ท่าบ่อ เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดหนองคาย และเป็นอำเภอที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของจังหวัด
อำเภอท่าบ่อ | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Amphoe Tha Bo |
คำขวัญ: หลวงพ่อองค์ตื้อ เลื่องลือใบยา บ่อปลากองนาง | |
แผนที่จังหวัดหนองคาย เน้นอำเภอท่าบ่อ | |
พิกัด: 17°51′0″N 102°35′6″E / 17.85000°N 102.58500°E | |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | หนองคาย |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 355.3 ตร.กม. (137.2 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2564) | |
• ทั้งหมด | 82,282 คน |
• ความหนาแน่น | 231.59 คน/ตร.กม. (599.8 คน/ตร.ไมล์) |
รหัสไปรษณีย์ | 43110 |
รหัสภูมิศาสตร์ | 4302 |
ที่ตั้งที่ว่าการ | ที่ว่าการอำเภอท่าบ่อ ถนนสันติสุข ตำบลท่าบ่อ อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย 43110 |
ส่วนหนึ่งของ |
ที่ตั้งและอาณาเขต
อำเภอท่าบ่อตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของจังหวัด มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงดังต่อไปนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอศรีเชียงใหม่ และนครหลวงเวียงจันทน์ (ประเทศลาว)
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับนครหลวงเวียงจันทน์ (ประเทศลาว) และอำเภอเมืองหนองคาย
- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอสระใคร และอำเภอบ้านผือ (จังหวัดอุดรธานี)
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอบ้านผือ (จังหวัดอุดรธานี) และอำเภอโพธิ์ตาก
ที่มาของชื่ออำเภอ
เดิมชาวบ้านโคกคอน บ้านว่าน และบ้านนาข่าซึ่งมีอาชีพต้มเกลือสินเธาว์ได้นำเกลือมาขายบริเวณวัดท่าคกเรือ ริมฝั่งแม่น้ำโขง ต่อมาจึงเรียกบริเวณนี้ว่า "บ้านท่าบ่อเกลือ"
ประวัติ
ในต้นรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เกิดกบฏไท่ผิงขึ้นในประเทศจีน แต่ถูกตีแตกพ่ายและหนีลงใต้จนล่วงเข้ามาในพระราชอาณาเขต ชาวภาคเหนือและภาคอีสานเรียกชาวจีนพวกนี้ว่า "ฮ่อ" พวกฮ่อแบ่งออกเป็น 4 กองทัพ คือ ฮ่อธงแดง ฮ่อธงเหลือง ฮ่อธงดำ และฮ่อธงลาย ปล้นสะดมทุกอย่างที่ขวางหน้า ปรากฏตามนิราศหนองคายว่า
จะเริ่มเรื่องเมืองหนองคายจดหมายเหตุ | ในแดนเขตเขื่อนคุ้มกรุงสยาม | |
บังเกิดพวกอ้ายฮ่อมาก่อความ | ทำสงครามกับลาวพวกชาวเวียง |
การรุกรานของพวกฮ่อทำให้พระเจ้าประเทศราชหลวงพระบาง พระเจ้าประเทศราชหนองคาย และผู้รั้งพระเจ้าประเทศราชเวียงจันทน์เหลือกำลังรับ สมุหนายกมหาดไทยส่งกำลังพลมาช่วยถึง 3 ครั้งก็เพียงแต่ยันศึกเท่านั้น ในปี พ.ศ. 2428 พระองค์จึงตัดสินพระทัยเผด็จศึกฮ่อให้เด็ดขาด โดยโปรดเกล้าฯ ให้พลตรีกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคมซึ่งมีพระยศเป็นพระเจ้าน้องยาเธอในขณะนั้นเป็นแม่ทัพใหญ่ฝ่ายใต้ ณ เมืองหนองคาย คุมทหารหัดใหม่จากยุโรป 8 กรม ตีขนาบร่วมกับกองทัพฝ่ายเหนือฯ เมืองหลวงพระบาง จนประสบชัยชนะต่อพวกฮ่อทั้งปวง และมีอนุสาวรีย์ปราบฮ่อเด่นเป็นสง่าประกาศพระบรมเดชานุภาพครั้งนี้
จนกระทั่งปี พ.ศ. 2435 เริ่มมีการปรับปรุงการปกครองหัวเมือง ทรงพระกรุณาธิคุณให้เมืองหนองคายเป็นเมืองเอกใน 36 เมือง และเพื่อยืนยันพระราชสิทธิธรรมแทนที่อาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์เดิม ซึ่งไปถึงเมืองพวน แขวงเชียงขวาง ติดกับเวียดนามของฝรั่งเศส จึงได้พระราชทานชื่อบริเวณนี้ว่า "" โปรดเกล้าฯ ให้พลตรีกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคมเป็น "ข้าหลวงใหญ่ผู้สำเร็จราชการต่างพระองค์มณฑลลาวพวน" มีศาลาว่าการมณฑล ณ เมืองหนองคาย และปรับพระปทุมเทวาภิบาลที่ 2 เจ้าประเทศราชหนองคายเป็นพระยาวุฒาธิคุณ ที่ปรึกษาข้าหลวงใหญ่ ซึ่งสำเร็จราชการทั้งการปกครอง การทหาร และการศาลทั้งปวง
ในปี พ.ศ. 2436 (ร.ศ. 112) อภิมหาอำนาจคู่กรณีของสยามต้องเปลี่ยนยุทธวิธีในการล่าอาณานิคมใหม่ โดยส่งกองเรือรบปิดอ่าวไทยและรุกล้ำเข้ามาถึงกรุงเทพมหานคร สยามจึงต้องยอมเสียไป เสด็จในกรมฯ ต้องถอนกำลังทหารให้พ้น 25 กิโลเมตรจากแม่น้ำโขง ปักหลักสู้ศึกอยู่ที่บ้านเดื่อหมากแข้ง เมืองหนองคาย (แยกเป็นอำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานีปัจจุบัน) ทั้งทรงมีประกาศิตให้หน่วยราชการทุกหน่วยต้องสร้างหันหน้าสู่แม่น้ำโขงหรือทิศเหนือเพื่อพร้อมที่จะยันศึกซึ่งถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติตราบจนปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโทมนัสยิ่งกับการสูญเสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงในครั้งนั้น ดังพระราชนิพนธ์ฉันท์บทหนึ่งว่า
กลัวเป็นทวิราช | บตริป้องอยุธยา | |
เสียเมืองจึ่งนินทา | บ่ละเว้นฤๅว่างวาย | |
คิดใดจะเที่ยงแท้ | ก็บ่พบซึ่งเงื่อนสาย | |
สบหน้ามนุษย์อาย | จึงจะอุดแลเลยสูญฯ |
อย่างไรก็ตาม พสกนิกรที่อยู่ทางฝั่งซ้ายซึ่งยังคงจงรักภักดีใต้เบื้องพระยุคลบาทได้พร้อมใจกันอพยพเทครัวมาอยู่ฝั่งขวาเกือบทุกเมือง เช่น พระรามฤทธิ (สอน ต้นตระกูลวิวัฒปทุม) เจ้าเมืองท้าว มาอยู่เมืองเลย พระศรีอัครฮาด (ทองดี ต้นตระกูลศรีประเสริฐ) เจ้าเมืองชนะสงครามหรือสานะคา มาอยู่บ้านท่านาจันทร์และได้ยกเป็นเมืองเชียงคาน เป็นต้น ซึ่งรวมทั้งพระกุประดิษฐบดี (สาลี่หรือชาลี ต้นตระกูลกุประดิษฐ) เจ้าเมืองเวียงจันทน์ บุตรเขยของพระปทุมเทวาภิบาลเจ้าประเทศราชหนองคาย ได้ชักชวนชาวเวียงจันทน์จำนวนมากข้ามลำน้ำโขงมาตั้งมั่นอยู่ ณ บ้านท่าบ่อเกลือ ไม่ยอมเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนายเด็ดขาด เหตุการณ์ครั้งนั้นประดุจดังพระโอสถทิพย์ให้ทรงดำรงพระชนมายุอยู่ได้
พระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกบ้านท่าบ่อเกลือเป็น เมืองท่าบ่อ เมื่อปี พ.ศ. 2438 มีพระกุประดิษฐ์บดีเป็นเจ้าเมืองตลอดชีวิต เขตเดิมมี "นายเส้น" (เป็นตำแหน่งคล้ายกับนายอำเภอและกำนัน) รวม 6 เส้น มีบรรดาศักดิ์เป็นขุน เช่น ขุนท่าบ่อบำรุง นายเส้นท่าบ่อ และขุนวารีรักษา นายเส้นน้ำโมง เป็นต้น จนกระทั่งเจ้าเมืองท่าบ่อถึงแก่อสัญกรรม จึงยุบเมืองท่าบ่อลงเป็น อำเภอท่าบ่อ และยุบนายเส้นท่าบ่อ น้ำโมง โพนสา ลงเป็นตำบลและแยกเป็น 10 ตำบลดังปัจจุบัน ส่วนอีก 3 เส้นก็ได้รับการยกฐานะและแยกออกไป คือ เส้นพานพร้าวเป็นอำเภอศรีเชียงใหม่ เส้นแก้งไก่เป็นอำเภอสังคม เส้นบ้านผือเป็นอำเภอบ้านผือและถูกโอนไปขึ้นกับเมืองอุดรธานี และเมื่อปี พ.ศ. 2538 ก็เป็นปีที่ได้มีการจัดตั้งเมืองท่าบ่อครบ 100 ปี
การแบ่งเขตการปกครอง
การปกครองส่วนภูมิภาค
อำเภอท่าบ่อแบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 10 ตำบล 100 หมู่บ้าน ได้แก่
1. | ท่าบ่อ | (Tha Bo) | 14 หมู่บ้าน | 6. | บ้านถ่อน | (Ban Thon) | 8 หมู่บ้าน | |||||||||||||||||||||||||||||
2. | น้ำโมง | (Nam Mong) | 13 หมู่บ้าน | 7. | บ้านว่าน | (Ban Wan) | 8 หมู่บ้าน | |||||||||||||||||||||||||||||
3. | กองนาง | (Kong Nang) | 13 หมู่บ้าน | 8. | นาข่า | (Na Kha) | 8 หมู่บ้าน | |||||||||||||||||||||||||||||
4. | โคกคอน | (Khok Khon) | 7 หมู่บ้าน | 9. | โพนสา | (Phon Sa) | 10 หมู่บ้าน | |||||||||||||||||||||||||||||
5. | บ้านเดื่อ | (Ban Duea) | 9 หมู่บ้าน | 10. | หนองนาง | (Nong Nang) | 10 หมู่บ้าน |
การปกครองส่วนท้องถิ่น
ท้องที่อำเภอท่าบ่อประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 12 แห่ง ได้แก่
- เทศบาลเมืองท่าบ่อ ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลท่าบ่อและบางส่วนของตำบลน้ำโมง
- ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลโพนสา
- ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านถ่อนทั้งตำบล
- ครอบคลุมพื้นที่ตำบลกองนางทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลท่าบ่อ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลท่าบ่อ (เฉพาะนอกเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ)
- องค์การบริหารส่วนตำบลน้ำโมง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลน้ำโมง (เฉพาะนอกเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ)
- องค์การบริหารส่วนตำบลโคกคอน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลโคกคอนทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเดื่อ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านเดื่อทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านว่าน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านว่านทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลนาข่า ครอบคลุมพื้นที่ตำบลนาข่าทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลโพนสา ครอบคลุมพื้นที่ตำบลโพนสา (เฉพาะนอกเขตเทศบาลตำบลโพนสา)
- องค์การบริหารส่วนตำบลหนองนาง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองนางทั้งตำบล
ทรัพยากรธรรมชาติ
แหล่งน้ำที่สำคัญได้แก่ แม่น้ำโขง ห้วยโมง ห้วยลาน อ่างเก็บน้ำบังพวน ผลผลิตทางการเกษตรที่สำคัญ ได้แก่ ข้าว ยาสูบ และอ้อย
การศึกษา
อำเภอท่าบ่อมีโรงเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาอยู่ 8 แห่ง ได้แก่
- โรงเรียนท่าบ่อ เป็นโรงเรียนหัวหน้าสหวิทยาเขตท่าบ่อ
- โรงเรียนท่าบ่อพิทยาคม
- โรงเรียนถ่อนวิทยา
- โรงเรียนเดื่อวิทยาคาร
- โรงเรียนหนองนางพิทยาคม
- โรงเรียนโคกคอนวิทยาคม
- โรงเรียนบ้านว่าน
อำเภอท่าบ่อมีโรงเรียนประถมในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่ออยู่ 5 แห่ง ได้แก่
อำเภอท่าบ่อมีโรงเรียนระดับอาชีวศึกษาอยู่ 2 แห่ง ได้แก่
การคมนาคม
อำเภอท่าบ่อมีถนนสายสำคัญคือ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 211 [สายแยกทางหลวงหมายเลข 2 (หนองสองห้อง)-เชียงคาน] การเดินทางมาอำเภอท่าบ่อ ได้แก่
- ทางรถยนต์ การเดินทางจากกรุงเทพมหานคร สามารถมาได้ทางถนนพหลโยธินถึงจังหวัดสระบุรี แยกเข้าสู่ถนนมิตรภาพไปยังจังหวัดนครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี จากจังหวัดอุดรธานีประมาณ 40 กิโลเมตรที่บ้านหนองสองห้อง จะมีทางแยกเข้าถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 211 ขับรถต่อไปอีก 30 กิโลเมตรจะถึงอำเภอท่าบ่อ รวมระยะทางประมาณ 634 กิโลเมตร
- ทางรถโดยสารประจำทาง
- รถโดยสารปรับอากาศสาย 933 (กรุงเทพมหานคร-อุดรธานี-ศรีเชียงใหม่)
- รถโดยสารปรับอากาศสาย 210 , 211 , 262 (นครราชสีมา-อุดรธานี-ศรีเชียงใหม่)
- รถโดยสารไม่ปรับอากาศสาย 223 (อุดรธานี-ศรีเชียงใหม่)
- รถโดยสารไม่ปรับอากาศสาย 507 (หนองคาย-เลย)
- รถโดยสารไม่ปรับอากาศสาย 4326 (หนองคาย-ท่าบ่อ)
- รถสองแถวขนาดใหญ่สาย 507 (สังคม-ท่าบ่อ)
- รถสองแถวขนาดใหญ่สาย 1382 (หนองคาย-ศรีเชียงใหม่)
- รถสองแถวขนาดใหญ่สาย 4651 (ท่าบ่อ-โพธิ์ตาก)
- รถสองแถวขนาดเล็กสาย 294 (หนองบัวลำภู-บ้านนาคำไฮ-หนองคาย) [ผ่านทางอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี]
สถานที่ที่น่าสนใจ
หมู่บ้านประมงน้ำจืด
อยู่ที่ตำบลกองนาง ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 211 ตอนท่าบ่อ-ศรีเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านที่ชาวบ้านมีอาชีพทำการประมงน้ำจืดและเพาะเลี้ยงปลาน้ำจืดชนิดต่าง ๆ เช่น ปลาตะเพียน ปลาไน ปลานวลจันทร์น้ำจืด ปลายี่สกเทศ ปลาหัวโต และปลาดุกเทศ โดยจัดส่งไปจำหน่ายยังกรุงเทพมหานคร ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นวิถีชีวิตชาวบ้านที่น่าสนใจแห่งหนึ่ง
หมู่บ้านทำยาสูบ
อยู่บริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 211 ตอนสี่แยกหนองคาย-ท่าบ่อ มีชาวบ้านทำไร่ยาสูบตามแนวเลียบริมฝั่งโขง มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม เป็นวิถีชีวิตชาวบ้านที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง
หมู่บ้านทำแผ่นกระยอ
อยู่บริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 211 ตอนแยกทางหลวงหมายเลข 2 (หนองสองห้อง)-ท่าบ่อ เป็นหมู่บ้านทำแผ่นกระยอ เป็นแผ่นแป้งสำหรับใช้ทำเปาะเปี๊ยะ มีการส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศ เป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือนและวิถีชีวิตที่น่าสนใจ
แหล่งโบราณคดีบ้านโคกคอน
อยู่ที่บ้านโคกคอน ตำบลโคกคอน เป็นแหล่งโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ต่อเนื่องมาถึงสมัยทวารวดี ได้มีการขุดพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณและเครื่องใช้ต่างๆ ได้เป็นจำนวนมาก โบราณวัตถุที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องมือหินขัด กำไลหิน หัวลูกศรหิน กระพรวนสำริด แท่งดินเผา มลายภาชนะดินเผาแบบเนื้อดิน บางชิ้นมีลายเขียนสีแดงแบบกลุ่มวัฒนธรรมบ้านเชียง เสมาหินสมัยทวารวดี และครกหินใหญ่ที่สันนิษฐานว่าเป็นเบ้าหลอมโลหะ นอกจากนี้ยังได้พบเหรียญฟูนันสมัยทวารวดี
หลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ
ประดิษฐานอยู่ ณ วิหารวัดศรีชมภูองค์ตื้อ บ้านน้ำโมง ตำบลน้ำโมง หลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อสร้างในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช เมื่อปี พ.ศ. 2105 โดยใช้ทองเหลืองและทองแดงหนัก 1 ตื้อ (ประมาณ 12,000 กิโลกรัม) แล้วหล่อเป็นส่วน ๆ โดยหล่อพระเกศเป็นลำดับสุดท้าย เมื่อหล่อเสร็จประกอบเป็นองค์พระแล้วได้นำมาประดิษฐาน ณ วัดโกสีย์ ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดศรีชมภูองค์ตื้อ เมื่อพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชทรงทราบและได้เสด็จมาทอดพระเนตรแล้วเกิดศรัทธา จึงได้ทรงสร้างพระวิหารเพื่อให้เป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าองค์ตื้อ และปันเขตแดนให้เป็นเขตของพระเจ้าองค์ตื้อพร้อมทั้งมีบริวาร 13 หมู่บ้าน
พระเจ้าองค์ตื้อเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสำริดขนาดใหญ่ และถือว่าใหญ่ที่สุดของจังหวัดหนองคาย มีพุทธลักษณะงดงามมาก หน้าตักกว้าง 3.30 เมตร สูง 4 เมตร ชาวหนองคายและประชาชนทั่วไปทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขงนับถือหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อว่าศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาได้กำหนดเป็นพระราชพิธีที่กษัตริย์เวียงจันทน์ต้องเสด็จมานมัสการทุก 4 เดือน โดยแต่งขบวนช้าง ม้า และราบ มาสักการะจากวัดท่าคกเรือจนถึงวัดพระเจ้าองค์ตื้อเป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ถนนนี้จึงได้ชื่อว่า "จรดลสวรรค์" มาจนถึงทุกวันนี้
ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 มีการเวียนเทียนรอบพระวิหารพระเจ้าองค์ตื้อ และตอนเช้าวันแรม 1 ค่ำ มีการจุดบั้งไฟบูชาพระเจ้าองค์ตื้อ และเป็นวันสิ้นสุดงานสมโภชพระเจ้าองค์ตื้อ ซึ่งมีเป็นประจำทุกปีตั้งแต่วันขึ้น 11 ค่ำ เดือน 4 ไปจนถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 4
อ้างอิง
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-05-07. สืบค้นเมื่อ 2007-10-25.
- ตารางค่าโดยสาร สำนักงานขนส่งจังหวัดหนองคาย[]
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
thabx epnxaephxhnungincnghwdhnxngkhay aelaepnxaephxthimiprachakrmakepnxndb 3 khxngcnghwdxaephxthabxxaephxkarthxdesiyngxksrormn xksrormnAmphoe Tha Bokhakhwy hlwngphxxngkhtux eluxngluxibya bxplakxngnangaephnthicnghwdhnxngkhay ennxaephxthabxphikd 17 51 0 N 102 35 6 E 17 85000 N 102 58500 E 17 85000 102 58500praeths ithycnghwdhnxngkhayphunthi thnghmd355 3 tr km 137 2 tr iml prachakr 2564 thnghmd82 282 khn khwamhnaaenn231 59 khn tr km 599 8 khn tr iml rhsiprsniy 43110rhsphumisastr4302thitngthiwakarthiwakarxaephxthabx thnnsntisukh tablthabx xaephxthabx cnghwdhnxngkhay 43110swnhnungkhxngsaranukrmpraethsithythitngaelaxanaekhtxaephxthabxtngxyuthangthistawntkkhxngcnghwd mixanaekhttidtxkbekhtkarpkkhrxngkhangekhiyngdngtxipni thisehnux tidtxkbxaephxsriechiyngihm aelankhrhlwngewiyngcnthn praethslaw thistawnxxk tidtxkbnkhrhlwngewiyngcnthn praethslaw aelaxaephxemuxnghnxngkhay thisit tidtxkbxaephxsraikhr aelaxaephxbanphux cnghwdxudrthani thistawntk tidtxkbxaephxbanphux cnghwdxudrthani aelaxaephxophthitakthimakhxngchuxxaephxedimchawbanokhkkhxn banwan aelabannakhasungmixachiphtmekluxsinethawidnaekluxmakhaybriewnwdthakhkerux rimfngaemnaokhng txmacungeriykbriewnniwa banthabxeklux prawtiintnrchsmyphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw idekidkbtithphingkhuninpraethscin aetthuktiaetkphayaelahnilngitcnlwngekhamainphrarachxanaekht chawphakhehnuxaelaphakhxisaneriykchawcinphwkniwa hx phwkhxaebngxxkepn 4 kxngthph khux hxthngaedng hxthngehluxng hxthngda aelahxthnglay plnsadmthukxyangthikhwanghna prakttamnirashnxngkhaywa caerimeruxngemuxnghnxngkhaycdhmayehtu inaednekhtekhuxnkhumkrungsyambngekidphwkxayhxmakxkhwam thasngkhramkblawphwkchawewiyng karrukrankhxngphwkhxthaihphraecapraethsrachhlwngphrabang phraecapraethsrachhnxngkhay aelaphurngphraecapraethsrachewiyngcnthnehluxkalngrb smuhnaykmhadithysngkalngphlmachwythung 3 khrngkephiyngaetynsukethann inpi ph s 2428 phraxngkhcungtdsinphrathyephdcsukhxiheddkhad odyoprdekla ihphltrikrmhlwngprackssilpakhmsungmiphraysepnphraecanxngyaethxinkhnannepnaemthphihyfayit n emuxnghnxngkhay khumthharhdihmcakyuorp 8 krm tikhnabrwmkbkxngthphfayehnux emuxnghlwngphrabang cnprasbchychnatxphwkhxthngpwng aelamixnusawriyprabhxednepnsngaprakasphrabrmedchanuphaphkhrngni cnkrathngpi ph s 2435 erimmikarprbprungkarpkkhrxnghwemuxng thrngphrakrunathikhunihemuxnghnxngkhayepnemuxngexkin 36 emuxng aelaephuxyunynphrarachsiththithrrmaethnthixanackrlanchangewiyngcnthnedim sungipthungemuxngphwn aekhwngechiyngkhwang tidkbewiydnamkhxngfrngess cungidphrarachthanchuxbriewnniwa oprdekla ihphltrikrmhlwngprackssilpakhmepn khahlwngihyphusaercrachkartangphraxngkhmnthllawphwn misalawakarmnthl n emuxnghnxngkhay aelaprbphrapthumethwaphibalthi 2 ecapraethsrachhnxngkhayepnphrayawuthathikhun thipruksakhahlwngihy sungsaercrachkarthngkarpkkhrxng karthhar aelakarsalthngpwng inpi ph s 2436 r s 112 xphimhaxanackhukrnikhxngsyamtxngepliynyuththwithiinkarlaxananikhmihm odysngkxngeruxrbpidxawithyaelaruklaekhamathungkrungethphmhankhr syamcungtxngyxmesiyip esdcinkrm txngthxnkalngthharihphn 25 kiolemtrcakaemnaokhng pkhlksusukxyuthibaneduxhmakaekhng emuxnghnxngkhay aeykepnxaephxemuxngxudrthani cnghwdxudrthanipccubn thngthrngmiprakasitihhnwyrachkarthukhnwytxngsranghnhnasuaemnaokhnghruxthisehnuxephuxphrxmthicaynsuksungthuxepnthrrmeniymptibtitrabcnpccubn phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwthrngothmnsyingkbkarsuyesiydinaednfngsayaemnaokhnginkhrngnn dngphrarachniphnthchnthbthhnungwa klwepnthwirach btripxngxyuthyaesiyemuxngcungnintha blaewnviwangwaykhididcaethiyngaeth kbphbsungenguxnsaysbhnamnusyxay cungcaxudaelelysuy xyangirktam phsknikrthixyuthangfngsaysungyngkhngcngrkphkdiitebuxngphrayukhlbathidphrxmicknxphyphethkhrwmaxyufngkhwaekuxbthukemuxng echn phraramvththi sxn tntrakulwiwthpthum ecaemuxngthaw maxyuemuxngely phrasrixkhrhad thxngdi tntrakulsripraesrith ecaemuxngchnasngkhramhruxsanakha maxyubanthanacnthraelaidykepnemuxngechiyngkhan epntn sungrwmthngphrakupradisthbdi salihruxchali tntrakulkupradisth ecaemuxngewiyngcnthn butrekhykhxngphrapthumethwaphibalecapraethsrachhnxngkhay idchkchwnchawewiyngcnthncanwnmakkhamlanaokhngmatngmnxyu n banthabxeklux imyxmepnkhasxngecabawsxngnayeddkhad ehtukarnkhrngnnpraducdngphraoxsththiphyihthrngdarngphrachnmayuxyuid phraxngkhcungthrngphrakrunaoprdekla ihykbanthabxekluxepn emuxngthabx emuxpi ph s 2438 miphrakupradisthbdiepnecaemuxngtlxdchiwit ekhtedimmi nayesn epntaaehnngkhlaykbnayxaephxaelakann rwm 6 esn mibrrdaskdiepnkhun echn khunthabxbarung nayesnthabx aelakhunwarirksa nayesnnaomng epntn cnkrathngecaemuxngthabxthungaekxsykrrm cungyubemuxngthabxlngepn xaephxthabx aelayubnayesnthabx naomng ophnsa lngepntablaelaaeykepn 10 tabldngpccubn swnxik 3 esnkidrbkarykthanaaelaaeykxxkip khux esnphanphrawepnxaephxsriechiyngihm esnaekngikepnxaephxsngkhm esnbanphuxepnxaephxbanphuxaelathukoxnipkhunkbemuxngxudrthani aelaemuxpi ph s 2538 kepnpithiidmikarcdtngemuxngthabxkhrb 100 pikaraebngekhtkarpkkhrxngkarpkkhrxngswnphumiphakh xaephxthabxaebngphunthikarpkkhrxngxxkepn 10 tabl 100 hmuban idaek 1 thabx Tha Bo 14 hmuban 6 banthxn Ban Thon 8 hmuban2 naomng Nam Mong 13 hmuban 7 banwan Ban Wan 8 hmuban3 kxngnang Kong Nang 13 hmuban 8 nakha Na Kha 8 hmuban4 okhkkhxn Khok Khon 7 hmuban 9 ophnsa Phon Sa 10 hmuban5 banedux Ban Duea 9 hmuban 10 hnxngnang Nong Nang 10 hmubantablinxaephxthabxkarpkkhrxngswnthxngthin thxngthixaephxthabxprakxbdwyxngkhkrpkkhrxngswnthxngthin 12 aehng idaek ethsbalemuxngthabx khrxbkhlumphunthibangswnkhxngtablthabxaelabangswnkhxngtablnaomng khrxbkhlumphunthibangswnkhxngtablophnsa khrxbkhlumphunthitablbanthxnthngtabl khrxbkhlumphunthitablkxngnangthngtabl xngkhkarbriharswntablthabx khrxbkhlumphunthitablthabx echphaanxkekhtethsbalemuxngthabx xngkhkarbriharswntablnaomng khrxbkhlumphunthitablnaomng echphaanxkekhtethsbalemuxngthabx xngkhkarbriharswntablokhkkhxn khrxbkhlumphunthitablokhkkhxnthngtabl xngkhkarbriharswntablbanedux khrxbkhlumphunthitablbaneduxthngtabl xngkhkarbriharswntablbanwan khrxbkhlumphunthitablbanwanthngtabl xngkhkarbriharswntablnakha khrxbkhlumphunthitablnakhathngtabl xngkhkarbriharswntablophnsa khrxbkhlumphunthitablophnsa echphaanxkekhtethsbaltablophnsa xngkhkarbriharswntablhnxngnang khrxbkhlumphunthitablhnxngnangthngtablthrphyakrthrrmchatiaehlngnathisakhyidaek aemnaokhng hwyomng hwylan xangekbnabngphwn phlphlitthangkarekstrthisakhy idaek khaw yasub aelaxxykarsuksaxaephxthabxmiorngeriynradbchnmthymsuksaxyu 8 aehng idaek orngeriynthabx epnorngeriynhwhnashwithyaekhtthabx orngeriynthabxphithyakhm orngeriynthxnwithya orngeriyneduxwithyakhar orngeriynhnxngnangphithyakhm orngeriynokhkkhxnwithyakhm orngeriynbanwan xaephxthabxmiorngeriynprathminekhtethsbalemuxngthabxxyu 5 aehng idaek xaephxthabxmiorngeriynradbxachiwsuksaxyu 2 aehng idaekkarkhmnakhmxaephxthabxmithnnsaysakhykhux thanghlwngaephndinhmayelkh 211 sayaeykthanghlwnghmayelkh 2 hnxngsxnghxng echiyngkhan karedinthangmaxaephxthabx idaek thangrthynt karedinthangcakkrungethphmhankhr samarthmaidthangthnnphhloythinthungcnghwdsraburi aeykekhasuthnnmitrphaphipyngcnghwdnkhrrachsima khxnaekn xudrthani cakcnghwdxudrthanipraman 40 kiolemtrthibanhnxngsxnghxng camithangaeykekhathnnthanghlwngaephndinhmayelkh 211 khbrthtxipxik 30 kiolemtrcathungxaephxthabx rwmrayathangpraman 634 kiolemtr thangrthodysarpracathangrthodysarprbxakassay 933 krungethphmhankhr xudrthani sriechiyngihm rthodysarprbxakassay 210 211 262 nkhrrachsima xudrthani sriechiyngihm rthodysarimprbxakassay 223 xudrthani sriechiyngihm rthodysarimprbxakassay 507 hnxngkhay ely rthodysarimprbxakassay 4326 hnxngkhay thabx rthsxngaethwkhnadihysay 507 sngkhm thabx rthsxngaethwkhnadihysay 1382 hnxngkhay sriechiyngihm rthsxngaethwkhnadihysay 4651 thabx ophthitak rthsxngaethwkhnadelksay 294 hnxngbwlaphu bannakhaih hnxngkhay phanthangxaephxbanphux cnghwdxudrthani sthanthithinasnichmubanpramngnacud xyuthitablkxngnang tamthanghlwngaephndinhmayelkh 211 txnthabx sriechiyngihm epnhmubanthichawbanmixachiphthakarpramngnacudaelaephaaeliyngplanacudchnidtang echn plataephiyn plain planwlcnthrnacud playiskeths plahwot aelapladukeths odycdsngipcahnayyngkrungethphmhankhr phakhehnux aelaphakhtawnxxkechiyngehnux sungepnwithichiwitchawbanthinasnicaehnghnung hmubanthayasub xyubriewnthanghlwngaephndinhmayelkh 211 txnsiaeykhnxngkhay thabx michawbanthairyasubtamaenweliybrimfngokhng mithiwthsnthrrmchatithiswyngam epnwithichiwitchawbanthinasnicxikaehnghnung hmubanthaaephnkrayx hmubanthaaephnkrayx xyubriewnthanghlwngaephndinhmayelkh 211 txnaeykthanghlwnghmayelkh 2 hnxngsxnghxng thabx epnhmubanthaaephnkrayx epnaephnaepngsahrbichthaepaaepiya mikarsngipcahnayyngtangpraeths epnxutsahkrrminkhrweruxnaelawithichiwitthinasnic aehlngobrankhdibanokhkkhxn xyuthibanokhkkhxn tablokhkkhxn epnaehlngobrankhdismykxnprawtisastrtxenuxngmathungsmythwarwdi idmikarkhudphbokhrngkradukmnusyobranaelaekhruxngichtang idepncanwnmak obranwtthuthisakhy idaek ekhruxngmuxhinkhd kailhin hwluksrhin kraphrwnsarid aethngdinepha mlayphachnadinephaaebbenuxdin bangchinmilayekhiynsiaedngaebbklumwthnthrrmbanechiyng esmahinsmythwarwdi aelakhrkhinihythisnnisthanwaepnebahlxmolha nxkcakniyngidphbehriyyfunnsmythwarwdi hlwngphxphraecaxngkhtux hlwngphxphraecaxngkhtux pradisthanxyu n wiharwdsrichmphuxngkhtux bannaomng tablnaomng hlwngphxphraecaxngkhtuxsranginsmyphraecaichyechsthathirach emuxpi ph s 2105 odyichthxngehluxngaelathxngaednghnk 1 tux praman 12 000 kiolkrm aelwhlxepnswn odyhlxphraeksepnladbsudthay emuxhlxesrcprakxbepnxngkhphraaelwidnamapradisthan n wdoksiy sungtxmaidepliynchuxepnwdsrichmphuxngkhtux emuxphraecaichyechsthathirachthrngthrabaelaidesdcmathxdphraentraelwekidsrththa cungidthrngsrangphrawiharephuxihepnthipradisthanphraecaxngkhtux aelapnekhtaednihepnekhtkhxngphraecaxngkhtuxphrxmthngmibriwar 13 hmuban phraecaxngkhtuxepnphraphuththruppangmarwichy hlxdwythxngsaridkhnadihy aelathuxwaihythisudkhxngcnghwdhnxngkhay miphuththlksnangdngammak hnatkkwang 3 30 emtr sung 4 emtr chawhnxngkhayaelaprachachnthwipthngsxngfngaemnaokhngnbthuxhlwngphxphraecaxngkhtuxwaskdisiththiyingnk insmyphraecaichyechsthaidkahndepnphrarachphithithikstriyewiyngcnthntxngesdcmanmskarthuk 4 eduxn odyaetngkhbwnchang ma aelarab maskkaracakwdthakhkeruxcnthungwdphraecaxngkhtuxepnrayathangkwa 10 kiolemtr thnnnicungidchuxwa crdlswrrkh macnthungthukwnni inwnkhun 15 kha eduxn 4 mikarewiynethiynrxbphrawiharphraecaxngkhtux aelatxnechawnaerm 1 kha mikarcudbngifbuchaphraecaxngkhtux aelaepnwnsinsudngansmophchphraecaxngkhtux sungmiepnpracathukpitngaetwnkhun 11 kha eduxn 4 ipcnthungwnaerm 1 kha eduxn 4xangxing khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 05 07 subkhnemux 2007 10 25 tarangkhaodysar sankngankhnsngcnghwdhnxngkhay lingkesiy bthkhwamekhtkarpkkhrxngkhxngpraethsithyniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldk