รัฐเคาะลีฟะฮ์รอชิดูน (อาหรับ: اَلْخِلَافَةُ ٱلرَّاشِدَةُ, อักษรโรมัน: al-Khilāfah ar-Rāšidah; อังกฤษ: Rashidun Caliphate) เป็นรัฐเคาะลีฟะฮ์รัฐแรกที่ก่อตั้งขึ้นหลังจากการเสียชีวิตของมุฮัมมัด ปกครองโดยเคาะลีฟะฮ์ 4 พระองค์แรกของมุฮัมมัดหลังเสียชีวิตใน ค.ศ. 632 (ฮ.ศ. 11) ในช่วงที่มีตัวตน จักรวรรดินี้มีกำลังทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการทหารที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเอเชียตะวันตก
รัฐเคาะลีฟะฮ์รอชิดูน الخلافة الراشدة | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
632–661 | |||||||||||||||
รัฐเคาะลีฟะฮ์รอชิดูนในช่วงสูงสุดในรัชสมัยเคาะลีฟะฮ์ อุษมาน เมื่อ ป. ค.ศ. 654 | |||||||||||||||
เมืองหลวง | มะดีนะฮ์ (632–656) (656–661) | ||||||||||||||
ภาษาทั่วไป | ภาษาอาหรับคลาสสิก | ||||||||||||||
ศาสนา | อิสลาม | ||||||||||||||
การปกครอง | รัฐเคาะลีฟะฮ์ | ||||||||||||||
เคาะลีฟะฮ์ | |||||||||||||||
• 632–634 | อะบูบักร์ (องค์แรก) | ||||||||||||||
• 634–644 | อุมัร | ||||||||||||||
• 644–656 | อุษมาน | ||||||||||||||
• 656–661 | อะลี (องค์สุดท้าย) | ||||||||||||||
ประวัติศาสตร์ | |||||||||||||||
• | 632 | ||||||||||||||
633 | |||||||||||||||
• อุมัรขึ้นครองราชย์ | 634 | ||||||||||||||
• (การลอบสังหารอุมัร)และอุษมานขึ้นครองราชย์ | 644 | ||||||||||||||
• และอะลีขึ้นครองราชย์ | 656 | ||||||||||||||
661 | |||||||||||||||
• ฟิตนะฮ์ครั้งที่หนึ่ง (ความขัดแย้งภายใน) สิ้นสุดหลังฮะซันสละราชสมบัติ | 661 | ||||||||||||||
พื้นที่ | |||||||||||||||
655 | 6,400,000 ตารางกิโลเมตร (2,500,000 ตารางไมล์) | ||||||||||||||
สกุลเงิน |
| ||||||||||||||
|
รัฐเคาะลีฟะฮ์จัดตั้งขึ้นหลังมุฮัมมัดเสียชีวิตในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 632 และการอภิปรายเรื่อง อะบูบักร์ (ค. 632 – 634) เพื่อนในวัยเด็กและผู้ติดตามที่ใกล้ชิดของมุฮัมมัดจากตระกูล ได้รับเลือกเป็นเคาะลีฟะฮ์องค์แรกที่มะดีนะฮ์และเริ่มต้นการพิชิตาบสมุทรอาหรับ รัชสมัยของพระองค์สิ้นสุดเมื่อพระองค์สวรรคตในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 634 และอุมัร (ค. 634 – 644) บุคคลที่อะบูบักร์เลือกจาก ขึ้นดำรงตำแหน่งต่อ ในรัชสมัยอุมัร รัฐเคาะลีฟะฮ์ได้ขยายตัวในอัตราที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยปกครองเหนือพื้นที่จักรวรรดิไบแซนไทน์มากกว่าสองในสาม และจักรวรรดิซาเซเนียนเกือบทั้งหมด อุมัรถูกลอบสังหารในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 644 และคณะกรรมการหกคนของอุมัรได้เลือกอุษมาน (ค. 644 – 656) สมาชิกตระกูลบะนูอุมัยยะฮ์ ขึ้นมาดำรงตำแหน่งต่อ ในรัชสมัยอุษมาน รัฐเคาะลีฟะฮ์พิชิตเปอร์เซียทั้งหมดใน ค.ศ. 651 และขยายไปในดินแดนไบแซนไทน์ต่อ นโยบายที่เห็นแก่ญาติของอุษมานทำให้พระองค์ได้รับการต่อต้านอย่างรุนแรงจากชนชั้นนำมุสลิม และในที่สุดก็ถูกกลุ่มกบฏลอบสังหารในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 656
อะลี (ค. 656 – 661) สมาชิกตระกูลของมุฮัมมัด ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งต่อ พระองค์ย้ายเมืองหลวงไปที่ อะลีเป็นผู้นำในสงครามกลางเมืองที่มีชื่อว่า ฟิตนะฮ์ครั้งที่หนึ่ง เนื่องจากอำนาจอธิปไตยของพระองค์ไม่ได้รับการยอมรับจากมุอาวิยะฮ์ที่ 1 (ค. 661 – 680) ญาติของอุษมานและผู้ว่าการซีเรีย ผู้เชื่อว่าอุษมานถูกฆาตกรรมโดยมิชอบด้วยกฎหมายและคนที่ลงมือฆ่าควรได้รับโทษ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มที่สามที่รู้จักกันในชื่อ เคาะวาริจญ์ ที่เคยเป็นผู้สนับสนุนอะลี ก่อกบฏต่อทั้งฝ่ายอะลีกับมุอาวิยะฮ์หลังปฏิเสธที่จะยอมรับอนุญาโตตุลาการในยุทธการที่ศิฟฟีน สงครามนี้นำไปสู่การโค่นล้มรัฐเคาะลีฟะฮ์รอชิดูนและจัดตั้งรัฐเคาะลีฟะฮ์อุมัยยะฮ์ของมุอาวิยะฮ์ใน ค.ศ. 661 สงครามกลางเมืองนี้นำไปสู่ความแตกแยกระหว่างมุสลิมนิกายซุนนีกับชีอะฮ์อย่างถาวร โดยชีอะฮ์เชื่อว่าอะลีเป็นเคาะลีฟะฮ์ผู้ทรงธรรมคนแรก และเป็นอิหม่ามถัดจากมุฮัมมัด พวกเขาโปรดปรานความสัมพันธ์ทางสายเลือดของอะลีกับมุฮัมมัด
รัฐเคาะลีฟะฮ์รอชิดูนมีช่วงระยะเวลาการขยายทางทหารอย่างรวดเร็ว 25 ปี ตามมาด้วยความขัดแย้งภายใน 5 ปี ในช่วงสูงสุดมีทหารมากกว่า 100,000 นาย ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 650 นอกจากคาบสมุทรอาหรับแล้ว รัฐเคาะลีฟะฮ์ได้พิชิตลิแวนต์ถึงทางเหนือ แอฟริกาเหนือจากอียิปต์ถึงตูนิเซียในปัจจุบันทางตะวันตก และที่ราบสูงอิหร่านถึงพื้นที่บางส่วนของเอเชียกลางและเอเชียใต้ทางตะวันออก เคาะลีฟะฮ์รอชิดูนทั้ง 4 พระองค์ได้รับเลือกจากการเลือกตั้งขนาดเล็กประกอบด้วยสมาชิกที่โดดเด่นของสมาพันธ์ชนเผ่ากุร็อยช์ที่มีชื่อว่า (อาหรับ: شُـوْرَى, แปลว่า การปรึกษาหารือ)
ที่มา
หลังการเสียชีวิตของมุฮัมมัดใน ค.ศ. 632 ของท่านในมะดีนะฮ์ถกเถียงกันว่าใครควรสืบทอดกิจการของมุสลิม ในขณะที่ครอบครัวของมุฮัมมัดกำลังยุ่งอยู่กับพิธีฝังศพ อุมัรและถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่ออะบูบักร์ ภายหลังฝ่ายอันศอรกับกุร็อยช์จึงเริ่มปฏิบัติตาม อะบูบักร์จัดตั้งตำแหน่ง เคาะลีฟะฮ์ เราะซูลุลลอฮ์ (خَـلِـيْـفَـةُ رَسُـوْلِ اللهِ, "ผู้สืบทอดจากศาสนทูตของอัลลอฮ์") หรือสั้น ๆ ว่า เคาะลีฟะฮ์ อะบูบักร์เริ่มดำเนินการรบเพื่อเผยแผ่อิสลาม ตอนแรกพระองค์จะต้องปราบชนเผ่าอาหรับที่อ้างว่าแม้ว่าพวกตนจะให้คำมั่นว่าจะจงรักภักดีต่อมุฮัมมัดและเข้ารับอิสลาม แต่พวกเขาก็ไม่ได้มีความเกี่ยวดองอะไรกับอะบูบักร์ ในฐานะเคาะลีฟะฮ์ อะบูบักร์และผู้สืบทอดทั้งสามพระองค์ไม่ได้เป็นกษัตริย์และไม่ได้อ้างตำแหน่งนั้น แต่การเลือกตั้งและความเป็นผู้นำของพวกเขาขึ้นอยู่กับคุณธรรม
ฝ่ายซุนนีเชื่อว่า เคาะลีฟะฮ์รอชิดูนทั้ง 4 พระองค์มีความเชื่อมโยงกับศาสดามุฮัมมัดผ่านการแต่งงาน เป็นคนกลุ่มแรกที่เข้ารับอิสลาม เป็นสิบคนที่ได้รับสัญญาว่าจะได้เข้าสวรรค์ เป็นผู้ติดตามที่ใกล้ชิดของท่านผ่านความสัมพันธ์และการสนับสนุน และมักได้รับการยกย่องอย่างสูงจากมุฮัมมัดและได้รับมอบหมายให้มีบทบาทเป็นผู้นำในชุมชนมุสลิมช่วงแรก เคาะลีฟะฮ์เหล่านี้เป็นที่รู้จักในมุสลิมนิกายซุนนีว่า หรือเคาะลีฟะฮ์ที่ได้รับ"แนวทางที่ถูกต้อง" (اَلْخُلَفَاءُ ٱلرَّاشِدُونَ, al-Khulafāʾ ar-Rāšidūn) มุสลิมนิกายซุนนีรายงานว่า ชื่อรัฐเคาะลีฟะฮ์รอชิดูนมาจากฮะดีษที่มีชื่อเสียงของมุฮัมมัดที่กล่าวไว้ล่วงหน้าว่า จะมีรัฐเคาะลีฟะฮ์หลังจากท่าน 30 ปี (ระยะเวลาของรัฐเคาะลีฟะฮ์รอชิดูน) และจะตามมาด้วยการปกครองโดยกษัตริย์ (รัฐเคาะลีฟะฮ์อุมัยยะฮ์ปกครองด้วยระบอบราชาธิปไตยแบบสืบสันตติวงศ์) นอกจากนี้ ฮะดีษอื่น ๆ ในกับระบุว่า พระเจ้าจะฟื้นฟูเคาะลีฟะฮ์ที่ได้รับแนวทางที่ถูกต้องอีกครั้งจนกระทั่งวาระสุดท้าย อย่างไรก็ตาม มุสลิมนิกายชีอะฮ์ไม่ใช้ศัพท์นี้ เนื่องจากพวกเขาไม่ถือว่าเคาะลีฟะฮ์สามพระองค์แรกปกครองโดยชอบธรรม ถึงกระนั้น มุสลิมนิกายเชื่อว่าเคาะลีฟะฮ์สามองค์แรกเป็นผู้นำที่มีความชอบธรรม
สิ่งสืบทอด
นักวิชาการฆราวาสบางส่วนตั้งคำถามต่อมุมมองรอชิดูนของซุนนี กล่าวว่า "นักเขียนที่มีชีวิตในช่วงเวลาเดียวกันกับเคาะลีฟะฮ์ 4 องค์แรก ... ไม่ได้บันทึกเกี่ยวกับพวกเขาน้อยมาก และชื่อของพวกเขาไม่ได้ปรากฏบนเหรียญ จารึก หรือเอกสาร จนกระทั่งเคาะลีฟฮ์งอค์ที่ 5" มุอาวิยะฮ์ที่ 1 (661–680) "ที่มีหลักฐานเกี่ยวกับการทำงานของรัฐบาลอาหรับthat เนื่องจากปรากฏชื่อพระองค์บนสื่อทางการของรัฐทั้งหมด" อย่างไรก็ตาม ก็มีจารึกที่เขียนขึ้นในสมัยนั้น หนึ่งในนั้นระบุชื่อและวันเสียชีวิตของอุมัร และมีเหรียญที่ปรากฏในรัชสมัยนั้นด้วย (ถึงแม้ว่าวัตถุเหล่านั้นจะไม่ปรากฏชื่อ แต่ปรากฏเพียง "ด้วยพระนามของอัลลอฮ์" ตามที่ฮอยแลนด์กล่าวไว้)
ฮอยแลนด์ยังตั้งคำถามถึงข้อกล่าวหาว่ารอชิดูนมีศีลธรรมเหนือกว่าอุมัยยะฮ์ โดยระบุว่าอะลีมีส่วนเกี่ยวข้องในสงครามกลางเมืองครั้งแรก (ฟิตนะฮ์ครั้งที่หนึ่ง) และอุษมานได้ "ใช้รูปแบบการปกครองแบบเห็นแก่ญาติแล้ว" ซึงเคาะลีฟะฮ์องค์หลังถูกประณาม และสงสัยว่าแนวคิด “ยุคทอง” ของอิสลามในยุคแรกเริ่มมาจากความต้องการของนักวิชาการศาสนาสมัยอุมัยยะฮ์ตอนปลายถึงอับบาซียะฮ์ เพื่อแยกความแตกต่างระหว่างเคาะลีฟะฮ์กลุ่มแรก (ซึ่งมีอำนาจในการออกกฎหมายมากกว่า) และเคาะลีฟะฮ์ร่วมสมัยที่พวกเขาต้องการติดตามในเรื่องศาสนาของพวกเขา (อุละมาอ์) ทำให้ในภายหลัง กลุ่มผู้ติดตาม "ได้รับการปรับปรุง" เป็น "แบบอย่างของความกตัญญูกตเวทิตาธรรม"
ข้อความเหล่านี้มีความคล้ายคลึงกับมุมมองผู้ติดตาม (รวมเคาะลีฟะฮ์รอชิดูน) ของชีอะฮ์ ชีอะฮ์หลายคนไม่มีมุมมองเดียวกันกับซุนนีที่เชื่อว่าผู้ติดตามล้วนเป็นแบบอย่างของความกตัญญู แต่กล่าาวหาหลายคนว่าสมรู้ร่วมคิดหลังจากท่านศาสดาเสียชีวิต เพื่อลิดรอนอะลีกับลูกหลานของเขาจากการเป็นผู้นำ ในมุมมองของชีอะฮ์ ผู้ติดตามหลายคนและผู้สืบทอดเป็นผู้แย่งชิง แม้แต่คนหน้าซื่อใจคด ที่ไม่เคยหยุดที่จะล้มล้างศาสนาเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง
การทหาร
กองทัพรอชิดูนเป็นหน่วยรบหลักของกองกำลังติดอาวุธอิสลามในคริสต์ศตวรรษที่ 7 โดยร่วมรบกับ กองทัพรักษาระเบียบวินัย ความกล้าหาญเชิงกลยุทธ์ และองค์กรในระดับสูงมาก พร้อมกับแรงจูงใจและความคิดริเริ่มของกองกำลังทหาร ตลอดทั้งประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ กองทัพนี้เป็นหนึ่งในกองกำลังทางทหารที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพที่สุดทั่วทั้งภูมิภาค โดยในช่วงสูงสุดของรัฐเคาะลีฟะฮ์รอชิดูน ขนาดสูงสุดของกองทัพคือประมาณ 100,000 นาย
กองทัพรอชิดูน
กองทัพรอชิดูนแบ่งออกเป็นทหารราบและ การสร้างยุทโธปกรณ์ทางทหารของกองทัพมุสลิมยุคแรกขึ้นมาใหม่นั้นเป็นปัญหา เมื่อเทียบกับกองทัพโรมันกับกองทัพมุสลิมสมัยกลางยุคหลัง ขอบเขตภาพลักษณ์มีขนาดเล็กมาก ส่วนใหญ่ไม่ชัดเจน หลักฐานทางกายภาพมีเหลืออยู่น้อยมาก และหลักฐานส่วนใหญ่ก็ยากที่จะระบุวันที่ได้ ทหารสวมหมวกเหล็กและสัมฤทธิ์แบบเอเชียกลางจากอิรัก
กองทัพเรือรอชิดูน
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
รายพระนาม
ช่วงเวลา | เคาะลีฟะฮ์ | อักษรวิจิตร | ความสัมพันธ์กับมุฮัมมัด | พระราชบิดามารดา | หมายเหตุ | |
---|---|---|---|---|---|---|
8 มิถุนายน 632 – 22 สิงหาคม 634 | อะบูบักร์ (أبو بكر) |
| |
| ||
23 สิงหาคม 634 – 3 พฤศจิกายน 644 | อุมัร (عمر) |
| |
| ||
11 พฤศจิกายน 644 – 20 มิถุนายน 656 | อุษมาน (عثمان) |
| | บะนูอุมัยยะฮ์ |
| |
20 มิถุนายน 656 – 29 มกราคม 661 | อะลี (علي) |
|
|
อ้างอิง
- (September 1997). "Expansion and Contraction Patterns of Large Polities: Context for Russia". . 41 (3): 495. doi:10.1111/0020-8833.00053. JSTOR 2600793.
- Triana, María (2017). Managing Diversity in Organizations: A Global Perspective (ภาษาอังกฤษ). Taylor & Francis. p. 159. ISBN .
- ; Marín, Manuela; Ayalon, A. (1960–2007). "Shūrā". ใน ; ; Bosworth, C.E.; ; (บ.ก.). Encyclopaedia of Islam, Second Edition. doi:10.1163/1573-3912_islam_COM_1063.
- McHugo 2017, p. 93.
- Azyumardi Azra (2006). Indonesia, Islam, and Democracy: Dynamics in a Global Context. . p. 9. ISBN .
- C. T. R. Hewer; Allan Anderson (2006). Understanding Islam: The First Ten Steps (illustrated ed.). Hymns Ancient and Modern Ltd. p. 37. ISBN .
- Anheier, Helmut K.; Juergensmeyer, Mark, บ.ก. (2012). Encyclopedia of Global Studies. Sage Publications. p. 151. ISBN .
- Claire Alkouatli (2007). Islam (illustrated, annotated ed.). Marshall Cavendish. p. 44. ISBN .
- Catharina Raudvere, Islam: An Introduction (I.B.Tauris, 2015), 51–54.
- Asma Afsaruddin (2008). The first Muslims: history and memory. Oneworld. p. 55.
- Safia Amir (2000). Muslim Nationhood in India: Perceptions of Seven Eminent Thinkers. Kanishka Publishers, Distributors. p. 173. ISBN .
- Heather N. Keaney (2013). Medieval Islamic Historiography: Remembering Rebellion. Sira: Companion- versus Caliph-Oriented History: Routledge. ISBN .
He also foretold that there would be a caliphate for thirty years (the length of the Rashidun Caliphate) that would be followed by kingship.
- Hamilton Alexander Rosskeen Gibb; Johannes Hendrik Kramers; Bernard Lewis; Charles Pellat; Joseph Schacht (1970). "The Encyclopaedia of Islam". The Encyclopaedia of Islam. Brill. 3 (Parts 57–58): 1164.
- Aqidah.Com (December 1, 2009). "The Khilaafah Lasted for 30 Years Then There Was Kingship Which Allaah Gives To Whomever He Pleases". Aqidah.Com. Aqidah.Com. สืบค้นเมื่อ 16 August 2014.
- Sowerwine, James E. (2010). Caliph and Caliphate: Oxford Bibliographies Online Research Guide (ภาษาอังกฤษ). Oxford University Press. p. 5. ISBN .
- Rane 2010, p. 83.
- Hoyland, In God's Path, 2015: p. 98
- Ghabban, A.I.I., Translation and concluding remarks by and Hoyland, R., 2008. The inscription of Zuhayr, the oldest Islamic inscription (24 AH/AD 644–645), the rise of the Arabic script and the nature of the early Islamic state 1. Arabian Archaeology and Epigraphy, 19(2), pp. 210–237.
- Hoyland, In God's Path, 2015: p. 134
- Hoyland, In God's Path, 2015: p. 227
- Zaman, M.Q., 1998. Sectarianism in Pakistan: The radicalization of Shi ‘i and Sunni identities. Modern Asian Studies, 32(3), p. 691.
- Fratini, Dan (2006-04-01). "The Battle Of Yarmuk, 636". Military History Online. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-05-16. สืบค้นเมื่อ 2014-11-29.
- (2001). . The Armies of the Caliphs: Military and Society in the Early Islamic State. London: Routledge. p. 168. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-06-05. สืบค้นเมื่อ 2023-01-28.
- Kennedy, Hugh (2001). . The Armies of the Caliphs: Military and Society in the Early Islamic State. London: Routledge. p. 183. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-06-05. สืบค้นเมื่อ 2023-01-28.
- شبارو, عصام محمد (1995). First Islamic Arab State (1–41 AH/ 623–661 CE). 3. Arab Renaissance House – Beirut, Lebanon. p. 370.
- Madelung 1997.
ข้อมูล
- Abun-Nasr, Jamil M. (1987), A History of the Maghrib in the Islamic Period, Cambridge, New York, Melbourne: Cambridge University Press, ISBN
- Bosworth, C. Edmund (July 1996). "Arab Attacks on Rhodes in the Pre-Ottoman Period". Journal of the Royal Asiatic Society. 6 (2): 157–164. doi:10.1017/S1356186300007161. JSTOR 25183178. S2CID 163550092.
- (2007) [1916]. The Chronicle of John, Bishop of Nikiu: Translated from Zotenberg's Ethiopic Text. Merchantville, NJ: Evolution Publishing. ISBN .
- (2010). Muhammad and the Believers, at the Origins of Islam. Cambridge, MA: . ISBN .
- Fitzpatrick, Coeli; Walker, Adam Hani (25 April 2014). Muhammad in History, Thought, and Culture: An Encyclopedia of the Prophet of God [2 volumes]. ABC-CLIO. ISBN – โดยทาง Google Books.
- Frastuti, Melia (2020). "Reformasi Sistem Administrasi Pemerintahan, Penakhlukkan di Darat Dan Dilautan Pada Era Bani Umayyah". Jurnal Kajian Ekonomi Hukum Syariah (ภาษามาเลย์). 6 (2): 119–127. doi:10.37567/shar-e.v6i2.227. S2CID 234578454. สืบค้นเมื่อ 27 October 2021.
- (October 1972). "The Murder of the Caliph Uthman". International Journal of Middle East Studies. 13 (4): 450–469. doi:10.1017/S0020743800025216. JSTOR 162492. S2CID 159763369.
{{}}
: CS1 maint: date and year () - Hoyland, Robert G. (2015). In God's Path: the Arab Conquests and the Creation of an Islamic Empire. Oxford University Press.
- Madelung, Wilferd (1997). The Succession to Muhammad: A Study of the Early Caliphate. Cambridge, England: . ISBN .
- McHugo, John (2017). A Concise History of Sunnis & Shi'is. Georgetown University Press. ISBN .
- Netton, Ian Richard (19 December 2013). Encyclopaedia of Islam (ภาษาอังกฤษ). Routledge. ISBN .
- Rane, Halim (2010). Islam and Contemporary Civilisation. Academic Monographs. ISBN .
- Weeramantry, Judge Christopher G. (1997). Justice Without Frontiers: Furthering Human Rights. . ISBN .
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
rthekhaalifahrxchidun xahrb ا ل خ ل اف ة ٱلر اش د ة xksrormn al Khilafah ar Rasidah xngkvs Rashidun Caliphate epnrthekhaalifahrthaerkthikxtngkhunhlngcakkaresiychiwitkhxngmuhmmd pkkhrxngodyekhaalifah 4 phraxngkhaerkkhxngmuhmmdhlngesiychiwitin kh s 632 h s 11 inchwngthimitwtn ckrwrrdinimikalngthangesrsthkic wthnthrrm aelakarthharthithrngxiththiphlthisudinexechiytawntkrthekhaalifahrxchidun الخلافة الراشدة632 661rthekhaalifahrxchiduninchwngsungsudinrchsmyekhaalifah xusman emux p kh s 654emuxnghlwngmadinah 632 656 656 661 phasathwipphasaxahrbkhlassiksasnaxislamkarpkkhrxngrthekhaalifahekhaalifah 632 634xabubkr xngkhaerk 634 644xumr 644 656xusman 656 661xali xngkhsudthay prawtisastr 632 karphichitepxresiy633 xumrkhunkhrxngrachy634 karlxbsngharxumraelaxusmankhunkhrxngrachy644 aelaxalikhunkhrxngrachy656 karlxbsngharxali661 fitnahkhrngthihnung khwamkhdaeyngphayin sinsudhlnghasnslarachsmbti661phunthi6556 400 000 tarangkiolemtr 2 500 000 tarangiml skulengin ehriyyengin ehryythxngaedng ehriyythxng kxnhna thdipckrwrrdisaeseniyn rthekhaalifahxumyyah rthekhaalifahcdtngkhunhlngmuhmmdesiychiwitineduxnmithunayn kh s 632 aelakarxphiprayeruxng xabubkr kh 632 634 ephuxninwyedkaelaphutidtamthiiklchidkhxngmuhmmdcaktrakul idrbeluxkepnekhaalifahxngkhaerkthimadinahaelaerimtnkarphichitabsmuthrxahrb rchsmykhxngphraxngkhsinsudemuxphraxngkhswrrkhtineduxnsinghakhm kh s 634 aelaxumr kh 634 644 bukhkhlthixabubkreluxkcak khundarngtaaehnngtx inrchsmyxumr rthekhaalifahidkhyaytwinxtrathiimekhymimakxn odypkkhrxngehnuxphunthickrwrrdiibaesnithnmakkwasxnginsam aelackrwrrdisaeseniynekuxbthnghmd xumrthuklxbsngharineduxnphvscikayn kh s 644 aelakhnakrrmkarhkkhnkhxngxumrideluxkxusman kh 644 656 smachiktrakulbanuxumyyah khunmadarngtaaehnngtx inrchsmyxusman rthekhaalifahphichitepxresiythnghmdin kh s 651 aelakhyayipindinaednibaesnithntx noybaythiehnaekyatikhxngxusmanthaihphraxngkhidrbkartxtanxyangrunaerngcakchnchnnamuslim aelainthisudkthukklumkbtlxbsngharineduxnmithunayn kh s 656 xali kh 656 661 smachiktrakulkhxngmuhmmd idrbeluxkihdarngtaaehnngtx phraxngkhyayemuxnghlwngipthi xaliepnphunainsngkhramklangemuxngthimichuxwa fitnahkhrngthihnung enuxngcakxanacxthipitykhxngphraxngkhimidrbkaryxmrbcakmuxawiyahthi 1 kh 661 680 yatikhxngxusmanaelaphuwakarsieriy phuechuxwaxusmanthukkhatkrrmodymichxbdwykdhmayaelakhnthilngmuxkhakhwridrboths nxkcakni yngmiklumthisamthiruckkninchux ekhaawaricy thiekhyepnphusnbsnunxali kxkbttxthngfayxalikbmuxawiyahhlngptiesththicayxmrbxnuyaottulakarinyuththkarthisiffin sngkhramninaipsukarokhnlmrthekhaalifahrxchidunaelacdtngrthekhaalifahxumyyahkhxngmuxawiyahin kh s 661 sngkhramklangemuxngninaipsukhwamaetkaeykrahwangmuslimnikaysunnikbchixahxyangthawr odychixahechuxwaxaliepnekhaalifahphuthrngthrrmkhnaerk aelaepnxihmamthdcakmuhmmd phwkekhaoprdprankhwamsmphnththangsayeluxdkhxngxalikbmuhmmd rthekhaalifahrxchidunmichwngrayaewlakarkhyaythangthharxyangrwderw 25 pi tammadwykhwamkhdaeyngphayin 5 pi inchwngsungsudmithharmakkwa 100 000 nay inchwngkhristthswrrs 650 nxkcakkhabsmuthrxahrbaelw rthekhaalifahidphichitliaewntthungthangehnux aexfrikaehnuxcakxiyiptthungtuniesiyinpccubnthangtawntk aelathirabsungxihranthungphunthibangswnkhxngexechiyklangaelaexechiyitthangtawnxxk ekhaalifahrxchidunthng 4 phraxngkhidrbeluxkcakkareluxktngkhnadelkprakxbdwysmachikthioddednkhxngsmaphnthchnephakurxychthimichuxwa xahrb ش ـو ر ى aeplwa karpruksaharux thimarthekhaalifahrxchiduninchwngsungsud hlngkaresiychiwitkhxngmuhmmdin kh s 632 khxngthaninmadinahthkethiyngknwaikhrkhwrsubthxdkickarkhxngmuslim inkhnathikhrxbkhrwkhxngmuhmmdkalngyungxyukbphithifngsph xumraelathwaystyptiyantntxxabubkr phayhlngfayxnsxrkbkurxychcungerimptibtitam xabubkrcdtngtaaehnng ekhaalifah eraasulullxh خ ـل ـي ـف ـة ر س ـو ل الله phusubthxdcaksasnthutkhxngxllxh hruxsn wa ekhaalifah xabubkrerimdaeninkarrbephuxephyaephxislam txnaerkphraxngkhcatxngprabchnephaxahrbthixangwaaemwaphwktncaihkhamnwacacngrkphkditxmuhmmdaelaekharbxislam aetphwkekhakimidmikhwamekiywdxngxairkbxabubkr inthanaekhaalifah xabubkraelaphusubthxdthngsamphraxngkhimidepnkstriyaelaimidxangtaaehnngnn aetkareluxktngaelakhwamepnphunakhxngphwkekhakhunxyukbkhunthrrm faysunniechuxwa ekhaalifahrxchidunthng 4 phraxngkhmikhwamechuxmoyngkbsasdamuhmmdphankaraetngngan epnkhnklumaerkthiekharbxislam epnsibkhnthiidrbsyyawacaidekhaswrrkh epnphutidtamthiiklchidkhxngthanphankhwamsmphnthaelakarsnbsnun aelamkidrbkarykyxngxyangsungcakmuhmmdaelaidrbmxbhmayihmibthbathepnphunainchumchnmuslimchwngaerk ekhaalifahehlaniepnthiruckinmuslimnikaysunniwa hruxekhaalifahthiidrb aenwthangthithuktxng ا ل خ ل ف اء ٱلر اش د ون al Khulafaʾ ar Rasidun muslimnikaysunniraynganwa chuxrthekhaalifahrxchidunmacakhadisthimichuxesiyngkhxngmuhmmdthiklawiwlwnghnawa camirthekhaalifahhlngcakthan 30 pi rayaewlakhxngrthekhaalifahrxchidun aelacatammadwykarpkkhrxngodykstriy rthekhaalifahxumyyahpkkhrxngdwyrabxbrachathipityaebbsubsnttiwngs nxkcakni hadisxun inkbrabuwa phraecacafunfuekhaalifahthiidrbaenwthangthithuktxngxikkhrngcnkrathngwarasudthay xyangirktam muslimnikaychixahimichsphthni enuxngcakphwkekhaimthuxwaekhaalifahsamphraxngkhaerkpkkhrxngodychxbthrrm thungkrann muslimnikayechuxwaekhaalifahsamxngkhaerkepnphunathimikhwamchxbthrrmsingsubthxdnkwichakarkhrawasbangswntngkhathamtxmummxngrxchidunkhxngsunni klawwa nkekhiynthimichiwitinchwngewlaediywknkbekhaalifah 4 xngkhaerk imidbnthukekiywkbphwkekhanxymak aelachuxkhxngphwkekhaimidpraktbnehriyy caruk hruxexksar cnkrathngekhaalifhngxkhthi 5 muxawiyahthi 1 661 680 thimihlkthanekiywkbkarthangankhxngrthbalxahrbthat enuxngcakpraktchuxphraxngkhbnsuxthangkarkhxngrththnghmd xyangirktam kmicarukthiekhiynkhuninsmynn hnunginnnrabuchuxaelawnesiychiwitkhxngxumr aelamiehriyythipraktinrchsmynndwy thungaemwawtthuehlanncaimpraktchux aetpraktephiyng dwyphranamkhxngxllxh tamthihxyaelndklawiw hxyaelndyngtngkhathamthungkhxklawhawarxchidunmisilthrrmehnuxkwaxumyyah odyrabuwaxalimiswnekiywkhxnginsngkhramklangemuxngkhrngaerk fitnahkhrngthihnung aelaxusmanid ichrupaebbkarpkkhrxngaebbehnaekyatiaelw sungekhaalifahxngkhhlngthukpranam aelasngsywaaenwkhid yukhthxng khxngxislaminyukhaerkerimmacakkhwamtxngkarkhxngnkwichakarsasnasmyxumyyahtxnplaythungxbbasiyah ephuxaeykkhwamaetktangrahwangekhaalifahklumaerk sungmixanacinkarxxkkdhmaymakkwa aelaekhaalifahrwmsmythiphwkekhatxngkartidtamineruxngsasnakhxngphwkekha xulamax thaihinphayhlng klumphutidtam idrbkarprbprung epn aebbxyangkhxngkhwamktyyuktewthitathrrm khxkhwamehlanimikhwamkhlaykhlungkbmummxngphutidtam rwmekhaalifahrxchidun khxngchixah chixahhlaykhnimmimummxngediywknkbsunnithiechuxwaphutidtamlwnepnaebbxyangkhxngkhwamktyyu aetklaawhahlaykhnwasmrurwmkhidhlngcakthansasdaesiychiwit ephuxlidrxnxalikblukhlankhxngekhacakkarepnphuna inmummxngkhxngchixah phutidtamhlaykhnaelaphusubthxdepnphuaeyngching aemaetkhnhnasuxickhd thiimekhyhyudthicalmlangsasnaephuxphlpraoychnkhxngtnexngkarthharkxngthphrxchidunepnhnwyrbhlkkhxngkxngkalngtidxawuthxislaminkhriststwrrsthi 7 odyrwmrbkb kxngthphrksaraebiybwiny khwamklahayechingklyuthth aelaxngkhkrinradbsungmak phrxmkbaerngcungicaelakhwamkhidrierimkhxngkxngkalngthhar tlxdthngprawtisastrswnihy kxngthphniepnhnunginkxngkalngthangthharthithrngphlngaelamiprasiththiphaphthisudthwthngphumiphakh odyinchwngsungsudkhxngrthekhaalifahrxchidun khnadsungsudkhxngkxngthphkhuxpraman 100 000 nay kxngthphrxchidun thharrxchidunthiswmhmwkehlk smvththi esuxekraahnngaelaepnaephn ekhaaekhwndabthisaysaphaybaaelathuxolhnng kxngthphrxchidunaebngxxkepnthharrabaela karsrangyuthothpkrnthangthharkhxngkxngthphmuslimyukhaerkkhunmaihmnnepnpyha emuxethiybkbkxngthphormnkbkxngthphmuslimsmyklangyukhhlng khxbekhtphaphlksnmikhnadelkmak swnihyimchdecn hlkthanthangkayphaphmiehluxxyunxymak aelahlkthanswnihykyakthicarabuwnthiid thharswmhmwkehlkaelasmvththiaebbexechiyklangcakxirk kxngthpheruxrxchidun swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidrayphranamchwngewla ekhaalifah xksrwicitr khwamsmphnthkbmuhmmd phrarachbidamarda hmayehtu8 mithunayn 632 22 singhakhm 634 xabubkr أبو بكر phxkhxngxaxichah phrryamuhmmd inwnthi 23 singhakhm kh s 634 xabubkrlmpwyaelamiikhsung23 singhakhm 634 3 phvscikayn 644 xumr عمر phxkhxng phrryamuhmmd thuklxbsngharcakchawepxresiy txngkarelkhhna 11 phvscikayn 644 20 mithunayn 656 xusman عثمان samikhxngkb luksawkhxmuhmmd hlanchaykhxng pafayphxkhxngmuhmmd banuxumyyah thuklxbsngharinban txngkarelkhhna 20 mithunayn 656 29 mkrakhm 661 xali علي lukphiluknxngkhxngmuhmmd samikhxngfatimah luksawkhxngmuhmmd samikhxng hlansawkhxngmuhmmd xabutxlib xibn xbdulmuttxlib thuklxbsngharkhnalahmadsubhthi txngkarelkhhna xangxing September 1997 Expansion and Contraction Patterns of Large Polities Context for Russia 41 3 495 doi 10 1111 0020 8833 00053 JSTOR 2600793 Triana Maria 2017 Managing Diversity in Organizations A Global Perspective phasaxngkvs Taylor amp Francis p 159 ISBN 9781317423683 Marin Manuela Ayalon A 1960 2007 Shura in Bosworth C E b k Encyclopaedia of Islam Second Edition doi 10 1163 1573 3912 islam COM 1063 McHugo 2017 p 93 Azyumardi Azra 2006 Indonesia Islam and Democracy Dynamics in a Global Context p 9 ISBN 9789799988812 C T R Hewer Allan Anderson 2006 Understanding Islam The First Ten Steps illustrated ed Hymns Ancient and Modern Ltd p 37 ISBN 9780334040323 Anheier Helmut K Juergensmeyer Mark b k 2012 Encyclopedia of Global Studies Sage Publications p 151 ISBN 9781412994224 Claire Alkouatli 2007 Islam illustrated annotated ed Marshall Cavendish p 44 ISBN 9780761421207 Catharina Raudvere Islam An Introduction I B Tauris 2015 51 54 Asma Afsaruddin 2008 The first Muslims history and memory Oneworld p 55 Safia Amir 2000 Muslim Nationhood in India Perceptions of Seven Eminent Thinkers Kanishka Publishers Distributors p 173 ISBN 9788173913358 Heather N Keaney 2013 Medieval Islamic Historiography Remembering Rebellion Sira Companion versus Caliph Oriented History Routledge ISBN 9781134081066 He also foretold that there would be a caliphate for thirty years the length of the Rashidun Caliphate that would be followed by kingship Hamilton Alexander Rosskeen Gibb Johannes Hendrik Kramers Bernard Lewis Charles Pellat Joseph Schacht 1970 The Encyclopaedia of Islam The Encyclopaedia of Islam Brill 3 Parts 57 58 1164 Aqidah Com December 1 2009 The Khilaafah Lasted for 30 Years Then There Was Kingship Which Allaah Gives To Whomever He Pleases Aqidah Com Aqidah Com subkhnemux 16 August 2014 Sowerwine James E 2010 Caliph and Caliphate Oxford Bibliographies Online Research Guide phasaxngkvs Oxford University Press p 5 ISBN 9780199806003 Rane 2010 p 83 Hoyland In God s Path 2015 p 98 Ghabban A I I Translation and concluding remarks by and Hoyland R 2008 The inscription of Zuhayr the oldest Islamic inscription 24 AH AD 644 645 the rise of the Arabic script and the nature of the early Islamic state 1 Arabian Archaeology and Epigraphy 19 2 pp 210 237 Hoyland In God s Path 2015 p 134 Hoyland In God s Path 2015 p 227 Zaman M Q 1998 Sectarianism in Pakistan The radicalization of Shi i and Sunni identities Modern Asian Studies 32 3 p 691 Fratini Dan 2006 04 01 The Battle Of Yarmuk 636 Military History Online cakaehlngedimemux 2011 05 16 subkhnemux 2014 11 29 2001 The Armies of the Caliphs Military and Society in the Early Islamic State London Routledge p 168 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 06 05 subkhnemux 2023 01 28 Kennedy Hugh 2001 The Armies of the Caliphs Military and Society in the Early Islamic State London Routledge p 183 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 06 05 subkhnemux 2023 01 28 شبارو عصام محمد 1995 First Islamic Arab State 1 41 AH 623 661 CE 3 Arab Renaissance House Beirut Lebanon p 370 Madelung 1997 khxmul Abun Nasr Jamil M 1987 A History of the Maghrib in the Islamic Period Cambridge New York Melbourne Cambridge University Press ISBN 0 521 33767 4 Bosworth C Edmund July 1996 Arab Attacks on Rhodes in the Pre Ottoman Period Journal of the Royal Asiatic Society 6 2 157 164 doi 10 1017 S1356186300007161 JSTOR 25183178 S2CID 163550092 2007 1916 The Chronicle of John Bishop of Nikiu Translated from Zotenberg s Ethiopic Text Merchantville NJ Evolution Publishing ISBN 9781889758879 2010 Muhammad and the Believers at the Origins of Islam Cambridge MA ISBN 9780674050976 Fitzpatrick Coeli Walker Adam Hani 25 April 2014 Muhammad in History Thought and Culture An Encyclopedia of the Prophet of God 2 volumes ABC CLIO ISBN 978 1 61069 178 9 odythang Google Books Frastuti Melia 2020 Reformasi Sistem Administrasi Pemerintahan Penakhlukkan di Darat Dan Dilautan Pada Era Bani Umayyah Jurnal Kajian Ekonomi Hukum Syariah phasamaely 6 2 119 127 doi 10 37567 shar e v6i2 227 S2CID 234578454 subkhnemux 27 October 2021 October 1972 The Murder of the Caliph Uthman International Journal of Middle East Studies 13 4 450 469 doi 10 1017 S0020743800025216 JSTOR 162492 S2CID 159763369 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint date and year lingk Hoyland Robert G 2015 In God s Path the Arab Conquests and the Creation of an Islamic Empire Oxford University Press Madelung Wilferd 1997 The Succession to Muhammad A Study of the Early Caliphate Cambridge England ISBN 0521646960 McHugo John 2017 A Concise History of Sunnis amp Shi is Georgetown University Press ISBN 978 1 62 616587 8 Netton Ian Richard 19 December 2013 Encyclopaedia of Islam phasaxngkvs Routledge ISBN 978 1 135 17960 1 Rane Halim 2010 Islam and Contemporary Civilisation Academic Monographs ISBN 9780522857283 Weeramantry Judge Christopher G 1997 Justice Without Frontiers Furthering Human Rights ISBN 90 411 0241 8 bthkhwamprawtisastrniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk