บทความนี้ยังต้องการเพิ่มเพื่อ |
บทความนี้อาจต้องการตรวจสอบต้นฉบับ ในด้านไวยากรณ์ รูปแบบการเขียน การเรียบเรียง คุณภาพ หรือการสะกด คุณสามารถช่วยพัฒนาบทความได้ |
สุวรรณภูมิ เป็นอำเภอที่มีพื้นที่มากที่สุดของจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นอำเภอศูนย์กลางทางด้านการคมนาคม การปกครอง การศึกษาเเละเศรษฐกิจของกลุ่มอำเภอโซนใต้ของจังหวัดร้อยเอ็ด อีกทั้งยังเป็นอำเภอที่มีความเจริญเป็นรองแค่เพียงอำเภอเมืองร้อยเอ็ด พื้นที่อำเภอสุวรรณภูมิเดิมเป็นที่ตั้งของเมืองท่งศรีภูมิ เคยมีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลครอบคลุมพื้นที่กลุ่มจังหวัดร้อยเเก่นสารสินธ์ุ เเทบจะทั้งหมด เเละบางส่วนของจังหวัดบุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ ยโสธร อุบลราชธานี ชัยภูมิ อุดรธานี ซึ่งเมืองท่งศรีภูมิเคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรล้านช้างจำปาศักดิ์ สถาปนาโดยพระเจ้าสร้อยศรีสมุทรพุทธางกูรเมื่อปี พ.ศ. 2256 ต่อมาได้เข้ามาอยู่ในอาณาเขตของอาณาจักรอยุธยา ในปี พ.ศ. 2308 จนถึงอาณาจักรธนบุรี ในปี พ.ศ. 2310 และได้เปลี่ยนชื่อเป็นเมืองสุวรรณภูมิ ในปี พ.ศ. 2315 ต่อมาได้ลดฐานะจากเมืองชั้นเอก (เทียบเท่าจังหวัด) เป็น "อำเภอสุวรรณภูมิ" ในปี พ.ศ. 2451 ปัจจุบันแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 15 ตำบล มีประชากรในปี พ.ศ. 2562 จำนวน 116,015 คน
อำเภอสุวรรณภูมิ | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Amphoe Suwannaphum |
คำขวัญ: สุวรรณภูมิแดนกู่พระโกนา ทุ่งกุลาสดใส งานใหญ่บั้งไฟแสน ดินแดนวัฒนธรรม | |
แผนที่จังหวัดร้อยเอ็ด เน้นอำเภอสุวรรณภูมิ | |
พิกัด: 15°36′33″N 103°48′1″E / 15.60917°N 103.80028°E | |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | ร้อยเอ็ด |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 1,107.042 ตร.กม. (427.431 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2564) | |
• ทั้งหมด | 114,296 คน |
• ความหนาแน่น | 103.25 คน/ตร.กม. (267.4 คน/ตร.ไมล์) |
รหัสไปรษณีย์ | 45130 |
รหัสภูมิศาสตร์ | 4511 |
ที่ตั้งที่ว่าการ | หมู่ที่ 2 ถนนปัทมานนท์ ตำบลสระคู อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด 45130 |
ส่วนหนึ่งของ |
ประวัติศาสตร์
บริเวณอำเภอสุวรรณภูมิเดิมเป็นที่ตั้งของเมืองชื่อ "เมืองท่งศรีภูมิ" หรือนิยมเรียกทั่วไปว่า "เมืองศรีภูมิ" โดยแรกตั้งเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรล้านช้างจำปาศักดิ์ ที่สถาปนาโดยพระเจ้าสร้อยศรีสมุทรพุทธางกูร ในปี พ.ศ. 2256 ตรงกับรัชสมัยสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9 (พระเจ้าท้ายสระแห่งกรุงศรีอยุธยา) ตั้งอยู่ในบริเวณลุ่มน้ำเสียว โดยมีแม่น้ำชีเป็นเขตแดนด้านตะวันออก (เขตนครหลวงจำปาสัก) และแม่น้ำมูลเป็นเขตแดนด้านทิศใต้ กั้นระหว่างเขตเมืองนครราชสีมา (เมืองในเขตอาณาจักรอยุธยา) ด้านทิศเหนือชนแดนเขตอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ บริเวณเมืองผาขาว เมืองพันนา สนามหมากหญ้า (เขตรอยต่อ อุดรธานี หนองบัวลำภู และขอนแก่นในปัจจุบัน) ภูเม็ง (เขตอำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น) ฝายพญานาค (รอยต่ออำเภอหนองเรือ และอำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่นในปัจจุบัน) เมืองท่งศรีภูมิมีเจ้าแก้วมงคลเป็นปฐมวงศ์ เจ้าเมืองพระองค์แรก และเป็นเมืองหน้าด่านสำคัญของอาณาจักรล้านช้างจำปาสัก
ต่อมาในปี พ.ศ. 2308 ได้เกิดความขัดแย้งในการสืบต่ออำนาจเจ้าเมืองท่งศรีภูมิ เป็นเหตุให้เมืองท่งศรีภูมิได้เข้าอยู่ภายใต้อาณาเขตของอาณาจักรอยุธยา จนกระทั่งเสียกรุงครั้งที่สอง ในปี พ.ศ. 2310 เมืองท่งศรีภูมิได้เป็นรัฐอิสระ และรวมตัวอย่างหลวม ๆ กับก๊กพิมายหลังกรุงแตก ต่อมาในปี พ.ศ. 2311 หลังพระยาตาก (สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช) ได้ตีเมืองพิมายได้เป็นก๊กแรก เมืองท่งศรีภูมิจึงได้เข้าสวามิภักดิ์พระยาตากสิน
จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2315 เจ้าเซียง ทายาทเจ้าแก้วมงคล เจ้าเมืองท่งศรีภูมิลำดับที่ 4 ได้เสนอขอย้ายที่ตั้งศูนย์กลางเมืองท่งศรีภูมิไปด้านทิศตะวันตก บริเวณตำบลดงเท้าสาร และขอพระราชทานนามเมืองใหม่เป็น "เมืองสุวรรณภูมิ" นับแต่นั้น โดยมีฐานะเป็นเมืองประเทศราชของกรุงธนบุรีสืบต่อจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์
ภายหลัง พ.ศ. 2325 หลังการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ เมืองสุวรรณภูมิได้อยู่ในอาณาเขตของอาณาจักรรัตนโกสินทร์ โดยมีฐานะเป็นเมืองประเทศราชนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2338 โดยมีชื่อเมืองเต็มว่า "สุวรรณภูมิราชบุรินทร์" หรือเขียนเป็น "สุวรรณภูมิราชบุรี" หรือ "สุวรรณภูมิราชบุรีย์" พระยศเจ้าเมืองสุวรรณภูมิ ได้รับพระราชทินนามจากพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชว่า "รัตนวงษา" หรือ "รัตนวงศา" อันหมายถึง สายสกุล ผู้สืบเชื้อสายจากเจ้าแก้วมงคล อันเป็นปฐมวงศ์เจ้าเมืองท่งศรีภูมิ โดยเป็นหนึ่งในสายพระบรมวงศานุวงศ์ของพระมหากษัตริย์อาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ เมืองสุวรรณภูมิได้แบ่งอาณาเขตออกให้ทายาทของเจ้าแก้วมงคลได้ปกครองหลายเมือง ดังนี้
- พ.ศ. 2318 เมืองร้อยเอ็ด (จังหวัดร้อยเอ็ดในปัจจุบัน)
- พ.ศ. 2330 เมืองหนองหาน (อำเภอหนองหานในปัจจุบัน)
- พ.ศ. 2335 เมืองชนบท (อำเภอชนบทในปัจจุบัน)
- พ.ศ. 2340 เมืองขอนแก่น (จังหวัดขอนแก่นในปัจจุบัน)
- พ.ศ. 2342 เมืองพุทไธสง (อำเภอพุทไธสงในปัจจุบัน)
- พ.ศ. 2408 เมืองมหาสารคาม แยกออกจากเมืองร้อยเอ็ด
- พ.ศ. 2415 เมืองเกษตรวิสัย (อำเภอเกษตรวิสัยในปัจจุบัน)
- พ.ศ. 2417 เมืองธวัช (อำเภอธวัชบุรีในปัจจุบัน เดิมตั้งที่ตำบลธวัชดินแดง) โดยแยกออกจากเมืองร้อยเอ็ด
- พ.ศ. 2421 เมืองพนมไพรแดนมฤค (อำเภอพนมไพรในปัจจุบัน)
- พ.ศ. 2422 เมืองพยัคฆภูมิพิสัย (อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ในปัจจุบัน)
- พ.ศ. 2425 เมืองวาปีปทุม (อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม ในปัจจุบัน) แยกออกจากเมืองร้อยเอ็ด แต่ไปตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เมืองสุวรรณภูมิ ภายหลังยังคงให้ขึ้นเมืองร้อยเอ็ด ก่อนมาขึ้นจังหวัดมหาสารคามในภายหลัง
- พ.ศ. 2425 เมืองจตุรพักตร์พิมาน (อำเภอจตุรพักตร์พิมาน ในปัจจุบัน)
- พ.ศ. 2425 เมืองโกสุมพิสัย (อำเภอโกสุมพิสัย ในปัจจุบัน) แยกออกจากเมืองมหาสารคาม
จนกระทั่งปี พ.ศ. 2435 มีการปฏิรูปการปกครองในระบบมณฑลเทศาภิบาล เมืองสุวรรณภูมิคงฐานะเป็นเมืองชั้นเอก โดยมีเมืองชั้นโท ตรี และจัตวา ภายใต้การปกครองจำนวน 5 เมือง ได้แก่ เมืองสุวรรณภูมิ เมืองพยัคฆภูมิพิสัย (หรืออำเภอพยัคฆภูมิพิสัย), เมืองพนมไพรแดนมฤค (หรืออำเภอพนมไพร), เมืองเกษตรวิสัย (หรืออำเภอเกษตรวิสัย) และเมืองจุตรพักตร์พิมาน (หรืออำเภอจตุรพักตรพิมาน) ซึ่งเมืองทั้งหมดล้วนแยกออกมาจากเมืองสุวรรณภูมิ และมีเจ้าเมืองที่เป็นทายาทของเจ้าแก้วมงคลทั้งสิ้น ต่อมาในปี พ.ศ. 2451 ได้มีการปรับปรุงระบบบริหารราชการแผ่นดินส่วนภูมิภาค มีการยุบมณฑลทั่วประเทศ มีการเปลี่ยนแปลงเมืองต่าง ๆ เป็นจังหวัดและอำเภอ โดยตั้งเมืองชั้นเอกเป็นจังหวัด และตั้งเมืองชั้น โท ตรี และจัตวา เป็นอำเภอและตำบล เมืองสุวรรณภูมิจึงถูกเปลี่ยนฐานะเป็นอำเภออยู่ภายในเขตจังหวัดร้อยเอ็ดนับแต่นั้นเป็นต้นมา ส่วนเมืองขึ้นของเมืองสุวรรณภูมิเดิมทั้ง 4 เมือง ถูกเปลี่ยนเป็นอำเภอภายในจังหวัดร้อยเอ็ด 3 เมือง และเป็นอำเภอภายในจังหวัดมหาสารคาม 1 เมือง (ทั้งนี้เมืองชั้นเอกที่ถูกเปลี่ยนเป็นอำเภอในปี พ.ศ. 2451 ได้แก่ เมืองกมลาไสย, เมืองเขมราฐธานี, เมืองยะโสธร ซึ่งยกฐานะกลับเป็นจังหวัดยโสธรในปี พ.ศ. 2515, เมืองมุกดาหาร ซึ่งยกฐานะกลับเป็นจังหวัดมุกดาหาร ในปี พ.ศ. 2525, เมืองสังฆะ, เมืองขุขันธ์, เมืองภูเขียว, เมืองภูเวียง และเมืองนางรอง เป็นต้น)
อำเภอสุวรรณภูมิในปัจจุบัน นับจากปีที่ถูกยุบเป็นอำเภอในปี พ.ศ. 2451 มีนายอำเภอทั้งสิ้นแล้ว 45 คน มีการแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 15 ตำบล ทั้งนี้ อำเภอสุวรรณภูมิมีการแยกออกเป็น 2 อำเภอ หลัง ปี พ.ศ. 2451 ได้แก่ อำเภอเมืองสรวง และอำเภอโพนทราย ในด้านลำดับชั้นของอำเภอที่กำหนดโดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย อำเภอสุวรรณภูมิมีฐานะเป็นอำเภอชั้น 1 เช่นเดียวกับอำเภอเมืองร้อยเอ็ด และอำเภอเมืองในจังหวัดอื่น ๆ ที่มิใช่อำเภอชั้นพิเศษ
พื้นที่อาณาเขตทั้งหมดของเมืองศรีภูมิ ตั้งเเต่ปี พ.ศ. 2256 - 2315 มีพื้นที่โดยประมาณ 31,000 ตารางกิโลเมตร เมืองสุวรรณภูมิ ปี พ.ศ. 2318 - 2335 มีพื้นที่โดยประมาณ 16,500 ตารางกิโลเมตร เมืองสุวรรณภูมิ หลังแบ่งตั้งเมืองต่างๆ ระหว่าง พ.ศ. 2318 - 2409 คงเหลือพื้นที่ เพียง 9,200 ตารางกิโลเมตร โดยประมาณ ต่อมาภายหลังจากที่เมืองสุวรรณภูมิถูกยุบกลายเป็นอำเภอ คงเหลือพื้นที่โดยประมาณ 1,532.294 ตารางกิโลเมตร ต่อมาเเม้ว่าอำเภอสุวรรณภูมิจะมีการเเยกออกไปอีก 2 อำเภอ (อำเภอเมืองสรวงเเละอำเภอโพนทราย) อำเภอสุวรรณภูมิก็ยังคงเป็นอำเภอที่มีพื้นที่มากที่สุดของจังหวัดร้อยเอ็ดจนถึงปัจจุบัน ด้วยขนาดพื้นที่ 1,107.042 ตารางกิโลเมตร
ลำดับเจ้าเมืองทุ่งศรีภูมิ
ลำดับที่ | เจ้าเมือง | ปีที่ครอง | ปีที่สิ้นสุด | จำนวนปีที่ครองเมือง | เหตุการณ์สำคัญ/อื่น ๆ |
---|---|---|---|---|---|
สมัยอาณาจักรล้านช้างจำปาสัก (พ.ศ. 2256–2308) | |||||
1 | เจ้าแก้วมงคล | พ.ศ. 2256 | พ.ศ. 2268 | 12 | ตั้งเมืองท่งศรีภูมิ ณ บริเวณเมืองเก่า ตำบลทุ่งศรีเมือง อำเภอสุวรรณภูมิ พระราชครูโพนสะเม็ก (เจ้าราชครูหลวง) ฐานะพระสังฆราช ของราช อาณาจักรล้านช้างจำปาศักดิ์ เสด็จ มา ทำพิธีวางเสาหลักเมือง แต่งตั้ง เจ้ามืดคำดล เป็นอุปราช และ เจ้าสุทนต์มณี เป็น ราชบุตร (ตามลักษณะการปกครอง อาญาสี่ ซึ่งเป็นรูปแบบการปกครองของล้านช้าง ล้านนา) |
2 | เจ้ามืดคำดล | พ.ศ. 2268 | พ.ศ. 2306 | 38 | เจ้ามืดคำดล เกิดในคืนเดือนมืด เรียกอีกชื่อหนึ่ง ว่า ท้าวมืด เป็นบุตรคนโต ที่เกิดเเต่พระชายาท่านที่ 2 ชาวเวียงจันทน์ ของ เจ้าแก้วมงคล แต่งตั้ง เจ้าสุทนต์มณี (น้องชาย) เป็น อุปฮาด และ แต่งตั้ง ท้าวเซียง (บุตรคนโต) เป็น ราชบุตร หลังจากได้ครองเมืองท่ง เจ้ามืดคำดลได้ตั้งแข็งเมืองเป็น เอกราช ไม่ได้ขึ้นแก่นครจำปาศักดิ์ เพราะเหตุว่านครจำปาศักดิ์พี่กับน้องเกิดวิวาทยาดชิงสมบัติแก่กันจึงหาได้ติดตามมาว่ากล่าวเอาส่วยสาอากรไม่ ครั้นต่อมา เจ้าองค์หล่อหน่อคำ เจ้าผู้ครองนครน่าน ซึ่งเป็นบุตรเจ้าแก้วมงคล หลานเจ้านครน่านคนเก่า เกิดเเต่ธิดาเจ้านครน่าน พระชายาท่านเเรกของเจ้าเเก้วมงคล ได้พาไพร่พลมาสืบหาพระบิดา ซึ่งรู้ข่าวว่าพระบิดามาเป็นเจ้าเมือง อยู่ริมสระสี่แจ่ง แฮ้งสี่ตัว แม่หญิงเอาผัว พ่อชายออกลูก ครั้นมาถึงเขตเมืองท่ง ตั้งค่ายอยู่ระหว่างปากเสียวน้อย ซึ่งเรียกว่าวังหม่านจนบัดนี้นั้น เจ้าองค์หล่อจับได้เพี้ยบุตรตะพานบ้านโนนสูง กวนหมื่นหน้าบ้านเบน ซึ่งยกทัพออกมาต่อสู้กันนอกเมือง เมื่อได้ตัวแม่ทัพสองคนนี้แล้ว จึงซักไล่ไต่ถามหาสระสี่แจง แฮ้งสี่ตัว แม่หญิงเอาผัว พ่อชายออกลูก แม่ทัพทั้งสองได้แจ้งความให้เจ้าองค์หล่อหน่อคำทราบตลอดแต่ต้นจนถึงปลาย เจ้าอค์หล่อหน่อคำจึงได้ทราบว่าเป็นเมืองพระบิดาของตน แล้วปล่อยให้แม่ทัพสองคนเข้าไปบอกแก่เจ้ามืดคำดลน้องชายให้ทราบทุกประการโดยแน่นอนแล้ว เจ้ามืดรู้ว่าเป็นพี่ชายแห่งตน จึงได้แต่งให้แสนท้าวออกไปอัญเชิญเจ้าองค์หล่อหน่อคำให้เข้ามายังเมืองท่ง แล้วจัดการรับรองให้เป็นเกียรติยศอันดี แล้วเจ้ามืดพร้อมกับเจ้าองค์หล่อหน่อคำ จัดการปลงศพจารแก้วผู้เป็นบิดาตามประเพณีผู้ครองบ้านเมืองมาแต่ก่อน เสร็จแล้วเจ้าองค์หล่อหน่อคำก็ลาเจ้ามืดน้องชายกลับคืนนครน่านตามเดิม |
3 | เจ้าสุทนต์มณี | พ.ศ. 2306 | พ.ศ. 2308 | 2 | เจ้าสุทนต์มณี เกิดมา พร้อมมี "ฟัน" หรือ "พระทนต์" ด้วย จึงได้ชื่อว่า "สุทนต์มณี" เป็นบุตรคนที่ 2 ที่เกิดเเต่พระชายาท่านที่ 2 ชาวเวียงจันทน์ ของ เจ้าแก้วมงคล ครองเมืองได้ ๒ ปี ต่อมา ท้าวเซียง (บุตรคนโต ของ เจ้ามืดคำดล) และท้าวสูน (น้องชายของ ท้าวเซียง) ได้ร่วมกับกรมการเมืองบางส่วน คบคิดเพื่อหาทางให้ ท้าวเซียง ขึ้นเป็นเจ้าเมืองท่งศรีภูมิ จึงนำทองคำไปถวายและขอสวามิภักดิ์ ต่อ อาณาจักรอยุธยา และเจ้าผู้ครองนครจำปาสัก มิได้ให้ความช่วยเหลือ เจ้าสุทนต์มณี มากพอ จึงยังผลให้ เจ้าสุทนต์มณี และกรมการเมือง ที่จงรักภักดี พร้อมไพร่พลเมืองส่วนใหญ่ หนีออกจากเมืองท่งศรีภูมิ ไปตั้งรับ ที่ บ้านดงเมืองจอก (เขตอำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด ในปัจจุบัน) และ ท้าวเซียง ได้ครองเมืองท่งศรีภูมิ เป็น เจ้าเมืองลำดับที่ ๔ ต่อ จาก อา (เจ้าสุทนต์มณี) และได้แต่งตั้ง ท้าวสูน (น้องชายของ ท้าวเซียง) เป็น อุปฮาด และ แต่งตั้ง ท้าวเพ (บุตรท้าวเซียง) เป็น ราชบุตร |
สมัยอาณาจักรกรุงศรีอยุธยา (พ.ศ. 2308–2310) | |||||
4 | เจ้าเซียง (ท้าวเซียง) | พ.ศ. 2308 | พ.ศ. 2310 | 2 | ท้าวเซียง ภายหลังได้รับการพระบรมราชโองการแต่งตั้ง จาก สมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ แห่งอาณาจักรอยุธยา แล้ว ได้ครองเมือง เป็นเจ้าเมืองท่งศรีภูมิ ลำดับที่ ๔ ต่อมา เกิดศึกระหว่าง อาณาจักรพม่ายุคที่ 3 กับ อาณาจักรอยุธยา จนกระทั่งเสียกรุง ในวันที่ 7 เมษายน 2310 เมืองท่งศรีภูมิ จึงกลายเป็น รัฐอิสระ อย่างน้อย ๗ เดือน จนกระทั่ง สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี กู้กรุงสำเร็จ จึงได้เข้าสวามิภักดิ์ ต่อ อาณาจักรธนบุรี |
ลำดับเจ้าเมืองสุวรรณภูมิ และผู้ว่าราชการเมืองสุวรรณภูมิ
ลำดับที่ | เจ้าเมือง | ปีที่ครอง | ปีที่สิ้นสุด | จำนวนปีที่ครองเมือง | เหตุการณ์สำคัญ/อื่น ๆ |
---|---|---|---|---|---|
สมัยอาณาจักรกรุงธนบุรี (พ.ศ. 2310–2325) | |||||
4 | เจ้าเซียง (ท้าวเซียง) หรือ พระรัตนวงษา (เซียง) | 2310 | 2325 | 15 (นับต่อเนื่อง จาก ปี 2308 ได้ 17 ปี) | ในปี 2310 หลังเมืองท่งศรีภูมิ เป็น อิสระ ได้ไม่นาน สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ได้สถาปนา อาณาจักรธนบุรี เสร็จสิ้นแล้ว จึงมรับสั่งให้เมืองประเทศราชทุกเมือง ที่เคยสวามิภักดิ์ ต่อ อาณาจักรอยุธยา ให้อยู่ภายใต้อำนาจดังเดิม เจ้าเซียง หรือ ท้าวเซียง จึงได้สวามิภักดิ์ ดังเดิม และต่อมา ในปี 2315 ทางกรมการเมือง และพระยากรมท่า ได้หารือกับเจ้าเมือง เห็นควรว่า ควรย้ายที่ตั้งเมืองใหม่ เนื่องจาก บริเวณที่ตั้งเดิม ติดลำน้ำเสียว ชัยภูมิไม่เหมาะสมในการป้องกันเมือง ตลิ่งเซาะพัง น้ำท่วมถึง ขยายเมืองต่อไปในภายภาคหน้ามิได้ จึงได้ มีใบบอกไปยัง กรุงธนบุรี ขอย้ายที่ตั้งเมืองท่งศรีภูมิ ไป ยังบริเวณ ดงเท้าสาร ซึ่งเป็นเนินสูง ขนาดใหญ่ น้ำท่วมไม่ถึง ใกล้บริเวณแหล่งน้ำเสียว ดังเดิม และเดิมพื้นที่ เคยเป็นที่ตั้งบ้านดงเมืองหาง ซึ่งเป็นเมืองเก่า มาแต่เดิมก่อนแล้ว ทางกรุงธนบุรี จึงมีรับสั่งและพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ ย้ายที่ตั้งเมือง มาที่บริเวณดังกล่าว และสถาปนาพระยศ ท้าวเซียง เป็น "พระรัตนวงษา" เซียง ทั้งนี้ พระยศนั้น ให้ยังถึง พระนามของ เจ้าปู่ คือ เจ้าแก้วมงคล ผู้เป็นปฐมวงศ์เจ้าผู้ครองเมืองท่งศรีภูมิ พระองค์แรก และ ได้พระราชทานนามเมืองใหม่ ว่า "เมืองสุวรรณภูมิ" ในปี 2315 เป็นต้นมา ต่อมา พระเจ้ากรุงธนบุรี ได้รับสั่งให้ พระยากรมท่า ได้ เจรจาให้ พระรัตนวงษาเซียง กับ เจ้าสุทนต์มณี (ยังตั้งทัพยั้งอยู่ บริเวณบ้านดงเมืองจอก) ให้คืนดีกัน ในฐานะ อาว์ และหลาน และ พระยากรมท่า ได้เจรจา ขอให้ เจ้าสุทนต์มณี เข้าสวามิภักดิ์ ต่อพระเจ้ากรุงธนบุรี เจ้าสุทนต์มณี จึงนำไพร่พลเข้าสวามิภักดิ์ และขอตั้งบ้านเมืองขึ้นใหม่ บริเวณ บ้านกุ่มฮ้าง ขอขึ้นเป็น เมืองร้อยเอ็ด สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี จึงได้พระราชทานแต่งตั้งพระยศ เป็น "พระขัติยวงษา (ทนต์)" ในปี 2318 ลุจุลศักราช ๑๑๓๗ ปีมแมสัปตศก ฝ่ายท้าวทนเจ้าเมืองทงคนเก่าซึ่งหนีไปอยู่ณบ้านกุดจอกจึ่งเข้าหาพระยาพรหม พระยากรมท่า ๆ เห็นว่าท้าวทนมีผู้คนบ่าวไพร่ควบคุมอยู่มาก จึ่งมีใบบอกไปยังกรุงธนบุรีขอตั้งท้าวทนต์ (เจ้าสุทนต์มณี)เปนเจ้าเมือง ขอยกบ้านกุ่มซึ่งเป็นที่เมืองร้อยเอ็ดเก่าเปนเมืองจึ่งโปรดตั้งให้ท้าวทนเป็น "พระขัติยวงษา" เจ้าเมือง ยกบ้านกุ่มขึ้นเป็นเมืองร้อยเอ็ดตามนามเดิม ครั้งนั้นเขตเมืองสุวรรณภูมิ แลเมืองร้อยเอ็ดมีว่า "ตั้งแต่ปากลำน้ำพาชี ตกลำน้ำมูล ขึ้นมาตามลำน้ำพาชีถึงปากห้วยดางเดียขึ้นไปทุ่งลาดไถ ไปบ้านข้อเหล็ก บ้านแก่งทรายหิน ตั้งแต่ถ้ำเต่าเหวฮวดดวงสวนอ้อย บึงกุยศาลาอีเก้งภูเมง หนองม่วงคลุ้ม กุ่มปักศาลาหักมูลเดง ประจบปากลำน้ำพาชี ตกลำน้ำมูลนี้เปนเขตรเมืองสุวรรณภูมิ" "ตั้งแต่ลำน้ำยางตกลำน้ำพาชี ขึ้นไปภูดอกซ้อน หินทอด ยอดยาง ดู่สามต้น อ้นสามขวาย สนามหมาดหญ้า ผ้าขาวพันนา ฝายพระยานาคภูเมง มาประจบหนองแก้วศาลาอีเก้งมาบึงกุย นี้เปนอาณาเขตรเมืองร้อยเอ็ด" |
สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ. 2325–2451) | |||||
4 | พระรัตนวงษา (เซียง) | 2325 | 2330 | 5 (นับต่อเนื่องจากปี 2308 ได้ 22 ปี) | ภายหลังพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้สถาปนาอาณาจักรรัตนโกสินทร์ (สมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์) ในวันที่ 6 เมษายน 2325 พระรัตนวงษา (เซียง) จึงได้นำบรรณาการและต้นดอกไม้เงินดอกไม้ทอง ถวายและขอสวามิภักดิ์ ต่ออาณาจักรรัตนโกสินทร์ (สมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์) เป็นต้นมา |
5 | พระรัตนวงษา (สูน) | 2330 | 2335 | 5 | ในปี 2330 ท้าวสูน ผู้เป็น น้องชาย ของ พระรัตนวงษา (เซียง) และ ดำรงตำแหน่ง "อุปฮาด" ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองสุวรรณภูมิ ส่วน ท้าวเพ (บุตรของ พระรัตนวงษาเซียง) ซึ่งดำรงตำแหน่ง "ราชบุตร" ในขณะนั้น เพื่อสนับสนุนและป้องกันปัญหาการครองเมืองดังในอดีต รวมทั้งเป็นเมืองบริวารและป้องกันเมืองสำคัญด้านทิศเหนือ คือ นครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน (หนองบัวลำภู) พระรัตนวงษา (สูน) จึงได้ขอพระราชทานให้มีพระบรมราชโองการ แต่งตั้ง ท้าวเพ ไปตั้งเมืองใหม่ และแบ่งเขตดินแดนทางตอนเหนือของเมืองสุวรรณภูมิ (ภายหลัง เป็นเขตของเมืองร้อยเอ็ดแล้ว) ให้ ท้าวเพ ได้ปกครอง เมืองสุวรรณภูมิ จึงได้แบ่งไพร่พล ให้ จำนวน 600 คน ไปตั้งเมืองบริเวณเมืองเก่า ขึ้นเป็นเมืองหนองหาน ปัจจุบัน คือ อำเภอหนองหาน และสถานปนาพระยศ ท้าวเพ เป็น "พระพิทักษ์เขื่อนขันธ์" เจ้าเมืองหนองหาน ท่านแรก ในปี 2330 และ แต่งตั้ง ท้าวอ่อน ( บุตรของ พระขัติยวงษาทนต์ (เจ้าสุทนต์มณี) เจ้าเมืองร้อยเอ็ด) เป็น "อุปฮาด" และแต่งตั้ง ท้าวโอ๊ะ (บุตร ของ พระรัตนวงษา เซียง ซึ่งเป็น น้องชาย ของ ท้าวเพ หรือ พระพิทักษ์เขือนขันธ์) ดำรงตำแหน่ง เป็น "ราชบุตร" ต่อมา ในปี 2335 ได้มีเหตุ ทิดโคตร ก่อคดีได้ใช้มีดฟัน เจ้าเมือง คือ พระรัตนวงษา (สูน) เสียชีวิต ท้าวอ่อน จึงได้รับโปรดเกล้าจารึกพระสุพรรณบัฏให้ดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองสุวรรณภูมิ เป็นที่พระรัตนาวงษามหาขัติยราช ครองเมืองสุวรรณภูมิราชบุรียประเทศราช ดังที่ข้อความในเอกสารเรื่องทรงตั้งเจ้าประเทศราชกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 กล่าวไว้ว่า "...ด้วยพระบาทสมเดจพระพุทธิเจ้าอยู่หัวผู้ผ่านพิภพกรุงเทพพระมหานครศรีอยุธยา มีพระราชโองการโปรดเกล้า ฯ ตั้งให้ จ้าวอุปราช เปน พระรันตนาวงษามหาขัติยราชครองเมืองสุวัณภูมราชบุรียประเทศราช เศกให้ ณ วันพฤหัสบดี แรม 11 ค่ำ เดือน 10 จุลศักราช 1153 ปีกุนตรีศก เพลาเช้า 2 โมง 6 บาท..." |
6 | พระรัตนาวงษามหาขัติยราช (อ่อน) | 2335 | 2357 | 22 | พระรัตนวงษา (อ่อน) เป็นบุตร ของพระขัติยวงษาทนต์ ได้ครองเมืองสุวรรณภูมิ แล้ว ได้ขอพระราชทาน แต่งตั้ง ท้าวโอ๊ะ (บุตร พระรัตนวงษาเซียง) ที่ดำรงตำแหน่ง ราชบุตร เดิมนั้น ขึ้นดำรงตำแหน่ง เป็น "อุปฮาด" ต่อมา ในปี 2357 ญาแม่แก้ว ภรรยาหลวง ของ ท้าวอ่อน ไม่พอใจที่ ท้าวอ่อน มีภรรยามาก จึงได้ลงไปกรุงเทพฯ เพื่อฟ้องกล่าวโทษ เจ้าเมือง (ท้าวอ่อน) ว่า ประพฤติการทุจิต ข่มเหงราษฎร มีภรรยามาก แลให้ได้รับความเดือดร้อนไปทั่ว รัชกาลที่ ๒ มีรับสั่งให้ พระรัตนวงษาอ่อน มาเข้าเฝ้าแก้ต่างคดี ที่กรุงเทพมหานคร พิจารณาความแล้ว ได้ความจริงว่า ท้าวอ่อน เป็นผู้ประพฤฒิการณ์ตามที่ถูกกล่าวโทษ จึงโปรดเกล้าฯ ให้ปลด ท้าวอ่อน ออกจากตำแหน่งเจ้าเมืองสุวรรณภูมิ และ ให้นำตัวไปกักขังไว้ ณ บ้านหนองหอย แขวงเมืองสระบุรี แล้วพิจารณาโปรดเกล้า แต่งตั้ง ท้าวโอ๊ะ ที่ดำรงตำแหน่ง "อุปฮาด" ในขณะนั้น ขึ้นเป็น เจ้าเมืองสุวรรณภูมิลำดับที่ ๗ |
7 | พระรัตนวงษา (โอ๊ะ) | 2357 | 2372 | 17 | พ.ศ. 2367 วันอาทิตย์ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๙ ปีวอก ฉ ศก จุลศักราช ๑๑๘๖ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติเปนพระเจ้าแผ่นดินสยาม จึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ข้าหลวงขึ้นไปแยกย้ายกันตรวจสัมโนครัว แลตั้งกองสักอยู่ตามหัวเมืองมณฑลอิสาณบางเมือง มีเมืองกาฬสินธุ์ สุวรรณภูมิ ร้อยเอ็ดเปนต้น แลให้เรียกส่วย ผลเร่วเปนธรรมเนียมแต่นั้นมา ไม่ได้แต่งตั้ง "อุปฮาด" และ "ราชบุตร" ในปี 2369 เกิด "กบฏเจ้าอนุวงศ์" ท้าวภู (บุตร ของ พระขัติยวงษาทนต์ ซึ่ง ดำรงตำแหน่ง อุปฮาด เจ้าเมืองร้อยเอ็ด ในขณะนั้น ได้มีความดีความชอบในการศึกครั้งนี้ ภายหลัง ได้รับการสนับสนุนให้ ดำรงตำแหน่ง เจ้าเมืองสุวรรณภูมิ ใน ปี 2373) เหตุการณ์สำคัญ ในระหว่างศึกเจ้าอนุวงศ์นั้น เมื่อกองทัพ ของราชวงศ์เวียงจันทน์ และท้าวอุปราชสีถาน ของเจ้าอนุวงศ์ เดินทางมาถึงเมืองร้อยเอ็ด เจ้าเมืองร้อยเอ็ด ได้ยก นางหมานุย นางตุ่ย นางแก้ว ภริยา ของ พระขัติยวงษา คนก่อน ให้ อุปราชสีถาน จึงรอดพ้นจากภัย ส่วน พระรัตนวงษา (โอ๊ะ) ได้ยกม้าต่าง กับผ้าแพร พร้อม นางอ่อม บุตรี ของ พระรัตนวงษา (อ่อน) เจ้าเมืองคนเก่า ให้ อุปราชสีถาน จึงพันภัย (ทั้งนี้ เมืองร้อยเอ็ด และเมืองสุวรรณภูมิ มิได้เข้าร่วมกับกองทัพเจ้าอนุวงศ์ แต่ร่วมต่อสู้กับ กองทัพฝ่ายรัตนโกศินทร์ ยังผลให้ อุปฮาดภู (ท้าวภู ดำรงตำแหน่งอุปฮาด ของเมืองร้อยเอ็ด) มีความดีความชอบในการออกศึก และได้รับการแต่งตั้ง เป็น เจ้าเมืองสุวรรณภูมิ ลำดับที่ ๘ มีการสร้างหล่อพระพุธรูปสำคัญ จาก จารึกอักษรธรรม พระพุทธรูปศิลปะล้านช้าง โดย ญาครูโสม เมืองสุวรรณภูมิ สันนิษฐาน สร้างถวายและประดิษฐานที่วัดป่ายาง (ปัจจุบันในเขตโรงเรียนอนุบาลสุวรรณภูมิ หรือ เทศบาล ๒) แล้วย้าย มาที่วัดคุ้ม (ปัจจุบัน ร้าง) และนำมาประดิษฐาน ที่ วัดโพธิ์ ซึ่งปัจจุบันคือ วัดสว่างโพธิ์ทอง ในเขตเมืองเก่าสุวรรณภูมิ "ศุภมัสตุจุลศักราชราชาได้ พัน ๑ ร้อย ๘๓ หัวครูโสมมีศรัทธา สร้างพุทธฮูปไว้กับสาสนา ๕ พัน วสา นิพานปัจจโยโหตุ แล้วเดือน ๔ แรม ๓ ค่ำ วันทิดมื้อกาบสัน" ข้อความระบุว่า พระครูโสม (คำว่า หัวครู มาจาก เจ้าหัว,เจ้าอยู่หัว ในอดีตใช้เรียกพระเถระชั้นผู้ใหญ่) เป็นผู้สร้างพุทธรูปนี้ขึ้น แล้วเสร็จเมื่อ วันทิด มื้อกาบสัน แรม ๓ ค่ำ เดือน ๔ จ.ศ. ๑๑๘๓ หากเทียบกับวันเวลาแบบไทยสากลคือ วันอาทิตย์ ที่ ๑๐ เดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๓๖๔ โดยช่วงเวลาที่สร้างพระ ตรงกับสมัยรัชกาลที่ ๒ และสมัยสมเด็จพระเจ้าอนุวงศ์ แห่งเวียงจันทน์ พระพุทธรูปองค์นี้มีพุทธศิลป์นิยมแบบล้านช้างตอนล่างลงมา ซึ่งถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปศิลปะล้านช้างที่เก่าแก่และสำคัญองค์หนึ่งในเมืองสุวรรณภูมิและหากนับอายุพระพุทธรูปองค์นี้ถึงปัจจุบัน จะมีอายุเกือบ ๒๐๐ ปี |
8 | พระรัตนวงษา (ภู) | 2372 | 2395 | 23 | พระรัตนวงษา (ภู) เป็น บุตรของ พระขัติยวงษา (ทนต์) เจ้าเมืองร้อยเอ็ด ท่านแรก โดยดำรงตำแหน่ง อุปฮาด ของเมืองร้อยเอ็ด ก่อนได้ รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จากรัชกาลที่ ๓ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ดำรงตำแหน่ง พระยศ เป็น พระรัตนวงษา (ภู) เจ้าเมืองสุวรรณภูมิ และโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ท้าวเกษ เป็น "อุปฮาด" และแต่งตั้ง ท้าวสาร (บุตรของพระรัตนวงษา (โอ๊ะ)) เป็น "ท้าวสุริยวงษ์" |
9 | พระรัตนวงษา (สาร) | 2395 | 2397 | 2 | พระรัตนวงษาสาร เป็นบุตรของ พระรัตนวงษา (โอ๊ะ) เจ้าเมืองสุวรรณภูมิ ลำดับที่ ๗ ในสมัยนี้ ไม่มีการแต่งตั้ง "อุปฮาด" และ "ราชบุตร" |
ว่าง | ว่าง | 2397 | 2401 | 4 | สืบเนื่องจากความขัดแย้งก่อนหน้า และการแต่งตั้ง "อุปฮาด" และ "ราชบุตร" มิได้ทันการณ์ ยังผลให้ หลัง พระรัตนวงษา (สาร) เสียชีวิต จึงไม่สามารถเสนอชื่อ บุคคคล เพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เป็น เจ้าเมืองสุวรรณภูมิ ได้ ถึง ๔ ปี |
10 | พระรัตนวงษา มหาราชเลน | 2401 | 2410 | 9 | พระรัตนวงษา มหาราชเลน เป็น บุตร ของ พระรัตนวงษา (อ่อน) และ มีศักดิ์ เป็น หลาน ของ พระขัติยวงษา (ทนต์) และมีศักดิ์เป็น เหลน ของ เจ้าแก้วมงคล 2402 คล้องได้ช้างเผือก “พระมหาศรีเสวตวิมลวรรณ” 2404 คล้องช้างเผือก “พระเศวตสุพรรณภาพรรณ” 2409 เกิดคดีปล้นจีนหอย บริเวณบ้านด่าน ( ปัจจุบัน ตำบลด่าน อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ เป็นเหตุให้เสียพื้นที่ บริเวณ ตำบลด่าน ให้แก่ แขวงเมืองมหาชนะชัย เมืองอุบลราชธานี 2410 สร้างวัดทุ่งลัฏฐิวัน โดยได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ. 2413 เขตวิสุงคามสีมา กว้าง 15 เมตร ยาว 30 เมตร ได้ผูกพัทธสีมาเมื่อ พ.ศ. 2413 มีที่ดินตั้งวัด เนื้อที่ 30 ไร่ 3 งาน 10 ตารางวา ตามส.ค. 1 เลขที่ 884-885-887 ปัจจุบันวัดนี้มีอายุการสร้าง 151 ปี |
11 | พระยารัตนวงษา มหาขัติยราช (คำผาย) | 2410 | 2420 | 10 | พระยารัตนวงษา มหาขัติยราช (คำผาย) เป็น บุตร ของพระรัตนวงษา (ภู) เป็น หลาน ของพระขัติยวงษา (ทนต์) และ เป็น เหลน ของ เจ้าแก้วมงคล แต่งตั้ง ท้าวคำสิงห์ เป็น "อุปฮาด" และ แต่งตั้ง ท้าวคำสอน เป็น "ราชบุตร" 2413 คล้องช้างพลายสีประหลาด “พระเสวตสุวรรณภาพรรณ” 2415 อุปฮาดเหง้า หรือ ท้าวสัง ขอแยก ตัวไป ตั้งบ้านดอนเสาโฮง เป็นเมืองเกษตรวิสัย หรือ อำเภอเกษตรวิสัย ในปัจจุบัน (ตั้งจริง ที่ บ้านกู่กระโดน) และรับการแต่งตั้งเป็น พระศรีเกษตราธิชัย เจ้าเมืองเกษตรวิสัยคนแรก ด้วยความดีความชอบ และการถวายช้างเผือก ต่อเนื่อง ในสมัยพระรัตนวงษา มหาราชเลน และ พระรัตนวงษา (คำผาย) จึงได้ โปรดเกล้าพระราชทานฯเลือนตำแหน่ง พระยศ เมือง เจ้าเมือง สุวรรณภูมิ จาก "พระรัตนวงษา" เป็น "พระยารัตนวงษา" ทั้งนี้ ปัจจุบัน รายนามช้างเผือก จำนวน 4 เชือก ที่เมืองสุวรรณภูมิ ได้ทูลเกล้าถวายฯ ได้ปรากฏและสลักเป็น จารึกไว้ ข้างพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง |
12 | พระยารัตนวงษา (คำสิงห์) | 2420 | 2428 | 8 | พระยารัตนวงษา (คำสิงห์) เป็น น้องชาย ของ พระยารัตนวงษา (คำผาย), เป็น บุตร ของ พรรัตนวงษา (ภู), เป็นหลาน ของ พระขัติยวงษา (ทนต์) และเป็น เหลน ของ เจ้าแก้วมงคล แต่งตั้ง ท้าวคำสอน เป็น "อุปฮาด" โดย ในสมัยนี้ มีการขอแยกตั้งบ้านเมือง มากมาย ทั้งเป็น เขตเมืองสุวรรณภูมิเดิม และ เป็นเมืองอื่น ๆ ที่มาตั้งเมือง แต่เกิดข้อพิพาทล่วงล้ำ เขตเมืองสุวรรณภูมิ อาทิ เมืองวาปีประทุม, เมืองราษีไศล, เมืองมหาชนะชัย, เมืองชุมพลบุรี และเป็นเห็นให้ เมืองสุวรรณภูมิ สูญเสียอาณาเขตเป็นจำนวนมาก จากการแพ้อรรถคดี เรื่อง การตั้งเมือง ดังกล่าว ปี 2421 หลวงรัตนวงษา (บุญตา) ขอแยกไปสร้าง บ้านโป่ง (ตั้งจริง เมืองแสน) เป็นเมืองพนมไพรแดนมฤค หรือ อำเภอพนมไพร และเป็น พระดำรงฤทธิไกร เจ้าเมืองคนแรก ให้ขึ้นเมืองสุวรรณภูมิ ปี 2422 ตั้งบ้านเมืองเสือ (ตั้งจริง บ้านนาข่า) เป็น “เมืองพยัคฆภูมิพิสัย” หรือ อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย ให้ขึ้นเมืองสุวรรณภูมิ ปี 2423 ยกบ้านโนนหินกอง เป็นเมืองราษีไศล หรือ อำเภอราษีไศล ขึ้นเมืองศรีสะเกษ ปี 2425 ขอตั้งบ้านเมืองหงษ์ (ตั้งจริง บ้านหัวช้าง) เป็นเมืองจตุรพักตริ์พิมาน หรือ อำเภอจตุรพักตรพิมาน ขึ้นเมืองสุวรรณภูมิ ปี 2425 แยกตั้งบ้านนาเลา เป็นเมือง”วาปีประทุม” หรือ อำเภอวาปีปทุม ในปัจจุบัน ขึ้นเมืองมหาสารคาม ปี 2426 ขอตั้ง บ้านทับค่าย เป็นเมือง “ชุมพลบุรี” หรือ อำเภอชุมพลบุรี ขึ้นเมืองสุรินทร์ |
13 | พระรัตนวงษา (คำสอน) | 2428 | 2439 | 11 | พระรัตนวงษา (คำสอน) เป็น น้องชาย ของ พระรัตนวงษา (คำสิงห์), บุตร พระรัตนวงษา (ภู), หลาน พระขัติยวงษา (ทนต์) เหลน ของ เจ้าแก้วมงคล พ.ศ. 2432 อุปฮาด (สุวรรณ) ราชวงษ์ แลกรมการเมืองพนมไพรแดนมฤค ขึ้นเมืองสุวรรณภูมิ มีความวิวาทบาดหมางกับอุปฮาดผู้รักษาเมืองสุวรรณภูมิ มิพอใจจะสมัครขึ้นกับเมืองสุวรรณภูมิ จึ่งพร้อมกันมีบอกไปยังพระพิเรนทรเทพ (ทองคำ) ข้าหลวงเมืองนครราชสิมา ขอสมัครขึ้นกับนครราชสิมา แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะเขตแขวงเมืองพนมไพรมิได้ติดต่อกับเขตแขวงนครราชสีมา ซึ่งจะเป็นทางสะดวกแก่การบังคับบัญชา ในปี 2432 อุปฮาดผู้รักษาเมือง และกรมการเมืองสุวรรณภูมิ มีบอกกล่าวโทษเมืองมหาสารคาม เมืองสุรินทร์ เมืองศรีสะเกษ ว่าแย่งชิงเขตแขวงเมืองสุวรรณภูมิไปขอตั้งเป็นเมืองขึ้น คือเมืองมหาสารคามขอบ้านนาเลาเปนเมืองวาปีประทุม (อำเภอวาปีปทุม) เมืองสุรินทร์ ขอ บ้านทัพค่าย เป็น เมืองชุมพลบุรี (อำเภอชุมพลบุรี) เมืองศรีสระเกษ ขอ บ้านโนนหินกอง เป็นเมืองอำเภอราษีไศล ได้โปรดเกล้า ฯ ให้ข้าหลวงนครจำปาสักและเมืองอุบลราชธานีไต่สวนว่ากล่าวในเรื่องนี้ ก็รื้อถอนไม่ไหวเพราะเหตุเมืองทั้งนี้ ได้โปรดเกล้า ฯ ให้ตั้งเป็นเมืองขึ้นของเมืองทั้งสามมาได้หลายปีแล้ว เป็นอันโปรดเกล้า ฯ ให้ตกลงคงเป็นเมืองขึ้นของเมืองทั้งสามอยู่ตามเดิม พ.ศ. 2433 พระดำรงฤทธิไกร (บุญตา) เจ้าเมืองพนมไพร (อำเภอพนมไพร) ซึ่งลงมา ณกรุงเทพฯ เพื่อจะขอเป็นเจ้าเมืองสุวรรณภูมิ มิสำเร็จ เลยป่วยพักรักษาตัวอยู่ ณ กรุงเทพ ฯ นั้น ครั้นอาการป่วยทุเลาแล้ว จึ่งกราบถวายบังคมลากลับบ้านเมือง ครั้นไปถึงเมืองนครราชสีมา กลับเป็นไข้หนักลงอิก ครั้นวันพฤหัสบดี แรม ๑๑ ค่ำ เดือน ๑๒ พระดำรงฤทธิไกร (บุญตา) ถึงแก่กรรม พ.ศ. 2434 ( รัตนโกสินทรศก ๑๐๙ ปีขาลโทศก จุลศักราช ๑๒๕๒) มีสารตราโปรดเกล้า ฯ ให้ปันหน้าที่ข้าหลวงเป็น ๔ กอง คือ ข้าหลวงนครจำปาศักดิ ได้บังคับราชการ แลชำระตัดสินความอุทธรณ์เร่งรัดเงินส่วย เมืองนครจำปาศักดิ ๑ เมืองเชียงแตง ๑ เมืองแสนปาง ๑ เมืองสีทันดร ๑ เมืองอัตปือ ๑ เมืองสาลวัน ๑ เมืองคำ ทองใหญ่ ๑ เมืองสุรินทร์ ๑ เมืองสังฆะ ๑ เมืองขุขันธ์ ๑ เมืองเดช อุดม ๑ รวมเมืองใหญ่ ๑๑ เมืองขึ้น ๒๑ เหล่านี้ ให้เรียกว่า "หัวเมืองลาวฝ่ายตะวันออก" ข้าหลวงเมืองอุบลราชธานี บังคับเมืองอุบล ๑ เมืองกาฬสินธุ์ ๑ เมืองสุวรรณภูมิ ๑ เมืองมหาสารคาม๑ เมืองร้อยเอ็ด ๑ เมืองภูแล่นช้าง ๑ เมืองกมลาไศรย ๑ เมืองยโสธร ๑ เมืองเขมราษฎร์ ๑ เมืองสองคอนดอนดง ๑ เมืองนอง ๑ เมืองศรีสระเกษ ๑ รวมเมืองใหญ่ ๑๒ เมืองเล็ก ๒๙ เหล่านี้ให้เรียกว่า "หัวเมืองลาวฝ่ายตะวันออกเฉียงเหนือ" ข้าหลวงเมืองหนองคาย บังคับเมืองหนองคาย ๑ เมืองเชียงขวาง ๑ เมืองบริคัณหนิคม ๑ เมืองโพนพิไสย ๑ เมืองไชยบุรี ๑ เมืองท่าอุเทน ๑ เมืองนครพนม ๑ เมืองสกลนคร ๑ เมืองมุกดาหาร ๑ เมืองกมุทาไสย ๑ เมืองบุรีรัมย์ ๑ เมืองหนองหาร ๑ เมืองขอนแก่น ๑ เมืองคำเกิด ๑ เมืองคำมวน ๑ เมืองหล่มศักดิ ๑ รวมเมืองใหญ่ ๑๖ เมืองขึ้น ๓๖ เหล่านี้ ให้เรียกว่า "เมืองลาวฝ่ายเหนือ" ข้าหลวงเมืองนครราชสิมา บังคับเมืองนครราชสิมา ๑ เมืองชนบท ๑ เมืองภูเขียว ๑ รวมเมืองใหญ่ ๑ เมืองขึ้น ๑๒ เหล่านี้ ให้เรียกว่า "หัวเมืองลาวกลาง" พ.ศ. 2435 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากร เป็นข้าหลวงใหญ่ พร้อมด้วยข้าราชการฝ่ายทหารพลเรือนออกไปตั้งรักษาอยู่ ณ เมืองนครจำปาศักดิกอง หนึ่ง ให้เรียกว่าข้าหลวงหัวเมืองลาวกาว โดยให้เมืองนครจำปาศักดิ เมืองเชียงแตง (จังหวัดสตึงแตรง) เมืองแสนปาง เมืองสีทันดร เมืองสาละวัน เมืองอัตตะปือ เมืองคำทองใหญ่ เมืองสุรินทร์ เมืองสังฆะ (อำเภอสังขะ) เมืองขุขันธ์ เมืองเดชอุดม เมืองศรีสระเกษ เมืองอุบล เมืองยโสธร เมืองเขมราษฎร์ (อำเภอเขมราฐ) เมืองกมลาไศรย (อำเภอกมลาไสย) เมืองกาฬสินธุ์ เมืองภูแล่นช้าง เมืองสุวรรณภูมิ เมืองร้อยเอ็ด เมืองมหาสารคาม เมืองใหญ่ ๒๑ เมือง ขึ้น ๔๓ เมือง อยู่ในบังคับบัญชาข้าหลวงเมืองลาวกาว ปี 2435 มีตราลงวันที่ 28 พฤศจิกายน ว่าท้าวสิลารับการตำแหน่ง พระศรีเกษตราธิไชย ผู้รักษาราชการเมืองเกษตรวิไสย เมืองขึ้นเมืองสุวรรณภูมิ มีบอกส่งบัญชีสัมโนครัวมายังกรุงเทพฯ ข้ามเมืองสุวรรณภูมิเมืองใหญ่ มีความผิด ให้ข้าหลวงเมืองอุบล เรียกตัวมาว่ากล่าวภาคทัณฑ์อย่าให้ทำต่อไป ปี 2435 โปรดเกล้าฯ ให้ จมื่นศักดิ์บริบาล นายร้อยโทเล็ก เป็นข้าหลวงเมืองสุวรรณภูมิ ปี 2436 กรมไปรษนีย์โทรเลขได้จัดให้มิสเตอร์โทมัศปาเมอ มิศเตอร์แมกสมูลเลอ มิศเตอร์วิลเลียม ไปจัดตั้งไปรษนีย์ตามหัวเมืองในมณฑลลาวกาว คือเมืองเขมราษฎร์ เมืองอุบล เมืองพิมูลมังษาหาร ด่านปากมูล เมืองปาศักดิเก่า เมืองนครจำปาศักดิ เมืองเดชอุดม เมืองขุขันธ์ เมืองศรีสระเกษ เมืองสังฆะ เมืองสุรินทร์ เมืองสุวรรณภูมิ ไปต่อกับหัวเมืองในมณฑลลาวกลางมากรุงเทพ ฯ กำหนดเดินอาทิตย์ละครั้ง ปี 2437 รัตนโกสินทรศก 112 วันที่ 2 เมษายน ฝรั่งเศสก็ยกกระบวนทัพล่วงเข้ามาถึงเมืองเชียงแตง บังคับขับไล่หลวงพิพิธสุนทร (อิน) แลนายร้อยโทคร้ามข้าหลวงกับทหาร 12 คน ซึ่งอยู่รักษาเมืองเชียงแตงให้ข้ามไปอยู่ ณ เมืองธาราบริวัตร ฝั่งโขงตะวันตกโดย อ้างเหตุว่า ดินแดนในฝั่งโขงตะวันออกแลเกาะดอนในลำน้ำโขงเป็นเขตรแขวงของญวนซึ่งอยู่ในบำรุงฝรั่งเศส เวลานั้นพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากร ข้าหลวงใหญ่หัวเมืองลาวกาว ซึ่งประทับอยู่ณเมืองอุบล เมื่อได้ทรงทราบว่าฝรั่งเศส แสดงเปนอมิตรขึ้นดังนั้นแล้ว จึ่งได้โปรดให้เกณฑ์กำลังเมืองศรีสระเกษ เมืองขุขันธ์ เมืองสุรินทร์ เมืองมหาสารคาม เมืองร้อยเอ็ด เมืองละ 800 คน แลเมืองสุวรรณภูมิ เมืองยโสธร เมืองละ 500 คน แลให้เกณฑ์เมืองขุขันธ์อิก 500 คน ให้พระศรีพิทักษ์ (หว่าง) ข้า หลวงเมืองขุขันธ์คุมไปตั้งรักษาอยู่ณเมืองมโนไพร แลเมืองเซลำเภา โปรดให้หลวงเทพนรินทร์ (วัน) ซึ่งกลับจากน่าที่เมืองตะโปนไปเปนข้าหลวงแทนพระศรีพิทักษ์อยู่เมืองขุขันธ์ แลให้นายสุจินดา ขุนอินทรประสาท (กอน) นายร้อยตรีคล้าย นายร้อยตรีโชติ คุมทหาร 100 คน แลกำลัง 500 คน พร้อมด้วยสาตราวุธ เปนทัพน่า รีบยกออกจากเมืองอุบลแต่วันที่ 10 เมษายน ลงไปสมทบช่วยพระประชาณเมืองสีทันดร แลโปรดให้เมืองใหญ่ทุกเมืองในลาวกาวเรียกคนพร้อมด้วยสาตราวุธ มาเตรียมไว้กับบ้านเมือง ๆ ละ 1000 คน วันที่ 20 พฤษภาคม 2437 พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากร โปรดให้อุปฮาด (อำคา) เมืองสุวรรณภูมิ 1 พระศรีเกษตราธิไชย (ศิลา) ผู้ว่าราชการเมืองเกษตรวิไสย 1 คุมคนเมืองสุวรรณภูมิ 500 แลให้พระสุนทรพิพิธ ผู้ว่าราชการเมืองโกสุม 1 หลวงจำนงวิไชย ผู้ช่วยเมืองร้อยเอ็ด 1 คุมคนมหาสารคาม แลร้อยเอ็ด 300 รวม 800 ยกออกจากเมืองอุบลไปช่วยพระประชาณค่ายดอนสาคร วันที่ 2 มิถุนายน 2437 กรมหลวงพิชิตปรีชากร โปรดให้พระสิทธิศักดิสมุทเขตร (บุษย์) เปนข้าหลวงบังคับเมืองมหาสารคาม เมืองร้อยเอ็ด เมืองสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ ณ เมืองมหาสารคาม ให้พระดุษฎีตุลกิจ (สง) ข้าหลวงเมืองสุวรรณภูมิ ไปช่วย พระสิทธิศักดิ อยู่ ณ เมืองมหาสารคาม ถอน นายร้อยตรีพรหม ข้าหลวงเมืองมหาสารคาม มาอยู่เมืองสุวรรณภูมิ วันที่ 24 ตุลาคม 2437 พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากร โปรดให้พระณรงค์วิชิต (เลื่อน) เปนข้าหลวงตรวจจัดราชการเมืองกาฬสินธุ์ กมลาไศรย ภูแล่นช้าง เมืองร้อยเอ็ด เมืองสุวรรณภูมิ เมืองมหาสารคาม วันที่ 4 พฤศจิกายน 2437 โปรดให้ขุนอาสาสงคราม (สวน) ไป เปนข้าหลวงช่วยนายร้อยตรีพรหมอยู่ ณ เมืองสุวรรณภูมิ |
14 | พระรัตนวงษา (อำคา) | 2439 | 2443 | 5 | ปี 2442 รัชกาลที่ ๕ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ยกเลิก ตำแหน่ง เจ้าเมือง ปี 2543 เปลี่ยนตำแหน่ง เจ้าเมือง เป็น ผู้ว่าราชการเมือง, อุปฮาด เป็น ปลัดเมือง, ราชวงษ์ เป็น มหาดไทยเมือง และ ราชบุตร เป็น ยกกระบัตรเมือง |
15 | พระศรีเกษตราธิไชย (สีลา) | 2443 | 2444 | 1 | พระศรีเกษตราธิไชย (สีลา) เป็น เจ้าเมืองเกษตรวิสัย แต่เดิม ด้วย การยุบ ยกเลิก หัวเมืองต่าง ๆ จึง โปรดเกล้าฯ ให้ พระศรีเกษตราธิไชย มารักษาราชการ ผู้ว่าราชการเมืองสุวรรณภูมิ ท่านแรก ก่อนจะมีการแต่งตั้ง ผู้ว่าราชการเมือง จาก ส่วนกลาง ทั้งนี้ พระศรีเกษตราธิไชย (สีลา) เป็น บุตร ของ พระศรีเกษตราธิไชย (สัง) เจ้าเมืองเกษตรวิสัย ท่านแรก และ เป็น หลานของพระรัตนวงศา มหาราชเลน เจ้าเมืองสุวรรณภูมิ ลำดับที่ ๑๐ เป็น หลาน ของ พระรัตนวงษา (อ่อน) เจ้าเมืองสุวรรณภูมิ ลำดับที่ ๖ และ เป็นเหลน ของพระขัติยวงษา (ทนต์) เจ้าเมืองร้อยเอ็ด ท่านแรก และ เป็น ลื่อ ของ เจ้าแก้วมงคล ปัจจุบัน ทายาท ของ พระศรีเกษตราธิไชย สืบเชื่อสายตรงในนามสกุล "สังขศิลา" |
16 | ขุนมัณฑลานุการ (ชม) | 2445 | 2446 | 1 | ขุนมัณฑลานุการ (ชม) รักษาราชการ ในตำแหน่ง ผู้ว่าราชการเมืองสุวรรณภูมิ ในระหว่างนี้ เกิด กบฏผู้มีบุญ ทาง ผู้วาราชการเมืองสุวรรณภูมิ ได้เกณฑ์ไพร่พล ประชาชน จำนวน 1,000 คนเศษ พร้อมอาวุธ ปืนคาบศิลาอย่างเก่า ปืนสไนเดอร์ ปืนแมลิคอร์ ทำการปราบปรามและจับกุมผีบุญ ได้อย่างราบคาบ |
17 | ญาพ่อเมืองแพน (ต้นสกุล วลัยศรี) | 2446 | 2451 | 5 | วันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2446 ( ร.ศ. 121 ) พระครูสุพรรณภูมิคณาจารย์ ( พระหลักคำเมือง ) เจ้าคณะเมืองสุวรรณภูมิ ถึงแก่มรณภาพ ด้วยอาพาธ เป็นไข้ โดย พระครูสุพรรณภูมิคณาจารย์ เป็นเจ้าอาวาส วัดไตรภูมิคณาจารย์ บ้านตากแดด เมืองสุวรรณภูมิ ญาพ่อเมืองแพน ดำรงตำแหน่ง ยกกระบัตรเมือง รักษาการในตำแหน่ง ผู้ว่าราชการเมืองสุวรรณภูมิ จนกระทั่งปี 2451 กระทรวงมหาดไทย ได้ปรับปรุงลักษรณการปกครองท้องที่ ยุบเมืองสุวรรณภูมิ เป็น อำเภอสุวรรณภูมิ และยุบมณฑลร้อยเอ็ด เป็น จังหวัดร้อยเอ็ด ให้ อำเภอสุวรรณภูมิ ขึ้นกับจังหวัดร้อยเอ็ด นับแต่นั้นมา ในปี 2451 ภายหลังมีการยุบเมืองสุวรรณภูมิ เป็น อำเภอสุวรรณภูมิ แล้วนั้น เมืองที่เคยขึ้นต่อ เมืองสุวรรณภูมิ ได้ยุบ เป็นอำเภอ และโอนย้ายไปสังกัด จังหวัดต่าง ๆ ดังนี้ เมืองพยัคฆภูมิพิสัย ยุบเป็น อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย ให้ขึ้น จังหวัดมหาสารคาม เมืองเกษตรวิสัย ยุบเป็น อำเภอเกษตรวิสัย, เมืองพนมไพรแดนมฤค ยุบเป็น อำเภอพนมไพร, เมืองจุตรพักตร์พิมาน ยุบเป็น อำเภอจตุรพักตรพิมาน ทั้งสามอำเภอ ให้ขึ้นกับ จังหวัดร้อยเอ็ด |
ลำดับนายอำเภอสุวรรณภูมิ (หลังปี พ.ศ. 2451)
การนับตำแหน่งนายอำเภอนับจากปี พ.ศ. 2451 นั้น จะใช้ลำดับที่ 1 ใหม่ เนื่องจากผู้ว่าราชการเมืองของเมืองชั้นเอกมีฐานะเทียบเท่า "ผู้ว่าราชการจังหวัด" ภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงและยุบฐานะเมืองเป็นอำเภอ และตำแหน่ง "ผู้ว่าราชการจังหวัด" เป็น "นายอำเภอ" ดังนั้นจึงนับลำดับใหม่
ลำดับที่ | นายอำเภอ | ปีเริ่ม - ปีสิ้นสุด | จำนวนปี | เหตุการณ์สำคัญ/อื่น ๆ |
---|---|---|---|---|
1 | หลวงประชาชนบาล | 2451 - 2455 | 4 | 2454 ตั้งโรงเรียนประชาบาล ต่อมาคือ โรงเรียนเมืองสุวรรณภูมิ อาศัยศาลาวัดเหนือเป็นสถานศึกษา เปิดทำการสอนตั้งแต่ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 |
2 | พระรัตนวงษา (ก่อนหน้า หลวงประจำจันทรเขตร) (น้อย) ลิวิสิทธิ์ | 2455 - 2463 | 8 | 2456 ยกฐานะโรงเรียนประชาบาล เป็น โรงเรียนรัฐบาล "โรงเรียนสุวรรณภูมิพิทยไพศาล" ภายหลังยุบเป็นโรงเรียนประชาบาล ในปี 2465 ก่อนเป็น โรงเรียนเมืองสุวรรณภูมิ |
3 | ขุนสกลรักษา (เชย สุขสุคนธ์) | 2463 | 1 | |
4 | หลวงประสาสน์ โสภณ (ร.ท.อุ่ม ภมรสูตร) | 2463 - 2473 | 10 | ในระหว่างพ.ศ 2463-2473 หลวงประสาสน์โสภณ (อุ่น ภมรสูตร) ซึ่งดำรงตำแหน่งมายอำเภอสุวรรณภูมิสมัยนั้นได้ริเริ่มสร้างสุขศาลาขึ้นบริเวณหน้าตลาดสด บริเวณธนาคารออมสินปัจจุบันมีพื้นที่ 61 ไร่ มีเจ้าหน้าที่มหาดไทยเป็นผู้ดูแลดำเนินการ ต่อมาทางราชการได้บรรจุผู้ช่วยแพทย์ ชื่อ นาย ช. สายเชื้อ มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าสุขศาลาสุวรรณภูมิเป็นคนแรก ปี 2467 เมืองแพน วลัยศรี ( ผู้รักษาการตำแหน่งผู้ว่าราชการเมืองสุวรรณภูมิ ท่านสุดท้าย ) ร่วมกับคณะ ทำการบูรณะอุโบสถ และประติสังขรณ์ ปิดทององค์พระพุทธรูป วัดใต้วิไลธรรม โดยว่าจ้างช่างชาวญวน คือ นายจาง และนายฮาย เป็นผู้ก่อสร้าง รวมทั้ง มีการวาดภาพจิตรกรรม โดย นายโสม โดยหลวงประสาศน์ โสภณ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และ พระธรรมสุนทรอบภิรม พระอธิการ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ซึ่งยังคงปรากฏหลักฐานการบันทึกและภาพวาด อุโบสถ ณ วัดใต้วิไลธรรม จนปัจจุบัน ในปี พ.ศ. 2469 อำมาตย์เอกพระยาสุนทรเทพกิจจารักษ์ (ทอง จันทรางศุ) ข้าหลวงจังหวัดร้อยเอ็ดเห็นว่าบึงพลาญชัย (เดิมใช้ว่าบึงพระลานชัย) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองร้อยเอ็ดตื้นเขิน ถ้าปล่อยทิ้งไว้บึงก็จะหมดสภาพไป จึงได้ชักชวนชาวบ้านจากทุกอำเภอมาขุดลอกบึง เพื่อให้มีน้ำขังอยู่ได้ตลอดปี ได้ดำเนินการขุดลอกบึงทั้งกลางวันและกลางคืนอยู่ 2 ปี มีชาวบ้านมาร่วมขุดลอกบึงถึง 40,000 คน |
5 | หลวงชาญรัฐกิจ (เชย พลาศรัย) | 2473 - 2476 | 3 | |
6 | ขุนประเสริฐสรรพกิจ (วิเชียร วงศ์แก้ว) | 2476 - 2479 | 3 | 16 พฤศจิกายน 2476 การเลือกตั้งครั้งแรกของประเทศสยาม โดย จังหวัดร้อยเอ็ด เป็ย เขตเลือกตั้งเดียว มีผู้แทนราษฎร ได้ จำนวน 2 คน แบ่งการปกครองเป็นจังหวัด มีจังหวัดทั้งสิ้น 70 จังหวัด ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475 แล้ว สามารถเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ประเภทที่หนึ่ง ได้ทั้งหมด 78 คน โดยส่วนใหญ่จะสามารถเลือกผู้แทนฯได้จังหวัดละคน มีบางจังหวัดที่มีผู้แทนฯได้มากกว่าหนึ่งคน ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่, จังหวัดร้อยเอ็ด, จังหวัดมหาสารคาม, จังหวัดนครราชสีมา มีผู้แทนฯได้ 2 คน ขณะที่จังหวัดพระนครและจังหวัดอุบลราชธานี มีผู้แทนฯได้ 3 คน ซึ่งขณะนั้นรัฐธรรมนูญกำหนดอัตราประชากร 200,000 คนต่อการมีผู้แทนฯได้หนึ่งคน โดยผู้แทนราษฎรจังหวัดร้อยเอ็ด ในการเลิอกตั้งครั้งแรก คือ พันโทพระไพศาลเวชกรรม (สวาสดิ์ โสมเกษตริน) และ จ่านายสิบขุนเสนาสัสดี (ถั่ง ทองทวี) |
7 | นายโสภณ อัศดร (เงก สาตะมัย) | 2479 - 2487 | 8 | |
8 | ร้อยโท ถวิล ธนสีลังกูร | 2487 - 2490 | 3 | ย้ายที่ว่าการอำเภอ ไป ดงป่าก่อ (ปัจจุบัน) |
9 | นายส่ง ศุภโตษะ | 2490 | 1 | |
10 | นายสีขร สีขรภูมานุรักษ์ | 2490 - 2491 | 1 | |
11 | นายเอิบ กลิ่นอุบล | 16 ธ.ค. 2491 - 2493 | 2 | ตั้งตำบลทุ่งหลวง (แยกจากตำบลสระคู) ตำบลหัวโทน (แยกจากตำบลน้ำคำ) ตำบลหินกอง (แยกจากตำบลสระคู) และตำบลบ่อพันขัน ( แยกออกจากตำบลเปลือย ) |
12 | ร้อยตรีสุวรรณ โรจนวิภาดา | 27 มิ.ย. 2493 - 2495 | 2 | พ.ศ. 2493 จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้ประกาศขนานนามทางหลวงแผ่นดินให้เป็นเกียรติแก่ผู้มีส่วนประกอบคุณงามความดีต่อประเทศ ในราชกิจจานุเบกษา 12 ธันวาคม 2493 ทางหลวงแผ่นดินสาย ร้อยเอ็ด- สุวรรณภูมิ - สุรินทร์ (ทางหลวงหมายเลข 214) ให้ขนานนามว่า ถนน “ปัทมานนท์” เพื่อเป็นเกียรติแก่ นายวีรพล ปัทมานนท์ อดีตนายช่างกำกับหมวดการทางสุรินทร์ และ ทางหลวงแผ่นดินสาย สุวรรณภูมิ - ยะโสธร- อำนาจเจริญ ให้ขนานนามว่า ถนน “อรุณประเสริฐ” เพื่อเป็นเกียรติแก่ นายจำปี อรุณประเสิรฐ นายช่างกำกับแขวง |
13 | นายสวัสดิ์ พรหมดิเรก | 8 ก.ค. 2495 - 15 มี.ค. 2498 | 2 ปี 8 เดือน | 2497 ก่อตั้ง “โรงเรียนสุวรรณภูมิ” ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2497 เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาโดยอาศัยอาคารเรียนชั่วคราวโรงเรียนบ้านสุวรรณภูมิ (โรงเรียนเมืองสุวรรณภูมิ ปัจจุบัน) เป็นสถานที่เรียนชั่วคราว และในปี 2551 เปลี่ยนชื่อ เป็น |
14 | นายเสถียร นาครวาจา | 23 มี.ค. 2498 - 24 ก.ค. 2499 | 1 ปี 4 เดือน | |
15 | นายสาคร เพชรวิเศษ | 29 ก.ค. 2499 - 13 ก.ค. 2503 | 4 ปี | พ.ศ. 2499 ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการจัดตั้งสุขาภิบาลตำบลสระคู อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 18 เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2499 (ราชกิจจานุเบกษา ฉบับพิเศษ หน้า 54 เล่ม 37 ตอนที่ 60 วันที่ 3 สิงหาคม 2499) พ.ศ. 2503 ตั้งโรงเรียนประชาบาล ต่อมาเป็นโรงเรียนเมืองใหม่สุวรรณภูมิ และ โรงเรียนอนุบาลเมืองใหม่สุวรรณภูมิ ต่อมา |
16 | นายประเสริฐ เทศประสิทธิ์ | 13 ก.ค. 2503 - 30 พ.ย. 2504 | 1 ปี 4 เดือน | |
17 | นายเฉียบ สมุทระกระพงศ์ | 16 ธ.ค. 2504 - 30 ก.ย. 2508 | 3 ปี 9 เดือน | ตั้งตำบลโพนทราย โดยแยกหมู่บ้าน จากตำบลสามขา อำเภอสุวรรณภูมิ เป็น ตำบลโพนทราย ใน วันที่ 4 มีนาคม 2508 |
18 | นายสุวรรณ สุภาผล | 10 ต.ค. 2508 - 26 พ.ค. 2514 | 5 ปี 8 เดือน | ปี 2509 กรมไปรษณีย์โทรเลข เปิดที่ทำการไปรษณีย์โทรเลขสุวรรณภูมิ โดยเปิดพร้อมกัน กับ บึงกาฬ จังหวัดหนองคาย, กันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ และ เขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ตั้งตำบลเมืองทุ่ง โดยแยกหมู่บ้าน จาก ตำบลสระคู จำนวน 12 หมู่บ้าน มีผลในวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2509 ตั้งตำบลคูเมือง โดย แยกหมู่บ้าน จากตำบลหนองผือ อำเภอสุวรรณภูมิ 5 หมู่บ้าน และ หมู่บ้านจากตำบลสงยาง อำเภอสุวรรณภูมิ 4 หมู่บ้าน รวมเป็น 9 หมู่บ้าน เป็น ตำบลคูเมือง ขึ้นอำเภอสุวรรณภูมิ ณ วันที่ 11 เมษายน 2510 |
19 | นายประจวบ ศริ | 27 พ.ค. 2514 - 1 ก.ย. 2516 | 2 ปี 4 เดือน | 29 มิถุนายน 2515 กรมสามัญศึกษาได้อนุมัติให้ตั้งโรงเรียนสุวรรณภูมิพิทยไพศาลขึ้น โดยชื่อเริ่มก่อตั้งคือ “โรงเรียนศรีสุวรรณภูมิพิทยา” ( คนทั่วไปจึงมักเรียกว่าโรงเรียนศรี ) โดยใช้อาคารเรียนของโรงเรียนสุวรรณภูมิ (ปัจจุบันคือ ) เป็นสถานที่ในการเรียน โดยมีนายเอิบ (มนตรี) จันทรสนาม รักษาการณ์ในตำแหน่งครูใหญ่ และทำการย้ายมาสถานที่ปัจจุบันในปี พ.ศ. 2516 มีพื้นที่ 72 ไร่ และเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนสุวรรณภูมิพิทยไพศาล 7 กันยายน 2514 ตั้งตำบลดอกไม้ โดยแยกหมู่บ้านจาก ตำบลสงยาง อำเภอสุวรรณภูมิ 8 หมู่บ้าน และ จากตำบลสระคู 2 หมู่บ้าน รวมเป็น 10 หมู่บ้าน ขึ้นเป็นตำบลดอกไม้ |
20 | นายสงวน วัฒนานันท์ | 1 ก.ย. 2516 - 12 พ.ค. 2520 | 3 ปี 8 เดือน | วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2516 กระทรวงมหาดไทย (โดยนายพ่วง สุวรรณรัฐ) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ประกาศจัดตั้งเป็นกิ่งอำเภอเมืองสรวง และได้รับอนุมัติเมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2516 โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 90 ตอนที่ 26 หน้าที่ 817 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2516 ประกอบด้วย 3 ตำบล คือ ตำบลหนองผือ ตำบลหนองหิน และตำบลคูเมือง (แยกสามตำบล จากอำเภอสุวรรณภูมิ) ส่วนราชการต่าง ๆ ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่มาปฏิบัติงานในวันที่ 1 เมษายน 2516 พ.ศ. 2512-2518 กลุ่มผู้นำท้องถิ่น นำโดยกำนันสุนีย์ พวงจันทร์และสภาตำบลโพนทรายเห็นว่าการไปติดต่อราชการที่อำเภอสุวรรณภูมิไม่สะดวกเป็นอย่างมาก จึงได้มีการเคลี่อนไหวเรียกร้องขอยกฐานะเป็นอำเภอเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎร จนกระทั่งใน ปี พ.ศ. 2519 จึงได้มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งเป็น กิ่งอำเภอโพนทราย |
21 | นายจำรูญ บุญโทแสง | 20 พ.ค. 2520 - 30 ก.ย. 2522 | 2 ปี 4 เดือน | ปี พ.ศ. 2522 ได้มีพระราชกฤษฎีกาตั้งอำเภอเมืองสรวง โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา (ฉบับพิเศษ) เล่มที่ 96 ตอนที่ 42 หน้าที่ 22 ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2522 ยกฐานะกิ่งอำเภอเมืองสรวง ขึ้นเป็น อำเภอเมืองสรวง มีผลตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2522 (โดย ส. โหตระกิตย์) รองนายกรัฐมนตรี |
22 | นายพงษ์เพชร ชูจินดา | 12 ต.ค. 2522 - 23 พ.ย. 2522 | 2 เดือน 11 วัน | |
23 | นายพิสุทธิ์ ฟังเสนาะ | 24 ก.ย. 2522 - 23 ก.ย. 2525 | 2 ปี | |
24 | นายวิรุณ ทิพากร | 24 พ.ย. 2525 - 7 ต.ค. 2527 | 1 ปี 10 เดือน | |
25 | นายกิจจารักษ์ ชุ่มชื่น | 7 ต.ค. 2527 - 15 ม.ค. 2530 | 2 ปี 4 เดือน | |
26 | นายเสรี ทวีวัฒน์ | 16 ม.ค. 2530 - 2 ก.ค. 2533 | 3 ปี 6 เดือน | ปี พ.ศ. 2532 ได้มีพระราชกฤษฎีกายกฐานะเป็น อำเภอโพนทราย เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2532 โดยแยกตำบลโพนทราย ตำบลสามขา ตำบลศรีสว่าง ตำบลยางคำ โดยมีนายสุภาพ จันทร์ภิรมย์ เป็นสมาชิกสภาจังหวัด (สจ.) คนแรก จากอำเภอโพนทราย ในปี พ.ศ. 2533 |
27 | นายณรงค์ หรือโอภาส | 2 ก.ค. 2533 - 17 ต.ค. 2537 | 4 ปี 3 เดือน | |
28 | นายพนม นันทวิสิทธิ์ | 17 ต.ค. 2537 - 14 ต.ค. 2539 | 2 ปี | |
29 | นายธนู สุขฉายา | 14 ต.ค. 2539 - 19 พ.ค. 2540 | 7 เดือน | |
30 | นายปรีชา กาญจนวาปสถิตย์ | 19 พ.ค. 2540 - 9 พ.ย. 2540 | 6 เดือน | พ.ศ. 2540 กระทรวงศึกษาธิการ จัดตั้ง "วิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ด 2" ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2540 โดย กรมอาชีวศึกษาได้สั่งให้ข้าราชการสังกัดวิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ดจำนวน 3 คน ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงาน และผู้ช่วยผู้ประสานงานการจัดตั้งวิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ดแห่งที่ 2 ดังนี้ นายชำนาญ เชิงสะอาด, นายจำเนียร สุธิมาธรรม, นายจิตรกร จันทร์เสละ |
31 | นายอำนวย จันทน์อาภรณ์ | 10 พ.ย. 2540 - 1 พ.ย. 2541 | 1 ปี | |
32 | นายรังสรรค์ เพียรอดวงษ์ | 2 พ.ย. 2541 - 16 ต.ค. 2543 | 1 ปี 11 เดือน | พ.ศ. 2542 พระราชบัญญัติเปลี่ยนแปลงฐานะสุขาภิบาลเป็นเทศบาล พ.ศ. 2542 ยกฐานะสุขาภิบาลสระคู เป็น "เทศบาลตำบลสระคู" เมื่อวันที่ 25 เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2542 พ.ศ. 2543 ในวันที่ 1 ตุลาคม 2543 กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศเปลี่ยนชื่อ วิทยาลัยฯ จากวิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ดแห่งที่ 2 เป็น "วิทยาลัยเทคนิคสุวรรณภูมิ" |
33 | นายอุไร หล่าสกุล | 27 พ.ย. 2543 - 30 ก.ย. 2545 | 1 ปี 10 เดือน | |
34 | นายชูศักดิ์ สุทธิประภา | 16 ธ.ค. 2545 - 30 ก.ย. 2547 | 1 ปี 9 เดือน | |
35 | นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ | 1 พ.ย. 2547 - 11 ธ.ค. 2549 | 2 ปี 1 เดือน | พ.ศ. 2549 เปลี่ยนแปลงชื่อจากเทศบาลตำบลสระคูเป็นเทศบาลตำบลสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 27 เดือนมีนาคม พ.ศ. 2549 มีพื้นที่ 6.8 ตารางกิโลเมตร |
36 | นายนะริทธิ์ ไชยะชน | 8 ม.ค. 2550 - 23 ต.ค. 2550 | 9 เดือน | |
37 | นายผดุงศักดิ์ ไชยอาลา | 24 ต.ค. 2550 - 30 ก.ย. 2552 | 1 ปี 11 เดือน | |
38 | นายอานนท์ ศรีรัตน์ | 25 ม.ค. 2553 - 12 ธ.ค. 2554 | 1 ปี 11 เดือน | |
39 | นายเลิศสิน จึงจรัสทรัพย์ | 13 ธ.ค. 2554 - 30 ก.ย. 2556 | 1 ปี 9 เดือน | |
40 | นายปณิธาน สุนารัตน์ | 16 ธ.ค. 2556 - 30 ก.ย. 2558 | 1 ปี 9 เดือน | |
41 | นายสุธี เล้าสุบินประเสริฐ | 16 พ.ย. 2558 - 6 พ.ย. 2559 | 1 ปี | |
42 | นายวัยวุฒิ อาศรัยผล | 7 พ.ย. 2559 - 30 ก.ย. 2561 | 2 ปี | พ.ศ. 2559 โครงการจัดตั้ง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตร้อยเอ็ด เป็นโครงการจัดตั้ง วิทยาเขตในสังกัดมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน โดยหลอมรวมวิทยาลัยเทคนิคสุวรรณภูมิ กับ โครงการจัดตั้งวิทยาเขตร้อยเอ็ด ตั้งอยู่ บริเวณทุ่งกุลาร้องไห้ อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด |
43 | นายธนิตย์ พันธ์หินกอง | 8 พ.ย. 2561 - 6 เม.ย. 2563 | 1 ปี 5 เดือน 2 วัน | |
44 | นายณรงค์ศักดิ์ สบาย | 7 เม.ย. 2563 - 30 ก.ย. 2563 | 6 เดือน | |
45 | นายโชคชัย วัฒนกูล | มีนาคม 2564 - ปัจจุบัน |
ที่ตั้งและอาณาเขต
อำเภอสุวรรณภูมิตั้งอยู่ทางทิศใต้ของจังหวัด มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงดังต่อไปนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอเมืองสรวง และอำเภออาจสามารถ
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอพนมไพร อำเภอหนองฮี และอำเภอโพนทราย
- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอรัตนบุรี และอำเภอท่าตูม (จังหวัดสุรินทร์)
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอเกษตรวิสัย
การแบ่งเขตการปกครอง
การปกครองส่วนภูมิภาค
อำเภอสุวรรณภูมิแบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 15 ตำบล 199 หมู่บ้าน ได้แก่
ลำดับ | อักษรไทย | อักษรโรมัน | หมู่บ้าน | ประชากร |
---|---|---|---|---|
1. | สระคู | Sa Khu | 21 | 20,239 |
2. | ดอกไม้ | Dok Mai | 14 | 6,172 |
3. | นาใหญ่ | Na Yai | 15 | 7,822 |
4. | หินกอง | Hin Kong | 16 | 9,352 |
5. | เมืองทุ่ง | Mueang Thung | 8 | 5,177 |
6. | หัวโทน | Hua Thon | 12 | 5,331 |
7. | บ่อพันขัน | Bo Phan Khan | 9 | 4,556 |
8. | ทุ่งหลวง | Thung Luang | 15 | 7,955 |
9. | หัวช้าง | Hua Chang | 12 | 6,276 |
2543. | น้ำคำ | Nam Kham | 16 | 9,498 |
11. | ห้วยหินลาด | Huai Hin Lat | 12 | 5,554 |
12. | ช้างเผือก | Chang Phueak | 11 | 6,810 |
13. | ทุ่งกุลา | Thung Kula | 14 | 7,169 |
14. | ทุ่งศรีเมือง | Thung Si Mueang | 12 | 7,441 |
15. | จำปาขัน | Champa Khan | 12 | 6,691 |
รวม | 199 | 116,043 |
- ข้อมูลวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2562
การปกครองส่วนท้องถิ่น
ท้องที่อำเภอสุวรรณภูมิประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 16 แห่ง ได้แก่
- ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลสระคู
- เทศบาลตำบลจำปาขัน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลจำปาขันทั้งตำบล
- เทศบาลตำบลหินกอง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหินกองทั้งตำบล
- เทศบาลตำบลทุ่งกุลา ครอบคลุมพื้นที่ตำบลทุ่งกุลาทั้งตำบล
- เทศบาลตำบลทุ่งหลวง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลทุ่งหลวงทั้งตำบล
- เทศบาลตำบลดอกไม้ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลดอกไม้ทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลสระคู ครอบคลุมพื้นที่ตำบลสระคู (นอกเขตเทศบาลตำบลสุวรรณภูมิ)
- องค์การบริหารส่วนตำบลนาใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลนาใหญ่ทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลเมืองทุ่ง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลเมืองทุ่งทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลหัวโทน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหัวโทนทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลบ่อพันขัน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ่อพันขันทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลหัวช้าง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหัวช้างทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลน้ำคำ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลน้ำคำทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยหินลาด ครอบคลุมพื้นที่ตำบลห้วยหินลาดทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลช้างเผือก ครอบคลุมพื้นที่ตำบลช้างเผือกทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งศรีเมือง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลทุ่งศรีเมืองทั้งตำบล
ประชากร
ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพหลัก คือ เกษตรกรรม รับจ้างทั่วไป และมีอาชีพเสริมอื่น ๆ เช่น เลี้ยงสัตว์ รวมกลุ่มทำสินค้าหัตถกรรม และ โดยมีซึ่งลำน้ำสายสำคัญที่หล่อเลี้ยงชาวบ้านมีหลายสาย คือ และ
วัด
วัดที่สำคัญในเขตเทศบาลตำบลสุวรรณภูมิ อำเภอสุวรรณภูมิมีดังต่อไปนี้
สถานศึกษา
ระดับวิทยาลัย โรงเรียนระดับมัธยมศึกษาที่สำคัญในเขตอำเภอสุวรรณภูมิมีดังต่อไปนี้
- โครงการจัดตั้ง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตร้อยเอ็ด ณ ทุ่งกุลาร้องไห้
- โรงเรียนสุวรรณภูมิพิทยไพศาล
โรงเรียนระดับประถมศึกษาที่สำคัญในเขตอำเภอสุวรรณภูมิมีดังต่อไปนี้
สถานที่ท่องเที่ยว
- กู่พระโกนา บ.กู่พระโกนา ต.สระคู
- อนุสาวรีย์เจ้าแก้วมงคล และ เขต คูเมืองบ้านท่ง ( ประกาศชื่อโบราณสถาน กรมศิลปากร พ.ศ. 2478 )
- สิมวัดไตรภูมิคณาจารย์ บ.หัวโทน ต.หัวโทน
- สิมวัดสระเกตุ บ.น้ำคำ ต.น้ำคำ
- พระธาตุวัดเบญจ์ บ.หัวโทน ต.หัวโทน
- บ่อพันขัน บ.ตาเณร ต.จำปาขัน
- วัดพระธาตุบ่อพันขัน บ.หนองมะเหี๊ยะ ต.จำปาขัน
- อ่างเก็บน้ำบ่อพันขัน บ.ตาเณร,บ.หญ้าหน่อง ต.จำปาขัน
- พระธาตุอรหันต์โมคคัลลาน์ วัดกลาง คุ้มวัดกลาง ในเขตเทศบาลตำบลสุวรรณภูมิ
- อนุสาวรีย์ท้าวเซียงเจ้าเมืองสุวรรณภูมิ ในเขตเทศบาลตำบลสุวรรณภูมิ
- ศูนย์พัฒนาทุ่งกุลาร้องไห้ บ.กู่พระโกนา ต.สระคู
- พิพิธภัณฑ์หอยล้านปี บ.โพนครกน้อย ต.สระคู
- สระสี่เหลี่ยม สระสองแก ต.สระคู
- กู่หินกอง บ.หินกอง ต.หินกอง
- วัดพระธาตุนาใหญ่ บ.นาใหญ่ ต.นาใหญ่
- วัดพระเจ้าใหญ่บ้านยางเครือ บ.ยางเครือ ต.เมืองทุ่ง
- วัดกู่อารัมย์ บ.ดงเมือง ต.เมืองทุ่ง
- บึงท่าศาลา บ.กู่พระโกนา ต.สระคู
- โครงการจัดตั้งวิทยาเขตร้อยเอ็ด ณ ทุ่งกุลาร้องไห้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ต.หินกอง
เทศกาลสำคัญ
- งานประเพณีบุญบั้งไฟอำเภอสุวรรณภูมิ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีอย่างยิ่งใหญ่ ระดับประเทศ โดยเฉพาะวันแห่ ขบวนฟ้อน เซิ้งบั้งไฟ และบั้งไฟลายศรีภูมิ กับการตกแต่งขบวนบั้งไฟที่มากที่สุดของประเทศ โดยงานจัด ในวันเสาร์ อาทิตย์แรกของเดือนมิถุนายนของทุกปี ณ ลานอนุสาวรีย์พระรัตนวงษา (ท้าวเซียง) และหน้าที่ว่าการอำเภอสุวรรณภูมิ โดยงานมีความโดดเด่นที่แตกต่างจากที่อื่น คือ เอกลักษณ์การตกแต่งเอ้ บั้งไฟด้วยลายกรรไกรตัด เพียงแห่งเดียวในประเทศ หรือที่เรียกว่า รวมทั้งขบวนรำสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ นอกจากนี้ งานประเพณีบุญบั้งไฟสุวรรณภูมิ ยังมีสืบเนื่องยาวนาน มีช่างบั้งไฟลายศรีภูมิ ในคุ้มวัดทุกคุ้มวัด ในเขตเทศบาลตำบลสุวรรณภูมิ และบั้งไฟเอ้ ทั่วเขตจังหวัดร้อยเอ็ด จะเข้าร่วมแข่งขันประเภทบั้งไฟขนาดใหญ่ทั้งหมด จนทำให้ เป็นหนึ่งในงานประเพณีบั้งไฟที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศ จนมีคำกล่าวที่ว่า "หากอยากดูบั้งไฟครบครัน หลากหลายกิจกรรม ไปที่ ยโสธร หากอยากดูบั้งไฟจุดขึ้นสูง จำนวนมาก ให้ไปที่อำเภอพนมไพร และ หากอยากดู บั้งไฟเอ้ตกแต่งสวยงามขนาดใหญ่มากที่สุดและขบวนรำสวยงามมากที่สุดไปที่ อำเภอสุวรรณภูมิ " โดยตั้งเเต่ งานประเพณีบุญบั้งไฟสุวรรณภูมิ 2567 เป็นต้นไป จะมีขบวนแห่รำเซิ้งสวยงาม ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งจะมีการถูกจัดขึ้นเป็นครั้งเเรกในปี พ.ศ. 2567 ให้สมเกียรติกับดินเเดนที่มีการจัดงานบุญบั้งไฟอย่างยิ่งใหญ่ เป็นเอกลักษณ์เเละมีความเก่าเเก่เเละต่อเนื่องมาอย่างยาวนานมากที่สุดเเห่งหนึ่งของภาคอีสานเเละของประเทศไทย นอกจากนี้ยังเป็นงานประเพณีที่ดึงดูดเเละเป็นศูนย์รวมให้ลูกหลานเมืองศรีภูมิหรือเครือข่ายลูกหลานเจ้าเเก้วมงคล (บรรพชนกลุ่มใหญ่ของภาคอีสาน) ที่มีอยู่ทั่วภาคอีสานเเละประเทศไทยให้กลับมาเยี่ยมเยือนถิ่นเก่าของบรรพชน ซึ่งได้ขึ้นชื่อว่าเป็น เมืองบรรพบุรุษของชาวอีสาน ก่อนที่ภายหลังจะมีการอพยพเเยกกันออกไปสร้างเมืองเเละชุมชนต่างๆมากมายทั่วภาคอีสาน นับได้ว่าเป็นศูนย์รวมทางจิตใจให้เเก่ลูกหลานชาวอีสานได้มากมายเลยทีเดียว
ชาวอำเภอสุวรรณภูมิที่มีชื่อเสียง
ข้าราชการ/นักการเมือง/นักวิชาการ
- นายเชาว์ สายเชื้อ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ท่านแรก
- นายดุลย์ ดวงเกตุ ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคกิจสังคม
- นายขจรศักดิ์ ศรีสวาสดิ์ ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคความหวังใหม่
- นายวิรัช ประราศรี กำนันตำบลสระคู อดีต ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- นายสมศักดิ์ เศรษโฐ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสุวรรณภูมิ
- นายวรรณทัศน์พล อิศวะเมธธรีสกุล ประธานสภาเทศบาลตำบลสุวรรณภูมิ
- นายวสันต์ สามิบัติ์ ประธานชุมชนหมู่ 3 เขตเทศบาลตำบลสุวรรณภูมิ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลสุวรรณภูมิ
- นายกิตติ สมทรัพย์ ส.ส.ร้อยเอ็ดเขต 6 อำเภอสุวรรณภูมิ อำเภอโพนทราย อำเภอหนองฮี
- พล.ต.ต.ดร.พิพัฒนพงศ์ เฏฌาฌัญ ผู้บังคับการ สน.ยานนาวา ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคถิ่นกาขาว หัวหน้าพรรคถิ่นกาขาว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
- พ.ต.อ.พิเศษ พิภพ ใยบัว รองผู้บังคับการ สน.ห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
- คารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน สังกัดพรรคภูมิใจไทย
พระภิกษุสงฆ์
พระครูสุพรรณภูมิคณาจารย์ (สอ) - เจ้าคณะเมืองสุวรรณภูมิ รูปสุดท้าย
หลวงปู่ชม ฐานะธัมโม - วัดกู่พระโกนา
พระครูพุทธบาลมุนี - วัดชัยมงคล บ้านคำพรินทร์ ตำบลเปลือย (ปัจจุบัน ตำบลช้างเผือก)
หลวงปู่เคน ฐานะธัมโม - วัดใต้วิไลธรรม
พระราชพรหมจริยะคุณ - เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด ฝ่ายมหานิกาย วัดบ้านเปลือยใหญ่ อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด
นักกีฬา
- ก้องนภา วัชรวิทย์ นักมวย
- นักตระกร้อหญิงทีมชาติไทย เจ้าของฉายา "เพชฌฆาตเงียบ"
- นักตระกร้อหญิงทีมชาติไทย
นักธุรกิจ
นายพนม ศรีแสนปาง - นายกสมาคมพ่อค้าอำเภอสุวรรณภูมิ / ประธานบริษัทมหาชนจำกัด ศรีแสงดาวไบโอพาวเวอร์
นักร้อง/นักดนตรี/นักแสดง
- ลำไย ไหทองคำ นักร้องลูกทุ่ง,หมอลำ นักเเสดง พิธีกร ราชินีอินดี้
- เอกราช สุวรรณภูมิ นักร้องลูกทุ่ง
- เจมส์ จตุรงค์ นักร้องลูกทุ่ง,หมอลำ นักเเสดง
- ใบตอง จันทร์งาม หรือ แป๋ว ปัทมา นักร้องหมอลำ
- บี ประภาพร ขวัญใจแฟนแฟน นางเอกหมอลำสังกัดคณะหมอลำขวัญใจแฟนแฟน แมน จักรพันธ์
- เจ้สี่ พลล้ำ อดีตตลกคณะระเบียบวาทะศิลป์
- บู๊ท จักรพันธ์ ลำเพลิน ซานเล้าบันเทิงศิลป์ อดีตพระเอกหมอลำคณะระเบียบวาทะศิลป์ หัวหน้าวงซานเล้าบันเทิงศิลป์
- ไอออน กลวัชร ข้าวสารแลนด์ นักร้อง พระเอกหมอลำคณะซานเล้าบันเทิงศิลป์
- หนึ่ง พลาญชัย ท็อปไลน์ พระเอกหมอลำคณะคำผุนร่วมมิตร
- ภานุวัฒน์ วิเศษวงษา นักเเต่งเพลง (เเต่งเพลงดัง อาทิ บ่เป็นหยังเขาเข้าใจ ซังได้ซังเเล้ว ห้ามตั๋ว นางไอ่ของอ้าย เพิ่นบ่แม่นผู้สาวเฮา เป็นต้น)
ศิลปินเเห่งชาติ
- ไพวรินทร์ ขาวงาม กวี นักเขียน ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ กวีนิพนธ์ พุทธศักราช 2558
นักปราชญ์ชุมชน พื้นบ้าน
นายสมัยลี สร้อยศิลา - ปราชญ์พื้นบ้าน ด้านทัศนศิลป์ การตัดแต่งลายเอ้บั้งไฟ ลายศรีภูมิ
นายล้อม ปราสาร - ปราชญ์ชุมชน ด้านศาสนพิธี พิธีกรรม การทอผ้าไหม ไหมลายศรีภูมิดั้งเดิม
กำนันเดช ภูสองชั้น - ผู้เขียน "คนทุ่งกุลา", อดีตกำนันตำบลทุ่งหลวง
นายเลียบ แจ้งสนาม - ศิลปินพื้นบ้าน ผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม ของ สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรม ( วันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2561 )
อ้างอิง
- "พื้นที่อาณาเขตของเมืองศรีภูมิ(สุวรรณภูมิ)". เฟสบุ๊ค. 2021-07-15. สืบค้นเมื่อ 2023-06-23.
- พระยาขัติยวงษา (เหลา ณร้อยเอ็จ), พงศาวดารภาคอีสาน ฉะบับของพระยาขัติยวงษา (เหลา ณร้อยเอ็จ) (กรุงเทพฯ : ศรีหงส์, ๒๔๓๒) น. ๘-๙
- https://www.car.chula.ac.th/display7.php?bib=b1275880
- หม่อมอมรวงศ์วิจิตร (ม.ร.ว.ปฐม คเนจร), ตำนาน เมืองนครจำปาศักดิ์ (อุบลราชธานี : ในงานฌาปนกิจศพ นายวิจิตรศักดิ์ สาระโสภณ ณ เมรุวัดเเจ้ง, ๒๕๒๗) น. ๔
- https://finearts.go.th/storage/contents/file/S7yoBa3aJe2AkCKdVqwQCKbvlt16f6i01xIy9q3Z.pdf
- คณะกรรมการจัดพิมพ์เอกสารทางประวัติศาสตร์สำนักนายกรัฐมนตรี, เรื่องทรงตั้งเจ้าประเทศราชกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 (กรุงเทพฯ : สำนักทำเนียบนายกรัฐมนตรี, ๒๕๑๔) น. ๒๓,๔๑-๔๕
- https://www.finearts.go.th/nlt-korat/view/19408-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B9%8C-%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%8A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-1
- http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2445/041/783_3.PDF
- http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2493/D/039/3026.PDF
- http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2499/D/060/54.PDF
- http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2508/D/025/941.PDF
- http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2509/D/070/2613.PDF
- http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2509/D/033/1577.PDF
- http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2510/D/031/1157.PDF
- http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2514/D/097/2433.PDF
- กระทรวงสาธารณสุข (1 มกราคม 2562). . hdcservice.moph.go.th. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-05-08. สืบค้นเมื่อ 30 กันยายน 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "หลวงปู่ชม ฐานะธัมโม วัดกู่พระโกนา อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด". ๑๐๘ พระเกจิ. 2020-12-23.
- "พระครูสุพรรณภูมิคณาจารย์ (สอ)". ปักหมุดเมืองไทย. 2021-08-11.
- https://music.trueid.net/th-th/detail/QyQ9D4K0edGy
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniyngtxngkarephimaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxngkhunsamarthphthnabthkhwamniidodyephimaehlngxangxingtamsmkhwr enuxhathikhadaehlngxangxingxacthuklbxxk haaehlngkhxmul xaephxsuwrrnphumi khaw hnngsuxphimph hnngsux skxlar JSTOR eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir bthkhwamnixactxngkartrwcsxbtnchbb indaniwyakrn rupaebbkarekhiyn kareriyberiyng khunphaph hruxkarsakd khunsamarthchwyphthnabthkhwamid suwrrnphumi epnxaephxthimiphunthimakthisudkhxngcnghwdrxyexd epnxaephxsunyklangthangdankarkhmnakhm karpkkhrxng karsuksaeelaesrsthkickhxngklumxaephxosnitkhxngcnghwdrxyexd xikthngyngepnxaephxthimikhwamecriyepnrxngaekhephiyngxaephxemuxngrxyexd phunthixaephxsuwrrnphumiedimepnthitngkhxngemuxngthngsriphumi ekhymixanaekhtkwangihyiphsalkhrxbkhlumphunthiklumcnghwdrxyeeknsarsinthu eethbcathnghmd eelabangswnkhxngcnghwdburirmy srisaeks surinthr yosthr xublrachthani chyphumi xudrthani sungemuxngthngsriphumiekhyepnswnhnungkhxngxanackrlanchangcapaskdi sthapnaodyphraecasrxysrismuthrphuththangkuremuxpi ph s 2256 txmaidekhamaxyuinxanaekhtkhxngxanackrxyuthya inpi ph s 2308 cnthungxanackrthnburi inpi ph s 2310 aelaidepliynchuxepnemuxngsuwrrnphumi inpi ph s 2315 txmaidldthanacakemuxngchnexk ethiybethacnghwd epn xaephxsuwrrnphumi inpi ph s 2451 pccubnaebngekhtkarpkkhrxngxxkepn 15 tabl miprachakrinpi ph s 2562 canwn 116 015 khnxaephxsuwrrnphumixaephxkarthxdesiyngxksrormn xksrormnAmphoe Suwannaphumkhakhwy suwrrnphumiaednkuphraokna thungkulasdis nganihybngifaesn dinaednwthnthrrmaephnthicnghwdrxyexd ennxaephxsuwrrnphumiphikd 15 36 33 N 103 48 1 E 15 60917 N 103 80028 E 15 60917 103 80028praeths ithycnghwdrxyexdphunthi thnghmd1 107 042 tr km 427 431 tr iml prachakr 2564 thnghmd114 296 khn khwamhnaaenn103 25 khn tr km 267 4 khn tr iml rhsiprsniy 45130rhsphumisastr4511thitngthiwakarhmuthi 2 thnnpthmannth tablsrakhu xaephxsuwrrnphumi cnghwdrxyexd 45130swnhnungkhxngsaranukrmpraethsithyprawtisastrxanaekhtkhxngemuxnghruxrththngsriphumi tngaetpi ph s 2256aephnthixanaekht emuxngthngsriphumi rahwangpi ph s 2256 2315 eelaemuxngsuwrrnphumi rahwangpi ph s 2315 2318eephnthikarpkpnxanaekhtrahwangemuxngsuwrrnphumikbemuxngrxyexd tngeetpi ph s 2318 briewnxaephxsuwrrnphumiedimepnthitngkhxngemuxngchux emuxngthngsriphumi hruxniymeriykthwipwa emuxngsriphumi odyaerktngepnswnhnungkhxngxanackrlanchangcapaskdi thisthapnaodyphraecasrxysrismuthrphuththangkur inpi ph s 2256 trngkbrchsmysmedcphrasrrephchythi 9 phraecathaysraaehngkrungsrixyuthya tngxyuinbriewnlumnaesiyw odymiaemnachiepnekhtaedndantawnxxk ekhtnkhrhlwngcapask aelaaemnamulepnekhtaedndanthisit knrahwangekhtemuxngnkhrrachsima emuxnginekhtxanackrxyuthya danthisehnuxchnaednekhtxanackrlanchangewiyngcnthn briewnemuxngphakhaw emuxngphnna snamhmakhya ekhtrxytx xudrthani hnxngbwlaphu aelakhxnaekninpccubn phuemng ekhtxaephxmycakhiri cnghwdkhxnaekn fayphyanakh rxytxxaephxhnxngerux aelaxaephxbanfang cnghwdkhxnaekninpccubn emuxngthngsriphumimiecaaekwmngkhlepnpthmwngs ecaemuxngphraxngkhaerk aelaepnemuxnghnadansakhykhxngxanackrlanchangcapask txmainpi ph s 2308 idekidkhwamkhdaeynginkarsubtxxanacecaemuxngthngsriphumi epnehtuihemuxngthngsriphumiidekhaxyuphayitxanaekhtkhxngxanackrxyuthya cnkrathngesiykrungkhrngthisxng inpi ph s 2310 emuxngthngsriphumiidepnrthxisra aelarwmtwxyanghlwm kbkkphimayhlngkrungaetk txmainpi ph s 2311 hlngphrayatak smedcphraecataksinmharach idtiemuxngphimayidepnkkaerk emuxngthngsriphumicungidekhaswamiphkdiphrayataksin cnkrathnginpi ph s 2315 ecaesiyng thayathecaaekwmngkhl ecaemuxngthngsriphumiladbthi 4 idesnxkhxyaythitngsunyklangemuxngthngsriphumiipdanthistawntk briewntabldngethasar aelakhxphrarachthannamemuxngihmepn emuxngsuwrrnphumi nbaetnn odymithanaepnemuxngpraethsrachkhxngkrungthnburisubtxcnthungkrungrtnoksinthr phayhlng ph s 2325 hlngkarsthapnakrungrtnoksinthr emuxngsuwrrnphumiidxyuinxanaekhtkhxngxanackrrtnoksinthr odymithanaepnemuxngpraethsrachnbtngaetpi ph s 2338 odymichuxemuxngetmwa suwrrnphumirachburinthr hruxekhiynepn suwrrnphumirachburi hrux suwrrnphumirachburiy phraysecaemuxngsuwrrnphumi idrbphrarachthinnamcakphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharachwa rtnwngsa hrux rtnwngsa xnhmaythung sayskul phusubechuxsaycakecaaekwmngkhl xnepnpthmwngsecaemuxngthngsriphumi odyepnhnunginsayphrabrmwngsanuwngskhxngphramhakstriyxanackrlanchangewiyngcnthn emuxngsuwrrnphumiidaebngxanaekhtxxkihthayathkhxngecaaekwmngkhlidpkkhrxnghlayemuxng dngni ph s 2318 emuxngrxyexd cnghwdrxyexdinpccubn ph s 2330 emuxnghnxnghan xaephxhnxnghaninpccubn ph s 2335 emuxngchnbth xaephxchnbthinpccubn ph s 2340 emuxngkhxnaekn cnghwdkhxnaekninpccubn ph s 2342 emuxngphuthithsng xaephxphuthithsnginpccubn ph s 2408 emuxngmhasarkham aeykxxkcakemuxngrxyexd ph s 2415 emuxngekstrwisy xaephxekstrwisyinpccubn ph s 2417 emuxngthwch xaephxthwchburiinpccubn edimtngthitablthwchdinaedng odyaeykxxkcakemuxngrxyexd ph s 2421 emuxngphnmiphraednmvkh xaephxphnmiphrinpccubn ph s 2422 emuxngphykhkhphumiphisy xaephxphykhkhphumiphisy cnghwdmhasarkham inpccubn ph s 2425 emuxngwapipthum xaephxwapipthum cnghwdmhasarkham inpccubn aeykxxkcakemuxngrxyexd aetiptngxyuinekhtphunthiemuxngsuwrrnphumi phayhlngyngkhngihkhunemuxngrxyexd kxnmakhuncnghwdmhasarkhaminphayhlng ph s 2425 emuxngcturphktrphiman xaephxcturphktrphiman inpccubn ph s 2425 emuxngoksumphisy xaephxoksumphisy inpccubn aeykxxkcakemuxngmhasarkham cnkrathngpi ph s 2435 mikarptirupkarpkkhrxnginrabbmnthlethsaphibal emuxngsuwrrnphumikhngthanaepnemuxngchnexk odymiemuxngchnoth tri aelactwa phayitkarpkkhrxngcanwn 5 emuxng idaek emuxngsuwrrnphumi emuxngphykhkhphumiphisy hruxxaephxphykhkhphumiphisy emuxngphnmiphraednmvkh hruxxaephxphnmiphr emuxngekstrwisy hruxxaephxekstrwisy aelaemuxngcutrphktrphiman hruxxaephxcturphktrphiman sungemuxngthnghmdlwnaeykxxkmacakemuxngsuwrrnphumi aelamiecaemuxngthiepnthayathkhxngecaaekwmngkhlthngsin txmainpi ph s 2451 idmikarprbprungrabbbriharrachkaraephndinswnphumiphakh mikaryubmnthlthwpraeths mikarepliynaeplngemuxngtang epncnghwdaelaxaephx odytngemuxngchnexkepncnghwd aelatngemuxngchn oth tri aelactwa epnxaephxaelatabl emuxngsuwrrnphumicungthukepliynthanaepnxaephxxyuphayinekhtcnghwdrxyexdnbaetnnepntnma swnemuxngkhunkhxngemuxngsuwrrnphumiedimthng 4 emuxng thukepliynepnxaephxphayincnghwdrxyexd 3 emuxng aelaepnxaephxphayincnghwdmhasarkham 1 emuxng thngniemuxngchnexkthithukepliynepnxaephxinpi ph s 2451 idaek emuxngkmlaisy emuxngekhmraththani emuxngyaosthr sungykthanaklbepncnghwdyosthrinpi ph s 2515 emuxngmukdahar sungykthanaklbepncnghwdmukdahar inpi ph s 2525 emuxngsngkha emuxngkhukhnth emuxngphuekhiyw emuxngphuewiyng aelaemuxngnangrxng epntn xaephxsuwrrnphumiinpccubn nbcakpithithukyubepnxaephxinpi ph s 2451 minayxaephxthngsinaelw 45 khn mikaraebngekhtkarpkkhrxngxxkepn 15 tabl thngni xaephxsuwrrnphumimikaraeykxxkepn 2 xaephx hlng pi ph s 2451 idaek xaephxemuxngsrwng aelaxaephxophnthray indanladbchnkhxngxaephxthikahndodykrmkarpkkhrxng krathrwngmhadithy xaephxsuwrrnphumimithanaepnxaephxchn 1 echnediywkbxaephxemuxngrxyexd aelaxaephxemuxngincnghwdxun thimiichxaephxchnphiess phunthixanaekhtthnghmdkhxngemuxngsriphumi tngeetpi ph s 2256 2315 miphunthiodypraman 31 000 tarangkiolemtr emuxngsuwrrnphumi pi ph s 2318 2335 miphunthiodypraman 16 500 tarangkiolemtr emuxngsuwrrnphumi hlngaebngtngemuxngtang rahwang ph s 2318 2409 khngehluxphunthi ephiyng 9 200 tarangkiolemtr odypraman txmaphayhlngcakthiemuxngsuwrrnphumithukyubklayepnxaephx khngehluxphunthiodypraman 1 532 294 tarangkiolemtr txmaeemwaxaephxsuwrrnphumicamikareeykxxkipxik 2 xaephx xaephxemuxngsrwngeelaxaephxophnthray xaephxsuwrrnphumikyngkhngepnxaephxthimiphunthimakthisudkhxngcnghwdrxyexdcnthungpccubn dwykhnadphunthi 1 107 042 tarangkiolemtr ladbecaemuxngthungsriphumi ecaaekwmngkhl ecaphukhrxngemuxngthngsriphumikhnaerkecaaekwmngkhlxnusawriythawesiyng ecaphukhrxngemuxngthngsriphumikhnthi 4 aelaepnphukhrxngemuxngsuwrrnphumikhnaerkladbthi ecaemuxng pithikhrxng pithisinsud canwnpithikhrxngemuxng ehtukarnsakhy xun smyxanackrlanchangcapask ph s 2256 2308 1 ecaaekwmngkhl ph s 2256 ph s 2268 12 tngemuxngthngsriphumi n briewnemuxngeka tablthungsriemuxng xaephxsuwrrnphumi phrarachkhruophnsaemk ecarachkhruhlwng thanaphrasngkhrach khxngrach xanackrlanchangcapaskdi esdc ma thaphithiwangesahlkemuxng aetngtng ecamudkhadl epnxuprach aela ecasuthntmni epn rachbutr tamlksnakarpkkhrxng xayasi sungepnrupaebbkarpkkhrxngkhxnglanchang lanna 2 ecamudkhadl ph s 2268 ph s 2306 38 ecamudkhadl ekidinkhuneduxnmud eriykxikchuxhnung wa thawmud epnbutrkhnot thiekideetphrachayathanthi 2 chawewiyngcnthn khxng ecaaekwmngkhl aetngtng ecasuthntmni nxngchay epn xuphad aela aetngtng thawesiyng butrkhnot epn rachbutr hlngcakidkhrxngemuxngthng ecamudkhadlidtngaekhngemuxngepn exkrach imidkhunaeknkhrcapaskdi ephraaehtuwankhrcapaskdiphikbnxngekidwiwathyadchingsmbtiaekkncunghaidtidtammawaklawexaswysaxakrim khrntxma ecaxngkhhlxhnxkha ecaphukhrxngnkhrnan sungepnbutrecaaekwmngkhl hlanecankhrnankhneka ekideetthidaecankhrnan phrachayathaneerkkhxngecaeekwmngkhl idphaiphrphlmasubhaphrabida sungrukhawwaphrabidamaepnecaemuxng xyurimsrasiaecng aehngsitw aemhyingexaphw phxchayxxkluk khrnmathungekhtemuxngthng tngkhayxyurahwangpakesiywnxy sungeriykwawnghmancnbdninn ecaxngkhhlxcbidephiybutrtaphanbanonnsung kwnhmunhnabanebn sungykthphxxkmatxsuknnxkemuxng emuxidtwaemthphsxngkhnniaelw cungskilitthamhasrasiaecng aehngsitw aemhyingexaphw phxchayxxkluk aemthphthngsxngidaecngkhwamihecaxngkhhlxhnxkhathrabtlxdaettncnthungplay ecaxkhhlxhnxkhacungidthrabwaepnemuxngphrabidakhxngtn aelwplxyihaemthphsxngkhnekhaipbxkaekecamudkhadlnxngchayihthrabthukprakarodyaennxnaelw ecamudruwaepnphichayaehngtn cungidaetngihaesnthawxxkipxyechiyecaxngkhhlxhnxkhaihekhamayngemuxngthng aelwcdkarrbrxngihepnekiyrtiysxndi aelwecamudphrxmkbecaxngkhhlxhnxkha cdkarplngsphcaraekwphuepnbidatampraephniphukhrxngbanemuxngmaaetkxn esrcaelwecaxngkhhlxhnxkhaklaecamudnxngchayklbkhunnkhrnantamedim3 ecasuthntmni ph s 2306 ph s 2308 2 ecasuthntmni ekidma phrxmmi fn hrux phrathnt dwy cungidchuxwa suthntmni epnbutrkhnthi 2 thiekideetphrachayathanthi 2 chawewiyngcnthn khxng ecaaekwmngkhl khrxngemuxngid 2 pi txma thawesiyng butrkhnot khxng ecamudkhadl aelathawsun nxngchaykhxng thawesiyng idrwmkbkrmkaremuxngbangswn khbkhidephuxhathangih thawesiyng khunepnecaemuxngthngsriphumi cungnathxngkhaipthwayaelakhxswamiphkdi tx xanackrxyuthya aelaecaphukhrxngnkhrcapask miidihkhwamchwyehlux ecasuthntmni makphx cungyngphlih ecasuthntmni aelakrmkaremuxng thicngrkphkdi phrxmiphrphlemuxngswnihy hnixxkcakemuxngthngsriphumi iptngrb thi bandngemuxngcxk ekhtxaephxxacsamarth cnghwdrxyexd inpccubn aela thawesiyng idkhrxngemuxngthngsriphumi epn ecaemuxngladbthi 4 tx cak xa ecasuthntmni aelaidaetngtng thawsun nxngchaykhxng thawesiyng epn xuphad aela aetngtng thaweph butrthawesiyng epn rachbutrsmyxanackrkrungsrixyuthya ph s 2308 2310 4 ecaesiyng thawesiyng ph s 2308 ph s 2310 2 thawesiyng phayhlngidrbkarphrabrmrachoxngkaraetngtng cak smedcphrathinngsuriyasnxmrinthr aehngxanackrxyuthya aelw idkhrxngemuxng epnecaemuxngthngsriphumi ladbthi 4 txma ekidsukrahwang xanackrphmayukhthi 3 kb xanackrxyuthya cnkrathngesiykrung inwnthi 7 emsayn 2310 emuxngthngsriphumi cungklayepn rthxisra xyangnxy 7 eduxn cnkrathng smedcphraecakrungthnburi kukrungsaerc cungidekhaswamiphkdi tx xanackrthnburiladbecaemuxngsuwrrnphumi aelaphuwarachkaremuxngsuwrrnphumi ladbthi ecaemuxng pithikhrxng pithisinsud canwnpithikhrxngemuxng ehtukarnsakhy xun smyxanackrkrungthnburi ph s 2310 2325 4 ecaesiyng thawesiyng hrux phrartnwngsa esiyng 2310 2325 15 nbtxenuxng cak pi 2308 id 17 pi inpi 2310 hlngemuxngthngsriphumi epn xisra idimnan smedcphraecakrungthnburi idsthapna xanackrthnburi esrcsinaelw cungmrbsngihemuxngpraethsrachthukemuxng thiekhyswamiphkdi tx xanackrxyuthya ihxyuphayitxanacdngedim ecaesiyng hrux thawesiyng cungidswamiphkdi dngedim aelatxma inpi 2315 thangkrmkaremuxng aelaphrayakrmtha idharuxkbecaemuxng ehnkhwrwa khwryaythitngemuxngihm enuxngcak briewnthitngedim tidlanaesiyw chyphumiimehmaasminkarpxngknemuxng tlingesaaphng nathwmthung khyayemuxngtxipinphayphakhhnamiid cungid miibbxkipyng krungthnburi khxyaythitngemuxngthngsriphumi ip yngbriewn dngethasar sungepneninsung khnadihy nathwmimthung iklbriewnaehlngnaesiyw dngedim aelaedimphunthi ekhyepnthitngbandngemuxnghang sungepnemuxngeka maaetedimkxnaelw thangkrungthnburi cungmirbsngaelaphrarachthanphrabrmrachanuyatih yaythitngemuxng mathibriewndngklaw aelasthapnaphrays thawesiyng epn phrartnwngsa esiyng thngni phraysnn ihyngthung phranamkhxng ecapu khux ecaaekwmngkhl phuepnpthmwngsecaphukhrxngemuxngthngsriphumi phraxngkhaerk aela idphrarachthannamemuxngihm wa emuxngsuwrrnphumi inpi 2315 epntnma txma phraecakrungthnburi idrbsngih phrayakrmtha id ecrcaih phrartnwngsaesiyng kb ecasuthntmni yngtngthphyngxyu briewnbandngemuxngcxk ihkhundikn inthana xaw aelahlan aela phrayakrmtha idecrca khxih ecasuthntmni ekhaswamiphkdi txphraecakrungthnburi ecasuthntmni cungnaiphrphlekhaswamiphkdi aelakhxtngbanemuxngkhunihm briewn bankumhang khxkhunepn emuxngrxyexd smedcphraecakrungthnburi cungidphrarachthanaetngtngphrays epn phrakhtiywngsa thnt inpi 2318 luculskrach 1137 pimaemsptsk faythawthnecaemuxngthngkhnekasunghniipxyunbankudcxkcungekhahaphrayaphrhm phrayakrmtha ehnwathawthnmiphukhnbawiphrkhwbkhumxyumak cungmiibbxkipyngkrungthnburikhxtngthawthnt ecasuthntmni epnecaemuxng khxykbankumsungepnthiemuxngrxyexdekaepnemuxngcungoprdtngihthawthnepn phrakhtiywngsa ecaemuxng ykbankumkhunepnemuxngrxyexdtamnamedim khrngnnekhtemuxngsuwrrnphumi aelemuxngrxyexdmiwa tngaetpaklanaphachi tklanamul khunmatamlanaphachithungpakhwydangediykhunipthungladith ipbankhxehlk banaekngthrayhin tngaetthaetaehwhwddwngswnxxy bungkuysalaxiekngphuemng hnxngmwngkhlum kumpksalahkmuledng pracbpaklanaphachi tklanamulniepnekhtremuxngsuwrrnphumi tngaetlanayangtklanaphachi khunipphudxksxn hinthxd yxdyang dusamtn xnsamkhway snamhmadhya phakhawphnna fayphrayanakhphuemng mapracbhnxngaekwsalaxiekngmabungkuy niepnxanaekhtremuxngrxyexd smykrungrtnoksinthr ph s 2325 2451 4 phrartnwngsa esiyng 2325 2330 5 nbtxenuxngcakpi 2308 id 22 pi phayhlngphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach idsthapnaxanackrrtnoksinthr smysmburnayasiththirachy inwnthi 6 emsayn 2325 phrartnwngsa esiyng cungidnabrrnakaraelatndxkimengindxkimthxng thwayaelakhxswamiphkdi txxanackrrtnoksinthr smysmburnayasiththirachy epntnma5 phrartnwngsa sun 2330 2335 5 inpi 2330 thawsun phuepn nxngchay khxng phrartnwngsa esiyng aela darngtaaehnng xuphad idkhundarngtaaehnngecaemuxngsuwrrnphumi swn thaweph butrkhxng phrartnwngsaesiyng sungdarngtaaehnng rachbutr inkhnann ephuxsnbsnunaelapxngknpyhakarkhrxngemuxngdnginxdit rwmthngepnemuxngbriwaraelapxngknemuxngsakhydanthisehnux khux nkhrekhuxnkhnthkabaekwbwban hnxngbwlaphu phrartnwngsa sun cungidkhxphrarachthanihmiphrabrmrachoxngkar aetngtng thaweph iptngemuxngihm aelaaebngekhtdinaednthangtxnehnuxkhxngemuxngsuwrrnphumi phayhlng epnekhtkhxngemuxngrxyexdaelw ih thaweph idpkkhrxng emuxngsuwrrnphumi cungidaebngiphrphl ih canwn 600 khn iptngemuxngbriewnemuxngeka khunepnemuxnghnxnghan pccubn khux xaephxhnxnghan aelasthanpnaphrays thaweph epn phraphithksekhuxnkhnth ecaemuxnghnxnghan thanaerk inpi 2330 aela aetngtng thawxxn butrkhxng phrakhtiywngsathnt ecasuthntmni ecaemuxngrxyexd epn xuphad aelaaetngtng thawoxa butr khxng phrartnwngsa esiyng sungepn nxngchay khxng thaweph hrux phraphithksekhuxnkhnth darngtaaehnng epn rachbutr txma inpi 2335 idmiehtu thidokhtr kxkhdiidichmidfn ecaemuxng khux phrartnwngsa sun esiychiwit thawxxn cungidrboprdeklacarukphrasuphrrnbtihdarngtaaehnngecaemuxngsuwrrnphumi epnthiphrartnawngsamhakhtiyrach khrxngemuxngsuwrrnphumirachburiypraethsrach dngthikhxkhwaminexksareruxngthrngtngecapraethsrachkrungrtnoksinthr rchkalthi 1 klawiwwa dwyphrabathsmedcphraphuththiecaxyuhwphuphanphiphphkrungethphphramhankhrsrixyuthya miphrarachoxngkaroprdekla tngih cawxuprach epn phrarntnawngsamhakhtiyrachkhrxngemuxngsuwnphumrachburiypraethsrach eskih n wnphvhsbdi aerm 11 kha eduxn 10 culskrach 1153 pikuntrisk ephlaecha 2 omng 6 bath 6 phrartnawngsamhakhtiyrach xxn 2335 2357 22 phrartnwngsa xxn epnbutr khxngphrakhtiywngsathnt idkhrxngemuxngsuwrrnphumi aelw idkhxphrarachthan aetngtng thawoxa butr phrartnwngsaesiyng thidarngtaaehnng rachbutr edimnn khundarngtaaehnng epn xuphad txma inpi 2357 yaaemaekw phrryahlwng khxng thawxxn imphxicthi thawxxn miphrryamak cungidlngipkrungethph ephuxfxngklawoths ecaemuxng thawxxn wa praphvtikarthucit khmehngrasdr miphrryamak aelihidrbkhwameduxdrxnipthw rchkalthi 2 mirbsngih phrartnwngsaxxn maekhaefaaektangkhdi thikrungethphmhankhr phicarnakhwamaelw idkhwamcringwa thawxxn epnphupraphvthikarntamthithukklawoths cungoprdekla ihpld thawxxn xxkcaktaaehnngecaemuxngsuwrrnphumi aela ihnatwipkkkhngiw n banhnxnghxy aekhwngemuxngsraburi aelwphicarnaoprdekla aetngtng thawoxa thidarngtaaehnng xuphad inkhnann khunepn ecaemuxngsuwrrnphumiladbthi 77 phrartnwngsa oxa 2357 2372 17 ph s 2367 wnxathity khun 7 kha eduxn 9 piwxk ch sk culskrach 1186 phrabathsmedcphranngeklaecaxyuhwidesdckhunethlingthwlyrachsmbtiepnphraecaaephndinsyam cungthrngphrakrunaoprdekla ihkhahlwngkhunipaeykyaykntrwcsmonkhrw aeltngkxngskxyutamhwemuxngmnthlxisanbangemuxng miemuxngkalsinthu suwrrnphumi rxyexdepntn aeliheriykswy phlerwepnthrrmeniymaetnnma imidaetngtng xuphad aela rachbutr inpi 2369 ekid kbtecaxnuwngs thawphu butr khxng phrakhtiywngsathnt sung darngtaaehnng xuphad ecaemuxngrxyexd inkhnann idmikhwamdikhwamchxbinkarsukkhrngni phayhlng idrbkarsnbsnunih darngtaaehnng ecaemuxngsuwrrnphumi in pi 2373 ehtukarnsakhy inrahwangsukecaxnuwngsnn emuxkxngthph khxngrachwngsewiyngcnthn aelathawxuprachsithan khxngecaxnuwngs edinthangmathungemuxngrxyexd ecaemuxngrxyexd idyk nanghmanuy nangtuy nangaekw phriya khxng phrakhtiywngsa khnkxn ih xuprachsithan cungrxdphncakphy swn phrartnwngsa oxa idykmatang kbphaaephr phrxm nangxxm butri khxng phrartnwngsa xxn ecaemuxngkhneka ih xuprachsithan cungphnphy thngni emuxngrxyexd aelaemuxngsuwrrnphumi miidekharwmkbkxngthphecaxnuwngs aetrwmtxsukb kxngthphfayrtnoksinthr yngphlih xuphadphu thawphu darngtaaehnngxuphad khxngemuxngrxyexd mikhwamdikhwamchxbinkarxxksuk aelaidrbkaraetngtng epn ecaemuxngsuwrrnphumi ladbthi 8 mikarsranghlxphraphuthrupsakhy cak carukxksrthrrm phraphuththrupsilpalanchang ody yakhruosm emuxngsuwrrnphumi snnisthan srangthwayaelapradisthanthiwdpayang pccubninekhtorngeriynxnubalsuwrrnphumi hrux ethsbal 2 aelwyay mathiwdkhum pccubn rang aelanamapradisthan thi wdophthi sungpccubnkhux wdswangophthithxng inekhtemuxngekasuwrrnphumi suphmstuculskrachrachaid phn 1 rxy 83 hwkhruosmmisrththa srangphuththhupiwkbsasna 5 phn wsa niphanpccoyohtu aelweduxn 4 aerm 3 kha wnthidmuxkabsn khxkhwamrabuwa phrakhruosm khawa hwkhru macak ecahw ecaxyuhw inxditicheriykphraethrachnphuihy epnphusrangphuththrupnikhun aelwesrcemux wnthid muxkabsn aerm 3 kha eduxn 4 c s 1183 hakethiybkbwnewlaaebbithysaklkhux wnxathity thi 10 eduxnminakhm ph s 2364 odychwngewlathisrangphra trngkbsmyrchkalthi 2 aelasmysmedcphraecaxnuwngs aehngewiyngcnthn phraphuththrupxngkhnimiphuththsilpniymaebblanchangtxnlanglngma sungthuxidwaepnphraphuththrupsilpalanchangthiekaaekaelasakhyxngkhhnunginemuxngsuwrrnphumiaelahaknbxayuphraphuththrupxngkhnithungpccubn camixayuekuxb 200 pi8 phrartnwngsa phu 2372 2395 23 phrartnwngsa phu epn butrkhxng phrakhtiywngsa thnt ecaemuxngrxyexd thanaerk odydarngtaaehnng xuphad khxngemuxngrxyexd kxnid rbphrakrunaoprdekla cakrchkalthi 3 phrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw darngtaaehnng phrays epn phrartnwngsa phu ecaemuxngsuwrrnphumi aelaoprdekla aetngtng thaweks epn xuphad aelaaetngtng thawsar butrkhxngphrartnwngsa oxa epn thawsuriywngs 9 phrartnwngsa sar 2395 2397 2 phrartnwngsasar epnbutrkhxng phrartnwngsa oxa ecaemuxngsuwrrnphumi ladbthi 7 insmyni immikaraetngtng xuphad aela rachbutr wang wang 2397 2401 4 subenuxngcakkhwamkhdaeyngkxnhna aelakaraetngtng xuphad aela rachbutr miidthnkarn yngphlih hlng phrartnwngsa sar esiychiwit cungimsamarthesnxchux bukhkhkhl ephuxoprdekla aetngtng epn ecaemuxngsuwrrnphumi id thung 4 pi10 phrartnwngsa mharacheln 2401 2410 9 phrartnwngsa mharacheln epn butr khxng phrartnwngsa xxn aela miskdi epn hlan khxng phrakhtiywngsa thnt aelamiskdiepn ehln khxng ecaaekwmngkhl 2402 khlxngidchangephuxk phramhasrieswtwimlwrrn 2404 khlxngchangephuxk phraeswtsuphrrnphaphrrn 2409 ekidkhdiplncinhxy briewnbandan pccubn tabldan xaephxrasiisl cnghwdsrisaeks epnehtuihesiyphunthi briewn tabldan ihaek aekhwngemuxngmhachnachy emuxngxublrachthani 2410 srangwdthungltthiwn odyidrbphrarachthanwisungkhamsima emux ph s 2413 ekhtwisungkhamsima kwang 15 emtr yaw 30 emtr idphukphththsimaemux ph s 2413 mithidintngwd enuxthi 30 ir 3 ngan 10 tarangwa tams kh 1 elkhthi 884 885 887 pccubnwdnimixayukarsrang 151 pi11 phrayartnwngsa mhakhtiyrach khaphay 2410 2420 10 phrayartnwngsa mhakhtiyrach khaphay epn butr khxngphrartnwngsa phu epn hlan khxngphrakhtiywngsa thnt aela epn ehln khxng ecaaekwmngkhl aetngtng thawkhasingh epn xuphad aela aetngtng thawkhasxn epn rachbutr 2413 khlxngchangphlaysiprahlad phraeswtsuwrrnphaphrrn 2415 xuphadehnga hrux thawsng khxaeyk twip tngbandxnesaohng epnemuxngekstrwisy hrux xaephxekstrwisy inpccubn tngcring thi bankukraodn aelarbkaraetngtngepn phrasriekstrathichy ecaemuxngekstrwisykhnaerk dwykhwamdikhwamchxb aelakarthwaychangephuxk txenuxng insmyphrartnwngsa mharacheln aela phrartnwngsa khaphay cungid oprdeklaphrarachthaneluxntaaehnng phrays emuxng ecaemuxng suwrrnphumi cak phrartnwngsa epn phrayartnwngsa thngni pccubn raynamchangephuxk canwn 4 echuxk thiemuxngsuwrrnphumi idthuleklathway idpraktaelaslkepn carukiw khangphraxuobsth wdphrasrirtnsasdaram phrabrmmharachwng12 phrayartnwngsa khasingh 2420 2428 8 phrayartnwngsa khasingh epn nxngchay khxng phrayartnwngsa khaphay epn butr khxng phrrtnwngsa phu epnhlan khxng phrakhtiywngsa thnt aelaepn ehln khxng ecaaekwmngkhl aetngtng thawkhasxn epn xuphad ody insmyni mikarkhxaeyktngbanemuxng makmay thngepn ekhtemuxngsuwrrnphumiedim aela epnemuxngxun thimatngemuxng aetekidkhxphiphathlwngla ekhtemuxngsuwrrnphumi xathi emuxngwapiprathum emuxngrasiisl emuxngmhachnachy emuxngchumphlburi aelaepnehnih emuxngsuwrrnphumi suyesiyxanaekhtepncanwnmak cakkaraephxrrthkhdi eruxng kartngemuxng dngklaw pi 2421 hlwngrtnwngsa buyta khxaeykipsrang banopng tngcring emuxngaesn epnemuxngphnmiphraednmvkh hrux xaephxphnmiphr aelaepn phradarngvththiikr ecaemuxngkhnaerk ihkhunemuxngsuwrrnphumi pi 2422 tngbanemuxngesux tngcring bannakha epn emuxngphykhkhphumiphisy hrux xaephxphykhkhphumiphisy ihkhunemuxngsuwrrnphumi pi 2423 ykbanonnhinkxng epnemuxngrasiisl hrux xaephxrasiisl khunemuxngsrisaeks pi 2425 khxtngbanemuxnghngs tngcring banhwchang epnemuxngcturphktriphiman hrux xaephxcturphktrphiman khunemuxngsuwrrnphumi pi 2425 aeyktngbannaela epnemuxng wapiprathum hrux xaephxwapipthum inpccubn khunemuxngmhasarkham pi 2426 khxtng banthbkhay epnemuxng chumphlburi hrux xaephxchumphlburi khunemuxngsurinthr13 phrartnwngsa khasxn 2428 2439 11 phrartnwngsa khasxn epn nxngchay khxng phrartnwngsa khasingh butr phrartnwngsa phu hlan phrakhtiywngsa thnt ehln khxng ecaaekwmngkhl ph s 2432 xuphad suwrrn rachwngs aelkrmkaremuxngphnmiphraednmvkh khunemuxngsuwrrnphumi mikhwamwiwathbadhmangkbxuphadphurksaemuxngsuwrrnphumi miphxiccasmkhrkhunkbemuxngsuwrrnphumi cungphrxmknmibxkipyngphraphiernthrethph thxngkha khahlwngemuxngnkhrrachsima khxsmkhrkhunkbnkhrrachsima aetkimsaerc ephraaekhtaekhwngemuxngphnmiphrmiidtidtxkbekhtaekhwngnkhrrachsima sungcaepnthangsadwkaekkarbngkhbbycha inpi 2432 xuphadphurksaemuxng aelakrmkaremuxngsuwrrnphumi mibxkklawothsemuxngmhasarkham emuxngsurinthr emuxngsrisaeks waaeyngchingekhtaekhwngemuxngsuwrrnphumiipkhxtngepnemuxngkhun khuxemuxngmhasarkhamkhxbannaelaepnemuxngwapiprathum xaephxwapipthum emuxngsurinthr khx banthphkhay epn emuxngchumphlburi xaephxchumphlburi emuxngsrisraeks khx banonnhinkxng epnemuxngxaephxrasiisl idoprdekla ihkhahlwngnkhrcapaskaelaemuxngxublrachthaniitswnwaklawineruxngni kruxthxnimihwephraaehtuemuxngthngni idoprdekla ihtngepnemuxngkhunkhxngemuxngthngsammaidhlaypiaelw epnxnoprdekla ihtklngkhngepnemuxngkhunkhxngemuxngthngsamxyutamedim ph s 2433 phradarngvththiikr buyta ecaemuxngphnmiphr xaephxphnmiphr sunglngma nkrungethph ephuxcakhxepnecaemuxngsuwrrnphumi misaerc elypwyphkrksatwxyu n krungethph nn khrnxakarpwythuelaaelw cungkrabthwaybngkhmlaklbbanemuxng khrnipthungemuxngnkhrrachsima klbepnikhhnklngxik khrnwnphvhsbdi aerm 11 kha eduxn 12 phradarngvththiikr buyta thungaekkrrm ph s 2434 rtnoksinthrsk 109 pikhalothsk culskrach 1252 misartraoprdekla ihpnhnathikhahlwngepn 4 kxng khux khahlwngnkhrcapaskdi idbngkhbrachkar aelcharatdsinkhwamxuththrnerngrdenginswy emuxngnkhrcapaskdi 1 emuxngechiyngaetng 1 emuxngaesnpang 1 emuxngsithndr 1 emuxngxtpux 1 emuxngsalwn 1 emuxngkha thxngihy 1 emuxngsurinthr 1 emuxngsngkha 1 emuxngkhukhnth 1 emuxngedch xudm 1 rwmemuxngihy 11 emuxngkhun 21 ehlani iheriykwa hwemuxnglawfaytawnxxk khahlwngemuxngxublrachthani bngkhbemuxngxubl 1 emuxngkalsinthu 1 emuxngsuwrrnphumi 1 emuxngmhasarkham1 emuxngrxyexd 1 emuxngphuaelnchang 1 emuxngkmlaisry 1 emuxngyosthr 1 emuxngekhmrasdr 1 emuxngsxngkhxndxndng 1 emuxngnxng 1 emuxngsrisraeks 1 rwmemuxngihy 12 emuxngelk 29 ehlaniiheriykwa hwemuxnglawfaytawnxxkechiyngehnux khahlwngemuxnghnxngkhay bngkhbemuxnghnxngkhay 1 emuxngechiyngkhwang 1 emuxngbrikhnhnikhm 1 emuxngophnphiisy 1 emuxngichyburi 1 emuxngthaxuethn 1 emuxngnkhrphnm 1 emuxngsklnkhr 1 emuxngmukdahar 1 emuxngkmuthaisy 1 emuxngburirmy 1 emuxnghnxnghar 1 emuxngkhxnaekn 1 emuxngkhaekid 1 emuxngkhamwn 1 emuxnghlmskdi 1 rwmemuxngihy 16 emuxngkhun 36 ehlani iheriykwa emuxnglawfayehnux khahlwngemuxngnkhrrachsima bngkhbemuxngnkhrrachsima 1 emuxngchnbth 1 emuxngphuekhiyw 1 rwmemuxngihy 1 emuxngkhun 12 ehlani iheriykwa hwemuxnglawklang ph s 2435 phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw thrngphrakrunaoprdekla ihphraecanxngyaethx krmhlwngphichitprichakr epnkhahlwngihy phrxmdwykharachkarfaythharphleruxnxxkiptngrksaxyu n emuxngnkhrcapaskdikxng hnung iheriykwakhahlwnghwemuxnglawkaw odyihemuxngnkhrcapaskdi emuxngechiyngaetng cnghwdstungaetrng emuxngaesnpang emuxngsithndr emuxngsalawn emuxngxttapux emuxngkhathxngihy emuxngsurinthr emuxngsngkha xaephxsngkha emuxngkhukhnth emuxngedchxudm emuxngsrisraeks emuxngxubl emuxngyosthr emuxngekhmrasdr xaephxekhmrath emuxngkmlaisry xaephxkmlaisy emuxngkalsinthu emuxngphuaelnchang emuxngsuwrrnphumi emuxngrxyexd emuxngmhasarkham emuxngihy 21 emuxng khun 43 emuxng xyuinbngkhbbychakhahlwngemuxnglawkaw pi 2435 mitralngwnthi 28 phvscikayn wathawsilarbkartaaehnng phrasriekstrathiichy phurksarachkaremuxngekstrwiisy emuxngkhunemuxngsuwrrnphumi mibxksngbychismonkhrwmayngkrungethph khamemuxngsuwrrnphumiemuxngihy mikhwamphid ihkhahlwngemuxngxubl eriyktwmawaklawphakhthnthxyaihthatxip pi 2435 oprdekla ih cmunskdibribal nayrxyothelk epnkhahlwngemuxngsuwrrnphumi pi 2436 krmiprsniyothrelkhidcdihmisetxrothmspaemx misetxraemksmulelx misetxrwileliym ipcdtngiprsniytamhwemuxnginmnthllawkaw khuxemuxngekhmrasdr emuxngxubl emuxngphimulmngsahar danpakmul emuxngpaskdieka emuxngnkhrcapaskdi emuxngedchxudm emuxngkhukhnth emuxngsrisraeks emuxngsngkha emuxngsurinthr emuxngsuwrrnphumi iptxkbhwemuxnginmnthllawklangmakrungethph kahndedinxathitylakhrng pi 2437 rtnoksinthrsk 112 wnthi 2 emsayn frngesskykkrabwnthphlwngekhamathungemuxngechiyngaetng bngkhbkhbilhlwngphiphithsunthr xin aelnayrxyothkhramkhahlwngkbthhar 12 khn sungxyurksaemuxngechiyngaetngihkhamipxyu n emuxngtharabriwtr fngokhngtawntkody xangehtuwa dinaedninfngokhngtawnxxkaelekaadxninlanaokhngepnekhtraekhwngkhxngywnsungxyuinbarungfrngess ewlannphraecanxngyaethx krmhlwngphichitprichakr khahlwngihyhwemuxnglawkaw sungprathbxyunemuxngxubl emuxidthrngthrabwafrngess aesdngepnxmitrkhundngnnaelw cungidoprdiheknthkalngemuxngsrisraeks emuxngkhukhnth emuxngsurinthr emuxngmhasarkham emuxngrxyexd emuxngla 800 khn aelemuxngsuwrrnphumi emuxngyosthr emuxngla 500 khn aeliheknthemuxngkhukhnthxik 500 khn ihphrasriphithks hwang kha hlwngemuxngkhukhnthkhumiptngrksaxyunemuxngmoniphr aelemuxngeslaepha oprdihhlwngethphnrinthr wn sungklbcaknathiemuxngtaopnipepnkhahlwngaethnphrasriphithksxyuemuxngkhukhnth aelihnaysucinda khunxinthrprasath kxn nayrxytrikhlay nayrxytriochti khumthhar 100 khn aelkalng 500 khn phrxmdwysatrawuth epnthphna ribykxxkcakemuxngxublaetwnthi 10 emsayn lngipsmthbchwyphraprachanemuxngsithndr aeloprdihemuxngihythukemuxnginlawkaweriykkhnphrxmdwysatrawuth maetriymiwkbbanemuxng la 1000 khn wnthi 20 phvsphakhm 2437 phraecanxngyaethx krmhlwngphichitprichakr oprdihxuphad xakha emuxngsuwrrnphumi 1 phrasriekstrathiichy sila phuwarachkaremuxngekstrwiisy 1 khumkhnemuxngsuwrrnphumi 500 aelihphrasunthrphiphith phuwarachkaremuxngoksum 1 hlwngcanngwiichy phuchwyemuxngrxyexd 1 khumkhnmhasarkham aelrxyexd 300 rwm 800 ykxxkcakemuxngxublipchwyphraprachankhaydxnsakhr wnthi 2 mithunayn 2437 krmhlwngphichitprichakr oprdihphrasiththiskdismuthekhtr busy epnkhahlwngbngkhbemuxngmhasarkham emuxngrxyexd emuxngsuwrrnphumi tngxyu n emuxngmhasarkham ihphradusditulkic sng khahlwngemuxngsuwrrnphumi ipchwy phrasiththiskdi xyu n emuxngmhasarkham thxn nayrxytriphrhm khahlwngemuxngmhasarkham maxyuemuxngsuwrrnphumi wnthi 24 tulakhm 2437 phraecanxngyaethx krmhlwngphichitprichakr oprdihphranrngkhwichit eluxn epnkhahlwngtrwccdrachkaremuxngkalsinthu kmlaisry phuaelnchang emuxngrxyexd emuxngsuwrrnphumi emuxngmhasarkham wnthi 4 phvscikayn 2437 oprdihkhunxasasngkhram swn ip epnkhahlwngchwynayrxytriphrhmxyu n emuxngsuwrrnphumi14 phrartnwngsa xakha 2439 2443 5 pi 2442 rchkalthi 5 phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw thrngoprdekla ihykelik taaehnng ecaemuxng pi 2543 epliyntaaehnng ecaemuxng epn phuwarachkaremuxng xuphad epn pldemuxng rachwngs epn mhadithyemuxng aela rachbutr epn ykkrabtremuxng15 phrasriekstrathiichy sila 2443 2444 1 phrasriekstrathiichy sila epn ecaemuxngekstrwisy aetedim dwy karyub ykelik hwemuxngtang cung oprdekla ih phrasriekstrathiichy marksarachkar phuwarachkaremuxngsuwrrnphumi thanaerk kxncamikaraetngtng phuwarachkaremuxng cak swnklang thngni phrasriekstrathiichy sila epn butr khxng phrasriekstrathiichy sng ecaemuxngekstrwisy thanaerk aela epn hlankhxngphrartnwngsa mharacheln ecaemuxngsuwrrnphumi ladbthi 10 epn hlan khxng phrartnwngsa xxn ecaemuxngsuwrrnphumi ladbthi 6 aela epnehln khxngphrakhtiywngsa thnt ecaemuxngrxyexd thanaerk aela epn lux khxng ecaaekwmngkhl pccubn thayath khxng phrasriekstrathiichy subechuxsaytrnginnamskul sngkhsila 16 khunmnthlanukar chm 2445 2446 1 khunmnthlanukar chm rksarachkar intaaehnng phuwarachkaremuxngsuwrrnphumi inrahwangni ekid kbtphumibuy thang phuwarachkaremuxngsuwrrnphumi ideknthiphrphl prachachn canwn 1 000 khness phrxmxawuth punkhabsilaxyangeka punsinedxr punaemlikhxr thakarprabpramaelacbkumphibuy idxyangrabkhab17 yaphxemuxngaephn tnskul wlysri 2446 2451 5 wnthi 11 tulakhm ph s 2446 r s 121 phrakhrusuphrrnphumikhnacary phrahlkkhaemuxng ecakhnaemuxngsuwrrnphumi thungaekmrnphaph dwyxaphath epnikh ody phrakhrusuphrrnphumikhnacary epnecaxawas wditrphumikhnacary bantakaedd emuxngsuwrrnphumi yaphxemuxngaephn darngtaaehnng ykkrabtremuxng rksakarintaaehnng phuwarachkaremuxngsuwrrnphumi cnkrathngpi 2451 krathrwngmhadithy idprbprunglksrnkarpkkhrxngthxngthi yubemuxngsuwrrnphumi epn xaephxsuwrrnphumi aelayubmnthlrxyexd epn cnghwdrxyexd ih xaephxsuwrrnphumi khunkbcnghwdrxyexd nbaetnnma inpi 2451 phayhlngmikaryubemuxngsuwrrnphumi epn xaephxsuwrrnphumi aelwnn emuxngthiekhykhuntx emuxngsuwrrnphumi idyub epnxaephx aelaoxnyayipsngkd cnghwdtang dngni emuxngphykhkhphumiphisy yubepn xaephxphykhkhphumiphisy ihkhun cnghwdmhasarkham emuxngekstrwisy yubepn xaephxekstrwisy emuxngphnmiphraednmvkh yubepn xaephxphnmiphr emuxngcutrphktrphiman yubepn xaephxcturphktrphiman thngsamxaephx ihkhunkb cnghwdrxyexdladbnayxaephxsuwrrnphumi hlngpi ph s 2451 karnbtaaehnngnayxaephxnbcakpi ph s 2451 nn caichladbthi 1 ihm enuxngcakphuwarachkaremuxngkhxngemuxngchnexkmithanaethiybetha phuwarachkarcnghwd phayhlngmikarepliynaeplngaelayubthanaemuxngepnxaephx aelataaehnng phuwarachkarcnghwd epn nayxaephx dngnncungnbladbihm ladbthi nayxaephx pierim pisinsud canwnpi ehtukarnsakhy xun 1 hlwngprachachnbal 2451 2455 4 2454 tngorngeriynprachabal txmakhux orngeriynemuxngsuwrrnphumi xasysalawdehnuxepnsthansuksa epidthakarsxntngaet chnprathmsuksapithi 1 thungchnprathmsuksapithi 32 phrartnwngsa kxnhna hlwngpracacnthrekhtr nxy liwisiththi 2455 2463 8 2456 ykthanaorngeriynprachabal epn orngeriynrthbal orngeriynsuwrrnphumiphithyiphsal phayhlngyubepnorngeriynprachabal inpi 2465 kxnepn orngeriynemuxngsuwrrnphumi3 khunsklrksa echy sukhsukhnth 2463 14 hlwngprasasn osphn r th xum phmrsutr 2463 2473 10 inrahwangph s 2463 2473 hlwngprasasnosphn xun phmrsutr sungdarngtaaehnngmayxaephxsuwrrnphumismynnidrierimsrangsukhsalakhunbriewnhnatladsd briewnthnakharxxmsinpccubnmiphunthi 61 ir miecahnathimhadithyepnphuduaeldaeninkar txmathangrachkaridbrrcuphuchwyaephthy chux nay ch sayechux madarngtaaehnnghwhnasukhsalasuwrrnphumiepnkhnaerk pi 2467 emuxngaephn wlysri phurksakartaaehnngphuwarachkaremuxngsuwrrnphumi thansudthay rwmkbkhna thakarburnaxuobsth aelapratisngkhrn pidthxngxngkhphraphuththrup wditwiilthrrm odywacangchangchawywn khux naycang aelanayhay epnphukxsrang rwmthng mikarwadphaphcitrkrrm ody nayosm odyhlwngprasasn osphn epnprathanfaykhrawas aela phrathrrmsunthrxbphirm phraxthikar epnprathanfaysngkh sungyngkhngprakthlkthankarbnthukaelaphaphwad xuobsth n wditwiilthrrm cnpccubn inpi ph s 2469 xamatyexkphrayasunthrethphkiccarks thxng cnthrangsu khahlwngcnghwdrxyexdehnwabungphlaychy edimichwabungphralanchy sungtngxyuicklangemuxngrxyexdtunekhin thaplxythingiwbungkcahmdsphaphip cungidchkchwnchawbancakthukxaephxmakhudlxkbung ephuxihminakhngxyuidtlxdpi iddaeninkarkhudlxkbungthngklangwnaelaklangkhunxyu 2 pi michawbanmarwmkhudlxkbungthung 40 000 khn5 hlwngchayrthkic echy phlasry 2473 2476 36 khunpraesrithsrrphkic wiechiyr wngsaekw 2476 2479 3 16 phvscikayn 2476 kareluxktngkhrngaerkkhxngpraethssyam ody cnghwdrxyexd epy ekhteluxktngediyw miphuaethnrasdr id canwn 2 khn aebngkarpkkhrxngepncnghwd micnghwdthngsin 70 cnghwd tamrththrrmnuyaehngrachxanackrsyam phuththskrach 2475 aelw samartheluxksmachiksphaphuaethnrasdr s s praephththihnung idthnghmd 78 khn odyswnihycasamartheluxkphuaethnidcnghwdlakhn mibangcnghwdthimiphuaethnidmakkwahnungkhn idaek cnghwdechiyngihm cnghwdrxyexd cnghwdmhasarkham cnghwdnkhrrachsima miphuaethnid 2 khn khnathicnghwdphrankhraelacnghwdxublrachthani miphuaethnid 3 khn sungkhnannrththrrmnuykahndxtraprachakr 200 000 khntxkarmiphuaethnidhnungkhn odyphuaethnrasdrcnghwdrxyexd inkarelixktngkhrngaerk khux phnothphraiphsalewchkrrm swasdi osmekstrin aela canaysibkhunesnassdi thng thxngthwi 7 nayosphn xsdr engk satamy 2479 2487 88 rxyoth thwil thnsilngkur 2487 2490 3 yaythiwakarxaephx ip dngpakx pccubn 9 naysng suphotsa 2490 110 naysikhr sikhrphumanurks 2490 2491 111 nayexib klinxubl 16 th kh 2491 2493 2 tngtablthunghlwng aeykcaktablsrakhu tablhwothn aeykcaktablnakha tablhinkxng aeykcaktablsrakhu aelatablbxphnkhn aeykxxkcaktablepluxy 12 rxytrisuwrrn orcnwiphada 27 mi y 2493 2495 2 ph s 2493 cxmphl p phibulsngkhram idprakaskhnannamthanghlwngaephndinihepnekiyrtiaekphumiswnprakxbkhunngamkhwamditxpraeths inrachkiccanuebksa 12 thnwakhm 2493 thanghlwngaephndinsay rxyexd suwrrnphumi surinthr thanghlwnghmayelkh 214 ihkhnannamwa thnn pthmannth ephuxepnekiyrtiaek naywirphl pthmannth xditnaychangkakbhmwdkarthangsurinthr aela thanghlwngaephndinsay suwrrnphumi yaosthr xanacecriy ihkhnannamwa thnn xrunpraesrith ephuxepnekiyrtiaek naycapi xrunpraesirth naychangkakbaekhwng13 nayswsdi phrhmdierk 8 k kh 2495 15 mi kh 2498 2 pi 8 eduxn 2497 kxtng orngeriynsuwrrnphumi tngkhunemuxwnthi 1 mithunayn 2497 epnorngeriynmthymsuksaodyxasyxakhareriynchwkhraworngeriynbansuwrrnphumi orngeriynemuxngsuwrrnphumi pccubn epnsthanthieriynchwkhraw aelainpi 2551 epliynchux epn14 nayesthiyr nakhrwaca 23 mi kh 2498 24 k kh 2499 1 pi 4 eduxn15 naysakhr ephchrwiess 29 k kh 2499 13 k kh 2503 4 pi ph s 2499 prakaskrathrwngmhadithy eruxngkarcdtngsukhaphibaltablsrakhu xaephxsuwrrnphumi cnghwdrxyexd emuxwnthi 18 eduxnkrkdakhm ph s 2499 rachkiccanuebksa chbbphiess hna 54 elm 37 txnthi 60 wnthi 3 singhakhm 2499 ph s 2503 tngorngeriynprachabal txmaepnorngeriynemuxngihmsuwrrnphumi aela orngeriynxnubalemuxngihmsuwrrnphumi txma16 naypraesrith ethsprasiththi 13 k kh 2503 30 ph y 2504 1 pi 4 eduxn17 nayechiyb smuthrakraphngs 16 th kh 2504 30 k y 2508 3 pi 9 eduxn tngtablophnthray odyaeykhmuban caktablsamkha xaephxsuwrrnphumi epn tablophnthray in wnthi 4 minakhm 250818 naysuwrrn suphaphl 10 t kh 2508 26 ph kh 2514 5 pi 8 eduxn pi 2509 krmiprsniyothrelkh epidthithakariprsniyothrelkhsuwrrnphumi odyepidphrxmkn kb bungkal cnghwdhnxngkhay knthrarmy cnghwdsrisaeks aela ekhmrath cnghwdxublrachthani tngtablemuxngthung odyaeykhmuban cak tablsrakhu canwn 12 hmuban miphlinwnthi 12 emsayn ph s 2509 tngtablkhuemuxng ody aeykhmuban caktablhnxngphux xaephxsuwrrnphumi 5 hmuban aela hmubancaktablsngyang xaephxsuwrrnphumi 4 hmuban rwmepn 9 hmuban epn tablkhuemuxng khunxaephxsuwrrnphumi n wnthi 11 emsayn 251019 naypracwb sri 27 ph kh 2514 1 k y 2516 2 pi 4 eduxn 29 mithunayn 2515 krmsamysuksaidxnumtiihtngorngeriynsuwrrnphumiphithyiphsalkhun odychuxerimkxtngkhux orngeriynsrisuwrrnphumiphithya khnthwipcungmkeriykwaorngeriynsri odyichxakhareriynkhxngorngeriynsuwrrnphumi pccubnkhux epnsthanthiinkareriyn odyminayexib mntri cnthrsnam rksakarnintaaehnngkhruihy aelathakaryaymasthanthipccubninpi ph s 2516 miphunthi 72 ir aelaepliynchuxepn orngeriynsuwrrnphumiphithyiphsal 7 knyayn 2514 tngtabldxkim odyaeykhmubancak tablsngyang xaephxsuwrrnphumi 8 hmuban aela caktablsrakhu 2 hmuban rwmepn 10 hmuban khunepntabldxkim20 naysngwn wthnannth 1 k y 2516 12 ph kh 2520 3 pi 8 eduxn wnthi 28 kumphaphnth ph s 2516 krathrwngmhadithy odynayphwng suwrrnrth rthmntrichwywakarkrathrwngmhadithy idprakascdtngepnkingxaephxemuxngsrwngaelaidrbxnumtiemuxwnthi 15 minakhm ph s 2516 odyprakasinrachkiccanuebksa elmthi 90 txnthi 26 hnathi 817 lngwnthi 20 minakhm 2516 prakxbdwy 3 tabl khux tablhnxngphux tablhnxnghin aelatablkhuemuxng aeyksamtabl cakxaephxsuwrrnphumi swnrachkartang idcdsngecahnathimaptibtinganinwnthi 1 emsayn 2516 ph s 2512 2518 klumphunathxngthin naodykannsuniy phwngcnthraelasphatablophnthrayehnwakariptidtxrachkarthixaephxsuwrrnphumiimsadwkepnxyangmak cungidmikarekhlixnihweriykrxngkhxykthanaepnxaephxephuxaekikhpyhakhwameduxdrxnkhxngrasdr cnkrathngin pi ph s 2519 cungidmikarprakasphrarachkvsdikacdtngepn kingxaephxophnthray21 naycaruy buyothaesng 20 ph kh 2520 30 k y 2522 2 pi 4 eduxn pi ph s 2522 idmiphrarachkvsdikatngxaephxemuxngsrwng odyprakasinrachkiccanuebksa chbbphiess elmthi 96 txnthi 42 hnathi 22 lngwnthi 25 minakhm ph s 2522 ykthanakingxaephxemuxngsrwng khunepn xaephxemuxngsrwng miphltngaetwnthi 26 minakhm 2522 ody s ohtrakity rxngnaykrthmntri22 nayphngsephchr chucinda 12 t kh 2522 23 ph y 2522 2 eduxn 11 wn23 nayphisuththi fngesnaa 24 k y 2522 23 k y 2525 2 pi24 naywirun thiphakr 24 ph y 2525 7 t kh 2527 1 pi 10 eduxn25 naykiccarks chumchun 7 t kh 2527 15 m kh 2530 2 pi 4 eduxn26 nayesri thwiwthn 16 m kh 2530 2 k kh 2533 3 pi 6 eduxn pi ph s 2532 idmiphrarachkvsdikaykthanaepn xaephxophnthray emuxwnthi 26 phvsphakhm ph s 2532 odyaeyktablophnthray tablsamkha tablsriswang tablyangkha odyminaysuphaph cnthrphirmy epnsmachiksphacnghwd sc khnaerk cakxaephxophnthray inpi ph s 253327 naynrngkh hruxoxphas 2 k kh 2533 17 t kh 2537 4 pi 3 eduxn28 nayphnm nnthwisiththi 17 t kh 2537 14 t kh 2539 2 pi29 naythnu sukhchaya 14 t kh 2539 19 ph kh 2540 7 eduxn30 naypricha kaycnwapsthity 19 ph kh 2540 9 ph y 2540 6 eduxn ph s 2540 krathrwngsuksathikar cdtng withyalyethkhnikhrxyexd 2 inwnthi 28 krkdakhm 2540 ody krmxachiwsuksaidsngihkharachkarsngkdwithyalyethkhnikhrxyexdcanwn 3 khn thahnathiepnphuprasanngan aelaphuchwyphuprasanngankarcdtngwithyalyethkhnikhrxyexdaehngthi 2 dngni naychanay echingsaxad naycaeniyr suthimathrrm naycitrkr cnthresla31 nayxanwy cnthnxaphrn 10 ph y 2540 1 ph y 2541 1 pi32 nayrngsrrkh ephiyrxdwngs 2 ph y 2541 16 t kh 2543 1 pi 11 eduxn ph s 2542 phrarachbyytiepliynaeplngthanasukhaphibalepnethsbal ph s 2542 ykthanasukhaphibalsrakhu epn ethsbaltablsrakhu emuxwnthi 25 eduxnphvsphakhm ph s 2542 ph s 2543 inwnthi 1 tulakhm 2543 krathrwngsuksathikaridprakasepliynchux withyaly cakwithyalyethkhnikhrxyexdaehngthi 2 epn withyalyethkhnikhsuwrrnphumi 33 nayxuir hlaskul 27 ph y 2543 30 k y 2545 1 pi 10 eduxn34 naychuskdi suththiprapha 16 th kh 2545 30 k y 2547 1 pi 9 eduxn35 nayciraekiyrti phumiswsdi 1 ph y 2547 11 th kh 2549 2 pi 1 eduxn ph s 2549 epliynaeplngchuxcakethsbaltablsrakhuepnethsbaltablsuwrrnphumi emuxwnthi 27 eduxnminakhm ph s 2549 miphunthi 6 8 tarangkiolemtr36 naynariththi ichyachn 8 m kh 2550 23 t kh 2550 9 eduxn37 nayphdungskdi ichyxala 24 t kh 2550 30 k y 2552 1 pi 11 eduxn38 nayxannth srirtn 25 m kh 2553 12 th kh 2554 1 pi 11 eduxn39 nayelissin cungcrsthrphy 13 th kh 2554 30 k y 2556 1 pi 9 eduxn40 naypnithan sunartn 16 th kh 2556 30 k y 2558 1 pi 9 eduxn41 naysuthi elasubinpraesrith 16 ph y 2558 6 ph y 2559 1 pi42 naywywuthi xasryphl 7 ph y 2559 30 k y 2561 2 pi ph s 2559 okhrngkarcdtng mhawithyalyethkhonolyirachmngkhlxisan withyaekhtrxyexd epnokhrngkarcdtng withyaekhtinsngkdmhawithyalyethkhonolyirachmngkhlxisan odyhlxmrwmwithyalyethkhnikhsuwrrnphumi kb okhrngkarcdtngwithyaekhtrxyexd tngxyu briewnthungkularxngih xaephxsuwrrnphumi cnghwdrxyexd43 naythnity phnthhinkxng 8 ph y 2561 6 em y 2563 1 pi 5 eduxn 2 wn44 naynrngkhskdi sbay 7 em y 2563 30 k y 2563 6 eduxn45 nayochkhchy wthnkul minakhm 2564 pccubnthitngaelaxanaekhtxaephxsuwrrnphumitngxyuthangthisitkhxngcnghwd mixanaekhttidtxkbekhtkarpkkhrxngkhangekhiyngdngtxipni thisehnux tidtxkbxaephxemuxngsrwng aelaxaephxxacsamarth thistawnxxk tidtxkbxaephxphnmiphr xaephxhnxnghi aelaxaephxophnthray thisit tidtxkbxaephxrtnburi aelaxaephxthatum cnghwdsurinthr thistawntk tidtxkbxaephxekstrwisykaraebngekhtkarpkkhrxngkarpkkhrxngswnphumiphakh xaephxsuwrrnphumiaebngphunthikarpkkhrxngxxkepn 15 tabl 199 hmuban idaek tablkhxngxaephxsuwrrnphumiladb xksrithy xksrormn hmuban prachakr1 srakhu Sa Khu 21 20 2392 dxkim Dok Mai 14 6 1723 naihy Na Yai 15 7 8224 hinkxng Hin Kong 16 9 3525 emuxngthung Mueang Thung 8 5 1776 hwothn Hua Thon 12 5 3317 bxphnkhn Bo Phan Khan 9 4 5568 thunghlwng Thung Luang 15 7 9559 hwchang Hua Chang 12 6 2762543 nakha Nam Kham 16 9 49811 hwyhinlad Huai Hin Lat 12 5 55412 changephuxk Chang Phueak 11 6 81013 thungkula Thung Kula 14 7 16914 thungsriemuxng Thung Si Mueang 12 7 44115 capakhn Champa Khan 12 6 691rwm 199 116 043khxmulwnthi 1 mkrakhm ph s 2562 karpkkhrxngswnthxngthin thxngthixaephxsuwrrnphumiprakxbdwyxngkhkrpkkhrxngswnthxngthin 16 aehng idaek khrxbkhlumphunthibangswnkhxngtablsrakhu ethsbaltablcapakhn khrxbkhlumphunthitablcapakhnthngtabl ethsbaltablhinkxng khrxbkhlumphunthitablhinkxngthngtabl ethsbaltablthungkula khrxbkhlumphunthitablthungkulathngtabl ethsbaltablthunghlwng khrxbkhlumphunthitablthunghlwngthngtabl ethsbaltabldxkim khrxbkhlumphunthitabldxkimthngtabl xngkhkarbriharswntablsrakhu khrxbkhlumphunthitablsrakhu nxkekhtethsbaltablsuwrrnphumi xngkhkarbriharswntablnaihy khrxbkhlumphunthitablnaihythngtabl xngkhkarbriharswntablemuxngthung khrxbkhlumphunthitablemuxngthungthngtabl xngkhkarbriharswntablhwothn khrxbkhlumphunthitablhwothnthngtabl xngkhkarbriharswntablbxphnkhn khrxbkhlumphunthitablbxphnkhnthngtabl xngkhkarbriharswntablhwchang khrxbkhlumphunthitablhwchangthngtabl xngkhkarbriharswntablnakha khrxbkhlumphunthitablnakhathngtabl xngkhkarbriharswntablhwyhinlad khrxbkhlumphunthitablhwyhinladthngtabl xngkhkarbriharswntablchangephuxk khrxbkhlumphunthitablchangephuxkthngtabl xngkhkarbriharswntablthungsriemuxng khrxbkhlumphunthitablthungsriemuxngthngtablprachakrprachakrswnihyprakxbxachiphhlk khux ekstrkrrm rbcangthwip aelamixachiphesrimxun echn eliyngstw rwmklumthasinkhahtthkrrm aela odymisunglanasaysakhythihlxeliyngchawbanmihlaysay khux aelawdwdthisakhyinekhtethsbaltablsuwrrnphumi xaephxsuwrrnphumimidngtxipni wdklangsthansuksaradbwithyaly orngeriynradbmthymsuksathisakhyinekhtxaephxsuwrrnphumimidngtxipni okhrngkarcdtng mhawithyalyethkhonolyirachmngkhlxisan withyaekhtrxyexd n thungkularxngih orngeriynsuwrrnphumiphithyiphsal orngeriynradbprathmsuksathisakhyinekhtxaephxsuwrrnphumimidngtxipnisthanthithxngethiywkuphraoknakuphraokna b kuphraokna t srakhu xnusawriyecaaekwmngkhl aela ekht khuemuxngbanthng prakaschuxobransthan krmsilpakr ph s 2478 simwditrphumikhnacary b hwothn t hwothn simwdsraektu b nakha t nakha phrathatuwdebyc b hwothn t hwothn bxphnkhn b taenr t capakhn wdphrathatubxphnkhn b hnxngmaehiya t capakhn xangekbnabxphnkhn b taenr b hyahnxng t capakhn phrathatuxrhntomkhkhllan wdklang khumwdklang inekhtethsbaltablsuwrrnphumi xnusawriythawesiyngecaemuxngsuwrrnphumi inekhtethsbaltablsuwrrnphumi sunyphthnathungkularxngih b kuphraokna t srakhu phiphithphnthhxylanpi b ophnkhrknxy t srakhu srasiehliym srasxngaek t srakhu kuhinkxng b hinkxng t hinkxng wdphrathatunaihy b naihy t naihy wdphraecaihybanyangekhrux b yangekhrux t emuxngthung wdkuxarmy b dngemuxng t emuxngthung bungthasala b kuphraokna t srakhu okhrngkarcdtngwithyaekhtrxyexd n thungkularxngih mhawithyalyethkhonolyirachmngkhlxisan t hinkxngethskalsakhybuybngifnganpraephnibuybngifxaephxsuwrrnphumi cdkhunepnpracathukpixyangyingihy radbpraeths odyechphaawnaeh khbwnfxn esingbngif aelabngiflaysriphumi kbkartkaetngkhbwnbngifthimakthisudkhxngpraeths odyngancd inwnesar xathityaerkkhxngeduxnmithunaynkhxngthukpi n lanxnusawriyphrartnwngsa thawesiyng aelahnathiwakarxaephxsuwrrnphumi odynganmikhwamoddednthiaetktangcakthixun khux exklksnkartkaetngex bngifdwylaykrrikrtd ephiyngaehngediywinpraeths hruxthieriykwa rwmthngkhbwnraswyngammakthisudaehnghnungkhxngpraeths nxkcakni nganpraephnibuybngifsuwrrnphumi yngmisubenuxngyawnan michangbngiflaysriphumi inkhumwdthukkhumwd inekhtethsbaltablsuwrrnphumi aelabngifex thwekhtcnghwdrxyexd caekharwmaekhngkhnpraephthbngifkhnadihythnghmd cnthaih epnhnunginnganpraephnibngifthimichuxesiyngthisudxikaehnghnungkhxngpraeths cnmikhaklawthiwa hakxyakdubngifkhrbkhrn hlakhlaykickrrm ipthi yosthr hakxyakdubngifcudkhunsung canwnmak ihipthixaephxphnmiphr aela hakxyakdu bngifextkaetngswyngamkhnadihymakthisudaelakhbwnraswyngammakthisudipthi xaephxsuwrrnphumi odytngeet nganpraephnibuybngifsuwrrnphumi 2567 epntnip camikhbwnaehraesingswyngam chingthwyphrarachthanphrabathsmedcphrawchireklaecaxyuhw sungcamikarthukcdkhunepnkhrngeerkinpi ph s 2567 ihsmekiyrtikbdineednthimikarcdnganbuybngifxyangyingihy epnexklksneelamikhwamekaeekeelatxenuxngmaxyangyawnanmakthisudeehnghnungkhxngphakhxisaneelakhxngpraethsithy nxkcakniyngepnnganpraephnithidungdudeelaepnsunyrwmihlukhlanemuxngsriphumihruxekhruxkhaylukhlanecaeekwmngkhl brrphchnklumihykhxngphakhxisan thimixyuthwphakhxisaneelapraethsithyihklbmaeyiymeyuxnthinekakhxngbrrphchn sungidkhunchuxwaepn emuxngbrrphburuskhxngchawxisan kxnthiphayhlngcamikarxphypheeykknxxkipsrangemuxngeelachumchntangmakmaythwphakhxisan nbidwaepnsunyrwmthangciticiheeklukhlanchawxisanidmakmayelythiediywchawxaephxsuwrrnphumithimichuxesiyngkharachkar nkkaremuxng nkwichakar nayechaw sayechux prathansalrththrrmnuy thanaerk nayduly dwngektu s s rxyexd phrrkhkicsngkhm naykhcrskdi sriswasdi s s rxyexd phrrkhkhwamhwngihm naywirch prarasri kanntablsrakhu xdit prathanchmrmkannphuihybanphakhtawnxxkechiyngehnux naysmskdi esrsoth naykethsmntriethsbaltablsuwrrnphumi naywrrnthsnphl xiswaemththriskul prathansphaethsbaltablsuwrrnphumi naywsnt samibti prathanchumchnhmu 3 ekhtethsbaltablsuwrrnphumi smachiksphaethsbaltablsuwrrnphumi naykitti smthrphy s s rxyexdekht 6 xaephxsuwrrnphumi xaephxophnthray xaephxhnxnghi phl t t dr phiphthnphngs etchachy phubngkhbkar sn yannawa s s aebbbychiraychuxphrrkhthinkakhaw hwhnaphrrkhthinkakhaw rthmntriwakarkrathrwngmhadithy ph t x phiess phiphph iybw rxngphubngkhbkar sn hwykhwang krungethphmhankhr kharm phlphrklang rxngokhskpracasanknaykrthmntri inrthbalesrstha thwisin sngkdphrrkhphumiicithyphraphiksusngkh phrakhrusuphrrnphumikhnacary sx ecakhnaemuxngsuwrrnphumi rupsudthay hlwngpuchm thanathmom wdkuphraokna phrakhruphuththbalmuni wdchymngkhl bankhaphrinthr tablepluxy pccubn tablchangephuxk hlwngpuekhn thanathmom wditwiilthrrm phrarachphrhmcriyakhun ecakhnacnghwdrxyexd faymhanikay wdbanepluxyihy x emuxng c rxyexd nkkila kxngnpha wchrwithy nkmwy nktrakrxhyingthimchatiithy ecakhxngchaya ephchchkhatengiyb nktrakrxhyingthimchatiithynkthurkic nayphnm sriaesnpang nayksmakhmphxkhaxaephxsuwrrnphumi prathanbristhmhachncakd sriaesngdawiboxphawewxr nkrxng nkdntri nkaesdng laiy ihthxngkha nkrxnglukthung hmxla nkeesdng phithikr rachinixindi exkrach suwrrnphumi nkrxnglukthung ecms cturngkh nkrxnglukthung hmxla nkeesdng ibtxng cnthrngam hrux aepw pthma nkrxnghmxla bi praphaphr khwyicaefnaefn nangexkhmxlasngkdkhnahmxlakhwyicaefnaefn aemn ckrphnth ecsi phlla xdittlkkhnaraebiybwathasilp buth ckrphnth laephlin sanelabnethingsilp xditphraexkhmxlakhnaraebiybwathasilp hwhnawngsanelabnethingsilp ixxxn klwchr khawsaraelnd nkrxng phraexkhmxlakhnasanelabnethingsilp hnung phlaychy thxpiln phraexkhmxlakhnakhaphunrwmmitr phanuwthn wiesswngsa nkeetngephlng eetngephlngdng xathi bepnhyngekhaekhaic sngidsngeelw hamtw nangixkhxngxay ephinbaemnphusaweha epntn silpineehngchati iphwrinthr khawngam kwi nkekhiyn silpinaehngchati sakhawrrnsilp kwiniphnth phuththskrach 2558nkprachychumchn phunban naysmyli srxysila prachyphunban danthsnsilp kartdaetnglayexbngif laysriphumi naylxm prasar prachychumchn dansasnphithi phithikrrm karthxphaihm ihmlaysriphumidngedim kannedch phusxngchn phuekhiyn khnthungkula xditkanntablthunghlwng nayeliyb aecngsnam silpinphunban phumiphlngandiednthangdanwthnthrrm khxng sthabnwicysilpaaelawthnthrrmxisan mhawithyalymhasarkham phuthakhunpraoychntxkrathrwngwthnthrrm wnthi 13 emsayn ph s 2561 xangxing phunthixanaekhtkhxngemuxngsriphumi suwrrnphumi efsbukh 2021 07 15 subkhnemux 2023 06 23 phrayakhtiywngsa ehla nrxyexc phngsawdarphakhxisan chabbkhxngphrayakhtiywngsa ehla nrxyexc krungethph srihngs 2432 n 8 9 https www car chula ac th display7 php bib b1275880 hmxmxmrwngswicitr m r w pthm khencr tanan emuxngnkhrcapaskdi xublrachthani innganchapnkicsph naywicitrskdi saraosphn n emruwdeecng 2527 n 4 https finearts go th storage contents file S7yoBa3aJe2AkCKdVqwQCKbvlt16f6i01xIy9q3Z pdf khnakrrmkarcdphimphexksarthangprawtisastrsanknaykrthmntri eruxngthrngtngecapraethsrachkrungrtnoksinthr rchkalthi 1 krungethph sankthaeniybnaykrthmntri 2514 n 23 41 45 https www finearts go th nlt korat view 19408 E0 B9 80 E0 B8 A3 E0 B8 B7 E0 B9 88 E0 B8 AD E0 B8 87 E0 B8 97 E0 B8 A3 E0 B8 87 E0 B8 95 E0 B8 B1 E0 B9 89 E0 B8 87 E0 B9 80 E0 B8 88 E0 B9 89 E0 B8 B2 E0 B8 9B E0 B8 A3 E0 B8 B0 E0 B9 80 E0 B8 97 E0 B8 A8 E0 B8 A3 E0 B8 B2 E0 B8 8A E0 B8 81 E0 B8 A3 E0 B8 B8 E0 B8 87 E0 B8 A3 E0 B8 B1 E0 B8 95 E0 B8 99 E0 B9 82 E0 B8 81 E0 B8 AA E0 B8 B4 E0 B8 99 E0 B8 97 E0 B8 A3 E0 B9 8C E0 B8 A3 E0 B8 B1 E0 B8 8A E0 B8 81 E0 B8 B2 E0 B8 A5 E0 B8 97 E0 B8 B5 E0 B9 88 1 http www ratchakitcha soc go th DATA PDF 2445 041 783 3 PDF http www ratchakitcha soc go th DATA PDF 2493 D 039 3026 PDF http www ratchakitcha soc go th DATA PDF 2499 D 060 54 PDF http www ratchakitcha soc go th DATA PDF 2508 D 025 941 PDF http www ratchakitcha soc go th DATA PDF 2509 D 070 2613 PDF http www ratchakitcha soc go th DATA PDF 2509 D 033 1577 PDF http www ratchakitcha soc go th DATA PDF 2510 D 031 1157 PDF http www ratchakitcha soc go th DATA PDF 2514 D 097 2433 PDF krathrwngsatharnsukh 1 mkrakhm 2562 hdcservice moph go th khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 05 08 subkhnemux 30 knyayn 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help hlwngpuchm thanathmom wdkuphraokna x suwrrnphumi c rxyexd 108 phraekci 2020 12 23 phrakhrusuphrrnphumikhnacary sx pkhmudemuxngithy 2021 08 11 https music trueid net th th detail QyQ9D4K0edGy