บทความนี้ไม่มีจาก |
มุมมองและกรณีตัวอย่างในบทความนี้อาจไม่ได้แสดงถึงของเรื่อง |
ธนบัตร หรือเรียกกันโดยทั่วไปว่า แบงค์ เป็นสิ่งที่เป็นตัวแทนในการแลกเปลี่ยน ซึ่งสามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ธนบัตรจะใช้ควบคู่ไปกับเหรียญกษาปณ์ แต่โดยทั่วไปแล้วธนบัตรมักใช้สำหรับเงินจำนวนมาก ส่วนเหรียญกษาปณ์ใช้กับเงินจำนวนน้อย หรือเศษสตางค์
ในสมัยก่อน ค่าของเงินจะวัดโดยวัตถุที่นำมาใช้เป็นเงิน เช่น เบี้ย, หรือ ทอง แต่การถือวัตถุมีค่าเหล่านี้ออกไปจำนวนมากย่อมเป็นสิ่งที่ไม่สะดวกและเป็นอันตราย จึงใช้ธนบัตรเพื่อเป็นสื่อแลกเปลี่ยนแทน ธนบัตรเป็นเหมือนสัญญาว่าจะให้เงินไปจำนวนหนึ่ง ซึ่งภายหลังสามารถนำไปแลกคืนเป็นเงินหรือทองได้ ภายหลังจึงเป็นการแลกเปลี่ยนเพื่อสิ่งของและบริการ ไม่ต้องแลกเป็นเงินหรือทองอีก
การใช้ธนบัตรแทนเงินแท่งและทองคำ ธนบัตรฉบับแรกในประวัติศาสตร์การเงินของโลก ฮ่องเต้ซ่งไท่จู่หรือจ้าวกวนยิ่น 宋太祖趙匡胤 ผู้ก่อตั้งราชวงศ์ซ่งเหนือ 北宋(ค.ศ.927-976)มีรับสั่งให้เรียกคืนเงินตราโลหะ เงินและทองคำ แล้วให้ผลิตเงินตราที่ทำด้วยเหล็กหล่อทดแทน และทรงห้ามนำเข้าเงินตราประเภททองแดง เงินโลหะเหล็ก กลายเป็นสิ่งที่ซื้อขายแลกเปลื่ยนสินค้าในตลาดได้ แต่เงินตราเหล็กหล่อดังกล่าวมีน้ำหนักมากและมีอัตราแลกเปลื่ยน 1000 เหวิน ต่อ น้ำหนักโลหะเหล็ก 25 กก. แต่พกติดตัวไม่สะดวก ในการซื้อขายสิ้นค้าถึงกับต้องใช้รถม้าบรรทุก จึงเกิดสำนักงาน รับฝากเงินตราโลหะที่เรียกว่าเจี้ยวจื่อปู้ “交子铺" ขึ้น เพื่อบริการบรรดาพ่อค้าที่ต้องพกพาเงินจำนวนมาก ๆ ที่รับฝากนี้จะออกใบรับฝากเงินให้ที่เรียกว่า ตั๋วเงิน ตั๋วเงินนี้ แรกเริ่มเป็นเอกสารรับฝากเงิน โดยระบุจำนวนเงินฝากไว้บนหน้าตั๋วเมื่อผู้ทรงตั๋วเงินมาเบิกเงินจะถูกคิดค่าธรรมนเนียมฝากเงินอัตราร้อยละ 3. ที่เมืองเฉินตู เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน ปรากฏมีการใช้ธนบัตรกระดาษขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเงินตราโลก มีชื่อเรียกว่าเจียวจื่อ (交子, jiāozǐ) ในขณะที่ระบบซื้อขายกันในตลาด ยังมีการใช้ เงินตรา ที่เป็นโลหะอยู่ ผู้เชี่ยวชาญที่เป็นนักสะสมเงินตรายอมรับและถือว่าเจียวจื่อ (交子) นี้เป็นธนบัตรกระดาษรุ่นแรกที่สุดในประวัติศาสตร์เงินตรา ภายหลังจากที่ราชสำนักซ่งได้ก่อตั้งหน่วยงานเจียวจื่อ (交子)ขึ้นแล้ว ก็มีการออกธนบัตรใช้เหมือนกัน ธนบัตรเจี้ยวจื่อจึงมี 2 ประเภทคือ ธนบัตรราชการ “官交子” เป็นธนบัตรที่พิมพ์ออกใช้โดยราชสำนักซ่ง ภายใต้การกำกับของหน่วยงานจัดการธนบัตรในราชสำนัก และ อีกชนิดหนึ่งคือ ธนบัตรเอกชน “私交子”เป็น
ประวัติ
โดย สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ประเทศไทยนำธนบัตรออกใช้เป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2445 ตามพระราชบัญญัติธนบัตรสยามรัตนโกสินทร ศก 121 โดยมีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ (กระทรวงการคลัง ในปัจจุบัน) เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ควบคุม ดูแล การสั่งพิมพ์และนำออกใช้ธนบัตรภายในประเทศ จนกระทั่ง มีการจัดตั้งธนาคารแห่งประเทศไทยขึ้นเมื่อพ.ศ. 2485 กิจการทั้งปวงและอำนาจในการดำเนินการเกี่ยวกับธนบัตร จึงถูกโอนมาอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของธนาคารแห่งประเทศไทย ต่อมาเมื่อพ.ศ. 2512 ธนาคารแห่งประเทศไทย สามารถจัดตั้งโรงพิมพ์ธนบัตรขึ้นเป็นผลสำเร็จ จึงได้พิมพ์ธนบัตรขึ้นใช้เองภายในประเทศ ได้แก่ ธนบัตรแบบ 11 รวมทั้งแบบอื่น ๆ เป็นลำดับจนถึงปัจจุบัน
ก่อนที่จะมีการนำธนบัตรเข้ามาใช้ร่วมกับเงินตราชนิดอื่น ๆ ในระบบการเงินของประเทศ ชนชาติไทยได้ใช้หอยเบี้ย ประกับ (ดินเผาที่มีตราประทับ) เงินพดด้วง ปี้กระเบื้อง และเหรียญกษาปณ์เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน จนกระทั่งในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างชาติและเปิดเสรีทางการค้า ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้น จนไม่สามารถผลิตเงินพดด้วงซึ่งเป็นเงินตราหลักในขณะนั้นได้ทันต่อความต้องการ ทั้งยังมีผู้ทำเงินพดด้วงปลอมออกใช้ปะปนในท้องตลาด จนเป็นปัญหาเดือดร้อนกันทั่วไป ในพ.ศ. 2396 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดให้จัดทำเงินกระดาษชนิดแรกขึ้นใช้ในระบบเงินตราของประเทศ เรียกว่า หมาย
ต่อมาระหว่างพ.ศ. 2415 - 2416 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เกิดปัญหาเหรียญกษาปณ์ชนิดราคาต่ำซึ่งเป็นเงินปลีกที่ทำจากดีบุกและทองแดงขาดแคลน ประกอบกับมีการนำ ปี้ ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่ใช้แทนเงินในบ่อนการพนันมาใช้แทนเงินตรา ในพ.ศ. 2417 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงโปรดให้จัดทำเงินกระดาษชนิดราคาต่ำเรียกว่า อัฐกระดาษ ให้ราษฎรได้ใช้จ่ายแทนเงินเหรียญที่ขาดแคลน แต่อัฐกระดาษก็ไม่เป็นที่นิยมใช้เช่นเดียวกับหมาย
เงินกระดาษชนิดต่อมา คือ บัตรธนาคาร ซึ่งธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศสามธนาคารที่เข้ามาเปิดสาขาในประเทศไทย ได้แก่ ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ ธนาคารชาร์เตอร์แห่งอินเดีย ออสเตรเลีย และจีน และธนาคารแห่งอินโดจีน ได้ขออนุญาตนำบัตรธนาคารออกใช้ เมื่อพ.ศ. 2432, 2441, และ 2442 ตามลำดับ เนื่องจากในช่วงเวลานั้นรัฐบาลประสบปัญหาไม่สามารถผลิตเหรียญกษาปณ์ได้ทันต่อการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจ
บัตรธนาคาร มีลักษณะเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินชนิดหนึ่งที่ใช้อำนวยความสะดวกในการชำระหนี้ระหว่างธนาคารกับลูกค้า ดังนั้น การหมุนเวียนของบัตรธนาคารจึงจำกัดอยู่ในวงแคบเฉพาะบุคคลที่มีความจำเป็นต้องติดต่อธุรกิจกับธนาคารดังกล่าวเท่านั้น อย่างไรก็ดี บัตรธนาคารมีส่วนช่วยให้ประชาชนรู้จักคุ้นเคยกับเงินที่เป็นกระดาษมากขึ้น และเนื่องจากมีระยะเวลาการนำออกใช้นานกว่า 13 ปี (พ.ศ. 2432 - 2445) ทำให้การเรียกบัตรธนาคารทับศัพท์ว่า แบงก์โน้ต หรือ แบงก์ ในขณะนั้น สร้างความเคยชินให้คนไทยเรียกธนบัตรของรัฐบาลที่ออกใช้ในภายหลังว่า แบงก์ จนติดปากมาถึงทุกวันนี้
ขณะเดียวกันรัฐบาลในสมัยนั้นได้พิจารณาเห็นว่าบัตรธนาคารที่สาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศออกใช้อยู่ในขณะนั้น มีลักษณะคล้ายกับเงินตราที่รัฐบาลควรจัดทำเสียเอง ในพ.ศ. 2433 จึงได้เตรียมการออกตั๋วเงินของกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ เรียกว่า เงินกระดาษหลวง โดยสั่งพิมพ์จากห้างกีเชคเก้ แอนด์ เดวรีเอ้นท์ ประเทศเยอรมนี จำนวน 8 ชนิดราคา เงินกระดาษหลวงได้ส่งมาถึงกรุงเทพฯ เมื่อพ.ศ. 2435 แต่เนื่องจากความไม่พร้อมของทางการในการบริหาร จึงมิได้นำเงินกระดาษหลวงออกใช้
จนกระทั่งพ.ศ. 2445 จึงเข้าสู่วาระสำคัญในการออกธนบัตร กล่าวคือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระบรมราชโองการให้ตรา พระราชบัญญัติธนบัตรสยาม รัตนโกสินทรศก 121 ขึ้นเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2445 อีกทั้งโปรดให้จัดตั้ง กรมธนบัตร ในสังกัดกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ เพื่อทำหน้าที่ออกธนบัตรและรับจ่ายเงินขึ้นธนบัตร และเปิดให้ประชาชนนำเงินตราโลหะมาแลกเปลี่ยนเป็นธนบัตรตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2445 จึงนับว่าธนบัตรได้เข้ามามีบทบาทในระบบการเงินของไทยอย่างจริงจังนับแต่นั้นมา
ธนบัตรที่นำออกใช้ตามพระราชบัญญัติธนบัตรสยาม รัตนโกสินทรศก 121 นั้น มีลักษณะเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินของรัฐบาลที่สัญญาจะจ่ายเงินตราให้แก่ผู้นำธนบัตรมายื่นโดยทันที ต่อมา ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติเงินตรา พ.ศ. 2471 ซึ่งกำหนดให้เงินตราของประเทศประกอบด้วยธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ ตลอดจนให้ธนบัตรและเหรียญกษาปณ์เป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย จึงเป็นการเปลี่ยนลักษณะของธนบัตรจากตั๋วสัญญาใช้เงินมาเป็นเงินตราอย่างสมบูรณ์
ดูเพิ่ม
- ธนบัตรในประเทศไทย
- เหรียญ
- เงินตรา
- ธนบัตรของแต่ละประเทศ
แหล่งข้อมูลอื่น
- Online World Paper Money Gallery 2019-05-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (อังกฤษ)
- ประวัติเงินตรา 2007-03-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ธนบัตร 2008-06-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- สำนักกษาปณ์
- กรมธนบัตร: ประวัติศาสตร์ธนบัตรไทยสมัยใหม่และรัฐกิจการเงินสมัยรัชกาลที่ 5
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir mummxngaelakrnitwxyanginbthkhwamnixacimidaesdngthungmummxngthiepnsaklkhxngeruxngkhunsamarthchwyaekikhbthkhwamni odyephimmummxngsaklihmakkhun hruxaeykpraednyxyipsrangepnbthkhwamihm eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir thnbtr hruxeriykknodythwipwa aebngkh epnsingthiepntwaethninkaraelkepliyn sungsamarthichcharahniidtamkdhmay thnbtrcaichkhwbkhuipkbehriyyksapn aetodythwipaelwthnbtrmkichsahrbengincanwnmak swnehriyyksapnichkbengincanwnnxy hruxessstangkhthnbtrskultang insmykxn khakhxngengincawdodywtthuthinamaichepnengin echn ebiy hrux thxng aetkarthuxwtthumikhaehlanixxkipcanwnmakyxmepnsingthiimsadwkaelaepnxntray cungichthnbtrephuxepnsuxaelkepliynaethn thnbtrepnehmuxnsyyawacaihenginipcanwnhnung sungphayhlngsamarthnaipaelkkhunepnenginhruxthxngid phayhlngcungepnkaraelkepliynephuxsingkhxngaelabrikar imtxngaelkepnenginhruxthxngxik karichthnbtraethnenginaethngaelathxngkha thnbtrchbbaerkinprawtisastrkarenginkhxngolk hxngetsngithcuhruxcawkwnyin 宋太祖趙匡胤 phukxtngrachwngssngehnux 北宋 kh s 927 976 mirbsngiheriykkhunengintraolha enginaelathxngkha aelwihphlitengintrathithadwyehlkhlxthdaethn aelathrnghamnaekhaengintrapraephththxngaedng enginolhaehlk klayepnsingthisuxkhayaelkepluynsinkhaintladid aetengintraehlkhlxdngklawminahnkmakaelamixtraaelkepluyn 1000 ehwin tx nahnkolhaehlk 25 kk aetphktidtwimsadwk inkarsuxkhaysinkhathungkbtxngichrthmabrrthuk cungekidsankngan rbfakengintraolhathieriykwaeciywcuxpu 交子铺 khun ephuxbrikarbrrdaphxkhathitxngphkphaengincanwnmak thirbfaknicaxxkibrbfakenginihthieriykwa twengin twenginni aerkerimepnexksarrbfakengin odyrabucanwnenginfakiwbnhnatwemuxphuthrngtwenginmaebikengincathukkhidkhathrrmneniymfakenginxtrarxyla 3 thiemuxngechintu emuxnghlwngkhxngmnthleschwn praktmikarichthnbtrkradaskhunepnkhrngaerkinprawtisastrkhxngengintraolk michuxeriykwaeciywcux 交子 jiaozǐ inkhnathirabbsuxkhayknintlad yngmikarich engintra thiepnolhaxyu phuechiywchaythiepnnksasmengintrayxmrbaelathuxwaeciywcux 交子 niepnthnbtrkradasrunaerkthisudinprawtisastrengintra phayhlngcakthirachsanksngidkxtnghnwynganeciywcux 交子 khunaelw kmikarxxkthnbtrichehmuxnkn thnbtreciywcuxcungmi 2 praephthkhux thnbtrrachkar 官交子 epnthnbtrthiphimphxxkichodyrachsanksng phayitkarkakbkhxnghnwyngancdkarthnbtrinrachsank aela xikchnidhnungkhux thnbtrexkchn 私交子 epnprawtiwikisxrs mingantnchbbekiywkb tananengintra ody smedcphraecabrmwngsethx krmphrayadarngrachanuphaph praethsithynathnbtrxxkichepnkhrngaerkemux ph s 2445 tamphrarachbyytithnbtrsyamrtnoksinthr sk 121 odymikrathrwngphrakhlngmhasmbti krathrwngkarkhlng inpccubn epnhnwynganthithahnathikhwbkhum duael karsngphimphaelanaxxkichthnbtrphayinpraeths cnkrathng mikarcdtngthnakharaehngpraethsithykhunemuxph s 2485 kickarthngpwngaelaxanacinkardaeninkarekiywkbthnbtr cungthukoxnmaxyuinkhwamduaelrbphidchxbkhxngthnakharaehngpraethsithy txmaemuxph s 2512 thnakharaehngpraethsithy samarthcdtngorngphimphthnbtrkhunepnphlsaerc cungidphimphthnbtrkhunichexngphayinpraeths idaek thnbtraebb 11 rwmthngaebbxun epnladbcnthungpccubn kxnthicamikarnathnbtrekhamaichrwmkbengintrachnidxun inrabbkarenginkhxngpraeths chnchatiithyidichhxyebiy prakb dinephathimitraprathb enginphddwng pikraebuxng aelaehriyyksapnepnsuxklanginkaraelkepliyn cnkrathnginrchkalphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw mikarecriysmphnthimtrikbtangchatiaelaepidesrithangkarkha thaihesrsthkickhyaytwephimkhun cnimsamarthphlitenginphddwngsungepnengintrahlkinkhnannidthntxkhwamtxngkar thngyngmiphuthaenginphddwngplxmxxkichpapninthxngtlad cnepnpyhaeduxdrxnknthwip inph s 2396 phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhwcungoprdihcdthaenginkradaschnidaerkkhunichinrabbengintrakhxngpraeths eriykwa hmay txmarahwangph s 2415 2416 inrchkalphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw ekidpyhaehriyyksapnchnidrakhatasungepnenginplikthithacakdibukaelathxngaedngkhadaekhln prakxbkbmikarna pi sungepnekhruxnghmaythiichaethnengininbxnkarphnnmaichaethnengintra inph s 2417 phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw cungoprdihcdthaenginkradaschnidrakhataeriykwa xthkradas ihrasdridichcayaethnenginehriyythikhadaekhln aetxthkradaskimepnthiniymichechnediywkbhmay enginkradaschnidtxma khux btrthnakhar sungthnakharphanichytangpraethssamthnakharthiekhamaepidsakhainpraethsithy idaek thnakharhxngkngaelaesiyngih thnakharcharetxraehngxinediy xxsetreliy aelacin aelathnakharaehngxinodcin idkhxxnuyatnabtrthnakharxxkich emuxph s 2432 2441 aela 2442 tamladb enuxngcakinchwngewlannrthbalprasbpyhaimsamarthphlitehriyyksapnidthntxkarkhyaytwkhxngrabbesrsthkic btrthnakhar milksnaepntwsyyaichenginchnidhnungthiichxanwykhwamsadwkinkarcharahnirahwangthnakharkblukkha dngnn karhmunewiynkhxngbtrthnakharcungcakdxyuinwngaekhbechphaabukhkhlthimikhwamcaepntxngtidtxthurkickbthnakhardngklawethann xyangirkdi btrthnakharmiswnchwyihprachachnruckkhunekhykbenginthiepnkradasmakkhun aelaenuxngcakmirayaewlakarnaxxkichnankwa 13 pi ph s 2432 2445 thaihkareriykbtrthnakharthbsphthwa aebngkont hrux aebngk inkhnann srangkhwamekhychinihkhnithyeriykthnbtrkhxngrthbalthixxkichinphayhlngwa aebngk cntidpakmathungthukwnni khnaediywknrthbalinsmynnidphicarnaehnwabtrthnakharthisakhathnakharphanichytangpraethsxxkichxyuinkhnann milksnakhlaykbengintrathirthbalkhwrcdthaesiyexng inph s 2433 cungidetriymkarxxktwenginkhxngkrathrwngphrakhlngmhasmbti eriykwa enginkradashlwng odysngphimphcakhangkiechkhek aexnd edwriexnth praethseyxrmni canwn 8 chnidrakha enginkradashlwngidsngmathungkrungethph emuxph s 2435 aetenuxngcakkhwamimphrxmkhxngthangkarinkarbrihar cungmiidnaenginkradashlwngxxkich cnkrathngph s 2445 cungekhasuwarasakhyinkarxxkthnbtr klawkhux phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw idmiphrabrmrachoxngkarihtra phrarachbyytithnbtrsyam rtnoksinthrsk 121 khunemuxwnthi 24 mithunayn ph s 2445 xikthngoprdihcdtng krmthnbtr insngkdkrathrwngphrakhlngmhasmbti ephuxthahnathixxkthnbtraelarbcayenginkhunthnbtr aelaepidihprachachnnaengintraolhamaaelkepliynepnthnbtrtngaetwnthi 23 knyayn ph s 2445 cungnbwathnbtridekhamamibthbathinrabbkarenginkhxngithyxyangcringcngnbaetnnma thnbtrthinaxxkichtamphrarachbyytithnbtrsyam rtnoksinthrsk 121 nn milksnaepntwsyyaichenginkhxngrthbalthisyyacacayengintraihaekphunathnbtrmayunodythnthi txma inrchkalphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw mikarprakasichphrarachbyytiengintra ph s 2471 sungkahndihengintrakhxngpraethsprakxbdwythnbtraelaehriyyksapn tlxdcnihthnbtraelaehriyyksapnepnenginthicharahniidtamkdhmay cungepnkarepliynlksnakhxngthnbtrcaktwsyyaichenginmaepnengintraxyangsmburnduephimthnbtrinpraethsithy ehriyy engintra thnbtrkhxngaetlapraethsaehlngkhxmulxunOnline World Paper Money Gallery 2019 05 12 thi ewyaebkaemchchin xngkvs prawtiengintra 2007 03 12 thi ewyaebkaemchchin thnbtr 2008 06 24 thi ewyaebkaemchchin sankksapn krmthnbtr prawtisastrthnbtrithysmyihmaelarthkickarenginsmyrchkalthi 5bthkhwamesrsthsastr karengin thurkic hrux karkhaniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldk