สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก (เดนมาร์ก: Margrethe Alexandrine Þórhildur Ingrid; มาร์เกรเธอ อเล็กซานดรีน ธอร์ฮิลดูร์ อิงกริด; พระราชสมภพ: 16 เมษายน ค.ศ. 1940) เป็นอดีตสมเด็จพระราชินีนาถแห่งเดนมาร์กและกรีนแลนด์ ในฐานะที่เป็นพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 9 แห่งเดนมาร์กกับสมเด็จพระราชินีอิงกริดแห่งเดนมาร์ก พระองค์สืบราชบัลลังก์เดนมาร์กหลังจากการเสด็จสวรรคตของพระราชบิดาในวันที่ 14 มกราคม ค.ศ. 1972 จากการสืบราชบัลลังก์ทำให้พระนางทรงเป็นสมเด็จพระราชินีนาถแห่งเดนมาร์กพระองค์แรกนับตั้งแต่รัชสมัยของสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 1 แห่งเดนมาร์ก พระประมุขแห่งสแกนดิเนเวียในช่วงปี ค.ศ. 1375 ถึง ค.ศ. 1412 ในยุคสหภาพคาลมาร์ โดยพระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย
สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 | |||||
---|---|---|---|---|---|
พระบรมฉายาลักษณ์ ฉายเมื่อ ค.ศ. 2012 | |||||
สมเด็จพระราชินีนาถแห่งเดนมาร์ก กรีนแลนด์ และหมู่เกาะแฟโร | |||||
ครองราชย์ | 14 มกราคม ค.ศ. 1972 – 14 มกราคม ค.ศ. 2024 | ||||
ก่อนหน้า | สมเด็จพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 9 | ||||
ถัดไป | สมเด็จพระราชาธิบดีเฟรเดอริกที่ 10 | ||||
นายกรัฐมนตรี | |||||
พระราชสมภพ | โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก | 16 เมษายน ค.ศ. 1940||||
พระราชสวามี | เจ้าชายเฮนริกแห่งเดนมาร์ก (ค.ศ. 1967–2018) | ||||
พระราชบุตร รายละเอียด | |||||
| |||||
ราชวงศ์ | กลึคส์บวร์ค | ||||
พระราชบิดา | สมเด็จพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 9 | ||||
พระราชมารดา | อิงกริดแห่งสวีเดน | ||||
ศาสนา | คริสตจักรแห่งเดนมาร์ก | ||||
ลายพระอภิไธย |
สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอเสด็จพระราชสมภพในปี ค.ศ. 1940 แต่พระนางไม่ทรงเป็นทายาทโดยสันนิษฐานจนกระทั่ง ค.ศ. 1953 เมื่อได้อนุญาตให้สตรีมีสิทธิสืบทอดราชบัลลังก์ได้ (หลังจากมีความชัดเจนแล้วว่าพระเจ้าเฟรเดอริกไม่ทรงมีรัชทายาทที่เป็นบุรุษ) ในปี ค.ศ. 1967 ทรงอภิเษกสมรสกับอ็องรี เดอ ลาบอร์ด เดอ มงเปอซาและมีพระราชโอรสสองพระองค์คือ เจ้าชายเฟรเดอริก มกุฎราชกุมารแห่งเดนมาร์กและเจ้าชายโจอาคิมแห่งเดนมาร์ก
สมเด็จพระราชินีนาถทรงโปรดงานด้านโบราณคดี และทรงร่วมในหลายโอกาส ทั้งในอิตาลี อียิปต์ เดนมาร์ก และอเมริกาใต้ พระองค์ทรงมีความสนพระทัยเฉกเช่นเดียวกับพระอัยกาฝ่ายพระราชชนนี คือ สมเด็จพระเจ้ากุสตาฟที่ 6 อดอล์ฟแห่งสวีเดน ที่ทรงใช้เวลาส่วนหนึ่งไปกับการขุดค้นโบราณวัตถุ ใกล้ภูมิภาค ในค.ศ. 1962
ใน ค.ศ. 2022 สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 ทรงดำรงพระองค์ในฐานะประมุขแห่งรัฐ ที่ทรงรับพระราชอาคันตุกะที่เสด็จเยือนเดนมาร์กอย่างเป็นทางการ 42 ครั้ง และพระนางเองได้เสด็จเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการใน 55 ประเทศ พระนางและก็ได้เสด็จเยือนต่างประเทศหลายครั้ง แรงสนับสนุนและยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ร้อยละ 82 เช่นเดียวกับความนิยมในตัวสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 เอง
ในวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 2023 พระนางทรงประกาศระหว่างการพระราชทานพระราชดำรัสวันขึ้นปีใหม่ว่าพระองค์มีพระราชประสงค์ที่จะสละราชสมบัติให้แก่มกุฎราชกุมารเฟรเดอริก พระราชโอรส ในวันที่ 14 มกราคม ค.ศ. 2024 อันตรงกับวันขึ้นครองราชย์ของพระองค์เองเมื่อ 52 ปีก่อน ทั้งนี้ หลังการสละราชสมบัติพระองค์จะยังดำรงพระอิสริยยศสมเด็จพระราชินีนาถ และจะทรงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เมื่อสมเด็จพระราชาธิบดีเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศ
ชีวิตในวัยเยาว์
เจ้าหญิงมาร์เกรเธอประสูติเมื่อวันที่ 16 เมษายน ค.ศ. 1940 ณ กรุงโคเปนเฮเกน เป็นพระราชธิดาพระองค์โตในเจ้าชายเฟรเดอริกและเจ้าหญิงอิงกริด มกุฎราชกุมารและมกุฎราชกุมารีแห่งเดนมาร์ก พระราชบิดาของพระนางเป็นพระราชโอรสในพระเจ้าคริสเตียนที่ 10 แห่งเดนมาร์กกับ และพระราชมารดาของพระนางเป็นพระราชธิดาพระองค์เดียวในมกุฎราชกุมารกุสตาฟ อดอล์ฟแห่งสวีเดนกับมกุฎราชกุมารีมาร์กาเร็ต เจ้าหญิงประสูติเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากกองทัพนาซีเยอรมนีได้ทำการยึดครองเดนมาร์กในวันที่ 9 เมษายน ค.ศ. 1940
พระองค์ทรงเข้ารับบัพติศมาเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 1940 ณ กรุงโคเปนเฮเกน เจ้าหญิงมาร์เกรเธอมีพระราชบิดาและพระราชมารดาทูนหัว คือ พระเจ้าคริสเตียนที่ 10 แห่งเดนมาร์ก, เจ้าชายคนุด รัชทายาทแห่งเดนมาร์ก, เจ้าชายแอกเซิลแห่งเดนมาร์ก, พระเจ้ากุสตาฟที่ 5 แห่งสวีเดน, มกุฎราชกุมารกุสตาฟ อดอล์ฟแห่งสวีเดน, แเจ้าชายกุสตาฟ อดอล์ฟ ดยุกแห่งเวสเตร์บอตเติน และ เจ้าชายอาร์เธอร์ ดยุกแห่งคอนน็อตและสตราเธิร์น
เจ้าหญิงทรงได้รับพระนามว่า "มาร์เกรเธอ" ตามพระนามของพระอัยยิกาฝ่ายพระมารดา พระนามว่า "อเล็กซานดรีน" ตามพระนามของพระอัยยิกาฝ่ายพระบิดา และพระนามว่า "อิงกริด" ตามพระนามของพระมารดา ตั้งแต่พระเจ้าคริสเตียนที่ 10 แห่งเดนมาร์ก พระอัยกาทรงดำรงพระราชอิสริยยศเป็น ทำให้เจ้าหญิงทรงดำรงพระอิศริยยศเป็นเจ้าหญิงแห่งไอซ์แลนด์จนกระทั่งปี ค.ศ. 1944 เจ้าหญิงจึงมีพระนามเป็นภาษาไอซ์แลนด์ตามโบราณราชประเพณี คือ ธอร์ฮิลดูร์ (Þórhildur)(สะกดตามลักษณะตัวอักษร "thorn" ในภาษาไอซ์แลนด์ ที่เที่ยบเท่ากับ "th")
เมื่อเจ้าหญิงมาร์เกรเธอมีพระชนมายุ 4 ชันษาในปี ค.ศ. 1944 พระขนิษฐาพระองค์แรกประสูติคือ เจ้าหญิงเบเนดิกเทอแห่งเดนมาร์ก ซึ่งต่อมาเจ้าหญิงเบเนดิกเทอทรงอภิเษกสมรสกับและบางครั้งทรงพำนักที่เยอรมนี พระขนิษฐาองค์สุดท้องคือ เจ้าหญิงแอนน์-มารีแห่งเดนมาร์ก ประสูติในปี ค.ศ. 1946 ต่อมาได้อภิเษกสมรสกับสมเด็จพระราชาธิบดีคอนสแตนตินที่ 2 แห่งกรีซ และปัจจุบันทรงพำนักอยู่ที่ลอนดอน
ในวันที่ 20 เมษายน ค.ศ. 1947 พระเจ้าคริสเตียนที่ 10 เสด็จสวรรคตและพระราชบิดาของเจ้าหญิงมาร์เกรเธอได้ครองราชบัลลังก์สืบต่อในพระนาม "พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 9 แห่งเดนมาร์ก"
รัชทายาทโดยสันนิษฐาน
เมื่อครั้งประสูติ พระราชวงศ์ฝ่ายหน้าสามารถสืบราชบัลลังก์เดนมาร์กได้เท่านั้น เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของพระราชบัญญัติการสืบราชสันตติวงศ์ที่มีการประกาศใช้ในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1850 เมื่อสายราชสกุลกลึคส์บวร์คได้รับเลือกให้สืบราชสันตติวงศ์ต่อจากราชวงศ์อ็อลเดนบวร์ค ในฐานะที่เจ้าหญิงมาร์เกรเธอไม่มีพระเชษฐาหรือพระอนุชา ได้มีการสันนิษฐานว่าพระปิตุลาของเจ้าหญิงคือ เจ้าชายคนุด รัชทายาทแห่งเดนมาร์ก จะได้สืบราชบัลลังก์เดนมาร์กในวันใดวันหนึ่ง
กระบวนการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญได้เริ่มต้นในปี ค.ศ. 1947 ไม่นานหลังจากพระราชบิดาทรงครองราชบัลลังก์และกลายเป็นที่เข้าใจว่าสมเด็จพระราชินีอิงกริดไม่มีพระประสูติกาลพระบุตรมากไปกว่านี้อีกแล้ว ด้วยกระแสความนิยมในพระเจ้าเฟรเดอริคและพระราชธิดาทั้งสามพระองค์และบทบาทของสตรีในสังคมเดนมาร์กได้ปรากฏเด่นชัดมากยิ่งขึ้น ได้มีการเริ่มต้นกระบวนการที่ซับซ้อนของการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ ข้อเสนอได้มีการผ่านเข้ารัฐสภาทั้งสองและจากนั้นด้วยการลงประชามติ ที่ซึ่งกำหนดขึ้นในวันที่ 27 มีนาคม ค.ศ. 1953 ฉบับใหม่ได้อนุญาตให้สตรีสามารถสืบราชบัลลังก์เดนมาร์ก ตามที่สิทธิของบุตรหัวปี ซึ่งสตรีสามารถสืบราชบัลลงก์ได้ถ้าหากไม่มีพระเชษฐาหรือพระอนุชา เจ้าหญิงมาร์เกรเธอในขณะนั้นจึงทรงกลายเป็นทายาทโดยสันนิษฐาน
ในวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 18 พรรษาของเจ้าหญิง ในวันที่ 16 เมษายน ค.ศ. 1958 เจ้าหญิงมาร์เกรเธอทรงได้รับตำแหน่งใน เจ้าหญิงทรงเป็นประธานในการประชุมสภาในช่วงที่พระมหากษัตริย์ทรงติดพระราชกิจ
ในช่วงกลางปี ค.ศ. 1960 เจ้าหญิงทรงร่วมกับเหล่าเจ้าหญิงแห่งสวีเดนและนอร์เวย์ เจ้าหญิงเสด็จเยือนสหรัฐอเมริกาที่ซึ่งรวมทั้งเสด็จเยือนลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย และเสด็จไปที่พาราเมาต์พิกเจอส์ ที่ซึ่งทุกพระองค์ทรงพบปะกับเหล่าคนดังจำนวนมากรวมทั้ง ดีน มาร์ติน, และเอลวิส เพรสลีย์
การศึกษา
เจ้าหญิงมาร์เกรเธอทรงใช้เวลาหนึ่งปีในการเข้าศึกษาที่ เป็นสำหรับเด็กผู้หญิงที่แฮมป์เชอร์, อังกฤษ และจากนั้นทรงศึกษาในวิชาโบราณคดีสาขายุคก่อนประวัติศาสตร์ที่ในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1960 ถึง ค.ศ. 1961 ทรงศึกษาด้านรัฐศาสตร์ที่ในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1961 และ ค.ศ. 1962 ทรงเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยปารีสในปี ค.ศ. 1963 และทรงเข้าศึกษาที่วิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งลอนดอนในปี ค.ศ. 1965 เจ้าหญิงทรงเป็นผู้สนับสนุนและเข้าร่วม
เจ้าหญิงมาร์เกรเธอทรงมีความถนัดในภาษาเดนมาร์ก, ฝรั่งเศส, อังกฤษ, สวีเดนและเยอรมัน
อภิเษกสมรส
ในวันที่ 10 มิถุนายน ค.ศ. 1967 เจ้าหญิงมาร์เกรเธอทรงอภิเษกสมรสกับนักการทูตชาวฝรั่งเศสคือ เคานท์อ็องรี เดอ ลาบอร์ด เดอ มงเปอซา ณ ในโคเปนเฮเกน อ็องรี เดอ ลาบอร์ด เดอ มงเปอซาได้รับพระอิสริยยศว่า "ฮิสรอยัลไฮเนส เจ้าชายเฮนริกแห่งเดนมาร์ก" (His Royal Highness Prince Henrik of Denmark) เนื่องจากฐานะใหม่ของพระองค์คือเป็นพระราชสวามีในเจ้าหญิงรัชทายาทโดยสันนิษฐานแห่งราชบัลลังก์เดนมาร์ก
เจ้าหญิงมาร์เกรเธอมีพระประสูติกาลพระราชโอรสพระองค์แรกในวันที่ 26 พฤษภาคม ค.ศ. 1968 ตามโบราณราชประเพณี พระมหากษัตริย์เดนมาร์กต้องทรงผลัดกันเลือกพระนามว่า เฟรเดอริก หรือ คริสเตียน เจ้าหญิงยังทรงคงฐานะนี้ไว้ โดยทรงสมมติว่าพระนามของพระนางคือ คริสเตียน และดังนั้นทรงตั้งพระนามของพระราชโอรสพระองค์โตว่า เจ้าชายเฟรเดอริก พระราชโอรสพระองค์ที่สอง ได้รับการตั้งพระนามว่า เจ้าชายโจอาคิม ซึ่งประสูติในวันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ. 1969
รัชกาล
สืบราชบัลลังก์
เพียงระยะเวลาอันสั้น หลังจากพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 9 มีพระราชดำรัสในวโรกาสวันปีใหม่ของประเทศในช่วงปลายปี ค.ศ. 1971 ถึงต้นปี ค.ศ. 1972 พระองค์ก็ทรงพระประชวร คล้ายไข้หวัด หลังจากเสด็จกลับมาประทับผ่อนคลายอิริยาบถเพียงไม่กี่วัน พระองค์มีพระหทัยวายและทรงถูกนำพระองค์มาที่โรงพยาบาลเทศบาลในวันที่ 3 มกราคม หลังจากการรักษาที่เห็นได้ชัด พระอาการของพระเจ้าเฟรเดอริกทรงทรุดลงในวันที่ 11 มกราคม และพระองค์เสด็จสวรรคตในวันที่ 14 มกราคม
เจ้าหญิงมาร์เกรเธอทรงสืบราชบัลลังก์เดนมาร์กในฐานะ สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก และทรงกลายเป็นพระประมุขสตรีพระองค์แรกภายใต้พระราชบัญญัติว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พระนางทรงได้รับการประกาศเป็นสมเด็จพระราชินีนาถ ณ มุขเด็จแห่งโดยนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 15 มกราคม ค.ศ. 1972 โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า "" (The King is dead, long live the Queen!) สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 ทรงสละพระอิสริยยศทุกตำแหน่งของอดีตพระมหากษัตริย์พระองค์ก่อน ๆ ยกเว้นพระอิสริยยศในเดนมาร์ก ดังนั้นทรงขนานพระนามว่า , สมเด็จพระราชินีนาถแห่งเดนมาร์ก (ภาษาเดนมาร์ก : Margrethe den Anden, af Guds Nåde Danmarks Dronning) สมเด็จพระราชินีนาถทรงเลือกว่า
“ | ความช่วยเหลือของพระเจ้า ความรักของประชาชน ความแข็งแกร่งของเดนมาร์ก (Guds hjælp, folkets kærlighed, Danmarks styrke) | ” |
พระนางมีพระราชดำรัสแก่ประชาชนอย่างเป็นทางการครั้งแรก สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 มีพระราชดำรัสว่า
“ | พระราชบิดาอันเป็นที่รักของข้าพเจ้า พระมหากษัตริย์ของพวกเราเสด็จสวรรคต ภาระทุกอย่างที่พระราชบิดาของข้าพเจ้าทรงแบกรับมานานเกือบ 25 ปีในตอนนี้บ่าของข้าพเจ้าได้แบกรับแทนพระองค์ ข้าพเจ้าของสวดวิงวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าให้พระองค์โปรดช่วยเหลือข้าพเจ้าและทรงมอบความแข็งแกร่งที่จะแบกรับมรดกของชาติที่ยิ่งใหญ่ ขอให้ความไว้วางใจที่ได้ทรงมอบให้แก่พระราชบิดาของข้าพเจ้าได้โปรดประทานให้แก่ข้าพเจ้า | ” |
บทบาทตามรัฐธรรมนูญ
พระราชกรณียกิจหลักของสมเด็จพระราชินีนาถคือ ทรงเป็นตัวแทนของราชอาณาจักรในการเสด็จเยือนต่างประเทศและจะทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนทั้งชาติในประเทศ พระนางมีพระราชกรณียกิจในการเสด็จออกรับเหล่าคณะทูตจากต่างประเทศและทรงรับรางวัลและเหรียญเกียรติยศ สมเด็จพระราชินีนาถทรงดำเนินการต่าง ๆ โดยทรงตอบรับคำเชิญที่จะให้พระองค์เสด็จไปเปิดนิทรรศการ, ทรงเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองต่าง ๆ, พิธีเปิดสะพานอย่างเป็นทางการ เป็นต้น
ในฐานะที่ทรงเป็นบุคคลสาธารณะที่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง สมเด็จพระราชินีไม่ทรงมีส่วนร่วมในพรรคการเมืองและไม่ทรงแสดงความคิดเห็นทางการเมืองใด ๆ แม้ว่าพระนางจะทรงมีสิทธิในการเลือกตั้ง แต่พระนางไม่ทรงทำเช่นนั้นแม้กระทั่งการแสดงพระองค์เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
หลังจากการเลือกตั้งที่ซึ่งผู้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้รับเสียงข้างมาก สมเด็จพระราชินีนาถจะทรงใช้สิทธิในการ "ดรอนนิงเกอรุนด์" (Dronningerunde, Queen's meeting, การเข้าเฝ้าพระราชินี) ที่ซึ่งพระนางจะทรงพบปะกับหัวหน้าของแต่ละ
แต่ละพรรคมีทางเลือกที่จะเข้าสู่กระบวนการพระราชวินิจฉัย ซึ่งจะนำไปสู่การเจรจาต่อรองหรือทางเลือกเดียว โดยให้นายกรัฐมนตรีซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบันได้ดำเนินการรัฐบาลของเขาต่อ ในทางทฤษฎีแต่ละพรรคสามารถเลือกผู้นำของตนเองในพระราชวินิจฉัย ได้ทำเช่นนี้ในปี ค.ศ. 2006 แต่มักจะเป็นเพียงหนึ่งในพระราชวินิจฉัยซึ่งได้เลือกนายกรัฐมนตรีรวมก่อนที่จะทำการเลือกตั้ง ผู้นำที่ซึ่งในการประชุมสามารถรักษาเสียงข้างมากในจะได้รับพระบรมราชโองการด้วยการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ (มันไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ที่ซึ่งพรรคใดพรรคหนึ่งสามารถได้รับเสียงข้างมากด้วยตัวเองได้)
เมื่อจัดตั้งรัฐบาลขึ้น จะได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากสมเด็จพระราชินี โดยพิธีการ สมเด็จพระราชินีนาถจะทรงดำรงเป็นหัวหน้ารัฐบาล และพระนางจะทรงเป็นประธานในการประชุมรัฐสภา ซึ่งกระบวนการทางกฎหมายที่ได้รับการผ่านโดยรัฐสภาจะทำการลงนามในกฎหมาย อย่างไรก็ตามในทางปฏิบัติ รัฐสภาเป็นผู้ใช้พระราชอำนาจอย่างเป็นทางการเกือบทั้งหมดของสมเด็จพระราชินีจและพระนางจะทรงมีหน้าที่ทำตามคำแนะนำจากที่ประชุม
นอกเหนือไปจากบทบาทของพระนางในประเทศของพระนางเอง สมเด็จพระราชินียังทรงเป็นแห่ง เป็นกองพันทหารราบแห่ง ตามธรรมเนียมของพระราชวงศ์ของพระนาง
พระราชพิธีครองสิริราชสมบัติครบ 40 ปี
ในวันที่ 14 มกราคม ค.ศ. 2012 สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 ทรงจัดพระราชพิธีครองสิริราชสมบัติครบ 40 ปี (Ruby Jubilee) พระราชพิธีนี้ประกอบด้วยขบวนรถม้าและการสัมภาษณ์จากโทรทัศน์จำนวนมาก พระราชอาคันตุกะที่มาร่วมพระราชพิธีนี้รวมทั้ง สมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีแห่งนอร์เวย์และสวีเดน อดีตสมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีแห่งกรีซ และประธานาธิบดีแห่งฟินแลนด์ เป็นต้น
การสละราชสมบัติ
ในพระราชดำรัสเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 2023 สองปีหลังพระราชพิธีกาญจนาภิเษก สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 ทรงประกาศสละราชสมบัติในวันที่ 14 มกราคม ค.ศ. 2024 ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 52 ปีการขึ้นครองราชย์ของพระองค์ ทั้งนี้ เจ้าชายเฟรเดอริก มกุฎราชกุมาร ได้สืบราชสมบัติเป็นสมเด็จพระราชาธิบดีเฟรเดอริกที่ 10 ในวันเดียวกัน
พระชนมชีพส่วนพระองค์และความสนพระราชหฤทัย
ที่ประทับอย่างเป็นทางการของสมเด็จพระราชินีนาถและพระราชสวามีคือในโคเปนเฮเกน และ ที่ประทับในฤดูร้อนของทั้งสองพระองค์คือ ใกล้กับ เป็นอดีตที่ประทับของพระราชชนนี สมเด็จพระราชินีอิงกริดซึ่งเสด็จสวรรคตในปี ค.ศ. 2000
สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 ทรงเป็นจิตรกรที่ประสบความสำเร็จ และทรงจัดแสดงภาพวาดฝีพระหัตถ์มากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ภาพประกอบของพระนางภายใต้นามแฝงว่า "อินกาฮิลด์ กราธเมอร์" เคยนำมาใช้ประกอบในนวนิยายเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ฉบับภาษาเดนมาร์กที่ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1977 และตีพิมพ์ใหม่ในปี ค.ศ. 2002 ในปี ค.ศ. 2000 พระนางทรงใส่ภาพประกอบลงในหนังสือ ซึ่งเป็นหนังสือรวบรวมบทกวีที่พระราชนิพนธ์ขึ้นโดยเจ้าชายเฮนริก พระราชสวามี พระนางยังคงประสบความสำเร็จในฐานะนักแปลและทรงมีส่วนร่วมในการแปลนวนิยายเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ในภาษาเดนมาร์ก ทักษะอื่น ๆ นอกำจากนี้ที่ทรงมีคือการออกแบบเครื่องแต่งกาย ทรงออกแบบเครื่องแต่งกายในในเรื่องและในปี ค.ศ. 2009 ทรงออกแบบเครื่องแต่งกายให้กับภาพยนตร์เรื่อง "De vilde svaner" (the Wild Swans; ห่านป่า) ของผู้กำกับ
พระนางยังทรงออกแบบฉลองพระองค์ของพระนางเองด้วยและเป็นที่รู้จักสำหรับฉลองพระองค์ของพระนางที่มีสีสันและบางครั้งทรงเลือกฉลองพระองค์แปลก ๆ สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอยังทรงฉลองพระองค์ที่ออกแบบโดยอดีตดีไซนเนอร์ของคือ อีริค มอร์เทนเซน, , และเบอร์จิเต ทูโลว์ พระนางทรงได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งใน 50 คนที่สวมชุดได้ดีที่สุดในช่วงวัย 50 ปีขึ้นไปของนิตยสารการ์เดียนในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2013
สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอทรงเป็นผู้สูบบุหรี่จัด และพระนางทรงมีชื่อเสียงจากพฤติกรรมยาสูบของพระนาง อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 23 พฤศจิกายน ค.ศ. 2006 หนังสือพิมพ์ บี.ที. ของเดนมาร์กได้รายงานว่ามีประกาศจากสำนักพระราชวังที่ระบุว่าในอนาคตสมเด็จพระราชินีจะทรงสูบบุหรี่เฉพาะในเวลาส่วนพระองค์เท่านั้น
สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์กทรงได้รับแรงสนับสนุนให้ใส่ภาพประกอบในเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษที่ 1970 พระนางทรงส่งภาพทั้งหมดไปให้เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ผู้ซึ่งตกตะลึงเพราะความคล้ายคลึงกันของภาพวาดของพระนางกับแบบของเขาเอง ภาพของสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 ได้ตีพิมพ์ในฉบับแปลภาษาเดนมาร์ก ซึ่งวาดขึ้นใหม่โดย จิตรกรชาวอังกฤษ
พระราชโอรส
สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์กกับเจ้าชายเฮนริกมีพระราชโอรสร่วมกัน 2 พระองค์ได้แก่
พระนาม | ประสูติ | สิ้นพระชนม์ | พระวรชายา/พระชายา และพระโอรส-ธิดา | |
สมเด็จพระราชาธิบดีเฟรเดอริกที่ 10 แห่งเดนมาร์ก | ค.ศ. 1968 | 26 พฤษภาคมยังทรงพระชนม์ | อภิเษกสมรส วันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 2004 กับ แมรี เอลิซาเบธ โดนัลด์สัน มีพระโอรสธิดา 4 พระองค์ ได้แก่ เจ้าชายคริสเตียน มกุฎราชกุมารแห่งเดนมาร์ก เจ้าหญิงอิซาเบลลาแห่งเดนมาร์ก เจ้าชายวินเซนต์แห่งเดนมาร์ก เจ้าหญิงโจเซฟินแห่งเดนมาร์ก | |
เจ้าชายโจอาคิมแห่งเดนมาร์ก | ค.ศ. 1969 | 7 มิถุนายนยังทรงพระชนม์ | อภิเษกสมรสครั้งที่ 1 วันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 1995 กับ อเล็กซันดรา คริสตินา มันลีย์ ทรงหย่าในวันที่ 8 เมษายน ค.ศ. 2005 มีพระโอรส 2 พระองค์ ได้แก่ เจ้าชายนิโคไลแห่งเดนมาร์ก เจ้าชายเฟลิกซ์แห่งเดนมาร์ก อภิเษกสมรสครั้งที่ 2 วันที่ 24 พฤษภาคม ค.ศ. 2008 กับ มารี อากัท โอดี กาวาลีเย มีพระโอรสธิดา 2 พระองค์ ได้แก่ เจ้าชายเฮนริกแห่งเดนมาร์ก เจ้าหญิงอะธีนาแห่งเดนมาร์ก |
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
ธรรมเนียมพระยศของ สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 | |
---|---|
ตราประจำพระอิสริยยศ | |
ธงประจำพระอิสริยยศ | |
ตราประจำพระองค์ | |
การทูล | Hendes Majestæt (ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท) |
การแทนตน | ข้าพระพุทธเจ้า |
การขานรับ | Deres Majestæt (พระพุทธเจ้าข้า/เพคะ) |
ลำดับโปเจียม | 3 |
เครื่องราชอิสริยาภรณ์เดนมาร์ก
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์ช้าง
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์แดนเนอโบร ชั้นมหาปรมาภรณ์
- เหรียญที่ระลึกครบรอบ 100 ปีพระบรมราชสมภพสมเด็จพระราชาธิบดีเฟรเดอริกที่ 9
- เหรียญที่ระลึกครบรอบ 100 ปีพระบรมราชสมภพสมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 10
- เหรียญที่ระลึกสมเด็จพระราชินีอิงกริด
- เหรียญที่ระลึกครบรอบ 50 ปีวาระที่สมเด็จพระราชินีอิงกริดเสด็จถึงเดนมาร์ก
- Home Guard fortjensttegn
- Home Guard 25-year mark
- เครื่องหมายสันนิบาตพลเรือนรุ่งโรจน์
- เหรียญตราสมาคมกองทุนสำรองเจ้าหน้าที่เดนมาร์ก
เครื่องราชอิสริยาภรณ์กรีนแลนด์
- เหรียญเกียรติคุณที่ควรค่าแห่งกรีนแลนด์ ชั้นที่ 1
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ
- สวีเดน :
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์เซราฟีม
- เหรียญที่ระลึกเฉลิมฉลองสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 50 พรรษา (ค.ศ. 1996)
- เหรียญที่ระลึกพระราชพิธีครองราชสมบัติครบ 40 ปี สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ (ค.ศ. 2013)
- เหรียญที่ระลึกกาญจนาภิเษกของกษัตริย์คาร์ลที่ 16 กุสตาฟ
- ญี่ปุ่น :
- โปแลนด์ :
- ชั้นที่ 1
- โปรตุเกส :
- เครื่องอิสริยาภรณ์เจ้าชายเฮนรี ชั้นสายสร้อย
- เครื่องเสนาอิสริยาภรณ์นักบุญยากอบและพระขรรค์ ชั้นสายสร้อย
- สเปน :
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์ขนแกะทองคำ (ค.ศ. 1985)
- ชั้นสายสร้อย (ค.ศ. 1980)
- ไทย :
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นมงคลยิ่งราชมิตราภรณ์ (ร.ม.ภ.) (ฝ่ายใน) (ค.ศ. 2001)
- เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ (ม.จ.ก.) (ฝ่ายใน) (ค.ศ. 1965)
- สหราชอาณาจักร :
- อาร์เจนตินา :
- เครื่องอิสริยาภรณ์นายพลซาน มาร์ติน ผู้ปลดปล่อย ชั้นสายสร้อย
- ออสเตรีย :
- เครื่องอิสริยาภรณ์กิตติคุณแห่งสาธารณรัฐออสเตรีย ชั้นมหาดารา (ค.ศ. 1964)
- เบลเยียม :
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์เลโอโปลด์ ชั้นสายสร้อย
- บราซิล :
- เครื่องอิสริยาภรณ์ดาวกางเขนใต้ ชั้นสายสร้อย
- บัลแกเรีย :
- เครื่องอิสริยาภรณ์สตารา พลานินา ชั้นสายสร้อย
- ชิลี :
- เครื่องรัฐอิสริยาภรณ์เกียรติคุณ ชั้นสายสร้อย
- เอสโตเนีย :
- เครื่องอิสริยาภรณ์เทอร์รา มาเรียนา ชั้นสายสร้อย
- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ :
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์อัลคามาล ชั้นที่ 1
- อียิปต์ :
- เครื่องอิสริยาภรณ์แม่น้ำไนล์ ชั้นที่ 1
- ฟินแลนด์ :
- เครื่องอิสริยาภรณ์กุหลาบขาวแห่งฟินแลนด์ ชั้นประถมาภรณ์ (พร้อมสายสร้อย)
- ฝรั่งเศส :
- เครื่องอิสริยาภรณ์เลฌียงดอเนอร์ ชั้นกร็อง-ครัว
- เยอรมนี :
- กรีซ :
- เครื่องอิสริยาภรณ์พระมหาไถ่ ชั้นสายสร้อย
- กรีซ :
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์นักบุญโอลกาและโซเฟีย ชั้นพิเศษ
- ไอซ์แลนด์ :
- เครื่องอิสริยาภรณ์เหยี่ยว ชั้นมหากางเขน (พร้อมสายสร้อย) (ค.ศ. 1973)
- อิหร่าน :
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์เพลเอียเดส ชั้นที่ 1
- อิตาลี :
- เครื่องอิสริยาภรณ์คุณธรรมแห่งสาธารณรัฐอิตาลี ชั้นสูงสุด
- จอร์แดน :
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์ดาราแห่งจอร์แดน ชั้นที่ 1 (พร้อมสายสร้อย)
- ยูโกสลาเวีย :
- เครื่องอิสริยาภรณ์ดาราแห่งยูโกสลาฟ ชั้นมหาดารา
- ลัตเวีย :
- เครื่องอิสริยาภรณ์ตรีดารา ชั้นที่ 1
- ลิทัวเนีย :
- เครื่องอิสริยาภรณ์พระเจ้าวีตัวนัสมหาราช ชั้นที่ 1 (ค.ศ. 1996)
- ลักเซมเบิร์ก :
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์สิงโตทองแห่งราชวงศ์นัสเซา
- เม็กซิโก :
- เครื่องอิสริยาภรณ์อินทรีเอสแท็ค ชั้นสายสร้อย (ค.ศ. 2008)
- โมร็อกโก :
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์อูอิสซัม อเลาอุยเต ชั้นที่ 1
- เนเธอร์แลนด์ :
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์สิงโตเนเธอร์แลนด์ ชั้นประถมาภรณ์
- เนปาล :
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์เนปาล ประทับ ภาสการา ชั้นที่ 1
- นอร์เวย์ :
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์นักบุญโอลาฟ ชั้นที่ 1 (พร้อมสายสร้อย)
- โรมาเนีย :
- เครื่องอิสริยาภรณ์ดาราแห่งโรมาเนีย ชั้นที่ 1 (พร้อมสายสร้อย)
- ซาอุดีอาระเบีย :
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์อับดุลอาซิซ อัล ซาอูด ชั้นสายสร้อย
- สโลวาเกีย :
- เครื่องอิสริยาภรณ์กางเขนขาวคู่
- สโลวีเนีย :
- เครื่องอิสริยาภรณ์เสรีภาพแห่งสาธารณรัฐสโลวีเนีย ชั้นที่ 1
- แอฟริกาใต้ :
- เครื่องอิสริยาภรณ์กู๊ดโฮป ชั้นสายสร้อย
- เกาหลีใต้ :
พระราชตระกูล
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-12-08. สืบค้นเมื่อ 25 October 2014.
- (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2014-12-31. สืบค้นเมื่อ 2012-04-30.
- Scocozza, Benito (1997). Politikens bog om danske monarker (1. udg ed.). København: Politiken. pp. 204–205. ISBN . OCLC 57288915.
- Montgomery-Massingberd, Hugh, บ.ก. (1977). Burke's Royal Families of the World. MCMLXXVII. Vol. I. London: Burke's Peerage Limited. pp. 62–63. ISBN . OCLC 18496936.
- [State and official visits]. Kongehuset (ภาษาเดนมาร์ก). 2020-08-04. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-06-25. สืบค้นเมื่อ 2021-06-23.
- "Statsbesøg til Forbundsrepublikken Tyskland" [State visit to the Federal Republic of Germany]. Kongehuset (ภาษาเดนมาร์ก). 2021-09-22. สืบค้นเมื่อ 2021-11-11.
{{}}
: CS1 maint: url-status () - Stjer, Christian (2012-06-02). (ภาษาเดนมาร์ก). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-10-05. สืบค้นเมื่อ 2021-06-23.
- "Dronning Margrethe abdicerer: Træder tilbage 14. januar" [สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอสละราชสมบัติ: กำหนด 14 มกราคมนี้]. DR (ภาษาเดนมาร์ก). 31 December 2023. จากแหล่งเดิมเมื่อ 31 December 2023. สืบค้นเมื่อ 31 December 2023.
- "Those Apprentice Kings and Queens Who May – One Day – Ascend a Throne," New York Times. 14 November 1971.
- The Illustrated London News, vol. 227, Issue 2 (1955), p. 552
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-06-25. สืบค้นเมื่อ 11 May 2010.
- "radical royalist: January 2012". 13 January 2012. สืบค้นเมื่อ August 4, 2012.
- Bysted A/S. . Kongehuset.dk. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-02-15. สืบค้นเมื่อ 2012-02-03.
- "Queen Margrethe II of Denmark marks 40 years on the throne". BBC News. Denmark. 12 January 2012.
- http://www.theroyalforums.com/34901-queen-margrethes-ruby-jubilee-festivities/
- . Royalinsight.net. 1940-04-16. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-01-30. สืบค้นเมื่อ 2012-02-03.
- http://www.imdb.com/title/tt1499643/
- "The Royal Order of Sartorial Splendor: Flashback Friday: Queen Margrethe's Style". Orderofsplendor.blogspot.com. 2012-01-13. สืบค้นเมื่อ 2012-02-03.
- "The 50 best-dressed over 50s". The Guardian.
- "BBC News". BBC News. 2001-03-23. สืบค้นเมื่อ 2012-02-03.
- Gettyimages
- Ruby Jubilee in Sweden
- Boletín Oficial del Estado
- Boletín Oficial del Estado
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์แด่สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ ๒ แห่งเดนมาร์ก เจ้าชายเฮนริก แห่งเดนมาร์ก พระราชสวามี และเจ้าชายเฟรเดอริก มกุฎราชกุมารแห่งเดนมาร์ก 2014-12-31 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑๘, ตอน ๒ข ฉบับทะเบียนฐานันดร, ๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๔, หน้า ๑
- "Reply to a parliamentary question about the Decoration of Honour" (pdf) (ภาษาเยอรมัน). p. 168. สืบค้นเมื่อ November 1, 2012.
- Photos : Albert II & Margrethe II, Group photo 2012-04-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Icelandese Presidency Website 2014-12-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน , Margrethe
- Lithuanian Presidency 2014-04-19 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Lithuanian Orders searching form
- Official decree, 13/02/2008
- Photo 2014-06-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน of the Danish Royal couple with the Slovakian Presidential couple
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ 2013-10-21.
- The Queen's Homepage 2012-02-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- The Official Website of The Danish Monarchy 2013-07-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Tapestries for HM The Queen of Denmark
ก่อนหน้า | สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
สมเด็จพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 9 | สมเด็จพระราชินีนาถแห่งเดนมาร์ก (14 มกราคม ค.ศ. 1972 – 14 มกราคม ค.ศ. 2024) | สมเด็จพระราชาธิบดีเฟรเดอริกที่ 10 |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
smedcphrarachininathmarekrethxthi 2 aehngednmark ednmark Margrethe Alexandrine THorhildur Ingrid marekrethx xelksandrin thxrhildur xingkrid phrarachsmphph 16 emsayn kh s 1940 epnxditsmedcphrarachininathaehngednmarkaelakrinaelnd inthanathiepnphrarachthidaphraxngkhihyinsmedcphraecaefredxrikthi 9 aehngednmarkkbsmedcphrarachinixingkridaehngednmark phraxngkhsubrachbllngkednmarkhlngcakkaresdcswrrkhtkhxngphrarachbidainwnthi 14 mkrakhm kh s 1972 cakkarsubrachbllngkthaihphranangthrngepnsmedcphrarachininathaehngednmarkphraxngkhaerknbtngaetrchsmykhxngsmedcphrarachininathmarekrethxthi 1 aehngednmark phrapramukhaehngsaekndienewiyinchwngpi kh s 1375 thung kh s 1412 inyukhshphaphkhalmar odyphraxngkhepnphramhakstriythikhrxngrachyyawnanthisudinklumpraethssaekndienewiysmedcphrarachininathmarekrethxthi 2phrabrmchayalksn chayemux kh s 2012smedcphrarachininathaehngednmark krinaelnd aelahmuekaaaeforkhrxngrachy14 mkrakhm kh s 1972 14 mkrakhm kh s 2024kxnhnasmedcphraecaefredxrikthi 9thdipsmedcphrarachathibdiefredxrikthi 10naykrthmntriduraychux ednmark lars elikekx rsmusesin ehlelx thwning smit lars elikekx rsmusesin emtet efredxrikesn khim khilesnphrarachsmphph 1940 04 16 16 emsayn kh s 1940 84 pi okhepnehekn praethsednmarkphrarachswamiecachayehnrikaehngednmark kh s 1967 2018 phrarachbutr raylaexiydsmedcphrarachathibdiefredxrikthi 10 ecachayocxakhimaehngednmarkphranametmmarekrethx xelksandrin thxrhildur xingkridrachwngsklukhsbwrkhphrarachbidasmedcphraecaefredxrikthi 9phrarachmardaxingkridaehngswiednsasnakhristckraehngednmarklayphraxphiithy smedcphrarachininathmarekrethxesdcphrarachsmphphinpi kh s 1940 aetphranangimthrngepnthayathodysnnisthancnkrathng kh s 1953 emuxidxnuyatihstrimisiththisubthxdrachbllngkid hlngcakmikhwamchdecnaelwwaphraecaefredxrikimthrngmirchthayaththiepnburus inpi kh s 1967 thrngxphiesksmrskbxxngri edx labxrd edx mngepxsaaelamiphrarachoxrssxngphraxngkhkhux ecachayefredxrik mkudrachkumaraehngednmarkaelaecachayocxakhimaehngednmark smedcphrarachininaththrngoprdngandanobrankhdi aelathrngrwminhlayoxkas thnginxitali xiyipt ednmark aelaxemrikait phraxngkhthrngmikhwamsnphrathyechkechnediywkbphraxykafayphrarachchnni khux smedcphraecakustafthi 6 xdxlfaehngswiedn thithrngichewlaswnhnungipkbkarkhudkhnobranwtthu iklphumiphakh inkh s 1962 in kh s 2022 smedcphrarachininathmarekrethxthi 2 thrngdarngphraxngkhinthanapramukhaehngrth thithrngrbphrarachxakhntukathiesdceyuxnednmarkxyangepnthangkar 42 khrng aelaphranangexngidesdceyuxntangpraethsxyangepnthangkarin 55 praeths phranangaelakidesdceyuxntangpraethshlaykhrng aerngsnbsnunaelayngkhngidrbkhwamniymxyangtxenuxngxyuthirxyla 82 echnediywkbkhwamniymintwsmedcphrarachininathmarekrethxthi 2 exng inwnthi 31 thnwakhm kh s 2023 phranangthrngprakasrahwangkarphrarachthanphrarachdarswnkhunpiihmwaphraxngkhmiphrarachprasngkhthicaslarachsmbtiihaekmkudrachkumarefredxrik phrarachoxrs inwnthi 14 mkrakhm kh s 2024 xntrngkbwnkhunkhrxngrachykhxngphraxngkhexngemux 52 pikxn thngni hlngkarslarachsmbtiphraxngkhcayngdarngphraxisriyyssmedcphrarachininath aelacathrngepnphusaercrachkaraethnphraxngkhemuxsmedcphrarachathibdiesdcphrarachdaenineyuxntangpraethschiwitinwyeyawsthanthiesdcphrarachsmphaphkhxngsmedcphrarachininathmarekrethxthi 2 n phrarachwngefredxrikthi 8 inhmu krungokhepnehekn ecahyingmarekrethxprasutiemuxwnthi 16 emsayn kh s 1940 n krungokhepnehekn epnphrarachthidaphraxngkhotinecachayefredxrikaelaecahyingxingkrid mkudrachkumaraelamkudrachkumariaehngednmark phrarachbidakhxngphranangepnphrarachoxrsinphraecakhrisetiynthi 10 aehngednmarkkb aelaphrarachmardakhxngphranangepnphrarachthidaphraxngkhediywinmkudrachkumarkustaf xdxlfaehngswiednkbmkudrachkumarimarkaert ecahyingprasutiephiynghnungspdahhlngcakkxngthphnasieyxrmniidthakaryudkhrxngednmarkinwnthi 9 emsayn kh s 1940 phraxngkhthrngekharbbphtismaemuxwnthi 14 phvsphakhm kh s 1940 n krungokhepnehekn ecahyingmarekrethxmiphrarachbidaaelaphrarachmardathunhw khux phraecakhrisetiynthi 10 aehngednmark ecachaykhnud rchthayathaehngednmark ecachayaexkesilaehngednmark phraecakustafthi 5 aehngswiedn mkudrachkumarkustaf xdxlfaehngswiedn aeecachaykustaf xdxlf dyukaehngewsetrbxtetin aela ecachayxarethxr dyukaehngkhxnnxtaelastraethirn ecahyingthrngidrbphranamwa marekrethx tamphranamkhxngphraxyyikafayphramarda phranamwa xelksandrin tamphranamkhxngphraxyyikafayphrabida aelaphranamwa xingkrid tamphranamkhxngphramarda tngaetphraecakhrisetiynthi 10 aehngednmark phraxykathrngdarngphrarachxisriyysepn thaihecahyingthrngdarngphraxisriyysepnecahyingaehngixsaelndcnkrathngpi kh s 1944 ecahyingcungmiphranamepnphasaixsaelndtamobranrachpraephni khux thxrhildur THorhildur sakdtamlksnatwxksr thorn inphasaixsaelnd thiethiybethakb th emuxecahyingmarekrethxmiphrachnmayu 4 chnsainpi kh s 1944 phrakhnisthaphraxngkhaerkprasutikhux ecahyingebendikethxaehngednmark sungtxmaecahyingebendikethxthrngxphiesksmrskbaelabangkhrngthrngphankthieyxrmni phrakhnisthaxngkhsudthxngkhux ecahyingaexnn mariaehngednmark prasutiinpi kh s 1946 txmaidxphiesksmrskbsmedcphrarachathibdikhxnsaetntinthi 2 aehngkris aelapccubnthrngphankxyuthilxndxn inwnthi 20 emsayn kh s 1947 phraecakhrisetiynthi 10 esdcswrrkhtaelaphrarachbidakhxngecahyingmarekrethxidkhrxngrachbllngksubtxinphranam phraecaefredxrikthi 9 aehngednmark rchthayathodysnnisthanecahyingmarekrethxaehngednmark klang rwmkbyamal xbdunnasir prathanathibdiaehngxiyipt khwa aela phriya say khnaesdcpraphasikhor praethsxiyipt inpi kh s 1962 emuxkhrngprasuti phrarachwngsfayhnasamarthsubrachbllngkednmarkidethann enuxngcakmikarepliynaeplngxyangtxenuxngkhxngphrarachbyytikarsubrachsnttiwngsthimikarprakasichinchwngkhristthswrrsthi 1850 emuxsayrachskulklukhsbwrkhidrbeluxkihsubrachsnttiwngstxcakrachwngsxxlednbwrkh inthanathiecahyingmarekrethximmiphraechsthahruxphraxnucha idmikarsnnisthanwaphrapitulakhxngecahyingkhux ecachaykhnud rchthayathaehngednmark caidsubrachbllngkednmarkinwnidwnhnung krabwnkarepliynaeplngrththrrmnuyiderimtninpi kh s 1947 imnanhlngcakphrarachbidathrngkhrxngrachbllngkaelaklayepnthiekhaicwasmedcphrarachinixingkridimmiphraprasutikalphrabutrmakipkwanixikaelw dwykraaeskhwamniyminphraecaefredxrikhaelaphrarachthidathngsamphraxngkhaelabthbathkhxngstriinsngkhmednmarkidpraktednchdmakyingkhun idmikarerimtnkrabwnkarthisbsxnkhxngkarepliynaeplngrththrrmnuy khxesnxidmikarphanekharthsphathngsxngaelacaknndwykarlngprachamti thisungkahndkhuninwnthi 27 minakhm kh s 1953 chbbihmidxnuyatihstrisamarthsubrachbllngkednmark tamthisiththikhxngbutrhwpi sungstrisamarthsubrachbllngkidthahakimmiphraechsthahruxphraxnucha ecahyingmarekrethxinkhnanncungthrngklayepnthayathodysnnisthan inwnechlimphrachnmphrrsakhrb 18 phrrsakhxngecahying inwnthi 16 emsayn kh s 1958 ecahyingmarekrethxthrngidrbtaaehnngin ecahyingthrngepnprathaninkarprachumsphainchwngthiphramhakstriythrngtidphrarachkic inchwngklangpi kh s 1960 ecahyingthrngrwmkbehlaecahyingaehngswiednaelanxrewy ecahyingesdceyuxnshrthxemrikathisungrwmthngesdceyuxnlxsaexneclis rthaekhlifxreniy aelaesdcipthipharaematphikecxs thisungthukphraxngkhthrngphbpakbehlakhndngcanwnmakrwmthng din martin aelaexlwis ephrsliy karsuksa ecahyingmarekrethx inpi kh s 1966 ecahyingmarekrethxthrngichewlahnungpiinkarekhasuksathi epnsahrbedkphuhyingthiaehmpechxr xngkvs aelacaknnthrngsuksainwichaobrankhdisakhayukhkxnprawtisastrthiinchwngrahwangpi kh s 1960 thung kh s 1961 thrngsuksadanrthsastrthiinchwngrahwangpi kh s 1961 aela kh s 1962 thrngekhasuksatxthimhawithyalyparisinpi kh s 1963 aelathrngekhasuksathiwithyalyesrsthsastraelarthsastraehnglxndxninpi kh s 1965 ecahyingthrngepnphusnbsnunaelaekharwm ecahyingmarekrethxthrngmikhwamthndinphasaednmark frngess xngkvs swiednaelaeyxrmn xphiesksmrs ekhanthxxngri edx labxrd edx mngepxsa say aelaecahyingmarekrethx khwa inkh s 1966 inwnthi 10 mithunayn kh s 1967 ecahyingmarekrethxthrngxphiesksmrskbnkkarthutchawfrngesskhux ekhanthxxngri edx labxrd edx mngepxsa n inokhepnehekn xxngri edx labxrd edx mngepxsaidrbphraxisriyyswa hisrxylihens ecachayehnrikaehngednmark His Royal Highness Prince Henrik of Denmark enuxngcakthanaihmkhxngphraxngkhkhuxepnphrarachswamiinecahyingrchthayathodysnnisthanaehngrachbllngkednmark ecahyingmarekrethxmiphraprasutikalphrarachoxrsphraxngkhaerkinwnthi 26 phvsphakhm kh s 1968 tamobranrachpraephni phramhakstriyednmarktxngthrngphldkneluxkphranamwa efredxrik hrux khrisetiyn ecahyingyngthrngkhngthananiiw odythrngsmmtiwaphranamkhxngphranangkhux khrisetiyn aeladngnnthrngtngphranamkhxngphrarachoxrsphraxngkhotwa ecachayefredxrik phrarachoxrsphraxngkhthisxng idrbkartngphranamwa ecachayocxakhim sungprasutiinwnthi 7 mithunayn kh s 1969rchkalsubrachbllngk naykrthmntri khwa prakassthapnasmedcphrarachininathmarekrethxthi 2 say epnphrapramukhphraxngkhihmtxhnaprachachn n inwnthi 15 mkrakhm kh s 1972 ephiyngrayaewlaxnsn hlngcakphraecaefredxrikthi 9 miphrarachdarsinworkaswnpiihmkhxngpraethsinchwngplaypi kh s 1971 thungtnpi kh s 1972 phraxngkhkthrngphraprachwr khlayikhhwd hlngcakesdcklbmaprathbphxnkhlayxiriyabthephiyngimkiwn phraxngkhmiphrahthywayaelathrngthuknaphraxngkhmathiorngphyabalethsbalinwnthi 3 mkrakhm hlngcakkarrksathiehnidchd phraxakarkhxngphraecaefredxrikthrngthrudlnginwnthi 11 mkrakhm aelaphraxngkhesdcswrrkhtinwnthi 14 mkrakhm ecahyingmarekrethxthrngsubrachbllngkednmarkinthana smedcphrarachininathmarekrethxthi 2 aehngednmark aelathrngklayepnphrapramukhstriphraxngkhaerkphayitphrarachbyytiwadwykarsubrachsnttiwngs phranangthrngidrbkarprakasepnsmedcphrarachininath n mukhedcaehngodynaykrthmntri inwnthi 15 mkrakhm kh s 1972 odynaykrthmntriklawwa The King is dead long live the Queen smedcphrarachininathmarekrethxthi 2 thrngslaphraxisriyysthuktaaehnngkhxngxditphramhakstriyphraxngkhkxn ykewnphraxisriyysinednmark dngnnthrngkhnanphranamwa smedcphrarachininathaehngednmark phasaednmark Margrethe den Anden af Guds Nade Danmarks Dronning smedcphrarachininaththrngeluxkwa khwamchwyehluxkhxngphraeca khwamrkkhxngprachachn khwamaekhngaekrngkhxngednmark Guds hjaelp folkets kaerlighed Danmarks styrke phranangmiphrarachdarsaekprachachnxyangepnthangkarkhrngaerk smedcphrarachininathmarekrethxthi 2 miphrarachdarswa phrarachbidaxnepnthirkkhxngkhapheca phramhakstriykhxngphwkeraesdcswrrkht pharathukxyangthiphrarachbidakhxngkhaphecathrngaebkrbmananekuxb 25 piintxnnibakhxngkhaphecaidaebkrbaethnphraxngkh khaphecakhxngswdwingwxntxphraphuepnecaihphraxngkhoprdchwyehluxkhaphecaaelathrngmxbkhwamaekhngaekrngthicaaebkrbmrdkkhxngchatithiyingihy khxihkhwamiwwangicthiidthrngmxbihaekphrarachbidakhxngkhaphecaidoprdprathanihaekkhapheca bthbathtamrththrrmnuy smedcphrarachininathmarekrethxthi 2 aehngednmarkthrngchlxngphraxngkh dwngtraiprsniykrrun FR 302 khxng hmuekaaaefor inwnthi 14 mkrakhm kh s 1997 phrarachkrniykichlkkhxngsmedcphrarachininathkhux thrngepntwaethnkhxngrachxanackrinkaresdceyuxntangpraethsaelacathrngepnsunyrwmcitickhxngprachachnthngchatiinpraeths phranangmiphrarachkrniykicinkaresdcxxkrbehlakhnathutcaktangpraethsaelathrngrbrangwlaelaehriyyekiyrtiys smedcphrarachininaththrngdaeninkartang odythrngtxbrbkhaechiythicaihphraxngkhesdcipepidnithrrskar thrngekharwmnganechlimchlxngtang phithiepidsaphanxyangepnthangkar epntn inthanathithrngepnbukhkhlsatharnathiimidrbkareluxktng smedcphrarachiniimthrngmiswnrwminphrrkhkaremuxngaelaimthrngaesdngkhwamkhidehnthangkaremuxngid aemwaphranangcathrngmisiththiinkareluxktng aetphranangimthrngthaechnnnaemkrathngkaraesdngphraxngkhekhakhangfayhnungfayid hlngcakkareluxktngthisungphudarngtaaehnngepnnaykrthmntriimidrbesiyngkhangmak smedcphrarachininathcathrngichsiththiinkar drxnningekxrund Dronningerunde Queen s meeting karekhaefaphrarachini thisungphranangcathrngphbpakbhwhnakhxngaetla smedcphrarachininathmarekrethxthi 2 khnaesdcobsthbudxlfi emuxngxarlbxrk ineduxnphvsphakhm kh s 2010 aetlaphrrkhmithangeluxkthicaekhasukrabwnkarphrarachwinicchy sungcanaipsukarecrcatxrxnghruxthangeluxkediyw odyihnaykrthmntrisungdarngtaaehnngxyuinpccubniddaeninkarrthbalkhxngekhatx inthangthvsdiaetlaphrrkhsamartheluxkphunakhxngtnexnginphrarachwinicchy idthaechnniinpi kh s 2006 aetmkcaepnephiynghnunginphrarachwinicchysungideluxknaykrthmntrirwmkxnthicathakareluxktng phunathisunginkarprachumsamarthrksaesiyngkhangmakincaidrbphrabrmrachoxngkardwykarcdtngrthbalihm mnimekhyekidkhuninprawtisastrsmyihmthisungphrrkhidphrrkhhnungsamarthidrbesiyngkhangmakdwytwexngid emuxcdtngrthbalkhun caidrbkaraetngtngxyangepnthangkarcaksmedcphrarachini odyphithikar smedcphrarachininathcathrngdarngepnhwhnarthbal aelaphranangcathrngepnprathaninkarprachumrthspha sungkrabwnkarthangkdhmaythiidrbkarphanodyrthsphacathakarlngnaminkdhmay xyangirktaminthangptibti rthsphaepnphuichphrarachxanacxyangepnthangkarekuxbthnghmdkhxngsmedcphrarachinicaelaphranangcathrngmihnathithatamkhaaenanacakthiprachum nxkehnuxipcakbthbathkhxngphrananginpraethskhxngphranangexng smedcphrarachiniyngthrngepnaehng epnkxngphnthharrabaehng tamthrrmeniymkhxngphrarachwngskhxngphranang phrarachphithikhrxngsirirachsmbtikhrb 40 pi inwnthi 14 mkrakhm kh s 2012 smedcphrarachininathmarekrethxthi 2 thrngcdphrarachphithikhrxngsirirachsmbtikhrb 40 pi Ruby Jubilee phrarachphithiniprakxbdwykhbwnrthmaaelakarsmphasncakothrthsncanwnmak phrarachxakhntukathimarwmphrarachphithinirwmthng smedcphrarachathibdiaelasmedcphrarachiniaehngnxrewyaelaswiedn xditsmedcphrarachathibdiaelasmedcphrarachiniaehngkris aelaprathanathibdiaehngfinaelnd epntn karslarachsmbti inphrarachdarsenuxnginwnkhunpiihm emuxwnthi 31 thnwakhm kh s 2023 sxngpihlngphrarachphithikaycnaphiesk smedcphrarachininathmarekrethxthi 2 thrngprakasslarachsmbtiinwnthi 14 mkrakhm kh s 2024 sungtrngkbwnkhrbrxb 52 pikarkhunkhrxngrachykhxngphraxngkh thngni ecachayefredxrik mkudrachkumar idsubrachsmbtiepnsmedcphrarachathibdiefredxrikthi 10 inwnediywknphrachnmchiphswnphraxngkhaelakhwamsnphrarachhvthysmedcphrarachininathmarekrethxthi 2 aehngednmarkaelaecachayehnrik phrarachswami inpi kh s 2010 thiprathbxyangepnthangkarkhxngsmedcphrarachininathaelaphrarachswamikhuxinokhepnehekn aela thiprathbinvdurxnkhxngthngsxngphraxngkhkhux iklkb epnxditthiprathbkhxngphrarachchnni smedcphrarachinixingkridsungesdcswrrkhtinpi kh s 2000 smedcphrarachininathmarekrethxthi 2 thrngepncitrkrthiprasbkhwamsaerc aelathrngcdaesdngphaphwadfiphrahtthmakmayinchwnghlaypithiphanma phaphprakxbkhxngphranangphayitnamaefngwa xinkahild krathemxr ekhynamaichprakxbinnwniyayedxalxrdxxfedxaringschbbphasaednmarkthitiphimphinpi kh s 1977 aelatiphimphihminpi kh s 2002 inpi kh s 2000 phranangthrngisphaphprakxblnginhnngsux sungepnhnngsuxrwbrwmbthkwithiphrarachniphnthkhunodyecachayehnrik phrarachswami phranangyngkhngprasbkhwamsaercinthanankaeplaelathrngmiswnrwminkaraeplnwniyayedxalxrdxxfedxaringsinphasaednmark thksaxun nxkacaknithithrngmikhuxkarxxkaebbekhruxngaetngkay thrngxxkaebbekhruxngaetngkayinineruxngaelainpi kh s 2009 thrngxxkaebbekhruxngaetngkayihkbphaphyntreruxng De vilde svaner the Wild Swans hanpa khxngphukakbsmedcphrarachininathmarekrethxthi 2 phrxmdwyphrabrmwngsanuwngs thrngobkphrahtthaekprachachninworkasechlimphrachnmphrrsa 70 phrrsaineduxnemsayn kh s 2010 caksayipkhwa mkudrachkumari ecachayefliks mkudrachkumar ecachaykhrisetiyn smedcphrarachininath ecachayniokhil phrarachswami ecachayocxakhimaelaecahyingxisaeblla phranangyngthrngxxkaebbchlxngphraxngkhkhxngphranangexngdwyaelaepnthirucksahrbchlxngphraxngkhkhxngphranangthimisisnaelabangkhrngthrngeluxkchlxngphraxngkhaeplk smedcphrarachininathmarekrethxyngthrngchlxngphraxngkhthixxkaebbodyxditdiisnenxrkhxngkhux xirikh mxrethnesn aelaebxrciet thuolw phranangthrngidrbkarcdxndbepnhnungin 50 khnthiswmchudiddithisudinchwngwy 50 pikhunipkhxngnitysarkarediynineduxnminakhm kh s 2013 smedcphrarachininathmarekrethxthrngepnphusubbuhricd aelaphranangthrngmichuxesiyngcakphvtikrrmyasubkhxngphranang xyangirktam inwnthi 23 phvscikayn kh s 2006 hnngsuxphimph bi thi khxngednmarkidraynganwamiprakascaksankphrarachwngthirabuwainxnakhtsmedcphrarachinicathrngsubbuhriechphaainewlaswnphraxngkhethann smedcphrarachininathmarekrethxthi 2 aehngednmarkthrngidrbaerngsnbsnunihisphaphprakxbinedxalxrdxxfedxaringsinchwngtnkhristthswrrsthi 1970 phranangthrngsngphaphthnghmdipihec xar xar othlkhin phusungtktalungephraakhwamkhlaykhlungknkhxngphaphwadkhxngphranangkbaebbkhxngekhaexng phaphkhxngsmedcphrarachininathmarekrethxthi 2 idtiphimphinchbbaeplphasaednmark sungwadkhunihmody citrkrchawxngkvsphrarachoxrssmedcphrarachininathmarekrethxthi 2 aehngednmarkkbecachayehnrikmiphrarachoxrsrwmkn 2 phraxngkhidaek phranam prasuti sinphrachnm phrawrchaya phrachaya aelaphraoxrs thidasmedcphrarachathibdiefredxrikthi 10 aehngednmark 1968 26 phvsphakhm kh s 1968 yngthrngphrachnm xphiesksmrs wnthi 14 phvsphakhm kh s 2004 kb aemri exlisaebth odnldsn miphraoxrsthida 4 phraxngkh idaek ecachaykhrisetiyn mkudrachkumaraehngednmark ecahyingxisaebllaaehngednmark ecachaywinesntaehngednmark ecahyingocesfinaehngednmarkecachayocxakhimaehngednmark 1969 7 mithunayn kh s 1969 yngthrngphrachnm xphiesksmrskhrngthi 1 wnthi 18 phvscikayn kh s 1995 kb xelksndra khristina mnliy thrnghyainwnthi 8 emsayn kh s 2005 miphraoxrs 2 phraxngkh idaek ecachayniokhilaehngednmark ecachayefliksaehngednmark xphiesksmrskhrngthi 2 wnthi 24 phvsphakhm kh s 2008 kb mari xakth oxdi kawaliey miphraoxrsthida 2 phraxngkh idaek ecachayehnrikaehngednmark ecahyingxathinaaehngednmarkekhruxngrachxisriyaphrnsmedcphrarachininathmarekrethxthi 2 aelaecachayehnrik phrarachswami khnaesdcphrarachdaenineyuxn hmuekaaaefor inwnthi 21 mithunayn kh s 2005smedcphrarachininathmarekrethxthi 2 aelaecachayehnrik phrarachswami thrngrbprathanathibdishrthxemrikacxrc dbebilyu buchaelalxra buch phriya n inwnthi 5 krkdakhm kh s 2005thrrmeniymphrayskhxng smedcphrarachininathmarekrethxthi 2trapracaphraxisriyysthngpracaphraxisriyystrapracaphraxngkhkarthulHendes Majestaet itfalaxxngthuliphrabath karaethntnkhaphraphuththecakarkhanrbDeres Majestaet phraphuththecakha ephkha ladbopeciym3ekhruxngrachxisriyaphrnednmark ekhruxngrachxisriyaphrnchang ekhruxngrachxisriyaphrnaednenxobr chnmhaprmaphrn ehriyythiralukkhrbrxb 100 piphrabrmrachsmphphsmedcphrarachathibdiefredxrikthi 9 ehriyythiralukkhrbrxb 100 piphrabrmrachsmphphsmedcphrarachathibdikhrisetiynthi 10 ehriyythiraluksmedcphrarachinixingkrid ehriyythiralukkhrbrxb 50 piwarathismedcphrarachinixingkridesdcthungednmark Home Guard fortjensttegn Home Guard 25 year mark ekhruxnghmaysnnibatphleruxnrungorcn ehriyytrasmakhmkxngthunsarxngecahnathiednmarkekhruxngrachxisriyaphrnkrinaelnd ehriyyekiyrtikhunthikhwrkhaaehngkrinaelnd chnthi 1ekhruxngrachxisriyaphrntangpraeths swiedn ekhruxngrachxisriyaphrnesrafim ehriyythiralukechlimchlxngsmedcphrarachathibdikharlthi 16 kustaf thrngecriyphrachnmphrrsa 50 phrrsa kh s 1996 ehriyythiralukphrarachphithikhrxngrachsmbtikhrb 40 pi smedcphrarachathibdikharlthi 16 kustaf kh s 2013 ehriyythiralukkaycnaphieskkhxngkstriykharlthi 16 kustaf yipun ekhruxngrachxisriyaphrnxnsungsngyingdxkebycmas ekhruxngrachxisriyaphrnrtnmngkud chnthi 1 opaelnd chnthi 1 oprtueks ekhruxngxisriyaphrnecachayehnri chnsaysrxy ekhruxngesnaxisriyaphrnnkbuyyakxbaelaphrakhrrkh chnsaysrxy sepn ekhruxngrachxisriyaphrnkhnaekathxngkha kh s 1985 chnsaysrxy kh s 1980 ithy ekhruxngrachxisriyaphrnxnepnmngkhlyingrachmitraphrn r m ph fayin kh s 2001 ekhruxngkhttiyrachxisriyaphrnxnmiekiyrtikhunrungeruxngyingmhackribrmrachwngs m c k fayin kh s 1965 shrachxanackr ekhruxngrachxisriyaphrnkaretxr ekhruxngrachxisriyaphrnrxylwiktxeriynechn xarecntina ekhruxngxisriyaphrnnayphlsan martin phupldplxy chnsaysrxy xxsetriy ekhruxngxisriyaphrnkittikhunaehngsatharnrthxxsetriy chnmhadara kh s 1964 ebleyiym ekhruxngrachxisriyaphrneloxopld chnsaysrxy brasil ekhruxngxisriyaphrndawkangekhnit chnsaysrxy blaekeriy ekhruxngxisriyaphrnstara phlanina chnsaysrxy chili ekhruxngrthxisriyaphrnekiyrtikhun chnsaysrxy exsoteniy ekhruxngxisriyaphrnethxrra maeriyna chnsaysrxy shrthxahrbexmierts ekhruxngrachxisriyaphrnxlkhamal chnthi 1 xiyipt ekhruxngxisriyaphrnaemnainl chnthi 1 finaelnd ekhruxngxisriyaphrnkuhlabkhawaehngfinaelnd chnprathmaphrn phrxmsaysrxy frngess ekhruxngxisriyaphrnelchiyngdxenxr chnkrxng khrw eyxrmni ekhruxngxisriyaphrnkhunthrrmaehngshphnthsatharnrtheyxrmni chnthi 1 kris ekhruxngxisriyaphrnphramhaith chnsaysrxy kris ekhruxngrachxisriyaphrnnkbuyoxlkaaelaosefiy chnphiess ixsaelnd ekhruxngxisriyaphrnehyiyw chnmhakangekhn phrxmsaysrxy kh s 1973 xihran ekhruxngrachxisriyaphrnephlexiyeds chnthi 1 xitali ekhruxngxisriyaphrnkhunthrrmaehngsatharnrthxitali chnsungsud cxraedn ekhruxngrachxisriyaphrndaraaehngcxraedn chnthi 1 phrxmsaysrxy yuokslaewiy ekhruxngxisriyaphrndaraaehngyuokslaf chnmhadara ltewiy ekhruxngxisriyaphrntridara chnthi 1 lithweniy ekhruxngxisriyaphrnphraecawitwnsmharach chnthi 1 kh s 1996 lkesmebirk ekhruxngrachxisriyaphrnsingotthxngaehngrachwngsnsesa emksiok ekhruxngxisriyaphrnxinthriexsaethkh chnsaysrxy kh s 2008 omrxkok ekhruxngrachxisriyaphrnxuxissm xelaxuyet chnthi 1 enethxraelnd ekhruxngrachxisriyaphrnsingotenethxraelnd chnprathmaphrn enpal ekhruxngrachxisriyaphrnenpal prathb phaskara chnthi 1 nxrewy ekhruxngrachxisriyaphrnnkbuyoxlaf chnthi 1 phrxmsaysrxy ormaeniy ekhruxngxisriyaphrndaraaehngormaeniy chnthi 1 phrxmsaysrxy saxudixaraebiy ekhruxngrachxisriyaphrnxbdulxasis xl saxud chnsaysrxy solwaekiy ekhruxngxisriyaphrnkangekhnkhawkhu solwieniy ekhruxngxisriyaphrnesriphaphaehngsatharnrthsolwieniy chnthi 1 aexfrikait ekhruxngxisriyaphrnkudohp chnsaysrxy ekahliit ekhruxngxisriyaphrnmukuhwaphrarachtrakul 16 phraecakhrisetiynthi 9 aehngednmark 8 smedcphraecaefredxrikthi 8 aehngednmark 17 luxiesxaehngehsesin khsesil 4 phraecakhrisetiynthi 10 aehngednmark 18 phraecakharlthi 15 aehngswiedn 9 luxisaehngswiedn smedcphrarachiniaehngednmark 19 luxisaehngenethxraelnd smedcphrarachiniaehngswiednaelanxrewy 2 smedcphraecaefredxrikthi 9 aehngednmark 20 10 21 5 xelkhsndrienxaehngemkhelinbwrkh chewrin 22 11 23 1 smedcphrarachininathmarekrethxthi 2 aehngednmark 24 smedcphraecaxxskarthi 2 aehngswiedn 12 smedcphraecakustafthi 5 aehngswiedn 25 ecahyingosefiyaehngnsesa 6 smedcphraecakustafthi 6 xdxlfaehngswiedn 26 13 wiktxeriyaehngbaedin smedcphrarachiniaehngswiedn 27 ecahyingluxiesxaehngprsesiy 3 xingkridaehngswiedn smedcphrarachiniaehngednmark 28 ecachayxlebirt phrarachswami 14 ecachayxarethxr dyukaehngkhxnnxtaelasaetrthexirn 29 smedcphrarachininathwiktxeriyaehngshrachxanackr 7 ecahyingmarkaertaehngkhxnnxt 30 15 31 duephimrayphranamphramhakstriythwolkeriyngtamwnesdckhunkhrxngrachyxangxingwikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb smedcphrarachininathmarekrethxthi 2 aehngednmark khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2015 12 08 subkhnemux 25 October 2014 PDF khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2014 12 31 subkhnemux 2012 04 30 Scocozza Benito 1997 Politikens bog om danske monarker 1 udg ed Kobenhavn Politiken pp 204 205 ISBN 87 567 5772 7 OCLC 57288915 Montgomery Massingberd Hugh b k 1977 Burke s Royal Families of the World MCMLXXVII Vol I London Burke s Peerage Limited pp 62 63 ISBN 0 85011 023 8 OCLC 18496936 State and official visits Kongehuset phasaednmark 2020 08 04 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2021 06 25 subkhnemux 2021 06 23 Statsbesog til Forbundsrepublikken Tyskland State visit to the Federal Republic of Germany Kongehuset phasaednmark 2021 09 22 subkhnemux 2021 11 11 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint url status lingk Stjer Christian 2012 06 02 phasaednmark khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2022 10 05 subkhnemux 2021 06 23 Dronning Margrethe abdicerer Traeder tilbage 14 januar smedcphrarachininathmarekrethxslarachsmbti kahnd 14 mkrakhmni DR phasaednmark 31 December 2023 cakaehlngedimemux 31 December 2023 subkhnemux 31 December 2023 Those Apprentice Kings and Queens Who May One Day Ascend a Throne New York Times 14 November 1971 The Illustrated London News vol 227 Issue 2 1955 p 552 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2010 06 25 subkhnemux 11 May 2010 radical royalist January 2012 13 January 2012 subkhnemux August 4 2012 Bysted A S Kongehuset dk khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2015 02 15 subkhnemux 2012 02 03 Queen Margrethe II of Denmark marks 40 years on the throne BBC News Denmark 12 January 2012 http www theroyalforums com 34901 queen margrethes ruby jubilee festivities Royalinsight net 1940 04 16 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 01 30 subkhnemux 2012 02 03 http www imdb com title tt1499643 The Royal Order of Sartorial Splendor Flashback Friday Queen Margrethe s Style Orderofsplendor blogspot com 2012 01 13 subkhnemux 2012 02 03 The 50 best dressed over 50s The Guardian BBC News BBC News 2001 03 23 subkhnemux 2012 02 03 Gettyimages Ruby Jubilee in Sweden Boletin Oficial del Estado Boletin Oficial del Estado rachkiccanuebksa prakassanknaykrthmntri eruxng phrarachthanekhruxngrachxisriyaphrnaedsmedcphrarachininathmarekrethxthi 2 aehngednmark ecachayehnrik aehngednmark phrarachswami aelaecachayefredxrik mkudrachkumaraehngednmark 2014 12 31 thi ewyaebkaemchchin elm 118 txn 2kh chbbthaebiynthanndr 8 kumphaphnth ph s 2544 hna 1 Reply to a parliamentary question about the Decoration of Honour pdf phasaeyxrmn p 168 subkhnemux November 1 2012 Photos Albert II amp Margrethe II Group photo 2012 04 25 thi ewyaebkaemchchin Icelandese Presidency Website 2014 12 20 thi ewyaebkaemchchin Margrethe Lithuanian Presidency 2014 04 19 thi ewyaebkaemchchin Lithuanian Orders searching form Official decree 13 02 2008 Photo 2014 06 04 thi ewyaebkaemchchin of the Danish Royal couple with the Slovakian Presidential couple khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 03 05 subkhnemux 2013 10 21 The Queen s Homepage 2012 02 07 thi ewyaebkaemchchin The Official Website of The Danish Monarchy 2013 07 24 thi ewyaebkaemchchin Tapestries for HM The Queen of Denmarkkxnhna smedcphrarachininathmarekrethxthi 2 aehngednmark thdipsmedcphraecaefredxrikthi 9 smedcphrarachininathaehngednmark 14 mkrakhm kh s 1972 14 mkrakhm kh s 2024 smedcphrarachathibdiefredxrikthi 10