สมเด็จพระเพทราชา หรือ สมเด็จพระมหาบุรุษ หรือ พระทรงธรรม์ หรือ สมเด็จพระธาดาธิเบศร์: 17 (พ.ศ. 2175 – 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2246) มีชื่อเดิมว่า ทองคำ เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 28: 206 แห่งอาณาจักรอยุธยาและเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง แย่งชิงราชบัลลังก์จากสมเด็จพระนารายณ์มหาราช กษัตริย์พระองค์ก่อน และเป็นราชวงศ์สุดท้ายที่ปกครองอาณาจักรอยุธยา: 252
สมเด็จพระเพทราชา | |
---|---|
สมเด็จพระมหาบุรุษ | |
พระบรมสาทิสลักษณ์ฝีมือ Gaspar Bouttats เมื่อ ค.ศ. 1690 | |
พระเจ้ากรุงศรีอยุธยา | |
ครองราชย์ | 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2231 – 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2246 (14 ปี 210 วัน) |
ราชาภิเษก | พ.ศ. 2331 , พ.ศ.2336 |
ก่อนหน้า | สมเด็จพระนารายณ์มหาราช (ราชวงศ์ปราสาททอง) |
ถัดไป | สมเด็จพระเจ้าสุริเยนทราธิบดี |
พระมหาอุปราช | สมเด็จพระสรศักดิ์ |
กรมพระราชวังหลัง | นายจบคชประสิทธิ์ |
สมุหนายก | ดูรายชื่อ |
พระราชสมภพ | พ.ศ. 2175 บ้านพลูหลวง แขวงเมืองสุพรรณบุรี อาณาจักรอยุธยา |
สวรรคต | 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2246 (71 พรรษา) กรุงศรีอยุธยา อาณาจักรอยุธยา |
พระมเหสี | กรมพระเทพามาตย์ (กัน) กรมหลวงโยธาเทพ กรมหลวงโยธาทิพ นางกุสาวดี |
พระราชบุตร | แม่อยู่หัวนางพระยา (นิ่ม) สมเด็จพระเจ้าสุริเยนทราธิบดี ตรัสน้อย เจ้าพระขวัญ พระองค์เจ้าหญิงฉิม พระองค์เจ้าหญิงจีน พระองค์เจ้าดำ พระองค์เจ้าชายแก้ว พระองค์เจ้าชายบุนนาค |
ราชวงศ์ | บ้านพลูหลวง |
พระราชบิดา | ไม่ปรากฏ |
พระราชมารดา | ท้าวศรีสัจจา (พระนมเปรม) |
พระราชประวัติ
พระราชสมภพ
สมเด็จพระเพทราชา เดิมสามัญชนชื่อ ทองคำ เป็นชาวบ้านพลูหลวง (หรือบ้านโพธิ์หลวง) แขวงเมืองสุพรรณบุรี (ปัจจุบันคือบ้านพลูหลวง ตั้งอยู่ใน ต.สนามชัย อ.เมือง จังหวัดสุพรรณบุรี) เสด็จพระราชสมภพเมื่อ พ.ศ. 2175: 205 : 35 : 132 ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เป็นบุตรของพระนมเปรม และมีพระขนิษฐาคือท้าวศรีจุฬาลักษณ์ (แจ่ม) พระสนมเอกในสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ต่อมาได้รับราชการจนมีบรรดาศักดิ์เป็นพระเพทราชา ดำรงตำแหน่งจางวาง กรมพระคชบาล (ขวา) มีราชทินนามว่า พระเพทราชาธิบดี ศรีสุริยาภิชาติสุริยวงศ์ องค์สมุหพระคชบาล ศักดินา 5,000 มีกำลังพลในสังกัดหลายพัน เช่น คราวเหตุการณ์ขับไล่กองทหารฝรั่งเศสออกจากสยาม สมเด็จพระเพทราชาสามารถเกณฑ์กองทัพปิดล้อมฝรั่งเศสได้มากถึง 60,000 คน และยังมีตำแหน่งรักษาการเสนาบดีสมุหพระกลาโหม สืบต่อจาก เจ้าพระยาโกษาธิบดี (เหล็ก) เมื่อปี พ.ศ. 2226 ปรากฏใน พระสมุดตำราช้าง ความว่า "...สมเด็จพระรายณ์เป็นเจ้าสั่งพระเพทราชา ผู้ว่าที่กลาโหม ให้จัดแจงผู้จะนุ่งผ้าเกี้ยวผ้าผู้ขี่ช้าง ตามบันดาศักดิ์ ให้ศึกษาร่ำเรียนให้ถูกในกฎหมายนี้"
มีบุคคลร่วมสมัยในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช กล่าวถึงชาติกำเนิดของสมเด็จพระเพทราชา หลักฐานร่วมสมัยที่สำคัญ เช่น
จดหมายเหตุลาลูแบร์ ราชทูตชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีกับกรุงศรีอยุธยาปลายรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์ เมื่อ พ.ศ. 2230 กล่าวถึง สมเด็จพระเพทราชา ซึ่งเรียกเพี้ยนมาจาก ออกพระพิพิธราชา (Oc-Prá Pipitcharatcha) กล่าวว่า "ตระกูลของท่านได้รับราชการสืบกันมาช้านานในตำแหน่งอันสูงส่ง และมีความสัมพันธ์กับราชบัลลังก์อยู่เนือง ๆ และมีผู้คนได้โจษขานกันอย่างเปิดเผยว่า ตัวท่านเองหรือออกหลวงสุรศักดิ์ (Oc-Loüang Sourasac) บุตรของท่านอาจอ้างสิทธิ์ในราชบัลลังก์ได้อยู่ หากว่าคนใดคนหนึ่งยังมีชีวิตอยู่ เมื่อพระมหากษัตริย์ซึ่งผ่านพิภพ อยู่ในปัจจุบันนี้เสด็จสวรรคตแล้ว มารดาของออกพระพิพิธราชานั้นเป็นพระนมของพระมหากษัตริย์รัชกาลปัจจุบัน": 397–398 : 258
นายพล เดส์ฟาร์จ: 239 กล่าวถึง สมเด็จพระเพทราชา ว่า "ในบรรดาผู้ที่มีอำนาจคนอื่นๆ ในราชสำนักนั้น มีอีกบุคคลหนึ่งที่มีลักษณะพิเศษที่สังเกตได้ง่าย และที่ข้าพเจ้าเองได้พบนับแต่เมื่อแรกที่ข้าพเจ้าเดินทางมาถึงว่า มีความน่าเกรงขามสง่างามต่างจากผู้อื่น ชื่อของท่านคือ ออกพระเพทราชา ตระกูลของท่านผู้นี้สามารถสืบได้กลับไปไกลมากและมีชื่อเสียง พระเพทราชาเป็นพระเชษฐาร่วมกับแม่นมกับพระเจ้าแผ่นดินและมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน บางคนถึงกับบอกว่าท่านมีเชื้อสายความเป็นเจ้า โดยที่พ่อของท่านเคยครองแผ่นดินราชบัลลังก์มาแล้วนั่นทีเดียว...": 8–9
และ ประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยา ฉบับตุรแปง แต่งโดย ฟรังซัวส์ อังรี ตุรแปง ซึ่งมาจากการบันทึกของบาทหลวงปีแยร์ บรีโก ที่เคยพำนักในสยามช่วงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา กล่าวถึงสมเด็จพระเพทราชา ความว่า "...ใครบางคนกล่าวว่า พระเพทราชามีชาติกำเนิดมาจากตระกูลทาสที่เป็นฝีพายในเรือมากกว่าจากตระกูลที่จะสืบทอดราชบัลลังก์ แต่จากข้อมูลที่เชื่อถือได้ ข้าพเจ้าสามารถยืนยันได้ว่า พระองค์ทรงมีเชื้อสายกษัตริย์และเป็นพระภาดาของพระเจ้าแผ่นดินผู้ทรงครองราชย์อยู่ในขณะนี้...": 76
ส่วนนักประวัติศาสตร์ไทยได้สันนิษฐานชาติกำเนิดของสมเด็จพระเพทราชาแตกต่างจากพงศาวดารไทยที่ชำระตั้งแต่รัชกาลที่ 1 สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ที่กล่าวว่า สมเด็จพระเพทราชาเป็นชาวบ้านพลูหลวงแขวงเมืองสุพรรณบุรีซึ่งไม่สอดคล้องกับหลักฐานร่วมสมัย โดยสันนิษฐานตรงกันว่า สมเด็จพระเพทราชาน่าจะสืบเชื้อสายจากตระกูลขุนนางเก่า มีชาติตระกูลสูง อาจเป็นเชื้อพระวงศ์ในสมเด็จพระนารายณ์มหาราช: 68 : 149 หรือคงมีเชื้อสายเดิมของราชวงศ์สุพรรณภูมิ หรือเกี่ยวข้องกับสายเจ้าเมืองสุพรรณบุรี: 2–5 เช่น
นิธิ เอียวศรีวงศ์ กล่าวว่า "สมเด็จพระเพทราชานั้นมีฐานะในราชการที่ค่อนข้างประหลาด กล่าวคือในแง่ของระบบราชการ สมเด็จพระเพทราชาเป็นขุนนางในฝ่ายปกครองในตำแหน่งสมุหพระคชบาล จางวางขวา กรมพระคชบาลขวา ซึ่งถือเป็นตำแหน่งอันสูงสุด และมีอำนาจค่อนข้างมาก สำหรับบุคคลซึ่งมีตำแหน่งเพียงแค่ "ออกพระ" ทำให้เข้าใจว่าสมเด็จพระเพทราชาน่าจะเป็นข้าหลวงเดิมในราชสำนักและที่สำคัญสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงไว้วางพระทัยในตัวสมเด็จพระเพทราชาอย่างมากด้วย เพราะหลักฐานจากพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยากล่าวไว้ว่าสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงรับพระราชธิดาเจ้าเมืองเชียงใหม่เป็นพระสนม เมื่อนางตั้งครรภ์สมเด็จพระนารายณ์มหาราชจึงทรงพระราชทานให้กับสมเด็จพระเพทราชา": 72–73
ขจร สุขพานิช ได้วิเคราะห์งานเขียนของเค็มพ์เฟอร์ เรื่อง อยุธยา ในต้นแผ่นดินสมเด็จพระเพทราชา และจดหมายเหตุของฝรั่ง พบว่าเค็มพ์เฟอร์และหลักฐานจดหมายเหตุให้ข้อมูลสำคัญๆ ที่น่าเชื่อถือกว่าพระราชพงศาวดารไทย ขจร สุขพานิช จึงได้เสนอไว้ใน เอกสารทางวิชาการของสมาคมสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย เรื่อง ข้อมูลประวัติศาสตร์สมัยอยุธยา เมื่อ พ.ศ. 2509-2520 ว่าพระเพทราชาไม่ใช่ขุนนางธรรมดา แต่เป็นเจ้าราชนิกูลในราชวงศ์ปราสาททอง ความว่า "ผู้เขียนเสนอว่าพระเพทราชาเป็นโอรสของพระพี่นางของพระนารายณ์ พระขนิษฐา และพระธิดาของพระเพทราชาก็เป็นบาทบริจาริกาของพระนารายณ์ ดังนั้นพระเพทราชาจึงเป็นเจ้าราชนิกูลในราชวงศ์ ไม่ใช่ขุนนางธรรมดา": 150
การปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์
ในปี พ.ศ. 2231 เมื่อสมเด็จพระนารายณ์มหาราชประทับ ณ พระที่นั่งสุทธาสวรรค์ ทรงพระประชวรใกล้สวรรคต ทรงเห็นว่าพระเพทราชาเป็นผู้ใหญ่ จึงมอบหมายให้ว่าราชการแทน ระหว่างนั้นพระเพทราชาลวงพระอนุชาทั้งสองพระองค์ของสมเด็จพระนารายณ์ คือเจ้าฟ้าน้อยและเจ้าฟ้าอภัยทศว่ามีรับสั่งให้เข้าเฝ้า เมื่อทั้งสองพระองค์เสด็จถึงเมืองลพบุรีก็ถูกหลวงสรศักดิ์จับไปสำเร็จโทษที่วัดทราก ส่วนพระปีย์พระราชโอรสบุญธรรมถูกขุนพิพิธรักษา ผลักตกจากชาลาพระที่นั่งสุทธาสวรรค์แล้วกุมตัวไปสำเร็จโทษ สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงได้ยินเสียงพระปีย์ แล้วเสด็จนั่งขึ้นได้จึงตรัสว่า "ใครทำไมแก่อ้ายเตี้ยเล่า" แล้วเสด็จสวรรคตในวันนั้น ปรากฏใน พระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา ว่า
ในขณะนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตรัสได้ทรงฟังเรื่องพระปีย์ร้องขึ้นมาดังนั้นก็ตกพระทัย ความอาลัยในพระปีย์ดำรัสว่าใครอะไรกับอ้ายเตี้ยเล่า และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็สวรรคตในเพลาวันนั้น เป็นวันพฤหัส เดือน ๕ แรม ๓ ค่ำ ศักราช ๑๐๔๔ ปีจอ จัตวาศก
หลักฐานต่างชาติร่วมสมัยไม่ปรากฏในพงศาวดารไทยอ้างว่ามีชาวฝรั่งเศสรายงานว่าพระเพทราชาสำเร็จโทษกรมหลวงโยธาเทพที่ริมน้ำ: 103
รายงานละเอียดและถูกต้อง เกี่ยวกับ การปฏวัติอันยิ่งใหญ่ และมหัศจรรย์ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ในพระราชอาณาจักรสยาม กล่าวว่า :-
ก็ได้สั่งให้จับพระเจ้าลูกเธอ พระราชกุมารีผู้ทรงพระเยาว์ บรรจุลงถุงกำมะหยี่ใบใหญ่ ให้ทุบพระเศียรเสียด้วยท่อนไม้ใหญ่อันมีกลิ่นหอมและเป็นที่นับถือกว่าบรรดาไม้ทั้งปวงในหมู่เกาะอินเดียตะวันออก เรียกว่า ไม้จันทน์ แล้วให้โยนพระศพลงไปในแม่น้ำ: 7
ข้าทูลละอองธุลีพระบาทก็เข้ามาอยู่ศาลาลูกขุนในพระราชวังกันทั้งปวง แต่มีบางส่วนที่ไม่ได้อยู่ ณ อยู่ศาลาลูกขุน เช่น พระยาหุเสนขานหนีไปเที่ยวอยู่ป่า ส่วนพระยาวิไชเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) อยู่ที่ตึกบ้าน พระเพทราชาจึงมอบหมายให้เจ้าพระยาสุรสงครามออกไปตามหาพระยาวิไชเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) โดยหมายจะตั้งขึ้นเป็นวังหน้า (กรมพระราชวังบวรสถานมงคล) เจ้าพระยาสุรสงครามจึงใช้ทนายออกไปตามหาพระยาวิไชเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) เมื่อทนายไปพบพระยาวิไชเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) จึงกล่าวความแก่ทนายว่า "ท่านเขียนด้วยมือแล้วจะมาลบด้วยเท้าเล่าครั้นมิเข้าไปก็จะโกรธ" เมื่อพระยาวิไชเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) มาถึงศาลาลูกขุนจึงถูกจับกุมตัวไปประหารชีวิต เมื่อจัดการบ้านเมืองสงบแล้วจึงเชิญพระบรมศพสมเด็จพระนารายณ์มาประดิษฐานที่พระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ แล้วรับราชาภิเษก ณ พระที่นั่งสรรเพชญปราสาท
พระราชพิธีปราบดาภิเษก
เมื่อปราบดาภิเษกนั้นสมเด็จพระเพทราชามีพระชนมพรรษาได้ 51 พรรษา ทรงพระนามว่า สมเด็จพระมหาบุรุษ วิสุทธิเดชอุดม บรมจักรพรรดิศร บรมนาถบพิตร สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัว
เมื่อพระชนมพรรษาครบรอบ 56 พรรษา: 385 สมเด็จพระเพทราชาทรงกระทำพระราชพิธีราชาภิเษกครั้งที่ 2: 69 การพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งนี้เป็นไปตามโบราณราชประเพณีเหมือนพระราชพิธีราชาภิเษกครั้งสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง
เมื่อวันพฤหัสบดี เดือนสิบขึ้นเจ็ดค่ำปีจอจัตวาศก เวลาเช้าสี่นาฬิกาสี่บาท: 385 เป็นฤกษ์มหามงคล เหล่าขุนนาง และข้าทูลละอองทั้งผู้ใหญ่ผู้น้อยร่วมประชุมกันที่พระที่นั่งสรรเพชญปราสาท ณ กรุงเทพพระมหานครศรีอยุธยา: 385 และอันเชิญสมเด็จพระเพทราชาเสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติ เฉลิมพระนามว่า สมเด็จพระมหาบุรุษ วิสุทธิเดชอุดม บรมจักรพรรดิเจ้าภิภพกรุงเทพพระมหานคร บวรทวาราวดีศรีอยุธยามหาดิลกภพนพรัตนราชธานีบุรีรมย์ อุดมพระราชนิเวศน์มหาสถาน: 498 : 69 : 385
การพระราชพิธีราชาภิเษกครั้งนั้นมีการประดับตกแต่งพระนคร: 385 แม่น้ำลำคลองต่างๆ มีราชวัตรฉัตรธง ฉัตรเบญจรงค์ ฉัตรเงิน ฉัตรทอง ธงประดาก (ธงผืนผ้า) ประดับเป็นระยะๆ ตามแบบอย่างโบราณราชประเพณี เป็นต้น และจัดงานรื่นเริงมหรสพสมโภชพระนครเป็นเวลา 3 วัน: 385 เมื่อสมเด็จพระเพทราชาทรงเครื่องศิริราชวิภูสนาภรณ์เสร็จแล้วทรงพระราชยานซึ่งประดับไปด้วยเครื่องสูงไสวอย่างตระการตา และมีเครื่องดุริยางค์ดนตรีประโคมพระราชพิธี ทั้งปืน กลอง แตรสังข์ ขบวนแห่พยุหะยาตราของพระองค์รายล้อมด้วยพสกนิกรอย่างคับคั่ง เมื่อพระราชพิธีขบวนแห่รอบพระนครเสร็จสิ้นแล้ว สมเด็จพระเพทราชาเสด็จประทับเลียบพระนครแล้วจึงเสด็จกลับไปยังพระราชวัง: 385 ส่วนพระญาติและข้าหลวงเดิม ณ บ้านพลูหลวง แขวงเมืองสุพรรณบุรี ทราบว่าสมเด็จพระเพทราชาขึ้นครองราชย์ยกเศวตฉัตรปราบดาภิเษกแล้ว ต่างชื่นชมโสมนัสยินดี และได้จัดแจงอาหาร และสิ่งของต่างๆ ตามประสาชนบท เข้ามายังพระราชวังทูลเกล้าถวายพระองค์: 386 และการเพ็ดทูลของพระญาติก็เป็นอย่างกันเองที่คุ้นเคยมาแต่ก่อน เหล่าข้าทูลในพระราชวังได้ฟังจึงห้ามตักเตือนว่าเป็นการมิสมควร
สมเด็จพระเพทราชาทรงได้ฟังเช่นนั้นจึงสวนพระราชดำรัสว่า :-
เรามิได้ถืออย่าห้ามมันเลย: 386
แล้วจึงให้พระญาติอยู่ในพระราชวังใกล้พระราชนิเวสสถานและจัดเลี้ยงอาหารสุราต่างๆ พร้อมยังพาเที่ยวชมพระราชวัง: 387 วันรุ่งขึ้นสมเด็จพระเพทราชาพระราชทานเงินทอง เครื่องนุ่งห่ม และสิ่งของแก่พระญาติทั้งยังฝากให้แก่ผู้ที่ไม่ได้มาเข้าเฝ้าในครั้งนี้ บรรดาพระญาติของพระองค์ได้รับพระราชทานสิ่งของทั้งหลายแล้วจึงถวายพระพรและถวายบังคมลา: 387
แล้วทรงตั้งคุณหญิงกัน (พระมเหสีเดิม) เป็นพระอัครมเหสีฝ่ายขวา ตั้งกรมหลวงโยธาเทพ (เจ้าฟ้าทอง) พระราชธิดาในสมเด็จพระนารายณ์เป็นพระมเหสีฝ่ายซ้าย ตั้งนางนิ่มเป็นพระสนมเอก ตั้งสมเด็จพระสรศักดิ์: 365 หรือหลวงสรศักดิ์: 252 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล ตั้งหม่อมแก้วบุตรท้าวศรีจุฬาลักษณ์ (แจ่ม) พระขนิษฐาของพระองค์เป็นกรมขุนเสนาบริรักษ์ และตั้งเจ้าราชนิกูล เช่น นายกรินท์คชประสิทธิ ทรงบาศซ้ายกรมพระคชบาล ซึ่งเป็นพระราชนัดดาขึ้นเป็น เจ้าพระพิไชยสุรินทร์ (ภายหลังสถาปนาขึ้นเป็นเจ้าต่างกรมเป็นกรมหมื่นอินทรภักดี ในรัชกาลสมเด็จพระที่นั่งท้ายสระ) และขุนทิพพลภักดิ์ เชื้อพระวงศ์ ขึ้นเป็น เจ้าพระอินทรอภัย พร้อมพระราชทานเครื่องยศตามตำแหน่งฐานาศักดิ์ เป็นต้น
เมื่อพระองค์ขึ้นครองราชย์แล้ว ก็ได้ขับไล่กำลังทหารฝรั่งเศสออกไปจากกรุงศรีอยุธยา แต่ยังทรงอนุญาตให้บาทหลวง และพ่อค้าชาวฝรั่งเศสอาศัยอยู่ในกรุงศรีอยุธยาต่อไปได้ ได้มีการทำสนธิสัญญากับฝรั่งเศส เรื่องการขนย้ายทหาร และทรัพย์สินของฝรั่งเศสออกจากป้อมที่บางกอก โดยฝ่ายอาณาจักรอยุธยาเป็นผู้จัดเรือ กับต้องส่งคืนทรัพย์สิน ที่เป็นของกรุงศรีอยุธยาคืนทั้งหมด สำหรับข้าราชการและราษฎรไทย ที่ยังอยู่ในประเทศฝรั่งเศส ทางฝรั่งเศสจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับกรุงศรีอยุธยา ผลการปฏิบัติดังกล่าวทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างกรุงศรีอยุธยากับฝรั่งเศส สิ้นสุดลงตั้งแต่นั้นมา
พระนาม
สมเด็จพระเพทราชามีพระนามเรียกขานอื่นๆ เช่น
- สมเด็จพระเจ้าธาดาธิเบศร์: 8
- พระเจ้าปากสระ หรือ ขุนหลวงปากสระ: 47 มาจากสมเด็จพระเพทราชาทรงโปรดทอดพระเนตรปลาในน้ำ หรือทรงโปรยข้าวตอกให้ปลาตรงริมปากสระรายล้อมพระที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์
- ขุนหลวงสระแก้ว: 8
- ขุนหลวงประธาคูจาม: 8 มาจากมูลเหตุถิ่นบ้านเดิมของสมเด็จพระเพทราชา คือ เมืองสุพรรณบุรี ซึ่งมีชื่อเดิมว่า ประธาคูจาม หรือ ปละท่าคูจาม หรือ ปท่าคูจาม ที่พระเจ้าอู่ทองทรงตั้งก่อนสร้างพระนครทวารวดี: 153 อยู่ฝั่งฟากใต้ของกรุงศรีอยุธยา: 173
- ขุนหลวงเพทราชา: 12
- พระเพทธราชาธิราช
พระอุปนิสัย
เดอ ลา ลูแบร์ ผู้แทนพิเศษของคณะราชทูตฝรั่งเศสมายังอาณาจักรอยุธยาเมื่อปี พ.ศ. 2230 ปลายรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้เขียนบันทึกลักษณะออกพระเพทราชาไว้ว่า :-
"...Oc-Pra Pipitcharatcha : who though he has only the Title of Oc-Pra, is yet a very great Lord. The people love him becauſe he appears modetate ; and think him invulnerable, becauſe he expreſſed a great deal of Courage in ſome Fight againſt the Pegains : his Courage has likewiſe procur'd him the Favour of the King his Maſter. His Family has continued a long time in the higheſt Offices: is ſtequently allied to the Crown; and is it publickly repotted that he or his Son Oc-Louang Souracac may pretend to it, if either of them ſurvive the King that now Reigns.": 89
— Simon de La Loubère, 1642-1729., Du Royaume de Siam, (1687).
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ทรงพระนิพนธ์แปลจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ ความว่า :-
"ออกพระพิพิธราชา ผู้มาตรว่าทรงยศเป็นแต่เพียงออกพระ ก็ยังมีศักดิ์มีอำนาจยิ่งใหญ่ ราษฎรก็รักใคร่นิยมนับถือมาก เพราะท่านเป็นคนใจดีสงบเสงี่ยม และพากันคิดว่าท่านเป็นคนมีวิชาความรู้ และเฉลียวฉลาดหลักแหลมน่านับถือ เพราะท่านเข้าใจผูกน้ำใจไพร่พลและกล้าหาญ เห็นฝีมือคราวออกศึกรามัญ ความแกล้วกล้าสามารถในการศึกนี้ ทำให้พระพุทธเจ้าอยู่หัวทรงพระเมตตากรุณาไว้วางพระราชหฤทัยมาก วงศ์ตระกูลของออกพระเพทราชาได้รับราชการแผ่นดินในตำแหน่งสูงสืบต่อกันมาช้านานหลายชั่วมีทางเกี่ยวข้องในราชสมบัติหลายแง่จนคนโจษกันแซ่แทบไม่เป็นการปิดบังว่า ตัวท่านหรือบุตรของท่านออกหลวงสรศักดิ์นั้น อาจจะคิดเอาราชสมบัติได้ ถ้าคนใดคนหนึ่งยังมีชีวิตอยู่": 73
— กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ (ทรงพระนิพนธ์แปล)., จดหมายเหตุลาลูแบร์ เล่มที่ 2, (2505).
ในประชุมพงศาวดาร ตอน โกษาปานไปฝรั่งเศส กล่าวสอดคล้องตามจดหมายเหตุ ลา ลู แบร์ ว่า :-
"ออกพระเพทราชาเป็นขุนนางผู้ใหญ่ ราษฎรชอบพอมาก เพราะใจคอเยือกเย็น และลือกันว่าเป็นคนคงกะพันชาตรียิงไม่ออก ฟันไม่เข้าถึงพระรายณ์เองก็ทรงโปรดมาก เพราะเคยไปสงครามมีชัยชนะแก่พระเจ้าตองอูมา......ตามเสียงตลาดที่โจษกันทุกวันนี้มักนิยมถือกันว่า ถ้าพระนารายณ์สิ้นพระชนม์ลงเมื่อใด ออกพระเพทราชากับลูกชายชื่อออกหลวงสรศักดิ์มีหวังที่จะสืบราชสมบัติยิ่งกว่าใครๆ......มารดาของออกพระเพทราชานั้นเคยเป็นนางนมของในหลวงเดี๋ยวนี้เหมือนกับมารดาของเจ้าคุณอัครราชทูตซึ่งเคยถวายนมแก่พระองค์เหมือนกัน": 186
— ประชุมพงศาวดาร เล่มที่ 33 (ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๕๙ - ๖๑), (2512).
บันทึกความทรงจำของออกพระศักดิสงคราม (เรือโท เชอวาลิเอร์ เดอ ฟอร์บัง): 25 : 434 นายทหารเรือชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาช่วยราชการสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช กล่าวถึงออกพระเพทราชา ความว่า :-
"ข้าพเจ้ารู้จักท่านผู้นี้ดีถึงแม้ว่าท่านมีอายุกลางคนแล้ว ก็ยังมีกำลังแข็งแรงว่องไวเหมือนเมื่อยังหนุ่มอยู่ มีสติปัญญารอบคอบและประพฤติตนถูกกาลเทศะ ท่านได้พระภิกษุสงฆ์เป็นพรรคพวกแล้วก็เกลี้ยกล่อมขุนนางอื่นโดยเยินยอความมักใหญ่ใฝ่สูงของเขา สัญญาว่าจะให้มีหน้าที่ในการปกครองบ้านเมืองด้วย ท่านไม่ได้เกลี้ยกล่อมเฉพาะแต่ขุนนางเท่านั้น ยังได้เอาใจราษฎรด้วย ราษฎรที่ชอบของใหม่ ๆ แปลก ๆ ก็หวังใจว่า เมื่อได้อยู่ใต้แอกผู้อื่นแล้ว การปกครองคงจะไม่เข้มงวดนัก": 180 : 187
— Claude de Forbin-Gardanne, Mémoires du comte de Forbin (1656–1733), ฉบับทรงนิพนธ์แปลโดย ม.จ. ดำรัสดำรงค์ เทวกุล (2509).
บันทึกของบาทหลวงปีแยร์ บรีโก กล่าวว่า :-
พระเพทราชาถึงแม้จะรูปร่างเล็ก แต่ก็มีจิตใจสูง รูปร่างหน้าตาเป็นที่่น่าสนใจ แม้ว่าจะมีอายุถึง ๕๖ ปีแล้วก็ตาม เขาเป็นที่รู้จักรักใคร่ของผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชา แต่กับศัตรูเขาไว้ท่าเสมอ เขาได้รับการเลี้ยงดูเหมือนกับพระเจ้าแผ่นดิน ความสุขของพระเจ้าแผ่นดินได้รับแรงดลใจจากประชาชนที่ผาสุก ความซื่อสัตย์จงรักภักดีของเขาแฝงไว้ด้วยเล่ห์เหลี่ยมที่เฉลียวฉลาด โดยเล่ห์เหลี่ยมนี้เขาอาจแสดงความไม่พอใจพระเจ้าแผ่นดินในความผิดของพระองค์หรือของพวกเสนาบดีของพระองค์ผู้ซึ่งเขาจะจัดการตอบแทนอย่างรุนแรงด้วยการกระทำของพวกบ้าอำนาจ ทั้ง ๆ ที่เขาพยายามปิดบังเจตนาร้ายของเขา: 77–78
— P. Brigot, Bishop of Tabraca Vicar Apostolic, รวบรวมโดย ฟรังซัวส์ อังรี ตุรแปง A.D. 1770, ประวัติศาสตร์ไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา ฉบับตุรแปง, แปลโดยสมศรี เอี่ยมธรรม, (2522).
เหตุการณ์ในรัชสมัย
ขับไล่ฝรั่งเศสออกจากสยาม (พ.ศ. 2231)
เหตุการณ์ขับไล่ฝรั่งเศสจากสยามเป็นเหตุการณ์สืบต่อเนื่องทั้งก่อนและหลังจากที่สมเด็จพระเพทราชาปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดิน
เมื่อ ปี พ.ศ. 2230 เมื่อคราวคณะราชทูตไทยซึ่งออกไปเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศสเดินทางกลับสยาม ราชสำนักฝรั่งเศสก็ได้ส่งคณะราชทูต โดยมีลา ลูแบร์ เป็นผู้แทนพิเศษ และเซเบอแร ดูว์ บูแล เป็นอุปทูต มายังกรุงศรีอยุธยาเพื่อแก้ไขสนธิสัญญาทางการค้าฉบับก่อน: 28 และชักจูงให้สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเข้ารีตในศาสนาคริสต์ พร้อมกับกำลังทหารพร้อมอาวุธทันสมัยมีอนุภาพเหนือกว่าอยุธยามากเข้ามาประจำการที่บางกอกและเมืองมะริด (ทวาย) โดยมีนายพลเดส์ฟาร์จเป็นผู้ควบคุมกำลังทหารนั้น
ออกพระเพทราราชา จางวางกรมพระคชบาลควบตำแหน่งรักษาการสมุหกลาโหม ไม่เห็นด้วยกับนโยบายต่างประเทศของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช: 330–375 และเคยติงเรื่องนี้ในที่ประชุมขุนนางต่อหน้าพระพักตร์มาก่อน แม้ทรงพระพิโรธการดิงของออกพระเพทราชาแต่ทรงระงับไว้ไม่ได้ลงพระราชอาญา ตั้งแต่นั้นมา ออกพระเพทราราชาจึงจับตาดูการเคลื่อนไหวจับตาดูการเคลื่อนไหวของออกญาวิไชยเยนทร์เป็นพิเศษและทราบว่า :-
"เมอซิเออร์คอนซตันซ์ก็มีใจคิดร้ายอยู่ด้วย พวกข้าราชการที่รู้เท่าเมอซิเออร์คอนซตันซ์ก็ไม่กล้าพูด แต่ก็ได้พยายามช่วยกันป้องกันไม่ให้เมอซิเออร์คอนซตันซ์ได้ทำการร้ายขึ้นได้": 603
เมื่อปี พ.ศ. 2231 สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงพระประชวรด้วยโรคไอหืดมีพระอาการแย่ลงอย่างมาก เปิดโอกาสให้ออกพระเพทราชาซึ่งมีตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ชิงกระทำการรัฐประหาร ออกพระเพทราชาจึงเข้ายึดพระราชวังละโว้ทันทีในวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2231 โดยมีออกหลวงสรศักดิ์เป็นกำลังสำคัญและยังมีแนวร่วม 3 กลุ่ม คือ กลุ่มชาวเมืองกรุงศรีอยุธยา กลุ่มขุนนางในราชสำนักที่แตกเป็นฝักเป็นฝ่าย และกลุ่มพระสงฆ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมเด็จพระสังฆราช วัดราชา เมืองลพบุรี เป็นฐานกำลังสำคัญและอาจใช้เป็นกำลังรบหากจำเป็น ต่อมาออกพระเพทราชาได้ให้เจ้าพระยาสุรสงครามซึ่งเป็นบุคคลที่พระยาวิไชเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) นับถือ ให้ไปบอกความว่าสมเด็จพระนารายณ์มหาราชมีรับสั่งให้เข้าเฝ้า พระยาวิไชเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) จึงถูกจับกุมตัวไปประหารชีวิตในคราวนั้น
"เมื่อวันที่เกิดเหตุการณ์ปฏิวัตินั้น ฟอลคอนได้รับคำสั่งให้เข้าเฝ้าสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พร้อมกับนายทหารฝรั่งเศสอีก ๔ นาย มีอาวุธครบมือ เมื่อเข้ามาในบริเวณพระราชวัง พระเพทราชาและขุนนางกลุ่มหนึ่งคอยดักพบและจับกุมตัวไปสำเร็จโทษโดยที่ไม่มีโอกาสเข้าเฝ้า จากนั้นบ้านหลวงรับราชทูตก็ถูกตรวจค้น มาดามฟอลคอนภรรยาและลูกถูกจองจำ และปลดจากบรรดาศักดิ์ทุกระดับชั้น"
พันตรีโบชอง ผู้คุ้มกันฟอลคอนในขณะนั้น ได้เขียนบรรยายเหตุการณ์ไว้ว่า :-
"เมอซิเออร์ก็องสต๊องส์เริ่มวิตกว่าจะไม่ได้พบพระเจ้าแผ่นดินและสังเกตเห็นว่าทหารต่างๆ ที่จุกช่องล้อมวงพระราชวังได้พยายามเข้ามาหาข่าวจากทหารที่ข้าพเจ้านำขึ้นไปจากบางกอกซึ่งประจำกองอยู่ใกล้ๆ กับพวกเขา เขาลงความเห็นว่าคงจะเกิดอะไรที่เลวร้ายสักอย่างหนึ่งเป็นแน่ จึงสั่งให้ข้าพเจ้าไปแจ้งกับทหารฝรั่งเศสว่าห้ามพูดคุยกับผู้อื่น": 9
วันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2231 กองทหารฝรั่งเศสซึ่งประจำการอยู่ ณ บางกอก และเมืองมะริด (ทวาย) เปิดฉากรบปะทะต่อสู้กับฝ่ายสยามอันเป็นผลมาจาก นายพลเดส์ฟาร์จ (Chevalier Desfarges) แข็งข้อและไม่ยอมปฏิบัติตามความต้องการของออกพระเพทราชา ต่อมาฝ่ายอยุธยาส่งทหารไปยังเมืองมะริด (ทวาย) เพื่อขับไล่กองทหารฝรั่งเศสอีกทาง จนถึงวันที่ 24 มิถุนายน กองทหารฝรั่งเศสที่เมืองมะริด (ทวาย) จึงเดินทางออกจากสยามไป ส่วนการรบพุ่งกับกองทหารฝรั่งเศสที่บางกอกยังคงยืดเยื้อต่อไปจนถึงปลายปี พ.ศ. 2231
วันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2231 สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเสด็จสวรรคต ออกพระเพทราชาจึงได้ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดินและสถาปนาราชวงศ์บ้านพลูหลวง คำให้การขุนหลวงหาวัด กล่าวว่า: 161
"ครั้นพระนารายณ์สวรรคตแล้ว เสนาอำมาตย์ทั้งปวงจึงปรึกษากันทั้งสิ้นแล้วก็พร้อมกันด้วยใจจงรักภักดีที่จักเอาเจ้าพระยาศรีสุรศักดิ์ให้ครอบครองกรุง ฝ่ายเจ้าพระยาศรีสุรศักดิ์นั้นมิได้สมัคยอมใจที่จะครองกรุง จึงปรึกษากันกับเสนาทั้งปวงว่าใหญ่กว่าเรานี้ยังมีอยู่ แล้วเราได้เรียกว่าเปนบิดาคือเจ้าพระยาสุรศรี เปนยอดใหญ่อยู่ในกรุงศรีอยุธยา แล้วก็ดีที่ในการบุราณทั้งชื่อสัตย์ มีอัชฌาอาศรัยทั้งใจตรงแล้วมีสติปัญญาทั้งศรัทธาวิรียก็บริบูรณ์อันเสนาทั้งปวงก็มิได้ยอมใจ ด้วยมิใช่เปนเชื้อเนื้อหน่อองค์พระนารายน์ ก็จำเปนจำต้องยอมใจด้วยบทพระธรรมนูญและอย่างธรรมเนียม ก็มีมาสิได้เรียกว่าเปนบิดาแล้วก็ควรที่จักทำการราชาภิเศก จึงยินยอมพร้อมใจกันทั้งสิ้นให้เจ้าพระยาสุรศรีครอบครองกรุง"
วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2231 หลังจากฝ่ายอยุธยากับฝรั่งเศสต่อสู้กันยืดเยื้อนานถึง 4 เดือน นายพลเดส์ฟาร์จ (Chevalier Desfarges) กับนายโวลอง เดส์ แวร์แกง (Volland Des Vergens): 216 รวมทั้งกองทหารฝรั่งเศสที่รักษาการอยู่ที่ป้อมบางกอกจำนวน 250 คน ยอมยกธงขาว นายพลเดส์ฟาร์จ จึงได้ลงนามทำสัญญาสงบศึกต่อสมเด็จพระเพทราชา: 11
สัญญาสงบศึกของสมเด็จพระเพทราชา ปรากฏใน เอกสารของนายโวลอง เดส์ แวร์แกง ประกอบด้วย 9 ข้อ ดังนี้: 22–24
๑. พระเจ้าแผ่นดินสยามจะให้ชาวฝรั่งเศสยืมเรือ ๒ ลำ พร้อมอุปกรณ์ครบเพื่อที่จะบรรทุกทหารฝรั่งเศสทั้งหมด เดินทางออกไปจากสยาม โดยฝ่ายไทยจะนำเรือมาจอดไว้ให้ฝรั่งเศสตรวจสภาพก่อนออกเดินทาง
๒. ให้ท่านสังฆราช เดอ เมเตลโลโปลิส และคณะบาทหลวง พร้อมด้วยนายเวเรต์เป็นตัวประกันจนกว่าที่เรือทั้ง ๒ ลำ จะถูกส่งกลับคืนมาและจนกว่าจะมีการส่งมอบเงินรายได้จากการค้ากับบริษัทฝรั่งเศสซึ่งฟอลคอนอ้างว่าเป็นของตน
๓. ให้กองทหารฝรั่งเศสที่รักษาป้อมออกจากป้อมได้โดยมีพิธีการตามที่ปฏิบัติกันในยุโรป และให้นำสิ่งของที่เป็นของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสกลับไปด้วย เช่น ปืนใหญ่ ดินปืน ระเบิดมือ ฯลฯ และให้ชาวสยามจัดหาเสบียงอาหารและของจำเป็นอื่นๆ ให้เพียงพอระยะเวลา ๑ ปี โดยชาวฝรั่งเศสจะเป็นผู้จ่ายเงิน
๔. ให้บาทหลวงทำงานเผยแผ่ศาสนาต่อไปได้อย่างเสรี
๕. ให้บาทหลวงเจซูอิตเป็นผู้เลือกเองว่าจะดำเนินงานต่อไป หรือจะออกไปจากอาณาจักร โดยได้รับสิทธิพิเศษตลอดจนเกียรติยศตามเดิม
๖. ให้บริษัทการค้าฝรั่งเศสดำเนินกิจการต่อไปได้โดยได้รับสิทธิพิเศษตามเดิม
๗. เพื่อให้เกิดความมั่นใจในสัญญาและมิให้ผิดสัญญากันทั้งสองฝ่าย ให้มีตัวประกันทั้งสองฝ่าย คือ ฝ่ายไทยเป็นขุนนางระดับสูง ส่วนทางฝรั่งเศสได้แก่นายพลจากป้อมบางกอก เมอซิเยอร์ เชอวาลิเย่ร์ เดส์ฟาร์จ และนายเวเรต์
๘. ให้ตัวประกันฝ่ายสยามลงเรือลำเดียวกับนายพลเดส์ฟาร์จ ส่วนตัวประกันฝ่ายฝรั่งเศสจะลงเรืออีกลำหนึ่งตามไปในระยะไม่เกินวิถีกระสุน และการแลกเปลี่ยนตัวประกันจะกระทำเมื่อถึงด่านขนอนสุดท้ายที่ปากน้ำ
๙. ในทุกกรณี ให้นายพลเดส์ฟาร์จคืนป้อมบางกอกให้แก่พระเจ้ากรุงสยาม ตามสภาพที่เป็นอยู่ขณะนั้นพร้อมด้วยทุกอย่างที่เคยเป็นของพระเจ้ากรุงสยาม
นายพลเดส์ฟาร์จจึงคุมทหารฝรั่งเศสออกไปอย่างสันติโดยเรือ 2 ลำชื่อสยามกับละโว้ นอกจากนี้สมเด็จพระเพทราชายังทรงให้ยืมเงิน 45,000 แฟรงค์ เพื่อเป็นค่าเดินทางพร้อมปล่อยตัวบุตรชายของนายพลเดส์ฟาร์จ 2 คน และยังมีชาวฮอลันดาช่วยหาเรือและจัดเสบียงอาหารแก่พ่อค้าและบาทหลวงชาวฝรั่งเศส กองกำลังทหารฝรั่งเศสจึงได้เดินทางนอกกรุงศรีอยุธยาเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2231: 310
แม้มีข้อสัญญาสงบศึก ปรากฏว่ามีบรรดาบาทหลวงบางส่วน และชาวคริสเตียนถูกจับขังจำนวนมาก โบสถ์คริสต์ถูกปิดและถูกปล้นทำลาย การเผยแพร่คริสต์ศาสนาที่เคยรุ่งเรืองในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราชก็อยู่ในสภาพตกต่ำจนต้องล้มเลิกไปตลอดรัชกาลสมเด็จพระเพทราชา มีคณะบาทหลวงฝรั่งเศสที่ยังพำนักอยู่ในกรุงศรีอยุธยา ได้เขียนบันทึกความโหดเหี้ยมทารุณกรรมนักโทษชาวคริสเตียน และยังออกไปให้ทำงานหนักหลายอย่างตั้งแต่เช้าจรดเย็น เช่น ขนดิน ขนอิฐ ขนขยะ ล้างท่อ ล้างที่ทิ้งอุจจาระ ลากเสา ลางซุง เป็นต้น
ปรากฏใน จดหมายเหตุของคณะบาทหลวงฝรั่งเศส ความว่า :-
"ในครั้งนั้นบรรดาชาวต่างประเทศมีความประหลาดใจมากที่ได้เห็นชาวยุโรปในเมืองไทย ทั้งนักเรียนอายุ ๑๓ ขวบ ๑๔ ขวบ ตลอดจนมิชชันนารีซึ่งหน้าตาแสดงความบริสุทธิ์ของตัว ต้องถูกลากไปตามถนน และถูกบีบคั้นไม่ผิดกันกับพวกผู้ร้ายอย่างสำคัญและผู้ร้ายที่ฆ่าคนตาย ถ้าพวกคริสเตียนล้มลงด้วยอ่อนเพลียเพราะความไม่สบาย หรือแดดเผาจนร้อน หรือเหน็ดเหนื่อยเต็มที ประเดี๋ยวก็ต้องลุกขึ้นได้ด้วยไม้ตี ในตอนเช้าเวลาเดินไปทำงานและตอนเย็นเวลากลับ พวกนี้ต้องขอทานตามประตูบ้านและตามร้านทุก ๆ แห่ง พวกชาวบ้านก็ให้ข้าวบ้าง ปลาเค็มบ้าง เบี้ยซึ่งใช้กันต่างเงินบ้าง และให้เหมือนกับนักโทษไทยและมอญที่ต้องร้อยโซ่ติดเป็นพวงเดียวกันไป": 12–13
กบฏธรรมเถียร (พ.ศ. 2233)
กบฏธรรมเถียร หรือกบฎพระมอญ: 439 เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2233: 28 ราวเดือนเมษายน ตรงกับรัชกาลสมเด็จพระเพทราชา ผู้ก่อกบฏชื่อ ธรรมเถียร เป็นพระสึกใหม่เคยต้องโทษอาญาที่ตะนาวศรี และเป็นบัณฑิต: 66 อาศัยอยู่แขวงเมืองนครนายก: 9 เคยเป็นข้าหลวงเดิมของเจ้าฟ้าอภัยทศ หลังสมเด็จพระเพทราชาปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดิน เจ้าฟ้าอภัยทศจึงถูกสำเร็จโทษ ธรรมเถียรจึงหนีไปบวชระยะหนึ่ง หลังจากสึกจึงคิดก่อกบฏหมายจะชิงราชสมบัติจากสมเด็จพระเพทราชา โดยใช้อุบายหลอกลวงชาวบ้านด้วยการปลอมตัว และประกาศตนเองแอบอ้างว่าเป็นเจ้าฟ้าอภัยทศ และยังทำกิริยาและน้ำเสียงพูดจาเหมือนพระขวัญ ชาวบ้านต่างพากันหลงเชื่อเป็นอันมากเนื่องจากธรรมเถียรติดไฝดำไฝแดงที่ใบหน้า: 251 จึงคล้ายกับพระพักตร์ของเจ้าฟ้าอภัยทศ และชาวบ้านต่างเลื่องลือว่าพระขวัญนี้มีบุญญาธิการ
ปรากฏใน พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพน ความว่า :-
"ลุศักราช ๑๐๔๒ ปีชวด ฉศก ขณะนั้นเกิดกบฏ ไอ้ธรรมเถียรข้าหลวงเดิมเจ้าฟ้าอภัยทศ เป็นจราจลในจังหวัดแขวงหัวเมืองนครนายก และอ้ายธรรมเถียรกระทำการโกหกติดไฝที่หน้าให้เหมือนเจ้าฟ้าอภัยทศ สำแดงแก่ชาวชนบทประเทศทั้งปวงว่าตัวเป็นเจ้าฟ้าอภัยทศ": 499
ธรรมเถียรจึงได้ขี่ช้างพลายกาง พร้อมทาสควาญช้างคนสนิทชื่อ คุลา หรือกุลา: 79 ยกพรรคพวกซ่องสุมผู้คนเรื่อยมาตั้งแต่เมืองสระบุรีและขุนละครมีผู้คนทั้งชาวบ้านชาวนาต่างหอบดาบ คันหลาว คานหอบข้าว และเคียวเข้าร่วมกบฏเป็นจำนวนมาก: 143
เมื่อถึงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2233 ธรรมเถียรยกกองกบฏมาตั้งที่พระตำหนัก พระราชวังหลวง ตั้งอยู่ทางเหนือใกล้กับกรุงศรีอยุธยา ยังมีขุนนางเข้าร่วมกบฏธรรมเถียรด้วย เช่น หลวงเทพราชา ผู้รักษาวัง เข้าร่วมกบฏพร้อมนำเครื่องสูงมาให้ ขุนศรีคชกรรม์เข้าร่วมกบฏพร้อมนำช้างพลายมงคลรัตนาศน์มาให้: 363 ธรรมเถียรจึงตั้งให้เป็นอำมาตย์ให้ขึ้นขี่ช้างกั้นเศวตฉัตรคุมพรรคพวกประมาณ 2,000 คน แล้วจึงให้พรรคพวกคนสนิทลอบไปนิมนต์พระพรหม เจ้าอาวาสวัดปากคลองช้าง ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชและเจ้าฟ้าอภัยทศ บอกความแก่เจ้าอาวาสว่าเจ้าฟ้าอภัยทศ เสด็จมาอยู่ที่ตำหนักพระราชวังหลวงได้ 3 วันแล้ว พระพรหมเจ้าอาวาสได้ฟังนั้นจึงกล่าวความแก่คนสนิทธรรมเถียร พวกคนสนิทได้ฟังนั้นจึงกลับไปบอกความกันแล้วต่างพากันแตกหนีออกมา ความว่า :-
"ถ้าแลลูกกูอยู่จริง ไหนเลยจะอยู่แต่ที่พระนครหลวงเล่า สูเจ้าอย่าเชื่อถือ ถ้าแลผู้ใดเชื่อถือมัน ผู้นั้นก็จะพลอยตายเสียเปล่าเป็นมั่นคง": 232
เมื่อปลายเดือนเมษายน พ.ศ. 2233 รุ่งเช้าวันถัดมาธรรมเถียรขึ้นขี่ช้างจัดแจงเครื่องสูงอย่างเจ้าเสด็จ แล้วรี้พลพร้อมศัสตราวุธต่างๆ มาทางคลองบ่อโพง (ตำบลบ่อโพง) เข้ามายังเพนียดคล้องช้างอย่างไร้ระเบียบ ในขณะนั้นกรมพระราชวังบวรพระมหาอุปราชสรศักดิ์ กำลังเสด็จทรงช้างพระที่นั่งอยู่ มีผู้มากราบทูลกรมพระราชวังบวรจำนวนมากจึงทรงตกพระทัยแล้วมีพระราชบัณฑูรให้ตำรวจไปสืบดู และทราบว่าเจ้าฟ้าอภัยทศยกทัพมา กรมพระราชวังบวรทรงตรัสแก่ พันชัยธุช ซึ่งขี่ควายถือธงนำทัพกบฏธรรมเถียรเข้ามายังเพนียด ว่า "ยกมาก็สู้กัน เราจะกลัวอะไร"
ต่อมากรมพระราชวังบวรพระมหาอุปราชสรศักดิ์ มีพระบัณฑูรตรัสให้ ขุนอินทราธิบาล นำมูลเหตุไปกราบทูลสมเด็จพระเพทราชา สมเด็จพระเพทราชาจึงทรงช้างต้นพลายมงคลจักรพาฬเสด็จไปวังหน้าและมีรับสั่งให้มหาดเล็กอัญเชิญ พระแสงขอพลพ่าย ซึ่งเป็นพระแสงของ้าวของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมื่อคราวชนช้างกับพระมหาอุปราชาแล้วทรงฟัดคอขาดด้วยพระแสงนี้ เพื่อใช้เป็นศาสตราวุธรบทัพจับศึกกบฏธรรมเถียรในคราวนั้น ส่วนกรมพระราชวังบวรเสด็จกลับรอรับศึกที่พระนครแทนตามคำกราบทูลของ เจ้าพระยาธรรมา เสนาบดีจตุสดมภ์กรมวัง จึงไม่ได้ทรงเสด็จรับศึก ณ ที่ เพนียด
เมื่อกรมพระราชวังบวรพระมหาอุปราชสรศักดิ์ เสด็จไปถึงบนป้อมมหาไชย ธรรมเถียรจึงขี่ช้างเข้ามาทางวัดมหาโลก กรมพระราชวังบวรจึงมีพระบัณฑูรตรัสให้ตำรวจไปดูให้แน่แล้วทรงทราบว่าไม่ใช่เจ้าฟ้าอภัยทศ จึงมีพระบัณฑูรให้ยิงปืนใหญ่ 8 กระบอก และทรงตั้งสัตยาธิษฐานก่อนยิงปืนใหญ่ว่า
"ข้าแต่เทพยดาสุรารักษ์ อันสิงสู่รักษาปืนใหญ่นี้ ถ้าแลข้าพเจ้าบุญน้อยมีอาจสามารถจะดำรงสมบัติ์ไว้ได้ แลจะถึงปราไชยแก่ประจามิตร์แล้ว แลจะจุดปืนบัดนี้ขอให้ปืนจงแตกออกต้องข้าพเจ้า ให้ถึงแก่ชีวิตร์อันตรายเถิด ถ้าแลข้าพเจ้ามีบุญญาภิสังขารบารมีมาก อาจสามารถจะดำรงสมบัติ์เสวตรฉัตร์เฉลิมแผ่นดินสยามประเทศได้ไซ้ ขอให้กระสุนปืนใหญ่ไปต้องดัสกรพินาศฉิบหายเถิด": 267
เมื่อยิงปืนใหญ่ออกไปแล้ว กระสุนปืนไปถูกช้างพลายธรรมเถียรจนล้มตาย พลฝ่ายหน้ากบฏธรรมเถียรแตกหนีกระจาย ธรรมเถียรได้รับบาดเจ็บเมื่อได้โอกาสจึงหนีไปซุกซ่อนตัวที่สวนดอกไม้ ณ วัดสีฟัน และถูกจับตัวในวันรุ่งขึ้น ใช้เวลา 3 วัน จึงปราบกบฏธรรมเถียรได้สำเร็จ เค็มพ์เฟอร์ ได้เขียนบันทึกไว้ว่า ธรรมเถียรถูกแห่ประจานทั่วพระนคร 3 วันแล้วจึงถูกประหารชีวิตโดยถูกเพชฌฆาตจับแหวกท้องทั้งเป็นแล้วทิ้งไส้ให้หมากิน: 340 ส่วน คุลา ทาสควาญช้างคนสนิทถูกจับได้ที่ตำบลวัดขนานป่าข้าวสารแล้วถูกประหารชีวิต ช้างพลายที่ยังรอดบางส่วนถูกจับได้นำถวาย ช้างบางส่วนหนีเข้าป่าไปจำนวนมากจนส่งผลให้แขวงเมืองสระบุรี เมืองลพบุรี และแขวงขุนละครร้างหลายตำบล: 218 : 69 บรรดาไพร่พลที่หลงเชื่อเข้าร่วมกับกบฏธรรมเถียรนั้นได้รับการปล่อยตัวไปไม่ได้ถูกลงพระราชอาญา
สมเด็จพระเพทราชาทรงพระราชทานอภัยโทษ ทรงตรัสว่า :-
"มันเป็นคนโมหะ หาปัญญามิได้ ปล่อยมันเสียเถิด อย่าเอาโทษเลย": 265
กบฏหัวเมืองนครราชสีมา และเมืองนครศรีธรรมราช (พ.ศ. 2234)
กบฏหัวเมืองนครราชสีมาและเมืองนครศรีธรรมราชเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2234 ในรัชกาลพระองค์ คือ กบฏ ขุนศึกมุสลิมชาวเมืองไทรบุรี และกบฏ ซึ่งเคยเป็นขุนศึกคู่พระทัยและเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่ทำให้สมเด็จพระนารายณ์มหาราชได้ขึ้นครองราชย์ ทรงโปรดเกล้าฯ ตั้ง พระยารามเดโช (ชู) เป็นเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช ดูแลหัวเมืองใต้อันห่างไกลต่างพระเนตรพระกรรณ และพระยายมราช (สังข์) เป็นเจ้าเมืองนครราชสีมา ครั้นสมเด็จพระเพทราชาปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดิน สร้างความไม่พอใจให้พระยารามเดโช (ชู) และพระยายมราช (สังข์) จึงก่อการกบฏแข็งเมืองไม่ยอมถือน้ำพิพัฒน์สัตยาที่กรุงศรีอยุธยา เป็นเหตุให้สมเด็จพระเพทราชาทรงพระพิโรธ ปรากฏความว่า :-
"ในศักราช ๑๐๔๘ ปีขาลอัถสกนั้น กรมการเมืองไชยาบอกข้อราชการเข้ามาถึงกรมพระกลาโหม ในลักษณะนั้นว่า เจ้าพระยานครครีธรรมราชเป็นกบฎแข็งเมือง แลซ่องสุมผู้คนเครื่องสาตราอาวุธเป็นอันมากจะยกเข้ามาตีหัวเมืองฝ่ายตะวันตกทั้งปวงได้หัวเมืองทั้งปวงแล้ว จะยกเข้าไปทำลายกรุง อนึ่งนายสังข์ ยมราช เจ้าเมืองนครราชสีมา ซึ่งหนี ไปได้นั้นพาสมัครพรรคพวกออกไปตั้งอยู่ ณ พรมแดนเมืองนครศรีธรรมราช แลแขวงไชยาต่อกัน แลคิดการกบฏเข้าด้วยพระยานครศรีธรรมราชอีก"
จึงมีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้พระยาสีหราชเดโช ยกทัพไปตีหัวเมืองนครราชสีมา ซึ่งพระยายมราช (สังข์) เป็นเจ้าเมืองอยู่ แต่พระยายมราช (สังข์) รักษาเมืองไว้ได้มั่นคง พระยาสีหราชเดโชจึงตีเมืองไม่สำเร็จ สมเด็จพระเพทราชาจึงมีรับสั่งให้กุมตัวแม่ทัพนายกอง แล้วลงพระราชอาญาให้โบย แล้วริบทรัพย์จากนั้นจึงประหารชีวิต ปรากฏใน จดหมายของบาทหลวงโบรลต์ เขียนไปส่งยังกรุงปารีสเมื่อ ค.ศ. 1700 (ปี พ.ศ. 2243) ความว่า :-
"หาไม่คงถูกประหารชีวิตเหมือนขุนนางผู้ใหญ่ ๔๘ คน ที่ไปตีนครราชสีมาไม่สำเร็จ ถูกสงสัยว่าเข้ากับกบฏเลยรับสั่งให้จับมาตระเวนกลางเมืองแล้วสับฟันศีรษะเป็นแฉก ๆ ตัดแขนตัดขาผ่าอกชกต่อยทรมานอย่างน่าทุเรศ แล้วก็ฟันเอาศีรษะขาดไปเสียบไว้ที่บนกำแพงพระนคร": 638
ต่อมาสมเด็จพระเพทราชาทรงแต่งทัพอีกครั้ง มีพระราชบัญชาโปรดให้อัครมหาเสบาดียกทัพไปตีเมืองนครราชสีมาอีกครั้งจำนวน 4 ทัพ ทหารกองทัพกรุงศรีอยุธยาได้ใช้กลอุบายเผาเมืองด้วยว่าวจุฬาผูกหม้อดิน: 33 แล้วให้ทหารล่ามสายชนวนไปติดหม้อดินนั้น เมื่อว่าวลู่ลมลอยอยู่เหนือเมืองนครราชสีมาแล้วจึงจุดชนวนขึ้นทำให้หม้อดินระเบิดลุกเป็นไฟแล้วตกลงไปลุกไหม้บ้านเรือนของชาวเมืองนครราชสีมาเกิดความโกลาหลเป็นอันมาก แม้สมัยอยุธยามีกฎมณเฑียรบาลห้ามชักว่าวข้ามพระราชวังหากละเมิดมีโทษถึงตัดมือ: 113 แต่ในรัชกาลสมเด็จพระเพทราชาได้นำว่าวมาใช้เพื่อปราบกบฏเจ้าเมืองนครราชสีมาจนสำเร็จ: 249 รวมแล้วใช้เวลา 2 ปีเศษ จึงสามารถปราบกบฏพระยายมราช (สังข์) ได้ แต่พระยายมราช (สังข์) และพรรคพวกหลบหนีไปยังเมืองนครศรีธรรมราชได้ สร้างความไม่พอพระราชหฤทัยแก่สมเด็จพระเพทราชาอย่างยิ่ง จึงแต่งทัพโดยมี พระยาสุรสงคราม (ขุนองค์) เป็นแม่ทัพหลวง พระยาเพชรบุรีเป็นเกียกกาย พระยาสุรเสนาเป็นยุกกระบัตร พระยาราชบุรีเป็นทัพหลัง และ: 186 เป็นผู้คุมทัพเรือรวมเป็นกองทัพกรุงศรีอยุธยาโดยมีกำลังพล: 145 10,000 นาย กองช้าง 300 เชือก เรือรบ 100 ลำ และทหารสบทบอีก 500 นาย แล้วจึงโปรดให้ยกทัพทั้งหมดลงไปสมทบกันที่เมืองไชยา
ครั้นกองทัพกรุงศรีอยุธยายกทัพทางบกและเรือเข้ามาประชิดถึงบ้านท่าข้าม บริเวณค่ายหัวควนท่าข้ามซึ่งเป็นตั้งของชุมนุมพระยายมราช (สังข์) จึงเข้าปะทะกันเป็นเพลาหลายวันจนกระทั่งชุมนุมพระยายมราช (สังข์) แตก พระยายมราช (สังข์) และพรรรคพวกถึงแก่กรรม ต่อมาพระยาสุรสงคราม (ขุนองค์) จึงยกทัพหลวงเข้าโจมตีเมืองนครศรีธรรมราชโดยมีพระยารามเดโช (ชู) เจ้าเมืองนครศรีธรรมราช พร้อมบุตรชาย 2 คน ชื่อ ตวนกูนาด และตวนกูกลาย เป็นขุนศึกร่วมรบ ทั้งสองฝ่ายรบปะทะกันอย่างดุเดือดเป็นสามารถ สงครามยืดเยื้อยาวนานถึง 3 ปี ทัพของพระยาสุรสงคราม (ขุนองค์) จึงเข้าล้อมเมืองนครศรีธรรมราชทำให้ทัพพระยารามเดโช (ชู) ไม่อาจสู้รบต่อได้จึงพากันหลบหนีฝ่ากองทัพกรุงศรีอยุธยา พระยารามเดโช (ชู) กับพวกหนีไปทางตะวันออกได้ชิงเอาเรือของทัพพระยาราชบังสัน (ฮัสสัน) แล้วหนีไปเมืองไทรบุรีได้สำเร็จ ต่อมาพระยาราชบังสัน (ฮัสสัน) ผู้คุมทัพเรือถูกพระยาสุรสงคราม (ขุนองค์) ประหารชีวิตเนื่องจากถูกจับได้ว่าแอบช่วยศัตรูให้หลบหนีไปได้
กบฏเมืองปัตตานี (พ.ศ. 2234 – 2235)
กบฏเมืองปัตตานี: 43 เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2234: 200 รายามัสกลันตัน (โมรหุมกลันตัน) ผู้ครองราชอาณาจักรปัตตานีในขณะนั้นประกาศไม่ยอมอ่อนน้อมสวามิภักดิ์เป็นเมืองขึ้นต่อกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระเพทราชาโปรดฯ ให้ยกทัพไปปราบเมืองปัตตานีครั้งแรกแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ ต่อมาปี พ.ศ. 2235 โปรดฯ ให้ยกกองทัพหนุนไปปราบอีกครั้งแต่ก็ไม่สามารถปราบเมืองปัตตานีได้: 69 เมืองปัตตานีจึงประกาศตนเป็นเมืองเป็นอิสระ: 6 ไม่ขึ้นกับกรุงศรีอยุธยาไปจนสิ้นสมัยกรุงธนบุรี
จดหมายเหตุโหร กล่าวว่า :-
ปีมะเมีย จ.ศ. ๑๐๕๒ พระเพทราชาเป็นเจ้ามาจนทุกวันนี้ ปีนี้ต้องยกกองทัพกรุงไปปราบเมืองตานี
ปีมะแม จ.ศ. ๑๐๕๓ ต้องยกกองทัพกองหนุนไปปราบเมืองตานี: 5
เหตุที่ไม่สามารถปราบเมืองเมืองปัตตานีได้เนื่องจากเมืองปัตตานีเป็นเมืองที่มีความชำนาญในการหล่อโลหะ โดยเฉพาะการหล่อปืนใหญ่ซึ่งเมืองปัตตานีมีปืนใหญ่ประจำเมือง 3 กระบอก ปรากฏว่าได้ใช้ปืนใหญ่ในการศึกสงครามกับฝ่ายกรุงศรีอยุธยาหลายครั้ง รวมทั้งการศึกสงครามครั้งสมเด็จพระเพทราชานี้ด้วย: 53
ชาวอยุธยาเข้าสวามิภักดิ์พม่าและพม่ารบกรุงศรีอยุธยา (พ.ศ. 2238–2243)
มีเหตุสืบเนื่องจากเมื่อวันอาทิตย์แรม 13 ค่ำเดือน 6 จุลศักราช 1057 ปีกุน ตรงกับวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2238 ขุนนางไทยชื่อ สละวุต หรือ สารวัตร กับพวก 100 คน: 50 อาจเป็นพวกนครราชสีมาหรือพวกกบฏธรรมเถียร หนีไปไปสวามิภักดิ์ต่อพม่าในรัชกาลพระเจ้ามังกะยอดิน มหาราชวงษ์พงษาวดารพม่า กล่าวว่า :-
ครั้น ณ วัน ๑ ๑๓ ฯ ๖ จุลศักราช ๑๐๕๗ อำมาตย์ของพระเจ้ากรุงศรีอยุทธยา ชื่อสารวัตรถือพลทหาร ๑๐๐ เศษ กับช้าง ๕ เชือกเข้ามาถวายที่พระเจ้าอังวะ: 193
กาลต่อมาพระเจ้ามังกะยอดินเสด็จสวรรคตเมื่อปีขาล พ.ศ. 2241 ตรงกับรัชกาลสมเด็จพระเพทราชา พระเจ้าสเน่ห์มิน พระราชโอรสจึงได้ขึ้นครองราชย์ต่อ ในพงศาวดารพม่า กล่าวว่า เมื่อปีเถาะ พ.ศ. 2242 พระเจ้าสเน่ห์มิน ได้เตรียมกองทัพพม่าจะยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา แต่มีเหตุใดอย่างหนึ่งพระเจ้ากรุงอังวะจึงไม่ได้ยกทัพมา: 50 ส่วน มหาราชวงษ์พงษาวดารพม่า กล่าวแตกต่างจากพงศาวดารไทยออกไปว่า เมื่อวันอาทิตย์แรม 6 ค่ำเดือน 7 จุลศักราช 1061 ตรงกับวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2242 พระเจ้าสเน่ห์มินกรุงอังวะมีรับสั่งให้ทำกลองพิไชยฤกษ์ และทำธง 2 คู่ลงยันต์และเวทมนต์ คู่หนึ่งเป็นธงพระนเรศและธงอีกคู่เป็นธงราชสีห์เพื่อเป็นเคล็ดในการศึกสงคราม
ปรากฏใน มหาราชวงษ์พงษาวดารพม่า ความว่า :-
ครั้น ณ วัน ๑ ๖ฯ ๗ จุลศักราช ๑๐๖๑ พระเจ้ากรุงอังวะพระองค์ทรงตรัสให้ทำกลองพิไชยฤกษ แลเขียนธงเปนรูปพระนเรศคู่ ๑ เปนราชสีห์คู่ ๑ ธง ๒ คู่นี้ทำด้วยยันต์แลเวทมนต์ ที่ทรงทำขึ้นนี้สำหรับไปตีกรุงศรีอยุทธยา: 193
เมื่อวันอังคารขึ้น 3 ค่ำเดือน 11 จุลศักราช 1061 ตรงกับวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2242 พระเจ้าสเน่ห์มินทรงจัดทัพพม่ามีช้างม้าและพลทหารจำนวนมาก มีรี้พลมา 2 เส้นทาง แบ่งเป็นทางเมืองเชียงใหม่มี 6 กองเป็นทัพที่หนึ่ง และเมืองเมาะตะมะมี 6 กอง เป็นทัพที่สอง เข้าใจว่าเมื่อฝ่ายกรุงศรีอยุธยาทราบข่าวศึก สมเด็จพระเพทราชาทรงจัดทัพเตรียมรับศึกพม่าในครั้งนี้
เมื่อวันพุธขึ้น 2 ค่ำเดือน 1 ตรงกับวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2242 (ปีปฏิทินไทยในปัจจุบันนับเป็น พ.ศ. 2243) ทัพฝ่ายพม่าทัพที่ 2 ยกทัพเคลื่อนพลออกจากเมืองเมาะตะมะจนมาถึงตำบลอองสาจึงเข้าปะทะกับทหารฝ่ายกรุงศรีอยุธยา แต่ทัพฝ่ายพม่าพ่ายแพ้แตกถอยทัพหนีกลับไปยังเมืองเมาะตะมะ ส่วนทัพฝ่ายพม่าจากเมืองเชียงใหม่ก็พ่ายแพ้แก่ฝ่ายกรุงศรีอยุธยาเช่นกัน
มหาราชวงษ์พงษาวดารพม่า กล่าวว่า :-
ครั้น ณ วัน ๓ ๓ฯ ๑๑ จุลศักราช ๑๐๖๑ ครั้นได้มหาพิไชยฤกษ ให้ยกไปทางเมืองเชียงใหม่ไปตีกรุงศรีอยุทธยา พวกชื่อนายทัพนายกองนั้น คือ มางแรนะราสิหพล ๑ ไชยจอถิง ๑ ชอยระสังรัน ๑ รันตสูร ๑ แล๊ดยาไชยะสู ๑ ไป้สั่งรันนายทหารม้ากอง ๑ ใน ๖ กองนี้มีช้างม้าแลพลทหารเปนอันมาก แต่ ๖ กองนี้ให้ไปทางเชียงใหม่ ทางเมืองมุตมะนั้นทรงตรัสให้นันทมิตจอถิงพล ๑ นันมิต ๑ ภยะนันมิต ๑ ภยะไชย ๑ ภยะราชสูอามะคไ ๑ แรโยธานายทหารม้ากอง ๑ รวม ๖ ทัพนี้ให้ยกจากเมืองมุตมะในวันที่ ๔ ๒ฯ ๑ ปีนั้น แต่กองทัพที่ยกไปจากเมืองมุตมะนั้น ครั้นถึงตำบลอองสาก็ได้รบกันกับอยุทธยาก็เสียทีกองทัพอยุทธยาแตกหนีถอยหนีมาที่เมืองมุตมะ กองทัพ ๖ กองที่ยกไปทางเชียงใหม่นั้น ก็เสียทีแก่อยุทธยาแตกหนีถอยมาเหมือนกัน: 193–194
ภายหลังจากที่พม่าพ่ายให้แก่ฝ่ายกรุงศรีอยุธยาแล้ว พระเจ้าสเน่ห์มินแห่งกรุงอังวะก็ยังทรงจัดทัพพม่าเพื่อทำสงครามกับฝ่ายกรุงศรีอยุธยาและเมืองเชียงใหม่อีก แต่ไม่ปรากฏว่าเหตุการณ์การรบกันอย่างไรและผลการศึกสงครามต่อจากนี้ไม่มีบันทึกว่ามีฝ่ายใดแพ้ชนะ โดยเมื่อวันพุธขึ้น 5 ค่ำเดือน 3 ตรงกับวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2243 พระเจ้าสเน่ห์มินมีรับสั่งจัดทัพพม่าโดยมีนายทัพชื่อ พันธุกาภยะ เป็นแม่ทัพ ให้ยกพลฝ่ายพม่าจากเมืองเมาะตะมะไปยังกรุงศรีอยุธยา และมีรับสั่งให้ สังแคตี่น เป็นแม่ทัพให้ยกทัพฝ่ายพม่าจากเมืองเมาะตะมะเข้าตีเมืองเชียงใหม่
มหาราชวงษ์พงษาวดารพม่า กล่าวว่า :-
ในปีนั้น ณ วัน ๔ ๕ฯ ๓ มีรับสั่งให้พันธุกาภยะให้ยกจากเมืองมุตมะไปตีกรุงศรีอยุทธยาอิก (แต่ไม่ปรากฏว่ารบกันอย่างไร) ครั้นแล้วมีรับสั่งให้สังแคตี่นเปนแม่ทัพยกจากเมืองมุตมะไปตีเมืองเชียงใหม่อิก (แลไม่ปรากฏว่ารบพุ่งกันอย่างไรมีแต่ว่ายกไปเท่านั้น): 194
เมื่อปีมะเมีย พ.ศ. 2246: 50 มีชาวอยุธยาพวกหนึ่งอพยพไปพึ่งพระเจ้าสเน่ห์มิน และปีต่อมาในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าสุริเยนทราธิบดีก็มีชาวอยุธยาอพยพไปอีกพวกหนึ่ง อาจเป็นพวกเจ้าฟ้าพระขวัญ พระราชโอรสของพระเพทราชาก็เป็นได้
มหาราชวงษ์พงษาวดารพม่า กล่าวว่า :-
ครั้น ณ วัน ๕ ๑๐ ฯ ๖ จุลศักราช ๑๐๖๕ ชาวชาติอยุทธยาเข้ามาสวามิภักดิ์ที่พระเจ้ากรุงอังวะ ครั้น ณ วัน ๔ ๗ฯ ๙ จุลศักราช ๑๐๖๗ พวกอยุธยาเข้าสวามิภักดิ์แล้วเจ้าเมืองมุตมะส่งขึ้นมาถวายยังใต้ฝ่าพระบาทพระเจ้ากรุงอังวะ: 194
เหตุการณ์พม่ารบกรุงศรีอยุธยาในรัชกาลสมเด็จพระเพทราชานี้ไม่มีบันทึกในพงศาวดารไทย
ไข้ทรพิษระบาดครั้งใหญ่ที่สุดในสมัยอยุธยา (พ.ศ. 2239)
เมื่อปี พ.ศ. 2239 ในรัชกาลสมเด็จพระเพทราชาเกิดไข้ทรพิษ หรือฝีดาษ (Smallpox) ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่เดือนมกราคม เด็กและผู้ใหญ่ต่างป่วยไข้ทรพิษล้มตายจำนวนมากเกือบ 80,000 คน: 49 วัดต่างๆ ไม่มีที่ฝังศพ และมีศพคนตายนอนเกลื่อนกลาดตามทุ่งนาเป็นอันมาก ในขณะเกิดโรคระบาดนี้ สมเด็จพระเพทราชามีรับสั่งให้แพทย์ออกไปรักษาราษฎรที่ป่วยไข้ พร้อมพระราชทานยาและเงินแก่ราษฎรกันทั่วหน้า และยังทรงแสดงความเป็นพุทธศาสนิกชนด้วยการจัดพิธีสวดมนต์เลี้ยงพระทั้งในและนอกพระนครหลายครั้ง นับว่าเหตุการณ์ไข้ทรพิษระบาดครั้งนี้เป็นการระบาดครั้งใหญ่ที่สุดในสมัยกรุงศรีอยุธยา
นอกจากโรคระบาดแล้ว ยังเกิดฝนแล้งและข้าวยากหมากแพงจนหาซื้อไม่ได้ ทำให้ราษฎรวิตกเป็นอันมาก แต่แล้วเมื่อเดือนกันยายนเกิดฝนตกมากผิดปกติถึงเดือนพฤศจิกายนจนน้ำเข้าท่วมทุ่งนาถึง 2 เดือน สมเด็จพระเพทราชาได้ทรงจัดการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนทุกข์ยากของราษฎรให้เบาบางลง ซึ่งมีบันทึกในหลักฐานชั้นต้นเป็นจดหมายเหตุของคณะบาทหลวงฝรั่งเศส 2 ฉบับ เรื่อง ที่กรุงศรีอยุธยาเกิดไข้ทรพิษ: 618 คือ จดหมายมองซิเออร์ ปินโต (Antoino Pinto) ถึงมองซิเออร์ บาเซต์ วันที่ ๑๐ เดือนมิถุนายน ค.ศ. ๑๖๙๖ (พ.ศ. ๒๒๓๙) ฉบับหนึ่ง และจดหมายมองซิเออร์ โปเก (Pocquet) ถึง ผู้อำนวยการคณะการต่างประเทศ วันที่ ๒๗ เดือนธันวาคม ค.ศ. ๑๖๙๖ (พ.ศ. ๒๒๓๙) อีกฉบับหนึ่ง ใน พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ได้กล่าวเหตุการณ์ทำนองเดียวกัน ความว่า :-
"ครั้นอยู่มาศักราช ๑๐๖๐ ปีเถาะเอกศก (พ.ศ. ๒๒๔๑)..." "...ขณะนั้นให้เกิดพยาธิโรคป่วยไข้ชนก็ตายเป็นอันมาก ในปีนั้นน้ำมากเหลือขนาดท่วมไร่นาเรือกสวน": 419
แม้ความในพระราชพงศาวดารคลาดเคลื่อนจากจดหมายเหตุของคณะบาทหลวงฝรั่งเศสทั้ง 2 ฉบับถึง 2 ปี แต่ใน ประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก เล่มที่ 11 ระบุว่า "...พ.ศ. ๒๒๔๑ ตรงในแผ่นดินสมเด็จพระเพทราชา": 193 (ตรงกับปีที่พระเจ้าอังวะศิริปวรมหาธรรมราชา หรือ พระเจ้ามังกะยอดิน สิ้นพระชนม์เมื่อปีขาล) ส่วน สุวิทย์ ธีรศาศวัต ระบุว่า ความในพระราชพงศาวดารที่กล่าวมาเป็นปลายรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าเสือ (พ.ศ. 2246-51): 128
กบฏบุญกว้าง (พ.ศ. 2241-2243)
กบฏบุญกว้างเป็นกบฎลาว เกิดกบฏขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2241: 35 : 87 รัชกาลของสมเด็จพระเพทราชา นายบุญกว้าง เป็นชาวลาวอยู่แขวงเมืองลาวตะวันออก ได้แสดงตัวว่าเป็นผู้วิเศษมีความรู้วิชาคาถาอาคมไสยศาสตร์ นายบุญกว้างนำพรรคพวก 28 คนเข้ายึดเมืองนครราชสีมา โดยทำคุณไสยปราบเจ้าเมืองและเหล่าขุนนาง: 19 ปรากฏความใน พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับหมอบรัดเล ความว่า :-
"ลุศักราช ๑๐๕๔ ปีวอก จัตวาศก ขณะนั้นเกิดกบฎลาวคนหนึ่งชื่อบุญกว้าง อยู่ ณ แขวงหัวเมืองลาวฝ่ายตะวันออก มีความรู้วิชาการดี แลมีสมัครพรรคพวก ๒๘ คน คิดอ่านทำการกบฏตั้งตัวว่าเป็นผู้มีบุญ..."
พระยานครราชสีมาไม่สามารถปราบได้ จึงปรึกษากับกรมการเมืองแล้วทำกลอุบายล่อลวงให้นายบุญกว้างยกทัพไปตั้งที่เมืองลพบุรี และหมายจะให้ยกทัพไปตีกรุงศรีอยุธยา นายบุญกว้างเห็นชอบด้วยแต่หารู้ไม่ว่าเป็นกลอุบาย จึงให้พระยานครราชสีมาจัดทัพประกอบด้วยกำลังพลกว่า 4,000 นาย ช้าง 84 เชือก ม้า 100 ตัว พร้อมศาสตราวุธเป็นดาบ หอก ทวน และปืนครบถ้วน: 152 ครั้นพระยานครราชสีมาจัดทัพให้นายบุญกว้างเสร็จ นายบุญกว้างจึงได้ยกทัพออกจากเมืองนครราชสีมาผ่านมายังเมืองบัวชุม เมืองชัยบาดาลแล้วมาตั้งทัพที่เมืองลพบุรี ซ่องสุมผู้คนได้เป็นจำนวนมาก
ต่อมา พระยานครราชสีมาจึงแต่งหนังสือลับถึง เจ้าพระยาจักรี เสนาบดีสมุหนายก ให้นำขึ้นกราบทูลพระกรุณาแก่สมเด็จพระเพทราชาทราบมูลเหตุทั้งปวง และฝ่ายกรมการเมืองสระบุรี เมืองบัวชุม เมืองชัยบาดาล จึงแต่งหนังสือถึงเจ้าพระยาจักรีด้วยเช่นกันว่าเมืองนครราชสีมาเป็นกบฏ เจ้าพระยาจักรีสมุหนายก จึงนำหนังสือทั้ง 2 ฉบับขึ้นกราบทูลสมเด็จพระเพทราชา เมื่อทราบมูลเหตุแล้วจึงทรงพระพิโรธมีดำรัสสั่งอัครมหาเสนาบดีให้เตรียมกำลังพล โดยจัดให้พระยาสุรเสนาเป็นแม่ทัพหลวง และท้าวพระยาอาสาหกเหล่าทั้งปวงเป็นยุกระบัตร เกียกกาย กองหน้า และกองหลังยกทัพไปตีทัพนายบุญกว้างที่เมืองลพบุรี
ครั้นพระยาสุรเสนาเคลื่อนทัพหลวงจากกรุงศรีอยุธยาใกล้ถึงเมืองลพบุรี จึงทำหนังสือลับแก่พระยานครราชสีมานัดกองทัพเข้าล้อมทัพนายบุญกว้างพร้อมกัน เมื่อทัพหลวงของพระยาสุรเสนากับทัพพระยานครราชสีมาเข้าล้อมเมืองลพบุรีแล้วจึงจับกุมนายบุญกว้างและพรรคพวกรวม 28 คน แล้วส่งไปลงพระราชอาญาที่กรุงศรีอยุธยา นายบุญกว้างและพรรคพวกจึงถูกประหารชีวิตทั้งหมด
ผลจากการเกิดกบฏหลายครั้ง สมเด็จพระเพทราชาทรงเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการปกครอง: 311 ดังนี้ โดยกำหนดให้ เจ้าพระยาจักรี อัครมหาเสนาบดีสมุหนายกฝ่ายพลเรือน ดูแลกำกับหัวเมืองฝ่ายเหนือ และกำหนดให้ เจ้าพระยามหาเสนาบดี เสนาบดีสมุหพระกลาโหมฝ่ายทหาร ดูแลกำกับหัวเมืองฝ่ายใต้ เพื่อลดทอนอำนาจเจ้าเมืองหัวเมืองต่างๆ ลง และยังเพิ่มกำลังทหารแก่กรมพระราชวังบวรสถานมงคลอีกด้วย
หนังสือพิมพ์ครั้งแรกในสมัยอยุธยา
สืบเนื่องจากคณะราชทูตสยามที่ไปเจริญสัมพัมธไมตรีกับกรุงฝรั่งเศสมีเจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) ราชทูต อุปทูต และออกขุนศรีวิสารวาจา ตรีทูต ได้มีโอกาสดูงานด้านการพิมพ์ในกรุงปารีส: 39 ซึ่งในขณะนั้นฝรั่งเศสมีหนังสือพิมพ์ชื่อ แมกือ กาลัง (Mercure Galant): 131 พิมพ์ออกจำหน่าย ได้ลงข่าวคณะราชทูตสยามครั้งนี้ด้วย เมื่อคณะราชทูตสยามกลับมายังกรุงศรีอยุธยาคงจะได้สนับสนุนงานการพิมพ์ในสยามให้ก้าวหน้า: 39
เมื่อปลายรัชกาลพระองค์ มีหนังสือพิมพ์ (ไม่ปรากฏชื่อ) ออกจำหน่ายเป็นประจำติดต่อกันในปลายแผ่นดินสมเด็จพระเพทราชา: 50 เป็นครั้งแรก แต่ถูกริบทำลายหลายครั้งในรัชกาลพระองค์ต่อเนื่องไปถึงรัชกาลสมเด็จพระที่นั่งท้ายสระ: 39 รวมทั้งถูกเผาในเหตุการณ์การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง ด้วยเหตุนี้จึงไม่ปรากฏว่ามีหลักฐานหนังสือพิมพ์ในสมัยอยุธยาหลงเหลืออยู่อีกเลย: 39
ลงพระราชอาญาโกษาปาน ราชทูตฝรั่งเศสรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์
ฟ. ฮีแลร์ ได้รวบรวมจดหมายเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1923 (ตรงกับปี พ.ศ. 2466) เรื่อง ราชทูตถึงอสัญกรรม มีความใน จดหมายของบาทหลวงโบรลต์ (พ.ศ. 2243) กล่าวถึง "ออกพระวิสุทรสุนทร อัครราชทูตเก่าพึ่งตายในเร็ว ๆ ไม่กี่เดือนนี้เอง": 109 ออกพระวิสุทรสุนทรผู้นี้คือ เจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) (หรือเจ้าคุณอัครราชทูต) ว่าการพระคลัง เคยเป็นราชทูตออกไปเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศสในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช แต่ในรัชกาลสมเด็จพระเพทราชานั้นกลับไม่ทรงโปรด เจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) เหมือนเช่นสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงระแวงไม่ไว้พระทัย และลงพระราชอาญาเฆี่ยนตี และใช้พระแสงดาบฟันจมูกเจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) จนแหว่ง บรรดาภรรยาและบุตรธิดาก็ถูกจับ ถูกเฆี่ยน ถูกขัง และยังถูกริบทรัพย์สมบัติเสียหมดสิ้น เมื่อเจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อปี พ.ศ. 2243 บ้างก็ลือกันว่าแทงตัวเองตาย ถูกโบยด้วยเชือกจนตาย หรือถูกหมอจีนวางยาเบื่อให้ตาย ส่วนศพเจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) ก็ถูกนำไปฝังไว้ที่วัดใกล้เคียงบ้านในเวลากลางคืนอย่างเงียบๆ โดยไม่มีพิธีรีตองใดผิดกับงานศพเสนาบดีผู้ใหญ่ที่มักจัดให้สมเกียรติ ปรากฏใน จดหมายของบาทหลวงโบรลต์ เขียนไปส่งยังกรุงปารีสเมื่อ ค.ศ. 1700 (ปี พ.ศ. 2243) ความว่า :-
"ครั้งหนึ่ง เมื่อ ๔ ปีล่วงมานี้แล้ว (ภายหลังกลับจากฝรั่งเศส ๘ ปี) กำลังเฝ้าอยู่หน้าพระที่นั่ง จะทรงกริ้วอย่างไรไม่ปรากฏ ทรงคว้าพระแสงดาบฟันเอาราชทูตจมูกแหว่ง ดูน่าอุจาดและสงสารที่สุด นับแต่วันนั้นมาก็มีแต่ถูกระแวงสงสัยทุกอย่าง ไม่เป็นอันกินอันนอนเป็นปกติดังเดิม ค่าที่ถูกแกล้งจากราชวงศ์ไม่มีที่สิ้นสุด ลงปลายธิดาใหญ่ของท่านคน ๑ บุตรชายของท่าน ๓ คน ภรรยาหลวงและอนุภรรยาของท่านก็ถูกจับ ถูกเฆี่ยน ถูกขัง ทั้งนั้น ซ้ำก่อนเมื่อวันที่ท่านจะตายสัก ๒-๓ วันก็ได้ถูกริบทรัพย์สมบัติเสียหมด บางคนถึงกับลือกันว่า ที่ท่านตายนี้มิใช่อื่นไกลเลย ท่านแทงตัวเองตาย เพราะทนไม่ไหวเสียแล้ว...": 190–195
การสวรรคต
เมื่อปี พ.ศ. 2246 เดือนสาม สมเด็จพระเพทราชาทรงประชวรหนักอยู่ ณ พระที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์มหาปราสาทจวนใกล้เสด็จสวรรคตนั้น: 21–25
"ครั้นถึงเดือนสาม สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงพระประชวรลงได้ประมาณ ๑๕ วัน และพระโรคนั้นกำเริบหนักลงจะเสวยพระกระยาหารก็ไม่ได้ เกือบใกล้สวรรคตอยู่แล้วแลพระราชวงศานุวงศ์ และท้าวข้าทูลละอองธุรีพระบาทผู้ใหญ่ผู้น้อยทั้งหลายก็เข้าไปนอนอยู่ในพระราชวังพร้อมกันสิ้น..."
หลักฐานฮอลันดาและฝรั่งเศส กล่าวว่า วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2246: 58 สมเด็จพระเพทราชามีพระอาการแย่ลง ทรงพระกาสะ [ไอ] และสะอึกไม่หยุดจนเสวยลำบาก ถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ก็ทรงไม่อยากเสวย พอวันต่อมากรมพระราชวังบวรสถานมงคลถวายอาหารและยา สมเด็จพระเพทราชาก็ทรงดำรัสตอบว่าไม่เป็นการประโยชน์ใดๆ ต่อพระองค์ เพราะกาลมาถึงพระองค์คงไม่พ้นพระวาระสุดท้าย นอกจากนี้สมเด็จพระเพทราชาทรงกังวัลพระทัยเกรงว่ากรมพระราชวังบวรจะทรงทำอันตรายต่อเจ้าพระขวัญ: 58
ต่อมากรมพระราชวังบวรพระมหาอุปราชสรศักดิ์ จับเจ้าพระขวัญไปสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์: 478 ในตำหนักแล้วให้ข้าหลวงนำพระศพไปฝัง ณ วัดโคกพระยา ด้วยทรงตรัสเห็นเจ้าพระขวัญกับกรมหลวงโยธาทิพนั้นเป็นที่รักใคร่ของประชาราษฎร์ทั้งปวง มีขุนนางให้ความนิยมนับถือกันมาก กรมหลวงโยธาทิพ จึงเสด็จเข้าเฝ้าสมเด็จพระเพทราชากราบทูลมูลคดีทั้งปวง สมเด็จพระเพทราชาได้ทรงฟังก็ตกพระทัยอาลัย ทรงพระพิโรธกรมพระราชวังบวรฯ และทรงไม่ให้ราชสมบัติทรงดำรัสว่า "กูไม่ให้ราชสมบัติแก่ไอ้สามคนพ่อลูกนี้แล้ว ๆ" สมเด็จพระเพทราชาทรงตรัสเรียกหาเจ้าพระพิไชยสุรินทร์ราชนัดดาให้เข้าเฝ้าและพระกรุณามอบเวนราชสมบัติให้แก่ เจ้าพระพิไชยสุรินทร์ แทน (ในกาลภายหลังเจ้าพระพิไชยสุรินทร์ได้ถวายราชสมบัติแด่กรมพระราชวังบวรพระมหาอุปราชสรศักดิ์)
ในเพลาราตรีในคืนนั้น สมเด็จพระเพทราชาก็เสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์ ในเดือน ๔ ปีฉลูนพศก ลุศักราชได้ ๑๐๕๙ นั้นตรงกับปี พ.ศ. 2246 สิริพระชนมายุได้ ๗๑ พรรษา เช่นเดียวกับ พระราชพงศาวดาร ฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพน ฉบับตัวเขียน ระบุว่าสวรรคต ณ พระที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์ ขณะครองราชย์ได้ 15 ปี สิริพระชนมพรรษาได้ 71 พรรษา ส่วน หลักฐานฮอลันดาและฝรั่งเศส กล่าวว่า วันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2246 เพลาเย็นทรงมีพระอาการทรุดหนักลงมาก พระกิริยานิ่งสงบไม่สามารถทรงพระราชปฏิสันถารได้แล้วพระองค์เสด็จสวรรคตเวลา 20 นาฬิกาในคืนนั้น: 59
การพระบรมศพ
เมื่อปี พ.ศ. 2247: 239–251 สมเด็จพระเจ้าสุริเยนทราธิบดี (พระเจ้าเสือ) โปรดให้สร้างพระเมรุถวายสมเด็จพระเพทราช เป็นพระเมรุเอกขนาดใหญ่: 41 ขื่อ 7 วา 2 ศอก (กว้าง 15 เมตร: 55 สูง 102.75 เมตร หรือเท่าอาคารสูง 27 ชั้น: 155:เชิงอรรถที่ ๘, ๙ ) พระเมรุเป็นทรงปราสาทยอดพระปรางค์ 5 ยอด ล้อมรอบด้วยระเบียงคด (หรือสามสร้าง) บริเวณกึ่งกลางและมุมระเบียงคดมีอาคารทรงปราสาทยอดปรางค์ ซึ่งเป็นเมรุทิศ เมรุราย หรือเมรุทิศเมรุแทรก รอบพระเมรุพระบรมศพ และเมรุที่กึ่งกลางยังเป็นซุ้มประตู ตามที่ปรากฏในจิตรกรรมภาพกระบวนเชิญพระบรมศพสมเด็จพระเพทราชา มีมหรสพจุดดอกไม้เพลิงระทาใหญ่ 16 ระทาบูชาพระศพอย่างยิ่งใหญ่ ใช้เวลาสร้าง 11 เดือนจึงแล้วเสร็จ ปรากฏใน พระราชพงศาวดาร ฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพน ฉบับตัวเขียน ความว่า :-
"...แล้วทรงพระกรุณาให้ช่างพนักงาน จับการทำพระเมรุมาศขนาดใหญ่ ขื่อเจ็ดวาสองศอก กอบด้วยเมรุทิษ เมรุแซรก แลสามสร้างพร้อม แลการพระเมรุมาศนั้น กำหนด ๑๑ เดือนจึ่งสำเรจ์ ลุะศักราช ๑๐๖๐ ปีขาน สำเรธ์ธิศก เดือน ๔ ได้สุภวารดิถีพิไชยฤกษ จึ่งให้อัญเชีญพระบรมโกษฐขึ้นประดิษถานเหนือพระมหาพิไชยราชถ แห่แหนเป็นกระบวนไป เข้าพระเมรุมาศตามหย่างแต่ก่อน แลให้ทิ้งทานต้นกามพฤกษ แลมีการมโหรศภต่างๆ ทุกประการ ครั้นค่ำให้จุดดอกไม้เพลีงต่างๆ สักาใหญ่ ๑๖ สักา บูชาพระบรมศภเปนมโหราธิการยิ่งนัก แลทรงสดับพระกอน พระสงฆ ๑๐๐๐๐ คำรบ ๗ วัน แล้วถวายพระเพลีง ครั้นดับพระเพลีงแล้ว แจงพระรูปทรงสดับพระกร พระสงฆอีก ๔๐๐ รูป แล้วเกบพระอัษฐิใส่พระโกษฐน้อย อันเชีญขึ้นพระราชยาน แห่เป็นขบวนเข้ามายังพระราชวัง จึ่งให้อันเชีญพระบรมโกษฐพระอัฐิบันจุไว้ ณะ ท้ายจระนำพระมหาวิหาร วัดพระศรีสรรเพชญดาราม": 278
แล้วเสด็จพระราชดำเนินถวายพระเพลิงพระโกศพระบรมศพสมเด็จพระเพทราชาเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2247 โปรดให้พระสงฆ์สดับปกรณ์ 10,000 รูป คำรพ 7 วัน เมื่อดับพระเพลิงแล้วโปรดให้พระสงฆ์สดับปกรณ์อีก 400 รูป จึงอัญเชิญพระบรมอัฐิขึ้นพระราชยานแห่เข้ามายังพระราชวังแล้วอัญเชิญพระบรมอัฐิบรรจุไว้ ณ ท้ายจระนำพระมหาวิหาร วัดพระศรีสรรเพชญ์
พระราชกรณียกิจ
การปฏิรูปการปกครอง
สืบเนื่องจากการเกิดกบฏหลายครั้งในรัชสมัยของพระองค์ จึงทรงไม่ไว้วางพระทัยขุนนาง ทรงมีพระดำริจะลดบทบาททางการเมืองของขุนนางฝ่ายต่างๆ โดยการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการปกครองใหม่จากเดิมที่ยึดรูปแบบการปกครองของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ โดยกำหนดให้หัวเมืองฝ่ายเหนืออยู่ในความดูแลของสมุหนายก ดูแลรับผิดชอบทั้งกิจการทหาร พลเรือน และดูแลรับผิดชอบจตุสดมภ์ทั้ง 4 ฝ่ายในส่วนกลาง และหัวเมืองฝ่ายใต้อยู่ในความดูแลของสมุหพระกลาโหม ดูแลรับผิดชอบทั้งกิจการทหาร พลเรือน และกรมต่างๆ ที่ขึ้นกับฝ่ายทหารในส่วนกลาง ส่วนด้านการค้าขาย การคลัง การติดต่อชาวต่างชาติ รวมถึงการบังคับบัญชาหัวเมืองชายฝั่งทะเลตะวันออก ทั้งกิจการทหารและพลเรือน ให้อยู่ในความดูแลของโกษาธิบดี ส่งผลให้เสนาบดีฝ่ายโกษาธิบดีมีอำนาจมากขึ้น
ด้านการปกครองหัวเมืองส่วนภูมิภาค สำหรับหัวเมืองชั้นในซึ่งเป็นเขตราชธานีให้อยู่ภายใต้การดูแลของเมืองหลวงโดยตรง ทรงแต่งตั้งขุนนางจากส่วนกลางไปปกครองเรียกว่า ผู้รั้งเมือง มีกรมการเมืองและยกกระบัตร เป็นผู้ช่วย ส่วนหัวเมืองชั้นนอก ได้แก่ หัวเมืองชั้นเอก ชั้นโท และชั้นตรี ทรงแต่งตั้งขุนนางจากส่วนกลางที่เป็นเชื้อพระวงศ์หรือขุนนางชั้นผู้ใหญ่เป็นผู้สำเร็จราชการเมือง มีอำนาจสิทธิ์เด็ดขาดในการปกครองเมืองภายใต้การควบคุมดูแลของสมุหนายกและสมุหพระกลาโหม
ด้านการปกครองในราชธานี ทรงตั้งกรมใหม่ขึ้น เช่น กรมพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) พระราชทานให้ออกหลวงสรศักดิ์ขึ้นเป็นพระมหาอุปราช ดูแลข้าราชการสังกัดวังหน้า นอกจากนี้พระองค์ยังทรงตั้งทำเนียบขุนนางวังหน้าโดยเพิ่มจำนวนกำลังทหารให้แก่กรมพระราชวังบวรสถานมงคลเพื่อเป็นกำลังป้องกันวังหลวงอีกทางหนึ่งด้วย และทรงตั้ง กรมพระราชวังบวรสถานพิมุข (วังหลัง) พระราชทานให้นายจบคชประสิทธิ์ ทรงบาศขวา กรมพระคชบาล ซึ่งเป็นคู่คิดกระทำรัฐประหารยึดอำนาจสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ดูแลข้าราชการสังกัดวังหลัง
นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงตรากฎหมายเพิ่มเติม 3 ฉบับ เช่น
- กฎหมายลักษณะมูลคดีวิวาทว่าด้วยตัดสินปันหมู่เมื่อปีชวดจุลศักราช ๑๐๕๒ และกฎหมาย 36 ข้อ บท ๑ ว่าด้วยจารีตนครบาลเมื่อปีวอกจุลศักราช ๑๐๕๔
- กฎหมายลักษณะตุลาการ ตั้งเมื่อปีชวดจุลศักราช ๑๐๕๘ กำหนดสิทธิและหน้าที่ของผู้ตัดสินคดีความทั้งปวง
- พระราชกฤษฎีกาให้จัดคนสังกัดวัดในจังหวัดพัทลุง เป็นต้น
งานต่างประเทศ
พระราชพงศาวดาร ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ระบุว่าในรัชกาลนี้ประเทศใกล้เคียงเข้ามาอ่อนน้อมเจริญสัมพันธไมตรี กล่าวคือ ในปี พ.ศ. 2234 นักเสด็จเถ้าพระเจ้ากรุงกัมพูชาโปรดให้พระยาเขมร 3 คนนำช้างเผือกพังช้างหนึ่งมาถวาย สมเด็จพระเพทราชาพระราชทานชื่อว่าพระบรมรัตนากาศ ชาติคเชนทร์ วเรนทรมหันต์ อนันตคุณ วิบุลธรเลิดฟ้า และพระราชทานผ้าแพรจำนวนมากให้พระยาเขมรนำไปพระราชทานนักเสด็จเถ้า
ต่อมาในปี พ.ศ. 2238 พระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุต (เวียงจันทน์) ได้ส่งราชทูตนำพระราชสาส์นมาทูลว่าจะถวายพระราชธิดา และขอกรุงศรีอยุธยาส่งกองทัพไปช่วยป้องกันกรุงศรีสัตนาคนหุตจากกองทัพหลวงพระบาง จึงโปรดให้พระยานครราชสีมานำพล 10,000 ไปกรุงเวียงจันทน์ หลวงพระบางทราบข่าวจึงยอมประนีประนอมกับเวียงจันทน์ เมื่อเรือพระที่นั่งของพระราชธิดาพระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุตมาถึงหน้าวัดกระโจม กรมพระราชวังบวรสถานมงคลก็มีพระบัณฑูรให้รับพระราชธิดานั้นไว้ที่วังหน้า แล้วเสด็จไปกราบทูลสมเด็จพระเพทราชา สมเด็จพระเพทราชาก็พระราชทานตามที่ขอ
ด้านเศรษฐกิจและการค้า
การค้าภายในราชอาณาจักร
ในรัชกาลพระองค์ทรงส่งเสริมการเกษตรกรรมซึ่งเป็นพื้นฐานทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะข้าวเป็นผลผลิตหลักทางการเกษตรที่ยังเป็นแหล่งรายได้เข้าพระคลังของราชสำนัก นอกจากการค้าขายภายในราชอาณาจักรแล้วยังส่งสินค้าออกไปค้าขายกับต่างประเทศด้วย ส่วนภาคการผลิตตามหัวเมืองต่างๆ ทั้งในและนอกเขตราชธานีเกิดการขยายตัว มีชาวเมืองนำสินค้าบรรทุกเกวียนออกขายโดยเฉพาะพ่อค้าชาวมอญ และเขมร ส่วนพ่อค้าชาวจีน ชวา และมลายูได้สร้างตึกอาคารขึ้นมากมายเพื่อใช้เป็นคลังสินค้า และสถานที่จำหน่าย
ย่านการค้าภายในราชอาณาจักรที่สำคัญ เช่น ย่านป่ามะพร้าว ย่านป่าผ้า ย่านป่าตะกั่ว ย่านป่าผ้าเหลือง ย่านป่าขนม ตลาดบก และตลาดน้ำ เป็นต้น ส่วนสินค้าที่มีการขยายตัว มีการอุปโภคบริโภคอย่างมากในรัชกาลพระองค์ เช่น เครื่องเงินเครื่องทอง เครื่องประดับ ผ้าต่างๆ กระดาษข่อย สมุดดำ สมุดขาว สินค้าประเภทอาหาร กระเบื้องมุงหลังคา กระบุง ตะกร้า เป็นต้น
การค้ากับต่างประเทศ
สืบเนื่องจากเหตุการณ์ขับไล่ฝรั่งเศสออกจากสยาม เมื่อ พ.ศ. 2231 สมเด็จพระเพทราชาทรงไม่โปรดคบค้าสมาคมกับชาวตะวันตกนัก และไม่สนับสนุนการค้าขายกับพ่อค้าชาวตะวันตก การค้าขายในรัชกาลพระองค์จึงมีแต่ค้าขายกับประเทศในทวีปเอเชียด้วยกัน โดยเฉพาะประเทศจีนและญี่ปุ่น สภาพการค้าเติบโตอย่างมากในรัชกาลพระองค์ และการกระทำรัฐประหารของพระองค์ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ ต่อการค้ากับจีนและญี่ปุ่น แต่ยังได้พึ่งพาอาศัยการค้ากับจีนมากขึ้น ทั้งการจ้างวานเรือของชาวจีนขนสินค้าไปยังเมืองนางาซากิซึ่งเป็นเมืองท่าของญี่ปุ่น และจัดการธุระต่างๆ นับว่าการค้ากับจีนมีบทบาทเด่นชัดมากจนถึงขั้นตั้งชาวจีนเป็นหัวหน้า ตั้งพนักงาน และตั้งขุนนางชาวจีนในกรมท่าซ้าย แม้กระทั่งชาวจีนที่ทำความสะอาดเรือสำเภาก็ยังได้รับศักดินา สร้างความไม่พอใจแก่พ่อค้าชาวกรุงศรีอยุธยา รวมทั้งพ่อค้าชาวมอญ แขก และมลายู
ปรากฏใน พงศาวดาร ฉบับหอสมุดแห่งชาติ ความว่า
เจ้าพระคลังก็ตั้งให้พวกจีนเป็นหัวหน้า เพราะฉะนั้นในเวลานี้การณ์ภายในเมืองไทยจึงตกอยู่ในมือพวกจีนทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าพวกไทย มอญ แขก มลายู แขกมัวร์ไม่พอใจอย่างยิ่งในการที่ไทยลำเอียงเข้าข้างจีนเช่นนี้ แต่ก็ไม่กล้าพูดคัดค้านอย่างใดเพราะทราบอยู่ว่าพระเจ้าแผ่นดินทรงฟังเสียงพวกจีน
ในระหว่าง พ.ศ. 2230-2246 ในรัชกาลพระองค์ ยังคงแต่งเรือสำเภาส่งสินค้าไปขายกับญี่ปุ่นที่เมืองนางาซากิ ซึ่งญี่ปุ่นมีการบันทึกไว้เมื่อ พ.ศ. 2236 ว่ามีเรือสำเภาไทยได้ไปค้าขายกับญี่ปุ่น นอกจากนี้ในสินธิสัญญาฮอลันดาในรัชกาลสมเด็จพระเพทราชา มีข้อกำหนดซึ่งแสดงให้เห็นว่ายังคงมีการค้าขายกับต่างชาติอยู่ตลอดรัชกาลพระองค์
สนธิสัญญาฮอลันดา กล่าวว่า
เมื่อใดที่พระเจ้ากรุงสยามมีพระราชประสงก์จะจัดส่งสำเภาไปญี่ปุ่น มีชาวสยามเป็นลูกเรือ บริษัทจะรับเป็นผู้ออกเงินให้สำหรับการซื้อหาหนังกวางจำนวน ๗,๐๐๐ หรือ ๑๐,๐๐๐ แผ่นหนัง แล้วแต่กรณี โดยมีเงื่อนไขว่ากรุงสยามจะไม่ว่าจ้างบุคคลอื่นใดทั้งทางตรงและทางอ้อมเพื่อปฏิบัติการ ในการจัดหารวบรวมแผ่นหนังสำหรับส่งไปจำหน่าย
ส่วนการค้าขายกับพ่อค้าชาวตะวันตก มีเพียงพ่อค้าชาวฮอลันดาที่ยังค้าขายกับกรุงศรีอยุธยา เนื่องจากช่วงเหตุการณ์ขับไล่ฝรั่งเศสออกจากสยาม มีชาวฮอลันดาช่วยจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์และกำลังพลแก่ฝ่ายสยามเป็นอันมาก ภายหลังจากปราบดาภิเษกแล้ว สมเด็จพระเพทราชาจึงได้พระราชทานเครื่องราชบรรณาการแก่ผู้สำเร็จราชการเมืองปัตตาเวีย และได้ทำสนธิสัญญาการค้ากับฮอลันดาใหม่อีกครั้งเมื่อปลายปี พ.ศ. 2231 โดยมีข้อตกลงเหมือนกับสนธิสัญญาในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ยอมผูกขาดสินค้าประเภทหนังกระบือ หนังกวาง และดีบุกแต่เพียงผู้เดียว ส่วนการค้ากับอังกฤษยังมีการทำการค้าตลอดรัชกาลพระองค์แต่จำกัดปริมาณสินค้าเพียง 200 ตันต่อปีเท่านั้น
รายการสินค้าสำคัญที่กรุงศรีอยุธยาส่งขายให้กับพ่อค้าชาวต่างชาติปรากฏใน บันทึกของเซอร์ นิโคลาส เวท (Sr. Nicholas Waite) พ.ศ. 2242 ถึงการค้าขายของอินเดียในรอบ 12 ปี เช่น ส่งดีบุกกับงาช้างไปขายที่รัฐเบงกอล ประเทศอินเดีย ส่งดีบุก งาช้าง และไม้กฤษณาไปขายที่เมืองสุรัต ส่งหมาก ไม้ฝาง และไม้กฤษณาไปขายที่จีน และยังมีสินค้าอื่นๆ เช่น หนังกวาง วัว ครั่ง และน้ำมัน เป็นต้น ส่วนอังกฤษบันทึกรายการสินค้าที่กรุงศรีอยุธยาส่งไปขาย เช่น ส่งแร่ดีบุก งาช้าง และไม้หอมไปขายที่ยุโรป บังกะหล่า และเมืองสุรัต เฉพาะดีบุกส่งไปขายราว 200 ตันต่อปี และยังมีสินค้าส่งไปขายที่จีนและญี่ปุ่น เช่น หนังสัตว์ หมาก ไม้ฝาง และไม้หอม เป็นต้น ส่วนญวนบันทึกไว้ว่า ประเทศญวนซื้อดินประสิว ครั่ง ไม้ฝาง งาช้าง ดีบุก ข้าว ตะกั่ว จากไทย แม้ว่าในรัชกาลพระองค์มีการค้าขายกับประเทศในแถบเอเชียเป็นส่วนใหญ่ ทว่าการค้าขายกับพ่อค้าชาวตะวันตกกลับแย่ลงและสภาพการเงินยังฝืดเคืองอย่างมาก จนส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจการค้ายาวนานถึงรัชกาลสมเด็จพระที่นั่งท้ายสระ
เมอซิเออร์ เดอบูร์ ซึ่งเข้ามายังกรุงศรีอยุธยาเมื่อ พ.ศ. 2256 ในรัชกาลสมเด็จพระที่นั่งท้ายสระได้เขียนบันทึกไว้ว่า
ข้าพเจ้ามีความประหลาดใจมากที่ได้เห็นบ้านเมืองร่วงโรยไปมากทั่วพระราชอาณาจักร เมืองไทยเวลานี้ไม่เหมือนกับเมืองไทยเมื่อ 50 ปีล่วงมาแล้ว ซึ่งเป็นเวลาที่พวกเราได้มาเห็นครั้งแรก ในเวลานี้ไม่ได้เห็นเรือต่างประเทศจำนวนมากมาย หรือเห็นเรือไทยไปมาค้าขายดังแต่ก่อนแล้ว
ด้านศิลปวัฒนธรรม
สมเด็จพระเพทราชาเมื่อได้ขึ้นครองราชสมบัติพระมหากษัตริย์ต้นราชวงศ์บ้านพลูหลวงนั้น ทรงเจริญพระราชกรณียกิจตามโบราณราชเพณีดั้งเดิม ทรงทำนุบำรุงพระศาสนา สร้างบูรณปฏิสังขรณ์พระอาราม พระอุโบสถ พระวิหาร พระมหาเจดีย์หลายแห่ง รวมทั้งสร้างปราสาทในรัชกาลพระองค์ เช่น
- วัดบรมพุทธาราม เป็นพระอารามหลวงประจำราชวงศ์บ้านพลูหลวง โปรดเกล้าฯ ให้สร้างในปีแรกที่ได้ขึ้นครองราชย์ ณ บริเวณบ้านหลวงป่าตองซึ่งเคยเป็นนิวาสสถานเดิมของพระองค์
- วัดพระยาแมน หรือวัดพญาแมน โปรดเกล้าฯ ให้สร้างปฏิสังขรณ์ขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2233 ในพงศาวดารมีบันทึกไว้ว่า
"ในปีมะเส็งก่อนนั้น สมเด็จพระเจ้าแผ่นดินทรงพระราชดำริถึงคุณพระอาจารย์เจ้าอธิการวัดพระยาแมน ซึ่งได้ถวายพยากรณ์ไว้ว่า จะได้เสวยราชสมบัติ แต่ยังทรงผนวชเป็นภิกษุภาวะอยู่ในวัดพระยาแมนนั้น และพระผู้เป็นเจ้าทำนายแม่นนัก"
- วัดบ้านป่าตอง
- วัดโพธาราม (ชื่อเดิมในรัชกาลสมเด็จพระเพทราชา) หรือวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหารในปัจจุบัน สร้างระหว่างปี พ.ศ. 2231-2246 รัชกาลสมเด็จพระเพทราชา
- วิหารพระมงคลบพิตร สมเด็จพระเพทราชาโปรดให้มีการปฏิสังขรณ์ทำนุบำรุงเพิ่มเติมในรัชกาลพระองค์
- พระวิหารพระพุทธไสยาสน์
- วัดโพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2244 (สมเด็จพระเจ้าสุริเยนทราธิบดีโปรดให้เริ่มสร้างเมื่อปลายรัชกาลสมเด็จพระเพทราชา)
- วัดใหญ่สุวรรณาราม จ. เพชรบุรี สร้างปฏิสังขรณ์เมื่อปี พ.ศ. 2245
- วัดปราสาท: 201
- วัดพรหมกระสาย: 202
- พระที่นั่งบรรยงค์รัตนาสน์ (พระที่นั่งท้ายสระ) สมเด็จพระเพทราชาโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2231 ในปีที่เสวยราชสมบัติ ตั้งอยู่บนเกาะกลางสระน้ำทางข้างหลังเป็นปราสาทจตุรมุข ทรงใช้เป็นที่ประทับฝ่ายใน และยังใช้เป็นที่สำราญพระราชอิริยาบถ
- พระที่นั่งทรงปืน โปรดให้สร้างพร้อมศาลาลูกขุน ในพระราชวังหลวงไว้เป็นท้องพระโรงสำหรับเสด็จออกว่าราชการ
- ตำหนักสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดพุทไธศวรรย์ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นตำหนักสองชั้นเขียนภาพลายจิตรกรรม เช่น จิตรกรรมพระสุวรรณสามถูกศร จิตรกรรมไตรภูมิ จิตรกรรมทศชาติชาดก จิตรกรรมมารผจญ จิตรกรรมรามเกียรติ์ จิตรกรรมขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค เป็นต้น สมเด็จพระเพทราชาโปรดให้สร้างเพื่ออุทิศถวายสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ พระอาจารย์ของพระองค์ เป็นพระภิกษุชั้นผู้ใหญ่ฝ่ายอรัญญวาสีซึ่งเคยถวายวิสัชนาอัฏฐธรรมปัญหา 8 ข้อ ในปี พ.ศ. 2233
- ประเพณีรำพระแสงของ้าวบนกระพองช้าง มีขึ้นครั้งแรกในรัชกาลสมเด็จพระเพทราชาซึ่งพระองค์ทรงพระปรีชาสามารถในการช้างมาก เมื่อคราวเสด็จประพาสนมัสการพระพุทธบาทสระบุรี ทรงยืนขึ้นรำพระแสงขอเหนือกระพองข้างต้นเพื่อบวงสรวงพระพุทธบาท จึงกลายเป็นราชประเพณีที่กษัตริย์ทุกพระองค์เมื่อเสด็จประพาสนมัสการพระพุทธบาทสระบุรี ทรงร่ายรำพระแสงของ้าวบนกระพองช้างถวายทุกพระองค์ ปรากฏใน พระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐ ตอนแผ่นดินสมเด็จพระมหาบุรุษ (พระเพทราชา) ว่า
"แถวเถื่อนพันลึกอธิกด้วยนานาพรรณพฤกษาชาติ บ้างเผล็ดดอกออกผลกล่นกลาดดูตระการตา ก็เสด็จยาตราพลากรทวยหาญไปโดยลำดับสถลมารควิถีสิ้นทาง ๕๕๐ เส้น ก็บรรลุเชิงเขาสุวรรณบรรพต จึงให้หยุดกระบวนแห่แหนทั้งปวงแล้ว สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระแสงของ้าวเหนือตระพองช้างต้นสิ้นวารสามนัด บูชาพระพุทธบาทโดยพระราชประเพณีเสร็จแล้วก็บ่ายพระคชาธารโดยมารควิถี กำหนดทาง ๕๐ เส้น ถึงพระราชนิเวศน์ธารเกษม เสด็จลงสู่เกยแล้ว ๆ เสด็จเข้าประทับแรม ณ พระตำหนักนั้น"
นอกจากนี้พระองค์ยังทรงปฏิสังขรณ์วัดที่สร้างขึ้นในรัชกาลสมเด็จพระราเมศวร เช่น วัดบุรบาริม วัดชังคะยี วัดรัตนาปราสาท เป็นต้น
วรรณกรรมในรัชกาล
งานวรรณกรรมในรัชสมัยของพระองค์นั้นไม่ปรากฏวรรณกรรมที่นับว่าเป็นงานชิ้นเอกใดๆ มีเพียงแต่วรรณกรรมชิ้นย่อม และกฎหมายบางลักษณะเท่านั้น เช่น
- พระตำราบรมราชูทิศเพื่อกัลปนา สมัยสมเด็จพระเพทราชา
- กุสลวินิจฺฉยกถา เป็นคัมภีร์ใบลานอักษรขอมและภาษาบาลีสมัยอยุธยาตอนปลายคล้อยมาทางสมัยรัตนโกสินทร์ แต่งขึ้นโดยสมเด็จพระสังฆราชสมัยอยุธยาเพื่อเทศน์หน้าพระที่นั่งเมื่อปี พ.ศ. 2232 รัชกาลสมเด็จพระเพทราชา เนื้อหาคำภีร์อธิบายถึงเรื่อง กุศลดีชั่ว ถูกผิด ควรไม่ควร ซึ่งกรมศิลปากรได้สำรวจค้นพบคัมภีร์ใบลานฉบับดังกล่าวที่วัดไก่เตี้ย เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2565 ลงทะเบียนเป็นคัมภีร์ใบลาน เลขที่ วกต.๔๗/๑
- อัฏฐธรรมปัณหาของสมเด็จพระเพทราชา วรรณกรรมประเภทความเรียงร้อยแก้วแต่งเมื่อราว พ.ศ. 2233 เป็นวรรณกรรมที่สมเด็จพระเพทราชาดำรัสถามสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์เมื่อ ณ วันอังคาร เดือนแปด ขึ้นค่ำหนึ่ง ปีมะเมีย โทศก จุลศักราช ๑๐๕๒ ให้เฉลยปัญหาปริศนาธรรม 8 ข้อดังต่อไปนี้ "๑ ทางใหญ่อย่าเที่ยวจร ๒ ลูกอ่อนอย่าอุ้มรัด ๓ หลวงเจ้าวัดอย่าให้อาหาร ๔ ไม้โกงอย่าทำกงวาน ๕ ช้างสารอย่าผูกกลางเมือง ๖ ถ้าจะให้เปนลูกให้เอาไฟสุมต้น ๗ ถ้าจะให้ล่มบันทุกแต่เบา ๘ ถ้าจะให้เรียนโหราให้ฆ่าอาจารย์ทั้ง ๔ เสีย" และสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ได้เฉลยคำวิสัชนานั้น นับได้ว่าเป็นงานพระนิพนธ์ของสมเด็จพระเพทราชา
- พระกฐินวนิจฉัยกถา สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ถวายวิสัชนา
- กฎหมายลักษณะมูลคดีวิวาท ว่าด้วยตัดสินปันหมู่ ตั้งเมื่อปีชวด จุลศักราช ๑๐๕๒ (แต่กฎหมายตราสามดวงใช้ชื่อว่า "ไวยการบานแผนก")
- กฏ ๒๖ ข้อ ว่าด้วยจารีตนครบาล
- กฎหมาย ๓๖ ข้อ บท ๑ ปีวอก จุลศักราช ๑๐๕๔
- กฎหมายลักษณะตระลาการ (ตุลาการ) เพิ่มเติม ปีชวด จุลศักราช ๑๐๕๘
- พระราชกฤษฎีกาให้จัดคนสังกัดวัดในจังหวัดพัทลุง ปีขาล พ.ศ. ๒๒๔๒ พบที่เมืองพัทลุง พระราชกฤษฎีกานี้เขียนด้วยเส้นดินสอดำบนกระดาษข่อยมีจำนวน 2 ฉบับ ฉบับหนึ่งเขียนเป็นภาษาไทย อีกฉบับเขียนเป็นภาษาเขมรแต่ข้อความเป็นความหมายเดียวกันทั้งสองฉบับ: 17
พระมเหสี
สมเด็จพระเพทราชามีพระมเหสีสำคัญ ๆ อยู่ 4 พระองค์ ได้แก่
- กรมพระเทพามาตย์ (กัน) พระมเหสีเดิมในพระเพทราชาเป็นผู้อภิบาลพระเจ้าเสือตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ภายหลังได้ขึ้นเป็นที่กรมพระเทพามาตย์
- กรมหลวงโยธาเทพ หรือ มเหสีฝ่ายซ้าย - พระราชธิดาในสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีพระราชโอรสคือตรัสน้อย ทรงสนใจทางด้านการศึกษาในหลายๆแขนงวิชา ช่วงหลังย้ายตามพระราชมารดาไปอยู่ ณ พระตำหนักใกล้วัดพุทไธศวรรย์
- กรมหลวงโยธาทิพ หรือ มเหสีฝ่ายขวา - พระขนิษฐาในสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีพระราชโอรสคือเจ้าพระขวัญ (กรมพระราชวังบวรสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์)
- นางกุสาวดี มเหสีพระราชทานจากพระนารายณ์มหาราช พระธิดาพญาแสนหลวง เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่
พระบรมราชอิสริยยศและพระเกียรติยศ
พระบรมราชอิสริยยศ
- เจ้าพระยาสุรศรี
- พระเพทราชาธิบดี ศรีสุริยาภิชาติสุริยวงศ์ องค์สมุหพระคชบาล
- สมเด็จพระมหาบุรุษ วิสุทธิเดชอุดม บรมจักรพรรดิศร บรมนาถบพิตร สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัว
- สมเด็จพระมหาบุรุษ วิสุทธิเดชอุดม บรมจักรพรรดิเจ้าภิภพกรุงเทพพระมหานคร บวรทวาราวดีศรีอยุธยามหาดิลกภพนพรัตนราชธานีบุรีรมย์ อุดมพระราชนิเวศน์มหาสถาน (พ.ศ. 2231 – พ.ศ. 2246)
พระพุทธรูปประจำพระองค์
- พระพุทธรูปปางปลงพระกรรมฐาน (ปางชักผ้าบังสุกุล) เป็นพระพุทธรูปความสูงองค์พระ 21 ซม. ความสูงจากฐานถึงพระรัศมี 33 ซม. ในรูปอิริยาบทยืนห้อยพระหัดถ์ขวาทับพระหัดถ์ซ้าย พระหัตถ์ซ้ายทรงธารพระกร ทอดพระเนตรลงเบื้องต่ำอันเป็นกิริยาพิจารณาดูอสุภะ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้หล่อฐานชั้นล่างแล้วให้กะไหล่ทอง (เคลือบโลหะด้วยทองแดง) พร้อมจารึกข้อความ เพื่ออุทิศพระราชกุศลถวายพระธาดาธิเบศร์ (สมเด็จพระเพทราชา): 107 ปัจจุบันประดิษฐาน ณ หอราชกรมานุสร วัดพระศรีรัตนศาสดาราม: 62
พระบรมราชานุสรณ์
สถานที่อันเนื่องด้วยพระนาม
- ถนนเพทราชา (Thanon Petracha) อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี
- ห้องประชุมพระเพทราชา อาคารรัตนเทพสตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี จังหวัดลพบุรี
ในวัฒนธรรมสมัยนิยม
มีการนำพระราชประวัติของสมเด็จพระเพทราชามาสร้างเป็นสื่อเพื่อความบันเทิงหลายครั้ง รวมทั้งงานวรรณกรรม นวนิยายทั้งไทย และต่างประเทศ ได้แก่
วรรณกรรมและนวนิยายอิงประวัติศาสตร์
วรรณกรรมไทย
- ข้ามสมุทร นวนิยายอิงประวัติศาสตร์ แต่งโดยวิษณุ เครืองาม กล่าวถึงพระเพทราชาทำรัฐประหารล้มอำนาจสมเด็จพระนารายณ์และสถาปนาราชวงศ์บ้านพลูหลวง
- เพชรพระนารายณ์ (ตอนอวสานพระนารายณ์) นวนิยายอิงประวัติศาสตร์แต่งโดย หลวงวิจิตรวาทการ (กิมเหลียง) มีเหตุการณ์พระเพทราชาปราบดาภิเษกขึ้นครองราชสมบัติล้มราชบัลลังก์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
วรรณกรรมต่างประเทศ
- Louis XIV et le Siam (พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 กับกรุงสยาม) งานเขียนเชิงประวัติศาสตร์แต่งโดย Dirk Van der Cruysse นักประวัติศาสตร์ชาวเบลเยี่ยม กล่าวถึงพระเพทราชาสร้างความขัดแย้งในขบวนราชทูตและกองทหารของฝรั่งเศส
- Pour la plus grande gloire de Dieu (รุกสยาม ในพระนามของพระเจ้า) นวนิยายอิงประวัติศาสตร์ตีพิมพ์ในประเทศฝรั่งเศสแต่งโดย มอร์กาน สปอร์แตช นักเขียนร่วมสมัยชาวฝรั่งเศส มีตัวละครสมเด็จพระเพทราชาผู้ก่อกบฏผู้กอบกู้แผ่นดินสยาม
- ฟอลคอน Phaulkon นวนิยายอิงประวัติศาสตร์ แต่งโดย วิลเลียม ดัลตัน มีตัวละครชื่อ พระเพทราชา กล่าวถึงเหตุการณ์การก่อกบฏยึดพระราชอำนาจและประหารชีวิตพระยาวิไชเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน)
- Le Ministre des moussons (ฟอลคอนแห่งอยุธยา) นวนิยายชีวิตเจ้าพระยาวิไชเยนทร์ กล่าวถึงพระเพทราชาได้เจรจาเพื่อให้กองทหารฝรั่งเศสยอมแพ้
ฉันทลักษณ์
- บทละครร้องเรื่อง ขบถธรรมเถียรในพระราชพงษาวดารไทยแผ่นดินพระธาดาธิเบศร์ ปีชวด จุลศักราช ๑๐๔๖ (ประเสริษฐ์อักษรรจนาสำหรับลครหลวงนฤมิตร์) ร.ศ. ๑๒๙พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ทรงนิพนธ์ เมื่อ พ.ศ. 2454
- นิตยสารพลอยแกมเพชร ปรากฏคำกลอนกล่าวถึงพระเพทราชา ดังบทกลอนว่า
๏ คิดพลางทางพระองค์ทรงโปรดเกศ | เรียกพระเพทราชามาต่อสอง | |
ตรัสตรึกปรึกษาบัญชารอง | รับสนองบรมนาถราชทาน ฯ | |
— พลอยแกมเพชร, 11-12: 204. |
ละคร
- บุพเพสันนิวาส และ พรหมลิขิต ละครโทรทัศน์อิงประวัติศาสตร์ออกฉายครั้งแรกทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 มีตัวละครหนึ่งชื่อ "พ่อทองคำ" หรือ "คุณพระเพทราชา" ที่ภายหลังปราบดาภิเษกเป็นสมเด็จพระเพทราชา ขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้ากรุงศรีอยุธยา รับบทโดย ศรุต วิจิตรานนท์
ภาพยนตร์
- พระเจ้าเสือ พันท้ายนรสิงห์ ภาพยนตร์ไทยอิงประวัติศาสตร์ออกฉายเมื่อ พ.ศ. 2525 มีตัวละคร สมเด็จพระเพทราชา รับบทโดย สมชาย อาสนจินดา
- พันท้ายนรสิงห์ ภาพยนตร์ไทยอิงประวัติศาสตร์ออกฉายเมื่อ พ.ศ. 2558 มีตัวละคร สมเด็จพระเพทราชา รับบทโดย สมภพ เบญจาธิกุล
- เป็นภาพยนตร์แนวแอ็กชั่นออกฉายเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2564 มีตัวละครชื่อ ออกญาคชบาล รับบทโดย ศรุต วิจิตรานนท์ มีบทบาทในการกวาดล้างสายเลือดยามาดะ
- ศรีอโยธยา ภาค 2 มีตัวละครชื่อ สมเด็จพระเพทราชา รับบทโดย หม่อมราชวงศ์มงคลชาย ยุคล
ตำนาน เรื่องเล่า
- ตำนานชายนอนหลับ ประวัติวัดกุฎีทอง เป็นตำนานที่ชาวกุฎีทองเล่าประวัติของวัดกุฎีทองต่อกันมาหลายชั่วอายุคน กล่าวถึง ชายชื่อ สิงห์ มีความสามารถในการเลี้ยงช้างได้เดินทางผ่านมาแล้วนอนหลับที่วัดแห่งนี้จะเดินทางต่อไปยังกรุงศรีอยุธยาเพื่อสมัครเป็นทหารในกองช้าง เจ้าอาวาสวัดเซิงหวาย (ชื่อเดิมของวัดกุฎีทอง) กล่าวกับนายสิงห์ว่า ต่อไปจะได้เป็นใหญ่เป็นโตในแผ่นดิน ซึ่งกาลต่อมาคือ สมเด็จพระเพทราชา
- เสลี่ยงพระเพทราชาวัดกุฎีทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ชาวบ้านกุฎีทองเชื่อกันว่าเป็นเสลี่ยงที่สมเด็จพระเพทราชาทรงใช้เป็นพระราชยานเมื่อคราวเสด็จสมโภชเฉลิมฉลองสร้างกุฏิวัดเซิงหวายแล้วทรงเปลี่ยนชื่อวัดเซิงหวายเป็นชื่อวัดกุฎีทอง
ดูเพิ่ม
หมายเหตุ
- พระนาม "พระทรงธรรม์" (Phra Trong Than) ปรากฏในจดหมายของ Aernout Cleur เจ้าหน้าที่บริษัทอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์ (VOC) ความว่า "Relaas van ’t voorgevallene by de ziekte en overlyden van den Siamse koning Phra Trong Than genaamt" และความว่า "...Sickness and Death of the Siamese King Named Phra Trong Than [Phetracha] is based on a story told by an unnamed courtier."
- ปีสมเด็จพระนารายณ์สวรรคต ตามที่จดไว้ในหนังสือพงศาวดารนี้ผิด ที่จริงอีก ๖ ปี จึงสวรรคตเมื่อ ณ วันอาทิตย์ เดือน ๘ ขึ้น ๑๑ ค่ำ ปีมะโรง จุลศักราช ๑๐๕๐ ตรงกับวันที่ ๑๑ กรกฎาคม คริสต์ศักราช ๑๖๘๘ (ค.ร.)
- ในพระราชพงศาวดาร บอกว่า พระเพทราชาเคยออกศึกแต่งานพระราชสงครามเชียงใหม่เท่านั้น ส่วนศึกรามัญกล่าวว่าบางทีจะได้ไปรบพม่ารามัญกับเจ้าพระยาโกษา (ขุนเหล็ก) และคราวพม่าตามเข้ามาจึงมอบสวามิภักดิ์
- หมายถึง ออกหลวงสรศักดิ์
- หมายถึง ออกพระเพทราชา
- แม้สมเด็จพระเพทราชาทรงไม่ได้ใช้พระแสงขอพลพ่ายออกรบกับกบฏธรรมเถียรแต่ใช้อาวุธหนักแทน อาจจะมีความสำคัญในเชิงสัญลักษณ์ คือ เป็นทั้งตัวแทนบรรพบุรุษผู้พร้อมให้ ตัวแทนคุ้มครองราชวงศ์ และเป็นขวัญกำลังใจของผู้ถือครอง
- ปีในพระราชพงศาวดาร ฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพน หมายเหตุว่าเป็น พ.ศ. 2241 ที่จริงอีก 6 ปี จึงโปรดให้สร้างพระเมรุ
- พระที่นั่งบรรยงค์รัตนาสน์ ในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาหลายฉบับ กล่าวตรงกันว่า สร้างขึ้นในรัชกาลสมเด็จพระเพทราชา เมื่อจุลศักราช ๑๐๔๙ ความว่า
"ลุศักราช ๑๐๔๙ ปีเถาะนพศก สมเด็จบรมพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสให้ช่างพนักงานจัดการสร้างพระมหาปราสาทองค์หนึ่ง ในพระราชวังข้างใน ครั้นเสร็จแล้วพระราชทานนามบัญญัติพระมหาปราสาทชื่อ พระที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์ เป็นสี่ปราสาทด้วยกันทั้งเก่าสาม คือ พระที่นั่งวิหารสมเดจ์องค์หนึ่ง พระที่นั่งสรรเพชญ์ปราสาทองค์หนึ่ง พระที่นั่งสุริยามรินทร์องค์หนึ่ง แล้วให้ขุดสระเป็นคู่อยู่ซ้ายขวา พระที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์แล้ว ให้ก่ออ่างแก้วแลภูเขามีท่ออุทกธาราไหลลงในอ่างแก้วนั้นที่ริมสระคู่พระมหาปราสาทนั้นแล ให้ทำระหัดน้ำ ณ อ่างแก้วริมน้ำฝั่งท่อให้น้ำเดินเข้าไปผุดขึ้น ณ อ่างแลให้ท่าพระที่นั่งทรงปัน ณ ท้ายสระเป็นที่เสด็จออกกลับ"
แต่ความในพระราชพงศาวดารข้างต้นขัดแย้งกับจดหมายเหตุของชาวต่างชาติอย่างน้อย 3 ฉบับ ที่ต่างกล่าวว่าพระที่นั่งบรรยงค์รัตนาสน์มีอยู่แล้วในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และขัดแย้งกับคราวสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทอดพระเนตรจันทรุปราคาเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2228 ณ พระที่นั่งเย็น ทะเลชุบศร เมืองละโว้ (ลพบุรี) พระองค์ทรงสนพระราชหฤทัยในด้านดาราศาตร์อย่างยิ่งทรงโปรดให้สร้างพระที่นั่งทรงดาวขึ้นในพระที่นั่งบรรยงค์รัตนาสน์ที่พระราชวังกรุงศรีอยุธยาในรัชกาลพระองค์
อ้างอิง
- เชิงอรรถ
- Gaspar Bouttats, (sr.), Hendrik Franciscus Verbruggen. (1690). "VANDE REVOLVTIE VAN SIAM", TRACTAET OFT CORT BEGRYP VAN DE REVOLUTIEN OFT STAEDTSVERANDERINGEN VOOR-GHEVALLEN in meest alle de Rijcken des VVereldts, sedert den Iaere 1600. tot den Iaere 1690. N.P. : d'hoirs van Maximiliaen Graet. p 60.
- ประยุทธ สิทธิพันธ์. (2505). ต้นตระกูลขุนนางไทย. กรุงเทพฯ: คลังวิทยา. 544 หน้า.
- ภาสกร วงศ์ตาวัน. ประเทศราช ชาติศัตรู และพ่อค้านานาชาติ. กรุงเทพฯ:ยิปซี, 2553. หน้า 182
- ราชอาณาจักรสยาม[]
- ห้องเรียนประวัติศาสตร์ศิลป์. (2560, 9 กุมภาพันธ์). “สิงห์เทียมราชรถในงานพระบรมศพสมเด็จพระเพทราชา ‘แฟนซี’ หรือ ‘มีจริง’ ”. ศิลปวัฒนธรรม.
- VOC 1691, Relaas van ’t voorgevallene by de ziekte en overlyden van den Siamse koning Phra Trong Than genaamt [Relation of What Occurred upon the Sickness and Death of the Siamese King Named Phra Trong Than], (1703 or 1704), fos. 61-74.
- ภาวรรณ เรืองศิลป์. Dutch East India Company Merchants at the Court of Ayutthaya: Dutch Perceptions of the Thai Kingdom, c. 1604-1765. TANAP Monographs on the History of Asian-European Interaction, Vol.8, Brill Press, University of Leiden. p. 175.
- ดำรงราชานุภาพ, พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระ. (2468). อธิบายพระนามพระเจ้าแผ่นดินครั้งกรุงศรีอยุธยาเปนราชธานี. พระนคร: โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร. [มหาอำมาตย์ตรี พระยาภรตราชา (หม่อมหลวงทศทิศ อิศรเสนา) พิมพ์ช่วยในการพระราชทานเพลิงศพคุณหญิงทองย้อย เสนีณรงค์ฤทธิ์ จจ. เมื่อปีฉลู พ.ศ. 2468].
- พินิจ จันทร และคณะ. (2565). ย้อนประวัติศาสตร์ ๔๑๗ ปี อยุธยา ๓๓ ราชัน ผู้ครองนคร. กรุงเทพฯ: เพชรพินิจ. 288 หน้า. ISBN
- แสง พิชัยดิษ. เล่าเกร็ด แผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช. กรุงเทพฯ: บางกอกบุ๊ค, 128 หน้า. หน้า 115. ISBN
- Reid, Anthony (Editor), Dhiravat na Prombeja, Southeast Asia in the Early Modern Era, Cornell University Press, 1993, ISBN
- พรรคประชาธิปัตย์. (2513). วารสารประชาธิปัตย์, 2(1-26): 37.
- วารุณี โอสถารมย์. เมืองสุพรรณ : บนเส้นทางการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์ พุทธศตวรรษที่ 8 - ต้นพุทธศตวรรษที่ 25. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2547. 324 หน้า. หน้า 196. ISBN
- เอกชัย โควาวิสารัช. (2563). ชันสูตรประวัติศาสตร์ ไขปริศนาพระนารายณ์. กรุงเทพฯ: มติชน. 464 หน้า. ISBN
- ทวีวุฒิ พงศ์พิพัฒน์. (2566). เล่าเรื่องเมืองไทย เล่ม ๒. กรุงเทพฯ: ม.ป.พ. 269 หน้า. ISBN
- ภูธร ภูมะธน. โกษาปาน ราชทูตกู้แผ่นดิน. (กรุงเทพฯ:สถาบันการเรียนรู้และสร้างสรรค์ (พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้), 2550), หน้า 33
- พลับพลึง มูลศิลป์. ความสัมพันธ์อาณาจักรอยุธยา-ฝรั่งเศส สมัยอยุทธยา. (กรุงเทพ:บรรณกิจ), 2523, หน้า 110, 238
- แสง พิชัยดิษ. (2555). เล่าเกร็ด แผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช. กรุงเทพฯ: บางกอกบุ๊ค. 128 หน้า. หน้า 114. ISBN
- ธรรมคามน์ โภวาที (เรียบเรียง), ถวิล สุนทรศาลทูล (บรรณาธิการ), สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย (เผยแพร่). (2511). ประวัติมหาดไทย (ส่วนกลาง) ภาคที่ ๒ ตอนที่ ๒. กรุงเทพฯ : คณะกรรมการประวัติและพิพิธภัณฑ์มหาดไทย. 423 หน้า. หน้า 167-168.
- สมาคมประวัติศาสตร์ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี. วารสารสมาคมประวัติศาสตร์, 2548(27): 50.
- นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย, หน้า 158
- เกริกฤทธิ์ เชื้อมงคล. (2562). ก่อนแผ่นดินเปลี่ยนราชบัลลังก์. กรุงเทพฯ : ไพลินบุ๊คเน็ต. 240 หน้า. หน้า 187. ISBN
- อุดม ประมวลวิทยา. ในราชสำนักพระนารายณ์มหาราช. พระนคร : โอเดียนสโตร์, 2505. 539 หน้า. หน้า 268.
- ส.สีมา. (กรกฎาคม, 2556). "เล่าเรื่องพระเพทราชาตกกระไดพลอยโจน", ศิลปวัฒนธรรม, 34(9): 25.
- แสง พิชัยดิษ. เล่าเกร็ด แผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช. กรุงเทพฯ : บางกอกบุ๊ค, 128 หน้า. หน้า 115.
- นริศรานุวัดติวงศ์, สมเด็จเจ้าฟ้า ฯ กรมพระยา, และดำรงราชานุภาพ, สมเด็จ ฯ กรมพระยา. "ลักษณะนุ่งผ้าขี่ม้า คัดจากพระสมุดตำราช้าง ฉบับซื้อจาก ม.ล. แดง สุประดิษฐ์ สมุดไทยดำเส้นรงค์", สาส์นสมเด็จ. เล่มที่ 11. พระนคร : โรงพิมพ์คุรุสภา. 2505. 353 หน้า. หน้า 156.
- Simon de La Loubère. (1691). Du royaume de Siam. Paris : Chez la Veuve de Jean Baptiste Coignard et Jean Baptiste Coignard. 446 pp. p 271.
- ลาลูแบร์. (2510). จดหมายเหตุ ลา ลูแบร์ ราชอาณาจักรสยาม ฉบับสมบูรณ์. แปลโดย สันต์ ท.โกมลบุตร. กรุงเทพฯ: ก้าวหน้า.
- มานพ ถาวรวัฒน์สกุล. (2502). ขุนนางอยุธยา. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับ มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์. 298 หน้า.
- คริส เบเกอร์ และผาสุก พงษ์ไพจิตร. (2563). ประวัติศาสตร์อยุธยา ห้าศตวรรษสู่โลกใหม่. (ฉบับพิมพ์ซ้ำ). กรุงเทพฯ: มติชน. 470 หน้า. ISBN
- นายพลเดส์ฟาร์จ. (2552). ชิงบัลลังก์พระนารายณ์. แปลโดย ปรีดี พิศภูมิวิถี. กรุงเทพฯ: มติชน. 120 หน้า. ISBN
- ฟรังซัวส์ อังรี ตุรแปง และปอล ซาเวียร. (2559). ประวัติศาสตร์แห่งพระราชอาณาจักรสยาม และประวัตศาสตร์ไทยสมัยกรุงศรีอยุธยาฉปับตุรแปง. แปลโดย สมศรี เอี่ยมธรรม. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร. 282 หน้า. ISBN
- กรมศิลปากร. (2522). ประวัติศาสตร์ไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา ฉบับตุรแปง. แปลโดย สมศรี เอี่ยมธรรม. กรุงเทพฯ: ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล สหประชาพาณิชย์. 268 หน้า.
- รัฐวิชญ์ ศุภจัตุรัส. (2556). ตลาดสดพื้นถิ่น จังหวัดสุพรรณบุรี: รูปแบบ พัฒนาการ และการใช้งานปัจจุบัน. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต (สถาปัตยกรรม). นครปฐม: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร. 260 หน้า. หน้า 95.
- วัลลภา รุ่งศิริแสงรัตน์. (2537). ลพบุรี: อดีต-ปัจจุบัน. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช. 189 หน้า. ISBN
- เพลิง ภูผา. วิกฤตการณ์วังหน้า เหตุทุรยศบนแผ่นดินสยาม. กรุงเทพฯ : ไพลินบุ๊คเน็ต, 2544. 320 หน้า. หน้า 149.
- ปรีดี พิศภูมิวิถี. "การปฏิวัติในแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์ พ.ศ. ๒๒๓๑", ศิลปวัฒนธรรม, 28(7): 98. ; พฤษภาคม, 2550.
- ปรีดี พิศภูมิวิถี, วรพร พรหมใจรักษ์, และสาระ มีผลกิจ. (2561, 18 มิถุนายน). ย้อนรอยประวัติศาสตร์เมืองเก่าสุพรรณบุรีและความสาคัญของพระเพทราชาต้นราชวงศ์บ้านพลูหลวง. โครงการอนุรักษ์ พัฒนา และสืบสานศิลปะวัฒนธรรมเมืองเก่าสุพรรณบุรี เชื่อมต่อวิถีความเป็นอัตลักษณ์ของสวนดุสิต. สุพรรณบุรี: มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิทยาเขตสุพรรณบุรี. 79 หน้า.
- นิธิ เอียวศรีวงศ์. (2537). การเมืองไทยสมัยพระนารายณ์. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: มติชน. 89 หน้า. ISBN
- วารสารธรรมศาสตร์ 10, 2(2524). อ้างใน ขจร สุขพานิช และวุฒิชัย มูลศิลป์ (บก.). (2523). ข้อมูลประวัติศาสตร์สมัยอยุธยา : เอกสารทางวิชาการของสมาคมสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. 238 หน้า.
- พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม), หน้า 317
- ปริยัติธรรมธาดา (แพ ตาละลักษมณ์), พระยา., กำธรเทพ กระต่ายทอง. พระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ ; และพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม). กรุงเทพฯ : กรุงสยามการพิมพ์, 2514. 298 หน้า. หน้า 261. พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ นายนาถ กระต่ายทอง ณ ฌาปนสถานคุรุสภา วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร วันที่ ๑๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๑๔.
- พระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา. (พิมพ์ครั้งที่ 6). พระนคร : กรมศิลปากร, 2511. หน้า 496.
- ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 82 เรื่อง พระราชพงศาวดารกรุงสยาม จากต้นฉบับของบริติชมิวเซียมกรุงลอนดอน. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2537. 423 หน้า. หน้า 259.
- คณะกรรมการอำนวยการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี. ประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก (เล่ม 2). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, 2542. 434 หน้า. หน้า 236.
- สุจิตต์ วงษ์เทศ. (2548). วารสารศิลปวัฒนธรรม, 26(4-6): 78.
- พลับพลึง มูลศิลป์. ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับฝรั่งเศสสมัยอยุธยาในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์ถึงรัชกาลสมเด็จพระเพทราชา (พ.ศ. 2199-2246). กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 2519. 356 หน้า. หน้า 151.
- Bhawan Ruangsilp. (2016). "Kromluang Yothathep: King Narai’s Daughter and Ayutthaya Court Intrigue", Journal of the Siam Society, 104.
- กรมศิลปากร. (2548). การปฏิวัติปลายแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราชและการล่มสลายของกรุงศรีอยุธยา. แปลโดย ศ.พิเศษ คุณหญิงแม้นมาส ชวลิต. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร. 103 หน้า. ISBN อ้างถึงใน รายงานละเอียดและถูกต้อง เกี่ยวกับ การปฏวัติอันยิ่งใหญ่ และมหัศจรรย์ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ในพระราชอาณาจักรสยาม (A Full and True Relation of the Great and Wonderful Revolution That happened lately in the Kingdom of Siam). pp 1343–5.
- จิตรสิงห์ ปิยะชาติ. กบฎ กรุงศรีอยุธยา. กรุงเทพฯ : ยิปซี กรุ๊ป, 2551. 251 หน้า. หน้า 208.
- คณะกรรมการอำนวยการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี. ประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก เล่มที่ 3. กรุงเทพฯ : กองวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร, 2542. หน้า 420.
- พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม). กรุงเทพฯ : คลังวิทยา, 2507. 990 หน้า. หน้า 427.
- รวี สิริอิสสระนันท์ (บก.). พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) และพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับหลวงประเสริฐ คำให้การกรุงเก่า คำให้การขุนหลวงหาวัด. นนทบุรี : ศรีปัญญา, 2559. 800 หน้า.
- พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม), หน้า 330-331
- ปรมานุชิตชิโนรส, สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระ. (2488). พระราชพงสาวดารกรุงสรีอยุธยา ฉบับความสมเด็ดกรมพระปรมานุชิตชิโนรส เล่ม 3. พระนคร: โรงพิมพ์พระจันทร์. 137 หน้า.
- คณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทย สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี. (2523). แถลงงานประวัติศาสตร์เอกสารโบราณคดี, 14-16.
- ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จฯ กรมพระยา. (2511). พระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา. (พิมพ์ครั้งที่ 6). พระนคร: กรมศิลปากร. 884 หน้า.
- ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๖๔ พงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม). เจ้าภาพพิมพ์ในงานปลงศพ คุณหญิงปฏิภานพิเศษ ( ลมุน อมาตยกุล ) ณ วัดประยุรวงศาวาส วันที่ ๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙. พระนคร: โสภณพิพรรฒธนากร, 2479. 437 หน้า.
- พระราชพงศาวดาร ฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพน ตรวจสอบชำระจากเอกสารตัวเขียน. มูลนิธิ "ทุนพระพุทธยอดฟ้า" ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดพิมพ์โดยเสด็จพระราชกุศลในการพระราชทานเพลิงศพ พระธรรมปัญญาบดี (ถาวร ติสฺสานุกโร ป.ธ.๔) ณ เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส วันอาทิตย์ที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๘. กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง. 558 หน้า. ISBN
- "ตั้งเจ้าราชนิกูล แผ่นดินสมเด็จพระมหาบุรุษ (พระเพทราชา) จุลศักราช ๑๐๔๔-๑๐๕๙", ใน พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕). กรุงเทพฯ : ม.ป.ท., ม.ป.พ. หน้า 126.
- นริศรานุวัตติวงศ์, สมเด็จ ฯ เจ้าฟ้ากรมพระยา และดำรงราชานุภาพ, สมเด็จฯ กรมพระยา. สาส์นสมเด็จ เล่มที่ 2. กรุงเทพฯ : มูลนิธิสมเด็จฯเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์, 2534. หน้า 216.
- ประยูร พิศนาคะ. สมเด็จพระเจ้าเอกทัศ. กรุงเทพฯ : สำนักหอสมุดกลาง 09, 2515. 472 หน้า. หน้า 83.
- พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม), หน้า 318
- อาชญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ. (2566, 4 ธันวาคม). "พระเจ้าทรงธรรม ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสภาหินอ่อน กับพระเจ้าปากสระและพระเจ้าท้ายสระของ ก.ศ.ร. กุหลาบ". ดิ วันโอวัน. (Life & Culture / People). สืบค้นเมื่อ 14 ธันวาคม 2566. อ้างใน ก.ศ.ร. กุหลาบ. (2448). มหามุขมาตยานุกูลวงศ์ ว่าด้วยลำดับวงศ์ตระกูลขุนนางไทยทั้งสิ้นในแผ่นดินสยาม.
- ก.ศ.ร. กุหลาบ. (2538). อายะติวัฒน์: หนังสือบํารุงปัญญาประชาชน. กรุงเทพฯ: สมาคมมิตรภาพญี่ปุ่น-ไทย. 144 หน้า. ISBN
- อาทร จันทวิมล. (2546). ประวัติของแผ่นดินไทย. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: น.ส.พ.ฟ้าเมืองไทย. 445 หน้า.
- สมบัติ ธำรงธัญวงศ์. (2547). การเมืองการปกครองไทย พ.ศ.๑๗๖๒–๒๕๐๐. กรุงเทพฯ: เสมาธรรม. 801 หน้า. ISBN
- ดำรงราชานุภาพ, พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระ. (2469). ชุมนุมพระนิพนธ์ สมเด็จกรมพระยาดํารงราชานุภาพ. พิมพ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ หม่อมเจ้าหญิงพร้อมเพราพรรณ ทจ. รัตน จปร ๓. ชายาในพระเจ้าพี่ยาเธอ กรมขุนสิงหวิกรมเกรียงไกร เมื่อปีขาล พ.ศ. ๒๔๖๙. พระนคร: โสภณพิพรรฒธนากร. 119 หน้า.
- La Loubère, Simon de. (1693). A new historical relation of the kingdom of Siam. London : F.L. for Tho. Horne, Francis Saunders, and Tho. Bennet.
- จดหมายเหตุลาลูแบร์ เล่มที่ 2 พระนิพนธ์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์. กรุงเทพฯ : องค์การค้าของคุรุสภา, 2505. 397 หน้า.
- "โกษาปานไปฝรั่งเศส ภาค ๔", ประชุมพงศาวดาร เล่มที่ 33 (ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๕๙ - ๖๑). กรุงเทพฯ : องค์การค้าของคุรุสภา, 2512. 312 หน้า.
- สุเนตร ชุตินธรานนท์. (2545). เรือ: วัฒนธรรมชาวน้ำลุ่มเจ้าพระยา. 141 หน้า. ISBN
- กีรติ เกียรติยากร. (2546). "จดหมายเหตุบันทึกความทรงจำของ เรือโท เชวาลเอร์ เดอ ฟอร์บัง," ใน จดหมายเหตุอยุธยาล่มสลาย: ออกพระเทพราชาหรือฟอลคอน ใครวางแผนชิงบัลลังก์สมเด็จพระนารายณ์. นนทบุรี: จดหมายเหตุ. 613 หน้า. ISBN
- Claude de Forbin. (2509). บันทึกความจำของออกพระศักดิสงคราม หรือ จดหมายเหตุฟอร์บัง: Le voyage du comte de Forbin à Siam (in French). ทรงนิพนธ์แปลโดย หม่อมเจ้าดำรัสดำรงค์ เทวกุล. พระนคร: พระจันทร์. 200 หน้า.
- เดอ ฟอร์แบ็ง, โกลด. (2486). จดหมายเหตุฟอร์บัง. ทรงนิพนธ์แปลโดยหม่อมเจ้าดำรัสดำรงค์ เทวกุล. เจ้าภาพพิมพ์แจกไนงานพระราชทานเพลิงพระสพพระวรวงสเทอ กรมหมื่นเทวะวงสวโรทัย นะ พระเมรุวัดเทพสิรินทราวาส วันที่ ๗ เมสายน ๒๔๘๖. พระนคร: โสภนพิพัธนากร. 237 หน้า.
- ศิลปวัฒนธรรม, 22(1-3).
- กีรติ เกียรติยากร. จดหมายเหตุอยุธยาล่มสลาย: ออกพระเทพราชา หรือฟอลคอน ใครวางแผนชิงบัลลังก์ สมเด็จพระนารายณ์. กรุงเทพฯ: จดหมายเหตุ, 2546. 639 หน้า. ISBN
- กรมศิลปากร, หอสมุดแห่งชาติ. ประชุมพงศาวดาร ฉบับหอสสมุดแห่งชาติ เล่มที่ 8.
- โบชอง (แต่ง), ปรีดี พิศภูมิวิถี (แปล). หอกข้างแคร่: บันทึกการปฏิวัติในสยามและความหายนะของฟอลคอน แปลโดย ปรีดี พิศภูมิวิถี. กรุงเทพฯ: มติชน, 2556. 79 หน้า.
- วีรวัลย์ งามสันติกุล. ศุภวัฒย์-ศุภวาร จุลพิจารณ์: ข้อเขียนเพื่อแสดงมุตาจิตในโอกาสที่ พลตรี หม่อมราชวงศ์ ศุภวัฒย์ เกษมศรี มีอายุครบ ๖ รอบ ในพุทธศักราช ๒๕๔๗. กรุงเทพฯ: เฟื่องฟ้า, 2547. 175 หน้า. ISBN
- คำให้การขุนหลวงหาวัด. นนทบุรี : มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2547. 244 หน้า. ISBN
- ประชุมคำให้การกรุงศรีอยุธยา รวม 3 เรื่อง: คำให้การชาวกรุงเก่า คำให้การขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรม คำให้การขุนหลวงหาวัด. กรุงเทพฯ : แสงดาว, 2553. 536 หน้า. ISBN
- สมาคมประวัติศาสตร์. (2538). วารสารรวมบทความประวัติศาสตร์, 17.
- อาทร จันทวิมล. ประวัติของแผ่นดินไทย. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: อักษรไทย, 2546. 445 หน้า.
- กรมศิลปากร. สมเด็จพระนารายณ์ และ พระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔: บทวิเคราะห์ทางวิชาการเกี่ยวกับสัมพันธภาพไทย-ฝรั่งเศส รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร, 2530. 133 หน้า. ISBN
- นายพลเดส์ฟาร์จ (แต่ง), ปรีดี พิศภูมิวิถี (แปล). ชิงบัลลังก์พระนารายณ์: Relation des Révolutions arrivées à Siam dans l’année 1688 แปลโดย ปรีดี พิศภูมิวิถี. กรุงเทพฯ: มติชน, 2552. ISBN
- วินัย พงศ์ศรีเพียร, ปรีดี พิศภูมิวิถี และวีรวัลย์ งานสันติกุล. ศรีชไมยาจารย์: พิพิธนิพนธ์เชิดชูเกียรติ ศาสตราจารย์ ดร. ประเสริฐ ณ นคร ศาสตราจารย์วิสุทธ์ บุษยกุล เนื่องในโอกาสมีอายุครบ ๘๔ ปีใน พ.ศ. ๒๕๔๕. กรุงเทพฯ : คณะอนุกรรมการชำระกฎหมายตราสามดวง คณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทยฯ กระทรวงวัฒนธรรม, 2546. 431 หน้า. ISBN
- "พวกคริสเตียนต้องขังคุก", ประชุมพงศาวดาร เล่ม ๒๑ (ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๓๕ และ ๓๖). กรุงเทพฯ : องค์การค้าของคุรุสภา, 2511.
- เล็กสุมิตร โดดชื่น. อภิธานประวัติศาสตร์ไทย ภาคสอง นับแต่ต้นกรุงศรีอยุธยาถึงสมัยกรุงธนบุรี. พระนคร : นิติสาส์น, 2504. 860 หน้า.
- สำนักงานราชบัณฑิตยสภา. สารานุกรมประวัติศาสตร์ไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน (แก้ไขเพิ่มเติม) เล่มที่ 1. กรุงเทพฯ : ราชบัณฑิตยสถาน, 2549. 428 หน้า. ISBN
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. (2522). วารสารธรรมศาสตร์, 9.
- สุวิทย์ ธีรศาศวัต. เอกสารประกอบการศึกษาวิชาประวัติศาสตร์ไทย 1 สมัยธนบุรี. ขอนแก่น: คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 2525. 376 หน้า.
- คำให้การขุนหลวงหาวัด ฉบับหลวง. พระนคร : โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร, 2459. 135 หน้า. นายพลตรี พระยาเทพาธิบดี พิมพ์แจกในงานปลงศพนายพันตรี หลวงพิทักษ์นฤเบศร์ (จร บุนนาค) ผู้บิดา ปีมะโรง พ.ศ. ๒๔๕๙.
- ลำจุล ฮวบเจริญ. เกร็ดพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา และบางสาระที่น่ารู้ในวังหลวง-วังหน้ากรุงรัตนโกสินทร์. เชียงใหม่ : The Knowledge Center, 2546. 506 หน้า. ISBN
- พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพน. พระนคร : คลังวิทยา, 2505.
- วรรณศิริ เดชะคุปต์ และปรีดี พิศภูมิวิถี. กรุงเก่า เล่าเรื่อง. กรุงเทพฯ: มติชน, 2554. 304 หน้า.ISBN
- มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์. (2543). วารสารเมืองโบราณ, 26.
- กรมศิลปากร. คำให้การชาวกรุงเก่า. คำให้การขุนหลวงหาวัด และพระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ. พระนคร: คลังวิทยา, 2510. 472 หน้า.
- พระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา, หน้า 503.
- สมเด็จพระพนรัตน์ (แก้ว). พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาและจุลยุทธการวงศ์. กรุงเทพฯ : มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย, 2535. 336 หน้า. ISBN
- พระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา, หน้า 503.
- สุเนตร ชุตินธรานนท์. "เอกสารอ้างอิง", การเมืองในประวัติศาสตร์ราชสำนัก หงสาวดี-ศรีอยุธยา พระสุพรรณกัลยา จากตำนานสู่หน้าประวัติศาสตร์. (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพฯ : มติชน, 2550. 200 หน้า. หน้า 60.
- ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๘๒ เรื่อง พระราชพงศาวดารกรุงสยาม: จากต้นฉบับของบริติชมิวเซียมกรุงลอนดอน. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2537. 423 หน้า. ISBN
- คริส เบเคอร์ และผาสุก พงษ์ไพจิตร. ประวัติศาสตร์อยุธยา ห้าศตวรรษสู่โลกใหม่. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: มติชน, 2563. 470 หน้า. ISBN
- สุภรณ์ โอเจริญ. มอญในเมืองไทย. กรุงเทพฯ: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.), 2541. 382 หน้า. ISBN
- ศิลปวัฒนธรรม, 25(1-3).
- ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 64 พงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม). พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ นายแม ชวลิตและนายชาย ชวลิต ณ วัดมกุฎกษัตริยาราม วันที่ ๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๓.
- ภูมิ จิระเดชวงศ์ (แต่ง), วัดศรีทวี (วัดท่ามอญ) จังหวัดนครศรีธรรมราช (เผยแพร่). (5 กรกฎาคม 2564). พระยารามเดโช เจ้าเมืองนครศรีธรรมรายที่นับถือศาสนาอิสลาม. สืบค้นเมื่อ 3 กันยายน 2565.
- กรมศิลปากร. ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๘๒ เรื่อง พระราชพงศาวดารกรุงสยาม: จากต้นฉบับของ บริติชมิวเซียมกรุงลอนดอน. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2537. 423 หน้า. ISBN
- พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับหมอบรัดเล.
- กรมศิลปากร, หอสมุดแห่งชาติ. ประชุมพงศาวดาร ฉบับหอสมุดแห่งชาติ เล่มที่ 13. พระนคร: ก้าวหน้า, 2506.
- กรมศิลปากร. (2503). วารสารศิลปากร, 3(6).
- แสงจันทร์ ไตรเกษม. ว่าวไทย. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2529. 52 หน้า. หน้า 11.
- สุริยา สมุทคุปติ์ และพัฒนา กิติอาษา. ผ้าขาวม้า ย่าม ว่าว: ความเรียงว่าด้วยร่างกาย อัตลักษณ์ และพื้นที่ในวัฒนธรรมไทย. นครราชสีมา: สำนักวิชาเทคโนโลยีสังคม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี, 2543. 172 หน้า. ISBN
- อู่ทอง ประศาสน์วินิจฉัย. ซ่อนไว้ในสิม: ก-อ ในชีวิตอีสาน. กรุงเทพฯ : ฟูลสต๊อป, 2551 316 หน้า. ISBN
- อำพัน ณ พัทลุง และคณะ. ประวัติศาสตร์ตระกูล สุลต่าน สุลัยมาน. กรุงเทพฯ: สายสกุล สุลต่าน สุลัยมาน, 2530. 278 หน้า. ISBN
- เพลิง ภูผา. รัฐประหารยึดบัลลังก์กษัตริย์บนแผ่นดินอยุธยา. กรุงเทพฯ: เจ้าพระยา, 2557. 192 หน้า. ISBN
- สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี, คณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทยและคณะกรรมการจัดพิมพ์ฯ. (2523). แถลงงานประวัติศาสตร์เอกสารโบราณคดี, 14-16.
- นิธิ เอียวศรีวงศ์ และยงยุทธ ชูแว่น. (2550). คาบสมุทรไทยในราชอาณาจักรสยาม ประวัติศาสตร์ตัวตนของภาคใต้สมัยอยุธยาถึงต้นรัตนโกสินทร์. กรุงเทพฯ: นาคร. 489 หน้า. ISBN
- ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน). "มลายู: สังคมและวัฒนธรรม", ฐานข้อมูลกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทย. สืบค้นเมื่อ 10 กันยายน 2566.
- อาทิตย์ ทองอินทร์. "ประวัติศาสตร์ปตานีจากยุคก่อนประวัติศาสตร์ถึงยุครัฐจารีต", ใน รัฐศาสตร์ รวมบทความวิชาการครบรอบ 40 ปี เล่มที่ 1 สาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, (2). (ตุลาคม, 2565).
- ศุภกานต์ ทองป้อง (บก.). (2558). "ที่นี่..เมืองปัตตานี", ใน จุลสารสามิตภาค ๙, 7(1). (ตุลาคม 2557–มีนาคม 2558).
- กรมศิลปากร. (2507). "จดหมายเหตุโหร", ใน ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๘. พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ นางเปลื้อง อินทรทูต ณ เมรุวัดมกุฏกษัตริยาราม วันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๗. พระนคร: กรมศิลปากร.
- ภัคพดี อยู่คงดี. (2538). "ประวัติปัตตานี: โครงการขุดแต่งและบูรณะ. โบราณสถานเมืองยะรัง", ใน ทำเนียบผู้พิพากษาศาลสมทบศาลจังหวัดปัตตานี แผนกคดีเยาวชนและครอบครัว รุ่นที่ 1.
- ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยา. (2506). "สงครามครั้งที่ ๒๒ คราวพม่าล้อมกรุงศรีอยุธยา ตอนที่ ๑ ว่าด้วยเรื่องพงศาวดารเวลาว่างสงคราม," ใน ประชุมพงศาวดาร เล่ม ๖ (พงศาวดาร ภาคที่ ๖) เรื่องพงศาวดารไทยรบพม่า. กรุงเทพฯ: คุรุสภา. 337 หน้า.
- สุจิตต์ วงษ์เทศ. (2545). มหาราชวงษ์พงษาวดารพม่า. แปลโดย นายต่อ. กรุงเทพฯ: มติชน. 467 หน้า. ISBN
- ประทีป ชุมพล. ประวัติศาสตร์การแพทย์แผนไทย : การศึกษาจากเอกสารตำรายา. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์, 2541. 157 หน้า. ISBN
- ศิลปวัฒนธรรม, 6(7-12): 117.
- ดาวิษา สุวรรณศรัย (เรียบเรียง), กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมศิลปากร (เผยแพร่). โรคระบาดในสมัยอยุธยา. สืบค้นเมื่อ 5 กันยายน พ.ศ. 2565.
- ประชุมพงษาวดาร ฉบับหอสมุดแห่งชาติ เล่มที่ 8. พระนคร : ก้าวหน้า, 2506.
- กรมศิลปากร, คณะกรรมการอำนวยการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี. ประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก เล่มที่ 3. กรุงเทพฯ : กองวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร, 2542.
- กรมศิลปากร, คณะกรรมการอำนวยการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี. ประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก เล่มที่ 11. กรุงเทพฯ: กองวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร, 2542. ISBN
- สุวิทย์ ธีรศาศวัต. (2564, กุมภาพันธ์). "ความสัมพันธ์ระหว่างโรคระบาดกับจำนวนประชากรไทยในอดีต", ศิลปวัฒนธรรม, 42(4).
- ราชบัณฑิตยสถาน. (2549). "กบฏบุญกว้าง", ใน สารานุกรมประวัติศาสตร์ไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน (แก้ไขเพิ่มเติม) เล่ม ๑. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสถาน. ISBN
- บุญชัย ใจเย็น. สมเด็จยอดนักรบ: แม้กายเป็นหญิง...แต่รักแผ่นดินด้วยหัวใจ ความเสียสละอันยิ่งใหญ่ของแม่อยู่หัวสุริโยทัย. กรุงเทพฯ: ไพลินบุ๊คเน็ต, 2557. 208 หน้า. ISBN
- "ทำไม “กบฏบุญกว้าง” ที่เล่าลือว่ามีคุณไสย ยึดนครราชสีมาได้โดยใช้พรรคพวกแค่ 28 คน", ศิลปวัฒนธรรม, 4(11).
- สารานุกรมไทย เล่มที่ 21. พระนคร: กรมราชบัณฑิต, 2443. ไม่ปรากฏเลขหน้า.
- เติม วิภาคย์พจนกิจ. ประวัติศาสตร์อีสาน. (ฉบับพิมพ์ซ้ำ). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2542. 668 หน้า. ISBN
- พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา: ฉบับหมอบรัดเล. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ : โฆษิต, 2549. 432 หน้า. ISBN
- อภิศักดิ์ โสมอินทร์. โลกทัศน์อีสาน. กาฬสินธุ์ : โรงพิมพ์ประสานการพิมพ์, 2534. 203 หน้า.
- ดนัย ไชยโยธา. พัฒนาการของมนุษย์กับอารยธรรมในราชอาณาจักรไทย. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์, 2543. 432 หน้า. ISBN
- การสื่อสารแห่งประเทศไทย. (2533). ย้อนอดีตการสื่อสารไทย. กรุงเทพฯ: บริษัท กราฟฟิค ซัพพลายส์ จำกัด. 458 หน้า. ISBN
- พลับพลึง มูลศิลป์. (2519). ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับฝรั่งเศสสมัยอยุธยา ในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์ถึงรัชกาลสมเด็จพระเพทราชา (พ.ศ. 2231-2246). วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต (ประวัติศาสตร์). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร. 712 หน้า.
- สมาคมสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย. (2509). "ประวัติศาสตร์ไทย", ใน สารวิทยา: สังคมศาสตร์ปริทัศน์ ฉบับพิเศษ. พระนคร: ศิวพร. 203 หน้า.
- พลับพลึง มูลศิลป์. ความสัมพันธ์ไทย-ฝรั่งเศส สมัยอยุธยา. กรุงเทพฯ : บรรณกิจ, 2523. 342 หน้า.
- "ราชทูตถึงอสัญกรรม", ประชุมพงศาวดาร เล่ม ๓๓ (ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๕๙ - ๖๑): โกศาปานไปฝรั่งเศส ภาค ๓-๔ พงศาวดารเมืองเงินยางเชียงแสน. กรุงเทพฯ: องค์การค้าของคุรุสภา, 2512. 312 หน้า.
- พระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา, หน้า 523.
- เกริกฤทธี ไทคูนธนภพ. "สมเด็จพระเพทราชามอบเวนราชสมบัติให้แก่เจ้าพระพิชัยสุรินทร์", แผ่นดินต้องคำสาป จากสมเด็จพระเจ้าเสือ ถึงแผ่นดินพระเจ้าบรมโกศ. กรุงเทพฯ : สยามความรู้, 2555. 285 หน้า. ISBN
- Dhirawat na Pombejra. (2002). "Dutch and French Evidence Concerning Court Conflicts at the end of King Phetracha's Reign, C. 1699–1703", Silpakorn University International Journal, 2(1): 47–70. cited in Farrington, Anthony; and Dhiravat na Pombejra (eds.). (2007). The English factory in Siam 1612–1685. 2 Vols. London: British Library.
- ประยูร พิศนาคะ. สมเด็จพระเพทราชา. กรุงเทพฯ : สำนักงานหอสมุดกลาง 09, 2513. 479 หน้า.
- นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย, หน้า 160
- พระราชพงศาวดาร ฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพน ฉบับตัวเขียน, หน้า 276
- สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ, คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมิวเซียมสยาม. (กันยายน, 2560). เสด็จสู่แดนสรวง: ศิลปะ ประเพณี และความเชื่อในงานพระบรมศพและพระเมรุมาศ 2022-09-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. กรุงเทพฯ : ศูนย์สื่อและสิ่งพิมพ์แก้วเจ้าจอม มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา. 400 หน้า. ISBN
- ปรัชญา เลิศกิจจานุวัฒน์. การวิเคราะห์ภาพกระบวนแห่พระศพและพระเมรุฉบับ Dresden State Art Collections, การค้นคว้าอิสระปริญญามหาบัณฑิต (ประวัติศาสตร์ศิลปะ), บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2560.
- สมภพ ภิรมย์. (2539). พระเมรุมาศ พระเมรุ และเมรุสมัยกรุงรัตนโกสินทร์. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: อมรินทร์. 446 หน้า. ISBN
- เกรียงไกร เกิดศิริ. (2560). งานพระเมรุ. ศิลปสถาปัตยกรรม, ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมเกี่ยวเนื่อง. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: มติชน. 413 หน้า. ISBN อ้างใน สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา. "พระเมรุมาศ : ตารางเปรียบเทียบความสูงพระเมรุมาศ สมัยสมเด็จพระนเรศวร ถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว", ศิลปวัฒนธรรม 6(6): 64. (เมษายน 2528).
- ศานติ ภักดีคำ (ชำระ, บรรณาธิการ), คลังสารสนเทศของสถาบันนิติบัญญัติ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร (เผยแพร่). พระราชพงศาวดาร ฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพน ตรวจสอบชำระจากเอกสารตัวเขียน. มูลนิธิ "ทุนพระพุทธยอดฟ้า" ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดพิมพ์โดยเสรด็จพระราชกุศลในการพระราชทานเพลิงศพ พระธรรมปัญญาบดี (ถาวร ติสฺสานุกโร ป.ธ.๔) ณ เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส วันอาทิตย์ที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๘. กรุงเทพฯ : อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง, 2558. 558 หน้า. ISBN
- ประชุมพงศาวดาร ฉบับหอสมุดแห่งชาติ เล่ม ๕ (ภาคที่ ๑๒-๑๙). พระนคร : ก้าวหน้าหน้า, 2507. หน้า 129.
- ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จ ฯ กรมพระยา. ตำนานกฎหมายเมืองไทย และประมวลคำอธิบายทางนิติศาสตร์. พระนคร : ไทยเขษม, 2493. หน้า 11. พิมพ์ในงานพระราชทานเพลิงศพหลวงอินทอาญา (พงษ์ ณ นคร) วันพฤหัสบดี ที่ ๑๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๓.
- พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม), หน้า 335-336
- พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม), หน้า 339-341
- ห้องสมุดวชิรญาณ (เผยแพร่). คำให้การขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรม เอกสารจากหอหลวง. กรุงเทพฯ : สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร, 2554.
- คมขำ ดีวงษา. บทบาทของตลาดในเมืองพระนครศรีอยุธยาต่อการค้าภายในและภายนอก พ.ศ. 2173 - 2310. (วิทยานิพนธ์อักษรศาสตร์มหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2531.
- ประชุมพงศาวดาร ฉบับหอสมุดแห่งชาติ เล่ม 9. กรุงเทพฯ : ก้าวหน้า, 2508. 538 หน้า. หน้า 195-196
- วิจิตรมาตรา, ขุน (สง่า กาญจนาคพันธ์). ประวัติการค้าไทย. (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ : รวมสาส์น, 2526. 404 หน้า. หน้า 289-296.
- กรมศิลปากร. บันทึกเรื่องสัมพันธไมตรีระหว่างไทยกับนานาประเทศในศตวรรษที่ 17 เล่ม 5. กรุงเทพฯ : คุรุสภาลาดพร้าว, 2520. 181 หน้า. หน้า 74.
- "จดหมายเหตุ คณะบาทหลวงฝรั่งเศส", ประชุมพงศาวดาร เล่ม ๒๐ (ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๓๓ และ ๓๔). กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2520. หน้า 279.
- กรมศิลปากร. บันทึกเรื่องสัมพันธไมตรีระหว่างไทยกับนานาประเทศในศตวรรษที่ 17 เล่ม 5. กรุงเทพฯ : คุรุสภาลาดพร้าว, 2520. 181 หน้า. หน้า 66-68.
- กรมศิลปากร. บันทึกเรื่องสัมพันธไมตรีระหว่างไทยกับนานาประเทศในศตวรรษที่ 17 เล่ม 5. กรุงเทพฯ : คุรุสภาลาดพร้าว, 2520. 181 หน้า. หน้า 80-101.
- ภารดี มหาขันธ์. พื้นฐานอารยธรรมไทย. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์, 2544. 273 หน้า. หน้า 60.
- รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล. พระศรีสรรเพชญ์. กรุงเทพฯ : มติชน, 2560. 184 หน้า. หน้า 166.
- น.ณ ปากน้ำ (ประยูร อุลุชาฏะ). ศิลปกรรมโบราณในสยามประเทศ. กรุงเทพฯ : บรรณกิจ, 2524. 316 หน้า. หน้า 171.
- สันติ เล็กสุขุม. เจดีย์เพิ่มมุม เจดีย์ย่อมุม สมัยอยุธยา. กรุงเทพฯ : คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2529. 182 หน้า. หน้า 78.
- น.ณ ปากน้ำ (ประยูร อุลุชาฏะ). ห้าเดือนกลางซากอิฐปูนที่อยุธยา. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ : เมืองโบราณ, 2540. 335 หน้า. หน้า 301.
- ชาตรี ประกิตนนทการ. การเมืองในสถาปัตยกรรม สมัยรัชกาลที่ ๑. กรุงเทพฯ : มติชน, 2558. 176 หน้า. หน้า 41.
- จำรัส จึงธีรพานิช (บก.). (2547). นิตยสาร Advanced Thailand Geographic, 10(77-78): 281.
- ศรีศักร วัลลิโภดม. กรุงศรีอยุธยาของเรา. กรุงเทพฯ : มังกรการพิมพ์และโฆษณา, 2527. 127 หน้า. หน้า 118.
- สันติ เล็กสุขุม. ลวดลายปูนปั้นแบบอยุธยาตอนปลาย (พ.ศ. 2172-2310). กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้งกรุ๊พ, 2532. 222 หน้า. หน้า 19-20.
- คำให้การชาวกรุงเก่า: แปลจากฉบับหลวงเมืองพม่า. พระยาเจริญราชธน (มิ้น เลาหเสรษฐี) พิมพ์แจกในงานศพอิ่ม จ.จ. ผู้มารดา พ.ศ. ๒๔๕๗. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ไทย.
- ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (เผยแพร่). พระราชวังหลวง หรือพระราชวังโบราณ. สืบค้นเมื่อ 2 กันยายน 2565.
- สงวน อั้นคง. พระที่นั่ง ประตูและป้อมฯ ใน พระราชอาณาจักรไทย. พระนคร : เกษมบรรณกิจ, 2515. 350 หน้า. หน้า 181.
- พระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา, หน้า 150
- คำให้การขุนหลวงหาวัด: (ฉบับหลวง) และประชุมพงศาวดาร ภาค ๘๑ : จดหมายเหตุเรื่องการจลาจลเมื่อปลายแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช. 2544 287 หน้า. หน้า 151.
- ราชบัณฑิตยสถาน. สารานุกรมไทยฉบับราชบัณฑิตยสถาน: มอ-แม่แรง. เล่ม 23. กรุงเทพฯ : ไทยมิตรการพิมพ์, 2535. 661 หน้า.
- กรมศิลปากร, คณะกรรมการอำนวยการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี. ประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก (เล่ม 2). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, 2542. 434 หน้า. หน้า 255.
- สุภัทรดิศ ดิศกุล, หม่อมเจ้า, และคณะ. โบราณสถานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เล่มที่ 1. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2551. หน้า 233.
- กรมศิลปากร, คณะกรรมการอำนวยการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี. ประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก (เล่ม 5). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, 2542. 433 หน้า. หน้า 99.
- ธีรพงศ์ เรื่องขำ. (2564, 11 กันยายน). "รำลึก ๓๓๕ ปี การสำรวจดาวหางยักษ์ C/1868 R1 ที่เกาะเสม็ด", ศิลปวัฒนธรรม, 42(11): 131.
- สำนักงานราชบัณฑิตยสภา. (2559, มกราคม-มีนาคม). วารสารราชบัณฑิตยสภา, 41(1): 94.
- กรมศิลปากร. ประทีปวิทรรศน์ : รวมเรื่องโบราณคดีอยุธยา. กรุงเทพฯ : อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง, 2564. 259 หน้า. หน้า 50.
- มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์. (2546). วารสารเมืองโบราณ, 29(1-4): 35.
- กรมศิลปากร, คณะกรรมการจัดนิทรรศการเรื่องศิลปกรรมสมัยอยุธยา. ศิลปกรรมสมัยอยุธยา. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2514. 66 หน้า. หน้า 25.
- ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน). ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย: พระพุทธโฆษาจารย์. สืบค้นเมื่อ 5 กันยายน 2565.
- จุมพล เพิ่มแสงสุวรรณ. (2545). "พระอุโบสถและพระวิหารที่ได้รับอิทธิพลตะวันตกสมัยอยุธยาตอนปลาย (พ.ศ. ๒๑๙๙ - ๒๓๑๐)", วารสารหน้าจั่ว ว่าด้วยประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมและสถาปัตยกรรมไทย. หน้า 89-90.
- กรมศิลปากร. ช้างต้น: สัตว์มงคลแห่งพระจักรพรรดิ. กรุงเทพฯ : คาร์ลสเบอร์ก บริวเวอรี่ (ประเทศไทย), 2539. 778 หน้า. หน้า 332.
- "แผ่นดินสมเด็จพระมหาบุรุษ (พระเพทราชา)", พระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์. พระนคร : อักษรนิติ, 2465. หน้า 581.
- สมพงษ์ เกรียงไกรเพช. ห้องสมุด. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ : ผ่านฟ้าวิทยา, 2508. 804 หน้า. หน้า 220.
- สำนักนายกรัฐมนตรี, คณะกรรมการจัดพิมพ์เอกสารทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและโบราณคดี. ประชุมพระตำราบรมราชูทิศเพื่อกัลปนาสมัยอยุธยา ภาค ๑. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์สำนักทำเนียบนายกรัฐมนตรี, 2510. 84 หน้า.
- พงษ์พรรณ บุญเลิศ. ‘เอกสารโบราณ’ บันทึกสรรพวิชา อนุรักษ์สืบทอด ‘คัมภีร์ใบลาน’. เดลินิวส์ ออนไลน์. (31 สิงหาคม 2565). สืบค้นเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2565.
- กรมศิลปากร, กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์. ข่าวประชาสัมพันธ์ โครงการอนุรักษ์เอกสารโบราณวัดไก่เตี้ย กรุงเทพมหานคร. (25 สิงหาคม 2565). สืบค้นเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2565.
- หอพระสมุดวชิรญาณ. อัฏฐธรรมปัณหาของสมเด็จพระเพทราชา. พระนคร : ม.ป.พ., 2455. 36 หน้า. พิมพ์แจกในงานพระเมรุ พระวรวงษ์เธอ พระองค์เจ้าจันทรสุเทพ ร.ศ. ๑๓๑.
- พระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา, หน้า 409.
- บุญยงค์ เกศเทศ. ประวัติศาสตร์วรรณกรรม. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์, 2525. 455 หน้า. หน้า 77.
- โกวิท สุรัสวดี, และคณะ. การเมืองการปกครองไทย: ตามรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ วี.เจ. พริ้นติ้ง, 2544. 519 หน้า. หน้า 32.
- ดนัย ไชยโยธา. 53 พระมหากษัตริย์ไทย : ธ ทรงครองใจไทยทั้งชาติ. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์, 2543. 562 หน้า. หน้า 181.
- สมชาย พุ่มสอาด, สมพงษ์ เกรียงไกรเพชร และกมล วิชิตสรศาสตร์. 400 ปีสมเด็จพระนเรศวร. กรุงเทพฯ : ร่วมสถาปนา, 2527. 775 หน้า. หน้า 164.
- แลงกาต์, โรแบรต์ และคณะ. (2526). ประวัติศาสตร์กฏหมายไทย เล่ม 1. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช. 159 หน้า. ISBN
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-03-05. สืบค้นเมื่อ 2012-03-21.
- สุริยวุฒิ สุขสวัสดิ์, หม่อมราชวงศ์, และมานพ บุญยะวรรธนะ. (2535). พระพุทธปฏิมาในพระบรมมหาราชวัง. กรุงเทพฯ: สำนักราชเลขาธิการ. 591 หน้า. ISBN
- พิริยะ ไกรฤกษ์. (2551). ลักษณะไทย: พระพุทธปฏิมาอัตลักษณ์พุทธศิลป์ไทย. กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง. 602 หน้า. ISBN
- บุญเยี่ยม แย้มเมือง. เที่ยววังเวียงละโว้. กรุงเทพฯ : เม็ดทราย, 2531. 63 หน้า. หน้า 18.
- วิษณุ เครืองาม. ข้ามสมุทร. (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ : มติชน, 2561. 928 หน้า.
- วิจิตรวาทการ (กิมเหลียง), พลตรี หลวง. เพ็ชรพระนารายณ์. กรุงเทพฯ : เสริมวิทย์บรรณาคาร, 2513. 536 หน้า. หน้า 470-474.
- Dirk van der Cruysse. Louis XIV et le Siam: Le grand livre du mois. Paris : Fayard, 1991. 586 pp.
- มอร์กาน สปอร์แตช (แต่ง), กรรณิกา จรรย์แสง (แปล). รุกสยาม ในนามของพระเจ้า. กรุงเทพฯ : มติชน, 2561.
- วิลเลียม ดัลตัน (แต่ง), เสฐียรโกเศศ (แปล). ฟอลคอน Phaulkon. (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ : ศยาม, 2561. 408 หน้า.
- แคลร์ คีฟ-ฟอกซ์ (แต่ง), กล้วยไม้ แก้วสนธิ (แปล). ฟอลคอนแห่งอยุธยา นวนิยายชีวิตเจ้าพระยาวิไชเยนทร์. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ : นานมีบุ๊คส์, 2558. 559 หน้า.
- นราธิปประพันธ์พงศ์, พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระ. (2454). บทลครร้องเรื่อง ขบถธรรมเถียรในพระราชพงษาวดารไทยแผ่นดินพระธาดาธิเบศร์ ปีชวด จุลศักราช ๑๐๔๖ (ประเสริษฐ์อักษรรจนา) (สำหรับลครหลวงนฤมิตร์) ร.ศ. ๑๒๙. พระนคร: ศุภการจำรูญ. 18 หน้า.
- มนชิดา หนูแก้ว. กลวิธีในการนำเสนอเนื้อหาและการใช้ภาษาในนวนิยายของ รอมแพง 2022-09-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต สาขาวิชาภาษาไทย). สงขลา : มหาวิทยาลัยทักษิณ, 2562.
- เสมียนอัคนี. (2565, 22 พฤษภาคม). พระเพทราชา กับตำนาน “ชายนอนหลับ” ชื่อ “สิงห์” และ “เสลี่ยง” วัดกุฎีทอง สุพรรณบุรี. ศิลปวัฒนธรรม. สืบค้นเมื่อ 5 กันยายน 2565.
- บรรณานุกรม
- พระราชพงศาวดาร ฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพน ตรวจสอบชำระจากเอกสารตัวเขียน. กรุงเทพฯ : อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง, 2558. 558 หน้า. ISBN [จัดพิมพ์โดยเสด็จพระราชกุศลในการพระราชทานเพลิงศพพระธรรมปัญญาบดี (ถาวร ติสฺสานุกโร ป.ธ.๔)]
- มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา. นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย. กรุงเทพฯ : มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา, 2554. 264 หน้า. ISBN
- พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) และเอกสารอื่น. นนทบุรี : ศรีปัญญา, 2553. 800 หน้า. ISBN
แหล่งข้อมูลอื่น
- หอจดหมายเหตุแห่งชาติอินโดนีเซีย (ANRI) และมูลนิธิควตส์ (The Corts Foundation) เนเธอร์แลนด์, (เผยแพร่). (2018, ตุลาคม). สาส์นทางการทูตระหว่างราชอาณาจักรสยามกับกรุงปัตตาเวียในช่วงคริสต์ศตวรรษที่17-18.
ก่อนหน้า | สมเด็จพระเพทราชา | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช (ราชวงศ์ปราสาททอง) (พ.ศ. 2199 - 2231) | พระเจ้ากรุงศรีอยุธยา (ราชวงศ์บ้านพลูหลวง) (พ.ศ. 2231 - 2246) | สมเด็จพระเจ้าสุริเยนทราธิบดี (ราชวงศ์บ้านพลูหลวง) (พ.ศ. 2246 - 2251) |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
smedcphraephthracha hrux smedcphramhaburus hrux phrathrngthrrm hrux smedcphrathadathiebsr 17 ph s 2175 5 kumphaphnth ph s 2246 michuxedimwa thxngkha epnphramhakstriyrchkalthi 28 206 aehngxanackrxyuthyaaelaepnpthmkstriyaehngrachwngsbanphluhlwng aeyngchingrachbllngkcaksmedcphranaraynmharach kstriyphraxngkhkxn aelaepnrachwngssudthaythipkkhrxngxanackrxyuthya 252 smedcphraephthrachasmedcphramhaburusphrabrmsathislksnfimux Gaspar Bouttats emux kh s 1690phraecakrungsrixyuthyakhrxngrachy11 krkdakhm ph s 2231 6 kumphaphnth ph s 2246 14 pi 210 wn rachaphieskph s 2331 ph s 2336kxnhnasmedcphranaraynmharach rachwngsprasaththxng thdipsmedcphraecasurieynthrathibdiphramhaxuprachsmedcphrasrskdikrmphrarachwnghlngnaycbkhchprasiththismuhnaykduraychux 8 ecaphrayachanayphkdi smbuy phrarachsmphphph s 2175 banphluhlwng aekhwngemuxngsuphrrnburi xanackrxyuthyaswrrkht5 kumphaphnth ph s 2246 71 phrrsa krungsrixyuthya xanackrxyuthyaphramehsikrmphraethphamaty kn krmhlwngoythaethph krmhlwngoythathiph nangkusawdiphrarachbutraemxyuhwnangphraya nim smedcphraecasurieynthrathibdi trsnxy ecaphrakhwy phraxngkhecahyingchim phraxngkhecahyingcin phraxngkhecada phraxngkhecachayaekw phraxngkhecachaybunnakhrachwngsbanphluhlwngphrarachbidaimpraktphrarachmardathawsriscca phranmeprm phrarachprawtiphrarachsmphph smedcphraephthracha edimsamychnchux thxngkha epnchawbanphluhlwng hruxbanophthihlwng aekhwngemuxngsuphrrnburi pccubnkhuxbanphluhlwng tngxyuin t snamchy x emuxng cnghwdsuphrrnburi esdcphrarachsmphphemux ph s 2175 205 35 132 inrchkalsmedcphraecaprasaththxng epnbutrkhxngphranmeprm aelamiphrakhnisthakhuxthawsriculalksn aecm phrasnmexkinsmedcphranaraynmharach txmaidrbrachkarcnmibrrdaskdiepnphraephthracha darngtaaehnngcangwang krmphrakhchbal khwa mirachthinnamwa phraephthrachathibdi srisuriyaphichatisuriywngs xngkhsmuhphrakhchbal skdina 5 000 mikalngphlinsngkdhlayphn echn khrawehtukarnkhbilkxngthharfrngessxxkcaksyam smedcphraephthrachasamartheknthkxngthphpidlxmfrngessidmakthung 60 000 khn aelayngmitaaehnngrksakaresnabdismuhphraklaohm subtxcak ecaphrayaoksathibdi ehlk emuxpi ph s 2226 praktin phrasmudtarachang khwamwa smedcphraraynepnecasngphraephthracha phuwathiklaohm ihcdaecngphucanungphaekiywphaphukhichang tambndaskdi ihsuksaraeriynihthukinkdhmayni mibukhkhlrwmsmyinrchkalsmedcphranaraynmharach klawthungchatikaenidkhxngsmedcphraephthracha hlkthanrwmsmythisakhy echn cdhmayehtulaluaebr rachthutchawfrngessthiekhamaecriysmphnthimtrikbkrungsrixyuthyaplayrchkalsmedcphranarayn emux ph s 2230 klawthung smedcphraephthracha sungeriykephiynmacak xxkphraphiphithracha Oc Pra Pipitcharatcha klawwa trakulkhxngthanidrbrachkarsubknmachananintaaehnngxnsungsng aelamikhwamsmphnthkbrachbllngkxyuenuxng aelamiphukhnidocskhanknxyangepidephywa twthanexnghruxxxkhlwngsurskdi Oc Louang Sourasac butrkhxngthanxacxangsiththiinrachbllngkidxyu hakwakhnidkhnhnungyngmichiwitxyu emuxphramhakstriysungphanphiphph xyuinpccubnniesdcswrrkhtaelw mardakhxngxxkphraphiphithrachannepnphranmkhxngphramhakstriyrchkalpccubn 397 398 258 nayphl edsfarc 239 klawthung smedcphraephthracha wa inbrrdaphuthimixanackhnxun inrachsanknn mixikbukhkhlhnungthimilksnaphiessthisngektidngay aelathikhaphecaexngidphbnbaetemuxaerkthikhaphecaedinthangmathungwa mikhwamnaekrngkhamsngangamtangcakphuxun chuxkhxngthankhux xxkphraephthracha trakulkhxngthanphunisamarthsubidklbipiklmakaelamichuxesiyng phraephthrachaepnphraechstharwmkbaemnmkbphraecaaephndinaelamixayurunrawkhrawediywkn bangkhnthungkbbxkwathanmiechuxsaykhwamepneca odythiphxkhxngthanekhykhrxngaephndinrachbllngkmaaelwnnthiediyw 8 9 aela prawtisastrkrungsrixyuthya chbbturaepng aetngody frngsws xngri turaepng sungmacakkarbnthukkhxngbathhlwngpiaeyr briok thiekhyphankinsyamchwngplaysmykrungsrixyuthya klawthungsmedcphraephthracha khwamwa ikhrbangkhnklawwa phraephthrachamichatikaenidmacaktrakulthasthiepnfiphayineruxmakkwacaktrakulthicasubthxdrachbllngk aetcakkhxmulthiechuxthuxid khaphecasamarthyunynidwa phraxngkhthrngmiechuxsaykstriyaelaepnphraphadakhxngphraecaaephndinphuthrngkhrxngrachyxyuinkhnani 76 banophthihlwng b ophthihlwng txmaeriykwa banphluhlwng tngxyuthisehnuxkhxngemuxngsuphrrnburi inaephnthiemuxngsuphrrnburicdthakhuninsmyrchkalthi 5 ph s 2438 2440 swnnkprawtisastrithyidsnnisthanchatikaenidkhxngsmedcphraephthrachaaetktangcakphngsawdarithythicharatngaetrchkalthi 1 smykrungrtnoksinthrthiklawwa smedcphraephthrachaepnchawbanphluhlwngaekhwngemuxngsuphrrnburisungimsxdkhlxngkbhlkthanrwmsmy odysnnisthantrngknwa smedcphraephthrachanacasubechuxsaycaktrakulkhunnangeka michatitrakulsung xacepnechuxphrawngsinsmedcphranaraynmharach 68 149 hruxkhngmiechuxsayedimkhxngrachwngssuphrrnphumi hruxekiywkhxngkbsayecaemuxngsuphrrnburi 2 5 echn nithi exiywsriwngs klawwa smedcphraephthrachannmithanainrachkarthikhxnkhangprahlad klawkhuxinaengkhxngrabbrachkar smedcphraephthrachaepnkhunnanginfaypkkhrxngintaaehnngsmuhphrakhchbal cangwangkhwa krmphrakhchbalkhwa sungthuxepntaaehnngxnsungsud aelamixanackhxnkhangmak sahrbbukhkhlsungmitaaehnngephiyngaekh xxkphra thaihekhaicwasmedcphraephthrachanacaepnkhahlwngediminrachsankaelathisakhysmedcphranaraynmharachthrngiwwangphrathyintwsmedcphraephthrachaxyangmakdwy ephraahlkthancakphrarachphngsawdarkrungsrixyuthyaklawiwwasmedcphranaraynmharachthrngrbphrarachthidaecaemuxngechiyngihmepnphrasnm emuxnangtngkhrrphsmedcphranaraynmharachcungthrngphrarachthanihkbsmedcphraephthracha 72 73 khcr sukhphanich idwiekhraahnganekhiynkhxngekhmphefxr eruxng xyuthya intnaephndinsmedcphraephthracha aelacdhmayehtukhxngfrng phbwaekhmphefxraelahlkthancdhmayehtuihkhxmulsakhy thinaechuxthuxkwaphrarachphngsawdarithy khcr sukhphanich cungidesnxiwin exksarthangwichakarkhxngsmakhmsngkhmsastraehngpraethsithy eruxng khxmulprawtisastrsmyxyuthya emux ph s 2509 2520 waphraephthrachaimichkhunnangthrrmda aetepnecarachnikulinrachwngsprasaththxng khwamwa phuekhiynesnxwaphraephthrachaepnoxrskhxngphraphinangkhxngphranarayn phrakhnistha aelaphrathidakhxngphraephthrachakepnbathbricarikakhxngphranarayn dngnnphraephthrachacungepnecarachnikulinrachwngs imichkhunnangthrrmda 150 karprabdaphieskkhunkhrxngrachy inpi ph s 2231 emuxsmedcphranaraynmharachprathb n phrathinngsuththaswrrkh thrngphraprachwriklswrrkht thrngehnwaphraephthrachaepnphuihy cungmxbhmayihwarachkaraethn rahwangnnphraephthrachalwngphraxnuchathngsxngphraxngkhkhxngsmedcphranarayn khuxecafanxyaelaecafaxphythswamirbsngihekhaefa emuxthngsxngphraxngkhesdcthungemuxnglphburikthukhlwngsrskdicbipsaercothsthiwdthrak swnphrapiyphrarachoxrsbuythrrmthukkhunphiphithrksa phlktkcakchalaphrathinngsuththaswrrkhaelwkumtwipsaercoths smedcphranaraynmharachthrngidyinesiyngphrapiy aelwesdcnngkhunidcungtrswa ikhrthaimaekxayetiyela aelwesdcswrrkhtinwnnn praktin phrarachphngsawdar chbbphrarachhtthelkha wa inkhnannphrabathsmedcphraecaxyuhwtrsidthrngfngeruxngphrapiyrxngkhunmadngnnktkphrathy khwamxalyinphrapiydarswaikhrxairkbxayetiyela aelasmedcphraecaxyuhwkswrrkhtinephlawnnn epnwnphvhs eduxn 5 aerm 3 kha skrach 1044 picx ctwask tukphraecaeha ekhtphrarachthanchnnxk phayinphrarachwngphranaraynrachniewsn sthanthithiphraephthrachakbhlwngsrskdiichepnthiprachumkhunnang xxkwarachkar aelawangaephnkrathakarrthpraharyudxanacsmedcphranarayn hlkthantangchatirwmsmyimpraktinphngsawdarithyxangwamichawfrngessraynganwaphraephthrachasaercothskrmhlwngoythaethphthirimna 103 raynganlaexiydaelathuktxng ekiywkb karptwtixnyingihy aelamhscrrysungekidkhunemuxerw ni inphrarachxanackrsyam klawwa kidsngihcbphraecalukethx phrarachkumariphuthrngphraeyaw brrculngthungkamahyiibihy ihthubphraesiyresiydwythxnimihyxnmiklinhxmaelaepnthinbthuxkwabrrdaimthngpwnginhmuekaaxinediytawnxxk eriykwa imcnthn aelwihoynphrasphlngipinaemna 7 khathullaxxngthuliphrabathkekhamaxyusalalukkhuninphrarachwngknthngpwng aetmibangswnthiimidxyu n xyusalalukkhun echn phrayahuesnkhanhniipethiywxyupa swnphrayawiicheynthr khxnsaetntin fxlkhxn xyuthitukban phraephthrachacungmxbhmayihecaphrayasursngkhramxxkiptamhaphrayawiicheynthr khxnsaetntin fxlkhxn odyhmaycatngkhunepnwnghna krmphrarachwngbwrsthanmngkhl ecaphrayasursngkhramcungichthnayxxkiptamhaphrayawiicheynthr khxnsaetntin fxlkhxn emuxthnayipphbphrayawiicheynthr khxnsaetntin fxlkhxn cungklawkhwamaekthnaywa thanekhiyndwymuxaelwcamalbdwyethaelakhrnmiekhaipkcaokrth emuxphrayawiicheynthr khxnsaetntin fxlkhxn mathungsalalukkhuncungthukcbkumtwippraharchiwit emuxcdkarbanemuxngsngbaelwcungechiyphrabrmsphsmedcphranaraynmapradisthanthiphrathinngsuriyasnxmrinthr aelwrbrachaphiesk n phrathinngsrrephchyprasath phrarachphithiprabdaphiesk emuxprabdaphiesknnsmedcphraephthrachamiphrachnmphrrsaid 51 phrrsa thrngphranamwa smedcphramhaburus wisuththiedchxudm brmckrphrrdisr brmnathbphitr smedcphraphuththecaxyuhw emuxphrachnmphrrsakhrbrxb 56 phrrsa 385 smedcphraephthrachathrngkrathaphrarachphithirachaphieskkhrngthi 2 69 karphrarachphithibrmrachaphieskkhrngniepniptamobranrachpraephniehmuxnphrarachphithirachaphieskkhrngsmedcphraecaprasaththxng emuxwnphvhsbdi eduxnsibkhunecdkhapicxctwask ewlaechasinalikasibath 385 epnvksmhamngkhl ehlakhunnang aelakhathullaxxngthngphuihyphunxyrwmprachumknthiphrathinngsrrephchyprasath n krungethphphramhankhrsrixyuthya 385 aelaxnechiysmedcphraephthrachaesdckhuneswyrachsmbti echlimphranamwa smedcphramhaburus wisuththiedchxudm brmckrphrrdiecaphiphphkrungethphphramhankhr bwrthwarawdisrixyuthyamhadilkphphnphrtnrachthaniburirmy xudmphrarachniewsnmhasthan 498 69 385 karphrarachphithirachaphieskkhrngnnmikarpradbtkaetngphrankhr 385 aemnalakhlxngtang mirachwtrchtrthng chtrebycrngkh chtrengin chtrthxng thngpradak thngphunpha pradbepnraya tamaebbxyangobranrachpraephni epntn aelacdnganruneringmhrsphsmophchphrankhrepnewla 3 wn 385 emuxsmedcphraephthrachathrngekhruxngsirirachwiphusnaphrnesrcaelwthrngphrarachyansungpradbipdwyekhruxngsungiswxyangtrakarta aelamiekhruxngduriyangkhdntripraokhmphrarachphithi thngpun klxng aetrsngkh khbwnaehphyuhayatrakhxngphraxngkhraylxmdwyphsknikrxyangkhbkhng emuxphrarachphithikhbwnaehrxbphrankhresrcsinaelw smedcphraephthrachaesdcprathbeliybphrankhraelwcungesdcklbipyngphrarachwng 385 swnphrayatiaelakhahlwngedim n banphluhlwng aekhwngemuxngsuphrrnburi thrabwasmedcphraephthrachakhunkhrxngrachyykeswtchtrprabdaphieskaelw tangchunchmosmnsyindi aelaidcdaecngxahar aelasingkhxngtang tamprasachnbth ekhamayngphrarachwngthuleklathwayphraxngkh 386 aelakarephdthulkhxngphrayatikepnxyangknexngthikhunekhymaaetkxn ehlakhathulinphrarachwngidfngcunghamtketuxnwaepnkarmismkhwr smedcphraephthrachathrngidfngechnnncungswnphrarachdarswa eramiidthuxxyahammnely 386 aelwcungihphrayatixyuinphrarachwngiklphrarachniewssthanaelacdeliyngxaharsuratang phrxmyngphaethiywchmphrarachwng 387 wnrungkhunsmedcphraephthrachaphrarachthanenginthxng ekhruxngnunghm aelasingkhxngaekphrayatithngyngfakihaekphuthiimidmaekhaefainkhrngni brrdaphrayatikhxngphraxngkhidrbphrarachthansingkhxngthnghlayaelwcungthwayphraphraelathwaybngkhmla 387 aelwthrngtngkhunhyingkn phramehsiedim epnphraxkhrmehsifaykhwa tngkrmhlwngoythaethph ecafathxng phrarachthidainsmedcphranaraynepnphramehsifaysay tngnangnimepnphrasnmexk tngsmedcphrasrskdi 365 hruxhlwngsrskdi 252 smedcphraecalukethxepnkrmphrarachwngbwrsthanmngkhl tnghmxmaekwbutrthawsriculalksn aecm phrakhnisthakhxngphraxngkhepnkrmkhunesnabrirks aelatngecarachnikul echn naykrinthkhchprasiththi thrngbassaykrmphrakhchbal sungepnphrarachnddakhunepn ecaphraphiichysurinthr phayhlngsthapnakhunepnecatangkrmepnkrmhmunxinthrphkdi inrchkalsmedcphrathinngthaysra aelakhunthiphphlphkdi echuxphrawngs khunepn ecaphraxinthrxphy phrxmphrarachthanekhruxngystamtaaehnngthanaskdi epntn emuxphraxngkhkhunkhrxngrachyaelw kidkhbilkalngthharfrngessxxkipcakkrungsrixyuthya aetyngthrngxnuyatihbathhlwng aelaphxkhachawfrngessxasyxyuinkrungsrixyuthyatxipid idmikarthasnthisyyakbfrngess eruxngkarkhnyaythhar aelathrphysinkhxngfrngessxxkcakpxmthibangkxk odyfayxanackrxyuthyaepnphucderux kbtxngsngkhunthrphysin thiepnkhxngkrungsrixyuthyakhunthnghmd sahrbkharachkaraelarasdrithy thiyngxyuinpraethsfrngess thangfrngesscaepnphuxxkkhaichcayinkaredinthangklbkrungsrixyuthya phlkarptibtidngklawthaihkhwamsmphnthrahwangkrungsrixyuthyakbfrngess sinsudlngtngaetnnmaphranamsmedcphraephthrachamiphranameriykkhanxun echn smedcphraecathadathiebsr 8 phraecapaksra hrux khunhlwngpaksra 47 macaksmedcphraephthrachathrngoprdthxdphraentrplainna hruxthrngoprykhawtxkihplatrngrimpaksraraylxmphrathinngbrryngkrtnasn khunhlwngsraaekw 8 khunhlwngprathakhucam 8 macakmulehtuthinbanedimkhxngsmedcphraephthracha khux emuxngsuphrrnburi sungmichuxedimwa prathakhucam hrux plathakhucam hrux pthakhucam thiphraecaxuthxngthrngtngkxnsrangphrankhrthwarwdi 153 xyufngfakitkhxngkrungsrixyuthya 173 khunhlwngephthracha 12 phraephththrachathirachphraxupnisyedx la luaebr phuaethnphiesskhxngkhnarachthutfrngessmayngxanackrxyuthyaemuxpi ph s 2230 playrchkalsmedcphranaraynmharach idekhiynbnthuklksnaxxkphraephthrachaiwwa Oc Pra Pipitcharatcha who though he has only the Title of Oc Pra is yet a very great Lord The people love him becauſe he appears modetate and think him invulnerable becauſe he expreſſed a great deal of Courage in ſome Fight againſt the Pegains his Courage has likewiſe procur d him the Favour of the King his Maſter His Family has continued a long time in the higheſt Offices is ſtequently allied to the Crown and is it publickly repotted that he or his Son Oc Louang Souracac may pretend to it if either of them ſurvive the King that now Reigns 89 Simon de La Loubere 1642 1729 Du Royaume de Siam 1687 phraecabrmwngsethx krmphranrathippraphnthphngs thrngphraniphnthaeplcaktnchbbphasaxngkvs khwamwa xxkphraphiphithracha phumatrwathrngysepnaetephiyngxxkphra kyngmiskdimixanacyingihy rasdrkrkikhrniymnbthuxmak ephraathanepnkhnicdisngbesngiym aelaphaknkhidwathanepnkhnmiwichakhwamru aelaechliywchladhlkaehlmnanbthux ephraathanekhaicphuknaiciphrphlaelaklahay ehnfimuxkhrawxxksukramy khwamaeklwklasamarthinkarsukni thaihphraphuththecaxyuhwthrngphraemttakrunaiwwangphrarachhvthymak wngstrakulkhxngxxkphraephthrachaidrbrachkaraephndinintaaehnngsungsubtxknmachananhlaychwmithangekiywkhxnginrachsmbtihlayaengcnkhnocsknaesaethbimepnkarpidbngwa twthanhruxbutrkhxngthanxxkhlwngsrskdinn xaccakhidexarachsmbtiid thakhnidkhnhnungyngmichiwitxyu 73 krmphranrathippraphnthphngs thrngphraniphnthaepl cdhmayehtulaluaebr elmthi 2 2505 inprachumphngsawdar txn oksapanipfrngess klawsxdkhlxngtamcdhmayehtu la lu aebr wa xxkphraephthrachaepnkhunnangphuihy rasdrchxbphxmak ephraaickhxeyuxkeyn aelaluxknwaepnkhnkhngkaphnchatriyingimxxk fnimekhathungphraraynexngkthrngoprdmak ephraaekhyipsngkhrammichychnaaekphraecatxngxuma tamesiyngtladthiocsknthukwnnimkniymthuxknwa thaphranaraynsinphrachnmlngemuxid xxkphraephthrachakblukchaychuxxxkhlwngsrskdimihwngthicasubrachsmbtiyingkwaikhr mardakhxngxxkphraephthrachannekhyepnnangnmkhxnginhlwngediywniehmuxnkbmardakhxngecakhunxkhrrachthutsungekhythwaynmaekphraxngkhehmuxnkn 186 prachumphngsawdar elmthi 33 prachumphngsawdar phakhthi 59 61 2512 bnthukkhwamthrngcakhxngxxkphraskdisngkhram eruxoth echxwaliexr edx fxrbng 25 434 naythhareruxchawfrngessthiekhamachwyrachkarsmysmedcphranaraynmharach klawthungxxkphraephthracha khwamwa khaphecaruckthanphunidithungaemwathanmixayuklangkhnaelw kyngmikalngaekhngaerngwxngiwehmuxnemuxynghnumxyu mistipyyarxbkhxbaelapraphvtitnthukkalethsa thanidphraphiksusngkhepnphrrkhphwkaelwkekliyklxmkhunnangxunodyeyinyxkhwammkihyifsungkhxngekha syyawacaihmihnathiinkarpkkhrxngbanemuxngdwy thanimidekliyklxmechphaaaetkhunnangethann yngidexaicrasdrdwy rasdrthichxbkhxngihm aeplk khwngicwa emuxidxyuitaexkphuxunaelw karpkkhrxngkhngcaimekhmngwdnk 180 187 Claude de Forbin Gardanne Memoires du comte de Forbin 1656 1733 chbbthrngniphnthaeplody m c darsdarngkh ethwkul 2509 bnthukkhxngbathhlwngpiaeyr briok klawwa phraephthrachathungaemcaruprangelk aetkmiciticsung rupranghnataepnthinasnic aemwacamixayuthung 56 piaelwktam ekhaepnthiruckrkikhrkhxngphuthixyuitbngkhbbycha aetkbstruekhaiwthaesmx ekhaidrbkareliyngduehmuxnkbphraecaaephndin khwamsukhkhxngphraecaaephndinidrbaerngdliccakprachachnthiphasuk khwamsuxstycngrkphkdikhxngekhaaefngiwdwyelhehliymthiechliywchlad odyelhehliymniekhaxacaesdngkhwamimphxicphraecaaephndininkhwamphidkhxngphraxngkhhruxkhxngphwkesnabdikhxngphraxngkhphusungekhacacdkartxbaethnxyangrunaerngdwykarkrathakhxngphwkbaxanac thng thiekhaphyayampidbngectnaraykhxngekha 77 78 P Brigot Bishop of Tabraca Vicar Apostolic rwbrwmody frngsws xngri turaepng A D 1770 prawtisastrithysmykrungsrixyuthya chbbturaepng aeplodysmsri exiymthrrm 2522 ehtukarninrchsmykhbilfrngessxxkcaksyam ph s 2231 ehtukarnkhbilfrngesscaksyamepnehtukarnsubtxenuxngthngkxnaelahlngcakthismedcphraephthrachaprabdaphieskkhunepnphraecaaephndin emux pi ph s 2230 emuxkhrawkhnarachthutithysungxxkipecriysmphnthimtrikbfrngessedinthangklbsyam rachsankfrngesskidsngkhnarachthut odymila luaebr epnphuaethnphiess aelaesebxaer duw buael epnxupthut mayngkrungsrixyuthyaephuxaekikhsnthisyyathangkarkhachbbkxn 28 aelachkcungihsmedcphranaraynmharachekharitinsasnakhrist phrxmkbkalngthharphrxmxawuththnsmymixnuphaphehnuxkwaxyuthyamakekhamapracakarthibangkxkaelaemuxngmarid thway odyminayphledsfarcepnphukhwbkhumkalngthharnn kxngthharsyampidlxmpxmwicheynthrsungthharfrngessyudiwepnthimn rahwangkarptiwtiphayitkarnakhxngphraephthrachainpi ph s 2231 xxkphraephthraracha cangwangkrmphrakhchbalkhwbtaaehnngrksakarsmuhklaohm imehndwykbnoybaytangpraethskhxngsmedcphranaraynmharach 330 375 aelaekhytingeruxngniinthiprachumkhunnangtxhnaphraphktrmakxn aemthrngphraphiorthkardingkhxngxxkphraephthrachaaetthrngrangbiwimidlngphrarachxaya tngaetnnma xxkphraephthrarachacungcbtadukarekhluxnihwcbtadukarekhluxnihwkhxngxxkyawiichyeynthrepnphiessaelathrabwa emxsiexxrkhxnstnskmiickhidrayxyudwy phwkkharachkarthiruethaemxsiexxrkhxnstnskimklaphud aetkidphyayamchwyknpxngknimihemxsiexxrkhxnstnsidthakarraykhunid 603 emuxpi ph s 2231 smedcphranaraynmharachthrngphraprachwrdwyorkhixhudmiphraxakaraeylngxyangmak epidoxkasihxxkphraephthrachasungmitaaehnngphusaercrachkaraethnphraxngkhchingkrathakarrthprahar xxkphraephthrachacungekhayudphrarachwnglaowthnthiinwnthi 18 phvsphakhm ph s 2231 odymixxkhlwngsrskdiepnkalngsakhyaelayngmiaenwrwm 3 klum khux klumchawemuxngkrungsrixyuthya klumkhunnanginrachsankthiaetkepnfkepnfay aelaklumphrasngkhodyechphaaxyangyingsmedcphrasngkhrach wdracha emuxnglphburi epnthankalngsakhyaelaxacichepnkalngrbhakcaepn txmaxxkphraephthrachaidihecaphrayasursngkhramsungepnbukhkhlthiphrayawiicheynthr khxnsaetntin fxlkhxn nbthux ihipbxkkhwamwasmedcphranaraynmharachmirbsngihekhaefa phrayawiicheynthr khxnsaetntin fxlkhxn cungthukcbkumtwippraharchiwitinkhrawnn emuxwnthiekidehtukarnptiwtinn fxlkhxnidrbkhasngihekhaefasmedcphranaraynmharach phrxmkbnaythharfrngessxik 4 nay mixawuthkhrbmux emuxekhamainbriewnphrarachwng phraephthrachaaelakhunnangklumhnungkhxydkphbaelacbkumtwipsaercothsodythiimmioxkasekhaefa caknnbanhlwngrbrachthutkthuktrwckhn madamfxlkhxnphrryaaelalukthukcxngca aelapldcakbrrdaskdithukradbchn phntriobchxng phukhumknfxlkhxninkhnann idekhiynbrryayehtukarniwwa emxsiexxrkxngstxngserimwitkwacaimidphbphraecaaephndinaelasngektehnwathhartang thicukchxnglxmwngphrarachwngidphyayamekhamahakhawcakthharthikhaphecanakhunipcakbangkxksungpracakxngxyuikl kbphwkekha ekhalngkhwamehnwakhngcaekidxairthielwrayskxyanghnungepnaen cungsngihkhaphecaipaecngkbthharfrngesswahamphudkhuykbphuxun 9 wnthi 6 mithunayn ph s 2231 kxngthharfrngesssungpracakarxyu n bangkxk aelaemuxngmarid thway epidchakrbpathatxsukbfaysyamxnepnphlmacak nayphledsfarc Chevalier Desfarges aekhngkhxaelaimyxmptibtitamkhwamtxngkarkhxngxxkphraephthracha txmafayxyuthyasngthharipyngemuxngmarid thway ephuxkhbilkxngthharfrngessxikthang cnthungwnthi 24 mithunayn kxngthharfrngessthiemuxngmarid thway cungedinthangxxkcaksyamip swnkarrbphungkbkxngthharfrngessthibangkxkyngkhngyudeyuxtxipcnthungplaypi ph s 2231 karocmtikhxngkxngthphchawsyamkbkxngthphfrngessthithway wnthi 11 krkdakhm ph s 2231 smedcphranaraynmharachesdcswrrkht xxkphraephthrachacungidprabdaphieskkhunepnphraecaaephndinaelasthapnarachwngsbanphluhlwng khaihkarkhunhlwnghawd klawwa 161 khrnphranaraynswrrkhtaelw esnaxamatythngpwngcungpruksaknthngsinaelwkphrxmkndwyiccngrkphkdithickexaecaphrayasrisurskdiihkhrxbkhrxngkrung fayecaphrayasrisurskdinnmiidsmkhyxmicthicakhrxngkrung cungpruksaknkbesnathngpwngwaihykwaeraniyngmixyu aelweraideriykwaepnbidakhuxecaphrayasursri epnyxdihyxyuinkrungsrixyuthya aelwkdithiinkarburanthngchuxsty mixchchaxasrythngictrngaelwmistipyyathngsrththawiriykbriburnxnesnathngpwngkmiidyxmic dwymiichepnechuxenuxhnxxngkhphranarayn kcaepncatxngyxmicdwybthphrathrrmnuyaelaxyangthrrmeniym kmimasiideriykwaepnbidaaelwkkhwrthickthakarrachaphiesk cungyinyxmphrxmicknthngsinihecaphrayasursrikhrxbkhrxngkrung wnthi 18 tulakhm ph s 2231 hlngcakfayxyuthyakbfrngesstxsuknyudeyuxnanthung 4 eduxn nayphledsfarc Chevalier Desfarges kbnayowlxng eds aewraekng Volland Des Vergens 216 rwmthngkxngthharfrngessthirksakarxyuthipxmbangkxkcanwn 250 khn yxmykthngkhaw nayphledsfarc cungidlngnamthasyyasngbsuktxsmedcphraephthracha 11 syyasngbsukkhxngsmedcphraephthracha praktin exksarkhxngnayowlxng eds aewraekng prakxbdwy 9 khx dngni 22 24 1 phraecaaephndinsyamcaihchawfrngessyumerux 2 la phrxmxupkrnkhrbephuxthicabrrthukthharfrngessthnghmd edinthangxxkipcaksyam odyfayithycanaeruxmacxdiwihfrngesstrwcsphaphkxnxxkedinthang 2 ihthansngkhrach edx emetloloplis aelakhnabathhlwng phrxmdwynayewertepntwprakncnkwathieruxthng 2 la cathuksngklbkhunmaaelacnkwacamikarsngmxbenginrayidcakkarkhakbbristhfrngesssungfxlkhxnxangwaepnkhxngtn 3 ihkxngthharfrngessthirksapxmxxkcakpxmidodymiphithikartamthiptibtikninyuorp aelaihnasingkhxngthiepnkhxngphraecakrungfrngessklbipdwy echn punihy dinpun raebidmux l aelaihchawsyamcdhaesbiyngxaharaelakhxngcaepnxun ihephiyngphxrayaewla 1 pi odychawfrngesscaepnphucayengin 4 ihbathhlwngthanganephyaephsasnatxipidxyangesri 5 ihbathhlwngecsuxitepnphueluxkexngwacadaeninngantxip hruxcaxxkipcakxanackr odyidrbsiththiphiesstlxdcnekiyrtiystamedim 6 ihbristhkarkhafrngessdaeninkickartxipidodyidrbsiththiphiesstamedim 7 ephuxihekidkhwammnicinsyyaaelamiihphidsyyaknthngsxngfay ihmitwpraknthngsxngfay khux fayithyepnkhunnangradbsung swnthangfrngessidaeknayphlcakpxmbangkxk emxsieyxr echxwalieyr edsfarc aelanayewert 8 ihtwpraknfaysyamlngeruxlaediywkbnayphledsfarc swntwpraknfayfrngesscalngeruxxiklahnungtamipinrayaimekinwithikrasun aelakaraelkepliyntwprakncakrathaemuxthungdankhnxnsudthaythipakna 9 inthukkrni ihnayphledsfarckhunpxmbangkxkihaekphraecakrungsyam tamsphaphthiepnxyukhnannphrxmdwythukxyangthiekhyepnkhxngphraecakrungsyam nayphledsfarccungkhumthharfrngessxxkipxyangsntiodyerux 2 lachuxsyamkblaow nxkcaknismedcphraephthrachayngthrngihyumengin 45 000 aefrngkh ephuxepnkhaedinthangphrxmplxytwbutrchaykhxngnayphledsfarc 2 khn aelayngmichawhxlndachwyhaeruxaelacdesbiyngxaharaekphxkhaaelabathhlwngchawfrngess kxngkalngthharfrngesscungidedinthangnxkkrungsrixyuthyaemuxwnthi 2 phvscikayn ph s 2231 310 aemmikhxsyyasngbsuk praktwamibrrdabathhlwngbangswn aelachawkhrisetiynthukcbkhngcanwnmak obsthkhristthukpidaelathukplnthalay karephyaephrkhristsasnathiekhyrungeruxnginrchkalsmedcphranaraynmharachkxyuinsphaphtktacntxnglmelikiptlxdrchkalsmedcphraephthracha mikhnabathhlwngfrngessthiyngphankxyuinkrungsrixyuthya idekhiynbnthukkhwamohdehiymtharunkrrmnkothschawkhrisetiyn aelayngxxkipihthanganhnkhlayxyangtngaetechacrdeyn echn khndin khnxith khnkhya langthx langthithingxuccara lakesa langsung epntn praktin cdhmayehtukhxngkhnabathhlwngfrngess khwamwa inkhrngnnbrrdachawtangpraethsmikhwamprahladicmakthiidehnchawyuorpinemuxngithy thngnkeriynxayu 13 khwb 14 khwb tlxdcnmichchnnarisunghnataaesdngkhwambrisuththikhxngtw txngthuklakiptamthnn aelathukbibkhnimphidknkbphwkphurayxyangsakhyaelaphuraythikhakhntay thaphwkkhrisetiynlmlngdwyxxnephliyephraakhwamimsbay hruxaeddephacnrxn hruxehndehnuxyetmthi praediywktxnglukkhuniddwyimti intxnechaewlaedinipthanganaelatxneynewlaklb phwknitxngkhxthantampratubanaelatamranthuk aehng phwkchawbankihkhawbang plaekhmbang ebiysungichkntangenginbang aelaihehmuxnkbnkothsithyaelamxythitxngrxyostidepnphwngediywknip 12 13 kbtthrrmethiyr ph s 2233 kbtthrrmethiyr hruxkbdphramxy 439 ekidkhunemuxpi ph s 2233 28 raweduxnemsayn trngkbrchkalsmedcphraephthracha phukxkbtchux thrrmethiyr epnphrasukihmekhytxngothsxayathitanawsri aelaepnbnthit 66 xasyxyuaekhwngemuxngnkhrnayk 9 ekhyepnkhahlwngedimkhxngecafaxphyths hlngsmedcphraephthrachaprabdaphieskkhunepnphraecaaephndin ecafaxphythscungthuksaercoths thrrmethiyrcunghniipbwchrayahnung hlngcaksukcungkhidkxkbthmaycachingrachsmbticaksmedcphraephthracha odyichxubayhlxklwngchawbandwykarplxmtw aelaprakastnexngaexbxangwaepnecafaxphyths aelayngthakiriyaaelanaesiyngphudcaehmuxnphrakhwy chawbantangphaknhlngechuxepnxnmakenuxngcakthrrmethiyrtidifdaifaedngthiibhna 251 cungkhlaykbphraphktrkhxngecafaxphyths aelachawbantangeluxngluxwaphrakhwynimibuyyathikar praktin phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbsmedcphraphnrtn wdphraechtuphn khwamwa luskrach 1042 pichwd chsk khnannekidkbt ixthrrmethiyrkhahlwngedimecafaxphyths epncraclincnghwdaekhwnghwemuxngnkhrnayk aelaxaythrrmethiyrkrathakarokhktidifthihnaihehmuxnecafaxphyths saaedngaekchawchnbthpraethsthngpwngwatwepnecafaxphyths 499 thrrmethiyrcungidkhichangphlaykang phrxmthaskhwaychangkhnsnithchux khula hruxkula 79 ykphrrkhphwksxngsumphukhneruxymatngaetemuxngsraburiaelakhunlakhrmiphukhnthngchawbanchawnatanghxbdab khnhlaw khanhxbkhaw aelaekhiywekharwmkbtepncanwnmak 143 emuxthungeduxnkumphaphnth ph s 2233 thrrmethiyrykkxngkbtmatngthiphratahnk phrarachwnghlwng tngxyuthangehnuxiklkbkrungsrixyuthya yngmikhunnangekharwmkbtthrrmethiyrdwy echn hlwngethphracha phurksawng ekharwmkbtphrxmnaekhruxngsungmaih khunsrikhchkrrmekharwmkbtphrxmnachangphlaymngkhlrtnasnmaih 363 thrrmethiyrcungtngihepnxamatyihkhunkhichangkneswtchtrkhumphrrkhphwkpraman 2 000 khn aelwcungihphrrkhphwkkhnsnithlxbipnimntphraphrhm ecaxawaswdpakkhlxngchang sungepnphraxacarykhxngsmedcphranaraynmharachaelaecafaxphyths bxkkhwamaekecaxawaswaecafaxphyths esdcmaxyuthitahnkphrarachwnghlwngid 3 wnaelw phraphrhmecaxawasidfngnncungklawkhwamaekkhnsniththrrmethiyr phwkkhnsnithidfngnncungklbipbxkkhwamknaelwtangphaknaetkhnixxkma khwamwa thaaellukkuxyucring ihnelycaxyuaetthiphrankhrhlwngela suecaxyaechuxthux thaaelphuidechuxthuxmn phunnkcaphlxytayesiyeplaepnmnkhng 232 emuxplayeduxnemsayn ph s 2233 rungechawnthdmathrrmethiyrkhunkhichangcdaecngekhruxngsungxyangecaesdc aelwriphlphrxmsstrawuthtang mathangkhlxngbxophng tablbxophng ekhamayngephniydkhlxngchangxyangirraebiyb inkhnannkrmphrarachwngbwrphramhaxuprachsrskdi kalngesdcthrngchangphrathinngxyu miphumakrabthulkrmphrarachwngbwrcanwnmakcungthrngtkphrathyaelwmiphrarachbnthurihtarwcipsubdu aelathrabwaecafaxphythsykthphma krmphrarachwngbwrthrngtrsaek phnchythuch sungkhikhwaythuxthngnathphkbtthrrmethiyrekhamayngephniyd wa ykmaksukn eracaklwxair txmakrmphrarachwngbwrphramhaxuprachsrskdi miphrabnthurtrsih khunxinthrathibal namulehtuipkrabthulsmedcphraephthracha smedcphraephthrachacungthrngchangtnphlaymngkhlckrphalesdcipwnghnaaelamirbsngihmhadelkxyechiy phraaesngkhxphlphay sungepnphraaesngkhxngawkhxngsmedcphranerswrmharach emuxkhrawchnchangkbphramhaxuprachaaelwthrngfdkhxkhaddwyphraaesngni ephuxichepnsastrawuthrbthphcbsukkbtthrrmethiyrinkhrawnn swnkrmphrarachwngbwresdcklbrxrbsukthiphrankhraethntamkhakrabthulkhxng ecaphrayathrrma esnabdictusdmphkrmwng cungimidthrngesdcrbsuk n thi ephniyd emuxkrmphrarachwngbwrphramhaxuprachsrskdi esdcipthungbnpxmmhaichy thrrmethiyrcungkhichangekhamathangwdmhaolk krmphrarachwngbwrcungmiphrabnthurtrsihtarwcipduihaenaelwthrngthrabwaimichecafaxphyths cungmiphrabnthurihyingpunihy 8 krabxk aelathrngtngstyathisthankxnyingpunihywa khaaetethphydasurarks xnsingsurksapunihyni thaaelkhaphecabuynxymixacsamarthcadarngsmbtiiwid aelcathungpraichyaekpracamitraelw aelcacudpunbdnikhxihpuncngaetkxxktxngkhapheca ihthungaekchiwitrxntrayethid thaaelkhaphecamibuyyaphisngkharbarmimak xacsamarthcadarngsmbtieswtrchtrechlimaephndinsyampraethsidis khxihkrasunpunihyiptxngdskrphinaschibhayethid 267 emuxyingpunihyxxkipaelw krasunpunipthukchangphlaythrrmethiyrcnlmtay phlfayhnakbtthrrmethiyraetkhnikracay thrrmethiyridrbbadecbemuxidoxkascunghniipsuksxntwthiswndxkim n wdsifn aelathukcbtwinwnrungkhun ichewla 3 wn cungprabkbtthrrmethiyridsaerc ekhmphefxr idekhiynbnthukiwwa thrrmethiyrthukaehpracanthwphrankhr 3 wnaelwcungthukpraharchiwitodythukephchchkhatcbaehwkthxngthngepnaelwthingisihhmakin 340 swn khula thaskhwaychangkhnsniththukcbidthitablwdkhnanpakhawsaraelwthukpraharchiwit changphlaythiyngrxdbangswnthukcbidnathway changbangswnhniekhapaipcanwnmakcnsngphlihaekhwngemuxngsraburi emuxnglphburi aelaaekhwngkhunlakhrranghlaytabl 218 69 brrdaiphrphlthihlngechuxekharwmkbkbtthrrmethiyrnnidrbkarplxytwipimidthuklngphrarachxaya smedcphraephthrachathrngphrarachthanxphyoths thrngtrswa mnepnkhnomha hapyyamiid plxymnesiyethid xyaexaothsely 265 kbthwemuxngnkhrrachsima aelaemuxngnkhrsrithrrmrach ph s 2234 kbthwemuxngnkhrrachsimaaelaemuxngnkhrsrithrrmrachekidkhuninpi ph s 2234 inrchkalphraxngkh khux kbt khunsukmuslimchawemuxngithrburi aelakbt sungekhyepnkhunsukkhuphrathyaelaepnhnunginkalngsakhythithaihsmedcphranaraynmharachidkhunkhrxngrachy thrngoprdekla tng phrayaramedoch chu epnecaemuxngnkhrsrithrrmrach duaelhwemuxngitxnhangikltangphraentrphrakrrn aelaphrayaymrach sngkh epnecaemuxngnkhrrachsima khrnsmedcphraephthrachaprabdaphieskkhunepnphraecaaephndin srangkhwamimphxicihphrayaramedoch chu aelaphrayaymrach sngkh cungkxkarkbtaekhngemuxngimyxmthuxnaphiphthnstyathikrungsrixyuthya epnehtuihsmedcphraephthrachathrngphraphiorth praktkhwamwa inskrach 1048 pikhalxthsknn krmkaremuxngichyabxkkhxrachkarekhamathungkrmphraklaohm inlksnannwa ecaphrayankhrkhrithrrmrachepnkbdaekhngemuxng aelsxngsumphukhnekhruxngsatraxawuthepnxnmakcaykekhamatihwemuxngfaytawntkthngpwngidhwemuxngthngpwngaelw caykekhaipthalaykrung xnungnaysngkh ymrach ecaemuxngnkhrrachsima sunghni ipidnnphasmkhrphrrkhphwkxxkiptngxyu n phrmaednemuxngnkhrsrithrrmrach aelaekhwngichyatxkn aelkhidkarkbtekhadwyphrayankhrsrithrrmrachxik cungmiphrarachoxngkaroprdekla ihphrayasihrachedoch ykthphiptihwemuxngnkhrrachsima sungphrayaymrach sngkh epnecaemuxngxyu aetphrayaymrach sngkh rksaemuxngiwidmnkhng phrayasihrachedochcungtiemuxngimsaerc smedcphraephthrachacungmirbsngihkumtwaemthphnaykxng aelwlngphrarachxayaihoby aelwribthrphycaknncungpraharchiwit praktin cdhmaykhxngbathhlwngobrlt ekhiynipsngyngkrungparisemux kh s 1700 pi ph s 2243 khwamwa haimkhngthukpraharchiwitehmuxnkhunnangphuihy 48 khn thiiptinkhrrachsimaimsaerc thuksngsywaekhakbkbtelyrbsngihcbmatraewnklangemuxngaelwsbfnsirsaepnaechk tdaekhntdkhaphaxkchktxythrmanxyangnathuers aelwkfnexasirsakhadipesiybiwthibnkaaephngphrankhr 638 txmasmedcphraephthrachathrngaetngthphxikkhrng miphrarachbychaoprdihxkhrmhaesbadiykthphiptiemuxngnkhrrachsimaxikkhrngcanwn 4 thph thharkxngthphkrungsrixyuthyaidichklxubayephaemuxngdwywawculaphukhmxdin 33 aelwihthharlamsaychnwniptidhmxdinnn emuxwawlulmlxyxyuehnuxemuxngnkhrrachsimaaelwcungcudchnwnkhunthaihhmxdinraebidlukepnifaelwtklngiplukihmbaneruxnkhxngchawemuxngnkhrrachsimaekidkhwamoklahlepnxnmak aemsmyxyuthyamikdmnethiyrbalhamchkwawkhamphrarachwnghaklaemidmiothsthungtdmux 113 aetinrchkalsmedcphraephthrachaidnawawmaichephuxprabkbtecaemuxngnkhrrachsimacnsaerc 249 rwmaelwichewla 2 piess cungsamarthprabkbtphrayaymrach sngkh id aetphrayaymrach sngkh aelaphrrkhphwkhlbhniipyngemuxngnkhrsrithrrmrachid srangkhwamimphxphrarachhvthyaeksmedcphraephthrachaxyangying cungaetngthphodymi phrayasursngkhram khunxngkh epnaemthphhlwng phrayaephchrburiepnekiykkay phrayasuresnaepnyukkrabtr phrayarachburiepnthphhlng aela 186 epnphukhumthpheruxrwmepnkxngthphkrungsrixyuthyaodymikalngphl 145 10 000 nay kxngchang 300 echuxk eruxrb 100 la aelathharsbthbxik 500 nay aelwcungoprdihykthphthnghmdlngipsmthbknthiemuxngichya khrnkxngthphkrungsrixyuthyaykthphthangbkaelaeruxekhamaprachidthungbanthakham briewnkhayhwkhwnthakhamsungepntngkhxngchumnumphrayaymrach sngkh cungekhapathaknepnephlahlaywncnkrathngchumnumphrayaymrach sngkh aetk phrayaymrach sngkh aelaphrrrkhphwkthungaekkrrm txmaphrayasursngkhram khunxngkh cungykthphhlwngekhaocmtiemuxngnkhrsrithrrmrachodymiphrayaramedoch chu ecaemuxngnkhrsrithrrmrach phrxmbutrchay 2 khn chux twnkunad aelatwnkuklay epnkhunsukrwmrb thngsxngfayrbpathaknxyangdueduxdepnsamarth sngkhramyudeyuxyawnanthung 3 pi thphkhxngphrayasursngkhram khunxngkh cungekhalxmemuxngnkhrsrithrrmrachthaihthphphrayaramedoch chu imxacsurbtxidcungphaknhlbhnifakxngthphkrungsrixyuthya phrayaramedoch chu kbphwkhniipthangtawnxxkidchingexaeruxkhxngthphphrayarachbngsn hssn aelwhniipemuxngithrburiidsaerc txmaphrayarachbngsn hssn phukhumthpheruxthukphrayasursngkhram khunxngkh praharchiwitenuxngcakthukcbidwaaexbchwystruihhlbhniipid kbtemuxngpttani ph s 2234 2235 kbtemuxngpttani 43 ekidkhunemuxpi ph s 2234 200 rayamsklntn omrhumklntn phukhrxngrachxanackrpttaniinkhnannprakasimyxmxxnnxmswamiphkdiepnemuxngkhuntxkrungsrixyuthya smedcphraephthrachaoprd ihykthphipprabemuxngpttanikhrngaerkaetimprasbphlsaerc txmapi ph s 2235 oprd ihykkxngthphhnunipprabxikkhrngaetkimsamarthprabemuxngpttaniid 69 emuxngpttanicungprakastnepnemuxngepnxisra 6 imkhunkbkrungsrixyuthyaipcnsinsmykrungthnburi cdhmayehtuohr klawwa pimaemiy c s 1052 phraephthrachaepnecamacnthukwnni pinitxngykkxngthphkrungipprabemuxngtani pimaaem c s 1053 txngykkxngthphkxnghnunipprabemuxngtani 5 ehtuthiimsamarthprabemuxngemuxngpttaniidenuxngcakemuxngpttaniepnemuxngthimikhwamchanayinkarhlxolha odyechphaakarhlxpunihysungemuxngpttanimipunihypracaemuxng 3 krabxk praktwaidichpunihyinkarsuksngkhramkbfaykrungsrixyuthyahlaykhrng rwmthngkarsuksngkhramkhrngsmedcphraephthrachanidwy 53 chawxyuthyaekhaswamiphkdiphmaaelaphmarbkrungsrixyuthya ph s 2238 2243 miehtusubenuxngcakemuxwnxathityaerm 13 khaeduxn 6 culskrach 1057 pikun trngkbwnthi 10 krkdakhm ph s 2238 khunnangithychux slawut hrux sarwtr kbphwk 100 khn 50 xacepnphwknkhrrachsimahruxphwkkbtthrrmethiyr hniipipswamiphkditxphmainrchkalphraecamngkayxdin mharachwngsphngsawdarphma klawwa khrn n wn 1 13 6 culskrach 1057 xamatykhxngphraecakrungsrixyuththya chuxsarwtrthuxphlthhar 100 ess kbchang 5 echuxkekhamathwaythiphraecaxngwa 193 kaltxmaphraecamngkayxdinesdcswrrkhtemuxpikhal ph s 2241 trngkbrchkalsmedcphraephthracha phraecasenhmin phrarachoxrscungidkhunkhrxngrachytx inphngsawdarphma klawwa emuxpiethaa ph s 2242 phraecasenhmin idetriymkxngthphphmacaykthphmatikrungsrixyuthya aetmiehtuidxyanghnungphraecakrungxngwacungimidykthphma 50 swn mharachwngsphngsawdarphma klawaetktangcakphngsawdarithyxxkipwa emuxwnxathityaerm 6 khaeduxn 7 culskrach 1061 trngkbwnthi 6 singhakhm ph s 2242 phraecasenhminkrungxngwamirbsngihthaklxngphiichyvks aelathathng 2 khulngyntaelaewthmnt khuhnungepnthngphranersaelathngxikkhuepnthngrachsihephuxepnekhldinkarsuksngkhram praktin mharachwngsphngsawdarphma khwamwa khrn n wn 1 6 7 culskrach 1061 phraecakrungxngwaphraxngkhthrngtrsihthaklxngphiichyvks aelekhiynthngepnrupphranerskhu 1 epnrachsihkhu 1 thng 2 khunithadwyyntaelewthmnt thithrngthakhunnisahrbiptikrungsrixyuththya 193 emuxwnxngkharkhun 3 khaeduxn 11 culskrach 1061 trngkbwnthi 14 phvscikayn ph s 2242 phraecasenhminthrngcdthphphmamichangmaaelaphlthharcanwnmak miriphlma 2 esnthang aebngepnthangemuxngechiyngihmmi 6 kxngepnthphthihnung aelaemuxngemaatamami 6 kxng epnthphthisxng ekhaicwaemuxfaykrungsrixyuthyathrabkhawsuk smedcphraephthrachathrngcdthphetriymrbsukphmainkhrngni emuxwnphuthkhun 2 khaeduxn 1 trngkbwnthi 10 emsayn ph s 2242 piptithinithyinpccubnnbepn ph s 2243 thphfayphmathphthi 2 ykthphekhluxnphlxxkcakemuxngemaatamacnmathungtablxxngsacungekhapathakbthharfaykrungsrixyuthya aetthphfayphmaphayaephaetkthxythphhniklbipyngemuxngemaatama swnthphfayphmacakemuxngechiyngihmkphayaephaekfaykrungsrixyuthyaechnkn mharachwngsphngsawdarphma klawwa khrn n wn 3 3 11 culskrach 1061 khrnidmhaphiichyvks ihykipthangemuxngechiyngihmiptikrungsrixyuththya phwkchuxnaythphnaykxngnn khux mangaernarasihphl 1 ichycxthing 1 chxyrasngrn 1 rntsur 1 aeldyaichyasu 1 ipsngrnnaythharmakxng 1 in 6 kxngnimichangmaaelphlthharepnxnmak aet 6 kxngniihipthangechiyngihm thangemuxngmutmannthrngtrsihnnthmitcxthingphl 1 nnmit 1 phyannmit 1 phyaichy 1 phyarachsuxamakhi 1 aeroythanaythharmakxng 1 rwm 6 thphniihykcakemuxngmutmainwnthi 4 2 1 pinn aetkxngthphthiykipcakemuxngmutmann khrnthungtablxxngsakidrbknkbxyuththyakesiythikxngthphxyuththyaaetkhnithxyhnimathiemuxngmutma kxngthph 6 kxngthiykipthangechiyngihmnn kesiythiaekxyuththyaaetkhnithxymaehmuxnkn 193 194 phayhlngcakthiphmaphayihaekfaykrungsrixyuthyaaelw phraecasenhminaehngkrungxngwakyngthrngcdthphphmaephuxthasngkhramkbfaykrungsrixyuthyaaelaemuxngechiyngihmxik aetimpraktwaehtukarnkarrbknxyangiraelaphlkarsuksngkhramtxcakniimmibnthukwamifayidaephchna odyemuxwnphuthkhun 5 khaeduxn 3 trngkbwnthi 10 krkdakhm ph s 2243 phraecasenhminmirbsngcdthphphmaodyminaythphchux phnthukaphya epnaemthph ihykphlfayphmacakemuxngemaatamaipyngkrungsrixyuthya aelamirbsngih sngaekhtin epnaemthphihykthphfayphmacakemuxngemaatamaekhatiemuxngechiyngihm mharachwngsphngsawdarphma klawwa inpinn n wn 4 5 3 mirbsngihphnthukaphyaihykcakemuxngmutmaiptikrungsrixyuththyaxik aetimpraktwarbknxyangir khrnaelwmirbsngihsngaekhtinepnaemthphykcakemuxngmutmaiptiemuxngechiyngihmxik aelimpraktwarbphungknxyangirmiaetwaykipethann 194 emuxpimaemiy ph s 2246 50 michawxyuthyaphwkhnungxphyphipphungphraecasenhmin aelapitxmainrchkalsmedcphraecasurieynthrathibdikmichawxyuthyaxphyphipxikphwkhnung xacepnphwkecafaphrakhwy phrarachoxrskhxngphraephthrachakepnid mharachwngsphngsawdarphmaklawwa khrn n wn 5 10 6 culskrach 1065 chawchatixyuththyaekhamaswamiphkdithiphraecakrungxngwa khrn n wn 4 7 9 culskrach 1067 phwkxyuthyaekhaswamiphkdiaelwecaemuxngmutmasngkhunmathwayyngitfaphrabathphraecakrungxngwa 194 ehtukarnphmarbkrungsrixyuthyainrchkalsmedcphraephthrachaniimmibnthukinphngsawdarithy ikhthrphisrabadkhrngihythisudinsmyxyuthya ph s 2239 emuxpi ph s 2239 inrchkalsmedcphraephthrachaekidikhthrphis hruxfidas Smallpox thwrachxanackrtngaeteduxnmkrakhm edkaelaphuihytangpwyikhthrphislmtaycanwnmakekuxb 80 000 khn 49 wdtang immithifngsph aelamisphkhntaynxnekluxnkladtamthungnaepnxnmak inkhnaekidorkhrabadni smedcphraephthrachamirbsngihaephthyxxkiprksarasdrthipwyikh phrxmphrarachthanyaaelaenginaekrasdrknthwhna aelayngthrngaesdngkhwamepnphuththsasnikchndwykarcdphithiswdmnteliyngphrathnginaelanxkphrankhrhlaykhrng nbwaehtukarnikhthrphisrabadkhrngniepnkarrabadkhrngihythisudinsmykrungsrixyuthya nxkcakorkhrabadaelw yngekidfnaelngaelakhawyakhmakaephngcnhasuximid thaihrasdrwitkepnxnmak aetaelwemuxeduxnknyaynekidfntkmakphidpktithungeduxnphvscikayncnnaekhathwmthungnathung 2 eduxn smedcphraephthrachaidthrngcdkarephuxbrrethakhwameduxdrxnthukkhyakkhxngrasdrihebabanglng sungmibnthukinhlkthanchntnepncdhmayehtukhxngkhnabathhlwngfrngess 2 chbb eruxng thikrungsrixyuthyaekidikhthrphis 618 khux cdhmaymxngsiexxr pinot Antoino Pinto thungmxngsiexxr baest wnthi 10 eduxnmithunayn kh s 1696 ph s 2239 chbbhnung aelacdhmaymxngsiexxr opek Pocquet thung phuxanwykarkhnakartangpraeths wnthi 27 eduxnthnwakhm kh s 1696 ph s 2239 xikchbbhnung in phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbphncnthnumas ecim idklawehtukarnthanxngediywkn khwamwa khrnxyumaskrach 1060 piethaaexksk ph s 2241 khnannihekidphyathiorkhpwyikhchnktayepnxnmak inpinnnamakehluxkhnadthwmirnaeruxkswn 419 aemkhwaminphrarachphngsawdarkhladekhluxncakcdhmayehtukhxngkhnabathhlwngfrngessthng 2 chbbthung 2 pi aetin prachumphngsawdarchbbkaycnaphiesk elmthi 11rabuwa ph s 2241 trnginaephndinsmedcphraephthracha 193 trngkbpithiphraecaxngwasiripwrmhathrrmracha hrux phraecamngkayxdin sinphrachnmemuxpikhal swn suwithy thirsaswt rabuwa khwaminphrarachphngsawdarthiklawmaepnplayrchsmysmedcphraecaesux ph s 2246 51 128 kbtbuykwang ph s 2241 2243 kbtbuykwangepnkbdlaw ekidkbtkhunemuxpi ph s 2241 35 87 rchkalkhxngsmedcphraephthracha naybuykwang epnchawlawxyuaekhwngemuxnglawtawnxxk idaesdngtwwaepnphuwiessmikhwamruwichakhathaxakhmisysastr naybuykwangnaphrrkhphwk 28 khnekhayudemuxngnkhrrachsima odythakhunisyprabecaemuxngaelaehlakhunnang 19 praktkhwamin phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbhmxbrdel khwamwa luskrach 1054 piwxk ctwask khnannekidkbdlawkhnhnungchuxbuykwang xyu n aekhwnghwemuxnglawfaytawnxxk mikhwamruwichakardi aelmismkhrphrrkhphwk 28 khn khidxanthakarkbttngtwwaepnphumibuy phrayankhrrachsimaimsamarthprabid cungpruksakbkrmkaremuxngaelwthaklxubaylxlwngihnaybuykwangykthphiptngthiemuxnglphburi aelahmaycaihykthphiptikrungsrixyuthya naybuykwangehnchxbdwyaetharuimwaepnklxubay cungihphrayankhrrachsimacdthphprakxbdwykalngphlkwa 4 000 nay chang 84 echuxk ma 100 tw phrxmsastrawuthepndab hxk thwn aelapunkhrbthwn 152 khrnphrayankhrrachsimacdthphihnaybuykwangesrc naybuykwangcungidykthphxxkcakemuxngnkhrrachsimaphanmayngemuxngbwchum emuxngchybadalaelwmatngthphthiemuxnglphburi sxngsumphukhnidepncanwnmak txma phrayankhrrachsimacungaetnghnngsuxlbthung ecaphrayackri esnabdismuhnayk ihnakhunkrabthulphrakrunaaeksmedcphraephthrachathrabmulehtuthngpwng aelafaykrmkaremuxngsraburi emuxngbwchum emuxngchybadal cungaetnghnngsuxthungecaphrayackridwyechnknwaemuxngnkhrrachsimaepnkbt ecaphrayackrismuhnayk cungnahnngsuxthng 2 chbbkhunkrabthulsmedcphraephthracha emuxthrabmulehtuaelwcungthrngphraphiorthmidarssngxkhrmhaesnabdiihetriymkalngphl odycdihphrayasuresnaepnaemthphhlwng aelathawphrayaxasahkehlathngpwngepnyukrabtr ekiykkay kxnghna aelakxnghlngykthphiptithphnaybuykwangthiemuxnglphburi khrnphrayasuresnaekhluxnthphhlwngcakkrungsrixyuthyaiklthungemuxnglphburi cungthahnngsuxlbaekphrayankhrrachsimandkxngthphekhalxmthphnaybuykwangphrxmkn emuxthphhlwngkhxngphrayasuresnakbthphphrayankhrrachsimaekhalxmemuxnglphburiaelwcungcbkumnaybuykwangaelaphrrkhphwkrwm 28 khn aelwsngiplngphrarachxayathikrungsrixyuthya naybuykwangaelaphrrkhphwkcungthukpraharchiwitthnghmd phlcakkarekidkbthlaykhrng smedcphraephthrachathrngepliynaeplngokhrngsrangkarpkkhrxng 311 dngni odykahndih ecaphrayackri xkhrmhaesnabdismuhnaykfayphleruxn duaelkakbhwemuxngfayehnux aelakahndih ecaphrayamhaesnabdi esnabdismuhphraklaohmfaythhar duaelkakbhwemuxngfayit ephuxldthxnxanacecaemuxnghwemuxngtang lng aelayngephimkalngthharaekkrmphrarachwngbwrsthanmngkhlxikdwy hnngsuxphimphkhrngaerkinsmyxyuthya subenuxngcakkhnarachthutsyamthiipecriysmphmthimtrikbkrungfrngessmiecaphrayaoksathibdi pan rachthut xupthut aelaxxkkhunsriwisarwaca trithut idmioxkasdungandankarphimphinkrungparis 39 sunginkhnannfrngessmihnngsuxphimphchux aemkux kalng Mercure Galant 131 phimphxxkcahnay idlngkhawkhnarachthutsyamkhrngnidwy emuxkhnarachthutsyamklbmayngkrungsrixyuthyakhngcaidsnbsnunngankarphimphinsyamihkawhna 39 emuxplayrchkalphraxngkh mihnngsuxphimph impraktchux xxkcahnayepnpracatidtxkninplayaephndinsmedcphraephthracha 50 epnkhrngaerk aetthukribthalayhlaykhrnginrchkalphraxngkhtxenuxngipthungrchkalsmedcphrathinngthaysra 39 rwmthngthukephainehtukarnkaresiykrungsrixyuthyakhrngthisxng dwyehtunicungimpraktwamihlkthanhnngsuxphimphinsmyxyuthyahlngehluxxyuxikely 39 lngphrarachxayaoksapan rachthutfrngessrchkalsmedcphranarayn f hiaelr idrwbrwmcdhmayemuxwnthi 5 phvscikayn kh s 1923 trngkbpi ph s 2466 eruxng rachthutthungxsykrrm mikhwamin cdhmaykhxngbathhlwngobrlt ph s 2243 klawthung xxkphrawisuthrsunthr xkhrrachthutekaphungtayinerw imkieduxnniexng 109 xxkphrawisuthrsunthrphunikhux ecaphrayaoksathibdi pan hruxecakhunxkhrrachthut wakarphrakhlng ekhyepnrachthutxxkipecriysmphnthimtrikbfrngessinrchkalsmedcphranaraynmharach aetinrchkalsmedcphraephthrachannklbimthrngoprd ecaphrayaoksathibdi pan ehmuxnechnsmedcphranaraynmharach thrngraaewngimiwphrathy aelalngphrarachxayaekhiynti aelaichphraaesngdabfncmukecaphrayaoksathibdi pan cnaehwng brrdaphrryaaelabutrthidakthukcb thukekhiyn thukkhng aelayngthukribthrphysmbtiesiyhmdsin emuxecaphrayaoksathibdi pan thungaekxsykrrmemuxpi ph s 2243 bangkluxknwaaethngtwexngtay thukobydwyechuxkcntay hruxthukhmxcinwangyaebuxihtay swnsphecaphrayaoksathibdi pan kthuknaipfngiwthiwdiklekhiyngbaninewlaklangkhunxyangengiyb odyimmiphithiritxngidphidkbngansphesnabdiphuihythimkcdihsmekiyrti praktin cdhmaykhxngbathhlwngobrlt ekhiynipsngyngkrungparisemux kh s 1700 pi ph s 2243 khwamwa khrnghnung emux 4 pilwngmaniaelw phayhlngklbcakfrngess 8 pi kalngefaxyuhnaphrathinng cathrngkriwxyangirimprakt thrngkhwaphraaesngdabfnexarachthutcmukaehwng dunaxucadaelasngsarthisud nbaetwnnnmakmiaetthukraaewngsngsythukxyang imepnxnkinxnnxnepnpktidngedim khathithukaeklngcakrachwngsimmithisinsud lngplaythidaihykhxngthankhn 1 butrchaykhxngthan 3 khn phrryahlwngaelaxnuphrryakhxngthankthukcb thukekhiyn thukkhng thngnn sakxnemuxwnthithancataysk 2 3 wnkidthukribthrphysmbtiesiyhmd bangkhnthungkbluxknwa thithantaynimiichxuniklely thanaethngtwexngtay ephraathnimihwesiyaelw 190 195 karswrrkht emuxpi ph s 2246 eduxnsam smedcphraephthrachathrngprachwrhnkxyu n phrathinngbrryngkrtnasnmhaprasathcwniklesdcswrrkhtnn 21 25 khrnthungeduxnsam smedcphraphuththecahlwngthrngphraprachwrlngidpraman 15 wn aelaphraorkhnnkaeribhnklngcaeswyphrakrayaharkimid ekuxbiklswrrkhtxyuaelwaelphrarachwngsanuwngs aelathawkhathullaxxngthuriphrabathphuihyphunxythnghlaykekhaipnxnxyuinphrarachwngphrxmknsin hlkthanhxlndaaelafrngess klawwa wnthi 1 kumphaphnth ph s 2246 58 smedcphraephthrachamiphraxakaraeylng thrngphrakasa ix aelasaxukimhyudcneswylabak thungwnthi 3 kumphaphnthkthrngimxyakeswy phxwntxmakrmphrarachwngbwrsthanmngkhlthwayxaharaelaya smedcphraephthrachakthrngdarstxbwaimepnkarpraoychnid txphraxngkh ephraakalmathungphraxngkhkhngimphnphrawarasudthay nxkcaknismedcphraephthrachathrngkngwlphrathyekrngwakrmphrarachwngbwrcathrngthaxntraytxecaphrakhwy 58 txmakrmphrarachwngbwrphramhaxuprachsrskdi cbecaphrakhwyipsaercothsdwythxncnthn 478 intahnkaelwihkhahlwngnaphrasphipfng n wdokhkphraya dwythrngtrsehnecaphrakhwykbkrmhlwngoythathiphnnepnthirkikhrkhxngpracharasdrthngpwng mikhunnangihkhwamniymnbthuxknmak krmhlwngoythathiph cungesdcekhaefasmedcphraephthrachakrabthulmulkhdithngpwng smedcphraephthrachaidthrngfngktkphrathyxaly thrngphraphiorthkrmphrarachwngbwr aelathrngimihrachsmbtithrngdarswa kuimihrachsmbtiaekixsamkhnphxlukniaelw smedcphraephthrachathrngtrseriykhaecaphraphiichysurinthrrachnddaihekhaefaaelaphrakrunamxbewnrachsmbtiihaek ecaphraphiichysurinthr aethn inkalphayhlngecaphraphiichysurinthridthwayrachsmbtiaedkrmphrarachwngbwrphramhaxuprachsrskdi inephlaratriinkhunnn smedcphraephthrachakesdcswrrkht n phrathinngbrryngkrtnasn ineduxn 4 pichlunphsk luskrachid 1059 nntrngkbpi ph s 2246 siriphrachnmayuid 71 phrrsa echnediywkb phrarachphngsawdar chbbsmedcphraphnrtn wdphraechtuphn chbbtwekhiyn rabuwaswrrkht n phrathinngbrryngkrtnasn khnakhrxngrachyid 15 pi siriphrachnmphrrsaid 71 phrrsa swn hlkthanhxlndaaelafrngess klawwa wnthi 5 kumphaphnth ph s 2246 ephlaeynthrngmiphraxakarthrudhnklngmak phrakiriyaningsngbimsamarththrngphrarachptisntharidaelwphraxngkhesdcswrrkhtewla 20 nalikainkhunnn 59 karphrabrmsph emuxpi ph s 2247 239 251 smedcphraecasurieynthrathibdi phraecaesux oprdihsrangphraemruthwaysmedcphraephthrach epnphraemruexkkhnadihy 41 khux 7 wa 2 sxk kwang 15 emtr 55 sung 102 75 emtr hruxethaxakharsung 27 chn 155 echingxrrththi 8 9 phraemruepnthrngprasathyxdphraprangkh 5 yxd lxmrxbdwyraebiyngkhd hruxsamsrang briewnkungklangaelamumraebiyngkhdmixakharthrngprasathyxdprangkh sungepnemruthis emruray hruxemruthisemruaethrk rxbphraemruphrabrmsph aelaemruthikungklangyngepnsumpratu tamthipraktincitrkrrmphaphkrabwnechiyphrabrmsphsmedcphraephthracha mimhrsphcuddxkimephlingrathaihy 16 rathabuchaphrasphxyangyingihy ichewlasrang 11 eduxncungaelwesrc praktin phrarachphngsawdar chbbsmedcphraphnrtn wdphraechtuphn chbbtwekhiyn khwamwa aelwthrngphrakrunaihchangphnkngan cbkarthaphraemrumaskhnadihy khuxecdwasxngsxk kxbdwyemruthis emruaesrk aelsamsrangphrxm aelkarphraemrumasnn kahnd 11 eduxncungsaerc luaskrach 1060 pikhan saerththisk eduxn 4 idsuphwardithiphiichyvks cungihxyechiyphrabrmoksthkhunpradisthanehnuxphramhaphiichyrachth aehaehnepnkrabwnip ekhaphraemrumastamhyangaetkxn aelihthingthantnkamphvks aelmikarmohrsphtang thukprakar khrnkhaihcuddxkimephlingtang skaihy 16 ska buchaphrabrmsphepnmohrathikaryingnk aelthrngsdbphrakxn phrasngkh 10000 kharb 7 wn aelwthwayphraephling khrndbphraephlingaelw aecngphrarupthrngsdbphrakr phrasngkhxik 400 rup aelwekbphraxsthiisphraoksthnxy xnechiykhunphrarachyan aehepnkhbwnekhamayngphrarachwng cungihxnechiyphrabrmoksthphraxthibncuiw na thaycranaphramhawihar wdphrasrisrrephchydaram 278 aelwesdcphrarachdaeninthwayphraephlingphraoksphrabrmsphsmedcphraephthrachaemuxwnthi 26 thnwakhm ph s 2247 oprdihphrasngkhsdbpkrn 10 000 rup kharph 7 wn emuxdbphraephlingaelwoprdihphrasngkhsdbpkrnxik 400 rup cungxyechiyphrabrmxthikhunphrarachyanaehekhamayngphrarachwngaelwxyechiyphrabrmxthibrrcuiw n thaycranaphramhawihar wdphrasrisrrephchyphrarachkrniykickarptirupkarpkkhrxng subenuxngcakkarekidkbthlaykhrnginrchsmykhxngphraxngkh cungthrngimiwwangphrathykhunnang thrngmiphradaricaldbthbaththangkaremuxngkhxngkhunnangfaytang odykarepliynaeplngokhrngsrangkarpkkhrxngihmcakedimthiyudrupaebbkarpkkhrxngkhxngsmedcphrabrmitrolknath odykahndihhwemuxngfayehnuxxyuinkhwamduaelkhxngsmuhnayk duaelrbphidchxbthngkickarthhar phleruxn aeladuaelrbphidchxbctusdmphthng 4 fayinswnklang aelahwemuxngfayitxyuinkhwamduaelkhxngsmuhphraklaohm duaelrbphidchxbthngkickarthhar phleruxn aelakrmtang thikhunkbfaythharinswnklang swndankarkhakhay karkhlng kartidtxchawtangchati rwmthungkarbngkhbbychahwemuxngchayfngthaeltawnxxk thngkickarthharaelaphleruxn ihxyuinkhwamduaelkhxngoksathibdi sngphlihesnabdifayoksathibdimixanacmakkhun dankarpkkhrxnghwemuxngswnphumiphakh sahrbhwemuxngchninsungepnekhtrachthaniihxyuphayitkarduaelkhxngemuxnghlwngodytrng thrngaetngtngkhunnangcakswnklangippkkhrxngeriykwa phurngemuxng mikrmkaremuxngaelaykkrabtr epnphuchwy swnhwemuxngchnnxk idaek hwemuxngchnexk chnoth aelachntri thrngaetngtngkhunnangcakswnklangthiepnechuxphrawngshruxkhunnangchnphuihyepnphusaercrachkaremuxng mixanacsiththieddkhadinkarpkkhrxngemuxngphayitkarkhwbkhumduaelkhxngsmuhnaykaelasmuhphraklaohm dankarpkkhrxnginrachthani thrngtngkrmihmkhun echn krmphrarachwngbwrsthanmngkhl wnghna phrarachthanihxxkhlwngsrskdikhunepnphramhaxuprach duaelkharachkarsngkdwnghna nxkcakniphraxngkhyngthrngtngthaeniybkhunnangwnghnaodyephimcanwnkalngthharihaekkrmphrarachwngbwrsthanmngkhlephuxepnkalngpxngknwnghlwngxikthanghnungdwy aelathrngtng krmphrarachwngbwrsthanphimukh wnghlng phrarachthanihnaycbkhchprasiththi thrngbaskhwa krmphrakhchbal sungepnkhukhidkratharthpraharyudxanacsmedcphranaraynmharach duaelkharachkarsngkdwnghlng nxkcakni phraxngkhyngthrngtrakdhmayephimetim 3 chbb echn kdhmaylksnamulkhdiwiwathwadwytdsinpnhmuemuxpichwdculskrach 1052 aelakdhmay 36 khx bth 1 wadwycaritnkhrbalemuxpiwxkculskrach 1054 kdhmaylksnatulakar tngemuxpichwdculskrach 1058 kahndsiththiaelahnathikhxngphutdsinkhdikhwamthngpwng phrarachkvsdikaihcdkhnsngkdwdincnghwdphthlung epntnngantangpraeths phrarachphngsawdar chbbphncnthnumas ecim rabuwainrchkalnipraethsiklekhiyngekhamaxxnnxmecriysmphnthimtri klawkhux inpi ph s 2234 nkesdcethaphraecakrungkmphuchaoprdihphrayaekhmr 3 khnnachangephuxkphngchanghnungmathway smedcphraephthrachaphrarachthanchuxwaphrabrmrtnakas chatikhechnthr wernthrmhnt xnntkhun wibulthrelidfa aelaphrarachthanphaaephrcanwnmakihphrayaekhmrnaipphrarachthannkesdcetha txmainpi ph s 2238 phraecakrungsristnakhnhut ewiyngcnthn idsngrachthutnaphrarachsasnmathulwacathwayphrarachthida aelakhxkrungsrixyuthyasngkxngthphipchwypxngknkrungsristnakhnhutcakkxngthphhlwngphrabang cungoprdihphrayankhrrachsimanaphl 10 000 ipkrungewiyngcnthn hlwngphrabangthrabkhawcungyxmpranipranxmkbewiyngcnthn emuxeruxphrathinngkhxngphrarachthidaphraecakrungsristnakhnhutmathunghnawdkraocm krmphrarachwngbwrsthanmngkhlkmiphrabnthurihrbphrarachthidanniwthiwnghna aelwesdcipkrabthulsmedcphraephthracha smedcphraephthrachakphrarachthantamthikhx danesrsthkicaelakarkha karkhaphayinrachxanackr inrchkalphraxngkhthrngsngesrimkarekstrkrrmsungepnphunthanthangesrsthkicodyechphaakhawepnphlphlithlkthangkarekstrthiyngepnaehlngrayidekhaphrakhlngkhxngrachsank nxkcakkarkhakhayphayinrachxanackraelwyngsngsinkhaxxkipkhakhaykbtangpraethsdwy swnphakhkarphlittamhwemuxngtang thnginaelanxkekhtrachthaniekidkarkhyaytw michawemuxngnasinkhabrrthukekwiynxxkkhayodyechphaaphxkhachawmxy aelaekhmr swnphxkhachawcin chwa aelamlayuidsrangtukxakharkhunmakmayephuxichepnkhlngsinkha aelasthanthicahnay yankarkhaphayinrachxanackrthisakhy echn yanpamaphraw yanpapha yanpatakw yanpaphaehluxng yanpakhnm tladbk aelatladna epntn swnsinkhathimikarkhyaytw mikarxupophkhbriophkhxyangmakinrchkalphraxngkh echn ekhruxngenginekhruxngthxng ekhruxngpradb phatang kradaskhxy smudda smudkhaw sinkhapraephthxahar kraebuxngmunghlngkha krabung takra epntn karkhakbtangpraeths subenuxngcakehtukarnkhbilfrngessxxkcaksyam emux ph s 2231 smedcphraephthrachathrngimoprdkhbkhasmakhmkbchawtawntknk aelaimsnbsnunkarkhakhaykbphxkhachawtawntk karkhakhayinrchkalphraxngkhcungmiaetkhakhaykbpraethsinthwipexechiydwykn odyechphaapraethscinaelayipun sphaphkarkhaetibotxyangmakinrchkalphraxngkh aelakarkratharthpraharkhxngphraxngkhkimidsngphlkrathbid txkarkhakbcinaelayipun aetyngidphungphaxasykarkhakbcinmakkhun thngkarcangwaneruxkhxngchawcinkhnsinkhaipyngemuxngnangasakisungepnemuxngthakhxngyipun aelacdkarthuratang nbwakarkhakbcinmibthbathednchdmakcnthungkhntngchawcinepnhwhna tngphnkngan aelatngkhunnangchawcininkrmthasay aemkrathngchawcinthithakhwamsaxaderuxsaephakyngidrbskdina srangkhwamimphxicaekphxkhachawkrungsrixyuthya rwmthngphxkhachawmxy aekhk aelamlayu praktin phngsawdar chbbhxsmudaehngchati khwamwa ecaphrakhlngktngihphwkcinepnhwhna ephraachanninewlanikarnphayinemuxngithycungtkxyuinmuxphwkcinthngsin thungaemwaphwkithy mxy aekhk mlayu aekhkmwrimphxicxyangyinginkarthiithylaexiyngekhakhangcinechnni aetkimklaphudkhdkhanxyangidephraathrabxyuwaphraecaaephndinthrngfngesiyngphwkcin inrahwang ph s 2230 2246 inrchkalphraxngkh yngkhngaetngeruxsaephasngsinkhaipkhaykbyipunthiemuxngnangasaki sungyipunmikarbnthukiwemux ph s 2236 wamieruxsaephaithyidipkhakhaykbyipun nxkcakniinsinthisyyahxlndainrchkalsmedcphraephthracha mikhxkahndsungaesdngihehnwayngkhngmikarkhakhaykbtangchatixyutlxdrchkalphraxngkh snthisyyahxlnda klawwa emuxidthiphraecakrungsyammiphrarachprasngkcacdsngsaephaipyipun michawsyamepnlukerux bristhcarbepnphuxxkenginihsahrbkarsuxhahnngkwangcanwn 7 000 hrux 10 000 aephnhnng aelwaetkrni odymienguxnikhwakrungsyamcaimwacangbukhkhlxunidthngthangtrngaelathangxxmephuxptibtikar inkarcdharwbrwmaephnhnngsahrbsngipcahnay swnkarkhakhaykbphxkhachawtawntk miephiyngphxkhachawhxlndathiyngkhakhaykbkrungsrixyuthya enuxngcakchwngehtukarnkhbilfrngessxxkcaksyam michawhxlndachwycdhaxawuthyuthothpkrnaelakalngphlaekfaysyamepnxnmak phayhlngcakprabdaphieskaelw smedcphraephthrachacungidphrarachthanekhruxngrachbrrnakaraekphusaercrachkaremuxngpttaewiy aelaidthasnthisyyakarkhakbhxlndaihmxikkhrngemuxplaypi ph s 2231 odymikhxtklngehmuxnkbsnthisyyainrchkalsmedcphranaraynmharach yxmphukkhadsinkhapraephthhnngkrabux hnngkwang aeladibukaetephiyngphuediyw swnkarkhakbxngkvsyngmikarthakarkhatlxdrchkalphraxngkhaetcakdprimansinkhaephiyng 200 tntxpiethann raykarsinkhasakhythikrungsrixyuthyasngkhayihkbphxkhachawtangchatipraktin bnthukkhxngesxr niokhlas ewth Sr Nicholas Waite ph s 2242 thungkarkhakhaykhxngxinediyinrxb 12 pi echn sngdibukkbngachangipkhaythirthebngkxl praethsxinediy sngdibuk ngachang aelaimkvsnaipkhaythiemuxngsurt snghmak imfang aelaimkvsnaipkhaythicin aelayngmisinkhaxun echn hnngkwang ww khrng aelanamn epntn swnxngkvsbnthukraykarsinkhathikrungsrixyuthyasngipkhay echn sngaerdibuk ngachang aelaimhxmipkhaythiyuorp bngkahla aelaemuxngsurt echphaadibuksngipkhayraw 200 tntxpi aelayngmisinkhasngipkhaythicinaelayipun echn hnngstw hmak imfang aelaimhxm epntn swnywnbnthukiwwa praethsywnsuxdinprasiw khrng imfang ngachang dibuk khaw takw cakithy aemwainrchkalphraxngkhmikarkhakhaykbpraethsinaethbexechiyepnswnihy thwakarkhakhaykbphxkhachawtawntkklbaeylngaelasphaphkarenginyngfudekhuxngxyangmak cnsngphlkrathbtxsphaphesrsthkickarkhayawnanthungrchkalsmedcphrathinngthaysra emxsiexxr edxbur sungekhamayngkrungsrixyuthyaemux ph s 2256 inrchkalsmedcphrathinngthaysraidekhiynbnthukiwwa khaphecamikhwamprahladicmakthiidehnbanemuxngrwngoryipmakthwphrarachxanackr emuxngithyewlaniimehmuxnkbemuxngithyemux 50 pilwngmaaelw sungepnewlathiphwkeraidmaehnkhrngaerk inewlaniimidehneruxtangpraethscanwnmakmay hruxehneruxithyipmakhakhaydngaetkxnaelw dansilpwthnthrrm smedcphraephthrachaemuxidkhunkhrxngrachsmbtiphramhakstriytnrachwngsbanphluhlwngnn thrngecriyphrarachkrniykictamobranrachephnidngedim thrngthanubarungphrasasna srangburnptisngkhrnphraxaram phraxuobsth phrawihar phramhaecdiyhlayaehng rwmthngsrangprasathinrchkalphraxngkh echn wdbrmphuththaram epnphraxaramhlwngpracarachwngsbanphluhlwng oprdekla ihsranginpiaerkthiidkhunkhrxngrachy n briewnbanhlwngpatxngsungekhyepnniwassthanedimkhxngphraxngkh wdphrayaaemn hruxwdphyaaemn oprdekla ihsrangptisngkhrnkhunemux ph s 2233 inphngsawdarmibnthukiwwa inpimaesngkxnnn smedcphraecaaephndinthrngphrarachdarithungkhunphraxacaryecaxthikarwdphrayaaemn sungidthwayphyakrniwwa caideswyrachsmbti aetyngthrngphnwchepnphiksuphawaxyuinwdphrayaaemnnn aelaphraphuepnecathanayaemnnk wdbanpatxng wdophtharam chuxediminrchkalsmedcphraephthracha hruxwdphraechtuphnwimlmngkhlaramrachwrmhawiharinpccubn srangrahwangpi ph s 2231 2246 rchkalsmedcphraephthracha wiharphramngkhlbphitr smedcphraephthrachaoprdihmikarptisngkhrnthanubarungephimetiminrchkalphraxngkh phrawiharphraphuththisyasn wdophthiprathbchang c phicitr srangemuxpi ph s 2244 smedcphraecasurieynthrathibdioprdiherimsrangemuxplayrchkalsmedcphraephthracha wdihysuwrrnaram c ephchrburi srangptisngkhrnemuxpi ph s 2245 wdprasath 201 wdphrhmkrasay 202 phrathinngbrryngkhrtnasn phrathinngthaysra smedcphraephthrachaoprdihsrangkhunemuxpi ph s 2231 inpithieswyrachsmbti tngxyubnekaaklangsranathangkhanghlngepnprasathcturmukh thrngichepnthiprathbfayin aelayngichepnthisarayphrarachxiriyabth phrathinngthrngpun oprdihsrangphrxmsalalukkhun inphrarachwnghlwngiwepnthxngphraorngsahrbesdcxxkwarachkar tahnksmedcphraphuththokhsacary wdphuthithswrry c phrankhrsrixyuthya epntahnksxngchnekhiynphaphlaycitrkrrm echn citrkrrmphrasuwrrnsamthuksr citrkrrmitrphumi citrkrrmthschatichadk citrkrrmmarphcy citrkrrmramekiyrti citrkrrmkhbwnphyuhyatrathangsthlmarkh epntn smedcphraephthrachaoprdihsrangephuxxuthisthwaysmedcphraphuththokhsacary phraxacarykhxngphraxngkh epnphraphiksuchnphuihyfayxryywasisungekhythwaywischnaxtththrrmpyha 8 khx inpi ph s 2233 praephniraphraaesngkhxngawbnkraphxngchang mikhunkhrngaerkinrchkalsmedcphraephthrachasungphraxngkhthrngphraprichasamarthinkarchangmak emuxkhrawesdcpraphasnmskarphraphuththbathsraburi thrngyunkhunraphraaesngkhxehnuxkraphxngkhangtnephuxbwngsrwngphraphuththbath cungklayepnrachpraephnithikstriythukphraxngkhemuxesdcpraphasnmskarphraphuththbathsraburi thrngrayraphraaesngkhxngawbnkraphxngchangthwaythukphraxngkh praktin phrarachphngsawdarkrungeka chbbhlwngpraesrith txnaephndinsmedcphramhaburus phraephthracha wa aethwethuxnphnlukxthikdwynanaphrrnphvksachati bangephlddxkxxkphlklnkladdutrakarta kesdcyatraphlakrthwyhayipodyladbsthlmarkhwithisinthang 550 esn kbrrluechingekhasuwrrnbrrpht cungihhyudkrabwnaehaehnthngpwngaelw smedcphraecaxyuhwkthrngphraaesngkhxngawehnuxtraphxngchangtnsinwarsamnd buchaphraphuththbathodyphrarachpraephniesrcaelwkbayphrakhchatharodymarkhwithi kahndthang 50 esn thungphrarachniewsnthareksm esdclngsuekyaelw esdcekhaprathbaerm n phratahnknn nxkcakniphraxngkhyngthrngptisngkhrnwdthisrangkhuninrchkalsmedcphraraemswr echn wdburbarim wdchngkhayi wdrtnaprasath epntn wrrnkrrminrchkal nganwrrnkrrminrchsmykhxngphraxngkhnnimpraktwrrnkrrmthinbwaepnnganchinexkid miephiyngaetwrrnkrrmchinyxm aelakdhmaybanglksnaethann echn phratarabrmrachuthisephuxklpna smysmedcphraephthracha kuslwinic chyktha epnkhmphiriblanxksrkhxmaelaphasabalismyxyuthyatxnplaykhlxymathangsmyrtnoksinthr aetngkhunodysmedcphrasngkhrachsmyxyuthyaephuxethsnhnaphrathinngemuxpi ph s 2232 rchkalsmedcphraephthracha enuxhakhaphirxthibaythungeruxng kusldichw thukphid khwrimkhwr sungkrmsilpakridsarwckhnphbkhmphiriblanchbbdngklawthiwdiketiy ekhttlingchn krungethphmhankhr emuxwnthi 1 singhakhm 2565 lngthaebiynepnkhmphiriblan elkhthi wkt 47 1 xtththrrmpnhakhxngsmedcphraephthracha wrrnkrrmpraephthkhwameriyngrxyaekwaetngemuxraw ph s 2233 epnwrrnkrrmthismedcphraephthrachadarsthamsmedcphraphuththokhsacaryemux n wnxngkhar eduxnaepd khunkhahnung pimaemiy othsk culskrach 1052 ihechlypyhaprisnathrrm 8 khxdngtxipni 1 thangihyxyaethiywcr 2 lukxxnxyaxumrd 3 hlwngecawdxyaihxahar 4 imokngxyathakngwan 5 changsarxyaphukklangemuxng 6 thacaihepnlukihexaifsumtn 7 thacaihlmbnthukaeteba 8 thacaiheriynohraihkhaxacarythng 4 esiy aelasmedcphraphuththokhsacaryidechlykhawischnann nbidwaepnnganphraniphnthkhxngsmedcphraephthracha phrakthinwnicchyktha smedcphraphuththokhsacary thwaywischna kdhmaylksnamulkhdiwiwath wadwytdsinpnhmu tngemuxpichwd culskrach 1052 aetkdhmaytrasamdwngichchuxwa iwykarbanaephnk kt 26 khx wadwycaritnkhrbal kdhmay 36 khx bth 1 piwxk culskrach 1054 kdhmaylksnatralakar tulakar ephimetim pichwd culskrach 1058 phrarachkvsdikaihcdkhnsngkdwdincnghwdphthlung pikhal ph s 2242 phbthiemuxngphthlung phrarachkvsdikaniekhiyndwyesndinsxdabnkradaskhxymicanwn 2 chbb chbbhnungekhiynepnphasaithy xikchbbekhiynepnphasaekhmraetkhxkhwamepnkhwamhmayediywknthngsxngchbb 17 phramehsismedcphraephthrachamiphramehsisakhy xyu 4 phraxngkh idaek krmphraethphamaty kn phramehsiediminphraephthrachaepnphuxphibalphraecaesuxtngaetyngthrngphraeyawphayhlngidkhunepnthikrmphraethphamaty krmhlwngoythaethph hrux mehsifaysay phrarachthidainsmedcphranaraynmharach miphrarachoxrskhuxtrsnxy thrngsnicthangdankarsuksainhlayaekhnngwicha chwnghlngyaytamphrarachmardaipxyu n phratahnkiklwdphuthithswrry krmhlwngoythathiph hrux mehsifaykhwa phrakhnisthainsmedcphranaraynmharach miphrarachoxrskhuxecaphrakhwy krmphrarachwngbwrsaercothsdwythxncnthn nangkusawdi mehsiphrarachthancakphranaraynmharach phrathidaphyaaesnhlwng ecaphukhrxngnkhrechiyngihmphrabrmrachxisriyysaelaphraekiyrtiysphrabrmrachxisriyys ecaphrayasursriphraephthrachathibdi srisuriyaphichatisuriywngs xngkhsmuhphrakhchbalsmedcphramhaburus wisuththiedchxudm brmckrphrrdisr brmnathbphitr smedcphraphuththecaxyuhwsmedcphramhaburus wisuththiedchxudm brmckrphrrdiecaphiphphkrungethphphramhankhr bwrthwarawdisrixyuthyamhadilkphphnphrtnrachthaniburirmy xudmphrarachniewsnmhasthan ph s 2231 ph s 2246 phraphuththruppracaphraxngkh phraphuththruppangplngphrakrrmthan pangchkphabngsukul epnphraphuththrupkhwamsungxngkhphra 21 sm khwamsungcakthanthungphrarsmi 33 sm inrupxiriyabthyunhxyphrahdthkhwathbphrahdthsay phrahtthsaythrngtharphrakr thxdphraentrlngebuxngtaxnepnkiriyaphicarnaduxsupha phrabathsmedcphranngeklaecaxyuhwoprdekla ihsrangkhun txmaphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhwoprdekla ihhlxthanchnlangaelwihkaihlthxng ekhluxbolhadwythxngaedng phrxmcarukkhxkhwam ephuxxuthisphrarachkuslthwayphrathadathiebsr smedcphraephthracha 107 pccubnpradisthan n hxrachkrmanusr wdphrasrirtnsasdaram 62 phrabrmrachanusrnsthanthixnenuxngdwyphranam thnnephthracha Thanon Petracha xaephxemuxnglphburi cnghwdlphburi hxngprachumphraephthracha xakharrtnethphstri mhawithyalyrachphtethphstri cnghwdlphburiinwthnthrrmsmyniymphraephthracha wy 56 phrrsa tamcintnakarkhxngcitrkr m wrphinit bnthankhxngphaphcitrkrrm wdym xyuthya mikarnaphrarachprawtikhxngsmedcphraephthrachamasrangepnsuxephuxkhwambnethinghlaykhrng rwmthngnganwrrnkrrm nwniyaythngithy aelatangpraeths idaek wrrnkrrmaelanwniyayxingprawtisastr wrrnkrrmithy khamsmuthr nwniyayxingprawtisastr aetngodywisnu ekhruxngam klawthungphraephthrachatharthpraharlmxanacsmedcphranaraynaelasthapnarachwngsbanphluhlwng ephchrphranarayn txnxwsanphranarayn nwniyayxingprawtisastraetngody hlwngwicitrwathkar kimehliyng miehtukarnphraephthrachaprabdaphieskkhunkhrxngrachsmbtilmrachbllngksmedcphranaraynmharachwrrnkrrmtangpraeths Louis XIV et le Siam phraecahluysthi 14 kbkrungsyam nganekhiynechingprawtisastraetngody Dirk Van der Cruysse nkprawtisastrchawebleyiym klawthungphraephthrachasrangkhwamkhdaeynginkhbwnrachthutaelakxngthharkhxngfrngess Pour la plus grande gloire de Dieu ruksyam inphranamkhxngphraeca nwniyayxingprawtisastrtiphimphinpraethsfrngessaetngody mxrkan spxraetch nkekhiynrwmsmychawfrngess mitwlakhrsmedcphraephthrachaphukxkbtphukxbkuaephndinsyam fxlkhxn Phaulkon nwniyayxingprawtisastr aetngody wileliym dltn mitwlakhrchux phraephthracha klawthungehtukarnkarkxkbtyudphrarachxanacaelapraharchiwitphrayawiicheynthr khxnsaetntin fxlkhxn Le Ministre des moussons fxlkhxnaehngxyuthya nwniyaychiwitecaphrayawiicheynthr klawthungphraephthrachaidecrcaephuxihkxngthharfrngessyxmaephchnthlksn bthlakhrrxngeruxng khbththrrmethiyrinphrarachphngsawdarithyaephndinphrathadathiebsr pichwd culskrach 1046 praesristhxksrrcnasahrblkhrhlwngnvmitr r s 129phraecabrmwngsethx krmphranrathippraphnthphngsthrngniphnth emux ph s 2454 nitysarphlxyaekmephchr praktkhaklxnklawthungphraephthracha dngbthklxnwa khidphlangthangphraxngkhthrngoprdeks eriykphraephthrachamatxsxngtrstrukpruksabycharxng rbsnxngbrmnathrachthan phlxyaekmephchr 11 12 204 lakhr buphephsnniwas aela phrhmlikhit lakhrothrthsnxingprawtisastrxxkchaykhrngaerkthangsthaniothrthsnithythiwisichxng 3 mitwlakhrhnungchux phxthxngkha hrux khunphraephthracha thiphayhlngprabdaphieskepnsmedcphraephthracha khunkhrxngrachyepnphraecakrungsrixyuthya rbbthody srut wicitrannthphaphyntr phraecaesux phnthaynrsingh phaphyntrithyxingprawtisastrxxkchayemux ph s 2525 mitwlakhr smedcphraephthracha rbbthody smchay xasncinda phnthaynrsingh phaphyntrithyxingprawtisastrxxkchayemux ph s 2558 mitwlakhr smedcphraephthracha rbbthody smphph ebycathikul epnphaphyntraenwaexkchnxxkchayemuxwnthi 2 thnwakhm ph s 2564 mitwlakhrchux xxkyakhchbal rbbthody srut wicitrannth mibthbathinkarkwadlangsayeluxdyamada srixoythya phakh 2 mitwlakhrchux smedcphraephthracha rbbthody hmxmrachwngsmngkhlchay yukhltanan eruxngela tananchaynxnhlb prawtiwdkudithxng epntananthichawkudithxngelaprawtikhxngwdkudithxngtxknmahlaychwxayukhn klawthung chaychux singh mikhwamsamarthinkareliyngchangidedinthangphanmaaelwnxnhlbthiwdaehngnicaedinthangtxipyngkrungsrixyuthyaephuxsmkhrepnthharinkxngchang ecaxawaswdesinghway chuxedimkhxngwdkudithxng klawkbnaysinghwa txipcaidepnihyepnotinaephndin sungkaltxmakhux smedcphraephthracha esliyngphraephthrachawdkudithxng cnghwdsuphrrnburi chawbankudithxngechuxknwaepnesliyngthismedcphraephthrachathrngichepnphrarachyanemuxkhrawesdcsmophchechlimchlxngsrangkutiwdesinghwayaelwthrngepliynchuxwdesinghwayepnchuxwdkudithxngduephimrayphranamphramhakstriyithy phaphkrabwnechiyphrabrmsphsmedcphraephthrachahmayehtuphranam phrathrngthrrm Phra Trong Than praktincdhmaykhxng Aernout Cleur ecahnathibristhxinediytawnxxkkhxngenethxraelnd VOC khwamwa Relaas van t voorgevallene by de ziekte en overlyden van den Siamse koning Phra Trong Than genaamt aelakhwamwa Sickness and Death of the Siamese King Named Phra Trong Than Phetracha is based on a story told by an unnamed courtier pismedcphranaraynswrrkht tamthicdiwinhnngsuxphngsawdarniphid thicringxik 6 pi cungswrrkhtemux n wnxathity eduxn 8 khun 11 kha pimaorng culskrach 1050 trngkbwnthi 11 krkdakhm khristskrach 1688 kh r inphrarachphngsawdar bxkwa phraephthrachaekhyxxksukaetnganphrarachsngkhramechiyngihmethann swnsukramyklawwabangthicaidiprbphmaramykbecaphrayaoksa khunehlk aelakhrawphmatamekhamacungmxbswamiphkdi hmaythung xxkhlwngsrskdi hmaythung xxkphraephthracha aemsmedcphraephthrachathrngimidichphraaesngkhxphlphayxxkrbkbkbtthrrmethiyraetichxawuthhnkaethn xaccamikhwamsakhyinechingsylksn khux epnthngtwaethnbrrphburusphuphrxmih twaethnkhumkhrxngrachwngs aelaepnkhwykalngickhxngphuthuxkhrxng piinphrarachphngsawdar chbbsmedcphraphnrtn wdphraechtuphn hmayehtuwaepn ph s 2241 thicringxik 6 pi cungoprdihsrangphraemru phrathinngbrryngkhrtnasn inphrarachphngsawdarkrungsrixyuthyahlaychbb klawtrngknwa srangkhuninrchkalsmedcphraephthracha emuxculskrach 1049 khwamwa luskrach 1049 piethaanphsk smedcbrmphitrphraphuththecaxyuhw miphrarachdarsihchangphnkngancdkarsrangphramhaprasathxngkhhnung inphrarachwngkhangin khrnesrcaelwphrarachthannambyytiphramhaprasathchux phrathinngbrryngkrtnasn epnsiprasathdwyknthngekasam khux phrathinngwiharsmedcxngkhhnung phrathinngsrrephchyprasathxngkhhnung phrathinngsuriyamrinthrxngkhhnung aelwihkhudsraepnkhuxyusaykhwa phrathinngbrryngkrtnasnaelw ihkxxangaekwaelphuekhamithxxuthktharaihllnginxangaekwnnthirimsrakhuphramhaprasathnnael ihtharahdna n xangaekwrimnafngthxihnaedinekhaipphudkhun n xangaelihthaphrathinngthrngpn n thaysraepnthiesdcxxkklb aetkhwaminphrarachphngsawdarkhangtnkhdaeyngkbcdhmayehtukhxngchawtangchatixyangnxy 3 chbb thitangklawwaphrathinngbrryngkhrtnasnmixyuaelwinrchkalsmedcphranaraynmharach aelakhdaeyngkbkhrawsmedcphranaraynmharachthxdphraentrcnthruprakhaemuxwnthi 11 thnwakhm 2228 n phrathinngeyn thaelchubsr emuxnglaow lphburi phraxngkhthrngsnphrarachhvthyindandarasatrxyangyingthrngoprdihsrangphrathinngthrngdawkhuninphrathinngbrryngkhrtnasnthiphrarachwngkrungsrixyuthyainrchkalphraxngkhxangxingechingxrrthGaspar Bouttats sr Hendrik Franciscus Verbruggen 1690 VANDE REVOLVTIE VAN SIAM TRACTAET OFT CORT BEGRYP VAN DE REVOLUTIEN OFT STAEDTSVERANDERINGEN VOOR GHEVALLEN in meest alle de Rijcken des VVereldts sedert den Iaere 1600 tot den Iaere 1690 N P d hoirs van Maximiliaen Graet p 60 prayuthth siththiphnth 2505 tntrakulkhunnangithy krungethph khlngwithya 544 hna phaskr wngstawn praethsrach chatistru aelaphxkhananachati krungethph yipsi 2553 hna 182 rachxanackrsyam lingkesiy hxngeriynprawtisastrsilp 2560 9 kumphaphnth singhethiymrachrthinnganphrabrmsphsmedcphraephthracha aefnsi hrux micring silpwthnthrrm VOC 1691 Relaas van t voorgevallene by de ziekte en overlyden van den Siamse koning Phra Trong Than genaamt Relation of What Occurred upon the Sickness and Death of the Siamese King Named Phra Trong Than 1703 or 1704 fos 61 74 phawrrn eruxngsilp Dutch East India Company Merchants at the Court of Ayutthaya Dutch Perceptions of the Thai Kingdom c 1604 1765 TANAP Monographs on the History of Asian European Interaction Vol 8 Brill Press University of Leiden p 175 darngrachanuphaph phraecabrmwngsethx krmphra 2468 xthibayphranamphraecaaephndinkhrngkrungsrixyuthyaepnrachthani phrankhr orngphimphosphnphiphrrththnakr mhaxamatytri phrayaphrtracha hmxmhlwngthsthis xisresna phimphchwyinkarphrarachthanephlingsphkhunhyingthxngyxy esninrngkhvththi cc emuxpichlu ph s 2468 phinic cnthr aelakhna 2565 yxnprawtisastr 417 pi xyuthya 33 rachn phukhrxngnkhr krungethph ephchrphinic 288 hna ISBN 978 616 5784 79 5 aesng phichydis elaekrd aephndinsmedcphranaraynmharach krungethph bangkxkbukh 128 hna hna 115 ISBN 978 616 1506 57 5 Reid Anthony Editor Dhiravat na Prombeja Southeast Asia in the Early Modern Era Cornell University Press 1993 ISBN 0 8014 8093 0 phrrkhprachathipty 2513 warsarprachathipty 2 1 26 37 waruni oxstharmy emuxngsuphrrn bnesnthangkarepliynaeplngthangprawtisastr phuththstwrrsthi 8 tnphuththstwrrsthi 25 krungethph sankphimphmhawithyalythrrmsastr 2547 324 hna hna 196 ISBN 974 571 883 1 exkchy okhwawisarch 2563 chnsutrprawtisastr ikhprisnaphranarayn krungethph mtichn 464 hna ISBN 978 974 02 1720 6 thwiwuthi phngsphiphthn 2566 elaeruxngemuxngithy elm 2 krungethph m p ph 269 hna ISBN 978 616 603 109 6 phuthr phumathn oksapan rachthutkuaephndin krungethph sthabnkareriynruaelasrangsrrkh phiphithphnthkareriynru 2550 hna 33 phlbphlung mulsilp khwamsmphnthxanackrxyuthya frngess smyxyuththya krungethph brrnkic 2523 hna 110 238 aesng phichydis 2555 elaekrd aephndinsmedcphranaraynmharach krungethph bangkxkbukh 128 hna hna 114 ISBN 978 616 15 0657 5 thrrmkhamn ophwathi eriyberiyng thwil sunthrsalthul brrnathikar sanknganpldkrathrwngmhadithy ephyaephr 2511 prawtimhadithy swnklang phakhthi 2 txnthi 2 krungethph khnakrrmkarprawtiaelaphiphithphnthmhadithy 423 hna hna 167 168 smakhmprawtisastrinphrarachupthmph smedcphraethphrtnrachsuda syambrmrachkumari warsarsmakhmprawtisastr 2548 27 50 namanukrmphramhakstriyithy hna 158 ekrikvththi echuxmngkhl 2562 kxnaephndinepliynrachbllngk krungethph iphlinbukhent 240 hna hna 187 ISBN 978 616 4415 19 5 xudm pramwlwithya inrachsankphranaraynmharach phrankhr oxediynsotr 2505 539 hna hna 268 s sima krkdakhm 2556 elaeruxngphraephthrachatkkraidphlxyocn silpwthnthrrm 34 9 25 aesng phichydis elaekrd aephndinsmedcphranaraynmharach krungethph bangkxkbukh 128 hna hna 115 ISBN 978 616 1506 57 5 nrisranuwdtiwngs smedcecafa krmphraya aeladarngrachanuphaph smedc krmphraya lksnanungphakhima khdcakphrasmudtarachang chbbsuxcak m l aedng supradisth smudithydaesnrngkh sasnsmedc elmthi 11 phrankhr orngphimphkhuruspha 2505 353 hna hna 156 Simon de La Loubere 1691 Du royaume de Siam Paris Chez la Veuve de Jean Baptiste Coignard et Jean Baptiste Coignard 446 pp p 271 laluaebr 2510 cdhmayehtu la luaebr rachxanackrsyam chbbsmburn aeplody snt th okmlbutr krungethph kawhna manph thawrwthnskul 2502 khunnangxyuthya krungethph sankphimphmhawithyalythrrmsastr rwmkb mulnithiokhrngkartarasngkhmsastraelamnusysastr 298 hna khris ebekxr aelaphasuk phngsiphcitr 2563 prawtisastrxyuthya hastwrrssuolkihm chbbphimphsa krungethph mtichn 470 hna ISBN 978 974 0 21721 3 nayphledsfarc 2552 chingbllngkphranarayn aeplody pridi phisphumiwithi krungethph mtichn 120 hna ISBN 978 974 0 20324 7 frngsws xngri turaepng aelapxl saewiyr 2559 prawtisastraehngphrarachxanackrsyam aelaprawtsastrithysmykrungsrixyuthyachpbturaepng aeplody smsri exiymthrrm krungethph krmsilpakr 282 hna ISBN 978 616 5 43440 9 krmsilpakr 2522 prawtisastrithysmykrungsrixyuthya chbbturaepng aeplody smsri exiymthrrm krungethph hanghunswnsamynitibukhkhl shprachaphanichy 268 hna rthwichy suphcturs 2556 tladsdphunthin cnghwdsuphrrnburi rupaebb phthnakar aelakarichnganpccubn withyaniphnthsilpsastrmhabnthit sthaptykrrm nkhrpthm bnthitwithyaly mhawithyalysilpakr 260 hna hna 95 wllpha rungsiriaesngrtn 2537 lphburi xdit pccubn krungethph ithywthnaphanich 189 hna ISBN 978 974 0 81481 8 ephling phupha wikvtkarnwnghna ehtuthurysbnaephndinsyam krungethph iphlinbukhent 2544 320 hna hna 149 ISBN 978 616 4413 24 5 pridi phisphumiwithi karptiwtiinaephndinsmedcphranarayn ph s 2231 silpwthnthrrm 28 7 98 phvsphakhm 2550 pridi phisphumiwithi wrphr phrhmicrks aelasara miphlkic 2561 18 mithunayn yxnrxyprawtisastremuxngekasuphrrnburiaelakhwamsakhykhxngphraephthrachatnrachwngsbanphluhlwng okhrngkarxnurks phthna aelasubsansilpawthnthrrmemuxngekasuphrrnburi echuxmtxwithikhwamepnxtlksnkhxngswndusit suphrrnburi mhawithyalyswndusit withyaekhtsuphrrnburi 79 hna nithi exiywsriwngs 2537 karemuxngithysmyphranarayn phimphkhrngthi 3 krungethph mtichn 89 hna ISBN 974 704 963 5 warsarthrrmsastr 10 2 2524 xangin khcr sukhphanich aelawuthichy mulsilp bk 2523 khxmulprawtisastrsmyxyuthya exksarthangwichakarkhxngsmakhmsngkhmsastraehngpraethsithy krungethph orngphimphmhawithyalythrrmsastr 238 hna phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbphncnthnumas ecim hna 317 priytithrrmthada aeph talalksmn phraya kathrethph krataythxng phrarachphngsawdarkrungeka chbbhlwngpraesrithxksrniti aelaphrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbphncnthnumas ecim krungethph krungsyamkarphimph 2514 298 hna hna 261 phimphepnxnusrninnganphrarachthanephlingsph naynath krataythxng n chapnsthankhuruspha wdsraeksrachwrmhawihar wnthi 19 krkdakhm phuththskrach 2514 phrarachphngsawdar chbbphrarachhtthelkha phimphkhrngthi 6 phrankhr krmsilpakr 2511 hna 496 prachumphngsawdar phakhthi 82 eruxng phrarachphngsawdarkrungsyam caktnchbbkhxngbritichmiwesiymkrunglxndxn phimphkhrngthi 2 krungethph krmsilpakr 2537 423 hna hna 259 ISBN 978 974 4190 25 3 khnakrrmkarxanwykarcdnganchlxngsirirachsmbtikhrb 50 pi prachumphngsawdarchbbkaycnaphiesk elm 2 krungethph orngphimphkhurusphaladphraw 2542 434 hna hna 236 sucitt wngseths 2548 warsarsilpwthnthrrm 26 4 6 78 phlbphlung mulsilp khwamsmphnthrahwangithykbfrngesssmyxyuthyainrchkalsmedcphranaraynthungrchkalsmedcphraephthracha ph s 2199 2246 krungethph mhawithyalysrinkhrinthrwiorth 2519 356 hna hna 151 Bhawan Ruangsilp 2016 Kromluang Yothathep King Narai s Daughter and Ayutthaya Court Intrigue Journal of the Siam Society 104 krmsilpakr 2548 karptiwtiplayaephndinsmedcphranaraynmharachaelakarlmslaykhxngkrungsrixyuthya aeplody s phiess khunhyingaemnmas chwlit krungethph krmsilpakr 103 hna ISBN 978 974 9 52804 4 xangthungin raynganlaexiydaelathuktxng ekiywkb karptwtixnyingihy aelamhscrrysungekidkhunemuxerw ni inphrarachxanackrsyam A Full and True Relation of the Great and Wonderful Revolution That happened lately in the Kingdom of Siam pp 1343 5 citrsingh piyachati kbd krungsrixyuthya krungethph yipsi krup 2551 251 hna hna 208 ISBN 978 974 3577 30 7 khnakrrmkarxanwykarcdnganchlxngsirirachsmbtikhrb 50 pi prachumphngsawdarchbbkaycnaphiesk elmthi 3 krungethph kxngwrrnkrrmaelaprawtisastr krmsilpakr 2542 hna 420 phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbphncnthnumas ecim krungethph khlngwithya 2507 990 hna hna 427 rwi sirixissrannth bk phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbphncnthnumas ecim aelaphrarachphngsawdarkrungsrixyuthyachbbhlwngpraesrith khaihkarkrungeka khaihkarkhunhlwnghawd nnthburi sripyya 2559 800 hna ISBN 978 616 7146 87 4 phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbphncnthnumas ecim hna 330 331 prmanuchitchionrs smedcphramhasmneca krmphra 2488 phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbkhwamsmeddkrmphraprmanuchitchionrs elm 3 phrankhr orngphimphphracnthr 137 hna khnakrrmkarcharaprawtisastrithy sankelkhathikarnaykrthmntri 2523 aethlngnganprawtisastrexksarobrankhdi 14 16 darngrachanuphaph smedc krmphraya 2511 phrarachphngsawdar chbbphrarachhtthelkha phimphkhrngthi 6 phrankhr krmsilpakr 884 hna prachumphngsawdar phakhthi 64 phngsawdarkrungsrixyuthya chbbphncnthnumas ecim ecaphaphphimphinnganplngsph khunhyingptiphanphiess lmun xmatykul n wdprayurwngsawas wnthi 9 minakhm ph s 2479 phrankhr osphnphiphrrththnakr 2479 437 hna phrarachphngsawdar chbbsmedcphraphnrtn wdphraechtuphn trwcsxbcharacakexksartwekhiyn mulnithi thunphraphuththyxdfa inphrabrmrachupthmph cdphimphodyesdcphrarachkuslinkarphrarachthanephlingsph phrathrrmpyyabdi thawr tis sanukor p th 4 n emruhlwnghnaphlbphlaxisriyaphrn wdethphsirinthrawas wnxathitythi 10 phvsphakhm ph s 2558 krungethph xmrinthrphrintingaexndphblichching 558 hna ISBN 978 616 92351 0 1 tngecarachnikul aephndinsmedcphramhaburus phraephthracha culskrach 1044 1059 in phrarachphngsawdar chbbphrarachhtthelkha phakh 2 2455 krungethph m p th m p ph hna 126 nrisranuwttiwngs smedc ecafakrmphraya aeladarngrachanuphaph smedc krmphraya sasnsmedc elmthi 2 krungethph mulnithismedcecafakrmphrayanrisranuwttiwngs 2534 hna 216 ISBN 978 974 0056 57 7 prayur phisnakha smedcphraecaexkths krungethph sankhxsmudklang 09 2515 472 hna hna 83 phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbphncnthnumas ecim hna 318 xachyasiththi srisuwrrn 2566 4 thnwakhm phraecathrngthrrm khxngsmachiksphaphuaethnrasdrinsphahinxxn kbphraecapaksraaelaphraecathaysrakhxng k s r kuhlab di wnoxwn Life amp Culture People subkhnemux 14 thnwakhm 2566 xangin k s r kuhlab 2448 mhamukhmatyanukulwngs wadwyladbwngstrakulkhunnangithythngsininaephndinsyam k s r kuhlab 2538 xayatiwthn hnngsuxbarungpyyaprachachn krungethph smakhmmitrphaphyipun ithy 144 hna ISBN 978 974 8 36314 1 xathr cnthwiml 2546 prawtikhxngaephndinithy phimphkhrngthi 2 krungethph n s ph faemuxngithy 445 hna smbti tharngthywngs 2547 karemuxngkarpkkhrxngithy ph s 1762 2500 krungethph esmathrrm 801 hna ISBN 978 974 9 23715 1 darngrachanuphaph phraecabrmwngsethx krmphra 2469 chumnumphraniphnth smedckrmphrayadarngrachanuphaph phimphinnganphrarachthanephlingsph hmxmecahyingphrxmephraphrrn thc rtn cpr 3 chayainphraecaphiyaethx krmkhunsinghwikrmekriyngikr emuxpikhal ph s 2469 phrankhr osphnphiphrrththnakr 119 hna La Loubere Simon de 1693 A new historical relation of the kingdom of Siam London F L for Tho Horne Francis Saunders and Tho Bennet cdhmayehtulaluaebr elmthi 2 phraniphnth phraecabrmwngsethx krmphranrathippraphnthphngs krungethph xngkhkarkhakhxngkhuruspha 2505 397 hna oksapanipfrngess phakh 4 prachumphngsawdar elmthi 33 prachumphngsawdar phakhthi 59 61 krungethph xngkhkarkhakhxngkhuruspha 2512 312 hna suentr chutinthrannth 2545 erux wthnthrrmchawnalumecaphraya 141 hna ISBN 978 9 749 08126 6 kirti ekiyrtiyakr 2546 cdhmayehtubnthukkhwamthrngcakhxng eruxoth echwalexr edx fxrbng in cdhmayehtuxyuthyalmslay xxkphraethphrachahruxfxlkhxn ikhrwangaephnchingbllngksmedcphranarayn nnthburi cdhmayehtu 613 hna ISBN 978 9 749 16404 4 Claude de Forbin 2509 bnthukkhwamcakhxngxxkphraskdisngkhram hrux cdhmayehtufxrbng Le voyage du comte de Forbin a Siam in French thrngniphnthaeplody hmxmecadarsdarngkh ethwkul phrankhr phracnthr 200 hna edx fxraebng okld 2486 cdhmayehtufxrbng thrngniphnthaeplodyhmxmecadarsdarngkh ethwkul ecaphaphphimphaeckinnganphrarachthanephlingphrasphphrawrwngsethx krmhmunethwawngsworthy na phraemruwdethphsirinthrawas wnthi 7 emsayn 2486 phrankhr osphnphiphthnakr 237 hna silpwthnthrrm 22 1 3 kirti ekiyrtiyakr cdhmayehtuxyuthyalmslay xxkphraethphracha hruxfxlkhxn ikhrwangaephnchingbllngk smedcphranarayn krungethph cdhmayehtu 2546 639 hna ISBN 978 974 9164 04 4 krmsilpakr hxsmudaehngchati prachumphngsawdar chbbhxssmudaehngchati elmthi 8 obchxng aetng pridi phisphumiwithi aepl hxkkhangaekhr bnthukkarptiwtiinsyamaelakhwamhaynakhxngfxlkhxn aeplody pridi phisphumiwithi krungethph mtichn 2556 79 hna wirwly ngamsntikul suphwthy suphwar culphicarn khxekhiynephuxaesdngmutacitinoxkasthi phltri hmxmrachwngs suphwthy eksmsri mixayukhrb 6 rxb inphuththskrach 2547 krungethph efuxngfa 2547 175 hna ISBN 978 974 9633 29 8 khaihkarkhunhlwnghawd nnthburi mhawithyalysuokhthythrrmathirach 2547 244 hna ISBN 974 645 767 5 prachumkhaihkarkrungsrixyuthya rwm 3 eruxng khaihkarchawkrungeka khaihkarkhunhlwngwdpraduthrngthrrm khaihkarkhunhlwnghawd krungethph aesngdaw 2553 536 hna ISBN 978 616 5080 73 6 smakhmprawtisastr 2538 warsarrwmbthkhwamprawtisastr 17 xathr cnthwiml prawtikhxngaephndinithy phimphkhrngthi 2 krungethph xksrithy 2546 445 hna krmsilpakr smedcphranarayn aela phraecahluysthi 14 bthwiekhraahthangwichakarekiywkbsmphnthphaphithy frngess rchsmysmedcphranarayn krungethph krmsilpakr 2530 133 hna ISBN 978 974 8356 67 9 nayphledsfarc aetng pridi phisphumiwithi aepl chingbllngkphranarayn Relation des Revolutions arrivees a Siam dans l annee 1688 aeplody pridi phisphumiwithi krungethph mtichn 2552 ISBN 978 974 0203 24 7 winy phngssriephiyr pridi phisphumiwithi aelawirwly ngansntikul srichimyacary phiphithniphnthechidchuekiyrti sastracary dr praesrith n nkhr sastracarywisuthth busykul enuxnginoxkasmixayukhrb 84 piin ph s 2545 krungethph khnaxnukrrmkarcharakdhmaytrasamdwng khnakrrmkarcharaprawtisastrithy krathrwngwthnthrrm 2546 431 hna ISBN 978 974 8430 93 5 phwkkhrisetiyntxngkhngkhuk prachumphngsawdar elm 21 prachumphngsawdar phakhthi 35 aela 36 krungethph xngkhkarkhakhxngkhuruspha 2511 elksumitr oddchun xphithanprawtisastrithy phakhsxng nbaettnkrungsrixyuthyathungsmykrungthnburi phrankhr nitisasn 2504 860 hna sanknganrachbnthityspha saranukrmprawtisastrithy chbbrachbnthitysthan aekikhephimetim elmthi 1 krungethph rachbnthitysthan 2549 428 hna ISBN 974 958 863 0 mhawithyalythrrmsastr 2522 warsarthrrmsastr 9 suwithy thirsaswt exksarprakxbkarsuksawichaprawtisastrithy 1 smythnburi khxnaekn khnamnusysastraelasngkhmsastr mhawithyalykhxnaekn 2525 376 hna khaihkarkhunhlwnghawd chbbhlwng phrankhr orngphimphosphnphiphrrththnakr 2459 135 hna nayphltri phrayaethphathibdi phimphaeckinnganplngsphnayphntri hlwngphithksnvebsr cr bunnakh phubida pimaorng ph s 2459 lacul hwbecriy ekrdphngsawdarkrungsrixyuthya aelabangsarathinaruinwnghlwng wnghnakrungrtnoksinthr echiyngihm The Knowledge Center 2546 506 hna ISBN 978 974 9517 04 8 phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbsmedcphraphnrtn wdphraechtuphn phrankhr khlngwithya 2505 wrrnsiri edchakhupt aelapridi phisphumiwithi krungeka elaeruxng krungethph mtichn 2554 304 hna ISBN 978 974 0207 45 0 mulnithielk praiph wiriyaphnthu 2543 warsaremuxngobran 26 krmsilpakr khaihkarchawkrungeka khaihkarkhunhlwnghawd aelaphrarachphngsawdarkrungeka chbbhlwngpraesrithxksrniti phrankhr khlngwithya 2510 472 hna phrarachphngsawdar chbbphrarachhtthelkha hna 503 smedcphraphnrtn aekw phrarachphngsawdarkrungsrixyuthyaaelaculyuththkarwngs krungethph mhaculalngkrnrachwithyaly 2535 336 hna ISBN 978 974 4172 53 2 phrarachphngsawdar chbbphrarachhtthelkha hna 503 suentr chutinthrannth exksarxangxing karemuxnginprawtisastrrachsank hngsawdi srixyuthya phrasuphrrnklya caktanansuhnaprawtisastr phimphkhrngthi 5 krungethph mtichn 2550 200 hna hna 60 ISBN 974 322 819 5 prachumphngsawdar phakhthi 82 eruxng phrarachphngsawdarkrungsyam caktnchbbkhxngbritichmiwesiymkrunglxndxn phimphkhrngthi 2 krungethph krmsilpakr 2537 423 hna ISBN 978 974 4190 25 3 khris ebekhxr aelaphasuk phngsiphcitr prawtisastrxyuthya hastwrrssuolkihm phimphkhrngthi 3 krungethph mtichn 2563 470 hna ISBN 978 974 0217 21 3 suphrn oxecriy mxyinemuxngithy krungethph sankngankxngthunsnbsnunkarwicy skw 2541 382 hna ISBN 978 974 8630 46 5 silpwthnthrrm 25 1 3 prachumphngsawdar phakhthi 64 phngsawdarkrungsrixyuthya chbbphncnthnumas ecim phimphepnxnusrninnganchapnkicsph nayaem chwlitaelanaychay chwlit n wdmkudkstriyaram wnthi 14 minakhm ph s 2503 phumi ciraedchwngs aetng wdsrithwi wdthamxy cnghwdnkhrsrithrrmrach ephyaephr 5 krkdakhm 2564 phrayaramedoch ecaemuxngnkhrsrithrrmraythinbthuxsasnaxislam subkhnemux 3 knyayn 2565 krmsilpakr prachumphngsawdar phakhthi 82 eruxng phrarachphngsawdarkrungsyam caktnchbbkhxng britichmiwesiymkrunglxndxn krungethph krmsilpakr 2537 423 hna ISBN 978 974 4190 25 3 phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbhmxbrdel krmsilpakr hxsmudaehngchati prachumphngsawdar chbbhxsmudaehngchati elmthi 13 phrankhr kawhna 2506 krmsilpakr 2503 warsarsilpakr 3 6 aesngcnthr itreksm wawithy krungethph krmsilpakr 2529 52 hna hna 11 suriya smuthkhupti aelaphthna kitixasa phakhawma yam waw khwameriyngwadwyrangkay xtlksn aelaphunthiinwthnthrrmithy nkhrrachsima sankwichaethkhonolyisngkhm mhawithyalyethkhonolyisurnari 2543 172 hna ISBN 974 735 971 5 xuthxng prasasnwinicchy sxniwinsim k x inchiwitxisan krungethph fulstxp 2551 316 hna ISBN 978 974 0648 46 8 xaphn n phthlung aelakhna prawtisastrtrakul sultan sulyman krungethph sayskul sultan sulyman 2530 278 hna ISBN 978 974 8357 11 9 ephling phupha rthpraharyudbllngkkstriybnaephndinxyuthya krungethph ecaphraya 2557 192 hna ISBN 978 616 1521 60 8 sankelkhathikarnaykrthmntri khnakrrmkarcharaprawtisastrithyaelakhnakrrmkarcdphimph 2523 aethlngnganprawtisastrexksarobrankhdi 14 16 nithi exiywsriwngs aelayngyuthth chuaewn 2550 khabsmuthrithyinrachxanackrsyam prawtisastrtwtnkhxngphakhitsmyxyuthyathungtnrtnoksinthr krungethph nakhr 489 hna ISBN 978 974 7 03286 4 sunymanusywithyasirinthr xngkhkarmhachn mlayu sngkhmaelawthnthrrm thankhxmulklumchatiphnthuinpraethsithy subkhnemux 10 knyayn 2566 xathity thxngxinthr prawtisastrptanicakyukhkxnprawtisastrthungyukhrthcarit in rthsastr rwmbthkhwamwichakarkhrbrxb 40 pi elmthi 1 sakhawicharthsastr mhawithyalysuokhthythrrmathirach 2 tulakhm 2565 suphkant thxngpxng bk 2558 thini emuxngpttani in culsarsamitphakh 9 7 1 tulakhm 2557 minakhm 2558 krmsilpakr 2507 cdhmayehtuohr in prachumphngsawdar phakhthi 8 phimphepnxnusrninnganchapnkicsph nangepluxng xinthrthut n emruwdmkutkstriyaram wnthi 7 kumphaphnth 2507 phrankhr krmsilpakr phkhphdi xyukhngdi 2538 prawtipttani okhrngkarkhudaetngaelaburna obransthanemuxngyarng in thaeniybphuphiphaksasalsmthbsalcnghwdpttani aephnkkhdieyawchnaelakhrxbkhrw runthi 1 darngrachanuphaph smedcphraecabrmwngsethx krmphraya 2506 sngkhramkhrngthi 22 khrawphmalxmkrungsrixyuthya txnthi 1 wadwyeruxngphngsawdarewlawangsngkhram in prachumphngsawdar elm 6 phngsawdar phakhthi 6 eruxngphngsawdarithyrbphma krungethph khuruspha 337 hna sucitt wngseths 2545 mharachwngsphngsawdarphma aeplody naytx krungethph mtichn 467 hna ISBN 974 322 595 1 prathip chumphl prawtisastrkaraephthyaephnithy karsuksacakexksartaraya krungethph oxediynsotr 2541 157 hna ISBN 978 974 6009 36 2 silpwthnthrrm 6 7 12 117 dawisa suwrrnsry eriyberiyng klumephyaephraelaprachasmphnth krmsilpakr ephyaephr orkhrabadinsmyxyuthya subkhnemux 5 knyayn ph s 2565 prachumphngsawdar chbbhxsmudaehngchati elmthi 8 phrankhr kawhna 2506 krmsilpakr khnakrrmkarxanwykarcdnganchlxngsirirachsmbtikhrb 50 pi prachumphngsawdarchbbkaycnaphiesk elmthi 3 krungethph kxngwrrnkrrmaelaprawtisastr krmsilpakr 2542 krmsilpakr khnakrrmkarxanwykarcdnganchlxngsirirachsmbtikhrb 50 pi prachumphngsawdarchbbkaycnaphiesk elmthi 11 krungethph kxngwrrnkrrmaelaprawtisastr krmsilpakr 2542 ISBN 978 974 4178 87 9 suwithy thirsaswt 2564 kumphaphnth khwamsmphnthrahwangorkhrabadkbcanwnprachakrithyinxdit silpwthnthrrm 42 4 rachbnthitysthan 2549 kbtbuykwang in saranukrmprawtisastrithy chbbrachbnthitysthan aekikhephimetim elm 1 phimphkhrngthi 2 krungethph rachbnthitysthan ISBN 974 958 863 0 buychy iceyn smedcyxdnkrb aemkayepnhying aetrkaephndindwyhwic khwamesiyslaxnyingihykhxngaemxyuhwsurioythy krungethph iphlinbukhent 2557 208 hna ISBN 978 616 3445 89 6 thaim kbtbuykwang thielaluxwamikhunisy yudnkhrrachsimaidodyichphrrkhphwkaekh 28 khn silpwthnthrrm 4 11 saranukrmithy elmthi 21 phrankhr krmrachbnthit 2443 impraktelkhhna etim wiphakhyphcnkic prawtisastrxisan chbbphimphsa krungethph sankphimphmhawithyalythrrmsastr 2542 668 hna ISBN 978 974 5716 89 6 phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbhmxbrdel phimphkhrngthi 2 krungethph okhsit 2549 432 hna ISBN 974 94899 9 3 xphiskdi osmxinthr olkthsnxisan kalsinthu orngphimphprasankarphimph 2534 203 hna dny ichyoytha phthnakarkhxngmnusykbxarythrrminrachxanackrithy krungethph oxediynsotr 2543 432 hna ISBN 974 277 780 2 karsuxsaraehngpraethsithy 2533 yxnxditkarsuxsarithy krungethph bristh kraffikh sphphlays cakd 458 hna ISBN 978 974 7 65048 8 phlbphlung mulsilp 2519 khwamsmphnthrahwangithykbfrngesssmyxyuthya inrchkalsmedcphranaraynthungrchkalsmedcphraephthracha ph s 2231 2246 withyaniphnthmhabnthit prawtisastr krungethph bnthitwithyaly mhawithyalysrinkhrinthrwiorth prasanmitr 712 hna smakhmsngkhmsastraehngpraethsithy 2509 prawtisastrithy in sarwithya sngkhmsastrprithsn chbbphiess phrankhr siwphr 203 hna phlbphlung mulsilp khwamsmphnthithy frngess smyxyuthya krungethph brrnkic 2523 342 hna rachthutthungxsykrrm prachumphngsawdar elm 33 prachumphngsawdar phakhthi 59 61 oksapanipfrngess phakh 3 4 phngsawdaremuxngenginyangechiyngaesn krungethph xngkhkarkhakhxngkhuruspha 2512 312 hna phrarachphngsawdar chbbphrarachhtthelkha hna 523 ekrikvththi ithkhunthnphph smedcphraephthrachamxbewnrachsmbtiihaekecaphraphichysurinthr aephndintxngkhasap caksmedcphraecaesux thungaephndinphraecabrmoks krungethph syamkhwamru 2555 285 hna ISBN 978 616 7405 32 2 Dhirawat na Pombejra 2002 Dutch and French Evidence Concerning Court Conflicts at the end of King Phetracha s Reign C 1699 1703 Silpakorn University International Journal 2 1 47 70 cited in Farrington Anthony and Dhiravat na Pombejra eds 2007 The English factory in Siam 1612 1685 2 Vols London British Library prayur phisnakha smedcphraephthracha krungethph sanknganhxsmudklang 09 2513 479 hna namanukrmphramhakstriyithy hna 160 phrarachphngsawdar chbbsmedcphraphnrtn wdphraechtuphn chbbtwekhiyn hna 276 sankngankhnakrrmkarkarsuksakhnphunthan krathrwngsuksathikar khnasilpsastr mhawithyalythrrmsastr aelamiwesiymsyam knyayn 2560 esdcsuaednsrwng silpa praephni aelakhwamechuxinnganphrabrmsphaelaphraemrumas 2022 09 01 thi ewyaebkaemchchin krungethph sunysuxaelasingphimphaekwecacxm mhawithyalyrachphtswnsunntha 400 hna ISBN 978 616 395 872 3 prchya eliskiccanuwthn karwiekhraahphaphkrabwnaehphrasphaelaphraemruchbb Dresden State Art Collections karkhnkhwaxisrapriyyamhabnthit prawtisastrsilpa bnthitwithyaly mhawithyalysilpakr 2560 smphph phirmy 2539 phraemrumas phraemru aelaemrusmykrungrtnoksinthr phimphkhrngthi 3 krungethph xmrinthr 446 hna ISBN 978 974 8 36405 6 ekriyngikr ekidsiri 2560 nganphraemru silpsthaptykrrm prawtisastr aelawthnthrrmekiywenuxng phimphkhrngthi 2 krungethph mtichn 413 hna ISBN 978 974 0 21576 9 xangin suemth chumsay n xyuthya phraemrumas tarangepriybethiybkhwamsungphraemrumas smysmedcphranerswr thungsmyphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw silpwthnthrrm 6 6 64 emsayn 2528 santi phkdikha chara brrnathikar khlngsarsnethskhxngsthabnnitibyyti sanknganelkhathikarsphaphuaethnrasdr ephyaephr phrarachphngsawdar chbbsmedcphraphnrtn wdphraechtuphn trwcsxbcharacakexksartwekhiyn mulnithi thunphraphuththyxdfa inphrabrmrachupthmph cdphimphodyesrdcphrarachkuslinkarphrarachthanephlingsph phrathrrmpyyabdi thawr tis sanukor p th 4 n emruhlwnghnaphlbphlaxisriyaphrn wdethphsirinthrawas wnxathitythi 10 phvsphakhm ph s 2558 krungethph xmrinthrphrintingaexndphblichching 2558 558 hna ISBN 978 616 92351 0 1 prachumphngsawdar chbbhxsmudaehngchati elm 5 phakhthi 12 19 phrankhr kawhnahna 2507 hna 129 darngrachanuphaph smedc krmphraya tanankdhmayemuxngithy aelapramwlkhaxthibaythangnitisastr phrankhr ithyekhsm 2493 hna 11 phimphinnganphrarachthanephlingsphhlwngxinthxaya phngs n nkhr wnphvhsbdi thi 14 thnwakhm ph s 2493 phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbphncnthnumas ecim hna 335 336 phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbphncnthnumas ecim hna 339 341 hxngsmudwchiryan ephyaephr khaihkarkhunhlwngwdpraduthrngthrrm exksarcakhxhlwng krungethph sankwrrnkrrmaelaprawtisastr krmsilpakr 2554 khmkha diwngsa bthbathkhxngtladinemuxngphrankhrsrixyuthyatxkarkhaphayinaelaphaynxk ph s 2173 2310 withyaniphnthxksrsastrmhabnthit krungethph culalngkrnmhawithyaly 2531 prachumphngsawdar chbbhxsmudaehngchati elm 9 krungethph kawhna 2508 538 hna hna 195 196 wicitrmatra khun snga kaycnakhphnth prawtikarkhaithy phimphkhrngthi 4 krungethph rwmsasn 2526 404 hna hna 289 296 krmsilpakr bnthukeruxngsmphnthimtrirahwangithykbnanapraethsinstwrrsthi 17 elm 5 krungethph khurusphaladphraw 2520 181 hna hna 74 cdhmayehtu khnabathhlwngfrngess prachumphngsawdar elm 20 prachumphngsawdar phakhthi 33 aela 34 krungethph krmsilpakr 2520 hna 279 krmsilpakr bnthukeruxngsmphnthimtrirahwangithykbnanapraethsinstwrrsthi 17 elm 5 krungethph khurusphaladphraw 2520 181 hna hna 66 68 krmsilpakr bnthukeruxngsmphnthimtrirahwangithykbnanapraethsinstwrrsthi 17 elm 5 krungethph khurusphaladphraw 2520 181 hna hna 80 101 phardi mhakhnth phunthanxarythrrmithy phimphkhrngthi 2 krungethph oxediynsotr 2544 273 hna hna 60 ISBN 974 277 938 4 rungorcn phirmyxnukul phrasrisrrephchy krungethph mtichn 2560 184 hna hna 166 ISBN 978 974 0215 43 1 n n pakna prayur xuluchata silpkrrmobraninsyampraeths krungethph brrnkic 2524 316 hna hna 171 ISBN 978 974 2203 07 8 snti elksukhum ecdiyephimmum ecdiyyxmum smyxyuthya krungethph khnaobrankhdi mhawithyalysilpakr 2529 182 hna hna 78 ISBN 978 974 7955 26 2 n n pakna prayur xuluchata haeduxnklangsakxithpunthixyuthya phimphkhrngthi 3 krungethph emuxngobran 2540 335 hna hna 301 ISBN 974 736 793 9 chatri prakitnnthkar karemuxnginsthaptykrrm smyrchkalthi 1 krungethph mtichn 2558 176 hna hna 41 ISBN 978 974 0213 77 2 cars cungthirphanich bk 2547 nitysar Advanced Thailand Geographic 10 77 78 281 sriskr wlliophdm krungsrixyuthyakhxngera krungethph mngkrkarphimphaelaokhsna 2527 127 hna hna 118 ISBN 978 974 0204 66 4 snti elksukhum lwdlaypunpnaebbxyuthyatxnplay ph s 2172 2310 krungethph xmrinthrphrintingkruph 2532 222 hna hna 19 20 ISBN 978 974 8357 77 5 khaihkarchawkrungeka aeplcakchbbhlwngemuxngphma phrayaecriyrachthn min elahesrsthi phimphaeckinngansphxim c c phumarda ph s 2457 krungethph orngphimphithy salaklangcnghwdphrankhrsrixyuthya ephyaephr phrarachwnghlwng hruxphrarachwngobran subkhnemux 2 knyayn 2565 sngwn xnkhng phrathinng pratuaelapxm in phrarachxanackrithy phrankhr eksmbrrnkic 2515 350 hna hna 181 phrarachphngsawdar chbbphrarachhtthelkha hna 150 khaihkarkhunhlwnghawd chbbhlwng aelaprachumphngsawdar phakh 81 cdhmayehtueruxngkarclaclemuxplayaephndinsmedcphranaraynmharach 2544 287 hna hna 151 ISBN 978 974 2052 24 9 rachbnthitysthan saranukrmithychbbrachbnthitysthan mx aemaerng elm 23 krungethph ithymitrkarphimph 2535 661 hna ISBN 978 974 8120 39 3 krmsilpakr khnakrrmkarxanwykarcdnganchlxngsirirachsmbtikhrb 50 pi prachumphngsawdarchbbkaycnaphiesk elm 2 krungethph orngphimphkhurusphaladphraw 2542 434 hna hna 255 suphthrdis diskul hmxmeca aelakhna obransthanincnghwdphrankhrsrixyuthya elmthi 1 krungethph krmsilpakr 2551 hna 233 ISBN 978 974 4178 91 6 krmsilpakr khnakrrmkarxanwykarcdnganchlxngsirirachsmbtikhrb 50 pi prachumphngsawdarchbbkaycnaphiesk elm 5 krungethph orngphimphkhurusphaladphraw 2542 433 hna hna 99 thirphngs eruxngkha 2564 11 knyayn raluk 335 pi karsarwcdawhangyks C 1868 R1 thiekaaesmd silpwthnthrrm 42 11 131 sanknganrachbnthityspha 2559 mkrakhm minakhm warsarrachbnthityspha 41 1 94 krmsilpakr prathipwithrrsn rwmeruxngobrankhdixyuthya krungethph xmrinthrphrintingaexndphblichching 2564 259 hna hna 50 ISBN 978 616 283 589 6 mulnithielk praiph wiriyaphnthu 2546 warsaremuxngobran 29 1 4 35 krmsilpakr khnakrrmkarcdnithrrskareruxngsilpkrrmsmyxyuthya silpkrrmsmyxyuthya krungethph krmsilpakr 2514 66 hna hna 25 sunymanusywithyasirinthr xngkhkarmhachn thankhxmulnamanukrmwrrnkhdiithy phraphuththokhsacary subkhnemux 5 knyayn 2565 cumphl ephimaesngsuwrrn 2545 phraxuobsthaelaphrawiharthiidrbxiththiphltawntksmyxyuthyatxnplay ph s 2199 2310 warsarhnacw wadwyprawtisastrsthaptykrrmaelasthaptykrrmithy hna 89 90 ISBN 974 653 530 7 krmsilpakr changtn stwmngkhlaehngphrackrphrrdi krungethph kharlsebxrk briwewxri praethsithy 2539 778 hna hna 332 ISBN 974 836 427 5 aephndinsmedcphramhaburus phraephthracha phrarachphngsawdarkrungeka chbbhlwngpraesrithxksrniti phrankhr xksrniti 2465 hna 581 smphngs ekriyngikrephch hxngsmud phimphkhrngthi 2 krungethph phanfawithya 2508 804 hna hna 220 sanknaykrthmntri khnakrrmkarcdphimphexksarthangprawtisastr wthnthrrmaelaobrankhdi prachumphratarabrmrachuthisephuxklpnasmyxyuthya phakh 1 krungethph orngphimphsankthaeniybnaykrthmntri 2510 84 hna phngsphrrn buyelis exksarobran bnthuksrrphwicha xnurkssubthxd khmphiriblan edliniws xxniln 31 singhakhm 2565 subkhnemuxwnthi 2 knyayn 2565 krmsilpakr klumephyaephraelaprachasmphnth khawprachasmphnth okhrngkarxnurksexksarobranwdiketiy krungethphmhankhr 25 singhakhm 2565 subkhnemuxwnthi 2 knyayn 2565 hxphrasmudwchiryan xtththrrmpnhakhxngsmedcphraephthracha phrankhr m p ph 2455 36 hna phimphaeckinnganphraemru phrawrwngsethx phraxngkhecacnthrsuethph r s 131 phrarachphngsawdar chbbphrarachhtthelkha hna 409 buyyngkh ekseths prawtisastrwrrnkrrm krungethph oxediynsotr 2525 455 hna hna 77 okwith surswdi aelakhna karemuxngkarpkkhrxngithy tamrththrrmnuychbbprachachn phimphkhrngthi 2 krungethph orngphimph wi ec phrinting 2544 519 hna hna 32 ISBN 978 974 3462 56 6 dny ichyoytha 53 phramhakstriyithy th thrngkhrxngicithythngchati krungethph oxediynsotr 2543 562 hna hna 181 ISBN 978 974 2777 51 7 smchay phumsxad smphngs ekriyngikrephchr aelakml wichitsrsastr 400 pismedcphranerswr krungethph rwmsthapna 2527 775 hna hna 164 aelngkat oraebrt aelakhna 2526 prawtisastrkthmayithy elm 1 krungethph ithywthnaphanich 159 hna ISBN 978 974 0 75254 7 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2010 03 05 subkhnemux 2012 03 21 suriywuthi sukhswsdi hmxmrachwngs aelamanph buyyawrrthna 2535 phraphuththptimainphrabrmmharachwng krungethph sankrachelkhathikar 591 hna ISBN 978 974 8 12242 7 phiriya ikrvks 2551 lksnaithy phraphuththptimaxtlksnphuththsilpithy krungethph xmrinthrphrintingaexndphblichching 602 hna ISBN 978 974 8106 35 9 buyeyiym aeymemuxng ethiywwngewiynglaow krungethph emdthray 2531 63 hna hna 18 ISBN 978 974 7668 91 9 wisnu ekhruxngam khamsmuthr phimphkhrngthi 4 krungethph mtichn 2561 928 hna ISBN 978 974 0216 13 1 wicitrwathkar kimehliyng phltri hlwng ephchrphranarayn krungethph esrimwithybrrnakhar 2513 536 hna hna 470 474 Dirk van der Cruysse Louis XIV et le Siam Le grand livre du mois Paris Fayard 1991 586 pp ISBN 978 221 3027 19 7 mxrkan spxraetch aetng krrnika crryaesng aepl ruksyam innamkhxngphraeca krungethph mtichn 2561 ISBN 978 974 0216 11 7 wileliym dltn aetng esthiyrokess aepl fxlkhxn Phaulkon phimphkhrngthi 7 krungethph syam 2561 408 hna ISBN 978 974 3159 07 7 aekhlr khif fxks aetng klwyim aekwsnthi aepl fxlkhxnaehngxyuthya nwniyaychiwitecaphrayawiicheynthr phimphkhrngthi 2 krungethph nanmibukhs 2558 559 hna ISBN 978 616 0429 48 6 nrathippraphnthphngs phraecabrmwngsethx krmphra 2454 bthlkhrrxngeruxng khbththrrmethiyrinphrarachphngsawdarithyaephndinphrathadathiebsr pichwd culskrach 1046 praesristhxksrrcna sahrblkhrhlwngnvmitr r s 129 phrankhr suphkarcaruy 18 hna mnchida hnuaekw klwithiinkarnaesnxenuxhaaelakarichphasainnwniyaykhxng rxmaephng 2022 09 07 thi ewyaebkaemchchin withyaniphnthmhabnthit sakhawichaphasaithy sngkhla mhawithyalythksin 2562 esmiynxkhni 2565 22 phvsphakhm phraephthracha kbtanan chaynxnhlb chux singh aela esliyng wdkudithxng suphrrnburi silpwthnthrrm subkhnemux 5 knyayn 2565 brrnanukrmphrarachphngsawdar chbbsmedcphraphnrtn wdphraechtuphn trwcsxbcharacakexksartwekhiyn krungethph xmrinthrphrinting aexnd phblichching 2558 558 hna ISBN 978 616 92351 0 1 cdphimphodyesdcphrarachkuslinkarphrarachthanephlingsphphrathrrmpyyabdi thawr tis sanukor p th 4 mulnithismedcphraethphrtnrachsuda namanukrmphramhakstriyithy krungethph mulnithismedcphraethphrtnrachsuda 2554 264 hna ISBN 978 616 7308 25 8 phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbphncnthnumas ecim aelaexksarxun nnthburi sripyya 2553 800 hna ISBN 978 616 7146 08 9aehlngkhxmulxunhxcdhmayehtuaehngchatixinodniesiy ANRI aelamulnithikhwts The Corts Foundation enethxraelnd ephyaephr 2018 tulakhm sasnthangkarthutrahwangrachxanackrsyamkbkrungpttaewiyinchwngkhriststwrrsthi17 18 kxnhna smedcphraephthracha thdipsmedcphranaraynmharach rachwngsprasaththxng ph s 2199 2231 phraecakrungsrixyuthya rachwngsbanphluhlwng ph s 2231 2246 smedcphraecasurieynthrathibdi rachwngsbanphluhlwng ph s 2246 2251