค.ศ. 1858 รัสเซียได้รับสิทธิเข้าควบคุมดินแดนขนาดใหญ่ของจีนซึ่งเรียกว่า (Outer Manchuria) อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการทำสนธิสัญญาปักกิ่งฉบับเพิ่มเติม ซึ่งทำให้สงครามฝิ่นครั้งที่สองยุติลง แม้กระนั้นรัสเซียก็ยังไม่พอใจต่อสิ่งที่ตนได้รับ และเมื่อประกอบกับสถานการณ์ของราชวงศ์ชิงยังคงเสื่อมถอยอยู่ รัสเซียจึงพยายามต่อไปเพื่อการควบคุมดินแดนแมนจูเรียที่เหลืออยู่ทั้งหมด ดินแดนแมนจูเรียใน (Inner Manchuria) ได้ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของรัสเซียอย่างมากในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1890 จากการสร้างระหว่างเมืองฮาร์บินของแมนจูเรียและวลาดีวอสตอคของรัสเซีย
จุดกำเนิด
ผลโดยตรงจากสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น ระหว่างปี ค.ศ. 1904-1905 ได้ทำให้อิทธิพลของญี่ปุ่นได้เข้ามาสู่แมนจูเรียในแทนที่อิทธิพลของรัสเซีย โดยในปี ค.ศ. 1906 ประเทศญี่ปุ่นได้สร้างจากเมืองท่า (ญี่ปุ่นเรียกเมืองนี้ว่า "เรียวจุน") ต่อมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและสงครามโลกครั้งที่สอง แมนจูเรียได้กลายเป็นสมรภูมิระหว่างรัสเซีย, ญี่ปุ่นและจีน ทั้งทางด้านการเมืองและการทหาร ญี่ปุ่นได้ขยายอิทธิพลสู่ อันเป็นผลสืบเนื่องมาสถานการณ์อันสับสนจากการปฏิวัติในประเทศรัสเซียเมื่อ ค.ศ. 1918 ความสำเร็จทางการทหารของสหภาพโซเวียตและความกดดันทางเศรษฐกิจจากสหรัฐอเมริกาได้บีบบังคับให้ญี่ปุ่นต้องถอยร่นจากพื้นที่ดังกล่าว และแมนจูเรียนอกก็ได้กลับมาอยู่ในความปกครองรัสเซียอีกครั้งในนามสหภาพโซเวียตในปี ค.ศ. 1925
ด้านประเทศจีนซึ่งอยู่ในยุคแห่งความแตกแยกจากการตั้งตัวเป็นใหญ่ของกลุ่มขุนศึกต่างๆ ขุนศึก (Zhang Zuolin) ได้สถาปนาอำนาจการปกครองของตนเองในเขตแมนจูเรียในขึ้นภายใต้การสนับสนุนของญี่ปุ่น ต่อมาเมื่อกองทัพคันโตตระหนักว่าจาง โซ่วหลิน มีอิสระมากเกินไป จึงได้ทำการลอบสังหารเขาเสียเมื่อ ค.ศ. 1928
หลังจากการรุกรานแมนจูเรียของญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1931 กองทัพญี่ปุ่นได้มุ่งหน้าสู่การแบ่งแยกภูมิภาคแมนจูเรียออกจากการควบคุมจีนและสร้างรัฐหุ่นเชิดภายใต้การควบคุมของญี่ปุ่นขึ้น และเพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความชอบธรรมขึ้น อ้ายซินเจว๋หลัว ผู่อี๋ จักรพรรดิของจีนองค์สุดท้ายจึงได้รับเชิญจากญี่ปุ่นพร้อมกับอ้ายซินเจว๋หลัว ผู่เจี๋ยพระอนุชาและบรรดาผู้ติดตาม เพื่อเข้าดำรงตำแหน่งประมุขแห่งรัฐแมนจูเรียที่จัดตั้งขึ้นใหม่ หนึ่งในผู้ติดตามผู้ซื่อสัตย์ของเขาคือ นักปฏิรูปและผู้จงรักภักดีต่อราชวงศ์ชิง
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1932 ได้มีการประกาศสถาปนา "ประเทศแมนจู" (จีน: 滿洲國; พินอิน: Mǎnzhōuguó) ญี่ปุ่นได้ให้การรับรองประเทศแมนจูผ่านการลงนามในพิธีสารญี่ปุ่น-แมนจูกัว เมื่อวันที่ 15 กันยายน ค.ศ. 1932 เมืองฉางชุนซึ่งได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "ซิงกิง" (จีน: 新京; พินอิน: Xinjing; "เมืองหลวงใหม่") มีฐานะเป็นเมืองหลวงของรัฐใหม่แห่งนี้ ชาวฮั่นในแมนจูเรียได้รวมตัวกันเป็นเพื่อต่อต้านญี่ปุ่น ทำให้รัฐใหม่ดังกล่าวจำเป็นต้องทำสงครามอันยืดเยื้ออีกหลายปีเพื่อสร้างความสงบภายในประเทศ
ในขั้นต่อมา ญี่ปุ่นได้ดำเนินการแต่งตั้งให้ผู่อี๋เป็นประมุขแห่งรัฐในปี ค.ศ. 1932 และอีกสองปีให้หลังจึงได้มีการสถาปนาให้เขาดำรงตำแหน่งจักรพรรดิแมนจู โดยใช้ชื่อศักราชประจำรัชกาลตามแบบจีนว่า "คังเต๋อ" (หมายถึง "ความสงบและคุณธรรม") ประเทศแมนจูจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น "จักรวรรดิแมนจู" (จีน: 滿洲帝國; พินอิน: Mǎnzhōu Dìguó; เวด-ไจลส์: Manchutikuo) หรือในชื่อเต็ม "จักรวรรดิแมนจูเรียอันยิ่งใหญ่" (จีน: 大滿洲帝國; พินอิน: Dà Mǎnzhōu Dìguó) ได้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของแมนจูจนถึง ค.ศ. 1935 โดยมีขึ้นดำรงตำแหน่งแทน สำหรับจักรพรรดิผู่อี๋นั้น พระองค์มีฐานะดุจเดียวกับ เพราะอำนาจการปกครองประเทศที่แท้จริงนั้นล้วนอยู่ในกำมือของทหารญี่ปุ่นทั้งสิ้น พระราชวังได้ถูกสร้างขึ้นเป็นการเฉพาะสำหรับควบคุมจักรพรรดิ รัฐมนตรีแมนจูทั้งหมดรับบทเป็นเพียงร่างทรงของรองรัฐมนตรีที่เป็นชาวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้ตัดสินใจในทุกเรื่องอย่างแท้จริง
ในลักษณะดังกล่าวนี้ ญี่ปุ่นจึงสามารถตัดประเทศแมนจูออกจากจีนอย่างเป็นทางการในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1930 และด้วยการลงทุนของญี่ปุ่นและทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ พื้นที่ดังกล่าวจึงกลายเป็นฐานการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่สำคัญยิ่ง
ในปี ค.ศ. 1935 แมนจูได้ซื้อทางรถไฟสายจีนตะวันออกจากสหภาพโซเวียต
ทางทหาร
กองทัพบกแมนจู
- เป็นกองทัพหลักของจักรวรรดิแมนจู
- (หน่วยข่าวกรองแห่งแมนจู)
ทหารรักษาพระองค์แมนจู
- เป็นกองกำลังพิเศษของโดยก่อตั้งในปี ค.ศ.1933 โดยมีหน้าที่ป้องกันองค์จักรพรรดิและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล โดยมีฐานบัญชาการที่ ใกล้กับพระราชวังในใจกลางเมือง
กองทัพเรือแห่งแมนจู
- (Manshu Teikoku Kaigun) แต่เนื่องจากแมนจูเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลขนาดใหญ่ หัวหน้าของกองทัพคันโตเห็นว่าการผลิตของแมนจูนั้นต่ำมาก ดังนั้นจึงให้สร้างแค่เป็นกองทัพเรือเล็กเพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ของการปกครองใหม่
กองทัพอากาศแมนจู
- กองทัพอากาศประเทศแมนจู (Dai Manshū Teikoku Kūgun) ถูกก่อตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.1937 โดยตอนต้นมีเพียง 30 คน จากที่ถูกฝึกมาจากโรงเรียนการบินในฮาร์บิน โดยมาเป็นผู้ชำนาญการของ (ช่วงหลังเปลี่ยนเป็นสายการบินแห่งชาติแมนจู) โดยเป็นสายการบินทางทหารก่อตั้งในปีค.ศ.1931 โดยได้รับการรับรองให้เป็นทั้งการขนส่งและการต่อต้านตามคำสั่งของกองทัพบกจักรวรรดิญี่ปุ่น
อาชญากรรมสงครามของญี่ปุ่นในแมนจูกัว
จากการศึกษาวิจัยร่วมกันของนักประวัติศาสตร์ทั้งจากประเทศตะวันตก ประเทศจีน และประเทศญี่ปุ่นเอง อาทิเช่น Zhifen Ju, Mitsuyochi Himeta, Toru Kubo และ ได้มีมติสรุปเห็นพ้องตรงกันว่า พลเรือนชาวจีนมากกว่า 10 ล้านคนได้ถูกบังคับเกณฑ์แรงงานโดยกองทัพคันโตสำหรับการเป็นแรงงานทาสในประเทศแมนจู ภายใต้การกำกับดูแลของ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ญี่ปุ่นแต่งตั้งขึ้นเพื่อนำชาวจีนมาเป็นทาส
แรงงานทาสชาวจีนจะถูกใช้แรงงานอย่างหนักและมักเจ็บป่วย ด้วยภาวะขาดอาหารและอาการเหนื่อยล้า แรงงานที่ไม่ดีบางคนถูกผลักเข้าลงไปในหรือถูกเพื่อหลีกเลี่ยงภาระค่าใช้จ่ายทางการแพทย์
ในประเทศแมนจู จักรวรรดิญี่ปุ่นได้ใช้เป็นฐานผลิตอาวุธชีวภาพ ซึ่งถูกทดลองในมนุษย์โดย หน่วย 731 หน่วยงานที่ขึ้นชื่อในด้านความเลวร้ายในด้านศีลธรรมเพื่อทำการวิจัยและพัฒนาอาวุธชีวภาพใช้มนุษย์เป็นหนูทดลองอย่างทารุณ ฐานของหน่วยตั้งอยู่ในเขตฟิงฟาง เมืองฮาร์บิน ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีนต่างต้องตกอยู่ภายใต้การผ่าตัดส่วนใหญ่ไม่มีการใช้ยาชาระงับความเจ็บปวด
บรรณานุกรม
- Duara, Presenjit. Sovereignty and Authenticity: Manchukuo and the East Asian Modern. Lanham: Roman & Littlefield Publishers, 2004.
- Toshihiko Kishi. "Manchuria's Visual Media Empire (Manshukoku no Visual Media) : Posters, Pictorial Post Cards, Postal Stamps", Tokyo: Yoshikawa Kobunkan, 10 June 2010.
- Reginald Fleming Johnston. "Twilight in the Forbidden City". Soul Care Publishing, 18 March 2008.
อ้างอิง
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-12-21. สืบค้นเมื่อ 2011-03-02.
- Reginald Fleming Johnston, p. 438.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2006-10-31. สืบค้นเมื่อ 2011-07-19.
{{}}
: ระบุ|accessdate=
และ|access-date=
มากกว่าหนึ่งรายการ ((help)); ระบุ|archivedate=
และ|archive-date=
มากกว่าหนึ่งรายการ ((help)); ระบุ|archiveurl=
และ|archive-url=
มากกว่าหนึ่งรายการ ((help)) - Ju, Zhifen (2002), Japan's atrocities of conscripting and abusing north China draftees after the outbreak of the Pacific war
- Municipal Government Information Office (2005), Repatriation of one million Japanese via Huludao, Beijing: China Intercontinental Press, p. 25, ISBN
แหล่งข้อมูลอื่น
- ประวัติศาสตร์กองทัพแมนจู 2016-04-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- พิพิธภัณฑ์เงินตราแมนจู 2007-01-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- การจัดการศึกษาในมองโกเลียและแมนจูเรีย
- Manchukuo Flags
- "On Macro-economic Statistics for Manchukuo" by Yuzo Yamamoto
- "Toshiro Matsumoto s research over Manchukuo" 2011-07-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- "Vaticano-Manchukuo no sirve de mea culpa" by Gianni Valente เก็บถาวร 2013-01-11 ที่
- "เพลงชาติแมนจู"
- JAPAN-MANCHOUKUO PROTOCOL
- "References over Manchukuo" 2008-05-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Zionism and the Japanese East Asia Co-Prosperity Sphere 2008-04-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Japanese references to Mantetsu Railway Company 2008-01-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ภาพถ่ายในกรณีมุกเดน
- World War II database (1)
- World War II database (2)
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
praethsaemncu hruxeriykxyangthbsphthwa hmnocwkw cin 滿洲國 phinxin Mǎnzhōuguo ewd icls Manchukuo hruxchuxxyangepnthangkarphayhlngpi kh s 1934 khux ckrwrrdiaemncueriy cin 滿洲帝國 phinxin Mǎnzhōu Diguo epnrthhunechidkhxngckrwrrdiyipunthitngxyuindinaednaemncueriyaelamxngokeliyinfngthistawnxxkpccubn tngaetpi kh s 1932 thung kh s 1945 praethsaemncuepnrththiidrbkaryxmrbinradbsaklxyangcakdaelaxyuphayitkarkhwbkhumkhxngyipunodyphvtinypraethsaemncu 滿洲國 kh s 1932 1934 ckrwrrdiaemncu 滿洲帝國 kh s 1934 1945 kh s 1932 1945thngchati traphrarachlyckr kh s 1934 1945 khakhwy hachnchatiphayithnungshphaphephlngchati chbb kh s 1933 source source track track chbb kh s 1942 source source track track praethsaemncuinekhtyudkhrxngkhxngckrwrrdiyipunsthanarthhunechidkhxngckrwrrdiyipunemuxnghlwngsingking changchun thung 9 s kh 1945 thung 18 s kh 1945phasathwipphasayipun phasacinklang phasamxngokeliy phasaaemncukarpkkhrxngrthphrrkhkaremuxngediyw rachathipityphayitrththrrmnuyphayitephdckarthharebdesrchwhnafaybrihar 1932 1934smedcphrackrphrrdikhngetx phuxi ckrphrrdi 1934 1945smedcphrackrphrrdikhngetx phuxi naykrthmntri 1932 1935 1935 1945prawtisastr sthapna18 kumphaphnth kh s 1932 osewiytbukkhrxngaemncusinghakhm 1945skulenginhywnaemncukxnhna thdipsatharnrthcinpccubnepnswnhnungkhxng cinpraethsaemncuchuxphasacinxksrcintwetm滿洲國xksrcintwyx满洲国khwamhmaytamtwxksrpraethsaemncukarthxdesiyngphasacinklangmatrthanhny hwiphinxinMǎnzhōuguoewd iclsMan3 chou1 kuo2IPA ma nʈʂo ukwo phasaknxksrormnMon3 jiu1 goet6phasakwangtungmatrthanIPA mʊ ntsɐ ukʷɔ ːk y hwidephngmun5 zau1 gwok3chuxphasayipunkhnci満州国khanaまんしゅうこくkhatakanaマンシュウコクkarthxdesiyngormaciManshu koku dinaednaehngninbepnrakehngathangprawtisastrkhxngchnchatiaemncuphusthapnarachwngschingpkkhrxngpraethscininxdit kxngthphckrwrrdiyipunidekhayudkhrxngdinaedndngklawcaksatharnrthcininpi kh s 1931 cakkrnimukedn aelainpithdma kh s 1932 kidmikarcdtngrthbalhunechidkhunpkkhrxng odymixaysinecwhlw phuxi xditckrphrrdixngkhsudthayaehngrachwngsching epnphusaercrachkaraephndinaelackrphrrdiaetephiynginnam rthbalaemncuthuklmlanginpi kh s 1945 hlngcaksngkhramolkkhrngthi 2 sinsudlngdwykhwamphayaephkhxngckrwrrdiyipun dinaednsungpraethsaemncuidprakasxangsiththixyangepnthangkarnn inchnaerkthukyudkhrxngodyshphaphosewiyt hlngcaknncungidmikarsngmxbihxyuphayitkarpkkhrxngkhxngcintxip klumchatiphnthuthiihythisudinaemncukwkhux chawhn imichchawaemncusungepnthimakhxngchuxpraethsaelacdepnklumchatiphnthuswnnxyinpraethsaemncu nxkcakniyngmichawekahli chawyipun chawmxngokl chawrsesiy aelaklumchatiphnthukhnadelkxun phumiphakhmxngoklinthangtawntkkhxngaemncukwxyuphayitrabbkarpkkhrxngthiaetktangknelknxycakswnklang odycdkarpkkhrxngtamthrrmeniymchawmxngoklaethn swnthangdanthisitkhxngkhabsmuthrehliywtngthukpkkhrxngodyyipun odycdphunthiihepnekhtechakhxngkxngthphkhnotprawtiphumihlng hlngcakthichawaemncuphichitpraethscinsaerc chawaemncucungokhnlmxanackarpkkhrxngkhxngrachwngshmingaelasthapnarachwngschingkhunaethnthi aetxyangirktamckrphrrdiaemncuklbimrwmaephndinkarpkkhrxngekidkhxngphwktnekhaepnswnhnungkhxngpraethscinxyangetmthink raebiybkarpkkhrxngodyaebngaeykchnchatidngklawiddaenintxmacnkrathngckrwrrdikhxngrachwngschingerimtktaaelaaetkaeykinchwngkhriststwrrsthi 19 emuxxanackhxngrachsankpkkingxxnaexlng hwemuxngkhunrxbnxkswnmakcungaeyktnexngepnxisra echn khchkar hruxtkxyuinkhwamkhwamkhumkhxngchatimhaxanaclththickrwrrdiniym tlxdchwngkhriststwrrsthi 19 nn ckrwrrdirsesiynbepnchatithimiphlpraoychnmakthisudthiindinaednphakhehnuxkhxngckrwrrditaching inpi kh s 1858 rsesiyidrbsiththiekhakhwbkhumdinaednkhnadihykhxngcinsungeriykwa Outer Manchuria xnepnphlsubenuxngmacakkarthasnthisyyapkkingchbbephimetim sungthaihsngkhramfinkhrngthisxngyutilng aemkrannrsesiykyngimphxictxsingthitnidrb aelaemuxprakxbkbsthankarnkhxngrachwngschingyngkhngesuxmthxyxyu rsesiycungphyayamtxipephuxkarkhwbkhumdinaednaemncueriythiehluxxyuthnghmd dinaednaemncueriyin Inner Manchuria idtkxyuphayitxiththiphlkhxngrsesiyxyangmakinchwngkhristthswrrsthi 1890 cakkarsrangrahwangemuxngharbinkhxngaemncueriyaelawladiwxstxkhkhxngrsesiy cudkaenid phithisaryipun aemncukw lngnamwnthi 15 knyayn kh s 1932rachbllngkkhxngckrphrrdiaemncu raw kh s 1937 phlodytrngcaksngkhramrsesiy yipun rahwangpi kh s 1904 1905 idthaihxiththiphlkhxngyipunidekhamasuaemncueriyinaethnthixiththiphlkhxngrsesiy odyinpi kh s 1906 praethsyipunidsrangcakemuxngtha yipuneriykemuxngniwa eriywcun txmainchwngsngkhramolkkhrngthihnungaelasngkhramolkkhrngthisxng aemncueriyidklayepnsmrphumirahwangrsesiy yipunaelacin thngthangdankaremuxngaelakarthhar yipunidkhyayxiththiphlsu xnepnphlsubenuxngmasthankarnxnsbsncakkarptiwtiinpraethsrsesiyemux kh s 1918 khwamsaercthangkarthharkhxngshphaphosewiytaelakhwamkddnthangesrsthkiccakshrthxemrikaidbibbngkhbihyipuntxngthxyrncakphunthidngklaw aelaaemncueriynxkkidklbmaxyuinkhwampkkhrxngrsesiyxikkhrnginnamshphaphosewiyt inpi kh s 1925 danpraethscinsungxyuinyukhaehngkhwamaetkaeykcakkartngtwepnihykhxngklumkhunsuktang khunsuk Zhang Zuolin idsthapnaxanackarpkkhrxngkhxngtnexnginekhtaemncueriyinkhunphayitkarsnbsnunkhxngyipun txmaemuxkxngthphkhnottrahnkwacang oswhlin mixisramakekinip cungidthakarlxbsngharekhaesiyemux kh s 1928 hlngcakkarrukranaemncueriykhxngyipuninpi kh s 1931 kxngthphyipunidmunghnasukaraebngaeykphumiphakhaemncueriyxxkcakkarkhwbkhumcinaelasrangrthhunechidphayitkarkhwbkhumkhxngyipunkhun aelaephuxsrangbrryakasaehngkhwamchxbthrrmkhun xaysinecwhlw phuxi ckrphrrdikhxngcinxngkhsudthaycungidrbechiycakyipunphrxmkbxaysinecwhlw phueciyphraxnuchaaelabrrdaphutidtam ephuxekhadarngtaaehnngpramukhaehngrthaemncueriythicdtngkhunihm hnunginphutidtamphusuxstykhxngekhakhux nkptirupaelaphucngrkphkditxrachwngsching xaysinecwhlw phuxi inthanackrphrrdikhngetxaehngaemncu wnthi 18 kumphaphnth kh s 1932 idmikarprakassthapna praethsaemncu cin 滿洲國 phinxin Mǎnzhōuguo yipunidihkarrbrxngpraethsaemncuphankarlngnaminphithisaryipun aemncukw emuxwnthi 15 knyayn kh s 1932 emuxngchangchunsungidepliynchuxihmepn singking cin 新京 phinxin Xinjing emuxnghlwngihm mithanaepnemuxnghlwngkhxngrthihmaehngni chawhninaemncueriyidrwmtwknepnephuxtxtanyipun thaihrthihmdngklawcaepntxngthasngkhramxnyudeyuxxikhlaypiephuxsrangkhwamsngbphayinpraeths inkhntxma yipuniddaeninkaraetngtngihphuxiepnpramukhaehngrthinpi kh s 1932 aelaxiksxngpiihhlngcungidmikarsthapnaihekhadarngtaaehnngckrphrrdiaemncu odyichchuxskrachpracarchkaltamaebbcinwa khngetx hmaythung khwamsngbaelakhunthrrm praethsaemncucungidepliynchuxepn ckrwrrdiaemncu cin 滿洲帝國 phinxin Mǎnzhōu Diguo ewd icls Manchutikuo hruxinchuxetm ckrwrrdiaemncueriyxnyingihy cin 大滿洲帝國 phinxin Da Mǎnzhōu Diguo iddarngtaaehnngepnnaykrthmntrikhnaerkkhxngaemncucnthung kh s 1935 odymikhundarngtaaehnngaethn sahrbckrphrrdiphuxinn phraxngkhmithanaducediywkb ephraaxanackarpkkhrxngpraethsthiaethcringnnlwnxyuinkamuxkhxngthharyipunthngsin phrarachwngidthuksrangkhunepnkarechphaasahrbkhwbkhumckrphrrdi rthmntriaemncuthnghmdrbbthepnephiyngrangthrngkhxngrxngrthmntrithiepnchawyipun sungepnphutdsinicinthukeruxngxyangaethcring inlksnadngklawni yipuncungsamarthtdpraethsaemncuxxkcakcinxyangepnthangkarinchwngkhristthswrrsthi 1930 aeladwykarlngthunkhxngyipunaelathrphyakrthrrmchatixnxudmsmburn phunthidngklawcungklayepnthankarphlitphakhxutsahkrrmthisakhyying inpi kh s 1935 aemncuidsuxthangrthifsaycintawnxxkcakshphaphosewiytthangthharkxngphlthharmaaemncu kxngthphbkaemncu epnkxngthphhlkkhxngckrwrrdiaemncu hnwykhawkrxngaehngaemncu thharrksaphraxngkhaemncu epnkxngkalngphiesskhxngodykxtnginpi kh s 1933 odymihnathipxngknxngkhckrphrrdiaelaecahnathiradbsungkhxngrthbal odymithanbychakarthi iklkbphrarachwnginicklangemuxngkxngthpheruxaehngaemncu Manshu Teikoku Kaigun aetenuxngcakaemncuepnpraethsthiimmithangxxksuthaelkhnadihy hwhnakhxngkxngthphkhnotehnwakarphlitkhxngaemncunntamak dngnncungihsrangaekhepnkxngthpheruxelkephuxihepnsylksnkhxngkarpkkhrxngihmkxngthphxakasaemncu kxngthphxakaspraethsaemncu Dai Manshu Teikoku Kugun thukkxtngineduxnkumphaphnth kh s 1937 odytxntnmiephiyng 30 khn cakthithukfukmacakorngeriynkarbininharbin odymaepnphuchanaykarkhxng chwnghlngepliynepnsaykarbinaehngchatiaemncu odyepnsaykarbinthangthharkxtnginpikh s 1931 odyidrbkarrbrxngihepnthngkarkhnsngaelakartxtantamkhasngkhxngkxngthphbkckrwrrdiyipunxachyakrrmsngkhramkhxngyipuninaemncukw cakkarsuksawicyrwmknkhxngnkprawtisastrthngcakpraethstawntk praethscin aelapraethsyipunexng xathiechn Zhifen Ju Mitsuyochi Himeta Toru Kubo aela idmimtisrupehnphxngtrngknwa phleruxnchawcinmakkwa 10 lankhnidthukbngkhbeknthaerngnganodykxngthphkhnotsahrbkarepnaerngnganthasinpraethsaemncu phayitkarkakbduaelkhxng sungepnhnwynganthiyipunaetngtngkhunephuxnachawcinmaepnthas aerngnganthaschawcincathukichaerngnganxyanghnkaelamkecbpwy dwyphawakhadxaharaelaxakarehnuxyla aerngnganthiimdibangkhnthukphlkekhalngipinhruxthukephuxhlikeliyngpharakhaichcaythangkaraephthy inpraethsaemncu ckrwrrdiyipunidichepnthanphlitxawuthchiwphaph sungthukthdlxnginmnusyody hnwy 731 hnwynganthikhunchuxindankhwamelwrayindansilthrrmephuxthakarwicyaelaphthnaxawuthchiwphaphichmnusyepnhnuthdlxngxyangtharun thankhxnghnwytngxyuinekhtfingfang emuxngharbin phuthitkepnehyuxsungswnihyepnchawcintangtxngtkxyuphayitkarphatdswnihyimmikarichyacharangbkhwamecbpwdbrrnanukrmDuara Presenjit Sovereignty and Authenticity Manchukuo and the East Asian Modern Lanham Roman amp Littlefield Publishers 2004 Toshihiko Kishi Manchuria s Visual Media Empire Manshukoku no Visual Media Posters Pictorial Post Cards Postal Stamps Tokyo Yoshikawa Kobunkan 10 June 2010 Reginald Fleming Johnston Twilight in the Forbidden City Soul Care Publishing 18 March 2008 xangxing khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 12 21 subkhnemux 2011 03 02 Reginald Fleming Johnston p 438 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2006 10 31 subkhnemux 2011 07 19 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a rabu accessdate aela access date makkwahnungraykar help rabu archivedate aela archive date makkwahnungraykar help rabu archiveurl aela archive url makkwahnungraykar help Ju Zhifen 2002 Japan s atrocities of conscripting and abusing north China draftees after the outbreak of the Pacific war Municipal Government Information Office 2005 Repatriation of one million Japanese via Huludao Beijing China Intercontinental Press p 25 ISBN 7 5085 0735 5aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb praethsaemncu prawtisastrkxngthphaemncu 2016 04 15 thi ewyaebkaemchchin phiphithphnthengintraaemncu 2007 01 17 thi ewyaebkaemchchin karcdkarsuksainmxngokeliyaelaaemncueriy Manchukuo Flags On Macro economic Statistics for Manchukuo by Yuzo Yamamoto Toshiro Matsumoto s research over Manchukuo 2011 07 20 thi ewyaebkaemchchin Vaticano Manchukuo no sirve de mea culpa by Gianni Valente ekbthawr 2013 01 11 thi ephlngchatiaemncu JAPAN MANCHOUKUO PROTOCOL References over Manchukuo 2008 05 15 thi ewyaebkaemchchin Zionism and the Japanese East Asia Co Prosperity Sphere 2008 04 14 thi ewyaebkaemchchin Japanese references to Mantetsu Railway Company 2008 01 01 thi ewyaebkaemchchin phaphthayinkrnimukedn World War II database 1 World War II database 2 bthkhwamprawtisastrniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk