สงครามโบชิน (ญี่ปุ่น: 戊辰戦争; โรมาจิ: ぼしんせんそう; : Boshin Sensō; โบชิน-เซ็นโซ, แปล: "สงครามปีมะโรงปฐพี") บ้างเรียก การปฏิวัติญี่ปุ่น เป็นสงครามกลางเมืองในประเทศญี่ปุ่น รบพุ่งกันตั้งแต่ ค.ศ. 1868 ถึง 1869 ระหว่างกำลังของรัฐบาลเอโดะซึ่งปกครองและผู้ที่มุ่งถวายอำนาจการเมืองแก่ราชสำนักจักรพรรดิ
สงครามโบชิน | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ การปฏิรูปเมจิ | |||||||
แคว้นซัตสึมะ โชชู และโทซะ ซึ่งอยู่ทางตะวันตก (สีแดง) รวมกำลังเพื่อโค่นล้มกองทัพฝ่ายโชกุนที่โทะบะ-ฟุชิมิ หลังจากนั้นได้รุกคืบเพื่อควบคุมส่วนที่เหลือของญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งถึงการต่อสู้ครั้งสุดท้ายในภาคเหนือที่เกาะฮอกไกโด | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
ค.ศ. 1868 ราชสำนักจักรพรรดิ : ไดเมียวโทะซะมะอื่น: | ค.ศ. 1868 รัฐบาลเอโดะ แปรพักตร์: | ||||||
ค.ศ. 1869 ญี่ปุ่นสนับสนุน สหราชอาณาจักร สหรัฐ | ค.ศ. 1869 สาธารณรัฐเอโซะสนับสนุน ฝรั่งเศส | ||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
จักรพรรดิเมจิ ผบ. สูงสุด: | โทกูงาวะ โยชิโนบุ ค.ศ. 1869 | ||||||
กำลัง | |||||||
~30,000 นาย | ~80,000 นาย | ||||||
ความสูญเสีย | |||||||
~1,500 เสียชีวิต | ~7,000 เสียชีวิต |
สงครามครั้งนี้มีรากเหง้ามาจากความไม่พอใจในบรรดาขุนนางและซามูไรหนุ่มจำนวนมากจากการจัดการกับคนต่างด้าวของรัฐบาลโชกุนหลังการเปิดประเทศญี่ปุ่นเมื่อทศวรรษก่อน อิทธิพลของชาติตะวันตกที่เพิ่มขึ้นในเศรษฐกิจนำไปสู่ความเสื่อมที่คล้ายกับประเทศทวีปเอเชียอื่นในเวลาไล่เลี่ยกัน พันธมิตรซามูไรตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งแคว้นโชชู แคว้นซัตสึมะ และแคว้นโทซะ และข้าราชบริพาร ยึดการควบคุมราชสำนักจักรพรรดิและมีอิทธิพลต่อจักรพรรดิเมจิวัยหนุ่ม โทกูงาวะ โยชิโนบุ โชกุนในเวลานั้น ตระหนักถึงสถานการณ์ที่หมดหวังของตน จึงสละอำนาจทางการเมืองคืนแก่จักรพรรดิ โยชิโนบุหวังว่าเมื่อทำดังนี้ จะสามารถรักษาตระกูลโทกูงาวะและเข้ามีส่วนร่วมในรัฐบาลอนาคต
ทว่า ความเคลื่อนไหวทางการทหารของกองทัพราชสำนัก ความรุนแรงของกลุ่มผู้สนับสนุนราชสำนักในเอะโดะ และพระราชกฤษฎีกาซึ่งแคว้นซัตสึมะและแคว้นโชชูสนับสนุนเลิกตระกูลโทกูงาวะ ทำให้โยชิโนบุเปิดฉากการทัพเพื่อยึดราชสำนักจักรพรรดิที่เกียวโต กระแสของสงครามพลิกกลับไปยังกลุ่มแยกจักรพรรดิที่มีขนาดเล็กกว่าแต่ค่อนข้างทันสมัยอย่างรวดเร็ว และหลังยุทธการต่าง ๆ ซึ่งลงเอยด้วยการยอมจำนนของเอะโดะ โยชิโนบุยอมจำนนด้วยตนเอง ส่วนผู้ภักดีต่อโทกูงาวะล่าทัพขึ้นตอนเหนือของเกาะฮนชูและเกาะฮกไกโดในภายหลัง ที่ซึ่งพวกเขาก่อตั้งสาธารณรัฐเอะโซะ ความพ่ายแพ้ในทำลายที่มั่นแห่งสุดท้ายนี้ และเหลือให้การปกครองของราชสำนักเด็ดขาดทั่วญี่ปุ่น เป็นการสิ้นสุดระยะทางทหารในการคืนสู่ราชบัลลังก์ของจักรพรรดิเมจิ
มีการระดมพลประมาณ 120,000 คนระหว่างสงคราม และในจำนวนนี้ มีผู้เสียชีวิตราว 3,500 คน ในบั้นปลาย ฝ่ายราชสำนักผู้ชนะทิ้งเป้าหมายการขับชาวต่างชาติจากญี่ปุ่น แล้วรับนโยบายทำให้ทันสมัยต่อแทน โดยมีเป้าหมายเจรจาแก้ไขสนธิสัญญาไม่เป็นธรรมกับชาติตะวันตกในที่สุด ไซโง ทะกะโมะริ ผู้นำคนสำคัญของกลุ่มแยกจักรพรรดิ ยืนกรานให้ ฝ่ายผู้ภักดีต่อตระกูลโทกูงาวะจึงได้รับการผ่อนผัน และในเวลาต่อมา อดีตผู้นำในรัฐบาลโชกุนหลายคนได้รับตำแหน่งรับผิดชอบงานภายใต้รัฐบาลใหม่
เมื่อสงครามโบชินเริ่ม ประเทศญี่ปุ่นกำลังทำให้ทันสมัยอยู่แล้ว ตามเส้นทางเดียวกับความก้าวหน้าของชาติตะวันตกที่กลายเป็นอุตสาหกรรม ทว่า ประเทศญี่ปุ่นปกป้องเศรษฐกิจที่อ่อนแอของตนโดยปฏิเสธการค้าเสรีที่ชาติตะวันตกบังคับ และเนื่องจากชาติตะวันตก (โดยเฉพาะสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส เกี่ยวข้องกับการเมืองของประเทศอย่างลึกซึ้ง การสถาปนาอำนาจจักรพรรดิจึงเพิ่มความผันผวนแก่ความขัดแย้ง ต่อมา สงครามถูกทำให้เป็นจินตนิยม (romanticized) ว่าเป็น "การปฏิวัติที่ไม่เสียเลือดเนื้อ" (bloodless revolution)
ภูมิหลังทางการเมือง
ความไม่พอใจรัฐบาลโชกุนช่วงต้น
เป็นเวลาสองศตวรรษก่อนหน้า ค.ศ. 1854 ญี่ปุ่นจำกัดการติดต่อกับต่างประเทศอย่างรุนแรง โดยยกเว้นสำคัญ คือ เกาหลีผ่านทางเกาะสึชิมะ จักรวรรดิต้าชิงผ่านทางหมู่เกาะริวกิว และดัตช์ผ่านทางสถานีการค้า ใน ค.ศ. 1854 พลเรือจัตวาแมทธิว ซี. เพร์รี ได้ขู่ใช้กำลังบังคับให้ญี่ปุ่นเปิดประเทศสู่การค้าโลก นำมาซึ่งยุคสมัยการพัฒนาอย่างรวดเร็วในการค้าต่างประเทศและการทำให้เป็นตะวันตก (Westernization) ส่วนใหญ่เนื่องจากเงื่อนไขอัปยศของสนธิสัญญาไม่เป็นธรรมต่าง ๆ ดังที่เรียกความตกลงเช่นที่เพอร์รีถ่ายทอด ไม่นานรัฐบาลโชกุนเผชิญกับบความเป็นปรปักษ์ภายในประเทศ ซึ่งปรากฏเป็นรูปธรรมเป็นขบวนการมูลวิวัติ "ซนโนโจอิ" (ความหมายตามตัวแปลว่า "เทิดทูนจักรพรรดิ ขับอนารยชน")
จักรพรรดิโคเมทรงเห็นด้วยกับอารมณ์ดังกล่าว และทรงเริ่มแสดงบทบาทในกิจการของรัฐ อันเป็นการทำลายธรรมเนียมของจักรพรรดิหลายศตวรรษ เมื่อสบโอกาส พระองค์ทรงวิพากษ์วิจารณ์สนธิสัญญาต่าง ๆ อย่างรุนแรง และทรงพยายามก้าวก่ายการสืบทอดตำแหน่งโชกุน ความพยายามของพระองค์สิ้นสุดด้วย "พระราชโองการขับอนารยชน" ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1863 แม้รัฐบาลโชกุนไม่มีความตั้งใจบังคับใช้ กระนั้นพระราชโองการก็จุดประกายการโจมตีรัฐบาลโชกุนเองและชาวต่างชาติในญี่ปุ่นขึ้นมา กรณีที่โด่งดังที่สุด คือ การเสียชีวิตของพ่อค้าอังกฤษชื่อ ชาร์ล เลนน็อกซ์ ริชาร์ดสัน (Charles Lennox Richardson) การเสียชีวิตของเขาทำให้รัฐบาลเอโดะต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทน 100,000 ปอนด์สเตอร์ลิง การโจมตีอื่นมีการระดมยิงการเดินเรือของต่างชาติในชิโมะโนะเซะกิ
ระหว่าง ค.ศ. 1864 ต่างชาติตอบแทนการกระทำเหล่านี้สำเร็จด้วยการทำตอบโต้ด้วยอาวุธ เช่น การยิงถล่มคาโงชิมะของอังกฤษ และโดยกองเรือนานาชาติ เวลาเดียวกัน กำลังแคว้นโชชูพร้อมด้วยโรนิน ก่อเพื่อยึดพระนครเกียวโตอันเป็นที่ตั้งของราชสำนักแต่ถูกกำลังรัฐบาลโชกุน ภายใต้การนำของโทกูงาวะ โยชิโนบุ อนาคตโชกุน รัฐบาลโชกุนออกคำสั่งเพิ่มให้มี และได้รับการยอมอ่อนน้อมของโชชูโดยปราศจากการรบอย่างจริงจัง ณ จุดนี้ การต่อต้านทีแรกในบรรดาผู้นำในโชชูและราชสำนักจักรพรรดิเพลาลง แต่ในปีต่อมา โทกุงะวะพิสูจน์ว่าไม่สามารถกลับควบคุมประเทศอย่างสมบูรณ์ได้เพราะไดเมียวส่วนใหญ่เริ่มเมินเฉยต่อคำสั่งและคำถามจากเอะโดะ
ความช่วยเหลือทางทหารจากต่างชาติ
แม้เหตุยิงถล่มคาโงชิมะ แคว้นซัตสึมะก็ยังใกล้ชิดกับบริเตนมากขึ้น และมุ่งทำให้กองทัพบกและกองทัพเรือของตนให้ทันสัยด้วยการสนับสนุนจากชาติดังกล่าว โทมัส เบลก โกลเวอร์ พ่อค้าชาวสกอต ขายปืนและเรือรบจำนวนมากให้หลายแคว้นทางใต้ ผู้เชี่ยวชาญทางทหารหลายคนชาวอเมริกันและอังกฤษหลายคน ซึ่งโดยทั่วไปเป็นอดีตนายทหาร อาจมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในความพยายามทางทหารนี้ (Harry Smith Parkes) เอกอัครราชทูตบริเตน สนับสนุนกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาลโชกุนในการผลักดันให้สถาปนาการปกครองของจักรพรรดิเอกภาพและชอบธรรมในประเทศญี่ปุ่น และเพื่อตอบโต้อิทธิพลของฝรั่งเศสกับรัฐบาลโชกุน ในระยะเวลาดังกล่าว ผู้นำญี่ปุ่นภาคใต้ เช่น ไซโง ทะกะโมะริแห่งซัตสึมะ หรืออิโต ฮิโระบุมิ และแห่งโชชู เริ่มสร้างสายสัมพันธ์เฉพาะบุคคลกับนักการทูตบริติชหลายคน ที่สำคัญได้แก่ (Ernest Mason Satow).
รัฐบาลโชกุนยังเตรียมรับความขัดแย้งอีกโดยการทำให้กองทัพของตนทันสมัย ตามแนวการออกแบบของปากส์ ชาวบริติช ซึ่งจนถึงเวลานั้นเป็นหุ้นส่วนหลักของรัฐบาลโชกุน พิสูจน์ว่าไม่เต็มใจยื่นความช่วยเหลือ โทกุงะวะจึงอาศัยความชำนาญของฝรั่งเศสเป็นหลัก โดยสบายใจกับเกียรติภูมิทางทหารของจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 ในเวลานั้น ซึ่งได้มาจากความสำเร็จในสงครามไครเมียและสงครามอิตาลี
รัฐบาลโชกุนดำเนินก้าวสำคัญสู่การสร้างกองทัพสมัยใหม่ที่ทรงอำนาจ คือ กองทัพเรือโดยมีแกนกลางเป็นเรือรบไอน้ำแปดลำที่มีการสร้างโดยใช้เวลาหลายปีและเป็นกองทัพเรือที่เข้มแข็งที่สุดในทวีปเอเชียแล้ว ใน ค.ศ. 1865 มีการก่อสร้างกองทัพเรือสมัยใหม่แห่งแรกของประเทศญี่ปุ่นในโยะโกะซุกะโดย Léonce Verny วิศวกรชาวฝรั่งเศส ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1867 คณะผู้แทนทหารฝรั่งเศสมาถึงเพื่อจัดระเบียบกองทัพรัฐบาลโชกุนใหม่และสร้างกำลังหัวกะทิเด็นชูตะอิ และมีคำสั่งซื้อเรือรบซีเอสเอส สโตนวอลล์ เรือรบหุ้มเกราะเหล็ก (ironclad) ที่ฝรั่งเศสสร้าง จากสหรัฐ ซึ่งเป็นสิ่งตกทอดจากสงครามกลางเมืองอเมริกา เนื่องจากชาติตะวันตกประกาศเป็นกลาง อเมริกาจึงปฏิเสธไม่ขายเรือ แต่เมื่อยกเลิกความเป็นกลางแล้ว กลุ่มแยกจักรพรรดิได้เรือและใช้ในยุทธนาการในฮาโกดาเตะโดยใช้ชื่อว่า โคเตะสึ ("เรือหุ้มเกราะเหล็ก")
รัฐประหาร
หลังรัฐประหารในโชชูซึ่งส่งผลให้กลุ่มแยกต่อต้านรัฐบาลโชกุนหัวรุนแรงกลับเถลิงอำนาจ รัฐบาลโชกุนจึงประกาศเจตนานำการรบนอกประเทศโคชูครั้งที่สองเพื่อลงโทษแคว้นทรยศนั้น เหตุนี้กระตุ้นให้โชชูตั้งพันธมิตรกับแคว้นซัตสึมะอย่างลับ ๆ ในฤดูร้อน ค.ศ. 1866 รัฐบาลโชกุนแพ้ต่อโคชู ทำให้เสื่อมอำนาจลงมาก ทว่า ปลาย ค.ศ. 1866 ทีแรกโชกุนเสียชีวิต แล้วจักรพรรดิโคเมเสด็จสวรรคต ซึ่งตำแหน่งตกแก่โยชิโนบุและจักรพรรดิเมจิตามลำดับ เหตุการณ์เหล่านี้ "ทำให้เลี่ยงการสงบศึกไม่ได้" ตามคำของนักประวัติศาสตร์ มารีอัส เจนเซน
วันที่ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1867 มีการประกอบพระราชโองการลับโดยแคว้นซัตสึมะและแคว้นโชชูในพระปรมาภิไธยจักรพรรดิเมจิ บัญชาให้ "ฆ่าโยชิโนบุโทษฐานทรยศ" ทว่า ก่อนหน้านี้ และให้หลังข้อเสนอจากไดเมียวโทะซะ โยชิโนบุลาออกจากตำแหน่งและถวายอำนาจคืนแก่จักรพรรดิ โดยตกลง "เป็นเครื่องมือนำไปปฏิบัติ" ซึ่งพระบรมราชโองการของจักรพรรดิ รัฐบาลเอโดะจึงสิ้นสุด
แม้การลาออกของโยชิโนบุทำให้เกิดสุญญากาศในตำแหน่งระดับสูงสุดของรัฐบาล ระบบกลไกรัฐของเขานั้นยังดำรงอยู่ ยิ่งกว่านั้นรัฐบาลโชกุน โดยเฉพาะตระกูลโทกูงาวะ จะยังเป็นกำลังสำคัญในระเบียบการเมืองที่วิวัฒนาและจะมีอำนาจบริหารหลายอย่าง เป็นภาพที่ผู้ไม่ประนีประนอม (hard-liner) จากซัตสึมะและโชชูทนไม่ได้ เหตุการณ์มาถึงจุดสูงสุดในวันที่ 3 มกราคม ค.ศ. 1868 เมื่อทั้งสองแคว้นยึดพระราชวังจักรพรรดิที่กรุงเกียวโต และในวันรุ่งขึ้น จักรพรรดิเมจิ พระชนมายุ 15 พรรษา ทรงประกาศฟื้นฟูพระราชอำนาจเต็มของพระองค์ แม้สภาองคมนตรีจักรพรรดิฝ่ายข้างมากสุขกับคำประกาศการปกครองโดยตรงอย่างเป็นทางการของราชสำนักและมีแนวโน้มสนับสนุนการร่วมมือกับโทกูงาวะต่อ (ภายใต้มโนทัศน์ "รัฐบาลอันเป็นธรรม" ญี่ปุ่น: 公議政体; : kōgiseitai) แต่ไซโง ทะกะโมะริคุกคามสภาให้เลิกตำแหน่ง "โชกุน" และสั่งริบที่ดินของโยชิโนบุ
แม้ทีแรกเขาเห็นพ้องกับข้อเรียกร้องเหล่านี้ แต่ในวันที่ 17 มกราคม ค.ศ. 1868 โยชิโนบุประกาศว่า เขาไม่ถูกผูกมัดกับคำประกาศฟื้นฟูพระราชอำนาจและเรียกร้องให้เลิกประกาศนั้น วันที่ 24 มกราคม โยชิโนบุตัดสินใจเตรียมการโจมตีพระนครเกียวโตซึ่งถูกกำลังซัตสึมะและโชชูยึดครองอยู่ การตัดสินใจดังกล่าวนี้ถูกกระตุ้นจากที่เขาทราบว่าเกิดการลอบวางเพลิงหลายครั้งในเอะโดะ เริ่มจากการเผาฝ่ายหน้าของปราสาทเอะโดะ อันเป็นที่พำนักหลักของตระกูลโทกูงาวะ เหตุนี้ถูกกล่าวโทษแก่โรนินซัตสึมะ ซึ่งในวันนั้นโจมตีสำนักงานรัฐบาลแห่งหนึ่ง วันรุ่งขึ้น กำลังรัฐบาลโชกุนสนองโดยโจมตีที่พำนักของไดเมียวซัตสึมะในเอะโดะ ซึ่งคู่แข่งหลายคนของรัฐบาลโชกุน ภายใต้การชี้นำของทะกะโมะริ กำลังซ่อนตัวและก่อปัญหาอยู่ พระราชวังถูกเผหา และคู่แข่งหลายคนถูกฆ่าหรือถูกประหารชีวิตทีหลัง
ความขัดแย้งเปิดฉาก
วันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 1868 กำลังฝ่ายรัฐบาลโชกุนโจมตีกำลังของโชชูและซะซึมะ โดยปะทะใกล้โทะบะและฟุชิมิ ณ ทางเข้าทิศใต้ของกรุงเกียวโต บางส่วนของกำลังฝ่ายรัฐบาลโชกุนจำนวน 15,000 นายได้รับฝึกโดยที่ปรึกษาทางทหารชาวฝรั่งเศส แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นกำลังซามูไรสมัยกลาง ในกำลังซามูไรนั้นยังมีชินเซ็งงุมิด้วย ขณะเดียวกัน กำลังโชชูและซัตสึมะเป็นจำนวนน้อยกว่าถึง 3:1 แต่มีกองทัพทันสมัยโดยมีเฮาวิตเซอร์อาร์มสตรอง ปืนเล็กยาวมีนี (Minié rifle) และปืนแกตลิง (Gatling gun) หลังเริ่มต้นโดยไม่รู้ผลแพ้ชนะ ในวันที่สอง มีการส่งธงจักรพรรดิให้ทหารฝ่ายป้องกัน และพระญาติของจักรพรรดิ นินนะจิโนะมิยะ โยะชิอะกิ ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการทหาร ทำให้กองทัพนั้นเป็นกองทัพจักรพรรดิ (ญี่ปุ่น: 官軍; โรมาจิ: kangun) อย่างเป็นทางการ ยิ่งไปกว่านั้น ไดเมียวท้องถิ่นหลายคนซึ่งจนถึงบัดนี้ยังซื่อสัตย์ต่อโชกุน เริ่มแปรพักตร์เข้ากับฝ่ายราชสำนักจักรพรรดิเพราะถูกมหาดเล็กชักจูง ไดเมียวดังกล่าวมีไดเมียวโยโดะเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ และไดเมียวสึเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ เปลี่ยนสมดุลทางทหารให้เข้าทางฝ่ายจักรพรรดิมากขึ้น
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ โทกูงาวะ โยชิโนบุ ซึ่งชัดเจนว่าอึดอัดกับพระบรมราชานุญาตที่จักรพรรดิพระราชทานแก่การกระทำของซัตสึมะและโชชู หนีจากโอซะกะบนเรือไคโยมะรุ ไปเอะโดะ กำลังรัฐบาลโชกุนที่เสียขวัญจากการหนีของโชกุนและการหักหลังของโยะโดะและสึถอย ทำให้การประจัญหน้าที่โทะบะ-ฟุชิมิเป็นชัยของฝ่ายจักรพรรดิ แม้มักถือกันว่าฝ่ายรัฐบาลโชกุนน่าจะชนะ ไม่ช้าปราสาทโอซะกะถูกล้อมในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ (หรือวันที่ 1 มกราคมตามปฏิทินตะวันตก) นำให้ยุทธการที่โทะบะ-ฟุชิมิสิ้นสุด
ขณะเดียวกัน ในวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 1868 เกิดยุทธนาวีที่อะวะระหว่างรัฐบาลโชกุนและกองทัพเรือซัตสึมะบางส่วน นับเป็นยุทธนาการระหว่างกองทัพเรือสมัยใหม่สองทัพครั้งที่สองของประเทศญี่ปุ่น ยุทธนาวีขนาดเล็กดังกล่าวยุติลงโดยรัฐบาลโชกุนเป็นฝ่ายชนะ
ส่วนในด้านการทูต รัฐมนตรีของต่างชาติประชุมในท่าเปิดฮโยโงะ (ปัจจุบันคือ โคเบะ) ในต้นเดือนกุมภาพันธ์ ออกคำประกาศว่ารัฐบาลโชกุนยังถือเป็นรัฐบาลโดยชอบแห่งเดียวของญี่ปุ่น ให้ความหวังแก่โทกูงาวะ โยชิโนบุว่าต่างชาติ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝรั่งเศส) อาจพิจารณาแทรกแซงโดยถือข้างเขา ทว่า ไม่กี่วันต่อมา ผู้แทนจักรพรรดิที่เยี่ยมรัฐมนตรีเหล่านั้นประกาศว่ายุบรัฐบาลโชกุนแล้ว จะเปิดท่าตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศ และจะคุ้มครองคนต่างด้าว รัฐมนตรีดังกล่าวจึงตัดสินใจรับรองรัฐบาลใหม่
กระนั้น ความรู้สึกต่อต้านต่างด้าวนำสู่การโจมตีคนต่างด้าวหลายครั้งในหลายเดือนต่อมา ซามูไรโทะซะฆ่ากะลาสีชาวฝรั่งเศสสิบเอ็ดคนจากเรือคอร์เว็ตดูเปลอิส (Dupleix) ในเหตุการณ์ซะไกในวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ. 1868 สิบห้าวันต่อมา เซอร์แฮร์รี ปากส์ เอกอัครราชทูตบริติช ถูกซามูไรกลุ่มหนึ่งทำร้ายในถนนกรุงเกียวโต
เอะโดะยอมจำนน
ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ด้วยความช่วยเหลือของเลยง โรเช (Léon Roches) เอกอัครราชทูตฝรั่งเศส มีการร่างแผนเพื่อหยุดการรุกของราชสำนักจักรพรรดิที่โอะดะวะระ จุดเข้ายุทธศาสตร์สุดท้ายสู่เอะโดะ แต่โยชิโนบุตัดสินใจค้านแผนนี้ เลยง โรเชประหลาดใจและลาออกจากตำแหน่ง ในต้นเดือนมีนาคม ภายใต้อิทธิพลของรัฐมนตรีบริติช แฮร์รี ปากส์ ต่างชาติลงนามความตกลงความเป็นกลางเข้มงวด ซึ่งตามสนธิสัญญานั้น ต่างชาติไม่สามารถแทรกแซงหรือให้กำลังบำรุงทางทหารแก่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจนความขัดแย้งยุติ
ไซโง ทะกะโมะรินำทัพจักรพรรดิคว้าชัยไปทางเหนือและตะวันออกทั่วประเทศญี่ปุ่น โดยชนะที่ยุทธการที่โคชู-คะสึนุมะ สุดท้ายเขาล้อมเอะโดะในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1868 นำไปสู่ความปราชัยอย่างไม่มีเงื่อนไขหลังคัตสึ คะอิชู รัฐมนตรีสงครามของโชกุน เจรจาการยอมจำนน บางกลุ่มยังต่อต้านต่อไปหลังการยอมจำนนนี้แต่แพ้ในยุทธการที่อุเอะโนะในวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1868
ขณะเดียวกัน ผู้นำกองทัพเรือของโชกุน เอะโนะโมะโตะ ทะเกอะกิ ปฏิเสธยอมจำนนเรือทั้งหมดของเขา เขาส่งเรือให้เพียงสี่ลำ ซึ่งในนั้นมีฟุจิซัง แต่เขาหลบหนีขึ้นเหนือไปพร้อมกับกองทัพเรือโชกุนที่เหลือ (เรือรบไอน้ำแปดลำ) และทหารเรือ 2,000 นาย ด้วยหวังจัดการโจมตีตอบโต้ร่วมกับไดเมียวทางเหนือ เขามีที่ปรึกษาทางทหารชาวฝรั่งเศสจำนวนหนึ่งเข้าด้วย ที่ขึ้นชื่อที่สุดคือ ฌูล บรูเน (Jules Brunet) ซึ่งลาออกจากกองทัพบกฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการเพื่อเข้ากับกบฏ
การแข็งข้อของแนวร่วมฝ่ายเหนือ
หลังโยชิโนบุยอมจำนน ประเทศญี่ปุ่นส่วนมากก็ยอมรับการปกครองของจักรพรรดิ แต่แนวร่วมแว่นแคว้นในภาคเหนือซึ่งสนับสนุนยังแข็งข้อต่อไป ในเดือนพฤษภาคม ไดเมียวในภาคเหนือหลายคนตั้งพันธมิตรเพื่อต่อกรกองทัพจักรพรรดิ ส่วนใหญ่ประกอบด้วยกำลังจากแคว้นเซ็นได โยะเนะซะวะ ไอสึ โชนะอิและนะงะโอะกะ มีทั้งสิ้น 50,000 นาย เจ้าฝ่ายจักรพรรดิพระองค์หนึ่ง เสด็จหนีขึ้นเหนือพร้อมพลพรรครัฐบาลเอโดะ และได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าในนามของแนวร่วมฝ่ายเหนือ โดยเจตนาตั้งพระองค์เป็น "จักรพรรดิโทะบุ"
กองเรือของเอะโนะโมะโตะถึงท่าเซ็นไดในวันที่ 26 สิงหาคม แม้ว่าแนวร่วมฝ่ายเหนือมีทหารมากมาย แต่ติดอาวุธเลวและอาศัยวิธีการต่อสู้แบบเก่า ยุทธภัณฑ์สมัยใหม่ขาดแคลน และมีความพยายามกระชั้นชิดในการสร้างปืนใหญ่ทำด้วยไม้และเสริมความแข็งแรงด้วยการรัดเชือกและยิงกระสุนหิน ปืนใหญ่ดังกล่าวที่ติดตั้งบนสิ่งปลูกสร้างตั้งรับ ยิงกระสุนได้สี่ถึงห้านัดเท่านั้นก่อนระเบิด อีกฝ่ายหนึ่ง ไดเมียวนะงะโอะกะจัดการหาปืนแกตลิงสองจากสามกระบอกในประเทศญี่ปุ่น และปืนเล็กยาวฝรั่งเศสสมัยใหม่ 2,000 กระบอกจากพ่อค้าอาวุธชาวเยอรมัน เฮนรี ชเนลล์ (Henry Schnell)
ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1868 ไดเมียวนะงะโอะกะสร้างความสูญเสียใหญ่หลวงต่อกำลังฝ่ายจักรพรรดิในยุทธการที่โฮะกุเอตสึ (Hokuetsu) แต่สุดท้ายปราสาทของเขาเสียในวันที่ 19 พฤษภาคม ทหารฝ่ายจักรพรรดิยังเคลื่อนขึ้นเหนือ พิชิตชินเซ็งงุมิที่ยุทธการที่ช่องเขาโบะนะริ ซึ่งเปิดทางให้เข้าตีปราสาทไอสึวะกะมัตสึในยุทธการที่ไอสึในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1868 ทำให้ป้องกันที่ตั้งดังกล่าวไม่ได้
แนวร่วมพังทลาย และในวันที่ 12 ตุลาคม กองเรือออกจากเซ็นไดมุ่งหน้าสู่ฮกไกโด หลังได้เรืออีกสองลำ และทหารอีกประมาณ 1,000 นาย กำลังรัฐบาลโชกุนที่เหลือภายใต้โอโตะริ เคสึเกะ กำลังชินเซ็งงุมิภายใต้ฮิจิกะตะ โทะชิโซ เหล่ากองโจร (ยูเงะกิไต) ภายใต้ฮิโตะมิ คัตสึตะโร เช่นเดียวกับที่ปรึกษาชาวฝรั่งเศสอีกหลายคน
วันที่ 26 ตุลาคม เอะโดะถูกเปลี่ยนชื่อเป็นโตเกียว และสมัยเมจิเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ ไอสึถูกล้อมเริ่มตั้งแต่เดือนนั้น นำไปสู่การฆ่าตัวตายหมู่ของนักรบหนุ่มเบียะโกะไต (เหล่าพยัคฆ์ขาว) หลังยุทธการยืดเยื้อหนึ่งเดือน สุดท้ายไอสึยอมจำนนในวันที่ 6 พฤศจิกายน
การทัพฮกไกโด
สถาปนาสาธารณรัฐเอะโซะ
หลังปราชัยบนเกาะฮนชู หนีไปฮกไกโดพร้อมด้วยกองทัพเรือที่เหลืออยู่และที่ปรึกษาการทหารชาวฝรั่งเศสอีกจำนวนหนึ่ง พวกเขาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลโดยมีวัตถุประสงค์สถาปนารัฐชาติอิสระขึ้นบนเกาะเพื่ออุทิศให้การพัฒนาเกาะฮกไกโด สาธารณรัฐเอะโซะตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 ธันวาคมตามแบบจำลองสหรัฐอเมริกา นับเป็นสาธารณรัฐแห่งเดียวของประเทศญี่ปุ่นที่เคยมี และเอะโนะโมะโตะได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีด้วยเสียงข้างมาก สาธารณรัฐพยายามติดต่อกับสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศที่อยู่ในฮาโกดาเตะ เช่น สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศสและรัสเซีย แต่ไม่สามารถได้การรับรองหรือการสนับสนุนระหว่างประเทศ เอะโนะโมะโตะเสนอให้โอนดินแดนให้โชกุนโทกูงาวะภายใต้การปกครองของจักรพรรดิ แต่สภาปกครองจักรวรรดิปฏิเสธข้อเสนอของเขา
ในฤดูหนาว พวกเขาเสริมการป้องกันบริเวณคาบสมุทรทางใต้ของฮาโกดาเตะ โดยมีป้อมอยู่ตรงกลาง มีการจัดระเบียบกำลังภายใต้การบัญชาการร่วมของญี่ปุ่น-ฝรั่งเศส โดยมีเป็นผู้บัญชาการทหาร และร้อยเอก ชาวฝรั่งเศส เป็นรองผู้บัญชาการ และแบ่งกำลังออกเป็น 4 กองพลน้อย แต่ละกองพลน้อยมีนายทหารประทวนชาวฝรั่งเศสเป็นผู้บังคับบัญชา (, , , ) และแบ่งกำลังย่อยออกเป็น 8 กึ่งกองพลน้อย (half-brigade) ที่อยู่ใต้การบังคับบัญชาของญี่ปุ่น
ความพ่ายแพ้ครั้งสุดท้ายและการยอมจำนน
กองทัพเรือจักรพรรดิถึงท่ามิยะโกะเมื่อวันที่ 20 มีนาคม แต่กบฏเอะโซะคาดหมายการมาของเรือฝ่ายจักรพรรดิและจัดระเบียบแผนบ้าบิ่นในการยึดโคเตะซึ มีการส่งเรือรบสามลำสำหรับโจมตีผิดคาด โดยมีผู้บังคับบัญชาชินเซ็งงุมิ ฮิจิกะตะ โทะชิโซเป็นผู้นำ เรียก ยุทธนาวีที่อ่าวมิยะโกะ ยุทธนาวียุติลงด้วยความล้มเหลวของฝ่ายโทกูงาวะ เนื่องจากสภาพอากาศเลว ปัญหาเครื่องยนต์และการใช้ปืนแกตลิงโดยกำลังฝ่ายจักรพรรดิต่อคณะขึ้นเรือซามูไรอย่างเด็ดขาด
ไม่นาน กำลังฝ่ายจักรพรรดิรวบรวมการควบคุมบนแผ่นดินใหญ่ญี่ปุ่น และในเดือนเมษายน ค.ศ. 1869 ส่งกองเรือและกำลังทหารราบ 7,000 นายไปเอะโซะ เริ่มต้นยุทธการที่ฮาโกดาเตะ กำลังฝ่ายจักรพรรดิคืบหน้าอย่างรวดเร็วและชนะยุทธนาการทางเรือ ณ อ่าวฮาโกดาเตะ เป็นยุทธนาวีทางเรือขนาดใหญ่ครั้งแรกของประทเศญี่ปุ่นระหว่างกองทัพเรือสมัยใหม่ ขณะที่ป้อมโกะเรียวกะกุถูกทหารที่เหลือ 800 นายล้อม เมื่อเห็นสถานการณ์เข้าตาจน ที่ปรึกษาชาวฝรั่งเศสหลบหนีไปเรือฝรั่งเศสซึ่งประจำอยู่ในอ่าวฮาโกดาเตะ แคตโลกง (Coëtlogon) ภายใต้การบังคับบัญชาของดูว์เปตี-ตูอาร์ (Dupetit-Thouars) แล้วโดยสารกลับไปโยะโกะฮะมะและฝรั่งเศส ญี่ปุ่นขอให้ที่ปรึกษาชาวฝรั่งเศสรับการพิพากษาในประเทศฝรั่งเศส ทว่า เนื่องจากการสนับสนุนของประชาชนในประเทศฝรั่งเศสจากกรรมของพวกเขา อดีตที่ปรึกษาชาวฝรั่งเศสในประเทศญี่ปุ่นจึงไม่ถูกลงโทษ
เอะโนะโมะโตะแน่วแน่ที่จะต่อสู้จนจบ และส่งทรัพย์มีค่าของเขาให้ข้าศึกเพื่อเก็บรักษา ในนั้นมีรหัสกองทัพเรือที่เขานำกลับจากฮอลแลนด์ซึ่งเขามอบให้พลเอกของฝ่ายจักรพรรดิ คุโระดะ คิโยะตะกะ และโอะโตะริเกลี้ยกล่อมให้เขายอมจำนน โดยบอกเขาให้ตัดสินใจใช้ชีวิตผ่านความพ่ายแพ้เป็นวิถีที่หาญกล้าอย่างแท้จริง "หากท่านประสงค์ตาย ท่านสามารถทำได้ทุกเวลา" เอะโนะโมะโตะยอมจำนนเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ค.ศ. 1869 โดยยอมรับการปกครองของจักรพรรดิเมจิ และสาธารณรัฐเอะโซะก็ไม่มีอีกต่อไป
ผลสืบเนื่อง
ให้หลังชนะ รัฐบาลใหม่ดำเนินรวมประเทศภายใต้การปกครองทรงอำนาจโดยชอบเดียวโดยราชสำนักจักรพรรดิ ที่พำนักของจักรพรรดิย้ายจากเกียวโตไปโตเกียวในปลาย ค.ศ. 1868 อำนาจทางทหารและการเมืองของแว่นแคว้นต่าง ๆ ทยอยถูกริดรอนไป และไม่ช้าแคว้นต่าง ๆ ก็กลายสภาพเป็นจังหวัด ซึ่งจักรพรรดิทรงตั้งผู้ว่าราชการ การปฏิรูปสำคัญ คือ การเวนคืนและเลิกชนชั้นซามูไร ทำให้ซามูไรจำนวนมากเปลี่ยนเข้าตำแหน่งบริหารราชการแผ่นดินหรือผู้ประกอบการ แต่บีบให้อีกจำนวนมากยากจน แคว้นทางใต้ซัตสึมะ โชชูและโทะซะซึ่งมีบทบาทชี้ขาดในชัย ยึดตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลอีกหลายทศวรรษให้หลังความขัดแย้งนี้ บ้างเรียกสถานการณ์นี้ว่า "คณาธิปไตยเมจิ" และกลายเป็นทางการด้วยสถาบันเก็นโร ใน ค.ศ. 1869 มีการสร้างศาลเจ้ายะซุกุนิในกรุงโตเกียวเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้เสียชีวิตในสงครามโบชิน
พลพรรคผู้นำบางส่วนของอดีตโชกุนถูกจำคุก แต่รอดการประหารชีวิตอย่างหวุดหวิด มาจากการยืนยันของไซโง ทะกะโมะริและอิวะกุระ โทะโมะมิ แม้อาศัยคำแนะนำจากพากส์ ผู้แทนทางทูตบริติชมากก็ตาม เขากระตุ้นไซโง ตามคำของเออร์เนส ซาโท (Ernest Satow) ว่า "ความรุนแรงต่อเคคิ [โยชิโนบุ] หรือผู้สนับสนุนเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวิถีการลงโทษบุคคล จะทำร้ายชื่อเสียงของรัฐบาลใหม่ในสายตาชาติยุโรป" หลังจำคุกสองหรือสามปี พวกเขาส่วนมากก็ถูกเรียกตัวมารับราชการรัฐบาลใหม่ และหลายคนมีอาชีพรุ่งเรือง ตัวอย่างเช่น เอะโนะโมะโตะ ทะเกะอะกิต่อมาจะรับราชการเป็นผู้แทนทางทูตประจำประเทศรัสเซียและจีนและเป็นรัฐมนตรีศึกษาธิการ
ฝ่ายจักรพรรดิมิได้แสวงความมุ่งหมายขับผลประโยชน์ต่างชาติจากประเทศญี่ปุ่นอีก แต่หันไปรับนโยบายก้าวหน้ามากขึ้นโดยมุ่งปรับประเทศให้ทันสมัยต่อและการเจรจาสนธิสัญญาไม่เท่าเทียมใหม่กับต่างชาติ และต่อมาภายใต้คำขวัญ "ประเทศร่ำรวย กองทัพเข้มแข็ง" (ญี่ปุ่น: 富国強兵; โรมาจิ: fukoku kyōhei) การเปลี่ยนท่าทีต่อต่างชาตินี้มาจากวันแรก ๆ ของสงครามกลางเมือง วันที่ 8 เมษายน ค.ศ. 1868 มีการตั้งป้ายในกรุงเกียวโต (และต่อมาทั่วประเทศ) ซึ่งเจาะจงบอกเลิกความรุนแรงต่อคนต่างด้าว ระหว่างห้วงความขัดแย้ง จักรพรรดิเมจิทรงต้อนรับผู้แทนทางทูตยุโรปเป็นการส่วนพระองค์ ครั้งแรกในกรุงเกียวโต และต่อมาในโอซากะและโตเกียว และที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน คือ การต้อนรับอัลเฟรด ดุ๊กเอดินบะระของจักรพรรดิเมจิในกรุงโตเกียวว่า "เป็นผู้มีโลหิตทัดเทียมพระองค์" (as his equal in point of blood)
แม้สมัยเมจิตอนต้น ความสัมพันธ์ระหว่างราชสำนักจักรพรรดิและต่างประเทศดีขึ้น แต่ความสัมพันธ์กับประเทศฝรั่งเศสเสื่อมชั่วคราวเนื่องจากฝรั่งเศสสนับสนุนโชกุนในทีแรก ทว่าในไม่ช้า มีการเชิญคณะทูตทหารคณะที่สองมาประเทศญี่ปุ่นใน ค.ศ. 1874 และคณะที่สามใน ค.ศ. 1884 อันตรกิริยาระดับสูงกลับคืนประมาณ ค.ศ. 1886 เมื่อประเทศฝรั่งเศสช่วยสร้างกองเรือสมัยใหม่ขนาดใหญ่ของกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่น ภายใต้การชี้นำของวิศวกรนาวี หลุยส์-เอมิล แบร์แต็ง (Louis-Émile Bertin) การปรับประเทศให้ทันสมัยเริ่มระหว่างปลายรัฐบาลโชกุนแล้ว และรัฐบาลเมจิสุดท้ายก็รับนโยบายเดียวกัน
ครั้นราชาภิเษก จักรพรรดิเมจิทรงออกกฎบัตรคำปฏิญาณ (Charter Oath) โดยเรียกร้องให้มีการประชุมอภิปราย สัญญาเพิ่มโอกาสแก่สามัญชน เลิก "ขนบธรรมเนียมชั่วจากอดีต" และแสวงความรู้ทั่วโลก "เพื่อเสริมสร้างรากฐานของการปกครองจักรพรรดิ" การปฏิรูปสำคัญของรัฐบาลเมจิมีการเลิกระบบแคว้นใน ค.ศ. 1871 ซึ่งแคว้นแบบฟิวดัลและผู้ปกครองที่สืบสายโลหิตถูกเปลี่ยนเป็นจังหวัดโดยมีผู้ว่าราชการจากการแต่งตั้งของจักรพรรดิ อื่น ๆ มีการศึกษาภาคบังคับและการเลิกสถานภาพชนชั้นขงจื๊อ การปฏิรูปต่าง ๆ ลงเอยด้วยการออกรัฐธรรมนูญเมจิ ค.ศ. 1889 ทว่า แม้ซามูไรสนับสนุนราชสำนักจักรพรรดิ แต่การปฏิรูปสมัยเมจิช่วงต้นหลายอย่างถูกมองว่าเป็นโทษต่อประโยชน์ของพวกเขา คือ การสร้างกองทัพทหารเกณฑ์จากสามัญชน ตลอดจนการเสียเกียรติภูมิสืบเชื้อสายและเงินเดือนที่ทำให้อดีตซามูไรจำนวนมากเป็นปรปักษ์ ความตึงเครียดสูงเป็นพิเศษในภาคใต้ นำสู่กบฏซะกะ ค.ศ. 1874 และกบฏในโชชูใน ค.ศ. 1876 อดีตซามูไรในซัตสึมะ โดยมีไซโง ทะกะโมะริเป็นผู้นำ ซึ่งออกจากรัฐบาลเนื่องจากขัดแย้งเรื่องนโยบายต่างประเทศ เริ่มกบฏซัตสึมะใน ค.ศ. 1877 การต่อสู้เพื่อธำรงชนชั้นซามูไรและรัฐบาลที่มีคุณธรรมมากขึ้น มีคำวัญว่า "รัฐบาลใหม่ ศีลธรรมสูง" (ญี่ปุ่น: 新政厚徳; โรมาจิ: shinsei kōtoku) กบฏยุติด้วยความปราชัยเยี่ยงวีรบุรุษแต่ย่อยยับ ณ ยุทธการที่ชิโระยะมะ
การนำเสนอในยุคหลัง
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
อาวุธในสงครามโบชิน
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ปืนประจำกาย
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ปืนใหญ่
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
เรือรบ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
เครื่องแบบ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
หมายเหตุ
- ประมาณการใน Hagiwara, p. 50.
- โบชิน (ญี่ปุ่น: 戊辰; โรมาจิ: Boshin) เป็นชื่อของปีที่ 5 ในรอบหกสิบปีตามธรรมเนียมปฏิทินที่ใช้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก อักษร 戊辰 นี้ในภาษาญี่ปุ่นยังสามารถอ่านอีกอย่างได้ว่า "สึจิโนะเอะ-ทะสึ" แปลตามตัวว่า "มังกรดินผู้ใหญ่" ตามที่มาของคำในภาษาจีน คำนี้มีความหมายว่า "มังกรดินธาตุหยาง" ซึ่งเกี่ยวข้องกับชื่อปีที่ปรากฏในระบบปฏิทินดังกล่าว ในเชิงศัพทมูลวิทยานั้น อักษร 戊 และ 辰 ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคำว่า "มังกร" หรือ "ธาตุดินผู้ใหญ่" ฉะนั้นการอ่านว่า "สึจิโนะเอะ-ทะสึ" จึงถือว่าเป็นการอ่านอักษรแบบหนึ่งด้วยวิธีการอ่านเสียงคุน () เมื่อพิจารณาตามบริบทของยุคสมัยนั้น ความขัดแย้งดังกล่าวเกิดขึ้นในรัชศกเคโอ ปีที่ 4 ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นรัชศกเมจิ ปีที่ 1 ในเดือนตุลาคมของปีเดียวกัน และจะสิ้นสุดในรัชศกเมจิ ปีที่ 2 (อนึ่ง ปีมังกรของจีนและญี่ปุ่น จะตรงกับปีมะโรงเมื่อเทียบตามระบบปีนักษัตรที่ใช้ในประเทศไทย)
- Thanks to the interaction with the Dutch, the study of Western science continued during this period under the name of , allowing Japan to study and follow most of the steps of the and industrial revolution. See Jansen (pp. 210–15) discusses the vibrancy of Edo period rangaku, and later (p. 346) notes the competition in the early Meiji period for foreign experts and rangaku scholars. See also: "The technology of Edo" (見て楽しむ江戸のテクノロジー), 2006, (Japanese) and "The intellectual world of Edo" (江戸の思想空間) Timon Screech, 1998, (Japanese).
- Hagiwara, p. 34.
- Jansen, pp. 314–5.
- Hagiwara, p. 35.
- Jansen, pp. 303–5.
- Hagiwara, pp. 34–5
- As early as 1865, Thomas Blake Glover sold 7500 to the Chōshū clan, allowing it to become totally modernized. Nakaoka Shintaro a few months later remarked that "in every way the forces of the han have been renewed; only companies of rifle and cannon exist, and the rifles are Minies, the cannon breech loaders using shells" (Brown)
- This is a claim made by in a letter to Napoleon III: "I must signal to the Emperor the presence of numerous American and British officers, retired or on leave, in this party [of the southern daimyo] which is hostile to French interests. The presence of Western leaders among our enemies may jeopardize my success from a political standpoint, but nobody can stop me from reporting from this campaign information Your Majesty will without a doubt find interesting." Original quotation (French) : "Je dois signaler à l'Empereur la présence de nombreux officers américains et anglais, hors cadre et en congé, dans ce parti hostile aux intérêts français. La présence de ces chefs occidentaux chez nos adversaires peut m'empêcher peut-être de réussir au point de vue politique, mais nul ne pourra m'empêcher de rapporter de cette campagne des renseignements que Votre Majesté trouvera sans doute intéressants." Polak, p. 81. As an example, the English Lieutenant Horse is known to have been a gunnery instructor for the during the period ("Togo Heiachiro", 17)
- These encounters are described in Satow's 1869 A Diplomat in Japan, where he famously describes Saigō as a man with "an eye that sparkled like a big black diamond."
- Jansen, p. 307.
- There is debate as to the authenticity of the order, due to its violent language and the fact that, despite using the ญี่ปุ่น: imperial pronoun; โรมาจิ: 朕; : chin, it did not bear Meiji's signature. Keene, pp. 115–6.
- Keene, p. 116. See also Jansen, pp. 310–1.
- Keene, p. 116. See also Jansen, pp. 310–311.
- Keene, pp. 120–1, and Satow, p. 283. Moreover, Satow (p. 285) speculates that Yoshinobu had agreed to an assembly of daimyos on the hope that such a body would restore him,
- Satow, p. 286.
- During a recess, Saigō, who had his troops outside, "remarked that it would take only one short sword to settle the discussion" (Keene, p. 122). Original quotation (ญี่ปุ่น): "短刀一本あればかたづくことだ." in Hagiwara, p. 42. The specific word used for "" was "".
- Keene, p. 124.
- Keene, p. 125.
- Tokugawa Yoshinobu was placed under , and stripped of all titles, land and power. He was later on released, when he demonstrated no further interest and ambition in national affairs. He retired to , the place to which his ancestor Tokugawa Ieyasu, had also retired.
- Bolitho, p. 246; Black, p. 214.
- In a letter of Enomoto to the Imperial Governing Council: "We pray that this portion of the Empire may be conferred upon our late lord, Tokugawa Kamenosuke; and in that case, we shall repay your beneficence by our faithful guardianship of the northern gate." Black, pp. 240–241
- Polak, pp. 85–9.
- The Shogunate leaders are labeled from left to right, , , . The samurai in yellow garment is Hijikata Toshizo.
- The ญี่ปุ่น: "Red bear"; โรมาจิ: 赤熊; : Shaguma wigs indicate soldiers from , the ญี่ปุ่น: "White bear"; โรมาจิ: 白熊; : Haguma wigs for , and the ญี่ปุ่น: "Black bear"; โรมาจิ: 黒熊; : Koguma wigs for .
อ้างอิง
- (1974). Treasures among Men: The Fudai Daimyo in Tokugawa Japan. New Haven: Yale University Press. 10-/13-; OCLC 185685588
- Black, John R. (1881). Young Japan: Yokohama and Yedo, Vol. II. London: Trubner & Co.
- Brown, Sidney DeVere (1994). . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-21. สืบค้นเมื่อ 2007-04-28.
- . "Une aventure au Japon" Le Tour du Monde, No. 77, 1874
- Evans, David (1997). Kaigun: Strategy, Tactics, and Technology in the Imperial Japanese Navy, 1887–1941. Annapolis, Maryland: Naval Institute Press. ISBN .
{{}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|coauthors=
ถูกละเว้น แนะนำ (|author=
) ((help)) - Gordon, Andrew (2003). A Modern History of Japan. New York: Oxford. ISBN .
- Hagiwara, Kōichi (2004). 図説 西郷隆盛と大久保利通 (Illustrated life of and ) , 2004 (in Japanese)
- (2002). The Making of Modern Japan. Harvard.10-/13-; OCLC 44090600
- (2005). Emperor of Japan: Meiji and His World, 1852–1912. Columbia.10-; 13-; OCLC 46731178
- , No. 583, June 13, 1868
- . (2001). Soie et lumières: L'âge d'or des échanges franco-japonais (des origines aux années 1950). Tokyo: Chambre de Commerce et d'Industrie Française du Japon, Fujin Gahōsha (アシェット婦人画報社).
- ______________. (2002). 絹と光: 知られざる日仏交流100年の歴史 (江戶時代-1950年代) Kinu to hikariō: shirarezaru Nichi-Futsu kōryū 100-nen no rekishi (Edo jidai-1950-nendai). Tokyo: Ashetto Fujin Gahōsha, 2002. 10-/13-; OCLC 50875162
- ______________, et al. (1988). 函館の幕末・維新 "End of the Bakufu and Restoration in Hakodate." (in Japanese).
- (1968) [1921]. A Diplomat in Japan. Tokyo: Oxford.
- Tōgō Shrine and Tōgō Association (東郷神社・東郷会), Togo Heihachiro in Images: Illustrated Meiji Navy (図説東郷平八郎、目で見る明治の海軍), (Japanese)
หนังสืออ่านเพิ่มเติม
แหล่งข้อมูลอื่น
- The Boshin War 2007-11-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (Japanese)
- The Battle of Ezo 2007-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (Japanese)
- National Archives of Japan: Boshinshoyo Kinki oyobi Gunki Shinzu, precise reproduction of Imperial Standard and the colors used by Government Army during Boshin War (1868) 2008-04-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
sngkhramobchin yipun 戊辰戦争 ormaci ぼしんせんそう thbsphth Boshin Sensō obchin esnos aepl sngkhrampimaorngpthphi bangeriyk karptiwtiyipun epnsngkhramklangemuxnginpraethsyipun rbphungkntngaet kh s 1868 thung 1869 rahwangkalngkhxngrthbalexodasungpkkhrxngaelaphuthimungthwayxanackaremuxngaekrachsankckrphrrdisngkhramobchinswnhnungkhxng karptirupemciaekhwnstsuma ochchu aelaothsa sungxyuthangtawntk siaedng rwmkalngephuxokhnlmkxngthphfayochkunthiothaba fuchimi hlngcaknnidrukkhubephuxkhwbkhumswnthiehluxkhxngyipunxyangtxenuxng cnkrathngthungkartxsukhrngsudthayinphakhehnuxthiekaahxkikodwnthi3 mkrakhm 1868 18 phvsphakhm 1869sthanthiyipunphlckrphrrdichna karsinsudrthbalochkun ckrphrrdiklbpkkhrxngxikkhusngkhramkh s 1868 rachsankckrphrrdi aekhwnskdinastsumaaekhwnskdinaochchu idemiywothasamaxun aekhwnskdinaothsa aekhwnhiorachimakh s 1868 rthbalexoda aeprphktr kh s 1869 yipun snbsnun shrachxanackr shrthkh s 1869 satharnrthexosa snbsnun frngessphubngkhbbychaaelaphunackrphrrdiemci phb sungsud kxngthph isong thakaomri khuorda khioytaka yamangata xariotaomaothkungawa oychionbu phubychakar khtsu ikhchu exonomota thaekxaki masuidra khataomari khnod xisami kh s 1869 prathanathibdi exonomota thaekxaki phubychakarthharbk phubychakarthharerux thipruksa kalng 30 000 nay 80 000 naykhwamsuyesiy 1 500 esiychiwit 7 000 esiychiwit sngkhramkhrngnimirakehngamacakkhwamimphxicinbrrdakhunnangaelasamuirhnumcanwnmakcakkarcdkarkbkhntangdawkhxngrthbalochkunhlngkarepidpraethsyipunemuxthswrrskxn xiththiphlkhxngchatitawntkthiephimkhuninesrsthkicnaipsukhwamesuxmthikhlaykbpraethsthwipexechiyxuninewlaileliykn phnthmitrsamuirtawntk odyechphaaxyangyingaekhwnochchu aekhwnstsuma aelaaekhwnothsa aelakharachbriphar yudkarkhwbkhumrachsankckrphrrdiaelamixiththiphltxckrphrrdiemciwyhnum othkungawa oychionbu ochkuninewlann trahnkthungsthankarnthihmdhwngkhxngtn cungslaxanacthangkaremuxngkhunaekckrphrrdi oychionbuhwngwaemuxthadngni casamarthrksatrakulothkungawaaelaekhamiswnrwminrthbalxnakht thwa khwamekhluxnihwthangkarthharkhxngkxngthphrachsank khwamrunaerngkhxngklumphusnbsnunrachsankinexaoda aelaphrarachkvsdikasungaekhwnstsumaaelaaekhwnochchusnbsnuneliktrakulothkungawa thaihoychionbuepidchakkarthphephuxyudrachsankckrphrrdithiekiywot kraaeskhxngsngkhramphlikklbipyngklumaeykckrphrrdithimikhnadelkkwaaetkhxnkhangthnsmyxyangrwderw aelahlngyuththkartang sunglngexydwykaryxmcannkhxngexaoda oychionbuyxmcanndwytnexng swnphuphkditxothkungawalathphkhuntxnehnuxkhxngekaahnchuaelaekaahkikodinphayhlng thisungphwkekhakxtngsatharnrthexaosa khwamphayaephinthalaythimnaehngsudthayni aelaehluxihkarpkkhrxngkhxngrachsankeddkhadthwyipun epnkarsinsudrayathangthharinkarkhunsurachbllngkkhxngckrphrrdiemci mikarradmphlpraman 120 000 khnrahwangsngkhram aelaincanwnni miphuesiychiwitraw 3 500 khn inbnplay fayrachsankphuchnathingepahmaykarkhbchawtangchaticakyipun aelwrbnoybaythaihthnsmytxaethn odymiepahmayecrcaaekikhsnthisyyaimepnthrrmkbchatitawntkinthisud isong thakaomari phunakhnsakhykhxngklumaeykckrphrrdi yunkranih fayphuphkditxtrakulothkungawacungidrbkarphxnphn aelainewlatxma xditphunainrthbalochkunhlaykhnidrbtaaehnngrbphidchxbnganphayitrthbalihm emuxsngkhramobchinerim praethsyipunkalngthaihthnsmyxyuaelw tamesnthangediywkbkhwamkawhnakhxngchatitawntkthiklayepnxutsahkrrm thwa praethsyipunpkpxngesrsthkicthixxnaexkhxngtnodyptiesthkarkhaesrithichatitawntkbngkhb aelaenuxngcakchatitawntk odyechphaashrachxanackraelafrngess ekiywkhxngkbkaremuxngkhxngpraethsxyangluksung karsthapnaxanacckrphrrdicungephimkhwamphnphwnaekkhwamkhdaeyng txma sngkhramthukthaihepncintniym romanticized waepn karptiwtithiimesiyeluxdenux bloodless revolution phumihlngthangkaremuxngkhwamimphxicrthbalochkunchwngtn epnewlasxngstwrrskxnhna kh s 1854 yipuncakdkartidtxkbtangpraethsxyangrunaerng odyykewnsakhy khux ekahliphanthangekaasuchima ckrwrrditachingphanthanghmuekaariwkiw aeladtchphanthangsthanikarkha in kh s 1854 phleruxctwaaemththiw si ephrri idkhuichkalngbngkhbihyipunepidpraethssukarkhaolk namasungyukhsmykarphthnaxyangrwderwinkarkhatangpraethsaelakarthaihepntawntk Westernization swnihyenuxngcakenguxnikhxpyskhxngsnthisyyaimepnthrrmtang dngthieriykkhwamtklngechnthiephxrrithaythxd imnanrthbalochkunephchiykbbkhwamepnprpksphayinpraeths sungpraktepnrupthrrmepnkhbwnkarmulwiwti snonocxi khwamhmaytamtwaeplwa ethidthunckrphrrdi khbxnarychn erux khnrinmaru khxngfayrthbalochkun eruxrbixnakhbekhluxndwyibckrlaaerkkhxngpraethsyipun in kh s 1855 rthbalochkunmungthaihthnsmyxyangkhnaekhng aetephchiykbkhwamimphxicinpraethsthiephimkhuntxphykhukkhamxthipitykhxngchaticakkartidtxkbchawtawntk ckrphrrdiokhemthrngehndwykbxarmndngklaw aelathrngerimaesdngbthbathinkickarkhxngrth xnepnkarthalaythrrmeniymkhxngckrphrrdihlaystwrrs emuxsboxkas phraxngkhthrngwiphakswicarnsnthisyyatang xyangrunaerng aelathrngphyayamkawkaykarsubthxdtaaehnngochkun khwamphyayamkhxngphraxngkhsinsuddwy phrarachoxngkarkhbxnarychn ineduxnminakhm kh s 1863 aemrthbalochkunimmikhwamtngicbngkhbich krannphrarachoxngkarkcudprakaykarocmtirthbalochkunexngaelachawtangchatiinyipunkhunma krnithiodngdngthisud khux karesiychiwitkhxngphxkhaxngkvschux charl elnnxks richardsn Charles Lennox Richardson karesiychiwitkhxngekhathaihrthbalexodatxngcaykhasinihmthdaethn 100 000 pxndsetxrling karocmtixunmikarradmyingkaredineruxkhxngtangchatiinchiomaonaesaki rahwang kh s 1864 tangchatitxbaethnkarkrathaehlanisaercdwykarthatxbotdwyxawuth echn karyingthlmkhaongchimakhxngxngkvs aelaodykxngeruxnanachati ewlaediywkn kalngaekhwnochchuphrxmdwyornin kxephuxyudphrankhrekiywotxnepnthitngkhxngrachsankaetthukkalngrthbalochkun phayitkarnakhxngothkungawa oychionbu xnakhtochkun rthbalochkunxxkkhasngephimihmi aelaidrbkaryxmxxnnxmkhxngochchuodyprascakkarrbxyangcringcng n cudni kartxtanthiaerkinbrrdaphunainochchuaelarachsankckrphrrdiephlalng aetinpitxma othkungawaphisucnwaimsamarthklbkhwbkhumpraethsxyangsmburnidephraaidemiywswnihyerimeminechytxkhasngaelakhathamcakexaoda khwamchwyehluxthangthharcaktangchati phaphwadkxngthharyukhbakumtsubriewniklphuekhafuciin kh s 1867 odyculs bruent naythharchawfrngess aesdngphaphkarphsmphsanrahwangyipunaelachatitawntkcakaehlngtang aemehtuyingthlmkhaongchima aekhwnstsumakyngiklchidkbbrietnmakkhun aelamungthaihkxngthphbkaelakxngthpheruxkhxngtnihthnsydwykarsnbsnuncakchatidngklaw othms eblk oklewxr phxkhachawskxt khaypunaelaeruxrbcanwnmakihhlayaekhwnthangit phuechiywchaythangthharhlaykhnchawxemriknaelaxngkvshlaykhn sungodythwipepnxditnaythhar xacmiswnekiywkhxngodytrnginkhwamphyayamthangthharni Harry Smith Parkes exkxkhrrachthutbrietn snbsnunkalngfaytxtanrthbalochkuninkarphlkdnihsthapnakarpkkhrxngkhxngckrphrrdiexkphaphaelachxbthrrminpraethsyipun aelaephuxtxbotxiththiphlkhxngfrngesskbrthbalochkun inrayaewladngklaw phunayipunphakhit echn isong thakaomariaehngstsuma hruxxiot hiorabumi aelaaehngochchu erimsrangsaysmphnthechphaabukhkhlkbnkkarthutbritichhlaykhn thisakhyidaek Ernest Mason Satow rthbalochkunyngetriymrbkhwamkhdaeyngxikodykarthaihkxngthphkhxngtnthnsmy tamaenwkarxxkaebbkhxngpaks chawbritich sungcnthungewlannepnhunswnhlkkhxngrthbalochkun phisucnwaimetmicyunkhwamchwyehlux othkungawacungxasykhwamchanaykhxngfrngessepnhlk odysbayickbekiyrtiphumithangthharkhxngckrphrrdinopeliynthi 3 inewlann sungidmacakkhwamsaercinsngkhramikhremiyaelasngkhramxitali rthbalochkundaeninkawsakhysukarsrangkxngthphsmyihmthithrngxanac khux kxngthpheruxodymiaeknklangepneruxrbixnaaepdlathimikarsrangodyichewlahlaypiaelaepnkxngthpheruxthiekhmaekhngthisudinthwipexechiyaelw in kh s 1865 mikarkxsrangkxngthpheruxsmyihmaehngaerkkhxngpraethsyipuninoyaokasukaody Leonce Verny wiswkrchawfrngess ineduxnmkrakhm kh s 1867 khnaphuaethnthharfrngessmathungephuxcdraebiybkxngthphrthbalochkunihmaelasrangkalnghwkathiednchutaxi aelamikhasngsuxeruxrbsiexsexs sotnwxll eruxrbhumekraaehlk ironclad thifrngesssrang cakshrth sungepnsingtkthxdcaksngkhramklangemuxngxemrika enuxngcakchatitawntkprakasepnklang xemrikacungptiesthimkhayerux aetemuxykelikkhwamepnklangaelw klumaeykckrphrrdiideruxaelaichinyuththnakarinhaokdaetaodyichchuxwa okhetasu eruxhumekraaehlk rthprahar kxngthphkhxngrthbalochkuninpi kh s 1866 kxngthphsmyihmkhxngrthbalochkuninewlannpraktchdwayngepnrxngkxngthphkhxngaekhwnochchu hlngrthpraharinochchusungsngphlihklumaeyktxtanrthbalochkunhwrunaerngklbethlingxanac rthbalochkuncungprakasectnanakarrbnxkpraethsokhchukhrngthisxngephuxlngothsaekhwnthrysnn ehtunikratunihochchutngphnthmitrkbaekhwnstsumaxyanglb invdurxn kh s 1866 rthbalochkunaephtxokhchu thaihesuxmxanaclngmak thwa play kh s 1866 thiaerkochkunesiychiwit aelwckrphrrdiokhemesdcswrrkht sungtaaehnngtkaekoychionbuaelackrphrrdiemcitamladb ehtukarnehlani thaiheliyngkarsngbsukimid tamkhakhxngnkprawtisastr marixs ecnesn wnthi 9 phvscikayn kh s 1867 mikarprakxbphrarachoxngkarlbodyaekhwnstsumaaelaaekhwnochchuinphraprmaphiithyckrphrrdiemci bychaih khaoychionbuothsthanthrys thwa kxnhnani aelaihhlngkhxesnxcakidemiywothasa oychionbulaxxkcaktaaehnngaelathwayxanackhunaekckrphrrdi odytklng epnekhruxngmuxnaipptibti sungphrabrmrachoxngkarkhxngckrphrrdi rthbalexodacungsinsud aemkarlaxxkkhxngoychionbuthaihekidsuyyakasintaaehnngradbsungsudkhxngrthbal rabbklikrthkhxngekhannyngdarngxyu yingkwannrthbalochkun odyechphaatrakulothkungawa cayngepnkalngsakhyinraebiybkaremuxngthiwiwthnaaelacamixanacbriharhlayxyang epnphaphthiphuimpranipranxm hard liner cakstsumaaelaochchuthnimid ehtukarnmathungcudsungsudinwnthi 3 mkrakhm kh s 1868 emuxthngsxngaekhwnyudphrarachwngckrphrrdithikrungekiywot aelainwnrungkhun ckrphrrdiemci phrachnmayu 15 phrrsa thrngprakasfunfuphrarachxanacetmkhxngphraxngkh aemsphaxngkhmntrickrphrrdifaykhangmaksukhkbkhaprakaskarpkkhrxngodytrngxyangepnthangkarkhxngrachsankaelamiaenwonmsnbsnunkarrwmmuxkbothkungawatx phayitmonthsn rthbalxnepnthrrm yipun 公議政体 thbsphth kōgiseitai aetisong thakaomarikhukkhamsphaiheliktaaehnng ochkun aelasngribthidinkhxngoychionbu aemthiaerkekhaehnphxngkbkhxeriykrxngehlani aetinwnthi 17 mkrakhm kh s 1868 oychionbuprakaswa ekhaimthukphukmdkbkhaprakasfunfuphrarachxanacaelaeriykrxngihelikprakasnn wnthi 24 mkrakhm oychionbutdsinicetriymkarocmtiphrankhrekiywotsungthukkalngstsumaaelaochchuyudkhrxngxyu kartdsinicdngklawnithukkratuncakthiekhathrabwaekidkarlxbwangephlinghlaykhrnginexaoda erimcakkarephafayhnakhxngprasathexaoda xnepnthiphankhlkkhxngtrakulothkungawa ehtunithukklawothsaekorninstsuma sunginwnnnocmtisanknganrthbalaehnghnung wnrungkhun kalngrthbalochkunsnxngodyocmtithiphankkhxngidemiywstsumainexaoda sungkhuaekhnghlaykhnkhxngrthbalochkun phayitkarchinakhxngthakaomari kalngsxntwaelakxpyhaxyu phrarachwngthukephha aelakhuaekhnghlaykhnthukkhahruxthukpraharchiwitthihlngkhwamkhdaeyngepidchakchakkarrbinyuththkarothaba fuchimi kxngthphfayochkunxyuthangdansay sungrwmthungkxngphncak dankhwaepnkxngkalngcakaekhwnochchuaelaaekhwnothsa kxngthphehlanilwnepnkxngphnthhartamaebbsmyihm aetbangswnkxyuinchudtamthrrmeniymkhxngsamuir odyechphaaxyangyinginfayochkun wnthi 27 mkrakhm kh s 1868 kalngfayrthbalochkunocmtikalngkhxngochchuaelasasuma odypathaiklothabaaelafuchimi n thangekhathisitkhxngkrungekiywot bangswnkhxngkalngfayrthbalochkuncanwn 15 000 nayidrbfukodythipruksathangthharchawfrngess aetswnihyyngepnkalngsamuirsmyklang inkalngsamuirnnyngmichinesngngumidwy khnaediywkn kalngochchuaelastsumaepncanwnnxykwathung 3 1 aetmikxngthphthnsmyodymiehawitesxrxarmstrxng punelkyawmini Minie rifle aelapunaektling Gatling gun hlngerimtnodyimruphlaephchna inwnthisxng mikarsngthngckrphrrdiihthharfaypxngkn aelaphrayatikhxngckrphrrdi ninnacionamiya oyachixaki idrbaetngtngepnphubychakarthhar thaihkxngthphnnepnkxngthphckrphrrdi yipun 官軍 ormaci kangun xyangepnthangkar yingipkwann idemiywthxngthinhlaykhnsungcnthungbdniyngsuxstytxochkun erimaeprphktrekhakbfayrachsankckrphrrdiephraathukmhadelkchkcung idemiywdngklawmiidemiywoyodaemuxwnthi 5 kumphaphnth aelaidemiywsuemuxwnthi 6 kumphaphnth epliynsmdulthangthharihekhathangfayckrphrrdimakkhun wnthi 7 kumphaphnth othkungawa oychionbu sungchdecnwaxudxdkbphrabrmrachanuyatthickrphrrdiphrarachthanaekkarkrathakhxngstsumaaelaochchu hnicakoxsakabneruxikhoymaru ipexaoda kalngrthbalochkunthiesiykhwycakkarhnikhxngochkunaelakarhkhlngkhxngoyaodaaelasuthxy thaihkarpracyhnathiothaba fuchimiepnchykhxngfayckrphrrdi aemmkthuxknwafayrthbalochkunnacachna imchaprasathoxsakathuklxminwnthi 8 kumphaphnth hruxwnthi 1 mkrakhmtamptithintawntk naihyuththkarthiothaba fuchimisinsud khnaediywkn inwnthi 28 mkrakhm kh s 1868 ekidyuththnawithixawarahwangrthbalochkunaelakxngthpheruxstsumabangswn nbepnyuththnakarrahwangkxngthpheruxsmyihmsxngthphkhrngthisxngkhxngpraethsyipun yuththnawikhnadelkdngklawyutilngodyrthbalochkunepnfaychna thharothasakhakalasieruxchawfrngessin 8 minakhm kh s 1868 phaphcak swnindankarthut rthmntrikhxngtangchatiprachuminthaepidhoyonga pccubnkhux okheba intneduxnkumphaphnth xxkkhaprakaswarthbalochkunyngthuxepnrthbalodychxbaehngediywkhxngyipun ihkhwamhwngaekothkungawa oychionbuwatangchati odyechphaaxyangyingfrngess xacphicarnaaethrkaesngodythuxkhangekha thwa imkiwntxma phuaethnckrphrrdithieyiymrthmntriehlannprakaswayubrthbalochkunaelw caepidthatamsnthisyyarahwangpraeths aelacakhumkhrxngkhntangdaw rthmntridngklawcungtdsinicrbrxngrthbalihm krann khwamrusuktxtantangdawnasukarocmtikhntangdawhlaykhrnginhlayeduxntxma samuirothasakhakalasichawfrngesssibexdkhncakeruxkhxrewtdueplxis Dupleix inehtukarnsaikinwnthi 8 minakhm kh s 1868 sibhawntxma esxraehrri paks exkxkhrrachthutbritich thuksamuirklumhnungtharayinthnnkrungekiywotexaodayxmcannkhnod xisami phunaklumphusnbsnunochkun chinesngngumi ephchiyhnakbthharkhxngaekhwnothsa sngektcakekhruxngswmsirsa chakuma 赤熊 Shaguma hmiaedng sungichsahrbnaythharkhxngaekhwnnn in tngaeteduxnkumphaphnth dwykhwamchwyehluxkhxngelyng orech Leon Roches exkxkhrrachthutfrngess mikarrangaephnephuxhyudkarrukkhxngrachsankckrphrrdithioxadawara cudekhayuththsastrsudthaysuexaoda aetoychionbutdsinickhanaephnni elyng orechprahladicaelalaxxkcaktaaehnng intneduxnminakhm phayitxiththiphlkhxngrthmntribritich aehrri paks tangchatilngnamkhwamtklngkhwamepnklangekhmngwd sungtamsnthisyyann tangchatiimsamarthaethrkaesnghruxihkalngbarungthangthharaekfayidfayhnungcnkhwamkhdaeyngyuti isong thakaomarinathphckrphrrdikhwachyipthangehnuxaelatawnxxkthwpraethsyipun odychnathiyuththkarthiokhchu khasunuma sudthayekhalxmexaodaineduxnphvsphakhm kh s 1868 naipsukhwamprachyxyangimmienguxnikhhlngkhtsu khaxichu rthmntrisngkhramkhxngochkun ecrcakaryxmcann bangklumyngtxtantxiphlngkaryxmcannniaetaephinyuththkarthixuexaonainwnthi 4 krkdakhm kh s 1868 khnaediywkn phunakxngthpheruxkhxngochkun exaonaomaota thaekxaki ptiesthyxmcanneruxthnghmdkhxngekha ekhasngeruxihephiyngsila sunginnnmifucisng aetekhahlbhnikhunehnuxipphrxmkbkxngthpheruxochkunthiehlux eruxrbixnaaepdla aelathharerux 2 000 nay dwyhwngcdkarocmtitxbotrwmkbidemiywthangehnux ekhamithipruksathangthharchawfrngesscanwnhnungekhadwy thikhunchuxthisudkhux chul bruen Jules Brunet sunglaxxkcakkxngthphbkfrngessxyangepnthangkarephuxekhakbkbtkaraekhngkhxkhxngaenwrwmfayehnuxkxngthharcakemuxngesnidsungekhluxnphltngaeteduxnemsayn ekhasmthbkbkxngthphphnthmitraewnaekhwnfayehnuxephuxtxtankxngthphfayckrphrrdi ineduxnphvsphakhm kh s 1868 hlngoychionbuyxmcann praethsyipunswnmakkyxmrbkarpkkhrxngkhxngckrphrrdi aetaenwrwmaewnaekhwninphakhehnuxsungsnbsnunyngaekhngkhxtxip ineduxnphvsphakhm idemiywinphakhehnuxhlaykhntngphnthmitrephuxtxkrkxngthphckrphrrdi swnihyprakxbdwykalngcakaekhwnesnid oyaenasawa ixsu ochnaxiaelanangaoxaka mithngsin 50 000 nay ecafayckrphrrdiphraxngkhhnung esdchnikhunehnuxphrxmphlphrrkhrthbalexoda aelaidrbaetngtngepnhwhnainnamkhxngaenwrwmfayehnux odyectnatngphraxngkhepn ckrphrrdiothabu kxngeruxkhxngexaonaomaotathungthaesnidinwnthi 26 singhakhm aemwaaenwrwmfayehnuxmithharmakmay aettidxawuthelwaelaxasywithikartxsuaebbeka yuththphnthsmyihmkhadaekhln aelamikhwamphyayamkrachnchidinkarsrangpunihythadwyimaelaesrimkhwamaekhngaerngdwykarrdechuxkaelayingkrasunhin punihydngklawthitidtngbnsingpluksrangtngrb yingkrasunidsithunghandethannkxnraebid xikfayhnung idemiywnangaoxakacdkarhapunaektlingsxngcaksamkrabxkinpraethsyipun aelapunelkyawfrngesssmyihm 2 000 krabxkcakphxkhaxawuthchaweyxrmn ehnri chenll Henry Schnell sungthharesnidichinsngkhramobchin n ineduxnphvsphakhm kh s 1868 idemiywnangaoxakasrangkhwamsuyesiyihyhlwngtxkalngfayckrphrrdiinyuththkarthiohakuextsu Hokuetsu aetsudthayprasathkhxngekhaesiyinwnthi 19 phvsphakhm thharfayckrphrrdiyngekhluxnkhunehnux phichitchinesngngumithiyuththkarthichxngekhaobanari sungepidthangihekhatiprasathixsuwakamtsuinyuththkarthiixsuineduxntulakhm kh s 1868 thaihpxngknthitngdngklawimid aenwrwmphngthlay aelainwnthi 12 tulakhm kxngeruxxxkcakesnidmunghnasuhkikod hlngideruxxiksxngla aelathharxikpraman 1 000 nay kalngrthbalochkunthiehluxphayitoxotari ekhsueka kalngchinesngngumiphayithicikata othachios ehlakxngocr yuengakiit phayithiotami khtsutaor echnediywkbthipruksachawfrngessxikhlaykhn wnthi 26 tulakhm exaodathukepliynchuxepnotekiyw aelasmyemcierimtnxyangepnthangkar ixsuthuklxmerimtngaeteduxnnn naipsukarkhatwtayhmukhxngnkrbhnumebiyaokait ehlaphykhkhkhaw hlngyuththkaryudeyuxhnungeduxn sudthayixsuyxmcanninwnthi 6 phvscikaynkarthphhkikodsthapnasatharnrthexaosa chawyipunaelathipruksadankarthharchawfrngessthihkikod hlngprachybnekaahnchu hniiphkikodphrxmdwykxngthpheruxthiehluxxyuaelathipruksakarthharchawfrngessxikcanwnhnung phwkekharwmkncdtngrthbalodymiwtthuprasngkhsthapnarthchatixisrakhunbnekaaephuxxuthisihkarphthnaekaahkikod satharnrthexaosatngkhunxyangepnthangkaremuxwnthi 25 thnwakhmtamaebbcalxngshrthxemrika nbepnsatharnrthaehngediywkhxngpraethsyipunthiekhymi aelaexaonaomaotaidrbeluxktngepnprathanathibdidwyesiyngkhangmak satharnrthphyayamtidtxkbsthanexkxkhrrachthuttangpraethsthixyuinhaokdaeta echn shrthxemrika frngessaelarsesiy aetimsamarthidkarrbrxnghruxkarsnbsnunrahwangpraeths exaonaomaotaesnxihoxndinaednihochkunothkungawaphayitkarpkkhrxngkhxngckrphrrdi aetsphapkkhrxngckrwrrdiptiesthkhxesnxkhxngekha invduhnaw phwkekhaesrimkarpxngknbriewnkhabsmuthrthangitkhxnghaokdaeta odymipxmxyutrngklang mikarcdraebiybkalngphayitkarbychakarrwmkhxngyipun frngess odymiepnphubychakarthhar aelarxyexk chawfrngess epnrxngphubychakar aelaaebngkalngxxkepn 4 kxngphlnxy aetlakxngphlnxyminaythharprathwnchawfrngessepnphubngkhbbycha aelaaebngkalngyxyxxkepn 8 kungkxngphlnxy half brigade thixyuitkarbngkhbbychakhxngyipun khwamphayaephkhrngsudthayaelakaryxmcann eruxrbehlkkhxngkxngthpheruxfayckrphrrdi okhetasu thifrngesssrang edimkhux siexsexs sotnwxl kxngthpheruxckrphrrdithungthamiyaokaemuxwnthi 20 minakhm aetkbtexaosakhadhmaykarmakhxngeruxfayckrphrrdiaelacdraebiybaephnbabininkaryudokhetasu mikarsngeruxrbsamlasahrbocmtiphidkhad odymiphubngkhbbychachinesngngumi hicikata othachiosepnphuna eriyk yuththnawithixawmiyaoka yuththnawiyutilngdwykhwamlmehlwkhxngfayothkungawa enuxngcaksphaphxakaselw pyhaekhruxngyntaelakarichpunaektlingodykalngfayckrphrrditxkhnakhuneruxsamuirxyangeddkhad imnan kalngfayckrphrrdirwbrwmkarkhwbkhumbnaephndinihyyipun aelaineduxnemsayn kh s 1869 sngkxngeruxaelakalngthharrab 7 000 nayipexaosa erimtnyuththkarthihaokdaeta kalngfayckrphrrdikhubhnaxyangrwderwaelachnayuththnakarthangerux n xawhaokdaeta epnyuththnawithangeruxkhnadihykhrngaerkkhxngprathesyipunrahwangkxngthpheruxsmyihm khnathipxmokaeriywkakuthukthharthiehlux 800 naylxm emuxehnsthankarnekhatacn thipruksachawfrngesshlbhniiperuxfrngesssungpracaxyuinxawhaokdaeta aekhtolkng Coetlogon phayitkarbngkhbbychakhxngduwepti tuxar Dupetit Thouars aelwodysarklbipoyaokahamaaelafrngess yipunkhxihthipruksachawfrngessrbkarphiphaksainpraethsfrngess thwa enuxngcakkarsnbsnunkhxngprachachninpraethsfrngesscakkrrmkhxngphwkekha xditthipruksachawfrngessinpraethsyipuncungimthuklngoths exaonaomaotaaenwaenthicatxsucncb aelasngthrphymikhakhxngekhaihkhasukephuxekbrksa innnmirhskxngthpheruxthiekhanaklbcakhxlaelndsungekhamxbihphlexkkhxngfayckrphrrdi khuorada khioyataka aelaoxaotariekliyklxmihekhayxmcann odybxkekhaihtdsinicichchiwitphankhwamphayaephepnwithithihayklaxyangaethcring hakthanprasngkhtay thansamarththaidthukewla exaonaomaotayxmcannemuxwnthi 27 mithunayn kh s 1869 odyyxmrbkarpkkhrxngkhxngckrphrrdiemci aelasatharnrthexaosakimmixiktxipphlsubenuxngckrphrrdiemci phrachnmayu 16 phrrsa esdccakkrungekiywotipotekiyw play kh s 1868 ihhlngchna rthbalihmdaeninrwmpraethsphayitkarpkkhrxngthrngxanacodychxbediywodyrachsankckrphrrdi thiphankkhxngckrphrrdiyaycakekiywotipotekiywinplay kh s 1868 xanacthangthharaelakaremuxngkhxngaewnaekhwntang thyxythukridrxnip aelaimchaaekhwntang kklaysphaphepncnghwd sungckrphrrdithrngtngphuwarachkar karptirupsakhy khux karewnkhunaelaelikchnchnsamuir thaihsamuircanwnmakepliynekhataaehnngbriharrachkaraephndinhruxphuprakxbkar aetbibihxikcanwnmakyakcn aekhwnthangitstsuma ochchuaelaothasasungmibthbathchikhadinchy yudtaaehnngsakhyinrthbalxikhlaythswrrsihhlngkhwamkhdaeyngni bangeriyksthankarnniwa khnathipityemci aelaklayepnthangkardwysthabneknor in kh s 1869 mikarsrangsalecayasukuniinkrungotekiywephuxepnekiyrtiaekphuesiychiwitinsngkhramobchin phlphrrkhphunabangswnkhxngxditochkunthukcakhuk aetrxdkarpraharchiwitxyanghwudhwid macakkaryunynkhxngisong thakaomariaelaxiwakura othaomami aemxasykhaaenanacakphaks phuaethnthangthutbritichmakktam ekhakratunisong tamkhakhxngexxrens saoth Ernest Satow wa khwamrunaerngtxekhkhi oychionbu hruxphusnbsnunekha odyechphaaxyangyinginwithikarlngothsbukhkhl catharaychuxesiyngkhxngrthbalihminsaytachatiyuorp hlngcakhuksxnghruxsampi phwkekhaswnmakkthukeriyktwmarbrachkarrthbalihm aelahlaykhnmixachiphrungeruxng twxyangechn exaonaomaota thaekaxakitxmacarbrachkarepnphuaethnthangthutpracapraethsrsesiyaelacinaelaepnrthmntrisuksathikar ckrphrrdiemciwyrunkbphuaethntangpraeths raw kh s 1868 1870 fayckrphrrdimiidaeswngkhwammunghmaykhbphlpraoychntangchaticakpraethsyipunxik aethniprbnoybaykawhnamakkhunodymungprbpraethsihthnsmytxaelakarecrcasnthisyyaimethaethiymihmkbtangchati aelatxmaphayitkhakhwy praethsrarwy kxngthphekhmaekhng yipun 富国強兵 ormaci fukoku kyōhei karepliynthathitxtangchatinimacakwnaerk khxngsngkhramklangemuxng wnthi 8 emsayn kh s 1868 mikartngpayinkrungekiywot aelatxmathwpraeths sungecaacngbxkelikkhwamrunaerngtxkhntangdaw rahwanghwngkhwamkhdaeyng ckrphrrdiemcithrngtxnrbphuaethnthangthutyuorpepnkarswnphraxngkh khrngaerkinkrungekiywot aelatxmainoxsakaaelaotekiyw aelathiimekhypraktmakxn khux kartxnrbxlefrd dukexdinbarakhxngckrphrrdiemciinkrungotekiywwa epnphumiolhitthdethiymphraxngkh as his equal in point of blood aemsmyemcitxntn khwamsmphnthrahwangrachsankckrphrrdiaelatangpraethsdikhun aetkhwamsmphnthkbpraethsfrngessesuxmchwkhrawenuxngcakfrngesssnbsnunochkuninthiaerk thwainimcha mikarechiykhnathutthharkhnathisxngmapraethsyipunin kh s 1874 aelakhnathisamin kh s 1884 xntrkiriyaradbsungklbkhunpraman kh s 1886 emuxpraethsfrngesschwysrangkxngeruxsmyihmkhnadihykhxngkxngthpheruxckrwrrdiyipun phayitkarchinakhxngwiswkrnawi hluys exmil aebraetng Louis Emile Bertin karprbpraethsihthnsmyerimrahwangplayrthbalochkunaelw aelarthbalemcisudthaykrbnoybayediywkn ckrphrrdiemcithrngtxnrbkhnathutthharfrngesssungmaeyuxnyipunepnchudthi 2 kh s 1872 khrnrachaphiesk ckrphrrdiemcithrngxxkkdbtrkhaptiyan Charter Oath odyeriykrxngihmikarprachumxphipray syyaephimoxkasaeksamychn elik khnbthrrmeniymchwcakxdit aelaaeswngkhwamruthwolk ephuxesrimsrangrakthankhxngkarpkkhrxngckrphrrdi karptirupsakhykhxngrthbalemcimikarelikrabbaekhwnin kh s 1871 sungaekhwnaebbfiwdlaelaphupkkhrxngthisubsayolhitthukepliynepncnghwdodymiphuwarachkarcakkaraetngtngkhxngckrphrrdi xun mikarsuksaphakhbngkhbaelakareliksthanphaphchnchnkhngcux karptiruptang lngexydwykarxxkrththrrmnuyemci kh s 1889 thwa aemsamuirsnbsnunrachsankckrphrrdi aetkarptirupsmyemcichwngtnhlayxyangthukmxngwaepnothstxpraoychnkhxngphwkekha khux karsrangkxngthphthhareknthcaksamychn tlxdcnkaresiyekiyrtiphumisubechuxsayaelaengineduxnthithaihxditsamuircanwnmakepnprpks khwamtungekhriydsungepnphiessinphakhit nasukbtsaka kh s 1874 aelakbtinochchuin kh s 1876 xditsamuirinstsuma odymiisong thakaomariepnphuna sungxxkcakrthbalenuxngcakkhdaeyngeruxngnoybaytangpraeths erimkbtstsumain kh s 1877 kartxsuephuxtharngchnchnsamuiraelarthbalthimikhunthrrmmakkhun mikhawywa rthbalihm silthrrmsung yipun 新政厚徳 ormaci shinsei kōtoku kbtyutidwykhwamprachyeyiyngwirburusaetyxyyb n yuththkarthichiorayamakarnaesnxinyukhhlngA romanticized Japanese vision of the Battle of Hakodate 函館戦争の図 painted circa 1880 The cavalry charge with a sinking sailship in the background is led by the leaders of the rebellion in anachronistic samurai attire French soldiers are shown behind the cavalry charge in white trousers With a modern steam warship visible in the background imperial troops with modern uniforms are on the right swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidxawuthinsngkhramobchinswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidpunpracakay puninsngkhramobchin cakbnlnglang punsinedxr exnfild Snider Enfield punelksnstar Starr punekewr Gewehr swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidpunihy punkhrk punihyyingkrasunwithiokhng phrxmdwykrasunpunaebbklwng sngkhramobchin kh s 1868 1869 yipunswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniideruxrb swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidekhruxngaebb swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidhmayehtupramankarin Hagiwara p 50 obchin yipun 戊辰 ormaci Boshin epnchuxkhxngpithi 5 inrxbhksibpitamthrrmeniymptithinthiichinphumiphakhexechiytawnxxk xksr 戊辰 niinphasayipunyngsamarthxanxikxyangidwa sucionaexa thasu aepltamtwwa mngkrdinphuihy tamthimakhxngkhainphasacin khanimikhwamhmaywa mngkrdinthatuhyang sungekiywkhxngkbchuxpithipraktinrabbptithindngklaw inechingsphthmulwithyann xksr 戊 aela 辰 immikhwamekiywkhxngkbkhawa mngkr hrux thatudinphuihy channkarxanwa sucionaexa thasu cungthuxwaepnkarxanxksraebbhnungdwywithikarxanesiyngkhun emuxphicarnatambribthkhxngyukhsmynn khwamkhdaeyngdngklawekidkhuninrchskekhox pithi 4 sungcaepliynepnrchskemci pithi 1 ineduxntulakhmkhxngpiediywkn aelacasinsudinrchskemci pithi 2 xnung pimngkrkhxngcinaelayipun catrngkbpimaorngemuxethiybtamrabbpinkstrthiichinpraethsithy Thanks to the interaction with the Dutch the study of Western science continued during this period under the name of allowing Japan to study and follow most of the steps of the and industrial revolution See Jansen pp 210 15 discusses the vibrancy of Edo period rangaku and later p 346 notes the competition in the early Meiji period for foreign experts and rangaku scholars See also The technology of Edo 見て楽しむ江戸のテクノロジー 2006 ISBN 4 410 13886 3 Japanese and The intellectual world of Edo 江戸の思想空間 Timon Screech 1998 ISBN 4 7917 5690 8 Japanese Hagiwara p 34 Jansen pp 314 5 Hagiwara p 35 Jansen pp 303 5 Hagiwara pp 34 5 As early as 1865 Thomas Blake Glover sold 7500 to the Chōshu clan allowing it to become totally modernized Nakaoka Shintaro a few months later remarked that in every way the forces of the han have been renewed only companies of rifle and cannon exist and the rifles are Minies the cannon breech loaders using shells Brown This is a claim made by in a letter to Napoleon III I must signal to the Emperor the presence of numerous American and British officers retired or on leave in this party of the southern daimyo which is hostile to French interests The presence of Western leaders among our enemies may jeopardize my success from a political standpoint but nobody can stop me from reporting from this campaign information Your Majesty will without a doubt find interesting Original quotation French Je dois signaler a l Empereur la presence de nombreux officers americains et anglais hors cadre et en conge dans ce parti hostile aux interets francais La presence de ces chefs occidentaux chez nos adversaires peut m empecher peut etre de reussir au point de vue politique mais nul ne pourra m empecher de rapporter de cette campagne des renseignements que Votre Majeste trouvera sans doute interessants Polak p 81 As an example the English Lieutenant Horse is known to have been a gunnery instructor for the during the period Togo Heiachiro 17 These encounters are described in Satow s 1869 A Diplomat in Japan where he famously describes Saigō as a man with an eye that sparkled like a big black diamond Jansen p 307 There is debate as to the authenticity of the order due to its violent language and the fact that despite using the yipun imperial pronoun ormaci 朕 thbsphth chin it did not bear Meiji s signature Keene pp 115 6 Keene p 116 See also Jansen pp 310 1 Keene p 116 See also Jansen pp 310 311 Keene pp 120 1 and Satow p 283 Moreover Satow p 285 speculates that Yoshinobu had agreed to an assembly of daimyos on the hope that such a body would restore him Satow p 286 During a recess Saigō who had his troops outside remarked that it would take only one short sword to settle the discussion Keene p 122 Original quotation yipun 短刀一本あればかたづくことだ in Hagiwara p 42 The specific word used for was Keene p 124 Keene p 125 Tokugawa Yoshinobu was placed under and stripped of all titles land and power He was later on released when he demonstrated no further interest and ambition in national affairs He retired to the place to which his ancestor Tokugawa Ieyasu had also retired Bolitho p 246 Black p 214 In a letter of Enomoto to the Imperial Governing Council We pray that this portion of the Empire may be conferred upon our late lord Tokugawa Kamenosuke and in that case we shall repay your beneficence by our faithful guardianship of the northern gate Black pp 240 241 Polak pp 85 9 The Shogunate leaders are labeled from left to right The samurai in yellow garment is Hijikata Toshizo The yipun Red bear ormaci 赤熊 thbsphth Shaguma wigs indicate soldiers from the yipun White bear ormaci 白熊 thbsphth Haguma wigs for and the yipun Black bear ormaci 黒熊 thbsphth Koguma wigs for xangxing 1974 Treasures among Men The Fudai Daimyo in Tokugawa Japan New Haven Yale University Press 10 ISBN 0 300 01655 7 13 ISBN 978 0 300 01655 0 OCLC 185685588 Black John R 1881 Young Japan Yokohama and Yedo Vol II London Trubner amp Co Brown Sidney DeVere 1994 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 07 21 subkhnemux 2007 04 28 Une aventure au Japon Le Tour du Monde No 77 1874 Evans David 1997 Kaigun Strategy Tactics and Technology in the Imperial Japanese Navy 1887 1941 Annapolis Maryland Naval Institute Press ISBN 0 87021 192 7 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a imruckpharamietxr coauthors thuklaewn aenana author help Gordon Andrew 2003 A Modern History of Japan New York Oxford ISBN 0 19 511060 9 Hagiwara Kōichi 2004 図説 西郷隆盛と大久保利通 Illustrated life of and ISBN 4 309 76041 4 2004 in Japanese 2002 The Making of Modern Japan Harvard 10 ISBN 0674003349 13 ISBN 9780674003347 OCLC 44090600 2005 Emperor of Japan Meiji and His World 1852 1912 Columbia 10 ISBN 0 231 12340 X 13 ISBN 978 0 231 12340 2 OCLC 46731178 No 583 June 13 1868 2001 Soie et lumieres L age d or des echanges franco japonais des origines aux annees 1950 Tokyo Chambre de Commerce et d Industrie Francaise du Japon Fujin Gahōsha アシェット婦人画報社 2002 絹と光 知られざる日仏交流100年の歴史 江戶時代 1950年代 Kinu to hikariō shirarezaru Nichi Futsu kōryu 100 nen no rekishi Edo jidai 1950 nendai Tokyo Ashetto Fujin Gahōsha 2002 10 ISBN 4 573 06210 6 13 ISBN 978 4 573 06210 8 OCLC 50875162 et al 1988 函館の幕末 維新 End of the Bakufu and Restoration in Hakodate ISBN 4 12 001699 4 in Japanese 1968 1921 A Diplomat in Japan Tokyo Oxford Tōgō Shrine and Tōgō Association 東郷神社 東郷会 Togo Heihachiro in Images Illustrated Meiji Navy 図説東郷平八郎 目で見る明治の海軍 Japanese hnngsuxxanephimetimJansen Marius B 1999 The Cambridge History of Japan Volume 5 The Nineteenth Century Chapter 5 The Meiji Restoration Cambridge ISBN 0 521 65728 8 Ravina Mark 2005 The Last Samurai The Life and Battles of Saigō Takamori Wiley ISBN 0 471 70537 3 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb sngkhramobchin The Boshin War 2007 11 07 thi ewyaebkaemchchin Japanese The Battle of Ezo 2007 03 04 thi ewyaebkaemchchin Japanese National Archives of Japan Boshinshoyo Kinki oyobi Gunki Shinzu precise reproduction of Imperial Standard and the colors used by Government Army during Boshin War 1868 2008 04 03 thi ewyaebkaemchchinbthkhwamprawtisastrniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk bthkhwamthhar hruxkarthharniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk