สมเด็จพระราชินีนาถ (อังกฤษ: Queen Regnant) คือ พระมหากษัตริย์หญิงผู้ครองราชสมบัติด้วยสิทธิ์ของพระองค์เอง ต่างจาก "สมเด็จพระราชินี" (Queen Consort) ซึ่งเป็นพระมเหสีในพระมหากษัตริย์ที่ครองราชสมบัติ และไม่ทรงมีอำนาจในการบริหารราชกิจของบ้านเมืองอย่างเป็นทางการใด ๆ
โดยหลักการแล้ว พระมหากษัตริย์มีทั้ง "สมเด็จพระราชาธิบดี" (King Rex) และ "พระมหากษัตริย์พระราชสวามี" (King Consort) แต่เกิดขึ้นได้ยาก และมีการใช้พระอิสริยยศเพียงสองครั้งในประวัติศาสตร์ราชวงศ์อังกฤษ ระบอบราชาธิปไตยในปัจจุบันที่ให้สมเด็จพระราชินีนาถทรงครองราชบัลลังก์ พระสวามีของพระองค์จะไม่ได้มีพระอิสริยยศเป็นพระราชา แต่เป็นเพียงแค่ชั้นเจ้าชายเท่านั้น พระราชสวามีของสมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งอังกฤษและไอร์แลนด์ และพระสวามีคนที่สองของสมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งสก็อตแลนด์ ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชสวามีในอาณาจักรของพระองค์เอง แต่ไม่เป็นที่ชื่นชอบของพสกนิกรและการอภิเษกสมรสกินเวลาเพียงไม่นาน พระราชสวามีในสมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 2 แห่งอังกฤษและไอร์แลนด์ และพระราชินีนาถแห่งชาวสก็อต ทรงได้รับการแต่งตั้งให้ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาธิบดี พระมหากษัตริย์ที่ปกครองร่วมกันเป็น พระเจ้าวิลเลียมที่ 3 แห่งอังกฤษ ที่ 2 แห่งสก็อตแลนด์ และที่ 1 แห่งไอร์แลนด์ แต่ถือเป็นพระมหากษัตริย์ปกครองร่วมกันครั้งเดียว และเป็นทางการที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ แต่หลังจากนั้นมา พระสวามีของสมเด็จพระราชินีนาถในประเทศอังกฤษได้รับการสถาปนาเป็น "เจ้าชายพระราชสวามี" (Prince Consort) (มีเพียงคนเดียวที่ได้รับการแต่งตั้งพระอิสริยยศนี้อย่างเป็นทางการคือ เจ้าชายอัลเบิร์ต พระราชสวามีในสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร)
การเสวยราชสมบัติของสมเด็จพระราชินีนาถจะเกิดขึ้นเมื่อลำดับการสืบราชบัลลังก์เอื้ออำนวย วิธีการสืบราชสมบัติ (เป็นพระมหากษัตริย์ หัวหน้าเผ่า ฯลฯ) และรวมถึงการแต่งตั้ง (พระมหากษัตริย์ในรัฐสภา หรือ คณะมนตรีแต่งตั้งรัชทายาท) การให้สิทธิพระโอรสธิดาตามลำดับการประสูติก่อนที่สุด (primogeniture) การให้สิทธิพระโอรสธิดาตามลำดับการประสูติหลังที่สุด (ultimogeniture) ขอบเขตในการสืบราชสมบัติอาจยึดจากสายทางพระชนก สายทางพระชนนีหรือทั้งสองฝ่าย หรือที่ไม่ค่อยเกิดขึ้น (เมื่อถึงคราวจำเป็น) มาจากการออกเสียงเลือกตั้ง สิทธิในการสืบราชสมบัติโดยตามเพศ อาจจะให้ทั้งชายและหญิง จำกัดแต่เพศชายเท่านั้น หรือจำกัดแต่เพศหญิงเท่านั้น
การสืบราชบัลลังก์ที่เป็นแบบแผนมากที่สุดตั้งแต่สมัยกลางตอนปลายตลอดจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 20 เป็นแบบการให้สิทธิพระราชโอรสก่อนพระราชธิดา (male-preference primogeniture) กล่าวคือ ลำดับการสืบราชบัลลังก์อยู่ในบรรดาพระราชโอรสของพระมหากษัตริย์ตามลำดับการประสูติก่อนแล้วจึงตามมาด้วยของพระราชธิดา ในบางอาณาจักรทางประวัติศาสตร์ห้ามมิให้มีการสืบราชสมบัติโดยผู้หญิงหรือผ่านทางเชื้อสายของผู้หญิง แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีบางแห่งที่ยังคงยึดถือหลักเกณฑ์นี้ตามกฎหมายแซลิก
ดังตัวอย่างเช่น สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งเนเธอร์แลนด์เป็นแกรนด์ดยุกแห่งลักเซมเบิร์ก แต่เมื่อกษัตริย์ดัตช์พระองค์สุดท้ายเสด็จสวรรคตเมื่อปี พ.ศ. 2433 และสืบราชบัลลังก์ต่อมาโดยพระราชธิดา กฎหมายแซลิกจึงไม่ยอมให้ลักเซมเบิร์กยอมรับพระองค์ในฐานะเป็นแกรนด์ดัชเชสผู้ปกครองตามพระราชสิทธิของพระองค์เอง เช่นเดียวกับตอนที่ สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียเสด็จขึ้นครองราชบัลลังก์แห่งสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์ พระองค์ไม่ได้เป็นสมเด็จพระราชินีนาถแห่งแฮโนเวอร์ด้วย ถึงแม้ว่าสมเด็จพระปิตุลาธิราชของพระองค์ทรงเคยเป็นกษัตริย์ของทั้งสองประเทศมาก่อน
ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20 ประเทศสวีเดน นอร์เวย์ เบลเยียม และเนเธอร์แลนด์ ได้แก้ไขพระราชบัญญัติการสืบราชบัลลังก์จากการให้สิทธิพระราชโอรสก่อนพระราชธิดามาเป็นมีสิทธิสืบราชสมบัติเท่ากันตามลำดับการประสูติโดยไม่จำกัดเรื่องเพศ ในบางกรณี การเปลี่ยนแปลงอาจยังไม่ส่งผลอะไรมากมายจนกว่ารุ่นต่อจากรุ่นปัจจุบันเกิดขึ้นมา เพื่อหลีกเลี่ยงการยึดตำแหน่งของบุคคลที่อยู่ในลำดับการสืบราชบัลลังก์มาก่อน โดยเฉพาะในพระอิสริยยศพิเศษ
รายพระนาม
ต่อไปนี้คือรายพระนามสมเด็จพระราชินีนาถบางประเทศ และบางพระองค์ที่สำคัญ
สหราชอาณาจักร / อังกฤษ / บริเตนใหญ่ / ประเทศในเครือจักรภพ
- จักรพรรดินีมาทิลดา
ทรงเรียกพระองค์เองว่า "Lady of the English." (คุณหญิงแห่งอังกฤษ) พระเจ้าเฮนรีที่ 1 แห่งอังกฤษ พระราชบิดาทรงเลือกพระองค์เป็นพระรัชทายาท อย่างไรก็ตามมีการคัดค้าน ท้ายที่สุดพระองค์ทรงสละราชสมบัติพระราชทานให้พระราชโอรส พระเจ้าเฮนรีที่ 2 แห่งอังกฤษ บางครั้งพระองค์ได้รับการยอมรับว่าเป็นพระราชินีนาถพระองค์แรกของอังกฤษ - สมเด็จพระราชินีนาถมาร์กาเร็ตแห่งสก็อตแลนด์
- สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งสกอตแลนด์
เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อพระชนม์ได้ 6 วัน และทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเมื่อพระชนม์ 5 พรรษา ทรงหมั้นกับมกุฎราชกุมารแห่งฝรั่งเศส ซึ่งต่อมาได้ขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าฟร็องซัวที่ 2 แห่งฝรั่งเศส - สมเด็จพระราชินีนาถเจน เกรย์แห่งอังกฤษ
หรือที่รู้จักในพระนาม "เลดี้เจน เกรย์" เป็นพระราชปนัดดาในพระเจ้าเฮนรีที่ 7 แห่งอังกฤษ ฟรานซิส ดัชเชสแห่งซัฟฟอล์ค มาชันเนสดอร์เส็ท พระมารดาจึงเป็นลูกพี่ลูกน้องกับพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 6 พระมหากษัตริย์พระองค์นี้ทรงเลือกเลดีเจน เกรย์ ซึ่งตามศักดิ์และเป็นพระราชนัดดาให้เป็นพระรัชทายาท โดยการทรงตัดสิทธิ์ในการสืบราชบัลลังก์ของพระเชษฐภคินีทั้งสองพระองค์คือ เจ้าหญิงแมรี และเจ้าหญิงอลิซาเบธออกไป พระราชโองการนั้นไม่ได้ผ่านรัฐสภา และมีการย้อนถามถึงว่ามันถูกต้องหรือไม่ (คือสามารถบังคับใช้ได้ตามกฎหมายหรือไม่) อย่างไรก็ตามเจ้าหญิงแมรีเสด็จทรงกรีธาทัพเข้ามาเพื่อทวงพระราชสิทธิ์ พระองค์ทรงปลดเลดีเจนลงจากราชบัลลังก์ และทรงสำเร็จโทษในเวลาต่อมา เลดี้เจน เกรย์เป็นที่รู้จักกันดีในพระราชสมัญญา "ราชินี 9 วัน" บางครั้งพระองค์ได้รับการยอมรับว่าเป็นพระราชินีนาถองค์แรกของอังกฤษ
- สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งอังกฤษ (19 กรกฎาคม พ.ศ. 2096 – 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2101)
ทรงปลดเลดี้เจน เกรย์ออกจากราชบัลลังก์ และให้นับว่าทรงครองราชสมบัติภายหลังจากการเสด็จสวรรคตของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 6 พระราชอนุชา โดยไม่ถือว่าเลดี้เจนเคยเป็นพระราชินีนาถแห่งอังกฤษเลย พระองค์ทรงเป็นสมเด็จพระราชินีนาถพระองค์แรกของอังกฤษ ที่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ - สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ (17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2101 – 24 มีนาคม พ.ศ. 2146)
ทรงสืบราชสมบัติต่อจากพระเชษฐภคินีซึ่งไม่มีพระราชโอรสและธิดา และสวรรคตโดยปราศจากรัชทายาทด้วย การเสด็จสวรรคตนี้ส่งผลให้เกิดการรวมราชบัลลังก์อังกฤษและสก็อตแลนด์เข้าด้วยกัน (Union of the Crown) โดยกษัตริย์พระองค์ใหม่ พระองค์ทรงเป็นสมเด็จพระราชินีนาถที่ยิ่งใหญ่ที่สุดพระองค์หนึ่งของอังกฤษ - สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 2 แห่งอังกฤษ (13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2232 – 28 ธันวาคม พ.ศ. 2237)
ทรงสืบราชสมบัติต่อจากพระราชชนกและทรงครองราชสมบัติร่วมกับพระเจ้าวิลเลียมที่ 3 พระราชสวามี - สมเด็จพระราชินีนาถแอนน์แห่งบริเตนใหญ่ (8 มีนาคม พ.ศ. 2245 – 1 สิงหาคม พ.ศ. 2257)
ทรงสืบราชสมบัติต่อจากพระเจ้าวิลเลียมที่ 3 พระราชสวามีในสมเด็จพระเชษฐภคินี และทรงเป็นผู้ออกพระราชบัญญัติการรวมประเทศ (Act of Union) ซึ่งเป็นการรวมราชอาณาจักรอังกฤษและสก็อตแลนด์ให้เป็นประเทศหนึ่งเดียวคือ บริเตนใหญ่ (Great Britain) - สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร (20 มิถุนายน พ.ศ. 2380 – 22 มกราคม พ.ศ. 2444)
ทรงสืบราชสมบัติต่อจากพระเจ้าวิลเลียมที่ 4 พระราชปิตุลา และเป็นพระราชินีนาถที่ยิ่งใหญ่ของอังกฤษ นอกจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 โดยทรงครองราชสมบัตินานถึง 63 ปี ซึ่งยาวนานกว่ารัชกาลใดในบรรดาพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ และทรงปกครองจักรวรรดิอังกฤษอันกว้างใหญ่ไพศาล ที่ในบางครั้งเรียกว่า "จักรวรรดิวิกตอเรีย" (Victorian Empire) อีกทั้งยังเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกที่ฉายพระรูปด้วย - สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร (6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2495 – 8 กันยายน พ.ศ. 2565) ทรงสืบราชสมบัติต่อจากสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 พระราชบิดา ด้วยทรงเป็นพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ โดยทรงเป็นสมเด็จพระราชินีนาถที่ครองราชยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ เป็นเวลาถึง 70 ปี และเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์นานที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก
- พระนางจิรประภาเทวี (พ.ศ. 2088 — พ.ศ. 2089)
- พระนางวิสุทธิเทวี (พ.ศ. 2107 — พ.ศ. 2121)
- พระนางเชงสอบูแห่งหงสาวดี (พ.ศ. 1996 — พ.ศ. 2013)
- พระนางเชงสอบู
- กษัตรีองค์มีแห่งกัมพูชา (พ.ศ. 2378 — พ.ศ. 2384 และ พ.ศ. 2387 — พ.ศ. 2388)
- นางแก้วพิมพาแห่งล้านช้าง (พ.ศ. 1976 — พ.ศ. 1981)
- สมเด็จพระราชินีนาถวิลเฮลมินาแห่งเนเธอร์แลนด์ (23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2433 - 4 กันยายน พ.ศ. 2491)
ทรงเป็นสมเด็จพระราชินีนาถพระองค์แรกและครองราชสมบัติยาวนานที่สุดของเนเธอร์แลนด์จนถึงการสละราชสมบัติให้แก่พระราชธิดา ถ้าหากพระองค์ทรงอยู่ในราชสมบัติจนถึงการเสด็จสวรรคตจะทรงครองราชสมบัติยาวนานถึง 72 ปี - สมเด็จพระราชินีนาถยูเลียนาแห่งเนเธอร์แลนด์ (4 กันยายน พ.ศ. 2491 - 30 เมษายน พ.ศ. 2523)
- สมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์แห่งเนเธอร์แลนด์ (30 เมษายน พ.ศ. 2523 - 30 เมษายน พ.ศ. 2556)
- สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธที่ 1 แห่งเดนมาร์ก
(พระองค์เดียวกันกับพระมหากษัตริย์แห่งเดนมาร์ก ดูด้านล่าง) - สมเด็จพระราชินีนาถคริสตินาแห่งสวีเดน
- สมเด็จพระราชินีนาถอูลริกาแห่งสวีเดน
ต่อมาทรงสละราชสมบัติให้แก่พระราชสวามี โดยยังคงทรงเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งสวีเดน แต่มิใช่ในฐานะกษัตริย์
- สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธที่ 1 แห่งเดนมาร์ก (พ.ศ. 1918 - พ.ศ. 1955)
เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกแห่งเดนมาร์ก นอกจากนี้ยังเป็นพระมหากษัตริย์แห่ง นอร์เวย์ และสวีเดนอีกด้วย - สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธที่ 2 แห่งเดนมาร์ก (14 มกราคม พ.ศ. 2515 - 14 มกราคม พ.ศ. 2567)
- สมเด็จพระราชินีนาถเจดวิกาแห่งโปแลนด์ (พ.ศ. 1925 - พ.ศ. 1942)
- สมเด็จพระราชินีนาถแอนนาแห่งโปแลนด์ (พ.ศ. 2118 - พ.ศ. 2129)
- สมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลที่ 1 แห่งกัสติยา
เป็นพระราชชนนีในเจ้าหญิงแคทเธอรีนแห่งอารากอน พระราชชนนีในสมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งอังกฤษ - สมเด็จพระราชินีนาถฆัวนาแห่งกัสติยา (26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2047 - 12 เมษายน พ.ศ. 2098)
พระราชธิดาในสมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลลาและทรงเป็นที่รู้จักกันดีว่า "ราชินีคลั่ง" หลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระสวามี พระองค์ทรงถูกสมเด็จพระราชาธิบดีเฟอร์ดินานด์แห่งอารากอน พระราชชนกปลดออกจากราชบัลลังก์ และได้ทรงเป็นผู้สำเร็จราชการจนกระทั่งเสด็จสวรรคต จากนั้นสมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 5 แห่งอารากอน ซึ่งเป็นพระราชโอรสเสวยราชสมบัติต่อมา (ตามกฎหมายซาลิก) เป็นผู้สำเร็จราชการจนสมเด็จพระราชินีนาถเสด็จสวรรคต หลังจาการสละราชสมบัติของสมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 5 สมเด็จพระราชาธิบดีฟิลิปที่ 2 แห่งสเปน พระราชโอรสทรงเป็นกษัตริย์พระองค์แรกของราชอาณาจักรสเปนที่รวมกันแล้ว - สมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลที่ 2 แห่งสเปน (29 กันยายน พ.ศ. 2376 - 30 กันยายน พ.ศ. 2411)
สมเด็จพระราชินีนาถพระองค์เดียวแห่งสเปน
- สมเด็จพระราชินีนาถเบียทริซแห่งโปรตุเกส (22 ตุลาคม พ.ศ. 1926 - 6 เมษายน พ.ศ. 1928) (ยังเป็นที่ถกเถียง)
- สมเด็จพระราชินีนาถมาเรียที่ 1 แห่งโปรตุเกส (24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2320 - 20 มีนาคม พ.ศ. 2359)
- สมเด็จพระราชินีนาถมาเรียที่ 2 แห่งโปรตุเกส (29 เมษายน พ.ศ. 2369 - 11 สิงหาคม พ.ศ. 2371 และ พ.ศ. 2377 - 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2396)
- อาร์ชดัชเชสมาเรีย เทเรซา แห่งออสเตรีย (20 ตุลาคม พ.ศ. 2283 - 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2323)
- สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งฮังการี (พ.ศ. 1925 - พ.ศ. 1928 / พ.ศ. 1929 - พ.ศ. 1938)
- สมเด็จพระราชินีนาถมาเรีย เทเรซา แห่งฮังการี (20 ตุลาคม พ.ศ. 2283 - 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2323)
- สมเด็จพระราชินีนาถมาเรีย เทเรซา แห่งโบฮีเมีย (20 ตุลาคม พ.ศ. 2283 - 19 ธันวาคม พ.ศ. 2284 / 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2286 - 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2323)
- สมเด็จพระราชินีนาถมาเรีย เทเรซา แห่งโครเอเชีย (20 ตุลาคม พ.ศ. 2283 - 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2323)
- สมเด็จพระราชินีนาถชาร์ลอตต์แห่งไซปรัส (28 กรกฎาคม พ.ศ. 2001 - พ.ศ. 2007)
- สมเด็จพระราชินีนาถแคทเทอรีนแห่งไซปรัส (สิงหาคม พ.ศ. 2017 - 14 มีนาคม พ.ศ. 2032)
- ฟาโรห์หญิงโซเบคเนฟรู
- ฟาโรห์หญิงฮัตเชปซุต
- ฟาโรห์หญิงทาวอสเรต
- คลีโอพัตราที่ 1
- คลีโอพัตราที่ 2
- คลีโอพัตราที่ 3
- คลีโอพัตราที่ 4
- คลีโอพัตราที่ 5
- คลีโอพัตราที่ 6
- คลีโอพัตราที่ 7 ฟาโรห์หญิงที่มีชื่อเสียงที่สุดของอียิปต์โบราณ
- สมเด็จพระจักรพรรดินีแคทเธอรีนที่ 1 แห่งรัสเซีย (8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2268 - 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2270)
พระมเหสีองค์ที่สองในสมเด็จพระจักรพรรดิปีเตอร์ที่ 1 แห่งรัสเซีย ซึ่งทรงได้รับการสถาปนาให้ปกครองร่วมกัน และทรงปกครองจักรวรรดิรัสเซียด้วยพระองค์เองนับตั้งแต่การเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระจักรพรรดิปีเตอร์ที่ 1 - สมเด็จพระจักรพรรดินีแอนนาแห่งรัสเซีย (29 มกราคม พ.ศ. 2273 - 28 ตุลาคม พ.ศ. 2283)
- สมเด็จพระจักรพรรดินีเอลิซาเบธแห่งรัสเซีย (6 ธันวาคม พ.ศ. 2284 - 5 มกราคม พ.ศ. 2305)
พระราชธิดาในสมเด็จพระจักรพรรดิปีเตอร์ที่ 1 และ สมเด็จพระจักรพรรดินีเยกาเจรีนาที่ 1 แห่งรัสเซีย - สมเด็จพระจักรพรรดินีแคทเธอรีนที่ 2 แห่งรัสเซีย (28 มิถุนายน พ.ศ. 2305 - 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2339)
แรกเริ่มทรงอภิเษกสมรสกับแกรนด์ดยุคปีเตอร์ ซึ่งทรงเป็นองค์รัชทายาทของสมเด็จพระจักรพรรดินีนาถเอลิซาเบธ หลังจากการเสวยราชสมบัติของพระราชสวามี พระองค์จึงทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น จักรพรรดินีมเหสีแห่งรัสเซีย ต่อมาหลังเหตุการณ์งานเลี้ยง พระองค์ทรงขับพระราชสวามีออกจากราชบัลลังก์ และเสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติเอง พระองค์ทรงเป็นสมเด็จพระจักรพรรดินีนาถแห่งรัสเซียเพียงพระองค์เดียวที่เป็น มหาราชินี
- จักรพรรดินีบูเช็กเทียน
พระสนมในจักรพรรดิถังไท่จง และต่อมาเป็นพระสนมเอกในจักรพรรดิถังเกาจง หลังจากชิงพระราชอำนาจจากฮองเฮาหวังได้สำเร็จ พระนางก็ได้รับการสถาปนาเป็น หลังจากถังเกาจงสวรรคต พระราชโอรสของพระนางสืบราชสมบัติเป็นฮ่องเต้แห่งจีนสองพระองค์ แต่ถูกบูเชกเทียนถอดลงเสีย และพระองค์ได้เสด็จขึ้นทรงราชย์เสียเองเป็น ฮ่องเต้หญิง เพียงพระองค์เดียวของจีน อย่างไรก็ตามในบั้นปลายพระชนม์ชีพ พระนางมีพระราชโองการให้ลบพระปรมาภิไธยออกจากการเป็นฮ่องเต้ โดยให้เหลือประวัติศาสตร์เพียงว่าทรงเป็นฮองเฮาในฮ่องเต้ถังเกาจงเท่านั้น[]
- จักรพรรดินีจิงงุ
พระองค์นี้มิได้เป็นจักรพรรดินีที่ครองราชย์ (Empress Regnant) แต่เป็นจักรพรรดินีผู้สำเร็จราชการ และทรงสำเร็จราชการยาวนานถึง 60 ปี พระนางทรงเป็นผู้หญิงคนแรกที่เป็นผู้นำประเทศญี่ปุ่น ทรงพระปรีชาสามารถถึงขนาดขณะมีพระครรภ์ 7 เดือนก็ยังเสด็จออกทรงรบร่วมกับพระราชสวามีได้ และทรงตัดหัวแม่ทัพฝ่ายตรงข้ามได้ด้วย ชาวญี่ปุ่นถือเป็นต้นแบบของผู้หญิงเก่ง - จักรพรรดินีซุอิโกะ
- จักรพรรดินีโคเคียวคุ (ทรงราชย์สองครั้ง)
- จักรพรรดินีจิโต
- จักรพรรดินีเกงเม
- จักรพรรดินีเกงโช
- จักรพรรดินีโคเก็ง (ทรงราชย์สองครั้ง)
- จักรพรรดินีเมโช
- จักรพรรดินีโกะ-ซะกุระมะชิ
ทุกพระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์คล้ายกัน คือเพราะพระราชบิดาไม่มีพระราชโอรสจึงทรงเลือกเป็นรัชทายาท หรืออาจให้เสกสมรสกับพระปิตุลา (น้องชายพ่อ) เพื่อให้ทรงราชย์ร่วมกัน หลังจากพระราชสวามี (ซึ่งเป็นอาของพระองค์) สวรรคต สมเด็จพระจักรพรรดินีเหล่านี้จึงทรงปกครองญี่ปุ่นอยู่ในชั่วระยะเวลาหนึ่ง เพื่อให้มกุฎราชกุมารมีพระชนมายุพอที่จะครองราชย์เองได้ (ยกเว้นสมเด็จสมเด็จพระจักรพรรดินีเกงโช ซึ่งเป็นพระปิตุจฉา (ป้า) ของจักรพรรดิองค์ต่อมา ) แต่ทั้งนี้ก็เพื่อเหตุผลเดียวกันคือรอจนกว่าพระราชวงศ์ฝ่ายหน้าที่เหมาะสมจะมีพระชนม์มากพอเสด็จขึ้นทรงราชย์ได้
- ดัสเชสมาเรียที่ 2 เทเรซา แห่งลักเซมเบิร์ก (20 ตุลาคม พ.ศ. 2283 - 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2323)
- แกรนด์ดัชเชสมารี อเดเลดแห่งลักเซมเบิร์ก (25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2455 - 14 มกราคม พ.ศ. 2462)
ทรงเป็นแกรนด์ดัชเชสผู้ปกครองลักเซมเบิร์กพระองค์แรกที่แกรนด์ดยุคกิโยมที่ 4 พระราชชนกทรงเลือกให้เป็นรัชทายาท พร้อมกับทรงแก้ไขกฎมณเทียรบาลให้ผู้หญิงสืบราชสมบัติได้ แกรนด์ดัชเชสมารี อเดเลดจึงทรงเป็นแกรนด์ดัชเชสผู้ปกครองพระองค์แรกแห่งลักเซมเบิร์ก พระองค์เป็นพระประมุขแห่งรัฐซึ่งมีบทบาทมาก โดยเฉพาะในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยท้ายสุดรัฐสภามีฉันทามติให้พระองค์สละราชสมบัติ และภายหลังจากความขัดแย้งอย่างรุนแรงกับนายกรัฐมนตรี พระองค์จึงทรงสละราชสมบัติแก่พระกนิษฐา - แกรนด์ดัชเชสชาร์ล็อตแห่งลักเซมเบิร์ก (14 มกราคม พ.ศ. 2462 - 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2507)
เป็นพระกนิษฐาในแกรนด์ดัชเชสมารี อเดเลด และเป็นพระชนนีในแกรนด์ดยุคฌ็อง ซึ่งเป็นพระชนกในแกรนด์ดยุคอ็องรีที่ 1 แกรนด์ดยุคแห่งลักเซมเบิร์กพระองค์ปัจจุบัน โดยทรงเป็นผู้ที่ปกครองราชรัฐลักเซมเบิร์ก ยาวนานที่สุดเป็นเวลา 45 ปีจนกระทั่งถึงการสละราชสมบัติให้แก่พระราชโอรสในปี พ.ศ. 2507
- สมเด็จพระราชินีนาถรานจิตาแห่งเมรีมันจากา (พ.ศ. 2063 - พ.ศ. 2073)
- สมเด็จพระราชินีนาถราฟอไฮแห่งอาราโซรา (พ.ศ. 2073 - พ.ศ. 2083)
- สมเด็จพระราชินีนาถรานาวาโลนาที่ 1 แห่งมาดากัสการ์ (พ.ศ. 2325 - 16 สิงหาคม พ.ศ. 2404)
- สมเด็จพระราชินีนาถราซอเฮอรินาแห่งมาดากัสการ์ (พ.ศ. 2357 - 1 เมษายน พ.ศ. 2411)
- สมเด็จพระราชินีนาถรานาวาโลนาที่ 2 แห่งมาดากัสการ์ (พ.ศ. 2372 - 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2426)
- สมเด็จพระราชินีนาถรานาวาโลนาที่ 3 แห่งมาดากัสการ์ (22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2404 - 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2460)
- สมเด็จพระราชินีนาถลีลีโอกาลานีแห่งฮาวาย (พ.ศ. 2434 - พ.ศ. 2436)
เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์สุดท้ายแห่งราชอาณาจักรฮาวาย พระองค์ทรงถูกล้มล้างราชบัลลังก์ในการล้มล้างราชอาณาจักรฮาวาย
เชิงอรรถ
- ราชบัณฑิตยสถาน, ราชวงศ์แห่งมหาอำนาจยุโรปในคริสต์ศตวรรษที่ ๑๙ : กษัตริย์และสมเด็จพระราชินีนาถ, 2556
- เพราะพระอิสริยยศราชินีแห่งอังกฤษยังไม่เคยมี พระราชินีคอนสอร์ทแห่งอังกฤษพระองค์แรกที่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการคือสมเด็จพระราชินีมาทิลดา แห่งฟลานเดอร์ พระมเหสีในพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษ ซึ่งได้มีพระราชพิธีราชาภิเษกสถาปนาพระองค์เป็นพระราชินีพร้อมกับพระเจ้าวิลเลียม ส่วนพระราชินีนาถพระองค์แรกแห่งอังกฤษ ยังเป็นที่ถกเถียง
- เพราะอ้างว่าจักรพรรดินีนาถมาทิลดาเป็นเพียงผู้สำเร็จราชการระหว่างการเลือกพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ และไม่เคยทรงปกครองอังกฤษจริง ๆ เลย
- เพราะมาทิลดา กับเจนบางครั้งไม่ถูกนับรวมเป็นกษัตริย์แห่งอังกฤษ
- ดูเพิ่ม พระราชินีนาถวิกตอเรีย พระนิพนธ์ ว.ณ.ประมวลมารค
- She was continue to be Quuen of Sweden, but as Queen Cosort not Queen Regnant, however her title didn't changed.
- อ่านเพิ่มใน ว.ณ.ประมวลมารค "คลั่งเพราะรัก"
- เพราะสองพระองค์ข้างต้นเป็นเพียงพระราชินีนาถแห่งคาสตีล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสเปนเท่านั้น
- เพราะผู้ปกครองที่แท้จริงคือพระราชสวามีของพระองค์ พระองค์น่าจะเป็นเพียงพระราชินีมเหสีมากกว่า
- ดูเพิ่มใน ธุวตารา งานเขียนของทมยันตี
- ดูเพิ่มในคัทริน มหาราชินี พระนิพนธ์พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์
- ต่างจากพระราชินีอูลเรก้า และพระจักรพรรดินีมาเรีย เทเรซา ซึ่งเป็นกษัตริย์ก่อน และค่อยเป็นพระมเหสี พระจักรพรรดินีแคทเธอรีนเป็นพระมเหสีก่อน แล้วจึงเป็นกษัตริย์ อย่างไรก็ตามผลก็คือไม่มีการเปลี่ยนแปลงพระอิสริยยศเหมือนกัน
- เพราะถือว่าสมเด็จพระราชินีนาถวิลเฮมมินา แห่งเนเธอร์แลนด์ (ดูด้านบน) ไม่เคยเป็นแกรนด์ดัชเชสแห่งลักเซมเบิร์กเลย
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
smedcphrarachininath xngkvs Queen Regnant khux phramhakstriyhyingphukhrxngrachsmbtidwysiththikhxngphraxngkhexng tangcak smedcphrarachini Queen Consort sungepnphramehsiinphramhakstriythikhrxngrachsmbti aelaimthrngmixanacinkarbriharrachkickhxngbanemuxngxyangepnthangkarid smedcphrarachininathexlisaebththi 2 aehngshrachxanackr xditphramhakstriyinrabxbrachathipityaebbrthspha xditphramhakstriyaehngshrachxanackrsmedcphrarachininathmarekrethxthi 2 aehngednmark odyhlkkaraelw phramhakstriymithng smedcphrarachathibdi King Rex aela phramhakstriyphrarachswami King Consort aetekidkhunidyak aelamikarichphraxisriyysephiyngsxngkhrnginprawtisastrrachwngsxngkvs rabxbrachathipityinpccubnthiihsmedcphrarachininaththrngkhrxngrachbllngk phraswamikhxngphraxngkhcaimidmiphraxisriyysepnphraracha aetepnephiyngaekhchnecachayethann phrarachswamikhxngsmedcphrarachininathaemrithi 1 aehngxngkvsaelaixraelnd aelaphraswamikhnthisxngkhxngsmedcphrarachininathaemrithi 1 aehngskxtaelnd idrbkarsthapnaepnsmedcphrarachswamiinxanackrkhxngphraxngkhexng aetimepnthichunchxbkhxngphsknikraelakarxphiesksmrskinewlaephiyngimnan phrarachswamiinsmedcphrarachininathaemrithi 2 aehngxngkvsaelaixraelnd aelaphrarachininathaehngchawskxt thrngidrbkaraetngtngihkhunepnsmedcphrarachathibdi phramhakstriythipkkhrxngrwmknepn phraecawileliymthi 3 aehngxngkvs thi 2 aehngskxtaelnd aelathi 1 aehngixraelnd aetthuxepnphramhakstriypkkhrxngrwmknkhrngediyw aelaepnthangkarthisudinprawtisastrxngkvs aethlngcaknnma phraswamikhxngsmedcphrarachininathinpraethsxngkvsidrbkarsthapnaepn ecachayphrarachswami Prince Consort miephiyngkhnediywthiidrbkaraetngtngphraxisriyysnixyangepnthangkarkhux ecachayxlebirt phrarachswamiinsmedcphrarachininathwiktxeriyaehngshrachxanackr kareswyrachsmbtikhxngsmedcphrarachininathcaekidkhunemuxladbkarsubrachbllngkexuxxanwy withikarsubrachsmbti epnphramhakstriy hwhnaepha l aelarwmthungkaraetngtng phramhakstriyinrthspha hrux khnamntriaetngtngrchthayath karihsiththiphraoxrsthidatamladbkarprasutikxnthisud primogeniture karihsiththiphraoxrsthidatamladbkarprasutihlngthisud ultimogeniture khxbekhtinkarsubrachsmbtixacyudcaksaythangphrachnk saythangphrachnnihruxthngsxngfay hruxthiimkhxyekidkhun emuxthungkhrawcaepn macakkarxxkesiyngeluxktng siththiinkarsubrachsmbtiodytamephs xaccaihthngchayaelahying cakdaetephschayethann hruxcakdaetephshyingethann karsubrachbllngkthiepnaebbaephnmakthisudtngaetsmyklangtxnplaytlxdcnthungkhriststwrrsthi 20 epnaebbkarihsiththiphrarachoxrskxnphrarachthida male preference primogeniture klawkhux ladbkarsubrachbllngkxyuinbrrdaphrarachoxrskhxngphramhakstriytamladbkarprasutikxnaelwcungtammadwykhxngphrarachthida inbangxanackrthangprawtisastrhammiihmikarsubrachsmbtiodyphuhyinghruxphanthangechuxsaykhxngphuhying aetxyangirktam yngmibangaehngthiyngkhngyudthuxhlkeknthnitamkdhmayaeslik dngtwxyangechn smedcphrarachathibdiaehngenethxraelndepnaekrnddyukaehnglkesmebirk aetemuxkstriydtchphraxngkhsudthayesdcswrrkhtemuxpi ph s 2433 aelasubrachbllngktxmaodyphrarachthida kdhmayaeslikcungimyxmihlkesmebirkyxmrbphraxngkhinthanaepnaekrnddchechsphupkkhrxngtamphrarachsiththikhxngphraxngkhexng echnediywkbtxnthi smedcphrarachininathwiktxeriyesdckhunkhrxngrachbllngkaehngshrachxanackrbrietnihyaelaixraelnd phraxngkhimidepnsmedcphrarachininathaehngaehonewxrdwy thungaemwasmedcphrapitulathirachkhxngphraxngkhthrngekhyepnkstriykhxngthngsxngpraethsmakxn inchwngplaykhriststwrrsthi 20 praethsswiedn nxrewy ebleyiym aelaenethxraelnd idaekikhphrarachbyytikarsubrachbllngkcakkarihsiththiphrarachoxrskxnphrarachthidamaepnmisiththisubrachsmbtiethakntamladbkarprasutiodyimcakderuxngephs inbangkrni karepliynaeplngxacyngimsngphlxairmakmaycnkwaruntxcakrunpccubnekidkhunma ephuxhlikeliyngkaryudtaaehnngkhxngbukhkhlthixyuinladbkarsubrachbllngkmakxn odyechphaainphraxisriyysphiessrayphranamtxipnikhuxrayphranamsmedcphrarachininathbangpraeths aelabangphraxngkhthisakhy shrachxanackr xngkvs brietnihy praethsinekhruxckrphph smedcphrarachininathexlisaebththi 1 thrngchlxngphraxngkhphrarachphithibrmrachaphieskckrphrrdinimathilda thrngeriykphraxngkhexngwa Lady of the English khunhyingaehngxngkvs phraecaehnrithi 1 aehngxngkvs phrarachbidathrngeluxkphraxngkhepnphrarchthayath xyangirktammikarkhdkhan thaythisudphraxngkhthrngslarachsmbtiphrarachthanihphrarachoxrs phraecaehnrithi 2 aehngxngkvs bangkhrngphraxngkhidrbkaryxmrbwaepnphrarachininathphraxngkhaerkkhxngxngkvs smedcphrarachininathmarkaertaehngskxtaelnd smedcphrarachininathaemrithi 1 aehngskxtaelnd esdckhunkhrxngrachyemuxphrachnmid 6 wn aelathrngprakxbphrarachphithibrmrachaphieskemuxphrachnm 5 phrrsa thrnghmnkbmkudrachkumaraehngfrngess sungtxmaidkhunkhrxngrachyepnphraecafrxngswthi 2 aehngfrngess smedcphrarachininathecn ekryaehngxngkvs hruxthiruckinphranam eldiecn ekry epnphrarachpnddainphraecaehnrithi 7 aehngxngkvs fransis dchechsaehngsffxlkh machnensdxresth phramardacungepnlukphiluknxngkbphraecaexdewirdthi 6 phramhakstriyphraxngkhnithrngeluxkeldiecn ekry sungtamskdiaelaepnphrarachnddaihepnphrarchthayath odykarthrngtdsiththiinkarsubrachbllngkkhxngphraechsthphkhinithngsxngphraxngkhkhux ecahyingaemri aelaecahyingxlisaebthxxkip phrarachoxngkarnnimidphanrthspha aelamikaryxnthamthungwamnthuktxnghruxim khuxsamarthbngkhbichidtamkdhmayhruxim xyangirktamecahyingaemriesdcthrngkrithathphekhamaephuxthwngphrarachsiththi phraxngkhthrngpldeldiecnlngcakrachbllngk aelathrngsaercothsinewlatxma eldiecn ekryepnthiruckkndiinphrarachsmyya rachini 9 wn bangkhrngphraxngkhidrbkaryxmrbwaepnphrarachininathxngkhaerkkhxngxngkvssmedcphrarachininathwiktxeriysmedcphrarachininathaemrithi 1 aehngxngkvs 19 krkdakhm ph s 2096 17 phvscikayn ph s 2101 thrngpldeldiecn ekryxxkcakrachbllngk aelaihnbwathrngkhrxngrachsmbtiphayhlngcakkaresdcswrrkhtkhxngphraecaexdewirdthi 6 phrarachxnucha odyimthuxwaeldiecnekhyepnphrarachininathaehngxngkvsely phraxngkhthrngepnsmedcphrarachininathphraxngkhaerkkhxngxngkvs thiidrbkaryxmrbxyangepnthangkar smedcphrarachininathexlisaebththi 1 aehngxngkvs 17 phvscikayn ph s 2101 24 minakhm ph s 2146 thrngsubrachsmbtitxcakphraechsthphkhinisungimmiphrarachoxrsaelathida aelaswrrkhtodyprascakrchthayathdwy karesdcswrrkhtnisngphlihekidkarrwmrachbllngkxngkvsaelaskxtaelndekhadwykn Union of the Crown odykstriyphraxngkhihm phraxngkhthrngepnsmedcphrarachininaththiyingihythisudphraxngkhhnungkhxngxngkvs smedcphrarachininathaemrithi 2 aehngxngkvs 13 kumphaphnth ph s 2232 28 thnwakhm ph s 2237 thrngsubrachsmbtitxcakphrarachchnkaelathrngkhrxngrachsmbtirwmkbphraecawileliymthi 3 phrarachswami smedcphrarachininathaexnnaehngbrietnihy 8 minakhm ph s 2245 1 singhakhm ph s 2257 thrngsubrachsmbtitxcakphraecawileliymthi 3 phrarachswamiinsmedcphraechsthphkhini aelathrngepnphuxxkphrarachbyytikarrwmpraeths Act of Union sungepnkarrwmrachxanackrxngkvsaelaskxtaelndihepnpraethshnungediywkhux brietnihy Great Britain smedcphrarachininathwiktxeriyaehngshrachxanackr 20 mithunayn ph s 2380 22 mkrakhm ph s 2444 thrngsubrachsmbtitxcakphraecawileliymthi 4 phrarachpitula aelaepnphrarachininaththiyingihykhxngxngkvs nxkcaksmedcphrarachininathexlisaebththi 1 odythrngkhrxngrachsmbtinanthung 63 pi sungyawnankwarchkalidinbrrdaphramhakstriythukphraxngkh aelathrngpkkhrxngckrwrrdixngkvsxnkwangihyiphsal thiinbangkhrngeriykwa ckrwrrdiwiktxeriy Victorian Empire xikthngyngepnphramhakstriyphraxngkhaerkthichayphrarupdwy smedcphrarachininathexlisaebththi 2 aehngshrachxanackr 6 kumphaphnth ph s 2495 8 knyayn ph s 2565 thrngsubrachsmbtitxcaksmedcphraecacxrcthi 6 phrarachbida dwythrngepnphrarachthidaphraxngkhihy odythrngepnsmedcphrarachininaththikhrxngrachyawnanthisudinprawtisastr epnewlathung 70 pi aelaepnphramhakstriythikhrxngrachynanthisudepnxndb 2 khxngolkithy phranangcamethwiepnphrarachininathphraxngkhaerkkhxnghriphuychyxanackrhriphuychy phranangcamethwi xanackrlannaphranangcirpraphaethwi ph s 2088 ph s 2089 phranangwisuththiethwi ph s 2107 ph s 2121 dd mxy phranangechngsxbuaehnghngsawdi ph s 1996 ph s 2013 phranangechngsxbukmphucha smedcphramharachinixngkhmikstrixngkhmiaehngkmphucha ph s 2378 ph s 2384 aela ph s 2387 ph s 2388 law nangaekwphimphaaehnglanchang ph s 1976 ph s 1981 enethxraelnd smedcphrarachininathwilehlminasmedcphrarachininathwilehlminaaehngenethxraelnd 23 phvscikayn ph s 2433 4 knyayn ph s 2491 thrngepnsmedcphrarachininathphraxngkhaerkaelakhrxngrachsmbtiyawnanthisudkhxngenethxraelndcnthungkarslarachsmbtiihaekphrarachthida thahakphraxngkhthrngxyuinrachsmbticnthungkaresdcswrrkhtcathrngkhrxngrachsmbtiyawnanthung 72 pi smedcphrarachininathyueliynaaehngenethxraelnd 4 knyayn ph s 2491 30 emsayn ph s 2523 smedcphrarachininathebiythriksaehngenethxraelnd 30 emsayn ph s 2523 30 emsayn ph s 2556 swiedn smedcphrarachininathxulrikasmedcphrarachininathmarekreththi 1 aehngednmark phraxngkhediywknkbphramhakstriyaehngednmark dudanlang smedcphrarachininathkhristinaaehngswiedn smedcphrarachininathxulrikaaehngswiedn txmathrngslarachsmbtiihaekphrarachswami odyyngkhngthrngepnsmedcphrarachiniaehngswiedn aetmiichinthanakstriyednmark smedcphrarachininathmarekreththi 2smedcphrarachininathmarekreththi 1 aehngednmark ph s 1918 ph s 1955 epnphramhakstriyphraxngkhaerkaehngednmark nxkcakniyngepnphramhakstriyaehng nxrewy aelaswiednxikdwy smedcphrarachininathmarekreththi 2 aehngednmark 14 mkrakhm ph s 2515 14 mkrakhm ph s 2567 opaelnd smedcphrarachininathecdwikasmedcphrarachininathecdwikaaehngopaelnd ph s 1925 ph s 1942 smedcphrarachininathaexnnaaehngopaelnd ph s 2118 ph s 2129 sepn smedcphrarachininathxisaeblthi 2smedcphrarachininathxisaeblthi 1 aehngkstiya epnphrarachchnniinecahyingaekhthethxrinaehngxarakxn phrarachchnniinsmedcphrarachininathaemrithi 1 aehngxngkvs smedcphrarachininathkhwnaaehngkstiya 26 phvscikayn ph s 2047 12 emsayn ph s 2098 phrarachthidainsmedcphrarachininathxisaebllaaelathrngepnthiruckkndiwa rachinikhlng hlngcakkarsinphrachnmkhxngphraswami phraxngkhthrngthuksmedcphrarachathibdiefxrdinandaehngxarakxn phrarachchnkpldxxkcakrachbllngk aelaidthrngepnphusaercrachkarcnkrathngesdcswrrkht caknnsmedcphrarachathibdicharlsthi 5 aehngxarakxn sungepnphrarachoxrseswyrachsmbtitxma tamkdhmaysalik epnphusaercrachkarcnsmedcphrarachininathesdcswrrkht hlngcakarslarachsmbtikhxngsmedcphrarachathibdicharlsthi 5 smedcphrarachathibdifilipthi 2 aehngsepn phrarachoxrsthrngepnkstriyphraxngkhaerkkhxngrachxanackrsepnthirwmknaelw smedcphrarachininathxisaeblthi 2 aehngsepn 29 knyayn ph s 2376 30 knyayn ph s 2411 smedcphrarachininathphraxngkhediywaehngsepnoprtueks smedcphrarachininathmaeriythi 2smedcphrarachininathebiythrisaehngoprtueks 22 tulakhm ph s 1926 6 emsayn ph s 1928 yngepnthithkethiyng smedcphrarachininathmaeriythi 1 aehngoprtueks 24 kumphaphnth ph s 2320 20 minakhm ph s 2359 smedcphrarachininathmaeriythi 2 aehngoprtueks 29 emsayn ph s 2369 11 singhakhm ph s 2371 aela ph s 2377 15 phvscikayn ph s 2396 xxsetriy smedcphrarachininathmaeriy ethersaxarchdchechsmaeriy ethersa aehngxxsetriy 20 tulakhm ph s 2283 29 phvscikayn ph s 2323 hngkari smedcphrarachininathaemrithi 1 aehnghngkari ph s 1925 ph s 1928 ph s 1929 ph s 1938 smedcphrarachininathmaeriy ethersa aehnghngkari 20 tulakhm ph s 2283 29 phvscikayn ph s 2323 obhiemiy smedcphrarachininathmaeriy ethersa aehngobhiemiy 20 tulakhm ph s 2283 19 thnwakhm ph s 2284 12 phvsphakhm ph s 2286 29 phvscikayn ph s 2323 okhrexechiy smedcphrarachininathmaeriy ethersa aehngokhrexechiy 20 tulakhm ph s 2283 29 phvscikayn ph s 2323 isprs smedcphrarachininathaekhthethxrinsmedcphrarachininathcharlxttaehngisprs 28 krkdakhm ph s 2001 ph s 2007 smedcphrarachininathaekhthethxrinaehngisprs singhakhm ph s 2017 14 minakhm ph s 2032 exthioxepiy smedcphrackrphrrdininathesadituthi 1smedcphrackrphrrdiniesadituthi 1 aehngexthioxepiy 27 knyayn ph s 2459 2 emsayn ph s 2473 xiyiptobran smedcphrarachininathkhlioxphtrathi 7faorhhyingosebkhenfru faorhhyinghtechpsut faorhhyingthawxsert khlioxphtrathi 1 khlioxphtrathi 2 khlioxphtrathi 3 khlioxphtrathi 4 khlioxphtrathi 5 khlioxphtrathi 6 khlioxphtrathi 7 faorhhyingthimichuxesiyngthisudkhxngxiyiptobranrsesiy smedcphrackrphrrdininathaekhthethxrinthi 2 mharachini ckrphrrdininathaehngrsesiysmedcphrackrphrrdiniaekhthethxrinthi 1 aehngrsesiy 8 kumphaphnth ph s 2268 17 phvsphakhm ph s 2270 phramehsixngkhthisxnginsmedcphrackrphrrdipietxrthi 1 aehngrsesiy sungthrngidrbkarsthapnaihpkkhrxngrwmkn aelathrngpkkhrxngckrwrrdirsesiydwyphraxngkhexngnbtngaetkaresdcswrrkhtkhxngsmedcphrackrphrrdipietxrthi 1 smedcphrackrphrrdiniaexnnaaehngrsesiy 29 mkrakhm ph s 2273 28 tulakhm ph s 2283 smedcphrackrphrrdiniexlisaebthaehngrsesiy 6 thnwakhm ph s 2284 5 mkrakhm ph s 2305 phrarachthidainsmedcphrackrphrrdipietxrthi 1 aela smedcphrackrphrrdinieykaecrinathi 1 aehngrsesiy smedcphrackrphrrdiniaekhthethxrinthi 2 aehngrsesiy 28 mithunayn ph s 2305 17 phvscikayn ph s 2339 aerkerimthrngxphiesksmrskbaekrnddyukhpietxr sungthrngepnxngkhrchthayathkhxngsmedcphrackrphrrdininathexlisaebth hlngcakkareswyrachsmbtikhxngphrarachswami phraxngkhcungthrngdarngphraxisriyysepn ckrphrrdinimehsiaehngrsesiy txmahlngehtukarnnganeliyng phraxngkhthrngkhbphrarachswamixxkcakrachbllngk aelaesdckhunkhrxngsirirachsmbtiexng phraxngkhthrngepnsmedcphrackrphrrdininathaehngrsesiyephiyngphraxngkhediywthiepn mharachiniekahli phranangchxndxkaehngchilla phranangchindxkaehngchilla phranangchinsxngaehngchillacin smedcphrackrphrrdininathbuechkethiynckrphrrdinibuechkethiyn phrasnminckrphrrdithngithcng aelatxmaepnphrasnmexkinckrphrrdithngekacng hlngcakchingphrarachxanaccakhxngehahwngidsaerc phranangkidrbkarsthapnaepn hlngcakthngekacngswrrkht phrarachoxrskhxngphranangsubrachsmbtiepnhxngetaehngcinsxngphraxngkh aetthukbuechkethiynthxdlngesiy aelaphraxngkhidesdckhunthrngrachyesiyexngepn hxngethying ephiyngphraxngkhediywkhxngcin xyangirktaminbnplayphrachnmchiph phranangmiphrarachoxngkarihlbphraprmaphiithyxxkcakkarepnhxnget odyihehluxprawtisastrephiyngwathrngepnhxngehainhxngetthngekacngethann txngkarxangxing yipun smedcphrackrphrrdininathsuxiokackrphrrdinicingngu phraxngkhnimiidepnckrphrrdinithikhrxngrachy Empress Regnant aetepnckrphrrdiniphusaercrachkar aelathrngsaercrachkaryawnanthung 60 pi phranangthrngepnphuhyingkhnaerkthiepnphunapraethsyipun thrngphraprichasamarththungkhnadkhnamiphrakhrrph 7 eduxnkyngesdcxxkthrngrbrwmkbphrarachswamiid aelathrngtdhwaemthphfaytrngkhamiddwy chawyipunthuxepntnaebbkhxngphuhyingekng ckrphrrdinisuxioka ckrphrrdiniokhekhiywkhu thrngrachysxngkhrng ckrphrrdiniciot ckrphrrdiniekngem ckrphrrdiniekngoch ckrphrrdiniokhekng thrngrachysxngkhrng ckrphrrdiniemoch ckrphrrdinioka sakuramachi thukphraxngkhesdckhunkhrxngrachykhlaykn khuxephraaphrarachbidaimmiphrarachoxrscungthrngeluxkepnrchthayath hruxxacihesksmrskbphrapitula nxngchayphx ephuxihthrngrachyrwmkn hlngcakphrarachswami sungepnxakhxngphraxngkh swrrkht smedcphrackrphrrdiniehlanicungthrngpkkhrxngyipunxyuinchwrayaewlahnung ephuxihmkudrachkumarmiphrachnmayuphxthicakhrxngrachyexngid ykewnsmedcsmedcphrackrphrrdiniekngoch sungepnphrapituccha pa khxngckrphrrdixngkhtxma aetthngnikephuxehtuphlediywknkhuxrxcnkwaphrarachwngsfayhnathiehmaasmcamiphrachnmmakphxesdckhunthrngrachyidlkesmebirk aekrnddchechscharlxtdsechsmaeriythi 2 ethersa aehnglkesmebirk 20 tulakhm ph s 2283 29 phvscikayn ph s 2323 aekrnddchechsmari xedeldaehnglkesmebirk 25 kumphaphnth ph s 2455 14 mkrakhm ph s 2462 thrngepnaekrnddchechsphupkkhrxnglkesmebirkphraxngkhaerkthiaekrnddyukhkioymthi 4 phrarachchnkthrngeluxkihepnrchthayath phrxmkbthrngaekikhkdmnethiyrbalihphuhyingsubrachsmbtiid aekrnddchechsmari xedeldcungthrngepnaekrnddchechsphupkkhrxngphraxngkhaerkaehnglkesmebirk phraxngkhepnphrapramukhaehngrthsungmibthbathmak odyechphaainchwngsngkhramolkkhrngthi 1 odythaysudrthsphamichnthamtiihphraxngkhslarachsmbti aelaphayhlngcakkhwamkhdaeyngxyangrunaerngkbnaykrthmntri phraxngkhcungthrngslarachsmbtiaekphraknistha aekrnddchechscharlxtaehnglkesmebirk 14 mkrakhm ph s 2462 12 phvscikayn ph s 2507 epnphraknisthainaekrnddchechsmari xedeld aelaepnphrachnniinaekrnddyukhchxng sungepnphrachnkinaekrnddyukhxxngrithi 1 aekrnddyukhaehnglkesmebirkphraxngkhpccubn odythrngepnphuthipkkhrxngrachrthlkesmebirk yawnanthisudepnewla 45 picnkrathngthungkarslarachsmbtiihaekphrarachoxrsinpi ph s 2507madakskar smedcphrarachininathranawaolnathi 3smedcphrarachininathrancitaaehngemrimncaka ph s 2063 ph s 2073 smedcphrarachininathrafxihaehngxaraosra ph s 2073 ph s 2083 smedcphrarachininathranawaolnathi 1 aehngmadakskar ph s 2325 16 singhakhm ph s 2404 smedcphrarachininathrasxehxrinaaehngmadakskar ph s 2357 1 emsayn ph s 2411 smedcphrarachininathranawaolnathi 2 aehngmadakskar ph s 2372 13 krkdakhm ph s 2426 smedcphrarachininathranawaolnathi 3 aehngmadakskar 22 phvscikayn ph s 2404 23 phvsphakhm ph s 2460 txngnga smedcphrarachininathsaolet tuopxuthi 3smedcphrarachininathsaolet tuopxuthi 3 aehngtxngnga 5 emsayn ph s 2461 16 thnwakhm ph s 2508 haway smedcphrarachininathlilioxkalanismedcphrarachininathlilioxkalaniaehnghaway ph s 2434 ph s 2436 epnphramhakstriyphraxngkhsudthayaehngrachxanackrhaway phraxngkhthrngthuklmlangrachbllngkinkarlmlangrachxanackrhawayechingxrrthrachbnthitysthan rachwngsaehngmhaxanacyuorpinkhriststwrrsthi 19 kstriyaelasmedcphrarachininath 2556 ephraaphraxisriyysrachiniaehngxngkvsyngimekhymi phrarachinikhxnsxrthaehngxngkvsphraxngkhaerkthiidrbkaryxmrbxyangepnthangkarkhuxsmedcphrarachinimathilda aehngflanedxr phramehsiinphraecawileliymthi 1 aehngxngkvs sungidmiphrarachphithirachaphiesksthapnaphraxngkhepnphrarachiniphrxmkbphraecawileliym swnphrarachininathphraxngkhaerkaehngxngkvs yngepnthithkethiyng ephraaxangwackrphrrdininathmathildaepnephiyngphusaercrachkarrahwangkareluxkphramhakstriyphraxngkhihm aelaimekhythrngpkkhrxngxngkvscring ely ephraamathilda kbecnbangkhrngimthuknbrwmepnkstriyaehngxngkvs duephim phrarachininathwiktxeriy phraniphnth w n pramwlmarkh She was continue to be Quuen of Sweden but as Queen Cosort not Queen Regnant however her title didn t changed xanephimin w n pramwlmarkh khlngephraark ephraasxngphraxngkhkhangtnepnephiyngphrarachininathaehngkhastil sungepnswnhnungkhxngsepnethann ephraaphupkkhrxngthiaethcringkhuxphrarachswamikhxngphraxngkh phraxngkhnacaepnephiyngphrarachinimehsimakkwa duephimin thuwtara nganekhiynkhxngthmynti duephiminkhthrin mharachini phraniphnthphraecawrwngsethx phraxngkhecaculckrphngs tangcakphrarachinixulerka aelaphrackrphrrdinimaeriy ethersa sungepnkstriykxn aelakhxyepnphramehsi phrackrphrrdiniaekhthethxrinepnphramehsikxn aelwcungepnkstriy xyangirktamphlkkhuximmikarepliynaeplngphraxisriyysehmuxnkn ephraathuxwasmedcphrarachininathwilehmmina aehngenethxraelnd dudanbn imekhyepnaekrnddchechsaehnglkesmebirkely