พันเอกหญิง สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี พระนามเดิม หม่อมเจ้ารำไพพรรณี (20 ธันวาคม พ.ศ. 2447 — 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2527) เป็นพระอัครมเหสีพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นพระมเหสีพระองค์แรกตามระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทย หลังจากพระราชสวามีสละราชสมบัติเมื่อ พ.ศ. 2478 พระองค์ประทับอยู่ประเทศอังกฤษจวบจนพระราชสวามีเสด็จสวรรคต และเสด็จนิวัตกรุงเทพมหานครในปี พ.ศ. 2492 ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของรัฐบาลในขณะนั้น
สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี | |
---|---|
พระบรมราชินี | |
(พระอัครมเหสี) | |
ดำรงพระยศ | 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2469 – 2 มีนาคม พ.ศ. 2478 (9 ปี 5 วัน) |
ราชาภิเษก | 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2469 |
ก่อนหน้า | สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี |
ถัดไป | สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ |
พระราชสมภพ | 20 ธันวาคม พ.ศ. 2447 กรุงเทพมหานคร อาณาจักรสยาม |
สวรรคต | 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2527 (79 พรรษา) วังศุโขทัย กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย |
พระราชสวามี | พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว |
ราชวงศ์ | จักรี |
พระราชบิดา | สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ |
พระราชมารดา | พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภาพรรณี |
ศาสนา | พุทธ |
ลายพระอภิไธย |
ในอดีตกล่าวกันว่าพระองค์เป็นสตรีชาวไทยที่ทรงพระสิริโฉมสามารถเลือกฉลองพระองค์ยุโรปมาสวมใส่ได้อย่างเหมาะสม ทั้งยังมีพระจริยวัตรนุ่มนวล พระพักตร์แจ่มใส แย้มพระสรวลอยู่เนืองนิตย์ ทั้ง ๆ ที่พระองค์ประสบกับโลกธรรมและความสูญเสียอันใหญ่ยิ่งมาแล้ว
พระองค์ปฏิบัติพระราชกรณียกิจเคียงคู่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวในฐานะพระบรมราชินีในการเสด็จพระราชดำเนินไปยังหัวเมือง รวมทั้งต่างประเทศเพื่อเป็นการเชื่อมพระราชไมตรีระหว่างประเทศ ภายหลังการนิวัติประเทศไทยหลังการสวรรคตของพระราชสวามีแล้ว พระองค์ได้ปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรหลายหลายครั้ง เมื่อเสด็จย้ายไปประทับ ณ จังหวัดจันทบุรี ทรงดำเนินกิจการในด้านการเกษตร การเลี้ยงสัตว์ และทรงพัฒนาการทอเสื่อ เพื่อเป็นโครงการตัวอย่างและนำความรู้นั้นออกเผยแพร่แก่ประชาชน นอกจากนี้ พระองค์ยังมีส่วนในการพัฒนาการสาธารณสุขและการศึกษาของชาวจันทบุรี โดยรับเป็นพระราชภาระในการปรับปรุงโรงพยาบาลพระปกเกล้า รวมทั้งทรงตั้งมูลนิธิพระปกเกล้าเพื่อสนับสนุนกิจการต่าง ๆ ของโรงพยาบาลพระปกเกล้า วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี และมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี
พระราชประวัติ
ขณะยังทรงพระเยาว์
สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2447 เป็นพระธิดาในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ ต้นราชสกุลสวัสดิวัตน์ (พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา) ส่วนพระมารดาคือหม่อมเจ้าอาภาพรรณี สวัสดิวัตน์ (ราชสกุลเดิม คัคณางค์) พระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากร (พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) ภายหลังหม่อมเจ้าอาภาพรรณีได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภาพรรณี
พระองค์มีพระนามเดิมว่า หม่อมเจ้ารำไพพรรณี สวัสดิวัตน์ บ้างสะกดว่า รำไภพรรณี ชาววังเรียกขานพระนามพระองค์ว่า ท่านหญิงนา ซึ่งพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ผู้ทรงนิพนธ์หนังสือเรื่อง เกิดวังปารุสก์ ได้เล่าถึงที่มาของพระนามนี้ว่า
...เพื่อนเล่นที่ข้าพเจ้ารักมากที่สุดเป็นหญิง และแก่กว่าข้าพเจ้าราวสามปี เป็นหม่อมเจ้าธิดาของเสด็จปู่สวัสดิ์ ทรงนามว่า รำไพพรรณี และเรียกกันในเวลานั้นว่า ท่านหญิงนา หม่อมเจ้าหญิงนั้นโดยมากจะเรียกกันว่า ท่านหญิงใหญ่ ท่านหญิงเล็ก ท่านหญิงน้อย ดังนี้เป็นต้น การถูกเรียกว่าท่านหญิงนานั้น ผู้อ่านบางคนอาจจะเห็นว่าแปลก เรื่องราวเป็นเช่นนี้ เมื่อเล็ก ๆ อยู่เป็นเด็กที่มีรูปร่างอ้วน จึงถูกล้อว่าเป็นเต่า สำหรับไทยเราการถูกเรียกว่าเต่าเมื่อเล็ก ๆ ไม่เป็นของเสียหาย แม้ทูลหม่อมลุงก็เคยถูกสมเด็จย่าเรียกว่าเต่า อย่างไรก็ดี เมื่อท่านหญิงนายังเล็ก ๆ อยู่ ได้ถูกถามว่า “อยากเป็นอะไร อยากเป็นเต่าทองหรือเต่านา” ท่านหญิงองค์เล็กได้ยิ้มและตอบว่า "อยากเป็นเต่านา" และก็เลยกลายเป็นท่านหญิงนาตั้งแต่นั่นมา...
เมื่อทรงเจริญพระชนมพรรษาได้ 2 พรรษา พระบิดาได้นำเข้าไปถวายตัวแด่สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตามราชประเพณีของเจ้านายสมัยก่อนที่ถวายตัวเข้าไปอยู่ในวังตั้งแต่มีพระชันษายังน้อย ซึ่งในระยะนั้นสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถประทับอยู่ที่ พระราชวังดุสิต ในเวลานี้หม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณีกำลังทรงศึกษาภาษาไทยเบื้องต้นอยู่
เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตในวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 หม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณีมีชันษาได้ 6 ปี ได้ทรงย้ายสถานที่พักจากพระราชวังดุสิต ไปพระบรมมหาราชวังตามสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถไปด้วย และได้เสด็จเข้าทรงศึกษาในโรงเรียนราชินีพร้อมหม่อมเจ้าพระองค์อื่น ๆ หลังจากเสร็จการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพแล้ว สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถได้เสด็จย้ายจากพระบรมมหาราชวังไปสู่พระราชวังพญาไท ซึ่งพระองค์ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระตำหนักขึ้นใหม่และได้ประทับ ณ พระราชวังแห่งนี้เป็นการถาวรจนตลอดพระชนมชีพของพระองค์ ซึ่งหม่อมเจ้ารำไพพรรณีได้ตามเสด็จมาด้วยโดยประทับอยู่บนพระตำหนักฝ่ายในติดกับห้องเสวย
เมื่อหม่อมเจ้ารำไพพรรณีมีชันษาได้ 8 ปีเศษ และได้ผ่านพระราชพิธีเกศากันต์ (โกนจุก) แล้ว ก็ได้ทรงรู้จักกับ ร้อยโทสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ กรมขุนสุโขทัยธรรมราชา ซึ่งได้เสด็จนิวัตกลับกรุงเทพมหานคร หลังจากทรงได้สำเร็จการศึกษาวิชาการทหารจากประเทศอังกฤษแล้ว สาเหตุก็อันเนื่องมาจากสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอฯ ได้เสด็จมาประทับที่พระราชวังพญาไทกับพระชนนีเป็นครั้งคราว และหม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณีจะเป็นผู้ที่สนิทกันมากที่สุดด้วย
อภิเษกสมรส
เมื่อปี พ.ศ. 2460 หลังจากสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ กรมขุนสุโขทัยธรรมราชา ได้ทรงลาสิกขาจากการผนวช ณ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ก็ได้กราบบังคมทูลพระกรุณา และขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวที่จะเสกสมรสกับหม่อมเจ้ารำไพพรรณี โดยได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ประกอบพิธีอภิเษกสมรสพระราชทานขึ้น ณ วังศุโขทัย ถนนสามเสน และพระราชพิธีอภิเษกสมรสที่ พระที่นั่งวโรภาษพิมาน พระราชวังบางปะอิน การอภิเษกสมรสในครั้งนี้ถือเป็นพระราชพิธีอภิเษกสมรสครั้งแรก หลังจากการตรากฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการเสกสมรสแห่งเจ้านายในพระราชวงศ์ รวมทั้งยังเป็นการแต่งงานแบบตะวันตกอย่างแท้จริง กล่าวคือมีการถามความสมัครใจของคู่บ่าวสาวด้วย
ส่วนวังศุโขทัยนั้น ได้สร้างขึ้นก่อนที่ทั้ง 2 พระองค์จะทรงเสกสมรสกัน โดยเป็นเรือนหอที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ พระราชทานสร้างให้บริเวณคลองสามเสน และพระราชทานนาม "วังศุโขไทย" ทั้งยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สถาปนาหม่อมเจ้ารำไพพรรณี ขึ้นเป็น หม่อมเจ้ารำไพพรรณี พระชายาในสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนสุโขทัยธรรมราชา
สมเด็จพระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7
หลังจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตในวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ กรมหลวงสุโขทัยธรรมราชา ได้เสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติเป็นพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทำให้หม่อมเจ้ารำไพพรรณี ได้เลื่อนยศขึ้นเป็น "พระวรราชชายา" มีพระนามว่า หม่อมเจ้ารำไพพรรณี พระวรราชชายา
ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก การนี้พระองค์ได้สถาปนาหม่อมเจ้ารำไพพรรณี พระวรราชชายา ขึ้นเป็น สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ซึ่งนับเป็นสมเด็จพระอัครมเหสีพระองค์แรกที่ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระบรมราชินีในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 คณะราษฎรได้ทำการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นการปกครองระบอบพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ ขณะนั้นพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ประทับอยู่ที่วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2476 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ไปทรงเจริญทางพระราชไมตรีกับประเทศทางทวีปยุโรป และได้ทรงรับการผ่าตัดและรักษาพระเนตร ณ ประเทศอังกฤษ
การสละพระราชบัลลังก์ของพระราชสวามี
ขณะที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ ประทับ ณ วังไกลกังวล เพื่อให้พ้นจากสองฝ่ายทั้งสองฝ่ายจึงเสด็จฯ โดยเรือศรวรุณ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ท่ามกลางสภาวะอากาศเลวร้ายใช้เวลากว่าสองวัน จึงถึงจังหวัดสงขลา ไปประทับ ณ ตำหนักเขาน้อย สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ทรงเล่าความในพระราชหฤทัยครั้งนั้นว่า
ฉันไม่คิด ไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น ถ้าจะตายก็ตายด้วยกัน
ในวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2476 (นับศักราชตามเดิม) พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ สู่ทวีปยุโรป แต่ก็ยังมีการขัดแย้งเจรจาเกี่ยวกับการเมืองกับทางกรุงเทพมหานครสืบเนื่องกันอยู่ตลอดเวลา จนในที่สุด ก็มีการขัดแย้งกันระหว่างพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวกับรัฐบาล เช่นในเรื่องที่รัฐบาลได้แต่งตั้งพรรคพวกเข้าเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎรประเภทที่สองและรัฐบาลไม่ได้ให้สิทธิเสรีภาพแก่ประชาชนอย่างเพียงพอ ไม่ตรงกับพระราชปณิธานอย่างแน่วแน่ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ดังนั้น พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงแสดงความไม่เห็นพ้องกับคณะผู้บริหารประเทศด้วยการตัดสินพระราชหฤทัยทรงสละราชสมบัติในวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2477 ขณะที่ยังประทับอยู่ในประเทศอังกฤษ ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี มีพระราชดำรัสถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ว่า
เห็นพ้องต้องกันกับพระราชสวามีในการตัดสินพระราชหฤทัยสละราชย์
หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงประกาศที่จะทรงสละราชสมบัติแล้ว พระองค์พร้อมกับสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี และพระประยูรญาติสนิทบางพระองค์ จึงทรงย้ายที่ประทับจากใจกลางเมืองไปอยู่ในชนบทใกล้กรุงลอนดอน ทรงวางพระองค์เยี่ยงคหบดีชนบท ทรงจัดสวน เลี้ยงนกเลี้ยงปลา เสด็จประพาสทัศนศึกษาตามโบราณสถานต่าง ๆ เป็นต้น
ในช่วงที่ประทับอยู่ในสหราชอาณาจักรนั้น พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระประชวรอยู่เนือง ๆ แต่สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีก็ยังทรงปรนนิบัติพระองค์ จนถึงวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2484 ขณะที่ทั้งสองพระองค์ประทับอยู่ที่พระตำหนักคอมพ์ตัน ตำบลเวอร์จิเนียวอเตอร์ ประเทศอังกฤษ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตโดยฉับพลันด้วยพระหทัยวาย มีพระชนมพรรษา 48 พรรษา
สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีทรงจัดการเรื่องพระบรมศพและถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นการภายในเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ปีนั้น นับว่าเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ซึ่งต้องทรงสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป
ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินียังประทับอยู่ในประเทศอังกฤษต่อไปดังเดิม ถึงแม้ว่าพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จสวรรคตไปแล้ว เพราะการคมนาคมติดต่อระหว่างประเทศยังไม่มีความปลอดภัยในช่วงสงคราม และเมื่อประเทศไทยประกาศสงครามกับอังกฤษและสหรัฐในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองนั้น คนไทยจำนวนไม่น้อยอพยพกลับประเทศไทยหลังการประกาศสงคราม แต่ก็มีอีกจำนวนหนึ่งที่พำนักอยู่ในต่างประเทศได้ประกาศตัวเป็นเสรีไทย ทำงานประสานกับเสรีไทยในกรุงเทพมหานคร โดยรัฐบาลอังกฤษยังคงให้เกียรติพระองค์มาตลอด แม้ว่ารัฐบาลอังกฤษได้สั่งห้ามมิให้ชาติศัตรูใช้รถยนต์ ยกเว้นแต่กรณีพิเศษซึ่งพระองค์ก็ได้สิทธิพิเศษนั้น และคอยจัดน้ำมันเบนซินซึ่งหายากในช่วงนั้นมาให้พระองค์ใช้อยู่เป็นประจำ
สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี แม้จะมิได้มีพระนามร่วมในคณะเสรีไทยอย่างเป็นทางราชการ แต่ก็ได้พระราชทานพระกรุณาอุดหนุนจุนเจือกิจการของเสรีไทยในประเทศอังกฤษมาตลอด ซึ่งในขณะนั้นมีเสรีไทยทั้งหมดเพียง 36 คนในประเทศอังกฤษ
เสด็จกลับประเทศไทย
ในปี พ.ศ. 2492 รัฐบาลได้กราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีเสด็จนิวัตกรุงเทพมหานคร พร้อมกับพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่ออัญเชิญขึ้นประดิษฐานไว้ ณ ที่อันควรแก่พระบรมราชอิสริยยศ ในพระบรมมหาราชวัง
สำหรับพระราชฐานะของพระองค์เมื่อเสด็จนิวัตประเทศไทยนั้น เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เลขาธิการพระราชวัง เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา และหม่อมราชวงศ์เทวาธิราช เทวกุล ได้ร่วมกันพิจารณาเห็นว่า
...สมเด็จพระบรมราชินีรำไพพรรณี ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นราชินีโดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๗ ในงานพิธีราชาภิเษกรัชกาลที่ ๗ จริงอยู่ทุกประเทศ รวมทั้ง ประเทศไทยด้วย เมื่อมีการเปลี่ยนรัชกาลฐานะของพระราชินีย่อมเปลี่ยนไป เช่น พระราชินีแมรี่และสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินี ฉะนั้น เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๗ ทรงสละราชสมบัติแล้วและการแต่งตั้งพระราชินีรำไพพรรณีไม่มีการเพิกถอน ท่านก็น่าจะคงเป็นพระราชินีตามเดิม แต่ไม่ใช่พระราชินีซึ่งพระราชสวามีทรงราชย์ Queen Consort เปลี่ยนเป็นพระราชินีวิธวา Queen Dowager ฉะนั้น น่าจะขนานพระนามถวายโดยอนุโลมพระสวามีว่า สมเด็จพระบรมราชินี รัชกาลที่ ๗...
แต่เมื่อพระองค์เสด็จกลับมายังพระตำหนัก วังศุโขทัยซึ่งเคยเป็นที่ประทับ ได้กลับกลายเป็นสำนักงานของกระทรวงสาธารณสุขไปแล้ว พระองค์จึงต้องเสด็จไปประทับที่วังสระปทุม ของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนกแทน เนื่องจากสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีได้เชิญเสด็จสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีไปอยู่ร่วมกับพระองค์ โดยทรงไปประทับอยู่ที่วังสระปทุมนานถึง 3 ปี จึงได้เสด็จพระราชดำเนินกลับมาประทับที่พระตำหนักวังศุโขทัยอีกครั้ง
หลังจากนั้นพระองค์ก็ทรงประกอบพระราชกรณียกิจแบ่งเบาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ด้วยในขณะนั้นเหล่าพระโอรสและพระธิดาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชยังทรงพระเยาว์
สวรรคต
สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีทรงเริ่มมีพระอาการประชวรด้วยพระโรคความดันพระโลหิตสูง ตั้งแต่ พ.ศ. 2518 ในขณะที่มีพระชนมพรรษาได้ 71 พรรษา และวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2527 เวลา 15.50 นาฬิกา พระองค์เสด็จเสด็จสวรรคตด้วยพระหทัยวายโดยพระอาการสงบ ณ พระตำหนักวังศุโขทัย รวมพระชนมพรรษาได้ 79 พรรษา 5 เดือน 2 วัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สำนักพระราชวัง จัดการพระบรมศพถวายพระเกียรติยศตามราชประเพณี โดยอัญเชิญพระบรมศพถวายพระลองทองใหญ่ประกอบพระโกศ ประดิษฐานเหนือพระแท่นสุวรรณเบญจดลจำหลักลายประดับรัตนชาติภายใต้สัปตปฎลเศวตฉัตร (ฉัตร 7 ชั้น) ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวัง พร้อมทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์และข้าทูลละอองธุลีพระบาทในราชสำนักไว้ทุกข์ถวาย มีกำหนด 100 วัน ตั้งแต่วันสวรรคตเป็นต้นไป นอกจากนี้ สำนักนายกรัฐมนตรีได้ประกาศให้สถานที่ราชการต่าง ๆ ลดธงครึ่งเสาเป็นเวลา 3 วัน และให้ข้าราชการไว้ทุกข์เป็นเวลา 15 วันด้วย
สำหรับพระเมรุมาศในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพออกแบบโดยนายประเวศ ลิมปรังษี โดยใช้พระเมรุมาศองค์กลางของสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถมาเป็นแนวทางในการออกแบบ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีกระแสพระราชดำรัสถึงแนวทางการออกแบบว่า “ขอให้ดำเนินการโดยประหยัด แต่ให้ครบถ้วนตามขัตติย ราชประเพณี และสมพระเกียรติยศพระบรมศพ อีกประการหนึ่งฐานพระเมรุมาศไม่ควรสูงนักจะเป็นการลำบาก แก่พระบรมวงศานุวงศ์ที่จะขึ้นถวายพระเพลิงพระบรมศพซึ่งทรงเจริญพระชนมายุมากพระพรรษาด้วยกันหลายพระองค์”
พระเมรุมาศเป็นอาคารทรงปราสาทแบบจตุรมุข ยอดทรงมณฑปประกอบด้วยพรหมพักตร์ ยอดบนสุดประดิษฐานสัปตปฎลเศวตฉัตร ตัวอาคารประกอบด้วยชั้นฐานทักษิณสำหรับองค์พระเมรุมาศนั้น ส่วนหลังคาประกอบด้วยมุขทิศและเครื่องยอด ประดับตกแต่งด้วยลวดลายกระดาษทองย่นฉลุสาบสี หน้าบันประดับพระนามาภิไธยย่อ ร.พ. องค์พระเมรุเป็นอาคารโถง ตกแต่งด้วยม่านผาตาด มีฉากบังเพลิง ผนังภายนอกประดับลายกระดาษทองย่นฉลุลายสีแบบลงยา ผนังภายในใช้สีชมพูเป็นพื้นส่วนฐานทักษิณมีบันได 4 ทิศ ประดับด้วยรูปปั้นเทวดา ในท่านั่งบนแท่นเสาพนักลูกกรงระเบียงโดยรอบ ตามคติไตรภูมิตามแบบโบราณราชประเพณีทุกประการ
ในวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2528 จึงมีการจัดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ณ พระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง นับเป็นงานพระเมรุกลางเมืองครั้งแรกที่มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์โดยรับสัญญาณจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย หลังจากนั้น จึงมีการเชิญพระโกศพระบรมอัฐิขึ้นประดิษฐาน ณ พระวิมานองค์ซ้าย พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท และเชิญพระราชสรีรางคารไปบรรจุที่ฐานพุทธบัลลังก์พระพุทธอังคีรส ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร
พระจริยวัตร
พระองค์ทรงเป็นสตรีที่มีพระสิริโฉมงดงาม พระจริยวัตรอันนุ่มนวล มีพระพักตร์แจ่มใส และแย้มพระสรวลอยู่เสมอ แลดูเอิบอิ่มเต็มไปด้วยพระกรุณา นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้จักจากการแต่งพระองค์ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งในเรื่องดังกล่าว พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ได้นิพนธ์ลงในหนังสือ เกิดวังปารุสก์ เล่ม 2 ได้กล่าวถึงพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปรักษาพระเนตรที่ยุโรป หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ความว่า
"สมเด็จ [สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี] นั้นดูจะงามยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อนอีก แต่งพระองค์อย่างสตรีชาวยุโรปโดยทรงเลือกได้อย่างเหมาะสม ซึ่งผู้หญิงไทยน้อยคนจะทำได้ดีเท่า "แน่ละท่านมีเงินมากจะซื้ออะไรก็ได้" แต่ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วย การแต่งตัวสวยนั้นไม่อยู่แต่ที่เงินถึงมีมากเท่าใด ถ้าไม่มีความสามารถในทางเลือกแล้ว ก็แต่งกายเคอะอยู่ดี ข้าพเจ้าขอยืนยันว่า ยังไม่เคยเห็นผู้หญิงไทยที่เมืองนอกที่งามเท่าหรือแต่งกายเก๋และสวยเท่าสมเด็จรำไพพรรณี"
เช่นเดียวกับหม่อมราชวงศ์กิติวัฒนา ปกมนตรี ซึ่งเคยพบกับสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี มาแล้ว แม้ว่าจะมีพระชนมายุสูง แต่ก็ยังคงสวยสดงดงาม มีพระพักตร์แจ่มใส พระฉวีขาวอมชมพู ความว่า
"...สมเด็จฯ คงมีพระชันษาประมาณ 45 ปี แต่ยังคงทรงงดงาม แจ่มใส พระฉวีขาวผ่องอมชมพู และพระพักตร์อ่อนหวานยิ่ง"
แต่เมื่อถึงเวลาที่พระองค์ต้องตัดสินพระราชหฤทัยในเรื่องที่สำคัญก็ทรงเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยว ดังที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชหัตถเลขาถึงพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ พระภาติยะ กล่าวถึงเหตุการณ์ในการตัดสินพระราชหฤทัยเสด็จกลับกรุงเทพฯ หลังเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ความตอนหนึ่งว่า
...ฉันต้องยอมรับว่าทั้งสมเด็จ [สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี] และหญิงอาภา [พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภาพรรณี] ควรจะได้รับเกียรติศักดิ์อย่างสูง ที่แสดงความกล้าหาญอย่างยิ่งเช่นนั้นเพราะเราทุก ๆ คนทราบดีว่า ถึงเรายอมกลับกรุงเทพฯ ต่อไปเขาจะฆ่าเราเสียก็ได้ ผู้หญิงสองคนนั้นเขากล้ายอมตายเสียดีกว่าที่จะเสียเกียรติศักดิ์ เมื่อเขาตกลงเช่นนั้นฉันก็เห็นด้วยทันที...
พระราชกรณียกิจ
ภายหลังการเสด็จขึ้นครองราชสมบัติของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ก็ปฏิบัติพระราชกรณียกิจเคียงข้างกับพระราชสวามีเรื่อยมา ทั้งพระราชกิจภายในพระนคร การเสด็จพระราชดำเนินไปยังหัวเมืองต่าง ๆ รวมถึงการเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศต่าง ๆ ทั้งในแถบเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศ
หลังเสด็จนิวัตกลับประเทศไทยเป็นช่วงที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอและสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรยังทรงพระเยาว์ พระองค์จึงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรเพื่อแบ่งเบาพระราชกรณียกิจได้เป็นอันมาก
สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดจันทบุรี ซึ่งในขณะนั้นเส้นทางคมนาคมยังไม่สะดวก พระองค์ทรงเลือกที่ดินบริเวณตำบลบ้านแก้ว อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี ด้วยทรงเห็นว่าเป็นทำเลที่มีธรรมชาติงดงาม และมีความเงียบสงบต้องกับพระราชอัธยาศัยของพระองค์ และระยะทางก็อยู่ไม่ห่างไกลจากตัวเมืองจนเกินไปนัก
สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ทรงกู้เงินจากธนาคารไปจัดซื้อที่ดินบริเวณสองฝั่งคลองบ้านแก้วจากเจ้าของที่ดินเดิม รวมเนื้อที่ประมาณ 687 ไร่ พระราชทานนามว่า "สวนบ้านแก้ว" และยังโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชบริพารทำการปรับที่ดินพร้อมกับสร้างที่ประทับชั่วคราวทำด้วยไม้ไผ่หลังคามุงจาก โดยได้เสด็จพระราชดำเนินไปประทับแรมครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2493 ต่อมาจึงมีการสร้างพระตำหนักหลังอื่น ๆ ต่อมา
ด้านเกษตร
สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี มีพระราชประสงค์ที่จะให้วังสวนบ้านแก้วนี้ดำเนินกิจการในด้านการปลูกพืชผักสวนครัว ปลูกไม้ผลนานาชนิด ทั้งที่เป็นพืชไม้ผลในท้องถิ่นและพืชและไม้ผลจากที่อื่น ตลอดจนมีการเลี้ยงสัตว์ เพื่อที่จะให้เป็นไร่ตัวอย่างมากกว่าเป็นการค้า โดยทำการทดลองว่าหากปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตว์ชนิดใดได้ผลดี ก็จะทรงนำเอาความรู้นั้นออกเผยแพร่แก่ประชาชน ทรงพัฒนาการทอเสื่อ โดยมีนักวิชาการเกษตรจากสถานีทดลองเกษตรจังหวัดจันทบุรีที่เป็นข้าราชบริพารเก่ามาช่วยเหลือแนะนำทางด้านวิชาการ และเมื่อโครงการนี้ประสบผลไปด้วยดี พระองค์จึงทรงนำโครงการนี้ไปเผยแพร่แก่ประชาชน ปรากฏว่าโครงการนี้เป็นไปได้ด้วยดีด้วย นอกจากนั้น พระองค์ยังทรงเปิดโรงงานทอเสื่อ สิ่งของขึ้นชื่อของเมืองจันทบุรี
ด้านสาธารณสุข
เมื่อพระองค์เสด็จไปประทับยังจังหวัดจันทบุรี แล้วทรงตระหนักว่าการรักษาพยาบาลแก่ประชาชนนั้นยังไม่เพียงพอ เป็นการสมควรที่จะจัดสร้างตึกและจัดหาเครื่องมือสำหรับการรักษาพยาบาลให้มากขึ้น พระองค์มีพระราชดำริว่าควรสร้างตึกผ่าตัดพร้อมเครื่องมือที่ทันสมัยขึ้นมาก่อนเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ต้องเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดได้อย่างทันท่วงที ไม่ต้องเดินทางไปรักษายังพระนครอันมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ พระองค์ทรงรับเป็นพระราชภาระในการจัดหาทุนเพื่อสร้างตึกผ่าตัด โดยพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นทุนในเบื้องต้นและแจ้งพระราชประสงค์ไปยังพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการและประชาชนด้วย พระองค์พระราชทานนามตึกนี้ว่า "ตึกประชาธิปก" เพื่อเป็นพระราชกุศลถวายพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้ทราบถึงพระราชประสงค์จึงมีมติเสนองบประมาณปรับปรุงโรงพยาบาลจันทบุรีให้ใหญ่และทันสมัยขึ้นพร้อมเปลี่ยนนามโรงพยาบาลใหม่ว่า
ด้านการศึกษา
พระองค์ได้พระราชทานทรัพย์สินและพระราชทรัพย์เป็นจำนวนทั้งสิ้น 2,715,041.68 บาท เป็นทุนเริ่มต้นในการจัดตั้ง "มูลนิธิประชาธิปก" (ต่อมาคือ มูลนิธิประชาธิปก-รำไพพรรณี) เพื่อสนับสนุนกิจการของโรงพยาบาลพระปกเกล้า และมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ในการก่อสร้าง จัดซื้ออุปกรณ์ ตลอดจนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของสถาบันดังกล่าว และเพื่อให้เงินสมทบ "ทุนประชาธิปกบรมราชานุสรณ์" และช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เป็นต้น
ในปี พ.ศ. 2511 สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ทรงตัดสินพระราชหฤทัยขายวังสวนบ้านแก้วให้แก่กระทรวงศึกษาธิการ เนื่องจากทางกระทรวงต้องการที่ดินสร้างโรงเรียนฝึกหัดครูจันทบุรี (ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี) จึงทรงตัดสินพระทัยขายให้ในราคาถูก ดังนั้นพระองค์จึงต้องเสด็จกลับมาประทับอยู่ในวังศุโขทัยตามเดิม แม้กระนั้นก็มิได้ทรงละทิ้งกิจการทอเสื่อและผลิตสินค้าจากเสื่อ โปรดเกล้าฯ ให้ดำเนินกิจการเช่นเคยแต่ในปริมาณงานที่ลดลง และโปรดเกล้าฯ ให้ใช้พระตำหนักน้ำในวังศุโขทัยที่อยู่ติดริมคลองสามเสนเป็นสถานที่ทอเสื่อและผลิตสินค้าที่ทำจากเสื่อ ภายใต้การควบคุมอย่างใกล้ชิดของพระองค์เอง
ในวัฒนธรรมสมัยนิยม
ในปี พ.ศ. 2567 ได้มีการสร้างแอนิเมชันเรื่อง ๒๔๗๕ รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ โดยมีตัวละคร สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี พากย์เสียงโดย สินจัย เปล่งพานิช
พระเกียรติยศ
ธรรมเนียมพระยศของ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี | |
---|---|
ธงประจำพระอิสริยยศ | |
ตราประจำพระองค์ | |
ธงประจำพระองค์ | |
การทูล | ใต้ฝ่าละอองพระบาท |
การแทนตน | ข้าพระพุทธเจ้า |
การขานรับ | พระพุทธเจ้าข้า/เพคะ |
พันเอกหญิง สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี | |
---|---|
รับใช้ | กองทัพบกไทย |
ประจำการ | พ.ศ. 2472–2507 |
ชั้นยศ | พันเอก |
หน่วย |
|
พระอิสริยยศ
- 20 ธันวาคม พ.ศ. 2447 – 26 สิงหาคม พ.ศ. 2461 : หม่อมเจ้ารำไพพรรณี
- 26 สิงหาคม พ.ศ. 2461 – 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 : หม่อมเจ้ารำไพพรรณี พระชายาในสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ กรมขุนสุโขทัยธรรมราชา
- 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 – 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2469 : หม่อมเจ้ารำไพพรรณี พระวรราชชายา
- 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2469 – 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2484 : สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี
- 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2484 - 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2527 : สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
เครื่องราชอิสริยยศราชูปโภค
ในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปี พ.ศ. 2468 นั้น พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยยศราชูปโภคสำหรับตำแหน่งสมเด็จพระอัครมเหสีให้แก่สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี โดยเครื่องราชอิสริยยศราชูปโภคเหล่านี้เป็นสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดสร้างขึ้นสำหรับพระราชทานให้แก่สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ประกอบด้วย
- พานพระศรี (พานใส่หมากพลู) ทองคำลงยา
- กาน้ำทองคำลงยา
- ขันน้ำพระสุธารสเย็น พร้อมจอกลอยทองคำลงยา
- หีบพระศรีทองคำลงยา พร้อมพานรอง
- พระสุพรรณศรี (กระโถนเล็ก)ทองคำลงยา
- ขันสรงพระพักตร์ทองคำลงยา พร้อมคลุมปัก
- พระฉาย (กระจกส่องหน้า) ทองคำลงยา
- พานเครื่องพระสำอาง พร้อมพระสางวงเดือน พระสางเสนียด และพระกรัณฑ์ทองคำลงยา สำหรับบรรจุเครื่องพระสำอาง
- ราวพระภูษาซับพระพักตร์ทองคำลงยารูปพญานาค พร้อมผ้าซับพระพักตร์จีบริ้วพาดที่ราว 2 ผืน
เครี่องราชอิสริยาภรณ์
เครี่องราชอิสริยาภรณ์ไทย
สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ดังต่อไปนี้
- พ.ศ. 2468 – เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ (ม.จ.ก.) (ฝ่ายใน)
- พ.ศ. 2468 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์ (น.ร.) (ฝ่ายใน)
- พ.ศ. 2468 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 1 ปฐมจุลจอมเกล้า (ป.จ.) (ฝ่ายใน)
- พ.ศ. 2514 – เหรียญลูกเสือสดุดี ชั้นที่ 1
- พ.ศ. 2460 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 6 ชั้นที่ 1 (ว.ป.ร.1)
- พ.ศ. 2469 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 7 ชั้นที่ 1 (ป.ป.ร.1)
- พ.ศ. 2495 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 9 ชั้นที่ 1 (ภ.ป.ร.1)
- พ.ศ. 2469 – เหรียญบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 7 (ร.ร.ศ.7)
- พ.ศ. 2493 – เหรียญบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 9 (ร.ร.ศ.9)
- พ.ศ. 2475 – เหรียญเฉลิมพระนคร 150 ปี (ร.ฉ.พ.)
เครี่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ
นอกจากนี้สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ยังทรงได้รับเครี่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ ดังต่อไปนี้
- ญี่ปุ่น :
- พ.ศ. 2474 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์รัตนมงกุฎ ชั้นที่ 1
- กรีซ :
- พ.ศ. 2506 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์เอฟโปเอียส ชั้นที่ 1
พระยศทางทหาร
- พันเอกหญิง - ผู้บังคับการพิเศษกรมทหารราบที่ 4 และผู้บังคับการพิเศษกองพันทหารราบที่1 มหาดเล็กรักษาพระองค์
การเทิดพระเกียรติ
พระราชินยานุสรณ์
พระราชินยานุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีตั้งอยู่ที่พระตำหนักสวนบ้านแก้วอนุสรณ์สถาน ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฎรำไพพรรณี จังหวัดจันทบุรี มีขนาดครึ่งเท่าพระองค์จริง โดยได้รับพระบรมราชานุญาต ตามหนังสือ ที่ นร.0207/17124 ลงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2542 โดยผู้ออกแบบคือนายสาโรจน์ จารักษ์และผู้หล่อคือ พท.นภดล สุวรรณสมบัติ
ที่ระลึก
- ตราไปรษณียากรที่ระลึก 100 ปี สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ 7 เป็นภาพพระสาทิสลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ขอบภาพด้านล่างมีคำว่า "๑๐๐ ปี สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ ๗ CENTENARY OF H.M. QUEEN RAMBHAI BARNI OF THE SEVENTHREIGN" ออกจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2547
พงศาวลี
พงศาวลีของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
- ระพี สาคริก. วัดบวรนิเวศวิหารและมหามกุฎราชวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ พิมพ์โดยเสด็จพระราชกุศลในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๗ ณ เมรุมาศท้องสนามหลวง วันที่ ๙ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๒๘, หน้า 8
- ระพี สาคริก. วัดบวรนิเวศวิหารและมหามกุฎราชวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ พิมพ์โดยเสด็จพระราชกุศลในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๗ ณ เมรุมาศท้องสนามหลวง วันที่ ๙ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๒๘, หน้า 1
- ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งกรม ตั้งพระองค์เจ้าและเจ้าพระยา 2015-10-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๔๖, ตอน ๐ ก, ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๒, หน้า ๑๗๔
- พฤทธิสาณ ชุมพล, รองศาสตราจารย์ หม่อมราชวงศ์ (กรกฎาคม 2559). รายงานการวิจัย การสังเคราะห์ประวัติศาสตร์บอกเล่าในสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 (PDF). พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว สถาบันพระปกเกล้า. p. 3.
- สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี 2005-05-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน จาก เว็บไซต์รากฐานไทย ฐานข้อมูลเพื่อการพัฒนาประเทศ
- พระชายาในสมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนศุโขทัยธรรมราชา 2019-04-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน จาก เว็บไซต์วังสวนบ้านแก้วดอตคอม
- สำนักพระราชวัง, พระราชวังบางปะอิน, พิมพ์ครั้งที่ 1, พ.ศ. 2548
- สำนักพระราชวัง, พระราชวังบางปะอิน, พิมพ์ครั้งที่ 1, พ.ศ. 2548
- พระราชประวัติสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7, หน้า 7-8
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศพระราชทานนามวัง, เล่ม ๓๕, ตอน ๐ก, ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๖๑, หน้า ๒๔๗
- ราชกิจจานุเบกษา, พระราชพิธี บรมราชาภิเษกเฉลิมพระราชมณเฑียร ปีฉลูสัปตศก พุทธศักราช ๒๔๖๘ 2011-11-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๔๒, ตอนพิเศษ ๐ ก, ๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖๘, หน้า ๐
- ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ สถาปนาสมเด็จพระบรมราชินี, เล่ม ๔๒, ตอน ๐ ก, ๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖๘, หน้า ๓๕๕
- พระราชประวัติสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7, หน้า 15
- พระองค์ฯ ทรงเล่า...เมื่อพระองค์ทรงสละราชสมบัติ
- รัชกาลที่ 7 เสด็จฯยุโรป พ.ศ. 2476 – 2477(5) : เพื่อตัดสินพระทัยว่าจะสละราชสมบัติหรือไม่
- พระราชประวัติสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 (เล่มใหญ่), หน้า 93
- ฉัตรสุดา. . สกุลไทย. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2558.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - พระราชประวัติสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 (เล่มใหญ่), หน้า 116
- ระพี สาคริก. วัดบวรนิเวศวิหารและมหามกุฎราชวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ พิมพ์โดยเสด็จพระราชกุศลในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๗ ณ เมรุมาศท้องสนามหลวง วันที่ ๙ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๒๘, หน้า 7
- ทรงพระประชวร 2019-04-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน จาก เว็บไซต์วังสวนบ้านแก้วดอตคอม
- สมภพ ภิรมย์, ศาสตราจารย์ น.อ.. พระเมรุมาศ พระเมรุ และเมรุ สมัยกรุงรัตนโกสินทร์. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ:อมรินทร์การพิมพ์. 2528, หน้า 113
- วันแห่งความโศกสลดอันใหญ่หลวง 2009-04-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนจาก เว็บไซต์วังสวนบ้านแก้วดอตคอม
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้สถานที่ราชการลดธงครึ่งเสา เนื่องในการที่สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ ๗ สวรรคต, เล่ม ๑๐๑, ตอน ๖๗ ง ฉบับพิเศษ, ๒๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๗, หน้า ๓
- พระราชดำรัส เรื่อง พระเมรุมาศ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีใน รัชกาลที่๗ ณ ท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๘ 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, จาก KingSiam.com, วันที่ 8 มีนาคม 2556
- พระเมรุมาศสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี, จาก อาร์ตบางกอก, วันที่ 8 มีนาคม 2556
- ราชกิจจานุเบกษา, หมายกำหนดการ ที่ ๔/๒๕๒๘ ถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ ๗ ณ พระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง เมษายน พุทธศักราช ๒๕๒๘, เล่ม ๑๐๒, ตอน ๔๓ ง ฉบับพิเศษ, ๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๘, หน้า ๑
- หม่อมราชวงศ์กิติวัฒนา ปกมนตรี. เขียนถึงสมเด็จ. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ:เลมอนที. 2547, หน้า 75
- พระราชประวัติสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 (เล่มใหญ่), หน้า 68
- หนังสือ ๗๒ ปี โรงพยาบาลพระปกเกล้า. บริษัทจามจุรีโปรดักท์ 26. 2555. ISBN .
- "มูลนิธิประชาธิปก-รำไพพรรณี". วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี. สืบค้นเมื่อ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2557.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - พระราชประวัติสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7, หนังสืออนุสรณ์งานพระบรมศพทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พิมพ์พระราชทานประชาชนในงานพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 ณ พระเมรุมาศท้องสนามหลวง วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2528
- ราชกิจจานุเบกษา,พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฝ่ายใน หน้า ๓๖๗๐ เล่ม ๔๒, ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๘
- ราชกิจจานุเบกษา,พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฝ่ายใน หน้า ๓๖๗๐ เล่ม ๔๒, ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๘
- ราชกิจจานุเบกษา,พระราชทานเครื่องราชอิศริยาภรณ์ หน้า ๓๖๖๙ เล่ม ๔๒, ๒๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๘
- ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง พระราชทานเหรียญลูกเสือสดุดี, เล่ม ๘๘ ตอนที่ ๙๔ ง หน้า ๒๓๗๗, ๓๑ สิงหาคม ๒๕๑๔
- ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ฝ่ายใน 2011-11-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม 43, ตอน 0 ง, 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2469, หน้า 3114
- ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์, เล่ม 69, ตอน 77 ง, 30 ธันวาคม พ.ศ. 2495, หน้า 4804
- "แจ้งความกระทรวงกลาโหม เรื่อง ผู้บังคับการพิเศษ" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 46: หน้า 237. 21 เมษายน 2472.
- "แจ้งความกระทรวงกลาโหม เรื่อง ผู้บังคับการพิเศษ" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 49: หน้า 2351. 2 ตุลาคม 2475.
- ข้อมูลอนุสาวรีย์[]
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เรื่อง สร้างและจำหน่ายตราไปรษณียากรที่ระลึก ๑๐๐ ปี สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ ๗, เล่ม ๑๒๒, ตอน ๑๒ ง, ๑๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๘, หน้า ๑๒
บรรณานุกรม
- พระราชประวัติสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 (เล่มใหญ่), หนังสืออนุสรณ์งานพระบรมศพทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พิมพ์พระราชทานประชาชนในงานพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 ณ พระเมรุมาศท้องสนามหลวง วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2528
แหล่งข้อมูลอื่น
- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี
ก่อนหน้า | สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี | พระอัครมเหสีกรุงสยาม (25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2469 - 2 มีนาคม พ.ศ. 2478) | สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phnexkhying smedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini phranamedim hmxmecaraiphphrrni 20 thnwakhm ph s 2447 22 phvsphakhm ph s 2527 epnphraxkhrmehsiphraxngkhediywinphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw aelaepnphramehsiphraxngkhaerktamrabxbprachathipityinpraethsithy hlngcakphrarachswamislarachsmbtiemux ph s 2478 phraxngkhprathbxyupraethsxngkvscwbcnphrarachswamiesdcswrrkht aelaesdcniwtkrungethphmhankhrinpi ph s 2492 tamkhakrabbngkhmthulechiykhxngrthbalinkhnannsmedcphranangecaraiphphrrniphrabrmrachiniphraxkhrmehsidarngphrays25 kumphaphnth ph s 2469 2 minakhm ph s 2478 9 pi 5 wn rachaphiesk25 kumphaphnth ph s 2469kxnhnasmedcphranangecaxinthrskdiscithdipsmedcphranangecasirikitiphrarachsmphph20 thnwakhm ph s 2447 krungethphmhankhr xanackrsyamswrrkht22 phvsphakhm ph s 2527 79 phrrsa wngsuokhthy krungethphmhankhr praethsithyphrarachswamiphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhwrachwngsckriphrarachbidasmedcphraecabrmwngsethx krmphraswsdiwdnwisisdphrarachmardaphraecawrwngsethx phraxngkhecaxaphaphrrnisasnaphuththlayphraxphiithy inxditklawknwaphraxngkhepnstrichawithythithrngphrasiriochmsamartheluxkchlxngphraxngkhyuorpmaswmisidxyangehmaasm thngyngmiphracriywtrnumnwl phraphktraecmis aeymphrasrwlxyuenuxngnity thng thiphraxngkhprasbkbolkthrrmaelakhwamsuyesiyxnihyyingmaaelw phraxngkhptibtiphrarachkrniykicekhiyngkhuphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhwinthanaphrabrmrachiniinkaresdcphrarachdaeninipynghwemuxng rwmthngtangpraethsephuxepnkarechuxmphrarachimtrirahwangpraeths phayhlngkarniwtipraethsithyhlngkarswrrkhtkhxngphrarachswamiaelw phraxngkhidptibtiphrarachkrniykicaethnphraxngkhphrabathsmedcphramhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitrhlayhlaykhrng emuxesdcyayipprathb n cnghwdcnthburi thrngdaeninkickarindankarekstr kareliyngstw aelathrngphthnakarthxesux ephuxepnokhrngkartwxyangaelanakhwamrunnxxkephyaephraekprachachn nxkcakni phraxngkhyngmiswninkarphthnakarsatharnsukhaelakarsuksakhxngchawcnthburi odyrbepnphrarachpharainkarprbprungorngphyabalphrapkekla rwmthngthrngtngmulnithiphrapkeklaephuxsnbsnunkickartang khxngorngphyabalphrapkekla withyalyphyabalphrapkekla cnthburi aelamhawithyalyrachphtraiphphrrniphrarachprawtikhnayngthrngphraeyaw khnayngthrngphraeyaw smedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini esdcphrarachsmphphemuxwnxngkharthi 20 thnwakhm ph s 2447 epnphrathidainsmedcphraecabrmwngsethx krmphraswsdiwdnwisisd tnrachskulswsdiwtn phrarachoxrsinphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw prasutiaetsmedcphrapiymawdi sriphchrinthrmata swnphramardakhuxhmxmecaxaphaphrrni swsdiwtn rachskuledim khkhnangkh phrathidainphraecabrmwngsethx krmhlwngphichitprichakr phrarachoxrsinphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw phayhlnghmxmecaxaphaphrrniidrbkarsthapnakhunepnphraecawrwngsethx phraxngkhecaxaphaphrrni phraxngkhmiphranamedimwa hmxmecaraiphphrrni swsdiwtn bangsakdwa raiphphrrni chawwngeriykkhanphranamphraxngkhwa thanhyingna sungphraecawrwngsethx phraxngkhecaculckrphngs phuthrngniphnthhnngsuxeruxng ekidwngparusk idelathungthimakhxngphranamniwa ephuxnelnthikhaphecarkmakthisudepnhying aelaaekkwakhaphecarawsampi epnhmxmecathidakhxngesdcpuswsdi thrngnamwa raiphphrrni aelaeriykkninewlannwa thanhyingna hmxmecahyingnnodymakcaeriykknwa thanhyingihy thanhyingelk thanhyingnxy dngniepntn karthukeriykwathanhyingnann phuxanbangkhnxaccaehnwaaeplk eruxngrawepnechnni emuxelk xyuepnedkthimiruprangxwn cungthuklxwaepneta sahrbithyerakarthukeriykwaetaemuxelk imepnkhxngesiyhay aemthulhmxmlungkekhythuksmedcyaeriykwaeta xyangirkdi emuxthanhyingnayngelk xyu idthukthamwa xyakepnxair xyakepnetathxnghruxetana thanhyingxngkhelkidyimaelatxbwa xyakepnetana aelakelyklayepnthanhyingnatngaetnnma emuxthrngecriyphrachnmphrrsaid 2 phrrsa phrabidaidnaekhaipthwaytwaedsmedcphrasriphchrinthrabrmrachininath phrabrmrachchnniphnpihlwng tamrachpraephnikhxngecanaysmykxnthithwaytwekhaipxyuinwngtngaetmiphrachnsayngnxy sunginrayannsmedcphrasriphchrinthrabrmrachininathprathbxyuthi phrarachwngdusit inewlanihmxmecahyingraiphphrrnikalngthrngsuksaphasaithyebuxngtnxyu emuxphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwesdcswrrkhtinwnthi 23 tulakhm ph s 2453 hmxmecahyingraiphphrrnimichnsaid 6 pi idthrngyaysthanthiphkcakphrarachwngdusit ipphrabrmmharachwngtamsmedcphrasriphchrinthrabrmrachininathipdwy aelaidesdcekhathrngsuksainorngeriynrachiniphrxmhmxmecaphraxngkhxun hlngcakesrckarphrarachphithithwayphraephlingphrabrmsphaelw smedcphrasriphchrinthrabrmrachininathidesdcyaycakphrabrmmharachwngipsuphrarachwngphyaith sungphraxngkhidoprdekla ihsrangphratahnkkhunihmaelaidprathb n phrarachwngaehngniepnkarthawrcntlxdphrachnmchiphkhxngphraxngkh sunghmxmecaraiphphrrniidtamesdcmadwyodyprathbxyubnphratahnkfayintidkbhxngeswy emuxhmxmecaraiphphrrnimichnsaid 8 piess aelaidphanphrarachphithieksaknt okncuk aelw kidthrngruckkb rxyothsmedcphraecanxngyaethx ecafaprachathipkskdiedchn krmkhunsuokhthythrrmracha sungidesdcniwtklbkrungethphmhankhr hlngcakthrngidsaerckarsuksawichakarthharcakpraethsxngkvsaelw saehtukxnenuxngmacaksmedcphraecanxngyaethx idesdcmaprathbthiphrarachwngphyaithkbphrachnniepnkhrngkhraw aelahmxmecahyingraiphphrrnicaepnphuthisnithknmakthisuddwy xphiesksmrs emuxpi ph s 2460 hlngcaksmedcphraecanxngyaethx ecafaprachathipkskdiedchn krmkhunsuokhthythrrmracha idthrnglasikkhacakkarphnwch n wdbwrniewsrachwrwihar kidkrabbngkhmthulphrakruna aelakhxphrarachthanphrabrmrachanuyatcakphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhwthicaesksmrskbhmxmecaraiphphrrni odyidthrngphrakrunaoprdekla prakxbphithixphiesksmrsphrarachthankhun n wngsuokhthy thnnsamesn aelaphrarachphithixphiesksmrsthi phrathinngworphasphiman phrarachwngbangpaxin karxphiesksmrsinkhrngnithuxepnphrarachphithixphiesksmrskhrngaerk hlngcakkartrakdmnethiyrbalwadwykaresksmrsaehngecanayinphrarachwngs rwmthngyngepnkaraetngnganaebbtawntkxyangaethcring klawkhuxmikarthamkhwamsmkhrickhxngkhubawsawdwy swnwngsuokhthynn idsrangkhunkxnthithng 2 phraxngkhcathrngesksmrskn odyepneruxnhxthiphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhwoprdekla phrarachthansrangihbriewnkhlxngsamesn aelaphrarachthannam wngsuokhithy thngyngthrngphrakrunaoprdeklaoprdkrahmxmihsthapnahmxmecaraiphphrrni khunepn hmxmecaraiphphrrni phrachayainsmedcecafa krmkhunsuokhthythrrmracha smedcphrabrmrachiniinrchkalthi 7 hlngcakphrabathsmedcphramngkuteklaecaxyuhwesdcswrrkhtinwnthi 26 phvscikayn ph s 2468 smedcphraecanxngyaethx ecafaprachathipkskdiedchn krmhlwngsuokhthythrrmracha idesdckhuneswyrachsmbtiepnphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw thaihhmxmecaraiphphrrni ideluxnyskhunepn phrawrrachchaya miphranamwa hmxmecaraiphphrrni phrawrrachchaya inphrarachphithibrmrachaphiesk karniphraxngkhidsthapnahmxmecaraiphphrrni phrawrrachchaya khunepn smedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini sungnbepnsmedcphraxkhrmehsiphraxngkhaerkthiidrbkarsthapnakhunepnsmedcphrabrmrachiniinkarphrarachphithibrmrachaphiesk inwnthi 24 mithunayn ph s 2475 khnarasdridthakarepliynaeplngkarpkkhrxngcakrabxbsmburnayasiththirachy maepnkarpkkhrxngrabxbphramhakstriyphayitrththrrmnuy khnannphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhwaelasmedcphranangecaraiphphrrni prathbxyuthiwngiklkngwl xaephxhwhin cnghwdpracwbkhirikhnth emuxwnthi 10 thnwakhm ph s 2476 phrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhwidesdcphrarachdaeninphrxmdwysmedcphranangecaraiphphrrni ipthrngecriythangphrarachimtrikbpraethsthangthwipyuorp aelaidthrngrbkarphatdaelarksaphraentr n praethsxngkvs karslaphrarachbllngkkhxngphrarachswami phrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhwaelasmedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachiniinxiriyabthsbay khnathiphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhwaelasmedcphranangecaraiphphrrni prathb n wngiklkngwl ephuxihphncaksxngfaythngsxngfaycungesdc odyeruxsrwrun phrxmdwyphrabrmwngsanuwngs thamklangsphawaxakaselwrayichewlakwasxngwn cungthungcnghwdsngkhla ipprathb n tahnkekhanxy smedcphranangecaraiphphrrni thrngelakhwaminphrarachhvthykhrngnnwa chnimkhid imrusukxairthngnn thacatayktaydwykn inwnthi 12 mkrakhm ph s 2476 nbskrachtamedim phrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhwidesdc phrxmdwysmedcphranangecaraiphphrrni suthwipyuorp aetkyngmikarkhdaeyngecrcaekiywkbkaremuxngkbthangkrungethphmhankhrsubenuxngknxyutlxdewla cninthisud kmikarkhdaeyngknrahwangphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhwkbrthbal echnineruxngthirthbalidaetngtngphrrkhphwkekhaepnsmachikphuaethnrasdrpraephththisxngaelarthbalimidihsiththiesriphaphaekprachachnxyangephiyngphx imtrngkbphrarachpnithanxyangaenwaenkhxngphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw dngnn phrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhwcungaesdngkhwamimehnphxngkbkhnaphubriharpraethsdwykartdsinphrarachhvthythrngslarachsmbtiinwnthi 2 minakhm ph s 2477 khnathiyngprathbxyuinpraethsxngkvs sungsmedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini miphrarachdarsthungehtukarninkhrngniwa ehnphxngtxngknkbphrarachswamiinkartdsinphrarachhvthyslarachy hlngcakthiphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhwthrngprakasthicathrngslarachsmbtiaelw phraxngkhphrxmkbsmedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini aelaphraprayuryatisnithbangphraxngkh cungthrngyaythiprathbcakicklangemuxngipxyuinchnbthiklkrunglxndxn thrngwangphraxngkheyiyngkhhbdichnbth thrngcdswn eliyngnkeliyngpla esdcpraphasthsnsuksatamobransthantang epntn inchwngthiprathbxyuinshrachxanackrnn phrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhwidthrngphraprachwrxyuenuxng aetsmedcphranangecaraiphphrrnikyngthrngprnnibtiphraxngkh cnthungwnthi 30 phvsphakhm ph s 2484 khnathithngsxngphraxngkhprathbxyuthiphratahnkkhxmphtn tablewxrcieniywxetxr praethsxngkvs phrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhwesdcswrrkhtodychbphlndwyphrahthyway miphrachnmphrrsa 48 phrrsa smedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachinithrngcdkareruxngphrabrmsphaelathwayphraephlingphrabrmsphphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhwepnkarphayinemuxwnthi 3 mithunayn pinn nbwaepnkarsuyesiykhrngyingihyxikkhrngkhxngsmedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini sungtxngthrngsuyesiybukhkhlxnepnthirkip chwngsngkhramolkkhrngthisxng smedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachiniyngprathbxyuinpraethsxngkvstxipdngedim thungaemwaphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhwidesdcswrrkhtipaelw ephraakarkhmnakhmtidtxrahwangpraethsyngimmikhwamplxdphyinchwngsngkhram aelaemuxpraethsithyprakassngkhramkbxngkvsaelashrthinchwngsngkhramolkkhrngthisxngnn khnithycanwnimnxyxphyphklbpraethsithyhlngkarprakassngkhram aetkmixikcanwnhnungthiphankxyuintangpraethsidprakastwepnesriithy thanganprasankbesriithyinkrungethphmhankhr odyrthbalxngkvsyngkhngihekiyrtiphraxngkhmatlxd aemwarthbalxngkvsidsnghammiihchatistruichrthynt ykewnaetkrniphiesssungphraxngkhkidsiththiphiessnn aelakhxycdnamnebnsinsunghayakinchwngnnmaihphraxngkhichxyuepnpraca smedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini aemcamiidmiphranamrwminkhnaesriithyxyangepnthangrachkar aetkidphrarachthanphrakrunaxudhnuncunecuxkickarkhxngesriithyinpraethsxngkvsmatlxd sunginkhnannmiesriithythnghmdephiyng 36 khninpraethsxngkvs esdcklbpraethsithy smedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachiniesdc niwtipraethsithyphrxmphrabrmxthikhxngphraswami inpi ph s 2492 rthbalidkrabbngkhmthulechiysmedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachiniesdcniwtkrungethphmhankhr phrxmkbphrabrmxthiphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw ephuxxyechiykhunpradisthaniw n thixnkhwraekphrabrmrachxisriyys inphrabrmmharachwng sahrbphrarachthanakhxngphraxngkhemuxesdcniwtpraethsithynn elkhathikarkhnarthmntri elkhathikarphrarachwng elkhathikarkhnakrrmkarkvsdika aelahmxmrachwngsethwathirach ethwkul idrwmknphicarnaehnwa smedcphrabrmrachiniraiphphrrni idrbkaraetngtngihepnrachiniodysmedcphraecaxyuhwrchkalthi 7 innganphithirachaphieskrchkalthi 7 cringxyuthukpraeths rwmthng praethsithydwy emuxmikarepliynrchkalthanakhxngphrarachiniyxmepliynip echn phrarachiniaemriaelasmedcphrasriphchrinthrabrmrachini chann emuxsmedcphraecaxyuhwrchkalthi 7 thrngslarachsmbtiaelwaelakaraetngtngphrarachiniraiphphrrniimmikarephikthxn thanknacakhngepnphrarachinitamedim aetimichphrarachinisungphrarachswamithrngrachy Queen Consort epliynepnphrarachiniwithwa Queen Dowager chann nacakhnanphranamthwayodyxnuolmphraswamiwa smedcphrabrmrachini rchkalthi 7 aetemuxphraxngkhesdcklbmayngphratahnk wngsuokhthysungekhyepnthiprathb idklbklayepnsankngankhxngkrathrwngsatharnsukhipaelw phraxngkhcungtxngesdcipprathbthiwngsrapthum khxngsmedcphramhitlathiebsr xdulyedchwikrm phrabrmrachchnkaethn enuxngcaksmedcphrasrinkhrinthrabrmrachchnniidechiyesdcsmedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachiniipxyurwmkbphraxngkh odythrngipprathbxyuthiwngsrapthumnanthung 3 pi cungidesdcphrarachdaeninklbmaprathbthiphratahnkwngsuokhthyxikkhrng hlngcaknnphraxngkhkthrngprakxbphrarachkrniykicaebngebaphrabathsmedcphraprminthrmhaphumiphlxdulyedch aelasmedcphranangecasirikiti phrabrmrachininath dwyinkhnannehlaphraoxrsaelaphrathidakhxngphrabathsmedcphraprminthrmhaphumiphlxdulyedchyngthrngphraeyaw swrrkht phraemrumas smedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini smedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachinithrngerimmiphraxakarprachwrdwyphraorkhkhwamdnphraolhitsung tngaet ph s 2518 inkhnathimiphrachnmphrrsaid 71 phrrsa aelawnthi 22 phvsphakhm ph s 2527 ewla 15 50 nalika phraxngkhesdcesdcswrrkhtdwyphrahthywayodyphraxakarsngb n phratahnkwngsuokhthy rwmphrachnmphrrsaid 79 phrrsa 5 eduxn 2 wn phrabathsmedcphraprminthrmhaphumiphlxdulyedchmiphrabrmrachoxngkaroprdekla ihsankphrarachwng cdkarphrabrmsphthwayphraekiyrtiystamrachpraephni odyxyechiyphrabrmsphthwayphralxngthxngihyprakxbphraoks pradisthanehnuxphraaethnsuwrrnebycdlcahlklaypradbrtnchatiphayitsptpdleswtchtr chtr 7 chn n phrathinngdusitmhaprasath phayinphrabrmmharachwng phrxmthngthrngphrakrunaoprdekla ihphrabrmwngsanuwngsaelakhathullaxxngthuliphrabathinrachsankiwthukkhthway mikahnd 100 wn tngaetwnswrrkhtepntnip nxkcakni sanknaykrthmntriidprakasihsthanthirachkartang ldthngkhrungesaepnewla 3 wn aelaihkharachkariwthukkhepnewla 15 wndwy sahrbphraemrumasinphrarachphithithwayphraephlingphrabrmsphxxkaebbodynaypraews limprngsi odyichphraemrumasxngkhklangkhxngsmedcphrasriphchrinthrabrmrachininathmaepnaenwthanginkarxxkaebb aelaphrabathsmedcphraecaxyuhwthrngmikraaesphrarachdarsthungaenwthangkarxxkaebbwa khxihdaeninkarodyprahyd aetihkhrbthwntamkhttiy rachpraephni aelasmphraekiyrtiysphrabrmsph xikprakarhnungthanphraemrumasimkhwrsungnkcaepnkarlabak aekphrabrmwngsanuwngsthicakhunthwayphraephlingphrabrmsphsungthrngecriyphrachnmayumakphraphrrsadwyknhlayphraxngkh phraemrumasepnxakharthrngprasathaebbcturmukh yxdthrngmnthpprakxbdwyphrhmphktr yxdbnsudpradisthansptpdleswtchtr twxakharprakxbdwychnthanthksinsahrbxngkhphraemrumasnn swnhlngkhaprakxbdwymukhthisaelaekhruxngyxd pradbtkaetngdwylwdlaykradasthxngynchlusabsi hnabnpradbphranamaphiithyyx r ph xngkhphraemruepnxakharothng tkaetngdwymanphatad michakbngephling phnngphaynxkpradblaykradasthxngynchlulaysiaebblngya phnngphayinichsichmphuepnphunswnthanthksinmibnid 4 this pradbdwyruppnethwda inthanngbnaethnesaphnklukkrngraebiyngodyrxb tamkhtiitrphumitamaebbobranrachpraephnithukprakar inwnthi 9 emsayn ph s 2528 cungmikarcdphrarachphithithwayphraephlingphrabrmsph n phraemrumas thxngsnamhlwng nbepnnganphraemruklangemuxngkhrngaerkthimikarthaythxdsdthangothrthsnodyrbsyyancakothrthsnrwmkarechphaakicaehngpraethsithy hlngcaknn cungmikarechiyphraoksphrabrmxthikhunpradisthan n phrawimanxngkhsay phrathinngckrimhaprasath aelaechiyphrarachsrirangkharipbrrcuthithanphuththbllngkphraphuththxngkhirs n wdrachbphithsthitmhasimaramrachwrwiharphracriywtrsmedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachinikhnachlxngphraxngkhxyangstritawntk phraxngkhthrngepnstrithimiphrasiriochmngdngam phracriywtrxnnumnwl miphraphktraecmis aelaaeymphrasrwlxyuesmx aelduexibximetmipdwyphrakruna nxkcakniyngepnthiruckcakkaraetngphraxngkhidxyangehmaasm sungineruxngdngklaw phraecawrwngsethx phraxngkhecaculckrphngs idniphnthlnginhnngsux ekidwngparusk elm 2 idklawthungphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw esdcphrarachdaeniniprksaphraentrthiyuorp hlngkarepliynaeplngkarpkkhrxng khwamwa smedc smedcphranangecaraiphphrrni nnducangamyingkhunkwaaetkxnxik aetngphraxngkhxyangstrichawyuorpodythrngeluxkidxyangehmaasm sungphuhyingithynxykhncathaiddietha aenlathanmienginmakcasuxxairkid aetkhaphecaimehndwy karaetngtwswynnimxyuaetthienginthungmimakethaid thaimmikhwamsamarthinthangeluxkaelw kaetngkayekhxaxyudi khaphecakhxyunynwa yngimekhyehnphuhyingithythiemuxngnxkthingamethahruxaetngkayekaelaswyethasmedcraiphphrrni echnediywkbhmxmrachwngskitiwthna pkmntri sungekhyphbkbsmedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini maaelw aemwacamiphrachnmayusung aetkyngkhngswysdngdngam miphraphktraecmis phrachwikhawxmchmphu khwamwa smedc khngmiphrachnsapraman 45 pi aetyngkhngthrngngdngam aecmis phrachwikhawphxngxmchmphu aelaphraphktrxxnhwanying aetemuxthungewlathiphraxngkhtxngtdsinphrarachhvthyineruxngthisakhykthrngekhmaekhngaelaeddediyw dngthiphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhwmiphrarachhtthelkhathungphraecawrwngsethx phraxngkhecaculckrphngs phraphatiya klawthungehtukarninkartdsinphrarachhvthyesdcklbkrungethph hlngekidkarepliynaeplngkarpkkhrxng khwamtxnhnungwa chntxngyxmrbwathngsmedc smedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini aelahyingxapha phraecawrwngsethx phraxngkhecaxaphaphrrni khwrcaidrbekiyrtiskdixyangsung thiaesdngkhwamklahayxyangyingechnnnephraaerathuk khnthrabdiwa thungerayxmklbkrungethph txipekhacakhaeraesiykid phuhyingsxngkhnnnekhaklayxmtayesiydikwathicaesiyekiyrtiskdi emuxekhatklngechnnnchnkehndwythnthi phrarachkrniykickhnaesdceyuxnckrwrrdiyipun ph s 2474khnatamesdcphrarachswamiipprakxbphrarachkrniykicineyxrmni pi ph s 2477 phayhlngkaresdckhunkhrxngrachsmbtikhxngphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw phraxngkhkptibtiphrarachkrniykicekhiyngkhangkbphrarachswamieruxyma thngphrarachkicphayinphrankhr karesdcphrarachdaeninipynghwemuxngtang rwmthungkaresdcphrarachdaenineyuxnpraethstang thnginaethbexechiy yuorp aelashrthxemrika ephuxepnkarechuxmsmphnthimtrirahwangpraeths hlngesdcniwtklbpraethsithyepnchwngthismedcphraecalukethxaelasmedcphraecalukyaethxinphrabathsmedcphramhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitryngthrngphraeyaw phraxngkhcungptibtiphrarachkrniykicaethnphraxngkhphrabathsmedcphramhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitrephuxaebngebaphrarachkrniykicidepnxnmak smedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini idesdcphrarachdaeninipthxdphraentrphunthiincnghwdechiyngihmaelacnghwdcnthburi sunginkhnannesnthangkhmnakhmyngimsadwk phraxngkhthrngeluxkthidinbriewntablbanaekw xaephxemuxngcnthburi cnghwdcnthburi dwythrngehnwaepnthaelthimithrrmchatingdngam aelamikhwamengiybsngbtxngkbphrarachxthyasykhxngphraxngkh aelarayathangkxyuimhangiklcaktwemuxngcnekinipnk smedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini thrngkuengincakthnakharipcdsuxthidinbriewnsxngfngkhlxngbanaekwcakecakhxngthidinedim rwmenuxthipraman 687 ir phrarachthannamwa swnbanaekw aelayngoprdekla ihkharachbripharthakarprbthidinphrxmkbsrangthiprathbchwkhrawthadwyimiphhlngkhamungcak odyidesdcphrarachdaeninipprathbaermkhrngaerkemuxwnthi 20 mithunayn ph s 2493 txmacungmikarsrangphratahnkhlngxun txma danekstr smedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini miphrarachprasngkhthicaihwngswnbanaekwnidaeninkickarindankarplukphuchphkswnkhrw plukimphlnanachnid thngthiepnphuchimphlinthxngthinaelaphuchaelaimphlcakthixun tlxdcnmikareliyngstw ephuxthicaihepnirtwxyangmakkwaepnkarkha odythakarthdlxngwahakplukphuchhruxeliyngstwchnidididphldi kcathrngnaexakhwamrunnxxkephyaephraekprachachn thrngphthnakarthxesux odyminkwichakarekstrcaksthanithdlxngekstrcnghwdcnthburithiepnkharachbripharekamachwyehluxaenanathangdanwichakar aelaemuxokhrngkarniprasbphlipdwydi phraxngkhcungthrngnaokhrngkarniipephyaephraekprachachn praktwaokhrngkarniepnipiddwydidwy nxkcaknn phraxngkhyngthrngepidorngnganthxesux singkhxngkhunchuxkhxngemuxngcnthburi dansatharnsukh emuxphraxngkhesdcipprathbyngcnghwdcnthburi aelwthrngtrahnkwakarrksaphyabalaekprachachnnnyngimephiyngphx epnkarsmkhwrthicacdsrangtukaelacdhaekhruxngmuxsahrbkarrksaphyabalihmakkhun phraxngkhmiphrarachdariwakhwrsrangtukphatdphrxmekhruxngmuxthithnsmykhunmakxnephuxchwyehluxprachachnthitxngekharbkarrksadwykarphatdidxyangthnthwngthi imtxngedinthangiprksayngphrankhrxnmikhwamesiyngtxkaresiychiwitid phraxngkhthrngrbepnphrarachpharainkarcdhathunephuxsrangtukphatd odyphrarachthanphrarachthrphyswnphraxngkhepnthuninebuxngtnaelaaecngphrarachprasngkhipyngphrabrmwngsanuwngs kharachkaraelaprachachndwy phraxngkhphrarachthannamtukniwa tukprachathipk ephuxepnphrarachkuslthwayphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw txmakhnarthmntriidthrabthungphrarachprasngkhcungmimtiesnxngbpramanprbprungorngphyabalcnthburiihihyaelathnsmykhunphrxmepliynnamorngphyabalihmwa dankarsuksa phraxngkhidphrarachthanthrphysinaelaphrarachthrphyepncanwnthngsin 2 715 041 68 bath epnthunerimtninkarcdtng mulnithiprachathipk txmakhux mulnithiprachathipk raiphphrrni ephuxsnbsnunkickarkhxngorngphyabalphrapkekla aelamhawithyalyrachphtraiphphrrni inkarkxsrang cdsuxxupkrn tlxdcnkhaichcaytang khxngsthabndngklaw aelaephuxihenginsmthb thunprachathipkbrmrachanusrn aelachwyehluxnkeriynnksuksathikhadaekhlnthunthrphy epntn inpi ph s 2511 smedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini thrngtdsinphrarachhvthykhaywngswnbanaekwihaekkrathrwngsuksathikar enuxngcakthangkrathrwngtxngkarthidinsrangorngeriynfukhdkhrucnthburi pccubnkhux mhawithyalyrachphtraiphphrrni cungthrngtdsinphrathykhayihinrakhathuk dngnnphraxngkhcungtxngesdcklbmaprathbxyuinwngsuokhthytamedim aemkrannkmiidthrnglathingkickarthxesuxaelaphlitsinkhacakesux oprdekla ihdaeninkickarechnekhyaetinprimannganthildlng aelaoprdekla ihichphratahnknainwngsuokhthythixyutidrimkhlxngsamesnepnsthanthithxesuxaelaphlitsinkhathithacakesux phayitkarkhwbkhumxyangiklchidkhxngphraxngkhexnginwthnthrrmsmyniyminpi ph s 2567 idmikarsrangaexniemchneruxng 2475 rungxrunaehngkarptiwti odymitwlakhr smedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini phakyesiyngody sincy eplngphanichphraekiyrtiysthrrmeniymphrayskhxng smedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachinithngpracaphraxisriyystrapracaphraxngkhthngpracaphraxngkhkarthulitfalaxxngphrabathkaraethntnkhaphraphuththecakarkhanrbphraphuththecakha ephkhaphnexkhying smedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachinirbichkxngthphbkithypracakarph s 2472 2507chnysphnexkhnwykrmthharrabthi 4 kxngphnthharrabthi 1 mhadelkrksaphraxngkhphraxisriyys 20 thnwakhm ph s 2447 26 singhakhm ph s 2461 hmxmecaraiphphrrni 26 singhakhm ph s 2461 15 phvscikayn ph s 2468 hmxmecaraiphphrrni phrachayainsmedcphraecanxngyaethx ecafaprachathipkskdiedchn krmkhunsuokhthythrrmracha 26 phvscikayn ph s 2468 25 kumphaphnth ph s 2469 hmxmecaraiphphrrni phrawrrachchaya 25 kumphaphnth ph s 2469 30 phvsphakhm ph s 2484 smedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini 30 phvsphakhm ph s 2484 22 phvsphakhm ph s 2527 smedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini inphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhwekhruxngrachxisriyysrachupophkh innganphrarachphithibrmrachaphieskphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw emuxpi ph s 2468 nn phraxngkhthrngphrakrunaoprdekla phrarachthanekhruxngrachxisriyysrachupophkhsahrbtaaehnngsmedcphraxkhrmehsiihaeksmedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini odyekhruxngrachxisriyysrachupophkhehlaniepnsingthiphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwthrngphrakrunaoprdekla ihcdsrangkhunsahrbphrarachthanihaeksmedcphrasriphchrinthrabrmrachininath phrabrmrachchnniphnpihlwng prakxbdwy phanphrasri phanishmakphlu thxngkhalngya kanathxngkhalngya khnnaphrasutharseyn phrxmcxklxythxngkhalngya hibphrasrithxngkhalngya phrxmphanrxng phrasuphrrnsri kraothnelk thxngkhalngya khnsrngphraphktrthxngkhalngya phrxmkhlumpk phrachay kracksxnghna thxngkhalngya phanekhruxngphrasaxang phrxmphrasangwngeduxn phrasangesniyd aelaphrakrnththxngkhalngya sahrbbrrcuekhruxngphrasaxang rawphraphusasbphraphktrthxngkhalngyarupphyanakh phrxmphasbphraphktrcibriwphadthiraw 2 phunekhrixngrachxisriyaphrn ekhrixngrachxisriyaphrnithy smedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini idrbphrarachthanekhruxngrachxisriyaphrn dngtxipni ph s 2468 ekhruxngkhttiyrachxisriyaphrnxnmiekiyrtikhunrungeruxngyingmhackribrmrachwngs m c k fayin ph s 2468 ekhruxngrachxisriyaphrnxnepnobranmngkhlnphrtnrachwraphrn n r fayin ph s 2468 ekhruxngrachxisriyaphrnculcxmekla chnthi 1 pthmculcxmekla p c fayin ph s 2514 ehriyylukesuxsdudi chnthi 1 ph s 2460 ehriyyrtnaphrn rchkalthi 6 chnthi 1 w p r 1 ph s 2469 ehriyyrtnaphrn rchkalthi 7 chnthi 1 p p r 1 ph s 2495 ehriyyrtnaphrn rchkalthi 9 chnthi 1 ph p r 1 ph s 2469 ehriyybrmrachaphiesk rchkalthi 7 r r s 7 ph s 2493 ehriyybrmrachaphiesk rchkalthi 9 r r s 9 ph s 2475 ehriyyechlimphrankhr 150 pi r ch ph ekhrixngrachxisriyaphrntangpraeths nxkcaknismedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini yngthrngidrbekhrixngrachxisriyaphrntangpraeths dngtxipni yipun ph s 2474 ekhruxngrachxisriyaphrnrtnmngkud chnthi 1 kris ph s 2506 ekhruxngrachxisriyaphrnexfopexiys chnthi 1phraysthangthhar phnexkhying phubngkhbkarphiesskrmthharrabthi 4 aelaphubngkhbkarphiesskxngphnthharrabthi1 mhadelkrksaphraxngkhkarethidphraekiyrtiphrarachinyanusrn phrarachinyanusawriysmedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachinitngxyuthiphratahnkswnbanaekwxnusrnsthan phayinmhawithyalyrachphdraiphphrrni cnghwdcnthburi mikhnadkhrungethaphraxngkhcring odyidrbphrabrmrachanuyat tamhnngsux thi nr 0207 17124 lngwnthi 2 phvscikayn 2542 odyphuxxkaebbkhuxnaysaorcn carksaelaphuhlxkhux phth nphdl suwrrnsmbti thiraluk traiprsniyakrthiraluk 100 pi smedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini inrchkalthi 7 epnphaphphrasathislksnsmedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini khxbphaphdanlangmikhawa 100 pi smedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini inrchkalthi 7 CENTENARY OF H M QUEEN RAMBHAI BARNI OF THE SEVENTHREIGN xxkcahnaytngaetwnthi 20 thnwakhm ph s 2547phngsawliphngsawlikhxngsmedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini 16 phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach 8 24 phrabathsmedcphraphuththelishlanphaly 17 smedcphraxmrinthrabrmrachini 4 12 phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw 18 engin aestn 9 25 smedcphrasrisurieynthrabrmrachini 19 smedcphraecaphinangethx ecafakrmphrasrisudarks 2 smedcphraecabrmwngsethx krmphraswsdiwdnwisisd 10 hlwngxasasaaedng aetng 5 smedcphrapiymawdi sriphchrinthrmata 11 thawsucrittharng nakh sucritkul 1 smedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini 24 8 phrabathsmedcphraphuththelishlanphaly 12 4 phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw 25 9 smedcphrasrisurieynthrabrmrachini 6 phraecabrmwngsethx krmhlwngphichitprichakr 26 phrayarachsngkhram xin xinthrwiml 13 ecacxmmardaphung inrchkalthi 4 3 phraecawrwngsethx phraxngkhecaxaphaphrrni 14 kim 7 hmxmsun khkhnangkh n xyuthya 15 eta xangxingraphi sakhrik wdbwrniewswiharaelamhamkudrachwithyalyinphrabrmrachupthmph phimphodyesdcphrarachkuslinphrarachphithiphrarachthanephlingphrasphsmedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachiniinrchkalthi 7 n emrumasthxngsnamhlwng wnthi 9 emsayn phuththskrach 2528 hna 8 raphi sakhrik wdbwrniewswiharaelamhamkudrachwithyalyinphrabrmrachupthmph phimphodyesdcphrarachkuslinphrarachphithiphrarachthanephlingphrasphsmedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachiniinrchkalthi 7 n emrumasthxngsnamhlwng wnthi 9 emsayn phuththskrach 2528 hna 1 rachkiccanuebksa phrabrmrachoxngkar prakas tngkrm tngphraxngkhecaaelaecaphraya 2015 10 02 thi ewyaebkaemchchin elm 46 txn 0 k 10 phvscikayn ph s 2472 hna 174 phvththisan chumphl rxngsastracary hmxmrachwngs krkdakhm 2559 rayngankarwicy karsngekhraahprawtisastrbxkelainsmedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachiniinrchkalthi 7 PDF phiphithphnthphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw sthabnphrapkekla p 3 smedcphranangecaraiphphrrni 2005 05 09 thi ewyaebkaemchchin cak ewbistrakthanithy thankhxmulephuxkarphthnapraeths phrachayainsmedcecafakrmkhunsuokhthythrrmracha 2019 04 08 thi ewyaebkaemchchin cak ewbistwngswnbanaekwdxtkhxm sankphrarachwng phrarachwngbangpaxin phimphkhrngthi 1 ph s 2548 sankphrarachwng phrarachwngbangpaxin phimphkhrngthi 1 ph s 2548 phrarachprawtismedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachiniinrchkalthi 7 hna 7 8 rachkiccanuebksa prakasphrarachthannamwng elm 35 txn 0k 3 phvscikayn ph s 2461 hna 247 rachkiccanuebksa phrarachphithi brmrachaphieskechlimphrarachmnethiyr pichlusptsk phuththskrach 2468 2011 11 14 thi ewyaebkaemchchin elm 42 txnphiess 0 k 3 minakhm ph s 2468 hna 0 rachkiccanuebksa phrabrmrachoxngkar prakas sthapnasmedcphrabrmrachini elm 42 txn 0 k 3 minakhm ph s 2468 hna 355 phrarachprawtismedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachiniinrchkalthi 7 hna 15 phraxngkh thrngela emuxphraxngkhthrngslarachsmbti rchkalthi 7 esdcyuorp ph s 2476 2477 5 ephuxtdsinphrathywacaslarachsmbtihruxim phrarachprawtismedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachiniinrchkalthi 7 elmihy hna 93 chtrsuda skulithy khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 03 04 subkhnemux 27 phvscikayn 2558 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help phrarachprawtismedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachiniinrchkalthi 7 elmihy hna 116 raphi sakhrik wdbwrniewswiharaelamhamkudrachwithyalyinphrabrmrachupthmph phimphodyesdcphrarachkuslinphrarachphithiphrarachthanephlingphrasphsmedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachiniinrchkalthi 7 n emrumasthxngsnamhlwng wnthi 9 emsayn phuththskrach 2528 hna 7 thrngphraprachwr 2019 04 08 thi ewyaebkaemchchin cak ewbistwngswnbanaekwdxtkhxm smphph phirmy sastracary n x phraemrumas phraemru aelaemru smykrungrtnoksinthr phimphkhrngthi 2 krungethph xmrinthrkarphimph 2528 hna 113 wnaehngkhwamosksldxnihyhlwng 2009 04 28 thi ewyaebkaemchchincak ewbistwngswnbanaekwdxtkhxm rachkiccanuebksa prakassanknaykrthmntri eruxng ihsthanthirachkarldthngkhrungesa enuxnginkarthismedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini inrchkalthi 7 swrrkht elm 101 txn 67 ng chbbphiess 24 phvsphakhm ph s 2527 hna 3 phrarachdars eruxng phraemrumas smedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachiniin rchkalthi7 n thxngsnamhlwng krungethphmhankhr aelwesrcemux ph s 2528 2016 03 05 thi ewyaebkaemchchin cak KingSiam com wnthi 8 minakhm 2556 phraemrumassmedcphranangecaraiphphrrni cak xartbangkxk wnthi 8 minakhm 2556 rachkiccanuebksa hmaykahndkar thi 4 2528 thwayphraephlingphrabrmsph smedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini inrchkalthi 7 n phraemrumas thxngsnamhlwng emsayn phuththskrach 2528 elm 102 txn 43 ng chbbphiess 6 emsayn ph s 2528 hna 1 hmxmrachwngskitiwthna pkmntri ekhiynthungsmedc phimphkhrngthi 3 krungethph elmxnthi 2547 hna 75 phrarachprawtismedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachiniinrchkalthi 7 elmihy hna 68 hnngsux 72 pi orngphyabalphrapkekla bristhcamcurioprdkth 26 2555 ISBN 978 616 11 1165 6 mulnithiprachathipk raiphphrrni withyalyphyabalphrapkekla cnthburi subkhnemux 21 mithunayn ph s 2557 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help phrarachprawtismedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachiniinrchkalthi 7 hnngsuxxnusrnnganphrabrmsphthrngphrakrunaoprdekla ihphimphphrarachthanprachachninnganphrabrmsphsmedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachiniinrchkalthi 7 n phraemrumasthxngsnamhlwng wnthi 9 emsayn ph s 2528 rachkiccanuebksa phrarachthanekhruxngrachxisriyaphrnfayin hna 3670 elm 42 25 kumphaphnth ph s 2468 rachkiccanuebksa phrarachthanekhruxngrachxisriyaphrnfayin hna 3670 elm 42 25 kumphaphnth ph s 2468 rachkiccanuebksa phrarachthanekhruxngrachxisriyaphrn hna 3669 elm 42 22 kumphaphnth ph s 2468 rachkiccanuebksa aecngkhwamkrathrwngsuksathikar eruxng phrarachthanehriyylukesuxsdudi elm 88 txnthi 94 ng hna 2377 31 singhakhm 2514 rachkiccanuebksa phrarachthanehriyyrtnaphrnfayin 2011 11 20 thi ewyaebkaemchchin elm 43 txn 0 ng 26 phvscikayn ph s 2469 hna 3114 rachkiccanuebksa aecngkhwamsanknaykrthmntri eruxng phrarachthanehriyyrtnaphrn elm 69 txn 77 ng 30 thnwakhm ph s 2495 hna 4804 aecngkhwamkrathrwngklaohm eruxng phubngkhbkarphiess PDF rachkiccanuebksa elm 46 hna 237 21 emsayn 2472 aecngkhwamkrathrwngklaohm eruxng phubngkhbkarphiess PDF rachkiccanuebksa elm 49 hna 2351 2 tulakhm 2475 khxmulxnusawriy lingkesiy rachkiccanuebksa prakaskrathrwngethkhonolyisarsnethsaelakarsuxsar eruxng srangaelacahnaytraiprsniyakrthiraluk 100 pi smedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini inrchkalthi 7 elm 122 txn 12 ng 10 kumphaphnth ph s 2548 hna 12 brrnanukrm phrarachprawtismedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachiniinrchkalthi 7 elmihy hnngsuxxnusrnnganphrabrmsphthrngphrakrunaoprdekla ihphimphphrarachthanprachachninnganphrabrmsphsmedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachiniinrchkalthi 7 n phraemrumasthxngsnamhlwng wnthi 9 emsayn ph s 2528aehlngkhxmulxunwikisxrs mingantnchbbekiywkb khaphiphaksasalxuththrn inkhdihmayelkhaedngthi 278 2482 khdiyudthrphyphrapkekla wikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb smedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini kxnhna smedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini thdipsmedcphranangecaxinthrskdisci phraxkhrmehsikrungsyam 25 kumphaphnth ph s 2469 2 minakhm ph s 2478 smedcphranangecasirikiti