Azərbaycanca AzərbaycancaБеларускі БеларускіDansk DanskDeutsch DeutschEspañola EspañolaFrançais FrançaisIndonesia IndonesiaItaliana Italiana日本語 日本語Қазақ ҚазақLietuvos LietuvosNederlands NederlandsPortuguês PortuguêsРусский Русскийසිංහල සිංහලแบบไทย แบบไทยTürkçe TürkçeУкраїнська Українська中國人 中國人United State United StateAfrikaans Afrikaans
สนับสนุน
www.wiki3.th-th.nina.az
  • วิกิพีเดีย

อาการท องผ ก อ งกฤษ constipation หมายถ งการถ ายอ จจาระไม บ อยหร อยากอ จจาระบ อยคร งจะแข งและแห ง อาการอ น ๆ ท อาจม รวมปว

ท้องผูก

ท้องผูก
www.wiki3.th-th.nina.azhttps://www.wiki3.th-th.nina.az

อาการท้องผูก (อังกฤษ: constipation) หมายถึงการถ่ายอุจจาระไม่บ่อยหรือยากอุจจาระบ่อยครั้งจะแข็งและแห้ง อาการอื่น ๆ ที่อาจมีรวมปวดท้อง ท้องขึ้น (bloating) และรู้สึกเหมือนกับว่ายังถ่ายไม่หมด ภาวะแทรกซ้อนรวมทั้งโรคริดสีดวงทวาร แผลทวารหนัก (anal fissure) และอุจจาระอัดแน่น (fecal impaction) ความถี่การถ่ายอุจจาระปกติของผู้ใหญ่อยู่ระหว่าง 3 ครั้งต่อวัน จนถึง 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ส่วนทารกบ่อยครั้งจะถ่าย 3-4 ครั้งต่อวัน และเด็กเล็ก ๆ ปกติจะถ่าย 2-3 ครั้งต่อวัน

อาการท้องผูก
(Constipation)
ชื่ออื่นCostiveness, dyschezia
image
ภาพเอ็กซเรย์แสดงอาการท้องผูกในเด็ก วงกลมแสดงอุจจาระ (อุจจาระสีขาวล้อมรอบด้วยแก๊สลำไส้สีดำ)
สาขาวิชาวิทยาทางเดินอาหาร
อาการถ่ายไม่บ่อยหรือยาก ปวดท้อง ท้องขึ้น
ภาวะแทรกซ้อนริดสีดวงทวารหนัก แผลทวารหนัก อุจจาระอัดแน่น
สาเหตุอุจจาระเคลื่อนไปได้ช้าในลำไส้ใหญ่, กลุ่มอาการลำไส้ไวเกินต่อการกระตุ้น (IBS), celiac disease, การแพ้กลูเตน (NCGS), ความผิดปกติของฐานเชิงกราน (pelvic floor disorders)
ปัจจัยเสี่ยงภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์, โรคเบาหวาน, โรคพาร์คินสัน, โรคเกี่ยวกับกลูเตน, มะเร็งลำไส้ใหญ่, diverticulitis, โรคลำไส้อักเสบ (IBD), ยาบางชนิด
การรักษาดื่มน้ำให้พอ ทานใยอาหารเพิ่ม ออกกำลังกาย
ยายาระบายแบบเพิ่มเนื้ออุจจาระ, แบบเพิ่มน้ำ (osmotic agent), แบบทำอุจจาระให้นิ่ม, หรือแบบหล่อลื่น
ความชุก2-30%

ท้องผูกมีเหตุหลายอย่าง เหตุสามัญรวมทั้งอุจจาระเคลื่อนไปในลำไส้ใหญ่ช้าเกินไป, กลุ่มอาการลำไส้ไวเกินต่อการกระตุ้น, และความผิดปกติของฐานเชิงกราน (pelvic floor disorders) โรคที่เป็นมูลฐานของอาการรวมทั้งภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์, โรคเบาหวาน, โรคพาร์คินสัน, celiac disease, การแพ้กลูเตน (NCGS), มะเร็งลำไส้ใหญ่, diverticulitis, และโรคลำไส้อักเสบ (IBD) ยาที่ทำให้ท้องผูกรวมทั้งโอปิออยด์ ยาลดกรดบางชนิด แคลเซียมแชนแนลบล็อกเกอร์ และ anticholinergics ในบรรดาคนไข้ที่ทานยาโอปิออยด์ ประมาณ 90% จะท้องผูก ท้องผูกน่าเป็นห่วงยิ่งขึ้นถ้าน้ำหนักลดหรือโลหิตจาง, มีเลือดในอุจจาระ, ครอบครัวมีประวัติโรคลำไส้อักเสบ (IBD) หรือมะเร็งลำไส้ใหญ่, หรือเป็นอาการที่เกิดขึ้นใหม่ในผู้สูงอายุ

การรักษาจะขึ้นอยู่กับเหตุและระยะเวลาที่เป็นมาแล้ว พฤติกรรมที่อาจช่วยรวมทั้งการดื่มน้ำให้เพียงพอ ทานใยอาหารเพิ่ม และออกกำลังกาย ถ้านี่ยังไม่ได้ผล ก็แนะนำให้ใช้ยาระบายต่าง ๆ ทั้งแบบเพิ่มเนื้ออุจจาระ, แบบเพิ่มน้ำ (osmotic agent), แบบทำอุจจาระให้นิ่ม, หรือแบบหล่อลื่น ส่วนยาระบายแบบ stimulant ที่กระตุ้นเยื่อเมือกลำไส้หรือข่ายประสาทลำไส้ เปลี่ยนการหลั่งน้ำและอิเล็กโทรไลต์ และเปลี่ยนการบีบตัวของลำไส้ จะเก็บไว้ใช้เป็นอย่างสุดท้ายถ้าอย่างอื่นไม่ได้ผล การรักษาอย่างอื่นรวมทั้ง biofeedback (การวัดการตอบสนองทางสรีรภาพด้วยเครื่องมือโดยมีจุดประสงค์เพื่อจะควบคุมการตอบสนองเช่นนั้น ๆ) หรือในกรณีที่น้อยมาก การผ่าตัด

ในกลุ่มประชากรทั่วไป อัตราการท้องผูกอยู่ที่ 2-30% ส่วนสำหรับผู้สูงอายุในบ้านคนชรา อัตราจะอยู่ที่ 50-75%

นิยาม

image
รูปแบบอุจจาระ จากบนลงล่าง (1) เป็นก้อนต่างหาก ๆ และแข็ง - ท้องผูกมาก (2) เป็นก้อน ๆ มีรูปคล้ายกับไส้กรอก - ท้องผูกเบา ๆ (3) เป็นรูปไส้กรอกมีผิวแตก - ปกติ (4) เป็นรูปไส้กรอกหรืองูมีผิวเรียบ - ปกติ (5) เป็นก้อนนิ่ม ๆ มีขอบเรียบ - ขาดใยอาหาร (6) เละ ๆ มีขอบกะรุ่งกะริ่ง - ท้องร่วงเบา ๆ (7) เป็นน้ำไม่เป็นก้อนเลย - ท้องร่วงหนัก

ท้องผูกเป็นอาการแต่ไม่ใช่โรค บ่อยครั้งที่สุดพิจารณาว่า เป็นการถ่ายไม่บ่อยพอ คือถ่ายน้อยกว่า 3 ครั้งต่ออาทิตย์ อย่างไรก็ดี คนที่มีอาการอาจมีปัญหาอื่น ๆ รวมทั้ง

  • ต้องเบ่งถ่ายอุจจาระ
  • ถ่ายใช้เวลามาก
  • อุจจาระแข็ง
  • เจ็บเมื่อถ่ายเพราะเบ่ง
  • ปวดท้อง
  • ท้องขึ้น (bloating)
  • รู้สึกเหมือนถ่ายยังไม่หมด

เกณฑ์วิธีคือ Rome Criteria เป็นอาการต่าง ๆ ที่ช่วยวินิจฉัยอาการท้องผูกในคนกลุ่มอายุต่าง ๆ ให้เป็นมาตรฐาน และช่วยให้แพทย์วินิจฉัยอาการได้ตามมาตรฐาน

เหตุ

เหตุของอาการท้องผูกอาจแบ่งออก (1) เป็นแต่กำเนิด (2) ปฐมภูมิ (3) ทุติยภูมิ แบบที่สามัญที่สุดก็คือปฐมภูมิ ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต เหตุยังสามารถแบ่งตามอายุเช่นในเด็ก และผู้ใหญ่

ท้องผูกปฐมภูมิหรือท้องผูกโดยหน้าที่ (functional constipation) เป็นอาการที่นานกว่า 6 เดือนโดยไม่มีเหตุต่าง ๆ รวมทั้งผลข้างเคียงของยา หรือผลของโรคอื่น ๆ ไม่มีการปวดท้อง และดังนั้นจึงต่างกับกลุ่มอาการลำไส้ไวเกินต่อการกระตุ้น เป็นอาการท้องผูกแบบสามัญที่สุด และบ่อยครั้งเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง

ในผู้ใหญ่ เหตุหลัก ๆ ก็คือ การทานอาหาร เช่น ไม่ได้ใยอาหารและน้ำพอ หรือเกิดจากพฤติกรรม เช่น อยู่เฉย ๆ มากเกินไป ในผู้สูงอายุ เหตุสามัญที่อ้างรวมทั้งการทานใยอาหารไม่เพียงพอ ทานน้ำไม่เพียงพอ อยู่เฉย ๆ มากเกินไป ผลข้างเคียงของยา ภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์ และมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่ขวางทางอุจจาระ อย่างไรก็ดี หลักฐานว่าเป็นปัจจัยเหล่านี้จริง ๆ ก็อ่อนมาก

เหตุทุติยภูมิรวมทั้งผลข้างเคียงของยาเช่น สารฝิ่น, โรคต่อมไร้ท่อและโรคทางเมแทบอลิซึม เช่น ภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์ และสิ่งที่ขวางทางอุจจาระ เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ celiac disease และการแพ้กลูเตน (NCGS) ก็อาจมีอาการท้องผูกด้วย

กระเพาะปัสสาวะเลื่อนเข้าไปในช่องคลอด (cystocele) อาจเกิดโดยเป็นผลของท้องผูกเรื้อรัง

อาหาร

ท้องผูกอาจมีเหตุจากหรือแย่ลงเพราะอาหารที่มีใยอาหารน้อย การทานน้ำน้อย หรือการควบคุมอาหาร อาหารที่มีใยอาหารสูงจะช่วยลดเวลาการดำเนินผ่านลำไส้ใหญ่ และเพิ่มเนื้ออุจจาระโดยทำให้มันนิ่มไปด้วยพร้อม ๆ กัน ดังนั้น อาหารที่มีใยอาหารต่ำอาจนำไปสู่อาการท้องผูกปฐมภูมิ

ยา

ยาหลายอย่างมีผลข้างเคียงเป็นอาการท้องผูก รวมทั้ง (แต่ไม่จำกัดแค่) โอปิออยด์, ยาขับปัสสาวะ, ยาแก้ซึมเศร้า, สารต้านฮิสตามีน, ยาแก้เกร็ง, ยากันชัก, ยาแก้ซึมเศร้าแบบ tricyclic, ยาปรับการเต้นหัวใจ (antiarrythmic), beta-adrenoceptor antagonists, ยาแก้ท้องร่วง, 5-HT3 receptor antagonist เช่น ondansetron, และยาลดกรดที่เป็นอะลูมิเนียมแคลเซียมแชนแนลบล็อกเกอร์บางชนิด เช่น nifedipine และ verapamil สามารถทำให้ท้องผูกมากเนื่องจากการเคลื่อนไหวเอง (motility) ที่ผิดปกติของลำไส้ใหญ่ที่ไส้ตรงและไส้คด (rectosigmoid colon) อาหารเสริมเช่นแคลเซียมและธาตุเหล็กก็มีผลข้างเคียงเด่นอย่างหนึ่งเป็นอาการท้องผูก

โรค

ปัญหาทางเมแทบอลิซึมและต่อมไร้ท่อที่อาจทำให้ท้องผูกรวมทั้งภาวะแคลเซียมสูงเกินในเลือด, ภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์, ภาวะฮอร์โมนพาราไทรอยด์สูงเกินในเลือด (hyperparathyroidism), porphyria, โรคไตเรื้อรัง, pan-hypopituitarism, โรคเบาหวาน, และซิสติก ไฟโบรซิส อาการท้องผูกยังสามัญในบุคคลที่มีโรคกล้ามเนื้อเจริญผิดเพี้ยน (muscular dystrophy) และ myotonic dystrophy โรคทั้งกายที่อาจมีอาการท้องผูกรวมทั้ง celiac disease และโรคหนังแข็ง

อาการท้องผูกยังเกิดพร้อมกับปัญหาทางกายภาพ (ไม่ว่าจะโดยเชิงกล โดยโครงสร้าง หรือโดยกายวิภาค) เพราะสร้างรอยโรคซึ่งกินเนื้อที่ในลำไส้ใหญ่และขวางทางเดินของอุจจาระ ปัญหาเช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่, ลำไส้ตีบ, ไส้ตรงยื่นย้อย, ความเสียหายของหูรูดทวารหนัก, สภาวะวิรูปที่ส่วนต่าง ๆ, หรือการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ หลังจากผ่าตัด ก้อนเนื้อนอกลำไส้ เช่น มะเร็งในที่อื่น ๆ ก็อาจทำให้ท้องผูกเพราะกดลำไส้

อาการท้องผูกยังมีเหตุทางประสาท รวมทั้ง anismus, ฝีเย็บย้อย (descending perineum syndrome), และ Hirschsprung's disease (HD) ในทารก HD เป็นความผิดปกติที่สามัญที่สุดเมื่อท้องผูก แต่ anismus ก็เกิดในคนหมู่น้อยที่ท้องผูกอย่างเรื้อรัง หรืออุจจาระถูกขวาง

รอยโรคที่ไขสันหลังและความผิดปกติทางประสาท เช่น โรคพาร์คินสัน และการทำหน้าที่ผิดปกติของฐานเชิงกราน (pelvic floor dysfunction) ก็สามารถทำให้ท้องผูกได้เหมือนกัน

เหตุทางจิต

การกลั้นอุจจาระไว้ก็เป็นเหตุที่สามัญของท้องผูก เหตุผลที่อั้นไว้ก็อาจจะเป็นเพราะกลัวเจ็บ ไม่อยากใช้ห้องน้ำสาธารณะ หรือขี้เกียจ ถ้าเด็กอั้นอุจจาระไว้ การให้กำลังใจ ให้น้ำดื่ม ให้ใยอาหาร และให้ยาระบาย อาจช่วยแก้ปัญหา การแก้ปัญหาตั้งแต่เนิ่นเป็นเรื่องสำคัญเพราะนี่อาจก่อแผลที่ทวารหนัก (anal fissure)

เหตุแต่กำเนิด

ความผิดปกติแต่กำเนิดอาจมีผลเป็นอาการท้องผูกในเด็ก โดยรวม ๆ แล้วนี่เป็นเหตุไม่สามัญของอาการ ชนิดที่เป็นเหตุสามัญที่สุดก็คือ Hirschsprung’s disease (HD) ยังมีความผิดปกติทางโครงสร้างอื่น ๆ ที่ทำให้ท้องผูก รวมทั้งการย้ายที่ของทวารหนักมาทางด้านหน้า ทวารหนักไม่มีช่อง ลำไส้ตีบ และ small left colon syndrome

image
ภาพเอ็กซ์เรย์ของเด็กอายุ 8 ขวบ แสดงท้องผูกค่อนข้างมาก

วิธีการวินิจฉัย

การวินิจฉัยมักจะทำอาศัยคำบอกอาการของคนไข้ อุจจาระที่ถ่ายยาก แข็งมาก หรือเป็นเม็ดแข็ง ๆ เล็ก ๆ (คล้ายกับขี้กระต่าย) จัดว่าเป็นท้องผูก แม้จะถ่ายเช่นนี้ทุกวัน แต่อาการท้องผูกโดยปกติก็จะนิยามว่า เป็นการถ่ายอุจจาระ 3 ครั้งหรือน้อยกว่าต่ออาทิตย์ อาการอื่น ๆ ที่สัมพันธ์กับท้องผูกรวมทั้งท้องขึ้น ท้องพอง ปวดท้อง ปวดศีรษะ ล้า หมดแรง หรือรู้สึกว่าถ่ายไม่หมด แม้แพทย์อาจจะวินิจฉัยว่าท้องผูก แต่ปกติก็จัดเป็นอาการที่จำเป็นต้องตรวจหาสาเหตุ

รายละเอียด

แพทย์จะแยกแยะอาการแบบฉับพลัน (เป็นแล้วหลายวันถึงหลายอาทิตย์) หรือแบบเรื้อรัง (เป็นเดือน ๆ จนถึงปี ๆ) เพราะข้อมูลนี้จะเปลี่ยนการวินิจฉัยแยกโรค อาการอื่น ๆ ที่เป็นร่วมกันก็จะช่วยให้แพทย์กำหนดเหตุของอาการได้ คนไข้มักกล่าวถึงอาการท้องผูกว่า ถ่ายยาก อุจจาระแข็งเป็นก้อน ๆ หรือแข็งไปทั่ว และต้องเบ่งมากเมื่อถ่าย อาการท้องขึ้น (bloating) ท้องพอง (abdominal distension) และปวดท้องมักจะมีพร้อมกับท้องผูก ท้องผูกเรื้อรัง (มีอาการอย่างน้อย 3 ครั้งต่อเดือนมากกว่า 3 เดือน) ที่สัมพันธ์กับความไม่สบายท้องมักจะวินิจฉัยเป็นกลุ่มอาการลำไส้ไวเกินต่อการกระตุ้น (IBS) เมื่อไม่พบสาเหตุอื่น ๆ

การทานอาหารที่ไม่ถูกสุขภาพ การผ่าตัดในอดีต หรือยาบางชนิดอาจมีบทบาทต่ออาการ โรคที่สัมพันธ์กับท้องผูกรวมทั้งภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์ มะเร็งบางอย่าง และ IBS การทานอาหารที่มีใยอาหารน้อย ดื่มน้ำไม่พอ การอยู่เฉย ๆ เกินไป หรือยา ก็ล้วนแต่อาจมีบทบาทต่อท้องผูก เมื่อแพทย์กำหนดว่าเป็นท้องผูกตามอาการดังที่กล่าวแล้ว ก็อาจพยายามหาเหตุต่อไป

การแยกเหตุที่เบากับเหตุที่หนักอาจทำได้ส่วนหนึ่งตามอาการ ยกตัวอย่างเช่น แพทย์อาจสงสัยมะเร็งลำไส้ใหญ่ถ้าคนไข้มีประวัติมะเร็งลำไส้ใหญ่ในครอบครัว เป็นไข้ น้ำหนักลด และเลือดออกทางทวารหนัก อาการน่าเป็นห่วงอื่น ๆ รวมทั้งประวัติ IBS ส่วนตัวหรือของครอบครัว การเริ่มมีอาการหลังอายุ 50 ปี การเปลี่ยนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของอุจจาระ คลื่นไส้ อาเจียน และอาการทางประสาท เช่น อ่อนแรง ชา และมีปัญหาถ่ายปัสสาวะ

การตรวจร่างกาย

การตรวจร่างกายอย่างน้อยควรจะมีการตรวจท้องและตรวจไส้ตรง เพราะการตรวจท้องอาจพบก้อนในท้องถ้ามีอุจจาระมากและอาจพบจุดที่ท้องไม่สบาย การตรวจไส้ตรงจะทำให้รู้ถึงความตึงแน่นของหูรูดทวารหนัก และเพื่อดูว่า ไส้ตรงส่วนล่างมีอุจจาระหรือไม่ อีกทั้งให้ข้อมูลเกี่ยวกับความสม่ำเสมอของอุจจาระ ว่ามีริดสีดวง มีเลือด และมีความผิดปกติต่าง ๆ ที่ฝีเย็บร่วมทั้งติ่งเนื้อ แผล หรือหูด หรือไม่ ข้อมูลที่ได้อาจช่วยแนะว่าควรจะตรวจวินิจฉัยเพิ่มขึ้นหรือไม่

การตรวจเพิ่ม

ท้องผูกโดยหน้าที่ (functional constipation) คือไม่มีเหตุทางกาย เป็นเรื่องสามัญ จึงไม่จำเป็นต้องตรวจเพิ่ม (diagnostic testing) การถ่ายภาพหรือการทดสอบทางแล็บอื่น ๆ ปกติจะแนะนำสำหรับคนไข้ที่มีอาการน่าเป็นห่วง การทดสอบในแล็บที่ใช้จะขึ้นอยู่กับเหตุของอาการท้องผูกที่สงสัย ซึ่งอาจรวมการตรวจนับเม็ดเลือดอย่างสมบูรณ์ (CBC) การตรวจการทำงานของต่อมไทรอยด์ การตรวจเลือดรวมทั้งระดับแคลเซียม โพแทสเซียมเป็นต้นการถ่ายภาพเอ็กซ์เรย์ที่ท้อง (AXR) โดยทั่วไปจะทำเมื่อสงสัยการอุดตันในลำไส้ หรืออุจจาระอัดแน่นในลำไส้ใหญ่ และอาจยืนยันหรือกันเหตุอื่น ๆ ที่มีอาการคล้าย ๆ กัน การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (colonoscopy) อาจทำถ้าสงสัยความผิดปกติในลำไส้ใหญ่เช่นเนื้องอก การตรวจที่แพทย์ไม่ค่อยสั่งรวมทั้งการบีบตัวของไส้ตรงและทวารหนัก (anorectal manometry), การบันทึกคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อหูรูดทวารหนัก (sphincter electromyography), และ defecography (การดูภาพรังสีบนจอเมื่อถ่ายอุจจาระ)

ลำดับคลื่นความดันแผ่กระจาย (propagating pressure wave sequence, PS) ของลำไส้ใหญ่ซึ่งเป็นตัวการค่อย ๆ ขยับสิ่งที่อยู่ลำไส้ เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการถ่ายอุจจาระปกติ ความบกพร่องในความถี่ ความแรง และส่วนลำไส้ที่เกิด PS ล้วนแต่เป็นหตุให้เกิดการถ่ายผิดปกติอย่างรุนแรง (severe defecatory dysfunction, SDD) วิธีการที่ช่วยบรรเทารูปแบบการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติเยี่ยงนี้อาจช่วยแก้ปัญหา งานปี 2007 ได้ลองใช้การบำบัดใหม่ที่เรียกว่า การกระตุ้นประสาทใต้กระเบนเหน็บ (sacral nerve stimulation, SNS) เพื่อรักษาท้องผูกแบบรุนแรง

เกณฑ์วินิจฉัย

เกณฑ์ Rome III เพื่อวินิจฉัยท้องผูกโดยหน้าที่ต้องรวมอาการต่อไปนี้อย่างน้อย 2 อย่างและต้องมีใน 3 เดือนที่ผ่านมา อีกทั้งอาการได้เริ่มขึ้นอย่างน้อย 6 เดือนก่อนจะวินิจฉัย

  • ต้องเบ่งถ่ายอุจจาระอย่างน้อย 25%
  • อุจจาระเป็นก้อน ๆ หรือแข็งอย่างน้อย 25%
  • ความรู้สึกว่าถ่ายไม่หมดอย่างน้อย 25%
  • ความรู้สึกว่ามีอะไรขวางไส้ตรง-ทวารหนักอย่างน้อย 25%
  • การต้องใช้มือช่วยถ่ายอย่างน้อย 25%
  • ถ่ายน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์
  • อุจจาระที่ไม่อัดแน่นมีน้อยมากถ้าไม่ใช้ยาระบาย
  • ไม่มีอาการพอให้วินิจฉัยว่าเป็นกลุ่มอาการลำไส้ไวเกินต่อการกระตุ้น (IBS)

การป้องกัน

ท้องผูกป้องกันได้ง่ายกว่ารักษา เมื่อท้องผูกบรรเทาแล้ว การดูแลไม่ให้เกิดโรคอีกก็คือให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทานน้ำให้เพียงพอ และทานอาหารมีใยอาหารสูง

การรักษา

มีเหตุจำกัดจำนวนหนึ่งที่จำเป็นต้องรีบรักษา ไม่เช่นนั้นจะมีผลรุนแรง ท้องผูกควรรักษาที่เหตุถ้ารู้ องค์การอนามัยสหราชอาณาจักรคือ NICE ได้แยกท้องผูกในผู้ใหญ่ออกเป็นสองหมวด คือ แบบเรื้อรังไม่ทราบสาเหตุ และที่เกิดจากยาฝิ่น

สำหรับท้องผูกเรื้อรังไม่ทราบสาเหตุ การรักษาหลักก็โดยดื่มน้ำเพิ่มและทานใยอาหารเพิ่ม ไม่ว่าจะโดยเปลี่ยนอาหารหรือทานอาหารเสริม การใช้ยาระบายเป็นปกติไม่แนะนำ เพราะอาจจะกลายเป็นต้องใช้ยาเพื่อจะถ่าย การสวนทวารสามารถใช้กระตุ้นการถ่าย การสวนทวารแบบใช้น้ำมาก อาจใช้เพื่อล้างอุจจาระจากลำไส้ใหญ่ให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ อย่างไรก็ดี การสวนทวารหนักแบบใช้น้ำน้อยปกติจะช่วยระบายอุจจาระในไส้ตรงเท่านั้น ไม่ได้กำจัดอุจจาระที่อยู่ในลำไส้

ใยอาหารเสริม

อาหารเสริมที่มีใยอาหารแบบละลายได้เช่น ซิลเลียม (psyllium) โดยทั่วไปจัดเป็นการรักษาอันดับแรกสำหรับท้องผูกเรื้อรัง เทียบกับใยอาหารที่ละลายไม่ได้เช่น รำข้าว ผลข้างเคียงของใยอาหารเสริมรวมทั้งท้องขึ้น (bloating) ท้องอืด ท้องร่วง และการดูดซึมธาตุเหล็ก แคลเซียม และยาบางอย่างได้ผิดปกติ อย่างไรก็ดี คนไข้ที่ท้องผูกเนื่องจากยาฝิ่นปกติจะไม่ได้ประโยชน์จากใยอาหารเสริม

ยาระบาย

เมื่อใช้ยาระบาย แมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ หรือโพลีเอทิลีนไกลคอล (polyethylene glycol) แนะนำเป็นอันดับแรกเพราะราคาถูกและปลอดภัย ยาแบบกระตุ้น (stimulant) ควรใช้ต่อเมื่อนี่ไม่ได้ผล ในท้องผูกเรื้อรัง โพลีเอทิลีนไกลคอลดูเหมือนจะได้ผลดีกว่าแล็กทูโลสยาเพิ่มการบีบตัวของลำไส้ (prokinetic) อาจช่วยปรับการบีบตัว (motility) ของทางเดินอาหาร

ยังมียาใหม่ ๆ ที่ได้ผลดีสำหรับท้องผูกเรื้อรัง รวมทั้ง prucalopride และ lubiprostone ส่วนยาเพิ่มการบีบตัวของทางเดินอาหารส่วนบน คือ cisapride มีขายอย่างแพร่หลายในประเทศกำลังพัฒนา แต่ได้เลิกขายในประเทศตะวันตกโดยมากแล้ว เพราะไม่มีหลักฐานว่ามีประโยชน์แก่ท้องผูก และอาจสร้างปัญหาหัวใจเสียจังหวะและทำให้ถึงตายได้

การใช้กายช่วย

ท้องผูกที่ดื้อวิธีรักษาที่กล่าวมาแล้วอาจจะต้องใช้กายช่วย เช่น การเอาอุจจาระที่อัดแน่นออกด้วยมือ การออกกำลังกายสม่ำเสมอก็อาจช่วยทำให้ท้องผูกเรื้อรังดีขึ้นด้วย

การผ่าตัด

ในกรณีที่รักษาไม่หาย หัตถการบางอย่างอาจช่วยบรรเทาอาการ การกระตุ้นประสาทใต้กระเบนเหน็บ (sacral nerve stimulation) พบว่ามีประสิทธิผลในกรณีส่วนน้อยจำนวนหนึ่ง การตัดลำไส้ใหญ่ (colectomy) เปิดช่องระหว่างลำไส้เล็กส่วนปลายกับไส้ตรง (ileorectal anastomosis) จะทำกับแต่คนไข้ที่รู้ว่าอุจจาระผ่านลำไส้ใหญ่ไปได้ช้า และได้รักษาความผิดปกติในการถ่ายอุจจาระไปแล้ว หรือว่าไม่มีโรคเช่นนั้น แต่เพราะนี่เป็นการผ่าตัดใหญ่ ผลข้างเคียงอาจรวมการปวดท้องมาก การอุดตันในลำไส้เล็ก และการติดเชื้อหลังผ่าตัด นอกจากนั้น ยังมีอัตราความสำเร็จที่ต่าง ๆ กัน โดยขึ้นอยู่กับกรณีคนไข้เป็นอย่างยิ่ง

พยากรณ์โรค

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดจากท้องผูกรวมทั้งโรคริดสีดวงทวาร แผลทวารหนัก (anal fissure) ไส้ตรงปลิ้น และอุจจาระอัดแน่น การเบ่งถ่ายอุจจาระอาจทำให้เป็นริดสีดวงทวารหนัก ในระยะหลัง ๆ ของอาการท้องผูก ท้องเองอาจจะป่อง แข็ง และกดเจ็บโดยกระจายไปทั่ว กรณีที่รุนแรง (เช่น เมื่ออุจจาระอัดแน่น หรือเป็น "ท้องผูกแบบร้าย") อาจมีอาการของการอุดตันในลำไส้ (เวียนศีรษะ อาเจียน ท้องกดเจ็บ) และอาการอุจจาระรด (encopresis) ที่อุจจาระนิ่มจะไหลอ้อมอุจจาระแข็งในลำไส้ใหญ่แล้วไหลออกจากทวารหนักแบบกลั้นไม่ได้

การระบาด

อาการท้องผูกเป็นความผิดปกติทางเดินอาหารเรื้อรังซึ่งสามัญที่สุดในผู้ใหญ่ คือเกิดกับประชากร 2-20% โดยขึ้นอยู่กับนิยามที่ใช้ มันสามัญกว่าในหญิง ผู้สูงอายุ และเด็ก โดยเฉพาะท้องผูกที่ไม่มีสาเหตุ ซึ่งเกิดในหญิงมากกว่าชาย เหตุผลที่เกิดในผู้สูงอายุมากกว่าเชื่อว่า เพราะมีปัญหาสุขภาพต่าง ๆ มากขึ้นเหตุสูงอายุและออกกำลังน้อยลง

  • ประชากร 12% ทั่วโลกรายงานว่ามีท้องผูก
  • ท้องผูกเรื้อรังทำให้เด็กต้องไปแผนกผู้ป่วยนอก (กุมารเวช) 3% ในแต่ละปี
  • ในสหรัฐ การพยาบาลรักษาอาการเกี่ยวกับท้องผูกมีค่าใช้จ่ายถึง 6,900 ล้านเหรียญสหรัฐ (277,270 ล้านบาทในปี 2000) ต่อปี
  • คนอเมริกันมากกว่า 4 ล้านคน (ในบรรดาประมาณ 309 ล้านคน) ท้องผูกบ่อย ทำให้ไปหาแพทย์ 2.5 ครั้งต่อปี
  • ในสหรัฐ มีการซื้อยาระบายเป็นมูลค่า 725 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 23,488 ล้านบาทปี 2007) ต่อปี
image
การ์ตูนเสียดสีคริสต์ทศวรรษที่ 19 แสดงลิงที่ไม่เอาวิธีการสวนทวารเก่า โดยเอาแต่วิธีการสวนทวารใหม่ที่ใช้ขนมมาร์ชเมลโลว์กับฝิ่น

ประวัติ

ตั้งแต่สมัยโบราณ สังคมต่าง ๆ ได้บันทึกความเห็นของแพทย์ว่าควรจะรักษาอาการท้องผูกในคนไข้อย่างไร หมอในเวลาต่าง ๆ และในที่ต่าง ๆ ได้อ้างว่า ท้องผูกมีเหตุทางการแพทย์หรือเหตุทางสังคมต่าง ๆ นา ๆ และได้รักษาด้วยวิธีที่สมเหตุผลหรือไม่สมเหตุสมผล (เช่น ด้วยอุปกรณ์ที่เรียกว่า Spatula Mundani)

ต่อมาหลังจากเกิดทฤษฎีการเกิดโรคเหตุเชื้อโรค แนวคิดของการทำพิษให้ตนเอง (auto-intoxication) ก็กลายเป็นเรื่องนิยมในความคิดชนตะวันตก การสวนทวารจึงกลายเป็นวิธีการรักษา "ทางวิทยาศาสตร์" และการล้างลำไส้ใหญ่ซึ่งเคยเป็นวิธีการแพทย์ทางเลือกก็กลายเป็นเรื่องสามัญในการแพทย์หลัก ตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1700 ยังมีแนวคิดยอดนิยมในชาวตะวันตกว่า คนที่ท้องผูกมีปัญหาทางศีลธรรมในเรื่องการกินไม่เลือกและเกียจคร้าน

กลุ่มพิเศษ

เด็ก

เด็กประมาณ 3% ท้องผูก โดยทั้งหญิงทั้งชายเท่ากัน ท้องผูกเป็นเหตุให้ไปหากุมารแพทย์ทั่วไปประมาณ 5% และกุมารแพทย์ทางเดินอาหาร 25% ดังนั้น อาการนี้จึงเป็นภาระแก่ระบบสาธารณสุขออย่างสำคัญ

แม้จะกำหนดช่วงอายุที่เกิดท้องผูกมากที่สุดได้ยาก แต่เด็กบ่อยครั้งจะท้องผูกเมื่อชีวิตเปลี่ยนไป ตัวอย่างรวมทั้งการฝึกใช้ส้วม การเริ่มหรือการย้ายโรงเรียน และการเปลี่ยนอาหาร โดยเฉพาะในทารก การเปลี่ยนสูตรนมหรือการเปลี่ยนจากให้นมแม่ไปเป็นนมกระป๋องอาจเป็นเหตุให้ท้องผูก ยังดีว่า กรณีท้องผูกโดยมากไม่ใช่โรคจริง ๆ และการรักษาก็คือแค่บรรเทาอาการเท่านั้น

มารดาหลังคลอด

6 อาทิตย์หลังการตั้งครรภ์จัดเป็นระยะหลังคลอด (postpartum stage) ในช่วงเวลานี้ หญิงจะเสี่ยงท้องผูกมากขึ้น งานศึกษาหลายงานได้ประเมินความชุกของท้องผูกที่ราว ๆ 25% ใน 3 เดือนแรก ท้องผูกอาจทำให้หญิงไม่สบายเพิ่ม เพราะกำลังฟื้นสภาพจากการคลอดลูกโดยเฉพาะถ้าฝีเย็บฉีกหรือถ้าต้องผ่าขยายปากช่องคลอดเมื่อคลอดลูก

ปัจจัยเสี่ยงต่อการท้องผูกในกลุ่มนี้รวมทั้ง

  • กล้ามเนื้อฐานเชิงกราน (levator ani muscle) เสียหายเพราะคลอดลูก
  • ต้องใช้คีมเพื่อช่วยคลอดเด็ก
  • การคลอดระยะสองยาว
  • เด็กตัวโต
  • โรคริดสีดวงทวาร

โรคริดสีดวงทวารเป็นเรื่องสามัญเมื่อมีครรภ์ และอาจแย่ลงเมื่อท้องผูก ดังนั้น อะไรที่ทำให้เจ็บเมื่อถ่ายอุจจาระ (รวมทั้งริดสีดวง ฝีเย็บฉีก และแผลที่ผ่าขยายช่องคลอด) อาจทำให้ท้องผูกเพราะคนไข้อาจกลั้นอุจจาระเพื่อหลีกเลี่ยงการเจ็บ กล้ามเนื้อฐานเชิงกรานมีบทบาทสำคัญในการถ่ายอุจจาระ ดังนั้น เมื่อกล้ามเนื้อบาดเจ็บเนื่องจากปัจจัยเสี่ยงดังที่ว่าบางอย่าง (เช่น เด็กตัวโต การคลอดระยะสองยาวนาน การใช้คีมช่วยคลอด) จะมีผลให้ท้องผูก หญิงบางครั้งยังได้รับสวนทวารในช่วงการคลอด ที่อาจเปลี่ยนกระบวนการขับถ่ายของลำไส้หลังจากคลอดบุตรแล้ว อย่างไรก็ดี ก็ยังไม่มีหลักฐานพอสรุปประสิทธิผลและความปลอดภัยของยาระบายสำหรับคนไข้กลุ่มนี้

เชิงอรรถ

  1. coeliac disease หรือ celiac disease เป็นโรคภูมิต้านตนเองระยะยาวที่โดยหลักมีผลต่อลำไส้เล็กและเกิดในบุคคลที่มีปัจจัยทางพันธุกรรม อาการคลาสสิกรวมทั้งปัญหาในทางเดินอาหารเช่นท้องร่วงเรื้อรัง ท้องป่อง ดูดซึมอาหารผิดปกติ ไม่อยากอาหาร และไม่โตตามวัยในเด็ก
  2. non-celiac gluten sensitivity (NCGS) หรือ gluten sensitivity เป็น "โรค/อาการที่เกิดเนื่องจากการทานกลูเตน แล้วก่ออาการภายในลำไส้หรือนอกลำไส้ที่จะดีขึ้นหลังจากเลิกทานอาหารที่มีกลูเตน และได้กันโรค celiac disease และโรคแพ้ข้าวสาลีออกแล้ว"
  3. diverticulitis หรือ colonic diverticulitis เป็นโรคทางเดินอาหาร ที่ส่วนยื่นออกจากเยื่อเมือกและชั้นใต้เยื่อเมือกของลำไส้ใหญ่เนื่องจากกล้ามเนื้อผนังลำไส้ไม่แข็งแรง เกิดการอักเสบ อาการปกติรวมการปวดท้องด้านล่างที่เกิดอย่างฉับพลัน แต่ก็อาจใช้เวลาเกิดเป็นเวลา 2-3 วัน ในอเมริกาเหนือและยุโรป มักจะปวดท้องทางด้านซ้าย และในเอเชีย บ่อยครั้งจะปวดทางด้านขวา บางครั้งจะเป็นไข้ คลื่นไส้ ท้องร่วง ท้องผูก หรือมีเลือดในอุจจาระ และอาจเกิดอย่างซ้ำ ๆ
  4. cystocele เป็นภาวะที่เกิดเมื่อผนังที่เป็นเส้นใยแข็งระหว่างกระเพาะปัสสาวะกับช่องคลอด คือ pubocervical fascia ฉีก ทำให้กระเพาะปัสสาวะเลื่อนผ่านช่องเข้าไปในช่องคลอดได้
  5. porphyria เป็นกลุ่มโรค ที่สาร porphyrin สะสมแล้วก่อปัญหาที่ผิวหนังหรือระบบประสาท แบบที่มีผลต่อระบบประสาทยังเรียกด้วยว่า acute porphyria ซึ่งมีอาการปวดท้อง เจ็บหน้าอก อาเจียน สับสน ท้องผูก เป็นไข้ และชัก อาการเช่นนี้ปกติจะเป็น ๆ หาย ๆ เป็นวัน ๆ หรืออาทิตย์ ๆ อาการอาจจุดชนวนด้วยการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ เครียด หรือยาบางชนิด ถ้ามีผลต่อผิวหนังด้วย เมื่อถูกแดดอาจเกิดตุ่มพองและคัน
  6. myotonic dystrophy เป็นความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ที่เป็นในระยะยาวและมีผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ อาการรวมทั้งการเสียกล้ามเนื้อที่แย่ลงเรื่อย ๆ และรู้สึกอ่อนแรง กล้ามเนื้อบ่อยครั้งจะหดเกร็งโดยไม่สามารถคลายได้ อาการอย่างอื่นอาจรวมต้อกระจก อ่อนสติปัญญา และปัญหาการนำไฟฟ้าในหัวใจ ในชาย อาจจะหัวล้านก่อนวัยและเป็นหมัน
  7. anismus หรือ dyssynergic defecation หมายถึงกล้ามเนื้อฐานเชิงกรานไม่คลายตัวเหมือนปกติเมื่อพยายามจะอุจจาระ
  8. ฝีเย็บย้อย (descending perineum syndrome หรือ levator plate sagging) หมายถึงภาวะที่ฝีเย็บพองเป็นลูกโป่งขนาดหลายเซนติเมตรลงจากช่องกระดูกของเชิงกรานเมื่อเบ่งถ่ายอุจจาระ แม้การย้อยนี้ก็อาจเกิดโดยไม่ต้องเบ่งด้วย
  9. Hirschsprung's disease เป็นรูปแบบหนึ่งของ megacolon (ลำไส้ใหญ่บวมเกินปกติ) ที่เกิดเมื่อลำไส้ใหญ่บางส่วนหรือทั้งหมด หรือโครงสร้างที่เกิดขึ้นก่อนพัฒนาเป็นทางเดินอาหาร ไม่มี ganglion cells และดังนั้น จึงไม่สามารถทำงานได้
  10. Spatula Mundani เป็นอุปกรณ์เหล็กที่ยาวประมาณ 12 นิ้ว ข้างหนึ่งมีรูปร่างเหมือนไม้พาย อีกข้างหนึ่งเหมือนช้อนแต่ตรงกลางเอาออกและปลายสุดเป็นลูกตุ้ม ส่วนที่เป็นช้อนเอาไว้คว้านอุจจาระแข็งออก อีกข้างหนึ่งเอาไว้สำหรับทายา ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะต้องทาหลังจากทำหัตถการด้วยเครื่องมือนี้ เป็นอุปกรณ์ที่ประดิษฐ์โดยศัลยแพทย์ชาวลอนดอน James Woodall

อ้างอิง

  1. . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 April 2010.
  2. Chatoor, D; Emmnauel, A (2009). "Constipation and evacuation disorders". Best Pract Res Clin Gastroenterol. 23 (4): 517–30. doi:10.1016/j.bpg.2009.05.001. PMID 19647687.{{}}: CS1 maint: uses authors parameter ()
  3. American Gastroenterological Association,; Bharucha, AE; Dorn, SD; Lembo, A; Pressman, A (January 2013). "American Gastroenterological Association medical position statement on constipation". Gastroenterology (Review). 144 (1): 211–217. doi:10.1053/j.gastro.2012.10.029. PMID 23261064.{{}}: CS1 maint: extra punctuation ()
  4. . National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases. February 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 March 2017. สืบค้นเมื่อ 14 March 2017.
  5. . National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases. June 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 April 2017. สืบค้นเมื่อ 24 April 2017.
  6. Makharia, A; Catassi, C; Makharia, GK (2015). "The Overlap between Irritable Bowel Syndrome and Non-Celiac Gluten Sensitivity: A Clinical Dilemma". Nutrients (Review). 7 (12): 10417–26. doi:10.3390/nu7125541. PMC 4690093. PMID 26690475.{{}}: CS1 maint: uses authors parameter ()
  7. Andromanakos, N; Skandalakis, P; Troupis, T; Filippou, D (2006). "Constipation of anorectal outlet obstruction: Pathophysiology, evaluation and management". Journal of Gastroenterology and Hepatology. 21 (4): 638–646. doi:10.1111/j.1440-1746.2006.04333.x. PMID 16677147.{{}}: CS1 maint: uses authors parameter ()
  8. "constipation", Lexitron พจนานุกรมไทย<=>อังกฤษ รุ่น 2.6, หน่วยปฏิบัติการวิจัยวิทยาการมนุษยภาษา, ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ, กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 2546, อาการท้องผูก
  9. Colombo, Jennifer M.; Wassom, Matthew C.; Rosen, John M. (1 September 2015). "Constipation and Encopresis in Childhood". Pediatrics in Review. 36 (9): 392–401, quiz 402. doi:10.1542/pir.36-9-392. ISSN 1526-3347. PMID 26330473.
  10. "Celiac Disease". NIDDKD. June 2015. สืบค้นเมื่อ 17 March 2016.
  11. "Clinical presentation of celiac disease in the pediatric population". April 2005. PMID 15825129. {{}}: Cite journal ต้องการ |journal= ((help))
  12. "The Oslo definitions for coeliac disease and related terms". 2013. PMID 22345659. {{}}: Cite journal ต้องการ |journal= ((help))
  13. "Nonceliac gluten sensitivity". 2015. PMID 25583468. Since 2010, the definition of NCGS has been discussed at 3 consensus conferences, which led to 3 publications. Given the uncertainties about this clinical entity and the lack of diagnostic biomarkers, all 3 reports concluded that NCGS should be defined by the following exclusionary criteria: a clinical entity induced by the ingestion of gluten leading to intestinal and/or extraintestinal symptoms that resolve once the gluten-containing foodstuff is eliminated from the diet, and when celiac disease and wheat allergy have been ruled out. {{}}: Cite journal ต้องการ |journal= ((help))
  14. "Diverticular Disease". niddk.nih.gov. September 2013.
  15. "Diverticulosis today: unfashionable and still under-researched". 2016. PMID 26929783. {{}}: Cite journal ต้องการ |journal= ((help))
  16. Feldman, Mark (2010). Sleisenger & Fordtran's Gastrointestinal and liver disease pathophysiology, diagnosis, management (9th ed.). MD Consult. p. 2084. ISBN .{{}}: CS1 maint: uses authors parameter ()
  17. Bharucha, AE; Pemberton, JH; Locke GR, 3rd (January 2013). "American Gastroenterological Association technical review on constipation". Gastroenterology. 144 (1): 218–38. doi:10.1053/j.gastro.2012.10.028. PMC 3531555. PMID 23261065.
  18. Canadian Agency for Drugs and Technologies in Health (26 June 2014). "Dioctyl Sulfosuccinate or Docusate (Calcium or Sodium) for the Prevention or Management of Constipation: A Review of the Clinical Effectiveness". PMID 25520993. {{}}: Cite journal ต้องการ |journal= ((help))
  19. Brenner, DM; Shah, M (June 2016). "Chronic Constipation". Gastroenterology clinics of North America. 45 (2): 205–16. doi:10.1016/j.gtc.2016.02.013. PMID 27261894.
  20. Jamshed, Namirah; Lee, Zone-En; Olden, Kevin W. (1 August 2011). "Diagnostic approach to chronic constipation in adults". American Family Physician. 84 (3): 299–306. ISSN 1532-0650. PMID 21842777.
  21. . eMedicine. 29 March 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 March 2007.
  22. Walia, R; Mahajan, L; Steffen, R (October 2009). "Recent advances in chronic constipation". Curr Opin Pediatr. 21 (5): 661–6. doi:10.1097/MOP.0b013e32832ff241. PMID 19606041.{{}}: CS1 maint: uses authors parameter ()
  23. Locke, GR; Pemberton, JH; Phillips, SF (December 2000). "American Gastroenterological Association Medical Position Statement: guidelines on constipation". Gastroenterology. 119 (6): 1761–6. doi:10.1053/gast.2000.20390. PMID 11113098.{{}}: CS1 maint: uses authors parameter ()
  24. Hsieh, C (December 2005). . Am Fam Physician. 72 (11): 2277–84. PMID 16342852. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 April 2012.
  25. Basilisco, Guido; Coletta, Marina (2013). "Chronic constipation: A critical review". Digestive and Liver Disease. 45 (11): 886–893. doi:10.1016/j.dld.2013.03.016.
  26. Leung, FW (February 2007). "Etiologic factors of chronic constipation: review of the scientific evidence". Dig. Dis. Sci. 52 (2): 313–6. doi:10.1007/s10620-006-9298-7. PMID 17219073.
  27. . World Gastroenterology Organisation Global Guidelines. July 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 March 2017. สืบค้นเมื่อ 23 April 2017.
  28. "Cystocele (Prolapsed Bladder) | NIDDK". National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2 December 2017.
  29. McCallum, IJ; Ong, S; Mercer-Jones, M (2009). "Chronic constipation in adults". BMJ. 338: b831. doi:10.1136/bmj.b831. PMID 19304766.{{}}: CS1 maint: uses authors parameter ()
  30. Selby, Warwick; Corte, Crispin (August 2010). . Australian Prescriber. 33 (4): 116–9. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 March 2011. สืบค้นเมื่อ 27 August 2010.
  31. Gallegos-Orozco, JF; Foxx-Orenstein, AE; Sterler, SM; Stoa, JM (January 2012). "Chronic constipation in the elderly". The American Journal of Gastroenterology (Review). 107 (1): 18–25. doi:10.1038/ajg.2011.349. PMID 21989145.{{}}: CS1 maint: uses authors parameter ()
  32. "porphyria". GHR. July 2009.
  33. . NIDDK. February 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 October 2016. สืบค้นเมื่อ 14 September 2018.
  34. "myotonic dystrophy". GHR. 11 October 2016.
  35. "Myotonic dystrophies: An update on clinical aspects, genetic, pathology, and molecular pathomechanisms". 2015. PMID 24882752. {{}}: Cite journal ต้องการ |journal= ((help))
  36. Gyger, G; Baron, M (2015). "Systemic Sclerosis: Gastrointestinal Disease and Its Management". Rheum Dis Clin North Am (Review). 41 (3): 459–73. doi:10.1016/j.rdc.2015.04.007. PMID 26210129.{{}}: CS1 maint: multiple names: authors list ()
  37. Rao, Satish S. C.; Rattanakovit, Kulthep; Patcharatrakul, Tanisa (2016). "Diagnosis and management of chronic constipation in adults". Nature Reviews Gastroenterology & Hepatology. 13 (5): 295–305. doi:10.1038/nrgastro.2016.53.
  38. "Interest of retro-anal levator plate myorrhaphy in selected cases of descending perineum syndrome with positive anti-sagging test". 2008. doi:10.1186/1471-2482-8-13. {{}}: Cite journal ต้องการ |journal= ((help))
  39. "Perineal descent and patients' symptoms of anorectal dysfunction, pelvic organ prolapse, and urinary incontinence". 2010. doi:10.1007/s00192-010-1099-z. {{}}: Cite journal ต้องการ |journal= ((help))
  40. Schouten, WR; Briel, JW; Auwerda, JJ; van Dam, JH; Gosselink, MJ; Ginai, AZ; Hop, WC (1997). "Anismus: fact or fiction?". Diseases of the colon and rectum. 40 (9): 1033–1041. doi:10.1007/BF02050925. PMID 9293931.{{}}: CS1 maint: uses authors parameter ()
  41. Cohn, A (2010). (PDF). Journal of Pediatric Neurology. 8 (1): 29–30. doi:10.3233/JPN-2010-0350. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 7 September 2011. สืบค้นเมื่อ 7 September 2011.
  42. Bharucha, Adil E.; Pemberton, John H.; Locke, G. Richard (2013). "American Gastroenterological Association Technical Review on Constipation". Gastroenterology. 144 (1): 218–238. doi:10.1053/j.gastro.2012.10.028. PMC 3531555. PMID 23261065.
  43. Wexner, Steven (2006). Constipation: etiology, evaluation and management. New York: Springer.
  44. Tabbers, M.M.; DiLorenzo, C.; Berger, M.Y.; Faure, C.; Langendam, M.W.; Nurko, S.; Staiano, A.; Vandenplas, Y.; Benninga, M.A. (2014). "Evaluation and Treatment of Functional Constipation in Infants and Children". Journal of Pediatric Gastroenterology and Nutrition. 58 (2): 265–281. doi:10.1097/mpg.0000000000000266.[]
  45. . MedicineNet. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 30 November 2007.
  46. Tierney, LM; Henderson, MC; Smetana, GW (2012). The patient history : an evidence-based approach to differential diagnosis (2nd ed.). New York: McGraw-Hill Medical. p. Chapter 32. ISBN .{{}}: CS1 maint: uses authors parameter ()
  47. Longstreth, GF; Thompson, WG; Chey, WD; Houghton, LA; Mearin, F; Spiller, RC (2006). "Functional bowel disorders". Gastroenterology. 130 (5): 1480–91. doi:10.1053/j.gastro.2005.11.061. PMID 16678561.{{}}: CS1 maint: uses authors parameter ()
  48. Dinning, PG (September 2007). . Pelviperineology. 26 (3): 114–116. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 February 2008.
  49. . National Institute for Health and Car Excellence. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 September 2015. สืบค้นเมื่อ 10 October 2015.
  50. "high enema". Medical Dictionary. Merriam-Webster. สืบค้นเมื่อ 17 February 2018.
  51. . Care of patients. Ternopil State Medical University. 14 July 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 February 2018. สืบค้นเมื่อ 17 February 2018.
  52. Cruz, Rhodora. "Types of Enemas". Fundamentals of Nursing Practice. Professional Education, Testing and Certification Organization International. สืบค้นเมื่อ 17 February 2018.
  53. "low enema". Medical Dictionary. Merriam-Webster. สืบค้นเมื่อ 17 February 2018.
  54. Lee-Robichaud, H; Thomas, K; Morgan, J; Nelson, RL (7 July 2010). "Lactulose versus Polyethylene Glycol for Chronic Constipation". Cochrane Database of Systematic Reviews (7): CD007570. doi:10.1002/14651858.CD007570.pub2. PMID 20614462.{{}}: CS1 maint: uses authors parameter ()
  55. Camilleri, M; Deiteren, A (February 2010). "Prucalopride for constipation". Expert Opin Pharmacother. 11 (3): 451–61. doi:10.1517/14656560903567057. PMID 20102308.{{}}: CS1 maint: uses authors parameter ()
  56. Barish, CF; Drossman, D; Johanson, JF; Ueno, R (April 2010). "Efficacy and safety of lubiprostone in patients with chronic constipation". Dig. Dis. Sci. 55 (4): 1090–7. doi:10.1007/s10620-009-1068-x. PMID 20012484.{{}}: CS1 maint: uses authors parameter ()
  57. Aboumarzouk, Omar M; Agarwal, Trisha; Antakia, Ramez; Shariff, Umar; Nelson, Richard L (2011-01-19). (ภาษาอังกฤษ). John Wiley & Sons, Ltd. doi:10.1002/14651858.cd007780.pub2. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 September 2017.
  58. Canberra Hospital - Gastroenterology Unit. . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 July 2013.
  59. Bharucha, AE (2007). "Constipation". Best Practice & Research Clinical Gastroenterology. 21 (4): 709–31. doi:10.1016/j.bpg.2007.07.001. PMID 17643910.
  60. . National Digestive Diseases Information Clearinghouse. 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 August 2010. สืบค้นเมื่อ 18 July 2010.
  61. Sonnenberg, A; Koch, TR (1989). "Epidemiology of constipation in the United States". Dis Colon Rectum. 32 (1): 1–8. doi:10.1007/BF02554713. PMID 2910654.{{}}: CS1 maint: uses authors parameter ()
  62. Chang, L; Toner, BB; Fukudo, S; Guthrie, E; Locke, GR; Norton, NJ; Sperber, AD (2006). "Gender, age, society, culture, and the patient's perspective in the functional gastrointestinal disorders". Gastroenterology. 130 (5): 1435–46. doi:10.1053/j.gastro.2005.09.071. PMID 16678557.{{}}: CS1 maint: uses authors parameter ()
  63. Wald, A.; Scarpignato, C.; Mueller-Lissner, S.; Kamm, M. A.; Hinkel, U.; Helfrich, I.; Schuijt, C.; Mandel, K. G. (1 October 2008). . Alimentary Pharmacology & Therapeutics (ภาษาอังกฤษ). 28 (7): 917–930. doi:10.1111/j.1365-2036.2008.03806.x. ISSN 1365-2036. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 March 2017.
  64. Whorton, James C. (2000). Inner hygiene : constipation and the pursuit of health in modern society. New York: Oxford University Press. ISBN .
  65. Hornibrook, F. A. (1929). The culture of the abdomen;: The cure of obesity and constipation. Heinemann.
  66. Turawa, Eunice B; Musekiwa, Alfred; Rohwer, Anke C (23 September 2014). (ภาษาอังกฤษ). John Wiley & Sons, Ltd. doi:10.1002/14651858.cd010273.pub2. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 March 2017.
  67. Rome II: the Functional Gastrointestinal Disorders. Diagnosis, Pathophysiology and Treatment: a Multinational Consensus (2nd ed.). McLean: Degnon Associates. 2000. {{}}: ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |editors= ถูกละเว้น แนะนำ (|editor=) ((help))
  68. Turawa, EB; Musekiwa, A; Rohwer, AC (18 September 2015). "Interventions for preventing postpartum constipation". The Cochrane Database of Systematic Reviews. 9: CD011625. doi:10.1002/14651858.CD011625.pub2. PMID 26387487.

แหล่งข้อมูลอื่น

การจำแนกโรค
D
  • ICD-10: K59.0
  • ICD-: 564.0
  • MeSH: D003248
  • : 3080
ทรัพยากรภายนอก
  • : 003125
  • : med/2833
  • Constipation - Introduction (UK NHS site)
  • constipation
  • - the World Gastroenterology Organisation (WGO)

wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์

xakarthxngphuk xngkvs constipation hmaythungkarthayxuccaraimbxyhruxyakxuccarabxykhrngcaaekhngaelaaehng xakarxun thixacmirwmpwdthxng thxngkhun bloating aelarusukehmuxnkbwayngthayimhmd phawaaethrksxnrwmthngorkhridsidwngthwar aephlthwarhnk anal fissure aelaxuccaraxdaenn fecal impaction khwamthikarthayxuccarapktikhxngphuihyxyurahwang 3 khrngtxwn cnthung 3 khrngtxspdah swntharkbxykhrngcathay 3 4 khrngtxwn aelaedkelk pkticathay 2 3 khrngtxwnxakarthxngphuk Constipation chuxxunCostiveness dyscheziaphaphexkseryaesdngxakarthxngphukinedk wngklmaesdngxuccara xuccarasikhawlxmrxbdwyaekslaissida sakhawichawithyathangedinxaharxakarthayimbxyhruxyak pwdthxng thxngkhunphawaaethrksxnridsidwngthwarhnk aephlthwarhnk xuccaraxdaennsaehtuxuccaraekhluxnipidchainlaisihy klumxakarlaisiwekintxkarkratun IBS celiac disease karaephkluetn NCGS khwamphidpktikhxngthanechingkran pelvic floor disorders pccyesiyngphawakhadhxromnithrxyd orkhebahwan orkhpharkhinsn orkhekiywkbkluetn maernglaisihy diverticulitis orkhlaisxkesb IBD yabangchnidkarrksadumnaihphx thaniyxaharephim xxkkalngkayyayarabayaebbephimenuxxuccara aebbephimna osmotic agent aebbthaxuccaraihnim hruxaebbhlxlunkhwamchuk2 30 thxngphukmiehtuhlayxyang ehtusamyrwmthngxuccaraekhluxnipinlaisihychaekinip klumxakarlaisiwekintxkarkratun aelakhwamphidpktikhxngthanechingkran pelvic floor disorders orkhthiepnmulthankhxngxakarrwmthngphawakhadhxromnithrxyd orkhebahwan orkhpharkhinsn celiac disease karaephkluetn NCGS maernglaisihy diverticulitis aelaorkhlaisxkesb IBD yathithaihthxngphukrwmthngoxpixxyd yaldkrdbangchnid aekhlesiymaechnaenlblxkekxr aela anticholinergics inbrrdakhnikhthithanyaoxpixxyd praman 90 cathxngphuk thxngphuknaepnhwngyingkhunthanahnkldhruxolhitcang mieluxdinxuccara khrxbkhrwmiprawtiorkhlaisxkesb IBD hruxmaernglaisihy hruxepnxakarthiekidkhunihminphusungxayu karrksacakhunxyukbehtuaelarayaewlathiepnmaaelw phvtikrrmthixacchwyrwmthngkardumnaihephiyngphx thaniyxaharephim aelaxxkkalngkay thaniyngimidphl kaenanaihichyarabaytang thngaebbephimenuxxuccara aebbephimna osmotic agent aebbthaxuccaraihnim hruxaebbhlxlun swnyarabayaebb stimulant thikratuneyuxemuxklaishruxkhayprasathlais epliynkarhlngnaaelaxielkothrilt aelaepliynkarbibtwkhxnglais caekbiwichepnxyangsudthaythaxyangxunimidphl karrksaxyangxunrwmthng biofeedback karwdkartxbsnxngthangsrirphaphdwyekhruxngmuxodymicudprasngkhephuxcakhwbkhumkartxbsnxngechnnn hruxinkrnithinxymak karphatd inklumprachakrthwip xtrakarthxngphukxyuthi 2 30 swnsahrbphusungxayuinbankhnchra xtracaxyuthi 50 75 niyamrupaebbxuccara cakbnlnglang 1 epnkxntanghak aelaaekhng thxngphukmak 2 epnkxn mirupkhlaykbiskrxk thxngphukeba 3 epnrupiskrxkmiphiwaetk pkti 4 epnrupiskrxkhruxngumiphiweriyb pkti 5 epnkxnnim mikhxberiyb khadiyxahar 6 ela mikhxbkarungkaring thxngrwngeba 7 epnnaimepnkxnely thxngrwnghnk thxngphukepnxakaraetimichorkh bxykhrngthisudphicarnawa epnkarthayimbxyphx khuxthaynxykwa 3 khrngtxxathity xyangirkdi khnthimixakarxacmipyhaxun rwmthngtxngebngthayxuccara thayichewlamak xuccaraaekhng ecbemuxthayephraaebng pwdthxng thxngkhun bloating rusukehmuxnthayyngimhmd eknthwithikhux Rome Criteria epnxakartang thichwywinicchyxakarthxngphukinkhnklumxayutang ihepnmatrthan aelachwyihaephthywinicchyxakaridtammatrthanehtuehtukhxngxakarthxngphukxacaebngxxk 1 epnaetkaenid 2 pthmphumi 3 thutiyphumi aebbthisamythisudkkhuxpthmphumi sungimepnxntraytxchiwit ehtuyngsamarthaebngtamxayuechninedk aelaphuihy thxngphukpthmphumihruxthxngphukodyhnathi functional constipation epnxakarthinankwa 6 eduxnodyimmiehtutang rwmthngphlkhangekhiyngkhxngya hruxphlkhxngorkhxun immikarpwdthxng aeladngnncungtangkbklumxakarlaisiwekintxkarkratun epnxakarthxngphukaebbsamythisud aelabxykhrngekidcakpccyhlayxyang inphuihy ehtuhlk kkhux karthanxahar echn imidiyxaharaelanaphx hruxekidcakphvtikrrm echn xyuechy makekinip inphusungxayu ehtusamythixangrwmthngkarthaniyxaharimephiyngphx thannaimephiyngphx xyuechy makekinip phlkhangekhiyngkhxngya phawakhadhxromnithrxyd aelamaernglaisihythikhwangthangxuccara xyangirkdi hlkthanwaepnpccyehlanicring kxxnmak ehtuthutiyphumirwmthngphlkhangekhiyngkhxngyaechn sarfin orkhtxmirthxaelaorkhthangemaethbxlisum echn phawakhadhxromnithrxyd aelasingthikhwangthangxuccara echn maernglaisihy celiac disease aelakaraephkluetn NCGS kxacmixakarthxngphukdwy kraephaapssawaeluxnekhaipinchxngkhlxd cystocele xacekidodyepnphlkhxngthxngphukeruxrng xahar thxngphukxacmiehtucakhruxaeylngephraaxaharthimiiyxaharnxy karthannanxy hruxkarkhwbkhumxahar xaharthimiiyxaharsungcachwyldewlakardaeninphanlaisihy aelaephimenuxxuccaraodythaihmnnimipdwyphrxm kn dngnn xaharthimiiyxahartaxacnaipsuxakarthxngphukpthmphumi ya yahlayxyangmiphlkhangekhiyngepnxakarthxngphuk rwmthng aetimcakdaekh oxpixxyd yakhbpssawa yaaeksumesra sartanhistamin yaaekekrng yaknchk yaaeksumesraaebb tricyclic yaprbkaretnhwic antiarrythmic beta adrenoceptor antagonists yaaekthxngrwng 5 HT3 receptor antagonist echn ondansetron aelayaldkrdthiepnxalumieniymaekhlesiymaechnaenlblxkekxrbangchnid echn nifedipine aela verapamil samarththaihthxngphukmakenuxngcakkarekhluxnihwexng motility thiphidpktikhxnglaisihythiistrngaelaiskhd rectosigmoid colon xaharesrimechnaekhlesiymaelathatuehlkkmiphlkhangekhiyngednxyanghnungepnxakarthxngphuk orkh pyhathangemaethbxlisumaelatxmirthxthixacthaihthxngphukrwmthngphawaaekhlesiymsungekinineluxd phawakhadhxromnithrxyd phawahxromnpharaithrxydsungekinineluxd hyperparathyroidism porphyria orkhiteruxrng pan hypopituitarism orkhebahwan aelasistik ifobrsis xakarthxngphukyngsamyinbukhkhlthimiorkhklamenuxecriyphidephiyn muscular dystrophy aela myotonic dystrophy orkhthngkaythixacmixakarthxngphukrwmthng celiac disease aelaorkhhnngaekhng xakarthxngphukyngekidphrxmkbpyhathangkayphaph imwacaodyechingkl odyokhrngsrang hruxodykaywiphakh ephraasrangrxyorkhsungkinenuxthiinlaisihyaelakhwangthangedinkhxngxuccara pyhaechn maernglaisihy laistib istrngyunyxy khwamesiyhaykhxnghurudthwarhnk sphawawirupthiswntang hruxkarepliynaeplngtang hlngcakphatd kxnenuxnxklais echn maernginthixun kxacthaihthxngphukephraakdlais xakarthxngphukyngmiehtuthangprasath rwmthng anismus fieybyxy descending perineum syndrome aela Hirschsprung s disease HD inthark HD epnkhwamphidpktithisamythisudemuxthxngphuk aet anismus kekidinkhnhmunxythithxngphukxyangeruxrng hruxxuccarathukkhwang rxyorkhthiikhsnhlngaelakhwamphidpktithangprasath echn orkhpharkhinsn aelakarthahnathiphidpktikhxngthanechingkran pelvic floor dysfunction ksamarththaihthxngphukidehmuxnkn ehtuthangcit karklnxuccaraiwkepnehtuthisamykhxngthxngphuk ehtuphlthixniwkxaccaepnephraaklwecb imxyakichhxngnasatharna hruxkhiekiyc thaedkxnxuccaraiw karihkalngic ihnadum ihiyxahar aelaihyarabay xacchwyaekpyha karaekpyhatngaeteninepneruxngsakhyephraanixackxaephlthithwarhnk anal fissure ehtuaetkaenid khwamphidpktiaetkaenidxacmiphlepnxakarthxngphukinedk odyrwm aelwniepnehtuimsamykhxngxakar chnidthiepnehtusamythisudkkhux Hirschsprung s disease HD yngmikhwamphidpktithangokhrngsrangxun thithaihthxngphuk rwmthngkaryaythikhxngthwarhnkmathangdanhna thwarhnkimmichxng laistib aela small left colon syndrome phaphexkserykhxngedkxayu 8 khwb aesdngthxngphukkhxnkhangmakwithikarwinicchykarwinicchymkcathaxasykhabxkxakarkhxngkhnikh xuccarathithayyak aekhngmak hruxepnemdaekhng elk khlaykbkhikratay cdwaepnthxngphuk aemcathayechnnithukwn aetxakarthxngphukodypktikcaniyamwa epnkarthayxuccara 3 khrnghruxnxykwatxxathity xakarxun thismphnthkbthxngphukrwmthngthxngkhun thxngphxng pwdthxng pwdsirsa la hmdaerng hruxrusukwathayimhmd aemaephthyxaccawinicchywathxngphuk aetpktikcdepnxakarthicaepntxngtrwchasaehtu raylaexiyd aephthycaaeykaeyaxakaraebbchbphln epnaelwhlaywnthunghlayxathity hruxaebberuxrng epneduxn cnthungpi ephraakhxmulnicaepliynkarwinicchyaeykorkh xakarxun thiepnrwmknkcachwyihaephthykahndehtukhxngxakarid khnikhmkklawthungxakarthxngphukwa thayyak xuccaraaekhngepnkxn hruxaekhngipthw aelatxngebngmakemuxthay xakarthxngkhun bloating thxngphxng abdominal distension aelapwdthxngmkcamiphrxmkbthxngphuk thxngphukeruxrng mixakarxyangnxy 3 khrngtxeduxnmakkwa 3 eduxn thismphnthkbkhwamimsbaythxngmkcawinicchyepnklumxakarlaisiwekintxkarkratun IBS emuximphbsaehtuxun karthanxaharthiimthuksukhphaph karphatdinxdit hruxyabangchnidxacmibthbathtxxakar orkhthismphnthkbthxngphukrwmthngphawakhadhxromnithrxyd maerngbangxyang aela IBS karthanxaharthimiiyxaharnxy dumnaimphx karxyuechy ekinip hruxya klwnaetxacmibthbathtxthxngphuk emuxaephthykahndwaepnthxngphuktamxakardngthiklawaelw kxacphyayamhaehtutxip karaeykehtuthiebakbehtuthihnkxacthaidswnhnungtamxakar yktwxyangechn aephthyxacsngsymaernglaisihythakhnikhmiprawtimaernglaisihyinkhrxbkhrw epnikh nahnkld aelaeluxdxxkthangthwarhnk xakarnaepnhwngxun rwmthngprawti IBS swntwhruxkhxngkhrxbkhrw karerimmixakarhlngxayu 50 pi karepliynkhnadesnphasunyklangkhxngxuccara khlunis xaeciyn aelaxakarthangprasath echn xxnaerng cha aelamipyhathaypssawa kartrwcrangkay kartrwcrangkayxyangnxykhwrcamikartrwcthxngaelatrwcistrng ephraakartrwcthxngxacphbkxninthxngthamixuccaramakaelaxacphbcudthithxngimsbay kartrwcistrngcathaihruthungkhwamtungaennkhxnghurudthwarhnk aelaephuxduwa istrngswnlangmixuccarahruxim xikthngihkhxmulekiywkbkhwamsmaesmxkhxngxuccara wamiridsidwng mieluxd aelamikhwamphidpktitang thifieybrwmthngtingenux aephl hruxhud hruxim khxmulthiidxacchwyaenawakhwrcatrwcwinicchyephimkhunhruxim kartrwcephim thxngphukodyhnathi functional constipation khuximmiehtuthangkay epneruxngsamy cungimcaepntxngtrwcephim diagnostic testing karthayphaphhruxkarthdsxbthangaelbxun pkticaaenanasahrbkhnikhthimixakarnaepnhwng karthdsxbinaelbthiichcakhunxyukbehtukhxngxakarthxngphukthisngsy sungxacrwmkartrwcnbemdeluxdxyangsmburn CBC kartrwckarthangankhxngtxmithrxyd kartrwceluxdrwmthngradbaekhlesiym ophaethsesiymepntnkarthayphaphexkserythithxng AXR odythwipcathaemuxsngsykarxudtninlais hruxxuccaraxdaenninlaisihy aelaxacyunynhruxknehtuxun thimixakarkhlay kn karsxngklxnglaisihy colonoscopy xacthathasngsykhwamphidpktiinlaisihyechnenuxngxk kartrwcthiaephthyimkhxysngrwmthngkarbibtwkhxngistrngaelathwarhnk anorectal manometry karbnthukkhluniffaklamenuxhurudthwarhnk sphincter electromyography aela defecography karduphaphrngsibncxemuxthayxuccara ladbkhlunkhwamdnaephkracay propagating pressure wave sequence PS khxnglaisihysungepntwkarkhxy khybsingthixyulais epnsingthikhadimidinkarthayxuccarapkti khwambkphrxnginkhwamthi khwamaerng aelaswnlaisthiekid PS lwnaetepnhtuihekidkarthayphidpktixyangrunaerng severe defecatory dysfunction SDD withikarthichwybrretharupaebbkarekhluxnihwthiphidpktieyiyngnixacchwyaekpyha nganpi 2007 idlxngichkarbabdihmthieriykwa karkratunprasathitkraebnehnb sacral nerve stimulation SNS ephuxrksathxngphukaebbrunaerng eknthwinicchy eknth Rome III ephuxwinicchythxngphukodyhnathitxngrwmxakartxipnixyangnxy 2 xyangaelatxngmiin 3 eduxnthiphanma xikthngxakariderimkhunxyangnxy 6 eduxnkxncawinicchytxngebngthayxuccaraxyangnxy 25 xuccaraepnkxn hruxaekhngxyangnxy 25 khwamrusukwathayimhmdxyangnxy 25 khwamrusukwamixairkhwangistrng thwarhnkxyangnxy 25 kartxngichmuxchwythayxyangnxy 25 thaynxykwa 3 khrngtxspdah xuccarathiimxdaennminxymakthaimichyarabay immixakarphxihwinicchywaepnklumxakarlaisiwekintxkarkratun IBS karpxngknthxngphukpxngknidngaykwarksa emuxthxngphukbrrethaaelw karduaelimihekidorkhxikkkhuxihxxkkalngkayxyangsmaesmx thannaihephiyngphx aelathanxaharmiiyxaharsungkarrksamiehtucakdcanwnhnungthicaepntxngribrksa imechnnncamiphlrunaerng thxngphukkhwrrksathiehtutharu xngkhkarxnamyshrachxanackrkhux NICE idaeykthxngphukinphuihyxxkepnsxnghmwd khux aebberuxrngimthrabsaehtu aelathiekidcakyafin sahrbthxngphukeruxrngimthrabsaehtu karrksahlkkodydumnaephimaelathaniyxaharephim imwacaodyepliynxaharhruxthanxaharesrim karichyarabayepnpktiimaenana ephraaxaccaklayepntxngichyaephuxcathay karswnthwar samarthichkratunkarthay karswnthwaraebbichnamak xacichephuxlangxuccaracaklaisihyihmakthisudethathiepnipid xyangirkdi karswnthwarhnkaebbichnanxypkticachwyrabayxuccarainistrngethann imidkacdxuccarathixyuinlais iyxaharesrim xaharesrimthimiiyxaharaebblalayidechn sileliym psyllium odythwipcdepnkarrksaxndbaerksahrbthxngphukeruxrng ethiybkbiyxaharthilalayimidechn rakhaw phlkhangekhiyngkhxngiyxaharesrimrwmthngthxngkhun bloating thxngxud thxngrwng aelakardudsumthatuehlk aekhlesiym aelayabangxyangidphidpkti xyangirkdi khnikhthithxngphukenuxngcakyafinpkticaimidpraoychncakiyxaharesrim yarabay emuxichyarabay aemkniesiymihdrxkisd hruxophliexthiliniklkhxl polyethylene glycol aenanaepnxndbaerkephraarakhathukaelaplxdphy yaaebbkratun stimulant khwrichtxemuxniimidphl inthxngphukeruxrng ophliexthiliniklkhxlduehmuxncaidphldikwaaelkthuolsyaephimkarbibtwkhxnglais prokinetic xacchwyprbkarbibtw motility khxngthangedinxahar yngmiyaihm thiidphldisahrbthxngphukeruxrng rwmthng prucalopride aela lubiprostone swnyaephimkarbibtwkhxngthangedinxaharswnbn khux cisapride mikhayxyangaephrhlayinpraethskalngphthna aetidelikkhayinpraethstawntkodymakaelw ephraaimmihlkthanwamipraoychnaekthxngphuk aelaxacsrangpyhahwicesiycnghwaaelathaihthungtayid karichkaychwy thxngphukthiduxwithirksathiklawmaaelwxaccatxngichkaychwy echn karexaxuccarathixdaennxxkdwymux karxxkkalngkaysmaesmxkxacchwythaihthxngphukeruxrngdikhundwy karphatd inkrnithirksaimhay htthkarbangxyangxacchwybrrethaxakar karkratunprasathitkraebnehnb sacral nerve stimulation phbwamiprasiththiphlinkrniswnnxycanwnhnung kartdlaisihy colectomy epidchxngrahwanglaiselkswnplaykbistrng ileorectal anastomosis cathakbaetkhnikhthiruwaxuccaraphanlaisihyipidcha aelaidrksakhwamphidpktiinkarthayxuccara ipaelw hruxwaimmiorkhechnnn aetephraaniepnkarphatdihy phlkhangekhiyngxacrwmkarpwdthxngmak karxudtninlaiselk aelakartidechuxhlngphatd nxkcaknn yngmixtrakhwamsaercthitang kn odykhunxyukbkrnikhnikhepnxyangyingphyakrnorkhphawaaethrksxnthixacekidcakthxngphukrwmthngorkhridsidwngthwar aephlthwarhnk anal fissure istrngplin aelaxuccaraxdaenn karebngthayxuccaraxacthaihepnridsidwngthwarhnk inrayahlng khxngxakarthxngphuk thxngexngxaccapxng aekhng aelakdecbodykracayipthw krnithirunaerng echn emuxxuccaraxdaenn hruxepn thxngphukaebbray xacmixakarkhxngkarxudtninlais ewiynsirsa xaeciyn thxngkdecb aelaxakarxuccarard encopresis thixuccaranimcaihlxxmxuccaraaekhnginlaisihyaelwihlxxkcakthwarhnkaebbklnimidkarrabadxakarthxngphukepnkhwamphidpktithangedinxahareruxrngsungsamythisudinphuihy khuxekidkbprachakr 2 20 odykhunxyukbniyamthiich mnsamykwainhying phusungxayu aelaedk odyechphaathxngphukthiimmisaehtu sungekidinhyingmakkwachay ehtuphlthiekidinphusungxayumakkwaechuxwa ephraamipyhasukhphaphtang makkhunehtusungxayuaelaxxkkalngnxylng prachakr 12 thwolkraynganwamithxngphuk thxngphukeruxrngthaihedktxngipaephnkphupwynxk kumarewch 3 inaetlapi inshrth karphyabalrksaxakarekiywkbthxngphukmikhaichcaythung 6 900 lanehriyyshrth 277 270 lanbathinpi 2000 txpi khnxemriknmakkwa 4 lankhn inbrrdapraman 309 lankhn thxngphukbxy thaihiphaaephthy 2 5 khrngtxpi inshrth mikarsuxyarabayepnmulkha 725 lanehriyyshrth praman 23 488 lanbathpi 2007 txpikartunesiydsikhristthswrrsthi 19 aesdnglingthiimexawithikarswnthwareka odyexaaetwithikarswnthwarihmthiichkhnmmarchemlolwkbfinprawtitngaetsmyobran sngkhmtang idbnthukkhwamehnkhxngaephthywakhwrcarksaxakarthxngphukinkhnikhxyangir hmxinewlatang aelainthitang idxangwa thxngphukmiehtuthangkaraephthyhruxehtuthangsngkhmtang na aelaidrksadwywithithismehtuphlhruximsmehtusmphl echn dwyxupkrnthieriykwa Spatula Mundani txmahlngcakekidthvsdikarekidorkhehtuechuxorkh aenwkhidkhxngkarthaphisihtnexng auto intoxication kklayepneruxngniyminkhwamkhidchntawntk karswnthwarcungklayepnwithikarrksa thangwithyasastr aelakarlanglaisihysungekhyepnwithikaraephthythangeluxkkklayepneruxngsamyinkaraephthyhlk tngaetkhristthswrrs 1700 yngmiaenwkhidyxdniyminchawtawntkwa khnthithxngphukmipyhathangsilthrrmineruxngkarkinimeluxk aelaekiyckhranklumphiessedk edkpraman 3 thxngphuk odythnghyingthngchayethakn thxngphukepnehtuihiphakumaraephthythwippraman 5 aelakumaraephthythangedinxahar 25 dngnn xakarnicungepnpharaaekrabbsatharnsukhxxyangsakhy aemcakahndchwngxayuthiekidthxngphukmakthisudidyak aetedkbxykhrngcathxngphukemuxchiwitepliynip twxyangrwmthngkarfukichswm karerimhruxkaryayorngeriyn aelakarepliynxahar odyechphaainthark karepliynsutrnmhruxkarepliyncakihnmaemipepnnmkrapxngxacepnehtuihthxngphuk yngdiwa krnithxngphukodymakimichorkhcring aelakarrksakkhuxaekhbrrethaxakarethann mardahlngkhlxd 6 xathityhlngkartngkhrrphcdepnrayahlngkhlxd postpartum stage inchwngewlani hyingcaesiyngthxngphukmakkhun ngansuksahlaynganidpraeminkhwamchukkhxngthxngphukthiraw 25 in 3 eduxnaerk thxngphukxacthaihhyingimsbayephim ephraakalngfunsphaphcakkarkhlxdlukodyechphaathafieybchik hruxthatxngphakhyaypakchxngkhlxd emuxkhlxdluk pccyesiyngtxkarthxngphukinklumnirwmthngklamenuxthanechingkran levator ani muscle esiyhayephraakhlxdluk txngichkhim ephuxchwykhlxdedk karkhlxdrayasxngyaw edktwot orkhridsidwngthwar orkhridsidwngthwarepneruxngsamyemuxmikhrrph aelaxacaeylngemuxthxngphuk dngnn xairthithaihecbemuxthayxuccara rwmthngridsidwng fieybchik aelaaephlthiphakhyaychxngkhlxd xacthaihthxngphukephraakhnikhxacklnxuccaraephuxhlikeliyngkarecb klamenuxthanechingkranmibthbathsakhyinkarthayxuccara dngnn emuxklamenuxbadecbenuxngcakpccyesiyngdngthiwabangxyang echn edktwot karkhlxdrayasxngyawnan karichkhimchwykhlxd camiphlihthxngphuk hyingbangkhrngyngidrbswnthwarinchwngkarkhlxd thixacepliynkrabwnkarkhbthaykhxnglaishlngcakkhlxdbutraelw xyangirkdi kyngimmihlkthanphxsrupprasiththiphlaelakhwamplxdphykhxngyarabaysahrbkhnikhklumniechingxrrthcoeliac disease hrux celiac disease epnorkhphumitantnexngrayayawthiodyhlkmiphltxlaiselkaelaekidinbukhkhlthimipccythangphnthukrrm xakarkhlassikrwmthngpyhainthangedinxaharechnthxngrwngeruxrng thxngpxng dudsumxaharphidpkti imxyakxahar aelaimottamwyinedk non celiac gluten sensitivity NCGS hrux gluten sensitivity epn orkh xakarthiekidenuxngcakkarthankluetn aelwkxxakarphayinlaishruxnxklaisthicadikhunhlngcakelikthanxaharthimikluetn aelaidknorkh celiac disease aelaorkhaephkhawsalixxkaelw diverticulitis hrux colonic diverticulitis epnorkhthangedinxahar thiswnyunxxkcakeyuxemuxkaelachniteyuxemuxkkhxnglaisihyenuxngcakklamenuxphnnglaisimaekhngaerng ekidkarxkesb xakarpktirwmkarpwdthxngdanlangthiekidxyangchbphln aetkxacichewlaekidepnewla 2 3 wn inxemrikaehnuxaelayuorp mkcapwdthxngthangdansay aelainexechiy bxykhrngcapwdthangdankhwa bangkhrngcaepnikh khlunis thxngrwng thxngphuk hruxmieluxdinxuccara aelaxacekidxyangsa cystocele epnphawathiekidemuxphnngthiepnesniyaekhngrahwangkraephaapssawakbchxngkhlxd khux pubocervical fascia chik thaihkraephaapssawaeluxnphanchxngekhaipinchxngkhlxdid porphyria epnklumorkh thisar porphyrin sasmaelwkxpyhathiphiwhnnghruxrabbprasath aebbthimiphltxrabbprasathyngeriykdwywa acute porphyria sungmixakarpwdthxng ecbhnaxk xaeciyn sbsn thxngphuk epnikh aelachk xakarechnnipkticaepn hay epnwn hruxxathity xakarxaccudchnwndwykardumekhruxngdumaexlkxhxl subbuhri ekhriyd hruxyabangchnid thamiphltxphiwhnngdwy emuxthukaeddxacekidtumphxngaelakhn myotonic dystrophy epnkhwamphidpktithangkrrmphnthuthiepninrayayawaelamiphltxkarthangankhxngklamenux xakarrwmthngkaresiyklamenuxthiaeylngeruxy aelarusukxxnaerng klamenuxbxykhrngcahdekrngodyimsamarthkhlayid xakarxyangxunxacrwmtxkrack xxnstipyya aelapyhakarnaiffainhwic inchay xaccahwlankxnwyaelaepnhmn anismus hrux dyssynergic defecation hmaythungklamenuxthanechingkranimkhlaytwehmuxnpktiemuxphyayamcaxuccara fieybyxy descending perineum syndrome hrux levator plate sagging hmaythungphawathifieybphxngepnlukopngkhnadhlayesntiemtrlngcakchxngkradukkhxngechingkranemuxebngthayxuccara aemkaryxynikxacekidodyimtxngebngdwy Hirschsprung s disease epnrupaebbhnungkhxng megacolon laisihybwmekinpkti thiekidemuxlaisihybangswnhruxthnghmd hruxokhrngsrangthiekidkhunkxnphthnaepnthangedinxahar immi ganglion cells aeladngnn cungimsamarththanganid Spatula Mundani epnxupkrnehlkthiyawpraman 12 niw khanghnungmiruprangehmuxnimphay xikkhanghnungehmuxnchxnaettrngklangexaxxkaelaplaysudepnluktum swnthiepnchxnexaiwkhwanxuccaraaekhngxxk xikkhanghnungexaiwsahrbthaya sungimtxngsngsyelywacatxngthahlngcakthahtthkardwyekhruxngmuxni epnxupkrnthipradisthodyslyaephthychawlxndxn James Woodallxangxing khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 11 April 2010 Chatoor D Emmnauel A 2009 Constipation and evacuation disorders Best Pract Res Clin Gastroenterol 23 4 517 30 doi 10 1016 j bpg 2009 05 001 PMID 19647687 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter American Gastroenterological Association Bharucha AE Dorn SD Lembo A Pressman A January 2013 American Gastroenterological Association medical position statement on constipation Gastroenterology Review 144 1 211 217 doi 10 1053 j gastro 2012 10 029 PMID 23261064 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint extra punctuation National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases February 2015 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 15 March 2017 subkhnemux 14 March 2017 National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases June 2016 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 24 April 2017 subkhnemux 24 April 2017 Makharia A Catassi C Makharia GK 2015 The Overlap between Irritable Bowel Syndrome and Non Celiac Gluten Sensitivity A Clinical Dilemma Nutrients Review 7 12 10417 26 doi 10 3390 nu7125541 PMC 4690093 PMID 26690475 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Andromanakos N Skandalakis P Troupis T Filippou D 2006 Constipation of anorectal outlet obstruction Pathophysiology evaluation and management Journal of Gastroenterology and Hepatology 21 4 638 646 doi 10 1111 j 1440 1746 2006 04333 x PMID 16677147 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter constipation Lexitron phcnanukrmithy lt gt xngkvs run 2 6 hnwyptibtikarwicywithyakarmnusyphasa sunyethkhonolyixielkthrxniksaelakhxmphiwetxraehngchati sanknganphthnawithyasastraelaethkhonolyiaehngchati krathrwngwithyasastraelaethkhonolyi 2546 xakarthxngphuk Colombo Jennifer M Wassom Matthew C Rosen John M 1 September 2015 Constipation and Encopresis in Childhood Pediatrics in Review 36 9 392 401 quiz 402 doi 10 1542 pir 36 9 392 ISSN 1526 3347 PMID 26330473 Celiac Disease NIDDKD June 2015 subkhnemux 17 March 2016 Clinical presentation of celiac disease in the pediatric population April 2005 PMID 15825129 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a Cite journal txngkar journal help The Oslo definitions for coeliac disease and related terms 2013 PMID 22345659 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a Cite journal txngkar journal help Nonceliac gluten sensitivity 2015 PMID 25583468 Since 2010 the definition of NCGS has been discussed at 3 consensus conferences which led to 3 publications Given the uncertainties about this clinical entity and the lack of diagnostic biomarkers all 3 reports concluded that NCGS should be defined by the following exclusionary criteria a clinical entity induced by the ingestion of gluten leading to intestinal and or extraintestinal symptoms that resolve once the gluten containing foodstuff is eliminated from the diet and when celiac disease and wheat allergy have been ruled out a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a Cite journal txngkar journal help Diverticular Disease niddk nih gov September 2013 Diverticulosis today unfashionable and still under researched 2016 PMID 26929783 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a Cite journal txngkar journal help Feldman Mark 2010 Sleisenger amp Fordtran s Gastrointestinal and liver disease pathophysiology diagnosis management 9th ed MD Consult p 2084 ISBN 9781437727678 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a CS1 maint uses authors parameter Bharucha AE Pemberton JH Locke GR 3rd January 2013 American Gastroenterological Association technical review on constipation Gastroenterology 144 1 218 38 doi 10 1053 j gastro 2012 10 028 PMC 3531555 PMID 23261065 Canadian Agency for Drugs and Technologies in Health 26 June 2014 Dioctyl Sulfosuccinate or Docusate Calcium or Sodium for the Prevention or Management of Constipation A Review of the Clinical Effectiveness PMID 25520993 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a Cite journal txngkar journal help Brenner DM Shah M June 2016 Chronic Constipation Gastroenterology clinics of North America 45 2 205 16 doi 10 1016 j gtc 2016 02 013 PMID 27261894 Jamshed Namirah Lee Zone En Olden Kevin W 1 August 2011 Diagnostic approach to chronic constipation in adults American Family Physician 84 3 299 306 ISSN 1532 0650 PMID 21842777 eMedicine 29 March 2007 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 29 March 2007 Walia R Mahajan L Steffen R October 2009 Recent advances in chronic constipation Curr Opin Pediatr 21 5 661 6 doi 10 1097 MOP 0b013e32832ff241 PMID 19606041 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Locke GR Pemberton JH Phillips SF December 2000 American Gastroenterological Association Medical Position Statement guidelines on constipation Gastroenterology 119 6 1761 6 doi 10 1053 gast 2000 20390 PMID 11113098 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Hsieh C December 2005 Am Fam Physician 72 11 2277 84 PMID 16342852 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 10 April 2012 Basilisco Guido Coletta Marina 2013 Chronic constipation A critical review Digestive and Liver Disease 45 11 886 893 doi 10 1016 j dld 2013 03 016 Leung FW February 2007 Etiologic factors of chronic constipation review of the scientific evidence Dig Dis Sci 52 2 313 6 doi 10 1007 s10620 006 9298 7 PMID 17219073 World Gastroenterology Organisation Global Guidelines July 2016 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 17 March 2017 subkhnemux 23 April 2017 Cystocele Prolapsed Bladder NIDDK National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases phasaxngkvsaebbxemrikn subkhnemux 2 December 2017 McCallum IJ Ong S Mercer Jones M 2009 Chronic constipation in adults BMJ 338 b831 doi 10 1136 bmj b831 PMID 19304766 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Selby Warwick Corte Crispin August 2010 Australian Prescriber 33 4 116 9 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 14 March 2011 subkhnemux 27 August 2010 Gallegos Orozco JF Foxx Orenstein AE Sterler SM Stoa JM January 2012 Chronic constipation in the elderly The American Journal of Gastroenterology Review 107 1 18 25 doi 10 1038 ajg 2011 349 PMID 21989145 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter porphyria GHR July 2009 NIDDK February 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 26 October 2016 subkhnemux 14 September 2018 myotonic dystrophy GHR 11 October 2016 Myotonic dystrophies An update on clinical aspects genetic pathology and molecular pathomechanisms 2015 PMID 24882752 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a Cite journal txngkar journal help Gyger G Baron M 2015 Systemic Sclerosis Gastrointestinal Disease and Its Management Rheum Dis Clin North Am Review 41 3 459 73 doi 10 1016 j rdc 2015 04 007 PMID 26210129 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Rao Satish S C Rattanakovit Kulthep Patcharatrakul Tanisa 2016 Diagnosis and management of chronic constipation in adults Nature Reviews Gastroenterology amp Hepatology 13 5 295 305 doi 10 1038 nrgastro 2016 53 Interest of retro anal levator plate myorrhaphy in selected cases of descending perineum syndrome with positive anti sagging test 2008 doi 10 1186 1471 2482 8 13 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a Cite journal txngkar journal help Perineal descent and patients symptoms of anorectal dysfunction pelvic organ prolapse and urinary incontinence 2010 doi 10 1007 s00192 010 1099 z a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a Cite journal txngkar journal help Schouten WR Briel JW Auwerda JJ van Dam JH Gosselink MJ Ginai AZ Hop WC 1997 Anismus fact or fiction Diseases of the colon and rectum 40 9 1033 1041 doi 10 1007 BF02050925 PMID 9293931 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Cohn A 2010 PDF Journal of Pediatric Neurology 8 1 29 30 doi 10 3233 JPN 2010 0350 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 7 September 2011 subkhnemux 7 September 2011 Bharucha Adil E Pemberton John H Locke G Richard 2013 American Gastroenterological Association Technical Review on Constipation Gastroenterology 144 1 218 238 doi 10 1053 j gastro 2012 10 028 PMC 3531555 PMID 23261065 Wexner Steven 2006 Constipation etiology evaluation and management New York Springer Tabbers M M DiLorenzo C Berger M Y Faure C Langendam M W Nurko S Staiano A Vandenplas Y Benninga M A 2014 Evaluation and Treatment of Functional Constipation in Infants and Children Journal of Pediatric Gastroenterology and Nutrition 58 2 265 281 doi 10 1097 mpg 0000000000000266 lingkesiy MedicineNet khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 30 November 2007 Tierney LM Henderson MC Smetana GW 2012 The patient history an evidence based approach to differential diagnosis 2nd ed New York McGraw Hill Medical p Chapter 32 ISBN 9780071624947 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a CS1 maint uses authors parameter Longstreth GF Thompson WG Chey WD Houghton LA Mearin F Spiller RC 2006 Functional bowel disorders Gastroenterology 130 5 1480 91 doi 10 1053 j gastro 2005 11 061 PMID 16678561 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Dinning PG September 2007 Pelviperineology 26 3 114 116 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 12 February 2008 National Institute for Health and Car Excellence khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 8 September 2015 subkhnemux 10 October 2015 high enema Medical Dictionary Merriam Webster subkhnemux 17 February 2018 Care of patients Ternopil State Medical University 14 July 2015 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 23 February 2018 subkhnemux 17 February 2018 Cruz Rhodora Types of Enemas Fundamentals of Nursing Practice Professional Education Testing and Certification Organization International subkhnemux 17 February 2018 low enema Medical Dictionary Merriam Webster subkhnemux 17 February 2018 Lee Robichaud H Thomas K Morgan J Nelson RL 7 July 2010 Lactulose versus Polyethylene Glycol for Chronic Constipation Cochrane Database of Systematic Reviews 7 CD007570 doi 10 1002 14651858 CD007570 pub2 PMID 20614462 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Camilleri M Deiteren A February 2010 Prucalopride for constipation Expert Opin Pharmacother 11 3 451 61 doi 10 1517 14656560903567057 PMID 20102308 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Barish CF Drossman D Johanson JF Ueno R April 2010 Efficacy and safety of lubiprostone in patients with chronic constipation Dig Dis Sci 55 4 1090 7 doi 10 1007 s10620 009 1068 x PMID 20012484 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Aboumarzouk Omar M Agarwal Trisha Antakia Ramez Shariff Umar Nelson Richard L 2011 01 19 phasaxngkvs John Wiley amp Sons Ltd doi 10 1002 14651858 cd007780 pub2 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 4 September 2017 Canberra Hospital Gastroenterology Unit khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 17 July 2013 Bharucha AE 2007 Constipation Best Practice amp Research Clinical Gastroenterology 21 4 709 31 doi 10 1016 j bpg 2007 07 001 PMID 17643910 National Digestive Diseases Information Clearinghouse 2007 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 18 August 2010 subkhnemux 18 July 2010 Sonnenberg A Koch TR 1989 Epidemiology of constipation in the United States Dis Colon Rectum 32 1 1 8 doi 10 1007 BF02554713 PMID 2910654 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Chang L Toner BB Fukudo S Guthrie E Locke GR Norton NJ Sperber AD 2006 Gender age society culture and the patient s perspective in the functional gastrointestinal disorders Gastroenterology 130 5 1435 46 doi 10 1053 j gastro 2005 09 071 PMID 16678557 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Wald A Scarpignato C Mueller Lissner S Kamm M A Hinkel U Helfrich I Schuijt C Mandel K G 1 October 2008 Alimentary Pharmacology amp Therapeutics phasaxngkvs 28 7 917 930 doi 10 1111 j 1365 2036 2008 03806 x ISSN 1365 2036 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 17 March 2017 Whorton James C 2000 Inner hygiene constipation and the pursuit of health in modern society New York Oxford University Press ISBN 978 0195135817 Hornibrook F A 1929 The culture of the abdomen The cure of obesity and constipation Heinemann Turawa Eunice B Musekiwa Alfred Rohwer Anke C 23 September 2014 phasaxngkvs John Wiley amp Sons Ltd doi 10 1002 14651858 cd010273 pub2 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 16 March 2017 Rome II the Functional Gastrointestinal Disorders Diagnosis Pathophysiology and Treatment a Multinational Consensus 2nd ed McLean Degnon Associates 2000 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a imruckpharamietxr editors thuklaewn aenana editor help Turawa EB Musekiwa A Rohwer AC 18 September 2015 Interventions for preventing postpartum constipation The Cochrane Database of Systematic Reviews 9 CD011625 doi 10 1002 14651858 CD011625 pub2 PMID 26387487 aehlngkhxmulxunkarcaaenkorkhDICD 10 K59 0ICD 564 0MeSH D003248 3080thrphyakrphaynxk 003125 med 2833Constipation Introduction UK NHS site constipation the World Gastroenterology Organisation WGO

วันที่เผยแพร่: มิถุนายน 21, 2024, 16:34 pm
อ่านมากที่สุด
  • พฤศจิกายน 01, 2024

    Slab serif

  • กันยายน 27, 2024

    Skyscraper

  • สิงหาคม 21, 2024

    Sistine Chapel ceiling

  • กันยายน 19, 2024

    Singapore dollar

  • พฤศจิกายน 13, 2024

    Singapore General Hospital

รายวัน

  • วิกิพีเดีย

  • วิกิพีเดียภาษาไทย

  • รายพระนามพระมหากษัตริย์และจักรพรรดิฝรั่งเศส

  • สมบูรณาญาสิทธิราชย์

  • สถานีรถไฟนอวีซาด

  • การเลือกตั้งรัฐสภาในประเทศจอร์เจีย พ.ศ. 2567

  • จักรพรรดิไดโอคลีเชียน

  • สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง

  • เนือร์นแบร์ก

  • ซาร์ยา

NiNa.Az - สตูดิโอ

  • วิกิพีเดีย

การลงทะเบียนจดหมายข่าว

โดยการสมัครรับรายชื่อผู้รับจดหมายของเราคุณจะได้รับข่าวสารล่าสุดจากเราเสมอ
ได้รับการติดต่อ
ติดต่อเรา
DMCA Sitemap Feeds
© 2019 nina.az - สงวนลิขสิทธิ์.
ลิขสิทธิ์: Dadaş Mammedov
สูงสุด