หนองคาย เป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดบึงกาฬ จังหวัดสกลนคร จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดเลย และยังมีชายแดนติดต่อกับแขวงเวียงจันทน์ นครหลวงเวียงจันทน์ และแขวงบอลิคำไซของประเทศลาว จังหวัดหนองคายมีพื้นที่แคบแต่ยาว และมีชื่อเสียงด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการชมบั้งไฟพญานาคในเทศกาลวันออกพรรษา
จังหวัดหนองคาย | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Changwat Nong Khai |
จากซ้ายไปขวา บนลงล่าง:
| |
คำขวัญ: วีรกรรมปราบฮ่อ หลวงพ่อพระใส สะพานไทย-ลาว | |
แผนที่ประเทศไทย จังหวัดหนองคายเน้นสีแดง | |
ประเทศ | ไทย |
การปกครอง | |
• ผู้ว่าราชการ | สมภพ สมิตะสิริ (ตั้งแต่ พ.ศ. 2567) |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 3,027.280 ตร.กม. (1,168.839 ตร.ไมล์) |
อันดับพื้นที่ | อันดับที่ 61 |
ประชากร (พ.ศ. 2566) | |
• ทั้งหมด | 514,021 คน |
• อันดับ | อันดับที่ 51 |
• ความหนาแน่น | 169.79 คน/ตร.กม. (439.8 คน/ตร.ไมล์) |
• อันดับความหนาแน่น | อันดับที่ 20 |
รหัส ISO 3166 | TH-43 |
ชื่อไทยอื่น ๆ | หนองค่าย, บ้านไผ่, หนองหมากคาย |
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด | |
• ต้นไม้ | ชิงชัน |
• ดอกไม้ | ชิงชัน |
• สัตว์น้ำ | ปลายี่สก |
ศาลากลางจังหวัด | |
• ที่ตั้ง | ภายในศูนย์ราชการจังหวัดหนองคาย ถนนมิตรภาพ ตำบลหนองกอมเกาะ อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย 43000 |
• โทรศัพท์ | 0 4241 2678 |
เว็บไซต์ | http://www.nongkhai.go.th |
ประวัติศาสตร์
เมืองหนองคายมีชื่อปรากฏอยู่ในพงศาวดารล้านช้างตลอดยุคสมัย ดังเช่นปรากฏเป็นชื่อเมืองเวียงคุก เมืองปะโค เมืองปากห้วยหลวง (อำเภอโพนพิสัยในปัจจุบัน) และนอกจากนี้ยังปรากฏในศิลาจารึกจำนวนมากที่กษัตริย์แห่งเวียงจันทน์ได้สร้างไว้ในบริเวณจังหวัดหนองคาย โดยเฉพาะเมืองปากห้วยหลวงเป็นเมืองลูกหลวง นอกจากนี้ในรัชสมัยพระเจ้าวรรัตนธรรมประโชติฯ พระราชโอรสในพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ได้ตั้งสมเด็จพระสังฆราชวัดมุจลินทรอารามอยู่ที่เมืองห้วยหลวง และยังพบจารึกที่วัดจอมมณี ลงศักราช พ.ศ. 2098 จารึกวัดศรีเมือง พ.ศ. 2109 จารึกวัดศรีบุญเรือง พ.ศ. 2151 เป็นต้น นอกจากนี้ยังพบโบราณสถานอิทธิพลล้านช้างจำนวนมาก เช่น พระธาตุต่าง ๆ โดยเฉพาะพระธาตุบังพวน สร้างก่อน พ.ศ. 2106 จารึกวัดถ้ำสุวรรณคูหา (อำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู) ลงศักราช พ.ศ. 2106 กล่าวถึงพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ได้อุทิศข้าทาสและที่ดินแก่วัดถ้ำสุวรรณคูหา และได้สร้างพระพุทธรูปไว้ที่พระธาตุบังพวนอีกด้วย และบริเวณที่ตั้งเมืองหนองคายหรือจังหวัดหนองคาย ในยุคก่อนจะตั้งเมืองหนองคายขึ้น แต่เดิม บริเวณพื้นที่แห่งนี้เป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ นามว่า บ้านไผ่หรือบ้านหนองไผ่ ซึ่งไม่ได้มีความสำคัญเท่าไหร่นักและขึ้นตรงกับนครหลวงเวียงจันทน์
ต่อมาจะกล่าวถึงที่มาของดินแดนแถบนี้ที่ถูกขนานนามว่า "เมืองปากห้วยหลวง 3 กษัตริย์" บริเวณที่ตั้งอำเภอโพนพิสัยปัจจุบัน เป็นเมืองเก่าตามพงศาวดารล้านช้างเรียกว่า "เมืองปากห้วยหลวง" พ.ศ. 1901 พระเจ้าฟ้างุ้มมหาราช เริ่มก่อตั้งอาณาจักรล้านช้าง และตีเมืองนี้ได้ และมีฐานะเป็น "เมืองหลวง" ซึ่งส่งเจ้าชายในราชวงศ์ล้านช้างมาครองเป็น "พญาปากห้วยหลวง" บางพระองค์ได้มีโอกาสไปครองราชย์ที่ นครเชียงทอง ถึง 2 พระองค์ด้วยกัน คือ หลังจากพระเจ้าสามแสนไทสวรรคต พ.ศ. 1958 แล้ว พระเจ้าล้านคำแดงโอรสได้ครองราชย์ต่อถึง พ.ศ. 1970 จึงสวรรคตโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่โบราณราชประเพณีไทย-ลาว สตรีจะครองราชย์ไม่ได้ เจ้าคำเต็ม พญาปากห้วยหลวง พระสวามีเจ้าหญิงจึงครองแทนพักหนึ่ง แล้วหนีกลับเมืองปากห้วยหลวงดังเดิม นางแก้วพิมพาซึ่งมีอำนาจมากในราชสำนักได้เชิญเจ้านายในราชวงศ์ครองราชย์ต่อหลายพระองค์ ระหว่าง พ.ศ. 1971-1980 ครั้นจุบรรลุพระราชนิติภาวะก็มีเหตุสวรรคตติด ๆ กันถึง 5-6 พระองค์ จนมาเชิญ เจ้าคำเกิด โอรสพญาปากห้วยหลวง (คาดว่าเป็นโอรสพระเจ้าคำเต็มจากชายาอื่น) ไปครองราชย์อีกและสวรรคต พ.ศ. 1983 อีก คราวนี้พระบรมวงศานุวงศ์ เสนาบดีทนไม่ไหว จับพระนางแก้วพิมพาถ่วงแม่น้ำคาน ทางเหนือนครหลวงพระบางเสียและเชิญเจ้าไชยครองราชย์ พระเจ้าไชยจักรพรรดิแผ่นแผ้ว สืบมา
เมืองปากห้วยหลวง เกิดช้างเผือกอีกเชือกหนึ่ง เมื่อหลังสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่ 1 มหาราช พ.ศ. 2114 พระเจ้าบุเรงนองผู้ชนะสิบทิศพิชิตเวียงจันทน์ ได้นำพระหน่อแก้วกุมาร ราชโอรสไปเมืองหงสาวดีเป็นตัวประกัน พระชันษาเพียง 5 ปี แล้วให้ตาสำเร็จราชการ"อาณาจักร์ล้านช้าง"แทน จารึกว่าพระยาแสนสุรินทร์ขว้างฟ้าสุมังโดอัยโกโพธิสัตว์ อดีตพระยาปากห้วยหลวง พงศาวดารว่าท่านเป็นบุตรกวานบ้านฝั่งขวา (ผู้ใหญ่บ้าน) รับราชการทหาร รบเก่งและคงถวายบุตรสาวเป็นสนมด้วย ดังนั้นที่ชาวหนองคายเชื่อกันมาจึงมิใช่เรื่องเหลวไหล โดยนางสนม (ไม่ทราบ) อาจมีพระราชธิดาโอรส 4 พระองค์ คือ "พระสุก พระเสริม พระใส" ซึ่งสร้างฉลองพระองค์ ส่วนองค์สุดท้ายคือพระราชโอรสชันษา 5 ปี พระหน่อแก้วกุมาร พม่าจึงต้องให้ตาสำเร็จราชการให้หลานจึงมี "อัยโก" (ตา) ต่อท้าย นับว่าพญาปากห้วยหลวงเป็น (หลวงพระบาง) 2 พระองค์ และผู้สำเร็จราชการ (เวียงจันทน์) อีก 1 ท่าน รวม 3 กษัตริย์
พ.ศ. 2103 เมื่อพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่ 1 มหาราช ถอยทัพหนีพม่าล่องมาจากเชียงใหม่ และหลวงพระบาง หลังจากนั้นเมืองปากห้วยหลวงก็ค่อย ๆ ลดความสำคัญลง คาดว่าเพราะการวิวาทกันภายในราชวงศ์ล้านช้าง ตั้งแต่พระบรมราชาแห่งนครพนม พระราชโอรส พระเจ้านันทราชกรีพาทัพมาปราบ พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่ 2 พ.ศ. 2241 ถึง (เวียงคุก-บ้านทรายฟอง) และกวาดต้อนผู้คนกลับ และต่อมาบริเวณจังหวัดหนองคาย ได้มีกลุ่มผู้คนอพยพมาตั้งชุมชนและเมืองขึ้นเป็นกลุ่มใหญ่ๆและสำคัญอยู่ 2 กลุ่ม กล่าวคือ สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ พ.ศ. 2250 สมเด็จ (ญาคูขี้หอม) อพยพคนไปซ่อมพระธาตุพนมครั้งที่ 4 ล่องไปจนตั้งอาณาจักรล้านช้างจำปาศักดิ์ เมื่อญาคูขี้หอมอพยพผู้คนไปภาคใต้นั้น ศิษย์เอกสำคัญท่านหนึ่ง คือ จารย์แก้ว หรือ เจ้าแก้วมงคล(เจ้าแก้วบูลม บูฮม) ได้ตั้ง '"เมืองทุ่ง"' (ท่ง) หรือ (อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด) เป็นเมืองด่านหน้ายันกับเวียงจันทน์ เชื้อสายของท่านได้แยกย้ายสร้างบ้านแปงเมืองหรือปกครองเมืองมากมาย เช่น จังหวัดร้อยเอ็ด มหาสารคาม ขอนแก่น เป็นต้น และภายหลังกลุ่มพระวอ และพระตา ผู้เป็นเสนาบดีผู้ใหญ่ในราชสำนักเวียงจันทน์ มีความขัดแย้งกับพระเจ้าสิริบุญสาร ด้วยสาเหตุไม่แจ้งชัด ได้พาเอาไพร่พลกองครัวญาติพี่น้อง อพยพหนีจากเวียงจันทน์ไปตั้งเมืองอยู่ที่หนองบัวลำภู และถอยร่นลงไปยังดอนมดแดงและตั้งเป็นจังหวัดอุบลราชธานี ยโสธร อำนาจเจริญ เป็นต้น ที่กล่าวถึงกลุ่มเจ้าจารย์แก้วและกลุ่มพระวอพระตา เนื่องจากทั้ง2กลุ่มล้วนมีบทบาทสำคัญในการก่อร่างสร้างเมืองต่างๆภายในจังหวัดหนองคายในปัจจุบัน
เมื่อ พ.ศ. 2322 กองทัพสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีได้ชัยชนะกรุงศรีสัตนาคนหุตเวียงจันทน์แล้ว พื้นที่บริเวณเมืองหนองคายยังอยู่ใต้ความควบคุมของนครหลวงเวียงจันทน์เช่นเดิม รวมถึงเมืองปากห้วยหลวงเดิมด้วย
ครั้น พ.ศ. 2369 – 2370 พระเจ้าไชยเชยเชษฐาธิราชที่ 3 (เจ้าอนุวงศ์) แห่งเวียงจันทน์ แข็งเมืองบุกมาถึงนครราชสีมา และถูกยันทัพกลับไปล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 3 โปรดให้สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ เป็นแม่ทัพหลวง พระยาราชสุภาวดี (สิงห์ สิงหเสนี) ่ต่อมาได้รับการพระราชทานอวยยศเป็น เจ้าพระยาราชสุภาวดี ว่าที่อัครมหาเสนาบดีสมุหนายก เป็นแม่ทัพหน้าปราบเวียงจันทน์ได้ครั้งที่ 1 แต่เจ้าอนุวงศ์หนีไปได้ ต่อมาล้นเกล้ารัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระแสงดาบอาสิทธิ์ให้ เจ้าพระยาราชสุภาวดี อัครมหาเสนาบดีสมุหนายก ต่อมาได้รับการพระราชทานราชทินนามเป็น เจ้าพระยาบดินทรเดชา เป็นแม่ทัพยกทัพปราบครั้ง 2 ตั้งทัพอยู่ค่ายพานพร้าว (บริเวณ นปข.ปัจจุบัน) และถูกหลอกล่อจนค่ายแตกหนีไปเมืองยโสธร คู่อริต่อเวียงจันทน์ดั้งเดิมจึงตามมาสมทบ เช่น บุตรหลานพระวอ-พระตา แห่งอุบลราชธานี และบุตรหลานจารย์แก้วแห่งสุวรรณภูมิ ช่วยเจ้าคุณสมุหนายกถล่มเวียงจันทน์จน "ฮ้างดังโนนขี้หมาจอก" หน่วยโสถิ่ม (กล้าตาย) นำโดย ท้าวสุวอธรรม (บุญมา) อุปฮาดยโสธร หลังศึกเจ้าอนุวงศ์ ฝ่ายกรุงเทพฯ มีนโยบายอพยพผู้คนมาฝั่งภาคอีสานจึงยุบเมืองเวียงจันทน์ปล่อยให้เป็นเมืองร้าง ชาวเมืองเวียงจันทน์บางส่วนก็อพยพมาภาคกลางและบางส่วนก็อยู่ที่บริเวณเมืองเวียงคุก เมืองปะโค (อำเภอเมืองหนองคายในปัจจุบัน) เมื่อจัดการบ้านเมืองเรียบร้อยแล้ว เจ้าพระยาราชสุภาวดี (สิงห์ สิงหเสนี) จึงกราบบังคมทูลพระกรุณาขอตั้งบ้านไผ่หรือบ้านหนองไผ่ ขึ้นเป็นเมืองหนองค่าย(คำว่า "หนองคาย" ถูกเรียกเพี้ยนมาจากคำว่า "หนองค่าย" ซึ่งมีความหมายโดยตรงว่า "หนองน้ำบริเวณที่ตั้งของค่ายทหาร" ซึ่งคำว่าหนองค่ายถูกเรียกเพี้ยนเป็น"หนองคาย"ใน สมัยรัชกาลที่ 5 ตั้งแต่นั้นมา) ต่อมาโปรดเกล้าให้ ท้าวสุวอธรรม (บุญมา) เป็น พระปทุมเทวาภิบาลที่ 1 แห่งเมืองหนองคาย ต้นตระกูล ณ หนองคาย และ ท้าวตาดี บุตร (สีลัง) แห่งเมืองร้อยเอ็ด เชื้อสายเจ้าจารย์แก้ว ได้เป็นเจ้าเมืองโพนพิสัยคนแรก จากความดีความชอบที่ได้รับบัญชาจากเจ้าคุณแม่ทัพมาสกัดเจ้าอนุวงศ์ เพื่อมิให้หนีไปญวนอีก โดยตั้งทัพอยู่ จึงเรียกกันว่า "เจ้าโพนแพง" ครั้นเสร็จศึกจึงยกเป็น "เมืองโพนแพง" ท้าวตาดีได้เป็น เจ้าเมืองคนแรก ต่อมายังรุ่นลูกรุ่นหลาน เมื่อ พ.ศ. 2373 ต้นตระกูล พิสัยพันธ์,สิงคศิริ,สิมะสิงห์,สิริสิงห์ สืบมาจะเป็นด้วยเหตุใดไม่ชัดแจ้ง พระพิสัยสรเดช (ตาดี) ได้ย้ายที่ตั้งเมืองจากโพนแพงมาอยู่ ณ เมืองปากห้วยหลวงเก่า ซึ่งคงจะร้างในสมัยนั้น และเอาชื่อเมืองโพนพิสัยมาตั้งที่นี่ พื้นที่ตำบลโพนแพงก็ห่างไกล จึงขอยก " บ้านหนองแก้ว" ขึ้นเป็น"เมืองรัตนวาปี" อีกเมืองหนึ่ง หลังจากเสร็จศึกเจ้าอนุวงศ์และก่อตั้งเมืองหนองคายได้ไม่นาน เมืองหนองคายได้รับฐานะเป็นเมืองประเทศราช โดยยุบเมืองเวียงจันทน์(ร้าง)ซึ่งพึ่งถูกทัพสยามทำลายไปให้มาขึ้นกับเมืองหนองคาย และ ณ. ขณะนั้น ทั้งเมืองหนองคาย และ เมืองโพนพิสัย ไม่ได้ขึ้นตรงต่อกัน แต่ล้วนเป็นเมืองเอกขึ้นกับกรุงเทพทั้งคู่ โดยเมืองโพนพิสัยมีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ อำเภอโพนพิสัย,อำเภอรัตนวาปี,อำเภอเฝ้าไร่ ของจังหวัดหนองคาย อำเภอเพ็ญ,อำเภอสร้างคอม ของจังหวัดอุดรธานี และ อำเภอโซ่พิสัย,อำเภอปากคาด ของจังหวัดบึงกาฬในปัจจุบัน
ต่อมาเมืองหนองคาย มีเจ้าเมืองอีก 2 คน คือ พระปทุมเทวาภิบาล (เคน ณ หนองคาย) ผู้เป็นบุตรและพระยาปทุมเทวาภิบาล (เสือ ณ หนองคาย) ผู้เป็นหลาน
พ.ศ. 2380 พระประทุมเทวาภิบาล (ท้าวสุวอ) ผู้เป็นเจ้าเมืองถึงแก่กรรมอุปฮาด (เคน) ได้เป็นเจ้าเมืองหนองคาย ในปี พ.ศ. 2383 และมีบรรดาศักดิ์เป็นพระปทุมเทวาภิบาลเหมือนกัน
ทางฝั่งเมืองโพนพิสัย ในปีพ.ศ. 2389 วันจันทร์ ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 3 พระยาขัติยวงษาสีลัง เจ้าเมืองร้อยเอ็ด ป่วยและถึงแก่กรรม อุปฮาดสิงห์ ราชวงศ์อินบุตร จึงพาเจ้าเพี้ยลงมากรุงเทพฯ พบกับพระยาพิสัยสรเดช(ท้าวตาดี)เจ้าเมืองโพนพิสัย ซึ่งเป็นพี่ชายของพระขัติยวงษาอินทร์และอุปฮาดสิงห์ และเป็นบุตรของพระยาขัติยวงษาสีลัง พระยาพิสัยสรเดชจึงพาอุปฮาดราชวงศ์ท้าวเพี้ย กรมการเมืองร้อยเอ็ด ลงมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท จึงโปรดเกล้าฯ ให้พระยาพิสัยสรเดชเจ้าเมืองโพนพิสัย กลับไปรักษาราชการเมืองร้อยเอ็ด พระยาพิสัยสรเดชจึงให้บุตรหลานรักษาการเมืองโพนพิสัยแทน ครั้นพระยาพิสัยสรเดชลงไปถึงเมืองร้อยเอ็ด จัดการเผาศพพระยาขัติยวงษาสีลังพระบิดาเสร็จแล้ว คืนวันหนึ่งอุปฮาดสิงห์ผู้เป็นน้องชายได้ตั้งบ่อนโป นัดให้พระยาพิสัยสรเดชกับพวกนักเลงมาเล่นที่หอนั่งบ้านพระยาขัติยวงษา ครั้นเวลาดึกมีคนมาลอบแทงพระยาพิสัยสรเดชถูกที่สีข้างซ้าย ถึงแก่กรรม ได้ความว่าอุปฮาดสิงห์เกี่ยวข้องในคดีนี้ ครั้นความทราบถึงกรุงเทพฯ จึงมีตราโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าเมืองสุวรรณภูมิส่งตัวอุปฮาดสิงห์และบรรดาบุตรหลานของพระยาขัติยวงษา ลงมากรุงเทพฯ โปรดเกล้าฯให้ตุลาการชำระคดี อุปฮาดสิงห์ พิจารณาได้ความเป็นสัตย์ว่าอุปฮาดสิงห์เป็นผู้ใช้ให้จีนจั้นมาแทงพระยาพิสัยสรเดช อุปฮาดสิงห์เลยต้องถูกจำคุกตายอยู่ในที่คุมขัง พระยาพิสัยสรเดชซึ่งป็นพี่ชายต่างมารดากับอุปฮาดสิงห์และราชวงศ์อินทร์ ราชวงศอินทร์ภายหลังเป็นพระยาขัติยวงษา(อินทร์ ธนสีลังกูร)เจ้าเมืองร้อยเอ็ดท่านที่ 3 อีกทั้งพระยาพิสัยสรเดช(ท้าวตาดี)ยังเป็นน้องร่วมมารดากับญาแม่ปทุมมา ซึ่งเป็นย่าของพระเจริญราชเดช (ท้าวอุ่น ภวภูตานนท์) เจ้าเมืองมหาสารคามคนที่ 3 ต่อมาได้มีการสืบสวนข้อเท็จจริงจากหลักฐานที่พึงเชื่อถือได้แน่นอน ปรากฏว่าอุปฮาดสิงห์หาได้เป็นผู้วางแผนฆ่าพระยาพิสัยฯ ตามที่เล่ามานั้นไม่ เมื่อพิจารณาจากเหตุผลจากสิ่งแวดล้อมต่างๆแล้ว เห็นว่ามีอยู่หลายกรณีที่อ้างอิงประกอบได้ เช่น คราวที่พระยาพิสัยฯ พร้อมอุปฮาดสิงห์ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทกราบบังคมทูลข่าวการอสัญกรรมของพระยาขัติยวงษาสีลังผู้บิดานั้น อุปฮาดสิงห์ก็ได้กราบบังคมทูลสนับสนุนพี่ชายเป็นอย่างดี จนได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยาพิสัยสรเดชกลับมารับราชการเมืองร้อยเอ็ด และโดยปกติสองพี่น้องนี้มีความรักใคร่ปรองดองกันดีมาก นอกจากนี้ยังปรากฏว่าจีนจั้นผู้แทงพระยาพิสัยฯ ก็เคยมีอริวิวาทกันกับพระยาพิสัยฯ มาช้านาน อนึ่งตามเนื้อเรื่องที่ว่า “พิจารณาได้ความเป็นสัตย์ว่าอุปฮาดสิงห์ ได้ให้จีนจั้นแทงพระยาพิสัยฯ และอุปฮาดสิงห์เลยต้องจำตายอยู่ในที่คุมขัง” จากข้อเท็จจริงโดยคำยืนยันของพระเจริญราชเดช (อุ่น) หลานญาแม่ปทุมมาซึ่งเป็นพี่สาวของพระยาพิสัยฯ เอง ได้ความชัดว่าอุปฮาดสิงห์ได้ดื่มยาพิษถึงแก่กรรมในระหว่างทางก่อนจะถึงกรุงเทพฯ ใกล้เมืองนครราชสีมา และญาติได้ค้นพบจดหมายลาตาย ถึงภรรยาว่า “เราไม่เคยคิดขบถต่อเจ้าพี่โพนแพงเลย ตายเองดีกว่าที่จะถูกคนอื่นประหาร เลี้ยงลูกใหดีจนได้ไปตั้งเมืองใหม่ขึ้นอีก” ส่วนจีนจั้นนั้นรับสารภาพและไม่มีการซัดทอดผู้ใดเลย เป็นอันว่าอุปฮาดสิงห์เป็นผู้บริสุทธิ์โดยแท้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงระบบการพิจารณาคดีของสยามหรือไทยในสมัยก่อนที่ยังมีข้อบกพร่องในการหาหลักฐานและความไม่ชัดเจนในการตัดสินคดีอยู่พอสมควร
มาทางฝั่งเมืองหนองคาย ในสมัยที่พระปทุมเทวาภิบาล (เคน) เป็นเจ้าเมืองนี้เองก็เกิดศึกสำคัญขึ้นเรียกกันว่าศึกฮ่อ ครั้งแรกเกิดขึ้นใน พ.ศ. 2420 แต่ในระยะนี้พระประทุมเทวาภิบาล (เคน) ไม่ได้อยู่ในหนองคายมีราชการต้องมาต้อนรับพระยามหาอำมาตย์เสียที่เมืองอุบลราชธานีและได้มอบกิจการบ้านเมืองให้ท้าวจันทรศรีสุราช (ชื่น) รักษาราชการแทน พวกฮ่อได้ตีหัวเมืองลายทางเรื่อยมาจนเข้ายึดเอาเวียงจันทร์ไว้ได้ พวกกรมการเมืองหนองคายแทนที่จะหาทางป้องกันข้าศึกกับคิดอพยพหนีพวกฮ่อ โดยท้าวจันทรศรีสุราชกับครอบครัวหนีไปอยู่บ้านพรานพร้าวอุดรธานี เมื่อตัวนายไม่คิดสู้พวกราษฎร์ก็พลอยขวัญเสียอพยพออกจากเมืองบางเหตุการณ์ในตอนนี้ถึงกับทำให้เมืองหนองคายตกอยู่ในสภาพเป็นเมืองร้างนอกนี้เมืองใกล้ ๆ กัน คือเมืองโพนพิสัยก็พลอยไม่คิดสู้ขี้นมาอีก พระพิไสยสรเดช (หนู) เจ้าเมืองอพยพครอบครัวหนีไปอยู่บึงกาฬ ส่วน ราชวงศ์เมืองหนองคาย ซึ่งถูกส่งมารักษาการแทนกับพระพิสัยสรเดช (หนู) ถูกพวกฮ่อฆ่าตาย ทางกรุงเทพจึงได้มีพระบรมราชองค์การให้พระยามหาอำมาตย์ (ชื่น) ซึ่งไปราชการ ณ เมืองอุบลราชธานี นั้น เกณฑ์ทัพเข้าปราบฮ่อกองทัพของพระยามหาอำมาตย์ได้ยกเข้ามาตั้งพักอยู่ที่เมืองหนองคายแล้วก็สั่งให้จับเอาเท้าจันทรศรีสุราชและพระยาพิไสยสรเดช(หนู)ไปประหารชีวิตเสียทั้งคู่เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างสืบต่อไปจากนี้ก็เกณฑ์คนในเมืองต่าง ๆ คือ นครพนม มุกดาหาร เขมราฐ อุบลและร้อยเอ็ด เข้าสมทบกับกองทัพเมืองหนองคาย รวมพลได้ทั้งสิ้นประมาณ 20,000 คน แล้วยกออกไปตีเมืองเวียงจันทร์ซึ่งพวกฮ่อสู้ไม่ได้แตกและทิ้งกรุงเวียงจันทร์ไป กองทัพของพระยามหาอำมาตย์ก็กลับมาพักที่หนองคายจัดกิจกรรมบ้านเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็กลับกรุงเทพฯ ครั้งนี้พระประทุมเทวาภิบาล (เคน) เจ้าเมืองหนองคายได้ติดตามลงมากรุงเทพฯ ด้วย
เมื่อ พ.ศ. 2428 เกิดสงครามปราบฮ่อครั้งที่สองในบริเวณทุ่งไหหิน (ทุ่งเชียงคำ) พวกฮ่อกำเริบตีมาจนถึงเวียงจันทน์ เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทราบข่าวศึกฮ่อ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคมขณะดำรงพระอิสริยศเป็น กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม เป็นแม่ทัพปราบฮ่อครั้งนั้นจนพวกฮ่อแตกหนี และสร้างอนุสาวรีย์ปราบฮ่อไว้ที่เมืองหนองคาย
ส่วนทางฝั่งเมืองโพนพิสัย หลังเสร็จศึกปราบฮ่อ ท้าวคำสิงห์ ซึ่งขณะนั้นมีราชทินนามเป็น พระศรีสุรศักดิ์สุนทร เจ้าเมืองรัตนวาปี อดีตเจ้าเมืองประชุมพนาลัย (เมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว) ขึ้นเเขวงเมืองโพนพิสัย ซึ่งเป็นบุตรหลานของพระพิสัยสรเดชท่านแรก (ท้าวตาดี) ได้รับแต่งตั้งเป็น "พระรัตนเขตรักษา" เจ้าเมืองโพนพิสัยแทนเจ้าเมืองเดิมสืบต่อมา ซึ่งท่านได้แสดงความกล้าหาญรบพุ่งกับฮ่อหลายครั้ง จนได้ราชทินนามเป็น พระยาพิสัยสรเดช (คำสิงห์ สิงหศิริ) เป็นต้นตระกูล สิงหศิริ จึงเห็นได้ว่า ทุกครั้งที่เกิดศึกและเกิดเหตุข้าศึกศัตรูเข้ามารุกราน ทั้งเมืองหนองคายและเมืองโพนพิสัยล้วนเป็นพันธมิตรร่วมกันต่อสู้ เคียงบ่าเคียงไหล่กันมาโดยตลอด
เมื่อ พ.ศ. 2429 ต่อมาใน พ.ศ. 2434 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคมดำรงตำแหน่งข้าหลวงมณฑลลาวพวน (ภายหลังเปลี่ยนเป็นมณฑลอุดร) ได้ตั้งที่ทำการที่เมืองหนองคาย โดย ก่อน พ.ศ. 2436 (ร.ศ. 112) เมืองหนองคายเป็นเมืองเอกมี เมืองโท ตรี จัตวา ขึ้นตรง ได้แก่ เมืองเวียงจันทน์(ขณะนั้นร้างและไม่มีสภาพความเป็นเมือง), เชียงคาน, พานพร้าว, ธุรคมสิงห์สถิตย์, กุมภวาปี(ถูกโอนพื้นที่มาจากเมืองหนองหานซึ่งมีฐานะเป็นเมืองเอก), รัตนวาปี ส่วนเมืองโพนพิสัย มีฐานะเป็นเมืองเอก แต่ไม่มีเมืองขึ้น ครั้นเกิดวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 หรือในปี พ.ศ. 2436 ไทยถูกกำหนดเขตปลอดทหารภายในรัศมี 50 กิโลเมตรจากชายแดน จึงย้ายกองบัญชาการมลฑลลาวพวนมาตั้งที่ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
พ.ศ. 2450 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีกระแสพระบรมราชโองการให้จัดตั้งเมืองอุดรธานีขึ้นที่บ้านหมากแข้ง เป็นศูนย์กลางของมณฑลอุดร ครอบคลุม จังหวัด อุดรธานี ขอนแก่น หนองคาย เลย หนองบัวลำภู บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหารในสมัยนั้น ซึ่ง มณฑลอุดร แบ่งการปกครองเป็น 5 บริเวณ คือ บริเวณหมากแข้ง บริเวณธาตุพนม บริเวณสกลนคร บริเวณภาชี และบริเวณน้ำเหือง ในปีเดียวกัน ได้โปรดเกล้าฯ ให้กระทรวงมหาดไทยรวมเมืองต่าง ๆ ในบริเวณบ้านหมากแข้งตั้งเป็นเมืองจัตวา เรียกว่า "เมืองอุดรธานี" ส่วนเมืองในสังกัดบริเวณให้มีฐานะเป็นอำเภอ ได้แก่ เมืองหนองคาย เมืองกมุทธาสัย(หนองบัวลำภู) เมืองกุมภวาปี เมืองหนองหาน เมืองโพนพิสัย เมืองรัตนวาปี เป็น อำเภอหนองคาย อำเภอหนองบัวลำภู อำเภอกุมภวาปี อำเภอหนองหาน อำเภอโพนพิสัย อำเภอรัตนวาปี ขึ้นกับเมืองอุดรธานี สังกัดมณฑลอุดร
พ.ศ. 2457 มีการปรับปรุงเขตอำเภอสำหรับการปกครองในมณฑลอุดรได้กล่าวถึง สังกัด ให้ตัดท้องที่ของอำเภอโพนพิสัยบางส่วน ของเมืองอุดรธานี ไปรวมกับท้องที่ และให้ย้ายที่ว่าการมาตั้งที่บ้านบึงกาญจน์จรดริมแม่น้ำของ(โขง)ฝั่งตรงข้ามเมืองบริคันฑ์ แขวงเวียงจันทน์ เพราะเป็นศูนย์กลางเหมาะแก่การปกครองท้องที่อำเภอ และก็ยังคงขึ้นเมืองนครพนมตามเดิม
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติปกครองพื้นที่ขึ้นโดยให้ยกเลิกระบอบเจ้าปกครองทั่วประเทศ ในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ 2458 กระทรวงมหาดไทยจึงได้มีคำสั่งสถาปนาเมืองข้าหลวงปกครอง ซึ่งต่อมาเรียกว่าผู้ว่าราชการจังหวัด แยกอำเภอหนองคายออกมาจากเมืองอุดรธานี ตั้งเป็นจังหวัดหนองคาย และโอนอำเภอโพนพิสัย ของเมืองอุดรธานี และยุบอำเภอรัตนวาปีเป็นตำบลขึ้นกับอำเภอโพนพิสัย แล้วจึงโอนมาขึ้นกับจังหวัดหนองคาย(ขณะนั้นมีการเปลี่ยนรูปแบบการปกครองเป็นจังหวัดและอำเภอแล้วแต่ยังไม่มีการบังคับใช้และเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย) แรกเริ่มจังหวัดหนองคายมีอำเภอขึ้นตรง ดังนี้คือ อ.โพนพิสัย อ.สังคม อ.บ้านผือ อ.ท่าบ่อ อ.พานพร้าว และอ.น้ำโมง และมีการปรับยุบเมืองที่เคยเป็นอำเภอลดฐานะลงเป็นตำบลแทน เช่น อำเภอมีชัย เมืองหนองคาย เป็น "ตำบลมีชัย" อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย เป็นต้น
ครั้นในปีต่อมา พ.ศ. 2459 โอนของจังหวัดนครพนม มาขึ้นจังหวัดหนองคาย เนื่องจาก มีท้องที่และระยะทางห่างไกลจากจังหวัดนครพนมมาก ลำบากต่อการเดินทาง และทั้งไม่เหมาะแก่การปกครอง ในปี พ.ศ. 2475 เปลี่ยนชื่ออำเภอไชยบุรีเป็น "อำเภอบึงกาญจน์
และในปี พ.ศ. 2476 ได้มีการจัดระเบียบบริหารราชการส่วนภูมิภาคเป็นจังหวัดและอำเภออย่างเป็นทางการ หนองคายจึงได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นจังหวัดอย่างเป็นทางการ
ในปี พ.ศ. 2554 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้มีพระราชบัญญัติตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. 2554 มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2554 โดยให้แยกอำเภอบึงกาฬ อำเภอปากคาด อำเภอโซ่พิสัย อำเภอพรเจริญ อำเภอเซกา อำเภอบึงโขงหลง อำเภอศรีวิไล และอำเภอบุ่งคล้า ออกจากจังหวัดหนองคาย ไปตั้งเป็นจังหวัดบึงกาฬ
ภูมิศาสตร์
ที่ตั้งและอาณาเขต
จังหวัดหนองคาย มีเนื้อที่ประมาณ 3,026.534 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 1,891,583 ไร่ (นับเป็นจังหวัดที่มีขนาดเล็กที่สุดของภาคอีสาน โดยพื้นที่ทั้งหมดก่อนที่จังหวัดบึงกาฬจะแยกตัวไป มีประมาณ 7,332 ตารางกิโลเมตร) ลักษณะเป็นรูปยาวเรียงทอดไปตามลำน้ำโขง ซึ่งเป็นเส้นกั้นเขตแดนกับประเทศลาว มีความยาวทั้งสิ้น 195 กิโลเมตร ความกว้างของพื้นที่ที่ทอดขนานไปตาม ลำน้ำโขงโดยเฉลี่ย 20 - 25 กิโลเมตร ห่างจากกรุงเทพมหานครตามทางหลวงแผ่นดินสาย 2 (มิตรภาพ) ประมาณ 615 กิโลเมตร และมีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียงดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับกำแพงนครเวียงจันทน์ เขตเมืองหลวงของประเทศลาว โดยมีแม่น้ำโขงเป็นแนวพรมแดน
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอปากคาด และอำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ
- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอบ้านม่วง จังหวัดสกลนคร อำเภอเพ็ญ อำเภอสร้างคอม อำเภอบ้านดุง อำเภอนายูง และอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอปากชม จังหวัดเลย
ภูมิประเทศและภูมิอากาศ
สภาพภูมิประเทศของจังหวัดหนองคายมีลักษณะทอดยาวตามลำน้ำโขง จังหวัดหนองคายเป็นจังหวัดชายแดนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีอาณาเขตติดกับกรุงเวียงจันทน์ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศลาว โดยมีแม่น้ำโขงเป็นเส้นกั้นเขตแดน จังหวัดหนองคายเป็นจังหวัดชายแดนที่มีเอกลักษณ์พิเศษโดยมีพื้นที่ทอดขนานยาวไปตามลำน้ำโขง ความกว้างของพื้นที่ทอดขนานไปตามลำน้ำโขงโดยเฉลี่ยประมาณ 20 – 25 กิโลเมตร ช่วงที่กว้างที่สุดอยู่ที่อำเภอเฝ้าไร่ และช่วงที่แคบที่สุดอยู่ที่อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคายมีอำเภอที่อยู่ติดกับลำน้ำโขง 6 อำเภอ คือ อำเภอสังคม อำเภอท่าบ่อ อำเภอศรีเชียงใหม่ อำเภอเมือง อำเภอโพนพิสัย และอำเภอรัตนวาปี และมีอาณาเขตติดต่อกับ ประเทศลาว คือ แขวงเวียงจันทน์ นครหลวงเวียงจันทน์ และแขวงบอลิคำไซ
จังหวัดหนองคายมีจุดผ่านแดนไป ประเทศลาว รวม 6 จุด เป็นจุดผ่านแดนถาวร 2 จุด และจุดผ่อนปรน 4 จุด จุดผ่านแดนที่สำคัญและเป็นสากล คือ ด่านสะพานมิตรภาพไทย - ลาว ซึ่งรัฐบาลออสเตรเลีย-ไทย-ประเทศลาว ร่วมมือกันสร้างและเป็นประตูไปสู่อินโดจีน
ลักษณะภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง แยกได้เป็น 4 บริเวณ คือ
- พื้นที่ค่อนข้างราบ ได้แก่ เขตอำเภอเมืองหนองคาย อำเภอท่าบ่อ และอำเภอศรีเชียงใหม่ ซึ่งใช้ประโยชน์ในการทำนา และปลูกพืชบริเวณริมน้ำโขง
- พื้นที่เป็นคลื่นลอนลาด กระจายอยู่ทุกอำเภอเป็นหย่อมๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่ทำนาและปลูกพืชไร่ พืชสวนและป่าธรรมชาติ
- พื้นที่เป็นคลื่นลอนชันและเป็นเขาเป็นป่าธรรมชาติ เช่น ป่าไม้เต็งรัง เบญจพรรณ พบในเขตอำเภอสังคม
- สภาพพื้นที่เป็นภูเขาที่มีความสูงชัน จากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 200 เมตร เป็นบริเวณเทือกเขาต่างๆ ทางทิศตะวันตกในเขตอำเภอสังคม
เนื่องจากแม่น้ำโขงไหลผ่านอำเภอต่างๆ เกือบทุกอำเภอ จึงก่อให้เกิดประโยชน์ในการเกษตรกรรม ราษฎรได้อาศัยแม่น้ำโขงเป็นแหล่งน้ำที่ใช้เพื่อการเกษตรและอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะราษฎรที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำโขง จะได้รับประโยชน์มากกว่าราษฎรที่อยู่ลึกเข้าไปจากแม่น้ำโขง นอกจากนี้สำนักงานพลังงานแห่งชาติได้จัดตั้งสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ในพื้นที่ 9 อำเภอ รวมทั้งสิ้น 82 สถานี เพื่อทำการสูบน้ำจากแม่น้ำโขงและแหล่งน้ำอื่น ๆ ขึ้นมาใช้เพื่อการเกษตรกรรม
ลักษณะอากาศจัดอยู่ในจำพวกฝนแถบร้อนและแห้งแล้ง (ธ.ค. - ม.ค.) ในฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะเริ่มลดในเดือนพฤศจิกายนและต่ำสุดในช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคม ในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม เป็นช่วงเปลี่ยนฤดู อุณหภูมิจะสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนมีนาคม และร้อนจัดในเดือนเมษายน ในฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ (มิ.ย.- ก.ค.) อุณหภูมิโดยทั่วไปจะลดลง และในเดือนตุลาคมอุณหภูมิจะเริ่มลดลงจนอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิต่ำสุดรายปีอยู่ที่ 9.50 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุดรายปีอยู่ที่ 40.60 องศาเซลเซียสเฉลี่ยรายปีอยู่ที่ 26.46 องศาเซลเซียส ปริมาณน้ำฝนทั้งปีอยู่ที่ 1,843.6 มิลลิเมตรต่อปี
ข้อมูลภูมิอากาศของจังหวัดหนองคาย | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เดือน | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ทั้งปี |
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) | 29.3 (84.7) | 31.6 (88.9) | 34.3 (93.7) | 35.7 (96.3) | 33.7 (92.7) | 32.5 (90.5) | 32.0 (89.6) | 31.4 (88.5) | 31.6 (88.9) | 31.3 (88.3) | 30.1 (86.2) | 28.6 (83.5) | 31.84 (89.32) |
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) | 16.2 (61.2) | 18.6 (65.5) | 21.4 (70.5) | 23.8 (74.8) | 24.3 (75.7) | 24.7 (76.5) | 24.5 (76.1) | 24.3 (75.7) | 24.0 (75.2) | 22.7 (72.9) | 19.4 (66.9) | 15.9 (60.6) | 21.65 (70.97) |
หยาดน้ำฟ้า มม (นิ้ว) | 7.0 (0.276) | 10.5 (0.413) | 30.7 (1.209) | 89.5 (3.524) | 240.3 (9.461) | 278.5 (10.965) | 249.3 (9.815) | 336.7 (13.256) | 275.6 (10.85) | 76.6 (3.016) | 12.2 (0.48) | 3.3 (0.13) | 1,610.2 (63.394) |
วันที่มีหยาดน้ำฟ้าโดยเฉลี่ย | 2 | 3 | 5 | 8 | 17 | 19 | 20 | 22 | 18 | 9 | 2 | 1 | 126 |
แหล่งที่มา: Thai Meteorological Department |
การเมืองการปกครอง
การปกครองส่วนภูมิภาค
การปกครองแบ่งออกเป็น 9 อำเภอ 62 ตำบล 678 หมู่บ้าน มีรายชื่ออำเภอตามหมายเลขในแผนที่ดังนี้
แผนที่ | |||||
---|---|---|---|---|---|
หมาย เลข | ชื่ออำเภอ | จำนวน ตำบล | ประชากร (พ.ศ. 2563) | พื้นที่ (ตร.กม.) | ความหนาแน่น (คน/ตร.กม.) |
1 | อำเภอเมืองหนองคาย | 16 | 150,438 | 607.5 | 247.64 |
2 | อำเภอท่าบ่อ | 10 | 82,368 | 355.3 | 231.83 |
3 | อำเภอโพนพิสัย | 11 | 98,281 | 642.7 | 152.92 |
4 | อำเภอศรีเชียงใหม่ | 4 | 30,072 | 198.0 | 151.88 |
5 | อำเภอสังคม | 5 | 25,548 | 449.7 | 56.81 |
6 | อำเภอสระใคร | 3 | 26,541 | 210.9 | 143.50 |
7 | อำเภอเฝ้าไร่ | 5 | 50,912 | 255.9 | 198.95 |
8 | อำเภอรัตนวาปี | 5 | 37,990 | 204.007 | 186.22 |
9 | อำเภอโพธิ์ตาก | 3 | 15,284 | 102.5 | 149.11 |
รวม | 62 | 517,434 | 3,027.280 | 170.92 |
การปกครองส่วนท้องถิ่น
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดหนองคาย ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับล่าง 66 แห่ง ประกอบด้วย เทศบาล 19 แห่ง แบ่งเป็นเทศบาลเมือง 2 แห่ง (ซึ่งคือเทศบาลเมืองหนองคาย และเทศบาลเมืองท่าบ่อ) และเทศบาลตำบล 17 แห่ง ที่เหลือเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลจำนวน 48 แห่ง โดยเทศบาลทั้งหมดแบ่งตามอำเภอในจังหวัดหนองคาย มีดังนี้
|
รายชื่อเจ้าเมืองและผู้ว่าราชการ
|
|
ประชากร
ปี | ประชากร | ±% |
---|---|---|
2549 | 899,580 | — |
2550 | 902,618 | +0.3% |
2551 | 906,877 | +0.5% |
2552 | 907,250 | +0.0% |
2553 | 912,937 | +0.6% |
2554 | *509,870 | — |
2555 | 512,439 | — |
2556 | 514,943 | +0.5% |
2557 | 517,260 | +0.4% |
2558 | 519,580 | +0.4% |
2559 | 520,363 | +0.2% |
2560 | 521,886 | +0.3% |
* ปี พ.ศ. 2554 ประชากรจังหวัดหนองคายลดลงเนื่องจากการจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ ที่มา: สำนักบริหารการทะเบียน |
กลุ่มชาติพันธุ์
เนื่องจากจังหวัดหนองคายมีชายแดนติดต่อกับประเทศลาวกว่า 200.82 กิโลเมตร และเป็นเมืองหน้าด่านในการทำสงครามในสมัยก่อน จึงทำให้มีการกวาดต้อนอพยพผู้คนจากทั้งฝั่งประเทศลาวและไทย (ในปัจจุบัน) ข้ามไปมา จึงทำให้มีกลุ่มคนหลายชาติพันธุ์ในจังหวัดหนองคาย แต่อย่างไรก็ตามในบันทึกทางประวัติศาสตร์ ได้บ่งบอกว่ามีกลุ่มคนที่อาศัยเป็นเมืองอยู่ในบริเวณนี้อยู่เดิม ได้แก่ เมืองพานพร้าว (อำเภอศรีเชียงใหม่) และเมืองปากห้วยหลวง (อำเภอโพนพิสัย) ซึ่งเป็นหนึ่งในอาณาจักรล้านช้าง
การอพยพครั้งที่สำคัญ มีดังต่อไปนี้
- เจ้าพระยาจักรี (รัชกาลที่ 1) ในสมัยกรุงธนบุรี ได้ตีเมืองเวียงจันทน์ ต่อมาใน พ.ศ. 2321 ได้กวาดต้อนผู้คนจากเวียงจันทน์ มาไว้ที่พานพร้าว ปะโค เวียงคุก
- สมัยเจ้าอนุวงศ์ พ.ศ. 2369 มีการกวาดต้อนผู้คนในเขตหัวเมือง ไปไว้ที่เวียงจันทน์
- พ.ศ. 2371 เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) รบชนะเจ้าอนุวงศ์ กวาดต้อนผู้คนกลับมาไว้ฝั่งไทย
- สมัยสงครามอินโดจีน พ.ศ. 2436 มีการอพยพมาอยู่ฝั่งไทยเกือบครึ่งเมือง โดย เจ้าเมือง มาอยู่บ้านหนองแก้ว (ปัจจุบันคือ อำเภอรัตนวาปี) และ เจ้าเมืองจันทบุรี อพยพมาบ้านท่าบ่อเกลือ (ปัจจุบันคือ อำเภอท่าบ่อ)
ในปัจจุบันกลุ่มคนที่อพยพมาอยู่ในเขตจังหวัดหนองคาย ได้มีการปรับตัวและปรับเปลี่ยนเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้กลมกลืนกับชาวพื้นเมืองที่ตั้งถิ่นฐานอยู่เดิมจนแทบไม่เห็นความแตกต่าง ทั้งการแต่งกาย ที่อยู่อาศัย ประเพณีต่าง ๆ จะสังเกตได้เฉพาะสำเนียงของภาษาพูด ที่ยังคงเหลือเค้าให้ทราบว่า เดิมเป็นชนเผ่าไหน ซึ่งพอจำแนก ได้ดังนี้
- กลุ่มชาวลาวเวียงจันทน์ เนื่องจากมีอาณาเขตที่ใกล้เคียงกับเวียงจันทร์ จึงน่าจะเรียกว่าชาวเวียงจันทน์ ถือว่าเป็นกลุ่มชนที่มากที่สุดในจังหวัดหนองคาย โดยเฉพาะท้องที่อำเภอ อำเภอเมืองหนองคาย, อำเภอท่าบ่อ, อำเภอศรีเชียงใหม่, อำเภอโพธิ์ตาก และอำเภอโพนพิสัย
- กลุ่มชาวไทอีสาน/ลาวอีสาน เนื่องจากเดิมเป็นอาณาจักรล้านช้างจึงนับเป็นกลุ่มลาวล้านช้างด้วยแต่ถึงอย่างไร หน้าตา ผิวพรรณ สำเนียงการพูด ก็แตกต่างจากชาวลาวเวียงจันทน์
- กลุ่มไทพวน มีถิ่นฐานเดิมจากเมืองพวน แขวงเชียงขวาง ประเทศลาว อาศัยอยู่ที่อำเภอศรีเชียงใหม่
- กลุ่มไทลื้อ/ไทด่าน/ไทเหนือ เป็นกลุ่มที่อพยพมาจากเมืองหลวงพระบางและอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ปัจจุบันอยู่ที่อำเภอสังคมและอำเภอโพธิ์ตาก
- กลุ่มคนญวน อพยพมาในสมัยสงครามอินโดจีน พร้อมๆ กับเจ้าเมืองจันทบุรี มาอยู่ที่อำเภอท่าบ่อ
ตามประวัติศาสตร์เดิม มีกลุ่มคนที่เป็นชาติพันธุ์ต่างๆ อพยพมาที่จังหวัดหนองคายมากกว่านี้ แต่ปัจจุบัน ไม่สามารถหาหลักฐาน หรือ สิ่งบอกเหตุว่าเป็นชนกลุ่มนั้นๆ หรือไม่ เนื่องจากมีการกลมกลืนกันเป็นไทอีสาน เกือบหมดแล้ว และมีบางส่วนที่เป็นกลุ่มคนที่อพยพมาจากจังหวัดอื่นๆ มาตั้งถิ่นฐานในอำเภอรัตนวาปี และอำเภอโพนพิสัย ซึ่งเรียกว่า ไทครัว เพราะในหมู่บ้านหนึ่งๆ จะมาจากหลากหลายจังหวัดและไม่สามารถสืบสานชาติพันธุ์ได้และปัจจุบันก็กลมกลืนกับชาวบ้านที่อาศัยอยู่เดิมเกือบหมดแล้ว
การศึกษา
จังหวัดหนองคาย มีสถาบันการศึกษาหลายแห่ง โดยแบ่งเป็นระดับประถมศึกษา ทั้งหมด 2 เขต และมัธยมศึกษาอีก 1 เขต ซึ่งครอบคลุมโรงเรียนมัธยมศึกษาในจังหวัดหนองคายทั้งหมด 31 แห่ง นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนมัธยมศึกษาในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคายอีก 1 แห่ง
สถานศึกษาในระดับอาชีวศึกษาทั้งรัฐและเอกชน ปัจจุบันอยู่ในกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรรมการการอาชีวศึกษาทั้งหมด ส่วนสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาที่สำคัญ ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ศูนย์หนองคาย, , มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย และมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตหนองคาย
สาธารณสุข
|
|
เศรษฐกิจ
เกษตรกรรม
ประชากรโดยส่วนมากจะประกอบอาชีพทางการเกษตร เช่น ทำนา ทำสวน ทำไร่ ใช้ประโยชน์ที่ดินส่วนใหญ่เพื่อการเกษตร คิดเป็นร้อยละ 57.29 ของพื้นที่จังหวัด หรือ 2,625,441 ไร่ ซึ่งพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ข้าว (นาปี) และยางพารา
นอกจากนั้น ยังมีการเลี้ยงปศุสัตว์และการทำประมง โดยปศุสัตว์ที่มีมูลค่าผลผลิตมากที่สุด คือ ไก่ไข่ สุกร โคพื้นเมือง เป็ดไข่ ไก่เนื้อ กระบือ เป็ดเนื้อ และโคพันธุ์ ส่วนด้านการประมงนั้น มีทั้งการเลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อดิน บ่อซีเมนต์ กระชัง การจับสัตว์น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ การจับสัตว์น้ำในแม่น้ำโขง และการจับสัตว์น้ำในแหล่งน้ำอื่นๆ
อุตสาหกรรม
ทางด้านอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมที่สำคัญของจังหวัดหนองคาย คือ โรงสีข้าว อุตสาหกรรมยางพารา และอุตสาหกรรมแปรูปไม้ นอกจากนี้ยังมีอุตสาหกรรมอื่นๆ คือ อัดเศษโลหะ อัดเศษกระดาษและบดย่อยพลาสติก ซ่อมรถยนต์ ทำน้ำแข็งก้อนเล็ก ห้องเย็นทำวงกบประตูหน้าต่าง และเครื่องเรือนเครื่องใช้จากไม้ และในอนาคต จังหวัดหนองคายยังได้ถูกให้พัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษในระยะที่ 2 ซึ่งจะทำให้ภาคอุตสาหกรรมนั้นเจริญเติบโตมากขึ้น
การขนส่ง
ทางถนน
- รถยนต์
จากกรุงเทพมหานคร ใช้ถนนพหลโยธินจนถึงจังหวัดสระบุรี บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 107 แล้วแยกขวาเข้าถนนมิตรภาพ ผ่านจังหวัดนครราชสีมา} จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดอุดรธานี จนไปถึงจังหวัดหนองคาย
- รถโดยสารประจำทาง
สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดหนองคาย มีบริการรถโดยสารประจำทางทั้งรถโดยสารธรรมดาและปรับอากาศ ทั้งรถที่มาจากกรุงเทพฯ และจากหนองคายไปยังจังหวัดต่างๆ ผู้ให้บริการรถโดยสารที่สำคัญ อาทิ ชาญทัวร์, แอร์อุดร, เชิดชัยทัวร์, 407 พัฒนา, บุษราคัมทัวร์, รุ่งประเสริฐทัวร์, ชัยภูมิจงเจริญขนส่ง และนครชัยแอร์ นอกจากนี้ บริษัท ขนส่ง จำกัด ยังให้บริการรถโดยสารระหว่างประเทศอยู่สองเส้นทาง ดังนี้
- สายที่ 1 หนองคาย - เวียงจันทน์
- สายที่ 9 อุดรธานี - หนองคาย - วังเวียง
ในปัจจุบัน จังหวัดหนองคายมีสถานีขนส่งผู้โดยสารทั้งหมด 2 แห่ง ได้แก่
- สถานีขนส่งผู้โดยสารเทศบาลเมืองหนองคาย ตั้งอยู่ที่ถนนประจักษ์ศิลปาคม ตำบลในเมือง อำเภอเมืองหนองคาย
- สถานีขนส่งผู้โดยสารเทศบาลตำบลโพนพิสัย ตั้งอยู่ที่ถนนภิรมยาราม ตำบลจุมพล อำเภอโพนพิสัย
การขนส่งในตัวจังหวัดหนองคาย ประกอบไปด้วย รถสองแถวกับรถสามล้อเครื่อง (รถเหมา) ซึ่งคิดค่าโดยสารตามระยะทาง และแท็กซี่ ซึ่งคิดค่าโดยสารตามระยะทางบนมิเตอร์
ทางราง
การรถไฟแห่งประเทศไทยให้บริการขบวนรถไฟจากกรุงเทพฯ มายังสถานีรถไฟหนองคายทุกวัน โดยขบวนรถไฟที่มีศักย์สูงที่สุดคือรถด่วนพิเศษอีสานมรรคา ซึ่งเป็นรถไฟกลางคืนที่ให้บริการมาตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2559
ทางอากาศ
จังหวัดหนองคายไม่มีท่าอากาศยาน โดยท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานีเป็นท่าอากาศยานที่อยู่ใกล้กับตัวจังหวัดที่สุด ห่างจากตัวจังหวัดหนองคายเป็นระยะทาง 51 กิโลเมตร
วัฒนธรรม
ประชาชนชาวจังหวัดหนองคาย ยึดถือขนบธรรมเนียมประเพณีเหมือนคนไทยทั่วไปในภาคอีสาน คือ เป็นแนวทางการดำรงชีวิตซึ่งทำให้แดนอีสานอยู่กันด้วยความผาสุก ร่มเย็นตลอดมา โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับปีฮีดสิบสอง ดังนี้ เดือนอ้ายบุญเข้ากรรม เดือนยี่บุญคูณลาน เดือนสามบุญข้าวจี่ เดือนสี่บุญพระเวส เดือนห้าบุญสรงน้ำหรือบุญตรุษสงกรานต์ เดือนหกบุญบั้งไฟ เดือนเจ็ดบุญชำฮะ เดือนแปดบุญเข้าพรรษา เดือนเก้าบุญข้าวประดับดิน เดือนสิบบุญข้าวสาก เดือนสิบเอ็ดบุญออกพรรษา และเดือนสิบสองบุญกฐิน
เทศกาลและงานประเพณีที่สำคัญ ได้แก่
- ประเพณีสงกรานต์ จัดขึ้นที่วัดโพธิ์ชัย ในวันที่ 13 เมษายนของทุกปี
- งานนมัสการหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ จัดขึ้นที่วัดศรีชมภูองค์ตื้อ อำเภอท่าบ่อ ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4
- งานอนุสาวรีย์ปราบฮ่อ จัดประมาณเดือนมีนาคมของทุกปี ที่บริเวณอนุสาวรีย์ปราบฮ่อ
- ประเพณีบุญบั้งไฟ จัดขึ้นในวันเพ็ญเดือน 6 (พฤษภาคม) และวันเพ็ญเดือน 7 (มิถุนายน) ของทุกปี
- งานแห่เทียนเข้าพรรษา จัดขึ้นก่อนวันเข้าพรรษา หรือ ของทุกปี
- ประเพณีแข่งเรือ จัดขึ้นก่อนวันออกพรรษา โดยมีการแข่งเรือยาวในลำน้ำโขง ประชาชนได้จัดเรือแข่งจากอำเภอต่าง ๆ และบางปีก็มีเรือจากประเทศลาวมาร่วมการแข่งขันด้วย
- ประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง จัดให้มีขึ้นควบคู่กันกับงานแข่งเรือ เพื่อนมัสการพระธาตุหล้าหนอง
- วันออกพรรษา เป็นวันทำบุญประจำของท้องถิ่น โดยมีการตักบาตรเทโวภายในเขตอำเภอเมือง
- ประเพณีลอยเรือไฟบูชาพญานาค จัดขึ้นในคืนวันเพ็ญ เดือน 11 หรือแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี ณ บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงใกล้วัดสิริมหากัจจายน์ (วัดธาตุ)
บุคคลที่มีชื่อเสียง
พระสงฆ์
นักการเมือง
- กฤษฎา ตันเทอดทิตย์
- ฉัตรชัย เอียสกุล
- เฉลิมชัย เอียสกุล
- ชนก จันทาทอง
- ชื่น ระวิวรรณ
- ทรงยศ รามสูต
- ธเนตร เอียสกุล
- วงศ์ พลนิกร
- สุ่ม โพธิเสน
- เอกธนัช อินทร์รอด
นักกีฬา
นักพัฒนาชุมชน
ศิลปินแห่งชาติ
นักร้อง
- เกียรติศักดิ์ เวทีวุฒาจารย์
- พงษ์สิทธิ์ คำภีร์
- ปอยฝ้าย มาลัยพร
- ธีรนัยน์ ณ หนองคาย
- ศิรประภา แสงพันตาพานิช (ไฮเวย์ )
- พลพล พลกองเส็ง
- เศก ศักดิ์สิทธิ์
- ณัฏฐธิดา อาสนานิ (ยาหยี) สมาชิกวง BNK48 รุ่น 3
นักแสดง
ดูเพิ่ม
- สะพานมิตรภาพ 1 (หนองคาย-เวียงจันทน์)
- รายชื่อวัดในจังหวัดหนองคาย
- รายชื่อโรงเรียนในจังหวัดหนองคาย
- (รายชื่อห้างสรรพสินค้าในจังหวัดหนองคาย)
- (รายชื่อศูนย์การค้าในจังหวัดหนองคาย)
อ้างอิง
- สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดหนองคาย. "ลักษณะประจำจังหวัด."[ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก:[1] 2022-10-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน [ม.ป.ป.]. สืบค้น 24 ตุลาคม 2565.
- ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
- ศูนย์สารสนเทศเพื่อการบริหารและงานปกครอง. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ข้อมูลการปกครอง." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.dopa.go.th/padmic/jungwad76/jungwad76.htm 2016-03-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน [ม.ป.ป.]. สืบค้น 18 เมษายน 2553.
- กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/pk/pk_64.pdf 2564. สืบค้น 8 กุมภาพันธ์ 2565.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-01-31. สืบค้นเมื่อ 2022-01-30.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-10-05. สืบค้นเมื่อ 2022-01-27.
- https://www.facebook.com/722488218128250/posts/1578154679228262/
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-01-28. สืบค้นเมื่อ 2022-01-28.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-01-28. สืบค้นเมื่อ 2022-01-28.
- ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 31 หน้า 48 ลงวันที่ 12 เมษายน 2457
- ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 33 หน้า 320 – 321 ลงวันที่ 25 มีนาคม 2459
- พระราชบัญญัติ ตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. ๒๕๕๔ 2011-04-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. ราชกิจจานุเบกษา 128 (18 ก): 1. 22 มีนาคม 2554.
- ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2554
- "The Money Drop ไทยแลนด์ 3 พ.ค.58 3/3". ช่อง 7. 3 May 2015. สืบค้นเมื่อ 4 May 2015.
- กลุ่มงานข้อมูลสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานจังหวัดหนองคาย, บรรยายสรุปจังหวัดหนองคาย 2012-11-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-08-13. สืบค้นเมื่อ 2012-03-19.
- ข้อมูลจำนวนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแยกรายจังหวัด กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
- ฉลองการจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ
- สำนักบริหารการทะเบียน. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "จำนวนประชากรและบ้าน." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: [2] 2560. สืบค้น 31 ธันวาคม 2560.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-11-14. สืบค้นเมื่อ 2012-03-19.
- กระทรวงพลังงาน, ฐานข้อมูลพลังงาน จ.หนองคาย 2012-10-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- รายงานสถานการณ์อุตสาหกรรมจังหวัดหนองคาย
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของจังหวัด 2010-07-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- จังหวัดหนองคาย - อีสานร้อยแปด
17°53′N 102°44′E / 17.88°N 102.74°E
- แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของ จังหวัดหนองคาย
- แผนที่ จาก มัลติแมป โกลบอลไกด์ หรือ กูเกิลแผนที่
- ภาพถ่ายทางอากาศ จาก เทอร์ราเซิร์ฟเวอร์
- ภาพถ่ายดาวเทียม จาก วิกิแมเปีย
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
hnxngkhay epncnghwdinphakhtawnxxkechiyngehnuxtxnbnkhxngpraethsithy mixanaekhttidtxkbcnghwdbungkal cnghwdsklnkhr cnghwdxudrthani aelacnghwdely aelayngmichayaedntidtxkbaekhwngewiyngcnthn nkhrhlwngewiyngcnthn aelaaekhwngbxlikhaiskhxngpraethslaw cnghwdhnxngkhaymiphunthiaekhbaetyaw aelamichuxesiyngdanwthnthrrmaelakarthxngethiyw odyechphaakarchmbngifphyanakhinethskalwnxxkphrrsacnghwdhnxngkhaycnghwdkarthxdesiyngxksrormn xksrormnChangwat Nong Khaicaksayipkhwa bnlnglang thiwthsnhnxngkhaycakmumsung wdophthichy phraxaramhlwng sthanirthifhnxngkhay saphanmitrphaphithy law 1 salaaekwku wdphrathatubngphwnthngtrakhakhwy wirkrrmprabhx hlwngphxphrais saphanithy lawaephnthipraethsithy cnghwdhnxngkhayennsiaedngaephnthipraethsithy cnghwdhnxngkhayennsiaedngpraeths ithykarpkkhrxng phuwarachkar smphph smitasiri tngaet ph s 2567 phunthi thnghmd3 027 280 tr km 1 168 839 tr iml xndbphunthixndbthi 61prachakr ph s 2566 thnghmd514 021 khn xndbxndbthi 51 khwamhnaaenn169 79 khn tr km 439 8 khn tr iml xndbkhwamhnaaennxndbthi 20rhs ISO 3166TH 43chuxithyxun hnxngkhay baniph hnxnghmakkhaysylksnpracacnghwd tnimchingchn dxkimchingchn stwnaplayisksalaklangcnghwd thitngphayinsunyrachkarcnghwdhnxngkhay thnnmitrphaph tablhnxngkxmekaa xaephxemuxnghnxngkhay cnghwdhnxngkhay 43000 othrsphth0 4241 2678ewbisthttp www nongkhai go thswnhnungkhxngsaranukrmpraethsithyprawtisastrkaraesdng aesng esiyng sngkhramprabhxinnganchlxngxnusawriyprabhxkxngthphsyamkhnaprabhx ph s 2418 emuxnghnxngkhaymichuxpraktxyuinphngsawdarlanchangtlxdyukhsmy dngechnpraktepnchuxemuxngewiyngkhuk emuxngpaokh emuxngpakhwyhlwng xaephxophnphisyinpccubn aelanxkcakniyngpraktinsilacarukcanwnmakthikstriyaehngewiyngcnthnidsrangiwinbriewncnghwdhnxngkhay odyechphaaemuxngpakhwyhlwngepnemuxnglukhlwng nxkcakniinrchsmyphraecawrrtnthrrmpraochti phrarachoxrsinphraecaichyechsthathirach idtngsmedcphrasngkhrachwdmuclinthrxaramxyuthiemuxnghwyhlwng aelayngphbcarukthiwdcxmmni lngskrach ph s 2098 carukwdsriemuxng ph s 2109 carukwdsribuyeruxng ph s 2151 epntn nxkcakniyngphbobransthanxiththiphllanchangcanwnmak echn phrathatutang odyechphaaphrathatubngphwn srangkxn ph s 2106 carukwdthasuwrrnkhuha xaephxsuwrrnkhuha cnghwdhnxngbwlaphu lngskrach ph s 2106 klawthungphraecaichyechsthathirach idxuthiskhathasaelathidinaekwdthasuwrrnkhuha aelaidsrangphraphuththrupiwthiphrathatubngphwnxikdwy aelabriewnthitngemuxnghnxngkhayhruxcnghwdhnxngkhay inyukhkxncatngemuxnghnxngkhaykhun aetedim briewnphunthiaehngniepnephiynghmubanelk namwa baniphhruxbanhnxngiph sungimidmikhwamsakhyethaihrnkaelakhuntrngkbnkhrhlwngewiyngcnthn txmacaklawthungthimakhxngdinaednaethbnithithukkhnannamwa emuxngpakhwyhlwng 3 kstriy briewnthitngxaephxophnphisypccubn epnemuxngekatamphngsawdarlanchangeriykwa emuxngpakhwyhlwng ph s 1901 phraecafangummharach erimkxtngxanackrlanchang aelatiemuxngniid aelamithanaepn emuxnghlwng sungsngecachayinrachwngslanchangmakhrxngepn phyapakhwyhlwng bangphraxngkhidmioxkasipkhrxngrachythi nkhrechiyngthxng thung 2 phraxngkhdwykn khux hlngcakphraecasamaesnithswrrkht ph s 1958 aelw phraecalankhaaedngoxrsidkhrxngrachytxthung ph s 1970 cungswrrkhtodyimthrabsaehtu aetobranrachpraephniithy law stricakhrxngrachyimid ecakhaetm phyapakhwyhlwng phraswamiecahyingcungkhrxngaethnphkhnung aelwhniklbemuxngpakhwyhlwngdngedim nangaekwphimphasungmixanacmakinrachsankidechiyecanayinrachwngskhrxngrachytxhlayphraxngkh rahwang ph s 1971 1980 khrncubrrluphrarachnitiphawakmiehtuswrrkhttid knthung 5 6 phraxngkh cnmaechiy ecakhaekid oxrsphyapakhwyhlwng khadwaepnoxrsphraecakhaetmcakchayaxun ipkhrxngrachyxikaelaswrrkht ph s 1983 xik khrawniphrabrmwngsanuwngs esnabdithnimihw cbphranangaekwphimphathwngaemnakhan thangehnuxnkhrhlwngphrabangesiyaelaechiyecaichykhrxngrachy phraecaichyckrphrrdiaephnaephw subma emuxngpakhwyhlwng ekidchangephuxkxikechuxkhnung emuxhlngsmyphraecaichyechsthathirachthi 1 mharach ph s 2114 phraecabuerngnxngphuchnasibthisphichitewiyngcnthn idnaphrahnxaekwkumar rachoxrsipemuxnghngsawdiepntwprakn phrachnsaephiyng 5 pi aelwihtasaercrachkar xanackrlanchang aethn carukwaphrayaaesnsurinthrkhwangfasumngodxyokophthistw xditphrayapakhwyhlwng phngsawdarwathanepnbutrkwanbanfngkhwa phuihyban rbrachkarthhar rbekngaelakhngthwaybutrsawepnsnmdwy dngnnthichawhnxngkhayechuxknmacungmiicheruxngehlwihl odynangsnm imthrab xacmiphrarachthidaoxrs 4 phraxngkh khux phrasuk phraesrim phrais sungsrangchlxngphraxngkh swnxngkhsudthaykhuxphrarachoxrschnsa 5 pi phrahnxaekwkumar phmacungtxngihtasaercrachkarihhlancungmi xyok ta txthay nbwaphyapakhwyhlwngepn hlwngphrabang 2 phraxngkh aelaphusaercrachkar ewiyngcnthn xik 1 than rwm 3 kstriy ph s 2103 emuxphraecaichyechsthathirachthi 1 mharach thxythphhniphmalxngmacakechiyngihm aelahlwngphrabang hlngcaknnemuxngpakhwyhlwngkkhxy ldkhwamsakhylng khadwaephraakarwiwathknphayinrachwngslanchang tngaetphrabrmrachaaehngnkhrphnm phrarachoxrs phraecannthrachkriphathphmaprab phraecaichyechsthathirachthi 2 ph s 2241 thung ewiyngkhuk banthrayfxng aelakwadtxnphukhnklb aelatxmabriewncnghwdhnxngkhay idmiklumphukhnxphyphmatngchumchnaelaemuxngkhunepnklumihyaelasakhyxyu 2 klum klawkhux subenuxngmacakehtukarn ph s 2250 smedc yakhukhihxm xphyphkhnipsxmphrathatuphnmkhrngthi 4 lxngipcntngxanackrlanchangcapaskdi emuxyakhukhihxmxphyphphukhnipphakhitnn sisyexksakhythanhnung khux caryaekw hrux ecaaekwmngkhl ecaaekwbulm buhm idtng emuxngthung thng hrux xaephxsuwrrnphumi cnghwdrxyexd epnemuxngdanhnaynkbewiyngcnthn echuxsaykhxngthanidaeykyaysrangbanaepngemuxnghruxpkkhrxngemuxngmakmay echn cnghwdrxyexd mhasarkham khxnaekn epntn aelaphayhlngklumphrawx aelaphrata phuepnesnabdiphuihyinrachsankewiyngcnthn mikhwamkhdaeyngkbphraecasiribuysar dwysaehtuimaecngchd idphaexaiphrphlkxngkhrwyatiphinxng xphyphhnicakewiyngcnthniptngemuxngxyuthihnxngbwlaphu aelathxyrnlngipyngdxnmdaedngaelatngepncnghwdxublrachthani yosthr xanacecriy epntn thiklawthungklumecacaryaekwaelaklumphrawxphrata enuxngcakthng2klumlwnmibthbathsakhyinkarkxrangsrangemuxngtangphayincnghwdhnxngkhayinpccubn emux ph s 2322 kxngthphsmedcphraecakrungthnburiidchychnakrungsristnakhnhutewiyngcnthnaelw phunthibriewnemuxnghnxngkhayyngxyuitkhwamkhwbkhumkhxngnkhrhlwngewiyngcnthnechnedim rwmthungemuxngpakhwyhlwngedimdwy khrn ph s 2369 2370 phraecaichyechyechsthathirachthi 3 ecaxnuwngs aehngewiyngcnthn aekhngemuxngbukmathungnkhrrachsima aelathukynthphklbiplnekla rchkalthi 3 oprdihsmedcphrabwrrachecamhaskdiphlesph epnaemthphhlwng phrayarachsuphawdi singh singhesni txmaidrbkarphrarachthanxwyysepn ecaphrayarachsuphawdi wathixkhrmhaesnabdismuhnayk epnaemthphhnaprabewiyngcnthnidkhrngthi 1 aetecaxnuwngshniipid txmalneklarchkalthi 3 oprdekla phrarachthanphraaesngdabxasiththiih ecaphrayarachsuphawdi xkhrmhaesnabdismuhnayk txmaidrbkarphrarachthanrachthinnamepn ecaphrayabdinthredcha epnaemthphykthphprabkhrng 2 tngthphxyukhayphanphraw briewn npkh pccubn aelathukhlxklxcnkhayaetkhniipemuxngyosthr khuxritxewiyngcnthndngedimcungtammasmthb echn butrhlanphrawx phrata aehngxublrachthani aelabutrhlancaryaekwaehngsuwrrnphumi chwyecakhunsmuhnaykthlmewiyngcnthncn hangdngonnkhihmacxk hnwyosthim klatay naody thawsuwxthrrm buyma xuphadyosthr hlngsukecaxnuwngs faykrungethph minoybayxphyphphukhnmafngphakhxisancungyubemuxngewiyngcnthnplxyihepnemuxngrang chawemuxngewiyngcnthnbangswnkxphyphmaphakhklangaelabangswnkxyuthibriewnemuxngewiyngkhuk emuxngpaokh xaephxemuxnghnxngkhayinpccubn emuxcdkarbanemuxngeriybrxyaelw ecaphrayarachsuphawdi singh singhesni cungkrabbngkhmthulphrakrunakhxtngbaniphhruxbanhnxngiph khunepnemuxnghnxngkhay khawa hnxngkhay thukeriykephiynmacakkhawa hnxngkhay sungmikhwamhmayodytrngwa hnxngnabriewnthitngkhxngkhaythhar sungkhawahnxngkhaythukeriykephiynepn hnxngkhay in smyrchkalthi 5 tngaetnnma txmaoprdeklaih thawsuwxthrrm buyma epn phrapthumethwaphibalthi 1 aehngemuxnghnxngkhay tntrakul n hnxngkhay aela thawtadi butr silng aehngemuxngrxyexd echuxsayecacaryaekw idepnecaemuxngophnphisykhnaerk cakkhwamdikhwamchxbthiidrbbychacakecakhunaemthphmaskdecaxnuwngs ephuxmiihhniipywnxik odytngthphxyu cungeriykknwa ecaophnaephng khrnesrcsukcungykepn emuxngophnaephng thawtadiidepn ecaemuxngkhnaerk txmayngrunlukrunhlan emux ph s 2373 tntrakul phisyphnth singkhsiri simasingh sirisingh submacaepndwyehtuidimchdaecng phraphisysredch tadi idyaythitngemuxngcakophnaephngmaxyu n emuxngpakhwyhlwngeka sungkhngcaranginsmynn aelaexachuxemuxngophnphisymatngthini phunthitablophnaephngkhangikl cungkhxyk banhnxngaekw khunepn emuxngrtnwapi xikemuxnghnung hlngcakesrcsukecaxnuwngsaelakxtngemuxnghnxngkhayidimnan emuxnghnxngkhayidrbthanaepnemuxngpraethsrach odyyubemuxngewiyngcnthn rang sungphungthukthphsyamthalayipihmakhunkbemuxnghnxngkhay aela n khnann thngemuxnghnxngkhay aela emuxngophnphisy imidkhuntrngtxkn aetlwnepnemuxngexkkhunkbkrungethphthngkhu odyemuxngophnphisymixanaekhtkhrxbkhlumphunthi xaephxophnphisy xaephxrtnwapi xaephxefair khxngcnghwdhnxngkhay xaephxephy xaephxsrangkhxm khxngcnghwdxudrthani aela xaephxosphisy xaephxpakkhad khxngcnghwdbungkalinpccubn txmaemuxnghnxngkhay miecaemuxngxik 2 khn khux phrapthumethwaphibal ekhn n hnxngkhay phuepnbutraelaphrayapthumethwaphibal esux n hnxngkhay phuepnhlan ph s 2380 phraprathumethwaphibal thawsuwx phuepnecaemuxngthungaekkrrmxuphad ekhn idepnecaemuxnghnxngkhay inpi ph s 2383 aelamibrrdaskdiepnphrapthumethwaphibalehmuxnkn thangfngemuxngophnphisy inpiph s 2389 wncnthr khun 9 kha eduxn 3 phrayakhtiywngsasilng ecaemuxngrxyexd pwyaelathungaekkrrm xuphadsingh rachwngsxinbutr cungphaecaephiylngmakrungethph phbkbphrayaphisysredch thawtadi ecaemuxngophnphisy sungepnphichaykhxngphrakhtiywngsaxinthraelaxuphadsingh aelaepnbutrkhxngphrayakhtiywngsasilng phrayaphisysredchcungphaxuphadrachwngsthawephiy krmkaremuxngrxyexd lngmaefathullaxxngthuliphrabath cungoprdekla ihphrayaphisysredchecaemuxngophnphisy klbiprksarachkaremuxngrxyexd phrayaphisysredchcungihbutrhlanrksakaremuxngophnphisyaethn khrnphrayaphisysredchlngipthungemuxngrxyexd cdkarephasphphrayakhtiywngsasilngphrabidaesrcaelw khunwnhnungxuphadsinghphuepnnxngchayidtngbxnop ndihphrayaphisysredchkbphwknkelngmaelnthihxnngbanphrayakhtiywngsa khrnewladukmikhnmalxbaethngphrayaphisysredchthukthisikhangsay thungaekkrrm idkhwamwaxuphadsinghekiywkhxnginkhdini khrnkhwamthrabthungkrungethph cungmitraoprdekla ihecaemuxngsuwrrnphumisngtwxuphadsinghaelabrrdabutrhlankhxngphrayakhtiywngsa lngmakrungethph oprdeklaihtulakarcharakhdi xuphadsingh phicarnaidkhwamepnstywaxuphadsinghepnphuichihcincnmaaethngphrayaphisysredch xuphadsinghelytxngthukcakhuktayxyuinthikhumkhng phrayaphisysredchsungpnphichaytangmardakbxuphadsinghaelarachwngsxinthr rachwngsxinthrphayhlngepnphrayakhtiywngsa xinthr thnsilngkur ecaemuxngrxyexdthanthi 3 xikthngphrayaphisysredch thawtadi yngepnnxngrwmmardakbyaaempthumma sungepnyakhxngphraecriyrachedch thawxun phwphutannth ecaemuxngmhasarkhamkhnthi 3 txmaidmikarsubswnkhxethccringcakhlkthanthiphungechuxthuxidaennxn praktwaxuphadsinghhaidepnphuwangaephnkhaphrayaphisy tamthielamannim emuxphicarnacakehtuphlcaksingaewdlxmtangaelw ehnwamixyuhlaykrnithixangxingprakxbid echn khrawthiphrayaphisy phrxmxuphadsinghidekhaefathullaxxngthuliphrabathkrabbngkhmthulkhawkarxsykrrmkhxngphrayakhtiywngsasilngphubidann xuphadsinghkidkrabbngkhmthulsnbsnunphichayepnxyangdi cnidthrngphrakrunaoprdekla ihphrayaphisysredchklbmarbrachkaremuxngrxyexd aelaodypktisxngphinxngnimikhwamrkikhrprxngdxngkndimak nxkcakniyngpraktwacincnphuaethngphrayaphisy kekhymixriwiwathknkbphrayaphisy machanan xnungtamenuxeruxngthiwa phicarnaidkhwamepnstywaxuphadsingh idihcincnaethngphrayaphisy aelaxuphadsinghelytxngcatayxyuinthikhumkhng cakkhxethccringodykhayunynkhxngphraecriyrachedch xun hlanyaaempthummasungepnphisawkhxngphrayaphisy exng idkhwamchdwaxuphadsinghiddumyaphisthungaekkrrminrahwangthangkxncathungkrungethph iklemuxngnkhrrachsima aelayatiidkhnphbcdhmaylatay thungphrryawa eraimekhykhidkhbthtxecaphiophnaephngely tayexngdikwathicathukkhnxunprahar eliynglukihdicnidiptngemuxngihmkhunxik swncincnnnrbsarphaphaelaimmikarsdthxdphuidely epnxnwaxuphadsinghepnphubrisuththiodyaeth sungsathxnihehnthungrabbkarphicarnakhdikhxngsyamhruxithyinsmykxnthiyngmikhxbkphrxnginkarhahlkthanaelakhwamimchdecninkartdsinkhdixyuphxsmkhwr mathangfngemuxnghnxngkhay insmythiphrapthumethwaphibal ekhn epnecaemuxngniexngkekidsuksakhykhuneriykknwasukhx khrngaerkekidkhunin ph s 2420 aetinrayaniphraprathumethwaphibal ekhn imidxyuinhnxngkhaymirachkartxngmatxnrbphrayamhaxamatyesiythiemuxngxublrachthaniaelaidmxbkickarbanemuxngihthawcnthrsrisurach chun rksarachkaraethn phwkhxidtihwemuxnglaythangeruxymacnekhayudexaewiyngcnthriwid phwkkrmkaremuxnghnxngkhayaethnthicahathangpxngknkhasukkbkhidxphyphhniphwkhx odythawcnthrsrisurachkbkhrxbkhrwhniipxyubanphranphrawxudrthani emuxtwnayimkhidsuphwkrasdrkphlxykhwyesiyxphyphxxkcakemuxngbangehtukarnintxnnithungkbthaihemuxnghnxngkhaytkxyuinsphaphepnemuxngrangnxkniemuxngikl kn khuxemuxngophnphisykphlxyimkhidsukhinmaxik phraphiisysredch hnu ecaemuxngxphyphkhrxbkhrwhniipxyubungkal swn rachwngsemuxnghnxngkhay sungthuksngmarksakaraethnkbphraphisysredch hnu thukphwkhxkhatay thangkrungethphcungidmiphrabrmrachxngkhkarihphrayamhaxamaty chun sungiprachkar n emuxngxublrachthani nn eknththphekhaprabhxkxngthphkhxngphrayamhaxamatyidykekhamatngphkxyuthiemuxnghnxngkhayaelwksngihcbexaethacnthrsrisurachaelaphrayaphiisysredch hnu ippraharchiwitesiythngkhuephuximihepneyiyngxyangsubtxipcaknikeknthkhninemuxngtang khux nkhrphnm mukdahar ekhmrath xublaelarxyexd ekhasmthbkbkxngthphemuxnghnxngkhay rwmphlidthngsinpraman 20 000 khn aelwykxxkiptiemuxngewiyngcnthrsungphwkhxsuimidaetkaelathingkrungewiyngcnthrip kxngthphkhxngphrayamhaxamatykklbmaphkthihnxngkhaycdkickrrmbanemuxngepnthieriybrxyaelwkklbkrungethph khrngniphraprathumethwaphibal ekhn ecaemuxnghnxngkhayidtidtamlngmakrungethph dwy emux ph s 2428 ekidsngkhramprabhxkhrngthisxnginbriewnthungihhin thungechiyngkha phwkhxkaeribtimacnthungewiyngcnthn emuxphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwthrngthrabkhawsukhx cungthrngphrakrunaoprdekla phraecabrmwngsethx phraxngkhecathxngkxngkxnihy krmhlwngprackssilpakhmkhnadarngphraxisriysepn krmhmunprackssilpakhm epnaemthphprabhxkhrngnncnphwkhxaetkhni aelasrangxnusawriyprabhxiwthiemuxnghnxngkhay swnthangfngemuxngophnphisy hlngesrcsukprabhx thawkhasingh sungkhnannmirachthinnamepn phrasrisurskdisunthr ecaemuxngrtnwapi xditecaemuxngprachumphnaly emuxngpaksn aekhwngbxlikhais spp law khuneekhwngemuxngophnphisy sungepnbutrhlankhxngphraphisysredchthanaerk thawtadi idrbaetngtngepn phrartnekhtrksa ecaemuxngophnphisyaethnecaemuxngedimsubtxma sungthanidaesdngkhwamklahayrbphungkbhxhlaykhrng cnidrachthinnamepn phrayaphisysredch khasingh singhsiri epntntrakul singhsiri cungehnidwa thukkhrngthiekidsukaelaekidehtukhasukstruekhamarukran thngemuxnghnxngkhayaelaemuxngophnphisylwnepnphnthmitrrwmkntxsu ekhiyngbaekhiyngihlknmaodytlxd emux ph s 2429 txmain ph s 2434 phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw thrngphrakrunaoprdekla ihphraecanxngyaethx krmhmunprackssilpakhmdarngtaaehnngkhahlwngmnthllawphwn phayhlngepliynepnmnthlxudr idtngthithakarthiemuxnghnxngkhay ody kxn ph s 2436 r s 112 emuxnghnxngkhayepnemuxngexkmi emuxngoth tri ctwa khuntrng idaek emuxngewiyngcnthn khnannrangaelaimmisphaphkhwamepnemuxng echiyngkhan phanphraw thurkhmsinghsthity kumphwapi thukoxnphunthimacakemuxnghnxnghansungmithanaepnemuxngexk rtnwapi swnemuxngophnphisy mithanaepnemuxngexk aetimmiemuxngkhun khrnekidwikvtkarn r s 112 hruxinpi ph s 2436 ithythukkahndekhtplxdthharphayinrsmi 50 kiolemtrcakchayaedn cungyaykxngbychakarmlthllawphwnmatngthitablhmakaekhng xaephxemuxng cnghwdxudrthani ph s 2450 phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwidmikraaesphrabrmrachoxngkarihcdtngemuxngxudrthanikhunthibanhmakaekhng epnsunyklangkhxngmnthlxudr khrxbkhlum cnghwd xudrthani khxnaekn hnxngkhay ely hnxngbwlaphu bungkal sklnkhr nkhrphnm mukdaharinsmynn sung mnthlxudr aebngkarpkkhrxngepn 5 briewn khux briewnhmakaekhng briewnthatuphnm briewnsklnkhr briewnphachi aelabriewnnaehuxng inpiediywkn idoprdekla ihkrathrwngmhadithyrwmemuxngtang inbriewnbanhmakaekhngtngepnemuxngctwa eriykwa emuxngxudrthani swnemuxnginsngkdbriewnihmithanaepnxaephx idaek emuxnghnxngkhay emuxngkmuththasy hnxngbwlaphu emuxngkumphwapi emuxnghnxnghan emuxngophnphisy emuxngrtnwapi epn xaephxhnxngkhay xaephxhnxngbwlaphu xaephxkumphwapi xaephxhnxnghan xaephxophnphisy xaephxrtnwapi khunkbemuxngxudrthani sngkdmnthlxudr ph s 2457 mikarprbprungekhtxaephxsahrbkarpkkhrxnginmnthlxudridklawthung sngkd ihtdthxngthikhxngxaephxophnphisybangswn khxngemuxngxudrthani iprwmkbthxngthi aelaihyaythiwakarmatngthibanbungkaycncrdrimaemnakhxng okhng fngtrngkhamemuxngbrikhnth aekhwngewiyngcnthn ephraaepnsunyklangehmaaaekkarpkkhrxngthxngthixaephx aelakyngkhngkhunemuxngnkhrphnmtamedim inrchsmyphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw idoprdekla ihtraphrarachbyytipkkhrxngphunthikhunodyihykelikrabxbecapkkhrxngthwpraeths inwnthi 1 emsayn ph s 2458 krathrwngmhadithycungidmikhasngsthapnaemuxngkhahlwngpkkhrxng sungtxmaeriykwaphuwarachkarcnghwd aeykxaephxhnxngkhayxxkmacakemuxngxudrthani tngepncnghwdhnxngkhay aelaoxnxaephxophnphisy khxngemuxngxudrthani aelayubxaephxrtnwapiepntablkhunkbxaephxophnphisy aelwcungoxnmakhunkbcnghwdhnxngkhay khnannmikarepliynrupaebbkarpkkhrxngepncnghwdaelaxaephxaelwaetyngimmikarbngkhbichaelaepnthiruckknxyangaephrhlay aerkerimcnghwdhnxngkhaymixaephxkhuntrng dngnikhux x ophnphisy x sngkhm x banphux x thabx x phanphraw aelax naomng aelamikarprbyubemuxngthiekhyepnxaephxldthanalngepntablaethn echn xaephxmichy emuxnghnxngkhay epn tablmichy xaephxemuxng cnghwdhnxngkhay epntn khrninpitxma ph s 2459 oxnkhxngcnghwdnkhrphnm makhuncnghwdhnxngkhay enuxngcak mithxngthiaelarayathanghangiklcakcnghwdnkhrphnmmak labaktxkaredinthang aelathngimehmaaaekkarpkkhrxng inpi ph s 2475 epliynchuxxaephxichyburiepn xaephxbungkaycn aelainpi ph s 2476 idmikarcdraebiybbriharrachkarswnphumiphakhepncnghwdaelaxaephxxyangepnthangkar hnxngkhaycungidrbkarykthanakhunepncnghwdxyangepnthangkar inpi ph s 2554 rchsmyphrabathsmedcphraprminthrmhaphumiphlxdulyedch idmiphrarachbyytitngcnghwdbungkal ph s 2554 miphlbngkhbtngaetwnthi 23 minakhm 2554 odyihaeykxaephxbungkal xaephxpakkhad xaephxosphisy xaephxphrecriy xaephxeska xaephxbungokhnghlng xaephxsriwiil aelaxaephxbungkhla xxkcakcnghwdhnxngkhay iptngepncnghwdbungkalphumisastrthitngaelaxanaekht cnghwdhnxngkhay mienuxthipraman 3 026 534 tarangkiolemtr hruxpraman 1 891 583 ir nbepncnghwdthimikhnadelkthisudkhxngphakhxisan odyphunthithnghmdkxnthicnghwdbungkalcaaeyktwip mipraman 7 332 tarangkiolemtr lksnaepnrupyaweriyngthxdiptamlanaokhng sungepnesnknekhtaednkbpraethslaw mikhwamyawthngsin 195 kiolemtr khwamkwangkhxngphunthithithxdkhnaniptam lanaokhngodyechliy 20 25 kiolemtr hangcakkrungethphmhankhrtamthanghlwngaephndinsay 2 mitrphaph praman 615 kiolemtr aelamixanaekhttidtxkbcnghwdiklekhiyngdngni thisehnux tidtxkbkaaephngnkhrewiyngcnthn ekhtemuxnghlwngkhxngpraethslaw odymiaemnaokhngepnaenwphrmaedn thistawnxxk tidtxkbxaephxpakkhad aelaxaephxosphisy cnghwdbungkal thisit tidtxkbxaephxbanmwng cnghwdsklnkhr xaephxephy xaephxsrangkhxm xaephxbandung xaephxnayung aelaxaephxbanphux cnghwdxudrthani thistawntk tidtxkbxaephxpakchm cnghwdelyphumipraethsaelaphumixakas sphaphphumipraethskhxngcnghwdhnxngkhaymilksnathxdyawtamlanaokhng cnghwdhnxngkhayepncnghwdchayaednthangphakhtawnxxkechiyngehnuxtxnbn mixanaekhttidkbkrungewiyngcnthn sungepnemuxnghlwngkhxngpraethslaw odymiaemnaokhngepnesnknekhtaedn cnghwdhnxngkhayepncnghwdchayaednthimiexklksnphiessodymiphunthithxdkhnanyawiptamlanaokhng khwamkwangkhxngphunthithxdkhnaniptamlanaokhngodyechliypraman 20 25 kiolemtr chwngthikwangthisudxyuthixaephxefair aelachwngthiaekhbthisudxyuthixaephxthabx cnghwdhnxngkhaymixaephxthixyutidkblanaokhng 6 xaephx khux xaephxsngkhm xaephxthabx xaephxsriechiyngihm xaephxemuxng xaephxophnphisy aelaxaephxrtnwapi aelamixanaekhttidtxkb praethslaw khux aekhwngewiyngcnthn nkhrhlwngewiyngcnthn aelaaekhwngbxlikhais cnghwdhnxngkhaymicudphanaednip praethslaw rwm 6 cud epncudphanaednthawr 2 cud aelacudphxnprn 4 cud cudphanaednthisakhyaelaepnsakl khux dansaphanmitrphaphithy law sungrthbalxxsetreliy ithy praethslaw rwmmuxknsrangaelaepnpratuipsuxinodcin lksnaphumipraethsodythwipepnthirabsung aeykidepn 4 briewn khux phunthikhxnkhangrab idaek ekhtxaephxemuxnghnxngkhay xaephxthabx aelaxaephxsriechiyngihm sungichpraoychninkarthana aelaplukphuchbriewnrimnaokhng phunthiepnkhlunlxnlad kracayxyuthukxaephxepnhyxm sungswnihyepnthithanaaelaplukphuchir phuchswnaelapathrrmchati phunthiepnkhlunlxnchnaelaepnekhaepnpathrrmchati echn paimetngrng ebycphrrn phbinekhtxaephxsngkhm sphaphphunthiepnphuekhathimikhwamsungchn cakradbnathaeltngaet 200 emtr epnbriewnethuxkekhatang thangthistawntkinekhtxaephxsngkhm enuxngcakaemnaokhngihlphanxaephxtang ekuxbthukxaephx cungkxihekidpraoychninkarekstrkrrm rasdridxasyaemnaokhngepnaehlngnathiichephuxkarekstraelaxupophkhbriophkh odyechphaarasdrthixasyxyurimaemnaokhng caidrbpraoychnmakkwarasdrthixyulukekhaipcakaemnaokhng nxkcaknisanknganphlngnganaehngchatiidcdtngsthanisubnadwyiffa inphunthi 9 xaephx rwmthngsin 82 sthani ephuxthakarsubnacakaemnaokhngaelaaehlngnaxun khunmaichephuxkarekstrkrrm lksnaxakascdxyuincaphwkfnaethbrxnaelaaehngaelng th kh m kh invdumrsumtawnxxkechiyngehnux xunhphumicaerimldineduxnphvscikaynaelatasudinchwngeduxnthnwakhmthungmkrakhm inchwngeduxnminakhmthungphvsphakhm epnchwngepliynvdu xunhphumicasungkhunxyangrwderwineduxnminakhm aelarxncdineduxnemsayn invdumrsumtawnxxkechiyngit mi y k kh xunhphumiodythwipcaldlng aelaineduxntulakhmxunhphumicaerimldlngcnxakashnaweyn xunhphumitasudraypixyuthi 9 50 xngsaeslesiys xunhphumisungsudraypixyuthi 40 60 xngsaeslesiysechliyraypixyuthi 26 46 xngsaeslesiys primannafnthngpixyuthi 1 843 6 milliemtrtxpi khxmulphumixakaskhxngcnghwdhnxngkhayeduxn m kh k ph mi kh em y ph kh mi y k kh s kh k y t kh ph y th kh thngpixunhphumisungsudechliy C F 29 3 84 7 31 6 88 9 34 3 93 7 35 7 96 3 33 7 92 7 32 5 90 5 32 0 89 6 31 4 88 5 31 6 88 9 31 3 88 3 30 1 86 2 28 6 83 5 31 84 89 32 xunhphumitasudechliy C F 16 2 61 2 18 6 65 5 21 4 70 5 23 8 74 8 24 3 75 7 24 7 76 5 24 5 76 1 24 3 75 7 24 0 75 2 22 7 72 9 19 4 66 9 15 9 60 6 21 65 70 97 hyadnafa mm niw 7 0 0 276 10 5 0 413 30 7 1 209 89 5 3 524 240 3 9 461 278 5 10 965 249 3 9 815 336 7 13 256 275 6 10 85 76 6 3 016 12 2 0 48 3 3 0 13 1 610 2 63 394 wnthimihyadnafaodyechliy 2 3 5 8 17 19 20 22 18 9 2 1 126aehlngthima Thai Meteorological Departmentkaremuxngkarpkkhrxngkarpkkhrxngswnphumiphakh karpkkhrxngaebngxxkepn 9 xaephx 62 tabl 678 hmuban miraychuxxaephxtamhmayelkhinaephnthidngni aephnthihmay elkh chuxxaephx canwn tabl prachakr ph s 2563 phunthi tr km khwamhnaaenn khn tr km 1 xaephxemuxnghnxngkhay 16 150 438 607 5 247 642 xaephxthabx 10 82 368 355 3 231 833 xaephxophnphisy 11 98 281 642 7 152 924 xaephxsriechiyngihm 4 30 072 198 0 151 885 xaephxsngkhm 5 25 548 449 7 56 816 xaephxsraikhr 3 26 541 210 9 143 507 xaephxefair 5 50 912 255 9 198 958 xaephxrtnwapi 5 37 990 204 007 186 229 xaephxophthitak 3 15 284 102 5 149 11rwm 62 517 434 3 027 280 170 92karpkkhrxngswnthxngthin xngkhkrpkkhrxngswnthxngthinincnghwdhnxngkhay idaek xngkhkarbriharswncnghwdhnxngkhay aelaxngkhkrpkkhrxngswnthxngthinradblang 66 aehng prakxbdwy ethsbal 19 aehng aebngepnethsbalemuxng 2 aehng sungkhuxethsbalemuxnghnxngkhay aelaethsbalemuxngthabx aelaethsbaltabl 17 aehng thiehluxepnxngkhkarbriharswntablcanwn 48 aehng odyethsbalthnghmdaebngtamxaephxincnghwdhnxngkhay midngni xaephxemuxnghnxngkhay ethsbalemuxnghnxngkhay ethsbaltablhnxngsxnghxng ethsbaltablophthichy ethsbaltablwdthatu xaephxthabx ethsbalemuxngthabx xaephxophnphisy ethsbaltablophnphisy xaephxsriechiyngihm ethsbaltablsriechiyngihm xaephxsngkhm xaephxefair raychuxecaemuxngaelaphuwarachkar raychux pithidarngtaaehnngphrapthumethwaphibal buyma n hnxngkhay ph s 2370 2395phrapthumethwaphibal rachbutr ph s 2397 2400phrayapthumethwaphibal ekhn n hnxngkhay ph s 2400 2430ph s 2430 2441ph s 2441 24581 phrayasmuthskdarks ecim wiessrtn ph s 2458 24622 hmxmecaostthiphl chmphunuch ph s 2462 24633 phrayabriharrachxanaekht yim niloythin ph s 2463 24704 phrapthumethwaphibal eyiym exksiththi ph s 2470 24795 hlwngbribalnikhmekhtr chwn thrphysar ph s 2479 24806 hlwngphanknikrchn xunth smitamr ph s 2480 24817 phrabrirksphuthr ephim knisthayn ph s 2481 24828 phnexk phrasrirachsngkhram sri sukhawathi ph s 2482 24839 phnexk hlwngyuththsarprasiththi aemn orhitesrni ph s 2483 248410 phrabrrnsasarsathr snga khuptarks ph s 2484 248611 naypkrn xngkhsusingh ph s 2486 249012 rxyoth thwil rawngphy ph s 2490 249013 naychay caruwstr ph s 2490 249214 nayaeswng rucirt ph s 2492 249415 naychunh nkaekw ph s 2494 249516 nayxrrth wisutroythaphibal ph s 2495 249717 naykacd phatisuwnn ph s 2497 250218 naysmxac kuyythannth ph s 2502 250319 phltarwctri samarth waywannth ph s 2503 250520 nayecriy panthxng ph s 2505 251021 phltri withy nimnwl ph s 2510 2514 raychux pithidarngtaaehnng22 phltri chay xubledchpracharks ph s 2514 251723 naykmphl klinsukhnth ph s 2517 251924 naychanay phcna ph s 2519 252125 naykusl santithrrm ph s 2521 252526 nayskda xxphngs ph s 2525 252927 naysnti mnikaycn ph s 2529 253228 rxytri snn chanirtn ph s 2532 253429 rxytri imtri inyakul ph s 2534 253530 nayxnnt aecngklib ph s 2535 253831 naysnithwngs xuethsnnth ph s 2538 254132 naysnti ekriyngikrsukh ph s 2541 254233 naybrrthd singhbutr ph s 2542 254334 naybunyrngkh nilwngs ph s 2543 254435 naythwch esthiyrnam ph s 2544 254536 naywngsskdi swsdiphanichy ph s 2545 254837 nay ph s 2548 255038 nayecdc musikwngs ph s 2550 255139 naykwi kittisthaphr ph s 2551 255240 naykhmsn exkchy ph s 2552 255341 naywirtn limsuwthn ph s 2553 255742 naysuchati nphwrrn ph s 2557 256043 nayrnchy citrwiess ph s 2560 256344 naypraesrith luxchathnannth ph s 2563 256445 naymnt siththi iphsalthnwthn ph s 2564 256546 nayrachny sunhw ph s 2565 256747 naysmphph smitasiri ph s 2567 pccubnprachakrsthitiprachakr tamthaebiynrasdr cnghwdhnxngkhaypiprachakr 2549899 580 2550902 618 0 3 2551906 877 0 5 2552907 250 0 0 2553912 937 0 6 2554 509 870 2555512 439 2556514 943 0 5 2557517 260 0 4 2558519 580 0 4 2559520 363 0 2 2560521 886 0 3 pi ph s 2554 prachakrcnghwdhnxngkhayldlngenuxngcakkarcdtngcnghwdbungkal thima sankbriharkarthaebiynklumchatiphnthu enuxngcakcnghwdhnxngkhaymichayaedntidtxkbpraethslawkwa 200 82 kiolemtr aelaepnemuxnghnadaninkarthasngkhraminsmykxn cungthaihmikarkwadtxnxphyphphukhncakthngfngpraethslawaelaithy inpccubn khamipma cungthaihmiklumkhnhlaychatiphnthuincnghwdhnxngkhay aetxyangirktaminbnthukthangprawtisastr idbngbxkwamiklumkhnthixasyepnemuxngxyuinbriewnnixyuedim idaek emuxngphanphraw xaephxsriechiyngihm aelaemuxngpakhwyhlwng xaephxophnphisy sungepnhnunginxanackrlanchang karxphyphkhrngthisakhy midngtxipni ecaphrayackri rchkalthi 1 insmykrungthnburi idtiemuxngewiyngcnthn txmain ph s 2321 idkwadtxnphukhncakewiyngcnthn maiwthiphanphraw paokh ewiyngkhuk smyecaxnuwngs ph s 2369 mikarkwadtxnphukhninekhthwemuxng ipiwthiewiyngcnthn ph s 2371 ecaphrayabdinthredcha singh singhesni rbchnaecaxnuwngs kwadtxnphukhnklbmaiwfngithy smysngkhramxinodcin ph s 2436 mikarxphyphmaxyufngithyekuxbkhrungemuxng ody ecaemuxng maxyubanhnxngaekw pccubnkhux xaephxrtnwapi aela ecaemuxngcnthburi xphyphmabanthabxeklux pccubnkhux xaephxthabx inpccubnklumkhnthixphyphmaxyuinekhtcnghwdhnxngkhay idmikarprbtwaelaprbepliynexklksnechphaatwihklmklunkbchawphunemuxngthitngthinthanxyuedimcnaethbimehnkhwamaetktang thngkaraetngkay thixyuxasy praephnitang casngektidechphaasaeniyngkhxngphasaphud thiyngkhngehluxekhaihthrabwa edimepnchnephaihn sungphxcaaenk iddngni klumchawlawewiyngcnthn enuxngcakmixanaekhtthiiklekhiyngkbewiyngcnthr cungnacaeriykwachawewiyngcnthn thuxwaepnklumchnthimakthisudincnghwdhnxngkhay odyechphaathxngthixaephx xaephxemuxnghnxngkhay xaephxthabx xaephxsriechiyngihm xaephxophthitak aelaxaephxophnphisy klumchawithxisan lawxisan enuxngcakedimepnxanackrlanchangcungnbepnklumlawlanchangdwyaetthungxyangir hnata phiwphrrn saeniyngkarphud kaetktangcakchawlawewiyngcnthn klumithphwn mithinthanedimcakemuxngphwn aekhwngechiyngkhwang praethslaw xasyxyuthixaephxsriechiyngihm klumithlux ithdan ithehnux epnklumthixphyphmacakemuxnghlwngphrabangaelaxaephxdansay cnghwdely pccubnxyuthixaephxsngkhmaelaxaephxophthitak klumkhnywn xphyphmainsmysngkhramxinodcin phrxm kbecaemuxngcnthburi maxyuthixaephxthabx tamprawtisastredim miklumkhnthiepnchatiphnthutang xphyphmathicnghwdhnxngkhaymakkwani aetpccubn imsamarthhahlkthan hrux singbxkehtuwaepnchnklumnn hruxim enuxngcakmikarklmklunknepnithxisan ekuxbhmdaelw aelamibangswnthiepnklumkhnthixphyphmacakcnghwdxun matngthinthaninxaephxrtnwapi aelaxaephxophnphisy sungeriykwa ithkhrw ephraainhmubanhnung camacakhlakhlaycnghwdaelaimsamarthsubsanchatiphnthuidaelapccubnkklmklunkbchawbanthixasyxyuedimekuxbhmdaelw karsuksa cnghwdhnxngkhay misthabnkarsuksahlayaehng odyaebngepnradbprathmsuksa thnghmd 2 ekht aelamthymsuksaxik 1 ekht sungkhrxbkhlumorngeriynmthymsuksaincnghwdhnxngkhaythnghmd 31 aehng nxkcakniyngmiorngeriynmthymsuksainsngkdxngkhkarbriharswncnghwdhnxngkhayxik 1 aehng sthansuksainradbxachiwsuksathngrthaelaexkchn pccubnxyuinkakbduaelkhxngsankngankhnakrrrmkarkarxachiwsuksathnghmd swnsthansuksaradbxudmsuksathisakhy idaek mhawithyalyrachphtmhasarkham sunyhnxngkhay mhawithyalykhxnaekn withyaekhthnxngkhay aelamhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly withyaekhthnxngkhay satharnsukh orngphyabalthwiporngphyabalchumchnorngphyabalsmedcphrayuphrachthabx orngphyabalexkchnxaephxemuxnghnxngkhay xaephxemuxnghnxngkhay xaephxophnphisyesrsthkicekstrkrrm prachakrodyswnmakcaprakxbxachiphthangkarekstr echn thana thaswn thair ichpraoychnthidinswnihyephuxkarekstr khidepnrxyla 57 29 khxngphunthicnghwd hrux 2 625 441 ir sungphuchesrsthkicthisakhy idaek khaw napi aelayangphara nxkcaknn yngmikareliyngpsustwaelakarthapramng odypsustwthimimulkhaphlphlitmakthisud khux ikikh sukr okhphunemuxng epdikh ikenux krabux epdenux aelaokhphnthu swndankarpramngnn mithngkareliyngstwnainbxdin bxsiemnt krachng karcbstwnainaehlngnathrrmchati karcbstwnainaemnaokhng aelakarcbstwnainaehlngnaxun xutsahkrrm thangdanxutsahkrrm xutsahkrrmthisakhykhxngcnghwdhnxngkhay khux orngsikhaw xutsahkrrmyangphara aelaxutsahkrrmaeprupim nxkcakniyngmixutsahkrrmxun khux xdessolha xdesskradasaelabdyxyphlastik sxmrthynt thanaaekhngkxnelk hxngeynthawngkbpratuhnatang aelaekhruxngeruxnekhruxngichcakim aelainxnakht cnghwdhnxngkhayyngidthukihphthnaepnekhtesrsthkicphiessinrayathi 2 sungcathaihphakhxutsahkrrmnnecriyetibotmakkhunkarkhnsngthangthnn rthynt cakkrungethphmhankhr ichthnnphhloythincnthungcnghwdsraburi briewnhlkkiolemtrthi 107 aelwaeykkhwaekhathnnmitrphaph phancnghwdnkhrrachsima cnghwdkhxnaekn aelacnghwdxudrthani cnipthungcnghwdhnxngkhay rthodysarpracathang sthanikhnsngphuodysarcnghwdhnxngkhay mibrikarrthodysarpracathangthngrthodysarthrrmdaaelaprbxakas thngrththimacakkrungethph aelacakhnxngkhayipyngcnghwdtang phuihbrikarrthodysarthisakhy xathi chaythwr aexrxudr echidchythwr 407 phthna busrakhmthwr rungpraesriththwr chyphumicngecriykhnsng aelankhrchyaexr nxkcakni bristh khnsng cakd yngihbrikarrthodysarrahwangpraethsxyusxngesnthang dngni saythi 1 hnxngkhay ewiyngcnthn saythi 9 xudrthani hnxngkhay wngewiyng inpccubn cnghwdhnxngkhaymisthanikhnsngphuodysarthnghmd 2 aehng idaek sthanikhnsngphuodysarethsbalemuxnghnxngkhay tngxyuthithnnprackssilpakhm tablinemuxng xaephxemuxnghnxngkhay sthanikhnsngphuodysarethsbaltablophnphisy tngxyuthithnnphirmyaram tablcumphl xaephxophnphisy karkhnsngintwcnghwdhnxngkhay prakxbipdwy rthsxngaethwkbrthsamlxekhruxng rthehma sungkhidkhaodysartamrayathang aelaaethksi sungkhidkhaodysartamrayathangbnmietxr thangrang karrthifaehngpraethsithyihbrikarkhbwnrthifcakkrungethph mayngsthanirthifhnxngkhaythukwn odykhbwnrthifthimiskysungthisudkhuxrthdwnphiessxisanmrrkha sungepnrthifklangkhunthiihbrikarmatngaeteduxnthnwakhm ph s 2559 thangxakas cnghwdhnxngkhayimmithaxakasyan odythaxakasyannanachatixudrthaniepnthaxakasyanthixyuiklkbtwcnghwdthisud hangcaktwcnghwdhnxngkhayepnrayathang 51 kiolemtrwthnthrrmprachachnchawcnghwdhnxngkhay yudthuxkhnbthrrmeniympraephniehmuxnkhnithythwipinphakhxisan khux epnaenwthangkardarngchiwitsungthaihaednxisanxyukndwykhwamphasuk rmeyntlxdma odymiraylaexiydekiywkbpihidsibsxng dngni eduxnxaybuyekhakrrm eduxnyibuykhunlan eduxnsambuykhawci eduxnsibuyphraews eduxnhabuysrngnahruxbuytrussngkrant eduxnhkbuybngif eduxnecdbuychaha eduxnaepdbuyekhaphrrsa eduxnekabuykhawpradbdin eduxnsibbuykhawsak eduxnsibexdbuyxxkphrrsa aelaeduxnsibsxngbuykthin ethskalaelanganpraephnithisakhy idaek praephnisngkrant cdkhunthiwdophthichy inwnthi 13 emsaynkhxngthukpi ngannmskarhlwngphxphraecaxngkhtux cdkhunthiwdsrichmphuxngkhtux xaephxthabx inwnkhun 15 kha eduxn 4 nganxnusawriyprabhx cdpramaneduxnminakhmkhxngthukpi thibriewnxnusawriyprabhx praephnibuybngif cdkhuninwnephyeduxn 6 phvsphakhm aelawnephyeduxn 7 mithunayn khxngthukpi nganaehethiynekhaphrrsa cdkhunkxnwnekhaphrrsa hrux khxngthukpi praephniaekhngerux cdkhunkxnwnxxkphrrsa odymikaraekhngeruxyawinlanaokhng prachachnidcderuxaekhngcakxaephxtang aelabangpikmieruxcakpraethslawmarwmkaraekhngkhndwy praephniaehprasathphung cdihmikhunkhwbkhuknkbnganaekhngerux ephuxnmskarphrathatuhlahnxng wnxxkphrrsa epnwnthabuypracakhxngthxngthin odymikartkbatrethowphayinekhtxaephxemuxng praephnilxyeruxifbuchaphyanakh cdkhuninkhunwnephy eduxn 11 hruxaerm 1 kha eduxn 11 khxngthukpi n briewnrimfngaemnaokhngiklwdsirimhakccayn wdthatu bukhkhlthimichuxesiyngphrasngkh phraxnuchatiwuthathikhun aeph n hnxngkhay nkkaremuxng kvsda tnethxdthity chtrchy exiyskul echlimchy exiyskul chnk cnthathxng chun rawiwrrn thrngys ramsut thentr exiyskul wngs phlnikr sum ophthiesn exkthnch xinthrrxd nkkila ckrphnth phris srawuthi masukh hnxngkhay s praphssr nkphthnachumchn silpinaehngchati thnng okhtrchmphu nkrxng ekiyrtiskdi ewthiwuthacary phngssiththi khaphir pxyfay malyphr thirnyn n hnxngkhay sirprapha aesngphntaphanich ihewy phlphl phlkxngesng esk skdisiththi ntththida xasnani yahyi smachikwng BNK48 run 3 nkaesdng kwintra ophthickr daruni kvtbuyyaly wisrut himrtn xysna burannthduephimsaphanmitrphaph 1 hnxngkhay ewiyngcnthn raychuxwdincnghwdhnxngkhay raychuxorngeriynincnghwdhnxngkhay raychuxhangsrrphsinkhaincnghwdhnxngkhay raychuxsunykarkhaincnghwdhnxngkhayxangxingsanknganwthnthrrmcnghwdhnxngkhay lksnapracacnghwd xxniln ekhathungidcak 1 2022 10 24 thi ewyaebkaemchchin m p p subkhn 24 tulakhm 2565 prakassanknaykrthmntrieruxng aetngtngkharachkarphleruxnsamy sunysarsnethsephuxkarbriharaelanganpkkhrxng krmkarpkkhrxng krathrwngmhadithy khxmulkarpkkhrxng xxniln ekhathungidcak http www dopa go th padmic jungwad76 jungwad76 htm 2016 03 10 thi ewyaebkaemchchin m p p subkhn 18 emsayn 2553 krmkarpkkhrxng krathrwngmhadithy prakassankthaebiynklang krmkarpkkhrxng eruxng canwnrasdrthwrachxanackr aeykepnkrungethphmhankhraelacnghwdtang tamhlkthankarthaebiynrasdr n wnthi 31 thnwakhm 2564 xxniln ekhathungidcak http stat bora dopa go th stat pk pk 64 pdf 2564 subkhn 8 kumphaphnth 2565 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2022 01 31 subkhnemux 2022 01 30 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2022 10 05 subkhnemux 2022 01 27 https www facebook com 722488218128250 posts 1578154679228262 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2022 01 28 subkhnemux 2022 01 28 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2022 01 28 subkhnemux 2022 01 28 rachkiccanuebksa elm 31 hna 48 lngwnthi 12 emsayn 2457 rachkiccanuebksa elm 33 hna 320 321 lngwnthi 25 minakhm 2459 phrarachbyyti tngcnghwdbungkal ph s 2554 2011 04 09 thi ewyaebkaemchchin rachkiccanuebksa 128 18 k 1 22 minakhm 2554 rachkiccanuebksa emuxwnthi 22 minakhm 2554 The Money Drop ithyaelnd 3 ph kh 58 3 3 chxng 7 3 May 2015 subkhnemux 4 May 2015 klumngankhxmulsarsnethsaelakarsuxsar sankngancnghwdhnxngkhay brryaysrupcnghwdhnxngkhay 2012 11 16 thi ewyaebkaemchchin PDF khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2012 08 13 subkhnemux 2012 03 19 khxmulcanwnxngkhkrpkkhrxngswnthxngthinaeykraycnghwd krmsngesrimkarpkkhrxngthxngthin krathrwngmhadithy chlxngkarcdtngcnghwdbungkal sankbriharkarthaebiyn krmkarpkkhrxng krathrwngmhadithy canwnprachakraelaban xxniln ekhathungidcak 2 2560 subkhn 31 thnwakhm 2560 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 11 14 subkhnemux 2012 03 19 krathrwngphlngngan thankhxmulphlngngan c hnxngkhay 2012 10 28 thi ewyaebkaemchchin rayngansthankarnxutsahkrrmcnghwdhnxngkhayaehlngkhxmulxunewbistxyangepnthangkarkhxngcnghwd 2010 07 22 thi ewyaebkaemchchin cnghwdhnxngkhay xisanrxyaepd 17 53 N 102 44 E 17 88 N 102 74 E 17 88 102 74 aephnthiaelaphaphthaythangxakaskhxng cnghwdhnxngkhay aephnthi cak mltiaemp oklbxlikd hrux kuekilaephnthi phaphthaythangxakas cak ethxrraesirfewxr phaphthaydawethiym cak wikiaemepiy