การปฏิวัติทางวัฒนธรรมใหญ่ของกรรมาชีพ (อังกฤษ: Great Proletarian Cultural Revolution) หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า การปฏิวัติวัฒนธรรม (อังกฤษ: Cultural Revolution) เป็นขบวนการทางสังคม-การเมืองซึ่งเกิดขึ้นในสาธารณรัฐประชาชนจีนในช่วง ค.ศ. 1966 ถึง 1976 ดำเนินการโดยเหมา เจ๋อตงซึ่งขณะนั้นเป็นประธานพรรคคอมมิวนิสต์จีนและเป็นผู้จัดตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน มีเป้าหมายเพื่อปกป้องโดยการขจัดองค์ประกอบที่เป็นทุนนิยม ประเพณีและ ออกจากและเพื่อกำหนดแนวทางแบบเหมาภายในพรรค การปฏิวัติดังกล่าวส่งผลให้เหมาเจ๋อตงกลับมามีอำนาจหลังการก้าวกระโดดไกลไปข้างหน้าที่ล้มเหลว ขบวนการดังกล่าวทำให้การเมืองจีนหยุดชะงักและส่งผลกระทบต่อประเทศทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างสำคัญ
ในช่วงการปฏิวัติทางวัฒนธรรม ยุวชนแดงได้ใช้โฆษณาชวนเชื่อทางการเมืองบนกำแพงที่ว่า "ปกป้องคณะกรรมการกลางของพรรคด้วยเลือดและชีวิต!" "ปกป้องท่านประธานเหมา ด้วยเลือดและชีวิต!" | |
ระยะเวลา | 16 พฤษภาคม ค.ศ. 1966 – 6 ตุลาคม ค.ศ. 1976 | (10 ปี 143 วัน)
---|---|
ที่ตั้ง | สาธารณรัฐประชาชนจีน |
เหตุจูงใจ | รักษาแนวคิดคอมมิวนิสต์จีนด้วยการกวาดล้างซากเดนของทุนนิยมและค่านิยมดั้งเดิมออกจากสังคมจีนแผ่นดินใหญ่ |
ผล | กิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก สื่อทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมถูกทำลาย |
เสียชีวิต | พลเรือน ยุวชนแดงและทหารจำนวนหลายแสนจนถึงหลายล้านคน (จำนวนตัวเลขไม่แน่นอน) |
ทรัพย์สินเสียหาย | , หอสักการะฟ้า, สุสานหลวงราชวงศ์หมิง |
จับ | เจียง ชิง, จาง ชุนเฉียว, เหยา เหวินหยวนและหวัง หงเหวินถูกจับกุมหลังจากนั้น |
การปฏิวัติทางวัฒนธรรมใหญ่ของกรรมาชีพ | |||||||||||||||||||
อักษรจีนตัวย่อ | 无产阶级文化大革命 | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
อักษรจีนตัวเต็ม | 無產階級文化大革命 | ||||||||||||||||||
| |||||||||||||||||||
Commonly abbreviated as | |||||||||||||||||||
ภาษาจีน | 1. 文化大革命 2. 文革 | ||||||||||||||||||
|
การปฏิวัติวัฒนธรรมเริ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1966 ด้วยการดำเนินการของ เหมาเรียกร้องให้คนหนุ่มสาวออกมา "" และประกาศว่า "การกบฏเป็นเรื่องสมเหตุสมผล" เพื่อกำจัดคู่แข่งทางการเมืองของเขาในพรรคคอมมิวนิสต์จีน และในโรงเรียน โรงงานและองค์กรรัฐบาล เหมาอ้างว่ากระฎุมพีกำลังแทรกซึมรัฐบาลและสังคมอย่างไม่มีขอบเขต โดยมีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูทุนนิยม เขายืนกรานให้ขจัด "" (revisionist) เหล่านี้ผ่านการต่อสู้ของชนชั้นอย่างรุนแรง เยาวชนจีนสนองตอบการเรียกร้องของเหมาโดยตั้งกลุ่มยุวชนแดงขึ้นทั่วประเทศ ขบวนการดังกล่าวแพร่ไปสู่ทหาร กรรมกรในเมือง และผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์เอง พวกเขาดำเนินการต่อสู้ในและพยายามยึดอำนาจรัฐบาลท้องถิ่นรวมถึงพรรคคอมมิวนิสต์จีนตามสาขา และในที่สุดมีการจัดตั้งคณะกรรมการปฏิวัติขึ้นใน ค.ศ. 1967 ในกลุ่มต่าง ๆ มักแบ่งออกเป็นคู่ขัดแย้งกันเองแต่ก็เข้าไปมีส่วนพัวพันใน "" (จีนตัวย่อ: 武斗; จีนตัวเต็ม: 武鬥; พินอิน: wǔdòu) ทำให้มีการส่งกองทัพปลดปล่อยประชาชนเข้าไปรักษาความสงบ
คติพจน์ของเหมาได้ถูกรวบรวมไว้ใน สมุดเล่มแดง ซึ่งกลายเป็นคำสอนศักดิ์สิทธิ์ของ หลิน เปียว ผู้ดำรงตำแหน่งเป็นได้ถูกเขียนชื่อไว้ในในฐานะผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากเหมา เหมาประกาศให้การปฏิวัติสิ้นสุดใน ค.ศ. 1969 แต่การปฏิวัติยังคงดำเนินต่อไปจนถึง ค.ศ. 1971 เมื่อหลิน เปียวถูกกล่าวหาว่า เขาได้หลบหนีและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตก ใน ค.ศ. 1972 แก๊งออฟโฟร์ได้ก้าวขึ้นสู่อำนาจและการปฏิวัติทางวัฒนธรรมยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่ง และมีการจับกุมแก๊งออฟโฟร์ใน ค.ศ. 1976
การปฏิวัติทางวัฒนธรรมสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อเศรษฐกิจจีนและวัฒนธรรมดั้งเดิม โดยมีผู้เสียชีวิตตั้งแต่หลายแสนไปจนถึง 20 ล้านคน เริ่มตั้งแต่ในปักกิ่ง การสังหารหมู่แพร่ขยายทั่วจีนแผ่นดินใหญ่ รวมทั้ง ที่มีการกินเนื้อมนุษย์กันขนานใหญ่, , , และ ยุวชนแดงได้ทำลาย เช่น การฉกชิงทรัพย์ในสถานที่ทางวัฒนธรรมและศาสนา เป็นหนึ่งในหายนะทางเทคโนโลยีครั้งใหญ่ของโลก ได้เกิดขึ้นในช่วงปฏิวัติทางวัฒนธรรมเช่นเดียวกัน ในขณะเดียวกันผู้คนหลายสิบล้านต่างถูกประหัตประหาร คนสำคัญอย่างเช่น หลิว เช่าฉี ประธานาธิบดีจีน, เติ้ง เสี่ยวผิง, เผิง เต๋อหวยและเฮ่อ หลง ต่างถูกกวาดล้างหรือเนรเทศ ประชาชนหลายล้านถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกซึ่งถูกทำ จำคุก ทรมาน ใช้แรงงานหนัก ถูกยึดทรัพย์สิน และบางคนถูกประหาร และกดดันให้ฆ่าตัวตาย ปัญญาชนถูกมองว่าเป็นพวก "ค่านิยมเก่าทั้งเก้าที่เน่าเฟะ" และถูกกวาดล้างอย่างกว้างขวาง ได้แก่ นักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์อย่างเช่น , , และถูกสังหารหรือฆ่าตัวตาย โรงเรียนและมหาวิทยาลัยถูกสั่งปิด ถูกยกเลิก กว่า 10 ล้านคนถูกส่งไปยังชนบทตามนโยบาย
ใน ค.ศ. 1978 เติ้ง เสี่ยวผิงกลายเป็นผู้นำสูงสุดของประเทศจีนคนใหม่ และเขาเริ่มนโยบาย "" ที่ค่อย ๆ รื้อถอนนโยบายของลัทธิเหมาที่เกี่ยวข้องกับการปฏิวัติทางวัฒนธรรม และนำประเทศกลับเข้าสู่ความสงบ เติ้งเริ่มวาระใหม่ของจีนด้วยการการปฏิรูปเศรษฐกิจจีน ใน ค.ศ. 1981 พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ประกาศว่า การปฏิวัติทางวัฒนธรรมเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด และเป็นสิ่งที่ "รับผิดชอบต่อความพ่ายแพ้ที่รุนแรงที่สุดและผู้ที่ได้รับความสูญเสียอย่างหนักหน่วงที่สุดคือ ประชาชน ประเทศ และพรรค นับตั้งแต่การจัดตั้งสาธารณรัฐประชาชนขึ้นมา"
ภูมิหลัง
การก้าวกระโดดไกลไปข้างหน้า
ในปีค.ศ. 1958 หลังจากได้มีการนำมาใช้ เหมาเรียกร้องให้ "สังคมนิยมรากหญ้า" เร่งแผนการของเขาในการเปลี่ยนจีนให้เป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัย ด้วยจิตวิญญาณนี้ เหมาประกาศนโยบายการก้าวกระโดดไกลไปข้างหน้าด้วยการจัดตั้งในชนบท และเริ่มเพื่อเข้าสู่ หลายชุมชนได้รับมอบหมายให้ดำเนินการผลิตโภคภัณฑ์ประเภทเดียว คือ เหล็กกล้า เหมาสาบานที่จะเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรเป็นสองเท่าของระดับในปีค.ศ. 1957
การก้าวกระโดดไกลไปข้างหน้าเป็นความล้มเหลวทางเศรษฐกิจ เกษตรกรที่ไม่ได้รับการศึกษาจำนวนมากถูกดึงตัวออกจากการทำนาและการเก็บเกี่ยวผลผลิต โดยถูกรับคำสั่งให้ผลิตเหล็กกล้าในปริมาณมากแทน โดยอาศัยเตาเผาในสนามหลังบ้านของตนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการผลิตในระดับท้องถิ่น เหล็กกล้าที่ผลิตนั้นมีคุณภาพต่ำและส่วนใหญ่ไร้ประโยชน์ การก้าวกระโดดไกลไปข้างหน้าทำให้ขนาดการเก็บเกี่ยวลดลงและทำให้การผลิตสินค้าส่วนใหญ่ลดลงยกเว้นและเหล็กกล้าที่มีมากแต่ไม่ได้มาตรฐาน นอกจากนี้หน่วยงานท้องถิ่นมักกล่าวเกินจริงในด้านจำนวนผลผลิต มีการปิดบังซ่อนและจำนวนปัญหามีมากขึ้นเป็นเวลาหลายปี: 25–30 ในขณะเดียวกัน ความโกลาหลในการรวมกลุ่มต่าง ๆ กอปรกับสภาพอากาศที่เลวร้าย และการส่งออกอาหารที่มีความจำเป็นในการรักษาสกุลเงินแข็งเอาไว้ ส่งผลให้เกิด มีการขาดแคลนอาหารอย่างมาก และการผลิตก็ลดลงอย่างมาก ความอดอยากทำให้มีประชาชนเสียชีวิตกว่า 30 ล้านคน โดยเฉพาะในภูมิภาคตอนในของแผ่นดินที่มีความยากจนกว่าที่อื่น
การก้าวกระโดดไกลไปข้างหน้าได้บั่นทอนชื่อเสียงของเหมาภายในพรรค ในปีค.ศ. 1959 เหมาถูกบีบบังคับให้ต้องแสดงความรับผิดชอบครั้งใหญ่ ด้วยการลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี อันเป็นประมุขแห่งรัฐโดยนิตินัยของจีน และผู้สืบทอดตำแหน่ง คือ หลิว เช่าฉี ส่วนเหมายังคงดำรงเป็นและ ในเดือนกรกฎาคม ผู้นำระดับสูงของพรรคได้เพื่อหารือเกี่ยวกับนโยบาย ในการประชุม นายพลเผิง เต๋อหวย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้วิพากษ์วิจารณ์นโยบายการก้าวกระโดดไกลไปข้างหน้าโดยเขียนจดหมายส่วนตัวไปถึงเหมา เขาเขียนว่า นโยบายล้มเหลวเกิดจากการบริหารงานที่ผิดพลาดและเขาตักเตือนเหมาไม่ให้นำแนวคิดทางการเมืองมาอยู่เหนือหลักการทางเศรษฐศาสตร์
ทั้ง ๆ ที่จดหมายของเผิงจะดูสุภาพและเป็นกลาง แต่เหมาถือว่าสิ่งนี้เป็นการโจมตีความเป็นผู้นำของเขา: 55 ในระหว่างการประชุม เหมาได้ปลดเผิงออกจากตำแหน่ง และกล่าวหาเขาว่าเป็น "พวกฉวยโอกาสฝ่ายขวา" นายพลเผิงถูกแทนที่ด้วยนายพลหลิน เปียว ผู้บัญชาการกองทัพอีกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผูสนับสนุนเหมามากกว่าและมีความเติบโตในหน้าที่การงาน ในขณะที่การประชุมลู่ซานเป็นระฆังมรณะสำหรับนายพลเผิง ซึ่งเป็นผู้วิพากษ์วิจารณ์เหมาอย่างรุนแรง แต่ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงอำนาจไปสู่พวกสายกลางอย่าง หลิว เช่าฉีและเติ้ง เสี่ยงผิง ซึ่งเข้ามาควบคุมเศรษฐกิจจีนอย่างมีประสิทธิภาพหลังปีค.ศ. 1959
ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1960 นโยบายหลายอย่างของการก้าวกระโดดไกลไปข้างหน้าถูกพลิกโฉมโดยแนวคิดของหลิว, เติ้ง และนายกรัฐมนตรีโจว เอินไหล นักปฏิบัตินิยมสายกลางเหล่านี้ไม่กระตือรือร้นที่จะสร้างสังคมยูโทเปียตามแบบเหมา เหมาสูญเสียความนับถือจากสมาชิกพรรค จึงหันไปใช้ชีวิตเสื่อมโทรมและแปลกพิสดาร ในปีค.ศ. 1962 ในช่วงที่โจว, หลิวและเติ้ง ดำเนินการบริหารกิจการภาครัฐและเศรษฐกิจในประเทศ เหมาได้ถอนตัวจากการตัดสินใจทางเศรษฐกิจอย่างสิ้นเชิง และใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการไตร่ตรองในการผสานแนวคิดของเขาเข้ากับลัทธิมากซ์และลัทธิเลนิน ซึ่งรวมถึงแนวคิด "การปฏิวัติอย่างต่อเนื่อง": 55
ความแตกแยกระหว่างจีน–โซเวียตและการต่อต้านลัทธิแก้
ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1950 สาธารณรัฐประชาชนจีนและสหภาพโซเวียต เป็นสองรัฐคอมมิวนิสต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แม้ว่าในช่วงแรกทั้งสองประเทศจะสนับสนุนซึ่งกันและกัน แต่ความขัดแย้งเกิดขึ้นหลังการถึงแก่อสัญกรรมของโจเซฟ สตาลินและการก้าวขึ้นสู่อำนาจของนีกีตา ครุชชอฟในสหภาพโซเวียต ในปีค.ศ. 1956 ครุชชอฟประณามสตาลินและนโยบายของเขาและเริ่มดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจหลังสมัยสตาลิน เหมาและสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนหลายคนต่อต้านการเปลี่ยนแปลงนี้ พวกเขาเชื่อว่าจะส่งผลด้านลบต่อขบวนการคอมมิวนิสต์ทั่วโลก และสตาลินยังคงถูกมองว่าเป็นวีรบุรุษ: 4–7
เหมาเชื่อว่าครุชชอฟไม่ยึดมั่นในหลักการลัทธิมากซ์–เลนิน แต่เป็นพวก ซึ่งทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายของลัทธิมากซ์-เลนินขั้นพื้นฐาน อันเป็นสิ่งที่เหมากลัวว่าจะเป็นการยอมให้ทุนนิยมเข้ายึดครองประเทศ ความสัมพันธ์ของทั้งสองรัฐบาลจึงเลวร้ายลง สหภาพโซเวียตปฏิเสธที่จะสนับสนุนจีนในการเข้าร่วมสหประชาชาติ และทรยศต่อคำมั่นที่จะจัดหาอาวุธนิวเคลียร์ให้จีน: 4–7
เหมายังคงประณามลัทธิแก้ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1960 โดยไม่ได้ชี้ตรงไปที่สหภาพโซเวียต แต่เหมาวิพากษ์วิจารณ์พันธมิตรทางอุดมการณ์ของโซเวียตแทน คือ สันนิบาตคอมมิวนิสต์แห่งยูโกสลาเวีย ในทางกลับกันสหภาพโซเวียตวิพากษ์วิจารณ์พรรคแรงงานแอลเบเนียซึ่งเป็นพันธมิตรกับจีน: 7 ในปีค.ศ. 1963 พรรคคอมมิวนิสต์จีนเริ่มประณามสหภาพโซเวียตอย่างเปิดเผย โดยตีพิมพ์ข้อโต้แย้ง 9 ข้อที่ต่อต้านแนวทางของลัทธิแก้ หนึ่งในนั้นมีหัวเรื่องว่า ลัทธิคอมมิวนิสต์ปลอมของครุชชอฟและบทเรียนทางประวัติศาสตร์ของโลก ซึ่งเหมากล่าวหาว่า ครุชชอฟไม่เพียงแต่เป็นพวกลัทธิแก้ แต่ยังเป็นภัยอันตรายในการฟื้นฟูลัทธิทุนนิยมอีกด้วย: 7 หายนะของครุชชอฟเกิดขึ้นจากการรัฐประหารภายในในปีค.ศ. 1964 ซึ่งมีส่วนทำให้เหมาหวาดเกรงความเปราะบางทางการเมืองของเขาเอง สาเหตุมาจากชื่อเสียงและความเคารพนับถือต่อเขาในหมู่สหายของเขาลดลงอย่างมากหลังนโยบายการก้าวกระโดดไกลไปข้างหน้า: 7
เค้าลาง
ในปีค.ศ. 1963 เหมาประกาศ ซึ่งถูกมองว่าเป็นเค้าลางของการปฏิวัติทางวัฒนธรรม เหมาสร้างภาพของการปฏิวัติทางวัฒนธรรมด้วยการ "กวาดล้าง" ข้าราชการเจ้าหน้าที่ระดับสูงซึ่งเขาสงสัยถึงความจงรักภักดีในเขตกรุงปักกิ่ง แนวทางของเขานั้นไม่โปร่งใส เขาใช้การกวาดล้างผ่านการเขียนบทความในหนังสือพิมพ์ การประชุมภายใน และการใช้เครือข่ายพันธมิตรทางการเมืองอย่างชำนาญ
ในช่วงหลังค.ศ. 1959 ซึ่งเป็นนักประวัติศาสตร์และรองนายกเทศมนตรีนครปักกิ่ง ได้เขียนบทละครชื่อ ในบทละครกล่าวถึงข้าราชการผู้ซื่อสัตย์อย่าง ผู้ถูกปลดจากตำแหน่งโดยจักรพรรดิผู้ทุจริต ในช่วงแรกเหมาประทับใจในบทละครนี้มาก แต่ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1956 เขาแอบไหว้วานภรรยาของเขา เจียง ชิง และนักโฆษณาชวนเชื่อจากเซี่ยงไฮ้ ชื่อ เหยา เหวินหยวน ให้เขียนบทความวิจารณ์บทละครนี้: 15–18 เหยากล่าวอย่างกล้าหาญว่า ไห่ รุ่ย เป็นภาพอุปมานิทัศน์เพื่อโจมตีเหมา โดยมองว่า เหมาเป็นจักรพรรดิผู้ทุจริต และเผิง เต๋อหวยเป็นข้าราชการผู้ซื่อสัตย์: 16
บทความของเหยาทำให้ นายกเทศมนตรีปักกิ่งต้องตกที่นั่งลำบาก เผิง เจินเป็นข้าราชการที่ทรงอำนาจและเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของอู๋ หาน และเป็นหัวหน้าของ ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่ได้รับมอบหมายจากเหมาให้ศึกษาศักยภาพของการปฏิวัติทางวัฒนธรรม เผิง เจินตระหนักดีว่าเขาจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องหากอู๋เขียนบทละคร "ต่อต้านเหมา" ขึ้น และเขาปรารถนาที่จะควบคุมอิทธิพลของเหยา บทความของเหยาได้ตีพิมพ์เพียงหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นบางแห่งเท่านั้น เผิงสั่งห้ามการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ และหนังสือพิมพ์ใหญ่อื่น ๆ โดยสั่งให้ทางหนังสือพิมพ์เขียนแต่ "การอภิปรายเชิงวิชาการ" เท่านั้น และไม่ต้องไปใส่ใจการเมืองเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเหยา: 14–19 ในช่วงที่ "ศึกทางวรรณกรรม" กับเผิง สร้างความเดือดดาลแก่เหมามาก เหมาจึงไล่ ผู้อำนวยการออกจากตำแหน่ง ซึ่งเป็นองค์กรควบคุม หยางโดนไล่ออกด้วยข้อหาที่ไม่มีมูล และเหมาได้แต่งตั้ง ผู้จงรักภักดีอย่างมากและเป็นหัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยของเหมา ขึ้นดำรงตำแหน่งแทน การปลดหยางออกจากตำแหน่ง ทำให้ฝ่ายสนับสนุนเหมามีกำลังใจที่จะต่อสู้กับฝ่ายศัตรูมากขึ้น: 14–19
ในเดือนธันวาคม หลิน เปียว รัฐมนตรีกลาโหมและเป็นฝ่ายเหมาได้กล่าวหานายพล เสนาธิการกองทัพปลดปล่อยประชาชน ซึ่งเป็นฝ่ายต่อต้านเหมา โดยกล่าวหาว่า ลัวให้ความสำคัญแก่การฝึกทหารมากเกินไป มากกว่าที่จะเป็น "การพิจารณาทางการเมือง" ของลัทธิเหมา แม้ว่าจะมีความสงสัยเบื้องต้นภายในโปลิตบูโรที่พิจารณาความผิดของลัว แต่เหมาก็ผลักดันให้มีการสอบสวน หลังจากที่ลัวถูกประณาม ไล่ออกและถูกบังคับให้ทำการ ความเครียดจากเหตุการณ์เหล่านี้ทำให้ลัวฆ่าตัวตาย: 20–27 การที่ลัวถูกปลดทำให้กองทัพหันมาจงรักภักดีต่อเหมา: 24
หลังจากขับไล่ลัวและหยางออกไปได้แล้ว เหมากลับมาสนใจเผิง เจิน ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1966 "กลุ่มห้าคน" ได้ออกรายงาน "โครงร่างกุมภาพันธ์" (二月提纲) โครงร่างได้รับการอนุมัติจากศูนย์พรรค กำหนดให้เรื่อง ไห่ รุ่ย เป็นการอภิปรายทางวิชาการที่สร้างสรรค์ และมุ่งเป้าที่จะแยกเผิง เจินออกจากนัยยะทางการเมืองใด ๆ แต่เจียง ชิงและเหยา เหวินหยวนยังคงประณามอู๋ หานและเผิง เจินต่อไป ในขณะที่เหมายังคงไล่ ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาชวนเชื่อของพรรคออกจากตำแหน่ง เพราะเขาเป็นพันธมิตรกับเผิง เจิน: 20–27
การปลดลู่ ทำให้พวกนิยมเหมาสามารถเข้าถึงสื่อได้อย่างไม่จำกัด เหมาส่งสัญญาณการโจมตีครั้งสุดท้ายต่อเผิง เจินในการประชุมข้าราชการระดับสูงของโปลิตบูโร โดยผ่านผู้จงรักภักดีอย่างและ พวกเขากล่าวหาว่าเผิงเป็นปฏิปักษ์ต่อเหมา โดยระบุว่า "โครงร่างกุมภาพันธ์" เป็น "หลักฐานของการเป็นลัทธิแก้ของเผิง" และจัดกลุ่มเขาเข้ากับข้าราชการที่ถูกปลดที่เรียกว่า "ฝ่ายต่อต้านพรรคของเผิง-ลัว-ลู่-หยาง": 20–27 ในวันที่ 16 พฤษภาคม โปลิตบูโรได้ตัดสินใจอย่างเป็นทางการโดยเผยแพร่เอกสารทางการประณามเผิง เจิน และ "พันธมิตรที่ต่อต้านพรรค" ของเขา ด้วยถ้อยคำรุนแรง มีการสั่งยุบ "กลุ่มห้าคน" และแทนที่ด้วยกลุ่มลัทธิเหมาอย่าง "": 27–35
ระยะแรก: การเคลื่อนไหวของมวลชน (ค.ศ. 1966-1968)
หมายประกาศ 16 พฤษภาคม
ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1966 มีการ "ขยายสมัยประชุม" ของสภา การประชุมครั้งนี้แทนที่จะเป็นการประชุมอภิปรายร่วมในเรื่องนโยบาย (ตามบรรทัดฐานปกติของการดำเนินการของพรรค) แต่เป็นการประชุมระดมให้โปลิตบูโรสนับสนุนนโยบายของเหมา การประชุมมีแต่พร่ำถึงวาทศิลป์ทางการเมืองของเหมาเกี่ยวกับการต่อสู้ทางชนชั้นและมี "ข้อกล่าวหา" ที่ถูกเตรียมการไว้เพื่อกล่าวโทษผู้นำพรรคที่ถูกขับไล่อย่าง เผิง เจินและลัว รุ่ยชิง เอกสารเผยแพร่ในวันที่ 16 พฤษภาคม เป็นการเตรียมตัวในการสนับสนุนเหมา และเต็มไปด้วยคำประณามผู้ทรยศ: 39–40
คนพวกนี้เป็นฝ่ายชนชั้นกระฎุมพีที่แทรกซึมเข้ามาในพรรค รัฐบาล กองทัพและในกลุ่มวัฒนธรรมที่หลากหลายเต็มไปด้วยพวกลัทธิแก้ที่ต่อต้านการปฏิวัติ เมื่อพวกมันเห็นทีได้โอกาสแล้ว พวกมันจะยึดอำนาจและเปลี่ยนแปลงระบอบ ให้เป็นระบอบเผด็จการของพวกกระฎุมพี พวกมันบางคนที่เรามองผ่าน หรือคนอื่น ๆ ที่เราไม่นึกถึง พวกมันบางคนได้รับความไว้วางใจจากเราและกำลังเตรียมที่จะเป็นผู้สืบทอดอำนาจของเรา คนพวกนี้อย่างเช่น คนแบบครุชชอฟยังคงซุกซ่อนตัวอยู่ข้างเรา: 47
ข้อความนี้เป็นที่รู้จักในชื่อ "หมายประกาศ 16 พฤษภาคม" (จีน: 五一六通知; พินอิน: Wǔyīliù Tōngzhī) เป็นการสรุปเหตุผลเชิงอุดมคติของเหมาที่จะใช้ในการปฏิวัติทางวัฒนธรรม: 40 มันบอกเป็นนัยอย่างมีประสิทธิผลว่า ศัตรูของพรรคอมมิวนิสต์เกิดขึ้นภายในพรรคเอง นั่นคือ ศัตรูที่ "โบกธงแดงเพื่อต่อต้านธงแดง": 46 วิธีเดียวที่จะค้นหาและระบุตัวพวกคนเหล่านี้ได้โดยผ่าน "กล้องโทรทรรศน์และกล้องจุลทรรศน์ทางความคิดของเหมา เจ๋อตง": 46 ในขณะที่ผู้นำพรรคค่อนข้างมีความเป็นน้ำหนึ่งในเดียวกันในการกำหนดทิศทางของวาระการประชุมไปในแนวทางของเหมา แต่สมาชิกโปลิตบูโรจำนวนมากก็ไม่ได้กระตือรือร้นอะไรเป็นพิเศษ หรือ บางคนแค่เพียงสับสนทิศทางในการเคลื่อนไหวของพรรค: 13 ข้อกล่าวหาต่อผู้นำพรรคที่เคยได้รับการยกย่องอย่างเผิง เจิน ได้เป็นการส่งสัญญาณเตือนชุมชนทางปัญญาของจีนและในหมู่: 41
การชุมนุมในช่วงแรก (พฤษภาคม-มิถุนายน ค.ศ. 1966)
หลังจากเผิง เจินถูกกวาดล้าง คณะกรรมาธิการพรรคปักกิ่งหยุดทำงาน ทำให้เกิดความวุ่นวายในเมืองหลวง ในวันที่ 25 พฤษภาคม ภายใต้การนำของ ภรรยาของ ผู้เชิดชูลัทธิเหมา และ อาจารย์สองวิชาปรัชญาในมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ได้เขียน (大字报, ต้าจื้อเป้า) พร้อมกับผู้นำฝ่ายซ้ายคนอื่น ๆ และประกาศคำแถลงการณ์ต่อสาธารณะ เนี่ยโจมตีฝ่ายพรรคบริหารของมหาวิทยาลัยที่มีผู้นำคือ : 56–58 เนี่ยกล่าวเป็นนัยว่าผู้นำของมหาวิทยาลัย เป็นแบบเดียวกับเผิง เจิน ที่พยายามฉุดรั้งความพยายามปฏิวัติ เป็นการกระทำที่ "ร้ายกาจ" ในการต่อต้านพรรคและผลักดันพวกลัทธิแก้: 56–58
เหมารับรอง "ต้าจื้อเป้า" ของเนี่ยในฐานะ "โปสเตอร์ลัทธิมากซ์ขนาดใหญ่แห่งแรกในจีน" ข้อเรียกร้องของเนี่ยที่ตอนนี้ได้รับการลงตราประทับอนุมัติส่วนตัวของเหมา สร้างผลกระทบเป็นไปทั่วสถาบันการศึกษาในจีน นักศึกษาในสถานศึกษาทุกแห่งเริ่มประท้วงและต่อต้านการจัดตั้งพรรคในโรงเรียน การเรียนการสอนในระดับชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาของโรงเรียนในปักกิ่งถูกยกเลิกในทันที ตามมาด้วยการตัดสินใจในวันที่ 13 มิถุนายน ทีให้มีการขยายการระงับชั้นเรียนทั่วประเทศ: 59–61 ช่วงต้นเดือนมิถุนายน ฝูงชนหนุ่มสายจำนวนมากได้เดินเรียงรายตามทางสัญจรที่สำคัญของเมืองหลวง ซึ่งมีการถือภาพวาดของเหมาขนาดใหญ่ การตีกลองและการตะโกนข่มขวัญศัตรูของเหมา: 59–61
เมื่อมีการปลดเผิง เจิน เรื่องของผู้นำพรรคในเขตปกครองตนเองกลายมาเป็นเรื่องราวใหญ่โต ทำให้เกิดความสับสนอย่างกว้างขวาง ภารกิจสาธารณะและการระหว่างประเทศถูกบดบังโดยเหตุของการไล่เผิง เจิน: 62–64 แม้ว่าผู้นำระดับสูงของพรรคจะถูกจับด้วยข้อหาแต่การเดินขบวนประท้วงและการประจันหน้าเกิดขึ้นตามมา: 62–64 หลังจากขอคำแนะนำจากเหมาในหางโจว หลิว เช่าฉีและเติ้ง เสี่ยวผิงตัดสินใจส่ง "ทีมงาน" (工作组; กงโจ้ว จู่) ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ "ปฏิบัติตามแนวคิดอย่างมีประสิทธิภาพ" ไปยังโรงเรียนของเมืองและหนังสือพิมพ์เหรินหมินรื่อเป้า เพื่อฟื้นฟูระเบียบ คำสั่งและจัดตั้งการควบคุมพรรคขึ้นใหม่: 62–64
ทีมงานรีบดำเนินการอย่างเร่งรีบเกินไปและไม่มีความเข้าใจในความรู้สึกนึกคิดของนักเรียนเลย ไม่เหมือนกับขบวนการทางการเมืองในทศวรรษที่ 1950 ที่มุ่งเป้าไปที่ปัญญาชนโดยตรง แต่ขบวนการใหม่ได้เน้นไปที่ผู้ปฏิบัติงานของพรรคที่จัดตั้งขึ้น หลายคนมาเป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน ส่งผลให้คณะทำงานเกิดความสงสัยมากขึ้นว่าอีกกลุ่มหนึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อขัดขวางความกระตือรือร้นในการปฏิวัติ: 71 ต่อมาผู้นำของพรรคก็แตกแยกกันว่าจะให้ทีมงานดำเนินงานต่อไปหรือไม่ หลิว เช่าฉียืนกรานที่จะให้ทีมงานมีส่วนร่วมในการทำงานต่อไป และปราบปรามพวกหัวรุนแรงของพรรค โดยเขากลัวว่าความเคลื่อนไหวของพวกนี้จะควบคุมไม่ได้: 75
"ถล่มกองบัญชาการ" (กรกฎาคม ค.ศ. 1966)
ในวันที่ 16 กรกฎาคม ประธานเหมามีอายุ 72 ปี ได้เดินทางไปยังแม่น้ำแยงซีในอู่ฮั่น พร้อมพาสื่อมวลชนไปด้วย เขาได้ทำสิ่งที่กลายเป็นสัญลักษณ์ "การว่ายน้ำข้ามแยงซี" เพื่อแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการต่อสู้ของเขา ต่อมาเขากลับไปยังปักกิ่งเพื่อดำเนินการวิพากษ์วิจารณ์ผู้นำพรรคในปัญหาเรื่อง "ทีมงาน" เหมากล่าวหาว่า ทีมงานได้บ่อนทำลายขบวนการนักศึกษา และเรียกร้องให้ทีมงานถอนตัวภายในวันที่ 24 กรกฎาคม หลายวันถัดมามีการจัดการชุมนุมขึ้นที่เพื่อประกาศการตัดสินใจและกำหนดแนวทางใหม่ในการเคลื่อนไหวให้กับอาจารย์และนักศึกษานักเรียนตามมหาวิทยาลัยและวิทยาลัย ในการชุมนุม หัวหน้าพรรคได้ปราศรัยต่อผู้ชุมนุมว่า "จงอย่าตื่นกลัว" และเคลื่อนไหวอย่างกล้าหาญโดยไม่ถูกพรรคแทรกแซง: 84
ปัญหาเรื่องทีมงานถือเป็นความพ่ายแพ้ทางการเมืองของประธานาธิบดีหลิว เช่าฉี นอกจากนี้เขายังส่งสัญญาณว่าเข้าไม่เห็นด้วยในการจัดการต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขามองว่าการปฏิวัติทางวัฒนธรรมจะทำให้เหมาแยกออกจากเหล่าผู้นำพรรคโดยไม่อาจย้อนกลับได้ ในวันที่ 1 สิงหาคม ครั้งที่ 11 ของได้เรียกประชุมอย่างเร่งรีบเพื่อสนับสนุนวาระทางการเมืองที่ก้าวหน้าของเหมา ในการประชุม เหมาได้แสดงการดูหมิ่นประธานาธิบดีหลิวอย่างยิ่ง เขาขัดจังหวะหลิวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในช่วงที่หลิวกล่าวสุนทรพจน์เปิดประชุมสภา: 94 หลายวันต่อมา เหมาพูดส่อเสียดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า ผู้นำพรรคได้ฝ่าฝืนหลักการของการปฏิวัติ แนวคิดของเหมาได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นในที่ประชุม เมื่อรู้สึกว่าผู้นำระดับสูงในพรรคไม่เต็มใจที่จะโอบรับอุดมการณ์ในการปฏิวัติของเขา เหมาก็เปิดฉากโจมตี
ในวันที่ 28 กรกฎาคม ยุวชนแดงเขียนจดหมายถึงเหมา เพื่อเรียกร้องให้ก่อกบฏและให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เพื่อปกป้องการปฏิวัติ เหมาตอบกลับจดหมายด้วยการเขียนโปสเตอร์ตัวอักษรขนาดใหญ่ว่า โดยระดมผู้คนให้ตั้งเป้าหมายไปที่ "ศูนย์บัญชาการ (เช่น สำนักงานใหญ่) ของการปฏิวัติซ้อน" เหมาเขียนว่าแม้จะผ่านการปฏิวัติคอมมิวนิสต์มาแล้ว แต่ชนชั้น "กระฎุมพี" ยังคงเจริญรุ่งเรื่องใน "ตำแหน่งอำนาจ" ในรัฐบาลและพรรคคอมมิวนิสต์
แม้ว่าจะไม่มีการเอ่ยชื่อ แต่คำยั่วยุของเหมาถูกตีความว่าเป็นการบริหารจัดการพรรคภายใต้หลิว เช่าฉีและเติ้ง เสี่ยวผิง ซึ่งเป็น "กองบัญชาการกระฎุมพี" ของจีน การเปลี่ยนแปลงของบุคลากรในการประชุมได้สะท้อนการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพรรคใหม่ให้มีความเป็นหัวรุนแรงอย่างสิ้นเชิง เพื่อตอบรับวาระทางการเมืองใหม่ หลิวและเติ้งยังคงนั่งในตำแหน่งคณะกรรมาธิการประจำโปลิตบูโร แต่แท้จริงแล้วพวกเขาถูกกีดกันจากกิจการในแต่ละวันของพรรค หลิน เปียวได้รับการเลื่อนให้เป็นบุคคลอันดับสองของพรรค หลิว เช่าฉีถูกเลื่อนลงจากอันดับสองมาอยู่อันดับแปดและไม่ใช่ทายาททางการเมืองของเหมาอีกต่อไป
ประกอบกับผู้นำระดับสูงที่ถูกไล่ออกจากตำแหน่งอำนาจเป็นการทำลายระบบราชการของพรรคคอมมิวนิสต์ไปในวงกว้าง ซึ่งดูแลการบริหารงานบุคคลภายในพรรคต้องหยุดชะงัก กลุ่มปฏิวัติทางวัฒนธรรม (CRG) ซึ่งเป็นกลุ่ม "ไปรโตริอานี" ของลัทธิอุดมคติเหมา ได้ถูกผลักดันให้มีชื่อเสียงในการเผยแพร่อุดมการณ์ทางการเมืองของเขาและระดมพลผู้สนับสนุน เจ้าหน้าที่ระดับสูงในฝ่ายโฆษณาชวนเชื่อถูกไล่ออก และหน้าที่หลายประการก็ตกอยู่กับกลุ่มปฏิวัติทางวัฒนธรรม: 96
สิงหาแดงและสิบหกข้อ (สิงหาคม ค.ศ. 1966)
หนังสือเล่มแดงเล็ก คติพจน์จากประธานเหมา เจ๋อตง เป็นกลไกที่นำยุวชนแดงไปสู่เป้าหมายของพวกเขาเพื่อกำหนดอนาคตของจีน คติพจน์ของประธานเหมาทำให้เกิดการดำเนินการของเหล่ายุวชนแดงทื่เป็นกลุ่มนิยมลัทธิเหมาคนอื่น ๆ: 107 โดยในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1967 มีการตีพิมพ์หนังสือนี้ถึง 350 ล้านเล่ม: 61–64 หนึ่งในคติพจน์ของหนังสือเล่มแดงนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยุวชนแดงได้ปฏิบัติตามในเวลาต่อมา โดยเหมากล่าวว่า
"โลกใบนี้เป็นของคุณ และเป็นของพวกเราเช่นกัน แต่จากการพิเคราะห์แล้ว โลกทั้งใบคือของคุณ คุณคนหนุ่มสาว ที่เต็มไปด้วยพละกำลังและความมีชีวิตชีวาเฉกเช่นดวงอาทิตย์ในตอนแปดโมงหรือเก้าโมงเช้า ความหวังของเราอยู่ที่พวกคุณ...โลกใบนี้เป็นของคุณ อนาคตของจีนเป็นของคุณ"
ในช่วงสิงหาแดงกรุงปักกิ่ง วันที่ 8 สิงหาคม ค.ศ. 1966 คณะกรรมาธิการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้พิจารณาผ่าน "ข้อตัดสินใจเกี่ยวกับการปฏิวัติทางวัฒนธรรมชนชั้นกรรมาชีพครั้งใหญ่" ซึ่งต่อมาถูกเรียกว่า "สิบหกข้อ" ข้อตัดสินใจนี้นิยามการปฏิวัติทางวัฒนธรรมว่าเป็น "การปฏิวัติครั้งยิ่งใหญ่ที่สัมผัสจิตวิญญาณของผู้คนและเป็นเวทีที่ลึกซึ้งและกว้างขวางยิ่งขึ้นในการยกระดับของประเทศเรา"
"แม้ว่าชนชั้นกระฎุมพีจะถูกโค่นล้ม แต่มันก็ยังพยายามใช้ความคิด วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม และแนวคิดเก่า ๆ ของพวกชนชั้นที่เอารัดเอาเปรียบมาสร้างมลทินแก่มวลชน ยึดกุมจิตใจของพวกเขา และกลับเข้ามามีบทบาทอีกครั้ง ชนชั้นกรรมาชีพต้องดำเนินการตรงกันข้าม: ต้องเผชิญความท้าทายจากชนชั้นกระฎุมพี...เพื่อเปลี่ยนแปลงมุมมองสังคม ในปัจจุบัน เป้าหมายของเราคือการต่อสู้และบทขยี้ผู้มีอำนาจที่กำลังเดินในเส้นทางของทุนนิยม ต้องวิพากษ์วิจารณ์และปฏิเสธ "ผู้มีอำนาจ" ทางวิชาการที่เป็นพวกกระฎุมพีปฏิกิริยา และแนวคิดของพวกกระฎุมพีและพวกชนชั้นอื่น ๆ ที่เอารัดเอาเปรียบทั้งหมด และเพื่อเปลี่ยนแปลงการศึกษา วรรณกรรมและศิลปะ และสิ่งอื่น ๆ ของโครงสร้างส่วนบนที่ไม่สอดคล้องกับฐานเศรษฐกิจสังคมนิยม เพื่อส่งเสริมการกระชับอำนาจและพัฒนาระบบสังคมนิยม"
นิยามของสิบหกข้อนั้นกว้างไกลเกินขอบเขต มันยกระดับในสิ่งที่เคยเป็นการเคลื่อนไหวของนักศึกษามาเป็นการระดมมวลชนทั่วประเทศที่กระตุ้นทั้ง แรงงาน เกษตรกร ทหารและสมาชิกพรรคระดับล่างให้ลุกฮือขึ้น ท้าทายผู้มีอำนาจและปรับ "โครงสร้างส่วนบน" ของสังคมใหม่
ในช่วง ณ กรุงปักกิ่ง วันที่ 18 สิงหาคม ค.ศ. 1966 ยุวชนแดงมากกว่าล้านคนจากทั่วประเทศมาชุมนุมกันที่จัตุรัสเทียนอันเหมินเพื่อต้องการพบปะประธานเหมา: 106–07 เหมาได้เดินลงไปปะปนกับยุวชนแดงเพื่อกระตุ้นกำลังใจพวกเขา และสวมปลอกแขนยุวชนแดงด้วยตัวเอง: 66 หลิน เปียวได้ยืนขึ้นบนเวทีกลางของการชุมนุมวันที่ 18 สิงหาคม โดยประณามศัตรูทุกรูปแบบในสังคมจีนที่ขัดขวาง "ความก้าวหน้าของการปฏิวัติ": 66 หลังจากนั้นการสังหารหมู่ครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้นในปักกิ่งและก็แพร่ขยายไปทั่วประเทศจีน
ในวันที่ 22 สิงหาคม ค.ศ. 1966 ได้มีการออกคำสั่งกลางเพื่อหยุดยั้งตำรวจในการรับมือกับผู้ชุมนุมยุวชนแดง และตำรวจที่ฝ่าฝืนประกาศนี้จะถูกตราหน้าว่าเป็นพวก: 124 เหมาชื่นชมการก่อกบฏที่ดำเนินการโดยยุวชนแดง: 515 เจ้าหน้าที่ส่วนกลางยกเลิกการจำกัดพฤติกรรมที่รุนแรงเพื่อสนับสนุนการปฏิวัติ: 126 ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มักประกาศอภัยโทษ "อาชญากรรม" ที่ก่อโดยยุวชนแดง: 125 เป็นเวลาสองสัปดาห์ เกิดความรุนแรงทำให้เจ้าหน้าที่ผู้ปกครองกว่า 100 คนและชนชั้นกลางในปักกิ่งเสียชีวิตในเขตทางตะวันตกของปักกิ่ง และมีผู้บาดเจ็บเกินกว่านั้น: 126
สิ่งที่รุนแรงที่สุดในการรณรงค์นี้ ได้แก่ การทรมาน การฆาตกรรม และการสร้าง ผู้คนจำนวนมากถูกกล่าวหาว่าเป็นฝ่ายปฏิปักษ์การปฏิวัติต้องฆ่าตัวตาย ในช่วงสิงหาแดง ค.ศ. 1966 ในปักกิ่งมีประชาชนถูกสังหาร 1,772 คน เหยื่อหลายคนเป็นครูอาจารย์ที่ถูกโจมตีหรือบางคนถูกฆ่าโดยนักเรียนของตนเอง ในเซี่ยงไฮ้ มีประชาชนฆ่าตัวตาย 704 คน และถูกสังหาร 534 คน ในช่วงการปฏิวัติทางวัฒนธรรมเดือนกันยายน ในอู่ฮั่น มีคนฆ่าตัวตาย 62 คน และถูกสังหาร 32 คน ในช่วงเวลาเดียวกัน: 124 เผิง เต๋อหวยถูกนำตัวมายังปักกิ่งเพื่อถูกสร้างความอัปยศในสาธารณะ
การทำลายสิ่งเก่าทั้งสี่
ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงพฤศจิกายน ค.ศ. 1966 ได้มีการชุมนุมจำนวนแปดครั้ง โดยมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 12 ล้านคนจากทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นยุวชนแดง: 106 รัฐบาลต้องแบกรับค่าใช้จ่ายของยุวชนแดงที่เดินทางไปทั่วประเทศ เพื่อเปลี่ยนเป็น "ประสบการณ์การปฏิวัติ": 110
ในการชุมนุมของยุวชนแดง หลิน เปียวได้เรียกร้องให้ทำลายสิ่งเก่าทั้งสี่ ซึ่งได้แก่ ขนบธรรมเนียมเก่า, วัฒนธรรมเก่า, นิสัยใจคอเก่า ๆ และความคิดเก่า ๆ: 66 กระแสปฏิวัติได้พัดพาประเทศไปราวกับพายุ โดยยุวชนแดงเป็นนักรบที่โดดเด่นที่สุด การเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับ "สิ่งเก่าทั้งสี่" ส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตราย เช่น การเปลี่ยนชื่อถนน สถานที่และแม้แต่ชื่อผู้คน โดยทารกที่เกิดมาจะมีชื่อที่สอดคล้องกับ "การปฏิวัติ" แต่กิจกรรมด้านอื่น ๆ ของยุวชนแดงมีลักษณะเป็นการทำลายล้างมากกว่า โดยเฉพาะในขอบเขตวัฒนธรรมและศาสนา โบราณสถานหลายแห่งทั่วประเทศถูกทำลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสียหายที่เกิดแก่เมืองหลวงปักกิ่ง ยุวชนแดงยังคงเข้าปล้น เมืองชฺวีฟู่ มณฑลชานตง: 119 รวมถึงสุสานและสิ่งประดิษฐ์ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย ห้องสมุดที่เต็มไปด้วยตำราทางประวัติศาสตร์และหนังสือต่างประเทศถูกทำลาย หนังสือถูกเผา วัด โบสถ์ มัสยิด อารามและสุสานถูกปิด และบางแห่งถูกดัดแปลงไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น บ้างก็ถูกปล้นสะดมและทำลาย การโฆษณาชวนเชื่อของลัทธิมากซ์ได้วาดภาพศาสนาพุทธว่าเป็นความงมงาย และศาสนาถูกมองว่าเป็นวิธีการแทรกซึมของพวกต่างชาติที่เป็นศัตรู ตลอดจนเป็นเครื่องมือของชนชั้นปกครองนักบวชถูกจับกุมและถูกส่งไปยังค่ายกักกัน ศาสนิกชนศาสนาพุทธแบบทิเบตถูกใช้ปืนข่มขู่เพื่อให้พวกเขาทำลายอารามทางศาสนาของพวกเขาเอง
การประชุมงานส่วนกลาง (ตุลาคม ค.ศ. 1966)
ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1966 เหมาได้จัดประชุม "การประชุมงานส่วนกลาง" ซึ่งเป็นการโน้มน้าวเหล่าผู้นำพรรคที่ยังไม่ได้เดินรอยตามอุดมการณ์การปฏิวัติ หลิว เช่าฉีและเติ้ง เสี่ยวผิงถูกดำเนินคดีในฐานะส่วนหนึ่งของพวกนายทุนกระฎุมพี (zichanjieji fandong luxian) และต้องวิจารณ์ตัวเองอย่างไม่เต็มใจ: 137 หลิวซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นบัณฑิตชนชั้นปกครองสายกลางที่ทรงอำนาจ หลังการประชุมเขาถูกกักบริเวณในบ้านที่กรุงปักกิ่ง จากนั้นถูกส่งตัวไปค่ายกักกัน เขาป่วยและถูกปฏิเสธการรักษาและเสียชีวิตในปีค.ศ. 1969 เติ้ง เสี่ยงผิงถูกส่งตัวไปรับการศึกษาใหม่และถูกส่งไปทำงานโรงงานเครื่องยนต์ที่มณฑลเจียงซี
ฝ่ายหัวรุนแรงยึดอำนาจ (ค.ศ. 1967)
ขบวนการมวลชนจีนได้รวมพลกันแต่มีสองกลุ่มซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งกัน ฝ่ายหัวรุนแรงให้การสนับสนุนการกวาดล้างทางการเมืองในพรรคคอมมิวนิสต์ของเหมา และอีกฝ่ายคือ พวกอนุรักษ์นิยมที่สนับสนุนกลุ่มสายกลาง ในวันครบรอบวันคล้ายวันเกิดของเหมา วันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ. 1966 เหมาประกาศ "สงครามกลางเมืองรอบด้าน" เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งโดยให้กองทัพปลดปล่อยประชาชนให้การสนับสนุน "ฝ่ายซ้าย" แต่ก็ไม่มีการกำหนดเป็นกฎอย่างชัดเจน เนื่องจากเหล่าผู้บัญชาการของกองทัพปลดปล่อยประชาชนมีความสัมพันธ์ในการทำงานที่ใกล้ชิดกับกลุ่มผู้ก่อตั้งพรรค หน่วยทหารจึงทำงานให้เหมาแทนที่จะไปปราบปรามฝ่ายหัวรุนแรงของเหมา
เหตุการณ์ในปักกิ่งกระตุ้นให้เกิดการก่อตั้งกลุ่ม"" (duoquan) ขึ้นมาทั่วประเทศและขยายฐานไปยังโรงงานและตามชนบททั่วประเทศจีน ในเซี่ยงไฮ้ หนุ่มกรรมกรโรงงานชื่อ หวัง หงเหวินได้จัดตั้งแนวร่วมการปฏิวัติที่กว้างขวาง และได้เข้าไปแทนที่กลุ่มยุวชนแดงที่มีอยู่ ในวันที่ 3 มกราคม ค.ศ. 1967 ด้วยการสนับสนุนจากสมาชิกกลุ่มปฏิวัติทางวัฒนธรรมรุ่นใหญ่อย่าง จาง ชุนเฉียวและหวัง หงเหวิน จึงกลายเป็นกลุ่มนักเคลื่อนไหวปลุกระดมโค่นล้มฝ่ายบริหารเทศบาลเมืองเซี่ยงไฮ้ซึ่งบริหารโดย เหตุการณ์นี้ถูกเรียกว่า "" และมีการก่อตั้ง : 115
เหตุการณ์ในเซี่ยงไฮ้สร้างความประทับใจต่อเหมามาก และกระตุ้นให้เกิดเหตุการณ์คล้าย ๆ กันทั่วประเทศจีน รัฐบาลระดับจังหวัดและหลายส่วนของรัฐ ระบบการบริหารพรรคได้รับผลกระทบ โดยมีรูปแบบการยึดอำนาจที่น่าจดจำแตกต่างกัน ถูกจัดตั้งขึ้น แทนที่รัฐบาลท้องถิ่นและการบริหารพรรคสาขา ยกตัวอย่างเช่นในปักกิ่ง มีกลุ่มปฏิวัติแยกกันสามกลุ่มและประกาศยึดอำนาจในวันเดียวกัน ขณะเดียวกันในมณฑลเฮย์หลงเจียง เลขาธิการพรรคท้องถิ่นได้พยายาม "ยึดอำนาจ" จากการบริหารของพรรคให้อยู่ภายใต้เขาเอง ผู้นำบางคนถึงกับเขียนให้มีการโค่นอำนาจกลุ่มปฏิวัติวัฒนธรรม: 170–72
ในปักกิ่ง เจียง ชิงและจาง ชุนเฉียว พยายามพุ่งเป้าไปที่รองประธานพรรค ขบวนการยึดอำนาตได้เบนหัวไปทางกองทัพด้วยเช่นกัน ในเดือนกุมภาพันธ์ นายพลผู้มีชื่อเสียงอย่างเย่ เจี้ยนอิงและ รวมถึงรองประธานพรรค ยืนยันคัดค้านต่อความรุนแรงที่ทวีมากขึ้นกล่าวหาผู้อาวุโสในพรรคบางคนที่พยายามทำเรื่องสกปรก โดยกล่าวหาว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของกลุ่มปฏิวัติทางวัฒนธรรมคือการกำจัดผู้พิทักษ์การปฏิวัติรุ่นเก่า ในช่วงแรกเหมาดำเนินการในทางตรงกันข้าม เขาก้าวเข้าไปในสภาโปลิตบูโรในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ เพื่อประณามพวกฝ่ายต่อต้านโดยตรง เขาสนับสนุนกิจกรรมของพวกหัวรุนแรงอย่างเต็มที่ การต่อต้านในช่วงสั้น ๆ นี้ถูกตราหน้าว่า "": 195–96 เป็นการปิดปากผู้วิพากษ์วิจารณ์ที่เคลื่อนไหวภายในพรรคอย่างเป็นประสิทธิภาพในปีต่อ ๆ ไป: 207–09
ในช่วงที่ฝ่ายปฏิวัติกำลังถอดรื้อรัฐบาลที่กำลังบริหาร และองค์การของพรรคทั่วประเทศ แต่เนื่องจากการยึดอำนาจขาดผู้นำแบบรวมศูนย์ จึงไม่มีความแน่ชัดว่าใครเป็นผู้ยึดมั่นในวิสัยทัศน์การปฏิวัติของเหมาโดยแท้จริง และใครที่เป็นผู้ฉวยโอกาสจากความโกลาหลเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง เกิดการก่อตัวของกลุ่มปฏิวัติที่เป็นคู่แข่งกัน เป็นการสำแดงถึงความบาดหมางของท้องถิ่นที่ก่อตัวมานานแล้ว ทำให้เกิด ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นระหว่างองค์การมวลชนและกองทัพเช่นกัน หลิน เปียวได้ตอบสนองปัญหานี้ด้วยการให้กองทัพสนับสนุนพวกหัวรุนแรง ในขณะเดียวกันกองทัพได้เข้าควบคุมบางมณฑลและท้องที่ซึ่งถือว่าไม่มีความสามารถในการเปลี่ยนถ่ายอำนาจของตนเองได้: 219–21
ในเมืองตอนกลางอย่างอู่ฮั่น เป็นเหมือนกันกับอีกหลาย ๆ เมือง มีองค์กรการปฏิวัติสองกลุ่มใหญ่ ๆ องค์กรหนึ่งสนับสนุนแนวทางอนุรักษ์นิยม อีกองค์กรก็ต่อต้าน ทั้งสองกลุ่มต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจในการควบคุมเมือง นายพลในพื้นที่แถบนี้ ใช้กำลังต่อต้านการชุมนุมประท้วงของกลุ่มที่สนับสนุนโดยเหมา อย่างไรก็ตามในช่วงที่เกิดโกลาหล เหมาเดินทางด้วยเครื่องบินไปอู่ฮั่นพร้อมเจ้าหน้าที่ส่วนกลางจำนวนมากเพื่อพยายามทำให้ทหารในพื้นที่ยังคงความจงรักภักดีอยู่ ในวันที่ 20 กรกฎาคม ค.ศ. 1967 ผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ได้ลักพาตัว ผู้แทนของเหมา ทำให้เกิดเหตุการณ์ ส่งผลให้นายพลเฉิน ไจ้เต้าถูกส่งไปยังปักกิ่งและถูกทดสอบโดยเจียง ชิง พร้อมกลุ่มปฏิวัติทางวัฒนธรรมคนอื่น ๆ การต่อต้านของเฉินถือเป็นการต่อต้านจากภายในครั้งสุดท้ายที่เคลื่อนไหวภายในกองทัพปลดปล่อยประชาชน: 214
จาง ชุนเฉียวซึ่งเป็นหนึ่งในแก๊งออฟโฟร์ก็ยอมรับเองว่า ปัจจัยที่สำคัญที่สุดของการปฏิวัติทางวัฒนธรรมไม่ใช่กลุ่มยุวชนแดง หรือ กลุ่มปฏิวัติทางวัฒนธรรม หรือ องค์กร "ก่อกบฏ" ใด ๆ แต่ปัจจัยสำคัญคือกองทัพปลดปล่อยประชาชน เมื่อกองกำลังปลดปล่อยประชาชนในท้องถิ่นให้การสนับสนุนกลุ่มหัวรุนแรงของเหมา และถ้าไม่มีการร่วมมือจากกลุ่มนี้ การปฏิวัติของเหมาก็ไม่ประสบผลสำเร็จ: 175 การปะทะกันอย่างรุนแรงเกิดขึ้นแทบทุกเมือง หลังเหตุการณ์ที่อู่ฮั่น เหมาและเจียง ชิงเริ่มจัดตั้ง กองกำลัง "กรรมกร" ติดอาวุธป้องกันตัวเอง, "กองกำลังปฏิวัติติดอาวุธในลักษณะมวลชน" เพื่อตอบโต้สิ่งที่เหมาประเมินว่ามีพวกขวาจัด "75% ในคณะนายทหารของกองทัพปลดปล่อยประชาชน" เมืองฉงชิ่ง ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตอาวุธ เป็นสถานที่ที่มีการปะทะกันอย่างดุเดือดของทั้งสองฝ่าย โดยในเขตก่อสร้างของเมือง มีการต่อสู้กันถึง 10,000 คน โดยใช้รถถัง ปืนใหญ่เคลื่อนที่ ปืนต่อต้านอากาศยานและอาวุธ "แทบทุกรูปแบบตามประเภทอาวุธทั่วไป" มีปลอกกระสุนปืนใหญ่ถึง 10,000 นัด ในเมืองฉงชิ่งเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1967: 214–15 ทั่วประเทศมีอาวุธปืนจำนวนทั้งสิ้น 18.77 ล้านกระบอก ปืนใหญ่ 14,828 กระบอก ระเบิด 2,719,545 ลูกอยู่ในมือพลเรือน และใช้ในช่วง ความขัดแย้งรุนแรง ซึ่งส่วนใหญ่เกิดในช่วงค.ศ. 1967 ถึง 1968 ในเมืองฉงชิ่ง เมืองเซี่ยเหมินและเมืองฉางชุน มีการใช้รถถัง รถหุ้มเกราะ หรือแม้แต่เรือรบในการต่อสู้
การกวาดล้างทางการเมืองและนโยบาย "การเคลื่อนไหวลงสู่ชนบท" (ค.ศ. 1968)
การชำระล้างระดับตำแหน่ง (พฤษภาคม-กันยายน)
ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1968 เหมาประกาศ "การชำระล้างระดับตำแหน่ง" ขนานใหญ่ เป็นการกวาดล้างทางการเมืองในจีนแผ่นดินใหญ่ เจ้าหน้าที่หลายคนถูกส่งไปยังชนบทเพื่อเข้ารับการศึกษาใหม่
ในวันที่ 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1968 อำนาจของยุวชนแดงที่มีเหนือกองทัพปลดปล่อยประชาชนได้สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ และรัฐบาลที่ถูกจัดตั้งขึ้นได้ส่งทหารไปปิดล้อมพื้นที่ที่ไม่เคยถูกแตะต้องโดยยุวชนแดง หนึ่งปีต่อมาฝ่ายยุวชนแดงถูกกวาดล้างจนหมด เหมาคาดการณ์ว่าความโกลาหลที่ยุวชนแดงทำขึ้นมาอาจทำให้มีวาระทางการเมืองของตนเอง และอาจถูกล่อลวงให้ต่อต้านอุดมการณ์การปฏิวัติ เหมาและพรรคพวกหัวรุนแรงพลิกกลับฝ่ายสนับสนุนและจัดตั้งอำนาจของตนเอง หลังจากที่เห็นว่าทุกอย่างบรรลุตามทวัตถุประสงค์ทั้งสิ้น
หลิวถูกขับไล่ออกจากพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนในการประชุมรวมครั้งที่ 12 ของคณะกรรมการกลางที่แปด ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1968 และมีการติดป้ายว่า "กองบัญชาการชนชั้นกระฎุมพี" ซึ่งดูเหมือนจะมีการพาดพิงถึง "การถล่มกองบัญชาการ" ที่เหมาเขียนไว้เมื่อสองปีก่อน
การเคลื่อนไหวลงสู่ชนบท (ธันวาคม ค.ศ. 1968)
ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1968 เหมาริเริ่มรณรงค์ "การเคลื่อนไหวลงสู่ชนบท" ในช่วงการเคลื่อนไหวนี้กินเวลาถึงทศวรรษต่อไป ชนชั้นกระฎุมพีหนุ่มสาวซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองถูกบังคับให้เดินทางไปยังชนบทเพื่อสัมผัสชีวิตการทำงาน มีการนิยามถึง "ปัญญาชนรุ่นเยาว์" อ้างถึงนักศึกษาที่พึ่งสำเร็จการศึกษา ในช่วงหลังทศวรรษที่ 1970 นักเรียนเหล่านี้ได้กลับบ้านเกิดในเมือง นักเรียนหลายคนเคยเป็นสมาชิกของยุวชนแดง ได้ออกมาสนับสนุนการเคลื่อนไหวและวิสัยทัศน์ของเหมา การเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนย้ายยุวชนแดงจากเมืองลงสู่ชนบท เพื่อให้เกิดภาวะความวุ่นวายทางสังคมให้น้อยลง นอกจากนี้เป็นการเผยแพร่นโยบายปฏิวัติของจีนในเชิงภูมิศาสตร์
"กระแสความคลั่งมะม่วง" และลัทธิบูชาตัวบุคคลของเหมา (สิงหาคม ค.ศ. 1968)
ในฤดูใบไม้ผลิ ค.ศ. 1968 มีการรณรงค์ครั้งใหญ่เพื่อสร้างเกียรติภูมิแก่เหมา ตัวอย่างที่โดดเด่นคือ "กระแสความคลั่งมะม่วง" ในวันที่ 4 สิงหาคม ค.ศ. 1968 เหมาได้รับมะม่วงจำนวน 40 ผลจาก เป็นการมอบให้ในเชิงการทูต เหมาให้ผู้ช่วยของเขาส่งมะม่วงไปให้ทีมโฆษณาชวนเชื่อของเหมา เจ๋อตง ที่มหาวิทยาลัยชิงหฺวา ในวันที่ 5 สิงหาคม ทีมงานได้ประจำการอยู่ที่นั่นซึ่งมีการปะทะกันอย่างเงียบ ๆ ท่ามกลางกลุ่มยุวชนแดง ในวันที่ 7 สิงหาคม มีการตีพิมพ์บทความลงในหนังสือพิมพ์เหรินหมินรื่อเป้า
ในช่วงบ่ายของวันที่ 5 มีข่าวยินดีอย่างยิ่งเมื่อท่านประธานเหมามอบมะม่วงให้แก่ทีมโฆษณาชวนเชื่อกรรมกรและชาวนาตามแนวคิดเหมา เจ๋อตง เมื่อมะม่วงมาถึงมหาวิทยาลัยชิงหฺวา ผู้คนต่างมารวมตัวกันรอบ ๆ ของขวัญที่ท่านประธานเหมาผู้ยิ่งใหญ่มอบให้ทันที พวกเขาตะโกนโห่ร้องอย่างดีใจและร้องเพลงอย่างเปรมปรีดิ์ น้ำตาไหลริน และพวกเขาส่งความปรารถนาอย่างจริงใจครั้งแล้วครั้งเล่าขอให้ผู้นำที่ยิ่งใหญ่อันเป็นที่รักยิ่งของพวกเรามีอายุยืนนับหมื่นปีอย่างไม่สิ้นสุด...พวกเขาได้โทรศัพท์ไปที่หน่วยงานของตนเพื่อเผยแพร่ข่าวอันน่ายินดียิ่งนี้ และพวกเขายังจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองหลากหลายตลอดทั้งคืน และเดินทางมาถึงจงหนานไห่ [ที่รวมตัวผู้นำ] ทั้ง ๆ ที่ฝนตกเพื่อรายงานข่าวดีนี้ และเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อประธานเหมาผู้ยิ่งใหญ่
บทความต่อมาก็เขียนโดยเจ้าหน้าที่รัฐมีการโฆษณาชวนเชื่อเรื่องการรับมะม่วง มีบทกลอนอื่นใน เหรินหมินรื่อเป้าเขียนว่า "จ้องมองมะม่วงทองคำนั้น/ราวกับเห็นท่านประธานเหมาผู้ยิ่งใหญ่...สัมผัสมะม่วงสีทองซ้ำแล้วซ้ำเล่านั้น/มะม่วงทองคำช่างแสนอบอุ่น" ในเวลานั้นในประเทศจีนมีเพียงไม่กี่คนที่เคยพบเห็นมะม่วงมาก่อน และมะม่วงถูกมองว่าเป็น "ผลไม้ที่หายากที่สุด เสมือนการหาเห็ดแห่งความอมตะ"
มะม่วงผลหนึ่งถูกส่งไปยังโรงงานสิ่งทอปักกิ่ง ซึ่งคณะกรรมการปฏิวัติได้จัดชุมนุมเฉลิมเกียรติให้มะม่วง คนงานได้อ่านคำกล่าวของเหมาและเฉลิมฉลองของขวัญ มีการสร้างแท่นบูชาเพื่อสดงผลไม้ให้เด่นชัด หลังจากนั้นสองสามวันเมื่อเปลือกมะม่วงเริ่มเน่า ก็มีการปลอกเปลือกออกและนำมะม่วงไปต้มน้ำในหม้อน้ำ จากนั้นคนงานก็จะได้รับน้ำมะม่วงคนละหนึ่งช้อนเต็ม คณะกรรมการปฏิวัติยังทำแบบจำลองของมะม่วงและตั้งแสดงที่ศูนย์กลางของโรงงาน จากนั้นหลายเดือน "กระแสความคลั่งมะม่วง" เป็นผลไม้ที่แสดงถึงการสร้าง "ความจงรักภักดีอย่างไร้ขอบเขต" ที่มีต่อประธานเหมา มีการสร้างมะม่วงจำลองมากขึ้น และส่งแบบจำลองไปทั่วกรุงปักกิ่งและหลาย ๆ สถานที่ของจีน คณะปฏิวัติหลายคนจากต่างจังหวัดมาทัศนศึกษาเพื่อดูงานมะม่วงจำลองในปักกิ่ง ผู้คนราวครึ่งล้านคนเดินทางมาเยี่ยมชมแบบจำลองมะม่วงเมื่อพวกเขามาถึงเมืองเฉิงตู ป้ายและโปสเตอร์ติดผนังมีรูปมะม่วงและเหมาสั่งผลิตป้ายเหล่านั้นจำนวนหลายล้านป้าย
ผลไม้เป็นจุดร่วมใช้กันในทุกองค์กรในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของทีมโฆษณาชวนเชื่อ มีการเดินขบวนครั้งใหญ่เพื่อสนับสนุน "เจินกุ้ย ลี่ปิ่น" (ของขวัญล้ำค่า) ซึ่งก็คือมะม่วงตามที่ทราบกัน ทันตแพทย์คนหนึ่งในเมืองเล็ก ๆ ชื่อ นายแพทย์ฮั่น ได้มองมะม่วงและกล่าวว่ามันไม่มีอะไรพิเศษเลยและรูปร่างก็เหมือนมันเทศ เขาจึงถูกดำเนินคดีในข้อหาใส่ร้ายป้ายสี และมีความผิด ต้องเดินประจานตัวเองไปรอบเมือง สุดท้ายถูกประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าที่ศีรษะ
มีการอ้างว่าเหมาใช้มะม่วงเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากแรงงาน ซึ่งจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อหยุดการต่อสู้ฝักฝ่ายในกลุ่มนักเรียนนักศึกษา และเป็น "ตัวอย่างที่สำคัญของกลยุทธ์การสนับสนุนเชิงสัญลักษณ์ของเหมา" แม้กระทั่งจนตั้งปีค.ศ. 1969 ผู้เข้าร่วมการศึกษาลัทธิเหมาในปักกิ่งจะมาพร้อมการถอดแบบผลิตเรื่องมะม่วงขนานใหญ่และยังคงได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนในมณฑลต่าง ๆ
วาระของหลิน เปียว (ค.ศ. 1969-1971)
การเปลี่ยนผ่านอำนาจ (เมษายน ค.ศ. 1969)
มีขึ้นในเดือนเมษายน ค.ศ. 1969 เป็นการ "ฟื้นฟู" พรรคด้วยความคิดใหม่ ๆ และผู้ปฏิบัติงานซึ่งเป็นคนหัวโบราณจำนวนมากถูกกำจัดไปในการต่อสู้เมื่อครั้งหลายปีก่อนแล้ว: 285 กรอบโครงสร้างเชิงสถาบันของพรรคที่ตั้งขึ้นเมื่อสองทศวรรษก่อนได้พังทลายลงเกือบทั้งหมด ผู้แทนในสภาถูกเลือกโดนคณะกรรมการปฏิวัติมากกว่าผ่านการเลือกตั้งจากสมาชิกพรรค: 288 ตัวแทนจากกองทัพเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับการประชุมสภาครั้งก่อน (28% ของผู้แทนทั้งหมดเป็นฝ่ายกองทัพปลดปล่อยประชาชน) และมีการเลือกตั้งฝ่ายกองทัพปลดปล่อยประชาชนมากขึ้นให้เข้าเป็นคณะกรรมการชุดใหม่: 292 นายทหารจำนวนมากได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นระดับอาวุโสซึ่งภักดีต่อจอมพลของกองทัพปลดปล่อยประชาชน คือ หลิน เปียว ทำให้เกิดความแตกแยกเป็นฝักฝ่ายของผู้นำฝ่ายกองทัพและผู้นำฝ่ายพลเรือน: 292
— นายกรัฐมนตรีโจว เอินไหลกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมสภาพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนครั้งที่เก้า
หลิน เปียวได้รับการเลื่อนตำแหน่งอย่างเป็นทางการให้เป็นบุคคลลำดับที่สองของพรรค โดยมีชื่อของเขาถูกเขียนรับรองใน ในฐานะ "สหายที่สนิทที่สุด"ของเหมาและ "ผู้สืบทอดอันเป็นที่ยอมรับในระดับสากล": 291 ในเวลานั้นไม่มีพรรคคอมมิวนิสต์หรือรัฐบาลใด ๆ ในโลกที่นำแนวปฏิบัติในการบรรจุผู้สืบทอดตำแหน่งคนต่อไปไว้ในรัฐธรรมนูญ การปฏิบัตินี้ถือเป็นเอกลักษณ์ของจีน หลินกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุม โดยมีเอกสารที่ร่างโดยพวกหัวรุนแรงฝ่ายซ้ายอย่างเหยา เหวินหยวนและจาง ชุนเฉียว ภายใต้การกำกับดูแลของเหมา: 289 เอกสารดังกล่าววิพากษ์วิจารณ์หลิว เช่าฉีและ "ผู้ปฏิปักษ์การปฏิวัติ" อย่างหนักและมีการนำข้อความในหนังสือเล่มแดงของเหมามาใช้อย่างมาก การประชุมสภาได้เสริมความแข็งแกร่งให้แก่บทบาทของลัทธิเหมาภายในจิตใจของพรรค โดยแนะนำลัทธิเหมาอีกครั้งว่าเป็นอุดมการณ์ชี้นำอย่างเป็นทางการของพรรคในรัฐธรรมนูญของพรรค สุดท้ายสภาได้เลือกสมาชิกโปลิตบูโลใหม่โดยมีเหมา เจ๋อตง, หลิน เปียว, เฉิน ป๋อต๋า, โจว เอินไหลและคัง เซิง เป็นคณะกรรมการประจำกรมการเมือง หลิน, เฉินและคังต่างได้รับประโยชน์จากการปฏิวัติทางวัฒนธรรม โจวถูกลดตำแหน่งและแสดงการสนับสนุนต่อหลินอย่างชัดแจ้งในสภา: 290 เหมายังได้ฟื้นฟูการทำงานของสถาบันพรรคที่เป็นทางการบางแห่ง เช่น การดำเนินงานของโปลิตบูโรของพรรค ซึ่งหยุดดำเนินการไปตั้งแต่ปีค.ศ. 1966 และ 1968 เนื่องจากกลุ่มปฏิวัติทางวัฒนธรรมกลางได้ควบคุมอำนาจ "โดยพฤตินัย" ของประเทศ: 296
กองทัพปลดปล่อยประชาชนก้าวเข้ามามีบทบาทโดดเด่น (ค.ศ. 1970)
ความพยายามของเหมาในการจัดระเบียบพรรคและสถาบันของรัฐทำให้เกิดผลลัพธ์ที่หลากหลาย มณฑลห่างไกลหลายแห่งยังคงวุ่นวายในขณะที่ในปักกิ่งมีเสถียรภาพทางการเมือง การต่อสู้ระหว่างกลุ่มต่าง ๆ ยังคงมีความรุนแรงและยังดำเนินต่อไปในระดับท้องถิ่น แม้ว่าจะมีการประกาศในการประชุมครั้งที่เก้าว่า เป็น "ชัยชนะ" ชั่วคราวของการปฏิวัติทางวัฒนธรรม: 316 นอกจากนี้ถึงแม้ว่าเหมาพยายามสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในสภา แต่ก็มีการแบ่งฝ่ายระหว่างกองทัพปลดปล่อยประชาชนของหลิน เปียว และกลุ่มพวกหัวรุนแรงของเจียง ชิง ที่ทำให้ความขัดแย้งทวีความรุนแรงมากขึ้น การที่ผู้นำบางคนไม่ชอบเจียง ชิงเป็นการส่วนตัวได้ดึงดูดให้ผู้นำพลเรือนจำนวนมากพยายามออกห่าง รวมถึงนักทฤษฎีที่มีชื่อเสียงอย่าง เฉิน ป๋อต๋าที่หันมาใกล้ชิดกับหลิน เปียว: 115
ในระหว่างค.ศ. 1966 และค.ศ. 1968 จีนถูกโดดเดี่ยวในระดับสากลโดยได้ประกาศความเป็นปฏิปักษ์ต่อทั้งสหภาพโซเวียตและสหรัฐอเมริกา ความขัดแย้งกับสหภาพโซเวียตทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากมีการที่ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1969 โดยผู้นำจีนเตรียมพร้อมทำสงคราม: 317 ในเดือนตุลาคม ผู้นำระดับสูงได้อพยพออกจากปักกิ่ง: 317 ท่ามกลางความตึงเตรียดนี้ หลิน เปียวได้ออกคำสั่งฝ่ายบริหารให้เตรียมทำสงครามส่งไปยังกองพันทหารปลดปล่อยประชาชนทั้ง 11 กองพันในวันที่ 18 ตุลาคม โดยไม่ผ่านเหมา สิ่งนี้สร้างความโกรธเคืองของประธานเหมา จึงเป็นหลักฐานว่าอำนาจของเขาอาจถูกแย่งชิงก่อนเวลาอันควรโดยผู้สืบทอดของเขาเอง: 317
โอกาสในการทำสงครามได้ทำให้กองทัพปลดปล่อยประชาชนมีความโดดเด่นในการเมืองภายในประเทศ โดยเพิ่มพื้นที่ความนิยมของหลินแต่แลกมาด้วยความนิยมของเหมาที่ถูกบดบัง: 321 มีหลักฐานบางอย่างชี้ให้เห็นว่า เหมาถูกผลักดันให้แสวงหาความใกล้ชิดกับสหรัฐอเมริกามากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการครอบงำการเมืองของกองทัพปลดปล่อยประชาชนในกิจการภายใน อันเป็นผลมาจากการเผชิญหน้าทางทหารกับสหภาพโซเวียต: 321 เหมาได้พบปะกับริชาร์ด นิกสัน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในปีค.ศ. 1972 เหมากล่าวเป็นนัยกับประธานาธิบดีว่า หลินไม่เห็นด้วยกับการแสวงหาความสัมพันธ์อันดีกับสหรัฐอเมริกา: 322
ฟื้นฟูตำแหน่งประธานาธิบดี (ประธานแห่งรัฐ)
หลังจากหลินได้รับการยืนยันในฐานะผู้สืบทอดของเหมา ผู้สนับสนุนเขาได้มุ่งมั่นในการฟื้นฟูตำแหน่งประธานาธิบดี (ประธานแห่งรัฐ) ซึ่งถูกยุบเลิกไปโดยเหมา เจ๋อตงในช่วงกวาดล้างหลิว เช่าฉี พวกเขาหวังว่าการอนุญาตให้หลินผ่อนคลายบทบาทในการแทรกแซงตามรัฐธรรมนูญของประธานและรองประธาน จะทำให้การสืบทอดตำแหน่งของหลินมีความเป็นสถาบัน ฉันทามติภายในได้ระบุให้เหมาดำรงตำแหน่งนี้โดยมีหลินเป็นรองประธาน แต่เหมาได้เปล่งเสียงคัดค้านอย่างชัดเจนโดยไม่มีสาเหตุ ซึ่งเป็นการคัดค้านต่อการสถาปนาตำแหน่งขึ้นมาใหม่และความหยิ่งผยองของเขา: 327
การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นของแต่ละฝ่ายทวีความรุนแรงขึ้นในการประชุมครั้งที่สองของคณะกรรมการที่เก้าในหลูชาน ปลายเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1970 เฉิน ป๋อต๋าซึ่งขณะนี้อยู่แนวร่วมเดียวกับกองทัพปลดปล่อยประชาชนที่จงรักภักดีต่อหลิน สนับสนุนการบูรณะทำเนียบประธานาธิบดีจีน แม้ว่าเหมาจะมีความเห็นตรงข้ามก็ตาม: 331 นอกจากนี้เฉินยังเปิดฉากโจมตีจาง ชุนเฉียว ผู้สนับสนุนลัทธิเหมาและเป็นผู้สร้างความวุ่นวายในการปฏิวัติทางวัฒนธรรม ว่าทำไปนอกเหนือจากที่เหมาต้องการ: 328
การโจมตีจางทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมยินดีอย่างมากในการประชุมกรรมการ และอาจถูกตีความโดยเหมาว่าเป็นการโจมตีทางอ้อมต่อการปฏิวัติทางวัฒนธรรม เหมาเผชิญหน้ากับเฉินอย่างเปิดเผย ประณามเขาว่าเป็น "ลัทธิมากซ์จอมปลอม": 332 และปลดเขาออกจากคณะกรรมการประจำกรมการเมือง นอกเหนือจากการกำจัดเฉิน เหมายังขอให้หลินเขียนหลักการข้อวิพากษ์วิจารณ์ตัวเองเกี่ยวกำตำแหน่งทางการเมือง เพื่อเป็นการเตือนหลิน เหมายังได้แต่งตั้งผู้สนับสนุนเขาหลายคนเข้าร่วมคณะกรรมาธิการทหารกลาง และวางตำแหน่งผู้จงรักภักดีต่อเขาเข้าไปเป็นผู้นำใน: 332
เที่ยวบินของหลิน เปียว (กันยายน ค.ศ. 1971)
ในปีค.ศ. 1971 ผลประโยชน์ที่แตกต่างกันระหว่างฝ่ายพลเรือนกับฝ่ายทหารก็ปรากฏให้เห็น เหมามีปัญหากับความโดดเด่นที่กองทัพปลดปล่อยประชาชนที่เพิ่งมีขึ้นมา และการกวาดล้างเฉิน ป๋อต๋า เป็นจุดเริ่มต้นของการลดขอบเขตการมีส่วนร่วมทางการเมืองของกองทัพปลดปล่อยประชาชนอย่างค่อยเป็นค่อยไป: 353 ตามแหล่งข้อมูลของทางการระบุว่าเมื่อหลินมีอำนาจที่ลดน้อยถอยลง สุขภาพของเขาก็ย่ำแย่ลงด้วย ผู้สนับสนุนหลินวางแผนที่จะใช้อำนาจทางทหารที่ยังมีอยู่ขับไล่ประธานเหมาด้วยการรัฐประหาร
บุตรชายของหลิน เปียวและนายทหารระดับสูงผู้สมรู้ร่วมคิดหลายคนพยายามจัดตั้งกลไกรัฐประหารในเซี่ยงไฮ้และวางโครงการขับไล่เหมาด้วยกำลังในชื่อ เค้าโครง ซึ่งเป็นคำคล้ายกับคำว่า "การลุกฮือทางทหาร" ในภาษาจีนกลาง ยังเป็นที่ถกเถียงว่าหลิน เปียวมีส่วนร่วมในขบวนการนี้หรือไม่ ในขณะที่แหล่งข่าวอย่างเป็นทางการของจีนยืนยันว่า หลินวางแผนและดำเนินการก่อรัฐประหาร นักวิชาการอย่างจิน ชิว ได้ให้ภาพหลินว่าเป็นตัวละครที่ไม่โต้ตอบซึ่งถูกสมาชิกในครอบครัวและผู้สนับสนุนของเขาควบคุม ชิวโต้แย้งว่าหลิน เปียวไม่เคยมีส่วนร่วมในโครงร่างนั้นและมีหลักฐานชี้ชัดว่าหลิน ลี่กั่วร่างแผนการรัฐประหาร
"เค้าโครง" ถูกกล่าวว่าส่วนใหญ่มีแผนการทิ้งระเบิดทางอากาศโดยใช้กองทัพอากาศ ตอนแรกมีการพุ่งเป้าไปที่จาง ชุนเฉียวและเหยา เหวินหยวน แต่ตอนหลังมีการดึงเหมาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และถ้าแผนการสำเร็จ หลินจะทำการจับกุมคู่แข่งทางการเมืองและเข้ายึดอำนาจ มีการอ้างว่ามีความพยายามบอบสังหารเหมาในเซี่ยงไฮ้ ในวันที่ 8 - 10 กันยายน ค.ศ. 1971 มีการรับรู้ความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของเหมาและได้มีการส่งเตือนไปยังประธาน รายงานภายในฉบับหนึ่งอ้างว่าหลินวางแผนที่จะระเบิดสะพานซึ่งเหมาต้องสัญจรผ่านเพื่อเข้าปักกิ่ง มีรายงานว่าเมื่อเหมาได้รับข่าวกรองเขาจึงเลี่ยงที่จะผ่านสะพานนี้
การตายของหลิน เปียว
ตามรายงานของทางการเมื่อวันที่ 13 กันยายน ค.ศ. 1971 หลิน เปียวพร้อมภริยาคือ บุตรชายคือ หลิน ลี่กั่วและทีมงานของเขาได้หลบหนีไปยังสหภาพโซเวียตเพื่อขอลี้ภัย ระหว่างเดินทางเครื่องบินของหลินตกในสาธารณรัฐประชาชนมองโกเลีย ทุกคนบนเครื่องบินเสียชีวิตทั้งหมด เห็นได้ชัดว่าเครื่องบินน้ำมันหมดระหว่างเดินทางไปยังสหภาพโซเวียต ทีมงานของโซเวียตได้สืบสวนเหตุการณ์นี้ไม่สามารถระบุสาเหตุการชนได้ แต่ตั้งสมมติฐานว่านักบินกำลังบินต่ำเพื่อหลบเรดาห์และเขาประเมินยอดความสูงของเครื่องบินผิด
รายงานของทางการถูกตั้งคำถามโดยนักวิชาการต่างชาติ ซึ่งตั้งข้อสงสัยในการที่หลินเลือกโซเวียตเป็นจุดหมายปลายทาง เรื่องเส้นทางเครื่องบิน ตัวตนของผู้โดยสาร และการรัฐประหารเกิดขึ้นจริงหรือไม่
ในวันที่ 13 กันยายน โปลิตบูโรได้ประชุมฉุกเฉินในวาระเรื่องหลิน เปียว เฉพาะวันที่ 30 กันยายนเท่านั้นที่มีการยืนยันการเสียชีวิตของหลิน เปียวไปทั่วกรุงปักกิ่ง ซึ่งนำไปสู่การยกเลิกกิจกรรมเฉลิมฉลองวันชาติจีนในวันรุ่งขึ้น คณะกรรมการกลางปกปิดข้อมูล และข่าวการเสียชีวิตของหลินไม่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนจนเลยเวลาสองเดือนหลังจากเกิดเหตุ ผู้สนับสนุนหลินหลายคนลี้ภัยในฮ่องกง ส่วนคนที่ยังอยู่แผ่นดินใหญ่ได้ถูกกวาดล้าง เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้นำพรรคไม่ทันระวังตัว แนวคิดที่ว่าหลินสามารถทรยศเหมาได้ ทำให้เป็นการทำลายความชอบธรรมในวาทศิลป์ทางการเมืองของการปฏิวัติทางวัฒนธรรม เนื่องจากนามของหลินปรากฏชัดแจ้งในรัฐธรรมนูญของพรรคในฐานะ"สหายที่สนิทที่สุด" ของเหมาและ "ผู้สืบทอดตำแหน่งคนต่อไป" เป็นเวลาหลายเดือนหลังจากเกิดเหตุการณ์ ทางพรรคมีความวุ่นวายในการหา "หนทางที่ถูกต้อง" ในการป้อนข้อมูลเหตุการณ์ต่อสาธารณขน
"แก๊งออฟโฟร์" (ค.ศ. 1972-1976)
ความเป็นปรปักษ์ต่อโจวและเติ้ง (ค.ศ. 1972-1973)
เหมารู้สึกหดหู่และปลีกตัวเองหลังจากเหตุการณ์หลิน เปียว เมื่อหลินตาย เหมาก็ไม่มีคำตอบว่าใครจะเป็นผู้สืบทอดอำนาจต่อจากเขา เหมารู้สึกสูญเสียทิศทางกะทันหัน เขาจึงพยายามติดต่อกับสหายเก่าที่เขาเคยประณามในอดีต ในขณะเดียวกัน เดือนกันยายน ค.ศ. 1972 เหมาได้ย้ายแกนนำพรรควัย 38 ปีจากเซี่ยงไฮ้ ชื่อ หวัง หงเหวินมายังปักกิ่ง และให้เขาเป็นรองประธานพรรค: 357 หวังเป็นอดีตแรงงานในโรงงานที่มีพื้นเพมาจากชาวนา: 357 และมีการดูแลเขาอย่างดีเพื่อปูทางให้ขึ้นสืบตำแหน่ง: 364 ตำแหน่งของเจียง ชิงแข็งแกร่งขึ้นหลังจากเกิดเหตุเที่ยวบินของหลิน เธอมีอิทธิพลที่น่าเกรงขามในฝ่ายหัวรุนแรง เมื่อสุขภาพของเหมาทรุดโทรมอย่างเห็นได้ชัด จึงเป็นที่สังเกตได้ว่าเจียง ชิงมีความทะเยอทะยายเพื่อตัวของเธอเอง เธอสร้างพันธมิตรกับหวัง หงเหวิน และผู้เชี่ยวชาญโฆษณาชวนเชื่ออย่าง จาง ชุนเฉียวและเหยา เหวินหยวน จัดตั้งกลุ่มทางการเมืองที่ถูกขนานนามในภายหลังว่า "แก๊งออฟโฟร์"
ในปีค.ศ. 1973 การต่อสู้ทางการเมืองครั้งแล้วครั้งเล่า ได้ทิ้งให้สถาบันระดับล่างหลายแห่ง ทั้งรัฐบาลท้องถิ่น โรงงานและทางรถไฟ ต้องขาดเจ้าหน้าที่ที่มีความสามารถที่จำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่พื้นฐาน: 340 เศรษฐกิจของประเทศอยู่ในภาวะระส่ำระส่าย ซึ่งต้องฟื้นฟูตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับล่างที่ถูกกวาดล้างออกไป แต่ส่วนกลางของพรรคกลับถูกครอบงำโดยผู้ได้รับผลประโยชน์จากการปฏิวัติทางวัฒนธรรรมและกลุ่มฝ่ายซ้ายหัวรุนแรง ซึ่งยังคงมุ่งเน้นสร้างความบริสุทธิ์ทางอุดมการณ์เหนือผลิตภาพทางเศรษฐกิจ ส่วนใหญ่ด้านเศรษฐกิจยังคงอยู่ภายใต้การดูแลของโจว เอินไหล เป็นคน "เอียงซ้าย" ที่เจียมเนื้อเจียมตัวเพียงไม่กี่คน โจวพยายามฟื้นฟูให้เศรษฐกิจดำเนินต่อไปได้ แต่กลับถูกแก๊งออฟโฟร์ไม่พอใจ โดยระบุว่าเขาเป็นภัยคุกคามทางการเมืองต่อการสืบทอดตำแหน่งหลังสมัยของเหมา
ในหลังปี 1973 เพื่อทำให้ตำแหน่งทางการเมืองของโจวอ่อนแอลง และพยายามทำให้พวกตัวเองถอยห่างจากการทรยศของหลิน แก๊งออฟโฟร์จึงออกนโยบาย "" ภายใต้การควบคุมของเจียง ชิง: 366 มีเป้าหมายเพื่อกวาดล้างลัทธิขงจื๊อสมัยใหม่และประณามหลิน เปียวว่าเป็นผู้ทรยศและเป็นพวกถ่วงรั้งความเจริญ: 372 เป็นการฟื้นคืนช่วงปีแรกของการปฏิวัติทางวัฒนธรรม แต่เป็นการต่อสู้กับการเปรียบเปรยทางประวัติศาสตร์ และแม้ชื่อของโจว เอินไหลจะไม่ถูกกล่าวถึงในการรณรงค์นี้ แต่ชื่อของนายกรัฐมนตรีกลับไปพ้องกับโจวกงหวัง สมาชิกของราชวงศ์โจวในอดีตที่ถูกมาเป็นเป้าโจมตีบ่อยครั้ง
การกอบกู้ชื่อเสียงของเติ้งและการฟื้นฟูเศรษฐกิจ (ค.ศ. 1975)
ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบางและโจวล้มป่วยด้วยโรคมะเร็ง เติ้ง เสี่ยวผิงกลับเข้ามาสู่ฉากการเมืองอีกครั้ง โดยรับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1973 เป็นการแต่งตั้งครั้งแรกที่ได้รับการอนุมัติจากเหมา หลังจากโจวถอนตัวจากการเมืองในเดือนมกราคม ค.ศ. 1975 เติ้งได้รับมอบหมายให้ดูแลรัฐบาล พรรคและกองทัพ โดยเข้าได้รับตำแหน่งเพิ่มเติมเป็น เป็นรองประธานพรรคอีกคนหนึ่งและเป็นรองประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง (จีน) ในระยะเวลาสั้น ๆ: 381
การกอบกู้ชื่อเสียงของเติ้งอย่างรวดเร็ว ทำให้ฝ่ายหัวรุนแรงซึ่งมองว่าตัวเองเป็นทายาททางการเมืองและอุดมการณ์ที่ชอบธรรมของเหมา มองดูด้วยความประหลาดใจ เหมาต้องการใช้เติ้งเป็นตัวถ่วงดุลฝ่ายกองทัพในรัฐบาลเพื่อปราบปรามผู้ที่ยังภักดีต่อหลิน เปียวที่ยังคงเหลืออยู่ นอกจากนี้เหมายังสูญเสียความมั่นใจในความสามารถของแก๊งออฟโฟร์ในการจัดการปัญหาเศรษฐกิจ และเขามองว่าเติ้งเป็นผู้นำที่มีความสามารถและมีประสิทธิภาพ การปล่อยให้ประเทศมีความยากจนต่อไปไม่เป็นผลดีต่อการปฏิวัติทางวัฒนธรรม อันเป็นสิ่งที่เหมาลงมืออย่างหนักเพื่อปกป้องมาตลอด การกลับมาของเติ้งทำให้การต่อสู้ระหว่างฝักฝ่ายมีความยืดเยื้อระหว่างแก๊งออฟโฟร์กับฝ่ายสายกลางที่นำโดยโจวและเติ้ง
ในเวลานั้น เจียง ชิงและฝ่ายของเธอได้ควบคุมสื่อมวลชนและเครื่อข่ายการโฆษณาชวนเชื่อของพรรคอย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่โจวและเติ้งควบคุมกลไกส่วนใหญ่ของรัฐบาล ในการตัดสินใจบางเรื่อง เหมาพยายามลดอิทธิพลของแก๊งออฟโฟร์ แต่สำหรับคนอื่น เหมาพยายามทำตามข้อเรียกร้องของพวกเขา การควบคุมอย่างหนักหน่วงของแก๊งออฟโฟร์ต่อสื่อและการเมืองไม่สามารถกีดกันเติ้งในการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของเขาได้ เติ้งคัดค้านอย่างเด่นชัดในการต่อต้านการแตกแยกเป็นฝ่ายในพรรค และนโยบายของเขามุ่งสร้างความสามัคคีอย่างเป็นขั้นเป็นตอนโดยมีเป้าหมายแรกคือฟื้นฟูผลิตภาพทางเศรษฐกิจ: 381
เช่นเดียวกับการปรับโครงสร้างหลังยุคการก้าวกระโดดไกลไปข้างหน้าที่ดำเนินการโดยหลิว เช่าฉี เติ้งได้ปรับปรุง, และพื้นที่สำคัญอื่น ๆ ทางเศรษฐกิจ แต่ในหลังปีค.ศ. 1975 เหมาเห็นว่าการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจของเติ้งอาจจะลบล้างการปฏิวัติทางวัฒนธรรม และเขาได้เริ่มการรณรงค์ต่อต้าน "การฟื้นฟูกรณีของพวกฝ่ายขวา" ซึ่งทำให้เติ้งกลายเป็น "ฝ่ายขวา" ที่เด่นชัดที่สุดในประเทศ เหมาจึงสั่งให้เติ้งเขียนคำวิจารณ์ตนเองในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1975 ซึ่งการเคลื่อนไหวที่ได้รับการสรรเสริญจากแก๊งออฟโฟร์: 381
การอสัญกรรมของโจว เอินไหล (ต้น ค.ศ. 1976)
ในวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 1976 โจว เอินไหลถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ในวันที่ 15 มกราคม เติ้ง เสี่ยงผิงได้มีแถลงการณ์โจวอย่างเป็นทางการในรัฐพิธีฝังศพ โดยผู้นำระดับสูงของจีนเข้าร่วมพิธีทั้งหมด จะขาดก็แต่เพียงตัวเหมาเอง ซึ่งทำการวิพากษ์วิจารณ์โจวมากขึ้นเรื่อย ๆ: 217–18 : 610 หลังจากโจวถึงแก่อสัญกรรม เหมาไม่ได้เลือกทั้งเติ้งหรือสมาชิกในแก๊งออฟโฟร์เป็นนายกรัฐมนตรี แต่เขากลับเลือกฮั่ว กั๋วเฟิง ซึ่งไม่เป็นที่รู้จักแทน
แก๊งออฟโฟร์เริ่มวิตกกังวลว่าการที่โจวได้รับความนิยมจากสาธารณชนอย่างกว้างขวางจะทำให้เกิดการพลิกกระแสทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อพวกเขาได้ พวกเขาจึงดำเนินการผ่านสื่อเพื่อแจ้งข้อกำหนดข้อจำกัดในการแสดงความไว้อาลัยต่อโจวในที่สาธารณะ ความขุ่นเคืองที่เกิดขึ้นในช่วงการปฏิวัติทางวัฒนธรรม การกดขี่ข่มเหงเติ้ง เสี่ยวผิงในที่สาธารณะ (มองว่าเขาเป็นพันธมิตรกับโจว) และการห้ามไม่ให้มีการไว้ทุกข์ในที่สาธารณะทำให้เกิดความไม่พอใจต่อเหมาและแก๊งออฟโฟร์: 213
ความพยายามอย่างเป็นทางการในการบังคับใช้ข้อจำกัดการไว้อาลัย รวมถึงการลบอนุสรณ์สาธารณะและทำลายโปสเตอร์ที่ระลึกความสำเร็จของโจว ในวันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 1976 หนังสือพิมพ์เซี่ยงไฮ้ เรียกโจวว่าเป็น "นายทุนผู้ฝังรากอยู่ในพรรค [ผู้] ต้องการช่วยนายทุนผู้ฝังรากที่ไม่ยอมสำนึก [เติ้ง] ให้กลับคืนสู่อำนาจ" ความพยายามโฆษณาชวนเชื่อนี้เป็นการทำลายภาพลักษณ์ของโจว แต่กลับกลายเป็นว่า ทำให้สาธารณชนมีความผูกพันในความทรงจำที่มีต่อโจวอย่างแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นไปอีก: 214
เหตุการณ์เทียนอันเหมิน (เมษายน ค.ศ. 1976)
ในวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 1976 วันก่อนเทศกาลเช็งเม้งประจำปีของจีน ซึ่งเป็นวันประเพณีสำหรับการไว้อาลัย ผู้คนหลายพันคนมารวมตัวกันที่ในจัตุรัสเทียนอันเหมินเพื่อรำลึกถึงโจว เอินไหล ชาวปักกิ่งให้เกียรติโจว เอินไหลด้วยการวางพวงมาลา ป้าย บทกลอน ใบปลิวและดอกไม้ที่เชิงอนุสาวรีย์: 612 จุดประสงค์ที่ชัดเจนในการรำลึกนี้เป็นการยกย่องโจว และแก๊งออฟโฟร์ได้ถูกโจมตีจากการกระทำที่พวกเขาทำต่อนายกรัฐมนตรีผู้ล่วงลับ มีคำคติพจน์จำนวนเล็กน้อยติดอยู่ที่เทียนอันเหมินซึ่งเป็นการโจมตีตัวเหมาเองและการปฏิวัติทางวัฒนธรรมของเขา: 218
ผู้คนมากกว่าสองล้านคนมาที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในวันที่ 4 เมษายน: 218 ผู้คนทุกระดับชั้น ตั้งแต่ชาวนาที่ยากจนที่สุดไปถึงเจ้าหน้าที่กองทัพปลดปล่อยประชาชนระดับสูง และลูกหลานของเจ้าหน้าที่ระดับสูงได้เข้าร่วมกิจกรรม ผู้เข้าร่วมมีแรงจูงใจที่ผสมผสานระหว่างความโกรธแค้นต่อสิ่งที่โจวถูกกระทำ การต่อต้านการปฏิวัติทางวัฒนธรรม และความหวาดหวั่นในอนาคตของจีน เหตุการณ์นี้ไม่มีใครเป็นผู้นำ แต่เป็นการสะท้อนความรู้สึกของสาธารณชน: 219–20
คณะกรรมการกลางภายใต้การนำของเจียง ชิง ตราหน้าว่างานนี้เป็น "ปฏิปักษ์ปฏิวัติ" และพยายามเก็บกวาดสิ่งของที่รำลึกภายในเวลาอันสั้นหลังเที่ยงคืนวันที่ 6 เมษายน มีความพยายามปราบปรามผู้ไว้ทุกข์นำไปสู่การจลาจลรุนแรง รถตำรวจถูกจุดไฟเผา และฝูงชนกว่า 10,000 คน ถูกบังคับให้เข้าไปในอาคารราชการหลาย ๆ แห่งรอบจัตุรัส: 612 ภายหลังผู้ถูกจับกุมหลายคนถูกตัดสินให้จำคุกในค่ายกักกัน เหตุการณ์ที่คล้ายกันเกิดขึ้นในเมืองใหญ่อื่น ๆ เจียง ชิงและพันธมิตรของเธอตราหน้า เติ้ง เสี่ยวผิง ว่าเป็น "ผู้บงการ" ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้มีการรายงานออกสื่ออย่างเป็นทางการ เติ้งจึงถูกปลดจากทุกตำแหน่งทั้ง "ภายในและภายนอกพรรค" อย่างเป็นทางการในวันที่ 7 เมษายน ซึ่งเป็นการกวาดล้างเติ้งเป็นครั้งที่สองในรอบสิบปี: 612
การอสัญกรรมของเหมาและการจับกุมแก๊งออฟโฟร์ (กันยายน ค.ศ. 1976)
ในวันที่ 9 กันยายน ค.ศ. 1976 เหมา เจ๋อตงถึงแก่อสัญกรรม ในส่วนของผู้สนับสนุนเหมา อสัญกรรมของเขาเป็นสัญลักษณ์ของการสูญเสียรากฐานการปฏิวัติจีน เมื่อมีการประกาศการอสัญกรรมของเขาในช่วงบ่ายของวันที่ 9 กันยายน ในการแถลงข่าวเรื่อง "ประกาศคณะกรรมการกลาง สภาประชาชนแห่งชาติจีน สภารัฐกิจสาธารณรัฐประชาชนจีน คณะกรรมาธิการทหารกลาง ถึงพรรคทั้งมวล กองทัพทั้งมวล และประชาชนทุกสัญชาติทั่วประเทศ" ประเทศตกอยู่ในความเศร้าโศก มีผู้คนร้องไห้ตามท้องถนนและหน่วยงานราชการหยุดทำการนานกว่าหนึ่งสัปดาห์ ฮั่ว กั๋วเฟิง เป็นประธานคณะกรรมการรัฐพิธีศพและกล่าวสุนทรพจน์รำลึก
ไม่นานก่อนเหมาจะเสียชีวิต เหมาได้เขียนข้อความถึงฮั่วอย่างเป็นนัยว่า "ให้คุณดูแล ฉันก็สบายใจแล้ว" ฮั่วจึงใช้ข้อความนี้ยืนยันตัวตนของเขาในฐานะทายาททางการเมือง ฮั่วได้รับการพิจารณาอย่างกว้างขวางว่าขาดทักษะทางการเมืองและความทะเยอทะยาน และดูเหมือนจะไม่เป็นภัยร้ายแรงต่อแก๊งออฟโฟร์ซึ่งพยายามแข่งขันเพื่อสืบทอดตำแหน่ง แต่แนวคิดที่รุนแรงของแก๊งออฟโฟร์ก็เกิดความขัดแย้งกับเหล่าผู้อาวุโสที่มีอิทธิพลและกลุ่มนักปฏิรูปของพรรคหลายคน จากการสนับสนุนของกองทัพภายใต้นายพลเย่ เจี้ยนอิง ทำให้กองกำลังของหน่วยพิเศษ 8341 หรือ ได้ออกปฏิบัติการในวันที่ 6 ตุลาคม เข้าจับกุมสมาชิกแก๊งออฟโฟร์ทั้งหมดในการรัฐประหารที่ไม่มีการเสียเลือดเนื้อ
หลังจากนั้น
สมัยเปลี่ยนผ่าน
แม้ว่าฮั่ว กั๋วเฟิงจะประณามแก๊งออฟโฟร์ต่อหน้าสาธารณชนในปีค.ศ. 1976 แต่เขาก็ยังคงสนับสนุนความบริสุทธิ์ของนโยบายของเหมา ฮั่วเป็นหัวหอกในการสนับสนุนแนวคิด "" กล่าวคือ "นโยบายที่มาจากท่านประธานเหมา เราต้องสนับสนุนต่อไป" และ "ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ท่านประธานเหมามอบให้เรา เราต้องปฏิบัติตามต่อไป" ฮั่วก็เหมือนกับเติ้งที่ว่าต้องการย้อนกลับก่อนที่การปฏิวัติทางวัฒนธรรมจะสร้างความเสียหาย แต่เขาก็ไม่เหมือนกับเติ้งตรงที่ เติ้งต้องการเสนอรูปแบบเศรษฐกิจใหม่ของจีน แต่ฮั่วกลับต้องการย้ายระบบเศรษฐกิจและการเมืองจีนไปสู่การวางแผนแบบโซเวียตในช่วงต้นทศวรรษที่ 1950
ฮั่วมีความชัดเจนมากขึ้นที่ว่าหากไม่มีเติ้ง เสี่ยวผิง ก็จะเป็นเรื่องยากที่จะดำเนินกิจการของรัฐต่อไป ในวันที่ 10 ตุลาคม เติ้งได้เขียนจดหมายถึงฮั่วเป็นการส่วนตัวเพื่อขอย้ายกลับไปทำงานในกิจการของรัฐและพรรค ผู้อาวุโสของพรรคก็เรียกร้องให้เรียกเติ้งกลับมา ด้วยความกดดันจากทุกฝ่ายนายกรัฐมนตรีฮั่วจึงแต่งตั้งเติ้งเป็นรองนายกรัฐมนตรีในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1977 และหลังจากนั้นมีการเลื่อนให้เขาดำรงตำแหน่งอื่น ๆ ส่งผลให้เติ้งเป็นบุคคลที่มีอำนาจทางการเมืองมากเป็นอันดับสองของจีน ในเดือนสิงหาคม จัดขึ้นในกรุงปักกิ่ง มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการให้ฮั่ว กั๋วเฟิง, เย่ เจี้ยนอิง, เติ้ง เสี่ยวผิง, หลี่ เซียนเนี่ยนและ เป็นสมาชิกใหม่ของคณะกรรมการประจำกรมการเมือง
เติ้ง เสี่ยวผิงทำให้การปฏิวัติทางวัฒนธรรมไร้ผล
เติ้ง เสี่ยวผิงเสนอแนวคิดเรื่อง "" ครั้งแรกในเดือนกันยายน ค.ศ. 1977 เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดของการปฏิวัติทางวัฒนธรรม ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1978 เติ้งฉวยโอกาสสนับสนุนให้ผู้ใต้อุปถัมภ์คือ หู เย่าปัง ก้าวขึ้นสู่อำนาจ หูตีพิมพ์บทความในหนังสือพิมพ์ โดยใช้คำพูดของเหมาอย่างชาญฉลาดในขณะเดียวกันยกย่องแนวคิดของเติ้งด้วย หลังจากบทความนี้เผยแพร่ออกไป ฮั่วเริ่มเปลี่ยนการสนับสนุนเติ้ง ในวันที่ 1 กรกฎาคม เติ้งได้เผยแพร่รายงานการวิจารณ์ตนเองของเหมาในปีค.ศ. 1962 เกี่ยวกับความล้มเหลวของนโยบายการก้าวกระโดดไปข้างหน้า ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1978 เพื่อการขยายฐานอำนาจ เติ้งจึงโจมตีนโยบายสองอะไรก็ได้ของฮั่ว กั๋วเฟิง
ในวันที่ 18 ธันวาคม ค.ศ. 1978 มีการจัด ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญ ในสภา เติ้งเรียกร้องให้ "ปลดเปลื้องความคิด" และเรียกร้องให้พรรค "" และละทิ้งความเชื่อทางอุดมการณ์ การประชุมครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นการปฏิรูปเศรษฐกิจจีนอย่างเป็นทางการ โดยเติ้งกลายเป็นผู้นำสูงสุดลำดับสองของจีน ฮั่ว กั๋วเฟิงมีส่วนร่วมในการวิจารณ์ตนเองและวิจารณ์ความผิดพลาดของนโยบาย "สองอะไรก็ได้" ของตนเอง วัง ตงซิ่ง เป็นพันธมิตรที่เหมาไว้ใจ ก็ยังวิจารณ์ตนเอง ในการประชุม พรรคได้กลับคำตัดสินเกี่ยวกับเหตุการณ์เทียนอันเหมิน อดีตประธานาธิบดีหลิว เช่าฉีที่ถูกประณามได้รับการอนุญาตให้จัดรัฐพิธีศพในภายหลัง เผิง เต๋อหวย หนึ่งในและเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งถูกประณามจนตายในช่วงการปฏิวัติทางวัฒนธรรม เขาได้รับการฟื้นฟูชื่อเสียงทางการเมืองในปีค.ศ. 1978
ในการประชุมครั้งที่ 5 ในปีค.ศ. 1980 เผิง เจิน, เฮ่อ หลง และผู้นำคนอื่น ๆ ที่ถูกกวาดล้างในช่วงการปฏิวัติทางวัฒนธรรมได้รับการฟื้นฟูชื่อเสียงทางการเมือง หู เย่าปังได้เป็นหัวหน้าในฐานะ ในเดือนกันยายน ฮั่ว กั๋วเฟิงได้ลาออกจากตำแหน่งและจ้าว จื่อหยาง หนึ่งในพันธมิตรของเติ้งได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เติ้งยังคงดำรงตำแหน่ง แต่อำนาจที่เป็นทางการถูกโอนถ่ายไปยังนักปฏิรูปภาคปฏิบัติรุ่นใหม่ ซึ่งได้เปลี่ยนแปลงนโยบายการปฏิวัติทางวัฒนธรรมไปในวงกว้างในช่วงสมัยโปล่วน ฝ่านเจิ้ง ภายในไม่กี่ปีจากปีค.ศ. 1978 เติ้ง เสี่ยวผิงและหู เย่าปังช่วยฟื้นฟูความเสียหายจากคดีที่ "ไม่ยุติธรรม ความเท็จและผิดพลาด" กว่า 3 ล้านคดีในช่วงการปฏิวัติทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพิจารณาคดีของแก๊งออฟโฟร์ที่เกิดขึ้นในปักกิ่งตั้งแต่ปีค.ศ. 1980 ถึง 1981 และศาลระบุว่ามีคน 729,511 คน ถูกข่มเหงโดยแก๊ง ซึ่งมีผู้เสียชีวิตถึง 34,800 คน
ในปีค.ศ. 1981 พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ลงมติและประกาศว่าการปฏิวัติทางวัฒนธรรม "ต้องรับผิดชอบต่อความพ่ายแพ้ที่รุนแรงที่สุดและความสูญเสียที่หนักหน่วงที่สุดสำหรับพรรค ประเทศและประชาชนนับตั้งแต่การก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชน"
วิกฤตด้านมนุษยธรรม
ผู้เสียชีวิต
ประมาณการผู้เสียชีวิตจากการปฏิวัติทางวัฒนธรรม รวมทั้งพลเรือนและยุวชนแดงมีความแตกต่างกันมาตั้งแต่หลายแสนคนจนถึง 20 ล้านคน อย่างไรก็ตามตัวเลขที่แน่ชัดของผู้ถูกกดขี่ข่มเหงหรือเสียชีวิตระหว่างการปฏิวัติทางวัฒนธรรมนั้นไม่อาจทราบได้ เนื่องจากผู้เสียชีวิตจำนวนมากไม่ได้รับการรายงานหรือถูกตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นปกปิดอย่างแข็งขัน สถานะของสถิติประชากรจีนในขณะนั้นก็น่าตำหนิด้วยเช่นกัน และสาธารณรัฐประชาชนจีนก็ลังเลที่จะให้มีการวิจัยอย่างเป็นทางการในช่วงเวลาดังกล่าว เท่านั้นไม่พอ เป็นหนึ่งในหายนะทางเทคโนโลยีครั้งใหญ่ของโลกศตวรรษที่ 20 เกิดขึ้นในนครระดับจังหวัด มณฑลเหอหนาน ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1975 ทำให้มีผู้เสียชีวิตโดยประมาณระหว่าง 85,600 ถึง 240,000 คน
ประมาณการรวมที่มีการให้ข้อมูลมีดังนี้
- จากหนังสือ "交锋—当代中国三次思想解放实录" เป็นหนังสือที่ตีพิมพ์โดยหนังสือพิมพ์ ในปีค.ศ. 2011 รวมไปถึงเอกสารอื่น ๆ ของเย่ เจี้ยนอิง และเป็นหนึ่งในสิบขุนพล อ้างว่า "ผู้คนกว่า 20 ล้านคนเสียชีวิต 100 ล้านคนถูกข่มเหง และ 80 ล้านเหรินหมินปี้ ถูกใช้ไปในการปฏิวัติทางวัฒนธรรม" คำพูดอ้างจากการประชุมคณะทำงานของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนในวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 1978
- (มหาวิทยาลัยฮาวาย): 7,731,000 คน ตายในช่วงปฏิวัติทางวัฒนธรรม หรือ 96 คนต่อทุก ๆ 10,000 ประชากร
- และ: ประชาชนอย่างน้อย 3 ล้านคนตายจากความรุนแรงของการปฏิวัติทางวัฒนธรรม: 569
- (มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน): อย่างน้อย 1.72 ล้านคนตายในการปฏิวัติทางวัฒนธรรม
- (มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด) และหยาง ซู (): ประชาชนราว 36 ล้านคนถูกประณามข่มเหงในเขตชนบทของจีน มีคนตาย 0.75 - 1.5 ล้านคน และมีคนจำนวนเท่ากันต้องทุพพลภาพตลอดชีวิต
- (มหาวิทยาลัยวอชิงตัน): ประชาชนอย่างน้อย 1 ล้านคนเสียชีวิต แต่การประมาณการอาจสูงขึ้นถึง 20 ล้านคน
- (มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน แมดิสัน): ประมาณการผู้เสียชีวิตราว 400,000 คน เป็นตัวเลขขั้นต่ำที่เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง: 262
การสังหารหมู่และการกินเนื้อมนุษย์
ในระหว่างการปฏิวัติทางวัฒนธรรม การสังหารหมู่เกิดขึ้นทั่วจีนแผ่นดินใหญ่ ได้แก่
- ที่มีการกินเนื้อมนุษย์ขนานใหญ่
- ในปักกิ่ง
การสังหารหมู่เหล่านี้ส่วนใหญ่นำโดยคณะกรรมการปฏิวัติท้องถิ่น พรรคคอมมิวนิสต์สาขา ทหารอาสาสมัครหรือแม้กระทั่งกองทัพเอง เหยื่อส่วนใหญ่ของการสังหารหมู่เป็นพวกที่ถูกมองว่าเป็น ซึ่งรวมถึงลูก ๆ ของพวกเขา หรือสมาชิกของ "กลุ่มกบฏ" (造反派) ปัญญาชนชาวจีนอย่างน้อย 300,000 คนเสียชีวิตในการสังหารหมู่เหล่านี้ การสังหารหมู่ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงและมณฑลกวางตุ้งเป็นเรื่องที่ร้ายแรงที่สุด ในกว่างซี มีบันทึกทางการระบุว่ามีอย่างน้อย 43 เขตปกครองที่มีบันทึกการสังหารหมู่ โดยมี 15 แห่งรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,000 ราย ในขณะที่ในกวางตุ้ง มีบันทึกการสังหารหมู่อย่างน้อย 28 เขตปกครอง โดยมี 6 แห่งที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,000 ราย
- ใน มีรายงานทางการประมาณการผู้เสียชีวิตตั้งแต่ 100,000 ถึง 150,000 คน จากหนังสือชีวประวัติของเหมา "" ประมาณการว่ามีผู้คนประมาณ 100,000 คน เสียชีวิตในในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงระหว่างเดือนมกราคม ถึงเดือนเมษายน ค.ศ. 1968 ก่อนที่นายกรัฐมนตรีโจว เอินไหลและกองทัพปลดปล่อยประชาชนจะเข้ามาแทรกแซง: 545 หนังสือ "" ที่เขียนโดยเจิ้ง อี้ กล่าวหาว่า "้เป็นการสังหารอย่างเป็นระบบและการกินเนื้อมนุษย์ในนามของการปฏิวัติทางการเมืองและ'การต่อสู้ระหว่างชนชั้น'" ในหมู่ชาวจ้วงในช่วงนี้ เจิ้งถูกวิพากษ์วิจารณ์ในประเทศจีนจากการสัมภาษณ์ที่ไม่มีการเผยแพร่และสำหรับการ แสดงภาพเชิงลบต่อชนกลุ่มน้อยในจีน แม้ว่านักประวัติศาสตร์ชั้นนำของพรรคจะยืนยันข้อกล่าวหาเรื่องการกินเนื้อคน: 259
- ในของมณฑลยูนนาน กองทัพปลดปล่อยประชาชนทำการสังหารหมู่ชาวหุยในปีค.ศ. 1975 ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตมากกว่า 1,600 คน รวมถึงมีเด็กกว่า 300 คน และมีการทำลายบ้านเรือนกว่า 4,400 หลังคาเรือน
- ในของมณฑลหูหนาน ตั้งแต่ 13 สิงหาคมถึง 17 ตุลาคม ค.ศ. 1967 มีผู้ถูกสังหารทั้งสิ้น 7,696 คน ประชาชน 1,397 คนถูกบังคับให้ฆ่าตัวตาย และมีผู้พิการถาวร 2,146 คน
- ในปักกิ่ง มีแหล่งข้อมูลทางการในปีค.ศ. 1980 เปิดเผยว่ามีประชาชน 1,772 คนถูกสังหารโดยยุวชนแดงตั้งแต่สิงหาคมถึงกันยายน ค.ศ. 1966 รวมทั้งครูและผู้อำนวยการในหลายโรงเรียน เท่านั้นไม่พอ บ้านเรือน 33,695 หลังคาเรือนถูกปล้นสะดม และมี 85,196 ครอบครัวถูกบังคับให้ออกจากเมือง โดยเฉพาะในการสังหารหมู่ต้าซิง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 325 คน ตั้งแต่ 27 สิงหาคม ถึง 1 กันยายน ค.ศ. 1966 ผู้ที่อายุเยอะที่สุดที่ถูกสังหาร มีอายุ 80 ปี และผู้ที่อายุน้อยที่สุด มีอายุเพียง 38 วันเท่านั้น ในขณะที่ 22 ครอบครัวถูกกวาดล้าง
ความขัดแย้งรุนแรง สมัยประจันหน้าและการกวาดล้าง
หรือ "อู่ โต้ว" (武斗) เป็นความขัดแย้งแบบฝักฝ่าย (ส่วนใหญ่ในหมู่ยุวชนแดงและ "กลุ่มกบฏ") ซึ่งเริ่มต้นที่เซี่ยงไฮ้และแพร่กระจายไปยังพื้นที่อื่น ๆ ของจีนในปีค.ศ. 1967 ได้นำประเทศไปสู่ภาวะสงครามกลางเมือง อาวุธที่ใช้ในการสู้รบได้แก่ ปืน 18.77 ล้านกระบอก, ระเบิดมือ 2.72 ล้านลูก, ปืนใหญ่ 14,828 กระบอก กระสุนอื่น ๆ นับล้านและมีแม้กระทั่งรถหุ้มเกราะและรถถัง มีการต่อสู้ที่รุนแรงในฉงชิ่ง, มณฑลเสฉวนและซูโจว นักวิจัยชี้ว่ามีผู้เสียชีวิตจากความขัดแย้งรุนแรงทั่วประเทศตั้งแต่ 300,000 คนถึง 500,000 คน
นอกจากนี้ ชาวจีนหลายล้านคนถูกข่มเหงอย่างรุนแรงโดยเฉพาะใน บางคนถูกระบุว่าเป็นสายลับ, "", "พวกลัทธิแก้" หรือการมาจากชนชั้นที่น่าสงสัย (รวมถึงผู้ที่มีความเชื่อมโยงมาจากอดีตเจ้าที่ดินหรือชาวนาที่ร่ำรวย) พวกเขาถูกทุบตี จำคุก ข่มขืน ทรมาน การล่วงละเมิดอย่างต่อเนื่องและเหยียดหยาม การยึดทรัพย์สิน การปฏิเสธให้การรักษาพยาบาล และการลบอัตลักษณ์ทางสังคม ปัญญาชนก็ตกเป็นเป้าหมายด้วยเช่นกัน ผู้รอดชีวิตและผู้สังเกตการณ์หลายคนเล่าว่าใครก็ตามที่มีทักษะมากกว่าคนทั่วไปจะตกเป็นเป้าหมายของ "ความขัดแย้ง" ทางการเมืองในทางใดทางหนึ่ง ผู้คนอย่างน้อยหลายแสนคนถูกสังหาร ทำให้อดอยาก หรือใช้แรงงานจนตาย อีกนับล้านต้องถูกบังคับให้พลัดถิ่น คนหนุ่มสาวจากเมืองต่าง ๆ ถูกบังคับให้ย้ายไปสู่ชนบท ซึ่งพวกเขาถูกบังคับให้ละทิ้งการศึกษามาตรฐานทุกรูปแบบแทนที่ด้วยการสอนสั่งโฆษณาชวนเชื่อของพรรคคอมมิวนิสต์จีน บางคนไม่สามารถทนต่อการทรมาน และสูญเสียความหวังในอนาคต พวกเขาจึงฆ่าตัวตาย นักวิจัยเชื่อว่ามีอย่างน้อย 100,000 ถึง 200,000 คนฆ่าตัวตายในช่วงตอนต้นของการปฏิวัติทางวัฒนธรรม หนึ่งในกรณีพยายามฆ่าตัวตายที่มีชื่อเสียงที่สุดการจากการกดขี่เติ้ง เสี่ยวผิงในทางการเมือง ลูกชายของเขาคือ กระโดด (หรือถูกโยน) จากอาคารสี่ชั้น หลังจากถูก "สอบสวน" โดยยุวชนแดง เขาไม่ตายแต่กลับเป็น
ในขณะเดียวกันมีจำนวนคดี "ไม่ยุติธรรม ความเท็จและผิดพลาด (冤假错案)" จำนวนมากเกิดขึ้นในช่วงการกวาดล้างทางการเมือง นอกจากมีผู้เสียชีวิตจากการสังหารหมู่ ก็มีผู้คนจำนวนมากต้องทุพพลภาพถาวรจากการถูกประชาฑัณฑ์หรือการข่มเหงในรูปแบบอื่น ๆ ตั้งแต่ค.ศ. 1968 ถึง 1969 "" เป็นการกวาดล้างทางการเมืองครั้งใหญ่ที่นำโดยเหมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 500,000 คน มีรูปแบบการกวาดล้างที่คล้ายคลึงกันได้แก่ "" และการรณรงค์ "" ซึ่งดำเนินการภายหลังในทศวรรษที่ 1970
ใน ตามแหล่งข้อมูลทางการในปีค.ศ. 1980 ระบุว่าผู้คน 346,000 คน ถูกจับกุมแบบผิด ๆ มีมากกว่า 16,000 คนถูกประณามจนตายหรือถูกประหาร และมากกว่า 81,000 คนทุพพลภาพถาวร แต่นักวิชาการก็ประเมินว่ามีผู้เสียชีวิตระหว่าง 20,000 ถึง 100,000 คน
ในที่ยูนนาน มีประชาชนมากกว่า 1.387 ล้านคนที่เกี่ยวข้องและถูกข่มเหง ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 6 ของประชากรยูนนานในขณะนั้น ตั้งแต่ค.ศ. 1968-1969 มีผู้คนมากกว่า 17,000 คนถูกสังหารหมู่ และกว่า 61,000 คนพิการตลอดชีวิต ในคุนหมิง เมืองหลวงของยูนนานแห่งเดียว มีประชาชน 1,473 คนถูกสังหาร และ 9,661 คนทุพพลภาพตลอดชีวิต
ในคดีหลี่ ชูหลีที่มณฑลเหอเป่ย์ หลี่เป็นอดีตรองผู้อำนวยการฝ่ายองค์การพรรคคอมมิวนิสต์จีน ถูกกวาดล้างในปีค.ศ. 1968 และมีผู้เกี่ยวข้องกว่า 80,000 คน มีคน 2,955 คนถูกประณามจนตาย
ชนกลุ่มน้อย
การปฏิวัติทางวัฒนธรรมได้สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อวัฒนธรรมและชาติพันธ์ของชนกลุ่มน้อยในจีน ในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ประชาชนราว 790,000 คนถูกข่มเหงระหว่างอุบัติการณ์มองโกเลียใน มี 22,900 คนถูกทุบตีจนตาย และ 120,000 คนต้องพิการ: 258 ในช่วงการล่าแม่มดเพื่อค้นหาสมาชิกของพรรคปฏิวัติประชาชนมองโกเลียในใหม่ที่ถูกกล่าวหาว่าพยายามแบ่งแยกดินแดน ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ สำเนาคัมภีร์อัลกุรอานและหนังสืออื่น ๆ ของชาวอุยกูร์ถูกเผา อิหม่ามมุสลิมถูกจับแห่ไปรอบ ๆ แล้วสาดสีใส่ร่างกายของพวกเขา ในพื้นที่กลุ่มชาติพันธุ์ชาวเกาหลีในตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ได้ถูกทำลายโรงเรียนสอนภาษา ในมณฑลยูนนาน พระราชวังของกษัตริย์ชาวไทถูกเผา และมีการสังหารหมู่ชาวมุสลิมหุย ภายใต้กองทัพปลดปล่อยประชาชนในยูนนาน เรียกว่า มีรายงานว่ามีผู้คนเสียชีวิตมากกว่า 1,600 คนในปีค.ศ. 1975 หลังการปฏิวัติทางวัฒนธรรมสิ้นสุด รัฐบาลได้ชดใช้ในเหตุการณ์ชาเตี้ยน ด้วยการสร้างอนุสรณ์สถานผู้พลีชีพในเหตุการณ์ชาเตี้ยน
สัมปทานที่มอบให้กับชนกลุ่มน้อยถูกยกเลิกในช่วงการปฏิวัติทางวัฒนธรรมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการโจมตี "สิ่งเก่าทั้งสี่" ของยุวชนแดง ซึ่งเดิมจัดตั้งในพื้นที่บางส่วนของทิเบต สุดท้ายได้ถูกจัดตั้งขึ้นทั่วเขตปกครองตนเองทิเบตในปีค.ศ. 1966 เป็นการยกเลิกข้อยกเว้นของทิเบตในช่วงการปฏิรูปที่ดินของจีน และถูกนำกลับมาใช้ใหม่ในพื้นที่ของชนกลุ่มน้อยกลุ่มอื่น ๆ ผลกระทบต่อทิเบตนั้นรุนแรงเป็นพิเศษ เนื่องจากเกิดขึ้นหลังจากปราบปรามการก่อการกำเริบในทิเบต ค.ศ. 1959 มีการทำลายอารามเกือบ 6,000 แห่ง ซึ่งเริ่มขึ้นก่อนการปฏิวัติทางวัฒนธรรม และมักเกิดขึ้นโดยผู้สมรู้ร่วมคิดที่เป็นยุวชนแดงชาวทิเบต: 9 มีเพียงอารามแปดแห่งเท่านั้นที่ยังหลงเหลืออยู่ในตอนปลายทศวรรษที่ 1970
พระสงฆ์และแม่ชีหลายรูปถูกสังหาร และประชาชนทั่วไปถูกทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจ: 9 ในปีค.ศ. 1950 มีพระสงฆ์และแม่ชีในทิเบตประมาณ 600,000 รูป และในปีค.ศ. 1979 ส่วนใหญ่เสียชีวิตเกือบหมด บ้างก็ถูกจำคุกหรือทำให้สาบสูญ: 22 รัฐบาลพลัดถิ่นทิเบตอ้างว่าชาวทิเบตจำนวนมากเสียชีวิตจากความอดอยากในช่วงปีค.ศ. 1961-1964 และ 1968-1973 เป็นผลมาจากการบังคับทำนารวม อย่างไรก็ตามจำนวนผู้เสียชีวิตในทิเบตนั้นยังคงเป็นที่ถกเถียงว่าอาจเป็นเพราะขาดแคลนอาหารหรือสาเหตุอื่น ๆ แม้จะมีการกดขี่ข่มเหงอย่างเป็นทางการ แต่ผู้นำท้องถิ่นและกลุ่มชาติพันธุ์บางส่วนก็รอดชีวิตมาได้ในพื้นที่ห่างไกล
ความล้มเหลวทางเป้าหมายของยุวชนแดงและผู้นิยมการกลืนกลายทางวัฒนธรรมที่รุนแรง เกิดจากสองปัจจัย เป็นความรู้สึกที่ว่าการกดขี่ชนกลุ่มน้อยอย่างรุนแรงจะทำให้ชายแดนของจีนอ่อนกำลังลง นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากชนกลุ่มน้อยเป็นประชาชนส่วนใหญ่ที่อาศัยตามชายขอบของจีน ในช่วงหลังทศวรรษที่ 1960 จีนมีความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะสหภาพโซเวียตและอินเดีย เป้าหมายการปฏิวัติทางวัฒนธรรมหลายอย่างในพื้นที่ชนกลุ่มน้อยนั้นไม่สมเหตุสมผลเกินกว่าจะนำไปปฏิบัติได้ การหวนคืนสู่กลุ่มพหุนิยม และจุดจบของผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดจากการปฏิวัติทางวัฒนธรรมต่อชนกลุ่มน้อยในจีน เกิดขึ้นพร้อมกับในช่วงที่หลิน เปียวถูกกำจัดออกจากอำนาจ
ผลกระทบและอิทธิพลทางวัฒนธรรม
การจลาจลของยุวชนแดง
ผลกระทบของการปฏิวัติทางวัฒนธรรมทั้งทางตรงและทางอ้อมกระทบต่อประชาชนจีนทั้งหมด ระหว่างการปฏิวัติทางวัฒนธรรม กิจกรรมทางเศรษฐกิจจำนวนมากถูกระงับ ด้วย "การปฏิวัติ" กลายเป็นเป้าหมายหลักชองประเทศโดยไม่ต้องถูกตั้งคำถาม แนวคิดของเหมา เจ๋อตงกลายเป็นแนวปฏิบัติหลักของทุกสิ่งทุกอย่างในประเทศจีน อำนาจหน้าที่ของยุวชนแดงนั้นมีเหนือกว่ากองทัพปลดปล่อยประชาชน เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นและกฎหมายทั่วไป ศิลปะและแนวคิดแบบดั้งเดิมของจีนถูกละเลยและถูกโจมตีจากสาธารณะ ด้วยแนวทางของเหมาถูกยกย่องขึ้นมาแทนที่ ประชาชนถูกกระตุ้นให้วิพากษ์วิจารณ์สถาบันทางวัฒนธรรมและตั้งคำถามต่อพ่อแม่และครูอาจารย์ของตน ซึ่งเป็นประเด็นคำถามที่ถูกห้ามตั้งคำถามอย่างเข้มงวดในโบราณ
จุดเริ่มต้นของการปฏิวัติทางวัฒนธรรมได้นำกองกำลังยุวชนแดงจำนวนมากมาที่ปักกิ่ง โดยรัฐบาลรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมด และระบบรถไฟก็ตกอยู่ในภาวะโกลาหล การปฏิวัติมุ่งหมายทำลาย "" (ได้แก่ ขนบธรรมเนียมเก่า วัฒนธรรมเก่า อุปนิสัยเก่าและความคิดเก่า) และสร้าง "สิ่งใหม่ทั้งสี่" ที่สอดคล้องกัน ซึ่งอาจครอบคลุมตั้งแต่การเปลี่ยนชื่อไปและการตัดผม ไปจนถึงการบุกค้นบ้าน การทำลายทรัพย์สินทางวัฒนธรรม และทำลายวัด ศาลเจ้า: 61–64 ในเวลาไม่กี่ปี อาคารโบราณ สิ่งประดิษฐ์ โบราณวัตถุ หนังสือและภาพวาดนับไม่ถ้วนถูกทำลายโดยยุวชนแดง สถานะของวัฒนธรรมและสถาบันจียดั้งเดิมในประเทศได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากการปฏิวัติทางวัฒนธรรม และธรรมเนียมปฏิบัติดั้งเดิมหลายประการได้อ่อนแอลง
การปฏิวัติยังมุ่งกวาดล้าง "" ทั้งหมด กล่าวคือ ศัตรูทางชนชั้นทั้งหมดที่ส่งเสริมความคิดของชนชั้นกระฎุมพีภายในพรรค รัฐบาล กองทัพและเหล่าปัญญาชน ตลอดจนผู้ที่มาจากครอบครัวที่เอารัดเอาเปรียบ มีภูมิหลังครอบครัว หรือ เป็นผู้ที่อยู่ในหมวดหมู่ ผู้คนจำนวนมากถูกมองว่าเป็น "สัตว์ประหลาดและปีศาจ" โดยไม่คำนึงถึงว่าพวกเขาเป็นผู้กระทำผิดหรือผู้บริสุทธิ์ ได้ถูกประณามให้อับอายขายหน้าและเฆี่ยนตีในที่สาธารณะ ด้วยความคลั่งการปฏิวัติ นักเรียนโดยเฉพาะยุวชนแดงได้ประณามครูอาจารย์ของตน และเด็ก ๆ ประณามพ่อแม่ของพวกเขา: 59–61 หลายคนเสียชีวิตจากการถูกปฏิบัติอย่างเลวร้ายหรือฆ่าตัวตาย ในปีค.ศ. 1968 เยาวชนได้ถูกระดมพลสู่ชนบทในเพื่อให้พวกเขาได้เรียนรู้จากครอบครัวชาวนา และการเคลื่อนย้ายผู้คนนับล้านออกจากเมืองต่าง ๆ ได้ช่วยยุติความรุนแรงที่สุดของการปฏิวัติทางวัฒนธรรม: 176
ด้านวิชาการและการศึกษา
นักการศึกษาและปัญญาชนถูกมองว่าเป็น "" และถูกกวาดล้างจำนวนมาก หลายคนถูกส่งไปยังค่ายแรงงานตามชนบทเช่น ตามเอกสารทางการในการดำเนินคดีกับแก๊งออฟโฟร์ ระบุว่ามีการกวาดล้างผู้ปฏิบัติงานและครูอาจารย์ 142,000 คน ในแวดวงการศึกษา และนักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ นักการศึกษาเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ได้แก่ , , อู๋ หาน, , , และ ในปีค.ศ. 1968 มีสมาชิกระดับอาวุโว 171 คนที่ทำงานในส่วนกลางในปักกิ่ง จำนวน 131 คนในนั้นถูกกวาดกล้าง และในบรรดาสมาชิกสถาบันการศึกษาในประเทศจีน มีกว่า 229 คนที่ถูกประณามจนตาย ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1971 มีผู้ปฏิบัติงานกว่า 4,000 คนในสถาบันนิวเคลียร์มณฑลชิงไห่ถูกกวาดล้าง มากกว่า 310 คนต้องพิการถาวร คนมากกว่า 40 คนฆ่าตัวตายและอีก 5 คนถูกประหารชีวิต อย่างไรก็ตาม ในช่วงการปฏิวัติทางวัฒนธรรม นักวิทยาศาสตร์จีนยังคงประสบความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธลูกแรก สามารถสร้างอาวุธเทอร์โมนิวเคลียร์ครั้งแรกและส่งดาวเทียมดวงแรกขึ้นไปอวกาศตามโครงการ
การปฏิวัติทางวัฒนธรรมทำให้ระบบการศึกษาจีนต้องหยุดชะงักไปเวลานาน ในช่วงเดือนแรก ๆ ของการปฏิวัติทางวัฒนธรรม โรงเรียนและมหาวิทยาลัยถูกสั่งปิด โรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมตอนต้นค่อย ๆ เปิดขึ้นอีกครั้ง แต่วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยทั้งหมดถูกปิดจนถึงปีค.ศ. 1970 และมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ไม่เปิดอีกเลยจนถึงค.ศ. 1972: 164 หรือ การสอบคัดเลือกระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ ถูกยกเลิกหลังปีค.ศ. 1966 แทนที่ด้วยระบบนักศึกษาที่ได้รับแนะนำมาจากโรงงาน หมู่บ้านและหน่วยทหาร และไม่มีการสอบระดับอุดมศึกษาอีกเลยจนกระทั่งในปีค.ศ. 1977 มีการฟื้นฟูภายใต้เติ้ง เสี่ยวผิง ค่านิยมการศึกษาแบบดั้งเดิมถูกละทิ้ง: 195 ในระหว่างการปฏิวัติทางวัฒนธรรม การศึกษาขั้นพื้นฐานถูกย้ำความสำคัญและมีการขยายอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ปีการศึกษาลดลงและมาตรฐานการศึกษาลดลง สัดส่วนเยาวชนจีนที่สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาเพิ่มขึ้น จากที่ก่อนการปฏิวัติมีน้อยกว่าครึ่ง แต่หลังปฏิวัติมีเพิ่มขึ้นเกือบทั้งหมด และผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากมัธยมต้นเพิ่มขึ้นจาก 15% เกินกว่าสองในสาม โอกาสทางการศึกษาสำหรับเด็กในชนบทขยายตัวอย่างมาก ในขณะที่เด็กชนชั้นสูงในเมืองถูกจำกัดจากนโยบายต่อต้านกลุ่มชนชั้นนำ: 166–67
ในปีค.ศ. 1968 พรรคคอมมิวนิสต์ประกาศนโยบายการเคลื่อนไหวลงสู่ชนบท ที่มีนโยบาย "" ในเขตเมืองถูกส่งไปอาศัยและทำงานในพื้นที่เกษตรกรรมเพื่อให้ได้รับการศึกษาใหม่จากชาวนา และเพื่อให้เข้าใจบทบาทของการใช้แรงงานของชาวนาในสังคมจีนมากขึ้น ในระยะแรกเยาวชนที่เข้าร่วมส่วนใหญ่เป็นอาสาสมัคร แต่ในเวลาต่อมารัฐบาลใช้วิธีบังคับคนให้ย้ายออกไป ในช่วงปีค.ศ. 1968 - 1979 เยาวชนในเขตเมืองของจีน 17 ล้านคนต้องเดินทางไปยังชนบทและการอยู่ในชนบททำให้ขาดโอกาสศึกษาในระดับอุดมศึกษา: 10 ประชาชนทั้งรุ่นต้องทรมานและได้รับการศึกษาที่ไม่เพียงพอ ซึ่งมักถูกเรียกว่า "รุ่นที่สูญหาย" ทั้งในจีนและตะวันตก ในสมัยหลังเหมา ผู้ที่ถูกบังคับเคลื่อนย้ายหลายคนโจมตีว่านโยบายนี้เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง: 36
แต่ผลกระทบของการปฏิวัติทางวัฒนธรรมที่มีต่อการศึกษาที่เข้าถึงได้นั้นมีความแตกต่างกันไปตามภูมิภาค แต่ก็ไม่ได้มีการวัดค่าอัตราการรู้หนังสืออย่างเป็นทางการจนถึงทศวรรษที่ 1980 บางเขตอย่างมีอัตราการไม่รู้หนังสือสูงถึง 41% ในช่วง 20 ปีหลังการปฏิวัติ ผู้นำของจีนในขณะนั้นปฏิเสธว่ามีปัญหาหารไม่รู้หนังสือตั้งแต่แรก ผลกระทบนี้ขยายออกไปจากการกำจัดครูที่มีคุณสมบัติ หลายเขตจำต้องพึ่งพานักเรียนที่ถูกเลือกมาเพื่อให้ความรู้แก่รุ่นน้องในรุ่นต่อไป แม้ว่าผลกระทบของการปฏิวัติทางวัฒนธรรมจะสร้างความหายนะแก่คนนับล้านในประเทศจีน แต่ก็มีผลลัพธ์เชิงบวกต่อประชากรบางกลุ่มในพื้นที่ชนบท เช่น ความวุ่นวายของการปฏิวัติทางวัฒนธรรมและความเป็นปรปักษ์ต่อปัญญาชนชนชั้นนำได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง อันเป็นการทำลายคุณภาพการศึกษาในประเทศจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนปลายสุดของระบอบการศึกษาที่ได้รับผลกระทบ แต่นโยบายที่สุดโต่งได้ช่วยเหลือชุมชนชนบทจำนวนมากให้ได้รับการศึกษาระดับมัธยมต้นครั้งแรก ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกในการพัฒนาเศรษฐกิจชนบทในยุคทศวรรษที่ 70 และ 80: 163 ในทำนองเดียวกัน บุคลากรทางการแพทย์จำนวนมากถูกส่งไปยังชนบทในฐานะหมอเท้าเปล่าช่วงการปฏิวัติทางวัฒนธรรม เกษตรกรบางคนได้รับการฝึกอบรมทางการแพทย์อย่างไม่เป็นทางการ และมีการจัดตั้งสถานีอนามัยในชุมชนชนบท
คำขวัญและวาทศาสตร์
ตามรายงานของเส้าหรง หวง มองว่า ข้อเท็จจริงที่ทำให้เกิดการปฏิวัติทางวัฒนธรรมที่สร้างผลกระทบใหญ่หลวงต่อสังคมจีนนั้นเป็นผลมาจากการใช้คำขวัญทางการเมืองอย่างกว้างขวาง ตามทัศนคติของหวง มองว่า วาทศาสตร์มีส่วนสำคัญในการปลุกระดมการชุมนุมของทั้งผู้นำพรรคและประชาชนโดยรวมในช่วงการปฏิวัติทางวัฒนธรรม ยกตัวอย่างเช่น คำขวัญ "การกบฏนั้นเป็นธรรม" (造反有理; เจ้าฝ่านโหยวหลี่) กลายเป็นเรื่องที่ถูกรวมกันเป็นสิ่งเดียว
หวงยืนยันว่าคำขวัญทางการเมืองมีอยู่ทุกหนทุกแห่งในชีวิตของผู้คน โดยถูกพิมพ์ลงบนสิ่งของใช้ประจำวัน เช่น ตั๋วรถโดยสาร ซองบุหรี่ และโต๊ะกระจก: 14 แรงงานควรจะ"เข้าใจการปฏิวัติและกระตุ้นการผลิต" ในขณะที่ชาวนาควรเลี้ยงหมูเพิ่มขึ้น "สุกรมากขึ้นก็หมายถึงปุ๋ยมากขึ้น และปุ๋ยมากขึ้นก็หมายถึงพันธุ์พืชมากขึ้น" แม้แต่คำพูดทั่ว ๆ ไปของเหมาที่ว่า "มันเทศอร่อยดี ฉันชอบ" ได้กลายเป็นคำขวัญที่แพร่หลายในชนบท
คำขวัญทางการเมืองในสมัยนั้นมีที่มาจาก 3 แหล่ง ได้แก่ ตัวเหมาเอง และสื่อทางการของพรรคอย่างหนังสือพิมพ์ เหรินหมินรื่อเป้า และยุวชนแดง เหมามักจะมีคำกล่าวที่คลุมเครือแต่ก็ทรงพลังซึ่งนำไปสู่การแบ่งเป็นฝักฝ่ายของยุวชนแดง คำสั่งเหล่านี้สามารถถูกตีความเพื่อเข้าข้างความคิดเห็นส่วนตัวของแต่ละคนด้วย ในทางกลับกันก็ช่วยสร้างให้เป้าหมายของแต่ละกลุ่มมีความจงรักภักดีต่อเหมา เจ๋อตง คำขวัญของยุวชนแดงมักมีลักษณะที่รุนแรงที่สุด เช่น "ทุ่มศัตรูลงบนพื้นแล้วใช้เท้าเหยียบย่ำเขา", "ความน่าสะพรึงกลัวแดงจงเจริญ!" และ "พวกที่ต่อต้านท่านประธานเหมาจักต้องถูกบดขยี้ให้แหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย"
นักจีนวิทยาอย่าง โลแวลล์ ดิตเมอร์และเฉิน โร่วสี ชี้ให้เห็นว่าภาษาจีนในประวัติศาสตร์มีความละเอียดอ่อน ความอ่อนช้อย ความพอเหมาะและความซื่อสัตย์ ตลอดจน "การปลูกฝังรูปแบบทางวรรณกรรมที่ปราณีตและสง่างาม" สิ่งนี้ถูกเปลี่ยนแปลงไประหว่างการปฏิวัติทางวัฒนธรรม เนื่องจากเหมาต้องการให้กองทัพของผู้ก้าวร้าวทำสงครามครูเสดของเขา วาทศาสตร์ในช่วงนั้นจึงถูกลดทอนให้เป็นคำศัพท์ที่มีความรุนแรงและแข็งข้อ คำขวัญเหล่านี้เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลในวิธี "ปฏิรูปทางความคิด" ซึ่งระดมคนนับล้านร่วมมือกันโจมตีโลกอัตนัย "ในขณะเดียวกันก็ปฏิรูปโลกแห่งวัตถุประสงค์ของพวกเขา": 12
ดิตเมอร์และเฉิน โต้แย้งว่าการมุ่งเน้นที่การเมืองทำให้ภาษาเป็นรูปแบบการโฆษณาชวนเชื่อที่มีประสิทธิภาพมาก แต่ "ได้เปลี่ยนภาษาดังกล่าวให้กลายเป็นศัพท์แสงของแบบแผนที่ - โอ้อวด ซ้ำซากและน่าเบื่อ": 12 เพื่อให้ห่างไกลจากยุคสมัยนั้น รัฐบาลเติ้ง เสี่ยวผิงจึงลดการใช้คำขวัญทางการเมืองลงอย่างมาก การปฏิบัติตามคำขวัญปรากฏฟื้นตัวให้เห็นเพียงเล็กน้อยในช่วงหลังทศวรรษที่ 1990 ภายใต้เจียง เจ๋อหมิน
ศิลปะและวรรณกรรม
ก่อนการปฏิวัติทางวัฒนธรรมในช่วงปีค.ศ. 1958 - 1966 โรงละครกลายเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้ทางการเมือง เนื่องจากมีการใช้บทละครเพื่อวิพากษ์วิจารณ์หรือสมาชิกพรรคโดยเฉพาะ อุปรากรของอู๋ หาน ในเรื่อง ไห่ รุ่ยถูกไล่ออกจากตำแหน่ง ถูกตีความว่าแฝงไปด้วยการวิพากษ์วิจารณ์เหมา ทำให้เกิดการโจมตีอุปรากรของเหยา เหวินหยวน และการโจมตีนี้เป็นการเปิดฉากการปฏิวัติทางวัฒนธรรม นำมาซึ่งการกวาดล้างและการตายของอู๋ หาน รวมถึงผู้เกี่ยวข้องกับโรงละคร เช่น เถียน ฮั่น, และ
ในช่วงการปฏิวัติทางวัฒนธรรม เจียง ชิงเข้าควบคุมละครเวทีและแนะนำรูปแบบอุปรากรเชิงปฏิวัติภายใต้การกำกับดูแลโดยตรงของเธอ อุปรากรแบบดั้งเดิมถูกสั่งห้ามเนื่องจากถูกมองว่าเป็นกลไกของระบอบศักดินาและชนชั้นกระฎุมพี แต่อุปรากรปฏิวัตินั้นมีพื้นฐานมาจากจิงจฺวี่ หรืออุปรากรเมืองหลวงที่มีการดัดแปลงทั้งรูปแบบและเนื้อหาแล้ว: 115 (อุปรากร 6 แบบและบัลเล่ต์ 2 แบบ) เริ่มในปีค.ศ. 1967 อุปรากรที่โดดเด่นที่สุดคือเรื่อง อุปรากรเหล่านี้เป็นรูปแบบที่ได้รับการอนุมัติ ส่วนคณะละครอื่น ๆ ต้องน้อมรับหรือปรับเปลี่ยนละครของพวกเขา: 176 นอกจากนี้อุปรากรต้นแบบยังออกอากาศทางสถานีวิทยุ สร้างเป็นภาพยนตร์ เผยแพร่ผ่านเสียงตามสายสาธารณะ สอนนักเรียนในโรงเรียนและแรงงานในโรงงาน และกลายเป็นบันเทิงยอดนิยมที่แพร่หลายและเป็นการแสดงละครเวทีเรื่องเดียวให้ผู้คนนับล้านในประเทศจีนรับชม: 352–53 : 115
ในปีค.ศ. 1966 เจียง ชิงได้เสนอทฤษฎีเผด็จการเส้นสีดำในวรรณกรรมและศิลปะ โดยบรรดาที่ถูกมองว่าเป็นชนชั้นกระฎุมพี พวกต่อต้านสังคมนิยม หรือต่อต้านเหมา ควรละทิ้ง "เส้นสีดำ" และออกมาสร้างสรรค์สิ่งใหม่แก่วรรณกรรมและศิลปะ: 352–53 นักเขียน จิตรกรและปัญญาชนที่เป็นผู้รับและเผยแพร่ "วัฒนธรรมเก่า" จะถูกกำจัดให้หมดสิ้นไป นักเขียนและจิตรกรส่วนใหญ่ถูกมองว่าเป็น "บุคคลแนวเส้นสีดำ" และ "บัณฑิตเชิงปฏิกิริยา" จึงถูกข่มเหง หลายคนถูก "วิพากษ์วิจารณ์และประณาม" ซึ่งพวกเขาอาจถูกดูหมิ่นและปล้นสะมในที่สาธารณะ และอาจถูกจำคุกหรือถูกส่งไปปฏิรูปด้วยการใช้แรงงานหนัก: 213–14 ตัวอย่างเช่น และสามีของเธอถูกส่งไปทำงานไร่ชาใน และเธอไม่ได้กลับมาเขียนหนังสือต่ออีกเลยจนทศวรรษที่ 1980
เอกสารเผยแพร่ในปีค.ศ. 1980 เกี่ยวกับการกวาดล้างที่ดำเนินคดีโดยแก๊งออฟโฟร์แสดงให้เห็นว่ามีผู้คนมากกว่า 2,600 คนในแวดวงศิลปะและวรรณกรรมถูกกระทรวงวัฒนธรรมและหน่วยงานภายใต้กระทรวงข่มเหง หลายคนเสียชีวิตด้วยความเจ็บปวดปละความอับอายจากการถูกประณาม มีชื่อของนักเขียนและจิตรกรที่มีชื่อเสียงกว่า 200 คน ที่ถูกกวาดล้างจนตายในระหว่างการปฏิวัติทางวัฒนธรรม พวกเข้าได้รับการระลึกถึงในปีค.ศ. 1979 นักเขียนเหล่านั้น ได้แก่ , , , , , และ: 213–14
ในช่วงการปฏิวัติทางวัฒนธรรมมีนักเขียนเพียงไม่กี่คนที่ได้รับอนุญาต หรือ มีคุณสมบัติภายใต้ระบอบใหม่ เช่น และนักเขียนบางคนที่มีภูมิหลังกรรมกรหรือชาวนา เท่านั้นที่สามารถตีพิมพ์หรือพิมพ์ซ้ำงานของพวกเขาได้ มีการกำหนดหัวข้อการเขียนที่ได้รับอนุญาตตามหลักวรรณกรรมชนชั้นกรรมาชีพและสังคมนิยมอย่างเข้มงวด และวารสารวรรณกรรมในประเทศถูกหยุดตีพิมพ์ทั้งหมดในปีค.ศ. 1968 สถานการณ์คลี่คลายลงหลังค.ศ. 1972 นักเขียนได้รับอนุญาตให้เขียนงานมากขึ้น และวารสารวรรณกรรมประจำมณฑลหลายแห่งได้กลับมาตีพิมพ์อีกครั้ง แต่นักเขียนส่วนใหญ่ยังคงไม่สามารถทำงานได้: 219–20
ผลกระทบเกิดคล้ายคลึงกันในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ มีการแจกจ่ายหนังสือเล่มเล็กชื่อ "ภาพยนตร์ 400 เรื่องที่ถูกวิจารณ์" และผู้กำกับภาพยนตร์ นักแสดงชายและหญิงที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ถูกทรมานและจับขัง: 401–02 คนกลุ่มนี้รวมถึงศัตรูของเจียง ชิงและอดีตเพื่อนในวงการภาพยนตร์ของเธอที่เสียชีวิตในช่วงนี้ ได้แก่ , , , และ ไม่มีการผลิตภาพยนตร์ที่โดดเด่นในจีนแผ่นดินใหญ่เป็นเวลาเจ็ดปี ยกเว้น "ละครตามรูปแบบ" ที่ได้รับการอนุมัติเพียงไม่กี่เรื่องและเป็นภาพยนตร์ที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองสูง ตัวอย่างสำคัญของภาพยนตร์จำนวนหนึ่งที่มีการสร้างและได้รับอนุญาตให้แสดงในช่วงเวลานี้คือ
หลังจากคอมมิวนิสต์ยึดครองประเทศจีน ดนตรียอดนิยมจากเซี่ยงไฮ้ส่วนใหญ่ถูกประณามว่าเป็น และถูกสั่งห้าม และในช่วงการปฏิวัติทางวัฒนธรรม นักแต่งเพลงผู้ได้รับความนิยมอย่าง ก็ถูกกวาดล้าง ส่วนเพลงแนวปฏิวัติกลับได้รับการส่งเสริมขึ้นมาแทนที่เช่น "", "" และ "บูรพาแดง", "" ทั้งหมดถูกเขียนและได้รับความนิยมในช่วงเวลานี้ "บูรพาแดง" ได้รับความนิยมอย่างยิ่ง ถูกนำมาใช้แทนเพลงเดินขบวนทหารกล้าและทรงธรรม โดยพฤตินัย ในฐานะเพลงชาติจีน แม้ว่าจะมีการกำหนดให้เพลงเดินขบวนทหารกล้าและทรงธรรม กลับมาใช้ดังเดิมหลังสิ้นสุดการปฏิวัติทางวัฒนธรรม
ศิลปะโฆษณาชวนเชื่อ
ภาพที่ยืนยงที่สุดของการปฏิวัติทางวัฒนธรรมบางส่วนมาจากภาพโปสเตอร์ศิลปะ ศิลปะโฆษณาชวนเชื่อตามโปสเตอร์ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการรณรงค์และเครื่องมือสื่อสารมวลชน และทำหน้าที่เป็นแหล่งข้อมูลชั้นนำของประชาชน มีการผลิตสิ่งนี้จำนวนมากและเผยแพร่อย่างกว้างขวาง และถูกนำมาใช้โดยรัฐบาล ยุวชนแดงในการให้ความรู้แก่สาธารณชนถึงคุณค่าทางอุดมการณ์ตามที่พรรคของรัฐกำหนด มีภาพโปสเตอร์หลากหลายรูปแบบ สองประเภทหลัก ๆ ได้แก่ ภาพโปสเตอร์ขนาดใหญ่ (大字报; dazibao) และ ภาพโปสเตอร์โฆษณาชวนเชื่อ "เชิงพาณิชย์" (宣传画; xuanchuanhua): 7–12
"ต้าจื้อเป้า" จะเป็นคำขวัญ บทกวี คำวิจารณ์และภาพวาดที่ถูกสร้างและติดบนผนังที่สาธารณะ โรงงานและคอมมูน ของพวกนี้มีความสำคัญต่อการต่อสู้ของเหมาในการปฏิวัติทางวัฒนธรรม และเหมาเองก็เขียนต้าจื้อเป้าของเขาเองที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งในวันที่ 5 สิงหาคม ค.ศ. 1966 เพื่อเรียกร้องประชาชนให้ "ถล่มกองบัญชาการ": 5
"ซวนฉวนฮั่ว" เป็นงานศิลปะที่ผลิตโดยรัฐบาลและขายในราคาถูกตามร้านค้าเพื่อให้ติดแสดงที่บ้านหรือสถานที่ทำงาน ศิลปินของงานประเภทนี้อาจเป็นมือสมัครเล่นหรือมืออาชีพแต่ไม่มีชื่อเสียง และโปสเตอร์ส่วนใหญ่จะเป็นภาพแนวสัจนิยมสังคมนิยมที่มีธรรมเนียมปฏิบัติบางประการ เช่น ภาพของประธานเหมาต้องแสดงเป็น "สีแดง, เรียบ และเรืองแสง": 7–12 : 360
รูปแบบงานศิลปะดั้งเดิมถูกกีดกันจากการปฏิวัติทางวัฒนธรรม และจิตรกรอย่าง , และได้ถูกกวาดล้าง: 97 จิตรกรส่วนใหย่ถูกส่งไปใช้แรงงาน และถูกสั่งให้วาดภาพยกย่องการปฏิวัติทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับการที่ตนถูกนำมาใช้แรงงาน: 351–52 ในปีค.ศ. 1971 เพื่อบรรเทาจากความยากลำบาก จิตรกรหลายคนถูกเรียกตัวกลับจากการใช้แรงงาน หรือถูกปล่อยจากที่คุมขัง โดยเป็นแนวคิดริเริ่มของโจว เอินไหล เพื่อให้มาดำเนินการตกแต่งสถานีรถไฟและโรงแรมที่ถูกทำลายโดยยุวชนแดง โจวกล่าวว่างานศิลปะเหล่านี้มีไว้สำหรับชาวต่างชาติ ดังนั้นศิลปะ "ภายนอก" จึงไม่อยู่ภายใต้ภาระผูกผันของศิลปะ "ภายใน" ที่ไว้แสดงแก่พลเมืองชาวจีนเท่านั้น สำหรับตัวเขาเองมองว่า ภาพวาดวิวทิวทัศน์ไม่ควรถูกจำแนกว่าเป็น "สิ่งเก่าทั้งสี่" แต่โจวก็ล้มป่วยด้วยโรคมะเร็ง และในปีค.ศ. 1974 เจียง ชิงได้ยึดภาพวาดเหล่านี้ และภาพเขียนอื่น ๆ รวมถึงนิทรรศการที่จัดในกรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และเมืองอื่น ๆ โดยประณามว่าเป็น "ภาพวาดดำ": 368–76
ศิลปวัตถุทางประวัติศาสตร์
โบราณสถาน โบราณวัตถุและหอจดหมายเหตุของจีนได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง เนื่องจากเชื่อว่าเป็นรากเหง้าของ "วิธีคิดแบบเก่า" วัตถุโบราณถูกยึด พิพิธภัณฑ์และบ้านเรือนถูกปล้นสะดม และสิ่งของใด ๆ ที่ถูกพบและถูกคิดว่าเป็นภาพแทนของชนชั้นกระฎุมพีหรือศักดินาจะถูกทำลาย มีบันทึกเพียงไม่กี่ฉบับที่บันทึกว่าสิ่งของเหล่านี้ถูกทำลายไปมากน้อยเพียงใด ผู้สังเกตการณ์ชาวตะวันตกตั้งข้อสังเกตว่า ประวัติศาสตร์หลายพันปีของจีนโดยส่วนใหญ่ถูกทำลายลง หรืออาจถูกลักลอบนำไปขายต่างประเทศ ในช่วงสิบปีอันสั้น ๆ ของการปฏิวัติทางวัฒนธรรม นักประวัติศาสตร์จีนเปรียบเทียบการปราบปรามทางวัฒนธรรมเหมือนกับยุคเผาตำรา ฝังบัณฑิตของจิ๋นซีฮ่องเต้ เกิดขึ้นอย่างมากในช่วงเวลานี้ อันเป็นผลมาจากการที่ศาสนาถูกมองว่าเป็นปรปักษ์กับแนวคิดลัทธิมากซ์-เลนินและเหมา: 73
แม้ว่าการดำเนินการจะกระทำโดยนักปฏิวัติทางวัฒนธรรมบางคน แต่นโยบายการทำลายศิลปวัตถุทางประวัติศาสตร์ก็ไม่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 1967 คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้เผยแพร่เอกสารชื่อ ข้อเสนอแนะหลายประการในการปกป้องมรดกทางวัฒนธรรมและหนังสือในระหว่างการปฏิวัติทางวัฒนธรรม: 21 ถึงกระนั้นมรดกทางวัฒนธรรมจีนได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง เช่น จากการสำรวจในปีค.ศ. 1972 ณ กรุงปักกิ่ง มีการสำรวจมรดกทางวัฒนธรรมจุดสำคัญ 18 แห่ง รวมทั้งหอสักการะฟ้าและสุสานหลวงราชวงศ์หมิง แสดงให้เห็นถึงความเสียหายอย่างกว้างขวาง มีมรดกทางวัฒนธรรม 80 แห่งอยู่ภายใต้การดูแลของเทศบาลนคร มีมรดกถูกทำลาย 30 แห่ง และจากมรดกทางวัฒนธรรม 6,843 แห่งที่อยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลปักกิ่งในปีค.ศ. 1958 ปรากฏว่ามีมรดก 4,922 แห่งได้รับความเสียหายหรือถูกทำลาย หนังสือเก่าที่มีคุณค่า ภาพวาด และโบราณวัตถุอื่น ๆ มากมายถูกเผาทำลายเป็นเถ้าถ่าน: 98
การขุดค้นและการรักษาทางโบราณคดีในยุคหลังการทำลายล้างในทศวรรษที่ 1960 ได้รับการคุ้มครอง และมีการค้นพบที่สำคัญเช่น กองทัพทหารดินเผาและ ซึ่งค้นพบในช่วงจุดสูงสุดของการปฏิวัติ: 21 อย่างไรก็ตามสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของงานวิจัยทางโบราณคดี คือ วารสาร ไม่ได้ถูกทำลายในช่วงการปฏิวัติทางวัฒนธรรม หลังจากช่วงรุนแรงของทศวรรษที่ 1960 สิ้นสุดลง การโจมตีวัฒนธรรมดั้งเดิมยังคงดำเนินต่อไปในปีค.ศ. 1973 ด้วยนโยบาย การต่อต้านหลิน เปียว การต่อต้านขงจื๊อ เป็นส่วนสำคัญในการต่อต้านพวกสายกลางภายในพรรค
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
karptiwtithangwthnthrrmihykhxngkrrmachiph xngkvs Great Proletarian Cultural Revolution hruxthiruckknthwipwa karptiwtiwthnthrrm xngkvs Cultural Revolution epnkhbwnkarthangsngkhm karemuxngsungekidkhuninsatharnrthprachachncininchwng kh s 1966 thung 1976 daeninkarodyehma ecxtngsungkhnannepnprathanphrrkhkhxmmiwnistcinaelaepnphucdtngsatharnrthprachachncin miepahmayephuxpkpxngodykarkhcdxngkhprakxbthiepnthunniym praephniaela xxkcakaelaephuxkahndaenwthangaebbehmaphayinphrrkh karptiwtidngklawsngphlihehmaecxtngklbmamixanachlngkarkawkraoddiklipkhanghnathilmehlw khbwnkardngklawthaihkaremuxngcinhyudchangkaelasngphlkrathbtxpraethsthangesrsthkicaelasngkhmxyangsakhykarptiwtithangwthnthrrminchwngkarptiwtithangwthnthrrm yuwchnaedngidichokhsnachwnechuxthangkaremuxngbnkaaephngthiwa pkpxngkhnakrrmkarklangkhxngphrrkhdwyeluxdaelachiwit pkpxngthanprathanehma dwyeluxdaelachiwit rayaewla16 phvsphakhm kh s 1966 6 tulakhm kh s 1976 1966 05 16 1976 10 06 10 pi 143 wn thitngsatharnrthprachachncinehtucungicrksaaenwkhidkhxmmiwnistcindwykarkwadlangsakednkhxngthunniymaelakhaniymdngedimxxkcaksngkhmcinaephndinihyphlkickrrmthangesrsthkichyudchangk suxthangprawtisastraelawthnthrrmthukthalayesiychiwitphleruxn yuwchnaedngaelathharcanwnhlayaesncnthunghlaylankhn canwntwelkhimaennxn thrphysinesiyhay hxskkarafa susanhlwngrachwngshmingcbeciyng ching cang chunechiyw ehya ehwinhywnaelahwng hngehwinthukcbkumhlngcaknnkarptiwtithangwthnthrrmihykhxngkrrmachiphxksrcintwyx无产阶级文化大革命xksrcintwetm無產階級文化大革命karthxdesiyngphasacinklangmatrthanhny hwiphinxinWuchǎnjieji Wenhua Dagemingphasaxuxksrormnvu平tshae上cia平cih入 ven平ho去 du去 keh入min去phasakwangtungmatrthany hwidephngmou4caan2gaai1kap1 man4faa3 daai6 gaak3ming6phasahminitphasahkekiynbo san kai kip bun hua tua kik miaCommonly abbreviated asphasacin1 文化大革命 2 文革karthxdesiyngphasacinklangmatrthanhny hwiphinxin1 Wenhua Dageming 2 Wenge karptiwtiwthnthrrmerimkhunineduxnphvsphakhm kh s 1966 dwykardaeninkarkhxng ehmaeriykrxngihkhnhnumsawxxkma aelaprakaswa karkbtepneruxngsmehtusmphl ephuxkacdkhuaekhngthangkaremuxngkhxngekhainphrrkhkhxmmiwnistcin aelainorngeriyn orngnganaelaxngkhkrrthbal ehmaxangwakradumphikalngaethrksumrthbalaelasngkhmxyangimmikhxbekht odymiepahmayephuxfunfuthunniym ekhayunkranihkhcd revisionist ehlaniphankartxsukhxngchnchnxyangrunaerng eyawchncinsnxngtxbkareriykrxngkhxngehmaodytngklumyuwchnaedngkhunthwpraeths khbwnkardngklawaephripsuthhar krrmkrinemuxng aelaphunaphrrkhkhxmmiwnistexng phwkekhadaeninkartxsuinaelaphyayamyudxanacrthbalthxngthinrwmthungphrrkhkhxmmiwnistcintamsakha aelainthisudmikarcdtngkhnakrrmkarptiwtikhunin kh s 1967 inklumtang mkaebngxxkepnkhukhdaeyngknexngaetkekhaipmiswnphwphnin cintwyx 武斗 cintwetm 武鬥 phinxin wǔdou thaihmikarsngkxngthphpldplxyprachachnekhaiprksakhwamsngb khtiphcnkhxngehmaidthukrwbrwmiwin smudelmaedng sungklayepnkhasxnskdisiththikhxng hlin epiyw phudarngtaaehnngepnidthukekhiynchuxiwininthanaphusubthxdtaaehnngtxcakehma ehmaprakasihkarptiwtisinsudin kh s 1969 aetkarptiwtiyngkhngdaenintxipcnthung kh s 1971 emuxhlin epiywthukklawhawa ekhaidhlbhniaelaesiychiwitcakxubtiehtuekhruxngbintk in kh s 1972 aekngxxfofridkawkhunsuxanacaelakarptiwtithangwthnthrrmyngkhngdaenintxipcnkrathng aelamikarcbkumaekngxxfofrin kh s 1976 karptiwtithangwthnthrrmsrangkhwamesiyhayxyanghnktxesrsthkiccinaelawthnthrrmdngedim odymiphuesiychiwittngaethlayaesnipcnthung 20 lankhn erimtngaetinpkking karsngharhmuaephrkhyaythwcinaephndinihy rwmthng thimikarkinenuxmnusyknkhnanihy aela yuwchnaedngidthalay echn karchkchingthrphyinsthanthithangwthnthrrmaelasasna epnhnunginhaynathangethkhonolyikhrngihykhxngolk idekidkhuninchwngptiwtithangwthnthrrmechnediywkn inkhnaediywknphukhnhlaysiblantangthukprahtprahar khnsakhyxyangechn hliw echachi prathanathibdicin eting esiywphing ephing etxhwyaelaehx hlng tangthukkwadlanghruxenreths prachachnhlaylanthukklawhawaepnphwksungthuktha cakhuk thrman ichaerngnganhnk thukyudthrphysin aelabangkhnthukprahar aelakddnihkhatwtay pyyachnthukmxngwaepnphwk khaniymekathngekathienaefa aelathukkwadlangxyangkwangkhwang idaek nkwichakaraelankwithyasastrxyangechn aelathuksngharhruxkhatwtay orngeriynaelamhawithyalythuksngpid thukykelik kwa 10 lankhnthuksngipyngchnbthtamnoybay in kh s 1978 eting esiywphingklayepnphunasungsudkhxngpraethscinkhnihm aelaekhaerimnoybay thikhxy ruxthxnnoybaykhxnglththiehmathiekiywkhxngkbkarptiwtithangwthnthrrm aelanapraethsklbekhasukhwamsngb etingerimwaraihmkhxngcindwykarkarptirupesrsthkiccin in kh s 1981 phrrkhkhxmmiwnistcinidprakaswa karptiwtithangwthnthrrmepnkartdsinicthiphidphlad aelaepnsingthi rbphidchxbtxkhwamphayaephthirunaerngthisudaelaphuthiidrbkhwamsuyesiyxyanghnkhnwngthisudkhux prachachn praeths aelaphrrkh nbtngaetkarcdtngsatharnrthprachachnkhunma phumihlngkarkawkraoddiklipkhanghna prachachnchnbthcinthanganintxnklangkhunephuxphlitehlkklainchwngkarkawkraoddiklipkhanghna inpikh s 1958 hlngcakidmikarnamaich ehmaeriykrxngih sngkhmniymrakhya erngaephnkarkhxngekhainkarepliyncinihepnpraethsxutsahkrrmthithnsmy dwycitwiyyanni ehmaprakasnoybaykarkawkraoddiklipkhanghnadwykarcdtnginchnbth aelaerimephuxekhasu hlaychumchnidrbmxbhmayihdaeninkarphlitophkhphnthpraephthediyw khux ehlkkla ehmasabanthicaephimphlphlitthangkarekstrepnsxngethakhxngradbinpikh s 1957 karkawkraoddiklipkhanghnaepnkhwamlmehlwthangesrsthkic ekstrkrthiimidrbkarsuksacanwnmakthukdungtwxxkcakkarthanaaelakarekbekiywphlphlit odythukrbkhasngihphlitehlkklainprimanmakaethn odyxasyetaephainsnamhlngbankhxngtnephuxihbrrluepahmaykarphlitinradbthxngthin ehlkklathiphlitnnmikhunphaphtaaelaswnihyirpraoychn karkawkraoddiklipkhanghnathaihkhnadkarekbekiywldlngaelathaihkarphlitsinkhaswnihyldlngykewnaelaehlkklathimimakaetimidmatrthan nxkcaknihnwynganthxngthinmkklawekincringindancanwnphlphlit mikarpidbngsxnaelacanwnpyhamimakkhunepnewlahlaypi 25 30 inkhnaediywkn khwamoklahlinkarrwmklumtang kxprkbsphaphxakasthielwray aelakarsngxxkxaharthimikhwamcaepninkarrksaskulenginaekhngexaiw sngphlihekid mikarkhadaekhlnxaharxyangmak aelakarphlitkldlngxyangmak khwamxdxyakthaihmiprachachnesiychiwitkwa 30 lankhn odyechphaainphumiphakhtxninkhxngaephndinthimikhwamyakcnkwathixun karkawkraoddiklipkhanghnaidbnthxnchuxesiyngkhxngehmaphayinphrrkh inpikh s 1959 ehmathukbibbngkhbihtxngaesdngkhwamrbphidchxbkhrngihy dwykarlaxxkcaktaaehnngprathanathibdi xnepnpramukhaehngrthodynitinykhxngcin aelaphusubthxdtaaehnng khux hliw echachi swnehmayngkhngdarngepnaela ineduxnkrkdakhm phunaradbsungkhxngphrrkhidephuxharuxekiywkbnoybay inkarprachum nayphlephing etxhwy rthmntriwakarkrathrwngklaohm idwiphakswicarnnoybaykarkawkraoddiklipkhanghnaodyekhiyncdhmayswntwipthungehma ekhaekhiynwa noybaylmehlwekidcakkarbriharnganthiphidphladaelaekhatketuxnehmaimihnaaenwkhidthangkaremuxngmaxyuehnuxhlkkarthangesrsthsastr thng thicdhmaykhxngephingcadusuphaphaelaepnklang aetehmathuxwasingniepnkarocmtikhwamepnphunakhxngekha 55 inrahwangkarprachum ehmaidpldephingxxkcaktaaehnng aelaklawhaekhawaepn phwkchwyoxkasfaykhwa nayphlephingthukaethnthidwynayphlhlin epiyw phubychakarkxngthphxikkhnhnung sungepnphusnbsnunehmamakkwaaelamikhwametibotinhnathikarngan inkhnathikarprachumlusanepnrakhngmrnasahrbnayphlephing sungepnphuwiphakswicarnehmaxyangrunaerng aetkepnkarepliynaeplngxanacipsuphwksayklangxyang hliw echachiaelaeting esiyngphing sungekhamakhwbkhumesrsthkiccinxyangmiprasiththiphaphhlngpikh s 1959 inchwngtnthswrrsthi 1960 noybayhlayxyangkhxngkarkawkraoddiklipkhanghnathukphlikochmodyaenwkhidkhxnghliw eting aelanaykrthmntriocw exinihl nkptibtiniymsayklangehlaniimkratuxruxrnthicasrangsngkhmyuothepiytamaebbehma ehmasuyesiykhwamnbthuxcaksmachikphrrkh cunghnipichchiwitesuxmothrmaelaaeplkphisdar inpikh s 1962 inchwngthiocw hliwaelaeting daeninkarbriharkickarphakhrthaelaesrsthkicinpraeths ehmaidthxntwcakkartdsinicthangesrsthkicxyangsineching aelaichewlaswnihyipkbkaritrtrxnginkarphsanaenwkhidkhxngekhaekhakblththimaksaelalththielnin sungrwmthungaenwkhid karptiwtixyangtxenuxng 55 khwamaetkaeykrahwangcin osewiytaelakartxtanlththiaek ehma ecxtng aelanikita khruchchxfincin kh s 1958 inchwngtnthswrrsthi 1950 satharnrthprachachncinaelashphaphosewiyt epnsxngrthkhxmmiwnistthiihythisudinolk aemwainchwngaerkthngsxngpraethscasnbsnunsungknaelakn aetkhwamkhdaeyngekidkhunhlngkarthungaekxsykrrmkhxngocesf stalinaelakarkawkhunsuxanackhxngnikita khruchchxfinshphaphosewiyt inpikh s 1956 khruchchxfpranamstalinaelanoybaykhxngekhaaelaerimdaeninkarptirupesrsthkichlngsmystalin ehmaaelasmachikphrrkhkhxmmiwnistcinhlaykhntxtankarepliynaeplngni phwkekhaechuxwacasngphldanlbtxkhbwnkarkhxmmiwnistthwolk aelastalinyngkhngthukmxngwaepnwirburus 4 7 ehmaechuxwakhruchchxfimyudmninhlkkarlththimaks elnin aetepnphwk sungthakarepliynaeplngnoybaykhxnglththimaks elninkhnphunthan xnepnsingthiehmaklwwacaepnkaryxmihthunniymekhayudkhrxngpraeths khwamsmphnthkhxngthngsxngrthbalcungelwraylng shphaphosewiytptiesththicasnbsnuncininkarekharwmshprachachati aelathrystxkhamnthicacdhaxawuthniwekhliyrihcin 4 7 ehmayngkhngpranamlththiaekineduxnemsayn kh s 1960 odyimidchitrngipthishphaphosewiyt aetehmawiphakswicarnphnthmitrthangxudmkarnkhxngosewiytaethn khux snnibatkhxmmiwnistaehngyuokslaewiy inthangklbknshphaphosewiytwiphakswicarnphrrkhaerngnganaexlebeniysungepnphnthmitrkbcin 7 inpikh s 1963 phrrkhkhxmmiwnistcinerimpranamshphaphosewiytxyangepidephy odytiphimphkhxotaeyng 9 khxthitxtanaenwthangkhxnglththiaek hnunginnnmihweruxngwa lththikhxmmiwnistplxmkhxngkhruchchxfaelabtheriynthangprawtisastrkhxngolk sungehmaklawhawa khruchchxfimephiyngaetepnphwklththiaek aetyngepnphyxntrayinkarfunfulththithunniymxikdwy 7 haynakhxngkhruchchxfekidkhuncakkarrthpraharphayininpikh s 1964 sungmiswnthaihehmahwadekrngkhwamepraabangthangkaremuxngkhxngekhaexng saehtumacakchuxesiyngaelakhwamekharphnbthuxtxekhainhmushaykhxngekhaldlngxyangmakhlngnoybaykarkawkraoddiklipkhanghna 7 ekhalang karkwadlangnayphl epnkarthaihkxngthphhnmacngrkphkditxehma inpikh s 1963 ehmaprakas sungthukmxngwaepnekhalangkhxngkarptiwtithangwthnthrrm ehmasrangphaphkhxngkarptiwtithangwthnthrrmdwykar kwadlang kharachkarecahnathiradbsungsungekhasngsythungkhwamcngrkphkdiinekhtkrungpkking aenwthangkhxngekhannimoprngis ekhaichkarkwadlangphankarekhiynbthkhwaminhnngsuxphimph karprachumphayin aelakarichekhruxkhayphnthmitrthangkaremuxngxyangchanay inchwnghlngkh s 1959 sungepnnkprawtisastraelarxngnaykethsmntrinkhrpkking idekhiynbthlakhrchux inbthlakhrklawthungkharachkarphusuxstyxyang phuthukpldcaktaaehnngodyckrphrrdiphuthucrit inchwngaerkehmaprathbicinbthlakhrnimak aetineduxnkumphaphnth kh s 1956 ekhaaexbihwwanphrryakhxngekha eciyng ching aelankokhsnachwnechuxcakesiyngih chux ehya ehwinhywn ihekhiynbthkhwamwicarnbthlakhrni 15 18 ehyaklawxyangklahaywa ih ruy epnphaphxupmanithsnephuxocmtiehma odymxngwa ehmaepnckrphrrdiphuthucrit aelaephing etxhwyepnkharachkarphusuxsty 16 bthkhwamkhxngehyathaih naykethsmntripkkingtxngtkthinnglabak ephing ecinepnkharachkarthithrngxanacaelaepnphubngkhbbychaodytrngkhxngxu han aelaepnhwhnakhxng sungepnkhnakrrmkarthiidrbmxbhmaycakehmaihsuksaskyphaphkhxngkarptiwtithangwthnthrrm ephing ecintrahnkdiwaekhacatxngmiswnekiywkhxnghakxuekhiynbthlakhr txtanehma khun aelaekhaprarthnathicakhwbkhumxiththiphlkhxngehya bthkhwamkhxngehyaidtiphimphephiynghnngsuxphimphthxngthinbangaehngethann ephingsnghamkartiphimphinhnngsuxphimph aelahnngsuxphimphihyxun odysngihthanghnngsuxphimphekhiynaet karxphiprayechingwichakar ethann aelaimtxngipisickaremuxngelk nxy khxngehya 14 19 inchwngthi sukthangwrrnkrrm kbephing srangkhwameduxddalaekehmamak ehmacungil phuxanwykarxxkcaktaaehnng sungepnxngkhkrkhwbkhum hyangodnilxxkdwykhxhathiimmimul aelaehmaidaetngtng phucngrkphkdixyangmakaelaepnhwhnafaykhwamplxdphykhxngehma khundarngtaaehnngaethn karpldhyangxxkcaktaaehnng thaihfaysnbsnunehmamikalngicthicatxsukbfaystrumakkhun 14 19 ineduxnthnwakhm hlin epiyw rthmntriklaohmaelaepnfayehmaidklawhanayphl esnathikarkxngthphpldplxyprachachn sungepnfaytxtanehma odyklawhawa lwihkhwamsakhyaekkarfukthharmakekinip makkwathicaepn karphicarnathangkaremuxng khxnglththiehma aemwacamikhwamsngsyebuxngtnphayinoplitbuorthiphicarnakhwamphidkhxnglw aetehmakphlkdnihmikarsxbswn hlngcakthilwthukpranam ilxxkaelathukbngkhbihthakar khwamekhriydcakehtukarnehlanithaihlwkhatwtay 20 27 karthilwthukpldthaihkxngthphhnmacngrkphkditxehma 24 hlngcakkhbillwaelahyangxxkipidaelw ehmaklbmasnicephing ecin inwnthi 12 kumphaphnth kh s 1966 klumhakhn idxxkrayngan okhrngrangkumphaphnth 二月提纲 okhrngrangidrbkarxnumticaksunyphrrkh kahndiheruxng ih ruy epnkarxphipraythangwichakarthisrangsrrkh aelamungepathicaaeykephing ecinxxkcaknyyathangkaremuxngid aeteciyng chingaelaehya ehwinhywnyngkhngpranamxu hanaelaephing ecintxip inkhnathiehmayngkhngil phuxanwykarfayokhsnachwnechuxkhxngphrrkhxxkcaktaaehnng ephraaekhaepnphnthmitrkbephing ecin 20 27 karpldlu thaihphwkniymehmasamarthekhathungsuxidxyangimcakd ehmasngsyyankarocmtikhrngsudthaytxephing ecininkarprachumkharachkarradbsungkhxngoplitbuor odyphanphucngrkphkdixyangaela phwkekhaklawhawaephingepnptipkstxehma odyrabuwa okhrngrangkumphaphnth epn hlkthankhxngkarepnlththiaekkhxngephing aelacdklumekhaekhakbkharachkarthithukpldthieriykwa faytxtanphrrkhkhxngephing lw lu hyang 20 27 inwnthi 16 phvsphakhm oplitbuoridtdsinicxyangepnthangkarodyephyaephrexksarthangkarpranamephing ecin aela phnthmitrthitxtanphrrkh khxngekha dwythxykharunaerng mikarsngyub klumhakhn aelaaethnthidwyklumlththiehmaxyang 27 35 rayaaerk karekhluxnihwkhxngmwlchn kh s 1966 1968 hmayprakas 16 phvsphakhm ineduxnphvsphakhm kh s 1966 mikar khyaysmyprachum khxngspha karprachumkhrngniaethnthicaepnkarprachumxphiprayrwmineruxngnoybay tambrrthdthanpktikhxngkardaeninkarkhxngphrrkh aetepnkarprachumradmihoplitbuorsnbsnunnoybaykhxngehma karprachummiaetphrathungwathsilpthangkaremuxngkhxngehmaekiywkbkartxsuthangchnchnaelami khxklawha thithuketriymkariwephuxklawothsphunaphrrkhthithukkhbilxyang ephing ecinaelalw ruyching exksarephyaephrinwnthi 16 phvsphakhm epnkaretriymtwinkarsnbsnunehma aelaetmipdwykhapranamphuthrys 39 40 khnphwkniepnfaychnchnkradumphithiaethrksumekhamainphrrkh rthbal kxngthphaelainklumwthnthrrmthihlakhlayetmipdwyphwklththiaekthitxtankarptiwti emuxphwkmnehnthiidoxkasaelw phwkmncayudxanacaelaepliynaeplngrabxb ihepnrabxbephdckarkhxngphwkkradumphi phwkmnbangkhnthieramxngphan hruxkhnxun thieraimnukthung phwkmnbangkhnidrbkhwamiwwangiccakeraaelakalngetriymthicaepnphusubthxdxanackhxngera khnphwknixyangechn khnaebbkhruchchxfyngkhngsuksxntwxyukhangera 47 khxkhwamniepnthiruckinchux hmayprakas 16 phvsphakhm cin 五一六通知 phinxin Wǔyiliu Tōngzhi epnkarsrupehtuphlechingxudmkhtikhxngehmathicaichinkarptiwtithangwthnthrrm 40 mnbxkepnnyxyangmiprasiththiphlwa strukhxngphrrkhxmmiwnistekidkhunphayinphrrkhexng nnkhux struthi obkthngaedngephuxtxtanthngaedng 46 withiediywthicakhnhaaelarabutwphwkkhnehlaniidodyphan klxngothrthrrsnaelaklxngculthrrsnthangkhwamkhidkhxngehma ecxtng 46 inkhnathiphunaphrrkhkhxnkhangmikhwamepnnahnunginediywkninkarkahndthisthangkhxngwarakarprachumipinaenwthangkhxngehma aetsmachikoplitbuorcanwnmakkimidkratuxruxrnxairepnphiess hrux bangkhnaekhephiyngsbsnthisthanginkarekhluxnihwkhxngphrrkh 13 khxklawhatxphunaphrrkhthiekhyidrbkarykyxngxyangephing ecin idepnkarsngsyyanetuxnchumchnthangpyyakhxngcinaelainhmu 41 karchumnuminchwngaerk phvsphakhm mithunayn kh s 1966 prathanathibdihliw echachi ineduxnmithunayn kh s 1966 sungepnchwngaerkthiekidkarptiwtithangwthnthrrm hlngcakephing ecinthukkwadlang khnakrrmathikarphrrkhpkkinghyudthangan thaihekidkhwamwunwayinemuxnghlwng inwnthi 25 phvsphakhm phayitkarnakhxng phrryakhxng phuechidchulththiehma aela xacarysxngwichaprchyainmhawithyalypkking idekhiyn 大字报 tacuxepa phrxmkbphunafaysaykhnxun aelaprakaskhaaethlngkarntxsatharna eniyocmtifayphrrkhbriharkhxngmhawithyalythimiphunakhux 56 58 eniyklawepnnywaphunakhxngmhawithyaly epnaebbediywkbephing ecin thiphyayamchudrngkhwamphyayamptiwti epnkarkrathathi raykac inkartxtanphrrkhaelaphlkdnphwklththiaek 56 58 ehmarbrxng tacuxepa khxngeniyinthana opsetxrlththimakskhnadihyaehngaerkincin khxeriykrxngkhxngeniythitxnniidrbkarlngtraprathbxnumtiswntwkhxngehma srangphlkrathbepnipthwsthabnkarsuksaincin nksuksainsthansuksathukaehngerimprathwngaelatxtankarcdtngphrrkhinorngeriyn kareriynkarsxninradbchnprathmsuksaaelamthymsuksakhxngorngeriyninpkkingthukykelikinthnthi tammadwykartdsinicinwnthi 13 mithunayn thiihmikarkhyaykarrangbchneriynthwpraeths 59 61 chwngtneduxnmithunayn fungchnhnumsaycanwnmakidedineriyngraytamthangsycrthisakhykhxngemuxnghlwng sungmikarthuxphaphwadkhxngehmakhnadihy kartiklxngaelakartaoknkhmkhwystrukhxngehma 59 61 emuxmikarpldephing ecin eruxngkhxngphunaphrrkhinekhtpkkhrxngtnexngklaymaepneruxngrawihyot thaihekidkhwamsbsnxyangkwangkhwang pharkicsatharnaaelakarrahwangpraethsthukbdbngodyehtukhxngkarilephing ecin 62 64 aemwaphunaradbsungkhxngphrrkhcathukcbdwykhxhaaetkaredinkhbwnprathwngaelakarpracnhnaekidkhuntamma 62 64 hlngcakkhxkhaaenanacakehmainhangocw hliw echachiaelaeting esiywphingtdsinicsng thimngan 工作组 kngocw cu sungepnklumkhnthi ptibtitamaenwkhidxyangmiprasiththiphaph ipyngorngeriynkhxngemuxngaelahnngsuxphimphehrinhminruxepa ephuxfunfuraebiyb khasngaelacdtngkarkhwbkhumphrrkhkhunihm 62 64 thimnganribdaeninkarxyangerngribekinipaelaimmikhwamekhaicinkhwamrusuknukkhidkhxngnkeriynely imehmuxnkbkhbwnkarthangkaremuxnginthswrrsthi 1950 thimungepaipthipyyachnodytrng aetkhbwnkarihmidennipthiphuptibtingankhxngphrrkhthicdtngkhun hlaykhnmaepnswnhnungkhxngthimngan sngphlihkhnathanganekidkhwamsngsymakkhunwaxikklumhnungmicudmunghmayephuxkhdkhwangkhwamkratuxruxrninkarptiwti 71 txmaphunakhxngphrrkhkaetkaeykknwacaihthimngandaeninngantxiphruxim hliw echachiyunkranthicaihthimnganmiswnrwminkarthangantxip aelaprabpramphwkhwrunaerngkhxngphrrkh odyekhaklwwakhwamekhluxnihwkhxngphwknicakhwbkhumimid 75 thlmkxngbychakar krkdakhm kh s 1966 khwamkhdaeyngrahwangehmaaelahliwinpikh s 1966 ehma ecxtngaetkhkkbhliw echachi khwa sungdarngtaaehnngprathanathibdiaehngsatharnrthprachachncin inchwngpraedn thimngan karotethiyngkhxngehmathieriykwa thlmkxngbychakar idrbkaryxmrbxyangkwangkhwangwaekhakalngphungepaipthihliw sungthukmxngwaepn kxngbychakarkradumphi phayinphrrkhkhxmmiwnist inwnthi 16 krkdakhm prathanehmamixayu 72 pi idedinthangipyngaemnaaeyngsiinxuhn phrxmphasuxmwlchnipdwy ekhaidthasingthiklayepnsylksn karwaynakhamaeyngsi ephuxaesdngihehnthungkhwamphrxminkartxsukhxngekha txmaekhaklbipyngpkkingephuxdaeninkarwiphakswicarnphunaphrrkhinpyhaeruxng thimngan ehmaklawhawa thimnganidbxnthalaykhbwnkarnksuksa aelaeriykrxngihthimnganthxntwphayinwnthi 24 krkdakhm hlaywnthdmamikarcdkarchumnumkhunthiephuxprakaskartdsinicaelakahndaenwthangihminkarekhluxnihwihkbxacaryaelanksuksankeriyntammhawithyalyaelawithyaly inkarchumnum hwhnaphrrkhidprasrytxphuchumnumwa cngxyatunklw aelaekhluxnihwxyangklahayodyimthukphrrkhaethrkaesng 84 pyhaeruxngthimnganthuxepnkhwamphayaephthangkaremuxngkhxngprathanathibdihliw echachi nxkcakniekhayngsngsyyanwaekhaimehndwyinkarcdkartxehtukarnthiekidkhun ekhamxngwakarptiwtithangwthnthrrmcathaihehmaaeykxxkcakehlaphunaphrrkhodyimxacyxnklbid inwnthi 1 singhakhm khrngthi 11 khxngideriykprachumxyangerngribephuxsnbsnunwarathangkaremuxngthikawhnakhxngehma inkarprachum ehmaidaesdngkarduhminprathanathibdihliwxyangying ekhakhdcnghwahliwsaaelwsaela inchwngthihliwklawsunthrphcnepidprachumspha 94 hlaywntxma ehmaphudsxesiydsaaelwsaelawa phunaphrrkhidfafunhlkkarkhxngkarptiwti aenwkhidkhxngehmaidrbkartxbrbxyangxbxuninthiprachum emuxrusukwaphunaradbsunginphrrkhimetmicthicaoxbrbxudmkarninkarptiwtikhxngekha ehmakepidchakocmti yuwchnaednginpkkingcaksay 1 nksuksainekhiynpranamhliw echachi 2 opsetxrkhnadihykhxngmhawithyalypkking 3 yuwchnaednginorngeriynmthymthi 23 obkhnngsuxelmelk khtiphcncakprathanehma ecxtng inkarchumnumkarptiwtiinhxngeriyn phaphthaythnghmdmacak inchwng yuwchnaedngidcbtw phriyakhxnghliw echachi mapranamihekidkhwamxbxay inwnthi 28 krkdakhm yuwchnaedngekhiyncdhmaythungehma ephuxeriykrxngihkxkbtaelaihekidkarepliynaeplngkhrngihyephuxpkpxngkarptiwti ehmatxbklbcdhmaydwykarekhiynopsetxrtwxksrkhnadihywa odyradmphukhnihtngepahmayipthi sunybychakar echn sanknganihy khxngkarptiwtisxn ehmaekhiynwaaemcaphankarptiwtikhxmmiwnistmaaelw aetchnchn kradumphi yngkhngecriyrungeruxngin taaehnngxanac inrthbalaelaphrrkhkhxmmiwnist aemwacaimmikarexychux aetkhaywyukhxngehmathuktikhwamwaepnkarbriharcdkarphrrkhphayithliw echachiaelaeting esiywphing sungepn kxngbychakarkradumphi khxngcin karepliynaeplngkhxngbukhlakrinkarprachumidsathxnkarprbepliynokhrngsrangphrrkhihmihmikhwamepnhwrunaerngxyangsineching ephuxtxbrbwarathangkaremuxngihm hliwaelaetingyngkhngnngintaaehnngkhnakrrmathikarpracaoplitbuor aetaethcringaelwphwkekhathukkidkncakkickarinaetlawnkhxngphrrkh hlin epiywidrbkareluxnihepnbukhkhlxndbsxngkhxngphrrkh hliw echachithukeluxnlngcakxndbsxngmaxyuxndbaepdaelaimichthayaththangkaremuxngkhxngehmaxiktxip prakxbkbphunaradbsungthithukilxxkcaktaaehnngxanacepnkarthalayrabbrachkarkhxngphrrkhkhxmmiwnistipinwngkwang sungduaelkarbriharnganbukhkhlphayinphrrkhtxnghyudchangk klumptiwtithangwthnthrrm CRG sungepnklum iprotrixani khxnglththixudmkhtiehma idthukphlkdnihmichuxesiynginkarephyaephrxudmkarnthangkaremuxngkhxngekhaaelaradmphlphusnbsnun ecahnathiradbsunginfayokhsnachwnechuxthukilxxk aelahnathihlayprakarktkxyukbklumptiwtithangwthnthrrm 96 singhaaedngaelasibhkkhx singhakhm kh s 1966 ehma ecxtngaelahlin epiywaewdlxmipdwyyuwchnaednginpkking phaphthaycak hnngsuxelmaedngelk khtiphcncakprathanehma ecxtng epnklikthinayuwchnaedngipsuepahmaykhxngphwkekhaephuxkahndxnakhtkhxngcin khtiphcnkhxngprathanehmathaihekidkardaeninkarkhxngehlayuwchnaedngthuepnklumniymlththiehmakhnxun 107 odyineduxnthnwakhm kh s 1967 mikartiphimphhnngsuxnithung 350 lanelm 61 64 hnunginkhtiphcnkhxnghnngsuxelmaedngni sungepnsingthiyuwchnaedngidptibtitaminewlatxma odyehmaklawwa olkibniepnkhxngkhun aelaepnkhxngphwkeraechnkn aetcakkarphiekhraahaelw olkthngibkhuxkhxngkhun khunkhnhnumsaw thietmipdwyphlakalngaelakhwammichiwitchiwaechkechndwngxathityintxnaepdomnghruxekaomngecha khwamhwngkhxngeraxyuthiphwkkhun olkibniepnkhxngkhun xnakhtkhxngcinepnkhxngkhun inchwngsinghaaedngkrungpkking wnthi 8 singhakhm kh s 1966 khnakrrmathikarklangphrrkhkhxmmiwnistcinidphicarnaphan khxtdsinicekiywkbkarptiwtithangwthnthrrmchnchnkrrmachiphkhrngihy sungtxmathukeriykwa sibhkkhx khxtdsinicniniyamkarptiwtithangwthnthrrmwaepn karptiwtikhrngyingihythismphscitwiyyankhxngphukhnaelaepnewthithiluksungaelakwangkhwangyingkhuninkarykradbkhxngpraethsera aemwachnchnkradumphicathukokhnlm aetmnkyngphyayamichkhwamkhid wthnthrrm khnbthrrmeniym aelaaenwkhideka khxngphwkchnchnthiexardexaepriybmasrangmlthinaekmwlchn yudkumcitickhxngphwkekha aelaklbekhamamibthbathxikkhrng chnchnkrrmachiphtxngdaeninkartrngknkham txngephchiykhwamthathaycakchnchnkradumphi ephuxepliynaeplngmummxngsngkhm inpccubn epahmaykhxngerakhuxkartxsuaelabthkhyiphumixanacthikalngedininesnthangkhxngthunniym txngwiphakswicarnaelaptiesth phumixanac thangwichakarthiepnphwkkradumphiptikiriya aelaaenwkhidkhxngphwkkradumphiaelaphwkchnchnxun thiexardexaepriybthnghmd aelaephuxepliynaeplngkarsuksa wrrnkrrmaelasilpa aelasingxun khxngokhrngsrangswnbnthiimsxdkhlxngkbthanesrsthkicsngkhmniym ephuxsngesrimkarkrachbxanacaelaphthnarabbsngkhmniym ctursethiynxnehmininwnthi 15 knyayn kh s 1966 inchwngkarradmphlyuwchnaedngkhxngprathanehma phaphthaycak niyamkhxngsibhkkhxnnkwangiklekinkhxbekht mnykradbinsingthiekhyepnkarekhluxnihwkhxngnksuksamaepnkarradmmwlchnthwpraethsthikratunthng aerngngan ekstrkr thharaelasmachikphrrkhradblangihlukhuxkhun thathayphumixanacaelaprb okhrngsrangswnbn khxngsngkhmihm inchwng n krungpkking wnthi 18 singhakhm kh s 1966 yuwchnaedngmakkwalankhncakthwpraethsmachumnumknthictursethiynxnehminephuxtxngkarphbpaprathanehma 106 07 ehmaidedinlngippapnkbyuwchnaedngephuxkratunkalngicphwkekha aelaswmplxkaekhnyuwchnaedngdwytwexng 66 hlin epiywidyunkhunbnewthiklangkhxngkarchumnumwnthi 18 singhakhm odypranamstruthukrupaebbinsngkhmcinthikhdkhwang khwamkawhnakhxngkarptiwti 66 hlngcaknnkarsngharhmukhrngihykekidkhuninpkkingaelakaephrkhyayipthwpraethscin inwnthi 22 singhakhm kh s 1966 idmikarxxkkhasngklangephuxhyudyngtarwcinkarrbmuxkbphuchumnumyuwchnaedng aelatarwcthifafunprakasnicathuktrahnawaepnphwk 124 ehmachunchmkarkxkbtthidaeninkarodyyuwchnaedng 515 ecahnathiswnklangykelikkarcakdphvtikrrmthirunaerngephuxsnbsnunkarptiwti 126 phubychakartarwcaehngchati mkprakasxphyoths xachyakrrm thikxodyyuwchnaedng 125 epnewlasxngspdah ekidkhwamrunaerngthaihecahnathiphupkkhrxngkwa 100 khnaelachnchnklanginpkkingesiychiwitinekhtthangtawntkkhxngpkking aelamiphubadecbekinkwann 126 singthirunaerngthisudinkarrnrngkhni idaek karthrman karkhatkrrm aelakarsrang phukhncanwnmakthukklawhawaepnfayptipkskarptiwtitxngkhatwtay inchwngsinghaaedng kh s 1966 inpkkingmiprachachnthuksnghar 1 772 khn ehyuxhlaykhnepnkhruxacarythithukocmtihruxbangkhnthukkhaodynkeriynkhxngtnexng inesiyngih miprachachnkhatwtay 704 khn aelathuksnghar 534 khn inchwngkarptiwtithangwthnthrrmeduxnknyayn inxuhn mikhnkhatwtay 62 khn aelathuksnghar 32 khn inchwngewlaediywkn 124 ephing etxhwythuknatwmayngpkkingephuxthuksrangkhwamxpysinsatharna karthalaysingekathngsi phrabrmsphkhxngckrphrrdiwanliaehngrachwngshming klumyuwchnaedngidkhudphrabrmsphkhxngckrphrrdiwanliaelackrphrrdinisxngphraxngkhmaiwhnaolngphrasph aelaphwkekhathakar pranam phrabrmsphaelanaipephathinginewlatxmathukocmtiodyyuwchnaedngineduxnphvscikayn kh s 1966 inchwngeduxnsinghakhmthungphvscikayn kh s 1966 idmikarchumnumcanwnaepdkhrng odymiphuekharwmmakkwa 12 lankhncakthwpraeths sungswnihyepnyuwchnaedng 106 rthbaltxngaebkrbkhaichcaykhxngyuwchnaedngthiedinthangipthwpraeths ephuxepliynepn prasbkarnkarptiwti 110 inkarchumnumkhxngyuwchnaedng hlin epiywideriykrxngihthalaysingekathngsi sungidaek khnbthrrmeniymeka wthnthrrmeka nisyickhxeka aelakhwamkhideka 66 kraaesptiwtiidphdphapraethsiprawkbphayu odyyuwchnaedngepnnkrbthioddednthisud karepliynaeplngbangxyangthiekiywkhxngkb singekathngsi swnihyimepnxntray echn karepliynchuxthnn sthanthiaelaaemaetchuxphukhn odytharkthiekidmacamichuxthisxdkhlxngkb karptiwti aetkickrrmdanxun khxngyuwchnaedngmilksnaepnkarthalaylangmakkwa odyechphaainkhxbekhtwthnthrrmaelasasna obransthanhlayaehngthwpraethsthukthalay odyechphaaxyangyingkhwamesiyhaythiekidaekemuxnghlwngpkking yuwchnaedngyngkhngekhapln emuxngch wifu mnthlchantng 119 rwmthungsusanaelasingpradisththimikhwamsakhythangprawtisastrmakmay hxngsmudthietmipdwytarathangprawtisastraelahnngsuxtangpraethsthukthalay hnngsuxthukepha wd obsth msyid xaramaelasusanthukpid aelabangaehngthukddaeplngipichpraoychnxyangxun bangkthukplnsadmaelathalay karokhsnachwnechuxkhxnglththimaksidwadphaphsasnaphuththwaepnkhwamngmngay aelasasnathukmxngwaepnwithikaraethrksumkhxngphwktangchatithiepnstru tlxdcnepnekhruxngmuxkhxngchnchnpkkhrxngnkbwchthukcbkumaelathuksngipyngkhaykkkn sasnikchnsasnaphuththaebbthiebtthukichpunkhmkhuephuxihphwkekhathalayxaramthangsasnakhxngphwkekhaexng karprachumnganswnklang tulakhm kh s 1966 ineduxntulakhm kh s 1966 ehmaidcdprachum karprachumnganswnklang sungepnkaronmnawehlaphunaphrrkhthiyngimidedinrxytamxudmkarnkarptiwti hliw echachiaelaeting esiywphingthukdaeninkhdiinthanaswnhnungkhxngphwknaythunkradumphi zichanjieji fandong luxian aelatxngwicarntwexngxyangimetmic 137 hliwsungkhrnghnungekhyepnbnthitchnchnpkkhrxngsayklangthithrngxanac hlngkarprachumekhathukkkbriewninbanthikrungpkking caknnthuksngtwipkhaykkkn ekhapwyaelathukptiesthkarrksaaelaesiychiwitinpikh s 1969 eting esiyngphingthuksngtwiprbkarsuksaihmaelathuksngipthanganorngnganekhruxngyntthimnthleciyngsi fayhwrunaerngyudxanac kh s 1967 karekhluxnihwephuxeriykrxngkaryudxanacinmnthlchansi eduxnemsayn kh s 1967 khbwnkarmwlchncinidrwmphlknaetmisxngklumsungepnkhukhdaeyngkn fayhwrunaerngihkarsnbsnunkarkwadlangthangkaremuxnginphrrkhkhxmmiwnistkhxngehma aelaxikfaykhux phwkxnurksniymthisnbsnunklumsayklang inwnkhrbrxbwnkhlaywnekidkhxngehma wnthi 26 thnwakhm kh s 1966 ehmaprakas sngkhramklangemuxngrxbdan ephuxaekikhpyhakhwamkhdaeyngodyihkxngthphpldplxyprachachnihkarsnbsnun faysay aetkimmikarkahndepnkdxyangchdecn enuxngcakehlaphubychakarkhxngkxngthphpldplxyprachachnmikhwamsmphnthinkarthanganthiiklchidkbklumphukxtngphrrkh hnwythharcungthanganihehmaaethnthicaipprabpramfayhwrunaerngkhxngehma ehtukarninpkkingkratunihekidkarkxtngklum duoquan khunmathwpraethsaelakhyaythanipyngorngnganaelatamchnbththwpraethscin inesiyngih hnumkrrmkrorngnganchux hwng hngehwinidcdtngaenwrwmkarptiwtithikwangkhwang aelaidekhaipaethnthiklumyuwchnaedngthimixyu inwnthi 3 mkrakhm kh s 1967 dwykarsnbsnuncaksmachikklumptiwtithangwthnthrrmrunihyxyang cang chunechiywaelahwng hngehwin cungklayepnklumnkekhluxnihwplukradmokhnlmfaybriharethsbalemuxngesiyngihsungbriharody ehtukarnnithukeriykwa aelamikarkxtng 115 ehtukarninesiyngihsrangkhwamprathbictxehmamak aelakratunihekidehtukarnkhlay knthwpraethscin rthbalradbcnghwdaelahlayswnkhxngrth rabbkarbriharphrrkhidrbphlkrathb odymirupaebbkaryudxanacthinacdcaaetktangkn thukcdtngkhun aethnthirthbalthxngthinaelakarbriharphrrkhsakha yktwxyangechninpkking miklumptiwtiaeykknsamklumaelaprakasyudxanacinwnediywkn khnaediywkninmnthlehyhlngeciyng elkhathikarphrrkhthxngthinidphyayam yudxanac cakkarbriharkhxngphrrkhihxyuphayitekhaexng phunabangkhnthungkbekhiynihmikarokhnxanacklumptiwtiwthnthrrm 170 72 inpkking eciyng chingaelacang chunechiyw phyayamphungepaipthirxngprathanphrrkh khbwnkaryudxanatidebnhwipthangkxngthphdwyechnkn ineduxnkumphaphnth nayphlphumichuxesiyngxyangey eciynxingaela rwmthungrxngprathanphrrkh yunynkhdkhantxkhwamrunaerngthithwimakkhunklawhaphuxawuosinphrrkhbangkhnthiphyayamthaeruxngskprk odyklawhawacudprasngkhthiaethcringkhxngklumptiwtithangwthnthrrmkhuxkarkacdphuphithkskarptiwtiruneka inchwngaerkehmadaeninkarinthangtrngknkham ekhakawekhaipinsphaoplitbuorinwnthi 18 kumphaphnth ephuxpranamphwkfaytxtanodytrng ekhasnbsnunkickrrmkhxngphwkhwrunaerngxyangetmthi kartxtaninchwngsn nithuktrahnawa 195 96 epnkarpidpakphuwiphakswicarnthiekhluxnihwphayinphrrkhxyangepnprasiththiphaphinpitx ip 207 09 inchwngthifayptiwtikalngthxdruxrthbalthikalngbrihar aelaxngkhkarkhxngphrrkhthwpraeths aetenuxngcakkaryudxanackhadphunaaebbrwmsuny cungimmikhwamaenchdwaikhrepnphuyudmninwisythsnkarptiwtikhxngehmaodyaethcring aelaikhrthiepnphuchwyoxkascakkhwamoklahlephuxphlpraoychnkhxngtnexng ekidkarkxtwkhxngklumptiwtithiepnkhuaekhngkn epnkarsaaedngthungkhwambadhmangkhxngthxngthinthikxtwmananaelw thaihekid khwamtungekhriydephimkhunrahwangxngkhkarmwlchnaelakxngthphechnkn hlin epiywidtxbsnxngpyhanidwykarihkxngthphsnbsnunphwkhwrunaerng inkhnaediywknkxngthphidekhakhwbkhumbangmnthlaelathxngthisungthuxwaimmikhwamsamarthinkarepliynthayxanackhxngtnexngid 219 21 inemuxngtxnklangxyangxuhn epnehmuxnknkbxikhlay emuxng mixngkhkrkarptiwtisxngklumihy xngkhkrhnungsnbsnunaenwthangxnurksniym xikxngkhkrktxtan thngsxngklumtxsuephuxaeyngchingxanacinkarkhwbkhumemuxng nayphlinphunthiaethbni ichkalngtxtankarchumnumprathwngkhxngklumthisnbsnunodyehma xyangirktaminchwngthiekidoklahl ehmaedinthangdwyekhruxngbinipxuhnphrxmecahnathiswnklangcanwnmakephuxphyayamthaihthharinphunthiyngkhngkhwamcngrkphkdixyu inwnthi 20 krkdakhm kh s 1967 phukxkhwamimsngbinphunthiidlkphatw phuaethnkhxngehma thaihekidehtukarn sngphlihnayphlechin icetathuksngipyngpkkingaelathukthdsxbodyeciyng ching phrxmklumptiwtithangwthnthrrmkhnxun kartxtankhxngechinthuxepnkartxtancakphayinkhrngsudthaythiekhluxnihwphayinkxngthphpldplxyprachachn 214 cang chunechiywsungepnhnunginaekngxxfofrkyxmrbexngwa pccythisakhythisudkhxngkarptiwtithangwthnthrrmimichklumyuwchnaedng hrux klumptiwtithangwthnthrrm hrux xngkhkr kxkbt id aetpccysakhykhuxkxngthphpldplxyprachachn emuxkxngkalngpldplxyprachachninthxngthinihkarsnbsnunklumhwrunaerngkhxngehma aelathaimmikarrwmmuxcakklumni karptiwtikhxngehmakimprasbphlsaerc 175 karpathaknxyangrunaerngekidkhunaethbthukemuxng hlngehtukarnthixuhn ehmaaelaeciyng chingerimcdtng kxngkalng krrmkr tidxawuthpxngkntwexng kxngkalngptiwtitidxawuthinlksnamwlchn ephuxtxbotsingthiehmapraeminwamiphwkkhwacd 75 inkhnanaythharkhxngkxngthphpldplxyprachachn emuxngchngching sungepnsunyklangkarphlitxawuth epnsthanthithimikarpathaknxyangdueduxdkhxngthngsxngfay odyinekhtkxsrangkhxngemuxng mikartxsuknthung 10 000 khn odyichrththng punihyekhluxnthi puntxtanxakasyanaelaxawuth aethbthukrupaebbtampraephthxawuththwip miplxkkrasunpunihythung 10 000 nd inemuxngchngchingeduxnsinghakhm kh s 1967 214 15 thwpraethsmixawuthpuncanwnthngsin 18 77 lankrabxk punihy 14 828 krabxk raebid 2 719 545 lukxyuinmuxphleruxn aelaichinchwng khwamkhdaeyngrunaerng sungswnihyekidinchwngkh s 1967 thung 1968 inemuxngchngching emuxngesiyehminaelaemuxngchangchun mikarichrththng rthhumekraa hruxaemaeteruxrbinkartxsu karkwadlangthangkaremuxngaelanoybay karekhluxnihwlngsuchnbth kh s 1968 karcharalangradbtaaehnng phvsphakhm knyayn hliw echachithukehyiydhyamtxhnasatharnchninchwngkarptiwtithangwthnthrrm ineduxnphvsphakhm kh s 1968 ehmaprakas karcharalangradbtaaehnng khnanihy epnkarkwadlangthangkaremuxngincinaephndinihy ecahnathihlaykhnthuksngipyngchnbthephuxekharbkarsuksaihm inwnthi 27 krkdakhm kh s 1968 xanackhxngyuwchnaedngthimiehnuxkxngthphpldplxyprachachnidsinsudlngxyangepnthangkar aelarthbalthithukcdtngkhunidsngthharippidlxmphunthithiimekhythukaetatxngodyyuwchnaedng hnungpitxmafayyuwchnaedngthukkwadlangcnhmd ehmakhadkarnwakhwamoklahlthiyuwchnaedngthakhunmaxacthaihmiwarathangkaremuxngkhxngtnexng aelaxacthuklxlwngihtxtanxudmkarnkarptiwti ehmaaelaphrrkhphwkhwrunaerngphlikklbfaysnbsnunaelacdtngxanackhxngtnexng hlngcakthiehnwathukxyangbrrlutamthwtthuprasngkhthngsin hliwthukkhbilxxkcakphrrkhkhxmmiwnistaehngpraethscininkarprachumrwmkhrngthi 12 khxngkhnakrrmkarklangthiaepd ineduxnknyayn kh s 1968 aelamikartidpaywa kxngbychakarchnchnkradumphi sungduehmuxncamikarphadphingthung karthlmkxngbychakar thiehmaekhiyniwemuxsxngpikxn karekhluxnihwlngsuchnbth thnwakhm kh s 1968 ineduxnthnwakhm kh s 1968 ehmarierimrnrngkh karekhluxnihwlngsuchnbth inchwngkarekhluxnihwnikinewlathungthswrrstxip chnchnkradumphihnumsawsungxasyxyuinemuxngthukbngkhbihedinthangipyngchnbthephuxsmphschiwitkarthangan mikarniyamthung pyyachnruneyaw xangthungnksuksathiphungsaerckarsuksa inchwnghlngthswrrsthi 1970 nkeriynehlaniidklbbanekidinemuxng nkeriynhlaykhnekhyepnsmachikkhxngyuwchnaedng idxxkmasnbsnunkarekhluxnihwaelawisythsnkhxngehma karekhluxnihwniepnswnhnungkhxngkarekhluxnyayyuwchnaedngcakemuxnglngsuchnbth ephuxihekidphawakhwamwunwaythangsngkhmihnxylng nxkcakniepnkarephyaephrnoybayptiwtikhxngcininechingphumisastr kraaeskhwamkhlngmamwng aelalththibuchatwbukhkhlkhxngehma singhakhm kh s 1968 phaphwadsinamnkarokhsnachwnechuxkhxngehmainkarptiwtithangwthnthrrm kh s 1967 invduibimphli kh s 1968 mikarrnrngkhkhrngihyephuxsrangekiyrtiphumiaekehma twxyangthioddednkhux kraaeskhwamkhlngmamwng inwnthi 4 singhakhm kh s 1968 ehmaidrbmamwngcanwn 40 phlcak epnkarmxbihinechingkarthut ehmaihphuchwykhxngekhasngmamwngipihthimokhsnachwnechuxkhxngehma ecxtng thimhawithyalychingh wa inwnthi 5 singhakhm thimnganidpracakarxyuthinnsungmikarpathaknxyangengiyb thamklangklumyuwchnaedng inwnthi 7 singhakhm mikartiphimphbthkhwamlnginhnngsuxphimphehrinhminruxepa inchwngbaykhxngwnthi 5 mikhawyindixyangyingemuxthanprathanehmamxbmamwngihaekthimokhsnachwnechuxkrrmkraelachawnatamaenwkhidehma ecxtng emuxmamwngmathungmhawithyalychingh wa phukhntangmarwmtwknrxb khxngkhwythithanprathanehmaphuyingihymxbihthnthi phwkekhataoknohrxngxyangdiicaelarxngephlngxyangeprmpridi nataihlrin aelaphwkekhasngkhwamprarthnaxyangcringickhrngaelwkhrngelakhxihphunathiyingihyxnepnthirkyingkhxngphwkeramixayuyunnbhmunpixyangimsinsud phwkekhaidothrsphthipthihnwyngankhxngtnephuxephyaephrkhawxnnayindiyingni aelaphwkekhayngcdkickrrmechlimchlxnghlakhlaytlxdthngkhun aelaedinthangmathungcnghnanih thirwmtwphuna thng thifntkephuxrayngankhawdini aelaephuxaesdngkhwamcngrkphkditxprathanehmaphuyingihy bthkhwamtxmakekhiynodyecahnathirthmikarokhsnachwnechuxeruxngkarrbmamwng mibthklxnxunin ehrinhminruxepaekhiynwa cxngmxngmamwngthxngkhann rawkbehnthanprathanehmaphuyingihy smphsmamwngsithxngsaaelwsaelann mamwngthxngkhachangaesnxbxun inewlanninpraethscinmiephiyngimkikhnthiekhyphbehnmamwngmakxn aelamamwngthukmxngwaepn phlimthihayakthisud esmuxnkarhaehdaehngkhwamxmta mamwng khxngkhwylakha opsetxrkarptiwtithangwthnthrrm kh s 1968 mamwngphlhnungthuksngipyngorngngansingthxpkking sungkhnakrrmkarptiwtiidcdchumnumechlimekiyrtiihmamwng khnnganidxankhaklawkhxngehmaaelaechlimchlxngkhxngkhwy mikarsrangaethnbuchaephuxsdngphlimihednchd hlngcaknnsxngsamwnemuxepluxkmamwngerimena kmikarplxkepluxkxxkaelanamamwngiptmnainhmxna caknnkhnngankcaidrbnamamwngkhnlahnungchxnetm khnakrrmkarptiwtiyngthaaebbcalxngkhxngmamwngaelatngaesdngthisunyklangkhxngorngngan caknnhlayeduxn kraaeskhwamkhlngmamwng epnphlimthiaesdngthungkarsrang khwamcngrkphkdixyangirkhxbekht thimitxprathanehma mikarsrangmamwngcalxngmakkhun aelasngaebbcalxngipthwkrungpkkingaelahlay sthanthikhxngcin khnaptiwtihlaykhncaktangcnghwdmathsnsuksaephuxdunganmamwngcalxnginpkking phukhnrawkhrunglankhnedinthangmaeyiymchmaebbcalxngmamwngemuxphwkekhamathungemuxngechingtu payaelaopsetxrtidphnngmirupmamwngaelaehmasngphlitpayehlanncanwnhlaylanpay phlimepncudrwmichkninthukxngkhkrinthanaepnswnhnungkhxngthimokhsnachwnechux mikaredinkhbwnkhrngihyephuxsnbsnun ecinkuy lipin khxngkhwylakha sungkkhuxmamwngtamthithrabkn thntaephthykhnhnunginemuxngelk chux nayaephthyhn idmxngmamwngaelaklawwamnimmixairphiesselyaelaruprangkehmuxnmneths ekhacungthukdaeninkhdiinkhxhaisraypaysi aelamikhwamphid txngedinpracantwexngiprxbemuxng sudthaythukpraharchiwitdwykaryingepathisirsa mikarxangwaehmaichmamwngephuxihidrbkarsnbsnuncakaerngngan sungcaphyayamthathukxyangephuxhyudkartxsufkfayinklumnkeriynnksuksa aelaepn twxyangthisakhykhxngklyuththkarsnbsnunechingsylksnkhxngehma aemkrathngcntngpikh s 1969 phuekharwmkarsuksalththiehmainpkkingcamaphrxmkarthxdaebbphliteruxngmamwngkhnanihyaelayngkhngidrbkhwamsniccaksuxmwlchninmnthltang warakhxnghlin epiyw kh s 1969 1971 karepliynphanxanac emsayn kh s 1969 caksay ehma ecxtng hlin epiyw ocw exinihlaela inpkking kh s 1966 chwngkarptiwtithangwthnthrrm mikhunineduxnemsayn kh s 1969 epnkar funfu phrrkhdwykhwamkhidihm aelaphuptibtingansungepnkhnhwobrancanwnmakthukkacdipinkartxsuemuxkhrnghlaypikxnaelw 285 krxbokhrngsrangechingsthabnkhxngphrrkhthitngkhunemuxsxngthswrrskxnidphngthlaylngekuxbthnghmd phuaethninsphathukeluxkodnkhnakrrmkarptiwtimakkwaphankareluxktngcaksmachikphrrkh 288 twaethncakkxngthphephimkhunmakemuxethiybkbkarprachumsphakhrngkxn 28 khxngphuaethnthnghmdepnfaykxngthphpldplxyprachachn aelamikareluxktngfaykxngthphpldplxyprachachnmakkhunihekhaepnkhnakrrmkarchudihm 292 naythharcanwnmakidrbkareluxntaaehnngepnradbxawuossungphkditxcxmphlkhxngkxngthphpldplxyprachachn khux hlin epiyw thaihekidkhwamaetkaeykepnfkfaykhxngphunafaykxngthphaelaphunafayphleruxn 292 eraimephiyngaetrusukpitiyindixyangirkhxbekhtethann ephraaeramiphunathiyingihyxnepnphunathiyingihyaehnglththimaks elnininyukhsmykhxngera aeterayngmikhwamyindixyangyingdwy ephraaeramithanrxngprathanhlinepnphusubthxdtaaehnngcakthanprathanehmathiidrbkaryxmrbinradbsakl naykrthmntriocw exinihlklawsunthrphcninkarprachumsphaphrrkhkhxmmiwnistaehngpraethscinkhrngthieka hlin epiywidrbkareluxntaaehnngxyangepnthangkarihepnbukhkhlladbthisxngkhxngphrrkh odymichuxkhxngekhathukekhiynrbrxngin inthana shaythisniththisud khxngehmaaela phusubthxdxnepnthiyxmrbinradbsakl 291 inewlannimmiphrrkhkhxmmiwnisthruxrthbalid inolkthinaaenwptibtiinkarbrrcuphusubthxdtaaehnngkhntxipiwinrththrrmnuy karptibtinithuxepnexklksnkhxngcin hlinklawsunthrphcninkarprachum odymiexksarthirangodyphwkhwrunaerngfaysayxyangehya ehwinhywnaelacang chunechiyw phayitkarkakbduaelkhxngehma 289 exksardngklawwiphakswicarnhliw echachiaela phuptipkskarptiwti xyanghnkaelamikarnakhxkhwaminhnngsuxelmaedngkhxngehmamaichxyangmak karprachumsphaidesrimkhwamaekhngaekrngihaekbthbathkhxnglththiehmaphayincitickhxngphrrkh odyaenanalththiehmaxikkhrngwaepnxudmkarnchinaxyangepnthangkarkhxngphrrkhinrththrrmnuykhxngphrrkh sudthaysphaideluxksmachikoplitbuolihmodymiehma ecxtng hlin epiyw echin pxta ocw exinihlaelakhng esing epnkhnakrrmkarpracakrmkaremuxng hlin echinaelakhngtangidrbpraoychncakkarptiwtithangwthnthrrm ocwthukldtaaehnngaelaaesdngkarsnbsnuntxhlinxyangchdaecnginspha 290 ehmayngidfunfukarthangankhxngsthabnphrrkhthiepnthangkarbangaehng echn kardaeninngankhxngoplitbuorkhxngphrrkh sunghyuddaeninkariptngaetpikh s 1966 aela 1968 enuxngcakklumptiwtithangwthnthrrmklangidkhwbkhumxanac odyphvtiny khxngpraeths 296 kxngthphpldplxyprachachnkawekhamamibthbathoddedn kh s 1970 hlin epiywkalngxanhnngsuxelmaedngkhxngehmainpikh s 1971 ekhaidrbkaryunyninthanaphusubthxdxanackhxngehmaxyangepnthangkarinrththrrmnuycakkarprakasinpikh s 1969 khwamphyayamkhxngehmainkarcdraebiybphrrkhaelasthabnkhxngrththaihekidphllphththihlakhlay mnthlhangiklhlayaehngyngkhngwunwayinkhnathiinpkkingmiesthiyrphaphthangkaremuxng kartxsurahwangklumtang yngkhngmikhwamrunaerngaelayngdaenintxipinradbthxngthin aemwacamikarprakasinkarprachumkhrngthiekawa epn chychna chwkhrawkhxngkarptiwtithangwthnthrrm 316 nxkcaknithungaemwaehmaphyayamsrangkhwamepnxnhnungxnediywkninspha aetkmikaraebngfayrahwangkxngthphpldplxyprachachnkhxnghlin epiyw aelaklumphwkhwrunaerngkhxngeciyng ching thithaihkhwamkhdaeyngthwikhwamrunaerngmakkhun karthiphunabangkhnimchxbeciyng chingepnkarswntwiddungdudihphunaphleruxncanwnmakphyayamxxkhang rwmthungnkthvsdithimichuxesiyngxyang echin pxtathihnmaiklchidkbhlin epiyw 115 inrahwangkh s 1966 aelakh s 1968 cinthukoddediywinradbsaklodyidprakaskhwamepnptipkstxthngshphaphosewiytaelashrthxemrika khwamkhdaeyngkbshphaphosewiytthwikhwamrunaerngkhunhlngcakmikarthiineduxnminakhm kh s 1969 odyphunacinetriymphrxmthasngkhram 317 ineduxntulakhm phunaradbsungidxphyphxxkcakpkking 317 thamklangkhwamtungetriydni hlin epiywidxxkkhasngfaybriharihetriymthasngkhramsngipyngkxngphnthharpldplxyprachachnthng 11 kxngphninwnthi 18 tulakhm odyimphanehma singnisrangkhwamokrthekhuxngkhxngprathanehma cungepnhlkthanwaxanackhxngekhaxacthukaeyngchingkxnewlaxnkhwrodyphusubthxdkhxngekhaexng 317 khwamkhdaeyngrahwanghlinaelaeciynginpikh s 1969 hlngcakhlin epiywidepntaaehnngphusubthxdkhxngehmaxyangepnthangkar phunaphrrkhhlaykhnaelakxngthphpldplxyprachachnihkarsnbsnunekha cungekidkhwamkhdaeyngkbfayhwrunaernginkarptiwtithangwthnthrrmkhxngeciyng ching phriyaprathanehma fayhlinidkhwamniymcakphleruxnmakkwaeciyng cungthaihehmamikhwamraaewngwaekhacathukphusubthxdkxrthprahar oxkasinkarthasngkhramidthaihkxngthphpldplxyprachachnmikhwamoddedninkaremuxngphayinpraeths odyephimphunthikhwamniymkhxnghlinaetaelkmadwykhwamniymkhxngehmathithukbdbng 321 mihlkthanbangxyangchiihehnwa ehmathukphlkdnihaeswnghakhwamiklchidkbshrthxemrikamakkhunephuxhlikeliyngkarkhrxbngakaremuxngkhxngkxngthphpldplxyprachachninkickarphayin xnepnphlmacakkarephchiyhnathangthharkbshphaphosewiyt 321 ehmaidphbpakbrichard niksn prathanathibdishrthxemrikainpikh s 1972 ehmaklawepnnykbprathanathibdiwa hlinimehndwykbkaraeswnghakhwamsmphnthxndikbshrthxemrika 322 funfutaaehnngprathanathibdi prathanaehngrth hlngcakhlinidrbkaryunyninthanaphusubthxdkhxngehma phusnbsnunekhaidmungmninkarfunfutaaehnngprathanathibdi prathanaehngrth sungthukyubelikipodyehma ecxtnginchwngkwadlanghliw echachi phwkekhahwngwakarxnuyatihhlinphxnkhlaybthbathinkaraethrkaesngtamrththrrmnuykhxngprathanaelarxngprathan cathaihkarsubthxdtaaehnngkhxnghlinmikhwamepnsthabn chnthamtiphayinidrabuihehmadarngtaaehnngniodymihlinepnrxngprathan aetehmaideplngesiyngkhdkhanxyangchdecnodyimmisaehtu sungepnkarkhdkhantxkarsthapnataaehnngkhunmaihmaelakhwamhyingphyxngkhxngekha 327 karaekngaeyngchingdichingednkhxngaetlafaythwikhwamrunaerngkhuninkarprachumkhrngthisxngkhxngkhnakrrmkarthiekainhluchan playeduxnsinghakhm kh s 1970 echin pxtasungkhnanixyuaenwrwmediywkbkxngthphpldplxyprachachnthicngrkphkditxhlin snbsnunkarburnathaeniybprathanathibdicin aemwaehmacamikhwamehntrngkhamktam 331 nxkcakniechinyngepidchakocmticang chunechiyw phusnbsnunlththiehmaaelaepnphusrangkhwamwunwayinkarptiwtithangwthnthrrm wathaipnxkehnuxcakthiehmatxngkar 328 karocmticangthaihphuekharwmprachumyindixyangmakinkarprachumkrrmkar aelaxacthuktikhwamodyehmawaepnkarocmtithangxxmtxkarptiwtithangwthnthrrm ehmaephchiyhnakbechinxyangepidephy pranamekhawaepn lththimakscxmplxm 332 aelapldekhaxxkcakkhnakrrmkarpracakrmkaremuxng nxkehnuxcakkarkacdechin ehmayngkhxihhlinekhiynhlkkarkhxwiphakswicarntwexngekiywkataaehnngthangkaremuxng ephuxepnkaretuxnhlin ehmayngidaetngtngphusnbsnunekhahlaykhnekharwmkhnakrrmathikarthharklang aelawangtaaehnngphucngrkphkditxekhaekhaipepnphunain 332 ethiywbinkhxnghlin epiyw knyayn kh s 1971 phaphrxykhudkhidekhiynkhaprarphkhxnghlin epiywthiekhiyniwinhnngsuxelmaedngkhxngehma ecxtng chuxkhxnghlin langkhwa thukkhudkhidxxkphayhlng khadwahlngekhaesiychiwit inpikh s 1971 phlpraoychnthiaetktangknrahwangfayphleruxnkbfaythharkpraktihehn ehmamipyhakbkhwamoddednthikxngthphpldplxyprachachnthiephingmikhunma aelakarkwadlangechin pxta epncuderimtnkhxngkarldkhxbekhtkarmiswnrwmthangkaremuxngkhxngkxngthphpldplxyprachachnxyangkhxyepnkhxyip 353 tamaehlngkhxmulkhxngthangkarrabuwaemuxhlinmixanacthildnxythxylng sukhphaphkhxngekhakyaaeylngdwy phusnbsnunhlinwangaephnthicaichxanacthangthharthiyngmixyukhbilprathanehmadwykarrthprahar butrchaykhxnghlin epiywaelanaythharradbsungphusmrurwmkhidhlaykhnphyayamcdtngklikrthpraharinesiyngihaelawangokhrngkarkhbilehmadwykalnginchux ekhaokhrng sungepnkhakhlaykbkhawa karlukhuxthangthhar inphasacinklang yngepnthithkethiyngwahlin epiywmiswnrwminkhbwnkarnihruxim inkhnathiaehlngkhawxyangepnthangkarkhxngcinyunynwa hlinwangaephnaeladaeninkarkxrthprahar nkwichakarxyangcin chiw idihphaphhlinwaepntwlakhrthiimottxbsungthuksmachikinkhrxbkhrwaelaphusnbsnunkhxngekhakhwbkhum chiwotaeyngwahlin epiywimekhymiswnrwminokhrngrangnnaelamihlkthanchichdwahlin likwrangaephnkarrthprahar ekhaokhrng thukklawwaswnihymiaephnkarthingraebidthangxakasodyichkxngthphxakas txnaerkmikarphungepaipthicang chunechiywaelaehya ehwinhywn aettxnhlngmikardungehmaekhamaekiywkhxngdwy aelathaaephnkarsaerc hlincathakarcbkumkhuaekhngthangkaremuxngaelaekhayudxanac mikarxangwamikhwamphyayambxbsngharehmainesiyngih inwnthi 8 10 knyayn kh s 1971 mikarrbrukhwamesiyngtxkhwamplxdphykhxngehmaaelaidmikarsngetuxnipyngprathan raynganphayinchbbhnungxangwahlinwangaephnthicaraebidsaphansungehmatxngsycrphanephuxekhapkking miraynganwaemuxehmaidrbkhawkrxngekhacungeliyngthicaphansaphanni kartaykhxnghlin epiyw tamrayngankhxngthangkaremuxwnthi 13 knyayn kh s 1971 hlin epiywphrxmphriyakhux butrchaykhux hlin likwaelathimngankhxngekhaidhlbhniipyngshphaphosewiytephuxkhxliphy rahwangedinthangekhruxngbinkhxnghlintkinsatharnrthprachachnmxngokeliy thukkhnbnekhruxngbinesiychiwitthnghmd ehnidchdwaekhruxngbinnamnhmdrahwangedinthangipyngshphaphosewiyt thimngankhxngosewiytidsubswnehtukarnniimsamarthrabusaehtukarchnid aettngsmmtithanwankbinkalngbintaephuxhlberdahaelaekhapraeminyxdkhwamsungkhxngekhruxngbinphid rayngankhxngthangkarthuktngkhathamodynkwichakartangchati sungtngkhxsngsyinkarthihlineluxkosewiytepncudhmayplaythang eruxngesnthangekhruxngbin twtnkhxngphuodysar aelakarrthpraharekidkhuncringhruxim inwnthi 13 knyayn oplitbuoridprachumchukechininwaraeruxnghlin epiyw echphaawnthi 30 knyaynethannthimikaryunynkaresiychiwitkhxnghlin epiywipthwkrungpkking sungnaipsukarykelikkickrrmechlimchlxngwnchaticininwnrungkhun khnakrrmkarklangpkpidkhxmul aelakhawkaresiychiwitkhxnghlinimthukepidephytxsatharnchncnelyewlasxngeduxnhlngcakekidehtu phusnbsnunhlinhlaykhnliphyinhxngkng swnkhnthiyngxyuaephndinihyidthukkwadlang ehtukarndngklawthaihphunaphrrkhimthnrawngtw aenwkhidthiwahlinsamarththrysehmaid thaihepnkarthalaykhwamchxbthrrminwathsilpthangkaremuxngkhxngkarptiwtithangwthnthrrm enuxngcaknamkhxnghlinpraktchdaecnginrththrrmnuykhxngphrrkhinthana shaythisniththisud khxngehmaaela phusubthxdtaaehnngkhntxip epnewlahlayeduxnhlngcakekidehtukarn thangphrrkhmikhwamwunwayinkarha hnthangthithuktxng inkarpxnkhxmulehtukarntxsatharnkhn aekngxxfofr kh s 1972 1976 khwamepnprpkstxocwaelaeting kh s 1972 1973 eciyng ching say phriyaehma ecxtng aelaepnsmachikaekngxxfofr xxktrwcphlyuwchnaednginpkking phrxmnaykrthmntriocw exinihl klang aela phwkekhathuxsmudelmaedngkhxngehmaiwinmuxhwng hngehwin smachikphrrkhcaktangmnthlidrbeluxkcakehmaihepnrxngprathanphrrkhkhxmmiwnist aelaekhamarwmepnklumkaremuxngkhxngeciyng ching ehmarusukhdhuaelapliktwexnghlngcakehtukarnhlin epiyw emuxhlintay ehmakimmikhatxbwaikhrcaepnphusubthxdxanactxcakekha ehmarusuksuyesiythisthangkathnhn ekhacungphyayamtidtxkbshayekathiekhaekhypranaminxdit inkhnaediywkn eduxnknyayn kh s 1972 ehmaidyayaeknnaphrrkhwy 38 picakesiyngih chux hwng hngehwinmayngpkking aelaihekhaepnrxngprathanphrrkh 357 hwngepnxditaerngnganinorngnganthimiphunephmacakchawna 357 aelamikarduaelekhaxyangdiephuxputhangihkhunsubtaaehnng 364 taaehnngkhxngeciyng chingaekhngaekrngkhunhlngcakekidehtuethiywbinkhxnghlin ethxmixiththiphlthinaekrngkhaminfayhwrunaerng emuxsukhphaphkhxngehmathrudothrmxyangehnidchd cungepnthisngektidwaeciyng chingmikhwamthaeyxthayayephuxtwkhxngethxexng ethxsrangphnthmitrkbhwng hngehwin aelaphuechiywchayokhsnachwnechuxxyang cang chunechiywaelaehya ehwinhywn cdtngklumthangkaremuxngthithukkhnannaminphayhlngwa aekngxxfofr inpikh s 1973 kartxsuthangkaremuxngkhrngaelwkhrngela idthingihsthabnradblanghlayaehng thngrthbalthxngthin orngnganaelathangrthif txngkhadecahnathithimikhwamsamarththicaepninkarptibtihnathiphunthan 340 esrsthkickhxngpraethsxyuinphawarasarasay sungtxngfunfutaaehnngecahnathiradblangthithukkwadlangxxkip aetswnklangkhxngphrrkhklbthukkhrxbngaodyphuidrbphlpraoychncakkarptiwtithangwthnthrrrmaelaklumfaysayhwrunaerng sungyngkhngmungennsrangkhwambrisuththithangxudmkarnehnuxphlitphaphthangesrsthkic swnihydanesrsthkicyngkhngxyuphayitkarduaelkhxngocw exinihl epnkhn exiyngsay thieciymenuxeciymtwephiyngimkikhn ocwphyayamfunfuihesrsthkicdaenintxipid aetklbthukaekngxxfofrimphxic odyrabuwaekhaepnphykhukkhamthangkaremuxngtxkarsubthxdtaaehnnghlngsmykhxngehma inhlngpi 1973 ephuxthaihtaaehnngthangkaremuxngkhxngocwxxnaexlng aelaphyayamthaihphwktwexngthxyhangcakkarthryskhxnghlin aekngxxfofrcungxxknoybay phayitkarkhwbkhumkhxngeciyng ching 366 miepahmayephuxkwadlanglththikhngcuxsmyihmaelapranamhlin epiywwaepnphuthrysaelaepnphwkthwngrngkhwamecriy 372 epnkarfunkhunchwngpiaerkkhxngkarptiwtithangwthnthrrm aetepnkartxsukbkarepriybeprythangprawtisastr aelaaemchuxkhxngocw exinihlcaimthukklawthunginkarrnrngkhni aetchuxkhxngnaykrthmntriklbipphxngkbocwknghwng smachikkhxngrachwngsocwinxditthithukmaepnepaocmtibxykhrng karkxbkuchuxesiyngkhxngetingaelakarfunfuesrsthkic kh s 1975 eting esiywphing say phrxmhli esiyneniyn prathanathibdicininxnakht klang aelanaykrthmntriocw exinihl inpikh s 1963 dwyphawaesrsthkicthiepraabangaelaocwlmpwydwyorkhmaerng eting esiywphingklbekhamasuchakkaremuxngxikkhrng odyrbtaaehnngrxngnaykrthmntriineduxnminakhm kh s 1973 epnkaraetngtngkhrngaerkthiidrbkarxnumticakehma hlngcakocwthxntwcakkaremuxngineduxnmkrakhm kh s 1975 etingidrbmxbhmayihduaelrthbal phrrkhaelakxngthph odyekhaidrbtaaehnngephimetimepn epnrxngprathanphrrkhxikkhnhnungaelaepnrxngprathankhnakrrmathikarkarthharswnklang cin inrayaewlasn 381 karkxbkuchuxesiyngkhxngetingxyangrwderw thaihfayhwrunaerngsungmxngwatwexngepnthayaththangkaremuxngaelaxudmkarnthichxbthrrmkhxngehma mxngdudwykhwamprahladic ehmatxngkarichetingepntwthwngdulfaykxngthphinrthbalephuxprabpramphuthiyngphkditxhlin epiywthiyngkhngehluxxyu nxkcakniehmayngsuyesiykhwammnicinkhwamsamarthkhxngaekngxxfofrinkarcdkarpyhaesrsthkic aelaekhamxngwaetingepnphunathimikhwamsamarthaelamiprasiththiphaph karplxyihpraethsmikhwamyakcntxipimepnphlditxkarptiwtithangwthnthrrm xnepnsingthiehmalngmuxxyanghnkephuxpkpxngmatlxd karklbmakhxngetingthaihkartxsurahwangfkfaymikhwamyudeyuxrahwangaekngxxfofrkbfaysayklangthinaodyocwaelaeting inewlann eciyng chingaelafaykhxngethxidkhwbkhumsuxmwlchnaelaekhruxkhaykarokhsnachwnechuxkhxngphrrkhxyangmiprasiththiphaph inkhnathiocwaelaetingkhwbkhumklikswnihykhxngrthbal inkartdsinicbangeruxng ehmaphyayamldxiththiphlkhxngaekngxxfofr aetsahrbkhnxun ehmaphyayamthatamkhxeriykrxngkhxngphwkekha karkhwbkhumxyanghnkhnwngkhxngaekngxxfofrtxsuxaelakaremuxngimsamarthkidknetinginkardaeninnoybaythangesrsthkickhxngekhaid etingkhdkhanxyangednchdinkartxtankaraetkaeykepnfayinphrrkh aelanoybaykhxngekhamungsrangkhwamsamkhkhixyangepnkhnepntxnodymiepahmayaerkkhuxfunfuphlitphaphthangesrsthkic 381 echnediywkbkarprbokhrngsranghlngyukhkarkawkraoddiklipkhanghnathidaeninkarodyhliw echachi etingidprbprung aelaphunthisakhyxun thangesrsthkic aetinhlngpikh s 1975 ehmaehnwakarprbokhrngsrangthangesrsthkickhxngetingxaccalblangkarptiwtithangwthnthrrm aelaekhaiderimkarrnrngkhtxtan karfunfukrnikhxngphwkfaykhwa sungthaihetingklayepn faykhwa thiednchdthisudinpraeths ehmacungsngihetingekhiynkhawicarntnexngineduxnphvscikayn kh s 1975 sungkarekhluxnihwthiidrbkarsrresriycakaekngxxfofr 381 karxsykrrmkhxngocw exinihl tn kh s 1976 inwnthi 8 mkrakhm kh s 1976 ocw exinihlthungaekxsykrrmdwyorkhmaerngkraephaapssawa inwnthi 15 mkrakhm eting esiyngphingidmiaethlngkarnocwxyangepnthangkarinrthphithifngsph odyphunaradbsungkhxngcinekharwmphithithnghmd cakhadkaetephiyngtwehmaexng sungthakarwiphakswicarnocwmakkhuneruxy 217 18 610 hlngcakocwthungaekxsykrrm ehmaimideluxkthngetinghruxsmachikinaekngxxfofrepnnaykrthmntri aetekhaklbeluxkhw kwefing sungimepnthiruckaethn aekngxxfofrerimwitkkngwlwakarthiocwidrbkhwamniymcaksatharnchnxyangkwangkhwangcathaihekidkarphlikkraaesthangkaremuxngthisngphlkrathbtxphwkekhaid phwkekhacungdaeninkarphansuxephuxaecngkhxkahndkhxcakdinkaraesdngkhwamiwxalytxocwinthisatharna khwamkhunekhuxngthiekidkhuninchwngkarptiwtithangwthnthrrm karkdkhikhmehngeting esiywphinginthisatharna mxngwaekhaepnphnthmitrkbocw aelakarhamimihmikariwthukkhinthisatharnathaihekidkhwamimphxictxehmaaelaaekngxxfofr 213 khwamphyayamxyangepnthangkarinkarbngkhbichkhxcakdkariwxaly rwmthungkarlbxnusrnsatharnaaelathalayopsetxrthiralukkhwamsaerckhxngocw inwnthi 25 minakhm kh s 1976 hnngsuxphimphesiyngih eriykocwwaepn naythunphufngrakxyuinphrrkh phu txngkarchwynaythunphufngrakthiimyxmsanuk eting ihklbkhunsuxanac khwamphyayamokhsnachwnechuxniepnkarthalayphaphlksnkhxngocw aetklbklayepnwa thaihsatharnchnmikhwamphukphninkhwamthrngcathimitxocwxyangaennaefnyingkhunipxik 214 ehtukarnethiynxnehmin emsayn kh s 1976 inwnthi 4 emsayn kh s 1976 wnkxnethskalechngemngpracapikhxngcin sungepnwnpraephnisahrbkariwxaly phukhnhlayphnkhnmarwmtwknthiinctursethiynxnehminephuxralukthungocw exinihl chawpkkingihekiyrtiocw exinihldwykarwangphwngmala pay bthklxn ibpliwaeladxkimthiechingxnusawriy 612 cudprasngkhthichdecninkarralukniepnkarykyxngocw aelaaekngxxfofridthukocmticakkarkrathathiphwkekhathatxnaykrthmntriphulwnglb mikhakhtiphcncanwnelknxytidxyuthiethiynxnehminsungepnkarocmtitwehmaexngaelakarptiwtithangwthnthrrmkhxngekha 218 phukhnmakkwasxnglankhnmathictursethiynxnehmininwnthi 4 emsayn 218 phukhnthukradbchn tngaetchawnathiyakcnthisudipthungecahnathikxngthphpldplxyprachachnradbsung aelalukhlankhxngecahnathiradbsungidekharwmkickrrm phuekharwmmiaerngcungicthiphsmphsanrahwangkhwamokrthaekhntxsingthiocwthukkratha kartxtankarptiwtithangwthnthrrm aelakhwamhwadhwninxnakhtkhxngcin ehtukarnniimmiikhrepnphuna aetepnkarsathxnkhwamrusukkhxngsatharnchn 219 20 khnakrrmkarklangphayitkarnakhxngeciyng ching trahnawanganniepn ptipksptiwti aelaphyayamekbkwadsingkhxngthiralukphayinewlaxnsnhlngethiyngkhunwnthi 6 emsayn mikhwamphyayamprabpramphuiwthukkhnaipsukarclaclrunaerng rthtarwcthukcudifepha aelafungchnkwa 10 000 khn thukbngkhbihekhaipinxakharrachkarhlay aehngrxbcturs 612 phayhlngphuthukcbkumhlaykhnthuktdsinihcakhukinkhaykkkn ehtukarnthikhlayknekidkhuninemuxngihyxun eciyng chingaelaphnthmitrkhxngethxtrahna eting esiywphing waepn phubngkar inehtukarnthiekidkhun aelaidmikarraynganxxksuxxyangepnthangkar etingcungthukpldcakthuktaaehnngthng phayinaelaphaynxkphrrkh xyangepnthangkarinwnthi 7 emsayn sungepnkarkwadlangetingepnkhrngthisxnginrxbsibpi 612 naykrthmntriniwsiaelndekhaphbprathanehma inwnthi 30 emsayn kh s 1976 n krungpkking phaphkhawaesdngihehnxakarpwythiyaaeykhxngehmakarxsykrrmkhxngehmaaelakarcbkumaekngxxfofr knyayn kh s 1976 inwnthi 9 knyayn kh s 1976 ehma ecxtngthungaekxsykrrm inswnkhxngphusnbsnunehma xsykrrmkhxngekhaepnsylksnkhxngkarsuyesiyrakthankarptiwticin emuxmikarprakaskarxsykrrmkhxngekhainchwngbaykhxngwnthi 9 knyayn inkaraethlngkhaweruxng prakaskhnakrrmkarklang sphaprachachnaehngchaticin spharthkicsatharnrthprachachncin khnakrrmathikarthharklang thungphrrkhthngmwl kxngthphthngmwl aelaprachachnthuksychatithwpraeths praethstkxyuinkhwamesraosk miphukhnrxngihtamthxngthnnaelahnwynganrachkarhyudthakarnankwahnungspdah hw kwefing epnprathankhnakrrmkarrthphithisphaelaklawsunthrphcnraluk imnankxnehmacaesiychiwit ehmaidekhiynkhxkhwamthunghwxyangepnnywa ihkhunduael chnksbayicaelw hwcungichkhxkhwamniyunyntwtnkhxngekhainthanathayaththangkaremuxng hwidrbkarphicarnaxyangkwangkhwangwakhadthksathangkaremuxngaelakhwamthaeyxthayan aeladuehmuxncaimepnphyrayaerngtxaekngxxfofrsungphyayamaekhngkhnephuxsubthxdtaaehnng aetaenwkhidthirunaerngkhxngaekngxxfofrkekidkhwamkhdaeyngkbehlaphuxawuosthimixiththiphlaelaklumnkptirupkhxngphrrkhhlaykhn cakkarsnbsnunkhxngkxngthphphayitnayphley eciynxing thaihkxngkalngkhxnghnwyphiess 8341 hrux idxxkptibtikarinwnthi 6 tulakhm ekhacbkumsmachikaekngxxfofrthnghmdinkarrthpraharthiimmikaresiyeluxdenuxhlngcaknnsmyepliynphan aemwahw kwefingcapranamaekngxxfofrtxhnasatharnchninpikh s 1976 aetekhakyngkhngsnbsnunkhwambrisuththikhxngnoybaykhxngehma hwepnhwhxkinkarsnbsnunaenwkhid klawkhux noybaythimacakthanprathanehma eratxngsnbsnuntxip aela imwaxairktamthithanprathanehmamxbihera eratxngptibtitamtxip hwkehmuxnkbetingthiwatxngkaryxnklbkxnthikarptiwtithangwthnthrrmcasrangkhwamesiyhay aetekhakimehmuxnkbetingtrngthi etingtxngkaresnxrupaebbesrsthkicihmkhxngcin aethwklbtxngkaryayrabbesrsthkicaelakaremuxngcinipsukarwangaephnaebbosewiytinchwngtnthswrrsthi 1950 hwmikhwamchdecnmakkhunthiwahakimmieting esiywphing kcaepneruxngyakthicadaeninkickarkhxngrthtxip inwnthi 10 tulakhm etingidekhiyncdhmaythunghwepnkarswntwephuxkhxyayklbipthanganinkickarkhxngrthaelaphrrkh phuxawuoskhxngphrrkhkeriykrxngiheriyketingklbma dwykhwamkddncakthukfaynaykrthmntrihwcungaetngtngetingepnrxngnaykrthmntriineduxnkrkdakhm kh s 1977 aelahlngcaknnmikareluxnihekhadarngtaaehnngxun sngphlihetingepnbukhkhlthimixanacthangkaremuxngmakepnxndbsxngkhxngcin ineduxnsinghakhm cdkhuninkrungpkking mikaraetngtngxyangepnthangkarihhw kwefing ey eciynxing eting esiywphing hli esiyneniynaela epnsmachikihmkhxngkhnakrrmkarpracakrmkaremuxng eting esiywphingthaihkarptiwtithangwthnthrrmirphl eting esiywphingklayepninpikh s 1978 ekhaerimnoybay idnapraethsklbekhasurabbraebiybaeladaeninkarnoybayptirupaelaepidxxk eting esiywphingesnxaenwkhideruxng khrngaerkineduxnknyayn kh s 1977 ephuxaekikhkhxphidphladkhxngkarptiwtithangwthnthrrm ineduxnphvsphakhm kh s 1978 etingchwyoxkassnbsnunihphuitxupthmphkhux hu eyapng kawkhunsuxanac hutiphimphbthkhwaminhnngsuxphimph odyichkhaphudkhxngehmaxyangchaychladinkhnaediywknykyxngaenwkhidkhxngetingdwy hlngcakbthkhwamniephyaephrxxkip hwerimepliynkarsnbsnuneting inwnthi 1 krkdakhm etingidephyaephrrayngankarwicarntnexngkhxngehmainpikh s 1962 ekiywkbkhwamlmehlwkhxngnoybaykarkawkraoddipkhanghna ineduxnknyayn kh s 1978 ephuxkarkhyaythanxanac etingcungocmtinoybaysxngxairkidkhxnghw kwefing inwnthi 18 thnwakhm kh s 1978 mikarcd sungthuxepncudsakhy inspha etingeriykrxngih pldepluxngkhwamkhid aelaeriykrxngihphrrkh aelalathingkhwamechuxthangxudmkarn karprachumkhrngniepncuderimtnkarptirupesrsthkiccinxyangepnthangkar odyetingklayepnphunasungsudladbsxngkhxngcin hw kwefingmiswnrwminkarwicarntnexngaelawicarnkhwamphidphladkhxngnoybay sxngxairkid khxngtnexng wng tngsing epnphnthmitrthiehmaiwic kyngwicarntnexng inkarprachum phrrkhidklbkhatdsinekiywkbehtukarnethiynxnehmin xditprathanathibdihliw echachithithukpranamidrbkarxnuyatihcdrthphithisphinphayhlng ephing etxhwy hnunginaelaepnrthmntriwakarkrathrwngklaohm sungthukpranamcntayinchwngkarptiwtithangwthnthrrm ekhaidrbkarfunfuchuxesiyngthangkaremuxnginpikh s 1978 inkarprachumkhrngthi 5 inpikh s 1980 ephing ecin ehx hlng aelaphunakhnxun thithukkwadlanginchwngkarptiwtithangwthnthrrmidrbkarfunfuchuxesiyngthangkaremuxng hu eyapngidepnhwhnainthana ineduxnknyayn hw kwefingidlaxxkcaktaaehnngaelacaw cuxhyang hnunginphnthmitrkhxngetingiddarngtaaehnngnaykrthmntri etingyngkhngdarngtaaehnng aetxanacthiepnthangkarthukoxnthayipyngnkptirupphakhptibtirunihm sungidepliynaeplngnoybaykarptiwtithangwthnthrrmipinwngkwanginchwngsmyoplwn fanecing phayinimkipicakpikh s 1978 eting esiywphingaelahu eyapngchwyfunfukhwamesiyhaycakkhdithi imyutithrrm khwamethcaelaphidphlad kwa 3 lankhdiinchwngkarptiwtithangwthnthrrm odyechphaaxyangying karphicarnakhdikhxngaekngxxfofrthiekidkhuninpkkingtngaetpikh s 1980 thung 1981 aelasalrabuwamikhn 729 511 khn thukkhmehngodyaekng sungmiphuesiychiwitthung 34 800 khn inpikh s 1981 phrrkhkhxmmiwnistcinidlngmtiaelaprakaswakarptiwtithangwthnthrrm txngrbphidchxbtxkhwamphayaephthirunaerngthisudaelakhwamsuyesiythihnkhnwngthisudsahrbphrrkh praethsaelaprachachnnbtngaetkarkxtngsatharnrthprachachn wikvtdanmnusythrrmphuesiychiwit chwngekidkhunkb bidakhxngprathanathibdisi cinphing eduxnknyayn kh s 1967 si cngsunthukrabuwaepn xngkhprakxbtxtanphrrkh xyangirktamhlngpikh s 2012 si cinphingaelaphnthmitrkhxngekhaphyayamthicabrrethahaynakhxngkarptiwtithangwthnthrrmaelaphlikklbnoybayptiruphlayxyangkhxngchwng thaihekidkhwamkngwlwacaekidkarptiwtithangwthnthrrmkhrngihm pramankarphuesiychiwitcakkarptiwtithangwthnthrrm rwmthngphleruxnaelayuwchnaedngmikhwamaetktangknmatngaethlayaesnkhncnthung 20 lankhn xyangirktamtwelkhthiaenchdkhxngphuthukkdkhikhmehnghruxesiychiwitrahwangkarptiwtithangwthnthrrmnnimxacthrabid enuxngcakphuesiychiwitcanwnmakimidrbkarraynganhruxthuktarwchruxecahnathithxngthinpkpidxyangaekhngkhn sthanakhxngsthitiprachakrcininkhnannknatahnidwyechnkn aelasatharnrthprachachncinklngelthicaihmikarwicyxyangepnthangkarinchwngewladngklaw ethannimphx epnhnunginhaynathangethkhonolyikhrngihykhxngolkstwrrsthi 20 ekidkhuninnkhrradbcnghwd mnthlehxhnan ineduxnsinghakhm kh s 1975 thaihmiphuesiychiwitodypramanrahwang 85 600 thung 240 000 khn pramankarrwmthimikarihkhxmulmidngni cakhnngsux 交锋 当代中国三次思想解放实录 epnhnngsuxthitiphimphodyhnngsuxphimph inpikh s 2011 rwmipthungexksarxun khxngey eciynxing aelaepnhnunginsibkhunphl xangwa phukhnkwa 20 lankhnesiychiwit 100 lankhnthukkhmehng aela 80 lanehrinhminpi thukichipinkarptiwtithangwthnthrrm khaphudxangcakkarprachumkhnathangankhxngkhnakrrmkarklangphrrkhkhxmmiwnistcininwnthi 13 thnwakhm kh s 1978 mhawithyalyhaway 7 731 000 khn tayinchwngptiwtithangwthnthrrm hrux 96 khntxthuk 10 000 prachakr aela prachachnxyangnxy 3 lankhntaycakkhwamrunaerngkhxngkarptiwtithangwthnthrrm 569 mhawithyalyaehngchatiithwn xyangnxy 1 72 lankhntayinkarptiwtithangwthnthrrm mhawithyalysaetnfxrd aelahyang su prachachnraw 36 lankhnthukpranamkhmehnginekhtchnbthkhxngcin mikhntay 0 75 1 5 lankhn aelamikhncanwnethakntxngthuphphlphaphtlxdchiwit mhawithyalywxchingtn prachachnxyangnxy 1 lankhnesiychiwit aetkarpramankarxacsungkhunthung 20 lankhn mhawithyalywiskhxnsin aemdisn pramankarphuesiychiwitraw 400 000 khn epntwelkhkhntathiepnthiyxmrbxyangkwangkhwang 262 karsngharhmuaelakarkinenuxmnusy khtiphcnthanprathanehmabnkaaephngthnnkhxng epnhnunginsunyklangkarsngharhmuinkwangsiaelakarkinenuxmnusyinchwngkarptiwtithangwthnthrrm inrahwangkarptiwtithangwthnthrrm karsngharhmuekidkhunthwcinaephndinihy idaek thimikarkinenuxmnusykhnanihy inpkking karsngharhmuehlaniswnihynaodykhnakrrmkarptiwtithxngthin phrrkhkhxmmiwnistsakha thharxasasmkhrhruxaemkrathngkxngthphexng ehyuxswnihykhxngkarsngharhmuepnphwkthithukmxngwaepn sungrwmthungluk khxngphwkekha hruxsmachikkhxng klumkbt 造反派 pyyachnchawcinxyangnxy 300 000 khnesiychiwitinkarsngharhmuehlani karsngharhmuinekhtpkkhrxngtnexngkwangsicwngaelamnthlkwangtungepneruxngthirayaerngthisud inkwangsi mibnthukthangkarrabuwamixyangnxy 43 ekhtpkkhrxngthimibnthukkarsngharhmu odymi 15 aehngraynganwamiphuesiychiwitmakkwa 1 000 ray inkhnathiinkwangtung mibnthukkarsngharhmuxyangnxy 28 ekhtpkkhrxng odymi 6 aehngthimiphuesiychiwitmakkwa 1 000 ray in miraynganthangkarpramankarphuesiychiwittngaet 100 000 thung 150 000 khn cakhnngsuxchiwprawtikhxngehma pramankarwamiphukhnpraman 100 000 khn esiychiwitininekhtpkkhrxngtnexngkwangsicwngrahwangeduxnmkrakhm thungeduxnemsayn kh s 1968 kxnthinaykrthmntriocw exinihlaelakxngthphpldplxyprachachncaekhamaaethrkaesng 545 hnngsux thiekhiynodyecing xi klawhawa epnkarsngharxyangepnrabbaelakarkinenuxmnusyinnamkhxngkarptiwtithangkaremuxngaela kartxsurahwangchnchn inhmuchawcwnginchwngni ecingthukwiphakswicarninpraethscincakkarsmphasnthiimmikarephyaephraelasahrbkar aesdngphaphechinglbtxchnklumnxyincin aemwankprawtisastrchnnakhxngphrrkhcayunynkhxklawhaeruxngkarkinenuxkhn 259 inkhxngmnthlyunnan kxngthphpldplxyprachachnthakarsngharhmuchawhuyinpikh s 1975 sngphlihmiphleruxnesiychiwitmakkwa 1 600 khn rwmthungmiedkkwa 300 khn aelamikarthalaybaneruxnkwa 4 400 hlngkhaeruxn inkhxngmnthlhuhnan tngaet 13 singhakhmthung 17 tulakhm kh s 1967 miphuthuksngharthngsin 7 696 khn prachachn 1 397 khnthukbngkhbihkhatwtay aelamiphuphikarthawr 2 146 khn inpkking miaehlngkhxmulthangkarinpikh s 1980 epidephywamiprachachn 1 772 khnthuksngharodyyuwchnaedngtngaetsinghakhmthungknyayn kh s 1966 rwmthngkhruaelaphuxanwykarinhlayorngeriyn ethannimphx baneruxn 33 695 hlngkhaeruxnthukplnsadm aelami 85 196 khrxbkhrwthukbngkhbihxxkcakemuxng odyechphaainkarsngharhmutasing epnehtuihmiphuesiychiwit 325 khn tngaet 27 singhakhm thung 1 knyayn kh s 1966 phuthixayueyxathisudthithuksnghar mixayu 80 pi aelaphuthixayunxythisud mixayuephiyng 38 wnethann inkhnathi 22 khrxbkhrwthukkwadlangkhwamkhdaeyngrunaerng smypracnhnaaelakarkwadlang susankarptiwtithangwthnthrrminchngching mixyangnxy 1 700 khn esiychiwitinchwngkarpathakhxngfkfaytang thirunaerng odymisph 400 thung 500 sphthukfnginsusanni hrux xu otw 武斗 epnkhwamkhdaeyngaebbfkfay swnihyinhmuyuwchnaedngaela klumkbt sungerimtnthiesiyngihaelaaephrkracayipyngphunthixun khxngcininpikh s 1967 idnapraethsipsuphawasngkhramklangemuxng xawuththiichinkarsurbidaek pun 18 77 lankrabxk raebidmux 2 72 lanluk punihy 14 828 krabxk krasunxun nblanaelamiaemkrathngrthhumekraaaelarththng mikartxsuthirunaernginchngching mnthleschwnaelasuocw nkwicychiwamiphuesiychiwitcakkhwamkhdaeyngrunaerngthwpraethstngaet 300 000 khnthung 500 000 khn nxkcakni chawcinhlaylankhnthukkhmehngxyangrunaerngodyechphaain bangkhnthukrabuwaepnsaylb phwklththiaek hruxkarmacakchnchnthinasngsy rwmthungphuthimikhwamechuxmoyngmacakxditecathidinhruxchawnathirarwy phwkekhathukthubti cakhuk khmkhun thrman karlwnglaemidxyangtxenuxngaelaehyiydhyam karyudthrphysin karptiesthihkarrksaphyabal aelakarlbxtlksnthangsngkhm pyyachnktkepnepahmaydwyechnkn phurxdchiwitaelaphusngektkarnhlaykhnelawaikhrktamthimithksamakkwakhnthwipcatkepnepahmaykhxng khwamkhdaeyng thangkaremuxnginthangidthanghnung phukhnxyangnxyhlayaesnkhnthuksnghar thaihxdxyak hruxichaerngngancntay xiknblantxngthukbngkhbihphldthin khnhnumsawcakemuxngtang thukbngkhbihyayipsuchnbth sungphwkekhathukbngkhbihlathingkarsuksamatrthanthukrupaebbaethnthidwykarsxnsngokhsnachwnechuxkhxngphrrkhkhxmmiwnistcin bangkhnimsamarththntxkarthrman aelasuyesiykhwamhwnginxnakht phwkekhacungkhatwtay nkwicyechuxwamixyangnxy 100 000 thung 200 000 khnkhatwtayinchwngtxntnkhxngkarptiwtithangwthnthrrm hnunginkrniphyayamkhatwtaythimichuxesiyngthisudkarcakkarkdkhieting esiywphinginthangkaremuxng lukchaykhxngekhakhux kraodd hruxthukoyn cakxakharsichn hlngcakthuk sxbswn odyyuwchnaedng ekhaimtayaetklbepn inkhnaediywknmicanwnkhdi imyutithrrm khwamethcaelaphidphlad 冤假错案 canwnmakekidkhuninchwngkarkwadlangthangkaremuxng nxkcakmiphuesiychiwitcakkarsngharhmu kmiphukhncanwnmaktxngthuphphlphaphthawrcakkarthukprachathnthhruxkarkhmehnginrupaebbxun tngaetkh s 1968 thung 1969 epnkarkwadlangthangkaremuxngkhrngihythinaodyehma sngphlihmiphuesiychiwitxyangnxy 500 000 khn mirupaebbkarkwadlangthikhlaykhlungknidaek aelakarrnrngkh sungdaeninkarphayhlnginthswrrsthi 1970 in tamaehlngkhxmulthangkarinpikh s 1980 rabuwaphukhn 346 000 khn thukcbkumaebbphid mimakkwa 16 000 khnthukpranamcntayhruxthukprahar aelamakkwa 81 000 khnthuphphlphaphthawr aetnkwichakarkpraeminwamiphuesiychiwitrahwang 20 000 thung 100 000 khn inthiyunnan miprachachnmakkwa 1 387 lankhnthiekiywkhxngaelathukkhmehng sungkhidepnrxyla 6 khxngprachakryunnaninkhnann tngaetkh s 1968 1969 miphukhnmakkwa 17 000 khnthuksngharhmu aelakwa 61 000 khnphikartlxdchiwit inkhunhming emuxnghlwngkhxngyunnanaehngediyw miprachachn 1 473 khnthuksnghar aela 9 661 khnthuphphlphaphtlxdchiwit inkhdihli chuhlithimnthlehxepy hliepnxditrxngphuxanwykarfayxngkhkarphrrkhkhxmmiwnistcin thukkwadlanginpikh s 1968 aelamiphuekiywkhxngkwa 80 000 khn mikhn 2 955 khnthukpranamcntay chnklumnxy hnunginphunathangsasnakhxngthiebt thukpranamebuxnghnarupkhxngprathanehmain karptiwtithangwthnthrrmidsrangkhwamesiyhayxyanghnktxwthnthrrmaelachatiphnthkhxngchnklumnxyincin inekhtpkkhrxngtnexngmxngokeliyin prachachnraw 790 000 khnthukkhmehngrahwangxubtikarnmxngokeliyin mi 22 900 khnthukthubticntay aela 120 000 khntxngphikar 258 inchwngkarlaaemmdephuxkhnhasmachikkhxngphrrkhptiwtiprachachnmxngokeliyinihmthithukklawhawaphyayamaebngaeykdinaedn inekhtpkkhrxngtnexngsineciyngxuykur saenakhmphirxlkurxanaelahnngsuxxun khxngchawxuykurthukepha xihmammuslimthukcbaehiprxb aelwsadsiisrangkaykhxngphwkekha inphunthiklumchatiphnthuchawekahliintawnxxkechiyngehnuxkhxngcin idthukthalayorngeriynsxnphasa inmnthlyunnan phrarachwngkhxngkstriychawiththukepha aelamikarsngharhmuchawmuslimhuy phayitkxngthphpldplxyprachachninyunnan eriykwa miraynganwamiphukhnesiychiwitmakkwa 1 600 khninpikh s 1975 hlngkarptiwtithangwthnthrrmsinsud rthbalidchdichinehtukarnchaetiyn dwykarsrangxnusrnsthanphuphlichiphinehtukarnchaetiyn nkkaremuxngaelanaythharchawthiebtthirwmkbkxngthphpldplxyprachachncinaelaphrrkhkhxmmiwnist ekhaphrxmphriyathukpranamodyyuwchnaednginchwngkarptiwtithangwthnthrrm smpthanthimxbihkbchnklumnxythukykelikinchwngkarptiwtithangwthnthrrmsungepnswnhnunginkarocmti singekathngsi khxngyuwchnaedng sungedimcdtnginphunthibangswnkhxngthiebt sudthayidthukcdtngkhunthwekhtpkkhrxngtnexngthiebtinpikh s 1966 epnkarykelikkhxykewnkhxngthiebtinchwngkarptirupthidinkhxngcin aelathuknaklbmaichihminphunthikhxngchnklumnxyklumxun phlkrathbtxthiebtnnrunaerngepnphiess enuxngcakekidkhunhlngcakprabpramkarkxkarkaeribinthiebt kh s 1959 mikarthalayxaramekuxb 6 000 aehng sungerimkhunkxnkarptiwtithangwthnthrrm aelamkekidkhunodyphusmrurwmkhidthiepnyuwchnaedngchawthiebt 9 miephiyngxaramaepdaehngethannthiynghlngehluxxyuintxnplaythswrrsthi 1970 phrasngkhaelaaemchihlayrupthuksnghar aelaprachachnthwipthukthrmanthngthangrangkayaelacitic 9 inpikh s 1950 miphrasngkhaelaaemchiinthiebtpraman 600 000 rup aelainpikh s 1979 swnihyesiychiwitekuxbhmd bangkthukcakhukhruxthaihsabsuy 22 rthbalphldthinthiebtxangwachawthiebtcanwnmakesiychiwitcakkhwamxdxyakinchwngpikh s 1961 1964 aela 1968 1973 epnphlmacakkarbngkhbthanarwm xyangirktamcanwnphuesiychiwitinthiebtnnyngkhngepnthithkethiyngwaxacepnephraakhadaekhlnxaharhruxsaehtuxun aemcamikarkdkhikhmehngxyangepnthangkar aetphunathxngthinaelaklumchatiphnthubangswnkrxdchiwitmaidinphunthihangikl khwamlmehlwthangepahmaykhxngyuwchnaedngaelaphuniymkarklunklaythangwthnthrrmthirunaerng ekidcaksxngpccy epnkhwamrusukthiwakarkdkhichnklumnxyxyangrunaerngcathaihchayaednkhxngcinxxnkalnglng niepnsingsakhyxyangyingenuxngcakchnklumnxyepnprachachnswnihythixasytamchaykhxbkhxngcin inchwnghlngthswrrsthi 1960 cinmikhwamsmphnththitungekhriydkbpraethsephuxnban odyechphaashphaphosewiytaelaxinediy epahmaykarptiwtithangwthnthrrmhlayxyanginphunthichnklumnxynnimsmehtusmphlekinkwacanaipptibtiid karhwnkhunsuklumphhuniym aelacudcbkhxngphlkrathbthielwraythisudcakkarptiwtithangwthnthrrmtxchnklumnxyincin ekidkhunphrxmkbinchwngthihlin epiywthukkacdxxkcakxanacphlkrathbaelaxiththiphlthangwthnthrrmkarclaclkhxngyuwchnaedng aephnthikrungpkkinginpikh s 1968 aesdngthnnaelaekhruxnghmaysthanthitang thithukepliynchuxinchwngkarptiwtiwthnthrrm thnnxntingehminchnin thukepliynepn thnnkarkawkraoddipkhanghna thnnithcichang epliynepn thnnsukarptiwtichwnirndr tngeciywhmingesiyng epliynepn thnntxtanckrwrrdiniym swnsatharnaepyih epliynepn swnsatharnakrrmkr chawna thhar aelaswnsatharnacingsan epliynepn swnsatharnayuwchnaedng aetkarepliynchuxinchwngyukhkarptiwtithangwthnthrrm inphayhlngmikarepliynchuxklbehmuxnedim phlkrathbkhxngkarptiwtithangwthnthrrmthngthangtrngaelathangxxmkrathbtxprachachncinthnghmd rahwangkarptiwtithangwthnthrrm kickrrmthangesrsthkiccanwnmakthukrangb dwy karptiwti klayepnepahmayhlkchxngpraethsodyimtxngthuktngkhatham aenwkhidkhxngehma ecxtngklayepnaenwptibtihlkkhxngthuksingthukxyanginpraethscin xanachnathikhxngyuwchnaedngnnmiehnuxkwakxngthphpldplxyprachachn ecahnathitarwcthxngthinaelakdhmaythwip silpaaelaaenwkhidaebbdngedimkhxngcinthuklaelyaelathukocmticaksatharna dwyaenwthangkhxngehmathukykyxngkhunmaaethnthi prachachnthukkratunihwiphakswicarnsthabnthangwthnthrrmaelatngkhathamtxphxaemaelakhruxacarykhxngtn sungepnpraednkhathamthithukhamtngkhathamxyangekhmngwdinobran cuderimtnkhxngkarptiwtithangwthnthrrmidnakxngkalngyuwchnaedngcanwnmakmathipkking odyrthbalrbpharakhaichcaythnghmd aelarabbrthifktkxyuinphawaoklahl karptiwtimunghmaythalay idaek khnbthrrmeniymeka wthnthrrmeka xupnisyekaaelakhwamkhideka aelasrang singihmthngsi thisxdkhlxngkn sungxackhrxbkhlumtngaetkarepliynchuxipaelakartdphm ipcnthungkarbukkhnban karthalaythrphysinthangwthnthrrm aelathalaywd saleca 61 64 inewlaimkipi xakharobran singpradisth obranwtthu hnngsuxaelaphaphwadnbimthwnthukthalayodyyuwchnaedng sthanakhxngwthnthrrmaelasthabnciydngediminpraethsidrbkhwamesiyhayxyangrunaerngcakkarptiwtithangwthnthrrm aelathrrmeniymptibtidngedimhlayprakaridxxnaexlng karptiwtiyngmungkwadlang thnghmd klawkhux struthangchnchnthnghmdthisngesrimkhwamkhidkhxngchnchnkradumphiphayinphrrkh rthbal kxngthphaelaehlapyyachn tlxdcnphuthimacakkhrxbkhrwthiexardexaepriyb miphumihlngkhrxbkhrw hrux epnphuthixyuinhmwdhmu phukhncanwnmakthukmxngwaepn stwprahladaelapisac odyimkhanungthungwaphwkekhaepnphukrathaphidhruxphubrisuththi idthukpranamihxbxaykhayhnaaelaekhiyntiinthisatharna dwykhwamkhlngkarptiwti nkeriynodyechphaayuwchnaedngidpranamkhruxacarykhxngtn aelaedk pranamphxaemkhxngphwkekha 59 61 hlaykhnesiychiwitcakkarthukptibtixyangelwrayhruxkhatwtay inpikh s 1968 eyawchnidthukradmphlsuchnbthinephuxihphwkekhaideriynrucakkhrxbkhrwchawna aelakarekhluxnyayphukhnnblanxxkcakemuxngtang idchwyyutikhwamrunaerngthisudkhxngkarptiwtithangwthnthrrm 176 danwichakaraelakarsuksa hnunginnkwithyasastrcinphubukebikdankhipnawuth thukthubticntayinkrungpkkinginrahwangkarptiwtithangwthnthrrm kh s 1968 nkkarsuksaaelapyyachnthukmxngwaepn aelathukkwadlangcanwnmak hlaykhnthuksngipyngkhayaerngngantamchnbthechn tamexksarthangkarinkardaeninkhdikbaekngxxfofr rabuwamikarkwadlangphuptibtinganaelakhruxacary 142 000 khn inaewdwngkarsuksa aelankwichakar nkwithyasastr nkkarsuksaesiychiwitcakehtukarnniidaek xu han aela inpikh s 1968 mismachikradbxawuow 171 khnthithanganinswnklanginpkking canwn 131 khninnnthukkwadklang aelainbrrdasmachiksthabnkarsuksainpraethscin mikwa 229 khnthithukpranamcntay ineduxnknyayn kh s 1971 miphuptibtingankwa 4 000 khninsthabnniwekhliyrmnthlchingihthukkwadlang makkwa 310 khntxngphikarthawr khnmakkwa 40 khnkhatwtayaelaxik 5 khnthukpraharchiwit xyangirktam inchwngkarptiwtithangwthnthrrm nkwithyasastrcinyngkhngprasbkhwamsaercinkarthdsxbkhipnawuthlukaerk samarthsrangxawuthethxromniwekhliyrkhrngaerkaelasngdawethiymdwngaerkkhunipxwkastamokhrngkar karptiwtithangwthnthrrmthaihrabbkarsuksacintxnghyudchangkipewlanan inchwngeduxnaerk khxngkarptiwtithangwthnthrrm orngeriynaelamhawithyalythuksngpid orngeriynprathmsuksaaelamthymtxntnkhxy epidkhunxikkhrng aetwithyalyaelamhawithyalythnghmdthukpidcnthungpikh s 1970 aelamhawithyalyswnihyimepidxikelycnthungkh s 1972 164 hrux karsxbkhdeluxkradbxudmsuksaaehngchati thukykelikhlngpikh s 1966 aethnthidwyrabbnksuksathiidrbaenanamacakorngngan hmubanaelahnwythhar aelaimmikarsxbradbxudmsuksaxikelycnkrathnginpikh s 1977 mikarfunfuphayiteting esiywphing khaniymkarsuksaaebbdngedimthuklathing 195 inrahwangkarptiwtithangwthnthrrm karsuksakhnphunthanthukyakhwamsakhyaelamikarkhyayxyangrwderw inkhnathipikarsuksaldlngaelamatrthankarsuksaldlng sdswneyawchncinthisaerckarsuksaradbprathmsuksaephimkhun cakthikxnkarptiwtiminxykwakhrung aethlngptiwtimiephimkhunekuxbthnghmd aelaphuthisaerckarsuksacakmthymtnephimkhuncak 15 ekinkwasxnginsam oxkasthangkarsuksasahrbedkinchnbthkhyaytwxyangmak inkhnathiedkchnchnsunginemuxngthukcakdcaknoybaytxtanklumchnchnna 166 67 inpikh s 1968 phrrkhkhxmmiwnistprakasnoybaykarekhluxnihwlngsuchnbth thiminoybay inekhtemuxngthuksngipxasyaelathanganinphunthiekstrkrrmephuxihidrbkarsuksaihmcakchawna aelaephuxihekhaicbthbathkhxngkarichaerngngankhxngchawnainsngkhmcinmakkhun inrayaaerkeyawchnthiekharwmswnihyepnxasasmkhr aetinewlatxmarthbalichwithibngkhbkhnihyayxxkip inchwngpikh s 1968 1979 eyawchninekhtemuxngkhxngcin 17 lankhntxngedinthangipyngchnbthaelakarxyuinchnbththaihkhadoxkassuksainradbxudmsuksa 10 prachachnthngruntxngthrmanaelaidrbkarsuksathiimephiyngphx sungmkthukeriykwa runthisuyhay thngincinaelatawntk insmyhlngehma phuthithukbngkhbekhluxnyayhlaykhnocmtiwanoybayniepnkarlaemidsiththimnusychnxyangrunaerng 36 aetphlkrathbkhxngkarptiwtithangwthnthrrmthimitxkarsuksathiekhathungidnnmikhwamaetktangkniptamphumiphakh aetkimidmikarwdkhaxtrakarruhnngsuxxyangepnthangkarcnthungthswrrsthi 1980 bangekhtxyangmixtrakarimruhnngsuxsungthung 41 inchwng 20 pihlngkarptiwti phunakhxngcininkhnannptiesthwamipyhaharimruhnngsuxtngaetaerk phlkrathbnikhyayxxkipcakkarkacdkhruthimikhunsmbti hlayekhtcatxngphungphankeriynthithukeluxkmaephuxihkhwamruaekrunnxnginruntxip aemwaphlkrathbkhxngkarptiwtithangwthnthrrmcasrangkhwamhaynaaekkhnnblaninpraethscin aetkmiphllphthechingbwktxprachakrbangkluminphunthichnbth echn khwamwunwaykhxngkarptiwtithangwthnthrrmaelakhwamepnprpkstxpyyachnchnchnnaidrbkaryxmrbxyangkwangkhwang xnepnkarthalaykhunphaphkarsuksainpraethscin odyechphaaxyangyingbnplaysudkhxngrabxbkarsuksathiidrbphlkrathb aetnoybaythisudotngidchwyehluxchumchnchnbthcanwnmakihidrbkarsuksaradbmthymtnkhrngaerk sungepnkarxanwykhwamsadwkinkarphthnaesrsthkicchnbthinyukhthswrrsthi 70 aela 80 163 inthanxngediywkn bukhlakrthangkaraephthycanwnmakthuksngipyngchnbthinthanahmxethaeplachwngkarptiwtithangwthnthrrm ekstrkrbangkhnidrbkarfukxbrmthangkaraephthyxyangimepnthangkar aelamikarcdtngsthanixnamyinchumchnchnbth khakhwyaelawathsastr esssakthngthimikhakhwycakkarptiwtithangwthnthrrminmnthlxanhuy tamrayngankhxngesahrng hwng mxngwa khxethccringthithaihekidkarptiwtithangwthnthrrmthisrangphlkrathbihyhlwngtxsngkhmcinnnepnphlmacakkarichkhakhwythangkaremuxngxyangkwangkhwang tamthsnkhtikhxnghwng mxngwa wathsastrmiswnsakhyinkarplukradmkarchumnumkhxngthngphunaphrrkhaelaprachachnodyrwminchwngkarptiwtithangwthnthrrm yktwxyangechn khakhwy karkbtnnepnthrrm 造反有理 ecafanohywhli klayepneruxngthithukrwmknepnsingediyw hwngyunynwakhakhwythangkaremuxngmixyuthukhnthukaehnginchiwitkhxngphukhn odythukphimphlngbnsingkhxngichpracawn echn twrthodysar sxngbuhri aelaotakrack 14 aerngngankhwrca ekhaickarptiwtiaelakratunkarphlit inkhnathichawnakhwreliynghmuephimkhun sukrmakkhunkhmaythungpuymakkhun aelapuymakkhunkhmaythungphnthuphuchmakkhun aemaetkhaphudthw ipkhxngehmathiwa mnethsxrxydi chnchxb idklayepnkhakhwythiaephrhlayinchnbth khakhwythangkaremuxnginsmynnmithimacak 3 aehlng idaek twehmaexng aelasuxthangkarkhxngphrrkhxyanghnngsuxphimph ehrinhminruxepa aelayuwchnaedng ehmamkcamikhaklawthikhlumekhruxaetkthrngphlngsungnaipsukaraebngepnfkfaykhxngyuwchnaedng khasngehlanisamarththuktikhwamephuxekhakhangkhwamkhidehnswntwkhxngaetlakhndwy inthangklbknkchwysrangihepahmaykhxngaetlaklummikhwamcngrkphkditxehma ecxtng khakhwykhxngyuwchnaedngmkmilksnathirunaerngthisud echn thumstrulngbnphunaelwichethaehyiybyaekha khwamnasaphrungklwaedngcngecriy aela phwkthitxtanthanprathanehmacktxngthukbdkhyiihaehlkepnchinelkchinnxy nkcinwithyaxyang olaewll ditemxraelaechin orwsi chiihehnwaphasacininprawtisastrmikhwamlaexiydxxn khwamxxnchxy khwamphxehmaaaelakhwamsuxsty tlxdcn karplukfngrupaebbthangwrrnkrrmthipranitaelasngangam singnithukepliynaeplngiprahwangkarptiwtithangwthnthrrm enuxngcakehmatxngkarihkxngthphkhxngphukawrawthasngkhramkhruesdkhxngekha wathsastrinchwngnncungthukldthxnihepnkhasphththimikhwamrunaerngaelaaekhngkhx khakhwyehlaniepnwithikarthimiprasiththiphaphaelaprasiththiphlinwithi ptirupthangkhwamkhid sungradmkhnnblanrwmmuxknocmtiolkxtny inkhnaediywknkptirupolkaehngwtthuprasngkhkhxngphwkekha 12 ditemxraelaechin otaeyngwakarmungennthikaremuxngthaihphasaepnrupaebbkarokhsnachwnechuxthimiprasiththiphaphmak aet idepliynphasadngklawihklayepnsphthaesngkhxngaebbaephnthi oxxwd sasakaelanaebux 12 ephuxihhangiklcakyukhsmynn rthbaleting esiywphingcungldkarichkhakhwythangkaremuxnglngxyangmak karptibtitamkhakhwypraktfuntwihehnephiyngelknxyinchwnghlngthswrrsthi 1990 phayiteciyng ecxhmin silpaaelawrrnkrrm blelt hnunginlakhrtamrupaebbinchwngkarptiwtithangwthnthrrm kxnkarptiwtithangwthnthrrminchwngpikh s 1958 1966 ornglakhrklayepnswnhnungkhxngkartxsuthangkaremuxng enuxngcakmikarichbthlakhrephuxwiphakswicarnhruxsmachikphrrkhodyechphaa xuprakrkhxngxu han ineruxng ih ruythukilxxkcaktaaehnng thuktikhwamwaaefngipdwykarwiphakswicarnehma thaihekidkarocmtixuprakrkhxngehya ehwinhywn aelakarocmtiniepnkarepidchakkarptiwtithangwthnthrrm namasungkarkwadlangaelakartaykhxngxu han rwmthungphuekiywkhxngkbornglakhr echn ethiyn hn aela inchwngkarptiwtithangwthnthrrm eciyng chingekhakhwbkhumlakhrewthiaelaaenanarupaebbxuprakrechingptiwtiphayitkarkakbduaelodytrngkhxngethx xuprakraebbdngedimthuksnghamenuxngcakthukmxngwaepnklikkhxngrabxbskdinaaelachnchnkradumphi aetxuprakrptiwtinnmiphunthanmacakcingc wi hruxxuprakremuxnghlwngthimikarddaeplngthngrupaebbaelaenuxhaaelw 115 xuprakr 6 aebbaelablelt 2 aebb eriminpikh s 1967 xuprakrthioddednthisudkhuxeruxng xuprakrehlaniepnrupaebbthiidrbkarxnumti swnkhnalakhrxun txngnxmrbhruxprbepliynlakhrkhxngphwkekha 176 nxkcaknixuprakrtnaebbyngxxkxakasthangsthaniwithyu srangepnphaphyntr ephyaephrphanesiyngtamsaysatharna sxnnkeriyninorngeriynaelaaerngnganinorngngan aelaklayepnbnethingyxdniymthiaephrhlayaelaepnkaraesdnglakhrewthieruxngediywihphukhnnblaninpraethscinrbchm 352 53 115 inpikh s 1966 eciyng chingidesnxthvsdiephdckaresnsidainwrrnkrrmaelasilpa odybrrdathithukmxngwaepnchnchnkradumphi phwktxtansngkhmniym hruxtxtanehma khwrlathing esnsida aelaxxkmasrangsrrkhsingihmaekwrrnkrrmaelasilpa 352 53 nkekhiyn citrkraelapyyachnthiepnphurbaelaephyaephr wthnthrrmeka cathukkacdihhmdsinip nkekhiynaelacitrkrswnihythukmxngwaepn bukhkhlaenwesnsida aela bnthitechingptikiriya cungthukkhmehng hlaykhnthuk wiphakswicarnaelapranam sungphwkekhaxacthukduhminaelaplnsaminthisatharna aelaxacthukcakhukhruxthuksngipptirupdwykarichaerngnganhnk 213 14 twxyangechn aelasamikhxngethxthuksngipthanganirchain aelaethximidklbmaekhiynhnngsuxtxxikelycnthswrrsthi 1980 exksarephyaephrinpikh s 1980 ekiywkbkarkwadlangthidaeninkhdiodyaekngxxfofraesdngihehnwamiphukhnmakkwa 2 600 khninaewdwngsilpaaelawrrnkrrmthukkrathrwngwthnthrrmaelahnwynganphayitkrathrwngkhmehng hlaykhnesiychiwitdwykhwamecbpwdplakhwamxbxaycakkarthukpranam michuxkhxngnkekhiynaelacitrkrthimichuxesiyngkwa 200 khn thithukkwadlangcntayinrahwangkarptiwtithangwthnthrrm phwkekhaidrbkarralukthunginpikh s 1979 nkekhiynehlann idaek aela 213 14 inchwngkarptiwtithangwthnthrrmminkekhiynephiyngimkikhnthiidrbxnuyat hrux mikhunsmbtiphayitrabxbihm echn aelankekhiynbangkhnthimiphumihlngkrrmkrhruxchawna ethannthisamarthtiphimphhruxphimphsangankhxngphwkekhaid mikarkahndhwkhxkarekhiynthiidrbxnuyattamhlkwrrnkrrmchnchnkrrmachiphaelasngkhmniymxyangekhmngwd aelawarsarwrrnkrrminpraethsthukhyudtiphimphthnghmdinpikh s 1968 sthankarnkhlikhlaylnghlngkh s 1972 nkekhiynidrbxnuyatihekhiynnganmakkhun aelawarsarwrrnkrrmpracamnthlhlayaehngidklbmatiphimphxikkhrng aetnkekhiynswnihyyngkhngimsamarththanganid 219 20 phlkrathbekidkhlaykhlungkninxutsahkrrmphaphyntr mikaraeckcayhnngsuxelmelkchux phaphyntr 400 eruxngthithukwicarn aelaphukakbphaphyntr nkaesdngchayaelahyingthithukwiphakswicarnidthukthrmanaelacbkhng 401 02 khnklumnirwmthungstrukhxngeciyng chingaelaxditephuxninwngkarphaphyntrkhxngethxthiesiychiwitinchwngni idaek aela immikarphlitphaphyntrthioddednincinaephndinihyepnewlaecdpi ykewn lakhrtamrupaebb thiidrbkarxnumtiephiyngimkieruxngaelaepnphaphyntrthimixudmkarnthangkaremuxngsung twxyangsakhykhxngphaphyntrcanwnhnungthimikarsrangaelaidrbxnuyatihaesdnginchwngewlanikhux hlngcakkhxmmiwnistyudkhrxngpraethscin dntriyxdniymcakesiyngihswnihythukpranamwaepn aelathuksngham aelainchwngkarptiwtithangwthnthrrm nkaetngephlngphuidrbkhwamniymxyang kthukkwadlang swnephlngaenwptiwtiklbidrbkarsngesrimkhunmaaethnthiechn aela burphaaedng thnghmdthukekhiynaelaidrbkhwamniyminchwngewlani burphaaedng idrbkhwamniymxyangying thuknamaichaethnephlngedinkhbwnthharklaaelathrngthrrm odyphvtiny inthanaephlngchaticin aemwacamikarkahndihephlngedinkhbwnthharklaaelathrngthrrm klbmaichdngedimhlngsinsudkarptiwtithangwthnthrrm silpaokhsnachwnechux phaphopsetxrinchwngkarptiwtithangwthnthrrm phaphthiyunyngthisudkhxngkarptiwtithangwthnthrrmbangswnmacakphaphopsetxrsilpa silpaokhsnachwnechuxtamopsetxrthukichepnekhruxngmuxinkarrnrngkhaelaekhruxngmuxsuxsarmwlchn aelathahnathiepnaehlngkhxmulchnnakhxngprachachn mikarphlitsingnicanwnmakaelaephyaephrxyangkwangkhwang aelathuknamaichodyrthbal yuwchnaednginkarihkhwamruaeksatharnchnthungkhunkhathangxudmkarntamthiphrrkhkhxngrthkahnd miphaphopsetxrhlakhlayrupaebb sxngpraephthhlk idaek phaphopsetxrkhnadihy 大字报 dazibao aela phaphopsetxrokhsnachwnechux echingphanichy 宣传画 xuanchuanhua 7 12 tacuxepa caepnkhakhwy bthkwi khawicarnaelaphaphwadthithuksrangaelatidbnphnngthisatharna orngnganaelakhxmmun khxngphwknimikhwamsakhytxkartxsukhxngehmainkarptiwtithangwthnthrrm aelaehmaexngkekhiyntacuxepakhxngekhaexngthimhawithyalypkkinginwnthi 5 singhakhm kh s 1966 ephuxeriykrxngprachachnih thlmkxngbychakar 5 swnchwnhw epnngansilpathiphlitodyrthbalaelakhayinrakhathuktamrankhaephuxihtidaesdngthibanhruxsthanthithangan silpinkhxngnganpraephthnixacepnmuxsmkhrelnhruxmuxxachiphaetimmichuxesiyng aelaopsetxrswnihycaepnphaphaenwscniymsngkhmniymthimithrrmeniymptibtibangprakar echn phaphkhxngprathanehmatxngaesdngepn siaedng eriyb aelaeruxngaesng 7 12 360 rupaebbngansilpadngedimthukkidkncakkarptiwtithangwthnthrrm aelacitrkrxyang aelaidthukkwadlang 97 citrkrswnihythuksngipichaerngngan aelathuksngihwadphaphykyxngkarptiwtithangwthnthrrmthiekiywkhxngkbkarthitnthuknamaichaerngngan 351 52 inpikh s 1971 ephuxbrrethacakkhwamyaklabak citrkrhlaykhnthukeriyktwklbcakkarichaerngngan hruxthukplxycakthikhumkhng odyepnaenwkhidrierimkhxngocw exinihl ephuxihmadaeninkartkaetngsthanirthifaelaorngaermthithukthalayodyyuwchnaedng ocwklawwangansilpaehlanimiiwsahrbchawtangchati dngnnsilpa phaynxk cungimxyuphayitpharaphukphnkhxngsilpa phayin thiiwaesdngaekphlemuxngchawcinethann sahrbtwekhaexngmxngwa phaphwadwiwthiwthsnimkhwrthukcaaenkwaepn singekathngsi aetocwklmpwydwyorkhmaerng aelainpikh s 1974 eciyng chingidyudphaphwadehlani aelaphaphekhiynxun rwmthungnithrrskarthicdinkrungpkking esiyngih aelaemuxngxun odypranamwaepn phaphwadda 368 76 silpwtthuthangprawtisastr phraphuththrupthukthalaycnphngybeyininchwngkarptiwtithangwthnthrrm sungyngphbrxngrxyinekhtpkkhrxngtnexnghningesiyhuyaelamnthlkansu obransthan obranwtthuaelahxcdhmayehtukhxngcinidrbkhwamesiyhayxyangrunaerng enuxngcakechuxwaepnrakehngakhxng withikhidaebbeka wtthuobranthukyud phiphithphnthaelabaneruxnthukplnsadm aelasingkhxngid thithukphbaelathukkhidwaepnphaphaethnkhxngchnchnkradumphihruxskdinacathukthalay mibnthukephiyngimkichbbthibnthukwasingkhxngehlanithukthalayipmaknxyephiyngid phusngektkarnchawtawntktngkhxsngektwa prawtisastrhlayphnpikhxngcinodyswnihythukthalaylng hruxxacthuklklxbnaipkhaytangpraeths inchwngsibpixnsn khxngkarptiwtithangwthnthrrm nkprawtisastrcinepriybethiybkarprabpramthangwthnthrrmehmuxnkbyukhephatara fngbnthitkhxngcinsihxnget ekidkhunxyangmakinchwngewlani xnepnphlmacakkarthisasnathukmxngwaepnprpkskbaenwkhidlththimaks elninaelaehma 73 aemwakardaeninkarcakrathaodynkptiwtithangwthnthrrmbangkhn aetnoybaykarthalaysilpwtthuthangprawtisastrkimidrbkarxnumticakrthbalxyangepnthangkar inwnthi 14 phvsphakhm kh s 1967 khnakrrmkarklangphrrkhkhxmmiwnistcin idephyaephrexksarchux khxesnxaenahlayprakarinkarpkpxngmrdkthangwthnthrrmaelahnngsuxinrahwangkarptiwtithangwthnthrrm 21 thungkrannmrdkthangwthnthrrmcinidrbkhwamesiyhayxyangihyhlwng echn cakkarsarwcinpikh s 1972 n krungpkking mikarsarwcmrdkthangwthnthrrmcudsakhy 18 aehng rwmthnghxskkarafaaelasusanhlwngrachwngshming aesdngihehnthungkhwamesiyhayxyangkwangkhwang mimrdkthangwthnthrrm 80 aehngxyuphayitkarduaelkhxngethsbalnkhr mimrdkthukthalay 30 aehng aelacakmrdkthangwthnthrrm 6 843 aehngthixyuphayitkarduaelkhxngrthbalpkkinginpikh s 1958 praktwamimrdk 4 922 aehngidrbkhwamesiyhayhruxthukthalay hnngsuxekathimikhunkha phaphwad aelaobranwtthuxun makmaythukephathalayepnethathan 98 karkhudkhnaelakarrksathangobrankhdiinyukhhlngkarthalaylanginthswrrsthi 1960 idrbkarkhumkhrxng aelamikarkhnphbthisakhyechn kxngthphthhardinephaaela sungkhnphbinchwngcudsungsudkhxngkarptiwti 21 xyangirktamsylksnthioddednthisudkhxngnganwicythangobrankhdi khux warsar imidthukthalayinchwngkarptiwtithangwthnthrrm hlngcakchwngrunaerngkhxngthswrrsthi 1960 sinsudlng karocmtiwthnthrrmdngedimyngkhngdaenintxipinpikh s 1973 dwynoybay kartxtanhlin epiyw kartxtankhngcux epnswnsakhyinkartxtanphwksayklangphayinphrrkh khwamsmphnthrahwangpraeths