เซอร์ชาลส์ เอ็ดเวิร์ด คิงส์ฟอร์ด สมิท , (อังกฤษ: Charles Edward Kingsford Smith; ชื่อเล่น สมิทธี; 9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1897 – 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 1935) เป็นนักบินและผู้บุกเบิกด้านการบินชาวออสเตรเลีย เขาเป็นคนแรกที่บินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกและบินระหว่างประเทศออสเตรเลียและประเทศนิวซีแลนด์
ชาลส์ คิงส์ฟอร์ด สมิท | |
---|---|
คิงส์ฟอร์ด สมิท ใน ค.ศ. 1932 | |
เกิด | 9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1897 บริสเบน |
เสียชีวิต | 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 1935 ทะเลอันดามัน | (38 ปี)
สาเหตุเสียชีวิต | เครื่องบินตกนอกชายฝั่งประเทศพม่า |
สัญชาติ | จักรวรรดิบริติช ออสเตรเลีย |
มีชื่อเสียงจาก | การบินข้ามแผ่นดินใหญ่ออสเตรเลียโดยไม่พัก การบินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก การแข่งขันบินจากอังกฤษไปออสเตรเลีย |
รางวัล | |
Aviation career | |
ชื่อเต็ม | ชาลส์ เอ็ดเวิร์ด คิงส์ฟอร์ด สมิท |
กองทัพอากาศ | กองทัพอากาศสหราชอาณาจักร |
สงครามที่เข้าร่วม | สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง |
ยศ | (ยศจริง) พลอากาศจัตวา (ยศกิตติมศักดิ์) |
คิงส์ฟอร์ด สมิทเกิดที่บริสเบนและเติบโตในซิดนีย์ เขาออกจากโรงเรียนเมื่ออายุได้ 16 ปีและทำงานเป็นผู้ช่วยวิศวกร เขาเข้าร่วมกองทัพออสเตรเลียใน ค.ศ. 1915 และทำงานเป็นคนขับจักรยานยนต์ขนส่งของในช่วงการทัพกัลลิโพลีในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง จากนั้นเขาได้โอนย้ายไปยัง (แผนกการบินของกองทัพสหราชอาณาจักร) และได้รับ ใน ค.ศ. 1917 หลังจากที่รอดชีวิตหลังเครื่องบินถูกยิงตก หลังสิ้นสุดสงครามเขาทำงานเป็นนักบินผาดโผนในอังกฤษและสหรัฐก่อนย้ายกลับออสเตรเลียใน ค.ศ. 1921 และเข้าทำงานเป็นนักบินพาณิชย์ให้กับในเวลาต่อมา ซึ่งเป็นนักบินพาณิชย์รุ่นแรก ๆ ของประเทศด้วย
ใน ค.ศ. 1928 คิงส์ฟอร์ด สมิทเป็นครั้งแรกระหว่างแคลิฟอร์เนียไปยังบริสเบนโดยจอดพักที่ฮาวายและฟีจี ซึ่งเป็นเที่ยวบินที่ทำให้ตัวเขาเอง นักบินผู้ช่วย และลูกเรือสองคนได้แก่และกลายเป็นคนดังหลังจากนั้น ในปีเดียวกันเขาและอูล์มบินข้ามประเทศจากเมลเบิร์นไปยังเพิร์ทโดยไม่จอดพักเป็นครั้งแรก และจากออสเตรเลียไปยังนิวซีแลนด์เป็นครั้งแรกเช่นกัน ทั้งคู่ร่วมกันก่อตั้งแต่ไม่ประสบความสำเร็จ เขายังคงแข่งขันบินเร็วและพยายามทดลองทำสิ่งที่ท้าทายในวงการบินอีกหลายอย่าง
ใน ค.ศ. 1935 คิงส์ฟอร์ด สมิทและนักบินผู้ช่วยทอมมี เพทธีบริดจ์หายสบสูญเหนือทะเลอันดามันระหว่างพยายามทำลายสถิติบินระหว่างออสเตรเลียและอังกฤษโดยใช้เวลาน้อยที่สุด เขาได้รับยกย่องให้เป็นวีรบุรุษแห่งชาติระหว่างภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่และได้รับการยกย่องต่าง ๆ ในชั่วชีวิตของเขา ท่าอากาศยานซิดนีย์ตั้งชื่อตามเขา และเขายังปรากฏบนธนบัตร 20 ดอลลาร์ออสเตรเลียเป็นเวลาหลายทศวรรษ
วัยเด็กและชีวิตส่วนตัว
ชาลส์ เอิดเวิร์ด คิงส์ฟอร์ด สมิทเกิดเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1987 ที่ริเวอร์วิวเทอร์เรซ ย่านแฮมิลทันในเมืองบริสเบน เขาเป็นบุตรของวิลเลียม ชาลส์ สมิท และแคทเธอรีน แมรี (นามสกุลก่อนสมรสว่าคิงส์ฟอร์ด ธิดาของ ซึ่งเป็นสมาชิกและเคยเป็นนายกเทศมนตรีของทั้งเทศบาลบริสเบนและเทศบาลแคนส์) สูติบัตรและประกาศแจ้งเกิดในหนังสือพิมพ์ระบุนามสกุลของเขาว่า "สมิท" ซึ่งเป็นนามสกุลที่ครอบครัวใช้ในขณะนั้น นามสกุล "คิงส์ฟอร์ด สมิท" ปรากฏครั้งแรกน่าจะมาจากพี่ชายของเขา ริชาร์ด แฮโรลด์ คิงส์ฟอร์ด สมิท ซึ่งใช้ชื่อดังกล่าวอย่างไม่เป็นทางการตั้งแต่ ค.ศ. 1901 แม้ว่าเขาจะสมรสในรัฐนิวเซาท์เวลส์โดยใช้นามสกุลสมิทใน ค.ศ. 1903 ก็ตาม
ใน ค.ศ. 1903 ครอบครัวของเขาได้ย้ายไปอยู่ประเทศแคนาดาและได้ใช้นามสกุลคิงส์ฟอร์ด สมิทนับแต่นั้น ก่อนจะเดินทางกลับมาซิดนีย์ใน ค.ศ. 1907
คิงส์ฟอร์ด สมิทเข้าโรงเรียนครั้งแรกที่เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ต่อมาระหว่าง ค.ศ. 1909 ถึง 1911 เขาเข้าเรียนที่โรงเรียนเซนต์แอนดรูส์คัทธีดรัลในซิดนีย์ ที่นั่นเขาเป็นสมาชิกคณะขับร้องในโบสถ์ของโรงเรียนด้วย: 39–40, 48 จากนั้นได้เข้าเรียนต่อที่โรงเรียนเทคนิคซิดนีย์และเข้าฝึกงานเป็นวิศวกรที่เมื่ออายุได้ 16 ปี
คิงส์ฟอร์ด สมิทสมรสกับเทลมา ไอลีน โฮป คอร์บอยใน ค.ศ. 1923 ก่อนจะหย่าร้างกันใน ค.ศ. 1929 และสมรสอีกครั้งกับแมรี เพาเวลล์ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1930
หลังจากสมรสกับแมรี เขาได้เข้าร่วมขบวนการ ซึ่งเป็นกำลังกึ่งทหารที่นิยมกษัตริย์ ต่อต้านคอมมิวนิสต์ และเป็นไปได้ว่าได้รับแรงบันดาลใจจากขบวนการฟาสซิสต์
สงครามโลกครั้งที่หนึ่งและประสบการณ์การบิน
ค.ศ. 1915 คิงส์ฟอร์ด สมิทสมัครเข้ารับราชการทหารในและร่วมรบในการทัพกัลลิโพลี เดิมทีเดียวนั้นคิงส์ฟอร์ด สมิทได้รับมอบหมายให้ขับรถจักรยานยนต์รับส่งของ ก่อนที่จะย้ายไปประจำโดยได้รับอนุญาตให้บินครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1917
เดือนสิงหาคม ค.ศ. 1917 ขณะรับราชการในฝูงบินที่ 23 เครื่องบินของคิงส์ฟอร์ด สมิทถูกยิงตกทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทำให้ต้องตัดนิ้วเท้าออกสองนิ้ว เขาได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ยกย่องความกล้าหาญในสงคราม
วันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 1918 คิงส์ฟอร์ด สมิทและนักบินคนอื่น ๆ ในกองบินหลวงได้ย้ายไปประจำกองทัพอากาศสหราชอาณาจักรซึ่งจัดตั้งขึ้นใหม่ หลังจากที่หมดหน้าที่ทางทหารหลังสิ้นสุดสงคราม เขาได้ก่อตั้งคิงส์ฟอร์ด สมิท แมดดอกส์ แอโรส์ จำกัดร่วมกับไซริล แมดดอกส์ ชาวรัฐแทสเมเนียช่วงต้น ค.ศ. 1919 เพื่อดำเนินกิจการการบินเพื่อความบันเทิงทางภาคเหนือของอังกฤษในช่วงฤดูร้อน โดยใช้เครื่องบินฝึกหัด และ ที่เหลือมาจากสงคราม ก่อนจะไปทำอาชีพนักบินผาดโผนในสหรัฐก่อนกลับออสเตรเลียใน ค.ศ. 1921 คิงส์ฟอร์ด สมิทยื่นขอรับใบอนุญาตขับเครื่องบินพาณิชย์เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ค.ศ. 1921 โดยใช้ชื่อว่า "ชาลส์ เอ็ดเวิร์ด คิงส์ฟอร์ด-สมิท"
หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น คาวราฟรีเพรสส์ เล่าเรื่องว่าคิงส์ฟอร์ด สมิทเคยขับเครื่องบินลอดใต้สะพานข้ามในเมือง รัฐนิวเซาท์เวลส์ ร่วมกับนักขับรถที่มีชื่อเสียงในท้องถิ่น เคน ริชาดส์ ในบทความระบุต่อไปว่าคิงส์ฟอร์ด สมิทเตรียมที่จะขับเครื่องบินลอดใต้สะพานรถไฟที่อยู่ใกล้เคียง แต่ริชาดส์เตือนว่าใต้สะพานมีสายโทรเลขอยู่ บทความนั้นยังเล่าต่อไปว่าริชาดส์เป็นเพื่อนกับคิงส์ฟอร์ด สมิท และเคยขับเครื่องบินด้วยกันมาก่อนขณะอยู่ที่ฝรั่งเศส
คิงส์ฟอร์ด สมิทกลายเป็นหนึ่งในนักบินพาณิชย์รุ่นแรกของประเทศออสเตรเลียเมื่อได้คัดเลือกเขาเข้าเป็นนักบินประจำสายการบิน โดยขับเครื่องบิน ไทป์ 28 ทะเบียน G-AUDF บินรับส่งพัสดุให้กับนักดาราศาสตร์ในช่วงสุริยุปราคา ค.ศ. 1922 ที่ รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ในช่วงเวลานั้นเขาเริ่มวางแผนที่จะบินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก
การบินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก ค.ศ. 1928
ใน ค.ศ. 1928 คิงส์ฟอร์ด สมิท และเดินทางมาถึงสหรัฐเพื่อหาเครื่องบินที่จะใช้บินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก เซอร์ นักสำรวจขั้วโลกชาวออสเตรเลียได้ขายเครื่องบิน ให้กับคิงส์ฟอร์ด สมิทและอูล์ม พวกเขาตั้งชื่อเครื่องบินลำนี้ว่า
เวลา 8:54 น. วันที่ 31 พฤษภาคม ค.ศ. 1928 คิงส์ฟอร์ด สมิทและลูกเรือได้แก่ชาลส์ อูล์มชาวออสเตรเลียซึ่งเป็นนักบินสำรอง และลูกเรือชาวอเมริกันอีกสองคนได้แก่ ผู้ควบคุมวิทยุ และกัปตัน ผู้นำทางและวิศวกรประจำเที่ยวบิน รวมสี่คนบินออกจากโอกแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนียเพื่อเริ่มบินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นครั้งแรกไปยังออสเตรเลีย เส้นทางบินแบ่งเป็นสามระยะ ระยะแรกจากโอกแลนด์ไปยัง ใกล้เมืองโฮโนลูลู รัฐฮาวาย มีระยะทาง 3,870 กิโลเมตร (2,400 ไมล์) ใช้เวลาบิน 27 ชั่วโมง 25 นาทีโดยไม่มีอุบัติการณ์ใด ๆ ระยะที่สองต้องบินขึ้นจากบนเกาะคาไวที่อยู่ใกล้เคียงแทนเนื่องจากทางวิ่งที่วีลเลอร์ยาวไม่พอ ปลายทางของระยะที่สองได้แก่กรุงซูวา ประเทศฟีจี ซึ่งอยู่ห่างออกไป 5,077 กิโลเมตร (3,155 ไมล์) ใช้เวลาบิน 34 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งเป็นระยะที่ยากลำบากที่สุดเนื่องจากพวกเขาบินฝ่าพายุฝนฟ้าคะนองใกล้กับเส้นศูนย์สูตร ระยะที่สามนั้นสั้นที่สุด โดยมีระยะทาง 2,709 กิโลเมตร (1,683 ไมล์) ใช้เวลาบิน 20 ชั่วโมงเพื่อข้ามชายฝั่งออสเตรเลียใกล้กับเมือง ก่อนจะหักขึ้นไปทางเหนือต่อไปอีก 170 กิโลเมตร (110 ไมล์) ไปถึงบริสเบน พวกเขาลงจอดเมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 9 มิถุนายน ระยะทางบินโดยรวมประมาณ 11,566 กิโลเมตร (7,187 ไมล์) ที่ (ท่าอากาศยานแห่งเก่าซึ่งต่อมาถูกแทนที่โดย) มีผู้คนมารอต้อนรับคิงส์ฟอร์ด สมิทและลูกเรือกว่า 26,000 คน พวกเขาได้รับการต้อนรับเฉกเช่นวีรบุรุษ
ของประเทศออสเตรเลียมีภาพยนตร์ชีวประวัติของคิงส์ฟอร์ด สมิทชื่อ แอนแอร์แมนรีเมมเบอส์ และเทปบันทึกเสียงคิงส์ฟอร์ด สมิทและอูล์มเล่าเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางของพวกเขาเก็บรักษาเอาไว้
รัฐวิสาหกิจด้านไปรษณีย์ได้ออกแผ่นแสตมป์และแสตมป์ที่ระลึกซึ่งมีภาพของคิงส์ฟอร์ด สมิทและอูล์มใน ค.ศ. 1978 เพื่อฉลองครบรอบ 50 ปีของการบินครั้งนี้
หญิงสาวชาวนิวซีแลนด์เข้าร่วมงานเลี้ยงกับคิงส์ฟอร์ด สมิทหลังเที่ยวบินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกและกล่าวกับเขาว่าเธออยากจะหัดขับเครื่องบินบ้าง คิงส์ฟอร์ด สมิทให้คำแนะนำเชิงติดตลกกับเธอว่า "อย่าพยายามทำลายสถิติของนักบินผู้ชาย และอย่าบินตอนกลางคืน" อย่างไรก็ตาม แบตเทนโน้มน้าวให้เขาพาเธอขึ้นเครื่องบินเซาเทิร์นครอสส์ และเธอได้กลายเป็นนักบินที่สร้างสถิติสำคัญต่าง ๆ อีกคนหนึ่ง
การบินข้ามทะเลแทสมัน ค.ศ. 1928
ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1928 คิงส์ฟอร์ด สมิทและอูล์มบินข้ามประเทศออสเตรเลียโดยไม่จอดพักจากใกล้เมืองเมลเบิร์นไปยังเพิร์ท รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียได้สำเร็จ พวกเขาต่อมาได้จดทะเบียนจัดตั้งสายการบิน และตัดสินใจที่จะพยายามบินข้ามทะเลแทสมันไปยังประเทศนิวซีแลนด์ เนื่องจากยังไม่มีใครเคยทำได้สำเร็จมาก่อน และพวกเขาคิดว่าถ้าทำได้สำเร็จจะสามารถต่อรองกับรัฐบาลออสเตรเลียทำสัญญาขนส่งพัสดุระหว่างสองประเทศนี้โดยมีเงินสนับสนุนได้ นักบินชาวนิวซีแลนด์สองคนได้แก่ได้พยายามบินข้ามช่องแคบนี้เมื่อเดือนมกราคมปีเดียวกันแต่พวกเขาหายสาบสูญโดยไม่มีใครพบอีกเลย
คิงส์ฟอร์ด สมิทวางแผนว่าจะบินจากใกล้กับซิดนีย์ในวันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน ค.ศ. 1928 และจะลงจอดเวลาประมาณ 9:00 น. ของวันที่ 3 กันยายนที่ ใกล้กับไครสต์เชิร์ช เมืองสำคัญบนเกาะใต้ของประเทศนิวซีแลนด์ แผนการดังกล่าวทำให้บรรดาบาทหลวงในประเทศนิวซีแลนด์ไม่พอใจและประท้วงเนื่องจากเป็นการดูหมิ่นคุณค่าของวันสะบาโต
นายกเทศมนตรีของไครสต์เชิร์ชก็สนับสนุนการประท้วงของบรรดาบาทหลวงดังกล่าวและส่งข้อความทางโทรเลขไปยังคิงส์ฟอร์ด สมิท อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศเหนือทะเลแทสมันเลวร้ายลงและคิงส์ฟอร์ด สมิทตัดสินใจเลื่อนการเดินทางออกไป จึงไม่ทราบแน่ชัดว่าการประท้วงดังกล่าวมีผลต่อคิงส์ฟอร์ด สมิทหรือไม่
คิงส์ฟอร์ด สมิทและลูกเรือได้แก่อูล์ม และลูกเรือชาวนิวซีแลนด์สองคนได้แก่แฮโรลด์ อาร์เทอร์ ลิตช์ฟีลด์ ผู้นำทาง และโทมัส เอช. แมกวิลเลียมส์ ผู้ควบคุมวิทยุ ซึ่งทางรัฐบาลนิวซีแลนด์ได้จัดหาให้ เดินทางออกจากริชมอนด์ตอนเย็นวันที่ 10 กันยายน และบินข้ามคืนเป็นเวลา 14 ชั่วโมงและลงจอดในตอนเช้า เส้นทางบิน 2,600 กิโลเมตร (1,600 ไมล์) ที่วางแผนไว้นั้นมีระยะประมาณครึ่งหนึ่งของระยะทางจากฮาวายและฟีจีเท่านั้น สภาพอากาศระหว่างทางไม่ดีนักซึ่งทำให้เกิดน้ำแข็งเกาะตัวเครื่องและทำให้การบินเป็นไปอย่างยากลำบาก อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศบริเวณช่องแคบคุกระหว่างเกาะเหนือและเกาะใต้นั้นดีกว่าระหว่างทางที่ผ่านมา เมื่อพวกเขาอยู่ห่างจากชายฝั่งประเทศนิวซีแลนด์ประมาณ 241 กิโลเมตร (150 ไมล์) พวกเขาได้ทิ้งพวงหรีดเพื่อระลึกถึงมอนครีฟฟ์และฮุดที่หายสาบสูญไประหว่างพยายามบินข้ามทะเลแทสมันเมื่อต้นปี
เซาเทิร์นครอสส์ลงจอดที่ไครสต์เชิร์ชเมื่อเวลา 9:22 น. หลังบินเป็นระยะเวลา 14 ชั่วโมง 25 นาที ฝูงชนมารอต้อนรับคิงส์ฟอร์ด สมิทและลูกเรืออย่างล้นหลามกว่า 30,000 คน รวมทั้งนักเรียนจากโรงเรียนของรัฐบาลที่ประกาศปิดเป็นกรณีพิเศษ และข้าราชการที่ได้รับอนุญาตให้หยุดงานจนถึงเวลา 11 นาฬิกา เหตุการณ์ดังกล่าวยังได้กระจายเสียงสดออกทางวิทยุด้วย
อาสาตรวจสภาพเครื่องบินเซาเทิร์นครอสส์โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และพาคิงส์ฟอร์ด สมิทและอูล์มเที่ยวชมประเทศนิวซีแลนด์โดยใช้เครื่องบิน
พวกเขาเดินทางกลับริชมอนด์โดยตั้งต้นจากเมือง เมืองเล็กทางตอนเหนือของเกาะใต้ การบินกลับประสบปัญหาเนื่องจากหมอก สภาพอากาศที่เลวร้าย และการนำทางที่ผิดพลาดเล็กน้อย ทำให้ต้องใช้เวลากว่า 23 ชั่วโมงจึงจะถึงริชมอนด์ และเมื่อลงจอดแล้วเครื่องบินเหลือเชื้อเพลิงมากพอที่จะให้บินต่อได้อีกเพียง 10 นาทีเท่านั้น
ออสเตรเลียนแนชันนัลแอร์เวส์
คิงส์ฟอร์ด สมิทกับอูล์มร่วมกันก่อตั้งสายการบินขึ้นใน ค.ศ. 1929 โดยเริ่มดำเนินกิจการรับส่งผู้โดยสาร พัสดุไปรษณีย์ และสินค้าระหว่างซิดนีย์ บริสเบน และเมลเบิร์นในเดือนมกราคม ค.ศ. 1930 โดยมีเครื่องบินประจำฝูงบินห้าลำ แต่ปิดกิจการไปหลังจากที่ประสบอุบัติเหตุในเดือนมีนาคมและพฤศจิกายนปีถัดมา
เที่ยวบินสำคัญช่วงต้นทศวรรษ 1930
หลังจากที่คิงส์ฟอร์ด สมิทส่งเครื่องบินเซาเทิร์นครอสส์คู่ใจไปเข้ารับการซ่อมบำรุงโดยบริษัทที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ และต่อมาในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1930 เขาได้บินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกในทิศทางตะวันออก–ตะวันตกจากไอร์แลนด์ไปยังนิวฟันด์แลนด์โดยใช้เวลา 3112 ชั่วโมง ตั้งต้นจากหาดพอร์ทมาร์น็อกซึ่งอยู่เหนือกรุงดับลินเล็กน้อย พวกเขาได้บินต่อไปยังโอกแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย อันเป็นการบรรจบเส้นทางรอบโลกที่เริ่มต้นใน ค.ศ. 1928 ในปีเดียวกันนั้นเองเขาได้เข้าจากอังกฤษไปยังออสเตรเลีย และชนะการแข่งขันโดยใช้เวลา 13 วัน และบินเพียงลำพัง เขาเดินทางถึงซิดนีย์เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 1930
ใน ค.ศ. 1931 เขาซื้อเครื่องบินและตั้งชื่อให้ว่า เพื่อใช้บินแข่งขันจากออสเตรเลียไปอังกฤษ และได้ขายเครื่องบินลำดังกล่าวให้กับกัปตัน ผู้ซึ่งหายสาบสูญเมื่อวันที่ 11 เมษายน ค.ศ. 1933 เหนือทะเลทรายสะฮารา ร่างของแลงคาสเตอร์ถูกพบใน ค.ศ. 1962 ส่วนซากเครื่องบิน เซาเทิร์นครอสส์ไมเนอร์ จัดแสดงอยู่ที่ ในช่วงต้นทศวรรษ 1930 คิงส์ฟอร์ด สมิทยังได้พัฒนารถยนต์รุ่นควบคู่กันไปด้วย
ใน ค.ศ. 1933 คิงส์ฟอร์ด สมิทเริ่มดำเนินกิจการเที่ยวบินพาณิชย์ระหว่างออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เป็นครั้งแรกโดยใช้เป็นทางวิ่ง และใน ค.ศ. 1934 เขาได้ซื้อเครื่องบินชื่อ เพื่อเข้าแข่งขันรายการ
การหายสาบสูญและการเสียชีวิต
คิงส์ฟอร์ด สมิทและจอห์น ทอมป์สัน "ทอมมี" เพทธีบริดจ์ขับเครื่องบินเลดีเซาเทิร์นครอสส์ตอนกลางคืนจากอลาหาบาด อินเดียไปยังสิงคโปร์เพื่อพยายามที่จะทำลายสถิติการบินจากอังกฤษไปออสเตรเลียที่และทำไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม คิงส์ฟอร์ด สมิทและเพทธีบริดจ์หายสาบสูญเหนือทะเลอันดามันในช่วงเช้ามืดของวันที่ 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 1935 นักบินผู้หนึ่งได้อ้างว่าเขาเห็นเลดีเซาเทิร์นครอสส์บินฝ่าพายุประมาณ 150 ไมล์ (240 กิโลเมตร) จากชายฝั่งที่ระดับความสูง 200 ฟุต (61 เมตร) เหนือระดับน้ำทะเลโดยมีเปลวไฟพ่นออกมาจากเครื่อง เอริก สแตนลีย์ กรีนวุด นักบินชาวบริติชพยายามบินค้นหาเหนืออ่าวเบงกอลกว่า 74 ชั่วโมงแต่ไม่พบร่างของพวกเขา
สิบแปดเดือนต่อมา ชาวประมงชาวพม่าพบชิ้นส่วนขาล้อและล้อเครื่องบินซึ่งลมยางภายในยังคงเต็มอยู่ ชิ้นส่วนดังกล่าวถูกซัดมาเกยชายฝั่งในอ่าวเมาะตะมะ ห่างจากชายฝั่งรัฐมอญ ประเทศพม่าประมาณ 3 กิโลเมตร (1.9 ไมล์) และห่างจากเมืองเมาะตะมะไปประมาณ 137 กิโลเมตร (85 ไมล์) ทางทิศใต้ ล็อกฮีดได้ยืนยันว่าชิ้นส่วนดังกล่าวเป็นของเลดีเซาเทิร์นครอสส์ นักพฤกษศาสตร์ได้ศึกษาพืชที่เกาะบนชิ้นส่วนและคาดการณ์ว่าเครื่องบินน่าจะตกไม่ห่างจากเกาะดังกล่าวนัก ที่ระดับความลึกประมาณ 15 ฟาทอม (90 ฟุต; 27 เมตร) ชิ้นส่วนขาล้อนี้ได้จัดแสดงต่อสาธารณชนที่ในซิดนีย์
สมาชิกของครอบครัวคิงส์ฟอร์ด สมิทที่เหลือได้แก่แมรีหรือเลดีคิงส์ฟอร์ด สมิทผู้เป็นภรรยา และบุตรชายวัยสามขวบได้แก่ชาลส์ จูเนียร์ หนังสืออัตชีวประวัติของคิงส์ฟอร์ด สมิทชื่อ มายฟลายอิงไลฟ์ ออกตีพิมพ์ใน ค.ศ. 1937 หลังจากที่เขาเสียชีวิต และกลายเป็นหนังสือขายดีหัวเรื่องหนึ่ง
ใน ค.ศ. 2009 เดเมียน เลย์ ผู้สร้างภาพยนตร์และนักสำรวจได้กล่าวว่าเขาแน่ใจว่าเขาค้นพบแล้ว อย่างไรก็ตาม คำกล่าวอ้างของเลย์ยังคงเป็นที่ถกเถียงว่าเชื่อถือได้หรือไม่ ผู้โต้แย้งรายสำคัญได้แก่ นักธุรกิจและนักบินผู้มีชื่อเสียงชาวออสเตรเลีย และ นักเขียนชาวนิวซีแลนด์ผู้แต่งชีวประวัตินักบินคนสำคัญหลายคนรวมทั้งคิงส์ฟอร์ด สมิท โดยแมกเคอร์ซีย์บรรยายว่าคำกล่าวอ้างของเลย์นั้น "ไร้สาระสิ้นดี"
เกียรติประวัติและสิ่งสืบเนื่อง
ใน ค.ศ. 1930 คิงส์ฟอร์ด สมิทเป็นคนแรกที่ได้รับซึ่งเป็นรางวัลที่จัดตั้งขึ้นเพื่อยกย่อง "ทักษะ ความกล้าหาญ และความริเริ่มที่ยอดเยี่ยมบนบก ในน้ำ [หรือ] ในอากาศ"
คิงส์ฟอร์ด สมิทได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ชั้นอัศวินชั้น จากสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 แห่งสหราชอาณาจักรเนื่องจากเป็นผู้สร้างคุณูปการต่อแวดวงการบิน โดยได้รับการแตะบ่าจากเซอร์ ผู้สำเร็จราชการออสเตรเลียเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ค.ศ. 1932 และต่อมาเขาได้รับมอบยศพลอากาศจัตวากิตติมศักดิ์ประจำ
ใน ค.ศ. 1986 คิงส์ฟอร์ด สมิทได้รับการเสนอชื่อเข้าสู่
ท่าอากาศยานหลักของนครซิดนีย์ซึ่งตั้งอยู่ในย่านใช้ชื่อว่าท่าอากาศยานนานาชาติคิงส์ฟอร์ด สมิทเพื่อเป็นเกียรติแก่เขา เขตเลือกตั้งโดยรอบท่าอากาศยานใช้ชื่อว่าเขตคิงส์ฟอร์ด สมิทซึ่งครอบคลุมพื้นที่ย่านด้วย
เครื่องบินที่โด่งดังที่สุดของเขาจัดแสดงอยู่ที่อาคารอนุสรณ์สถานใกล้กับอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศของ เครื่องบินลำดังกล่าวนั้นคิงส์ฟอร์ด สมิทได้ขายให้รัฐบาลออสเตรเลียใน ค.ศ. 1935 ด้วยราคา 3000 ปอนด์เพื่อจัดแสดงต่อสาธารณชนเป็นการถาวร และถูกเก็บรักษาเป็นอย่างดีตั้งแต่ก่อนที่อนุสรณ์สถานปัจจุบันจะสร้างเสร็จ
ถนนสายหนึ่งที่ตัดผ่านย่านที่เขาเกิดได้ชื่อว่าคิงส์ฟอร์ด สมิทไดรฟ์ นอกจากนี้ยังมีคิงส์ฟอร์ด สมิทไดรฟ์อีกสายหนึ่งอยู่ในเขต กรุงแคนเบอร์ราซึ่งตัดกับถนนอีกสายชื่อเซาเทิร์นครอสส์ไดรฟ์
โรงเรียนสองแห่งตั้งชื่อตามคิงส์ฟอร์ด สมิท ได้แก่โรงเรียนคิงส์ฟอร์ด สมิทในย่าน กรุงแคนเบอร์ราซึ่งก่อตั้งใน ค.ศ. 2009 และโรงเรียนประถมศึกษาเซอร์ชาลส์ คิงส์ฟอร์ด-สมิทในเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา
ภาพของคิงส์ฟอร์ด สมิทปรากฏบนธนบัตรมูลค่า 20 ดอลลาร์ออสเตรเลียซึ่งหมุนเวียนใช้ระหว่าง ค.ศ. 1966 ถึง ค.ศ. 1994 (เมื่อประเทศออสเตรเลียเปลี่ยนไปใช้ธนบัตรพลาสติกแทนธนบัตรกระดาษ) เพื่อยกย่องคุณูปการของเขาต่อวงการการบินและความสำเร็จตลอดชั่วชีวิตของเขา นอกจากนี้ภาพของเขายังปรากฏบนที่ออกใน ค.ศ. 1997 เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 100 ปีชาตกาลของเขาด้วย
ศาลาคิงส์ฟอร์ด สมิทสร้างขึ้นในในกรุงซูวา ประเทศฟีจี ที่ซึ่งคิงส์ฟอร์ด สมิทจอดพักระหว่างเส้นทางบินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก และที่ที่ซึ่งคิงส์ฟอร์ด สมิทดำเนินกิจการเที่ยวบินพาณิชย์ไปยังนิวซีแลนด์เป็นครั้งแรกก็มีแผ่นป้ายอนุสรณ์อยู่ด้วยเช่นกัน
เครื่องบินพาณิชย์สองลำตั้งชื่อตามคิงส์ฟอร์ด สมิทได้แก่เครื่องบินแอร์บัส เอ380 ของสายการบินควอนตัส ทะเบียน VH-OQF และเครื่องบินโบอิง 747 ของสายการบินเคแอลเอ็ม ทะเบียน PH-BUM
ดาวบริวารดวงเล็กดวงหนึ่งของดาวเสาร์ตั้งชื่อตามเขา
ออสติน เบิร์น ผู้ชื่นชอบการบินชาวออสเตรเลียเป็นคนหนึ่งที่ไปรอรับเซาเทิร์นครอสส์และลูกเรือเดินทางข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกกลับถึงออสเตรเลียใน ค.ศ. 1928 เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เบิร์นสร้างแบบจำลองของเซาเทิร์นครอสส์เพื่อมอบให้แก่คิงส์ฟอร์ด สมิท หลังจากที่คิงส์ฟอร์ด สมิทหายสาบสูญ เบิร์นได้สร้างสิ่งระลึกเพิ่มเติมเช่นภาพวาด ภาพถ่าย เอกสาร และงานศิลปะต่าง ๆ เบิร์นทุ่มเทให้กับการสร้างสรรค์และนำเที่ยวชมอนุสรณ์เซาเทิร์นครอสส์ของเขาตั้งแต่ ค.ศ. 1930 จนกระทั่งเบิร์นเสียชีวิตใน ค.ศ. 1993
หมายเหตุ
ก่อนหน้าที่คิงส์ฟอร์ด สมิทและลูกเรือจะบินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกเคยมีเครื่องบินชื่อของซึ่งบินเหนือมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นครั้งแรก โดยบินจากแคลิฟอร์เนียไปยังฮาวายใน ค.ศ. 1927
อ้างอิง
- Citizenship in Australia 9 สิงหาคม 2011 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน — National Archives of Australia
- "Australian nationality law". Visaparaaustralia.com. จากแหล่งเดิมเมื่อ 25 April 2012.
- . Queensland birth index. Queensland Government. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 March 2011. สืบค้นเมื่อ 25 June 2017.
- "Family Notices". . Vol. LIII no. 12, 196. Queensland, Australia. 13 February 1897. p. 4. จากแหล่งเดิมเมื่อ 17 July 2022. สืบค้นเมื่อ 25 June 2017 – โดยทาง National Library of Australia.
- "Dramatic Art and Elocution Class". . Vol. 10 no. 47. Queensland, Australia. 15 January 1901. p. 2. จากแหล่งเดิมเมื่อ 17 July 2022. สืบค้นเมื่อ 25 June 2017 – โดยทาง National Library of Australia.
- "3979/1903 Smith, Richard H K & Johnson, Elsie K St C". New South Wales Marriage Index. . จากแหล่งเดิมเมื่อ 17 July 2022. สืบค้นเมื่อ 25 June 2017.
- Howard, Frederick. "Kingsford Smith, Sir Charles Edward (1897–1935)". Australian Dictionary of Biography. Canberra: National Centre of Biography, Australian National University. จากแหล่งเดิมเมื่อ 4 November 2017. สืบค้นเมื่อ 14 April 2019.
- Newth, Melville C (1980). Serving a Great Cause. Sydney: M C Newth. ISBN .
- Sparrow, Jeff (22 July 2015). "If you oppose Reclaim Australia, remember fascism wasn't always a freakshow". The Guardian. จากแหล่งเดิมเมื่อ 31 May 2020. สืบค้นเมื่อ 8 June 2020.
- "Lieutenant Charles Edward Kingsford-Smith". . จากแหล่งเดิมเมื่อ 12 June 2018. สืบค้นเมื่อ 9 June 2018.
- "Finding 'Smithy'" (PDF). . 2003. p. 6. (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 10 September 2015. สืบค้นเมื่อ 9 June 2018.
- Aspin, Chris Dizzy Heights The Story of Lancashire's First Flying Men Helmshore Local History Society 1988 pp125-9 ISBN
- "Fifty Australians". Awm.gov.au. 31 May 1928. จากแหล่งเดิมเมื่อ 4 December 2008.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 March 2009 – โดยทาง National Archives of Australia.
- "Sydney to Cowra in Four Hours". . Vol. 48 no. 3294. New South Wales, Australia. 29 March 1927. p. 3. สืบค้นเมื่อ 26 August 2022 – โดยทาง National Library of Australia.
- "Trans-Pacific Flight". . Vol. 50 no. 3404. New South Wales, Australia. 5 June 1928. p. 2. สืบค้นเมื่อ 25 August 2022 – โดยทาง National Library of Australia.
- "Aviation". The West Australian. Perth, West Australia. 29 September 1922. p. 7. จากแหล่งเดิมเมื่อ 27 October 2018. สืบค้นเมื่อ 12 January 2020 – โดยทาง National Library of Australia.
- "Charles Kingsford Smith biography Ace Pilots". Acepilots.com. จากแหล่งเดิมเมื่อ 27 September 2011.
- . ABCnet.au. 31 May 1928. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 March 2016. สืบค้นเมื่อ 21 September 2009.
- Lyon, Harry W. Captain; Kingsford-Smith, Charles Sir; Warner, James. (Interviewee); 2GB (Radio station : Sydney, N.S.W.) (1958), Reminiscences of flights in the "Southern Cross", จากแหล่งเดิมเมื่อ 17 July 2022, สืบค้นเมื่อ 2 February 2017
- "Charles Kingsford-Smith – Hawaii Aviation". Hawaii.gov. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2 October 2015.
- "The Great Pacific Flight". . 20 (1016): 437. 14 June 1928. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2 November 2013. สืบค้นเมื่อ 31 August 2013.
- ; (1928). Story of "Southern Cross" Trans-Pacific Flight, 1928. Sydney: Penlington and Somerville.
- . Ballina Aero Club. 9 June 1928. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 April 2013.
- "Far North Coaster". Far North Coaster. 23 May 2008. จากแหล่งเดิมเมื่อ 3 November 2013. สืบค้นเมื่อ 17 March 2012.
- Aviators - Charles Kingsford-Smith 15 เมษายน 2014 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - (includes photo of the plaque commemorating the flight across the Pacific and the landing at Brisbane on 9 June 1928)
- . 24 January 2004. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 January 2004. สืบค้นเมื่อ 20 March 2018.
- Photo of Southern Cross, and welcoming crowd, at Eagle Farm on 9 June 1928 (National Archives of Australia)[]
- "Magnificent Machines – Home-grown Legends (Sydney Morning Herald)". Sydney Morning Herald. 17 December 2003. จากแหล่งเดิมเมื่อ 20 October 2012.
- of Australia: 'An Airman Remembers' 5 ธันวาคม 2011 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน on australianscreen online 2 มีนาคม 2011 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- of Australia: 'Our Heroes of the Air' 31 มกราคม 2012 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Australia Post. Stamps and Philatelic Branch (1978), [Australia Post covers], Australia Post, Stamps and Philatelic Branch, จากแหล่งเดิมเมื่อ 17 July 2022, สืบค้นเมื่อ 2 February 2017
- . www.nzedge.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 September 2009. สืบค้นเมื่อ 20 March 2018.
- , 1977, Charles Kingsford Smith: Smithy, the World's Greatest Aviator, Summit Books, ISBN
- Anderson, Charles (14 July 2013). "Lost in the long white cloud". . จากแหล่งเดิมเมื่อ 12 June 2018. สืบค้นเมื่อ 8 June 2018.
- "Tasman Sea Flight". . No. 25, 604. Victoria, Australia. 3 September 1928. p. 13. จากแหล่งเดิมเมื่อ 17 July 2022. สืบค้นเมื่อ 8 June 2018 – โดยทาง National Library of Australia.
- "Today in History | NZHistory, New Zealand history online". Nzhistory.net.nz. 11 September 1928. จากแหล่งเดิมเมื่อ 26 January 2016.
- "The first flight across the Tasman – National Library of New Zealand". Natlib.govt.nz. 11 September 1928. จากแหล่งเดิมเมื่อ 6 November 2012.
- "Australian Dictionary of Biography". จากแหล่งเดิมเมื่อ 30 July 2008. สืบค้นเมื่อ 13 September 2008.
- Gallagher, Desmond (1986). Shooting Suns and Things: Transatlantic Fliers at Portmarnock. Kingford Press. ISBN .
- "Summary". . No. 28, 955. New South Wales, Australia. 23 October 1930. p. 1. จากแหล่งเดิมเมื่อ 17 July 2022. สืบค้นเมื่อ 9 June 2018 – โดยทาง National Library of Australia.
- "The Pioneers – Chubbie Miller". Ctie.monash.edu.au. จากแหล่งเดิมเมื่อ 8 June 2011.
- "Australian-made Car". . New South Wales, Australia. 15 June 1933. p. 6. จากแหล่งเดิมเมื่อ 17 July 2022. สืบค้นเมื่อ 8 June 2020 – โดยทาง Trove.
- "At the Wheel Notes for Motorists". . Queensland, Australia. 29 March 1934. p. 5. จากแหล่งเดิมเมื่อ 17 July 2022. สืบค้นเมื่อ 8 June 2020 – โดยทาง Trove.
- "Sir Charles Kingsford-Smith". monumentaustralia.org.au. จากแหล่งเดิมเมื่อ 8 June 2020. สืบค้นเมื่อ 8 June 2020.
- "A Great Pilot Passes". : 525. 21 November 1935. จากแหล่งเดิมเมื่อ 22 April 2014. สืบค้นเมื่อ 30 August 2013.
- "Kingsford-Smith missing in storm". The Bend Bulletin. No. 132. 8 November 1935. จากแหล่งเดิมเมื่อ 17 July 2022. สืบค้นเมื่อ 22 September 2018.
- "VH-USB "Lady Southern Cross" (Part 4)". Adastron.com. จากแหล่งเดิมเมื่อ 31 December 2015.
- By Aye 17 กันยายน 2012 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน TIME 6 June 1938
- "Aircraft undercarriage from the 'Lady Southern Cross', 1928 – 1938". Powerhousemuseum.com. จากแหล่งเดิมเมื่อ 5 January 2016.
- Frederick Howard. Australian Dictionary of Biography – Online Edition. Previously published in Australian Dictionary of Biography. Volume 9, Melbourne University Press, 1983.
- Justin, By (21 March 2009). . News.com.au. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 March 2009.
- Gibson, Joel (21 March 2009). "Kingsford Smith? Not likely, says Dick Smith". The Sydney Morning Herald. จากแหล่งเดิมเมื่อ 20 March 2018. สืบค้นเมื่อ 20 March 2018.
- "Past Winners". . จากแหล่งเดิมเมื่อ 12 June 2018. สืบค้นเมื่อ 9 June 2018.
- "1932 Birthday Honours". . 24 (1224): 515. 10 June 1932. จากแหล่งเดิมเมื่อ 26 April 2014. สืบค้นเมื่อ 31 August 2013.
- "Honours". . No. 29, 458. New South Wales, Australia. 3 June 1932. p. 9. จากแหล่งเดิมเมื่อ 17 July 2022. สืบค้นเมื่อ 9 June 2018 – โดยทาง National Library of Australia.
- Sprekelmeyer, Linda, editor. These We Honor: The International Aerospace Hall of Fame. Donning Co. Publishers, 2006. ISBN .
- "Kingsford-Smith". . Vol. CXLV no. 20, 528. Tasmania, Australia. 14 August 1936. p. 11. จากแหล่งเดิมเมื่อ 17 July 2022. สืบค้นเมื่อ 8 June 2018 – โดยทาง National Library of Australia.
- "Profile of the electoral division of Kingsford Smith (NSW)". . 10 February 2017. จากแหล่งเดิมเมื่อ 12 June 2018. สืบค้นเมื่อ 8 June 2018.
- "Kingsford Smith Memorial". . จากแหล่งเดิมเมื่อ 12 June 2018. สืบค้นเมื่อ 8 June 2018.
- "Southern Cross". . No. 30, 434. New South Wales, Australia. 19 July 1935. p. 11. จากแหล่งเดิมเมื่อ 17 July 2022. สืบค้นเมื่อ 8 June 2018 – โดยทาง National Library of Australia.
- "Southern Cross". . No. 30, 570. New South Wales, Australia. 25 December 1935. p. 5. จากแหล่งเดิมเมื่อ 17 July 2022. สืบค้นเมื่อ 8 June 2018 – โดยทาง National Library of Australia.
- "Hamilton Road". . Queensland, Australia. 3 July 1953. p. 3. จากแหล่งเดิมเมื่อ 22 December 2020. สืบค้นเมื่อ 8 June 2018 – โดยทาง National Library of Australia.
- "Roadwork tenders called". . Vol. 44 no. 12, 557. Australian Capital Territory, Australia. 28 February 1970. p. 3. จากแหล่งเดิมเมื่อ 17 July 2022. สืบค้นเมื่อ 9 June 2018 – โดยทาง National Library of Australia.
- "Kingsford Smith School - School Houses". ACT Education Directorate. January 2003. จากแหล่งเดิมเมื่อ 12 June 2018. สืบค้นเมื่อ 8 June 2018.
- "Sir Charles Kingsford-Smith Elementary School". . จากแหล่งเดิมเมื่อ 12 June 2018. สืบค้นเมื่อ 8 June 2018.
- "Other Banknotes Paper Series". . จากแหล่งเดิมเมื่อ 3 June 2018. สืบค้นเมื่อ 8 June 2018.
- "One Dollar". . 8 January 2016. จากแหล่งเดิมเมื่อ 12 June 2018. สืบค้นเมื่อ 8 June 2018.
- Singh, Indra (21 May 2013). "SCC to renovate Albert Park". . จากแหล่งเดิมเมื่อ 12 June 2018. สืบค้นเมื่อ 8 June 2018.
- "30 May 2003 - 75th Anniversary of Smithy's Landing at Albert Park". Australian High Commission Fiji. 30 May 2003. จากแหล่งเดิมเมื่อ 12 June 2018. สืบค้นเมื่อ 8 June 2018.
- "Sir Charles Kingsford Smith Memorial and Lookout". New South Wales Government Destination NSW. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2 October 2017. สืบค้นเมื่อ 8 June 2018.
- Qantas's sixth A380 arrives 15 มีนาคม 2011 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน —
- "PH-BUM - Boeing 747-206B(M)(SUD) - KLM Royal Dutch Airlines - MDVS - JetPhotos". JetPhotos. จากแหล่งเดิมเมื่อ 20 March 2018. สืบค้นเมื่อ 15 April 2018.
- Tiscareno, Matthew S.; และคณะ (8 July 2010). "Physical Characteristics and Non-Keplerian Orbital Motion of "Propeller" moons embedded in Saturn's rings". . 718 (2): 95. :1007.1008. Bibcode:2010ApJ...718L..92T. doi:10.1088/2041-8205/718/2/L92. S2CID 119236636.
- corporateName=National Museum of Australia; address=Lawson Crescent, Acton Peninsula. . www.nma.gov.au. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 August 2013.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Murphy, William B. (1977). "Bird of Paradise" (PDF). 15th Air Base Wing Office of Information, USAF. (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 24 สิงหาคม 2011. สืบค้นเมื่อ 2 สิงหาคม 2011.
แหล่งข้อมูลอื่น
- Charles Kingsford Smith biography Ace Pilots
- Sir Charles Kingsford Smith Australian Heroes
- Photographs from an album kept by Charles Ulm's wife, Mary, including many of Charles Kingsford Smith: National Museum of Australia 2018-10-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Austin Byrne and the Kingsford Smith Southern Cross Memorial
- on the of Australia's website)
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
esxrchals exdewird khingsfxrd smith xngkvs Charles Edward Kingsford Smith chuxeln smiththi 9 kumphaphnth kh s 1897 8 phvscikayn kh s 1935 epnnkbinaelaphubukebikdankarbinchawxxsetreliy ekhaepnkhnaerkthibinkhammhasmuthraepsifikaelabinrahwangpraethsxxsetreliyaelapraethsniwsiaelndchals khingsfxrd smithkhingsfxrd smith in kh s 1932ekid9 kumphaphnth kh s 1897 1897 02 09 brisebnesiychiwit8 phvscikayn kh s 1935 1935 11 08 38 pi thaelxndamnsaehtuesiychiwitekhruxngbintknxkchayfngpraethsphmasychatickrwrrdibritich xxsetreliymichuxesiyngcakkarbinkhamaephndinihyxxsetreliyodyimphk karbinkhammhasmuthraepsifik karaekhngkhnbincakxngkvsipxxsetreliyrangwlAviation careerchuxetmchals exdewird khingsfxrd smithkxngthphxakaskxngthphxakasshrachxanackrsngkhramthiekharwmsngkhramolkkhrngthihnung karthphklliophli aenwrbdantawntkys yscring phlxakasctwa yskittimskdi khingsfxrd smithekidthibrisebnaelaetibotinsidniy ekhaxxkcakorngeriynemuxxayuid 16 piaelathanganepnphuchwywiswkr ekhaekharwmkxngthphxxsetreliyin kh s 1915 aelathanganepnkhnkhbckryanyntkhnsngkhxnginchwngkarthphklliophliinsngkhramolkkhrngthihnung caknnekhaidoxnyayipyng aephnkkarbinkhxngkxngthphshrachxanackr aelaidrb in kh s 1917 hlngcakthirxdchiwithlngekhruxngbinthukyingtk hlngsinsudsngkhramekhathanganepnnkbinphadophninxngkvsaelashrthkxnyayklbxxsetreliyin kh s 1921 aelaekhathanganepnnkbinphanichyihkbinewlatxma sungepnnkbinphanichyrunaerk khxngpraethsdwy in kh s 1928 khingsfxrd smithepnkhrngaerkrahwangaekhlifxreniyipyngbrisebnodycxdphkthihawayaelafici sungepnethiywbinthithaihtwekhaexng nkbinphuchwy aelalukeruxsxngkhnidaekaelaklayepnkhndnghlngcaknn inpiediywknekhaaelaxulmbinkhampraethscakemlebirnipyngephirthodyimcxdphkepnkhrngaerk aelacakxxsetreliyipyngniwsiaelndepnkhrngaerkechnkn thngkhurwmknkxtngaetimprasbkhwamsaerc ekhayngkhngaekhngkhnbinerwaelaphyayamthdlxngthasingthithathayinwngkarbinxikhlayxyang in kh s 1935 khingsfxrd smithaelankbinphuchwythxmmi ephththibridchaysbsuyehnuxthaelxndamnrahwangphyayamthalaysthitibinrahwangxxsetreliyaelaxngkvsodyichewlanxythisud ekhaidrbykyxngihepnwirburusaehngchatirahwangphawaesrsthkictktakhrngihyaelaidrbkarykyxngtang inchwchiwitkhxngekha thaxakasyansidniytngchuxtamekha aelaekhayngpraktbnthnbtr 20 dxllarxxsetreliyepnewlahlaythswrrswyedkaelachiwitswntwkhingsfxrd smith aelaphrryakhnthisxng aemri thiewllingtn praethsniwsiaelnd chals exidewird khingsfxrd smithekidemuxwnthi 9 kumphaphnth kh s 1987 thiriewxrwiwethxrers yanaehmilthninemuxngbrisebn ekhaepnbutrkhxngwileliym chals smith aelaaekhthethxrin aemri namskulkxnsmrswakhingsfxrd thidakhxng sungepnsmachikaelaekhyepnnaykethsmntrikhxngthngethsbalbrisebnaelaethsbalaekhns sutibtraelaprakasaecngekidinhnngsuxphimphrabunamskulkhxngekhawa smith sungepnnamskulthikhrxbkhrwichinkhnann namskul khingsfxrd smith praktkhrngaerknacamacakphichaykhxngekha richard aehorld khingsfxrd smith sungichchuxdngklawxyangimepnthangkartngaet kh s 1901 aemwaekhacasmrsinrthniwesathewlsodyichnamskulsmithin kh s 1903 ktam in kh s 1903 khrxbkhrwkhxngekhaidyayipxyupraethsaekhnadaaelaidichnamskulkhingsfxrd smithnbaetnn kxncaedinthangklbmasidniyin kh s 1907 khingsfxrd smithekhaorngeriynkhrngaerkthiemuxngaewnkhuewxr praethsaekhnada txmarahwang kh s 1909 thung 1911 ekhaekhaeriynthiorngeriynesntaexndruskhththidrlinsidniy thinnekhaepnsmachikkhnakhbrxnginobsthkhxngorngeriyndwy 39 40 48 caknnidekhaeriyntxthiorngeriynethkhnikhsidniyaelaekhafuknganepnwiswkrthiemuxxayuid 16 pi khingsfxrd smithsmrskbethlma ixlin ohp khxrbxyin kh s 1923 kxncahyarangknin kh s 1929 aelasmrsxikkhrngkbaemri ephaewllineduxnthnwakhm kh s 1930 hlngcaksmrskbaemri ekhaidekharwmkhbwnkar sungepnkalngkungthharthiniymkstriy txtankhxmmiwnist aelaepnipidwaidrbaerngbndaliccakkhbwnkarfassistsngkhramolkkhrngthihnungaelaprasbkarnkarbinkhingsfxrd smith aelainekhruxngaebbkhingsfxrd smith praman kh s 1920 kh s 1915 khingsfxrd smithsmkhrekharbrachkarthharinaelarwmrbinkarthphklliophli edimthiediywnnkhingsfxrd smithidrbmxbhmayihkhbrthckryanyntrbsngkhxng kxnthicayayippracaodyidrbxnuyatihbinkhrngaerkemux kh s 1917 eduxnsinghakhm kh s 1917 khnarbrachkarinfungbinthi 23 ekhruxngbinkhxngkhingsfxrd smiththukyingtkthaihekhaidrbbadecb sungthaihtxngtdniwethaxxksxngniw ekhaidrbekhruxngrachxisriyaphrn ykyxngkhwamklahayinsngkhram wnthi 1 emsayn kh s 1918 khingsfxrd smithaelankbinkhnxun inkxngbinhlwngidyayippracakxngthphxakasshrachxanackrsungcdtngkhunihm hlngcakthihmdhnathithangthharhlngsinsudsngkhram ekhaidkxtngkhingsfxrd smith aemddxks aexors cakdrwmkbisril aemddxks chawrthaethsemeniychwngtn kh s 1919 ephuxdaeninkickarkarbinephuxkhwambnethingthangphakhehnuxkhxngxngkvsinchwngvdurxn odyichekhruxngbinfukhd aela thiehluxmacaksngkhram kxncaipthaxachiphnkbinphadophninshrthkxnklbxxsetreliyin kh s 1921 khingsfxrd smithyunkhxrbibxnuyatkhbekhruxngbinphanichyemuxwnthi 2 mithunayn kh s 1921 odyichchuxwa chals exdewird khingsfxrd smith hnngsuxphimphthxngthin khawrafriephrss elaeruxngwakhingsfxrd smithekhykhbekhruxngbinlxditsaphankhaminemuxng rthniwesathewls rwmkbnkkhbrththimichuxesiynginthxngthin ekhn richads inbthkhwamrabutxipwakhingsfxrd smithetriymthicakhbekhruxngbinlxditsaphanrthifthixyuiklekhiyng aetrichadsetuxnwaitsaphanmisayothrelkhxyu bthkhwamnnyngelatxipwarichadsepnephuxnkbkhingsfxrd smith aelaekhykhbekhruxngbindwyknmakxnkhnaxyuthifrngess khingsfxrd smiththi khingsfxrd smithklayepnhnunginnkbinphanichyrunaerkkhxngpraethsxxsetreliyemuxidkhdeluxkekhaekhaepnnkbinpracasaykarbin odykhbekhruxngbin ithp 28 thaebiyn G AUDF binrbsngphsduihkbnkdarasastrinchwngsuriyuprakha kh s 1922 thi rthewsethirnxxsetreliy inchwngewlannekhaerimwangaephnthicabinkhammhasmuthraepsifikkarbinkhammhasmuthraepsifik kh s 1928ekhruxngbinesaethirnkhrxss kh s 1928ekhruxngbinesaethirnkhrxss thithanthphxakaskhxngiklkrungaekhnebxrra kh s 1943oxkaelndohonlulukhaiwsuwabrisebntaaehnngsakhybnesnthangbinkhammhasmuthraepsifikkhxngchals khingsfxrd smithaelalukerux kh s 1938 phaphthaythiralukethiywbinkhammhasmuthraepsifikethiywaerk in kh s 1928 khingsfxrd smith aelaedinthangmathungshrthephuxhaekhruxngbinthicaichbinkhammhasmuthraepsifik esxr nksarwckhwolkchawxxsetreliyidkhayekhruxngbin ihkbkhingsfxrd smithaelaxulm phwkekhatngchuxekhruxngbinlaniwa ewla 8 54 n wnthi 31 phvsphakhm kh s 1928 khingsfxrd smithaelalukeruxidaekchals xulmchawxxsetreliysungepnnkbinsarxng aelalukeruxchawxemriknxiksxngkhnidaek phukhwbkhumwithyu aelakptn phunathangaelawiswkrpracaethiywbin rwmsikhnbinxxkcakoxkaelnd rthaekhlifxreniyephuxerimbinkhammhasmuthraepsifikepnkhrngaerkipyngxxsetreliy esnthangbinaebngepnsamraya rayaaerkcakoxkaelndipyng iklemuxngohonlulu rthhaway mirayathang 3 870 kiolemtr 2 400 iml ichewlabin 27 chwomng 25 nathiodyimmixubtikarnid rayathisxngtxngbinkhuncakbnekaakhaiwthixyuiklekhiyngaethnenuxngcakthangwingthiwilelxryawimphx playthangkhxngrayathisxngidaekkrungsuwa praethsfici sungxyuhangxxkip 5 077 kiolemtr 3 155 iml ichewlabin 34 chwomng 30 nathi sungepnrayathiyaklabakthisudenuxngcakphwkekhabinfaphayufnfakhanxngiklkbesnsunysutr rayathisamnnsnthisud odymirayathang 2 709 kiolemtr 1 683 iml ichewlabin 20 chwomngephuxkhamchayfngxxsetreliyiklkbemuxng kxncahkkhunipthangehnuxtxipxik 170 kiolemtr 110 iml ipthungbrisebn phwkekhalngcxdemuxewla 10 50 n wnthi 9 mithunayn rayathangbinodyrwmpraman 11 566 kiolemtr 7 187 iml thi thaxakasyanaehngekasungtxmathukaethnthiody miphukhnmarxtxnrbkhingsfxrd smithaelalukeruxkwa 26 000 khn phwkekhaidrbkartxnrbechkechnwirburus khxngpraethsxxsetreliymiphaphyntrchiwprawtikhxngkhingsfxrd smithchux aexnaexraemnriemmebxs aelaethpbnthukesiyngkhingsfxrd smithaelaxulmelaeruxngekiywkbkaredinthangkhxngphwkekhaekbrksaexaiw rthwisahkicdaniprsniyidxxkaephnaestmpaelaaestmpthiraluksungmiphaphkhxngkhingsfxrd smithaelaxulmin kh s 1978 ephuxchlxngkhrbrxb 50 pikhxngkarbinkhrngni hyingsawchawniwsiaelndekharwmnganeliyngkbkhingsfxrd smithhlngethiywbinkhammhasmuthraepsifikaelaklawkbekhawaethxxyakcahdkhbekhruxngbinbang khingsfxrd smithihkhaaenanaechingtidtlkkbethxwa xyaphyayamthalaysthitikhxngnkbinphuchay aelaxyabintxnklangkhun xyangirktam aebtethnonmnawihekhaphaethxkhunekhruxngbinesaethirnkhrxss aelaethxidklayepnnkbinthisrangsthitisakhytang xikkhnhnungkarbinkhamthaelaethsmn kh s 1928ineduxnsinghakhm kh s 1928 khingsfxrd smithaelaxulmbinkhampraethsxxsetreliyodyimcxdphkcakiklemuxngemlebirnipyngephirth rthewsethirnxxsetreliyidsaerc phwkekhatxmaidcdthaebiyncdtngsaykarbin aelatdsinicthicaphyayambinkhamthaelaethsmnipyngpraethsniwsiaelnd enuxngcakyngimmiikhrekhythaidsaercmakxn aelaphwkekhakhidwathathaidsaerccasamarthtxrxngkbrthbalxxsetreliythasyyakhnsngphsdurahwangsxngpraethsniodymienginsnbsnunid nkbinchawniwsiaelndsxngkhnidaekidphyayambinkhamchxngaekhbniemuxeduxnmkrakhmpiediywknaetphwkekhahaysabsuyodyimmiikhrphbxikely khingsfxrd smithwangaephnwacabincakiklkbsidniyinwnxathitythi 2 knyayn kh s 1928 aelacalngcxdewlapraman 9 00 n khxngwnthi 3 knyaynthi iklkbikhrstechirch emuxngsakhybnekaaitkhxngpraethsniwsiaelnd aephnkardngklawthaihbrrdabathhlwnginpraethsniwsiaelndimphxicaelaprathwngenuxngcakepnkarduhminkhunkhakhxngwnsabaot phukhnyunrxrbchals khingsfxrd smithbnthnninbrisebn kh s 1928 naykethsmntrikhxngikhrstechirchksnbsnunkarprathwngkhxngbrrdabathhlwngdngklawaelasngkhxkhwamthangothrelkhipyngkhingsfxrd smith xyangirktam sphaphxakasehnuxthaelaethsmnelwraylngaelakhingsfxrd smithtdsiniceluxnkaredinthangxxkip cungimthrabaenchdwakarprathwngdngklawmiphltxkhingsfxrd smithhruxim khingsfxrd smithaelalukeruxidaekxulm aelalukeruxchawniwsiaelndsxngkhnidaekaehorld xarethxr litchfild phunathang aelaothms exch aemkwileliyms phukhwbkhumwithyu sungthangrthbalniwsiaelndidcdhaih edinthangxxkcakrichmxndtxneynwnthi 10 knyayn aelabinkhamkhunepnewla 14 chwomngaelalngcxdintxnecha esnthangbin 2 600 kiolemtr 1 600 iml thiwangaephniwnnmirayapramankhrunghnungkhxngrayathangcakhawayaelaficiethann sphaphxakasrahwangthangimdinksungthaihekidnaaekhngekaatwekhruxngaelathaihkarbinepnipxyangyaklabak xyangirktam sphaphxakasbriewnchxngaekhbkhukrahwangekaaehnuxaelaekaaitnndikwarahwangthangthiphanma emuxphwkekhaxyuhangcakchayfngpraethsniwsiaelndpraman 241 kiolemtr 150 iml phwkekhaidthingphwnghridephuxralukthungmxnkhriffaelahudthihaysabsuyiprahwangphyayambinkhamthaelaethsmnemuxtnpi esaethirnkhrxsslngcxdthiikhrstechirchemuxewla 9 22 n hlngbinepnrayaewla 14 chwomng 25 nathi fungchnmarxtxnrbkhingsfxrd smithaelalukeruxxyanglnhlamkwa 30 000 khn rwmthngnkeriyncakorngeriynkhxngrthbalthiprakaspidepnkrniphiess aelakharachkarthiidrbxnuyatihhyudngancnthungewla 11 nalika ehtukarndngklawyngidkracayesiyngsdxxkthangwithyudwy xasatrwcsphaphekhruxngbinesaethirnkhrxssodyimkhidkhaichcay aelaphakhingsfxrd smithaelaxulmethiywchmpraethsniwsiaelndodyichekhruxngbin phwkekhaedinthangklbrichmxndodytngtncakemuxng emuxngelkthangtxnehnuxkhxngekaait karbinklbprasbpyhaenuxngcakhmxk sphaphxakasthielwray aelakarnathangthiphidphladelknxy thaihtxngichewlakwa 23 chwomngcungcathungrichmxnd aelaemuxlngcxdaelwekhruxngbinehluxechuxephlingmakphxthicaihbintxidxikephiyng 10 nathiethann chals khingsfxrd smith khwa thaykhukbcxhn haewird markhs smith phukxtngesathaelndaexorodrm say thiemuxngxinewxrkharkill praethsniwsiaelnd praman kh s 1930 xxsetreliynaenchnnlaexrewskhingsfxrd smithkbxulmrwmknkxtngsaykarbinkhunin kh s 1929 odyerimdaeninkickarrbsngphuodysar phsduiprsniy aelasinkharahwangsidniy brisebn aelaemlebirnineduxnmkrakhm kh s 1930 odymiekhruxngbinpracafungbinhala aetpidkickariphlngcakthiprasbxubtiehtuineduxnminakhmaelaphvscikaynpithdmaethiywbinsakhychwngtnthswrrs 1930hlngcakthikhingsfxrd smithsngekhruxngbinesaethirnkhrxsskhuicipekharbkarsxmbarungodybrisththipraethsenethxraelnd aelatxmaineduxnmithunayn kh s 1930 ekhaidbinkhammhasmuthraextaelntikinthisthangtawnxxk tawntkcakixraelndipyngniwfndaelndodyichewla 31 1 2 chwomng tngtncakhadphxrthmarnxksungxyuehnuxkrungdblinelknxy phwkekhaidbintxipyngoxkaelnd rthaekhlifxreniy xnepnkarbrrcbesnthangrxbolkthierimtnin kh s 1928 inpiediywknnnexngekhaidekhacakxngkvsipyngxxsetreliy aelachnakaraekhngkhnodyichewla 13 wn aelabinephiynglaphng ekhaedinthangthungsidniyemuxwnthi 22 tulakhm kh s 1930 in kh s 1931 ekhasuxekhruxngbinaelatngchuxihwa ephuxichbinaekhngkhncakxxsetreliyipxngkvs aelaidkhayekhruxngbinladngklawihkbkptn phusunghaysabsuyemuxwnthi 11 emsayn kh s 1933 ehnuxthaelthraysahara rangkhxngaelngkhasetxrthukphbin kh s 1962 swnsakekhruxngbin esaethirnkhrxssimenxr cdaesdngxyuthi inchwngtnthswrrs 1930 khingsfxrd smithyngidphthnarthyntrunkhwbkhuknipdwy khingsfxrd smithin kh s 1933 in kh s 1933 khingsfxrd smitherimdaeninkickarethiywbinphanichyrahwangxxsetreliyaelaniwsiaelndepnkhrngaerkodyichepnthangwing aelain kh s 1934 ekhaidsuxekhruxngbinchux ephuxekhaaekhngkhnraykarkarhaysabsuyaelakaresiychiwitkhingsfxrd smithaelacxhn thxmpsn thxmmi ephththibridckhbekhruxngbineldiesaethirnkhrxsstxnklangkhuncakxlahabad xinediyipyngsingkhoprephuxphyayamthicathalaysthitikarbincakxngkvsipxxsetreliythiaelathaiwkxnhnani xyangirktam khingsfxrd smithaelaephththibridchaysabsuyehnuxthaelxndamninchwngechamudkhxngwnthi 8 phvscikayn kh s 1935 nkbinphuhnungidxangwaekhaehneldiesaethirnkhrxssbinfaphayupraman 150 iml 240 kiolemtr cakchayfngthiradbkhwamsung 200 fut 61 emtr ehnuxradbnathaelodymieplwifphnxxkmacakekhruxng exrik saetnliy krinwud nkbinchawbritichphyayambinkhnhaehnuxxawebngkxlkwa 74 chwomngaetimphbrangkhxngphwkekha sibaepdeduxntxma chawpramngchawphmaphbchinswnkhalxaelalxekhruxngbinsunglmyangphayinyngkhngetmxyu chinswndngklawthuksdmaekychayfnginxawemaatama hangcakchayfngrthmxy praethsphmapraman 3 kiolemtr 1 9 iml aelahangcakemuxngemaatamaippraman 137 kiolemtr 85 iml thangthisit lxkhididyunynwachinswndngklawepnkhxngeldiesaethirnkhrxss nkphvkssastridsuksaphuchthiekaabnchinswnaelakhadkarnwaekhruxngbinnacatkimhangcakekaadngklawnk thiradbkhwamlukpraman 15 fathxm 90 fut 27 emtr chinswnkhalxniidcdaesdngtxsatharnchnthiinsidniy smachikkhxngkhrxbkhrwkhingsfxrd smiththiehluxidaekaemrihruxeldikhingsfxrd smithphuepnphrrya aelabutrchaywysamkhwbidaekchals cueniyr hnngsuxxtchiwprawtikhxngkhingsfxrd smithchux mayflayxingilf xxktiphimphin kh s 1937 hlngcakthiekhaesiychiwit aelaklayepnhnngsuxkhaydihweruxnghnung in kh s 2009 edemiyn ely phusrangphaphyntraelanksarwcidklawwaekhaaenicwaekhakhnphbaelw xyangirktam khaklawxangkhxngelyyngkhngepnthithkethiyngwaechuxthuxidhruxim phuotaeyngraysakhyidaek nkthurkicaelankbinphumichuxesiyngchawxxsetreliy aela nkekhiynchawniwsiaelndphuaetngchiwprawtinkbinkhnsakhyhlaykhnrwmthngkhingsfxrd smith odyaemkekhxrsiybrryaywakhaklawxangkhxngelynn irsarasindi ekiyrtiprawtiaelasingsubenuxngkhingsfxrd smithbnthnbtrmulkha 20 dxllarxxsetreliy sungichrahwang kh s 1966 aela kh s 1994 in kh s 1930 khingsfxrd smithepnkhnaerkthiidrbsungepnrangwlthicdtngkhunephuxykyxng thksa khwamklahay aelakhwamrierimthiyxdeyiymbnbk inna hrux inxakas khingsfxrd smithidrbphrarachthanbrrdaskdichnxswinchn caksmedcphraecacxrcthi 5 aehngshrachxanackrenuxngcakepnphusrangkhunupkartxaewdwngkarbin odyidrbkaraetabacakesxr phusaercrachkarxxsetreliyemuxwnthi 3 mithunayn kh s 1932 aelatxmaekhaidrbmxbysphlxakasctwakittimskdipraca in kh s 1986 khingsfxrd smithidrbkaresnxchuxekhasu thaxakasyannanachatikhingsfxrd smithxnusrnsthankhingsfxrd smith sungcdaesdngekhruxngbinesaethirnkhrxssthithaxakasyanbrisebn thaxakasyanhlkkhxngnkhrsidniysungtngxyuinyanichchuxwathaxakasyannanachatikhingsfxrd smithephuxepnekiyrtiaekekha ekhteluxktngodyrxbthaxakasyanichchuxwaekhtkhingsfxrd smithsungkhrxbkhlumphunthiyandwy ekhruxngbinthiodngdngthisudkhxngekhacdaesdngxyuthixakharxnusrnsthaniklkbxakharphuodysarrahwangpraethskhxng ekhruxngbinladngklawnnkhingsfxrd smithidkhayihrthbalxxsetreliyin kh s 1935 dwyrakha 3000 pxndephuxcdaesdngtxsatharnchnepnkarthawr aelathukekbrksaepnxyangditngaetkxnthixnusrnsthanpccubncasrangesrc thnnsayhnungthitdphanyanthiekhaekididchuxwakhingsfxrd smithidrf nxkcakniyngmikhingsfxrd smithidrfxiksayhnungxyuinekht krungaekhnebxrrasungtdkbthnnxiksaychuxesaethirnkhrxssidrf orngeriynsxngaehngtngchuxtamkhingsfxrd smith idaekorngeriynkhingsfxrd smithinyan krungaekhnebxrrasungkxtngin kh s 2009 aelaorngeriynprathmsuksaesxrchals khingsfxrd smithinemuxngaewnkhuewxr praethsaekhnada phaphkhxngkhingsfxrd smithpraktbnthnbtrmulkha 20 dxllarxxsetreliysunghmunewiynichrahwang kh s 1966 thung kh s 1994 emuxpraethsxxsetreliyepliynipichthnbtrphlastikaethnthnbtrkradas ephuxykyxngkhunupkarkhxngekhatxwngkarkarbinaelakhwamsaerctlxdchwchiwitkhxngekha nxkcakniphaphkhxngekhayngpraktbnthixxkin kh s 1997 ephuxepnkarchlxngkhrbrxb 100 pichatkalkhxngekhadwy salakhingsfxrd smithsrangkhunininkrungsuwa praethsfici thisungkhingsfxrd smithcxdphkrahwangesnthangbinkhammhasmuthraepsifik aelathithisungkhingsfxrd smithdaeninkickarethiywbinphanichyipyngniwsiaelndepnkhrngaerkkmiaephnpayxnusrnxyudwyechnkn ekhruxngbinphanichysxnglatngchuxtamkhingsfxrd smithidaekekhruxngbinaexrbs ex380 khxngsaykarbinkhwxnts thaebiyn VH OQF aelaekhruxngbinobxing 747 khxngsaykarbinekhaexlexm thaebiyn PH BUM dawbriwardwngelkdwnghnungkhxngdawesartngchuxtamekha xxstin ebirn phuchunchxbkarbinchawxxsetreliyepnkhnhnungthiiprxrbesaethirnkhrxssaelalukeruxedinthangkhammhasmuthraepsifikklbthungxxsetreliyin kh s 1928 ehtukarndngklawthaihebirnsrangaebbcalxngkhxngesaethirnkhrxssephuxmxbihaekkhingsfxrd smith hlngcakthikhingsfxrd smithhaysabsuy ebirnidsrangsingralukephimetimechnphaphwad phaphthay exksar aelangansilpatang ebirnthumethihkbkarsrangsrrkhaelanaethiywchmxnusrnesaethirnkhrxsskhxngekhatngaet kh s 1930 cnkrathngebirnesiychiwitin kh s 1993hmayehtukxnhnathikhingsfxrd smithaelalukeruxcabinkhammhasmuthraepsifikekhymiekhruxngbinchuxkhxngsungbinehnuxmhasmuthraepsifikepnkhrngaerk odybincakaekhlifxreniyipynghawayin kh s 1927xangxingCitizenship in Australia 9 singhakhm 2011 thi ewyaebkaemchchin National Archives of Australia Australian nationality law Visaparaaustralia com cakaehlngedimemux 25 April 2012 Queensland birth index Queensland Government khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 12 March 2011 subkhnemux 25 June 2017 Family Notices Vol LIII no 12 196 Queensland Australia 13 February 1897 p 4 cakaehlngedimemux 17 July 2022 subkhnemux 25 June 2017 odythang National Library of Australia Dramatic Art and Elocution Class Vol 10 no 47 Queensland Australia 15 January 1901 p 2 cakaehlngedimemux 17 July 2022 subkhnemux 25 June 2017 odythang National Library of Australia 3979 1903 Smith Richard H K amp Johnson Elsie K St C New South Wales Marriage Index cakaehlngedimemux 17 July 2022 subkhnemux 25 June 2017 Howard Frederick Kingsford Smith Sir Charles Edward 1897 1935 Australian Dictionary of Biography Canberra National Centre of Biography Australian National University cakaehlngedimemux 4 November 2017 subkhnemux 14 April 2019 Newth Melville C 1980 Serving a Great Cause Sydney M C Newth ISBN 0959455000 Sparrow Jeff 22 July 2015 If you oppose Reclaim Australia remember fascism wasn t always a freakshow The Guardian cakaehlngedimemux 31 May 2020 subkhnemux 8 June 2020 Lieutenant Charles Edward Kingsford Smith cakaehlngedimemux 12 June 2018 subkhnemux 9 June 2018 Finding Smithy PDF 2003 p 6 PDF cakaehlngedimemux 10 September 2015 subkhnemux 9 June 2018 Aspin Chris Dizzy Heights The Story of Lancashire s First Flying Men Helmshore Local History Society 1988 pp125 9 ISBN 0 906881 04 8 Fifty Australians Awm gov au 31 May 1928 cakaehlngedimemux 4 December 2008 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 28 March 2009 odythang National Archives of Australia Sydney to Cowra in Four Hours Vol 48 no 3294 New South Wales Australia 29 March 1927 p 3 subkhnemux 26 August 2022 odythang National Library of Australia Trans Pacific Flight Vol 50 no 3404 New South Wales Australia 5 June 1928 p 2 subkhnemux 25 August 2022 odythang National Library of Australia Aviation The West Australian Perth West Australia 29 September 1922 p 7 cakaehlngedimemux 27 October 2018 subkhnemux 12 January 2020 odythang National Library of Australia Charles Kingsford Smith biography Ace Pilots Acepilots com cakaehlngedimemux 27 September 2011 ABCnet au 31 May 1928 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 4 March 2016 subkhnemux 21 September 2009 Lyon Harry W Captain Kingsford Smith Charles Sir Warner James Interviewee 2GB Radio station Sydney N S W 1958 Reminiscences of flights in the Southern Cross cakaehlngedimemux 17 July 2022 subkhnemux 2 February 2017 Charles Kingsford Smith Hawaii Aviation Hawaii gov cakaehlngedimemux 2 October 2015 The Great Pacific Flight 20 1016 437 14 June 1928 cakaehlngedimemux 2 November 2013 subkhnemux 31 August 2013 1928 Story of Southern Cross Trans Pacific Flight 1928 Sydney Penlington and Somerville Ballina Aero Club 9 June 1928 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 9 April 2013 Far North Coaster Far North Coaster 23 May 2008 cakaehlngedimemux 3 November 2013 subkhnemux 17 March 2012 Aviators Charles Kingsford Smith 15 emsayn 2014 thi ewyaebkaemchchin includes photo of the plaque commemorating the flight across the Pacific and the landing at Brisbane on 9 June 1928 24 January 2004 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 24 January 2004 subkhnemux 20 March 2018 Photo of Southern Cross and welcoming crowd at Eagle Farm on 9 June 1928 National Archives of Australia lingkesiy Magnificent Machines Home grown Legends Sydney Morning Herald Sydney Morning Herald 17 December 2003 cakaehlngedimemux 20 October 2012 of Australia An Airman Remembers 5 thnwakhm 2011 thi ewyaebkaemchchin on australianscreen online 2 minakhm 2011 thi ewyaebkaemchchin of Australia Our Heroes of the Air 31 mkrakhm 2012 thi ewyaebkaemchchin Australia Post Stamps and Philatelic Branch 1978 Australia Post covers Australia Post Stamps and Philatelic Branch cakaehlngedimemux 17 July 2022 subkhnemux 2 February 2017 www nzedge com khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 24 September 2009 subkhnemux 20 March 2018 1977 Charles Kingsford Smith Smithy the World s Greatest Aviator Summit Books ISBN 0 7271 0144 7 Anderson Charles 14 July 2013 Lost in the long white cloud cakaehlngedimemux 12 June 2018 subkhnemux 8 June 2018 Tasman Sea Flight No 25 604 Victoria Australia 3 September 1928 p 13 cakaehlngedimemux 17 July 2022 subkhnemux 8 June 2018 odythang National Library of Australia Today in History NZHistory New Zealand history online Nzhistory net nz 11 September 1928 cakaehlngedimemux 26 January 2016 The first flight across the Tasman National Library of New Zealand Natlib govt nz 11 September 1928 cakaehlngedimemux 6 November 2012 Australian Dictionary of Biography cakaehlngedimemux 30 July 2008 subkhnemux 13 September 2008 Gallagher Desmond 1986 Shooting Suns and Things Transatlantic Fliers at Portmarnock Kingford Press ISBN 0951156519 Summary No 28 955 New South Wales Australia 23 October 1930 p 1 cakaehlngedimemux 17 July 2022 subkhnemux 9 June 2018 odythang National Library of Australia The Pioneers Chubbie Miller Ctie monash edu au cakaehlngedimemux 8 June 2011 Australian made Car New South Wales Australia 15 June 1933 p 6 cakaehlngedimemux 17 July 2022 subkhnemux 8 June 2020 odythang Trove At the Wheel Notes for Motorists Queensland Australia 29 March 1934 p 5 cakaehlngedimemux 17 July 2022 subkhnemux 8 June 2020 odythang Trove Sir Charles Kingsford Smith monumentaustralia org au cakaehlngedimemux 8 June 2020 subkhnemux 8 June 2020 A Great Pilot Passes 525 21 November 1935 cakaehlngedimemux 22 April 2014 subkhnemux 30 August 2013 Kingsford Smith missing in storm The Bend Bulletin No 132 8 November 1935 cakaehlngedimemux 17 July 2022 subkhnemux 22 September 2018 VH USB Lady Southern Cross Part 4 Adastron com cakaehlngedimemux 31 December 2015 By Aye 17 knyayn 2012 thi ewyaebkaemchchin TIME 6 June 1938 Aircraft undercarriage from the Lady Southern Cross 1928 1938 Powerhousemuseum com cakaehlngedimemux 5 January 2016 Frederick Howard Australian Dictionary of Biography Online Edition Previously published in Australian Dictionary of Biography Volume 9 Melbourne University Press 1983 Justin By 21 March 2009 News com au khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 23 March 2009 Gibson Joel 21 March 2009 Kingsford Smith Not likely says Dick Smith The Sydney Morning Herald cakaehlngedimemux 20 March 2018 subkhnemux 20 March 2018 Past Winners cakaehlngedimemux 12 June 2018 subkhnemux 9 June 2018 1932 Birthday Honours 24 1224 515 10 June 1932 cakaehlngedimemux 26 April 2014 subkhnemux 31 August 2013 Honours No 29 458 New South Wales Australia 3 June 1932 p 9 cakaehlngedimemux 17 July 2022 subkhnemux 9 June 2018 odythang National Library of Australia Sprekelmeyer Linda editor These We Honor The International Aerospace Hall of Fame Donning Co Publishers 2006 ISBN 978 1 57864 397 4 Kingsford Smith Vol CXLV no 20 528 Tasmania Australia 14 August 1936 p 11 cakaehlngedimemux 17 July 2022 subkhnemux 8 June 2018 odythang National Library of Australia Profile of the electoral division of Kingsford Smith NSW 10 February 2017 cakaehlngedimemux 12 June 2018 subkhnemux 8 June 2018 Kingsford Smith Memorial cakaehlngedimemux 12 June 2018 subkhnemux 8 June 2018 Southern Cross No 30 434 New South Wales Australia 19 July 1935 p 11 cakaehlngedimemux 17 July 2022 subkhnemux 8 June 2018 odythang National Library of Australia Southern Cross No 30 570 New South Wales Australia 25 December 1935 p 5 cakaehlngedimemux 17 July 2022 subkhnemux 8 June 2018 odythang National Library of Australia Hamilton Road Queensland Australia 3 July 1953 p 3 cakaehlngedimemux 22 December 2020 subkhnemux 8 June 2018 odythang National Library of Australia Roadwork tenders called Vol 44 no 12 557 Australian Capital Territory Australia 28 February 1970 p 3 cakaehlngedimemux 17 July 2022 subkhnemux 9 June 2018 odythang National Library of Australia Kingsford Smith School School Houses ACT Education Directorate January 2003 cakaehlngedimemux 12 June 2018 subkhnemux 8 June 2018 Sir Charles Kingsford Smith Elementary School cakaehlngedimemux 12 June 2018 subkhnemux 8 June 2018 Other Banknotes Paper Series cakaehlngedimemux 3 June 2018 subkhnemux 8 June 2018 One Dollar 8 January 2016 cakaehlngedimemux 12 June 2018 subkhnemux 8 June 2018 Singh Indra 21 May 2013 SCC to renovate Albert Park cakaehlngedimemux 12 June 2018 subkhnemux 8 June 2018 30 May 2003 75th Anniversary of Smithy s Landing at Albert Park Australian High Commission Fiji 30 May 2003 cakaehlngedimemux 12 June 2018 subkhnemux 8 June 2018 Sir Charles Kingsford Smith Memorial and Lookout New South Wales Government Destination NSW cakaehlngedimemux 2 October 2017 subkhnemux 8 June 2018 Qantas s sixth A380 arrives 15 minakhm 2011 thi ewyaebkaemchchin PH BUM Boeing 747 206B M SUD KLM Royal Dutch Airlines MDVS JetPhotos JetPhotos cakaehlngedimemux 20 March 2018 subkhnemux 15 April 2018 Tiscareno Matthew S aelakhna 8 July 2010 Physical Characteristics and Non Keplerian Orbital Motion of Propeller moons embedded in Saturn s rings 718 2 95 1007 1008 Bibcode 2010ApJ 718L 92T doi 10 1088 2041 8205 718 2 L92 S2CID 119236636 corporateName National Museum of Australia address Lawson Crescent Acton Peninsula www nma gov au khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 28 August 2013 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint multiple names authors list lingk Murphy William B 1977 Bird of Paradise PDF 15th Air Base Wing Office of Information USAF PDF cakaehlngedimemux 24 singhakhm 2011 subkhnemux 2 singhakhm 2011 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb chals khingsfxrd smith Charles Kingsford Smith biography Ace Pilots Sir Charles Kingsford Smith Australian Heroes Photographs from an album kept by Charles Ulm s wife Mary including many of Charles Kingsford Smith National Museum of Australia 2018 10 04 thi ewyaebkaemchchin Austin Byrne and the Kingsford Smith Southern Cross Memorial on the of Australia s website