พระเจ้านันทบุเรง (พม่า: နန္ဒဘုရင်, ออกเสียง: [nàɰ̃.da̰ bə.jɪ̀ɰ̃]; อักษรโรมัน: Nanda Bayin; 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1535 – 30 พฤศจิกายน ค.ศ. 1600) หรือ พระเจ้าหงษางาจีสะยาง เป็นพระเจ้าหงสาวดีจากราชวงศ์ตองอู เสวยราชสมบัติตั้งแต่ ค.ศ. 1581 ถึง ค.ศ. 1599 รัชสมัยพระองค์เป็นช่วงแห่งการล่มสลายของจักรวรรดิตองอู อาณาจักรอันยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อุษาคเนย์
นันทบุเรง | |
---|---|
ครองราชย์ | 10 ตุลาคม ค.ศ. 1581 – 19 ธันวาคม ค.ศ. 1599 |
ราชาภิเษก | 15 ตุลาคม ค.ศ. 1581 |
ก่อนหน้า | พระเจ้าบุเรงนอง |
ถัดไป | พระเจ้าญองยาน |
อัครมหาเสนาบดี | |
ราชาธิราชแห่งล้านนา | |
ครองราชย์ | 10 ตุลาคม ค.ศ. 1581 – ราวกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1597 |
ก่อนหน้า | พระเจ้าบุเรงนอง |
ถัดไป | สมเด็จพระนเรศวรมหาราช |
เจ้าประเทศราช | นรธาเมงสอ |
ราชาธิราชแห่งสยาม | |
ครองราชย์ | 10 ตุลาคม ค.ศ. 1581 – 3 พฤษภาคม ค.ศ. 1584 |
ก่อนหน้า | พระเจ้าบุเรงนอง |
ถัดไป | ยุบฐานะ |
เจ้าประเทศราช | สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช |
ราชาธิราชแห่งล้านช้าง | |
ครองราชย์ | 10 ตุลาคม ค.ศ. 1581 – 19 ธันวาคม ค.ศ. 1599 |
ก่อนหน้า | พระเจ้าบุเรงนอง |
ถัดไป | ยุบฐานะ |
เจ้าประเทศราช | สมเด็จพระไชยเชษฐาธิราช (ค.ศ. 1581–88) พระยาแสนสุรินทร์ (ค.ศ. 1588–91) พระหน่อแก้วกุมาร (ค.ศ. 1591–95) พระวรปิตา (ค.ศ. 1596–99) |
ประสูติ | 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1535 ตรงกับวันอังคาร ขึ้น 15 ค่ำ เดือน Tazaungmon จ.ศ. 897 ตองอู |
สวรรคต | 30 พฤศจิกายน [ตามปฎิทินเก่า: 20 พฤศจิกายน] 1600 (65 ชันษา) ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น 10 ค่ำ เดือน Tazaungmon จ.ศ. 962 ตองอู |
ฝังพระศพ | 1 ธันวาคม [ตามปฎิทินเก่า: 21 พฤศจิกายน] 1600 |
คู่อภิเษก | หงสาวดีมิบะยา มีนพยู มีนทเว สิริราชเทวี เมงตะยาแม่ท้าว |
พระราชบุตร ฯลฯ | พระราชโอรส 20 พระองค์ พระราชธิดา 18 องค์ เช่น: มังกยอชวา มังรายกะยอฉะวาที่ 2 แห่งอังวะ คีนมะน่อง ตะโดธรรมราชาที่ 3 |
ราชวงศ์ | ตองอู |
พระราชบิดา | พระเจ้าบุเรงนอง |
พระราชมารดา | อตุลสิริมหาราชเทวี |
ศาสนา | พุทธเถรวาท |
พระองค์เป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในพระเจ้าบุเรงนอง และทรงร่วมนำศึกหลาย ๆ ครั้งในการขยายจักรวรรดิของพระราชบิดา เมื่อเถลิงราชย์แล้ว พระองค์ทรงเผชิญกับภาระอันเหลือบ่ากว่าแรงในการธำรงมหาอาณาจักรที่พระบิดาเพียรสร้างเอาไว้ พระองค์ไม่ได้รับการสนับสนุนจากเจ้าประเทศราช เมื่อครองราชย์ได้เพียงสามปี ทั้งพม่าตอนบนและอาณาจักรอยุธยาก็แข็งเมือง พระองค์ไม่สามารถประชุมพลได้มากกว่าหนึ่งในสามของกองทัพสมัยพระบิดาเพื่อยกไปปราบ ทั้งไม่สามารถปรองดองกับเมืองเล็กเมืองน้อย ครั้นช่วง ค.ศ. 1584 ถึง ค.ศ. 1593 พระองค์ทรงเปิดศึกกับอยุธยาถึงห้าครั้ง ซึ่งพ่ายแพ้ทุกครั้ง ทำให้พระราชอำนาจเสื่อมถอยลง และนับแต่ ค.ศ. 1593 เป็นต้นมา พระองค์กลับทรงเป็นฝ่ายที่ต้องตั้งรับการรุกรานจากอยุธยา โดยในระหว่าง ค.ศ. 1594 ถึง ค.ศ. 1595 อยุธยาสามารถยึดชายฝั่งตะนาวศรีได้ทั้งหมด ส่งผลให้ประเทศราชอื่น ๆ พากันแปรพักตร์จากพระองค์ใน ค.ศ. 1597 ต่อมาใน ค.ศ. 1599 ทัพผสมจากตองอูและยะไข่บุกหงสาวดีเมืองหลวงของพระองค์ พระองค์ทรงถูกจับไปกักขังไว้ที่เมืองตองอู ส่วนเมืองหงสาวดีก็ถูกยะไข่ปล้นทรัพย์และเผาทำลายจนสิ้น หนึ่งปีให้หลัง นัดจินหน่อง โอรสพระเจ้าเมงเยสีหตูแห่งตองอู ลอบวางยาพิษพระองค์สวรรคต
พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ที่แข็งขันจนอาจนับได้ว่ายิ่งกว่าพระมหากษัตริย์พม่าทั่ว ๆ ไป แต่ข้อผิดพลาดประการหนึ่งของพระองค์ คือ การพยายามควบคุมจักรวรรดิที่ใหญ่กว้างขวางภายใต้ความสัมพันธ์ในระบอบอุปถัมภ์เอาไว้ จึงเป็นบทเรียนแก่ผู้สืบสันตติวงศ์ของพระองค์ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 มิให้ขยายดินแดนจนเกินควร และให้เน้นการปกครองแบบรวมศูนย์ บทเรียนดังกล่าวยังเป็นเหตุให้ปฏิรูปการปกครองในช่วงรื้อฟื้นราชวงศ์ตองอู และปรับปรุงเพิ่มในช่วงราชวงศ์คองบอง ระบอบปกครองที่ปฏิรูปนี้ดำเนินต่อมาจนสิ้นสุดกษัตริย์พม่าใน ค.ศ. 1885
ต้นพระชนม์
พระราชกำเนิด
นันทบุเรงประสูติเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1535 ณ พระราชวังตองอู พระราชบิดาคือขุนพลบุเรงนอง ซึ่งภายหลังขึ้นเป็นพระเจ้าหงสาวดี พระราชมารดาคือเจ้าหญิงตะเกงจี (Thakin Gyi) ซึ่งต่อมาคือพระนางอตุลสิริมหาราชเทวี พระอัครมเหสีกรุงหงสาวดี พระมาตุลาคือพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้แห่งหงสาวดี และพระเจ้าตาคือพระเจ้าเมงจีโยแห่งตองอู และพระเชษฐภคินีเป็นอัครมเหสีกรุงอังวะ ด้วยความสัมพันธ์ทางเครือญาติเหล่านี้ นันทบุเรงจึงทรงมีเชื้อสายราชวงศ์แห่งอาณาจักรพุกามและอาณาจักรปีนยะ นอกจากนี้ พระองค์ยังน่าจะทรงมีเชื้อไทใหญ่ด้วย
การศึกษา
นันทบุเรงประทับ ณ พระราชวังตองอู จนพระชนม์ได้สามพรรษา จึงแปรพระราชฐานมาพระราชวังพะโคที่เมืองหงสาวดี (พะโค) ซึ่งตั้งเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ของจักรวรรดิตองอูเมื่อ ค.ศ. 1539 ตลอดพระชนมชีพวัยเยาว์ พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ พระเจ้าลุง นำพาพระบิดาไปทำศึกบ่อยครั้ง เมื่อพระเจ้าลุงทรงตั้งพระบิดาเป็นอุปราชใน ค.ศ. 1542 นันทบุเรงจึงทรงอยู่ในลำดับที่สองของการสืบราชบัลลังก์ตองอูไปโดยปริยาย ในพระสถานะดังกล่าว นันทบุเรงทรงได้รับการฝึกฝนทางทหารเสมือนพระมาตุลาและพระบิดา
เมื่อพระชนมายุได้ 13 พรรษา นันทบุเรงทรงได้รับบรรดาศักดิ์ "ชัยสิงห์" (Zeya Thiha) และโดยตามเสด็จพระมาตุลากับพระบิดาไปทำศึกกับอาณาจักรอยุธยาในสงครามคราวเสียพระสุริโยทัย ความกล้าหาญของนันทบุเรงทำให้พระมาตุลาพระราชทานบรรดาศักดิ์ "เมงเยกะยอชวา" (Minye Kyawswa) แก่นันทบุเรง
อุปราช
การเข้าสู่ตำแหน่ง
พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้พระมาตุลาของพระองค์ถูกลอบปลงพระชนม์ในวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 1550 แม้พระบิดาจะเป็นพระมหาอุปราช แต่มังฆ้องที่ 2 พระอนุชาร่วมพระบิดาเดียวกับบุเรงนอง ไม่ยอมรับสิทธิสืบบัลลังก์ดังกล่าว และประกาศตนเป็นเอกราช ณ เมืองตองอู นันทบุเรงจึงพาพระมารดาและพระพี่นางลี้ภัยไปหาพระบิดาซึ่งเวลานั้นไปราชการศึกที่เมือง (ในเมืองย่างกุ้งปัจจุบัน)
ณ ที่นั้น นันทบุเรงทรงร่วมกับพระบิดาวางแผนกอบกู้ราชบัลลังก์ กองกำลังของบุเรงนองเข้าตีเมืองตองอูเป็นครั้งแรกในเดือนกันยายน ค.ศ. 1550 และยึดเมืองได้ในวันที่ 11 มกราคม ค.ศ. 1551 บุเรงนองไว้ชีวิตมังฆ้องที่ 2 แล้วราชาภิเษกขึ้นเป็นพระเจ้าหงสาวดีสืบต่อจากพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ สถาปนานันทบุเรงพระราชโอรสซึ่งขณะนั้นพระชนมายุได้ 15 พรรษา ขึ้นเป็นพระมหาอุปราช พระราชพิธีราชาภิเษกมีขึ้น ณ วันที่ 12 มกราคม นั้นเอง
งานศึก
ตลอด 15 ปีต่อมา บุเรงนองทรงมุ่งมั่นขยายจักรวรรดิตองอู ทำให้คนใกล้ชิดต้องทุ่มเทกายใจแก่การศึกไปด้วย แต่ในช่วงแรก นันบุเรงยังทรงพระเยาว์นัก จึงมีบทบาทจำกัด จน ค.ศ. 1557 เป็นต้นมา นันทบุเรงทรงได้รับภารกิจสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้พระองค์ พร้อมด้วยพระเจ้าอาคือมังฆ้องที่ 2, ตะโดธรรมราชาที่ 2, และตะโดเมงสอ กลายเป็นสี่ยอดขุนพลของบุเรงนอง และหลายทศวรรษให้หลัง นันทบุเรงทรงก้าวหน้าด้วยความดีความชอบในฐานะผู้นำทัพ จนเมื่อปลายรัชสมัยของพระบิดา นันทบุเรงก็ทรงได้เป็นผู้นำศึกทั้งหมดด้วยพระองค์เอง
การศึกของอุปราชนันทบุเรง (ค.ศ. 1551–80) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
งานเมือง
นันทบุเรงทรงเป็นสมาชิกที่แข็งขันในราชสำนักหงสาวดีซึ่งส่วนใหญ่มีเสนาบดีเป็นชาวมอญพื้นเมือง พระราชบิดาทรงรับฟังความเห็นที่นันทบุเรงถวายเสมอ แม้ไม่ทรงปฏิบัติตามทุกครั้งก็ตาม นันทบุเรงทรงมีบทบาททางปกครองมากขึ้นในช่วงสองปีสุดท้ายของรัชกาลพระราชบิดา เมื่อพระพลานามัยของพระราชบิดาเสื่อมถอยลงตามลำดับ
ต้นรัชกาล
การขึ้นครองราชย์
พระเจ้าบุเรงนองประชวรมายาวนานจนเสด็จสวรรคต ณ วันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 1581 นันทบุเรงสืบราชสมบัติต่อโดยปราศจากการต่อต้าน พระองค์ถวายพระเพลิงพระราชบิดาอย่างสมพระเกียรติพระเจ้าจักรพรรดิตามคติพุทธ พระราชพิธีมีขึ้นหน้าพระราชวังกัมโพชธานี จากนั้น จึงราชาภิเษกในวันที่ 15 ตุลาคม ค.ศ. 1581 แล้วทรงตั้งมังกะยอชวาที่ 1 พระราชโอรสพระองค์ใหญ่เป็นพระมหาอุปราช
สภาพการณ์ของจักรวรรดิ
สิ่งที่ตกทอดจากพระราชบิดามาสู่พระเจ้านันทบุเรงคือ "จักรวรรดิซึ่งน่าจะใหญ่โตที่สุดในประวัติศาสตร์อุษาคเนย์" ที่ชาวโปรตุเกสพรรณนาว่า เป็น "รัฐราชาธิปไตยอันทรงอำนาจที่สุดในเอเชีย ถัดจากจีน" อย่างไรก็ดี จักรวรรดิที่ใหญ่โตเกินควรนี้ เดิมผูกกันไว้ด้วยความสัมพันธ์ส่วนตัวพระเจ้าบุเรงนองกับผู้นำท้องถิ่นซึ่งนิยมรักใคร่ในตัวบุเรงนอง มิใช่ต่อจักรวรรดิของบุเรงนอง และในการปกครองประเทศราชต่าง ๆ พระเจ้าบุเรงนองทรงใช้รูปแบบ โดยพระองค์อยู่แกนกลาง แล้วรายล้อมด้วยเจ้าประเทศราชที่มีสถานะกึ่งอิสระ อุปราชที่ปกครองโดยอิสระ และผู้ปกครองภายใต้การกำกับดูแลของข้าหลวงจากส่วนกลาง ด้วยระบบเช่นนี้ เมื่อมีกษัตริย์พระองค์ใหม่เข้ามาอยู่ในแกนกลาง กษัตริย์พระองค์นั้นก็จำต้องทรงสร้างความสัมพันธ์ทั้งหมดเสียใหม่ ซึ่งมิใช่งานง่าย เพราะเมืองขึ้นทั้งหลาย แม้จะอยู่ในสภาพภูมิประเทศเดียวกับเมืองแกนกลาง แต่ก็อยู่ห่างไกล ทำให้ยากที่จะยกทัพไปปราบปรามได้เบ็ดเสร็จ (G.E. Harvey) นักประวัติศาสตร์ ตั้งข้อสังเกตว่า มรดกที่นันทบุเรงทรงได้รับนั้น คือ ภาระในการรักษาจักรวรรดิให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวให้ได้ และพระองค์หมายพระทัยจะรักษาเอกภาพนั้นไว้ด้วยการยกไปเทครัวอยุธยาไปกระจายไว้ทุกทิศานุทิศ
ช่วงแรก ๆ หลังการขึ้นครองราชย์ นันทบุเรงทรงเรียกเจ้าประเทศราชต่าง ๆ มาถวายสัตย์ เจ้าประเทศราชเหล่านี้เคยเป็นรัฐอธิปไตยมาก่อน พร้อมจะแยกตัวจากจักรวรรดิตองอูทุกเมื่อที่สบโอกาส แต่ยังไม่มีใครพร้อมเคลื่อนไหวต่อต้านนันทบุเรงผู้ทรงพร้อมด้วยประสบการณ์ทางการศึก ทุกฝ่ายจึงมีที่ท่า "เฝ้ารอสังเกตการณ์" ไปก่อน เจ้าประเทศราชหลัก ๆ โดยเฉพาะอยุธยาซึ่งเป็นเมืองขึ้นที่ทรงอำนาจที่สุด ถวายบรรณาการแก่หงสาวดีต่อไปตามเดิมจนถึงเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1582
สงครามที่ไร้ผล
ภายในปีที่ขึ้นครองราชย์นั้นเอง พระเจ้านันทบุเรงต้องทรงเผชิญกับการแข็งเมืองของรัฐไทใหญ่ทางเหนือหลายรัฐ (ในมณฑลยูนนานปัจจุบัน) กบฏเหล่านี้สามารถปราบปรามลงได้ แต่ก็ตามมาด้วยกบฏจากอังวะและอยุธยาใน ค.ศ. 1584 พระองค์ทรงกำราบอังวะได้ แต่ไม่ทรงสามารถพิชิตอยุธยาได้เหมือนพระราชบิดา โดยในช่วง ค.ศ. 1584–1593 นันทบุเรงทรงเปิดศึกกับอยุธยาถึงห้าครั้ง และทุกครั้งล้มเหลว ทำให้ประเทศราชอื่น ๆ เอาใจออกหาก พระองค์ไม่ทรงสามารถนำเมืองขึ้นกลับคืนมาได้มากกว่าหนึ่งในสามของดินแดนเดิม และเมื่อสิ้นสงครามกับอยุธยา ปรากฏว่า ฐานอำนาจของพระองค์ในพม่าตอนล่างมีประชากรลดลงอย่างยิ่ง นำไปสู่การแข็งเมืองของประเทศราชอื่น ๆ ที่พระองค์มิอาจทรงยุติได้
กบฏในช่วงแรก
กลุ่มรัฐจีนไทใหญ่ (ค.ศ. 1582–83)
เมืองจ๋านตา และ เมืองสองสบ รัฐจีนไทใหญ่ (ปัจจุบันคือเต๋อหงและเป่าซานในมณฑลยูนนาน) เป็นกลุ่มแรกที่ไม่ส่งบรรณาการแก่กษัตริย์พระองค์ใหม่ ฉะนั้น ในเดือนกันยายน/ตุลาคม ค.ศ. 1582 นันทบุเรงจึงส่งทหารสองกอง คน 16,000 ม้า 1,400 และช้าง 100 ให้ตะโดธรรมราชาที่ 2 พระเจ้าแปรผู้เป็นพระเจ้าอา และพระเจ้าเชียงใหม่นรธาเมงสอผู้เป็นพระอนุชา เป็นแม่กองยกไปปราบปรามลงโทษ ทัพทั้งสองใช้เวลาห้าเดือนก็สำเร็จ และยกกลับหงสาวดีในวันที่ 9 เมษายน ค.ศ. 1583
พงศาวลี
พงศาวลีของพระเจ้านันทบุเรง | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
หมายเหตุ
- ล้านช้างไม่ได้เลิกความสัมพันธ์แบบเมืองขึ้นกับพม่าอย่างเป็นทางการจนกระทั่ง ค.ศ. 1603 ตามความเห็นของ Stuart-Fox (2008: 38) แต่ก็ได้ประกาศอิสรภาพมาตั้งแต่ ค.ศ. 1597 แล้ว
- มหาราชวงศ์ ฉบับหอแก้ว (Hmannan Vol. 3 2003: 61, 106) ระบุว่านันทบุเรงเสด็จขึ้นเสวยราชย์ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน Tazaungmon จ.ศ. 943 ตรงกับวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 1581 ขณะนั้นพระชนมายุ 46 พรรษา แต่ฉบับหอแก้ว (Hmannan Vol. 3 2003: 240, 248) ระบุด้วยว่าเป็นวันขึ้น 13 ค่ำ เดือน Tazaungmon จ.ศ. 910 ซึ่งตรงกับวันที่ 13 ตุลาคม ค.ศ. 1548 พระองค์มีพระชนมายุ 12 พรรษา ข้อมูลเหล่านี้หมายความว่าพระองค์ประสูติระหว่างวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน Tazaungmon จ.ศ. 897 กับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน Tazaungmon จ.ศ. 897 อันตรงกับวันจันทร์ที่ 8 หรือวันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1535 และฉบับหอแก้ว (Hmannan Vol. 3 2003: 106) ระบุอีกว่าพระองค์ประสูติในวันอังคาร เพราะฉะนั้น จึงชี้ชัดได้ว่าวันประสูติของนันทบุเรงคือวันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1535 ตรงกับวันอังคาร ขึ้น 15 ค่ำ เดือน Tazaungmon จ.ศ. 897
- เอกสารไม่ได้ระบุเชื้อสายราชวงศ์โดยตรง แต่ข้อมูลเรื่องเชื้อสายนี้มีร่องรอยอยู่ในตำแหน่งฐานันดรของบรรพบุรุษของพระองค์ กล่าวคือพระนางรัตนาเทวี สมเด็จยายของพระองค์ทรงเป็นเจ้าหญิง (Mongpai) ในแคว้นไทใหญ่ ทั้งบรรพบุรุษองค์อื่น ๆ ของพระองค์ก็มีเชื้อสายไทใหญ่ เช่น พระเจ้าสีหตูทรงเป็นลูกครึ่งไทใหญ่ และ (Shin Mi-Nauk) ทรงเป็นชาวไทใหญ่เต็มร้อย แต่ก็มีนักวิชาการบางคน เช่น Aung-Thwin (Aung-Thwin 1996; Aung-Thwin 2012: 107–109) แย้งว่าฐานันดรศักดิ์อาจไม่สัมพันธ์กับชาติพันธุ์ก็ได้ และการเชื่อมโยงพระองค์ว่า มีเชื้อสายไทใหญ่ดังกล่าว ก็ปราศจากหลักฐานรองรับ
- ตามมหาราชวงศ์ ฉบับอูกะลา (Maha Yazawin Vol. 2 2006: 201) ในราชาภิเษกวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 1551 บุเรงนองพระราชทานยศถาให้แก่พระประยูรญาติ แต่ไม่ปรากฏโดยตรงว่าทรงตั้งนันทบุเรงเป็นมหาอุปราชในพระราชพิธีดังกล่าว แต่หลังจากนี้เอกสารดังกล่าวก็เริ่มเรียกนันทบุเรงว่ามหาอุปราช จึงน่าเชื่อว่านันทบุเรงทรงได้รับตำแหน่งในพิธีนั้นเอง (Maha Yazawin Vol. 2 2006: 202)
- มหาราชวงศ์ (Maha Yazawin Vol. 3 2006: 68–69) ระบุว่า เสด็จกลับ ณ วันอาทิตย์ ขึ้น 8 ค่ำ เดือน Tagu จ.ศ. 942 แต่ข้อความนี้น่าจะเป็นการคัดลอกผิดของอาลักษณ์ วันขึ้น 8 ค่ำ เดือน Tagu จ.ศ. 942 ตรงกับวันพุธที่ 23 มีนาคม ค.ศ. 1580 แต่วันอาทิตย์ ต้องเป็น วันขึ้น 5 ค่ำ เดือน Tagu จ.ศ. 942 ซึ่งตรงกับ 20 มีนาคม ค.ศ. 1580 ในภาษาพม่า เลข 5 (၅) และเลข 8 (၈) มักเขียนสลับกัน
- ฉบับหอแก้ว (Hmannan Vol. 3 2003: 49, 53) ระบุว่าบุเรงนองเริ่มประชวรกระเสาะกระแสะตั้งแต่ต้น ค.ศ. 1579 เป็นอย่างน้อย จึงทรงมอบหมายภารกิจสำคัญให้แก่นันทบุเรงมากขึ้นเรื่อย ๆ กรณีสำคัญคือเมื่อทรงตั้งนรธาเมงสอเป็นพระเจ้าเชียงใหม่ บุเรงนองรับสั่งให้นรธาเมงสอเชื่อฟังนันทบุเรง เพื่อความสงบเรียบร้อยของจักรวรรดิโดยรวม ต่อมาบุเรงนองยังโปรดให้นันทบุเรงยกทัพไปปราบล้านช้างในปีเดียวกัน
- มหาราชวงศ์ ฉบับอูกะลา และมหาราชวงศ์ ฉบับหอแก้ว ระบุตรงกันว่านันทบุเรงราชาภิเษกในวันอาทิตย์ แต่ระบุวันที่ต่างกัน มหาราชวงศ์ (Maha Yazawin Vol. 3 206: 77) ว่า เป็นวันอาทิตย์ แรม 4 ค่ำ เดือน Tazaungmon จ.ศ. 943 ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 14 ตุลาคม ค.ศ. 1581 ส่วนฉบับหอแก้ว (Hmannan Vol. 3 2003: 73) ว่า เป็นวันอาทิตย์ แรม 5 ค่ำ เดือน Tazaungmon จ.ศ. 943 อันตรงกับวันอาทิตย์ที่ 15 ตุลาคม ค.ศ. 1581
- มหาราชวงศ์ (Maha Yazawin Vol. 2 2006: 78) ว่า อยู่ในเดือน Thadingyut จ.ศ. 944 ซึ่งกินเวลาตั้งแต่วันที่ 27 กันยายนย ค.ศ. 1582 จนถึง 25 ตุลาคม ปีเดียวกัน
อ้างอิง
- Hmannan Vol. 3 2003: 106
- ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์. พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) และเอกสารอื่น, หน้า 417
- Lieberman 2003: 161
- Harvey 1925: 181–182
- Harvey 1925: 182–183
- Lieberman 2003: 154–156
- Lieberman 2003: 154–155
- Hmannan Vol. 2 2003: 172–173.
- Sein Lwin Lay 2006: 109
- Maha Yazawin Vol. 2 2006: 189
- Hmannan Vol. 2 2003: 258–259
- Maha Yazawin Vol. 2 2006: 202
- Maha Yazawin Vol. 2 2006: 206
- Hmannan Vol. 2 2003: 280–281
- Maha Yazawin Vol. 2 2006: 216
- Maha Yazawin Vol. 2 2006: 230, 233–235
- Maha Yazawin Vol. 2 2006: 240–242
- Maha Yazawin Vol. 2 2006: 245
- Maha Yazawin Vol. 2 2006: 249
- Maha Yazawin Vol. 2 2006: 261–262
- Maha Yazawin Vol. 2 2006: 267–272
- Maha Yazawin Vol. 2 2006: 277–279
- Maha Yazawin Vol. 2 2006: 285–287
- Maha Yazawin Vol. 2 2006: 289–292
- Maha Yazawin Vol. 2 2006: 309
- Maha Yazawin Vol. 2 2006: 327
- Maha Yazawin Vol. 2 2006: 332–335
- Phayre 1967: 114–115
- Maha Yazawin Vol. 2 2006: 336–338
- Maha Yazawin Vol. 3 2006: 39–42
- Maha Yazawin Vol. 3 2006: 45–46
- Maha Yazawin Vol. 3 2006: 48–49
- Maha Yazawin Vol. 2 2006: 251
- Hmannan Vol. 3 2003: 73
- Lieberman 2003: 152
- Tarling 1999: 72–73
- Lieberman 2003: 35
- Harvey 1925: 181
- Aung-Thwin & Aung-Thwin 2012: 137
- Maha Yazawin Vol. 3 2006: 77–78
- Maha Yazawin Vol. 3 2006: 78
บรรณานุกรม
- Harvey, G. E. (1925). History of Burma: From the Earliest Times to 10 March 1824. London: Frank Cass & Co. Ltd.
- , Victor B. (2003). Strange Parallels: Southeast Asia in Global Context, c. 800–1830, volume 1, Integration on the Mainland. Cambridge University Press. ISBN .
- Stuart-Fox, Martin (2008). Historical Dictionary of Laos. Scarecrow Press. ISBN .
- พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) และเอกสารอื่น. นนทบุรี : ศรีปัญญา, 2553. 800 หน้า. ISBN
ก่อนหน้า | พระเจ้านันทบุเรง | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระเจ้าบุเรงนอง | พระมหากษัตริย์พม่า (อาณาจักรพม่ายุคที่ 2) (พ.ศ. 2124 - พ.ศ. 2142) | พระเจ้าญองยาน |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phraecannthbuerng phma နန ဒဘ ရင xxkesiyng naɰ da be jɪ ɰ xksrormn Nanda Bayin 9 phvscikayn kh s 1535 30 phvscikayn kh s 1600 hrux phraecahngsangacisayang epnphraecahngsawdicakrachwngstxngxu eswyrachsmbtitngaet kh s 1581 thung kh s 1599 rchsmyphraxngkhepnchwngaehngkarlmslaykhxngckrwrrditxngxu xanackrxnyingihythisudinprawtisastrxusakhenynnthbuerngphramhakstriyphmaaelapraethsrach hngsawdi kh s 1581 99 xngwaaelaithihy kh s 1581 97 txngxu kh s 1581 97 aepr kh s 1581 95 mnipura kh s 1581 93 khrxngrachy10 tulakhm kh s 1581 19 thnwakhm kh s 1599rachaphiesk15 tulakhm kh s 1581kxnhnaphraecabuerngnxngthdipphraecayxngyanxkhrmhaesnabdirachathirachaehnglannakhrxngrachy10 tulakhm kh s 1581 rawkumphaphnth kh s 1597kxnhnaphraecabuerngnxngthdipsmedcphranerswrmharachecapraethsrachnrthaemngsxrachathirachaehngsyamkhrxngrachy10 tulakhm kh s 1581 3 phvsphakhm kh s 1584kxnhnaphraecabuerngnxngthdipyubthanaecapraethsrachsmedcphramhathrrmrachathirachrachathirachaehnglanchangkhrxngrachy10 tulakhm kh s 1581 19 thnwakhm kh s 1599kxnhnaphraecabuerngnxngthdipyubthanaecapraethsrachsmedcphraichyechsthathirach kh s 1581 88 phrayaaesnsurinthr kh s 1588 91 phrahnxaekwkumar kh s 1591 95 phrawrpita kh s 1596 99 prasuti9 phvscikayn kh s 1535 1535 11 09 trngkbwnxngkhar khun 15 kha eduxn Tazaungmon c s 897 txngxuswrrkht30 phvscikayn tampdithineka 20 phvscikayn 1600 65 chnsa trngkbwnphvhsbdi khun 10 kha eduxn Tazaungmon c s 962 txngxufngphrasph1 thnwakhm tampdithineka 21 phvscikayn 1600khuxphieskhngsawdimibaya minphyu minthew sirirachethwi emngtayaaemthawphrarachbutr lphrarachoxrs 20 phraxngkh phrarachthida 18 xngkh echn mngkyxchwa mngraykayxchawathi 2 aehngxngwa khinmanxng taodthrrmrachathi 3rachwngstxngxuphrarachbidaphraecabuerngnxngphrarachmardaxtulsirimharachethwisasnaphuththethrwath phraxngkhepnphrarachoxrsphraxngkhihyinphraecabuerngnxng aelathrngrwmnasukhlay khrnginkarkhyayckrwrrdikhxngphrarachbida emuxethlingrachyaelw phraxngkhthrngephchiykbpharaxnehluxbakwaaernginkartharngmhaxanackrthiphrabidaephiyrsrangexaiw phraxngkhimidrbkarsnbsnuncakecapraethsrach emuxkhrxngrachyidephiyngsampi thngphmatxnbnaelaxanackrxyuthyakaekhngemuxng phraxngkhimsamarthprachumphlidmakkwahnunginsamkhxngkxngthphsmyphrabidaephuxykipprab thngimsamarthprxngdxngkbemuxngelkemuxngnxy khrnchwng kh s 1584 thung kh s 1593 phraxngkhthrngepidsukkbxyuthyathunghakhrng sungphayaephthukkhrng thaihphrarachxanacesuxmthxylng aelanbaet kh s 1593 epntnma phraxngkhklbthrngepnfaythitxngtngrbkarrukrancakxyuthya odyinrahwang kh s 1594 thung kh s 1595 xyuthyasamarthyudchayfngtanawsriidthnghmd sngphlihpraethsrachxun phaknaeprphktrcakphraxngkhin kh s 1597 txmain kh s 1599 thphphsmcaktxngxuaelayaikhbukhngsawdiemuxnghlwngkhxngphraxngkh phraxngkhthrngthukcbipkkkhngiwthiemuxngtxngxu swnemuxnghngsawdikthukyaikhplnthrphyaelaephathalaycnsin hnungpiihhlng ndcinhnxng oxrsphraecaemngeysihtuaehngtxngxu lxbwangyaphisphraxngkhswrrkht phraxngkhepnphramhakstriythiaekhngkhncnxacnbidwayingkwaphramhakstriyphmathw ip aetkhxphidphladprakarhnungkhxngphraxngkh khux karphyayamkhwbkhumckrwrrdithiihykwangkhwangphayitkhwamsmphnthinrabxbxupthmphexaiw cungepnbtheriynaekphusubsnttiwngskhxngphraxngkhinkhriststwrrsthi 17 miihkhyaydinaedncnekinkhwr aelaihennkarpkkhrxngaebbrwmsuny btheriyndngklawyngepnehtuihptirupkarpkkhrxnginchwngruxfunrachwngstxngxu aelaprbprungephiminchwngrachwngskhxngbxng rabxbpkkhrxngthiptirupnidaenintxmacnsinsudkstriyphmain kh s 1885tnphrachnmphrarachkaenid nnthbuerngprasutiemuxwnthi 9 phvscikayn kh s 1535 n phrarachwngtxngxu phrarachbidakhuxkhunphlbuerngnxng sungphayhlngkhunepnphraecahngsawdi phrarachmardakhuxecahyingtaekngci Thakin Gyi sungtxmakhuxphranangxtulsirimharachethwi phraxkhrmehsikrunghngsawdi phramatulakhuxphraecataebngchaewtiaehnghngsawdi aelaphraecatakhuxphraecaemngcioyaehngtxngxu aelaphraechsthphkhiniepnxkhrmehsikrungxngwa dwykhwamsmphnththangekhruxyatiehlani nnthbuerngcungthrngmiechuxsayrachwngsaehngxanackrphukamaelaxanackrpinya nxkcakni phraxngkhyngnacathrngmiechuxithihydwy karsuksa nnthbuerngprathb n phrarachwngtxngxu cnphrachnmidsamphrrsa cungaeprphrarachthanmaphrarachwngphaokhthiemuxnghngsawdi phaokh sungtngepnemuxnghlwngaehngihmkhxngckrwrrditxngxuemux kh s 1539 tlxdphrachnmchiphwyeyaw phraecataebngchaewti phraecalung naphaphrabidaipthasukbxykhrng emuxphraecalungthrngtngphrabidaepnxuprachin kh s 1542 nnthbuerngcungthrngxyuinladbthisxngkhxngkarsubrachbllngktxngxuipodypriyay inphrasthanadngklaw nnthbuerngthrngidrbkarfukfnthangthharesmuxnphramatulaaelaphrabida emuxphrachnmayuid 13 phrrsa nnthbuerngthrngidrbbrrdaskdi chysingh Zeya Thiha aelaodytamesdcphramatulakbphrabidaipthasukkbxanackrxyuthyainsngkhramkhrawesiyphrasurioythy khwamklahaykhxngnnthbuerngthaihphramatulaphrarachthanbrrdaskdi emngeykayxchwa Minye Kyawswa aeknnthbuerngxuprachkarekhasutaaehnng phraecataebngchaewtiphramatulakhxngphraxngkhthuklxbplngphrachnminwnthi 30 emsayn kh s 1550 aemphrabidacaepnphramhaxuprach aetmngkhxngthi 2 phraxnucharwmphrabidaediywkbbuerngnxng imyxmrbsiththisubbllngkdngklaw aelaprakastnepnexkrach n emuxngtxngxu nnthbuerngcungphaphramardaaelaphraphinangliphyiphaphrabidasungewlanniprachkarsukthiemuxng inemuxngyangkungpccubn n thinn nnthbuerngthrngrwmkbphrabidawangaephnkxbkurachbllngk kxngkalngkhxngbuerngnxngekhatiemuxngtxngxuepnkhrngaerkineduxnknyayn kh s 1550 aelayudemuxngidinwnthi 11 mkrakhm kh s 1551 buerngnxngiwchiwitmngkhxngthi 2 aelwrachaphieskkhunepnphraecahngsawdisubtxcakphraecataebngchaewti sthapnannthbuerngphrarachoxrssungkhnannphrachnmayuid 15 phrrsa khunepnphramhaxuprach phrarachphithirachaphieskmikhun n wnthi 12 mkrakhm nnexng ngansuk tlxd 15 pitxma buerngnxngthrngmungmnkhyayckrwrrditxngxu thaihkhniklchidtxngthumethkayicaekkarsukipdwy aetinchwngaerk nnbuerngyngthrngphraeyawnk cungmibthbathcakd cn kh s 1557 epntnma nnthbuerngthrngidrbpharkicsakhymakkhuneruxy thaihphraxngkh phrxmdwyphraecaxakhuxmngkhxngthi 2 taodthrrmrachathi 2 aelataodemngsx klayepnsiyxdkhunphlkhxngbuerngnxng aelahlaythswrrsihhlng nnthbuerngthrngkawhnadwykhwamdikhwamchxbinthanaphunathph cnemuxplayrchsmykhxngphrabida nnthbuerngkthrngidepnphunasukthnghmddwyphraxngkhexng karsukkhxngxuprachnnthbuerng kh s 1551 80 sthanthi ewla iphrphl hmayehtuaepr kh s 1551 ephuxpxngknhngsawdihngsawdi kh s 1552 1 krm imidrbknxngwa kh s 1553 14 000 khn nganihykhrngaerk epnaemkxngnathphhnakhunehnuxipprabxngwa aethnathiswnihyepnaetthangphithikar ephraaphraecaxathngsxng khux taodthrrmrachathi 2 aelamngkhxngthi 2 inthanathimiprasbkarnsung thrngepnphubychakarhlk karsukkhrngnisinsudlngdwyfayhngsawdielikthphklb ephraaxngwapxngknepnsamarthxngwa kh s 1554 55 ephuxpxngknhngsawdiklumrthithihy kh s 1557 12 000 khn nathphkbphraecaxa taodemngsx aelamngkhxngthi 2 ipbrrcbknthiemuxngtibx idchnchangkbkhasukthiemuxngniemuxngnay kh s 1557 8 000 khn epnnaykxngihy miphyathalaepnnaykxngrxng aetimidrb ephraakxnghnasungmiphraecaxa taodthrrmrachathi 2 epnphunann tiidemuxngnayesiykxnlanna kh s 1558 10 krm 2 kxngphnthharma hnunghnunginsamkxnghna xiksxngkxngmiphuna khux taodthrrmrachathi 2 aelataodemngsxemuxngnay kh s 1558 10 krm nathphkbtaodemngsxkhuncaklannaipprabkbtecafaemuxngnay saopha of Mone klumrthithihyinlumaemnasalawin kh s 1563 12 000 khn nahnunginsithphthiykiprukranklumrthinlumnasalawin thphkhxngnnthbuerngykcakemuxnghmxk Momeik odymiphyathalaepnaemkxngrxng idrbknthiemuxngema Maing Maw yudidemuxng Hotha Latha Kaingma aela Mainglyinxyuthya kh s 1563 64 14 000 khn nathphphrxmdwyphraecaxa mngkhxngthi 2 ipyudsuokhthyidsaercineduxnthnwakhm kh s 1563 aelwedinhnaekhatikaaephngemuxngxyuthyalanna kh s 1564 12 000 khn nathphhnunginsithphcakxyuthyakhuniptiechiyngihm aelwykcakechiyngihmiptiechiyngaesn phunathxngthinxxkthwaystylanchang kh s 1564 65 24 000 khn epnnaykxngihy yudewiyngcnthnidineduxnmkrakhm kh s 1565 idtngphupkkhrxngihmihlanchanginthanaemuxngkhunkhxnghngsawdi aelwykthphxxkcbtwphraichyechstha kstriylawphraxngkhkxn aethaimphb cungesdcklbhngsawdiineduxnsinghakhm kh s 1565xyuthya kh s 1568 69 11 000 khn nahnunginhathphthiykiptixyuthyalanchang kh s 1569 70 11 krm nathphhnunginhathphthiykiprukranlanchangineduxntulakhm kh s 1569 thphkhxngnnthbuerngykcaklaphunekhalanchang tidtamhakxngkalngthxngthinthitxtanhngsawdiepnhlayeduxn iphrphlxdxyaklmtay cungykklbineduxnminakhm kh s 1570 ehluxphledimimkikhnrxdklbhngsawdiomeyng Mohnyin aelaomkxng Mogaung kh s 1571 72 12 000 khn nahnunginsxngthphkhunehnuxipprabkbtthiphuekhakachin Kachin hills xikthphmiphunakhuxtaodthrrmrachathi 2 yudomeyngaelaomkxngidodyprascakkartxtan phunakbthniekhapa imsamarthcbtwidlanchang kh s 1574 11 000 khn nahnunginkxnghnathngsamkxng immikartxtan cungyudewiyngcnthnidodyngayomeyngaelaomkxng kh s 1575 7 000 khn nahnunginhathphipprabkbtinphuekhakachinxikkhrng thphkhxngnnthbuerngaelataodemngsxkhbilkbtxxkcakhubekha kxngphnkxnghnungkhxngtaodemngsxsngharphunakbtkhnhnungidlanchang kh s 1579 80 22 000 khn ephuxprabkhwamwunwayinlanchang immikartxtan cungpraphaschnbthlanchanghlayeduxn aelwklbhngsawdi n wnthi 20 minakhm kh s 1580nganemuxng nnthbuerngthrngepnsmachikthiaekhngkhninrachsankhngsawdisungswnihymiesnabdiepnchawmxyphunemuxng phrarachbidathrngrbfngkhwamehnthinnthbuerngthwayesmx aemimthrngptibtitamthukkhrngktam nnthbuerngthrngmibthbaththangpkkhrxngmakkhuninchwngsxngpisudthaykhxngrchkalphrarachbida emuxphraphlanamykhxngphrarachbidaesuxmthxylngtamladbtnrchkalckrwrrditxngxu in kh s 1580karkhunkhrxngrachy phraecabuerngnxngprachwrmayawnancnesdcswrrkht n wnthi 10 tulakhm kh s 1581 nnthbuerngsubrachsmbtitxodyprascakkartxtan phraxngkhthwayphraephlingphrarachbidaxyangsmphraekiyrtiphraecackrphrrditamkhtiphuthth phrarachphithimikhunhnaphrarachwngkmophchthani caknn cungrachaphieskinwnthi 15 tulakhm kh s 1581 aelwthrngtngmngkayxchwathi 1 phrarachoxrsphraxngkhihyepnphramhaxuprach sphaphkarnkhxngckrwrrdi singthitkthxdcakphrarachbidamasuphraecannthbuerngkhux ckrwrrdisungnacaihyotthisudinprawtisastrxusakheny thichawoprtueksphrrnnawa epn rthrachathipityxnthrngxanacthisudinexechiy thdcakcin xyangirkdi ckrwrrdithiihyotekinkhwrni edimphukkniwdwykhwamsmphnthswntwphraecabuerngnxngkbphunathxngthinsungniymrkikhrintwbuerngnxng miichtxckrwrrdikhxngbuerngnxng aelainkarpkkhrxngpraethsrachtang phraecabuerngnxngthrngichrupaebb odyphraxngkhxyuaeknklang aelwraylxmdwyecapraethsrachthimisthanakungxisra xuprachthipkkhrxngodyxisra aelaphupkkhrxngphayitkarkakbduaelkhxngkhahlwngcakswnklang dwyrabbechnni emuxmikstriyphraxngkhihmekhamaxyuinaeknklang kstriyphraxngkhnnkcatxngthrngsrangkhwamsmphnththnghmdesiyihm sungmiichnganngay ephraaemuxngkhunthnghlay aemcaxyuinsphaphphumipraethsediywkbemuxngaeknklang aetkxyuhangikl thaihyakthicaykthphipprabpramidebdesrc G E Harvey nkprawtisastr tngkhxsngektwa mrdkthinnthbuerngthrngidrbnn khux pharainkarrksackrwrrdiihepnxnhnungxnediywihid aelaphraxngkhhmayphrathycarksaexkphaphnniwdwykarykipethkhrwxyuthyaipkracayiwthukthisanuthis chwngaerk hlngkarkhunkhrxngrachy nnthbuerngthrngeriykecapraethsrachtang mathwaysty ecapraethsrachehlaniekhyepnrthxthipitymakxn phrxmcaaeyktwcakckrwrrditxngxuthukemuxthisboxkas aetyngimmiikhrphrxmekhluxnihwtxtannnthbuerngphuthrngphrxmdwyprasbkarnthangkarsuk thukfaycungmithitha efarxsngektkarn ipkxn ecapraethsrachhlk odyechphaaxyuthyasungepnemuxngkhunthithrngxanacthisud thwaybrrnakaraekhngsawditxiptamedimcnthungeduxnphvsphakhm kh s 1582sngkhramthiirphlphayinpithikhunkhrxngrachynnexng phraecannthbuerngtxngthrngephchiykbkaraekhngemuxngkhxngrthithihythangehnuxhlayrth inmnthlyunnanpccubn kbtehlanisamarthprabpramlngid aetktammadwykbtcakxngwaaelaxyuthyain kh s 1584 phraxngkhthrngkarabxngwaid aetimthrngsamarthphichitxyuthyaidehmuxnphrarachbida odyinchwng kh s 1584 1593 nnthbuerngthrngepidsukkbxyuthyathunghakhrng aelathukkhrnglmehlw thaihpraethsrachxun exaicxxkhak phraxngkhimthrngsamarthnaemuxngkhunklbkhunmaidmakkwahnunginsamkhxngdinaednedim aelaemuxsinsngkhramkbxyuthya praktwa thanxanackhxngphraxngkhinphmatxnlangmiprachakrldlngxyangying naipsukaraekhngemuxngkhxngpraethsrachxun thiphraxngkhmixacthrngyutiid kbtinchwngaerk klumrthcinithihy kh s 1582 83 emuxngcanta aela emuxngsxngsb rthcinithihy pccubnkhuxetxhngaelaepasaninmnthlyunnan epnklumaerkthiimsngbrrnakaraekkstriyphraxngkhihm chann ineduxnknyayn tulakhm kh s 1582 nnthbuerngcungsngthharsxngkxng khn 16 000 ma 1 400 aelachang 100 ihtaodthrrmrachathi 2 phraecaaeprphuepnphraecaxa aelaphraecaechiyngihmnrthaemngsxphuepnphraxnucha epnaemkxngykipprabpramlngoths thphthngsxngichewlahaeduxnksaerc aelaykklbhngsawdiinwnthi 9 emsayn kh s 1583phngsawliphngsawlikhxngphraecannthbuerng 4 emngeysihtu 2 phraecabuerngnxng 5 chin moyemiya 1 phraecannthbuerng 6 phraecaemngcioy 3 phranangxtulsirimharachethwi 7 phranangrtnaethwiaehngtxngxu hmayehtulanchangimidelikkhwamsmphnthaebbemuxngkhunkbphmaxyangepnthangkarcnkrathng kh s 1603 tamkhwamehnkhxng Stuart Fox 2008 38 aetkidprakasxisrphaphmatngaet kh s 1597 aelw mharachwngs chbbhxaekw Hmannan Vol 3 2003 61 106 rabuwannthbuerngesdckhuneswyrachyinwnkhun 15 kha eduxn Tazaungmon c s 943 trngkbwnthi 10 tulakhm kh s 1581 khnannphrachnmayu 46 phrrsa aetchbbhxaekw Hmannan Vol 3 2003 240 248 rabudwywaepnwnkhun 13 kha eduxn Tazaungmon c s 910 sungtrngkbwnthi 13 tulakhm kh s 1548 phraxngkhmiphrachnmayu 12 phrrsa khxmulehlanihmaykhwamwaphraxngkhprasutirahwangwnkhun 14 kha eduxn Tazaungmon c s 897 kbwnkhun 15 kha eduxn Tazaungmon c s 897 xntrngkbwncnthrthi 8 hruxwnxngkharthi 9 phvscikayn kh s 1535 aelachbbhxaekw Hmannan Vol 3 2003 106 rabuxikwaphraxngkhprasutiinwnxngkhar ephraachann cungchichdidwawnprasutikhxngnnthbuerngkhuxwnxngkharthi 9 phvscikayn kh s 1535 trngkbwnxngkhar khun 15 kha eduxn Tazaungmon c s 897 exksarimidrabuechuxsayrachwngsodytrng aetkhxmuleruxngechuxsaynimirxngrxyxyuintaaehnngthanndrkhxngbrrphburuskhxngphraxngkh klawkhuxphranangrtnaethwi smedcyaykhxngphraxngkhthrngepnecahying Mongpai inaekhwnithihy thngbrrphburusxngkhxun khxngphraxngkhkmiechuxsayithihy echn phraecasihtuthrngepnlukkhrungithihy aela Shin Mi Nauk thrngepnchawithihyetmrxy aetkminkwichakarbangkhn echn Aung Thwin Aung Thwin 1996 Aung Thwin 2012 107 109 aeyngwathanndrskdixacimsmphnthkbchatiphnthukid aelakarechuxmoyngphraxngkhwa miechuxsayithihydngklaw kprascakhlkthanrxngrb tammharachwngs chbbxukala Maha Yazawin Vol 2 2006 201 inrachaphieskwnthi 12 mkrakhm kh s 1551 buerngnxngphrarachthanysthaihaekphraprayuryati aetimpraktodytrngwathrngtngnnthbuerngepnmhaxuprachinphrarachphithidngklaw aethlngcakniexksardngklawkerimeriyknnthbuerngwamhaxuprach cungnaechuxwannthbuerngthrngidrbtaaehnnginphithinnexng Maha Yazawin Vol 2 2006 202 mharachwngs Maha Yazawin Vol 3 2006 68 69 rabuwa esdcklb n wnxathity khun 8 kha eduxn Tagu c s 942 aetkhxkhwamninacaepnkarkhdlxkphidkhxngxalksn wnkhun 8 kha eduxn Tagu c s 942 trngkbwnphuththi 23 minakhm kh s 1580 aetwnxathity txngepn wnkhun 5 kha eduxn Tagu c s 942 sungtrngkb 20 minakhm kh s 1580 inphasaphma elkh 5 ၅ aelaelkh 8 ၈ mkekhiynslbkn chbbhxaekw Hmannan Vol 3 2003 49 53 rabuwabuerngnxngerimprachwrkraesaakraaesatngaettn kh s 1579 epnxyangnxy cungthrngmxbhmaypharkicsakhyihaeknnthbuerngmakkhuneruxy krnisakhykhuxemuxthrngtngnrthaemngsxepnphraecaechiyngihm buerngnxngrbsngihnrthaemngsxechuxfngnnthbuerng ephuxkhwamsngberiybrxykhxngckrwrrdiodyrwm txmabuerngnxngyngoprdihnnthbuerngykthphipprablanchanginpiediywkn mharachwngs chbbxukala aelamharachwngs chbbhxaekw rabutrngknwannthbuerngrachaphieskinwnxathity aetrabuwnthitangkn mharachwngs Maha Yazawin Vol 3 206 77 wa epnwnxathity aerm 4 kha eduxn Tazaungmon c s 943 sungtrngkbwnesarthi 14 tulakhm kh s 1581 swnchbbhxaekw Hmannan Vol 3 2003 73 wa epnwnxathity aerm 5 kha eduxn Tazaungmon c s 943 xntrngkbwnxathitythi 15 tulakhm kh s 1581 mharachwngs Maha Yazawin Vol 2 2006 78 wa xyuineduxn Thadingyut c s 944 sungkinewlatngaetwnthi 27 knyayny kh s 1582 cnthung 25 tulakhm piediywknxangxingHmannan Vol 3 2003 106 chbbhlwngpraesrithxksrniti phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbphncnthnumas ecim aelaexksarxun hna 417 Lieberman 2003 161 Harvey 1925 181 182 Harvey 1925 182 183 Lieberman 2003 154 156 Lieberman 2003 154 155 Hmannan Vol 2 2003 172 173 Sein Lwin Lay 2006 109 Maha Yazawin Vol 2 2006 189 Hmannan Vol 2 2003 258 259 Maha Yazawin Vol 2 2006 202 Maha Yazawin Vol 2 2006 206 Hmannan Vol 2 2003 280 281 Maha Yazawin Vol 2 2006 216 Maha Yazawin Vol 2 2006 230 233 235 Maha Yazawin Vol 2 2006 240 242 Maha Yazawin Vol 2 2006 245 Maha Yazawin Vol 2 2006 249 Maha Yazawin Vol 2 2006 261 262 Maha Yazawin Vol 2 2006 267 272 Maha Yazawin Vol 2 2006 277 279 Maha Yazawin Vol 2 2006 285 287 Maha Yazawin Vol 2 2006 289 292 Maha Yazawin Vol 2 2006 309 Maha Yazawin Vol 2 2006 327 Maha Yazawin Vol 2 2006 332 335 Phayre 1967 114 115 Maha Yazawin Vol 2 2006 336 338 Maha Yazawin Vol 3 2006 39 42 Maha Yazawin Vol 3 2006 45 46 Maha Yazawin Vol 3 2006 48 49 Maha Yazawin Vol 2 2006 251 Hmannan Vol 3 2003 73 Lieberman 2003 152 Tarling 1999 72 73 Lieberman 2003 35 Harvey 1925 181 Aung Thwin amp Aung Thwin 2012 137 Maha Yazawin Vol 3 2006 77 78 Maha Yazawin Vol 3 2006 78brrnanukrmHarvey G E 1925 History of Burma From the Earliest Times to 10 March 1824 London Frank Cass amp Co Ltd Victor B 2003 Strange Parallels Southeast Asia in Global Context c 800 1830 volume 1 Integration on the Mainland Cambridge University Press ISBN 978 0 521 80496 7 Stuart Fox Martin 2008 Historical Dictionary of Laos Scarecrow Press ISBN 9780810864115 phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbphncnthnumas ecim aelaexksarxun nnthburi sripyya 2553 800 hna ISBN 978 616 7146 08 9 kxnhna phraecannthbuerng thdipphraecabuerngnxng phramhakstriyphma xanackrphmayukhthi 2 ph s 2124 ph s 2142 phraecayxngyan