บทความนี้อาจต้องการตรวจสอบต้นฉบับ ในด้านไวยากรณ์ รูปแบบการเขียน การเรียบเรียง คุณภาพ หรือการสะกด คุณสามารถช่วยพัฒนาบทความได้ |
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มเพื่อ |
อู่ เจ๋อเทียน ตามสำเนียงกลาง หรือ บูเต็กเทียง ตามสำเนียงแต้จิ๋ว หรือ บูเช็กเทียน ตามสำเนียงฮกเกี้ยน (จีนตัวย่อ: 武则天; จีนตัวเต็ม: 武則天; พินอิน: Wǔ Zétiān; เวด-ไจลส์: Wu3 Tse2-t'ien1; 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 624 – 16 ธันวาคม ค.ศ. 705) พระนามเดิมว่า อู่ จ้าว (จีน: 武曌; พินอิน: Wǔ Zhào; เวด-ไจลส์: Wu3 Chao4) ในราชวงศ์ถังมักออกพระนามว่า เทียนโฮ่ว (天后) และในสมัยต่อมาว่า อู่โฮ่ว (武后) ทรงเป็นผู้สถาปนาราชวงศ์อู่โจว และทรงเป็นสตรีพระองค์เดียวในประวัติศาสตร์จีนอันยาวนานกว่าสี่พันปีที่ได้เป็นฮ่องเต้
อู่ เจ๋อเทียน | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เทียนโฮ่วหวงตี้ (天后皇帝) | |||||||||||||||||||||
พระบรมฉายาสาทิสลักษณ์จากสมุดรวมภาพจักรพรรดิจีน วาดขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 18 | |||||||||||||||||||||
ไท่ช่างหวงตี้ (太上皇帝) | |||||||||||||||||||||
ดำรงพระยศ | 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ.705 – 16 ธันวาคม ค.ศ.705 (0 ปี 297 วัน) | ||||||||||||||||||||
จักรพรรดินีนาถแห่งจักรวรรดิจีน | |||||||||||||||||||||
ครองราชย์ | 16 ตุลาคม ค.ศ.690 – 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ.705 | ||||||||||||||||||||
ก่อนหน้า | จักรพรรดิถังรุ่ยจง (ราชวงศ์ถัง) | ||||||||||||||||||||
ถัดไป | จักรพรรดิถังจงจง (ราชวงศ์ถัง) | ||||||||||||||||||||
武周皇帝 จักรพรรดินีนาถแห่งราชวงศ์อู่โจว | |||||||||||||||||||||
ครองราชย์ | 16 ตุลาคม ค.ศ.690 – 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ.705 | ||||||||||||||||||||
ก่อนหน้า | พระองค์แรกราชวงศ์อู่โจว | ||||||||||||||||||||
ถัดไป | ยุบราชวงศ์อู่โจว | ||||||||||||||||||||
หวงไท่โฮ่ว | |||||||||||||||||||||
ดำรงพระยศ | 27 ธันวาคม ค.ศ.683 – 16 ตุลาคม ค.ศ.690 (6 ปี 293 วัน) | ||||||||||||||||||||
ก่อนหน้า | |||||||||||||||||||||
ถัดไป | จักรพรรดินีเหวย์ | ||||||||||||||||||||
หวงโฮ่ว | |||||||||||||||||||||
ดำรงพระยศ | 2 ธันวาคม ค.ศ.655 – 27 ธันวาคม ค.ศ.683 (28 ปี 25 วัน) | ||||||||||||||||||||
ก่อนหน้า | จักรพรรดินีหวัง | ||||||||||||||||||||
ถัดไป | จักรพรรดินีเหวย์ | ||||||||||||||||||||
ข้อมูลส่วนพระองค์ | |||||||||||||||||||||
การทูล | ปี้เซี่ย (陛下) | ||||||||||||||||||||
สถานะการสมรส | พระภรรยาเจ้า | ||||||||||||||||||||
พระนามลำลอง | อู่ เหม่ย (武媚), อู่ เจ๋อเทียน (武则天) | ||||||||||||||||||||
พระราชสมภพ | 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 624/623 | ||||||||||||||||||||
สวรรคต | 16 ธันวาคม ค.ศ. 705 (ราว 83 พรรษา) ลั่วหยาง มหาจักรวรรดิถัง | ||||||||||||||||||||
ฝังพระบรมศพ | |||||||||||||||||||||
| |||||||||||||||||||||
พระราชสวามี | จักรพรรดิถังไท่จง (637-649) จักรพรรดิถังเกาจง (655-683) | ||||||||||||||||||||
พระราชชนก | ไท่จู่เกาหวงตี้อู่ซื่อเยว์ 太祖高皇帝(武士彟) | ||||||||||||||||||||
พระราชชนนี | เซี่ยวหมิงเกาหวงโฮ่ว (แซ่หยาง) 孝明高皇后(杨) | ||||||||||||||||||||
พระราชบุตร | |||||||||||||||||||||
ราชวงศ์ |
| ||||||||||||||||||||
ตระกูล | อู่ (武) | ||||||||||||||||||||
ศาสนา | พุทธมหายาน | ||||||||||||||||||||
ในแผ่นดินของพระราชสวามีและพระราชบุตรของพระนางระหว่างปี ค.ศ. 665 ถึง 690 พระนางทรงปกครองจีนโดยพฤตินัย ต่อมาในปี ค.ศ. 690 ถึง 705 พระนางทรงสถาปนาราชวงศ์ของพระนางเอง คือ ราชวงศ์โจว หรือในประวัติศาสตร์จีนเรียกว่า ราชวงศ์อู่โจว และเฉลิมพระนามพระนางเองว่า เชิ่งเสินหวงตี้ (聖神皇帝) อันเป็นการละเมิดประเพณีแต่โบราณและยังทำให้ราชวงศ์ถังสะดุดหยุดลงระยะหนึ่ง นักประวัติศาสตร์ผู้นิยมลัทธิขงจื๊อจึงประณามพระนางเป็นอย่างมาก
อู่ เจ๋อเทียน ทรงมีตำแหน่งสำคัญทั้งในสมัยถังไท่จง จักรพรรดิพระองค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์ถัง และในสมัยถังเกาจง จักรพรรดิพระองค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์ถัง โดยแรกเริ่มทรงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระสนมของถังไท่จง เมื่อถังไท่จงสวรรคต พระนางจึงได้อภิเษกสมรสกับถังเกาจงในปี ค.ศ. 655 และได้รับการขนานพระนามว่า เกาจงฟูเหริน (高宗夫人)
ในปี ค.ศ. 690 หลังจากถังเกาจงสวรรคต ก็เกิดการแย่งชิงราชสมบัติเป็นเวลากว่า 7 ปี ในที่สุดพระนางได้ทรงตั้งตนขึ้นเป็นฮ่องเต้หญิงพระองค์แรกในประวัติศาสตร์จีน รวมถึงประกาศเปลี่ยนราชวงศ์ถังเป็นราชวงศ์อู่โจวตั้งแต่นั้นมา จนสวรรคตเมื่อปี ค.ศ. 705
ในช่วงที่อู่ เจ๋อเทียน ทรงเป็นผู้นำทั้งด้านการปกครองและการทหาร มีการขยายอำนาจของจีนออกไปเป็นอันมากเกินกว่าอาณาเขตดินแดนเดิมที่เคยมีมา ไปถึงบริเวณทวีปเอเชียกลาง รวมถึงการครอบครองพื้นที่แถบคาบสมุทรเกาหลีตอนบน ส่วนภายในประเทศจีนเอง แม้จะมีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการไขว่คว้าเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจของพระนางทั้งในการสู้รบ ปราบปรามกบฏ และลงโทษประหารชีวิต แต่พระนางได้ทรงพัฒนาประเทศโดยการส่งเสริมและเผยแพร่ระบบการสอบจอหงวนเพื่อส่งเสริมให้บัณฑิตผู้มีความรู้ความสามารถเข้ามารับราชการบริหารประเทศโดยไม่คำนึงถึงชนชั้น ส่งเสริมและยกระดับบทบาทของสตรีเพศโดยเปิดโอกาสให้เข้ารับตำแหน่งราชการในระดับสูง นอกจากนี้พระนางยังให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชนด้วยการลดภาษีอากรที่กดขี่ ส่งเสริมการเกษตรและการสร้างงาน ทำให้ประเทศจีนในยุคของพระนางมีความเข้มแข็งและพัฒนาด้านเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว
อู่ เจ๋อเทียน ทรงส่งเสริมและให้ความสำคัญแก่พระพุทธศาสนามากกว่าลัทธิเต๋าในฐานะเป็นศาสนาประจำชาติ จนจัดให้มีการสร้างวัดและปฏิมากรรมในถ้ำ เช่น ถ้ำผาหลงเหมิน กล่าวได้ว่าพระพุทธศาสนาได้รับการพัฒนาอย่างสูงสุดในประเทศจีนในช่วงยุคของพระนาง
นอกจากในฐานะผู้นำทางการเมือง อู่ เจ๋อเทียน ยังมีชีวิตครอบครัวที่โดดเด่น แม้ว่าในบางครั้งความสัมพันธ์ในครอบครัวจะเป็นปัญหาให้แก่พระนาง มีพระโอรส 3 พระองค์ซึ่งต่อมาได้ขึ้นครองราชบัลลังก์เป็นจักรพรรดิ และพระนัดดาของพระนาง คือ ถังเสวียนจง จักรพรรดิหนึ่งในยุคทองแห่งประวัติศาสตร์จีน
พระนาม
บูเช็กเทียน มีพระนามเดิมว่า อู่ จ้าว (Wu Zhao) (บางครั้งใช้ตัวอักษรจีนว่า "武曌" หากว่าตัวอักษรที่ใช้จริงไม่เป็นที่ปรากฏชัด อย่างไรก็ตามคำว่า "จ้าว" ไม่ได้ใช้ตัวอักษร "瞾" เนื่องจากตัวอักษรนี้เป็นอักษรที่มีการประดิษฐ์ขึ้นใหม่ในสมัยของพระนางเอง ส่วนแซ่หรือราชสกุลของพระนางคือ "อู่" ซึ่งยังคงใช้อยู่แม้ว่าจะทรงอภิเษกสมรสกับ จักรพรรดิถังเกาจง ซึ่งใช้ราชสกุล หลี่
ต่อมาจักรพรรดิถังไท่จง พระราชทานพระนามให้แก่พระนางใหม่ว่า "เม่ย์" (媚) ทำให้ในปัจจุบัน ประชาชนจีนมักเอ่ยพระนามของพระนางว่า อู่เม่ย์ หรือ อู่เม่ย์เหนียง (武媚娘) เมื่อกล่าวถึงชีวิตในวัยเยาว์ของพระองค์ และจะใช้ชื่อเรียกพระนามว่า อู่โฮ่ว เมื่อกล่าวถึงพระนางในช่วงที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระมเหสี (หรือฮองเฮา) และพระพันปี (หรือไทเฮา) แล้ว ส่วนการใช้คำว่า อู่ เจ๋อเทียน (จีน: 武則天) จะใช้เมื่อกล่าวถึงพระองค์ในขณะดำรงพระยศเป็นจักรพรรดินี (ฮ่องเฮา) แห่งราชวงศ์อู่โจวของจีน[])
พระราชประวัติ
พระราชสมภพ
(สำหรับรายนามสมาชิกในตระกูลของจักรพรรดินีอู่ เจ๋อเทียน ดูเพิ่มที่: ) )
ตระกูลอู่มีต้นกำเนิดในเมือง (จีน: 文水) (จีน: 并州) (ปัจจุบันคือ ตำบลเหวินสุ่ยในมณฑลซานซี) บูเช็กเทียนเกิดในเมือง (จีน: 利州) (ปัจจุบันคือ เมือง (จีน: 广元) ในมณฑลเสฉวน) [] หรือมิฉะนั้นอาจเป็นที่เมืองฉางอาน (ปัจจุบันคือเมืองซีอาน) ในช่วงรัชสมัยจักรพรรดิถังเกาจู่ ประสูติเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 624 และสวรรคตในวันที่ 16 ธันวาคม ค.ศ. 705
จักรพรรดินีอู่ประสูติในปีที่ 7 แห่งรัชสมัยจักรพรรดิถังเกาจู่ โดยปีนั้นเป็นปีที่เกิดสุริยุปราคาเต็มดวง (total eclipse of the Sun) ซึ่งสามารถมองเห็นได้ในประเทศจีน บิดาของพระนางคือ (Wu Shihuo; จีนตัวย่อ: 武士彟; จีนตัวเต็ม: 武士彠 พินอิน: Wǔ Shìhuò; 559-635 CE) มีอาชีพเกี่ยวกับการค้าไม้ ซึ่งเป็นเพียงพ่อค้าสามัญชนธรรมดาที่มีฐานะคนหนึ่ง ส่วนมารดาของพระนางนั้นมาจากตระกูลหยางซึ่งเป็นตระกูลที่มีอำนาจมากในสมัยนั้น ในช่วงปีสุดท้ายของรัชสมัยจักรพรรดิสุยหยาง หลี่ยวน (Li Yuan; จีน: 李淵) ผู้มีตำแหน่งแม่ทัพขุนนางในราชวงศ์สุย ซึ่งภายหลังกลายเป็นจักรพรรดิถังเกาจู่แห่งราชวงศ์ถังได้เข้าพักอาศัยอยู่ในบ้านของตระกูลอู่ (หรือบู) หลายครั้งจนมีความสนิทสนมกับตระกูลนี้ หลังจากหลี่หยวนล้มล้างอำนาจของจักรพรรดิสุยหยางได้แล้ว พระองค์ได้ตอบแทนตระกูลอู่ด้วยเงินทอง เมล็ดพันธุ์พืช ที่ดิน และแพรพรรณเนื้อดีต่าง ๆ เป็นอันมาก และเมื่อสถาปนาราชวงศ์ถังสำเร็จ ได้รับตำแหน่งเสนาบดีอาวุโสและตำแหน่งผู้ครองเมือง และ (Jingzhou; จีน: 荊州) ปัจจุบันคือ เขต (Jiangling County; จีน: 江陵县) ในมณฑลหูเป่ย์ ต่อมาจักรพรรดิเกาจู่ได้สละราชสมบัติ พระราชโอรสของพระองค์ คือ เจ้าชายหลี่ซื่อหมิน (Li Shi Min; จีน: 李世民; พินอิน: Lǐ shì min) จึงขึ้นครองราชย์ต่อเป็นจักรพรรดิถังไท่จงนั่นเอง
พระราชมารดาของจักรพรรดินีอู่ เจ๋อเทียนนั้นเดิมทรงเป็นเชื้อสายราชวงศ์สุย (隋朝) ที่ปกครองประเทศจีนมาก่อนราชวงศ์ถัง ซึ่งท่านหญิงหยาง พระราชมารดาของพระนางนั้นเดิมเป็นพระนัดดาของ (จีน: 关王; พินอิน: Guān wáng) หรือพระนามเดิม หยางสง ซึ่งเป็นพระญาติสนิทของจักรพรรดิสุยหยาง (พระนามจริงว่า หยางกว่าง) จักรพรรดิพระองค์สุดท้ายของราชวงศ์สุย จึงนับได้ว่าท่านหญิงหยางเป็นผู้เกิดในชาติตระกูลสูง หากราชวงศ์สุยมิได้ล่มสลายลงไปเสีย อู่ซื่อฮั่วคงมิได้มีโอกาสพบเจ้าหญิงหยาง แต่เมื่อราชวงศ์สุยล่มสลายไป เจ้าหญิงหยางจึงจำต้องหาที่พึ่งพิง สตรีในยุคนั้นมีทางเลือกไม่มากนัก เนื่องจากขณะนั้นพระองค์เป็นเพียงสมาชิกราชวงศ์ที่ตกยาก ซึ่งอู่ซื่อฮั่วเองก็ต้องการที่หาภริยาที่จะมาส่งเสริมเชิดชูเกียรติของตนเองเช่นกัน โดยเฉพาะในยามที่ต้องออกสังคมกับพวกขุนนาง ซึ่งก็มักจะเป็นผู้เกิดในตระกูลสูงเสียเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นเจ้าหญิงเชื้อสายราชวงศ์สุยอย่างเจ้าหญิงหยางจึงเป็นที่หมายปองของอู่ซื่อฮั่วเป็นอย่างมาก เมื่อความต้องการของทั้งสองฝ่ายตรงกัน เจ้าหญิงหยางจึงทรงสมรสกับอู๋ซื่อฮั่ว (โดยมีฐานะเป็นภริยาคนที่สอง เนื่องจากอู่ซื่อฮั่วมีภริยาคนแรกอยู่แล้วเป็นหญิงสามัญชน) และถูกเรียกขานนามว่าท่านหญิงหยาง นับแต่นั้นมา แม้จะเป็นภริยาคนที่ 2 แต่ว่าเป็นเชื้อพระวงศ์เก่ามาก่อนท่านหญิงหยางจึงเป็นที่รักและยกย่องของอู๋ซื่อฮั่วอย่างมาก ทำให้ภริยาคนแรกกับบุตรชายทั้ง 2 ที่เกิดกับภริยาคนแรกไม่ชอบใจท่านหญิงหยางและเกิดเหตุกระทบกระทั่งทำร้ายจิตใจกันตลอดมา
ครั้นต่อมาเมื่อท่านหญิงหยางได้ให้กำเนิดทารกน้อยบูเช็กเทียน (อู่ เจ๋อเทียน) ได้มีเรื่องเล่ากันว่ามีโหรใหญ่คนหนึ่งชื่อหยวนเทียนกังมาเห็นทารกน้อยที่น่ารักคนนี้ และนึกว่าเป็นเด็กชายจึงออกปากทักไปว่า เด็กคนนี้ถ้าหากเป็นหญิงล่ะก็ ต่อไปจะได้เป็นใหญ่ที่สุดในแผ่นดินจีนเป็นแน่ ยิ่งกว่านั้นเมื่อบูเช็กเทียนได้เข้าวังไปแล้ว โหราจารย์แห่งราชสำนักยังได้พยากรณ์สำทับอีกว่า ต่อไปสตรีแซ่อู่จะมีอำนาจขึ้นล้มราชวงศ์ถัง
พงศาวลี
อู่ จู่ฉาง | ||||||||||||||||
อู่เจี้ยน | ||||||||||||||||
หลิว | ||||||||||||||||
อู่ หัว | ||||||||||||||||
ซ่ง | ||||||||||||||||
เจา | ||||||||||||||||
อู่ เจ๋อเทียน | ||||||||||||||||
หยางเฉา | ||||||||||||||||
หยางต้า | ||||||||||||||||
ท่านหญิงหยาง | ||||||||||||||||
วัยพระเยาว์
จักรพรรดินีอู่ประสูติในตระกูลร่ำรวย มีคนรับใช้ที่คอยช่วยเหลือเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ทำให้ไม่เคยเรียนรู้งานในบ้านใด ๆ พระราชบิดาของพระนางจึงสนับสนุนให้พระนางอ่านหนังสือและศึกษาเล่าเรียนหนังสือแทน ซึ่งแตกต่างจากบิดาที่มีบุตรสตรีคนอื่น ๆ ในยุคนั้นเป็นอย่างมาก และพระนางเองก็มิได้เป็นสตรีประเภทที่สามารถนั่งเงียบ ๆ ทำงานเย็บปักถักร้อย หรือดื่มชาทั้งวันได้ พระนางจึงตั้งใจเล่าเรียนวิชาต่าง ๆ มากมาย อาทิ วิชาด้านการเมืองและการปกครอง การเขียน วรรณกรรม และดนตรี พระนางเติบโตขึ้นพร้อมกับการเรียนรู้มากมายที่พระราชบิดาของพระนางเป็นผู้สนับสนุนอย่างต่อเนื่อง เมื่ออายุได้ 14 พรรษา พระนางจึงถูกส่งเข้าถวายตัวเป็นนางสนมของจักรพรรดิถังไท่จง
เมื่อพระนางอายุได้ 14 พรรษา ได้ถูกส่งเข้าถวายตัวเป็นพระสนมของจักรพรรดิถังไท่จง และที่นี่เองที่พระนางเริ่มรับหน้าที่ฝ่ายในในตำแหน่งคล้ายเลขานุการ ซึ่งทำให้พระนางได้สานต่อด้านการศึกษาอีกครั้ง
ในรัชสมัยของจักรพรรดิถังไท่จงนั้น พระอัครมเหสี หรือ หวงโฮ่ว (จีน: 皇后; พินอิน: Huánghòu) คือจักรพรรดินีจ่างซุน (จีน: 长孙皇后; พินอิน: Zhǎng xūn huánghòu; พระนางทรงมีแซ่ 2 พยางค์คือ ฉางซุน หรือ จ่างซุน ส่วนพระนามคือ อู่เต๋อ) เป็นพระชนนีของพระราชโอรสทั้ง 3 พระองค์ของจักรพรรดิถังไท่จง ในเวลาต่อมาเจ้าชายหลี่เฉิงเฉียน พระราชโอรสพระองค์แรกผู้ดำรงตำแหน่งรัชทายาท (จีน: 皇太子; พินอิน: Huáng tàizǐ) กับพระราชโอรสพระองค์ต่อมาคือ เจ้าชายหลี่ไท่ ซึ่งมีความขัดแย้งต่อกันมานาน เนื่องจากเจ้าชายหลี่ไท่มีพระประสงค์จะเป็นรัชทายาท แต่ด้วยความที่พระองค์มิได้เป็นพระราชโอรสพระองค์แรก พระองค์ยังทรงทราบด้วยอีกว่ารัชทายาท เจ้าชายหลี่เฉิงเฉียนนั้นเป็นพวกรักร่วมเพศ จึงทรงพยายามทุกทางที่จะกำจัดพระเชษฐาของพระองค์เองให้ได้ โดยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เจ้าชายหลี่เฉิงเฉียนรัชทายาทเกือบจะถูกจักรพรรดิถังไท่จงพระบิดาจะจับได้แล้วว่าพระองค์นั้นทรงเป็นพวกรักร่วมเพศ หากแต่หลักฐานไม่เพียงพอ จักรพรรดิถังไท่จงจึงทรงเลือกที่จะเชื่อพระราชโอรสของพระองค์มากกว่า และโปรดให้ประหารชีวิตขันทีคนสนิทซึ่งเป็นคู่รักของรัชทายาทเสีย แต่ไม่ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ปลดเจ้าชายหลี่เฉิงเฉียนจากรัชทายาทแต่อย่างใด ต่อมารัชทายาทวางแผนกบฏเพื่อรวบอำนาจมาไว้ที่ตนเองแต่ผู้เดียว เพื่อเป็นการกำจัดเจ้าชายหลี่ไท่พระอนุชาด้วย แต่แผนการรั่วไหลเสียก่อน ในครั้งนี้จักรพรรดิถังไท่จงไม่อาจนิ่งเฉยได้อีกต่อไป พระองค์จึงโปรดเกล้าฯ ให้ปลดเจ้าชายหลี่เฉิงเฉียน จากตำแหน่งรัชทายาทเป็นสามัญชน แล้วจึงเนรเทศไปอยู่ตำบลในเขตชายแดน
หลี่เฉิงเฉียนอยู่ได้ไม่นานก็ถึงแก่กรรมที่ตำบลชายแดนนั้นเอง ส่วนเจ้าชายหลี่ไท่ พระราชโอรสพระองค์ต่อมาก็พลาดหวังจากตำแหน่งรัชทายาท โดยตำแหน่งรัชทายาทกลับไปตกอยู่กับเจ้าชายหลี่จื้อ (Li Zhi; จีน: 李治; พินอิน: Lǐ zhì) พระราชโอรสพระองค์เล็กของจักรพรรดิถังไท่จง และเป็นพระอนุชาของเจ้าชายหลี่ไท่นั่นเอง ด้วยจักรพรรดิไท่จงมีพระราชดำริเองว่าพระราชโอรสพระองค์รองนั้นเป็นผู้ที่มีจิตใจโหดเหี้ยม แม้จะมีความสามารถเหนือกว่าแต่ก็ไม่สมควรได้ครองแผ่นดิน ส่วนพระราชโอรสพระองค์เล็กนั้นแม้จะไม่เข้มแข็งเด็ดขาด แต่ก็มีพื้นฐานจิตใจค่อนไปทางฝ่ายดีงาม การตัดสินพระทัยของจักรพรรดิถังไท่จงครั้งนี้เป็นการพลิกโฉมประวัติศาสตร์จีนในอีกไม่นานนับจากนั้น
ต่อมาไม่นานใน ปี ค.ศ. 649 จักรพรรดิถังไท่จงเสด็จสวรรคต เจ้าชายหลี่จื้อซึ่งเป็นรัชทายาทได้เสด็จขึ้นครองราชย์แทน และทรงพระนามว่าจักรพรรดิถังเกาจง (จีน: 唐高宗皇帝; พินอิน: Tánggāozōng huángdì; ครองราชย์ปี ค.ศ. 649 - 683) เป็นรัชกาลที่ 3 แห่งราชวงศ์ถังนับจากจักรพรรดิถังเกาจู่เป็นต้นมา โดยทรงมีอัครชายาที่พระราชบิดาพระราชทานอภิเษกสมรสให้มาแต่เดิม พระอัครชายาพระองค์นี้จึงได้ครองพระราชอิสริยยศอัครมเหสี ออกพระนามว่าจักรพรรดินีหวัง (จีน: 王皇后; พินอิน: Wáng huánghòu) ด้วยพระนางมีแซ่เดิมว่า หวัง (王姓)
นางสนมของจักรพรรดิถังไท่จง
เมื่อพระนางบูเช็กเทียนเข้ามาเป็นนางสนมโดยการอยู่กินด้วยกันโดยไม่ได้สมรส ของจักรพรรดิถังไท่จง (ราวปี ค.ศ. 636 ถึง 638) และได้รับยศเป็น "ไฉเหริน" (cairen; จีน: 才人; พินอิน: Cái rén) ซึ่งเป็นตำแหน่งนางสนมระดับที่ 5 ในระบบ 9 ขั้นของข้าราชการ ชนชั้นสูง และนางสนม ในราชสำนักแห่งราชวงศ์ถัง (Tang's nine-rank system) โดยครั้งเมื่อพระนางถูกส่งตัวเข้าวังนั้น ท่านหญิงหยางผู้เป็นมารดาร้องไห้คร่ำครวญอย่างขมขื่นกับโชคชะตาของพระนาง หากแต่บูเช็กเทียนได้กล่าวกับมารดาของพระนางว่า "ท่านรู้ได้อย่างไรว่านี้มิใช่โชคของข้าพเจ้าที่ได้พบกับ (Son of Heaven) " เมื่อได้เข้าใจในความทะเยอทะยานของพระนาง ท่านหญิงหยางจึงได้หยุดร้องไห้
อย่างไรก็ตามพระนางบูเช็กเทียนมิได้เป็นที่โปรดปรานของจักรพรรดิไท่จงนัก แม้ว่าพระนางจะเคยได้เข้ารับใช้พระองค์ในฐานะนางสนม (มีความสัมพันธ์ทางเพศ) ในช่วงที่พระนางบูเช็กเทียนเป็นนางสนมอยู่นั้น ได้แสดงนิสัยอันเด็ดเดี่ยวกล้าหาญจนทำให้จักรพรรดิไท่จงเกิดความประทับใจ ในเวลานั้นจักรพรรดิถังไท่จงทรงมีม้าชื่อ "สิงโตป่า (Lion Stallion) " ที่มีลักษณะดุดันและแข็งแรงมาก ไม่มีผู้ใดสามารถขึ้นนั่งฝึกม้าตัวนี้ได้ พระนางบูเช็กเทียนซึ่งเข้ารับใช้เป็นนางสนองพระโอษฐ์อยู่ได้เสนอกับจักรพรรดิถังไท่จงว่าตนสามารถปราบม้าตัวนี้ได้ โดยใช้ของสามสิ่ง คือ แส้เหล็ก ค้อน และกริช โดยจะใช้แส้เหล็กเฆี่ยนมันก่อน ถ้าม้านั้นไม่ยอมเชื่อฟังก็จะใช้ค้อนทุบหัวม้า หากยังไม่ยอมอีก ก็จะเอากริชเชือกคอมันให้ตายลงเสีย จักรพรรดิถังไท่จงได้สดับฟังคำแนะนำของพระนางแล้วชื่นชมในความเด็ดเดี่ยวของบูเช็กเทียนมาก หากแต่พระองค์ก็รู้สึกตกใจมาก และมีความรู้สึกลึก ๆ กว่านางสนมที่เคร่งครัดถือตัวไม่ควรพูดจาแบบนี้ แต่เจ้าชายหลี่จื้อ (Li Zhi จีน: 李治; พินอิน: Lǐ zhì) ซึ่งเป็นรัชทายาทในขณะนั้นกลับติดใจและหลงรักบูเช็กเทียนที่มีอายุมากกว่าเขา 4 ปี
ในระหว่างนี้บูเช็กเทียนก็ได้แอบลักลอบมีความสัมพันธ์กับรัชทายาท ซึ่งเป็นพระโอรสองค์สุดท้ายของจักรพรรดิไท่จง คือ เจ้าชายหลี่จื้อ แต่ความสัมพันธ์นี้มีอันต้องหยุดลงเมื่อจักรพรรดิไท่จงสิ้นพระชนม์ลงในปี ค.ศ. 649 เจ้าชายหลี่จื้อ ซึ่งมีพระมารดาพระนามว่า "เหวินเต๋อ (Wende) " เป็นพระมเหสีเอกของจักรพรรดิไท่จง ได้สืบทอดพระราชบัลลังก์ต่อโดยมีพระนามว่า จักรพรรดิถังเกาจง (Emperor Tanggaozong; จีน: 唐高宗皇帝; พินอิน: Tánggāozōng huángdì; ครองราชย์ปี ค.ศ. 649 - 683)
บวชเป็นภิกษุณี
จักรพรรดิไท่จงมีพระโอรสทั้งหมด 14 พระองค์ โดยมี 3 พระองค์เป็นพระโอรสในพระมเหสีเอก คือ พระนางเหวินเต๋อ (จีน: 文德皇后; พินอิน: Wén dé huánghòu) แต่พระองค์มิได้มีพระโอรสกับพระสนมบูเช็กเทียน ตามพระราชประเพณีโบราณของราชสำนัก หากพระมเหสีหรือนางสนมคนใดไม่มีพระโอรสหรือพระธิดากับพระมหากษัตริย์ และเมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์ลง พระมเหสีและนางสนมเหล่านั้นจะต้องออกจากราชสำนักและบวชเข้าสำนักสงฆ์ตลอดชีวิต พระนางบูเช็กเทียนจึงถูกส่งตัวไปยัง (Ganye Temple จีน: 感業寺) เพื่อบวชเป็นภิกษุณีจนกว่าชีวิตจะหาไม่ (บางส่วนอ้างว่าเป็นเพราะจักรพรรดิไท่จงทรงทราบเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบูเช็กเทียนกับพระราชโอรสของพระองค์ แต่ด้วยความเสน่หาในความงามของบูเช็กเทียน พระองค์จึงไม่ทรงสั่งประหารชีวิต แต่หากให้บูเช็กเทียนไปบวชแทน)
พระนางบูเช็กเทียนต้องพลัดพรากจากวังไปนานถึงสองปี จึงได้มีโอกาสได้พบกับจักรพรรดิถังเกาจงอีกครั้งหนึ่ง เมื่อพระองค์ทรงเดินทางไปยังวัดก่านเย่ที่พระนางบูเช็กเทียนบวชอยู่ ในช่วงเวลานี้เองที่พระมเหสีของจักรพรรดิถังเกาจงทรงแอบเห็นว่าทั้งสองมีความผูกพันต่อกัน จึงชักชวนให้บูเช็กเทียนเข้ามาเป็นนางสนมเอกแทนที่นางสนมเอกแซ่เซียว ซึ่งมีความขัดเคืองกันอยู่และไม่ต้องพระทัยของพระมเหสีของจักรพรรดิถังเกาจงนัก
การขึ้นสู่อำนาจ.
ในราวต้นคริสต์ศตวรรษที่ 650 พระนางบูเช็กเทียนได้กลับเข้าวังอีกครั้งในฐานะพระสนมของจักรพรรดิถังเกาจง พระราชโอรสของจักรพรรดิถังไท่จง ได้รับยศเป็น เจาอี๋ (Zhaoyi จีน: 昭儀) ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดในบรรดาศักดิ์เก้าชั้นของนางสนม ทำให้พระนางมีอำนาจและอิทธิพลในการบริหารราชการเป็นอย่างมากในช่วงตลอดรัชสมัยของจักรพรรดิถังเกาจง และได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นผู้มีความทะเยอทยานในอำนาจเป็นอย่างมาก มีนักประวัติศาสตร์จีนโบราณบางคนเชื่อว่าพระนางบูเช็กเทียนเป็นผู้สังหารพระธิดาของพระนางเองเพื่อใส่ร้ายและโยนความผิดให้แก่จักรพรรดินีหวัง (Empress Wang; จีน: 王皇后; พินอิน: Wáng huánghòu) (หวังฮองเฮา ในจักรพรรดิถังเกาจง) ในการก้าวขึ้นสู่อำนาจด้วย
จากสำนักภิกษุณีกลับมาเป็นนางสนมอีกครั้ง
จักรพรรดิถังเกาจงเสด็จขึ้นครองราชย์ในขณะที่มีพระชนมายุเพียง 21 ปี ทรงเป็นผู้ด้อยประสบการณ์และความสามารถ ประกอบกับมีสุขภาพที่อ่อนแเอ หากทรงได้รับการแต่งตั้งจากพระราชบิดาจักรพรรดิถังไท่จงให้เป็นรัชทายาทเนื่องจากความอัปยศของพระเชษฐาทั้งสองของพระองค์
จักรพรรดิถังเกาจงนั้นทรงเป็นผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอหากแต่มีจิตใจที่ดี แม้ว่าพระองค์จะค่อนข้างไปทางหูเบาและฝักใฝ่ในกามารมณ์ ไม่นานหลังจากขึ้นครองราชย์พระองค์ทรงหลงใหลและโปรดปรานในตัวพระสนมเซียว (แซ่เซียว นามว่าฮุ่ยจือ ซึ่งเดิมเป็นสตรีสามัญชน) (Consort Xiao; จีน: 宵恕妃; พินอิน: Xiāo shù fēi) อย่างมาก จนต่อมาในภายหลังถึงกับโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนานางขึ้นเป็นพระมเหสีลำดับที่ 3 ออกพระนามว่า พระมเหสีเซียว
จักรพรรดินีหวังทรงตระหนักดีว่าพระราชสวามีโปรดปรานพระสนมเซียวมาก จนทรงกลัวว่าจะส่งผลถึงฐานะของพระนาง ซึ่งก็เป็นความจริงดังที่จักรพรรดินีทรงกังวล เพราะไม่นานต่อมาพระสนมเซียวก็ทรงพระครรภ์และให้พระประสูติการพระราชกุมารพระองค์น้อยที่มีสุขภาพแข็งแรง ทรงพระนามว่า (Li Sujie) และธิดา 2 พระองค์ คือ เจ้าหญิงอี้หยาง (Yiyang) และเจ้าหญิงเซวียนเฉิง (Xuancheng) แก่ถังเกาจง จักรพรรดิทรงปีติยินดีอย่างยิ่ง ถึงกับโปรดเกล้าฯให้สถาปนาพระราชโอรสพระองค์น้อยขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งรัฐสี่ (喜王) ตั้งแต่แรกประสูติทีเดียว และยังมีพระราชปรารภว่าจะให้ดำรงตำแหน่งรัชทายาทอีกด้วย พระอัครมเหสีหวังทรงตื่นตกใจมากและได้พยายามใช้กุศโลบายทุกทางจนสามารถเปลี่ยนพระทัยถังเกาจงให้สถาปนาพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในบรรดาพระราชโอรสทั้งหมด คือ เจ้าชายหลี่จง กษัตริย์แห่งรัฐเอี้ยน (燕王) ซึ่งมีพระมารดาเป็นเพียงพระสนม คือพระสนมหลิว ซึ่งเป็นพระญาติกับพระจักรพรรดินีหวังทางฝ่ายพระมารดาให้เป็นรัชทายาทแทนได้สำเร็จ ทำให้พระสนมเซียวโกรธแค้นอย่างยิ่ง
ในระหว่างพระราชพิธีพระบรมศพจักรพรรดิถังไท่จง ถังเกาจงทรงเข้าออกวัดก่านเย่ (Ganye Temple) เพื่อทรงจุดธูปบูชาพระบรมศพพระราชบิดา ทำให้พระองค์ได้พบกับพระนางบูเช็กเทียนอีกครั้ง ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างถังเกาจงและพระนางบูเช็กเทียนผู้เคยเป็นที่ทรงปฏิพัทธ์มาตั้งแต่ครั้งรัชกาลก่อนนั้นอยู่ในสายพระเนตรของพระจักรพรรดินีหวัง พระจักรพรรดินีหวังผู้ซึ่งไม่ได้เป็นที่โปรดปรานในจักรพรรดินัก ด้วยพระองค์ทรงโปรดพระสนมเซียวมากกว่า ดังนั้นเมื่อจักรพรรดินีหวังเห็นว่าถังเกาจงยังมีความสนใจและประทับใจในความงามของบูเช็กเทียนอยู่ จักรพรรดินีหวังจึงวางแผนให้รับพระนางบูเช็กเทียนกลับเข้าสู่ราชสำนักอีกครั้งในฐานะพระสนมอีกคนหนึ่ง ทั้งนี้เพื่อดึงความสนใจของถังเกาจงจากพระสนมเซียวเสีย
หลังจากพระนางบูเช็กเทียนออกจากวัดเพื่อกลับเข้าสู่ราชสำนักในฐานะของพระสนมของถังเกาจงอีกครั้ง (แม้ว่าถังเกาจงจะมีฐานะเป็นลูกเลี้ยงของพระนาง นอกจากนั้นยังมีผู้เชื่อว่าพระนางเคยมีเพศสัมพันธ์กับจักรพรรดิไท่จงผู้วายชนม์แล้ว จึงกล่าวได้ว่าเป็นการร่วมประเวณีกับญาติสนิท)
พระจักรพรรดินีหวังทรงคิดว่าเพียงแต่จะชักนำพระนางบูเช็กเทียนเข้ามาสู่ราชสำนักอีกครั้งเพื่อดึงความสนพระทัยของถังเกาจงออกจากพระมเหสีเซียวเท่านั้น พอกำจัดพระมเหสีเซียวไปได้แล้วก็จะค่อยกำจัดบูเช็กเทียนในภายหลัง จึงไม่ทรงขัดขวางเมื่อพระราชสวามีมีพระราชดำริจะรับพระนางบูเช็กเทียนเข้าวังในอีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้พระนางบูเช็กเทียนไม่ได้ดำรงฐานะเป็นเพียงพระสนมธรรมดาเหมือนในรัชกาลก่อน หากแต่ได้รับการโปรดเกล้าฯให้เป็นถึง "" หรือ พระสนมเอกลำดับ 1 (จีน: 昭宜; พินอิน: Zhāo yí) จากบรรดาพระสนมเอกของจีนซึ่งมีทั้งหมด 9 ชั้น นับว่าเป็นที่ 3 ในวังรองจากจักรพรรดินีหวัง และพระสนมเซียวทีเดียว ซึ่งพระนางบูเช็กเทียนพระสนมเอกก็ไม่ทำให้จักรพรรดินีหวังทรงผิดหวัง เพราะหลังจากนั้นไม่นานถังเกาจงก็ทรงลืมพระมเหสีเซียวไปเสียสนิท
พระโอรส
ปี ค.ศ. 652 พระนางบูเช็กเทียนทรงให้กำเนิดพระโอรส คือ หลี่หง (Li Hong) และต่อมาในปี ค.ศ. 653 พระนางก็ได้ให้กำเนิดพระโอรสอีกพระองค์หนึ่ง คือ (Li Xian; จีน: 李賢; พินอิน: Li Xián หรือ Crown Prince Zhanghuai; จีน: 章懷太子; ค.ศ. 653 - 684) ซึ่งทั้งสองพระองค์ไม่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัชทายาทแห่งถังเกาจง เนื่องจากจักรพรรดินีหวังและพระปิตุลาของพระนาง คือ อัครมหาเสนาบดีหลิวซื่อ (The Chancellor Liu Shi) ทรงเกลี้ยกล่อมให้ถังเกาจงทรงแต่งตั้งพระโอรสพระองค์โต คือ เจ้าชายหลี่จง (Li Zhong; จีน: 李忠; พินอิน: Lǐ zhōng; ค.ศ. 643 - 6 มกราคม ค.ศ. 665) ซึ่งถือกำเนิดจากพระสนมหลิวเป็นรัชทายาทไปก่อนหน้าแล้ว
ข้อกล่าวหาต่อพระนางบูเช็กเทียน
เมื่อมีโอกาสพระสนมบูเช็กเทียนก็ไม่รอช้าที่จะกำจัดพระจักรพรรดินีหวังออกไปเสียก่อนที่ตนเองจะเป็นฝ่ายถูกกำจัดออกไปแทน โดยมีเรื่องที่บันทึกไว้มีว่า ในปี ค.ศ. 654 พระสนมบูเช็กเทียนมีพระประสูติกาลพระราชธิดาพระองค์หนึ่ง เมื่อพระจักรพรรดินีหวังเสด็จไปทรงเยี่ยมเจ้าหญิงพระราชธิดาองค์น้อยซึ่งยังมีพระชนม์ไม่ถึงเดือน นัยว่าเสด็จไปทรงเยี่ยมตามราชประเพณีในฐานะที่เป็นพระมารดาเลี้ยง และเพื่อแสดงว่ามีพระมหากรุณาต่อเจ้าหญิงน้อยดุจพระมารดาแท้ ๆ แต่กลับเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงที่ไม่มีผู้ใดคาดคิด คือเจ้าหญิงพระองค์น้อยเสด็จสิ้นพระชนม์อย่างกระทันหันในวันเดียวกันนั้นเอง ซึ่งพระสนมบูเช็กเทียนได้กล่าวหาพระจักรพรรดินีหวังว่าเป็นสาเหตุที่พระราชธิดาน้อยสิ้นพระชนม์ ข้อกล่าวหาในครั้งนี้พระจักรพรรดินีหวังไม่อาจแก้ตัวใด ๆ ได้ เนื่องจากพระจักรพรรดินีเป็นผู้ที่อยู่กับเจ้าหญิงน้อยเป็นพระองค์สุดท้ายก่อนที่เจ้าหญิงน้อยจะสิ้นพระชนม์ นับว่าพระจักรพรรดินีทรงชักศึกเข้าบ้านโดยแท้
ถังเกาจงทรงเชื่อในข้อกล่าวหาว่าพระจักรพรรดินีหวังเป็นผู้ปลงพระชนม์พระราชธิดาองค์น้อยเนื่องจากความอิจฉาริษยา โดยพระจักรพรรดินีหวังก็ไม่อาจหาหลักฐานใด ๆ มาแก้ข้อกล่าวหานี้ได้ พระจักรพรรดิถังเกาจงจึงทรงพระพิโรธและรับสั่งให้ถอดยศและขับไล่พระจักรพรรดินีหวังออกจากราชสำนัก โดยจะทรงแต่งตั้งพระสนมบูเช็กเทียนขึ้นเป็นพระจักรพรรดินีแทน แต่พระองค์ต้องการให้คณะเสนาบดีเห็นชอบกับรับสั่งในครั้งนี้ด้วย ถังเกาจงพร้อมด้วยพระสนมบูเช็กเทียนจึงได้เสด็จไปเยี่ยมบ้านของพระมาตุลาของพระจักรพรรดิถังเกาจง คือ (Zhangsun Wuji) มหาเสนาบดี ทั้งได้พระราชทานทรัพย์สมบัติให้แก่จ่างซุนอู๋จี้เป็นอันมาก และเมื่อพระถังเกาจงทรงนำเรื่องที่อดีตพระจักรพรรดินีหวังไม่มีพระราชโอรสธิดาให้แก่พระองค์มาเป็นข้ออ้างในการขับไล่พระนาง จ่างซุนอู๋จี้ก็บ่ายเบี่ยงที่จะตอบสนองพระราชดำรัสนั้น ต่อมามารดาของพระสนมบูเช็กเทียน สตรีสกุลหยาง พร้อมทั้ง (Xu Jingzong) ผู้เป็นฝ่ายเดียวกับพระสนมบูเช็กเทียนได้เยี่ยมจ่างซุนอู๋จี้อีกครั้งเพื่อขอให้เขาสนับสนุนการตัดสินพระทัยของพระจักรพรรดิถังเกาจง แต่ก็ยังไม่เป็นผล
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าพระจักรพรรดินีหวังหรือพระสนมบูเช็กเทียนเป็นผู้ทำร้ายพระราชธิดาพระองค์น้อย เนื่องจากไม่สามารถหาหลักฐานที่ชัดเจนมายืนยันได้ว่าพระราชธิดาสิ้นพระชนม์ด้วยสาเหตุใดแน่ มีความเป็นไปได้ว่าพระสนมบูเช็กเทียนอาจเป็นผู้สังหารพระราชธิดาของตัวเองแล้วใส่ร้ายพระจักรพรรดินีหวัง แต่ก็อาจเป็นไปได้เช่นกันว่าพระจักรพรรดินีหวังเป็นผู้สังหารพระราชธิดาเองเนื่องจากความอิจฉาริษยาที่พระจักรพรรดิถังเกาจงทรงโปรดปรานพระสนมบูเช็กเทียนมาก หรืออาจไม่มีผู้ใดเป็นผู้ทำร้ายพระราชธิดา แต่สิ้นพระชนม์จากสาเหตุธรรมชาติอื่น ๆ เช่น กลุ่มอาการทารกตายกะทันหัน (asphyxiation) จากการที่อาหารเป็นพิษ สำลักอาหาร เป็นต้น
ถอดพระยศพระจักรพรรดินีหวังและพระมเหสีเซียวซูเฟย
ช่วงฤดูร้อน ปี ค.ศ. 655 พระสนมบูเช็กเทียนได้ใส่ร้ายพระจักรพรรดินีหวังและ พระมารดาของพระจักรพรรดินี คือหลิวฮูหยินอีกครั้งว่าทั้งสองใช้คาถาอาคมไสยศาสตร์ พระจักรพรรดิถังเกาจงจึงมีรับสั่งห้ามมิให้หลิวฮูหยินเข้าวังอีกต่อไป และยังปลด หลิวซื่อ (Liu Shi) พระมาตุลาของพระมเหสีหวังด้วย ในขณะเดียวกันเหล่าข้าราชการในราชสำนักก็เริ่มเข้าเป็นพวกกับพระสนมบูเช็กเทียนมากขึ้น มีทั้ง (Xu Jingzong) (Li Yifu) (Cui Yixuan; จีน: 崔義玄; พินอิน: Cuī Yìxuán) และ (Yuan Gongyu; จีน: 袁公瑜; พินอิน: Yuán gōngyú)
เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงในปีนั้น พระจักรพรรดิถังเกาจงทรงเรียกประชุมเสนาบดี อันมีอัครมหาเสนาบดีจ่างซุนอู๋จี้ และเสนาบดี (Li Ji) (Yu Zhining) และ (Chu Suiliang) เข้าประชุม โดยฉู่ซุ่ยเหลียงคาดเดาไว้ว่าจะเป็นเรื่องการถอดพระอิสริยยศพระจักรพรรดินีหวัง หลี่จีปฏิเสธการเข้าร่วมโดยอ้างอาการป่วย ในที่ประชุม ฉู่ซุ่ยเหลียงนั้นทักท้วงการถอดพระอิสริยยศครั้งนี้อย่างรุนแรง ในขณะที่ฉางซุนอู๋จี้ และหยู๋จือหนิง นั้นไม่เห็นด้วยกับถังเกาจงด้วยการไม่แสดงความเห็น ในขณะเดียวกัน (Han Yuan) และ (Lai Ji) ต่างก็ไม่เห็นด้วยกับการถอดพระอิสริยยศนี้ ทำให้ถังเกาจงรับสั่งถามไปยังหลี่จีอีกครั้งหนึ่ง โดยหลี่จีตอบว่า "สิ่งนี้เป็นเรื่องในบ้านของพระองค์เอง ใยจึงถามบุคคลภายนอก" เมื่อได้ยินดังนั้น ถังเกาจงจึงได้ข้อสรุปที่จะทำตามพระประสงค์ของพระองค์เอง และทรงปลดเสนาบดีฉู่ซุ่ยเหลียงจากราชสำนัก ไปเป็นผู้ว่ามณฑลถั่น (ปัจจุบันคือบริเวณฉางชาในมณฑลหูหนาน) เมื่อทรงถอดพระยศพระจักรพรรดินีหวังลงเป็นสามัญชน ให้เรียกว่านางหวัง (王氏) พร้อมกันนี้ก็โปรดให้ถอดยศพระมเหสีเซียวซูเฟยลงเป็นนางเซียว (宵氏) แล้ว ทรงยังสั่งให้คุมขังทั้งสองคนไว้ แล้วมีพระราชโองการสั่งให้แต่งตั้งพระสนมบูเช็กเทียนขึ้นเป็นพระจักรพรรดินีแทน ภายหลังต่อมาพระจักรพรรดินีบูเช็กเทียนก็สั่งให้สังหารนางหวังและนางเซียวเสมือนถูกฆาตกรรมอย่างโหดร้ายและเงียบเชียบเนื่องจากทรงเห็นว่าถังเกาจงมีพระราชประสงค์ให้ปล่อยตัวนางทั้งสอง โดยต่อมาพระจักรพรรดินีบูเช็กเทียนก็ทรงฝันร้ายว่าถูกหลอกหลอนโดยนางทั้งสองอยู่หลายครั้ง
ขึ้นสู่ตำแหน่งพระอัครมเหสี
ต่อมาในช่วงปลายปี ค.ศ. 655 พระนางบูเช็กเทียนได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นพระอัครมเหสี หรือ หวงโฮ่ว (ตามสำเนียงจีนกลาง) หรือ (ตามสำเนียงฮกเกี้ยน)
แต่งตั้งรัชทายาทพระองค์ใหม่
ปี ค.ศ. 656 ด้วยคำแนะนำของสวี่จิงจง ถังเกาจงทรงถอดพระยศพระโอรสที่ประสูติจากพระสนมหลิว คือ เจ้าชายหลี่จง จากตำแหน่งรัชทายาทไปเป็นอ๋องแห่งเหลียง (Prince of Liang) แลัวแต่งตั้งให้หลี่หง พระโอรสอันเกิดจากพระจักรพรรดินีบูเช็กเทียนซึ่งในขณะนั้นดำรงพระยศเป็นต้ายอ๋อง (Prince of Dai) ขึ้นเป็นรัชทายาทแทน
เริ่มกำจัดเสนาบดีฝ่ายตรงข้าม
ในปี ค.ศ. 657 จักรพรรดินีบูเช็กเทียนพวกพ้องของพระนางในราชสำนักได้เริ่มตอบโต้กับเหล่าข้าราชการและเสนาบดีที่เคยต่อต้านเมื่อครั้งที่พระนางขึ้นสู่อำนาจ โดยทรงเริ่มจากให้สวี่จิงจงและหลี่อี้ฟู่ ผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเสนาบดีแล้วในเวลานั้น ใส่ร้ายกล่าวหาหานย่วนและไหลจี้ว่าคบคิดกับฉู่ซุ่ยเหลียงในการก่อกบฏ ทั้งสามคนนี้ รวมทั้งหลิวซื่อ ถูกลดตำแหน่งไปเป็นเจ้าเมืองในพื้นที่ห่างไกล ทั้งยังถูกห้ามไม่ให้กลับมายังเมืองหลวงฉางอานอีกต่อไป และในปี ค.ศ. 659 จักรพรรดินีบูเช็กเทียนรับสั่งให้สวี่จิงจงกล่าวหาจ่างซุนอู๋จี้ว่าวางแผนก่อการกบฏร่วมกับข้าราชการชั้นผู้น้อยชื่อ (Wei Jifang; จีน: 韋季方; พินอิน: Wéijìfāng) และ (Li Chao; จีน: 李巢; พินอิน: Lǐ cháo) ทำให้จ่างซุนอู๋จี้ถูกเนรเทศและต่อมาในปีเดียวกันถูกกดดันให้ฆ่าตัวตายในระหว่างที่ถูกเนรเทศนั้นในท้ายที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นซูจิงจงยังได้สร้างเรื่องเพื่อป้ายสีแก่ฉู่ซุ่ยเหลียง หลิวซื่อ หานย่วน หยูจือหนิง ทำให้ฉู่ซุ่ยเหลียงผู้ซี่งเสียชีวิตไปแล้วในปี ค.ศ. 658 ถูกยึดตำแหน่งทั้งหมดหลังจากเสียชีวิตแล้ว และทำให้บุตรชายทั้งสองของเขา คือ (Chu Yanfu; จีน: 褚彥甫; พินอิน: Chǔ yànfǔ) และ (Chu Yanchong; จีน: 褚彥沖; พินอิน: Chǔ yànchōng) ต้องถูกประหารด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นยังมีคำสั่งให้ประหารชีวิตหลิวซื่อ และหานย่วนด้วยเช่นกัน โดยหานย่วนนั้นได้เสียชีวิตลงก่อนที่คำสั่งประหารจะไปถึงเขา หลังจากเหตุการณ์เหล่านี้จึงไม่มีผู้ใดในราชสำนักกล้าต่อต้านและวิพากย์วิจารณ์จักรพรรดินีบูเช็กเทียนอีกต่อไป
การเนรเทศเจ้าชายหลี่จง
ในปี ค.ศ. 660 เจ้าชายหลี่จง (พระราชโอรสพระองค์แรกของจักรพรรดิถังเกาจงกับพระสนมหลิว) ทรงเกรงกลัวว่าพระองค์จะทรงเป็นเป้าหมายในการกำจัดเช่นเดียวกัน โดยพระนางบูเช็กเทียนได้ให้เนรเทศเจ้าชายออกจากราชสำนักและถูกกักบริเวณไว้
อาการพระประชวรของจักรพรรดิถังเกาจง
ในปี ค.ศ. 660 ถังเกาจงและจักรพรรดินีบูเช็กเทียนได้เสด็จไปยังเขตเปี้ยนโจว (จีน: 汴州; pinyin: Biànzhōu ปัจจุบันคือ เมืองไท่หยวน (จีน: 太原; พินอิน: Tàiyuán) เมืองหลวงของมณฑลซานซี) ซึ่งในครั้งนี้พระนางบูเช็กเทียนมีโอกาสได้เชิญเพื่อนบ้านและญาติพี่น้องเข้าร่วมงานฉลองของราชสำนักด้วย ปลายปีนั้นถังเกาจงทรงเริ่มมีอาการพระประชวรมากขึ้น โดยทรงมีอาการปวดพระเศียรอย่างหนักและสูญเสียการมองเห็นด้วย โดยคาดว่าเกิดจากโรคความดันสูง (hypertension-related) หากนักประวัติศาสตร์บางคนมีความเห็นว่าอาการพระประชวรนั้นเป็นผลจากการที่พระนางบูเช็กเทียนพยายามลอบวางยาพิษแก่จักรพรรดิถังเกาจงทีละน้อย ดังนั้นพระองค์จึงเริ่มให้จักรพรรดินีบูเช็กเทียนออกว่าราชการแทนมากขึ้น ทั้งนี้พระนางก็ได้แสดงความสามารถและสติปัญญาทั้งในด้านวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ รวมทั้งการบริหารราชการอย่างถูกต้อง จนพระนางสามารถรวบอำนาจของจักรพรรดิถังเกาจงมาได้ทั้งหมด
ความพยายามขับไล่จักรพรรดินีบูเช็กเทียน
กล่าวกันว่าในปี ค.ศ. 664 จักรพรรดินีบูเช็กเทียนได้เข้าแทรกแซงการบริหารราชการในราชสำนักมากขึ้นจนทำให้ถังเกาจงไม่พอพระทัย นอกจากนั้นพระนางยังได้ให้กัวสิงเจิน (Guo Xingzhen; จีน: 郭行真; พินอิน: Guōxíngzhēn) ผู้เป็นหมอผีลัทธิเต๋ามาทำพิธีคาถาอาคม ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามในราชสำนัก อันเคยเป็นสาเหตุให้อดีตพระอัครมเหสีหวังถูกปลดและขับไล่ออกจากราชสำนักไป ขันทีหวังฝูเซิ่ง (Wang Fusheng; จีน: 王伏勝; พินอิน: Wángfúshèng) จึงได้รายงานแก่พระจักรพรรดิถังเกาจงให้ทรงทราบ ยิ่งทำให้พระองค์ไม่พอพระทัยมากยิ่งขึ้น พระองค์จึงได้ปรึกษากับเสนาบดีซั่งกวนอี๋ (Shangguan Yi; จีน: 上官儀; พินอิน: Shàngguān Yí) ซึ่งได้แนะนำให้ถังเกาจงทรงปลดจักรพรรดินีบูเช็กเทียนและขับไล่จากราชสำนักเสีย พระองค์จึงมีรับสั่งให้ซั่งกวนอี๋ร่างพระบัญชาขึ้น ในขณะเดียวกันนั้นจักรพรรดินีบูเช็กเทียนก็ได้รับข่าวการขับไล่พระองค์ พระนางจึงเสด็จเข้าเฝ้าถังเกาจงเพื่ออ้อนวอนขอให้พระองค์พระราชทานอภัยโทษ ทำให้ถังเกาจงทรงพระทัยอ่อนลงและกล่าวหาว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะคำแนะนำจากซั่งกวนอี๋
เนื่องจากทั้งซั่งกวนอี๋ และหวังฝูเซิ่ง ต่างก็เป็นผู้ที่ทำงานให้กับเจ้าชายหลี่จง พระนางบูเช็กเทียนจึงสั่งให้สวี่จิงจงวางแผนใส่ร้ายบุคคลทั้งสาม คือ เจ้าชายหลี่จง ซั่งกวนอี๋ และหวังฝูเซิ่งว่าก่อการกบฏ ทำให้ซั่งกวนอี๋ หวังฝูเซิ่ง และบุตรชายของซั่งกวนอี๋ คือ (Shangguan Tingzhi; จีน: 上官庭芝; พินอิน: Shàngguān tíng zhī) ถูกลงโทษประหารชีวิต ในขณะที่เจ้าชายหลี่จงนั้นก็ถูกกดดันให้ทรงฆ่าตัวตายในเวลาต่อมา ส่วนภรรยาของซั่งกวนถิงจื้อและบุตรสาว คือ ซั่งกวนหว่านเอ๋อร์ (Shangguan Wan'er; จีน: 上官婉兒; พินอิน: Shàngguān wǎn er) ซึ่งขณะนั้นยังเป็นทารกอยู่ถูกจับมาเป็นทาสรับใช้ในราชสำนัก (ต่อมาเมื่อซั่งกวนหว่านเอ๋อร์โตขึ้น นางได้รับความไว้วางใจจนได้เป็นราชเลขาส่วนพระองค์ในพระนางบูเช็กเทียน ต่อมาเมื่อรัชทายาทหลี่เสียน ขึ้นครองราชย์สืบต่อมาเป็นจักรพรรดิถังจงจง ซั่งกวนหว่านเอ๋อร์จึงได้เป็นพระสนมในพระองค์)
หลังจากนั้น จักรพรรดินีบูเช็กเทียนทรงนั่งว่าราชการหลังม่านด้านหลังของจักรพรรดิถังเกาจง ทำให้ทั้งสองพระองค์นั้นได้รับการเรียกขานจากประชาชนว่า "2 ธีรราช" หรือ "ผู้วิเศษคู่" (Er Sheng หรือ "Two Holy Ones"; จีนตัวเต็ม: 二聖; พินอิน: Èr shèng) จักรพรรดิถังเกาจงมีพระราชโองการให้ออกพระนามพระองค์ในฐานะจักรพรรดิแห่งสวรรค์ (天皇) ส่วนจักรพรรดินีบูนั้นให้ออกพระนามในฐานะจักรพรรดินีแห่งสวรรค์ (天后) เช่นเดียวกัน
ความร้าวฉานในตระกูลอู่
ในช่วงเวลาที่จักรพรรดิบูเช็กเทียนสำเร็จราชการแทนพระองค์นั้น พระนางได้แต่งตั้งตำแหน่งต่าง ๆ ให้แก่ญาติของพระนางหลายคน เช่น ท่านหญิงหยาง (มารดาของจักรพรรดิบูเช็กเทียน) ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสุภาพสตรีแห่งหรง (Lady of Rong) และพี่สาวผู้เป็นหม้ายของพระนางก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสุภาพสตรีแห่งฮั่น (Lady of Han) ด้วย ส่วนพี่ชาย คือ และ พร้อมทั้งลูกพี่ลูกน้อง คือ อู่เว่ยเหลียง และ อู่ฮ่วยหยุน ซึ่งแม้ว่าจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยจะดีนักกับท่านหญิงหยาง แต่ต่างก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งด้วย อย่างไรก็ตาม ในงานเลี้ยงฉลองที่ท่านหญิงหยางจัดขึ้นให้แก่พวกเขาเพื่อฉลองการรับตำแหน่งใหม่ อู่เว่ยเหลียง แสดงอาการโกรธท่านหญิงหยางและกล่าวว่าพวกเขามิได้รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติในการได้รับตำแหน่งใหม่นี้จากจักรพรรดินีบูเช็กเทียนเลย จักรพรรดิบูเช็กเทียนจึงมีรับสั่งให้ลดตำแหน่งญาติเหล่านี้และขับไล่ไปยังพื้นที่กันดารห่างไกลเพื่อเป็นการแก้แค้นที่กระทำไม่ดีกับมารดาของพระนาง โดย อู่หยวนชิง และ อู่หยวนซวง เสียชีวิตในระหว่างการเนรเทศ
ในปี (หรือก่อนปี) ค.ศ. 666 พี่สาวหม้ายของจักรพรรดินีบูเช็กเทียน หรือสุภาพสตรีแห่งฮั่นได้เสียชีวิตลง ถังเกาจงจึงทรงแต่งตั้งให้บุตรีของนางจากสกุลเฮ่อหลัน เป็นสุภาพสตรีแห่งเว่ย (Lady of Wei) และอนุญาตให้พำนักอยู่ในราชสำนักต่อไปได้ (คาดว่าในฐานะนางสนม) แต่การแต่งตั้งนี้มิได้กระทำในทันทีหลังจากมารดาของนางเสียชีวิตลง ด้วยจักรพรรดิถังเกาจงทรงหวั่นเกรงว่าพระนางบูเช็กเทียนจักไม่พอพระทัย หากคาดว่าพระนางบูเช็กเทียนทรงทราบเรื่องนี้จึงวางอุบายใส่ยาพิษลงในอาหารที่นำมาถวายโดย อู่เว่ยเหลียง และ อู่ฮ่วยหยุน แก่สุภาพสตรีแห่งเว่ย แล้วใส่ร้ายความผิดให้แก่คนทั้งสอง ทำให้ อู่เว่ยเหลียง และ อู่ฮ่วยหยุน ถูกตัดสินโทษประหารชีวิตในเวลาต่อมา
มารดาของพระนางบูเช็กเทียนเสียชีวิต
ในปี ค.ศ. 670 มารดาของพระนางบูเช็กเทียน คือ ท่านหญิงหยาง ได้เสียชีวิตลง พระจักรพรรดิถังเกาจงจึงมีรับสั่งให้ข้าราชบริพารในราชสำนักและภริยาทุกคนเข้าร่วมพิธีเคารพศพของนาง ต่อมาในปีเดียวกันนั้น ราชอาณาจักรถูกภัยพิบัติจากความแห้งแล้งเป็นอย่างมาก จักรพรรดินีบูเช็กเทียนจึงขอให้ยกเลิกพิธีนั้นเสีย แต่จักรพรรดิทรงปฏิเสธและยังแต่งตั้งให้บิดาของพระนางคือ อู่ซื่อฮั่ว (ผู้ที่ได้รับยศหลังจากเสียชีวิตแล้วเป็นโจวกงหวัง (Duke of Zhou) ) และท่านหญิงหยาง มียศใหม่หลังจากเสียชีวิตแล้วเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งไท่หยวน (Prince and Princess of Taiyuan)
ความร้าวฉานในตระกูลอู่ครั้งใหม่
ต่อมาหลานของจักรพรรดินีบูเช็กเทียนผู้เป็นบุตรของพี่สาวหม้ายของพระองค์ คือ สุภาพสตรีแห่งฮั่น ชื่อ (Helan Minzhi; จีน: 賀蘭敏之; พินอิน: Hèlán mǐnzhī) ได้รับพระราชานุญาตให้ใช้สกุลอู่และสืบทอดตำแหน่งดยุกแห่งโจว แต่เป็นที่ชัดเจนว่าเฮ่อหลันหมิ่นจือนันกำลังสงสัยในตัวพระนางบูเช็กเทียนว่าเป็นผู้มีส่วนในการฆาตกรรมพี่สาวของเขา พระนางบูเช็กเทียนจึงได้เพิ่มความระมัดระวังในตัวเฮ่อหลันหมิ่นจือ นอกจากนั้นยังมีผู้กล่าวว่าเฮ่อหลันหมิ่นจือนั้นเคยมีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับยายของเขาเอง คือท่านหญิงหยางอีกด้วย
ในปี ค.ศ. 671 เฮ่อหลันหมิ่นจือถูกกล่าวหาว่าไม่ประพฤติตามกฎระเบียบการไว้ทุกข์ในระหว่างพิธีไว้ทุกข์ของท่านหญิงหยาง และยังถูกกล่าวหาว่าได้ข่มขืนบุตรีของข้าราชการที่ชื่อ (Yang Sijian; จีน: 楊思儉; พินอิน: Yángsījiǎn) ซึ่งเป็นสตรีที่จักรพรรดิถังเกาจงและจักรพรรดินีบูเช็กเทียนได้คัดเลือกให้เป็นชายาของเจ้าชายหลี่หงรัชทายาท เฮ่อหลันหมิ่นจือจึงได้รับโทษโดยการถูกเนรเทศ ซึ่งต่อมาเขาได้เสียชีวิตลงโดยมิอาจทราบได้แน่ชัดว่าเป็นการเสียชีวิตในระหว่างการเนรเทศหรือเป็นการฆ่าตัวตาย
ในปี ค.ศ. 674 จักรพรรดินีบูเช็กเทียนได้ทรงเรียก อู่ เฉิงซื่อ (Wu Chengsi; จีน: 武承嗣; พินอิน: Wǔ Chéngsì; เสียชีวิตเมือวันที่ 22 กรกฎาคม ค.ศ. 698) พระนัดดาของพระนางผู้เป็นบุตรของ อู่หยวนซวงกลับมาจากการถูกเนรเทศและให้รับตำแหน่งโจวกงหวังสืบต่อด้วย
ต่อต้านการขึ้นสู่ตำแหน่งผู้สำเร็จราชการ
ในปี ค.ศ. 675 พระอาการประชวรของถังเกาจงหนักขึ้น พระองค์จึงมีพระราชปรารภให้แต่งตั้งจักรพรรดินีบูเช็กเทียนเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ แต่เสนาบดี (Hao Chujun; จีน: 郝處俊; พินอิน: Hǎochùjùn; ค.ศ. 607–681) และข้าราชการชื่อ (Li Yiyan; จีน: 李義琰; พินอิน: Lǐyìyǎn; เสียชีวิตในปี ค.ศ. 688) คัดค้านพระองค์ในเรื่องนี้ ถังเกาจงจึงยังมิได้แต่งตั้งจักรพรรดินีบูเช็กเทียนเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
กำจัดคู่แข่งอย่างต่อเนื่อง
ต่อเนื่องในปี ค.ศ. 675 มีผู้คนจำนวนมากที่ตกเป็นเหยื่อของความกริ้วโกรธของจักรพรรดินีบูเช็กเทียน
พระปิตุจฉาของถังเกาจง คือ เจ้าหญิงฉางเล่อ (ภริยานายพล จ้าวกุย (Zhao Gui; จีน: 趙瓌; พินอิน: Zhào guī) และพระธิดาของพระองค์ได้เสกสมรสกับเจ้าชายหลี่เสียน หรือ อ๋องแห่งโจว (Prince of Zhou) พระโอรสองค์ที่สามในพระนางบูเช็กเทียน) ทรงไม่พอพระทัยในตัวจักรพรรดินีบูเช็กเทียนด้วยทรงเห็นว่าจักรพรรดิถังเกาจงทรงให้ความโปรดปรานในตัวพระนางเป็นอันมาก เจ้าหญิงจ้าว พระธิดาจึงถูกกล่าวหาด้วยข้อหาอาชญากรรมที่พระองค์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและถูกจับกุมในที่สุด ต่อมาเจ้าหญิงจ้าวได้สิ้นพระชนม์ด้วยอาการขาดอาหาร ส่วนนายพลจ้าวกุยและเจ้าหญิงฉางเล่อก็ถูกเนรเทศด้วย
ในปลายเดือนนั้นเอง เจ้าชายหลี่หงรัชทายาท ผู้พยายามร้องขอมิให้พระนางบูเช็กเทียนใช้อิทธิพลเหนือการบริหารราชการของถังเกาจง เพราะพระองค์ก็ทรงมีความคิดเช่นเดียวกับผู้คนในยุคสมัยเดียวกันว่าพระชนนีหรือพระนางบูเช็กเทียนนั้นเป็นเพียงอิสตรี จึงไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราชการแผ่นดินมากนัก โดยเฉพาะเมื่อพระนางบูเช็กเทียนผู้ซึ่งแทบจะทรงว่าราชการแทนถังเกาจงทั้งหมดอยู่แล้วนั้น เจ้าชายหลี่หงองค์รัชทายาทยิ่งมิอาจจะทรงรับได้ พระองค์จึงทรงกราบทูลแก่พระราชบิดา ถังเกาจง ว่าจะทรงวางแผนยึดอำนาจจากพระนางบูเช็กเทียน โดยให้ออกพระราชโองการข้อความว่าจักรพรรดินีบูเช็กเทียนทรงใส่ร้ายอดีตจักรพรรดินีหวัง และให้คืนศักดิ์ฐานะให้แก่อดีตจักรพรรดินีหวังและอดีตพระมเหสีเซียวผู้ล่วงลับไปแล้วอีกด้วย พร้อมกับทรงเรียกร้องให้ปล่อยตัวน้องสาวต่างมารดาของพระองค์ คือ เจ้าหญิงอี้หยาง (ธิดาในพระสนมเซียว) และซ่วนเฉิง ซึ่งขณะนั้นถูกกักบริเวณอยู่
นักประวัติศาสตร์เชื่อว่าพระนางบูเช็กเทียนเป็นผู้วางยาพิษแก่เจ้าชายหลี่หง ทำให้เจ้าชายหลี่เสียนได้รับแต่งตั้งเป็นอ๋องแห่งย่ง (Prince of Yong) และได้ขึ้นเป็นรัชทายาทแทน นอกจากนั้นเจ้าชายหลี่ซู่เจี๋ย พระโอรสอีกพระองค์หนึ่งของพระสนมเซียว และเจ้าชายหลี่ซ่างจิน (Li Shangjin; จีน: 李上金; พินอิน: Lǐshàngjīn) พระโอรสอีกพระองค์หนึ่งของถังเกาจง ทั้งสองพระองค์ก็ถูกพระนางบูเช็กเทียนใส่ร้ายว่าก่ออาชญากรรมและถูกปลดออกจากตำแหน่งในเวลาต่อมาด้วยเช่นกัน
การเนรเทศเจ้าชายหลี่เสียนพระราชโอรส
เจ้าชายหลี่เสียนนั้นทรงเป็นผู้มีพระปรีชาสามารถไม่ด้อยไปกว่าเจ้าชายหลี่หงพระเชษฐาธิราชเลย โดยเฉพาะในด้านอักษรศาสตร์ เช่น พระองค์ได้ทรงพระราชนิพนธ์พระราชพงศาวดารตั้งแต่ยุคบรรพกาลจนถึงราชวงศ์ฮั่นขึ้นมาชุดหนึ่งที่ยังคงได้รับการยอมรับจากวงการประวัติศาสตร์จีนในปัจจุบันว่ามีความน่าเชื่อถืออ้างอิงได้มากที่สุดฉบับหบึ่งทีเดียว จึงนับได้ว่าพระองค์ทรงเป็นนักปราชญ์พระองค์หนึ่ง หากแต่จุดจบของพระองค์ก็ไม่ต่างจากพระเชษฐาเท่าไรนัก เรื่องที่ปรากฏในบันทึกทางประวัติศาสตร์กล่าวว่า ในเวลาต่อมา ความสัมพันธ์ระหว่างจักรพรรดินีบูเช็กเทียนกับพระราชโอรส เจ้าชายหลี่เสียน นั้นไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากเจ้าชายหลี่เสียนทรงหวั่นเกรงพระทัยเมื่อทรงได้ยินข่าวลือว่าพระองค์เองมิได้เป็นพระโอรสของพระนางบูเช็กเทียน แต่กลับเป็นพระโอรสในสุภาพสตรีแห่งฮั่น พระขนิษฐาของพระนางบูเช็กเทียน เมื่อพระนางทรงทราบว่าเจ้าชายหลี่เสียนทรงเกิดความเกรงกลัวขึ้นจากข่าวลือนี้ พระนางทรงไม่พอพระทัยเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ (Ming Chongyan; จีน: 明崇儼) ผู้เป็นหมอดูหรือโหรคนโปรดซึ่งเป็นพระสหายที่ร่วมต่อสู้ในเกมช่วงชิงอำนาจ และเป็นกำลังสำคัญที่ทำให้พระนางบูเช็กเทียนขึ้นมากุมอำนาจในฐานะจักรพรรดินี (ผู้เคยกราบทูลแก่จักพรรดิเกาจงและจักรพรรดินีบูเช็กเทียนว่าเจ้าชายหลี่เสียนนั้นไม่เหมาะจะเป็นผู้สืบราชบัลลังก์) ได้ถูกลอบสังหารลงในปี ค.ศ. 679 พระนางบูเช็กเทียนก็ยื่งระแวงในตัวเจ้าชายหลี่เสียนมากขึ้นเนื่องจากทรงสงสัยว่าเจ้าชายจะเป็นต้นเหตุแห่งการลอบสังหารนี้
ต่อมาในปี ค.ศ. 680 ระหว่างที่เจ้าหน้าที่สืบสวน คือ (Xue Yuanchao; จีน: 薛元超; พินอิน: Xuēyuánchāo; 622 - 683), เผยเหยียน (Pei Yan; จีน: 裴炎; พินอิน: Péi yán) และ (Gao Zhizhou; จีน: 高智周; พินอิน: Gāozhì zhōu) สืบสวนเรื่องนี้นั้น ได้ค้นเจออาวุธจำนวนมากในวังของเจ้าชายหลี่เสียนรัชทายาท พระนางบูเช็กเทียนจึงมีพระราชโองการว่ารัชทายาทคิดก่อการกบฏและเป็นผู้สังหารหมิงฉงเอี่ยน จึงทรงให้ถอดถอนจากตำแหน่งรัชทายาทลงเป็นสามัญชน แล้วให้เนรเทศไปถึงเมืองเฉิงตู ดินแดนเสฉวนอันห่างไกล ภายหลังหลี่เสียนทรงกระทำอัตวินิบาตกรรมตัวเองโดยการผูกคอตายที่เมืองเฉิงตูนั้น ซึ่งมีเสียงเล่าลือดังขึ้นว่าพระนางบูเช็กเทียนจักรพรรดินีและพระมารดานั้นเป็นผู้พระราชทานแพรขาวให้แก่พระราชโอรส เพื่อบีบบังคับให้ผูกคอตายเอง
รัชทายาทพระองค์ใหม่
หลังจากการเนรเทศเจ้าชายหลี่เสียน (Li Xian; จีน: 李賢; พินอิน: Li Xián; ค.ศ. 653 - 684) เจ้าชายหลีเสี่ยน (Li Xian; จีน: 李顯; พินอิน: Lǐ xiǎn; 26 พฤศจิกายน ค.ศ. 656 - 3 กรกฎาคม ค.ศ. 710) ผู้ซึ่งภายหลังเปลี่ยนพระนามเป็น หลี่เจ๋อ (Li Zhe; จีน: 李哲; พินอิน: Lǐ zhé) ได้รับพระราชทานตำแหน่งเจ้าชายรัชทายาทแทนเจ้าชายหลี่เสียน แลภายหลังได้ทรงได้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์องค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์ถัง ทรงพระนามว่าจักรพรรดิถังจงจง (Emperor Zhongzong of Tang; จีน: 唐中宗; พินอิน: Tángzhōngzōng) ทรงครองราชย์ในระยะเวลาสั้น ๆ ในปี ค.ศ. 684 และอีกครั้งตังแต่ปี ค.ศ. 705 ถึงปี ค.ศ. 710
เจ้าหญิงไท่ผิง
ในปี ค.ศ. 681 เจ้าหญิงไท่ผิง (Princess Taiping; จีน: 太平公主; พินอิน: Tàipíng Gōngzhǔ แปลตามตัวอักษรว่า "เจ้าหญิงแห่งสันติสุข") พระขนิษฐาในเจ้าชายหลี่เจ๋อ หรือจักรพรรดิถังจงจง ได้อภิเษกสมรสกับ (Xue Shao; จีน: 薛紹; พินอิน: Xuē shào) บุตรของเจ้าหญิงเฉิงหยาง พระขนิษฐาของถังเกาจง
จักรพรรดินีบูเช็กเทียนนั้นเมื่อแรกทรงมีความประทับใจในเชื้อสายวงศ์ตระกูลของภริยาของพี่ชายเซวียเส้า คือ เซวียอี่ (Xue Yi; จีน: 薛顗; พินอิน: Xuē yǐ) มาก จนมีพระราชดำริให้พระเชษฐาของพระนางหย่าจากภริยาแล้วให้มาแต่งงานกับเซวียอี่แทน ต่อมาพระนางทรงยกเลิกความคิดนี้เมื่อทรงได้ทราบว่าเซวียอี่ผู้เป็นหลานสาวของอดีตเสนาบดี (Xiao Yu)
การสวรรคตของจักรพรรดิถังเกาจง
ในช่วงปลายรัชสมัยของจักรพรรดิถังเกาจง พระองค์และจักรพรรดินีบูเช็กเทียนทรงมักเสด็จพระราชดำเนินไปประทับที่เมืองหลวงทางตะวันออก คือ เมืองลกเอี๋ยง เป็นเวลานาน ทำให้พระองค์มักไม่ค่อยประทับที่อยู่ในเมืองฉางอานเท่าใดนัก
ปลายปี ค.ศ. 683 ถังเกาจงสิ้นพระชนม์ลงในขณะที่ประทับอยู่ในเมืองลกเอี๋ยง (Luoyang) เนื่องจากถังเกาจงนั้นเป็นผู้ที่มีสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรงนัก พระนางบูเช็กเทียนจึงเป็นผู้ดูแลการบริหารงานภารกิจของราชสำนักอยู่เบื้องหลังพระองค์ในช่วงเวลาตลอด 20 ปีที่พระองค์ทรงครองราชย์
เจ้าชายหลี่เจ๋อ (Li Zhe; จีน: 李哲; พินอิน: Lǐ zhé; ค.ศ. 656 - 710) หรือพระนามเดิม หลีเสี่ยน (จีน: 李顯; พินอิน: Lǐ xiǎn) ทรงขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิถังจงจง (Emperor Zhongzong of Tang; จีน: 唐中宗; พินอิน: Táng zhōng zōng) สืบต่อจากจักรพรรดิถังเกาจง แต่ผู้มีอำนาจในการบริหารราชการที่แท้จริงคือพระนางบูเช็กเทียนซึ่งทรงดำรงตำแหน่งอยู่ในฐานะ "พระพันปี" หรือ "หวงไท่โฮ่ว" ตามสำเนียงกลาง หรือ "ฮองไทเฮา" ตามสำเนียงฮกเกี้ยน (empress dowager; จีน: 皇太后; พินอิน: húangtàihòu) และผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน
พระพันปีหรือฮองไทเฮาและผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน
หลังจากที่พระสวามี จักรพรรดิถังเกาจงสวรรคตลง พระนางบูเช็กเทียนทรงดำรงตำแหน่งพระพันปี (หรือฮองไทเฮา) และยังเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน พระนางได้มีรับสั้งให้วางยาพิษเจ้าชายหลี่หง (Li Hong; จีน: 李弘; พินอิน: Lǐ hóng; ค.ศ. 652 - 25 พฤษภาคม ค.ศ. 675) และทรงให้เนรเทศพระราชโอรสองค์อื่น ๆ เพื่อให้พระโอรสองค์ที่สามของพระนาง คือ เจ้าชายหลี่เจ๋อ ได้เป็นรัชทายาทแทน นอกจากนี้พินัยกรรมของถังเกาจงยังได้ระบุไว้ให้พระโอรสคือเจ้าชายหลี่เจ๋อเป็นผู้สืบทอดพระราชบังลังก์ต่อจากพระองค์ โดยให้มีพระนางบูเช็กเทียนเป็นที่ปรึกษาของพระองค์ในราชการสำคัญต่าง ๆ ทั้งด้านการทหารและกิจการพลเรือน
รัชสมัยของจักรพรรดิถังจงจง
ในเดือนที่สองของปี ค.ศ. 684 เจ้าชายหลี่เจ๋อ รัชทายาทและพระราชโอรสในจักรพรรดินีบูเช็กเทียนทรงขึ้นครองราชย์ ออกพระนามว่า จักรพรรดิถังจงจง ด้วยเวลาที่ทรงครองราชย์เพียง 6 สัปดาห์เท่านั้น (ข้อมูลบางแหล่งแจ้งว่าทรงครองราชย์นานน้อยกว่า 1 ปี)
หลังการขึ้นครองราชย์จักรพรรดิจงจงทรงแสดงออกถึงการไม่เชื่อฟังพระนางบูเช็กเทียนในทันที ด้วยทรงเชื่อพระมเหสีของพระองค์ คือ จักรพรรดินีเหวย (empress Wei) เป็นอย่างมาก และยังแต่งตั้งให้พระสัสสุระ (พ่อตา) (Wei Xuanzhen; จีนตัวเต็ม: 韋玄貞; พินอิน: Wéixuánzhēn) เป็นอัครมหาเสนาบดี (หรือเทียบเท่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปัจจุบัน) นอกจากนั้นพระองค์ยังมีความพยายามแต่งตั้งให้พระสัสสุระของพระองค์เป็น (Shizhong; จีนตัวเต็ม: 侍中; พินอิน: Shì zhōng) ซึ่งเป็นตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานตรวจสอบของราชสำนัก หรือ เหมินเซี่ยเสิ่ง (the examination bureau of government หรือ Menxia Sheng; จีนตัวเต็ม: 門下省; พินอิน: Ménxià shěng) และแต่งตั้งให้บุตรชายของแม่นมของพระองค์เป็นข้าราชการในระดับกลาง แม้ว่าเผยเหยี่ยน (Pei Yan) จะคัดค้านอย่างรุนแรงก็ตาม และจนถึงจุดหนึ่งที่พระองค์มีพระราชดำรัสกับเผยเหยี่ยนไปว่า
จะผิดอะไรแม้ว่าข้าจะให้อาณาจักรทั้งหมดแก่เหวยเสวียนเจิน อย่างนั้นแล้วท่านจะสนใจอะไรกับตำแหน่งซื่อจงล่ะ
เผยหยานจึงได้ถวายรายงานแก่พระนางบูเช็กเทียน ซึ่งขณะนั้นมีพระอิสริยยศเป็นพระพันปี ทำให้พระพันปีบูเช็กเทียนทรงวางแผนกับเผยหยาน (Liu Yizh; จีน: 劉禕之; พินอิน: Liú yī zhī) และเหล่านายพล คือ (Cheng Wuting; จีน: 程務挺; พินอิน: Chéng wùtǐng) และจางเฉียนซวี่ (Zhang Qianxu; จีน: 張虔勖; พินอิน: Zhāng qián xù) ปลดพระองค์ออกจากตำแหน่งและให้พระโอรสองค์สุดท้องของพระนาง คือเจ้าชายหลี่ตั้น (Li Dan หรือ Prince of Yu; จีน: 李旦; พินอิน: Lǐ dàn) ขึ้นครองราชย์แทน โดยออกพระนามว่าจักรพรรดิถังรุ่ยจง (จีน: 唐睿宗 ค.ศ. 662 - 716)
พระพันปีบูเช็กเทียนทรงตั้งข้อหาแก่พระสัสสุระของจักพรรดิจงจงว่าคิดก่อการกบฏโดยให้จับกุมชังไว้ ส่วนพระจักรพรรดิจงจงนั้น ทรงลดตำแหน่งของพระองค์เหลื่อเป็นเพียงอ๋องแห่งลู่หลิง (Prince of Luling) พร้อมทั้งให้ถูกเนรเทศออกไป ในขณะเดียวกันนั้นพระพันปีบูเช็กเทียนยังได้ส่งนายพล (Qiu Shenji; จีน: 丘神勣; พินอิน: Qiū shénjī) ไปยังวังของเจ้าชายหลี่เสียน (Li Xián) ที่อยู่ในระหว่างการเนรเทศและพระราชทานผ้าแพรสีขาวเพื่อให้ทรงทำอัตวินิบาตกรรม (ฆ่าตัวตาย)
การขึ้นสู่อำนาจเต็ม
รัชสมัยจักรพรรดิถังรุ่ยจง
แม้ว่าพระโอรสองค์สุดท้ายของพระพันปีบูเช็กเทียน เจ้าชายหลี่ตั้น จะทรงขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิถังรุ่ยจงแล้วก็ตาม พระนางบูเช็กเทียนก็ยังเป็นผู้บริหารราชการที่แท้จริงทั้งในด้านสาระการทำงานและภาพลักษณ์ที่ปรากฏ พระนางมิได้ปรารถนาจะดำเนินตามขนบธรรมเนียมดั้งเดิมที่จะต้องบริหารงานผ่านหลังม่านโดยการกระซิบบอกกล่าวแก่ผู้ปกครองพระองค์จริงที่จะเป็นผู้มีพระราชดำรัสแจ้งแก่คณะขุนนางอย่างเป็นทางการต่อ จักรพรรดิรุ่ยจงทรงมิเคยได้เสด็จประทับในเขตที่ประทับของจักรพรรดิ (imperial quarters) หรือปรากฏกายในงานพระราชพิธีของราชสำนักแม้แต่น้อย แต่กลับถูกกักบริเวณอยู่เพียงที่ประทับฝ่ายในเท่านั้น ข้าราชการในราชสำนักมิเคยได้รับพระราชานุญาตให้เข้าเฝ้าจักรพรรดิรุ่ยจงเลยแม้แต่น้อย และพระองค์ก็ไม่ได้รับราชานุญาตจากพระนางบูเช็กเทียนให้ว่าราชการใด ๆ เนื่องจากพระนางเป็นผู้บริหารราชการต่าง ๆ ด้วยพระองค์เองทั้งสิ้น นอกจากนั้นด้วยคำแนะนำของพระราชนัดดาของพระนาง คือ อู่เฉิงซื่อ (Wu Chengsi; จีน: 武承嗣; พินอิน: Wǔ Chéngsì) พระนางจึงบูชาบรรพบุรุษโดยทรงยกย่องเกียรติภูมิของตระกูลอู่ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของพระนางให้สูงส่งมากขึ้น
ในปี ค.ศ. 686 พระพันปีบูเช็กเทียนได้เสนอที่จะคืนพระราชอำนาจในการบริหารราชการให้แก่สมเด็จพระจักรพรรดิรุ่ยจง แต่จักรพรรดิรุ่ยจงทรงทราบดีว่าพระนางมิได้มีพระราชประสงค์เช่นนั้นโดยแท้ พระองค์จึงทรงปฏิเสธพระพันปีบูเช็กเทียนไป พระนางจึงบริหารราชการแผ่นดินต่อไปแม้ว่าจะทรงอยู่ในฐานะพระพันปี
ในปี ค.ศ. 690 พระนางบูเช็กเทียนทรงบังคับให้จักรพรรดิรุ่ยจงสละราชบัลลังก์ให้แก่พระนางและตั้งเป็นราชวงศ์ใหม่ คือ ราชวงศ์อู่โจว โดยพระนางบูเช็กเทียนทรงเป็นผู้ครองราชบัลลังก์เองในฐานะกษัตริย์ (ฮ่องเต้ หรือ หวงตี้)
ช่วงต้นของการขึ้นครองราชย์ของกรพรรดินีบูเช็กเทียนนั้น เริ่มต้นด้วยความหวั่นกลัวของเหล่าข้าราชการในหน่วยสืบสวนลับที่ทรงตั้งขึ้นในระยะเวลาหลายปี อย่างไรก็ตามพระนางก็ได้รับการยอมรับและยกย่องจากนักประวัติศาสตร์ที่ชื่นชอบพระองค์ว่าเป็นผู้ปกครองที่บริหารราชการด้วยพระปรีชาสามารถและเอาใจใส่ในการบริหารราชการ นอกจากนั้นพระนางยังทรงได้รับการยกย่องในเรื่องการจัดระบบการคัดเลือกข้าราชการที่มีความรู้ความสามารถเพื่อเข้ารับราชการในราชสำนัก (การสอบจอหงวน) ในตลอดช่วงเวลาของราชวงศ์ถังและส่งผลในราชวงศ์ต่อมาอีกหลายราชวงศ์
15 ปี ต่อมา ในปี ค.ศ. 705 พระนางบูเช็กเทียนทรงถูกทำรัฐประหารโดยอดีตจักรพรรดิถังจงจง หลังการทำรัฐประหารสำเร็จพระองค์ทรงขึ้นครองราชบัลลังก์อีกครั้ง หากพระนางบูเช็กเทียนก็ยังคงใช้พระอิสริยยศ "จักรพรรดิ" หรือ "หวงตี้" หรือ "emperor" ต่อจนกระทั่งสวรรคตในปีเดียวกันนั้นเอง
การจลาจลในปี ค.ศ. 684
ไม่นานหลังจากนั้น หลี่จิ้งเย่ (จีน: 李敬業; พินอิน: Lǐ jìngyè) หรือผู้มีตำแหน่งเป็นอิงเจินอู่กง (英貞武公) ผู้เป็นหลานชายของหลี่ซื่อจี (Li Shiji; จีน: 李世勣; พินอิน: Lǐshìjī) ซึ่งเขาไม่พอใจที่ตนเองถูกเนรเทศจึงเริ่มก่อการกบฏขึ้นที่หยางโจว (จีน: 揚州; พินอิน: Yángzhōu, หรือในปัจจุบัยคือเมืองหยางโจว ในมณฑลเจียงซู) ในช่วงแรกนั้นได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างมากจากผู้คนในถิ่นนั้น แต่หลี่จิ่งเย่ดำเนินการไปอย่างเชื่องช้า และยังมิได้ใช้ประโยชน์จากมวลชนที่สนับสนุนการกบฏนี้นัก ในขณะเดียวกันนั้นเผยหยานได้กราบทุลเสนอให้พระนางบูเช็กเทียนคืนอำนาจในราชสำนักให้แก่จักรพรรดิรุ่ยจงเสีย โดยกล่าวว่าการกระทำเช่นนี้จะทำให้การก่อการกบฏนั้นยุติลงไปได้เอง ซึ่งสิ่งที่เผยหยานกล่าวมานั้นทำให้พระนางไม่พอพระทัยเป็นอันมาก พระนางจึงตั้งข้อกล่าวหาแก่เผยหยานว่ามีส่วนร่วมรู้เป็นกับหลี่จิ่งเย่และสั่งประหารชีวิตเผยหยานทันที นอกจากนั้นพระนางยังทรงสั่งปลด เนรเทศ และประหารชีวิตเจ้าหน้าที่ที่พยายามแก้ต่างให้แก่เผยหยานอีกด้วย ต่อจากนั้นพระนางได้ส่งหลี่เสี้ยวอี้ (Li Xiaoyi; จีน:李孝逸; พินอิน: Lǐxiàoyì) ไปโจมตีหลี่จิ่งเย่ ซึ่งในครั้งแรกนั้นหลี่เสี้ยวอี้ดำเนินการไม่สำเร็จ จึงให้ผู้ช่วยของเขาคือ (Wei Yuanzhong; จีน: 魏元忠; พินอิน: Wèi yuánzhōng) เข้าโจมตีจนสำเร็จในที่สุด ส่วนหลี่จิ่งเย่นั้นถูกสังหารในระหว่างการต่อสู้นี้เอง
ความสัมพันธ์กับหวายอี้
ในปี ค.ศ. 685 พระจักรพรรดินีบูเช็กเทียนเริ่มมีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับภิกษุหวายอี้ (Huaiyi; จีน: 懷義; พินอิน: Huái yì; เสียชีวิตวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ. 694) หรือ เซวียหวายอี้ (Xue Huaiyi; จีน: 薛懷義; พินอิน: Xuē huáiyì) ทำให้ในช่วงเวลาหลายปีถัดมานั้นหวายอี้ได้รับความก้าวหน้ามากขึ้นเรื่อย ๆ
หน่วยตำรวจสืบค้นข้อมูลลับ
นับตั้งแต่หลี่จิ่งเย่ได้ก่อการกบฏขึ้นนั้น พระนางบูเช็กเทียนมีความหวาดระแวงอยู่เสมอ ไม่ไว้วางพระทัยไม่ว่าจะเป็นราชนิกูล เสนาบดี และเหล่าข้าราชการต่าง ๆ พระนางจึงใช้พระราชอำนาจกำจัดบุคคลที่ทรงไม่ไว้วางใจเหล่านั้นด้วยความเด็ดขาดและเหี้ยมโหด
ในปี ค.ศ. 686 ได้มีการออกแบบประดิษฐ์กล่องทองแดงสำหรับเก็บจดหมายที่ประชาชนส่งเข้ามาแจ้งเรื่องที่เปิดโปงความลับต่าง ๆ กล่องนี้ถูกออกแบบขึ้นโดยชายผู้หนึ่ง ชื่อ อวี๋เป่าเจีย กล่องทองแดงนี้ถูกออกแบบให้มีช่องจำนวน 4 ช่อง สำหรับแยกเก็บจดหมายเปิดโปงความลับในด้านต่าง ๆ โดยเมื่อมีผู้ใส่จดหมายลงในกล่องนี้แล้วจะไม่สามารถหยิบออกได้อีก พระนางทรงพอพระทัยมากและให้จัดทำกล่องทองแดงนี้ว่างไว้ตามประตูพระราชวัง รวมทั้งในราชสำนัก เนื่องจากพระนางมีความหวาดระแวงว่าเหล่าเสนาบดีและข้าราชการจะคิดต่อต้านพระนาง
สำหรับผู้ที่ส่งจดหมายเปิดโปงความลับ หากเรื่องที่แจ้งเป็นเรื่องจริงผู้ที่แจ้งจะได้รับรางวัลเพื่อเป็นการตอบแทน แต่ผู้ที่แจ้งเรื่องที่เป็นความเท็จแล้วก็จะไม่ได้รับโทษใด ๆ นอกจากนั้นบางครั้งพระนางบูเช็กเทียนยังรับสั่งเรียกให้ผู้ที่แจ้งเรื่องเข้ามานั้นมาเข้าเฝ้ามามอบตำแหน่งและเลื่อนขั้นให้กับบุคคลเหล่านี้ด้วย ทำให้กระแสการเปิดโปงความลับแพร่หลายออกไปอย่างกว้างขวาง
สาเหตุจากความหวาดระแวงของพระนางบูเช็กเทียนนี้ ทำให้หน่วยสืบสวนลับ ซึ่งประกอบด้วยข้าราชการชั้นผู้น้อยอย่าง (Suo Yuanli; จีนตัวเต็ม: 索元禮; จีนตัวย่อ: 索元礼; พินอิน: Sǔo Yuánlǐ) (Zhou Xing; จีน: 周興; พินอิน: Zhōu xìng) และ (Lai Junchen; จีน: 來俊臣; พินอิน: Lái jùnchén) มีอำนาจในการดำเนินการมากขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงมีการตั้งข้อกล่าวหาอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะการยัดเยียดข้อกล่าวหา ตั้งคดีที่ไม่เป็นธรรม ใส่ร้ายคนดี จึงได้เลื่อนขั้นขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งยังซื้อตัวอันธพาลไว้ใช้งานเป็นจำนวนมาก เพื่อการเปิดโปงโดยเฉพาะ ทั้งยังสร้างหลักฐานเท็จในการใส่ร้ายป้ายสี ทรมาน และประหารชีวิตอย่างเป็นระบบ
กำจัดคู่แข่งที่เป็นที่ต้องสงสัย
ในปี ค.ศ. 688 พระนางบูเช็กเทียนทรงยอมที่จะเสีย (Luo River; จีน: 洛水; พินอิน: Luò shuǐ; เป็นแม่น้ำที่ไหลผ่านเมืองลกเอี๋ยงในมณฑลเหอหนาน หรือที่เรียกว่าเป็นเมืองหลวงแห่งตะวันออก) พระนางบูเช็กเทียนทรงเรียกประชุมเชื้อพระวงศ์อาวุโสของราชวงศ์ถังซึ่งอยู่ในตระกูลหลี่ในเมืองลั่วหยาง ทำให้เจ้าชายและเชื้อพระวงศ์เหล่านั้นต่างวิตกกังวลว่าจะเป็นแผนลวงในการลอบสังหารพวกตนเพื่อปกป้องพระราชบัลลังก์ของพระนาง พวกเขาจึงวางแผนต่อต้านพระนางบูเช็กเทียน อย่างไรก็ตามก่อนที่จะมีการวางแผนการทำรัฐประหารอย่างรัดกุมนั้น หลี่เจิน (Li Zhen; จีน: 李貞; พินอิน: Lǐ zhēn; ค.ศ. 627 - 12 ตุลาคม ค.ศ. 688) หรือเดิมคือ เจ้าชายจิ้งแห่งเยว่ หรือ (Prince Jing of Yue; จีน: 越敬王; พินอิน: Yuè jìng wáng) และบุตรชายของเขา หลี่ชง (Li Chong; จีน: 李沖; พินอิน: Lǐ chōng; เสียชีวิต 22 กันยายน ค.ศ. 688) หรือเดิมคือ อ๋องแห่งหลังเสีย (Prince of Langxie; จีน: 琅邪王; พินอิน: Láng xié wáng) ได้ลุกขึ้นมาต่อต้านเสียก่อน โดยใช้ฐานอยู่ในบริเวณยวี่โจว (Yu Prefecture; จีน: 豫州; พินอิน: Yùzhōu, ในปัจจุบันคือเมืองจู้หม่าเตี้ยน (Zhumadian; จีน: 驻马店; พินอิน: Zhùmǎdiàn) ในมณฑลเหอหนาน) และบริเวณป๋อโจว (Bo Prefecture; จีน: 博州; พินอิน: Bó zhōu, ในปัจจุบันคือ , มณฑลซานตง) ในขณะที่เจ้าชายราชวงศ์ถังคนอื่น ๆ ยังไม่พร้อม ทำให้หลี่เจินและหลี่ชงถูกกองกำลังของพระนางบูเช็กเทียนและกองกำลังพื้นเมืองโจมตีได้โดยสำเร็จอย่างรวดเร็ว พระนางบูเช็กเทียนจึงใช้โอกาสนี้จับกุมหลานชายของถังเกาจง ห (Li Yuanjia; จีน: 李元嘉; พินอิน: Lǐ yuánjiā) หรืออ๋องแห่งฮั่น และ (Li Lingkui; จีน: 李靈夔; พินอิน: Lǐ líng kuí) หรืออ๋องแห่งหลู และเจ้าชายฉางเล่อ รวมถึงเชื้อพระวงศ์คนอื่น ๆ ในราชวงศ์ถังผู้สืบเชื้อสายตระกูลหลี่ได้ถูกบังคับให้ทำอัตนิบากกรรมไปทั้งสิ้น แม้แต่เซวียเส้าพระสวามีของเจ้าหญิงไท่ผิงซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยก็ถูกทรมานด้วยการอดอาหารและเสียชีวิตในที่สุด ต่อมาอีกหลายปีก็ยังมีแรงจูงใจทางการเมืองที่ทำให้เกิดการสังหารเหล่าสมาชิกเชื้อพระวงศ์ตระกูลหลี่อยู่อย่างต่อเนื่อง
พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์โจว
ในปี ค.ศ. 690 ขณะที่พระนางบูเช็กเทียนมีพระชนมายุได้ 67 พรรษา พระนางได้ทรงดำเนินการขั้นสุดท้ายในการขึ้นครองราชย์เป็น "หวงตี้" พร้อมทั้งแผนการตั้งราชวงศ์ใหม่คือราชวงศ์โจว เนื่องจากจีนในสมัยนั้นไม่อนุญาตให้ผู้หญิงในราชบัลลังก์ (คล้ายกับกฎหมายแซลิกในประเทศทางยุโรป) แต่พระนางบูเช็กเทียนนั้นทรงตั้งใจที่จะล้มล้างประเพณีนี้ นอกจากนั้นการใช้วิธีสืบสวนลับก็ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ระบบการรับข้าราชการพลเรือนในยุคของพระนางนั้นมีความบกพร่องและหละหลวมมากในการเลื่อนขั้นและปรับตำแหน่ง อย่างไรก็ตามพระนางบูเช็กเทียนนั้นถือว่ามีความสามารถในการประเมิณความสามารถของเหล่าขุนนางและข้าราชการได้เป็นอย่างดีเมื่อบุคคลเหล่านี้ได้เข้ามารับใช้พระองค์ ดังที่ (Sima Guang; จีนตัวย่อ: 司马光; จีนตัวเต็ม: 司馬光; พินอิน: Sīmǎ Guāng; ค.ศ. 1019 - 1086) นักประวัติศาสตร์ในยุคราชวงศ์ซ่งได้ระบุไว้ในหนังสือจือจื้อทงเจี้ยน (Zizhi Tongjian หรือ Tzu-chih Tung-chien; จีนตัวย่อ: 资治通鉴; จีนตัวเต็ม: 資治通鑑; พินอิน: Zīzhì Tōngjiàn; แปลตามตัวอักษรว่า "กระจกที่ครอบคลุมเพื่อช่วยร้ฐบาล (Comprehensive Mirror to Aid in Government) ") ที่เขาเขียนไว้ โดยมีข้อความว่า
แม้ว่าพระพันปีหรือฮองไทเฮา จะทรงใช้ยศฐาบรรดาศักดิ์และตำแหน่งทางราชการเพื่อให้เหล่าเชื้อพระวงศ์ ขุนนาง ข้าราชการ ยอมเป็นพวกรับใช้ให้กับพระนาง แต่หากพระนางเห็นบุคคลใดไร้ความสามารถจะทรงสั่งปลดหรือแม้กระทั่งประหารชีวิตโดยทันที พระนางทรงรักษาไว้ซึ่งอำนาจในการควบคุมราชสำนักและอาณาจักรด้วยการให้รางวัลและบทลงโทษไปพร้อม ๆ กัน ทั้งยังใช้วิจารณญาณของพระนางเองในการตัดสินใจและกำหนดนโยบายต่าง ๆ ด้วยการสังเกตและตัดสินอย่างรอบคอบ ดังนั้นข้าราชการผู้มีความสามารถจึงยอมเป็นข้ารับใช้พระนางอย่างเต็มใจ
ขุนนางคนใกล้ชิดของพระนางบูเช็กเทียนถวายคัมภรีร์ต้าอวิ๋นจิง ให้แก่พระนางและกล่าวว่าพระนางบูเช็กเทียนทรงเป็นพระศรีอริยเมตไตรยมาประสูติ จึงควรที่จะได้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน ต่อมาฟูโหยวอี้ ขุนนางตำแหน่งซื่ออวี้สื่อ พาผู้คนจำนวน 900 คนมาเสนอเปลี่ยนราชวงศ์จากชื่อราชวงศ์ถังเป็นราชวงศ์โจว ในครั้งแรกพระนางบูเช็กเทียนทรงทำทีไม่อนุญาต แต่ก็ตอบแทนแก่ฟูโหยวอี้โดยการเลื่อนตำแหน่งให้แก่เขา หลังจากนั้นจึงมีเชื้อพระวงศ์ ขุนนาง ข้าราชการในราชสำนัก และประชาชนจำนวนกว่า 60,000 คน พากันมาขอให้พระนางทรงเปลี่ยนราชวงศ์อีกครั้งหนึ่ง ในวันที่ เดือน พระนางบูเช็กเทียนจึงประกาศให้เปลี่ยนจากราชวงศ์ถังมาเป็นราชวงศ์โจว และจัดพระราชพิธีสถาปนาราชวงศ์ใหม่อย่างยิ่งใหญ่ ให้ตั้งเมืองลั่วหยางเป็นเมืองหลวง และเมืองฉางอานเป็นเมืองหลวงรอง รวมทั้งยกย่องบรรพบุรุษตระกูลอู่ (หรือบู ในสำเนียงฮกเกี้ยน) ของพระนางเป็นตระกูลแห่งจักรพรรดิ
เส้นทางการขึ้นสู่พระราชอำนาจและราชบัลลังก์ของจักรพรรดินีบูเช็กเทียนเพื่อเป็นกษัตริย์หญิงพระองค์แรกและพระองค์เดียวแห่งแผ่นดินจีนนั้น ผ่านอุปสรรคขวากหนามและทั้งยังเต็มไปด้วยเล่ห์กลอุบาย การใส่ร้ายป้ายสี ลอบทำร้าย ลอบสังหารอยู่หลายครา ก่อนที่พระนางจะสามารถสถาปนาราชวงศ์โจวของพระองค์ได้ เรื่องราวประวัติศาสตร์นี้ (Lin YuTang) นักประพันธ์ชื่อดังของจีน ได้ระบุไว้ในหนังสือ ประวัติบูเช็กเทียน ถึงสถิติการวางแผนการสังหารบุคคลที่ขัดขวางเส้นทางของพระนางว่า ทรงสังหารลูก หลาน และเชื้อพระวงศ์ที่ใกล้ชิดรวม 23 พระองค์ สังหารเจ้าชายในรางวงศ์ถังแซ่หลี่ 50 พระองค์ เสนาบดีและขุนผลฝีมือดีอีก 36 คน รวมทั้งหมด 109 คน
ช่วงต้นของการครองราชย์
หลังจากที่พระนางบูเช็กเทียนทรงขึ้นครองราชย์เพื่อปกครองและบริหารราชการอย่างเต็มอำนาจในฐานะกษัตริย์ด้วยพระองค์เองแล้ว ทรงได้พัฒนาพระพุทธศาสนาขึ้นเหนือลัทธิเต๋า ทรงสนับสนุนพระพุทธศาสนาอย่างเป็นทางการโดยการสร้าง หรือวัดเมฆใหญ่ (Dayun Temple; จีน: 大雲寺; พินอิน: Dà yúnsì) ขึ้นในแต่ละจังหวัดที่อยู่ภายใต้อาณาเขตของเมืองหลวงทั้งสองแห่งคือ เมืองลกเอี๋ยงและเมืองฉางอาน รวมถึงแต่งตั้งตำแหน่งพระภิกษุอาวุโสรวม 9 ตำแหน่ง และพระนางยังทรงตั้งแท่นบูชาบรรพบุรุษเจ็ดชั้นไว้ในวัดหลวง แต่พระนางก็ยังคงปฏิบัติพิธีบวงสรวงอดีตจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ถังทั้งสามพระองค์ คือ จักรพรรดิถังเกาจู่ จักรพรรดิถังไท่จง จักรพรรดิถังเกาจงเช่นเดิม
หากแต่พระนางบูเช็กเทียนก็ประสบปัญหาเรื่องผู้สืบทอดตำแหน่งรัชทายาท ในช่วงที่ต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งราชบัลลังก์นั้น พระนางแต่งตั้งเจ้าชายหลี่ตั้น (อดีตจักรพรรดิถังรุ่ยจง) ให้เป็นรัชทายาท และให้เปลี่ยนพระนามเป็นแซ่อู่ด้วย อย่างไรก็ตาม (Zhang Jiafu; จีน: 張嘉福; พินอิน: Zhāngjiāfú) ได้เกลี้ยกล่อม (Wang Qingzhi; จีน: 王慶之; พินอิน: Wáng qìngzhī) ให้ยื่นฏีกาเสนอให้เจ้าชาย อู่เฉิงซื่อ (Wu Chengsi; จีน: 武承嗣; พินอิน: Wǔ Chéngsì) ผู้เป็นพระนัดดาของพระนางบูเช็กเทียนขึ้นเป็นเจ้าชายรัชทายาทแทน โดยให้เหตุผลว่าพระจักรพรรดินีมีพระนามแซ่อู่ ดังนั้นผู้สืบทอดราชบัลลังก์จึงควรเป็นผู้ที่อยู่ในตระกูลอู่จึงจะมีความเหมาะสมกว่า พระนางได้ทรงทราบและเห็นด้วยหากแต่เสนาบดี (Cen Zhangqian; จีน: 岑長倩; พินอิน: Cén zhǎngqiàn) และ (Ge Fuyuan; จีน: 格輔元; พินอิน: Gé fǔyuán) แสดงความเห็นคัดค้านเรื่องนี้อย่างรุนแรง พวกเขาทั้งสองรวมทั้งพวกอีกหนึ่งคน คือเสนาบดีโอวหยางทง (; จีน: 歐陽通; พินอิน: Ōuyáng tōng) จึงถูกลงโทษประหารชีวิตทั้งหมด ในที่สุดพระนางบูเช็กเทียนก็มิได้ทำตามคำเสนอแนะที่จะแต่งตั้งให้อู่เฉิงซื่อเป็นรัชทายาท แต่ทรงอนุญาตให้หวังชิ่งจรือสามารถเข้าออกพระราชวังเพื่อเข้าพระนางได้อย่างอิสระ โดยมีช่วงหนึ่งที่พระนางบูเช็กเทียนทรงไม่พอพระทัยหวังชิ่งจรือซึ่งเข้าออกพระราชวังบ่อยเกินไป พระนางจึงมีรับสั่งให้ (Li Zhaode; จีน: 李昭德; พินอิน: Lǐzhāodé) สั่งสอนหวังชิ่งจือ หลี่เจาเต๋อจึงใช้โอกาสนี้ทำร้ายหวังชิ่งจือจนเสียชีวิต
หลี่เจาเต๋อจึงได้กราบบังคมทูลพระนางบูเช็กเทียนโดยเสนอแนะให้เจ้าชายหลี่ตั้นเป็นรัชทายาทดังเดิม ด้วยเหตุผลว่าความสัมพันธ์ในฐานะที่เป็นบุตรของเจ้าชายหลี่ตั้นนั้นมีความใกล้ชิดกับพระนางมากกว่าความสัมพันธ์ในฐานะพระนัดดาของเจ้าชายอู่เฉิงซื่อ นอกจากนั้นหากเจ้าชายอู่เฉิงซื่อทรงขึ้นครองราชบัลลังก์แล้วพระองค์ก็คงจะไม่ทำพิธีบูชาบรรพบุรุษให้แก่จักรพรรดิถังเกาจงเป็นแน่ พระนางบูเช็กเทียนจึงตกลงพระทัยให้เจ้าชายหลี่ตั้นคงเป็นรัชทายาทดังเดิม และมิได้นำเรื่องนี้มาพิจารณาอีกเป็นเวลานานหลังจากนั้น นอกจากนั้นหลี่เจาเต๋อยังได้กล่าวเตือนอีกว่าอู่เฉิงซื่อนั้นมีอำนาจมากเกินไป พระนางบูเช็กเทียนจึงได้ถอดถอนอู่เฉิงซื่อออกจากตำแหน่งเสนาบดีและแต่งตั้งเขาในตำแหน่งใหม่ที่สูงกว่าหากมิได้มีอำนาจอย่างแท้จริง
ในปี ค.ศ. 692 ในขณะที่อิทธิพลและอำนาจของหน่วยสืบสวนลับมีมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งเกิดกรณีที่ไหลจวิ้นเฉินเจ้าหน้าที่ตำรวจลับตั้งข้อหาใส่ร้ายเหล่าเสนาบดี ตี๋เหรินเจี๋ย (Di Renjia; จีน: 狄仁傑; พินอิน: Dírénjié) ผู้เป็นอัครมหาเสนาบดีแห่งราชวงศ์ถังในรัชศกอู่เจ๋อเทียน เป็นข้าราชการหนึ่งในหลาย ๆ คนซึ่งได้รับการสรรเสริญมากที่สุดในรัชศกดังกล่าว และเป็นที่สดุดีว่ามีบทบาทผลักดันให้อู่ จ๋อเทียนเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบอันโหดร้ายเป็นระบอบอันเชิดชูคุณธรรม (Ren Zhigu; จีน: 任知古; พินอิน: Rèn zhī gǔ) (Pei Xingben; จีน: 裴行本; พินอิน: Péixíngběn) และข้าราชการในราชสำนัก คือ (Cui Xuanli; จีน: 崔宣禮; พินอิน: Cuī xuānlǐ), หลูเซี่ยน (Lu Xian; จีน: 盧獻; พินอิน: Lú xiàn), (Wei Yuanzhong; จีน: 魏元忠; พินอิน: Wèi yuánzhōng), และ (Li Sizhen; จีน: 李嗣真; พินอิน: Lǐsìzhēn) ในข้อหาก่อการกบฏ โดยไหลจวิ้นเฉินได้พยายามทำให้ทั้งเจ็ดคนนี้ยอมรับสารภาพโดยอ้างพระราชกระแสรับสั่งของพระจักรพรรดินีบูเช็กเทียนว่าหากผู้ใดรับสารภาพแล้วจะได้รับการไว้ชีวิต ตี๋เหรินเจี๋ยซึ่งยอมรับสารภาพจึงไม่ถูกทรมาน หลังจากนั้น (Wang Deshou; จีน: 王德壽; พินอิน: Wáng déshòu) ลูกน้องของไหลจวิ้นเฉินได้พยายามหว่านล้อมให้ตี๋เหรินเจี๋ยใส่ร้ายพาดพิงถึง หยางจื๋อโหรว (楊執柔) เสนาบดีอีกคนหนึงด้วย หากแต่ตี๋เหรินเจี๋ยปฏิเสธ และเขาได้เขียนคำร้องทุกข์ถึงพระนางบูเช็กเทียนบนผ้าห่มและซ่อนไว้ในเสื้อผ้าที่ส่งกลับบ้านโดยอ้างว่าจะเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าสำหรับฤดูร้อน โดยให้บุตรชายของเขา (Di Guangyuan; จีน: 狄光遠; พินอิน: Dí guāng yuǎn) เป็นผู้นำคำร้องทุกข์นี้ออกมา พระนางบูเช็กเทียนจึงทรงระแคะระคายในเรื่องนี้และสงสัยมากขึ้นจนเรียกไหลจวิ้นเฉินเข้าพบ ซึ่งไหลจวิ้นเฉินก็ได้ปลอมแปลงเอกสารในชื่อของตี๋เหรินเจี๋ยและพรรคพวก โดยมีข้อความว่าบุคคลเหล่านี้ได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระนางบูเช็กเทียนที่รับสั่งโทษประหารชีวิตแก่พวกเขา
อย่างไรก็ตาม Le Sihui บุตรชายคนเล็กของเสนาบดีอีกคนหนึ่งซึ่งถูกจับกุมและโดยได้รับโทษในฐานะผู้รับใช้เสนาบดีด้านการเกษตรได้เขียนเรื่องร้องเรียนแก่พระนางบูเช็กเทียน ซึ่งมีข้อความกล่าวด้วยว่าไหลจวิ้นเฉินนั้นเป็นผู้มากความสามารถในด้านการสร้างคดีเท็จ จนแม้ผู้ซื่อสัตย์และสุจริตที่สุดก็ยังอาจได้รับการทรมานจากเขาจนต้องยอมสารภาพผิดในที่สุด พระนางบูเช็กเทียนจึงรับสั่งให้นำตัวนักโทษทั้งเจ็ดคนนั้นมาให้พระนางไต่สวนด้วยพระองค์เอง และหลังจากที่ทั้งหมดได้ปฏิเสธการรับสารภาพว่าเป็นเอกสารที่ปลอมแปลงขึ้นโดยไหลจวิ้นเฉินแล้ว พระนางบูเช็กเทียนจึงให้ปล่อยตัวทั้งหมดแต่ให้ถูกเนรเทศไปรับราชการอยู่ต่างเมืองแทน โดยในกรณีของตี๋เหรินเจี๋ยนั้น ทรงให้ไปเป็นผู้พิพากษาที่ (จีน: 彭澤; พินอิน: Péng zé, ปัจจุบันคือ ในมณฑลเจียงซี)
หลังจากคดีของตี๋เหรินเจี๋ยและพวกแล้ว ด้วยคำแนะนำของ (Zhu Jingze; จีน: 朱敬則; พินอิน: Zhū jìngzé) และ (Zhou Ju; จีน: 周矩; พินอิน: Zhōu jǔ) การสังหารหมู่จากคดีทางการเมืองก็ลดน้อยลงไปเป็นอันมาก แม้ว่าจะยังไม่หมดไปโดยสิ้นเชิงก็ตาม
และในปี ค.ศ. 692 เดียวกันนี้เองพระนางบูเช็กเทียนได้รับสั่งให้นายพลหวังเสี้ยวเจี๋ย (; จีน: 王孝傑; พินอิน: Wángxiàojié) เข้าโจมตีเมือง (Tufan) ซึ่งเป็นรัฐ ๆ หนึ่งในทิเบต ซึ่งนายพลหวังเสี้ยวเจี๋ยสามารถเอาชนะกองกำลังของทิเบตและสามารถรวบรวมอาณาบริเวณ (Xiyu; จีน: 西域; พินอิน: Xīyù) (พื้นที่บริเวณตะวันออกของจีน) ที่ตกอยู่ภายใต้ทิเบตตั้งแต่ปี ค.ศ. 670 คือ (Qiuci; จีนตัวเต็ม: 龜茲; พินอิน: Qiūcí) (Yutian; จีนตัวเต็ม: 于田; พินอิน: Yú tián) (Shu le; จีน: 疏勒; พินอิน: Shū le) และ (Suiye; จีนตัวเต็ม: 碎葉; พินอิน: Suì yè) กลับเข้ามาได้
ในปี ค.ศ. 693 พระนางบูเช็กเทียนทรงเชื่อคำกราบทูลของนางสนองพระโอษฐ์ (Wei Tuan'er; จีน: 韋團兒; พินอิน: Wéi tuán er) ผู้เป็นปฏิปักษ์กับเจ้าชายหลี่ตั้น (ไม่มีข้อมูลหลักฐานว่าเหตุใดนางจึงรู้สึกเช่นนั้น) ซึ่งกล่าวข้อความใส่ร้ายเจ้าหญิงหลิว พระมเหสีของเจ้าชายหลี่ตั้น (; จีน: 劉皇后; พินอิน: Liú huánghòu) และนางสนมโตวว่าใช้คาถาอาคม พระนางบูเช็กเทียนจึงทรงสั่งให้ประหารชีวิตเมหสีหลิวและนางสนมโตว เจ้าชายหลี่ตั้นทรงเกรงพระทัยว่าพระองค์จะถูกลงโทษโดยการประหารเช่นกันเป็นรายต่อไปจึงไม่กล้าที่จะทักทานใด ๆ นางสนองพระโอษฐ์เหวยท้วนเอ๋อร์จึงวางแผนใส่ร้ายและกำจัดเจ้าชายหลี่ตั้นด้วยอีกพระองค์หนึ่ง อย่างไรก็ตามมีบางคนได้กราบบังคมทูลความจริงเกี่ยวกับนางสนองพระโอษฐ์เหวยท้วนเอ๋อร์ ทำให้พระนางบูเช็กเทียนทรงสั่งประหารนางสนองพระโอษฐ์เหวยท้วนเอ๋อร์ แต่พระนางก็ยังทรงลงโทษเจ้าชายหลี่ตั้นโดยการลดพระอิสริยยศของพระโอรสของเจ้าชายหลี่ตั้น
ต่อมามีผู้กล่าวหาว่า (Pei Feigong; จีน: 裴匪躬; พินอิน: Péi fěi gōng) และ (Fan Yunxian; จีน: 范雲仙; พินอิน: Fàn yúnxiān) ได้ลักลอบเข้าพบเจ้าชายหลี่ตั้น ทั้งสองคนจึงถูกประหารด้วยเช่นกัน ทั้งพระนางบูเช็กเทียนยังได้สั่งห้ามมิให้ข้าราชการคนใดเข้าพบเจ้าชายหลี่ตั้นด้วย หลังจากนั้นเจ้าชายหลี่ตั้นก็ถูกกล่าวหาว่าวางแผนก่อการกบฏ พระนางบูเช็กเทียนจึงทรงให้ไหลจวิ้นเฉินดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้ โดยได้เข้าจับกุมคนรับใช้ของเจ้าชายหลี่ตั้นจำนวนมากมาทรมานเพื่อให้รับสารภาพ จนกระทั่งมีคนรับใช้หลายคนที่ถูกทรมานจนทนไม่ได้และพร้อมสารภาพผิดรวมทั้งกล่าวโทษต่อเจ้าชายหลี่ตั้นด้วย หากมีคนรับใช้คนหนึ่งของเจ้าชายหลี่ตั้นชื่อ (An Jinzang) ได้ยืนยันว่าเจ้าชายหลี่ตั้นนันเป็นผู้บริสุทธิ์และได้ผ่าท้องตัวเองเพื่อเป็นการสาบานและยืนยันคำกล่าวนั้น เมื่อพระนางบูเช็กเทียนทรงทราบเรื่องนี้ ทรงให้หมอหลวงเข้ารักษาอันจิ้งจางซึ่งก็สามารถช่วยรักษาชีวิตของเขาไว้ได้อย่างหวุดหวิด รวมทั้งสั่งให้ไหลจวิ้นเฉินยุติการสอบสวนนี้ ซึ่งทำให้เจ้าชายหลี่ตั้นทรงรอดชีวิตมาได้
ในปี ค.ศ. 694 หลี่เจาเต๋อกลายเป็นผู้ที่มีอำนาจแทนเจ้าชายอู่เฉิงซื่อที่ถูกถอดจากตำแหน่งเสนาบดีและลดทอนอำนาจลง และตัวหลี่เจาเต๋อเองก็ลุแก่อำนาจและอิทธิพลของตนเองมากขึ้นเรื่อย ๆ พระนางบูเช็กเทียนจึงรับสั่งให้ถอดถอนเขาลงเช่นกัน ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเองที่พระนางบูเช็กเทียนทรงลุ่มหลงในกลุ่มลี้ลับ ซึ่งมีฤๅษี (Wei Shifang; จีน: 韋什方; พินอิน: Wéi shi fāng) ที่พระนางทรงแต่งตั้งให้เป็นเสนาบดีในช่วงเวลาสั้น ๆ ด้วย เขาอ้างว่าตนเองเกิดในปี ค.ศ. 238 จึงมีอายุมากกว่า 450 ปีแล้ว แม่ชีในพุทธศาสนาจากเมือง (Henei; จีน: 河內; พินอิน: Hénèi) ซึ่งอ้างว่าเป็นพระพุทธเจ้าและยังสามารถทำนายอนาคตได้ และชายชราอีกผู้หนึ่งซึ่งอ้างว่ามีอายุมากกว่า 500 ปี โดยพระนางบูเช็กเทียนทรงเคารพทั้งสามคนนี้มาก โดยอ้างว่าเป็นการสร้างภาพของพระศรีอริยเมตไตรย (พระพุทธเจ้าองค์ถัดไป) ที่นำมาใช้ในพิธีกรรมเพื่อสร้างฐานและบารมีให้แก่ราชบัลลังก์ของพระนาง อย่างไรก็ตาม ต่อมาในปี ค.ศ. 695 พระตำหนักวังหลวงสองหลัง คือ หมิงถังหรือโถงท้องพระโรง (the imperial meeting hall; จีน: 明堂; พินอิน: Míngtáng) และโถงแห่งสรวงสวรรค์ (the Heavenly Hall; จีน: 天堂; พินอิน: Tiāntáng) ถูกไฟไหม้ลงจากฝีมือการวางเพลิงของเซียวหวายอี้ อดีตชู้รักของพระนางที่มีความรู้สึกริษยาและโกรธที่พระนางบูเช็กเทียนหันไปมีชู้รักคนใหม่ คือ เสิ่นหนานฉิว (Shen Nanqiu; จีน: 沈南璆; พินอิน: Shennán qiú) ผู้เป็นหมอหลวงแห่งพระราชวังในขณะนั้น ทำให้พระนางบูเช็กเทียนทรงโกรธที่กลุ่มบุคคลลี้ลับทั้งสามที่พระนางให้ความเคารพเชื่อถือนั้นกลับไม่สามารถทำนายเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้ได้ล่วงหน้าตามที่กล่าวอ้างไว้ จึงรับสั่งให้จับกุมแม่ชีและบรรดาลูกศิษย์ของนางไปเป็นทาสเสีย ส่วนเหวยฉือฟางนั้นชิงฆ่าตัวตายเสียก่อน และชายชรานั้นหนีไปได้ ต่อมาพระนางทรงลงโทษเซียวหวายอี้ด้วยการประหารชีวิตตามไปอีกคนหนึ่งด้วย หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้พระนางบูเช็กเทียนทรงลดความสนใจในเรื่องลี้ลับเหล่านี้ลงอย่างมาก และกลับมาให้ความสนพระทัยเอาใจใส่ในการบริหารปกครองบ้านเมืองกว่าแต่ก่อนมากด้วย
ช่วงกลางของการครองราชย์
ในการบริหารปกครองบ้านเมืองสมัยพระนางบูเช็กเทียนนั้น เกิดปัญหาทางชายแดนตอนเหนือและตะวันตกอยู่เสมอ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิในปี ค.ศ. 696 กองทัพที่พระนางสั่งให้ยกไปต่อสู้กับทูฟาน (Tufan) ชนกลุ่มชาวทิเบตซึ่งนำทัพโดย (Wang Xiaojie; จีน: 王孝傑; พินอิน: Wángxiàojié) และ ( 婁師德; พินอิน: Lóu shī dé) นั้นได้รับความพ่ายแพ้แก่กองทัพของนายพลแห่งทูฟาน คือสองพี่น้อง (Lun Qinling จีน: 論欽陵; พินอิน: Lùn qīn líng) และ (Lun Zanpo จีน: 論贊婆; พินอิน: Lùn zàn pó) พระนางจึงมีรับสั่งให้ปลดหวังหวังเสื้ยวเจี๋ยไปเป็นสามัญชนเสีย และให้โหลวซือเต๋อไปเป็นข้าราชการระดับต่ำแทน แต่ต่อมาภายหลังพระนางจึงได้คืนตำแหน่งแก่บุคคลทั้งสองให้กลับมาเป็นนายพลดังเดิม ในเดือนเมษายนปีเดียวกันนั้นเอง พระนางบูเช็กเทียนรับสั่งให้สร้างหม้อสามขาเก้าชิ้น ( จีน: 九鼎; พินอิน: Jǐu Dǐng) ขึ้นใหม่เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจอันสูงสุดของในวัฒนธรรมจีน เพื่อเป็นการเน้นย้ำถึงสถานภาพและอำนาจของพระนางด้วย
มีเหตุการณ์ร้ายแรงอย่างมากเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนของปี ค.ศ. 696 หัวหน้า (Khitan จีน: 契丹; พินอิน: Qìdān) คือ (Li Jinzhong; จีน: 李盡忠; พินอิน: Lǐ jìnzhōng) และน้องเขยของเขา คือ (Sun Wanrong; จีน: 孫萬榮; พินอิน: Sūnwànróng) ซึ่งเป็นกลุ่มชนทางตอนเหนือของประเทศจีนที่มีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 4 และมีอิทธิพลมากเหนือพื้นที่มองโกเลียและในเวลาต่อมาในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 10 คือ แมนจูเรีย ทั้งสองเกิดควาโกรธแค้นที่มีการปฏิบัติอย่างทารุณต่อชาวชี่ตานโดย (Zhao Wenhui จีน: 趙文翽; พินอิน: Zhàowénhuì) ข้าราชการผู้หนึ่งในราชสำนักแห่งราชวงศ์โจวซึ่งประจำอยู่ที่บริเวณ (Ying Zhao; จีน: 營州; พินอิน: Yíng zhōu) ซึ่งปัจจุบันคือเมืองโจวหยาง ในมณฑลเหลียวหนิง จึงได้ร่วมกันก่อการกบฏ ซึ่งนำโดยหลี่จิ้นจงผู้ดำรงตำแหน่งเป็นอู๋ซ่างข่าน หรือ อู๋ซ่างเค่อฮั่น (Wushang Khan จีน: 無上可汗; พินอิน: Wú shàng kè hán, แปลตามตัวอักษรว่า "ข่านผู้ไม่มีผู้ใดเหนือกว่า") ในขณะนั้น หากกองทัพที่พระนางบูเช็กเทียนส่งไปปราบปรามหลี่จิ้นจงและซุนว่านหรงนั้นกลับแพ้กองกำลังของชี่ตานกลับมาก ทำให้กองกำลังของชี่ตานฮึกเฮมและรุกรานเข้ามายังอาณาจักรของราชวงศ์โจว
ในขณะเดียวกันผู้นำ (Tujue; จีน: 突厥; พินอิน: Tūjué) หรือกลุ่มชนเตอร์กิก คือ (Ashina Mochuo; จีน: 阿史那•默啜; พินอิน: Āshǐnà Mòchuò) ได้เข้าร่วมสงครามเพื่อต่อด้านทั้งอาณาจักรโจวและกลุ่มชนชี่ตาน โดยเขาสามารถนำกองกำลังโจมตีชาวชี่ตานและเอาชัยชนะได้ในช่วงฤดูหนาวของปี ค.ศ. 696 นั้นทำให้หลี่จิ้นจงเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทั้งยังจับกุมครอบครัวของหลี่จิ้นจงและซุนว่านหรงด้วย ทำให้กลุ่มชนชี่ตานหยุดการโจมตีต่อต้านอาณาจักรโจวไปชั่วคราว หลังจากที่ซุนว่านหรงได้ขึ้นเป็นผู้นำกลุ่มชนชี่ตานต่อจากพี่เขยของเขาในฐานะข่านองค์ใหม่ เขาได้รวบรวมกองกำลังขึ้นมาใหม่อีกครั้งเพื่อต่อต้านอาณาจักรโจว โดยได้รับชัยชนะเหนือกองทัพโจวในการต่อสู้เผชิญหน้ากันอยู่หลายครั้ง โดยมีครั้งหนึ่งที่หวังซื่อเจีย (Wang Shijie) ถูกสังหารจนเสียชีวิตด้วย พระนางบูเช็กเทียนได้พยายามบรรเทาสถานการณ์โดยการสร้างสัมพันธ์ที่ดีและสร้างสันติภาพกับอาชรือน่า โม่โท่ว ด้วยมูลค่าที่สูงมาก คือ การคืนตัวชาวทูจิวที่ถูกส่งมายังอาณาจักรโจวและยังส่งของมีค่า อาทิ เมล็ดพันธุ์ต่าง ๆ ผ้าไหม อุปกรณ์ใช้สอย และเหล็ก ให้แก่อาชรือน่า โม่โท่ว ด้วย ในช่วงฤดูร้อนของปี ค.ศ. 697 อาชรือน่า โม่โท่ว ได้เข้าโจมตีกลุ่มชนชาวซี่ตานอีกครั้ง และในครั้งนี้สามารถเอาชนะจนทำให้กองกำลังของชาวซี่ตานล่มสลาย โดยหัวหน้าของพวกเขาคือซุนว่านหรงก็ถูกสังหารจนเสียชีวิตไปในการต่อสู้ จึงเป็นที่สิ้นสุดของการคุกคามจากซี่ตานในที่สุด
ในปี ค.ศ. 697 เช่นเดียวกันไหลจวิ้นเฉินผู้เคยสูญเสียอำนาจไปในอดีต (ในปี ค.ศ. 693) และกลับคืนสู่อำนาจอีกครั้งหนึ่งในช่วงนี้นั้นก็ได้สร้างเรื่องใส่ร้ายแก่หลี่เจาเต๋อว่าก่อคดีอาชญากรรม และยังวางแผนใส่ร้ายแก่เจ้าชายหลี่ตั้น เจ้าชายหลี่เจ๋อ และเจ้าหญิงไท่ผิงว่าทรงร่วมกันก่อการกบฏ ซึ่งทั้งสามพระองค์นั้นเป็นเจ้าชายพระราชโอรสและเจ้าหญิงพระราชธิดาแห่งราชตระกูลอู่ในพระนางบูเช็กเทียนด้วย ทำให้เจ้าชายทั้งสองพระองค์และเจ้าหญิงไท่ผิงทรงออกมาปฏิเสธและต่อต้านไหลจวิ้นเฉินเป็นครั้งแรก และกล่าวหาไหลจวิ้นเฉินในคดีอาชญากรรม ทั้งไหลจวิ้นเฉินและหลี่เจาเต๋อจึงถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยกันทั้งคู่ หลังจากการเสียชีวิตของไหลจวิ้นเฉิน หน่วยสืบราชการตำรวจลับของพระนางบูเช็กเทียนก็จบสิ้นลง ผู้ที่เคยถูกจับและดำเนินคดีโดยไหลจวิ้นเฉินจึงถูกประกาศให้พ้นความผิดตามที่เคยถูกกล่าวหาไว้ ในช่วงเวลาเดียวกันนี้พระนางบูเช็กเทียนก็เริ่มความสัมพันธ์กับคนรักใหม่ของพระองค์ถึงสองคน คือ พี่น้อง ตระกูลจาง ชื่อ (Zhang Yizhi; จีน: 張易之; พินอิน: Zhāngyìzhī) และ (Zhang Changzong; จีน: 張昌宗; พินอิน: Zhāngchāngzōng) ซึ่งต่อมาภายหลังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นดยุกทั้งสองคน
ในราวปี ค.ศ. 698 อู่เฉิงซื่อ หรือ อ๋องแห่งเว่ย (Prince of Wei) และ อู่ซานซือ หรือ อ๋องแห่งเหลียง (Prince of Liang) พระนัดดาอีกองค์หนึ่งของพระนางบูเช็กเทียน ได้พยายามให้ข้าราชสำนักโน้มน้าวพระนางบูเช็กเทียนให้แต่งตั้งพระองค์คนใดคนหนึ่งเป็นรัชทายาท โดยอ้างเหตุผลว่าจักรพรรดินั้นควรแต่งตั้งเชื้อพระวงศ์ในตระกูลเดียวกันเป็นผู้สืบทอดราชวงศ์ แต่ตี๋เหรินเจี๋ย (Di Renjie; จีนตัวเต็ม: 狄仁傑; จีนตัวย่อ: 狄仁杰; พินอิน: Dí Rénjié) ผู้มีตำแหน่งเป็นเสนาบดีที่พระนางบูเช็กเทียนทรงให้ความไว้วางพระทัยมากในขณะนั้นได้ยืนยันต่อต้านความคิดนี้และกลับเสนอให้คืนตำแหน่งรัชทายาทแก่เจ้าชายหลี่เจ๋อด้วย ซึ่งมีผู้สนับสนุนความคิดเห็นของเขาคือ เสนาบดี (Wang Fangqing; จีน: 王方慶; พินอิน: Wángfāngqìng) และหวังจี๋ซ่าน (; จีน:王及善; พินอิน: Wángjíshàn) รวมทั้งจี๋ซู (; จีน: 吉頊; พินอิน: Jí xū) ผู้เป็นที่ปรึกษาใกล้ชิดของพระนางบูเช็กเทียน โดยจี๋ซูได้ชักชวนให้พี่น้องตระกูลจาง (Zhang) ร่วมสนับสนุนความเห็นนี้ด้วย ในที่สุดพระนางบูเช็กเทียนทรงเห็นด้วยและเรียกให้เจ้าชายหลี่เจ๋อกลับมาจากการถูกเนรเทศ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี ค.ศ. 698 ซึ่งไม่นานต่อจากนั้นเจ้าชายหลี่ตั้นพระโอรสองค์สุดท้องของพระนางหรืออดีตจักรพรรดิถังรุ่ยจงทรงเสนอให้ตำแหน่งเจ้าชายรัชทายาทแก่เจ้าชายหลี่เจ๋อ พระนางบูเช็กเทียนจึงแต่งตั้งเจ้าชายหลี่ตั้นให้ขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าชายรัชทายาท โดยไม่นานต่อจากนั้นก็ทรงเปลี่ยนพระนามเป็น "หลีเสี่ยน (Li Xiǎn) " และเป็น "อู่เซียน (Wu Xian) " ในที่สุด
ต่อมาภายหลัง อาชรือน่า โม่โท่ว เรียกร้องให้อ๋องแห่งราชวงศ์ถังอภิเษกสมรสกับบุตรีของตน ซึ่งเป็นแผนในการสร้างสัมพันธ์ใกล้ชิดกับราชวงศ์ถังแทนที่ราชวงศ์โจว และยังเป็นการนำพาราชวงศ์ถังกลับคืนสู่อำนาจภายใต้อิทธิพลของเขาด้วย หากพระนางบูเช็กเทียนกลับส่ง (Wu Yanxiu; จีน: 武延秀; พินอิน: Wǔ yánxiù) ซึ่งเป็นพระราชปนัดดาในพระนางเองไปอภิเษกกับบุตรีของอาชรือน่า โม่โท่ว แทน ทำให้อาชรือน่า โม่โท่ว ปฏิเสธอู่หยานซิ่วไป เนื่องจากเขามิได้มีความตั้งใจที่จะประสานสันติภาพอย่างจริงใจกับราชวงศ์โจวของพระนางบูเช็กเทียนแต่อย่างใด ดังนั้นเมื่ออู่หยานซิ่วเดินทางมาถึง เขาจึงกักตัวอู่หยานซิ่วไว้และเปิดการโจมตีครั้งใหญ่กับราชวงศ์โจว โดยรุกล้ำลงมาถึงทางตอนใต้ในบริเวณ (Zhao Prefecture; จีน: 趙州; พินอิน: Zhàozhōu หรือปัจจุบันคือบริเวณฉือเจียจวงในมณฑลเหอเป่ย์) ก่อนที่จะล่าถอยทัพกลับไป
ในปี ค.ศ. 699 การคุกคามจากทูฟานจึงสงบลง (Tridu Songtsen; Wylie: Khri 'dus-srong btsan) ทรงไม่พอพระทัยที่ (Lun Qinling; จีน: 論欽陵; พินอิน: Lùn qīnlíng) ได้รวบอำนาจไว้แต่ผู้เดียว พระองค์จึงถือโอกาสขณะที่ลุ่นชินหลิงไม่อยู่ในเมืองลาซาซิ่งเป็นเมืองหลวง ส่งคนเข้าสังหารพวกพ้องของลุ่นชินหลิง และเข้าโจมตีเขาจนเอาชัยชนะได้ ทำให้ลุ่นชินหลิงทำอัตนิบาตกรรมหลังจากนั้นด้วย (Lun Zanpo; จีน: 論贊婆; พินอิน: Lùn zànpó) พี่ชายของลุ่นชินหลิง และลุ่นกงเหริน (Lun Gongren; จีน: 論弓仁; พินอิน: Lùn gōngrén) บุตรชายของลุ่นชินหลิงจึงได้ยอมจำนนแก่ราชวงศ์โจว หลังจากนั้นทูฟานจึงอยู่ใต้ความวุ่นวายภายในอยู่หลายปี ทำให้เกิดความสงบสันติแต่ชายแดนของอาณาจักรแห่งราชวงศ์โจวด้านเมืองทูฟานในช่วงนั้น
ในปี ค.ศ. 699 เช่นเดียวกันนั้น พระนางบูเช็กเทียนได้ทรงตระหนักว่าพระองค์มีพระชนมายุมากขึ้นแล้ว ทำให้ทรงหวาดกลัวความตายที่จะเยือนมาถึง อีกทั้งเจ้าชายหลี่เสี่ยนและเจ้าชายพระองค์อื่น ๆ ในราชตระกูลอู่ไม่อาจอยู่ร่วมกันอย่างสันติได้ พระนางจึงมีพระบัญชาให้เจ้าชายหลี่ตั้น เจ้าหญิงไท่ผิง พระสวามีคนที่สองของเจ้าหญิงไท่ผิง คือ หรืออ๋องแห่งติง (Wu Youji; จีน:武攸暨; พินอิน: Wǔ yōu jì หรือ Prince of Ding) ซึ่งเป็นพระราชนัดดาของพระนางด้วย รวมทั้งเจ้าชายองค์อื่น ๆ ในราชตระกูลอู่ทั้งหมดทรงสาบานร่วมกัน
ช่วงปลายของการครองราชย์
เนื่องจากพระนางบูเช็กเทียนมีพระชนมายุสูงขึ้น ทำให้เสนาบดีจางอี้จรีอและจางชางจงมีอำนาจมากขึ้น ทั้งเจ้าชายต่าง ๆ ในราชสกุลอู่ก็ยังสนับสนุนและชื่นชมพวกเขา พระนางบูเช็กเทียนก็ยิ่งมอบหมายให้จางอี้จรีอและจางชางดูแลราชการแทนพระนางมากยิ่งขึ้น ทำให้มีการวิพากย์วิจารณ์อย่างลับ ๆ โดยพระนัดดาของพระนางบูเช็กเทียน หลี่ฉงรุ่น (; จีน::李重潤; พินอิน:Lǐzhòngrùn) หรือ อ๋องแห่งเชา (Prince of Shao) (บุตรของเจ้าชายหลี่เสี่ยน) หลี่เซียนฮุ่ย (Li Xianhui; จีน: 李仙蕙; พินอิน: Lǐxiānhuì) หรือเจ้าหญิงแห่งย่งไท่ (Lady of Yongtai) (พี่สาวของหลี่ฉงรุ่น) และสามีของหลี่เซียนฮุ่ย คือ อู่หยานจี (Wu Yanji; จีน: 武延基; พินอิน: Wǔyán jī) หรืออ๋องแห่งเว่ย (Prince of Wei) (พระปนัดดาแห่งพระนางบูเช็กเทียนและบุตรชายของเจ้าชายอู่เฉิงซื่อ) หากการสนทนานี้ได้เล็ดลอดออกไปจนทำให้จางอี้จรือเข้าถวายรายงานต่อพระนางบูเช็กเทียน พระนางจึงมีรับสั่งให้เจ้าชายเจ้าหญิงทั้งสามพระองค์ทำอัตนิบาตกรรมจนเสียชีวิตในที่สุด
และแม้ว่าพระนางจะแก่ชราลงมาก แต่ยังคงให้ความสนใจในการคัดเลือกและเลื่อนตำแหน่งข้าราชการผู้มีความสามารถโดดเด่น โดยมีผู้ที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งในช่วงนี้ได้แก่ ซุยสวนเหว่ย (崔玄暐; พินอิน: Cuīxuánwěi) and จางเจียเจิน ( 張嘉貞; พินอิน: Zhāngjiāzhēn) เป็นต้น
ปี ค.ศ. 703 อี้จรีอและจางชางจงเกิดความรู้สึกไม่พอใจเว่ยหยวนผู้ซึ่งขณะนั้นอยู่ในตำแหน่งมหาเสนาบดีอาวุโส เนื่องจากเขาได้ปลดพี่น้องแซ่จาง คือ จางชางหยี (Zhang Changyi; จีน: 張昌儀; พินอิน: Zhāngchāngyí) และยังปฏิเสธที่จะเลื่อนตำแหน่งให้แก่พี่น้องแซ่จางอีกคน คือ จางชางชี (Zhang Changqi; จีน: 張昌期; พินอิน: Zhāngchāngqī) ด้วย
นอกจากนั้นก็มีความหวาดกลัวว่าหากพระนางบูเช็กเทียนสิ้นพระชนม์ลง เว่ยหยวนอาจหาทางกำจัด (ฆ่า) พวกเขา พวกเขาจึงวางแผนใส่ร้ายเว่ยหยวนและเกาเจี่ยน (Gao Jian; จีน: 高戩; พินอิน: Gāo jiǎn) ข้าราชการอีกคนหนึ่งผู้เป็นที่โปรดปรานและได้รับการสนับสนุนจากเจ้าหญิงไท่ผิง โดยได้ช้กชวนจางเยว่ (Zhang Yue; จีน: 张说; พินอิน: Zhāng Yuè) ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของเว่ยหยวนให้ร่วมมือในครั้งนี้หากแต่เมื่องจางเยว่ถูกนำตัวไปสืบสวนต่อหน้าพระนางบูเช็กเทียนนั้นเขากลับคำให้การว่าจางอี้จรีอและจางชางจงได้บังคับให้เขาเป็นพยานใส่ร้ายทั้งเว่ยหยวน เกาเจี่ยน และจางเยว่จึงถูกเนรเทศแทนการถูกประหารชีวิต
สวรรคต
ในฤดูใบไม้ร่วง ปี ค.ศ. 704 เริ่มมีข้อกล่าวหาด้านการทุจริตต่อจางอี้จรีอและจางชางจง รวมถึงพี่น้องของเขา คือ จางชางชี จางชางหยี และจางถงซิว (Zhang Tongxiu; จีน: 張同休; พินอิน: Zhāngtóngxiū) ทำให้จางชางหยีและจางถงซิวถูกปลดจากตำแหน่ง หากแต่สำหรับจางอี้จรีอและจางชางจงนั้น แม้ว่าหลี่เฉิงเจีย (Li Chengjia; จีน: 李承嘉; พินอิน: Lǐchéngjiā) และหวนหยานฟ่าน (Huan Yanfan; จีน: 桓彥範; พินอิน: Huán yàn fàn) จะเสนอให้ถูกปลดด้วยเช่นกัน แต่พระนางบูเช็กเทียนทรงเชื่อตามคำแนะนำจากเสนาบดีหยางไจ้ซือ (Yang Zaisi; จีน: 楊再思; พินอิน: Yáng Zàisī) ที่ไม่ให้ปลดพวกเขาทั้งสอง ต่อมาภายหลังเสนาบดีเหวยอันฉื่อ (Wei Anshi; จีน: 韋安石; พินอิน: Wéi'ānshí) จึงได้มีการนำข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตของจางอี้จรีอและจางชางจงกลับมาพิจารณาคดีใหม่อีกครั้ง
ต่อมาในฤดูหนาว ปี ค.ศ. 704 พระนางบูเช็กเทียนทรงพระประชวรหนัก ในช่วงนั้นมีเพียงพี่น้องตระกูลจางเท่านั้นที่ได้รับพระราชานุญาตให้เข้าเฝ้าพระนางได้ ซึ่งแม้แต่เสนาบดีต่าง ๆ ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเฝ้า ทำให้จางอี้จรีอและจางชางจงถูกสงสัยว่ากำลังวางแผนจะช่วงชิงพระราชบัลลังก์รวมถึงมีข่าวลือเรื่องการก่อการกบฏอยู่หลายครั้ง เมื่อพระนางบูเช็กเทียนมีพระอาการดีขึ้น ซุยสวนเหว่ยได้เสนอแก่พระนางเพื่อให้มีเพียงเจ้าชายหลีเสี่ยนและเจ้าชายหลี่ตั้นได้รับอนุญาตให้เข้าเฝ้าพระนางได้เท่านั้น หากแต่พระนางบูเช็กเทียนไม่ทรงเห็นด้วย ต่อจากนั้นมาก็ยังมีข้อกล่าวหาต่อพี่น้องจางโดยหวนหยานฟ่าน (Huan Yanfan; จีน: 桓彥範; พินอิน: Huán yàn fàn) และซ่งจิ่ง (Song Jing; จีน: 宋璟; พินอิน: Sòng jǐng) พระนางบูเช็กเทียนจึงทรงอนุญาตให้ซ่งจิ่งทำการสอบสวนในเรื่องนี้ได้ แต่ไม่นานต่อจากนั้น ในระหว่างที่การสืบสวนยังไม่สำเร็จลง พระนางรับสั่งให้อภัยโทษแก่จางอี้จรีอและยกเลิกการสอบสวนของซ่งจิ่งลงกลางคัน.
ในฤดูใบไม้ผลิของปี ค.ศ. 705 พระนางบูเช็กเทียนในวัย 82 พรรษาทรงพระประชวรหนักอีกครั้ง อัครมหาเสนาบดีจาง เจี่ยนจือและพวกจึงร่วมกันก่อรัฐประหารและวางแผนสังหารพี่น้องตระกูลจาง อันมี จางเจี่ยนจือ จิ้งฮุย (Jing Hui; จีน: 敬暉; พินอิน: Jìng huī) และ หยวนซู่จี่ (Yuan Shuji; จีน: 袁恕己; พินอิน: Yuánshùjǐ) อีกทั้งยังชักชวนให้นายพลหลี่ตัวจั้ว (Li Duozuo; จีน: 李多祚; พินอิน: Lǐ Duōzuò) หลี่จ้าน (Li Dan; จีน: 李湛; พินอิน: Lǐ zhàn; หมายเหตุ 李湛, ใช้ตัวอักษรต่างจากพระนามของเจ้าชายหลี่ต้านหรือจักรพรรดิถังรุ่ยจง) และ หยางหยวนหย่าน (Yang Yuanyan; จีน: 楊元琰; พินอิน: Yángyuányǎn) รวมถึงเสนาบดีอีกคนหนึ่งคือ เหยาฉง (Yao Yuanzhi; จีน: 姚崇; พินอิน: Yáo Chóng) เข้าร่วมด้วย และได้กระทำการในวันที่ 20 กุมภาพันธ์
โดยเริ่มจากการสังหารจางอี้จรีอและจางชางจง ต่อจากนั้นจึงนำกำลังเข้าล้อมพระตำหนักฉางเชิงเตี้ยน (Changsheng Hall; จีน: 長生殿; พินอิน: Chángshēng diàn) อันเป็นที่ประทับของพระนางบูเช็กเทียน และเพ็ดทูลแก่พระนางบูเช็กเทียนว่าพี่น้องตระกูลจางได้ก่อการกบฏ จึงเสนอให้พระนางมอบพระราชบัลลังก์แก่เจ้าชายหลี่เจ๋อ (หรือพระนามเดิมคือ หลี่เสี่ยน) ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ จึงมีการประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้เจ้าชายหลี่เจ๋อเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระนาง และภายในวันต่อมาคือในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ได้มีพระบรมราชโองการอีกครั้งโดยมอบพระราชบัลลังก์ให้แก่เจ้าชายหลี่เจ๋อ
ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ เจ้าชายหลี่เจ๋อจึงทรงขึ้นครองพระราชบัลลังก์ต่อ เป็นจักรพรรดิถังจงจง ส่วนพระนางบูเช็กเทียนนั้นทรงถูกควบคุมตัวไปยังพระตำหนักรอง คือพระตำหนักซ่างหยางกง (Shangyang Palace; จีน: 上陽宮; พินอิน: Shàngyáng gōng) แต่พระนางก็ยังคงได้รับการยกย่องในฐานะ “Empress Regnant Zetian Dasheng (則天大聖皇帝) ” ต่อมาในวันที่ 3 มีนาคม พระองค์ทรงรื้อฟื้นราชวงศ์ถังขึ้นใหม่ และให้กลับมาใช้ชื่อราชวงศ์ถังดังเดิม ราชวงศ์โจวที่พระนางทรงก่อตั้งขึ้นมานาน 14 ปี จึงเป็นอันสิ้นสุดลง ส่วนพระนางบูเช็กเทียนสิ้นพระชนม์ในวันที่ 16 ธันวาคม ค.ศ. 705
ในปี ค.ศ. 706 พระโอรสของพระนางบูเช็กเทียน คือจักรพรรดิ์ถังจงจง ทรงให้มีการฝังพระศพของพระนางร่วมกับพระศพของจักรพรรดิ์ถังเกาจงไว้ในสุสานเฉียนหลิงซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองหลวงฉางอานในขณะนั้น ปัจจุบันอยู่ในเขตมณฑลส่านซีทางภาคตะวันตกของประเทศจีน สุสานเฉียนหลิงจึงเป็นที่ฝังพระศพของจักรพรรดิ์สององค์เพียงแห่งเดียวในประวัติศาสตร์จีนอันยาวนานกว่า 2,000 ปี ซึ่งทั้งสองพระองค์เป็นจักรพรรดิในสองรัชกาลและเป็นคู่สามีภรรยากัน โดยมีการตั้งแท่นศิลาจารึกอยู่บริเวณหน้าสุสาน แท่นศิลาจารึกนี้เป็นหินก้อนเดียว สูงประมาณ 10 เมตร กว้าง 2 เมตร มีการแกะสลักสวยงามประณีต แต่ไม่มีตัวอักษรใดบนจารึกนี้ นักประวัติศาสตร์บางคนเห็นว่าเนื่องจากพระนางบูเช็กเทียนทรงโค่นล้มระบบอำนาจผู้ชายที่สืบทอดกันมาของจีน พระนางทรงรู้ว่าตนเองมีความผิดใหญ่มาก จึงมิกล้าแต่งข้อความสรรเสริญตนเอง บางคนเห็นว่าสาเหตุคือพระนางบูเช็กเทียนร่วมฝังกับพระศพของจักรพรรดิ์ถังเกาจง จึงทรงไม่รู้จะใส่นามสกุลและชื่อราชวงค์ของตนอยู่หน้าหรือหลังนามสกุลของจักรพรรดิ์ถังเกาจงจึงจะเหมาะสม จึงใช้ศิลาจารึกที่ไม่มีตัวอักษรเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ แต่ผู้คนส่วนข้างมากเห็นว่า การที่พระนางบูเช็กเทียนตั้งศิลาจารึกที่ไม่มีตัวอักษรนั้นเป็นการกระทำที่ฉลาด เนื่องจากพระนางทรงรู้ว่าคนรุ่นหลังอาจจะมีการวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นานาต่อพระนาง การแต่งประวัติบนศิลาจารึกไม่สามารถรวบรวมเรื่องราวอันหลากหลายชั่วชีวิตของตนได้ จึงตั้งศิลาจารึกที่ไม่มีตัวอักษร เพื่อให้คนรุ่นหลังวิจารณ์กันเองแทน
จักรพรรดินีบูเช็กเทียนทรงพระปรีชาสามารถในการปกครองบ้านเมืองมาก โดยทรงส่งเสริมการเกษตร ลดหย่อนภาษี การสอบเข้ารับราชการ เป็นต้น ภายใต้การปกครองของพระนางที่ทรงครองราชสมบัติ 14 ปี ประเทศจีนในสมัยราชวงศ์ถังมีกำลังเข้มแข็งและมีเสถียรภาพทางสังคม รวมถึงมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจก้าวหน้าไปเป็นอันมาก
ราชวงศ์โจวที่สอง (ค.ศ. 690–705) : Convention: use personal name | |||
ชื่อวัด | ชื่อสกุล และชื่อ | ช่วงเวลาที่ครองราชย์ | รัชศก (Era names) และช่วงเวลาแห่งรัชศกนั้น |
---|---|---|---|
ไม่มี | อู่ จ้าว (พินอิน: Wǔ Zhào; จีน: 武曌) | ค.ศ. 690–705 | เทียนโชว่ (พินอิน: Tiānshòu; จีน: 天授) : 16 ตุลาคม ค.ศ. 690 – 21 เมษายน ค.ศ. 692 (18 เดือน) |
การทำนุบำรุงพระศาสนา
คณะเสนาบดีในระหว่างการครองราชย์
พระนางบูเช็กเทียนทรงมีคณะเสนาบดีจำนวนมากในขณะที่พระนางทรงครองราชบัลลังก์ในฐานะกษัตริย์ในราชวงศ์โจวแห่งราชอาณาจักรจีน มีเสนาบดีจำนวนมากที่เป็นเชื้อพระวงศ์หรือมาจากตระกูลผู้ดีและเป็นผู้มีความโดดเด่นในความสามารถ (ดูรายนามชื่อเพิ่มเติมที่ )
การสร้างอำนาจผ่านวรรณกรรม
กล่าวกันว่าวรรณกรรมที่เขียนขึ้นในยุคนั้นมีบางส่วนที่ประพันธ์ขึ้นเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในเสริมสร้างพระราชอำนาจให้แก่พระนางบูเช็กเทียน
วรรณกรรม
มุมมองทางประวัติศาสตร์
มุมมองทางประวัติศาสตร์จีนที่มีต่อพระนางบูเช็กเทียนมีหลากหลาย ทั้งความชื่นชมที่มีต่อตัวพระนางในความสามารถในการบริหารจัดการบ้านเมือง หากแต่ประณามพระนางในด้านการยึดอำนาจแห่งราชสำนักมาเป็นของตนเอง
หลัวปินหวัง หนึ่งในสี่กวีที่มีชื่อเสียงที่สุดในช่วงต้นราชวงศ์ถัง ได้เขียนบทกวีและข้อความวิพากษ์วิจารณ์พระนางบูเช็กเทียนอยู่หลายครั้ง ทั้งยังสนับสนุนการก่อการกบฏของ (Li Jingye; จีน: 李敬業; พินอิน: Lǐ jìngyè) ด้วย หลิวซู () นักประวัติศาสตร์สมัยราชวงศ์โฮ่วจิ้นและผู้เป็นบรรณาธิการหนังสือชื่อ "หนังสือแห่งราชวงศ์ถัง () " ได้มีความเห็นในเรื่องนี้ไว้ว่า
The year that Lady Wu declared herself regent, heroic individuals were all mournful of the unfortunate turn of events, worried that the dynasty would fall, and concerned that they could not repay the grace of the deceased emperor [i.e., Emperor Gaozong] and protect his sons. Soon thereafter, great accusations arose, and many innocent people were falsely accused and stuck their necks out in waiting for execution. Heaven and earth became like a huge cage, and even if one could escape it, where could he go? That was lamentable. In the past, the trick of covering the nose surprised the realm in its poisonousness, and the disaster of the human pig caused the entire state to mourn. In order to take over as empress, Empress Wu strangled her own infant daughter; her willingness to crush her own flesh and blood showed how great her viciousness and vile nature was, although this is nothing more than what evil individuals and jealous women might do. However, she accepted the words of righteousness and honored the upright. Although she was like a hen that crowed, she eventually returned the rightful rule to her son. She quickly dispelled the accusation against Wei Yuanzhong, comforted Di Renjie with kind words, respected the will of the times and suppressed her favorites, and listened to honest words and ended the terror of the secret police officials. This was good, this was good.
ยังมึความคิดเห็นอันหลากหลายจากมุมมองสมัยใหม่ที่มีต่อพระนางบูเช็กเทียนโดยนักเขียนต่างชาติ (modern non-Chinese authors) อาทิ:
"บูเช็กเทียน (ปี ค.ศ. 690–705) เป็นหญิงที่พิเศษ มีเสน่ห์ มีพรสวรรค์ มีความเฉลียวฉลาดและมีความสามารถพิเศษด้านการเมืองการปกครองและในการวิเคราะห์คน
ด้วยความมุ่งมั่นของพระนาง ทำให้ทรงเอาชนะการต่อต้านจากล้ทธิขงจื้อได้ด้วยตัวของพระนางเอง โดยมิได้ใช้อำนาจหนุนหลังจากวงศ์ตระกูลหรือครอบครัวเหมือนดังหญิงในราชสำนักผู้อื่นแต่อย่างใด
หากแต่การขึ้นสู่อำนาจของพระนางนั้นคราคร่ำอยู่บนกองเลือด...." (Ann Paludan) นักประพันธ์หนังสือประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และประติมากรรมจีนหลายเล่ม
"ในความน่ากลัวของประวัติศาสตร์จีนโบราณ เหล่าสมาชิกในระดับ shih ที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในสมัยราชวงศ์ถัง ถูกท้าทายอย่างใหญ่หลวงจากการที่อดีตนางสนมผู้หนึ่งซึ่งสามารถช่วงชิงพระราชบัลลังก์มาได้ในที่สุด แม้ว่าเธอจะเป็นผู้ไร้ความเมตตาปราณีต่อศัตรูแต่ช่วงเวลาแห่งการครองราชย์ของพระนางถือว่าเป็นช่วงที่ดีที่สุดช่วงหนึ่งในประวัติศาสตร์จีน ราชสำนักมีความมั่นคง ไม่มีกบฏ ทั้งไม่มีการละเมิดล่วงทางด้านการทหาร มีการบริหารจัดการที่โดดเด่น และสามารถยึดครองเกาหลีได้ เป็นความสำเร็จอันมิเคยเกิดขึ้นมาก่อน" (Yong Yap Cotterell) และ (Arthur Cotterell)
"ในฐานะจักรพรรดินีหญิงคนเดียวของประเทศจีน พระนางบูเช็กเทียนนั้นทรงมีทักษะและความสามารถอันน่าทึ่งมาก หากการฆาตกรรมและการกระทำอันผิดกฎหมายต่าง ๆ เพื่อให้พระนางได้มาซึ่งอำนาจและรักษาอำนาจนั้นไว้ ทำให้ชื่อเสียงของพระนางไม่เป็นที่นิยมในหมู่ข้าราชสำนักเพศชายนัก ทั้งยังมีการส่งเสริมให้มีการรับบุคคลเป็นข้าราชสำนักในจำนวนที่มากเกินไป รวมถึงการทุจริตคอร์รัปชั่นที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากด้วย" (John King Fairbank) นักวิชาการและนักประวัติศาสตร์จีน ชาวอเมริกัน
มุมมองของลัทธิขงจื้อ
พระนางบูเช็กเทียนทรงอยู่ในสมัยที่ยึดถือขนบประเพณีอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งอำนาจของผู้ชายต้องอยู่เหนือผู้หญิง ขงจื๊อแม้จะเป็นนักคิดที่น่ายกย่องแต่กับผู้หญิงแล้วก็มีอคติอย่างรุนแรง เช่น ผู้หญิงต้องประกอบด้วย 3 เชื่อฟัง 4 คุณธรรม คือ ยังไม่ออกเรือนต้องเชื่อฟังบิดา ออกเรือนแล้วต้องเชื่อฟังสามี สามีสิ้นชีวิตแล้วต้องเชื่อฟังบุตรชาย ต้องมีศีลธรรม พูดจาเรียบร้อย กิริยามารยาทดี การฝีมือดี
พระนางบูเช็กเทียนทรงต่อต้านความไม่เป็นธรรมต่อผู้หญิงอย่างสุดชีวิต ต่อต้านอิทธิพลอันไม่เป็นธรรมจากอำนาจผู้ชาย ต่อต้านกับกรอบประเพณีที่ให้ผู้หญิงอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน และต่อต้านขนบประเพณีต่าง ๆ อีกมากที่มุ่งแต่จะบีบคั้นและกดผู้หญิงทุกอย่าง สิ่งเหล่านี้ขัดกับความเชื่อของสังคมจีนที่ผู้ชายเป็นใหญ่ในขณะนั้นเป็นอย่างยิ่ง
การขึ้นมามีอำนาจและครองราชบัลลังก์ของพระนางบูเช็กเทียนนั้นถูกวิพากย์วิจารณ์จากนักประวัติศาสตร์ที่นิยมลัทธิขงจื๊ออย่างรุนแรง แต่หากได้รับมุมมองที่แตกต่างออกไปหลังจากช่วงปี ค.ศ. 1950
ในช่วงต้นของราชวงศ์ถัง เนื่องจากจักรพรรดิองค์ต่าง ๆ เป็นเชื้อสายจากพระนางบูเช็กเทียน ข้อเขียนทางประวัติศาสตร์นั้นเกี่ยวกับพระนางจึงค่อนข้างไปในด้านดี แต่ความคิดเห็นในช่วงเวลาต่อมา โดยเฉพาะในหนังสือจือจื้อทงเจี้ยน (Zizhi Tongjian หรือ Tzu-chih Tung-chien; จีนตัวย่อ: 资治通鉴; จีนตัวเต็ม: 資治通鑑; พินอิน: Zīzhì Tōngjiàn; แปลตามตัวอักษรว่า "กระจกที่ครอบคลุมเพื่อช่วยร้ฐบาล (Comprehensive Mirror to Aid in Government) ") ที่เรียบเรียงเขียนโดย (Sima Guang; จีนตัวย่อ: 司马光; จีนตัวเต็ม: 司馬光; พินอิน: Sīmǎ Guāng; ค.ศ. 1019 – 1086) ได้วิจารณ์พระนางบูเช็กเทียนอย่างหนัก
ผลงานทัศนศิลป์เกี่ยวกับพระนางบูเช็กเทียน
มีผลงานมากมายทั้งนวนิยาย ภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ และเกมส์คอมพิวเตอร์ ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงพระนางบูเช็กเทียน ดังนี้
นวนิยาย
- บทบาทในนวนิยายของพระนางบูเช็กเทียนปรากฏร่วมกับ ตี๋ เหรินเจี๋ย () ในหนังสือนวนิยายชื่อ "ความหลอกลวง: นวนิยายแห่งความลึกลับและบ้าคลั่งของยุคจีนโบราณ (Deception: A Novel of Mystery and Madness in Ancient China) " ประพันธ์โดย อเลนอร์ คูนี่ย์ (Eleanor Cooney) และ แดเนียล อัลเทอร์รี่ (Daniel Alteri)
- หนังสือนวนิยายชื่อ "เด็กชายที่กำลังเดิน (The Walking Boy) " ประพันธ์โดย ลินดา กวา (Lydia Kwa) ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 2005 โดยสำนักพิมพ์คีย์พอร์เตอร์บุ๊กส์ (Key Porter Books) ประเทศแคนาดา
- หนังสือประวัติศาสตร์ชื่อ "คุณนายอู่ (Lady Wu) " ประพันธ์โดย หลินอยู่ถัง (Lin Yutang; จีน: 林语堂; พินอิน: Lín Yǔtáng); โดยรวบรวมข้อมูลทางประวัติศาสตร์ วิจัยอย่างละเอียด รวมทั้งการเล่าเรื่องให้เห็นถึงด้านลบของหญิงผู้มาเป็นจักรพรรดินีของจีน
- หนังสือนวนิยายอิงชีวประวัติชื่อ "ออร์เพรราทรีซสึ Impératrice (ภาษาฝรั่งเศส) ประพันธ์โดยซานซา () (เกิดในเมืองปักกิ่ง) and based on Empress Wu's life. แปลเป็นภาษาอังกฤษ ชื่อ "เอ็มเพรส หรือ จักรพรรดินี (Empress) " ; ในภาษาญี่ปุ่น ชื่อ "โจเทอิ วากา นะ วะ โซคุเทน บูโก (Jotei: Waga na wa Sokuten Bukō (女帝: わが名は則天武后, แปลว่า "จักรพรรดิหญืง: ฉันชื่อบูเช็กเทียน") ) "; และในภาษาเยอรมัน ชื่อ "ไคเซอร์ริน (Kaiserin) "'
- นวนิยายอิงประวัติศาสตร์ชื่อ "เอ็มเพรส หรือ จักรพรรดินี (Empress) " ประพันธ์โดยเอเวอร๋ลีน แม็คคูน (Evelyn McCune) เป็นเรื่องราวของอู่ จ้าวตั้งแต่ในวัยรุ่นตอนต้น โดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างนางกับจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ถังทั้งสองพระองค์ รวมถึงในขณะที่พระนางทรงขึ้นครองราชย์ปกครองบ้านเมืองด้วยพระองค์เองในฐานะจักรพรรดินีด้วย ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1994 โดยสำนักพิมพ์บัลลาทีนบุ๊กส์ (Ballantine Books)
- หนังสือนวนิยายอิงชีวประวัติชื่อ "พระสนมอู่ จ้าว (Cairen Wu Zhao) " ประพันธ์โดยนักประพันธ์นวนิยายจีนชื่อ ซูถง ซึ่งบรรยายชีวิตและประสบการณ์ด้านอารมณ์ของพระนางบูเช็กเทียน
- หนังสือชื่อ "อาณาจักรของสตรี (Isle of Woman) " ประพันธ์โดยปิแอร์ แอนโทนี่ (Piers Anthony) ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1993 โดยสำนักพิมพ์ทอร์แฟนตาซี (Tor Fantasy) ประกอบด้วยเรื่องราวในช่วงระยะเวลาของการขึ้นสู่อำนาจของพระนางบูเช็กเทียน
- หนังสือนวนิยโรแมนติกอิงประวัติศาสตร์ของจักพรรดินีชื่อ "มังกรเขียวและเสือขาว (Green Dragon, White Tiger) " ประพันธ์โดยนักเขียนชาวไอริชชื่อ แอนเน็ตต์ มอตลี่ (Annette Motley) ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1988 โดยสำนักพิมพ์ออนนิกซ์ (Onyx)
- นวนิยายกำลังภายในอิงประวัติศาสตร์ชื่อ " (Nüdi Qiying Zhuan; 女帝奇英傳) " ประพันธ์โดย เนี่ย อู้เซ็ง
- หนังสือนวนิยายกำลังภายในอิงประวัติศาสตร์ชื่อ "พระอาทิตย์และพระจันทร์บนท้องฟ้า หรือ รื่อเยว่ตางคง (Ri Yue Dang Kong หรือ The sun and the moon in the sky; จีน: 日月當空) " ประพันธ์โดย
ภาพยนตร์
- จักรพรรดินีบูเช็กเทียน หรือ อู่ เจ๋อเทียน (; 武則天), ภาพยนตร์จีนสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1939 แสดงโดย ไวโอเล็ต โค (Violet Koo; 顧蘭君)
- จักรพรรดินีบูเช็กเทียน หรือ อู่ เจ๋อเทียน ( 武則天), ภาพยนตร์ฮ่องกงสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1949 แสดงโดย ฮุงซัวหมาน (Hung Sau-man; 孔繡雲).
- จักรพรรดินีบูเช็กเทียน หรือ อู่ เจ๋อเทียน (; 武則天), ภาพยนตร์ฮ่องกงสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1963 ผลิตโดยชอว์ บราเดอร์ส สตูดิโอ (Shaw Brothers Studio) แสดงโดย หลี่ลี่หว่า (Li Li-hua; 李麗華).
- ลิ่วจู่ หุ้ยเน็งฉวน (; 六祖慧能傳), ภาพยนตร์จีนไต้หวันสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1987 นำแสดงโดย หลิง ปอ เป็นพระนางบูเช็กเทียน.
- ตี๋เหรินเจี๋ย ดาบทะลุคนไฟ (Detective Dee, Detective Dee and the Mystery of the Phantom Flame; 狄仁傑之通天帝國), ภาพยนตร์สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 2010 นำแสดงโดย หลิว เจียหลิง เป็นพระนางบูเช็กเทียน.
- ตี๋เหรินเจี๋ย ผจญกับดักเทพมังกร (Young Detective Dee: Rise of the Sea Dragon; 狄仁杰之神都龙王), ภาพยนตร์สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 2013 นำแสดงโดยหลิว เจียหลิง เป็นพระนางบูเช็กเทียน.
ละครโทรทัศน์
- จักรพรรดินีบูเช็กเทียน หรือ อู่ เจ๋อเทียน ( 武則天), ละครโทรทัศน์ฮ่องกง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1976 โดยคอมเมอร์เชี่ยลเทเลวิชั้น () มี หลี่ทงหมิง (Lee Tong-ming; 李通明) แสดงเป็นพระนางบูเช็กเทียน และเซียงยี (Seung Yee; 湘漪) แสดงเป็นพระนางบูเช็กเทียนในวัยชรา.
- จักรพรรดินีบูเช็กเทียน หรือ อู่ เจ๋อเทียน ( 武則天), ละครโทรทัศน์ฮ่องกง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1984 โดยเอทีวี (ATV), แสดงโดย เพรตทีน่า ฟุง ().
- จักรพรรดินีแห่งราชวงศ์ หรือ อี๋ไต้นู่วฮวง ( 一代女皇), ละครโทรทัศน์จีนไต้หวัน สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1985 โดยซีทีวี (), นำแสดงโดย แองเจล่า พาน ().
- จักรพรรดิ หรือ ถังหมิงฮวง ( 唐明皇), ละครโทรทัศน์จีนไต้หวัน สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1990 ฉายในซีซีทีวี 1, เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการขึ้นครองราชย์ของจักรพรรดิถังเสวียนจง โดยมี จูหลิน (Zhu Lin) แสดงเป็นพระนางบูเช็กเทียน.
- จักรพรรดินีบูเช็กเทียน หรือ อู่ เจ๋อเทียน ( 武則天), ละครโทรทัศน์จีน สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1995 โดยซีซีทีวี (CCTV), นำแสดงโดย หลิว เสี่ยวชิง ().
- เรื่องราวความรักแห่งเทพนิยาย หรือ จิ้นฮัวหยวนฉวนฉี ( 鏡花緣傳奇), ละครโทรทัศน์ฮ่องกง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 2000 โดยเอทีวี (ATV) สร้างจากเรื่องราวในนวนิยายเรื่องดอกไม้ในกระจก () นำแสดงโดย วาง หมิงฉวน เป็นพระนางบูเช็กเทียน.
- ต้าหมิงกงสือ ( 大明宮詞), ละครโทรทัศน์จีน สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 2000 โดยซีซีทีวี (CCTV), มีเจ้าหญิงไท่ผิง พระธิดาในพระนางบูเช็กเทียน เป็นตัวละครเอก และ กุ้ยย่าเล่ย () แสดงเป็นพระนางบูเช็กเทียน.
- ตำนานรักราชวงศ์ถัง หรือ ต้าถังฉิงชื่อ ( 大唐情史), ละครโทรทัศน์จีน สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 2001 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าหญิงเกาหยาง () พระราชธิดาในจักรพรรดิไท่จง โดยมี ชินหลาน () แสดงเป็นพระนางบูเช็กเทียนในวัยพระเยาว์.
- เทียนจื่อสุนหลง (; 天子尋龍), ละครโทรทัศน์ฮ่องกง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 2003 โดยทีบีวี () โดยมีโหลกวนหลาน (Law Koon-lan; 羅冠蘭) แสดงเป็นพระนางบูเช็กเทียน.
- จื้อซุน หงเหยียน ( 至尊紅顏), ละครโทรทัศน์จีนไต้หวัน สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 2004 โดยซีทีเอส () นำแสดงโดยอลีซา เจีย หรือ เจียจิ้งเหวิน (Alyssa Chia; 賈靜雯) แสดงเป็นพระนางบูเช็กเทียน.
- เฉินถ้านตี๋เหรินเจี๋ย ( 神探狄仁傑), ละครโทรทัศน์จีนมีทั้งหมด 4 ภาค เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ ตี๋ เหรินเจี๋ย ออกอากาศในปี ค.ศ. 2004 ถึง ค.ศ. 2010 ช่องซีซีทีวี 8 () โดยมีนักแสดงนำ คือ หลูจง (Lü Zhong 呂中) แสดงเป็นพระนางบูเช็กเทียน.
- อู๋ซื่อเปยเกอ ( 無字碑歌), ละครโทรทัศน์จีน สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 2006 นำแสดงโดย ซีฉิน เกาหว๋า () แสดงเป็นพระนางบูเช็กเทียน.
- เจินกวนจือจื้อ ( 貞觀之治), ละครโทรทัศน์จีน สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 2006 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการครองราชย์ของสมเด็จพระจักรพรรดิถังไท่จง โดยมี จางตี๋ (Zhang Di; 張笛) แสดงเป็นพระนางบูเช็กเทียนในวัยพระเยาว์
- บูเช็คเทียน จอมนางเหนือแผ่นดิน (日月凌空), ละครโทรทัศน์จีน สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 2007 โดย ซีซีทีวี (CCTV) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพระนางบูเบ็กเทียน (แสดงโดย หลิว เสี่ยวชิง () ) กับข้าราชการนักสืบหญิงชื่อ เซี่ยเยาฮวน (Xie Yaohuan) (แสดงโดย หวง เชิ่งอี).
- วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ หรือ เชิ่งชื่อเหรินเจี๋ย ( 盛世仁傑), ละครโทรทัศน์ฮ่องกง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 2009 โดย ทีวีบี (TV) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ ตี๋ เหรินเจี๋ย โดยมีรีเบกก้า ชาน () แสดงเป็นพระนางบูเช็กเทียน.
- ( 武則天祕史), ละครโทรทัศน์จีน สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 2011 โดยหูหนานทีวี (Hunan TV) มีนักแสดงนำที่แสดงเป็นพระนางบูเช็กเทียน 3 คน แสดงเป็นพระนางในช่วงวัยต่าง ๆ กัน คือ หยินเทา (Yin Tao; 殷桃) แสดงเป็นพระนางบูเช็กเทียนในวัยพระเยาว์ หลิว เสี่ยวชิง () แสดงเป็นพระนางบูเช็กเทียนในช่วงวัยกลางคน และซีฉิน เกาหว๋า () แสดงเป็นพระนางบูเช็กเทียนในวัยชรา
- ต้าถังหนู่ซุนอ้าน ( 大唐女巡按), ละครโทรทัศน์จีน สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 2011 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ เซี่ยเยาฮวน (Xie Yaohuan) ข้าราชการนักสืบหญิงที่คอยรับใช้พระนางบูเช็กเทียนอยู่ในราชสำนัก โดยมี อาเจียว แสดงเป็นเซี่ยเยาฮวน และหวังจี (Wang Ji; 王姬) แสดงเป็นพระนางบูเช็กเทียน.
- ถังกงเหม่ยเหรินเทียนเซี่ย ( 唐宮美人天下), ละครโทรทัศน์จีน สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 2011 นำแสดงโดย จางทิง (Zhang Ting 張庭) แสดงเป็นพระนางบูเช็กเทียน.
- สตรีแห่งราชสำนักราชวงศ์ถัง หรือ ถังกงเหยี่ยนจือหนู่เหรินเทียนเซี่ย ( 唐宮燕之女人天下), ละครโทรทัศน์จีน สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 2013 นำแสดงโดย คาร่าฮุย () แสดงเป็นพระนางบูเช็กเทียน.
- เซี่ยวเหนียนเฉินทั่วตี๋เหรินเจี๋ย ( 少年神探狄仁傑), ละครโทรทัศน์จีน โดยมี หลิน ซินหรู แสดงเป็นพระนางบูเช็กเทียน.
- จักรพรรดินีบูเช็กเทียน หรือ อู่ เจ๋อเทียน (The Empress of China; 武則天), ละครโทรทัศน์จีน โดยมี ฟ่าน ปิงปิง แสดงเป็นพระนางบูเช็กเทียน.
- ตอนที่มีชื่อว่า "" จากละครโทรทัศน์ เรื่องเชอร์ล็อก (Sherlock) โดยบีบีซี (the BBC television series) เกี่ยวกับปิ่นปักผมทำจากหยกที่ถูกโขมยไป ซึ่งเป็นปิ่นปักผมของพระนางบูเช็กเทียน
เกมคอมพิวเตอร์
- พระนางบูเช็กเทียนในฐานะผู้นำของประเทศจีนในเกม ซิดไมเออส์ ซิวิไลเซชัน II (; 1996) ซิวิไลเซชัน V; 2010) และยุคของเอมไพร์ที่สอง ยุคแห่งกษัตริย์ (; 1999) โดยบริษัทไมโครซอฟท์คอร์ปอร์เรชั่น (Microsoft Corporation)
ดูเพิ่ม
อ้างอิงและเชิงอรรถ
- Wu was partially in control of power since approximately 660 and her power was even more paramount after January 665. Her was proclaimed on October 16, 690, and she proclaimed herself Empress Regnant on October 19, demoting her son to the rank of with the unusual title of Huangsi (皇嗣).
- She lost power in the palace coup of February 20, 705, and on February 22, she was forced to return imperial authority to her son Li Xian, who was restored as on February 23. The Zhou dynasty was terminated with the restoration of the Tang dynasty on March 3.
- Wu was partially in control of power since approximately 660 and her power was even more paramount after January 665. Her was proclaimed on October 16, 690, and she proclaimed herself Empress Regnant on October 19, demoting her son to the rank of with the unusual title of Huangsi (皇嗣).
- She lost power in the palace coup of February 20, 705, and on February 22, she was forced to return imperial authority to her son Li Xian, who was restored as on February 23. The Zhou dynasty was terminated with the restoration of the Tang dynasty on March 3.
- Zhou dynasty was abolished before her death, and she was reverted to the rank of empress consort on her death, so she did not have a temple name, as empresses consort, unlike ruling emperors, were not given temple names.
- ปีประสูตินี้ ได้มาจากการเอาพระชนม์กับปีสวรรคตที่ระบุไว้ใน (New Book of Tang) ฉบับ ค.ศ. 1045–1060 มาบวกลบกัน ผลลัพธ์ดังกล่าวนี้เป็นที่ยอมรับของนักประวัติศาสตร์สมัยใหม่ แต่ถ้าคำนวณตามที่ระบุไว้ใน (Book of Tang) ฉบับ ค.ศ. 941-945 จะได้ปีประสูติเป็น ค.ศ. 623 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "birth" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน - วันเดือนปีที่ระบุไว้ตรงนี้ เป็นไปตามปฏิทินจูเลียน มิใช่ตามปฏิทินก่อนเกรโกเรียน
- 兩千年中西曆轉換
- Paludan, 100
- See, for example, Beckwith, 130, n. 51
- Empress of China: Wu Ze Tian, by Jiang, Cheng An, Victory Press 1998
- Paludan, 96
- http://www.womeninworldhistory.com/heroine6.html
- See, e.g., Bo Yang Edition of the Zizhi Tongjian, vol. 51, Preface.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-02-19. สืบค้นเมื่อ 2014-10-26.
- General note: Dates given here are in the ปฏิทินจูเลียน. They are not in the ปฏิทินก่อนเกรโกเรียน.
- http://www.oknation.net/blog/print.php?id=601668[]
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-10-11. สืบค้นเมื่อ 2014-10-26.
- See, e.g., Zizhi Tongjian, vol. 199 's assertion that she had "served" (euphemism for sexual relations) Emperor Taizong when trying to stop Emperor Gaozong from creating her empress.
- Zizhi Tongjian, vol. 206.
- Paludan, 93
- The modern historian , based on the fact that Consort Wu's oldest son was born in 652, fixed the date of this incident as 650, but 651 is also a possibility. See Bo Yang Edition of Zizhi Tongjian, vol. 47.
- , Outlines of the History of the Chinese (中國人史綱), vol. 2, p. 520.
- หลัวปินหวัง, Declaration on Xu Jingye's Behalf Against Wu Zhao, collected in , vol. 7.
- Zizhi Tongjian, vol. 199.
- Zizhi Tongjian, vol. 200.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-07-08. สืบค้นเมื่อ 2014-10-26.
- See, e.g., Bo Yang Edition of the Zizhi Tongjian, vol. 40 [683].
- Zizhi Tongjian, vol. 201.
- For Wu Shihuo's career and family, see generally , vol. 58 [1] 2007-10-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน and New Book of Tang, vol. 206.[2] 2008-02-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Zizhi Tongjian, vol. 202.
- ประวัติศาสตร์จีนฉบับย่อ, เขียนโดยหลี่เฉวียน แปลโดยเขมณัฏฐ์ ทรัพย์เกษมชัย, สำนักพิมพ์มติชน, มกราคม 2556
- Zizhi Tongjian, vol. 203.
- Paludan, 97
- Paludan, 97–101
- See, e.g., Zizhi Tongjian, vol. 234 [submission of to จักรพรรดิถังเต๋อจง, citing Wu Zetian as the prime example of a capable selector of officials]; 's (二十二史劄記), Empress Wu Accepted Corrections and Knew People.[3] 2009-01-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, .
- Zizhi Tongjian, vol. 204.
- Zizhi Tongjian, vol. 205.
- ประวัติศาสตร์จีนฉบับย่อ เขียนโดยหลี่เฉวียน แปลโดยเขมณัฏฐ์ ทรัพย์เกษมชัย ปี พ.ศ. 2557
- Throughout the Zizhi Tongjian descriptions of Wu Zetian's reign, Sima referred to her as "the Empress Dowager", implicitly refusing to recognize her as empress regnant, although he used her .
- Domesticating the Dharma, Richard D. McBride, 2007. Google Books Preview
- Zizhi Tongjian, vol. 208.
- Zizhi Tongjian, vol. 207.
- Jonathan Wolfram Eberhard (1997). A history of China. University of California Press. p. 388. ISBN . สืบค้นเมื่อ 2010-06-28.
- The Zizhi Tongjian asserted that Li Chongrun was forced to commit suicide, but the and the asserted in his biographies that he was caned to death on Wu Zetian's orders. Compare Zizhi Tongjian, vol. 207, with Book of Tang, vol. 86 [4] 2007-10-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน and New Book of Tang, vol. 81.[5] 2008-02-19 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน The Book of Tang, meanwhile, inconsistently asserted in the chronicles of Wu Zetian's reign that he was forced to commit suicide. See Book of Tang, vol. 6.[6] 2007-12-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน The chronicles of Wu Zetian's reign in the New Book of Tang merely stated that the three of them "were killed." See New Book of Tang, vol. 4.[7] 2007-10-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- However, some modern historians, based on the text on Li Xianhui's tombstone (written after Emperor Zhongzong was restored to the throne in 705), which suggested that she died the day after her brother and her husband and that she was pregnant at death, and the fact that the skeleton believed to be hers had a small pelvis, have proposed the theory that she was not ordered to commit suicide, but had, in grief over her brother's and husband's deaths, had either a miscarriage or a difficult birth and died from that. See, e.g., illustrations preceding the Edition of the Zizhi Tongjian, vol. 49.
- 说 in this place is pronounced as Yue, not Shuo. See, e.g., Heming Yong, Jing Peng, Chinese lexicography: a history from 1046 BC to AD 1911.
- http://www.sinica.edu.tw/ftms-bin/kiwi1/luso.sh?lstype=2&dyna=%AD%F0&king=%A4%A4%A9v&reign=%AF%AB%C0s&yy=1&ycanzi=&mm=1&dd=22&dcanzi=
- http://www.sinica.edu.tw/ftms-bin/kiwi1/luso.sh?lstype=2&dyna=%AD%F0&king=%A4%A4%A9v&reign=%AF%AB%C0s&yy=1&ycanzi=&mm=2&dd=4&dcanzi=
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2014-10-26.
- Book of Tang, vol. 6.
- This was a reference to a story relayed in the . In the story, it was mentioned that the king of gave a beautiful woman to as a gift, to be his concubine. King Huai's jealous wife Queen Zheng Xiu (鄭袖) told her, "The King loves you greatly, but dislikes your nose. If you cover your nose whenever you see him, you can ensure that he will continue to be loved by him. She accepted Queen Zheng's suggestion. When King Huai asked Queen Zheng, "Why does she cover her nose when she sees me?" Queen Zheng responded, "She often said that Your Majesty had a stench to you." King Huai, in anger, yelled, "Cut off her nose!"
- This is a reference to the torture that จักรพรรดิฮั่นเกาจู่'s wife จักรพรรดินีฮั่นเกา carried out against Emperor Gao's favorite concubine Consort Qi after Emperor Gao's death, once Empress Lü became empress dowager – by cutting her limbs off, blinding her, deafening her, and referring to her as the human pig (人彘).
- Paludan, 98
- Cotterell and Cotterell, 144
- Fairbank, 82
แหล่งข้อมูล
- (2009) : Empires of the Silk Road: A History of Central Eurasia from the Bronze Age to the Present. Princeton: Princeton University Press. .
- , vol. 6.[8] 2007-12-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Cotterell, Yong Yap and Arthur Cotterell (1975). The Early Civilization of China. New York: G.P.Putnam's Sons. .
- Empress of China: Wu Ze Tian, by Jiang, Cheng An, Victory Press 1998
- Kang-i Sun Chang, Haun Saussy, Charles Yim-tze Kwong (1999). Women writers of traditional China: an anthology of poetry and criticism. Stanford University Press.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - (1992), China: A New History. Cambridge, Massachusetts: Belknap Press/Harvard University Press. .
- Murck, Alfreda (2000). Poetry and Painting in Song China: The Subtle Art of Dissent. Cambridge (Massachusetts) and London: Harvard University Asia Center for the Harvard-Yenching Institute. .
- , vols. 4, [9] 2007-10-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน 76.[10] 2008-02-19 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- (1998). Chronicle of the Chinese Emperors: The Reign-by-Reign Record of the Rulers of Imperial China. New York, New York: Thames and Hudson. .
- Rastelli, Sabrina (2008). China at the Court of the Emperors: Unknown Masterpieces from Han Tradition to Tang Elegance (25-907) . Skira. .
- Scarpari, Maurizio (2006). Ancient China: Chinese Civilization from the Origins to the Tang Dynasty. Vercelli: VMB Publishers. .
- (1971). CHINESE LYRICISM: Shih Poetry from the Second to the Twelfth Century. (New York: Columbia University Press). .
- Yu, Pauline (2002). "Chinese Poetry and Its Institutions", in Hsiang Lectures on Chinese Poetry, Volume 2, Grace S. Fong, editor. Montreal: Center for East Asian Research, McGill University.
- , vols. 195, 199, 200, 201, 202, 203, 204, 205, 206, 207, 208.
ดูเพิ่ม
- Cawthorne, Nigel (2007). Daughter of Heaven – The True Story of the Only Woman to become Emperor of China. Oxford: One World Publications. pp. 271 pages. ISBN .
- Wu Zhao: China's Only Woman Emperor, written by N. Harry Rothschild and published 2008 by , Inc.
- Empress Wu Zetian in Fiction and in History: Female Defiance in Confucian China by Dora Shu-fang Dien (Nova Publishing, 2003) explores the life of Empress Wu Zetian and the ways women found to participate in public life, despite the societal constraints of dynastic China.
- Wu: The Chinese Empress Who Schemed, Seduced and Murdered Her Way to Become a Living God by offers a critical appraisal of many primary sources and includes an appendix comparing fictional accounts.
ก่อนหน้า | บูเช็กเทียน | ถัดไป | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
จักรพรรดินีหวัง | ฮองเฮา ราชวงศ์ถัง (655–684) | จักรพรรดินีเว่ย์|}
|
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixactxngkartrwcsxbtnchbb indaniwyakrn rupaebbkarekhiyn kareriyberiyng khunphaph hruxkarsakd khunsamarthchwyphthnabthkhwamidbthkhwamniyngtxngkarephimaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxngkhunsamarthphthnabthkhwamniidodyephimaehlngxangxingtamsmkhwr enuxhathikhadaehlngxangxingxacthuklbxxk haaehlngkhxmul buechkethiyn khaw hnngsuxphimph hnngsux skxlar JSTOR eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir xu ecxethiyn tamsaeniyngklang hrux buetkethiyng tamsaeniyngaetciw hrux buechkethiyn tamsaeniynghkekiyn cintwyx 武则天 cintwetm 武則天 phinxin Wǔ Zetian ewd icls Wu3 Tse2 t ien1 17 kumphaphnth kh s 624 16 thnwakhm kh s 705 phranamedimwa xu caw cin 武曌 phinxin Wǔ Zhao ewd icls Wu3 Chao4 inrachwngsthngmkxxkphranamwa ethiynohw 天后 aelainsmytxmawa xuohw 武后 thrngepnphusthapnarachwngsxuocw aelathrngepnstriphraxngkhediywinprawtisastrcinxnyawnankwasiphnpithiidepnhxngetxu ecxethiynethiynohwhwngti 天后皇帝 phrabrmchayasathislksncaksmudrwmphaphckrphrrdicin wadkhuninkhriststwrrsthi 18ithchanghwngti 太上皇帝 darngphrays22 kumphaphnth kh s 705 16 thnwakhm kh s 705 0 pi 297 wn ckrphrrdininathaehngckrwrrdicinkhrxngrachy16 tulakhm kh s 690 22 kumphaphnth kh s 705kxnhnackrphrrdithngruycng rachwngsthng thdipckrphrrdithngcngcng rachwngsthng 武周皇帝 ckrphrrdininathaehngrachwngsxuocwkhrxngrachy16 tulakhm kh s 690 22 kumphaphnth kh s 705kxnhnaphraxngkhaerkrachwngsxuocwthdipyubrachwngsxuocwhwngithohwdarngphrays27 thnwakhm kh s 683 16 tulakhm kh s 690 6 pi 293 wn kxnhnathdipckrphrrdiniehwyhwngohwdarngphrays2 thnwakhm kh s 655 27 thnwakhm kh s 683 28 pi 25 wn kxnhnackrphrrdinihwngthdipckrphrrdiniehwykhxmulswnphraxngkhkarthulpiesiy 陛下 sthanakarsmrsphraphrryaecaphranamlalxngxu ehmy 武媚 xu ecxethiyn 武则天 phrarachsmphph17 kumphaphnth kh s 624 623swrrkht16 thnwakhm kh s 705 raw 83 phrrsa lwhyang mhackrwrrdithngfngphrabrmsphphranamthnghmd xu 武 caw 武曌 xu caw 武曌 rchskkwngic 光宅 kh s 684 eduxn 12 ethiynochw 天授 kh s 690 kh s 692 hruxi 如意 kh s 692 eduxn 9 changosw 长寿 kh s 692 eduxn 9 kh s 694 ehyiynic 延载 kh s 694 ecingeching 证圣 kh s 695 ethiynechxwansuy 天册万岁 kh s 695 eduxn 9 eduxn 12 wansuyetingefing 万岁登封 kh s 695 eduxn 12 kh s 696 wansuythngethiyn 万岁通天 kh s 696 kh s 697 esinkng 神功 kh s 697 eduxn 10 echingli 圣历 kh s 698 kh s 700 ciwsux 久视 kh s 700 kh s 701 tacu 大足 kh s 701 eduxnaerk eduxn 10 changxn 长安 kh s 701 kh s 705 esinhlng 神龙 kh s 705phrabrmnamaphiithyechinghmuesinhwng 圣母神皇 echingesinhwngti 圣神皇帝 eywkucinhlunechingesinhwngti 越古金轮圣神皇帝 chuxsuxeywkucinhlunechingesinhwngti 慈氏越古金轮圣神皇帝 ethiynechxcinhlunechingesinhwngti 天册金轮圣神皇帝 ecxethiyntaechinghwngti 则天大圣皇帝 phrasmyyanamecxethiyntaechinghwngohw 则天大圣皇后 ethiynohw 天后 taechingethiynohw 大圣天后 ethiynohwechingti 天后圣帝 echingohw 圣后 echingethiynhwngohw 则天皇后 ecxethiynchunechinghwngohw 则天顺圣皇后 phraxaramnamimmiephraaswrrkhtinthanahwngithohwphrarachswamickrphrrdithngithcng 637 649 ckrphrrdithngekacng 655 683 phrarachchnkithcuekahwngtixusuxeyw 太祖高皇帝 武士彟 phrarachchnniesiywhmingekahwngohw aeshyang 孝明高皇后 杨 phrarachbutrrchthayathhlihng ecachayhli esiyn ckrphrrdithngcngcng ckrphrrdithngruycng ecahyingithphingrachwngsrachwngsthng odykarxphiesksmrs rachwngsxuocw odykarkhrxngrachy trakulxu 武 sasnaphuththmhayandkbthkhwamnixangxingkhristskrach khristthswrrs khriststwrrs sungepnsarasakhykhxngenuxha inaephndinkhxngphrarachswamiaelaphrarachbutrkhxngphranangrahwangpi kh s 665 thung 690 phranangthrngpkkhrxngcinodyphvtiny txmainpi kh s 690 thung 705 phranangthrngsthapnarachwngskhxngphranangexng khux rachwngsocw hruxinprawtisastrcineriykwa rachwngsxuocw aelaechlimphranamphranangexngwa echingesinhwngti 聖神皇帝 xnepnkarlaemidpraephniaetobranaelayngthaihrachwngsthngsadudhyudlngrayahnung nkprawtisastrphuniymlththikhngcuxcungpranamphranangepnxyangmak xu ecxethiyn thrngmitaaehnngsakhythnginsmythngithcng ckrphrrdiphraxngkhthi 2 aehngrachwngsthng aelainsmythngekacng ckrphrrdiphraxngkhthi 3 aehngrachwngsthng odyaerkerimthrngidrbkaraetngtngihepnphrasnmkhxngthngithcng emuxthngithcngswrrkht phranangcungidxphiesksmrskbthngekacnginpi kh s 655 aelaidrbkarkhnanphranamwa ekacngfuehrin 高宗夫人 inpi kh s 690 hlngcakthngekacngswrrkht kekidkaraeyngchingrachsmbtiepnewlakwa 7 pi inthisudphranangidthrngtngtnkhunepnhxngethyingphraxngkhaerkinprawtisastrcin rwmthungprakasepliynrachwngsthngepnrachwngsxuocwtngaetnnma cnswrrkhtemuxpi kh s 705 inchwngthixu ecxethiyn thrngepnphunathngdankarpkkhrxngaelakarthhar mikarkhyayxanackhxngcinxxkipepnxnmakekinkwaxanaekhtdinaednedimthiekhymima ipthungbriewnthwipexechiyklang rwmthungkarkhrxbkhrxngphunthiaethbkhabsmuthrekahlitxnbn swnphayinpraethscinexng aemcamiphuthiidrbphlkrathbcakkarikhwkhwaephuxihidmasungxanackhxngphranangthnginkarsurb prabpramkbt aelalngothspraharchiwit aetphranangidthrngphthnapraethsodykarsngesrimaelaephyaephrrabbkarsxbcxhngwnephuxsngesrimihbnthitphumikhwamrukhwamsamarthekhamarbrachkarbriharpraethsodyimkhanungthungchnchn sngesrimaelaykradbbthbathkhxngstriephsodyepidoxkasihekharbtaaehnngrachkarinradbsung nxkcakniphranangyngihkhwamepnthrrmaekprachachndwykarldphasixakrthikdkhi sngesrimkarekstraelakarsrangngan thaihpraethscininyukhkhxngphranangmikhwamekhmaekhngaelaphthnadanesrsthkicxyangrwderw xu ecxethiyn thrngsngesrimaelaihkhwamsakhyaekphraphuththsasnamakkwalththietainthanaepnsasnapracachati cncdihmikarsrangwdaelaptimakrrmintha echn thaphahlngehmin klawidwaphraphuththsasnaidrbkarphthnaxyangsungsudinpraethscininchwngyukhkhxngphranang nxkcakinthanaphunathangkaremuxng xu ecxethiyn yngmichiwitkhrxbkhrwthioddedn aemwainbangkhrngkhwamsmphnthinkhrxbkhrwcaepnpyhaihaekphranang miphraoxrs 3 phraxngkhsungtxmaidkhunkhrxngrachbllngkepnckrphrrdi aelaphranddakhxngphranang khux thngeswiyncng ckrphrrdihnunginyukhthxngaehngprawtisastrcinphranambuechkethiynmiphranamedimwa xu caw Wu Zhao bangkhrngichtwxksrcinwa 武曌 hakwatwxksrthiichcringimepnthipraktchd xyangirktamkhawa caw imidichtwxksr 瞾 enuxngcaktwxksrniepnxksrthimikarpradisthkhunihminsmykhxngphranangexng swnaeshruxrachskulkhxngphranangkhux xu sungyngkhngichxyuaemwacathrngxphiesksmrskb ckrphrrdithngekacng sungichrachskul hli txmackrphrrdithngithcng phrarachthanphranamihaekphranangihmwa emy 媚 thaihinpccubn prachachncinmkexyphranamkhxngphranangwa xuemy hrux xuemyehniyng 武媚娘 emuxklawthungchiwitinwyeyawkhxngphraxngkh aelacaichchuxeriykphranamwa xuohw emuxklawthungphrananginchwngthiidrbkaraetngtngihepnphramehsi hruxhxngeha aelaphraphnpi hruxitheha aelw swnkarichkhawa xu ecxethiyn cin 武則天 caichemuxklawthungphraxngkhinkhnadarngphraysepnckrphrrdini hxngeha aehngrachwngsxuocwkhxngcin txngkarxangxing phrarachprawtiphrarachsmphph sahrbraynamsmachikintrakulkhxngckrphrrdinixu ecxethiyn duephimthi trakulxumitnkaenidinemuxng cin 文水 cin 并州 pccubnkhux tablehwinsuyinmnthlsansi buechkethiynekidinemuxng cin 利州 pccubnkhux emuxng cin 广元 inmnthleschwn txngkarxangxing hruxmichannxacepnthiemuxngchangxan pccubnkhuxemuxngsixan inchwngrchsmyckrphrrdithngekacu prasutiemuxwnthi 16 kumphaphnth kh s 624 aelaswrrkhtinwnthi 16 thnwakhm kh s 705 ckrphrrdinixuprasutiinpithi 7 aehngrchsmyckrphrrdithngekacu odypinnepnpithiekidsuriyuprakhaetmdwng total eclipse of the Sun sungsamarthmxngehnidinpraethscin bidakhxngphranangkhux Wu Shihuo cintwyx 武士彟 cintwetm 武士彠 phinxin Wǔ Shihuo 559 635 CE mixachiphekiywkbkarkhaim sungepnephiyngphxkhasamychnthrrmdathimithanakhnhnung swnmardakhxngphranangnnmacaktrakulhyangsungepntrakulthimixanacmakinsmynn inchwngpisudthaykhxngrchsmyckrphrrdisuyhyang hliywn Li Yuan cin 李淵 phumitaaehnngaemthphkhunnanginrachwngssuy sungphayhlngklayepnckrphrrdithngekacuaehngrachwngsthngidekhaphkxasyxyuinbankhxngtrakulxu hruxbu hlaykhrngcnmikhwamsnithsnmkbtrakulni hlngcakhlihywnlmlangxanackhxngckrphrrdisuyhyangidaelw phraxngkhidtxbaethntrakulxudwyenginthxng emldphnthuphuch thidin aelaaephrphrrnenuxditang epnxnmak aelaemuxsthapnarachwngsthngsaerc idrbtaaehnngesnabdixawuosaelataaehnngphukhrxngemuxng aela Jingzhou cin 荊州 pccubnkhux ekht Jiangling County cin 江陵县 inmnthlhuepy txmackrphrrdiekacuidslarachsmbti phrarachoxrskhxngphraxngkh khux ecachayhlisuxhmin Li Shi Min cin 李世民 phinxin Lǐ shi min cungkhunkhrxngrachytxepnckrphrrdithngithcngnnexng phrarachmardakhxngckrphrrdinixu ecxethiynnnedimthrngepnechuxsayrachwngssuy 隋朝 thipkkhrxngpraethscinmakxnrachwngsthng sungthanhyinghyang phrarachmardakhxngphranangnnedimepnphranddakhxng cin 关王 phinxin Guan wang hruxphranamedim hyangsng sungepnphrayatisnithkhxngckrphrrdisuyhyang phranamcringwa hyangkwang ckrphrrdiphraxngkhsudthaykhxngrachwngssuy cungnbidwathanhyinghyangepnphuekidinchatitrakulsung hakrachwngssuymiidlmslaylngipesiy xusuxhwkhngmiidmioxkasphbecahyinghyang aetemuxrachwngssuylmslayip ecahyinghyangcungcatxnghathiphungphing striinyukhnnmithangeluxkimmaknk enuxngcakkhnannphraxngkhepnephiyngsmachikrachwngsthitkyak sungxusuxhwexngktxngkarthihaphriyathicamasngesrimechidchuekiyrtikhxngtnexngechnkn odyechphaainyamthitxngxxksngkhmkbphwkkhunnang sungkmkcaepnphuekidintrakulsungesiyepnswnihy dngnnecahyingechuxsayrachwngssuyxyangecahyinghyangcungepnthihmaypxngkhxngxusuxhwepnxyangmak emuxkhwamtxngkarkhxngthngsxngfaytrngkn ecahyinghyangcungthrngsmrskbxusuxhw odymithanaepnphriyakhnthisxng enuxngcakxusuxhwmiphriyakhnaerkxyuaelwepnhyingsamychn aelathukeriykkhannamwathanhyinghyang nbaetnnma aemcaepnphriyakhnthi 2 aetwaepnechuxphrawngsekamakxnthanhyinghyangcungepnthirkaelaykyxngkhxngxusuxhwxyangmak thaihphriyakhnaerkkbbutrchaythng 2 thiekidkbphriyakhnaerkimchxbicthanhyinghyangaelaekidehtukrathbkrathngtharaycitickntlxdma khrntxmaemuxthanhyinghyangidihkaenidtharknxybuechkethiyn xu ecxethiyn idmieruxngelaknwamiohrihykhnhnungchuxhywnethiynkngmaehntharknxythinarkkhnni aelanukwaepnedkchaycungxxkpakthkipwa edkkhnnithahakepnhyinglak txipcaidepnihythisudinaephndincinepnaen yingkwannemuxbuechkethiynidekhawngipaelw ohracaryaehngrachsankyngidphyakrnsathbxikwa txipstriaesxucamixanackhunlmrachwngsthng phngsawli xu cuchang xueciyn hliw xu hw sng eca xu ecxethiyn hyangecha hyangta thanhyinghyang wyphraeyaw ckrphrrdinixuprasutiintrakulrarwy mikhnrbichthikhxychwyehluxeruxngtang inchiwitpracawn thaihimekhyeriynrunganinbanid phrarachbidakhxngphranangcungsnbsnunihphranangxanhnngsuxaelasuksaelaeriynhnngsuxaethn sungaetktangcakbidathimibutrstrikhnxun inyukhnnepnxyangmak aelaphranangexngkmiidepnstripraephththisamarthnngengiyb thanganeybpkthkrxy hruxdumchathngwnid phranangcungtngicelaeriynwichatang makmay xathi wichadankaremuxngaelakarpkkhrxng karekhiyn wrrnkrrm aeladntri phranangetibotkhunphrxmkbkareriynrumakmaythiphrarachbidakhxngphranangepnphusnbsnunxyangtxenuxng emuxxayuid 14 phrrsa phranangcungthuksngekhathwaytwepnnangsnmkhxngckrphrrdithngithcng emuxphranangxayuid 14 phrrsa idthuksngekhathwaytwepnphrasnmkhxngckrphrrdithngithcng aelathiniexngthiphranangerimrbhnathifayinintaaehnngkhlayelkhanukar sungthaihphranangidsantxdankarsuksaxikkhrng inrchsmykhxngckrphrrdithngithcngnn phraxkhrmehsi hrux hwngohw cin 皇后 phinxin Huanghou khuxckrphrrdinicangsun cin 长孙皇后 phinxin Zhǎng xun huanghou phranangthrngmiaes 2 phyangkhkhux changsun hrux cangsun swnphranamkhux xuetx epnphrachnnikhxngphrarachoxrsthng 3 phraxngkhkhxngckrphrrdithngithcng inewlatxmaecachayhliechingechiyn phrarachoxrsphraxngkhaerkphudarngtaaehnngrchthayath cin 皇太子 phinxin Huang taizǐ kbphrarachoxrsphraxngkhtxmakhux ecachayhliith sungmikhwamkhdaeyngtxknmanan enuxngcakecachayhliithmiphraprasngkhcaepnrchthayath aetdwykhwamthiphraxngkhmiidepnphrarachoxrsphraxngkhaerk phraxngkhyngthrngthrabdwyxikwarchthayath ecachayhliechingechiynnnepnphwkrkrwmephs cungthrngphyayamthukthangthicakacdphraechsthakhxngphraxngkhexngihid odymixyukhrnghnungthiecachayhliechingechiynrchthayathekuxbcathukckrphrrdithngithcngphrabidacacbidaelwwaphraxngkhnnthrngepnphwkrkrwmephs hakaethlkthanimephiyngphx ckrphrrdithngithcngcungthrngeluxkthicaechuxphrarachoxrskhxngphraxngkhmakkwa aelaoprdihpraharchiwitkhnthikhnsnithsungepnkhurkkhxngrchthayathesiy aetimidthrngoprdekla ihpldecachayhliechingechiyncakrchthayathaetxyangid txmarchthayathwangaephnkbtephuxrwbxanacmaiwthitnexngaetphuediyw ephuxepnkarkacdecachayhliithphraxnuchadwy aetaephnkarrwihlesiykxn inkhrngnickrphrrdithngithcngimxacningechyidxiktxip phraxngkhcungoprdekla ihpldecachayhliechingechiyn caktaaehnngrchthayathepnsamychn aelwcungenrethsipxyutablinekhtchayaedn hliechingechiynxyuidimnankthungaekkrrmthitablchayaednnnexng swnecachayhliith phrarachoxrsphraxngkhtxmakphladhwngcaktaaehnngrchthayath odytaaehnngrchthayathklbiptkxyukbecachayhlicux Li Zhi cin 李治 phinxin Lǐ zhi phrarachoxrsphraxngkhelkkhxngckrphrrdithngithcng aelaepnphraxnuchakhxngecachayhliithnnexng dwyckrphrrdiithcngmiphrarachdariexngwaphrarachoxrsphraxngkhrxngnnepnphuthimiciticohdehiym aemcamikhwamsamarthehnuxkwaaetkimsmkhwridkhrxngaephndin swnphrarachoxrsphraxngkhelknnaemcaimekhmaekhngeddkhad aetkmiphunthancitickhxnipthangfaydingam kartdsinphrathykhxngckrphrrdithngithcngkhrngniepnkarphlikochmprawtisastrcininxikimnannbcaknn txmaimnanin pi kh s 649 ckrphrrdithngithcngesdcswrrkht ecachayhlicuxsungepnrchthayathidesdckhunkhrxngrachyaethn aelathrngphranamwackrphrrdithngekacng cin 唐高宗皇帝 phinxin Tanggaozōng huangdi khrxngrachypi kh s 649 683 epnrchkalthi 3 aehngrachwngsthngnbcakckrphrrdithngekacuepntnma odythrngmixkhrchayathiphrarachbidaphrarachthanxphiesksmrsihmaaetedim phraxkhrchayaphraxngkhnicungidkhrxngphrarachxisriyysxkhrmehsi xxkphranamwackrphrrdinihwng cin 王皇后 phinxin Wang huanghou dwyphranangmiaesedimwa hwng 王姓 nangsnmkhxngckrphrrdithngithcng emuxphranangbuechkethiynekhamaepnnangsnmodykarxyukindwyknodyimidsmrs khxngckrphrrdithngithcng rawpi kh s 636 thung 638 aelaidrbysepn ichehrin cairen cin 才人 phinxin Cai ren sungepntaaehnngnangsnmradbthi 5 inrabb 9 khnkhxngkharachkar chnchnsung aelanangsnm inrachsankaehngrachwngsthng Tang s nine rank system odykhrngemuxphranangthuksngtwekhawngnn thanhyinghyangphuepnmardarxngihkhrakhrwyxyangkhmkhunkbochkhchatakhxngphranang hakaetbuechkethiynidklawkbmardakhxngphranangwa thanruidxyangirwanimiichochkhkhxngkhaphecathiidphbkb Son of Heaven emuxidekhaicinkhwamthaeyxthayankhxngphranang thanhyinghyangcungidhyudrxngih xyangirktamphranangbuechkethiynmiidepnthioprdprankhxngckrphrrdiithcngnk aemwaphranangcaekhyidekharbichphraxngkhinthananangsnm mikhwamsmphnththangephs inchwngthiphranangbuechkethiynepnnangsnmxyunn idaesdngnisyxneddediywklahaycnthaihckrphrrdiithcngekidkhwamprathbic inewlannckrphrrdithngithcngthrngmimachux singotpa Lion Stallion thimilksnadudnaelaaekhngaerngmak immiphuidsamarthkhunnngfukmatwniid phranangbuechkethiynsungekharbichepnnangsnxngphraoxsthxyuidesnxkbckrphrrdithngithcngwatnsamarthprabmatwniid odyichkhxngsamsing khux aesehlk khxn aelakrich odycaichaesehlkekhiynmnkxn thamannimyxmechuxfngkcaichkhxnthubhwma hakyngimyxmxik kcaexakrichechuxkkhxmnihtaylngesiy ckrphrrdithngithcngidsdbfngkhaaenanakhxngphranangaelwchunchminkhwameddediywkhxngbuechkethiynmak hakaetphraxngkhkrusuktkicmak aelamikhwamrusukluk kwanangsnmthiekhrngkhrdthuxtwimkhwrphudcaaebbni aetecachayhlicux Li Zhi cin 李治 phinxin Lǐ zhi sungepnrchthayathinkhnannklbtidicaelahlngrkbuechkethiynthimixayumakkwaekha 4 pi inrahwangnibuechkethiynkidaexblklxbmikhwamsmphnthkbrchthayath sungepnphraoxrsxngkhsudthaykhxngckrphrrdiithcng khux ecachayhlicux aetkhwamsmphnthnimixntxnghyudlngemuxckrphrrdiithcngsinphrachnmlnginpi kh s 649 ecachayhlicux sungmiphramardaphranamwa ehwinetx Wende epnphramehsiexkkhxngckrphrrdiithcng idsubthxdphrarachbllngktxodymiphranamwa ckrphrrdithngekacng Emperor Tanggaozong cin 唐高宗皇帝 phinxin Tanggaozōng huangdi khrxngrachypi kh s 649 683 bwchepnphiksuni ckrphrrdiithcngmiphraoxrsthnghmd 14 phraxngkh odymi 3 phraxngkhepnphraoxrsinphramehsiexk khux phranangehwinetx cin 文德皇后 phinxin Wen de huanghou aetphraxngkhmiidmiphraoxrskbphrasnmbuechkethiyn tamphrarachpraephniobrankhxngrachsank hakphramehsihruxnangsnmkhnidimmiphraoxrshruxphrathidakbphramhakstriy aelaemuxphraxngkhsinphrachnmlng phramehsiaelanangsnmehlanncatxngxxkcakrachsankaelabwchekhasanksngkhtlxdchiwit phranangbuechkethiyncungthuksngtwipyng Ganye Temple cin 感業寺 ephuxbwchepnphiksunicnkwachiwitcahaim bangswnxangwaepnephraackrphrrdiithcngthrngthraberuxngkhwamsmphnthrahwangbuechkethiynkbphrarachoxrskhxngphraxngkh aetdwykhwamesnhainkhwamngamkhxngbuechkethiyn phraxngkhcungimthrngsngpraharchiwit aethakihbuechkethiynipbwchaethn phranangbuechkethiyntxngphldphrakcakwngipnanthungsxngpi cungidmioxkasidphbkbckrphrrdithngekacngxikkhrnghnung emuxphraxngkhthrngedinthangipyngwdkaneythiphranangbuechkethiynbwchxyu inchwngewlaniexngthiphramehsikhxngckrphrrdithngekacngthrngaexbehnwathngsxngmikhwamphukphntxkn cungchkchwnihbuechkethiynekhamaepnnangsnmexkaethnthinangsnmexkaesesiyw sungmikhwamkhdekhuxngknxyuaelaimtxngphrathykhxngphramehsikhxngckrphrrdithngekacngnk karkhunsuxanac inrawtnkhriststwrrsthi 650 phranangbuechkethiynidklbekhawngxikkhrnginthanaphrasnmkhxngckrphrrdithngekacng phrarachoxrskhxngckrphrrdithngithcng idrbysepnecaxi Zhaoyi cin 昭儀 sungepntaaehnngsungsudinbrrdaskdiekachnkhxngnangsnm thaihphranangmixanacaelaxiththiphlinkarbriharrachkarepnxyangmakinchwngtlxdrchsmykhxngckrphrrdithngekacng aelaidrbkarklawthungwaepnphumikhwamthaeyxthyaninxanacepnxyangmak minkprawtisastrcinobranbangkhnechuxwaphranangbuechkethiynepnphusngharphrathidakhxngphranangexngephuxisrayaelaoynkhwamphidihaekckrphrrdinihwng Empress Wang cin 王皇后 phinxin Wang huanghou hwnghxngeha inckrphrrdithngekacng inkarkawkhunsuxanacdwy caksankphiksuniklbmaepnnangsnmxikkhrng ckrphrrdithngekacngesdckhunkhrxngrachyinkhnathimiphrachnmayuephiyng 21 pi thrngepnphudxyprasbkarnaelakhwamsamarth prakxbkbmisukhphaphthixxnaeex hakthrngidrbkaraetngtngcakphrarachbidackrphrrdithngithcngihepnrchthayathenuxngcakkhwamxpyskhxngphraechsthathngsxngkhxngphraxngkh ckrphrrdithngekacngnnthrngepnphuthimirangkayxxnaexhakaetmiciticthidi aemwaphraxngkhcakhxnkhangipthanghuebaaelafkifinkamarmn imnanhlngcakkhunkhrxngrachyphraxngkhthrnghlngihlaelaoprdpranintwphrasnmesiyw aesesiyw namwahuycux sungedimepnstrisamychn Consort Xiao cin 宵恕妃 phinxin Xiao shu fei xyangmak cntxmainphayhlngthungkboprdekla ihsthapnanangkhunepnphramehsiladbthi 3 xxkphranamwa phramehsiesiyw ckrphrrdinihwngthrngtrahnkdiwaphrarachswamioprdpranphrasnmesiywmak cnthrngklwwacasngphlthungthanakhxngphranang sungkepnkhwamcringdngthickrphrrdinithrngkngwl ephraaimnantxmaphrasnmesiywkthrngphrakhrrphaelaihphraprasutikarphrarachkumarphraxngkhnxythimisukhphaphaekhngaerng thrngphranamwa Li Sujie aelathida 2 phraxngkh khux ecahyingxihyang Yiyang aelaecahyingeswiyneching Xuancheng aekthngekacng ckrphrrdithrngpitiyindixyangying thungkboprdeklaihsthapnaphrarachoxrsphraxngkhnxykhunepnkstriyaehngrthsi 喜王 tngaetaerkprasutithiediyw aelayngmiphrarachprarphwacaihdarngtaaehnngrchthayathxikdwy phraxkhrmehsihwngthrngtuntkicmakaelaidphyayamichkusolbaythukthangcnsamarthepliynphrathythngekacngihsthapnaphrarachoxrsphraxngkhihyinbrrdaphrarachoxrsthnghmd khux ecachayhlicng kstriyaehngrthexiyn 燕王 sungmiphramardaepnephiyngphrasnm khuxphrasnmhliw sungepnphrayatikbphrackrphrrdinihwngthangfayphramardaihepnrchthayathaethnidsaerc thaihphrasnmesiywokrthaekhnxyangying inrahwangphrarachphithiphrabrmsphckrphrrdithngithcng thngekacngthrngekhaxxkwdkaney Ganye Temple ephuxthrngcudthupbuchaphrabrmsphphrarachbida thaihphraxngkhidphbkbphranangbuechkethiynxikkhrng sungkhwamsmphnthrahwangthngekacngaelaphranangbuechkethiynphuekhyepnthithrngptiphththmatngaetkhrngrchkalkxnnnxyuinsayphraentrkhxngphrackrphrrdinihwng phrackrphrrdinihwngphusungimidepnthioprdpraninckrphrrdink dwyphraxngkhthrngoprdphrasnmesiywmakkwa dngnnemuxckrphrrdinihwngehnwathngekacngyngmikhwamsnicaelaprathbicinkhwamngamkhxngbuechkethiynxyu ckrphrrdinihwngcungwangaephnihrbphranangbuechkethiynklbekhasurachsankxikkhrnginthanaphrasnmxikkhnhnung thngniephuxdungkhwamsnickhxngthngekacngcakphrasnmesiywesiy hlngcakphranangbuechkethiynxxkcakwdephuxklbekhasurachsankinthanakhxngphrasnmkhxngthngekacngxikkhrng aemwathngekacngcamithanaepnlukeliyngkhxngphranang nxkcaknnyngmiphuechuxwaphranangekhymiephssmphnthkbckrphrrdiithcngphuwaychnmaelw cungklawidwaepnkarrwmpraewnikbyatisnith phrackrphrrdinihwngthrngkhidwaephiyngaetcachknaphranangbuechkethiynekhamasurachsankxikkhrngephuxdungkhwamsnphrathykhxngthngekacngxxkcakphramehsiesiywethann phxkacdphramehsiesiywipidaelwkcakhxykacdbuechkethiyninphayhlng cungimthrngkhdkhwangemuxphrarachswamimiphrarachdaricarbphranangbuechkethiynekhawnginxikkhrng sunginkhrngniphranangbuechkethiynimiddarngthanaepnephiyngphrasnmthrrmdaehmuxninrchkalkxn hakaetidrbkaroprdeklaihepnthung hrux phrasnmexkladb 1 cin 昭宜 phinxin Zhao yi cakbrrdaphrasnmexkkhxngcinsungmithnghmd 9 chn nbwaepnthi 3 inwngrxngcakckrphrrdinihwng aelaphrasnmesiywthiediyw sungphranangbuechkethiynphrasnmexkkimthaihckrphrrdinihwngthrngphidhwng ephraahlngcaknnimnanthngekacngkthrnglumphramehsiesiywipesiysnith phraoxrs pi kh s 652 phranangbuechkethiynthrngihkaenidphraoxrs khux hlihng Li Hong aelatxmainpi kh s 653 phranangkidihkaenidphraoxrsxikphraxngkhhnung khux Li Xian cin 李賢 phinxin Li Xian hrux Crown Prince Zhanghuai cin 章懷太子 kh s 653 684 sungthngsxngphraxngkhimidrbkaraetngtngihepnrchthayathaehngthngekacng enuxngcakckrphrrdinihwngaelaphrapitulakhxngphranang khux xkhrmhaesnabdihliwsux The Chancellor Liu Shi thrngekliyklxmihthngekacngthrngaetngtngphraoxrsphraxngkhot khux ecachayhlicng Li Zhong cin 李忠 phinxin Lǐ zhōng kh s 643 6 mkrakhm kh s 665 sungthuxkaenidcakphrasnmhliwepnrchthayathipkxnhnaaelw khxklawhatxphranangbuechkethiyn emuxmioxkasphrasnmbuechkethiynkimrxchathicakacdphrackrphrrdinihwngxxkipesiykxnthitnexngcaepnfaythukkacdxxkipaethn odymieruxngthibnthukiwmiwa inpi kh s 654 phrasnmbuechkethiynmiphraprasutikalphrarachthidaphraxngkhhnung emuxphrackrphrrdinihwngesdcipthrngeyiymecahyingphrarachthidaxngkhnxysungyngmiphrachnmimthungeduxn nywaesdcipthrngeyiymtamrachpraephniinthanathiepnphramardaeliyng aelaephuxaesdngwamiphramhakrunatxecahyingnxyducphramardaaeth aetklbekidehtukarnrayaerngthiimmiphuidkhadkhid khuxecahyingphraxngkhnxyesdcsinphrachnmxyangkrathnhninwnediywknnnexng sungphrasnmbuechkethiynidklawhaphrackrphrrdinihwngwaepnsaehtuthiphrarachthidanxysinphrachnm khxklawhainkhrngniphrackrphrrdinihwngimxacaektwid id enuxngcakphrackrphrrdiniepnphuthixyukbecahyingnxyepnphraxngkhsudthaykxnthiecahyingnxycasinphrachnm nbwaphrackrphrrdinithrngchksukekhabanodyaeth thngekacngthrngechuxinkhxklawhawaphrackrphrrdinihwngepnphuplngphrachnmphrarachthidaxngkhnxyenuxngcakkhwamxiccharisya odyphrackrphrrdinihwngkimxachahlkthanid maaekkhxklawhaniid phrackrphrrdithngekacngcungthrngphraphiorthaelarbsngihthxdysaelakhbilphrackrphrrdinihwngxxkcakrachsank odycathrngaetngtngphrasnmbuechkethiynkhunepnphrackrphrrdiniaethn aetphraxngkhtxngkarihkhnaesnabdiehnchxbkbrbsnginkhrngnidwy thngekacngphrxmdwyphrasnmbuechkethiyncungidesdcipeyiymbankhxngphramatulakhxngphrackrphrrdithngekacng khux Zhangsun Wuji mhaesnabdi thngidphrarachthanthrphysmbtiihaekcangsunxuciepnxnmak aelaemuxphrathngekacngthrngnaeruxngthixditphrackrphrrdinihwngimmiphrarachoxrsthidaihaekphraxngkhmaepnkhxxanginkarkhbilphranang cangsunxucikbayebiyngthicatxbsnxngphrarachdarsnn txmamardakhxngphrasnmbuechkethiyn striskulhyang phrxmthng Xu Jingzong phuepnfayediywkbphrasnmbuechkethiynideyiymcangsunxucixikkhrngephuxkhxihekhasnbsnunkartdsinphrathykhxngphrackrphrrdithngekacng aetkyngimepnphl xyangirktam immiikhrruaenchdwaphrackrphrrdinihwnghruxphrasnmbuechkethiynepnphutharayphrarachthidaphraxngkhnxy enuxngcakimsamarthhahlkthanthichdecnmayunynidwaphrarachthidasinphrachnmdwysaehtuidaen mikhwamepnipidwaphrasnmbuechkethiynxacepnphusngharphrarachthidakhxngtwexngaelwisrayphrackrphrrdinihwng aetkxacepnipidechnknwaphrackrphrrdinihwngepnphusngharphrarachthidaexngenuxngcakkhwamxiccharisyathiphrackrphrrdithngekacngthrngoprdpranphrasnmbuechkethiynmak hruxxacimmiphuidepnphutharayphrarachthida aetsinphrachnmcaksaehtuthrrmchatixun echn klumxakartharktaykathnhn asphyxiation cakkarthixaharepnphis salkxahar epntn thxdphraysphrackrphrrdinihwngaelaphramehsiesiywsuefy chwngvdurxn pi kh s 655 phrasnmbuechkethiynidisrayphrackrphrrdinihwngaela phramardakhxngphrackrphrrdini khuxhliwhuhyinxikkhrngwathngsxngichkhathaxakhmisysastr phrackrphrrdithngekacngcungmirbsnghammiihhliwhuhyinekhawngxiktxip aelayngpld hliwsux Liu Shi phramatulakhxngphramehsihwngdwy inkhnaediywknehlakharachkarinrachsankkerimekhaepnphwkkbphrasnmbuechkethiynmakkhun mithng Xu Jingzong Li Yifu Cui Yixuan cin 崔義玄 phinxin Cui Yixuan aela Yuan Gongyu cin 袁公瑜 phinxin Yuan gōngyu emuxthungvduibimrwnginpinn phrackrphrrdithngekacngthrngeriykprachumesnabdi xnmixkhrmhaesnabdicangsunxuci aelaesnabdi Li Ji Yu Zhining aela Chu Suiliang ekhaprachum odychusuyehliyngkhadedaiwwacaepneruxngkarthxdphraxisriyysphrackrphrrdinihwng hliciptiesthkarekharwmodyxangxakarpwy inthiprachum chusuyehliyngnnthkthwngkarthxdphraxisriyyskhrngnixyangrunaerng inkhnathichangsunxuci aelahyucuxhning nnimehndwykbthngekacngdwykarimaesdngkhwamehn inkhnaediywkn Han Yuan aela Lai Ji tangkimehndwykbkarthxdphraxisriyysni thaihthngekacngrbsngthamipynghlicixikkhrnghnung odyhlicitxbwa singniepneruxnginbankhxngphraxngkhexng iycungthambukhkhlphaynxk emuxidyindngnn thngekacngcungidkhxsrupthicathatamphraprasngkhkhxngphraxngkhexng aelathrngpldesnabdichusuyehliyngcakrachsank ipepnphuwamnthlthn pccubnkhuxbriewnchangchainmnthlhuhnan emuxthrngthxdphraysphrackrphrrdinihwnglngepnsamychn iheriykwananghwng 王氏 phrxmknnikoprdihthxdysphramehsiesiywsuefylngepnnangesiyw 宵氏 aelw thrngyngsngihkhumkhngthngsxngkhniw aelwmiphrarachoxngkarsngihaetngtngphrasnmbuechkethiynkhunepnphrackrphrrdiniaethn phayhlngtxmaphrackrphrrdinibuechkethiynksngihsngharnanghwngaelanangesiywesmuxnthukkhatkrrmxyangohdrayaelaengiybechiybenuxngcakthrngehnwathngekacngmiphrarachprasngkhihplxytwnangthngsxng odytxmaphrackrphrrdinibuechkethiynkthrngfnraywathukhlxkhlxnodynangthngsxngxyuhlaykhrng khunsutaaehnngphraxkhrmehsi txmainchwngplaypi kh s 655 phranangbuechkethiynidrbkaraetngtngkhunepnphraxkhrmehsi hrux hwngohw tamsaeniyngcinklang hrux tamsaeniynghkekiyn aetngtngrchthayathphraxngkhihm pi kh s 656 dwykhaaenanakhxngswicingcng thngekacngthrngthxdphraysphraoxrsthiprasuticakphrasnmhliw khux ecachayhlicng caktaaehnngrchthayathipepnxxngaehngehliyng Prince of Liang aelwaetngtngihhlihng phraoxrsxnekidcakphrackrphrrdinibuechkethiynsunginkhnanndarngphraysepntayxxng Prince of Dai khunepnrchthayathaethn erimkacdesnabdifaytrngkham inpi kh s 657 ckrphrrdinibuechkethiynphwkphxngkhxngphrananginrachsankiderimtxbotkbehlakharachkaraelaesnabdithiekhytxtanemuxkhrngthiphranangkhunsuxanac odythrngerimcakihswicingcngaelahlixifu phusungidrbkaraetngtngihepnesnabdiaelwinewlann israyklawhahanywnaelaihlciwakhbkhidkbchusuyehliynginkarkxkbt thngsamkhnni rwmthnghliwsux thukldtaaehnngipepnecaemuxnginphunthihangikl thngyngthukhamimihklbmayngemuxnghlwngchangxanxiktxip aelainpi kh s 659 ckrphrrdinibuechkethiynrbsngihswicingcngklawhacangsunxuciwawangaephnkxkarkbtrwmkbkharachkarchnphunxychux Wei Jifang cin 韋季方 phinxin Weijifang aela Li Chao cin 李巢 phinxin Lǐ chao thaihcangsunxucithukenrethsaelatxmainpiediywknthukkddnihkhatwtayinrahwangthithukenrethsnninthaythisud yingipkwannsucingcngyngidsrangeruxngephuxpaysiaekchusuyehliyng hliwsux hanywn hyucuxhning thaihchusuyehliyngphusingesiychiwitipaelwinpi kh s 658 thukyudtaaehnngthnghmdhlngcakesiychiwitaelw aelathaihbutrchaythngsxngkhxngekha khux Chu Yanfu cin 褚彥甫 phinxin Chǔ yanfǔ aela Chu Yanchong cin 褚彥沖 phinxin Chǔ yanchōng txngthukprahardwyechnkn nxkcaknnyngmikhasngihpraharchiwithliwsux aelahanywndwyechnkn odyhanywnnnidesiychiwitlngkxnthikhasngpraharcaipthungekha hlngcakehtukarnehlanicungimmiphuidinrachsankklatxtanaelawiphakywicarnckrphrrdinibuechkethiynxiktxip karenrethsecachayhlicng inpi kh s 660 ecachayhlicng phrarachoxrsphraxngkhaerkkhxngckrphrrdithngekacngkbphrasnmhliw thrngekrngklwwaphraxngkhcathrngepnepahmayinkarkacdechnediywkn odyphranangbuechkethiynidihenrethsecachayxxkcakrachsankaelathukkkbriewniw xakarphraprachwrkhxngckrphrrdithngekacng inpi kh s 660 thngekacngaelackrphrrdinibuechkethiynidesdcipyngekhtepiynocw cin 汴州 pinyin Bianzhōu pccubnkhux emuxngithhywn cin 太原 phinxin Taiyuan emuxnghlwngkhxngmnthlsansi sunginkhrngniphranangbuechkethiynmioxkasidechiyephuxnbanaelayatiphinxngekharwmnganchlxngkhxngrachsankdwy playpinnthngekacngthrngerimmixakarphraprachwrmakkhun odythrngmixakarpwdphraesiyrxyanghnkaelasuyesiykarmxngehndwy odykhadwaekidcakorkhkhwamdnsung hypertension related haknkprawtisastrbangkhnmikhwamehnwaxakarphraprachwrnnepnphlcakkarthiphranangbuechkethiynphyayamlxbwangyaphisaekckrphrrdithngekacngthilanxy dngnnphraxngkhcungerimihckrphrrdinibuechkethiynxxkwarachkaraethnmakkhun thngniphranangkidaesdngkhwamsamarthaelastipyyathngindanwrrnkrrmaelaprawtisastr rwmthngkarbriharrachkarxyangthuktxng cnphranangsamarthrwbxanackhxngckrphrrdithngekacngmaidthnghmd khwamphyayamkhbilckrphrrdinibuechkethiyn klawknwainpi kh s 664 ckrphrrdinibuechkethiynidekhaaethrkaesngkarbriharrachkarinrachsankmakkhuncnthaihthngekacngimphxphrathy nxkcaknnphranangyngidihkwsingecin Guo Xingzhen cin 郭行真 phinxin Guōxingzhen phuepnhmxphilththietamathaphithikhathaxakhm sungepnsingtxnghaminrachsank xnekhyepnsaehtuihxditphraxkhrmehsihwngthukpldaelakhbilxxkcakrachsankip khnthihwngfuesing Wang Fusheng cin 王伏勝 phinxin Wangfusheng cungidraynganaekphrackrphrrdithngekacngihthrngthrab yingthaihphraxngkhimphxphrathymakyingkhun phraxngkhcungidpruksakbesnabdisngkwnxi Shangguan Yi cin 上官儀 phinxin Shangguan Yi sungidaenanaihthngekacngthrngpldckrphrrdinibuechkethiynaelakhbilcakrachsankesiy phraxngkhcungmirbsngihsngkwnxirangphrabychakhun inkhnaediywknnnckrphrrdinibuechkethiynkidrbkhawkarkhbilphraxngkh phranangcungesdcekhaefathngekacngephuxxxnwxnkhxihphraxngkhphrarachthanxphyoths thaihthngekacngthrngphrathyxxnlngaelaklawhawaehtukarnthiekidkhunepnephraakhaaenanacaksngkwnxi enuxngcakthngsngkwnxi aelahwngfuesing tangkepnphuthithanganihkbecachayhlicng phranangbuechkethiyncungsngihswicingcngwangaephnisraybukhkhlthngsam khux ecachayhlicng sngkwnxi aelahwngfuesingwakxkarkbt thaihsngkwnxi hwngfuesing aelabutrchaykhxngsngkwnxi khux Shangguan Tingzhi cin 上官庭芝 phinxin Shangguan ting zhi thuklngothspraharchiwit inkhnathiecachayhlicngnnkthukkddnihthrngkhatwtayinewlatxma swnphrryakhxngsngkwnthingcuxaelabutrsaw khux sngkwnhwanexxr Shangguan Wan er cin 上官婉兒 phinxin Shangguan wǎn er sungkhnannyngepntharkxyuthukcbmaepnthasrbichinrachsank txmaemuxsngkwnhwanexxrotkhun nangidrbkhwamiwwangiccnidepnrachelkhaswnphraxngkhinphranangbuechkethiyn txmaemuxrchthayathhliesiyn khunkhrxngrachysubtxmaepnckrphrrdithngcngcng sngkwnhwanexxrcungidepnphrasnminphraxngkh hlngcaknn ckrphrrdinibuechkethiynthrngnngwarachkarhlngmandanhlngkhxngckrphrrdithngekacng thaihthngsxngphraxngkhnnidrbkareriykkhancakprachachnwa 2 thirrach hrux phuwiesskhu Er Sheng hrux Two Holy Ones cintwetm 二聖 phinxin Er sheng ckrphrrdithngekacngmiphrarachoxngkarihxxkphranamphraxngkhinthanackrphrrdiaehngswrrkh 天皇 swnckrphrrdinibunnihxxkphranaminthanackrphrrdiniaehngswrrkh 天后 echnediywkn khwamrawchanintrakulxu inchwngewlathickrphrrdibuechkethiynsaercrachkaraethnphraxngkhnn phranangidaetngtngtaaehnngtang ihaekyatikhxngphrananghlaykhn echn thanhyinghyang mardakhxngckrphrrdibuechkethiyn idrbkaraetngtngihepnsuphaphstriaehnghrng Lady of Rong aelaphisawphuepnhmaykhxngphranangkidrbkaraetngtngihepnsuphaphstriaehnghn Lady of Han dwy swnphichay khux aela phrxmthnglukphiluknxng khux xuewyehliyng aela xuhwyhyun sungaemwacamikhwamsmphnththiimkhxycadinkkbthanhyinghyang aettangkidrbkareluxntaaehnngdwy xyangirktam innganeliyngchlxngthithanhyinghyangcdkhunihaekphwkekhaephuxchlxngkarrbtaaehnngihm xuewyehliyng aesdngxakarokrththanhyinghyangaelaklawwaphwkekhamiidrusukyindiaelaepnekiyrtiinkaridrbtaaehnngihmnicakckrphrrdinibuechkethiynely ckrphrrdibuechkethiyncungmirbsngihldtaaehnngyatiehlaniaelakhbilipyngphunthikndarhangiklephuxepnkaraekaekhnthikrathaimdikbmardakhxngphranang ody xuhywnching aela xuhywnswng esiychiwitinrahwangkarenreths inpi hruxkxnpi kh s 666 phisawhmaykhxngckrphrrdinibuechkethiyn hruxsuphaphstriaehnghnidesiychiwitlng thngekacngcungthrngaetngtngihbutrikhxngnangcakskulehxhln epnsuphaphstriaehngewy Lady of Wei aelaxnuyatihphankxyuinrachsanktxipid khadwainthananangsnm aetkaraetngtngnimiidkrathainthnthihlngcakmardakhxngnangesiychiwitlng dwyckrphrrdithngekacngthrnghwnekrngwaphranangbuechkethiynckimphxphrathy hakkhadwaphranangbuechkethiynthrngthraberuxngnicungwangxubayisyaphislnginxaharthinamathwayody xuewyehliyng aela xuhwyhyun aeksuphaphstriaehngewy aelwisraykhwamphidihaekkhnthngsxng thaih xuewyehliyng aela xuhwyhyun thuktdsinothspraharchiwitinewlatxma mardakhxngphranangbuechkethiynesiychiwit inpi kh s 670 mardakhxngphranangbuechkethiyn khux thanhyinghyang idesiychiwitlng phrackrphrrdithngekacngcungmirbsngihkharachbripharinrachsankaelaphriyathukkhnekharwmphithiekharphsphkhxngnang txmainpiediywknnn rachxanackrthukphyphibticakkhwamaehngaelngepnxyangmak ckrphrrdinibuechkethiyncungkhxihykelikphithinnesiy aetckrphrrdithrngptiesthaelayngaetngtngihbidakhxngphranangkhux xusuxhw phuthiidrbyshlngcakesiychiwitaelwepnocwknghwng Duke of Zhou aelathanhyinghyang miysihmhlngcakesiychiwitaelwepnecachayaelaecahyingaehngithhywn Prince and Princess of Taiyuan khwamrawchanintrakulxukhrngihm txmahlankhxngckrphrrdinibuechkethiynphuepnbutrkhxngphisawhmaykhxngphraxngkh khux suphaphstriaehnghn chux Helan Minzhi cin 賀蘭敏之 phinxin Helan mǐnzhi idrbphrarachanuyatihichskulxuaelasubthxdtaaehnngdyukaehngocw aetepnthichdecnwaehxhlnhmincuxnnkalngsngsyintwphranangbuechkethiynwaepnphumiswninkarkhatkrrmphisawkhxngekha phranangbuechkethiyncungidephimkhwamramdrawngintwehxhlnhmincux nxkcaknnyngmiphuklawwaehxhlnhmincuxnnekhymikhwamsmphnththangchusawkbyaykhxngekhaexng khuxthanhyinghyangxikdwy inpi kh s 671 ehxhlnhmincuxthukklawhawaimpraphvtitamkdraebiybkariwthukkhinrahwangphithiiwthukkhkhxngthanhyinghyang aelayngthukklawhawaidkhmkhunbutrikhxngkharachkarthichux Yang Sijian cin 楊思儉 phinxin Yangsijiǎn sungepnstrithickrphrrdithngekacngaelackrphrrdinibuechkethiynidkhdeluxkihepnchayakhxngecachayhlihngrchthayath ehxhlnhmincuxcungidrbothsodykarthukenreths sungtxmaekhaidesiychiwitlngodymixacthrabidaenchdwaepnkaresiychiwitinrahwangkarenrethshruxepnkarkhatwtay inpi kh s 674 ckrphrrdinibuechkethiynidthrngeriyk xu echingsux Wu Chengsi cin 武承嗣 phinxin Wǔ Chengsi esiychiwitemuxwnthi 22 krkdakhm kh s 698 phranddakhxngphranangphuepnbutrkhxng xuhywnswngklbmacakkarthukenrethsaelaihrbtaaehnngocwknghwngsubtxdwy txtankarkhunsutaaehnngphusaercrachkar inpi kh s 675 phraxakarprachwrkhxngthngekacnghnkkhun phraxngkhcungmiphrarachprarphihaetngtngckrphrrdinibuechkethiynepnphusaercrachkaraethnphraxngkh aetesnabdi Hao Chujun cin 郝處俊 phinxin Hǎochujun kh s 607 681 aelakharachkarchux Li Yiyan cin 李義琰 phinxin Lǐyiyǎn esiychiwitinpi kh s 688 khdkhanphraxngkhineruxngni thngekacngcungyngmiidaetngtngckrphrrdinibuechkethiynepnphusaercrachkaraethnphraxngkh kacdkhuaekhngxyangtxenuxng txenuxnginpi kh s 675 miphukhncanwnmakthitkepnehyuxkhxngkhwamkriwokrthkhxngckrphrrdinibuechkethiyn phrapitucchakhxngthngekacng khux ecahyingchangelx phriyanayphl cawkuy Zhao Gui cin 趙瓌 phinxin Zhao gui aelaphrathidakhxngphraxngkhidesksmrskbecachayhliesiyn hrux xxngaehngocw Prince of Zhou phraoxrsxngkhthisaminphranangbuechkethiyn thrngimphxphrathyintwckrphrrdinibuechkethiyndwythrngehnwackrphrrdithngekacngthrngihkhwamoprdpranintwphranangepnxnmak ecahyingcaw phrathidacungthukklawhadwykhxhaxachyakrrmthiphraxngkhimidmiswnekiywkhxngaelathukcbkuminthisud txmaecahyingcawidsinphrachnmdwyxakarkhadxahar swnnayphlcawkuyaelaecahyingchangelxkthukenrethsdwy inplayeduxnnnexng ecachayhlihngrchthayath phuphyayamrxngkhxmiihphranangbuechkethiynichxiththiphlehnuxkarbriharrachkarkhxngthngekacng ephraaphraxngkhkthrngmikhwamkhidechnediywkbphukhninyukhsmyediywknwaphrachnnihruxphranangbuechkethiynnnepnephiyngxistri cungimkhwryungekiywkberuxngrachkaraephndinmaknk odyechphaaemuxphranangbuechkethiynphusungaethbcathrngwarachkaraethnthngekacngthnghmdxyuaelwnn ecachayhlihngxngkhrchthayathyingmixaccathrngrbid phraxngkhcungthrngkrabthulaekphrarachbida thngekacng wacathrngwangaephnyudxanaccakphranangbuechkethiyn odyihxxkphrarachoxngkarkhxkhwamwackrphrrdinibuechkethiynthrngisrayxditckrphrrdinihwng aelaihkhunskdithanaihaekxditckrphrrdinihwngaelaxditphramehsiesiywphulwnglbipaelwxikdwy phrxmkbthrngeriykrxngihplxytwnxngsawtangmardakhxngphraxngkh khux ecahyingxihyang thidainphrasnmesiyw aelaswneching sungkhnannthukkkbriewnxyu nkprawtisastrechuxwaphranangbuechkethiynepnphuwangyaphisaekecachayhlihng thaihecachayhliesiynidrbaetngtngepnxxngaehngyng Prince of Yong aelaidkhunepnrchthayathaethn nxkcaknnecachayhlisueciy phraoxrsxikphraxngkhhnungkhxngphrasnmesiyw aelaecachayhlisangcin Li Shangjin cin 李上金 phinxin Lǐshangjin phraoxrsxikphraxngkhhnungkhxngthngekacng thngsxngphraxngkhkthukphranangbuechkethiynisraywakxxachyakrrmaelathukpldxxkcaktaaehnnginewlatxmadwyechnkn karenrethsecachayhliesiynphrarachoxrs ecachayhliesiynnnthrngepnphumiphraprichasamarthimdxyipkwaecachayhlihngphraechsthathirachely odyechphaaindanxksrsastr echn phraxngkhidthrngphrarachniphnthphrarachphngsawdartngaetyukhbrrphkalcnthungrachwngshnkhunmachudhnungthiyngkhngidrbkaryxmrbcakwngkarprawtisastrcininpccubnwamikhwamnaechuxthuxxangxingidmakthisudchbbhbungthiediyw cungnbidwaphraxngkhthrngepnnkprachyphraxngkhhnung hakaetcudcbkhxngphraxngkhkimtangcakphraechsthaethairnkeruxngthipraktinbnthukthangprawtisastrklawwa inewlatxma khwamsmphnthrahwangckrphrrdinibuechkethiynkbphrarachoxrs ecachayhliesiyn nnimkhxydink enuxngcakecachayhliesiynthrnghwnekrngphrathyemuxthrngidyinkhawluxwaphraxngkhexngmiidepnphraoxrskhxngphranangbuechkethiyn aetklbepnphraoxrsinsuphaphstriaehnghn phrakhnisthakhxngphranangbuechkethiyn emuxphranangthrngthrabwaecachayhliesiynthrngekidkhwamekrngklwkhuncakkhawluxni phranangthrngimphxphrathyepnxyangmak nxkcakni Ming Chongyan cin 明崇儼 phuepnhmxduhruxohrkhnoprdsungepnphrashaythirwmtxsuinekmchwngchingxanac aelaepnkalngsakhythithaihphranangbuechkethiynkhunmakumxanacinthanackrphrrdini phuekhykrabthulaekckphrrdiekacngaelackrphrrdinibuechkethiynwaecachayhliesiynnnimehmaacaepnphusubrachbllngk idthuklxbsngharlnginpi kh s 679 phranangbuechkethiynkyungraaewngintwecachayhliesiynmakkhunenuxngcakthrngsngsywaecachaycaepntnehtuaehngkarlxbsngharni txmainpi kh s 680 rahwangthiecahnathisubswn khux Xue Yuanchao cin 薛元超 phinxin Xueyuanchao 622 683 ephyehyiyn Pei Yan cin 裴炎 phinxin Pei yan aela Gao Zhizhou cin 高智周 phinxin Gaozhi zhōu subswneruxngninn idkhnecxxawuthcanwnmakinwngkhxngecachayhliesiynrchthayath phranangbuechkethiyncungmiphrarachoxngkarwarchthayathkhidkxkarkbtaelaepnphusngharhmingchngexiyn cungthrngihthxdthxncaktaaehnngrchthayathlngepnsamychn aelwihenrethsipthungemuxngechingtu dinaedneschwnxnhangikl phayhlnghliesiynthrngkrathaxtwinibatkrrmtwexngodykarphukkhxtaythiemuxngechingtunn sungmiesiyngelaluxdngkhunwaphranangbuechkethiynckrphrrdiniaelaphramardannepnphuphrarachthanaephrkhawihaekphrarachoxrs ephuxbibbngkhbihphukkhxtayexng rchthayathphraxngkhihm hlngcakkarenrethsecachayhliesiyn Li Xian cin 李賢 phinxin Li Xian kh s 653 684 ecachayhliesiyn Li Xian cin 李顯 phinxin Lǐ xiǎn 26 phvscikayn kh s 656 3 krkdakhm kh s 710 phusungphayhlngepliynphranamepn hliecx Li Zhe cin 李哲 phinxin Lǐ zhe idrbphrarachthantaaehnngecachayrchthayathaethnecachayhliesiyn aelphayhlngidthrngidkhunkhrxngrachyepnkstriyxngkhthi 4 aehngrachwngsthng thrngphranamwackrphrrdithngcngcng Emperor Zhongzong of Tang cin 唐中宗 phinxin Tangzhōngzōng thrngkhrxngrachyinrayaewlasn inpi kh s 684 aelaxikkhrngtngaetpi kh s 705 thungpi kh s 710 ecahyingithphing inpi kh s 681 ecahyingithphing Princess Taiping cin 太平公主 phinxin Taiping Gōngzhǔ aepltamtwxksrwa ecahyingaehngsntisukh phrakhnisthainecachayhliecx hruxckrphrrdithngcngcng idxphiesksmrskb Xue Shao cin 薛紹 phinxin Xue shao butrkhxngecahyingechinghyang phrakhnisthakhxngthngekacng ckrphrrdinibuechkethiynnnemuxaerkthrngmikhwamprathbicinechuxsaywngstrakulkhxngphriyakhxngphichayeswiyesa khux eswiyxi Xue Yi cin 薛顗 phinxin Xue yǐ mak cnmiphrarachdariihphraechsthakhxngphrananghyacakphriyaaelwihmaaetngngankbeswiyxiaethn txmaphranangthrngykelikkhwamkhidniemuxthrngidthrabwaeswiyxiphuepnhlansawkhxngxditesnabdi Xiao Yu karswrrkhtkhxngckrphrrdithngekacng inchwngplayrchsmykhxngckrphrrdithngekacng phraxngkhaelackrphrrdinibuechkethiynthrngmkesdcphrarachdaeninipprathbthiemuxnghlwngthangtawnxxk khux emuxnglkexiyng epnewlanan thaihphraxngkhmkimkhxyprathbthixyuinemuxngchangxanethaidnk playpi kh s 683 thngekacngsinphrachnmlnginkhnathiprathbxyuinemuxnglkexiyng Luoyang enuxngcakthngekacngnnepnphuthimisukhphaphrangkayimaekhngaerngnk phranangbuechkethiyncungepnphuduaelkarbriharnganpharkickhxngrachsankxyuebuxnghlngphraxngkhinchwngewlatlxd 20 pithiphraxngkhthrngkhrxngrachy ecachayhliecx Li Zhe cin 李哲 phinxin Lǐ zhe kh s 656 710 hruxphranamedim hliesiyn cin 李顯 phinxin Lǐ xiǎn thrngkhunkhrxngrachyepnckrphrrdithngcngcng Emperor Zhongzong of Tang cin 唐中宗 phinxin Tang zhōng zōng subtxcakckrphrrdithngekacng aetphumixanacinkarbriharrachkarthiaethcringkhuxphranangbuechkethiynsungthrngdarngtaaehnngxyuinthana phraphnpi hrux hwngithohw tamsaeniyngklang hrux hxngitheha tamsaeniynghkekiyn empress dowager cin 皇太后 phinxin huangtaihou aelaphusaercrachkaraephndin phraphnpihruxhxngithehaaelaphusaercrachkaraephndin hlngcakthiphraswami ckrphrrdithngekacngswrrkhtlng phranangbuechkethiynthrngdarngtaaehnngphraphnpi hruxhxngitheha aelayngepnphusaercrachkaraephndin phranangidmirbsngihwangyaphisecachayhlihng Li Hong cin 李弘 phinxin Lǐ hong kh s 652 25 phvsphakhm kh s 675 aelathrngihenrethsphrarachoxrsxngkhxun ephuxihphraoxrsxngkhthisamkhxngphranang khux ecachayhliecx idepnrchthayathaethn nxkcakniphinykrrmkhxngthngekacngyngidrabuiwihphraoxrskhuxecachayhliecxepnphusubthxdphrarachbnglngktxcakphraxngkh odyihmiphranangbuechkethiynepnthipruksakhxngphraxngkhinrachkarsakhytang thngdankarthharaelakickarphleruxn rchsmykhxngckrphrrdithngcngcng ineduxnthisxngkhxngpi kh s 684 ecachayhliecx rchthayathaelaphrarachoxrsinckrphrrdinibuechkethiynthrngkhunkhrxngrachy xxkphranamwa ckrphrrdithngcngcng dwyewlathithrngkhrxngrachyephiyng 6 spdahethann khxmulbangaehlngaecngwathrngkhrxngrachynannxykwa 1 pi hlngkarkhunkhrxngrachyckrphrrdicngcngthrngaesdngxxkthungkarimechuxfngphranangbuechkethiyninthnthi dwythrngechuxphramehsikhxngphraxngkh khux ckrphrrdiniehwy empress Wei epnxyangmak aelayngaetngtngihphrasssura phxta Wei Xuanzhen cintwetm 韋玄貞 phinxin Weixuanzhen epnxkhrmhaesnabdi hruxethiybethataaehnngnaykrthmntriinpccubn nxkcaknnphraxngkhyngmikhwamphyayamaetngtngihphrasssurakhxngphraxngkhepn Shizhong cintwetm 侍中 phinxin Shi zhōng sungepntaaehnnghwhnasankngantrwcsxbkhxngrachsank hrux ehminesiyesing the examination bureau of government hrux Menxia Sheng cintwetm 門下省 phinxin Menxia sheng aelaaetngtngihbutrchaykhxngaemnmkhxngphraxngkhepnkharachkarinradbklang aemwaephyehyiyn Pei Yan cakhdkhanxyangrunaerngktam aelacnthungcudhnungthiphraxngkhmiphrarachdarskbephyehyiynipwa caphidxairaemwakhacaihxanackrthnghmdaekehwyeswiynecin xyangnnaelwthancasnicxairkbtaaehnngsuxcngla ephyhyancungidthwayraynganaekphranangbuechkethiyn sungkhnannmiphraxisriyysepnphraphnpi thaihphraphnpibuechkethiynthrngwangaephnkbephyhyan Liu Yizh cin 劉禕之 phinxin Liu yi zhi aelaehlanayphl khux Cheng Wuting cin 程務挺 phinxin Cheng wutǐng aelacangechiynswi Zhang Qianxu cin 張虔勖 phinxin Zhang qian xu pldphraxngkhxxkcaktaaehnngaelaihphraoxrsxngkhsudthxngkhxngphranang khuxecachayhlitn Li Dan hrux Prince of Yu cin 李旦 phinxin Lǐ dan khunkhrxngrachyaethn odyxxkphranamwackrphrrdithngruycng cin 唐睿宗 kh s 662 716 phraphnpibuechkethiynthrngtngkhxhaaekphrasssurakhxngckphrrdicngcngwakhidkxkarkbtodyihcbkumchngiw swnphrackrphrrdicngcngnn thrngldtaaehnngkhxngphraxngkhehluxepnephiyngxxngaehngluhling Prince of Luling phrxmthngihthukenrethsxxkip inkhnaediywknnnphraphnpibuechkethiynyngidsngnayphl Qiu Shenji cin 丘神勣 phinxin Qiu shenji ipyngwngkhxngecachayhliesiyn Li Xian thixyuinrahwangkarenrethsaelaphrarachthanphaaephrsikhawephuxihthrngthaxtwinibatkrrm khatwtay karkhunsuxanacetm rchsmyckrphrrdithngruycng aemwaphraoxrsxngkhsudthaykhxngphraphnpibuechkethiyn ecachayhlitn cathrngkhunkhrxngrachyepnckrphrrdithngruycngaelwktam phranangbuechkethiynkyngepnphubriharrachkarthiaethcringthngindansarakarthanganaelaphaphlksnthiprakt phranangmiidprarthnacadaenintamkhnbthrrmeniymdngedimthicatxngbriharnganphanhlngmanodykarkrasibbxkklawaekphupkkhrxngphraxngkhcringthicaepnphumiphrarachdarsaecngaekkhnakhunnangxyangepnthangkartx ckrphrrdiruycngthrngmiekhyidesdcprathbinekhtthiprathbkhxngckrphrrdi imperial quarters hruxpraktkayinnganphrarachphithikhxngrachsankaemaetnxy aetklbthukkkbriewnxyuephiyngthiprathbfayinethann kharachkarinrachsankmiekhyidrbphrarachanuyatihekhaefackrphrrdiruycngelyaemaetnxy aelaphraxngkhkimidrbrachanuyatcakphranangbuechkethiynihwarachkarid enuxngcakphranangepnphubriharrachkartang dwyphraxngkhexngthngsin nxkcaknndwykhaaenanakhxngphrarachnddakhxngphranang khux xuechingsux Wu Chengsi cin 武承嗣 phinxin Wǔ Chengsi phranangcungbuchabrrphburusodythrngykyxngekiyrtiphumikhxngtrakulxusungepnbrrphburuskhxngphranangihsungsngmakkhun inpi kh s 686 phraphnpibuechkethiynidesnxthicakhunphrarachxanacinkarbriharrachkarihaeksmedcphrackrphrrdiruycng aetckrphrrdiruycngthrngthrabdiwaphranangmiidmiphrarachprasngkhechnnnodyaeth phraxngkhcungthrngptiesthphraphnpibuechkethiynip phranangcungbriharrachkaraephndintxipaemwacathrngxyuinthanaphraphnpi inpi kh s 690 phranangbuechkethiynthrngbngkhbihckrphrrdiruycngslarachbllngkihaekphranangaelatngepnrachwngsihm khux rachwngsxuocw odyphranangbuechkethiynthrngepnphukhrxngrachbllngkexnginthanakstriy hxnget hrux hwngti chwngtnkhxngkarkhunkhrxngrachykhxngkrphrrdinibuechkethiynnn erimtndwykhwamhwnklwkhxngehlakharachkarinhnwysubswnlbthithrngtngkhuninrayaewlahlaypi xyangirktamphranangkidrbkaryxmrbaelaykyxngcaknkprawtisastrthichunchxbphraxngkhwaepnphupkkhrxngthibriharrachkardwyphraprichasamarthaelaexaicisinkarbriharrachkar nxkcaknnphranangyngthrngidrbkarykyxngineruxngkarcdrabbkarkhdeluxkkharachkarthimikhwamrukhwamsamarthephuxekharbrachkarinrachsank karsxbcxhngwn intlxdchwngewlakhxngrachwngsthngaelasngphlinrachwngstxmaxikhlayrachwngs 15 pi txma inpi kh s 705 phranangbuechkethiynthrngthuktharthpraharodyxditckrphrrdithngcngcng hlngkartharthpraharsaercphraxngkhthrngkhunkhrxngrachbllngkxikkhrng hakphranangbuechkethiynkyngkhngichphraxisriyys ckrphrrdi hrux hwngti hrux emperor txcnkrathngswrrkhtinpiediywknnnexng karclaclinpi kh s 684 imnanhlngcaknn hlicingey cin 李敬業 phinxin Lǐ jingye hruxphumitaaehnngepnxingecinxukng 英貞武公 phuepnhlanchaykhxnghlisuxci Li Shiji cin 李世勣 phinxin Lǐshiji sungekhaimphxicthitnexngthukenrethscungerimkxkarkbtkhunthihyangocw cin 揚州 phinxin Yangzhōu hruxinpccubykhuxemuxnghyangocw inmnthleciyngsu inchwngaerknnidrbkarsnbsnunepnxyangmakcakphukhninthinnn aethlicingeydaeninkaripxyangechuxngcha aelayngmiidichpraoychncakmwlchnthisnbsnunkarkbtnink inkhnaediywknnnephyhyanidkrabthulesnxihphranangbuechkethiynkhunxanacinrachsankihaekckrphrrdiruycngesiy odyklawwakarkrathaechnnicathaihkarkxkarkbtnnyutilngipidexng sungsingthiephyhyanklawmannthaihphranangimphxphrathyepnxnmak phranangcungtngkhxklawhaaekephyhyanwamiswnrwmruepnkbhlicingeyaelasngpraharchiwitephyhyanthnthi nxkcaknnphranangyngthrngsngpld enreths aelapraharchiwitecahnathithiphyayamaektangihaekephyhyanxikdwy txcaknnphranangidsnghliesiywxi Li Xiaoyi cin 李孝逸 phinxin Lǐxiaoyi ipocmtihlicingey sunginkhrngaerknnhliesiywxidaeninkarimsaerc cungihphuchwykhxngekhakhux Wei Yuanzhong cin 魏元忠 phinxin Wei yuanzhōng ekhaocmticnsaercinthisud swnhlicingeynnthuksngharinrahwangkartxsuniexng khwamsmphnthkbhwayxi inpi kh s 685 phrackrphrrdinibuechkethiynerimmikhwamsmphnththangchusawkbphiksuhwayxi Huaiyi cin 懷義 phinxin Huai yi esiychiwitwnthi 25 thnwakhm kh s 694 hrux eswiyhwayxi Xue Huaiyi cin 薛懷義 phinxin Xue huaiyi thaihinchwngewlahlaypithdmannhwayxiidrbkhwamkawhnamakkhuneruxy hnwytarwcsubkhnkhxmullb nbtngaethlicingeyidkxkarkbtkhunnn phranangbuechkethiynmikhwamhwadraaewngxyuesmx imiwwangphrathyimwacaepnrachnikul esnabdi aelaehlakharachkartang phranangcungichphrarachxanackacdbukhkhlthithrngimiwwangicehlanndwykhwameddkhadaelaehiymohd inpi kh s 686 idmikarxxkaebbpradisthklxngthxngaedngsahrbekbcdhmaythiprachachnsngekhamaaecngeruxngthiepidopngkhwamlbtang klxngnithukxxkaebbkhunodychayphuhnung chux xwiepaeciy klxngthxngaedngnithukxxkaebbihmichxngcanwn 4 chxng sahrbaeykekbcdhmayepidopngkhwamlbindantang odyemuxmiphuiscdhmaylnginklxngniaelwcaimsamarthhyibxxkidxik phranangthrngphxphrathymakaelaihcdthaklxngthxngaedngniwangiwtampratuphrarachwng rwmthnginrachsank enuxngcakphranangmikhwamhwadraaewngwaehlaesnabdiaelakharachkarcakhidtxtanphranang sahrbphuthisngcdhmayepidopngkhwamlb hakeruxngthiaecngepneruxngcringphuthiaecngcaidrbrangwlephuxepnkartxbaethn aetphuthiaecngeruxngthiepnkhwamethcaelwkcaimidrbothsid nxkcaknnbangkhrngphranangbuechkethiynyngrbsngeriykihphuthiaecngeruxngekhamannmaekhaefamamxbtaaehnngaelaeluxnkhnihkbbukhkhlehlanidwy thaihkraaeskarepidopngkhwamlbaephrhlayxxkipxyangkwangkhwang saehtucakkhwamhwadraaewngkhxngphranangbuechkethiynni thaihhnwysubswnlb sungprakxbdwykharachkarchnphunxyxyang Suo Yuanli cintwetm 索元禮 cintwyx 索元礼 phinxin Sǔo Yuanlǐ Zhou Xing cin 周興 phinxin Zhōu xing aela Lai Junchen cin 來俊臣 phinxin Lai junchen mixanacinkardaeninkarmakkhunxyangrwderw rwmthungmikartngkhxklawhaxyangepnrabb odyechphaakarydeyiydkhxklawha tngkhdithiimepnthrrm israykhndi cungideluxnkhnkhunxyangrwderw thngyngsuxtwxnthphaliwichnganepncanwnmak ephuxkarepidopngodyechphaa thngyngsranghlkthanethcinkarisraypaysi thrman aelapraharchiwitxyangepnrabb kacdkhuaekhngthiepnthitxngsngsy inpi kh s 688 phranangbuechkethiynthrngyxmthicaesiy Luo River cin 洛水 phinxin Luo shuǐ epnaemnathiihlphanemuxnglkexiynginmnthlehxhnan hruxthieriykwaepnemuxnghlwngaehngtawnxxk phranangbuechkethiynthrngeriykprachumechuxphrawngsxawuoskhxngrachwngsthngsungxyuintrakulhliinemuxnglwhyang thaihecachayaelaechuxphrawngsehlanntangwitkkngwlwacaepnaephnlwnginkarlxbsngharphwktnephuxpkpxngphrarachbllngkkhxngphranang phwkekhacungwangaephntxtanphranangbuechkethiyn xyangirktamkxnthicamikarwangaephnkartharthpraharxyangrdkumnn hliecin Li Zhen cin 李貞 phinxin Lǐ zhen kh s 627 12 tulakhm kh s 688 hruxedimkhux ecachaycingaehngeyw hrux Prince Jing of Yue cin 越敬王 phinxin Yue jing wang aelabutrchaykhxngekha hlichng Li Chong cin 李沖 phinxin Lǐ chōng esiychiwit 22 knyayn kh s 688 hruxedimkhux xxngaehnghlngesiy Prince of Langxie cin 琅邪王 phinxin Lang xie wang idlukkhunmatxtanesiykxn odyichthanxyuinbriewnywiocw Yu Prefecture cin 豫州 phinxin Yuzhōu inpccubnkhuxemuxngcuhmaetiyn Zhumadian cin 驻马店 phinxin Zhumǎdian inmnthlehxhnan aelabriewnpxocw Bo Prefecture cin 博州 phinxin Bo zhōu inpccubnkhux mnthlsantng inkhnathiecachayrachwngsthngkhnxun yngimphrxm thaihhliecinaelahlichngthukkxngkalngkhxngphranangbuechkethiynaelakxngkalngphunemuxngocmtiidodysaercxyangrwderw phranangbuechkethiyncungichoxkasnicbkumhlanchaykhxngthngekacng h Li Yuanjia cin 李元嘉 phinxin Lǐ yuanjia hruxxxngaehnghn aela Li Lingkui cin 李靈夔 phinxin Lǐ ling kui hruxxxngaehnghlu aelaecachaychangelx rwmthungechuxphrawngskhnxun inrachwngsthngphusubechuxsaytrakulhliidthukbngkhbihthaxtnibakkrrmipthngsin aemaeteswiyesaphraswamikhxngecahyingithphingsungmiswnekiywkhxngdwykthukthrmandwykarxdxaharaelaesiychiwitinthisud txmaxikhlaypikyngmiaerngcungicthangkaremuxngthithaihekidkarsngharehlasmachikechuxphrawngstrakulhlixyuxyangtxenuxng phramhakstriyaehngrachwngsocw inpi kh s 690 khnathiphranangbuechkethiynmiphrachnmayuid 67 phrrsa phranangidthrngdaeninkarkhnsudthayinkarkhunkhrxngrachyepn hwngti phrxmthngaephnkartngrachwngsihmkhuxrachwngsocw enuxngcakcininsmynnimxnuyatihphuhyinginrachbllngk khlaykbkdhmayaeslikinpraethsthangyuorp aetphranangbuechkethiynnnthrngtngicthicalmlangpraephnini nxkcaknnkarichwithisubswnlbkyngkhngdaeninipxyangtxenuxng inkhnathirabbkarrbkharachkarphleruxninyukhkhxngphranangnnmikhwambkphrxngaelahlahlwmmakinkareluxnkhnaelaprbtaaehnng xyangirktamphranangbuechkethiynnnthuxwamikhwamsamarthinkarpraeminkhwamsamarthkhxngehlakhunnangaelakharachkaridepnxyangdiemuxbukhkhlehlaniidekhamarbichphraxngkh dngthi Sima Guang cintwyx 司马光 cintwetm 司馬光 phinxin Simǎ Guang kh s 1019 1086 nkprawtisastrinyukhrachwngssngidrabuiwinhnngsuxcuxcuxthngeciyn Zizhi Tongjian hrux Tzu chih Tung chien cintwyx 资治通鉴 cintwetm 資治通鑑 phinxin Zizhi Tōngjian aepltamtwxksrwa krackthikhrxbkhlumephuxchwyrthbal Comprehensive Mirror to Aid in Government thiekhaekhiyniw odymikhxkhwamwa aemwaphraphnpihruxhxngitheha cathrngichysthabrrdaskdiaelataaehnngthangrachkarephuxihehlaechuxphrawngs khunnang kharachkar yxmepnphwkrbichihkbphranang aethakphranangehnbukhkhlidirkhwamsamarthcathrngsngpldhruxaemkrathngpraharchiwitodythnthi phranangthrngrksaiwsungxanacinkarkhwbkhumrachsankaelaxanackrdwykarihrangwlaelabthlngothsipphrxm kn thngyngichwicarnyankhxngphranangexnginkartdsinicaelakahndnoybaytang dwykarsngektaelatdsinxyangrxbkhxb dngnnkharachkarphumikhwamsamarthcungyxmepnkharbichphranangxyangetmic khunnangkhniklchidkhxngphranangbuechkethiynthwaykhmphrirtaxwincing ihaekphranangaelaklawwaphranangbuechkethiynthrngepnphrasrixriyemtitrymaprasuti cungkhwrthicaidepnihyinaephndin txmafuohywxi khunnangtaaehnngsuxxwisux phaphukhncanwn 900 khnmaesnxepliynrachwngscakchuxrachwngsthngepnrachwngsocw inkhrngaerkphranangbuechkethiynthrngthathiimxnuyat aetktxbaethnaekfuohywxiodykareluxntaaehnngihaekekha hlngcaknncungmiechuxphrawngs khunnang kharachkarinrachsank aelaprachachncanwnkwa 60 000 khn phaknmakhxihphranangthrngepliynrachwngsxikkhrnghnung inwnthi eduxn phranangbuechkethiyncungprakasihepliyncakrachwngsthngmaepnrachwngsocw aelacdphrarachphithisthapnarachwngsihmxyangyingihy ihtngemuxnglwhyangepnemuxnghlwng aelaemuxngchangxanepnemuxnghlwngrxng rwmthngykyxngbrrphburustrakulxu hruxbu insaeniynghkekiyn khxngphranangepntrakulaehngckrphrrdi esnthangkarkhunsuphrarachxanacaelarachbllngkkhxngckrphrrdinibuechkethiynephuxepnkstriyhyingphraxngkhaerkaelaphraxngkhediywaehngaephndincinnn phanxupsrrkhkhwakhnamaelathngyngetmipdwyelhklxubay karisraypaysi lxbtharay lxbsngharxyuhlaykhra kxnthiphranangcasamarthsthapnarachwngsocwkhxngphraxngkhid eruxngrawprawtisastrni Lin YuTang nkpraphnthchuxdngkhxngcin idrabuiwinhnngsux prawtibuechkethiyn thungsthitikarwangaephnkarsngharbukhkhlthikhdkhwangesnthangkhxngphranangwa thrngsngharluk hlan aelaechuxphrawngsthiiklchidrwm 23 phraxngkh sngharecachayinrangwngsthngaeshli 50 phraxngkh esnabdiaelakhunphlfimuxdixik 36 khn rwmthnghmd 109 khn chwngtnkhxngkarkhrxngrachy hlngcakthiphranangbuechkethiynthrngkhunkhrxngrachyephuxpkkhrxngaelabriharrachkarxyangetmxanacinthanakstriydwyphraxngkhexngaelw thrngidphthnaphraphuththsasnakhunehnuxlththieta thrngsnbsnunphraphuththsasnaxyangepnthangkarodykarsrang hruxwdemkhihy Dayun Temple cin 大雲寺 phinxin Da yunsi khuninaetlacnghwdthixyuphayitxanaekhtkhxngemuxnghlwngthngsxngaehngkhux emuxnglkexiyngaelaemuxngchangxan rwmthungaetngtngtaaehnngphraphiksuxawuosrwm 9 taaehnng aelaphranangyngthrngtngaethnbuchabrrphburusecdchniwinwdhlwng aetphranangkyngkhngptibtiphithibwngsrwngxditckrphrrdiaehngrachwngsthngthngsamphraxngkh khux ckrphrrdithngekacu ckrphrrdithngithcng ckrphrrdithngekacngechnedim hakaetphranangbuechkethiynkprasbpyhaeruxngphusubthxdtaaehnngrchthayath inchwngthitxsuephuxihidmasungrachbllngknn phranangaetngtngecachayhlitn xditckrphrrdithngruycng ihepnrchthayath aelaihepliynphranamepnaesxudwy xyangirktam Zhang Jiafu cin 張嘉福 phinxin Zhangjiafu idekliyklxm Wang Qingzhi cin 王慶之 phinxin Wang qingzhi ihyuntikaesnxihecachay xuechingsux Wu Chengsi cin 武承嗣 phinxin Wǔ Chengsi phuepnphranddakhxngphranangbuechkethiynkhunepnecachayrchthayathaethn odyihehtuphlwaphrackrphrrdinimiphranamaesxu dngnnphusubthxdrachbllngkcungkhwrepnphuthixyuintrakulxucungcamikhwamehmaasmkwa phranangidthrngthrabaelaehndwyhakaetesnabdi Cen Zhangqian cin 岑長倩 phinxin Cen zhǎngqian aela Ge Fuyuan cin 格輔元 phinxin Ge fǔyuan aesdngkhwamehnkhdkhaneruxngnixyangrunaerng phwkekhathngsxngrwmthngphwkxikhnungkhn khuxesnabdioxwhyangthng cin 歐陽通 phinxin Ōuyang tōng cungthuklngothspraharchiwitthnghmd inthisudphranangbuechkethiynkmiidthatamkhaesnxaenathicaaetngtngihxuechingsuxepnrchthayath aetthrngxnuyatihhwngchingcruxsamarthekhaxxkphrarachwngephuxekhaphranangidxyangxisra odymichwnghnungthiphranangbuechkethiynthrngimphxphrathyhwngchingcruxsungekhaxxkphrarachwngbxyekinip phranangcungmirbsngih Li Zhaode cin 李昭德 phinxin Lǐzhaode sngsxnhwngchingcux hliecaetxcungichoxkasnitharayhwngchingcuxcnesiychiwit hliecaetxcungidkrabbngkhmthulphranangbuechkethiynodyesnxaenaihecachayhlitnepnrchthayathdngedim dwyehtuphlwakhwamsmphnthinthanathiepnbutrkhxngecachayhlitnnnmikhwamiklchidkbphranangmakkwakhwamsmphnthinthanaphranddakhxngecachayxuechingsux nxkcaknnhakecachayxuechingsuxthrngkhunkhrxngrachbllngkaelwphraxngkhkkhngcaimthaphithibuchabrrphburusihaekckrphrrdithngekacngepnaen phranangbuechkethiyncungtklngphrathyihecachayhlitnkhngepnrchthayathdngedim aelamiidnaeruxngnimaphicarnaxikepnewlananhlngcaknn nxkcaknnhliecaetxyngidklawetuxnxikwaxuechingsuxnnmixanacmakekinip phranangbuechkethiyncungidthxdthxnxuechingsuxxxkcaktaaehnngesnabdiaelaaetngtngekhaintaaehnngihmthisungkwahakmiidmixanacxyangaethcring inpi kh s 692 inkhnathixiththiphlaelaxanackhxnghnwysubswnlbmimakkhuneruxy cnkrathngekidkrnithiihlcwinechinecahnathitarwclbtngkhxhaisrayehlaesnabdi tiehrineciy Di Renjia cin 狄仁傑 phinxin Direnjie phuepnxkhrmhaesnabdiaehngrachwngsthnginrchskxuecxethiyn epnkharachkarhnunginhlay khnsungidrbkarsrresriymakthisudinrchskdngklaw aelaepnthisdudiwamibthbathphlkdnihxu cxethiynepliynaeplngkarpkkhrxngcakrabxbxnohdrayepnrabxbxnechidchukhunthrrm Ren Zhigu cin 任知古 phinxin Ren zhi gǔ Pei Xingben cin 裴行本 phinxin Peixingben aelakharachkarinrachsank khux Cui Xuanli cin 崔宣禮 phinxin Cui xuanlǐ hluesiyn Lu Xian cin 盧獻 phinxin Lu xian Wei Yuanzhong cin 魏元忠 phinxin Wei yuanzhōng aela Li Sizhen cin 李嗣真 phinxin Lǐsizhen inkhxhakxkarkbt odyihlcwinechinidphyayamthaihthngecdkhnniyxmrbsarphaphodyxangphrarachkraaesrbsngkhxngphrackrphrrdinibuechkethiynwahakphuidrbsarphaphaelwcaidrbkariwchiwit tiehrineciysungyxmrbsarphaphcungimthukthrman hlngcaknn Wang Deshou cin 王德壽 phinxin Wang deshou luknxngkhxngihlcwinechinidphyayamhwanlxmihtiehrineciyisrayphadphingthung hyangcuxohrw 楊執柔 esnabdixikkhnhnungdwy hakaettiehrineciyptiesth aelaekhaidekhiynkharxngthukkhthungphranangbuechkethiynbnphahmaelasxniwinesuxphathisngklbbanodyxangwacaepliynepnesuxphasahrbvdurxn odyihbutrchaykhxngekha Di Guangyuan cin 狄光遠 phinxin Di guang yuǎn epnphunakharxngthukkhnixxkma phranangbuechkethiyncungthrngraaekharakhayineruxngniaelasngsymakkhuncneriykihlcwinechinekhaphb sungihlcwinechinkidplxmaeplngexksarinchuxkhxngtiehrineciyaelaphrrkhphwk odymikhxkhwamwabukhkhlehlaniidsanukinphramhakrunathikhunkhxngphranangbuechkethiynthirbsngothspraharchiwitaekphwkekha xyangirktam Le Sihui butrchaykhnelkkhxngesnabdixikkhnhnungsungthukcbkumaelaodyidrbothsinthanaphurbichesnabdidankarekstridekhiyneruxngrxngeriynaekphranangbuechkethiyn sungmikhxkhwamklawdwywaihlcwinechinnnepnphumakkhwamsamarthindankarsrangkhdiethc cnaemphusuxstyaelasucritthisudkyngxacidrbkarthrmancakekhacntxngyxmsarphaphphidinthisud phranangbuechkethiyncungrbsngihnatwnkothsthngecdkhnnnmaihphranangitswndwyphraxngkhexng aelahlngcakthithnghmdidptiesthkarrbsarphaphwaepnexksarthiplxmaeplngkhunodyihlcwinechinaelw phranangbuechkethiyncungihplxytwthnghmdaetihthukenrethsiprbrachkarxyutangemuxngaethn odyinkrnikhxngtiehrineciynn thrngihipepnphuphiphaksathi cin 彭澤 phinxin Peng ze pccubnkhux inmnthleciyngsi hlngcakkhdikhxngtiehrineciyaelaphwkaelw dwykhaaenanakhxng Zhu Jingze cin 朱敬則 phinxin Zhu jingze aela Zhou Ju cin 周矩 phinxin Zhōu jǔ karsngharhmucakkhdithangkaremuxngkldnxylngipepnxnmak aemwacayngimhmdipodysinechingktam aelainpi kh s 692 ediywknniexngphranangbuechkethiynidrbsngihnayphlhwngesiyweciy cin 王孝傑 phinxin Wangxiaojie ekhaocmtiemuxng Tufan sungepnrth hnunginthiebt sungnayphlhwngesiyweciysamarthexachnakxngkalngkhxngthiebtaelasamarthrwbrwmxanabriewn Xiyu cin 西域 phinxin Xiyu phunthibriewntawnxxkkhxngcin thitkxyuphayitthiebttngaetpi kh s 670 khux Qiuci cintwetm 龜茲 phinxin Qiuci Yutian cintwetm 于田 phinxin Yu tian Shu le cin 疏勒 phinxin Shu le aela Suiye cintwetm 碎葉 phinxin Sui ye klbekhamaid inpi kh s 693 phranangbuechkethiynthrngechuxkhakrabthulkhxngnangsnxngphraoxsth Wei Tuan er cin 韋團兒 phinxin Wei tuan er phuepnptipkskbecachayhlitn immikhxmulhlkthanwaehtuidnangcungrusukechnnn sungklawkhxkhwamisrayecahyinghliw phramehsikhxngecachayhlitn cin 劉皇后 phinxin Liu huanghou aelanangsnmotwwaichkhathaxakhm phranangbuechkethiyncungthrngsngihpraharchiwitemhsihliwaelanangsnmotw ecachayhlitnthrngekrngphrathywaphraxngkhcathuklngothsodykarpraharechnknepnraytxipcungimklathicathkthanid nangsnxngphraoxsthehwythwnexxrcungwangaephnisrayaelakacdecachayhlitndwyxikphraxngkhhnung xyangirktammibangkhnidkrabbngkhmthulkhwamcringekiywkbnangsnxngphraoxsthehwythwnexxr thaihphranangbuechkethiynthrngsngpraharnangsnxngphraoxsthehwythwnexxr aetphranangkyngthrnglngothsecachayhlitnodykarldphraxisriyyskhxngphraoxrskhxngecachayhlitn txmamiphuklawhawa Pei Feigong cin 裴匪躬 phinxin Pei fei gōng aela Fan Yunxian cin 范雲仙 phinxin Fan yunxian idlklxbekhaphbecachayhlitn thngsxngkhncungthukprahardwyechnkn thngphranangbuechkethiynyngidsnghammiihkharachkarkhnidekhaphbecachayhlitndwy hlngcaknnecachayhlitnkthukklawhawawangaephnkxkarkbt phranangbuechkethiyncungthrngihihlcwinechindaeninkarsxbswneruxngni odyidekhacbkumkhnrbichkhxngecachayhlitncanwnmakmathrmanephuxihrbsarphaph cnkrathngmikhnrbichhlaykhnthithukthrmancnthnimidaelaphrxmsarphaphphidrwmthngklawothstxecachayhlitndwy hakmikhnrbichkhnhnungkhxngecachayhlitnchux An Jinzang idyunynwaecachayhlitnnnepnphubrisuththiaelaidphathxngtwexngephuxepnkarsabanaelayunynkhaklawnn emuxphranangbuechkethiynthrngthraberuxngni thrngihhmxhlwngekharksaxncingcangsungksamarthchwyrksachiwitkhxngekhaiwidxyanghwudhwid rwmthngsngihihlcwinechinyutikarsxbswnni sungthaihecachayhlitnthrngrxdchiwitmaid inpi kh s 694 hliecaetxklayepnphuthimixanacaethnecachayxuechingsuxthithukthxdcaktaaehnngesnabdiaelaldthxnxanaclng aelatwhliecaetxexngkluaekxanacaelaxiththiphlkhxngtnexngmakkhuneruxy phranangbuechkethiyncungrbsngihthxdthxnekhalngechnkn inchwngewlaediywknnnexngthiphranangbuechkethiynthrnglumhlnginklumlilb sungmivisi Wei Shifang cin 韋什方 phinxin Wei shi fang thiphranangthrngaetngtngihepnesnabdiinchwngewlasn dwy ekhaxangwatnexngekidinpi kh s 238 cungmixayumakkwa 450 piaelw aemchiinphuththsasnacakemuxng Henei cin 河內 phinxin Henei sungxangwaepnphraphuththecaaelayngsamarththanayxnakhtid aelachaychraxikphuhnungsungxangwamixayumakkwa 500 pi odyphranangbuechkethiynthrngekharphthngsamkhnnimak odyxangwaepnkarsrangphaphkhxngphrasrixriyemtitry phraphuththecaxngkhthdip thinamaichinphithikrrmephuxsrangthanaelabarmiihaekrachbllngkkhxngphranang xyangirktam txmainpi kh s 695 phratahnkwnghlwngsxnghlng khux hmingthnghruxothngthxngphraorng the imperial meeting hall cin 明堂 phinxin Mingtang aelaothngaehngsrwngswrrkh the Heavenly Hall cin 天堂 phinxin Tiantang thukifihmlngcakfimuxkarwangephlingkhxngesiywhwayxi xditchurkkhxngphranangthimikhwamrusukrisyaaelaokrththiphranangbuechkethiynhnipmichurkkhnihm khux esinhnanchiw Shen Nanqiu cin 沈南璆 phinxin Shennan qiu phuepnhmxhlwngaehngphrarachwnginkhnann thaihphranangbuechkethiynthrngokrththiklumbukhkhllilbthngsamthiphranangihkhwamekharphechuxthuxnnklbimsamarththanayehtukarnifihmkhrngniidlwnghnatamthiklawxangiw cungrbsngihcbkumaemchiaelabrrdaluksisykhxngnangipepnthasesiy swnehwychuxfangnnchingkhatwtayesiykxn aelachaychrannhniipid txmaphranangthrnglngothsesiywhwayxidwykarpraharchiwittamipxikkhnhnungdwy hlngcakehtukarninkhrngnithaihphranangbuechkethiynthrngldkhwamsnicineruxnglilbehlanilngxyangmak aelaklbmaihkhwamsnphrathyexaicisinkarbriharpkkhrxngbanemuxngkwaaetkxnmakdwy chwngklangkhxngkarkhrxngrachy inkarbriharpkkhrxngbanemuxngsmyphranangbuechkethiynnn ekidpyhathangchayaedntxnehnuxaelatawntkxyuesmx inchwngvduibimphliinpi kh s 696 kxngthphthiphranangsngihykiptxsukbthufan Tufan chnklumchawthiebtsungnathphody Wang Xiaojie cin 王孝傑 phinxin Wangxiaojie aela 婁師德 phinxin Lou shi de nnidrbkhwamphayaephaekkxngthphkhxngnayphlaehngthufan khuxsxngphinxng Lun Qinling cin 論欽陵 phinxin Lun qin ling aela Lun Zanpo cin 論贊婆 phinxin Lun zan po phranangcungmirbsngihpldhwnghwngesuyweciyipepnsamychnesiy aelaihohlwsuxetxipepnkharachkarradbtaaethn aettxmaphayhlngphranangcungidkhuntaaehnngaekbukhkhlthngsxngihklbmaepnnayphldngedim ineduxnemsaynpiediywknnnexng phranangbuechkethiynrbsngihsranghmxsamkhaekachin cin 九鼎 phinxin Jǐu Dǐng khunihmephuxepnsylksnkhxngxanacxnsungsudkhxnginwthnthrrmcin ephuxepnkarennyathungsthanphaphaelaxanackhxngphranangdwy miehtukarnrayaerngxyangmakekidkhuninchwngvdurxnkhxngpi kh s 696 hwhna Khitan cin 契丹 phinxin Qidan khux Li Jinzhong cin 李盡忠 phinxin Lǐ jinzhōng aelanxngekhykhxngekha khux Sun Wanrong cin 孫萬榮 phinxin Sunwanrong sungepnklumchnthangtxnehnuxkhxngpraethscinthimicuderimtnmatngaetchwngkhriststwrrsthi 4 aelamixiththiphlmakehnuxphunthimxngokeliyaelainewlatxmainchwngkhriststwrrsthi 10 khux aemncueriy thngsxngekidkhwaokrthaekhnthimikarptibtixyangtharuntxchawchitanody Zhao Wenhui cin 趙文翽 phinxin Zhaowenhui kharachkarphuhnunginrachsankaehngrachwngsocwsungpracaxyuthibriewn Ying Zhao cin 營州 phinxin Ying zhōu sungpccubnkhuxemuxngocwhyang inmnthlehliywhning cungidrwmknkxkarkbt sungnaodyhlicincngphudarngtaaehnngepnxusangkhan hrux xusangekhxhn Wushang Khan cin 無上可汗 phinxin Wu shang ke han aepltamtwxksrwa khanphuimmiphuidehnuxkwa inkhnann hakkxngthphthiphranangbuechkethiynsngipprabpramhlicincngaelasunwanhrngnnklbaephkxngkalngkhxngchitanklbmak thaihkxngkalngkhxngchitanhukehmaelarukranekhamayngxanackrkhxngrachwngsocw inkhnaediywknphuna Tujue cin 突厥 phinxin Tujue hruxklumchnetxrkik khux Ashina Mochuo cin 阿史那 默啜 phinxin Ashǐna Mochuo idekharwmsngkhramephuxtxdanthngxanackrocwaelaklumchnchitan odyekhasamarthnakxngkalngocmtichawchitanaelaexachychnaidinchwngvduhnawkhxngpi kh s 696 nnthaihhlicincngesiychiwitinewlatxma thngyngcbkumkhrxbkhrwkhxnghlicincngaelasunwanhrngdwy thaihklumchnchitanhyudkarocmtitxtanxanackrocwipchwkhraw hlngcakthisunwanhrngidkhunepnphunaklumchnchitantxcakphiekhykhxngekhainthanakhanxngkhihm ekhaidrwbrwmkxngkalngkhunmaihmxikkhrngephuxtxtanxanackrocw odyidrbchychnaehnuxkxngthphocwinkartxsuephchiyhnaknxyuhlaykhrng odymikhrnghnungthihwngsuxeciy Wang Shijie thuksngharcnesiychiwitdwy phranangbuechkethiynidphyayambrrethasthankarnodykarsrangsmphnththidiaelasrangsntiphaphkbxachruxna omothw dwymulkhathisungmak khux karkhuntwchawthuciwthithuksngmayngxanackrocwaelayngsngkhxngmikha xathi emldphnthutang phaihm xupkrnichsxy aelaehlk ihaekxachruxna omothw dwy inchwngvdurxnkhxngpi kh s 697 xachruxna omothw idekhaocmtiklumchnchawsitanxikkhrng aelainkhrngnisamarthexachnacnthaihkxngkalngkhxngchawsitanlmslay odyhwhnakhxngphwkekhakhuxsunwanhrngkthuksngharcnesiychiwitipinkartxsu cungepnthisinsudkhxngkarkhukkhamcaksitaninthisud inpi kh s 697 echnediywknihlcwinechinphuekhysuyesiyxanacipinxdit inpi kh s 693 aelaklbkhunsuxanacxikkhrnghnunginchwngninnkidsrangeruxngisrayaekhliecaetxwakxkhdixachyakrrm aelayngwangaephnisrayaekecachayhlitn ecachayhliecx aelaecahyingithphingwathrngrwmknkxkarkbt sungthngsamphraxngkhnnepnecachayphrarachoxrsaelaecahyingphrarachthidaaehngrachtrakulxuinphranangbuechkethiyndwy thaihecachaythngsxngphraxngkhaelaecahyingithphingthrngxxkmaptiesthaelatxtanihlcwinechinepnkhrngaerk aelaklawhaihlcwinechininkhdixachyakrrm thngihlcwinechinaelahliecaetxcungthuktdsinpraharchiwitdwyknthngkhu hlngcakkaresiychiwitkhxngihlcwinechin hnwysubrachkartarwclbkhxngphranangbuechkethiynkcbsinlng phuthiekhythukcbaeladaeninkhdiodyihlcwinechincungthukprakasihphnkhwamphidtamthiekhythukklawhaiw inchwngewlaediywknniphranangbuechkethiynkerimkhwamsmphnthkbkhnrkihmkhxngphraxngkhthungsxngkhn khux phinxng trakulcang chux Zhang Yizhi cin 張易之 phinxin Zhangyizhi aela Zhang Changzong cin 張昌宗 phinxin Zhangchangzōng sungtxmaphayhlngidrbkaraetngtngihepndyukthngsxngkhn inrawpi kh s 698 xuechingsux hrux xxngaehngewy Prince of Wei aela xusansux hrux xxngaehngehliyng Prince of Liang phranddaxikxngkhhnungkhxngphranangbuechkethiyn idphyayamihkharachsankonmnawphranangbuechkethiynihaetngtngphraxngkhkhnidkhnhnungepnrchthayath odyxangehtuphlwackrphrrdinnkhwraetngtngechuxphrawngsintrakulediywknepnphusubthxdrachwngs aettiehrineciy Di Renjie cintwetm 狄仁傑 cintwyx 狄仁杰 phinxin Di Renjie phumitaaehnngepnesnabdithiphranangbuechkethiynthrngihkhwamiwwangphrathymakinkhnannidyunyntxtankhwamkhidniaelaklbesnxihkhuntaaehnngrchthayathaekecachayhliecxdwy sungmiphusnbsnunkhwamkhidehnkhxngekhakhux esnabdi Wang Fangqing cin 王方慶 phinxin Wangfangqing aelahwngcisan cin 王及善 phinxin Wangjishan rwmthngcisu cin 吉頊 phinxin Ji xu phuepnthipruksaiklchidkhxngphranangbuechkethiyn odycisuidchkchwnihphinxngtrakulcang Zhang rwmsnbsnunkhwamehnnidwy inthisudphranangbuechkethiynthrngehndwyaelaeriykihecachayhliecxklbmacakkarthukenreths inchwngvduibimphlikhxngpi kh s 698 sungimnantxcaknnecachayhlitnphraoxrsxngkhsudthxngkhxngphrananghruxxditckrphrrdithngruycngthrngesnxihtaaehnngecachayrchthayathaekecachayhliecx phranangbuechkethiyncungaetngtngecachayhlitnihkhundarngtaaehnngecachayrchthayath odyimnantxcaknnkthrngepliynphranamepn hliesiyn Li Xiǎn aelaepn xuesiyn Wu Xian inthisud txmaphayhlng xachruxna omothw eriykrxngihxxngaehngrachwngsthngxphiesksmrskbbutrikhxngtn sungepnaephninkarsrangsmphnthiklchidkbrachwngsthngaethnthirachwngsocw aelayngepnkarnapharachwngsthngklbkhunsuxanacphayitxiththiphlkhxngekhadwy hakphranangbuechkethiynklbsng Wu Yanxiu cin 武延秀 phinxin Wǔ yanxiu sungepnphrarachpnddainphranangexngipxphieskkbbutrikhxngxachruxna omothw aethn thaihxachruxna omothw ptiesthxuhyansiwip enuxngcakekhamiidmikhwamtngicthicaprasansntiphaphxyangcringickbrachwngsocwkhxngphranangbuechkethiynaetxyangid dngnnemuxxuhyansiwedinthangmathung ekhacungkktwxuhyansiwiwaelaepidkarocmtikhrngihykbrachwngsocw odyruklalngmathungthangtxnitinbriewn Zhao Prefecture cin 趙州 phinxin Zhaozhōu hruxpccubnkhuxbriewnchuxeciycwnginmnthlehxepy kxnthicalathxythphklbip inpi kh s 699 karkhukkhamcakthufancungsngblng Tridu Songtsen Wylie Khri dus srong btsan thrngimphxphrathythi Lun Qinling cin 論欽陵 phinxin Lun qinling idrwbxanaciwaetphuediyw phraxngkhcungthuxoxkaskhnathilunchinhlingimxyuinemuxnglasasingepnemuxnghlwng sngkhnekhasngharphwkphxngkhxnglunchinhling aelaekhaocmtiekhacnexachychnaid thaihlunchinhlingthaxtnibatkrrmhlngcaknndwy Lun Zanpo cin 論贊婆 phinxin Lun zanpo phichaykhxnglunchinhling aelalunkngehrin Lun Gongren cin 論弓仁 phinxin Lun gōngren butrchaykhxnglunchinhlingcungidyxmcannaekrachwngsocw hlngcaknnthufancungxyuitkhwamwunwayphayinxyuhlaypi thaihekidkhwamsngbsntiaetchayaednkhxngxanackraehngrachwngsocwdanemuxngthufaninchwngnn inpi kh s 699 echnediywknnn phranangbuechkethiynidthrngtrahnkwaphraxngkhmiphrachnmayumakkhunaelw thaihthrnghwadklwkhwamtaythicaeyuxnmathung xikthngecachayhliesiynaelaecachayphraxngkhxun inrachtrakulxuimxacxyurwmknxyangsntiid phranangcungmiphrabychaihecachayhlitn ecahyingithphing phraswamikhnthisxngkhxngecahyingithphing khux hruxxxngaehngting Wu Youji cin 武攸暨 phinxin Wǔ yōu ji hrux Prince of Ding sungepnphrarachnddakhxngphranangdwy rwmthngecachayxngkhxun inrachtrakulxuthnghmdthrngsabanrwmkn chwngplaykhxngkarkhrxngrachy xanaekhtthiihythisudinsmykhxngbuechkethiyn enuxngcakphranangbuechkethiynmiphrachnmayusungkhun thaihesnabdicangxicrixaelacangchangcngmixanacmakkhun thngecachaytang inrachskulxukyngsnbsnunaelachunchmphwkekha phranangbuechkethiynkyingmxbhmayihcangxicrixaelacangchangduaelrachkaraethnphranangmakyingkhun thaihmikarwiphakywicarnxyanglb odyphranddakhxngphranangbuechkethiyn hlichngrun cin 李重潤 phinxin Lǐzhongrun hrux xxngaehngecha Prince of Shao butrkhxngecachayhliesiyn hliesiynhuy Li Xianhui cin 李仙蕙 phinxin Lǐxianhui hruxecahyingaehngyngith Lady of Yongtai phisawkhxnghlichngrun aelasamikhxnghliesiynhuy khux xuhyanci Wu Yanji cin 武延基 phinxin Wǔyan ji hruxxxngaehngewy Prince of Wei phrapnddaaehngphranangbuechkethiynaelabutrchaykhxngecachayxuechingsux hakkarsnthnaniideldlxdxxkipcnthaihcangxicruxekhathwayrayngantxphranangbuechkethiyn phranangcungmirbsngihecachayecahyingthngsamphraxngkhthaxtnibatkrrmcnesiychiwitinthisud aelaaemwaphranangcaaekchralngmak aetyngkhngihkhwamsnicinkarkhdeluxkaelaeluxntaaehnngkharachkarphumikhwamsamarthoddedn odymiphuthiidrbkareluxntaaehnnginchwngniidaek suyswnehwy 崔玄暐 phinxin Cuixuanwei and cangeciyecin 張嘉貞 phinxin Zhangjiazhen epntn pi kh s 703 xicrixaelacangchangcngekidkhwamrusukimphxicewyhywnphusungkhnannxyuintaaehnngmhaesnabdixawuos enuxngcakekhaidpldphinxngaescang khux cangchanghyi Zhang Changyi cin 張昌儀 phinxin Zhangchangyi aelayngptiesththicaeluxntaaehnngihaekphinxngaescangxikkhn khux cangchangchi Zhang Changqi cin 張昌期 phinxin Zhangchangqi dwy nxkcaknnkmikhwamhwadklwwahakphranangbuechkethiynsinphrachnmlng ewyhywnxachathangkacd kha phwkekha phwkekhacungwangaephnisrayewyhywnaelaekaeciyn Gao Jian cin 高戩 phinxin Gao jiǎn kharachkarxikkhnhnungphuepnthioprdpranaelaidrbkarsnbsnuncakecahyingithphing odyidchkchwncangeyw Zhang Yue cin 张说 phinxin Zhang Yue phuxyuitbngkhbbychakhxngewyhywnihrwmmuxinkhrngnihakaetemuxngcangeywthuknatwipsubswntxhnaphranangbuechkethiynnnekhaklbkhaihkarwacangxicrixaelacangchangcngidbngkhbihekhaepnphyanisraythngewyhywn ekaeciyn aelacangeywcungthukenrethsaethnkarthukpraharchiwit swrrkht esathiralukaehng epnthithibuechkethiynkbckrphrrdithngekacngphuepnphraswamithukfng invduibimrwng pi kh s 704 erimmikhxklawhadankarthucrittxcangxicrixaelacangchangcng rwmthungphinxngkhxngekha khux cangchangchi cangchanghyi aelacangthngsiw Zhang Tongxiu cin 張同休 phinxin Zhangtongxiu thaihcangchanghyiaelacangthngsiwthukpldcaktaaehnng hakaetsahrbcangxicrixaelacangchangcngnn aemwahliechingeciy Li Chengjia cin 李承嘉 phinxin Lǐchengjia aelahwnhyanfan Huan Yanfan cin 桓彥範 phinxin Huan yan fan caesnxihthukplddwyechnkn aetphranangbuechkethiynthrngechuxtamkhaaenanacakesnabdihyangicsux Yang Zaisi cin 楊再思 phinxin Yang Zaisi thiimihpldphwkekhathngsxng txmaphayhlngesnabdiehwyxnchux Wei Anshi cin 韋安石 phinxin Wei anshi cungidmikarnakhxklawhaeruxngkarthucritkhxngcangxicrixaelacangchangcngklbmaphicarnakhdiihmxikkhrng txmainvduhnaw pi kh s 704 phranangbuechkethiynthrngphraprachwrhnk inchwngnnmiephiyngphinxngtrakulcangethannthiidrbphrarachanuyatihekhaefaphranangid sungaemaetesnabditang kimidrbxnuyatihekhaefa thaihcangxicrixaelacangchangcngthuksngsywakalngwangaephncachwngchingphrarachbllngkrwmthungmikhawluxeruxngkarkxkarkbtxyuhlaykhrng emuxphranangbuechkethiynmiphraxakardikhun suyswnehwyidesnxaekphranangephuxihmiephiyngecachayhliesiynaelaecachayhlitnidrbxnuyatihekhaefaphranangidethann hakaetphranangbuechkethiynimthrngehndwy txcaknnmakyngmikhxklawhatxphinxngcangodyhwnhyanfan Huan Yanfan cin 桓彥範 phinxin Huan yan fan aelasngcing Song Jing cin 宋璟 phinxin Song jǐng phranangbuechkethiyncungthrngxnuyatihsngcingthakarsxbswnineruxngniid aetimnantxcaknn inrahwangthikarsubswnyngimsaerclng phranangrbsngihxphyothsaekcangxicrixaelaykelikkarsxbswnkhxngsngcinglngklangkhn invduibimphlikhxngpi kh s 705 phranangbuechkethiyninwy 82 phrrsathrngphraprachwrhnkxikkhrng xkhrmhaesnabdicang eciyncuxaelaphwkcungrwmknkxrthpraharaelawangaephnsngharphinxngtrakulcang xnmi cangeciyncux cinghuy Jing Hui cin 敬暉 phinxin Jing hui aela hywnsuci Yuan Shuji cin 袁恕己 phinxin Yuanshujǐ xikthngyngchkchwnihnayphlhlitwcw Li Duozuo cin 李多祚 phinxin Lǐ Duōzuo hlican Li Dan cin 李湛 phinxin Lǐ zhan hmayehtu 李湛 ichtwxksrtangcakphranamkhxngecachayhlitanhruxckrphrrdithngruycng aela hyanghywnhyan Yang Yuanyan cin 楊元琰 phinxin Yangyuanyǎn rwmthungesnabdixikkhnhnungkhux ehyachng Yao Yuanzhi cin 姚崇 phinxin Yao Chong ekharwmdwy aelaidkrathakarinwnthi 20 kumphaphnth odyerimcakkarsngharcangxicrixaelacangchangcng txcaknncungnakalngekhalxmphratahnkchangechingetiyn Changsheng Hall cin 長生殿 phinxin Changsheng dian xnepnthiprathbkhxngphranangbuechkethiyn aelaephdthulaekphranangbuechkethiynwaphinxngtrakulcangidkxkarkbt cungesnxihphranangmxbphrarachbllngkaekecachayhliecx hruxphranamedimkhux hliesiyn inwnthi 21 kumphaphnth cungmikarprakasphrabrmrachoxngkaraetngtngihecachayhliecxepnphusaercrachkaraethnphranang aelaphayinwntxmakhuxinwnthi 22 kumphaphnth idmiphrabrmrachoxngkarxikkhrngodymxbphrarachbllngkihaekecachayhliecx inwnthi 23 kumphaphnth ecachayhliecxcungthrngkhunkhrxngphrarachbllngktx epnckrphrrdithngcngcng swnphranangbuechkethiynnnthrngthukkhwbkhumtwipyngphratahnkrxng khuxphratahnksanghyangkng Shangyang Palace cin 上陽宮 phinxin Shangyang gōng aetphranangkyngkhngidrbkarykyxnginthana Empress Regnant Zetian Dasheng 則天大聖皇帝 txmainwnthi 3 minakhm phraxngkhthrngruxfunrachwngsthngkhunihm aelaihklbmaichchuxrachwngsthngdngedim rachwngsocwthiphranangthrngkxtngkhunmanan 14 pi cungepnxnsinsudlng swnphranangbuechkethiynsinphrachnminwnthi 16 thnwakhm kh s 705 inpi kh s 706 phraoxrskhxngphranangbuechkethiyn khuxckrphrrdithngcngcng thrngihmikarfngphrasphkhxngphranangrwmkbphrasphkhxngckrphrrdithngekacngiwinsusanechiynhlingsungxyuiklkbemuxnghlwngchangxaninkhnann pccubnxyuinekhtmnthlsansithangphakhtawntkkhxngpraethscin susanechiynhlingcungepnthifngphrasphkhxngckrphrrdisxngxngkhephiyngaehngediywinprawtisastrcinxnyawnankwa 2 000 pi sungthngsxngphraxngkhepnckrphrrdiinsxngrchkalaelaepnkhusamiphrryakn odymikartngaethnsilacarukxyubriewnhnasusan aethnsilacarukniepnhinkxnediyw sungpraman 10 emtr kwang 2 emtr mikaraekaslkswyngampranit aetimmitwxksridbncarukni nkprawtisastrbangkhnehnwaenuxngcakphranangbuechkethiynthrngokhnlmrabbxanacphuchaythisubthxdknmakhxngcin phranangthrngruwatnexngmikhwamphidihymak cungmiklaaetngkhxkhwamsrresriytnexng bangkhnehnwasaehtukhuxphranangbuechkethiynrwmfngkbphrasphkhxngckrphrrdithngekacng cungthrngimrucaisnamskulaelachuxrachwngkhkhxngtnxyuhnahruxhlngnamskulkhxngckrphrrdithngekacngcungcaehmaasm cungichsilacarukthiimmitwxksrephuxhlikeliyngpyhani aetphukhnswnkhangmakehnwa karthiphranangbuechkethiyntngsilacarukthiimmitwxksrnnepnkarkrathathichlad enuxngcakphranangthrngruwakhnrunhlngxaccamikarwiphakswicarntang nanatxphranang karaetngprawtibnsilacarukimsamarthrwbrwmeruxngrawxnhlakhlaychwchiwitkhxngtnid cungtngsilacarukthiimmitwxksr ephuxihkhnrunhlngwicarnknexngaethn ckrphrrdinibuechkethiynthrngphraprichasamarthinkarpkkhrxngbanemuxngmak odythrngsngesrimkarekstr ldhyxnphasi karsxbekharbrachkar epntn phayitkarpkkhrxngkhxngphranangthithrngkhrxngrachsmbti 14 pi praethscininsmyrachwngsthngmikalngekhmaekhngaelamiesthiyrphaphthangsngkhm rwmthungmikarphthnathangesrsthkickawhnaipepnxnmak rachwngsocwthisxng kh s 690 705 Convention use personal namechuxwd chuxskul aelachux chwngewlathikhrxngrachy rchsk Era names aelachwngewlaaehngrchsknnimmi xu caw phinxin Wǔ Zhao cin 武曌 kh s 690 705 ethiynochw phinxin Tianshou cin 天授 16 tulakhm kh s 690 21 emsayn kh s 692 18 eduxn ruyi phinxin Ruyi cin 如意 22 emsayn 22 tulakhm kh s 692 6 eduxn changochw phinxin Changshou cin 長壽 23 tulakhm kh s 692 8 mithunayn kh s 694 19 eduxn ehyiynic phinxin Yanzai cin 延載 9 mithunayn kh s 694 21 mkrakhm kh s 695 7 eduxn ecngeching phinxin Zhengsheng cin 證聖 22 mkrakhm 21 tulakhm kh s 695 9 eduxn ethiynesxwansuy phinxin Tiancewansui cin 天冊萬歲 22 tulakhm kh s 695 19 mkrakhm kh s 696 3 eduxn wansuyetingefing phinxin Wansuidengfeng cin 萬歲登封 20 mkrakhm 21 emsayn kh s 696 3 eduxn wansuythngethiyn phinxin Wansuitōngtian cin 萬歲通天 22 emsayn kh s 696 28 knyayn kh s 697 17 eduxn echingkng phinxin Shengōng cin 神功 29 knyayn 19 thnwakhm kh s 697 2 eduxn echingli phinxin Shengli cin 聖曆 20 thnwakhm kh s 697 26 phvsphakhm kh s 700 29 eduxn ciwsux phinxin Jiǔshi cin 久視 27 phvsphakhm kh s 700 14 kumphaphnth kh s 701 8 eduxn tasu phinxin Dazu cin 大足 15 kumphaphnth 25 phvscikayn kh s 701 9 eduxn changxan phinxin Chang an cin 長安 26 phvscikayn kh s 701 29 mkrakhm kh s 705 38 eduxn echinhlng phinxin Shenlong cin 神龍 30 mkrakhm 3 minakhm kh s 705 rachwngsocwsinsudlngemuxwnthi 3 minakhm kh s 705 aelarachwngsthngidrbkarfunfuklbmainwnediywkn but the Shenlong era thukichtxodyckrphrrdithngcngcngcnthungpi kh s 707 karthanubarungphrasasna phrasrixriyemtitry statue from the reign of Wu Zetiankhnaesnabdiinrahwangkarkhrxngrachy phranangbuechkethiynthrngmikhnaesnabdicanwnmakinkhnathiphranangthrngkhrxngrachbllngkinthanakstriyinrachwngsocwaehngrachxanackrcin miesnabdicanwnmakthiepnechuxphrawngshruxmacaktrakulphudiaelaepnphumikhwamoddedninkhwamsamarth duraynamchuxephimetimthi karsrangxanacphanwrrnkrrm klawknwawrrnkrrmthiekhiynkhuninyukhnnmibangswnthipraphnthkhunephuxichepnekhruxngmuxinesrimsrangphrarachxanacihaekphranangbuechkethiynwrrnkrrmmummxngthangprawtisastrmummxngthangprawtisastrcinthimitxphranangbuechkethiynmihlakhlay thngkhwamchunchmthimitxtwphrananginkhwamsamarthinkarbriharcdkarbanemuxng hakaetpranamphranangindankaryudxanacaehngrachsankmaepnkhxngtnexng hlwpinhwng hnunginsikwithimichuxesiyngthisudinchwngtnrachwngsthng idekhiynbthkwiaelakhxkhwamwiphakswicarnphranangbuechkethiynxyuhlaykhrng thngyngsnbsnunkarkxkarkbtkhxng Li Jingye cin 李敬業 phinxin Lǐ jingye dwy hliwsu nkprawtisastrsmyrachwngsohwcinaelaphuepnbrrnathikarhnngsuxchux hnngsuxaehngrachwngsthng idmikhwamehnineruxngniiwwa The year that Lady Wu declared herself regent heroic individuals were all mournful of the unfortunate turn of events worried that the dynasty would fall and concerned that they could not repay the grace of the deceased emperor i e Emperor Gaozong and protect his sons Soon thereafter great accusations arose and many innocent people were falsely accused and stuck their necks out in waiting for execution Heaven and earth became like a huge cage and even if one could escape it where could he go That was lamentable In the past the trick of covering the nose surprised the realm in its poisonousness and the disaster of the human pig caused the entire state to mourn In order to take over as empress Empress Wu strangled her own infant daughter her willingness to crush her own flesh and blood showed how great her viciousness and vile nature was although this is nothing more than what evil individuals and jealous women might do However she accepted the words of righteousness and honored the upright Although she was like a hen that crowed she eventually returned the rightful rule to her son She quickly dispelled the accusation against Wei Yuanzhong comforted Di Renjie with kind words respected the will of the times and suppressed her favorites and listened to honest words and ended the terror of the secret police officials This was good this was good yngmukhwamkhidehnxnhlakhlaycakmummxngsmyihmthimitxphranangbuechkethiynodynkekhiyntangchati modern non Chinese authors xathi buechkethiyn pi kh s 690 705 epnhyingthiphiess miesnh miphrswrrkh mikhwamechliywchladaelamikhwamsamarthphiessdankaremuxngkarpkkhrxngaelainkarwiekhraahkhn dwykhwammungmnkhxngphranang thaihthrngexachnakartxtancaklththikhngcuxiddwytwkhxngphranangexng odymiidichxanachnunhlngcakwngstrakulhruxkhrxbkhrwehmuxndnghyinginrachsankphuxunaetxyangid hakaetkarkhunsuxanackhxngphranangnnkhrakhraxyubnkxngeluxd Ann Paludan nkpraphnthhnngsuxprawtisastr sthaptykrrm aelapratimakrrmcinhlayelm inkhwamnaklwkhxngprawtisastrcinobran ehlasmachikinradb shih thiprasbkhwamsaercxyangtxenuxnginsmyrachwngsthng thukthathayxyangihyhlwngcakkarthixditnangsnmphuhnungsungsamarthchwngchingphrarachbllngkmaidinthisud aemwaethxcaepnphuirkhwamemttapranitxstruaetchwngewlaaehngkarkhrxngrachykhxngphranangthuxwaepnchwngthidithisudchwnghnunginprawtisastrcin rachsankmikhwammnkhng immikbt thngimmikarlaemidlwngthangdankarthhar mikarbriharcdkarthioddedn aelasamarthyudkhrxngekahliid epnkhwamsaercxnmiekhyekidkhunmakxn Yong Yap Cotterell aela Arthur Cotterell inthanackrphrrdinihyingkhnediywkhxngpraethscin phranangbuechkethiynnnthrngmithksaaelakhwamsamarthxnnathungmak hakkarkhatkrrmaelakarkrathaxnphidkdhmaytang ephuxihphranangidmasungxanacaelarksaxanacnniw thaihchuxesiyngkhxngphranangimepnthiniyminhmukharachsankephschaynk thngyngmikarsngesrimihmikarrbbukhkhlepnkharachsankincanwnthimakekinip rwmthungkarthucritkhxrrpchnthiekidkhunepncanwnmakdwy John King Fairbank nkwichakaraelankprawtisastrcin chawxemrikn mummxngkhxnglththikhngcux phranangbuechkethiynthrngxyuinsmythiyudthuxkhnbpraephnixyangekhmngwd odyechphaaxyangyingxanackhxngphuchaytxngxyuehnuxphuhying khngcuxaemcaepnnkkhidthinaykyxngaetkbphuhyingaelwkmixkhtixyangrunaerng echn phuhyingtxngprakxbdwy 3 echuxfng 4 khunthrrm khux yngimxxkeruxntxngechuxfngbida xxkeruxnaelwtxngechuxfngsami samisinchiwitaelwtxngechuxfngbutrchay txngmisilthrrm phudcaeriybrxy kiriyamaryathdi karfimuxdi phranangbuechkethiynthrngtxtankhwamimepnthrrmtxphuhyingxyangsudchiwit txtanxiththiphlxnimepnthrrmcakxanacphuchay txtankbkrxbpraephnithiihphuhyingxyukbehyaefakberuxn aelatxtankhnbpraephnitang xikmakthimungaetcabibkhnaelakdphuhyingthukxyang singehlanikhdkbkhwamechuxkhxngsngkhmcinthiphuchayepnihyinkhnannepnxyangying karkhunmamixanacaelakhrxngrachbllngkkhxngphranangbuechkethiynnnthukwiphakywicarncaknkprawtisastrthiniymlththikhngcuxxyangrunaerng aethakidrbmummxngthiaetktangxxkiphlngcakchwngpi kh s 1950 inchwngtnkhxngrachwngsthng enuxngcakckrphrrdixngkhtang epnechuxsaycakphranangbuechkethiyn khxekhiynthangprawtisastrnnekiywkbphranangcungkhxnkhangipindandi aetkhwamkhidehninchwngewlatxma odyechphaainhnngsuxcuxcuxthngeciyn Zizhi Tongjian hrux Tzu chih Tung chien cintwyx 资治通鉴 cintwetm 資治通鑑 phinxin Zizhi Tōngjian aepltamtwxksrwa krackthikhrxbkhlumephuxchwyrthbal Comprehensive Mirror to Aid in Government thieriyberiyngekhiynody Sima Guang cintwyx 司马光 cintwetm 司馬光 phinxin Simǎ Guang kh s 1019 1086 idwicarnphranangbuechkethiynxyanghnkphlnganthsnsilpekiywkbphranangbuechkethiynmiphlnganmakmaythngnwniyay phaphyntr raykarothrthsn aelaekmskhxmphiwetxr thisrangkhunephuxralukthungphranangbuechkethiyn dngni nwniyay bthbathinnwniyaykhxngphranangbuechkethiynpraktrwmkb ti ehrineciy inhnngsuxnwniyaychux khwamhlxklwng nwniyayaehngkhwamluklbaelabakhlngkhxngyukhcinobran Deception A Novel of Mystery and Madness in Ancient China praphnthody xelnxr khuniy Eleanor Cooney aela aedeniyl xlethxrri Daniel Alteri hnngsuxnwniyaychux edkchaythikalngedin The Walking Boy praphnthody linda kwa Lydia Kwa tiphimphinpi kh s 2005 odysankphimphkhiyphxretxrbuks Key Porter Books praethsaekhnada hnngsuxprawtisastrchux khunnayxu Lady Wu praphnthody hlinxyuthng Lin Yutang cin 林语堂 phinxin Lin Yǔtang odyrwbrwmkhxmulthangprawtisastr wicyxyanglaexiyd rwmthngkarelaeruxngihehnthungdanlbkhxnghyingphumaepnckrphrrdinikhxngcin hnngsuxnwniyayxingchiwprawtichux xxrephrrathrissu Imperatrice phasafrngess praphnthodysansa ekidinemuxngpkking and based on Empress Wu s life aeplepnphasaxngkvs chux exmephrs hrux ckrphrrdini Empress inphasayipun chux ocethxi waka na wa oskhuethn buok Jotei Waga na wa Sokuten Bukō 女帝 わが名は則天武后 aeplwa ckrphrrdihyung chnchuxbuechkethiyn aelainphasaeyxrmn chux ikhesxrrin Kaiserin nwniyayxingprawtisastrchux exmephrs hrux ckrphrrdini Empress praphnthodyexewxrlin aemkhkhun Evelyn McCune epneruxngrawkhxngxu cawtngaetinwyruntxntn odyechphaaeruxngkhwamsmphnthrahwangnangkbckrphrrdiaehngrachwngsthngthngsxngphraxngkh rwmthunginkhnathiphranangthrngkhunkhrxngrachypkkhrxngbanemuxngdwyphraxngkhexnginthanackrphrrdinidwy tiphimphinpi kh s 1994 odysankphimphbllathinbuks Ballantine Books hnngsuxnwniyayxingchiwprawtichux phrasnmxu caw Cairen Wu Zhao praphnthodynkpraphnthnwniyaycinchux suthng sungbrryaychiwitaelaprasbkarndanxarmnkhxngphranangbuechkethiyn hnngsuxchux xanackrkhxngstri Isle of Woman praphnthodypiaexr aexnothni Piers Anthony tiphimphinpi kh s 1993 odysankphimphthxraefntasi Tor Fantasy prakxbdwyeruxngrawinchwngrayaewlakhxngkarkhunsuxanackhxngphranangbuechkethiyn hnngsuxnwniyoraemntikxingprawtisastrkhxngckphrrdinichux mngkrekhiywaelaesuxkhaw Green Dragon White Tiger praphnthodynkekhiynchawixrichchux aexnentt mxtli Annette Motley tiphimphinpi kh s 1988 odysankphimphxxnniks Onyx nwniyaykalngphayinxingprawtisastrchux Nudi Qiying Zhuan 女帝奇英傳 praphnthody eniy xuesng hnngsuxnwniyaykalngphayinxingprawtisastrchux phraxathityaelaphracnthrbnthxngfa hrux ruxeywtangkhng Ri Yue Dang Kong hrux The sun and the moon in the sky cin 日月當空 praphnthodyphaphyntr ckrphrrdinibuechkethiyn hrux xu ecxethiyn 武則天 phaphyntrcinsrangkhuninpi kh s 1939 aesdngody iwoxelt okh Violet Koo 顧蘭君 ckrphrrdinibuechkethiyn hrux xu ecxethiyn 武則天 phaphyntrhxngkngsrangkhuninpi kh s 1949 aesdngody hungswhman Hung Sau man 孔繡雲 ckrphrrdinibuechkethiyn hrux xu ecxethiyn 武則天 phaphyntrhxngkngsrangkhuninpi kh s 1963 phlitodychxw braedxrs studiox Shaw Brothers Studio aesdngody hlilihwa Li Li hua 李麗華 liwcu huyenngchwn 六祖慧能傳 phaphyntrcinithwnsrangkhuninpi kh s 1987 naaesdngody hling px epnphranangbuechkethiyn tiehrineciy dabthalukhnif Detective Dee Detective Dee and the Mystery of the Phantom Flame 狄仁傑之通天帝國 phaphyntrsrangkhuninpi kh s 2010 naaesdngody hliw eciyhling epnphranangbuechkethiyn tiehrineciy phcykbdkethphmngkr Young Detective Dee Rise of the Sea Dragon 狄仁杰之神都龙王 phaphyntrsrangkhuninpi kh s 2013 naaesdngodyhliw eciyhling epnphranangbuechkethiyn lakhrothrthsn ckrphrrdinibuechkethiyn hrux xu ecxethiyn 武則天 lakhrothrthsnhxngkng srangkhuninpi kh s 1976 odykhxmemxrechiylethelwichn mi hlithnghming Lee Tong ming 李通明 aesdngepnphranangbuechkethiyn aelaesiyngyi Seung Yee 湘漪 aesdngepnphranangbuechkethiyninwychra ckrphrrdinibuechkethiyn hrux xu ecxethiyn 武則天 lakhrothrthsnhxngkng srangkhuninpi kh s 1984 odyexthiwi ATV aesdngody ephrtthina fung ckrphrrdiniaehngrachwngs hrux xiitnuwhwng 一代女皇 lakhrothrthsncinithwn srangkhuninpi kh s 1985 odysithiwi naaesdngody aexngecla phan ckrphrrdi hrux thnghminghwng 唐明皇 lakhrothrthsncinithwn srangkhuninpi kh s 1990 chayinsisithiwi 1 epneruxngrawekiywkbkarkhunkhrxngrachykhxngckrphrrdithngeswiyncng odymi cuhlin Zhu Lin aesdngepnphranangbuechkethiyn ckrphrrdinibuechkethiyn hrux xu ecxethiyn 武則天 lakhrothrthsncin srangkhuninpi kh s 1995 odysisithiwi CCTV naaesdngody hliw esiywching eruxngrawkhwamrkaehngethphniyay hrux cinhwhywnchwnchi 鏡花緣傳奇 lakhrothrthsnhxngkng srangkhuninpi kh s 2000 odyexthiwi ATV srangcakeruxngrawinnwniyayeruxngdxkiminkrack naaesdngody wang hmingchwn epnphranangbuechkethiyn tahmingkngsux 大明宮詞 lakhrothrthsncin srangkhuninpi kh s 2000 odysisithiwi CCTV miecahyingithphing phrathidainphranangbuechkethiyn epntwlakhrexk aela kuyyaely aesdngepnphranangbuechkethiyn tananrkrachwngsthng hrux tathngchingchux 大唐情史 lakhrothrthsncin srangkhuninpi kh s 2001 epneruxngrawekiywkbecahyingekahyang phrarachthidainckrphrrdiithcng odymi chinhlan aesdngepnphranangbuechkethiyninwyphraeyaw ethiyncuxsunhlng 天子尋龍 lakhrothrthsnhxngkng srangkhuninpi kh s 2003 odythibiwi odymiohlkwnhlan Law Koon lan 羅冠蘭 aesdngepnphranangbuechkethiyn cuxsun hngehyiyn 至尊紅顏 lakhrothrthsncinithwn srangkhuninpi kh s 2004 odysithiexs naaesdngodyxlisa eciy hrux eciycingehwin Alyssa Chia 賈靜雯 aesdngepnphranangbuechkethiyn echinthantiehrineciy 神探狄仁傑 lakhrothrthsncinmithnghmd 4 phakh epneruxngrawekiywkb ti ehrineciy xxkxakasinpi kh s 2004 thung kh s 2010 chxngsisithiwi 8 odyminkaesdngna khux hlucng Lu Zhong 呂中 aesdngepnphranangbuechkethiyn xusuxepyekx 無字碑歌 lakhrothrthsncin srangkhuninpi kh s 2006 naaesdngody sichin ekahwa aesdngepnphranangbuechkethiyn ecinkwncuxcux 貞觀之治 lakhrothrthsncin srangkhuninpi kh s 2006 epneruxngrawekiywkbkarkhrxngrachykhxngsmedcphrackrphrrdithngithcng odymi cangti Zhang Di 張笛 aesdngepnphranangbuechkethiyninwyphraeyaw buechkhethiyn cxmnangehnuxaephndin 日月凌空 lakhrothrthsncin srangkhuninpi kh s 2007 ody sisithiwi CCTV epneruxngrawekiywkbkhwamsmphnthrahwangphranangbuebkethiyn aesdngody hliw esiywching kbkharachkarnksubhyingchux esiyeyahwn Xie Yaohuan aesdngody hwng echingxi wirburusphuyingihy hrux echingchuxehrineciy 盛世仁傑 lakhrothrthsnhxngkng srangkhuninpi kh s 2009 ody thiwibi TV epneruxngrawekiywkb ti ehrineciy odymiriebkka chan aesdngepnphranangbuechkethiyn 武則天祕史 lakhrothrthsncin srangkhuninpi kh s 2011 odyhuhnanthiwi Hunan TV minkaesdngnathiaesdngepnphranangbuechkethiyn 3 khn aesdngepnphrananginchwngwytang kn khux hyinetha Yin Tao 殷桃 aesdngepnphranangbuechkethiyninwyphraeyaw hliw esiywching aesdngepnphranangbuechkethiyninchwngwyklangkhn aelasichin ekahwa aesdngepnphranangbuechkethiyninwychra tathnghnusunxan 大唐女巡按 lakhrothrthsncin srangkhuninpi kh s 2011 epneruxngrawekiywkb esiyeyahwn Xie Yaohuan kharachkarnksubhyingthikhxyrbichphranangbuechkethiynxyuinrachsank odymi xaeciyw aesdngepnesiyeyahwn aelahwngci Wang Ji 王姬 aesdngepnphranangbuechkethiyn thngkngehmyehrinethiynesiy 唐宮美人天下 lakhrothrthsncin srangkhuninpi kh s 2011 naaesdngody cangthing Zhang Ting 張庭 aesdngepnphranangbuechkethiyn striaehngrachsankrachwngsthng hrux thngkngehyiyncuxhnuehrinethiynesiy 唐宮燕之女人天下 lakhrothrthsncin srangkhuninpi kh s 2013 naaesdngody kharahuy aesdngepnphranangbuechkethiyn esiywehniynechinthwtiehrineciy 少年神探狄仁傑 lakhrothrthsncin odymi hlin sinhru aesdngepnphranangbuechkethiyn ckrphrrdinibuechkethiyn hrux xu ecxethiyn The Empress of China 武則天 lakhrothrthsncin odymi fan pingping aesdngepnphranangbuechkethiyn txnthimichuxwa caklakhrothrthsn eruxngechxrlxk Sherlock odybibisi the BBC television series ekiywkbpinpkphmthacakhykthithukokhmyip sungepnpinpkphmkhxngphranangbuechkethiynekmkhxmphiwetxr phranangbuechkethiyninthanaphunakhxngpraethscininekm sidimexxs siwiileschn II 1996 siwiileschn V 2010 aelayukhkhxngexmiphrthisxng yukhaehngkstriy 1999 odybristhimokhrsxfthkhxrpxrerchn Microsoft Corporation duephimtaaehnngmehsiaehngrachwngsthngkhxngcin thaphahlngehmin xusansuxxangxingaelaechingxrrthWu was partially in control of power since approximately 660 and her power was even more paramount after January 665 Her was proclaimed on October 16 690 and she proclaimed herself Empress Regnant on October 19 demoting her son to the rank of with the unusual title of Huangsi 皇嗣 She lost power in the palace coup of February 20 705 and on February 22 she was forced to return imperial authority to her son Li Xian who was restored as on February 23 The Zhou dynasty was terminated with the restoration of the Tang dynasty on March 3 Wu was partially in control of power since approximately 660 and her power was even more paramount after January 665 Her was proclaimed on October 16 690 and she proclaimed herself Empress Regnant on October 19 demoting her son to the rank of with the unusual title of Huangsi 皇嗣 She lost power in the palace coup of February 20 705 and on February 22 she was forced to return imperial authority to her son Li Xian who was restored as on February 23 The Zhou dynasty was terminated with the restoration of the Tang dynasty on March 3 Zhou dynasty was abolished before her death and she was reverted to the rank of empress consort on her death so she did not have a temple name as empresses consort unlike ruling emperors were not given temple names piprasutini idmacakkarexaphrachnmkbpiswrrkhtthirabuiwin New Book of Tang chbb kh s 1045 1060 mabwklbkn phllphthdngklawniepnthiyxmrbkhxngnkprawtisastrsmyihm aetthakhanwntamthirabuiwin Book of Tang chbb kh s 941 945 caidpiprasutiepn kh s 623 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imsmehtusmphl miniyamchux birth hlaykhrngdwyenuxhatangkn wneduxnpithirabuiwtrngni epniptamptithincueliyn miichtamptithinkxnekrokeriyn 兩千年中西曆轉換 Paludan 100 See for example Beckwith 130 n 51 Empress of China Wu Ze Tian by Jiang Cheng An Victory Press 1998 Paludan 96 http www womeninworldhistory com heroine6 html See e g Bo Yang Edition of the Zizhi Tongjian vol 51 Preface khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 02 19 subkhnemux 2014 10 26 General note Dates given here are in the ptithincueliyn They are not in the ptithinkxnekrokeriyn http www oknation net blog print php id 601668 lingkesiy khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 10 11 subkhnemux 2014 10 26 See e g Zizhi Tongjian vol 199 s assertion that she had served euphemism for sexual relations Emperor Taizong when trying to stop Emperor Gaozong from creating her empress Zizhi Tongjian vol 206 Paludan 93 The modern historian based on the fact that Consort Wu s oldest son was born in 652 fixed the date of this incident as 650 but 651 is also a possibility See Bo Yang Edition of Zizhi Tongjian vol 47 Outlines of the History of the Chinese 中國人史綱 vol 2 p 520 hlwpinhwng Declaration on Xu Jingye s Behalf Against Wu Zhao collected in vol 7 Zizhi Tongjian vol 199 Zizhi Tongjian vol 200 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 07 08 subkhnemux 2014 10 26 See e g Bo Yang Edition of the Zizhi Tongjian vol 40 683 Zizhi Tongjian vol 201 For Wu Shihuo s career and family see generally vol 58 1 2007 10 11 thi ewyaebkaemchchin and New Book of Tang vol 206 2 2008 02 09 thi ewyaebkaemchchin Zizhi Tongjian vol 202 prawtisastrcinchbbyx ekhiynodyhliechwiyn aeplodyekhmntth thrphyeksmchy sankphimphmtichn mkrakhm 2556 Zizhi Tongjian vol 203 Paludan 97 Paludan 97 101 See e g Zizhi Tongjian vol 234 submission of to ckrphrrdithngetxcng citing Wu Zetian as the prime example of a capable selector of officials s 二十二史劄記 Empress Wu Accepted Corrections and Knew People 3 2009 01 13 thi ewyaebkaemchchin Zizhi Tongjian vol 204 Zizhi Tongjian vol 205 prawtisastrcinchbbyx ekhiynodyhliechwiyn aeplodyekhmntth thrphyeksmchy pi ph s 2557 Throughout the Zizhi Tongjian descriptions of Wu Zetian s reign Sima referred to her as the Empress Dowager implicitly refusing to recognize her as empress regnant although he used her Domesticating the Dharma Richard D McBride 2007 Google Books Preview Zizhi Tongjian vol 208 Zizhi Tongjian vol 207 Jonathan Wolfram Eberhard 1997 A history of China University of California Press p 388 ISBN 978 0 520 03268 2 subkhnemux 2010 06 28 The Zizhi Tongjian asserted that Li Chongrun was forced to commit suicide but the and the asserted in his biographies that he was caned to death on Wu Zetian s orders Compare Zizhi Tongjian vol 207 with Book of Tang vol 86 4 2007 10 11 thi ewyaebkaemchchin and New Book of Tang vol 81 5 2008 02 19 thi ewyaebkaemchchin The Book of Tang meanwhile inconsistently asserted in the chronicles of Wu Zetian s reign that he was forced to commit suicide See Book of Tang vol 6 6 2007 12 25 thi ewyaebkaemchchin The chronicles of Wu Zetian s reign in the New Book of Tang merely stated that the three of them were killed See New Book of Tang vol 4 7 2007 10 11 thi ewyaebkaemchchin However some modern historians based on the text on Li Xianhui s tombstone written after Emperor Zhongzong was restored to the throne in 705 which suggested that she died the day after her brother and her husband and that she was pregnant at death and the fact that the skeleton believed to be hers had a small pelvis have proposed the theory that she was not ordered to commit suicide but had in grief over her brother s and husband s deaths had either a miscarriage or a difficult birth and died from that See e g illustrations preceding the Edition of the Zizhi Tongjian vol 49 说 in this place is pronounced as Yue not Shuo See e g Heming Yong Jing Peng Chinese lexicography a history from 1046 BC to AD 1911 http www sinica edu tw ftms bin kiwi1 luso sh lstype 2 amp dyna AD F0 amp king A4 A4 A9v amp reign AF AB C0s amp yy 1 amp ycanzi amp mm 1 amp dd 22 amp dcanzi http www sinica edu tw ftms bin kiwi1 luso sh lstype 2 amp dyna AD F0 amp king A4 A4 A9v amp reign AF AB C0s amp yy 1 amp ycanzi amp mm 2 amp dd 4 amp dcanzi khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 03 04 subkhnemux 2014 10 26 Book of Tang vol 6 This was a reference to a story relayed in the In the story it was mentioned that the king of gave a beautiful woman to as a gift to be his concubine King Huai s jealous wife Queen Zheng Xiu 鄭袖 told her The King loves you greatly but dislikes your nose If you cover your nose whenever you see him you can ensure that he will continue to be loved by him She accepted Queen Zheng s suggestion When King Huai asked Queen Zheng Why does she cover her nose when she sees me Queen Zheng responded She often said that Your Majesty had a stench to you King Huai in anger yelled Cut off her nose This is a reference to the torture that ckrphrrdihnekacu s wife ckrphrrdinihneka carried out against Emperor Gao s favorite concubine Consort Qi after Emperor Gao s death once Empress Lu became empress dowager by cutting her limbs off blinding her deafening her and referring to her as the human pig 人彘 Paludan 98 Cotterell and Cotterell 144 Fairbank 82 aehlngkhxmul 2009 Empires of the Silk Road A History of Central Eurasia from the Bronze Age to the Present Princeton Princeton University Press ISBN 978 0 691 13589 2 vol 6 8 2007 12 25 thi ewyaebkaemchchin Cotterell Yong Yap and Arthur Cotterell 1975 The Early Civilization of China New York G P Putnam s Sons ISBN 978 0 399 11595 0 Empress of China Wu Ze Tian by Jiang Cheng An Victory Press 1998 Kang i Sun Chang Haun Saussy Charles Yim tze Kwong 1999 Women writers of traditional China an anthology of poetry and criticism Stanford University Press a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a CS1 maint uses authors parameter 1992 China A New History Cambridge Massachusetts Belknap Press Harvard University Press ISBN 978 0 674 11670 2 Murck Alfreda 2000 Poetry and Painting in Song China The Subtle Art of Dissent Cambridge Massachusetts and London Harvard University Asia Center for the Harvard Yenching Institute ISBN 978 0 674 00782 6 vols 4 9 2007 10 11 thi ewyaebkaemchchin 76 10 2008 02 19 thi ewyaebkaemchchin 1998 Chronicle of the Chinese Emperors The Reign by Reign Record of the Rulers of Imperial China New York New York Thames and Hudson ISBN 978 0 500 05090 3 Rastelli Sabrina 2008 China at the Court of the Emperors Unknown Masterpieces from Han Tradition to Tang Elegance 25 907 Skira ISBN 978 88 6130 681 3 Scarpari Maurizio 2006 Ancient China Chinese Civilization from the Origins to the Tang Dynasty Vercelli VMB Publishers ISBN 978 88 540 0509 9 1971 CHINESE LYRICISM Shih Poetry from the Second to the Twelfth Century New York Columbia University Press ISBN 978 0 231 03464 7 Yu Pauline 2002 Chinese Poetry and Its Institutions in Hsiang Lectures on Chinese Poetry Volume 2 Grace S Fong editor Montreal Center for East Asian Research McGill University vols 195 199 200 201 202 203 204 205 206 207 208 duephimwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb buechkethiyn Cawthorne Nigel 2007 Daughter of Heaven The True Story of the Only Woman to become Emperor of China Oxford One World Publications pp 271 pages ISBN 978 1 85168 530 1 Wu Zhao China s Only Woman Emperor written by N Harry Rothschild and published 2008 by Inc Empress Wu Zetian in Fiction and in History Female Defiance in Confucian China by Dora Shu fang Dien Nova Publishing 2003 explores the life of Empress Wu Zetian and the ways women found to participate in public life despite the societal constraints of dynastic China Wu The Chinese Empress Who Schemed Seduced and Murdered Her Way to Become a Living God by offers a critical appraisal of many primary sources and includes an appendix comparing fictional accounts kxnhna buechkethiyn thdipckrphrrdinihwng hxngeha rachwngsthng 655 684 ckrphrrdiniewy wikiphiediy khxmulbukhkhl chux Wu Zetian chuxxun Wu Zhao Wu Mei Wu Meiniang Empress Wu Empress Dowager Wu Zetian Tianhouraylaexiydodyyx The only female emperor in Chinese history wnekid 625sthanthiekid changxan rachwngsthngwntay 16 December 705sthanthitay lkexiyng mnthlehxhnan China