พรหมพิราม เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดพิษณุโลก อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 28 กิโลเมตร และมีประชากรมากเป็นอันดับ 4 ของจังหวัด
อำเภอพรหมพิราม | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Amphoe Phrom Phiram |
คำขวัญ: พรหมพิรามเมืองพระ วังมะสระพระเครื่อง ลือเลื่องทุ่งสาน ชลประทานเขื่อนนเรศวร หลากล้วนมังคละดนตรี ประเพณียกธง | |
แผนที่จังหวัดพิษณุโลก เน้นอำเภอพรหมพิราม | |
พิกัด: 17°2′0″N 100°12′6″E / 17.03333°N 100.20167°E | |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | พิษณุโลก |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 832.67 ตร.กม. (321.50 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2564) | |
• ทั้งหมด | 85,218 คน |
• ความหนาแน่น | 102.34 คน/ตร.กม. (265.1 คน/ตร.ไมล์) |
รหัสไปรษณีย์ | 65150, 65180 (เฉพาะตำบลวงฆ้อง มะต้อง ดงประคำ ศรีภิรมย์ และตลุกเทียม) |
รหัสภูมิศาสตร์ | 6506 |
ที่ตั้งที่ว่าการ | ที่ว่าการอำเภอพรหมพิราม ถนนพรหมวิถี ตำบลพรหมพิราม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก 65150 |
ส่วนหนึ่งของ |
ประวัติ
คำว่า "พรหมพิราม" หมายถึง เมืองที่งดงามเป็นที่อยู่แห่งพรหมหรือพระเจ้าผู้สร้างโลก เดิมเรียกว่า เมืองพรหมพิราม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่าน ตำบลมะตูม ต่อมาได้ยกฐานะเป็นอำเภอชื่อว่า อำเภอพรหมพิราม เมื่อ พ.ศ. 2438 และได้ย้ายที่ตั้งที่ว่าการอำเภอมาตั้งที่ฝั่งขวาของลำน้ำน่านที่ บ้านย่านขาด เมื่อประมาณ 50 ปีที่ผ่านมา[] ต่อมารัฐบาลสร้างทางรถไฟสายเหนือ (กรุงเทพ-เชียงใหม่) ขึ้น จึงย้ายที่ว่าการอำเภอมาตั้งใกล้ทางรถไฟอีกครั้งหนึ่งที่บ้านกรับพวง (ปัจจุบัน คือ บ้านพรหมพิราม) ตำบลพรหมพิราม ห่างจากสถานีรถไฟพรหมพิราม ประมาณ 500 เมตร สำหรับอาคารนั้นแต่เดิมเป็นไม้ชั้นเดียว ในปี พ.ศ. 2503 จึงได้ปรับปรุงขึ้นเป็น 2 ชั้น โดยเทพื้นคอนกรีตใต้ถุนอาคารเดิมและตีฝาโดยรอบ ซึ่งใช้เป็นที่ทำการของส่วนราชการต่าง ๆ ปัจจุบันได้สร้างที่ว่าการอำเภอใหม่ ณ สถานที่เดิมเป็นอาคารคอนกรีต 2 ชั้น และเปิดทำการเมื่อ ปี พ.ศ. 2519
- วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2475 ตั้งตำบลทับยายเชียง แยกออกจากตำบลมะต้อง และตำบลวงฆ้อง
- วันที่ 1 เมษายน 2480 เปลี่ยนแปลงเขตจังหวัดพิษณุโลก กับจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยโอนพื้นที่หมู่ 5, 7 (ในขณะนั้น) ของตำบลตลุกเทียม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ไปขึ้นกับหมู่ 9 ของตำบลพญาแมน อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้ถือคลองต่อเขตฝั่งเหนือนับตั้งแต่ริมบ้านข่อม ไปจนตลอดปลายคลองซึ่งต่อกับคลองตรั่งเป็นเส้นแบ่งเขต
- วันที่ 31 ธันวาคม 2481 โอนพื้นที่หมู่ 10 ตำบลมะตูม อำเภอพรหมพิราม ไปขึ้นตำบลบ้านกร่าง อำเภอเมืองพิษณุโลก
- วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2490 เปลี่ยนแปลงเขตอำเภอเมืองพิษณุโลก กับอำเภอพรหมพิราม โดยโอนพื้นที่หมู่ 13 (ในขณะนั้น) ของตำบลบ้านกร่าง อำเภอเมืองพิษณุโลก มาขึ้นกับตำบลท่าช้าง อำเภอพรหมพิราม
- วันที่ 10 มิถุนายน 2490 ตั้งตำบลคันโช้ง แยกออกจากตำบลหินลาด ตั้งตำบลท้อแท้ แยกออกจากตำบลวัดโบสถ์ ตั้งตำบลทับยายเชียง แยกออกจากตำบลวงฆ้อง และตำบลมะต้อง ตั้งตำบลบ้านยาง แยกออกจากตำบลหินลาด และตำบลท่างาม
- วันที่ 9 ธันวาคม 2490 แยกพื้นที่ตำบลวัดโบสถ์ ตำบลท้อแท้ ตำบลท่างาม ตำบลหินลาด และตำบลคันโช้ง ของอำเภอพรหมพิราม ไปตั้งเป็น กิ่งอำเภอวัดโบสถ์ และขึ้นการปกครองกับอำเภอพรหมพิราม
- วันที่ 23 ธันวาคม 2490 โอนพื้นที่ตำบลบ้านยาง อำเภอพรหมพิราม ไปขึ้นกับ กิ่งอำเภอวัดโบสถ์
- วันที่ 17 กันยายน 2498 จัดตั้งสุขาภิบาลวงฆ้อง ในท้องที่บางส่วนของตำบลวงฆ้อง และบางส่วนของตำบลมะต้อง
- วันที่ 5 มิถุนายน 2499 ยกฐานะกิ่งอำเภอวัดโบสถ์ อำเภอพรหมพิราม เป็น อำเภอวัดโบสถ์
- วันที่ 28 พฤศจิกายน 2499 จัดตั้งสุขาภิบาลพรหมพิราม ในท้องที่บางส่วนของตำบลพรหมพิราม
- วันที่ 26 กันยายน 2510 เปลี่ยนแปลงเขตอำเภอพรหมพิราม กับอำเภอเมืองพิษณุโลก โดยโอนพื้นที่หมู่ 1 (ในขณะนั้น) ของตำบลมะตูม อำเภอพรหมพิราม ไปขึ้นกับตำบลจอมทอง อำเภอเมืองพิษณุโลก
- วันที่ 5 กันยายน 2521 ตั้งตำบลดงประคำ แยกออกจากตำบลทับยายเชียง
- วันที่ 25 พฤษภาคม 2542 ยกฐานะสุขาภิบาลวงฆ้อง และสุขาภิบาลพรหมพิราม อำเภอพรหมพิราม เป็นเทศบาลตำบลวงฆ้อง และเทศบาลตำบลพรหมพิราม ตามลำดับ
- วันที่ 21 ตุลาคม 2547 กำหนดเขตตำบลในท้องที่อำเภอพรหมพิรามให้มีอาณาเขตตำบลที่ถูกต้อง โดยกำหนดให้ตำบลพรหมพิรามให้มีเขตการปกครองรวม 15 หมู่บ้าน ตำบลท่าช้าง ให้มีเขตการปกครองรวม 13 หมู่บ้าน ตำบลวงฆ้อง ให้มีเขตการปกครองรวม 11 หมู่บ้าน ตำบลมะตูม ให้มีเขตการปกครองรวม 6 หมู่บ้าน ตำบลหอกลอง ให้มีเขตการปกครองรวม 7 หมู่บ้าน ตำบลศรีภิรมย์ ให้มีเขตการปกครองรวม 12 หมู่บ้าน ตำบลตลุกเทียม ให้มีเขตการปกครองรวม 8 หมู่บ้าน ตำบลวังวน ให้มีเขตการปกครองรวม 10 หมู่บ้าน ตำบลหนองแขม ให้มีเขตการปกครองรวม 10 หมู่บ้าน ตำบลมะต้อง ให้มีเขตการปกครองรวม 11 หมู่บ้าน ตำบลทับยายเชียง ให้มีเขตการปกครองรวม 6 หมู่บ้าน และตำบลดงประคำ ให้มีเขตการปกครองรวม 10 หมู่บ้าน
ที่ตั้งและอาณาเขต
อำเภอพรหมพิรามห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 30 กิโลเมตร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของจังหวัด มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียง ดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอสวรรคโลก (จังหวัดสุโขทัย) และอำเภอพิชัย (จังหวัดอุตรดิตถ์)
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอวัดโบสถ์
- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอเมืองพิษณุโลกและอำเภอบางระกำ
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอกงไกรลาศและอำเภอศรีสำโรง (จังหวัดสุโขทัย)
การแบ่งเขตการปกครอง
การปกครองส่วนภูมิภาค
อำเภอพรหมพิรามแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 12 ตำบล 123 หมู่บ้าน ได้แก่
1. | พรหมพิราม | (Phrom Phiram) | 15 หมู่บ้าน | 7. | ตลุกเทียม | (Taluk Thiam) | 8 หมู่บ้าน | ||||||
2. | ท่าช้าง | (Tha Chang) | 13 หมู่บ้าน | 8. | วังวน | (Wang Won) | 10 หมู่บ้าน | ||||||
3. | วงฆ้อง | (Wong Khong) | 11 หมู่บ้าน | 9. | หนองแขม | (Nong Khaem) | 10 หมู่บ้าน | ||||||
4. | มะตูม | (Matum) | 6 หมู่บ้าน | 10. | มะต้อง | (Matong) | 11 หมู่บ้าน | ||||||
5. | หอกลอง | (Ho Klong) | 7 หมู่บ้าน | 11. | ทับยายเชียง | (Thap Yai Chiang) | 6 หมู่บ้าน | ||||||
6. | ศรีภิรมย์ | (Si Phirom) | 13 หมู่บ้าน | 12. | ดงประคำ | (Dong Prakham) | 11 หมู่บ้าน |
การปกครองส่วนท้องถิ่น
ท้องที่อำเภอพรหมพิรามประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 14 แห่ง ได้แก่
- เทศบาลตำบลพรหมพิราม ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลพรหมพิราม
- เทศบาลตำบลวงฆ้อง ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลวงฆ้องและตำบลมะต้อง
- องค์การบริหารส่วนตำบลพรหมพิราม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลพรหมพิราม (นอกเขตเทศบาลตำบลพรหมพิราม)
- องค์การบริหารส่วนตำบลท่าช้าง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลท่าช้างทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลวงฆ้อง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลวงฆ้อง (นอกเขตเทศบาลตำบลวงฆ้อง)
- องค์การบริหารส่วนตำบลมะตูม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลมะตูมทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลหอกลอง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหอกลองทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลศรีภิรมย์ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลศรีภิรมย์ทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลตลุกเทียม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลตลุกเทียมทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลวังวน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลวังวนทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลหนองแขม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองแขมทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลมะต้อง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลมะต้อง (นอกเขตเทศบาลตำบลวงฆ้อง)
- องค์การบริหารส่วนตำบลทับยายเชียง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลทับยายเชียงทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลดงประคำ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลดงประคำทั้งตำบล
อาชญากรรม
อำเภอนี้เป็นที่รู้จักจากคดีข่มขืนแล้วฆ่าเมื่อ พ.ศ. 2520
อ้างอิง
- [1] 2021-05-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนประวัติอำเภอพรหมพิราม
- "ประกาศกระทรวงธรรมการ เรื่อง การใช้พระราชบัญญัติประถมศึกษา พ.ศ. ๒๔๖๔ สำหรับตำบลทับยายเชียง ซึ่งแยกมาจากตำบลมะต้องและตำบลวงฆ้อง อำเภอพรมพิม กับตำบลป่าคาย ซึ่งแยกมาจากตำบลแก่งโสภา อำเภอเมืองนครไทย จังหวัดพิษณุโลก" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 49 (0 ก): 659–660. February 19, 1932.
- (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 54 (0 ก): 40–54. 1 เมษายน 2480. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-05-16. สืบค้นเมื่อ 2020-05-13.
- "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง เปลี่ยนแปลงเขตอำเภอในจังหวัดพิษณุโลก" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 57 (0 ง): 3237. December 31, 1938.
- "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง เปลี่ยนแปลงเขตอำเภอในจังหวัดพิษณุโลก ศรีสะเกษ ตราด สิงห์บุรี อ่างทอง เพ็ชรบุรี และระนอง" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 64 (9 ง): 254–257. 18 กุมภาพันธ์ 2490.
- (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 64 (26 ง): 1114–1433. 10 มิถุนายน 2490. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-11-09. สืบค้นเมื่อ 2020-05-13.
- (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 64 (60 ง): 3188–3193. 9 ธันวาคม 2490. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-11-09. สืบค้นเมื่อ 2020-05-13.
- "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง เปลี่ยนแปลงเขตอำเภอในจังหวัดพิษณุโลก" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 64 (62 ง): 3469–3470. 23 ธันวาคม 2490.
- "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง จัดตั้งสุขาภิบาลวงฆ้อง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 72 (74 ง): (ฉบับพิเศษ) 88-89. 17 กันยายน 2498.
- (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 73 (46 ก): 657–661. 5 มิถุนายน 2499. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-10-11. สืบค้นเมื่อ 2020-05-13.
- "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง จัดตั้งสุขาภิบาลพรหมพิราม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 73 (99 ง): (ฉบับพิเศษ) 51-52. 28 พฤศจิกายน 2499.
- "พระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเขตอำเภอพรหมพิราม และอำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. ๒๕๑๐" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 84 (90 ก): 747–749. 26 กันยายน 2510.
- "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและเปลี่ยนแปลงเขตตำบลในท้องที่อำเภอพรหมพิราม และกิ่งอำเภอเนินมะปราง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 95 (92 ง): 2897–2901. 5 กันยายน 2521.
- (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 116 (9 ก): 1–4. 24 กุมภาพันธ์ 2542. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2008-04-09. สืบค้นเมื่อ 2020-05-13.
- "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การกำหนดเขตตำบลในท้องที่อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 121 (85 ง): 13–57. 21 ตุลาคม 2547.
- "นอภ. พรหมพิรามวอนสังคมหยุดพูดโยนบาปคดีข่มขืนโหดให้คนพรหมพิราม". มติชนออนไลน์. กรุงเทพฯ: มติชน. 2560-09-07. สืบค้นเมื่อ 2565-02-28.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help))
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phrhmphiram epnxaephxhnungkhxngcnghwdphisnuolk xyuhangcaktwcnghwdpraman 28 kiolemtr aelamiprachakrmakepnxndb 4 khxngcnghwdxaephxphrhmphiramxaephxkarthxdesiyngxksrormn xksrormnAmphoe Phrom Phiramkhakhwy phrhmphiramemuxngphra wngmasraphraekhruxng luxeluxngthungsan chlprathanekhuxnnerswr hlaklwnmngkhladntri praephniykthngaephnthicnghwdphisnuolk ennxaephxphrhmphiramphikd 17 2 0 N 100 12 6 E 17 03333 N 100 20167 E 17 03333 100 20167praeths ithycnghwdphisnuolkphunthi thnghmd832 67 tr km 321 50 tr iml prachakr 2564 thnghmd85 218 khn khwamhnaaenn102 34 khn tr km 265 1 khn tr iml rhsiprsniy 65150 65180 echphaatablwngkhxng matxng dngprakha sriphirmy aelatlukethiym rhsphumisastr6506thitngthiwakarthiwakarxaephxphrhmphiram thnnphrhmwithi tablphrhmphiram xaephxphrhmphiram cnghwdphisnuolk 65150swnhnungkhxngsaranukrmpraethsithyprawtikhawa phrhmphiram hmaythung emuxngthingdngamepnthixyuaehngphrhmhruxphraecaphusrangolk edimeriykwa emuxngphrhmphiram tngxyurimaemnanan tablmatum txmaidykthanaepnxaephxchuxwa xaephxphrhmphiram emux ph s 2438 aelaidyaythitngthiwakarxaephxmatngthifngkhwakhxnglanananthi banyankhad emuxpraman 50 pithiphanma txmarthbalsrangthangrthifsayehnux krungethph echiyngihm khun cungyaythiwakarxaephxmatngiklthangrthifxikkhrnghnungthibankrbphwng pccubn khux banphrhmphiram tablphrhmphiram hangcaksthanirthifphrhmphiram praman 500 emtr sahrbxakharnnaetedimepnimchnediyw inpi ph s 2503 cungidprbprungkhunepn 2 chn odyethphunkhxnkrititthunxakharedimaelatifaodyrxb sungichepnthithakarkhxngswnrachkartang pccubnidsrangthiwakarxaephxihm n sthanthiedimepnxakharkhxnkrit 2 chn aelaepidthakaremux pi ph s 2519 wnthi 19 kumphaphnth 2475 tngtablthbyayechiyng aeykxxkcaktablmatxng aelatablwngkhxng wnthi 1 emsayn 2480 epliynaeplngekhtcnghwdphisnuolk kbcnghwdxutrditth odyoxnphunthihmu 5 7 inkhnann khxngtabltlukethiym xaephxphrhmphiram cnghwdphisnuolk ipkhunkbhmu 9 khxngtablphyaaemn xaephxphichy cnghwdxutrditth ihthuxkhlxngtxekhtfngehnuxnbtngaetrimbankhxm ipcntlxdplaykhlxngsungtxkbkhlxngtrngepnesnaebngekht wnthi 31 thnwakhm 2481 oxnphunthihmu 10 tablmatum xaephxphrhmphiram ipkhuntablbankrang xaephxemuxngphisnuolk wnthi 18 kumphaphnth 2490 epliynaeplngekhtxaephxemuxngphisnuolk kbxaephxphrhmphiram odyoxnphunthihmu 13 inkhnann khxngtablbankrang xaephxemuxngphisnuolk makhunkbtablthachang xaephxphrhmphiram wnthi 10 mithunayn 2490 tngtablkhnochng aeykxxkcaktablhinlad tngtablthxaeth aeykxxkcaktablwdobsth tngtablthbyayechiyng aeykxxkcaktablwngkhxng aelatablmatxng tngtablbanyang aeykxxkcaktablhinlad aelatablthangam wnthi 9 thnwakhm 2490 aeykphunthitablwdobsth tablthxaeth tablthangam tablhinlad aelatablkhnochng khxngxaephxphrhmphiram iptngepn kingxaephxwdobsth aelakhunkarpkkhrxngkbxaephxphrhmphiram wnthi 23 thnwakhm 2490 oxnphunthitablbanyang xaephxphrhmphiram ipkhunkb kingxaephxwdobsth wnthi 17 knyayn 2498 cdtngsukhaphibalwngkhxng inthxngthibangswnkhxngtablwngkhxng aelabangswnkhxngtablmatxng wnthi 5 mithunayn 2499 ykthanakingxaephxwdobsth xaephxphrhmphiram epn xaephxwdobsth wnthi 28 phvscikayn 2499 cdtngsukhaphibalphrhmphiram inthxngthibangswnkhxngtablphrhmphiram wnthi 26 knyayn 2510 epliynaeplngekhtxaephxphrhmphiram kbxaephxemuxngphisnuolk odyoxnphunthihmu 1 inkhnann khxngtablmatum xaephxphrhmphiram ipkhunkbtablcxmthxng xaephxemuxngphisnuolk wnthi 5 knyayn 2521 tngtabldngprakha aeykxxkcaktablthbyayechiyng wnthi 25 phvsphakhm 2542 ykthanasukhaphibalwngkhxng aelasukhaphibalphrhmphiram xaephxphrhmphiram epnethsbaltablwngkhxng aelaethsbaltablphrhmphiram tamladb wnthi 21 tulakhm 2547 kahndekhttablinthxngthixaephxphrhmphiramihmixanaekhttablthithuktxng odykahndihtablphrhmphiramihmiekhtkarpkkhrxngrwm 15 hmuban tablthachang ihmiekhtkarpkkhrxngrwm 13 hmuban tablwngkhxng ihmiekhtkarpkkhrxngrwm 11 hmuban tablmatum ihmiekhtkarpkkhrxngrwm 6 hmuban tablhxklxng ihmiekhtkarpkkhrxngrwm 7 hmuban tablsriphirmy ihmiekhtkarpkkhrxngrwm 12 hmuban tabltlukethiym ihmiekhtkarpkkhrxngrwm 8 hmuban tablwngwn ihmiekhtkarpkkhrxngrwm 10 hmuban tablhnxngaekhm ihmiekhtkarpkkhrxngrwm 10 hmuban tablmatxng ihmiekhtkarpkkhrxngrwm 11 hmuban tablthbyayechiyng ihmiekhtkarpkkhrxngrwm 6 hmuban aelatabldngprakha ihmiekhtkarpkkhrxngrwm 10 hmubanthitngaelaxanaekhtxaephxphrhmphiramhangcaktwcnghwdpraman 30 kiolemtr tngxyuthangthistawntkkhxngcnghwd mixanaekhttidtxkbekhtkarpkkhrxngkhangekhiyng dngni thisehnux tidtxkbxaephxswrrkholk cnghwdsuokhthy aelaxaephxphichy cnghwdxutrditth thistawnxxk tidtxkbxaephxwdobsth thisit tidtxkbxaephxemuxngphisnuolkaelaxaephxbangraka thistawntk tidtxkbxaephxkngikrlasaelaxaephxsrisaorng cnghwdsuokhthy karaebngekhtkarpkkhrxngkarpkkhrxngswnphumiphakh xaephxphrhmphiramaebngekhtkarpkkhrxngyxyxxkepn 12 tabl 123 hmuban idaek 1 phrhmphiram Phrom Phiram 15 hmuban 7 tlukethiym Taluk Thiam 8 hmuban2 thachang Tha Chang 13 hmuban 8 wngwn Wang Won 10 hmuban3 wngkhxng Wong Khong 11 hmuban 9 hnxngaekhm Nong Khaem 10 hmuban4 matum Matum 6 hmuban 10 matxng Matong 11 hmuban5 hxklxng Ho Klong 7 hmuban 11 thbyayechiyng Thap Yai Chiang 6 hmuban6 sriphirmy Si Phirom 13 hmuban 12 dngprakha Dong Prakham 11 hmubankarpkkhrxngswnthxngthin thxngthixaephxphrhmphiramprakxbdwyxngkhkrpkkhrxngswnthxngthin 14 aehng idaek ethsbaltablphrhmphiram khrxbkhlumphunthibangswnkhxngtablphrhmphiram ethsbaltablwngkhxng khrxbkhlumphunthibangswnkhxngtablwngkhxngaelatablmatxng xngkhkarbriharswntablphrhmphiram khrxbkhlumphunthitablphrhmphiram nxkekhtethsbaltablphrhmphiram xngkhkarbriharswntablthachang khrxbkhlumphunthitablthachangthngtabl xngkhkarbriharswntablwngkhxng khrxbkhlumphunthitablwngkhxng nxkekhtethsbaltablwngkhxng xngkhkarbriharswntablmatum khrxbkhlumphunthitablmatumthngtabl xngkhkarbriharswntablhxklxng khrxbkhlumphunthitablhxklxngthngtabl xngkhkarbriharswntablsriphirmy khrxbkhlumphunthitablsriphirmythngtabl xngkhkarbriharswntabltlukethiym khrxbkhlumphunthitabltlukethiymthngtabl xngkhkarbriharswntablwngwn khrxbkhlumphunthitablwngwnthngtabl xngkhkarbriharswntablhnxngaekhm khrxbkhlumphunthitablhnxngaekhmthngtabl xngkhkarbriharswntablmatxng khrxbkhlumphunthitablmatxng nxkekhtethsbaltablwngkhxng xngkhkarbriharswntablthbyayechiyng khrxbkhlumphunthitablthbyayechiyngthngtabl xngkhkarbriharswntabldngprakha khrxbkhlumphunthitabldngprakhathngtablxachyakrrmxaephxniepnthiruckcakkhdikhmkhunaelwkhaemux ph s 2520xangxing 1 2021 05 08 thi ewyaebkaemchchinprawtixaephxphrhmphiram prakaskrathrwngthrrmkar eruxng karichphrarachbyytiprathmsuksa ph s 2464 sahrbtablthbyayechiyng sungaeykmacaktablmatxngaelatablwngkhxng xaephxphrmphim kbtablpakhay sungaeykmacaktablaekngospha xaephxemuxngnkhrithy cnghwdphisnuolk PDF rachkiccanuebksa 49 0 k 659 660 February 19 1932 PDF rachkiccanuebksa 54 0 k 40 54 1 emsayn 2480 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2012 05 16 subkhnemux 2020 05 13 prakaskrathrwngmhadithy eruxng epliynaeplngekhtxaephxincnghwdphisnuolk PDF rachkiccanuebksa 57 0 ng 3237 December 31 1938 prakaskrathrwngmhadithy eruxng epliynaeplngekhtxaephxincnghwdphisnuolk srisaeks trad singhburi xangthxng ephchrburi aelaranxng PDF rachkiccanuebksa 64 9 ng 254 257 18 kumphaphnth 2490 PDF rachkiccanuebksa 64 26 ng 1114 1433 10 mithunayn 2490 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2011 11 09 subkhnemux 2020 05 13 PDF rachkiccanuebksa 64 60 ng 3188 3193 9 thnwakhm 2490 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2011 11 09 subkhnemux 2020 05 13 prakaskrathrwngmhadithy eruxng epliynaeplngekhtxaephxincnghwdphisnuolk PDF rachkiccanuebksa 64 62 ng 3469 3470 23 thnwakhm 2490 prakaskrathrwngmhadithy eruxng cdtngsukhaphibalwngkhxng xaephxphrhmphiram cnghwdphisnuolk PDF rachkiccanuebksa 72 74 ng chbbphiess 88 89 17 knyayn 2498 PDF rachkiccanuebksa 73 46 k 657 661 5 mithunayn 2499 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2011 10 11 subkhnemux 2020 05 13 prakaskrathrwngmhadithy eruxng cdtngsukhaphibalphrhmphiram xaephxphrhmphiram cnghwdphisnuolk PDF rachkiccanuebksa 73 99 ng chbbphiess 51 52 28 phvscikayn 2499 phrarachkvsdikaepliynaeplngekhtxaephxphrhmphiram aelaxaephxemuxngphisnuolk cnghwdphisnuolk ph s 2510 PDF rachkiccanuebksa 84 90 k 747 749 26 knyayn 2510 prakaskrathrwngmhadithy eruxng tngaelaepliynaeplngekhttablinthxngthixaephxphrhmphiram aelakingxaephxeninmaprang xaephxwngthxng cnghwdphisnuolk PDF rachkiccanuebksa 95 92 ng 2897 2901 5 knyayn 2521 PDF rachkiccanuebksa 116 9 k 1 4 24 kumphaphnth 2542 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2008 04 09 subkhnemux 2020 05 13 prakaskrathrwngmhadithy eruxng karkahndekhttablinthxngthixaephxphrhmphiram cnghwdphisnuolk PDF rachkiccanuebksa 121 85 ng 13 57 21 tulakhm 2547 nxph phrhmphiramwxnsngkhmhyudphudoynbapkhdikhmkhunohdihkhnphrhmphiram mtichnxxniln krungethph mtichn 2560 09 07 subkhnemux 2565 02 28 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help bthkhwamekhtkarpkkhrxngkhxngpraethsithyniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldk