บทความนี้หรือส่วนนี้ของบทความต้องการปรับรูปแบบ ซึ่งอาจหมายถึง ต้องการจัดรูปแบบข้อความ จัดหน้า แบ่งหัวข้อ และ/หรือการจัดระเบียบอื่น ๆ คุณสามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้โดยการกดที่ปุ่ม แก้ไข ด้านบน จากนั้นปรับปรุงหรือจัดรูปแบบอื่น ๆ ในบทความให้เหมาะสม |
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มเพื่อ |
วันออกพรรษา หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า วันมหาปวารณา เป็นวันสำคัญทางศาสนาพุทธแบบไทย-ลาว โดยเป็นวันสิ้นสุดระยะเวลาจำพรรษา 3 เดือนของพระสงฆ์เถรวาท โดยเป็นวันที่พระสงฆ์จะทำสังฆกรรม คือ การปวารณาในวันนี้ วันออกพรรษา (ออกปุริมพรรษา1) จะตรงกับ (ประมาณเดือนตุลาคม) หลังวันเข้าพรรษา 3 เดือน ตามปฏิทินจันทรคติไทย
การปวารณา ถือเป็นข้อปฏิบัติตามพระวินัยสำหรับพระภิกษุโดยเฉพาะ เรียกว่า เป็นญัตติกรรมวาจา ประเภทหนึ่ง ให้โอกาสแก่พระสงฆ์ที่จำพรรษาอยู่ร่วมกันตลอดไตรมาส (3 เดือน) สามารถว่ากล่าวตักเตือนและชี้ข้อบกพร่องแก่กันและกันได้โดยเสมอภาค เป็นวันที่พระพรรษาน้อยกว่าสามารถตักเตือนพระที่มีพรรษามากกว่าได้ ด้วยจิตที่ปรารถนาดีซึ่งกันและกัน เพื่อให้พระสงฆ์ที่ถูกตักเตือนมีโอกาสรับรู้ข้อบกพร่องของตนและนำข้อบกพร่องมาแก้ไขปรุงตัวเองให้ดียิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันถ้าเป็นเรื่องเข้าใจผิด ก็จะได้ชี้แจงแก้ไข หรือปรับความเข้าใจกัน เพราะสิ่งที่เห็น ที่ได้ยิน ที่สงสัย อาจมีเรื่องราวซ่อนอยู่ หรืออาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เข้าใจ รวมถึงเปิดโอกาสให้ขอโทษ ที่รู้ตัวว่าสร้างเดือดร้อนให้แก่หมู่คณะ และขออภัยที่เข้าใจผิด และเปิดโอกาสให้ซักถามข้อสงสัยซึ่งกันและกันได้ เพื่อปรับความเข้าใจกัน
เมื่อถึงวันออกพรรษา พุทธศาสนิกชนถือเป็นโอกาสอันดีที่จะเข้าวัดเพื่อบำเพ็ญกุศลแก่ตนเองที่ตั้งใจปฏิบัติตนเป็นอุบาสก-อุบาสิกา ส่วนพระสงฆ์จำพรรษาและตั้งใจศึกษาปฏิบัติธรรมมาตลอดจนครบไตรมาส (3 เดือน) หรือในวันถัดไปคือ วันออกพรรษา(จริง) (คือ วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11) พุทธศาสนิกชนในประเทศไทยนิยมไปทำบุญตักบาตร เรียกว่า บุญเทศกาลบาตรเทโว หรือ บาตรเทโวโรหณะ เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในพุทธประวัติที่กล่าวว่า พระพุทธเจ้าเสด็จกลับจากเทวโลก ลงมายังโลกมนุษย์หลังจากการโปรดเทพบุตร อดีตพระพุทธมารดา พระนางสิริมหามายา บนสวรรค์ดาวดึงส์ (ชั้นที่ 2) ในพรรษาที่ 7 เสด็จลงมายังเมืองสังกัสสะ พร้อมกับ (ทรงปาฏิหาริย์เปิดโลกทั้ง 3. สวรรค์,นรก,โลก)
คือ ช่วงเวลาที่ทรงอนุญาตให้ภิกษุผู้อยู่จำพรรษาครบ 3 เดือนแล้ว สามารถรับมานุ่งห่มได้ เริ่มตั้งแต่ วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 (วันลอยกระทง) เป็นช่วงเวลากฐินกาลตามพระวินัยปิฎกเถรวาท ในช่วงเวลาที่พุทธศาสนิกชนชาวไทยจะเข้าร่วมบำเพ็ญกุศลเนื่องในงานกฐินประจำปี เป็นการนำผ้าจีวร ถวายพระพุทธรูปและพระสงฆ์ในวัดต่าง ๆ โดยถือว่าเป็นงานบำเพ็ญกุศลที่ได้บุญกุศลมากงานหนึ่ง
ความสำคัญ
วันออกพรรษา คือ วันที่สิ้นสุดระยะการจำพรรษาเป็นเวลา 3 เดือน (นับตั้งแต่วันเข้าพรรษา) เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "วันมหาปวารณา" คำว่า "ปวารณา" แปลว่า "อนุญาต" หรือ "ยอมให้" ในวันออกพรรษานี้พระสงฆ์จะประกอบพิธีทำสังฆกรรม เรียกว่า มหาปวารณา เป็นการเปิดโอกาสให้ภิกษุว่ากล่าวตักเตือนกันได้ เพราะในระหว่างเข้าพรรษา พระสงฆ์บางรูปอาจมีข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไข การให้ผู้อื่นว่ากล่าวตักเตือนได้ ทำให้ได้รู้ข้อบกพร่องของตน และยังเปิดโอกาสให้ซักถามข้อสงสัยซึ่งกันและกันด้วย
การออกพรรษาของพระสงฆ์ตามพระวินัยปิฎก
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ประเภทของการออกพรรษาของพระสงฆ์
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
อานิสงส์ของพระสงฆ์ที่จำครบพรรษา
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
เมื่อพระสงฆ์จำพรรษาครบไตรมาสได้ปวารณาออกพรรษาและได้กรานกฐินแล้ว ย่อมได้รับอานิสงส์ หรือข้อยกเว้นพระวินัย 5 ข้อ[10] คือ
เที่ยวไปไหนไม่ต้องบอกลา (ออกจากวัดไปโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งเจ้าอาวาสหรือพระสงฆ์รูปอื่นก่อนได้) เที่ยวไปไม่ต้องถือไตรจีวรครบสำรับ 3 ผืน ฉันคณะโภชน์ได้ (โภชนะที่คณะรับนิมนต์ไว้) เก็บอดิเรกจีวรไว้ได้ตามปรารถนา (ยกเว้นสิกขาบทข้อนิสสัคคิยปาจิตตีย์บางข้อ) จีวรลาภอันเกิดในที่นั้นเป็นของภิกษุ (เมื่อมีผู้มาถวายจีวรเกินกว่าไตรครองสามารถเก็บไว้ได้โดยไม่ต้องสละเข้ากองกลาง)
ประเพณีท้องถิ่น
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
เป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงสู่โลกหลังจากเสด็จขึ้นไปจำพรรษาอยู่ในดาวดึงส์ถ้วนไตรมาส และแสดงอภิธรรมเทศนาโปรดพระมารดาในเทวโลกนั้นมาตลอดเวลา 3 เดือน เมื่อถึงวันมหาปวารณา คือวันสุดท้ายของการอยู่จำพรรษา จึงเสด็จมายังโลกมนุษย์โดยเสด็จมาทางบันไดสวรรค์ลงที่ประตูเมืองสังกัสสะ อันตั้งอยู่เหนือกรุงสาวัตถี วันที่เสด็จลงจากเทวโลกนั้นเรียกกันว่า “วันเทโวโรหณะ” ตรงกับวันมหาปวารณาเพ็ญเดือน 11 วันนั้นถือกันว่าเป็นวันบุญกุศล ที่สำคัญวันหนึ่งของพุทธบริษัท โบราณเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ”วันพระเจ้าเปิดโลก” วันรุ่งขึ้นจากวันนั้นเป็นวันแรม 1 ค่ำเดือน 11 จึงมีการทำบุญตักบาตรเทโวโรหณะ กันเป็นการใหญ่ เพื่อเฉลิมฉลองการเสด็จลงจากเทวโลกของพระพุทธเจ้าโดยพุทธบริษัทได้พร้อมใจกันใส่บาตรแด่พระสงฆ์ที่อยู่ทั้งหมดในที่นั้นกับทั้งพระพุทธองค์ด้วยโดยไม่ได้นัดหมายกันมาก่อนภัตตาหารที่ถวายในวันนั้นส่วนใหญ่เป็นเสบียงกรัง ของตนตามมีตามได้ ปรากฏได้มีการใส่บาตรในวันนั้นแออัดมาก ผู้คนเข้าไม่ถึงพระสงฆ์จึงเอาข้าวสาลีของตนห่อบ้าง ทำเป็นปั้นๆ บ้างแล้วโยนเข้าถวายพระ นี่เองจึงเป็นเหตุหนึ่งที่นิยมทำข้าวต้มลูกโยน เป็นส่วนสำคัญของการตักบาตรเทโวโรหณะ เป็นประเพณีว่าถึงวันแรม 1 ค่ำเดือน 11 (บางแห่งก็ทำในขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11) ทุกๆ ปี ควรทำบุญตักบาตรให้เหมือนครั้งดั้งเดิมเรียกว่า ตักบาตรเทโวโรหณะ จนทุกวันนี้
ในจังหวัดสมุทรปราการจะมีประเพณีรับบัวหรือโยนบัว ซึ่งจัดในวันขึ้น14ค่ำเดือน11
ทางภาคใต้จะมีประเพณีชักพระ หรือแห่พระ หรือลากพระ โดยจะมีการนำพระพุทธรูปขึ้นเรือแห่ไปตามลำน้ำให้ผู้คนทำบุญ โดยจะเรียกเรือที่ชักพระว่าเรือพนม บางท้องที่จะมีประเพณีโยนดอกบัวถวายเป็นพุทธบูชาด้วย โดยประเพณีชักพระในปัจจุบันมีทั้งบนบกและในน้ำ เรียกว่าเรือพนมทางบกและเรือพนมทางน้ำ (เนื่องจากในปัจจุบันผู้คนนิยมเดินทางทางบก แทนเดินทางทางน้ำอย่างในอดีตที่บ้านเรือนผู้คนอยู่จะตามริมน้ำ จึงเกิดการชักพระทางบกขึ้น) ซึ่งปกติจัดในวันแรม1ค่ำเดือน11
ประเพณีวันออกพรรษา
ในจังหวัดชัยภูมิและเพชรบูรณ์จะมีประเพณีแห่ต้นกระธูป ,ในจังหวัดสกลนครจะมีประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง,ในอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลยจะมีประเพณีแห่ผาสาดลอยเคราะห์ ,ในจังหวัดพิษณุโลกจะมีประเพณีแห่ต้นผึ้ง,ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี จะมีประเพณีทอดพุ่มผ้าป่าหน้าบ้านและแห่รถพนมพระ ,ที่อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี จะมีประเพณีตักบาตรเทโวทางเรือ
ประเพณีจุดประทีปคืนวันออกพรรษา
เป็นประเพณีที่จุดเทียนหรือไต้น้ำมัน โดยจะจุดในคืนวันออกพรรษา เป็นรูปต่างๆที่มองจากบนฟ้าจะเห็นเป็นรูปหรือข้อความต่างๆ ซึ่งจะเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา เช่น ธรรมจักร ดอกบัว ใบโพธิ์ เป็นต้น เชื่อกันว่าเป็นการจุดไฟถวายเพื่อให้พระพุทธเจ้าทรงทอดพระเนตรเห็นจากสวรรค์ โดยจำลองเหตุการณ์เหมือนเมื่อครั้งพระพุทธองค์ทรงเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หลังจากทรงโปรดพุทธมารดา โดยที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาในวันออกพรรษาและจะเสด็จลงสู่โลกมนุษย์ถึงในเวลาเช้าโดยมีประชาชนมารับเสด็จต่างพากันมาใส่บาตรพระพุทธเจ้า ดังนั้นจึงถือกันว่าในช่วงเวลากลางคืนพระองค์จะยังทรงเสด็จอยู่ระหว่างสวรรค์และโลกมนุษย์ จึงต่างพากันจุดประทีปเพื่อรับเสด็จ ชาวอีสานจะมีประเพณีการจุดประทีปเทียนถวายดอกไม้ ที่หน้าบ้าน โดยจะทำกาบมะพร้าวเป็นรูปเรือและจุดเทียนคู่ไว้บนกาบมะพร้าว โดยอาจนำต้นข้าวที่กำลังเริ่มตั้งท้องมาประดับร่วมด้วย เพื่อเป็นสิริมงคลให้ต้นข้าวในนางอกงามดี,ทางล้านนาจะมีประเพณีจุดผางผะติ๊บ, โดยประเพณีชาวไทใหญ่ที่แม่ฮ่องสอน จะมีการจัดขบวนแห่เทียนหลู่เตียนเหง(เทียนพันเล่ม) ประเพณีแห่ (ปราสาทพระพุทธเจ้า) เพื่อรับเสด็จพระพุทธเจ้า โดยชาวไทใหญ่จะเรียกประเพณีนี้ว่า หรือ ปอยเหลินสิบเอ็ด,วัดพระธาตุดอยเว้า อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย จะมีประเพณีปอยต้นแป๊ก(ต้นเกี้ยะ), ส่วนทางภาคอีสาน จะมีประเพณี เป็นเวลา3วัน ในวันขึ้น14ค่ำเดือน11เรียกว่าการไต้น้ำมันน้อย ในวันขึ้น15ค่ำเดือน11,เรียกว่าการไต้น้ำมันใหญ่ ในวันแรม1ค่ำเดือน11เรียกว่าการไต้น้ำมันล้างหางประทีป,ประเพณี ในจังหวัดยโสธร,ปรเพณีโคมไฟโมงมาง ในยโสธร, ประเพณีจังหวัดกาญจนบุรี, และหลายพื้นที่ที่ติดแม่น้ำ เช่น จังหวัดหนองคายและนครพนม ก็จะมีประเพณีและลอยกระทงสายหรือที่เรียกอีกอย่างว่าไข่พญานาคในคืนวันออกพรรษา,
ประเพณีเทศน์มหาชาติเวสสันดรชาดก
การเทศน์มหาชาติ คือ เทศนาเวสสันดรชาดก เป็นบุญพิธีที่นิยมจัดให้มีกันมาแต่โบราณ ส่วนมากจัดให้มีในวัดเป็นหน้าที่ของชาวบ้านและวัดนั้น ๆ จะตกลงร่วมกันจัด ปกตินิยมให้มีหลังฤดูทอดกฐิน ผ่านไปแล้วจนตลอดฤดูหนาว นิยมจัดเป็นงานสองวัน คือ วันเทศน์เวสสันดรชาดกทั้ง 13 กัณฑ์วันหนึ่ง และวันเทศน์จตุราริยสัจจกถา ท้ายเวสสันดรชาดกอีกวันหนึ่ง
วันแรกเริ่มงานด้วยพิธีทำบุญตักบาตรพระทั้งวัด หรือเลี้ยงพระตามจำนวนที่เห็นสมควร แล้วเริ่มเทศน์เวสสันดรชาดก ตามแบบเทศน์ต่อกันไปจนสุด 13 กัณฑ์ ถึงเวลากลางคืนบางแห่งจัดปีพาทย์ประโคมระหว่างกัณฑ์หนึ่ง ๆ ตลอดทั้ง 13 กัณฑ์ด้วย
ประเพณีถวายผ้ากฐินทาน
เป็นประเพณีที่สำคัญของพุทธศาสนิกชนอย่างหนึ่ง นิยมทำกันตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำเดือน 11 ไปจนถึงกลางเดือน 12 (วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 - วันลอยกระทง) คำว่า กฐิน แปลว่า ไม้สะดึง คือกรอบไม้ชนิดหนึ่งสำหรับขึงผ้าให้ตึง สะดวกแก่การเย็บ ในสมัยโบราณเย็บผ้าต้องเอาไม้สะดึงมาขึงผ้าให้ตึงเสียก่อน แล้วจึงเย็บ เพราะช่างยังไม่มีความชำนาญเหมือนสมัยปัจจุบันนี้ และเครื่องมือในการเย็บก็ยังไม่เพียงพอ เหมือนจักรเย็บผ้าในปัจจุบัน การทำจีวรในสมัยโบราณจะเป็นผ้ากฐินหรือแม้แต่จีวรอันมิใช่ผ้ากฐิน ถ้าภิกษุทำเอง ก็จัดเป็นงานเอิกเกริกทีเดียว เช่น ตำนานกล่าวไว้ว่า การเย็บจีวรนั้น พระเถรานุเถระต่างมาช่วยกัน เป็นต้นว่า พระสารีบุตร พระมหาโมคคัลลานะ พระมหากัสสปะ แม้สมเด็จพระบรมศาสดาก็เสด็จลงมาช่วย ภิกษุสามเณรอื่น ๆ ก็ช่วยขวนขวายในการเย็บจีวร อุบาสกอุบาสิกาก็จัดหาน้ำดื่มเป็นต้น มาถวายพระภิกษุสงฆ์ มีองค์พระสัมมาสัมพุทธะเป็นประธาน โดยนัยนี้ การเย็บจีวรแม้โดยธรรมดา ก็เป็นการต้องช่วยกันทำหลายผู้หลายองค์ (ไม่เหมือนในปัจจุบัน ซึ่งมีจีวรสำเร็จรูปแล้ว)
วันออกพรรษาในปฏิทินจันทรคติไทย
อย่างไรก็ตาม บางประเทศที่นับถือพุทธศาสนาอาจกำหนดวันไม่ตรงกับของไทยในบางปี เนื่องจากประเทศไทยมีการคำนวณที่ต่างจากประเทศโดยทั่วไปและนิยมใช้ปฏิทิน100ปีไทยเป็นหลักซึ่งไม่เที่ยงตรงและไม่ได้รับการปรับตามจริง เนื่องจากรอบการโคจรของดวงจันทร์รอบโลก 1 รอบ ใช้เวลา 29 วันครึ่ง ทำให้วันเวลาคลาดเคลื่อนไปได้
ปี | วันที่ | วันที่ | วันที่ |
---|---|---|---|
ปีชวด | 27 ตุลาคม พ.ศ. 2539 | 14 ตุลาคม พ.ศ. 2551 | 2 ตุลาคม พ.ศ. 2563 |
ปีฉลู | 16 ตุลาคม พ.ศ. 2540 | 4 ตุลาคม พ.ศ. 2552 | 21 ตุลาคม พ.ศ. 2564 |
ปีขาล | 5 ตุลาคม พ.ศ. 2541 | 23 ตุลาคม พ.ศ. 2553 | 10 ตุลาคม พ.ศ. 2565 |
ปีเถาะ | 24 ตุลาคม พ.ศ. 2542 | 12 ตุลาคม พ.ศ. 2554 | 29 ตุลาคม พ.ศ. 2566 |
ปีมะโรง | 13 ตุลาคม พ.ศ. 2543 | 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555 | 17 ตุลาคม พ.ศ. 2567 |
ปีมะเส็ง | 2 ตุลาคม พ.ศ. 2544 | 19 ตุลาคม พ.ศ. 2556 | 7 ตุลาคม พ.ศ. 2568 |
ปีมะเมีย | 21 ตุลาคม พ.ศ. 2545 | 8 ตุลาคม พ.ศ. 2557 | 26 ตุลาคม พ.ศ. 2569 |
ปีมะแม | 10 ตุลาคม พ.ศ. 2546 | 27 ตุลาคม พ.ศ. 2558 | 15 ตุลาคม พ.ศ. 2570 |
ปีวอก | 28 ตุลาคม พ.ศ. 2547 | 16 ตุลาคม พ.ศ. 2559 | 3 ตุลาคม พ.ศ. 2571 |
ปีระกา | 18 ตุลาคม พ.ศ. 2548 | 5 ตุลาคม พ.ศ. 2560 | 22 ตุลาคม พ.ศ. 2572 |
ปีจอ | 7 ตุลาคม พ.ศ. 2549 | 24 ตุลาคม พ.ศ. 2561 | 11 ตุลาคม พ.ศ. 2573 |
ปีกุน | 26 ตุลาคม พ.ศ. 2550 | 13 ตุลาคม พ.ศ. 2562 | 30 ตุลาคม พ.ศ. 2574 |
เชิงอรรถ
หมายเหตุ 1: ออกปุริมพรรษา คือการออกพรรษาต้น เป็นการเข้าและออกพรรษาตามปกติตามพระวินัยพุทธานุญาต พระสงฆ์ที่ออกพรรษาต้นจะได้รับกรานกฐินและได้รับอานิสงส์กฐิน แต่สำหรับพระสงฆ์ที่ออกพรรษาในกรณียกเว้นคือ ออกปัจฉิมพรรษา จะไม่มีโอกาสได้รับกฐินและอานิสงส์กฐิน เพราะจำพรรษาในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 9 จึงต้องจำครบ 3 เดือน และต้องออกพรรษาในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 เป็นเวลาหมดกฐินกาลพอดี (วันรับกฐินได้จะนับวันวันถัดจากวันออกพรรษาแล้ว 1 วัน)
อ้างอิง
- พระไตรปิฎก เล่มที่ ๔ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๔ มหาวรรค ภาค ๑ "วิธีปวารณา". พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ. [ออนไลน์]. เข้าถึงแหล่งข้อมูลได้จาก http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=4&A=6371&Z=6395&pagebreak=0. เข้าถึงเมื่อ 3-10-52
- พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๑ ขุททกนิกาย มหานิทเทส "สาริปุตตสุตตนิทเทสที่ ๑๖". พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ. [ออนไลน์]. เข้าถึงแหล่งข้อมูลได้จาก http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=29&A=10137. เข้าถึงเมื่อ 3-10-52
- พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ป.ธ. ๙ ราชบัณฑิต. (2548). "พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุด คำวัด". กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียงเพียรเพื่อพุทธศาสน์.
- ปัณณวัฒน์. ปฏิทิน 100 ปี พ.ศ. 2468-2568 คัมภีร์พยากรณ์คู่บ้าน. กรุงเทพฯ : ไพลิน, 2550.
ดูเพิ่ม
- วันเข้าพรรษา
- วันมหาปวารณา พิธีกรรมการออกพรรษาของพระสงฆ์ตามพระวินัยปิฎก
- กฐิน อานิสงส์สำหรับพระสงฆ์ผู้จำครบพรรษา
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnihruxswnnikhxngbthkhwamtxngkarprbrupaebb sungxachmaythung txngkarcdrupaebbkhxkhwam cdhna aebnghwkhx cdlingkphayin aela hruxkarcdraebiybxun khunsamarthchwyaekikhpyhaniidodykarkdthipum aekikh danbn caknnprbprunghruxcdrupaebbxun inbthkhwamihehmaasmbthkhwamniyngtxngkarephimaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxngkhunsamarthphthnabthkhwamniidodyephimaehlngxangxingtamsmkhwr enuxhathikhadaehlngxangxingxacthuklbxxk haaehlngkhxmul wnxxkphrrsa khaw hnngsuxphimph hnngsux skxlar JSTOR eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir wnxxkphrrsa hruxeriykxikxyanghnungwa wnmhapwarna epnwnsakhythangsasnaphuththaebbithy law odyepnwnsinsudrayaewlacaphrrsa 3 eduxnkhxngphrasngkhethrwath odyepnwnthiphrasngkhcathasngkhkrrm khux karpwarnainwnni wnxxkphrrsa xxkpurimphrrsa1 catrngkb pramaneduxntulakhm hlngwnekhaphrrsa 3 eduxn tamptithincnthrkhtiithyemuxxxkphrrsaaelwphrasngkhphuxyucakhrbphrrsacaidrbxanisngsphrrsahlayxyang aelaphrasngkhbangswncathuxoxkasinchwngxxkphrrsa 9 eduxn xxkcarikephuxptibtithrrm aelaoprdphuththsasnikchntamsthanthitang kxncaklbekhacaphrrsaxikkhrnginpithdip karpwarna thuxepnkhxptibtitamphrawinysahrbphraphiksuodyechphaa eriykwa epnyttikrrmwaca praephthhnung ihoxkasaekphrasngkhthicaphrrsaxyurwmkntlxditrmas 3 eduxn samarthwaklawtketuxnaelachikhxbkphrxngaekknaelaknidodyesmxphakh epnwnthiphraphrrsanxykwasamarthtketuxnphrathimiphrrsamakkwaid dwycitthiprarthnadisungknaelakn ephuxihphrasngkhthithuktketuxnmioxkasrbrukhxbkphrxngkhxngtnaelanakhxbkphrxngmaaekikhprungtwexngihdiyingkhun inkhnaediywknthaepneruxngekhaicphid kcaidchiaecngaekikh hruxprbkhwamekhaickn ephraasingthiehn thiidyin thisngsy xacmieruxngrawsxnxyu hruxxaccaimidepnxyangthiekhaic rwmthungepidoxkasihkhxoths thirutwwasrangeduxdrxnihaekhmukhna aelakhxxphythiekhaicphid aelaepidoxkasihskthamkhxsngsysungknaelaknid ephuxprbkhwamekhaickn emuxthungwnxxkphrrsa phuththsasnikchnthuxepnoxkasxndithicaekhawdephuxbaephykuslaektnexngthitngicptibtitnepnxubask xubasika swnphrasngkhcaphrrsaaelatngicsuksaptibtithrrmmatlxdcnkhrbitrmas 3 eduxn hruxinwnthdipkhux wnxxkphrrsa cring khux wnaerm 1 kha eduxn 11 phuththsasnikchninpraethsithyniymipthabuytkbatr eriykwa buyethskalbatrethow hrux batrethoworhna ephuxralukthungehtukarnsakhyinphuththprawtithiklawwa phraphuththecaesdcklbcakethwolk lngmayngolkmnusyhlngcakkaroprdethphbutr xditphraphuththmarda phranangsirimhamaya bnswrrkhdawdungs chnthi 2 inphrrsathi 7 esdclngmayngemuxngsngkssa phrxmkb thrngpatihariyepidolkthng 3 swrrkh nrk olk kthinkal khux chwngewlathithrngxnuyatihphiksuphuxyucaphrrsakhrb 3 eduxnaelw samarthrbmanunghmid erimtngaet wnaerm 1 kha eduxn 11 thungwnkhun 15 kha eduxn 12 wnlxykrathng epnchwngewlakthinkaltamphrawinypidkethrwath inchwngewlathiphuththsasnikchnchawithycaekharwmbaephykuslenuxnginngankthinpracapi epnkarnaphaciwr thwayphraphuththrupaelaphrasngkhinwdtang odythuxwaepnnganbaephykuslthiidbuykuslmaknganhnung khwamsakhywnxxkphrrsa khux wnthisinsudrayakarcaphrrsaepnewla 3 eduxn nbtngaetwnekhaphrrsa eriykxikxyanghnungwa wnmhapwarna khawa pwarna aeplwa xnuyat hrux yxmih inwnxxkphrrsaniphrasngkhcaprakxbphithithasngkhkrrm eriykwa mhapwarna epnkarepidoxkasihphiksuwaklawtketuxnknid ephraainrahwangekhaphrrsa phrasngkhbangrupxacmikhxbkphrxngthitxngaekikh karihphuxunwaklawtketuxnid thaihidrukhxbkphrxngkhxngtn aelayngepidoxkasihskthamkhxsngsysungknaelakndwykarxxkphrrsakhxngphrasngkhtamphrawinypidkswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidpraephthkhxngkarxxkphrrsakhxngphrasngkh swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidxanisngskhxngphrasngkhthicakhrbphrrsa swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniid emuxphrasngkhcaphrrsakhrbitrmasidpwarnaxxkphrrsaaelaidkrankthinaelw yxmidrbxanisngs hruxkhxykewnphrawiny 5 khx 10 khux ethiywipihnimtxngbxkla xxkcakwdipodyimcaepntxngaecngecaxawashruxphrasngkhrupxunkxnid ethiywipimtxngthuxitrciwrkhrbsarb 3 phun chnkhnaophchnid ophchnathikhnarbnimntiw ekbxdierkciwriwidtamprarthna ykewnsikkhabthkhxnisskhkhiypacittiybangkhx ciwrlaphxnekidinthinnepnkhxngphiksu emuxmiphumathwayciwrekinkwaitrkhrxngsamarthekbiwidodyimtxngslaekhakxngklang praephnithxngthinswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidpraephnitkbatrethoworhna ethoworhnsthup emuxngsngkssa aekhwnpycala sthanthisrangkhunephuxralukthungsthanthiphraphuththecaesdclngcakswrrkhchndawdungs pccubnmiethwalykhxnghindutngxyudanbnsthup epnwnthiphraphuththecaesdclngsuolkhlngcakesdckhunipcaphrrsaxyuindawdungsthwnitrmas aelaaesdngxphithrrmethsnaoprdphramardainethwolknnmatlxdewla 3 eduxn emuxthungwnmhapwarna khuxwnsudthaykhxngkarxyucaphrrsa cungesdcmayngolkmnusyodyesdcmathangbnidswrrkhlngthipratuemuxngsngkssa xntngxyuehnuxkrungsawtthi wnthiesdclngcakethwolknneriykknwa wnethoworhna trngkbwnmhapwarnaephyeduxn 11 wnnnthuxknwaepnwnbuykusl thisakhywnhnungkhxngphuththbristh obraneriykxikxyanghnungwa wnphraecaepidolk wnrungkhuncakwnnnepnwnaerm 1 khaeduxn 11 cungmikarthabuytkbatrethoworhna knepnkarihy ephuxechlimchlxngkaresdclngcakethwolkkhxngphraphuththecaodyphuththbristhidphrxmicknisbatraedphrasngkhthixyuthnghmdinthinnkbthngphraphuththxngkhdwyodyimidndhmayknmakxnphttaharthithwayinwnnnswnihyepnesbiyngkrng khxngtntammitamid praktidmikarisbatrinwnnnaexxdmak phukhnekhaimthungphrasngkhcungexakhawsalikhxngtnhxbang thaepnpn bangaelwoynekhathwayphra niexngcungepnehtuhnungthiniymthakhawtmlukoyn epnswnsakhykhxngkartkbatrethoworhna epnpraephniwathungwnaerm 1 khaeduxn 11 bangaehngkthainkhun 15 kha eduxn 11 thuk pi khwrthabuytkbatrihehmuxnkhrngdngedimeriykwa tkbatrethoworhna cnthukwnni praephnirbbw incnghwdsmuthrprakarcamipraephnirbbwhruxoynbw sungcdinwnkhun14khaeduxn11 praephnichkphra thangphakhitcamipraephnichkphra hruxaehphra hruxlakphra odycamikarnaphraphuththrupkhuneruxaehiptamlanaihphukhnthabuy odycaeriykeruxthichkphrawaeruxphnm bangthxngthicamipraephnioyndxkbwthwayepnphuththbuchadwy odypraephnichkphrainpccubnmithngbnbkaelainna eriykwaeruxphnmthangbkaelaeruxphnmthangna enuxngcakinpccubnphukhnniymedinthangthangbk aethnedinthangthangnaxyanginxditthibaneruxnphukhnxyucatamrimna cungekidkarchkphrathangbkkhun sungpkticdinwnaerm1khaeduxn11 praephniwnxxkphrrsa incnghwdchyphumiaelaephchrburncamipraephniaehtnkrathup incnghwdsklnkhrcamipraephniaehprasathphung inxaephxechiyngkhan cnghwdelycamipraephniaehphasadlxyekhraah incnghwdphisnuolkcamipraephniaehtnphung incnghwdsurasdrthani camipraephnithxdphumphapahnabanaelaaehrthphnmphra thixaephxpakekrd cnghwdnnthburi camipraephnitkbatrethowthangerux praephnicudprathipkhunwnxxkphrrsa epnpraephnithicudethiynhruxitnamn odycacudinkhunwnxxkphrrsa epnruptangthimxngcakbnfacaehnepnruphruxkhxkhwamtang sungcaekiywkbphraphuththsasna echn thrrmckr dxkbw ibophthi epntn echuxknwaepnkarcudifthwayephuxihphraphuththecathrngthxdphraentrehncakswrrkh odycalxngehtukarnehmuxnemuxkhrngphraphuththxngkhthrngesdclngmacakswrrkhchndawdungs hlngcakthrngoprdphuththmarda odythiphraphuththecaesdclngmainwnxxkphrrsaaelacaesdclngsuolkmnusythunginewlaechaodymiprachachnmarbesdctangphaknmaisbatrphraphuththeca dngnncungthuxknwainchwngewlaklangkhunphraxngkhcayngthrngesdcxyurahwangswrrkhaelaolkmnusy cungtangphakncudprathipephuxrbesdc chawxisancamipraephnikarcudprathipethiynthwaydxkim thihnaban odycathakabmaphrawepnruperuxaelacudethiynkhuiwbnkabmaphraw odyxacnatnkhawthikalngerimtngthxngmapradbrwmdwy ephuxepnsirimngkhlihtnkhawinnangxkngamdi thanglannacamipraephnicudphangphatib odypraephnichawithihythiaemhxngsxn camikarcdkhbwnaehethiynhluetiynehng ethiynphnelm praephniaeh prasathphraphuththeca ephuxrbesdcphraphuththeca odychawithihycaeriykpraephniniwa hrux pxyehlinsibexd wdphrathatudxyewa xaephxaemsay cnghwdechiyngray camipraephnipxytnaepk tnekiya swnthangphakhxisan camipraephni epnewla3wn inwnkhun14khaeduxn11eriykwakaritnamnnxy inwnkhun15khaeduxn11 eriykwakaritnamnihy inwnaerm1khaeduxn11eriykwakaritnamnlanghangprathip praephni incnghwdyosthr prephniokhmifomngmang inyosthr praephnicnghwdkaycnburi aelahlayphunthithitidaemna echn cnghwdhnxngkhayaelankhrphnm kcamipraephniaelalxykrathngsayhruxthieriykxikxyangwaikhphyanakhinkhunwnxxkphrrsa praephniethsnmhachatiewssndrchadk karethsnmhachati khux ethsnaewssndrchadk epnbuyphithithiniymcdihmiknmaaetobran swnmakcdihmiinwdepnhnathikhxngchawbanaelawdnn catklngrwmkncd pktiniymihmihlngvduthxdkthin phanipaelwcntlxdvduhnaw niymcdepnngansxngwn khux wnethsnewssndrchadkthng 13 knthwnhnung aelawnethsncturariysccktha thayewssndrchadkxikwnhnung wnaerkerimngandwyphithithabuytkbatrphrathngwd hruxeliyngphratamcanwnthiehnsmkhwr aelwerimethsnewssndrchadk tamaebbethsntxknipcnsud 13 knth thungewlaklangkhunbangaehngcdpiphathypraokhmrahwangknthhnung tlxdthng 13 knthdwy praephnithwayphakthinthan epnpraephnithisakhykhxngphuththsasnikchnxyanghnung niymthakntngaetwnaerm 1 khaeduxn 11 ipcnthungklangeduxn 12 wnkhun 15 kha eduxn 12 wnlxykrathng khawa kthin aeplwa imsadung khuxkrxbimchnidhnungsahrbkhungphaihtung sadwkaekkareyb insmyobraneybphatxngexaimsadungmakhungphaihtungesiykxn aelwcungeyb ephraachangyngimmikhwamchanayehmuxnsmypccubnni aelaekhruxngmuxinkareybkyngimephiyngphx ehmuxnckreybphainpccubn karthaciwrinsmyobrancaepnphakthinhruxaemaetciwrxnmiichphakthin thaphiksuthaexng kcdepnnganexikekrikthiediyw echn tananklawiwwa kareybciwrnn phraethranuethratangmachwykn epntnwa phrasaributr phramhaomkhkhllana phramhaksspa aemsmedcphrabrmsasdakesdclngmachwy phiksusamenrxun kchwykhwnkhwayinkareybciwr xubaskxubasikakcdhanadumepntn mathwayphraphiksusngkh mixngkhphrasmmasmphuththaepnprathan odynyni kareybciwraemodythrrmda kepnkartxngchwyknthahlayphuhlayxngkh imehmuxninpccubn sungmiciwrsaercrupaelw wnxxkphrrsainptithincnthrkhtiithyxyangirktam bangpraethsthinbthuxphuththsasnaxackahndwnimtrngkbkhxngithyinbangpi enuxngcakpraethsithymikarkhanwnthitangcakpraethsodythwipaelaniymichptithin100piithyepnhlksungimethiyngtrngaelaimidrbkarprbtamcring enuxngcakrxbkarokhcrkhxngdwngcnthrrxbolk 1 rxb ichewla 29 wnkhrung thaihwnewlakhladekhluxnipid pi wnthi wnthi wnthipichwd 27 tulakhm ph s 2539 14 tulakhm ph s 2551 2 tulakhm ph s 2563pichlu 16 tulakhm ph s 2540 4 tulakhm ph s 2552 21 tulakhm ph s 2564pikhal 5 tulakhm ph s 2541 23 tulakhm ph s 2553 10 tulakhm ph s 2565piethaa 24 tulakhm ph s 2542 12 tulakhm ph s 2554 29 tulakhm ph s 2566pimaorng 13 tulakhm ph s 2543 30 tulakhm ph s 2555 17 tulakhm ph s 2567pimaesng 2 tulakhm ph s 2544 19 tulakhm ph s 2556 7 tulakhm ph s 2568pimaemiy 21 tulakhm ph s 2545 8 tulakhm ph s 2557 26 tulakhm ph s 2569pimaaem 10 tulakhm ph s 2546 27 tulakhm ph s 2558 15 tulakhm ph s 2570piwxk 28 tulakhm ph s 2547 16 tulakhm ph s 2559 3 tulakhm ph s 2571piraka 18 tulakhm ph s 2548 5 tulakhm ph s 2560 22 tulakhm ph s 2572picx 7 tulakhm ph s 2549 24 tulakhm ph s 2561 11 tulakhm ph s 2573pikun 26 tulakhm ph s 2550 13 tulakhm ph s 2562 30 tulakhm ph s 2574echingxrrthhmayehtu 1 xxkpurimphrrsa khuxkarxxkphrrsatn epnkarekhaaelaxxkphrrsatampktitamphrawinyphuththanuyat phrasngkhthixxkphrrsatncaidrbkrankthinaelaidrbxanisngskthin aetsahrbphrasngkhthixxkphrrsainkrniykewnkhux xxkpcchimphrrsa caimmioxkasidrbkthinaelaxanisngskthin ephraacaphrrsainwnaerm 1 kha eduxn 9 cungtxngcakhrb 3 eduxn aelatxngxxkphrrsainwnkhun 15 kha eduxn 12 epnewlahmdkthinkalphxdi wnrbkthinidcanbwnwnthdcakwnxxkphrrsaaelw 1 wn xangxingphraitrpidk elmthi 4 phrawinypidk elmthi 4 mhawrrkh phakh 1 withipwarna phraitrpidkchbbsyamrth xxniln ekhathungaehlngkhxmulidcak http www 84000 org tipitaka pitaka item v php B 4 amp A 6371 amp Z 6395 amp pagebreak 0 ekhathungemux 3 10 52 phraitrpidk elmthi 29 phrasuttntpidk elmthi 21 khuththknikay mhanitheths sariputtsuttnithethsthi 16 phraitrpidkchbbsyamrth xxniln ekhathungaehlngkhxmulidcak http www 84000 org tipitaka pitaka item v php B 29 amp A 10137 ekhathungemux 3 10 52 phrathrrmkittiwngs thxngdi suretoch p th 9 rachbnthit 2548 phcnanukrmephuxkarsuksaphuththsasn chud khawd krungethph sankphimpheliyngechiyngephiyrephuxphuththsasn pnnwthn ptithin 100 pi ph s 2468 2568 khmphirphyakrnkhuban krungethph iphlin 2550 ISBN 974 455 535 1duephimwnekhaphrrsa wnmhapwarna phithikrrmkarxxkphrrsakhxngphrasngkhtamphrawinypidk kthin xanisngssahrbphrasngkhphucakhrbphrrsa