บทความนี้ยังต้องการเพิ่มเพื่อ |
บทความนี้หรือส่วนนี้ของบทความต้องการปรับรูปแบบ ซึ่งอาจหมายถึง ต้องการจัดรูปแบบข้อความ จัดหน้า แบ่งหัวข้อ และ/หรือการจัดระเบียบอื่น ๆ คุณสามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้โดยการกดที่ปุ่ม แก้ไข ด้านบน จากนั้นปรับปรุงหรือจัดรูปแบบอื่น ๆ ในบทความให้เหมาะสม |
เทศกาลกินเจ หรือ กินเจ (จีน: 九皇勝會; ฮกเกี้ยน: กิ้วหองเซ่งโห่ย; หรือ จีน: 九皇大帝誕; ฮกเกี้ยน: กิ้วหองไต่เต้ตั้น) หรือบางแห่งเรียกว่า ประเพณีถือศีลกินผัก กำหนดเอาวันตามจันทรคติ คือ เริ่มต้นตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึง ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีนของทุกปี รวม 9 วัน สันนิษฐานว่ามีจุดเริ่มต้นในประเทศมาเลเซีย และภาคใต้ของประเทศไทย เทศกาลกินเจไม่ใช่ประเพณีของชาวจีนโพ้นทะเลทั้งหมด เพราะชาวจีนในประเทศจีนปัจจุบันไม่ค้นพบว่ามีการสืบทอดหรือจัดประเพณีกินเจนี้เลย แม้มีอยู่บางหมู่บ้านก็ปรากฏว่าได้จัดประเพณีตามประเทศไทย และไม่พบประเพณีนี้ในชุมชนชาวจีนในประเทศอื่น ๆ ดังนั้น จึงสันนิษฐานว่าเป็นเทศกาลที่เกิดขึ้นจากคนไทยเชื้อสายจีนในประเทศไทย ก่อนประเทศไทยจะเสียดินแดนบางส่วนให้อังกฤษและกลายเป็นส่วนหนึ่งของประเทศมาเลเซีย คนมาเลเซียเชื้อสายจีนในประเทศมาเลเซีย จึงยังคงมีเทศกาลกินเจเช่นเดียวกับประเทศไทย โดยมีตำนานเล่าขานกันว่าได้เกิดโรคระบาดที่เกาะภูเก็ตทำให้มีคนตายเป็นจำนวนมาก มีชาวจีนที่อพยบมาจากอำเภอกังไส(มณฑลเจียงซี)ประเทศจีน มาอยู่ที่บ้านในทูหรือกระทู้จังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมกันถือศีลกินเจซึ่งเป็นประเพณีความเชื่อในภูมิภาคบ้านเกิดของตนเองด้วยเชื่อว่าจะทำให้รอดพ้นเคราะห์กรรมนี้ไปได้ และคนจีนกลุ่มที่ถือศีลกินเจได้รอดตายจากโรคระบาดมาได้ทั้งหมด จึงทำให้ผู้คนเลื่อมใสศรัทธาในการถือศีลกินเจนี้มาก และได้ถือศีลกินเจตามอย่างชาวจีนบ้านกระทู้เป็นต้นมา จึงเกิดเป็นประเพณีถือศีลกินเจมาจนถึงปัจจุบัน ในปัจจุบันเทศกาลกินเจจัดขึ้นในประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย ตลอดจนหมู่เกาะเรียวในอินโดนีเซียและอาจมีในบางประเทศที่ได้รับอิทธิพลผ่านคนไทยและคนมาเลเซียเชื้อสายจีน ซึ่งการกินเจในเดือน 9 นี้ เชื่อกันว่าน่าจะเกิดขึ้นเมื่อราว พ.ศ. 2170 ตรงกับสมัยอาณาจักรอยุธยา
ประวัติ
ประเพณีถือศีลกินเจหรือกินเจซึ่งเป็นพิธียันตรกรรมบูชาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด โดยอาศัยพระแม่แห่งดวงดาวมารีจี ( 摩利支 ) ในแบบของพระพุทธศาสนานิกายมหายาน แต่ในทางลัทธิเต๋าเรียกว่า เต้าโบ้หงวนกุนหรือเต้าโบ้เทียนจุนในภาษาฮกเกี้ยน (斗姆元君, 斗姆天尊 ) เป็นศูนย์กลางสมมติของพิธีศักดิ์สิทธิ์นี้ มักอิงประวัติผูกติดอยู่กับฝ่ายตำนานเทพแห่งดาวนพเคราะห์มากกว่า ซึ่งเป็นศาสตร์แห่งลัทธิเต๋า ต่อมาเมื่อพระพุทธศาสนาเผยแผ่เข้าสู่เมืองจีน นับจากนั้นเป็นต้นมาเมื่อพระพุทธศาสนาเจริญขึ้น จึงปรากฏตำนานความเชื่อที่ผูกโยงกับพระพุทธเจ้า 7 พระองค์และพระโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์ เรียกว่า กิ้วอ้วงฮุดโจ้วในภาษาจีนแต้จิ๋ว (九皇佛祖) โดยคติความเชื่อในประเพณีของชาวจีน โดยเฉพาะลัทธิขงจื๊อซึ่งเน้นในเรื่องบรรพบุรุษและความกตัญญู บรรดาบูรพกษัตริย์ที่เคยอุทิศตนเพื่อให้ประชาชนมีความเจริญโดยใช้หลักเมตตาธรรมก็จะเป็นบุคคลผู้ได้รับการสรรเสริญจากประชาชน ตามตำนานสามารถรวบรวมได้ 9 พระองค์ ซึ่งอยู่ในยุคสมัยต่างๆกัน ทั้ง 9 พระองค์รวมเรียกว่าพระราชาธิราช 9 พระองค์ ในภาษาจีนฮกเกี้ยนเรียกว่า : กิ๋วหองไต่เต่ ,(九皇大帝 ) ซึ่งชาวจีนเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกเป็นธรรมชาติและดำเนินไปตามวิถีแห่งสวรรค์ อาศัยตามความเชื่อในลัทธิเต๋า จึงส่งผลให้เกิดการนับถือดวงวิญญาณที่สถิตอยู่ในสรวงสวรรค์ พระเจ้าแผ่นดินทั้งเก้าพระองค์เมื่ออยู่ในโลกมนุษย์ได้ประกอบกรรมดีมากมาย เมื่อสิ้นพระชนม์แล้วจึงได้จุติเป็นเทพเจ้าประจำดาวนพเคราะห์ ทำหน้าที่คุ้มครองมวลหมู่ประชาราษฎร์ให้บังเกิดความร่มเย็นสืบไป
ชื่อเรียกอืนๆ
- 九皇大帝聖誕千秋 (ตัวย่อ: 九皇大帝圣诞千秋, พินอิน: Jiǔ huáng dàdì shèngdàn qiānqiū จิ้วหวงต้าตี่เซิงตั้นเชียนชิว, ฮกเกี้ยน: กิ๋วหองไต่เต้เซ่งตั๋นเชียนชิว ) แปล วันประสูติพระจักพรรดิ 9 พระองค์
- 九皇勝會 (ตัวย่อ: 九皇胜会, พินอิน: Jiǔ huáng shèng huì จิ้วหวงต้าตี่เซิงตั้นเชียนชิว, ฮกเกี้ยน: กิ๋วหองเซ่งห้วย )
- 九皇節 (ตัวย่อ: 九皇节, พินอิน: Jiǔ huáng Jié จิ้วหวงเจี่ย, ฮกเกี้ยน: กิ๋วหองจ้วย )
ตำนาน
บางแห่งเชื่อกันว่ากินเจเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม ส่วนความเชื่ออื่นๆ ที่เกี่ยวกับเทศกาลกินเจนั้นมีดังนี้
ตำนานที่ 1
กล่าวกันว่า การกินเจเริ่มขึ้นเพื่อรำลึกถึงนักรบ "หงี่หั่วท้วง" ซึ่งเป็นทหารชาวบ้านของจีนที่ต่อสู้ต้านทานกองทัพแมนจูอย่างกล้าหาญ ฝ่ายแมนจูมีปืนไฟของชาวตะวันตกที่ฝ่ายจีนไม่มี นักรบหงี่หั่วท้วงเหล่านี้จะประกอบพิธีกรรมนุ่งขาวห่มขาว ไม่กินเนื้อสัตว์และผักที่มีกลิ่นฉุน และท่องบริกรรมคาถาตามความเชื่อของจีน เชื่อกันว่าจะสามารถป้องกันปืนไฟได้ แต่ก็ไม่ประสบผล ครั้นจีนพ่ายแพ้แมนจู ชายชาวจีนถูกบังคับให้ไว้ผมอย่างชาวแมนจู ซึ่งสร้างความคับแค้นให้แก่ชาวจีนอย่างมาก ชาวจีนจึงรำลึกถึงนักรบหงี่หั่วท้วงเหล่านี้ด้วยสำนึกในบุญคุณ
ตำนานที่ 2
เพื่อเป็นการประกอบพิธีกรรมเพื่อสักการบูชาพระพุทธเจ้าในอดีตกาล 7 พระองค์และพระมหาโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์ รวมเป็น 9 พระองค์ด้วยกัน หรืออีกนัยหนึ่งเรียกว่า “ดาวนพเคราะห์” ทั้ง 9 ได้แก่ พระอาทิตย์ พระจันทร์ พระอังคาร พระพุธ พระพฤหัสบดี พระศุกร์ พระเสาร์ พระราหู และพระเกตุ ในพิธีกรรมบูชานี้สาธุชนในพระพุทธศาสนาสละเวลาทางโลกมาบำเพ็ญศีลงดเว้นเนื้อสัตว์และแต่งกายด้วยชุดขาว
ตำนานที่ 3
ผู้ถือศีลกินเจในพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายานที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาของชาวจีนในประเทศไทย เพื่อสักการบูชาพระพุทธเจ้าในอดีลกาล 7 พระองค์ ดังมีในพระสูตร ปั๊กเต๊าโก๋ว ฮุดเชียวไจเอียงชั่วเมียวเกง กล่าวไว้คือ พระวิชัยโลกมนจรพุทธะ พระศรีรัตนโลกประภาโมษอิศวรพุทธะ พระเวปุลลรัตนโลกวรรณสิทธิพุทธะ พระอโศกโลกวิชัยมงคลพุทธะ พระวิสุทธิอาศรมโลกเวปุลลปรัชญาวิภาคพุทธะ พระธรรมมติธรรมสาครจรโลกมโนพุทธะ พระเวปุลลจันทรโภคไภสัชชไวฑูรย์พุทธะ และพระมหาโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์ คือพระศรีสุขโลกปัทมอรรถอลังการโพธิสัตว์และพระศรีเวปุลกสังสารโลกสุขอิศวรโพธิสัตว์ รวมเป็น 9 พระองค์(หรือ “เก้าอ๊อง”)ทรงตั้งปณิธานจักโปรดสัตว์โล จึงได้แบ่งกายมาเป็นเทพเจ้า 9 พระองค์ด้วยกันคือ ไต้อวยเอี๊ยงเม้งทัมหลังไทแชกุน ไต้เจียกอิมเจ็งกื้อมึ้งงวนแชกุน ไต้กวนจิงหยิ้งลุกช้งเจงแชกุน ไต้ฮั่งเฮี่ยงเม้งม่งเคียกนิวแชกุน ไต้ปิ๊กตังง้วนเนี้ยบเจงกังแชกุน ไต้โพ้วปั๊กเก๊กบู๊เอียกกี่แชกุน ไต้เพียวเทียนกวนพัวกุงกวนแชกุน ไต้ตั่งเม้งงั่วคูแชกุน ฮุ้ยกวงไตเพียกแชกุน เทพเจ้าทั้ง 9 พระองค์ ทรงอำนาจตบะอันเรืองฤทธิ์บริหารธาตุดิน ทอง น้ำ ไม้ และไฟ ทั่วทุกพิภพน้อยใหญ่สารทิศ
ตำนานที่ 4
กินเจเพื่อเป็นการบูชา“จักรพรรดิซ่งตี้ปิง”ซึ่งเป็นจักรพรรดิองค์สุดท้ายของราชวงศ์ซ้องซึ่งสิ้นพระชนม์โดยทรงทำอัตวินิบาตกรรม (การฆ่าตัวตาย) ในขณะที่เสด็จไต้หวันโดยทางเรือ เมื่อมีพระชนนมายุได้ 9 พรรษา พิธีบูชาเพื่อระลึกถึงราชวงศ์ซ้องนี้ มีแต่เฉพาะในมณฑลฮกเกี้ยนซึ่งเป็นดินแดนผืนสุดท้ายของราชวงศ์ซ้องเท่านั้น โดยชาวฮกเกี้ยนได้จัดทำพิธีดังกล่าวนี้ขึ้นด้วยการอาศัยศาสนาบังหน้าการเมือง การที่เผยแผ่มาสู่เมืองไทยได้นั้นเพราะชาวจีนจากฮกเกี้ยนนำมาเผยแผ่
ตำนานที่ 5
1,500 ปีมาแล้ว มณฑลกังไสเป็นดินแดนที่เจริญรุ่งเรืองมาก ฮ่องเต้เมืองนี้มีพระราชโอรส 9 พระองค์ซึ่งเป็นเลิศทั้งบุ๋นและบู๊จึงทำให้หัวเมืองต่างๆ ยอมสวามิภักดิ์ ยกเว้นแคว้นก่งเลี้ยดที่มีอำนาจเข้มแข็งและมีกองกำลังทหารที่เหนือกว่า ทั้งสองแคว้นทำศึกกันมาถึงครั้งที่ 4 แคว้นก่งเลี้ยดชนะโดยการทุ่มกองกำลังทหารที่มีทั้งหมดที่มากกว่าหลายเท่าตัวโอบล้อมกองทัพพระราชโอรสทั้งเก้าไว้ทุกด้าน แต่กองทัพก่งเลี้ยดไม่สามารถบุกเข้าเมืองได้จึงถอยทัพกลับ
จนวันหนึ่งชาวกังไสเกิดความแตกสามัคคีและเอาเปรียบกัน เทพยดาทราบว่าอีกไม่นานกังไสจะเกิดภัยพิบัติจึงหาผู้อาสาช่วยแต่ชาวบ้านจะพ้นภัยได้ก็ต่อเมื่อได้สร้างผลบุญของตนเอง ดวงวิญญาณพระราชโอรสองค์โตรับอาสาและเพ่งญาณเห็นว่าควรเริ่มที่บ้านเศรษฐีใจบุญ ลีฮั้วก่าย
คืนวันหนึ่งคนรับใช้แจ้งเศรษฐีลีฮั้วก่ายว่ามีขอทานโรคเรื้อนมาขอพบเศรษฐีจึงมอบเงินจำนวนหนึ่งให้เป็นค่าเดินทาง แต่ขอทานไม่ไปและประกาศให้ชาวเมืองถือศีลกินเจเป็นเวลา 9 วัน 9 คืนผู้ใดทำตามภัยพิบัติจะหายไป เศรษฐีนำมาปฏิบัติก่อนและผู้อื่นจึงปฏิบัติตามจนมีการจัดให้มีอุปรากรเป็นมหรสพในช่วงกินเจด้วย
เล่าเอี๋ยเกิดศรัทธาประเพณีกินเจของมณฑลกังไสจึงได้ศึกษาตำราการกินเจของเศรษฐีลีฮั้วก่ายที่บันทึกไว้ แต่ได้ดัดแปลงพิธีกรรมบางอย่างให้รัดกุมยิ่งขึ้นและให้มีพิธีเชี้ยยกอ๋องส่องเต้ (พิธีเชิญเง็กเซียนฮ่องเต้มาเป็นประธานในพิธี)
ตำนานที่ 6
ชายขี้เมานามว่า เล่าเซ็ง เข้าใจผิดคิดว่าแม่ตนตายไปเพราะเป็นโรคขาดสารอาหาร จนคืนหนึ่งแม่ได้มาเข้าฝันบอกว่า แม่ตายไปได้รับความสุขมากเพราะแม่กินแต่อาหารเจและตอนนี้แม่อยู่บนเขาโพถ้อซัว ตั้งอยู่บนเกาะน่ำไฮ้ ในมณฑลจิ๊ดเจียงถ้าลูกอยากพบแม่ให้ไปที่นั่น
ครั้นถึงเทศกาลไหว้พระโพธิสัตว์กวนอิมที่เขาโพถ้อซัว เล่าเซ็งอยากไปแต่ไปไม่ถูกจึงตามเพื่อนบ้านที่จะไปไหว้พระโพธิสัตว์ เพื่อนบ้านเห็นเล่าเซ็งสัญญาว่าจะไม่กินเหล้าและเนื้อสัตว์จึงให้ไปด้วย ระหว่างทางเดินสวนกับคนขายเนื้อเล่าเซ็งลืมสัญญาที่ให้ไว้เพื่อนบ้านก็หนีไป โชคดีที่มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินผ่านมาและต้องการไปไหว้พระโพธิสัตว์เล่าเซ็งจึงขอตามนางไป
เมื่อถึงเขาโพถ้อซัวขณะที่เล่าเซ็งก้มลงกราบไหว้พระโพธิสัตว์นั้น เขาเห็นแม่ลอยอยู่เหนือกระถางธูปที่คนอื่นมองไม่เห็น ขณะเดินทางกลับเขาได้แยกทางกับหญิงสาวและได้พบเด็กชายคนหนึ่งยืนร้องไห้อยู่จึงเข้าไปถามไถ่ได้ความว่าเป็นลูกของเขากับภรรยาที่เลิกกันไปนานแล้ว เขาจึงพาไปอยู่ด้วยแล้ววันหนึ่งหญิงสาวที่นำทางไปเขาโพถ้อซัวมาขออาศัยอยู่ด้วย ทั้งสามอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
หญิงสาวผู้นั้นเป็นสาวบริสุทธิ์ประพฤติตนเป็นคนดีอยู่ในศีลธรรมและถือศีลกินเจอยู่เนืองนิตย์ นางรู้ว่าใกล้ถึงวันตายของนางแล้วจึงบอกเล่าเซ็ง เมื่อถึงวันนั้นนางอาบน้ำแต่งตัวด้วยอาภรณ์ที่ขาวสะอาดแล้วนั่งสักครู่ก็สิ้นลม เล่าเซ็งเห็นการจากไปด้วยดีของนางคล้ายกับแม่จึงเกิดศรัทธายกสมบัติให้ลูกชายแล้วประพฤติตนใหม่ เมื่อตายไปจะได้บังเกิดผลเช่นเดียวกับแม่และหญิงสาวและประเพณีกินเจจึงเริ่มขึ้น
ความหมายของ เจ
บทความนี้อาจมีรวมอยู่ |
คำว่า เจ ในภาษาจีนทางพุทธศาสนานิกายมหายานมีความหมายเดียวกับคำว่า อุโบสถ ดังนั้นการกินเจก็คือการรับประทานอาหารก่อนเที่ยงวัน เหมือนกับที่ชาวพุทธในประเทศไทยที่ถืออุโบสถศีล หรือรักษาศีล 8 โดยไม่รับประทานอาหารหลังจากเที่ยงวันไปแล้ว แต่เนื่องจากการถืออุโบสถศีลของชาวพุทธนิกายมหายานที่ไม่กินเนื้อสัตว์ จึงนิยมนำการไม่กินเนื้อสัตว์ไปรวมกันเข้ากับคำว่ากินเจ กลายเป็นการถือศีลกินเจ ในปัจจุบันผู้ที่รับประทานอาหารทั้ง 3 มื้อแต่ไม่กินเนื้อสัตว์ก็ยังคงเรียกว่ากินเจ ฉะนั้นความหมายก็คือคนกินเจมิใช่เพียงแต่ไม่กินเนื้อสัตว์ แต่ยังต้องดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม มีความบริสุทธิ์ สะอาด ทั้งกาย วาจา ใจ
ในภาษาจีนมีคำหรือวลีที่ใช้อักษรแจ (เจ, 齋/斋) เป็นตัวประกอบร่วมด้วยหลายคำ แต่คำว่าโป๊ยกวนแจไก่ (八關齋戒) แปลว่า ศีลบริสุทธิ์แปดประการ อันหมายถึง อุโบสถศีล ซึ่งเป็นศัพท์ของทางพุทธศาสนา การแปลและเข้าใจคลาดเคลื่อนดังกล่าวยังถูกใช้เป็นบรรทัดฐานในการอธิบายวัตรปฏิบัติของการกินเจผิดตามไปด้วยว่า “การกินเจต้องถือศีลข้อวิกาลโภชน์” หรือการงดกินของขบเคี้ยวหลังเที่ยงวันไปแล้ว ซึ่งเป็นศีลข้อหนึ่งในศีลแปด ทั้งๆที่โรงครัวของศาลเจ้าหรือโรงเจที่เปิดเลี้ยงผู้คนในช่วงเทศกาลกินเจล้วนแต่มีอาหารมื้อเย็นให้กับผู้เข้าไปกิน ยิ่งวันที่มีการประกอบพิธีกรรมในตอนค่ำยังมีอาหารมื้อค่ำบริการเสริมให้เป็นพิเศษด้วย ที่เป็นเช่นนั้นเพราะในช่วงเทศกาลกินเจนั้นเขาถือเพียงศีลห้าที่เป็นนิจศีล ไม่ได้ครองศีลแปดอย่างที่หลายคนเข้าใจ (เว้นแต่ผู้ตั้งจิตอธิษฐานว่าจะครองศีลแปดเป็นการส่วนตัวเท่านั้น)
ในทางอักษรศาสตร์จีน อักษรตัว “แจ” มีพัฒนาการมาจาก ตัวอักษร ฉี “ 齊 ” ซึ่งแปลว่าบริบูรณ์ , เรียบร้อย อักษรแจเกิดจากการเพิ่มเส้นตั้งและสองจุด ( 小 ) เข้าไปกลางอักษรฉี ทำให้เกิดตัว ซื ( 示 ) ซึ่งแปลว่าการสักการะ อยู่ในแก่นกลางของตัวฉี
แจ( 齋 ) จึงมีความหมายว่า การรักษาความบริสุทธิ์(ทั้งกายและใจ)เพื่อการสักการะ หรือ การปฏิบัติบูชาถวายเทพยดา
ซึ่งการอธิบายในแนวทางนี้จะสอดคล้องกับ คำว่า “ 齋醮 ” ในลัทธิเต๋า ซึ่งย่อมาจากคำว่า 供齋醮神 ที่แปลว่าการบำเพ็ญกายใจให้บริสุทธิ์เพื่อเป็นสักการบูชาเทพยดา
ความหมายของแจในศาสนาอิสลาม
ศัพท์คำว่า ศีลแจ / 齋戒 ในภาษาจีน นอกจากใช้ในลัทธิเต๋าและศาสนาพุทธแล้ว ยังหมายถึง “ศีลอด” ที่ถือปฏิบัติในเดือนถือศีลอดของชาวจีนอิสลาม สาระของศีลก็คือการห้ามรับประทานอาหารใดๆในระหว่างเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นจวบจนลับขอบฟ้า ตลอดเดือนถือศีลอด
แจในวัฒนธรรมดั่งเดิมของจีน
ศัพท์ แจ พบในเอกสารจีนเก่าที่มีอายุกว่าสองพันปีหลายฉบับ เช่น 禮記 , 周易 , 易經 , 孟子 , 逸周書 (เอกสารที่อ้างนี้ปัจจุบันถือว่าเป็นคัมภีร์ในลัทธิหยู) เอกสารเหล่านั้นยังใช้อักษรตัวฉี(齊 )แต่เวลาอ่านออกเสียงกลับต้องอ่านออกเสียงว่า ไจ เช่น คำว่า ไจเจี๋ย / 齊潔 หรือ ไจเจี้ย / 齊戒 ซึ่งก็คือการออกเสียงแจในสำเนียงแต้จิ๋วนั่นเอง อักษรฉีในเอกสารนั้นนักอักษรศาสตร์ตีความว่าแท้จริงแล้วก็คืออักษรตัวแจหรือใช้แทนตัวแจ แจที่ว่านี้หาได้หมายถึงการงดกินของสดคาว หรือ การงดรับประทานอาหารหลังเที่ยง หากหมายถึงการชำระล้างร่างกาย สงบจิตใจ และสวมใส่เสื้อผ้าใหม่สะอาด เป็นการเตรียมกายและใจให้บริสุทธิ์เพื่อประกอบพิธีกรรมสักการบูชา ขอพร หรือแสดงความขอบคุณต่อเทพยดาแห่งสรวงสวรรค์
แจเพื่อการจำแนกความเคร่งครัดของภิกษุฝ่ายมหายาน
ศีลของภิกษุฝ่ายมหายาน ในส่วนเกี่ยวกับการฉันของภิกษุแตกต่างจากฝ่ายเถรวาททั้งมีการจำแนกเป็นสองลักษณะตามสำนักศึกษาได้แก่
- เหล่าที่ถือมั่นในศีลวิกาลโภชน์และฉันอาหารเจ จะไม่ฉันอาหารหลังอาทิตย์เที่ยงวัน เรียก ถี่แจ /持齋
- เหล่าที่ถือมั่นแต่การฉันอาหารเจ เรียกถี่สู่ /持素
เจียะแจ (食齋) เป็นการออกเสียงตามสำเนียงถิ่นแต้จิ๋ว ศัพท์คำนี้ใช้และเป็นที่เข้าใจแต่ทางตอนใต้ของจีนโดยเฉพาะแถบลุ่มอารยธรรมหลิ่งหนาน (領南) ในมณฑลกวางตุ้ง อันเป็นแหล่งอาศัยดั้งเดิมของคนแคะ แต้จิ๋ว กวางตุ้งและไหหนำ ซึ่งเป็นชาวจีนกลุ่มใหญ่ในประเทศไทย เจียะหรือเจี๊ยะ (食) ในภาษาถิ่นใต้ แปลว่า กิน ส่วน แจ (齋) แปลว่า บริสุทธิ์ (อ้างตามปทานุกรมพุทธศาสนาฉบับ วัดฝอกวงซัน ไต้หวัน) เจียะแจตรงกับคำว่า ชือซู่ (吃素) ในภาษาจีนกลาง และตรงกับคำไทยที่นิยมใช้กันว่า กินเจ จึงแปลว่า การกินอาหารที่บริสุทธิ์ตามความเชื่อ (ในลัทธิกินเจ) คำว่าเจียะแจนี้ชาวจีนฮกเกี้ยนทางปักษ์ใต้แถบจังหวัดภูเก็ตเรียกต่างออกไปว่า เจียะฉ่าย (食菜) ที่แปลตามตัวอักษรได้ว่า กินผัก แต่มีนิยามหรือความหมายตรงกับคำว่าเจียะแจที่กล่าวข้างต้น
จุดประสงค์ของการกินเจ
ผู้ที่กินเจอาจจะมีจุดเริ่มต้นที่แตกต่างกันไป แต่จุดประสงค์หลักสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทดังนี้
- กินเพื่อสุขภาพ อาหารเจเป็นอาหารประเภทชีวจิต เมื่อกินติดต่อกันไปช่วงเวลาหนึ่งจะทำให้ร่างกายเกิดการปรับตัวให้อยู่ในสภาวะสมดุล สามารถขับพิษของเสียต่างๆ ออกจากร่างกายได้ ปรับระบบไหลเวียนโลหิต ระบบทางเดินอาหารให้มีเสถียรภาพ
- กินด้วยจิตเมตตา เนื่องจากอาหารที่เรากินอยู่ในชีวิตประจำวัน ประกอบด้วยเลือดเนื้อของสรรพสัตว์ ผู้มีจิตเมตตา มีคุณธรรมและมีจิตสำนึกอันดีงามย่อมไม่อาจกินเลือดเนื้อของสัตว์เหล่านั้นซึ่งมีเลือดเนื้อ จิตใจและที่สำคัญมีความรักตัวกลัวตายเช่นเดียวกับคนเรา
- กินเพื่อเว้นกรรม ผู้ที่เข้าใจอย่างลึกซึ้งย่อมตระหนักว่าการกินซึ่งอาศัยการฆ่าเพื่อเอาเลือดเนื้อผู้อื่นมาเป็นของเราเป็นการสร้างกรรม แม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้ลงมือฆ่าเองก็ตาม การซื้อจากผู้อื่นก็เหมือนกับการจ้างฆ่าเพราะถ้าไม่มีคนกินก็ไม่มีคนฆ่ามาขาย (ถ้าไม่ฆ่าไม่ขายก็ไม่มีคนกิน) กรรมที่สร้างนี้จะติดตามสนองเราในไม่ช้าทำให้สุขภาพร่างกายอายุขัยของเราสั้นลงเป็นบ่อเกิดของโรคภัยไข้เจ็บ เมื่อผู้หยั่งรู้เรื่องกฎแห่งกรรมนี้จึงหยุดกินหยุดฆ่าหันมารับประทานอาหารเจ ซึ่งทำให้ร่างกายเติบโตได้เหมือนกัน โดยไม่เห็นแก่ความอร่อยช่วงเวลาสั้นๆ เพียงแค่อาหารผ่านลิ้นเท่านั้น
อาหารเจ
อาหารเจเป็นอาหารที่ปรุงขึ้นโดยไม่มีเนื้อสัตว์ หรือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสัตว์ (เช่น นม ไข่ น้ำผึ้ง น้ำปลา คอลลาเจน ) และไม่ปรุงด้วยผักที่มีกลิ่นฉุน ได้แก่ กระเทียม หอม (ทุกชนิดอาทิ ต้นหอม หัวหอม หอมแดง) กุยช่าย และผักชี
บ้างก็รวมผักชีและเครื่องเทศรสเผ็ดร้อนเข้ามาด้วย เพราะผักเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อธาตุในร่างกาย บ้างเชื่อว่าผักเหล่านี้เพิ่มความกำหนัดหรือมาจากเลือดของสัตว์ตามตำนานจีนอ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
เปิดผิดรูปหรือมีชื่อที่ใช้ไม่ได้ ทำให้อาหารเจไม่มีกลิ่นคาว เนื่องจากการงดเนื้อสัตว์ ทำให้ผู้ที่กินเจหันมาบริโภคธัญพืชในธรรมชาติเพื่อให้ได้มาซึ่งโปรตีน ซึ่งส่วนใหญ่ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง โดยในประเทศจีน พบว่ามีภัตตาคารบางแห่งซึ่งบริการ "ปรุงอาหารตามใบสั่งแพทย์" (กล่าวคือผู้ที่เข้ามารับประทานจะต้องได้รับใบสั่งอาหารของแพทย์เสียก่อน) โดยลูกค้าของภัตตาคารดังกล่าวเป็นคนไข้ที่กำลังเข้ารับ "การบำบัดโรคด้วยอาหารตามหลักเวชศาสตร์โบราณ" หลังเข้ารับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์แล้ว
หลักธรรมในการกินเจ
ในทัศนะของคนกินเจ การกินที่ทำให้ชีวิตผู้อื่นต้องเดือดร้อนล้มตายนั้น “มันมากเกินไป” ทั้งๆ ที่มนุษย์กินแต่อาหารพืชผักก็สามรถมีชีวิตอยู่ได้
การกินเจตั้งมั่นอยู่บนหลักธรรมสำคัญ 2 ประการคือ ดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาหารที่ไม่เบียดเบียนตนเองและดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาหารที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่น กล่าวคือ
- ไม่เอาชีวิตของสัตว์ทั้งหลายมาต่อเติมบำรุงเลี้ยงชีวิตของตน
- ไม่เอาเลือดของสัตว์ทั้งหลายมาเป็นเลือดของตน
- ไม่เอาเนื้อของสัตว์ทั้งหลายมาเป็นเนื้อของตน
การรับประทานสิ่งใดก็ตามที่ทำลายสุขภาพร่างกายของตนให้ทรุดโทรม คือ การเบียดเบียนตนเอง ปัจจุบันวิทยาการเจริญก้าวหน้าได้พิสูจน์ยืนยันว่าเลือดและเนื้อของสัตว์ที่ถูกฆ่าตายเต็มไปด้วยพิษภัยมากมาย
ดังนั้นการกินเจจึงไม่ใช่เพื่อให้เกิดผลดีต่อจิตใจเท่านั้นแต่ยังครอบคลุมไปถึงการมีสุขภาพพลานามัยที่ดีอีกด้วย ร่างกายและจิตใจเป็นของคู่กันมีความสัมพันธ์ส่งผลถึงกันคนเราย่อมไม่อาจจะรู้สึกเบิกบานสดชื่นร่าเริงได้ในขณะที่ร่างกายเจ็บป่วยทรุดโทรมย่ำแย่
การปฏิบัติตนในช่วงกินเจ
ในช่วงเทศกาลกินเจ 9 วัน 9 คืน ผู้ที่ต้องการกินเจอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ตามประเพณีการกินเจ จะต้องปฏิบัติดังนี้
- รับประทาน "อาหารเจ"
- งดอาหารรสจัด ซึ่งหมายถึงอาหารเผ็ด หวานมาก เปรี้ยวมาก เค็มมาก งดผักที่มีกลิ่นฉุนทั้งหลาย แยกภาชนะสำหรับอาหารเจเท่านั้น
- รักษาศีลห้า
- รักษาจิตใจให้บริสุทธิ์ รักษาอารมณ์ ไม่พูดคำหยาบคาย รวมถึงงดการมีเพศสัมพันธ์
- ทำบุญทำทาน ไหว้พระ สวดมนต์
- นุ่งขาวห่มขาวตลอดเทศกาลกินเจ และควรแต่งกายชุดขาวเข้าร่วมพิธีกรรมต่างๆในแต่ละศาลเจ้า
สำหรับผู้ที่เคร่งครัดเพื่อการกินเจให้เป็นไปอย่างบริสุทธิ์โดยแท้ จะเพิ่มการปฏิบัติโดยการกินอาหารเฉพาะที่คนกินเจด้วยกันเป็นผู้ปรุงเท่านั้น รวมถึงจะล้างหม้อไหจนสะอาดเอี่ยมแยกภาชนะสำหรับการปรุงอาหารเจไว้โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังจุดไว้ 9 ดวงตลอดช่วงเทศกาลกินเจ 9 วัน โดยไม่ปล่อยให้ดับเพื่อเป็นพุทธบูชาและรำลึกถึงบุญคุณของพ่อแม่ญาติพี่น้องตลอดจนผู้ที่มีบุญคุณต่อผืนแผ่นดินเกิด
สี
สีในเทศกาลกินเจ
สีแดง เป็นสีที่ชาวจีนเชื่อว่าเป็นสีศิริมงคล ดังจะเห็นได้ว่าในงานมงคลต่างๆ ของคนจีนไม่ว่าจะเป็นงานแต่ง วันตรุษจีน
สีเหลือง เป็นสีสำหรับใช้ในราชวงศ์ซึ่งอนุญาตให้ใช้ได้เพียงคนสองกลุ่มเท่านั้น กลุ่มแรกคือกษัตริย์ซึ่งเห็นได้จากหนังจีน เครื่องแต่งกายและภาชนะต่างๆ เป็นสีเหลืองหรือทองซึ่งคนสามัญห้ามใช้เด็ดขาด กลุ่มที่สองคืออาจารย์ปราบผีถ้าท่านสังเกตในหนังผีจีนจะเห็นว่าเขาแต่งกายและมียันต์สีเหลือง
สีขาว ตามธรรมเนียมจีนสีขาวคือสีสำหรับการไว้ทุกข์ สีดำที่เราเห็นกันอยู่ในขณะนี้เป็นการรับวัฒนธรรมตะวันตก ถ้าท่านสังเกตในพิธีงานศพของจีนจะเห็นลูกหลานแต่งชุดสีขาวอยู่
ความหมายของ "ธงเจ"
ในช่วงเทศกาลกินเจ จะปรากฏธงประจำเทศกาลตามสถานที่ต่าง ๆ โดยมีพื้นธงเป็นสีเหลืองซึ่งเป็นสีที่อนุญาตให้ใช้กับคนสองกลุ่มเท่านั้น คือกลุ่มกษัตริย์ ราชวงศ์ และกลุ่มอาจารย์ปราบผี ดังจะเห็นจากยันต์สีเหลืองตามภาพยนตร์จีน ดังนั้นสีเหลืองจึงเป็นสีของพุทธศาสนา หรือผู้ทรงศีล บนธงจะเขียนตัวอักษรสีแดง อ่านว่า "ไจ" หรือ "เจ" มีความหมายว่า "ของไม่มีคาว" เหตุที่ใช้สีแดง เพราะชาวจีนเชื่อว่า เป็นสีมงคล สร้างความเจริญให้แก่ชีวิต ธงเจนอกจากจะเป็นสัญลักษณ์ของอาหารเจแล้ว ยังเป็นการเตือนให้พุทธศาสนิกชนที่ปฏิบัติตนถือศีลกินเจได้ตระหนักถึงการไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์ และการตั้งอยู่ในศีลตลอดช่วงกินเจ
อ้างอิง
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-03-03. สืบค้นเมื่อ 2011-11-18.
- http://news.phuketindex.com/travel/phuket-vegetarian-2-190191.html
- http://www.trangzone.com/webboard_show.php?page=5&ID=4152
- http://www.dhammathai.org/articles/dbview.php?No=1687
- อาหารเจ สูตรอาหารเจ ในเทศกาลกินเจ 2556
- http://www.horapa.com/content.php?Category=Tips&No=663
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniyngtxngkarephimaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxngkhunsamarthphthnabthkhwamniidodyephimaehlngxangxingtamsmkhwr enuxhathikhadaehlngxangxingxacthuklbxxk haaehlngkhxmul ethskalkinec khaw hnngsuxphimph hnngsux skxlar JSTOR eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir bthkhwamnihruxswnnikhxngbthkhwamtxngkarprbrupaebb sungxachmaythung txngkarcdrupaebbkhxkhwam cdhna aebnghwkhx cdlingkphayin aela hruxkarcdraebiybxun khunsamarthchwyaekikhpyhaniidodykarkdthipum aekikh danbn caknnprbprunghruxcdrupaebbxun inbthkhwamihehmaasm ethskalkinec hrux kinec cin 九皇勝會 hkekiyn kiwhxngesngohy hrux cin 九皇大帝誕 hkekiyn kiwhxngitettn hruxbangaehngeriykwa praephnithuxsilkinphk kahndexawntamcnthrkhti khux erimtntngaetwnkhun 1 kha thung khun 9 kha eduxn 9 tamptithincinkhxngthukpi rwm 9 wn snnisthanwamicuderimtninpraethsmaelesiy aelaphakhitkhxngpraethsithy ethskalkinecimichpraephnikhxngchawcinophnthaelthnghmd ephraachawcininpraethscinpccubnimkhnphbwamikarsubthxdhruxcdpraephnikinecniely aemmixyubanghmubankpraktwaidcdpraephnitampraethsithy aelaimphbpraephniniinchumchnchawcininpraethsxun dngnn cungsnnisthanwaepnethskalthiekidkhuncakkhnithyechuxsaycininpraethsithy kxnpraethsithycaesiydinaednbangswnihxngkvsaelaklayepnswnhnungkhxngpraethsmaelesiy khnmaelesiyechuxsaycininpraethsmaelesiy cungyngkhngmiethskalkinecechnediywkbpraethsithy odymitananelakhanknwaidekidorkhrabadthiekaaphuektthaihmikhntayepncanwnmak michawcinthixphybmacakxaephxkngis mnthleciyngsi praethscin maxyuthibaninthuhruxkrathucnghwdphuekt idrwmknthuxsilkinecsungepnpraephnikhwamechuxinphumiphakhbanekidkhxngtnexngdwyechuxwacathaihrxdphnekhraahkrrmniipid aelakhncinklumthithuxsilkinecidrxdtaycakorkhrabadmaidthnghmd cungthaihphukhneluxmissrththainkarthuxsilkinecnimak aelaidthuxsilkinectamxyangchawcinbankrathuepntnma cungekidepnpraephnithuxsilkinecmacnthungpccubn inpccubnethskalkineccdkhuninpraethsinexechiytawnxxkechiyngit idaek singkhopr maelesiy aelaithy tlxdcnhmuekaaeriywinxinodniesiyaelaxacmiinbangpraethsthiidrbxiththiphlphankhnithyaelakhnmaelesiyechuxsaycin sungkarkinecineduxn 9 ni echuxknwanacaekidkhunemuxraw ph s 2170 trngkbsmyxanackrxyuthyaprawtipraephnithuxsilkinechruxkinecsungepnphithiyntrkrrmbuchathiyingihythisud odyxasyphraaemaehngdwngdawmarici 摩利支 inaebbkhxngphraphuththsasnanikaymhayan aetinthanglththietaeriykwa etaobhngwnkunhruxetaobethiyncuninphasahkekiyn 斗姆元君 斗姆天尊 epnsunyklangsmmtikhxngphithiskdisiththini mkxingprawtiphuktidxyukbfaytananethphaehngdawnphekhraahmakkwa sungepnsastraehnglththieta txmaemuxphraphuththsasnaephyaephekhasuemuxngcin nbcaknnepntnmaemuxphraphuththsasnaecriykhun cungprakttanankhwamechuxthiphukoyngkbphraphuththeca 7 phraxngkhaelaphraophthistwxik 2 phraxngkh eriykwa kiwxwnghudocwinphasacinaetciw 九皇佛祖 odykhtikhwamechuxinpraephnikhxngchawcin odyechphaalththikhngcuxsungennineruxngbrrphburusaelakhwamktyyu brrdaburphkstriythiekhyxuthistnephuxihprachachnmikhwamecriyodyichhlkemttathrrmkcaepnbukhkhlphuidrbkarsrresriycakprachachn tamtanansamarthrwbrwmid 9 phraxngkh sungxyuinyukhsmytangkn thng 9 phraxngkhrwmeriykwaphrarachathirach 9 phraxngkh inphasacinhkekiyneriykwa kiwhxngitet 九皇大帝 sungchawcinechuxwathuksingthukxyanginolkepnthrrmchatiaeladaeniniptamwithiaehngswrrkh xasytamkhwamechuxinlththieta cungsngphlihekidkarnbthuxdwngwiyyanthisthitxyuinsrwngswrrkh phraecaaephndinthngekaphraxngkhemuxxyuinolkmnusyidprakxbkrrmdimakmay emuxsinphrachnmaelwcungidcutiepnethphecapracadawnphekhraah thahnathikhumkhrxngmwlhmupracharasdrihbngekidkhwamrmeynsubipchuxeriykxun九皇大帝聖誕千秋 twyx 九皇大帝圣诞千秋 phinxin Jiǔ huang dadi shengdan qianqiu ciwhwngtatiesingtnechiynchiw hkekiyn kiwhxngitetesngtnechiynchiw aepl wnprasutiphrackphrrdi 9 phraxngkh 九皇勝會 twyx 九皇胜会 phinxin Jiǔ huang sheng hui ciwhwngtatiesingtnechiynchiw hkekiyn kiwhxngesnghwy 九皇節 twyx 九皇节 phinxin Jiǔ huang Jie ciwhwngeciy hkekiyn kiwhxngcwy tananbangaehngechuxknwakinecephuxthwayepnphuththbuchaaedphramhaophthistwkwnxim swnkhwamechuxxun thiekiywkbethskalkinecnnmidngni tananthi 1 klawknwa karkinecerimkhunephuxralukthungnkrb hngihwthwng sungepnthharchawbankhxngcinthitxsutanthankxngthphaemncuxyangklahay fayaemncumipunifkhxngchawtawntkthifaycinimmi nkrbhngihwthwngehlanicaprakxbphithikrrmnungkhawhmkhaw imkinenuxstwaelaphkthimiklinchun aelathxngbrikrrmkhathatamkhwamechuxkhxngcin echuxknwacasamarthpxngknpunifid aetkimprasbphl khrncinphayaephaemncu chaychawcinthukbngkhbihiwphmxyangchawaemncu sungsrangkhwamkhbaekhnihaekchawcinxyangmak chawcincungralukthungnkrbhngihwthwngehlanidwysanukinbuykhun tananthi 2 ephuxepnkarprakxbphithikrrmephuxskkarbuchaphraphuththecainxditkal 7 phraxngkhaelaphramhaophthistwxik 2 phraxngkh rwmepn 9 phraxngkhdwykn hruxxiknyhnungeriykwa dawnphekhraah thng 9 idaek phraxathity phracnthr phraxngkhar phraphuth phraphvhsbdi phrasukr phraesar phrarahu aelaphraektu inphithikrrmbuchanisathuchninphraphuththsasnaslaewlathangolkmabaephysilngdewnenuxstwaelaaetngkaydwychudkhaw tananthi 3 phuthuxsilkinecinphraphuththsasnafaymhayanthiptibtisubtxknmakhxngchawcininpraethsithy ephuxskkarbuchaphraphuththecainxdilkal 7 phraxngkh dngmiinphrasutr pketaokw hudechiywicexiyngchwemiywekng klawiwkhux phrawichyolkmncrphuththa phrasrirtnolkpraphaomsxiswrphuththa phraewpullrtnolkwrrnsiththiphuththa phraxoskolkwichymngkhlphuththa phrawisuththixasrmolkewpullprchyawiphakhphuththa phrathrrmmtithrrmsakhrcrolkmonphuththa phraewpullcnthrophkhiphschchiwthuryphuththa aelaphramhaophthistwxik 2 phraxngkh khuxphrasrisukholkpthmxrrthxlngkarophthistwaelaphrasriewpulksngsarolksukhxiswrophthistw rwmepn 9 phraxngkh hrux ekaxxng thrngtngpnithanckoprdstwol cungidaebngkaymaepnethpheca 9 phraxngkhdwyknkhux itxwyexiyngemngthmhlngithaechkun iteciykximecngkuxmungngwnaechkun itkwncinghyinglukchngecngaechkun ithngehiyngemngmngekhiykniwaechkun itpiktngngwneniybecngkngaechkun itophwpkekkbuexiykkiaechkun itephiywethiynkwnphwkungkwnaechkun ittngemngngwkhuaechkun huykwngitephiykaechkun ethphecathng 9 phraxngkh thrngxanactbaxneruxngvththibriharthatudin thxng na im aelaif thwthukphiphphnxyihysarthis tananthi 4 kinecephuxepnkarbucha ckrphrrdisngtiping sungepnckrphrrdixngkhsudthaykhxngrachwngssxngsungsinphrachnmodythrngthaxtwinibatkrrm karkhatwtay inkhnathiesdcithwnodythangerux emuxmiphrachnnmayuid 9 phrrsa phithibuchaephuxralukthungrachwngssxngni miaetechphaainmnthlhkekiynsungepndinaednphunsudthaykhxngrachwngssxngethann odychawhkekiynidcdthaphithidngklawnikhundwykarxasysasnabnghnakaremuxng karthiephyaephmasuemuxngithyidnnephraachawcincakhkekiynnamaephyaeph tananthi 5 1 500 pimaaelw mnthlkngisepndinaednthiecriyrungeruxngmak hxngetemuxngnimiphrarachoxrs 9 phraxngkhsungepnelisthngbunaelabucungthaihhwemuxngtang yxmswamiphkdi ykewnaekhwnkngeliydthimixanacekhmaekhngaelamikxngkalngthharthiehnuxkwa thngsxngaekhwnthasukknmathungkhrngthi 4 aekhwnkngeliydchnaodykarthumkxngkalngthharthimithnghmdthimakkwahlayethatwoxblxmkxngthphphrarachoxrsthngekaiwthukdan aetkxngthphkngeliydimsamarthbukekhaemuxngidcungthxythphklb cnwnhnungchawkngisekidkhwamaetksamkhkhiaelaexaepriybkn ethphydathrabwaxikimnankngiscaekidphyphibticunghaphuxasachwyaetchawbancaphnphyidktxemuxidsrangphlbuykhxngtnexng dwngwiyyanphrarachoxrsxngkhotrbxasaaelaephngyanehnwakhwrerimthibanesrsthiicbuy lihwkay khunwnhnungkhnrbichaecngesrsthilihwkaywamikhxthanorkheruxnmakhxphbesrsthicungmxbengincanwnhnungihepnkhaedinthang aetkhxthanimipaelaprakasihchawemuxngthuxsilkinecepnewla 9 wn 9 khunphuidthatamphyphibticahayip esrsthinamaptibtikxnaelaphuxuncungptibtitamcnmikarcdihmixuprakrepnmhrsphinchwngkinecdwy elaexiyekidsrththapraephnikineckhxngmnthlkngiscungidsuksatarakarkineckhxngesrsthilihwkaythibnthukiw aetidddaeplngphithikrrmbangxyangihrdkumyingkhunaelaihmiphithiechiyykxxngsxnget phithiechiyengkesiynhxngetmaepnprathaninphithi tananthi 6 chaykhiemanamwa elaesng ekhaicphidkhidwaaemtntayipephraaepnorkhkhadsarxahar cnkhunhnungaemidmaekhafnbxkwa aemtayipidrbkhwamsukhmakephraaaemkinaetxaharecaelatxnniaemxyubnekhaophthxsw tngxyubnekaanaih inmnthlcideciyngthalukxyakphbaemihipthinn khrnthungethskalihwphraophthistwkwnximthiekhaophthxsw elaesngxyakipaetipimthukcungtamephuxnbanthicaipihwphraophthistw ephuxnbanehnelaesngsyyawacaimkinehlaaelaenuxstwcungihipdwy rahwangthangedinswnkbkhnkhayenuxelaesnglumsyyathiihiwephuxnbankhniip ochkhdithimihyingsawkhnhnungedinphanmaaelatxngkaripihwphraophthistwelaesngcungkhxtamnangip emuxthungekhaophthxswkhnathielaesngkmlngkrabihwphraophthistwnn ekhaehnaemlxyxyuehnuxkrathangthupthikhnxunmxngimehn khnaedinthangklbekhaidaeykthangkbhyingsawaelaidphbedkchaykhnhnungyunrxngihxyucungekhaipthamithidkhwamwaepnlukkhxngekhakbphrryathielikknipnanaelw ekhacungphaipxyudwyaelwwnhnunghyingsawthinathangipekhaophthxswmakhxxasyxyudwy thngsamxyudwyknxyangmikhwamsukh hyingsawphunnepnsawbrisuththipraphvtitnepnkhndixyuinsilthrrmaelathuxsilkinecxyuenuxngnity nangruwaiklthungwntaykhxngnangaelwcungbxkelaesng emuxthungwnnnnangxabnaaetngtwdwyxaphrnthikhawsaxadaelwnngskkhruksinlm elaesngehnkarcakipdwydikhxngnangkhlaykbaemcungekidsrththayksmbtiihlukchayaelwpraphvtitnihm emuxtayipcaidbngekidphlechnediywkbaemaelahyingsawaelapraephnikineccungerimkhunkhwamhmaykhxng ecbthkhwamnixacmingankhnkhwatnchbbrwmxyukrunaprbprungodyephimhlkthanphisucnyunynkhxkhwamthixangaelaephimkarxangxinginbrrthd khxkhwamthimiechphaangankhnkhwatnchbbephiyngxyangediywkhwrthuklbesiy eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir thngthiichpradbhnaranxaharec mitwxksrcinsiaedng 齋 bnphunsiehluxng hruxichkhawa ec aethnkid khawa ec inphasacinthangphuththsasnanikaymhayanmikhwamhmayediywkbkhawa xuobsth dngnnkarkineckkhuxkarrbprathanxaharkxnethiyngwn ehmuxnkbthichawphuththinpraethsithythithuxxuobsthsil hruxrksasil 8 odyimrbprathanxaharhlngcakethiyngwnipaelw aetenuxngcakkarthuxxuobsthsilkhxngchawphuththnikaymhayanthiimkinenuxstw cungniymnakarimkinenuxstwiprwmknekhakbkhawakinec klayepnkarthuxsilkinec inpccubnphuthirbprathanxaharthng 3 muxaetimkinenuxstwkyngkhngeriykwakinec channkhwamhmaykkhuxkhnkinecmiichephiyngaetimkinenuxstw aetyngtxngdarngtnxyuinsilthrrmxndingam mikhwambrisuththi saxad thngkay waca ic inphasacinmikhahruxwlithiichxksraec ec 齋 斋 epntwprakxbrwmdwyhlaykha aetkhawaopykwnaecik 八關齋戒 aeplwa silbrisuththiaepdprakar xnhmaythung xuobsthsil sungepnsphthkhxngthangphuththsasna karaeplaelaekhaickhladekhluxndngklawyngthukichepnbrrthdthaninkarxthibaywtrptibtikhxngkarkinecphidtamipdwywa karkinectxngthuxsilkhxwikalophchn hruxkarngdkinkhxngkhbekhiywhlngethiyngwnipaelw sungepnsilkhxhnunginsilaepd thngthiorngkhrwkhxngsalecahruxorngecthiepideliyngphukhninchwngethskalkineclwnaetmixaharmuxeynihkbphuekhaipkin yingwnthimikarprakxbphithikrrmintxnkhayngmixaharmuxkhabrikaresrimihepnphiessdwy thiepnechnnnephraainchwngethskalkinecnnekhathuxephiyngsilhathiepnnicsil imidkhrxngsilaepdxyangthihlaykhnekhaic ewnaetphutngcitxthisthanwacakhrxngsilaepdepnkarswntwethann inthangxksrsastrcin xksrtw aec miphthnakarmacak twxksr chi 齊 sungaeplwabriburn eriybrxy xksraecekidcakkarephimesntngaelasxngcud 小 ekhaipklangxksrchi thaihekidtw su 示 sungaeplwakarskkara xyuinaeknklangkhxngtwchi aec 齋 cungmikhwamhmaywa karrksakhwambrisuththi thngkayaelaic ephuxkarskkara hrux karptibtibuchathwayethphyda sungkarxthibayinaenwthangnicasxdkhlxngkb khawa 齋醮 inlththieta sungyxmacakkhawa 供齋醮神 thiaeplwakarbaephykayicihbrisuththiephuxepnskkarbuchaethphyda khwamhmaykhxngaecinsasnaxislam sphthkhawa silaec 齋戒 inphasacin nxkcakichinlththietaaelasasnaphuththaelw ynghmaythung silxd thithuxptibtiineduxnthuxsilxdkhxngchawcinxislam sarakhxngsilkkhuxkarhamrbprathanxaharidinrahwangewlathiphraxathitykhuncwbcnlbkhxbfa tlxdeduxnthuxsilxd aecinwthnthrrmdngedimkhxngcin sphth aec phbinexksarcinekathimixayukwasxngphnpihlaychbb echn 禮記 周易 易經 孟子 逸周書 exksarthixangnipccubnthuxwaepnkhmphirinlththihyu exksarehlannyngichxksrtwchi 齊 aetewlaxanxxkesiyngklbtxngxanxxkesiyngwa ic echn khawa iceciy 齊潔 hrux iceciy 齊戒 sungkkhuxkarxxkesiyngaecinsaeniyngaetciwnnexng xksrchiinexksarnnnkxksrsastrtikhwamwaaethcringaelwkkhuxxksrtwaechruxichaethntwaec aecthiwanihaidhmaythungkarngdkinkhxngsdkhaw hrux karngdrbprathanxaharhlngethiyng hakhmaythungkarcharalangrangkay sngbcitic aelaswmisesuxphaihmsaxad epnkaretriymkayaelaicihbrisuththiephuxprakxbphithikrrmskkarbucha khxphr hruxaesdngkhwamkhxbkhuntxethphydaaehngsrwngswrrkh aecephuxkarcaaenkkhwamekhrngkhrdkhxngphiksufaymhayan silkhxngphiksufaymhayan inswnekiywkbkarchnkhxngphiksuaetktangcakfayethrwaththngmikarcaaenkepnsxnglksnatamsanksuksaidaek ehlathithuxmninsilwikalophchnaelachnxaharec caimchnxaharhlngxathityethiyngwn eriyk thiaec 持齋 ehlathithuxmnaetkarchnxaharec eriykthisu 持素 eciyaaec 食齋 epnkarxxkesiyngtamsaeniyngthinaetciw sphthkhaniichaelaepnthiekhaicaetthangtxnitkhxngcinodyechphaaaethblumxarythrrmhlinghnan 領南 inmnthlkwangtung xnepnaehlngxasydngedimkhxngkhnaekha aetciw kwangtungaelaihhna sungepnchawcinklumihyinpraethsithy eciyahruxeciya 食 inphasathinit aeplwa kin swn aec 齋 aeplwa brisuththi xangtampthanukrmphuththsasnachbb wdfxkwngsn ithwn eciyaaectrngkbkhawa chuxsu 吃素 inphasacinklang aelatrngkbkhaithythiniymichknwa kinec cungaeplwa karkinxaharthibrisuththitamkhwamechux inlththikinec khawaeciyaaecnichawcinhkekiynthangpksitaethbcnghwdphuekteriyktangxxkipwa eciyachay 食菜 thiaepltamtwxksridwa kinphk aetminiyamhruxkhwamhmaytrngkbkhawaeciyaaecthiklawkhangtncudprasngkhkhxngkarkinecphuthikinecxaccamicuderimtnthiaetktangknip aetcudprasngkhhlksamarthaebngidepn 3 praephthdngni ifl Ah han jay svgtrathiichpradbhnaranxaharec mitwsiaedng bnphunsiehluxng hruxichkhawa ec aethnkidkinephuxsukhphaph xaharecepnxaharpraephthchiwcit emuxkintidtxknipchwngewlahnungcathaihrangkayekidkarprbtwihxyuinsphawasmdul samarthkhbphiskhxngesiytang xxkcakrangkayid prbrabbihlewiynolhit rabbthangedinxaharihmiesthiyrphaph kindwycitemtta enuxngcakxaharthierakinxyuinchiwitpracawn prakxbdwyeluxdenuxkhxngsrrphstw phumicitemtta mikhunthrrmaelamicitsanukxndingamyxmimxackineluxdenuxkhxngstwehlannsungmieluxdenux citicaelathisakhymikhwamrktwklwtayechnediywkbkhnera kinephuxewnkrrm phuthiekhaicxyangluksungyxmtrahnkwakarkinsungxasykarkhaephuxexaeluxdenuxphuxunmaepnkhxngeraepnkarsrangkrrm aemwacaimidepnphulngmuxkhaexngktam karsuxcakphuxunkehmuxnkbkarcangkhaephraathaimmikhnkinkimmikhnkhamakhay thaimkhaimkhaykimmikhnkin krrmthisrangnicatidtamsnxngerainimchathaihsukhphaphrangkayxayukhykhxngerasnlngepnbxekidkhxngorkhphyikhecb emuxphuhyngrueruxngkdaehngkrrmnicunghyudkinhyudkhahnmarbprathanxaharec sungthaihrangkayetibotidehmuxnkn odyimehnaekkhwamxrxychwngewlasn ephiyngaekhxaharphanlinethannxaharecxaharecepnxaharthiprungkhunodyimmienuxstw hruxphlitphnththiidcakstw echn nm ikh naphung napla khxllaecn aelaimprungdwyphkthimiklinchun idaek kraethiym hxm thukchnidxathi tnhxm hwhxm hxmaedng kuychay aelaphkchi bangkrwmphkchiaelaekhruxngethsrsephdrxnekhamadwy ephraaphkehlanisngphlkrathbtxthatuinrangkay bangechuxwaphkehlaniephimkhwamkahndhruxmacakeluxdkhxngstwtamtanancinxangxingphidphlad payrabu lt ref gt epidphidruphruxmichuxthiichimid thaihxaharecimmiklinkhaw enuxngcakkarngdenuxstw thaihphuthikinechnmabriophkhthyphuchinthrrmchatiephuxihidmasungoprtin sungswnihyidaek phlitphnthcakthwehluxng odyinpraethscin phbwamiphttakharbangaehngsungbrikar prungxahartamibsngaephthy klawkhuxphuthiekhamarbprathancatxngidrbibsngxaharkhxngaephthyesiykxn odylukkhakhxngphttakhardngklawepnkhnikhthikalngekharb karbabdorkhdwyxahartamhlkewchsastrobran hlngekharbkartrwcwinicchycakaephthyaelwhlkthrrminkarkinecinthsnakhxngkhnkinec karkinthithaihchiwitphuxuntxngeduxdrxnlmtaynn mnmakekinip thng thimnusykinaetxaharphuchphkksamrthmichiwitxyuid karkinectngmnxyubnhlkthrrmsakhy 2 prakarkhux darngchiwitxyudwyxaharthiimebiydebiyntnexngaeladarngchiwitxyudwyxaharthiimebiydebiynphuxun klawkhux imexachiwitkhxngstwthnghlaymatxetimbarungeliyngchiwitkhxngtn imexaeluxdkhxngstwthnghlaymaepneluxdkhxngtn imexaenuxkhxngstwthnghlaymaepnenuxkhxngtn karrbprathansingidktamthithalaysukhphaphrangkaykhxngtnihthrudothrm khux karebiydebiyntnexng pccubnwithyakarecriykawhnaidphisucnyunynwaeluxdaelaenuxkhxngstwthithukkhatayetmipdwyphisphymakmay dngnnkarkineccungimichephuxihekidphlditxciticethannaetyngkhrxbkhlumipthungkarmisukhphaphphlanamythidixikdwy rangkayaelaciticepnkhxngkhuknmikhwamsmphnthsngphlthungknkhnerayxmimxaccarusukebikbansdchunraeringidinkhnathirangkayecbpwythrudothrmyaaeykarptibtitninchwngkinecinchwngethskalkinec 9 wn 9 khun phuthitxngkarkinecxyangkhrbthwnsmburntampraephnikarkinec catxngptibtidngni rbprathan xaharec ngdxaharrscd sunghmaythungxaharephd hwanmak epriywmak ekhmmak ngdphkthimiklinchunthnghlay aeykphachnasahrbxaharecethann rksasilha rksaciticihbrisuththi rksaxarmn imphudkhahyabkhay rwmthungngdkarmiephssmphnth thabuythathan ihwphra swdmnt nungkhawhmkhawtlxdethskalkinec aelakhwraetngkaychudkhawekharwmphithikrrmtanginaetlasaleca sahrbphuthiekhrngkhrdephuxkarkinecihepnipxyangbrisuththiodyaeth caephimkarptibtiodykarkinxaharechphaathikhnkinecdwyknepnphuprungethann rwmthungcalanghmxihcnsaxadexiymaeykphachnasahrbkarprungxahareciwodyechphaa nxkcakniyngcudiw 9 dwngtlxdchwngethskalkinec 9 wn odyimplxyihdbephuxepnphuththbuchaaelaralukthungbuykhunkhxngphxaemyatiphinxngtlxdcnphuthimibuykhuntxphunaephndinekidsisiinethskalkinec siaedng epnsithichawcinechuxwaepnsisirimngkhl dngcaehnidwainnganmngkhltang khxngkhncinimwacaepnnganaetng wntruscin siehluxng epnsisahrbichinrachwngssungxnuyatihichidephiyngkhnsxngklumethann klumaerkkhuxkstriysungehnidcakhnngcin ekhruxngaetngkayaelaphachnatang epnsiehluxnghruxthxngsungkhnsamyhamicheddkhad klumthisxngkhuxxacaryprabphithathansngektinhnngphicincaehnwaekhaaetngkayaelamiyntsiehluxng sikhaw tamthrrmeniymcinsikhawkhuxsisahrbkariwthukkh sidathieraehnknxyuinkhnaniepnkarrbwthnthrrmtawntk thathansngektinphithingansphkhxngcincaehnlukhlanaetngchudsikhawxyukhwamhmaykhxng thngec inchwngethskalkinec capraktthngpracaethskaltamsthanthitang odymiphunthngepnsiehluxngsungepnsithixnuyatihichkbkhnsxngklumethann khuxklumkstriy rachwngs aelaklumxacaryprabphi dngcaehncakyntsiehluxngtamphaphyntrcin dngnnsiehluxngcungepnsikhxngphuththsasna hruxphuthrngsil bnthngcaekhiyntwxksrsiaedng xanwa ic hrux ec mikhwamhmaywa khxngimmikhaw ehtuthiichsiaedng ephraachawcinechuxwa epnsimngkhl srangkhwamecriyihaekchiwit thngecnxkcakcaepnsylksnkhxngxaharecaelw yngepnkaretuxnihphuththsasnikchnthiptibtitnthuxsilkinecidtrahnkthungkarimebiydebiynchiwitstw aelakartngxyuinsiltlxdchwngkinecxangxing khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2009 03 03 subkhnemux 2011 11 18 http news phuketindex com travel phuket vegetarian 2 190191 html http www trangzone com webboard show php page 5 amp ID 4152 http www dhammathai org articles dbview php No 1687 xaharec sutrxaharec inethskalkinec 2556 http www horapa com content php Category Tips amp No 663