บทความนี้ยังต้องการเพิ่มเพื่อ |
บทความนี้ทั้งหมดหรือบางส่วน มีเนื้อหา รูปแบบ หรือลักษณะการนำเสนอที่ |
ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค บางแห่งเรียก กระบวนพยุหยาตราชลมารค หรือ กระบวนพยุหยาตราทางชลมารค เป็นขบวนเสด็จพระราชดำเนินทางน้ำที่เป็นราชประเพณีไทยที่มีมาแต่โบราณ โดยมีหลักฐานชัดเจนตั้งแต่สมัยอยุธยา และในสมัยรัตนโกสินทร์ จะเคลื่อนขบวนตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นหลัก เรือในกระบวนมีการสลักโขนเรือเป็นรูปสัตว์ในเทพนิยาย มีการจัดกระบวนหลายแบบ ที่รู้จักกันดีก็คือ "กระบวนพยุหยาตราเพชรพวง" ดังปรากฏใน ลิลิตพรรณนาขบวนเรือ ประพันธ์โดยเจ้าพระยาพระคลัง (หน) เมื่อ พ.ศ. 2330 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โดยยึดถือตามแบบแผนเดิมสมัยอยุธยา
ประเภทของการเห่เรือ สามารถจำแนกออกเป็น 2 ประเภทคือ การเห่เรือหลวง (การเห่เรือในงานพระราชพิธี) และการเห่เรือเล่น (การเห่เรือเล่นของชาวบ้านในงานต่าง ๆ) ในปัจจุบันการเห่เรือยังคงอยู่เฉพาะ การเห่เรือหลวง ที่ใช้ในขบวนพยุหยาตราทางชลมารค
ศัพทมูลวิทยา
ที่มาของคำว่า ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค มีดังนี้
- "ขบวน" แปลว่า หมู่คน หมู่พาหนะ คู่มือ หรือแบบแผน เป็นมาจากคำเขมรเก่าสมัยเมืองพระนครว่า ขฺบวร (เขมร: ក្បូរ, อักษรโรมัน: kpvar, khpvar, khpvan, รากคำ: *gwrek→gvar→kpvar, khpvar) พบในจารึกพนมดา (K.549) อายุ ค.ศ. 1178–1277 และจารึกกรอบประตูบายน (K.470) อายุ ค.ศ. 1327 ที่ปราสาทบันทายศรี เชื่อมโยงทางนิรุกติศาสตร์ที่มีความสัมพันธ์แบบยืมจากคำจีนเก่าตระกูลภาษาจีน-ทิเบต หรือตระกูลภาษาย่อยทิเบต-พม่าว่า *gwrek
- "พยุหยาตรา" เป็นคำสมาสมาจากคำ พยุห + ยาตรา แปลว่า การเคลื่อนที่ของกองทหาร การจัดกระบวนทัพแล้วยกไป คำว่า พยู่ห์ หมายถึง พวก หมู่ กลุ่ม กองทัพ กองทหาร ตรอกตัน หรือซอยตัน มาจากสันสกฤตว่า วฺยุห→พฺยูห→พยู่ห์ (สันสกฤต: व्यूह, อักษรโรมัน: vyuha) และคำว่า ยาตฺรา หมายถึง การเคลื่อนไป การดำเนินไป การท่องเที่ยวไป หรือการยังชีวิตให้เป็นไป มาจากคำสันสกฤตว่า ยาตรา (สันสกฤต: यात्रा, อักษรโรมัน: yatra)
- "ชลมารค" เป็นคำสมาสมาจากคำ ชล + มารค แปลว่า ทางน้ำ คำว่า ชล หมายถึง น้ำ มาจากคำบาลีสันสกฤตคือ ชละ (สันสกฤต: जल, อักษรโรมัน: jala) และคำว่า มารค หมายถึง ทาง หรือเส้นทาง มาจากคำสันสกฤตว่า มรรคา→มรรค (มคฺค)→มารค (สันสกฤต: मार्ग, อักษรโรมัน: marga)
ประวัติขบวนพยุหหยาตราทางชลมาค
สมัยอู่ทอง (ก่อนอาณาจักรอยุธยา)
สมัยอู่ทองมีเมืองปรากฏชื่อว่า กรุงอโยธยา เมืองอโยธยา หรือ อโยธยาศรีรามเทพนคร (ตามจารึกวัดเขากบ เมืองปากน้ำโพ (นว.2) ด้านที่ 2 หลักที่ 11 บรรทัดที่ 21 อักษรไทยสุโขทัย อายุพุทธศตวรรษที่ 20) มีมาก่อนการสถาปนาอาณาจักรอยุธยาซึ่งเก่าแก่กว่ากรุงสุโขทัย ใน พระราชพงศาวดารเหนือ กล่าวถึง กระบวนพยุหทางชลมารคเมื่อจุลศักราช 395 ตรงกับปี พ.ศ. 1576 เจ้าสายน้ำผึ้งเสด็จพระราชดำเนินโดยกระบวนพยุหทางชลมารค ครั้นถึงแหลมวัดปากคลองขณะประทับบนเรือพระที่นั่ง ทรงทอดพระเนตรเห็นผึ้งสร้างรังบริเวณอกสุบรรณใต้ช่อฟ้าบนยอดอุโบสถวัดอันเป็นมงคลฤกษ์แล้วน้ำผึ้งหยดตกพระโอษฐ์ตามที่ทรงขอนมัสการ พระสงฆ์จึงถวายไชยมงคลว่าจะทรงได้ปกครองแผ่นดินจึงถวายนามว่า "พระเจ้าสายน้ำผึ้ง" ต่อมาขุนนางเสนามาตย์อัญเชิญให้เสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติปกครองกรุงอโยธยาทรงครองราชย์ระหว่างปี พ.ศ. 1654–1708
พระราชพงศาวดารเหนือ กล่าวว่า:–
จุลศักราช 395 ปีมะเมียเบญจศก ครั้น ณ วันเดือน 12 แรม 11 ค่ำ ได้ศุภวารฤกษดีจึ่งยกขบวนพยุหะไปทางชลมารคพร้อมด้วยเสนาบดีเสด็จมาถึงแหลมวัดปากคลอง พอน้ำขึ้นจึ่งประทับเรือพระที่นั่งอยู่น่าวัด จึ่งทอดพระเนตรเห็นผึ้งจับอยู่ที่อกไก่ใต้ช่อฟ้าน่าบัน จึ่งทรงดําริห์ว่าจะฃอนมัศการพระพุทธปฏิมากร เดชะ บุญญาภิสังขารของเรา ๆ จะได้ครองไพร่ฟ้าอาณาประชาราษฎรด้วยกันเสร็จ
สมัยสุโขทัย
การเสด็จทางน้ำที่เรียกว่า ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค นั้นมีหลักฐานมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย ปรากฏไว้ว่า พ่อขุนรามคำแหงมหาราชเสด็จพระราชดำเนินขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในพระราชพิธีลอยพระประทีป: 4 พระร่วงเจ้า (พระมหาธรรมราชาที่ 1) ทรงใช้เรือออกลอยกระทง หรือพิธีจองเปรียง ณ กลางสระน้ำ พร้อมทั้งเผาเทียนเล่นไฟในยามคืนเพ็ญเดือนสิบสอง: 27 (วันลอยกระทง) และการจัดขบวนเรือรับเสด็จสมเด็จพระมหาเถรศรีศรัทธาราชจุฬามุนีศรีรัตนลังกาทีปมหาสวามีเป็นเจ้า พระราชนัดดาของพ่อขุนผาเมืองซึ่งเสด็จกลับกรุงสุโขทัยหลังจากทรงบวชเรียน ณ ลังกาในรัชสมัยของพระมหาธรรมราชาที่ 1
สมัยอยุธยา
ครั้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ซึ่งตัวเกาะกรุงนั้นเป็นเกาะที่ล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำลำคลองชีวิตผูกพันกับสายน้ำ จึงปรากฏการสร้างเรือรบมากมายในกรุงศรีอยุธยา ยามบ้านเมืองสุขสงบชาวกรุงศรีอยุธยาก็หันมาเล่นเพลงเรือ แข่งเรือเป็นเรื่องเอิกเกริก โดยเฉพาะพระเจ้าแผ่นดินกรุงสยาม เมื่อจะเสด็จฯแปรพระราชฐานไปยังหัวเมืองต่าง ๆ หรือเสด็จฯ ไปทอดผ้ากฐินยังวัดวาอาราม ก็มักจะใช้เรือรบโบราณเหล่านั้นจัดเป็นขบวนเรือยิ่งใหญ่
สมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช
มีบันทึกของชาวต่างชาติเกี่ยวกับขบวนพยุหยาตราทางชลมารคพบใน จดหมายเหตุสเปน เรื่อง History of the Philippines and Other Kingdom ของบาทหลวงมาร์เซโล เด ริบาเดเนอิรา (สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช ว่า:–
) เขียนขึ้นใน ค.ศ. 1596 (พ.ศ. 2139) จากคำบอกเล่าของบาทหลวงนิกายฟรานซิสกันซึ่งเข้ามาพำนักในกรุงศรีอยุธยาเมื่อ พ.ศ. 2125 ปลายรัชกาลเพื่อจะเสด็จพระราชดำเนินเยือนพระอารามแห่งหนึ่ง มีเรือสี่ลำแล่นล่วงหน้าไปก่อนเรือพระที่นั่ง เพื่อเป็นการค้ำประกันความปลอดภัยของพระเจ้าแผ่นดิน เรือเหล่านี้บรรทุกผู้คนเป่าแตรเงินเล็ก ๆ เพื่อป่าวประกาศการเสด็จพระราชดำเนินถึง บรรดาเรือล้วนมีรูปทรงวิจิตรพิสดารและแกะสลักอย่างน่าพิศวงด้วยรูปปฏิมาประดับประดาอย่างหรูหรา ก่อเกิดความรู้สึกประทับใจถึงโขลงช้างที่ลอยเหนือน่านน้ำ ด้วยเรือเหล่านี้ลอยเลื่อนไปเบื้องหน้าและท้ายเรือโลดทะยาน เรือสี่ลำเหล่านี้หยุดที่พระอารามแห่งหนึ่งบนชายฝั่ง เพราะพวกเขาคาดหมายว่า พระเจ้าแผ่นดินจะเสด็จพระราชดำเนินเพื่อทรงเจริญพระพุทธมนต์และทรงบำเพ็ญพระราชกุศลตามติดมาอย่างใกล้ชิด
เรือสี่ลำนั้นเป็นเรืออื่น ๆ อีกหลายลำที่ใหญ่กว่านั้น แต่ละลำบรรทุกผู้คนมากมายที่แต่งกายด้วยเครื่องแบบประเภทต่าง ๆ เรือแต่ละลำมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่แห่งราชสำนัก 1 คน แล้วจากนั้นเป็นพระราชกุมารพระองค์เยาว์ที่สุดในพระเจ้าแผ่นดินที่เสด็จปรากฏพระองค์ในเรือพระที่นั่งที่ตกแต่งอย่างหรูหรามาก ตามติดมาเป็นสมเด็จพระอัครมเหสีและสาวสรรกำนัลใน สมเด็จพระอัครมเหสีประทับแต่เพียงลำพังพระองค์ และบรรดานางกำนัลนั่งในเรือลำอื่นที่ตกแต่งอย่างน่าอัศจรรย์ และกั้นด้วยม่านอย่างรอบคอบจนเป็นไปได้ที่จะสามารถมองผ่านม่านจากภายในออกมาสู่โลกภายนอกได้ โดยที่คนภายนอกไม่เห็นคนภายใน
สุดท้ายที่มาถึงในกระบวนพยุหยาตราโดยชลมารคคือองค์พระมหากษัตริย์ ประทับในเรือพระที่นั่งขนาดกว้างใหญ่ที่ดูแต่ไกลเหมือนนกกระยางตัวมหึมาที่แผ่ปีกอันกว้างใหญ่ออกมา เป็นเรือพระที่นั่งปิดทองทั้งองค์ และโดยที่ฝีพายมีเป็นจำนวนมาก อิริยาบถในการพายของพวกเขาจึงดูเหมือนนกตัวใหญ่เหิรลมเหนือท้ายเรือพระที่นั่ง พระเจ้าแผ่นดินประทับเหนือพระราชบัลลังก์ เคียงข้างพระองค์เป็นสาวน้อยผู้เลอโฉมข้างละ 2 คนคอยถวายอยู่งานโบกพัด เพื่อให้พระองค์ทรงสดชื่นจากความร้อนระอุของดวงอาทิตย์
— บาทหลวงมาร์เซโล เด ริบาเดเนอิรา, From the Kingdom of Siam (Del Reino de Sian), 1601.
สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ในยุคกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ตามพงศาวดารได้บันทึกไว้ว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเมื่อคราวเสด็จไปตีเมืองเมาะตะมะ เสด็จพระราชดำเนินจากกรุงศรีอยุธยาโดยชลมารค พอได้เวลาฤกษ์ พระโหราราชครูอธิบดีศรีทิชาจารย์ ก็ลั่นกลองฆ้องชัยให้พายเรือพระที่นั่งศรีสุพรรณหงส์ อันเป็นเรือทรงพระพุทธปฏิมากรทองนพคุณ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุถวายพระนามสมญา “พระพิชัย” นำกระบวนออกไปก่อนเพื่อความเป็นสิริมงคล แล้วสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเสด็จพระราชดำเนินในกระบวนด้วยโดยทรงประทับในเรือพระที่นั่งกนกรัตนวิมานมหานาวา: 4 เป็นกระบวนแห่พระชัย
สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
ด้วยเหตุที่สมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชนั้น บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง มีการเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศต่าง ๆ มากมาย ทั้งทรงสร้างเมืองลพบุรีขึ้นจึงมีการเสด็จฯ โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค และในบางโอกาสก็โปรดเกล้าฯ ให้จัดขบวนเรือหลวงออกรับคณะราชทูตและแห่พระราชสาสน์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งประเทศฝรั่งเศส จากกรุงศรีอยุธยา มายังเมืองลพบุรี ดังนั้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชมีขบวนเรือเพชรพวง ซึ่งเป็นเรือริ้วกระบวนที่ใหญ่มาก จัดออกเป็น 4 สาย แล้วเรือพระที่นั่งตรงกลางอีก 1 สาย ใช้เรือทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 100 ลำ
ระหว่างการเคลื่อนกระบวนก็มีการเห่เรือพร้อมเครื่องประโคม จนเกิดวรรณกรรมร้อยกรองที่ไพเราะยิ่ง คือ กาพย์เห่เรือ ของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ หรือเจ้าฟ้ากุ้ง ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ตอนปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งบรรยายถึงความงดงามและลักษณะของเรือในกระบวนครั้งนั้น บทเห่เรือนี้ยังเป็นแม่แบบของกาพย์เห่เรือที่ใช้กันในปัจจุบัน
ในช่วงปี พ.ศ. 2199–2231 ปรากฏหลักฐานว่าเมื่อพระองค์เสด็จแปรพระราชฐานไปยังหัวเมืองต่าง ๆ มีการจัดกระบวนพยุหยาตราฯที่เรียกว่า “ขบวนเพชรพวง” เป็นริ้วกระบวนยิ่งใหญ่ 4 สาย พร้อมริ้วเรือพระที่นั่ง ตรงกลางอีก 1 สาย มีเรือทั้งสิ้นไม่ตำกว่า 100 ลำ ซึ่งนับเป็นกระบวนพยุหยาตราฯ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์และนับเป็นต้นแบบสำคัญของกระบวนพยุหยาตราฯ ในสมัยต่อ ๆ มา
การจัดการกระบวนพยุหยาตรลมารคในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชที่กล่าวมานี้ จัดได้ว่าเป็นริ้วกระบวนใหญ่แสดงความมั่งคั่งของราชสำนักไทยในครั้งนั้นได้เป็นอย่างดี ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับริ้วขบวนเรือในสมัยต่อมา จะพบว่าค่อย ๆ ตัดทอนลงไปเรื่อย ๆ เพราะเรือชำรุดไปตามกาลเวลาบ้าง ไม่มีผู้รู้จักทำขึ้นใหม่ให้ถูกต้องตามแผนโบราณบ้างจึงเหลืออยู่เท่าที่พอจะรักษาไว้ได้เท่านั้น จนกระทั่งถึงคราวเสียกรุงศรีอยุธยา
บันทึกของนิโคลาส แชแวร์
ตามบันทึกของ นิโคลาส แชแวร์ ราชทูตฝรั่งเศสซึ่งเดินทางเข้ามาในสมัยนั้น ได้บันทึกไว้ในหนังสือ ประวัติศาสตร์แห่งราชอาณาจักรสยาม ถึงขบวนเรือไว้ว่า:-
ไม่สามารถเทียบความงามกับขบวนเรืออื่นใดได้ เป็นขบวนเรือที่มโหฬาร มีเรือกว่า 200 ลำ โดยมีเรือพระที่นั่งพายเป็นคู่ ๆ ไปข้างหน้า เรือพระที่นั่งนั้น ใช้ฝีพายของพวกแขนแดงที่ได้รับการฝึกพายมาจนชำนาญ ทุกคนสวมหมวก เสื้อ ปลอกเข่า ปลอกแขน มีทองคำประกอบ เวลาพายพร้อมกับเป็นจังหวะจะโคน พายนั้นก็เป็นทอง เสียงพายกระทบเป็นเสียงประสานไปกับทำนองเพลงยอพระเกียรติของพระเจ้าแผ่นดิน
บันทึกของบาทหลวงบูเว่
โยคิม บูเว่ บาทหลวงชาวฝรั่งเศส เขียนบันทึกไว้ว่า:-
ขบวนเรือหลวงมีเรือ 7 ถึง 8 ลำ มีฝีพายลำละ 100 คน มีทหารประจำเรือรวมทั้งสิ้นประมาณ 400 คน ตามมาด้วยข้าราชบริพารอีก 1,000 ถึง 1,200 คน ซึ่งนั่งมาในเรือแกะสลักเป็นลวดลายลงรักปิดทอง บางลำก็เป็นเรือสำหรับพวกปี่พาทย์โดยเฉพาะ ส่วนคนที่อยู่ในเรือก็เห่เรือกันอย่างสุดเสียง ทั้งยังพายเรือด้วยความสง่างามเหมือนกับเป็นของง่าย มันเป็นภาพที่สวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ มองไปทางไหนก็เห็นแต่เรือและผู้คนผ่านไปมาในแม่น้ำอย่างไม่ขาดสาย
บันทึกของกวีย์ ตาชาร์ด
ในปี พ.ศ. 2228 พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงส่งลาลูแบร์เป็นราชทูตเข้ามายังประเทศไทย พร้อมกับคณะบาทหลวงเยซูอิดซึ่งมีบาทหลวงผู้หนึ่งคือ กวีย์ ตาชาร์ด เป็นผู้บันทึกเหตุการณ์ไว้ในหนังสือเรื่อง จดหมายเหตุการเดินทางสู่ประเทศสยาม ในตอนหนึ่งได้เล่าถึงขบวนเรือที่ใช้ออกรับเครื่องราชบรรณาการว่า
"มีเรือบังลังก์ขนาดใหญ่ 4 ลำมา แต่ละลำมีฝีพายถึง 80 คน ซึ่งเราไม่เคยเห็นเช่นนั้นมาก่อน 2 ลำแรกนั้นหัวเรือทำเป็นรูปเหมือนม้าปิดทองทั้งลำ เมื่อเห็นมันมาแต่ไกลในลำน้ำนั้นดูคล้ายกับมันมีชีวิตชีวา มีเจ้าหน้าที่กองทหารรักษาพระองค์ 2 นายมาในเรือทั้ง 2 ลำ เพื่อรับเครื่องราชบรรณาการของสมเด็จพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ครั้นบรรทุกเสร็จแล้วก็ถอยออก ไปลอยลำอยู่กลางแม่น้ำอย่างสงบเงียบ และตลอดเวลาที่ลอยลำอยู่นี้ ไม่มีสุ้มเสียงใดเลยบนฝั่ง และไม่มีเรือลำได้เลยแล่นขึ้นล่องในแม่น้ำ เป็นการแสดงความเคารพต่อเรือบัลลังก์หลวง และเครื่องราชบรรณาการที่บรรทุกอยู่นั้น"
บาทหลวง ตาชาร์ด ยังเขียนถึงขบวนเรือที่แห่พระราชสาสน์ และเครื่องราชบรรณาการที่เดินทางออกจากกรุงศรีอยุธยา ไปยังเมืองลพบุรีไว้อีกว่า
"ขบวนอันยึดยาวของเรือบังลังก์หลวง ซึ่งเคลื่อนที่ไปอย่างมีระเบียบเรียบร้อยนี้มีจำนวนถึง 150 ลำผนวกกับเรือลำอื่น ๆ เข้าอีกก็แน่นแม่น้ำ แลไปได้สุดสายตา อันเป็นทัศนียภาพที่งดงามยิ่งนัก เสียงเห่แสดงความยินดีตามธรรมเนียมนิยมของชาวสยาม อันคล้ายจะรุกไล่เข้าประกับข้าศึกนั้น ก้องไปทั้งฟากแม่น้ำ ซึ่งมีประชาชาพลเมืองมาคอยชมขบวนเรือยาตราอันมโหฬารนี้อยู่"
บันทึกของเดอ ลา ลูแบร์
ปี พ.ศ. 2230 ลา ลูแบร์ ราชทูตของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เขียนบันทึกเรือยาวพระที่นั่งต้นของพระเจ้ากรุงศรีอยุธยาไว้ว่า:-
เพราะที่เมืองนี้ ประชาชนไปมาโดยทางน้ำมากกว่าทางบก พระมหากษัตริย์สยามจึงมีเรือยาวพระที่นั่งต้นอย่างงามสง่าไว้มากลำ ข้าพเจ้าได้กล่าวแล้วว่าตัวเรือยาวนั้นทำด้วยไม้ซุงต้นเดียว บางลำยาวแต่ 16 ถึง 20 วา (32-40 เมตร) คนสองคนนั่งขัดสมาธิ์เคียงขนานหน้ากัน ผันหน้าตามยาวเรือบนไม้กระทงที่ทอดตรึงขวางลำไว้ พอเต็มเนื้อที่เรือด้านกว้างพอดี พาย ๆ หนึ่ง พายทางขวา พายอีกพายหนึ่งพายทางซ้าย ฝีพายก็พายด้วยพาย พายนั้นก็คือแจวสั้น ๆ นั่นเองถือ 2 มือ มือหนึ่งกลางด้ามพาย อีกมือหนึ่งปลายด้ามพายดูอาการเหมือนฝีพายจะพายได้แต่ชั่วกวาดน้ำไปเต็มแรงเท่สนั้น และพายนั้นก็ไม่ได้ผูกหรือติดกับกราบเรือเหมือนแจวกรรเชียง และคนที่พายก็หันหน้าไปทางหัวเรือแล้วก็พายลงหันหลังมาทางท้าย ในเรือลำหนึ่งบางทีก็มีพลพายตั้งร้อยคน หรือถึง 200 คน ที่เรียงแถมละคู่ ๆ ตามกราบยาวตลอดเรือนั่งขัดสมาธิบนแผ่นกระดานกระทงเรือ แต่ขุนนางผู้น้อยลงมาก็มีเรือยาวสั้นลงมา ฝีพายก็น้อยลงเพียง 16 หรือ 20 คนก็พอ ฝีพายพายเรือพร้อม ๆ กัน ร้องเพลงหรือขานยาวอย่างไรอย่างหนึ่ง เป็นเสียงเหะหะอึกทึกและพายจ้วงแขนได้จังหวะกันน่าดูเหน็ดเหนื่อยออกเรี่ยวแรงเข้มแข็งมาก แต่ก็พายได้ง่าย ๆ และสง่างามมาก.
— ซีมง เดอ ลา ลูแบร์, (พระนิพนธ์แปลโดยกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์), DU ROYAUME DE SIAM: Envoyé extraordinaire du ROY auprès du Roy de Siam en 1687 & 1688.
สมัยกรุงธนบุรี
ในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงสร้างเรือขึ้นใหม่ทั้งชุด แต่ส่วนใหญ่เป็นเรือที่ใช้ในการรบทั้งสิ้น เพราะในสมัยนั้นมีแต่การศึกสงคราม โดยมีการแห่เรือสำคัญ คือ ในการพระราชพิธีสมโภชรับพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรเมื่อ พ.ศ. 2324 ซึ่งอัญเชิญมาจากเวียงจันทน์และมาแห่พักไว้ที่กรุงเก่าคือพระนครศรีอยุธยา มีข้อความในหมายรับสั่งพรรณนาขบวนเรือที่แห่มาจากต้นทางว่ารวมเรือแห่ทั้งปวง 115 ลำ และสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเสด็จพระราชดำเนินขึ้นไปสมทบที่พระตำหนักบางธรณีกรุงเก่า ความว่ามีเรือแห่มารวมกันเป็นจำนวน 246 ลำ
สมัยกรุงรัตนโกสินทร์
หลักฐานที่เป็นเอกสารบันทึกลายลักษณ์อักษรในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเกี่ยวกับขบวนพยุหยาตราทางชลมารคพบในหนังสือสมุดไทยเรื่อง หมู่พระราชพิธี เลขที่ 263 คัดจากฉบับของเก่า พ.ศ. 2219 แต่ครั้งรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช คัดเมื่อ พ.ศ. 2336 ว่า:-
๏ วัน 6 13ฯ 5 ค่ำ จุลศักราช 1038 ปีมะโรงอัษฏศก เสด็จพระราชดำเนินอยู่ ณ พระตำหนักธารเกษม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เจ้าหมื่นศรีศวรักษเขียนอย่างกระบวนตั้งม้านี้ แลให้ถ่ายลงสมุดนี้ให้ทันในวันเถลิงศก [...] ๏ กระบวนเสด็จพระราชดำเนินพยู่หบาตรา ช้าง ม้า เรือ ข้าพระพุทธเจ้า หมื่นพิมลอักษร หมื่นสุวรรณอักษร หมื่นราชไมตรี หมื่นรัตนไมตรี นายชำนาญอักษร ชุบเสร็จแต่ ณ วัน 5 9ฯ 9 ค่ำ จุลศักราช 1155 ปีฉลู เบญจศก ข้าพระพุทธิเจ้า พระอาลักษณ์ ขุนมหาสิทธิ นายชำนิโวหาร ทาน: 4–5
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระองค์ได้ทรงสร้างเรือขึ้นมาใหม่อีก 67 ลำ ซึ่งมีทั้งเรือพระที่นั่ง เรือกระบวนปิดทอง เรือพิฆาต และเรือแซง ซึ่งเป็นเรือที่สำคัญ ๆ เป็นที่รู้จักมาจนเท่าทุกวันนี้ ในรัชกาลต่อ ๆ มาก็ยังมีการสร้างเรือเพิ่มขึ้นมาอีก
- รัชกาลที่ 2 จำนวน 2 ลำ
- รัชกาลที่ 3 จำนวน 24 ลำ
- รัชกาลที่ 4 จำนวน 7 ลำ
- รัชกาลที่ 5 จำนวน 1 ลำ
- รัชกาลที่ 6 จำนวน 2 ลำ
จากนั้นก็มิได้มีการสร้างเรืออีกจนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จึงได้มีการสร้างเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสพระราชพิธีกาญจนาภิเษก โดยเรือที่สำคัญ ๆ และตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน ได้แก่ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช สร้างขึ้นครั้งแรกในรัชกาลที่ 3 ได้ใช้เป็นเรือพระที่นั่งทรงในรัชกาลที่ 4 และต่อมาในรัชกาลที่ 6 ได้สร้างลำใหม่ขึ้นแทนลำเดิม, เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 5 และเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เริ่มสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อแทนลำเดิมที่ชำรุด สร้างแล้วเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 6
ในรัชกาลที่ 4
รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีการการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ดังนี้
- ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค จากท่าราชวรดิฐ ไปยังวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันพุธ แรม 6 ค่ำ เดือน 6 ปีกุน ตรีศก จ.ศ. 1213 ตรงกับวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2394
- ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระราชทานส่วนพระราชกุศลแด่พระสงฆ์ 37 รูป และพระราชพิธีสังเวยบวงสรวงพระเจ้าแผ่นดิน 37 พระองค์ นับตั้งแต่รัชกาลสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 พระเจ้ากรุงศรีอยุธยาถึงรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ เมืองกรุงเก่า (พระนครศรีอยุธยา) เมื่อวันศุกร์ ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 4 ฉศก จ.ศ. 1216 เวลาบ่าย ตรงกับวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2398: 68–70
- ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในการพระราชทานพระกฐินเมืองปทุมธานี เมืองกรุงเก่า (พระนครศรีอยุธยา) เมื่อวันจันทร์ ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 12 ปีเถาะ สัปตศก จ.ศ. 1217 ตรงกับวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2398: 98
ในรัชกาลที่ 5
รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีการจัดกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค ดังนี้
- ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ครั้งที่ 2 ณ วันพฤหัสบดี ขึ้น 8 ค่ำ เดือนอ้าย ปีระกา เบญจศก จ.ศ. 1235 เวลาเช้า 3 โมง 54 นาที ตรงกับวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2416
- ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในการพระราชพิธีลงสรงสนานเฉลิมพระปรมาภิไธยสถาปนาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร พระราชโอรสในรัชกาลที่ 5 (พิธีใหญ่) ณ วันพฤหัสบดี แรม 12 ค่ำ เดือนยี่ ปีจอ อัฐศก จ.ศ. 1248 ตรงกับวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2429 (พ.ศ. 2430 นับแบบปีปัจจุบัน)
- ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค (ใหญ่) พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2450: 33
ในรัชกาลที่ 6
รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการจัดกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค ดังนี้
- ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค จากท่าราชวรดิฐ ไปยังวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภชสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันจันทร์ ขึ้น 14 ค่ำ เดือนอ้าย ปีกุน ตรีศก จ.ศ. 1273 ตรงกับวันที่ 4 ธันวาคม ร.ศ. 130 (พ.ศ. 2454)
ในรัชกาลที่ 7
สำหรับในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคทั้งสิ้น 2 ครั้ง ดังนี้
- ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค (ใหญ่) จากท่าราชวรดิฐ ไปยังวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2469 เมื่อวันพุธ แรม 5 ค่ำ เดือน 4 ปีฉลู สัปตศก จ.ศ. 1287 ตรงกับวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2469
- ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค (ใหญ่) จากเชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้า ไปยังท่าราชวรดิฐ ในพระราชพิธีสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 150 ปี เมื่อวันพุธ ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ตรีศก จ.ศ. 1293 ตรงกับวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2475
ในช่วงสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา อู่เรือพระที่นั่งที่ปากคลองบางกอกน้อยถูกลูกระเบิดถล่มจนเรือเสียหายไปหลายลำ จากนั้นจึงมีการซ่อมแซมเรือและโอนเรือพระราชพิธี 36 ลำ ให้กรมศิลปากรดูแลเก็บรักษาไว้ที่อู่เรือพระราชพิธีปากคลองบางกอกน้อย และส่วนที่เหลืออีกราว 32 ลำ เป็นพวกเรือตำรวจ เรือดั้ง เรือแซง ซึ่งกองทัพเรือเก็บรักษาไว้
ในรัชกาลที่ 9
สำหรับในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้มีการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคทั้งสิ้น 17 ครั้ง ดังนี้
- ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค (น้อย) ในงานฉลอง 25 พุทธศตวรรษ เมื่อวันอังคาร แรม 1 ค่ำ เดือน 6 ปีระกา นพศก จ.ศ. 1319 ตรงกับวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2500
- ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค (น้อย) จาก ไปในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ปีกุน เอกศก จ.ศ. 1321 ตรงกับวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2502
- ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค (น้อย) จาก ไปในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เมื่อวันพฤหัสบดี แรม 9 ค่ำ เดือน 11 ปีฉลู ตรีศก จ.ศ. 1323 ตรงกับวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2504
- ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค (น้อย) จาก ไปในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เมื่อวันจันทร์ แรม 9 ค่ำ เดือน 11 ปีขาล จัตวาศก จ.ศ. 1324 ตรงกับวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2505
- ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค (น้อย) จาก ไปในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เมื่อวันศุกร์ แรม 9 ค่ำ เดือน 11 ปีมะโรง ฉศก จ.ศ. 1326 ตรงกับวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2507
- ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค (น้อย) จาก ไปในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เมื่อวันอังคาร แรม 9 ค่ำ เดือน 11 ปีมะเส็ง สัปตศก จ.ศ. 1327 ตรงกับวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2508
- ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค (น้อย) จาก ไปในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เมื่อวันศุกร์ แรม 9 ค่ำ เดือน 11 ปีมะแม นพศก จ.ศ. 1329 ตรงกับวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2510
- ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค (ใหญ่) จาก ไปยังท่าราชวรดิฐ ในการเสด็จพระราชดำเนินไปบวงสรวงสมเด็จพระบูรพามหากษัตริย์เจ้า ในพระราชพิธีสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี เมื่อวันจันทร์ ขึ้น 12 ค่ำ เดือน 5 ปีจอ ตรีศก จ.ศ. 1343 ตรงกับวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2525
- ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค (น้อย) จาก ไปยังเชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้า แห่พระพุทธสิหิงค์ เมื่อวันจันทร์ แรม 4 ค่ำ เดือน 5 ปีจอ ตรีศก จ.ศ. 1343 ตรงกับวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2525
- ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค (ใหญ่) การพระราชทานพระพุทธนวราชบพิตร ประจำกรุงเทพมหานคร เมื่อวันพุธ ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 12 ปีจอ จัตวาศก จ.ศ. 1344 ตรงกับวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2525
- ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค (ใหญ่) จาก ไปในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ เมื่อวันศุกร์ แรม 9 ค่ำ เดือน 11 ปีเถาะ นพศก จ.ศ. 1349 ตรงกับวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2530
- ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค (ใหญ่) จาก ไปในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีกาญจนาภิเษก เมื่อวันพฤหัสบดี แรม 12 ค่ำ เดือน 11 ปีชวด อัฐศก จ.ศ. 1358 ตรงกับวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539
- ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค (ใหญ่) จาก ไปในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อวันพฤหัสบดี แรม 11 ค่ำ เดือน 11 ปีเถาะ เอกศก จ.ศ. 1361 ตรงกับวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2542
- ขบวนเรือพระราชพิธี ในการประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หรือเอเปค 2003 เมื่อวันจันทร์ แรม 10 ค่ำ เดือน 11 ปีมะแม เบญจศก จ.ศ. 1365 ตรงกับวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2546 (พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มิได้เสด็จโดยขบวนเรือ)
- ขบวนเรือพระราชพิธี ในพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อวันจันทร์ แรม 2 ค่ำ เดือน 7 ปีจอ อัฐศก จ.ศ. 1368 ตรงกับวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2549 (พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มิได้เสด็จโดยขบวนเรือ)
- ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค (ใหญ่) จาก ไปในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา เมื่อวันจันทร์ แรม 10 ค่ำ เดือน 11 ปีกุน นพศก จ.ศ. 1369 ตรงกับวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 (พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งดำรงพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์)
- ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค (ใหญ่) จาก ไปในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ เมื่อวันศุกร์ แรม 10 ค่ำ เดือน 11 ปีมะโรง จัตวาศก จ.ศ. 1374 ตรงกับวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 (พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งดำรงพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์และเลื่อนการจัดกระบวนจากเดิมในวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เนื่องจากกระแสน้ำที่เพิ่มระดับในแม่น้ำเจ้าพระยาและไหลแรง)
สำหรับกระบวนพยุหยาตราทางชลมารคที่มีในปัจจุบันนั้น ส่วนมากจะเป็นการเสด็จพระราชดำเนินไปถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ส่วนการจัดขบวนเรือพระราชพิธี 2 ครั้ง ได้แก่ การจัดขบวนเรือพระราชพิธี เนื่องในการประชุมเอเปก 2003 และ และเนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระราชาธิบดี สมเด็จพระราชินี และ ผู้แทนพระประมุขต่างประเทศ ร่วมงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี (12 มิถุนายน พ.ศ. 2549) โดยการจัดขบวนเรือพระราชพิธี 2 ครั้งนี้ เป็นเพียงการสาธิตแห่ขบวนเรือซื่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มิได้เสด็จในขบวนด้วย
ในรัชกาลปัจจุบัน
ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน มีการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค 2 ครั้ง ดังนี้
- ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค (ใหญ่) จาก ไปยังท่าราชวรดิฐ ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 เมื่อวันพฤหัสบดี แรม 1 ค่ำ เดือนอ้าย ปีกุน เอกศก จ.ศ. 1381 ตรงกับวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2562 (เลื่อนการจัดกระบวนจากเดิมในวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2562 เนื่องจากกระแสน้ำที่เพิ่มระดับในแม่น้ำเจ้าพระยา)
- ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค (ใหญ่) จาก ไปในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อวันอาทิตย์ แรม 10 ค่ำ เดือน 11 ปีมะโรง ฉศก จ.ศ. 1386 ตรงกับวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2567
เส้นทางเดินเรือ
จุดเริ่มต้นของขบวนเรือนั้นคือบริเวณ โดยจะมีการจอดเรือตั้งแต่หน้าสะพานกรุงธน ไปถึงหลังสะพานพระราม 8 เรือจะเริ่มออกจากสะพานพระราม 8 ผ่านป้อมพระสุเมรุ สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า โรงพยาบาลศิริราช กรมอู่ทหารเรือ ราชนาวิกสภา พระบรมมหาราชวัง หอประชุมกองทัพเรือ วัดอรุณราชวราราม และไปจอดเรือที่หน้าวัดกัลยาณมิตร
เรือพระราชพิธีในปัจจุบัน
- เรือพระที่นั่ง
- เรือดั้ง เป็นเรือไม้ทาสีน้ำมัน ไม่มีลวดลายอย่างใด แต่ปัจจุบันหัวเรือปิดทอง มี 22 ลำ มีชื่อเรียกตามลำดับตั้งแต่ เรือดั้ง 1 ถึง เรือดั้ง 22
- เรือทองขวานฟ้า และ เรือทองบ้าบิ่น เรือทั้งสองลำนี้เป็นเรือดั้งทาน้ำมัน ยอดดั้งปิดทองแกะสลักลวดลาย เป็นเรือคู่หน้าสุดที่นำขบวนเรือพยุหยาตราชลมารคทั้งหมด
- เรือเสือทยานชล และ เป็นเรือสองลำที่ดัดแปลงมาจากเรือรบ เรียกเรือลักษณะนี้ว่า เรือพิฆาต เรือแต่ละลำวาดลงสีรูปเสือไว้ที่หัวเรือซึ่งมีช่องที่มีปืนใหญ่ยื่นออกมา
- เรือเอกไชยเหินหาว และ เรือเอกไชยหลาวทอง หัวเรือเป็นรูปดั้งเชิดสูงงอนขึ้นไป ลงรักปิดทองเขียนลายรดน้ำรูปเหรา (อ่าน เห-รา) ซึ่งเป็นสัตว์ในตำนาน ลักษณะคล้ายมกรแต่มีหัวเป็นนาค
- เรือรูปสัตว์
เรือพระที่นั่ง
เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ | เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช | เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ | เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 | |
---|---|---|---|---|
ความยาว: | 46.15 เมตร | 44.85 เมตร | 45.67 เมตร | 44.30 เมตร |
ความกว้าง: | 3.17 เมตร | 2.58 เมตร | 2.91 เมตร | 3.20 เมตร |
ความลึก: | 94 เซนติเมตร | 87 เซนติเมตร | 91 เซนติเมตร | 100.1 เซนติเมตร |
กินน้ำลึก: | 41 เซนติเมตร | 31 เซนติเมตร | 46 เซนติเมตร | 40 เซนติเมตร |
ระวางขับน้ำ: | 15 ตัน | 10 ตัน | 15 ตัน | 20 ตัน |
ฝีพาย: | 50 ฝีพาย 2 นายท้ายเรือ 1 พนักงานขานยาว 2 เจ้าพนักงานหน้าบัลลังก์กัญญา 2 เจ้าพนักงานบัลลังก์กัญญา 1 ผู้ให้สัญญาณ 1 ผู้เชิญธง 7 ผู้เชิญเครื่องสูง | 54 ฝีพาย 2 นายท้ายเรือ 1 ผู้เห่ 1 พนักงานขานยาว | 61 ฝีพาย 2 นายท้ายเรือ 1 พนังงานขานยาว 1 ผู้ให้สัญญาณ 1 ผู้เชิญธง 2 เจ้าพนักงาน (หน้าบัลลังก์กัญญา 1 นาย, หลังบัลลังก์กัญญา 1 นาย) 7 ผู้เชิญเครื่องสูง | 50 ฝีพาย 2 นายท้ายเรือ 1 พนักงานขานยาว 1 ผู้ให้สัญญาณ 1 ผู้เชิญธง 7 ผู้เชิญเครื่องสูง |
เรือพระราชพิธีในอดีต
เรือพระที่นั่งกิ่ง
เป็นเรือพระที่นั่งที่มีความสำคัญสูงสุด ใช้ประกอบบัลลังก์บุษบก หรือบัลลังก์กัญญา ใช้เป็นเรือพระที่นั่งลำทรงที่ประทับ หรือใช้ทรงพระพุทธรูป พระชัยประจำพระองค์ ผ้าไตรกฐินพระราชทาน โขนเรือมักเป็นงอนเชิดขึ้นไป (เรือเอกไชย)หรือเป็นรูปอื่น ตลอดทั้งลำเรือแกะสลักลาย ปิดทอง ประดับกระจก
หากเรือพระที่นั่งตั้งบัลลังก์บุษบกเป็นที่ประทับ พระมหากษัตริย์จะต้องทรงพระมหามงกุฎ หรือพระชฎา ในขณะทรงประทับบนบุษบก จึงจะต้องมีการจัดเรือพลับพลา เป็นที่เปลื้องเครื่องเมื่อเทียบท่า
รัชกาลที่ 1
- เรือพระที่นั่งสุวรรณหงส์ เรือพระที่นั่งกิ่งโขนเรือสลักรูปหงส์ พื้นสีดำ ยาว 18 วา ภายหลังมีการสร้างลำใหม่ในรัชกาลที่ 6 โดยใช้ชื่อว่า เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์
- เรือพระที่นั่งศรีสมรรถไชย เรือพระที่นั่งกิ่งเอกไชย พื้นสีแดง ยาว 18 วา
- เรือพระที่นั่งไกรสรมุข เรือพระที่นั่งกิ่งเอกไชย พื้นสีดำ ยาว 19 วา 1 ศอก
- เรือพระที่นั่งศรีประภัสรไชย เรือพระที่นั่งกิ่งเอกไชย พื้นสีดำ ยาว 18 วา ได้รับความเสียหายในสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันโขนเรือเก็บรักษาอยู่ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี
- เรือพระที่นั่งไกรแก้วจักรรัตน เรือพระที่นั่งกิ่งเอกไชย พื้นสีเขียว ยาว 17 วา
- เรือพระที่นั่งไกรสรจักร เรือพระที่นั่งเอกไชย พื้นสีเขียว ยาว 17 วา 2 ศอก
- เรือพระที่นั่งชลพิมานไชย เรือพระที่นั่งเอกไชย พื้นสีแดง ยาว 12 วา 3 ศอก 6 นิ้ว ปัจจุบันเก็บรักษาที่กองเรือเล็ก กรมอู่ทหารเรือ
- เรือพระที่นั่งไกรสรมารถ เรือพระที่นั่งเอกไชย พื้นสีแดง ยาว 14 วา
- เรือพระที่นั่งเอกไชย (ไม่มีนาม) เรือพระที่นั่งเอกไชยน้อย พื้นสีดำ ยาว 14 วา
รัชกาลที่ 3
- เรือพระที่นั่งมงคลสุบรรณ เรือพระที่นั่งกิ่งโขนเรือสลักรูปครุฑยุดนาค พื้นสีแดง ยาว 17 วา 2 ศอก ภายหลังในรัชกาลที่ 4 ทรงโปรดฯ ให้เพิ่มรูปพระนารายณ์บนหลังครุฑ พระราชทานนามใหม่ว่า เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ ต่อมาได้รับความเสียหายในสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันโขนเรือเก็บรักษาอยู่ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี
- เรือพระที่นั่งศรีสุนทรไชย เรือพระที่นั่งเอกไชย พื้นสีแดง ยาว 17 วา
- เรือพระที่นั่งเอกไชย (ไม่มีนาม) เรือพระที่นั่งเอกไชย พื้นสีแดง ยาว 14 วา 2 ศอก 5 นิ้ว
รัชกาลที่ 4
- เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งกิ่งโขนเรือสลักรูปพญาอนันตนาคราช 7 เศียร พื้นสีเขียว ยาว 1 เส้น 3 วา ภายหลังมีการสร้างลำใหม่ในรัชกาลที่ 6
เรือพระที่นั่งศรี
เป็นเรือพระที่นั่งรอง ตั้งบัลลังก์กัญญา ใช้เป็นเรือพระที่นั่งลำทรงเมื่อไม่ได้จัดเป็นกระบวนใหญ่ หรือใช้เป็นเรือพระที่นั่งสำรอง รวมถึงเป็นเรือพลับพลาเพื่อทรงเปลื้องพระมหามงกุฎ พระชฎา เมื่อจะทรงประทับบนบุษบก ในบางกรณีอาจพระราชทานให้เจ้านายฝ่ายในใช้เป็นเรือที่ประทับโดยเสด็จในขบวนเรือได้
เรือพระที่นั่งศรี มักมีโขนเรือเป็นรูปดั้ง ประกอบแกะสลักลวดลาย ปิดทอง ประดับกระจก หรือมีโขนเรือเป็นรูปอื่น รวมถึงแบบเขียนลายด้วย
รัชกาลที่ 1
- เรือพระที่นั่งบุษบกพิศาล เรือพระที่นั่งศรีประกอบ พื้นสีน้ำเงิน ยาว 15 วา
- เรือพระที่นั่งวิมานอมรินทร์ เรือพระที่นั่งศรีประกอบ พื้นสีเขียว ยาว 12 วา 3 ศอก 1 คืบ
- เรือพระที่นั่งรังสีทิพรัตน เรือพระที่นั่งศรีลายเขียนทอง พื้นสีแดง ยาว 15 วา
- เรือพระที่นั่งจักรพรรดิภิรมย์ เรือพระที่นั่งศรีประดับกระจกลายยา พื้นสีดำ ยาว 14 วา 2 ศอก
- เรือพระที่นั่งทินกรส่องศรี เรือพระที่นั่งศรีลายเขียน พื้นสีม่วง ยาว 12 วา 1 ศอก 1 คืบ
- เรือพระที่นั่งมณีจักรพรรดิ เรือพระที่นั่งศรีลายเขียน พื้นสีเขียว ยาว 13 วา 5 นิ้ว
- เรือพระที่นั่งอนงคนิกร เรือพระที่นั่งรองลายเขียนทอง พื้นสีดำ ยาว 13 วา 10 นิ้ว
- เรือพระที่นั่งอัปสรสุรางค์ เรือพระที่นั่งรองลายเขียนทอง พื้นสีม่วง ยาว 13 วา 1 ศอก
- เรือพระที่นั่งแก้วจักรพรรดิ เรือพระที่นั่งศรีประกอบของวังหน้า พื้นสีน้ำเงิน ยาว 15 วา
- เรือพระที่นั่งสวัสดิ์ชิงไชย เรือพระที่นั่งศรีประกอบของวังหน้า พื้นสีดำ ยาว 16 วา
- เรือพระที่นั่งวิไลยเลขา เรือพระที่นั่งศรีลายเขียนทองของวังหน้า พื้นสีดำ ยาว 15 วา 3 ศอก 1 คืบ
รัชกาลที่ 2
- เรือพระที่นั่งเหราข้ามสมุทร เรือพระที่นั่งศรีประกอบรูปเหรา ไม่ปรากฎสีพื้น ไม่ปรากฎขนาด ได้รับความเสียหายในสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันโขนเรือเก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ จังหวัดสมุทรปราการ
รัชกาลที่ 3
- เรือพระที่นั่งสุวรรณเหรา เรือพระที่นั่งศรีประกอบรูปเหรา พื้นสีน้ำเงิน ยาว 15 วา 1 ศอก ได้รับความเสียหายในสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันโขนเรือเก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ จังหวัดสมุทรปราการ
- เรือพระที่นั่งรัตนดิลก เรือพระที่นั่งศรีประกอบ พื้นสีแดง ยาว 19 วา 2 ศอก 7 นิ้ว ได้รับความเสียหายในสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันโขนและท้ายเรือเก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ จังหวัดสมุทรปราการ
รัชกาลที่ 4
- เรือพระที่นั่งเทวาธิวัตถ์ เรือพระที่นั่งศรีประกอบ พื้นสีแดง ยาว 1 เส้น
- เรือพระที่นั่งเสวยสวัสดิ์เกษมสุข เรือพระที่นั่งศรีประกอบ ไม่ปรากฎสีพื้น ยาว 1 เส้น
- เรือพระที่นั่งเพชรรัตน์ดาราราย เรือพระที่นั่งศรีประกอบ พื้นสีน้ำเงิน ยาว 1 เส้น 2 นิ้ว
- เรือพระที่นั่งทวยเทพถวายกร เรือพระที่นั่งศรีประกอบ พื้นสีแสด ยาว 18 วา ได้รับความเสียหายในสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันโขนเรือเก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี
รัชกาลที่ 5
- เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ เรือพระที่นั่งศรีประกอบ พื้นสีชมพู ปัจจุบันอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี
ไม่ปรากฏหลักฐานรัชสมัยการสร้างในพระราชพงศาวดาร
- เรือพระที่นั่งสง่างามกระบวน เรือพระที่นั่งศรีประกอบ ปรากฏการใช้งานในรัชกาลที่ 5 ถึง รัชกาลที่ 7 ได้รับความเสียหายในสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันโขนเรือและท้ายเรือ เก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี
เรือกระบวนปิดทอง
เป็นเรือไชย โขนเรือแกะสลักปิดทอง ติดตั้งปืนจ่ารง ยกเว้นเรือเอกไชยคู่ชัก เรือพื้นสีดำ ลายเขียนทอง ถูกสร้างในรัชกาลที่ 1 ทั้งสิ้น 10 ลำ ต่อมาได้รับความเสียหายในสงครามโลกครั้งที่ 2 และถูกบูรณะสร้างใหม่ในรัชกาลที่ 9 ปัจจุบันเก็บรักษาที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี และโรงเรือหลวง ท่าวาสุกรี
- เรือเอกไชยเหินหาว เรือเอกไชยคู่ชัก ยาว 14 วา 1 ศอก 5 นิ้ว
- เรือเอกไชยหลาวทอง เรือเอกไชยคู่ชัก ยาว 14 วา 1 ศอก 5 นิ้ว
- เรือครุฑเหินระเห็จ เรือไชยรูปครุฑ ยาว 13 วา 1 ศอก 1 คืบ 11 นิ้ว
- เรือครุฑเตร็จไตรจักร เรือไชยรูปครุฑ ยาว 13 วา 1 ศอก 1 คืบ
- เรือพาลีรั้งทวีป เรือไชยรูปวานร ยาว 13 วา 3 ศอก
- เรือสุครีพครองเมือง เรือไชยรูปวานร ยาว 14 วา
- เรือกระบี่ปราบเมืองมาร เรือไชยรูปวานร ยาว 13 วา 2 ศอก 1 คืบ
- เรือกระบี่ราญรอนราพณ์ เรือไชยรูปวานร ยาว 13 วา 2 ศอก 1 คืบ
- เรืออสุรวายุภักษ์ เรือไชยรูปอสูรนก ยาว 14 วา 2 ศอก
- เรืออสุรปักษี เรือไชยรูปอสูรนก ยาว 14 วา 2 ศอก
เรือพิฆาต
เป็นเรือรบ ติดตั้งปืนจ่ารง โขนเรือเรียบ เขียนลายสีรูปสัตว์ตลอดทั้งลำ สร้างในรัชกาลที่ 1 ทั้งหมด 12 ลำ ปัจจุบันเหลือเพียง 2 ลำ คือ เรือเสือทยานชล และ เรือเสือคำรณสินธุ์
- เรือมังกรจำแลง พื้นสีชาด ยาว 14 วา 8 นิ้ว
- เรือมังกรแผลงฤทธิ์ พื้นสีชาด ยาว 13 วา 5 นิ้ว
- เรือเหราล่องลอยสินธุ์ พื้นสีหงส์ดิน ยาว 12 วา 2 ศอก 1 คืบ
- เรือเหราลินลาสมุท พื้นสีหงส์ดิน ยาว 12 วา 2 ศอก 9 นิ้ว
- เรือสางกำแหงหาญ พื้นสีเหลือง ยาว 10 วา 3 ศอก
- เรือสางชาญชลสินธุ์ พื้นสีเหลือง ยาว 11 วา 1 ศอก 8 นิ้ว
- เรือโตขมังคลื่น พื้นสีแดงเสน ยาว 11 วา 3 ศอก 3 นิ้ว
- เรือโตฝืนสมุท พื้นสีแดงเสน ยาว 11 วา 2 ศอก 6 นิ้ว
- เรือกิเลนประลองเชิง พื้นสีน้ำเงิน ยาว 11 วา 2 ศอก
- เรือกิเลนละเลิงชล พื้นสีน้ำเงิน ยาว 11 วา 3 ศอก
- เรือเสือทยานชล พื้นสีน้ำเงิน ยาว 10 วา 3 ศอก 1 คืบ
- เรือเสือคำรนสินธุ์ พื้นสีน้ำเงิน ยาว 10 วา 1 ศอก 6 นิ้ว
เรือแซ
เป็นเรือบรรทุกทหาร พื้นสีดำทั้งหมด สร้างในรัชกาลที่ 1 ทั้งหมด 12 ลำ ปัจจุบันไม่ปรากฏแล้ว
- เรือวิภัชนชล ยาว 12 วา 3 ศอก 5 นิ้ว
- เรืออนันตสมุท ยาว 12 วา 3 ศอก
- เรือจรเข้คำรามร้อง ยาว 11 วา
- เรือจรเข้คนองน้ำ ยาว 11 วา
- เรือวรวารี ยาว 11 วา 3 ศอก 3 นิ้ว
- เรือศรีปัทมสมุท ยาว 11 วา 3 ศอก 2 นิ้ว
- เรือตลุมละเวง ยาว 11 วา 3 ศอก 2 นิ้ว
- เรือตะเลงละวน ยาว 10 วา 2 ศอก 1 คืบ
- เรือคชรำบาญ ยาว 9 วา 3 ศอก 1 คืบ
- เรือสารสินธุ ยาว 10 วา 3 ศอก 1 คืบ 4 นิ้ว
- เรือหมูชลจร ยาว 11 วา
- เรือสุกรกำเลาะ ยาว 10 วา 3 ศอก 1 คืบ 7 นิ้ว
เรืออื่น ๆ
นอกจากเรือที่ระบุข้างต้น ยังมีเรืออื่น ๆ ที่สร้างขึ้นประกอบในขบวน เช่น เรือดั้ง 22 ลำ เรืออีเหลือง เรือแตงโม เรือตำรวจ รวมถึงเรือดั้งโขนเรือปิดทอง 2 ลำที่มีการระบุฝีพายว่าต้องเป็นชาวบ้านจากที่ใด คือ เรือทองขวานฟ้า และเรือทองบ้าบิ่น
ดูเพิ่ม
หมายเหตุ
- ต้นฉบับภาษาสเปนจากเอกสาร HISTORIA DE LAS ISLAS DEL ARCHIPIELAGO, Y REYNOS DE LA GRAN CHINA, TARTARIA, CUCHINCHINA, MALACA, SIAN, CAMBOXA Y IAPPON, Y de los ſucedido en ellos a los religioſos deſcalços, de la Orden del Seraphico Padre San Franciſco, de la Prouincia de San Gregorio de las Philippinas. ตีพิมพ์เมื่อ ค.ศ. 1601 กรุงบาร์เซโลนา เขียนว่า:– Y para repreſentar la mageſtad de la venida del rey, venieron delante del quatro barcos grandes, en que venían muchos hombres, tañendo unas trompetas de plata pequeñas. Los barcos eran pintados y labrados de muchas y diuerſas labores, y figuras. De manera, que confiderada la popa, y la proa, qeſtaua muy doradas, en ſu modo y hehcura parecía un Elphante. Eſtos barcos pararon junto a un templo que eſtaua a la orilla del río, de la otra parte de la ciudad, adonde ſe dezía que hauia de parar el Rey, y hazer oración y limofna. Deſpués de los barcos de las trompetas, vinieron otros largos y differentes de los primeros, con mucha gente, veſtida de varias libreas. Y en cada vno venía un grande del Reyno, por ſu orden, ſegún ſus oficios y dignidades, repreſentando con ſus trajes y acompañamiento, la majeſtad y grandeza de ſu rey. Los aderezos de los barcos, que eran muchos, y de la gente innumerable era de mucha coſta y gala, y todos pararon junto al templo. Dentro de breve rato, vino el hijo menor del Rey, en un barco labrado con mucha curioſidad, y en ſu acompañamiento trahía muchos barcos de muy luzida gente. Luego viao la Reyna en un barco, hecho con grande ingenio, paramoſtrar ſu grauedad, y ſud damas venian en rtros, adornados de varias pintaras, y trahian unas celoſias curio ſamente deradas, para poder ver ſin ſer viſtas. Deſpues llego el Rey en un barco grande, que conſiderada ſu figura, parecía garcą, que las alas tendidas yua bolando. Adornado con tanto oro que los remos y el barco yuan dorados, y como los remeros eran muchos, y el barco ligero, parecía que venía bolando.
- ต้นฉบับภาษาฝรั่งเศสเขียนว่า:– « Mais, parce qu’en ce païs-là on va plus par eau que par terre, le Roy de Siam a de fort beaux Balons. J’ay déjà dit que le corps d’un Balon n’eſt que d’un ſeul arbre long quelquefois de 16. à 20. toiles. Deux hommes affis les jambes croiſées côte à côte l’un de l’autre fur une planche miſe en travers, ſuffiſent pour en occuper toute la larguer. L'un pagaye à droite, & l'autre à gauche. Pagayer c’est ramer avec la pagaye, & la pagaye eſt une rame courte, qu’on tient à deux mains, par le milieu, & par le bout. Il ſemble qu’on n’en faffe que balayer l’eau quoy qu’avec force. Elle n’eſt point attachée au bord du balon, & celuy, qui la manie, regarde où il va ; au lieu que celuy qui ramel a le dos tourné à la route. Il y a quelquefois dans un feul balon juſqu’à cent ou fix vingt pagayeurs rangez ainſi deux à deux les jambes croiſees ſur des planchettes: mais les moindres Officiers ont des baIons beaucoup plus courts, ou peu de pagayes, comme 16. ou 20. ſuffiſent. Les pagayeurs, afin de plonger la pagaye de concert, chantent, ou font des cris meſurez; & ils plongent la pagaye en cadence avec un mouvement de bras & d'épaules qui eſt vigoureux , mais facile & de bonne grace. »
อ้างอิง
- เชิงอรรถ
- "ระเบียบส่วนราชการในพระองค์ ว่าด้วยการบรรเลงดุริยางค์ในการพระราชพิธีหรือพิธีการ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2567" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 141 (พิเศษ 288 ง): 4. 2024-10-22.
- "หมายกำหนดการ ที่ 22/2567 หมายกำหนดการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน พุทธศักราช 2567" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 141 (71 ข): 3. 2024-10-22.
- "ทาง" ในที่นี้เป็นคำบุรพบท แปลว่า โดย หรือ ด้วย ดังนั้นทางสถลมารค จึงมีความหมายว่า ด้วยวิถีทางบก จากกระบวนพยุหยาตราราชบัณฑิตยสถาน
- ทองย้อย แสงสินชัย และพิมพ์อนงค์ ริมสินธุ. (2557). บาลีวันละคํา. กรุงเทพฯ: นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่น. หน้า 127. ISBN
- Saveros Lewitz. "The Infix /-b-/ in Khmer" Oceanic Linguistics Special Publications No. 13, 1976 in Jenner, Philip N. ; Thompson, Laurence C.; and Starosta, Stanley. (1976). Austroasiatic Studies, Part II. Oceanic Linguistics Special Publications. Honolulu: University of Hawai'i Press. p. 472. JSTOR 20019181
- อุไรศรี วรศะริน. (1984). Langues Et Civilisations De L’asie Du Sud-est Et Du Monde Insulindien: Les Éléments Khmers dans La Formation de la Langue Siamoise. PARIS: Société d’Études Linguistiques et Anthropologiques de France (SELAF). p. 178. ISBN ISSN 0224-2680
- Cœdès, George. (1966). Collection de textes et documents sur l'Indochine III: Inscriptions du Cambodge, Tome VIII. PARIS: École française d'Extrême-Orient. p. 35. ISBN ISSN 0768-2530
- Cœdès, George. "Études Cambodgiennes," Bulletin de l'Ecole française d'Extrême-Orient 29(29)(1929): 314. doi:10.3406/befeo.1929.3242
- Schuessler, Axel. (2007). ABC Etymological Dictionary of Old Chinese. Honolulu: University of Hawai'i Press ; IBT Global. p. 284. ISBN LCCN 2005-56872
- สุภาพร มากแจ้ง. (2527). ภาษาบาลี-สันสกฤตในภาษาไทย. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์. หน้า 152, 160, 170. ISBN
- พัฒน์ เพ็งผลา. (2535). บาลีสันสกฤตในภาษาไทย. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง. หน้า 238. ISBN
- บวรบรรณรักษ์ (นิยม รักไทย), หลวง. (2469). สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน. พระนคร: โรงพิมพ์ไทย. หน้า. 694. OCLC 1361147364
- ธนโชติ เกียรติณภัทร."อโยธยาก่อน พ.ศ. 1893 ความทรงจำจากเอกสารและตำนาน," ศิลปวัฒนธรรม, 44(10)(สิงหาคม, 2566): 10-22.
- จารึกวัดเขากบ ด้านที่ 2. ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน). สืบค้นเมื่อ 11 ตุลาคม 2567.
- "จิตร ภูมิศักดิ์ ตรวจสอบหลักฐาน พบเมืองอโยธยา เก่ากว่าสุโขทัย". มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 19-25 พฤษภาคม 2566. สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม 2567.
- เทพมนตรี ลิมปพยอม. (2546). ลอกคราบโบราณคดี. กรุงเทพฯ: บานชื่น. หน้า 53.
- กรมศิลปากร. (2516). ประวัติวัดพนัญเชิงวรวิหาร. พิมพ์แจกในงานกฐินพระราชทาน ณ วัดพนัญเชิงวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันพฤหัสบดี ที่ 1 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2516. พระนคร: โรงพิมพ์การศาสนา. หน้า 9–10.
- คณะกรมการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา. (2513). เฉลิมพระราชอนุสาวรีย์สมเด็จพระรามาธิบดีศรีสุนทรบรมบพิตรพระพุทธิเจ้าอยู่หัว (อนุสรณ์สมเด็จพระเจ้าอู่ทองรามาธิบดีศรีสินทรบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัว). คณะกรมการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจัดพิมพ์เป็นที่ระลึกเนื่องในอภิลักขิตมงคลสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพระราชอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าอู่ทองรามาธิบดีที่ 1 และอยุธยามหาปราสาท วันที่ 24 มิถุนายน พุทธศักราช 2513 ประมวญไว้ซึ่งประวัติศาสตร์อันเนื่องด้วยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 พระบรมราชประวัติ การประดิษฐานพระราชวงศ์อู่ทองหรือเชียงรายสถาปนากรุงเทพทวาราวศรีอยุธยาหรือกรุงอโยธยาศรีรามเทพนคร พระมหากษัตริย์ราชวงศ์อู่ทองมาจากไหน สัมพันธ์กับวงศ์สุพรรณอย่างไร ปูชนียโบราณวัตถุสถาน ประติมากรรม สถาปัตยกรรม ศิลปกรรมสมัยหลงเหลืออยู่ที่ไหนบ้าง ทำไมจึงเรียกว่าพระเจ้าอู่ท่องว่าเชษฐบิดร ค้นคว้ามาเขียนโดยนักประวัติศาสตร์ นักโบราณคดี นักปกครอง นักโหราศาสตร์ นักวรรณคดี นายแพทย์ปริญญา ผู้ทรงคุณวุฒิทางประติมากรรม สถาปัตยกรรม ศิลปกรรม. พระนคร: ศิริมิตรการพิมพ์. หน้า 121.
- วิเชียรปรีชา (น้อย), พระ. (2412). พระราชพงศาวดารเหนือ. ม.ป.ท.: ม.ป.พ. หน้า 47-48.
- คณะกรรมการหนังสือเทิดพระเกียรติเพื่อการศึกษา. (2535). "การเสด็จกระบวนพยุหยาตราเลียบพระนคร," จอมทัพไทยและเอกลักษณ์การทหารของแผ่นดิน. กรุงเทพฯ : พับลิคบิสเนสพรินท์. หน้า 169. ISBN
- ก่องแก้ว วีระประจักษ์ และนิยดา ทาสุคนธ์, หอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร. (2531). กระบวนพยุหยาตรา ประวัติและพระราชพิธี. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย. ISBN
- จิรายุ ทวีเผ่าภาคิน. (2562). พิพิธภัณฑสถานขบวนพยุหยาตราทางชลมารค. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต (สถาปัตยกรรมไทย) คณะสถาปัตยกรรมศาสต์ มหาวิทยาลัยศิลปากร.
- ณัฏฐภัทร จันทวิช และมิรา ประชาบาล. (2539). เรือพระราชพิธี. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร. หน้า 4. ISBN
- ณัฏฐภัทร จันทวิช. "เรือพระราชพิธีโบราณ," ศิลปากร 29(3)(กรกฎาคม 2528):69. ISSN 0125-0531
- แหวน ศักดิ์สุนทร. (2544). "เรือพระราชพิธี," อนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พลเรือตรี ศรีรัตน์ ศักดิ์สุนทร ณ วัดใหม่เทพพล แขวงบางพรม เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร วันที่ 8 มกราคม 2544. กรุงเทพฯ: [ม.ป.พ.].
- ยอดมนู เบ้าสุวรรณ และธีระวุฒิ ปัญญา. (2553). เจาะตำนานพระนเรศวร ที่คนไทยยังไม่เคยรู้ เเละประวัติศาสตร์ไทยไม่เคยบันทึก!. กรุงเทพฯ: บางกอกบุ๊ค. หน้า 67–68.
- สุทธิศักดิ์ ระบอบ สุขสุวานนท์. "ใครว่าสมเด็จพระนเรศไม่มีพระราชโอรส! สอบหลักฐาน-พงศาวดาร อาจมีถึง 2 พระองค์?," ศิลปวัฒนธรรม 28(1)(มีนาคม 2551):148.
- Ribadeneira, Marcelo de. (1601). “CAPITULO XXI. DEL REINO DE SIAN,” HISTORIA DE LAS ISLAS DEL ARCHIPIELAGO, Y REYNOS DE LA GRAN CHINA, TARTARIA, CUCHINCHINA, MALACA, SIAN, CAMBOXA Y IAPPON, Y de los ſucedido en ellos a los religioſos deſcalços, de la Orden del Seraphico Padre San Franciſco, de la Prouincia de San Gregorio de las Philippinas. Barcelona: Gabriel Graells y Giraldo Dotil. p. 167.
- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. (2525). ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค สมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พุทธศักราช 2525 The Royal Barge Procession on the Occasion of The Rattanakosin Bicentennial 1982. กรุงเทพฯ: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. ไม่ปรากฏเลขหน้า. อ้างใน หนังสือประวัติศาสตร์แห่งราชอาณาจักรสยาม.
- ธีรภาพ โลหิตกุล และคณะ, กองตลาดภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. (2563). "พยุหยาตราทางชลมารค แสนยานุภาพทางน้ำของชาวสยาม," River Legacy มรดกแห่งสายน้ำ. กรุงเทพฯ: ครีเอท มายด์. หน้า 21.
- นราธิปประพันธ์พงศ์, พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระ. (2505). จดหมายเหตุลาลูแบร์ เล่ม 1. พระนิพนธ์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์. กรุงเทพฯ: องค์การค้าของคุรุสภา. หน้า 173–174.
- La Loubère, Simon de. (1691). « Des Voitures, & de l'Equipage en général des Siamois », DU ROYAUME DE SIAM : Envoyé extraordinaire du ROY auprès du Roy de Siam en 1687 & 1688, TOME PREMIER. Paris: Chez Abraham Wolfgang, près de la Bourſe. pp. 123–124.
- ว. วรรณพงษ์. "กระบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในรัชสมัยกรุงธนบุรี". บ้านเมือง.
- 7. เสด็จเลียบพระนครทางชลมารค
- กรมศิลปากร. (2481). "จดหมายเหตุในรัชกาลที่ 4," ประชุมพงศาวดาร เล่ม 43 (ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 69-70) เรื่องเกี่ยวกับกรุงเก่าตอนที่ 1 เรื่องเมืองนครจำปาศักดิ์ และเรื่องขุนบรมราชา. พระนคร: องค์การค้าของคุรุสภา.
- ปรีดิเทพย์พงษ์ เทวกุล, หม่อมเจ้า. (2499). พระราชประวัติสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยิกาเจ้า และจดหมายเหตุรายวันของสมเด็จพระบรมราชปิตุลาธิบดี เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ. ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้พิมพ์พระราชทานเป็นที่ระลึกในงานพระบรมศพ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยิกาเจ้า ณ พระเมรุมาศท้องสนามหลวง วันที่ 22 เมษายน พุทธศักราช 2499.พระนคร: พระจันทร์. หน้า 162–163.
- คณะกรรมการจัดพิมพ์เอกสารทางประวัติศาสตร์ สำนักนายกรัฐมนตรี. (2516). จดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน ในรัชกาลที่ 5 ปีมะโรง พ.ศ. 2411 – ปีระกา พ.ศ. 2416. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์สำนักนายกรัฐมนตรี. หน้า 145 เชิงอรรถ (2).
- ภาณุพันธุวงศ์วรเดช, สมเด็จ ฯ เจ้าฟ้ากรมพระยา. (2513). จดหมายเหตุพระราชพิธีลงสรง สมเด็จ ฯ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร ในรัชกาลที่ 5. พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พลตำรวจเอก พระพินิจชนคดี (พินิจ อินทรทูต) ณ เมรุหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส วันที่ 28 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2513. กรุงเทพฯ: ประจักษ์การพิมพ์. หน้า 344.
- นเรศรวรฤทธิ์, พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระ. (2466). "เสด็จเลียบพระนครทางชลมารค," จดหมายเหตุพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว. ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้หอพระสมุดสำหรับพระนครรวบรวมพิมพ์พระราชทานในงารเฉลิมพระชนม์พรรษา ปีกุญ พ.ศ. 2466. พระนคร: โสภณพิพรรฒธนากร. หน้า 157.
- สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี. (2567, 13 มิถุนายน). นายกฯ ติดตามความก้าวหน้า การจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค และการซ่อมแซมการประดับตกแต่งเรือพระที่นั่ง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567. ทำเนียบรัฐบาล. สืบค้นเมื่อ 12 กรกฎาคม 2567.
หนังสือและบทความ
- ศานติ ภักดีคำ. (2562, ตุลาคม). ครุฑ นาค และหงส์: สัญลักษณ์เทพเจ้าศาสนาพราหมณ์ฮินดูในโขนเรือพระราชพิธี. ศิลปวัฒนธรรม. 40(12): 78-112.
- Phillips, Matthew. (2017). Ancient Past, Modern Ceremony: Thailand’s Royal Barge Procession in Historical Context. In How the Past was Used: Historical Cultures c. 750-2000. edited by Peter Lambert and Björn Weiler. pp. 201-30. Oxford: Oxford University Press.
แหล่งข้อมูลอื่น
- ขบวนพยุหยาตราทางชลมารคฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี เก็บถาวร 2006-05-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- แผนผังของเรือในกระบวนแต่ละเรือ
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniyngtxngkarephimaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxngkhunsamarthphthnabthkhwamniidodyephimaehlngxangxingtamsmkhwr enuxhathikhadaehlngxangxingxacthuklbxxk haaehlngkhxmul khbwnphyuhyatrathangchlmarkh khaw hnngsuxphimph hnngsux skxlar JSTOR eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir bthkhwamnithnghmdhruxbangswn mienuxha rupaebb hruxlksnakarnaesnxthiimehmaasmsahrbsaranukrmoprdxphipraypyhadngklawinhnaxphipray hakbthkhwamniekhaknidkbokhrngkarphinxng oprdthakaraecngyayaethn eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir khbwnphyuhyatrathangchlmarkh bangaehngeriyk krabwnphyuhyatrachlmarkh hrux krabwnphyuhyatrathangchlmarkh epnkhbwnesdcphrarachdaeninthangnathiepnrachpraephniithythimimaaetobran odymihlkthanchdecntngaetsmyxyuthya aelainsmyrtnoksinthr caekhluxnkhbwntamaenwaemnaecaphrayaepnhlk eruxinkrabwnmikarslkokhneruxepnrupstwinethphniyay mikarcdkrabwnhlayaebb thiruckkndikkhux krabwnphyuhyatraephchrphwng dngpraktin lilitphrrnnakhbwnerux praphnthodyecaphrayaphrakhlng hn emux ph s 2330 inrchsmyphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach odyyudthuxtamaebbaephnedimsmyxyuthyaphaphkhbwnerux inchwngphithisxmkhbwnphyuhyatrathangchlmarkhenuxnginphrarachphithibrmrachaphiesk phuththskrach 2562 praephthkhxngkareherux samarthcaaenkxxkepn 2 praephthkhux kareheruxhlwng kareheruxinnganphrarachphithi aelakareheruxeln kareheruxelnkhxngchawbaninngantang inpccubnkareheruxyngkhngxyuechphaa kareheruxhlwng thiichinkhbwnphyuhyatrathangchlmarkhsphthmulwithyathimakhxngkhawa khbwnphyuhyatrathangchlmarkh midngni khbwn aeplwa hmukhn hmuphahna khumux hruxaebbaephn epnmacakkhaekhmrekasmyemuxngphrankhrwa kh bwr ekhmr ក ប រ xksrormn kpvar khpvar khpvan rakkha gwrek gvar kpvar khpvar phbincarukphnmda K 549 xayu kh s 1178 1277 aelacarukkrxbpratubayn K 470 xayu kh s 1327 thiprasathbnthaysri echuxmoyngthangniruktisastrthimikhwamsmphnthaebbyumcakkhacinekatrakulphasacin thiebt hruxtrakulphasayxythiebt phmawa gwrek phyuhyatra epnkhasmasmacakkha phyuh yatra aeplwa karekhluxnthikhxngkxngthhar karcdkrabwnthphaelwykip khawa phyuh hmaythung phwk hmu klum kxngthph kxngthhar trxktn hruxsxytn macaksnskvtwa w yuh ph yuh phyuh snskvt व य ह xksrormn vyuha aelakhawa yat ra hmaythung karekhluxnip kardaeninip karthxngethiywip hruxkaryngchiwitihepnip macakkhasnskvtwa yatra snskvt य त र xksrormn yatra chlmarkh epnkhasmasmacakkha chl markh aeplwa thangna khawa chl hmaythung na macakkhabalisnskvtkhux chla snskvt जल xksrormn jala aelakhawa markh hmaythung thang hruxesnthang macakkhasnskvtwa mrrkha mrrkh mkh kh markh snskvt म र ग xksrormn marga prawtikhbwnphyuhhyatrathangchlmakhsmyxuthxng kxnxanackrxyuthya smyxuthxngmiemuxngpraktchuxwa krungxoythya emuxngxoythya hrux xoythyasriramethphnkhr tamcarukwdekhakb emuxngpaknaoph nw 2 danthi 2 hlkthi 11 brrthdthi 21 xksrithysuokhthy xayuphuththstwrrsthi 20 mimakxnkarsthapnaxanackrxyuthyasungekaaekkwakrungsuokhthy in phrarachphngsawdarehnux klawthung krabwnphyuhthangchlmarkhemuxculskrach 395 trngkbpi ph s 1576 ecasaynaphungesdcphrarachdaeninodykrabwnphyuhthangchlmarkh khrnthungaehlmwdpakkhlxngkhnaprathbbneruxphrathinng thrngthxdphraentrehnphungsrangrngbriewnxksubrrnitchxfabnyxdxuobsthwdxnepnmngkhlvksaelwnaphunghydtkphraoxsthtamthithrngkhxnmskar phrasngkhcungthwayichymngkhlwacathrngidpkkhrxngaephndincungthwaynamwa phraecasaynaphung txmakhunnangesnamatyxyechiyihesdckhuneswyrachsmbtipkkhrxngkrungxoythyathrngkhrxngrachyrahwangpi ph s 1654 1708 phrarachphngsawdarehnux klawwa culskrach 395 pimaemiyebycsk khrn n wneduxn 12 aerm 11 kha idsuphwarvksdicungykkhbwnphyuhaipthangchlmarkhphrxmdwyesnabdiesdcmathungaehlmwdpakkhlxng phxnakhuncungprathberuxphrathinngxyunawd cungthxdphraentrehnphungcbxyuthixkikitchxfanabn cungthrngdarihwacakhxnmskarphraphuththptimakr edcha buyyaphisngkharkhxngera caidkhrxngiphrfaxanapracharasdrdwyknesrc smysuokhthy khbwnphyuhyatrathangchlmarkh inkaraehphrakthininxdit hnawdxrunrachwraramrachwrmhawihar karesdcthangnathieriykwa khbwnphyuhyatrathangchlmarkh nnmihlkthanmatngaetsmykrungsuokhthy praktiwwa phxkhunramkhaaehngmharachesdcphrarachdaeninkhbwnphyuhyatrathangchlmarkhinphrarachphithilxyphraprathip 4 phrarwngeca phramhathrrmrachathi 1 thrngicheruxxxklxykrathng hruxphithicxngepriyng n klangsrana phrxmthngephaethiynelnifinyamkhunephyeduxnsibsxng 27 wnlxykrathng aelakarcdkhbwneruxrbesdcsmedcphramhaethrsrisrththarachculamunisrirtnlngkathipmhaswamiepneca phrarachnddakhxngphxkhunphaemuxngsungesdcklbkrungsuokhthyhlngcakthrngbwcheriyn n lngkainrchsmykhxngphramhathrrmrachathi 1 smyxyuthya khrninsmykrungsrixyuthyaepnrachthani sungtwekaakrungnnepnekaathilxmrxbipdwyaemnalakhlxngchiwitphukphnkbsayna cungpraktkarsrangeruxrbmakmayinkrungsrixyuthya yambanemuxngsukhsngbchawkrungsrixyuthyakhnmaelnephlngerux aekhngeruxepneruxngexikekrik odyechphaaphraecaaephndinkrungsyam emuxcaesdcaeprphrarachthanipynghwemuxngtang hruxesdc ipthxdphakthinyngwdwaxaram kmkcaicheruxrbobranehlanncdepnkhbwneruxyingihy thsniyphaphkrungsrixyuthya VEUE DE SIAM aelariwkrabwnphyhyatrachlmarkh ody xxngri xabrahm chaetxaelng Henri Abraham Chatelain nkekhiynaephnthichawhxlnda tiphimphthikrungxmsetxrdm satharnrthdtch emux kh s 1719 rchkalsmedcphrathinngthaysracakcdhmayehtutachard kh s 1686smysmedcphramhathrrmrachathirach mibnthukkhxngchawtangchatiekiywkbkhbwnphyuhyatrathangchlmarkhphbin cdhmayehtusepn eruxng History of the Philippines and Other Kingdom khxngbathhlwngmaresol ed ribaedenxira es ekhiynkhunin kh s 1596 ph s 2139 cakkhabxkelakhxngbathhlwngnikayfransisknsungekhamaphankinkrungsrixyuthyaemux ph s 2125 playrchkalsmedcphramhathrrmrachathirach wa ephuxcaesdcphrarachdaenineyuxnphraxaramaehnghnung mieruxsilaaelnlwnghnaipkxneruxphrathinng ephuxepnkarkhapraknkhwamplxdphykhxngphraecaaephndin eruxehlanibrrthukphukhnepaaetrenginelk ephuxpawprakaskaresdcphrarachdaeninthung brrdaeruxlwnmirupthrngwicitrphisdaraelaaekaslkxyangnaphiswngdwyrupptimapradbpradaxyanghruhra kxekidkhwamrusukprathbicthungokhlngchangthilxyehnuxnanna dwyeruxehlanilxyeluxnipebuxnghnaaelathayeruxoldthayan eruxsilaehlanihyudthiphraxaramaehnghnungbnchayfng ephraaphwkekhakhadhmaywa phraecaaephndincaesdcphrarachdaeninephuxthrngecriyphraphuththmntaelathrngbaephyphrarachkusltamtidmaxyangiklchid eruxsilannepneruxxun xikhlaylathiihykwann aetlalabrrthukphukhnmakmaythiaetngkaydwyekhruxngaebbpraephthtang eruxaetlalamikharachkarchnphuihyaehngrachsank 1 khn aelwcaknnepnphrarachkumarphraxngkheyawthisudinphraecaaephndinthiesdcpraktphraxngkhineruxphrathinngthitkaetngxyanghruhramak tamtidmaepnsmedcphraxkhrmehsiaelasawsrrkanlin smedcphraxkhrmehsiprathbaetephiynglaphngphraxngkh aelabrrdanangkanlnngineruxlaxunthitkaetngxyangnaxscrry aelakndwymanxyangrxbkhxbcnepnipidthicasamarthmxngphanmancakphayinxxkmasuolkphaynxkid odythikhnphaynxkimehnkhnphayin sudthaythimathunginkrabwnphyuhyatraodychlmarkhkhuxxngkhphramhakstriy prathbineruxphrathinngkhnadkwangihythiduaetiklehmuxnnkkrayangtwmhumathiaephpikxnkwangihyxxkma epneruxphrathinngpidthxngthngxngkh aelaodythifiphaymiepncanwnmak xiriyabthinkarphaykhxngphwkekhacungduehmuxnnktwihyehirlmehnuxthayeruxphrathinng phraecaaephndinprathbehnuxphrarachbllngk ekhiyngkhangphraxngkhepnsawnxyphuelxochmkhangla 2 khnkhxythwayxyunganobkphd ephuxihphraxngkhthrngsdchuncakkhwamrxnraxukhxngdwngxathity bathhlwngmaresol ed ribaedenxira From the Kingdom of Siam Del Reino de Sian 1601 cdhmayehtusepnbrryaykhbwnphyuhyatrathangchlmarkhsmykrungsrixyuthya emux ph s 2139smysmedcphranerswrmharach inyukhkrungsrixyuthyaepnrachthani tamphngsawdaridbnthukiwwa smedcphranerswrmharachemuxkhrawesdciptiemuxngemaatama esdcphrarachdaenincakkrungsrixyuthyaodychlmarkh phxidewlavks phraohrarachkhruxthibdisrithichacary klnklxngkhxngchyihphayeruxphrathinngsrisuphrrnhngs xnepneruxthrngphraphuththptimakrthxngnphkhun brrcuphrabrmsaririkthatuthwayphranamsmya phraphichy nakrabwnxxkipkxnephuxkhwamepnsirimngkhl aelwsmedcphranerswrmharachesdcphrarachdaenininkrabwndwyodythrngprathbineruxphrathinngknkrtnwimanmhanawa 4 epnkrabwnaehphrachy smysmedcphranaraynmharach dwyehtuthismykhxngsmedcphranaraynmharachnn banemuxngecriyrungeruxng mikarecriysmphnthimtrikbpraethstang makmay thngthrngsrangemuxnglphburikhuncungmikaresdc odykhbwnphyuhyatrathangchlmarkh aelainbangoxkaskoprdekla ihcdkhbwneruxhlwngxxkrbkhnarachthutaelaaehphrarachsasnkhxngphraecahluysthi 14 aehngpraethsfrngess cakkrungsrixyuthya mayngemuxnglphburi dngnninsmysmedcphranaraynmharachmikhbwneruxephchrphwng sungepneruxriwkrabwnthiihymak cdxxkepn 4 say aelweruxphrathinngtrngklangxik 1 say icheruxthngsinimnxykwa 100 la rahwangkarekhluxnkrabwnkmikareheruxphrxmekhruxngpraokhm cnekidwrrnkrrmrxykrxngthiipheraaying khux kaphyeherux khxngecafathrrmthiebsr hruxecafakung insmysmedcphraecaxyuhwbrmoks txnplaysmykrungsrixyuthya sungbrryaythungkhwamngdngamaelalksnakhxngeruxinkrabwnkhrngnn btheheruxniyngepnaemaebbkhxngkaphyeheruxthiichkninpccubn inchwngpi ph s 2199 2231 prakthlkthanwaemuxphraxngkhesdcaeprphrarachthanipynghwemuxngtang mikarcdkrabwnphyuhyatrathieriykwa khbwnephchrphwng epnriwkrabwnyingihy 4 say phrxmriweruxphrathinng trngklangxik 1 say mieruxthngsinimtakwa 100 la sungnbepnkrabwnphyuhyatra thiyingihythisudinprawtisastraelanbepntnaebbsakhykhxngkrabwnphyuhyatra insmytx ma karcdkarkrabwnphyuhyatrlmarkhinsmysmedcphranaraynmharachthiklawmani cdidwaepnriwkrabwnihyaesdngkhwammngkhngkhxngrachsankithyinkhrngnnidepnxyangdi sungemuxepriybethiybkbriwkhbwneruxinsmytxma caphbwakhxy tdthxnlngiperuxy ephraaeruxcharudiptamkalewlabang immiphuruckthakhunihmihthuktxngtamaephnobranbangcungehluxxyuethathiphxcarksaiwidethann cnkrathngthungkhrawesiykrungsrixyuthya bnthukkhxngniokhlas aechaewr tambnthukkhxng niokhlas aechaewr rachthutfrngesssungedinthangekhamainsmynn idbnthukiwinhnngsux prawtisastraehngrachxanackrsyam thungkhbwneruxiwwa imsamarthethiybkhwamngamkbkhbwneruxxunidid epnkhbwneruxthimohlar mieruxkwa 200 la odymieruxphrathinngphayepnkhu ipkhanghna eruxphrathinngnn ichfiphaykhxngphwkaekhnaedngthiidrbkarfukphaymacnchanay thukkhnswmhmwk esux plxkekha plxkaekhn mithxngkhaprakxb ewlaphayphrxmkbepncnghwacaokhn phaynnkepnthxng esiyngphaykrathbepnesiyngprasanipkbthanxngephlngyxphraekiyrtikhxngphraecaaephndin bnthukkhxngbathhlwngbuew oykhim buew bathhlwngchawfrngess ekhiynbnthukiwwa khbwneruxhlwngmierux 7 thung 8 la mifiphaylala 100 khn mithharpracaeruxrwmthngsinpraman 400 khn tammadwykharachbripharxik 1 000 thung 1 200 khn sungnngmaineruxaekaslkepnlwdlaylngrkpidthxng banglakepneruxsahrbphwkpiphathyodyechphaa swnkhnthixyuineruxkeheruxknxyangsudesiyng thngyngphayeruxdwykhwamsngangamehmuxnkbepnkhxngngay mnepnphaphthiswyngamxyangimnaechux mxngipthangihnkehnaeteruxaelaphukhnphanipmainaemnaxyangimkhadsay bnthukkhxngkwiy tachard inpi ph s 2228 phraecahluysthi 14 thrngsnglaluaebrepnrachthutekhamayngpraethsithy phrxmkbkhnabathhlwngeysuxidsungmibathhlwngphuhnungkhux kwiy tachard epnphubnthukehtukarniwinhnngsuxeruxng cdhmayehtukaredinthangsupraethssyam intxnhnungidelathungkhbwneruxthiichxxkrbekhruxngrachbrrnakarwa mieruxbnglngkkhnadihy 4 lama aetlalamifiphaythung 80 khn sungeraimekhyehnechnnnmakxn 2 laaerknnhweruxthaepnrupehmuxnmapidthxngthngla emuxehnmnmaaetiklinlananndukhlaykbmnmichiwitchiwa miecahnathikxngthharrksaphraxngkh 2 naymaineruxthng 2 la ephuxrbekhruxngrachbrrnakarkhxngsmedcphraecakrungfrngess khrnbrrthukesrcaelwkthxyxxk iplxylaxyuklangaemnaxyangsngbengiyb aelatlxdewlathilxylaxyuni immisumesiyngidelybnfng aelaimmieruxlaidelyaelnkhunlxnginaemna epnkaraesdngkhwamekharphtxeruxbllngkhlwng aelaekhruxngrachbrrnakarthibrrthukxyunn bathhlwng tachard yngekhiynthungkhbwneruxthiaehphrarachsasn aelaekhruxngrachbrrnakarthiedinthangxxkcakkrungsrixyuthya ipyngemuxnglphburiiwxikwa khbwnxnyudyawkhxngeruxbnglngkhlwng sungekhluxnthiipxyangmiraebiyberiybrxynimicanwnthung 150 laphnwkkberuxlaxun ekhaxikkaennaemna aelipidsudsayta xnepnthsniyphaphthingdngamyingnk esiyngehaesdngkhwamyinditamthrrmeniymniymkhxngchawsyam xnkhlaycarukilekhaprakbkhasuknn kxngipthngfakaemna sungmiprachachaphlemuxngmakhxychmkhbwneruxyatraxnmohlarnixyu bnthukkhxngedx la luaebr pi ph s 2230 la luaebr rachthutkhxngphraecahluysthi 14 ekhiynbnthukeruxyawphrathinngtnkhxngphraecakrungsrixyuthyaiwwa Balon du Corps du Roy de Siam ou eſtoit la lattre du Roy khbwneruxyawphrathinngtnkhxngphramhakstriykrungsrixyuthya ph s 2230 ody la luaebr rachthutkhxngphraecahluysthi 14 aehngkrungfrngess ephraathiemuxngni prachachnipmaodythangnamakkwathangbk phramhakstriysyamcungmieruxyawphrathinngtnxyangngamsngaiwmakla khaphecaidklawaelwwatweruxyawnnthadwyimsungtnediyw banglayawaet 16 thung 20 wa 32 40 emtr khnsxngkhnnngkhdsmathiekhiyngkhnanhnakn phnhnatamyaweruxbnimkrathngthithxdtrungkhwanglaiw phxetmenuxthieruxdankwangphxdi phay hnung phaythangkhwa phayxikphayhnungphaythangsay fiphaykphaydwyphay phaynnkkhuxaecwsn nnexngthux 2 mux muxhnungklangdamphay xikmuxhnungplaydamphayduxakarehmuxnfiphaycaphayidaetchwkwadnaipetmaerngethsnn aelaphaynnkimidphukhruxtidkbkraberuxehmuxnaecwkrrechiyng aelakhnthiphaykhnhnaipthanghweruxaelwkphaylnghnhlngmathangthay ineruxlahnungbangthikmiphlphaytngrxykhn hruxthung 200 khn thieriyngaethmlakhu tamkrabyawtlxderuxnngkhdsmathibnaephnkradankrathngerux aetkhunnangphunxylngmakmieruxyawsnlngma fiphayknxylngephiyng 16 hrux 20 khnkphx fiphayphayeruxphrxm kn rxngephlnghruxkhanyawxyangirxyanghnung epnesiyngehahaxukthukaelaphaycwngaekhnidcnghwaknnaduehndehnuxyxxkeriywaerngekhmaekhngmak aetkphayidngay aelasngangammak simng edx la luaebr phraniphnthaeplodykrmphranrathippraphnthphngs DU ROYAUME DE SIAM Envoye extraordinaire du ROY aupres du Roy de Siam en 1687 amp 1688 smykrungthnburi insmysmedcphraecataksinmharach thrngsrangeruxkhunihmthngchud aetswnihyepneruxthiichinkarrbthngsin ephraainsmynnmiaetkarsuksngkhram odymikaraeheruxsakhy khux inkarphrarachphithismophchrbphraphuththmhamnirtnptimakremux ph s 2324 sungxyechiymacakewiyngcnthnaelamaaehphkiwthikrungekakhuxphrankhrsrixyuthya mikhxkhwaminhmayrbsngphrrnnakhbwneruxthiaehmacaktnthangwarwmeruxaehthngpwng 115 la aelasmedcphraecakrungthnburiesdcphrarachdaeninkhunipsmthbthiphratahnkbangthrnikrungeka khwamwamieruxaehmarwmknepncanwn 246 la smykrungrtnoksinthr hlkthanthiepnexksarbnthuklaylksnxksrinrchsmyphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharachekiywkbkhbwnphyuhyatrathangchlmarkhphbinhnngsuxsmudithyeruxng hmuphrarachphithi elkhthi 263 khdcakchbbkhxngeka ph s 2219 aetkhrngrchkalsmedcphranaraynmharach khdemux ph s 2336 wa wn 6 13 5 kha culskrach 1038 pimaorngxstsk esdcphrarachdaeninxyu n phratahnkthareksm thrngphrakrunaoprdeklaoprdkrahmxmihecahmunsriswrksekhiynxyangkrabwntngmani aelihthaylngsmudniihthninwnethlingsk krabwnesdcphrarachdaeninphyuhbatra chang ma erux khaphraphuththeca hmunphimlxksr hmunsuwrrnxksr hmunrachimtri hmunrtnimtri naychanayxksr chubesrcaet n wn 5 9 9 kha culskrach 1155 pichlu ebycsk khaphraphuththieca phraxalksn khunmhasiththi naychaniowhar than 4 5 phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach phraxngkhidthrngsrangeruxkhunmaihmxik 67 la sungmithngeruxphrathinng eruxkrabwnpidthxng eruxphikhat aelaeruxaesng sungepneruxthisakhy epnthiruckmacnethathukwnni inrchkaltx makyngmikarsrangeruxephimkhunmaxik rchkalthi 2 canwn 2 la rchkalthi 3 canwn 24 la rchkalthi 4 canwn 7 la rchkalthi 5 canwn 1 la rchkalthi 6 canwn 2 la caknnkmiidmikarsrangeruxxikcnthungrchsmyphrabathsmedcphrabrmchnkathiebsr mhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitr cungidmikarsrangeruxphrathinngnaraynthrngsubrrn rchkalthi 9 enuxnginoxkasphrarachphithikaycnaphiesk odyeruxthisakhy aelatkthxdmacnthungpccubn idaek eruxphrathinngxnntnakhrach srangkhunkhrngaerkinrchkalthi 3 idichepneruxphrathinngthrnginrchkalthi 4 aelatxmainrchkalthi 6 idsranglaihmkhunaethnlaedim eruxphrathinngxenkchatiphuchngkh srangkhuninrchkalthi 5 aelaeruxphrathinngsuphrrnhngs erimsranginsmyrchkalthi 5 ephuxaethnlaedimthicharud srangaelwesrcinsmyrchkalthi 6 inrchkalthi 4 rchsmykhxngphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhwmikarkarcdkhbwnphyuhyatrathangchlmarkh dngni khbwnphyuhyatrathangchlmarkh caktharachwrdith ipyngwdbwrniewsrachwrwihar aelawdxrunrachwraramrachwrmhawihar inkarphrarachphithibrmrachaphiesk emuxwnphuth aerm 6 kha eduxn 6 pikun trisk c s 1213 trngkbwnthi 21 phvsphakhm ph s 2394 khbwnphyuhyatrathangchlmarkh inkarphrarachphithibaephyphrarachkuslphrarachthanswnphrarachkuslaedphrasngkh 37 rup aelaphrarachphithisngewybwngsrwngphraecaaephndin 37 phraxngkh nbtngaetrchkalsmedcphraramathibdithi 1 phraecakrungsrixyuthyathungrchkalphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw n emuxngkrungeka phrankhrsrixyuthya emuxwnsukr khun 7 kha eduxn 4 chsk c s 1216 ewlabay trngkbwnthi 23 kumphaphnth ph s 2398 68 70 khbwnphyuhyatrathangchlmarkh inkarphrarachthanphrakthinemuxngpthumthani emuxngkrungeka phrankhrsrixyuthya emuxwncnthr khun 3 kha eduxn 12 piethaa sptsk c s 1217 trngkbwnthi 12 phvscikayn ph s 2398 98 inrchkalthi 5 phaphthay aephlngsrng ph s 2429 inphrarachphithilngsrng smedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis syammkudrachkumar thukcdaesdngin The Siamese Exhibit inngannithrrskarnanachati The World s Columbian Exposition 1893 emuxngchikhaok praethsshrthxemrika rahwangwnthi 5 phvsphakhm 31 tulakhm ph s 2436 rchsmykhxngphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwmikarcdkrabwnphyuhyatrathangchlmarkh dngni khbwnphyuhyatrathangchlmarkh enuxnginkarphrarachphithibrmrachaphiesk khrngthi 2 n wnphvhsbdi khun 8 kha eduxnxay piraka ebycsk c s 1235 ewlaecha 3 omng 54 nathi trngkbwnthi 27 phvscikayn ph s 2416 khbwnphyuhyatrathangchlmarkh enuxnginkarphrarachphithilngsrngsnanechlimphraprmaphiithysthapnasmedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis syammkudrachkumar phrarachoxrsinrchkalthi 5 phithiihy n wnphvhsbdi aerm 12 kha eduxnyi picx xthsk c s 1248 trngkbwnthi 20 mkrakhm ph s 2429 ph s 2430 nbaebbpipccubn khbwnphyuhyatrathangchlmarkh ihy phrarachphithithrngbaephyphrarachkuslthwayphaphrakthin n wdxrunrachwraramrachwrmhawihar emuxwnthi 25 tulakhm ph s 2450 33 inrchkalthi 6 phaphaehesdceliybphrankhrthangchlmarkhinrchkalthi 6 emux ph s 2454 rchsmykhxngphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw mikarcdkrabwnphyuhyatrathangchlmarkh dngni khbwnphyuhyatrathangchlmarkh caktharachwrdith ipyngwdxrunrachwraramrachwrmhawihar inkarphrarachphithibrmrachaphiesksmophchsmedcphraramathibdisrisinthrmhawchirawuth phramngkudeklaecaxyuhw emuxwncnthr khun 14 kha eduxnxay pikun trisk c s 1273 trngkbwnthi 4 thnwakhm r s 130 ph s 2454 inrchkalthi 7 sahrbinrchsmykhxngphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw idmikarcdkhbwnphyuhyatrathangchlmarkhthngsin 2 khrng dngni khbwnphyuhyatrathangchlmarkh ihy caktharachwrdith ipyngwdxrunrachwraramrachwrmhawihar inkarphrarachphithibrmrachaphiesk phuththskrach 2469 emuxwnphuth aerm 5 kha eduxn 4 pichlu sptsk c s 1287 trngkbwnthi 3 minakhm ph s 2469 khbwnphyuhyatrathangchlmarkh ihy cakechingsaphanphraphuththyxdfa ipyngtharachwrdith inphrarachphithismophchkrungrtnoksinthr 150 pi emuxwnphuth khun 1 kha eduxn 5 trisk c s 1293 trngkbwnthi 6 emsayn ph s 2475 inchwngsmysngkhrammhaexechiyburpha xueruxphrathinngthipakkhlxngbangkxknxythuklukraebidthlmcneruxesiyhayiphlayla caknncungmikarsxmaesmeruxaelaoxneruxphrarachphithi 36 la ihkrmsilpakrduaelekbrksaiwthixueruxphrarachphithipakkhlxngbangkxknxy aelaswnthiehluxxikraw 32 la epnphwkeruxtarwc eruxdng eruxaesng sungkxngthpheruxekbrksaiw inrchkalthi 9 phaphkhbwneruxphrarachphithi n wdxrun emux ph s 2510phaphkhbwneruxphrarachphithi innganprachumexepkh 2003 sahrbinrchsmykhxngphrabathsmedcphrabrmchnkathiebsr mhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitr idmikarcdkhbwnphyuhyatrathangchlmarkhthngsin 17 khrng dngni khbwnphyuhyatrathangchlmarkh nxy innganchlxng 25 phuththstwrrs emuxwnxngkhar aerm 1 kha eduxn 6 piraka nphsk c s 1319 trngkbwnthi 14 phvsphakhm ph s 2500 khbwnphyuhyatrathangchlmarkh nxy cak ipinphrarachphithithrngbaephyphrarachkuslthwayphaphrakthin n wdxrunrachwraramrachwrmhawihar emuxwnxathity khun 15 kha eduxn 12 pikun exksk c s 1321 trngkbwnthi 15 phvscikayn ph s 2502 khbwnphyuhyatrathangchlmarkh nxy cak ipinphrarachphithithrngbaephyphrarachkuslthwayphaphrakthin n wdxrunrachwraramrachwrmhawihar emuxwnphvhsbdi aerm 9 kha eduxn 11 pichlu trisk c s 1323 trngkbwnthi 2 phvscikayn ph s 2504 khbwnphyuhyatrathangchlmarkh nxy cak ipinphrarachphithithrngbaephyphrarachkuslthwayphaphrakthin n wdxrunrachwraramrachwrmhawihar emuxwncnthr aerm 9 kha eduxn 11 pikhal ctwask c s 1324 trngkbwnthi 22 tulakhm ph s 2505 khbwnphyuhyatrathangchlmarkh nxy cak ipinphrarachphithithrngbaephyphrarachkuslthwayphaphrakthin n wdxrunrachwraramrachwrmhawihar emuxwnsukr aerm 9 kha eduxn 11 pimaorng chsk c s 1326 trngkbwnthi 30 tulakhm ph s 2507 khbwnphyuhyatrathangchlmarkh nxy cak ipinphrarachphithithrngbaephyphrarachkuslthwayphaphrakthin n wdxrunrachwraramrachwrmhawihar emuxwnxngkhar aerm 9 kha eduxn 11 pimaesng sptsk c s 1327 trngkbwnthi 19 tulakhm ph s 2508 khbwnphyuhyatrathangchlmarkh nxy cak ipinphrarachphithithrngbaephyphrarachkuslthwayphaphrakthin n wdxrunrachwraramrachwrmhawihar emuxwnsukr aerm 9 kha eduxn 11 pimaaem nphsk c s 1329 trngkbwnthi 27 tulakhm ph s 2510 khbwnphyuhyatrathangchlmarkh ihy cak ipyngtharachwrdith inkaresdcphrarachdaeninipbwngsrwngsmedcphraburphamhakstriyeca inphrarachphithismophchkrungrtnoksinthr 200 pi emuxwncnthr khun 12 kha eduxn 5 picx trisk c s 1343 trngkbwnthi 5 emsayn ph s 2525 khbwnphyuhyatrathangchlmarkh nxy cak ipyngechingsaphanphraphuththyxdfa aehphraphuththsihingkh emuxwncnthr aerm 4 kha eduxn 5 picx trisk c s 1343 trngkbwnthi 12 emsayn ph s 2525 khbwnphyuhyatrathangchlmarkh ihy karphrarachthanphraphuththnwrachbphitr pracakrungethphmhankhr emuxwnphuth khun 4 kha eduxn 12 picx ctwask c s 1344 trngkbwnthi 20 tulakhm ph s 2525 khbwnphyuhyatrathangchlmarkh ihy cak ipinphrarachphithithrngbaephyphrarachkuslthwayphaphrakthin n wdxrunrachwraramrachwrmhawihar enuxnginoxkasphrarachphithimhamngkhlechlimphrachnmphrrsa 5 rxb emuxwnsukr aerm 9 kha eduxn 11 piethaa nphsk c s 1349 trngkbwnthi 16 tulakhm ph s 2530 khbwnphyuhyatrathangchlmarkh ihy cak ipinphrarachphithithrngbaephyphrarachkuslthwayphaphrakthin n wdxrunrachwraramrachwrmhawihar enuxnginoxkasphrarachphithikaycnaphiesk emuxwnphvhsbdi aerm 12 kha eduxn 11 pichwd xthsk c s 1358 trngkbwnthi 7 phvscikayn ph s 2539 khbwnphyuhyatrathangchlmarkh ihy cak ipinphrarachphithithrngbaephyphrarachkuslthwayphaphrakthin n wdxrunrachwraramrachwrmhawihar enuxnginoxkasphrarachphithimhamngkhlechlimphrachnmphrrsa 6 rxb emuxwnphvhsbdi aerm 11 kha eduxn 11 piethaa exksk c s 1361 trngkbwnthi 4 phvscikayn ph s 2542 khbwneruxphrarachphithi inkarprachumklumkhwamrwmmuxthangesrsthkicinphumiphakhexechiyaepsifik hruxexepkh 2003 emuxwncnthr aerm 10 kha eduxn 11 pimaaem ebycsk c s 1365 trngkbwnthi 20 tulakhm ph s 2546 phrabathsmedcphrabrmchnkathiebsr mhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitr miidesdcodykhbwnerux khbwneruxphrarachphithi inphrarachphithichlxngsirirachsmbtikhrb 60 pi emuxwncnthr aerm 2 kha eduxn 7 picx xthsk c s 1368 trngkbwnthi 12 mithunayn ph s 2549 phrabathsmedcphrabrmchnkathiebsr mhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitr miidesdcodykhbwnerux khbwnphyuhyatrathangchlmarkh ihy cak ipinphrarachphithithrngbaephyphrarachkuslthwayphaphrakthin n wdxrunrachwraramrachwrmhawihar enuxnginoxkasphrarachphithimhamngkhlechlimphrachnmphrrsa 80 phrrsa emuxwncnthr aerm 10 kha eduxn 11 pikun nphsk c s 1369 trngkbwnthi 5 phvscikayn ph s 2550 phrabathsmedcphrawchireklaecaxyuhw emuxkhrngdarngphrarachxisriyys smedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchiralngkrn syammkudrachkumar esdcphrarachdaeninaethnphraxngkh khbwnphyuhyatrathangchlmarkh ihy cak ipinphrarachphithithrngbaephyphrarachkuslthwayphaphrakthin n wdxrunrachwraramrachwrmhawihar enuxnginoxkasphrarachphithimhamngkhlechlimphrachnmphrrsa 7 rxb emuxwnsukr aerm 10 kha eduxn 11 pimaorng ctwask c s 1374 trngkbwnthi 9 phvscikayn ph s 2555 phrabathsmedcphrawchireklaecaxyuhw emuxkhrngdarngphrarachxisriyys smedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchiralngkrn syammkudrachkumar esdcphrarachdaeninaethnphraxngkhaelaeluxnkarcdkrabwncakediminwnthi 22 tulakhm ph s 2554 enuxngcakkraaesnathiephimradbinaemnaecaphrayaaelaihlaerng sahrbkrabwnphyuhyatrathangchlmarkhthimiinpccubnnn swnmakcaepnkaresdcphrarachdaeninipthwayphaphrakthin n wdxrunrachwraramrachwrmhawihar aekhwngwdxrun ekhtbangkxkihy krungethphmhankhr swnkarcdkhbwneruxphrarachphithi 2 khrng idaek karcdkhbwneruxphrarachphithi enuxnginkarprachumexepk 2003 aela aelaenuxnginoxkasthismedcphrarachathibdi smedcphrarachini aela phuaethnphrapramukhtangpraeths rwmnganchlxngsirirachsmbtikhrb 60 pi 12 mithunayn ph s 2549 odykarcdkhbwneruxphrarachphithi 2 khrngni epnephiyngkarsathitaehkhbwneruxsungphrabathsmedcphrabrmchnkathiebsr mhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitr miidesdcinkhbwndwy inrchkalpccubn inrchsmykhxngphrabathsmedcphrawchireklaecaxyuhw rchkalpccubn mikarcdkhbwnphyuhyatrathangchlmarkh 2 khrng dngni khbwnphyuhyatrathangchlmarkh ihy cak ipyngtharachwrdith inkarphrarachphithibrmrachaphiesk phuththskrach 2562 emuxwnphvhsbdi aerm 1 kha eduxnxay pikun exksk c s 1381 trngkbwnthi 12 thnwakhm ph s 2562 eluxnkarcdkrabwncakediminwnthi 24 tulakhm ph s 2562 enuxngcakkraaesnathiephimradbinaemnaecaphraya khbwnphyuhyatrathangchlmarkh ihy cak ipinphrarachphithithrngbaephyphrarachkuslthwayphaphrakthin n wdxrunrachwraramrachwrmhawihar enuxnginoxkasphrarachphithimhamngkhlechlimphrachnmphrrsa 6 rxb emuxwnxathity aerm 10 kha eduxn 11 pimaorng chsk c s 1386 trngkbwnthi 27 tulakhm ph s 2567esnthangedineruxcuderimtnkhxngkhbwneruxnnkhuxbriewn odycamikarcxderuxtngaethnasaphankrungthn ipthunghlngsaphanphraram 8 eruxcaerimxxkcaksaphanphraram 8 phanpxmphrasuemru saphansmedcphrapinekla orngphyabalsirirach krmxuthharerux rachnawikspha phrabrmmharachwng hxprachumkxngthpherux wdxrunrachwraram aelaipcxderuxthihnawdklyanmitreruxphrarachphithiinpccubnphaphaesdngaephnphngkhbwnphyuhyatrathangchlmarkhinpccubn eruxphrathinng eruxphrathinngxnntnakhrach eruxphrathinngxenkchatiphuchngkh eruxphrathinngsuphrrnhngs eruxphrathinngnaraynthrngsubrrn rchkalthi 9 eruxdng epneruximthasinamn immilwdlayxyangid aetpccubnhweruxpidthxng mi 22 la michuxeriyktamladbtngaet eruxdng 1 thung eruxdng 22 eruxthxngkhwanfa aela eruxthxngbabin eruxthngsxnglaniepneruxdngthanamn yxddngpidthxngaekaslklwdlay epneruxkhuhnasudthinakhbwneruxphyuhyatrachlmarkhthnghmd eruxesuxthyanchl aela epneruxsxnglathiddaeplngmacakeruxrb eriykeruxlksnaniwa eruxphikhat eruxaetlalawadlngsirupesuxiwthihweruxsungmichxngthimipunihyyunxxkma eruxexkichyehinhaw aela eruxexkichyhlawthxng hweruxepnrupdngechidsungngxnkhunip lngrkpidthxngekhiynlayrdnarupehra xan eh ra sungepnstwintanan lksnakhlaymkraetmihwepnnakh eruxrupstw eruxphalirngthwip eruxsukhriphkhrxngemuxng eruxxsurwayuphks eruxxsurpksi eruxkrabiprabemuxngmar eruxkrabirayrxnraphn eruxkhruthetrcitrckreruxphrathinng eruxphrathinngsuphrrnhngs eruxphrathinngxnntnakhrach eruxphrathinngxenkchatiphuchngkh eruxphrathinngnaraynthrngsubrrn rchkalthi 9khwamyaw 46 15 emtr 44 85 emtr 45 67 emtr 44 30 emtrkhwamkwang 3 17 emtr 2 58 emtr 2 91 emtr 3 20 emtrkhwamluk 94 esntiemtr 87 esntiemtr 91 esntiemtr 100 1 esntiemtrkinnaluk 41 esntiemtr 31 esntiemtr 46 esntiemtr 40 esntiemtrrawangkhbna 15 tn 10 tn 15 tn 20 tnfiphay 50 fiphay 2 naythayerux 1 phnkngankhanyaw 2 ecaphnknganhnabllngkkyya 2 ecaphnknganbllngkkyya 1 phuihsyyan 1 phuechiythng 7 phuechiyekhruxngsung 54 fiphay 2 naythayerux 1 phueh 1 phnkngankhanyaw 1 phuihsyyan 1 phuechiythng 7 phuechiyekhruxngrachxisriyys chtr 61 fiphay 2 naythayerux 1 phnngngankhanyaw 1 phuihsyyan 1 phuechiythng 2 ecaphnkngan hnabllngkkyya 1 nay hlngbllngkkyya 1 nay 7 phuechiyekhruxngsung 50 fiphay 2 naythayerux 1 phnkngankhanyaw 1 phuihsyyan 1 phuechiythng 7 phuechiyekhruxngsungeruxphrarachphithiinxditeruxphrathinngking epneruxphrathinngthimikhwamsakhysungsud ichprakxbbllngkbusbk hruxbllngkkyya ichepneruxphrathinnglathrngthiprathb hruxichthrngphraphuththrup phrachypracaphraxngkh phaitrkthinphrarachthan okhneruxmkepnngxnechidkhunip eruxexkichy hruxepnrupxun tlxdthnglaeruxaekaslklay pidthxng pradbkrack hakeruxphrathinngtngbllngkbusbkepnthiprathb phramhakstriycatxngthrngphramhamngkud hruxphrachda inkhnathrngprathbbnbusbk cungcatxngmikarcderuxphlbphla epnthiepluxngekhruxngemuxethiybtha rchkalthi 1 eruxphrathinngsuwrrnhngs eruxphrathinngkingokhneruxslkruphngs phunsida yaw 18 wa phayhlngmikarsranglaihminrchkalthi 6 odyichchuxwa eruxphrathinngsuphrrnhngs eruxphrathinngsrismrrthichy eruxphrathinngkingexkichy phunsiaedng yaw 18 wa eruxphrathinngikrsrmukh eruxphrathinngkingexkichy phunsida yaw 19 wa 1 sxk eruxphrathinngsripraphsrichy eruxphrathinngkingexkichy phunsida yaw 18 wa idrbkhwamesiyhayinsngkhramolkkhrngthi 2 pccubnokhneruxekbrksaxyuthi phiphithphnthsthanaehngchati eruxphrarachphithi eruxphrathinngikraekwckrrtn eruxphrathinngkingexkichy phunsiekhiyw yaw 17 wa eruxphrathinngikrsrckr eruxphrathinngexkichy phunsiekhiyw yaw 17 wa 2 sxk eruxphrathinngchlphimanichy eruxphrathinngexkichy phunsiaedng yaw 12 wa 3 sxk 6 niw pccubnekbrksathikxngeruxelk krmxuthharerux eruxphrathinngikrsrmarth eruxphrathinngexkichy phunsiaedng yaw 14 wa eruxphrathinngexkichy imminam eruxphrathinngexkichynxy phunsida yaw 14 warchkalthi 3 eruxphrathinngmngkhlsubrrn eruxphrathinngkingokhneruxslkrupkhruthyudnakh phunsiaedng yaw 17 wa 2 sxk phayhlnginrchkalthi 4 thrngoprd ihephimrupphranaraynbnhlngkhruth phrarachthannamihmwa eruxphrathinngnaraynthrngsubrrn txmaidrbkhwamesiyhayinsngkhramolkkhrngthi 2 pccubnokhneruxekbrksaxyuthi phiphithphnthsthanaehngchati eruxphrarachphithi eruxphrathinngsrisunthrichy eruxphrathinngexkichy phunsiaedng yaw 17 wa eruxphrathinngexkichy imminam eruxphrathinngexkichy phunsiaedng yaw 14 wa 2 sxk 5 niwrchkalthi 4 eruxphrathinngxnntnakhrach eruxphrathinngkingokhneruxslkrupphyaxnntnakhrach 7 esiyr phunsiekhiyw yaw 1 esn 3 wa phayhlngmikarsranglaihminrchkalthi 6eruxphrathinngsri epneruxphrathinngrxng tngbllngkkyya ichepneruxphrathinnglathrngemuximidcdepnkrabwnihy hruxichepneruxphrathinngsarxng rwmthungepneruxphlbphlaephuxthrngepluxngphramhamngkud phrachda emuxcathrngprathbbnbusbk inbangkrnixacphrarachthanihecanayfayinichepneruxthiprathbodyesdcinkhbwneruxid eruxphrathinngsri mkmiokhneruxepnrupdng prakxbaekaslklwdlay pidthxng pradbkrack hruxmiokhneruxepnrupxun rwmthungaebbekhiynlaydwy rchkalthi 1 eruxphrathinngbusbkphisal eruxphrathinngsriprakxb phunsinaengin yaw 15 wa eruxphrathinngwimanxmrinthr eruxphrathinngsriprakxb phunsiekhiyw yaw 12 wa 3 sxk 1 khub eruxphrathinngrngsithiphrtn eruxphrathinngsrilayekhiynthxng phunsiaedng yaw 15 wa eruxphrathinngckrphrrdiphirmy eruxphrathinngsripradbkracklayya phunsida yaw 14 wa 2 sxk eruxphrathinngthinkrsxngsri eruxphrathinngsrilayekhiyn phunsimwng yaw 12 wa 1 sxk 1 khub eruxphrathinngmnickrphrrdi eruxphrathinngsrilayekhiyn phunsiekhiyw yaw 13 wa 5 niw eruxphrathinngxnngkhnikr eruxphrathinngrxnglayekhiynthxng phunsida yaw 13 wa 10 niw eruxphrathinngxpsrsurangkh eruxphrathinngrxnglayekhiynthxng phunsimwng yaw 13 wa 1 sxk eruxphrathinngaekwckrphrrdi eruxphrathinngsriprakxbkhxngwnghna phunsinaengin yaw 15 wa eruxphrathinngswsdichingichy eruxphrathinngsriprakxbkhxngwnghna phunsida yaw 16 wa eruxphrathinngwiilyelkha eruxphrathinngsrilayekhiynthxngkhxngwnghna phunsida yaw 15 wa 3 sxk 1 khubrchkalthi 2 eruxphrathinngehrakhamsmuthr eruxphrathinngsriprakxbrupehra imprakdsiphun imprakdkhnad idrbkhwamesiyhayinsngkhramolkkhrngthi 2 pccubnokhneruxekbrksaxyuthiphiphithphnththharerux cnghwdsmuthrprakarrchkalthi 3 eruxphrathinngsuwrrnehra eruxphrathinngsriprakxbrupehra phunsinaengin yaw 15 wa 1 sxk idrbkhwamesiyhayinsngkhramolkkhrngthi 2 pccubnokhneruxekbrksaxyuthiphiphithphnththharerux cnghwdsmuthrprakar eruxphrathinngrtndilk eruxphrathinngsriprakxb phunsiaedng yaw 19 wa 2 sxk 7 niw idrbkhwamesiyhayinsngkhramolkkhrngthi 2 pccubnokhnaelathayeruxekbrksaxyuthiphiphithphnththharerux cnghwdsmuthrprakarrchkalthi 4 eruxphrathinngethwathiwtth eruxphrathinngsriprakxb phunsiaedng yaw 1 esn eruxphrathinngeswyswsdieksmsukh eruxphrathinngsriprakxb imprakdsiphun yaw 1 esn eruxphrathinngephchrrtndararay eruxphrathinngsriprakxb phunsinaengin yaw 1 esn 2 niw eruxphrathinngthwyethphthwaykr eruxphrathinngsriprakxb phunsiaesd yaw 18 wa idrbkhwamesiyhayinsngkhramolkkhrngthi 2 pccubnokhneruxekbrksaxyuthiphiphithphnthsthanaehngchati eruxphrarachphithirchkalthi 5 eruxphrathinngxenkchatiphuchngkh eruxphrathinngsriprakxb phunsichmphu pccubnxyuinsphaphsmburn ekbrksaxyuthiphiphithphnthsthanaehngchati eruxphrarachphithiimprakthlkthanrchsmykarsranginphrarachphngsawdar eruxphrathinngsngangamkrabwn eruxphrathinngsriprakxb praktkarichnganinrchkalthi 5 thung rchkalthi 7 idrbkhwamesiyhayinsngkhramolkkhrngthi 2 pccubnokhneruxaelathayerux ekbrksaxyuthiphiphithphnthsthanaehngchati eruxphrarachphithieruxkrabwnpidthxng epneruxichy okhneruxaekaslkpidthxng tidtngpuncarng ykewneruxexkichykhuchk eruxphunsida layekhiynthxng thuksranginrchkalthi 1 thngsin 10 la txmaidrbkhwamesiyhayinsngkhramolkkhrngthi 2 aelathukburnasrangihminrchkalthi 9 pccubnekbrksathiphiphithphnthsthanaehngchati eruxphrarachphithi aelaorngeruxhlwng thawasukri eruxexkichyehinhaw eruxexkichykhuchk yaw 14 wa 1 sxk 5 niw eruxexkichyhlawthxng eruxexkichykhuchk yaw 14 wa 1 sxk 5 niw eruxkhruthehinraehc eruxichyrupkhruth yaw 13 wa 1 sxk 1 khub 11 niw eruxkhruthetrcitrckr eruxichyrupkhruth yaw 13 wa 1 sxk 1 khub eruxphalirngthwip eruxichyrupwanr yaw 13 wa 3 sxk eruxsukhriphkhrxngemuxng eruxichyrupwanr yaw 14 wa eruxkrabiprabemuxngmar eruxichyrupwanr yaw 13 wa 2 sxk 1 khub eruxkrabirayrxnraphn eruxichyrupwanr yaw 13 wa 2 sxk 1 khub eruxxsurwayuphks eruxichyrupxsurnk yaw 14 wa 2 sxk eruxxsurpksi eruxichyrupxsurnk yaw 14 wa 2 sxkeruxphikhat epneruxrb tidtngpuncarng okhneruxeriyb ekhiynlaysirupstwtlxdthngla sranginrchkalthi 1 thnghmd 12 la pccubnehluxephiyng 2 la khux eruxesuxthyanchl aela eruxesuxkharnsinthu eruxmngkrcaaelng phunsichad yaw 14 wa 8 niw eruxmngkraephlngvththi phunsichad yaw 13 wa 5 niw eruxehralxnglxysinthu phunsihngsdin yaw 12 wa 2 sxk 1 khub eruxehralinlasmuth phunsihngsdin yaw 12 wa 2 sxk 9 niw eruxsangkaaehnghay phunsiehluxng yaw 10 wa 3 sxk eruxsangchaychlsinthu phunsiehluxng yaw 11 wa 1 sxk 8 niw eruxotkhmngkhlun phunsiaedngesn yaw 11 wa 3 sxk 3 niw eruxotfunsmuth phunsiaedngesn yaw 11 wa 2 sxk 6 niw eruxkielnpralxngeching phunsinaengin yaw 11 wa 2 sxk eruxkielnlaelingchl phunsinaengin yaw 11 wa 3 sxk eruxesuxthyanchl phunsinaengin yaw 10 wa 3 sxk 1 khub eruxesuxkharnsinthu phunsinaengin yaw 10 wa 1 sxk 6 niweruxaes epneruxbrrthukthhar phunsidathnghmd sranginrchkalthi 1 thnghmd 12 la pccubnimpraktaelw eruxwiphchnchl yaw 12 wa 3 sxk 5 niw eruxxnntsmuth yaw 12 wa 3 sxk eruxcrekhkharamrxng yaw 11 wa eruxcrekhkhnxngna yaw 11 wa eruxwrwari yaw 11 wa 3 sxk 3 niw eruxsripthmsmuth yaw 11 wa 3 sxk 2 niw eruxtlumlaewng yaw 11 wa 3 sxk 2 niw eruxtaelnglawn yaw 10 wa 2 sxk 1 khub eruxkhchrabay yaw 9 wa 3 sxk 1 khub eruxsarsinthu yaw 10 wa 3 sxk 1 khub 4 niw eruxhmuchlcr yaw 11 wa eruxsukrkaelaa yaw 10 wa 3 sxk 1 khub 7 niweruxxun nxkcakeruxthirabukhangtn yngmieruxxun thisrangkhunprakxbinkhbwn echn eruxdng 22 la eruxxiehluxng eruxaetngom eruxtarwc rwmthungeruxdngokhneruxpidthxng 2 lathimikarrabufiphaywatxngepnchawbancakthiid khux eruxthxngkhwanfa aelaeruxthxngbabinduephimkhbwnphyuhyatrathangsthlmarkhhmayehtutnchbbphasasepncakexksar HISTORIA DE LAS ISLAS DEL ARCHIPIELAGO Y REYNOS DE LA GRAN CHINA TARTARIA CUCHINCHINA MALACA SIAN CAMBOXA Y IAPPON Y de los ſucedido en ellos a los religioſos deſcalcos de la Orden del Seraphico Padre San Franciſco de la Prouincia de San Gregorio de las Philippinas tiphimphemux kh s 1601 krungbaresolna ekhiynwa Y para repreſentar la mageſtad de la venida del rey venieron delante del quatro barcos grandes en que venian muchos hombres tanendo unas trompetas de plata pequenas Los barcos eran pintados y labrados de muchas y diuerſas labores y figuras De manera que confiderada la popa y la proa qeſtaua muy doradas en ſu modo y hehcura parecia un Elphante Eſtos barcos pararon junto a un templo que eſtaua a la orilla del rio de la otra parte de la ciudad adonde ſe dezia que hauia de parar el Rey y hazer oracion y limofna Deſpues de los barcos de las trompetas vinieron otros largos y differentes de los primeros con mucha gente veſtida de varias libreas Y en cada vno venia un grande del Reyno por ſu orden ſegun ſus oficios y dignidades repreſentando con ſus trajes y acompanamiento la majeſtad y grandeza de ſu rey Los aderezos de los barcos que eran muchos y de la gente innumerable era de mucha coſta y gala y todos pararon junto al templo Dentro de breve rato vino el hijo menor del Rey en un barco labrado con mucha curioſidad y en ſu acompanamiento trahia muchos barcos de muy luzida gente Luego viao la Reyna en un barco hecho con grande ingenio paramoſtrar ſu grauedad y ſud damas venian en rtros adornados de varias pintaras y trahian unas celoſias curio ſamente deradas para poder ver ſin ſer viſtas Deſpues llego el Rey en un barco grande que conſiderada ſu figura parecia garca que las alas tendidas yua bolando Adornado con tanto oro que los remos y el barco yuan dorados y como los remeros eran muchos y el barco ligero parecia que venia bolando tnchbbphasafrngessekhiynwa Mais parce qu en ce pais la on va plus par eau que par terre le Roy de Siam a de fort beaux Balons J ay deja dit que le corps d un Balon n eſt que d un ſeul arbre long quelquefois de 16 a 20 toiles Deux hommes affis les jambes croiſees cote a cote l un de l autre fur une planche miſe en travers ſuffiſent pour en occuper toute la larguer L un pagaye a droite amp l autre a gauche Pagayer c est ramer avec la pagaye amp la pagaye eſt une rame courte qu on tient a deux mains par le milieu amp par le bout Il ſemble qu on n en faffe que balayer l eau quoy qu avec force Elle n eſt point attachee au bord du balon amp celuy qui la manie regarde ou il va au lieu que celuy qui ramel a le dos tourne a la route Il y a quelquefois dans un feul balon juſqu a cent ou fix vingt pagayeurs rangez ainſi deux a deux les jambes croiſees ſur des planchettes mais les moindres Officiers ont des baIons beaucoup plus courts ou peu de pagayes comme 16 ou 20 ſuffiſent Les pagayeurs afin de plonger la pagaye de concert chantent ou font des cris meſurez amp ils plongent la pagaye en cadence avec un mouvement de bras amp d epaules qui eſt vigoureux mais facile amp de bonne grace xangxingechingxrrth raebiybswnrachkarinphraxngkh wadwykarbrrelngduriyangkhinkarphrarachphithihruxphithikar chbbthi 3 ph s 2567 PDF rachkiccanuebksa 141 phiess 288 ng 4 2024 10 22 hmaykahndkar thi 22 2567 hmaykahndkarphrarachphithithrngbaephyphrarachkuslthwayphaphrakthin phuththskrach 2567 PDF rachkiccanuebksa 141 71 kh 3 2024 10 22 thang inthiniepnkhaburphbth aeplwa ody hrux dwy dngnnthangsthlmarkh cungmikhwamhmaywa dwywithithangbk cakkrabwnphyuhyatrarachbnthitysthan thxngyxy aesngsinchy aelaphimphxnngkh rimsinthu 2557 baliwnlakha krungethph nanmibukhsphbliekhchn hna 127 ISBN 978 616 04 1910 4 Saveros Lewitz The Infix b in Khmer Oceanic Linguistics Special Publications No 13 1976 in Jenner Philip N Thompson Laurence C and Starosta Stanley 1976 Austroasiatic Studies Part II Oceanic Linguistics Special Publications Honolulu University of Hawai i Press p 472 JSTOR 20019181 xuirsri wrsarin 1984 Langues Et Civilisations De L asie Du Sud est Et Du Monde Insulindien Les Elements Khmers dans La Formation de la Langue Siamoise PARIS Societe d Etudes Linguistiques et Anthropologiques de France SELAF p 178 ISBN 2 85297 161 5 ISSN 0224 2680 Cœdes George 1966 Collection de textes et documents sur l Indochine III Inscriptions du Cambodge Tome VIII PARIS Ecole francaise d Extreme Orient p 35 ISBN 978 285 5 39523 4 ISSN 0768 2530 Cœdes George Etudes Cambodgiennes Bulletin de l Ecole francaise d Extreme Orient 29 29 1929 314 doi 10 3406 befeo 1929 3242 Schuessler Axel 2007 ABC Etymological Dictionary of Old Chinese Honolulu University of Hawai i Press IBT Global p 284 ISBN 978 0 8248 2975 9 LCCN 2005 56872 suphaphr makaecng 2527 phasabali snskvtinphasaithy krungethph oxediynsotr hna 152 160 170 ISBN 978 974 2 75890 5 phthn ephngphla 2535 balisnskvtinphasaithy krungethph mhawithyalyramkhaaehng hna 238 ISBN 978 974 5 98501 8 bwrbrrnrks niym rkithy hlwng 2469 sskvt ith xngkvs xphithan phrankhr orngphimphithy hna 694 OCLC 1361147364 thnochti ekiyrtinphthr xoythyakxn ph s 1893 khwamthrngcacakexksaraelatanan silpwthnthrrm 44 10 singhakhm 2566 10 22 carukwdekhakb danthi 2 sunymanusywithyasirinthr xngkhkarmhachn subkhnemux 11 tulakhm 2567 citr phumiskdi trwcsxbhlkthan phbemuxngxoythya ekakwasuokhthy mtichnsudspdah chbbwnthi 19 25 phvsphakhm 2566 subkhnemux 1 singhakhm 2567 ethphmntri limpphyxm 2546 lxkkhrabobrankhdi krungethph banchun hna 53 krmsilpakr 2516 prawtiwdphnyechingwrwihar phimphaeckinngankthinphrarachthan n wdphnyechingwrwihar cnghwdphrankhrsrixyuthya wnphvhsbdi thi 1 phvscikayn phuththskrach 2516 phrankhr orngphimphkarsasna hna 9 10 khnakrmkarcnghwdphrankhrsrixyuthya 2513 echlimphrarachxnusawriysmedcphraramathibdisrisunthrbrmbphitrphraphuththiecaxyuhw xnusrnsmedcphraecaxuthxngramathibdisrisinthrbrmbphitrphraphuththecaxyuhw khnakrmkarcnghwdphrankhrsrixyuthyacdphimphepnthiralukenuxnginxphilkkhitmngkhlsmyphrabathsmedcphraecaxyuhwphumiphlxdulyedch esdcphrarachdaeninthrngepidphrarachxnusawriysmedcphraecaxuthxngramathibdithi 1 aelaxyuthyamhaprasath wnthi 24 mithunayn phuththskrach 2513 pramwyiwsungprawtisastrxnenuxngdwysmedcphraramathibdithi 1 phrabrmrachprawti karpradisthanphrarachwngsxuthxnghruxechiyngraysthapnakrungethphthwarawsrixyuthyahruxkrungxoythyasriramethphnkhr phramhakstriyrachwngsxuthxngmacakihn smphnthkbwngssuphrrnxyangir puchniyobranwtthusthan pratimakrrm sthaptykrrm silpkrrmsmyhlngehluxxyuthiihnbang thaimcungeriykwaphraecaxuthxngwaechsthbidr khnkhwamaekhiynodynkprawtisastr nkobrankhdi nkpkkhrxng nkohrasastr nkwrrnkhdi nayaephthypriyya phuthrngkhunwuthithangpratimakrrm sthaptykrrm silpkrrm phrankhr sirimitrkarphimph hna 121 wiechiyrpricha nxy phra 2412 phrarachphngsawdarehnux m p th m p ph hna 47 48 khnakrrmkarhnngsuxethidphraekiyrtiephuxkarsuksa 2535 karesdckrabwnphyuhyatraeliybphrankhr cxmthphithyaelaexklksnkarthharkhxngaephndin krungethph phblikhbisensphrinth hna 169 ISBN 978 974 5 17300 2 kxngaekw wirapracks aelaniyda thasukhnth hxsmudaehngchati krmsilpakr 2531 krabwnphyuhyatra prawtiaelaphrarachphithi krungethph chumnumshkrnkarekstraehngpraethsithy ISBN 978 974 7 91261 6 cirayu thwiephaphakhin 2562 phiphithphnthsthankhbwnphyuhyatrathangchlmarkh withyaniphnthpriyyamhabnthit sthaptykrrmithy khnasthaptykrrmsast mhawithyalysilpakr ntthphthr cnthwich aelamira prachabal 2539 eruxphrarachphithi krungethph krmsilpakr hna 4 ISBN 978 974 7 92999 7 ntthphthr cnthwich eruxphrarachphithiobran silpakr 29 3 krkdakhm 2528 69 ISSN 0125 0531 aehwn skdisunthr 2544 eruxphrarachphithi xnusrninnganphrarachthanephlingsph phleruxtri srirtn skdisunthr n wdihmethphphl aekhwngbangphrm ekhttlingchn krungethphmhankhr wnthi 8 mkrakhm 2544 krungethph m p ph yxdmnu ebasuwrrn aelathirawuthi pyya 2553 ecaatananphranerswr thikhnithyyngimekhyru eelaprawtisastrithyimekhybnthuk krungethph bangkxkbukh hna 67 68 suththiskdi rabxb sukhsuwannth ikhrwasmedcphranersimmiphrarachoxrs sxbhlkthan phngsawdar xacmithung 2 phraxngkh silpwthnthrrm 28 1 minakhm 2551 148 Ribadeneira Marcelo de 1601 CAPITULO XXI DEL REINO DE SIAN HISTORIA DE LAS ISLAS DEL ARCHIPIELAGO Y REYNOS DE LA GRAN CHINA TARTARIA CUCHINCHINA MALACA SIAN CAMBOXA Y IAPPON Y de los ſucedido en ellos a los religioſos deſcalcos de la Orden del Seraphico Padre San Franciſco de la Prouincia de San Gregorio de las Philippinas Barcelona Gabriel Graells y Giraldo Dotil p 167 karthxngethiywaehngpraethsithy 2525 khbwnphyuhyatrathangchlmarkh smophchkrungrtnoksinthr 200 pi phuththskrach 2525 The Royal Barge Procession on the Occasion of The Rattanakosin Bicentennial 1982 krungethph karthxngethiywaehngpraethsithy impraktelkhhna xangin hnngsuxprawtisastraehngrachxanackrsyam thirphaph olhitkul aelakhna kxngtladphakhklang karthxngethiywaehngpraethsithy 2563 phyuhyatrathangchlmarkh aesnyanuphaphthangnakhxngchawsyam River Legacy mrdkaehngsayna krungethph khriexth mayd hna 21 nrathippraphnthphngs phraecabrmwngsethx krmphra 2505 cdhmayehtulaluaebr elm 1 phraniphnthphraecabrmwngsethx krmphranrathippraphnthphngs krungethph xngkhkarkhakhxngkhuruspha hna 173 174 La Loubere Simon de 1691 Des Voitures amp de l Equipage en general des Siamois DU ROYAUME DE SIAM Envoye extraordinaire du ROY aupres du Roy de Siam en 1687 amp 1688 TOME PREMIER Paris Chez Abraham Wolfgang pres de la Bourſe pp 123 124 w wrrnphngs krabwnphyuhyatrathangchlmarkh inrchsmykrungthnburi banemuxng 7 esdceliybphrankhrthangchlmarkh krmsilpakr 2481 cdhmayehtuinrchkalthi 4 prachumphngsawdar elm 43 prachumphngsawdar phakhthi 69 70 eruxngekiywkbkrungekatxnthi 1 eruxngemuxngnkhrcapaskdi aelaeruxngkhunbrmracha phrankhr xngkhkarkhakhxngkhuruspha pridiethphyphngs ethwkul hmxmeca 2499 phrarachprawtismedcphrasriswrinthirabrmrachethwi phraphnwssaxyikaeca aelacdhmayehturaywnkhxngsmedcphrabrmrachpitulathibdi ecafamhawchirunhis thrngphrakrunaoprdekla ihphimphphrarachthanepnthiralukinnganphrabrmsph smedcphrasriswrinthirabrmrachethwi phraphnwssaxyikaeca n phraemrumasthxngsnamhlwng wnthi 22 emsayn phuththskrach 2499 phrankhr phracnthr hna 162 163 khnakrrmkarcdphimphexksarthangprawtisastr sanknaykrthmntri 2516 cdhmayehtuphrarachkicraywn inrchkalthi 5 pimaorng ph s 2411 piraka ph s 2416 krungethph orngphimphsanknaykrthmntri hna 145 echingxrrth 2 phanuphnthuwngswredch smedc ecafakrmphraya 2513 cdhmayehtuphrarachphithilngsrng smedc ecafamhawchirunhis syammkudrachkumar inrchkalthi 5 phimphepnxnusrninnganphrarachthanephlingsph phltarwcexk phraphinicchnkhdi phinic xinthrthut n emruhnaphlbphlaxisriyaphrn wdethphsirinthrawas wnthi 28 phvscikayn phuththskrach 2513 krungethph prackskarphimph hna 344 nersrwrvththi phraecabrmwngsethx krmphra 2466 esdceliybphrankhrthangchlmarkh cdhmayehtuphrarachphithibrmrachaphiesk smedcphraramathibdisrisinthr mhawchirawuth phramngkudeklaecaxyuhw thrngphrakrunaoprdekla ihhxphrasmudsahrbphrankhrrwbrwmphimphphrarachthaninngarechlimphrachnmphrrsa pikuy ph s 2466 phrankhr osphnphiphrrththnakr hna 157 sankelkhathikarnaykrthmntri 2567 13 mithunayn nayk tidtamkhwamkawhna karcdkhbwnphyuhyatrathangchlmarkh aelakarsxmaesmkarpradbtkaetngeruxphrathinng enuxnginoxkasphrarachphithimhamngkhlechlimphrachnmphrrsa 6 rxb 28 krkdakhm 2567 thaeniybrthbal subkhnemux 12 krkdakhm 2567 hnngsuxaelabthkhwam santi phkdikha 2562 tulakhm khruth nakh aelahngs sylksnethphecasasnaphrahmnhinduinokhneruxphrarachphithi silpwthnthrrm 40 12 78 112 Phillips Matthew 2017 Ancient Past Modern Ceremony Thailand s Royal Barge Procession in Historical Context In How the Past was Used Historical Cultures c 750 2000 edited by Peter Lambert and Bjorn Weiler pp 201 30 Oxford Oxford University Press aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb khbwnphyuhyatrathangchlmarkh khbwnphyuhyatrathangchlmarkhchlxngsirirachsmbti 60 pi ekbthawr 2006 05 05 thi ewyaebkaemchchin aephnphngkhxngeruxinkrabwnaetlaerux