ดาวพลูโต (อังกฤษ: Pluto; ดัชนีดาวเคราะห์น้อย: 134340 พลูโต; สัญลักษณ์: หรือ ) เป็นดาวเคราะห์แคระในแถบไคเปอร์ วงแหวนของวัตถุพ้นดาวเนปจูน โดยเป็นวัตถุแถบไคเปอร์ชิ้นแรกที่ถูกค้นพบ มันมีขนาดใหญ่ที่สุดและมีมวลมากที่สุดเป็นอันดับสองในบรรดาดาวเคราะห์แคระที่รู้จักในระบบสุริยะ และยังเป็นวัตถุที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 9 และมวลมากเป็นอันดับที่ 10 ในระบบสุริยะที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ ดาวพลูโตเป็นวัตถุแถบไคเปอร์ที่ใหญ่ที่สุดโดยปริมาตร แต่มีมวลน้อยกว่าอีริส ซึ่งเป็นวัตถุในแถบหินกระจาย ดาวพลูโตมีลักษณะเหมือนกับวัตถุอื่น ๆ ในบริเวณเดียวกัน กล่าวคือ ประกอบไปด้วยหินและน้ำแข็งเป็นส่วนใหญ่ มีมวลและปริมาตรประมาณ 1 ใน 6 และ 1 ใน 3 ของดวงจันทร์ตามลำดับ วงโคจรของดาวพลูโตมีความเยื้องศูนย์กลางมาก อยู่ที่ 30 ถึง 49 หน่วยดาราศาสตร์ (4.4 – 7.4 พันล้านกิโลเมตร) จากดวงอาทิตย์ หมายความว่าเมื่อดาวพลูโตอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุด มันจะอยู่ใกล้กว่าวงโคจรของดาวเนปจูนเสียอีก แต่เนื่องด้วยการสั่นพ้องของวงโคจร ทำให้ดาวเคราะห์ทั้งสองดวงไม่สามารถโคจรมาชนกันได้ ในปี พ.ศ. 2557 ดาวพลูโตมีระยะห่างจากดวงอาทิตย์ประมาณ 32.6 หน่วยดาราศาสตร์ แสงจากดวงอาทิตย์ใช้เวลาประมาณ 5.5 ชั่วโมง ถึงจะไปถึงดาวพลูโตที่ระยะทางเฉลี่ย (39.5 หน่วยดาราศาสตร์)
ภาพถ่ายสีของดาวพลูโตจากยาน นิวฮอไรซันส์ เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2558 | |||||||
การค้นพบ | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ค้นพบโดย: | ไคลด์ ทอมบอ | ||||||
ค้นพบเมื่อ: | 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2473 | ||||||
ชนิดของดาวเคราะห์น้อย: | ดาวเคราะห์แคระ วัตถุพ้นดาวเนปจูน วัตถุในแถบไคเปอร์ | ||||||
ลักษณะของวงโคจร | |||||||
ต้นยุคอ้างอิง J2000 | |||||||
ระยะจุดไกล ดวงอาทิตย์ที่สุด: | 7,375,927,931 กม. (49.30503287 หน่วยดาราศาสตร์) | ||||||
ระยะจุดใกล้ ดวงอาทิตย์ที่สุด: | 4,436,824,613 กม. (29.65834067 หน่วยดาราศาสตร์) | ||||||
กึ่งแกนเอก: | 5,906,376,272 กม. (39.48168677 หน่วยดาราศาสตร์) | ||||||
เส้นรอบวง ของวงโคจร: | 36.530 เทระเมตร (244.186 หน่วยดาราศาสตร์) | ||||||
ความเยื้องศูนย์กลาง: | 0.24880766 | ||||||
คาบดาราคติ: | 90,613.3058 วัน (248.09 ปีจูเลียน) | ||||||
คาบซินอดิก: | 366.74 วัน | ||||||
อัตราเร็วเฉลี่ย ในวงโคจร: | 4.666 กม./วินาที | ||||||
อัตราเร็วสูงสุด ในวงโคจร: | 6.112 กม./วินาที | ||||||
อัตราเร็วต่ำสุด ในวงโคจร: | 3.676 กม./วินาที | ||||||
ความเอียง: | 17.14175° (11.88° กับศูนย์สูตรดวงอาทิตย์) | ||||||
ลองจิจูด ของจุดโหนดขึ้น: | 110.30347° | ||||||
มุมของจุด ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด: | 113.76329° | ||||||
จำนวนดาวบริวาร: | 5 | ||||||
ลักษณะทางกายภาพ | |||||||
เส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ย: | 2,374 ± 8 กม. (0.180×โลก) | ||||||
(พื้นที่ผิว): | 1.765×107กม.² (0.035×โลก) | ||||||
ปริมาตร: | 7.15×109 (0.0066×โลก) | ||||||
มวล: | (1.305±0.007) ×1022กก. (0.002 18×โลก) | ||||||
ความหนาแน่นเฉลี่ย: | 1.87 กรัม/ซม.³ | ||||||
ความโน้มถ่วง ที่ศูนย์สูตร: | 0.620 เมตร/วินาที² (0.063 จี) | ||||||
ความเร็วหลุดพ้น: | 1.212 กม./วินาที | ||||||
คาบการหมุน รอบตัวเอง: | 6.387 230 วัน (6 วัน 9 ชั่วโมง 17 นาที 36 วินาที ) | ||||||
ความเร็วการหมุน รอบตัวเอง: | 47.18 กม./ชม. | ||||||
ความเอียงของแกน: | 119.591° | ||||||
ไรต์แอสเซนชัน ของขั้วเหนือ: | 313.02° (20 ชม. 52 นาที 5 วินาที) | ||||||
เดคลิเนชัน ของขั้วเหนือ: | −6.163° | ||||||
อัตราส่วนสะท้อน: | 0.30 | ||||||
อุณหภูมิพื้นผิว: เคลวิน |
| ||||||
ขนาดเชิงมุม: | 0.065″ ถึง 0.115″ | ||||||
ลักษณะของบรรยากาศ | |||||||
ความดันบรรยากาศ ที่พื้นผิว: | 1 ปาสกาล (2015) | ||||||
องค์ประกอบ: | ไนโตรเจน, มีเทน คาร์บอน และ คาร์บอนมอนอกไซด์ |
ดาวพลูโตถูกค้นพบในปี พ.ศ. 2473 โดยไคลด์ ทอมบอ และถูกจัดให้เป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 9 ที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ สถานะการเป็นดาวเคราะห์ของมันเริ่มเป็นที่สงสัยเมื่อมีการค้นพบวัตถุประเภทเดียวกันจำนวนมากซึ่งถูกค้นพบในภายหลังในบริเวณแถบไคเปอร์ ความรู้ที่ว่าดาวพลูโตเป็นดาวเคราะห์หินขนาดใหญ่ที่เป็นน้ำแข็งเริ่มถูกคัดค้านจากนักดาราศาสตร์หลายคนที่เรียกร้องให้มีการจัดสถานะของดาวพลูโตใหม่ ในปี พ.ศ. 2548 มีการค้นพบอีริส วัตถุในแถบหินกระจาย ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าดาวพลูโต 27% ซึ่งทำให้สหพันธ์ดาราศาสตร์สากล (IAU) จัดการประชุมซึ่งเกี่ยวกับการตั้ง "นิยาม" ของดาวเคราะห์ขึ้นมาครั้งแรก ในปีเดียวกัน หลังสิ้นสุดการประชุม ดาวพลูโตถูกลดสถานะให้เป็นกลุ่ม "ดาวเคราะห์แคระ" แต่ยังมีนักดาราศาสตร์บางคนที่ยังคงจัดให้ดาวพลูโตเป็นดาวเคราะห์
ดาวพลูโตมีดาวบริวารที่ทราบแล้ว 5 ดวง ได้แก่ แครอน (มีขนาดใหญ่ที่สุด โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางเป็นครึ่งหนึ่งของดาวพลูโต) สติกซ์ นิกซ์ เคอร์เบอรอส และไฮดรา บางครั้งดาวพลูโตและแครอนถูกจัดเป็นระบบดาวคู่ เนื่องจากจุดศูนย์กลางมวลของวงโคจรไม่ได้อยู่ในดาวดวงใดดวงหนึ่งเฉพาะ ไอเอยูยังไม่มีการให้คำนิยามของระบบดาวเคราะห์แคระคู่อย่างเป็นทางการ และแครอนกลายเป็นดาวบริวารของดาวพลูโตอย่างเป็นทางการแล้ว ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2559 นักดาราศาสตร์ประกาศว่าบริเวณสีน้ำตาลแดงที่ขั้วโลกของแครอนนั้น มีองค์ประกอบของ สารประกอบอินทรีย์ขนาดใหญ่ที่อาจเป็นต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิต และผลิตได้จากมีเทน ไนโตรเจน และแก๊สที่เกี่ยวข้องซึ่งปล่อยออกมาจากชั้นบรรยากาศของดาวพลูโต และเคลื่อนที่เป็นระยะทางกว่า 19,000 กิโลเมตร รอบดาวบริวาร
ในวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ยานอวกาศนิวฮอไรซันส์กลายเป็นยานอวกาศลำแรกที่บินผ่านดาวพลูโตสำเร็จระหว่างเส้นทางนิวฮอไรซันส์ก็ได้เก็บข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับดาวพลูโตและดาวบริวารของมันไปด้วย
ประวัติ
การค้นพบ
ในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1840 อูร์แบ็ง เลอ แวรีเย ได้ใช้กลศาสตร์แบบฉบับเพื่อทำนายตำแหน่งของดาวเนปจูน ซึ่งในขณะนั้นยังไม่ถูกค้นพบ หลังจากที่พบว่าดาวยูเรนัสมีวงโคจรที่ไม่ตรงกับการคำนวณ การสำรวจดาวเนปจูนในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ได้นำพาให้นักดาราศาสตร์คาดเดากันว่าเหตุที่วงโคจรของดาวยูเรนัสคลาดเคลื่อนเนื่องด้วยแรงดึงดูดของดาวเคราะห์อีกดวงหนึ่งซึ่งถัดจากดาวเนปจูนออกไป
ในปี พ.ศ. 2449 เปอร์ซิวัล โลเวลล์ เศรษฐีนครบอสตัน ผู้ซึ่งก่อตั้ง ในแฟลกสแตฟฟ์ รัฐแอริโซนา ในปี พ.ศ. 2437 ได้เริ่มภารกิจการค้นหาดาวเคราะห์ดวงที่เก้า เขาได้ให้ชื่อไว้ว่า "ดาวเคราะห์ X" ในปี พ.ศ. 2452 โลเวลล์และ ได้เสนอพิกัดดาราศาสตร์ที่เป็นไปได้ของดาวเคราะห์นี้ โลเวลล์และทางหอดูดาวของเขายังคงดำเนินการค้นหาต่อไป จนกระทั่งโลเวลล์เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2459 แต่ก็ไม่ได้ทำให้การค้นหาหยุดชะงักลง ก่อนการเสียชีวิตของโลเวลล์ คณะสำรวจของเขาก็ได้ถ่ายภาพเบลอของดาวพลูโตสองภาพ ภาพแรกถ่ายเมื่อวันที่ 19 มีนาคม และอีกภาพถ่ายเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2458 แต่พวกเขาก็ไม่ได้ยอมรับในสิ่งที่พวกเขาพบ นอกจากนั้นยังมีการสำรวจ 14 ครั้ง โดยครั้งเก่าแก่ที่สุดมีขึ้นที่ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2452
เนื่องจากการต่อสู้ทางกฎหมายของคอนสแตนซ์ โลเวลล์ ภรรยาหม่ายของเพอร์ซิวัล ผู้ที่พยายามนำส่วนได้กว่าหนึ่งล้านดอลลาร์ของหอดูดาวไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว ทำให้การค้นหาดาวเคราะห์ X หยุดชะงัก จนกระทั่ง พ.ศ. 2472 เมื่อ เวสโต เมลวิน สลิเฟอร์ ได้ยื่นภารกิจการค้นหาดาวเคราะห์ X ให้กับ ไคลด์ ทอมบอ ซึ่งในขณะนั้นอายุได้ 23 ปี ผู้ที่ซึ่งมาถึงหอดูดาวโลเวลล์ หลังจากที่สลิเฟอร์สนใจในในตัวอย่างของภาพวาดทางดาราศาสตร์ของเขา
หน้าที่ของทอมบอคือการถ่ายภาพท้องฟ้ายามกลางคืนเป็นจำนวนหลายสิบภาพ แล้ววิเคราะห์แต่ละภาพว่ามีวัตถุใดในภาพเหล่านั้นที่เปลี่ยนตำแหน่ง โดยใช้ตัวเปรียบเทียบ เขาได้สลับภาพ 14 ภาพไปมา เพื่อสร้างการเคลื่อนที่เสมือนของวัตถุใดๆที่เปลี่ยนตำแหน่งหรือปรากฏขึ้นระหว่างภาพถ่าย ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2473 ซึ่งการสำรวจล่วงเลยไปเกือบปีแล้ว ทอมบอค้นพบวัตถุชื้นหนึ่งที่เปลี่ยนตำแหน่งจากภาพถ่ายของวันที่ 23 และ 29 มกราคมของปีนั้น และได้ภาพคุณภาพต่ำที่ถ่ายเมื่อวันที่ 21 มกราคม เป็นตัวช่วยยืนยันการเคลื่อนที่นี้ หลังจากที่ทางหอดูดาวได้ตรวจสอบภาพถ่ายว่าถูกต้องแล้ว ข่าวของการค้นพบดาวเคราะห์ดวงใหม่ก็ถูกประกาศออกไปทางโทรเลขของ ในวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2473
ชื่อ
การค้นพบนี้เป็นประเด็นใหญ่ไปทั่วโลก ได้รับสิทธิในการตั้งชื่อวัตถุใหม่นี้ โดยได้รับชื่อที่ถูกเสนอมากกว่า 1,000 ชื่อจากทั่วทุกมุมโลก เรียงจากแอตลาสถึงไซมัล ทอมบอกระตุ้นให้สลิเฟอร์เร่งการตั้งชื่อวัตถุใหม่นี้ก่อนที่จะมีคนอื่นตั้งชื่อให้ คอนสแตนซ์ โลเวลล์ได้เสนอชื่อ ซุส แล้วเปอร์ซิวัล และสุดท้ายคอนสแตนซ์ แต่ชื่อเหล่านี้ก็ตกไป
ชื่อของพลูโต ตั้งตามชื่อของเทพเจ้าแห่งยมโลก ถูกเสนอโดย (พ.ศ. 2461 – พ.ศ. 2552) นักเรียนหญิงวัย 11 ปีในออกซฟอร์ด ประเทศอังกฤษ โดยเธอกำลังสนใจใน เธอเสนอชื่อนี้ระหว่างการสนทนากับ ตาของเธอ อดีตบรรรณารักษ์ของมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด และมาดานก็เสนอชื่อนี้ไปยัง ศาสตราจารย์ดาราศาสตร์ และเขาก็นำไปบอกกับเพื่อนร่วมงานในสหรัฐอเมริกา
วัตถุนี้ถูกตั้งชื่ออย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2473 โดยการออกเสียงของสมาชิกในหอดูดาวโลเวลล์ที่คัดเลือกชื่อจนเหลือเพียงสามชื่อ ได้แก่ มิเนอร์วา (ซึ่งได้นำไปตั้งชื่อเป็นดาวเคราะห์น้อยแล้ว) โครนัส (ซึ่งไม่ได้รับความนิยมเนื่องจากถูกเสนอโดยนักดาราศาสตร์ไร้ชื่อเสียง ) และพลูโต โดยสมาชิกทุกคนได้ลงคะแนนให้ชื่อพลูโตทั้งหมด ชื่อได้ถูกประกาศในวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2473 และจากการประกาศนี้มาดานได้มอบเงินจำนวน 5 ปอนด์ (เท่ากับ 300 ปอนด์ หรือ 450 ดอลลาร์สหรัฐ ใน พ.ศ. 2558) ให้แก่เวเนเทียเป็นรางวัล
ชื่ออีกชื่อหนึ่งของดาวพลูโตได้รับแรงบันดาลใจจากข้อเท็จจริงที่ว่า สองอักษรแรกของชื่อ พลูโต เป็นตัวย่อของเปอร์ซิวัล โลเวลล์ ทำให้สัญลักษณ์ทางดาราศาสตร์ของดาวพลูโต (, Unicode U+2647, ♇) ถูกสร้างขึ้นจากการประกอบกันของตัวอักษร P และ Lของดาวพลูโตคล้ายกับของดาวเนปจูน () แต่แค่มีวงกลมแทนที่ง่ามแหลมกลางของสามง่าม ()
ภายหลังชื่อนี้ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ในปี พ.ศ. 2473 วอลต์ ดิสนีย์ได้รับแรงบันดาลใจโดยเขาได้เสนอเพื่อนสุนัขของมิกกี้ เมาส์ ว่า ถึงแม้ว่า ผู้ทำภาพเคลื่อนไหวของดิสนีย์ ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าทำไมชื่อนี้จึงถูกตั้งให้ ใน พ.ศ. 2484 เกลนน์ ที. ซีบอร์ก ตั้งชื่อธาตุที่ค้นพบใหม่ว่า ธาตุพลูโทเนียม ซึ่งตั้งชื่อตาม ดาวพลูโต ซึ่งเป็นการตั้งชื่อธาตุอย่างต่อเนื่องกับดาวเคราะห์ที่ค้นพบใหม่ล่าสุด ได้แก่ ยูเรเนียม ซึ่งตั้งชื่อตามดาวยูเรนัส เนปทูเนียม ซึ่งตั้งชื่อตามดาวเนปจูน
หลายภาษาใช้ชื่อพลูโตในรูปแบบที่ต่างกันออกไป ในญี่ปุ่น เสนอว่าคำแปลว่า เมะอิโอเซอิ (冥王星 แปลว่า ดาวแห่งเทพเจ้ายมโลก) และคำแปลนี้ยังถูกใช้ในภาษาจีน เกาหลี และเวียดนาม ภาษาอินเดียบางภาษายังคงใช้คำว่า พลูโต เป็นชื่อดาวเหมือนเดิม แต่อื่นๆ เช่น ภาษาฮินดี ใช้คำว่า ยามา เทพเจ้าแห่งความตายในเทพปกรณัมพุทธและฮินดู เช่นเดียวกับเวียดนาม ยังเชื่อมชื่อดาวกับชื่อของเทพเจ้ายมโลก เช่น ใน
การพิสูจน์ดาวเคราะห์ X
ตอนที่พบดาวพลูโตครั้งแรก ความพร่ามัวและความไม่เชื่อมต่อของภาพถ่ายที่ได้ ทำให้เกิดความไม่แน่ชัดว่าจะเป็นดาวเคราะห์ X ของโลเวลล์ การประมาณค่ามวลของดาวพลูโตมีค่าน้อยลงเรื่อยๆในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 20
ปี | มวล | ประมาณค่าโดย |
---|---|---|
พ.ศ. 2458 | 7 เท่าของโลก | โลเวลล์ (การทำนายสำหรับดาวเคราะห์ X) |
พ.ศ. 2474 | เท่ากับโลก | & |
พ.ศ. 2491 | 0.1 (1/10) เท่าของโลก | ไคเปอร์ |
พ.ศ. 2519 | 0.01 (1/100) เท่าของโลก | , ฟลิชเชอร์, & |
พ.ศ. 2521 | 0.0015 (1/650) เท่าของโลก | & |
พ.ศ. 2549 | 0.00218 (1/459) เท่าของโลก | et al. |
นักดาราศาสตร์คำนวณมวลของดาวพลูโตในขั้นต้น โดยประมาณจากผลกระทบของดาวยูเรนัสและดาวเนปจูน ในปี พ.ศ. 2474 มวลดาวพลูโตถูกคำนวณออกมาว่ามีค่าใกล้เคียงกับมวลโลก การคำนวณในปี พ.ศ. 2491 ได้ลดค่ามวลของดาวพลูโตลงไปอยู่ที่ใกล้เคียงกับมวลของดาวอังคาร ในปี พ.ศ. 2519 เดล ครูกชังค์ คาร์ล ฟลิชเชอร์ และเดวิด มอร์ริสันของมหาวิทยาลัยฮาวายคำนวณค่าของดาวพลูโตเป็นครั้งแรก และพบว่าค่าที่ได้ไปตรงกับค่าของน้ำแข็งมีเทน หมายความว่าดาวพลูโตจะต้องสว่างเป็นพิเศษสำหรับขนาดของมัน ดังนั้นดาวพลูโตจึงควรมีมวลน้อยกว่า 1% ของโลก (ความสะท้อนแสงของดาวพลูโตอยู่ที่ 1.3–2.0 เท่าของโลก)
ในปี พ.ศ. 2521 การค้นพบ แครอน ดาวบริวารของดาวพลูโต ได้กลายเป็นตัวช่วยในการคำนวณหาค่ามวลดาวพลูโต โดยได้ผลออกมาว่ามวลของดาวพลูโตมีค่าเท่ากับ 0.2% ของมวลโลก ซึ่งมีค่าน้อยเกินกว่าที่จะส่งผลกระทบต่อวงโคจรของดาวยูเรนัส ทำให้การค้นหาดาวเคราะห์ X ยังคงมีต่อไป นำโดย แต่ก็ผิดพลาดไป ในปี พ.ศ. 2535 ใช้ข้อมูลของดาวเนปจูนที่ได้จากยานวอยเอจเจอร์ 2 ในปี พ.ศ. 2532 ซึ่งให้ค่ามวลของดาวเนปจูนน้อยลงไปกว่าค่าเดิม 0.5% ซึ่งเทียบได้กับมวลของดาวอังคาร ทำให้ต้องมีการคำนวณผลกระทบความโน้มถ่วงของวงโคจรดาวยูเรนัสใหม่ ด้วยค่าใหม่ที่ได้ ทำให้พวกเขาไม่จำเป็นที่จะต้องค้นหาดาวเคราะห์ X อีกต่อไป ทุกวันนี้ นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อกันว่าดาวเคราะห์ X ที่โลเวลล์ได้กล่าวไว้นั้นไม่มีอยู่จริง โลเวลล์ได้ทำนายวงโคจรและตำแหน่งของดาวเคราะห์ X ในปี พ.ศ. 2458 ว่าวงโคจรและตำแหน่งของดาวเคราะห์ X จะอยู่ใกล้กับวงโคจรจริงของดาวพลูโตในเวลานั้นมาก ได้สรุปเกี่ยวกับการค้นพบดาวพลูโตว่าเป็นเหตุบังเอิญ แต่การสำรวจก็ยังคงมีต่อไป
การจัดประเภท
นับตั้งแต่ พ.ศ. 2535 เป็นต้นมา วัตถุหลายชิ้นต่างถูกค้นพบว่าโคจรอยู่ในบริเวณเดียวกับดาวพลูโต แสดงให้เห็นว่าดาวพลูโตเป็นสมาชิกหนึ่งของบริเวณที่เรียกว่าแถบไคเปอร์ ทำให้สถานะการเป็นดาวเคราะห์ของมันเป็นข้อถกเถียง ด้วยคำถามที่ว่าดาวพลูโตควรจะถูกจัดรวมหรือแยกออกจากวัตถุแวดล้อมนั้น ตามพิพิธภัณฑ์หรือท้องฟ้าจำลองมักจะสร้างความขัดแย้งโดยนำดาวพลูโตออกจากการเป็นดาวเคราะห์ของระบบสุริยะ ที่กลับมาเปิดใหม่หลังการปรับปรุงในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543 ก็มีดาวเคราะห์เพียงแปดดวงในแบบจำลองระบบสุริยะ ทำให้กลายเป็นประเด็นใหญ่ไปเกือบปีหลังจากนั้น
มีวัตถุจำนวนมากที่มีขนาดใกล้เคียงกับดาวพลูโตซึ่งถูกค้นพบในบริเวณเดียวกัน เป็นเหตุให้มีการถกเถียงว่าดาวพลูโตควรจะถูกจัดให้เป็นหนึ่งในวัตถุแถบไคเปอร์ เหมือนกับซีรีส พัลลัส และเวสตาที่สูญเสียสถานะการเป็นดาวเคราะห์ไปหลังจากที่ค้นพบดาวเคราะห์น้อยเป็นจำนวนมากในแถบเดียวกัน ในวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 มีการค้นพบ อีริส วัตถุพ้นดาวเนปจูนชิ้นใหม่ ซึ่งถูกประมาณกันว่าจะมีขนาดใหญ่กว่าดาวพลูโต ทำให้มันกลายเป็นวัตถุที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะที่ถูกค้นพบหลังปี พ.ศ. 2389 แต่เดิมตำแหน่งนี้เป็นของ ไทรทัน ตัวผู้ค้นพบอีริสเองก็เรียกมันว่าเป็นดาวเคราะห์ดวงที่สิบ ถึงแม้ว่าในเวลานั้นจะยังไม่มีมติอย่างเป็นทางการที่จะเรียกมันว่าดาวเคราะห์ คนอื่น ๆ ในวงการดาราศาสตร์ได้ค้นพบข้อโต้แย้งที่หนักแน่นพอที่จะนำไปสู่การจัดประเภทของดาวพลูโตให้เป็นดาวเคราะห์แคระ
การจัดประเภทของไอเอยู
หัวข้อการอภิปรายเริ่มขึ้นในวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2549 ด้วยไอเอยูได้สร้างคำนิยามของคำว่า "ดาวเคราะห์" อย่างเป็นทางการ ตามนิยามใหม่นี้ มีใจความสำคัญอยู่สามข้อสำหรับวัตถุที่จะถูกเรียกได้ว่าเป็นดาวเคราะห์ ดังนี้
- วัตถุนั้นจะต้องโคจรรอบดวงอาทิตย์
- วัตถุนั้นจะต้องมีมวลมากพอที่จะรักษาสภาพตัวเองให้เป็นทรงกลมได้โดยแรงโน้มถ่วงของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แรงโน้มถ่วงของวัตถุนั้นควรจะทำให้วัตถุนั้นอยู่ในสภาวะสมดุลอุทกสถิต
- วัตถุนั้นจะต้อง
ดาวพลูโตไม่เป็นไปตามนิยามข้อที่สาม เนื่องจากมันมีมวลแค่ 0.07 เท่าของมวลของวัตถุอื่นๆในบริเวณเดียวกัน (เมื่อเทียบกับโลกแล้ว โลกมีมวล 1.7 ล้านเท่าของวัตถุอื่น ๆ ในบริเวณเดียวกัน) ไอเอยูจึงได้เสนอให้วัตถุที่เป็นไปตามนิยามสองข้อแรก เช่น ดาวพลูโต เป็นดาวเคราะห์แคระ ในวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2549 ไอเอยูได้รวมดาวพลูโต อีริส และ ดาวบริวารของอีริส เข้าไปอยู่ใน โดยให้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า "(134340) พลูโต", "(136199)" อีริส และ "(136199) อีริส I ดิสโนเมีย" ดาวพลูโตยังได้รับการรวมอยู่กับวัตถุที่ค้นพบในปี พ.ศ. 2473 มันควรที่จะได้รับเลข 1164 ถัดจาก ที่ถูกค้นพบเพียงไม่กี่เดือนก่อนหน้าดาวพลูโต
มีการต่อต้านบางส่วนภายในสมาคมดาราศาสตร์ด้วยกันเอง ผู้ตรวจสอบภารกิจการเดินทางของยานนิวฮอไรซันส์ ดูถูกการจัดประเภทของไอเอยูสู่สาธารณะ โดยกล่าวว่า "การนิยามนี้แย่มาก ด้วยเหตุผลทางเทคนิค" เนื่องจากโดยนิยามใหม่ โลก ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี และดาวเนปจูน จะไม่ถูกจัดเป็นดาวเคราะห์ เนื่องจากมีวงโคจรทับซ้อนกับดาวเคราะห์น้อย เขายังแย้งว่าดาวบริวารกลมขนาดใหญ่ เช่น ดวงจันทร์ ก็ควรจะถูกจัดเป็นดาวเคราะห์ด้วย การอ้างอื่นของเขา คือ เป็นการตัดสินใจที่ไม่ได้มาจากตัวแทนจากทุกสมาคมดาราศาสตร์ เพราะมีนักดาราศาสตร์ที่เห็นด้วยเพียงแค่ 5% กล่าวถึงทางเลือกเกี่ยวกับนิยามใหม่บนเว็บไซต์ของเขาและต่อต้าน คนอื่นที่เห็นด้วยกับไอเอยู ผู้ค้นพบดาวอีริส กล่าวว่า "ผ่านกระบวนการที่ดูตลกเช่นนี้ บางที คำตอบที่ถูกต้องอาจสะดุดลง นี่เป็นเวลานานแล้ว วิทยาศาสตร์ได้แก้ไขตัวเองอยู่แล้ว แม้ว่าจะมีความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้อง"
ในปี พ.ศ. 2549 ได้เลือกให้คำว่า (plutoed) เป็นคำแห่งปี โดย To "pluto" แปลว่า "ลดขั้นหรือความสำคัญของบางคนหรือบางสิ่งลง"
วงโคจร
คาบการหมุนรอบดวงอาทิตย์ของดาวพลูโต คือ 248 ปีโลก วงโคจรของดาวพลูโตแตกต่างไปจากวงโคจรของดาวเคราะห์ดวงอื่น ซึ่งมีวงโคจรในลักษณะใกล้เคียงกับวงกลมและแบนราบไปกับระนาบสุริยวิถี แต่ดาวพลูโตมีค่าความเอียงของวงโคจรมาก (มากกว่า 17°) และความเยื้องศูนย์กลางก็มาก นั่นหมายความว่าในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ดาวพลูโตจะโคจรใกล้ดวงอาทิตย์กว่าดาวเนปจูน จุดศูนย์กลางมวลของระบบดาวพลูโต-แครอนอยู่ในตำแหน่งใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุดเมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2532 และอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์กว่าดาวเนปจูนในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2522 และ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542
โดยรวมแล้ว วงโคจรของดาวพลูโตไม่มีความเสถียรภาพ ถึงแม้ว่าการประมวลผลจากคอมพิวเตอร์จะสามารถคำนวณตำแหน่งของดาวพลูโตได้ถึงหลายล้านปีข้างหน้า (ทั้ง) แต่หลังจากที่คำนวณจนไปถึงช่วงของ 10–20 ล้านปี และมากกว่านั้น การคำนวณจะเริ่มผิดพลาดมากขึ้น: ดาวพลูโตมีความว่องไวต่อรายละเอียดที่เล็กเกินกว่าจะวัดได้ของระบบสุริยะ ปัจจัยที่คาดเดาได้ยากเหล่านั้น เป็นตัวทำให้วงโคจรของดาวพลูโตค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลง
ความสัมพันธ์กับดาวเนปจูน
แม้ว่า เมื่อมองจากมุมมองด้านบนแล้ว วงโคจรของดาวพลูโตปรากฏทับกันกับวงโคจรของดาวเนปจูน แต่ด้วยตำแหน่งของวัตถุทั้งสอง ทำให้วัตถุนั้นไม่ชนหรือแม้แต่จะเข้าใกล้กันเลย ซึ่งมีสาเหตุหลายประการ
โดยพื้นฐาน มีนักดาราศาสตร์บางคนพบว่าวงโคจรของดาวพลูโตไม่ได้ตัดกับดาวเนปจูน แม้เมื่อดาวพลูโตเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดหรือจะอยู่ในช่วงที่กำลังข้ามวงโคจร ตัวดาวยังอยู่ห่างจากวงโคจรของดาวเนปจูนอีกมาก วงโคจรของดาวพลูโตข้ามวงโคจรของดาวเนปจูนที่ 8 หน่วยดาราศาสตร์ เหนือดาวเนปจูน ซึ่งป้องกันการปะทะ และระนาบโคจรของดาวพลูโตยังเอียงกว่าของดาวเนปจูน 21°
ระนาบโคจรเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถช่วยปกป้องดาวพลูโตได้มากพอ เพราะ จากดาวเคราะห์ข้างเคียง (โดยเฉพาะ ดาวเนปจูน) สามารถเบี่ยงเบนเส้นทางการโคจรของดาวพลูโต (เช่น การหมุนควงของวงโคจร) จนทำให้การปะทะกันมีความเป็นไปได้มากขึ้น กระบวนการป้องกันบางอย่างจึงต้องมีขึ้น โดยกระบวนการที่สำคัญที่สุด คือ การที่ดาวพลูโตและดาวเนปจูนเกิดการสั่นพ้องของวงโคจร โดยเมื่อดาวพลูโตโคจรรอบดวงอาทิตย์ไปได้สองรอบ แล้วดาวเนปจูนจะเคลื่อนที่รอบดวงอาทิตย์ได้สามรอบ และเมื่อวัตถุทั้งสองโคจรกลับมาในตำแหน่งแรกเริ่ม กระบวนการนี้ก็ยังดำเนินต่อไป โดยกินเวลาประมาณ 500 ปี ในแต่ละวัฎจักร 500 ปีนี้ เมื่อดาวพลูโตโคจรมาอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดดาวเนปจูนจะอยู่เยื้องหลังดาวพลูโตไปกว่า 50° เมื่อดาวพลูโตโคจรมาอยู่ในตำแหน่งนี้อีกครั้งหนึ่ง ดาวเนปจูนจะโคจรไปได้หนึ่งรอบครึ่ง ซึ่งเป็นไปในกรณีเดียวกันกับเมื่อดาวเนปจูนโคจรมาอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด นั่นทำให้ระยะห่างระหว่างดาวพลูโตกับดาวเนปจูนมีค่าเท่ากับ 17 หน่วยดาราศาสตร์ ซึ่งมากกว่าระยะห่างระหว่างดาวพลูโตกับดาวยูเรนัส (11 หน่วยดาราศาสตร์)
อัตราส่วนการโคจร 2:3 ระหว่างวัตถุสองวัตถุนี้มีเสถียรภาพสูงมาก และจะยังคงอยู่ไปอีกหลายล้านปี การป้องกันนี้ช่วยไม่ให้สองวัตถุมีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน และวัฎจักรของมันกันจะวนซ้ำไปเรื่อย ๆ และทำให้วัตถุทั้งสองไม่เคลื่อนผ่านเข้าใกล้กัน ดังนั้น แม้วงโคจรของดาวพลูโตจะไม่เอียงเลยก็ตาม มันก็จะยังคงไม่สามารถปะทะกับดาวเนปจูนได้อยู่ดี
ปัจจัยอื่น ๆ
ผลการศึกษาจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่า ตลอดหลายล้านปีที่ผ่านมา ธรรมชาติไม่ให้วงโคจรของดาวพลูโตและดาวเนปจูนเกิดการเปลี่ยนแปลง ยังมีการสั่นพ้องและปฏิสัมพันธ์อีกมากที่ควบคุมรายละเอียดการโคจรและเสถียรภาพของดาวพลูโต
อย่างแรก คือ มุมของจุดใกล้ที่สุดของดาวพลูโต ซึ่งคือมุมที่อยู่ระหว่างจุด ณ ตำแหน่งที่โคจรตัดระนาบสุริยวิถี กับจุด ณ ตำแหน่งที่ใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุด โดยมีค่าไลเบรชันประมาณ 90° นั่นหมายความว่า เมื่อดาวพลูโตเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุด มันก็จะอยู่ในตำแหน่งที่ห่างจากระนาบสุริยะมากที่สุดด้วย ซึ่งป้องกันการเคลื่อนที่เข้าหาดาวเนปจูน นี่ยังเป็นผลโดยตรงจาก ซึ่งเกี่ยวข้องกับวัตถุที่มีค่าความเยื้องและความเอียงมาก ในกรณีของดาวเนปจูน ดาวเนปจูนมีไลเบรชันเท่ากับ 38° ทำให้การแยกเชิงมุมของจุดที่ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดของดาวพลูโตกับวงโคจรของดาวเนปจูนอยู่ห่างกันมากกว่า 52° เสมอ (90°–38°) โดยการแยกเชิงมุมที่มีค่าน้อยที่สุดจะเกิดขึ้นทุก ๆ 10,000 ปี
อย่างที่สองคือ เส้นแวงของแอสเซนดิงโนดของสองวัตถุ ซึ่งคือจุดที่วัตถุทั้งสองข้ามเส้นสุริยวิถี โดยตำแหน่งนั้นจะอยู่ในอัตราส่วนที่ใกล้เคียงกันด้วยการไลเบรชันค่าสูง เมื่อเส้นแวงของวัตถุทั้งสองอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน กล่าวคือ สามารถลากเส้นตรงผ่านจุดตัดระนาบของวัตถุทั้งสองและดวงอาทิตย์ได้ เมื่อเกิดขึ้นแล้ว จุดที่ใกล้ที่สุดของดาวพลูโตจะอยู่ที่ 90° และด้วยเหตุนี้ ทำให้มันโคจรเข้ามาใกล้ดวงอาทิตย์ได้มากที่สุด เมื่อมันอยู่สูงจากดาวเนปจูนมากที่สุด รู้จักกันว่าเป็นซูเปอร์เรโซแนนซ์ 1:1 ดาวเคราะห์ยักษ์ทุกดวง โดยเฉพาะดาวพฤหัสบดี โคจรอยู่ในรูปแบบของซูเปอร์เรโซแนนซ์เช่นกัน
เพื่อที่จะเข้าใจถึงธรรมชาติของการไลเบรชัน จะต้องจินตนาการถึงมุมมองจากขั้วโลก มองลงมาบนเส้นสุริยวิถีจากจุดอ้างอิงที่ไกลออกไป ที่ซึ่งดาวเคราะห์โคจรทวนเข็มนาฬิกา หลังจากที่พวกมันผ่านจุดตัดระนาบมาแล้ว ดาวพลูโตจะอยู่ภายในวงโคจรของดาวเนปจูนและเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าสู่ดาวเนปจูนจากข้างหลัง แรงโน้มถ่วงอันแข็งแกร่งดึงวัตถุทั้งสอง จนเกิดโมเมนตัมเชิงมุม ซึ่งจะถูกส่งไปที่ดาวพลูโต จากดาวเนปจูน นี่ทำให้ดาวพลูโตมีวงโคจรที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ที่ซึ่งมันจะโคจรช้าลงเล็กน้อยเช่นกันตามกฎข้อที่สามของเคปเลอร์ เมื่อวงโคจรเกิดการเปลี่ยนแปลง มันก็จะค่อยๆมีผลกระทบให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของตำแหน่งที่ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดกับเส้นแวงของดาวพลูโต (และทำมุมกับดาวเนปจูนน้อยลง) หลังจากกระบวนการนี้เกิดการทำซ้ำหลายครั้ง จนในที่สุดดาวพลูโตก็จะเคลื่อนช้าลงอย่างเพียงพอ และดาวเนปจูนก็จะเคลื่อนที่เร็วอย่างเพียงพอ นั่นจะทำให้ดาวเนปจูนเริ่มไล่ตามดาวพลูโต ณ ตำแหน่งตรงข้ามกับจุดที่เราเริ่ม แล้วกระบวนการนี้ก็จะผันกลับ โดยดาวพลูโตจะสูญเสียโมเมนตัมเชิงมุมแก่ดาวเนปจูน จนกระทั่งดาวพลูโตมีความเร็วมากพอที่จะไล่ตามดาวเนปจูนอีกครั้ง ณ ตำแหน่งแรกเริ่มของเรา กระบวนการทั้งหมดนี้กินเวลากว่า 20,000 ปี
ดาวบริวารเสมือน
มีวัตถุขนาดเล็กอย่างน้อยหนึ่งดวงที่เป็นดาวบริวารเสมือน ซึ่งก็คือ อันเป็นรูปแบบดาวบริวารที่โคจรแตกต่างออกไป วัตถุนี้เป็นดาวบริวารเสมือนของดาวพลูโตมากว่า 100,000 ปี และจะยังคงอยู่อย่างนั้นไปอีก 250,000 ปี โดยมีระยะเวลาการเกิดซ้ำอยู่ 2,000,000 ปี และอาจจะมีดาวบริวารเสมือนของดาวพลูโตอีก
การหมุน
คาบการหมุนรอบตัวเองของดาวพลูโต เท่ากับ 6.39 วันโลก ดาวพลูโตยังหมุนรอบตัวเองบน "ด้านข้าง" ของระนาบโคจร ด้วยค่าความเอียง 120° เช่นเดียวกับดาวยูเรนัส และฤดูบนดาวพลูโตก็แตกต่างออกไปมาก ที่ตำแหน่งอายันของมัน 1 ใน 4 ของพื้นผิวดาวพลูโตจะได้รับแสงอาทิตย์ตลอด ในขณะที่บริเวณที่เหลือจะอยู่ในความมืดตลอด
กลางวัน
ปริมาณแสงที่ได้รับของดาวพลูโตมีค่าน้อยมาก มีค่าเท่ากับเวลาพลบค่ำบนโลก นาซาได้โพสต์เครื่องคำนวณ "เวลาพลูโต" ซึ่งใช้หาว่าเวลาใดที่แสงบนโลกจะเท่ากับแสงบนดาวพลูโตในวันที่ปลอดโปร่ง ตัวอย่างเช่น ในวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ณ ตำแหน่งที่ตั้งของห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ประยุกต์ เวลาพลูโต คือ 20:38 น. 4 นาทีหลังจากดวงอาทิตย์ตกตอนเวลา 20:34 น. รายงานสำหรับพื้นที่นั้นโดย NOAA
ธรณีวิทยา
เนื่องจากดาวพลูโตอยู่ห่างจากโลกมาก การศึกษาแบบเจาะลึกจากโลกยังเป็นไปได้ยาก ในวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ยานนิวฮอไรซันส์ของนาซาสำเร็จการบินผ่านระบบดาวพลูโต ซึ่งช่วยให้ทราบถึงข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะภูมิประเทศของดาวพลูโตมากขึ้น และส่งมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งปลาย พ.ศ. 2559
พื้นผิว
ผิวดาวพลูโตประกอบไปด้วยไนโตรเจนแข็งถึง 98% และน้ำแข็งมีเทนกับคาร์บอนมอนอกไซด์อีกจำนวนเล็กน้อย หน้าของดาวพลูโตที่หันเข้ามาแครอนประกอบไปด้วยน้ำแข็งมีเทนเป็นส่วนใหญ่ ต่างกับอีกด้านหนึ่งของดาวพลูโตซึ่งประกอบไปด้วยไนโตรเจนแข็งและคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นส่วนใหญ่ ผิวของดาวพลูโตค่อนข้างที่จะแปลกประหลาด ด้วยความแตกต่างอย่างมากของสีและความสว่างของพื้นผิว ดาวพลูโตเป็นหนึ่งในดาวที่มีพื้นผิวตัดกันอย่างชัดเจน เช่นเดียวกับ ไอแอพิตัส ดาวบริวารของดาวเสาร์ สีของพื้นผิวเปลี่ยนจากสีดำถ่านไปยังสีส้มเข้มและสีขาว สีของดาวพลูโตคล้ายกับสีของไอโอ เนื่องจากมีเฉดสีเดียวกัน คือ สีส้ม ลักษณะภูมิลักษณ์บนดาวพลูโตที่สำคัญ เช่น (Tombaugh Regio) หรือ "หัวใจ" (อาณาเขตสว่างขนาดใหญ่ในด้านตรงข้ามกับแครอน) (Cthulhu Regio) หรือ "วาฬ" (อาณาเขตสีเข้มขนาดใหญ่ที่คลอบคลุมเกือบซีกของดาวพลูโต) และ (แถบสีเข้มบริเวณเส้นศูนย์สูตรของดาวพลูโต) (กลีบซ้ายของ "หัวใจ") เป็นที่ราบกว้าง 1000 กิโลเมตร ประกอบด้วยไนโตรเจนแข็งและคาร์บอนไดออกไซด์แข็ง และมีสัญญาณที่ชี้ว่ามีการไหลของธารน้ำแข็งทั้งเข้าและออกจากที่ราบนั้น ดาวพลูโตไม่มีหลุมอุกกาบาตเท่าที่เห็นได้โดยยานนิวฮอไรซันส์ หมายความว่าผิวดาวจะต้องมีอายุไม่เกิน 10 ล้านปี คณะนักวิทยาศาสตร์ของนิวฮอไรซันส์ได้สรุปผลการวิจัยเบื้องต้นว่า "ดาวพลูโตแสดงลักษณะทางกายภาพที่หลากหลายจนน่าตกใจ รวมทั้งผลลัพธ์จากธารน้ำแข็ง และการมีปฏิสัมพันธ์ของผิวดาวกับชั้นบรรยากาศ การปะทะ แผ่นธรณีภาคเคลื่อนที่ และกระบวน"
โครงสร้างภายใน
ดาวพลูโตมีความหนาแน่นอยู่ที่ 1.87±0.06 กรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร เนื่องจากการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสีได้ก่อให้เกิดความร้อนที่จะทำให้น้ำแข็งบนดาวละลาย และแยกชั้นกับหินอย่างชัดเจน นักวิทยาศาสตร์คาดว่าโครงสร้างภายในของดาวพลูโตมีความแตกต่างออกไป โดยแก่นดาวจะประกอบไปด้วยหิน ล้อมรอบด้วยเนื้อดาวที่เป็นน้ำแข็งมีเทน เส้นผ่านศูนย์กลางของแก่นดาวถูกประมาณไว้อยู่ที่ 1,700 กิโลเมตร หรือ 70% ของเส้นผ่านศูนย์กลางดาวพลูโต แก่นดาวถูกคาดว่ายังคงจะมีความร้อนอยู่ ทำให้เกิดมหาสมุทรขนาดเล็กที่เกิดจากการละลายของน้ำแข็ง ในบริเวณ 100-180 กิโลเมตรระหว่างแก่นและเนื้อดาว
มวลและขนาด
ปี | รัศมี (เส้นผ่านศูนย์กลาง) | หมายเหตุ |
---|---|---|
พ.ศ. 2536 | 1195 (2390) กิโลเมตร | มิลลิสและคณะ (ถ้าไม่มีหมอก) |
พ.ศ. 2536 | 1180 (2360) กิโลเมตร | มิลลิสและคณะ (รวมพื้นผิวและหมอก) |
พ.ศ. 2537 | 1164 (2328) กิโลเมตร | ยังและบินเซล |
พ.ศ. 2549 | 1153 (2306) กิโลเมตร | บูอีและคณะ |
พ.ศ. 2550 | 1161 (2322) กิโลเมตร | ยัง ยัง และบูอี |
พ.ศ. 2554 | 1180 (2360) กิโลเมตร | ซาลูชาและคณะ |
พ.ศ. 2557 | 1184 (2368) กิโลเมตร | เลลลอชและคณะ |
พ.ศ. 2558 | 1186 (2372) กิโลเมตร | การวัดโดยยานนิวฮอไรซันส์ |
ดาวพลูโตมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2,372 กิโลเมตร และมีมวล 1.31 × 1022 กิโลกรัม ซึ่งน้อยกว่ามวลของดวงจันทร์ 17.82 % (น้อยกว่าโลก 24 %) ดาวพลูโตมีพื้นที่ผิว 1.665 × 107 ตารางกิโลเมตร หรือเทียบได้กับพื้นที่ประเทศรัสเซีย มีแรงโน้มถ่วงที่ผิวดาวเท่ากับ 0.063 g (เทียบกับโลกที่ 1 g)
การค้นพบ แครอน ดาวบริวารของดาวพลูโต ทำให้มีการกำหนดมวลของระบบดาวพลูโต–แครอนขึ้นใหม่ โดยใช้กฎการเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์ข้อที่สามของเคปเลอร์ จากการสำรวจดาวพลูโตที่สัมพันธ์กับแครอน ทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางของดาวพลูโตได้แม่นยำขึ้น และหลังจากที่มีการประดิษฐ์ ทำให้มีการคาดเดาถึงรูปร่างได้แม่นยำขึ้น
ด้วยมวลที่น้อยกว่ามวลดวงจันทร์อยู่ 0.2 เท่า ทำให้ดาวพลูโตมีมวลน้อยกว่าดาวเคราะห์หินทั้งหมด แม้กระทั่งดาวบริวารเจ็ดดวง ได้แก่ แกนีมีด ไททัน คัลลิสโต ไอโอ ดวงจันทร์ ยูโรปา และไทรทัน แต่เดิมมวลของดาวพลูโตถูกคาดไว้มาก จนกระทั่งการค้นพบแครอน
ดาวพลูโตมีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่าสองเท่า และมีมวลมากกว่าหลายเท่าของดาวเคราะห์แคระ ซีรีส วัตถุที่ใหญ่ที่สุดในแถบดาวเคราะห์น้อย แต่มีมวลน้อยกว่าอีริส วัตถุพ้นดาวเนปจูนที่ถูกค้นพบในปี พ.ศ. 2548 แม้ว่าดาวพลูโตจะมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2,372 กิโลเมตร ซึ่งใหญ่กว่าเส้นผ่านศูนย์กลางโดยประมาณของอีริส (2,326 กิโลเมตร) ก็ตาม
การประเมินขนาดของดาวพลูโตซับซ้อน เนื่องด้วยชั้นบรรยากาศของดาวพลูโต และหมอกไฮโดรคาร์บอน ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2557 เลลลอช, เด เบอร์ก และคณะ ตีพิมพ์การค้นพบสารผสมมีเทนในชั้นบรรยากาศของดาวพลูโต ซึ่งทำให้ประเมินได้ว่า ดาวพลูโตควรมีขนาดใหญ่กว่า 2,360 กิโลเมตร ด้วย "การคาดเดาที่ดีที่สุด" คือ 2,368 กิโลเมตร ในวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ภาพถ่ายและข้อมูลต่างๆ จากยานนิวฮอไรซันส์ ได้ประเมินเส้นผ่านศูนย์กลางของดาวพลูโตไว้ที่ 2,370 กิโลเมตร (1,470 ไมล์) ซึ่งภายหลังเปลี่ยนเป็น 2,372 กิโลเมตร (1,474 ไมล์) ในวันที่ 24 กรกฎาคม
ชั้นบรรยากาศ
ดาวพลูโตมีชั้นบรรยากาศที่ประกอบไปด้วยไนโตรเจน (N2) มีเทน (CH4) และคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) ซึ่งอยู่ในภาวะเป็นไอน้ำแข็งบนผิวดาวพลูโต จากผลการวัดของยานนิวฮอไรซันส์ ความดันที่ผิวดาวอยู่ที่ 1 ปาสกาล (10 ไมโครบาร์) น้อยกว่าประมาณ 1 แสน ถึง 1 ล้านเท่าของโลก ในเบื้องต้น นักดาราศาสตร์มีความเห็นว่า เมื่อดาวพลูโตเคลื่อนห่างจากดวงอาทิตย์ ชั้นบรรยากาศจะเกิดการแข็งตัวแล้วร่วงลงสู่ผิวดาว แต่เมื่อถึงช่วงที่ดาวพลูโตอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ อุณหภูมิพื้นผิวเพิ่มสูงขึ้น ทำให้น้ำแข็งเหล่านั้นระเหิดกลับขึ้นไปบนท้องฟ้า ถึงกระนั้น ข้อมูลจากยานนิวฮอไรซันส์ แสดงให้เห็นว่า จริงๆแล้ว ความหนาแน่นชั้นบรรยากาศของดาวพลูโตกำลังเพิ่มขึ้น และดูเหมือนว่าจะหลุดลอยเป็นแก๊สตามวงโคจร การสำรวจของนิวฮอไรซันส์ ยังพบว่าไนโตรเจนในชั้นบรรยากาศหลุดออกมาในปริมาณน้อยกว่าจากที่คาดไว้ 10,000 เท่า แอลัน สเติร์นยืนยันว่าเพียงแค่อุณหภูมิผิวดาวพลูโตเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จะทำให้ความหนาแน่นชั้นบรรยากาศเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ จาก 18 มิลลิบาร์เป็น 280 มิลลิบาร์ (3 เท่าของดาวอังคาร และหนึ่งในสี่ของโลก) ที่ความหนาแน่นขนาดนั้น ไนโตรเจนอาจไหลผ่านชั้นบรรยากาศในรูปของเหลว ความหนาของชั้นบรรยากาศดาวพลูโตสามารถเพิ่มสูงได้ถึง 1,670 กิโลเมตร แม้ชั้นบรรยากาศส่วนบนจะไม่มีรูปร่างที่แน่นอน
การมีอยู่ของมีเทน ซึ่งเป็นแก๊สเรือนกระจกรุนแรง ในชั้นบรรยากาศของดาวพลูโต ทำให้เกิด โดยอุณหภูมิในชั้นบรรยากาศสูงกว่าอุณหภูมิที่ผิวดาว แม้การสำรวจจากยานนิวฮอไรซันส์จะเผยว่าบรรยากาศชั้นบนของดาวพลูโต อาจมีอุณหภูมิต่ำกว่าที่คาดไว้มาก (70 K ซึ่งผิดจากที่คาดไว้ 100 K) ชั้นบรรยากาศของดาวพลูโตแบ่งออกเป็นชั้นหมอกทั้งหมด 20 ชั้น ซึ่งหนาประมาณ 150 กิโลเมตร คาดว่าจะเกิดจากคลื่นความดันที่สร้างขึ้นโดยการไหลของอากาศผ่านภูเขาบนดาวพลูโต
ดาวบริวาร
ดาวพลูโตมีดาวบริวารเท่าที่ทราบห้าดวง ได้แก่ แครอน ซึ่งมีการระบุครั้งแรกในปี พ.ศ. 2521 โดย เจมส์ คริสตี นักดาราศาสตร์, นิกซ์และไฮดรา ซึ่งถูกค้นพบในปี พ.ศ. 2548 ทั้งคู่, เคอร์เบอรอส ถูกค้นพบในปี พ.ศ. 2554 และสติกซ์ถูกค้นพบในปี พ.ศ. 2555 วงโคจรของดาวบริวารเป็นวงกลม (ความเยื้องศูนย์กลาง < 0.006) และร่วมระนาบกับเส้นศูนย์สูตรของดาวพลูโต (ความเอียง < 1°) ฉะนั้นจึงเอียงประมาณ 120° เทียบกับวงโคจรของดาวพลูโต ระบบดาวบริวารของดาวพลูโตอัดกันอยู่อย่างหนาแน่นมาก โดยวงโคจรของดาวบริวารห้าดวงที่ทราบอยู่ใน 3% ชั้นในของบริเวณซึ่งวงโคจรตามทางจะเสถียร แครอนโคจรอยู่ใกล้ดาวพลูโตที่สุด โดยแครอนมีขนาดใหญ่พอที่จะอยู่ในสภาวะสมดุลอุทกสถิตและทำให้แบรีเซนเตอร์ของระบบดาวพลูโต–แครอนอยู่นอกดาวพลูโต ถัดจากแครอนออกไปมีดาวบริวารดาวคู่ (circumbinary) ขนาดเล็กกว่ามากของดาวพลูโต ได้แก่ สติกซ์ นิกซ์ เคอร์เบอรอส และไฮดราตามลำดับ
คาบการโคจรของดาวบริวารของดาวพลูโตทุกดวงสัมพันธ์กันในระบบของการสั่นพ้องวงโคจร เมื่อการหมุนควงถูกนับด้วยแล้ว สำหรับคาบโคจรของสติกซ์ นิกซ์ และไฮดรา อยู่ในอัตราส่วน 18:22:23 นอกจากนี้สติกซ์ นิกซ์ เคอร์เบอรอส และไฮดรายังโคจรอยู่ในอัตราส่วน 3:4:5:6 โดยประมาณ ด้วยแครอนที่ซึ่งเข้าใกล้แล้วก็ถอยห่างจากกลุ่มดาวบริวารนี้ออกไป
ระบบดาวพลูโต–แครอนเป็นระบบหนึ่งที่แบรีเซนเตอร์เลยออกไปจากผิวของดาวดวงใหญ่ ( เป็นตัวอย่างขนาดเล็กหนึ่ง และดวงอาทิตย์กับดาวพฤหัสบดี เป็นตัวอย่างขนาดใหญ่ตัวอย่างเดียว) การเยื้องของแบรีเซนเตอร์และขนาดที่ใหญ่ของแครอนเมื่อเทียบกับดาวพลูโตแล้ว ได้ทำให้นักดาราศาสตร์บางคนเรียกมันว่า ระบบนี้ยังมีลักษณะที่ไม่เหมือนกับระบบดาวเคราะห์ส่วนใหญ่ คือ กล่าวคือดาวพลูโตและแครอนจะหันหน้าเข้าหากันเสมอ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งใดบนดาวดวงใดก็ตาม ดาวอีกดวงจะลอยค้างอยู่บนฟ้าอย่างนั้นเสมอ หรือไม่ลอยขึ้นมาเสมอ นี่ยังหมายความว่าคาบการหมุนรอบตัวเองของแต่ละดาวเท่ากับระยะเวลาที่พวกมันใช้โคจรรอบจุดศูนย์กลางแรงโน้มถ่วง
ในปี พ.ศ. 2552 การสังเกตจาก แสดงให้เห็นว่าบนผิวแครอน มีแอมโมเนียไฮเดรตและผลึกน้ำอยู่ ซึ่งหมายความว่าบนผิวดาวยังเกิดการปะทุของน้ำอยู่
ดาวบริวารของดาวพลูโตถูกสันนิษฐานว่าก่อตัวจากการปะทะของดาวพลูโตกับวัตถุขนาดเดียวกันชิ้นหนึ่ง ในช่วงยุคแรก ๆ ของระบบสุริยะ การปะทะได้ปลดปล่อยวัสดุที่ซึ่งภายหลังได้รวมตัวกันก่อเป็นดาวบริวารรอบ ๆ ดาวพลูโต ถึงอย่างนั้น เคอร์เบอรอสมีความสะท้อนแสงต่ำกว่าดาวบริวารดวงอื่นมาก ซึ่งยากต่อการอธิบายด้วยการปะทะครั้งใหญ่
ต้นกำเนิด
ต้นกำเนิดและตัวตนของดาวพลูโตเป็นปริศนาแก่นักดาราศาสตร์มาอย่างยาวนานแล้ว สมมติฐานแรก ๆ เกี่ยวกับดาวพลูโต ระบุว่าดาวพลูโตเคยเป็นดาวบริวารของดาวเนปจูนมาก่อน ก่อนที่จะถูกแรงโน้มถ่วงของไทรทันเหวี่ยงออกไป ภายหลังแนวคิดนี้ก็ถูกค้าน เนื่องจากพบว่าเป็นไปไม่ได้ที่ดาวพลูโตจะเป็นเช่นนั้น เพราะดาวพลูโตไม่เคยเข้าใกล้ดาวเนปจูนเลยสักครั้งเดียว
ตำแหน่งจริงของดาวพลูโตถูกเปิดเผยออกมาเมื่อ พ.ศ. 2535 เมื่อนักดาราศาสตร์เริ่มทำการสำรวจวัตถุน้ำแข็งขนาดเล็กในบริเวณพ้นวงโคจรของดาวเนปจูนออกไปเช่นเดียวกับ ดาวพลูโต ทั้งขนาดและองค์ประกอบ กลุ่มวัตถุพ้นดาวเนปจูนนี้เชื่อว่าจะเป็นต้นกำเนิดของ(ดาวหางคาบสั้น) ปัจจุบัน ดาวพลูโต รู้จักกันว่าเป็นสมาชิกที่ใหญ่ที่สุดในแถบไคเปอร์ แถบของวัตถุซึ่งห่างออกไป 30–50 หน่วยดาราศาสตร์จากดวงอาทิตย์ ณ ปี พ.ศ. 2554 การสำรวจแถบไคเปอร์ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์และวัตถุขนาดใกล้เคียงดาวพลูโตที่เหลือถูกคาดว่าจะอยู่ห่างออกไป 100 หน่วยดาราศาสตร์จากดวงอาทิตย์ หรือมากกว่านั้น ดาวพลูโตเหมือนกับวัตถุในแถบไคเปอร์อื่น ๆ ตรงที่สมบัติของมันไปมีร่วมกันกับดาวหาง ตัวอย่างเช่น ลมสุริยะค่อย ๆ เป่าผิวของดาวพลูโตออกไปสู่อวกาศ นักดาราศาสตร์ยังเชื่อกันว่า ถ้าดาวพลูโตอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ในระยะเดียวกับโลกแล้ว ดาวพลูโตจะมีหางเช่นเดียวกับที่ดาวหางมี การคาดการณ์นี้ตกไปเนื่องด้วยข้อถกเถียงที่ว่าความเร็วหลุดพ้นของดาวพลูโตมีมากเกินไปที่จะเป็นเช่นนั้น
แม้ดาวพลูโตจะเป็นวัตถุในแถบไคเปอร์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยค้นพบไทรทัน ดาวบริวารของดาวเนปจูน ที่มีขนาดใหญ่กว่าดาวพลูโตเล็กน้อย มีลักษณะทางภูมิศาสตร์และภูมิอากาศคล้ายคลึงกับดาวพลูโต นั่นทำให้เชื่อกันว่าไทรทัน เดิมก็เป็นวัตถุในแถบไคเปอร์ที่ถูกดาวเนปจูนดึงมา อีริสมีขนาดใกล้เคียงกับดาวพลูโต (แต่มีมวลมากกว่า) แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ถูกจัดรวมเป็นวัตถุในแถบไคเปอร์อย่างเคร่งครัดนัก มันดูค่อนข้างที่จะเป็นสมาชิกในแถบหินกระจายมากกว่า
วัตถุแถบไคเปอร์จำนวนมาก เหมือนกับดาวพลูโต มีอัตราส่วนวงโคจรเป็น 2:3 กับดาวเนปจูน วัตถุแถบไคเปอร์ที่มีอัตราส่วนวงโคจรนี้ เรียกว่า ตั้งชื่อตามดาวพลูโต
เหมือนกับดาวดวงอื่น ๆ ในแถบไคเปอร์ พลูโตถูกคาดว่าจะมีเศษซากของดาวเคราะห์เล็ก ๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่จากจานดาวเคราะห์ก่อนเกิด ซึ่งเป็นเศษดาวที่ไม่สามารถรวมตัวกันได้ในยุคเริ่มแรกของระบบสุริยะ นักดาราศาสตร์ส่วนใหญ่ยอมรับว่าดาวพลูโตอยู่ในวงโคจรดังปัจจุบันนี้ได้ เนื่องจากการย้ายตำแหน่งฉับพลัน โดยดาวเนปจูนในช่วงแรก ๆ ของระบบสุริยะ ขณะที่ดาวเนปจูนเคลื่อนออกไปเรื่อย ๆ จนถึงตำแหน่งของวัตถุในแถบไคเปอร์ก่อนเกิด ได้ดึงดาวดวงนี้มาโคจรรอบตัวเอง (ไทรทัน) และทำให้อัตราส่วนวงโคจรของดาวดวงอื่นคงที่ และบางส่วนของถูกเหวี่ยงออกไปจนกลายเป็นวงโคจรที่ผิดปกติ วัตถุในแถบหินกระจายซึ่งเป็นบริเวณที่วงโคจรไม่เสถียร อยู่พ้นจากแถบไคเปอร์ออกไป ถูกคาดว่าวัตถุต่าง ๆ ที่อยู่ในตำแหน่งนั้นปัจจุบัน เกิดจากผลกระทบที่ดาวเนปจูนเคลื่อนออกมาจากบริเวณใกล้ดวงอาทิตย์ แบบจำลองคอมพิวเตอร์ที่สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2547 โดยอาเลสซันโดร มอร์บีเดลลี จากในนิส เสนอว่าการย้ายตำแหน่งของดาวเนปจูนสู่แถบไคเปอร์นั้น อาจเกิดจากการก่อตัวของอัตราส่วนวงโคจร 1:2 ของดาวพฤหัสบดีกับดาวเสาร์ ซึ่งได้สร้างแรงผลักจากความโน้มถ่วง ทำให้วงโคจรของดาวยูเรนัสและดาวเนปจูนขยายกว้างขึ้น จนสุดท้ายเกิดการสลับที่ เป็นผลให้วัตถุแถบไคเปอร์ดั้งเดิมถูกผลักออกไปด้วย ซึ่งสามารถอธิบายถึง ที่เกิดขึ้นเมื่อ 600 ล้านปีก่อนหลังจากการก่อตัวของระบบสุริยะ และจุดกำเนิดของ มันเป็นไปได้ว่าก่อนหน้าที่ดาวเนปจูนจะย้ายตำแหน่งจนวงโคจรดาวต่าง ๆ ในตำแหน่งดั้งเดิม ดาวพลูโตเคยมีวงโคจรที่ระยะ 33 หน่วยดาราศาสตร์จากดวงอาทิตย์ แบบจำลองนิซแสดงผลว่า จะมีวัตถุขนาดเท่าดาวพลูโตจำนวนมากอยู่ในจานดาวเคราะห์ก่อนเกิดดั้งเดิม ซึ่งรวมทั้งไทรทันและอีริส
การสำรวจ
ระยะทางของดาวพลูโตถึงโลก ทำให้ยากแก่การศึกษาและการสำรวจเชิงลึก ในวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ยานอวกาศนิวฮอไรซันส์ของนาซาบินผ่านระบบดาวพลูโต และให้ข้อมูลต่างๆมากมายกลับมา
การสังเกต
ดาวพลูโตมีค่าความส่องสว่างปรากฏอยู่ที่เฉลี่ย 15.1 และสว่างขึ้นถึง 13.65 ที่ตำแหน่งใกล้ดวงอาทิตย์ เพื่อที่จะสังเกต จำเป็นต้องใช้กล้องโทรทรรศน์ขนาดประมาณ 30 เซนติเมตร (12 นิ้ว) และมีขนาดรูรับแสงพอประมาณ มันจะดูเหมือนดาวฤกษ์และไม่มีจานที่มองเห็นได้ แม้ว่าจะเป็นกล้องโทรทรรศนขนาดใหญ่ก็ตาม เพราะว่าดาวพลูโตมีขนาดเชิงมุมเพียงแค่ 0.11"
แผนที่าวพลูโตที่เก่าที่สุด ทำขึ้นในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษที่ 1980 เป็นแผนที่ความสว่างที่อิงจากการสังเกตอุปราคาระยะใกล้ โดยแครอน ดาวบริวารที่ใหญ่ที่สุดของมัน การสังเกตครั้งนั้นได้ศึกษาการเปลี่ยนแปลงในค่าความสว่างเฉลี่ยของระบบดาวพลูโต-แครอนระหว่างการเกิดอุปราคา ตัวอย่างเช่น ถ้าเกิดอุปราคา ณ จุดที่สว่างที่สุดของดาวพลูโต จะทำให้ความสว่างรวมทั้งดาวเพิ่มขึ้นมากกว่าเกิดอุปราคา ณ จุดที่มืด การประมวลผลจากคอมพิวเตอร์ของการสังเกตจำนวนมากในลักษณะนี้ ทำให้สามารถสร้างแผนที่ความสว่างได้ วิธีนี้ยังสามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงความสว่างแต่ละช่วงเวลาได้อีกด้วย
แผนที่ที่ดีกว่าถูกทำขึ้นจากภาพโดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล ซึ่งให้ความละเอียดสูงกว่า ให้รายละเอียดได้มากกว่า และยังได้แก้ไขจุดผิดพลาดเป็นระยะกว่า 100 กิโลเมตร รวมทั้งบริเวณขั้วดาวและจุดที่สว่างมากกว่า แผนที่เหล่านี้ถูกทำโดยการประมวลผลที่ซับซ้อนของคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะหาแบบแผนที่ที่สอดคล้องกับภาพจากฮับเบิล และภาพนั้นก็กลายเป็นภาพที่ละเอียดที่สุดของดาวพลูโตจนกระทั่งยานนิวฮอไรซันส์ไปถึงในปี พ.ศ. 2558 เพราะกล้องสองตัวบนฮับเบิลที่ใช้ถ่ายภาพหยุดการใช้งานแล้ว
การสำรวจ
ยานอวกาศนิวฮอไรซันส์ ซึ่งบินผ่านดาวพลูโตในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2558 เป็นยานอวกาศลำแรกและลำเดียวที่พยายามสำรวจดาวพลูโตโดยตรง ถูกปล่อยในปี พ.ศ. 2549 ถ่ายภาพดาวพลูโตภาพแรกจากระยะไกลในช่วงปลายเดือนกันยายน พ.ศ. 2549 ระหว่างการทดสอบกล้องถ่ายภาพบนยาน ตัวภาพถ่ายที่ระยะทางประมาณ 4.2 พันล้านกิโลเมตร และได้พิสูจน์ความสามารถของยานในการถ่ายภาพระยะไกลได้ โดยถ่ายขึ้นมีจุดประสงค์หลักเพื่อเคลื่อนตัวไปอย่างระมัดระวังสู่ดาวพลูโตและวัตถุในแถบไคเปอร์ ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2550 ยานอวกาศได้ใช้จากดาวพฤหัสบดี
นิวฮอไรซันส์บินเข้าใกล้ดาวพลูโตที่สุดในวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 หลังจากการเดินทางข้ามระบบสุริยะกว่า 3,462 วัน การสังเกตทางวิทยาศาสตร์ของดาวพลูโตเริ่มขึ้นตั้งแต่ 5 เดือนก่อนที่ยานจะบินผ่านดาวพลุโต และดำเนินต่อไปอีกอย่างน้อยหนึ่งเดือนหลังบินผ่าน การสังเกตดำเนินการโดยใช้อุปกรณ์สำหรับซึ่งรวมทั้งอุปกรณ์ และอุปกรณ์ส่งสัญญาณคลื่น จุดมุ่งหมายทางวิทยาศาสตร์ของยานนิวฮอไรซันส์ คือระบุรายละเอียดลักษณะทางกายภาพและสัณฐานของดาวพลูโตกับแครอน ดาวบริวารของมัน ทำแผนที่แต่ละส่วนของผิวดาว และวิเคราะห์ชั้นบรรยากาศปกติของดาวพลูโตและอัตราของหลุดออกของมัน
ภาพ
|
|
|
วิดีโอ
เชิงอรรถ
- ข้อมูลเฉลี่ยตรงนี้มาจาก Theory of the Outer Planets (TOP2013) แก้โดย Institut de mécanique céleste et de calcul des éphémérides (IMCCE) พวกเขาอ้างอิงถึงวิษุวัต J2000 อันเป็นแบรีเซนเตอร์ของระบบสิรุยะ และจุดเริ่มยุค J2000
- พื้นที่ผิวได้มาจากรัศมี r:
- ปริมาตร v ได้มาจากรัศมี r:
- ความโน้มถ่วงที่ผิวดาวได้มาจากมวล M ค่าคงตัวความโน้มถ่วง G และรัศมี r:
- ความเร็วหลุดพ้นได้มาจากมวล M ค่าคงตัวความโน้มถ่วง G และรัศมี r:
- ได้มาจากเรขาคณิตของระยะใกล้และไกลที่สุดจากโลกและรัศมีของดาวพลูโต
- ความสมดุลจะมีน้อยลงในภาษาที่สัทวิทยาของภาษานั้น แตกต่างจาก เช่น Buluuto ในภาษาโซมาลีและ Tłóotoo ใน
- การค้นพบดาวบริวารแครอนในปี พ.ศ. 2521 ทำให้นักดาราศาสตร์คำนวณมวลของระบบดาวพลูโต-แครอนได้อย่างแม่นยำ แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับมวลของวัตถุแต่ละชิ้น โดยมวลของวัตถุแต่ละชิ้นนั้น ซึ่งสามารถคาดได้หลังการค้นพบดาวบริวารดวงอื่นๆ ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2548 เนื่องจากดาวพลูโตถึงตำแหน่งไกลดวงอาทิตย์ที่สุดในปี พ.ศ. 2532 ส่วนมากจึงประมาณวันที่ดาวพลูโตอยู่ในตำแห่นงไกลดวงอาทิตย์จากมวล ณ แบรีเซนเตอร์ของระบบดาวพลูโต-แครอน แครอนอยู่ในตำแหน่งห่างจดวงอาทิตย์วันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2532 แบรีเซนเตอร์ของระบบดาวพลูโต-แครอนอยู่ในตำแหน่งห่างดวงอาทิตย์วันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2532 ดาวพลูโตอยู่ในตำแหน่งห่างอวงอาทิตย์วันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2532
- ดาวอีริส มีขนาดใกล้เคียงดาวพลูโตที่ประมาณ 2330 กิโลเมตร; แต่ดาวอีริสมีมวลมากกว่า 28% ดาวอีริสถูกจัดให้เป็น ซึ่งเป้นกลุ่มของวัตถุที่มักจะจัดแยกจากวัตถุในแถบไคเปอร์ เช่น ดาวพลูโต ดาวพลูโตจึงเป็นวัตถุในแถบไคเปอร์ที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งไม่นับวัตถุแถบหินกระจาย
รายการอ้างอิง
- Simon, J.L.; Francou, G.; Fienga, A.; Manche, H. (September 2013). "New analytical planetary theories VSOP2013 and TOP2013". Astronomy and Astrophysics. 557 (2): A49. Bibcode:2013A&A...557A..49S. doi:10.1051/0004-6361/201321843. The elements in the clearer and usual format is in the spreadsheet and the original TOP2013 elements here.
- Williams, David R. (July 24, 2015). "Pluto Fact Sheet". NASA. สืบค้นเมื่อ August 6, 2015.
- Stern, S. A.; และคณะ (2015). "The Pluto system: Initial results from its exploration by New Horizons". Science. 350 (6258): 249–352. :1510.07704. Bibcode:2015Sci...350.1815S. doi:10.1126/science.aad1815. PMID 26472913.
- Buie, Marc W.; Grundy, William M.; Young, Eliot F.; และคณะ (2006). "Orbits and photometry of Pluto's satellites: Charon, S/2005 P1, and S/2005 P2". Astronomical Journal. 132 (1): 290–298. :astro-ph/0512491. Bibcode:2006AJ....132..290B. doi:10.1086/504422.
- Archinal, B. A.; a'Hearn, M. F.; Bowell, E.; Conrad, A.; Consolmagno, G. J.; และคณะ (2010). "Report of the IAU Working Group on Cartographic Coordinates and Rotational Elements: 2009". Celestial Mechanics and Dynamical Astronomy. 109 (2): 101–135. doi:10.1007/s10569-010-9320-4.
- Amos, Jonathan (July 23, 2015). "New Horizons: Pluto may have 'nitrogen glaciers'". BBC News. สืบค้นเมื่อ July 26, 2015.
It could tell from the passage of sunlight and radiowaves through the Plutonian "air" that the pressure was only about 10 microbars at the surface
- "Pluto has carbon monoxide in its atmosphere". Physorg.com. April 19, 2011. สืบค้นเมื่อ November 22, 2011.
- JPL/NASA (2015-04-22). "What is a Dwarf Planet?". Jet Propulsion Laboratory. สืบค้นเมื่อ 2022-01-19.
- John Lewis, บ.ก. (2004). Physics and chemistry of the solar system (2 ed.). Elsevier. p. 64.
- Chang, Kenneth (July 14, 2016). "What We've Learned About Pluto - UPDATED (to July 14, 2016)". New York Times. สืบค้นเมื่อ July 14, 2016.
- Stern, S. Alan; Mitton, Jacqueline (2005). Pluto and Charon: ice worlds on the ragged edge of the solar system. Weinheim:. ISBN . สืบค้นเมื่อ July 3, 2013.
- "Astronomers Measure Mass of Largest Dwarf Planet". hubblesite. 2007. สืบค้นเมื่อ November 3, 2007.
- Akwagyiram, Alexis (August 2, 2005). "Farewell Pluto?". BBC News. สืบค้นเมื่อ March 5, 2006.
- Showalter, Mark R. (July 11, 2012). "Hubble Discovers a Fifth Moon Orbiting Pluto (News Release STScI-2012-32)". HubbleSite NewsCenter. สืบค้นเมื่อ July 11, 2012.
- Olkin, Catherine B.; Wasserman, Lawrence H.; Franz, Otto G. (2003). "The mass ratio of Charon to Pluto from Hubble Space Telescope astrometry with the fine guidance sensors" (PDF). Icarus. Lowell Observatory. 164 (1): 254–259. Bibcode:2003Icar..164..254O. doi:10.1016/S0019-1035(03)00136-2. สืบค้นเมื่อ March 13, 2007.
- "Pluto and the Developing Landscape of Our Solar System" International Astronomical Union. Retrieved on October 27, 2010.
- Bromwich, Jonah Engel; St. Fleur, Nicholas (14 September 2016). "Why Pluto's Moon Charon Wears a Red Cap". New York Times. สืบค้นเมื่อ 14 September 2016.
- Chang, Kenneth (July 14, 2015). "NASA's New Horizons Spacecraft Completes Flyby of Pluto". New York Times. สืบค้นเมื่อ July 14, 2015.
- Dunn, Marcia (July 14, 2015). "Pluto close-up: Spacecraft makes flyby of icy, mystery world". . สืบค้นเมื่อ July 14, 2015.
- Chang, Kenneth (July 18, 2015). "The Long, Strange Trip to Pluto, and How NASA Nearly Missed It". New York Times. สืบค้นเมื่อ July 19, 2015.
- Chang, Kenneth (March 17, 2016). "What We've Learned about Pluto". The New York Times. สืบค้นเมื่อ March 17, 2016.
- Talbert, Tricia (March 17, 2016). . NASA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-09-26. สืบค้นเมื่อ March 18, 2016.
- Talbert, Tricia (March 17, 2016). . NASA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-20. สืบค้นเมื่อ March 18, 2016.
- Croswell, Ken (1997). Planet Quest: The Epic Discovery of Alien Solar Systems. New York: The Free Press. p. 43. ISBN .
- (1946). "The Search for the Ninth Planet, Pluto". Astronomical Society of the Pacific Leaflets. 5: 73–80. Bibcode:1946ASPL....5...73T.
- Hoyt, William G. (1976). "W. H. Pickering's Planetary Predictions and the Discovery of Pluto". Isis. 67 (4): 551–564. doi:10.1086/351668. JSTOR 230561.
- Littman, Mark (1990). Planets Beyond: Discovering the Outer Solar System. Wiley. p. 70. ISBN .
- Buchwald, Greg; Dimario, Michael; Wild, Walter (2000). "Pluto is Discovered Back in Time". Amateur—Professional Partnerships in Astronomy. San Francisco: San Francisco: Astronomical Society of the Pacific. 220: 335. Bibcode:2000ASPC..220..355B. ISBN .
- Croswell 1997, p. 50.
- Croswell 1997, p. 52.
- Rao, Joe (March 11, 2005). "Finding Pluto: Tough Task, Even 75 Years Later". Space.com. สืบค้นเมื่อ September 8, 2006.
- Mager, Brad. "The Search Continues". Pluto: The Discovery of Planet X. สืบค้นเมื่อ November 29, 2011.
- Rincon, Paul (January 13, 2006). "The girl who named a planet". BBC News. สืบค้นเมื่อ April 12, 2007.
- "The Trans-Neptunian Body: Decision to call it Pluto". The Times. May 27, 1930. p. 15.
- "Name Pluto Given to Body Believed to Be Planet X". The New York Times. Associated Press. May 25, 1930. p. 1. ISSN 0362-4331.
Pluto, the title of the Roman gods of the region of darkness, was announced tonight at Lowell Observatory here as the name chosen for the recently discovered trans-Neptunian body, which is believed to be the long-sought Planet X.
- Croswell 1997, pp. 54–55.
- . NASA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2006-10-01. สืบค้นเมื่อ November 29, 2011.
- Heinrichs, Allison M. (2006). . Pittsburgh Tribune-Review. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-09-02. สืบค้นเมื่อ March 26, 2007.
- Clark, David L.; Hobart, David E. (2000). "Reflections on the Legacy of a Legend" (PDF). สืบค้นเมื่อ November 29, 2011.
- Renshaw, Steve; Ihara, Saori (2000). . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-07-10. สืบค้นเมื่อ November 29, 2011.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 17, 2007. สืบค้นเมื่อ June 12, 2007.
- 'Bathrobe'. "Uranus, Neptune, and Pluto in Chinese, Japanese, and Vietnamese". cjvlang.com. สืบค้นเมื่อ November 29, 2011.
- Stern, Alan; Tholen, David James (1997). Pluto and Charon. University of Arizona Press. pp. 206–208. ISBN .
- Crommelin, Andrew Claude de la Cherois (1931). "The Discovery of Pluto". Monthly Notices of the Royal Astronomical Society. 91: 380–385. Bibcode:1931MNRAS..91..380.. doi:10.1093/mnras/91.4.380.
- ; (December 1930). "The Probable Value of the Mass of Pluto". Publications of the Astronomical Society of the Pacific. 42 (250): 350. Bibcode:1930PASP...42..350N. doi:10.1086/124071.
- ; (January 1931). "Positions, Orbit, and Mass of Pluto". Astrophysical Journal. 73: 1. Bibcode:1931ApJ....73....1N. doi:10.1086/143288.
- Kuiper, Gerard P. (1950). "The Diameter of Pluto". Publications of the Astronomical Society of the Pacific. 62 (366): 133–137. Bibcode:1950PASP...62..133K. doi:10.1086/126255.
- Croswell 1997, p. 57.
- Christy, James W.; (1978). "The Satellite of Pluto". Astronomical Journal. 83 (8): 1005–1008. Bibcode:1978AJ.....83.1005C. doi:10.1086/112284.
- Seidelmann, P. Kenneth; (1988). "Planet X – The current status". Celestial Mechanics and Dynamical Astronomy. 43: 55–68. Bibcode:1987CeMec..43...55S. doi:10.1007/BF01234554. สืบค้นเมื่อ November 29, 2011.[]
- Standage, Tom (2000). The Neptune File. Penguin. p. 168. ISBN .
- . The Astronomical Society of the Pacific. June 28, 1994. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-05-12. สืบค้นเมื่อ November 29, 2011.
- Standish, E. Myles (1993). "Planet X—No dynamical evidence in the optical observations". Astronomical Journal. 105 (5): 200–2006. Bibcode:1993AJ....105.2000S. doi:10.1086/116575.
- Tyson, Neil deGrasse (February 2, 2001). "Astronomer Responds to Pluto-Not-a-Planet Claim". Space.com. สืบค้นเมื่อ November 30, 2011.
- "NASA-Funded Scientists Discover Tenth Planet". NASA press releases. July 29, 2005. สืบค้นเมื่อ February 22, 2007.
- Soter, Steven (2007). "What is a Planet?". The Astronomical Journal. Department of Astrophysics, American Museum of Natural History. 132 (6): 2513–2519. :astro-ph/0608359. Bibcode:2006AJ....132.2513S. doi:10.1086/508861.
- "IAU 2006 General Assembly: Resolutions 5 and 6" (PDF). IAU. August 24, 2006.
- "IAU 2006 General Assembly: Result of the IAU Resolution votes". International Astronomical Union (News Release – IAU0603). August 24, 2006. สืบค้นเมื่อ June 15, 2008.
- Green, Daniel W. E. (September 13, 2006). (PDF). IAU Circular. 8747. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 5, 2007. สืบค้นเมื่อ December 1, 2011.
- "JPL Small-Body Database Browser". California Institute of Technology. สืบค้นเมื่อ 15 July 2015.
- Britt, Robert Roy (August 24, 2006). "Pluto Demoted: No Longer a Planet in Highly Controversial Definition". Space.com. สืบค้นเมื่อ September 8, 2006.
- Ruibal, Sal (January 6, 1999). "Astronomers question if Pluto is real planet". USA Today.
- Britt, Robert Roy (November 21, 2006). "Why Planets Will Never Be Defined". Space.com. สืบค้นเมื่อ December 1, 2006.
- Britt, Robert Roy (August 24, 2006). "Scientists decide Pluto's no longer a planet". MSNBC. สืบค้นเมื่อ September 8, 2006.
- . News.discovery.com. May 14, 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-05-05. สืบค้นเมื่อ November 4, 2011.
- Shiga, David (August 25, 2006). "New planet definition sparks furore". NewScientist.com. สืบค้นเมื่อ September 8, 2006.
- Buie, Marc W. (September 2006). . Southwest Research Institute. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 3, 2007. สืบค้นเมื่อ December 1, 2011.
- Overbye, Dennis (August 24, 2006). "Pluto Is Demoted to 'Dwarf Planet'". The New York Times. สืบค้นเมื่อ December 1, 2011.
- "'Plutoed' chosen as '06 Word of the Year". Associated Press. January 8, 2007. สืบค้นเมื่อ January 10, 2007.
- "Horizon Online Ephemeris System for Pluto Barycenter". @ Solar System Dynamics Group. สืบค้นเมื่อ January 16, 2011. (set Observer Location to @0 to place the observer at the center of the Sun-Jupiter system)
- . JPL/NASA. January 28, 1999. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-09-02. สืบค้นเมื่อ January 16, 2011.
- Sussman, Gerald Jay; Wisdom, Jack (1988). "Numerical evidence that the motion of Pluto is chaotic". Science. 241 (4864): 433–437. Bibcode:1988Sci...241..433S. doi:10.1126/science.241.4864.433. PMID 17792606.
- Wisdom, Jack; Holman, Matthew (1991). "Symplectic maps for the n-body problem". Astronomical Journal. 102: 1528–1538. Bibcode:1991AJ....102.1528W. doi:10.1086/115978.
- Wan, Xiao-Sheng; Huang, Tian-Yi; Innanen, Kim A. (2001). "The 1:1 Superresonance in Pluto's Motion". The Astronomical Journal. 121 (2): 1155–1162. Bibcode:2001AJ....121.1155W. doi:10.1086/318733.
- Hunter, Maxwell W. (2004). "Unmanned scientific exploration throughout the Solar System". Space Science Reviews. 6 (5): 501. Bibcode:1967SSRv....6..601H. doi:10.1007/BF00168793.
- Malhotra, Renu (1997). "Pluto's Orbit". สืบค้นเมื่อ March 26, 2007.
- Williams, David R. (November 17, 2010). "Planetary Fact Sheet – Metric". NASA Goddard Space Flight Center. สืบค้นเมื่อ November 29, 2011.
- Alfvén, Hannes; Arrhenius, Gustaf (1976). "SP-345 Evolution of the Solar System". สืบค้นเมื่อ March 28, 2007.
- Williams, James G.; Benson, G. S. (1971). "Resonances in the Neptune-Pluto System". Astronomical Journal. 76: 167. Bibcode:1971AJ.....76..167W. doi:10.1086/111100.
- de la Fuente Marcos, Carlos; de la Fuente Marcos, Raúl (2012). "Plutino 15810 (1994 JR1), an accidental quasi-satellite of Pluto". Monthly Notices of the Royal Astronomical Society Letters. 427: L85. :1209.3116. Bibcode:2012MNRAS.427L..85D. doi:10.1111/j.1745-3933.2012.01350.x.
- "Pluto's fake moon". สืบค้นเมื่อ September 24, 2012.
- Faure, Gunter; Mensing, Teresa M. (2007). Pluto and Charon: The Odd Couple. Introduction to Planetary Science. Springer. pp. 401–408. doi:10.1007/978-1-4020-5544-7. ISBN .
- Schombert, Jim; University of Oregon Astronomy 121 Lecture notes 2011-07-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Pluto Orientation diagram 2009-03-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- "Pluto Time". NASA Solar System Exploration. สืบค้นเมื่อ 13 July 2015.
- . NASA. 5 June 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-02-06. สืบค้นเมื่อ 2015-09-29.
- "NOAA Solar Calculator". NOAA Earth System Research Laboratory Global Monitoring Division. สืบค้นเมื่อ 13 July 2015.
- Brown, Dwayne; Buckley, Michael; Stothoff, Maria (15 January 2015). "January 15, 2015 Release 15-011 – NASA's New Horizons Spacecraft Begins First Stages of Pluto Encounter". NASA. สืบค้นเมื่อ 15 January 2015.
- "New Horizons". pluto.jhuapl.edu. สืบค้นเมื่อ 2016-05-15.
- Owen, Tobias C.; Roush, Ted L.; Cruikshank, Dale P.; และคณะ (1993). "Surface Ices and the Atmospheric Composition of Pluto". Science. 261 (5122): 745–748. Bibcode:1993Sci...261..745O. doi:10.1126/science.261.5122.745. JSTOR 2882241. PMID 17757212.
- Grundy, W. M.; Olkin, C. B.; Young, L. A.; Buie, M. W.; Young, E. F. (2013). (PDF). Icarus. 223 (2): 710–721. :1301.6284. Bibcode:2013Icar..223..710G. doi:10.1016/j.icarus.2013.01.019. S2CID 26293543. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ November 8, 2015.
- Buie, Marc W.; Grundy, William M.; Young, Eliot F.; และคณะ (2010). "Pluto and Charon with the Hubble Space Telescope: I. Monitoring global change and improved surface properties from light curves". Astronomical Journal. 139 (3): 1117–1127. Bibcode:2010AJ....139.1117B. doi:10.1088/0004-6256/139/3/1117.
- Buie, Marc W. "Pluto map information". สืบค้นเมื่อ February 10, 2010.
- Buie, Marc W.; Grundy, William M.; Young, Eliot F.; และคณะ (2010). "Pluto and Charon with the Hubble Space Telescope: II. Resolving changes on Pluto's surface and a map for Charon". Astronomical Journal. 139 (3): 1128–1143. Bibcode:2010AJ....139.1128B. doi:10.1088/0004-6256/139/3/1128.
- (2015-12-21). "Pluto updates from AGU and DPS: Pretty pictures from a confusing world". . สืบค้นเมื่อ 2016-01-24.
- Umurhan, O. (2016-01-08). "Probing the Mysterious Glacial Flow on Pluto's Frozen 'Heart'". blogs.nasa.gov. NASA. สืบค้นเมื่อ 2016-01-24.
- Marchis, F.; Trilling, D. E. (2016-01-20). "The Surface Age of Sputnik Planum, Pluto, Must Be Less than 10 Million Years". PLOS ONE. 11 (1): e0147386. :1601.02833. Bibcode:2016PLoSO..1147386T. doi:10.1371/journal.pone.0147386.
- Hussmann, Hauke; Sohl, Frank; Spohn, Tilman (November 2006). "Subsurface oceans and deep interiors of medium-sized outer planet satellites and large trans-neptunian objects" (PDF). . 185 (1): 258–273. Bibcode:2006Icar..185..258H. doi:10.1016/j.icarus.2006.06.005.
- . pluto.jhuapl.edu – NASA New Horizons mission site. Johns Hopkins University Applied Physics Laboratory. 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-10-05. สืบค้นเมื่อ February 15, 2014.
- Millis, Robert L.; Wasserman, Lawrence H.; Franz, Otto G.; และคณะ (1993). "Pluto's radius and atmosphere – Results from the entire 9 June 1988 occultation data set". Icarus. 105 (2): 282–297. Bibcode:1993Icar..105..282M. doi:10.1006/icar.1993.1126.
- Brown, Michael E. (November 22, 2010). "How big is Pluto, anyway?". Mike Brown's Planets. สืบค้นเมื่อ June 9, 2015. (Franck Marchis on 8 November 2010)
- Young, Eliot F.; Binzel, Richard P. (1994). "A new determination of radii and limb parameters for Pluto and Charon from mutual event lightcurves". Icarus. 108 (2): 219–224. Bibcode:1994Icar..108..219Y. doi:10.1006/icar.1994.1056.
- Young, Eliot F.; Young, Leslie A.; Buie, Marc W. (2007). "Pluto's Radius". American Astronomical Society, DPS meeting No. 39, #62.05; Bulletin of the American Astronomical Society. 39: 541. Bibcode:2007DPS....39.6205Y.
- Zalucha, Angela M.; Gulbis, Amanda A. S.; Zhu, Xun; และคณะ (2011). "An analysis of Pluto occultation light curves using an atmospheric radiative-conductive model". Icarus. 211 (1): 804–818. Bibcode:2011Icar..211..804Z. doi:10.1016/j.icarus.2010.08.018.
- Lellouch, Emmanuel; de Bergh, Catherine; Sicardy, Bruno; และคณะ (January 15, 2015). "Exploring the spatial, temporal, and vertical distribution of methane in Pluto's atmosphere". Icarus. 246: 268–278. :1403.3208. Bibcode:2015Icar..246..268L. doi:10.1016/j.icarus.2014.03.027.
- NASA's New Horizons Team Reveals New Scientific Findings on Pluto. NASA. July 24, 2015. เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ 52:30. สืบค้นเมื่อ July 30, 2015.
We had an uncertainty that ranged over maybe 70 kilometers, we've collapsed that to plus and minus two, and it's centered around 1186
- Davies, John (2001). "Beyond Pluto (extract)" (PDF). Royal Observatory, Edinburgh. สืบค้นเมื่อ March 26, 2007.
- Close, Laird M.; Merline, William J.; Tholen, David J.; และคณะ (2000). "Adaptive optics imaging of Pluto–Charon and the discovery of a moon around the Asteroid 45 Eugenia: the potential of adaptive optics in planetary astronomy". Proceedings of the International Society for Optical Engineering. Adaptive Optical Systems Technology. 4007: 787–795. Bibcode:2000SPIE.4007..787C. doi:10.1117/12.390379. S2CID 122678656.
- . NASA. July 13, 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-07-01. สืบค้นเมื่อ July 13, 2015.
- Lakdawalla, Emily (July 13, 2015). "Pluto minus one day: Very first New Horizons Pluto encounter science results". . สืบค้นเมื่อ July 13, 2015.
- "Conditions on Pluto: Incredibly Hazy With Flowing Ice". New York Times. July 24, 2015. สืบค้นเมื่อ July 24, 2015.
- Croswell, Ken (1992). "Nitrogen in Pluto's Atmosphere". KenCroswell.com. . สืบค้นเมื่อ April 27, 2007.
- Than, Ker (2006). "Astronomers: Pluto colder than expected". Space.com (via CNN.com). สืบค้นเมื่อ November 30, 2011.
- Olkin, C. B.; Young, L. A.; Borncamp, D.; และคณะ (January 2015). "Evidence that Pluto's atmosphere does not collapse from occultations including the 2013 May 04 event". Icarus. 246: 220–225. Bibcode:2015Icar..246..220O. doi:10.1016/j.icarus.2014.03.026.
- Kelly Beatty (2016). "Pluto's Atmosphere Confounds Researchers". Sky & Telescope. สืบค้นเมื่อ 2016-04-02.
- Lellouch, Emmanuel; Sicardy, Bruno; de Bergh, Catherine; และคณะ (2009). "Pluto's lower atmosphere structure and methane abundance from high-resolution spectroscopy and stellar occultations". Astronomy and Astrophysics. 495 (3): L17–L21. :0901.4882. Bibcode:2009A&A...495L..17L. doi:10.1051/0004-6361/200911633.
- Gugliotta, Guy (November 1, 2005). "Possible New Moons for Pluto". Washington Post. สืบค้นเมื่อ October 10, 2006.
- "NASA's Hubble Discovers Another Moon Around Pluto". NASA. July 20, 2011. สืบค้นเมื่อ July 20, 2011.
- Wall, Mike (July 11, 2012). "Pluto Has a Fifth Moon, Hubble Telescope Reveals". Space.com. สืบค้นเมื่อ July 11, 2012.
- Buie, M.; Tholen, D.; Grundy, W. (2012). "The Orbit of Charon is Circular". The Astronomical Journal. 144: 15. Bibcode:2012AJ....144...15B. doi:10.1088/0004-6256/144/1/15.
- ; Hamilton, D. P. (June 3, 2015). "Resonant interactions and chaotic rotation of Pluto's small moons". Nature. 522 (7554): 45–49. Bibcode:2015Natur.522...45S. doi:10.1038/nature14469. PMID 26040889.
- Stern, S. Alan; Weaver, Harold A., Jr.; Steffl, Andrew J.; และคณะ (2005). "Characteristics and Origin of the Quadruple System at Pluto". Submitted to Nature. :astro-ph/0512599.
- Witze, Alexandra (2015). "Pluto's moons move in synchrony". Nature. doi:10.1038/nature.2015.17681.
- Matson, J. (July 11, 2012). "New Moon for Pluto: Hubble Telescope Spots a 5th Plutonian Satellite". web site. สืบค้นเมื่อ July 12, 2012.
- Richardson, Derek C.; Walsh, Kevin J. (2005). "Binary Minor Planets". Annual Review of Earth and Planetary Sciences. 34 (1): 47–81. Bibcode:2006AREPS..34...47R. doi:10.1146/annurev.earth.32.101802.120208.
- Sicardy, Bruno; Bellucci, Aurélie; Gendron, Éric; และคณะ (2006). "Charon's size and an upper limit on its atmosphere from a stellar occultation". Nature. 439 (7072): 52–4. Bibcode:2006Natur.439...52S. doi:10.1038/nature04351. PMID 16397493.
- Young, Leslie A. (1997). "The Once and Future Pluto". Southwest Research Institute, Boulder, Colorado. สืบค้นเมื่อ March 26, 2007.
- "Charon: An ice machine in the ultimate deep freeze". Gemini Observatory News Release. 2007. สืบค้นเมื่อ July 18, 2007.
- "NASA's Hubble Finds Pluto's Moons Tumbling in Absolute Chaos". สืบค้นเมื่อ June 3, 2015.
- "Pluto's moons are even weirder than thought". สืบค้นเมื่อ June 20, 2015.
- "Pluto's moons dance to a random beat". สืบค้นเมื่อ June 20, 2015.
- "HubbleSite – NewsCenter – Hubble Finds Two Chaotically Tumbling Pluto Moons (06/03/2015) – Introduction". hubblesite.org. สืบค้นเมื่อ June 3, 2015.
- ; Tholen, David J. (1997). Pluto and Charon. . p. 623. ISBN .
- ; ; ; และคณะ (2011). "A Southern Sky and Galactic Plane Survey for Bright Kuiper Belt Objects". Astronomical Journal. 142 (4): 98. :1107.5309. Bibcode:2011AJ....142...98S. doi:10.1088/0004-6256/142/4/98.
- . pluto.jhuapl.edu – NASA New Horizons mission site. Johns Hopkins University Applied Physics Laboratory. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 13, 2014. สืบค้นเมื่อ February 15, 2014.
- Tyson, Neil deGrasse (1999). . The Planetary Society. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 27, 2011. สืบค้นเมื่อ November 30, 2011.
- "Nine Reasons Why Pluto Is a Planet" by Philip Metzger
- . The Planetary Society. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 10, 2011. สืบค้นเมื่อ November 30, 2011.
- (2004). . University of Hawaii. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 19, 2007. สืบค้นเมื่อ March 26, 2007.
- Hahn, Joseph M. (2005). "Neptune's Migration into a Stirred–Up Kuiper Belt: A Detailed Comparison of Simulations to Observations" (PDF). Saint Mary's University. สืบค้นเมื่อ March 5, 2008.
- Levison, Harold F.; Morbidelli, Alessandro; Van Laerhoven, Christa; และคณะ (2007). "Origin of the Structure of the Kuiper Belt during a Dynamical Instability in the Orbits of Uranus and Neptune". Icarus. 196 (1): 258–273. :0712.0553. Bibcode:2008Icar..196..258L. doi:10.1016/j.icarus.2007.11.035.
- Malhotra, Renu (1995). "The Origin of Pluto's Orbit: Implications for the Solar System Beyond Neptune". Astronomical Journal. 110: 420. :astro-ph/9504036. Bibcode:1995AJ....110..420M. doi:10.1086/117532.
- . Singapore Science Centre. 2002. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 11, 2005. สืบค้นเมื่อ November 29, 2011.
- Young, Eliot F.; Binzel, Richard P.; Crane, Keenan (2001). "A Two-Color Map of Pluto's Sub-Charon Hemisphere". The Astronomical Journal. 121 (1): 552–561. Bibcode:2001AJ....121..552Y. doi:10.1086/318008.
- Buie, Marc W.; Tholen, David J.; Horne, Keith (1992). "Albedo maps of Pluto and Charon: Initial mutual event results". Icarus. 97 (2): 221–227. Bibcode:1992Icar...97..211B. doi:10.1016/0019-1035(92)90129-U.
- Buie, Marc W. "How the Pluto maps were made". สืบค้นเมื่อ February 10, 2010.
- "New Horizons, Not Quite to Jupiter, Makes First Pluto Sighting". pluto.jhuapl.edu – NASA New Horizons mission site. Johns Hopkins University Applied Physics Laboratory. November 28, 2006. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-03-09. สืบค้นเมื่อ November 29, 2011.
- Talbert, Tricia (September 10, 2015). "New Pluto Images from NASA's New Horizons: It's Complicated". NASA. สืบค้นเมื่อ September 10, 2015.
- Chang, Kenneth (September 10, 2015). "No Surf, but Maybe Dunes in NASA's Latest Pluto Photos". New York Times. สืบค้นเมื่อ September 10, 2015.
แหล่งข้อมูลอื่น
- New Horizons homepage
- Pluto Profile 2015-11-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน at NASA's Solar System Exploration site
- NASA Pluto factsheet
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
dawphluot xngkvs Pluto dchnidawekhraahnxy 134340 phluot sylksn hrux epndawekhraahaekhrainaethbikhepxr wngaehwnkhxngwtthuphndawenpcun odyepnwtthuaethbikhepxrchinaerkthithukkhnphb mnmikhnadihythisudaelamimwlmakthisudepnxndbsxnginbrrdadawekhraahaekhrathiruckinrabbsuriya aelayngepnwtthuthimikhnadihyepnxndbthi 9 aelamwlmakepnxndbthi 10 inrabbsuriyathiokhcrrxbdwngxathity dawphluotepnwtthuaethbikhepxrthiihythisudodyprimatr aetmimwlnxykwaxiris sungepnwtthuinaethbhinkracay dawphluotmilksnaehmuxnkbwtthuxun inbriewnediywkn klawkhux prakxbipdwyhinaelanaaekhngepnswnihy mimwlaelaprimatrpraman 1 in 6 aela 1 in 3 khxngdwngcnthrtamladb wngokhcrkhxngdawphluotmikhwameyuxngsunyklangmak xyuthi 30 thung 49 hnwydarasastr 4 4 7 4 phnlankiolemtr cakdwngxathity hmaykhwamwaemuxdawphluotxyuintaaehnngthiikldwngxathitymakthisud mncaxyuiklkwawngokhcrkhxngdawenpcunesiyxik aetenuxngdwykarsnphxngkhxngwngokhcr thaihdawekhraahthngsxngdwngimsamarthokhcrmachnknid inpi ph s 2557 dawphluotmirayahangcakdwngxathitypraman 32 6 hnwydarasastr aesngcakdwngxathityichewlapraman 5 5 chwomng thungcaipthungdawphluotthirayathangechliy 39 5 hnwydarasastr dawphluot phaphthaysikhxngdawphluotcakyan niwhxirsns emuxwnthi 14 krkdakhm 2558karkhnphbkhnphbody ikhld thxmbxkhnphbemux 18 kumphaphnth ph s 2473chnidkhxngdawekhraahnxy dawekhraahaekhra wtthuphndawenpcun wtthuinaethbikhepxrlksnakhxngwngokhcrtnyukhxangxing J2000rayacudikl dwngxathitythisud 7 375 927 931 km 49 30503287 hnwydarasastr rayacudikl dwngxathitythisud 4 436 824 613 km 29 65834067 hnwydarasastr kungaeknexk 5 906 376 272 km 39 48168677 hnwydarasastr esnrxbwng khxngwngokhcr 36 530 ethraemtr 244 186 hnwydarasastr khwameyuxngsunyklang 0 24880766khabdarakhti 90 613 3058 wn 248 09 picueliyn khabsinxdik 366 74 wnxtraerwechliy inwngokhcr 4 666 km winathixtraerwsungsud inwngokhcr 6 112 km winathixtraerwtasud inwngokhcr 3 676 km winathikhwamexiyng 17 14175 11 88 kbsunysutrdwngxathity lxngcicud khxngcudohndkhun 110 30347 mumkhxngcud ikldwngxathitythisud 113 76329 canwndawbriwar 5lksnathangkayphaphesnphansunyklangechliy 2 374 8 km 0 180 olk phunthiphiw 1 765 107km 0 035 olk primatr 7 15 109 0 0066 olk mwl 1 305 0 007 1022kk 0 002 18 olk khwamhnaaennechliy 1 87 krm sm khwamonmthwng thisunysutr 0 620 emtr winathi 0 063 ci khwamerwhludphn 1 212 km winathikhabkarhmun rxbtwexng 6 387 230 wn 6 wn 9 chwomng 17 nathi 36 winathi khwamerwkarhmun rxbtwexng 47 18 km chm khwamexiyngkhxngaekn 119 591 irtaexsesnchn khxngkhwehnux 313 02 20 chm 52 nathi 5 winathi edkhlienchn khxngkhwehnux 6 163 xtraswnsathxn 0 30xunhphumiphunphiw ekhlwintasudechliysungsud33 K44 K 229 C 55 Kkhnadechingmum 0 065 thung 0 115 lksnakhxngbrryakaskhwamdnbrryakas thiphunphiw 1 paskal 2015 xngkhprakxb inotrecn miethn kharbxn aela kharbxnmxnxkisd dawphluotthukkhnphbinpi ph s 2473 odyikhld thxmbx aelathukcdihepndawekhraahdwngthi 9 thiokhcrrxbdwngxathity sthanakarepndawekhraahkhxngmnerimepnthisngsyemuxmikarkhnphbwtthupraephthediywkncanwnmaksungthukkhnphbinphayhlnginbriewnaethbikhepxr khwamruthiwadawphluotepndawekhraahhinkhnadihythiepnnaaekhngerimthukkhdkhancaknkdarasastrhlaykhnthieriykrxngihmikarcdsthanakhxngdawphluotihm inpi ph s 2548 mikarkhnphbxiris wtthuinaethbhinkracay sungmikhnadihykwadawphluot 27 sungthaihshphnthdarasastrsakl IAU cdkarprachumsungekiywkbkartng niyam khxngdawekhraahkhunmakhrngaerk inpiediywkn hlngsinsudkarprachum dawphluotthukldsthanaihepnklum dawekhraahaekhra aetyngminkdarasastrbangkhnthiyngkhngcdihdawphluotepndawekhraah dawphluotmidawbriwarthithrabaelw 5 dwng idaek aekhrxn mikhnadihythisud odymiesnphansunyklangepnkhrunghnungkhxngdawphluot stiks niks ekhxrebxrxs aelaihdra bangkhrngdawphluotaelaaekhrxnthukcdepnrabbdawkhu enuxngcakcudsunyklangmwlkhxngwngokhcrimidxyuindawdwngiddwnghnungechphaa ixexyuyngimmikarihkhaniyamkhxngrabbdawekhraahaekhrakhuxyangepnthangkar aelaaekhrxnklayepndawbriwarkhxngdawphluotxyangepnthangkaraelw ineduxnknyayn ph s 2559 nkdarasastrprakaswabriewnsinatalaedngthikhwolkkhxngaekhrxnnn mixngkhprakxbkhxng sarprakxbxinthriykhnadihythixacepntnkaenidkhxngsingmichiwit aelaphlitidcakmiethn inotrecn aelaaeksthiekiywkhxngsungplxyxxkmacakchnbrryakaskhxngdawphluot aelaekhluxnthiepnrayathangkwa 19 000 kiolemtr rxbdawbriwar inwnthi 14 krkdakhm ph s 2558 yanxwkasniwhxirsnsklayepnyanxwkaslaaerkthibinphandawphluotsaercrahwangesnthangniwhxirsnskidekbkhxmultang ekiywkbdawphluotaeladawbriwarkhxngmnipdwyprawtikarkhnphb inchwngkhristthswrrsthi 1840 xuraebng elx aewriey idichklsastraebbchbbephuxthanaytaaehnngkhxngdawenpcun sunginkhnannyngimthukkhnphb hlngcakthiphbwadawyuernsmiwngokhcrthiimtrngkbkarkhanwn karsarwcdawenpcuninchwngplaykhriststwrrsthi 19 idnaphaihnkdarasastrkhadedaknwaehtuthiwngokhcrkhxngdawyuernskhladekhluxnenuxngdwyaerngdungdudkhxngdawekhraahxikdwnghnungsungthdcakdawenpcunxxkip inpi ph s 2449 epxrsiwl olewll esrsthinkhrbxstn phusungkxtng inaeflksaetff rthaexriosna inpi ph s 2437 iderimpharkickarkhnhadawekhraahdwngthieka ekhaidihchuxiwwa dawekhraah X inpi ph s 2452 olewllaela idesnxphikddarasastrthiepnipidkhxngdawekhraahni olewllaelathanghxdudawkhxngekhayngkhngdaeninkarkhnhatxip cnkrathngolewllesiychiwitinpi ph s 2459 aetkimidthaihkarkhnhahyudchangklng kxnkaresiychiwitkhxngolewll khnasarwckhxngekhakidthayphapheblxkhxngdawphluotsxngphaph phaphaerkthayemuxwnthi 19 minakhm aelaxikphaphthayemuxwnthi 7 emsayn ph s 2458 aetphwkekhakimidyxmrbinsingthiphwkekhaphb nxkcaknnyngmikarsarwc 14 khrng odykhrngekaaekthisudmikhunthi emuxwnthi 20 singhakhm ph s 2452 phaphthaykhxngdawphluot enuxngcakkartxsuthangkdhmaykhxngkhxnsaetns olewll phrryahmaykhxngephxrsiwl phuthiphyayamnaswnidkwahnunglandxllarkhxnghxdudawipichephuxpraoychnswntw thaihkarkhnhadawekhraah X hyudchangk cnkrathng ph s 2472 emux ewsot emlwin sliefxr idyunpharkickarkhnhadawekhraah X ihkb ikhld thxmbx sunginkhnannxayuid 23 pi phuthisungmathunghxdudawolewll hlngcakthisliefxrsnicinintwxyangkhxngphaphwadthangdarasastrkhxngekha hnathikhxngthxmbxkhuxkarthayphaphthxngfayamklangkhunepncanwnhlaysibphaph aelwwiekhraahaetlaphaphwamiwtthuidinphaphehlannthiepliyntaaehnng odyichtwepriybethiyb ekhaidslbphaph 14 phaphipma ephuxsrangkarekhluxnthiesmuxnkhxngwtthuidthiepliyntaaehnnghruxpraktkhunrahwangphaphthay inwnthi 18 kumphaphnth ph s 2473 sungkarsarwclwngelyipekuxbpiaelw thxmbxkhnphbwtthuchunhnungthiepliyntaaehnngcakphaphthaykhxngwnthi 23 aela 29 mkrakhmkhxngpinn aelaidphaphkhunphaphtathithayemuxwnthi 21 mkrakhm epntwchwyyunynkarekhluxnthini hlngcakthithanghxdudawidtrwcsxbphaphthaywathuktxngaelw khawkhxngkarkhnphbdawekhraahdwngihmkthukprakasxxkipthangothrelkhkhxng inwnthi 13 minakhm ph s 2473 chux karkhnphbniepnpraednihyipthwolk idrbsiththiinkartngchuxwtthuihmni odyidrbchuxthithukesnxmakkwa 1 000 chuxcakthwthukmumolk eriyngcakaextlasthungisml thxmbxkratunihsliefxrerngkartngchuxwtthuihmnikxnthicamikhnxuntngchuxih khxnsaetns olewllidesnxchux sus aelwepxrsiwl aelasudthaykhxnsaetns aetchuxehlaniktkip chuxkhxngphluot tngtamchuxkhxngethphecaaehngymolk thukesnxody ph s 2461 ph s 2552 nkeriynhyingwy 11 piinxxksfxrd praethsxngkvs odyethxkalngsnicin ethxesnxchuxnirahwangkarsnthnakb takhxngethx xditbrrrnarkskhxngmhawithyalyxxksfxrd aelamadankesnxchuxniipyng sastracarydarasastr aelaekhaknaipbxkkbephuxnrwmnganinshrthxemrika wtthunithuktngchuxxyangepnthangkaremuxwnthi 24 minakhm ph s 2473 odykarxxkesiyngkhxngsmachikinhxdudawolewllthikhdeluxkchuxcnehluxephiyngsamchux idaek mienxrwa sungidnaiptngchuxepndawekhraahnxyaelw okhrns sungimidrbkhwamniymenuxngcakthukesnxodynkdarasastrirchuxesiyng aelaphluot odysmachikthukkhnidlngkhaaennihchuxphluotthnghmd chuxidthukprakasinwnthi 1 phvsphakhm ph s 2473 aelacakkarprakasnimadanidmxbengincanwn 5 pxnd ethakb 300 pxnd hrux 450 dxllarshrth in ph s 2558 ihaekewenethiyepnrangwl chuxxikchuxhnungkhxngdawphluotidrbaerngbndaliccakkhxethccringthiwa sxngxksraerkkhxngchux phluot epntwyxkhxngepxrsiwl olewll thaihsylksnthangdarasastrkhxngdawphluot Unicode U 2647 thuksrangkhuncakkarprakxbknkhxngtwxksr P aela Lkhxngdawphluotkhlaykbkhxngdawenpcun aetaekhmiwngklmaethnthingamaehlmklangkhxngsamngam phayhlngchuxniidrbkhwamniymxyangkwangkhwang inpi ph s 2473 wxlt disniyidrbaerngbndalicodyekhaidesnxephuxnsunkhkhxngmikki emas wa thungaemwa phuthaphaphekhluxnihwkhxngdisniy imsamarthchichdidwathaimchuxnicungthuktngih in ph s 2484 eklnn thi sibxrk tngchuxthatuthikhnphbihmwa thatuphluotheniym sungtngchuxtam dawphluot sungepnkartngchuxthatuxyangtxenuxngkbdawekhraahthikhnphbihmlasud idaek yuereniym sungtngchuxtamdawyuerns enpthueniym sungtngchuxtamdawenpcun hlayphasaichchuxphluotinrupaebbthitangknxxkip inyipun esnxwakhaaeplwa emaxioxesxi 冥王星 aeplwa dawaehngethphecaymolk aelakhaaeplniyngthukichinphasacin ekahli aelaewiydnam phasaxinediybangphasayngkhngichkhawa phluot epnchuxdawehmuxnedim aetxun echn phasahindi ichkhawa yama ethphecaaehngkhwamtayinethphpkrnmphuththaelahindu echnediywkbewiydnam yngechuxmchuxdawkbchuxkhxngethphecaymolk echn in karphisucndawekhraah X txnthiphbdawphluotkhrngaerk khwamphramwaelakhwamimechuxmtxkhxngphaphthaythiid thaihekidkhwamimaenchdwacaepndawekhraah X khxngolewll karpramankhamwlkhxngdawphluotmikhanxylngeruxyinchwngkhriststwrrsthi 20 karpramankhamwldawphluot pi mwl pramankhaodyph s 2458 7 ethakhxngolk olewll karthanaysahrbdawekhraah X ph s 2474 ethakbolk amp ph s 2491 0 1 1 10 ethakhxngolk ikhepxrph s 2519 0 01 1 100 ethakhxngolk flichechxr amp ph s 2521 0 0015 1 650 ethakhxngolk amp ph s 2549 0 00218 1 459 ethakhxngolk et al nkdarasastrkhanwnmwlkhxngdawphluotinkhntn odypramancakphlkrathbkhxngdawyuernsaeladawenpcun inpi ph s 2474 mwldawphluotthukkhanwnxxkmawamikhaiklekhiyngkbmwlolk karkhanwninpi ph s 2491 idldkhamwlkhxngdawphluotlngipxyuthiiklekhiyngkbmwlkhxngdawxngkhar inpi ph s 2519 edl khrukchngkh kharl flichechxr aelaedwid mxrrisnkhxngmhawithyalyhawaykhanwnkhakhxngdawphluotepnkhrngaerk aelaphbwakhathiidiptrngkbkhakhxngnaaekhngmiethn hmaykhwamwadawphluotcatxngswangepnphiesssahrbkhnadkhxngmn dngnndawphluotcungkhwrmimwlnxykwa 1 khxngolk khwamsathxnaesngkhxngdawphluotxyuthi 1 3 2 0 ethakhxngolk inpi ph s 2521 karkhnphb aekhrxn dawbriwarkhxngdawphluot idklayepntwchwyinkarkhanwnhakhamwldawphluot odyidphlxxkmawamwlkhxngdawphluotmikhaethakb 0 2 khxngmwlolk sungmikhanxyekinkwathicasngphlkrathbtxwngokhcrkhxngdawyuerns thaihkarkhnhadawekhraah X yngkhngmitxip naody aetkphidphladip inpi ph s 2535 ichkhxmulkhxngdawenpcunthiidcakyanwxyexcecxr 2 inpi ph s 2532 sungihkhamwlkhxngdawenpcunnxylngipkwakhaedim 0 5 sungethiybidkbmwlkhxngdawxngkhar thaihtxngmikarkhanwnphlkrathbkhwamonmthwngkhxngwngokhcrdawyuernsihm dwykhaihmthiid thaihphwkekhaimcaepnthicatxngkhnhadawekhraah X xiktxip thukwnni nkwithyasastrswnihyechuxknwadawekhraah X thiolewllidklawiwnnimmixyucring olewllidthanaywngokhcraelataaehnngkhxngdawekhraah X inpi ph s 2458 wawngokhcraelataaehnngkhxngdawekhraah X caxyuiklkbwngokhcrcringkhxngdawphluotinewlannmak idsrupekiywkbkarkhnphbdawphluotwaepnehtubngexiy aetkarsarwckyngkhngmitxip karcdpraephth phaphkarepriybethiyb dawphluot xiris makhimakhi ehaemxa esdna aela olk klxngni duaek nbtngaet ph s 2535 epntnma wtthuhlaychintangthukkhnphbwaokhcrxyuinbriewnediywkbdawphluot aesdngihehnwadawphluotepnsmachikhnungkhxngbriewnthieriykwaaethbikhepxr thaihsthanakarepndawekhraahkhxngmnepnkhxthkethiyng dwykhathamthiwadawphluotkhwrcathukcdrwmhruxaeykxxkcakwtthuaewdlxmnn tamphiphithphnthhruxthxngfacalxngmkcasrangkhwamkhdaeyngodynadawphluotxxkcakkarepndawekhraahkhxngrabbsuriya thiklbmaepidihmhlngkarprbprungineduxnkumphaphnth ph s 2543 kmidawekhraahephiyngaepddwnginaebbcalxngrabbsuriya thaihklayepnpraednihyipekuxbpihlngcaknn miwtthucanwnmakthimikhnadiklekhiyngkbdawphluotsungthukkhnphbinbriewnediywkn epnehtuihmikarthkethiyngwadawphluotkhwrcathukcdihepnhnunginwtthuaethbikhepxr ehmuxnkbsiris phlls aelaewstathisuyesiysthanakarepndawekhraahiphlngcakthikhnphbdawekhraahnxyepncanwnmakinaethbediywkn inwnthi 29 krkdakhm ph s 2548 mikarkhnphb xiris wtthuphndawenpcunchinihm sungthukpramanknwacamikhnadihykwadawphluot thaihmnklayepnwtthuthiihythisudinrabbsuriyathithukkhnphbhlngpi ph s 2389 aetedimtaaehnngniepnkhxng ithrthn twphukhnphbxirisexngkeriykmnwaepndawekhraahdwngthisib thungaemwainewlanncayngimmimtixyangepnthangkarthicaeriykmnwadawekhraah khnxun inwngkardarasastridkhnphbkhxotaeyngthihnkaennphxthicanaipsukarcdpraephthkhxngdawphluotihepndawekhraahaekhra karcdpraephthkhxngixexyu hwkhxkarxphiprayerimkhuninwnthi 24 singhakhm ph s 2549 dwyixexyuidsrangkhaniyamkhxngkhawa dawekhraah xyangepnthangkar tamniyamihmni miickhwamsakhyxyusamkhxsahrbwtthuthicathukeriykidwaepndawekhraah dngni wtthunncatxngokhcrrxbdwngxathity wtthunncatxngmimwlmakphxthicarksasphaphtwexngihepnthrngklmidodyaerngonmthwngkhxngtwexng odyechphaaxyangying aerngonmthwngkhxngwtthunnkhwrcathaihwtthunnxyuinsphawasmdulxuthksthit wtthunncatxng dawphluotimepniptamniyamkhxthisam enuxngcakmnmimwlaekh 0 07 ethakhxngmwlkhxngwtthuxuninbriewnediywkn emuxethiybkbolkaelw olkmimwl 1 7 lanethakhxngwtthuxun inbriewnediywkn ixexyucungidesnxihwtthuthiepniptamniyamsxngkhxaerk echn dawphluot epndawekhraahaekhra inwnthi 13 knyayn ph s 2549 ixexyuidrwmdawphluot xiris aela dawbriwarkhxngxiris ekhaipxyuin odyihchuxxyangepnthangkarwa 134340 phluot 136199 xiris aela 136199 xiris I disonemiy dawphluotyngidrbkarrwmxyukbwtthuthikhnphbinpi ph s 2473 mnkhwrthicaidrbelkh 1164 thdcak thithukkhnphbephiyngimkieduxnkxnhnadawphluot mikartxtanbangswnphayinsmakhmdarasastrdwyknexng phutrwcsxbpharkickaredinthangkhxngyanniwhxirsns duthukkarcdpraephthkhxngixexyususatharna odyklawwa karniyamniaeymak dwyehtuphlthangethkhnikh enuxngcakodyniyamihm olk dawxngkhar dawphvhsbdi aeladawenpcun caimthukcdepndawekhraah enuxngcakmiwngokhcrthbsxnkbdawekhraahnxy ekhayngaeyngwadawbriwarklmkhnadihy echn dwngcnthr kkhwrcathukcdepndawekhraahdwy karxangxunkhxngekha khux epnkartdsinicthiimidmacaktwaethncakthuksmakhmdarasastr ephraaminkdarasastrthiehndwyephiyngaekh 5 klawthungthangeluxkekiywkbniyamihmbnewbistkhxngekhaaelatxtan khnxunthiehndwykbixexyu phukhnphbdawxiris klawwa phankrabwnkarthidutlkechnni bangthi khatxbthithuktxngxacsadudlng niepnewlananaelw withyasastridaekikhtwexngxyuaelw aemwacamikhwamrusukekhamaekiywkhxng inpi ph s 2549 ideluxkihkhawa plutoed epnkhaaehngpi ody To pluto aeplwa ldkhnhruxkhwamsakhykhxngbangkhnhruxbangsinglng wngokhcrkhabkarhmunrxbdwngxathitykhxngdawphluot khux 248 piolk wngokhcrkhxngdawphluotaetktangipcakwngokhcrkhxngdawekhraahdwngxun sungmiwngokhcrinlksnaiklekhiyngkbwngklmaelaaebnrabipkbranabsuriywithi aetdawphluotmikhakhwamexiyngkhxngwngokhcrmak makkwa 17 aelakhwameyuxngsunyklangkmak nnhmaykhwamwainchwngrayaewlahnung dawphluotcaokhcrikldwngxathitykwadawenpcun cudsunyklangmwlkhxngrabbdawphluot aekhrxnxyuintaaehnngikldwngxathitymakthisudemuxwnthi 5 knyayn ph s 2532 aelaxyuikldwngxathitykwadawenpcuninwnthi 7 kumphaphnth ph s 2522 aela 11 kumphaphnth ph s 2542 odyrwmaelw wngokhcrkhxngdawphluotimmikhwamesthiyrphaph thungaemwakarpramwlphlcakkhxmphiwetxrcasamarthkhanwntaaehnngkhxngdawphluotidthunghlaylanpikhanghna thng aethlngcakthikhanwncnipthungchwngkhxng 10 20 lanpi aelamakkwann karkhanwncaerimphidphladmakkhun dawphluotmikhwamwxngiwtxraylaexiydthielkekinkwacawdidkhxngrabbsuriya pccythikhadedaidyakehlann epntwthaihwngokhcrkhxngdawphluotkhxymikarepliynaeplng wngokhcrkhxngdawphluotemuxmxngcakranabsuriywithi phaphdankhang khxngwngokhcrdawphluot aesdngdwysiaedng aesdngihehnthungkhwamexiyngkhxngwngokhcrthimak emuxethiybkbranabsuriywithiwngokhcrkhxngdawphluotemuxmxngcakdanbn aesdngdwysiaedng aesdngihehnthungwngokhcrkhxngdawphluotmikhwamepnwngklmnxykwadawenpcun aesdngdwysinaengin aelainbangchwngdawphluotkcaokhcrikldwngxathitymakkwadawenpcun esnsiekhmbnwngokhcrkhxngthngsxngaesdngthungchwngewlathidawthngsxngdwngokhcrxyuitranabsuriywithiphaphkhxngwngokhcraekhrxnrxb dawphluot idmacakyanniwhxirsnstamaenwsuriywithi eduxnphvsphakhm mithunayn ph s 2558 khwamsmphnthkbdawenpcun aemwa emuxmxngcakmummxngdanbnaelw wngokhcrkhxngdawphluotpraktthbknkbwngokhcrkhxngdawenpcun aetdwytaaehnngkhxngwtthuthngsxng thaihwtthunnimchnhruxaemaetcaekhaiklknely sungmisaehtuhlayprakar odyphunthan minkdarasastrbangkhnphbwawngokhcrkhxngdawphluotimidtdkbdawenpcun aememuxdawphluotekhaikldwngxathitythisudhruxcaxyuinchwngthikalngkhamwngokhcr twdawyngxyuhangcakwngokhcrkhxngdawenpcunxikmak wngokhcrkhxngdawphluotkhamwngokhcrkhxngdawenpcunthi 8 hnwydarasastr ehnuxdawenpcun sungpxngknkarpatha aelaranabokhcrkhxngdawphluotyngexiyngkwakhxngdawenpcun 21 ranabokhcrephiyngxyangediyw imsamarthchwypkpxngdawphluotidmakphx ephraa cakdawekhraahkhangekhiyng odyechphaa dawenpcun samarthebiyngebnesnthangkarokhcrkhxngdawphluot echn karhmunkhwngkhxngwngokhcr cnthaihkarpathaknmikhwamepnipidmakkhun krabwnkarpxngknbangxyangcungtxngmikhun odykrabwnkarthisakhythisud khux karthidawphluotaeladawenpcunekidkarsnphxngkhxngwngokhcr odyemuxdawphluotokhcrrxbdwngxathityipidsxngrxb aelwdawenpcuncaekhluxnthirxbdwngxathityidsamrxb aelaemuxwtthuthngsxngokhcrklbmaintaaehnngaerkerim krabwnkarnikyngdaenintxip odykinewlapraman 500 pi inaetlawdckr 500 pini emuxdawphluotokhcrmaxyuintaaehnngthiikldwngxathitythisuddawenpcuncaxyueyuxnghlngdawphluotipkwa 50 emuxdawphluotokhcrmaxyuintaaehnngnixikkhrnghnung dawenpcuncaokhcripidhnungrxbkhrung sungepnipinkrniediywknkbemuxdawenpcunokhcrmaxyuintaaehnngthiikldwngxathitythisud nnthaihrayahangrahwangdawphluotkbdawenpcunmikhaethakb 17 hnwydarasastr sungmakkwarayahangrahwangdawphluotkbdawyuerns 11 hnwydarasastr xtraswnkarokhcr 2 3 rahwangwtthusxngwtthunimiesthiyrphaphsungmak aelacayngkhngxyuipxikhlaylanpi karpxngknnichwyimihsxngwtthumiptismphnthtxkn aelawdckrkhxngmnkncawnsaiperuxy aelathaihwtthuthngsxngimekhluxnphanekhaiklkn dngnn aemwngokhcrkhxngdawphluotcaimexiyngelyktam mnkcayngkhngimsamarthpathakbdawenpcunidxyudi pccyxun phlkarsuksacanwnmak aesdngihehnwa tlxdhlaylanpithiphanma thrrmchatiimihwngokhcrkhxngdawphluotaeladawenpcunekidkarepliynaeplng yngmikarsnphxngaelaptismphnthxikmakthikhwbkhumraylaexiydkarokhcraelaesthiyrphaphkhxngdawphluot xyangaerk khux mumkhxngcudiklthisudkhxngdawphluot sungkhuxmumthixyurahwangcud n taaehnngthiokhcrtdranabsuriywithi kbcud n taaehnngthiikldwngxathitymakthisud odymikhailebrchnpraman 90 nnhmaykhwamwa emuxdawphluotekhaikldwngxathitymakthisud mnkcaxyuintaaehnngthihangcakranabsuriyamakthisuddwy sungpxngknkarekhluxnthiekhahadawenpcun niyngepnphlodytrngcak sungekiywkhxngkbwtthuthimikhakhwameyuxngaelakhwamexiyngmak inkrnikhxngdawenpcun dawenpcunmiilebrchnethakb 38 thaihkaraeykechingmumkhxngcudthiikldwngxathitythisudkhxngdawphluotkbwngokhcrkhxngdawenpcunxyuhangknmakkwa 52 esmx 90 38 odykaraeykechingmumthimikhanxythisudcaekidkhunthuk 10 000 pi xyangthisxngkhux esnaewngkhxngaexsesndingondkhxngsxngwtthu sungkhuxcudthiwtthuthngsxngkhamesnsuriywithi odytaaehnngnncaxyuinxtraswnthiiklekhiyngkndwykarilebrchnkhasung emuxesnaewngkhxngwtthuthngsxngxyuintaaehnngediywkn klawkhux samarthlakesntrngphancudtdranabkhxngwtthuthngsxngaeladwngxathityid emuxekidkhunaelw cudthiiklthisudkhxngdawphluotcaxyuthi 90 aeladwyehtuni thaihmnokhcrekhamaikldwngxathityidmakthisud emuxmnxyusungcakdawenpcunmakthisud ruckknwaepnsuepxrerosaenns 1 1 dawekhraahyksthukdwng odyechphaadawphvhsbdi okhcrxyuinrupaebbkhxngsuepxrerosaennsechnkn ephuxthicaekhaicthungthrrmchatikhxngkarilebrchn catxngcintnakarthungmummxngcakkhwolk mxnglngmabnesnsuriywithicakcudxangxingthiiklxxkip thisungdawekhraahokhcrthwnekhmnalika hlngcakthiphwkmnphancudtdranabmaaelw dawphluotcaxyuphayinwngokhcrkhxngdawenpcunaelaekhluxnthixyangrwderw munghnasudawenpcuncakkhanghlng aerngonmthwngxnaekhngaekrngdungwtthuthngsxng cnekidomemntmechingmum sungcathuksngipthidawphluot cakdawenpcun nithaihdawphluotmiwngokhcrthiihykhunelknxy thisungmncaokhcrchalngelknxyechnkntamkdkhxthisamkhxngekhpelxr emuxwngokhcrekidkarepliynaeplng mnkcakhxymiphlkrathbihekidkarepliynaeplngkhxngtaaehnngthiikldwngxathitythisudkbesnaewngkhxngdawphluot aelathamumkbdawenpcunnxylng hlngcakkrabwnkarniekidkarthasahlaykhrng cninthisuddawphluotkcaekhluxnchalngxyangephiyngphx aeladawenpcunkcaekhluxnthierwxyangephiyngphx nncathaihdawenpcunerimiltamdawphluot n taaehnngtrngkhamkbcudthieraerim aelwkrabwnkarnikcaphnklb odydawphluotcasuyesiyomemntmechingmumaekdawenpcun cnkrathngdawphluotmikhwamerwmakphxthicailtamdawenpcunxikkhrng n taaehnngaerkerimkhxngera krabwnkarthnghmdnikinewlakwa 20 000 pi dawbriwaresmuxn miwtthukhnadelkxyangnxyhnungdwngthiepndawbriwaresmuxn sungkkhux xnepnrupaebbdawbriwarthiokhcraetktangxxkip wtthuniepndawbriwaresmuxnkhxngdawphluotmakwa 100 000 pi aelacayngkhngxyuxyangnnipxik 250 000 pi odymirayaewlakarekidsaxyu 2 000 000 pi aelaxaccamidawbriwaresmuxnkhxngdawphluotxikkarhmunkhabkarhmunrxbtwexngkhxngdawphluot ethakb 6 39 wnolk dawphluotynghmunrxbtwexngbn dankhang khxngranabokhcr dwykhakhwamexiyng 120 echnediywkbdawyuerns aelavdubndawphluotkaetktangxxkipmak thitaaehnngxaynkhxngmn 1 in 4 khxngphunphiwdawphluotcaidrbaesngxathitytlxd inkhnathibriewnthiehluxcaxyuinkhwammudtlxd klangwn primanaesngthiidrbkhxngdawphluotmikhanxymak mikhaethakbewlaphlbkhabnolk nasaidophstekhruxngkhanwn ewlaphluot sungichhawaewlaidthiaesngbnolkcaethakbaesngbndawphluotinwnthiplxdoprng twxyangechn inwnthi 13 krkdakhm ph s 2558 n taaehnngthitngkhxnghxngptibtikarwithyasastrprayukt ewlaphluot khux 20 38 n 4 nathihlngcakdwngxathitytktxnewla 20 34 n rayngansahrbphunthinnody NOAAthrniwithyadawphluotodyphankarennsisungaesdngihehnthungkhwamaetktangbnphiwdawbriewnthimikartrwcphbnaaekhng xanaekhtsinaengin enuxngcakdawphluotxyuhangcakolkmak karsuksaaebbecaalukcakolkyngepnipidyak inwnthi 14 krkdakhm ph s 2558 yanniwhxirsnskhxngnasasaerckarbinphanrabbdawphluot sungchwyihthrabthungkhxmulekiywkblksnaphumipraethskhxngdawphluotmakkhun aelasngmaeruxy cnkrathngplay ph s 2559 phunphiw phiwdawphluotprakxbipdwyinotrecnaekhngthung 98 aelanaaekhngmiethnkbkharbxnmxnxkisdxikcanwnelknxy hnakhxngdawphluotthihnekhamaaekhrxnprakxbipdwynaaekhngmiethnepnswnihy tangkbxikdanhnungkhxngdawphluotsungprakxbipdwyinotrecnaekhngaelakharbxnmxnxkisdepnswnihy phiwkhxngdawphluotkhxnkhangthicaaeplkprahlad dwykhwamaetktangxyangmakkhxngsiaelakhwamswangkhxngphunphiw dawphluotepnhnungindawthimiphunphiwtdknxyangchdecn echnediywkb ixaexphits dawbriwarkhxngdawesar sikhxngphunphiwepliyncaksidathanipyngsismekhmaelasikhaw sikhxngdawphluotkhlaykbsikhxngixox enuxngcakmiechdsiediywkn khux sism lksnaphumilksnbndawphluotthisakhy echn Tombaugh Regio hrux hwic xanaekhtswangkhnadihyindantrngkhamkbaekhrxn Cthulhu Regio hrux wal xanaekhtsiekhmkhnadihythikhlxbkhlumekuxbsikkhxngdawphluot aela aethbsiekhmbriewnesnsunysutrkhxngdawphluot klibsaykhxng hwic epnthirabkwang 1000 kiolemtr prakxbdwyinotrecnaekhngaelakharbxnidxxkisdaekhng aelamisyyanthichiwamikarihlkhxngtharnaaekhngthngekhaaelaxxkcakthirabnn dawphluotimmihlumxukkabatethathiehnidodyyanniwhxirsns hmaykhwamwaphiwdawcatxngmixayuimekin 10 lanpi khnankwithyasastrkhxngniwhxirsnsidsrupphlkarwicyebuxngtnwa dawphluotaesdnglksnathangkayphaphthihlakhlaycnnatkic rwmthngphllphthcaktharnaaekhng aelakarmiptismphnthkhxngphiwdawkbchnbrryakas karpatha aephnthrniphakhekhluxnthi aelakrabwn aephnthihlumxukkabatkwa 1000 aehngbndawphluotokhrngsrangphayin dawphluotmikhwamhnaaennxyuthi 1 87 0 06 krm lukbaskesntiemtr enuxngcakkarslaytwkhxngthatukmmntrngsiidkxihekidkhwamrxnthicathaihnaaekhngbndawlalay aelaaeykchnkbhinxyangchdecn nkwithyasastrkhadwaokhrngsrangphayinkhxngdawphluotmikhwamaetktangxxkip odyaekndawcaprakxbipdwyhin lxmrxbdwyenuxdawthiepnnaaekhngmiethn esnphansunyklangkhxngaekndawthukpramaniwxyuthi 1 700 kiolemtr hrux 70 khxngesnphansunyklangdawphluot aekndawthukkhadwayngkhngcamikhwamrxnxyu thaihekidmhasmuthrkhnadelkthiekidcakkarlalaykhxngnaaekhng inbriewn 100 180 kiolemtrrahwangaeknaelaenuxdawmwlaelakhnadkarpramankhnaddawphluotthithukeluxk pi rsmi esnphansunyklang hmayehtuph s 2536 1195 2390 kiolemtr millisaelakhna thaimmihmxk ph s 2536 1180 2360 kiolemtr millisaelakhna rwmphunphiwaelahmxk ph s 2537 1164 2328 kiolemtr yngaelabineslph s 2549 1153 2306 kiolemtr buxiaelakhnaph s 2550 1161 2322 kiolemtr yng yng aelabuxiph s 2554 1180 2360 kiolemtr saluchaaelakhnaph s 2557 1184 2368 kiolemtr elllxchaelakhnaph s 2558 1186 2372 kiolemtr karwdodyyanniwhxirsns dawphluotmiesnphansunyklang 2 372 kiolemtr aelamimwl 1 31 1022 kiolkrm sungnxykwamwlkhxngdwngcnthr 17 82 nxykwaolk 24 dawphluotmiphunthiphiw 1 665 107 tarangkiolemtr hruxethiybidkbphunthipraethsrsesiy miaerngonmthwngthiphiwdawethakb 0 063 g ethiybkbolkthi 1 g karkhnphb aekhrxn dawbriwarkhxngdawphluot thaihmikarkahndmwlkhxngrabbdawphluot aekhrxnkhunihm odyichkdkarekhluxnthikhxngdawekhraahkhxthisamkhxngekhpelxr cakkarsarwcdawphluotthismphnthkbaekhrxn thaihnkwithyasastrsamarthkhanwnesnphansunyklangkhxngdawphluotidaemnyakhun aelahlngcakthimikarpradisth thaihmikarkhadedathungruprangidaemnyakhun karepriybethiybkhnadrahwangolk dwngcnthr aeladawphluot dwymwlthinxykwamwldwngcnthrxyu 0 2 etha thaihdawphluotmimwlnxykwadawekhraahhinthnghmd aemkrathngdawbriwarecddwng idaek aeknimid iththn khllisot ixox dwngcnthr yuorpa aelaithrthn aetedimmwlkhxngdawphluotthukkhadiwmak cnkrathngkarkhnphbaekhrxn dawphluotmiesnphansunyklangmakkwasxngetha aelamimwlmakkwahlayethakhxngdawekhraahaekhra siris wtthuthiihythisudinaethbdawekhraahnxy aetmimwlnxykwaxiris wtthuphndawenpcunthithukkhnphbinpi ph s 2548 aemwadawphluotcamiesnphansunyklang 2 372 kiolemtr sungihykwaesnphansunyklangodypramankhxngxiris 2 326 kiolemtr ktam karpraeminkhnadkhxngdawphluotsbsxn enuxngdwychnbrryakaskhxngdawphluot aelahmxkihodrkharbxn ineduxnminakhm ph s 2557 elllxch ed ebxrk aelakhna tiphimphkarkhnphbsarphsmmiethninchnbrryakaskhxngdawphluot sungthaihpraeminidwa dawphluotkhwrmikhnadihykwa 2 360 kiolemtr dwy karkhadedathidithisud khux 2 368 kiolemtr inwnthi 13 krkdakhm ph s 2558 phaphthayaelakhxmultang cakyanniwhxirsns idpraeminesnphansunyklangkhxngdawphluotiwthi 2 370 kiolemtr 1 470 iml sungphayhlngepliynepn 2 372 kiolemtr 1 474 iml inwnthi 24 krkdakhmchnbrryakasphaphsithiiklekhiyngkbkhwamcringthithayody New Horizons hlngcakphanipaelw hlaychnfakhrumlxyxyuinbrryakaskhxngdawphluot iklaelaiklkingphuekhaaelaengakhxngphwkekhacamxngehnid dawphluotmichnbrryakasthiprakxbipdwyinotrecn N2 miethn CH4 aelakharbxnmxnxkisd CO sungxyuinphawaepnixnaaekhngbnphiwdawphluot cakphlkarwdkhxngyanniwhxirsns khwamdnthiphiwdawxyuthi 1 paskal 10 imokhrbar nxykwapraman 1 aesn thung 1 lanethakhxngolk inebuxngtn nkdarasastrmikhwamehnwa emuxdawphluotekhluxnhangcakdwngxathity chnbrryakascaekidkaraekhngtwaelwrwnglngsuphiwdaw aetemuxthungchwngthidawphluotxyuikldwngxathity xunhphumiphunphiwephimsungkhun thaihnaaekhngehlannraehidklbkhunipbnthxngfa thungkrann khxmulcakyanniwhxirsns aesdngihehnwa cringaelw khwamhnaaennchnbrryakaskhxngdawphluotkalngephimkhun aeladuehmuxnwacahludlxyepnaekstamwngokhcr karsarwckhxngniwhxirsns yngphbwainotrecninchnbrryakashludxxkmainprimannxykwacakthikhadiw 10 000 etha aexln setirnyunynwaephiyngaekhxunhphumiphiwdawphluotephimkhunelknxy cathaihkhwamhnaaennchnbrryakasephimkhunepnthwikhun cak 18 millibarepn 280 millibar 3 ethakhxngdawxngkhar aelahnunginsikhxngolk thikhwamhnaaennkhnadnn inotrecnxacihlphanchnbrryakasinrupkhxngehlw khwamhnakhxngchnbrryakasdawphluotsamarthephimsungidthung 1 670 kiolemtr aemchnbrryakasswnbncaimmiruprangthiaennxn karmixyukhxngmiethn sungepnaekseruxnkrackrunaerng inchnbrryakaskhxngdawphluot thaihekid odyxunhphumiinchnbrryakassungkwaxunhphumithiphiwdaw aemkarsarwccakyanniwhxirsnscaephywabrryakaschnbnkhxngdawphluot xacmixunhphumitakwathikhadiwmak 70 K sungphidcakthikhadiw 100 K chnbrryakaskhxngdawphluotaebngxxkepnchnhmxkthnghmd 20 chn sunghnapraman 150 kiolemtr khadwacaekidcakkhlunkhwamdnthisrangkhunodykarihlkhxngxakasphanphuekhabndawphluotdawbriwardawphluotmidawbriwarethathithrabhadwng idaek aekhrxn sungmikarrabukhrngaerkinpi ph s 2521 ody ecms khristi nkdarasastr niksaelaihdra sungthukkhnphbinpi ph s 2548 thngkhu ekhxrebxrxs thukkhnphbinpi ph s 2554 aelastiksthukkhnphbinpi ph s 2555 wngokhcrkhxngdawbriwarepnwngklm khwameyuxngsunyklang lt 0 006 aelarwmranabkbesnsunysutrkhxngdawphluot khwamexiyng lt 1 channcungexiyngpraman 120 ethiybkbwngokhcrkhxngdawphluot rabbdawbriwarkhxngdawphluotxdknxyuxyanghnaaennmak odywngokhcrkhxngdawbriwarhadwngthithrabxyuin 3 chninkhxngbriewnsungwngokhcrtamthangcaesthiyr aekhrxnokhcrxyuikldawphluotthisud odyaekhrxnmikhnadihyphxthicaxyuinsphawasmdulxuthksthitaelathaihaebriesnetxrkhxngrabbdawphluot aekhrxnxyunxkdawphluot thdcakaekhrxnxxkipmidawbriwardawkhu circumbinary khnadelkkwamakkhxngdawphluot idaek stiks niks ekhxrebxrxs aelaihdratamladb khabkarokhcrkhxngdawbriwarkhxngdawphluotthukdwngsmphnthkninrabbkhxngkarsnphxngwngokhcr emuxkarhmunkhwngthuknbdwyaelw sahrbkhabokhcrkhxngstiks niks aelaihdra xyuinxtraswn 18 22 23 nxkcaknistiks niks ekhxrebxrxs aelaihdrayngokhcrxyuinxtraswn 3 4 5 6 odypraman dwyaekhrxnthisungekhaiklaelwkthxyhangcakklumdawbriwarnixxkip phaphekhluxnihwaesdngthungkarokhcrinrabbdawphluot aekhrxn aelayngaesdngthungkarlxkithdlkhxngdawthngsxngxikdwy rabbdawphluot aekhrxnepnrabbhnungthiaebriesnetxrelyxxkipcakphiwkhxngdawdwngihy epntwxyangkhnadelkhnung aeladwngxathitykbdawphvhsbdi epntwxyangkhnadihytwxyangediyw kareyuxngkhxngaebriesnetxraelakhnadthiihykhxngaekhrxnemuxethiybkbdawphluotaelw idthaihnkdarasastrbangkhneriykmnwa rabbniyngmilksnathiimehmuxnkbrabbdawekhraahswnihy khux klawkhuxdawphluotaelaaekhrxncahnhnaekhahaknesmx imwacaepntaaehnngidbndawdwngidktam dawxikdwngcalxykhangxyubnfaxyangnnesmx hruximlxykhunmaesmx niynghmaykhwamwakhabkarhmunrxbtwexngkhxngaetladawethakbrayaewlathiphwkmnichokhcrrxbcudsunyklangaerngonmthwng inpi ph s 2552 karsngektcak aesdngihehnwabnphiwaekhrxn miaexmomeniyihedrtaelaphluknaxyu sunghmaykhwamwabnphiwdawyngekidkarpathukhxngnaxyu dawbriwarkhxngdawphluotthuksnnisthanwakxtwcakkarpathakhxngdawphluotkbwtthukhnadediywknchinhnung inchwngyukhaerk khxngrabbsuriya karpathaidpldplxywsduthisungphayhlngidrwmtwknkxepndawbriwarrxb dawphluot thungxyangnn ekhxrebxrxsmikhwamsathxnaesngtakwadawbriwardwngxunmak sungyaktxkarxthibaydwykarpathakhrngihy 1 rabbdawphluot dawphluot aekhrxn stiks niks ekhxrebxrxs aela ihdra thayodyklxngothrthrrsnxwkashbebilinpi ph s 2555 2 dawphluotaelaaekhrxnkhnadcring thayodyyanniwhxirsnsemuxwnthi 8 krkdakhm ph s 2558 3 phaphthayaesdngkhnadkhxngdawbriwarthnghadwng4 aekhrxn dawbriwarkhxngdawphluot sungthukthayodyyanniwhxirsns emuxwnthi 13 krkdakhm ph s 2558tnkaenidtnkaenidaelatwtnkhxngdawphluotepnprisnaaeknkdarasastrmaxyangyawnanaelw smmtithanaerk ekiywkbdawphluot rabuwadawphluotekhyepndawbriwarkhxngdawenpcunmakxn kxnthicathukaerngonmthwngkhxngithrthnehwiyngxxkip phayhlngaenwkhidnikthukkhan enuxngcakphbwaepnipimidthidawphluotcaepnechnnn ephraadawphluotimekhyekhaikldawenpcunelyskkhrngediyw taaehnngcringkhxngdawphluotthukepidephyxxkmaemux ph s 2535 emuxnkdarasastrerimthakarsarwcwtthunaaekhngkhnadelkinbriewnphnwngokhcrkhxngdawenpcunxxkipechnediywkb dawphluot thngkhnadaelaxngkhprakxb klumwtthuphndawenpcunniechuxwacaepntnkaenidkhxngdawhangkhabsn pccubn dawphluot ruckknwaepnsmachikthiihythisudinaethbikhepxr aethbkhxngwtthusunghangxxkip 30 50 hnwydarasastrcakdwngxathity n pi ph s 2554 karsarwcaethbikhepxriklcaesrcsmburnaelawtthukhnadiklekhiyngdawphluotthiehluxthukkhadwacaxyuhangxxkip 100 hnwydarasastrcakdwngxathity hruxmakkwann dawphluotehmuxnkbwtthuinaethbikhepxrxun trngthismbtikhxngmnipmirwmknkbdawhang twxyangechn lmsuriyakhxy epaphiwkhxngdawphluotxxkipsuxwkas nkdarasastryngechuxknwa thadawphluotxyuikldwngxathityinrayaediywkbolkaelw dawphluotcamihangechnediywkbthidawhangmi karkhadkarnnitkipenuxngdwykhxthkethiyngthiwakhwamerwhludphnkhxngdawphluotmimakekinipthicaepnechnnn aemdawphluotcaepnwtthuinaethbikhepxrthiihythisudethathiekhykhnphbithrthn dawbriwarkhxngdawenpcun thimikhnadihykwadawphluotelknxy milksnathangphumisastraelaphumixakaskhlaykhlungkbdawphluot nnthaihechuxknwaithrthn edimkepnwtthuinaethbikhepxrthithukdawenpcundungma xirismikhnadiklekhiyngkbdawphluot aetmimwlmakkwa aetkduehmuxnwacaimidthukcdrwmepnwtthuinaethbikhepxrxyangekhrngkhrdnk mndukhxnkhangthicaepnsmachikinaethbhinkracaymakkwa wtthuaethbikhepxrcanwnmak ehmuxnkbdawphluot mixtraswnwngokhcrepn 2 3 kbdawenpcun wtthuaethbikhepxrthimixtraswnwngokhcrni eriykwa tngchuxtamdawphluot ehmuxnkbdawdwngxun inaethbikhepxr phluotthukkhadwacamiesssakkhxngdawekhraahelk thiynghlngehluxxyucakcandawekhraahkxnekid sungepnessdawthiimsamarthrwmtwknidinyukherimaerkkhxngrabbsuriya nkdarasastrswnihyyxmrbwadawphluotxyuinwngokhcrdngpccubnniid enuxngcakkaryaytaaehnngchbphln odydawenpcuninchwngaerk khxngrabbsuriya khnathidawenpcunekhluxnxxkiperuxy cnthungtaaehnngkhxngwtthuinaethbikhepxrkxnekid iddungdawdwngnimaokhcrrxbtwexng ithrthn aelathaihxtraswnwngokhcrkhxngdawdwngxunkhngthi aelabangswnkhxngthukehwiyngxxkipcnklayepnwngokhcrthiphidpkti wtthuinaethbhinkracaysungepnbriewnthiwngokhcrimesthiyr xyuphncakaethbikhepxrxxkip thukkhadwawtthutang thixyuintaaehnngnnpccubn ekidcakphlkrathbthidawenpcunekhluxnxxkmacakbriewnikldwngxathity aebbcalxngkhxmphiwetxrthisrangkhunin ph s 2547 odyxaelssnodr mxrbiedlli cakinnis esnxwakaryaytaaehnngkhxngdawenpcunsuaethbikhepxrnn xacekidcakkarkxtwkhxngxtraswnwngokhcr 1 2 khxngdawphvhsbdikbdawesar sungidsrangaerngphlkcakkhwamonmthwng thaihwngokhcrkhxngdawyuernsaeladawenpcunkhyaykwangkhun cnsudthayekidkarslbthi epnphlihwtthuaethbikhepxrdngedimthukphlkxxkipdwy sungsamarthxthibaythung thiekidkhunemux 600 lanpikxnhlngcakkarkxtwkhxngrabbsuriya aelacudkaenidkhxng mnepnipidwakxnhnathidawenpcuncayaytaaehnngcnwngokhcrdawtang intaaehnngdngedim dawphluotekhymiwngokhcrthiraya 33 hnwydarasastrcakdwngxathity aebbcalxngnisaesdngphlwa camiwtthukhnadethadawphluotcanwnmakxyuincandawekhraahkxnekiddngedim sungrwmthngithrthnaelaxiriskarsarwcrayathangkhxngdawphluotthungolk thaihyakaekkarsuksaaelakarsarwcechingluk inwnthi 14 krkdakhm ph s 2558 yanxwkasniwhxirsnskhxngnasabinphanrabbdawphluot aelaihkhxmultangmakmayklbma karsngekt aebbcalxngaesdngkarhmunkhxngdawphluot cakphaphthiidcakklxngothrthrrsnxwkashbebilinpi ph s 2545 2546 dawphluotmikhakhwamsxngswangpraktxyuthiechliy 15 1 aelaswangkhunthung 13 65 thitaaehnngikldwngxathity ephuxthicasngekt caepntxngichklxngothrthrrsnkhnadpraman 30 esntiemtr 12 niw aelamikhnadrurbaesngphxpraman mncaduehmuxndawvksaelaimmicanthimxngehnid aemwacaepnklxngothrthrrsnkhnadihyktam ephraawadawphluotmikhnadechingmumephiyngaekh 0 11 aephnthiawphluotthiekathisud thakhuninchwngplaykhristthswrrsthi 1980 epnaephnthikhwamswangthixingcakkarsngektxuprakharayaikl odyaekhrxn dawbriwarthiihythisudkhxngmn karsngektkhrngnnidsuksakarepliynaeplnginkhakhwamswangechliykhxngrabbdawphluot aekhrxnrahwangkarekidxuprakha twxyangechn thaekidxuprakha n cudthiswangthisudkhxngdawphluot cathaihkhwamswangrwmthngdawephimkhunmakkwaekidxuprakha n cudthimud karpramwlphlcakkhxmphiwetxrkhxngkarsngektcanwnmakinlksnani thaihsamarthsrangaephnthikhwamswangid withiniyngsamarthtidtamkarepliynaeplngkhwamswangaetlachwngewlaidxikdwy aephnthithidikwathukthakhuncakphaphodyklxngothrthrrsnxwkashbebil sungihkhwamlaexiydsungkwa ihraylaexiydidmakkwa aelayngidaekikhcudphidphladepnrayakwa 100 kiolemtr rwmthngbriewnkhwdawaelacudthiswangmakkwa aephnthiehlanithukthaodykarpramwlphlthisbsxnkhxngkhxmphiwetxr sungcahaaebbaephnthithisxdkhlxngkbphaphcakhbebil aelaphaphnnkklayepnphaphthilaexiydthisudkhxngdawphluotcnkrathngyanniwhxirsnsipthunginpi ph s 2558 ephraaklxngsxngtwbnhbebilthiichthayphaphhyudkarichnganaelw karsarwc aephnthiphiwdawphluotsungaesdngraylaexiydtang bnphiwdaw odyyanniwhxirsns yanxwkasniwhxirsns sungbinphandawphluotineduxnkrkdakhm ph s 2558 epnyanxwkaslaaerkaelalaediywthiphyayamsarwcdawphluotodytrng thukplxyinpi ph s 2549 thayphaphdawphluotphaphaerkcakrayaiklinchwngplayeduxnknyayn ph s 2549 rahwangkarthdsxbklxngthayphaphbnyan twphaphthaythirayathangpraman 4 2 phnlankiolemtr aelaidphisucnkhwamsamarthkhxngyaninkarthayphaphrayaiklid odythaykhunmicudprasngkhhlkephuxekhluxntwipxyangramdrawngsudawphluotaelawtthuinaethbikhepxr inchwngtnpi ph s 2550 yanxwkasidichcakdawphvhsbdi niwhxirsnsbinekhaikldawphluotthisudinwnthi 14 krkdakhm ph s 2558 hlngcakkaredinthangkhamrabbsuriyakwa 3 462 wn karsngektthangwithyasastrkhxngdawphluoterimkhuntngaet 5 eduxnkxnthiyancabinphandawphluot aeladaenintxipxikxyangnxyhnungeduxnhlngbinphan karsngektdaeninkarodyichxupkrnsahrbsungrwmthngxupkrn aelaxupkrnsngsyyankhlun cudmunghmaythangwithyasastrkhxngyanniwhxirsns khuxraburaylaexiydlksnathangkayphaphaelasnthankhxngdawphluotkbaekhrxn dawbriwarkhxngmn thaaephnthiaetlaswnkhxngphiwdaw aelawiekhraahchnbrryakaspktikhxngdawphluotaelaxtrakhxnghludxxkkhxngmnphaphphaphkhxng saymuxkhanghna saymuxthikhxbfa aela khwamux phaphcakyanniwhxirsnsaesdngthungphunthixnkwangihykhxng plxyxxkma 10 knyayn ph s 2559 dawphluotaelaaekhrxnthiehnidcakyanniwhxirsns khwamlaexiydsungsud si 14 krkdakhm ph s 2558 dawphluotaelaaekhrxnthiehnidcakyanniwhxirsns khwamlaexiydsungsud si 14 krkdakhm ph s 2558 dawphluotcakmummxngniwhxirsns 9 krkdakhm ph s 2558 dawphluotcakmummxngniwhxirsns 9 krkdakhm ph s 2558 dawphluotcakmummxngniwhxirsns 11 krkdakhm ph s 2558 dawphluotcakmummxngniwhxirsns 11 krkdakhm ph s 2558 dawphluotcakmummxngniwhxirsns 11 krkdakhm ph s 2558 dawphluotcakmummxngniwhxirsns 11 krkdakhm ph s 2558 dawphluotcakmummxngniwhxirsns 12 krkdakhm ph s 2558 dawphluotcakmummxngniwhxirsns 12 krkdakhm ph s 2558 dawphluotcakmummxngniwhxirsns 13 krkdakhm ph s 2558 dawphluotcakmummxngniwhxirsns 13 krkdakhm ph s 2558 dawphluotcakmummxngniwhxirsns si 11 krkdakhm ph s 2558 dawphluotcakmummxngniwhxirsns si 11 krkdakhm ph s 2558 dawphluotcakmummxngniwhxirsns si 13 krkdakhm ph s 2558 dawphluotcakmummxngniwhxirsns si 13 krkdakhm ph s 2558 widiox Pluto flyover animated July 14 2015 source source source source source source source source 00 30 xxkmaemuxwnthi 18 knyayn ph s 2558 source source source source source source source 00 50 xxkmaemuxwnthi 5 thnwakhm ph s 2558 source source source source source source source This mosaic strip extending across the hemisphere that faced the New Horizons spacecraft as it flew past Pluto No Audio 1080p 60fps echingxrrthkhxmulechliytrngnimacak Theory of the Outer Planets TOP2013 aekody Institut de mecanique celeste et de calcul des ephemerides IMCCE phwkekhaxangxingthungwisuwt J2000 xnepnaebriesnetxrkhxngrabbsiruya aelacuderimyukh J2000 phunthiphiwidmacakrsmi r 4pr2 displaystyle 4 pi r 2 primatr v idmacakrsmi r 4pr3 3 displaystyle 4 pi r 3 3 khwamonmthwngthiphiwdawidmacakmwl M khakhngtwkhwamonmthwng G aelarsmi r GM r2 displaystyle GM r 2 khwamerwhludphnidmacakmwl M khakhngtwkhwamonmthwng G aelarsmi r 2GM r displaystyle sqrt 2GM r idmacakerkhakhnitkhxngrayaiklaelaiklthisudcakolkaelarsmikhxngdawphluot khwamsmdulcaminxylnginphasathisthwithyakhxngphasann aetktangcak echn Buluuto inphasaosmaliaela Tlootoo in karkhnphbdawbriwaraekhrxninpi ph s 2521 thaihnkdarasastrkhanwnmwlkhxngrabbdawphluot aekhrxnidxyangaemnya aetimidekiywkhxngkbmwlkhxngwtthuaetlachin odymwlkhxngwtthuaetlachinnn sungsamarthkhadidhlngkarkhnphbdawbriwardwngxun inchwngplaypi ph s 2548 enuxngcakdawphluotthungtaaehnngikldwngxathitythisudinpi ph s 2532 swnmakcungpramanwnthidawphluotxyuintaaehnngikldwngxathitycakmwl n aebriesnetxrkhxngrabbdawphluot aekhrxn aekhrxnxyuintaaehnnghangcdwngxathitywnthi 4 knyayn ph s 2532 aebriesnetxrkhxngrabbdawphluot aekhrxnxyuintaaehnnghangdwngxathitywnthi 5 knyayn ph s 2532 dawphluotxyuintaaehnnghangxwngxathitywnthi 8 knyayn ph s 2532 dawxiris mikhnadiklekhiyngdawphluotthipraman 2330 kiolemtr aetdawxirismimwlmakkwa 28 dawxiristhukcdihepn sungepnklumkhxngwtthuthimkcacdaeykcakwtthuinaethbikhepxr echn dawphluot dawphluotcungepnwtthuinaethbikhepxrthiihythisud sungimnbwtthuaethbhinkracayraykarxangxingSimon J L Francou G Fienga A Manche H September 2013 New analytical planetary theories VSOP2013 and TOP2013 Astronomy and Astrophysics 557 2 A49 Bibcode 2013A amp A 557A 49S doi 10 1051 0004 6361 201321843 The elements in the clearer and usual format is in the spreadsheet and the original TOP2013 elements here Williams David R July 24 2015 Pluto Fact Sheet NASA subkhnemux August 6 2015 Stern S A aelakhna 2015 The Pluto system Initial results from its exploration by New Horizons Science 350 6258 249 352 1510 07704 Bibcode 2015Sci 350 1815S doi 10 1126 science aad1815 PMID 26472913 Buie Marc W Grundy William M Young Eliot F aelakhna 2006 Orbits and photometry of Pluto s satellites Charon S 2005 P1 and S 2005 P2 Astronomical Journal 132 1 290 298 astro ph 0512491 Bibcode 2006AJ 132 290B doi 10 1086 504422 Archinal B A a Hearn M F Bowell E Conrad A Consolmagno G J aelakhna 2010 Report of the IAU Working Group on Cartographic Coordinates and Rotational Elements 2009 Celestial Mechanics and Dynamical Astronomy 109 2 101 135 doi 10 1007 s10569 010 9320 4 Amos Jonathan July 23 2015 New Horizons Pluto may have nitrogen glaciers BBC News subkhnemux July 26 2015 It could tell from the passage of sunlight and radiowaves through the Plutonian air that the pressure was only about 10 microbars at the surface Pluto has carbon monoxide in its atmosphere Physorg com April 19 2011 subkhnemux November 22 2011 JPL NASA 2015 04 22 What is a Dwarf Planet Jet Propulsion Laboratory subkhnemux 2022 01 19 John Lewis b k 2004 Physics and chemistry of the solar system 2 ed Elsevier p 64 Chang Kenneth July 14 2016 What We ve Learned About Pluto UPDATED to July 14 2016 New York Times subkhnemux July 14 2016 Stern S Alan Mitton Jacqueline 2005 Pluto and Charon ice worlds on the ragged edge of the solar system Weinheim ISBN 3 527 40556 9 subkhnemux July 3 2013 Astronomers Measure Mass of Largest Dwarf Planet hubblesite 2007 subkhnemux November 3 2007 Akwagyiram Alexis August 2 2005 Farewell Pluto BBC News subkhnemux March 5 2006 Showalter Mark R July 11 2012 Hubble Discovers a Fifth Moon Orbiting Pluto News Release STScI 2012 32 HubbleSite NewsCenter subkhnemux July 11 2012 Olkin Catherine B Wasserman Lawrence H Franz Otto G 2003 The mass ratio of Charon to Pluto from Hubble Space Telescope astrometry with the fine guidance sensors PDF Icarus Lowell Observatory 164 1 254 259 Bibcode 2003Icar 164 254O doi 10 1016 S0019 1035 03 00136 2 subkhnemux March 13 2007 Pluto and the Developing Landscape of Our Solar System International Astronomical Union Retrieved on October 27 2010 Bromwich Jonah Engel St Fleur Nicholas 14 September 2016 Why Pluto s Moon Charon Wears a Red Cap New York Times subkhnemux 14 September 2016 Chang Kenneth July 14 2015 NASA s New Horizons Spacecraft Completes Flyby of Pluto New York Times subkhnemux July 14 2015 Dunn Marcia July 14 2015 Pluto close up Spacecraft makes flyby of icy mystery world subkhnemux July 14 2015 Chang Kenneth July 18 2015 The Long Strange Trip to Pluto and How NASA Nearly Missed It New York Times subkhnemux July 19 2015 Chang Kenneth March 17 2016 What We ve Learned about Pluto The New York Times subkhnemux March 17 2016 Talbert Tricia March 17 2016 NASA khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 09 26 subkhnemux March 18 2016 Talbert Tricia March 17 2016 NASA khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 03 20 subkhnemux March 18 2016 Croswell Ken 1997 Planet Quest The Epic Discovery of Alien Solar Systems New York The Free Press p 43 ISBN 978 0 684 83252 4 1946 The Search for the Ninth Planet Pluto Astronomical Society of the Pacific Leaflets 5 73 80 Bibcode 1946ASPL 5 73T Hoyt William G 1976 W H Pickering s Planetary Predictions and the Discovery of Pluto Isis 67 4 551 564 doi 10 1086 351668 JSTOR 230561 Littman Mark 1990 Planets Beyond Discovering the Outer Solar System Wiley p 70 ISBN 0 471 51053 X Buchwald Greg Dimario Michael Wild Walter 2000 Pluto is Discovered Back in Time Amateur Professional Partnerships in Astronomy San Francisco San Francisco Astronomical Society of the Pacific 220 335 Bibcode 2000ASPC 220 355B ISBN 1 58381 052 8 Croswell 1997 p 50 Croswell 1997 p 52 Rao Joe March 11 2005 Finding Pluto Tough Task Even 75 Years Later Space com subkhnemux September 8 2006 Mager Brad The Search Continues Pluto The Discovery of Planet X subkhnemux November 29 2011 Rincon Paul January 13 2006 The girl who named a planet BBC News subkhnemux April 12 2007 The Trans Neptunian Body Decision to call it Pluto The Times May 27 1930 p 15 Name Pluto Given to Body Believed to Be Planet X The New York Times Associated Press May 25 1930 p 1 ISSN 0362 4331 Pluto the title of the Roman gods of the region of darkness was announced tonight at Lowell Observatory here as the name chosen for the recently discovered trans Neptunian body which is believed to be the long sought Planet X Croswell 1997 pp 54 55 NASA khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2006 10 01 subkhnemux November 29 2011 Heinrichs Allison M 2006 Pittsburgh Tribune Review khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2009 09 02 subkhnemux March 26 2007 Clark David L Hobart David E 2000 Reflections on the Legacy of a Legend PDF subkhnemux November 29 2011 Renshaw Steve Ihara Saori 2000 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2015 07 10 subkhnemux November 29 2011 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux December 17 2007 subkhnemux June 12 2007 Bathrobe Uranus Neptune and Pluto in Chinese Japanese and Vietnamese cjvlang com subkhnemux November 29 2011 Stern Alan Tholen David James 1997 Pluto and Charon University of Arizona Press pp 206 208 ISBN 978 0 8165 1840 1 Crommelin Andrew Claude de la Cherois 1931 The Discovery of Pluto Monthly Notices of the Royal Astronomical Society 91 380 385 Bibcode 1931MNRAS 91 380 doi 10 1093 mnras 91 4 380 December 1930 The Probable Value of the Mass of Pluto Publications of the Astronomical Society of the Pacific 42 250 350 Bibcode 1930PASP 42 350N doi 10 1086 124071 January 1931 Positions Orbit and Mass of Pluto Astrophysical Journal 73 1 Bibcode 1931ApJ 73 1N doi 10 1086 143288 Kuiper Gerard P 1950 The Diameter of Pluto Publications of the Astronomical Society of the Pacific 62 366 133 137 Bibcode 1950PASP 62 133K doi 10 1086 126255 Croswell 1997 p 57 Christy James W 1978 The Satellite of Pluto Astronomical Journal 83 8 1005 1008 Bibcode 1978AJ 83 1005C doi 10 1086 112284 Seidelmann P Kenneth 1988 Planet X The current status Celestial Mechanics and Dynamical Astronomy 43 55 68 Bibcode 1987CeMec 43 55S doi 10 1007 BF01234554 subkhnemux November 29 2011 lingkesiy Standage Tom 2000 The Neptune File Penguin p 168 ISBN 0 8027 1363 7 The Astronomical Society of the Pacific June 28 1994 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2020 05 12 subkhnemux November 29 2011 Standish E Myles 1993 Planet X No dynamical evidence in the optical observations Astronomical Journal 105 5 200 2006 Bibcode 1993AJ 105 2000S doi 10 1086 116575 Tyson Neil deGrasse February 2 2001 Astronomer Responds to Pluto Not a Planet Claim Space com subkhnemux November 30 2011 NASA Funded Scientists Discover Tenth Planet NASA press releases July 29 2005 subkhnemux February 22 2007 Soter Steven 2007 What is a Planet The Astronomical Journal Department of Astrophysics American Museum of Natural History 132 6 2513 2519 astro ph 0608359 Bibcode 2006AJ 132 2513S doi 10 1086 508861 IAU 2006 General Assembly Resolutions 5 and 6 PDF IAU August 24 2006 IAU 2006 General Assembly Result of the IAU Resolution votes International Astronomical Union News Release IAU0603 August 24 2006 subkhnemux June 15 2008 Green Daniel W E September 13 2006 PDF IAU Circular 8747 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux February 5 2007 subkhnemux December 1 2011 JPL Small Body Database Browser California Institute of Technology subkhnemux 15 July 2015 Britt Robert Roy August 24 2006 Pluto Demoted No Longer a Planet in Highly Controversial Definition Space com subkhnemux September 8 2006 Ruibal Sal January 6 1999 Astronomers question if Pluto is real planet USA Today Britt Robert Roy November 21 2006 Why Planets Will Never Be Defined Space com subkhnemux December 1 2006 Britt Robert Roy August 24 2006 Scientists decide Pluto s no longer a planet MSNBC subkhnemux September 8 2006 News discovery com May 14 2010 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 05 05 subkhnemux November 4 2011 Shiga David August 25 2006 New planet definition sparks furore NewScientist com subkhnemux September 8 2006 Buie Marc W September 2006 Southwest Research Institute khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux June 3 2007 subkhnemux December 1 2011 Overbye Dennis August 24 2006 Pluto Is Demoted to Dwarf Planet The New York Times subkhnemux December 1 2011 Plutoed chosen as 06 Word of the Year Associated Press January 8 2007 subkhnemux January 10 2007 Horizon Online Ephemeris System for Pluto Barycenter Solar System Dynamics Group subkhnemux January 16 2011 set Observer Location to 0 to place the observer at the center of the Sun Jupiter system JPL NASA January 28 1999 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2010 09 02 subkhnemux January 16 2011 Sussman Gerald Jay Wisdom Jack 1988 Numerical evidence that the motion of Pluto is chaotic Science 241 4864 433 437 Bibcode 1988Sci 241 433S doi 10 1126 science 241 4864 433 PMID 17792606 Wisdom Jack Holman Matthew 1991 Symplectic maps for the n body problem Astronomical Journal 102 1528 1538 Bibcode 1991AJ 102 1528W doi 10 1086 115978 Wan Xiao Sheng Huang Tian Yi Innanen Kim A 2001 The 1 1 Superresonance in Pluto s Motion The Astronomical Journal 121 2 1155 1162 Bibcode 2001AJ 121 1155W doi 10 1086 318733 Hunter Maxwell W 2004 Unmanned scientific exploration throughout the Solar System Space Science Reviews 6 5 501 Bibcode 1967SSRv 6 601H doi 10 1007 BF00168793 Malhotra Renu 1997 Pluto s Orbit subkhnemux March 26 2007 Williams David R November 17 2010 Planetary Fact Sheet Metric NASA Goddard Space Flight Center subkhnemux November 29 2011 Alfven Hannes Arrhenius Gustaf 1976 SP 345 Evolution of the Solar System subkhnemux March 28 2007 Williams James G Benson G S 1971 Resonances in the Neptune Pluto System Astronomical Journal 76 167 Bibcode 1971AJ 76 167W doi 10 1086 111100 de la Fuente Marcos Carlos de la Fuente Marcos Raul 2012 Plutino 15810 1994 JR1 an accidental quasi satellite of Pluto Monthly Notices of the Royal Astronomical Society Letters 427 L85 1209 3116 Bibcode 2012MNRAS 427L 85D doi 10 1111 j 1745 3933 2012 01350 x Pluto s fake moon subkhnemux September 24 2012 Faure Gunter Mensing Teresa M 2007 Pluto and Charon The Odd Couple Introduction to Planetary Science Springer pp 401 408 doi 10 1007 978 1 4020 5544 7 ISBN 978 1 4020 5544 7 Schombert Jim University of Oregon Astronomy 121 Lecture notes 2011 07 23 thi ewyaebkaemchchin Pluto Orientation diagram 2009 03 25 thi ewyaebkaemchchin Pluto Time NASA Solar System Exploration subkhnemux 13 July 2015 NASA 5 June 2015 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2019 02 06 subkhnemux 2015 09 29 NOAA Solar Calculator NOAA Earth System Research Laboratory Global Monitoring Division subkhnemux 13 July 2015 Brown Dwayne Buckley Michael Stothoff Maria 15 January 2015 January 15 2015 Release 15 011 NASA s New Horizons Spacecraft Begins First Stages of Pluto Encounter NASA subkhnemux 15 January 2015 New Horizons pluto jhuapl edu subkhnemux 2016 05 15 Owen Tobias C Roush Ted L Cruikshank Dale P aelakhna 1993 Surface Ices and the Atmospheric Composition of Pluto Science 261 5122 745 748 Bibcode 1993Sci 261 745O doi 10 1126 science 261 5122 745 JSTOR 2882241 PMID 17757212 Grundy W M Olkin C B Young L A Buie M W Young E F 2013 PDF Icarus 223 2 710 721 1301 6284 Bibcode 2013Icar 223 710G doi 10 1016 j icarus 2013 01 019 S2CID 26293543 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux November 8 2015 Buie Marc W Grundy William M Young Eliot F aelakhna 2010 Pluto and Charon with the Hubble Space Telescope I Monitoring global change and improved surface properties from light curves Astronomical Journal 139 3 1117 1127 Bibcode 2010AJ 139 1117B doi 10 1088 0004 6256 139 3 1117 Buie Marc W Pluto map information subkhnemux February 10 2010 Buie Marc W Grundy William M Young Eliot F aelakhna 2010 Pluto and Charon with the Hubble Space Telescope II Resolving changes on Pluto s surface and a map for Charon Astronomical Journal 139 3 1128 1143 Bibcode 2010AJ 139 1128B doi 10 1088 0004 6256 139 3 1128 2015 12 21 Pluto updates from AGU and DPS Pretty pictures from a confusing world subkhnemux 2016 01 24 Umurhan O 2016 01 08 Probing the Mysterious Glacial Flow on Pluto s Frozen Heart blogs nasa gov NASA subkhnemux 2016 01 24 Marchis F Trilling D E 2016 01 20 The Surface Age of Sputnik Planum Pluto Must Be Less than 10 Million Years PLOS ONE 11 1 e0147386 1601 02833 Bibcode 2016PLoSO 1147386T doi 10 1371 journal pone 0147386 Hussmann Hauke Sohl Frank Spohn Tilman November 2006 Subsurface oceans and deep interiors of medium sized outer planet satellites and large trans neptunian objects PDF 185 1 258 273 Bibcode 2006Icar 185 258H doi 10 1016 j icarus 2006 06 005 pluto jhuapl edu NASA New Horizons mission site Johns Hopkins University Applied Physics Laboratory 2007 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2018 10 05 subkhnemux February 15 2014 Millis Robert L Wasserman Lawrence H Franz Otto G aelakhna 1993 Pluto s radius and atmosphere Results from the entire 9 June 1988 occultation data set Icarus 105 2 282 297 Bibcode 1993Icar 105 282M doi 10 1006 icar 1993 1126 Brown Michael E November 22 2010 How big is Pluto anyway Mike Brown s Planets subkhnemux June 9 2015 Franck Marchis on 8 November 2010 Young Eliot F Binzel Richard P 1994 A new determination of radii and limb parameters for Pluto and Charon from mutual event lightcurves Icarus 108 2 219 224 Bibcode 1994Icar 108 219Y doi 10 1006 icar 1994 1056 Young Eliot F Young Leslie A Buie Marc W 2007 Pluto s Radius American Astronomical Society DPS meeting No 39 62 05 Bulletin of the American Astronomical Society 39 541 Bibcode 2007DPS 39 6205Y Zalucha Angela M Gulbis Amanda A S Zhu Xun aelakhna 2011 An analysis of Pluto occultation light curves using an atmospheric radiative conductive model Icarus 211 1 804 818 Bibcode 2011Icar 211 804Z doi 10 1016 j icarus 2010 08 018 Lellouch Emmanuel de Bergh Catherine Sicardy Bruno aelakhna January 15 2015 Exploring the spatial temporal and vertical distribution of methane in Pluto s atmosphere Icarus 246 268 278 1403 3208 Bibcode 2015Icar 246 268L doi 10 1016 j icarus 2014 03 027 NASA s New Horizons Team Reveals New Scientific Findings on Pluto NASA July 24 2015 ehtukarnekidkhunthi 52 30 subkhnemux July 30 2015 We had an uncertainty that ranged over maybe 70 kilometers we ve collapsed that to plus and minus two and it s centered around 1186 Davies John 2001 Beyond Pluto extract PDF Royal Observatory Edinburgh subkhnemux March 26 2007 Close Laird M Merline William J Tholen David J aelakhna 2000 Adaptive optics imaging of Pluto Charon and the discovery of a moon around the Asteroid 45 Eugenia the potential of adaptive optics in planetary astronomy Proceedings of the International Society for Optical Engineering Adaptive Optical Systems Technology 4007 787 795 Bibcode 2000SPIE 4007 787C doi 10 1117 12 390379 S2CID 122678656 NASA July 13 2015 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2017 07 01 subkhnemux July 13 2015 Lakdawalla Emily July 13 2015 Pluto minus one day Very first New Horizons Pluto encounter science results subkhnemux July 13 2015 Conditions on Pluto Incredibly Hazy With Flowing Ice New York Times July 24 2015 subkhnemux July 24 2015 Croswell Ken 1992 Nitrogen in Pluto s Atmosphere KenCroswell com subkhnemux April 27 2007 Than Ker 2006 Astronomers Pluto colder than expected Space com via CNN com subkhnemux November 30 2011 Olkin C B Young L A Borncamp D aelakhna January 2015 Evidence that Pluto s atmosphere does not collapse from occultations including the 2013 May 04 event Icarus 246 220 225 Bibcode 2015Icar 246 220O doi 10 1016 j icarus 2014 03 026 Kelly Beatty 2016 Pluto s Atmosphere Confounds Researchers Sky amp Telescope subkhnemux 2016 04 02 Lellouch Emmanuel Sicardy Bruno de Bergh Catherine aelakhna 2009 Pluto s lower atmosphere structure and methane abundance from high resolution spectroscopy and stellar occultations Astronomy and Astrophysics 495 3 L17 L21 0901 4882 Bibcode 2009A amp A 495L 17L doi 10 1051 0004 6361 200911633 Gugliotta Guy November 1 2005 Possible New Moons for Pluto Washington Post subkhnemux October 10 2006 NASA s Hubble Discovers Another Moon Around Pluto NASA July 20 2011 subkhnemux July 20 2011 Wall Mike July 11 2012 Pluto Has a Fifth Moon Hubble Telescope Reveals Space com subkhnemux July 11 2012 Buie M Tholen D Grundy W 2012 The Orbit of Charon is Circular The Astronomical Journal 144 15 Bibcode 2012AJ 144 15B doi 10 1088 0004 6256 144 1 15 Hamilton D P June 3 2015 Resonant interactions and chaotic rotation of Pluto s small moons Nature 522 7554 45 49 Bibcode 2015Natur 522 45S doi 10 1038 nature14469 PMID 26040889 Stern S Alan Weaver Harold A Jr Steffl Andrew J aelakhna 2005 Characteristics and Origin of the Quadruple System at Pluto Submitted to Nature astro ph 0512599 Witze Alexandra 2015 Pluto s moons move in synchrony Nature doi 10 1038 nature 2015 17681 Matson J July 11 2012 New Moon for Pluto Hubble Telescope Spots a 5th Plutonian Satellite web site subkhnemux July 12 2012 Richardson Derek C Walsh Kevin J 2005 Binary Minor Planets Annual Review of Earth and Planetary Sciences 34 1 47 81 Bibcode 2006AREPS 34 47R doi 10 1146 annurev earth 32 101802 120208 Sicardy Bruno Bellucci Aurelie Gendron Eric aelakhna 2006 Charon s size and an upper limit on its atmosphere from a stellar occultation Nature 439 7072 52 4 Bibcode 2006Natur 439 52S doi 10 1038 nature04351 PMID 16397493 Young Leslie A 1997 The Once and Future Pluto Southwest Research Institute Boulder Colorado subkhnemux March 26 2007 Charon An ice machine in the ultimate deep freeze Gemini Observatory News Release 2007 subkhnemux July 18 2007 NASA s Hubble Finds Pluto s Moons Tumbling in Absolute Chaos subkhnemux June 3 2015 Pluto s moons are even weirder than thought subkhnemux June 20 2015 Pluto s moons dance to a random beat subkhnemux June 20 2015 HubbleSite NewsCenter Hubble Finds Two Chaotically Tumbling Pluto Moons 06 03 2015 Introduction hubblesite org subkhnemux June 3 2015 Tholen David J 1997 Pluto and Charon p 623 ISBN 978 0 8165 1840 1 aelakhna 2011 A Southern Sky and Galactic Plane Survey for Bright Kuiper Belt Objects Astronomical Journal 142 4 98 1107 5309 Bibcode 2011AJ 142 98S doi 10 1088 0004 6256 142 4 98 pluto jhuapl edu NASA New Horizons mission site Johns Hopkins University Applied Physics Laboratory khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux November 13 2014 subkhnemux February 15 2014 Tyson Neil deGrasse 1999 The Planetary Society khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux September 27 2011 subkhnemux November 30 2011 Nine Reasons Why Pluto Is a Planet by Philip Metzger The Planetary Society khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux December 10 2011 subkhnemux November 30 2011 2004 University of Hawaii khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux April 19 2007 subkhnemux March 26 2007 Hahn Joseph M 2005 Neptune s Migration into a Stirred Up Kuiper Belt A Detailed Comparison of Simulations to Observations PDF Saint Mary s University subkhnemux March 5 2008 Levison Harold F Morbidelli Alessandro Van Laerhoven Christa aelakhna 2007 Origin of the Structure of the Kuiper Belt during a Dynamical Instability in the Orbits of Uranus and Neptune Icarus 196 1 258 273 0712 0553 Bibcode 2008Icar 196 258L doi 10 1016 j icarus 2007 11 035 Malhotra Renu 1995 The Origin of Pluto s Orbit Implications for the Solar System Beyond Neptune Astronomical Journal 110 420 astro ph 9504036 Bibcode 1995AJ 110 420M doi 10 1086 117532 Singapore Science Centre 2002 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux November 11 2005 subkhnemux November 29 2011 Young Eliot F Binzel Richard P Crane Keenan 2001 A Two Color Map of Pluto s Sub Charon Hemisphere The Astronomical Journal 121 1 552 561 Bibcode 2001AJ 121 552Y doi 10 1086 318008 Buie Marc W Tholen David J Horne Keith 1992 Albedo maps of Pluto and Charon Initial mutual event results Icarus 97 2 221 227 Bibcode 1992Icar 97 211B doi 10 1016 0019 1035 92 90129 U Buie Marc W How the Pluto maps were made subkhnemux February 10 2010 New Horizons Not Quite to Jupiter Makes First Pluto Sighting pluto jhuapl edu NASA New Horizons mission site Johns Hopkins University Applied Physics Laboratory November 28 2006 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 03 09 subkhnemux November 29 2011 Talbert Tricia September 10 2015 New Pluto Images from NASA s New Horizons It s Complicated NASA subkhnemux September 10 2015 Chang Kenneth September 10 2015 No Surf but Maybe Dunes in NASA s Latest Pluto Photos New York Times subkhnemux September 10 2015 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb dawphluot New Horizons homepage Pluto Profile 2015 11 18 thi ewyaebkaemchchin at NASA s Solar System Exploration site NASA Pluto factsheet