สมเด็จพระราชินีรันฟาลูนาที่ 3 แห่งมาดากัสการ์ หรือ รานาวาโล มันจากาที่ 3 (อังกฤษ: Ranavalona III; 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2404 — 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2460) ทรงเป็นสมเด็จพระราชินีนาถพระองค์สุดท้ายแห่งอาณาจักรเมรีนาหรือประเทศมาดากัสการ์ปัจจุบัน ตั้งแต่ พ.ศ. 2426 ถึง 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2440 เมื่อทรงถูกเนรเทศโดยฝรั่งเศสที่ได้ยึดครองประเทศนี้เป็นอาณานิคม พระองค์ทรงเป็นที่รักยิ่งของชาวมาลากาซีเนื่องจากทรงพยายามนำพาประเทศต่อต้านการขยายอาณานิคมของฝรั่งเศสในมาดากัสการ์แม้ไม่สำเร็จก็ตาม
สมเด็จพระราชินีนาถรันฟาลูนาที่ 3 | |
---|---|
ราซาฟินดราเฮตี สมเด็จพระราชินีรันฟาลูนาที่ 3 แห่งมาดากัสการ์ | |
สมเด็จพระราชินีนาถแห่งมาดากัสการ์ | |
ครองราชย์ | 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2426 – 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2440 |
รัชสมัย | 13 ปี 213 วัน |
รัชกาลก่อนหน้า | |
รัชกาลถัดไป | สิ้นสุด (ระบอบกษัตริย์ถูกล้มล้าง) |
ประสูติ | 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2404 , ประเทศมาดากัสการ์ |
สวรรคต | 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2460 (55 ปี) แอลเจียร์, ประเทศแอลจีเรีย |
พระราชสวามี | ราติมอ ไรนิไลอาริโวนี |
สมเด็จพระราชินีรันฟาลูนาที่ 3 แห่งมาดากัสการ์ | |
ราชวงศ์ | เมรีนา |
พระบรมราชชนก | เจ้าชายอันเดรียนซิมิอานาตรา |
พระบรมราชชนนี | เจ้าหญิงราเคตากา |
ลายพระอภิไธย |
ขณะทรงดำรงพระราชอิสริยยศเป็นเจ้าหญิงราซาฟินดราเฮตี ทรงถูกคัดเลือกจากเหล่าขุนนางชั้น แอนเดรียนา ให้ครองราชสมบัติสืบต่อจาก ซึ่งเสด็จสวรรคต จากธรรมเนียมของพระราชินี พระนางต้องอภิเษกสมรสกับไรนิไลอาริโวนี นายกรัฐมนตรีด้วยเหตุผลทางการเมือง ผู้ซึ่งมีอำนาจในการปกครองราชอาณาจักรและนำประเทศเข้าสู่สากล ในรัชกาลของพระนาง มาดากัสการ์ได้ดำเนินติดต่อทางการค้า รวมทั้งเจริญสัมพันธไมตรีกับสหรัฐอเมริกาและอังกฤษเพื่อคานอำนาจการล่าอาณานิคมของฝรั่งเศส อย่างไรก็ตามฝรั่งเศสได้ยึดชายฝั่งมาดากัสการ์และสามารถเข้ายึดกรุงอันตานานารีโวได้ โดยเข้ายึดครองศูนย์กลางของประเทศคือ ใน พ.ศ. 2439 นับเป็นจุดจบของราชอาณาจักรมาดากัสการ์ภายใต้ราชวงศ์เมรีนาที่ยืนยาวเก่าแก่กว่า 400 ปี
รัฐบาลอาณานิคมฝรั่งเศสซึ่งได้รับการจัดตั้งขึ้นใหม่ทำการเนรเทศนายกรัฐมนตรีไรนิไลอาริโวนีไปที่แอลจีเรีย ในขณะที่มีมติให้ดำรงพระนางรันฟาลูนาไว้ในฐานะศูนย์รวมจิตใจของชาวมาลากาซีเพื่อจะได้เป็นราชินีหุ่นเชิด อย่างไรก็ตามรัฐบาลฝรั่งเศสเสื่อมความนิยมจากการต่อต้านจาก ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากพระราชวงศ์และชาวมาลากาซี การต่อต้านครั้งนี้ได้ถูกปราบปรามโดยรัฐบาลฝรั่งเศสอย่างรุนแรงและถูกปราบปรามใน พ.ศ. 2440 ทำให้ฝรั่งเศสต้องเนรเทศพระราชินีรันฟาลูนาไปยังเรอูนียง เพื่อไม่ให้พระนางได้ปลุกระดมชาวมาลากาซีได้อีก ไรนิไลอาริโวนีถึงแก่อสัญกรรมในปีเดียวกัน และพระนางกับพระราชวงศ์ที่ถูกเนรเทศได้ถูกย้ายไปยังแอลเจียร์ พระนางและพระราชวงศ์ทรงได้รับพระราชทรัพย์ประจำปีและมีพระชนม์ชีพสุขสบายในแอลเจียร์ รัฐบาลฝรั่งเศสได้ยินยอมให้พระนางเสด็จประพาสกรุงปารีสเพื่อผ่อนคลายอิริยาบถและใช้พระราชทรัพย์ซื้อสิ่งต่าง ๆ แม้ว่าพระนางจะทรงขอให้รัฐบาลฝรั่งเศสส่งพระนางกลับมาดากัสการ์หลายครั้ง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธทุกครั้ง อดีตพระราชินีนาถรันฟาลูนาเสด็จสวรรคตอย่างกะทันหัน ณ พระตำหนักในแอลเจียร์ ในวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2460 จากพระอาการประชวรด้วยการอุดตันของเส้นโลหิตแดงอย่างทุกข์ทรมาน พระบรมศพของพระนางรันฟาลูนาถูกฝังที่สุสานแซงต์-เออเชนในกรุงแอลเจียร์ ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2481 รัฐบาลฝรั่งเศสยินยอมให้ย้ายพระศพของพระนางรันฟาลูนากลับยังมาดากัสการ์และทำพิธีฝังพระศพอีกครั้งที่ สุสานแห่งสมเด็จพระราชินีนาถราซอเฮอรินาแห่งมาดากัสการ์ใน ซึ่งเป็นพระประสงค์สุดท้ายของพระนางที่จะได้เสด็จมายังมาดากัสการ์แม้จะเสด็จสวรรคตแล้ว ปิดฉากพระชนม์ชีพอันน่าเศร้าของพระนาง
ช่วงต้นพระชนม์ชีพ
พระนางเป็นพระราชธิดาในเจ้าชายอันเดรียนซิมิอานาตรากับเจ้าหญิงราเคตากา ประสูติที่เมืองอัมพาริป เขตมันจากาซาฟี นอกกรุงอันตานานารีโว ในวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2404 พระนามเดิมว่า เจ้าหญิงราซาฟินดราเฮตี พระองค์เป็นพระราชนัดดาใน และเป็นพระปนัดดาในพระเจ้าอันเดรียนนามโบอินีเมรีนาแห่งมาดากัสการ์ ซึ่งเป็นการปูทางให้พระนางมีสิทธิในการสืบราชบัลลังก์แห่งราชอาณาจักรมาดากัสการ์ พระราชบิดาและพระราชมารดาของเจ้าหญิงทรงมอบหมายให้ทาสรับใช้ดูแลเจ้าหญิงราซาฟินดราเฮตี
เมื่อทรงเจริญพระชันษาในวัยศึกษาเล่าเรียน เจ้าหญิงราซาฟินดราเฮตีทรงได้รับการอุปการะจาก พระปิตุจฉา พระนางทรงให้เจ้าหญิงได้รับการศึกษาจากคณะครูแห่ง เมื่อทรงพระเยาว์ เจ้าหญิงทรงเป็นเด็กขยัน อยากรู้อยากเห็นและทรงมีศรัทธาในคัมภีร์ไบเบิลอย่างแรงกล้า ทรงสนพระทัยในการศึกษาและการอ่านเขียน ทำให้ทรงเป็นที่รักใคร่ในพระอาจารย์ทั้งหลาย เมื่อทรงเจริญพระชันษามากขึ้นเจ้าหญิงทรงศึกษาต่อที่ Congregational School แห่งอัมบาโตนากันกา, the Friends High School for Girls, และ LMS Girls' Central School เจ้าหญิงทรงเข้ารับศีลจุ่มเป็นโปรแตสแตนต์ที่ ในวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2417
เมื่อทรงเจริญพระชันษาในวัยรุ่น เจ้าหญิงราซาฟินดราเฮตีทรงรักและตัดสินพระทัยอภิเษกสมรสครั้งแรกกับขุนนางหนุ่มตำแหน่ง "" ชื่อ ราติมอ (ราติมออาริโวนี) แต่ได้เสียชีวิตลงไม่กี่ปีหลังอภิเษกสมรส ในวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2426 ขณะเขามีอายุเพียง 22 ปี ซึ่งทำให้เจ้าหญิงต้องทรงตกพุ่มหม้าย ซึ่งมีกระแสข่าวลือว่า นายกรัฐมนตรีไรนิไลอาริโวนีมีส่วนวางยาพิษสังหารราติมอเนื่องจากเหตุผลทางการเมือง จากใน พ.ศ. 2406 ซึ่งไรนิไลอาริโวนีและไรนิโวนินาฮิทรินิโอนี พี่ชาย เป็นผู้ก่อการ ก่อให้เกิดการเปลี่ยนขั้วอำนาจเต็มของขุนนางชนชั้นสูงด้วยราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นการปกครองร่วมระหว่างพระมหากษัตริย์และนายกรัฐมนตรี (เสรีชน) จากข้อตกลงนี้ทำให้ต้องมีการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองกลุ่มโดยต้องมีการอภิเษกสมรสด้วยเหตุทางการเมืองระหว่างนายกรัฐมนตรีและสมเด็จพระราชินีนาถ ผู้เป็นพระประมุข ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้เลือก บุคคลที่จะดำรงตำแหน่งสมเด็จพระราชินีนาถเอง ต่อมาสมเด็จพระราชินีนาถรันฟาลูนาที่ 2 ทรงพระประชวรและใกล้สวรรคต ทางรัฐบาลต้องหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งสมเด็จพระราชินีนาถพระองค์ต่อไป นายกรัฐมนตรีไรนิไลอาริโวนีได้วางแผนวางยาพิษสังหารราติมอ เนื่องจากเจ้าหญิงราซาฟินดราเฮตีทรงเป็นผู้เหมาะสมและเป็นที่รักใคร่ในพระปิตุจฉา สมเด็จพระราชินีนาถรันฟาลูนาที่ 2 และการสังหารราติมอจะเป็นประโยชน์ต่อเขาในการที่เขาสามารถสมรสกับว่าที่พระราชินีองค์ต่อไปได้โดยง่าย
ครองราชย์และในรัชกาล
พระนางทรงได้รับการประกาศเป็นสมเด็จพระราชินีสืบต่อจากการเสด็จสวรรคตของในวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2426 พระราชพิธีบรมราชาภิเษกจัดขึ้นที่อิมาฮาซินาในวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2426 ซึ่งมีพระชนมายุครบ 22 พรรษาในวันนั้นพอดี พระอิสริยยศเต็มของพระนางคือ"สมเด็จพระนางเจ้ารันฟาลูนาที่ 3 โดยความดีงามแห่งพระผู้เป็นเจ้าและความปรารถนาแห่งปวงพสกนิกร, สมเด็จพระราชินีนาถแห่งมาดากัสการ์และผู้ปกป้องกฎอันชอบธรรมแห่งชาติ" ("Her Majesty Ranavalona III by the grace of God and the will of the people, Queen of Madagascar, and Protectoress of the laws of the Nation") พระราชพิธีครองราชย์ได้จัดขึ้นที่เขตมาฮามาซินาในกรุงอันตานานารีโวในวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2426 ซึ่งเฉลิมฉลองสิริพระชนมายุครบ 22 พรรษา พระนางทรงเลือกที่จะฝืนโบราณราชประเพณีโดยการเพิ่มกำลังทหารในพระราชพิธีของพระนางโดยทหารคือกลุ่มเด็กนักเรียนชาย 500 คนและนักเรียนหญิง 400 คนจากโรงเรียนที่ดีที่สุดในเมืองหลวง เด็กผู้หญิงสวมชุดกระโปรงยาวสีขาว ส่วนเด็กผู้ชายสวมชุดเครื่องแบบทหารและฝึกซ้อมใช้อาวุธหอกตามธรรมเนียมโบราณ พระราชินีรันฟาลูนาทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกโดยทรงฉลองพระองค์ด้วยชุดผ้าไหมคลุมยาวสีขาวพร้อมชายกระโปรงปักด้วยไหมสีแดงและเครื่องประดับจากทองคำ ชาวอเมริกันที่เข้าร่วมพระราชพิธีได้บรรยายถึงพระนางว่า "พระนางมีพระวรกายสูงกว่าคนปกติเล็กน้อยและทรงมีลักษณะที่ละเอียดอ่อน ผิวของพระนางสีคล้ำน้อยกว่าผู้ติดตามคนอื่น ๆ พระนางปรากฏว่าค่อนข้างประหม่าและอาย และพระนางทรงเป็นผู้รับผิดชอบพิธีทางศาสนาในราชสำนักอย่างเคร่งครัด"
ซึ่งเหมือนกับพระราชินีนาถสองพระองค์ก่อน คือ พระนางต้องอภิเษกสมรสกับนายกรัฐมนตรีไรนิไลอาริโวนี พระราชินีมีพระราชอำนาจเพียงในพระนาม ข้อตกลงทางการเมืองต่าง ๆ ที่สำคัญจะต้องได้รับความเห็นชอบหรือการตัดสินโดยนายกรัฐมนตรีที่อ้างว่าเป็นผู้อาวุโสและมีประสบการณ์สูง พระราชินีนาถรันฟาลูนาจะต้องมีพระราชดำรัสในที่สาธารณะบ่อย ๆ ในนามของนายกรัฐมนตรี และต้องทรงประกอบพระราชกรณียกิจเปิดอาคารสาธารณะใหม่ ๆ เช่น โรงพยาบาลแห่งใหม่ที่ไอโซอาวินอันเดรียนา และโรงเรียนแห่งใหม่ที่อัมโบดินอันโดฮาโล ตลอดรัชกาลของพระนาง เจ้าหญิงรามิซินดราซานา ผู้เป็นพระปิตุจฉา ได้เป็นที่ปรึกษาส่วนพระองค์ในพระราชินีและทรงอิทธิพลมากในราชสำนัก เจ้าหญิงราเซนดราโรโน ผู้เป็นพระภคินีในพระราชินี เจ้าหญิงมีพระโอรสคือ เจ้าชายรากาโตเมนา และพระธิดาคือ เจ้าหญิงราซาฟินานเดรียมานิทรา ทั้งสองพระองค์เป็นพระนัดดาที่พระราชินีสนิทที่สุด พระนางโปรดเวลาในการทรงว่าวหรือเล่นเกมล็อตโต (เกมชนิดหนึ่งคล้ายบิงโก) และเกมพาร์ลอร์ โดยทรงเล่นร่วมกับพระญาติและนางสนองพระโอษฐ์ในราชสำนัก พระนางโปรดงานเย็บปักถักร้อยและการปักโครเช่ต์ และบ่อยครั้งที่พระนางจะนำโครงการแนวพระราชดำริเสนอต่อคณะรัฐมนตรี พระนางโปรดฉลองพระองค์ต่าง ๆ มากและพระนางทรงเป็นผู้ปกครองชาวมาลากาซีคนแรกที่นำเข้าเสื้อผ้าจากปารีสมากกว่าลอนดอน
สงครามฝรั่งเศส-มาลากาซี
ขณะเป็นพระประมุขแห่งมาดากัสการ์ สมเด็จพระราชินีนาถรันฟาลูนาทรงเป็นฝ่ายเสียเปรียบจากการล่าอาณานิคมระหว่างจักรวรรดิอังกฤษและจักรวรรดิฝรั่งเศสซึ่งก็คือ ต้องเข้าพึ่งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการปกป้องมาดากัสการ์ ตั้งแต่เริ่มต้นศตวรรษ ความตึงเครียดระหว่างฝรั่งเศสและมาดากัสการ์ทวีความรุนแรงขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 3 ปีก่อนที่พระนางรันฟาลูนาที่ 3 ครองราชย์ ฝรั่งเศสได้รุกรานเมืองต่าง ๆ ตลอดชายฝั่งของชาวมาลากาซีในช่วงปีสุดท้ายแห่งรัชสมัยของสมเด็จพระราชินีนาถรันฟาลูนาที่ 2 และยังคงดำเนินต่อจนถึงรัชสมัยของสมเด็จพระราชินีนาถรันฟาลูนาที่ 3 ซึ่งได้ครองราชย์เป็นสมเด็จพระราชินีพระองค์ใหม่ในช่วงฤดูร้อน ของ พ.ศ. 2426 ในภายหลัง นายกรัฐมนตรีไรนิไลอาริโวนีตัดสินใจที่จะติดต่อกับพันโท วิลลอจบี ทหารชาวบริเตนที่มีประสบการณ์จาก เพื่อให้เป็นผู้ตรวจตราควบคุมทหารและฝึกฝนทหารในพระราชินีและปกป้องประเทศจากการรุกรานของฝรั่งเศสอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ระหว่าง พ.ศ. 2426 ถึงพ.ศ. 2428 ฝรั่งเศสสร้างความมั่นคงในการยึดครองชายฝั่งของมาดากัสการ์แต่ประสบความล้มเหลวในการรุกรานเข้าไปถึงในตัวเกาะ สงครามทวีความรุนแรงขึ้นจนถึงขั้นสูงสุดในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2428 มีการการโจมตีโดยการใช้ระเบิดหรือปืนที่มีอานุภาพร้ายแรงในบริเวณภาคตะวันตกเฉียงเหนือของมาดากัสการ์และกองทัพฝรั่งเศสสามารถยึดครองเมืองได้ ตลอดช่วงนี้มาดากัสการ์พยายามที่จะเจรจาต่อรองกับจักรวรรดิฝรั่งเศส แต่ก็ชี้ให้เห็นว่าประสบความล้มเหลวโดยทั้งสองฝ่ายปฏิเสธที่จะทำตามความต้องการของทั้งสองฝ่ายจึงจบลงด้วยข้อโต้แย้ง จุดเปลี่ยนมาถึงเมื่อฝรั่งเศสตระหนักว่าทัศนคติของกองทัพและผู้แทนทางการเมืองในมาดากัสการ์นั้นไม่เห็นพ้องต้องกันกับเหล่าคณะผู้แทนจากปารีส เอ็ม. โบเดส์ กงสุลฝรั่งเศสถูกเรียกตัวกลับและแทนที่ด้วยบุคคลที่มีอำนาจเต็มพิเศษคนใหม่ ได้มีการพาดหัวข่าวยื่นคำขาดมาที่กรุงอันตานานารีโว เพื่อต้องการให้รับรองสิทธิของชาวฝรั่งเศสในบริเวณภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศโดยฝรั่งเศสจะรวมเป็นรัฐในอารักขา มาดากัสการ์ต้องยินยอมที่จะจ่ายค่าปฏิกรรมสงครามเป็นจำนวนเงิน 1,500,000 ฟรังก์ สนธิสัญญาสันติภาพนี้ได้รับการอนุมัติโดยพระราชินีรันฟาลูนาและนายกรัฐมนตรี ไรนิไลอาริโวนิในเดือนมกราคม พ.ศ. 2429 โดยรัฐบาลฝรั่งเศสได้ดำเนินการในสองเดือนหลังจากนั้น
ก่อนการอนุมัติสัญญา พระราชินีและนายกรัฐมนตรีพยายามหาความชัดเจนในข้อความต่าง ๆ ของสนธิสัญญาหลักที่ระบุ "ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ" ที่จะควบคุมโดย "ชาวฝรั่งเศสที่มาอยู่อาศัย" และอ้างอิง "การก่อตั้ง" ที่ โดยมาดากัสการ์ที่พ่ายแพ้ยินยอมทำสนธิสัญญาโดยยอมถูกผนวกเป็นรัฐอารักขาในฝรั่งเศส เมื่อข่าวการผนวกไปถึงอังกฤษ ฝรั่งเศสได้ปฏิเสธความถูกต้องต่าง ๆ ทางกฎหมายโดยยืนยันจะยึดครองมาดากัสการ์ในทุกวิถีทาง ฝรั่งเศสได้ประกาศครอบครองประเทศแม้จะได้รับการต่อต้านจากฝ่ายค้านของรัฐบาลมาลากาซี และฝรั่งเศสยังละเลยข้อตกลงที่กำหนดไว้ในสนธิสัญญา อีกทั้งเกิดปัญหาการแทรกแซงรัฐบาลมาลากาซีของฝรั่งเศสมากขึ้น
ใน พ.ศ. 2430 ฝรั่งเศสเริ่มโจมตีเมืองทางชายฝั่งของมาดากัสการ์อีกครั้ง พระนางรันฟาลูนาทรงขอความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกาโดยทรงส่งของกำนัลไปให้แก่ประธานาธิบดีโกรเวอร์ คลีฟแลนด์ อันได้แก่ผ้าไหม, งาช้างและตะกร้าจักสาน แต่อเมริกาไม่สามารถทำตามคำขอของพระนางที่ทรงให้รับรองเอกราชของมาดากัสการ์ ในรัชกาลของพระนางทรงพ่ายแพ้ จากการพ่ายแพ้ครั้งนี้ทำให้ประเทศไปสู่หายนะ ในวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2430 ทรงยอมลงนามในสนธิสัญญาสงบศึกกับฝรั่งเศสเพื่อต้องการให้ประเทศสงบสุข
ฝรั่งเศสได้ประกาศอารักขามาดากัสการ์อย่างเป็นทางการ โดยอังกฤษยอมรับสิทธิของฝรั่งเศส จากการยอมตกลงในข้อตกลงร่วมอังกฤษ-ฝรั่งเศส พ.ศ. 2433 ระหว่าง พ.ศ. 2433 - พ.ศ. 2437 ฝรั่งเศสได้ประกาศอย่างแข็งกร้าวในการครอบครองดินแดนมาดากัสการ์ อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสไม่สามารถครอบครองดินแดนอย่างสมบูรณ์เพราะมีอุปสรรคคือ สมเด็จพระราชินีนาถรันฟาลูนาและนายกรัฐมนตรีไรนิไลอาริโวนี ซึ่งได้พยายามขัดขวางทุกวิถีทางในการกระทำอันไม่ถูกต้องของฝรั่งเศส จนถึงที่สุด ได้ถูกส่งมาเพื่อข่มขู่ให้พระราชินีและรัฐบาลให้ทรงยอมรับในสนธิสัญญาที่ให้ฝรั่งเศสครอบครองประเทศอย่างสมบูรณ์ แต่พระนางทรงปฏิเสธและเพิกเฉยต่อคำขู่โดยสิ้นเชิง ทำให้ฝรั่งเศสประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับมาดากัสการ์ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2437
จากการตัดความสัมพันธ์ในครั้งนี้ ฝรั่งเศสได้ทิ้งระเบิดและยึดครองอ่าวทางชายฝั่งตะวันออกได้ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2437 และยึดครองทางชายฝั่งตะวันตกได้ในอีกเดือนถัดมา การโจมตีทางบกได้เริ่มต้นในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2438 โดยการมาถึงของกองทหาร ได้เดินทางเพื่อมุ่งหน้าสู่กรุงอันตานานารีโวในใจกลางเกาะ ซึ่งเป็นไปอย่างยากลำบาก ทหารฝรั่งเศสหลายนายต้องเสียชีวิตจากไข้มาลาเรียและโรคภัยต่าง ๆ ทำให้จำเป็นต้องส่งกองทัพหนุนกว่า 1,000 คนจากอาณานิคมอื่น ๆ ของฝรั่งเศสในแอลจีเรียและ กองทัพได้มาถึงกรุงอันตานานารีโวในเดือนกันยายน พ.ศ. 2438 ทหารมาลากาซีต้านทานกองทัพฝรั่งเศสได้เพียง 3 วันในบริเวณรอบนอกของกรุง แต่ทหารมาลากาซีได้พยายามป้องกันเมืองอย่างเต็มที่ เมื่อฝรั่งเศสต้องใช้วิธีทิ้งระเบิดกรุงอันตานานารีโว โดยโจมตีที่และสถานที่สำคัญต่าง ๆ ทำให้ชาวเมืองต้องสูญเสียชีวิตหลายคน พระนางไม่อาจเห็นชาวมาลากาซีต้องสูญเสียเลือดเนื้อ โดยพระองค์ตัดสินพระทัยสละราชบัลลังก์ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของชาวมาลากาซีทั้งปวง โดยทรงยอมให้ราชอาณาจักรกลายเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส ถือเป็นจุดจบของความเป็นเอกราชของราชอาณาจักรมาดากัสการ์ที่ยืนยาวกว่า 400 ปี
อาณานิคมของฝรั่งเศส
ฝรั่งเศสยึดครองมาดากัสการ์อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2439 ในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน ฝรั่งเศสได้ประกาศให้มาดากัสการ์เป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสและเนรเทศนายกรัฐมนตรีไรนิไลอาริโวนีไปยังแอลเจียร์ ที่ซึ่งเขาเสียชีวิตในหลายปีถัดมา สมเด็จพระราชินีนาถและฝ่ายบริหารของพระนางยังคงดำรงอยู่และถูกยึดพระราชอำนาจทางการเมือง ในเวลาไม่ช้าหลังจากไรนิไลอาริโวนีถูกเนรเทศ สมเด็จพระราชินีนาถรันฟาลูนาทรงถูกบังคับโดยเจ้าหน้าที่ทางการฝรั่งเศสให้ทรงยอมรับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่ทรงฝรั่งเศสเลือก พระราชินีนาถทรงตัดสินใจอย่างเร่งรีบตามคำกราบทูลของนายพลฝรั่งเศส ผู้ซึ่งเป็นคนควบคุมกองทัพในการต่อต้านพระราชวงศ์เมรีนา การยอมรับในธรรมเนียมแบบแผนทางการเมืองของมาดากัสการ์ยังคงอยู่ สมเด็จพระราชินีนาถรันฟาลูนาทรงเกรงว่าพระนางจะต้องอภิเษกสมรสกับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ซึ่งพระนางทรงเป็นทุกข์ยิ่งที่ต้องอภิเษกสมรสกับฌาคส์ ดูเชเน แต่เป็นที่น่าประหลาดใจที่ทางการฝรั่งเศสไม่ต้องการที่จะให้พระราชินีต้องสมรสกับนายกรัฐมนตรีโดยยกเลิกกฎมณเฑียรบาลนี้ซึ่งสร้างความโล่งพระทัยในพระราชินีได้ระดับหนึ่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของพระราชินีได้ถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปโดยได้รับความยินยอมจากฝรั่งเศส
ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2438 สองเดือนหลังจากฝรั่งเศสยึดครองกรุงอันตานานารีโว ได้เกิดการต่อต้านรัฐบาลฝรั่งเศสที่สำคัญซึ่งมีชื่อว่า (กบฏผ้าคลุมแดง) โดยปฏิบัติการกองโจรเพื่อขับไล่ชาวต่างชาติ ชาวคริสต์และการคอร์รัปชันของรัฐบาลโดยมีผู้เข้าร่วมกลุ่มกบฏมากมายซึ่งล้วนแต่ใส่ผ้าคลุมไหล่สีแดง การต่อต้านครั้งนี้ได้ถูกปราบปรามโดยรัฐบาลฝรั่งเศสและพบกับจุดจบใน พ.ศ. 2440 ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่ของกลุ่มกบฏเป็นเชื้อพระวงศ์ซึ่งฝรั่งเศสสั่งให้ประหารชีวิตทุกพระองค์ ซึ่งรวมถึง พระปิตุลาในพระราชินีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสงคราม ส่วน พระปิตุจฉาในพระราชินีทรงถูกเนรเทศไปยังเรอูนียงเพราะว่ารัฐบาลฝรั่งเศสไม่ต้องการประหารสตรี
จากการต่อต้านนี้ทำให้ฝรั่งเศสต้องเปลี่ยนผู้ว่าราชการประจำเกาะ จาก ฮิปโปไลท์ ลาโร็ช เป็น ผู้ว่าการทหาร หนึ่งวันก่อนที่กาเลียนีจะเดินทางมาถึงอันตานานารีโว เขาได้ส่งจดหมายกราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระราชินีนาถรันฟาลูนาให้เสด็จมารายงานพระองค์ที่ฐานบัญชาการทางทหารด้วยพระองค์เองพร้อมกับข้าราชบริพารทั้งหมด ฐานบัญชาการได้มีผู้ถือธงชาติฝรั่งเศสแบบดั้งเดิมตามพระองค์มาด้วย สมเด็จพระราชินีนาถทรงถูกบังคับให้ลงพระปรมาภิไธยยินยอมยกพระราชทรัพย์ของพระราชวงศ์เมรีนาทั้งหมดแก่ฝรั่งเศสก่อนที่พระนางทรงถูกกักขังคุกภายในพระราชวังของพระองค์เอง พระนางทรงได้พบปะเพียงผู้ที่ได้รับการอนุญาตจากกาเลียนีเท่านั้น ขณะทรงถูกจองจำพระนางรันฟาลูนาทรงเปลียนศาสนานับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเพื่อให้ฝรั่งเศสพึงพอใจแต่ฝรั่งเศสก็ไม่สนใจอะไรในการกระทำของพระนาง
ถูกเนรเทศ
กาเลียนีประกาศเนรเทศสมเด็จพระราชินีนาถรันฟาลูนาที่ 3 ในวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2440 และประกาศล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเป็นทางการในวันถัดมา ฝรั่งเศสออกคำสั่งให้อดีตสมเด็จพระราชินีนาถต้องเสด็จออกจากพระราชวังภายในเวลา 1 นาฬิกา 30 นาที พระนางถูกควบคุมพระองค์ออกจากอันตานานารีโวด้วยเกี้ยว ในขณะที่ชาวเมืองยังคงหลับนอน โดยมีผู้รักษาความปลอดภัยและข้าราชบริพารตามเสด็จประมาณ 700 ถึง 800 คน โดยตลอดการเดินทางต้องเสด็จไปยังที่หมายที่ชายฝั่งตะวันออกของเมืองโทอามาซินาที่ซึ่งพระนางต้องเสด็จประทับโดยเรือไปยังเกาะเรอูนียง ได้มีรายงานว่าระหว่างเสด็จโดยเรือพระนางรันฟาลูนาทรงเมาอย่างหนัก เสวยเหล้ารัมหลายขวดซึ่งผิดธรรมเนียมวิสัย ซึ่งอาจเป็นเพราะว่าทรงเสียพระทัยอย่างหนัก ที่โทอามาซินาในวันที่ 6 มีนาคม พระนางรันฟาลูนาทรงได้รับการแจ้งให้ทราบว่า เจ้าหญิงราเซนดราโนโร พระขนิษฐา และเจ้าหญิงราซินดราซานา พระปิตุจฉา ได้เสด็จมาถึงในเวลาอันสั้นพร้อมกับเจ้าหญิงราซาฟินนานเดรียมานิทรา พระราชนัดดาวัย 14 พรรษา ซึ่งเจ้าหญิงพระองค์นี้ทรงพระครรภ์ได้ 9 เดือนกับทหารชาวฝรั่งเศส
ณ เกาะเรอูนียง
พระราชวงศ์เสด็จทางเรือพระที่นั่งลา เปรูสถึงท่ากาเลต์ ห่างจากนคร เมืองหลวงของเกาะเรอูนียงเป็นระยะทาง 20 กิโลเมตร โดยมีการระมัดระวังอย่างรอบคอบตามคำสั่งของรัฐบาลฝรั่งเศส ทั้ง ๆ ที่มีความพยายามของฝูงชนชาวฝรั่งเศสได้ออกมาดูสมเด็จพระราชินีพระองค์สุดท้ายแห่งมาดากัสการ์พร้อมตะโกนด่าสาปแช่งและเย้ยหยันพระนางในขณะที่เรือจอดเทียบท่าซึ่งโกรธแค้นพระนางที่ทำให้ทหารชาวฝรั่งเศสที่เป็นสามี บุตร พี่น้องหรือบิดาของพวกเขาต้องเสียชีวิตในการรบกับมาดากัสการ์โดยรุกคืบเข้ากรุงอันตานานารีโวที่มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์ยากแก่การรุกรานซึ่งทำให้ทหารฝรั่งเศสต้องเสียชีวิตจากไข้ป่าหลายร้อยนาย หลังจากกลุ่มฝูงชนที่ตั้งใจจะมารุมประชาทัณฑ์พระนางสลายการชุมนุมออกไป กัปตันได้ถวายการคุ้มครองพระนางและพระราชวงศ์เสด็จประทับรถเทียมม้าซึ่งเป็นครั้งแรกที่พระนางทรงรู้จักรถเทียมม้าและได้เดินทางไปยังโรงแรมเดอลายูโรเปในกรุงแซงต์-เดนิส เจ้าหญิงราซาฟินนานเดรียมานิทราซึ่งทรงพระครรภ์และทรงเครียด พระองค์ทรงทรมานจากพระอารมณ์แปรปรวนอย่างมากตลอดการถูกเนรเทศ เจ้าหญิงทรงคลอดบุตรอย่างยากลำบากในโรงแรมและมีพระประสูติกาลพระธิดาในวันที่สองหลังจากเสด็จถึงเรอูนียง แต่ไม่สามารถฟื้นฟูพระวรกายของพระองค์ได้ เจ้าหญิงสิ้นพระชนม์ในอีก 5 วันต่อมา ทารกถูกตั้งชื่อว่า "มารี-หลุยส์" และทรงได้รับพิธีศีลจุ่มตามแบบคาทอลิก เพื่อหลีกเลี่ยงการสร้างศัตรูกับฝรั่งเศส เจ้าหญิงมารี-หลุยส์ ซึ่งต่อมาได้รับการสถาปนาให้เป็นองค์รัชทายาทตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์แห่งมาดากัสการ์ โดยอดีตพระราชินีนาถรันฟาลูนาทรงรับเจ้าหญิงเป็นธิดาบุญธรรม
ภายในเวลา 1 เดือน พระราชวงศ์ถูกย้ายไปยังคฤหาสน์ของมาดามเดอวิลเลนตองย์ ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณที่เงียบสงบของรู เดอ ลา อาร์เซนองและรู เดอ เลมพาร์ต ใกล้จวนว่าราชการของฝรั่งเศสในแซงต์-เดนิส พระนางรันฟาลูนาทรงประทับใจในสองสิ่งของคฤหาสน์ที่ซึ่งมีกำแพงที่ใหญ่และมีหลังคายอดแหลมตัดขวางซึ่งเตือนให้พระนางรำลึกถึงและชีวิตบนที่ราบสูงมาดากัสการ์ที่ซึ่งทรงรักยิ่ง พระราชวงศ์ที่เสด็จมานี้เป็นพระราชวงศ์ฝ่ายหญิงทั้งหมดได้แก่ อดีตพระราชินี พระปิตุจฉา พระขนิษฐาและพระปนัดดา เท่านั้นไม่พอผู้ติดตามรวมทั้งราชเลขานุการ 2 คน พ่อครัว แม่บ้าน และคนรับใช้ 3 คนของพระนางรันฟาลูนา อาจารย์ส่วนพระองค์ของพระราชินีได้รับเข้าหาพระราชวงศ์อย่างอิสระ
อดีตพระราชินีและพระราชวงศ์ทรงประทับที่คฤหาสน์ในเรอูนียงเป็นเวลาเพียง 2 ปี จากความตึงเครียดที่ทวีมากขึ้นอีกครั้งระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศส ซึ่งเกิดการขัดแย้งจากปัญหาซูดาน ผู้มีอำนาจในรัฐบาลฝรั่งเศสกังวลกับสภาพของประชาชนในมาดากัสการ์ที่พยายามหาทางต่อต้านกฎหมายของฝรั่งเศสจนอาจจะกลายเป็นการก่อกบฏใหม่ อดีตสมเด็จพระราชินีซึ่งใกล้ชิดกับมาดากัสการ์อาจทรงสนับสนุนช่วยเหลือและปลุกระดมกลุ่มกบฏ ผู้มีอำนาจในรัฐบาลฝรั่งเศสได้ตัดสินใจอย่างฉับพลันให้ย้ายพระนางรันฟาลูนาและพระราชวงศ์ไปยังแอลจีเรีย โดยเชื่อว่าถ้าพระนางประทับห่างจากบ้านเกิดของพระนางก็จะทำให้กลุ่มกบฏไม่มีผู้สนับสนุนและสถานการณ์ของมาดากัสการ์จะกลับเป็นปกติ ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2442 หลังจากทรงได้รับการเตือนล่วงหน้าไม่นาน พระนางรันฟาลูนาและพระราชวงศ์ทรงถูกบังคับให้ขึ้นเรือยาง-เซ โดยมีราชเลขานุการ ล่ามและคนรับใช้ตามเสด็จมากมาย ในเวลาการเดินทาง 28 วันก่อนถึงเมืองท่ามาร์แซย์พระราชวงศ์ได้หยุดพักที่เมืองท่าต่าง ๆ ได้แก่ มายอต, แซนซิบาร์, เอเดน และจิบูตี พระราชวงศ์ประทับที่มาร์แซย์เป็นเวลาหลายเดือนก่อนที่จะถูกย้ายไปที่คฤหาสน์ในมุสตาฟา ซูเพอริเออร์ ในพื้นที่แอลเจียร์ในแอลจีเรีย ตลอดการเดินทาง กัปตันหลายคนพยายามขัดขวางไม่ให้พระนางรันฟาลูนาตรัสกับบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ชาวฝรั่งเศส พระนางทรงหวังว่ารัฐบาลฝรั่งเศสจะให้พระนางประทับที่กรุงปารีสและทรงผิดหวังอย่างมากเมื่อทรงทราบว่าพระนางจะถูกส่งไปยังแอลจีเรีย พระนางตรัสและพระอัสสุชลไหลรินหลังจากได้รับรายงาน ตรัสว่า
ใครคือความแน่นอนของพรุ่งนี้ เพียงเมื่อวานเท่านั้นที่ฉันเป็นราชินี วันนี้ฉันกลับกลายเป็นหญิงที่ไม่มีความสุขอย่างแท้จริง เป็นเพียงผู้หญิงที่ถูกทำลายจิตใจจนแตกสลาย
ณ แอลจีเรียและการเสด็จประพาสฝรั่งเศส
— Kings in Exile (กษัตริย์ยามลี้ภัย), Our Paper (1904) (พ.ศ. 2447)
ที่พระตำหนักของพระราชินีในแอลเจียร์ พระนางทรงได้รับการจัดเตรียมข้าราชบริพารและผู้ถวายการต้อนรับซึ่งเป็นสตรีชาวฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้คอยสังเกตการณ์อดีตพระราชินีทุกฝีก้าวและทำหน้าที่คอยดูและแนะนำเมื่อใดที่อดีตพระราชินีทรงเชิญแขกเข้ามา เท่านั้นไม่พอในขั้นต้นรัฐบาลฝรั่งเศสได้จัดเตรียมถวายพระราชทรัพย์ประจำปีแก่พระนางรันฟาลูนาเป็นจำนวน 25,000 ฟรังก์ ซึ่งเป็นเงินรายได้จากอาณานิคมแห่งมาดากัสการ์ซึ่งได้รับอำนาจจากผู้ว่าราชการนายพลของอาณานิคม พระราชทรัพย์เกือบทั้งหมดของพระนางรันฟาลูนาได้ถูกยึดโดยอำนาจของผู้ว่าราชการอาณานิคม ถึงแม้ว่าพระนางจะได้รับอนุญาตที่จะเก็บรักษาพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์บางอย่างซึ่งรวมทั้งเครื่องเพชรบางชิ้นของพระนาง บำนาญของพระนางในขั้นต้นทรงได้รับน้อยจนถึงกับยากจนที่ซึ่งรัฐบาลอาณานิคมแห่งแอลจีเรียชักชวนให้ขายทรัพย์สินไม่สำเร็จหลายครั้งในนามของพระนางเพื่อจะได้ให้เงินเพิ่มสำหรับพระนาง พระนางรันฟาลูนาทรงพยายามอย่างหนักร่วมกับข้าราชบริพารในการขายเครื่องเพชรบางส่วนของพระนางเป็นการลับแต่แผนการนี้รั่วไหลจนรัฐบาลอาณานิคมรู้จึงได้ขับไล่และส่งข้าราชบริพารคนนั้นกลับมาดากัสการ์
ในช่วงปีแรกหลังจากถูกเนรเทศมาที่แอลจีเรีย พระนางรันฟาลูนาทรงสนพระทัยที่ได้พบกับวิถีชีวิตสังคมแบบชาวแอลเจียร์ พระนางทรงได้รับเชิญเสมอ ๆ ในงานเลี้ยง, การเสด็จประพาสในระยะสั้น และงานประเพณีท้องถิ่น โดยพระนางจะถูกเชิญให้เป็นเจ้าภาพประจำงานบ่อย ๆ อย่างไรก็ตามความคิดถึงบ้านเกิดนั้นเกิดขึ้นประจำและความหวังที่จะได้เสด็จกลับมาดากัสการ์มีส่วนทำให้พระนางโศกเศร้าและเหนื่อยหน่าย พระนางประสงค์ที่จะพระราชดำเนินเพียงพระองค์เดียวบ่อย ๆ ในเขตชนบท, ทรงพระราชดำเนินผ่านชายหาดหรือผ่านเมืองเพื่อที่จะทำจิตใจให้สงบและระงับอารมณ์ของพระนางเอง อดีตพระราชินีทรงมีความกระตือรือร้นที่จะทอดพระเนตรแผ่นดินใหญ่ฝรั่งเศส โดยเฉพาะกรุงปารีส โดยมีพระราชประสงค์ขอความยินยอมจากรัฐบาลฝรั่งเศสเพื่อการเดินทางหลายครั้ง โดยพระราชประสงค์ขอพระนางได้รับการปฏิเสธมาโดยตลอดจนกระทั่งเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2444 พระนางรันฟาลูนาได้รับการอนุญาตให้เสด็จประพาสฝรั่งเศส ในเวลาหลายเดือนพระนางรันฟาลูนาทรงพำนักอยู่ที่ ใกล้กับจัตุรัสชาร์ล เดอ โกล และถนนช็องเซลีเซ โดยเสด็จไปสถานที่หลักทั่วกรุงปารีสและทรงได้รับการถวายการต้อนรับจากผู้คนจำนวนมาก พระนางทรงได้รับการต้อนรับอย่างกว้างขวางโดยวงสังคมชั้นสูงและทรงได้รับของขวัญมากมายรวมทั้งผ้าคลุมซึ่งมีค่ามาก ในระหว่างการเสด็จประพาสครั้งแรก ทรงเยี่ยมชมพระราชวังแวร์ซาย และทรงได้รับการถวายการต้อนรับอย่างเป็นทางการที่ และเสด็จประพาสเมืองบอร์โดเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ท้ายสุดพระนางเสด็จประพาสชายหาด ก่อนที่พระนางทรงใช้พระราชทรัพย์จนหมดสิ้นและประทับเรือพระที่นั่งแอลจีเรียที่มาร์แซย์ในต้นเดือนสิงหาคม การเสด็จประพาสครั้งนี้เป็นที่ดึงดูดใจชาวปารีสมาก ที่ซึ่งแสดงความเห็นใจในชะตากรรมของพระราชินีและได้รวมกันกล่าวหารัฐบาลโดยเรียกร้องให้จัดหาตำหนักที่ใหญ่กว่านี้หรือถวายพระเกียรติที่พระนางสมควรได้รับมากกว่านี้โดยให้พระนางได้รับเครื่องอิสริยาภรณ์เลฌียงดอเนอร์
พระนางรันฟาลูนาจะได้กลับไปยังฝรั่งเศส 6 ครั้งในอีก 12 ปีถัดไป การเสด็จประพาสบ่อยครั้งทำให้พระนางทรงมีชื่อเสียงขึ้นมามากจนเป็นที่สรรเสริญ (cause célèbre) ของพลเมืองฝรั่งเศสจำนวนมากที่ซึ่งสงสารในชะตากรรมของพระนางและยกย่องพระนางในด้านกิริยามารยาทที่งดงามและความอดทนอดกลั้นอย่างยิ่งในพระชะตา การเสด็จประพาสของพระนางรันฟาลูนาเป็นที่สนใจแก่สื่อสาธารณะและจากความนิยมในอดีตพระราชินีรันฟาลูนาทำให้พระฉายาลักษณ์ของพระนางได้ถูกพิมพ์ลงบนกล่อง คุกกี้ใน พ.ศ. 2459 การเสด็จประพาสครั้งที่สองของพระราชินีมีขึ้นในเดือนกันยายน พ.ศ. 2446 เมื่อเสด็จประพาสและโอรียัก พลเมืองจำนวนมากได้กดดันรัฐบาลในระหว่างที่พระนางเสด็จให้เพิ่มพระราชทรัพย์ประจำปีของพระนางขึ้นเป็นจำนวน 37,000 ฟรังก์ ใน 3 ปีถัดมาพระนางเสด็จประพาสมาร์แซย์และ และทรงเข้าพำนักในอพาร์ตเมนต์ขนาด 5 ห้องนอนใหญ่ของชาวปารีสที่เขตการปกครองปารีสที่ 16 ซึ่งพระนางได้ทอดพระเนตรการแสดงที่, ทรงเข้าสังเกตการณ์การประชุมของและทรงได้รับการถวายการต้อนรับอย่างเป็นทางการจาก และเป็นอีกครั้งที่ทรงได้รับความเห็นใจจากชาวฝรั่งเศส พระราชทรัพย์ของพระนางรันฟาลูนาได้เพิ่มขึ้นเป็น 50,000 ฟรังก์ต่อปี ในการเสด็จประพาสครั้งต่อไป พ.ศ. 2450 พระนางต้องประทับที่เพื่อการเสด็จประพาสจังหวัดกาลวาโดส ที่ซึ่งพระนางทรงได้รับการฉายพระรูปลงในสิ่งพิมพ์ฝรั่งเศส จากเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2453 อดีตพระราชินีนาถรันฟาลูนาเสด็จประพาสปารีส, น็องต์, และและทรงได้รับการฉายพระรูปลงในสิ่งพิมพ์ฝรั่งเศสหลาย ๆ ครั้ง ใน พ.ศ. 2455 การเสด็จประพาสของพระนางครั้งนี้ไม่มีพิธีรีตองโดยเสด็จยังหมู่บ้านและมีการเพิ่มพระราชทรัพย์ประจำปีของพระนางขึ้นเป็นจำนวน 75,000 ฟรังก์ พระนางเสด็จประพาสครั้งสุดท้ายใน พ.ศ. 2456 โดยเสด็จยังมาร์แซย์, และ
การเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่ 1 ใน พ.ศ. 2457 ได้ปิดโอกาสในการเสด็จประพาสฝรั่งเศสของพระนาง ตลอดพระชนม์ชีพในแอลจีเรีย พระนางและพระราชวงศ์ได้เข้าร่วมพิธีของโปรแตสแตนต์เป็นประจำทุกสัปดาห์ที่คริสตจักรปฏิรูปซึ่งตั้งอยู่ใจกลางกรุงแอลเจียร์ หลังสงครามพระนางทรงเข้าร่วมแอลจีเรียและทรงประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อการกุศล พระนางต้องเสด็จสวรรคตโดยไม่มีโอกาสหวนกลับมาดากัสการ์บ้านเกิดที่ทรงรักยิ่ง โดยทรงขอร้องรัฐบาลฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ 2 ครั้งใน พ.ศ. 2453 และ พ.ศ. 2455 แต่ได้ถูกปฏิเสธเนื่องจากเงินทุนจากอาณานิคมไม่เพียงพอ
เสด็จสวรรคตและทายาท
อดีตพระราชินีนาถรันฟาลูนาเสด็จสวรรคตอย่างกะทันหัน ณ พระตำหนักในแอลเจียร์ ในวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2460 จากพระอาการประชวรด้วยการอุดตันของเส้นโลหิตแดงอย่างทุกข์ทรมาน พระบรมศพของพระนางรันฟาลูนาถูกฝังที่สุสานแซงต์-เออเชนในกรุงแอลเจียร์เวลา 10 นาฬิกาของวันที่ 25 พฤษภาคม พระราชพิธีฝังพระศพได้มีผู้คนมาเข้าร่วมอาทิเช่น พระสหายสนิท, ผู้คนซึ่งรักพระนาง, กลุ่มสภากาชาด และสมาชิกของโบสถ์ที่เป็นพระอุปถัมภ์รวมทั้งบุคคลที่มีชื่อเสียงในแวดวงการเมืองและสังคมของแอลจีเรีย ในเวลา 9 นาฬิกาของตอนเช้า ขบวนรถยาวเหยียดได้เดินทางไปยังสถานที่ระลึกถึง การแสดงความเคารพและการไว้อาลัยพระนางรันฟาลูนาของผู้ร่วมพิธีไม่ได้ถูกสะท้อนให้เห็นโดยรัฐบาลอาณานิคมที่มาดากัสการ์ อย่างไรก็ตามในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2468 เวลาแปดปีหลังจากที่พระนางรันฟาลูนาเสด็จสวรรคต ผู้ว่าการแห่งแอลจีเรียได้เรียนจดหมายไปยังผู้ว่าการแห่งมาดากัสการ์แจ้งเรียกร้องค่าบำรุงรักษาพระศพซึ่งทางผู้ว่าการมาดากัสการ์เพิกเฉย ผู้ว่าการแอลจีเรียได้เรียกร้องให้ทางผู้ว่าการมาดากัสการ์จัดหาเงินทุนเพื่อการบำรุงรักษาพระศพซึ่งทรุดโทรมเสียหายไปมาก ทางมาดากัสการ์ควรให้ความสำคัญต่อการปล่อยปละละเลยในการระลึกและไว้อาลัยถึงพระราชินีนาถซึ่งเหมือนกับรัฐบาลกลางของฝรั่งเศสที่ละเลยเช่นกัน ถึงอย่างไรก็ตามคำขอถูกปฏิเสธถึงสองครั้งและพระศพมิได้รับการบูรณะ ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2481 รัฐบาลฝรั่งเศสยินยอมให้ย้ายพระศพของพระนางรันฟาลูนากลับยังมาดากัสการ์และทำพิธีฝังพระศพอีกครั้งที่ สุสานแห่งสมเด็จพระราชินีนาถราซอเฮอรินาแห่งมาดากัสการ์ใน ซึ่งเป็นพระประสงค์สุดท้ายของพระนางที่จะได้เสด็จมายังมาดากัสการ์แม้ซึ่งจะเสด็จสวรรคตแล้ว
จากการที่อดีตสมเด็จพระราชินีนาถรันฟาลูนาเสด็จสวรรคต เจ้าหญิงรามาซินดราซานา ผู้เป็นพระปิตุจฉาของพระนาง ได้เสด็จย้ายออกจากแอลจีเรียและประทับที่จังหวัดอาลป์-มารีตีม ที่ซึ่งประทับในช่วงวาระสุดท้ายของพระชนม์ชีพในอีกไม่กี่ปี รัชทายาทของอดีตพระราชินีคือ เจ้าหญิงมารี-หลุยส์ ได้เสด็จออกจากพระตำหนักของพระนางรันฟาลูนา เพื่อทรงเข้ารับการศึกษาจากโรงเรียนแบบฝรั่งเศส และทรงเสกสมรสกับวิศวกรการเกษตรชาวฝรั่งเศส ซึ่งมีชื่อว่า อังเดร บอสซาร์ด ในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2464 ถึงแม้ว่าเจ้าหญิงมารี-หลุยส์จะได้สิทธิในพระตำหนักเล็ก ๆ จากรัฐบาลฝรั่งเศสเพื่อประทับ เจ้าหญิงกลับทรงเลือกที่จะประกอบพระกรณียกิจด้านการพยาบาลและทรงได้รับเครื่องอิสริยาภรณ์เลฌียงดอเนอร์จากการประกอบพระกรณียกิจอย่างไม่ลดละด้านการแพทย์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจาก อังเดร บอสซาร์ดและเจ้าหญิงมารี-หลุยส์ทรงหย่าร้างโดยไร้บุตรธิดา เจ้าหญิงวัยสาวทรงได้รับการกล่าวถึงว่าทรงเป็นอิสระ ร่าเริงและมีชีวิตชีวาเหมือนดั่งผีเสื้อ เจ้าหญิงมารี-หลุยส์สิ้นพระชนม์ใน ณ ในวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2491 โดยไม่ทรงมีรัชทายาทสืบต่อ และพระศพถูกฝังที่มองเตรอิล ประเทศฝรั่งเศส การสิ้นพระชนม์ของพระนางนับเป็นจุดสิ้นสุดของราชวงศ์เมรีนาและราชอาณาจักรมาดากัสการ์เนื่องจากพระนางทรงเป็นผู้สืบทอดราชวงศ์ลำดับสุดท้าย และความหวังของชาวมาดากัสการ์ที่ต้องการฟื้นฟูสถาบันพระมหากษัตริย์ต้องสูญสิ้นไปด้วย
ดูเพิ่ม
บรรณานุกรม
- Trotter Matthews (1904), p. 243
- Titcomb, Mary (November), "Madagascar and the Malagasy", Frank Leslie's Popular Monthly, pp. 530–542
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=
และ|year=
/|date=
ไม่ตรงกัน ((help)) - Stuart Robson, Isabel (1896), "The Childhood of a Queen IV: The Queen of Madagascar", Children's Friend, London: S.W. Partridge & Co., vol. 36, pp. 103–104
- Ministère de la marine et des colonies (1884), p. 117
- Madagascar at uq.net.au
- Carpenter, Frank G. (January 23, 1908). "Madagascar's Ex-Queen". ใน Pattengill, Henry (บ.ก.). Moderator-Topics. Vol. 28. Lansing, MI. pp. 370–372.
- "The Queen of Madagascar". Scientific American Supplement. No. 1037. New York: Munn & Co. Publishers. November 16, 1895. p. 16568.
- Cousins, William Edward (1895). Madagascar of to-day. The Religious Tract Society. p. 73.
- Priestley, Herbert Ingram (1967-05-26), France overseas: a study of modern imperialism, p. 305, ISBN
- Van Den Boogaerde, Pierre (2008), Shipwrecks of Madagascar, AEG Publishing Group, p. 7, ISBN
- "Gifts and Blessings: The Textile Arts of Madagascar". Smithsonian National Museum of African Art. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-06. สืบค้นเมื่อ November 11, 2010.
- Curtin, Philip D. (1998). Disease and empire: the health of European troops in the conquest of Africa. Cambridge, MA: Cambridge University Press. p. 186. ISBN .
- Roland, Oliver; Fage, John; Sanderson, G.N. (1985). The Cambridge history of Africa. Vol. 6. Cambridge, UK: Cambridge University Press. p. 530. ISBN .
- Barrier (1996), p. 205
- Campbell, Gwyn (1991). "The Menalamba revolt and brigandry in imperial Madagascar, 1820-1897". International Journal of African Historical Studies. 24 (2): 259–291.
- Basset, Charles (1903). Madagascar et l'oeuvre du Général Galliéni. Paris: A. Rousseau. pp. 140–142. (ฝรั่งเศส)
- Barrier (1996), pp. 245-246
- Randrianja, Solofo (2001). Société et luttes anticoloniales à Madagascar: de 1896 à 1946. Paris: Karthala Editions. pp. 100–110. ISBN . (ฝรั่งเศส)
- Barrier (1996), p. 260
- Barrier (1996), pp. 260-266
- Barrier (1996), p. 267
- Barrier (1996), pp. 269-271
- Barrier (1996), pp. 273-274
- Massachusetts Reformatory (October 1, 1904). "Kings in Exile". Our Paper. 20 (40): 639.
- "Crownless Monarchs". The Bookman. No. 26. London: Dodd Mead & Co. 1908. p. 118.
- Barrier (1996), pp. 288-303
- Barrier (1996), p. 347
- Bergougniou, Jean-Michel; Clignet, Rémi; David, Philippe (2001). "Villages noirs" et autres visiteurs africains et malgaches en France et en Europe: 1870-1940. Paris: Karthala Editions. pp. 87–89. ISBN . (ฝรั่งเศส)
- Barrier (1916), p. 334
- Barrier (1916), p. 334
- Saillens, Pasteur R. (1906). "Impressions of Algeria". The Missionary Review of the World. Vol. 29. London: Funk & Wagnalls. p. 449.
- Barrier (1996), p. 347
- Barrier (1996), p. 358
อ้างอิง
- Barrier, Marie-France (1996). Ranavalona, dernière reine de Madagascar. Paris: Balland. ISBN . (ฝรั่งเศส)
- Ministère de la marine et des colonies (1884). Revue maritime et coloniale, Volume 81. Paris: Gouvernement de la France. สืบค้นเมื่อ January 27, 2011. (ฝรั่งเศส)
- Nativel, Didier (2005). Maisons royales, demeures des grands à Madagascar. Antananarivo, Madagascar: Karthala Éditions. ISBN . (ฝรั่งเศส)
- Stratton, Arthur (1964). The Great Red Island. Berlin: Scribner.
- Trotter Matthews, Thomas (1904). Thirty years in Madagascar. London: A. C. Armstrong. สืบค้นเมื่อ April 10, 2011.
แหล่งข้อมูลอื่น
- Smithsonian exhibit of Ranavalona gifts
ก่อนหน้า | สมเด็จพระราชินีนาถรันฟาลูนาที่ 3 | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
สมเด็จพระราชินีนาถแห่งมาดากัสการ์ (ราชวงศ์เมรีนา) (30 กรกฎาคม พ.ศ. 2426 – 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2440) | ระบอบกษัตริย์ถูกล้มล้าง | |||
มาดากัสการ์ถูกยึดครองโดยฝรั่งเศส ระบอบกษัตริย์ถูกล้มล้าง | ผู้อ้างสิทธิ์ในราชบัลลังก์มาดากัสการ์ (ราชวงศ์เมรีนา) (28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2440 – 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2460) | เจ้าหญิงมารี-หลุยส์ เป็นลำดับสุดท้าย |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
smedcphrarachinirnfalunathi 3 aehngmadakskar hrux ranawaol mncakathi 3 xngkvs Ranavalona III 22 phvscikayn ph s 2404 23 phvsphakhm ph s 2460 thrngepnsmedcphrarachininathphraxngkhsudthayaehngxanackremrinahruxpraethsmadakskarpccubn tngaet ph s 2426 thung 28 kumphaphnth ph s 2440 emuxthrngthukenrethsodyfrngessthiidyudkhrxngpraethsniepnxananikhm phraxngkhthrngepnthirkyingkhxngchawmalakasienuxngcakthrngphyayamnaphapraethstxtankarkhyayxananikhmkhxngfrngessinmadakskaraemimsaercktamsmedcphrarachininathrnfalunathi 3rasafindraehti smedcphrarachinirnfalunathi 3 aehngmadakskarsmedcphrarachininathaehngmadakskarkhrxngrachy30 krkdakhm ph s 2426 28 kumphaphnth ph s 2440rchsmy13 pi 213 wnrchkalkxnhnarchkalthdipsinsud rabxbkstriythuklmlang prasuti22 phvscikayn ph s 2404 praethsmadakskarswrrkht23 phvsphakhm ph s 2460 55 pi aexleciyr praethsaexlcieriyphrarachswamiratimx irniilxariownismedcphrarachinirnfalunathi 3 aehngmadakskarrachwngsemrinaphrabrmrachchnkecachayxnedriynsimixanatraphrabrmrachchnniecahyingraekhtakalayphraxphiithy khnathrngdarngphrarachxisriyysepnecahyingrasafindraehti thrngthukkhdeluxkcakehlakhunnangchn aexnedriyna ihkhrxngrachsmbtisubtxcak sungesdcswrrkht cakthrrmeniymkhxngphrarachini phranangtxngxphiesksmrskbirniilxariowni naykrthmntridwyehtuphlthangkaremuxng phusungmixanacinkarpkkhrxngrachxanackraelanapraethsekhasusakl inrchkalkhxngphranang madakskariddaenintidtxthangkarkha rwmthngecriysmphnthimtrikbshrthxemrikaaelaxngkvsephuxkhanxanackarlaxananikhmkhxngfrngess xyangirktamfrngessidyudchayfngmadakskaraelasamarthekhayudkrungxntananariowid odyekhayudkhrxngsunyklangkhxngpraethskhux in ph s 2439 nbepncudcbkhxngrachxanackrmadakskarphayitrachwngsemrinathiyunyawekaaekkwa 400 pi rthbalxananikhmfrngesssungidrbkarcdtngkhunihmthakarenrethsnaykrthmntriirniilxariowniipthiaexlcieriy inkhnathimimtiihdarngphranangrnfalunaiwinthanasunyrwmcitickhxngchawmalakasiephuxcaidepnrachinihunechid xyangirktamrthbalfrngessesuxmkhwamniymcakkartxtancak sungidrbkarsnbsnuncakphrarachwngsaelachawmalakasi kartxtankhrngniidthukprabpramodyrthbalfrngessxyangrunaerngaelathukprabpramin ph s 2440 thaihfrngesstxngenrethsphrarachinirnfalunaipyngerxuniyng ephuximihphranangidplukradmchawmalakasiidxik irniilxariownithungaekxsykrrminpiediywkn aelaphranangkbphrarachwngsthithukenrethsidthukyayipyngaexleciyr phranangaelaphrarachwngsthrngidrbphrarachthrphypracapiaelamiphrachnmchiphsukhsbayinaexleciyr rthbalfrngessidyinyxmihphranangesdcpraphaskrungparisephuxphxnkhlayxiriyabthaelaichphrarachthrphysuxsingtang aemwaphranangcathrngkhxihrthbalfrngesssngphranangklbmadakskarhlaykhrng aetkidrbkarptiesththukkhrng xditphrarachininathrnfalunaesdcswrrkhtxyangkathnhn n phratahnkinaexleciyr inwnthi 23 phvsphakhm ph s 2460 cakphraxakarprachwrdwykarxudtnkhxngesnolhitaedngxyangthukkhthrman phrabrmsphkhxngphranangrnfalunathukfngthisusanaesngt exxechninkrungaexleciyr ineduxnphvscikayn ph s 2481 rthbalfrngessyinyxmihyayphrasphkhxngphranangrnfalunaklbyngmadakskaraelathaphithifngphrasphxikkhrngthi susanaehngsmedcphrarachininathrasxehxrinaaehngmadakskarin sungepnphraprasngkhsudthaykhxngphranangthicaidesdcmayngmadakskaraemcaesdcswrrkhtaelw pidchakphrachnmchiphxnnaesrakhxngphranangchwngtnphrachnmchiphphranangepnphrarachthidainecachayxnedriynsimixanatrakbecahyingraekhtaka prasutithiemuxngxmpharip ekhtmncakasafi nxkkrungxntananariow inwnthi 22 phvscikayn ph s 2404 phranamedimwa ecahyingrasafindraehti phraxngkhepnphrarachnddain aelaepnphrapnddainphraecaxnedriynnamobxiniemrinaaehngmadakskar sungepnkarputhangihphranangmisiththiinkarsubrachbllngkaehngrachxanackrmadakskar phrarachbidaaelaphrarachmardakhxngecahyingthrngmxbhmayihthasrbichduaelecahyingrasafindraehti emuxthrngecriyphrachnsainwysuksaelaeriyn ecahyingrasafindraehtithrngidrbkarxupkaracak phrapituccha phranangthrngihecahyingidrbkarsuksacakkhnakhruaehng emuxthrngphraeyaw ecahyingthrngepnedkkhyn xyakruxyakehnaelathrngmisrththainkhmphiribebilxyangaerngkla thrngsnphrathyinkarsuksaaelakarxanekhiyn thaihthrngepnthirkikhrinphraxacarythnghlay emuxthrngecriyphrachnsamakkhunecahyingthrngsuksatxthi Congregational School aehngxmbaotnaknka the Friends High School for Girls aela LMS Girls Central School ecahyingthrngekharbsilcumepnopraetsaetntthi inwnthi 5 emsayn ph s 2417 emuxthrngecriyphrachnsainwyrun ecahyingrasafindraehtithrngrkaelatdsinphrathyxphiesksmrskhrngaerkkbkhunnanghnumtaaehnng chux ratimx ratimxxariowni aetidesiychiwitlngimkipihlngxphiesksmrs inwnthi 8 phvsphakhm ph s 2426 khnaekhamixayuephiyng 22 pi sungthaihecahyingtxngthrngtkphumhmay sungmikraaeskhawluxwa naykrthmntriirniilxariownimiswnwangyaphissngharratimxenuxngcakehtuphlthangkaremuxng cakin ph s 2406 sungirniilxariowniaelairniowninahithrinioxni phichay epnphukxkar kxihekidkarepliynkhwxanacetmkhxngkhunnangchnchnsungdwyrachathipityphayitrththrrmnuy sungepnkarpkkhrxngrwmrahwangphramhakstriyaelanaykrthmntri esrichn cakkhxtklngnithaihtxngmikarechuxmkhwamsmphnthrahwangthngsxngklumodytxngmikarxphiesksmrsdwyehtuthangkaremuxngrahwangnaykrthmntriaelasmedcphrarachininath phuepnphrapramukh sungnaykrthmntricaepnphueluxk bukhkhlthicadarngtaaehnngsmedcphrarachininathexng txmasmedcphrarachininathrnfalunathi 2 thrngphraprachwraelaiklswrrkht thangrthbaltxnghaphuthicamadarngtaaehnngsmedcphrarachininathphraxngkhtxip naykrthmntriirniilxariowniidwangaephnwangyaphissngharratimx enuxngcakecahyingrasafindraehtithrngepnphuehmaasmaelaepnthirkikhrinphrapituccha smedcphrarachininathrnfalunathi 2 aelakarsngharratimxcaepnpraoychntxekhainkarthiekhasamarthsmrskbwathiphrarachinixngkhtxipidodyngaykhrxngrachyaelainrchkalsmedcphrarachininathrnfalunathi 3 aehngmadakskarinwnkhunkhrxngrachsmbti phranangthrngidrbkarprakasepnsmedcphrarachinisubtxcakkaresdcswrrkhtkhxnginwnthi 30 krkdakhm ph s 2426 phrarachphithibrmrachaphieskcdkhunthiximahasinainwnthi 22 phvscikayn ph s 2426 sungmiphrachnmayukhrb 22 phrrsainwnnnphxdi phraxisriyysetmkhxngphranangkhux smedcphranangecarnfalunathi 3 odykhwamdingamaehngphraphuepnecaaelakhwamprarthnaaehngpwngphsknikr smedcphrarachininathaehngmadakskaraelaphupkpxngkdxnchxbthrrmaehngchati Her Majesty Ranavalona III by the grace of God and the will of the people Queen of Madagascar and Protectoress of the laws of the Nation phrarachphithikhrxngrachyidcdkhunthiekhtmahamasinainkrungxntananariowinwnthi 22 phvscikayn ph s 2426 sungechlimchlxngsiriphrachnmayukhrb 22 phrrsa phranangthrngeluxkthicafunobranrachpraephniodykarephimkalngthharinphrarachphithikhxngphranangodythharkhuxklumedknkeriynchay 500 khnaelankeriynhying 400 khncakorngeriynthidithisudinemuxnghlwng edkphuhyingswmchudkraoprngyawsikhaw swnedkphuchayswmchudekhruxngaebbthharaelafuksxmichxawuthhxktamthrrmeniymobran phrarachinirnfalunathrngprakxbphrarachphithirachaphieskodythrngchlxngphraxngkhdwychudphaihmkhlumyawsikhawphrxmchaykraoprngpkdwyihmsiaedngaelaekhruxngpradbcakthxngkha chawxemriknthiekharwmphrarachphithiidbrryaythungphranangwa phranangmiphrawrkaysungkwakhnpktielknxyaelathrngmilksnathilaexiydxxn phiwkhxngphranangsikhlanxykwaphutidtamkhnxun phranangpraktwakhxnkhangprahmaaelaxay aelaphranangthrngepnphurbphidchxbphithithangsasnainrachsankxyangekhrngkhrd sungehmuxnkbphrarachininathsxngphraxngkhkxn khux phranangtxngxphiesksmrskbnaykrthmntriirniilxariowni phrarachinimiphrarachxanacephiynginphranam khxtklngthangkaremuxngtang thisakhycatxngidrbkhwamehnchxbhruxkartdsinodynaykrthmntrithixangwaepnphuxawuosaelamiprasbkarnsung phrarachininathrnfalunacatxngmiphrarachdarsinthisatharnabxy innamkhxngnaykrthmntri aelatxngthrngprakxbphrarachkrniykicepidxakharsatharnaihm echn orngphyabalaehngihmthiixosxawinxnedriyna aelaorngeriynaehngihmthixmobdinxnodhaol tlxdrchkalkhxngphranang ecahyingramisindrasana phuepnphrapituccha idepnthipruksaswnphraxngkhinphrarachiniaelathrngxiththiphlmakinrachsank ecahyingraesndraoron phuepnphraphkhiniinphrarachini ecahyingmiphraoxrskhux ecachayrakaotemna aelaphrathidakhux ecahyingrasafinanedriymanithra thngsxngphraxngkhepnphranddathiphrarachinisniththisud phranangoprdewlainkarthrngwawhruxelnekmlxtot ekmchnidhnungkhlaybingok aelaekmpharlxr odythrngelnrwmkbphrayatiaelanangsnxngphraoxsthinrachsank phranangoprdnganeybpkthkrxyaelakarpkokhrecht aelabxykhrngthiphranangcanaokhrngkaraenwphrarachdariesnxtxkhnarthmntri phranangoprdchlxngphraxngkhtang makaelaphranangthrngepnphupkkhrxngchawmalakasikhnaerkthinaekhaesuxphacakparismakkwalxndxn sngkhramfrngess malakasi thharchawmalakasiphyayamtxsuephuxpxngknkarrukrancakckrwrrdifrngess khnaepnphrapramukhaehngmadakskar smedcphrarachininathrnfalunathrngepnfayesiyepriybcakkarlaxananikhmrahwangckrwrrdixngkvsaelackrwrrdifrngesssungkkhux txngekhaphungfayidfayhnunginkarpkpxngmadakskar tngaeterimtnstwrrs khwamtungekhriydrahwangfrngessaelamadakskarthwikhwamrunaerngkhunodyechphaaxyangyinginchwng 3 pikxnthiphranangrnfalunathi 3 khrxngrachy frngessidrukranemuxngtang tlxdchayfngkhxngchawmalakasiinchwngpisudthayaehngrchsmykhxngsmedcphrarachininathrnfalunathi 2 aelayngkhngdaenintxcnthungrchsmykhxngsmedcphrarachininathrnfalunathi 3 sungidkhrxngrachyepnsmedcphrarachiniphraxngkhihminchwngvdurxn khxng ph s 2426 inphayhlng naykrthmntriirniilxariownitdsinicthicatidtxkbphnoth willxcbi thharchawbrietnthimiprasbkarncak ephuxihepnphutrwctrakhwbkhumthharaelafukfnthharinphrarachiniaelapkpxngpraethscakkarrukrankhxngfrngessxyanghlikeliyngimid naykrthmntriirniilxariowniphumixanacaelaxiththiphlsungsudinmadakskar rahwang ph s 2426 thungph s 2428 frngesssrangkhwammnkhnginkaryudkhrxngchayfngkhxngmadakskaraetprasbkhwamlmehlwinkarrukranekhaipthungintwekaa sngkhramthwikhwamrunaerngkhuncnthungkhnsungsudineduxnphvsphakhm ph s 2428 mikarkarocmtiodykarichraebidhruxpunthimixanuphaphrayaernginbriewnphakhtawntkechiyngehnuxkhxngmadakskaraelakxngthphfrngesssamarthyudkhrxngemuxngid tlxdchwngnimadakskarphyayamthicaecrcatxrxngkbckrwrrdifrngess aetkchiihehnwaprasbkhwamlmehlwodythngsxngfayptiesththicathatamkhwamtxngkarkhxngthngsxngfaycungcblngdwykhxotaeyng cudepliynmathungemuxfrngesstrahnkwathsnkhtikhxngkxngthphaelaphuaethnthangkaremuxnginmadakskarnnimehnphxngtxngknkbehlakhnaphuaethncakparis exm obeds kngsulfrngessthukeriyktwklbaelaaethnthidwybukhkhlthimixanacetmphiesskhnihm idmikarphadhwkhawyunkhakhadmathikrungxntananariow ephuxtxngkarihrbrxngsiththikhxngchawfrngessinbriewnphakhtawntkechiyngehnuxkhxngpraethsodyfrngesscarwmepnrthinxarkkha madakskartxngyinyxmthicacaykhaptikrrmsngkhramepncanwnengin 1 500 000 frngk snthisyyasntiphaphniidrbkarxnumtiodyphrarachinirnfalunaaelanaykrthmntri irniilxariowniineduxnmkrakhm ph s 2429 odyrthbalfrngessiddaeninkarinsxngeduxnhlngcaknn kxngthphfrngesskhunfngthimacnka inrahwangsngkhramfrngess malakasi ph s 2438 kxnkarxnumtisyya phrarachiniaelanaykrthmntriphyayamhakhwamchdecninkhxkhwamtang khxngsnthisyyahlkthirabu khwamsmphnthrahwangpraeths thicakhwbkhumody chawfrngessthimaxyuxasy aelaxangxing karkxtng thi odymadakskarthiphayaephyinyxmthasnthisyyaodyyxmthukphnwkepnrthxarkkhainfrngess emuxkhawkarphnwkipthungxngkvs frngessidptiesthkhwamthuktxngtang thangkdhmayodyyunyncayudkhrxngmadakskarinthukwithithang frngessidprakaskhrxbkhrxngpraethsaemcaidrbkartxtancakfaykhankhxngrthbalmalakasi aelafrngessynglaelykhxtklngthikahndiwinsnthisyya xikthngekidpyhakaraethrkaesngrthbalmalakasikhxngfrngessmakkhun in ph s 2430 frngesserimocmtiemuxngthangchayfngkhxngmadakskarxikkhrng phranangrnfalunathrngkhxkhwamchwyehluxcakshrthxemrikaodythrngsngkhxngkanlipihaekprathanathibdiokrewxr khlifaelnd xnidaekphaihm ngachangaelatakracksan aetxemrikaimsamarththatamkhakhxkhxngphranangthithrngihrbrxngexkrachkhxngmadakskar inrchkalkhxngphranangthrngphayaeph cakkarphayaephkhrngnithaihpraethsipsuhayna inwnthi 12 thnwakhm ph s 2430 thrngyxmlngnaminsnthisyyasngbsukkbfrngessephuxtxngkarihpraethssngbsukh frngessidprakasxarkkhamadakskarxyangepnthangkar odyxngkvsyxmrbsiththikhxngfrngess cakkaryxmtklnginkhxtklngrwmxngkvs frngess ph s 2433 rahwang ph s 2433 ph s 2437 frngessidprakasxyangaekhngkrawinkarkhrxbkhrxngdinaednmadakskar xyangirktam frngessimsamarthkhrxbkhrxngdinaednxyangsmburnephraamixupsrrkhkhux smedcphrarachininathrnfalunaaelanaykrthmntriirniilxariowni sungidphyayamkhdkhwangthukwithithanginkarkrathaxnimthuktxngkhxngfrngess cnthungthisud idthuksngmaephuxkhmkhuihphrarachiniaelarthbalihthrngyxmrbinsnthisyyathiihfrngesskhrxbkhrxngpraethsxyangsmburn aetphranangthrngptiesthaelaephikechytxkhakhuodysineching thaihfrngessprakastdkhwamsmphnththangkarthutkbmadakskarineduxnphvscikayn ph s 2437 cakkartdkhwamsmphnthinkhrngni frngessidthingraebidaelayudkhrxngxawthangchayfngtawnxxkidineduxnthnwakhm ph s 2437 aelayudkhrxngthangchayfngtawntkidinxikeduxnthdma karocmtithangbkiderimtnineduxnphvsphakhm ph s 2438 odykarmathungkhxngkxngthhar idedinthangephuxmunghnasukrungxntananariowinicklangekaa sungepnipxyangyaklabak thharfrngesshlaynaytxngesiychiwitcakikhmalaeriyaelaorkhphytang thaihcaepntxngsngkxngthphhnunkwa 1 000 khncakxananikhmxun khxngfrngessinaexlcieriyaela kxngthphidmathungkrungxntananariowineduxnknyayn ph s 2438 thharmalakasitanthankxngthphfrngessidephiyng 3 wninbriewnrxbnxkkhxngkrung aetthharmalakasiidphyayampxngknemuxngxyangetmthi emuxfrngesstxngichwithithingraebidkrungxntananariow odyocmtithiaelasthanthisakhytang thaihchawemuxngtxngsuyesiychiwithlaykhn phranangimxacehnchawmalakasitxngsuyesiyeluxdenux odyphraxngkhtdsinphrathyslarachbllngk thamklangkhwamoskesraesiyickhxngchawmalakasithngpwng odythrngyxmihrachxanackrklayepnxananikhmkhxngfrngess thuxepncudcbkhxngkhwamepnexkrachkhxngrachxanackrmadakskarthiyunyawkwa 400 pi xananikhmkhxngfrngess smedcphrarachininathrnfalunathi 3 thrngphayaephaekkxngthphfrngessineduxnknyayn ph s 2438 thaihepncudcbkhxngrabxbkstriyaehngrachwngsemrinathiyunyawkwa 400 pi frngessyudkhrxngmadakskarxyangepnthangkarinwnthi 1 mkrakhm ph s 2439 ineduxnsinghakhmpiediywkn frngessidprakasihmadakskarepnxananikhmkhxngfrngessaelaenrethsnaykrthmntriirniilxariowniipyngaexleciyr thisungekhaesiychiwitinhlaypithdma smedcphrarachininathaelafaybriharkhxngphranangyngkhngdarngxyuaelathukyudphrarachxanacthangkaremuxng inewlaimchahlngcakirniilxariownithukenreths smedcphrarachininathrnfalunathrngthukbngkhbodyecahnathithangkarfrngessihthrngyxmrbnaykrthmntrikhnihmthithrngfrngesseluxk phrarachininaththrngtdsinicxyangerngribtamkhakrabthulkhxngnayphlfrngess phusungepnkhnkhwbkhumkxngthphinkartxtanphrarachwngsemrina karyxmrbinthrrmeniymaebbaephnthangkaremuxngkhxngmadakskaryngkhngxyu smedcphrarachininathrnfalunathrngekrngwaphranangcatxngxphiesksmrskbnaykrthmntrikhnihmsungphranangthrngepnthukkhyingthitxngxphiesksmrskbchakhs duechen aetepnthinaprahladicthithangkarfrngessimtxngkarthicaihphrarachinitxngsmrskbnaykrthmntriodyykelikkdmnethiyrbalnisungsrangkhwamolngphrathyinphrarachiniidradbhnung rthmntriwakarkrathrwngkartangpraethskhxngphrarachiniidthukesnxchuxihepnnaykrthmntrikhntxipodyidrbkhwamyinyxmcakfrngess ineduxnthnwakhm ph s 2438 sxngeduxnhlngcakfrngessyudkhrxngkrungxntananariow idekidkartxtanrthbalfrngessthisakhysungmichuxwa kbtphakhlumaedng odyptibtikarkxngocrephuxkhbilchawtangchati chawkhristaelakarkhxrrpchnkhxngrthbalodymiphuekharwmklumkbtmakmaysunglwnaetisphakhlumihlsiaedng kartxtankhrngniidthukprabpramodyrthbalfrngessaelaphbkbcudcbin ph s 2440 sungsmachikswnihykhxngklumkbtepnechuxphrawngssungfrngesssngihpraharchiwitthukphraxngkh sungrwmthung phrapitulainphrarachiniaela rthmntriwakarkrathrwngsngkhram swn phrapitucchainphrarachinithrngthukenrethsipyngerxuniyngephraawarthbalfrngessimtxngkarpraharstri cakkartxtannithaihfrngesstxngepliynphuwarachkarpracaekaa cak hipopilth laorch epn phuwakarthhar hnungwnkxnthikaeliynicaedinthangmathungxntananariow ekhaidsngcdhmaykrabbngkhmthulechiysmedcphrarachininathrnfalunaihesdcmaraynganphraxngkhthithanbychakarthangthhardwyphraxngkhexngphrxmkbkharachbripharthnghmd thanbychakaridmiphuthuxthngchatifrngessaebbdngedimtamphraxngkhmadwy smedcphrarachininaththrngthukbngkhbihlngphraprmaphiithyyinyxmykphrarachthrphykhxngphrarachwngsemrinathnghmdaekfrngesskxnthiphranangthrngthukkkkhngkhukphayinphrarachwngkhxngphraxngkhexng phranangthrngidphbpaephiyngphuthiidrbkarxnuyatcakkaeliyniethann khnathrngthukcxngcaphranangrnfalunathrngepliynsasnanbthuxsasnakhristnikayormnkhathxlikephuxihfrngessphungphxicaetfrngesskimsnicxairinkarkrathakhxngphranangthukenrethskaeliyniprakasenrethssmedcphrarachininathrnfalunathi 3 inwnthi 28 mkrakhm ph s 2440 aelaprakaslmlangsthabnphramhakstriyxyangepnthangkarinwnthdma frngessxxkkhasngihxditsmedcphrarachininathtxngesdcxxkcakphrarachwngphayinewla 1 nalika 30 nathi phranangthukkhwbkhumphraxngkhxxkcakxntananariowdwyekiyw inkhnathichawemuxngyngkhnghlbnxn odymiphurksakhwamplxdphyaelakharachbriphartamesdcpraman 700 thung 800 khn odytlxdkaredinthangtxngesdcipyngthihmaythichayfngtawnxxkkhxngemuxngothxamasinathisungphranangtxngesdcprathbodyeruxipyngekaaerxuniyng idmiraynganwarahwangesdcodyeruxphranangrnfalunathrngemaxyanghnk eswyehlarmhlaykhwdsungphidthrrmeniymwisy sungxacepnephraawathrngesiyphrathyxyanghnk thiothxamasinainwnthi 6 minakhm phranangrnfalunathrngidrbkaraecngihthrabwa ecahyingraesndraonor phrakhnistha aelaecahyingrasindrasana phrapituccha idesdcmathunginewlaxnsnphrxmkbecahyingrasafinnanedriymanithra phrarachnddawy 14 phrrsa sungecahyingphraxngkhnithrngphrakhrrphid 9 eduxnkbthharchawfrngess n ekaaerxuniyng xditsmedcphrarachinirnfalunathi 3 rahwangthrngthukenrethsthierxuniyngpccubnthuknaipcdaesdngthiphiphithphnth Musee de l Armee krungparis phrarachwngsesdcthangeruxphrathinngla eprusthungthakaelt hangcaknkhr emuxnghlwngkhxngekaaerxuniyngepnrayathang 20 kiolemtr odymikarramdrawngxyangrxbkhxbtamkhasngkhxngrthbalfrngess thng thimikhwamphyayamkhxngfungchnchawfrngessidxxkmadusmedcphrarachiniphraxngkhsudthayaehngmadakskarphrxmtaokndasapaechngaelaeyyhynphrananginkhnathieruxcxdethiybthasungokrthaekhnphranangthithaihthharchawfrngessthiepnsami butr phinxnghruxbidakhxngphwkekhatxngesiychiwitinkarrbkbmadakskarodyrukkhubekhakrungxntananariowthimipaimxudmsmburnyakaekkarrukransungthaihthharfrngesstxngesiychiwitcakikhpahlayrxynay hlngcakklumfungchnthitngiccamarumprachathnthphranangslaykarchumnumxxkip kptnidthwaykarkhumkhrxngphranangaelaphrarachwngsesdcprathbrthethiymmasungepnkhrngaerkthiphranangthrngruckrthethiymmaaelaidedinthangipyngorngaermedxlayuorepinkrungaesngt ednis ecahyingrasafinnanedriymanithrasungthrngphrakhrrphaelathrngekhriyd phraxngkhthrngthrmancakphraxarmnaeprprwnxyangmaktlxdkarthukenreths ecahyingthrngkhlxdbutrxyangyaklabakinorngaermaelamiphraprasutikalphrathidainwnthisxnghlngcakesdcthungerxuniyng aetimsamarthfunfuphrawrkaykhxngphraxngkhid ecahyingsinphrachnminxik 5 wntxma tharkthuktngchuxwa mari hluys aelathrngidrbphithisilcumtamaebbkhathxlik ephuxhlikeliyngkarsrangstrukbfrngess ecahyingmari hluys sungtxmaidrbkarsthapnaihepnxngkhrchthayathtamkdmnethiyrbalwadwykarsubrachsnttiwngsaehngmadakskar odyxditphrarachininathrnfalunathrngrbecahyingepnthidabuythrrm phayinewla 1 eduxn phrarachwngsthukyayipyngkhvhasnkhxngmadamedxwilelntxngy sungtngxyuthibriewnthiengiybsngbkhxngru edx la xaresnxngaelaru edx elmphart iklcwnwarachkarkhxngfrngessinaesngt ednis phranangrnfalunathrngprathbicinsxngsingkhxngkhvhasnthisungmikaaephngthiihyaelamihlngkhayxdaehlmtdkhwangsungetuxnihphranangralukthungaelachiwitbnthirabsungmadakskarthisungthrngrkying phrarachwngsthiesdcmaniepnphrarachwngsfayhyingthnghmdidaek xditphrarachini phrapituccha phrakhnisthaaelaphrapndda ethannimphxphutidtamrwmthngrachelkhanukar 2 khn phxkhrw aemban aelakhnrbich 3 khnkhxngphranangrnfaluna xacaryswnphraxngkhkhxngphrarachiniidrbekhahaphrarachwngsxyangxisra xditphrarachiniaelaphrarachwngsthrngprathbthikhvhasninerxuniyngepnewlaephiyng 2 pi cakkhwamtungekhriydthithwimakkhunxikkhrngrahwangxngkvsaelafrngess sungekidkarkhdaeyngcakpyhasudan phumixanacinrthbalfrngesskngwlkbsphaphkhxngprachachninmadakskarthiphyayamhathangtxtankdhmaykhxngfrngesscnxaccaklayepnkarkxkbtihm xditsmedcphrarachinisungiklchidkbmadakskarxacthrngsnbsnunchwyehluxaelaplukradmklumkbt phumixanacinrthbalfrngessidtdsinicxyangchbphlnihyayphranangrnfalunaaelaphrarachwngsipyngaexlcieriy odyechuxwathaphranangprathbhangcakbanekidkhxngphranangkcathaihklumkbtimmiphusnbsnunaelasthankarnkhxngmadakskarcaklbepnpkti inwnthi 1 kumphaphnth ph s 2442 hlngcakthrngidrbkaretuxnlwnghnaimnan phranangrnfalunaaelaphrarachwngsthrngthukbngkhbihkhuneruxyang es odymirachelkhanukar lamaelakhnrbichtamesdcmakmay inewlakaredinthang 28 wnkxnthungemuxngthamaraesyphrarachwngsidhyudphkthiemuxngthatang idaek mayxt aesnsibar exedn aelacibuti phrarachwngsprathbthimaraesyepnewlahlayeduxnkxnthicathukyayipthikhvhasninmustafa suephxriexxr inphunthiaexleciyrinaexlcieriy tlxdkaredinthang kptnhlaykhnphyayamkhdkhwangimihphranangrnfalunatrskbbukhkhlxunthiimichchawfrngess phranangthrnghwngwarthbalfrngesscaihphranangprathbthikrungparisaelathrngphidhwngxyangmakemuxthrngthrabwaphranangcathuksngipyngaexlcieriy phranangtrsaelaphraxssuchlihlrinhlngcakidrbrayngan trswa ikhrkhuxkhwamaennxnkhxngphrungni ephiyngemuxwanethannthichnepnrachini wnnichnklbklayepnhyingthiimmikhwamsukhxyangaethcring epnephiyngphuhyingthithukthalayciticcnaetkslay n aexlcieriyaelakaresdcpraphasfrngess hnngsuxphimph La Petit Journal phadhwkhaw phranangrnfalunaesdcthungfrngessinkaresdcpraphaskhrngaerkxyangepnthangkarin ph s 2444 odyepnphaphxditphrarachiniaelakharachbripharmathungthisthanirthifaelaphranangthrngrbdxkimcakedkhyingodymichawfrngessedinthangmathwayphraphraedphranangcakkartxbsnxngkhakhxrxngkhxngphranangxyangerngdwn phranangthrngidrbxnuyatihesdcpraphasparisaelaichphrarachthrphyid phranangthrngepncudsnicthwthngthnnaelathrngepnthiniymxyangmhasal aetphranangthrngichphrarachthrphymakehluxekinaelathrngekbsasmbilkhangcharaenginsungmimohlar thaihsanknganxananikhmidetuxnaelasngphranangkhuneruxphrathinngklbaexleciyridxyangthnthwngthi Kings in Exile kstriyyamliphy Our Paper 1904 ph s 2447 phrachayalksnphranangrnfalunabnklxngkhukki in ph s 2459 odythrngmilayphrahtthkhxkhwamwa Tsara ny Petit Beurreaeplwa khukki Petit Beurre eyiymmak thiphratahnkkhxngphrarachiniinaexleciyr phranangthrngidrbkarcdetriymkharachbripharaelaphuthwaykartxnrbsungepnstrichawfrngess sungepnphukhxysngektkarnxditphrarachinithukfikawaelathahnathikhxyduaelaaenanaemuxidthixditphrarachinithrngechiyaekhkekhama ethannimphxinkhntnrthbalfrngessidcdetriymthwayphrarachthrphypracapiaekphranangrnfalunaepncanwn 25 000 frngk sungepnenginrayidcakxananikhmaehngmadakskarsungidrbxanaccakphuwarachkarnayphlkhxngxananikhm phrarachthrphyekuxbthnghmdkhxngphranangrnfalunaidthukyudodyxanackhxngphuwarachkarxananikhm thungaemwaphranangcaidrbxnuyatthicaekbrksaphrarachthrphyswnphraxngkhbangxyangsungrwmthngekhruxngephchrbangchinkhxngphranang banaykhxngphrananginkhntnthrngidrbnxycnthungkbyakcnthisungrthbalxananikhmaehngaexlcieriychkchwnihkhaythrphysinimsaerchlaykhrnginnamkhxngphranangephuxcaidihenginephimsahrbphranang phranangrnfalunathrngphyayamxyanghnkrwmkbkharachbripharinkarkhayekhruxngephchrbangswnkhxngphranangepnkarlbaetaephnkarnirwihlcnrthbalxananikhmrucungidkhbilaelasngkharachbripharkhnnnklbmadakskar inchwngpiaerkhlngcakthukenrethsmathiaexlcieriy phranangrnfalunathrngsnphrathythiidphbkbwithichiwitsngkhmaebbchawaexleciyr phranangthrngidrbechiyesmx innganeliyng karesdcpraphasinrayasn aelanganpraephnithxngthin odyphranangcathukechiyihepnecaphaphpracanganbxy xyangirktamkhwamkhidthungbanekidnnekidkhunpracaaelakhwamhwngthicaidesdcklbmadakskarmiswnthaihphranangoskesraaelaehnuxyhnay phranangprasngkhthicaphrarachdaeninephiyngphraxngkhediywbxy inekhtchnbth thrngphrarachdaeninphanchayhadhruxphanemuxngephuxthicathaciticihsngbaelarangbxarmnkhxngphranangexng xditphrarachinithrngmikhwamkratuxruxrnthicathxdphraentraephndinihyfrngess odyechphaakrungparis odymiphrarachprasngkhkhxkhwamyinyxmcakrthbalfrngessephuxkaredinthanghlaykhrng odyphrarachprasngkhkhxphranangidrbkarptiesthmaodytlxdcnkrathngeduxnphvsphakhm ph s 2444 phranangrnfalunaidrbkarxnuyatihesdcpraphasfrngess inewlahlayeduxnphranangrnfalunathrngphankxyuthi iklkbcturscharl edx okl aelathnnchxngeslies odyesdcipsthanthihlkthwkrungparisaelathrngidrbkarthwaykartxnrbcakphukhncanwnmak phranangthrngidrbkartxnrbxyangkwangkhwangodywngsngkhmchnsungaelathrngidrbkhxngkhwymakmayrwmthngphakhlumsungmikhamak inrahwangkaresdcpraphaskhrngaerk thrngeyiymchmphrarachwngaewrsay aelathrngidrbkarthwaykartxnrbxyangepnthangkarthi aelaesdcpraphasemuxngbxrodepnewla 3 spdah thaysudphranangesdcpraphaschayhad kxnthiphranangthrngichphrarachthrphycnhmdsinaelaprathberuxphrathinngaexlcieriythimaraesyintneduxnsinghakhm karesdcpraphaskhrngniepnthidungdudicchawparismak thisungaesdngkhwamehnicinchatakrrmkhxngphrarachiniaelaidrwmknklawharthbalodyeriykrxngihcdhatahnkthiihykwanihruxthwayphraekiyrtithiphranangsmkhwridrbmakkwaniodyihphranangidrbekhruxngxisriyaphrnelchiyngdxenxr xditsmedcphrarachininathrnfalunathi 3 aehngmadakskarkhnaesdcpraphasfrngess phranangrnfalunacaidklbipyngfrngess 6 khrnginxik 12 pithdip karesdcpraphasbxykhrngthaihphranangthrngmichuxesiyngkhunmamakcnepnthisrresriy cause celebre khxngphlemuxngfrngesscanwnmakthisungsngsarinchatakrrmkhxngphranangaelaykyxngphranangindankiriyamaryaththingdngamaelakhwamxdthnxdklnxyangyinginphrachata karesdcpraphaskhxngphranangrnfalunaepnthisnicaeksuxsatharnaaelacakkhwamniyminxditphrarachinirnfalunathaihphrachayalksnkhxngphranangidthukphimphlngbnklxng khukkiin ph s 2459 karesdcpraphaskhrngthisxngkhxngphrarachinimikhunineduxnknyayn ph s 2446 emuxesdcpraphasaelaoxriyk phlemuxngcanwnmakidkddnrthbalinrahwangthiphranangesdcihephimphrarachthrphypracapikhxngphranangkhunepncanwn 37 000 frngk in 3 pithdmaphranangesdcpraphasmaraesyaela aelathrngekhaphankinxphartemntkhnad 5 hxngnxnihykhxngchawparisthiekhtkarpkkhrxngparisthi 16 sungphranangidthxdphraentrkaraesdngthi thrngekhasngektkarnkarprachumkhxngaelathrngidrbkarthwaykartxnrbxyangepnthangkarcak aelaepnxikkhrngthithrngidrbkhwamehniccakchawfrngess phrarachthrphykhxngphranangrnfalunaidephimkhunepn 50 000 frngktxpi inkaresdcpraphaskhrngtxip ph s 2450 phranangtxngprathbthiephuxkaresdcpraphascnghwdkalwaods thisungphranangthrngidrbkarchayphraruplnginsingphimphfrngess cakeduxnsinghakhmthungeduxnknyayn ph s 2453 xditphrarachininathrnfalunaesdcpraphasparis nxngt aelaaelathrngidrbkarchayphraruplnginsingphimphfrngesshlay khrng in ph s 2455 karesdcpraphaskhxngphranangkhrngniimmiphithiritxngodyesdcynghmubanaelamikarephimphrarachthrphypracapikhxngphranangkhunepncanwn 75 000 frngk phranangesdcpraphaskhrngsudthayin ph s 2456 odyesdcyngmaraesy aela karerimtnkhxngsngkhramolkkhrngthi 1 in ph s 2457 idpidoxkasinkaresdcpraphasfrngesskhxngphranang tlxdphrachnmchiphinaexlcieriy phranangaelaphrarachwngsidekharwmphithikhxngopraetsaetntepnpracathukspdahthikhristckrptirupsungtngxyuicklangkrungaexleciyr hlngsngkhramphranangthrngekharwmaexlcieriyaelathrngprakxbphrarachkrniykicephuxkarkusl phranangtxngesdcswrrkhtodyimmioxkashwnklbmadakskarbanekidthithrngrkying odythrngkhxrxngrthbalfrngessxyangepnthangkar 2 khrngin ph s 2453 aela ph s 2455 aetidthukptiesthenuxngcakenginthuncakxananikhmimephiyngphxesdcswrrkhtaelathayathphaphcakhnngsuxphimph La Petit Journal smedcphrarachininathrnfalunathi 3 say khnathrngthukenrethsthiaexleciyrkbecahyingramasindrasana phrapituccha klang aelaphranddahruxphrathidaeliyng ecahyingmari hluys khwa in ph s 2442phrasphkhxngphranangrnfalunaidrbxnuyatihnaklbyngmadakskaraelathaphithifngphrasphxikkhrngthi susanaehngsmedcphrarachininathrasxehxrinaaehngmadakskarin xditphrarachininathrnfalunaesdcswrrkhtxyangkathnhn n phratahnkinaexleciyr inwnthi 23 phvsphakhm ph s 2460 cakphraxakarprachwrdwykarxudtnkhxngesnolhitaedngxyangthukkhthrman phrabrmsphkhxngphranangrnfalunathukfngthisusanaesngt exxechninkrungaexleciyrewla 10 nalikakhxngwnthi 25 phvsphakhm phrarachphithifngphrasphidmiphukhnmaekharwmxathiechn phrashaysnith phukhnsungrkphranang klumsphakachad aelasmachikkhxngobsththiepnphraxupthmphrwmthngbukhkhlthimichuxesiynginaewdwngkaremuxngaelasngkhmkhxngaexlcieriy inewla 9 nalikakhxngtxnecha khbwnrthyawehyiydidedinthangipyngsthanthiralukthung karaesdngkhwamekharphaelakariwxalyphranangrnfalunakhxngphurwmphithiimidthuksathxnihehnodyrthbalxananikhmthimadakskar xyangirktamineduxnmithunayn ph s 2468 ewlaaepdpihlngcakthiphranangrnfalunaesdcswrrkht phuwakaraehngaexlcieriyideriyncdhmayipyngphuwakaraehngmadakskaraecngeriykrxngkhabarungrksaphrasphsungthangphuwakarmadakskarephikechy phuwakaraexlcieriyideriykrxngihthangphuwakarmadakskarcdhaenginthunephuxkarbarungrksaphrasphsungthrudothrmesiyhayipmak thangmadakskarkhwrihkhwamsakhytxkarplxyplalaelyinkarralukaelaiwxalythungphrarachininathsungehmuxnkbrthbalklangkhxngfrngessthilaelyechnkn thungxyangirktamkhakhxthukptiesththungsxngkhrngaelaphrasphmiidrbkarburna ineduxnphvscikayn ph s 2481 rthbalfrngessyinyxmihyayphrasphkhxngphranangrnfalunaklbyngmadakskaraelathaphithifngphrasphxikkhrngthi susanaehngsmedcphrarachininathrasxehxrinaaehngmadakskarin sungepnphraprasngkhsudthaykhxngphranangthicaidesdcmayngmadakskaraemsungcaesdcswrrkhtaelw smedcphrarachininathrnfalunathi 3 aelaecahyingmari hluys phrarachnddaaelaxngkhrchthayathinrachbllngkin ph s 2448 thiaesng aechraemng xxng ael cakkarthixditsmedcphrarachininathrnfalunaesdcswrrkht ecahyingramasindrasana phuepnphrapitucchakhxngphranang idesdcyayxxkcakaexlcieriyaelaprathbthicnghwdxalp maritim thisungprathbinchwngwarasudthaykhxngphrachnmchiphinxikimkipi rchthayathkhxngxditphrarachinikhux ecahyingmari hluys idesdcxxkcakphratahnkkhxngphranangrnfaluna ephuxthrngekharbkarsuksacakorngeriynaebbfrngess aelathrngesksmrskbwiswkrkarekstrchawfrngess sungmichuxwa xngedr bxssard inwnthi 24 mithunayn ph s 2464 thungaemwaecahyingmari hluyscaidsiththiinphratahnkelk cakrthbalfrngessephuxprathb ecahyingklbthrngeluxkthicaprakxbphrakrniykicdankarphyabalaelathrngidrbekhruxngxisriyaphrnelchiyngdxenxrcakkarprakxbphrakrniykicxyangimldladankaraephthyinchwngsngkhramolkkhrngthi 2 hlngcak xngedr bxssardaelaecahyingmari hluysthrnghyarangodyirbutrthida ecahyingwysawthrngidrbkarklawthungwathrngepnxisra raeringaelamichiwitchiwaehmuxndngphiesux ecahyingmari hluyssinphrachnmin n inwnthi 18 mkrakhm ph s 2491 odyimthrngmirchthayathsubtx aelaphrasphthukfngthimxngetrxil praethsfrngess karsinphrachnmkhxngphranangnbepncudsinsudkhxngrachwngsemrinaaelarachxanackrmadakskarenuxngcakphranangthrngepnphusubthxdrachwngsladbsudthay aelakhwamhwngkhxngchawmadakskarthitxngkarfunfusthabnphramhakstriytxngsuysinipdwyduephimrachwngsemrinabrrnanukrmTrotter Matthews 1904 p 243 Titcomb Mary November Madagascar and the Malagasy Frank Leslie s Popular Monthly pp 530 542 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Citation title aemaebb Citation citation a trwcsxbkhawnthiin date aela year date imtrngkn help Stuart Robson Isabel 1896 The Childhood of a Queen IV The Queen of Madagascar Children s Friend London S W Partridge amp Co vol 36 pp 103 104 Ministere de la marine et des colonies 1884 p 117 Madagascar at uq net au Carpenter Frank G January 23 1908 Madagascar s Ex Queen in Pattengill Henry b k Moderator Topics Vol 28 Lansing MI pp 370 372 The Queen of Madagascar Scientific American Supplement No 1037 New York Munn amp Co Publishers November 16 1895 p 16568 Cousins William Edward 1895 Madagascar of to day The Religious Tract Society p 73 Priestley Herbert Ingram 1967 05 26 France overseas a study of modern imperialism p 305 ISBN 9780714610245 Van Den Boogaerde Pierre 2008 Shipwrecks of Madagascar AEG Publishing Group p 7 ISBN 9781606934944 Gifts and Blessings The Textile Arts of Madagascar Smithsonian National Museum of African Art ekbcakaehlngedimemux 2011 07 06 subkhnemux November 11 2010 Curtin Philip D 1998 Disease and empire the health of European troops in the conquest of Africa Cambridge MA Cambridge University Press p 186 ISBN 9780521598354 Roland Oliver Fage John Sanderson G N 1985 The Cambridge history of Africa Vol 6 Cambridge UK Cambridge University Press p 530 ISBN 9780521228039 Barrier 1996 p 205 Campbell Gwyn 1991 The Menalamba revolt and brigandry in imperial Madagascar 1820 1897 International Journal of African Historical Studies 24 2 259 291 Basset Charles 1903 Madagascar et l oeuvre du General Gallieni Paris A Rousseau pp 140 142 frngess Barrier 1996 pp 245 246 Randrianja Solofo 2001 Societe et luttes anticoloniales a Madagascar de 1896 a 1946 Paris Karthala Editions pp 100 110 ISBN 9782845861367 frngess Barrier 1996 p 260 Barrier 1996 pp 260 266 Barrier 1996 p 267 Barrier 1996 pp 269 271 Barrier 1996 pp 273 274 Massachusetts Reformatory October 1 1904 Kings in Exile Our Paper 20 40 639 Crownless Monarchs The Bookman No 26 London Dodd Mead amp Co 1908 p 118 Barrier 1996 pp 288 303 Barrier 1996 p 347 Bergougniou Jean Michel Clignet Remi David Philippe 2001 Villages noirs et autres visiteurs africains et malgaches en France et en Europe 1870 1940 Paris Karthala Editions pp 87 89 ISBN 9782845862005 frngess Barrier 1916 p 334 Barrier 1916 p 334 Saillens Pasteur R 1906 Impressions of Algeria The Missionary Review of the World Vol 29 London Funk amp Wagnalls p 449 Barrier 1996 p 347 Barrier 1996 p 358xangxingBarrier Marie France 1996 Ranavalona derniere reine de Madagascar Paris Balland ISBN 9782715810945 frngess Ministere de la marine et des colonies 1884 Revue maritime et coloniale Volume 81 Paris Gouvernement de la France subkhnemux January 27 2011 frngess Nativel Didier 2005 Maisons royales demeures des grands a Madagascar Antananarivo Madagascar Karthala Editions ISBN 978 2 84586 539 6 frngess Stratton Arthur 1964 The Great Red Island Berlin Scribner Trotter Matthews Thomas 1904 Thirty years in Madagascar London A C Armstrong subkhnemux April 10 2011 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb smedcphrarachininathrnfalunathi 3 Smithsonian exhibit of Ranavalona giftskxnhna smedcphrarachininathrnfalunathi 3 thdipsmedcphrarachininathaehngmadakskar rachwngsemrina 30 krkdakhm ph s 2426 28 kumphaphnth ph s 2440 rabxbkstriythuklmlangmadakskarthukyudkhrxngodyfrngess rabxbkstriythuklmlang phuxangsiththiinrachbllngkmadakskar rachwngsemrina 28 kumphaphnth ph s 2440 23 phvsphakhm ph s 2460 ecahyingmari hluys epnladbsudthay