กองทัพสหรัฐ (อังกฤษ: United States Armed Forces) เป็นกำลังทหารของสหรัฐ ประกอบด้วยกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ กองทัพอวกาศ เหล่านาวิกโยธิน และยามฝั่ง สหรัฐมีประเพณีพลเรือนควบคุมทหารอย่างเข้มแข็ง ประธานาธิบดีสหรัฐเป็นผู้บัญชาการทหารทุกเหล่าทัพโดยตรง และมีกระทรวงกลาโหมทำหน้าที่เป็นองค์กรหลักซึ่งนำนโยบายทางทหารไปปฏิบัติ กระทรวงกลาโหมมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นพลเรือนและอยู่ในคณะรัฐมนตรี เป็นเจ้ากระทรวง
กองทัพสหรัฐ | |
---|---|
United States Armed Forces | |
ตราของแต่ละเหล่าทัพสหรัฐ | |
ก่อตั้ง | 14 มิถุนายน 1775 |
เหล่า | |
กองบัญชาการ | เดอะเพนตากอน รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐ |
ผู้บังคับบัญชา | |
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด | ประธานาธิบดี โจ ไบเดิน |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม | ลอยด์ ออสติน |
ประธานคณะเสนาธิการร่วม | |
กำลังพล | |
อายุเริ่มบรรจุ | 17 ปี โดยได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง, 18 ปีโดยสมัครใจ อายุการสมัครเข้าเป็นทหารสูงสุด 35 ปีสำหรับกองทัพบก 28 ปีสำหรับนาวิกโยธิน, 34 ปีสำหรับกองทัพเรือ และ 27 ปีสำหรับกองทัพอากาศ |
ประชากร วัยบรรจุ | 73,270,043 ชาย, อายุ 18–49 (ประเมิน 2553), 71,941,969 หญิง, อายุ 18–49 (ประเมิน 2553) |
ประชากร ฉกรรจ์ | 60,620,143 ชาย, อายุ 18–49 (ประเมิน 2553), 59,401,941 หญิง, อายุ 18–49 (ประเมิน 2553) |
ประชากรวัยถึงขั้น ประจำการทุกปี | 2,161,727 ชาย (ประเมิน 2553), 2,055,685 หญิง (ประเมิน 2553) |
ยอดประจำการ | 3,540,000 |
ยอดสำรอง | 7,500,000 |
รายจ่าย | |
งบประมาณ | US$816.7 พันล้าน (ปีงบฯ 2566)(อันดับที่ 1) |
ร้อยละต่อจีดีพี | 3.47% (ประเมิน 2565) |
บทความที่เกี่ยวข้อง | |
ประวัติ | สงครามปฏิวัติอเมริกัน สงครามเม็กซิโก-อเมริกา (1846 – 1848) สงครามกลางเมืองอเมริกัน (1861–1865) สงครามโลกครั้งที่ 1 (1917–1918) สงครามโลกครั้งที่ 2 (1941–1945) สงครามเย็น (1945–1991) สงครามเกาหลี (1950–1953) สงครามเวียตนาม (1959–1975) สงครามอ่าวเปอร์เซีย (1990–1991) สงครามคอซอวอ (1999) สงครามต่อต้านการก่อการร้าย (2001–ปัจจุบัน) สงครามอัฟกานิสถาน (2001–ปัจจุบัน) สงครามอิรัก (2003–2011) ฯลฯ |
ยศ | ยศทหารสหรัฐ |
กฎหมายกำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นผู้มีอำนาจบังคับบัญชาทหารในลำดับที่สอง เป็นรองแต่เพียงประธานาธิบดี และทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยหลักของประธานาธิบดีในกิจการทั้งปวงที่เกี่ยวข้องกับกระทรวง ประธานาธิบดีมีสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นคณะที่ปรึกษา เพื่อประสานงานการปฏิบัติทางทหารกับการทูต และมีคณะเสนาธิการร่วมเป็นคณะให้คำปรึกษาทางทหาร สมาชิกประกอบด้วยบรรดาผู้นำเหล่าทัพ รวมถึงอธิบดี อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการยามฝั่งไม่เป็นสมาชิกคณะเสนาธิการร่วม
แต่ละเหล่าทัพของสหรัฐไม่มีกองบัญชาการเหล่าทัพเป็นของตัวเอง ทหารสหรัฐใช้สายบัญชาการรวมเหล่าทัพที่เรียกว่า หน่วยบัญชาการรบรวม (Unified Combatant Command) ซึ่งมีอยู่สิบเอ็ดหน่วยภายใต้พลเอกหรือพลเรือเอกสิบเอ็ดคน ซึ่งรับคำสั่งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (ยกเว้นยามฝั่ง เนื่องจากยามฝั่งอยู่ในกำกับของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ) ประธานาธิบดีหรือรัฐสภาอาจโอนอำนาจการบังคับบัญชาหน่วยยามฝั่งไปให้ทบวงทหารเรือในยามสงคราม ทั้งหกเหล่าทัพถือเป็นกำลังในเครื่องแบบ อันมีอยู่เจ็ดชุด อีกสองชุดได้แก่ และ
นับแต่ก่อตั้ง กองทัพมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์สหรัฐ กองทัพช่วยสร้างสำนึกรักสามัคคีและอัตลักษณ์ของชาติหลังสองครั้ง กระนั้น บิดาผู้ก่อตั้งยังไม่ไว้ใจการมีกำลังทหารถาวร จนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่สองปะทุ สหรัฐจึงตั้งกองทัพบกประจำการขนาดใหญ่อย่างเป็นทางการ ค.ศ. 1947 ซึ่งผ่านมติเห็นชอบในช่วงเริ่มแรกของสงครามเย็น ได้จัดตั้งกรอบทหารสหรัฐสมัยใหม่ รัฐบัญญัติดังกล่าวรวมกระทรวงการสงคราม และ กระทรวงทหารเรือในอดีตเข้าด้วยกันเป็นหน่วยจัดตั้งทหารแห่งชาติ (National Military Establishment) ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็นกระทรวงกลาโหมใน ค.ศ. 1949 มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นผู้นำ ตลอดจนตั้งกระทรวงทหารอากาศและสภาความมั่นคงแห่งชาติ
กองทัพสหรัฐนับเป็นหนึ่งในกองทัพขนาดใหญ่ที่สุดของโลกในแง่ยอดกำลังพล กำลังพลได้มาจากอาสาสมัครจำนวนมากซึ่งได้รับค่าตอบแทน แม้ในอดีตจะมีการเกณฑ์ทหารทั้งในยามสงครามและยามสงบ แต่ไม่มีการเกณฑ์ทหารอีกนับแต่ ค.ศ. 1972 ใน ค.ศ. 2013 สหรัฐมีรายจ่ายเพื่อสนับสนุนกองทัพราว 554,200 ล้านดอลล่าร์สหรัฐต่อปี และจัดสรรงบประมาณราว 88,500 ล้านดอลล่าร์สหรัฐเพื่อสนับสนุนปฏิบัติการการเผชิญเหตุโพ้นทะเล (Overseas Contingency Operation) เมื่อรวมกันแล้ว สหรัฐมีรายจ่ายทางทหารเป็นร้อยละ 39 ของรายจ่ายทางทหารโลก จึงมักได้รับการจัดให้เป็นกองทัพที่ทรงพลังที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังมีขีดความสามารถทั้งในการป้องกันประเทศและการแผ่อำนาจ มีเทคโนโลยีก้าวหน้าซึ่งทำให้สามารถวางกำลังได้ทั่วโลก และมีฐานทัพอีกประมาณ 800 แห่งนอกประเทศ กองทัพอากาศสหรัฐเป็นกองทัพอากาศใหญ่สุดในโลก และกองทัพเรือสหรัฐเป็นกองทัพเรือใหญ่สุดในโลกในแง่ระวางน้ำ
ประวัติ
ประวัติความเป็นมาของกองทัพสหรัฐ มีขึ้นเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 1775 โดยมีการก่อตั้งกองทัพภาคพื้นทวีป มีขึ้นก่อนคำประกาศอิสรภาพสหรัฐ กองทัพเรือภาคพื้นทวีปซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ค.ศ. 1775 และนาวิกโยธินภาคพื้นทวีปซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 1775 ได้รับการจัดตั้งขึ้นโดยสภาภาคพื้นทวีปที่สองเพื่อปกป้องประเทศจากจักรวรรดิอังกฤษในสงครามปฏิวัติอเมริกา กองกำลังเหล่านี้ปลดประจำการใน ค.ศ. 1785 หลังจากสนธิสัญญาปารีสยุติสงครามเพื่ออิสรภาพ สภาคองเกรสแห่งสมาพันธรัฐสร้างกองทัพสหรัฐในปัจจุบันเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ค.ศ. 1785 รัฐสภาคองเกรสแห่งสหรัฐได้สร้างกองทัพเรือสหรัฐ ในปัจจุบันเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ค.ศ. 1794 และนาวิกโยธินสหรัฐในปัจจุบันเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ค.ศ. 1798
การนำรัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1787 มาใช้ทำให้รัฐสภามีอำนาจในการ "สนับสนุนและสนับสนุนกองทัพ" เพื่อ "จัดหาและบำรุงรักษากองทัพเรือ" และ "กำหนดกฎเกณฑ์สำหรับรัฐบาลและระเบียบข้อบังคับของแผ่นดินและกองทัพเรือ" ตลอดจนอำนาจ เพื่อประกาศสงคราม ประธานาธิบดีเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพสหรัฐ ก่อตั้ง เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ค.ศ. 1790 ซึ่งรวมเข้ากับหน่วยบริการช่วยชีวิตของสหรัฐเมื่อวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 1915
ในช่วงแรก กองทัพอากาศสหรัฐได้จัดตั้งขึ้นเป็นองค์กรอิสระเมื่อวันที่ 18 กันยายน ค.ศ. 1947 สืบเนื่องมาจากการก่อตั้งกองการบิน US Signal Corps ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 1907 และเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพอากาศก่อนที่จะกลายเป็นหน่วยงานอิสระตาม ค.ศ. 1947 กองทหารชั้นสัญญาบัตรเคยถูกพิจารณาให้เป็นสาขาหนึ่งของกองทัพสหรัฐตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม ค.ศ. 1945 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง กระทั่งถูกเพิกถอนสถานะดังกล่าวเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ค.ศ. 1952 กองกำลังอวกาศแห่งสหรัฐได้รับการจัดตั้งขึ้นเป็นหน่วยงานอิสระเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2019 เป็นสาขาที่หกของกองทัพสหรัฐและเป็นสาขาใหม่แห่งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งกองทัพอากาศสหรัฐอิสระในปี 1947 สืบเนื่องมาจากการก่อตัวของกองบัญชาการอวกาศกองทัพอากาศซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 กันยายน 1982 และเป็นคำสั่งตรงของกองทัพอากาศสหรัฐ
โครงสร้าง
การบังคับบัญชาของประธานาธิบดีต่อกองทัพสหรัฐ จัดตั้งขึ้นตามมาตราสองในรัฐธรรมนูญ โดยให้ประธานาธิบดีได้รับแต่งตั้งให้เป็น "ผู้บัญชาการทหารบกและกองทัพเรือสหรัฐ และกองทหารอาสาสมัครของหลายรัฐ เมื่อถูกเรียกใช้” กองทัพสหรัฐ ถูกแบ่งแยกระหว่างแผนกต่าง ๆ ของคณะรัฐมนตรี 2 แผนก โดยกระทรวงกลาโหมทำหน้าที่เป็นแผนกหลักในคณะรัฐมนตรีด้านกิจการทหาร และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิที่รับผิดชอบดูแลดูแลหน่วยยามฝั่งสหรัฐ
สายการบังคับบัญชาทางทหารสั่งตรงจากประธานาธิบดีแห่งสหรัฐไปยังกระทรวงกลาโหม (สำหรับบริการภายใต้กระทรวงกลาโหม) หรือเลขาธิการความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (สำหรับบริการภายใต้กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ) รับรองการควบคุมพลเรือนของทหาร ภายในกระทรวงกลาโหม กรมทหาร กรมกองทัพบก กองทัพเรือสหรัฐ และกรมกองทัพอากาศ เป็นหน่วยงานที่นำโดยพลเรือนที่ดูแลสาขาการรับราชการทหารที่เท่าเทียมกันซึ่งจัดขึ้นภายในหน่วยงานและบริการทางทหารมีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดระเบียบ การฝึก และเตรียมกองกำลัง
เสนาธิการร่วม แม้ว่าจะอยู่นอกสายการบังคับบัญชาในการปฏิบัติงาน แต่ก็เป็นหน่วยทหารที่อาวุโสที่สุดในกองทัพสหรัฐ นำโดยประธานเสนาธิการร่วม ซึ่งเป็นหัวหน้าทหารของกองกำลังติดอาวุธและเป็นที่ปรึกษาหลักของประธานาธิบดีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมในด้านการทหาร รองลงมาคือรองประธานเสนาธิการร่วม สมาชิกคนอื่น ๆ ได้แก่ เสนาธิการกองทัพบก ผู้บัญชาการหน่วยนาวิกโยธิน หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการกองทัพเรือ เสนาธิการกองทัพอากาศ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการอวกาศ และหัวหน้าสำนักงานพิทักษ์สันติราษฎร์ ผู้บัญชาการหน่วยยามฝั่งไม่ใช่สมาชิกอย่างเป็นทางการของหัวหน้าร่วม แต่บางครั้งก็เข้าร่วมการประชุมในฐานะหนึ่งในหัวหน้าหน่วยรับราชการทหาร ที่ปรึกษาอาวุโสเกณฑ์ของประธานเป็นสมาชิกอาวุโสที่สุดในกองทัพสหรัฐ
ผู้นำกองทัพ ได้แก่ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ และประธานคณะเสนาธิการร่วมเป็นสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ ซึ่งให้คำแนะนำแก่ประธานาธิบดีเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งชาติ การทหาร และเรื่องนโยบายต่างประเทศ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติและรองที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติอาจเป็นสมาชิกของกองทัพสหรัฐ นอกจากนี้ คณะกรรมการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติยังรวมถึงรองปลัดกระทรวงกลาโหม รองปลัดกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ และรองประธานเสนาธิการร่วมด้วย คณะมนตรีความมั่นคงแห่งมาตุภูมิแห่งสหรัฐ ซึ่งให้คำแนะนำแก่ประธานาธิบดีเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ซึ่งรวมถึงประธานาธิบดี รัฐมนตรีกลาโหม รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ และประธานคณะเสนาธิการร่วม ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งมาตุภูมิอาจเป็นสมาชิกของกองกำลังติดอาวุธ ความเป็นผู้นำทางทหาร รวมถึงรัฐมนตรีกลาโหม รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิแห่งสหรัฐ และประธานเสนาธิการร่วมยังมีที่นั่งในสภาอวกาศแห่งชาติ มีอำนาจใหนการลงมติ เห็นชอบ ออกคำสั่งที่สำคัญอันส่งผลต่อกิจการความมั่นคง
สาขา
กองทัพสหรัฐประกอบด้วยสาขาการรับราชการทหารที่มีสถานะเท่าเทียมกันหกเหล่าทัพ ห้าเหล่าทัพหลัก ได้แก่ กองทัพบกสหรัฐ นาวิกโยธินสหรัฐ กองทัพเรือสหรัฐ กองทัพอากาศสหรัฐ และกองทัพอวกาศสหรัฐ จัดอยู่ภายใต้แผนกทหารของกระทรวงกลาโหม และหน่วยยามฝั่งสหรัฐอยู่ภายใต้กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิ แต่อาจย้ายไปที่กรมทหารเรือของกระทรวงกลาโหม (ซึ่งเป็นหน่วยงานพลเรือนที่ดูแลนาวิกโยธินสหรัฐและกองทัพเรือสหรัฐที่เท่าเทียมกัน) ตามทิศทางการสั่งการของประธานาธิบดี หรือรัฐสภา ยกเว้นหน่วยยามฝั่ง หน่วยทหารจัด ฝึก และเตรียมกำลังเท่านั้น กองบัญชาการรบแบบรวมเป็นหนึ่งมีหน้าที่ควบคุมการปฏิบัติงานของกองกำลังรักษาไม่ประจำการ
กองทัพบก
กองทัพบกสหรัฐ เป็นสาขาการให้บริการทางบกของกองทัพสหรัฐ และเป็นส่วนหนึ่งของกรมกองทัพบกที่นำโดยพลเรือน ซึ่งนำโดยเลขาธิการกองทัพบก หัวหน้าทหารของกองทัพบกสหรัฐ เป็นเสนาธิการของกองทัพบก ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากรองเสนาธิการกองทัพสหรัฐ และ Sergeant Major ของกองทัพบก ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 1775 ในฐานะกองทัพภาคพื้นทวีป
กองทัพบกสหรัฐ ประกอบด้วย กองทัพบกหลัก กองหนุนกองทัพบกสหรัฐ และกองกำลังรักษาดินแดนแห่งชาติของสหรัฐ ซึ่งทำหน้าที่จัดระเบียบ ฝึก และจัดเตรียมหน่วยบริการส่วนใหญ่ คำสั่งส่วนประกอบบริการของกองทัพสิบชุด ซึ่งบังคับบัญชากองกำลังที่ติดอยู่กับหน่วยบัญชาการรบ และหน่วยการรายงานโดยตรงสิบสองหน่วย กองทัพบกยังจัดบุคลากรเป็น 21 สาขาพื้นฐานที่แตกต่างกัน
กองทัพเรือและนาวิกโยธิน
กองทัพเรือสหรัฐ (USN) เป็นสาขาบริการทางทะเลของกองทัพสหรัฐ และเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพเรือที่นำโดยพลเรือน ซึ่งนำโดยเลขาธิการกองทัพเรือ หัวหน้าฝ่ายทหารของกองทัพเรือสหรัฐ เป็นหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการทางเรือ ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากรองผู้บัญชาการฝ่ายปฏิบัติการทางทะเลและหัวหน้าผู้ช่วยผู้บังคับการเรือระดับนาวาโทของกองทัพเรือ กองทัพเรือก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 1775 ในชื่อกองทัพเรือภาคพื้นทวีป ซึ่งถูกยกเลิกเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 1785 ก่อนที่จะได้รับการสถาปนาขึ้นใหม่ในฐานะกองทัพเรือสหรัฐ สมัยใหม่ในวันที่ 20 มกราคม 1794
กองทัพอากาศ
กองทัพอากาศสหรัฐ (USAF) เป็นสาขาบริการทางอากาศของกองทัพสหรัฐ และเป็นส่วนหนึ่งของกรมกองทัพอากาศที่นำโดยพลเรือน ซึ่งนำโดยเลขาธิการกองทัพอากาศ หัวหน้าทหารของกองทัพอากาศสหรัฐ เป็นเสนาธิการของกองทัพอากาศ ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากรองเสนาธิการของกองทัพอากาศสหรัฐ
กองทัพอวกาศ
กองกำลังอวกาศแห่งสหรัฐ (USSF) เป็นสาขาบริการอวกาศของกองทัพสหรัฐ และเป็นส่วนหนึ่งของกรมกองทัพอากาศที่นำโดยพลเรือน ซึ่งนำโดยเลขาธิการกองทัพอากาศ หัวหน้ากองทัพของกองกำลังอวกาศสหรัฐเป็นหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการอวกาศ ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากรองหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการอวกาศและที่ปรึกษาอาวุโสของกองทัพอวกาศ แต่งตั้งเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2019 จากกองทัพอากาศสหรัฐ แต่รับคำสั่งโดยตรงผ่าน Air Force Space Command จนถึงวันที่ 1 กันยายน 1982 โดยที่ประวัติศาสตร์ก่อนหน้านี้ได้สืบย้อนไปถึงกองพัฒนาตะวันตกที่จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 1954
หน่วยยามฝั่ง
หน่วยยามฝั่งสหรัฐ (USCG) เป็นหน่วยงานด้านการรักษาความปลอดภัยทางทะเล การค้นหา และกู้ภัย และการบังคับใช้กฎหมายของกองทัพสหรัฐ และเป็นส่วนหนึ่งของ กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (Department of Homeland Security) ซึ่งนำโดยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เป็นสาขาทหารเพียงสาขาเดียวนอกกระทรวงกลาโหม แต่สามารถโอนไปยังกองทัพเรือที่นำโดยพลเรือนซึ่งนำโดยเลขาธิการกองทัพเรือในกรณีที่รัฐสภากำหนดว่าเมื่อประกาศสงครามหรือประธานาธิบดีสั่งการ หัวหน้าทหารของหน่วยยามฝั่งสหรัฐเป็นผู้บัญชาการหน่วยยามฝั่งซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากรองผู้บัญชาการหน่วยยามฝั่งและหัวหน้าผู้ช่วยผู้บังคับการเรือของหน่วยยามฝั่ง หน่วยยามฝั่งก่อตั้งขึ้นเป็นสาขาการรับราชการทหารเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 1790 ในชื่อกรมสรรพากร-นาวิกโยธินสหรัฐ ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อในวันที่ 31 กรกฎาคม 1894 เป็นหน่วยงานตัดรายได้ของสหรัฐ เมื่อวันที่ 28 มกราคม 1915 ได้มีการรวมเข้ากับหน่วยบริการช่วยชีวิตพลเรือนของสหรัฐเพื่อจัดตั้งหน่วยยามฝั่งสหรัฐ ในปี 1939 หน่วยงานพลเรือนของสหรัฐประภาคารได้รวมเข้ากับหน่วยยามฝั่ง กรมสรรพากร-นาวิกโยธิน และต่อมาคือ หน่วยยามฝั่ง อยู่ภายใต้กรมธนารักษ์ ย้ายไปสังกัดกรมราชนาวีในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและสงครามโลกครั้งที่สอง ในปี 1967 ได้ย้ายไปอยู่ที่กรมการขนส่งซึ่งจะอยู่จนถึงปี 2003 ได้ย้ายไปอยู่ที่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิอย่างถาวร
งบประมาณ
สหรัฐมีค่าใช้จ่ายทางการทหารที่มากที่สุดในโลก ในปีงบประมาณ 2019 มีการตราเงินกว่า 693 พันล้านดอลลาร์สำหรับกระทรวงกลาโหมและสำหรับ "ปฏิบัติการฉุกเฉินในต่างประเทศ" ในสงครามต่อต้านการก่อการร้าย นอกเหนือจากการใช้จ่ายโดยตรงของกระทรวงกลาโหมแล้ว สหรัฐยังใช้เงินอีก 218 ถึง 262 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อปีในโครงการที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศอื่น ๆ เช่น กิจการทหารผ่านศึก ความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ การบำรุงรักษาอาวุธนิวเคลียร์ และกระทรวงกลาโหม
ในปีงบประมาณ 2016 มีการจัดสรร 146.9 พันล้านดอลลาร์สำหรับกองทัพบก, 168.8 พันล้านดอลลาร์สำหรับกองทัพเรือ, 161.8 พันล้านดอลลาร์สำหรับกองทัพอากาศ และ 102.8 พันล้านดอลลาร์สำหรับการใช้จ่ายทั่วทั้งกระทรวง ตามหน้าที่ มีการร้องขอค่าใช้จ่ายทางบุคลากรอีก 138.6 พันล้านดอลลาร์ ค่าปฏิบัติการและบำรุงรักษา 244.4 พันล้านดอลลาร์ การจัดซื้อ 118.9 พันล้านดอลลาร์ วิจัยและพัฒนา 69.0 พันล้านดอลลาร์ 1.3 พันล้านดอลลาร์สำหรับกองทุนหมุนเวียนและการจัดการ 6.9 พันล้านดอลลาร์สำหรับการก่อสร้างทางทหาร และ 1.3 พันล้านดอลลาร์สำหรับที่อยู่อาศัยของครอบครัว
ในปีงบประมาณ 2022 รัฐบาลของประธานาธิบดี โจ ไบเดิน อนมุติงบประมาณกว่า 715 พันล้านดอลลาร์แก่กระทรวงกลาโหมเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายทางการทหาร
กำลังพล
กองทัพสหรัฐ เป็นกองทัพที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลกโดยกำลังพล รองจากกองทัพปลดแอกประชาชนจีนและกองทัพอินเดีย ซึ่งประกอบด้วยทหาร 1,359,685 นายในกองทัพปกติ โดยมีทหารสำรองอีก 799,845 นายสำหรับกองหนุน ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2019 ในขณะที่กองทัพสหรัฐเป็นทหารอาสาสมัครทั้งหมด การเกณฑ์ทหารผ่านระบบ Selective Service System สามารถประกาศใช้ตามคำร้องขอของประธานาธิบดีและการอนุมัติของรัฐสภา โดยผู้ชายทุกคนที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 25 ปีที่อาศัยอยู่ในสหรัฐจะต้องลงทะเบียนกับบริการคัดเลือก แม้ว่าศาลแขวงของรัฐบาลกลางจะคัดค้านการขึ้นทะเบียนทหารเพศชายตามรัฐธรรมนูญในปี 2019 แต่ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางยังคงยืนหยัดโดยศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางในปี 2020
เช่นเดียวกับในกองทัพของประเทศส่วนใหญ่ สมาชิกของกองทัพสหรัฐ มียศเป็นเจ้าหน้าที่ เพื่อกำหนดความอาวุโสและสิทธิ์ในการเลื่อนตำแหน่ง ผู้ที่เคยรับใช้กองทัพเรียกว่าทหารผ่านศึก ชื่ออันดับอาจแตกต่างกันระหว่างหน่วยงาน เจ้าหน้าที่ที่มียศหรือเงินเดือนเท่ากันจะจำแนกตามวันที่เริ่มดำรงตำแหน่งเพื่อกำหนดลำดับอาวุโส ในขณะที่เจ้าหน้าที่ซึ่งดำรงตำแหน่งสำคัญ ๆ ในตำแหน่งที่กฎหมายกำหนด จะมีอำนาจเหนือกว่าเจ้าหน้าที่อื่น ๆ วันที่ได้รับตำแหน่ง ในปี 2012 มีรายงานว่ามีเพียงหนึ่งในสี่ในสหรัฐที่มีอายุที่เหมาะสมเท่านั้นที่ตรงตามมาตรฐานทางศีลธรรม วิชาการ และทางกายภาพสำหรับการรับราชการทหาร
การประจำการ
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2010 กองกำลังสหรัฐ ประจำการใน 150 ประเทศ; จำนวนที่ใหญ่ที่สุดบางส่วน ได้แก่ 103,700 นาย ในอัฟกานิสถาน 52,440 นายในเยอรมนี 35,688 นายในญี่ปุ่น (USFJ) 28,500 นายในเกาหลีใต้ (USFK) 9,660 นายในอิตาลี และ 9,015 นายในสหราชอาณาจักร ตัวเลขเหล่านี้เปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งเนื่องจากการเรียกคืนและปรับใช้หน่วยต่าง ๆ เป็นประจำ ทั้งหมดกว่า 77,917 นายประจำการอยู่ในยุโรป 141 นายในอดีตกลุ่มประเทศสหภาพโซเวียต 47,236 นายในเอเชียตะวันออก และแปซิฟิก 3,362 นายในแอฟริกาเหนือ ตะวันออกใกล้และเอเชียใต้ 1,355 นายในแอฟริกาใต้ ซาฮารา และ 1,941 ในซีกโลกตะวันตกไม่รวมสหรัฐเอง
ในประเทศ
รวมถึงดินแดนใกล้เคียงและเรือรบของสหรัฐ และเรือที่ลอยอยู่ในน่านน้ำอาณาเขต ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2009 มีบุคลากรทหารประจำการทั้งหมด 1,137,568 นาย ประจำการอยู่ภายในสหรัฐและอาณาเขตของตน บุคลากรส่วนใหญ่ (941,629 คน) ประจำการอยู่ที่ฐานทัพภายในสหรัฐที่อยู่ติดกัน ในฮาวายมี 37,245 นาย และ 20,450 นายในอะแลสกา ในขณะที่ 84,461 นายอยู่ในทะเล 2,972 นายในเกาะกวม และ 179 นายในเปอร์โตริโก
ทหารหญิง
กองหนุนกองทัพทหารหญิง ก่อตั้งในสหรัฐในปี 1942 จากการที่พลเมืองสตรีมีอุดมการณ์ทำสงครามและต้องการปกป้องประเทศในการต่อสู้ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ครั้งแรกเกิดจากการรวมกลุ่มของพยาบาลเพื่อร่วมต่อสู้ในการโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 1941 กองหนุนหญิงของนาวิกโยธิน กองหนุนสตรีนาวิกโยธิน หน่วยสำรองสตรีของหน่วยยามฝั่งสหรัฐ และ Women Airforce Service Pilots (WASPs) ก็ถูกสร้างขึ้นในเวลาต่อมา และในปี 1944 พยาบาลของกองทัพบก 67 คน และพยาบาลประจำกองทัพเรือ 16 คน ถูกจับและใช้เวลาสามปีในฐานะเชลยศึกชาวญี่ปุ่น มีผู้หญิงอเมริกัน 350,000 คนที่รับใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและ 16 คนเสียชีวิตในสนามรบ รวมแล้วพวกเขาได้เหรียญกล้าหาญสดุดีมากกว่า 1,500 เหรียญ
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง การถอนกำลังทหารส่งผลให้สตรีที่รับใช้ชาติส่วนใหญ่กลับคืนสู่ชีวิตพลเรือน กฎหมายมาตรา 625 พระราชบัญญัติบริการติดอาวุธสตรี พ.ศ. 2491 ลงนามโดยประธานาธิบดี แฮร์รี เอส. ทรูแมน อนุญาตให้สตรีเข้าประจำการในกองทัพสหรัฐ ในหน่วยที่บูรณาการอย่างเต็มรูปแบบในยามสงบ โดยมีเพียง WAC ที่เหลือเป็นหน่วยหญิงแยกต่างหาก ในช่วงสงครามเกาหลีปี 1950–1953 ผู้หญิงจำนวนมากรับใช้ในโรงพยาบาลศัลยกรรมของกองทัพเคลื่อนที่ โดยมีผู้หญิงรับใช้ในเกาหลีจำนวน 120,000 คน ในระหว่างสงครามเวียดนาม ผู้หญิง 600 คนรับใช้กองทัพในประเทศ โดยเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพอากาศ พร้อมด้วยสมาชิก WAC 500 คน และบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สนับสนุนกว่า 6,000 คน กองกำลังสรรพาวุธเริ่มรับช่างขีปนาวุธหญิงในปี 1974 และลูกเรือและเจ้าหน้าที่หญิงก็รับเข้าในหน่วยขีปนาวุธปืนใหญ่
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-29. สืบค้นเมื่อ 18 June 2013.
- . The World Factbook. Central Intelligence Agency. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-12-25. สืบค้นเมื่อ 29 March 2013.
- (PDF). United States Department of Defense. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2009-02-05. สืบค้นเมื่อ 29 March 2013.
- . GovTrack. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-06-10. สืบค้นเมื่อ 29 March 2013.
- "US Defense Budget Proposal Released For Fiscal Year 2014". June 06, 2013.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=
((help)) - "United States Army | History, Generals, Battles, Flag, Structure, & Facts". Encyclopedia Britannica (ภาษาอังกฤษ).
- "World War II Records". National Archives (ภาษาอังกฤษ). 2016-08-15.
- "Research Starters: US Military by the Numbers". The National WWII Museum | New Orleans (ภาษาอังกฤษ).
- "U.S. Army in World War II Series - U.S. Army Center of Military History". history.army.mil.
- "United States Army | History, Generals, Battles, Flag, Structure, & Facts". Encyclopedia Britannica (ภาษาอังกฤษ).
- "2021 United States Military Strength". www.globalfirepower.com.
- . web.archive.org. 2018-02-15. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-02-15. สืบค้นเมื่อ 2021-09-30.
{{}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown () - "American Military History". Military.com (ภาษาอังกฤษ).
- "American Military History". Military.com (ภาษาอังกฤษ).
- "U.S. Armed Forces". HISTORY (ภาษาอังกฤษ).
- https://www.samhsa.gov/sites/default/files/military_white_paper_final.pdf
- . web.archive.org. 2012-05-15. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-05-15. สืบค้นเมื่อ 2021-09-30.
{{}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown () - "The President as Commander of the Armed Forces". LII / Legal Information Institute (ภาษาอังกฤษ).
- "Organization | The United States Army". Organization | The United States Army (ภาษาอังกฤษ).
- "Time for the Coast Guard to Join the Joint Chiefs". U.S. Naval Institute (ภาษาอังกฤษ). 2020-08-01.
- "Structure & Branches". www.va.gov.
- "Join the Military | USAGov". www.usa.gov (ภาษาอังกฤษ).
- Military.com (2021-08-25). "What Are the Branches of the US Military?". Military.com (ภาษาอังกฤษ).
- "U.S. Army Center of Military History". history.army.mil.
- "NHHC". public1.nhhcaws.local (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).[]
- "History". www.spaceforce.mil.
- "Home". Department of Homeland Security (ภาษาอังกฤษ).
- "U.S. Department of Homeland Security | USAGov". www.usa.gov (ภาษาอังกฤษ).
- "U.S. Defense Spending Compared to Other Countries". www.pgpf.org (ภาษาอังกฤษ).
- "Why Military Spending Is More Than You Think It Is". The Balance (ภาษาอังกฤษ).
- https://comptroller.defense.gov/Portals/45/Documents/defbudget/fy2020/FY20_Green_Book.pdf
- https://dwp.dmdc.osd.mil/dwp/
- Macias, Amanda (2021-05-28). "Here's the firepower the Pentagon is asking for in its $715 billion budget". CNBC (ภาษาอังกฤษ).
- "Our Forces". U.S. Department of Defense (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
- "Military and Veteran Benefits, News, Veteran Jobs". www.military.com (ภาษาอังกฤษ).
- (PDF). web.archive.org. 2011-05-05. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-05-05. สืบค้นเมื่อ 2021-09-30.
{{}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown () - "Women in the United States Army". www.army.mil (ภาษาอังกฤษ).
- Editors, History com. "Pearl Harbor". HISTORY (ภาษาอังกฤษ).
{{}}
:|last=
มีชื่อเรียกทั่วไป ((help)) - Katzenberg, Lauren (2019-03-08). "40 Stories From Women About Life in the Military". The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0362-4331. สืบค้นเมื่อ 2021-09-30.
- . web.archive.org. 2008-06-20. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-06-20. สืบค้นเมื่อ 2021-09-30.
{{}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown ()
แหล่งข้อมูลอื่น
- Official U.S. Department of Defense website
- Global Security on U.S. Military Operations
- Department of Defense regulation detailing Order of precedence: DoD Directive 1005.8, 31 October 1977 and also in law at Title 10, United States Code, Section 133.
- Army regulation detailing Order of Precedence: AR 840-10, 1 November 1998 2014-07-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Marine Corps regulation on Order of Precedence: NAVMC 2691, Marine Corps Drill and Ceremonies Manual, Part II, Ceremonies, Chapter 12-1.
- Navy regulation detailing Order of Precedence: U.S. Navy Regulations, Chapter 12, Flags, Pennants, Honors, Ceremonies and Customs 2009-01-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน.
- Air Force regulation detailing Order of Precedence: AFMAN 36-2203, Drill and Ceremonies, 3 June 1996, Chapter 7, Section A 2009-06-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
kxngthphshrth xngkvs United States Armed Forces epnkalngthharkhxngshrth prakxbdwykxngthphbk kxngthpherux kxngthphxakas kxngthphxwkas ehlanawikoythin aelayamfng shrthmipraephniphleruxnkhwbkhumthharxyangekhmaekhng prathanathibdishrthepnphubychakarthharthukehlathphodytrng aelamikrathrwngklaohmthahnathiepnxngkhkrhlksungnanoybaythangthharipptibti krathrwngklaohmmirthmntriwakarkrathrwngklaohm sungepnphleruxnaelaxyuinkhnarthmntri epnecakrathrwngkxngthphshrthUnited States Armed Forcestrakhxngaetlaehlathphshrthkxtng14 mithunayn 1775 249 pikxn 1775 06 14 ehla kxngthphbk nawikoythin kxngthpherux kxngthphxakas kxngthphxwkas kxngbychakaredxaephntakxn rthewxrcieniy shrthphubngkhbbychaphubychakarthharsungsudprathanathibdi oc ibedinrthmntriwakarkrathrwngklaohmlxyd xxstinprathankhnaesnathikarrwmkalngphlxayuerimbrrcu17 pi odyidrbkhwamyinyxmcakphupkkhrxng 18 piodysmkhric xayukarsmkhrekhaepnthharsungsud 35 pisahrbkxngthphbk 28 pisahrbnawikoythin 34 pisahrbkxngthpherux aela 27 pisahrbkxngthphxakasprachakr wybrrcu73 270 043 chay xayu 18 49 praemin 2553 71 941 969 hying xayu 18 49 praemin 2553 prachakr chkrrc60 620 143 chay xayu 18 49 praemin 2553 59 401 941 hying xayu 18 49 praemin 2553 prachakrwythungkhn pracakarthukpi2 161 727 chay praemin 2553 2 055 685 hying praemin 2553 yxdpracakar3 540 000yxdsarxng7 500 000raycayngbpramanUS 816 7 phnlan pingb 2566 xndbthi 1 rxylatxcidiphi3 47 praemin 2565 bthkhwamthiekiywkhxngprawtisngkhramptiwtixemrikn sngkhramemksiok xemrika 1846 1848 sngkhramklangemuxngxemrikn 1861 1865 sngkhramolkkhrngthi 1 1917 1918 sngkhramolkkhrngthi 2 1941 1945 sngkhrameyn 1945 1991 sngkhramekahli 1950 1953 sngkhramewiytnam 1959 1975 sngkhramxawepxresiy 1990 1991 sngkhramkhxsxwx 1999 sngkhramtxtankarkxkarray 2001 pccubn sngkhramxfkanisthan 2001 pccubn sngkhramxirk 2003 2011 lysysthharshrthbthkhwamnixangxingkhristskrach khristthswrrs khriststwrrs sungepnsarasakhykhxngenuxha kdhmaykahndihrthmntriwakarkrathrwngklaohmepnphumixanacbngkhbbychathharinladbthisxng epnrxngaetephiyngprathanathibdi aelathahnathiepnphuchwyhlkkhxngprathanathibdiinkickarthngpwngthiekiywkhxngkbkrathrwng prathanathibdimisphakhwammnkhngaehngchati epnkhnathipruksa ephuxprasanngankarptibtithangthharkbkarthut aelamikhnaesnathikarrwmepnkhnaihkhapruksathangthhar smachikprakxbdwybrrdaphunaehlathph rwmthungxthibdi xyangirktam phubychakaryamfngimepnsmachikkhnaesnathikarrwm aetlaehlathphkhxngshrthimmikxngbychakarehlathphepnkhxngtwexng thharshrthichsaybychakarrwmehlathphthieriykwa hnwybychakarrbrwm Unified Combatant Command sungmixyusibexdhnwyphayitphlexkhruxphleruxexksibexdkhn sungrbkhasngcakrthmntriwakarkrathrwngklaohm ykewnyamfng enuxngcakyamfngxyuinkakbkhxngkrathrwngkhwammnkhngaehngmatuphumi prathanathibdihruxrthsphaxacoxnxanackarbngkhbbychahnwyyamfngipihthbwngthhareruxinyamsngkhram thnghkehlathphthuxepnkalnginekhruxngaebb xnmixyuecdchud xiksxngchudidaek aela nbaetkxtng kxngthphmibthbathsakhyinprawtisastrshrth kxngthphchwysrangsanukrksamkhkhiaelaxtlksnkhxngchatihlngsxngkhrng krann bidaphukxtngyngimiwickarmikalngthharthawr cnkrathngsngkhramolkkhrngthisxngpathu shrthcungtngkxngthphbkpracakarkhnadihyxyangepnthangkar kh s 1947 sungphanmtiehnchxbinchwngerimaerkkhxngsngkhrameyn idcdtngkrxbthharshrthsmyihm rthbyytidngklawrwmkrathrwngkarsngkhram aela krathrwngthhareruxinxditekhadwyknepnhnwycdtngthharaehngchati National Military Establishment sungepliynchuxepnkrathrwngklaohmin kh s 1949 mirthmntriwakarkrathrwngklaohmepnphuna tlxdcntngkrathrwngthharxakasaelasphakhwammnkhngaehngchati kxngthphshrthnbepnhnunginkxngthphkhnadihythisudkhxngolkinaengyxdkalngphl kalngphlidmacakxasasmkhrcanwnmaksungidrbkhatxbaethn aeminxditcamikareknththharthnginyamsngkhramaelayamsngb aetimmikareknththharxiknbaet kh s 1972 in kh s 2013 shrthmiraycayephuxsnbsnunkxngthphraw 554 200 landxllarshrthtxpi aelacdsrrngbpramanraw 88 500 landxllarshrthephuxsnbsnunptibtikarkarephchiyehtuophnthael Overseas Contingency Operation emuxrwmknaelw shrthmiraycaythangthharepnrxyla 39 khxngraycaythangthharolk cungmkidrbkarcdihepnkxngthphthithrngphlngthisudinolk nxkcakniyngmikhidkhwamsamarththnginkarpxngknpraethsaelakaraephxanac miethkhonolyikawhnasungthaihsamarthwangkalngidthwolk aelamithanthphxikpraman 800 aehngnxkpraeths kxngthphxakasshrthepnkxngthphxakasihysudinolk aelakxngthpheruxshrthepnkxngthpheruxihysudinolkinaengrawangnaprawtiprawtikhwamepnmakhxngkxngthphshrth mikhunemuxwnthi 14 mithunayn kh s 1775 odymikarkxtngkxngthphphakhphunthwip mikhunkxnkhaprakasxisrphaphshrth kxngthpheruxphakhphunthwipsungcdtngkhunemuxwnthi 13 tulakhm kh s 1775 aelanawikoythinphakhphunthwipsungcdtngkhunemuxwnthi 10 phvscikayn kh s 1775 idrbkarcdtngkhunodysphaphakhphunthwipthisxngephuxpkpxngpraethscakckrwrrdixngkvsinsngkhramptiwtixemrika kxngkalngehlanipldpracakarin kh s 1785 hlngcaksnthisyyaparisyutisngkhramephuxxisrphaph sphakhxngekrsaehngsmaphnthrthsrangkxngthphshrthinpccubnemuxwnthi 3 mithunayn kh s 1785 rthsphakhxngekrsaehngshrthidsrangkxngthpheruxshrth inpccubnemuxwnthi 27 minakhm kh s 1794 aelanawikoythinshrthinpccubnemuxwnthi 11 krkdakhm kh s 1798 karnarththrrmnuy kh s 1787 maichthaihrthsphamixanacinkar snbsnunaelasnbsnunkxngthph ephux cdhaaelabarungrksakxngthpherux aela kahndkdeknthsahrbrthbalaelaraebiybkhxbngkhbkhxngaephndinaelakxngthpherux tlxdcnxanac ephuxprakassngkhram prathanathibdiepnphubychakarthharsungsudkhxngkxngthphshrth kxtng emuxwnthi 4 singhakhm kh s 1790 sungrwmekhakbhnwybrikarchwychiwitkhxngshrthemuxwnthi 28 mkrakhm kh s 1915 inchwngaerk kxngthphxakasshrthidcdtngkhunepnxngkhkrxisraemuxwnthi 18 knyayn kh s 1947 subenuxngmacakkarkxtngkxngkarbin US Signal Corps sungkxtngkhunemuxwnthi 1 singhakhm kh s 1907 aelaepnswnhnungkhxngkxngthphxakaskxnthicaklayepnhnwynganxisratam kh s 1947 kxngthharchnsyyabtrekhythukphicarnaihepnsakhahnungkhxngkxngthphshrthtngaetwnthi 29 krkdakhm kh s 1945 inchwngsngkhramolkkhrngthisxng krathngthukephikthxnsthanadngklawemuxwnthi 3 krkdakhm kh s 1952 kxngkalngxwkasaehngshrthidrbkarcdtngkhunepnhnwynganxisraemuxwnthi 20 thnwakhm 2019 epnsakhathihkkhxngkxngthphshrthaelaepnsakhaihmaehngaerknbtngaetkxtngkxngthphxakasshrthxisrainpi 1947 subenuxngmacakkarkxtwkhxngkxngbychakarxwkaskxngthphxakassungkxtngkhunemuxwnthi 1 knyayn 1982 aelaepnkhasngtrngkhxngkxngthphxakasshrthokhrngsrangesnathikarthharthukehlathphkhxngkxngthphshrthinpi 2020 karbngkhbbychakhxngprathanathibditxkxngthphshrth cdtngkhuntammatrasxnginrththrrmnuy odyihprathanathibdiidrbaetngtngihepn phubychakarthharbkaelakxngthpheruxshrth aelakxngthharxasasmkhrkhxnghlayrth emuxthukeriykich kxngthphshrth thukaebngaeykrahwangaephnktang khxngkhnarthmntri 2 aephnk odykrathrwngklaohmthahnathiepnaephnkhlkinkhnarthmntridankickarthhar aelakrathrwngkhwammnkhngaehngmatuphumithirbphidchxbduaelduaelhnwyyamfngshrth saykarbngkhbbychathangthharsngtrngcakprathanathibdiaehngshrthipyngkrathrwngklaohm sahrbbrikarphayitkrathrwngklaohm hruxelkhathikarkhwammnkhngaehngmatuphumi sahrbbrikarphayitkrathrwngkhwammnkhngaehngmatuphumi rbrxngkarkhwbkhumphleruxnkhxngthhar phayinkrathrwngklaohm krmthhar krmkxngthphbk kxngthpheruxshrth aelakrmkxngthphxakas epnhnwynganthinaodyphleruxnthiduaelsakhakarrbrachkarthharthiethaethiymknsungcdkhunphayinhnwynganaelabrikarthangthharmihnathirbphidchxbinkarcdraebiyb karfuk aelaetriymkxngkalng esnathikarrwm aemwacaxyunxksaykarbngkhbbychainkarptibtingan aetkepnhnwythharthixawuosthisudinkxngthphshrth naodyprathanesnathikarrwm sungepnhwhnathharkhxngkxngkalngtidxawuthaelaepnthipruksahlkkhxngprathanathibdiaelarthmntrikrathrwngklaohmindankarthhar rxnglngmakhuxrxngprathanesnathikarrwm smachikkhnxun idaek esnathikarkxngthphbk phubychakarhnwynawikoythin hwhnahnwyptibtikarkxngthpherux esnathikarkxngthphxakas hwhnahnwyptibtikarxwkas aelahwhnasanknganphithkssntirasdr phubychakarhnwyyamfngimichsmachikxyangepnthangkarkhxnghwhnarwm aetbangkhrngkekharwmkarprachuminthanahnunginhwhnahnwyrbrachkarthhar thipruksaxawuoseknthkhxngprathanepnsmachikxawuosthisudinkxngthphshrth phunakxngthph idaek prathanathibdiaehngshrth rthmntriwakarkrathrwngklaohm rthmntrikrathrwngkhwammnkhngaehngmatuphumi aelaprathankhnaesnathikarrwmepnsmachikkhxngkhnamntrikhwammnkhngaehngchatishrth sungihkhaaenanaaekprathanathibdiekiywkbkhwammnkhngaehngchati karthhar aelaeruxngnoybaytangpraeths thipruksakhwammnkhngaehngchatiaelarxngthipruksakhwammnkhngaehngchatixacepnsmachikkhxngkxngthphshrth nxkcakni khnakrrmkarkhnamntrikhwammnkhngaehngchatiyngrwmthungrxngpldkrathrwngklaohm rxngpldkrathrwngkhwammnkhngaehngmatuphumi aelarxngprathanesnathikarrwmdwy khnamntrikhwammnkhngaehngmatuphumiaehngshrth sungihkhaaenanaaekprathanathibdiekiywkbkhwammnkhngaehngmatuphumi sungrwmthungprathanathibdi rthmntriklaohm rthmntrikrathrwngkhwammnkhngaehngmatuphumi aelaprathankhnaesnathikarrwm thipruksakhwammnkhngaehngmatuphumixacepnsmachikkhxngkxngkalngtidxawuth khwamepnphunathangthhar rwmthungrthmntriklaohm rthmntrikrathrwngkhwammnkhngaehngmatuphumiaehngshrth aelaprathanesnathikarrwmyngmithinnginsphaxwkasaehngchati mixanacihnkarlngmti ehnchxb xxkkhasngthisakhyxnsngphltxkickarkhwammnkhngsakhakxngthphshrthprakxbdwysakhakarrbrachkarthharthimisthanaethaethiymknhkehlathph haehlathphhlk idaek kxngthphbkshrth nawikoythinshrth kxngthpheruxshrth kxngthphxakasshrth aelakxngthphxwkasshrth cdxyuphayitaephnkthharkhxngkrathrwngklaohm aelahnwyyamfngshrthxyuphayitkrathrwngkhwammnkhngmatuphumi aetxacyayipthikrmthhareruxkhxngkrathrwngklaohm sungepnhnwynganphleruxnthiduaelnawikoythinshrthaelakxngthpheruxshrththiethaethiymkn tamthisthangkarsngkarkhxngprathanathibdi hruxrthspha ykewnhnwyyamfng hnwythharcd fuk aelaetriymkalngethann kxngbychakarrbaebbrwmepnhnungmihnathikhwbkhumkarptibtingankhxngkxngkalngrksaimpracakar kxngthphbk thharkxngthphbkshrthinsngkhramewiydnam kxngthphbkshrth epnsakhakarihbrikarthangbkkhxngkxngthphshrth aelaepnswnhnungkhxngkrmkxngthphbkthinaodyphleruxn sungnaodyelkhathikarkxngthphbk hwhnathharkhxngkxngthphbkshrth epnesnathikarkhxngkxngthphbk sungidrbkhwamchwyehluxcakrxngesnathikarkxngthphshrth aela Sergeant Major khxngkxngthphbk kxtngkhunemuxwnthi 14 mithunayn 1775 inthanakxngthphphakhphunthwip kxngthphbkshrth prakxbdwy kxngthphbkhlk kxnghnunkxngthphbkshrth aelakxngkalngrksadinaednaehngchatikhxngshrth sungthahnathicdraebiyb fuk aelacdetriymhnwybrikarswnihy khasngswnprakxbbrikarkhxngkxngthphsibchud sungbngkhbbychakxngkalngthitidxyukbhnwybychakarrb aelahnwykarraynganodytrngsibsxnghnwy kxngthphbkyngcdbukhlakrepn 21 sakhaphunthanthiaetktangkn kxngthpheruxaelanawikoythin kxngthpheruxshrth USN epnsakhabrikarthangthaelkhxngkxngthphshrth aelaepnswnhnungkhxngkxngthpheruxthinaodyphleruxn sungnaodyelkhathikarkxngthpherux hwhnafaythharkhxngkxngthpheruxshrth epnhwhnahnwyptibtikarthangerux sungidrbkhwamchwyehluxcakrxngphubychakarfayptibtikarthangthaelaelahwhnaphuchwyphubngkhbkareruxradbnawaothkhxngkxngthpherux kxngthpheruxkxtngkhunemuxwnthi 13 tulakhm 1775 inchuxkxngthpheruxphakhphunthwip sungthukykelikemuxwnthi 1 singhakhm 1785 kxnthicaidrbkarsthapnakhunihminthanakxngthpheruxshrth smyihminwnthi 20 mkrakhm 1794 kxngthphxakas ekhruxngbinrb exf 22 aerphetxr khxngkxngthphxakasshrth kxngthphxakasshrth USAF epnsakhabrikarthangxakaskhxngkxngthphshrth aelaepnswnhnungkhxngkrmkxngthphxakasthinaodyphleruxn sungnaodyelkhathikarkxngthphxakas hwhnathharkhxngkxngthphxakasshrth epnesnathikarkhxngkxngthphxakas sungidrbkhwamchwyehluxcakrxngesnathikarkhxngkxngthphxakasshrth kxngthphxwkas kxngkalngxwkasaehngshrth USSF epnsakhabrikarxwkaskhxngkxngthphshrth aelaepnswnhnungkhxngkrmkxngthphxakasthinaodyphleruxn sungnaodyelkhathikarkxngthphxakas hwhnakxngthphkhxngkxngkalngxwkasshrthepnhwhnahnwyptibtikarxwkas sungidrbkhwamchwyehluxcakrxnghwhnafayptibtikarxwkasaelathipruksaxawuoskhxngkxngthphxwkas aetngtngemuxwnthi 20 thnwakhm 2019 cakkxngthphxakasshrth aetrbkhasngodytrngphan Air Force Space Command cnthungwnthi 1 knyayn 1982 odythiprawtisastrkxnhnaniidsubyxnipthungkxngphthnatawntkthicdtngkhunemuxwnthi 1 krkdakhm 1954 hnwyyamfng sylksnkhxngkrathrwngkhwammnkhngaehngmatuphumi hnwyyamfngshrth USCG epnhnwyngandankarrksakhwamplxdphythangthael karkhnha aelakuphy aelakarbngkhbichkdhmaykhxngkxngthphshrth aelaepnswnhnungkhxng krathrwngkhwammnkhngaehngmatuphumi Department of Homeland Security sungnaodyrthmntrikrathrwngkhwammnkhngaehngmatuphumi epnsakhathharephiyngsakhaediywnxkkrathrwngklaohm aetsamarthoxnipyngkxngthpheruxthinaodyphleruxnsungnaodyelkhathikarkxngthpheruxinkrnithirthsphakahndwaemuxprakassngkhramhruxprathanathibdisngkar hwhnathharkhxnghnwyyamfngshrthepnphubychakarhnwyyamfngsungidrbkhwamchwyehluxcakrxngphubychakarhnwyyamfngaelahwhnaphuchwyphubngkhbkareruxkhxnghnwyyamfng hnwyyamfngkxtngkhunepnsakhakarrbrachkarthharemuxwnthi 4 singhakhm 1790 inchuxkrmsrrphakr nawikoythinshrth kxnthicaepliynchuxinwnthi 31 krkdakhm 1894 epnhnwyngantdrayidkhxngshrth emuxwnthi 28 mkrakhm 1915 idmikarrwmekhakbhnwybrikarchwychiwitphleruxnkhxngshrthephuxcdtnghnwyyamfngshrth inpi 1939 hnwynganphleruxnkhxngshrthpraphakharidrwmekhakbhnwyyamfng krmsrrphakr nawikoythin aelatxmakhux hnwyyamfng xyuphayitkrmthnarks yayipsngkdkrmrachnawiinchwngsngkhramolkkhrngthihnungaelasngkhramolkkhrngthisxng inpi 1967 idyayipxyuthikrmkarkhnsngsungcaxyucnthungpi 2003 idyayipxyuthikrathrwngkhwammnkhngaehngmatuphumixyangthawrngbpramanshrthmikhaichcaythangkarthharthimakthisudinolk inpingbpraman 2019 mikartraenginkwa 693 phnlandxllarsahrbkrathrwngklaohmaelasahrb ptibtikarchukechinintangpraeths insngkhramtxtankarkxkarray nxkehnuxcakkarichcayodytrngkhxngkrathrwngklaohmaelw shrthyngichenginxik 218 thung 262 dxllarshrth txpiinokhrngkarthiekiywkhxngkbkarpxngknpraethsxun echn kickarthharphansuk khwammnkhngaehngmatuphumi karbarungrksaxawuthniwekhliyr aelakrathrwngklaohm inpingbpraman 2016 mikarcdsrr 146 9 phnlandxllarsahrbkxngthphbk 168 8 phnlandxllarsahrbkxngthpherux 161 8 phnlandxllarsahrbkxngthphxakas aela 102 8 phnlandxllarsahrbkarichcaythwthngkrathrwng tamhnathi mikarrxngkhxkhaichcaythangbukhlakrxik 138 6 phnlandxllar khaptibtikaraelabarungrksa 244 4 phnlandxllar karcdsux 118 9 phnlandxllar wicyaelaphthna 69 0 phnlandxllar 1 3 phnlandxllarsahrbkxngthunhmunewiynaelakarcdkar 6 9 phnlandxllarsahrbkarkxsrangthangthhar aela 1 3 phnlandxllarsahrbthixyuxasykhxngkhrxbkhrw inpingbpraman 2022 rthbalkhxngprathanathibdi oc ibedin xnmutingbpramankwa 715 phnlandxllaraekkrathrwngklaohmephuxepnkhaichcaythangkarthharkalngphlhnwyyamfngkhxngshrthkhnaxxkptibtihnathiinpi 2017 kxngthphshrth epnkxngthphthiihyepnxndbsamkhxngolkodykalngphl rxngcakkxngthphpldaexkprachachncinaelakxngthphxinediy sungprakxbdwythhar 1 359 685 nayinkxngthphpkti odymithharsarxngxik 799 845 naysahrbkxnghnun n wnthi 28 kumphaphnth 2019 inkhnathikxngthphshrthepnthharxasasmkhrthnghmd kareknththharphanrabb Selective Service System samarthprakasichtamkharxngkhxkhxngprathanathibdiaelakarxnumtikhxngrthspha odyphuchaythukkhnthimixayurahwang 18 thung 25 pithixasyxyuinshrthcatxnglngthaebiynkbbrikarkhdeluxk aemwasalaekhwngkhxngrthbalklangcakhdkhankarkhunthaebiynthharephschaytamrththrrmnuyinpi 2019 aetsalxuththrnkhxngrthbalklangyngkhngyunhydodysalxuththrnkhxngrthbalklanginpi 2020 echnediywkbinkxngthphkhxngpraethsswnihy smachikkhxngkxngthphshrth miysepnecahnathi ephuxkahndkhwamxawuosaelasiththiinkareluxntaaehnng phuthiekhyrbichkxngthpheriykwathharphansuk chuxxndbxacaetktangknrahwanghnwyngan ecahnathithimiyshruxengineduxnethakncacaaenktamwnthierimdarngtaaehnngephuxkahndladbxawuos inkhnathiecahnathisungdarngtaaehnngsakhy intaaehnngthikdhmaykahnd camixanacehnuxkwaecahnathixun wnthiidrbtaaehnng inpi 2012 miraynganwamiephiynghnunginsiinshrththimixayuthiehmaasmethannthitrngtammatrthanthangsilthrrm wichakar aelathangkayphaphsahrbkarrbrachkarthharkarpracakarn wnthi 31 thnwakhm 2010 kxngkalngshrth pracakarin 150 praeths canwnthiihythisudbangswn idaek 103 700 nay inxfkanisthan 52 440 nayineyxrmni 35 688 nayinyipun USFJ 28 500 nayinekahliit USFK 9 660 nayinxitali aela 9 015 nayinshrachxanackr twelkhehlaniepliynaeplngbxykhrngenuxngcakkareriykkhunaelaprbichhnwytang epnpraca thnghmdkwa 77 917 naypracakarxyuinyuorp 141 nayinxditklumpraethsshphaphosewiyt 47 236 nayinexechiytawnxxk aelaaepsifik 3 362 nayinaexfrikaehnux tawnxxkiklaelaexechiyit 1 355 nayinaexfrikait sahara aela 1 941 insikolktawntkimrwmshrthexng inpraeths rwmthungdinaedniklekhiyngaelaeruxrbkhxngshrth aelaeruxthilxyxyuinnannaxanaekht n wnthi 31 thnwakhm 2009 mibukhlakrthharpracakarthnghmd 1 137 568 nay pracakarxyuphayinshrthaelaxanaekhtkhxngtn bukhlakrswnihy 941 629 khn pracakarxyuthithanthphphayinshrththixyutidkn inhawaymi 37 245 nay aela 20 450 nayinxaaelska inkhnathi 84 461 nayxyuinthael 2 972 nayinekaakwm aela 179 nayinepxrotriokthharhyingthharhyingaehngkxngthphshrth kxnghnunkxngthphthharhying kxtnginshrthinpi 1942 cakkarthiphlemuxngstrimixudmkarnthasngkhramaelatxngkarpkpxngpraethsinkartxsurahwangsngkhramolkkhrngthisxng khrngaerkekidcakkarrwmklumkhxngphyabalephuxrwmtxsuinkarocmtiephirlharebxremuxwnthi 7 thnwakhm 1941 kxnghnunhyingkhxngnawikoythin kxnghnunstrinawikoythin hnwysarxngstrikhxnghnwyyamfngshrth aela Women Airforce Service Pilots WASPs kthuksrangkhuninewlatxma aelainpi 1944 phyabalkhxngkxngthphbk 67 khn aelaphyabalpracakxngthpherux 16 khn thukcbaelaichewlasampiinthanaechlysukchawyipun miphuhyingxemrikn 350 000 khnthirbichinchwngsngkhramolkkhrngthisxngaela 16 khnesiychiwitinsnamrb rwmaelwphwkekhaidehriyyklahaysdudimakkwa 1 500 ehriyy hlngsngkhramolkkhrngthisxng karthxnkalngthharsngphlihstrithirbichchatiswnihyklbkhunsuchiwitphleruxn kdhmaymatra 625 phrarachbyytibrikartidxawuthstri ph s 2491 lngnamodyprathanathibdi aehrri exs thruaemn xnuyatihstriekhapracakarinkxngthphshrth inhnwythiburnakarxyangetmrupaebbinyamsngb odymiephiyng WAC thiehluxepnhnwyhyingaeyktanghak inchwngsngkhramekahlipi 1950 1953 phuhyingcanwnmakrbichinorngphyabalslykrrmkhxngkxngthphekhluxnthi odymiphuhyingrbichinekahlicanwn 120 000 khn inrahwangsngkhramewiydnam phuhying 600 khnrbichkxngthphinpraeths odyepnswnhnungkhxngkxngthphxakas phrxmdwysmachik WAC 500 khn aelabukhlakrthangkaraephthyaelaecahnathisnbsnunkwa 6 000 khn kxngkalngsrrphawutherimrbchangkhipnawuthhyinginpi 1974 aelalukeruxaelaecahnathihyingkrbekhainhnwykhipnawuthpunihyduephimkxngthphpracakar shrth kxngthphbkshrth kxngthpheruxshrth kxngthphxakasshrth krathrwngklaohmshrth prathanathibdishrth sngkhramolkkhrngthihnung sngkhramolkkhrngthisxng sngkhrameyn sngkhramekahli sngkhramewiydnam sngkhramxawxangxing khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 06 29 subkhnemux 18 June 2013 The World Factbook Central Intelligence Agency khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2018 12 25 subkhnemux 29 March 2013 PDF United States Department of Defense khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2009 02 05 subkhnemux 29 March 2013 GovTrack khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2020 06 10 subkhnemux 29 March 2013 US Defense Budget Proposal Released For Fiscal Year 2014 June 06 2013 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin date help United States Army History Generals Battles Flag Structure amp Facts Encyclopedia Britannica phasaxngkvs World War II Records National Archives phasaxngkvs 2016 08 15 Research Starters US Military by the Numbers The National WWII Museum New Orleans phasaxngkvs U S Army in World War II Series U S Army Center of Military History history army mil United States Army History Generals Battles Flag Structure amp Facts Encyclopedia Britannica phasaxngkvs 2021 United States Military Strength www globalfirepower com web archive org 2018 02 15 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2018 02 15 subkhnemux 2021 09 30 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint bot original URL status unknown lingk American Military History Military com phasaxngkvs American Military History Military com phasaxngkvs U S Armed Forces HISTORY phasaxngkvs https www samhsa gov sites default files military white paper final pdf web archive org 2012 05 15 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 05 15 subkhnemux 2021 09 30 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint bot original URL status unknown lingk The President as Commander of the Armed Forces LII Legal Information Institute phasaxngkvs Organization The United States Army Organization The United States Army phasaxngkvs Time for the Coast Guard to Join the Joint Chiefs U S Naval Institute phasaxngkvs 2020 08 01 Structure amp Branches www va gov Join the Military USAGov www usa gov phasaxngkvs Military com 2021 08 25 What Are the Branches of the US Military Military com phasaxngkvs U S Army Center of Military History history army mil NHHC public1 nhhcaws local phasaxngkvsaebbxemrikn lingkesiy History www spaceforce mil Home Department of Homeland Security phasaxngkvs U S Department of Homeland Security USAGov www usa gov phasaxngkvs U S Defense Spending Compared to Other Countries www pgpf org phasaxngkvs Why Military Spending Is More Than You Think It Is The Balance phasaxngkvs https comptroller defense gov Portals 45 Documents defbudget fy2020 FY20 Green Book pdf https dwp dmdc osd mil dwp Macias Amanda 2021 05 28 Here s the firepower the Pentagon is asking for in its 715 billion budget CNBC phasaxngkvs Our Forces U S Department of Defense phasaxngkvsaebbxemrikn Military and Veteran Benefits News Veteran Jobs www military com phasaxngkvs PDF web archive org 2011 05 05 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 05 05 subkhnemux 2021 09 30 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint bot original URL status unknown lingk Women in the United States Army www army mil phasaxngkvs Editors History com Pearl Harbor HISTORY phasaxngkvs a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a last michuxeriykthwip help Katzenberg Lauren 2019 03 08 40 Stories From Women About Life in the Military The New York Times phasaxngkvsaebbxemrikn ISSN 0362 4331 subkhnemux 2021 09 30 web archive org 2008 06 20 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 06 20 subkhnemux 2021 09 30 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint bot original URL status unknown lingk aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb kxngthphshrth Official U S Department of Defense website Global Security on U S Military Operations Department of Defense regulation detailing Order of precedence DoD Directive 1005 8 31 October 1977 and also in law at Title 10 United States Code Section 133 Army regulation detailing Order of Precedence AR 840 10 1 November 1998 2014 07 09 thi ewyaebkaemchchin Marine Corps regulation on Order of Precedence NAVMC 2691 Marine Corps Drill and Ceremonies Manual Part II Ceremonies Chapter 12 1 Navy regulation detailing Order of Precedence U S Navy Regulations Chapter 12 Flags Pennants Honors Ceremonies and Customs 2009 01 14 thi ewyaebkaemchchin Air Force regulation detailing Order of Precedence AFMAN 36 2203 Drill and Ceremonies 3 June 1996 Chapter 7 Section A 2009 06 24 thi ewyaebkaemchchin bthkhwamthhar hruxkarthharniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk