พระบาทสมเด็จพระบรมราชพงษเชษฐมเหศวรสุนทร พระพุทธเลิศหล้านภาลัย (24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2311 – 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367; ครองราชย์ 8 กันยายน พ.ศ. 2352 – 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367) เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 4 ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และเป็นกษัตริย์รัชกาลที่ 2 ของสยามในสมัยราชวงศ์จักรีและเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 46 ตามประวัติศาสตร์ไทย ปกครองระหว่าง พ.ศ. 2352 ถึง พ.ศ. 2367 ในปี พ.ศ. 2352 เจ้าฟ้าฉิมหรือกรมหลวงอิศรสุนทรพระราชโอรสองค์โตสืบราชบัลลังก์ต่อจากรัชกาลที่ 1 พระราชบิดาผู้สถาปนาราชวงศ์จักรีเป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชสมัยของพระองค์สงบสุข ปราศจากความขัดแย้ง รัชสมัยของพระองค์เป็น "ยุคทองของวรรณคดี" เนื่องจากพระองค์ทรงอุปถัมภ์กวีหลายคนในราชสำนัก และพระองค์เองก็มีชื่อเสียงในฐานะกวีและศิลปิน กวีที่โดดเด่นที่สุดในราชสำนักคือสุนทรภู่
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย | |||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
พระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท | |||||||||||||||||
พระเจ้ากรุงศรีอยุธยา | |||||||||||||||||
ครองราชย์ | 8 กันยายน พ.ศ. 2352 – 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367 (14 ปี 316 วัน) | ||||||||||||||||
ราชาภิเษก | 17 กันยายน พ.ศ. 2352 | ||||||||||||||||
ก่อนหน้า | พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช | ||||||||||||||||
ถัดไป | พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว | ||||||||||||||||
พระมหาอุปราช | สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์ | ||||||||||||||||
สมุหนายก | ดูรายชื่อ | ||||||||||||||||
สมุหพระกลาโหม | |||||||||||||||||
กรมพระราชวังบวรสถานมงคล | |||||||||||||||||
ดำรงพระยศ | 15 มีนาคม พ.ศ. 2350 – 7 กันยายน พ.ศ. 2352 (2 ปี 176 วัน) | ||||||||||||||||
รัชสมัย | พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช | ||||||||||||||||
อุปราชาภิเษก | 15 มีนาคม พ.ศ. 2350 | ||||||||||||||||
ก่อนหน้า | สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท | ||||||||||||||||
ถัดไป | สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์ | ||||||||||||||||
พระราชสมภพ | 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2311 บ้านอัมพวา เมืองสมุทรสงคราม อาณาจักรธนบุรี (ปัจจุบัน อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ประเทศไทย) | ||||||||||||||||
สวรรคต | 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367 (56 พรรษา) พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน พระราชวังหลวง กรุงเทพพระมหานคร อาณาจักรรัตนโกสินทร์ (ปัจจุบัน พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย) | ||||||||||||||||
ถวายพระเพลิง | พ.ศ. 2368 พระเมรุมาศ ทุ่งพระเมรุ | ||||||||||||||||
บรรจุพระบรมอัฐิ | หอพระธาตุมณเฑียร | ||||||||||||||||
พระภรรยาเจ้า | |||||||||||||||||
สนม | |||||||||||||||||
พระราชบุตร | 73 พระองค์ | ||||||||||||||||
| |||||||||||||||||
ราชวงศ์ | จักรี | ||||||||||||||||
พระราชบิดา | พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช | ||||||||||||||||
พระราชมารดา | สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี | ||||||||||||||||
ศาสนา | เถรวาท |
พระนาม
หลังพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเสด็จสวรรคต เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรได้สืบทอดบัลลังก์ในทันทีพร้อมด้วยพระนามชั่วคราวว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กรมพระราชวังบวรสถานมงคล ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นราชประเพณีว่าพระมหากษัตริย์ที่ยังไม่ได้ผ่านพิธีพระบรมราชาภิเษกจะได้รับพระอิสริยยศชั่วคราวเป็น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แทน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยมีพระนามเต็มเมื่อทรงรับการบรมราชาภิเษกแล้วว่า พระบาทสมเด็จพระบรมราชาธิราชรามาธิบดี ศรีสินทรบรมมหาจักรพรรดิราชาธิบดินทร์ ธรณินทราธิราช รัตนากาศภาสกรวงศ์ องค์ปรมาธิเบศ ตรีภูวเนตรวรนายก ดิลกรัตนราชชาติอาชาวศรัย สมุทัยดโรมนต์ สากลจักรวาฬาธิเบนทร สุริเยนทราธิบดินทร์ หริหรินทรา ธาดาธิบดี ศรีวิบูลยคุณอกนิษฐ ฤทธิราเมศวรมหันต บรมธรรมิกราชาธิราชเดโชชัย พรหมเทพาดิเทพนฤบดินทร์ ภูมิทรปรมาธิเบศ โลกเชษฐวิสุทธิ รัตนมกุฎประกาศ คตามหาพุทธางกูรบรมบพิตร พระพุทธเจ้าอยู่หัว ซึ่งเหมือนกับพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทุกตัวอักษร เนื่องจากในเวลานั้น ยังไม่มีธรรมเนียม ที่จะต้องมีพระปรมาภิไธยแตกต่างกันในแต่ละพระองค์
ในพระราชกำหนด สักเลข ขานพระนามว่า พระบาทสมเด็จพระบรมธรรมิกราชา นราธิบดี ศรีสุริยวงษ์ องคราเมศวรราช บรมนารถบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัว
ในพระราชกำหนด ห้ามมิให้สูบแลชื้อขายฝิ่น ขานพระนามว่า พระบาทสมเด็จพระบรมธรรมิกราชาธิบดี ศรีวิสุทธิคุณ วิบุลยปรีชา ฤทธิราเมศวรราช บรมนารถบรมพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัว
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ออกพระนามรัชกาลที่ 2 ว่าพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าสุลาลัย ตามนามของพระพุทธรูปที่ทรงโปรดให้สร้างอุทิศถวาย และต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนสร้อยพระนามเป็น "นภาลัย" และเฉลิมพระปรมาภิไธยใหม่เป็น พระบาทสมเด็จพระบรมราชพงษเชษฐ มเหศวรสุนทร ไตรเสวตรคชาดิศรมหาสวามินทร์ สยารัษฎินทรวโรดม บรมจักรพรรดิราช พิลาศธาดาราชาธิราช บรมนารถบพิตร พระพุทธเลิศหล้านภาไลย
ต่อมาวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2459 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้เฉลิมพระปรมาภิไธยอย่างสังเขปเป็น พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาอิศรสุนทร พระพุทธเลิศหล้านภาไลย
พระราชประวัติ
ก่อนครองราชย์
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย มีพระนามเดิมว่า ฉิม พระราชสมภพเมื่อวันพุธ ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 4 ปีกุน นพศก จ.ศ. 1129 ตรงกับวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2311 เป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (ขณะทรงมีบรรดาศักดิ์เป็นหลวงยกรบัตรเมืองราชบุรี) ประสูติแต่ท่านผู้หญิงนาค (ภายหลังเฉลิมพระนามเป็นสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี) เมื่อเจริญพระชนม์ได้ทรงศึกษาในสำนัก วัดบางว้าใหญ่ และได้ติดตามสมเด็จพระบรมชนกนาถไปในการสงครามทุกครั้ง
ในปี พ.ศ. 2325 เมื่อสมเด็จพระบรมชนกนาถปราบดาภิเษกเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีแล้ว จึงได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร ถึงวันอาทิตย์ ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 4 ปีขาล พ.ศ. 2349 (นับแบบปัจจุบันเป็นวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2350) เมื่อสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท เสด็จทิวงคต สมเด็จพระบรมชนกนาถจึงให้รับอุปราชาภิเษกเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล
ครองราชย์
เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชประชวรพระโสภะอยู่ 3 ปีก็เสด็จสวรรคตในวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2352 ขณะมีพระชนมพรรษาได้ 73 พรรษา นับเวลาในการเสด็จครองราชย์ได้นานถึง 27 ปี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชกรมพระราชวังบวรสถานมงคลจึงได้สำเร็จราชการแผ่นดินต่อมา เมื่อจัดการพระบรมศพเสร็จแล้ว พระบรมวงศานุวงศ์ขุนนางและพระราชาคณะจึงกราบบังคมทูลเชิญเสด็จขึ้นผ่านพิภพ
ต่อมาวันที่ 10 กันยายน พบหนังสือฟ้องว่าเจ้าฟ้ากรมขุนกระษัตรานุชิตกับพวกร่วมกันคิดการขบถ ไต่สวนแล้วโปรดให้ประหารชีวิตทั้งหมดในวันที่ 13 กันยายน
การพระราชพิธีบรมราชาภิเษกจัดขึ้นในวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2352 โดยย้ายมาทำพิธีที่หมู่พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน เนื่องจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทซึ่งสร้างขึ้นแทนพระที่นั่งอมรินทราภิเษกมหาปราสาทอันเป็นสถานที่ทำพิธีปราบดาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชนั้นใช้เป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชอยู่ ในรัชกาลต่อ ๆ มาจึงใช้หมู่พระที่นั่งจักรพรรดิพิมานเป็นสถานที่จัดการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกและใช้พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเป็นสถานที่ตั้งพระบรมศพ หลังจากเสร็จพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระองค์จึงเสด็จเลียบพระนครโดยกระบวนพยุหยาตราตามโบราณราชประเพณี
สวรรคต
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงพระประชวรด้วยโรคพิษไข้ ทรงไม่รู้สึกพระองค์เป็นเวลา 8 วัน[] พระอาการประชวรก็ได้ทรุดลงตามลำดับ และเสด็จสวรรคตเมื่อวันพุธ แรม 11 ค่ำ เดือน 8 ปีวอก ฉศก จ.ศ. 1186 ตรงกับวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367[] สิริพระชนมพรรษาได้ 56 พรรษา และครองราชย์สมบัติได้ 15 ปี พระบรมศพประดิษฐาน ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท[] และได้มีพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพเมื่อ พ.ศ. 2368 ณ พระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง[] ต่อมาพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้อัญเชิญพระบรมอัฐิ ไปประดิษฐาน ณ หอพระธาตุมณเฑียร จากนั้นได้นำพระบรมราชสรีรางคารไปบรรจุไว้ใต้พระอุโบสถ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร[]
พระปรีชาสามารถ
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงพระปรีชาสามารถในศิลปกรรมด้านต่าง ๆ หลายสาขา[] ดังจะขอยกตัวอย่างต่อไปนี้
ด้านกวีนิพนธ์
ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้รับการยกย่องว่า เป็นยุคทองของวรรณคดีสมัยหนึ่งเลยทีเดียว ด้านกาพย์กลอนเจริญสูงสุด จนมีคำกล่าวว่า "ในรัชกาลที่ 2 นั้น ใครเป็นกวีก็เป็นคนโปรด" กวีที่มีชื่อเสียงนอกจากพระองค์เองแล้ว ยังมีกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ (รัชกาลที่ 3) สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส สุนทรภู่ พระยาตรัง และ เป็นต้น พระองค์มีพระราชนิพนธ์ที่เป็นบทกลอนมากมาย ทรงเป็นยอดกวีด้านการแต่งบทละครทั้งละครในและละครนอก มีหลายเรื่องที่มีอยู่เดิมและทรงนำมาแต่งใหม่เพื่อให้ใช้ในการแสดงได้ เช่น รามเกียรติ์ อุณรุท และอิเหนา โดยเรื่องอิเหนานี้ เรื่องเดิมมีความยาวมาก ได้ทรงพระราชนิพนธ์ใหม่ตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นเรื่องยาวที่สุดของพระองค์ วรรณคดีสโมสรในรัชกาลที่ 6 ได้ยกย่องให้เป็นยอดบทละครรำที่แต่งดี ยอดเยี่ยมทั้งเนื้อความ ทำนองกลอนและกระบวนการเล่นทั้งร้องและรำ นอกจากนี้ยังมีละครนอกอื่น ๆ เช่น ไกรทอง สังข์ทอง ไชยเชษฐ์ หลวิชัยคาวี สังข์ศิลป์ชัย ได้ทรงเลือกเอาของเก่ามาทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นใหม่บางตอน และยังทรงพระราชนิพนธ์บทพากย์โขนอีกหลายชุด เช่น ชุดนางลอย ชุดนาคบาศ และชุดพรหมาสตร์ ซึ่งล้วนมีความไพเราะซาบซึ้งเป็นอมตะใช้แสดงมาจนทุกวันนี้
ด้านประติมากรรม
นอกจากจะทรงส่งเสริมงานช่างด้านหล่อพระพุทธรูปแล้ว พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยยังได้ทรงพระราชอุตสาหะปั้นหุ่นพระพักตร์ของ พระประธานในพระอุโบสถวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร อันเป็นพระพุทธรูปที่สำคัญยิ่งองค์หนึ่งของไทยด้วยพระองค์เอง ซึ่งลักษณะและทรวดทรงของพระพุทธรูปองค์นี้เป็นแบบอย่างที่ประดิษฐ์คิดค้นขึ้นใหม่ในรัชกาลที่ 2 นี้เอง ส่วนด้านการช่างฝีมือและการแกะสลักลวดลายในรัชกาลของพระองค์ได้มีความเจริญก้าวหน้าไปอย่างมาก และพระองค์เองก็ทรงเป็นช่างทั้งการปั้นและการแกะสลักที่เชี่ยวชาญยิ่งพระองค์หนึ่งอย่างยากที่จะหาผู้ใดทัดเทียมได้ นอกจากฝีพระหัตถ์ในการปั้นพระพักตร์พระพุทธธรรมิศรราชโลกธาตุดิลกแล้ว ยังทรงแกะสลักบานประตูพระวิหารพระศรีศากยมุนี วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร คู่หน้าด้วยพระองค์เองร่วมกับกรมหมื่นจิตรภักดี และทรงแกะหน้าหุ่นหน้าพระใหญ่และพระน้อยที่ทำจากไม้รักคู่หนึ่งที่เรียกว่าพระยารักใหญ่ และพระยารักน้อยไว้ด้วย
ด้านดนตรี
กล่าวได้ว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยมีพระปรีชาสามารถในด้านนี้ไม่น้อยไปกว่าด้านละครและฟ้อนรำ เครื่องดนตรีที่ทรงถนัดและโปรดปรานคือ ซอสามสาย ซึ่งซอคู่พระหัตถ์ที่สำคัญได้พระราชทานนามว่า "ซอสายฟ้าฟาด" และเพลงพระราชนิพนธ์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีคือ "เพลงบุหลันลอยเลื่อน" หรือ "บุหลัน (เลื่อน) ลอยฟ้า" แต่ต่อมามักจะเรียกว่า "เพลงทรงพระสุบิน" เพราะเพลงมีนี้มีกำเนิดมาจากพระสุบิน (ฝัน) ของพระองค์เอง โดยเล่ากันว่าคืนหนึ่งหลังจากได้ทรงซอสามสายจนดึก ก็เสด็จเข้าที่บรรทมแล้วทรงพระสุบินว่า ได้เสด็จไปยังดินแดนที่สวยงามดุจสวรรค์ ณ ที่นั่น มีพระจันทร์อันกระจ่างได้ลอยมาใกล้พระองค์ พร้อมกับมีเสียงทิพยดนตรีอันไพเราะยิ่ง ประทับแน่นในพระราชหฤทัย ครั้นทรงตื่นบรรทมก็ยังทรงจดจำเพลงนั้นได้ จึงได้เรียกพนักงานดนตรีมาต่อเพลงนั้นไว้ และทรงอนุญาตให้นำออกเผยแพร่ได้ เพลงนี้จึงเป็นที่แพร่หลายและรู้จักกันกว้างขวางมาจนทุกวันนี้
พระมเหสี พระราชโอรส พระราชธิดา
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยมีพระราชโอรสพระราชธิดารวมทั้งสิ้น 73 พระองค์ โดยประสูติเมื่อครั้งยังดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร 47 พระองค์ ประสูติเมื่อดำรงพระอิสริยยศเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล 4 พระองค์ และประสูติภายหลังบรมราชาภิเษกแล้ว 22 พระองค์
- พระมเหสี เจ้าจอมมารดา และเจ้าจอม
ลำดับประวัติศาสตร์เหตุการณ์สำคัญ
หลังบรมราชาภิเษก ได้โปรดให้ตั้งพระราชพิธีอุปราชาภิเศกสถาปนาพระเกียรติยศสมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้ากรมหลวงเสนานุรักษ์ พระบัณฑูรน้อยในรัชกาลที่ 1 ขึ้นเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคลตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2352 ต่อมาวันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2353 จึงสถาปนาพระเกียรติยศสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงเป็นสมเด็จกรมพระอมรินทรามาตย์
กรุงสยามมีการเปลี่ยนธงประจำชาติ จากธงแดง เป็นธงช้าง มีลักษณะพื้นสีแดง ตรงกลางเป็นวงกลมสีขาว มีรูปช้างเผือกสีขาวภายในวงกลม แต่เมื่อจะใช้ชักเป็นธงบนเรือสินค้า ให้งดวงกลมออกเสีย เหลือแต่รูปช้างเผือกสีขาวเท่านั้น ดังนั้น บันทึกที่พบในต่างประเทศจึงระบุว่ากรุงสยาม ใช้ธงประจำชาติเป็นรูปช้างเผือกสีขาวบนพื้นแดง ดูเรื่อง ธงชาติไทย
- พ.ศ. 2311
- 24 กุมภาพันธ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยพระราชสมภพ ณ ตำบลอัมพวา เมืองสมุทรสงคราม พระนามเดิม ฉิม
- พ.ศ. 2325
- พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงปราบดาภิเษกขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์
- ทรงได้รับการสถาปนาพระยศเป็น สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร
- พ.ศ. 2349
- ทรงได้รับการสถาปนาพระยศจากพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล
- พ.ศ. 2352
- พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเสด็จสวรรคต
- พระบรมวงศานุวงศ์ ขุนนางกราบบังคมทูลอัญเชิญพระองค์ขึ้นครองราชสมบัติเป็นรัชกาลที่ 2 แห่งพระราชวงศ์จักรี เฉลิมพระนามว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
- เจ้าฟ้ากรมขุนกษัตรานุชิตกับพวก คิดกบฏ โปรดเกล้าฯ ให้กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ชำระความ
- สงครามกับพม่าที่เมืองถลาง
- พ.ศ. 2353
- พ.ศ. 2354
- โปรดเกล้าฯ ให้เจ้านายไปกำกับราชการตามกระทรวงต่าง ๆ
- โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานออก "เดินสวนเดินนา"
- ออกพระราชกำหนดห้ามสูบและซื้อขายฝิ่น
- จัดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
- เกิดอหิวาตกโรคครั้งใหญ่
- โปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชพิธี "อาพาธพินาศ"
- โปรดเกล้าฯ ให้กองทัพไทย ไประงับความวุ่นวายในกัมพูชา
- อิน-จัน แฝดสยามคู่แรกของโลกถือกำเนิดขึ้น
- พ.ศ. 2355
- โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระแก้วผลึก (พระพุทธบุษยรัตน์) จากเมืองจำปาศักดิ์มายังกรุงเทพฯ
- พ.ศ. 2356
- พม่าให้ชาวกรุงเก่านำสาส์นจากเจ้าเมืองเมาะตะมะมาขอทำไมตรีกับสยาม
- พระองค์เจ้าชายทับ (พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว) ได้รับการสถาปนาเป็นกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์
- พ.ศ. 2357
- โปรดเกล้าฯ ให้ส่งคณะสมณทูตเดินทางไปศรีลังกา
- โปรดเกล้าฯ ให้สร้าง นครเขื่อนขันธ์ ขึ้นที่บริเวณพระประแดง เพื่อสำหรับรับข้าศึกที่มาทางทะเล
- พ.ศ. 2359
- โปรดเกล้าฯ ให้จัดการปรับปรุงการสอบปริยัติธรรมใหม่ กำหนดขึ้นเป็น 9 ประโยค
- พ.ศ. 2360
- ทรงฟื้นฟูประเพณี วันวิสาขบูชา
- พ.ศ. 2361
- ขยายเขตพระบรมมหาราชวังจนจรดวัดพระเชตุพนฯ โดยสร้างถนนท้ายวังคั่น
- โปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการออกแบบและสร้างสวนขวาขึ้นในพระบรมมหาราชวัง
- คณะสมณทูตที่พระองค์ทรงส่งไปฟื้นฟูพระพุทธศาสนาที่ ประเทศลังกาเดินทางกลับ
- เจ้าเมืองมาเก๊า ส่งทูตเข้ามาถวายพระราชสาส์นและเครื่องราชบรรณาการเพื่อเจริญทางพระราชไมตรี
- พ.ศ. 2363
- ฉลองวัดอรุณราชวราราม
- สังคายนาบทสวดมนต์ภาษาไทยครั้งแรก ในประเทศไทย
- โปรตุเกสตั้งสถานกงสุลในกรุงเทพฯ นับเป็นสถานกงสุลต่างชาติแห่งแรกของสยาม
- พ.ศ. 2365
- เซอร์จอห์น ครอว์เฟิร์ด เป็นทูตเข้ามาเจริญพระราชไมตรี
- พ.ศ. 2367
- เสด็จสวรรคต
พระบรมราชอิสริยยศและพระเกียรติยศ
ธรรมเนียมพระยศของ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย | |
---|---|
พระราชลัญจกร | |
การทูล | ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท |
การแทนตน | ข้าพระพุทธเจ้า |
การขานรับ | พระพุทธเจ้าข้าขอรับ/เพคะ |
พระบรมราชอิสริยยศ
- ฉิม (24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2311 – สมัยรัชกาลที่ 1)
- สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร (สมัยรัชกาลที่ 1 – 15 มีนาคม พ.ศ. 2350)
- กรมพระราชวังบวรสถานมงคล (15 มีนาคม พ.ศ. 2350 - 7 กันยายน พ.ศ. 2352)
- สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กรมพระราชวังบวรสถานมงคล (8 กันยายน พ.ศ. 2352 – 17 กันยายน พ.ศ. 2352)
- พระบาทสมเด็จพระบรมราชาธิราชรามาธิบดี ศรีสินทรบรมมหาจักรพรรดิราชาธิบดินทร์ ธรณินทราธิราช รัตนากาศภาสกรวงศ์ องค์ปรมาธิเบศ ตรีภูวเนตรวรนายก ดิลกรัตนราชชาติอาชาวศรัย สมุทัยดโรมนต์ สากลจักรวาฬาธิเบนทร สุริเยนทราธิบดินทร์ หริหรินทรา ธาดาธิบดี ศรีวิบูลยคุณอกนิษฐ ฤทธิราเมศวรมหันต บรมธรรมิกราชาธิราชเดโชชัย พรหมเทพาดิเทพนฤบดินทร์ ภูมิทรปรมาธิเบศ โลกเชษฐวิสุทธิ รัตนมกุฎประกาศ คตามหาพุทธางกูรบรมบพิตร พระพุทธเจ้าอยู่หัว (17 กันยายน พ.ศ. 2352 - 21 กรกฎาคม พ.ศ.2367)
ภายหลังการสวรรคตในรัชกาลที่ 3
- พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าสุลาลัย (สมัยรัชกาลที่ 3 – สมัยรัชกาลที่ 4)
ภายหลังการสวรรคตในรัชกาลที่ 4
- พระบาทสมเด็จพระบรมราชพงษเชษฐมเหศวรสุนทรฯ พระพุทธเลิศหล้านภาไลย (สมัยรัชกาลที่ 4 – 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2459)
ภายหลังการสวรรคตในรัชกาลที่ 6
- พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาอิศรสุนทร พระพุทธเลิศหล้านภาไลย (11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2459 – สมัยรัชกาลที่ 7)
ภายหลังการสวรรคตในรัชกาลที่ 7
- พระบาทสมเด็จพระบรมราชพงษเชษฐมเหศวรสุนทร ไตรเสวตรคชาดิศรมหาสวามินทร์ สยารัษฎินทรวโรดม บรมจักรพรรดิราช พิลาศธาดาราชาธิราช บรมนารถบพิตร พระพุทธเลิศหล้านภาไลย (สมัยรัชกาลที่ 7 – ปัจจุบัน)
พงศาวลี
พงศาวลีของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
แผนผัง
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- เชิงอรรถ
- ""สยาม" ถูกใช้เรียกชื่อประเทศเป็นทางการสมัยรัชกาล". ศิลปวัฒนธรรม. 6 กรกฎาคม 2560. สืบค้นเมื่อ 27 สิงหาคม 2560.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - ราชสกุลวงศ์, หน้า 10
- "รัชกาลที่2 "ยุคทอง" ศิลปกรรมต้นกรุงรัตนโกสินทร์". สยามรัฐ. 2020-02-24. สืบค้นเมื่อ 2022-08-08.
- ราม วชิราวุธ. ประวัติต้นรัชกาลที่ 6. หน้า 60.
- โกวิท วงศ์สุรวัฒน์. การเมืองการปกครองไทย: หลายมิติ. หน้า 15.
- เทศนาพระราชประวัติ และพงษาวดาร กรุงเทพฯ, สำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ, 2546, หน้า 76
- ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ เฉลิมพระปรมาภิไธย, เล่ม 33, ตอน 0ก, 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2459, หน้า 212
- พระราชพงษาวดาร กรุงรัตนโกสินทร รัชกาลที่ 2 : 2 ประวัติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 2 เมื่อก่อนเสด็จผ่านพิภพ
- พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 : 3. ประดิษฐานพระราชวงศ์
- พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 : 123. พระราชพิธีอุปราชาภิเษกเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร
- พระราชวิจารณ์ จดหมายเหตุความทรงจำ, ข้อ 222
- พระราชพงษาวดาร กรุงรัตนโกสินทร รัชกาลที่ 2 : 1. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 1 สวรรคต
- พระราชพงษาวดาร กรุงรัตนโกสินทร รัชกาลที่ 2 : 4. เกิดเหตุเรื่องเจ้าฟ้ากรมขุนกระษัตรานุชิต
- พระราชพงษาวดาร กรุงรัตนโกสินทร รัชกาลที่ 2 : 5. พระราชพิธีบรมราชาภิเศก
- พระราชพงษาวดาร กรุงรัตนโกสินทร รัชกาลที่ 2 : 6. พระราชพิธีอุปราชาภิเศก
- พระราชพงษาวดาร กรุงรัตนโกสินทร รัชกาลที่ 2 : 19. เรื่องสถาปนากรมสมเด็จพระพันปีหลวง
- ลำดับราชินิกูลบางช้าง. พระนคร: ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิวพร. 2501.
- พงษาวดารราชินิกูลบางช้าง (PDF). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ไทย สพานยศเส. 2457.
- บรรณานุกรม
- เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาค) (11 สิงหาคม 2531). "พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1". ห้องสมุดดิจิทัลวชิรญาณ. สืบค้นเมื่อ 25 กรกฎาคม 2561.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ (2459). "พระราชพงษาวดาร กรุงรัตนโกสินทร รัชกาลที่ 2". ห้องสมุดดิจิทัลวชิรญาณ. สืบค้นเมื่อ 25 กรกฎาคม 2561.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว. ปฐมวงศ์. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์หนังสือพิมพ์ไทย, 2470. 57 หน้า.
- สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร. ราชสกุลวงศ์. พิมพ์ครั้งที่ 14, กรุงเทพฯ : สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร, 2554. 296 หน้า. ISBN
ก่อนหน้า | พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท | กรมพระราชวังบวรสถานมงคล (15 มีนาคม พ.ศ. 2350 – 7 กันยายน พ.ศ. 2352) | สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์ | ||
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช | พระมหากษัตริย์ไทย (8 กันยายน พ.ศ. 2352 – 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367) | พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phrabathsmedcphrabrmrachphngsechsthmehswrsunthr phraphuththelishlanphaly 24 kumphaphnth ph s 2311 21 krkdakhm ph s 2367 khrxngrachy 8 knyayn ph s 2352 21 krkdakhm ph s 2367 epnphrarachoxrsphraxngkhthi 4 inphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach aelaepnkstriyrchkalthi 2 khxngsyaminsmyrachwngsckriaelaepnphramhakstriyrchkalthi 46 tamprawtisastrithy pkkhrxngrahwang ph s 2352 thung ph s 2367 inpi ph s 2352 ecafachimhruxkrmhlwngxisrsunthrphrarachoxrsxngkhotsubrachbllngktxcakrchkalthi 1 phrarachbidaphusthapnarachwngsckriepnphrabathsmedcphraphuththelishlanphaly rchsmykhxngphraxngkhsngbsukh prascakkhwamkhdaeyng rchsmykhxngphraxngkhepn yukhthxngkhxngwrrnkhdi enuxngcakphraxngkhthrngxupthmphkwihlaykhninrachsank aelaphraxngkhexngkmichuxesiynginthanakwiaelasilpin kwithioddednthisudinrachsankkhuxsunthrphuphrabathsmedcphraphuththelishlanphalyphrabrmsathislksn phrabathsmedcphraphuththelishlanphaly pradisthan n phrathinngckrimhaprasathphraecakrungsrixyuthyakhrxngrachy8 knyayn ph s 2352 21 krkdakhm ph s 2367 14 pi 316 wn rachaphiesk17 knyayn ph s 2352kxnhnaphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharachthdipphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhwphramhaxuprachsmedcphrabwrrachecamhaesnanurkssmuhnaykduraychux ecaphrayartnathiebsr ecaphrayaxphyphuthrsmuhphraklaohmduraychux ecaphrayamhaesna ecaphrayawngsasurskdi ecaphrayaxkhrmhaesnakrmphrarachwngbwrsthanmngkhldarngphrays15 minakhm ph s 2350 7 knyayn ph s 2352 2 pi 176 wn rchsmyphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharachxuprachaphiesk15 minakhm ph s 2350kxnhnasmedcphrabwrrachecamhasursinghnaththdipsmedcphrabwrrachecamhaesnanurksphrarachsmphph24 kumphaphnth ph s 2311 banxmphwa emuxngsmuthrsngkhram xanackrthnburi pccubn xaephxxmphwa cnghwdsmuthrsngkhram praethsithy swrrkht21 krkdakhm ph s 2367 56 phrrsa phrathinngckrphrrdiphiman phrarachwnghlwng krungethphphramhankhr xanackrrtnoksinthr pccubn phrabrmmharachwng krungethphmhankhr praethsithy thwayphraephlingph s 2368 phraemrumas thungphraemrubrrcuphrabrmxthihxphrathatumnethiyrphraphrryaecasmedcphrasrisurieynthrabrmrachinismedcphraecabrmwngsethx ecafakunthlthiphywdisnm56 thanphrarachbutr73 phraxngkhphranamedimchimphramrnnamphrabathsmedcphrabrmrachphngsechsthmehswrsunthr itreswtrkhchadisrmhaswaminthr syarsdinthrwordm brmckrphrrdirach philasthadarachathirach brmnarthbphitr phraphuththelishlanphailywdpracarchkalwdxrunrachwraramphraphuththruppracaphrachnmwarphraphuththruppangxumbatrrachwngsckriphrarachbidaphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharachphrarachmardasmedcphraxmrinthrabrmrachinisasnaethrwathphranamtrapracaphraxngkhrchkalthi 2 epnrupkhruthyudnakh n wdxrunrachwraram krungethphmhankhr hlngphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharachesdcswrrkht ecafakrmhlwngxisrsunthridsubthxdbllngkinthnthiphrxmdwyphranamchwkhrawwa smedcphraecaxyuhw krmphrarachwngbwrsthanmngkhl sungtxmaidklayepnrachpraephniwaphramhakstriythiyngimidphanphithiphrabrmrachaphieskcaidrbphraxisriyyschwkhrawepn smedcphraecaxyuhw aethn phrabathsmedcphraecaxyuhw phrabathsmedcphraphuththelishlanphalymiphranametmemuxthrngrbkarbrmrachaphieskaelwwa phrabathsmedcphrabrmrachathirachramathibdi srisinthrbrmmhackrphrrdirachathibdinthr thrninthrathirach rtnakasphaskrwngs xngkhprmathiebs triphuwentrwrnayk dilkrtnrachchatixachawsry smuthydormnt saklckrwalathiebnthr surieynthrathibdinthr hrihrinthra thadathibdi sriwibulykhunxknisth vththiraemswrmhnt brmthrrmikrachathirachedochchy phrhmethphadiethphnvbdinthr phumithrprmathiebs olkechsthwisuththi rtnmkudprakas khtamhaphuththangkurbrmbphitr phraphuththecaxyuhw sungehmuxnkbphraprmaphiithyphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharachthuktwxksr enuxngcakinewlann yngimmithrrmeniym thicatxngmiphraprmaphiithyaetktangkninaetlaphraxngkh inphrarachkahnd skelkh khanphranamwa phrabathsmedcphrabrmthrrmikracha nrathibdi srisuriywngs xngkhraemswrrach brmnarthbrmbphitrphraphuththecaxyuhw inphrarachkahnd hammiihsubaelchuxkhayfin khanphranamwa phrabathsmedcphrabrmthrrmikrachathibdi sriwisuththikhun wibulypricha vththiraemswrrach brmnarthbrmphitrphraphuththecaxyuhw txmaphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhwthrngphrakrunaoprdekla ihxxkphranamrchkalthi 2 waphrabathsmedcphraphuththelishlasulaly tamnamkhxngphraphuththrupthithrngoprdihsrangxuthisthway aelatxmaphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhwthrngphrakrunaoprdekla ihepliynsrxyphranamepn nphaly aelaechlimphraprmaphiithyihmepn phrabathsmedcphrabrmrachphngsechsth mehswrsunthr itreswtrkhchadisrmhaswaminthr syarsdinthrwordm brmckrphrrdirach philasthadarachathirach brmnarthbphitr phraphuththelishlanphaily txmawnthi 11 phvscikayn ph s 2459 phrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhwoprdihechlimphraprmaphiithyxyangsngekhpepn phrabathsmedcphraramathibdisrisinthrmhaxisrsunthr phraphuththelishlanphailyphrarachprawtiphramhakstriyrachwngsckriphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharachphrabathsmedcphraphuththelishlanphalyphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhwphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhwphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhwphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhwphrabathsmedcphrapremnthrmhaxannthmhidl phraxthmramathibdinthrphrabathsmedcphrabrmchnkathiebsr mhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitrphrabathsmedcphrawchireklaecaxyuhwdkhkkxnkhrxngrachy phrabathsmedcphraphuththelishlanphaly miphranamedimwa chim phrarachsmphphemuxwnphuth khun 7 kha eduxn 4 pikun nphsk c s 1129 trngkbwnthi 24 kumphaphnth ph s 2311 epnphrarachoxrsphraxngkhihyinphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach khnathrngmibrrdaskdiepnhlwngykrbtremuxngrachburi prasutiaetthanphuhyingnakh phayhlngechlimphranamepnsmedcphraxmrinthrabrmrachini emuxecriyphrachnmidthrngsuksainsank wdbangwaihy aelaidtidtamsmedcphrabrmchnknathipinkarsngkhramthukkhrng inpi ph s 2325 emuxsmedcphrabrmchnknathprabdaphieskepnpthmkstriyaehngrachwngsckriaelw cungidrbsthapnaepnsmedcphraecalukyaethx ecafakrmhlwngxisrsunthr thungwnxathity khun 7 kha eduxn 4 pikhal ph s 2349 nbaebbpccubnepnwnthi 15 minakhm ph s 2350 emuxsmedcphrabwrrachecamhasursinghnath esdcthiwngkht smedcphrabrmchnknathcungihrbxuprachaphieskepnkrmphrarachwngbwrsthanmngkhl khrxngrachy thiwthsnkhxngemuxngkrungrtnoksinthr inpi ph s 2365khnathrngchang incitrkrrmfaphnngwdchxngnnthri ichaebngphaphnieriykwa sinetha emuxphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharachprachwrphraosphaxyu 3 pikesdcswrrkhtinwnthi 7 knyayn ph s 2352 khnamiphrachnmphrrsaid 73 phrrsa nbewlainkaresdckhrxngrachyidnanthung 27 pi smedcphrabrmoxrsathirachkrmphrarachwngbwrsthanmngkhlcungidsaercrachkaraephndintxma emuxcdkarphrabrmsphesrcaelw phrabrmwngsanuwngskhunnangaelaphrarachakhnacungkrabbngkhmthulechiyesdckhunphanphiphph txmawnthi 10 knyayn phbhnngsuxfxngwaecafakrmkhunkrastranuchitkbphwkrwmknkhidkarkhbth itswnaelwoprdihpraharchiwitthnghmdinwnthi 13 knyayn karphrarachphithibrmrachaphieskcdkhuninwnthi 17 knyayn ph s 2352 odyyaymathaphithithihmuphrathinngckrphrrdiphiman enuxngcakphrathinngdusitmhaprasathsungsrangkhunaethnphrathinngxmrinthraphieskmhaprasathxnepnsthanthithaphithiprabdaphieskkhxngphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharachnnichepnsthanthipradisthanphrabrmsphphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharachxyu inrchkaltx macungichhmuphrathinngckrphrrdiphimanepnsthanthicdkarphrarachphithibrmrachaphieskaelaichphrathinngdusitmhaprasathepnsthanthitngphrabrmsph hlngcakesrcphrarachphithibrmrachaphiesk phraxngkhcungesdceliybphrankhrodykrabwnphyuhyatratamobranrachpraephni swrrkht phrabathsmedcphraphuththelishlanphalythrngphraprachwrdwyorkhphisikh thrngimrusukphraxngkhepnewla 8 wn txngkarxangxing phraxakarprachwrkidthrudlngtamladb aelaesdcswrrkhtemuxwnphuth aerm 11 kha eduxn 8 piwxk chsk c s 1186 trngkbwnthi 21 krkdakhm ph s 2367 txngkarxangxing siriphrachnmphrrsaid 56 phrrsa aelakhrxngrachysmbtiid 15 pi phrabrmsphpradisthan n phrathinngdusitmhaprasath txngkarxangxing aelaidmiphrarachphithithwayphraephlingphrabrmsphemux ph s 2368 n phraemrumas thxngsnamhlwng txngkarxangxing txmaphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhwidxyechiyphrabrmxthi ippradisthan n hxphrathatumnethiyr caknnidnaphrabrmrachsrirangkharipbrrcuiwitphraxuobsth wdxrunrachwraramrachwrmhawihar txngkarxangxing phraprichasamarthphrarachlyckrpracaphraxngkh phrabathsmedcphraphuththelishlanphalythrngphraprichasamarthinsilpkrrmdantang hlaysakha txngkarxangxing dngcakhxyktwxyangtxipni dankwiniphnth citrkrrmfaphnngphrathinngphuthithswrry inrchsmykhxngphrabathsmedcphraphuththelishlanphaly idrbkarykyxngwa epnyukhthxngkhxngwrrnkhdismyhnungelythiediyw dankaphyklxnecriysungsud cnmikhaklawwa inrchkalthi 2 nn ikhrepnkwikepnkhnoprd kwithimichuxesiyngnxkcakphraxngkhexngaelw yngmikrmhmunecsdabdinthr rchkalthi 3 smedcphramhasmneca krmphraprmanuchitchionrs sunthrphu phrayatrng aela epntn phraxngkhmiphrarachniphnththiepnbthklxnmakmay thrngepnyxdkwidankaraetngbthlakhrthnglakhrinaelalakhrnxk mihlayeruxngthimixyuedimaelathrngnamaaetngihmephuxihichinkaraesdngid echn ramekiyrti xunruth aelaxiehna odyeruxngxiehnani eruxngedimmikhwamyawmak idthrngphrarachniphnthihmtngaettncncb epneruxngyawthisudkhxngphraxngkh wrrnkhdisomsrinrchkalthi 6 idykyxngihepnyxdbthlakhrrathiaetngdi yxdeyiymthngenuxkhwam thanxngklxnaelakrabwnkarelnthngrxngaelara nxkcakniyngmilakhrnxkxun echn ikrthxng sngkhthxng ichyechsth hlwichykhawi sngkhsilpchy idthrngeluxkexakhxngekamathrngphrarachniphnthkhunihmbangtxn aelayngthrngphrarachniphnthbthphakyokhnxikhlaychud echn chudnanglxy chudnakhbas aelachudphrhmastr sunglwnmikhwamipheraasabsungepnxmtaichaesdngmacnthukwnni citrkrrmrxbphraraebiyngwdphrasrirtnsasdaram eruxng ramekiyrtidanpratimakrrm citrkrrmbnbanpratuwdiphchyntphlesphyrachwrwihar smuthrprakar nxkcakcathrngsngesrimnganchangdanhlxphraphuththrupaelw phrabathsmedcphraphuththelishlanphalyyngidthrngphrarachxutsahapnhunphraphktrkhxng phraprathaninphraxuobsthwdxrunrachwraramrachwrmhawihar xnepnphraphuththrupthisakhyyingxngkhhnungkhxngithydwyphraxngkhexng sunglksnaaelathrwdthrngkhxngphraphuththrupxngkhniepnaebbxyangthipradisthkhidkhnkhunihminrchkalthi 2 niexng swndankarchangfimuxaelakaraekaslklwdlayinrchkalkhxngphraxngkhidmikhwamecriykawhnaipxyangmak aelaphraxngkhexngkthrngepnchangthngkarpnaelakaraekaslkthiechiywchayyingphraxngkhhnungxyangyakthicahaphuidthdethiymid nxkcakfiphrahtthinkarpnphraphktrphraphuthththrrmisrracholkthatudilkaelw yngthrngaekaslkbanpratuphrawiharphrasrisakymuni wdsuthsnethphwraramrachwrmhawihar khuhnadwyphraxngkhexngrwmkbkrmhmuncitrphkdi aelathrngaekahnahunhnaphraihyaelaphranxythithacakimrkkhuhnungthieriykwaphrayarkihy aelaphrayarknxyiwdwy dandntri xngkhprakxb swntang khxngsxsamsay klawidwa phrabathsmedcphraphuththelishlanphalymiphraprichasamarthindanniimnxyipkwadanlakhraelafxnra ekhruxngdntrithithrngthndaelaoprdprankhux sxsamsay sungsxkhuphrahtththisakhyidphrarachthannamwa sxsayfafad aelaephlngphrarachniphnththimichuxesiyngepnthiruckkndikhux ephlngbuhlnlxyeluxn hrux buhln eluxn lxyfa aettxmamkcaeriykwa ephlngthrngphrasubin ephraaephlngminimikaenidmacakphrasubin fn khxngphraxngkhexng odyelaknwakhunhnunghlngcakidthrngsxsamsaycnduk kesdcekhathibrrthmaelwthrngphrasubinwa idesdcipyngdinaednthiswyngamducswrrkh n thinn miphracnthrxnkracangidlxymaiklphraxngkh phrxmkbmiesiyngthiphydntrixnipheraaying prathbaenninphrarachhvthy khrnthrngtunbrrthmkyngthrngcdcaephlngnnid cungideriykphnkngandntrimatxephlngnniw aelathrngxnuyatihnaxxkephyaephrid ephlngnicungepnthiaephrhlayaelaruckknkwangkhwangmacnthukwnniphramehsi phrarachoxrs phrarachthidaphrabrmrachanusawriyphrabathsmedcphraphuththelishlanphalythiwdxrunrachwraramrachwrmhawihar phrabathsmedcphraphuththelishlanphalymiphrarachoxrsphrarachthidarwmthngsin 73 phraxngkh odyprasutiemuxkhrngyngdarngphraxisriyysepnsmedcecafakrmhlwngxisrsunthr 47 phraxngkh prasutiemuxdarngphraxisriyysepnkrmphrarachwngbwrsthanmngkhl 4 phraxngkh aelaprasutiphayhlngbrmrachaphieskaelw 22 phraxngkh phramehsi ecacxmmarda aelaecacxmladbprawtisastrehtukarnsakhyhlngbrmrachaphiesk idoprdihtngphrarachphithixuprachaphiesksthapnaphraekiyrtiyssmedcphraxnuchathirach ecafakrmhlwngesnanurks phrabnthurnxyinrchkalthi 1 khunepnkrmphrarachwngbwrsthanmngkhltngaetwnthi 29 knyayn ph s 2352 txmawncnthrthi 1 tulakhm ph s 2353 cungsthapnaphraekiyrtiyssmedcphrabrmrachchnniphnpihlwngepnsmedckrmphraxmrinthramaty krungsyammikarepliynthngpracachati cakthngaedng epnthngchang milksnaphunsiaedng trngklangepnwngklmsikhaw mirupchangephuxksikhawphayinwngklm aetemuxcaichchkepnthngbneruxsinkha ihngdwngklmxxkesiy ehluxaetrupchangephuxksikhawethann dngnn bnthukthiphbintangpraethscungrabuwakrungsyam ichthngpracachatiepnrupchangephuxksikhawbnphunaedng dueruxng thngchatiithy ph s 2311 24 kumphaphnth phrabathsmedcphraphuththelishlanphalyphrarachsmphph n tablxmphwa emuxngsmuthrsngkhram phranamedim chimph s 2325 phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach thrngprabdaphieskkhunepnpthmkstriyaehngphrabrmrachckriwngs thrngidrbkarsthapnaphraysepn smedcphraecalukyaethx ecafakrmhlwngxisrsunthrph s 2349 thrngidrbkarsthapnaphrayscakphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharachepnkrmphrarachwngbwrsthanmngkhlph s 2352 phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharachesdcswrrkht phrabrmwngsanuwngs khunnangkrabbngkhmthulxyechiyphraxngkhkhunkhrxngrachsmbtiepnrchkalthi 2 aehngphrarachwngsckri echlimphranamwa phrabathsmedcphraphuththelishlanphaly ecafakrmkhunkstranuchitkbphwk khidkbt oprdekla ihkrmhmunecsdabdinthrcharakhwam sngkhramkbphmathiemuxngthlangph s 2353 oprdekla ihsngkhnathutxyechiyphrarachsasnipthwayckrphrrdiekiyekhngaehngxanackrcin rachthutywnekhamathwayrachsasnaelaekhruxngrachbrrnakar phrxmthngthulkhxemuxngbnthaymaskhun sungphraxngkhkphrarachthankhunihph s 2354 oprdekla ihecanayipkakbrachkartamkrathrwngtang oprdekla ihecaphnknganxxk edinswnedinna xxkphrarachkahndhamsubaelasuxkhayfin cdphrarachphithithwayphraephlingphrabrmsphphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach ekidxhiwatkorkhkhrngihy oprdekla ihmiphrarachphithi xaphathphinas oprdekla ihkxngthphithy iprangbkhwamwunwayinkmphucha xin cn aefdsyamkhuaerkkhxngolkthuxkaenidkhunph s 2355 oprdekla ihxyechiyphraaekwphluk phraphuththbusyrtn cakemuxngcapaskdimayngkrungethphph s 2356 phmaihchawkrungekanasasncakecaemuxngemaatamamakhxthaimtrikbsyam phraxngkhecachaythb phrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw idrbkarsthapnaepnkrmhmunecsdabdinthrph s 2357 oprdekla ihsngkhnasmnthutedinthangipsrilngka oprdekla ihsrang nkhrekhuxnkhnth khunthibriewnphrapraaedng ephuxsahrbrbkhasukthimathangthaelph s 2359 oprdekla ihcdkarprbprungkarsxbpriytithrrmihm kahndkhunepn 9 praoykhph s 2360 thrngfunfupraephni wnwisakhbuchaph s 2361 khyayekhtphrabrmmharachwngcncrdwdphraechtuphn odysrangthnnthaywngkhn oprdekla ihkharachkarxxkaebbaelasrangswnkhwakhuninphrabrmmharachwng khnasmnthutthiphraxngkhthrngsngipfunfuphraphuththsasnathi praethslngkaedinthangklb ecaemuxngmaeka sngthutekhamathwayphrarachsasnaelaekhruxngrachbrrnakarephuxecriythangphrarachimtriph s 2362 hmxcslis michchnnaripracayangkung hlxtwphimphxksrithyepnkhrngaerkph s 2363 chlxngwdxrunrachwraram sngkhaynabthswdmntphasaithykhrngaerk inpraethsithy oprtuekstngsthankngsulinkrungethph nbepnsthankngsultangchatiaehngaerkkhxngsyamph s 2365 esxrcxhn khrxwefird epnthutekhamaecriyphrarachimtriph s 2367 esdcswrrkhtphrabrmrachxisriyysaelaphraekiyrtiysthrrmeniymphrayskhxng phrabathsmedcphraphuththelishlanphalyphrarachlyckrkarthulitfalaxxngthuliphrabathkaraethntnkhaphraphuththecakarkhanrbphraphuththecakhakhxrb ephkhaphrabrmrachxisriyys chim 24 kumphaphnth ph s 2311 smyrchkalthi 1 smedcphraecalukyaethx ecafakrmhlwngxisrsunthr smyrchkalthi 1 15 minakhm ph s 2350 krmphrarachwngbwrsthanmngkhl 15 minakhm ph s 2350 7 knyayn ph s 2352 smedcphraecaxyuhw krmphrarachwngbwrsthanmngkhl 8 knyayn ph s 2352 17 knyayn ph s 2352 phrabathsmedcphrabrmrachathirachramathibdi srisinthrbrmmhackrphrrdirachathibdinthr thrninthrathirach rtnakasphaskrwngs xngkhprmathiebs triphuwentrwrnayk dilkrtnrachchatixachawsry smuthydormnt saklckrwalathiebnthr surieynthrathibdinthr hrihrinthra thadathibdi sriwibulykhunxknisth vththiraemswrmhnt brmthrrmikrachathirachedochchy phrhmethphadiethphnvbdinthr phumithrprmathiebs olkechsthwisuththi rtnmkudprakas khtamhaphuththangkurbrmbphitr phraphuththecaxyuhw 17 knyayn ph s 2352 21 krkdakhm ph s 2367 phayhlngkarswrrkhtinrchkalthi 3 phrabathsmedcphraphuththelishlasulaly smyrchkalthi 3 smyrchkalthi 4 phayhlngkarswrrkhtinrchkalthi 4 phrabathsmedcphrabrmrachphngsechsthmehswrsunthr phraphuththelishlanphaily smyrchkalthi 4 11 phvscikayn ph s 2459 phayhlngkarswrrkhtinrchkalthi 6 phrabathsmedcphraramathibdisrisinthrmhaxisrsunthr phraphuththelishlanphaily 11 phvscikayn ph s 2459 smyrchkalthi 7 phayhlngkarswrrkhtinrchkalthi 7 phrabathsmedcphrabrmrachphngsechsthmehswrsunthr itreswtrkhchadisrmhaswaminthr syarsdinthrwordm brmckrphrrdirach philasthadarachathirach brmnarthbphitr phraphuththelishlanphaily smyrchkalthi 7 pccubn phngsawliphngsawlikhxngphrabathsmedcphraphuththelishlanphaly 16 ecaphrayawrwngsathirach khunthxng 8 phrayarachnikul thxngkha 4 smedcphrapthmbrmmhachnk 2 phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach 5 phraxkhrchaya hyk 1 phrabathsmedcphraphuththelishlanphaly 12 phr 64 6 thxng n bangchang 26 pakhawphlay 63 13 chi 10 63 3 smedcphraxmrinthrabrmrachini 7 smedcphrarupsiriosphakhymhanakhnari 30 aesn 63 15 thi 63 100 aephnphngsmedcphrapthmbrmmhachnk 1 phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach smedcphrabwrrachecamhasursinghnath smedcphraecanxngyaethx ecafakrmhlwngckrecsda 2 phrabathsmedcphraphuththelishlanphaly smedcphrabwrrachecamhaesnanurks smedcphrabwrrachecamhaskdiphlesph 3 phrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw 4 phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw phrabathsmedcphrapineklaecaxyuhw smedcphraecabrmwngsethx ecafaxaphrn smedcphraecabrmwngsethx ecafamhamala krmphrayabarabprpks smedcphraecabrmwngsethx ecafapiw smedcphraecabrmwngsethx ecafaosmns 5 phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw smedcphraecabrmwngsethx ecafacaturntrsmi krmphrackrphrrdiphngs smedcphrarachpitula brmphngsaphimukh ecafaphanurngsiswangwngs krmphrayaphanuphnthuwngswredch smedcphraecabrmwngsethx ecafakrmphrayanrisranuwdtiwngs krmphrarachwngbwrwiichychay smedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis syammkudrachkumar smedcphraecabrmwngsethx ecafaxisriyalngkrn 6 phrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw smedcphraecabrmwngsethx ecafabriphtrsukhumphnthu krmphrankhrswrrkhwrphinit smedcphraecabrmwngsethx ecafatriephchrutmtharng smedcphraecabrmwngsethx ecafasmmtiwngsworthy krmkhunsrithrrmrachtharngvththi smedcphraecabrmwngsethx ecafackrphngsphuwnath krmhlwngphisnuolkprachanath smedcphraecabrmwngsethx ecafayukhlthikhmphr krmhlwnglphburiraemswr smedcphraecabrmwngsethx ecafasirirachkkuthphnth smedcphraxnuchathirach ecafaxsdangkhedchawuth krmhlwngnkhrrachsima smedcphramhitlathiebsr xdulyedchwikrm phrabrmrachchnk smedcphraecabrmwngsethx ecafacuthathuchthradilk krmkhunephchrburnxinthraichy 7 phrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw 8 phrabathsmedcphrapremnthrmhaxannthmhidl phraxthmramathibdinthr 9 phrabathsmedcphramhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitr 10 phrabathsmedcphrawchireklaecaxyuhwduephimsthaniyxypraethsithysthaniyxyprawtisastrwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb phrabathsmedcphraphuththelishlanphaly rayphranamphramhakstriyithy phrapthmwngsinphrabrmrachwngsckrixangxingechingxrrth syam thukicheriykchuxpraethsepnthangkarsmyrchkal silpwthnthrrm 6 krkdakhm 2560 subkhnemux 27 singhakhm 2560 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help rachskulwngs hna 10 rchkalthi2 yukhthxng silpkrrmtnkrungrtnoksinthr syamrth 2020 02 24 subkhnemux 2022 08 08 ram wchirawuth prawtitnrchkalthi 6 hna 60 okwith wngssurwthn karemuxngkarpkkhrxngithy hlaymiti hna 15 ethsnaphrarachprawti aelaphngsawdar krungethph sanknganesrimsrangexklksnkhxngchati 2546 hna 76 rachkiccanuebksa phrabrmrachoxngkar prakas echlimphraprmaphiithy elm 33 txn 0k 11 phvscikayn ph s 2459 hna 212 phrarachphngsawdar krungrtnoksinthr rchkalthi 2 2 prawtiphrabathsmedcphraecaxyuhwrchkalthi 2 emuxkxnesdcphanphiphph phrarachphngsawdarkrungrtnoksinthr rchkalthi 1 3 pradisthanphrarachwngs phrarachphngsawdarkrungrtnoksinthr rchkalthi 1 123 phrarachphithixuprachaphieskecafakrmhlwngxisrsunthr phrarachwicarn cdhmayehtukhwamthrngca khx 222 phrarachphngsawdar krungrtnoksinthr rchkalthi 2 1 smedcphraecaxyuhwrchkalthi 1 swrrkht phrarachphngsawdar krungrtnoksinthr rchkalthi 2 4 ekidehtueruxngecafakrmkhunkrastranuchit phrarachphngsawdar krungrtnoksinthr rchkalthi 2 5 phrarachphithibrmrachaphiesk phrarachphngsawdar krungrtnoksinthr rchkalthi 2 6 phrarachphithixuprachaphiesk phrarachphngsawdar krungrtnoksinthr rchkalthi 2 19 eruxngsthapnakrmsmedcphraphnpihlwng ladbrachinikulbangchang phrankhr hanghunswncakd siwphr 2501 phngsawdarrachinikulbangchang PDF krungethph orngphimphithy sphanyses 2457 brrnanukrmecaphrayathiphakrwngs kha bunnakh 11 singhakhm 2531 phrarachphngsawdarkrungrtnoksinthr rchkalthi 1 hxngsmuddicithlwchiryan subkhnemux 25 krkdakhm 2561 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help smedcphraecabrmwngsethx krmphrayadarngrachanuphaph 2459 phrarachphngsawdar krungrtnoksinthr rchkalthi 2 hxngsmuddicithlwchiryan subkhnemux 25 krkdakhm 2561 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw pthmwngs krungethph orngphimphhnngsuxphimphithy 2470 57 hna sankwrrnkrrmaelaprawtisastr krmsilpakr rachskulwngs phimphkhrngthi 14 krungethph sankwrrnkrrmaelaprawtisastr krmsilpakr 2554 296 hna ISBN 978 974 417 594 6 kxnhna phrabathsmedcphraphuththelishlanphaly thdipsmedcphrabwrrachecamhasursinghnath krmphrarachwngbwrsthanmngkhl 15 minakhm ph s 2350 7 knyayn ph s 2352 smedcphrabwrrachecamhaesnanurksphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach phramhakstriyithy 8 knyayn ph s 2352 21 krkdakhm ph s 2367 phrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw