พระนางวิสุทธิเทวี หรือ สมเด็จเจ้าราชวิศุทธ (? — พ.ศ. 2121) เป็นขัตติยราชนารีพระองค์หนึ่งที่สำคัญพระองค์หนึ่งของอาณาจักรล้านนา และเป็นพระกษัตรีย์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์มังราย ก่อนที่การปกครองอาณาจักรล้านนาจะตกไปสู่การปกครองของราชวงศ์ตองอู
วิสุทธิเทวี | |||||
---|---|---|---|---|---|
สามนตราชเชียงใหม่ | |||||
ครองราชย์ | พ.ศ. 2107–2121 (ประเทศราชของหงสาวดี) | ||||
ก่อนหน้า | เมกุฏิสุทธิวงศ์ | ||||
ถัดไป | นรธาเมงสอ | ||||
ประสูติ | ไม่ปรากฏ | ||||
พิราลัย | พ.ศ. 2121 | ||||
พระราชบุตร | เมกุฏิสุทธิวงศ์ | ||||
| |||||
ราชวงศ์ | มังราย |
พระนางวิสุทธิเทวีได้ให้การยอมรับอำนาจของพม่า เป็นที่รู้จักในนามพระมหาเทวี (พม่า: မဟာဒေဝီ) ผู้สนองนโยบายการขยายอำนาจจากล้านนาไปสู่กรุงศรีอยุธยาและล้านช้างโดยใช้ล้านนาเป็นที่มั่น ทรงส่งกองทัพเข้าร่วมรบกับเชียงใหม่ในคราวเสียกรุงศรีอยุธยา พ.ศ. 2112 และ พ.ศ. 2117 เชียงใหม่ส่งกองทัพไปปราบล้านช้างเวียงจันทน์สองกองทัพ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอำนาจที่มีมากของพระเจ้าบุเรงนอง รวมไปถึงพระราโชบายเพื่อประคับประคองบ้านเมืองให้อยู่รอดตลอดรัชสมัยของพระนาง
ด้วยที่ทรงพระราชฐานะที่พระนางเป็นเจ้านายอาวุโสตำแหน่งพระมหาเทวี หรือกษัตรีย์แห่งล้านนาที่ให้ความร่วมมือแก่พม่า พระนางจึงได้รับการยอมรับจากขุนนางพม่าที่มาปกครองเมืองเชียงใหม่ ดังการพบการได้รับเกียรติจากแม่ทัพพม่า ข้าหลวงชาวอังวะ และหงสาวดีที่มาประจำการในเชียงใหม่ เมื่อมีการหล่อพระพุทธรูปเมืองรายเจ้า พ.ศ. 2108 พระนางได้รับเกียรติเข้าร่วมทำบุญในฐานะ สมเด็จพระมหาเทวีเจ้าผู้ทรงเป็นใหญ่ในนพบุรี
ข้อสันนิษฐาน
กรณีพระตนคำ
แต่เดิมศาสตราจารย์ เคยสันนิษฐานว่าพระนางวิสุทธิเทวีเดิมมีพระนามว่า "พระตนคำ" ผู้เป็นพระราชธิดาในพระเมืองเกษเกล้าที่พระเจ้าบุเรงนองนำไปเป็นองค์ประกันและเรียนรู้วัฒนธรรมพม่า และภายหลังได้ตกเป็นมเหสีของพระเจ้าบุเรงนองโดยปริยาย
ครั้นเมื่อ รศ. ดร. สุเนตร ชุตินธรานนท์ได้สอบทำเนียบพระมเหสีของพระเจ้าบุเรงนองอย่างละเอียดก็มิพบนาม พระตนคำ, วิสุทธิเทวี หรือราชธิดาพระเจ้าเชียงใหม่เลยแต่อย่างใด แต่พบนามของสตรีเชียงใหม่ตำแหน่งบาทบริจาริกานางหนึ่ง ความว่า "นางผู้เป็นชาวเชียงใหม่ (Zinme) นามว่าเคงเก้า (Khin Kank) ซึ่งให้กำเนิดพระธิดากับพระเจ้าบุเรงนองนางหนึ่งนามว่าราชมิตร"
ภายหลังศาสตราจารย์สรัสวดี อ๋องสกุล ได้เปลี่ยนความคิดใหม่ และเห็นว่านรธาเมงสอมิใช่เชื้อพระวงศ์มังรายอย่างที่เข้าใจ ส่วนพระนางเคงเก้าจะเป็นคนเดียวกับพระตนคำหรือพระวิสุทธิเทวี หรือพระวิสุทธิเทวีจะเป็นคนเดียวกับพระตนคำหรือไม่ ยังคงเป็นปริศนาที่ต้องค้นคว้าต่อไป
กรณีเป็นพระราชชนนีของนรธาเมงสอ
และเชื่อกันมาแต่เดิมว่า นางอาจเป็นพระราชชนนีในนรธาเมงสอ พระราชโอรสของพระเจ้าบุเรงนองซึ่งครองราชย์สืบต่อจากพระนาง ข้อสันนิษฐานเกิดจากการตีความโคลงบทหนึ่งของ "โครงเรื่องมังทรารบเชียงใหม่" ที่มีเนื้อความระบุว่า
ได้แล้วภิเษกท้าว | เทวี | |
เป็นแม่มังทราศรี | เร่งเรื่อง | |
เมืองมวลส่วยสินมี | ตามแต่ เดิมเอ่ | |
บ่ถอดถอนบั้นเบื้อง | ว่องไว้วางมวล |
นักภาษาศาสตร์ทั้ง ดร. ประเสริฐ ณ นคร และสิงฆะ วรรณสัย ถอดความดังกล่าวได้ว่า
"แล้วอภิเษกมหาเทวี [มหาเทวีวิสุทธิ] ผู้เป็นแม่มังทรา [นรธาเมงสอ เจ้าเมืองสาวัตถี–ตามความเข้าใจของผู้แปล] ขึ้นเสวยราชย์เหมือนเดิม ให้รวบรวมสินส่งส่วยเหมือนแต่ก่อน ไม่ทรงถอดถอนออก แต่มอบอำนาจให้ปกครองเมืองทั้งสิ้น"
รศ. ดร. สุเนตร ชุตินธรานนท์ ให้ความเห็นว่า "มังทรา" มาจากคำว่า "เมงตะยา" อันมีความหมายตรงตัวในภาษาพม่าว่า "ธรรมราชา" เป็นสมัญญานามที่ใช้ระบุหรือนำหน้ากษัตริย์พม่าทั่วไป และในโคลงบทที่ 12 นี้ได้ใช้คำว่า มังทรา แทนพระเจ้าแผ่นดิน ดังนั้นคำว่า แม่มังทราศรี ก็จะหมายถึงแม่ของพระเจ้าแผ่นดิน และมิได้หมายความว่าจะต้องเป็นแม่ของพระเจ้าแผ่นดินองค์ถัดไป ซึ่งก็อาจจะเป็นมารดาของอดีตกษัตริย์ คือ พระเมกุฏิสุทธิวงศ์ก็เป็นไปได้
รวมทั้งโคลงบทที่ 15 ของเรื่องเดียวกันนั้นที่กล่าวถึงภูมิหลังของนรธาเมงสอ ก็ไม่มีข้อความตอนใดระบุว่าเป็นพระโอรสของพระนางแต่อย่างใด เช่นเดียวกับตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่, พงศาวดารเชียงใหม่ฉบับพม่า (Zinme Yazawin) หรือแม้แต่พงศาวดารโยนกก็มิได้ระบุเช่นกัน
กรณีเป็นพระราชชนนีของพระเมกุฏิ
จากการศึกษาของ รศ. ดร. สุเนตร ชุตินธรานนท์ โดยใช้หลักฐานของพม่าคือพงศาวดารมหายาสะวินเต๊ะ (Mahayazawinthet) กลับพบว่า พระมารดาของนรธาเมงสอ ชื่อ "ราชเทวี" มเหสีอันดับ 3 ของบุเรงนอง พระนางเป็นธิดาของสตุกามณีแห่งดีมเยง มีนามเดิมว่า เชงทเวละ พระนางสิ้นพระชนม์ใน พ.ศ. 2106 ก่อนที่พระเจ้าบุเรงนองจะสถาปนาพระนางวิสุทธิเทวีครองเมืองเชียงใหม่ในปี พ.ศ. 2107 ฉะนั้นพระนางวิสุทธิเทวี จึงมิใช่พระมารดาของนรธาเมงสอ แต่มหาเทวีวิสุทธิอาจเป็นมารดาของพระเมกุฏิสุทธิวงศ์
โดย รศ. ดร. สุเนตร ชุตินธรานนท์ ได้ให้เหตุผลว่า เมื่อพระเจ้าบุเรงนองได้นำตัวพระเมกุฏิสุทธิวงศ์ไปหงสาวดี และสถาปนามหาเทวีวิสุทธิซึ่งชราภาพแล้วครองล้านนา เพื่อที่มหาเทวีจะได้ไม่คิดแข็งเมืองต่อพม่า ด้วยเหตุผลนี้พระเมกุฏิสุทธิวงศ์อาจมีฐานะเป็นพระโอรสของมหาเทวีวิสุทธิก็เป็นได้
ส่วนเพ็ญสุภา สุขคตะเห็นตรงกับ รศ. ดร. สุเนตร ชุตินธรานนท์ว่าพระนางวิสุทธิเทวีเป็นพระราชชนนีของพระเมกุฏิ แต่ได้เพิ่มเติมด้วยว่าพระนางวิสุทธิเทวีคงเป็นพระชายาของพระเมืองแก้ว
พระประวัติ
พระชนม์ชีพช่วงต้น
พระนางวิสุทธิเทวีเป็นเจ้านายดั้งเดิมมาจากที่ไหน หรือทรงสืบเชื้อสายมาจากผู้ใดไม่เป็นที่ทราบ ซึ่งใน จารึกวัดชัยพระเกียรติ ที่กล่าวถึงการสร้างพระพุทธรูปเมืองรายเจ้าโดยขุนนางพม่าของพระเจ้าบุเรงนอง ระบุพระนามของพระนางวิสุทธิเทวีว่า "...สมเด็จพระมหาเทวีเจ้าตนเป็นเหง้าในนพบุรี..." ซึ่งคำว่า "เหง้า" นี้ ฮันส์ เพนธ์สันนิษฐานไว้เมื่อปี พ.ศ. 2519 ว่าที่จารึกใช้คำว่าเหง้านี้ อาจเป็นเพราะมหาเทวีพระองค์นี้ทรงมีเชื้อสายพญามังราย กอปรกับชื่อพระพุทธรูปเมืองรายเจ้าก็เป็นชื่อตั้งเพื่อถวายพระเกียรติพญามังรายและพระมหาเทวีวิสุทธิผู้มีเชื้อสายของพญามังราย ส่วนเพ็ญสุภา สุขคตะอธิบายว่าพระนางวิสุทธิเทวีเป็นเจ้าหญิงมาจากเมืองนาย ซึ่งถูกส่งมาเป็นพระชายากษัตริย์ล้านนาตามพระราชธรรมเนียม อย่างไรก็ตามพระราชประวัติอันมืดมนซึ่งปรากฏบทบาทของพระองค์เพียงช่วงครองราชย์เท่านั้น ทำให้ไม่ทราบและไม่มีข้อมูลที่แน่นอนเกี่ยวกับพระประวัติตอนต้นของพระองค์ จึงกลายเป็นปริศนาที่ต้องค้นคว้าต่อไป เรื่องราวของพระองค์มาปรากฏชัดเจนเมื่อครั้งมีพระอิสริยยศเป็น(พระมหาเทวี) คือเป็น "พระราชชนนีของพระมหากษัตริย์"
ทั้งนี้ตำแหน่งพระมหาเทวีเป็นตำแหน่งที่มีบทบาททางการเมืองสูง ดังจะเห็นจะได้จากพระราชประวัติของมหาเทวีจิรประภา และมหาเทวีสิริยศวดี และเป็นที่แน่นอนว่าพระองค์ต้องเป็นพระราชมารดาของกษัตริย์พระองค์ใดพระองค์หนึ่ง ซึ่ง รศ. ดร. สุเนตร ชุตินธรานนท์สันนิษฐานว่าพระองค์เป็นพระราชชนนีในพระเมกุฏิสุทธิวงศ์ โดยปรากฏหลักฐานว่าพระองค์ร่วมประกอบพระราชกรณียกิจร่วมกับพระราชโอรสบ่อยครั้ง
เสวยราชย์
พระเมกุฏิสุทธิวงศ์และพระยากระมลเจ้าผู้ครองเมืองเชียงแสนร่วมกันคิดกบฏต่อกรุงหงสาวดี เพราะไม่ยอมส่งทัพช่วยพม่ารบกับอาณาจักรอยุธยาเมื่อคราวสงครามช้างเผือกในปี พ.ศ. 2016 โดยมีเจ้าเมืองเชียงราย เจ้าเมืองน่าน และเจ้าเมืองลำปางร่วมก่อกบฏด้วยโดยมีสมเด็จพระไชยเชษฐาธิราช พระมหากษัตริย์ล้านช้างทรงสนับสนุน หลังพม่าเสร็จศึกที่อาณาจักรอยุธยาก็ยกทัพขึ้นมาปราบล้านนาอีกครั้ง บรรดาเจ้าเมืองต่าง ๆ ที่เคยลุกขึ้นมาต่อต้านกลับพากันหลบลี้ไปล้านช้างเสียหมดยกเว้นพระเมกุฏิที่ยอมสวามิภักดิ์แต่โดยดีและจัดบรรณาการมาถวาย ทว่าความผิดที่พระเมกุฏิฝ่าฝืนการปฏิบัติคำสั่งถือเป็นโทษร้ายแรง เป็นเหตุให้พระเจ้าบุเรงนองถอดพระเมกุฏิสุทธิวงศ์ออกจากพระราชบัลลังก์ล้านนาและพาตัวไปหงสาวดีเป็นการลงทัณฑ์ แล้วพระราชทานตำหนักขาวให้ประทับ ดังปรากฏใน พระราชพงศาวดารพม่าฉบับหอแก้ว ที่กล่าวถึงปี พ.ศ. 2110 ความว่า (คำอธิบายในวงเล็บเป็นของ รศ. ดร. สุเนตร ชุตินธรานนท์)
"...ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทานตำหนักให้กับนะระปะติเจ้าเมืองแพร่ ๑ อะวะนะระปะติจีสู ๑ [นะระปะติสีตู] พระสังข์เจ้าเมืองเชียงใหม่ ๑ [ที่ถูกต้องคือพระตาน มาจากคำว่าเจ้าขนานแม่กุ] พระสาธิราชพระเจ้ากรุงศรีอยุธยา [พระเธียรราชา] แล้วพระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภคเป็นอันมาก..."
หลังจากนั้นพระเจ้าบุเรงนองจึงตั้งพระนางวิสุทธิเทวี ขัตติยนารีผู้มีเชื้อสายราชวงศ์มังรายครองล้านนาสืบต่อไป ซึ่ง ดร. สุเนตร ชุตินธรานนท์ได้สันนิษฐานว่าพระนางวิสุทธิเทวีนี้คือพระราชชนนีของพระเมกุฏิ โดยให้เหตุผลว่าเป็นหลักประกันเพื่อมิให้เจ้าแผ่นดินล้านนาพระองค์ใหม่คิดแข็งเมืองต่อพม่า เพราะฝ่ายพม่าได้ยกไพร่พลและขุนนางรามัญไปอยู่ในเมืองเชียงใหม่เสียด้วย ดังปรากฏใน พงศาวดารโยนก ความว่า
"...แล้วตั้งราชเทวีอันเป็นเชื้อสายเชียงใหม่แต่ก่อนทรงนามพระวิสุทธิเทวีขึ้นเป็นราชินีครองเมืองนครเชียงใหม่สืบไป ให้ขุนนางรามัญอยู่เป็นข้าหลวงกำกับเมือง..."
เมื่อพระนางวิสุทธิเทวีได้ขึ้นเสวยราชสมบัติก็เมื่อพระองค์ชราภาพแล้ว หลังพระองค์ครองราชย์ได้เพียง 14 ปีก็พิราลัย โดยมีหลักฐานจากโคลงมังทรารบเชียงใหม่ที่ได้ระบุไว้ในโคลงบทที่ 13 ที่ได้กล่าวถึงพระนางวิสุทธิเทวีที่ยืนยันเกี่ยวกับการครองราชย์เมื่อชราภาพ และทำบุญเป็นประจำ ความว่า
มหาอัคคราชท้าว | เทวี | |
ยามหงอกกินบุรี | ถ่อมเถ้า | |
ทำทานชู่เดือนปี | ศีลเสพ นิรันดร์เอ่ | |
เห็นเหตุภัยพระเจ้า | ราชรู้อนิจจา |
แม้จะอยู่ภายใต้การปกครองของพม่า แต่พระองค์ยังมีบทบาททางการเมืองค่อนข้างสูงโดยมีหลักฐานจากแหล่งต่าง ๆ มายืนยันจากพระนามที่ปรากฏ ดังนี้ สมเด็จพระมหาเทวีเจ้า ผู้ทรงเป็นใหญ่ (จารึกที่ฐานพระพุทธรูปวัดชัยพระเกียรติ), มหาอัครราชท้าวนารี (โคลงมังทรารบเชียงใหม่), พระนางมหาเทวี (พงศาวดารเชียงใหม่ฉบับภาษาพม่า), สมเด็จพระมหาราชเทวีบรมพิตรพระเป็นเจ้าอยู่หัว (ตราหลวงกุหลาบเงิน พ.ศ. 2110) และ มหาเทวี (ตำนานเมืองลำพูน) พระนางวิสุทธิเทวีมีพระสถาภาพเป็นมหาเทวีผู้ทรงอำนาจสูง ทรงผ่านการราชาภิเษกสองครั้ง พระองค์มีพระราโชบายเพื่อประคับประคองบ้านเมืองให้อยู่รอดตลอดรัชสมัยของพระนางที่ให้ความร่วมมือกับพม่า พระนางจึงได้รับการยอมรับจากกษัตริย์พม่า รวมทั้งขุนนางพม่าที่รั้งเมืองเชียงใหม่ ดังการพบเมื่อคราวมีการหล่อพระพุทธรูปเมืองรายเจ้า พ.ศ. 2108 พระองค์ได้รับเกียรติจากแม่ทัพพม่า ข้าหลวงชาวอังวะและหงสาวดีที่มาประจำการในเชียงใหม่ พระนางได้รับเกียรติเข้าร่วมทำบุญในฐานะ สมเด็จพระมหาเทวีเจ้าผู้ทรงเป็นใหญ่ในนพบุรี
พิราลัย
พระนางวิสุทธิเทวีพิราลัยเมื่อ พ.ศ. 2121 โดยใน ตำนานเมืองลำพูน กล่าวถึงมหาเทวีที่กิน 14 ปีก็พิราลัย ดังความว่า "...ในปีร้วงไค้ ได้อาราทนาราชภิเสก ๒ หน มหาเทวีรักษาเมืองเชียงใหม่ได้ ๑๔ ปี สุรคุตในปีเปิกยี..." พระนางได้รับการถวายเกียรติยศโดยสร้างปราสาทเป็นที่ตั้งพระศพตั้งบนหลังนกหัสดีลิงค์ และใช้ช้างลากปราสาทศพ โดยเจาะกำแพงเมืองออกไปฌาปนกิจที่วัดโลกโมฬี ถือกันว่าการทำศพครั้งนี้เป็นแบบอย่างการปลงศพเจ้านายเมืองเหนือสืบมา ดังปรากฏความใน พงศาวดารโยนก ความว่า
"นางวิสุทธิราชเทวีผู้ครองนครพิงค์เชียงใหม่ถึงพิราลัย พระยาแสนหลวงแต่งการศพทำเป็นพิมานบุษบก ตั้งบนหลังนกหัสดินทร์ขนาดใหญ่รองด้วยเลื่อนแม่สะดึง เชิญหีบพระศพขึ้นไว้ในบุษบกนั้น แล้วฉุดชักไปด้วยแรงคชสาร เจาะพังกำแพงเมืองไปถึงทุ่งวัดโลก ก็กระทำฌาปนกิจถวายพระเพลิง ณ ที่นั่น เผาพร้อมทั้งรูปสัตว์และวิมานที่ทรงศพนั้นด้วย จึงเป็นธรรมเนียมลาวในการปลงศพเจ้าผู้ครองนครทำเช่นนี้สืบกันมา"
และแม้พระนางวิสุทธิเทวีอยู่ภายใต้การปกครองของพม่า แต่พระนางก็ได้รับการปฏิบัติอย่างสมพระเกียรติ ด้วยพระอัจฉริยภาพในการดำเนินนโยบายด้านการปกครองอย่างระมัดระวังและประนีประนอมแต่ก็รักษาพระเกียรติยศไว้อย่างสมบูรณ์จนสิ้นรัชกาล
พระราชกรณียกิจ
การศาสนา
ในตำนานพระธาตุจอมทอง ได้กล่าวถึง ปี พ.ศ. 2099 ช่วงรัชสมัยของพระเจ้าเมกุ ซึ่งกษัตริย์และพระราชมารดาได้อัญเชิญพระบรมธาตุจอมทองเข้าไปพระราชวังที่เชียงใหม่ด้วยความเลื่อมใสจึงถวายข้าวของเงินทอง และกัลปนาคนเป็นข้าวัดพระธาตุจอมทอง ดังปรากฏในความหน้าลานที่ 58-59 ปริวรรตความว่า
“...เมื่อนั้น พระราชบุตต์เจ้าอยู่เกล้าอยู่หัวตนเปนพระองค์ราชมาดามหาเทวี เจ้าทัง 2 พระองค์แม่ลูกทรงราชสัทธาจิ่งนิมนต์พระมหาธาตุเจ้าจอมทองเมือยังหดสรงในราชวัง ยินดีด้วยพระมหาธาตุเจ้าทัง 2 แม่ลูกก็หื้อยังมหาทานอันใหย่ คือว่า ข้าวของ เงินฅำ ข้าฅน ไร่นาที่ดิน ย่านน้ำ เครื่องทาน ขันสรง โกฎแก้วใส่ฅำประดับด้วยแก้วคอวชิระเพก (เพชร) และธารารับน้ำสรงแลสัพพเครื่องแหทังมวลอันพระรัตนราชเจ้าหื้อทานแล้วแต่ก่อน พระเป็นเจ้าทังสองแม่ลูกก็ซ้ำหื้อทานแถมเปนถ้วน 2 จิ่งพระราชอาชญาแก่มหาเสนาผู้ใหย่ทัง 4 คือว่า แสนหลวง สามล้าน จ่าบ้าน เด็กชาย ว่า ตั้งแต่นี้ไปพายหน้า ข้าพระเจ้าจอมทองนี้อย่าได้ใช้สอย...”
แต่อย่างไรก็ตามพระนางวิสุทธิเทวีได้ปฏิบัติตนในฐานะกษัตรีย์ที่ดี ยังสามารถทำบุญสร้างวัด และกัลปนาผู้คนและที่ดินถวายเป็นสมบัติในพระพุทธศาสนาเช่นเดียวกับกษัตริย์องค์ก่อน ดังพบพระนางสร้าง (หรือ วัดหลวงบ้านแปะ) ในเขตจอมทองใน พ.ศ. 2110 และได้ทำตราหลวงหลาบเงินเพื่อไว้คุ้มครองชาวบ้านรากราน, กองกูน, ป่ารวก, อมกูด และบ้านแปะบก ทั้งคนลัวะและคนไทยให้เป็นข้าวัดทำหน้าที่ทางพุทธศาสนา ห้ามนำมาใช้งานใด ๆ เนื่องจากได้พระราชทานวัดแล้ว โดยในสมัยของพระเจ้าตลุนมิน หรือพระเจ้าสุทโธธรรมราชา ได้กวาดต้อนเชลยจากเชียงใหม่ พบว่ามีข้าวัดราชวิสุทธารามติดไปด้วย เมื่อพระองค์ทราบจึงได้สั่งให้ปล่อยตัวคืนกลับมาทุกคน
การต่างประเทศ
ในช่วงรัชสมัยของพระนาง พระนางได้ยอมรับและสนับสนุนพระราชอำนาจของราชสำนักบุเรงนองตลอดรัชกาลซึ่งแตกต่างจากนโยบายของท้าวแมกุ มีหลักฐานปรากฏอย่างชัดเจนว่าพระนางได้จัดทัพล้านนาไปช่วยพม่าทำศึก โดยเฉพาะเมื่อคราวตีกรุงศรีอยุธยา พ.ศ. 2112 ดังปรากฏในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ระบุว่า
“...พลพระเจ้าหงสาวดียกมาครั้งนั้น คือพลพม่ามอญในหงสาวดี อังวะ ตองอู เมืองปรวน และเมืองประแสนิว เมืองกอง เมืองมิต เมืองตะละ เมืองหน่าย เมืองอุมวง เมืองสะพัว บัวแส และเมืองสรอบ เมืองไทยใหญ่ อนึ่งทัพเชียงใหม่นั้น พระเจ้าเชียงใหม่ประชวร จึงแต่งให้พระแสนหลวงพิงชัย เป็นนายกองถือพลลาวเชียงใหม่ทั้งปวงมาด้วยพระเจ้าหงสาวดีเป็นทัพหนึ่ง...”
และในปี พ.ศ. 2117 เชียงใหม่ได้ส่งทัพไปปราบล้านช้างเวียงจันทน์สองทัพ
เป็นไปได้ว่า พระนางวิสุทธิเทวีทรงยึดมั่นในความจงรักภักดีต่อพระเจ้าบุเรงนองที่สอดประสานกับนโยบายของผู้ปกครองพม่าที่มุ่งประคับประคองมิตรภาพของสองอาณาจักรให้ยั่งยืน พม่าจึงไม่แทรกแซงปรับเปลี่ยนจารีตท้องถิ่น แต่ยังศึกษาและปกปักจารีตท้องถิ่น ซึ่งส่งผลทางอ้อมต่อการคงไว้ซึ่งความอยู่รอดของบ้านเมือง อาณาราษฎร และคงอยู่ซึ่งอำนาจของพระนางเอง ถึงแม้ว่าพระราชอำนาจของพระนางจะมีขีดจำกัด แต่ด้วยพระอัจฉริยภาพหยั่งรู้สถานการณ์ แม้ว่าโครงสร้างราชวงศ์จะขาดความมั่นคงแต่ล้านนาก็จะคงอยู่ได้ด้วยพระราชอำนาจและบารมีของพระเจ้าบุเรงนอง ผู้ที่ซึ่งเจ้าแผ่นดินในรัฐจารีตร่วมสมัยมิอาจแข่งขันได้
อย่างไรก็ตามพระราชอำนาจของพระนางนั้น ยังได้รับการยอมรับจากขุนนางพม่าที่มาปกครองเชียงใหม่ ดังพบการได้รับเกียรติจากแม่ทัพพม่าและข้าหลวงชาวอังวะและหงสาวดีที่ประจำการในเชียงใหม่ เมื่อมีการหล่อพระพุทธรูปเมืองรายเจ้า พ.ศ. 2108 พระนางได้รับเกียรติเข้าร่วมทำบุญในฐานะ "สมเด็จพระมหาเทวีเจ้าผู้ทรงเป็นใหญ่ในนพบุรี"
อ้างอิง
- พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) กับพระจักรพรรดิพงศ์ (จาด). พระนคร : คลังวิทยา, 2507, หน้า 96
- Tun Aung Chian. Chiang Mai in Bayinnaung's Polity, pp 70
- สรัสวดี อ๋องสกุล. ประวัติศาสตร์ล้านนา. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ : อมรินทร์, 2552, หน้า 275
- สรัสวดี อ๋องสกุล. ประวัติศาสตร์ล้านนา. กรุงเทพฯ : อมรินทร์, 2539. หน้า 236-237
- สุเนตร ชุตินธรานนท์. ดร. พม่ารบไทย. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพฯ : มติชน, 2554, หน้า 294
- สุเนตร ชุตินธรานนท์. ดร. พม่ารบไทย. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพฯ : มติชน, 2554. หน้า 295
- สรัสวดี อ๋องสกุล ศาสตราจารย์. ประวัติศาสตร์ล้านนา. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ:อมรินทร์, 2552. หน้า 272
- สุเนตร ชุตินธรานนท์. ดร. พม่ารบไทย. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพฯ : มติชน, 2554, หน้า 308
- สุเนตร ชุตินธรานนท์. ดร. พม่ารบไทย. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพฯ : มติชน, 2554, หน้า 295-296
- สุเนตร ชุตินธรานนท์. ดร. พม่ารบไทย. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพฯ : มติชน, 2554. หน้า 290-291
- สุเนตร ชุตินธรานนท์. ดร. พม่ารบไทย. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพฯ:มติชน, 2554. หน้า 291
- สุเนตร ชุตินธรานนท์. ดร. พม่ารบไทย. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพฯ:มติชน, 2554. หน้า 291
- สุเนตร ชุตินธรานนท์. "พระวิสุทธิเทวี กษัตรีย์แห่งล้านนา". ขัตติยานีศรีล้านนา. เชียงใหม่ : วิทอินดีไซน์, 2547, หน้า 64
- สุเนตร ชุตินธรานนท์. ดร. พม่ารบไทย. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพฯ : มติชน, 2554. หน้า 293
- สุเนตร ชุตินธรานนท์. ดร. พม่ารบไทย. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพฯ : มติชน, 2554. หน้า 294
- สุเนตร ชุตินธรานนท์. "พระวิสุทธิเทวี กษัตรีย์แห่งล้านนา". ขัตติยานีศรีล้านนา. เชียงใหม่ : วิทอินดีไซน์, 2547, หน้า 65
- เพ็ญสุภา สุขคตะ (7 ธันวาคม 2560). ""ล้านนาศึกษา" ใน "ไทยศึกษาครั้งที่ 13" (9) เมืองน้อย เมืองเนรเทศกษัตริย์ล้านนา The Romance of Three Kingdoms (จบ)". มติชนสุดสัปดาห์. สืบค้นเมื่อ 11 ธันวาคม 2560.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - ดร.ฮันส์ เพนธ์, ศรีเลา เกษพรหม และอภิรดี เตชะศิริวรรณ. จารึกวัดวิสุทธาราม[]. เรียกดูเมื่อ 6 พฤษภาคม 2556
- "จารึกฐานพระพุทธรูปวัดชัยพระเกียรติ ๑". ฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์มหาชน). สืบค้นเมื่อ 10 มิถุนายน 2560.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help))[] - สุเนตร ชุตินธรานนท์. ดร. พม่ารบไทย. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพฯ : มติชน, 2554. หน้า 293
- สรัสวดี อ๋องสกุล. ประวัติศาสตร์ล้านนา. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ : อมรินทร์, 2552, หน้า 273
- "จารึกวัดพระธาตุศรีจอมทอง ๑". ฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์มหาชน). สืบค้นเมื่อ 8 มิถุนายน 2560.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help))[] - . ฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์มหาชน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-09-17. สืบค้นเมื่อ 8 มิถุนายน 2560.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - สรัสวดี อ๋องสกุล. ประวัติศาสตร์ล้านนา. กรุงเทพฯ : อมรินทร์, 2539. หน้า 270-271
- สุเนตร ชุตินธรานนท์. ดร. พม่ารบไทย. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพฯ : มติชน, 2554. หน้า 299-300
- ประชากิจวรจักร (แช่ม บุนนาค), พระยา. พงศาวดารโยนก. กรุงเทพฯ : คลังวิทยา, 2516, หน้า 401
- กรรณิการ์ วิมลเกษม, ปริวรรต. โคลงมังทรา ฉบับจาร พ.ศ. ๒๓๘๑. นครปฐม : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2533, หน้า 31
- สุเนตร ชุตินธรานนท์. "พระวิสุทธิเทวี กษัตรีย์แห่งล้านนา". ขัตติยานีศรีล้านนา. เชียงใหม่ : วิทอินดีไซน์, 2547, หน้า 64
- สรัสวดี อ๋องสกุล. ประวัติศาสตร์ล้านนา. กรุงเทพฯ : อมรินทร์, 2539, หน้า 272
- เหมันต สีหศักกพงศ์ สุนทร, นาวาตรี. "ปราสาทนกหัสดีลิงค์แห่งแผ่นดินล้านนา". งานพระเมรุ: ศิลปสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมเกี่ยวเนื่อง. กรุงเทพฯ : มติชน, 2560, หน้า 31
- ประชากิจกรจักร (แช่ม บุนนาค), พระยา. พงศาวดารโยนก. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ : คลังวิทยา, 2516, หน้า 402-403
- สุเนตร ชุตินธรานนท์. ดร. พม่ารบไทย. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพฯ : มติชน, 2554. หน้า 305
- สรัสวดี อ๋องสกุล. ประวัติศาสตร์ล้านนา. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ : อมรินทร์, 2552, หน้า 273
- สรัสวดี อ๋องสกุล. ประวัติศาสตร์ล้านนา. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ : อมรินทร์, 2552, หน้า 275
- เหมันต สีหศักกพงศ์ สุนทร, นาวาตรี. "ปราสาทนกหัสดีลิงค์แห่งแผ่นดินล้านนา". งานพระเมรุ: ศิลปสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมเกี่ยวเนื่อง. กรุงเทพฯ : มติชน, 2560, หน้า 59
- สุเนตร ชุตินธรานนท์. ดร. พม่ารบไทย. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพฯ : มติชน, 2554, หน้า 304
- สรัสวดี อ๋องสกุล. ประวัติศาสตร์ล้านนา. กรุงเทพฯ : อมรินทร์, 2539, หน้า 229-230
แหล่งข้อมูลอื่น
- แม่ญิงล้านนา. พระนางวิสุทธิเทวี กษัตริย์พระองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์มังราย[]. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2556
- บทความดี ๆ เพื่อชีวิตเสรี & เวทียุติธรรม. เงื่อนงำจำเลยรัก“บุเรงนอง” “สุพรรณกัลยา”VS“วิสุทธิเทวี” โดย เพ็ญสุภา สุขคตะ ใจอินทร์. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2556
ก่อนหน้า | พระนางวิสุทธิเทวี | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระเมกุฏิสุทธิวงศ์ | สามนตราชล้านนา ในฐานะรัฐบรรณาการของอาณาจักรตองอู (พ.ศ. 2107–2121) | นรธาเมงสอ |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phranangwisuththiethwi hrux smedcecarachwisuthth ph s 2121 epnkhttiyrachnariphraxngkhhnungthisakhyphraxngkhhnungkhxngxanackrlanna aelaepnphrakstriyxngkhsudthayaehngrachwngsmngray kxnthikarpkkhrxngxanackrlannacatkipsukarpkkhrxngkhxngrachwngstxngxuwisuththiethwisamntrachechiyngihmkhrxngrachyph s 2107 2121 praethsrachkhxnghngsawdi kxnhnaemkutisuththiwngsthdipnrthaemngsxprasutiimpraktphiralyph s 2121phrarachbutremkutisuththiwngswdpracarchkalrachwngsmngray phranangwisuththiethwiidihkaryxmrbxanackhxngphma epnthiruckinnamphramhaethwi phma မဟ ဒ ဝ phusnxngnoybaykarkhyayxanaccaklannaipsukrungsrixyuthyaaelalanchangodyichlannaepnthimn thrngsngkxngthphekharwmrbkbechiyngihminkhrawesiykrungsrixyuthya ph s 2112 aela ph s 2117 echiyngihmsngkxngthphipprablanchangewiyngcnthnsxngkxngthph sungaesdngihehnthungxanacthimimakkhxngphraecabuerngnxng rwmipthungphraraochbayephuxprakhbprakhxngbanemuxngihxyurxdtlxdrchsmykhxngphranang dwythithrngphrarachthanathiphranangepnecanayxawuostaaehnngphramhaethwi hruxkstriyaehnglannathiihkhwamrwmmuxaekphma phranangcungidrbkaryxmrbcakkhunnangphmathimapkkhrxngemuxngechiyngihm dngkarphbkaridrbekiyrticakaemthphphma khahlwngchawxngwa aelahngsawdithimapracakarinechiyngihm emuxmikarhlxphraphuththrupemuxngrayeca ph s 2108 phranangidrbekiyrtiekharwmthabuyinthana smedcphramhaethwiecaphuthrngepnihyinnphburikhxsnnisthankrniphratnkha aetedimsastracary ekhysnnisthanwaphranangwisuththiethwiedimmiphranamwa phratnkha phuepnphrarachthidainphraemuxngekseklathiphraecabuerngnxngnaipepnxngkhpraknaelaeriynruwthnthrrmphma aelaphayhlngidtkepnmehsikhxngphraecabuerngnxngodypriyay khrnemux rs dr suentr chutinthrannthidsxbthaeniybphramehsikhxngphraecabuerngnxngxyanglaexiydkmiphbnam phratnkha wisuththiethwi hruxrachthidaphraecaechiyngihmelyaetxyangid aetphbnamkhxngstriechiyngihmtaaehnngbathbricarikananghnung khwamwa nangphuepnchawechiyngihm Zinme namwaekhngeka Khin Kank sungihkaenidphrathidakbphraecabuerngnxngnanghnungnamwarachmitr phayhlngsastracarysrswdi xxngskul idepliynkhwamkhidihm aelaehnwanrthaemngsxmiichechuxphrawngsmngrayxyangthiekhaic swnphranangekhngekacaepnkhnediywkbphratnkhahruxphrawisuththiethwi hruxphrawisuththiethwicaepnkhnediywkbphratnkhahruxim yngkhngepnprisnathitxngkhnkhwatxip krniepnphrarachchnnikhxngnrthaemngsx aelaechuxknmaaetedimwa nangxacepnphrarachchnniinnrthaemngsx phrarachoxrskhxngphraecabuerngnxngsungkhrxngrachysubtxcakphranang khxsnnisthanekidcakkartikhwamokhlngbthhnungkhxng okhrngeruxngmngthrarbechiyngihm thimienuxkhwamrabuwa idaelwphieskthaw ethwiepnaemmngthrasri erngeruxngemuxngmwlswysinmi tamaet edimexbthxdthxnbnebuxng wxngiwwangmwl nkphasasastrthng dr praesrith n nkhr aelasingkha wrrnsy thxdkhwamdngklawidwa aelwxphieskmhaethwi mhaethwiwisuththi phuepnaemmngthra nrthaemngsx ecaemuxngsawtthi tamkhwamekhaickhxngphuaepl khuneswyrachyehmuxnedim ihrwbrwmsinsngswyehmuxnaetkxn imthrngthxdthxnxxk aetmxbxanacihpkkhrxngemuxngthngsin rs dr suentr chutinthrannth ihkhwamehnwa mngthra macakkhawa emngtaya xnmikhwamhmaytrngtwinphasaphmawa thrrmracha epnsmyyanamthiichrabuhruxnahnakstriyphmathwip aelainokhlngbththi 12 niidichkhawa mngthra aethnphraecaaephndin dngnnkhawa aemmngthrasri kcahmaythungaemkhxngphraecaaephndin aelamiidhmaykhwamwacatxngepnaemkhxngphraecaaephndinxngkhthdip sungkxaccaepnmardakhxngxditkstriy khux phraemkutisuththiwngskepnipid rwmthngokhlngbththi 15 khxngeruxngediywknnnthiklawthungphumihlngkhxngnrthaemngsx kimmikhxkhwamtxnidrabuwaepnphraoxrskhxngphranangaetxyangid echnediywkbtananphunemuxngechiyngihm phngsawdarechiyngihmchbbphma Zinme Yazawin hruxaemaetphngsawdaroynkkmiidrabuechnkn krniepnphrarachchnnikhxngphraemkuti cakkarsuksakhxng rs dr suentr chutinthrannth odyichhlkthankhxngphmakhuxphngsawdarmhayasawineta Mahayazawinthet klbphbwa phramardakhxngnrthaemngsx chux rachethwi mehsixndb 3 khxngbuerngnxng phranangepnthidakhxngstukamniaehngdimeyng minamedimwa echngthewla phranangsinphrachnmin ph s 2106 kxnthiphraecabuerngnxngcasthapnaphranangwisuththiethwikhrxngemuxngechiyngihminpi ph s 2107 channphranangwisuththiethwi cungmiichphramardakhxngnrthaemngsx aetmhaethwiwisuththixacepnmardakhxngphraemkutisuththiwngs ody rs dr suentr chutinthrannth idihehtuphlwa emuxphraecabuerngnxngidnatwphraemkutisuththiwngsiphngsawdi aelasthapnamhaethwiwisuththisungchraphaphaelwkhrxnglanna ephuxthimhaethwicaidimkhidaekhngemuxngtxphma dwyehtuphlniphraemkutisuththiwngsxacmithanaepnphraoxrskhxngmhaethwiwisuththikepnid swnephysupha sukhkhtaehntrngkb rs dr suentr chutinthrannthwaphranangwisuththiethwiepnphrarachchnnikhxngphraemkuti aetidephimetimdwywaphranangwisuththiethwikhngepnphrachayakhxngphraemuxngaekwphraprawtitrakhrngpracaphraxngkh danhna epnrupdxkbwinkrxbwngklmtrakhrngpracaphraxngkh danhlng carukphranam smedcecarachwisuthth dwyxksrfkkham phrachnmchiphchwngtn phranangwisuththiethwiepnecanaydngedimmacakthiihn hruxthrngsubechuxsaymacakphuidimepnthithrab sungin carukwdchyphraekiyrti thiklawthungkarsrangphraphuththrupemuxngrayecaodykhunnangphmakhxngphraecabuerngnxng rabuphranamkhxngphranangwisuththiethwiwa smedcphramhaethwiecatnepnehngainnphburi sungkhawa ehnga ni hns ephnthsnnisthaniwemuxpi ph s 2519 wathicarukichkhawaehngani xacepnephraamhaethwiphraxngkhnithrngmiechuxsayphyamngray kxprkbchuxphraphuththrupemuxngrayecakepnchuxtngephuxthwayphraekiyrtiphyamngrayaelaphramhaethwiwisuththiphumiechuxsaykhxngphyamngray swnephysupha sukhkhtaxthibaywaphranangwisuththiethwiepnecahyingmacakemuxngnay sungthuksngmaepnphrachayakstriylannatamphrarachthrrmeniym xyangirktamphrarachprawtixnmudmnsungpraktbthbathkhxngphraxngkhephiyngchwngkhrxngrachyethann thaihimthrabaelaimmikhxmulthiaennxnekiywkbphraprawtitxntnkhxngphraxngkh cungklayepnprisnathitxngkhnkhwatxip eruxngrawkhxngphraxngkhmapraktchdecnemuxkhrngmiphraxisriyysepnphramhaethwi khuxepn phrarachchnnikhxngphramhakstriy thngnitaaehnngphramhaethwiepntaaehnngthimibthbaththangkaremuxngsung dngcaehncaidcakphrarachprawtikhxngmhaethwicirprapha aelamhaethwisiriyswdi aelaepnthiaennxnwaphraxngkhtxngepnphrarachmardakhxngkstriyphraxngkhidphraxngkhhnung sung rs dr suentr chutinthrannthsnnisthanwaphraxngkhepnphrarachchnniinphraemkutisuththiwngs odyprakthlkthanwaphraxngkhrwmprakxbphrarachkrniykicrwmkbphrarachoxrsbxykhrng eswyrachy phraemkutisuththiwngsaelaphrayakramlecaphukhrxngemuxngechiyngaesnrwmknkhidkbttxkrunghngsawdi ephraaimyxmsngthphchwyphmarbkbxanackrxyuthyaemuxkhrawsngkhramchangephuxkinpi ph s 2016 odymiecaemuxngechiyngray ecaemuxngnan aelaecaemuxnglapangrwmkxkbtdwyodymismedcphraichyechsthathirach phramhakstriylanchangthrngsnbsnun hlngphmaesrcsukthixanackrxyuthyakykthphkhunmaprablannaxikkhrng brrdaecaemuxngtang thiekhylukkhunmatxtanklbphaknhlbliiplanchangesiyhmdykewnphraemkutithiyxmswamiphkdiaetodydiaelacdbrrnakarmathway thwakhwamphidthiphraemkutifafunkarptibtikhasngthuxepnothsrayaerng epnehtuihphraecabuerngnxngthxdphraemkutisuththiwngsxxkcakphrarachbllngklannaaelaphatwiphngsawdiepnkarlngthnth aelwphrarachthantahnkkhawihprathb dngpraktin phrarachphngsawdarphmachbbhxaekw thiklawthungpi ph s 2110 khwamwa khaxthibayinwngelbepnkhxng rs dr suentr chutinthrannth idthrngphrakrunaoprdeklaphrarachthantahnkihkbnarapatiecaemuxngaephr 1 xawanarapaticisu 1 narapatisitu phrasngkhecaemuxngechiyngihm 1 thithuktxngkhuxphratan macakkhawaecakhnanaemku phrasathirachphraecakrungsrixyuthya phraethiyrracha aelwphrarachthanekhruxngxupophkhbriophkhepnxnmak hlngcaknnphraecabuerngnxngcungtngphranangwisuththiethwi khttiynariphumiechuxsayrachwngsmngraykhrxnglannasubtxip sung dr suentr chutinthrannthidsnnisthanwaphranangwisuththiethwinikhuxphrarachchnnikhxngphraemkuti odyihehtuphlwaepnhlkpraknephuxmiihecaaephndinlannaphraxngkhihmkhidaekhngemuxngtxphma ephraafayphmaidykiphrphlaelakhunnangramyipxyuinemuxngechiyngihmesiydwy dngpraktin phngsawdaroynk khwamwa aelwtngrachethwixnepnechuxsayechiyngihmaetkxnthrngnamphrawisuththiethwikhunepnrachinikhrxngemuxngnkhrechiyngihmsubip ihkhunnangramyxyuepnkhahlwngkakbemuxng emuxphranangwisuththiethwiidkhuneswyrachsmbtikemuxphraxngkhchraphaphaelw hlngphraxngkhkhrxngrachyidephiyng 14 pikphiraly odymihlkthancakokhlngmngthrarbechiyngihmthiidrabuiwinokhlngbththi 13 thiidklawthungphranangwisuththiethwithiyunynekiywkbkarkhrxngrachyemuxchraphaph aelathabuyepnpraca khwamwa mhaxkhkhrachthaw ethwiyamhngxkkinburi thxmethathathanchueduxnpi silesph nirndrexehnehtuphyphraeca rachruxnicca aemcaxyuphayitkarpkkhrxngkhxngphma aetphraxngkhyngmibthbaththangkaremuxngkhxnkhangsungodymihlkthancakaehlngtang mayunyncakphranamthiprakt dngni smedcphramhaethwieca phuthrngepnihy carukthithanphraphuththrupwdchyphraekiyrti mhaxkhrrachthawnari okhlngmngthrarbechiyngihm phranangmhaethwi phngsawdarechiyngihmchbbphasaphma smedcphramharachethwibrmphitrphraepnecaxyuhw trahlwngkuhlabengin ph s 2110 aela mhaethwi tananemuxnglaphun phranangwisuththiethwimiphrasthaphaphepnmhaethwiphuthrngxanacsung thrngphankarrachaphiesksxngkhrng phraxngkhmiphraraochbayephuxprakhbprakhxngbanemuxngihxyurxdtlxdrchsmykhxngphranangthiihkhwamrwmmuxkbphma phranangcungidrbkaryxmrbcakkstriyphma rwmthngkhunnangphmathirngemuxngechiyngihm dngkarphbemuxkhrawmikarhlxphraphuththrupemuxngrayeca ph s 2108 phraxngkhidrbekiyrticakaemthphphma khahlwngchawxngwaaelahngsawdithimapracakarinechiyngihm phranangidrbekiyrtiekharwmthabuyinthana smedcphramhaethwiecaphuthrngepnihyinnphburi phiraly phranangwisuththiethwiphiralyemux ph s 2121 odyin tananemuxnglaphun klawthungmhaethwithikin 14 pikphiraly dngkhwamwa inpirwngikh idxarathnarachphiesk 2 hn mhaethwirksaemuxngechiyngihmid 14 pi surkhutinpiepikyi phranangidrbkarthwayekiyrtiysodysrangprasathepnthitngphrasphtngbnhlngnkhsdilingkh aelaichchanglakprasathsph odyecaakaaephngemuxngxxkipchapnkicthiwdolkomli thuxknwakarthasphkhrngniepnaebbxyangkarplngsphecanayemuxngehnuxsubma dngpraktkhwamin phngsawdaroynk khwamwa nangwisuththirachethwiphukhrxngnkhrphingkhechiyngihmthungphiraly phrayaaesnhlwngaetngkarsphthaepnphimanbusbk tngbnhlngnkhsdinthrkhnadihyrxngdwyeluxnaemsadung echiyhibphrasphkhuniwinbusbknn aelwchudchkipdwyaerngkhchsar ecaaphngkaaephngemuxngipthungthungwdolk kkrathachapnkicthwayphraephling n thinn ephaphrxmthngrupstwaelawimanthithrngsphnndwy cungepnthrrmeniymlawinkarplngsphecaphukhrxngnkhrthaechnnisubknma aelaaemphranangwisuththiethwixyuphayitkarpkkhrxngkhxngphma aetphranangkidrbkarptibtixyangsmphraekiyrti dwyphraxcchriyphaphinkardaeninnoybaydankarpkkhrxngxyangramdrawngaelapranipranxmaetkrksaphraekiyrtiysiwxyangsmburncnsinrchkalphrarachkrniykickarsasna intananphrathatucxmthxng idklawthung pi ph s 2099 chwngrchsmykhxngphraecaemku sungkstriyaelaphrarachmardaidxyechiyphrabrmthatucxmthxngekhaipphrarachwngthiechiyngihmdwykhwameluxmiscungthwaykhawkhxngenginthxng aelaklpnakhnepnkhawdphrathatucxmthxng dngpraktinkhwamhnalanthi 58 59 priwrrtkhwamwa emuxnn phrarachbuttecaxyueklaxyuhwtnepnphraxngkhrachmadamhaethwi ecathng 2 phraxngkhaemlukthrngrachsththacingnimntphramhathatuecacxmthxngemuxynghdsrnginrachwng yindidwyphramhathatuecathng 2 aemlukkhuxyngmhathanxnihy khuxwa khawkhxng enginKha khaKhn irnathidin yanna ekhruxngthan khnsrng okdaekwisKhapradbdwyaekwkhxwchiraephk ephchr aelathararbnasrngaelsphphekhruxngaehthngmwlxnphrartnrachecahuxthanaelwaetkxn phraepnecathngsxngaemlukksahuxthanaethmepnthwn 2 cingphrarachxachyaaekmhaesnaphuihythng 4 khuxwa aesnhlwng samlan caban edkchay wa tngaetniipphayhna khaphraecacxmthxngnixyaidichsxy aetxyangirktamphranangwisuththiethwiidptibtitninthanakstriythidi yngsamarththabuysrangwd aelaklpnaphukhnaelathidinthwayepnsmbtiinphraphuththsasnaechnediywkbkstriyxngkhkxn dngphbphranangsrang hrux wdhlwngbanaepa inekhtcxmthxngin ph s 2110 aelaidthatrahlwnghlabenginephuxiwkhumkhrxngchawbanrakran kxngkun parwk xmkud aelabanaepabk thngkhnlwaaelakhnithyihepnkhawdthahnathithangphuththsasna hamnamaichnganid enuxngcakidphrarachthanwdaelw odyinsmykhxngphraecatlunmin hruxphraecasuthoththrrmracha idkwadtxnechlycakechiyngihm phbwamikhawdrachwisuththaramtidipdwy emuxphraxngkhthrabcungidsngihplxytwkhunklbmathukkhn kartangpraeths inchwngrchsmykhxngphranang phranangidyxmrbaelasnbsnunphrarachxanackhxngrachsankbuerngnxngtlxdrchkalsungaetktangcaknoybaykhxngthawaemku mihlkthanpraktxyangchdecnwaphranangidcdthphlannaipchwyphmathasuk odyechphaaemuxkhrawtikrungsrixyuthya ph s 2112 dngpraktinphrarachphngsawdarkrungsrixyuthya rabuwa phlphraecahngsawdiykmakhrngnn khuxphlphmamxyinhngsawdi xngwa txngxu emuxngprwn aelaemuxngpraaesniw emuxngkxng emuxngmit emuxngtala emuxnghnay emuxngxumwng emuxngsaphw bwaes aelaemuxngsrxb emuxngithyihy xnungthphechiyngihmnn phraecaechiyngihmprachwr cungaetngihphraaesnhlwngphingchy epnnaykxngthuxphllawechiyngihmthngpwngmadwyphraecahngsawdiepnthphhnung aelainpi ph s 2117 echiyngihmidsngthphipprablanchangewiyngcnthnsxngthph epnipidwa phranangwisuththiethwithrngyudmninkhwamcngrkphkditxphraecabuerngnxngthisxdprasankbnoybaykhxngphupkkhrxngphmathimungprakhbprakhxngmitrphaphkhxngsxngxanackrihyngyun phmacungimaethrkaesngprbepliyncaritthxngthin aetyngsuksaaelapkpkcaritthxngthin sungsngphlthangxxmtxkarkhngiwsungkhwamxyurxdkhxngbanemuxng xanarasdr aelakhngxyusungxanackhxngphranangexng thungaemwaphrarachxanackhxngphranangcamikhidcakd aetdwyphraxcchriyphaphhyngrusthankarn aemwaokhrngsrangrachwngscakhadkhwammnkhngaetlannakcakhngxyuiddwyphrarachxanacaelabarmikhxngphraecabuerngnxng phuthisungecaaephndininrthcaritrwmsmymixacaekhngkhnid xyangirktamphrarachxanackhxngphranangnn yngidrbkaryxmrbcakkhunnangphmathimapkkhrxngechiyngihm dngphbkaridrbekiyrticakaemthphphmaaelakhahlwngchawxngwaaelahngsawdithipracakarinechiyngihm emuxmikarhlxphraphuththrupemuxngrayeca ph s 2108 phranangidrbekiyrtiekharwmthabuyinthana smedcphramhaethwiecaphuthrngepnihyinnphburi xangxingphrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbphncnthnumas ecim kbphrackrphrrdiphngs cad phrankhr khlngwithya 2507 hna 96 Tun Aung Chian Chiang Mai in Bayinnaung s Polity pp 70 srswdi xxngskul prawtisastrlanna phimphkhrngthi 6 krungethph xmrinthr 2552 hna 275 srswdi xxngskul prawtisastrlanna krungethph xmrinthr 2539 hna 236 237 suentr chutinthrannth dr phmarbithy phimphkhrngthi 10 krungethph mtichn 2554 hna 294 suentr chutinthrannth dr phmarbithy phimphkhrngthi 10 krungethph mtichn 2554 hna 295 srswdi xxngskul sastracary prawtisastrlanna phimphkhrngthi 6 krungethph xmrinthr 2552 hna 272 suentr chutinthrannth dr phmarbithy phimphkhrngthi 10 krungethph mtichn 2554 hna 308 suentr chutinthrannth dr phmarbithy phimphkhrngthi 10 krungethph mtichn 2554 hna 295 296 suentr chutinthrannth dr phmarbithy phimphkhrngthi 10 krungethph mtichn 2554 hna 290 291 suentr chutinthrannth dr phmarbithy phimphkhrngthi 10 krungethph mtichn 2554 hna 291 suentr chutinthrannth dr phmarbithy phimphkhrngthi 10 krungethph mtichn 2554 hna 291 suentr chutinthrannth phrawisuththiethwi kstriyaehnglanna khttiyanisrilanna echiyngihm withxindiisn 2547 hna 64 suentr chutinthrannth dr phmarbithy phimphkhrngthi 10 krungethph mtichn 2554 hna 293 suentr chutinthrannth dr phmarbithy phimphkhrngthi 10 krungethph mtichn 2554 hna 294 suentr chutinthrannth phrawisuththiethwi kstriyaehnglanna khttiyanisrilanna echiyngihm withxindiisn 2547 hna 65 ephysupha sukhkhta 7 thnwakhm 2560 lannasuksa in ithysuksakhrngthi 13 9 emuxngnxy emuxngenrethskstriylanna The Romance of Three Kingdoms cb mtichnsudspdah subkhnemux 11 thnwakhm 2560 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help dr hns ephnth sriela eksphrhm aelaxphirdi etchasiriwrrn carukwdwisuththaram lingkesiy eriykduemux 6 phvsphakhm 2556 carukthanphraphuththrupwdchyphraekiyrti 1 thankhxmulcarukinpraethsithy sunymanusywithyasirinthr xngkhmhachn subkhnemux 10 mithunayn 2560 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help lingkesiy suentr chutinthrannth dr phmarbithy phimphkhrngthi 10 krungethph mtichn 2554 hna 293 srswdi xxngskul prawtisastrlanna phimphkhrngthi 6 krungethph xmrinthr 2552 hna 273 carukwdphrathatusricxmthxng 1 thankhxmulcarukinpraethsithy sunymanusywithyasirinthr xngkhmhachn subkhnemux 8 mithunayn 2560 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help lingkesiy thankhxmulcarukinpraethsithy sunymanusywithyasirinthr xngkhmhachn khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2018 09 17 subkhnemux 8 mithunayn 2560 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help srswdi xxngskul prawtisastrlanna krungethph xmrinthr 2539 hna 270 271 suentr chutinthrannth dr phmarbithy phimphkhrngthi 10 krungethph mtichn 2554 hna 299 300 prachakicwrckr aechm bunnakh phraya phngsawdaroynk krungethph khlngwithya 2516 hna 401 krrnikar wimleksm priwrrt okhlngmngthra chbbcar ph s 2381 nkhrpthm orngphimphmhawithyalysilpakr 2533 hna 31 suentr chutinthrannth phrawisuththiethwi kstriyaehnglanna khttiyanisrilanna echiyngihm withxindiisn 2547 hna 64 srswdi xxngskul prawtisastrlanna krungethph xmrinthr 2539 hna 272 ehmnt sihskkphngs sunthr nawatri prasathnkhsdilingkhaehngaephndinlanna nganphraemru silpsthaptykrrm prawtisastr aelawthnthrrmekiywenuxng krungethph mtichn 2560 hna 31 prachakickrckr aechm bunnakh phraya phngsawdaroynk phimphkhrngthi 7 krungethph khlngwithya 2516 hna 402 403 suentr chutinthrannth dr phmarbithy phimphkhrngthi 10 krungethph mtichn 2554 hna 305 srswdi xxngskul prawtisastrlanna phimphkhrngthi 6 krungethph xmrinthr 2552 hna 273 srswdi xxngskul prawtisastrlanna phimphkhrngthi 6 krungethph xmrinthr 2552 hna 275 ehmnt sihskkphngs sunthr nawatri prasathnkhsdilingkhaehngaephndinlanna nganphraemru silpsthaptykrrm prawtisastr aelawthnthrrmekiywenuxng krungethph mtichn 2560 hna 59 suentr chutinthrannth dr phmarbithy phimphkhrngthi 10 krungethph mtichn 2554 hna 304 srswdi xxngskul prawtisastrlanna krungethph xmrinthr 2539 hna 229 230aehlngkhxmulxunaemyinglanna phranangwisuththiethwi kstriyphraxngkhsudthayaehngrachwngsmngray lingkesiy subkhnemuxwnthi 12 mkrakhm 2556 bthkhwamdi ephuxchiwitesri amp ewthiyutithrrm enguxnngacaelyrk buerngnxng suphrrnklya VS wisuththiethwi ody ephysupha sukhkhta icxinthr subkhnemuxwnthi 12 mkrakhm 2556kxnhna phranangwisuththiethwi thdipphraemkutisuththiwngs samntrachlanna inthanarthbrrnakarkhxngxanackrtxngxu ph s 2107 2121 nrthaemngsx