ยะอ์กูบ บิน อิสฮาก บิน อิบรอฮีม (อาหรับ: يَعْقُوب อาหรับ يَعْقُوْبِ بْنُ إِسْحَاقَ بْنُ إِبْرَاهِيم แปลตามตัวอักษร: " ยาโคบ บุตรของอิสอัค บุตรของอับราฮัม ; ต่อมาเปลี่ยนเป็นอิสรออีล, อาหรับ: إِسْرَآئِیل [israaeel] ; ภาษาอาหรับคลาสสิก/กุรอาน : إِسْرَآءِیْل [ israaeel ]) หรือที่รู้จักในชื่อยาโคบเป็นนบีในศาสนาอิสลาม เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นนบีของศาสนาอิสลาม ชาวมุสลิมเชื่อว่าท่านประกาศความเชื่อในพระเจ้าองค์เดียวเช่นเดียวกับบรรพบุรุษของท่าน: อับราฮัม (อิบรอฮีม) อิชมาเอล (อิสมาอีล) และอิสอัค (อิสฮาก)
ชื่อของยะอ์กูบใน | |
สุสาน | , เฮโบรน (อัลเคาะลีล) |
ชื่ออื่น | ภาษาอาหรับคลาสสิก: إِسْرَآءِيل ภาษาอาหรับมาตรฐานสมัยใหม่: إِسْرَآئِيل ภาษาฮีบรู: יַעֲקֹב , יִשְׂרָאֵל |
ผู้ดำรงตำแหน่งก่อน | อิสฮาก |
ผู้สืบตำแหน่ง | ยูซุฟ |
คู่สมรส | , |
บุตร | ยูซุฟ, และอีก 10 คน |
บิดามารดา | อิสฮาก, |
นบียะอ์กูบถูกกล่าวชื่อถึง 16 ครั้งในอัลกุรอาน การอ้างอิงถึง อิสรออีล อีกสองครั้งเชื่อว่าเป็นการกล่าวถึงนบียะอ์กูบ ในการอ้างอิงเหล่านี้ส่วนใหญ่ นบียะอ์กูบถูกกล่าวถึงควบคู่ไปกับเพื่อนนบีชาวฮีบรู ในฐานะนบีที่เก่าแก่และเคร่งศาสนาซึ่งอยู่ใน "กลุ่มของผู้ที่ได้รับเลือก" ชาวมุสลิมถือว่านบียะอ์กูบเป็นบุตรของนบีอิสฮาก และเขาเทศนาเอกภาพของอัลลอฮ์ ตลอดชีวิตของเขา เช่นเดียวกับใน ศาสนาคริสต์ และ ศาสนายูดาย ศาสนาอิสลามถือได้ว่านบียะอ์กูบมีบุตรชายสิบสองคน ซึ่งจะสืบเชื้อสายมาจากชนชาติอิสราเอลทั้งสิบสองเผ่า คัมภีร์กุรอานยังระบุชัดเจนว่า อัลลอฮ์ได้ทำพันธสัญญากับนบียะอ์กูบ และนบียะอ์กูบก็ได้รับเลือกให้เป็นผู้นำที่ซื่อสัตย์โดยคำสั่งของอัลลอฮ์ ปู่ของท่าน (อิบรอฮีม) บิดาของท่าน (อิสฮาก) ลุง (อิสมาอีล) บุตรชาย (ยูซุฟ) และตัวท่านเองต่างก็เป็นนบีของอิสลาม
ในอัลกุรอาน
ชื่อของนบียะอ์กูบถูกกล่าวถึงในอัลกุรอาน 16 ครั้ง แม้ว่าโองการเหล่านี้หลายโองการจะยกย่องท่านมากกว่าที่จะเล่าถึงตัวอย่างจากเรื่องเล่าของท่าน แต่อัลกุรอานได้บันทึกเหตุการณ์สำคัญหลายอย่างจากชีวิตของท่าน ความเชื่อของชาวมุสลิม เหตุการณ์แรกสุดที่เกี่ยวข้องกับนบียะอ์กูบในคัมภีร์กุรอานคือเหตุการณ์ที่ทูตสวรรค์ (มะลาอิกะฮ์) แจ้ง "ข่าวดี" แก่นบีอิบรอฮีม และ ซาเราะห์ เกี่ยวกับการเกิดในอนาคตของบุตรชายที่จะเป็นนบีในนามของอิสฮากเช่นเดียวกับนบีที่เป็นหลานชื่อยะอ์กูบ อัลกุรอานกล่าวว่า:
ครั้นเมื่อเขาปลีกตัวออกไปจากพวกเขาและสิ่งที่พวกเขาเคารพบูชาอื่นจากอัลลอฮ์แล้ว เราได้ให้แก่เขา อิสฮาก และยะอ์กูบ และแต่ละคนเราได้แต่งตั้งให้เป็นนบี
คัมภีร์กุรอานยังกล่าวด้วยว่า นบีอิบรอฮีมสอนความเชื่อเรื่องพระเจ้าองค์เดียวที่บริสุทธิ์แก่บุตรของท่าน นบีอิสมาอีลและนบีอิสฮาก รวมทั้งนบียะอ์กูบ คัมภีร์กุรอานบันทึกว่า นบีอิบรอฮีมบอกนบีอิสมาอีล นบีอิสฮาก และนบียะอ์กูบว่า "โอ้บุตรเอ๋ย! แท้จริงอัลลอฮ์ได้ทรงเลือกศาสนาให้แก่พวกเจ้าแล้ว ดังนั้น พวกเจ้าจงอย่ายอมตายเป็นอันขาด นอกจากในขณะที่พวกเจ้าเป็นผู้สวามิภักดิ์ (ต่ออัลลฮ์) เท่านั้น" คัมภีร์อัลกุรอานยังกล่าวถึงของขวัญที่มอบให้กับนบียะอ์กูบ เช่นเดียวกับความแข็งแกร่งของศรัทธาของท่าน ซึ่งแข็งแกร่งขึ้นเมื่อท่านอายุมากขึ้น อัลกุรอานกล่าวว่านบียะอ์กูบเป็น "ทางนำ"; ให้ "ความรู้"; "แรงบันดาลใจ"; และได้รับ "ลิ้นแห่งความจริงที่จะได้ยิน" อัลกุรอานกล่าวในภายหลังเกี่ยวกับนบียะอ์กูบ:
และเราได้ให้บุตรชื่ออิสฮากแก่เขา และยะอ์กูบ (หลาน) เป็นการเพิ่มพูน และทั้งหมดนั้นเราได้ให้เป็นคนดีมีคุณธรรม และเราได้แต่งตั้งพวกเขาให้เป็นผู้นำเพื่อชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องโดยคำสั่งของเรา และเราได้วะฮีแก่พวกเขาให้ปฏิบัติความดี และธำรงการละหมาด แล้วบริจาคทานซะกาต และพวกเขาก็เป็นผู้เคารพภักดีต่อเราเท่านั้น
— กุรอาน ซูเราะฮ์ 21 (), อายะฮ์ 72–73
และจงรำลึกถึงปวงบ่าวของเรา อิบรอฮีม อิสฮาก และยะอ์กูบ ผู้ที่เข้มแข็งและสายตาไกล (ในเรื่องศาสนา เราได้เลือกพวกเขาโดยเฉพาะเพื่อเตือนให้รำลึกถึงปรโลก และแท้จริงพวกเขานั้น ในทัศนะของเรา แน่นอนอยู่ในหมู่ผู้ได้รับเลือกเพราะพวกเขาเป็นคนดี
— กุรอาน, สูเราะฮ์ 38 (), อายะฮ์ 45–47
นบียะอ์กูบและบุตรของท่าน
การกล่าวถึงที่สำคัญครั้งต่อไปของนบียะอ์กูบในอัลกุรอานคือการบรรยายของ เรื่องราวของนบียูซุฟในคัมภีร์อัลกุรอานเปิดขึ้นด้วยความฝันในคืนหนึ่งว่านบียูซุฟมีความฝัน หลังจากนั้นเขาก็วิ่งไปหานบียะอ์กูบบิดาของท่านโดยกล่าวว่า "ดูเถิด นบียูสฟุพูดกับบิดาว่า "โอ้ บิดาของข้าพเจ้า! ลูกเห็นดาวสิบเอ็ดดวงและดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ลูกเห็นพวกเขาหมอบกราบลูก!" " ใบหน้าของนบียะอ์กูบเต็มไปด้วยความยินดีในสิ่งที่เขาได้ยินจากนบียูซุฟในวัยเยาว์ และนบีผู้สูงวัยเข้าใจทันทีว่าความฝันนั้นหมายถึงอะไร นบียะอ์กูบสามารถคาดการณ์ได้ว่าบุตรชายของท่านจะเติบโตขึ้นเป็นนบีคนต่อไปในสายของนบีอิบรอฮีม และจะเป็นนบียูซุฟที่จะรักษาสาส์นแห่งอิสลามให้คงอยู่ต่อไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม บุตรชายคนโตของนบียะอ์กูบรู้สึกว่าบิดาของพวกเขารักนบียูซุฟและ บุตรชายคนสุดท้องของนบียะอ์กูบมากกว่าพวกเขา นบียะอ์กูบรู้เรื่องความหึงหวงของพวกเขาและเตือนนบียูซุฟหนุ่มเกี่ยวกับเรื่องนี้ พี่ชายสิบคนของนบียูซุฟจึงตัดสินใจฆ่าเขา ดังที่อัลกุรอานบรรยายการสนทนาของพวกเขา:
จงรำลึกขณะที่พวกเขากล่าวว่า “แน่นอนยูซุฟและน้องของเขาเป็นที่รักแก่พ่อของเรายิ่งกว่าพวกเราทั้ง ๆ ที่พวกเรามีจำนวนมากแท้จริงพ่อของเราอยู่ในการหลงผิดจริง ๆ “พวกท่านจงฆ่ายูซุฟ หรือเอาไปทิ้งในที่เปลี่ยวเสีย เพื่อความเอาใจใส่ของพ่อของพวกท่านจะเกิดขึ้นแก่พวกท่าน และพวกท่านจะเป็นกลุ่มชนที่ดีหลังจากเขา”
— กุรอาน, ซูเราะฮ์ที่ 12 () อายะฮ์ 8–9
พี่น้องคนหนึ่ง (มักเข้าใจว่าเป็นรูเบน ) อย่างไรก็ตาม รู้สึกว่าแทนที่จะฆ่านบียูซุฟ พวกเขาควรทิ้งเขาลงในบ่อน้ำแทน เพื่อกองคาราวานจะมารับเขา ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงถามบิดาว่าจะพาเด็กน้อยยูซุฟออกไปเล่นกับพวกเขาได้หรือไม่ โดยมีเงื่อนไขว่าพวกเขาจะคอยดูแลเขา แม้ว่านบียะอ์กูบจะกลัวว่า ซิอ์บฺ (อาหรับ: ذِئـب หมาป่า) จะกินบุตรชายของเขา บุตรชายคนโตที่ดื้อรั้นจับนบียูซุฟไปโยนลงไปในบ่อน้ำ เมื่อบุตรชายทั้งหมดกลับมาหานบียะอ์กูบในคืนนั้น พวกเขาแสร้งทำเป็นร้องไห้และบอกเขาว่าหมาป่าได้กินนบียูซุฟแล้ว เพื่อหลอกลวงบิดาของพวกเขา พวกเขาเปื้อนเสื้อของนบียูซุฟด้วยเลือดปลอม แต่นบียะอ์กูบซึ่งได้รับความรู้เป็นของประทาน รู้ว่านี่เป็นการปรุงที่ผิดที่พวกเขาคิดขึ้นเอง แม้ว่านบียะอ์กูบกังวลเรื่องการสูญเสียนบียูซุฟ แต่ท่านยังคงแน่วแน่ต่ออัลลอฮ์ ตลอดความเศร้าโศกของท่าน หลายปีผ่านไป เด็กหนุ่มยูซุฟเติบโตเป็นชายในอียิปต์ ขณะที่นบียะอ์กูบกลับมาที่บ้านในคานาอัน ซึ่งบุตรชายของท่านมักจะรบกวนเขาอยู่เสมอเกี่ยวกับการที่ท่านดุอาอ์ต่ออัลลอฮ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อให้นบียูซุฟกลับมา แม้ว่านบียะอ์กูบดุอาอ์กับอัลลอฮ์บ่อยครั้ง มันไม่เคยเป็นเพราะการกระทำของอัลลอฮ์ แต่เกิดจากความฟุ้งซ่านของจิตใจของท่านเองและบางครั้งท่านก็หลุดออกจากขอบเขตของความอดทนที่ท่านกำหนดไว้สำหรับตัวท่านเอง ท่านเพิกเฉยต่อคำเย้ยหยันอันชั่วร้ายของบุตรชาย และจะให้อภัยพวกเขาและพยายามให้คำแนะนำที่ถูกต้องแก่พวกเขา วันหนึ่ง นบียะอ์กูบตัดสินใจส่งบุตรชายไปทำธุระ โดยบอกให้พวกเขาไปอียิปต์เพื่อตามหานบียูซุฟและ เป็นครั้งแรกที่บุตรชายของท่านฟังเขาและออกเดินทางไปอียิปต์ เมื่อบุตรชายคนหนึ่งของนบียะอ์กูบกลับมาที่คานาอันพร้อมกับข่าวดีเรื่องนบียูซุฟและบินยามีนในอียิปต์ เขากลับมาพร้อมกับเสื้อที่นบียูซุฟมอบให้ ซึ่งเขาบอกให้สวมผ้าคลุมหน้าบิดาของพวกเขา เพื่อป้องกันไม่ให้นบียะอ์กูบตาบอดและความเศร้าโศก ดังนั้น บุตรชายจึงทำตามคำแนะนำและทำตามที่นบียูซุฟบอก ทำให้นบียะอ์กูบกลับมองเห็นทั้งร่างกายและจิตใจ
เมื่อนบียะอ์กูบมองเห็นได้เป็นปกติแล้ว ทั้งครอบครัวก็เริ่มเดินทางไปอียิปต์เพื่อพบกับนบียูซุฟและบุตรชายคนอื่น ๆ อีกครั้ง เมื่อไปถึง พ่อและลูกก็ได้พบกันด้วยความรักอันยิ่งใหญ่และได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติอีกครั้ง นบียูซุฟผู้ทรงอำนาจในขณะนี้จัดหาบ้านให้บิดามารดาของท่านด้วยตัวท่านเอง และตามที่อัลกุรอานกล่าวไว้ ท่านยกพวกเขาให้สูงส่งบน 'บัลลังก์แห่งศักดิ์ศรี' ตอนนี้ทั้งครอบครัวพร้อมใจกันหันกลับมาหาอัลลอฮ์ผ่านตำแหน่งเป็นนบีของทั้งยะอ์กูบและยูซุฟ
คำสั่งเสียสุดท้ายของนบีอยะอ์กูบต่อประชากรของท่าน
บุตรหลานอิสราเอลทั้งหมดถูกเรียกให้กราบไหว้ศรัทธาในอิสลาม (ยอมจำนนต่อพระเจ้า) ก่อนที่นบียะอ์กูบจะเสียชีวิต นบียะอ์กูบต้องการให้แน่ใจว่าลูก ๆ ของท่านจะเสียชีวิตในศาสนาอิสลามเท่านั้น ดังนั้นท่านจึงรับคำสัญญาสุดท้ายจากพวกเขา เมื่อท่านถามพวกเขาว่าพวกเขาจะเคารพบูชาใครหลังจากท่านเสียชีวิต พวกเขาตอบว่าพวกเขาจะอยู่ในศาสนาอิสลามต่อไปและกราบไหว้บูชาอัลลอฮ์องค์เดียว แม้ว่าฉากบนเตียงแห่งความตายจะเกี่ยวข้องกับประเพณีของชาวยิว และถูกกล่าวถึงในพระธรรมปฐมกาล คัมภีร์อัลกุรอานกล่าวถึงเรื่องนี้เพื่อเน้นย้ำแนวคิดที่ว่านบีอิบรอฮีม นบีอิสฮาก นบีอิสมาอีล และนบียะอ์กูบล้วนเป็นมุสลิม ขณะที่พวกเขากราบไหว้ด้วยศรัทธาเต็มที่ต่อพระเจ้าและพระเจ้าเท่านั้น อัลกุรอานบรรยาย:
และอิบรอฮีมได้สั่งเสียแก่บุตรของเขาให้ปฏิบัติตามแนวทางนั้น และยะอ์กูบก็สั่งเสียด้วยว่า โอ้ลูก ๆ ของข้า แท้จริงอัลลอฮ์ได้ทรงเลือกศาสนาให้แก่พวกเจ้าแล้ว ดังนั้น พวกเจ้าจงอย่ายอมตายเป็นอันขาด นอกจากในขณะที่พวกเจ้าเป็นผู้สวามิภักดิ์ (ต่ออัลลฮ์) เท่านั้น หรือว่าพวกเจ้าอยู่ด้วย เมื่อความตายได้เยี่ยมกรายยะอ์กูบ ขณะที่เขากล่าวแก่ลูก ๆ ของเขาว่า พวกเจ้าจะเคารพสักการะอะไร หลังจากข้า? พวกเขากล่าวว่า พวกเราจะเคารพสักการะพระเจ้าของท่าน และพระเจ้าแห่งบรรดาบิดาของท่าน คือ อิบรอฮีม อิสมาอีล และอิสฮาก แต่เพียงองค์เดียวและพวกเราจะเป็นผู้สวามิภักดิ์ต่อพระองค์เท่านั้น
— กุรอาน, ซูเราะฮ์ที่ 2 (อัล-บะเกาะเราะฮ์), อายะฮ์ 132–133
มรดกของนบียะอ์กูบ
นบียะอ์กูบมีความพิเศษมากในศาสนาอิสลามสำหรับการสืบทอดมรดกที่บรรพบุรุษของท่านทิ้งไว้ ชาวมุสลิมเชื่อว่าอัลลอฮ์ได้ประทานพระคุณอย่างสูงสุดแก่นบียะอ์กูบและเลือกท่านให้เป็นหนึ่งในบุรุษที่ได้รับการยกย่องมากที่สุด คัมภีร์อัลกุรอานกล่าวถึงนบียะอ์กูบบ่อยครั้งว่าเป็นผู้มีพลังอำนาจและมีวิสัยทัศน์ และเน้นย้ำว่าท่านอยู่ในหมู่คนดีและถูกเลือก ตามที่อัลกุรอานกล่าวว่า:
และนั่นคือ หลักฐานขอวงเราที่ได้ให้มันแก่อิบรอฮีม โดยมีฐานะเหนือกลุ่มชนของเขา เราจะยกขึ้นหลายขั้น ผู้ที่เราประสงค์ แท้จริงพระเจ้าของเจ้านั้น เป็นผู้ทรงปรีชาญาณผู้ทรงรอบรู้ และเราได้ให้เขา ซึ่งอิสฮาก และยะอ์กูบ ทั้งหมดนั้นเราได้แนะนำแล้ว และนูห์เราก็ได้แนะนำแล้วแต่ก่อนโน้น และจากลูกหลานของเขานั้น คือดาวูด และสุลัยมาน และอัยยูบและยูซุฟและมูซา และฮารูน และในทำนองนั้นแหละ เราจะตอบแทนแก่ผู้กระทำดีทั้งหลาย
— กุรอาน, ซูเราะฮ์ที่ 6 , อายะฮ์ 83–84
อะลี บิน อะบีฏอลิบ เมื่อถูกถามเกี่ยวกับนบีที่ได้รับชื่อพิเศษบรรยายในหะดีษว่า ยะอ์กูบ บิน อิสฮาก เป็นที่รู้จักในหมู่คนของท่านในชื่ออิสรออีล
ตัวอย่างในพระคัมภีร์ เกี่ยวกับการต่อสู้กับทูตสวรรค์ของนบียะอ์กูบไม่ได้กล่าวถึงในอัลกุรอาน แต่มีการกล่าวถึงในข้อคิดเห็นของชาวมุสลิม เช่นเดียวกับวิสัยทัศน์ของบันไดของยาโคบ นบียะอ์กูบหลอกให้นบีอิสฮากอวยพรท่านโดยปลอมตัวเป็นฝาแฝดของท่านคือ อัลอีศ ซึ่งไม่มีในคัมภีร์กุรอานเช่นกัน แต่มีอยู่ในข้อคิดเห็นของชาวมุสลิม
ชาวมุสลิมที่เชื่อว่ายะอ์กูบเป็นนบีผู้ยิ่งใหญ่ เน้นความเชื่อที่ว่าความสำคัญหลักของนบียะอ์กูบอยู่ที่การยอมจำนนต่ออัลลอฮ์และศรัทธาอันมั่นคงของเขาในศาสนาที่ถูกต้อง ในฐานะนบี นบียะอ์กูบซึ่งอยู่เคียงข้างนบีอิบรอฮีมอาจเป็นผู้ที่เกิดผลมากที่สุดตามความเชื่อ จากบุตรชายทั้งสิบสองคนของท่าน มีผู้เผยพระวจนะที่ยิ่งใหญ่อีกหลายท่าน รวมทั้ง โยนาห์ (ยูนุส) ดาวิด (ดาวูด) ซาโลมอน (สุลัยมาน) และเยซู (อีซา)
สุสานของนบียะอ์กูบ
ชาวมุสลิมและชาวยิวเชื่อว่านบียะอ์กูบถูกฝังอยู่ใน บริเวณนี้ตั้งอยู่ในเมืองเฮโบรน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันดับสองสำหรับชาวยิว (รองจากเนินพระวิหาร ในกรุงเยรูซาเล็ม) และยังเป็นที่เคารพนับถือของชาวคริสต์ และชาวมุสลิม ซึ่งทั้งสองแห่งมีความเชื่อที่ยืนยันว่าสถานที่นี้เป็นสถานที่ฝังศพของ คู่รักสามคู่ในพระคัมภีร์: นบีอิบรอฮีมกับนางซาเราะห์ นบีอิสฮากกับ และนบียะอ์กูบกับนางลีอะห์
ดูเพิ่ม
- (เรื่องราวของบรรดานบี)
อ้างอิง
- "Jacob", Vol. XI, p.254.
- (General Editor) Volume Three : J-O
- อัลกุรอาน 38:47
- อัลกุรอาน 21:75
- Concise Encyclopedia of Islam, C. Glasse, Children of Israel
- อัลกุรอาน 12:80
- อัลกุรอาน 21:73
- Noegel, Scott B.; Brannon M. Wheeler (April 2010). "Jacob". The A to Z of Prophets in Islam and Judaism. Scarecrow Press. pp. 160–162. ISBN .
- (Stories of the Prophets), Ibn Kathir/, Story of Isaac and Jacob
- อัลกุรอาน 19:49
- อัลกุรอาน 2:132
- อัลกุรอาน 6:84
- อัลกุรอาน 12:86
- อัลกุรอาน 3:163
- อัลกุรอาน 19:50
- อัลกุรอาน 21:72–73
- อัลกุรอาน 38:45–47
- อัลกุรอาน 12:4
- อัลกุรอาน 12:5
- อัลกุรอาน 12:8–9
- Abdullah Yusuf Ali's on surah Yusuf
- อัลกุรอาน 12:10
- [อัลกุรอาน 12:13]
- [อัลกุรอาน 12:15]
- อัลกุรอาน 12:18
- อัลกุรอาน 12:85
- อัลกุรอาน 12:87
- อัลกุรอาน 12:93: "Go with this my shirt, and cast it over the face of my father: he will come to see (clearly). Then come ye (here) to me together with all your family."
- อัลกุรอาน 12:100: And he raised his parents high on the throne (of dignity), and they fell down in prostration, (all) before him. He said: "O my father! this is the fulfilment of my vision of old! Allah hath made it come true! He was indeed good to me when He took me out of prison and brought you (all here) out of the desert, (even) after Satan had sown enmity between me and my brothers. Verily my Lord understandeth best the mysteries of all that He planneth to do, for verily He is full of knowledge and wisdom.
- อัลกุรอาน 2:133
- อัลกุรอาน 2:132–133
- อัลกุรอาน 6:83–84
- Qai'm, Mahdi Muntazir (2007). Jesus Through the Qur'an and Shi'ite Narrations (Bilingual ed.). Queens, New York: Tahrike Tarsile Qur'an. p. 26. ISBN .
- Ibn Kathir. "The Story of Ya'qub (Jacob)". The Stories of the Prophets. สืบค้นเมื่อ 24 June 2017.
- For the twelve sons, see , , , , , , , , , , and
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
yaxkub bin xishak bin xibrxhim xahrb ي ع ق وب xahrb ي ع ق و ب ب ن إ س ح اق ب ن إ ب ر اه يم aepltamtwxksr yaokhb butrkhxngxisxkh butrkhxngxbrahm txmaepliynepnxisrxxil xahrb إ س ر آئ یل israaeel phasaxahrbkhlassik kurxan إ س ر آء ی ل israaeel hruxthiruckinchuxyaokhbepnnbiinsasnaxislam ekhaidrbkaryxmrbwaepnnbikhxngsasnaxislam chawmuslimechuxwathanprakaskhwamechuxinphraecaxngkhediywechnediywkbbrrphburuskhxngthan xbrahm xibrxhim xichmaexl xismaxil aelaxisxkh xishak nbi yaxkub ي ع ق وب yaokhbchuxkhxngyaxkubinsusan ehobrn xlekhaalil chuxxunphasaxahrbkhlassik إ س ر آء يل phasaxahrbmatrthansmyihm إ س ر آئ يل phasahibru י ע ק ב י ש ר א לphudarngtaaehnngkxnxishakphusubtaaehnngyusufkhusmrs butryusuf aelaxik 10 khnbidamardaxishak nbiyaxkubthukklawchuxthung 16 khrnginxlkurxan karxangxingthung xisrxxil xiksxngkhrngechuxwaepnkarklawthungnbiyaxkub inkarxangxingehlaniswnihy nbiyaxkubthukklawthungkhwbkhuipkbephuxnnbichawhibru inthananbithiekaaekaelaekhrngsasnasungxyuin klumkhxngphuthiidrbeluxk chawmuslimthuxwanbiyaxkubepnbutrkhxngnbixishak aelaekhaethsnaexkphaphkhxngxllxh tlxdchiwitkhxngekha echnediywkbin sasnakhrist aela sasnayuday sasnaxislamthuxidwanbiyaxkubmibutrchaysibsxngkhn sungcasubechuxsaymacakchnchatixisraexlthngsibsxngepha khmphirkurxanyngrabuchdecnwa xllxhidthaphnthsyyakbnbiyaxkub aelanbiyaxkubkidrbeluxkihepnphunathisuxstyodykhasngkhxngxllxh pukhxngthan xibrxhim bidakhxngthan xishak lung xismaxil butrchay yusuf aelatwthanexngtangkepnnbikhxngxislaminxlkurxanchuxkhxngnbiyaxkubthukklawthunginxlkurxan 16 khrng aemwaoxngkarehlanihlayoxngkarcaykyxngthanmakkwathicaelathungtwxyangcakeruxngelakhxngthan aetxlkurxanidbnthukehtukarnsakhyhlayxyangcakchiwitkhxngthan khwamechuxkhxngchawmuslim ehtukarnaerksudthiekiywkhxngkbnbiyaxkubinkhmphirkurxankhuxehtukarnthithutswrrkh malaxikah aecng khawdi aeknbixibrxhim aela saeraah ekiywkbkarekidinxnakhtkhxngbutrchaythicaepnnbiinnamkhxngxishakechnediywkbnbithiepnhlanchuxyaxkub xlkurxanklawwa khrnemuxekhapliktwxxkipcakphwkekhaaelasingthiphwkekhaekharphbuchaxuncakxllxhaelw eraidihaekekha xishak aelayaxkub aelaaetlakhneraidaetngtngihepnnbi kurxan sueraah 19 xayah 49 khmphirkurxanyngklawdwywa nbixibrxhimsxnkhwamechuxeruxngphraecaxngkhediywthibrisuththiaekbutrkhxngthan nbixismaxilaelanbixishak rwmthngnbiyaxkub khmphirkurxanbnthukwa nbixibrxhimbxknbixismaxil nbixishak aelanbiyaxkubwa oxbutrexy aethcringxllxhidthrngeluxksasnaihaekphwkecaaelw dngnn phwkecacngxyayxmtayepnxnkhad nxkcakinkhnathiphwkecaepnphuswamiphkdi txxllh ethann khmphirxlkurxanyngklawthungkhxngkhwythimxbihkbnbiyaxkub echnediywkbkhwamaekhngaekrngkhxngsrththakhxngthan sungaekhngaekrngkhunemuxthanxayumakkhun xlkurxanklawwanbiyaxkubepn thangna ih khwamru aerngbndalic aelaidrb linaehngkhwamcringthicaidyin xlkurxanklawinphayhlngekiywkbnbiyaxkub aelaeraidihbutrchuxxishakaekekha aelayaxkub hlan epnkarephimphun aelathnghmdnneraidihepnkhndimikhunthrrm aelaeraidaetngtngphwkekhaihepnphunaephuxchiaenaaenwthangthithuktxngodykhasngkhxngera aelaeraidwahiaekphwkekhaihptibtikhwamdi aelatharngkarlahmad aelwbricakhthansakat aelaphwkekhakepnphuekharphphkditxeraethann kurxan sueraah 21 xayah 72 73 aelacngralukthungpwngbawkhxngera xibrxhim xishak aelayaxkub phuthiekhmaekhngaelasaytaikl ineruxngsasna eraideluxkphwkekhaodyechphaaephuxetuxnihralukthungprolk aelaaethcringphwkekhann inthsnakhxngera aennxnxyuinhmuphuidrbeluxkephraaphwkekhaepnkhndi kurxan sueraah 38 xayah 45 47 nbiyaxkubaelabutrkhxngthan karklawthungthisakhykhrngtxipkhxngnbiyaxkubinxlkurxankhuxkarbrryaykhxng eruxngrawkhxngnbiyusufinkhmphirxlkurxanepidkhundwykhwamfninkhunhnungwanbiyusufmikhwamfn hlngcaknnekhakwingiphanbiyaxkubbidakhxngthanodyklawwa duethid nbiyusfuphudkbbidawa ox bidakhxngkhapheca lukehndawsibexddwngaeladwngxathityaeladwngcnthr lukehnphwkekhahmxbkrabluk ibhnakhxngnbiyaxkubetmipdwykhwamyindiinsingthiekhaidyincaknbiyusufinwyeyaw aelanbiphusungwyekhaicthnthiwakhwamfnnnhmaythungxair nbiyaxkubsamarthkhadkarnidwabutrchaykhxngthancaetibotkhunepnnbikhntxipinsaykhxngnbixibrxhim aelacaepnnbiyusufthicarksasasnaehngxislamihkhngxyutxipinxikimkipikhanghna xyangirktam butrchaykhnotkhxngnbiyaxkubrusukwabidakhxngphwkekharknbiyusufaela butrchaykhnsudthxngkhxngnbiyaxkubmakkwaphwkekha nbiyaxkubrueruxngkhwamhunghwngkhxngphwkekhaaelaetuxnnbiyusufhnumekiywkberuxngni phichaysibkhnkhxngnbiyusufcungtdsinickhaekha dngthixlkurxanbrryaykarsnthnakhxngphwkekha cngralukkhnathiphwkekhaklawwa aennxnyusufaelanxngkhxngekhaepnthirkaekphxkhxngerayingkwaphwkerathng thiphwkeramicanwnmakaethcringphxkhxngeraxyuinkarhlngphidcring phwkthancngkhayusuf hruxexaipthinginthiepliywesiy ephuxkhwamexaiciskhxngphxkhxngphwkthancaekidkhunaekphwkthan aelaphwkthancaepnklumchnthidihlngcakekha kurxan sueraahthi 12 xayah 8 9 phinxngkhnhnung mkekhaicwaepnruebn xyangirktam rusukwaaethnthicakhanbiyusuf phwkekhakhwrthingekhalnginbxnaaethn ephuxkxngkharawancamarbekha dwyehtuni phwkekhacungthambidawacaphaedknxyyusufxxkipelnkbphwkekhaidhruxim odymienguxnikhwaphwkekhacakhxyduaelekha aemwanbiyaxkubcaklwwa sixb xahrb ذ ئـب hmapa cakinbutrchaykhxngekha butrchaykhnotthiduxrncbnbiyusufipoynlngipinbxna emuxbutrchaythnghmdklbmahanbiyaxkubinkhunnn phwkekhaaesrngthaepnrxngihaelabxkekhawahmapaidkinnbiyusufaelw ephuxhlxklwngbidakhxngphwkekha phwkekhaepuxnesuxkhxngnbiyusufdwyeluxdplxm aetnbiyaxkubsungidrbkhwamruepnkhxngprathan ruwaniepnkarprungthiphidthiphwkekhakhidkhunexng aemwanbiyaxkubkngwleruxngkarsuyesiynbiyusuf aetthanyngkhngaenwaentxxllxh tlxdkhwamesraoskkhxngthan hlaypiphanip edkhnumyusufetibotepnchayinxiyipt khnathinbiyaxkubklbmathibaninkhanaxn sungbutrchaykhxngthanmkcarbkwnekhaxyuesmxekiywkbkarthithanduxaxtxxllxhsaaelwsaelaephuxihnbiyusufklbma aemwanbiyaxkubduxaxkbxllxhbxykhrng mnimekhyepnephraakarkrathakhxngxllxh aetekidcakkhwamfungsankhxngcitickhxngthanexngaelabangkhrngthankhludxxkcakkhxbekhtkhxngkhwamxdthnthithankahndiwsahrbtwthanexng thanephikechytxkhaeyyhynxnchwraykhxngbutrchay aelacaihxphyphwkekhaaelaphyayamihkhaaenanathithuktxngaekphwkekha wnhnung nbiyaxkubtdsinicsngbutrchayipthathura odybxkihphwkekhaipxiyiptephuxtamhanbiyusufaela epnkhrngaerkthibutrchaykhxngthanfngekhaaelaxxkedinthangipxiyipt emuxbutrchaykhnhnungkhxngnbiyaxkubklbmathikhanaxnphrxmkbkhawdieruxngnbiyusufaelabinyamininxiyipt ekhaklbmaphrxmkbesuxthinbiyusufmxbih sungekhabxkihswmphakhlumhnabidakhxngphwkekha ephuxpxngknimihnbiyaxkubtabxdaelakhwamesraosk dngnn butrchaycungthatamkhaaenanaaelathatamthinbiyusufbxk thaihnbiyaxkubklbmxngehnthngrangkayaelacitic emuxnbiyaxkubmxngehnidepnpktiaelw thngkhrxbkhrwkerimedinthangipxiyiptephuxphbkbnbiyusufaelabutrchaykhnxun xikkhrng emuxipthung phxaelalukkidphbkndwykhwamrkxnyingihyaelaidxyurwmknxyangsntixikkhrng nbiyusufphuthrngxanacinkhnanicdhabanihbidamardakhxngthandwytwthanexng aelatamthixlkurxanklawiw thanykphwkekhaihsungsngbn bllngkaehngskdisri txnnithngkhrxbkhrwphrxmicknhnklbmahaxllxhphantaaehnngepnnbikhxngthngyaxkubaelayusuf khasngesiysudthaykhxngnbixyaxkubtxprachakrkhxngthan butrhlanxisraexlthnghmdthukeriykihkrabihwsrththainxislam yxmcanntxphraeca kxnthinbiyaxkubcaesiychiwit nbiyaxkubtxngkarihaenicwaluk khxngthancaesiychiwitinsasnaxislamethann dngnnthancungrbkhasyyasudthaycakphwkekha emuxthanthamphwkekhawaphwkekhacaekharphbuchaikhrhlngcakthanesiychiwit phwkekhatxbwaphwkekhacaxyuinsasnaxislamtxipaelakrabihwbuchaxllxhxngkhediyw aemwachakbnetiyngaehngkhwamtaycaekiywkhxngkbpraephnikhxngchawyiw aelathukklawthunginphrathrrmpthmkal khmphirxlkurxanklawthungeruxngniephuxennyaaenwkhidthiwanbixibrxhim nbixishak nbixismaxil aelanbiyaxkublwnepnmuslim khnathiphwkekhakrabihwdwysrththaetmthitxphraecaaelaphraecaethann xlkurxanbrryay aelaxibrxhimidsngesiyaekbutrkhxngekhaihptibtitamaenwthangnn aelayaxkubksngesiydwywa oxluk khxngkha aethcringxllxhidthrngeluxksasnaihaekphwkecaaelw dngnn phwkecacngxyayxmtayepnxnkhad nxkcakinkhnathiphwkecaepnphuswamiphkdi txxllh ethann hruxwaphwkecaxyudwy emuxkhwamtayideyiymkrayyaxkub khnathiekhaklawaekluk khxngekhawa phwkecacaekharphskkaraxair hlngcakkha phwkekhaklawwa phwkeracaekharphskkaraphraecakhxngthan aelaphraecaaehngbrrdabidakhxngthan khux xibrxhim xismaxil aelaxishak aetephiyngxngkhediywaelaphwkeracaepnphuswamiphkditxphraxngkhethann kurxan sueraahthi 2 xl baekaaeraah xayah 132 133mrdkkhxngnbiyaxkubnbiyaxkubmikhwamphiessmakinsasnaxislamsahrbkarsubthxdmrdkthibrrphburuskhxngthanthingiw chawmuslimechuxwaxllxhidprathanphrakhunxyangsungsudaeknbiyaxkubaelaeluxkthanihepnhnunginburusthiidrbkarykyxngmakthisud khmphirxlkurxanklawthungnbiyaxkubbxykhrngwaepnphumiphlngxanacaelamiwisythsn aelaennyawathanxyuinhmukhndiaelathukeluxk tamthixlkurxanklawwa aelannkhux hlkthankhxwngerathiidihmnaekxibrxhim odymithanaehnuxklumchnkhxngekha eracaykkhunhlaykhn phuthieraprasngkh aethcringphraecakhxngecann epnphuthrngprichayanphuthrngrxbru aelaeraidihekha sungxishak aelayaxkub thnghmdnneraidaenanaaelw aelanuherakidaenanaaelwaetkxnonn aelacaklukhlankhxngekhann khuxdawud aelasulyman aelaxyyubaelayusufaelamusa aelaharun aelainthanxngnnaehla eracatxbaethnaekphukrathadithnghlay kurxan sueraahthi 6 xayah 83 84 xali bin xabitxlib emuxthukthamekiywkbnbithiidrbchuxphiessbrryayinhadiswa yaxkub bin xishak epnthiruckinhmukhnkhxngthaninchuxxisrxxil twxyanginphrakhmphir ekiywkbkartxsukbthutswrrkhkhxngnbiyaxkubimidklawthunginxlkurxan aetmikarklawthunginkhxkhidehnkhxngchawmuslim echnediywkbwisythsnkhxngbnidkhxngyaokhb nbiyaxkubhlxkihnbixishakxwyphrthanodyplxmtwepnfaaefdkhxngthankhux xlxis sungimmiinkhmphirkurxanechnkn aetmixyuinkhxkhidehnkhxngchawmuslim chawmuslimthiechuxwayaxkubepnnbiphuyingihy ennkhwamechuxthiwakhwamsakhyhlkkhxngnbiyaxkubxyuthikaryxmcanntxxllxhaelasrththaxnmnkhngkhxngekhainsasnathithuktxng inthananbi nbiyaxkubsungxyuekhiyngkhangnbixibrxhimxacepnphuthiekidphlmakthisudtamkhwamechux cakbutrchaythngsibsxngkhnkhxngthan miphuephyphrawcnathiyingihyxikhlaythan rwmthng oynah yunus dawid dawud saolmxn sulyman aelaeysu xisa susankhxngnbiyaxkubinemuxngehobrn inpaelsitn sungwaknwamihlumfngsphkhxngnbiyaxkubdwy chawmuslimaelachawyiwechuxwanbiyaxkubthukfngxyuin briewnnitngxyuinemuxngehobrn epnsthanthiskdisiththixndbsxngsahrbchawyiw rxngcakeninphrawihar inkrungeyrusaelm aelayngepnthiekharphnbthuxkhxngchawkhrist aelachawmuslim sungthngsxngaehngmikhwamechuxthiyunynwasthanthiniepnsthanthifngsphkhxng khurksamkhuinphrakhmphir nbixibrxhimkbnangsaeraah nbixishakkb aelanbiyaxkubkbnanglixahduephim eruxngrawkhxngbrrdanbi xangxing Jacob Vol XI p 254 General Editor Volume Three J O xlkurxan 38 47 xlkurxan 21 75 Concise Encyclopedia of Islam C Glasse Children of Israel xlkurxan 12 80 xlkurxan 21 73 Noegel Scott B Brannon M Wheeler April 2010 Jacob The A to Z of Prophets in Islam and Judaism Scarecrow Press pp 160 162 ISBN 978 1 4617 1895 6 Stories of the Prophets Ibn Kathir Story of Isaac and Jacob xlkurxan 19 49 xlkurxan 2 132 xlkurxan 6 84 xlkurxan 12 86 xlkurxan 3 163 xlkurxan 19 50 xlkurxan 21 72 73 xlkurxan 38 45 47 xlkurxan 12 4 xlkurxan 12 5 xlkurxan 12 8 9 Abdullah Yusuf Ali s on surah Yusuf xlkurxan 12 10 xlkurxan 12 13 xlkurxan 12 15 xlkurxan 12 18 xlkurxan 12 85 xlkurxan 12 87 xlkurxan 12 93 Go with this my shirt and cast it over the face of my father he will come to see clearly Then come ye here to me together with all your family xlkurxan 12 100 And he raised his parents high on the throne of dignity and they fell down in prostration all before him He said O my father this is the fulfilment of my vision of old Allah hath made it come true He was indeed good to me when He took me out of prison and brought you all here out of the desert even after Satan had sown enmity between me and my brothers Verily my Lord understandeth best the mysteries of all that He planneth to do for verily He is full of knowledge and wisdom xlkurxan 2 133 xlkurxan 2 132 133 xlkurxan 6 83 84 Qai m Mahdi Muntazir 2007 Jesus Through the Qur an and Shi ite Narrations Bilingual ed Queens New York Tahrike Tarsile Qur an p 26 ISBN 978 1879402140 Ibn Kathir The Story of Ya qub Jacob The Stories of the Prophets subkhnemux 24 June 2017 For the twelve sons see and