อังค์เคเปอร์อูเร-เมริต-เนเฟอร์เคเฟอร์อูเร/วาเอนเร/อาเตน เนเฟอร์เนเฟอร์อูอาเตน (อียิปต์โบราณ: nfr-nfrw-jtn)[] เป็นพระนามที่ใช้เรียกฟาโรห์สตรีที่ทรงขึ้นครองราชย์ในช่วงปลายระหว่างช่วงราชวงศ์ที่สิบแปด เพศของพระองค์ได้รับการยืนยันโดยร่องรอยของความเป็นสตรีที่พบในพระนามฉายา อาเคต-เอน-ฮิเอส Akhet-en-hyes ("ให้ผลสำเร็จแด่กับพระสวามีของพระองค์") ซึ่งปรากฏรวมอยู่ในคาร์ทูชพระนามประสูติของพระองค์ พระองค์ทรงแตกต่างจากฟาโรห์สเมนค์คาเรทั้งที่ผู้ปกครองทั้งสองพระองค์นั้นทรงให้พระนามครองราชย์เดียวกันว่า อังค์เคเปอร์อูเร โดยปรากฏพระนามฉายาอยู่ในคาร์ทูชของทั้งสองพระองค์ มีการสันนิษฐานว่าพระองค์ทรงเป็นบุคคลพระองค์เดียวกันกับพระนางเมริตอาเตนหรือพระนางเนเฟอร์ติติ หากพระองค์ทรงเป็นบุคคลพระองค์เดียวกันกับพระนางเนเฟอร์ติติ ก็จะทรงขึ้นปกครองในฐานะฟาโรห์แต่เพียงพระองค์เดียว นักและนักโบราณคดี ดร. ได้ตั้งข้อสันนิษฐานไว้ว่า รัชสมัยของพระองค์เป็นจุดที่แสดงถึงการล่มสลายของเมืองอามาร์นา และการย้ายเมืองหลวงกลับไปยังราชธานีเดิมคือเมืองธีบส์
เนเฟอร์เนเฟอร์อูอาเตน | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ฟาโรห์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รัชกาล | ราว 1334–1332 ปีก่อนคริสตกาล | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ก่อนหน้า | สเมนค์คาเร | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ถัดไป | ทุตอังค์คามุน | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คู่เสกสมรส | ถ้าทรงเป็นพระนางเนเฟอร์ติติ คือ อะเคนอาเตน ถ้าทรงเป็นพระนางเมริตอาเตน คือ สเมนค์คาเร | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
สวรรคต | ราว 1332 ปีก่อนคริสตกาล | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ราชวงศ์ | ราชวงศ์ที่สิบแปดแห่งอียิปต์ |
ข้อสรุปเกี่ยวกับพระองค์
นอกจากนี้ยังสามารถกล่าวได้เล็กน้อยอย่างแน่นอนเกี่ยวกับพระชนม์ชีพและการครองราชย์ของฟาโรห์อังค์เคเฟอร์อูเร เนเฟอร์เนเฟอร์อูอาเตน ซึ่งนักไอยคุปต์วิทยาส่วนใหญ่ยอมรับว่าพระองค์ทรงเป็นสตรีและทรงเป็นอิสระในการขึ้นปกครองจากฟาโรห์สเมนค์คาเร นักวิชากรหลายคนในช่วงเวลานั้นเชื่อว่า หลักฐานเชิงประจักษ์ที่บ่งชี้อย่างชัดเจนว่าพระองค์ทรงทำหน้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการร่วมกับฟาโรห์อะเคนอาเตนอยู่ระยะหนึ่ง ไม่ว่าพระองค์จะทรงขึ้นครองราชย์ก่อนหรือหลังรัชสมัยของฟาโรห์สเมนค์คาเร ขึ้นอยู่กับทฤษฎีพื้นฐานเกี่ยวกับตัวตนของพระองค์
ตามคำจารึกของพาอิริ ซึ่งได้ช่วงเวลาในปีที่ 3 แห่งการครองราชย์ของพระองค์ ซึ่งปรากฏว่ารัชสมัยของพระองค์ พระองค์ทรงมีพระราชสถานะเป็นผู้ปกครองที่ขึ้นปกครองเพียงพระองค์เดียว ส่วนเรื่องระยะเวลาที่ทรงขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการร่วมและระยะเวลาการปกครองเพียงพระองค์เดียวนั้นก็ยังเป็นประเด็นในการถกเถียงและคาดคะเน คำจารึกจากหลุมฝังศพเดียวกันนี้ได้กล่าวถึงวิหารแห่งอามุนในเมืองธีบส์ ซึ่งอาจจะเป็นสถานที่ที่เกี่ยวพระบรมศพ ซึ่งดูเหมือนว่าจะบ่งบอกว่าการกดทับของลัทธิแห่งเทพอามุนได้ลดลงแล้ว และศาสนาดั้งเดิมกำลังได้รับการฟื้นฟูในช่วงปลายรัชสมัยของพระองค์ เนื่องจากสิ่งของในพิธีพระบรมศพของพระองค์ส่วนใหญ่ใช้ในการฝังพระบรมศพของฟาโรห์ทุตอังค์อามุน ซึ่งดูเหมือนว่าค่อนข้างแน่ใจว่าพระองค์ทรงถูกปฏิเสธไม่ให้ฝังพระบรมศพอย่างตำแหน่งฟาโรห์โดยผู้สืบทอดพระราชบัลลังก์ของพระองค์[18][33][50] เหตุผลของประเด็นนี้ยังคงเป็นเพียงการคาดเดา เช่นเดียวกับการขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์กับฟาโรห์ทุตอังค์อาเตน
หลักฐานมากมายที่ถูกทำลายครั้งแรกโดยผู้สืบทอดพระราชบัลลังก์ของพระองค์ ต่อจากนั้นหลักฐานตลอดช่วงสมัยอามาร์นาก็ถูกทำลายโดยฟาโรห์ฮอร์เอมเฮบ และต่อมาก็เป็นฟาโรห์แห่งราชวงศ์ที่สิบเก้าก็ทรงทำลายหลักฐานจากช่วงเวลาดังกล่าวอย่างเบ็ดเสร็จ จึงไม่สามารถทราบรายละเอียดที่แน่นอนของกิจกรรมภายในรัชสมัยได้ ลักษณะของหลักฐานที่มีความคลุมเครือสูงซึ่งมักจะบ่งชี้ถึงบางสิ่งบางอย่าง แต่ก็ขาดหลักฐานที่ใช้ในการยืนยัน ในจารึกต่างๆ การกล่าวถึงการที่สตรีขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการร่วมอย่างชัดเจน แต่กลับไม่ได้ให้ข้อสรุปเกี่ยวกับตัวตนของพระองค์เลย
อ้างอิง
- Krauss, Rolf. Das Ende der Amarnazeit (The End of the Amarna Period); 1978, Hildesheim; pp.43–47
- Allen, James P. (1994). Nefertiti and Smenkh-ka-re. Göttinger Miszellen 141. pp. 7–17.
- , , in P. Brand (ed.), "Causing His Name to Live: Studies in Egyptian Epigraphy and History in Memory of .", Leiden: E. J. Brill Academic Publishers, pp. 17-21
- Badger Utopia (11 August 2017), Nefertiti - Mummy Queen of Mystery, สืบค้นเมื่อ 30 October 2017
- Reeves, C. Nicholas; Akhenaten, Egypt's False Prophet; (2001) Thames and Hudson
- Dodson, A; Amarna Sunset, The American University in Cairo Press, 2009
- Allen, James P.; (2006); in P. Brand (ed.), "Causing His Name to Live: Studies in Egyptian Epigraphy and History in Memory of William J. Murnane"; Archived from the original 30 พฤษภาคม 2013(Date mismatch) ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Giles, 2001
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
xngkhekhepxrxuer emrit enefxrekhefxrxuer waexner xaetn enefxrenefxrxuxaetn xiyiptobran nfr nfrw jtn txngkarxangxing epnphranamthiicheriykfaorhstrithithrngkhunkhrxngrachyinchwngplayrahwangchwngrachwngsthisibaepd ephskhxngphraxngkhidrbkaryunynodyrxngrxykhxngkhwamepnstrithiphbinphranamchaya xaekht exn hiexs Akhet en hyes ihphlsaercaedkbphraswamikhxngphraxngkh sungpraktrwmxyuinkharthuchphranamprasutikhxngphraxngkh phraxngkhthrngaetktangcakfaorhsemnkhkhaerthngthiphupkkhrxngthngsxngphraxngkhnnthrngihphranamkhrxngrachyediywknwa xngkhekhepxrxuer odypraktphranamchayaxyuinkharthuchkhxngthngsxngphraxngkh mikarsnnisthanwaphraxngkhthrngepnbukhkhlphraxngkhediywknkbphranangemritxaetnhruxphranangenefxrtiti hakphraxngkhthrngepnbukhkhlphraxngkhediywknkbphranangenefxrtiti kcathrngkhunpkkhrxnginthanafaorhaetephiyngphraxngkhediyw nkaelankobrankhdi dr idtngkhxsnnisthaniwwa rchsmykhxngphraxngkhepncudthiaesdngthungkarlmslaykhxngemuxngxamarna aelakaryayemuxnghlwngklbipyngrachthaniedimkhuxemuxngthibsenefxrenefxrxuxaetnfaorhrchkalraw 1334 1332 pikxnkhristkalkxnhnasemnkhkhaerthdipthutxngkhkhamunphraprmaphiithyphranamkhrxngrachyxngkhekhepxrxuer phranamchayathiephim phranamprasutienefxrenefxrxuxaetn phranamchayathiephim khuesksmrsthathrngepnphranangenefxrtiti khux xaekhnxaetn thathrngepnphranangemritxaetn khux semnkhkhaerswrrkhtraw 1332 pikxnkhristkalrachwngsrachwngsthisibaepdaehngxiyiptkhxsrupekiywkbphraxngkhnxkcakniyngsamarthklawidelknxyxyangaennxnekiywkbphrachnmchiphaelakarkhrxngrachykhxngfaorhxngkhekhefxrxuer enefxrenefxrxuxaetn sungnkixykhuptwithyaswnihyyxmrbwaphraxngkhthrngepnstriaelathrngepnxisrainkarkhunpkkhrxngcakfaorhsemnkhkhaer nkwichakrhlaykhninchwngewlannechuxwa hlkthanechingpracksthibngchixyangchdecnwaphraxngkhthrngthahnathiepnphusaercrachkarrwmkbfaorhxaekhnxaetnxyurayahnung imwaphraxngkhcathrngkhunkhrxngrachykxnhruxhlngrchsmykhxngfaorhsemnkhkhaer khunxyukbthvsdiphunthanekiywkbtwtnkhxngphraxngkh tamkhacarukkhxngphaxiri sungidchwngewlainpithi 3 aehngkarkhrxngrachykhxngphraxngkh sungpraktwarchsmykhxngphraxngkh phraxngkhthrngmiphrarachsthanaepnphupkkhrxngthikhunpkkhrxngephiyngphraxngkhediyw swneruxngrayaewlathithrngkhunepnphusaercrachkarrwmaelarayaewlakarpkkhrxngephiyngphraxngkhediywnnkyngepnpraedninkarthkethiyngaelakhadkhaen khacarukcakhlumfngsphediywknniidklawthungwiharaehngxamuninemuxngthibs sungxaccaepnsthanthithiekiywphrabrmsph sungduehmuxnwacabngbxkwakarkdthbkhxnglththiaehngethphxamunidldlngaelw aelasasnadngedimkalngidrbkarfunfuinchwngplayrchsmykhxngphraxngkh enuxngcaksingkhxnginphithiphrabrmsphkhxngphraxngkhswnihyichinkarfngphrabrmsphkhxngfaorhthutxngkhxamun sungduehmuxnwakhxnkhangaenicwaphraxngkhthrngthukptiesthimihfngphrabrmsphxyangtaaehnngfaorhodyphusubthxdphrarachbllngkkhxngphraxngkh 18 33 50 ehtuphlkhxngpraednniyngkhngepnephiyngkarkhadeda echnediywkbkarkhunepnphusaercrachkaraethnphraxngkhkbfaorhthutxngkhxaetn hlkthanmakmaythithukthalaykhrngaerkodyphusubthxdphrarachbllngkkhxngphraxngkh txcaknnhlkthantlxdchwngsmyxamarnakthukthalayodyfaorhhxrexmehb aelatxmakepnfaorhaehngrachwngsthisibekakthrngthalayhlkthancakchwngewladngklawxyangebdesrc cungimsamarththrabraylaexiydthiaennxnkhxngkickrrmphayinrchsmyid lksnakhxnghlkthanthimikhwamkhlumekhruxsungsungmkcabngchithungbangsingbangxyang aetkkhadhlkthanthiichinkaryunyn incaruktang karklawthungkarthistrikhunepnphusaercrachkarrwmxyangchdecn aetklbimidihkhxsrupekiywkbtwtnkhxngphraxngkhelyxangxingKrauss Rolf Das Ende der Amarnazeit The End of the Amarna Period 1978 Hildesheim pp 43 47 Allen James P 1994 Nefertiti and Smenkh ka re Gottinger Miszellen 141 pp 7 17 in P Brand ed Causing His Name to Live Studies in Egyptian Epigraphy and History in Memory of Leiden E J Brill Academic Publishers pp 17 21 Badger Utopia 11 August 2017 Nefertiti Mummy Queen of Mystery subkhnemux 30 October 2017 Reeves C Nicholas Akhenaten Egypt s False Prophet 2001 Thames and Hudson Dodson A Amarna Sunset The American University in Cairo Press 2009 Allen James P 2006 in P Brand ed Causing His Name to Live Studies in Egyptian Epigraphy and History in Memory of William J Murnane Archived from the original 30 phvsphakhm 2013 Date mismatch thi ewyaebkaemchchin Giles 2001