บทความนี้อาจต้องการตรวจสอบต้นฉบับ ในด้านไวยากรณ์ รูปแบบการเขียน การเรียบเรียง คุณภาพ หรือการสะกด คุณสามารถช่วยพัฒนาบทความได้ |
ตำบลบ้านสวน เป็นตำบลหนึ่งในอำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย เป็นชุมชนขนาดใหญ่ที่มีประวัติความเป็นมานับแต่ครั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี สืบความจากหลักฐานการตั้งถิ่นฐานโดยมีวัดเป็นศูนย์กลางในอดีต พร้อมกับหลักฐานวัดร้างที่ขึ้นทะเบียนโดยกรมศิลปากรที่มีประวัติเนื่องต่อกับชุมชนในอดีตล่วงมาจนถึงปัจจุบัน ตำบลบ้านสวนเป็นศูนย์การการเพราะปลูกข้าว "คุณภาพ" ที่สำคัญอีกแหล่งหนึ่งของจังหวัดสุโขทัย อันเนื่องเป็นที่ลุ่มที่เหมาะแก่การทำเกษตร
ตำบลบ้านสวน | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Tambon Ban Suan |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | สุโขทัย |
อำเภอ | เมืองสุโขทัย |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 168.99 ตร.กม. (65.25 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2552) | |
• ทั้งหมด | 16,089 คน |
• ความหนาแน่น | 95.20 คน/ตร.กม. (246.6 คน/ตร.ไมล์) |
รหัสไปรษณีย์ | 64220 |
รหัสภูมิศาสตร์ | 640102 |
ประวัติ
มีหลักฐานว่า คำว่า บ้านสวน ซึ่งหมายถึงชื่อของหมู่บ้าน ปรากฏในเอกสารจดหมายเหตุเป็นครั้งแรกในสมุดไทยดำชื่อจดหมายเหตุรัชกาลที่ 1 จุลศักราช 1147 ชื่อสำเนาบัญชีเรื่องบัญชีจ่ายข้าวฉางหลวงให้แก่โรงสีส่งกองทัพครั้งรบพม่า ปีมะเส็งสัปตศก ปีมะเมียอัฐศก เลขที่ 1 พ.ศ. 2328 มีเนื้อความว่า มีชุมชนในความปกครองของเมืองสุโขทัยส่งข้าวสารให้กองทัพไทยเพื่อเตรียมสู้รบกับกองทัพพม่าจำนวน 3 หมู่บ้าน ๆ ละ 2 ทะนาน คือ บ้านธานี บ้านกล้วย บ้านสวน ในปีมะเส็งสัปตศกกับปีมะเมียอัฐศกตรงกับ พ.ศ. 2328 และ พ.ศ. 2329 แสดงว่า เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (20 มีนาคม พ.ศ. 2279 — 7 กันยายน พ.ศ. 2352) ทรงก่อตั้งพระราชวงศ์จักรีและยกฐานะบางกอกให้เป็นกรุงรัตนโกสินทร์ได้ 4 –5 ปีก็มีชื่อ บ้านสวน แล้วแสดงว่า บ้านสวนมีความเก่าแก่มายาวนานเกือบ 230 ปี ต้นฉบับเอกสารจดหมายเหตุเป็นเอกสารตัวเขียนในสมุดไทยรักษาไว้ ณ งานบริการภาษาโบราณ หอสมุดแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร
คำว่า บ้านสวน น่าจะมีที่มาจากคำว่า ข้าวนาสวนหรือนาดำ ดังหลักฐานต่อไปนี้
- พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ให้ข้อมูลคำว่า นาสวน เป็นคำนามเรียกข้าวเปลือกที่มีเมล็ดแข็งเป็นมันว่า ข้าวนาสวน
- พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (20 มีนาคม พ.ศ. 2279 — 7 กันยายน พ.ศ. 2352) ทรงออกกฎหมายเมื่อ พ.ศ. 2335 ห้ามมิให้ผู้ใดกักตุนข้าว “อย่าให้ขายข้าวแก่กันขึ้นเอาราคามาก แลให้ราษฎรซื้อขายกันข้าวนาทุ่งคงเกวียนละสองตำลึง ข้าวนาสวนคงเกวียนละสิบบาท จะเอาตัวเป็นโทษถึงตาย ส่วนผู้รู้เห็นเป็นใจชักนำซื้อขายได้ส่วนแบ่งนั้นจะเอาตัวเป็นโทษเฆี่ยนคนละสามยก ตระเวนบกสามวัน ตระเวนเรือสามวัน ส่งตัวไปเป็นตะพุ่นหญ้าช้าง”
มีข้อมูลถูกบันทึกไว้ว่า บ้านสวนเป็นตำบลที่มีพืชพันธุ์ธัญญาหารสมบูรณ์ เป็นแหล่งอาหารที่มีทั้งนาข้าว ส่วนผลไม้ ตลอดจนปลาในห้วย หนอง คลอง บึง ข้าวสารของตำบลบ้านสวนเป็นข้าวที่มีคุณภาพ หุงขึ้นหม้อและอ่อนนุ่มไม่แข็งกระด้าง คนในเมืองชอบกินข้าวสารบ้านสวน (ปัจจุบันก็ยังมีคุณภาพอยู่) และคนบ้านสวนในสมัยนั้น ก็จะนำมาขายถึงในตัวเมือง โดยนำข้าวใส่กระบุงหาบโดยเดินเท้าจากบ้านสวนถึงในตลาด ทุก ๆ วันชาวบ้านสวนจะหาบข้าวมาขายในเมืองอยู่เสมอ
นอกจากนี้บ้านสวนยังเป็นยังคงรักษาอนุรักษ์ดนตรีพื้นบ้าน "มังคละ"นับแต่ครั้งกรุงสุโขทัย มาจนกระทั่งปัจจุบัน ในศิลาจารึกหลักที่ 1 บันทึกไว้ว่า "ท้าวหัวราน คำบง คำกลอง ด้วยเสียงพาทย์เสียงพิณ เลื่อนขับ" มีผู้ให้คำอธิบายและตีความว่า คำบง คำกลอง เป็นคำโบราณที่มีใช้ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยแปลว่า การประโคม ดังนั้นคำว่า คำบง คำกลอง จึงหมายถึงการตีกลองหรือประโคมกลองที่ขึงด้วยหนัง ซึ่งหมายถึงกลองมังคละ และยังคงปรากฏมีที่บ้านสวนที่ชาวบ้านสวนจะเรียกว่า "ปีกลอง" และบางพื้นที่ของจังหวัดพิษณุโลกตามที่ไมเคิล ไรท์ เคยมาเก็บข้อมูลและบันทึกไว้
พ.ศ. 2539 สภาตำบลบ้านสวน อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ได้ถูกยกเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านสวน (ลำดับที่ ) ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง จัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล เมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2539 ลงนามโดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (หน้า 48 เล่ม 113 ตอนที่ 9 ง ราชกิจจานุเบกษา 30 มกราคม 2539) มีผลให้เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านสวน ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2539
พื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านสวน มีพื้นที่ 101 ตารางกิโลเมตร มีจำนวนหมู่บ้านในเขตองค์การบริหารส่วนตำบล 13 หมู่บ้าน
วัดร้างหลักฐานโบราณคดีกับการตั้งชุมชนบ้านสวน
ที่วัดบ้านสวนมีวัดร้างที่ยังเป็นซากวัดร้างมีแนวเขต หลักฐานของการสร้างโบราณสถานและถูกขึ้นทะเบียนโดยกรมศิลปากรหลายแห่ง และถูกบันทึกไว้เป็นหลักฐานถึงการมีอายุครั้งกรุงสุโขทัย หรืออย่างไกล้ก็สมัยสุโขทัยตอนปลาย เช่น วัดไก่แจ้ (บริเวณวัดคลองตะเคียน) วัดจันทร์ (บริเวณโรงเรียนวัดจันทร์) วัดป่าเรไร หรือแต่เดิมเป็นวัดร้าง เดิมมีชื่อว่า “วัดป่าละเมาะ” (อัมพวา) ที่ปรากฏหลักฐานในทะเบียนโบราณสถาน ของกรมศิลปากร จังหวัดสุโขทัย ที่สำรวจเมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2478 และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 52 ตอนที่ 74 ถูกจัดขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเป็นต้น ดังนั้นหลักฐานของวัดจะเป็นเครื่องยืนยันถึงอายุชุมชนและการตั้งชุมชนของคนในบริเวณบ้านสวนโดยมีวัดเป็นศูนย์กลางในการทำกิจกรรมทางศาสนาในอดีต นอกจากนี้ยังมีอีกหลายวัดที่มีหลักฐานการขึ้นทะเบียนเป็นวัดร้างของสำนักงานพระพุทธศาสนา นัยหนึ่งเป็นการยืนยันอายุของวัดร้างเหล่านั้น เทียบเคียงกับการตั้งชุมชนบ้านสวนในอดีตได้ เช่น
- วัดคลองโบสถ์ ตั้งอยู่หมู่ 4 ตาลเตี้ย ปรากฏหลักฐานที่ดินอันเป็นศาสนสมบัติกลาง แบบ สค.1 เลขที่ 176 จำนวน 5 ไร่
- วัดนครยศ ตั้งอยู่ที่หมู่ 1 ต. ตาลเตี้ย โฉนดเลขที่ 14955 จำนวน 3-2-32 ไร่
- วัดครุ ตั้งอยู่ที่หมู่ 5 แบบ สค.1 เลขที่ 8 มีเนื้อที่จำนวน 2 ไร่
- วัดคลองไก่เตี้ย หมู่ 9 (ใกล้วัดคลองตะเคียนในปัจจุบัน) ยังพบเศษฐานเจดีย์จำนวนมาก มีหลักฐานสิทธิ์ในที่ดินเป็น แบบ สค.1 เลขที่ 50 มีพื้นที่จำนวน 1-1-28 ไร่
- วัดดงดีปลี ตั้งอยู่ที่ หมู่ 5 ต.บ้านสวน มีเอกสารสิทธิ์เป็น น.ส.3 เลขที่ 10 มีพื้นที่ จำนวน 4 ไร่ โดยมีการจัดตั้งเป็นสำนักสงฆ์วัดดงดีปลี มีพระสงฆ์เข้าอยู่จำพรรษา
- วัดตะคาว หรือวัดตาดาว ตั้งอยู่ที่หมู่ 11 ต. บ้านสวน เมือง สุโขทัย เลขที่เอกสารสิทธิ์ในที่ดิน แบบ สค.1 เลขที่ 242 มีพื้นที่จำนวน 4-0-60 ไร่ [ตรวจสอบไม่พบหลักฐานที่ดิน]
- วัดน้ำนอง ตั้งอยู่ที่หมู่ 3 ต. บ้านสวน เมือง สุโขทัย โฉนดเลขที่ 14957 มีพื้นที่ จำนวน 4-0-43 ไร่ เป็นพื้นที่ตั้งของเทศบาลตำบลบ้านสวน โดย เทศบาลบ้านสวนทำสัญญาเช่าเป็นเวลา 20 ปี
- วัดห้วย หมู่ 5 ต. บ้านสวน เมือง สุโขทัย มีเอกสารสิทธิ์ที่ดิน แบบ น.ส.3 เลขที่ 11 มีจำนวน 2-0-00 ไร่
นอกจากนี้ กรมศิลปากรได้ทำการสำรวจ และประกาศขึ้นทะเบียนวัดร้างทั่วไปประเทศ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยโบราณสถาน ศิลปวัตถุ โบราณวัตถุและการพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ พุทธศักราช ๒๔๗๗ ที่ประกาศใช้เมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2478 ในเขตจังหวัดสุโขทัยจำนวน 120 วัด โดยมีวัดที่ปรากฏเป็นหลักฐานของชุมชนบ้านสวนดังนี้
- ลำดับที่ ๑๐๖ วัดถ้ำมคง อำเภอเมืองสุโขทัยธานี ตำบลบ้านสวน
- ลำดับที่ ๑๐๗ วัดโบสถ์ไผ่ขอม อำเภอเมืองสุโขทัยธานี ตำบลบ้านสวน
- ลำดับที่ ๑๐๘ วัดเหมืองขี้เหล็ก อำเภอเมืองสุโขทัยธานี ตำบลบ้านสวน
- ลำดับที่ ๑๐๙ วัดตาดาว อำเภอเมืองสุโขทัยธานี ตำบลบ้านสวน
- ลำดับที่ ๑๑๐ วัดป่าละเมาะ อำเภอเมืองสุโขทัยธานี ตำบลบ้านสวน
- ลำดับที่ ๑๑๑ วัดพิมอง อำเภอเมืองสุโขทัยธานี ตำบลบ้านสวน
- ลำดับที่ ๑๑๒ วัดระวาศน์ อำเภอเมืองสุโขทัยธานี ตำบลบ้านสวน
- ลำดับที่ ๑๑๓ วัดดงม่วง อำเภอเมืองสุโขทัยธานี ตำบลบ้านสวน
- ลำดับที่ ๑๑๔ วัดอ้ายแดง อำเภอเมืองสุโขทัยธานี ตำบลบ้านสวน
- ลำดับที่ ๑๑๕ วัดดงดีปลี อำเภอเมืองสุโขทัยธานี ตำบลบ้านสวน
- ลำดับที่ ๑๑๖ วัดห้วย อำเภอเมืองสุโขทัยธานี ตำบลบ้านสวน
- ลำดับที่ ๑๑๗ วัดคุ อำเภอเมืองสุโขทัยธานี ตำบลบ้านสวน
- ลำดับที่ ๑๑๘ วัดนุ่น อำเภอเมืองสุโขทัยธานี ตำบลบ้านสวน
- ลำดับที่ ๑๑๙ วัดกำแพงงาม อำเภอเมืองสุโขทัยธานี ตำบลบ้านสวน
- ลำดับที่ ๑๒๐ วัดจันทร์ อำเภอเมืองสุโขทัยธานี ตำบลบ้านสวน
พร้อมกันนั้นยังมีการขึ้นทะเบียนวัดร้างที่สำรวจพบในภายหลัง ตามประกาศของกรมศิลปากร เรื่องขึ้นทะเบียนโบราณสถานและกำหนดที่ดินโบราณสถาน ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 114 ตอนพิเศษ 87 ง หน้า 2-3 ลงวันที่ 29 กันยายน 2540 มีวัด
- โบราณสถานวัดคุ ตำบลบ้านสวน อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย พื้นที่โบราณสถานประมาณ 3 ไร่ 1 งาน 47 ตารางวา
- โบราณสถานวัดดงดีปลี ตำบลบ้านสวน อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย พื้นที่โบราณสถานประมาณ 3 ไร่ 29 ตารางวา
ฉะนั้นหลักฐานทางหน่วยงานราชการทั้งในส่วนสำนักงานพระพุทธศาสนา ที่ขึ้นทะเบียนวัดร้างไว้ รวมทั้งการขึ้นทะเบียนของกรมศิลปากรให้วัดร้างเหล่านั้นเป็นโบราณสถานด้วยเงื่อนไขของอายุการตั้งวัดที่สอดคล้องกับความเจริญรุ่งเรืองในสมัยสุโขทัย และควรค่าต่อการอนุรักษ์ไว้ รวมทั้งยังเป็นการยืนยันถึงความรุ่งเรืองในด้านศาสนา การตั้งชุมชน ที่กระจายตัวไปทั่วรวมทั้งเขตบ้านสวนด้วย ดังนั้นจึงทำให้เป็นหลักฐานยืนยันได้ว่าสุโขทัยมีประวัติการตั้งถิ่นฐานชุมชนมาเป็นเวลาช้านานนับแต่อดีต
ภูมิศาสตร์
ตำบลบ้านสวน ห่างจากที่ว่าการอำเภอเมืองสุโขทัย 7 กิโลเมตร มีอาณาเขตติดต่อกับเขตข้างเคียง ดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับ อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับ อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก (สามารถเชื่อมไปยังอำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์) และ อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย
- ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลบ้านหลุม อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลตาลเตี้ย อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย
การแบ่งเขตการปกครอง
บ้านสวนมีสถานะเป็นชุมชนและหน่วยการปกครองมาแต่ต้น ดังปรากฏหลักฐานเมื่อ พ.ศ. 2455 (รศ.130) เป็น ประกาศ บอกล่วงน่าจะแจกโฉนดสำหรับที่ดิน ใน (1) ทุ่งบ้านสวนเหนือ ตำบลบ้านสวนเหนือ อำเภอในเมือง (2) ในทุ่งบ้านสวนใต้ ตำบลบ้านสวนใต้ อำเภอในเมือง (3) ในทุ่งบ้านทุ่งหลวง ตำบลบ้านทุ่งหลวง อำเภอในเมือง (4) ในทุ่งบ้านท่าดินแดง ตำบลท่าดินแดง อำเภอในเมือง แขวงเมืองศุโขทัย เล่มที่ ๒๘ ตอน ๐ง ประกาศเมื่อ วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2454 หน้า 2182 ปรากฏหน่วยการปกครองในเขตบ้านสวนว่า ประกาศกำหนดวันจะแจกสำหรับโฉนดที่ดิน 1.ในทุ่งบ้านสวนเหนือ ตำบลบ้านสวนเหนือ อำเภอในเมือง 2.ในทุ่งบ้านสวนใต้ ตำบลบ้านสวนใต้ อำเภอในเมือง 3.ในทุ่งบ้านทุ่งหลวง ตำบลบ้านทุ่งหลวง อำเภอในเมือง ๔.ในทุ่งบ้านท่าดินแดง ตำบลท่าดินแดง อำเภอในเมือง แขวงเมือง ศุโขไทย ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2454) บ้านสวนจึงเป็นหน่วยการปกครองในระดับตำบลขึ้นกับแขวงศุโขไทย จังหวัดศุโขไทย ที่เป็นส่วนหนึ่งของมณฑลพิษณุโลก โดยแยกการปกครองเป็น "ตำบลบ้านสวนเหนือ" และ "ตำบลบ้านสวนใต้" และเป็นส่วนหนึ่งของอำเภอเมือง จังหวัดศุโขไทย (สะกดตามราชกิจจานุเบกษาปี พ.ศ. 2460) เดิมชื่อว่า อำเภอเมือง ซึ่งในปี พ.ศ. 2460 ในสมัยรัชกาลที่ 6 อำเภอนี้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น อำเภอธานี จนเมื่อสมัยรัชกาลที่ 7 วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2475 ได้ยุบอำเภอธานีและเปลี่ยนชื่อเป็น อำเภอสุโขทัยธานี ขึ้นต่อจังหวัดสวรรคโลก ภายหลังในปี พ.ศ. 2482 ภายใต้การปกครองของคณะราษฎร์ อันมีจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี และเป็นปีที่รัฐบาล ประกาศใช้รัฐนิยมฉบับที่ 1 อันมีสาระเกี่ยวกับการเปลี่ยนชื่อประเทศจาก สยาม เป็น ไทย พร้อมประกาศจัดตั้งจังหวัดสุโขทัยอีกครั้ง ยกอำเภอสุโขทัยธานีเป็นศูนย์กลางของจังหวัด และได้เปลี่ยนชื่อเป็น อำเภอเมืองสุโขทัย
นอกจากนี้บ้านสวนยังเป็นศูนย์กลางที่ทางหน่วยงานราชการให้ความสำคัญเขาไปจัดการศึกษาดังปรากฏหลักฐานว่า
"ด้วยได้รับบอกมณฑลพิศณุโลกที่ ๑๑/๖๘๗๐ ลงวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ศกนี้ว่า พลวงวรสารพิจิตร์ ผู้พิพากษาศาลเมืองสุโขทัยพร้อมด้วย เจ้าอธิการวัดบ้านสวน [คาดว่าจะเป็นหลวงพ่อสัมฤทธิ์ เทโว] ได้จัดตั้งโรงเรียนสอนหนังสือไทย ชั้นมูลศึกษาขึ้นที่วัดบ้านสวน [คาดว่าจะเป็นโรงเรียนวัดฤทธิ์] โรง ๑ อาศรัยศาลาของวัดนั้นเปนที่เล่าเรียน และได้เปิดสอนนักเรียน เมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม ร.ศ.๑๒๖ (พ.ศ. 2450) มีนักเรียน ๒๙ คน ได้จัดให้ พระโถ นักเรียนโรงเรียนสุโขทัยวิทยาคม ซึ่งสอบไล่ได้ประโยคหนึ่งเปนครูสอน ส่วนเงินสำหรับบำรุงโรงเรียนนี้ หลวงวรสารพิจิตร์ได้บอกบุญเรี่ยรายแก่ข้าราชการ และราษฏรได้เงินรวม ๓๑๒ บาท ๑๖ อัฐ สำหรับจ่ายในจำนวนศก ๑๒๖ ส่วนในศก ต่อ ๆ ไป จะได้คิดจัดการเรี่ยรายบำรุงต่อไป กับขอมอบโรงเรียนนี้ให้อยู่ในความตรวจตราของข้าหลวงธรรมการ ขุนประพันธ์เนติวุฒิ ข้าหลวงธรรมการ"
จากข้อมูลนี้ยืนยันได้ว่า "บ้านสวน" เป็นหน่วยการปกครองที่ขึ้นอยู่กับสุโขทัย ทั้งเป็นพื้นที่ที่ภาครัฐ และราชการให้ความสำคัญเข้ามาจัดการศึกษาตั้งแต่อดีตและหลักฐานที่ปรากฏในสมัยการปฏิรูปการศึกษา ช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ระหว่าง ร.ศ.126 หรือ พ.ศ. 2450 ด้วยเช่นกัน
ดังนั้นเมื่อดูในภาพรวมเกี่ยวกับพัฒนาการของตำบลบ้านสวนจึงผูกโยงอยู่กับการปกครองที่มีศูนย์กลางอยู่ที่ "สุโขทัย-ศุโขไทย" มาแต่อดีต แปลว่าสุโขทัยถูกทำให้เป็นแขวง เมือง หรือจังหวัด ความเป็นบ้านสวนก็จะอยู่ในฐานะเป็นเป็นชุมชนที่อยู่ไกล้เมืองด้วยระยะห่างที่ไม่ไกลประมาณ 10 กิโลเมตร จึงถูกผนวกรวมตามเงื่อนไขของการปกครองในแต่ละช่วงเวลาตลอดมา
ในปัจจุบันตำบลบ้านสวนได้แบ่งการปกครองเป็น 13 หมู่บ้าน ได้แก่
- หมู่ 1 (บ้านป่า)
- หมู่ 2 (บ้านสวนใต้)
- หมู่ 3 (ตลาดบ้านสวน-วัดคุ้งยางใหญ่)
- หมู่ 4 (บ้านไร่-วัดบึง-วัดฤทธิ์-บ้านบอน)
- หมู่ 5 (บ้านคลองด่าน)
- หมู่ 6 (คลองตะเคียน)
- หมู่ 7 (หนองโครง)|
- หมู่ 8 (บ้านไผ่ขวาง)
- หมู่ 9 (บ้านสวนเหนือ/เหมืองใหญ่)
- หมู่ 10 (คลองปลายนา)
- หมู่ 11 (หนองทอง/วัดหนองทอง)
- หมู่ 12 (บ้านวัดจันทร์)
- หมู่ 13 (บ้านโปร่ง)
การปกครอง
ตำบลบ้านสวนแบ่งการปกครองเป็น 13 หมู่บ้าน โดยอยู่ในพื้นที่ จำนวน 3 หมู่ คือ หมู่ที่ 1 (บางส่วน) หมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 3 (บางส่วน) นอกนั้นอยู่ในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านสวน หมู่บ้านทั้ง 13 หมู่บ้าน ได้แก่
- หมู่ 1 (บ้านป่า)
- หมู่ 2 (บ้านสวนใต้)
- หมู่ 3 (บ้านหน้าโบสถ์ บ้านกลาง ยกเว้นตลาดบ้านสวน-และวัดคุ้งยางใหญ่)
- หมู่ 4 (บ้านไร่-วัดบึง-วัดฤทธิ์-บ้านบอน)
- หมู่ 5 (บ้านคลองด่าน)
- หมู่ 6 (คลองตะเคียน)
- หมู่ 7 (หนองโครง)
- หมู่ 8 (บ้านไผ่ขวาง)
- หมู่ 9 (บ้านสวนเหนือ/เหมืองใหญ่)
- หมู่ 10 (คลองปลายนา)
- หมู่ 11 (หนองทอง/วัดหนองทอง)
- หมู่ 12 (บ้านวัดจันทร์)
- หมู่ 13 (บ้านโปร่ง)
การปกครองส่วนท้องถิ่น
ท้องที่ตำบลบ้านสวนประกอบไปด้วย 13 หมู่บ้าน มีการจัดการแบ่งการปกครองท้องถิ่น 2 แห่งคือ
เทศบาลตำบลบ้านสวน
- ได้ยกฐานะจากสุขาภิบาลบ้านสวนเมื่อ 27 มีนาคม 2505 ตามพระราชบัญญัติสุขาภิบาล พ.ศ. 2495 เป็นเทศบาลตำบลบ้านสวน เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2542 โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับ-เล่ม 116 ตอนที่ 9 ก. หน้า 1 ลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 ครอบคลุมพื้นที่หมู่ที่ 2 และพื้นที่บางส่วนของหมู่ที่ 3 มีพื้นที่ 3 ตารางกิโลเมตร หรือราว 5 ไร่ 44 ตารางวา (สำรวจเมื่อ 31 พฤศจิกายน 2553) ที่ตั้งสำนักงาน
ถนนในชุมชน หมู่ 3 ตำบลบ้านสวน อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย 64220 - จำนวนบ้าน 1,512 หลังคาเรือน จำนวนประชากร ณ เดือนเมษายน พ.ศ. 2550 มีจำนวน 4,819 คน ชาย 2,253 คน หญิง 2,566 คน ความหนาแน่นเฉลี่ย 1657.33 คน / ตารางกิโลเมตร
องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านสวน
- องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านสวน ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2539 (อบต.) ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านสวน (เฉพาะนอกเขตเทศบาลตำบลบ้านสวน) ยกเว้นพื้นที่หมู่ 2 และ 3 (บางส่วน) มีพื้นที่ 101 ตารางกิโลเมตร ที่ตั้งสำนักงาน องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านสวน ถนนเลี่ยงเมือง สุโขทัย-พิษณุโลก รึมบึงใหญ่ หมู่ 9 ตำบลบ้านสวน อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย 64220
- มีประชากรชาย 6,917 คน ประชากรหญิง 8,064 คน รวมทั้งหมด 14,981 คน
ประชากร
ประชากรในตำบลบ้านสวนมีจำนวน 14,981 คน และ จำนวนหลังคาเรือน 2,833 หลังคาเรือน
ศาสนาสถาน/วัด
สถานศึกษา/โรงเรียน
- โรงเรียนวัดคุ้งยางใหญ่
- โรงเรียนวัดฤทธิ์
- โรงเรียนวัดจันทร์
- โรงเรียนบ้านสวนใต้
- โรงเรียนบ้านสวนวิทยาคม
หน่วยงาน/หน่วยงานราชการ
- สถานีตำรวจบ้านสวน
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสวน
- ไปรษณีย์บ้านสวน
การคมนาคม
การคมนาคมจะใช้เส้นทางถนนสิงหวัฒน์ (สายพิษณุโลก–สุโขทัย) ระยะทางจากสุโขทัยถึงบ้านสวนประมาณ 7 กิโลเมตร มีรถสองแถวประจำทาง และรถมอเตอร์ไซด์รับจ้าง
อ้างอิง
- ราชกิจจานุเบกษา, 2539, หน้า 48
- ดูรายละเอียดเสริมใน สมชาย เดือนเพ็ญ , จากแคว้นสุโขทัยถึงจังหวัดสวรรคโลก, ในวารสาร มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.นเรศวร ปีที่ 2, ฉบับที่ 2 (ก.ค.-ก.ย. 2537), หน้า 28-37
- พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 : 435
- ไทยรัฐวันพุธที่ 6 กรกฎาคม 2548 : 3
- กาญจนี คำบุญรัตน์.วิถีชีวิตของชาวบ้าน เมื่อกาลก่อนของสุโขทัย. ปีที่ 31 ฉบับที่ 4 กุมภาพันธ์ 2553 หน้า 68-71.
- ไมเคิล ไรท์ . ฝรั่งคลั่งสยาม. กรุงเทพ ฯ : มติชน.2541. (ศิลปวัฒนธรรมฉบับพิเศษ) หน้า 172-175 และ หน้า 180-183.
- http://www.info.ru.ac.th/province/sukhotai/wmank.htm 2010-08-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน .
- นุชนาฎ ดีเจริญ,รายงานการวิจัยเรื่องรำมังคละในจังหวัดพิษณุโลก สุโขทัย และอุตรดิตถ์ = Mangkala dance in the provinces of Phitsanulo, พิษณุโลก : คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร.2542.
- ไมเคิล ไรท์ . ฝรั่งคลั่งสยาม. กรุงเทพ ฯ : มติชน.2541. (ฉบับพิเศษ) หน้า 180-183.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-11-14. สืบค้นเมื่อ 2010-10-15.
- สำรวจเมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2478 และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 52 ตอนที่ 74
- ดิเรก ด้วงลอย พระปลัดระพิน พุทฺธิสาโร. (2563). ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นบ้านสวน สุโขทัย-Local History of Bansuan Sukhothai Province. สุโขทัย : กองทุนพระครูสุพัฒนพิธาน (ทองดี มหาวีโร/อานใหญ่). ISBN : 978-616-568-180-3
- ทะเบียนที่ดินวัดร้าง และที่ดินศาสนสมบัติกลาง จังหวัดสุโขทัย มติที่ประชุมคณะทำงานฯ ครั้งที่ 5/2547 วันที่ 22-23 กรกฎาคม 2547 โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสุโขทัย
- http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2478/D/3679.PDF ประกาศกรมศิลปากร กำหนดโบราณสถานสำหรับชาติ ประกาศ 8 มีนาคม 2478 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 52 หน้า 1689-1717
- http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2478/A/394.PDF พระราชบัญญัติว่าด้วยโบราณสถาน ศิลปวัตถุ โบราณวัตถุและการพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ พุทธศักราช ๒๔๗๗
- http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2478/D/3679.PDF ประกาศกรมศิลปากร กำหนดโบราณสถานสำหรับชาติ ประกาศ 8 มีนาคม 2478 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 52 หน้า 1709-1710
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณสถานและกำหนดเขตที่ดินโบราณสถาน (วัดเมืองปอน (ร้าง) และวัดต่อแพ จังหวัดแม่ฮ่องสอนวัดธาตุโขง (ร้าง) วัดธาตุเขียว (ร้าง) วัดร้อยข้อ (ร้าง) จังหวัดเชียงรายวัดเชียงแสน วัดหมื่นพริก (ร้าง) จังหวัดเชียงใหม่ วัดหนองห้า จังหวัดพะเยา วัดใหญ่ชัยมงคล วัดยมราช จังหวัดพิษณุโลก วัดคุ วัดดงดีปลี วัดโบสถ์ จังหวัดสุโขทัย วัดพระเจดีย์ทอง จังหวัดกำแพงเพชร เจดีย์ยุทธหัตถี วัดพระบรมธาตุ จังตาก วัดห้วยเขน จังหวัดพิจิตร วัดใหญ่ท่าเสา จังหวัดอุตรดิตถ์), เล่ม 114, พิเศษ 87 ง, 29 กันยายน พ.ศ. 2540, หน้า 2
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณสถานและกำหนดเขตที่ดินโบราณสถาน (วัดเมืองปอน (ร้าง) และวัดต่อแพ จังหวัดแม่ฮ่องสอนวัดธาตุโขง (ร้าง) วัดธาตุเขียว (ร้าง) วัดร้อยข้อ (ร้าง) จังหวัดเชียงรายวัดเชียงแสน วัดหมื่นพริก (ร้าง) จังหวัดเชียงใหม่ วัดหนองห้า จังหวัดพะเยา วัดใหญ่ชัยมงคล วัดยมราช จังหวัดพิษณุโลก วัดคุ วัดดงดีปลี วัดโบสถ์ จังหวัดสุโขทัย วัดพระเจดีย์ทอง จังหวัดกำแพงเพชร เจดีย์ยุทธหัตถี วัดพระบรมธาตุ จังตาก วัดห้วยเขน จังหวัดพิจิตร วัดใหญ่ท่าเสา จังหวัดอุตรดิตถ์), เล่ม 114, พิเศษ 87 ง, 29 กันยายน พ.ศ. 2540, หน้า 2
- http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2454/D/2182.PDF ประกาศ บอกล่วงน่าจะแจกโฉนดสำหรับที่ดิน ใน (1) ทุ่งบ้านสวนเหนือ ตำบลบ้านสวนเหนือ อำเภอในเมือง (2) ในทุ่งบ้านสวนใต้ ตำบลบ้านสวนใต้ อำเภอในเมือง (3) ในทุ่งบ้านทุ่งหลวง ตำบลบ้านทุ่งหลวง อำเภอในเมือง (4) ในทุ่งบ้านท่าดินแดง ตำบลท่าดินแดง อำเภอในเมือง แขวงเมืองศุโขทัย เล่มที่ 28 ตอน 0ง ประกาศเมื่อ วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2454 หน้า 2182
- (PDF). Royal Gazette. 34 (0 ก): 40–68. 1917-04-29. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-11-07. สืบค้นเมื่อ 2015-04-15.
- "พระบรมราชโองการ ประกาศ ยุบรวมท้องที่บางมณฑลและบางจังหวัด". Royal Gazette. 48 (0 ก): 576–578. 1932-02-21.[]
- ประกาศกรมศิลปากร กำหนดจำนวนโบราณสถานสำหรับชาติ
- (PDF). Royal Gazette. 56 (0 ก): 351–353. 1939-04-17. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2008-04-09. สืบค้นเมื่อ 2015-04-15.
- http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2450/050/1352_1.PDF ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 24 หน้า 1352-1353 วันที่ 15 มีนาคม ร.ศ.126
- http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2505/D/029/745.PDF ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องจัดตั้งสุขาภิบาลบ้านสวน จังหวัดสุโขทัย ในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 79 ตอนที่ 29 เมื่อ 27 มีนาคม 2505
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์จังหวัดสุโขทัย
- เว็บไซต์บ้านสวนดอตเน็ต โดยดิเรก ด้วงลอย (พลอยบุตร)
- เทศบาลตำบลบ้านสวน อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย[]
- ดิเรก ด้วงลอย พระปลัดระพิน พุทฺธิสาโร. (2563). ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นบ้านสวน สุโขทัย-Local History of Bansuan Sukhothai Province. สุโขทัย : กองทุนพระครูสุพัฒนพิธาน (ทองดี มหาวีโร/อานใหญ่). ISBN : 978-616-568-180-3
- ศูนย์รวมข้อมูลองค์การบริหารส่วนตำบล
- ตำบลบ้านสวน อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย 2020-06-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านสวน (อบต.บ้านสวน) อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย 2020-06-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- สื่อ Facebook ขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านสวน (อบต.บ้านสวน) อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixactxngkartrwcsxbtnchbb indaniwyakrn rupaebbkarekhiyn kareriyberiyng khunphaph hruxkarsakd khunsamarthchwyphthnabthkhwamid tablbanswn epntablhnunginxaephxemuxngsuokhthy cnghwdsuokhthy epnchumchnkhnadihythimiprawtikhwamepnmanbaetkhrngkrungsuokhthyepnrachthani subkhwamcakhlkthankartngthinthanodymiwdepnsunyklanginxdit phrxmkbhlkthanwdrangthikhunthaebiynodykrmsilpakrthimiprawtienuxngtxkbchumchninxditlwngmacnthungpccubn tablbanswnepnsunykarkarephraaplukkhaw khunphaph thisakhyxikaehlnghnungkhxngcnghwdsuokhthy xnenuxngepnthilumthiehmaaaekkarthaekstrtablbanswntablkarthxdesiyngxksrormn xksrormnTambon Ban Suanpraethsithycnghwdsuokhthyxaephxemuxngsuokhthyphunthi thnghmd168 99 tr km 65 25 tr iml prachakr 2552 thnghmd16 089 khn khwamhnaaenn95 20 khn tr km 246 6 khn tr iml rhsiprsniy 64220rhsphumisastr640102swnhnungkhxngsaranukrmpraethsithyprawtimihlkthanwa khawa banswn sunghmaythungchuxkhxnghmuban praktinexksarcdhmayehtuepnkhrngaerkinsmudithydachuxcdhmayehturchkalthi 1 culskrach 1147 chuxsaenabychieruxngbychicaykhawchanghlwngihaekorngsisngkxngthphkhrngrbphma pimaesngsptsk pimaemiyxthsk elkhthi 1 ph s 2328 mienuxkhwamwa michumchninkhwampkkhrxngkhxngemuxngsuokhthysngkhawsarihkxngthphithyephuxetriymsurbkbkxngthphphmacanwn 3 hmuban la 2 thanan khux banthani banklwy banswn inpimaesngsptskkbpimaemiyxthsktrngkb ph s 2328 aela ph s 2329 aesdngwa emuxphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolk 20 minakhm ph s 2279 7 knyayn ph s 2352 thrngkxtngphrarachwngsckriaelaykthanabangkxkihepnkrungrtnoksinthrid 4 5 pikmichux banswn aelwaesdngwa banswnmikhwamekaaekmayawnanekuxb 230 pi tnchbbexksarcdhmayehtuepnexksartwekhiyninsmudithyrksaiw n nganbrikarphasaobran hxsmudaehngchati krungethphmhankhr khawa banswn nacamithimacakkhawa khawnaswnhruxnada dnghlkthantxipni phcnanukrmchbbrachbnthitysthan ph s 2525 ihkhxmulkhawa naswn epnkhanameriykkhawepluxkthimiemldaekhngepnmnwa khawnaswn phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolk 20 minakhm ph s 2279 7 knyayn ph s 2352 thrngxxkkdhmayemux ph s 2335 hammiihphuidkktunkhaw xyaihkhaykhawaekknkhunexarakhamak aelihrasdrsuxkhayknkhawnathungkhngekwiynlasxngtalung khawnaswnkhngekwiynlasibbath caexatwepnothsthungtay swnphuruehnepnicchknasuxkhayidswnaebngnncaexatwepnothsekhiynkhnlasamyk traewnbksamwn traewneruxsamwn sngtwipepntaphunhyachang mikhxmulthukbnthukiwwa banswnepntablthimiphuchphnthuthyyaharsmburn epnaehlngxaharthimithngnakhaw swnphlim tlxdcnplainhwy hnxng khlxng bung khawsarkhxngtablbanswnepnkhawthimikhunphaph hungkhunhmxaelaxxnnumimaekhngkradang khninemuxngchxbkinkhawsarbanswn pccubnkyngmikhunphaphxyu aelakhnbanswninsmynn kcanamakhaythungintwemuxng odynakhawiskrabunghabodyedinethacakbanswnthungintlad thuk wnchawbanswncahabkhawmakhayinemuxngxyuesmx nxkcaknibanswnyngepnyngkhngrksaxnurksdntriphunban mngkhla nbaetkhrngkrungsuokhthy macnkrathngpccubn insilacarukhlkthi 1 bnthukiwwa thawhwran khabng khaklxng dwyesiyngphathyesiyngphin eluxnkhb miphuihkhaxthibayaelatikhwamwa khabng khaklxng epnkhaobranthimiichtngaetsmykrungsuokhthyaeplwa karpraokhm dngnnkhawa khabng khaklxng cunghmaythungkartiklxnghruxpraokhmklxngthikhungdwyhnng sunghmaythungklxngmngkhla aelayngkhngpraktmithibanswnthichawbanswncaeriykwa piklxng aelabangphunthikhxngcnghwdphisnuolktamthiimekhil irth ekhymaekbkhxmulaelabnthukiw ph s 2539 sphatablbanswn xaephxemuxngsuokhthy cnghwdsuokhthy idthukykepnxngkhkarbriharswntablbanswn ladbthi tamprakaskrathrwngmhadithy eruxng cdtngxngkhkarbriharswntabl emuxwnthi 19 mkrakhm ph s 2539 lngnamody rthmntriwakarkrathrwngmhadithy hna 48 elm 113 txnthi 9 ng rachkiccanuebksa 30 mkrakhm 2539 miphlihepnxngkhkarbriharswntablbanswn tngaetwnthi 29 minakhm ph s 2539 phunthixngkhkarbriharswntablbanswn miphunthi 101 tarangkiolemtr micanwnhmubaninekhtxngkhkarbriharswntabl 13 hmubanwdranghlkthanobrankhdikbkartngchumchnbanswnthiwdbanswnmiwdrangthiyngepnsakwdrangmiaenwekht hlkthankhxngkarsrangobransthanaelathukkhunthaebiynodykrmsilpakrhlayaehng aelathukbnthukiwepnhlkthanthungkarmixayukhrngkrungsuokhthy hruxxyangiklksmysuokhthytxnplay echn wdikaec briewnwdkhlxngtaekhiyn wdcnthr briewnorngeriynwdcnthr wdpaerir hruxaetedimepnwdrang edimmichuxwa wdpalaemaa xmphwa thiprakthlkthaninthaebiynobransthan khxngkrmsilpakr cnghwdsuokhthy thisarwcemuxwnthi 8 minakhm ph s 2478 aelaprakasinrachkiccanuebksa elmthi 52 txnthi 74 thukcdkhunthaebiynepnobransthanepntn dngnnhlkthankhxngwdcaepnekhruxngyunynthungxayuchumchnaelakartngchumchnkhxngkhninbriewnbanswnodymiwdepnsunyklanginkarthakickrrmthangsasnainxdit nxkcakniyngmixikhlaywdthimihlkthankarkhunthaebiynepnwdrangkhxngsanknganphraphuththsasna nyhnungepnkaryunynxayukhxngwdrangehlann ethiybekhiyngkbkartngchumchnbanswninxditid echn wdkhlxngobsth tngxyuhmu 4 taletiy prakthlkthanthidinxnepnsasnsmbtiklang aebb skh 1 elkhthi 176 canwn 5 ir wdnkhrys tngxyuthihmu 1 t taletiy ochndelkhthi 14955 canwn 3 2 32 ir wdkhru tngxyuthihmu 5 aebb skh 1 elkhthi 8 mienuxthicanwn 2 ir wdkhlxngiketiy hmu 9 iklwdkhlxngtaekhiyninpccubn yngphbessthanecdiycanwnmak mihlkthansiththiinthidinepn aebb skh 1 elkhthi 50 miphunthicanwn 1 1 28 ir wddngdipli tngxyuthi hmu 5 t banswn miexksarsiththiepn n s 3 elkhthi 10 miphunthi canwn 4 ir odymikarcdtngepnsanksngkhwddngdipli miphrasngkhekhaxyucaphrrsa wdtakhaw hruxwdtadaw tngxyuthihmu 11 t banswn emuxng suokhthy elkhthiexksarsiththiinthidin aebb skh 1 elkhthi 242 miphunthicanwn 4 0 60 ir trwcsxbimphbhlkthanthidin wdnanxng tngxyuthihmu 3 t banswn emuxng suokhthy ochndelkhthi 14957 miphunthi canwn 4 0 43 ir epnphunthitngkhxngethsbaltablbanswn ody ethsbalbanswnthasyyaechaepnewla 20 pi wdhwy hmu 5 t banswn emuxng suokhthy miexksarsiththithidin aebb n s 3 elkhthi 11 micanwn 2 0 00 ir nxkcakni krmsilpakridthakarsarwc aelaprakaskhunthaebiynwdrangthwippraeths tamphrarachbyytiwadwyobransthan silpwtthu obranwtthuaelakarphiphithphnthaehngchati phuththskrach 2477 thiprakasichemux 7 phvsphakhm ph s 2478 inekhtcnghwdsuokhthycanwn 120 wd odymiwdthipraktepnhlkthankhxngchumchnbanswndngni ladbthi 106 wdthamkhng xaephxemuxngsuokhthythani tablbanswn ladbthi 107 wdobsthiphkhxm xaephxemuxngsuokhthythani tablbanswn ladbthi 108 wdehmuxngkhiehlk xaephxemuxngsuokhthythani tablbanswn ladbthi 109 wdtadaw xaephxemuxngsuokhthythani tablbanswn ladbthi 110 wdpalaemaa xaephxemuxngsuokhthythani tablbanswn ladbthi 111 wdphimxng xaephxemuxngsuokhthythani tablbanswn ladbthi 112 wdrawasn xaephxemuxngsuokhthythani tablbanswn ladbthi 113 wddngmwng xaephxemuxngsuokhthythani tablbanswn ladbthi 114 wdxayaedng xaephxemuxngsuokhthythani tablbanswn ladbthi 115 wddngdipli xaephxemuxngsuokhthythani tablbanswn ladbthi 116 wdhwy xaephxemuxngsuokhthythani tablbanswn ladbthi 117 wdkhu xaephxemuxngsuokhthythani tablbanswn ladbthi 118 wdnun xaephxemuxngsuokhthythani tablbanswn ladbthi 119 wdkaaephngngam xaephxemuxngsuokhthythani tablbanswn ladbthi 120 wdcnthr xaephxemuxngsuokhthythani tablbanswn phrxmknnnyngmikarkhunthaebiynwdrangthisarwcphbinphayhlng tamprakaskhxngkrmsilpakr eruxngkhunthaebiynobransthanaelakahndthidinobransthan thiprakasinrachkiccanuebksa elm 114 txnphiess 87 ng hna 2 3 lngwnthi 29 knyayn 2540 miwd obransthanwdkhu tablbanswn xaephxemuxng cnghwdsuokhthy phunthiobransthanpraman 3 ir 1 ngan 47 tarangwa obransthanwddngdipli tablbanswn xaephxemuxng cnghwdsuokhthy phunthiobransthanpraman 3 ir 29 tarangwa channhlkthanthanghnwynganrachkarthnginswnsanknganphraphuththsasna thikhunthaebiynwdrangiw rwmthngkarkhunthaebiynkhxngkrmsilpakrihwdrangehlannepnobransthandwyenguxnikhkhxngxayukartngwdthisxdkhlxngkbkhwamecriyrungeruxnginsmysuokhthy aelakhwrkhatxkarxnurksiw rwmthngyngepnkaryunynthungkhwamrungeruxngindansasna kartngchumchn thikracaytwipthwrwmthngekhtbanswndwy dngnncungthaihepnhlkthanyunynidwasuokhthymiprawtikartngthinthanchumchnmaepnewlachanannbaetxditphumisastrtablbanswn hangcakthiwakarxaephxemuxngsuokhthy 7 kiolemtr mixanaekhttidtxkbekhtkhangekhiyng dngni thisehnux tidtxkb xaephxsrisaorng cnghwdsuokhthy thistawnxxk tidtxkb xaephxphrhmphiram cnghwdphisnuolk samarthechuxmipyngxaephxphichy cnghwdxutrditth aela xaephxkngikrlas cnghwdsuokhthy thisit tidtxkbtablbanhlum xaephxemuxngsuokhthy cnghwdsuokhthy thistawntk tidtxkbtabltaletiy xaephxemuxngsuokhthy cnghwdsuokhthykaraebngekhtkarpkkhrxngbanswnmisthanaepnchumchnaelahnwykarpkkhrxngmaaettn dngprakthlkthanemux ph s 2455 rs 130 epn prakas bxklwngnacaaeckochndsahrbthidin in 1 thungbanswnehnux tablbanswnehnux xaephxinemuxng 2 inthungbanswnit tablbanswnit xaephxinemuxng 3 inthungbanthunghlwng tablbanthunghlwng xaephxinemuxng 4 inthungbanthadinaedng tablthadinaedng xaephxinemuxng aekhwngemuxngsuokhthy elmthi 28 txn 0ng prakasemux wnthi 7 mkrakhm ph s 2454 hna 2182 prakthnwykarpkkhrxnginekhtbanswnwa prakaskahndwncaaecksahrbochndthidin 1 inthungbanswnehnux tablbanswnehnux xaephxinemuxng 2 inthungbanswnit tablbanswnit xaephxinemuxng 3 inthungbanthunghlwng tablbanthunghlwng xaephxinemuxng 4 inthungbanthadinaedng tablthadinaedng xaephxinemuxng aekhwngemuxng suokhithy inchwngsmyrchkalthi 5 ph s 2454 banswncungepnhnwykarpkkhrxnginradbtablkhunkbaekhwngsuokhithy cnghwdsuokhithy thiepnswnhnungkhxngmnthlphisnuolk odyaeykkarpkkhrxngepn tablbanswnehnux aela tablbanswnit aelaepnswnhnungkhxngxaephxemuxng cnghwdsuokhithy sakdtamrachkiccanuebksapi ph s 2460 edimchuxwa xaephxemuxng sunginpi ph s 2460 insmyrchkalthi 6 xaephxnithukepliynchuxepn xaephxthani cnemuxsmyrchkalthi 7 wnthi 1 emsayn ph s 2475 idyubxaephxthaniaelaepliynchuxepn xaephxsuokhthythani khuntxcnghwdswrrkholk phayhlnginpi ph s 2482 phayitkarpkkhrxngkhxngkhnarasdr xnmicxmphl p phibulsngkhram epnnaykrthmntri aelaepnpithirthbal prakasichrthniymchbbthi 1 xnmisaraekiywkbkarepliynchuxpraethscak syam epn ithy phrxmprakascdtngcnghwdsuokhthyxikkhrng ykxaephxsuokhthythaniepnsunyklangkhxngcnghwd aelaidepliynchuxepn xaephxemuxngsuokhthy nxkcaknibanswnyngepnsunyklangthithanghnwynganrachkarihkhwamsakhyekhaipcdkarsuksadngprakthlkthanwa dwyidrbbxkmnthlphisnuolkthi 11 6870 lngwnthi 20 kumphaphnthskniwa phlwngwrsarphicitr phuphiphaksasalemuxngsuokhthyphrxmdwy ecaxthikarwdbanswn khadwacaepnhlwngphxsmvththi ethow idcdtngorngeriynsxnhnngsuxithy chnmulsuksakhunthiwdbanswn khadwacaepnorngeriynwdvththi orng 1 xasrysalakhxngwdnnepnthielaeriyn aelaidepidsxnnkeriyn emuxwnthi 15 singhakhm r s 126 ph s 2450 minkeriyn 29 khn idcdih phraoth nkeriynorngeriynsuokhthywithyakhm sungsxbilidpraoykhhnungepnkhrusxn swnenginsahrbbarungorngeriynni hlwngwrsarphicitridbxkbuyeriyrayaekkharachkar aelarastridenginrwm 312 bath 16 xth sahrbcayincanwnsk 126 swninsk tx ip caidkhidcdkareriyraybarungtxip kbkhxmxborngeriynniihxyuinkhwamtrwctrakhxngkhahlwngthrrmkar khunpraphnthentiwuthi khahlwngthrrmkar cakkhxmulniyunynidwa banswn epnhnwykarpkkhrxngthikhunxyukbsuokhthy thngepnphunthithiphakhrth aelarachkarihkhwamsakhyekhamacdkarsuksatngaetxditaelahlkthanthipraktinsmykarptirupkarsuksa chwngsmyrchkalthi 5 rahwang r s 126 hrux ph s 2450 dwyechnkn dngnnemuxduinphaphrwmekiywkbphthnakarkhxngtablbanswncungphukoyngxyukbkarpkkhrxngthimisunyklangxyuthi suokhthy suokhithy maaetxdit aeplwasuokhthythukthaihepnaekhwng emuxng hruxcnghwd khwamepnbanswnkcaxyuinthanaepnepnchumchnthixyuiklemuxngdwyrayahangthiimiklpraman 10 kiolemtr cungthukphnwkrwmtamenguxnikhkhxngkarpkkhrxnginaetlachwngewlatlxdma inpccubntablbanswnidaebngkarpkkhrxngepn 13 hmuban idaek hmu 1 banpa hmu 2 banswnit hmu 3 tladbanswn wdkhungyangihy hmu 4 banir wdbung wdvththi banbxn hmu 5 bankhlxngdan hmu 6 khlxngtaekhiyn hmu 7 hnxngokhrng hmu 8 baniphkhwang hmu 9 banswnehnux ehmuxngihy hmu 10 khlxngplayna hmu 11 hnxngthxng wdhnxngthxng hmu 12 banwdcnthr hmu 13 banoprng karpkkhrxngtablbanswnaebngkarpkkhrxngepn 13 hmuban odyxyuinphunthi canwn 3 hmu khux hmuthi 1 bangswn hmuthi 2 aelahmuthi 3 bangswn nxknnxyuinphunthixngkhkarbriharswntablbanswn hmubanthng 13 hmuban idaek hmu 1 banpa hmu 2 banswnit hmu 3 banhnaobsth banklang ykewntladbanswn aelawdkhungyangihy hmu 4 banir wdbung wdvththi banbxn hmu 5 bankhlxngdan hmu 6 khlxngtaekhiyn hmu 7 hnxngokhrng hmu 8 baniphkhwang hmu 9 banswnehnux ehmuxngihy hmu 10 khlxngplayna hmu 11 hnxngthxng wdhnxngthxng hmu 12 banwdcnthr hmu 13 banoprng karpkkhrxngswnthxngthinthxngthitablbanswnprakxbipdwy 13 hmuban mikarcdkaraebngkarpkkhrxngthxngthin 2 aehngkhux ethsbaltablbanswn idykthanacaksukhaphibalbanswnemux 27 minakhm 2505 tamphrarachbyytisukhaphibal ph s 2495 epnethsbaltablbanswn emuxwnthi 25 phvsphakhm 2542 odyprakasinrachkiccanuebksa chbb elm 116 txnthi 9 k hna 1 lngwnthi 24 kumphaphnth 2543 khrxbkhlumphunthihmuthi 2 aelaphunthibangswnkhxnghmuthi 3 miphunthi 3 tarangkiolemtr hruxraw 5 ir 44 tarangwa sarwcemux 31 phvscikayn 2553 thitngsankngan thnninchumchn hmu 3 tablbanswn xaephxemuxngsuokhthy cnghwdsuokhthy 64220 canwnban 1 512 hlngkhaeruxn canwnprachakr n eduxnemsayn ph s 2550 micanwn 4 819 khn chay 2 253 khn hying 2 566 khn khwamhnaaennechliy 1657 33 khn tarangkiolemtrxngkhkarbriharswntablbanswn xngkhkarbriharswntablbanswn kxtngemux ph s 2539 xbt khrxbkhlumphunthitablbanswn echphaanxkekhtethsbaltablbanswn ykewnphunthihmu 2 aela 3 bangswn miphunthi 101 tarangkiolemtr thitngsankngan xngkhkarbriharswntablbanswn thnneliyngemuxng suokhthy phisnuolk rumbungihy hmu 9 tablbanswn xaephxemuxngsuokhthy cnghwdsuokhthy 64220 miprachakrchay 6 917 khn prachakrhying 8 064 khn rwmthnghmd 14 981 khnprachakrprachakrintablbanswnmicanwn 14 981 khn aela canwnhlngkhaeruxn 2 833 hlngkhaeruxnsasnasthan wdwdkhungyangihy wdkhlxngtaekhiyn wdhwfay wdpaerir wdbungwnaram wdvththisirirasdrecriythrrm wdxmrawassthansuksa orngeriynorngeriynwdkhungyangihy orngeriynwdvththi orngeriynwdcnthr orngeriynbanswnit orngeriynbanswnwithyakhmhnwyngan hnwynganrachkarsthanitarwcbanswn orngphyabalsngesrimsukhphaphtablbanswn iprsniybanswnkarkhmnakhmkarkhmnakhmcaichesnthangthnnsinghwthn sayphisnuolk suokhthy rayathangcaksuokhthythungbanswnpraman 7 kiolemtr mirthsxngaethwpracathang aelarthmxetxrisdrbcangxangxingrachkiccanuebksa 2539 hna 48duraylaexiydesrimin smchay eduxnephy cakaekhwnsuokhthythungcnghwdswrrkholk inwarsar mnusysastraelasngkhmsastr m nerswr pithi 2 chbbthi 2 k kh k y 2537 hna 28 37 phcnanukrmchbbrachbnthitysthan ph s 2525 435 ithyrthwnphuththi 6 krkdakhm 2548 3 kaycni khabuyrtn withichiwitkhxngchawban emuxkalkxnkhxngsuokhthy pithi 31 chbbthi 4 kumphaphnth 2553 hna 68 71 imekhil irth frngkhlngsyam krungethph mtichn 2541 silpwthnthrrmchbbphiess hna 172 175 aela hna 180 183 http www info ru ac th province sukhotai wmank htm 2010 08 15 thi ewyaebkaemchchin nuchnad diecriy rayngankarwicyeruxngramngkhlaincnghwdphisnuolk suokhthy aelaxutrditth Mangkala dance in the provinces of Phitsanulo phisnuolk khnamnusysastraelasngkhmsastr mhawithyalynerswr 2542 imekhil irth frngkhlngsyam krungethph mtichn 2541 chbbphiess hna 180 183 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2010 11 14 subkhnemux 2010 10 15 sarwcemuxwnthi 8 minakhm ph s 2478 aelaprakasinrachkiccanuebksa elmthi 52 txnthi 74 dierk dwnglxy phrapldraphin phuth thisaor 2563 prawtisastrthxngthinbanswn suokhthy Local History of Bansuan Sukhothai Province suokhthy kxngthunphrakhrusuphthnphithan thxngdi mhawior xanihy ISBN 978 616 568 180 3 thaebiynthidinwdrang aelathidinsasnsmbtiklang cnghwdsuokhthy mtithiprachumkhnathangan khrngthi 5 2547 wnthi 22 23 krkdakhm 2547 odysanknganphraphuththsasnacnghwdsuokhthy http www ratchakitcha soc go th DATA PDF 2478 D 3679 PDF prakaskrmsilpakr kahndobransthansahrbchati prakas 8 minakhm 2478 rachkiccanuebksa elm 52 hna 1689 1717 http www ratchakitcha soc go th DATA PDF 2478 A 394 PDF phrarachbyytiwadwyobransthan silpwtthu obranwtthuaelakarphiphithphnthaehngchati phuththskrach 2477 http www ratchakitcha soc go th DATA PDF 2478 D 3679 PDF prakaskrmsilpakr kahndobransthansahrbchati prakas 8 minakhm 2478 rachkiccanuebksa elm 52 hna 1709 1710 rachkiccanuebksa prakaskrmsilpakr eruxng khunthaebiynobransthanaelakahndekhtthidinobransthan wdemuxngpxn rang aelawdtxaeph cnghwdaemhxngsxnwdthatuokhng rang wdthatuekhiyw rang wdrxykhx rang cnghwdechiyngraywdechiyngaesn wdhmunphrik rang cnghwdechiyngihm wdhnxngha cnghwdphaeya wdihychymngkhl wdymrach cnghwdphisnuolk wdkhu wddngdipli wdobsth cnghwdsuokhthy wdphraecdiythxng cnghwdkaaephngephchr ecdiyyuththhtthi wdphrabrmthatu cngtak wdhwyekhn cnghwdphicitr wdihythaesa cnghwdxutrditth elm 114 phiess 87 ng 29 knyayn ph s 2540 hna 2 rachkiccanuebksa prakaskrmsilpakr eruxng khunthaebiynobransthanaelakahndekhtthidinobransthan wdemuxngpxn rang aelawdtxaeph cnghwdaemhxngsxnwdthatuokhng rang wdthatuekhiyw rang wdrxykhx rang cnghwdechiyngraywdechiyngaesn wdhmunphrik rang cnghwdechiyngihm wdhnxngha cnghwdphaeya wdihychymngkhl wdymrach cnghwdphisnuolk wdkhu wddngdipli wdobsth cnghwdsuokhthy wdphraecdiythxng cnghwdkaaephngephchr ecdiyyuththhtthi wdphrabrmthatu cngtak wdhwyekhn cnghwdphicitr wdihythaesa cnghwdxutrditth elm 114 phiess 87 ng 29 knyayn ph s 2540 hna 2 http www ratchakitcha soc go th DATA PDF 2454 D 2182 PDF prakas bxklwngnacaaeckochndsahrbthidin in 1 thungbanswnehnux tablbanswnehnux xaephxinemuxng 2 inthungbanswnit tablbanswnit xaephxinemuxng 3 inthungbanthunghlwng tablbanthunghlwng xaephxinemuxng 4 inthungbanthadinaedng tablthadinaedng xaephxinemuxng aekhwngemuxngsuokhthy elmthi 28 txn 0ng prakasemux wnthi 7 mkrakhm ph s 2454 hna 2182 PDF Royal Gazette 34 0 k 40 68 1917 04 29 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2011 11 07 subkhnemux 2015 04 15 phrabrmrachoxngkar prakas yubrwmthxngthibangmnthlaelabangcnghwd Royal Gazette 48 0 k 576 578 1932 02 21 lingkesiy prakaskrmsilpakr kahndcanwnobransthansahrbchati PDF Royal Gazette 56 0 k 351 353 1939 04 17 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2008 04 09 subkhnemux 2015 04 15 http www ratchakitcha soc go th DATA PDF 2450 050 1352 1 PDF rachkiccanuebksa elm 24 hna 1352 1353 wnthi 15 minakhm r s 126 http www ratchakitcha soc go th DATA PDF 2505 D 029 745 PDF prakaskrathrwngmhadithy eruxngcdtngsukhaphibalbanswn cnghwdsuokhthy inrachkiccanuebksaelmthi 79 txnthi 29 emux 27 minakhm 2505aehlngkhxmulxunewbistcnghwdsuokhthy ewbistbanswndxtent odydierk dwnglxy phlxybutr ethsbaltablbanswn xaephxemuxng cnghwdsuokhthy lingkesiy dierk dwnglxy phrapldraphin phuth thisaor 2563 prawtisastrthxngthinbanswn suokhthy Local History of Bansuan Sukhothai Province suokhthy kxngthunphrakhrusuphthnphithan thxngdi mhawior xanihy ISBN 978 616 568 180 3 sunyrwmkhxmulxngkhkarbriharswntabl tablbanswn xaephxemuxngsuokhthy cnghwdsuokhthy 2020 06 08 thi ewyaebkaemchchin xngkhkarbriharswntablbanswn xbt banswn xaephxemuxngsuokhthy cnghwdsuokhthy 2020 06 08 thi ewyaebkaemchchin sux Facebook khxngxngkhkarbriharswntablbanswn xbt banswn xaephxemuxngsuokhthy cnghwdsuokhthy