อาหารแบบแดช หรือการคุมอาหารแบบแดช (อังกฤษ: DASH diet) เป็นชื่อย่อจากคำภาษาอังกฤษว่า "Dietary Approaches to Stop Hypertension" ซึ่งแปลว่า วิธีการคุมอาหารเพื่อระงับความดันโลหิตสูง เป็นรูปแบบอาหารที่สถาบันหัวใจ ปอด และโลหิตแห่งชาติ (NHLBI ซึ่งเป็นส่วนของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (สหรัฐอเมริกา)) ส่งเสริมเพื่อป้องกันและควบคุมภาวะความดันโลหิตสูง เป็นรูปแบบอาหารที่สมบูรณ์ด้วยผลไม้ ผัก ข้าวไม่ขัดสี และอาหารจากผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ ตลอดจนเนื้อสัตว์ เนื้อปลา เนื้อไก่ ถั่วประเภทต่าง ๆ และจำกัดอาหารและเครื่องดื่มที่เติมน้ำตาล เนื้อแดง (สีแดงเมื่อยังไม่สุกเช่น เนื้อวัว หมู แกะ) และที่เติมไขมัน นอกจากจะมีผลดีต่อความดันโลหิต ก็เป็นอาหารสมดุลสำหรับบุคคลทั่วไปด้วย นอกเหนือจาก NHLBI แล้ว กระทรวงเกษตรกรรมสหรัฐ (USDA) ซึ่งเป็นองค์กรที่กำหนดแนวทางอาหารในสหรัฐ ก็แนะนำรูปแบบอาหารนี้ด้วยว่า เป็นแผนการทานอาหารที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งสำหรับทุก ๆ คน
โปรแกรมอาหารนี้มาจากงานศึกษาของสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐ (NIH) ที่ได้ตรวจแผนการทานอาหาร 3 อย่างกับผลต่อสุขภาพ แผนทั้ง 3 อย่างนี้ไม่ใช่อาหารเจ แต่อาหารแบบแดชก็รวมผักผลไม้ ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำหรือปลอดไขมัน และถั่วมากกว่าแผนอื่น ๆ ในผู้มีความดันซึ่งใกล้จัดได้ว่าเป็นความดันโลหิตสูง การทานอาหารตามแบบจะลดความดันเลือดระยะหัวใจบีบตัวได้ 6 mm Hg และความดันระยะหัวใจคลายตัวได้ 3 mm Hg ในผู้มีความดันสูง ความดันจะลด 11 mm Hg และ 6 mm Hg ตามลำดับ ความดันโลหิตเปลี่ยนโดยไม่ได้เพิ่มหรือลดน้ำหนัก การทานอาหารจะปรับตามพลังงานที่ร่างกายต้องการเริ่มจากที่ 1,600 กิโลแคลอรีจนถึง 3,100 กิโลแคลอรี
รูปแบบอาหารได้ทดสอบและพัฒนาเพิ่มขึ้นในงานทดลอง Optimal Macronutrient Intake Trial for Heart Health (OmniHeart) "การทดลอง DASH และ DASH-sodium ได้แสดงว่า อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง, เน้นผลไม้ ผัก และผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ, ลดไขมันอิ่มตัว ไขมันโดยรวม และคอเลสเตอรอล จะลดความดันโลหิตและคอเลสเตอรอลแบบไม่ดี คือ LDL ได้อย่างสำคัญ ส่วนการทดลอง OmniHeart แสดงว่าการแทนคาร์โบไฮเดรตบางส่วนด้วยโปรตีน (ครึ่งหนึ่งมาจากพืช) หรือด้วยไขมันไม่อิ่มตัว (โดยมากเป็นไขมันมีพันธะคู่เดี่ยว) จะลดความดัน ลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี คือ LDL และลดความเสี่ยงโรคหัวใจได้เพิ่มยิ่งขึ้น"
ในปี 2018 นิตยสารสหรัฐ U.S. News & World Report ได้จัดแบบอาหารนี้ในบรรดา 40 แบบว่าดีสุดในหมวดการควบคุมอาหารที่ดีสุดโดยทั่วไป (Best Diets Overall) อาหารถูกสุขภาพ (For Healthy Eating) อาหารที่ถูกสุขภาพหัวใจ (Best Heart-Healthy Diet) และจัดเป็นอันดับสองในหมวดอาหารสำหรับโรคเบาหวาน (For Diabetes)
ประวัติและการออกแบบ
พื้นเพ
ปัจจุบันเชื่อว่า ความดันโลหิตสูงเป็นปัญหาสำหรับคนอเมริกัน 50 ล้านคน (จากประชากร 324 ล้านคนโดยมีผู้ใหญ่ประมาณ 245 ล้านคน) และคนทั่วโลก 1 พันล้านคน ตามสถาบันหัวใจ ปอด และโลหิตแห่งชาติสหรัฐ (NHLBI) โดยอ้างอิงข้อมูลเริ่มตั้งแต่ปี 2002 ความดันโลหิตสูง (BP) สัมพันธ์กับความเสี่ยงการเกิดปัญหาโรคหัวใจร่วมหลอดเลือด (CVD) อย่างต่อเนื่อง คงเส้นคงวา และเป็นอิสระจากปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ความดันยิ่งสูงเท่าไร โอกาสเกิดหัวใจล้ม หัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง และโรคไตก็สูงขึ้นเท่านั้น สำหรับผู้มีอายุระหว่าง 40-70 ปี ความดันระยะหัวใจบีบตัวที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ 20 mm Hg หรือความดันระยะหัวใจคลายตัวที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ 10 mm Hg จะเพิ่มความเสี่ยง CVD เป็นทวีคูณเริ่มตั้งแต่ความดัน 115/75 mm Hg จนถึง 185/115 mm Hg
ความชุกของโรคความดันทำให้สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐได้เสนอให้งบประมาณเพื่อวิจัยผลของอาหารต่อความดัน ดังนั้น ในปี 1992 NHLBI จึงได้ร่วมมือกับศูนย์วิจัยการแพทย์ที่มีชื่อเสียง 5 แห่งทั่วสหรัฐเพื่อดำเนินงานวิจัยที่ใหญ่สุดและละเอียดสุดเท่าที่เคยทำ เป็นการทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม (RCT) ซึ่งเป็นรูปแบบการทดลองที่จัดว่าดีที่สุดอย่างหนึ่ง โดยมีแพทย์ พยาบาล นักโภชนาการ นักสถิติ และผู้ประสานงาน ทำงานร่วมกันในศูนย์วิจัย 5 แห่งเพื่อเลือกผู้ร่วมการทดลองและประเมินผลที่ได้ ศูนย์วิจัยรวมทั้งมหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ (เมืองบอลทิมอร์) ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยดุ๊ก (เมืองเดอร์แฮม รัฐนอร์ทแคโรไลนา) ศูนย์วิจัยสุขภาพขององค์กร Kaiser Permanente (เมืองพอร์ตแลนด์) Brigham and Women's Hospital (นครบอสตัน) และศูนย์วิจัยชีวเวชเพ็นนิงตัน (เมืองแบตันรูช) งานทดลองเกี่ยวกับอาหารได้ทำสองครั้ง ออกแบบให้ทำในหลายศูนย์ จัดผู้ร่วมการทดลองเข้ากลุ่มโดยสุ่ม ให้อาหารทั้งหมดที่ผู้ร่วมการทดลองทาน โดยมุ่งทดสอบผลของรูปแบบอาหารต่อความดันโลหิต เกณฑ์วิธีที่ทำอย่างมีมาตรฐานและทำในหลายศูนย์เช่นนี้ ได้ใช้ในงานวิจัยขนาดใหญ่หลายงานที่ได้งบประมาณจาก NHLBI ลักษณะพิเศษของการทดลองนี้ก็คือ ได้เลือกใช้อาหารที่ทานกันเป็นปกติเพื่อให้ประชาชนยอมรับได้ง่ายถ้าได้ผล งานเริ่มในเดือนสิงหาคม 1993 แล้วยุติในเดือนกรกฎาคม 1997
งานทางวิทยาการระบาดอื่นได้แสดงแล้วว่า รูปแบบอาหารที่มีแร่ธาตุบางอย่างและมีใยอาหารสูงสัมพันธ์กับความดันเลือดที่ต่ำ แผนการอาหารนี้ได้แนวคิดจากงานวิจัยเช่นนี้
อาหาร
มีรูปแบบอาหารที่ทดสอบสองอย่างซึ่งใช้เทียบกับอาหารกลุ่มควบคุม อาหารกลุ่มควบคุมมีไขมันและโปรตีนที่เข้ากับรูปแบบ "อาหารอเมริกันปกติในเวลานั้น" แต่มีโพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียมต่ำกว่าโดยเฉลี่ย (ที่เปอร์เซ็นไทล์ 25 ของการบริโภคในสหรัฐ) รูปแบบอาหารทดลองแรกมีผักผลไม้มากกว่า แต่ที่เหลือก็เหมือนกับของกลุ่มควบคุม (เป็นกลุ่ม "อาหารผักผลไม้") ยกเว้นมีของหวาน ๆ และของว่างน้อยกว่า มีใยอาหารมากกว่า มีโพแทสเซียม แมกนีเซียม แคลเซียมมากกว่า (ที่เปอร์เซ็นไทล์ 75 ของการบริโภคในสหรัฐ) ส่วนรูปแบบอาหารทดลองที่สองมีผักผลไม้มากและมีผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ ทั่วไปมีไขมันรวมและไขมันอิ่มตัวน้อยกว่า มีใยอาหารและโปรตีนมากกว่าอาหารกลุ่มควบคุม อาหารกลุ่มนี้เรียกว่า อาหารแดช เป็นแผนที่มีใยอาหารมากกว่า มีโพแทสเซียม แมกนีเซียม แคลเซียม มากกว่า (ที่เปอร์เซ็นไทล์ 75 ของการบริโภคในสหรัฐ) มีข้าวกล้อง (ไม่ขัดสี) เนื้อเป็ดไก่ ปลา และถั่วมาก แต่มีเนื้ออื่น ๆ และของหวาน ๆ น้อย
อาหารแดชออกแบบให้มีสารอาหารสำคัญที่เชื่อว่า มีส่วนลดความดันโลหิต โดยใช้ข้อมูลจากการศึกษาทางวิทยาการระบาดที่มีมาก่อน งานพิเศษเพราะศึกษารูปแบบอาหาร ไม่ได้ศึกษาสารอาหารเดี่ยว ๆ อาหารยังมีสารต้านอนุมูลอิสระมากซึ่งนักวิชาการบางพวกเชื่อว่า ช่วยชะลอหรือป้องกันปัญหาสุขภาพเรื้อรังต่าง ๆ รวมทั้งมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง นักวิจัยยังพบด้วยว่าอาหารแดชมีประสิทธิผลป้องกันและรักษานิ่วไตได้ดีกว่าอาหารที่มีออกซาเลตต่ำ เป็นนิ่วไตแบบแคลเซียมออกซาเลตซึ่งสามัญที่สุด
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างแผนการทานอาหารแบบแดชของกระทรวงเกษตรกรรมสหรัฐ (USDA) ที่ให้พลังงาน 2,000 กิโลแคลอรีต่อวัน อาหารแต่ละกลุ่มควรปรับให้เข้ากับพลังงานที่ร่างกายใช้ในแต่ละวัน
กลุ่มอาหาร | จำนวนส่วนอาหารแต่ละวัน (ยกเว้นตามกำหนด) | ขนาดส่วนอาหาร |
---|---|---|
ข้าวกล้องและผลิตภัณฑ์ข้าวกล้อง | 7-8 | ขนมปัง 1 แผ่น ธัญพืช/ซีเรียลสำเร็จรูป* 1 ถ้วย |
ผัก | 4-5 | ผักใบสด 1 ถ้วย ผักสุก 1/2 ถ้วย |
ผลไม้ | 4-5 | ผลไม้ขนาดกลาง 1 ลูก ผลไม้แห้ง 1/4 ถ้วย |
ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำหรือปลอดไขมัน | 2-3 | นม 227 กรัม โยเกิร์ต 1 ถ้วย |
เนื้อไม่มีมัน เป็ดไก่ หรือปลา | 2 หรือน้อยกว่า | เนื้อไม่มีมัน หรือเป็ดไก่ไม่มีหนัง หรือปลา 85 กรัม |
เมล็ดถั่ว เมล็ดพืช และถั่วแห้ง | 4-5 ครั้งต่อสัปดาห์ | เมล็ดถั่ว 1/3 ถ้วยหรือ 43 กรัม เมล็ดพืช 1 ช้อนโต๊ะหรือ 14 กรัม |
ไขมันและน้ำมัน† | 2-3 | เนยเทียม "นิ่ม" 1 ช้อนชา มายองเนสไขมันต่ำ 1 ช้อนโต๊ะ |
ของหวาน | 5 ต่ออาทิตย์ | น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ แยม 1 ช้อนโต๊ะ |
- *ส่วนหนึ่งจะต่าง ๆ ระหว่าง 1/2 ถ้วยจนถึง 1 1/4 ถ้วย ดูป้ายผลิตภัณฑ์อาหาร
- †รูปแบบไขมันจะเปลี่ยนจำนวนส่วนของไขมันและน้ำมัน ยกตัวอย่างเช่น น้ำสลัดธรรมดา 1 ช้อนโต๊ะเท่ากับ 1 ส่วน, น้ำสลัดไขมันต่ำ 1 ช้อนโต๊ะเท่ากับ 1/2 ส่วน และน้ำสลัดปลอดไขมัน 1 ช้อนโต๊ะเท่ากับ 0 ส่วน
แบบงานศึกษา
ผู้ร่วมการทดลองทานอาหาร 3 รูปแบบโดยแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ (1) ตรวจคัด (screening) (2) การเดินเครื่อง (run-in) และ (3) การรักษา (intervention) ระยะแรกเป็นการตรวจคัดผู้ร่วมการทดลองอาศัยผลการวัดความดันโลหิตหลายครั้งรวม ๆ กัน ระยะที่สองทำเป็นเวลา 3 อาทิตย์ ให้ผู้ร่วมการทดลองทานอาหารกลุ่มควบคุม วัดความดันโลหิตทุกวัน ตรวจปัสสาวะครั้งหนึ่ง และตอบคำถามเกี่ยวกับอาการ ในที่สุดของระยะนี้ ผู้ที่สามารถทานตามโปรแกรมอาหารได้จะจัดเข้ากลุ่มอาหาร 3 กลุ่มดังที่ว่าโดยสุ่ม โดยจะเริ่มทานในอาทิตย์ที่ 4 ซึ่งเป็นระยะต่อไป เป็นระยะที่ทำ 8 อาทิตย์ที่ผู้ร่วมการทดลองจะทานอาหารตามที่ให้ (ตามกลุ่มที่จัดเข้าโดยสุ่ม) มีการวัดความดันโลหิตและตรวจปัสสาวะเหมือนกันในระยะนี้ บวกกับให้ตอบคำถามเกี่ยวกับอาการและการออกกำลังกาย ผู้ร่วมการทดลองกลุ่มแรกเริ่มโปรแกรมระยะที่สองในเดือนกันยายน 1994 และกลุ่มสุดท้ายคือกลุ่มที่ 5 เริ่มในเดือนมกราคม 1996
อาหารแต่ละโปรแกรมมีโซเดียม 3,000 ม.ก. เหมือน ๆ กัน ซึ่งเป็นค่าบริโภคเฉลี่ยทั่วประเทศในขณะนั้น ผู้ร่วมการทดลองยังได้เกลือ 2 ถุงพิเศษแต่ละถุงมีเกลือ 200 ม.ก. เพื่อใช้ตามแต่จะชอบ จำกัดให้ทานเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่เกิน 2 ที่แต่ละวัน และเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีนไม่เกิน 3 ที่
ผลการศึกษา
การทดลองนี้แสดงว่า รูปแบบอาหารมีผลต่อความดันโลหิตในผู้มีความดันสูงในเกณฑ์ปกติและโรคความดันสูงในระดับกลาง ๆ (ความดันช่วงหัวใจบีบตัว < 180 mm Hg และความดันช่วงหัวใจคลายตัวระหว่าง 80-95 mm Hg) อาหารแบบแดชลดความดันโลหิตโดยเฉลี่ย 5.5 mm Hg (ช่วงหัวใจบีบตัว) และ 3.0 mm Hg (ช่วงหัวใจคลายตัว) เทียบกับกลุ่มควบคุม โดยคนจำนวนน้อยส่วนหนึ่งและผู้มีความดันโลหิตสูงจะลดความดันโลหิตได้สูงสุด ผู้มีความดันสูงลดความดันได้โดยเฉลี่ย 11.4 mm Hg (ช่วงหัวใจบีบตัว) และ 5.5 mm Hg (ช่วงหัวใจคลายตัว) กลุ่มผักผลไม้ก็ได้ผลเหมือนกัน แม้ความดันจะลดน้อยกว่า คือโดยเฉลี่ยลด 2.8 mm Hg (ช่วงหัวใจบีบตัว) และ 1.1 mm Hg (ช่วงหัวใจคลายตัว)
ในบุคคลทั้งที่มีความดันสูงและไม่มี อาหารแดชได้ผลดีกว่าอาหารผักผลไม้และกลุ่มควบคุม ความดันลดลงภายในสองอาทิตย์หลังเริ่มทานอาหาร ผลที่ได้ขยายไปถึงกลุ่มตัวอย่าง (สหรัฐ) ใหญ่สุดที่ได้เก็บข้อมูล ผลข้างเคียงไม่สำคัญ แต่งานศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์รายงานว่า บางคนท้องผูก เมื่อระยะรักษา (3) สิ้นสุดลง กลุ่มควบคุม 10.1% กลุ่มผักผลไม้ 5.4% และกลุ่มแดช 4.0% รายงานว่าท้องผูก ซึ่งแสดงว่ากลุ่มการทดลองทั้ง 2 กลุ่มลดอาการท้องผูกเทียบกับกลุ่มควบคุม อาการทางกระเพาะลำไส้อื่น ๆ เกิดน้อยมากยกเว้นผู้ร่วมการทดลองผู้หนึ่ง (ในกลุ่มควบคุม) ที่มีถุงน้ำดีอักเสบ
งานศึกษาแดช-โซเดียม
แบบการศึกษา
งานศึกษาแดช-โซเดียมได้ทำต่อจากงานศึกษาแดชเพื่อกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างการทานเกลือ อาหาร และภาวะความดันโลหิตสูงรวมทั้ง
- ผลของการลดโซเดียมในอาหารอเมริกันและอาหารแดช
- ผลของการลดโซเดียมอย่างเดียว ของอาหารแดชอย่างเดียว และของทั้งสองอย่าง ต่อคนที่ความดันโลหิตปกติ
งานตรวจผลของระดับโซเดียมต่าง ๆ 3 ระดับ ทำระหว่างเดือนกันยายน 1997 จนถึงเดือนพฤศจิกายน 1999 มีจำนวนตัวอย่าง 412 คน ทำในศูนย์การทดลองหลายศูนย์ จัดผู้ร่วมการทดลองเข้ากลุ่มโดยสุ่ม และจัดอาหารทั้งหมดที่ผู้ร่วมการทดลองทาน
ผู้ร่วมการทดลองเป็นผู้ใหญ่ที่มีความดันสูงในเกณฑ์ปกติจนถึงความดันสูงระยะหนึ่ง (เฉลี่ยความดันช่วงหัวใจบีบตัวระหว่าง 120-159 mm Hg และความดันช่วงหัวใจคลายตัวระหว่าง 80-95 mm Hg) และจัดเข้ากลุ่มอาหาร 2 กลุ่มโดยสุ่ม กลุ่มแรกทานอาหารแดช และกลุ่มที่สองทาน "อาหารอเมริกันปกติ" คล้ายกับในการทดลองก่อน ซึ่งมีสารอาหารสำคัญต่าง ๆ รวมทั้งโพแทสเซียม แมกนีเซียม และแคลเซียมค่อนข้างน้อย ส่วนอาหารแดชก็เหมือนกับการทดลองก่อน
ในระยะเดินเครื่อง (ระยะ 2) สองอาทิตย์ ทุกคนจะทานอาหารกลุ่มควบคุมมีโซเดียมสูงเหมือนกัน หลังจากจัดเข้ากลุ่ม ผู้ร่วมการทดลองจะได้โซเดียมทุกวันที่ระดับใดระดับหนึ่งในสามระดับ คือ สูง (3,000 ม.ก.) กลาง (2,400 ม.ก.) และต่ำ (1,500 mg) จัดลำดับโดยสุ่ม แต่ละระดับเป็นเวลา 30วันติดต่อกัน เป็นวิธีการทดลองแบบข้ามกลุ่ม (crossover) ตลอดระยะรักษา (ระยะ 3) 30 วันต่อมา แต่ละคนจะทานอาหารของกลุ่มที่ตนอยู่โดยมีโซเดียมที่ระดับเดียว และในระยะรักษาอีก 2 รอบต่อมา ก็จะได้อาหารมีระดับโซเดียมที่เหลืออีก 2 ระดับแต่ะละระดับ 30 วันติดต่อกัน ดังนั้น ผู้ร่วมการทดลองทั้งในกลุ่มอาหารแดชและกลุ่มควบคุม จะได้อาหารในกลุ่มของตนแต่มีโซเดียมในระดับต่าง ๆ กัน 3 อย่าง ซึ่งเมื่อสุดระยะรักษา 30 วัน 3 รอบ ทุกคนจะได้ทานอาหารมีโซเดียมทั้ง 3 ระดับแล้ว
ผลและข้อสรุป
ผลหลัก (primary outcome) ของการทดลองนี้ก็คือ ความดันโลหิตช่วงหัวใจบีบตัว และผลรอง (secondary outcome) ก็คือ ความดันระยะหัวใจคลายตัว งานทดลองนี้พบว่า การลดการทานโซเดียมลดความดันทั้งสองชนิดอย่างสำคัญทั้งในกลุ่มทดลองและในกลุ่มควบคุม
การลดโซเดียมในอาหารกลุ่มควบคุมมีอิทธิพลต่อความดันโลหิตเป็น 2 เท่าของกลุ่มอาหารแดช ยิ่งกว่านั้น การลดระดับโซเดียมในกลุ่มควบคุมจากกลางเป็นต่ำมีผลต่อความดันช่วงหัวใจบีบตัวมากกว่าการลดระดับจากสูงเป็นกลาง (ลดโซเดียม 40 mmol ต่อวัน หรือเท่ากับเกลือประมาณ 1 กรัม)
นักวิชาการได้ชี้ว่า ถ้าบุคคลปกติทานโซเดียมในระดับที่แนะนำ (RDA) โดยวิทยาลัยการแพทย์แห่งชาติสหรัฐ (NAM) อยู่แล้ว ผลลดความดันเพราะลดเกลือจะดีกว่าถ้าทานในระดับเฉลี่ยของสหรัฐอยู่ ทำให้นักวิจัยคาดว่า การยอมรับค่าโซเดียมมาตรฐานต่อวันที่ต่ำกว่า 2,400 ม.ก. ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานในปี 2004 เป็นการตัดสินใจที่สมกับหลักฐานวิทยาศาสตร์ที่ได้จากการศึกษานี้ ส่วน USDA (ผ่าน U.S. Dietary Guidelines for Americans) แนะนำให้ทานอาหารมีเกลือ 2,300 ม.ก. ต่อวันหรือน้อยกว่านั้น และแนะนำให้ทาน 1,500 ม.ก. ต่อวันถ้าความดันโลหิตสูง ค่าหลังก็คือค่าโซเดียมระดับต่ำที่ศึกษาในการทดลองนี้
ทั้งอาหารแบบแดชปกติและอาหารกลุ่มควบคุมที่มีเกลือต่ำสามารถลดความดันโลหิต แต่จะได้ผลดีสุดเมื่อทานอาหารแดชแบบมีเกลือต่ำ (1,500 ม.ก./วัน) ซึ่งลดความดันโดยเฉลี่ย 8.9/4.5 mm Hg (ความดันระยะหัวใจบีบตัว/คลายตัว) โดยผู้มีความดันสูงลดได้โดยเฉลี่ย 11.5/5.7 mm Hg คือผลของงานแสดงว่า อาหารแดชแบบมีโซเดียมต่ำมีสหสัมพันธ์กับการลดความดันโลหิตมากที่สุดในทั้งผู้มีความดันสูงแต่ในเกณฑ์ปกติและผู้มีโรคความดันสูง โดยได้ผลดีกว่าสำหรับผู้มีความดันสูง
OmniHeart และ OmniCarb
หลังจากตีพิมพ์ผลงานเรื่องโซเดียมและความดันโลหิต ทีมวิจัยเดียวกันได้ตีพิมพ์ผลงานในเรื่องโปรตีน ไขมันไม่อิ่มตัว และคาร์โบรไฮเดรต กับผลที่มีต่อความดันโลหิตและไขมันในเลือด (OmniHeart) และเรื่องคาร์โบรไฮเดรตกับผลที่มีต่อโรคหัวใจร่วมหลอดเลือดและปัญหาเกี่ยวกับอินซูลิน (OmniCarb)
เชิงอรรถและอ้างอิง
- The USDA recommends the USDA Food Patterns including their vegetarian and vegan adaptations, the Mediterranean, and the DASH Eating Plan, in U.S. Department of Agriculture and U.S. Department of Health and Human Services (2010). "2010 Dietary Guidelines for Americans" (PDF). health.gov (Chapter 5 in 7 ed.). U.S. Government Printing Office. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 17 October 2018. สืบค้นเมื่อ 15 December 2014.
- "Your Guide To Lowering Your Blood Pressure With DASH" (PDF). nhlbi.nih.gov. U.S. Department of Health and Human Services. April 2006. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 23 July 2018. สืบค้นเมื่อ 28 December 2011.
- Appel, LJ (16 November 2005). "Effects of protein, monounsaturated fat, and carbohydrate intake on blood pressure and serum lipids: results of the OmniHeart randomized trial". JAMA. 294 (19): 2455–64. doi:10.1001/jama.294.19.2455. PMID 16287956.
- Miller, ER (November 2006). "The effects of macronutrients on blood pressure and lipids: an overview of the DASH and OmniHeart trials". Curr Atheroscler Rep. 8 (6): 460–5. doi:10.1007/s11883-006-0020-1. PMID 17045071.
- "U.S. News Reveals Best Diets Rankings for 2018". U.S. News & World Report.
- Chobanian, Aram; Bakris, George; Black, Henry; Cushman, William; Green, Lee; Izzo Jr, Joseph; Jones, Daniel; Materson, Barry; และคณะ (2003). Seventh Report of the Joint National Committee on Prevention, Detection, Evaluation, and Treatment of High Blood Pressure. Vol. 42. Bethesda: U.S. Department of Health and Human Services. p. 1206. doi:10.1161/01.HYP.0000107251.49515.c2. ISSN 0194-911X. PMID 14656957. สืบค้นเมื่อ 28 December 2011.
- Sacks, Frank M; Obarzanek, Eva; Windhauser, Marlene; Svetkey, Laura; Vollmer, William; McCullough, Marjorie; Karanja, Njeri; Lin, Pao-Hwa; และคณะ (March 1995). "Rationale and design of the Dietary Approaches to Stop Hypertension trial (DASH)". Annals of Epidemiology. Elsevier. 5 (2): 108–118. doi:10.1016/1047-2797(94)00055-X. ISSN 1047-2797. PMID 7795829.
- Appel, Lawrence J; Moore, Thomas J; Obarzanek, Eva; Vollmer, William; Svetkey, Laura; Sacks, Frank; Bray, George; Vogt, Thomas; และคณะ (17 April 1997). "A Clinical Trial of the Effects of Dietary Patterns on Blood Pressure". The New England Journal of Medicine. Massachusetts Medical Society. 336 (16): 1117–1124. doi:10.1056/NEJM199704173361601. ISSN 0028-4793. PMID 9099655.
- Moore, Thomas; Svetkey, Laura; Appel, Lawrence; Bray, George; Volmer, William (2001). The DASH Diet for Hypertension. New York: Simon & Schuster. ISBN . OCLC 47243951.
- "Dietary Approaches to Stop Hypertension: The DASH Diet". Georgetown Food Studies Blog. 23 June 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 November 2018. สืบค้นเมื่อ 10 November 2018.
- Lewington, S; Clarke, R; Qzilbash, N; Peto, R; Collins, R (14 December 2002). "Age-specific relevance of usual blood pressure to vascular mortality: A meta-analysis of individual data for one million adults in 61 prospective studies". Lancet. London: Elsevier. 360 (9349): 1903–13. doi:10.1016/S0140-6736(02)11911-8. PMID 12493255.
- Bellman, Gary. "DASH Diet May Lower Risk of Recurrent Kidney Stones". Southern California Urology Institute. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 March 2016. สืบค้นเมื่อ 21 April 2015.
- "Your Guide To Lowering Your Blood Pressure" (PDF). nhlbi.nih.gov. U.S. Department of Health and Human Services. May 2003. บทความนี้รวมเอาเนื้อความจากแหล่งอ้างอิงนี้ ซึ่งเป็นสาธารณสมบัติ
- "Effects on blood pressure of reduced dietary sodium and the Dietary Approaches to Stop Hypertension (DASH) diet" (PDF). N Engl J Med. 2001. PMID 11136953.
- Karanja, Njeri; Erlinger, TP; Pao-Hwa, Lin; Miller 3rd, Edgar R; Bray, George (September 2004). "The DASH Diet for High Blood Pressure: From Clinical Trial to Dinner Table". Cleveland Clinic Journal of Medicine. Lyndhurst, Ohio: The Cleveland Clinic Foundation. 71 (9): 745–53. doi:10.3949/ccjm.71.9.745. ISSN 0891-1150. PMID 15478706. สืบค้นเมื่อ 28 December 2011.
- "Dietary Approaches to Stop Hypertension - Sodium Study (DASH-Sodium)". nhlbi.nih.gov. National Heart, Lung, and Blood Institute.
- Appel, Lawrence J.; Sacks, Frank M.; Carey, Vincent J.; Obarzanek, Eva; Swain, Janis F.; Miller, Edgar R.; Conlin, Paul R.; Erlinger, Thomas P.; Rosner, Bernard A. (16 November 2005). "Effects of protein, monounsaturated fat, and carbohydrate intake on blood pressure and serum lipids: results of the OmniHeart randomized trial". JAMA. 294 (19): 2455–2464. doi:10.1001/jama.294.19.2455. ISSN 1538-3598. PMID 16287956.
- Sacks, Frank M.; Carey, Vincent J.; Anderson, Cheryl A. M.; Miller, Edgar R.; Copeland, Trisha; Charleston, Jeanne; Harshfield, Benjamin J.; Laranjo, Nancy; McCarron, Phyllis (17 December 2014). "Effects of high vs low glycemic index of dietary carbohydrate on cardiovascular disease risk factors and insulin sensitivity: the OmniCarb randomized clinical trial". JAMA. 312 (23): 2531–2541. doi:10.1001/jama.2014.16658. ISSN 1538-3598. PMC 4370345. PMID 25514303.
แหล่งข้อมูลอื่น
- Soltani, Sepideh; Chitsazi, Maryam J; Salehi-Abargouei, Amin (2018). "The effect of dietary approaches to stop hypertension (DASH) on serum inflammatory markers: A systematic review and meta-analysis of randomized trials". Clinical Nutrition. 37 (2): 542–550. doi:10.1016/j.clnu.2017.02.018. PMID 28302405.
- "Description of the DASH Eating Plan". NHLBI.nih.gov. The National Heart, Lung, and Blood Institute. 16 September 2015.
- Heller, Marla (2011). The DASH Diet Action Plan: Based on the National Institutes of Health Research, Dietary Approaches to Stop Hypertension. New York: Grand Central Life & Style. ISBN . OCLC 162507208.
- Learning Visions (2013). The DASH Diet Solution and 60 Day Weight Loss and Fitness Journal. Los Angeles, California: Learning Visions. ISBN .
- Liebman, Bonnie (October 1997). "DASH: A Diet For All Diseases". cspinet.org (US ed.). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 June 2016. สืบค้นเมื่อ 29 October 2018.
- Nowlan, Sandra (2008). Delicious DASH Flavours: The proven, drug-free, doctor-recommended approach to reducing high blood pressure. Halifax N.S.: Formac. ISBN . OCLC 185022611.
- Sacks, Frank M; Svetkey, Laura; Vollmer, William; Appel, Lawrence; Bray, George; Harsha, David; Obarzanek, Eva; Conlin, Paul; และคณะ (2001-01-04). "Effects on blood pressure of reduced dietary sodium and the Dietary Approaches to Stop Hypertension (DASH) diet". New England Journal of Medicine. Massachusetts Medical Society sunshinehs. 344 (1): 3–10. doi:10.1056/NEJM200101043440101. ISSN 0028-4793. PMID 11136953.
- Underbakke, Gail. VIDEO - Which Diet Works: A Nutritional Review. University of Wisconsin School of Medicine and Public Health.
- "NUTRITION: DASH for Women". Women's Heart Foundation. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 June 2008. สืบค้นเมื่อ 29 October 2018.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixangxingkhristskrach khristthswrrs khriststwrrs sungepnsarasakhykhxngenuxha xaharaebbaedch hruxkarkhumxaharaebbaedch xngkvs DASH diet epnchuxyxcakkhaphasaxngkvswa Dietary Approaches to Stop Hypertension sungaeplwa withikarkhumxaharephuxrangbkhwamdnolhitsung epnrupaebbxaharthisthabnhwic pxd aelaolhitaehngchati NHLBI sungepnswnkhxngsthabnsukhphaphaehngchati shrthxemrika sngesrimephuxpxngknaelakhwbkhumphawakhwamdnolhitsung epnrupaebbxaharthismburndwyphlim phk khawimkhdsi aelaxaharcakphlitphnthnmikhmnta tlxdcnenuxstw enuxpla enuxik thwpraephthtang aelacakdxaharaelaekhruxngdumthietimnatal enuxaedng siaedngemuxyngimsukechn enuxww hmu aeka aelathietimikhmn nxkcakcamiphlditxkhwamdnolhit kepnxaharsmdulsahrbbukhkhlthwipdwy nxkehnuxcak NHLBI aelw krathrwngekstrkrrmshrth USDA sungepnxngkhkrthikahndaenwthangxaharinshrth kaenanarupaebbxaharnidwywa epnaephnkarthanxaharthidithisudxyanghnungsahrbthuk khn opraekrmxaharnimacakngansuksakhxngsthabnsukhphaphaehngchatishrth NIH thiidtrwcaephnkarthanxahar 3 xyangkbphltxsukhphaph aephnthng 3 xyangniimichxaharec aetxaharaebbaedchkrwmphkphlim phlitphnthnmikhmntahruxplxdikhmn aelathwmakkwaaephnxun inphumikhwamdnsungiklcdidwaepnkhwamdnolhitsung karthanxahartamaebbcaldkhwamdneluxdrayahwicbibtw id 6 mm Hg aelakhwamdnrayahwickhlaytw id 3 mm Hg inphumikhwamdnsung khwamdncald 11 mm Hg aela 6 mm Hg tamladb khwamdnolhitepliynodyimidephimhruxldnahnk karthanxaharcaprbtamphlngnganthirangkaytxngkarerimcakthi 1 600 kiolaekhlxricnthung 3 100 kiolaekhlxri rupaebbxaharidthdsxbaelaphthnaephimkhuninnganthdlxng Optimal Macronutrient Intake Trial for Heart Health OmniHeart karthdlxng DASH aela DASH sodium idaesdngwa xaharthimikharobihedrtsung ennphlim phk aelaphlitphnthnmikhmnta ldikhmnximtw ikhmnodyrwm aelakhxelsetxrxl caldkhwamdnolhitaelakhxelsetxrxlaebbimdi khux LDL idxyangsakhy swnkarthdlxng OmniHeart aesdngwakaraethnkharobihedrtbangswndwyoprtin khrunghnungmacakphuch hruxdwyikhmnimximtw odymakepnikhmnmiphnthakhuediyw caldkhwamdn ldkhxelsetxrxlthiimdi khux LDL aelaldkhwamesiyngorkhhwicidephimyingkhun inpi 2018 nitysarshrth U S News amp World Report idcdaebbxaharniinbrrda 40 aebbwadisudinhmwdkarkhwbkhumxaharthidisudodythwip Best Diets Overall xaharthuksukhphaph For Healthy Eating xaharthithuksukhphaphhwic Best Heart Healthy Diet aelacdepnxndbsxnginhmwdxaharsahrborkhebahwan For Diabetes prawtiaelakarxxkaebbphuneph pccubnechuxwa khwamdnolhitsungepnpyhasahrbkhnxemrikn 50 lankhn cakprachakr 324 lankhnodymiphuihypraman 245 lankhn aelakhnthwolk 1 phnlankhn tamsthabnhwic pxd aelaolhitaehngchatishrth NHLBI odyxangxingkhxmulerimtngaetpi 2002 khwamdnolhitsung BP smphnthkbkhwamesiyngkarekidpyhaorkhhwicrwmhlxdeluxd CVD xyangtxenuxng khngesnkhngwa aelaepnxisracakpccyesiyngxun khwamdnyingsungethair oxkasekidhwiclm hwicway orkhhlxdeluxdsmxng aelaorkhitksungkhunethann sahrbphumixayurahwang 40 70 pi khwamdnrayahwicbibtwthiephimkhunthuk 20 mm Hg hruxkhwamdnrayahwickhlaytwthiephimkhunthuk 10 mm Hg caephimkhwamesiyng CVD epnthwikhunerimtngaetkhwamdn 115 75 mm Hg cnthung 185 115 mm Hg khwamchukkhxngorkhkhwamdnthaihsthabnsukhphaphaehngchatishrthidesnxihngbpramanephuxwicyphlkhxngxahartxkhwamdn dngnn inpi 1992 NHLBI cungidrwmmuxkbsunywicykaraephthythimichuxesiyng 5 aehngthwshrthephuxdaeninnganwicythiihysudaelalaexiydsudethathiekhytha epnkarthdlxngaebbsumaelamiklumkhwbkhum RCT sungepnrupaebbkarthdlxngthicdwadithisudxyanghnung odymiaephthy phyabal nkophchnakar nksthiti aelaphuprasanngan thanganrwmkninsunywicy 5 aehngephuxeluxkphurwmkarthdlxngaelapraeminphlthiid sunywicyrwmthngmhawithyalycxnshxpkins emuxngbxlthimxr sunykaraephthymhawithyalyduk emuxngedxraehm rthnxrthaekhorilna sunywicysukhphaphkhxngxngkhkr Kaiser Permanente emuxngphxrtaelnd Brigham and Women s Hospital nkhrbxstn aelasunywicychiwewchephnningtn emuxngaebtnruch nganthdlxngekiywkbxaharidthasxngkhrng xxkaebbihthainhlaysuny cdphurwmkarthdlxngekhaklumodysum ihxaharthnghmdthiphurwmkarthdlxngthan odymungthdsxbphlkhxngrupaebbxahartxkhwamdnolhit eknthwithithithaxyangmimatrthanaelathainhlaysunyechnni idichinnganwicykhnadihyhlaynganthiidngbpramancak NHLBI lksnaphiesskhxngkarthdlxngnikkhux ideluxkichxaharthithanknepnpktiephuxihprachachnyxmrbidngaythaidphl nganerimineduxnsinghakhm 1993 aelwyutiineduxnkrkdakhm 1997 nganthangwithyakarrabadxunidaesdngaelwwa rupaebbxaharthimiaerthatubangxyangaelamiiyxaharsungsmphnthkbkhwamdneluxdthita aephnkarxaharniidaenwkhidcaknganwicyechnni xahar mirupaebbxaharthithdsxbsxngxyangsungichethiybkbxaharklumkhwbkhum xaharklumkhwbkhummiikhmnaelaoprtinthiekhakbrupaebb xaharxemriknpktiinewlann aetmiophaethsesiym aekhlesiym aemkniesiymtakwaodyechliy thiepxresnithl 25 khxngkarbriophkhinshrth rupaebbxaharthdlxngaerkmiphkphlimmakkwa aetthiehluxkehmuxnkbkhxngklumkhwbkhum epnklum xaharphkphlim ykewnmikhxnghwan aelakhxngwangnxykwa miiyxaharmakkwa miophaethsesiym aemkniesiym aekhlesiymmakkwa thiepxresnithl 75 khxngkarbriophkhinshrth swnrupaebbxaharthdlxngthisxngmiphkphlimmakaelamiphlitphnthnmikhmnta thwipmiikhmnrwmaelaikhmnximtwnxykwa miiyxaharaelaoprtinmakkwaxaharklumkhwbkhum xaharklumnieriykwa xaharaedch epnaephnthimiiyxaharmakkwa miophaethsesiym aemkniesiym aekhlesiym makkwa thiepxresnithl 75 khxngkarbriophkhinshrth mikhawklxng imkhdsi enuxepdik pla aelathwmak aetmienuxxun aelakhxnghwan nxy xaharaedchxxkaebbihmisarxaharsakhythiechuxwa miswnldkhwamdnolhit odyichkhxmulcakkarsuksathangwithyakarrabadthimimakxn nganphiessephraasuksarupaebbxahar imidsuksasarxaharediyw xaharyngmisartanxnumulxisramaksungnkwichakarbangphwkechuxwa chwychalxhruxpxngknpyhasukhphapheruxrngtang rwmthngmaerng orkhhwic aelaorkhhlxdeluxdsmxng nkwicyyngphbdwywaxaharaedchmiprasiththiphlpxngknaelarksaniwitiddikwaxaharthimixxksaeltta epnniwitaebbaekhlesiymxxksaelt sungsamythisud txipniepntwxyangaephnkarthanxaharaebbaedchkhxngkrathrwngekstrkrrmshrth USDA thiihphlngngan 2 000 kiolaekhlxritxwn xaharaetlaklumkhwrprbihekhakbphlngnganthirangkayichinaetlawn aephnkarthanxaharaebbaedch klumxahar canwnswnxaharaetlawn ykewntamkahnd khnadswnxaharkhawklxngaelaphlitphnthkhawklxng 7 8 khnmpng 1 aephn thyphuch sieriylsaercrup 1 thwy khawklxng hruxphasta hruxthyphuch thisukaelw 1 2 thwyphk 4 5 phkibsd 1 thwy phksuk 1 2 thwy naphk 170 krmphlim 4 5 phlimkhnadklang 1 luk phlimaehng 1 4 thwy phlimsd aechaekhng hruxkrapxng 1 2 thwy naphlim 170 krmphlitphnthnmikhmntahruxplxdikhmn 2 3 nm 227 krm oyekirt 1 thwy chis 43 krmenuximmimn epdik hruxpla 2 hruxnxykwa enuximmimn hruxepdikimmihnng hruxpla 85 krmemldthw emldphuch aelathwaehng 4 5 khrngtxspdah emldthw 1 3 thwyhrux 43 krm emldphuch 1 chxnotahrux 14 krm thwaehngsuk 1 2 thwyikhmnaelanamn 2 3 enyethiym nim 1 chxncha mayxngensikhmnta 1 chxnota nasld aebbnamnphsmkhxngepriyw 2 chxnota namnphuch 1 chxnchakhxnghwan 5 txxathity natal 1 chxnota aeym 1 chxnota khnm Jelly bean 14 krm namanaw 227 krm swnhnungcatang rahwang 1 2 thwycnthung 1 1 4 thwy dupayphlitphnthxahar rupaebbikhmncaepliyncanwnswnkhxngikhmnaelanamn yktwxyangechn nasldthrrmda 1 chxnotaethakb 1 swn nasldikhmnta 1 chxnotaethakb 1 2 swn aelanasldplxdikhmn 1 chxnotaethakb 0 swnaebbngansuksa phurwmkarthdlxngthanxahar 3 rupaebbodyaebngepn 3 raya khux 1 trwckhd screening 2 karedinekhruxng run in aela 3 karrksa intervention rayaaerkepnkartrwckhdphurwmkarthdlxngxasyphlkarwdkhwamdnolhithlaykhrngrwm kn rayathisxngthaepnewla 3 xathity ihphurwmkarthdlxngthanxaharklumkhwbkhum wdkhwamdnolhitthukwn trwcpssawakhrnghnung aelatxbkhathamekiywkbxakar inthisudkhxngrayani phuthisamarththantamopraekrmxaharidcacdekhaklumxahar 3 klumdngthiwaodysum odycaerimthaninxathitythi 4 sungepnrayatxip epnrayathitha 8 xathitythiphurwmkarthdlxngcathanxahartamthiih tamklumthicdekhaodysum mikarwdkhwamdnolhitaelatrwcpssawaehmuxnkninrayani bwkkbihtxbkhathamekiywkbxakaraelakarxxkkalngkay phurwmkarthdlxngklumaerkerimopraekrmrayathisxngineduxnknyayn 1994 aelaklumsudthaykhuxklumthi 5 erimineduxnmkrakhm 1996 xaharaetlaopraekrmmiosediym 3 000 m k ehmuxn kn sungepnkhabriophkhechliythwpraethsinkhnann phurwmkarthdlxngyngideklux 2 thungphiessaetlathungmieklux 200 m k ephuxichtamaetcachxb cakdihthanekhruxngdumaexlkxhxlimekin 2 thiaetlawn aelaekhruxngdumthimikaefxinimekin 3 thiphlkarsuksakarthdlxngniaesdngwa rupaebbxaharmiphltxkhwamdnolhitinphumikhwamdnsungineknthpktiaelaorkhkhwamdnsunginradbklang khwamdnchwnghwicbibtw lt 180 mm Hg aelakhwamdnchwnghwickhlaytw rahwang 80 95 mm Hg xaharaebbaedchldkhwamdnolhitodyechliy 5 5 mm Hg chwnghwicbibtw aela 3 0 mm Hg chwnghwickhlaytw ethiybkbklumkhwbkhum odykhncanwnnxyswnhnungaelaphumikhwamdnolhitsungcaldkhwamdnolhitidsungsud phumikhwamdnsungldkhwamdnidodyechliy 11 4 mm Hg chwnghwicbibtw aela 5 5 mm Hg chwnghwickhlaytw klumphkphlimkidphlehmuxnkn aemkhwamdncaldnxykwa khuxodyechliyld 2 8 mm Hg chwnghwicbibtw aela 1 1 mm Hg chwnghwickhlaytw inbukhkhlthngthimikhwamdnsungaelaimmi xaharaedchidphldikwaxaharphkphlimaelaklumkhwbkhum khwamdnldlngphayinsxngxathityhlngerimthanxahar phlthiidkhyayipthungklumtwxyang shrth ihysudthiidekbkhxmul phlkhangekhiyngimsakhy aetngansuksathitiphimphinwarsarkaraephthyniwxingaelndraynganwa bangkhnthxngphuk emuxrayarksa 3 sinsudlng klumkhwbkhum 10 1 klumphkphlim 5 4 aelaklumaedch 4 0 raynganwathxngphuk sungaesdngwaklumkarthdlxngthng 2 klumldxakarthxngphukethiybkbklumkhwbkhum xakarthangkraephaalaisxun ekidnxymakykewnphurwmkarthdlxngphuhnung inklumkhwbkhum thimithungnadixkesbngansuksaaedch osediymaebbkarsuksa ngansuksaaedch osediymidthatxcakngansuksaaedchephuxkahndkhwamsmphnthrahwangkarthaneklux xahar aelaphawakhwamdnolhitsungrwmthng phlkhxngkarldosediyminxaharxemriknaelaxaharaedch phlkhxngkarldosediymxyangediyw khxngxaharaedchxyangediyw aelakhxngthngsxngxyang txkhnthikhwamdnolhitpkti ngantrwcphlkhxngradbosediymtang 3 radb tharahwangeduxnknyayn 1997 cnthungeduxnphvscikayn 1999 micanwntwxyang 412 khn thainsunykarthdlxnghlaysuny cdphurwmkarthdlxngekhaklumodysum aelacdxaharthnghmdthiphurwmkarthdlxngthan phurwmkarthdlxngepnphuihythimikhwamdnsungineknthpkticnthungkhwamdnsungrayahnung echliykhwamdnchwnghwicbibtwrahwang 120 159 mm Hg aelakhwamdnchwnghwickhlaytwrahwang 80 95 mm Hg aelacdekhaklumxahar 2 klumodysum klumaerkthanxaharaedch aelaklumthisxngthan xaharxemriknpkti khlaykbinkarthdlxngkxn sungmisarxaharsakhytang rwmthngophaethsesiym aemkniesiym aelaaekhlesiymkhxnkhangnxy swnxaharaedchkehmuxnkbkarthdlxngkxn inrayaedinekhruxng raya 2 sxngxathity thukkhncathanxaharklumkhwbkhummiosediymsungehmuxnkn hlngcakcdekhaklum phurwmkarthdlxngcaidosediymthukwnthiradbidradbhnunginsamradb khux sung 3 000 m k klang 2 400 m k aelata 1 500 mg cdladbodysum aetlaradbepnewla 30wntidtxkn epnwithikarthdlxngaebbkhamklum crossover tlxdrayarksa raya 3 30 wntxma aetlakhncathanxaharkhxngklumthitnxyuodymiosediymthiradbediyw aelainrayarksaxik 2 rxbtxma kcaidxaharmiradbosediymthiehluxxik 2 radbaetalaradb 30 wntidtxkn dngnn phurwmkarthdlxngthnginklumxaharaedchaelaklumkhwbkhum caidxaharinklumkhxngtnaetmiosediyminradbtang kn 3 xyang sungemuxsudrayarksa 30 wn 3 rxb thukkhncaidthanxaharmiosediymthng 3 radbaelw phlaelakhxsrup phlhlk primary outcome khxngkarthdlxngnikkhux khwamdnolhitchwnghwicbibtw aelaphlrxng secondary outcome kkhux khwamdnrayahwickhlaytw nganthdlxngniphbwa karldkarthanosediymldkhwamdnthngsxngchnidxyangsakhythnginklumthdlxngaelainklumkhwbkhum karldosediyminxaharklumkhwbkhummixiththiphltxkhwamdnolhitepn 2 ethakhxngklumxaharaedch yingkwann karldradbosediyminklumkhwbkhumcakklangepntamiphltxkhwamdnchwnghwicbibtwmakkwakarldradbcaksungepnklang ldosediym 40 mmol txwn hruxethakbekluxpraman 1 krm nkwichakaridchiwa thabukhkhlpktithanosediyminradbthiaenana RDA odywithyalykaraephthyaehngchatishrth NAM xyuaelw phlldkhwamdnephraaldekluxcadikwathathaninradbechliykhxngshrthxyu thaihnkwicykhadwa karyxmrbkhaosediymmatrthantxwnthitakwa 2 400 m k sungepnkhamatrthaninpi 2004 epnkartdsinicthismkbhlkthanwithyasastrthiidcakkarsuksani swn USDA phan U S Dietary Guidelines for Americans aenanaihthanxaharmieklux 2 300 m k txwnhruxnxykwann aelaaenanaihthan 1 500 m k txwnthakhwamdnolhitsung khahlngkkhuxkhaosediymradbtathisuksainkarthdlxngni thngxaharaebbaedchpktiaelaxaharklumkhwbkhumthimiekluxtasamarthldkhwamdnolhit aetcaidphldisudemuxthanxaharaedchaebbmiekluxta 1 500 m k wn sungldkhwamdnodyechliy 8 9 4 5 mm Hg khwamdnrayahwicbibtw khlaytw odyphumikhwamdnsungldidodyechliy 11 5 5 7 mm Hg khuxphlkhxngnganaesdngwa xaharaedchaebbmiosediymtamishsmphnthkbkarldkhwamdnolhitmakthisudinthngphumikhwamdnsungaetineknthpktiaelaphumiorkhkhwamdnsung odyidphldikwasahrbphumikhwamdnsungOmniHeart aela OmniCarbhlngcaktiphimphphlnganeruxngosediymaelakhwamdnolhit thimwicyediywknidtiphimphphlnganineruxngoprtin ikhmnimximtw aelakharobrihedrt kbphlthimitxkhwamdnolhitaelaikhmnineluxd OmniHeart aelaeruxngkharobrihedrtkbphlthimitxorkhhwicrwmhlxdeluxdaelapyhaekiywkbxinsulin OmniCarb echingxrrthaelaxangxingThe USDA recommends the USDA Food Patterns including their vegetarian and vegan adaptations the Mediterranean and the DASH Eating Plan in U S Department of Agriculture and U S Department of Health and Human Services 2010 2010 Dietary Guidelines for Americans PDF health gov Chapter 5 in 7 ed U S Government Printing Office khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 17 October 2018 subkhnemux 15 December 2014 Your Guide To Lowering Your Blood Pressure With DASH PDF nhlbi nih gov U S Department of Health and Human Services April 2006 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 23 July 2018 subkhnemux 28 December 2011 Appel LJ 16 November 2005 Effects of protein monounsaturated fat and carbohydrate intake on blood pressure and serum lipids results of the OmniHeart randomized trial JAMA 294 19 2455 64 doi 10 1001 jama 294 19 2455 PMID 16287956 Miller ER November 2006 The effects of macronutrients on blood pressure and lipids an overview of the DASH and OmniHeart trials Curr Atheroscler Rep 8 6 460 5 doi 10 1007 s11883 006 0020 1 PMID 17045071 U S News Reveals Best Diets Rankings for 2018 U S News amp World Report Chobanian Aram Bakris George Black Henry Cushman William Green Lee Izzo Jr Joseph Jones Daniel Materson Barry aelakhna 2003 Seventh Report of the Joint National Committee on Prevention Detection Evaluation and Treatment of High Blood Pressure Vol 42 Bethesda U S Department of Health and Human Services p 1206 doi 10 1161 01 HYP 0000107251 49515 c2 ISSN 0194 911X PMID 14656957 subkhnemux 28 December 2011 Sacks Frank M Obarzanek Eva Windhauser Marlene Svetkey Laura Vollmer William McCullough Marjorie Karanja Njeri Lin Pao Hwa aelakhna March 1995 Rationale and design of the Dietary Approaches to Stop Hypertension trial DASH Annals of Epidemiology Elsevier 5 2 108 118 doi 10 1016 1047 2797 94 00055 X ISSN 1047 2797 PMID 7795829 Appel Lawrence J Moore Thomas J Obarzanek Eva Vollmer William Svetkey Laura Sacks Frank Bray George Vogt Thomas aelakhna 17 April 1997 A Clinical Trial of the Effects of Dietary Patterns on Blood Pressure The New England Journal of Medicine Massachusetts Medical Society 336 16 1117 1124 doi 10 1056 NEJM199704173361601 ISSN 0028 4793 PMID 9099655 Moore Thomas Svetkey Laura Appel Lawrence Bray George Volmer William 2001 The DASH Diet for Hypertension New York Simon amp Schuster ISBN 978 0 7432 0295 4 OCLC 47243951 Dietary Approaches to Stop Hypertension The DASH Diet Georgetown Food Studies Blog 23 June 2013 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 11 November 2018 subkhnemux 10 November 2018 Lewington S Clarke R Qzilbash N Peto R Collins R 14 December 2002 Age specific relevance of usual blood pressure to vascular mortality A meta analysis of individual data for one million adults in 61 prospective studies Lancet London Elsevier 360 9349 1903 13 doi 10 1016 S0140 6736 02 11911 8 PMID 12493255 Bellman Gary DASH Diet May Lower Risk of Recurrent Kidney Stones Southern California Urology Institute khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 4 March 2016 subkhnemux 21 April 2015 Your Guide To Lowering Your Blood Pressure PDF nhlbi nih gov U S Department of Health and Human Services May 2003 bthkhwamnirwmexaenuxkhwamcakaehlngxangxingni sungepnsatharnsmbti Effects on blood pressure of reduced dietary sodium and the Dietary Approaches to Stop Hypertension DASH diet PDF N Engl J Med 2001 PMID 11136953 Karanja Njeri Erlinger TP Pao Hwa Lin Miller 3rd Edgar R Bray George September 2004 The DASH Diet for High Blood Pressure From Clinical Trial to Dinner Table Cleveland Clinic Journal of Medicine Lyndhurst Ohio The Cleveland Clinic Foundation 71 9 745 53 doi 10 3949 ccjm 71 9 745 ISSN 0891 1150 PMID 15478706 subkhnemux 28 December 2011 Dietary Approaches to Stop Hypertension Sodium Study DASH Sodium nhlbi nih gov National Heart Lung and Blood Institute Appel Lawrence J Sacks Frank M Carey Vincent J Obarzanek Eva Swain Janis F Miller Edgar R Conlin Paul R Erlinger Thomas P Rosner Bernard A 16 November 2005 Effects of protein monounsaturated fat and carbohydrate intake on blood pressure and serum lipids results of the OmniHeart randomized trial JAMA 294 19 2455 2464 doi 10 1001 jama 294 19 2455 ISSN 1538 3598 PMID 16287956 Sacks Frank M Carey Vincent J Anderson Cheryl A M Miller Edgar R Copeland Trisha Charleston Jeanne Harshfield Benjamin J Laranjo Nancy McCarron Phyllis 17 December 2014 Effects of high vs low glycemic index of dietary carbohydrate on cardiovascular disease risk factors and insulin sensitivity the OmniCarb randomized clinical trial JAMA 312 23 2531 2541 doi 10 1001 jama 2014 16658 ISSN 1538 3598 PMC 4370345 PMID 25514303 aehlngkhxmulxunSoltani Sepideh Chitsazi Maryam J Salehi Abargouei Amin 2018 The effect of dietary approaches to stop hypertension DASH on serum inflammatory markers A systematic review and meta analysis of randomized trials Clinical Nutrition 37 2 542 550 doi 10 1016 j clnu 2017 02 018 PMID 28302405 Description of the DASH Eating Plan NHLBI nih gov The National Heart Lung and Blood Institute 16 September 2015 Heller Marla 2011 The DASH Diet Action Plan Based on the National Institutes of Health Research Dietary Approaches to Stop Hypertension New York Grand Central Life amp Style ISBN 978 1 4555 1280 5 OCLC 162507208 Learning Visions 2013 The DASH Diet Solution and 60 Day Weight Loss and Fitness Journal Los Angeles California Learning Visions ISBN 978 1 936583 29 4 Liebman Bonnie October 1997 DASH A Diet For All Diseases cspinet org US ed khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 19 June 2016 subkhnemux 29 October 2018 Nowlan Sandra 2008 Delicious DASH Flavours The proven drug free doctor recommended approach to reducing high blood pressure Halifax N S Formac ISBN 978 0 88780 766 4 OCLC 185022611 Sacks Frank M Svetkey Laura Vollmer William Appel Lawrence Bray George Harsha David Obarzanek Eva Conlin Paul aelakhna 2001 01 04 Effects on blood pressure of reduced dietary sodium and the Dietary Approaches to Stop Hypertension DASH diet New England Journal of Medicine Massachusetts Medical Society sunshinehs 344 1 3 10 doi 10 1056 NEJM200101043440101 ISSN 0028 4793 PMID 11136953 Underbakke Gail VIDEO Which Diet Works A Nutritional Review University of Wisconsin School of Medicine and Public Health NUTRITION DASH for Women Women s Heart Foundation khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 15 June 2008 subkhnemux 29 October 2018