เอฟ-16 ไฟท์ติ้งฟอลคอน (อังกฤษ: F-16 Fighting Falcon) เป็นเครื่องบินขับไล่หลากบทบาทที่เดิมทีพัฒนาขึ้นโดยบริษัทเพื่อกองทัพอากาศสหรัฐ มันถูกออกแบบให้เป็นเครื่องบินขับไล่ตอนกลางวันน้ำหนักเบา มันได้กลายมาเป็นเครื่องบินขับไล่ที่ประสบความสำเร็จ ความสามารถรอบตัวของมันเป็นเหตุผลหนักที่มันทำการตลาดได้เยี่ยมโดยมันถูกเลือกโดยกองทัพอากาศของ 25 ประเทศ เอฟ-16 เป็นโครงการเครื่องบินขับไล่พลังไอพ่นที่ใหญ่ที่สุดของฝั่งตะวันตกพร้อมด้วยการผลิตกว่า 4,400 ลำตั้งแต่ปีพ.ศ. 2519 ถึงแม้ว่ามันจะไม่ถูกซื้อโดยกองทัพอากาศสหรัฐอีกต่อไป รุ่นที่ก้าวหน้าก็ยังคงทำตลาดในหมู่ต่างประเทศได้ ในปีพ.ศ. 2536 เจเนรัล ไดนามิกส์ขายธุรกิจการผลิตเครื่องบินให้กับบริษัทล็อกฮีด ซึ่งได้กลายมาเป็นล็อกฮีด มาร์ตินหลังจากทำการรวมเข้ากับในปีพ.ศ. 2538
บทบาท | เครื่องบินขับไล่หลากบทบาท |
---|---|
ชาติกำเนิด | สหรัฐ |
บริษัทผู้ผลิต | ล็อกฮีด มาร์ติน |
บินครั้งแรก | 20 มกราคม พ.ศ. 2517 |
เริ่มใช้ | 17 สิงหาคม พ.ศ. 2521 |
สถานะ | ประจำการ |
ผู้ใช้งานหลัก | กองทัพอากาศไทย กองทัพอากาศสหรัฐ ประเทศอื่นอีก 25 ประเทศ (ดูที่ประเทศผู้ใช้งาน) |
จำนวนที่ผลิต | มากกว่า 4,400 ลำ |
มูลค่า | เอฟ-16เอ/บี 14.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เอฟ-16ซี/ดี 18.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ |
แบบอื่น | เจเนรัล ไดนามิกส์ เอฟ-16เอ็กซ์แอล มิตซูบิชิ เอฟ-2 |
เอฟ-16 เป็นนักสู้กลางอากาศที่มีวัตกรรมมากมายรวมทั้งฝาครอบห้องนักบินที่โค้งมน คันบังคับแบบแท่งที่ทำให้งานต่อการควบคุมภายใต้แรงจี และที่นั่งที่เอนไปด้านหลังเพื่อลดแรงจีที่กระทำต่อนักบิน อาวุธมีทั้งปืนใหญ่เอ็ม61 วัลแคนและขีปนาวุธมากมาย 11 ตำบล มันยังเป็นเครื่องบินขับไล่แบบแรกที่ถูกสร้างมาเพื่อทำการเลี้ยวแบบ 9 จีได้ มันมีอัตราการผลักต่อน้ำหนักที่ดีมาก ส่งผลให้มันมีพลังในการไต่ระดับและการเร่งที่ยอดเยี่ยมหากจำเป็น แม้ว่าชื่อทางการของมันคือ"ไฟทิงฟอลคอน" แต่นักบินก็เรียกมันว่าไวเปอร์ (Viper) เนื่องมาจากมันคล้ายกับงูเห่าและตั้งชื่อตามในซีรีส์ส
เอฟ-16 มีกำหนดการที่จะปลดออกจากประจำการในกองทัพอากาศสหรัฐในปีพ.ศ. 2568 มีการวางแผนที่จะแทนที่เอฟ-16 ด้วยเอฟ-35 ไลท์นิ่ง 2 ซึ่งจะเข้าประจำการในปีพ.ศ. 2554 และจะเริ่มเข้าแทนที่เครื่องบินหลากบทบาทจำนวนมากในกองทัพของชาติที่เข้าร่วมโครงการ
การพัฒนา
ต้นกำเนิด
ด้วยประสบการณ์จากสงครามเวียดนามที่บ่งบอกถึงความสามารถของเครื่องบินขับไล่ที่อเมริกาจะต้องการในเร็วๆ นี้ และความต้องการที่จะต้องให้นักบินได้รับการฝึกการต่อสู้ในอากาศให้มากขึ้น ความต้องการเครื่องบินขับไล่ครองความได้เปรียบทางอากาศแบบใหม่นั้นทำให้กองทัพอากาศสหรัฐเริ่มศึกษาการพัฒนาจากสองความคิดในปีพ.ศ. 2508 คือ โครงการทดลองเครื่องบินขับไล่หรือเอฟเอกซ์ (Fighter Experimental, FX) ที่เป็นเครื่องบินปีกพับได้ขนาด 27,200 กิโลกรัมพร้อมเครื่องยนต์สองเครื่อง และ โครงการเครื่องบินขับไล่กลางวันแบบพัฒนาหรือเอดีเอฟ (Advanced Day Fighter, ADF) ที่เป็นเครื่องบินน้ำหนักเบาขนาด 11,300 กิโลกรัมซึ่งมากกว่ามิก-21 25% อย่างไรก็ดีการปรากฏตัวของมิก-25 ที่ทำความเร็วได้ถึงมัก 3 ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2510 นั้น ทำให้โครงการเอดีเอฟตกเป็นรองจากโครงการเอฟเอกซ์ ซึ่งได้ผลิตเอฟ-15 ขนาด 18,100 กิโลกรัมออกมา
ด้วยการใช้ประสบการจากการเป็นนักบินในสงครามเกาหลีและครูสอนยุทธวิธีในต้นทศวรรษที่ 1960 ผู้พันจอห์น บอยด์และนักคณิตศาสตร์โธมัส คริสตี้ได้พัฒนาทฤษฎีพลังงาน-ความคล่องตัวหรืออี-เอ็ม (Energy-Maneuverability theory, E-M) ขึ้นมาเพื่อเป็นแบบในการต่อสู้กับเครื่องบินขับไล่ การเคลื่อนที่หรือกระบวนท่าเป็นกุญแจสู่สิ่งที่บอยด์เรียกว่า"การตีลังการแบบโอโอดีเอ (OODA Loop, Observation-Orientation-Decision-Action) งานของบอยด์ต้องการเครื่องบินที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักที่เบาพร้อมกับอัตราแรงผลักต่อน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น การศึกษาของกองทัพอากาศในปีพ.ศ. 2508 แนะว่าให้เพิ่มเครื่องบินขับไล่ที่มีราคาสูงและต่ำผสมกันในฝูงบินเพื่อเป็นการประหยัด
โครงการเครื่องบินขับไล่น้ำหนักเบา
ในปลายทศวรรษที่ 1960 บอยด์ได้รวบรวมกลุ่มผู้คิดค้นที่กลายมาเป็นกลุ่มที่รู้จักกันในชื่อ"มาเฟียเครื่องบินขับไล่น้ำหนักเบา" ในปีพ.ศ. 2512 กลุ่มสามารถหาทุนในการศึกษาและประเมินผลทฤษฎีอี-เอ็มของพวกเขา เจเนรัล ไดนามิกส์ได้รับเงินจำนวน 149,000 ดอลลาร์สหรัฐ และนอร์ทธรอปได้รับ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อทำการพัฒนาแบบความคิดที่จะใช้เป็นตัวทฤษฎีอี-เอ็มของบอยด์ งานของพวกเขานำไปสู่วายเอฟ-16 และวายเอฟ-17 ตามลำดับ
แม้ว่าเหล่าผู้สนับสนุนโครงการเอฟเอ็กซ์ของกองทัพอากาศยังคงไม่ชอบความคิดนี้เพราะพวกเขาเข้าใจว่ามันเป็นภัยต่อโครงการเอฟ-15 ความคิดโครงการเอดีเอฟได้รับการสนับสนุนจากพลเมืองภายใต้ผู้รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเดวิด แพ็คคาร์ด ผู้ท่ชอบความคิดในการแข่งขันหาต้นแบบ ผลที่ได้คือในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2514 กลุ่มศึกษาต้นแบบของกองทัพอากาศถูกตั้งขึ้นมาโดยมีบอยด์เป็นคนสำคัญ และแบบเสนอสองแบบจากหกก็ได้รับทุน แบบหนึ่งคือเครื่องบินขับไล่น้ำหนักเบาหรือแอลดับบลิวเอฟ (Lightweight Fighter, LWF) การร้องข้อเสนอเกิดขึ้นในวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2515 ต้องการเครื่องบินขับไล่กลางวันขนาด 9,100 กิโลกรัมพร้อมกับอัตราการเลี้ยวที่ดี การเร่งและพิสัย และสามารถทำการต่อสู้ที่ความเร็ว 0.6-1.6 มักได้และทำการได้ในระดับความสูง 30,000-40,000 ฟุต นี้คือขอบเขตซึ่งกองทัพอากาศสหรัฐคาดว่าการต่อสู้กลางอากาศในอนาคตส่วนมากจะเกิดขึ้น โดยมีพื้นฐานมาจากสงครามเวียดนาม สงครามหกวัน และสงครามอินโด-ปากีสถาน ราคาที่คาดกันในการผลิตเครื่องบินคือ 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แผนการผลิตนี้เป็นเพียงการคาดเดาตามที่กองทัพอากาศนั้นไม่มีข้อผูกมัด และอันที่จริง ไม่มีแผนที่จะหาผู้ชนะ ซึ่งจะต้องประกาศในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2518
บริษัทห้าบริษัทตอบสนองและในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2515 มีการประกาศผู้ชนะในการพัฒนาต้นแบบและทำการทดสอบคือโมเดล 908-909 ของโบอิง และ โมเดล 401 ของเจเนรัล ไดนามิกส์ อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นหน่วยเอสเอสเอ (Source Selection Authority, SSA) ได้ลดโบอิงไปอยู่ที่สามตามหลังพี-600 ของนอร์ทธรอป เจเนรัล ไดนามิกส์และนอร์ทธรอฟได้รางวัลในการทำสัญญามูลค่า 37.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 39.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้างวายเอฟ-16 และ ตามลำดับ โดยทำการบินครั้งแรกของทั้งสองแบบนั้นวางแผนเอาไว้ในต้นปีพ.ศ. 2517 เพื่อเอาชนะคนใหญ่คนโตในกองทัพอากาศ กลุ่มมาเฟียเครื่องบินขับไล่และผู้สนับสนุนแอลดับบลิวเอฟได้สนับสนุนความคิดการใช้เครื่องบินราคาสูงและต่ำผสมกัน ความคิดนี้จะระบุความสัมพันธ์ของเอฟ-15 และเอฟ-16 และต่อมาก็คือเอฟ-22 แร็พเตอร์และเอฟ-35 ไลท์นิ่ง 2
เริ่มบิน
วายเอฟ-16 ปรากฏตัวครั้งแรกในวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2516 และการบินครั้งแรกของมันใช้เวลา 90 นาทีที่ศูนย์ทดสอบการบินกองทัพอากาศที่ฐานทัพอากาศเอ็ดเวิร์ด แคลิฟอร์เนียเมื่อวันที่ 20 มกราคม ในขณะที่เร่งความเร็ว การควบคุมที่ไม่นิ่งทำให้ปลายปีกและหางครูดกับพื้น และเครื่องบินเริ่มหันออกนอกทางวิ่งไป นักบินทดสอบของเจเนรัล ไดนามิกส์ ฟิล โอเอสทริชเชอร์ตัดสินใจที่จะยกเครื่องขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้เครื่องเสียหาย และลงจอดอย่างปลอดภัยในอีกหกนาทีต่อมา ความเสียหายเล็กน้อยได้รับการซ่อมแซมอย่างรวดเร็วและมันก็ถูกบันทึกเป็นการบินครั้งแรกอย่างเป็นทางการ การบินเหนือเสียงครั้งแรกของวายเอฟ-16 เกิดขึ้นในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2517 และต้นแบบที่สองของวายเอฟ-16 ได้บินในวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2517 สิ่งนี้ตามมาด้วยการการบินครั้งแรกของวายเอฟ-17 ซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ 9 มิถุนายนและ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2517 ตามลำดับ ทั้งหมดแล้ววายเอฟ-16 ทำการบิน 330 ครั้งเป็นชั่วโมงทั้งสิ้น 417 ชั่วโมง วายเอฟ-17 ทำการบินไป 268 ครั้ง
การแข่งขันในการต่อสู้ทางอากาศ
ปัจจัยทั้งสามค่อยๆ รวมกันเพื่อเปลี่ยนแอลดับบลิวเอฟให้กลายเป็นโครงการพัฒนาที่จริงจัง ขั้นแรกนาโต้ที่เป็นพันธมิตรทั้งสี่กับสหรัฐฯอย่าง เบลเยียม เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ และนอร์เวย์ กำลังมองหาสิ่งที่จะมาแทนที่เอฟ-104จีที่เป็นแบบหนึ่งของเอฟ-104 สตาร์ไฟเตอร์ นอกจากนั้น พวกเขายังมองหาเครื่องบินที่อุตสหกรรมของพวกเขาสามารถผลิตได้ภายใต้ใบอนุญาต ในต้นปีพ.ศ. 2517 พวกเขาได้รับข้อตกลงกับสหรัฐฯ ว่าหากกองทัพอากาศสหรัฐสั่งซื้อแอลดับบลิวเอฟที่ชนะ พวกเขาก็ต้องสั่งซื้อมันเช่นกัน ขั้นที่สองในขณะที่กองทัพอากาศสหรัฐไม่ได้สนใจเฉพาะเครื่องบินขับไล่ครองความได้เปรียบทางอากาศเท่านั้น พวกเขาเริ่มต้องการแทนที่ ขั้นที่สามสภาคองเกรสของสหรัฐฯ อยากที่จะได้เครื่องบินขับไล่ที่ใช้ได้ทั้งกองทัพอากาศและกองทัพเรือ ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2517 สภาคองเกรสเปลี่ยนการให้ทุนสำหรับโครงการวีเอฟเอเอ็กซ์ของกองทัพเรือไปให้กับโครงการเอ็นเอซีเอฟแทน ซึ่งเน้นการดัดแปลงเครื่องบินขับไล่ทิ้งระเบิดทางน้ำแบบแอลดับบลิวเอฟ ความต้องการเหล่านี้สัมพันธ์กัน แต่การตั้งเวลาในการจัดซื้อนั้นจำกัดโดยพันธมิตรทั้งสี่ประเทศ ผู้ที่ก่อตั้ง"กลุ่มโครงการเครื่องบินขับไล่นานาชาติ"หรือ"เอ็มเอฟพีจี" (Multinational Fighter Program Group, MFPG) และรีบเร่งสำหรับการตัดสินใจของสหรัฐฯ ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2517 กองทัพอากาศสหรัฐได้ประกาศแอลดับบลิวเอฟที่ชนะในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2518 แต่การตัดสินใจยืดออกไปจนถึงปีใหม่ และการทดสอบก็ถูกเร่ง เพื่อสะท้อนสิ่งใหม่นี้ความตั้งใจในการจัดซื้อเครื่องบินใหม่จึงจริงจังมากขึ้น พร้อมกับการกำหนดเป้าหมายใหม่ให้เป็นเครื่องบินขับไล่ทิ้งระเบิด โครงการแอลดับบลิวเอฟกลายเป็นการแข่งขันในการต่อสู้ทางอากาศหรือเอซีเอฟ (Air Combat Fighter, ACF) ที่ประกาศโดยรัญมนตรีกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ เจมส์ อาร์. เชลซิงเกอร์ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2517 เชลซิงเกอร์ยังเปิดเผยว่าเอซีเอฟลำใดๆ ก็ตามจะทำเพื่อเครื่องบินที่นอกเหนือจากเอฟ-15 ซึ่งเป็นการยุติฝ่ายค้านของแอลดับบลิวเอฟ
เอซีเอฟยักได้เพิ่มเสาหลักให้กับเจเนรัล ไดนามิกส์และนอทร์ทธรอฟเพราะว่ามันเป็นผู้เข้าแข่งขันที่มีความตั้งใจในการทำกำไรงาม สิ่งเหล่านี้คือมิราจ เอฟ1เอ็ม-53ของ เซเปแคท จากัวร์ และซ้าบ วิกเก้นที่พัฒนาเป็นซ้าบ 37อี ยูโรไฟเตอร์ (ซึ่งไม่ใช่แบบเดียวกับยูโรไฟต์เตอร์ ไทฟูน) นอร์ทธรอฟยังได้เสนออีกแบบหนึ่งคือพี-530 คอบรา ซึ่งคล้ายคลึงกับวายเอฟ-17 อย่างมาก จากัวร์และคอบราถูกยกเลิกโดยเอ็มเอฟพีจี ทำให้แบบของยุโรปสองแบบและแอลดับบลิวเอฟของสหรัฐฯ อีกสองแบบเป็นผู้เข้าแข่งขันที่เหลือ ในวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2517 กองทัพอากาศสหรัฐได้ยืนยันแผนที่จะสั่งซื้อเอซีเอฟที่ชนะเพื่อเพิ่มมันเข้าไปในฝูงบินยุทธวิธีห้าฝูงบิน เมื่อวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2518 รัฐมนตรีกองทัพอากาศจอห์น แอล. แมคลูคัสได้ประกาศว่าวายเอฟ-16 ได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะในการแข่งขันเอซีเอฟ
เหตุผลหลักที่รัฐมนตรีให้ต่อการตัดสินใจนี้คือราคาใช้งานที่ถูกกว่า พิสัยที่มากกว่า และการทำงานที่ดีกว่าของวายเอฟ-16 เหนือวายเอฟ-17 โดยเฉพาะความเร็วเหนือเสียง โครงการทดสอบการบินได้เผยว่าวายเอฟ-16 มีการเร่ง อัตราไต่ระดับ ความทนทาน และอัตราเลี้ยวที่เหนือกว่า อีกข้อได้เปรียบหนึ่งคือวายเอฟ-16 ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบแฟนแพรทท์ แอนด์ วิทนีย์ เอฟ100 ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่ใช้กับเอฟ-15 ทำให้มันลดค่าใช้จ่ายสำหรับโครงการเครื่องยนต์
ไม่นานหลังจากการเลือกวายเอฟ-16 รัฐมนตรีแมคลูคัสได้เผยว่ากองทัพอากาศสหรัฐได้วางแผนที่จะสั่งซื้ออย่างน้อย 650 ถึง 1,400 ลำ กองทัพอากาศเริ่มสั่งซื้อเครื่องบินที่มี"การพัฒนาแบบเต็มที่"หรือ"เอฟเอสดี" (Full-Scale Development, FSD) 15 ลำ (11 ลำเป็นแบบหนึ่งที่นั่งและอีก 4 ลำเป็นแบบสองที่นั่ง) สำหรับโครงการทดสอบการบิน แต่ต่อมาได้ลดเหลือ 8 ลำ (เอฟ-16เอ 6 ลำและเอฟ-16 บี 2 ลำ) อย่างไรก็ตามกองทัพเรือได้ประกาศเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2518 ว่าได้มีการตัดสินใจที่จะไม่ซื้อเอฟ-16 แบบสำหรับกองทัพเรือ พวกเขาเลือกที่จะใช้เครื่องบินที่พัฒนามาจากวายเอฟ-17 ซึ่งนั่นก็คือ(เอฟ/เอ-18 ฮอร์เน็ท)ของแมคดอนเนลล์ ดักลาสนั่นเอง
เข้าสู่การผลิต
บริษัทผู้ผลิตเอฟ-16 คือเจเนรัล ไดนามิกส์ในฟอร์ทเวอร์ธรัฐเท็กซัสในปลายปีพ.ศ. 2518 พร้อมตัวอย่างแรกคือเอฟ-16เอ ที่วางแผนจะผลิตในวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2519 ตามมาด้วยการบินครั้งแรกของมันในวันที่ 8 ธันวาคม แบบสองที่นั่งเริ่มทำการบินครั้งแรกในวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2520 การผลิตเริ่มแรกของเอฟ-16เอเริ่มในวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2521 และส่งให้กับกองทัพอากาศสหรัฐในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2522 เอฟ-16 ได้ชื่อเล่นในตอนแรกว่า"ไฟทิงฟอลคอน"ในวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2523 และมันได้เข้าประจำการในฝูงบินขับไล่ยุทธวิธีที่ 388 ที่ฐานทัพอากาศฮิลในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2523
ในวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2518 หุ้นส่วนยุโรปสี่ประเทศได้ทำสัญญาสำหรับเครื่องบินจำนวน 348 ลำที่งานแสดงในปารีส สำหรับเบลเยียม 116 ลำ เดนมาร์ก 58 ลำ เนเธอร์แลนด์ 102 ลำ และ นอร์เวย์ 72 ลำ พวกมันจะถูกผลิตบนสายการผลิตสองสายของยุโรป หนึ่งคือในเนเธอร์แลนด์ที่โรงงานของและอีกที่หนึ่งในโรงงารแซบก้า (Société Anonyme Belge de Constructions Aéronautiques, SABCA) ของเบลเยียม การผลิตจะถูกแบ่งเป็น 184 ลำและ 164 ลำตามลำดับ บริษัทคองสเบิร์กของนอร์เวย์และเทอร์ม่า เอ/เอสของเดนมาร์กผลิตชิ้นส่วนสำหรับเครื่องบิน การผลิตร่วมของยุโรปเริ่มอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2520 ที่โรงงานฟอกเกอร์ ในกลางเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2520 ชิ้นส่วนที่ผลิตโดยฟอกเกอร์ถูกส่งไปที่ฟอร์ทเวิร์ธเพื่อทำการประกอบลำตัว ซึ่งจะถูกส่งกลับไปที่ยุโรป การประกอบขั้นสุดท้ายจะเริ่มที่โรงงานของเบลเยียมในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2521 พร้อมส่งให้กับในเดือนมกราคม พ.ศ. 2522 สายผลิตของเดนมาร์กเริ่มขึ้นในเดือนเมษายน พ.ศ. 2521 และได้ทำการส่งครั้งแรกให้กับในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2522 ในปีพ.ศ. 2523 เครื่องบินลำแรกถูกส่งให้กับโดยแซบก้าและโดยฟอกเกอร์
ตั้งแต่นั้นสายการผลิตเพิ่มเติมถูกสร้างขึ้นในแอนคาร่าในตุรกี ที่ซึ่งอุตสาหกรรมอากาศยานของตุรกีหรือทีเอไอ (Turkish Aerospace Industries, TAI) ได้ผลิตเอฟ-16 บล็อก 30/40/50 จำนวน 232 ลำภายใต้ใบอนญาตให้กับในปลายทศวรรษที่ 1980 และ 1990 และได้จะไดรับบล็อก 50 แอดวานซ์เซดจำนวน 30 ลำในปีพ.ศ. 2553 ทีเอไอยังได้สร้างบล็อก 40 จำนวน 46 ลำให้กับอียิปต์ในปลายทศวรรษที่ 1990 อุตสาหกรรมอากาศยานของเกาหลีได้เปิดสายการผลิตสำหรับโครงการเคเอฟ-16 โดยผลิตบล็อก 52 จำนวน 140 ลำตั้งแต่ทศวรรษที่ 1990-2000 สำหรับอินเดียพวกเขาเลือกเอฟ-16ไอเอ็นโดยจะมีสายการผลิตเอฟ-16 สายที่หกที่จะผลิตเครื่องบิน 108 ลำ
การพัฒนา
หลังจากที่ถูกเลือก วายเอฟ-16 ก็ถูกเปลี่ยนเป็นเอฟ-16 โครงสร้างลำตัวถูกทำให้ยาวขึ้น 10.6 นิ้ว ส่วนจมูกที่ใหญ่ขึ้นถูกติดตั้งด้วยเรดาร์เอเอ็น/เอพีจี-66 พื้นที่ปีถูกเพิ่มจาก 26 ตารางเมตรเป็น 28 ตารางเมตร ปีกหางถูกลดความสูงเล็กน้อย ปีกบริเวณท้องถูกทำให้ใหญ่ขึ้น มีการเพิ่มที่เก็บของ และฝาเปิดล้อหน้าถูกเปลี่ยนจากแบบสองฝามาเป็นฝาเดียว การดัดแปลงเหล่านี้เพิ่มน้ำหนักของเอฟ-16 ประมาณ 25% จากต้นแบบ
ความต้องการหนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงซึ่งไม่นับคือการเพิ่มการควบคุมสูงเพื่อหลีกเลี่ยงการหยุดทำงานของเครื่องยนต์ในตอนที่ทำมุมปะทะสูง แบบทดสอบของวายเอฟ-16 ถูกทดสอบที่ศูนย์วิจัยในแลงลีย์ มีการพบปัญหาสำคัญแต่ไม่มีแล็บที่ใดพบเหมือนกัน การบินทดสอบของวายเอฟ-16 ไม่มีประสิทธิภาพพอที่จะแก้ไขปัญหา แต่การบินครั้งสำคัญนั้นคือสิ่งที่ต้องสนใจจริงๆ ผลที่ได้ของพื้นที่หางแนวนอนที่เพิ่มขึ้นอีก 25% ถูกใช้กับบล็อก 15 ในปีพ.ศ. 2524 และต่อมาก็ใช้กับเครื่องบินสำแรกๆ อีกอย่างคือการลดความเสี่ยงอย่างมากของการที่เครื่องยนต์หยุดทำงาน หางแนวนอนที่ใหญ่ขึ้นยังเพิ่มความเสถียรและให้การวิ่งขึ้นที่รวดเร็วขึ้น
ในทศวรรษที่ 1980 โครงการการพัฒนานานาชาติหรือเอ็มเอสไอพี (Multinational Staged Improvement Program, MSIP) ถูกจัดขึ้นเพื่อเพิ่มความสามารถใหม่ให้กับเอฟ-16 การลดความเสี่ยงในขณะทำการพัฒนาเทคโนโลยี และเพื่อมั่นใจว่ามันจะคงทนต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง โครงการทำการพัฒนาเอฟ-16 สามขั้นตอน ด้วยประการทั้งปวงเอ็มเอสไอพีทำการเสนอความสามารถใหม่ของเอฟ-16 ในราคาต่ำ และลดความเสี่ยงเมื่อเทียบกับระบบแบบเดิม เอฟ-16 ทำการพัฒนาอื่นๆ อีกที่รวมทั้งการยืดอายุการใช้งานในปีพ.ศ. 2543
การออกแบบ
โดยรวม
เอฟ-16 เป็นเครื่องบินหลาบทบาทหนึ่งเครื่องยนต์ที่มีความเร็วเหนือเสียง เอฟ-16 ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นนักสู้ที่คุ้มค่าซึ่งสามารถทำภารกิจได้หลากหลายและยังมีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา มันมีขนาดเล็กและเบากว่าเครื่องบินก่อนหน้า แต่ใช้อากาศพลศาสตร์และระบบอิเลคทรอกนิกอากาศที่ล้ำหน้ากว่า รวมทั้งใช้ระบบฟลาย-บาย-ไวร์ (Fly-by-wire) กับอาร์เอสเอส (Relaxed static stability) เป็นครั้งแรก เพื่อให้ทำกระบวนท่าได้สูงสุด ด้วยความคล่องแคล่วสูงเอฟ-16 สามารถทำแรงได้ในระดับ 9 จีและสามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 2 มัค
เอฟ-16 มีปืนใหญ่เอ็ม61 วัลแคนขนาด 20 ม.ม.ที่โคนปีกด้านซ้ายและในรุ่นแรกๆ สามารถติดตั้งเอไอเอ็ม-9 ไซด์ไวน์เดอร์ได้ถึงหกลูก รวมทั้งขีปนาวุธอีกอย่างละลูกที่ปลายปีก บางแบบสามารถใช้เอไอเอ็ม-7 สแปร์โรว์และในรุ่นล่าสุดก็สามารถใช้เอไอเอ็ม-120 แอมแรมได้อีกด้วย มันยังสามารถใช้ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศแบบอื่น ขีปนาวุธอากาศสู่พื้น จรวดหรือระเบิด อุปกรณ์ต่อต้านอิเลคทรอนิก (อีเอ็มซี) การนำร่อง กระเปาะหาเป้าหรือปืน และถังเชื้อเพลิงในทั้ง 11 ตำบล โดยมีหกตำบลที่ใต้ปีก สองที่ปลายปีก และสามที่ใต้ลำตัว
โครงร่างโดยปกติ
การออกแบบเอฟ-16 ใช้แพลนฟอร์มแบบครอป-เดลต้าร่วมกับการรวมปีกเข้ากับลำตัวและปีกขนาบข้าง เรขาคณิตที่ตายตัว ช่งอรับลมที่ด้านใต้เข้ากับแบบ ส่วนหางที่มีหางแนวนอนที่เคลื่อนที่ไดทั้งหาง ครีบคู่ที่ใต้ลำตัวท้ายขอบปีก ฝาครอบห้องนักบินแบบชิ้นเดียว และล้อลงจอดทั้งสาม มันมีระบบเติมเชื้อเพลิงทางอากาศที่จะมีช่องเติมอยู่ที่หลังห้องนักบิน เบรกอากาศอยู่ที่ช่วงท้ายของตัวปีก และตะขอเกี่ยวอยู่ที่ใต้ลำตัวส่วนท้าย ที่โคนปีกจะมีส่วนเก็บอุปกรณ์มากมายอย่างอีซีเอ็มหรือร่มฉุด เอฟ-16 แบบต่อมามากมายอย่างเอฟ-16ไอจากบล็อก 50 มีส่วนที่เชื่อมโยงไปตามแกนของลำตัวตั้งแต่ไปจนถึงส่วนหาง มันสามารถถูกใช้เพื่อเก็บอุปกรณ์เพิ่มเติมหรือเชื้อเพลิงได้
เอฟ-16 ถูกออกแบบมาให้มีราคาถูกในการสร้างและใช้งานได้ง่ายมากกว่าเครื่องบินขับไล่แบบก่อนๆ โครงสร้างทำจากอัลลูมิเนียมอัลลอย 80% เหล็ก 8% วัสดุผสม 3% และไทเทเนียม 1.5% การควบคุมพื้นผิวอย่างขอบที่แบนราบ ส่วนหาง และครีบท้องนั้นใช้โครงสร้างแบบใยที่ทำจากอะลูมิเนียมและผิวที่ทำจากกราไฟต์แผ่นบางๆ เอฟ-16เอมี 228 แผงตลอดทั่วทั้งลำตัว สายเชื้อเพลิงและโมดูลที่สามารถนำออกได้ยังถูกลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับแบบก่อนหน้า
แม้ว่าโครงการแอลดับบลิวเอฟของกองทัพอากาศสหรัฐจะเรียกร้องหาเครื่องบินที่สามารถมีชั่วโมงบินได้เพียง 4,000 ชั่วโมง และสามารถทำแรงได้ 7.33 จีพร้อมเชื้อเพลิงภายใน 80% วิศวกรของเจเนรัล ไดนามิกส์ตัดสินใจตั้งแต่แรกที่จะออกแบบโครงสร้างของเอฟ-16 ให้คงทนได้ 8,000 ชั่วโมงและได้แรงได้ 9 จีพร้อมเชื้อเพลิงเติมถัง มันได้พิสูจน์ถึงความได้เปรียบกว่าเมื่อภารกิจของมันถูกเปลี่ยนจากอากาศสู่อากาศเป็นแบบหลากบทบาทแทน อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลากับแผนการใช้งานปฏิบัติการและน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเนื่องมาจากระบบเพิ่มเติมทำให้มันต้องการโครงสร้างมากมายที่ต้องแข็งแกร่งขึ้น
ปีกหลักและปีกขนาบข้าง
การศึกษาด้านอากาศพลศาสตร์เมื่อต้นทศวรรษที่ 1960 ได้แสดงให้เห็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่า"การยกตัวของกระแสลม" (อังกฤษ: vortex lift) ที่สามารถเป็นประโยชน์โดยการใช้ปีกที่ลู่อย่างมากเพื่อทำมุมปะทะได้มากขึ้นผ่านการใช้กระแสลมแรงที่ไหลเวียนผ่านด้านข้างยกมันขึ้น เพราะว่าเอฟ-16 ถูกมองว่าเป็นเครื่องบินที่รวดเร็วในการต่อสู้ นักออกแบบของเจเนรัล ไดนามิกส์จึงได้เลือกปีกแบบครอป-เดลต้าที่เพรียวพร้อมกับปีกเสริมขนาบข้างทำมุม 40 องศาและท้ายปีกที่เป็นแนวตรง เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกระบวนท่าได้มากของมัน ปีกโค้งนูนพร้อมกับแอร์ฟอล์ยแบบเอ็นเอซีเอ 64เอ-204 จึงถูกเลือกมาใช้งาน ส่วนโค้งเรียกว่า"แคมเบอร์" (camber) นั้นถูกปรับผ่านทางการใช้ขอบด้านหน้าและชอบด้านหลังที่เชื่อมเข้ากับหรือเอฟซีเอส (flight control system, FCS) ซึ่งจะปรับโดยอัตโนมัติผ่านทางช่องการบิน
ผลของการยกตัวด้วยกระแสลมนี้สามารถเพิ่มขึ้นได้ด้วยการเพิ่มพื้นที่ขอบด้านหน้าปีกที่ส่วนโคน จุดเชื่อมต่อกับลำตัว เรียกว่าส่วนขนาบข้างหรือ"สเตรค" (strake) สเตรคทำหน้าที่เหมือนสิ่งที่เพรียวลม มีขนาดยาว ไม่กว้าง ปีกทรงสามเหลี่ยมที่เริ่มตั้งแต่โคนปีกไปจนถึงส่วนหน้าของลำตัว ด้วยการผสมลำตัวที่ไม่มีจุดเชื่อมต่อที่เป็นมุม รวมทั้งโคนปีก สเตรคจะสร้างกระแสลมที่เร็วซึ่งยังคงติดอยู่กับส่วนบนของปีกเมื่อมุมปะทะสูงขึ้น ด้วยวิธีนี้เองแรงยกก็จะเพิ่มมากขึ้น สิ่งนี้ทำให้เครื่องบินสามารถทำมุมปะทะได้ในแบบที่ปกติแล้วเครื่องบินจะไม่สามารถควบคุมได้ การใช้สเตรคหรือปีกเสริมนั้นยังใช้อัตราปีกที่ต่ำ ซึ่งเพิ่มอัตราการหมุนและความเสถียรในขณะที่ลดน้ำหนักเครื่องบิน โคนปีกที่ลึกขึ้นยังเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้าง และเพิ่มปริมาณเชื้อเพลิงภายใน ผลที่ได้คือเศษส่วนเชื้อเพลิงของเอฟ-16 ประมาณ 0.31 ที่ทำให้มันมีพืสัยมากกว่าเครื่องบินที่คล้ายคลึงกัน
ระบบควบคุมการบิน
เสถียรภาพในการทรงตัวที่เป็นลบ
วายเอฟ-16 เป็นเครื่องบินลำแรกของโลกที่ถูกออกแบบให้มีอากาศพลศาสตร์ที่ไม่เสถียรเล็กน้อย เทคนิคนี้เรียกว่า"อาร์เอสเอส" (relaxed static stability, RSS) ทำงานร่วมเพื่อเพิ่มการทำงานของเครื่องบิน เครื่องบินส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาให้มีเสถียรภาพในการทรงตัวที่เป็นบวก ซึ่งมีแนวโน้มทำให้เครื่องบินกลับไปสู่ความสูงเดิมของมันได้หลังจากที่เสียการทรงตัว อย่างไรก็ตามเสถียรภาพในการทรงตัวที่เป็นบวกนั้นหยุดความคล่องตัว เพราะว่ามีจะคอยทำให้เครื่องบินอยู่ในตำแหน่งปกติแทนที่จะเป็นแบบที่นักบินต้องการ ในอีกทางหนึ่ง เครื่องบินที่มีเสถียรภาพในการทรงตัวที่เป็นลบจะไม่อยู่ในระดับและการควบคุมในทันที ถึงกระนั้นเครื่องบินที่มีเสถียรภาพในการทรงตัวที่เป็นลบจะคล่องแคล่วกว่าพวกที่เป็นบวก เมื่อทำความเร็วเหนือเสียงเครื่องบินที่มีเสถียรภาพในการทรงตัวที่เป็นลบจะมีแนวทางที่เป็นบวกมากกว่าเดิม เพราะว่าแรงอากาศพลศาสตร์เปลี่ยนส่วนท้ายระหว่างการบินแบบต่ำกว่าเสียงและเร็วเหนือเสียง อย่างไรก็ตามในความเร็วเหนือเสียงเครื่องบินขับไล่มักมีแนวโน้มที่จะหลุดจากการควบคุมได้ตลอดเวลา
ฟลาย-บาย-ไวร์
เพื่อเผชิญหน้ากับการหลุดจากการควบคุมและหลีกเลี่ยงความต้องการที่จะต้องใช้เวลาในการเข้าควบคุมโดยนักบิน เอฟ-16 จึงมีช่องฟลาย-บาย-ไวร์สี่ช่อง คอมพิวเตอร์ควบคุมการบินหรือเอฟแอลซีซี (flight control computer, FLCC) ซึ่งเป็นตัวสำคัญของระบบควบคุมการบินหรือเอฟเอลซีเอส (Flight Control System, FLCS) ยอมรับการเชื่อมต่อจากนักบินจากคันบังคับและหางเสือ และจัดการการควบคุมพื้นผิวโดยไม่ทำให้เสียการควบคุม เอฟแอลซีซียังใช้การวัดเป็นพันๆ ครั้งต่อวินาทีของความสูงที่เครื่องบินอยู่ และจะทำให้มันถูกต้องโดยอัตโนมัติเพื่อจัดการกับการเปลี่ยนแปลงของเส้นทางการบินที่ไม่ได้มาจากนักบิน นั่นทำให้มันบินได้อย่างเสถียร สิ่งนี้นำไปสู่คำพังเพยของนักบินเอฟ-16 ที่ว่า "คุณไม่ได้ขับเอฟ-16 หรอก มันนั่นแหละที่ขับคุณ"
เอฟแอลซีซียังทำงานร่วมกับตัวจำกัดการควบคุมการเคลื่อนไหวที่มีพื้นฐานมาจากระดับความสูงปัจจุบันของเครื่องบินไอพ่น ความเร็วลมและมุมปะทะ และป้องกันการเคลื่อนของการควบคุมพื้นผิวซึ่งจะทำให้เกิดความไม่เสถียรอย่างการสลิปหรือสคิด หรือมุมปะทะระดับสูงที่ทำให้ไม่สามารถควบคุมเครื่องบินได้ ตัวจำกัดยังทำหน้ที่ป้องกันกระบวนท่าที่จะสร้างแรงมากกว่า 9 จีต่อนักบินหรือโครงสร้าง
ไม่เหมือนกับวายเอฟ-17 ที่จุดเด่นอยู่ที่ระบบเอฟบีดับบลิวพร้อมกับการควบคุมด้วยน้ำที่เป็นตัวสำรอง นักออกแบบเอฟ-16 นั้นใช้วัตกรรมใหม่ในการกำจัดส่วนเชื่อมระหว่างคันบังคับและหางเสือและพื้นผิวควบคุมอากาศพลศาสตร์ ความไว้ใจได้ของเอฟ-16 ต่อระบบอิเลคทรอนิกและสายไฟเพื่อคงการควบคุมการบิน แทนที่จะเป็นการใช้สายเคเบิลและระบบกลไกในการควบคุม สิ่งนี้ทำให้เอฟ-16 ได้รับชื่อเล่นว่า"อิเลคทริกเจ็ท"หรือ"เจ็ทไฟฟ้า" ช่องบินทั้งสี่หากสูญเสียไปหนึ่งช่องระบบก็จะเปลี่ยนมาเป็นแบบสามช่อง เอฟแอลซีซีเริ่มต้นในฐานะระบบอนาล็อกในแบบเอ/บี แต่ต่อมาได้เป็นระบบดิจิตอลในแบบซี/ดีของบล็อก 40
ห้องนักบินและการจัดอุปกรณ์
อีกจุดเด่นหนึ่งของมันจากมุมมองของนักบินคือความยอดเยี่ยมโดยรวมของเอฟ-16 ในห้องนักบิน จุดเด่นนี้เป็นสิ่งสำคัญขณะทำการต่อสู้กลางอากาศ ฝาครอบชิ้นเดียวที่ทำมาจากให้มุมมอง 360 องศาพร้อมมุมมองขึ้นลง 40 องศาตลอดด้านข้างของเครื่องบิน และ 15 องศาเหนือส่วนจมูก ที่นั่งนักบินติดตั้งบนที่ปรบขึ้นลงได้ นอกจากนี้ห้องนักบินเอฟ-16 ไม่มีส่วนโค้งที่ด้านหน้าซึ่งมีในเครื่องบินส่วนใหญ่ ซึ่งมันทำให้นักบินมองเห็นได้ชัดขึ้นในบริเวณด้านหน้า (ในแบบสองที่นั่งจำเป็นต้องมีกรอบมากั้นระหว่างนักบินทั้งสอง)
เก้าอี้ดีดตัวเอซเซส2 พลังจรวดอยู่ที่ด้านหลังโดยทำมุม 30 องศา ที่นั่งในแบบที่เก่ากว่าและร่วมสมัยนั้นมักทำมุมเพียง 13-15 องศาทำนั้น ที่นั่งเอนที่ไปด้านหลังของเอฟ-16 ถูกเลือกเพื่อเพิ่มความทนทานของนักบินต่อแรงจีได้ และเพื่อลดความอ่อนไหวของนักบินต่อแรงโน้มถ่วงที่จะทำให้หมดสติ อย่างไรก็ตามมุมที่เพิ่มขึ้นก็ทำให้เพิ่มความเสี่ยงที่คอจะได้รับบาดเจ็บหากไม่ใช้ที่พักศีรษะ การออกแบบเครื่องบินขับไล่ของสหรัฐฯ ในเวลาต่อมาที่นั่งจะเล็กกว่าและทำมุมเพียง 20 องศา เพราะมุมที่มากของที่นั่งและความหนาของฝาครอบที่ทำมาจากโพลีคาร์บอเนท เก้าอี้ดีดตัวของเอฟ-16 จึงขาดส่วนที่เป็นเหล็กเพื่อกระแทกให้ฝาครอบแตกอย่างที่เครื่องบินลำอื่นๆ มี ซึ่งตัวกระแทกนั้นจะทำให้ฝาครอบแตกหากมันไม่สามารถเปิดได้ ในเครื่องเอฟ-16 การดีดตัวของนักบินทำโดยการปลดฝาครอบทิ้งไปก่อน เมื่อแรงลมดึงฝาครอบออกไปแล้ว ไกก็จะลั่นส่งให้เก้าอี้พุ่งออกไปด้วยพลังจรวด
นักบินที่บินเครื่องบินจะใช้คันบังคับที่ด้านขวาเป็นหลักและคันเร่งจะอยู่ที่ด้านซ้าย หรือจะเป็นคันเหยีบก็ได้ เพื่อเพิ่มองศาในการควบคุมของนักบินในตอนที่มีแรงจีเยอะ สวิตช์มากมายจึงถูกย้ายไปที่คันบังคับแทน การกดเพียเบาๆ ที่คันบังคับจะส่งสัญญาณอิเลคทรอนิกผ่านทางระบบฟลาย-บาย-ไวร์เพื่อปรบการควบคุมการบินมากมาย ดั้งเดิมแล้วคันบังคับไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ แต่การจัดใช้แบบนี้ได้พิสูจน์ว่าไม่สะดวกและยากสำหรับนักบินที่จะควบคุม บางครั้งมันส่งผลให้มีแนวโน้มที่จะหมุนเกินไปในตอนที่วิ่งขึ้น ตั้งแต่ที่มันปรากฏตัวในเครื่องเอฟ-16 คันบังคับแบบโฮทัส (HOTAS) ได้กลายมาเป็นแบบพื้นฐานของเครื่องบินขับไล่ยุคใหม่ (แม้ว่าคันบังคับด้านข้างนั้นจะไม่แพร่หลายนัก)
ห้องนักบินของเอฟ-16 ยังมีเฮด-อัพดิสเพลย์หรือฮัด (Head-Up Display, HUD) ซึ่งฉายภาพการบินและข้อมูลการรบในรูปแบบสัญลักษณ์ต่อหน้านักบินโดยปราศจากสิ่งกีดขวาง ด้วยการที่สามารถมองหาเป้าได้ทั่วห้องนักบินนักบินจึงมีการระวังตัวอย่างมากต่อสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว หมวกเจเอชเอ็มซีเอส (Joint Helmet Mounted Cueing System, JHMCS) ของโบอิงถูกใช้ในบล็อก 52 สำหรับขีปนาวุธพิสัยไกลอย่างเอไอเอ็ม-9 เอ็กซ์ หมวกพิเศษนี้สามารถบองตำแหน่งของระบบอาวุธได้ตามที่นักบินมอง แม้กระทั่งนอกจอแสดงผลก็ตาม ในขณะที่ยังคงมีการระวังภัย หมวกนี้ทำการครั้งแรกใน
นักบินจะได้รับการบินเพิ่มและข้อมูลสถานะของระบบจากมัลติ-ฟังชั่น ดิสเพลย์หรือเอ็มเอฟดี (multi-function display, MFD) เอ็มเอฟดีที่ด้านซ้ายคือหน้าจอแสดงการบินหลัก ซึ่งโดยปกติจะแสดงเรดาร์และแผนที่เคลื่อนที่ เอ็มเอฟดีทางด้านขวาจะแสดงระบบ ซึ่งแสดงข้อมูลสำคัญของเครื่องยนต์ อุปกรณ์ลงจอด ฝาครอบและแพนปีก เชื้อเพลิง และสถานะอาวุธ เริ่มแรกเอฟ-18เอ/บีมีจอหลอดรังสีคาโทด (ซีอาร์ที) เพียงจอเดียวเท่านั้นที่ทำหน้าที่พีเอฟดี พร้อมกับข้อมูลระบบที่แสดงตามมาตรวัดต่างๆ เอ็มแอลยูได้นำจอเอ็มเอฟดีเข้าสู่ห้องนักบินและยังใช้ได้ในแบบกลางคืนอีกด้วย จอซีอาร์ทีเหล่านี้ถูกแทนที่ด้วยจอแอลซีดีในบล็อก 50/52 ในบล็อก 60 จอเอ็มเอฟดีแบบสีที่สามารถใส่โปรแกรมและสลับเปลี่ยนได้ พร้อมความสามารถภาพต่อภาพซึ่งให้สถานการณ์ได้ตรงตามเวลาบนแผนที่เคลื่อนที่
เรดาร์
เอฟ-16เอ/บีเดิมที่ติดตั้งเรดาร์ควบคุมการยิงแบบพัลส์-ดอพเพลอร์เอเอ็น/เอพีจี-66 ของ (ตอนนี้คือนอร์ทธรอป กรัมแมน) เสาอากาศของมันถูกออกแบบมาเพื่อมีประสิทธิภาพกับสมูกขนาดเล็กของเอฟ-16 ในรูปแบบอัพลุค เอพีจี-66 ใช้คลื่นสั่นสะเทือนซ้ำหรือพีอาร์เอฟ (Pulse repetition frequency, PRF) ระดับต่ำสำหรับเป้าหมายที่อยู่ระดับกลางและสูงในสภาพแวดล้อมที่รก และในรูปแบบดาวน์ลุคจะเป็นการใช้พีอาร์เอฟระดับกลางสำหรับสภาพแวดล้อมที่รกอย่างมาก มันมีคลื่นความถี่สี่คลื่นภายในเอ็กว์แบนด์ (X band) และมีรูปแบบสี่รูปแบบสำหรับการต่อสู้อากาศสู่อากาศและเจ็ดสำหรับการต่อสู้อากาศสู่พื้น แม้แต่ในตอนกลางคืนหรือสภาพอากาศที่เลวร้าย เอพีจี-66(วี)2 ของบล็อก 15 ได้เพิ่มตัวประมวลสัญญาณที่ทรงพลัง ความเชื่อใจได้ และเพื่มระยะในสภาพแวดล้อมที่รกหรือมีการรบกวนได้ไกลขึ้น โครงการเพิ่มอายุใช้งานได้พัฒนาสิ่งนี้เป็นเอพีจี-66(วี)2เอ ซึ่งมีจุดเด่นเป็นความเร็วและความจำ
เรดาร์เอเอ็น/เอพีจี-68 เป็นการพัฒนาของเอพีจี-66 ถูกนำมาใช้กับเอฟ-16ซี/ดี บล็อก 25 เอพีจี-68 มีระยะและการประมวลผลที่มากกว่า เช่นเดียวกับรูปแบบปฏิบัติการที่มากขึ้นเป็น 25 รูปแบบ และการติดตามขณะตรวจหาหรือทีดับบลิวเอส (track-while-scan, TWS) สำหรับเป้าหมายมากถึงสิเป้าหมาย เอพีจี-68(วี)1 ของบล็อก 40/42 ได้เพิ่มการทำงานร่วมเต็มที่กับระบบแลนเทิร์นของล็อกฮีด มาร์ติน และรูปแบบติดตามแบบพัลส์-ดอพเพลอร์ด้วยพีอาร์เอฟระดับสูงเพื่อให้ส่งคลื่นต่อเนื่องเข้าสู่เป้าหมายเพื่อชี้เป้าให้กับขีปนาวุธแบบกึ่งเรดาร์อย่างเอไอเอ็ม-7 สแปร์โรว์ เอฟ-16 บล็อก 50/52 เริ่มได้รับเอพีจี-59(วี)5 ที่เชื่อถือได้มากกว่าซึ่งมีตัวประมวลผลที่ใช้เทคโนโลยีวงจรร่วมความเร็วสูง บล็อก 50/52 ที่ห้าวหน้าถูกติดตั้งด้วยเอพีจี-68(วี)9 ซึ่งมีระยะตรวจจับได้มากกว่า 30% และรูปแบบเอสเออาร์ (synthetic aperture radar, SAR) สำหรับการประมวลผลระดับสูงของแผนที่และการตรวจจับเป้าหมาย ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2547 นอร์ทธรอฟ กรัมแทนได้รับสัญญาในการเริ่มการพัฒนาเรดาร์เอพีจี-68 ของบล็อก 40/42/50/52 ให้เป็นแบบ(วี)10 ซึ่งทำให้เอฟ-16 มีการตรวจจับในทุกสภาพอากาศและการจับเป้าในแบบจีพีเอส มันยังเพิ่มรูปแบบแผนที่เอสเออาร์และรูปแบบตามพื้นภูมิประเทศ
เอฟ-16อี/เอฟที่ใช้เรดาร์เออีเอสเอ (Active Electronically Scanned Array, AESA) เอเอ็น/เอพีจี-80 ของนอร์ทธรอป กรัมแมน ทำให้มันเป็นเครื่องบินลำที่สามที่ใช้มัน
ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2550 เรย์ธีออนได้ประกาศว่ามันได้ทำการพัฒนาเรดาร์รุ่นใหม่ขึ้นมาโดยมีพื้นฐานมาจากเอเอ็น/เอพีจี-79 รุ่นก่อนหน้าเพื่อเป็นทางเลือกให้กับเอเอ็น/เอพีจี-68 และเอเอ็น/เอพีจี-80 ของนอร์ทธธรอป กรัมแมนสำหรับเอฟ-16 แบบใหม่ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 โบอิงได้เลือกการออกแบบนี้เพื่อทำการพัฒนาเอฟ-15อีให้กับกองทัพอากาศสหรั
การขับเคลื่อน
ในตอนแรกขุมกำลังของเอฟ-16 คือแพรทท์ แอนด์ วิทนีย์ เอฟ100-พีดับบลิว-200 หนึ่งเครื่องยนต์ มันถูกดัดแปลงเล็กน้อยจากเอฟ100-พีดับบลิว-100 ที่ใช้โดยเอฟ-15 ด้วยอัตราแรงขับ 23,830 ปอนด์ทำให้มันยังคงใช้ไปจนถึงเอฟ-16 ในบล็อก 25 ยกเว้นบล็อก 12 พร้อมการพัฒนาความสามารถปฏิบัติการหรือโอซียู (Operational Capability Upgrade, OCU) โอซียูได้นำเครื่องเอฟ100-พีดับบลิว-220 ที่ให้แรงขับ 23,770 มาใช้ ซึ่งยังได้ติดตั้งในบล็อก 32 และ 42 ในขณะที่มันไม่ได้เพิ่มแรงขับอย่างเห็นได้ชัดนัก มันก็ได้นำระบบควบคุมเครื่องยนต์อิเลคทรอกนิกแบบดิจิตอลหรือดีอีอีซี (Digital Electronic Engine Control, DEEC) มาใช้ซึ่งได้เพิ่มความไว้ใจได้และลดความเสี่ยงของเครื่องยนต์ที่จะหยุดทำงาน (ซึ่งเป็นสิ่งที่มักเกิดขึ้นกับรุ่น "-200" ซึ่งจำเป็นต้องทำการสตาร์ทเครื่องใหม่กลางอากาศ) ด้วยการปรากฏตัวบนสายผลิตเอฟ-16 ในปีพ.ศ. 2531 "-220" ยังได้เข้าแทนที่ "-100" ของเอฟ-15 ดังนั้นทั้งสองจึงมีเครื่องยนต์ที่เหมือนกัน เครื่องยนต์รุ่น "-220" มากมายของบล็อก 25 และเครื่องบินลำต่อๆ มาถูกพัฒนาตั้งแต่กลางปีพ.ศ. 2540 ให้เป็น "-220อี" ซึ่งได้เพิ่มความไว้ใจได้และใช้งานได้ง่าย รวมทั้งลดอัตราการซ่อมแซมลงไป 35%
การพัฒนาเอฟ-100-พีดับบลิว-220/220อีเป็นผลมาจากโครงการเปลี่ยนเครื่องยนต์ของกองทัพอากาศสหรัฐ ซึ่งมีเจเนรัล อิเลคทริกเป็นผู้สร้างเครื่องยนต์ให้กับเอฟ-16อย่างไรก็ตามเครื่องยนต์เทอร์โบแฟนเอฟ110-จีอี-100 ต้องการการดัดแปลงในส่วนของช่องรับลม แบบเดิมนั้นให้แรงขับสูงสุดเพียง 25,735 ปอนด์ ในขณะที่แบบใหม่ให้แรงขับสูงสุดถึง 28,984 ปอนด์เมื่อใช้ (เพื่อแยกแยะเครื่องบินที่ใช้เครื่องยนต์แตกต่างกัน ลำที่ใช้ของเจเนรัล อิเลคทริกใช้ลงท้ายบล็อกด้วย "0" (เช่น บล็อก 30) และลำที่ใช้ของแพรทท์ แอนด์ วิทนีย์จะลงท้ายด้วย "2" (เช่น บล็อก 32))
การพัฒนาเพิ่มโดยผู้แข่งขันเหล่านี้ภายใต้เครื่องยนต์ที่เพิ่มการทำงานทำให้เกิดเครื่องยนต์เอฟ110-จีอี-129 ที่ให้แรงขับ 29,588 ปอนด์ในบล็อก 50 และเครื่องยนต์เอฟ-พีดับบลิว-229 ที่ให้แรงขับ 29,100 ในบล็อก 52 ขึ้นมา เอฟ-16 เริ่มบินด้วยเครื่องยนต์เหล่านี้ในวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2534 และ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2535 ตามลำดับ ด้วยประการทั้งปวงเอฟ-16ซี/ดี 1,446 ลำที่สั่งซื้อโดยกองทัพอากาศสหรัฐ มี 556 ลำที่ใช้เครื่องยนต์ตระกูลเอฟ100 และ890 ลำที่ใช้เอฟ110 บล็อก 60 ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบแฟนเอฟ110-จีอี-132 ของเจเนรัล อิเลคทริกซึ่งให้แรงขับสูงสุด 32,500 ปอนด์ สูงสุดในบรรดาเอฟ-16 ทั้งหมด
ประวัติการใช้งาน
เนื่องมาจากการที่มีพวกมันอยู่ทั่วทุกที่ เอฟ-16 จึงมีส่วนร่วมในการรบมากมายซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นใน
การรบครั้งแรกประสบผลที่หุบเขาเบก้าและการบุกออสอิรัก (พ.ศ. 2524)
การต่อสู้ทางอากาศครั้งแรกของเอฟ-16 เกิดขึ้นโดยเหนือหุบเขาเบก้าเมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2524 โดยจัดการกับเฮลิคอปเตอร์ ของซีเรีย ซึ่งถูกยิงตกโดยปืนหลังจากไม่สามารถใช้ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศเอไอเอ็ม-9 ไซด์ไวน์เดอร์ยิงได้ หนึ่งปีต่อมาในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2525 ในขณะทำการรบทางอากาศกองทัพอากาศอิสราเอลได้ใช้เอฟ-16 ทำแต้มกับเครื่องบินขับไล่อีกลำเป็นครั้งแรกโดยยิงมิก-21 หนึ่งลำของซีเรียตก
ในวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2524 เอฟ-16 แปดลำของอิสราเอลที่คุ้มกันโดยเอฟ-15 ทำโดยเป็นการโจมตีทางอากาสู่พื้นครั้งแรกของมัน การบุกครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายให้กับออสอิรัก ของอิรักที่กำลังก่อสร้างในแบกแดด เพื่อป้องกันไม่ให้ซัดดัม ฮุสเซนใช้มันสร้างอาวุธนิวเคลียร์
ปฏิบัติการความสงบเพื่อกัลลิลี (พ.ศ. 2525)
ปีต่อมาในปฏิบัติการความสงบเพื่อกัลลิลีในสงครามเลบานอนปีพ.ศ. 2525 เอฟ-16 ของอิสราเอลได้เข้าปะทะกับเครื่องบินของซีเรียซึ่งเปนการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของเครื่องบินขับไล่พลังไอพ่น ซึ่งเริ่มในวันที่ 9 มิถุนายนและยังคงต่อเนื่องไปอีกสองวัน เมื่อสิ้นสุดการรบกองทัพอากาศอิสราเอลได้สังหารไป 44 ลำ ส่วนใหญ่เป็นมิก-21 และมิก-23 ในขณะที่ไม่สูญเสียเอฟ-16 เลย เอฟ-16 ยังได้ใช้การโจมตีภาคพื้นดินเพื่อเข้าโจมตีเป้าหมายในเลบานอน
เหตุการณ์ในช่วงสงครามโซเวียต-อัฟกานิสถาน (พ.ศ. 2529-2531)
ในสงครามโซเวียต-อัฟกานิสถานระหว่างเดอืนพฤษภาคม พ.ศ. 2529 และมกราคม พ.ศ. 2533 อ้างว่า ได้ใช้เอฟ-16 ยิงข้าศึกจากฝ่ายอัฟกานิสถานตกไปอย่างน้อยสิบลำ สี่ลำเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดซู-22 สามลำเป็นเครื่องบินขนส่ง (แอน-26 สองลำและแอน-24 หนึ่งลำ) และอีกนึ่งลำเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดซู-25 ส่วนใหญ่ถูกสังหารโดยไซด์ไวน์เดอร์ แต่ซู-22 ถูกปืนยิงตกและแอน-24 หนึ่งลำถูกบังคับให้ลงจอดฉุกเฉินเมื่อถูกเข้าสกัดกั้น
อัฟกานิสถานอ้างว่า Mig-23 ที่ขับโดยนักบินโซเวียต ได้ยิงเอฟ-16เอของปากีสถานตกหนึ่งลำในวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2530 นักบินดีดตัวได้อย่างปลอดภัยและตกลงในพื้นที่ของปากีสถาน ทางปากีสถานยอมรับว่าได้สูญเสียเครื่องบินให้กับฝ่ายศัตรู แต่อ้างว่ามันอาจเป็นได้ทั้งเอฟ-16 หรือเอฟ-6 และยืนกรานว่ามันถูกโจมตีเหนือพื้นที่ของปากีสถาน ต่อมาทางการปากีสถานได้ยืนยันการสูญเสียเอฟ-16 หนึ่งลำ แต่อ้างว่า เป็นอุบัติเหตุโดยถูกยิงโดยพวกเดียวกันเองขณะต่อสู้อย่างชุลมุนเหนือเขตแดนของปากีสถาน ตามคำกล่าวอ้างเอฟ-16 ของผู้หมวดซาฮิด ไซกันดาร์ คานถูกยิงโดยเอไอเอ็ม-9 ที่ยิงมาจากนักบินเอฟ-16 อีกนายหนึ่งโดยหัวหน้าฝูงบินอัมจาด จาเวด
ปฏิบัติการพายุทะเลทราย (พ.ศ. 2534)
ในปฏิบัติการพายุทะเลทราย เมื่อปีพ.ศ. 2534 เอฟ-16 จำนวน 249 ลำของกองทัพอากาศสหรัฐทำการบิน 13,340 ครั้งเพื่อเข้าโจมตีอิรัก ส่วนใหญ่เป็นของกองกำลังผสม เครื่องบินสามลำอ้างว่าถูกยิงตกขณะทำการยืนยันการเคลื่อนไหวของศัตรู สองลำถูกยิงโดยนำวิถีด้วยเรดาร์เอสเอ-6 และเอสเอ-3ที่ผลิตในรัสเซีย และอีกหนึ่งลำถูกยิงโดยขีปนาวุธขนาดเล็กแบบประทับบ่าของรัสเซียรุ่นเอสเอ-16 เอฟ-16 ลำอื่นได้รับความเสียหายในอุบัติเหตุและการยิงของศัตรูแต่ก็สามารถบินกลับฐานและซ่อมแซมได้ในที่สุด โดยรวมแล้วเอฟ-16 เจ็ดลำถูกยิงตกในพายุทะเลทรายระหว่างวันที่ 16 มกราคมและ 28 กุมภาพันธ์
ปฏิบัติการทางอากาศเหนืออิรัก (พ.ศ. 2534-2546)
หลังจากสิ้นสุดปฏิบัติการพายุทะเลทรายจนถึงการบุกอิรักในปีพ.ศ. 2546 เอฟ-16 ของกองทัพอากาศสหรัฐได้ทำการลาดตระเวนในของอิรัก มีชัยชนะทางอากาศสองครั้งที่ทำแต้มโดยเอฟ-16 ของกองทัพอากาศสหรัฐใน ในวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2535 เอฟ-16ดีหนึ่งลำของกองทัพอากาศสหรัฐยิงมิก-25 หนึ่งลำของอิรักตกในเขตห้ามบินของสหประชาชาติเหนือทางตอนใต้ของอิรักด้วยเอไอเอ็ม-120 แอมแรม นี่เป็นครั้งแรกที่เอฟ-16 ของกองทัพอากาศสหรัฐทำแต้มตั้งแต่ที่มันเริ่มทำหน้าที่ และยังเป็นการใช้แอมแรมสังหารครั้งแรกอีกด้วย ในวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2535 เอฟ-16ซีของกองทัพอากาศสหรัฐได้ทำลายมิก-23 หนึ่งลำของอิรักด้วยขีปนาวุธแอมแรมอันเป็นชัยชนะครั้งที่สองของเอฟ-16
เอฟ-16 ได้กลับเข้าอิรักในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2541 ในส่วนหนึ่งของโดยทำภารกิจทิ้งระเบิดเพื่อลดความสามารถในการผลิตอาวุธของอิรัก
การพยายามรัฐประหารเวเนซูเอลา (พ.ศ. 2535)
ในวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2535 เอฟ-16 สองลำของเวเนซูเอลามีส่วนร่วมในการพยายามรัฐประหารเวเนซูเอลาโดยทำงานให้กับฝ่ายรัฐบาล เอฟ-16เอสองลำยิงกราดใส่เป้าหมายบนพื้นดินและยิงโอวี-10 บรองโกสองลำตกด้วยเอไอเอ็ม-9 และเอที-27 ทูคาโน่หนึ่งลำตกโดยใช้ปืนเมื่อเครื่องบินของกบฏดังกล่าวได้บินเข้าโจมตีที่มั่นของกองทัพ
บัลข่าน (พ.ศ. 2537-2538 และ 2542)
เอฟ-16 ยังถูกใช้โดยนาโต้ในปฏิบัติการรักษาความสงบของบอสเนียในปีพ.ศ. 2537-2538 ในภารกิจโจมตีภาคพื้นดินและป้องกันเขตห้ามบินเหนือบอสเนีย () ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2547 เครื่องเจ-21 สี่ลำและไอเจ-21 สองลำ และเจ-22 สองลำได้รุกล้ำเขตห้ามบินเพื่อทำการทิ้งระเบิด นักบินของเจ-22 ทั้งสองลำเห็นเอฟ-16 เหนือพวกเขาและหลังจากการโจมตี พวกเขาก็บินจากไปในระดับต่ำมุ่งหน้าไปโครเอเชีย ที่ซึ่งเครื่องบินของสหรัฐไม่สามารถบินตามไปได้ ในขณะนั้นกลุ่มที่เหลือถูกโจมตี ระลอกแรกโดยเอฟ-16ซี 2 ลำของกองทัพอากาศสหรัฐ ซึ่งทำได้สามแต้ม เจ-21 ที่เหลือถูกจัดการโดยเอฟ-16ซี อีกคู่หนึ่ง เครื่องบินของยูโกสลาเวียหกลำเข้าปะทะ มีสี่ลำที่ถูกยิงตก ในวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2538 เอฟ-16ซีลำหนึ่งถูกยิงตกโดย2เค12 คับของเซอร์เบียในขณะทำการลาดตระเวนเหนือบอสเนีย นักบินสกอตต์ โอเกรดี้ดีดตัวออกและได้รับการช่วยเหลือจากเฮลิคอปเตอร์ซีเอช-53 ซีสตัลเลียนของนาวิกโยธินสหรัฐในวันที่ 8 มิถุนายน
เอฟ-16 ของนาโต้ยังได้มีส่วนร่วมในการโจมตีทางอากาศต่อกองกำลังของเซอร์เบียในบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาในในเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2538 และอีกครั้งในเหนือยูโกสลาเวียตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงมิถุนยน พ.ศ. 2542 ในปฏิบัติการนี้เอฟ-16 ได้รับชัยชนะ 1-2 ครั้ง หนึ่งครั้งโดยที่ยิงเครื่องมิก-29 (ที่ขาดการซ่อมบำรุงเนื่องการมาตรการคว่ำบาตร) หนึ่งลำของยูโกสลาเวียตก และอีกครั้งโดยเอฟ-16 ของกองทัพอากาศสหรัฐโดยเหยื่อคือมิก-29 เช่นกัน อย่างไรก็ตามในกรณีต่อมาเซอร์เบียได้อ้างว่าได้พบซากของ9เค32เอ็มในซากของมิก-29 และบอกว่ามันถูกยิงตกโดยพวกเดียวกันเอง
ในวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2542 เอฟ-16ซีจีหนึ่งลำถูกยิงตกเหนือเซอร์เบียโดยขีปนาวุธรัสเซียรุ่น นักบินสามารถดีดตัวออกมาได้และต่อมาได้รับความช่วยเหลือ สร้างของเครื่องบินถูกนำไปแสดงในพิพิธภัณฑ์การบินของยูโกสลาเวีย
เหตุการณ์ในอีเจียน (พ.ศ. 2539 และ 2549)
ในวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2539 ในการเผชิญหน้าทางอากาศในน่านฟ้าของกรีซเหนือทะเลอีเจียน เครื่องมิราจ 2000ได้ยิงขีปนาวุธใส่เครื่องเอฟ-16ดีของตุรกีตก ซึ่งรัฐบาลตุรกีอ้างว่าเป็นการฝึกในน่านฟ้าสากลทางเหนือของเกาะซามอสของกรีก นักบินตุรกีเสียชีวิตในขณะที่นักบินร่วมดีดตัวออกมาได้และได้รับการช่วยเหลือโดยกองกำลังของกรีซ ในขณะที่รัฐบาลตุรกียอมรับความสูญเสีย รัฐบาลกรีซได้ปฏิเสธเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ในวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 เอฟ-16 บล็อก 52+ สองลำของกรีซเข้าสกัดกั้นอาร์เอฟ-4 และเอฟ-16 สองลำของตุรกีที่นอกชายฝั่งเกราะคาร์พาธอสของกรีซ การต่อสู้ระหว่างเอฟ-16 ของทั้งสองฝ่ายจบลงด้วยการชนกันกลางอากาศระหว่างเครื่องเอฟ-16 ของทั้งสองฝ่าย นักบินตุรกีดีดตัวออกมาได้อย่างปลอดภัยก่อนที่เครื่องจะชน แต่นักบินกรีซเสียชีวิต
สงครามคาร์จิล (พ.ศ. 2542)
เอฟ-16 ของปากีสถานได้ปะทะกับมิก-29 ของอินเดียในในเมื่อปีพ.ศ. 2542 กองทัพอากาศอินเดียใช้มิก-29 อย่างกว้างขวางเพื่อคุ้มกันมิราจ 2000 ซึ่งถูกใช้เพื่อทิ้งใส่เป้าหมาย ในสงครามคาร์จิลมิก-29 จากฝูงบินที่ 47 ของกองทัพอากาศอินเดียได้ทำการล็อกเป้าใส่เอฟ-16 ของซึ่งเข้าใกล้น่านฟ้าอินเดีย โดยที่เอฟ-16 ไม่สามารถหลบหนีหรือตอบโต้ได้เลย แต่เพราะอินเดียและปากีสถานยังไม่ได้ประกาศรบกันอย่างจริงจังในตอนนั้น มิกจึงถูกสั่งให้เลิกติดตาม หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นกองทัพอากาศปากีสถานได้สั่งการให้เครื่องบินอยู่ในน่านฟ้าของตนเองเท่านั้น
ปฏิบัติการในอัฟกานิสถาน (พ.ศ. 2544-ปัจจุบัน)
เอฟ-16 ถูกใช้โดยสหรัฐอเมริกาในอัฟกานิสถานตั้งแต่ปีพ.ศ. 2544 ในปีพ.ศ. 2545 กองทัพอาการ่วมยุโรป (ประกอบด้วย และ) ใช้เอฟ-16 จำนวน 18 ลำทำหน้าที่โจมตีภาคพื้นดินที่ฐานบินมานาสในคีร์กีซสถานเพื่อสนับสนุนในอัฟกานิสถาน
ตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. 2548 เอฟ-16 แปดลำของกับเอฟ-16 สี่ลำของในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 ได้ทำการสนับสนุนทหารราบในทางใต้ของอัฟกานิสถาน ในวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2549 เอฟ-16เอเอ็มของกองทัพอากาศเนเธอร์แลนด์ตกในเขตกาซนิและนักบินเสียชีวิต ไม่มีการให้เหตุผลใดๆ ในการตกครั้งนี้แต่การสืบสวนล่าสุดอ้างว่า ได้พบแมงมุมและสัตว์อื่นๆ ในห้องนักบินของเนเธอร์แลนด์ในอัฟกานิสถาน
ปฏิบัติการพายุมืด
เอฟ-16 จากได้ทำการต่อต้านผู้ก่อการร้ายอย่างมากให้กับปากีสถาน กองทัพอากาศปากีสถานได้ใช้เอฟ-16 บ่อยครั้งในการสนับสนุนกองทัพบกของตนที่ปฏิบัติการในหุบเขาสวัทและในเขตฟาต้า ตามข้อมูลจากสถานทูตปากีสถานในวอชิงตัน กองทัพอากาศทำการบิน 93 ครั้งในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2551 เพื่อต่อสู้กับกลุ่มตาลิบัน อย่างไรก็ตามเอฟ-16 ของพวกเขาสามารถใช้ทำหน้าที่สนับสนุนทางอากาศโดยใกล้ชิดได้เพียงตอนกลางวันและอากาศแจ่มใสเท่านั้น กองทัพอากาศได้ทำการทิ้งระเบิดอย่างรุนแรงใส่ภูเขาสวัท เอฟ-16 ได้ทำลายค่ายฝึกทหารของตาลิบันและสังหารผู้นำส่วนใหญ่ ในวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2552 เอฟ-16 ได้ทำการทิ้งระเบิดใส่ภูเขาในเขตเดียซึ่งสังหารนักรบตาลิบันไปกว่า 70 คน ด้วยการสนับสนุนจากเอฟ-16 ทหารราบของปากีสถานจึงทำงานสำเร็จ ในวันที่ 28 เมษายนเอฟ-16 ของปากีสถานได้ทิ้งระเบิดใส่ภูเขาในพื้นที่บาบาไจคานเดาในบูเนอร์
ในวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 กองทัพอากาศปากีสถานพร้อมกับกองทัพบกได้เริ่มปฏิบัติการต่อต้านตาลิบัน เอฟ-16 ได้ทิ้งระเบิดภูเขาของตาลิบันโดยสังหารไป 143 คนและผู้นำ ด้วยการสนับสนุนจากเอฟ-16 กองทัพบกได้ยึดบูเนอร์คืนและพื้นที่อีกบางส่วน เอฟ-16 ยังได้มีส่วนในการทิ้งระเบิดเนินเขาและภูเขาในสวัท ซึ่งเป็นที่ซ่อนของผู้นำกลุ่มตาลิบัน
การบุกอิรักและปฏิบัติการหลังสงคราม (พ.ศ. 2546-ปัจจุบัน)
เอฟ-16 ของกองทัพอากาศสหรัฐได้มีส่วนร่วมในการบุกอิรักในปีพ.ศ. 2546 และสูญเสียเพียงเอฟ-16ซีจีหนึ่งลำจากฝูงบินขับไล่ที่ 421 ซึ่งตกใกล้กับแบกแดดในวันที่ 12 มิถุนยน พ.ศ. 2546 เมื่อเชื้อเพลิงหมด
เรดาร์ควบคุมการยิงขีปนาวุธพื้นสู่อากาศของกองทัพบกได้รับความเสียหายในวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2546 จากขีปนาวุธที่ยิงโดยเอฟ-16ซีของกองทัพอากาศสหรัฐที่ทำการลาดตระเวนเหนือทางใต้ของอิรัก เมื่อเรดาร์ได้ทำการล็อกเป้าใส่เอฟ-16 ลำดังกล่าว ในวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2549 เอฟ-16 สองลำได้ทิ้งระเบิดนำวิถีขนาด 500 ปอนด์ใส่ที่มั่นของอัลกออิดะห์โดยสังหารอาบู มาซาบ อัลซาร์กาวิผู้นำของกลุ่มในอิรัก
เอฟ-16ซีจีลำหนึ่งตกใกล้กับฟอลลูจาห์เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 ในขณะทำการยิงกราดในระดับต่ำ แม้ว่าจะถูกยิงตามข้อมูลของกองทัพอากาศสหรัฐ เหตุเกิดจากการบินต่ำเพื่อระบุเป้าหมายที่เป็นพาหนะของศัตรู นักบินทรอย กิลเบิร์ตเสียชีวิต เอฟ-16 อีกสองลำตกในอิรักหนึ่งเดือนต่อมาในวันที่ 15 มิถุนายนและ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 โดยอุบัติเหตุ ในวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 เอฟ-16ซีหนึ่งลำถูกทำลายที่ฐานบินบาลัดในอิรักเมื่อไม่สามารถทำการบินขึ้นได้ นักบินปลอดภัย ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 เอฟ-16 หนึ่งลำได้ยิงยูเอวีอบาบิล-3 ของอิหร่านตก ซึ่งมันได้ล่วงล้ำน่านฟ้าเข้ามาในอิรัก เหตุการณ์นี้เป็นการสังหารทางอากาศเพียงครั้งเดียวในสงคราม
สงครามเลบานอนครั้งที่สอง (พ.ศ. 2549)
เอฟ-16 ของอิสราเอลได้มีส่วนร่วมในสงครามเลบานอนเมื่อปีพ.ศ. 2549 เอฟ-16 ที่สูญเสียมีเพียงเอฟ-16ไอของที่ชนในวันที่ 19 เมื่อยางเส้นหนึ่งของมันแตกในตอนที่บินขึ้นจากฐานบินในเนเกฟ นักบินดีดตัวออกมาได้อย่างปลอดภัยและไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เอฟ-16 ของอิสราเอลได้ยิงยูเอวีของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์สามลำตกตลอดสงคราม
ความขัดแย้งของอิสราเอลและกาซ่าในปีพ.ศ. 2551-2552
เอฟ-16 ของอิสราเอลถูกใช้เพื่อทำการโจมตีฉนวนกาซ่าในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2551
แบบต่างๆ
เอฟ-16 ถูกระบุด้วยเลขตามบล็อกต่างๆ เพื่อระบุการพัฒนาเฉพาะของรุ่น บล็อกจะรวมทั้งแบบหนึ่งและสองที่นั่ง ซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ ระบบ อาวุธ และโครงสร้างที่แตกต่างกันไปนั้นถูกจัดตั้งขึ้นตลอดหลายปีเพื่อพัฒนาเอฟ-16 และมีผลต่อเครื่องบินที่ส่งให้กับลูกค้าในภายหลัง
ในขณะที่เอฟ-16 มากมายถูกผลิตตามบล็อกเหล่านี้ แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญมากมายตามโครงการดัดแปลงเอฟ-16 การเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ส่งผลต่อบทบาทเฉพาะทาง อย่าง แบบสำหรับการสนับสนุนทางอากาศโดยใกล้ชิดและลาดตระเวน แบบมากมายยังได้รับการพัฒนาเป็นตัวทดสอบเทคโนโลยีใหม่ๆ เอฟ-16 ยังได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับเครื่องบินแบบอื่นๆ ซึ่งถูกจัดว่าเป็นการดัดแปลงมาจากเอฟ-16
แบบตามการผลิตหลัก
บล็อก | รุ่น | เครื่องยนต์ |
---|---|---|
1 | เอฟ-16เอ/บี | แพรทท์ แอนด์ วิทนีย์ เอฟ-100-พีดับบลิว-200 |
5 | เอฟ-16เอ/บี | แพรทท์ แอนด์ วิทนีย์ เอฟ-100-พีดับบลิว-200 |
10 | เอฟ-16เอ/บี | แพรทท์ แอนด์ วิทนีย์ เอฟ-100-พีดับบลิว-200 |
15 | เอฟ-16เอ/บี | แพรทท์ แอนด์ วิทนีย์ เอฟ-100-พีดับบลิว-200 |
20 | เอฟ-16เอ/บี | แพรทท์ แอนด์ วิทนีย์ เอฟ-100-พีดับบลิว-200 |
25 | เอฟ-16ซี/ดี | แพรทท์ แอนด์ วิทนีย์ เอฟ-100-พีดับบลิว-200อี |
30 | เอฟ-16ซี/ดี | เจเนรัล อิเลคทริก เอฟ110-จีอี-100 |
32 | เอฟ-16ซี/ดี | แพรทท์ แอนด์ วิทนีย์ เอฟ-100-พีดับบลิว-220อี |
40 | เอฟ-16ซี/ดี | เจเนรัล อิเลคทริก เอฟ110-จีอี-100 |
42 | เอฟ-16ซี/ดี | แพรทท์ แอนด์ วิทนีย์ เอฟ-100-พีดับบลิว-220อี |
50 | เอฟ-16ซี/ดี | เจเนรัล อิเลคทริก เอฟ110-จีอี-129 |
52 | เอฟ-16ซี/ดี | แพรทท์ แอนด์ วิทนีย์ เอฟ100-พีดับบลิว-229 |
60 | เอฟ-16อี/เอฟ | เจเนรัล อิเลคทริก เอฟ110-จีอี-132 |
เอฟ-16เอ/บี
เอฟ-16เอ (หนึ่งที่นั่ง) และเอฟ-16บี (สองที่นั่ง) มีอุปกรณ์เป็นเรดาร์พัลส์-ดอพเพลอร์เอเอ็น/เอพีจี-66 ของ เครื่องยนต์เทอร์โบแฟนเอฟ100-พีดับบลิว-200 ให้แรงขับ 14,670 ปอนด์ และ 23,830 ปอนด์เมื่อใช้สันดาปท้าย แบบเอและบีนั้นรวมทั้งบล็อก 1 5 10 15 และ 20 กองทัพอากาศสหรัฐได้ซื้อเอฟ-16เอจำนวน 674 ลำและเอฟ-16บีจำนวน 121 ลำ พร้อมกำหนดส่งในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2528 เอฟ-16เอ/บีมีมูลค่าลำละ 14.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (พ.ศ. 2535)
บล็อกแรกๆ (1 5 10) มีความแตกต่างเล็กน้อย ส่วนใหญ่แล้วเป็นของบล็อก 10 ในต้นทศวรรษที่ 1980 บล็อก 15 เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ครั้งแรกของเอฟ-16 มันได้เพิ่มหางแนวนอนให้ใหญ่ขึ้น เพื่อจุดติดอาวุธเข้าไปอีกสองแห่ง เรดาร์เอเอ็น/เอพีจี-66(วี)2 และเพิ่มความจุของปีก บล็อก 15 ยังมีวิทยุยูเอชเอฟอีกด้วย หางแนวนอนถูกเพิ่มขนาดอีก 30% เพื่อรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น บล็อก 15 เป็นแบบที่มีมากที่สุดของเอฟ-16 โดยผลิตออกมา 981 ลำ
บล็อก 20 ได้เพิ่มความสามารถบางส่วนของเอฟ-16ซี/ดีเข้าไป อย่าง เรดาร์เอเอ็น/เอพีจี-66(วี)3 ขีปนาวุธ เอจีเอ็ม-84 ฮาร์พูน และ เช่นเดียวกับระบบนำร่องและกระเป้าจับเป้าแบบแลนเทิร์น บล็อก 20 มีคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาอย่างมากเมื่อเทียบกับแบบก่อนหน้า สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้รับเอฟ-16เอ/บี บล็อก 20 จำนวน 150 ลำ
เอฟ-16ซี/ดี
เอฟ-16ซี (หนึ่งที่นั่ง) และเอฟ-16ดี (สองที่นั่ง) ถูกนำมาใช้ในปีพ.ศ. 2527 บล็อก 25 เป็นบล็อกแรกของรุ่นซี/ดี มันได้เพิ่มความสามารถในการปฏิบัติการในทุกสภาพอากาศเข้าไปพร้อมกับขีปนาวุธเกินระยะมองเห็นเอไอเอ็ม-7 และเอไอเอ็ม-120 บล็อก 25 ได้เปิดตัวระบบอิเลคทรอนิกอากาศที่ทันสมัยภายในห้องนักบินและเรดาร์เอเอ็น/เอพีจี-68 บล็อก 25 เป็นรุ่นแรกที่ใช้เครื่องยนต์เอฟ100-พีดับบลิว-200 และต่อมาได้พัฒนาเป็นเอฟ100-พีดับบลิว-220อี บล็อก 25 มีทั้งสิ้น 209 ลำที่ส่งให้กับลูกค้า เอฟ-16ซี/ดีมีมูลค่าลำละ 18.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (พ.ศ. 2541)
บล็อก 30/32 นั้นเป็นบล็อกแรกของเอฟ-16 ที่ได้รับผลจากโครงการเครื่องยนต์ทางเลือกซึ่งเครื่อบินจะได้รับการติดตั้งด้วยเครื่องยนต์ของแพรทท์ แอนด์ วิทนีย์ หรือ เอฟ110-จีอี-100 ของเจเนรัล อิเลคทริกเป็นครั้งแรก ตั้งแต่จุดนี้บล็อกจะลงท้ายด้วย "0" (เช่น บล็อก 30) เพื่อระบุเครื่องบินที่ใช้เครื่องยนต์ของเจเนรัล อิเลคทริก และลงท้ายด้วย "2" (เช่น บล็อก 32) สำหรับของแพรทท์ แอนด์ วิทนีย์ เอฟ-16 บล็อก 30 ลำแรกเข้าประจำการในปีพ.ศ. 2530 ความแตกต่างที่สำคัญคือ เอจีเอ็ม-88 ฮาร์ม และเอไอเอ็ม-120 ตั้งแต่บล็อก 30ดีเครื่องบินจะติดตั้งช่องรับลมที่ใหญ่กว่าเพื่อเพิ่มแรงขับให้กับเครื่องยนต์ของเจเนรัล อิเลคทริก บล็อก 30/32 มีทั้งสิ้น 733 ลำที่ถูกผลิตและส่งให้กับลูกค้าในหกประเทศ
บล็อก 40/42 ได้เข้าประจำการในปีพ.ศ. 2531 มันเป็นแบบสำหรับโจมตีกลางวันกลางคืนและทุกสภาพอากาศที่มีกระเปาะแลนเทิร์น มันได้รับชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่าเอฟ-16ซีจี/ดีจี ความสามารถในตอนกลางคืนของมันทำให้มันมีชื่อว่า"ไนท์ฟอลคอน" บล็อกนี้ได้เพิ่มความแข็งแกร่งและความยาวของกระเปาะแลนเทิร์น เรดาร์ที่พัฒนา และตัวรับจีพีเอส ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2545 บล็อก 40/42 ได้เพิ่มพิสัยของอาวุธที่รวมทั้งระเบิดเจแดม ดับบลิวซีเอ็มดี (Wind-Corrected Munitions Dispenser, WCMD) และจีบียู-27 เพฟเวย์ บล็อก 40/42 ทั้งหมด 615 ลำถูกส่งให้กับลูกค้าในห้าประเทศ
บล็อก 50/52 ถูกส่งครั้งแรกในปลายปีพ.ศ. 2534 เครื่องบินได้การติดตั้งจีพีเอส/ไอเอ็นเอสและสามารถบรรทุกขีปนาวุธเพิ่มเติมอย่าง เอจีเอ็ม-88 ฮาร์ม เจแดม เจซอว์ และดับบลิวซีเอ็มดี บล็อก 50 ใช้เครื่องยนต์เอฟ110-จีอี-129 ในขณะที่บล็อก 52 ใช้เครื่องยนต์เอฟ100-พีดับบลิว-229 บล็อก 50/52+ ซึ่งหมายถึงแบบที่พัฒนาขึ้นไปอีกถูกส่งครั้งแรกในเดือนเมษายน พ.ศ. 2546 ให้กับ ความแตกต่างหลักคือถังเชื้อเพลิงพิเศษ เรดาร์เอเอ็น/เอพีจี-68(วี)9 ระบบออกซิเจน และหมวกเจเอชเอ็มซีเอส
เอฟ-16อี/เอฟ
เอฟ-16อี (หนึ่งที่นั่ง) เอฟ-16เอฟ (สองที่นั่ง) เดิมที่แล้วแบบหนึ่งที่นั่งของเจเนรัล ไดนามิกส์ เอฟ-16เอ็กซ์แอลจะใช้ชื่อว่าเอฟ-16อีและเอฟสำหรับสองที่นั่ง สิ่งนี้ถูกนำไปใช้กับการเลือกเอฟ-15อี สไตรค์อีเกิลของกองทัพสหรัฐเมื่อปีพ.ศ. 2527 การตั้งชื่อบล็อก 60 ยังได้ทำการหยุดเอาไว้ในปีพ.ศ. 2532 สำหรับเอ-16 แต่ก็ถูกยกเลิกไป ชื่อเอฟ-16อี/เอฟในปัจจุบันเป็นของรุ่นพิเศษที่สร้างให้กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และบางครั้งถูกเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่าดีเซิร์ทฟอลคอน (Desert Falcon)
บล็อก 60 มีพื้นฐานมาจากเอฟ-16ซี/ดี บล็อก 50/52 จุดเด่นของมันคือเรดาร์และอิเลคทรอนิกอากาศที่พัฒนาและถังเชื้อเพลิงพิเศษ มันถูกขายให้กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เท่านั้น ครั้งหนึ่งรุ่นนี้ถูกเข้าใจผิดว่าใช้ชื่อเอฟ-16ยู ความแตกต่างหลักจากบล็อกก่อนหน้าคือเรดาร์เออีเอสเอรุ่นเอเอ็น/เอพีจี-80 ของนอร์ทธรอป กรัมแมน ซึ่งทำให้เครื่องบินมีความสามารถในการติดตามและทำลายเป้าหมายบนพื้นดินและในอากาศได้ในเวลาเดียวกัน เครื่องยนต์เอฟ110-จีอี-132 ของบล็อก 60 นั้นพัฒนามาจากรุ่น -129 และมีอัตราให้แรงขับที่ 32,500 ปอนด์ บล็อก 60 นั้นสามารถใช้อาวุธทุกอย่างของบล็อก 50/52 รวมทั้งและเอจีเอ็ม-84อี สแลม ถังเชื้อเพลิงพิเศษได้เพิ่มความจุเชื้อเพลิงอีก 450 แกลลอนสหรัฐ ทำให้เพื่มพิสัยหรือเวลาประจำสถานี และพื้นที่ว่างให้กับขีปนาวุธที่ใต้ปีก ตัวเก็บข้อมูลเอ็มไอแอล-เอสทีดี-1553 ถูกแทนที่ด้วยเอ็มไอแอล-เอสทีดี-1773 ที่สามารถจัดการข้อมูลได้เพิ่มขึ้น 1000 เท่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้มอบทุนในการพัฒนาเป็นเงิน 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และแลกเปลี่ยนด้วยการแสดงความรับผิดชอบหากมีเครื่องบล็อก 60 ลำใดๆ ถูกขายให้กับประเทศอื่น การรายงานกล่าวว่า "นี่เป็นครั้งแรกที่สหรัฐขายเครื่องบินที่เหนือกว่าของที่ตนเองมีให้กับประเทศอื่น"
ประเทศผู้ใช้งาน
อุบัติเหตุ
อุบัติเหตุในต่างประเทศ
- ในวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2518 ในขณะที่ทำการซ้อมแสดงแรงระดับ 9 จีของเครื่องวายเอฟ-16 (หมายเลข 72-1568) ที่ฟอร์ทวอน์ธก่อนที่จะส่งไปงานแสดงในปารีส เกิดการขัดข้องของล้อล้อหนึ่ง นักบินทดสอบเนลล์ แอนเดอร์สันได้ทำการลงจอดฉุกเฉินโดยไม่กางล้อและลงจอดในสนามหญ้าโดยหวังที่จะลดความเสียหายและผู้บาดเจ็บที่เป็นผู้ชม เครื่องบินได้รับความเสียหายเล็กน้อย มันถูกกำหนดให้ไปแสดงในงานที่ปารีสแต่ด้วยอุบัติเหตุทำให้ต้นแบบแรก (หมายเลข 72-1567) ถูกส่งไปแทน
- ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 เอฟ-16 จากกองทัพอากาศเนเธอร์แลนด์ตกในเมืองเฮนเกโล เครื่องยนต์เสียหายไม่นานหลังจากที่บินขึ้นและนักบินได้พยายามบินกลับไปที่ฐานบิน นักบินดีดตัวและตกลงอย่างปลอดภัยบนหลังคาอาคาร เอฟ-16 นั้นตกระหว่างบ้านโดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
- ในการฝึกของกองทัพอากาศกับกองทัพบกที่จัดขึ้นที่ฐานทัพอากาศโป๊ป รัฐแคโรไลน่า เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2537 เอฟ-16ดี (หมายเลข 88-0171) จากฝูงบินขับไล่ที่ 74 เป็นจุดเริ่มต้นของการชน และได้รู้จักกันในชื่อ"หายนะกรีนแรมพ์" (อังกฤษ: Green Ramp disaster) ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 80 ราย สาหัส 24 ราย
- ในวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2543 เอฟ-16ดี-30เอฟของในฐานบินมัทเดวิด ได้ตกลงในขณะซ้อมบิน 31 กิโลเมตรห่างจากหมู่บ้านชายฝั่งในทางเหนือของอิสราเอล นักบินโยนาธาน เบกินเป็นหลานของอดีตนายกรัฐมนตรีเมนาเฮม เบกิน ทั้งเขาและนักบินร่วม ร้อยโทไลออร์ ฮาราริ ไม่ได้โทษฝ่ายควบคุมการบินภาคพื้น
อุบัติเหตุในประเทศไทย
- ในวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เอฟ-16เอ บล็อก 15 โอซียู หรือบ.ข.19 หมายเลข 40315 พร้อม เรืออากาศเอก ฐานิกร เหลืองรุ่งวารี นักบินฝูงบิน 403 ของกองทัพอากาศไทยตกขณะซ้อมบินจากกองบิน 4 นครสวรรค์ไปกองบิน 41 เชียงใหม่ โดยบินเกาะหมู่ 4 ลำ แต่เมื่อไปถึงสนามบินเชียงใหม่ พบว่ามีเพียง 3 ลำที่ลงจอด ต่อมา พบว่าเครื่องบินลำดังกว่า ตกที่บ้านเด่นไม้ซุง หมู่ 9 ตำบลแม่สลิด อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก โดยสันนิษฐานว่า เกิดจากนักบินหลงสภาพอากาศ จึงทำให้เครื่องบินพุ่งชนแนวสันเขา อุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้ เรืออากาศเอก ฐานิกร เหลืองรุ่งวารี นักบินเสียชีวิต
- ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2554 เครื่องบิน F-16 ADF จำนวน 2 เครื่องจากฝูงบิน 102 กองบิน 1 จ.นครราชสีมา ประสบอุบัติเหตุตกบนเทือกเขาภูแลนคา ในพื้นที่หมู่ 3 และหมู่ 4 ต.ท่าหินโงม อ.เมือง จังหวัดชัยภูมิ ขณะทำการฝึกคอบร้าโกลด์ (Cobra Gold) ร่วมกับกองทัพอากาศสหรัฐฯ นักบินทั้งสองนายคือ นาวาอากาศตรี กฤษดา สุขจันทร์ และ เรืออากาศเอก ชัชชานนท์ พรหมเดช สามารถดีดตัวออกจากเครื่องได้อย่างปลอดภัย
- ในวันที่ 20 กุมพาพันธ์ 2558 เมื่อเวลา 14.53 น. เกิดเหตุเครื่องบินขับไล่แบบ F-16A ของฝูงบิน 103 กองบิน 1 นครราชสีมา ตกที่ ม.4 ต.วังเพลิง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ตกระหว่างการฝึก ขณะปฏิบัติภารกิจฝึกบินใช้อาวุธทางอากาศ ตามวงรอบปกติของกองบิน ที่สนามชัยบาดาล โดยมีนักบินชื่อ ร.อ.นพนนท์ นิวาสานนท์ เสียชีวิต ส่วนสาเหตุที่เครื่องบินตกในครั้งนี้ ยังไม่สามารถสรุปได้
ดูเพิ่ม
การพัฒนาที่เกี่ยวข้อง
เครื่องบินที่เทียบเท่า
รายละเอียด เอฟ-16ซี
- ลูกเรือ 1 นาย
- ความยาว 15 เมตร
- ความสูง 4.8 เมตร
- ระยะระหว่างปลายปีก 9.45 เมตร
- พื้นที่ปีก 27.87 ตารางเมตร
- น้ำหนักเปล่า 8,670 กิโลกรัม
- น้ำหนักพร้อมอาวุธ 12,000 กิโลกรัม
- น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด 14,968 กิโลกรัม
- ขุมกำลัง พร้อมสันดาปท้ายแบบเอฟ110-จีอี-100 ให้แรงขับ 17,155 ปอนด์และ 28,600 ปอนด์เมื่อใช้
- ความเร็วสูงสุด
- 1.2 มัค (1,470 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ในระดับน้ำทะเล
- 2.27 มัค (2,415 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ในระดับสูง
- รัศมีทำการรบ 550 กิโลเมตรพร้อมระเบิด 450 กิโลกรัม
- ระยะในการขนส่ง 4,220 กิโลมตรพร้อมถังที่สลัดทิ้งได้
- เพดานบินทำการ > 60,000 ฟุต
- อัตราการไต่ระดับ 50,000 ฟุตต่อนาที
- น้ำหนักบรรทุกที่ปีก 194 กิโลกรัมต่อตารางเมตร
- อัตราแรงขับต่อน้ำหนัก 1.1
- อาวุธ
- ปืน เอ็ม61 วัลแคนขนาด 20 ม.ม.หนึ่งกระบอก พร้อมกระสุน 515 นัด
- จรวด
- กระเปาะจรวดแบบแอลเอยู-61/แอลเอยู/68 4 อัน (แต่ละอันมีจรวด 19 และ 7 ลูกตามลำดับ) หรือ
- กระเปาะจรวดแบบแอลเอยู-5003 4 อัน (แต่ละอันมีจรวด 19 ลูก) หรือ
- กระเปาะจรวดแบบแอลเอยู-10 4 อัน (แต่ละอันมีจรวด 4 ลูก)
- ขีปนาวุธ
- ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ
- เอไอเอ็ม-7 สแปร์โรว์ 2 ลูก หรือ
- เอไอเอ็ม-9 ไซด์ไวน์เดอร์ 6 ลูก หรือ
- ไอริส-ที 6 ลูก หรือ
- เอไอเอ็ม-120 แอมแรม 6 ลูก หรือ
- 6 ลูก
- ขีปนาวุธอากาศสู่พื้น
- 6 ลูก หรือ
- เอจีเอ็ม-65 มาเวอร์ริก 6 ลูก หรือ
- 4 ลูก
-
- เอจีเอ็ม-84 ฮาร์พูน 2 ลูก หรือ
- 4 ลูก
- ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ
- ระเบิด
- 2 ลูก
- 2 ลูก
- 2 ลูก
- 4 ลูก
- 6 ลูก
- ระเบิดวิถีด้วยเลเซอร์ตระกูลเพฟเวย์ 6 ลูก
- 4 ลูก
- 4 ลูก
- 8 ลูก
- 12 ลูก
- อื่นๆ
- เครื่องปล่อยพลุล่อเป้าแบบเอสยูยู-42เอ/เอ หรือ
- อีเอ็มซีแบบเอเอ็น/เอแอลคิว-131 และเอเอ็น/เอแอลคิว-184 หรือ
- กระเปาะหาเป้าแบบแลนเทิร์น ล็อกฮีด มาร์ติน สไนเปอร์ เอ็กซ์อาร์ และไลท์นิ่ง หรือ
- ถังเชื้อเพลิงทิ้งได้ขนาด 300/330/370 แกลลอนสหรัฐฯ ได้มากถึง 3 ถังเพื่อทำการขนส่งหรือเพิ่มระยะ
- อิเลคทรอนิกอากาศ
- เรดาร์แบบเอเอ็น/เอพีจี-68
อ้างอิง
- , US Air Force, October 2007.
- Lockheed Martin press release (8 June 2008). "United States Government Awards Lockheed Martin Contract to Begin Production of Advanced F-16 Aircraft for Morocco" 2009-01-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Retrieved 11 July 2008.
- Rosenwald, Michael S. (updated 17 December 2007). “Downside of Dominance? Popularity of Lockheed Martin's F-16 Makes Its F-35 Stealth Jet a Tough Sell”. Washington Post. Retrieved 11 July 2008.
- Anon. (undated). Company Histories – Lockheed Martin Corporation. Funding Universe. Retrieved 11 July 2008.
- F-16 Fighting Falcon, F16, or Viper?
- Peacock 1997, p. 100.
- Tirpak, John A. "Making the Best of the Fighter Force". Air Force Magazine, March 2007. Retrieved: 23 June 2008.
- Spick, Mike ed. "F-16 Fighting Falcon", Great Book of Modern Warplanes. MBI, 2000. .
- Richardson 1990, p. 7.
- Hillaker, Harry. "Tribute To John R. Boyd" 2009-06-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Code One, July 1997. Retrieved: 7 June 2008.
- Hehs, Eric. “Harry Hillaker – Father of the F-16.” 2008-12-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Code One, April & July 1991. Retrieved: 7 June 2008.
- Jenkins, Dennis R. McDonnell Douglas F-15 Eagle, Supreme Heavy-Weight Fighter, p. 6. Arlington, TX: Aerofax, 1998. .
- Richardson 1990, pp. 7–8.
- Coram, Robert. Boyd: the Fighter Pilot Who Changed the Art of War. New York: Little, Brown, and Co., 2002. .
- Peacock 1997, pp. 9–10.
- Richardson 1990, pp. 7–9.
- Peacock 1997, pp. 10–11.
- Richardson 1990, pp. 8–9.
- Richardson 1990, pp. 12–13.
- Richardson 1990, p. 14.
- Peacock 1997, pp. 12–13.
- Anon. “YF-16 : The Birth of a Fighter.” F-16.net. Retrieved: 13 June 2008.
- Peacock 1997, pp. 13–16.
- Richardson 1990, p. 13.
- Peacock 1997, pp. 14, 17–19, 33–34.
- Peacock 1997, pp. 17–19, 33–34.
- Peacock 1997, pp. 14–16, 21.
- Richardson 1990, pp. 13–15.
- Anon. “Lockheed Martin F-16 Fighting Falcon.” Jane’s All The World’s Aircraft, updated 21 January 2008. Retrieved: 30 May 2008.
- Peacock 1997, pp. 31–32.
- Spick 2000, p. 196.
- Goebel, Greg. “F-16 Origins.” Vectorsite, 1 April 2007. Retrieved: 14 June 2008.
- Chambers, Joseph R. "Lockheed Martin F-16 Fighting Falcon : Curing Deep Stall" in Partners in Freedom: Contributions of the Langley Research Center to U.S. Military Aircraft of the 1990’s 2008-08-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน; Monographs in Aerospace History Number 19, The NASA History Series (NASA SP-2000-4519). Washington, DC: , 2000. Retrieved: 22 June 2008.
- Goebel, Greg. "F-16 Variants". Vectorsite.net, 1 April 2007. Retrieved: 26 May 2008.
- Darling 2003, p. 56.
- Camm, Frank. The F-16 Multinational Staged Improvement Program: A Case Study of Risk Assessment and Risk Management 2008-12-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (Accession No. ADA281706). RAND Corp., 1993. Retrieved: 2 June 2008.
- “F-16 Fighting Falcon – Service Life”. Global Security. Retrieved: 30 May 2008.
- Peacock 1997, pp. 99–102.
- Richardson 1990, p. 10.
- Hoh, Roger H. and David G. Mitchell. Flying Qualities of Relaxed Static Stability Aircraft – Volume I: Flying Qualities Airworthiness Assessment and Flight Testing of Augmented Aircraft. 2008-12-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (DOT/FAA/CT-82/130-I). Federal Aviation Administration, September 1983. pp. 11ff. Retrieved: 16 June 2008.
- Aronstein, David C. & Piccirillo, Albert C. The Lightweight Fighter Program: A Successful Approach to Fighter Technology Transition. AIAA, 1996. p. 21. Retrieved: 25 October 2008.
- Greenwood, Cynthia. “Air Force Looks at the Benefits of Using CPCs on F-16 Black Boxes.” CorrDefense, Spring 2007. Retrieved: 16 June 2008.
- Hoh and Mitchell 1983, p. 5. Retrieved: 16 June 2008.
- Richardson 1990, p. 12.
- Nielsen, Mats (undated [2007]). “Total Immersion Fuel Tank Airborne Cable Assemblies” 2007-05-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Glenair. Retrieved: 16 June 2008.
- Day, Dwayne A. “Computers in Aviation.” 2007-06-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน U.S. Centennial of Flight Commission, 2003. Retrieved: 16 June 2008.
- Peacock 1997, p. 99.
- Albano, J. J. and J. B. Stanford. "Prevention of Minor Neck Injuries in F-16 Pilots". Aviation, Space and Environmental Medicine; 69, 1998: 1193-9.
- Peacock 1997, pp. 99–100.
- Sherman, Robert. “F-16 Fighting Falcon.” Federation of American Scientists (FAS), updated 30 May 2008. Retrieved: 20 June 2008.
- Pike, John. “F-16 Fighting Falcon.” Global Security, updated 27 April 2005. Retrieved: 20 June 2008.
- Task, H. L. (December 1983). Optical Effects of F-16 Canopy-HUD (Head Up Display) Integration, (Accession No. ADP003222). Air Force Aerospace Medical Research Lab.
- Anon. (undated). “Joint Helmet Mounted Cueing System (JHMCS)”. Boeing Integrated Defense Systems.
- Anon. F-16 Fighting Falcon Multi-Role Fighter Aircraft, USA. Airforce-technology.com. Retrieved: 21 June 2008.
- Anon. “F-16E/F : Block 60.” F-16.net. Retrieved: 21 June 2008.
- Anon. “The AN/APG-66 Radar”. Avitop.com. Retrieved: 21 June 2008.
- Kopp, Carlo. “Active Electronically Steered Arrays: A Maturing Technology”. Australian Aviation, June 2002 (as reprinted by Air Power Australia). Retrieved: 21 June 2008.
- Shamim, Asif. “Raytheon and Northrop Grumman battle over F-16 radars”. F-16.net, 7 November 2007. Retrieved: 21 June 2008.
- Anon. “Boeing Selects Raytheon to Provide AESA Radar for U.S. Air Force F-15E Strike Eagles.” Boeing News Release, 1 November 2007. Retrieved: 21 June 2008.
- Peacock 1997, pp. 102–103.
- Pike, John. “F100-PW-100/-200”. Global Security, updated 13 March 2006. Retrieved: 21 June 2008.
- Peacock 1997, p. 103.
- Camm, Frank and Thomas K. Glennan, Jr. "The Development of the F100-PW-220 and F110-GE-100 Engines (N-3618-AF)." RAND Corp., 1993. Retrieved: 21 June 2008.
- Anon. “F-16C/D : Block 30/32”. F-16.net. Retrieved: 21 June 2008.
- Pike, John. “F110.” Global Security, updated 15 March 2006. Retrieved 21 June 2008.
- Iskra, Alex (26 September 2003). “GD/L-M F-16A/B Netz in Israeli Service”. Air Combat Information Group (ACIG). Retrieved 16 May 2008.
- Grant, Rebecca. “Osirak and Beyond” 2008-10-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Air Force Magazine, August 2002. Retrieved: 16 May 2008.
- Schow, Jr., Kenneth C., Lt. Col., USAF. “Falcons Against the Jihad: Israeli Airpower and Coercive Diplomacy in Southern Lebanon” 2009-03-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Air University Press, November 1995. Retrieved: 16 May 2008.
- "Pakistan Border Battles" 2012-02-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Pakistan Military Consortium. Retrieved: 17 May 2008.
- Weisman, Steven R. “Afghans Down a Pakistani F-16, Saying Fighter Jet Crossed Border”. The New York Times, 2 May 1987. Retrieved: 10 August 2008.
- Anon. “F-16 Aircraft Database: F-16 Airframe Details for 81-0918”. F-16.net. Retrieved: 10 August 2008.
- http://www.f-16.net/aircraft-database/F-16/airframe-profile/2254/
- http://www.f-16.net/aircraft-database/F-16/airframe-profile/2283/
- http://www.f-16.net/aircraft-database/F-16/airframe-profile/1720/
- Anon. “F-16 Accident Reports for 1991”. F-16.net. Retrieved: 16 May 2008.
- Anon. “USAF Manned Aircraft Combat Losses 1990-2002” 2009-03-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Air Force Historical Research Agency. Retrieved: 16 May 2008.
- http://www.f-16.net/aircraft-database/F-16/mishaps-and-accidents/year/1991/
- Anon. “Aerial Victory Credits.” 2009-06-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Air Force Historical Research Agency. Retrieved: 16 May 2008.
- Anon. “F-16 Aircraft Database: F-16 Airframe Details for 90-0778.” F-16.net. Retrieved: 16 May 2008.
- Anon. "F-16 Aircraft Database: F-16 Airframe Details for 86-0262". F-16.net. Retrieved: 16 May 2008.
- NewsHour with Jim Lehrer "Secretary Albright" (transcript). PBS, 17 December 1998. Retrieved: 16 May 2008.
- Cooper, Tom and Juan Sosa. “Venezuelan Coup Attempt, 1992”. Air Combat Information Group (ACIG), 1 September 2003. Retrieved: 16 May 2008.
- Palmer, Eric L. “USAF F-16s shoot down 4 Serb attack aircraft”. F-16.net, 28 February 1994. Retrieved: 16 May 2008.
- Anon. “U.S. Air-to-Air Victories during the Cold War, Wars in Yugoslavia, and Anti-Terror War”. Air Combat Information Group (ACIG), 28 October 2003; updated 18 September 2004. Retrieved: 16 May 2008.
- Anon. “F-16 Aircraft Database: F-16 Airframe Details for 89-2032”. F-16.net. Retrieved: 16 May 2008.
- Anon. “Yugoslav & Serbian MiG-29s”. Air Combat Information Group (ACIG), 30 November 2003. Retrieved: 16 May 2008.
- Roberts, Chris. "Holloman commander recalls being shot down in Serbia". F-16.net, 7 February 2007. Retrieved: 16 May 2008.
- Anon. "F-16 Aircraft Database: F-16 Airframe Details for 88-0550". F-16.net. Retrieved: 16 May 2008.
- Anon. "F-16 Aircraft Database: F-16 Airframe Details for 91-0023". F-16.net. Retrieved: 18 May 2008.
- Anon. “Greek & Turkish Air-to-Air Victories”. Air Combat Information Group (ACIG), 28 October 2003; updated 18 September 2004. Retrieved: 16 May 2008.
- Dewitte, Lieven. “Deadly 1996 Aegean clash is confirmed”. F-16.net, 22 May 2003. Retrieved: 16 May 2008.
- “Greek F-16 and Turkish F-16 collide - 1 pilot OK”. F-16.net, 23 May 2006. Retrieved: 16 May 2008.
- Strategy | date = 2005-05-20
- Anon. “F-16s complete one thousand hours of flight operations over Afghanistan” 2008-05-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Dutch Ministry of Defense, 3 January 2006. Retrieved: 16 May 2008.
- http://news.bbc.co.uk/2/hi/south_asia/5303600.stm
- F-16 mishap horror, F-16.net, 12 July 2007.
- "F-16 Mishap Horror"[]
- http://www.globalsecurity.org/military/world/pakistan/f-16.htm
- http://www.myembarq.com/news/read.php?rip_id=%3CD97RF9VO0%40news.ap.org%3E&ps=1012&_LT=MNEW_LARSDCCL2_UNEWS[]
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-05-11. สืบค้นเมื่อ 2009-05-15.
- Anon. “F-16 Aircraft Database: F-16 Airframe Details for 88-0424”. F-16.net. Retrieved: 16 May 2008.
- Weisman, Jonathan. “Patriot Missiles Seemingly Falter For Second Time; Glitch in Software Suspected”. Washington Post, 26 March 2003 (via Global Security). Retrieved: 17 May 2008.
- "Iraq Terror Chief Killed in Airstrike". CBS News, 8 June 2006. Retrieved: 29 June 2008.
- Anon. "US F-16 goes down in Iraq". , 27 November 2006. Retrieved: 17 May 2008.
- Anon. “F-16 Aircraft Database: F-16 Airframe Details for 90-0776”. F-16.net. Retrieved: 16 May 2008.
- "Pilot killed in an F-16 fighter crash on takeoff in Iraq, Air Force says". International Herald Tribune, 16 June 2007. Retrieved: 17 May 2008.
- "U.S. F-16 warplane crashes in Iraq, pilot uninjured". Xinhua News Agency, 17 July 2007. Retrieved: 17 May 2008.
- (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2009-03-25. สืบค้นเมื่อ 2009-05-16.
- (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2009-03-25. สืบค้นเมื่อ 2009-05-16.
- [1]
- F-16 fire
- http://www.airforcetimes.com/news/2009/03/airforce_iran_uav_031609/
- Harel, Amos. “IDF fighter jet crashes during take-off in Negev; no injuries”. Haaretz, 20 July 2007. Retrieved: 16 May 2008.
- http://www.f-16.net/aircraft-database/F-16/mission-markings/airforce/IDFAF/
- "F-16A/B, Block 1/5/10/15/15OCU/20". F-16.net. Retrieved: 25 January 2009.
- Darling 2003, p. 59.
- "F-16C/D, Block 25". F-16.net. Retrieved: 25 January 2009.
- "F-16C/D, Block 30/32". F-16.net. Retrieved: 25 January 2009.
- "F-16C/D, Block 40/42". F-16.net. Retrieved: 25 January 2009.
- "F-16C/D, Block 50/52". F-16.net. Retrieved: 25 January 2009.
- Anon. "A-16, F/A-16, F-16A (30mm gun)." F-16.net. Retrieved: 21 May 2008.
- "Dubai 2007: UAE shows off its most advanced Falcons" FlightGlobal.com, 11 November 2007.
- 23 March 1994 crash, Aviation Safety Net.
- "Grandson of Begin Lost in Israeli F-16 Crash". The New York Times, 29 March 2000. Retrieved: 13 June 2008.
- F-16 Crash
- Frawley, Gerard. The International Directory of Military Aircraft, p. 114. Aerospace Publications Pty Ltd, 2002. .
- F-16 page, Aerospaceweb.org
- F-16 Specifications, GlobalSecurity.org.
บรรณานุกรม
- Darling, Kev. F-16 Fighting Falcon (Combat Legend). London: Airlife, 2003. .
- Hehs, Eric. "Harry Hillaker — Father of the F-16." 2008-12-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Code One: An Airpower Projection Magazine, April/July 1991.
- Hillaker, Harry. "John Boyd, USAF Retired, Father of the F-16." 2009-06-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Code One: An Airpower Projection Magazine, April/July 1997.
- Mehuron, Tamar A., Assoc. Editor."2007 USAF Almanac - Equipment" 2011-12-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Air Force Magazine, Journal of the Air Force Association 90 (5): May 2007. ISSN: 0730-6784.
- Peacock, Lindsay. On Falcon Wings: The F-16 Story. RAF Fairford, United Kingdom: The Royal Air Force Benevolent Fund Enterprises, 1997. .
- Richardson, Doug. General Dynamics F-16 Fighting Falcon. London: Salamander Books, 1990. .
- Spick, Mike, ed. Great Book of Modern Warplanes. St. Paul, MN: MBI, 2000. .
แหล่งข้อมูลอื่น
- เอฟ-16 ใน LockheedMartin.com 2009-02-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- เอฟ-16 ใน GlobalSecurity.org
- F-16.net Extensive and up-to-date แหล่งไฟทิงฟอลคอน
- เอฟ-16 ใน Aerospaceweb.org
- ข่าวโครงการพัฒนาเอฟ-16 2006-08-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
exf 16 ifthtingfxlkhxn xngkvs F 16 Fighting Falcon epnekhruxngbinkhbilhlakbthbaththiedimthiphthnakhunodybristhephuxkxngthphxakasshrth mnthukxxkaebbihepnekhruxngbinkhbiltxnklangwnnahnkeba mnidklaymaepnekhruxngbinkhbilthiprasbkhwamsaerc khwamsamarthrxbtwkhxngmnepnehtuphlhnkthimnthakartladideyiymodymnthukeluxkodykxngthphxakaskhxng 25 praeths exf 16 epnokhrngkarekhruxngbinkhbilphlngixphnthiihythisudkhxngfngtawntkphrxmdwykarphlitkwa 4 400 latngaetpiph s 2519 thungaemwamncaimthuksuxodykxngthphxakasshrthxiktxip runthikawhnakyngkhngthatladinhmutangpraethsid inpiph s 2536 ecenrl idnamikskhaythurkickarphlitekhruxngbinihkbbristhlxkhid sungidklaymaepnlxkhid martinhlngcakthakarrwmekhakbinpiph s 2538exf 16 ifthingfxlkhxnbthbathekhruxngbinkhbilhlakbthbathchatikaenid shrthbristhphuphlitlxkhid martinbinkhrngaerk20 mkrakhm ph s 2517erimich17 singhakhm ph s 2521sthanapracakarphuichnganhlkkxngthphxakasithy kxngthphxakasshrth praethsxunxik 25 praeths duthipraethsphuichngan canwnthiphlitmakkwa 4 400 lamulkhaexf 16ex bi 14 6 landxllarshrth exf 16si di 18 8 landxllarshrthaebbxunecenrl idnamiks exf 16exksaexl mitsubichi exf 2 exf 16 epnnksuklangxakasthimiwtkrrmmakmayrwmthngfakhrxbhxngnkbinthiokhngmn khnbngkhbaebbaethngthithaihngantxkarkhwbkhumphayitaerngci aelathinngthiexnipdanhlngephuxldaerngcithikrathatxnkbin xawuthmithngpunihyexm61 wlaekhnaelakhipnawuthmakmay 11 tabl mnyngepnekhruxngbinkhbilaebbaerkthithuksrangmaephuxthakareliywaebb 9 ciid mnmixtrakarphlktxnahnkthidimak sngphlihmnmiphlnginkaritradbaelakarerngthiyxdeyiymhakcaepn aemwachuxthangkarkhxngmnkhux ifthingfxlkhxn aetnkbinkeriykmnwaiwepxr Viper enuxngmacakmnkhlaykbnguehaaelatngchuxtaminsiriss exf 16 mikahndkarthicapldxxkcakpracakarinkxngthphxakasshrthinpiph s 2568 mikarwangaephnthicaaethnthiexf 16 dwyexf 35 ilthning 2 sungcaekhapracakarinpiph s 2554 aelacaerimekhaaethnthiekhruxngbinhlakbthbathcanwnmakinkxngthphkhxngchatithiekharwmokhrngkarkarphthnatnkaenid dwyprasbkarncaksngkhramewiydnamthibngbxkthungkhwamsamarthkhxngekhruxngbinkhbilthixemrikacatxngkarinerw ni aelakhwamtxngkarthicatxngihnkbinidrbkarfukkartxsuinxakasihmakkhun khwamtxngkarekhruxngbinkhbilkhrxngkhwamidepriybthangxakasaebbihmnnthaihkxngthphxakasshrtherimsuksakarphthnacaksxngkhwamkhidinpiph s 2508 khux okhrngkarthdlxngekhruxngbinkhbilhruxexfexks Fighter Experimental FX thiepnekhruxngbinpikphbidkhnad 27 200 kiolkrmphrxmekhruxngyntsxngekhruxng aela okhrngkarekhruxngbinkhbilklangwnaebbphthnahruxexdiexf Advanced Day Fighter ADF thiepnekhruxngbinnahnkebakhnad 11 300 kiolkrmsungmakkwamik 21 25 xyangirkdikarprakttwkhxngmik 25 thithakhwamerwidthungmk 3 ineduxnkrkdakhm ph s 2510 nn thaihokhrngkarexdiexftkepnrxngcakokhrngkarexfexks sungidphlitexf 15 khnad 18 100 kiolkrmxxkma dwykarichprasbkarcakkarepnnkbininsngkhramekahliaelakhrusxnyuththwithiintnthswrrsthi 1960 phuphncxhn bxydaelankkhnitsastrothms khristiidphthnathvsdiphlngngan khwamkhlxngtwhruxxi exm Energy Maneuverability theory E M khunmaephuxepnaebbinkartxsukbekhruxngbinkhbil karekhluxnthihruxkrabwnthaepnkuyaecsusingthibxyderiykwa kartilngkaraebboxoxdiex OODA Loop Observation Orientation Decision Action ngankhxngbxydtxngkarekhruxngbinthimikhnadelkaelanahnkthiebaphrxmkbxtraaerngphlktxnahnkthiephimkhun karsuksakhxngkxngthphxakasinpiph s 2508 aenawaihephimekhruxngbinkhbilthimirakhasungaelataphsmkninfungbinephuxepnkarprahyd okhrngkarekhruxngbinkhbilnahnkeba inplaythswrrsthi 1960 bxydidrwbrwmklumphukhidkhnthiklaymaepnklumthiruckkninchux maefiyekhruxngbinkhbilnahnkeba inpiph s 2512 klumsamarthhathuninkarsuksaaelapraeminphlthvsdixi exmkhxngphwkekha ecenrl idnamiksidrbengincanwn 149 000 dxllarshrth aelanxrththrxpidrb 100 000 dxllarshrth ephuxthakarphthnaaebbkhwamkhidthicaichepntwthvsdixi exmkhxngbxyd ngankhxngphwkekhanaipsuwayexf 16 aelawayexf 17 tamladb aemwaehlaphusnbsnunokhrngkarexfexkskhxngkxngthphxakasyngkhngimchxbkhwamkhidniephraaphwkekhaekhaicwamnepnphytxokhrngkarexf 15 khwamkhidokhrngkarexdiexfidrbkarsnbsnuncakphlemuxngphayitphurksakarrthmntrikrathrwngklaohmedwid aephkhkhard phuthchxbkhwamkhidinkaraekhngkhnhatnaebb phlthiidkhuxineduxnphvsphakhm ph s 2514 klumsuksatnaebbkhxngkxngthphxakasthuktngkhunmaodymibxydepnkhnsakhy aelaaebbesnxsxngaebbcakhkkidrbthun aebbhnungkhuxekhruxngbinkhbilnahnkebahruxaexldbbliwexf Lightweight Fighter LWF karrxngkhxesnxekidkhuninwnthi 6 mkrakhm ph s 2515 txngkarekhruxngbinkhbilklangwnkhnad 9 100 kiolkrmphrxmkbxtrakareliywthidi karerngaelaphisy aelasamarththakartxsuthikhwamerw 0 6 1 6 mkidaelathakaridinradbkhwamsung 30 000 40 000 fut nikhuxkhxbekhtsungkxngthphxakasshrthkhadwakartxsuklangxakasinxnakhtswnmakcaekidkhun odymiphunthanmacaksngkhramewiydnam sngkhramhkwn aelasngkhramxinod pakisthan rakhathikhadkninkarphlitekhruxngbinkhux 3 landxllarshrth aephnkarphlitniepnephiyngkarkhadedatamthikxngthphxakasnnimmikhxphukmd aelaxnthicring immiaephnthicahaphuchna sungcatxngprakasineduxnphvsphakhm ph s 2518 bristhhabristhtxbsnxngaelaineduxnminakhm ph s 2515 mikarprakasphuchnainkarphthnatnaebbaelathakarthdsxbkhuxomedl 908 909 khxngobxing aela omedl 401 khxngecenrl idnamiks xyangirktamhlngcaknnhnwyexsexsex Source Selection Authority SSA idldobxingipxyuthisamtamhlngphi 600 khxngnxrththrxp ecenrl idnamiksaelanxrththrxfidrangwlinkarthasyyamulkha 37 9 landxllarshrth aela 39 8 landxllarshrth ephuxsrangwayexf 16 aela tamladb odythakarbinkhrngaerkkhxngthngsxngaebbnnwangaephnexaiwintnpiph s 2517 ephuxexachnakhnihykhnotinkxngthphxakas klummaefiyekhruxngbinkhbilaelaphusnbsnunaexldbbliwexfidsnbsnunkhwamkhidkarichekhruxngbinrakhasungaelataphsmkn khwamkhidnicarabukhwamsmphnthkhxngexf 15 aelaexf 16 aelatxmakkhuxexf 22 aerphetxraelaexf 35 ilthning 2 erimbin mummxngcakdankhwakhxngwayexf 16 aela aetlalatidkhipnawuthexixexm 9 isdiwnedxr wayexf 16 prakttwkhrngaerkinwnthi 13 thnwakhm ph s 2516 aelakarbinkhrngaerkkhxngmnichewla 90 nathithisunythdsxbkarbinkxngthphxakasthithanthphxakasexdewird aekhlifxreniyemuxwnthi 20 mkrakhm inkhnathierngkhwamerw karkhwbkhumthiimningthaihplaypikaelahangkhrudkbphun aelaekhruxngbinerimhnxxknxkthangwingip nkbinthdsxbkhxngecenrl idnamiks fil oxexsthrichechxrtdsinicthicaykekhruxngkhunephuxhlikeliyngkarthaihekhruxngesiyhay aelalngcxdxyangplxdphyinxikhknathitxma khwamesiyhayelknxyidrbkarsxmaesmxyangrwderwaelamnkthukbnthukepnkarbinkhrngaerkxyangepnthangkar karbinehnuxesiyngkhrngaerkkhxngwayexf 16 ekidkhuninwnthi 5 kumphaphnth ph s 2517 aelatnaebbthisxngkhxngwayexf 16 idbininwnthi 9 phvsphakhm ph s 2517 singnitammadwykarkarbinkhrngaerkkhxngwayexf 17 sungekidkhuninwnthi 9 mithunaynaela 21 singhakhm ph s 2517 tamladb thnghmdaelwwayexf 16 thakarbin 330 khrngepnchwomngthngsin 417 chwomng wayexf 17 thakarbinip 268 khrng karaekhngkhninkartxsuthangxakas pccythngsamkhxy rwmknephuxepliynaexldbbliwexfihklayepnokhrngkarphthnathicringcng khnaerknaotthiepnphnthmitrthngsikbshrthxyang ebleyiym ednmark enethxraelnd aelanxrewy kalngmxnghasingthicamaaethnthiexf 104cithiepnaebbhnungkhxngexf 104 starifetxr nxkcaknn phwkekhayngmxnghaekhruxngbinthixutshkrrmkhxngphwkekhasamarthphlitidphayitibxnuyat intnpiph s 2517 phwkekhaidrbkhxtklngkbshrth wahakkxngthphxakasshrthsngsuxaexldbbliwexfthichna phwkekhaktxngsngsuxmnechnkn khnthisxnginkhnathikxngthphxakasshrthimidsnicechphaaekhruxngbinkhbilkhrxngkhwamidepriybthangxakasethann phwkekhaerimtxngkaraethnthi khnthisamsphakhxngekrskhxngshrth xyakthicaidekhruxngbinkhbilthiichidthngkxngthphxakasaelakxngthpherux ineduxnsinghakhm ph s 2517 sphakhxngekrsepliynkarihthunsahrbokhrngkarwiexfexexkskhxngkxngthpheruxipihkbokhrngkarexnexsiexfaethn sungennkarddaeplngekhruxngbinkhbilthingraebidthangnaaebbaexldbbliwexf khwamtxngkarehlanismphnthkn aetkartngewlainkarcdsuxnncakdodyphnthmitrthngsipraeths phuthikxtng klumokhrngkarekhruxngbinkhbilnanachati hrux exmexfphici Multinational Fighter Program Group MFPG aelariberngsahrbkartdsinickhxngshrth ineduxnthnwakhm ph s 2517 kxngthphxakasshrthidprakasaexldbbliwexfthichnaineduxnphvsphakhm ph s 2518 aetkartdsinicyudxxkipcnthungpiihm aelakarthdsxbkthukerng ephuxsathxnsingihmnikhwamtngicinkarcdsuxekhruxngbinihmcungcringcngmakkhun phrxmkbkarkahndepahmayihmihepnekhruxngbinkhbilthingraebid okhrngkaraexldbbliwexfklayepnkaraekhngkhninkartxsuthangxakashruxexsiexf Air Combat Fighter ACF thiprakasodyrymntrikrathrwngklaohmkhxngshrth ecms xar echlsingekxrineduxnemsayn ph s 2517 echlsingekxryngepidephywaexsiexflaid ktamcathaephuxekhruxngbinthinxkehnuxcakexf 15 sungepnkaryutifaykhankhxngaexldbbliwexf exsiexfykidephimesahlkihkbecenrl idnamiksaelanxthrththrxfephraawamnepnphuekhaaekhngkhnthimikhwamtngicinkarthakairngam singehlanikhuxmirac exf1exm 53khxng esepaekhth cakwr aelasab wikeknthiphthnaepnsab 37xi yuorifetxr sungimichaebbediywkbyuoriftetxr ithfun nxrththrxfyngidesnxxikaebbhnungkhuxphi 530 khxbra sungkhlaykhlungkbwayexf 17 xyangmak cakwraelakhxbrathukykelikodyexmexfphici thaihaebbkhxngyuorpsxngaebbaelaaexldbbliwexfkhxngshrth xiksxngaebbepnphuekhaaekhngkhnthiehlux inwnthi 11 knyayn ph s 2517 kxngthphxakasshrthidyunynaephnthicasngsuxexsiexfthichnaephuxephimmnekhaipinfungbinyuththwithihafungbin emuxwnthi 13 mkrakhm ph s 2518 rthmntrikxngthphxakascxhn aexl aemkhlukhsidprakaswawayexf 16 idrbeluxkihepnphuchnainkaraekhngkhnexsiexf ehtuphlhlkthirthmntriihtxkartdsinicnikhuxrakhaichnganthithukkwa phisythimakkwa aelakarthanganthidikwakhxngwayexf 16 ehnuxwayexf 17 odyechphaakhwamerwehnuxesiyng okhrngkarthdsxbkarbinidephywawayexf 16 mikarerng xtraitradb khwamthnthan aelaxtraeliywthiehnuxkwa xikkhxidepriybhnungkhuxwayexf 16 ichekhruxngyntethxrobaefnaephrthth aexnd withniy exf100 sungepnaebbediywkbthiichkbexf 15 thaihmnldkhaichcaysahrbokhrngkarekhruxngynt imnanhlngcakkareluxkwayexf 16 rthmntriaemkhlukhsidephywakxngthphxakasshrthidwangaephnthicasngsuxxyangnxy 650 thung 1 400 la kxngthphxakaserimsngsuxekhruxngbinthimi karphthnaaebbetmthi hrux exfexsdi Full Scale Development FSD 15 la 11 laepnaebbhnungthinngaelaxik 4 laepnaebbsxngthinng sahrbokhrngkarthdsxbkarbin aettxmaidldehlux 8 la exf 16ex 6 laaelaexf 16 bi 2 la xyangirktamkxngthpheruxidprakasemuxwnthi 2 phvsphakhm ph s 2518 waidmikartdsinicthicaimsuxexf 16 aebbsahrbkxngthpherux phwkekhaeluxkthicaichekhruxngbinthiphthnamacakwayexf 17 sungnnkkhuxexf ex 18 hxrenthkhxngaemkhdxnenll dklasnnexng ekhasukarphlit bristhphuphlitexf 16 khuxecenrl idnamiksinfxrthewxrthrthethkssinplaypiph s 2518 phrxmtwxyangaerkkhuxexf 16ex thiwangaephncaphlitinwnthi 20 tulakhm ph s 2519 tammadwykarbinkhrngaerkkhxngmninwnthi 8 thnwakhm aebbsxngthinngerimthakarbinkhrngaerkinwnthi 8 singhakhm ph s 2520 karphliterimaerkkhxngexf 16exeriminwnthi 7 singhakhm ph s 2521 aelasngihkbkxngthphxakasshrthinwnthi 6 kumphaphnth ph s 2522 exf 16 idchuxelnintxnaerkwa ifthingfxlkhxn inwnthi 21 mithunayn ph s 2523 aelamnidekhapracakarinfungbinkhbilyuththwithithi 388 thithanthphxakashilinwnthi 1 tulakhm ph s 2523 exf 16sikhxngkxngthphxakasshrthinkxngkalngrksadinaednthangxakaskhxngokholraod thiephingbinphlaxxkcakkaretimechuxephlingehnuxaekhnada caehnchxngechuxephlingthiyngepidxyu inwnthi 7 mithunayn ph s 2518 hunswnyuorpsipraethsidthasyyasahrbekhruxngbincanwn 348 lathinganaesdnginparis sahrbebleyiym 116 la ednmark 58 la enethxraelnd 102 la aela nxrewy 72 la phwkmncathukphlitbnsaykarphlitsxngsaykhxngyuorp hnungkhuxinenethxraelndthiorngngankhxngaelaxikthihnunginorngngaraesbka Societe Anonyme Belge de Constructions Aeronautiques SABCA khxngebleyiym karphlitcathukaebngepn 184 laaela 164 latamladb bristhkhxngsebirkkhxngnxrewyaelaethxrma ex exskhxngednmarkphlitchinswnsahrbekhruxngbin karphlitrwmkhxngyuorperimxyangepnthangkarinwnthi 1 krkdakhm ph s 2520 thiorngnganfxkekxr inklangeduxnphvscikayn ph s 2520 chinswnthiphlitodyfxkekxrthuksngipthifxrthewirthephuxthakarprakxblatw sungcathuksngklbipthiyuorp karprakxbkhnsudthaycaerimthiorngngankhxngebleyiyminwnthi 15 kumphaphnth ph s 2521 phrxmsngihkbineduxnmkrakhm ph s 2522 sayphlitkhxngednmarkerimkhunineduxnemsayn ph s 2521 aelaidthakarsngkhrngaerkihkbineduxnmithunayn ph s 2522 inpiph s 2523 ekhruxngbinlaaerkthuksngihkbodyaesbkaaelaodyfxkekxr tngaetnnsaykarphlitephimetimthuksrangkhuninaexnkharainturki thisungxutsahkrrmxakasyankhxngturkihruxthiexix Turkish Aerospace Industries TAI idphlitexf 16 blxk 30 40 50 canwn 232 laphayitibxnyatihkbinplaythswrrsthi 1980 aela 1990 aelaidcaidrbblxk 50 aexdwansesdcanwn 30 lainpiph s 2553 thiexixyngidsrangblxk 40 canwn 46 laihkbxiyiptinplaythswrrsthi 1990 xutsahkrrmxakasyankhxngekahliidepidsaykarphlitsahrbokhrngkarekhexf 16 odyphlitblxk 52 canwn 140 latngaetthswrrsthi 1990 2000 sahrbxinediyphwkekhaeluxkexf 16ixexnodycamisaykarphlitexf 16 saythihkthicaphlitekhruxngbin 108 la karphthna hlngcakthithukeluxk wayexf 16 kthukepliynepnexf 16 okhrngsranglatwthukthaihyawkhun 10 6 niw swncmukthiihykhunthuktidtngdwyerdarexexn exphici 66 phunthipithukephimcak 26 tarangemtrepn 28 tarangemtr pikhangthukldkhwamsungelknxy pikbriewnthxngthukthaihihykhun mikarephimthiekbkhxng aelafaepidlxhnathukepliyncakaebbsxngfamaepnfaediyw karddaeplngehlaniephimnahnkkhxngexf 16 praman 25 caktnaebb khwamtxngkarhnungthimikarepliynaeplngsungimnbkhuxkarephimkarkhwbkhumsungephuxhlikeliyngkarhyudthangankhxngekhruxngyntintxnthithamumpathasung aebbthdsxbkhxngwayexf 16 thukthdsxbthisunywicyinaelngliy mikarphbpyhasakhyaetimmiaelbthiidphbehmuxnkn karbinthdsxbkhxngwayexf 16 immiprasiththiphaphphxthicaaekikhpyha aetkarbinkhrngsakhynnkhuxsingthitxngsniccring phlthiidkhxngphunthihangaenwnxnthiephimkhunxik 25 thukichkbblxk 15 inpiph s 2524 aelatxmakichkbekhruxngbinsaaerk xikxyangkhuxkarldkhwamesiyngxyangmakkhxngkarthiekhruxngynthyudthangan hangaenwnxnthiihykhunyngephimkhwamesthiyraelaihkarwingkhunthirwderwkhun inthswrrsthi 1980 okhrngkarkarphthnananachatihruxexmexsixphi Multinational Staged Improvement Program MSIP thukcdkhunephuxephimkhwamsamarthihmihkbexf 16 karldkhwamesiynginkhnathakarphthnaethkhonolyi aelaephuxmnicwamncakhngthntxsphaphaewdlxmthiepliynaeplng okhrngkarthakarphthnaexf 16 samkhntxn dwyprakarthngpwngexmexsixphithakaresnxkhwamsamarthihmkhxngexf 16 inrakhata aelaldkhwamesiyngemuxethiybkbrabbaebbedim exf 16 thakarphthnaxun xikthirwmthngkaryudxayukarichnganinpiph s 2543karxxkaebbexf 16siecphrxmkhipnawuthxakassuxakasaelaraebidodyrwm exf 16 epnekhruxngbinhlabthbathhnungekhruxngyntthimikhwamerwehnuxesiyng exf 16 thukxxkaebbmaephuxepnnksuthikhumkhasungsamarththapharkicidhlakhlayaelayngmikhwamphrxmxyutlxdewla mnmikhnadelkaelaebakwaekhruxngbinkxnhna aetichxakasphlsastraelarabbxielkhthrxknikxakasthilahnakwa rwmthngichrabbflay bay iwr Fly by wire kbxarexsexs Relaxed static stability epnkhrngaerk ephuxihthakrabwnthaidsungsud dwykhwamkhlxngaekhlwsungexf 16 samarththaaerngidinradb 9 ciaelasamarththakhwamerwsungsudidmakkwa 2 mkh exf 16 mipunihyexm61 wlaekhnkhnad 20 m m thiokhnpikdansayaelainrunaerk samarthtidtngexixexm 9 isdiwnedxridthunghkluk rwmthngkhipnawuthxikxyanglalukthiplaypik bangaebbsamarthichexixexm 7 saeprorwaelainrunlasudksamarthichexixexm 120 aexmaermidxikdwy mnyngsamarthichkhipnawuthxakassuxakasaebbxun khipnawuthxakassuphun crwdhruxraebid xupkrntxtanxielkhthrxnik xiexmsi karnarxng kraepaahaepahruxpun aelathngechuxephlinginthng 11 tabl odymihktablthiitpik sxngthiplaypik aelasamthiitlatw okhrngrangodypkti karxxkaebbexf 16 ichaephlnfxrmaebbkhrxp edltarwmkbkarrwmpikekhakblatwaelapikkhnabkhang erkhakhnitthitaytw chngxrblmthidanitekhakbaebb swnhangthimihangaenwnxnthiekhluxnthiidthnghang khribkhuthiitlatwthaykhxbpik fakhrxbhxngnkbinaebbchinediyw aelalxlngcxdthngsam mnmirabbetimechuxephlingthangxakasthicamichxngetimxyuthihlnghxngnkbin ebrkxakasxyuthichwngthaykhxngtwpik aelatakhxekiywxyuthiitlatwswnthay thiokhnpikcamiswnekbxupkrnmakmayxyangxisiexmhruxrmchud exf 16 aebbtxmamakmayxyangexf 16ixcakblxk 50 miswnthiechuxmoyngiptamaeknkhxnglatwtngaetipcnthungswnhang mnsamarththukichephuxekbxupkrnephimetimhruxechuxephlingid exf 16 thukxxkaebbmaihmirakhathukinkarsrangaelaichnganidngaymakkwaekhruxngbinkhbilaebbkxn okhrngsrangthacakxllumieniymxllxy 80 ehlk 8 wsduphsm 3 aelaithetheniym 1 5 karkhwbkhumphunphiwxyangkhxbthiaebnrab swnhang aelakhribthxngnnichokhrngsrangaebbiythithacakxalumieniymaelaphiwthithacakkraiftaephnbang exf 16exmi 228 aephngtlxdthwthnglatw sayechuxephlingaelaomdulthisamarthnaxxkidyngthukldlngxyangmakemuxethiybkbaebbkxnhna aemwaokhrngkaraexldbbliwexfkhxngkxngthphxakasshrthcaeriykrxnghaekhruxngbinthisamarthmichwomngbinidephiyng 4 000 chwomng aelasamarththaaerngid 7 33 ciphrxmechuxephlingphayin 80 wiswkrkhxngecenrl idnamikstdsinictngaetaerkthicaxxkaebbokhrngsrangkhxngexf 16 ihkhngthnid 8 000 chwomngaelaidaerngid 9 ciphrxmechuxephlingetimthng mnidphisucnthungkhwamidepriybkwaemuxpharkickhxngmnthukepliyncakxakassuxakasepnaebbhlakbthbathaethn xyangirktamkarepliynaeplngtlxdewlakbaephnkarichnganptibtikaraelanahnkthiephimkhunxyangtxenuxngenuxngmacakrabbephimetimthaihmntxngkarokhrngsrangmakmaythitxngaekhngaekrngkhun pikhlkaelapikkhnabkhang karsuksadanxakasphlsastremuxtnthswrrsthi 1960 idaesdngihehnpraktkarnthieriykwa karyktwkhxngkraaeslm xngkvs vortex lift thisamarthepnpraoychnodykarichpikthiluxyangmakephuxthamumpathaidmakkhunphankarichkraaeslmaerngthiihlewiynphandankhangykmnkhun ephraawaexf 16 thukmxngwaepnekhruxngbinthirwderwinkartxsu nkxxkaebbkhxngecenrl idnamikscungideluxkpikaebbkhrxp edltathiephriywphrxmkbpikesrimkhnabkhangthamum 40 xngsaaelathaypikthiepnaenwtrng ephuxephimkhwamsamarthinkarthakrabwnthaidmakkhxngmn pikokhngnunphrxmkbaexrfxlyaebbexnexsiex 64ex 204 cungthukeluxkmaichngan swnokhngeriykwa aekhmebxr camber nnthukprbphanthangkarichkhxbdanhnaaelachxbdanhlngthiechuxmekhakbhruxexfsiexs flight control system FCS sungcaprbodyxtonmtiphanthangchxngkarbin phlkhxngkaryktwdwykraaeslmnisamarthephimkhuniddwykarephimphunthikhxbdanhnapikthiswnokhn cudechuxmtxkblatw eriykwaswnkhnabkhanghrux setrkh strake setrkhthahnathiehmuxnsingthiephriywlm mikhnadyaw imkwang pikthrngsamehliymthierimtngaetokhnpikipcnthungswnhnakhxnglatw dwykarphsmlatwthiimmicudechuxmtxthiepnmum rwmthngokhnpik setrkhcasrangkraaeslmthierwsungyngkhngtidxyukbswnbnkhxngpikemuxmumpathasungkhun dwywithiniexngaerngykkcaephimmakkhun singnithaihekhruxngbinsamarththamumpathaidinaebbthipktiaelwekhruxngbincaimsamarthkhwbkhumid karichsetrkhhruxpikesrimnnyngichxtrapikthita sungephimxtrakarhmunaelakhwamesthiyrinkhnathildnahnkekhruxngbin okhnpikthilukkhunyngephimkhwamaekhngaekrngihkbokhrngsrang aelaephimprimanechuxephlingphayin phlthiidkhuxessswnechuxephlingkhxngexf 16 praman 0 31 thithaihmnmiphusymakkwaekhruxngbinthikhlaykhlungkn rabbkhwbkhumkarbin esthiyrphaphinkarthrngtwthiepnlb wayexf 16 epnekhruxngbinlaaerkkhxngolkthithukxxkaebbihmixakasphlsastrthiimesthiyrelknxy ethkhnikhnieriykwa xarexsexs relaxed static stability RSS thanganrwmephuxephimkarthangankhxngekhruxngbin ekhruxngbinswnihythukxxkaebbmaihmiesthiyrphaphinkarthrngtwthiepnbwk sungmiaenwonmthaihekhruxngbinklbipsukhwamsungedimkhxngmnidhlngcakthiesiykarthrngtw xyangirktamesthiyrphaphinkarthrngtwthiepnbwknnhyudkhwamkhlxngtw ephraawamicakhxythaihekhruxngbinxyuintaaehnngpktiaethnthicaepnaebbthinkbintxngkar inxikthanghnung ekhruxngbinthimiesthiyrphaphinkarthrngtwthiepnlbcaimxyuinradbaelakarkhwbkhuminthnthi thungkrannekhruxngbinthimiesthiyrphaphinkarthrngtwthiepnlbcakhlxngaekhlwkwaphwkthiepnbwk emuxthakhwamerwehnuxesiyngekhruxngbinthimiesthiyrphaphinkarthrngtwthiepnlbcamiaenwthangthiepnbwkmakkwaedim ephraawaaerngxakasphlsastrepliynswnthayrahwangkarbinaebbtakwaesiyngaelaerwehnuxesiyng xyangirktaminkhwamerwehnuxesiyngekhruxngbinkhbilmkmiaenwonmthicahludcakkarkhwbkhumidtlxdewla flay bay iwr ephuxephchiyhnakbkarhludcakkarkhwbkhumaelahlikeliyngkhwamtxngkarthicatxngichewlainkarekhakhwbkhumodynkbin exf 16 cungmichxngflay bay iwrsichxng khxmphiwetxrkhwbkhumkarbinhruxexfaexlsisi flight control computer FLCC sungepntwsakhykhxngrabbkhwbkhumkarbinhruxexfexlsiexs Flight Control System FLCS yxmrbkarechuxmtxcaknkbincakkhnbngkhbaelahangesux aelacdkarkarkhwbkhumphunphiwodyimthaihesiykarkhwbkhum exfaexlsisiyngichkarwdepnphn khrngtxwinathikhxngkhwamsungthiekhruxngbinxyu aelacathaihmnthuktxngodyxtonmtiephuxcdkarkbkarepliynaeplngkhxngesnthangkarbinthiimidmacaknkbin nnthaihmnbinidxyangesthiyr singninaipsukhaphngephykhxngnkbinexf 16 thiwa khunimidkhbexf 16 hrxk mnnnaehlathikhbkhun exfaexlsisiyngthanganrwmkbtwcakdkarkhwbkhumkarekhluxnihwthimiphunthanmacakradbkhwamsungpccubnkhxngekhruxngbinixphn khwamerwlmaelamumpatha aelapxngknkarekhluxnkhxngkarkhwbkhumphunphiwsungcathaihekidkhwamimesthiyrxyangkarsliphruxskhid hruxmumpatharadbsungthithaihimsamarthkhwbkhumekhruxngbinid twcakdyngthahnthipxngknkrabwnthathicasrangaerngmakkwa 9 citxnkbinhruxokhrngsrang imehmuxnkbwayexf 17 thicudednxyuthirabbexfbidbbliwphrxmkbkarkhwbkhumdwynathiepntwsarxng nkxxkaebbexf 16 nnichwtkrrmihminkarkacdswnechuxmrahwangkhnbngkhbaelahangesuxaelaphunphiwkhwbkhumxakasphlsastr khwamiwicidkhxngexf 16 txrabbxielkhthrxnikaelasayifephuxkhngkarkhwbkhumkarbin aethnthicaepnkarichsayekhebilaelarabbklikinkarkhwbkhum singnithaihexf 16 idrbchuxelnwa xielkhthrikecth hrux ecthiffa chxngbinthngsihaksuyesiyiphnungchxngrabbkcaepliynmaepnaebbsamchxng exfaexlsisierimtninthanarabbxnalxkinaebbex bi aettxmaidepnrabbdicitxlinaebbsi dikhxngblxk 40 hxngnkbinaelakarcdxupkrn xikcudednhnungkhxngmncakmummxngkhxngnkbinkhuxkhwamyxdeyiymodyrwmkhxngexf 16 inhxngnkbin cudednniepnsingsakhykhnathakartxsuklangxakas fakhrxbchinediywthithamacakihmummxng 360 xngsaphrxmmummxngkhunlng 40 xngsatlxddankhangkhxngekhruxngbin aela 15 xngsaehnuxswncmuk thinngnkbintidtngbnthiprbkhunlngid nxkcaknihxngnkbinexf 16 immiswnokhngthidanhnasungmiinekhruxngbinswnihy sungmnthaihnkbinmxngehnidchdkhuninbriewndanhna inaebbsxngthinngcaepntxngmikrxbmaknrahwangnkbinthngsxng hxngnkbinexf 16 sahrbfuk ekaxididtwexsess2 phlngcrwdxyuthidanhlngodythamum 30 xngsa thinnginaebbthiekakwaaelarwmsmynnmkthamumephiyng 13 15 xngsathann thinngexnthiipdanhlngkhxngexf 16 thukeluxkephuxephimkhwamthnthankhxngnkbintxaerngciid aelaephuxldkhwamxxnihwkhxngnkbintxaerngonmthwngthicathaihhmdsti xyangirktammumthiephimkhunkthaihephimkhwamesiyngthikhxcaidrbbadecbhakimichthiphksirsa karxxkaebbekhruxngbinkhbilkhxngshrth inewlatxmathinngcaelkkwaaelathamumephiyng 20 xngsa ephraamumthimakkhxngthinngaelakhwamhnakhxngfakhrxbthithamacakophlikharbxenth ekaxididtwkhxngexf 16 cungkhadswnthiepnehlkephuxkraaethkihfakhrxbaetkxyangthiekhruxngbinlaxun mi sungtwkraaethknncathaihfakhrxbaetkhakmnimsamarthepidid inekhruxngexf 16 kardidtwkhxngnkbinthaodykarpldfakhrxbthingipkxn emuxaernglmdungfakhrxbxxkipaelw ikkcalnsngihekaxiphungxxkipdwyphlngcrwd nkbinthibinekhruxngbincaichkhnbngkhbthidankhwaepnhlkaelakhnerngcaxyuthidansay hruxcaepnkhnehyibkid ephuxephimxngsainkarkhwbkhumkhxngnkbinintxnthimiaerngcieyxa switchmakmaycungthukyayipthikhnbngkhbaethn karkdephiyeba thikhnbngkhbcasngsyyanxielkhthrxnikphanthangrabbflay bay iwrephuxprbkarkhwbkhumkarbinmakmay dngedimaelwkhnbngkhbimsamarthekhluxnthiid aetkarcdichaebbniidphisucnwaimsadwkaelayaksahrbnkbinthicakhwbkhum bangkhrngmnsngphlihmiaenwonmthicahmunekinipintxnthiwingkhun tngaetthimnprakttwinekhruxngexf 16 khnbngkhbaebbohths HOTAS idklaymaepnaebbphunthankhxngekhruxngbinkhbilyukhihm aemwakhnbngkhbdankhangnncaimaephrhlaynk hxngnkbinkhxngexf 16 yngmiehd xphdisephlyhruxhd Head Up Display HUD sungchayphaphkarbinaelakhxmulkarrbinrupaebbsylksntxhnankbinodyprascaksingkidkhwang dwykarthisamarthmxnghaepaidthwhxngnkbinnkbincungmikarrawngtwxyangmaktxsingthiekidkhunrxbtw hmwkecexchexmsiexs Joint Helmet Mounted Cueing System JHMCS khxngobxingthukichinblxk 52 sahrbkhipnawuthphisyiklxyangexixexm 9 exks hmwkphiessnisamarthbxngtaaehnngkhxngrabbxawuthidtamthinkbinmxng aemkrathngnxkcxaesdngphlktam inkhnathiyngkhngmikarrawngphy hmwknithakarkhrngaerkin nkbincaidrbkarbinephimaelakhxmulsthanakhxngrabbcakmlti fngchn disephlyhruxexmexfdi multi function display MFD exmexfdithidansaykhuxhnacxaesdngkarbinhlk sungodypkticaaesdngerdaraelaaephnthiekhluxnthi exmexfdithangdankhwacaaesdngrabb sungaesdngkhxmulsakhykhxngekhruxngynt xupkrnlngcxd fakhrxbaelaaephnpik echuxephling aelasthanaxawuth erimaerkexf 18ex bimicxhlxdrngsikhaothd sixarthi ephiyngcxediywethannthithahnathiphiexfdi phrxmkbkhxmulrabbthiaesdngtammatrwdtang exmaexlyuidnacxexmexfdiekhasuhxngnkbinaelayngichidinaebbklangkhunxikdwy cxsixarthiehlanithukaethnthidwycxaexlsidiinblxk 50 52 inblxk 60 cxexmexfdiaebbsithisamarthisopraekrmaelaslbepliynid phrxmkhwamsamarthphaphtxphaphsungihsthankarnidtrngtamewlabnaephnthiekhluxnthi erdar exf 16ex biedimthitidtngerdarkhwbkhumkaryingaebbphls dxphephlxrexexn exphici 66 khxng txnnikhuxnxrththrxp krmaemn esaxakaskhxngmnthukxxkaebbmaephuxmiprasiththiphaphkbsmukkhnadelkkhxngexf 16 inrupaebbxphlukh exphici 66 ichkhlunsnsaethuxnsahruxphixarexf Pulse repetition frequency PRF radbtasahrbepahmaythixyuradbklangaelasunginsphaphaewdlxmthirk aelainrupaebbdawnlukhcaepnkarichphixarexfradbklangsahrbsphaphaewdlxmthirkxyangmak mnmikhlunkhwamthisikhlunphayinexkwaebnd X band aelamirupaebbsirupaebbsahrbkartxsuxakassuxakasaelaecdsahrbkartxsuxakassuphun aemaetintxnklangkhunhruxsphaphxakasthielwray exphici 66 wi 2 khxngblxk 15 idephimtwpramwlsyyanthithrngphlng khwamechuxicid aelaephumrayainsphaphaewdlxmthirkhruxmikarrbkwnidiklkhun okhrngkarephimxayuichnganidphthnasingniepnexphici 66 wi 2ex sungmicudednepnkhwamerwaelakhwamca erdarexexn exphici 68 epnkarphthnakhxngexphici 66 thuknamaichkbexf 16si di blxk 25 exphici 68 mirayaaelakarpramwlphlthimakkwa echnediywkbrupaebbptibtikarthimakkhunepn 25 rupaebb aelakartidtamkhnatrwchahruxthidbbliwexs track while scan TWS sahrbepahmaymakthungsiepahmay exphici 68 wi 1 khxngblxk 40 42 idephimkarthanganrwmetmthikbrabbaelnethirnkhxnglxkhid martin aelarupaebbtidtamaebbphls dxphephlxrdwyphixarexfradbsungephuxihsngkhluntxenuxngekhasuepahmayephuxchiepaihkbkhipnawuthaebbkungerdarxyangexixexm 7 saeprorw exf 16 blxk 50 52 erimidrbexphici 59 wi 5 thiechuxthuxidmakkwasungmitwpramwlphlthiichethkhonolyiwngcrrwmkhwamerwsung blxk 50 52 thihawhnathuktidtngdwyexphici 68 wi 9 sungmirayatrwccbidmakkwa 30 aelarupaebbexsexxar synthetic aperture radar SAR sahrbkarpramwlphlradbsungkhxngaephnthiaelakartrwccbepahmay ineduxnsinghakhm ph s 2547 nxrththrxf krmaethnidrbsyyainkarerimkarphthnaerdarexphici 68 khxngblxk 40 42 50 52 ihepnaebb wi 10 sungthaihexf 16 mikartrwccbinthuksphaphxakasaelakarcbepainaebbciphiexs mnyngephimrupaebbaephnthiexsexxaraelarupaebbtamphunphumipraeths exf 16xi exfthiicherdarexxiexsex Active Electronically Scanned Array AESA exexn exphici 80 khxngnxrththrxp krmaemn thaihmnepnekhruxngbinlathisamthiichmn ineduxnkrkdakhm ph s 2550 erythixxnidprakaswamnidthakarphthnaerdarrunihmkhunmaodymiphunthanmacakexexn exphici 79 runkxnhnaephuxepnthangeluxkihkbexexn exphici 68 aelaexexn exphici 80 khxngnxrthththrxp krmaemnsahrbexf 16 aebbihm inwnthi 1 phvscikayn ph s 2550 obxingideluxkkarxxkaebbniephuxthakarphthnaexf 15xiihkbkxngthphxakasshr karkhbekhluxn intxnaerkkhumkalngkhxngexf 16 khuxaephrthth aexnd withniy exf100 phidbbliw 200 hnungekhruxngynt mnthukddaeplngelknxycakexf100 phidbbliw 100 thiichodyexf 15 dwyxtraaerngkhb 23 830 pxndthaihmnyngkhngichipcnthungexf 16 inblxk 25 ykewnblxk 12 phrxmkarphthnakhwamsamarthptibtikarhruxoxsiyu Operational Capability Upgrade OCU oxsiyuidnaekhruxngexf100 phidbbliw 220 thiihaerngkhb 23 770 maich sungyngidtidtnginblxk 32 aela 42 inkhnathimnimidephimaerngkhbxyangehnidchdnk mnkidnarabbkhwbkhumekhruxngyntxielkhthrxknikaebbdicitxlhruxdixixisi Digital Electronic Engine Control DEEC maichsungidephimkhwamiwicidaelaldkhwamesiyngkhxngekhruxngyntthicahyudthangan sungepnsingthimkekidkhunkbrun 200 sungcaepntxngthakarstarthekhruxngihmklangxakas dwykarprakttwbnsayphlitexf 16 inpiph s 2531 220 yngidekhaaethnthi 100 khxngexf 15 dngnnthngsxngcungmiekhruxngyntthiehmuxnkn ekhruxngyntrun 220 makmaykhxngblxk 25 aelaekhruxngbinlatx mathukphthnatngaetklangpiph s 2540 ihepn 220xi sungidephimkhwamiwicidaelaichnganidngay rwmthngldxtrakarsxmaesmlngip 35 karphthnaexf 100 phidbbliw 220 220xiepnphlmacakokhrngkarepliynekhruxngyntkhxngkxngthphxakasshrth sungmiecenrl xielkhthrikepnphusrangekhruxngyntihkbexf 16xyangirktamekhruxngyntethxrobaefnexf110 cixi 100 txngkarkarddaeplnginswnkhxngchxngrblm aebbedimnnihaerngkhbsungsudephiyng 25 735 pxnd inkhnathiaebbihmihaerngkhbsungsudthung 28 984 pxndemuxich ephuxaeykaeyaekhruxngbinthiichekhruxngyntaetktangkn lathiichkhxngecenrl xielkhthrikichlngthayblxkdwy 0 echn blxk 30 aelalathiichkhxngaephrthth aexnd withniycalngthaydwy 2 echn blxk 32 karphthnaephimodyphuaekhngkhnehlaniphayitekhruxngyntthiephimkarthanganthaihekidekhruxngyntexf110 cixi 129 thiihaerngkhb 29 588 pxndinblxk 50 aelaekhruxngyntexf phidbbliw 229 thiihaerngkhb 29 100 inblxk 52 khunma exf 16 erimbindwyekhruxngyntehlaniinwnthi 22 tulakhm ph s 2534 aela 22 tulakhm ph s 2535 tamladb dwyprakarthngpwngexf 16si di 1 446 lathisngsuxodykxngthphxakasshrth mi 556 lathiichekhruxngynttrakulexf100 aela890 lathiichexf110 blxk 60 khxngshrthxahrbexmiertsichekhruxngyntethxrobaefnexf110 cixi 132 khxngecenrl xielkhthriksungihaerngkhbsungsud 32 500 pxnd sungsudinbrrdaexf 16 thnghmdprawtikarichngannkbinexf 16 khxngkxngkalngrksadinaednthangxakasinhxngnkbinphrxmklxngmxngklangkhun enuxngmacakkarthimiphwkmnxyuthwthukthi exf 16 cungmiswnrwminkarrbmakmaysungswnihyekidkhuninkarrbkhrngaerkprasbphlthihubekhaebkaaelakarbukxxsxirk ph s 2524 kartxsuthangxakaskhrngaerkkhxngexf 16 ekidkhunodyehnuxhubekhaebkaemuxwnthi 28 emsayn ph s 2524 odycdkarkbehlikhxpetxr khxngsieriy sungthukyingtkodypunhlngcakimsamarthichkhipnawuthxakassuxakasexixexm 9 isdiwnedxryingid hnungpitxmainwnthi 9 mithunayn ph s 2525 inkhnathakarrbthangxakaskxngthphxakasxisraexlidichexf 16 thaaetmkbekhruxngbinkhbilxiklaepnkhrngaerkodyyingmik 21 hnunglakhxngsieriytk inwnthi 7 mithunayn ph s 2524 exf 16 aepdlakhxngxisraexlthikhumknodyexf 15 thaodyepnkarocmtithangxakasuphunkhrngaerkkhxngmn karbukkhrngniidsrangkhwamesiyhayihkbxxsxirk khxngxirkthikalngkxsranginaebkaedd ephuxpxngknimihsddm husesnichmnsrangxawuthniwekhliyr ptibtikarkhwamsngbephuxkllili ph s 2525 pitxmainptibtikarkhwamsngbephuxklliliinsngkhramelbanxnpiph s 2525 exf 16 khxngxisraexlidekhapathakbekhruxngbinkhxngsieriysungepnkartxsukhrngihythisudkhrnghnunginprawtisastrkhxngekhruxngbinkhbilphlngixphn sungeriminwnthi 9 mithunaynaelayngkhngtxenuxngipxiksxngwn emuxsinsudkarrbkxngthphxakasxisraexlidsngharip 44 la swnihyepnmik 21 aelamik 23 inkhnathiimsuyesiyexf 16 ely exf 16 yngidichkarocmtiphakhphundinephuxekhaocmtiepahmayinelbanxn ehtukarninchwngsngkhramosewiyt xfkanisthan ph s 2529 2531 insngkhramosewiyt xfkanisthanrahwangedxunphvsphakhm ph s 2529 aelamkrakhm ph s 2533 xangwa idichexf 16 yingkhasukcakfayxfkanisthantkipxyangnxysibla silaepnekhruxngbinthingraebidsu 22 samlaepnekhruxngbinkhnsng aexn 26 sxnglaaelaaexn 24 hnungla aelaxiknunglaepnekhruxngbinthingraebidsu 25 swnihythuksngharodyisdiwnedxr aetsu 22 thukpunyingtkaelaaexn 24 hnunglathukbngkhbihlngcxdchukechinemuxthukekhaskdkn xfkanisthanxangwa Mig 23 thikhbodynkbinosewiyt idyingexf 16exkhxngpakisthantkhnunglainwnthi 29 emsayn ph s 2530 nkbindidtwidxyangplxdphyaelatklnginphunthikhxngpakisthan thangpakisthanyxmrbwaidsuyesiyekhruxngbinihkbfaystru aetxangwamnxacepnidthngexf 16 hruxexf 6 aelayunkranwamnthukocmtiehnuxphunthikhxngpakisthan txmathangkarpakisthanidyunynkarsuyesiyexf 16 hnungla aetxangwa epnxubtiehtuodythukyingodyphwkediywknexngkhnatxsuxyangchulmunehnuxekhtaednkhxngpakisthan tamkhaklawxangexf 16 khxngphuhmwdsahid iskndar khanthukyingodyexixexm 9 thiyingmacaknkbinexf 16 xiknayhnungodyhwhnafungbinxmcad caewd ptibtikarphayuthaelthray ph s 2534 inptibtikarphayuthaelthray emuxpiph s 2534 exf 16 canwn 249 lakhxngkxngthphxakasshrththakarbin 13 340 khrngephuxekhaocmtixirk swnihyepnkhxngkxngkalngphsm ekhruxngbinsamlaxangwathukyingtkkhnathakaryunynkarekhluxnihwkhxngstru sxnglathukyingodynawithidwyerdarexsex 6 aelaexsex 3thiphlitinrsesiy aelaxikhnunglathukyingodykhipnawuthkhnadelkaebbprathbbakhxngrsesiyrunexsex 16 exf 16 laxunidrbkhwamesiyhayinxubtiehtuaelakaryingkhxngstruaetksamarthbinklbthanaelasxmaesmidinthisud odyrwmaelwexf 16 ecdlathukyingtkinphayuthaelthrayrahwangwnthi 16 mkrakhmaela 28 kumphaphnth ptibtikarthangxakasehnuxxirk ph s 2534 2546 hlngcaksinsudptibtikarphayuthaelthraycnthungkarbukxirkinpiph s 2546 exf 16 khxngkxngthphxakasshrthidthakarladtraewninkhxngxirk michychnathangxakassxngkhrngthithaaetmodyexf 16 khxngkxngthphxakasshrthin inwnthi 27 thnwakhm ph s 2535 exf 16dihnunglakhxngkxngthphxakasshrthyingmik 25 hnunglakhxngxirktkinekhthambinkhxngshprachachatiehnuxthangtxnitkhxngxirkdwyexixexm 120 aexmaerm niepnkhrngaerkthiexf 16 khxngkxngthphxakasshrththaaetmtngaetthimnerimthahnathi aelayngepnkarichaexmaermsngharkhrngaerkxikdwy inwnthi 17 mkrakhm ph s 2535 exf 16sikhxngkxngthphxakasshrthidthalaymik 23 hnunglakhxngxirkdwykhipnawuthaexmaermxnepnchychnakhrngthisxngkhxngexf 16 exf 16 idklbekhaxirkineduxnthnwakhm ph s 2541 inswnhnungkhxngodythapharkicthingraebidephuxldkhwamsamarthinkarphlitxawuthkhxngxirk karphyayamrthpraharewensuexla ph s 2535 inwnthi 27 phvscikayn ph s 2535 exf 16 sxnglakhxngewensuexlamiswnrwminkarphyayamrthpraharewensuexlaodythanganihkbfayrthbal exf 16exsxnglayingkradisepahmaybnphundinaelayingoxwi 10 brxngoksxnglatkdwyexixexm 9 aelaexthi 27 thukhaonhnunglatkodyichpunemuxekhruxngbinkhxngkbtdngklawidbinekhaocmtithimnkhxngkxngthph blkhan ph s 2537 2538 aela 2542 exf 16 yngthukichodynaotinptibtikarrksakhwamsngbkhxngbxseniyinpiph s 2537 2538 inpharkicocmtiphakhphundinaelapxngknekhthambinehnuxbxseniy inwnthi 28 kumphaphnth ph s 2547 ekhruxngec 21 silaaelaixec 21 sxngla aelaec 22 sxnglaidruklaekhthambinephuxthakarthingraebid nkbinkhxngec 22 thngsxnglaehnexf 16 ehnuxphwkekhaaelahlngcakkarocmti phwkekhakbincakipinradbtamunghnaipokhrexechiy thisungekhruxngbinkhxngshrthimsamarthbintamipid inkhnannklumthiehluxthukocmti ralxkaerkodyexf 16si 2 lakhxngkxngthphxakasshrth sungthaidsamaetm ec 21 thiehluxthukcdkarodyexf 16si xikkhuhnung ekhruxngbinkhxngyuokslaewiyhklaekhapatha misilathithukyingtk inwnthi 2 mithunayn ph s 2538 exf 16silahnungthukyingtkody2ekh12 khbkhxngesxrebiyinkhnathakarladtraewnehnuxbxseniy nkbinskxtt oxekrdididtwxxkaelaidrbkarchwyehluxcakehlikhxpetxrsiexch 53 sistleliynkhxngnawikoythinshrthinwnthi 8 mithunayn exf 16 khxngnaotyngidmiswnrwminkarocmtithangxakastxkxngkalngkhxngesxrebiyinbxseniyaelaehxresokwinainineduxnsinghakhmthungeduxnknyayn ph s 2538 aelaxikkhrnginehnuxyuokslaewiytngaeteduxnminakhmthungmithunyn ph s 2542 inptibtikarniexf 16 idrbchychna 1 2 khrng hnungkhrngodythiyingekhruxngmik 29 thikhadkarsxmbarungenuxngkarmatrkarkhwabatr hnunglakhxngyuokslaewiytk aelaxikkhrngodyexf 16 khxngkxngthphxakasshrthodyehyuxkhuxmik 29 echnkn xyangirktaminkrnitxmaesxrebiyidxangwaidphbsakkhxng9ekh32exminsakkhxngmik 29 aelabxkwamnthukyingtkodyphwkediywknexng inwnthi 2 phvsphakhm ph s 2542 exf 16sicihnunglathukyingtkehnuxesxrebiyodykhipnawuthrsesiyrun nkbinsamarthdidtwxxkmaidaelatxmaidrbkhwamchwyehlux srangkhxngekhruxngbinthuknaipaesdnginphiphithphnthkarbinkhxngyuokslaewiy ehtukarninxieciyn ph s 2539 aela 2549 inwnthi 10 tulakhm ph s 2539 inkarephchiyhnathangxakasinnanfakhxngkrisehnuxthaelxieciyn ekhruxngmirac 2000idyingkhipnawuthisekhruxngexf 16dikhxngturkitk sungrthbalturkixangwaepnkarfukinnanfasaklthangehnuxkhxngekaasamxskhxngkrik nkbinturkiesiychiwitinkhnathinkbinrwmdidtwxxkmaidaelaidrbkarchwyehluxodykxngkalngkhxngkris inkhnathirthbalturkiyxmrbkhwamsuyesiy rthbalkrisidptiesthehtukarnthiekidkhun inwnthi 23 phvsphakhm ph s 2549 exf 16 blxk 52 sxnglakhxngkrisekhaskdknxarexf 4 aelaexf 16 sxnglakhxngturkithinxkchayfngekraakharphathxskhxngkris kartxsurahwangexf 16 khxngthngsxngfaycblngdwykarchnknklangxakasrahwangekhruxngexf 16 khxngthngsxngfay nkbinturkididtwxxkmaidxyangplxdphykxnthiekhruxngcachn aetnkbinkrisesiychiwit sngkhramkharcil ph s 2542 exf 16 khxngpakisthanidpathakbmik 29 khxngxinediyininemuxpiph s 2542 kxngthphxakasxinediyichmik 29 xyangkwangkhwangephuxkhumknmirac 2000 sungthukichephuxthingisepahmay insngkhramkharcilmik 29 cakfungbinthi 47 khxngkxngthphxakasxinediyidthakarlxkepaisexf 16 khxngsungekhaiklnanfaxinediy odythiexf 16 imsamarthhlbhnihruxtxbotidely aetephraaxinediyaelapakisthanyngimidprakasrbknxyangcringcngintxnnn mikcungthuksngiheliktidtam hlngcakehtukarnkhrngnnkxngthphxakaspakisthanidsngkarihekhruxngbinxyuinnanfakhxngtnexngethann ptibtikarinxfkanisthan ph s 2544 pccubn exf 16 thukichodyshrthxemrikainxfkanisthantngaetpiph s 2544 inpiph s 2545 kxngthphxakarwmyuorp prakxbdwy aela ichexf 16 canwn 18 lathahnathiocmtiphakhphundinthithanbinmanasinkhirkissthanephuxsnbsnuninxfkanisthan chxngrblmsahrbkhwamerwehnuxesiyng tngaeteduxnemsayn ph s 2548 exf 16 aepdlakhxngkbexf 16 silakhxngineduxnkumphaphnth ph s 2549 idthakarsnbsnunthharrabinthangitkhxngxfkanisthan inwnthi 31 singhakhm ph s 2549 exf 16exexmkhxngkxngthphxakasenethxraelndtkinekhtkasniaelankbinesiychiwit immikarihehtuphlid inkartkkhrngniaetkarsubswnlasudxangwa idphbaemngmumaelastwxun inhxngnkbinkhxngenethxraelndinxfkanisthan ptibtikarphayumud exf 16 cakidthakartxtanphukxkarrayxyangmakihkbpakisthan kxngthphxakaspakisthanidichexf 16 bxykhrnginkarsnbsnunkxngthphbkkhxngtnthiptibtikarinhubekhaswthaelainekhtfata tamkhxmulcaksthanthutpakisthaninwxchingtn kxngthphxakasthakarbin 93 khrngineduxnsinghakhm ph s 2551 ephuxtxsukbklumtalibn xyangirktamexf 16 khxngphwkekhasamarthichthahnathisnbsnunthangxakasodyiklchididephiyngtxnklangwnaelaxakasaecmisethann kxngthphxakasidthakarthingraebidxyangrunaerngisphuekhaswth exf 16 idthalaykhayfukthharkhxngtalibnaelasngharphunaswnihy inwnthi 27 emsayn ph s 2552 exf 16 idthakarthingraebidisphuekhainekhtediysungsngharnkrbtalibnipkwa 70 khn dwykarsnbsnuncakexf 16 thharrabkhxngpakisthancungthangansaerc inwnthi 28 emsaynexf 16 khxngpakisthanidthingraebidisphuekhainphunthibabaickhanedainbuenxr inwnthi 2 phvsphakhm ph s 2551 kxngthphxakaspakisthanphrxmkbkxngthphbkiderimptibtikartxtantalibn exf 16 idthingraebidphuekhakhxngtalibnodysngharip 143 khnaelaphuna dwykarsnbsnuncakexf 16 kxngthphbkidyudbuenxrkhunaelaphunthixikbangswn exf 16 yngidmiswninkarthingraebideninekhaaelaphuekhainswth sungepnthisxnkhxngphunaklumtalibn karbukxirkaelaptibtikarhlngsngkhram ph s 2546 pccubn exf 16 khxngkxngthphxakasshrthidmiswnrwminkarbukxirkinpiph s 2546 aelasuyesiyephiyngexf 16sicihnunglacakfungbinkhbilthi 421 sungtkiklkbaebkaeddinwnthi 12 mithunyn ph s 2546 emuxechuxephlinghmd erdarkhwbkhumkaryingkhipnawuthphunsuxakaskhxngkxngthphbkidrbkhwamesiyhayinwnthi 25 minakhm ph s 2546 cakkhipnawuththiyingodyexf 16sikhxngkxngthphxakasshrththithakarladtraewnehnuxthangitkhxngxirk emuxerdaridthakarlxkepaisexf 16 ladngklaw inwnthi 7 mithunayn ph s 2549 exf 16 sxnglaidthingraebidnawithikhnad 500 pxndisthimnkhxngxlkxxidahodysngharxabu masab xlsarkawiphunakhxngkluminxirk exf 16sicilahnungtkiklkbfxllucahemuxwnthi 27 phvscikayn ph s 2549 inkhnathakaryingkradinradbta aemwacathukyingtamkhxmulkhxngkxngthphxakasshrth ehtuekidcakkarbintaephuxrabuepahmaythiepnphahnakhxngstru nkbinthrxy kilebirtesiychiwit exf 16 xiksxnglatkinxirkhnungeduxntxmainwnthi 15 mithunaynaela 15 krkdakhm ph s 2551 odyxubtiehtu inwnthi 12 phvscikayn ph s 2551 exf 16sihnunglathukthalaythithanbinbaldinxirkemuximsamarththakarbinkhunid nkbinplxdphy inwnthi 25 kumphaphnth ph s 2552 exf 16 hnunglaidyingyuexwixbabil 3 khxngxihrantk sungmnidlwnglananfaekhamainxirk ehtukarnniepnkarsngharthangxakasephiyngkhrngediywinsngkhram sngkhramelbanxnkhrngthisxng ph s 2549 exf 16 khxngxisraexlidmiswnrwminsngkhramelbanxnemuxpiph s 2549 exf 16 thisuyesiymiephiyngexf 16ixkhxngthichninwnthi 19 emuxyangesnhnungkhxngmnaetkintxnthibinkhuncakthanbininenekf nkbindidtwxxkmaidxyangplxdphyaelaimmiphuidrbbadecb exf 16 khxngxisraexlidyingyuexwikhxngklumhisbxlelaahsamlatktlxdsngkhram khwamkhdaeyngkhxngxisraexlaelakasainpiph s 2551 2552 exf 16 khxngxisraexlthukichephuxthakarocmtichnwnkasaineduxnthnwakhm ph s 2551aebbtangexf 16 thukrabudwyelkhtamblxktang ephuxrabukarphthnaechphaakhxngrun blxkcarwmthngaebbhnungaelasxngthinng sxftaewr hardaewr rabb xawuth aelaokhrngsrangthiaetktangknipnnthukcdtngkhuntlxdhlaypiephuxphthnaexf 16 aelamiphltxekhruxngbinthisngihkblukkhainphayhlng inkhnathiexf 16 makmaythukphlittamblxkehlani aetkmikarepliynaeplngkhrngsakhymakmaytamokhrngkarddaeplngexf 16 karepliynaeplngxun sngphltxbthbathechphaathang xyang aebbsahrbkarsnbsnunthangxakasodyiklchidaelaladtraewn aebbmakmayyngidrbkarphthnaepntwthdsxbethkhonolyiihm exf 16 yngidepnaerngbndalicihkbekhruxngbinaebbxun sungthukcdwaepnkarddaeplngmacakexf 16 aebbtamkarphlithlk blxk run ekhruxngynt1 exf 16ex bi aephrthth aexnd withniy exf 100 phidbbliw 2005 exf 16ex bi aephrthth aexnd withniy exf 100 phidbbliw 20010 exf 16ex bi aephrthth aexnd withniy exf 100 phidbbliw 20015 exf 16ex bi aephrthth aexnd withniy exf 100 phidbbliw 20020 exf 16ex bi aephrthth aexnd withniy exf 100 phidbbliw 20025 exf 16si di aephrthth aexnd withniy exf 100 phidbbliw 200xi30 exf 16si di ecenrl xielkhthrik exf110 cixi 10032 exf 16si di aephrthth aexnd withniy exf 100 phidbbliw 220xi40 exf 16si di ecenrl xielkhthrik exf110 cixi 10042 exf 16si di aephrthth aexnd withniy exf 100 phidbbliw 220xi50 exf 16si di ecenrl xielkhthrik exf110 cixi 12952 exf 16si di aephrthth aexnd withniy exf100 phidbbliw 22960 exf 16xi exf ecenrl xielkhthrik exf110 cixi 132exf 16ex bi exf 16ex hnungthinng aelaexf 16bi sxngthinng mixupkrnepnerdarphls dxphephlxrexexn exphici 66 khxng ekhruxngyntethxrobaefnexf100 phidbbliw 200 ihaerngkhb 14 670 pxnd aela 23 830 pxndemuxichsndapthay aebbexaelabinnrwmthngblxk 1 5 10 15 aela 20 kxngthphxakasshrthidsuxexf 16excanwn 674 laaelaexf 16bicanwn 121 la phrxmkahndsngineduxnminakhm ph s 2528 exf 16ex bimimulkhalala 14 6 landxllarshrth ph s 2535 blxkaerk 1 5 10 mikhwamaetktangelknxy swnihyaelwepnkhxngblxk 10 intnthswrrsthi 1980 blxk 15 epnkarepliynaeplngkhrngihykhrngaerkkhxngexf 16 mnidephimhangaenwnxnihihykhun ephuxcudtidxawuthekhaipxiksxngaehng erdarexexn exphici 66 wi 2 aelaephimkhwamcukhxngpik blxk 15 yngmiwithyuyuexchexfxikdwy hangaenwnxnthukephimkhnadxik 30 ephuxrbnahnkthiephimkhun blxk 15 epnaebbthimimakthisudkhxngexf 16 odyphlitxxkma 981 la blxk 20 idephimkhwamsamarthbangswnkhxngexf 16si diekhaip xyang erdarexexn exphici 66 wi 3 khipnawuth exciexm 84 harphun aela echnediywkbrabbnarxngaelakraepacbepaaebbaelnethirn blxk 20 mikhxmphiwetxrthiphthnaxyangmakemuxethiybkbaebbkxnhna satharnrthcin ithwn idrbexf 16ex bi blxk 20 canwn 150 la exf 16si di exf 16si hnungthinng aelaexf 16di sxngthinng thuknamaichinpiph s 2527 blxk 25 epnblxkaerkkhxngrunsi di mnidephimkhwamsamarthinkarptibtikarinthuksphaphxakasekhaipphrxmkbkhipnawuthekinrayamxngehnexixexm 7 aelaexixexm 120 blxk 25 idepidtwrabbxielkhthrxnikxakasthithnsmyphayinhxngnkbinaelaerdarexexn exphici 68 blxk 25 epnrunaerkthiichekhruxngyntexf100 phidbbliw 200 aelatxmaidphthnaepnexf100 phidbbliw 220xi blxk 25 mithngsin 209 lathisngihkblukkha exf 16si dimimulkhalala 18 8 landxllarshrth ph s 2541 exf 16 blxk 30 samlakhxngkxngthphxakasshrthbinehnuxekahliit blxk 30 32 nnepnblxkaerkkhxngexf 16 thiidrbphlcakokhrngkarekhruxngyntthangeluxksungekhruxbincaidrbkartidtngdwyekhruxngyntkhxngaephrthth aexnd withniy hrux exf110 cixi 100 khxngecenrl xielkhthrikepnkhrngaerk tngaetcudniblxkcalngthaydwy 0 echn blxk 30 ephuxrabuekhruxngbinthiichekhruxngyntkhxngecenrl xielkhthrik aelalngthaydwy 2 echn blxk 32 sahrbkhxngaephrthth aexnd withniy exf 16 blxk 30 laaerkekhapracakarinpiph s 2530 khwamaetktangthisakhykhux exciexm 88 harm aelaexixexm 120 tngaetblxk 30diekhruxngbincatidtngchxngrblmthiihykwaephuxephimaerngkhbihkbekhruxngyntkhxngecenrl xielkhthrik blxk 30 32 mithngsin 733 lathithukphlitaelasngihkblukkhainhkpraeths blxk 40 42 idekhapracakarinpiph s 2531 mnepnaebbsahrbocmtiklangwnklangkhunaelathuksphaphxakasthimikraepaaaelnethirn mnidrbchuxxyangimepnthangkarwaexf 16sici dici khwamsamarthintxnklangkhunkhxngmnthaihmnmichuxwa inthfxlkhxn blxkniidephimkhwamaekhngaekrngaelakhwamyawkhxngkraepaaaelnethirn erdarthiphthna aelatwrbciphiexs tngaetpiph s 2545 blxk 40 42 idephimphisykhxngxawuththirwmthngraebidecaedm dbbliwsiexmdi Wind Corrected Munitions Dispenser WCMD aelacibiyu 27 ephfewy blxk 40 42 thnghmd 615 lathuksngihkblukkhainhapraeths blxk 50 52 thuksngkhrngaerkinplaypiph s 2534 ekhruxngbinidkartidtngciphiexs ixexnexsaelasamarthbrrthukkhipnawuthephimetimxyang exciexm 88 harm ecaedm ecsxw aeladbbliwsiexmdi blxk 50 ichekhruxngyntexf110 cixi 129 inkhnathiblxk 52 ichekhruxngyntexf100 phidbbliw 229 blxk 50 52 sunghmaythungaebbthiphthnakhunipxikthuksngkhrngaerkineduxnemsayn ph s 2546 ihkb khwamaetktanghlkkhuxthngechuxephlingphiess erdarexexn exphici 68 wi 9 rabbxxksiecn aelahmwkecexchexmsiexs exf 16xi exf exf 16xi hnungthinng exf 16exf sxngthinng edimthiaelwaebbhnungthinngkhxngecenrl idnamiks exf 16exksaexlcaichchuxwaexf 16xiaelaexfsahrbsxngthinng singnithuknaipichkbkareluxkexf 15xi sitrkhxiekilkhxngkxngthphshrthemuxpiph s 2527 kartngchuxblxk 60 yngidthakarhyudexaiwinpiph s 2532 sahrbex 16 aetkthukykelikip chuxexf 16xi exfinpccubnepnkhxngrunphiessthisrangihkbshrthxahrbexmierts aelabangkhrngthukeriykxyangimepnthangkarwadiesirthfxlkhxn Desert Falcon exf 16 blxk 60 khxngshrthxahrbexmiertsbinkhuncakorngngankhxnglxkhid martininfxrthwxrthrthethkss blxk 60 miphunthanmacakexf 16si di blxk 50 52 cudednkhxngmnkhuxerdaraelaxielkhthrxnikxakasthiphthnaaelathngechuxephlingphiess mnthukkhayihkbshrthxahrbexmiertsethann khrnghnungrunnithukekhaicphidwaichchuxexf 16yu khwamaetktanghlkcakblxkkxnhnakhuxerdarexxiexsexrunexexn exphici 80 khxngnxrththrxp krmaemn sungthaihekhruxngbinmikhwamsamarthinkartidtamaelathalayepahmaybnphundinaelainxakasidinewlaediywkn ekhruxngyntexf110 cixi 132 khxngblxk 60 nnphthnamacakrun 129 aelamixtraihaerngkhbthi 32 500 pxnd blxk 60 nnsamarthichxawuththukxyangkhxngblxk 50 52 rwmthngaelaexciexm 84xi saelm thngechuxephlingphiessidephimkhwamcuechuxephlingxik 450 aekllxnshrth thaihephumphisyhruxewlapracasthani aelaphunthiwangihkbkhipnawuththiitpik twekbkhxmulexmixaexl exsthidi 1553 thukaethnthidwyexmixaexl exsthidi 1773 thisamarthcdkarkhxmulidephimkhun 1000 etha shrthxahrbexmiertsidmxbthuninkarphthnaepnengin 3 phnlandxllarshrth aelaaelkepliyndwykaraesdngkhwamrbphidchxbhakmiekhruxngblxk 60 laid thukkhayihkbpraethsxun karraynganklawwa niepnkhrngaerkthishrthkhayekhruxngbinthiehnuxkwakhxngthitnexngmiihkbpraethsxun praethsphuichnganpraethsphuichnganexf 16 bahern ebleyiym chili ednmark xiyipt kris cxraedn xinodniesiy xisraexl xitali omrxkok enethxraelnd nxrewy oxman pakisthan opaelnd oprtueks singkhopr satharnrthcin ithwn ekahliit ithy turki shrthxahrbexmierts shrth ewensuexlaxubtiehtuxubtiehtuintangpraeths inwnthi 8 phvsphakhm ph s 2518 inkhnathithakarsxmaesdngaerngradb 9 cikhxngekhruxngwayexf 16 hmayelkh 72 1568 thifxrthwxnthkxnthicasngipnganaesdnginparis ekidkarkhdkhxngkhxnglxlxhnung nkbinthdsxbenll aexnedxrsnidthakarlngcxdchukechinodyimkanglxaelalngcxdinsnamhyaodyhwngthicaldkhwamesiyhayaelaphubadecbthiepnphuchm ekhruxngbinidrbkhwamesiyhayelknxy mnthukkahndihipaesdnginnganthiparisaetdwyxubtiehtuthaihtnaebbaerk hmayelkh 72 1567 thuksngipaethninwnthi 11 kumphaphnth ph s 2535 exf 16 cakkxngthphxakasenethxraelndtkinemuxngehnekol ekhruxngyntesiyhayimnanhlngcakthibinkhunaelankbinidphyayambinklbipthithanbin nkbindidtwaelatklngxyangplxdphybnhlngkhaxakhar exf 16 nntkrahwangbanodyimmiphuidrbbadecbinkarfukkhxngkxngthphxakaskbkxngthphbkthicdkhunthithanthphxakasopp rthaekhorilna emuxwnthi 23 minakhm ph s 2537 exf 16di hmayelkh 88 0171 cakfungbinkhbilthi 74 epncuderimtnkhxngkarchn aelaidruckkninchux haynakrinaermph xngkvs Green Ramp disaster sngphlihmiphuidrbbadecb 80 ray sahs 24 rayinwnthi 27 minakhm ph s 2543 exf 16di 30exfkhxnginthanbinmthedwid idtklnginkhnasxmbin 31 kiolemtrhangcakhmubanchayfnginthangehnuxkhxngxisraexl nkbinoynathan ebkinepnhlankhxngxditnaykrthmntriemnaehm ebkin thngekhaaelankbinrwm rxyothilxxr harari imidothsfaykhwbkhumkarbinphakhphunxubtiehtuinpraethsithy inwnthi 18 tulakhm ph s 2553 exf 16ex blxk 15 oxsiyu hruxb kh 19 hmayelkh 40315 phrxm eruxxakasexk thanikr ehluxngrungwari nkbinfungbin 403 khxngkxngthphxakasithytkkhnasxmbincakkxngbin 4 nkhrswrrkhipkxngbin 41 echiyngihm odybinekaahmu 4 la aetemuxipthungsnambinechiyngihm phbwamiephiyng 3 lathilngcxd txma phbwaekhruxngbinladngkwa tkthibanednimsung hmu 9 tablaemslid xaephxbantak cnghwdtak odysnnisthanwa ekidcaknkbinhlngsphaphxakas cungthaihekhruxngbinphungchnaenwsnekha xubtiehtukhrngnithaih eruxxakasexk thanikr ehluxngrungwari nkbinesiychiwit inwnthi 14 kumphaphnth 2554 ekhruxngbin F 16 ADF canwn 2 ekhruxngcakfungbin 102 kxngbin 1 c nkhrrachsima prasbxubtiehtutkbnethuxkekhaphuaelnkha inphunthihmu 3 aelahmu 4 t thahinongm x emuxng cnghwdchyphumi khnathakarfukkhxbraokld Cobra Gold rwmkbkxngthphxakasshrth nkbinthngsxngnaykhux nawaxakastri kvsda sukhcnthr aela eruxxakasexk chchchannth phrhmedch samarthdidtwxxkcakekhruxngidxyangplxdphy inwnthi 20 kumphaphnth 2558 emuxewla 14 53 n ekidehtuekhruxngbinkhbilaebb F 16A khxngfungbin 103 kxngbin 1 nkhrrachsima tkthi m 4 t wngephling x okhksaorng c lphburi tkrahwangkarfuk khnaptibtipharkicfukbinichxawuththangxakas tamwngrxbpktikhxngkxngbin thisnamchybadal odyminkbinchux r x nphnnth niwasannth esiychiwit swnsaehtuthiekhruxngbintkinkhrngni yngimsamarthsrupidduephimkarphthnathiekiywkhxng ecenrl idnamiks exf 16exksaexl mitsubichi exf 2 ekhruxngbinthiethiybetha echingtu ec 10 dsoslth mirac 2000 exf 20 ithekxrcharkh yas 39 miokhyn mik 29raylaexiyd exf 16silukerux 1 nay khwamyaw 15 emtr khwamsung 4 8 emtr rayarahwangplaypik 9 45 emtr phunthipik 27 87 tarangemtr nahnkepla 8 670 kiolkrm nahnkphrxmxawuth 12 000 kiolkrm nahnkwingkhunsungsud 14 968 kiolkrm khumkalng phrxmsndapthayaebbexf110 cixi 100 ihaerngkhb 17 155 pxndaela 28 600 pxndemuxich khwamerwsungsud 1 2 mkh 1 470 kiolemtrtxchwomng inradbnathael 2 27 mkh 2 415 kiolemtrtxchwomng inradbsung rsmithakarrb 550 kiolemtrphrxmraebid 450 kiolkrm rayainkarkhnsng 4 220 kiolmtrphrxmthngthisldthingid ephdanbinthakar gt 60 000 fut xtrakaritradb 50 000 futtxnathi nahnkbrrthukthipik 194 kiolkrmtxtarangemtr xtraaerngkhbtxnahnk 1 1punexm61ex1 bnaethnaesdngxawuth pun exm61 wlaekhnkhnad 20 m m hnungkrabxk phrxmkrasun 515 nd crwd kraepaacrwdaebbaexlexyu 61 aexlexyu 68 4 xn aetlaxnmicrwd 19 aela 7 luktamladb hrux kraepaacrwdaebbaexlexyu 5003 4 xn aetlaxnmicrwd 19 luk hrux kraepaacrwdaebbaexlexyu 10 4 xn aetlaxnmicrwd 4 luk khipnawuth khipnawuthxakassuxakas exixexm 7 saeprorw 2 luk hrux exixexm 9 isdiwnedxr 6 luk hrux ixris thi 6 luk hrux exixexm 120 aexmaerm 6 luk hrux 6 luk khipnawuthxakassuphun 6 luk hrux exciexm 65 maewxrrik 6 luk hrux 4 luk exciexm 84 harphun 2 luk hrux 4 luk raebid 2 luk 2 luk 2 luk 4 luk 6 luk raebidwithidwyelesxrtrakulephfewy 6 luk 4 luk 4 luk 8 luk 12 luk xun ekhruxngplxyphlulxepaaebbexsyuyu 42ex ex hrux xiexmsiaebbexexn exaexlkhiw 131 aelaexexn exaexlkhiw 184 hrux kraepaahaepaaebbaelnethirn lxkhid martin sinepxr exksxar aelailthning hrux thngechuxephlingthingidkhnad 300 330 370 aekllxnshrth idmakthung 3 thngephuxthakarkhnsnghruxephimraya xielkhthrxnikxakas erdaraebbexexn exphici 68xangxingwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb exf 16 US Air Force October 2007 Lockheed Martin press release 8 June 2008 United States Government Awards Lockheed Martin Contract to Begin Production of Advanced F 16 Aircraft for Morocco 2009 01 04 thi ewyaebkaemchchin Retrieved 11 July 2008 Rosenwald Michael S updated 17 December 2007 Downside of Dominance Popularity of Lockheed Martin s F 16 Makes Its F 35 Stealth Jet a Tough Sell Washington Post Retrieved 11 July 2008 Anon undated Company Histories Lockheed Martin Corporation Funding Universe Retrieved 11 July 2008 F 16 Fighting Falcon F16 or Viper Peacock 1997 p 100 Tirpak John A Making the Best of the Fighter Force Air Force Magazine March 2007 Retrieved 23 June 2008 Spick Mike ed F 16 Fighting Falcon Great Book of Modern Warplanes MBI 2000 ISBN 0 7603 0893 4 Richardson 1990 p 7 Hillaker Harry Tribute To John R Boyd 2009 06 01 thi ewyaebkaemchchin Code One July 1997 Retrieved 7 June 2008 Hehs Eric Harry Hillaker Father of the F 16 2008 12 16 thi ewyaebkaemchchin Code One April amp July 1991 Retrieved 7 June 2008 Jenkins Dennis R McDonnell Douglas F 15 Eagle Supreme Heavy Weight Fighter p 6 Arlington TX Aerofax 1998 ISBN 1 85780 081 8 Richardson 1990 pp 7 8 Coram Robert Boyd the Fighter Pilot Who Changed the Art of War New York Little Brown and Co 2002 ISBN 0 316 88146 5 Peacock 1997 pp 9 10 Richardson 1990 pp 7 9 Peacock 1997 pp 10 11 Richardson 1990 pp 8 9 Richardson 1990 pp 12 13 Richardson 1990 p 14 Peacock 1997 pp 12 13 Anon YF 16 The Birth of a Fighter F 16 net Retrieved 13 June 2008 Peacock 1997 pp 13 16 Richardson 1990 p 13 Peacock 1997 pp 14 17 19 33 34 Peacock 1997 pp 17 19 33 34 Peacock 1997 pp 14 16 21 Richardson 1990 pp 13 15 Anon Lockheed Martin F 16 Fighting Falcon Jane s All The World s Aircraft updated 21 January 2008 Retrieved 30 May 2008 Peacock 1997 pp 31 32 Spick 2000 p 196 Goebel Greg F 16 Origins Vectorsite 1 April 2007 Retrieved 14 June 2008 Chambers Joseph R Lockheed Martin F 16 Fighting Falcon Curing Deep Stall in Partners in Freedom Contributions of the Langley Research Center to U S Military Aircraft of the 1990 s 2008 08 20 thi ewyaebkaemchchin Monographs in Aerospace History Number 19 The NASA History Series NASA SP 2000 4519 Washington DC 2000 Retrieved 22 June 2008 Goebel Greg F 16 Variants Vectorsite net 1 April 2007 Retrieved 26 May 2008 Darling 2003 p 56 Camm Frank The F 16 Multinational Staged Improvement Program A Case Study of Risk Assessment and Risk Management 2008 12 16 thi ewyaebkaemchchin Accession No ADA281706 RAND Corp 1993 Retrieved 2 June 2008 F 16 Fighting Falcon Service Life Global Security Retrieved 30 May 2008 Peacock 1997 pp 99 102 Richardson 1990 p 10 Hoh Roger H and David G Mitchell Flying Qualities of Relaxed Static Stability Aircraft Volume I Flying Qualities Airworthiness Assessment and Flight Testing of Augmented Aircraft 2008 12 16 thi ewyaebkaemchchin DOT FAA CT 82 130 I Federal Aviation Administration September 1983 pp 11ff Retrieved 16 June 2008 Aronstein David C amp Piccirillo Albert C The Lightweight Fighter Program A Successful Approach to Fighter Technology Transition AIAA 1996 p 21 Retrieved 25 October 2008 Greenwood Cynthia Air Force Looks at the Benefits of Using CPCs on F 16 Black Boxes CorrDefense Spring 2007 Retrieved 16 June 2008 Hoh and Mitchell 1983 p 5 Retrieved 16 June 2008 Richardson 1990 p 12 Nielsen Mats undated 2007 Total Immersion Fuel Tank Airborne Cable Assemblies 2007 05 02 thi ewyaebkaemchchin Glenair Retrieved 16 June 2008 Day Dwayne A Computers in Aviation 2007 06 07 thi ewyaebkaemchchin U S Centennial of Flight Commission 2003 Retrieved 16 June 2008 Peacock 1997 p 99 Albano J J and J B Stanford Prevention of Minor Neck Injuries in F 16 Pilots Aviation Space and Environmental Medicine 69 1998 1193 9 Peacock 1997 pp 99 100 Sherman Robert F 16 Fighting Falcon Federation of American Scientists FAS updated 30 May 2008 Retrieved 20 June 2008 Pike John F 16 Fighting Falcon Global Security updated 27 April 2005 Retrieved 20 June 2008 Task H L December 1983 Optical Effects of F 16 Canopy HUD Head Up Display Integration Accession No ADP003222 Air Force Aerospace Medical Research Lab Anon undated Joint Helmet Mounted Cueing System JHMCS Boeing Integrated Defense Systems Anon F 16 Fighting Falcon Multi Role Fighter Aircraft USA Airforce technology com Retrieved 21 June 2008 Anon F 16E F Block 60 F 16 net Retrieved 21 June 2008 Anon The AN APG 66 Radar Avitop com Retrieved 21 June 2008 Kopp Carlo Active Electronically Steered Arrays A Maturing Technology Australian Aviation June 2002 as reprinted by Air Power Australia Retrieved 21 June 2008 Shamim Asif Raytheon and Northrop Grumman battle over F 16 radars F 16 net 7 November 2007 Retrieved 21 June 2008 Anon Boeing Selects Raytheon to Provide AESA Radar for U S Air Force F 15E Strike Eagles Boeing News Release 1 November 2007 Retrieved 21 June 2008 Peacock 1997 pp 102 103 Pike John F100 PW 100 200 Global Security updated 13 March 2006 Retrieved 21 June 2008 Peacock 1997 p 103 Camm Frank and Thomas K Glennan Jr The Development of the F100 PW 220 and F110 GE 100 Engines N 3618 AF RAND Corp 1993 Retrieved 21 June 2008 Anon F 16C D Block 30 32 F 16 net Retrieved 21 June 2008 Pike John F110 Global Security updated 15 March 2006 Retrieved 21 June 2008 Iskra Alex 26 September 2003 GD L M F 16A B Netz in Israeli Service Air Combat Information Group ACIG Retrieved 16 May 2008 Grant Rebecca Osirak and Beyond 2008 10 11 thi ewyaebkaemchchin Air Force Magazine August 2002 Retrieved 16 May 2008 Schow Jr Kenneth C Lt Col USAF Falcons Against the Jihad Israeli Airpower and Coercive Diplomacy in Southern Lebanon 2009 03 25 thi ewyaebkaemchchin Air University Press November 1995 Retrieved 16 May 2008 Pakistan Border Battles 2012 02 12 thi ewyaebkaemchchin Pakistan Military Consortium Retrieved 17 May 2008 Weisman Steven R Afghans Down a Pakistani F 16 Saying Fighter Jet Crossed Border The New York Times 2 May 1987 Retrieved 10 August 2008 Anon F 16 Aircraft Database F 16 Airframe Details for 81 0918 F 16 net Retrieved 10 August 2008 http www f 16 net aircraft database F 16 airframe profile 2254 http www f 16 net aircraft database F 16 airframe profile 2283 http www f 16 net aircraft database F 16 airframe profile 1720 Anon F 16 Accident Reports for 1991 F 16 net Retrieved 16 May 2008 Anon USAF Manned Aircraft Combat Losses 1990 2002 2009 03 25 thi ewyaebkaemchchin Air Force Historical Research Agency Retrieved 16 May 2008 http www f 16 net aircraft database F 16 mishaps and accidents year 1991 Anon Aerial Victory Credits 2009 06 27 thi ewyaebkaemchchin Air Force Historical Research Agency Retrieved 16 May 2008 Anon F 16 Aircraft Database F 16 Airframe Details for 90 0778 F 16 net Retrieved 16 May 2008 Anon F 16 Aircraft Database F 16 Airframe Details for 86 0262 F 16 net Retrieved 16 May 2008 NewsHour with Jim Lehrer Secretary Albright transcript PBS 17 December 1998 Retrieved 16 May 2008 Cooper Tom and Juan Sosa Venezuelan Coup Attempt 1992 Air Combat Information Group ACIG 1 September 2003 Retrieved 16 May 2008 Palmer Eric L USAF F 16s shoot down 4 Serb attack aircraft F 16 net 28 February 1994 Retrieved 16 May 2008 Anon U S Air to Air Victories during the Cold War Wars in Yugoslavia and Anti Terror War Air Combat Information Group ACIG 28 October 2003 updated 18 September 2004 Retrieved 16 May 2008 Anon F 16 Aircraft Database F 16 Airframe Details for 89 2032 F 16 net Retrieved 16 May 2008 Anon Yugoslav amp Serbian MiG 29s Air Combat Information Group ACIG 30 November 2003 Retrieved 16 May 2008 Roberts Chris Holloman commander recalls being shot down in Serbia F 16 net 7 February 2007 Retrieved 16 May 2008 Anon F 16 Aircraft Database F 16 Airframe Details for 88 0550 F 16 net Retrieved 16 May 2008 Anon F 16 Aircraft Database F 16 Airframe Details for 91 0023 F 16 net Retrieved 18 May 2008 Anon Greek amp Turkish Air to Air Victories Air Combat Information Group ACIG 28 October 2003 updated 18 September 2004 Retrieved 16 May 2008 Dewitte Lieven Deadly 1996 Aegean clash is confirmed F 16 net 22 May 2003 Retrieved 16 May 2008 Greek F 16 and Turkish F 16 collide 1 pilot OK F 16 net 23 May 2006 Retrieved 16 May 2008 Strategy date 2005 05 20 Anon F 16s complete one thousand hours of flight operations over Afghanistan 2008 05 27 thi ewyaebkaemchchin Dutch Ministry of Defense 3 January 2006 Retrieved 16 May 2008 http news bbc co uk 2 hi south asia 5303600 stm F 16 mishap horror F 16 net 12 July 2007 F 16 Mishap Horror lingkesiy http www globalsecurity org military world pakistan f 16 htm http www myembarq com news read php rip id 3CD97RF9VO0 40news ap org 3E amp ps 1012 amp LT MNEW LARSDCCL2 UNEWS lingkesiy khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2009 05 11 subkhnemux 2009 05 15 Anon F 16 Aircraft Database F 16 Airframe Details for 88 0424 F 16 net Retrieved 16 May 2008 Weisman Jonathan Patriot Missiles Seemingly Falter For Second Time Glitch in Software Suspected Washington Post 26 March 2003 via Global Security Retrieved 17 May 2008 Iraq Terror Chief Killed in Airstrike CBS News 8 June 2006 Retrieved 29 June 2008 Anon US F 16 goes down in Iraq 27 November 2006 Retrieved 17 May 2008 Anon F 16 Aircraft Database F 16 Airframe Details for 90 0776 F 16 net Retrieved 16 May 2008 Pilot killed in an F 16 fighter crash on takeoff in Iraq Air Force says International Herald Tribune 16 June 2007 Retrieved 17 May 2008 U S F 16 warplane crashes in Iraq pilot uninjured Xinhua News Agency 17 July 2007 Retrieved 17 May 2008 PDF khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2009 03 25 subkhnemux 2009 05 16 PDF khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2009 03 25 subkhnemux 2009 05 16 1 F 16 fire http www airforcetimes com news 2009 03 airforce iran uav 031609 Harel Amos IDF fighter jet crashes during take off in Negev no injuries Haaretz 20 July 2007 Retrieved 16 May 2008 http www f 16 net aircraft database F 16 mission markings airforce IDFAF F 16A B Block 1 5 10 15 15OCU 20 F 16 net Retrieved 25 January 2009 Darling 2003 p 59 F 16C D Block 25 F 16 net Retrieved 25 January 2009 F 16C D Block 30 32 F 16 net Retrieved 25 January 2009 F 16C D Block 40 42 F 16 net Retrieved 25 January 2009 F 16C D Block 50 52 F 16 net Retrieved 25 January 2009 Anon A 16 F A 16 F 16A 30mm gun F 16 net Retrieved 21 May 2008 Dubai 2007 UAE shows off its most advanced Falcons FlightGlobal com 11 November 2007 23 March 1994 crash Aviation Safety Net Grandson of Begin Lost in Israeli F 16 Crash The New York Times 29 March 2000 Retrieved 13 June 2008 F 16 Crash Frawley Gerard The International Directory of Military Aircraft p 114 Aerospace Publications Pty Ltd 2002 ISBN 1 875671 55 2 F 16 page Aerospaceweb org F 16 Specifications GlobalSecurity org brrnanukrm Darling Kev F 16 Fighting Falcon Combat Legend London Airlife 2003 ISBN 1 84037 399 7 Hehs Eric Harry Hillaker Father of the F 16 2008 12 16 thi ewyaebkaemchchin Code One An Airpower Projection Magazine April July 1991 Hillaker Harry John Boyd USAF Retired Father of the F 16 2009 06 01 thi ewyaebkaemchchin Code One An Airpower Projection Magazine April July 1997 Mehuron Tamar A Assoc Editor 2007 USAF Almanac Equipment 2011 12 09 thi ewyaebkaemchchin Air Force Magazine Journal of the Air Force Association 90 5 May 2007 ISSN 0730 6784 Peacock Lindsay On Falcon Wings The F 16 Story RAF Fairford United Kingdom The Royal Air Force Benevolent Fund Enterprises 1997 ISBN 1 899808 01 9 Richardson Doug General Dynamics F 16 Fighting Falcon London Salamander Books 1990 ISBN 0 86101 534 7 Spick Mike ed Great Book of Modern Warplanes St Paul MN MBI 2000 ISBN 0 7603 0893 4 aehlngkhxmulxunexf 16 in LockheedMartin com 2009 02 25 thi ewyaebkaemchchin exf 16 in GlobalSecurity org F 16 net Extensive and up to date aehlngifthingfxlkhxn exf 16 in Aerospaceweb org khawokhrngkarphthnaexf 16 2006 08 18 thi ewyaebkaemchchin