ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
สงครามกลางเมืองอเมริกา (อังกฤษ: American Civil War; 12 เมษายน ค.ศ. 1861 – 9 พฤษภาคม ค.ศ. 1865) เป็นสงครามกลางเมืองซึ่งเกิดขึ้นในสหรัฐ ระหว่างปีคริสต์ศักราช 1861 ถึง 1865 โดยมีมูลเหตุแห่งการสู้รบมาจากข้อโต้แย้งที่ยืดเยื้อเกี่ยวกับการถือครองทาส ระหว่างฝ่ายชาตินิยมสหภาพซึ่งให้ปฏิญาณว่าจะภักดีต่อรัฐธรรมนูญสหรัฐฝ่ายหนึ่ง กับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนออกเป็นสมาพันธรัฐซึ่งสนับสนุนสิทธิของมลรัฐในการคงไว้ซึ่งสถาบันทาสอีกฝ่ายหนึ่ง.
สงครามกลางเมืองอเมริกา | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ตามเข็มนาฬิกา จากรูปบนสุด: ยุทธการที่เกตตีสเบิร์ก, ปืนใหญ่ของร้อยเอก จอห์น ทิดบอลแห่งฝ่ายสหภาพ, เชลยศึกฝ่ายสมาพันธรัฐ, , ซากเมืองริชมอนด์ รัฐเวอร์จิเนีย, | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
สหรัฐ () | สมาพันธรัฐ (ฝ่ายสมาพันธรัฐ) | ||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
อับราฮัม ลินคอล์น X | เจฟเฟอร์สัน เดวิส | ||||||
กำลัง | |||||||
2,200,000 นาย 698,000 นาย (ณ จุดสูงสุด) | 750,000–1,000,000 นาย 360,000 นาย (ณ จุดสูงสุด) | ||||||
ความสูญเสีย | |||||||
เสียชีวิตในหน้าที่ 140,414 นาย เสียชีวิตในที่คุมขังของสมาพันธรัฐอเมริกา ราว 25,000 นาย | เสียชีวิตในหน้าที่ 72,524 นาย |
ในบรรดา 34 มลรัฐของสหรัฐในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1861 เจ็ดรัฐทาสทางใต้ของประเทศประกาศแยกตัวออกจากสหรัฐเพื่อตั้งเป็น สมาพันธรัฐอเมริกา (the Confederate States of America) หรือ "ฝ่ายใต้." ฝ่ายสมาพันธรัฐเติบโตจนมีรัฐเข้าร่วม 11 มลรัฐ โดยรัฐบาลสหรัฐไม่เคยให้การรับรองทางการทูตแก่ฝ่ายสมาพันธรัฐ เช่นเดียวกับประเทศอื่นทุกประเทศ (แม้สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสจะให้สถานภาพคู่สงครามแก่สมาพันธรัฐ). ส่วนมลรัฐที่ยังภักดีต่อสหรัฐ เรียกว่า "สหภาพ" (Union) หรือ "ฝ่ายเหนือ" ซึ่งรวมถึงรัฐตามแนวชายแดนที่ยังถือว่าการมีทาสเป็นสิ่งชอบด้วยกฎหมายด้วย.
สงครามเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 12 เมษายน ค.ศ. 1861 เมื่อกองทัพสมาพันธรัฐโจมตีที่ตั้งทหารสหรัฐที่ฟอร์ตซัมเทอร์ในเซาท์แคโรไลนา. ประธานาธิบดีลินคอล์นตอบสนองโดยเรียกระดมพลอาสาสมัครจากแต่ละรัฐ จนเกิดกระแสความเป็นชาตินิยมขึ้นในภาคเหนือขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน. การเปิดฉากสงครามแบ่งแยกดินแดน กระตุ้นให้รัฐติดแนวชายแดนอีกสี่รัฐ ได้แก่ เวอร์จิเนีย เทนเนสซี อาร์คันซอ และนอร์ทแคโรไลนา ประกาศแยกตัวเพิ่ม. ฝ่ายสหภาพควบคุมพื้นที่รัฐชายแดนได้ในช่วงต้นสงครามและเริ่มยุทธวิธีปิดล้อมทางทะเลต่อฝ่ายสมาพันธรัฐ. สงครามที่คาดกันว่าจะยุติลงโดยเร็วกลับส่อเค้ายืดเยื้อ เมื่อทัพของสหภาพเพลี่ยงพล้ำใน และการสู้รบในเขตสงครามตะวันออกเปิดฉากด้วยความได้เปรียบของฝ่ายสมาพันธรัฐ ซึ่งสามารถสกัดกั้นความพยายามของสหภาพในการบุกยึดริชมอนด์ รัฐเวอร์จิเนีย อันเป็นเมืองหลวงของสมาพันธรัฐได้หลายครั้ง. ความสำเร็จนี้ทำให้ฝ่ายใต้ฮึกเหิม และตัดสินใจบุกขึ้นเหนือในปลายหน้าร้อนปี ค.ศ. 1862. แต่หลังจาก (Peninsula Campaign) สิ้นสุดลง ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1862 ฝ่ายสหภาพก็ตั้งตัวติด และสามารถหยุดการรุกคืบของสมาพันธรัฐได้ในยุทธการที่แอนตีแทม (Antietam) ซึ่งทำให้สหราชอาณาจักรเปลี่ยนใจไม่เข้าแทรกแซงในสงครามความขัดแย้งภายในนี้. หลังจากได้ชัยชนะทางยุทธวิธีที่แอนตีแทมไม่กี่วัน ลินคอล์นก็ประกาศเลิกทาส และกลายเป็นจุดเปลี่ยนของสงคราม.
ในปี ค.ศ. 1863 การบุกขึ้นเหนือครั้งที่สองของนายพลสมาพันธรัฐ โรเบิร์ต อี. ลี ยุติลงด้วยความปราชัย ณ ยุทธการที่เกตตีสเบิร์ก. ส่วนในแนวรบด้านตะวันตกนั้น ฝ่ายสหภาพสามารถเข้าควบคุมแม่น้ำมิสซิสซิปปีได้ หลัง (Shiloh) และการล้อมวิคสเบิร์ก (Vicksburg) ซึ่งเป็นผลให้ฝ่ายสมาพันธรัฐถูกแบ่งออกตรงกลางและกองทัพถูกทำลายไปเป็นอันมาก. ด้วยความสำเร็จในเขตสงครามตะวันตก ยูลิสซิส เอส. แกรนท์ จึงได้รับอำนาจบังคับบัญชากองทัพทั้งหมดของฝ่ายสหภาพในปี ค.ศ. 1864. จอมพลแกรนท์เข้าจัดโครงสร้างกองทัพและยุทธวิธีการรบเสียใหม่ เพื่อให้กองทัพของ , , และแม่ทัพคนอื่น ๆ สามารถโจมตีสมาพันธรัฐได้จากทุกทิศทาง นอกจากนี้ยังเพิ่มความเข้มงวดในการปิดล้อมทางทะเล. แกรนท์นำการทัพภาคพื้นดินเพื่อเข้ายึดริชมอนด์ โดยพยายามตรึงทัพของนายพลลีเอาไว้ป้องกันเมืองหลวงของฝ่ายสมาพันธรัฐ แต่แล้วเปลี่ยนทางเดินทัพเพื่อไปปิดล้อมปีเตอร์สเบิร์ก และทำลายกองกำลังสมาพันธรัฐที่เหลือของลีเกือบทั้งหมด. แกรนท์มอบอำนาจให้เชอร์แมนเข้ายึดเมืองแอตแลนตาและเคลื่อนทัพไปสู่ทะเล โดยมีเป้าหมายเพื่อทำลายสาธารณูปโภคของสมาพันธรัฐอย่างเบ็ดเสร็จ. การสู้รบที่สำคัญครั้งสุดท้าย คือ การปิดล้อมปีเตอร์สเบิร์ก กองทัพของลีตัดสินใจทิ้งปีเตอร์สเบิร์กในปลายเดือนมีนาคม ค.ศ. 1865 และไม่สามารถฟื้นตัวได้อีก ส่งผลให้นายพลโรเบิร์ต อี. ลี ยอมจำนนต่อจอมพลแกรนท์ ณ เมื่อวันที่ 9 เมษายน ค.ศ. 1865. การสิ้นสุดของสงครามนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญครั้งที่ 14 ซึ่งรับรองสิทธิของพลเมืองที่จะได้รับการปฏิบัติอย่างเสมอภาคทั่วทั้งสหรัฐ.
สงครามกลางเมืองอเมริกานับเป็นสงครามยุคอุตสาหกรรมที่แท้จริงครั้งแรก ๆ ของโลก โดยมีการใช้ทางรถไฟ โทรเลข เรือกลไฟ และอาวุธซึ่งผลิตขึ้นเป็นจำนวนมากเพื่อส่งเสริมวัตถุวิสัยทางการทหาร. รูปแบบของสงครามเบ็ดเสร็จ ซึ่งนายพลเชอร์แมนพัฒนาขึ้นในรัฐจอร์เจีย และการสงครามสนามเพลาะรอบปีเตอร์สเบิร์ก เป็นยุทธวิธีทางทหารที่เกิดขึ้นก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่งในทวีปยุโรป. สงครามครั้งนี้ยังเป็นสงครามที่นองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ ซึ่งส่งผลให้ทหารเสียชีวิตกว่า 620,000 นาย และพลเรือนเสียชีวิตอีกไม่ทราบจำนวน. นักประวัติศาสตร์ จอห์น ฮัดเดิลสตัน ประเมินยอดผู้เสียชีวิตว่า พลเมืองชายรัฐฝ่ายเหนืออายุระหว่าง 20 - 45 ปีเสียชีวิตไปร้อยละ 10 และพลเมืองชายรัฐฝ่ายใต้อายุระหว่าง 18 - 40 ปีเสียชีวิตไปร้อยละ 30 ชัยของฝ่ายเหนือหมายถึงจุดจบของสมาพันธรัฐและการถือครองทาสในสหรัฐ และเสริมอำนาจให้แก่รัฐบาลกลาง แต่ปัญหาทางสังคม การเมือง เศรษฐกิจและสีผิวอันเนื่องมาจากสงคราม ยังคงมีอิทธิพลอยู่ไปตลอด ซึ่งดำเนินไปจนถึงปี ค.ศ. 1877.
สาเหตุของความขัดแย้ง และชนวนสงคราม
สาเหตุของสงครามเกิดจากความแตกต่างระหว่างรัฐแต่ละรัฐในสหรัฐ ซึ่งมีรูปแบบและวิถีชีวิตความเป็นอยู่แตกต่างกันมาก กล่าวคือ รัฐทางใต้มีระบบเศรษฐกิจที่พึ่งพาการใช้แรงงานทาสในการเกษตรกรรมขนาดใหญ่ และมีพลเมืองส่วนมากเป็นคนชาติพันธ์แองโกล-แซกซอน ที่นับถือนิกายโปรแตสแตนท์ และพูดภาษาอังกฤษเป็นหลัก นอกจากนี้การเมืองและระบบเศรษฐกิจภายในรัฐยังถูกควบคุมโดยคนรวยที่ถือครองทาส ระบบความคิดจึงเป็นไปในทางอนุรักษ์นิยม และชาติพันธุ์นิยม โดยยึดมั่นในอัตลักษณ์ความเป็น "ชาวใต้" (Southerner) มากกว่าความเป็นอเมริกัน ในทางกลับกัน รัฐทางตอนเหนือเป็นรัฐอุตสาหกรรมที่มีระบบเศรษฐกิจแบบการตลาด ไม่พึ่งพาแรงงานทาสมากนัก และมีประชากรจากหลายเชื้อชาติในยุโรปอพยพเข้ามาใหม่อยู่ตลอดเวลา ทำให้เป็นสังคมหลากเชื้อชาติและวัฒนธรรม มีระบบความคิดที่ก้าวหน้ามากกว่า เมื่ออับราฮัม ลินคอล์นซึ่งมีแนวคิดไม่ประนีประนอมกับสถาบันทาสอย่างชัดเจน ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีแห่งสหรัฐแบบท่วมท้นใน ทำให้ประชากรผิวขาวใน 11 รัฐทางตอนใต้ไม่พอใจอย่างยิ่ง และรู้สึกว่าการแยกตัวเป็นอิสระเป็นทางเลือกเดียวที่จะรักษาสถาบันทาสไว้ได้ เนื่องจากเห็นว่าพวกตนไม่มีผู้แทนอยู่เลยในสภาคองเกรส จนในที่สุดก็รวมกันแยกตัวออกไปจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในนามว่าสมาพันธรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1861
การกดขี่และใช้แรงงานทาส
ความขัดแย้งในประเด็นเรื่องการมีและใช้แรงงานทาส ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1850 เป็นสาเหตุใหญ่ประการหนึ่ง ที่ทำให้อเมริกาถูกแยกออกเป็นสองประเทศ แต่เดิมทีนั้นคนอเมริกันที่อาศัยในรัฐทางตอนเหนือช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ส่วนใหญ่ก็มิได้มีความรู้สึกเป็นอคติต่อการมีทาส และในมุมมองของพวกที่ต่อต้านสถาบันทาสเอง ประเด็นเรื่องการมีทาสก็ถูกจำกัดอยู่ในบริบทที่ว่ามันเป็นความชั่วร้ายที่ล้าสมัย และขัดแย้งกับหลักการของเท่านั้น แม้ในส่วนของรัฐบาลกลางเอง รัฐธรรมนูญสหรัฐในขณะนั้นก็มีบทบัญญัติรับรองชัดเจนว่าทาสที่หลบหนีจะต้องถูกส่งคืนเจ้าของ และคองเกรสก็ออกกฎหมายไล่ล่าทาสที่หลบหนี (Fugitive Slave Act) เพื่อยืนยันสิทธิดังกล่าวมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1793 โดยกำหนดโทษจำคุกสำหรับผู้ที่ให้ความช่วยเหลือแก่ทาสที่หลบหนี ยุทธวิธีหลักที่ฝ่ายต่อต้านสถาบันทาสใช้จึงเน้นที่การกักกันสถาบันทาสให้อยู่แต่ในภาคใต้ โดยออกกฎหมายในระดับมลรัฐลงโทษการกระทำอันเป็นการหน่วงเหนี่ยวหรือติดตามทาสที่หลบหนี เพื่อไม่ให้มีการจับทาสที่หนีมาได้กลับไปเป็นทาสอีก เช่น กฎหมายเพื่อการเลิกทาสอย่างค่อยเป็นค่อยไปของมลรัฐเพนซิลวาเนีย ที่แก้ไขในปี ค.ศ. 1826 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อหยุดการขยายตัวของวงจรค้าทาส และปล่อยให้ค่อย ๆ ล้าสมัยจนสูญพันธุ์ไปเอง แต่รัฐทางใต้ที่ยังใช้แรงงานทาสเห็นว่าวิธีการนี้ละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญของตน และเป็นการมุ่งทำลายเศรษฐกิจของรัฐทางใต้ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะความต้องการนำเข้าผลิตภัณฑ์จากฝ้ายจากอเมริกาในภาคพื้นยุโรปที่มีสูงมาก เหล่ารัฐทางใต้มองว่าหากไม่มีแรงงานทาส ตนก็ไม่อาจแข่งขันกับอุตสาหกรรมสิ่งทอผ้าฝ้ายที่กำลังเติบโดอย่างรวดเร็วในรัฐทางตอนเหนือ และในยุโรปได้ นายทาสจากรัฐทางใต้จึงพยายามใช้สรรพวิธีทั้งทางการเมืองและทางกฎหมาย เข้าขัดขวางนโยบายควบคุมสถาบันทาสของรัฐทางเหนือ
ในปี ค.ศ. 1837 ทาสหญิงผิวดำที่เจ้าของเพิ่งเสียชีวิตไป ชื่อ มาร์กาเร็ต มอร์แกน ย้ายภูมิลำเนาจากรัฐแมรีแลนด์ไปยังเพนซิลวาเนีย และถูกจับโดยนักล่าทาส (slavecatcher) ชื่อ เอ็ดเวิร์ด ปริกก์ (Edward Prigg) นายปริกก์ถูกจับกุมฐานละเมิดกฎหมายของรัฐเพนซิลวาเนีย และถูกพิพากษาว่ามีความผิด จำเลยจึงอุทธรณ์ไปยังศาลสูงสุดสหรัฐ ในประเด็นที่ว่ากฎหมายแก้ไข ปี ค.ศ. 1826 ของรัฐเพนซิลวาเนียขัดต่อ "fugitive slave clause" ตามรัฐธรรมนูญสหรัฐ มาตรา 4 ข้อที่ 2 วรรคสาม และขัดหรือแย้งต่อกฎหมายในระดับสหพันธรัฐที่มีลำดับศักดิ์สูงกว่า ศาลสูงสุดสหรัฐพิพากษา ในคดี "ปริกก์ กับ มลรัฐเพนซิลวาเนีย" (Prigg v. Pennsylvania) ปี ค.ศ. 1842 ว่ากฎหมายของเพนซิลวาเนียขัดต่อรัฐธรรมนูญตามที่ผู้ร้องอ้าง เนื่องจากปฏิเสธสิทธิของนายทาสตามกฎหมายไล่ล่าทาสซึ่งหลบหนีที่จะติดตามเอาทาสของตนคืน
บรรดามลรัฐปลอดแรงงานทาส ตอบโต้คำพิพากษาคดี ปริกก์ ด้วยการออกกฎหมายเสรีภาพส่วนบุคคล (personal liberty laws) ประเภทต่าง ๆ ขึ้น เพื่อห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมาย กระทำการใด ๆ ที่เป็นการริดรอนเสรีภาพส่วนบุคคล เช่น การขัดขวางการหลบหนีของทาส หรือการเลือกปฏิบัติกับนิโกรไม่ว่าจะเป็นทาสหรือไม่ แต่รัฐทางใต้ก็โต้แย้งว่ากฎหมายเสรีภาพส่วนบุคคลพวกนี้ เป็นการใช้อำนาจของรัฐเพื่อริดรอนสิทธิใน "ทรัพย์สิน" ของเอกชน
ปัญหาการผนวกดินแดน และการประนีประนอม ปี 1850
การขยายตัวอย่างรวดเร็วมากของดินแดนในอาณัติของสหรัฐ ระหว่างการประกาศอิสรภาพจนถึงช่วงสงครามกลางเมือง เป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ระหว่างคตินิยมที่สนับสนุนสถาบันทาส และคตินิยมที่สนับสนุนแผ่นดินที่ปลอดทาส (free soil) ในครึ่งแรกของศตวรรษที่ 19 สหรัฐได้ที่ดินเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวภายในระยะเวลาสั้น ๆ ทั้งจากการซื้อ การเจรจา และการสงคราม เริ่มจากการได้รับโอนพื้นที่ลุยเซียนามาจากนโปเลียนในปี ค.ศ. 1803 ต่อมาการออกเสียงให้ (ซึ่งประกาศตัวเป็นอิสรภาพจากเม็กซิโกใน ปี 1836) เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐใน ปี ค.ศ. 1845 กลายป็นชนวนก่อให้เกิดสงครามเม็กซิโก-อเมริกา ในระหว่างปี ค.ศ. 1846-1848 ในสงครามดังกล่าว เป็นผลให้สหรัฐได้ผนวกดินแดนใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นอีก แต่การขยายดินแดนอย่างต่อเนื่องก็ก่อให้เกิดปัญหาขัดแย้งไม่รู้จบ ในเรื่องความชอบด้วยกฎหมายของการมีทาสในดินแดนที่ถูกผนวกเข้ามา ซึ่งถือเป็นประเด็นที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อทิศทางทางเศรษฐกิจในพื้นที่ใหม่ โดยก่อนหน้านี้ ปี ค.ศ. 1820 (Missouri Compromise) ตกลงห้ามการขยายตัวของสถาบันทาสไปในพื้นที่ตอนเหนือของพื้นที่รับโอนหลุยส์เซียนาที่ยังไม่ได้จัดตั้งเป็นเขตปกครอง เพื่อแลกเปลี่ยนกับการยอมให้มีการสถาปนามิสซูรีขึ้นเป็นรัฐที่การมีทาสเป็นสิ่งถูกกฎหมาย สำหรับกรณีพิพาทในพื้นที่อันผนวกเข้ามาใหม่หลังสงครามเม็กซิโก-อเมริกา มีการเสนอ (Wilmot Proviso) ขึ้น โดยเงื่อนไขนี้ต้องการให้ดินแดนใหม่ที่ผนวกเข้ามาเป็นดินแดนที่ปลอดจากสถาบันทาส แต่ในขณะนั้นนักการเมืองจากฝ่ายใต้ครองที่นั่งมากกว่าในวุฒิสภา เงื่อนไขวิลม็อทจึงถูกสกัดกั้นและได้รับการโหวตให้ตกไป
การประนีประนอมเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1850 โดยมีการแก้ไข รัฐบัญญัติไล่ล่าทาสหลบหนี ให้เข้มงวดขึ้นไปอีก เพื่อชดเชยกับการยอมให้รัฐแคลิฟอร์เนียที่รับเข้ามาใหม่เป็นรัฐปลอดทาส มีการกำหนดโทษกับผู้รักษากฎหมายในมลรัฐใด ๆ ที่ไม่ยอมปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายนี้ ดังนั้นสำหรับรัฐทางฝ่ายเหนือแล้ว กฎหมายไล่ล่าทาสหลบหนีฉบับแก้ไขปี 1850 จึงมีนัยว่าประชาชนอเมริกันทั่ว ๆ ไปก็มีหน้าที่ต้องให้ความช่วยเหลือนักล่าทาสหลบหนีจากทางใต้ ความรู้สึกต่อต้านสถาบันทาสในจิตใจคนอเมริกันจึงเพิ่มขึ้นเป็นวงกว้าง มีผู้เข้าร่วมการเคลื่อนไหวในเครือข่ายทางรถไฟใต้ดินของขบวนการเลิกทาสเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ในทางวรรณกรรมเอง งานประพันธ์อย่าง "กระท่อมน้อยของลุงทอม" (Uncle Tom's Cabin) ของแฮเรียต บีเชอร์ สโตว์ก็มุ่งโจมตีพลวัตอันชั่วร้ายของสถาบันทาสที่คอยแยกสมาชิกในครอบครัวออกจากกันกระท่อมน้อยของลุงทอม กลายเป็นหนังสือขายดีมากเป็นประวัติการณ์ มีตีพิมพ์ทั่วโลกกว่า 1.5 ล้านเล่ม แต่ความสำเร็จอย่างล้นหลามนี้ถูกมองว่าเป็นการโจมตีเกียรติยศของชาวรัฐทางใต้ ทำให้เกิดกระแสตอบโต้อย่างเผ็ดร้อนจากฝ่ายที่สนับสนุนสถาบันทาส จนถึงขนาดว่ามีวรรณกรรมแนว "แอนตี้-ทอม" หรือแนวสนับสนุนสถาบันทาส ออกมาแข่ง
กฎหมายแคนซัส-เนบราสกา
แม้ประชากรส่วนใหญ่ของสหรัฐ ซึ่งอาศัยกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ทางตอนเหนือ จะไม่เห็นด้วยกับการคงไว้ซึ่งสถาบันทาส แต่การแทรกแทรงโดยตรงจากรัฐสภาให้มีการยกเลิกหรือเพียงแต่จำกัดการขยายตัวของสถาบันทาสไม่ว่าในพื้นที่ใดของสหรัฐ ก็ยังเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง เนื่องจากแนวคิดทางกฎหมายรัฐธรรมนูญในขณะนั้นยังไม่มีบทคุ้มครองห้ามเลือกปฏิบัติต่อประชาชนอเมริกันด้วยเหตุผลทางสีผิว หรือศาสนา และยังคงถือว่าแต่ละรัฐมีอำนาจจะกำหนดสิทธิหน้าที่ (ซึ่งรวมถึงสิทธิเลือกตั้ง) ของพลเมืองในรัฐอย่างไรก็ได้ แนวคิดหนึ่งที่ยอมรับอย่างกว้างขวางคือ การถือว่าประเด็นเรื่องสถาบันทาสเป็นเรื่องของอำนาจอธิปไตยของปวงชน (popular sovereignty) มากกว่าที่จะเป็นการเมืองในรัฐสภา และคนท้องถิ่นย่อมมีสิทธิจะโหวตเสียงกำหนดเอาเองในพื้นที่ที่ตนอาศัยหรือท้องที่ซึ่งตนเข้าไปบุกเบิก แนวคิดเรื่องอธิปไตยปวงชนนี้ถูกสอดเข้าไปในนโยบายของรัฐบาลกลาง ที่สนับสนุนการขยายการตั้งรกรากของประชากรเข้าในพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับการบุกเบิกในทิศตะวันตก ตัวอย่างที่สำคัญ คือ (Kansas-Nebraska) ปี 1854 ซึ่งร่างโดย วุฒิสมาชิก กฎหมายฉบับนี้มีวัตถุประสงค์จะให้คนเข้าไปจับจองพื้นที่ทำกินตามแนวทางรถไฟข้ามประเทศที่กำลังก่อสร้าง โดยผนวกเอาแนวคิดเรื่องอธิปไตยของปวงชนไว้ แต่กลับเป็นว่านำไปสู่การนองเลือดที่รู้จักกันในชื่อ "" (Bleeding Kansas) เมื่อนักบุกเบิกอุดมการณ์ "แผ่นดินเสรี" (free soilers) เข้าปะทะกับนักบุกเบิกที่สนับสนุนสถาบันทาสจากรัฐมิสซูรีใกล้เคียง ซึ่งแห่กันเข้ามาในแคนซัสเพียงเพื่อที่จะออกเสียงลงมติรับรัฐธรรมนูญของรัฐ การใช้ความรุนแรงดังกล่าวเกิดขึ้นอยู่นานหลายปี ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยหกสิบคน และอาจถึงสองร้อยคนภายในแค่สามเดือนแรก
ศาลสูงสุดเข้าแทรกแซง: คำพิพากษาคดี เดร็ด สก็อตต์
แนวคิดเรื่องการกำหนดความชอบด้วยกฎหมายของสถาบันทาสโดยทางอธิปไตยปวงชนได้รับการปฏิเสธจากฝ่ายตุลาการสูงสุด (Supreme Court of the United States) ในปี ค.ศ. 1857 ในคำพิพากษาคดี (Dred Scott v Sandford) ตุลาการหัวหน้าศาล (Roger B. Taney) พิพากษาว่า ไม่มีบทบัญญัติหรือหลักกฎหมายใดในสหรัฐ ที่จะห้ามมิให้นาสทาสพาหรือติดตามทาสของตน เข้าไปในดินแดนบุกเบิกใหม่ของประเทศ โดยตุลาการทอนีย์เห็นว่า "คนนิโกรที่บรรพบุรุษถูกซื้อขายเข้ามาในประเทศนี้ในฐานะทาส" ไม่ว่าจะยังป็นทาสอยู่ หรือได้รับอิสระแล้วก็ดี ไม่อาจมีฐานะเป็นประชาชนอเมริกันได้ และย่อมไม่มีอำนาจที่จะเป็นโจทก์ฟ้องคดีได้ ในศาลสหพันธรัฐ (federal courts) และรัฐบาลสหพันธรัฐย่อมไม่มีอำนาจใด ๆ ที่จะออกกฎหมายควบคุมการมีทาสในดินแดนของสหพันธรัฐ ที่ได้รับมาหลังการก่อตั้งประเทศสหรัฐ" นอกจากนี้เนื้อหาในตอนหนึ่งของคำพิพากษาประกาศว่า
"[พวกนิโกร]เป็นพวกที่ถูกถือว่าเป็นมนุษย์ในอันดับที่ด้อยกว่า มาเป็นเวลากว่าหนึ่งศตวรรษ จึงย่อมเป็นการไม่เหมาะสมในทางใด ๆ ที่จะนำพวกนี้มาเปรียบเทียบกับคนผิวขาว ไม่ว่าจะในทางความสัมพันธ์ทางสังคม หรือในทางการเมือง; และต่ำชั้นกว่าอย่างไกลลิบ จนถึงขนาดว่าพวกนี้ไม่มีสิทธิใด ๆ ที่คนผิวขาวจำเป็นจะต้องเคารพ; และพวกนิโกรจึงอาจลดฐานะลงมาเป็นทาสเพื่อประโยชน์ของคนขาว โดยชอบด้วยความยุติธรรม และโดยชอบด้วยกฎหมาย"
— Dred Scott v. Sandford, 60 U.S. 393 (1857)
คำพิพากาษาคดี เดร็ด สก็อตต์ (Dred Scott) ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง ทั้งโดยสื่อ และนักการเมืองฝ่ายเหนือซึ่งถือว่าคำพิพากษานี้ขัดต่อหลักเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ อับราฮัม ลินคอล์น ตอบโต้คำพิพากษานี้ในคำปราศัย "" ("House Divided Against Itself Cannot Stand") ของตนที่รัฐอิลินอยส์ ในปีเดียวกัน โดยเตือนถึงภัยของคำพิพากษา Dred Scott ที่จะเปลี่ยนอเมริกาทั้งประเทศให้กลายเป็นดินแดนที่การมีทาสเป็นเรื่องชอบด้วยกฎหมาย และท่านยังทำนายว่าอเมริกาจะไม่แบ่งแยกตลอดไป แต่มีชะตากรรมที่จะต้องเปลี่ยนไปในทางใดทางหนึ่ง ซึ่งหากไม่ใช่ว่าการมีทาสจะกลายเป็นเรื่องถูกกฎหมายทั้งประเทศ ก็ต้องเป็นว่าการมีทาสจะต้องไม่มีอยู่อีกต่อไป นอกจากนี้คำพิพากษาเดรด สก็อต ยังมีส่วนผลักดันให้ขบวนการนักเลิกทาสปฏิบัติการก้าวร้าวขึ้นไปอีก อย่างเช่น กรณีนักเลิกทาส จอห์น บราวน์ ที่พยายามติดอาวุธให้กับทาสผิวดำเพื่อให้ก่อจลาจลที่ ฮาร์เปอร์ส เฟอร์รี่ (Harper's Ferry) เวอร์จิเนีย ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1859
การเลือกตั้งประธานาธิบดี กับวิกฤติการแยกดินแดน
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี ค.ศ. 1860 (พ.ศ. 2403) มีขึ้นในวันที่ 6 พฤศจิกายน และเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ผลักดันสหรัฐเข้าสู่สงครามกลางเมือง ประธานาธิบดี เจมส์ บูแคนัน ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในขณะนั้น เป็นชาวอเมริกันทางตอนเหนือที่มีความคิดเห็นเข้าข้างฝ่ายใต้ ประธานาธิบดีบูแคนันมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในการทำให้เนื้อคำพิพากษาคดี เดร็ด สก๊อต ออกมากว้างในลักษณะเป็นคุณกับนายทาสเช่นนั้น โดยบูแคนันเป็นคนเขียนจดหมายชักจูงให้ตุลาการสมทบแห่งศาลสูงสุดสหรัฐ โรเบิร์ต เกรีย (Robert Grier) โหวตร่วมกับฝ่ายเสียงข้างมากในคณะศาลให้ สก็อตต์ ทาสผิวดำแพ้คดี เพื่อให้ศาลเขียนคำพิพากษาปฏิเสธอำนาจของรัฐบาลกลางในประเด็นที่เกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายของสถาบันทาสแบบเด็ดขาด การเข้ากดดันตุลาการในคดี เดร็ด สก็อตต์ ของ ปธน. บูแคนันกลายเป็นเรื่องอื้อฉาว และก่อเกิดผลสะท้อนกลับเชิงลบทางการเมืองต่อพรรคเดโมแครตเป็นอย่างยิ่ง ความไม่พอใจในคำพิพากษา เดร็ด สก็อตต์ ของชาวอเมริกันในรัฐทางเหนือ ช่วยให้พรรครีพับลิกันได้รับชัยชนะได้ที่นั่งสภาผู้แทนเพิ่มในการเลือกตั้งกลางเทอม ปี 1858 และเข้าควบคุมได้ทั้งสภาคองเกรสในการเลือกตั้งใหญ่ ปี 1860
ชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี ค.ศ. 1860 ของพรรครีพับลิกันซึ่งนำโดยอับราฮัม ลินคอล์น เป็นผลมาจากความระส่ำระสายภายในของพรรคเดโมแครต เนื่องจากตัวแทนจากรัฐทางตอนใต้ซึ่งเป็นพวกสนับสนุนสถาบันทาส และคำพิพากษา เดร็ด สก็อตต์ พากัน "วอล์กเอ้าท์" จากการประชุมแห่งชาติของพรรคเดโมแครต เพื่อประท้วงการที่ที่ประชุมปฏิเสธไม่รับมติสนับสนุนนโยบายขยายสถาบันทาส โดยการใช้กฎหมายทาส (slave codes) ในทุกพื้นที่ของสหรัฐ สมาชิกของพรรคเดโมแครตจึงแตกออกเป็นฝ่ายเหนือและใต้ โดยสมาชิกพรรคฝ่ายใต้เป็นพวกสนับสนุนคำพิพากษาคดีเดร็ด สก็อตต์ ฝ่ายนี้จึงแยกตัวออกมาเลือก นาย (John C. Breckinridge) ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานาธิบดี มาเป็นผู้แทนลงสมัครรับเลือกตั้งของพรรคเดโมแครตฝ่ายใต้ ในขณะที่ นาย ตัวแทนผู้สมัครรับเลือกตั้งเดโมแครตฝ่ายเหนือ และเป็นผู้ร่างกฎหมาย แคนซัส-เนบรากา ที่สนับสนุนแนวคิดเรื่องการกำหนดความชอบด้วยกฎหมายของสถาบันทาสโดยทางอธิปไตยปวงชน (กล่าวคือประสงค์จะให้สภาคองเกรสทำตัวเป็นกลาง ไม่เข้าแทรกแทรงไม่ว่าจะเพื่อจำกัด หรือสนับสนุนการขยายตัวของสถาบันทาสไปในพื้นที่ใหม่ๆของสหรัฐ) ก็ได้รับความนิยมทางตอนเหนือสู้ลินคอล์นไม่ได้ ลินคอล์นจึงกวาดคะแนนของคณะผู้เลือกตั้ง (electoral vote) ไปแบบท่วมท้น และเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง ปี 1860 แม้ว่าจะได้รับคะแนนนิยมทั่วประเทศเพียงแค่ 40% กลายเป็นผู้สมัครพรรครีพับลิกันคนแรกที่ได้รับตำแหน่งประธานาธิบดี
รัฐทางใต้ทยอยแยกตัว
การเลือกตั้งประธานาธิบดี ปี 1860 ถือเป็นจุดสิ้นสุดของการครองอำนาจทางการเมืองในอเมริกาของฝ่ายใต้ เนื่องจาก 2 ใน 3 ของจำนวนประธานาธิบดีทั้งหมดล้วนมาจากภาคใต้ นับแต่ จอร์จ วอชิงตัน ได้รับเลือกเป็น ปธน. คนแรกในปี ค.ศ. 1789 ความพ่ายแพ้นี้ทำให้รัฐฝ่ายใต้รู้สึกถูกบีบคั้นอย่างมาก และกลายเป็นจุดแตกหักทางการเมือง โดยเพียงสองเดือนหลังชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วประเทศของลินคอล์น มลรัฐเซาท์แคโรไลนา ซึ่งเป็นตัวตั้งตัวตีที่สำคัญที่สุดในการผลักดันประเด็นเรื่องสิทธิของมลรัฐที่จะปกครองและกำหนดตนเอง (state rights) ก็ประกาศแยกตัวออกเป็นรัฐแรก ในวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 1860 มลรัฐเกษตรกรรมไร่ฝ้ายอีกหกมลรัฐ ได้แก่ มิสซิสซิปปี, ฟลอริดา, แอละแบมา, จอร์เจีย, หลุยส์เซียนา และเท็กซัส ทยอยประกาศแยกตัวออกตามในอีกสองเดือนถัดมา คือระหว่างเดือน มกราคม และกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1861 หกรัฐแรกที่ประกาศแยกตัวมีสัดส่วนของทาสต่อประชากรที่สูงถึงร้อยละ 49 แสดงถึงความพึ่งพาแรงงานทาสในอุตสาหกรรมการเกษตรในระดับที่สูงมาก และรัฐเหล่านี้เชื่อว่าการครองทาสเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ บรรดารัฐที่แยกตัวออกนี้ได้ร่วมกันจัดตั้งเป็น สมาพันธรัฐอเมริกา (Confederacy) ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1861 หลังจากจัดตั้งแล้วกองกำลังสมาพัธรัฐก็เริ่มโจมตีทรัพย์สินและป้อมค่ายของรัฐบาลกลางโดยแทบไม่พบการต่อต้านเลย เนื่องจากประธานาธิบดี เจมส์ บูแคนัน แห่งพรรคเดโมแครตกำลังจะหมดวาระ และบูแคนันอ้างว่า "อำนาจที่จะใช้กำลังอาวุธ เพื่อบังคับให้มลรัฐคงอยู่ในสหภาพต่อไปนั้น ไม่ได้อยู่อำนาจที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ให้สภาคองเกรส" อย่างไรก็ดี ทั้งรัฐบาลเดโมแครตของ ปธน.บูแคนัน และฝ่ายพรรครีพับลิกันที่กำลังจะเข้ามาบริหาร ต่างก็ประณามการแบ่งแยกดินแดนว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่ก็พยายามจะประนีประนอมในประเด็นเรื่องการมีทาสอยู่ ถูกเสนอขึ้นโดยวุฒิสมาชิก ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1860 เพื่อแก้ปัญหาการขอแยกดินแดน โดยเสนอให้รื้อฟื้นเอาเส้นพรมแดนระหว่างรัฐเสรี-รัฐทาส ตาม ปี 1820 กลับมาใช้ใหม่โดยให้ขยายออกไปทางฝั่งตะวันตก ทั้งยอมให้รัฐทางใต้สามารถคงระบอบทาสไว้ได้แบบถาวร และให้สามารถป้องกันทาสหลบหนีได้ด้วย ข้อเสนอนี้เป็นที่พอใจของฝ่ายใต้ แต่ในที่สุดก็ถูกปัดให้ตกไปทั้งโดยสภาผู้แทนฯสหรัฐ และวุฒิสภาสหรัฐฯ เนื่องจากพรรครีพับลิกันมองว่าเป็นข้อเสนอที่รับไม่ได้เพราะเท่ากับว่ายอมให้มีการขยายตัวของสถาบันทาสไปในพื้นที่ใหม่ๆของสหรัฐได้ ความหวังสุดท้ายที่จะรักษาสหภาพไว้จึงหมดลงไป
ลินคอล์นให้สุนทรพจน์เข้ารับตำแหน่ง
อับราฮัม ลินคอล์น เข้าสาบานตนเป็นประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐ ในวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 1861 ท่านกล่าวในสุนทรพจน์เข้ารับตำแหน่งว่า ภายใต้รัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ ความพยายามแยกรัฐออกเป็นอิสระย่อมเป็นโมฆะ แต่ก็ให้คำยืนยันว่ารัฐบาลของตนจะไม่เริ่มต้นสงครามกลางเมือง โดยกล่าวต่อ "รัฐทางใต้" ว่า "ข้าพเจ้าไม่มีจุดมุ่งหมายโดยตรงหรือโดยอ้อมที่จะแทรกแทรงสถาบันการครองทาสที่ยังมีอยู่ในประเทศสหรัฐ เพราะข้าพเจ้าเชื่อว่าข้าพเจ้าไม่มีสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายที่จะทำเช่นนั้น" ลินคอล์นทำอย่างดีที่สุดที่จะใช้สุนทรพจน์เข้ารับตำแหน่งในการหว่านล้อมเพื่อนร่วมชาติ ให้หันมาปรองดองกัน ให้เห็นถึงความเป็นครอบครัวอเมริกันครอบครัวเดียวกัน ดังพูดคำปิดท้ายสุนทรพจน์
พวกเราไม่ใช่ศัตรูกัน เราเป็นเพื่อน เราจะเป็นศัตรูกันไม่ได้ ถึงความรู้สึกจะบอบช้ำไปบ้าง แต่จะให้สิ่งนี้มาทำลายสายใยของมิตรภาพหาได้ไม่ สายพิณที่น่าพิศวงของความทรงจำ ที่โยงเอาทุกสมรภูมิรบและหลุมศพของวีรบุรุษ เข้าไว้กับทุกหัวใจที่ยังมีชีวิตอยู่ และหินหน้าเตาไฟของทุกครัวเรือน ทั่วดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ จะยังส่งเสียงประสานของความกลมเกลียวแห่งสหภาพอย่างแน่นอน ยามเมื่อมันถูกดีดให้ดังขึ้นอีกครั้ง โดยเทวทูตที่ดีกว่าแห่งธรรมชาติของเรา
— อับราฮัม ลินคอล์น, สุนทรพจน์เข้ารับตำแหน่งครั้งแรก, 4 มี.ค. 1861
แต่หลังจากกองกำลังสมาพันธรัฐ เคลื่องทัพเข้ายึดครองป้อมและทรัพย์สินของรัฐบาลกลางหลายแห่งที่อยู่ในพื้นที่ภาคใต้ ความพยายามที่จะประนีประนอมก็พังทลายลง ลินคอล์นปฏิเสธไม่รับค่าชดเชยราคาทรัพย์สินที่เสียหาย หรือถูกทำลายโดยกองกำลังสมาพันธรัฐ โดยอ้างว่ารัฐบาลสหรัฐฯจะไม่เจรจา หรือเข้าทำสัญญากับองค์กรที่ไม่มีความชอบธรรมตามกฎหมาย ทั้งสองฝ่ายจึงหันมาเตรียมพร้อมสำหรับสงคราม
การจัดตั้งสมาพันธรัฐอเมริกา
สมาพันธรัฐอเมริกาถูกจัดตั้งขึ้นในระหว่าง ณ รัฐแอละแบมา เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1861 - หนึ่งเดือนก่อนที่ลินคอล์นจะเข้าสู่ตำแหน่งอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม ในระยะแรกมีรัฐเข้าร่วมจัดตั้ง 6 รัฐ ได้แก่ รัฐเซาท์แคโรไลนา, มิสซิสซิปปี, ฟลอริดา, แอละแบมา, จอร์เจีย และลุยเซียนา โดยมีเท็กซัสเป็นรัฐเข้าร่วมสังเกตการณ์ (ก่อนที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกในสมาพันธรัฐ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 1861) และมีนาย เจฟเฟอร์สัน เดวิส เป็นประธานาธิบดี เมืองหลวงในระยะแรกอยู่ที่เมืองมอนต์กอเมอรี รัฐแอละแบมา ต่อมามีมลรัฐเข้าร่วมเพิ่มอีก 4 มลรัฐ รวมทั้งสิ้น 11 มลรัฐ และย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่เมืองริชมอนด์ รัฐเวอร์จิเนีย ในวันที่ 30 พฤษภาคม ในปีเดียวกัน
เปิดฉากการสู้รบ: ยุทธการที่ฟอร์ทซัมเทอร์
ป้อมซัมเทอร์ หรือ ฟอร์ทซัมเทอร์ เป็นป้อมปราการของรัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งอยู่กลางท่าเรือเมืองชาล์สตัล มลรัฐเซาท์แคโรไลนา ในขณะที่กองกำลังสมาพันธรัฐยกพลมาถึงนั้น กองกำลังของรัฐบาลกลางได้ถูกถอนออกไปแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดปะทะกับ (militia) ในพื้นที่ แต่เดิมรัฐบาลของ ปธน.บิวแคนัน ต้องการให้ทางป้อมถอนกำลังออกไป แต่รัฐบาลใหม่ของลินคอล์นออกคำสั่งให้ทหารรักษาป้อมไว้ก่อน จนกว่าจะถูกยิงใส่ ดังนั้นเมื่อ พันตรี นายทหารบัญชาการของฝ่ายสหภาพไม่ปฏิบัติตามคำเรียกร้องให้ยอมจำนนของทางฝ่ายสมาพันธรัฐ เจฟเฟอร์สัน เดวิส จึงสั่งให้ นายพลจัตวา ยิงโจมตีป้อมก่อนที่กองหนุนจะมาถึง กองกำลังของโบรีการ์ดจึงเริ่มยิงโจมตีป้อม เมื่อวันที่ 12 เมษายน 1861 ยิงอยู่สองวันป้อมก็แตก โบรีการ์ดเคยเป็นนักเรียนภายใต้การฝึกสอนของพันตรีแอนเดอร์สันมาก่อนสมัยยังเรียนอยู่ที่เวสต์พอยน์
การโจมตีฟอร์ทซัมเทอร์ เป็นการปลุกกระแสชาตินิยมอเมริกันให้แพร่กระจายไปทั่วทางตอนเหนือ พันตรีแอนเดอร์สันกลายเป็นวีรบุรุษของชาติไปในชั่วข้ามคืน ฝ่ายเหนือเริ่มระดมกำลังตอบโต้ มีการนัดพบ พูดคุยปราศัย ฝ่ายเอกชนก็ช่วยระดมเงิน ส่วนในท้องที่ต่างๆก็มีการระดมกำลังพล ทั้งฝ่ายผู้ว่าการรัฐและฝ่ายนิติบัญญัติก็แสดงความมุ่งมั่นที่จะตอบโต้
อย่างไรก็ดี ความกระตือรือร้นที่จะสู้กลับในภาคเหนือ สะท้อนว่าฝ่ายสหภาพยังประมาทและยังประเมินสเกล หรือขนาดของสงครามที่จะตามมาต่ำเกินไป เพราะขณะนั้นคนส่วนใหญ่ยังคิดว่ามีเพียงรัฐไม่กี่รัฐทางตอนใต้ที่คิดแยกตัวออกจากสหภาพ ปธน. ลินคอล์น เรียกร้องให้ทุกมลรัฐส่งกำลังทหารไปยึดเอาป้อมซัมเทอร์ และทรัพย์สินอื่นๆของรัฐบาลกลางคืน โดยในเบื้องต้นลินคอล์นขอกำลังอาสาสมัครเพียง 75,000 นาย สำหรับประจำการเพียง 90 วันเท่านั้น ผู้ว่ารัฐแมสซาชูเซตส์ส่งหน่วยรบของรัฐลงใต้โดยทางรถไฟในวันถัดไป ส่วนในทางตอนใต้รัฐมิสซูรี พวกหนุนแบ่งแยกดินแดนในพื้นที่ได้เข้ายึดคลังแสงลิเบอร์ตี้ (Lierty Arsenal) ปธน.ลินคอล์นต้องประกาศขออาสาสมัครเพิ่มอีก 42,000 คน ในวันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 1861
ในระยะนี้มีรัฐพรมแดน เหนือ-ใต้ ประกาศแยกตัวเพิ่มอีก 4 รัฐ คือ เวอร์จิเนีย, เทนเนสซี, อาร์คันซัส และ นอร์ทแคโรไลนา โดยแต่เดิมรัฐเหล่านี้วางท่าที ไม่ยอมถืออาวุธเข้าห้ำหั่นกับรัฐทางเหนือที่เป็นเพื่อนบ้าน การแยกตัวออกของรัฐเวอร์จิเนียทำให้ นายพลโรเบิร์ต อี. ลี ถอนตัวจากกองทัพฝ่ายสหภาพ โดยอ้างว่าไม่สามารถจับอาวุธขึ้นสู้กับบ้านเกิดของตนได้ ทางฝ่ายสมาพันธรัฐอเมริกาตอบแทนรัฐเวอร์จิเนีย โดยการย้ายเมืองหลวงไปตั้งที่ เมืองหลวงของเวอร์จิเนีย
การสู้รบ
สหรัฐสู้รบกันในสงครามกลางเมืองระหว่างวันที่ 12 เมษายน ค.ศ. 1861 จนถึง 13 พฤษภาคม ค.ศ. 1865 โดยมีการสู้รบกันใน 23 มลรัฐ และในพื้นที่ที่ขณะนั้นยังไม่มีสถานะเป็นมลรัฐ รวมไปถึงพื้นที่ทางน้ำ สงครามกลางเมืองอเมริกาสู้รบกันในพื้นที่นับไม่ถ้วน ตั้งแต่ วาลเวอร์ด, รัฐนิวเม็กซิโก และ ตุลลาโฮมา, รัฐเทนเนสซี ไปจนถึง เซนต์อัลแบนส์, รัฐ และเฟอร์นานดินา ณ ชายฝั่งรัฐฟลอริดา สมรภูมิที่มีชื่อบันทึกอย่างเป็นทางการมีถึง 237 สมรภูมิ คนอเมริกันมากกว่าสามล้านคนเข้าร่วมสู้รบในสงครามกลางเมือง และมีคนกว่าหกแสนคนล้มตายในสงครามนี้ หรือคิดเป็นร้อยละสอง ของประชากรอเมริกันทั้งหมด
แผนยุทธศาสตร์
เมื่อเริ่มต้นสงคราม ต่างฝ่ายต่างคิดว่าการรบจะจบลงโดยเร็ว แต่หลังจาก (Battle of Bull Run) ก็เป็นที่แน่ว่านี่จะเป็นสงครามที่ยืดเยื้อ เนื่องจากฝ่ายสมาพันธรัฐทราบดีว่าทั้งกำลังพล เทคโนโลยี และขีดความสามารถทางอุตสาหกรรมของฝ่ายตนเป็นรองมาก แผนยุทธศาสตร์ของฝ่ายสมาพันธรัฐจึงเน้นที่การยืนระยะสงครามให้นานที่สุด เพื่อให้ฝ่ายสหภาพตระหนักถึงราคามหาศาลที่ต้องจ่ายในสงคราม และถอดใจเลิกคิดรวมชาติด้วยกำลังทหารไปเอง
ส่วนเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ของทางสหภาพ คือ ต้องการกำหราบฝ่ายกบฏแยกดินแดนลงให้ราบคาบ และป้องกันไม่ให้มีรัฐถอนตัวเพิ่ม ฝ่ายสหภาพจึงกำหนดยุทธศาสตร์ขึ้น 4 ประการ:
- ประการแรก คือ ทำการเจรจากับรัฐชายแดนบริเวณเหนือ (Mason-Dixon line) เช่น มลรัฐแมรีแลนด์ให้คงอยู่ในสหภาพ
- ประการที่สอง คือ ทำการปิดล้อมท่าเรือของเมืองใหญ่ๆ ฝ่ายสมาพันธรัฐ เพื่อตัดการค้าและการส่งกำลังบำรุงจากยุโรป หรือจากหมู่เกาะบาฮามัส ซึ่งอยู่ในควบคุมของจักรวรรดิอังกฤษ
- ประการที่สาม คือ เข้ายึดครองพื้นที่สำคัญตามแนวลุ่มแม่น้ำมิสซิสซิปปี เพื่อตัดขาดรัฐทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ จากรัฐฝั่งตะวันออกของสมาพันธรัฐ
- ประการสุดท้าย คือ เดินทัพเข้าสู่ดินแดนใจกลางของสมาพันธรัฐ และเข้ายึดครองเมืองหลวงริชมอนด์
การระดมกำลังพล
ในขณะที่ฝ่ายสมาพันธรัฐกำลังก่อตัวโดยรัฐร่วมจัดตั้ง 7 รัฐ ที่การประชุมเมืองมอนกอเมอร์รี กำลังพลทั้งหมดของกองทัพสหรัฐมีจำนวนราว 16,000 นาย แต่เหล่าผู้ว่าการรัฐทางเหนือก็เริ่มที่จะระดมกำลังพลเรือนติดอาวุธแล้ว สภาคองเกรสของสหพันธรัฐให้อำนาจประเทศที่ตั้งใหม่นี้มีกำลังทหารได้ไม่เกิน 100,000 นาย ซึ่งทางผู้ว่าการรัฐทางใต้ก็ทะยอยส่งมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พอถึงเดือนพฤษภา ปธน.เจฟเฟอร์สัน เดวิสก็กำลังเร่งจะได้ได้กำลังพลถึง 100,000 นาย และสภาคองเกรสสหรัฐก็เร่งระดมพลตอบโต้
ในปีแรกของสงคราม ทั้งสองฝ่ายมีจำนวนอาสาสมัครเกินกว่าที่ตนจะสามารถฝึกและติดอาวุธให้ได้ แต่ความกระตือรือร้นของประชาชนก็มีอยู่ไม่นาน ทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องหันไปพึ่งพาการเกณฑ์ทหาร เพื่อเสริมกำลังของอาสาสมัคร ฝ่ายสมาพันธรัฐออกกฎหมายเรียกเกณฑ์ทหารในเดือนเมษายน ปี 1862 สำหรับชายหนุ่มอายุตั้งแต่ 18 ปี ถึง 35 ปี โดยยกเว้นการเกณฑ์ทหารให้กับผู้คุมทาส เจ้าหน้าที่รัฐบาล และนักเทศน์ สภาคองเกรสของสหรัฐก็ออกกฎหมายอนุญาตให้มีการเรียกเกณฑ์พลเรือนติดอาวุธในมลรัฐ หากว่าจำนวนอาสาสมัครมีไม่ถึงตามที่โควต้ากำหนด ประชากรอพยพชาวยุโรปเข้าร่วมกองทัพฝ่ายสหภาพเป็นจำนวนมาก ทหารอย่างน้อย 177,000 นายเกิดในประเทศเยอรมนี และ 144,000 นายเกิดในไอร์แลนด์
การเรียกเกณฑ์ทหารไม่ได้รับความนิยมทั้งในทางเหนือ และทางใต้ มีการจลาจลต่อต้านการเกณฑ์ทหารครั้งใหญ่ที่เมืองนิวยอร์กในเดือนกรกฎาคม ปี 1863 ในภาคเหนือประมาณว่ามีคนหนีเกณฑ์ทหารถึง 120,000 คน โดยมีจำนวนไม่น้อยหนีขึ้นไปทางแคนาดา นอกจากนี้ยังมีทหารหนีทัพระหว่างสงครามอีกถึง 280,000 นาย ส่วนภาคใต้ก็มีทหารอย่างน้อย 1000,000 นายที่หนีทัพ คิดเป็นจำนวนถึงร้อยละ 10 แต่บางส่วนเป็นการทิ้งหน้าที่ไปโดยไม่ได้รับอนุมัติ เพื่อไปดูและพ่อแม่หรือคนในครอบครัวอื่นๆ แต่ก็กลับมาปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยของตนในภายหลัง ในทางเหนือมีพวกฉวยโอกาส ที่อาสาสมัครเข้าร่วมรบเพียงเพื่อจะเอาโบนัส แล้วก็เปลี่ยนชื่อตัวเพื่อที่จะไปสมัครเข้าประจำการ และรับโบนัสในหน่วยอื่นอีก มีคน 141 คนที่ถูกจับได้ และถูกประหารชีวิต
การสู้รบทางยุทธนาวี
กองทัพเรือขนาดเล็กของสหรัฐขยายตังอย่างรวดเร็วในช่วงความขัดแย้ง จากที่มีเจ้าหน้าที่ประจำการเพียง 6,000 นาย ในปี ค.ศ. 1861 ก็เพิ่มจำนวนเป็น 45,000 นายในปี ค.ศ. 1865 มีเรือ 671 ลำ รวมระวางขับน้ำทั้งสิ้น 510,396 ตัน ภารกิจหลักของทัพเรือคือการปิดล้อมท่าเรือของฝ่ายสมาพันธรัฐ เข้าควบคุมระบบแม่น้ำ ต่อต้านหน่วยจู่โจมของฝ่ายสมาพันธรัฐในทะเล และเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดศึกที่มีความเป็นไปได้กับราชนาวีอังกฤษ เนื่องจากความตึงเครียดทางการทูตใน (Trent Affair) และด้วยความที่การปฏิวัติอุตสาหกรรมในอังกฤษมีพื้นฐานอยู่ที่สิ่งทอ (textile) ประเทศอังกฤษจึงเสียผลประโยชน์จากการปิดล้อมทางทะเลโดยฝ่ายสหภาพอยู่มาก ทำให้มีแรงกดดันจากอุตสาหกรรมสิ่งทอให้เข้าแทรกแทรงความขัดแย้งนี้ อังกฤษจึงมีบทบาทสำคัญในการขนส่งกำลังบำรุงและยุทโธปรณ์ให้กับฝ่ายใต้ ยุทธนาวีที่สำคัญๆส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคตะวันตก เพราะการเข้าควบคุมลำน้ำสายใหญ่ๆในแถบนั้นมีความสำคัญต่อยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือสหรัฐ ที่ต้องการรุกเข้าไปสู่พื้นที่ใจกลางของสมาพันธรัฐ ในภาคตะวันออกกองทัพเรือทำหน้าที่ส่งกำลังบำรุงและเคลื่อนกำลังพลไปในพื้นที่ต่างๆ และในบางกรณีก็ใช้ยิงบอมบาร์ดฐานหรือป้อมปราการของฝ่ายสมาพันธรัฐ
ยุทธวิธีปิดล้อมทางน้ำของฝ่ายสหภาพ
นายพล ได้คิดขึ้นในราวต้นปี 1861 เพื่อให้ชนะสงครามโดยเสียเลือดเนื้อให้น้อยที่สุด ความคิดเห็นสาธารณะต้องการให้กองทัพสหภาพปฏิบัติการโจมตีทันที เพื่อให้ยึด เมืองหลวงของข้าศึกให้เร็วที่สุด แต่สก็อตต์เป็นเพียงนายทหารอาวุโสเพียงไม่กี่คน ที่ตระหนักว่านี่จะเป็นสงครามที่ยืดเยื้อ และเชื่อว่าการโจมตีเศรษฐกิจของฝ่ายสหพันธรัฐโดยการปิดล้อมทางน้ำเป็นวิธีที่ดีกว่า ลินคอล์นนำแผนของสก็อตต์มาปฏิบัติส่วนหนึ่ง แต่ไม่ฟังคำทัดทานของสก็อตต์เกี่ยวกับระยะเวลาประจำการที่สั้นเพียง 90 วัน ของอาสาสมัคร
ในวันที่ 19 เดือนเมษายน ปี ค.ศ. 1861 ลินคอล์นประกาศเริ่มยุทธวิธีปิดล้อมทางน้ำ ซึ่งต้องใช้กำลังทัพเรือตรวจตราชายฝั่งแอตแลนติก และอ่าวเม็กซิโกยาว 3,500 ไมล์ (5,600 กิโลเมตร) ครอบคลุมท่าเรือหลัก 12 ท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองท่าที่คับคั่งอย่างนิวออร์ลีนส์ และโมบิล รัฐแอละแบมา นับว่าเป็นความพยายามปิดล้อมชายฝั่งครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์จนถึงขณะนั้น ในระยะเริ่มต้น กองทัพเรือสหรัฐมีเรือรบประจำการ 42 ลำ แต่ส่วนใหญ่ล้าสมัย และมีเพียง 3 ลำที่เหมาะสมสำหรับภารกิจปิดล้อมทางทะเล เลขาธิการกองทัพเรือ (Gideon Welles) เดินหน้าขยายจำนวนเรือรบอย่างรวดเร็ว และเริ่มโปรเจกต่อเรือขนาดใหญ่ขึ้นทันที มีการขอซื้อเรือพาณิชย์และเรือขนส่งผู้โดยสารของพลเรือน กองทัพเรือได้เรือกำปั่นไฟ เกือบ 80 ลำ และเรือกำปั่นใบ 60 ลำ เพิ่มขึ้นมาในช่วงสิ้นปีแรกของสงคราม พอถึงเดือนพฤศจิกายนปีถัดไป จำนวนเรือกำปั่นไฟของกองทัพเรือสหรัฐก็เพิ่มเป็น 282 ลำ กับเรือกำปั่นใบอีก 102 ลำ และในตอนท้ายของสงครามฝ่ายสหภาพมีเรือประจำการอยู่ทั้งหมดถึง ๖๗๑ ลำ
การดิ้นรนของทัพเรือฝ่ายสมาพันธรัฐ
เรือรบของ |
---|
|
เรือรบของ |
|
เมื่อสงครามกลางเมืองเริ่มต้นขึ้นในเดือนเมษายน 1861 ฝ่ายสมาพันธรัฐอเมริกาแทบไม่มีเรือรบอยู่ในประจำการเลย ความช่วยเหลือส่วนใหญ่ในการส่งกำลังบำรุง และการต่อเรือรบ ล้วนมาจากบริเตนใหญ่ นอกจากนี้ฝ่ายสมาพันธรัฐก็ไม่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากประเทศมหาอำนาจส่วนใหญ่ ปธน.เจฟเฟอร์สัน เดวิส จึงหันไปหาความช่วยเหลือของเอกชน โดยเสนอออกใบสัมปทานสงคราม หรือ เล็ตเตอร์ ออฟ มาร์ก (Letter of Marque) ซึ่งอนุญาตให้เอกชนที่ยอมเอาเรือมาใช้ในภาระกิจหลวงให้ได้รับส่วนแบ่งกำไรจากเรือข้าศึกที่จับได้ ทางกองทัพเรือของสมาพันธรัฐจึงประกอบไปด้วยเรือไปรเวทเทียร์ (privateer) เป็นจำนวนมาก แต่ลินคอล์นไม่ยอมรับว่าฝ่ายสมาพันธรัฐมีความชอบธรรม หรืออำนาจใดๆที่จะให้สัมปทานสงครามกับเอกชน และขู่ที่จะปฏิบัติต่อปฏิบัติการของเอกชนในลักษณะนี้ อย่างการกระทำอันเป็นโจรสลัด แต่เนื่องจากสหรัฐไม่ได้เข้าร่วมลงนามใน ประกาศกรุงปารีส ปี 1856 ว่าด้วยกฎหมายพาณิชนาวี ซึ่งห้ามไม่ให้มีไปรเวทเทียร์ ทางรัฐบาลอังกฤษจึงปฏิเสธไม่ยอมรับประกาศของลินคอล์นว่ามีผลในทางกฎหมายระหว่างประเทศ
ในระยะแรกของสงคราม การปิดล้อมทางทะเลของฝ่ายสหภาพไม่ค่อยได้ผล เพราะกำลังทางเรือมีไม่พอจะไปปิดล้อมชายฝั่งยาวเป็นพันๆไมล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทางฝ่ายใต้จึงสามารถใช้เรือกลไฟที่มีความเร็ว หรือ blockade runners แล่นฝ่าการปิดล้อมไปได้ง่ายๆ ลูกเรือของไปรเวทเทียร์เหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นคนอังกฤษ ซึ่งมีทั้งที่เป็นทหารเรือจากราชนาวีอังกฤษ และที่เป็นพลเรือน ทั้งนี้เป็นเพราะทางฝ่ายสมาพันธรัฐมีจำนวนทหารเรือ กะลาสี หรือต้นหนที่ได้รับการฝึกแล้วไม่เพียงพอจะปฏิบัติการส่งบำรุงเอง ในระยะแรกฝ่ายสมาพันธรัฐจึงพึ่งพาธุรกิจเอกชนทั้งในภาคใต้เองและในอังกฤษเป็นผู้จัดส่งกำลังบำรุง กับทรัพยากรที่ขาดแคลนเกือบทั้งหมด แต่ต่อมากองทัพเรือสมาพันธรัฐเริ่มติดต่อประเทศในยุโรป เพื่อหาเรือเข้าประจำการเอง
เมื่อเรือเร็วหนีการปิดล้อม (blockade runners) ถูกจับได้ ทั้งตัวเรือและสินค้าที่บรรทุกจะถูกศาลสั่งให้ตกเป็นรางวัลของสงคราม (prize of war) และขายเอาเงินมาแจกจ่ายให้กับลูกเรือของฝ่ายสหภาพ ส่วนลูกเรือที่เป็นคนบริติชก็มักจะถูกปล่อยตัว อย่างไรก็ดีเมื่อขนาดของกองทัพเรือฝ่ายเหนือใหญ่ขึ้นในปีหลังๆของสงคราม การแล่นฝ่าการปิดล้อมก็ทำได้ยากขึ้น เรือใหญ่ๆหมดสิทธิที่จะแล่นฝ่าด่านปิดล้อมไปได้ ต้องอาศัยเรือที่ออกแบบมาเพื่อความเร็วโดยเฉพาะเท่านั้น และโอกาสที่จะถูกฝ่ายข้าศึกจับได้เพิ่มเป็นถึง 1 ใน 3 เมื่อสงครามเข้าสู่ปีที่ 1864
การพัฒนาการของกองทัพเรือสมัยใหม่
ภาพการยิงต่อสู้ระหว่างเรือยูเอสเอส มอนิเตอร์ และ ซีเอสเอส เวอร์จิเนีย ใน ถือเป็นการปะทะกันครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเรือรบหุ้มเกราะ ซึ่งเพิ่งเข้ามาแทนที่ เรือรบแนวเส้นประจัญบาน |
ถึงแม้จะด้อยกว่ามากในด้านกำลังทางนาวี แต่กองทัพเรือสมาพันธรัฐก็เข็นเอานวัตกรรมด้านการรบทางน้ำออกมาหลายอย่าง ซึ่งมีทั้งการสร้างและดัดแปลง (Spar Torpedo) และเรือดำนำที่ขับเคลื่อนด้วยมือ ซึ่งออกปฏิบัติการได้สำเร็จแต่กลับมาไม่ถึงฝั่ง เลขาธิการกองทัพเรือสมาพันธรัฐ (Stephen Mallory) ตัดสินใจลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ของเรือรบหุ้มเกราะ เรือรบหุ้มเกราะลำแรกของสงคราม เป็นการเอาเรือเจาะน้ำแข็ง อีน็อค ที่ถูกนายเรือเรือส่วนตัว วี.เอช.ไอวี ยึดมาได้มาปรับปรุงและดัดแปลงติดตั้งเกราะ แล้วเอาเข้าประจำการในชื่อ ซีเอสเอส มานาสซัส (CSS Manassas) แต่ลำที่ฝ่ายสมาพันธรัฐสร้างขึ้นเองลำแรก คือ (CSS Virginia) โดย สตีเฟน มัลลอรี สร้างขึ้นด้วยการไปกู้เอาเครื่องจักรมาจากเรือ ยูเอสเอส เมอรริแม็ค (USS Merrimack) ที่ถูกจม แล้วตั้งชื่อใหม่ให้ว่า ซีเอสเอส เวอร์จิเนีย มันปฏิบัติหน้าที่วันแรกเมื่อ 8 มีนาคม ปี 1862 เรือ เวอร์จิเนีย สามารถจมเรือฝ่ายสหภาพที่เป็นเรือไม้ได้หลายลำในการรบวันแรก ใน แต่ในวันถัดมาก็เจอคู่ปรับสายพันธ์เดียวกัน ได้แก่ เรือ (USS Monitor) เรือรบหุ้มเกราะฝ่ายสหภาพที่สร้างตามนวัตกรรมการออกแบบของ จอห์น เอริคสัน การปะทะกันครั้งแรกของเรือรบหุ้มเกราะในอ่าว เชสะพีค (Chesapeake) กินเวลาสามชั่วโมงและจบลงโดยไม่มีฝ่ายใดเพลี่ยงพล้ำ แต่นับเป็นจุดเริ่มต้นของการมาถึงของเทคโนโลยีของยุทธนาวีในยุคต่อไป
เทคโนโลยีเรือรบหุ้มเกราะเป็นความก้าวหน้าสำคัญในเทคโนโลยีการสงครามทางน้ำ สงครามกลางเมืองสหรัฐพิสูจน์ว่าเรือ ไอรอนแคลด ได้เข้ามาแทนที่ เรือรบแนวเส้นประจัญบาน หรือ ship of the line (of battle) ซึ่งครองความเป็นใหญ่ในสงครามทางทะเลมาตลอดสามศตวรรษ เรือที่ถูกสร้างขึ้นในสงครามกลางเมืองสหรัฐ ยังส่งผลกระทบต่อการสงครามในอีกซีกโลกด้วย ตัวอย่างที่มีชื่อเสียงคือ (CSS Stonewall) ซึ่งต่อขึ้นที่ บอร์โด ประเทศฝรั่งเศส โดยภายหลังถูกขายต่อและส่งมอบให้กับรัฐบาลเมจิของญี่ปุ่น ในชื่อ และมีบทบาทสำคัญในการยุติสงครามโบะชิงในญี่ปุ่น
ผลกระทบทางเศรษฐกิจ และการค้าระหว่างประเทศ
การปิดล้อมทางทะเลโดยฝ่ายเหนือมีประสิทธิภาพมากขึ้น ๆ เมื่อเวลาล่วงไป ผลจากการปิดล้อม ทำให้การส่งออกผลิตภัณฑ์จากฝ้ายของฝ่ายใต้แทบเป็นอัมพาต มูลค่าการส่งออกตกลงถึงร้อยละ 95 เมื่อเทียบกับช่วงก่อนสงคราม นอกจากนี้ยังทำให้เกิดเงินเฟ้ออย่างรุนแรงเพราะความที่ขาดแคลนสินค้า การขาดแคลนขนมปังทำให้มีการก่อจลาจลโดยประชากรผู้หญิง ในเมืองริชมอนด์ เมืองหลวงของสมาพันธรัฐ นอกจากนี้ การปิดกั้นแม่น้ำมิสซิสซิปปีโดยฝ่ายสหภาพ ยังทำให้การขนส่งม้า และปศุสัตว์ใหญ่ ๆ จากเมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ อย่างเท็กซัส และอาร์คันซัส ไปยังเมืองฝั่งตะวันออกของสมาพันธรัฐเป็นไปแทบไม่ได้ จึงกล่าวได้ว่าการปิดล้อมทางน้ำเป็นผลสำเร็จอย่างใหญ่หลวง และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ฝ่ายสมาพันธรัฐแพ้สงคราม
สงครามกลางเมืองสหรัฐเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ จักรวรรดิอังกฤษกำลังเป็นผู้นำการค้าเสรีโลก นักการทูตอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เซอร์ จอห์น เบาว์ริง ได้รับความสำเร็จในการเจรจาเปิดการค้าในประเทศตะวันออกไกล เช่น สยาม และญี่ปุ่น นอกจากนี้ (Richard Cobden) นักธุรกิจ และศาสดาแห่งการค้าเสรีชาวอังกฤษ ก็เป็นผู้ริเริ่มเผยแพร่ปรัชญาในการสร้างสันติระหว่างประเทศโดยการค้าเสรี ดังนั้นเมื่อสงครามกลางเมืองสหรัฐระเบิดขึ้น และนำไปสู่การปิดล้อมทางทะเลที่ตัดเส้นทางการค้าระหว่างอังกฤษ กับฝ่ายสมาพันธรัฐอเมริกา จึงทำให้คอบเดนหนักใจมากในตอนต้น (แต่ภายหลังก็มาหนุนหลังฝ่ายสหภาพ เมื่อแน่ใจว่าเป้าหมายของสงครามคือการเลิกทาส) หลังสงครามจบลงฝ่ายสหรัฐเรียกร้องให้สหราชอาณาจักรจ่ายค่าเสียหาย โดยกล่าวหาว่าอังกฤษไม่ทำตัวเป็นกลางแถมยังแทรกแทรงความขัดแย้งทางการเมืองภายในของตน ในที่สุดรัฐบาลอังกฤษยอมจ่ายค่าเสียหายให้ 15 ล้านเหรียญสหรัฐ และค็อบเดนเป็นปากเสียงสำคัญที่สนับสนุนให้รัฐบาลอังกฤษชดใช้ค่าเสียหาย
เขตสงครามตะวันออก
เขตสงครามตะวันออก เป็นเวทีรบของการทัพสำคัญๆ (major campaigns) ของ - กองทัพใหญ่ฝ่ายสหภาพ โดยเป้าหมายประสงค์หลักของสหภาพ คือ การยึดให้ได้เมืองริชมอนด์ รัฐเวอร์จิเนีย อันเป็นเมืองหลวงฝ่ายสมาพันธรัฐ การทัพเหล่านี้เต็มไปด้วยการล้มลุกคลุกคลาน เพราะต้องเผชิญกับการต่อต้านโดยของฝ่ายสมาพันธรัฐ ซึ่งมีนายพลโรเบิร์ต อี. ลี เป็นผู้บัญชาการ, ประธานาธิบดีลินคอล์นพยายามเสาะหานายพลที่กล้าและสามารถเทียบเคียงกับลีได้ โดยลินคอล์นแต่งตั้งและสับเปลี่ยนเอานายพล , , , , , และ มาเป็นเป็นผู้บัญชาการกองกำลังหลักๆในภาคตะวันออก
กองทัพของฝ่ายสมาพันธรัฐประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ในช่วงต้นๆของสงคราม โดยสามารถผลักกองกำลังฝ่ายสหภาพภายใต้การนำทัพของ พลตรี ให้ถอยร่นได้ใน ณ เมืองมานาสซัส ที่อยู่ห่างจากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ไปเพียง 25 ไมล์ ลินคอล์นเรียกตัว พลตรี จอร์จ บี. แม็คเคลแลน มารับตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการใหญ่ (general-in-chief) ของกองทัพสหภาพทั้งหมด เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1861 แต่เป็นแค่ในช่วงสั้นๆ ก็ถูกถอดให้มาเป็นผู้บัญชาการของสหภาพเพียงอย่างเดียว แมคเคลแลนเป็นนายพลหนุ่มอายุเพียง 34 ปี มีทักษะที่ยอดเยี่ยมในการฝึกทหาร จัดระเบียบ และเตรียมกองทัพ แต่ว่าเป็นผู้บัญชาการทหารที่สุขุมเกินเหตุ และไม่ชอบตัดสินใจทำอะไรเสี่ยง
สงครามเริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจังในปี 1862 ปธน.ลินคอล์นต้องการให้เริ่มปฏิบัติการเชิงรุกโดยเร็วที่สุด แม็คเคลแลนตอบสนองโดยการนำกองทัพแห่งโพโทแม็คเข้าโจมตีเวอร์จิเนีย ใน (Peninsula Campaign) ในฤดูใบไม้ผลิ ปี 1862 โดยทาง ระหว่าง กับแม่น้ำเจมส์ ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของริชมอนด์ กองทัพของแม็คเคลแลนไล่ตามกองทัพของ มาจนถึงปากทางเข้าเวอร์จิเนีย แต่ถูกทัพของจอห์นสโตนตรึงสกัดไว้ได้ ใน (Battle of Seven Pines) จากนั้นนายพล โรเบิร์ต อี. ลี และนายทหารคนสำคัญ - กับ - เอาชนะกองทัพของแม็คเคลแลนได้ใน บังคับให้ฝ่ายสหภาพถอยทัพไปได้
การทัพเวอร์จิเนียเหนือ จบลงในปลายฤดูร้อนด้วยชัยชนะของฝ่ายสมาพันธรัฐใน แม็คเคลแลนแข็งขืนคำสั่งของผู้บัญชาการทัพใหญ่ เฮนรี ฮัลเล็ค ไม่ยอมส่งกองหนุนไปช่วยของ ทำให้ฝ่ายสหภาพแพ้กองทัพของลี แม้ว่าจะมีกำลังรบรวมกันมากกว่าฝ่ายสมาพันธรัฐถึงสองเท่า ผลของความพ่ายแพ้ทำให้ นายพลจอห์น โป๊ป ถูกถอดจากการบังคับบัญชา และกองทัพเวอร์จิเนียถูกยุบไปรวมกับทัพใหญ่ ชัยชนะในศึกบูลรันครั้งที่สอง ทำให้ฝ่ายสมาพันธรัฐฮึกเหิมมาก และเตรียมทัพเพื่อขึ้นโจมตีทางเหนือครั้งแรกทันที โดยในวันที่ 5 กันยายน นายพลลีนำ มีกำลังพล 45,000 นาย ข้ามแม่น้ำโพโทแม็คเข้าสู่แมรีแลนด์ ทางฝ่ายแม็คเคลแลนเมื่อได้คืนกำลังพลมาจากกองทัพของโป๊ปแล้ว ก็ยกทัพใหญ่ของสหภาพ - กองทัพโพโทแม็ค - เข้าสู้รบกับนายพลลี ในศึกแอนตีแทม ใกล้กับเมืองชาร์ปสเบิร์ก รัฐแมรีแลนด์ โดยเป็นการรบกันวันเดียวที่นองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกามาตราบจนทุกวันนี้; แม้แม็คเคลแลนจะพลาดโอกาสที่จะรุกไล่ติดตามเพื่อทำลายกองทัพของลี ศึกแอนตีแทม ก็ถือเป็นชัยชนะของฝ่ายสหภาพ เพราะเป็นยุทธการที่สามารถยับยั้งแผนการบุกขึ้นเหนือของลีเอาไว้ได้ การถอยทัพของลีเปิดโอกาสให้ ปธน. ลินคอล์น และถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนของสงคราม
แม้จะทำให้ลีถอยทัพไปได้ แม็คเคลแลนก็ถูกปลดจากตำแหน่งบัญชาการ เพราะลินคอล์นมองว่าเขาสุขุมเกินไป ทำให้พลาดโอกาสทำลายข้าศึก พลตรี แอมโบรส เบิร์นไซด์ เข้ารับตำแหน่งบัญชาการกองทัพโพโทแม็คแทนที่ แต่เบิร์นไซด์ก็เพลี่ยงพล้ำในฤดูหนาวปีนั้นเอง เมื่อทหารของกองทัพสหภาพกว่า 12,000 คน ถูกฆ่า หรือได้รับบาดเจ็บ ใน เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม จากความพยายามโจมตีโดยเปล่าประโยชน์จากทางด้านหน้าซ้ำๆ ต่อฐานที่มั่นบนเนิน Marye's Heights ของกองทัพฝ่ายใต้ เบิร์นไซด์ถูกปลดและ พลตรี ถูกแต่งตั้งเข้าแทนที่
นายพลฮุกเกอร์บัญชาการกองทัพโพโทแม็คที่มีกำลังรบมากกว่า กองทัพเวอร์จิเนียเหนือถึงกว่าสองเท่า แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะกองทัพของลีได้ ฮุกเกอร์พ่ายแพ้อย่างยับเยินใน เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1863 แต่นายพลลีก็ต้องเสียนายพล สโตนวอลล์ แจ็กสัน ทหารคู่ใจ ซึ่งถูกยิงที่แขน และเสียชีวิตเพราะอาการแทรกซ้อนในเวลาต่อมา ลินคอล์นรับจดหมายขอถอนตัวจากหน้าที่ของฮุกเกอร์ และแทนที่เขาด้วย นายพลจอร์จ มี้ด ในเดือนมิถุนายน; ฝ่ายสมาพันธรัฐตัดสินใจยกทัพบุกขึ้นเหนืออีกครั้ง แต่คราวนี้กองทัพโพโทแม็คของมี้ด สามารถเอาชนะลีได้ในยุทธการเกตตีสเบิร์ก การรบที่เกตตีสเบิร์กเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 1-3 มิถุนายน 1863 โดยกินเวลา 3 วันเต็มๆ และเป็นศึกที่เสียเลือดเนื้อกันมากที่สุดในสงคราม โดยกองทัพของลีมีทหารบาดเจ็บล้มตาย 28,000 นาย (ในขณะที่กองทัพแห่งโพโทแม็คมีจำนวนความสูญเสียอยู่ที่ 23,000)
เกตตีสเบิร์กถือเป็น ในวันที่ 3 กรกฎาคม แสดงถึงจุดพีคของศักยภาพของกำลังการรบฝ่ายใต้ ซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่อาจกลับมามีแนวโน้มที่จะชนะสงครามได้อีก อย่างไรก็ดี นายพลจอร์จ มี้ด ล้มเหลวในการสกัดกั้นการถอยทัพของลี ปล่อยให้ลีหนีไปได้อีกครั้ง ซึ่งทำให้การทัพในฤดูใบไม่ร่วงยังไม่อาจหาข้อสรุปได้ และทำให้ลินคอล์นไม่พอใจ ลินคอล์นเสาะหาผู้นำทัพคนใหม่ ในแนวรบด้านตะวนตกขณะนั้น กองกำลังป้องกันที่มั่นของฝ่ายใต้ที่ วิคสเบิร์ก ยอมจำนนต่อกองทัพปิดล้อมฝ่ายสหภาพ ทำให้ฝ่ายสหภาพสามารถเข้าควบคุมแม่น้ำมิสซิสซิปปีได้ในที่สุด ส่งผลให้ฝ่ายสมาพันธรัฐฝั่งตะวันตกถูกโดดเดี่ยว และให้กำเนิดผู้นำทัพคนใหม่ที่ลินคอล์นต้องการ: นายพลยูลิสซิส เอส. แกรนต์
เขตสงครามตะวันตก
กองกำลังฝ่ายสมาพันธรัฐในเขตสงครามตะวันตกประสบความปราชัยบ่อยครั้ง กองกำลังป้องกันมิสซูรี (Missouri State Guard) ถูกกองทัพฝ่ายเหนือของนายพล ซามูเอล เคอร์ติส ขับออกจากมิสซูรีในตั้งแต่ช่วงต้นสงคราม การโจมตีเมืองโคลัมบัส (รัฐเคนทักกี) ของแม่ทัพฝ่ายสมาพันธรัฐ, เลออนิดัส พอล์ค, ทำให้เคนทักกีเลิกคงทีท่าความเป็นกลาง และกลายเป็นปฏิปักษ์กับฝ่ายใต้ เมืองแนชวิลล์และศูนย์กลางรัฐเคนทักกีตกเป็นของฝ่ายสหภาพตั้งแต่ช่วงต้นปี 1862 ส่งผลให้เกิดความขาดแคลนอาหาร และปศุสัตว์ และความโกลาหล
ฝ่ายสหภาพสามารถเปิดใช้แม่น้ำมิสซิสซิปปีสัญจรลงไปถึงทางใต้ของเทนเนสซี ด้วย และเมืองนิวแมดริด มลรัฐมิสซูรี, และจากนั้นก็ยึดเมืองเมมฟิสต์ รัฐเทนเนสซี ตามลำดับ กองทัพเรือสหภาพสามารถยึดนิวออร์ลีนส์ได้ในเดือนเมษายน 1862 ซึ่งทำให้กองกำลังฝ่ายสหภาพครองมิสซิสซิปปีได้เกือบทั้งหมด มีเพียงเมืองป้อมปราการของรัฐมิสซิสซิปปีเท่านั้นที่ป้องกันมิให้ฝ่ายเหนือเข้าควบคุมแม่น้ำได้ทั้งสาย
นายพล นำฝ่ายสมาพันธรัฐเข้ารุกรานรัฐเคนทักกีครั้งที่สอง แต่จบลงด้วยชัยชนะที่ไม่มีความหมายใน โดยแบร็กก์ต้องหยุดการรุกรานเคนทักกีและถอนกำลัง เพราะไม่มีแรงสนับสนุนจากทางสมาพันธรัฐ การทัพสโตนส์ริเวอร์สิ้นสุดลง เมื่อกองทัพของแบร็กก์พ่ายให้กับ พลตรีวิลเลียม โรสครานส์ในรัฐเทนเนสซี
ฝ่ายสมาพันธรัฐได้ชัยชนะเหนือสหภาพแบบชัดเจน ก็เฉพาะที่เท่านั้น; กองทัพของนายพลแบร็กก์ ที่ได้รับกำลังเสริมจากเวอร์จิเนียภายใต้การนำของพลโท สามารถเอาชนะโรสครานส์ และบังคับให้โรสครานส์ถอยทัพไปชัตตานูกาได้
นักยุทธศาสตร์คนสำคัญของสหภาพในแนวรบตะวันตก คือ ยูลิสซีส เอส. แกรนต์ ผู้ได้รับชัยชนะในหลายสมรภูมิ ทั้งยุทธการที่ฟอร์ทเฮนรี, ยุทธการที่ฟอร์ทโดเนลสัน (เป็นผลให้ฝ่ายสหภาพเข้าควบคุมแม่น้ำเทนเนสซี และแม่น้ำคัมเบอร์แลนด์ได้), , และ ซึ่งเพิ่มความแข็งแกร่งของอำนาจควบคุมแม่น้ำมิซิสซิปปีของฝ่ายสหภาพ แกรนต์เดินทัพเข้ากู้สถานการณ์ของโรสแครนส์ และพิชิตแบร็กก์ลงได้ใน ขับไล่กองกำลังสมาพันธรัฐออกจากเทนเนสซี และเปิดเส้นทางไปสู่แอตแลนตากับใจกลางของฝ่ายสมาพันธรัฐ
เขตสงครามทรานส์-มิสซิสซิปปี
การรบแบบกองโจรในวงกว้าง เป็นลักษณะทั่วไปของพื้นที่ทรานส์-มิสซิสซิปปี เนื่องจากฝ่ายสมาพันธรัฐมีความขาดแคลนกำลังพลและลอจิสติกส์ที่มีความจำเป็นต่อการมีกองกำลังถาวรไว้ต่อสู้กับฝ่ายสหภาพ กองโจรเคลื่อนที่อย่าง ควอนทริลส เรดเดอร์ส (Qualtrill's Raiders) สร้างความพรั่นพรึงในชนบท โดยโจมตีทั้งที่มั่นทหารและที่อยู่อาศัยพลเรือน กลุ่มติดอาวุธ "Sons of Liberty" และ "Order of the American Knights" เข้าทำร้ายประชาชนที่สนับสนุนฝ่ายสหภาพ และทหารที่ไม่มีอาวุธ
ปฏิบัติการทางทหารขนาดเล็กมีขึ้นเป็นหย่อมๆ ทางใต้และทางตะวันตกของมิสซูรี โดยฝ่ายสหภาพซึ่งต้องการจะเข้าควบคุม "" (Indian Territory) และ "อาณาเขตนิวเม็กซิโก" กองกำลังฝ่ายสหภาพขับไล่การเคลื่อนที่เข้าสู่นิวเม็กซิโกของฝ่ายสมาพันธรัฐในปี 1862 รัฐบาลพลัดถิ่นของแอริโซนาถอนตัวเข้ามาอยู่ในเท็กซัส สงครามระหว่างเผ่าชนพื้นเมืองระเบิดขึ้นใน นักรบประมาณ 12,000 คนจากเผ่าอินเดียนต่างๆ เข้าร่วมกับฝ่ายสมาพันธรัฐ ส่วนที่เข้าร่วมกับทางสหภาพมีจำนวนน้อยกว่า นักรบเชโรกีที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ นายพลจัตวา (Stand Watie) นายพลคนสุดท้ายที่ยอมจำนนในสงครามนี้
นายพล ได้รับมอบหมายให้บัญชาการแผนกทรานส์-มิสซิสซิปปี ซึ่งครอบคลุมพื้นที่วงกว้าง (ทั้ง อาร์คันซัส, ลุยเซียนาตะวันตก และเท็กซัส) แต่มีกำลังทหารในบังคับบัญชาแค่ประมาณ 30,000 นาย หลัง และจบลงในเดือนกรกฎาคม ปี 1863 ฝ่ายสหภาพเข้ายึดวิคสเบิร์กและท่าเรือฮัดสันได้ ทำให้หน่วยของนายพลเคอร์บี สมิธ ถูกตัดขาดจากเมืองหลวงที่ริชมอนด์ ต่อมาสมิธได้รับหนังสือแจ้งจาก เจฟเฟอร์สัน เดวิส ว่า จะไม่มีความช่วยเหลือใดๆมาจากฝั่งตะวันออกของแม่น้ำมิสซิสซิปปีอีก แต่แม้จะขัดสนทรัพยากร เคอร์บี สมิธ ก็สะสมอาวุธไว้พอสมควรในคลังแสงที่ไทเลอร์ (Tyler) และใช้ระบบเศรษฐกิจแบบขุนศึก (fiefdom) หาเลี้ยงกองทัพในเท็กซัส ซึ่งรู้จักกันในชื่อ "เคอร์บี สมิธดอม" (Kirby Smithdom) ต่อมาในฤดูใบไม้ผลิ ปี 1864 นายพล ผู้ใต้บังคับบัญชาของสมิธ นำทัพเอาชนะกองทัพสหภาพได้ใน (Red River Campaign) และทำให้เท็กซัสอยู่ในความควบคุมของฝ่ายสมาพันธรัฐไปจนตลอดสงคราม
จุดจบของสงคราม
การเข้ายึดเวอร์จิเนีย
พอเข้าปี ค.ศ. 1864 ลินคอล์นก็มอบอำนาจสั่งการกองทัพทั้งหมดให้กับ จอมพล ยูลิสซีส เอส. แกรนต์ โดยแกรนต์ใช้ (Army of the Potomac) เป็นกองบัญชาการ และให้อำนาจบัญชาการกองกำลังทางแนวรบตะวันตกเกือบทั้งหมดแก่ พลตรี จอมพลแกรนต์มีความเข้าใจคอนเซปต์ของสงครามเบ็ดเสร็จ ทั้งยังเห็นตรงกับลินคอล์น และเชอร์แมนว่า วิธีเดียวที่จะพิชิตฝ่ายสมาพันธรัฐและยุติสงครามได้ ก็คือการทำลายทั้งกองกำลัง และฐานทางเศรษฐกิจของฝ่ายข้าศึกโดยสิ้นเชิง แต่เน้นย้ำว่าเป้าหมายไม่ใช่พลเรือนของฝ่ายตรงข้าม หากแต่เป็นการเข้ายึดเสบียงอาหาร และทำลายบ้าน เรือกสวนไร่นา และทางคมนาคมทางรถไฟ ซึ่งมิฉะนั้นทรัพยากรเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ทางการสงครามโดยฝ่ายกบฏ แกรนต์สร้างยุทธศาสตร์แบบครบวงจรขึ้นเพื่อโจมตีฝ่ายข้าศึกจากหลายทิศทาง นายพล กับ ได้รับคำสั่งให้เคลื่อนพลเข้าประชิด นายพลลี ไม่ไกลจากริชมอนด์, นายพลฟรานซ์ ซีเกล (และต่อมา) ให้เข้าโจมตี เชเนินโดอา วัลเลย์ (Shenandoah Valley), นายพลเชอร์แมนได้รับคำสั่งให้ลงใต้เพื่อเข้ายึดแอตแลนตา และเดินทัพต่อไปจนถึงแอตแลนติก, ส่วนนายพล กับวิลเลียม แอเวอเรล มีหน้าที่ปฏิบัติการณ์โจมตีเส้นทางรถไฟลำเลียงในเวสต์เวอร์จิเนีย, และสุดท้ายให้พลตรีเนธานเนียล พี. แบงค์ส เข้ายึดเมืองโมบิลรัฐแอละแบมา
กองทัพของแกรนต์เริ่ม โดยมีเป้าประสงค์ที่จะดึงนายพลลีมาป้องกันเมืองริชมอนด์ เพื่อที่จะตรึงทัพใหญ่ของลีเอาไว้และทำลายเสีย โดยเบื้องต้นกองกำลังสหภาพพยายามเดินทัพผ่านลีไปให้ได้ ทำให้ต้องเข้าสู้รบกันในหลายยุทธการ ยุทธการที่มีชื่อเสียง ได้แก่ , และ การสู้รบในสมรภูมิเหล่านี้ทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องสูญเสียอย่างหนัก และบังคับให้กองทัพสมาพัธรัฐของนายพลลี ต้องถอยร่นหลายครั้ง นายพลพยายามโอบปีกกองทัพของลีจากทางทิศใต้ เพื่อเข้าตีเมืองหลวง แต่เดินทัพชักช้าทำให้ล้มเหลว ถูกกองทัพหนุนของนายพลโบรีการ์ดตรึงสกัดไว้ที่คุ้งน้ำบริเวณ ความล้มเหลวอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ ก็ไม่ต่างกับภายใต้การนำของผู้บัญชาการคนก่อน ๆ แต่นายพลแกรนต์ต่างออกไปเพราะเดินหน้าสู้ต่อไปแทนที่จะหนี ความมุ่งมั่นของแกรนต์สามารถกดดันกองทัพเวอร์จิเนียเหนือของลี ให้ถอยกลับไปเมืองหลวงริชอมนด์ได้ และในระหว่างที่ลีกำลังเตรียมการป้องกันริชมอนด์ แกรนต์ก็เปลี่ยนเส้นทางลงใต้แบบไม่มีใครคาดคิด ข้ามแม่น้ำเจมส์ และเริ่ม ซึ่งต้องสู้รบกันแบบสงครามสนามเพลาะ เป็นเวลานานกว่าเก้าเดือน
แกรนต์พบทหารคู่ใจ คือ นายพล (Phillip Sheridan) ผู้ที่ก้าวร้าวเฉียบขาดพอที่จะได้ชัยใน (Valley Campaigns of 1864) เชอริดันในทีแรกถูกรุกต้องถอยร่นใน ภายใต้การคุมทัพของนายพล อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐในรัฐบาลของเจมส์ บูแคนัน ยุทธการที่นิวมาร์เก็ตเป็นชัยชนะครั้งสุดท้ายของฝ่ายสมาพันธรัฐในสงครามนี้ เชอริดันใช้ความอุตสาหะเพิ่ม และสามารถเอาชนะพลตรี ได้ในหลายสมรภูมิ ซึ่งรวมถึงการรบครั้งตัดสินใน (Battle of Cedar Creek) จากนั้นเชอริดันก็เข้าทำลายฐานผลิตทางการเกษตรใน เชนันโดอา วัลเลย์ อันเป็นยุทธวิธีแบบเดียวกับที่นายพลเชอร์แมนใช้ในจอร์เจีย
ทางฝ่ายนายพลเชอร์แมนก็เคลื่อนทัพจาก ชัตตานูกา (Chattanooga) ในเทนเนสซีลงสู่แอตแลนตา ระหว่างทางก็ตีทัพสมาพันธรัฐของนายพล กับ แตกกระเจิงไป เมืองแอตแลนตาแตกในวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 1864 (ซึ่งเป็นการรับประกันว่าลินคอล์นจะได้รับเลือกเป็น ปธน. อีกสมัย) ทัพของจอห์น ฮู้ด ออกจากพื้นที่แอตแลนตาแล้วเข้าคุกคามเส้นทางส่งกำลังบำรุงของเชอร์แมน จากนั้นก็รุกเข้าเทนเนสซีเพื่อตลบหลังใน ผู้บัญชาการทัพสหภาพ พลตรีตีทัพของฮู้ดแตกพ่าย จนหมดขีดความสามารถในการรบ ใน
ทัพของเชอร์แมนเคลื่อนออกจากแอตแลนตาโดยไม่มีจุดหมายที่แน่ชัด ทำลายไร่ฟาร์มในจอร์เจียไปถึง 1 ใน 5 ในการ "" (March to the Sea) ที่เลื่องชื่อในเรื่องของความไร้ปราณีในการปฏิบัติการ เชอร์แมนมาถึงฝั่งแอตแลนติกที่ ซาวันนาห์ มลรัฐจอร์เจีย ในเดือนธันวาคมปี 1864 กองทัพของเชอร์แมนพ่วงเอาทาสผิวดำที่ได้รับอิสรภาพแล้วเป็นพัน ๆ คนติดมาด้วย ไม่มีการสู้รบอย่างสลักสำคัญในระหว่างการเดินทัพ จากนั้นเชอร์แมนก็เปลี่ยนทางขึ้นสู่เหนือผ่านเซาท์แคโรไลนา และนอร์ทแคโรไลนา จนไปบรรจบกับแนวทัพของสมาพันธรัฐที่เวอร์จิเนีย
กองทัพของลีมีกำลังรบเบาบางลงไปมาก ทั้งจากความสูญเสียในการรบ และการหนีทัพ ความพยายามของฝ่ายสมาพันธรัฐครั้งสุดท้ายที่จะขับไล่กองกำลังของฝ่ายสหภาพที่ ปีเตอร์สเบิร์ก ล้มเหลวใน เมื่อวันที่ 1 เมษายน ทำให้ฝ่ายสหภาพเข้าล้อมพื้นที่รอบ ริชมอนด์-ปีเตอร์สเบิร์ก ไว้ได้โดยรอบ ตัดขาดเมืองหลวงริชมอนด์ออกจากสมาพันธรัฐอย่างสิ้นเชิง นายพลลีเห็นว่าเมืองหลวงจะเสียแก่ข้าศึกเสียแล้ว ก็ตัดสินใจส่งจดหมายไปแจ้ง ปธน. เจฟเฟอร์สัน เดวิส ให้อพยพคนออกจากเมือง มีการจลาจลเผาทรัพย์สินต่างๆในเมืองริชมอนด์ เมื่อกองพลที่ 25 ของสหภาพเดินทางมาถึงไฟก็ไหม้อาคารต่างๆเสียหายเป็นอันมาก ส่วนหน่วยรบที่เหลือของสมาพันธรัฐก็ถูกตีแตกใน (Battle of Sayler's Creek)
ฝ่ายสมาพันธรัฐยอมจำนน
นายพลโรเบิร์ต อี. ลี ได้รับสารจากนายพลแกรนต์ขอให้ยอมจำนนเสีย ลียังพยายามสู้ต่อ และพยายามจะฝ่ากองกำลังของเชอริแดนที่ปิดถนนใกล้กับ ไว้ แต่เมื่อพบว่าทางเลือกเดียวที่เหลือคือต้องรบแบบกองโจรในป่า ลีจึงตัดสินใจยอมวางอาวุธ แล้วส่งสารถึงแกรนต์กองทัพเวอร์จิเนียเหนือว่าขอยอมจำนน สงครามกลางเมืองอเมริกาเป็นอันสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 9 เมษายน ค.ศ. 1865 ณ บ้านของ วิลเมอร์ แม็คลีน (McLean House) กองกำลังสมาพันธรัฐที่ยังไม่ยอมทิ้งอาวุธ ก็ทยอยกันยอมจำนนเมื่อข่าวการยอมแพ้ของนายพลลีทราบไปถึง
ในวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 1865 ประธานาธิบดีลินคอล์น ถูกนาย จอห์น วิลค์ส บูธ นักแสดงที่ฝักใฝ่ฝ่ายสมาพันธรัฐลอบยิง ลินคอล์นเสียชีวิตในรุ่งเช้าวันถัดไป และ แอนดรูว์ จอห์นสัน กลายเป็นประธานาธิบดีแทนที่ ต่อมาในวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 1865 นายพล ยอมจำนนต่อนายพลเชอร์แมน พร้อมทหารกองทัพเทนเนสซีเกือบ 90,000 นาย ที่เบนเนตเพลส ใกล้กับเดอรัม (Durham) นอร์ทแคโรไลนา ประธานาธิบดีจอห์นสันออกแถลงการณ์ ประกาศจุดสิ้นสุดของการก่อความไม่สงบ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ. 1865 ประธานาธิบดี เจฟเฟอร์สัน เดวิส ถูกจับกุมในวันถัดมา กำลังรบในแผนกทรานส-มิสซิสซิปปี (Trans-Mississippi) ของเคอร์บี สมิธ ยอมจำนนในวันที่ 2 มิถุนายน และ ในวันที่ 23 มิถุนายน ผู้นำชาโรกีอินเดียน (Stand Watie) กลายเป็นนายพลฝ่ายสมาพันธรัฐคนสุดท้ายที่ยอมจำนนพร้อมกองกำลังของตน
ชัยชนะของฝ่ายสหภาพ และผลพวงของสงคราม
ผลกระทบในด้านต่าง ๆ ของสงครามกลางเมืองอเมริกายังเป็นที่ถกเถียงกัน แต่ผลทางเศรษฐกิจนั้นค่อนข้างชัด เกษตรกรรมฝ้ายของรัฐทางใต้พังพินาศ ภาคใต้ของสหรัฐกลายเป็นพื้นที่ยากจนไปอีกเกือบร้อยปี จากที่เคยร่ำรวยมาก่อน ในขณะที่ภาคเหนือและตะวันตกร่ำรวยขึ้น อำนาจทางการเมืองของนายทาส และเศรษฐีจากภาคใต้ยุติลง อาจจะกล่าวได้ว่า สหรัฐในช่วงก่อนสงคราม เป็นประเทศที่ฝ่ายเหนือและใต้แข่งขันกันเอาวิสัยทัศน์ และความเชื่อของตนเข้ากำหนดทิศทางของประเทศ แต่ผลของสงครามกลางเมืองทำให้การแข่งขันในทางวิสัยทัศน์ยุติลง นักประวัติศาสตร์ เจมส์ แม็คเฟอร์สันกล่าวว่า "ชัยชนะของสหภาพทำลายวิสัยทัศน์ชาวใต้เกี่ยวกับอเมริกา และเป็นการรับประกันว่าวิสัยทัศน์ของฝ่ายเหนือ จะกลายมาเป็นวิสัยทัศน์ของคนอเมริกัน [ทั้งประเทศ]" ด้วยเหตุนี้จึงไม่เป็นการเกินไปที่จะกล่าวว่า ประเทศสหรัฐในปัจจุบันเป็นผลผลิตของสงครามกลางเมือง
ปี | สหภาพ | สมาพันธรัฐ | |
---|---|---|---|
ประชากร | 1860 | 22,100,000 (71%) | 9,100,000 (29%) |
1864 | 28,800,000 (90%) | 3,000,000 (10%) | |
เสรี | 1860 | 21,700,000 (81%) | 5,600,000 (19%) |
ทาส | 1860 | 400,000 (11%) | 3,500,000 (89%) |
1864 | น้อยมาก | 1,900,000 | |
ทหาร | 1860–64 | 2,100,000 (67%) | 1,064,000 (33%) |
ทางรถไฟ (ไมล์) | 1860 | 21,800 (71%) | 8,800 (29%) |
1864 | 29,100 (98%) | น้อยมาก | |
สินค้าอุตสาหกรรม | 1860 | 90% | 10% |
1864 | 98% | น้อยมาก | |
การผลิตอาวุธ | 1860 | 97% | 3% |
1864 | 98% | น้อยมาก | |
ม้วนฝ้าย | 1860 | น้อยมาก | 4,500,000 |
1864 | 300,000 | น้อยมาก | |
การส่งออก | 1860 | 30% | 70% |
1864 | 98% | น้อยมาก |
นักประวัติศาสตร์บางท่านเชื่อว่าชัยชนะของลินคอล์นในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ปี 1864 เหนือแม็คเคลแลน (อดีตนายพลแห่งกองทัพโพโทแม็ค ซึ่งถูกถอดออกจากหน้าที่หลังยุทธการที่แอนตีแทม แล้วหันมาเล่นการเมือง) เป็นเหตุการณ์ที่ยุติความไม่แน่นอนทางการเมืองของฝ่ายสหภาพ และดับความหวังของฝ่ายใต้ที่คิดว่าจะได้เอกราชหากลินคอล์นไม่ได้เป็น ปธน. สมัยที่สอง ณ จุดนั้นลินคอล์นได้รับการสนับสนุนเต็มที่จากทั้งฝ่ายรีพับลิกัน, ฝ่ายเดโมแครตสายสงคราม, รัฐแนวตะเข็บชายแดน, ทาสที่ได้รับการปลดปล่อย และ การไม่เข้าแทรกแทรงของฝ่ายบริเตน และฝรั่งเศส
นักประวัติศาสตร์อีกฝ่ายโต้เถียงว่าฝ่ายใต้ไม่มีหวังจะชนะมาตั้งแต่ต้น เพราะศักยภาพในการทำสงครามต่างกันมาก โดยเฉพาะความได้เปรียบของฝ่ายเหนือในระยะยาว กล่าวคือยิ่งสงครามยิ่งยืดเยื้อ ความได้เปรียบของฝ่ายเหนือยิ่งแสดงออกมาชัด นักประวัติศาสตร์สงคราม (Shelby Foote) เปรียบเทียบว่า ฝ่ายเหนือเหมือนคนที่สู้โดยเอามือหนึ่งไพล่หลังไว้ และจะเอาจริงเมื่อไหร่ก็ได้ หากถูกฝ่ายสมาพันธรัฐกดดันจนถึงจุดหนึ่ง (ซึ่งอยู่อีกไกลมาก) และตลอดสงครามนี้ ฝ่ายใต้ไม่เคยบังคับให้ฝ่ายเหนือเอาจริงได้ด้วยซ้ำ ตนจึงแน่ใจว่าฝ่ายใต้ไม่เคยมีโอกาสที่จะชนะในสงครามนี้
ราคาของสงคราม
สงครามกลางเมืองทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายไม่น้อยกว่า 1,030,000 ราย (คิดเป็นร้อยละสามของประชากรทั้งหมด) รวมเป็นทหารที่เสียชีวิต 620,000 นาย โดยสองในสามเป็นเพราะโรคระบาดและการติดเชื้อ และมีพลเรือย 50,000 คนเสียชีวิต นักประวัติศาสตร์บางรายเชื่อว่าตัวเลขดังกล่าวเป็นการประเมินที่ต่ำเกินไป และความเป็นจริงยอดทหารเสียชีวิตอาจสูงถึง 750,000 - 850,000 นาย หรือกว่าสองเท่าของทหารอเมริกันที่ตายในสงครามโลกครั้งที่สอง สงครามกลางเมืองจึงนับว่าพร่าชีวิตคนอเมริกันไปมากกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตในสงครามครั้งอื่นๆรวมกัน
การสำรวจสำมะโนครัวปี 1860 พบว่าร้อยละ 6 ของชายอเมริกันผิวขาวในรัฐทางเหนือ อายุระหว่าง 13 - 43 ปี ตายในสงคราม ในภาคใต้อัตรานี้สูงถึงร้อยละ 18 ทหารประมาณ 56,000 คนตายในค่ายนักโทษระหว่างสงคราม และผู้ที่พิการสูญเสียแขนขามีประมาณ 60,000 คน
จากการสำรวจบันทึกโดย นักประวัติศาสตร์ ฟ็อกซ์ วิลเลียม ฝ่ายเหนือมีทหารตายรวม 359,528 นาย คิดเป็นร้อยละ 15 ของทหารกว่า 2 ล้านนายที่เข้ารับใช้ชาติ โดยในจำนวนนี้:
- 110,070 ตายในสนามรบ (67,000) หรือเนื่อจากพิษบาดแผล (43,000)
- 199,790 ตายเพราะโรคภัยไข้เจ็บ (ร้อยละ 75 เกี่ยวข้องกับสงคราม)
- 24,866 ตายในค่ายกักกันนักโทษของฝ่ายสมาพันธรัฐ
- 15,741 ตายเพราะสาเหตุอื่นๆ
อย่างไรก็ดีนี่เป็นจำนวนที่ต่ำกว่าจำนวนผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิตอย่างเป็นทางการที่ประเมินโดย United States Nation Park Service:
สหภาพ: 853,838
- 110,100 ตายในสนามรบ
- 224,580 ตายเพราะโรค
- 275,154 บาดเจ็บในการปฏิบัติหน้าที่
- 211,411 ถูกจับ (รวมถึง 30,192 นาย ที่ตายในฐานะเชลยสงคราม)
สมาพันธรัฐอเมริกา: 914,660
- 94,000 ตายในสนามรบ
- 164,000 ตายเพราะโรค
- 194,026 บาดเจ็บในการปฏิบัติหน้าที่
- 462,634 ถูกจับ (รวมถึง 31,000 นาย ที่ตายในฐานะเชลยสงคราม)
การเลิกทาส
การบูรณะหลังสงคราม
ผลกระทบทางเทคโนโลยีของสงคราม
อนุสรณ์ และการรำลึกถึง
การอ้างถึงในงานทางศิลปะและวัฒนธรรม
หมายเหตุ
- ถูกยิงเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ. 1865
- จำนวนทหารทั้งหมดที่ถูกรับใช้
- "Union population 1864" aggregates 1860 population, average annual immigration 1855–1864, and population governed formerly by CSA per Kenneth Martis source. Contrabands and after the Emancipation Proclamation freedmen, migrating into Union control on the coasts and to the advancing armies, and natural increase are excluded.
- "Slave 1864, CSA" aggregates 1860 slave census of Virginia, North Carolina, South Carolina, Georgia and Texas. It omits losses from contraband and after the Emancipation Proclamation, freedmen migrating to the Union controlled coastal ports and those joining advancing Union armies, especially in the Mississippi Valley.
อ้างอิง
- "The Belligerent Rights of the Rebels at an End. All Nations Warned Against Harboring Their Privateers. If They Do Their Ships Will be Excluded from Our Ports. Restoration of Law in the State of Virginia. The Machinery of Government to be Put in Motion There". The New York Times. . Associated Press. May 10, 1865.
- "Facts". National Park Service.
- "Size of the Union Army in the American Civil War": Of which 131,000 were in the Navy and Marines, 140,000 were garrison troops and home defense militia, and 427,000 were in the field army.
- Long, E. B. The Civil War Day by Day: An Almanac, 1861–1865. Garden City, NY: Doubleday, 1971. OCLC 68283123. p. 705.
- "The war of the rebellion: a compilation of the official records of the Union and Confederate armies; Series 4 – Volume 2", United States. War Dept 1900.
- Fox, William F. Regimental losses in the American Civil War (1889)
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-06. สืบค้นเมื่อ 2015-05-03.
- John W. Chambers, II, ed. in chief, The Oxford Companion to American Military History. Oxford University Press, 1999, . P. 849.>
- Time Life Books; 1st edition (1987), ASIN B000LF840C [1]
- Howard Jones, Abraham Lincoln and a New Birth of Freedom: The Union and Slavery in the Diplomacy of the Civil War (1999) p. 154.
- Frank J. Williams, "Doing Less and Doing More: The President and the Proclamation—Legally, Militarily and Politically," in Harold Holzer, ed. The Emancipation Proclamation (2006) pp. 74–5.
- Huddleston 2002, p. 3.
- Paul Boyer; และคณะ (2010). The Enduring Vision, Volume I: To 1877. Cengage Learning. p. 343.
- Laurence F. Jones; Edward C. Olson (1996). Political Science Research: A Handbook of Scope and Methods. HarperCollins College Publishers. p. 143. ISBN .
Then, in the buildup to the Civil War, large numbers of Americans began thinking of themselves as something other than American, for example, southerners.
- Catton 1960, p. 10.
- Coates, Ta-Nehisi (22 June 2015). "What This Cruel War Was Over". The Atlantic. สืบค้นเมื่อ 21 December 2016.
- Catton 1960, pp. 7–8.
- U.S. Constitution, Art.IV, sec. 2, Cl.3
- Arrington, Benjamin T. "Industry and Economy during the Civil War". National Park Service (ภาษาอังกฤษ).
- PRIGG V. PENNSYLVANIA, 41 U. S. 539 :: Volume 41 :: 1842 :: US Supreme Court Cases from Justia & Oyez
- Baker, H. Robert. "Personal Liberty Laws". ESSENTIAL CIVIL WAR CURRICULUM (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 14 September 2017.
- Murray, Williamson; Wayne, Hsieh (2016). A savage War: A Military History of the Civil War. Princetn Univ. Press.
- Catton 1960, p. 11.
- "Missouri Compromise" (ภาษาอังกฤษ). History Channel. สืบค้นเมื่อ 14 September 2017.
- "Wilmot Proviso" (ภาษาอังกฤษ). History Channel. สืบค้นเมื่อ 14 September 2017.
- James Munro McPherson, Drawn With the Sword: Reflections on the American Civil War, Oxford University Press, 1997, p. 29.
- Uncle Tom's Cabin by Harriet Beecher Stowe, Vintage Books, Modern Library Edition, 1991, p. 150 ("The most dreadful part of slavery, to my mind, is its outrages of feelings and affections—the separating of families, for example.")
- Jordan-Lake, Joy (2005). Whitewashing Uncle Tom's Cabin: Nineteenth-Century Women Novelists Respond to Stowe. Vanderbilt University Press.
- Catton 1960, p. 13.
- Dunne & Regan 2015, pp. 30–31.
- Watts, Dale (1995). ""How Bloody Was Bleeding Kansas? Political Killings in Kansas territory, 1854–1861"". Kansas History: A Journal of the Central Plains. 18 (2): 116–29.
- Finkelman, Paul (2007). "Scott v. Sandford: The Court's Most Dreadful Case and How it Changed History" (PDF). Chicago-Kent Law Review. 82 (3): 41.
- Dred Scott v. Sandford, 60 U.S. 393 (1857)
- Address to the people of Illinois, in Collected Works of Abraham Lincoln, I, p. 315
- House Divided Speech, Lincoln Home (last visited Sep 15, 2017)
- Faragher, John Mack; และคณะ (2005). Out of Many: A History of the American People (Revised Printing (4th Ed) ed.). Englewood Cliffs, N.J: Prentice Hall. p. 388. ISBN .
- "Party Divisions of the House of Representatives". United States House of Representatives. สืบค้นเมื่อ 15 กันยายน 2017.
- Dunn & Regan 2015, p. 36.
- Catton 1960, p. 19.
- "Date of Secession Related to 1860 Black Population", America's Civil War
- McPherson 1988, p. 24.
- [http://www.presidency.ucsb.edu/ws/index.php?pid=29501 Buchanan, James,Fourth Annual Message to Congress on the State of the Union December 3, 1860]
- Rhodes, James Ford. History of the United States from the compromise of 1850 to the McKinley-Bryan campaign of 1896 Volume III (1920) pp. 41–66
- "First Inaugural Address of Abraham Lincoln (อังกฤษ)". The Avalon Project.
- ibid.
- Potter & Fehrenbacher 1976, p. 572–73.
- Catton 1960, pp. 25–26.
- Allan Nevins, The War for the Union: The Improvised War 1861–1862 (1959), pp. 74–75.
- McClintock, Russell (1959). Lincoln and the Decision for War: The Northern Response to Secession. Chapel Hill: The University of North Carolina Press. p. 254-74. ISBN .
- Rhodes, James Ford. History of the United States from the compromise of 1850 to the McKinley-Bryan campaign of 1896 Volume III (1920) pp. 291–92
- McPherson 1988, p. 274.
- Howard Louis Conard (1901). Encyclopedia of the History of Missouri. p. 45.
- Catton 1960, p. 26.
- McPherson 1988, pp. 276–307.
- Catton 1960, p. 33.
- Albert Bernhardt Faust, The German Element in the United States (1909) v. 1, p. 523 online
- Judith Lee Hallock, "The Role of the Community in Civil War Desertion." Civil War History (1983) 29#2 pp. 123–34. online.
- Bearman, Peter S. (1991). ""Desertion as localism: Army unit solidarity and group norms in the U.S. Civil War"". Social Forces. 70 (2): 321–42.
- Tucker, Pierpaoli & White 2010, p. 462.
- Welles 1865, p. 152.
- Bourne 1961, p. 623-25.
- Sven Beckert, "Emancipation and empire: Reconstructing the worldwide web of cotton production in the age of the American Civil War." American Historical Review 109#5 (2004): 1405–1438. in JSTOR; Beckert, Empire of cotton: A new history of global capitalism (2014) pp 241–73.
- Appletons' annual cyclopaedia and register of important events of the year: 1862. New York: D. Appleton & Company. 1863. p. 604.
- "U.S. Navy, Maritime History of Massachusetts--A National Register of Historic Places Travel Itinerary". nps.gov. สืบค้นเมื่อ 31 October 2015.
- Bulloch 1884, p. 2.
- Scharf 1894, p. 53-54.
- "American Civil War: The Blockade and the War at Sea". historyofwar.org. สืบค้นเมื่อ 31 October 2015.
- Nelson 2005, p. 345.
- Sondhaus, Naval Warfare 1815–1914, p. 85.
- McPherson 1988, pp. 424–27.
- McPherson 1988, pp. 538–44.
- McPherson 1988, pp. 528–33.
- McPherson 1988, pp. 557–558.
- McPherson 1988, pp. 571–74.
- McPherson 1988, pp. 639–45.
- Noyalas, Jonathan A. (2010). Stonewall Jackson's 1862 Valley Campaign. Arcadia Publishing. p. 93.
- McPherson 1988, pp. 653–663.
- McPherson 1988, p. 664.
- McPherson 1988, pp. 404–05.
- McPherson 1988, pp. 418–20.
- McPherson 1988, pp. 480–83.
- McPherson 1988, pp. 405–13.
- McPherson 1988, pp. 637–38.
- McPherson 1988, pp. 677–80.
- Keegan 2009, p. 270.
- Keegan 2009, p. 100.
- James B. Martin, Third War: Irregular Warfare on the Western Border 1861–1865 (Combat Studies Institute Leavenworth Paper series, number 23, 2012)
- Michael Fellman, Inside War: The Guerrilla Conflict in Missouri during the Civil War (1989). แค่เฉพาะในมิสซูรีก็มีการเข้าห้ำหั่นกันกว่า 1,000 ครั้ง ระหว่างหน่วยรบประจำการ กับหน่วยรบกองโจรที่สนับสนุนสมาพันธรัฐ ซึ่งมีเป็นจำนวนมากในดินแดนตะวันตกที่เพิ่งได้รับการบุกเบิกใหม่
- Bohl, Sarah (2004). "A War on Civilians: Order Number 11 and the Evacuation of Western Missouri". Prologue. 36 (1): 44–51.
- Graves, William H. (1991). "Indian Soldiers for the Gray Army: Confederate Recruitment in Indian Territory". Chronicles of Oklahoma. 69 (2): 134–145.
- Neet, J. Frederick; Jr (1996). "Stand Watie: Confederate General in the Cherokee Nation". Great Plains Journal. 6 (1): 36–51.
- Davis 1999, p. 94.
- Maritime Activity Reports (1942), Marine News, vol. 29
- U.S. Grant (1990). Personal Memoirs of U.S. Grant; Selected Letters. Library of America. p. 247. ISBN .
- Field, Ron (2013). Petersburg 1864–65: The Longest Siege. Osprey Publishing. p. 6.[]
- McPherson 1988, pp. 723–24.
- . American Battlefield Protection Program. National Park Service. c. 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-11-11. สืบค้นเมื่อ December 12, 2016.
- McPherson 1988, pp. 778–79.
- McPherson 1988, pp. 812–15.
- McPherson 1988, pp. 825–30.
- McPherson 1988, pp. 846.
- McPherson 1988, pp. 847–48.
- McPherson 1988, pp. 848.
- McPherson 1988, pp. 849.
- . February 7, 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-02-07. สืบค้นเมื่อ 2017-09-21. Web. Retrieved February 6, 2016.
- Morris, John Wesley (1977). Ghost towns of Oklahoma. University of Oklahoma Press. pp. 68–69. ISBN .
- McPherson 1988, p. 861.
- ความยาวเส้นทางรถไฟมาจาก: Chauncey Depew (ed.), One Hundred Years of American Commerce 1795–1895, p. 111; สำหรับจำนวนประชากร ดู "1860 U.S. Census" (PDF).; Carter, Susan B., บ.ก. (2006). The Historical Statistics of the United States: Millennial Edition (5 vols).
- Martis, Kenneth C., "The Historical Atlas of the Congresses of the Confederate States of America: 1861–1865" Simon & Schuster (1994) ISBN p. 27. At the beginning of 1865, the Confederacy controlled one-third of its congressional districts, which were apportioned by population. The major slave-populations found in Louisiana, Mississippi, Tennessee, and Alabama were effectively under Union control by the end of 1864.
- Digital History Reader, U.S. Railroad Construction, 1860–1880 Virginia Tech, Retrieved August 21, 2012. "Total Union railroad miles" aggregates existing track reported 1860 @ 21800 plus new construction 1860–1864 @ 5000, plus southern railroads administered by USMRR @ 2300.
บรรณานุกรม
- Ahlstrom, Sydney E. (1972). A Religious History of the American People. New Haven, Connecticut: Yale University Press. ISBN .
- Anderson, Bern (1989). By Sea and By River: The naval history of the Civil War. New York, New York: Da Capo Press. ISBN .[]
- Asante, Molefi Kete; Mazama, Ama (2004). Encyclopedia of Black Studies. Thousand Oaks, California: SAGE Publications. ISBN .
- Beringer, Richard E., Archer Jones, and Herman Hattaway (1986). Why the South Lost the Civil War, influential analysis of factors; an abridged version is The Elements of Confederate Defeat: Nationalism, War Aims, and Religion (1988)
- Bestor, Arthur (1964). "The American Civil War as a Constitutional Crisis". . 69 (2): 327–52. doi:10.2307/1844986. JSTOR 1844986.
- Canney, Donald L. (1998). Lincoln's Navy: The Ships, Men and Organization, 1861–65. Annapolis, Maryland: Naval Institute Press. ISBN .
- Chambers, John W.; Anderson, Fred (1999). The Oxford Companion to American Military History. Oxford, New York: Oxford University Press. ISBN .
- Dinçaslan, M. Bahadırhan (2022). Amerikan İç Savaşı El Kitabı (US Civil War Handbook). Ankara, Turkey: Altınordu Yayınları Press. ISBN .
- (1995). Lincoln. New York: Simon & Schuster. ISBN .
- Dunkerly, Robert M. (2015). To the Bitter End: Appomattox, Bennett Place and the Surrenders of the Confederacy. El Dorado Hills, CA: Savas Beatie. ISBN .
- (1981). Politics and Ideology in the Age of the Civil War. Oxford, New York: Oxford University Press. ISBN . สืบค้นเมื่อ April 20, 2012.
- Foner, Eric (2010). The Fiery Trial: Abraham Lincoln and American Slavery. New York: W. W. Norton & Co. ISBN .
- Foote, Shelby (1974). . New York: Vintage Books. ISBN .
- Frank, Joseph Allan; Reaves, George A. (2003). Seeing the Elephant: Raw Recruits at the Battle of Shiloh. Urbana, Illinois: University of Illinois Press. ISBN .
- Fuller, Howard J. (2008). Clad in Iron: The American Civil War and the Challenge of British Naval Power. Annapolis, Maryland: Naval Institute Press. ISBN .
- Gallagher, Gary W. (1999). The Confederate War. Cambridge, Massachusetts: Harvard University Press. ISBN .
- (2011). The Union War. Cambridge, Massachusetts: Harvard University Press. ISBN .
- Gara, Larry (1964). "The Fugitive Slave Law: A Double Paradox," in , Essays on the Civil War and Reconstruction, New York: Holt, Rinehart and Winston, 1970 (originally published in Civil War History, Vol. 10, No. 3, September 1964, pp. 229–240).
- Hacker, J. David (December 2011). "A Census-Based Count of the Civil War Dead". Civil War History. 57 (4): 307–48. doi:10.1353/cwh.2011.0061. PMID 22512048.
- Heidler, David S.; Heidler, Jeanne T.; Coles, David J. (2002). Encyclopedia of the American Civil War: A Political, Social, and Military History. Santa Barbara, California: ABC-CLIO. ISBN .
- Herring, George C. (2011). From Colony to Superpower: U.S. Foreign Relations since 1776. Oxford, New York: Oxford University Press. ISBN .[]
- (1938). "The Tariff Issue on the Eve of the Civil War". . 44 (1): 50–55. doi:10.2307/1840850. JSTOR 1840850.
- ; Gabbard, Sara Vaughn, บ.ก. (2007). Lincoln and Freedom: Slavery, Emancipation, and the Thirteenth Amendment. Carbondale, Illinois: Southern Illinois University Press. ISBN .
- Hunt, Jeffrey Wm (2015). The Last Battle of the Civil War: Palmetto Ranch. Austin, TX: University of Texas Press. ISBN .
- Johannsen, Robert W. (1973). Stephen A. Douglas. New York: Oxford University Press. ISBN .
- Johnson, Timothy D. (1998). Winfield Scott: The Quest for Military Glory. Lawrence, Kansas: University Press of Kansas. ISBN .
- Jones, Howard (2002). Crucible of Power: A History of American Foreign Relations to 1913. Wilmington, Delaware: Rowman & Littlefield. ISBN .
- Jones, Terry L. (2011). Historical Dictionary of the Civil War. Scarecrow Press. ISBN .
- Keegan, John (2009). The American Civil War: A Military History. New York: Alfred A. Knopf. ISBN .
- Krannawitter, Thomas L. (2008). Vindicating Lincoln: defending the politics of our greatest president. Lanham, Maryland: Rowman & Littlefield Publishers. ISBN .
- Long, E.B. (1971). The Civil War Day by Day: An Almanac, 1861–1865. Garden City, NY: Doubleday. OCLC 68283123.
- McPherson, James M. (1988). . Oxford, New York: Oxford University Press. ISBN .
- McPherson, James M. (1997). For Cause and Comrades: Why Men Fought in the Civil War. Oxford, New York: Oxford University Press. ISBN .
- (2007). This Mighty Scourge: Perspectives on the Civil War. Oxford, New York: Oxford University Press. ISBN .
- Mendelsohn, Adam (2012). "Samuel and Saul Isaac: International Jewish Arms Dealers, Blockade Runners, and Civil War Profiteers" (PDF). Journal of the Southern Jewish Historical Society. Southern Jewish Historical Society. 15: 41–79. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-10-09.
- Murray, Williamson; Bernstein, Alvin; Knox, MacGregor (1996). The Making of Strategy: Rulers, States, and War. Cabmbridge, New York: Cambridge University Press. ISBN .
- (1993). Confederate Bastille: Jefferson Davis and Civil Liberties. Milwaukee, Wisconsin: Marquette University Press. ISBN .
- Neff, Stephen C. (2010). Justice in Blue and Gray: A Legal History of the Civil War. Cambridge, MA: Harvard University Press. ISBN .
</ref>
- Nelson, James L. (2005). Reign of Iron: The Story of the First Battling Ironclads, the Monitor and the Merrimack. New York: HarperCollins. ISBN .
- . , an 8-volume set (1947–1971). the most detailed political, economic and military narrative; by Pulitzer Prize-winner
- 1. Fruits of Manifest Destiny, 1847–1852 online; 2. A House Dividing, 1852–1857; 3. Douglas, Buchanan, and Party Chaos, 1857–1859; 4. Prologue to Civil War, 1859–1861; vols 5–8 have the series title War for the Union; 5. The Improvised War, 1861–1862; 6. online; War Becomes Revolution, 1862–1863; 7. The Organized War, 1863–1864; 8. The Organized War to Victory, 1864–1865
- Olsen, Christopher J. (2002). Political Culture and Secession in Mississippi: Masculinity, Honor, and the Antiparty Tradition, 1830–1860. Oxford, New York: Oxford University Press. ISBN .
- Potter, David M. (1962b). "The Historian's Use of Nationalism and Vice Versa". . 67 (4): 924–50. doi:10.2307/1845246. JSTOR 1845246.
- Potter, David M.; Fehrenbacher, Don E. (1976). The Impending Crisis, 1848–1861. New York: Harper & Row. ISBN .
- Richter, William L. (2009). The A to Z of the Civil War and Reconstruction. Lanham: Scarecrow Press. ISBN .
- Russell, Robert R. (1966). "Constitutional Doctrines with Regard to Slavery in Territories". . 32 (4): 466–86. doi:10.2307/2204926. JSTOR 2204926.
- Sheehan-Dean, Aaron. A Companion to the U.S. Civil War 2 vol. (April 2014) Wiley-Blackwell, New York ISBN . 1232pp; 64 Topical chapters by scholars and experts; emphasis on historiography.
- (1990). America in 1857: A Nation on the Brink. Oxford, New York: Oxford University Press. ISBN .
- (1962). The Confederate Navy. Doubleday & Company, Inc.
- ; Clipson, William J. (2001). The Naval Institute Historical Atlas of the U.S. Navy. Naval Institute Press. ISBN .
- Thornton, Mark; Ekelund, Robert Burton (2004). Tariffs, Blockades, and Inflation: The Economics of the Civil War. Rowman & Littlefield.
- Tucker, Spencer C.; Pierpaoli, Paul G.; White, William E. (2010). The Civil War Naval Encyclopedia. Santa Barbara, California: ABC-CLIO. ISBN .
- (2008). Disunion!: The Coming of the American Civil War, 1789–1859. Chapel Hill, North Carolina: University of North Carolina Press. ISBN .
- Vinovskis, Maris (1990). Toward a Social History of the American Civil War: Exploratory Essays. Cambridge, England: Cambridge University Press. ISBN .
- Ward, Geoffrey R. (1990). The Civil War: An Illustrated History. New York: Alfred A. Knopf. ISBN .
- Weeks, William E. (2013). The New Cambridge History of American Foreign Relations. Cambridge, New York: Cambridge University Press. ISBN .
- Weigley, Frank Russell (2004). A Great Civil War: A Military and Political History, 1861–1865. Bloomington, Indiana: Indiana University Press. ISBN .
- (1865). Secretary of the Navy's Report. Vol. 37–38. American Seamen's Friend Society.
- Winters, John D. (1963). The Civil War in Louisiana. Baton Rouge, Louisiana: . ISBN .
- Wise, Stephen R. (1991). Lifeline of the Confederacy: Blockade Running During the Civil War. University of South Carolina Press. ISBN . Borrow book at: archive.org
- Woodworth, Steven E. (1996). The American Civil War: A Handbook of Literature and Research. Wesport, Connecticut: Greenwood Press. ISBN .
ดูเพิ่ม
- (1960). The Civil War. New York: American Heritage Distributed by Houghton Mifflin. ISBN .
- (1983). Stand in the Day of Battle: The Imperiled Union: 1861–1865. Garden City, New York: Doubleday. ISBN .
- Donald, David; Baker, Jean H.; Holt, Michael F. (2001). The Civil War and Reconstruction. New York: W. W. Norton & Company. ISBN .
- Davis, William C. (2003). Look Away!: A History of the Confederate States of America. New York: Free Press. ISBN .
- (1981). Slavery, Law, and Politics: The Dred Scott Case in Historical Perspective. Oxford, New York: Oxford University Press. ISBN .
- Fellman, Michael; ; Sunderland, Daniel E. (2007). This Terrible War: The Civil War and its Aftermath (2nd ed.). New York: Pearson. ISBN .
- Green, Fletcher M. (2008). Constitutional Development in the South Atlantic States, 1776–1860: A Study in the Evolution of Democracy. Chapel Hill, North Carolina: University of North Carolina Press. ISBN .
- (2009). Lincoln: A Very Short Introduction. Oxford, New York: Oxford University Press. ISBN .
- Guelzo, Allen C. (2012). Fateful Lightning: A New History of the Civil War and Reconstruction. Oxford, New York: Oxford University Press. ISBN .
- Holt, Michael F. (2005). The Fate of Their Country: Politicians, Slavery Extension, and the Coming of the Civil War. New York: Hill and Wang. ISBN .
- Huddleston, John (2002). Killing Ground: The Civil War and the Changing American Landscape. Baltimore, Maryland: Johns Hopkins University Press.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
lingkkhamphasa inbthkhwamni miiwihphuxanaelaphurwmaekikhbthkhwamsuksaephimetimodysadwk enuxngcakwikiphiediyphasaithyyngimmibthkhwamdngklaw krann khwrribsrangepnbthkhwamodyerwthisud sngkhramklangemuxngxemrika xngkvs American Civil War 12 emsayn kh s 1861 9 phvsphakhm kh s 1865 epnsngkhramklangemuxngsungekidkhuninshrth rahwangpikhristskrach 1861 thung 1865 odymimulehtuaehngkarsurbmacakkhxotaeyngthiyudeyuxekiywkbkarthuxkhrxngthas rahwangfaychatiniymshphaphsungihptiyanwacaphkditxrththrrmnuyshrthfayhnung kbklumaebngaeykdinaednxxkepnsmaphnthrthsungsnbsnunsiththikhxngmlrthinkarkhngiwsungsthabnthasxikfayhnung sngkhramklangemuxngxemrikatamekhmnalika cakrupbnsud yuththkarthiekttisebirk punihykhxngrxyexk cxhn thidbxlaehngfayshphaph echlysukfaysmaphnthrth sakemuxngrichmxnd rthewxrcieniy wnthi12 emsayn kh s 1861 9 phvsphakhm kh s 1865 tamsnthisyyasngbsuk sthanthishrth mhasmuthraextaelntikphlchna yubsmaphnthrthshrththarngkarelikkarerimtnsmyburnakarxnumtiaelakarihstyabninkhusngkhram shrth smaphnthrth faysmaphnthrth phubngkhbbychaaelaphunaxbrahm linkhxln X winfild exs aehnkhxkh yulissis exs aekrnth edwid ci faraktecfefxrsn edwis orebirt xi likalng2 200 000 nay 698 000 nay n cudsungsud 750 000 1 000 000 nay 360 000 nay n cudsungsud khwamsuyesiyesiychiwitinhnathi 140 414 nay esiychiwitinthikhumkhngkhxngsmaphnthrthxemrika raw 25 000 nay esiychiwitdwyehtuphlxun 224 097 nay idrbbadecb 281 881 nay esiychiwitrwmaelw 364 511 nayesiychiwitinhnathi 72 524 nay esiychiwitinthikhumkhngkhxngshrth raw 30 000 nay esiychiwitdwyehtuphlxun 59 297 nay rwmesiychiwitthngsin 133 821 nay idrbbadecb 194 026 naybthkhwamnixangxingkhristskrach khristthswrrs khriststwrrs sungepnsarasakhykhxngenuxha inbrrda 34 mlrthkhxngshrthineduxnkumphaphnth kh s 1861 ecdrththasthangitkhxngpraethsprakasaeyktwxxkcakshrthephuxtngepn smaphnthrthxemrika the Confederate States of America hrux fayit faysmaphnthrthetibotcnmirthekharwm 11 mlrth odyrthbalshrthimekhyihkarrbrxngthangkarthutaekfaysmaphnthrth echnediywkbpraethsxunthukpraeths aemshrachxanackraelafrngesscaihsthanphaphkhusngkhramaeksmaphnthrth swnmlrththiyngphkditxshrth eriykwa shphaph Union hrux fayehnux sungrwmthungrthtamaenwchayaednthiyngthuxwakarmithasepnsingchxbdwykdhmaydwy sngkhramerimkhunemuxwnthi 12 emsayn kh s 1861 emuxkxngthphsmaphnthrthocmtithitngthharshrththifxrtsmethxrinesathaekhorilna prathanathibdilinkhxlntxbsnxngodyeriykradmphlxasasmkhrcakaetlarth cnekidkraaeskhwamepnchatiniymkhuninphakhehnuxkhunephiyngchwkhamkhun karepidchaksngkhramaebngaeykdinaedn kratunihrthtidaenwchayaednxiksirth idaek ewxrcieniy ethnenssi xarkhnsx aelanxrthaekhorilna prakasaeyktwephim fayshphaphkhwbkhumphunthirthchayaednidinchwngtnsngkhramaelaerimyuththwithipidlxmthangthaeltxfaysmaphnthrth sngkhramthikhadknwacayutilngodyerwklbsxekhayudeyux emuxthphkhxngshphaphephliyngphlain aelakarsurbinekhtsngkhramtawnxxkepidchakdwykhwamidepriybkhxngfaysmaphnthrth sungsamarthskdknkhwamphyayamkhxngshphaphinkarbukyudrichmxnd rthewxrcieniy xnepnemuxnghlwngkhxngsmaphnthrthidhlaykhrng khwamsaercnithaihfayithukehim aelatdsinicbukkhunehnuxinplayhnarxnpi kh s 1862 aethlngcak Peninsula Campaign sinsudlng ineduxnknyayn kh s 1862 fayshphaphktngtwtid aelasamarthhyudkarrukkhubkhxngsmaphnthrthidinyuththkarthiaexntiaethm Antietam sungthaihshrachxanackrepliynicimekhaaethrkaesnginsngkhramkhwamkhdaeyngphayinni hlngcakidchychnathangyuththwithithiaexntiaethmimkiwn linkhxlnkprakaselikthas aelaklayepncudepliynkhxngsngkhram inpi kh s 1863 karbukkhunehnuxkhrngthisxngkhxngnayphlsmaphnthrth orebirt xi li yutilngdwykhwamprachy n yuththkarthiekttisebirk swninaenwrbdantawntknn fayshphaphsamarthekhakhwbkhumaemnamississippiid hlng Shiloh aelakarlxmwikhsebirk Vicksburg sungepnphlihfaysmaphnthrththukaebngxxktrngklangaelakxngthphthukthalayipepnxnmak dwykhwamsaercinekhtsngkhramtawntk yulissis exs aekrnth cungidrbxanacbngkhbbychakxngthphthnghmdkhxngfayshphaphinpi kh s 1864 cxmphlaekrnthekhacdokhrngsrangkxngthphaelayuththwithikarrbesiyihm ephuxihkxngthphkhxng aelaaemthphkhnxun samarthocmtismaphnthrthidcakthukthisthang nxkcakniyngephimkhwamekhmngwdinkarpidlxmthangthael aekrnthnakarthphphakhphundinephuxekhayudrichmxnd odyphyayamtrungthphkhxngnayphlliexaiwpxngknemuxnghlwngkhxngfaysmaphnthrth aetaelwepliynthangedinthphephuxippidlxmpietxrsebirk aelathalaykxngkalngsmaphnthrththiehluxkhxngliekuxbthnghmd aekrnthmxbxanacihechxraemnekhayudemuxngaextaelntaaelaekhluxnthphipsuthael odymiepahmayephuxthalaysatharnupophkhkhxngsmaphnthrthxyangebdesrc karsurbthisakhykhrngsudthay khux karpidlxmpietxrsebirk kxngthphkhxnglitdsinicthingpietxrsebirkinplayeduxnminakhm kh s 1865 aelaimsamarthfuntwidxik sngphlihnayphlorebirt xi li yxmcanntxcxmphlaekrnth n emuxwnthi 9 emsayn kh s 1865 karsinsudkhxngsngkhramnaipsukaraekikhephimetimrththrrmnuykhrngthi 14 sungrbrxngsiththikhxngphlemuxngthicaidrbkarptibtixyangesmxphakhthwthngshrth sngkhramklangemuxngxemrikanbepnsngkhramyukhxutsahkrrmthiaethcringkhrngaerk khxngolk odymikarichthangrthif othrelkh eruxklif aelaxawuthsungphlitkhunepncanwnmakephuxsngesrimwtthuwisythangkarthhar rupaebbkhxngsngkhramebdesrc sungnayphlechxraemnphthnakhuninrthcxreciy aelakarsngkhramsnamephlaarxbpietxrsebirk epnyuththwithithangthharthiekidkhunkxnsngkhramolkkhrngthihnunginthwipyuorp sngkhramkhrngniyngepnsngkhramthinxngeluxdthisudinprawtisastrshrth sungsngphlihthharesiychiwitkwa 620 000 nay aelaphleruxnesiychiwitxikimthrabcanwn nkprawtisastr cxhn hdedilstn praeminyxdphuesiychiwitwa phlemuxngchayrthfayehnuxxayurahwang 20 45 piesiychiwitiprxyla 10 aelaphlemuxngchayrthfayitxayurahwang 18 40 piesiychiwitiprxyla 30 chykhxngfayehnuxhmaythungcudcbkhxngsmaphnthrthaelakarthuxkhrxngthasinshrth aelaesrimxanacihaekrthbalklang aetpyhathangsngkhm karemuxng esrsthkicaelasiphiwxnenuxngmacaksngkhram yngkhngmixiththiphlxyuiptlxd sungdaeninipcnthungpi kh s 1877 saehtukhxngkhwamkhdaeyng aelachnwnsngkhramsaehtukhxngsngkhramekidcakkhwamaetktangrahwangrthaetlarthinshrth sungmirupaebbaelawithichiwitkhwamepnxyuaetktangknmak klawkhux rththangitmirabbesrsthkicthiphungphakarichaerngnganthasinkarekstrkrrmkhnadihy aelamiphlemuxngswnmakepnkhnchatiphnthaexngokl aesksxn thinbthuxnikayopraetsaetnth aelaphudphasaxngkvsepnhlk nxkcaknikaremuxngaelarabbesrsthkicphayinrthyngthukkhwbkhumodykhnrwythithuxkhrxngthas rabbkhwamkhidcungepnipinthangxnurksniym aelachatiphnthuniym odyyudmninxtlksnkhwamepn chawit Southerner makkwakhwamepnxemrikn inthangklbkn rththangtxnehnuxepnrthxutsahkrrmthimirabbesrsthkicaebbkartlad imphungphaaerngnganthasmaknk aelamiprachakrcakhlayechuxchatiinyuorpxphyphekhamaihmxyutlxdewla thaihepnsngkhmhlakechuxchatiaelawthnthrrm mirabbkhwamkhidthikawhnamakkwa emuxxbrahm linkhxlnsungmiaenwkhidimpranipranxmkbsthabnthasxyangchdecn idrbeluxkihepnprathanathibdiaehngshrthaebbthwmthnin thaihprachakrphiwkhawin 11 rththangtxnitimphxicxyangying aelarusukwakaraeyktwepnxisraepnthangeluxkediywthicarksasthabnthasiwid enuxngcakehnwaphwktnimmiphuaethnxyuelyinsphakhxngekrs cninthisudkrwmknaeyktwxxkipcdtngrthbalihminnamwasmaphnthrthxemrika emuxwnthi 10 kumphaphnth kh s 1861 karkdkhiaelaichaerngnganthas efredxrikh dklas chawxemriknphiwdathimibthbathsakhyinkartxsuihmikarelikthas khwamkhdaeynginpraedneruxngkarmiaelaichaerngnganthas thithwikhwamrunaerngkhuninchwngthswrrsthi 1850 epnsaehtuihyprakarhnung thithaihxemrikathukaeykxxkepnsxngpraeths aetedimthinnkhnxemriknthixasyinrththangtxnehnuxchwngtnstwrrsthi 19 swnihykmiidmikhwamrusukepnxkhtitxkarmithas aelainmummxngkhxngphwkthitxtansthabnthasexng praedneruxngkarmithaskthukcakdxyuinbribththiwamnepnkhwamchwraythilasmy aelakhdaeyngkbhlkkarkhxngethann aeminswnkhxngrthbalklangexng rththrrmnuyshrthinkhnannkmibthbyytirbrxngchdecnwathasthihlbhnicatxngthuksngkhunecakhxng aelakhxngekrskxxkkdhmayillathasthihlbhni Fugitive Slave Act ephuxyunynsiththidngklawmatngaetpi kh s 1793 odykahndothscakhuksahrbphuthiihkhwamchwyehluxaekthasthihlbhni yuththwithihlkthifaytxtansthabnthasichcungennthikarkkknsthabnthasihxyuaetinphakhit odyxxkkdhmayinradbmlrthlngothskarkrathaxnepnkarhnwngehniywhruxtidtamthasthihlbhni ephuximihmikarcbthasthihnimaidklbipepnthasxik echn kdhmayephuxkarelikthasxyangkhxyepnkhxyipkhxngmlrthephnsilwaeniy thiaekikhinpi kh s 1826 sungmiwtthuprasngkhephuxhyudkarkhyaytwkhxngwngcrkhathas aelaplxyihkhxy lasmycnsuyphnthuipexng aetrththangitthiyngichaerngnganthasehnwawithikarnilaemidsiththitamrththrrmnuykhxngtn aelaepnkarmungthalayesrsthkickhxngrththangitthikalngetibotxyangrwderw ephraakhwamtxngkarnaekhaphlitphnthcakfaycakxemrikainphakhphunyuorpthimisungmak ehlarththangitmxngwahakimmiaerngnganthas tnkimxacaekhngkhnkbxutsahkrrmsingthxphafaythikalngetibodxyangrwderwinrththangtxnehnux aelainyuorpid naythascakrththangitcungphyayamichsrrphwithithngthangkaremuxngaelathangkdhmay ekhakhdkhwangnoybaykhwbkhumsthabnthaskhxngrththangehnux inpi kh s 1837 thashyingphiwdathiecakhxngephingesiychiwitip chux markaert mxraekn yayphumilaenacakrthaemriaelndipyngephnsilwaeniy aelathukcbodynklathas slavecatcher chux exdewird prikk Edward Prigg nayprikkthukcbkumthanlaemidkdhmaykhxngrthephnsilwaeniy aelathukphiphaksawamikhwamphid caelycungxuththrnipyngsalsungsudshrth inpraednthiwakdhmayaekikh pi kh s 1826 khxngrthephnsilwaeniykhdtx fugitive slave clause tamrththrrmnuyshrth matra 4 khxthi 2 wrrkhsam aelakhdhruxaeyngtxkdhmayinradbshphnthrththimiladbskdisungkwa salsungsudshrthphiphaksa inkhdi prikk kb mlrthephnsilwaeniy Prigg v Pennsylvania pi kh s 1842 wakdhmaykhxngephnsilwaeniykhdtxrththrrmnuytamthiphurxngxang enuxngcakptiesthsiththikhxngnaythastamkdhmayillathassunghlbhnithicatidtamexathaskhxngtnkhun brrdamlrthplxdaerngnganthas txbotkhaphiphaksakhdi prikk dwykarxxkkdhmayesriphaphswnbukhkhl personal liberty laws praephthtang khun ephuxhamimihecahnathiphurksakdhmay krathakarid thiepnkarridrxnesriphaphswnbukhkhl echn karkhdkhwangkarhlbhnikhxngthas hruxkareluxkptibtikbniokrimwacaepnthashruxim aetrththangitkotaeyngwakdhmayesriphaphswnbukhkhlphwkni epnkarichxanackhxngrthephuxridrxnsiththiin thrphysin khxngexkchn pyhakarphnwkdinaedn aelakarpranipranxm pi 1850 khxesnxihkhyayesnaebngekhtrthesri rththas tam xxkipthangtawntk thukesnxkhuninrahwangkarprasysphakhxngekrs wadwyinpi kh s 1845 aelathukykkhunxikkhrngrahwangchwngwikvtkaraeykdinaedn pi kh s 1860 inkarpranipranxmkhritetnedn karkhyaytwxyangrwderwmakkhxngdinaedninxantikhxngshrth rahwangkarprakasxisrphaphcnthungchwngsngkhramklangemuxng epnpccythikxihekidkhwamkhdaeyng rahwangkhtiniymthisnbsnunsthabnthas aelakhtiniymthisnbsnunaephndinthiplxdthas free soil inkhrungaerkkhxngstwrrsthi 19 shrthidthidinephimkhunepnethatwphayinrayaewlasn thngcakkarsux karecrca aelakarsngkhram erimcakkaridrboxnphunthiluyesiynamacaknopeliyninpi kh s 1803 txmakarxxkesiyngih sungprakastwepnxisrphaphcakemksiokin pi 1836 ekhamaepnswnhnungkhxngshrthin pi kh s 1845 klaypnchnwnkxihekidsngkhramemksiok xemrika inrahwangpi kh s 1846 1848 insngkhramdngklaw epnphlihshrthidphnwkdinaednihm ephimkhunxik aetkarkhyaydinaednxyangtxenuxngkkxihekidpyhakhdaeyngimrucb ineruxngkhwamchxbdwykdhmaykhxngkarmithasindinaednthithukphnwkekhama sungthuxepnpraednthisngphlkrathbodytrngtxthisthangthangesrsthkicinphunthiihm odykxnhnani pi kh s 1820 Missouri Compromise tklnghamkarkhyaytwkhxngsthabnthasipinphunthitxnehnuxkhxngphunthirboxnhluysesiynathiyngimidcdtngepnekhtpkkhrxng ephuxaelkepliynkbkaryxmihmikarsthapnamissurikhunepnrththikarmithasepnsingthukkdhmay sahrbkrniphiphathinphunthixnphnwkekhamaihmhlngsngkhramemksiok xemrika mikaresnx Wilmot Proviso khun odyenguxnikhnitxngkarihdinaednihmthiphnwkekhamaepndinaednthiplxdcaksthabnthas aetinkhnannnkkaremuxngcakfayitkhrxngthinngmakkwainwuthispha enguxnikhwilmxthcungthukskdknaelaidrbkarohwtihtkip karpranipranxmekidkhuninpi kh s 1850 odymikaraekikh rthbyytiillathashlbhni ihekhmngwdkhunipxik ephuxchdechykbkaryxmihrthaekhlifxreniythirbekhamaihmepnrthplxdthas mikarkahndothskbphurksakdhmayinmlrthid thiimyxmptibtitamaelabngkhbichkdhmayni dngnnsahrbrththangfayehnuxaelw kdhmayillathashlbhnichbbaekikhpi 1850 cungminywaprachachnxemriknthw ipkmihnathitxngihkhwamchwyehluxnklathashlbhnicakthangit khwamrusuktxtansthabnthasincitickhnxemrikncungephimkhunepnwngkwang miphuekharwmkarekhluxnihwinekhruxkhaythangrthifitdinkhxngkhbwnkarelikthasephimkhunxyangtxenuxng aeminthangwrrnkrrmexng nganpraphnthxyang krathxmnxykhxnglungthxm Uncle Tom s Cabin khxngaeheriyt biechxr sotwkmungocmtiphlwtxnchwraykhxngsthabnthasthikhxyaeyksmachikinkhrxbkhrwxxkcakknkrathxmnxykhxnglungthxm klayepnhnngsuxkhaydimakepnprawtikarn mitiphimphthwolkkwa 1 5 lanelm aetkhwamsaercxyanglnhlamnithukmxngwaepnkarocmtiekiyrtiyskhxngchawrththangit thaihekidkraaestxbotxyangephdrxncakfaythisnbsnunsthabnthas cnthungkhnadwamiwrrnkrrmaenw aexnti thxm hruxaenwsnbsnunsthabnthas xxkmaaekhng phwkthashlbhniplxdphyinaednaehngesri phaphprakxb ody aehmaemt billings in krathxmnxykhxnglungthxm phimphkhrngaerk inphaphaesdng cxrc aehris exlisa aehri aela khunnay smith hlngcakhlbhniipsuxisrphaphkdhmayaekhnss enbraska aemprachakrswnihykhxngshrth sungxasykracuktwxyuinphunthithangtxnehnux caimehndwykbkarkhngiwsungsthabnthas aetkaraethrkaethrngodytrngcakrthsphaihmikarykelikhruxephiyngaetcakdkarkhyaytwkhxngsthabnthasimwainphunthiidkhxngshrth kyngepneruxngthilaexiydxxnxyangying enuxngcakaenwkhidthangkdhmayrththrrmnuyinkhnannyngimmibthkhumkhrxnghameluxkptibtitxprachachnxemrikndwyehtuphlthangsiphiw hruxsasna aelayngkhngthuxwaaetlarthmixanaccakahndsiththihnathi sungrwmthungsiththieluxktng khxngphlemuxnginrthxyangirkid aenwkhidhnungthiyxmrbxyangkwangkhwangkhux karthuxwapraedneruxngsthabnthasepneruxngkhxngxanacxthipitykhxngpwngchn popular sovereignty makkwathicaepnkaremuxnginrthspha aelakhnthxngthinyxmmisiththicaohwtesiyngkahndexaexnginphunthithitnxasyhruxthxngthisungtnekhaipbukebik aenwkhideruxngxthipitypwngchnnithuksxdekhaipinnoybaykhxngrthbalklang thisnbsnunkarkhyaykartngrkrakkhxngprachakrekhainphunthithiyngimidrbkarbukebikinthistawntk twxyangthisakhy khux Kansas Nebraska pi 1854 sungrangody wuthismachik kdhmaychbbnimiwtthuprasngkhcaihkhnekhaipcbcxngphunthithakintamaenwthangrthifkhampraethsthikalngkxsrang odyphnwkexaaenwkhideruxngxthipitykhxngpwngchniw aetklbepnwanaipsukarnxngeluxdthiruckkninchux Bleeding Kansas emuxnkbukebikxudmkarn aephndinesri free soilers ekhapathakbnkbukebikthisnbsnunsthabnthascakrthmissuriiklekhiyng sungaehknekhamainaekhnssephiyngephuxthicaxxkesiynglngmtirbrththrrmnuykhxngrth karichkhwamrunaerngdngklawekidkhunxyunanhlaypi thaihmiphuesiychiwitxyangnxyhksibkhn aelaxacthungsxngrxykhnphayinaekhsameduxnaerk salsungsudekhaaethrkaesng khaphiphaksakhdi edrd skxtt aenwkhideruxngkarkahndkhwamchxbdwykdhmaykhxngsthabnthasodythangxthipitypwngchnidrbkarptiesthcakfaytulakarsungsud Supreme Court of the United States inpi kh s 1857 inkhaphiphaksakhdi Dred Scott v Sandford tulakarhwhnasal Roger B Taney phiphaksawa immibthbyytihruxhlkkdhmayidinshrth thicahammiihnasthasphahruxtidtamthaskhxngtn ekhaipindinaednbukebikihmkhxngpraeths odytulakarthxniyehnwa khnniokrthibrrphburusthuksuxkhayekhamainpraethsniinthanathas imwacayngpnthasxyu hruxidrbxisraaelwkdi imxacmithanaepnprachachnxemriknid aelayxmimmixanacthicaepnocthkfxngkhdiid insalshphnthrth federal courts aelarthbalshphnthrthyxmimmixanacid thicaxxkkdhmaykhwbkhumkarmithasindinaednkhxngshphnthrth thiidrbmahlngkarkxtngpraethsshrth nxkcaknienuxhaintxnhnungkhxngkhaphiphaksaprakaswa phwkniokr epnphwkthithukthuxwaepnmnusyinxndbthidxykwa maepnewlakwahnungstwrrs cungyxmepnkarimehmaasminthangid thicanaphwknimaepriybethiybkbkhnphiwkhaw imwacainthangkhwamsmphnththangsngkhm hruxinthangkaremuxng aelatachnkwaxyangikllib cnthungkhnadwaphwkniimmisiththiid thikhnphiwkhawcaepncatxngekharph aelaphwkniokrcungxacldthanalngmaepnthasephuxpraoychnkhxngkhnkhaw odychxbdwykhwamyutithrrm aelaodychxbdwykdhmay Dred Scott v Sandford 60 U S 393 1857 tulakarhwhnasalaehngsalsungsudaehngshrth phuekhiynkhaphiphaksakhdi edrd skxtwuthismachik cxhn ec khritetnedn khaphiphakasakhdi edrd skxtt Dred Scott thukwiphakswicarnxyangrunaerng thngodysux aelankkaremuxngfayehnuxsungthuxwakhaphiphaksanikhdtxhlkesriphaphtamrththrrmnuy xbrahm linkhxln txbotkhaphiphaksaniinkhaprasy khrw eruxn ihn aetk aeyk kn exng khrw eruxn nn ca tng xyu im id House Divided Against Itself Cannot Stand khxngtnthirthxilinxys inpiediywkn odyetuxnthungphykhxngkhaphiphaksa Dred Scott thicaepliynxemrikathngpraethsihklayepndinaednthikarmithasepneruxngchxbdwykdhmay aelathanyngthanaywaxemrikacaimaebngaeyktlxdip aetmichatakrrmthicatxngepliynipinthangidthanghnung sunghakimichwakarmithascaklayepneruxngthukkdhmaythngpraeths ktxngepnwakarmithascatxngimmixyuxiktxip nxkcaknikhaphiphaksaedrd skxt yngmiswnphlkdnihkhbwnkarnkelikthasptibtikarkawrawkhunipxik xyangechn krninkelikthas cxhn brawn thiphyayamtidxawuthihkbthasphiwdaephuxihkxclaclthi harepxrs efxrri Harper s Ferry ewxrcieniy ineduxntulakhm kh s 1859 kareluxktngprathanathibdi kbwikvtikaraeykdinaedn kareluxktngprathanathibdishrthpi kh s 1860 ph s 2403 mikhuninwnthi 6 phvscikayn aelaepnehtukarnsakhythiphlkdnshrthekhasusngkhramklangemuxng prathanathibdi ecms buaekhnn sungdarngtaaehnngxyuinkhnann epnchawxemriknthangtxnehnuxthimikhwamkhidehnekhakhangfayit prathanathibdibuaekhnnmiswnekiywkhxngodytrnginkarthaihenuxkhaphiphaksakhdi edrd skxt xxkmakwanginlksnaepnkhunkbnaythasechnnn odybuaekhnnepnkhnekhiyncdhmaychkcungihtulakarsmthbaehngsalsungsudshrth orebirt ekriy Robert Grier ohwtrwmkbfayesiyngkhangmakinkhnasalih skxtt thasphiwdaaephkhdi ephuxihsalekhiynkhaphiphaksaptiesthxanackhxngrthbalklanginpraednthiekiywkbkhwamchxbdwykdhmaykhxngsthabnthasaebbeddkhad karekhakddntulakarinkhdi edrd skxtt khxng pthn buaekhnnklayepneruxngxuxchaw aelakxekidphlsathxnklbechinglbthangkaremuxngtxphrrkhedomaekhrtepnxyangying khwamimphxicinkhaphiphaksa edrd skxtt khxngchawxemrikninrththangehnux chwyihphrrkhriphbliknidrbchychnaidthinngsphaphuaethnephiminkareluxktngklangethxm pi 1858 aelaekhakhwbkhumidthngsphakhxngekrsinkareluxktngihy pi 1860 sw cakxilinxys epntwaethnphulngsmkhr khxngphrrkhedomaekhrtfayehnuxrxngpthn shrth 1857 1861 aelaphulngsmkhrkhxngphrrkhedomaekhrtfayitxbrahm linkhxln prathanathibdikhnthi 16 khxngshrth 1861 1865 ecfefxrsn edwis 1861 1865 chychnainkareluxktngprathanathibdishrthpi kh s 1860 khxngphrrkhriphbliknsungnaodyxbrahm linkhxln epnphlmacakkhwamrasarasayphayinkhxngphrrkhedomaekhrt enuxngcaktwaethncakrththangtxnitsungepnphwksnbsnunsthabnthas aelakhaphiphaksa edrd skxtt phakn wxlkexath cakkarprachumaehngchatikhxngphrrkhedomaekhrt ephuxprathwngkarthithiprachumptiesthimrbmtisnbsnunnoybaykhyaysthabnthas odykarichkdhmaythas slave codes inthukphunthikhxngshrth smachikkhxngphrrkhedomaekhrtcungaetkxxkepnfayehnuxaelait odysmachikphrrkhfayitepnphwksnbsnunkhaphiphaksakhdiedrd skxtt faynicungaeyktwxxkmaeluxk nay John C Breckinridge sunginkhnanndarngtaaehnngepnrxngprathanathibdi maepnphuaethnlngsmkhrrbeluxktngkhxngphrrkhedomaekhrtfayit inkhnathi nay twaethnphusmkhrrbeluxktngedomaekhrtfayehnux aelaepnphurangkdhmay aekhnss enbraka thisnbsnunaenwkhideruxngkarkahndkhwamchxbdwykdhmaykhxngsthabnthasodythangxthipitypwngchn klawkhuxprasngkhcaihsphakhxngekrsthatwepnklang imekhaaethrkaethrngimwacaephuxcakd hruxsnbsnunkarkhyaytwkhxngsthabnthasipinphunthiihmkhxngshrth kidrbkhwamniymthangtxnehnuxsulinkhxlnimid linkhxlncungkwadkhaaennkhxngkhnaphueluxktng electoral vote ipaebbthwmthn aelaepnphuchnakareluxktng pi 1860 aemwacaidrbkhaaennniymthwpraethsephiyngaekh 40 klayepnphusmkhrphrrkhriphbliknkhnaerkthiidrbtaaehnngprathanathibdi rththangitthyxyaeyktw singphimphokhsnakarprakasaeyktwxxkkhxngrthesathaekhorilna kareluxktngprathanathibdi pi 1860 thuxepncudsinsudkhxngkarkhrxngxanacthangkaremuxnginxemrikakhxngfayit enuxngcak 2 in 3 khxngcanwnprathanathibdithnghmdlwnmacakphakhit nbaet cxrc wxchingtn idrbeluxkepn pthn khnaerkinpi kh s 1789 khwamphayaephnithaihrthfayitrusukthukbibkhnxyangmak aelaklayepncudaetkhkthangkaremuxng odyephiyngsxngeduxnhlngchychnainkareluxktngthwpraethskhxnglinkhxln mlrthesathaekhorilna sungepntwtngtwtithisakhythisudinkarphlkdnpraedneruxngsiththikhxngmlrththicapkkhrxngaelakahndtnexng state rights kprakasaeyktwxxkepnrthaerk inwnthi 20 thnwakhm kh s 1860 mlrthekstrkrrmirfayxikhkmlrth idaek mississippi flxrida aexlaaebma cxreciy hluysesiyna aelaethkss thyxyprakasaeyktwxxktaminxiksxngeduxnthdma khuxrahwangeduxn mkrakhm aelakumphaphnth pi kh s 1861 hkrthaerkthiprakasaeyktwmisdswnkhxngthastxprachakrthisungthungrxyla 49 aesdngthungkhwamphungphaaerngnganthasinxutsahkrrmkarekstrinradbthisungmak aelarthehlaniechuxwakarkhrxngthasepnsiththitamrththrrmnuy brrdarththiaeyktwxxkniidrwmkncdtngepn smaphnthrthxemrika Confederacy inwnthi 4 kumphaphnth kh s 1861 hlngcakcdtngaelwkxngkalngsmaphthrthkerimocmtithrphysinaelapxmkhaykhxngrthbalklangodyaethbimphbkartxtanely enuxngcakprathanathibdi ecms buaekhnn aehngphrrkhedomaekhrtkalngcahmdwara aelabuaekhnnxangwa xanacthicaichkalngxawuth ephuxbngkhbihmlrthkhngxyuinshphaphtxipnn imidxyuxanacthirththrrmnuykahndiwihsphakhxngekrs xyangirkdi thngrthbaledomaekhrtkhxng pthn buaekhnn aelafayphrrkhriphbliknthikalngcaekhamabrihar tangkpranamkaraebngaeykdinaednwaepneruxngphidkdhmay aetkphyayamcapranipranxminpraedneruxngkarmithasxyu thukesnxkhunodywuthismachik ineduxnthnwakhm kh s 1860 ephuxaekpyhakarkhxaeykdinaedn odyesnxihruxfunexaesnphrmaednrahwangrthesri rththas tam pi 1820 klbmaichihmodyihkhyayxxkipthangfngtawntk thngyxmihrththangitsamarthkhngrabxbthasiwidaebbthawr aelaihsamarthpxngknthashlbhniiddwy khxesnxniepnthiphxickhxngfayit aetinthisudkthukpdihtkipthngodysphaphuaethnshrth aelawuthisphashrth enuxngcakphrrkhriphbliknmxngwaepnkhxesnxthirbimidephraaethakbwayxmihmikarkhyaytwkhxngsthabnthasipinphunthiihmkhxngshrthid khwamhwngsudthaythicarksashphaphiwcunghmdlngip linkhxlnihsunthrphcnekharbtaaehnng linkhxlnekhasabantnephuxrbtaaehnnghnaxakharrthsphathiyngsrangimesrc xbrahm linkhxln ekhasabantnepnprathanathibdikhnthi 16 khxngshrth inwnthi 4 minakhm kh s 1861 thanklawinsunthrphcnekharbtaaehnngwa phayitrththrrmnuykhxngshrth khwamphyayamaeykrthxxkepnxisrayxmepnomkha aetkihkhayunynwarthbalkhxngtncaimerimtnsngkhramklangemuxng odyklawtx rththangit wa khaphecaimmicudmunghmayodytrnghruxodyxxmthicaaethrkaethrngsthabnkarkhrxngthasthiyngmixyuinpraethsshrth ephraakhaphecaechuxwakhaphecaimmisiththiodychxbdwykdhmaythicathaechnnn linkhxlnthaxyangdithisudthicaichsunthrphcnekharbtaaehnnginkarhwanlxmephuxnrwmchati ihhnmaprxngdxngkn ihehnthungkhwamepnkhrxbkhrwxemriknkhrxbkhrwediywkn dngphudkhapidthaysunthrphcn phwkeraimichstrukn eraepnephuxn eracaepnstruknimid thungkhwamrusukcabxbchaipbang aetcaihsingnimathalaysayiykhxngmitrphaphhaidim sayphinthinaphiswngkhxngkhwamthrngca thioyngexathuksmrphumirbaelahlumsphkhxngwirburus ekhaiwkbthukhwicthiyngmichiwitxyu aelahinhnaetaifkhxngthukkhrweruxn thwdinaednxnkwangihyiphsalni cayngsngesiyngprasankhxngkhwamklmekliywaehngshphaphxyangaennxn yamemuxmnthukdidihdngkhunxikkhrng odyethwthutthidikwaaehngthrrmchatikhxngera xbrahm linkhxln sunthrphcnekharbtaaehnngkhrngaerk 4 mi kh 1861 aethlngcakkxngkalngsmaphnthrth ekhluxngthphekhayudkhrxngpxmaelathrphysinkhxngrthbalklanghlayaehngthixyuinphunthiphakhit khwamphyayamthicapranipranxmkphngthlaylng linkhxlnptiesthimrbkhachdechyrakhathrphysinthiesiyhay hruxthukthalayodykxngkalngsmaphnthrth odyxangwarthbalshrthcaimecrca hruxekhathasyyakbxngkhkrthiimmikhwamchxbthrrmtamkdhmay thngsxngfaycunghnmaetriymphrxmsahrbsngkhram karcdtngsmaphnthrthxemrika wiwthnakarkhxngsmaphnthrthxemrika rahwang 20 thnwakhm 1860 thung 15 krkdakhm 1870 smaphnthrthxemrikathukcdtngkhuninrahwang n rthaexlaaebma emuxwnthi 4 kumphaphnth kh s 1861 hnungeduxnkxnthilinkhxlncaekhasutaaehnngxyangepnthangkarineduxnminakhm inrayaaerkmirthekharwmcdtng 6 rth idaek rthesathaekhorilna mississippi flxrida aexlaaebma cxreciy aelaluyesiyna odymiethkssepnrthekharwmsngektkarn kxnthicaekharwmepnsmachikinsmaphnthrth emuxwnthi 2 minakhm 1861 aelaminay ecfefxrsn edwis epnprathanathibdi emuxnghlwnginrayaaerkxyuthiemuxngmxntkxemxri rthaexlaaebma txmamimlrthekharwmephimxik 4 mlrth rwmthngsin 11 mlrth aelayayemuxnghlwngipxyuthiemuxngrichmxnd rthewxrcieniy inwnthi 30 phvsphakhm inpiediywkn epidchakkarsurb yuththkarthifxrthsmethxr karchumnumihy wnthi 20 emsayn kh s 1861 ephuxsnbsnunrthbalthiruppnwxchingtnbnhlngmathinkhrniwyxrk pxmsmethxr hrux fxrthsmethxr epnpxmprakarkhxngrthbalshrth tngxyuklangthaeruxemuxngchalstl mlrthesathaekhorilna inkhnathikxngkalngsmaphnthrthykphlmathungnn kxngkalngkhxngrthbalklangidthukthxnxxkipaelw ephuximihekidpathakb militia inphunthi aetedimrthbalkhxng pthn biwaekhnn txngkarihthangpxmthxnkalngxxkip aetrthbalihmkhxnglinkhxlnxxkkhasngihthharrksapxmiwkxn cnkwacathukyingis dngnnemux phntri naythharbychakarkhxngfayshphaphimptibtitamkhaeriykrxngihyxmcannkhxngthangfaysmaphnthrth ecfefxrsn edwis cungsngih nayphlctwa yingocmtipxmkxnthikxnghnuncamathung kxngkalngkhxngobrikardcungerimyingocmtipxm emuxwnthi 12 emsayn 1861 yingxyusxngwnpxmkaetk obrikardekhyepnnkeriynphayitkarfuksxnkhxngphntriaexnedxrsnmakxnsmyyngeriynxyuthiewstphxyn karocmtifxrthsmethxr epnkarplukkraaeschatiniymxemriknihaephrkracayipthwthangtxnehnux phntriaexnedxrsnklayepnwirburuskhxngchatiipinchwkhamkhun fayehnuxerimradmkalngtxbot mikarndphb phudkhuyprasy fayexkchnkchwyradmengin swninthxngthitangkmikarradmkalngphl thngfayphuwakarrthaelafaynitibyytikaesdngkhwammungmnthicatxbot xyangirkdi khwamkratuxruxrnthicasuklbinphakhehnux sathxnwafayshphaphyngpramathaelayngpraeminsekl hruxkhnadkhxngsngkhramthicatammataekinip ephraakhnannkhnswnihyyngkhidwamiephiyngrthimkirththangtxnitthikhidaeyktwxxkcakshphaph pthn linkhxln eriykrxngihthukmlrthsngkalngthharipyudexapxmsmethxr aelathrphysinxunkhxngrthbalklangkhun odyinebuxngtnlinkhxlnkhxkalngxasasmkhrephiyng 75 000 nay sahrbpracakarephiyng 90 wnethann phuwarthaemssachuestssnghnwyrbkhxngrthlngitodythangrthifinwnthdip swninthangtxnitrthmissuri phwkhnunaebngaeykdinaedninphunthiidekhayudkhlngaesngliebxrti Lierty Arsenal pthn linkhxlntxngprakaskhxxasasmkhrephimxik 42 000 khn inwnthi 3 phvsphakhm kh s 1861 inrayanimirthphrmaedn ehnux it prakasaeyktwephimxik 4 rth khux ewxrcieniy ethnenssi xarkhnss aela nxrthaekhorilna odyaetedimrthehlaniwangthathi imyxmthuxxawuthekhahahnkbrththangehnuxthiepnephuxnban karaeyktwxxkkhxngrthewxrcieniythaih nayphlorebirt xi li thxntwcakkxngthphfayshphaph odyxangwaimsamarthcbxawuthkhunsukbbanekidkhxngtnid thangfaysmaphnthrthxemrikatxbaethnrthewxrcieniy odykaryayemuxnghlwngiptngthi emuxnghlwngkhxngewxrcieniykarsurbshrthsurbkninsngkhramklangemuxngrahwangwnthi 12 emsayn kh s 1861 cnthung 13 phvsphakhm kh s 1865 odymikarsurbknin 23 mlrth aelainphunthithikhnannyngimmisthanaepnmlrth rwmipthungphunthithangna sngkhramklangemuxngxemrikasurbkninphunthinbimthwn tngaet walewxrd rthniwemksiok aela tullaohma rthethnenssi ipcnthung esntxlaebns rth aelaefxrnandina n chayfngrthflxrida smrphumithimichuxbnthukxyangepnthangkarmithung 237 smrphumi khnxemriknmakkwasamlankhnekharwmsurbinsngkhramklangemuxng aelamikhnkwahkaesnkhnlmtayinsngkhramni hruxkhidepnrxylasxng khxngprachakrxemriknthnghmd aephnyuththsastr aephnthikaraeykdinaednshrth pi 1863 shrth phunthifayshphaphthihamkarmithas rthchayaednfayshphaphthiyxmihmithasid faysmaphnthrth phunthifayshphaphthikarmithasyngepneruxngthukkdhmay emuxerimtnsngkhram tangfaytangkhidwakarrbcacblngodyerw aethlngcak Battle of Bull Run kepnthiaenwanicaepnsngkhramthiyudeyux enuxngcakfaysmaphnthrththrabdiwathngkalngphl ethkhonolyi aelakhidkhwamsamarththangxutsahkrrmkhxngfaytnepnrxngmak aephnyuththsastrkhxngfaysmaphnthrthcungennthikaryunrayasngkhramihnanthisud ephuxihfayshphaphtrahnkthungrakhamhasalthitxngcayinsngkhram aelathxdicelikkhidrwmchatidwykalngthharipexng swnepahmaythangyuththsastrkhxngthangshphaph khux txngkarkahrabfaykbtaeykdinaednlngihrabkhab aelapxngknimihmirththxntwephim fayshphaphcungkahndyuththsastrkhun 4 prakar prakaraerk khux thakarecrcakbrthchayaednbriewnehnux Mason Dixon line echn mlrthaemriaelndihkhngxyuinshphaph prakarthisxng khux thakarpidlxmthaeruxkhxngemuxngihy faysmaphnthrth ephuxtdkarkhaaelakarsngkalngbarungcakyuorp hruxcakhmuekaabahams sungxyuinkhwbkhumkhxngckrwrrdixngkvs prakarthisam khux ekhayudkhrxngphunthisakhytamaenwlumaemnamississippi ephuxtdkhadrththangfngtawntkechiyngit cakrthfngtawnxxkkhxngsmaphnthrth prakarsudthay khux edinthphekhasudinaednicklangkhxngsmaphnthrth aelaekhayudkhrxngemuxnghlwngrichmxndkarradmkalngphl inkhnathifaysmaphnthrthkalngkxtwodyrthrwmcdtng 7 rth thikarprachumemuxngmxnkxemxrri kalngphlthnghmdkhxngkxngthphshrthmicanwnraw 16 000 nay aetehlaphuwakarrththangehnuxkerimthicaradmkalngphleruxntidxawuthaelw sphakhxngekrskhxngshphnthrthihxanacpraethsthitngihmnimikalngthharidimekin 100 000 nay sungthangphuwakarrththangitkthayxysngmatngaeteduxnkumphaphnth phxthungeduxnphvspha pthn ecfefxrsn edwiskkalngerngcaididkalngphlthung 100 000 nay aelasphakhxngekrsshrthkerngradmphltxbot opsetxrechiychwnxasasmkhr kxngphnthharrabthi 179 aehngephnsilwaeniy opsetxrechiychwnxasasmkhrekhapracakarinkxngthharmapunyaw inpiaerkkhxngsngkhram thngsxngfaymicanwnxasasmkhrekinkwathitncasamarthfukaelatidxawuthihid aetkhwamkratuxruxrnkhxngprachachnkmixyuimnan thaihthngsxngfaytxnghnipphungphakareknththhar ephuxesrimkalngkhxngxasasmkhr faysmaphnthrthxxkkdhmayeriykeknththharineduxnemsayn pi 1862 sahrbchayhnumxayutngaet 18 pi thung 35 pi odyykewnkareknththharihkbphukhumthas ecahnathirthbal aelankethsn sphakhxngekrskhxngshrthkxxkkdhmayxnuyatihmikareriykeknthphleruxntidxawuthinmlrth hakwacanwnxasasmkhrmiimthungtamthiokhwtakahnd prachakrxphyphchawyuorpekharwmkxngthphfayshphaphepncanwnmak thharxyangnxy 177 000 nayekidinpraethseyxrmni aela 144 000 nayekidinixraelnd kareriykeknththharimidrbkhwamniymthnginthangehnux aelathangit mikarclacltxtankareknththharkhrngihythiemuxngniwyxrkineduxnkrkdakhm pi 1863 inphakhehnuxpramanwamikhnhnieknththharthung 120 000 khn odymicanwnimnxyhnikhunipthangaekhnada nxkcakniyngmithharhnithphrahwangsngkhramxikthung 280 000 nay swnphakhitkmithharxyangnxy 1000 000 naythihnithph khidepncanwnthungrxyla 10 aetbangswnepnkarthinghnathiipodyimidrbxnumti ephuxipduaelaphxaemhruxkhninkhrxbkhrwxun aetkklbmaptibtihnathiinhnwykhxngtninphayhlng inthangehnuxmiphwkchwyoxkas thixasasmkhrekharwmrbephiyngephuxcaexaobns aelwkepliynchuxtwephuxthicaipsmkhrekhapracakar aelarbobnsinhnwyxunxik mikhn 141 khnthithukcbid aelathukpraharchiwit karsurbthangyuththnawi kxngthpheruxkhnadelkkhxngshrthkhyaytngxyangrwderwinchwngkhwamkhdaeyng cakthimiecahnathipracakarephiyng 6 000 nay inpi kh s 1861 kephimcanwnepn 45 000 nayinpi kh s 1865 mierux 671 la rwmrawangkhbnathngsin 510 396 tn pharkichlkkhxngthpheruxkhuxkarpidlxmthaeruxkhxngfaysmaphnthrth ekhakhwbkhumrabbaemna txtanhnwycuocmkhxngfaysmaphnthrthinthael aelaetriymphrxmsahrbkarepidsukthimikhwamepnipidkbrachnawixngkvs enuxngcakkhwamtungekhriydthangkarthutin Trent Affair aeladwykhwamthikarptiwtixutsahkrrminxngkvsmiphunthanxyuthisingthx textile praethsxngkvscungesiyphlpraoychncakkarpidlxmthangthaelodyfayshphaphxyumak thaihmiaerngkddncakxutsahkrrmsingthxihekhaaethrkaethrngkhwamkhdaeyngni xngkvscungmibthbathsakhyinkarkhnsngkalngbarungaelayuthothprnihkbfayit yuththnawithisakhyswnihyekidkhuninphunthiphakhtawntk ephraakarekhakhwbkhumlanasayihyinaethbnnmikhwamsakhytxyuththsastrkhxngkxngthpheruxshrth thitxngkarrukekhaipsuphunthiicklangkhxngsmaphnthrth inphakhtawnxxkkxngthpheruxthahnathisngkalngbarungaelaekhluxnkalngphlipinphunthitang aelainbangkrnikichyingbxmbardthanhruxpxmprakarkhxngfaysmaphnthrth yuththwithipidlxmthangnakhxngfayshphaph khxngphlexk skxtt 1861 pidlxmthangnaxyangrdkum txnihphwkkbtxxkcakmissuri matamaemnamississippi fayhnunshphaphinrthekhnthkkiyngthatwepnklang xutsahkrrmfaysbesaincxreciy nayphl idkhidkhuninrawtnpi 1861 ephuxihchnasngkhramodyesiyeluxdenuxihnxythisud khwamkhidehnsatharnatxngkarihkxngthphshphaphptibtikarocmtithnthi ephuxihyud emuxnghlwngkhxngkhasukiherwthisud aetskxttepnephiyngnaythharxawuosephiyngimkikhn thitrahnkwanicaepnsngkhramthiyudeyux aelaechuxwakarocmtiesrsthkickhxngfayshphnthrthodykarpidlxmthangnaepnwithithidikwa linkhxlnnaaephnkhxngskxttmaptibtiswnhnung aetimfngkhathdthankhxngskxttekiywkbrayaewlapracakarthisnephiyng 90 wn khxngxasasmkhr inwnthi 19 eduxnemsayn pi kh s 1861 linkhxlnprakaserimyuththwithipidlxmthangna sungtxngichkalngthpheruxtrwctrachayfngaextaelntik aelaxawemksiokyaw 3 500 iml 5 600 kiolemtr khrxbkhlumthaeruxhlk 12 tha odyechphaaxyangyingemuxngthathikhbkhngxyangniwxxrlins aelaombil rthaexlaaebma nbwaepnkhwamphyayampidlxmchayfngkhrngihythisudinprawtisastrcnthungkhnann inrayaerimtn kxngthpheruxshrthmieruxrbpracakar 42 la aetswnihylasmy aelamiephiyng 3 lathiehmaasmsahrbpharkicpidlxmthangthael elkhathikarkxngthpherux Gideon Welles edinhnakhyaycanwneruxrbxyangrwderw aelaerimoprecktxeruxkhnadihykhunthnthi mikarkhxsuxeruxphanichyaelaeruxkhnsngphuodysarkhxngphleruxn kxngthpheruxideruxkapnif ekuxb 80 la aelaeruxkapnib 60 la ephimkhunmainchwngsinpiaerkkhxngsngkhram phxthungeduxnphvscikaynpithdip canwneruxkapnifkhxngkxngthpheruxshrthkephimepn 282 la kberuxkapnibxik 102 la aelaintxnthaykhxngsngkhramfayshphaphmieruxpracakarxyuthnghmdthung 671 la kardinrnkhxngthpheruxfaysmaphnthrth eruxrbkhxngyu exs exs khxensothka yu exs exs ikhor eruxrbhumekraa chn siti khlaseruxrbkhxngeruxdanaexch aexl hnliy si exs exs ewxrcieniy khbekhluxnixna laaerkthisrangodykxngthpheruxsmaphnthrth emuxsngkhramklangemuxngerimtnkhunineduxnemsayn 1861 faysmaphnthrthxemrikaaethbimmieruxrbxyuinpracakarely khwamchwyehluxswnihyinkarsngkalngbarung aelakartxeruxrb lwnmacakbrietnihy nxkcaknifaysmaphnthrthkimidrbkarrbrxngxyangepnthangkarcakpraethsmhaxanacswnihy pthn ecfefxrsn edwis cunghniphakhwamchwyehluxkhxngexkchn odyesnxxxkibsmpthansngkhram hrux eltetxr xxf mark Letter of Marque sungxnuyatihexkchnthiyxmexaeruxmaichinpharakichlwngihidrbswnaebngkaircakeruxkhasukthicbid thangkxngthpheruxkhxngsmaphnthrthcungprakxbipdwyeruxiprewthethiyr privateer epncanwnmak aetlinkhxlnimyxmrbwafaysmaphnthrthmikhwamchxbthrrm hruxxanacidthicaihsmpthansngkhramkbexkchn aelakhuthicaptibtitxptibtikarkhxngexkchninlksnani xyangkarkrathaxnepnocrsld aetenuxngcakshrthimidekharwmlngnamin prakaskrungparis pi 1856 wadwykdhmayphanichnawi sunghamimihmiiprewthethiyr thangrthbalxngkvscungptiesthimyxmrbprakaskhxnglinkhxlnwamiphlinthangkdhmayrahwangpraeths inrayaaerkkhxngsngkhram karpidlxmthangthaelkhxngfayshphaphimkhxyidphl ephraakalngthangeruxmiimphxcaippidlxmchayfngyawepnphnimlidxyangmiprasiththiphaph thangfayitcungsamarthicheruxklifthimikhwamerw hrux blockade runners aelnfakarpidlxmipidngay lukeruxkhxngiprewthethiyrehlaniswnihyepnkhnxngkvs sungmithngthiepnthhareruxcakrachnawixngkvs aelathiepnphleruxn thngniepnephraathangfaysmaphnthrthmicanwnthharerux kalasi hruxtnhnthiidrbkarfukaelwimephiyngphxcaptibtikarsngbarungexng inrayaaerkfaysmaphnthrthcungphungphathurkicexkchnthnginphakhitexngaelainxngkvsepnphucdsngkalngbarung kbthrphyakrthikhadaekhlnekuxbthnghmd aettxmakxngthpheruxsmaphnthrtherimtidtxpraethsinyuorp ephuxhaeruxekhapracakarexng emuxeruxerwhnikarpidlxm blockade runners thukcbid thngtweruxaelasinkhathibrrthukcathuksalsngihtkepnrangwlkhxngsngkhram prize of war aelakhayexaenginmaaeckcayihkblukeruxkhxngfayshphaph swnlukeruxthiepnkhnbritichkmkcathukplxytw xyangirkdiemuxkhnadkhxngkxngthpheruxfayehnuxihykhuninpihlngkhxngsngkhram karaelnfakarpidlxmkthaidyakkhun eruxihyhmdsiththithicaaelnfadanpidlxmipid txngxasyeruxthixxkaebbmaephuxkhwamerwodyechphaaethann aelaoxkasthicathukfaykhasukcbidephimepnthung 1 in 3 emuxsngkhramekhasupithi 1864 karphthnakarkhxngkxngthpheruxsmyihm phaphkaryingtxsurahwangeruxyuexsexs mxnietxr aela siexsexs ewxrcieniy in thuxepnkarpathaknkhrngaerkinprawtisastrkhxngeruxrbhumekraa sungephingekhamaaethnthi eruxrbaenwesnpracyban thungaemcadxykwamakindankalngthangnawi aetkxngthpheruxsmaphnthrthkekhnexanwtkrrmdankarrbthangnaxxkmahlayxyang sungmithngkarsrangaeladdaeplng Spar Torpedo aelaeruxdanathikhbekhluxndwymux sungxxkptibtikaridsaercaetklbmaimthungfng elkhathikarkxngthpheruxsmaphnthrth Stephen Mallory tdsiniclngthuninethkhonolyiihmkhxngeruxrbhumekraa eruxrbhumekraalaaerkkhxngsngkhram epnkarexaeruxecaanaaekhng xinxkh thithuknayeruxeruxswntw wi exch ixwi yudmaidmaprbprungaeladdaeplngtidtngekraa aelwexaekhapracakarinchux siexsexs manasss CSS Manassas aetlathifaysmaphnthrthsrangkhunexnglaaerk khux CSS Virginia ody stiefn mllxri srangkhundwykaripkuexaekhruxngckrmacakerux yuexsexs emxrriaemkh USS Merrimack thithukcm aelwtngchuxihmihwa siexsexs ewxrcieniy mnptibtihnathiwnaerkemux 8 minakhm pi 1862 erux ewxrcieniy samarthcmeruxfayshphaphthiepneruximidhlaylainkarrbwnaerk in aetinwnthdmakecxkhuprbsayphnthediywkn idaek erux USS Monitor eruxrbhumekraafayshphaphthisrangtamnwtkrrmkarxxkaebbkhxng cxhn exrikhsn karpathaknkhrngaerkkhxngeruxrbhumekraainxaw echsaphikh Chesapeake kinewlasamchwomngaelacblngodyimmifayidephliyngphla aetnbepncuderimtnkhxngkarmathungkhxngethkhonolyikhxngyuththnawiinyukhtxip ethkhonolyieruxrbhumekraaepnkhwamkawhnasakhyinethkhonolyikarsngkhramthangna sngkhramklangemuxngshrthphisucnwaerux ixrxnaekhld idekhamaaethnthi eruxrbaenwesnpracyban hrux ship of the line of battle sungkhrxngkhwamepnihyinsngkhramthangthaelmatlxdsamstwrrs eruxthithuksrangkhuninsngkhramklangemuxngshrth yngsngphlkrathbtxkarsngkhraminxiksikolkdwy twxyangthimichuxesiyngkhux CSS Stonewall sungtxkhunthi bxrod praethsfrngess odyphayhlngthukkhaytxaelasngmxbihkbrthbalemcikhxngyipun inchux aelamibthbathsakhyinkaryutisngkhramobachinginyipun aenwpunkhxngeruxhumekraa ixrxnaekhld 9 lakhxngkhxngfayshphaph cakfngthaeruxcharlstnphlkrathbthangesrsthkic aelakarkharahwangpraeths karpidlxmthangthaelodyfayehnuxmiprasiththiphaphmakkhun emuxewlalwngip phlcakkarpidlxm thaihkarsngxxkphlitphnthcakfaykhxngfayitaethbepnxmphat mulkhakarsngxxktklngthungrxyla 95 emuxethiybkbchwngkxnsngkhram nxkcakniyngthaihekidenginefxxyangrunaerngephraakhwamthikhadaekhlnsinkha karkhadaekhlnkhnmpngthaihmikarkxclaclodyprachakrphuhying inemuxngrichmxnd emuxnghlwngkhxngsmaphnthrth nxkcakni karpidknaemnamississippiodyfayshphaph yngthaihkarkhnsngma aelapsustwihy cakemuxngthangtawntkechiyngit xyangethkss aelaxarkhnss ipyngemuxngfngtawnxxkkhxngsmaphnthrthepnipaethbimid cungklawidwakarpidlxmthangnaepnphlsaercxyangihyhlwng aelaepnsaehtusakhythithaihfaysmaphnthrthaephsngkhram sngkhramklangemuxngshrthekidkhuninchwngewlathi ckrwrrdixngkvskalngepnphunakarkhaesriolk nkkarthutxngkvs odyechphaaxyangying esxr cxhn ebawring idrbkhwamsaercinkarecrcaepidkarkhainpraethstawnxxkikl echn syam aelayipun nxkcakni Richard Cobden nkthurkic aelasasdaaehngkarkhaesrichawxngkvs kepnphurierimephyaephrprchyainkarsrangsntirahwangpraethsodykarkhaesri dngnnemuxsngkhramklangemuxngshrthraebidkhun aelanaipsukarpidlxmthangthaelthitdesnthangkarkharahwangxngkvs kbfaysmaphnthrthxemrika cungthaihkhxbednhnkicmakintxntn aetphayhlngkmahnunhlngfayshphaph emuxaenicwaepahmaykhxngsngkhramkhuxkarelikthas hlngsngkhramcblngfayshrtheriykrxngihshrachxanackrcaykhaesiyhay odyklawhawaxngkvsimthatwepnklangaethmyngaethrkaethrngkhwamkhdaeyngthangkaremuxngphayinkhxngtn inthisudrthbalxngkvsyxmcaykhaesiyhayih 15 lanehriyyshrth aelakhxbednepnpakesiyngsakhythisnbsnunihrthbalxngkvschdichkhaesiyhay ekhtsngkhramtawnxxk ekhtsngkhramtawnxxk epnewthirbkhxngkarthphsakhy major campaigns khxng kxngthphihyfayshphaph odyepahmayprasngkhhlkkhxngshphaph khux karyudihidemuxngrichmxnd rthewxrcieniy xnepnemuxnghlwngfaysmaphnthrth karthphehlanietmipdwykarlmlukkhlukkhlan ephraatxngephchiykbkartxtanodykhxngfaysmaphnthrth sungminayphlorebirt xi li epnphubychakar prathanathibdilinkhxlnphyayamesaahanayphlthiklaaelasamarthethiybekhiyngkbliid odylinkhxlnaetngtngaelasbepliynexanayphl aela maepnepnphubychakarkxngkalnghlkinphakhtawnxxk say yuththkarthiaexntiaethm kartxsuthinxngeluxdthisudinhnungwnidkhxngsngkhramklangemuxng khwa eruxrbhumekraakhxngfaysmaphnthrth inyuththnawithiaehmphtnords samarththaihkxngeruxpidlxmkhxngshphaphaetkkraecing cnkrathngfayshphaphexachnaiddwyeruxhumekraakhxngtn kxngthphkhxngfaysmaphnthrthprasbkhwamsaercxyangtxenuxng inchwngtnkhxngsngkhram odysamarthphlkkxngkalngfayshphaphphayitkarnathphkhxng phltri ihthxyrnidin n emuxngmanasss thixyuhangcakkrungwxchingtn di si ipephiyng 25 iml linkhxlneriyktw phltri cxrc bi aemkhekhlaeln marbtaaehnngepnphubychakarihy general in chief khxngkxngthphshphaphthnghmd emuxwnthi 26 krkdakhm kh s 1861 aetepnaekhinchwngsn kthukthxdihmaepnphubychakarkhxngshphaphephiyngxyangediyw aemkhekhlaelnepnnayphlhnumxayuephiyng 34 pi mithksathiyxdeyiyminkarfukthhar cdraebiyb aelaetriymkxngthph aetwaepnphubychakarthharthisukhumekinehtu aelaimchxbtdsinicthaxairesiyng sngkhramerimtnkhunxyangcringcnginpi 1862 pthn linkhxlntxngkariherimptibtikarechingrukodyerwthisud aemkhekhlaelntxbsnxngodykarnakxngthphaehngophothaemkhekhaocmtiewxrcieniy in Peninsula Campaign invduibimphli pi 1862 odythang rahwang kbaemnaecms thangthistawnxxkechiyngitkhxngrichmxnd kxngthphkhxngaemkhekhlaelniltamkxngthphkhxng macnthungpakthangekhaewxrcieniy aetthukthphkhxngcxhnsotntrungskdiwid in Battle of Seven Pines caknnnayphl orebirt xi li aelanaythharkhnsakhy kb exachnakxngthphkhxngaemkhekhlaelnidin bngkhbihfayshphaphthxythphipid karthphewxrcieniyehnux cblnginplayvdurxndwychychnakhxngfaysmaphnthrthin aemkhekhlaelnaekhngkhunkhasngkhxngphubychakarthphihy ehnri hlelkh imyxmsngkxnghnunipchwykhxng thaihfayshphaphaephkxngthphkhxngli aemwacamikalngrbrwmknmakkwafaysmaphnthrththungsxngetha phlkhxngkhwamphayaephthaih nayphlcxhn opp thukthxdcakkarbngkhbbycha aelakxngthphewxrcieniythukyubiprwmkbthphihy chychnainsukbulrnkhrngthisxng thaihfaysmaphnthrthhukehimmak aelaetriymthphephuxkhunocmtithangehnuxkhrngaerkthnthi odyinwnthi 5 knyayn nayphllina mikalngphl 45 000 nay khamaemnaophothaemkhekhasuaemriaelnd thangfayaemkhekhlaelnemuxidkhunkalngphlmacakkxngthphkhxngoppaelw kykthphihykhxngshphaph kxngthphophothaemkh ekhasurbkbnayphlli insukaexntiaethm iklkbemuxngcharpsebirk rthaemriaelnd odyepnkarrbknwnediywthinxngeluxdthisudinprawtisastrxemrikamatrabcnthukwnni aemaemkhekhlaelncaphladoxkasthicarukiltidtamephuxthalaykxngthphkhxngli sukaexntiaethm kthuxepnchychnakhxngfayshphaph ephraaepnyuththkarthisamarthybyngaephnkarbukkhunehnuxkhxngliexaiwid karthxythphkhxngliepidoxkasih pthn linkhxln aelathuxwaepncudepliynkhxngsngkhram karekhacharcdwydabplaypunkhxngkxngthphshphaph inyuththkaraexntiaethm 1862 aemcathaihlithxythphipid aemkhekhlaelnkthukpldcaktaaehnngbychakar ephraalinkhxlnmxngwaekhasukhumekinip thaihphladoxkasthalaykhasuk phltri aexmobrs ebirnisd ekharbtaaehnngbychakarkxngthphophothaemkhaethnthi aetebirnisdkephliyngphlainvduhnawpinnexng emuxthharkhxngkxngthphshphaphkwa 12 000 khn thukkha hruxidrbbadecb in emuxwnthi 13 thnwakhm cakkhwamphyayamocmtiodyeplapraoychncakthangdanhnasa txthanthimnbnenin Marye s Heights khxngkxngthphfayit ebirnisdthukpldaela phltri thukaetngtngekhaaethnthi nayphlhukekxrbychakarkxngthphophothaemkhthimikalngrbmakkwa kxngthphewxrcieniyehnuxthungkwasxngetha aetkimsamarthexachnakxngthphkhxngliid hukekxrphayaephxyangybeyinin eduxnphvsphakhm kh s 1863 aetnayphlliktxngesiynayphl sotnwxll aecksn thharkhuic sungthukyingthiaekhn aelaesiychiwitephraaxakaraethrksxninewlatxma linkhxlnrbcdhmaykhxthxntwcakhnathikhxnghukekxr aelaaethnthiekhadwy nayphlcxrc mid ineduxnmithunayn faysmaphnthrthtdsinicykthphbukkhunehnuxxikkhrng aetkhrawnikxngthphophothaemkhkhxngmid samarthexachnaliidinyuththkarekttisebirk karrbthiekttisebirkekidkhunrahwangwnthi 1 3 mithunayn 1863 odykinewla 3 wnetm aelaepnsukthiesiyeluxdenuxknmakthisudinsngkhram odykxngthphkhxnglimithharbadecblmtay 28 000 nay inkhnathikxngthphaehngophothaemkhmicanwnkhwamsuyesiyxyuthi 23 000 ekttisebirkthuxepn inwnthi 3 krkdakhm aesdngthungcudphikhkhxngskyphaphkhxngkalngkarrbfayit sunghlngcaknnkimxacklbmamiaenwonmthicachnasngkhramidxik xyangirkdi nayphlcxrc mid lmehlwinkarskdknkarthxythphkhxngli plxyihlihniipidxikkhrng sungthaihkarthphinvduibimrwngyngimxachakhxsrupid aelathaihlinkhxlnimphxic linkhxlnesaahaphunathphkhnihm inaenwrbdantawntkkhnann kxngkalngpxngknthimnkhxngfayitthi wikhsebirk yxmcanntxkxngthphpidlxmfayshphaph thaihfayshphaphsamarthekhakhwbkhumaemnamississippiidinthisud sngphlihfaysmaphnthrthfngtawntkthukoddediyw aelaihkaenidphunathphkhnihmthilinkhxlntxngkar nayphlyulissis exs aekrnt ekhtsngkhramtawntk kxngkalngfaysmaphnthrthinekhtsngkhramtawntkprasbkhwamprachybxykhrng kxngkalngpxngknmissuri Missouri State Guard thukkxngthphfayehnuxkhxngnayphl samuexl ekhxrtis khbxxkcakmissuriintngaetchwngtnsngkhram karocmtiemuxngokhlmbs rthekhnthkki khxngaemthphfaysmaphnthrth elxxnids phxlkh thaihekhnthkkielikkhngthithakhwamepnklang aelaklayepnptipkskbfayit emuxngaenchwillaelasunyklangrthekhnthkkitkepnkhxngfayshphaphtngaetchwngtnpi 1862 sngphlihekidkhwamkhadaekhlnxahar aelapsustw aelakhwamoklahl say khwamsuyesiyhnkthisudinyuththkarsxngwn chychnakhxngfaysmaphnthrthsamarthkhbilfayshphaphipidnan 2 eduxnkhwa karekhayudniwxxrlins eruxhumekraakhxngshphaphfunepidthang cmkxngeruxfaysmaphnthrth aelathalaypxmpunid fayshphaphsamarthepidichaemnamississippisycrlngipthungthangitkhxngethnenssi dwy aelaemuxngniwaemdrid mlrthmissuri aelacaknnkyudemuxngemmfist rthethnenssi tamladb kxngthpheruxshphaphsamarthyudniwxxrlinsidineduxnemsayn 1862 sungthaihkxngkalngfayshphaphkhrxngmississippiidekuxbthnghmd miephiyngemuxngpxmprakarkhxngrthmississippiethannthipxngknmiihfayehnuxekhakhwbkhumaemnaidthngsay nayphl nafaysmaphnthrthekharukranrthekhnthkkikhrngthisxng aetcblngdwychychnathiimmikhwamhmayin odyaebrkktxnghyudkarrukranekhnthkkiaelathxnkalng ephraaimmiaerngsnbsnuncakthangsmaphnthrth karthphsotnsriewxrsinsudlng emuxkxngthphkhxngaebrkkphayihkb phltriwileliym orskhransinrthethnenssi faysmaphnthrthidchychnaehnuxshphaphaebbchdecn kechphaathiethann kxngthphkhxngnayphlaebrkk thiidrbkalngesrimcakewxrcieniyphayitkarnakhxngphloth samarthexachnaorskhrans aelabngkhbihorskhransthxythphipchttanukaid nkyuththsastrkhnsakhykhxngshphaphinaenwrbtawntk khux yulissis exs aekrnt phuidrbchychnainhlaysmrphumi thngyuththkarthifxrthehnri yuththkarthifxrthodenlsn epnphlihfayshphaphekhakhwbkhumaemnaethnenssi aelaaemnakhmebxraelndid aela sungephimkhwamaekhngaekrngkhxngxanackhwbkhumaemnamisissippikhxngfayshphaph aekrntedinthphekhakusthankarnkhxngorsaekhrns aelaphichitaebrkklngidin khbilkxngkalngsmaphnthrthxxkcakethnenssi aelaepidesnthangipsuaextaelntakbicklangkhxngfaysmaphnthrth ekhtsngkhramthrans mississippi say khwxnthrilekhayudorngaerminaekhnss rthplxdthas nan 1 wn ephaxakhar 185 hlng sngharphuchayaelaedkchayrwm 182 sphkhwa enthaeniyl lixxn ekhayudthaeruxaelakhlngaesnginemuxngesnthluys nakxngkalngshphaphekhakhbilrthbalfaysmaphnthrthinmissuri karrbaebbkxngocrinwngkwang epnlksnathwipkhxngphunthithrans mississippi enuxngcakfaysmaphnthrthmikhwamkhadaekhlnkalngphlaelalxcistiksthimikhwamcaepntxkarmikxngkalngthawriwtxsukbfayshphaph kxngocrekhluxnthixyang khwxnthrils erdedxrs Qualtrill s Raiders srangkhwamphrnphrunginchnbth odyocmtithngthimnthharaelathixyuxasyphleruxn klumtidxawuth Sons of Liberty aela Order of the American Knights ekhatharayprachachnthisnbsnunfayshphaph aelathharthiimmixawuth ptibtikarthangthharkhnadelkmikhunepnhyxm thangitaelathangtawntkkhxngmissuri odyfayshphaphsungtxngkarcaekhakhwbkhum Indian Territory aela xanaekhtniwemksiok kxngkalngfayshphaphkhbilkarekhluxnthiekhasuniwemksiokkhxngfaysmaphnthrthinpi 1862 rthbalphldthinkhxngaexriosnathxntwekhamaxyuinethkss sngkhramrahwangephachnphunemuxngraebidkhunin nkrbpraman 12 000 khncakephaxinediyntang ekharwmkbfaysmaphnthrth swnthiekharwmkbthangshphaphmicanwnnxykwa nkrbechorkithimichuxesiyngthisud khux nayphlctwa Stand Watie nayphlkhnsudthaythiyxmcanninsngkhramni nayphl idrbmxbhmayihbychakaraephnkthrans mississippi sungkhrxbkhlumphunthiwngkwang thng xarkhnss luyesiynatawntk aelaethkss aetmikalngthharinbngkhbbychaaekhpraman 30 000 nay hlng aelacblngineduxnkrkdakhm pi 1863 fayshphaphekhayudwikhsebirkaelathaeruxhdsnid thaihhnwykhxngnayphlekhxrbi smith thuktdkhadcakemuxnghlwngthirichmxnd txmasmithidrbhnngsuxaecngcak ecfefxrsn edwis wa caimmikhwamchwyehluxidmacakfngtawnxxkkhxngaemnamississippixik aetaemcakhdsnthrphyakr ekhxrbi smith ksasmxawuthiwphxsmkhwrinkhlngaesngthiithelxr Tyler aelaichrabbesrsthkicaebbkhunsuk fiefdom haeliyngkxngthphinethkss sungruckkninchux ekhxrbi smithdxm Kirby Smithdom txmainvduibimphli pi 1864 nayphl phuitbngkhbbychakhxngsmith nathphexachnakxngthphshphaphidin Red River Campaign aelathaihethkssxyuinkhwamkhwbkhumkhxngfaysmaphnthrthipcntlxdsngkhramcudcbkhxngsngkhramkarekhayudewxrcieniy phxekhapi kh s 1864 linkhxlnkmxbxanacsngkarkxngthphthnghmdihkb cxmphl yulissis exs aekrnt odyaekrntich Army of the Potomac epnkxngbychakar aelaihxanacbychakarkxngkalngthangaenwrbtawntkekuxbthnghmdaek phltri cxmphlaekrntmikhwamekhaickhxnesptkhxngsngkhramebdesrc thngyngehntrngkblinkhxln aelaechxraemnwa withiediywthicaphichitfaysmaphnthrthaelayutisngkhramid kkhuxkarthalaythngkxngkalng aelathanthangesrsthkickhxngfaykhasukodysineching aetennyawaepahmayimichphleruxnkhxngfaytrngkham hakaetepnkarekhayudesbiyngxahar aelathalayban eruxkswnirna aelathangkhmnakhmthangrthif sungmichannthrphyakrehlanicathuknaipichthangkarsngkhramodyfaykbt aekrntsrangyuththsastraebbkhrbwngcrkhunephuxocmtifaykhasukcakhlaythisthang nayphl kb idrbkhasngihekhluxnphlekhaprachid nayphlli imiklcakrichmxnd nayphlfrans siekl aelatxma ihekhaocmti echeninodxa wlely Shenandoah Valley nayphlechxraemnidrbkhasngihlngitephuxekhayudaextaelnta aelaedinthphtxipcnthungaextaelntik swnnayphl kbwileliym aexewxerl mihnathiptibtikarnocmtiesnthangrthiflaeliynginewstewxrcieniy aelasudthayihphltrienthaneniyl phi aebngkhs ekhayudemuxngombilrthaexlaaebma sphthharthitaycakkarocmtiineduxnphvsphakhm 1864 khxng in thaihkaredinthphekhasurichmxndkhxngaekrntlachainThe Peacemakers ody cxrc pietxr xelksanedxr hilli portrays aekrnt linkhxln aela kalngharuxthungaephnsahrbspdahsudthaykhxngsngkhram bneruxklif riewxrkhwin eduxnminakhm pi 1865 kxngthphkhxngaekrnterim odymiepaprasngkhthicadungnayphllimapxngknemuxngrichmxnd ephuxthicatrungthphihykhxngliexaiwaelathalayesiy odyebuxngtnkxngkalngshphaphphyayamedinthphphanliipihid thaihtxngekhasurbkninhlayyuththkar yuththkarthimichuxesiyng idaek aela karsurbinsmrphumiehlanithaihthngsxngfaytxngsuyesiyxyanghnk aelabngkhbihkxngthphsmaphthrthkhxngnayphlli txngthxyrnhlaykhrng nayphlphyayamoxbpikkxngthphkhxnglicakthangthisit ephuxekhatiemuxnghlwng aetedinthphchkchathaihlmehlw thukkxngthphhnunkhxngnayphlobrikardtrungskdiwthikhungnabriewn khwamlmehlwxyangtxenuxngechnni kimtangkbphayitkarnakhxngphubychakarkhnkxn aetnayphlaekrnttangxxkipephraaedinhnasutxipaethnthicahni khwammungmnkhxngaekrntsamarthkddnkxngthphewxrcieniyehnuxkhxngli ihthxyklbipemuxnghlwngrichxmndid aelainrahwangthilikalngetriymkarpxngknrichmxnd aekrntkepliynesnthanglngitaebbimmiikhrkhadkhid khamaemnaecms aelaerim sungtxngsurbknaebbsngkhramsnamephlaa epnewlanankwaekaeduxn aekrntphbthharkhuic khux nayphl Phillip Sheridan phuthikawrawechiybkhadphxthicaidchyin Valley Campaigns of 1864 echxridninthiaerkthukruktxngthxyrnin phayitkarkhumthphkhxngnayphl xditrxngprathanathibdishrthinrthbalkhxngecms buaekhnn yuththkarthiniwmarektepnchychnakhrngsudthaykhxngfaysmaphnthrthinsngkhramni echxridnichkhwamxutsahaephim aelasamarthexachnaphltri idinhlaysmrphumi sungrwmthungkarrbkhrngtdsinin Battle of Cedar Creek caknnechxridnkekhathalaythanphlitthangkarekstrin echnnodxa wlely xnepnyuththwithiaebbediywkbthinayphlechxraemnichincxreciy thangfaynayphlechxraemnkekhluxnthphcak chttanuka Chattanooga inethnenssilngsuaextaelnta rahwangthangktithphsmaphnthrthkhxngnayphl kb aetkkraecingip emuxngaextaelntaaetkinwnthi 2 knyayn kh s 1864 sungepnkarrbpraknwalinkhxlncaidrbeluxkepn pthn xiksmy thphkhxngcxhn hud xxkcakphunthiaextaelntaaelwekhakhukkhamesnthangsngkalngbarungkhxngechxraemn caknnkrukekhaethnenssiephuxtlbhlngin phubychakarthphshphaph phltritithphkhxnghudaetkphay cnhmdkhidkhwamsamarthinkarrb in thphkhxngechxraemnekhluxnxxkcakaextaelntaodyimmicudhmaythiaenchd thalayirfarmincxreciyipthung 1 in 5 inkar March to the Sea thieluxngchuxineruxngkhxngkhwamirpraniinkarptibtikar echxraemnmathungfngaextaelntikthi sawnnah mlrthcxreciy ineduxnthnwakhmpi 1864 kxngthphkhxngechxraemnphwngexathasphiwdathiidrbxisrphaphaelwepnphn khntidmadwy immikarsurbxyangslksakhyinrahwangkaredinthph caknnechxraemnkepliynthangkhunsuehnuxphanesathaekhorilna aelanxrthaekhorilna cnipbrrcbkbaenwthphkhxngsmaphnthrththiewxrcieniy kxngthphkhxnglimikalngrbebabanglngipmak thngcakkhwamsuyesiyinkarrb aelakarhnithph khwamphyayamkhxngfaysmaphnthrthkhrngsudthaythicakhbilkxngkalngkhxngfayshphaphthi pietxrsebirk lmehlwin emuxwnthi 1 emsayn thaihfayshphaphekhalxmphunthirxb richmxnd pietxrsebirk iwidodyrxb tdkhademuxnghlwngrichmxndxxkcaksmaphnthrthxyangsineching nayphlliehnwaemuxnghlwngcaesiyaekkhasukesiyaelw ktdsinicsngcdhmayipaecng pthn ecfefxrsn edwis ihxphyphkhnxxkcakemuxng mikarclaclephathrphysintanginemuxngrichmxnd emuxkxngphlthi 25 khxngshphaphedinthangmathungifkihmxakhartangesiyhayepnxnmak swnhnwyrbthiehluxkhxngsmaphnthrthkthuktiaetkin Battle of Sayler s Creek faysmaphnthrthyxmcann nayphlorebirt xi li idrbsarcaknayphlaekrntkhxihyxmcannesiy liyngphyayamsutx aelaphyayamcafakxngkalngkhxngechxriaednthipidthnniklkb iw aetemuxphbwathangeluxkediywthiehluxkhuxtxngrbaebbkxngocrinpa licungtdsinicyxmwangxawuth aelwsngsarthungaekrntkxngthphewxrcieniyehnuxwakhxyxmcann sngkhramklangemuxngxemrikaepnxnsinsudlngemuxwnthi 9 emsayn kh s 1865 n bankhxng wilemxr aemkhlin McLean House kxngkalngsmaphnthrththiyngimyxmthingxawuth kthyxyknyxmcannemuxkhawkaryxmaephkhxngnayphllithrabipthung inwnthi 14 emsayn kh s 1865 prathanathibdilinkhxln thuknay cxhn wilkhs buth nkaesdngthifkiffaysmaphnthrthlxbying linkhxlnesiychiwitinrungechawnthdip aela aexndruw cxhnsn klayepnprathanathibdiaethnthi txmainwnthi 26 emsayn kh s 1865 nayphl yxmcanntxnayphlechxraemn phrxmthharkxngthphethnenssiekuxb 90 000 nay thiebnentephls iklkbedxrm Durham nxrthaekhorilna prathanathibdicxhnsnxxkaethlngkarn prakascudsinsudkhxngkarkxkhwamimsngb emuxwnthi 9 phvsphakhm kh s 1865 prathanathibdi ecfefxrsn edwis thukcbkuminwnthdma kalngrbinaephnkthrans mississippi Trans Mississippi khxngekhxrbi smith yxmcanninwnthi 2 mithunayn aela inwnthi 23 mithunayn phunachaorkixinediyn Stand Watie klayepnnayphlfaysmaphnthrthkhnsudthaythiyxmcannphrxmkxngkalngkhxngtnchychnakhxngfayshphaph aelaphlphwngkhxngsngkhramphlkrathbindantang khxngsngkhramklangemuxngxemrikayngepnthithkethiyngkn aetphlthangesrsthkicnnkhxnkhangchd ekstrkrrmfaykhxngrththangitphngphinas phakhitkhxngshrthklayepnphunthiyakcnipxikekuxbrxypi cakthiekhyrarwymakxn inkhnathiphakhehnuxaelatawntkrarwykhun xanacthangkaremuxngkhxngnaythas aelaesrsthicakphakhityutilng xaccaklawidwa shrthinchwngkxnsngkhram epnpraethsthifayehnuxaelaitaekhngkhnknexawisythsn aelakhwamechuxkhxngtnekhakahndthisthangkhxngpraeths aetphlkhxngsngkhramklangemuxngthaihkaraekhngkhninthangwisythsnyutilng nkprawtisastr ecms aemkhefxrsnklawwa chychnakhxngshphaphthalaywisythsnchawitekiywkbxemrika aelaepnkarrbpraknwawisythsnkhxngfayehnux caklaymaepnwisythsnkhxngkhnxemrikn thngpraeths dwyehtunicungimepnkarekinipthicaklawwa praethsshrthinpccubnepnphlphlitkhxngsngkhramklangemuxng tarangepriybethiybfayshphaph aelafaysmaphnthrth kh s 1860 1864 pi shphaph smaphnthrthprachakr 1860 22 100 000 71 9 100 000 29 1864 28 800 000 90 3 000 000 10 esri 1860 21 700 000 81 5 600 000 19 thas 1860 400 000 11 3 500 000 89 1864 nxymak 1 900 000thhar 1860 64 2 100 000 67 1 064 000 33 thangrthif iml 1860 21 800 71 8 800 29 1864 29 100 98 nxymaksinkhaxutsahkrrm 1860 90 10 1864 98 nxymakkarphlitxawuth 1860 97 3 1864 98 nxymakmwnfay 1860 nxymak 4 500 0001864 300 000 nxymakkarsngxxk 1860 30 70 1864 98 nxymak nkprawtisastrbangthanechuxwachychnakhxnglinkhxlninkareluxktngprathanathibdi pi 1864 ehnuxaemkhekhlaeln xditnayphlaehngkxngthphophothaemkh sungthukthxdxxkcakhnathihlngyuththkarthiaexntiaethm aelwhnmaelnkaremuxng epnehtukarnthiyutikhwamimaennxnthangkaremuxngkhxngfayshphaph aeladbkhwamhwngkhxngfayitthikhidwacaidexkrachhaklinkhxlnimidepn pthn smythisxng n cudnnlinkhxlnidrbkarsnbsnunetmthicakthngfayriphblikn fayedomaekhrtsaysngkhram rthaenwtaekhbchayaedn thasthiidrbkarpldplxy aela karimekhaaethrkaethrngkhxngfaybrietn aelafrngess nkprawtisastrxikfayotethiyngwafayitimmihwngcachnamatngaettn ephraaskyphaphinkarthasngkhramtangknmak odyechphaakhwamidepriybkhxngfayehnuxinrayayaw klawkhuxyingsngkhramyingyudeyux khwamidepriybkhxngfayehnuxyingaesdngxxkmachd nkprawtisastrsngkhram Shelby Foote epriybethiybwa fayehnuxehmuxnkhnthisuodyexamuxhnungiphlhlngiw aelacaexacringemuxihrkid hakthukfaysmaphnthrthkddncnthungcudhnung sungxyuxikiklmak aelatlxdsngkhramni fayitimekhybngkhbihfayehnuxexacringiddwysa tncungaenicwafayitimekhymioxkasthicachnainsngkhramni rakhakhxngsngkhram sngkhramklangemuxngthaihmiphubadecblmtayimnxykwa 1 030 000 ray khidepnrxylasamkhxngprachakrthnghmd rwmepnthharthiesiychiwit 620 000 nay odysxnginsamepnephraaorkhrabadaelakartidechux aelamiphleruxy 50 000 khnesiychiwit nkprawtisastrbangrayechuxwatwelkhdngklawepnkarpraeminthitaekinip aelakhwamepncringyxdthharesiychiwitxacsungthung 750 000 850 000 nay hruxkwasxngethakhxngthharxemriknthitayinsngkhramolkkhrngthisxng sngkhramklangemuxngcungnbwaphrachiwitkhnxemriknipmakkwacanwnphuesiychiwitinsngkhramkhrngxunrwmkn karsarwcsamaonkhrwpi 1860 phbwarxyla 6 khxngchayxemriknphiwkhawinrththangehnux xayurahwang 13 43 pi tayinsngkhram inphakhitxtranisungthungrxyla 18 thharpraman 56 000 khntayinkhaynkothsrahwangsngkhram aelaphuthiphikarsuyesiyaekhnkhamipraman 60 000 khn cakkarsarwcbnthukody nkprawtisastr fxks wileliym fayehnuxmithhartayrwm 359 528 nay khidepnrxyla 15 khxngthharkwa 2 lannaythiekharbichchati odyincanwnni 110 070 tayinsnamrb 67 000 hruxenuxcakphisbadaephl 43 000 199 790 tayephraaorkhphyikhecb rxyla 75 ekiywkhxngkbsngkhram 24 866 tayinkhaykkknnkothskhxngfaysmaphnthrth 15 741 tayephraasaehtuxun xyangirkdiniepncanwnthitakwacanwnphubadecb esiychiwitxyangepnthangkarthipraeminody United States Nation Park Service shphaph 853 838 110 100 tayinsnamrb 224 580 tayephraaorkh 275 154 badecbinkarptibtihnathi 211 411 thukcb rwmthung 30 192 nay thitayinthanaechlysngkhram smaphnthrthxemrika 914 660 94 000 tayinsnamrb 164 000 tayephraaorkh 194 026 badecbinkarptibtihnathi 462 634 thukcb rwmthung 31 000 nay thitayinthanaechlysngkhram karelikthas karburnahlngsngkhram phlkrathbthangethkhonolyikhxngsngkhramxnusrn aelakarralukthungkarxangthunginnganthangsilpaaelawthnthrrmhmayehtuthukyingemuxwnthi 22 mithunayn kh s 1865 canwnthharthnghmdthithukrbich Union population 1864 aggregates 1860 population average annual immigration 1855 1864 and population governed formerly by CSA per Kenneth Martis source Contrabands and after the Emancipation Proclamation freedmen migrating into Union control on the coasts and to the advancing armies and natural increase are excluded Slave 1864 CSA aggregates 1860 slave census of Virginia North Carolina South Carolina Georgia and Texas It omits losses from contraband and after the Emancipation Proclamation freedmen migrating to the Union controlled coastal ports and those joining advancing Union armies especially in the Mississippi Valley xangxing The Belligerent Rights of the Rebels at an End All Nations Warned Against Harboring Their Privateers If They Do Their Ships Will be Excluded from Our Ports Restoration of Law in the State of Virginia The Machinery of Government to be Put in Motion There The New York Times Associated Press May 10 1865 Facts National Park Service Size of the Union Army in the American Civil War Of which 131 000 were in the Navy and Marines 140 000 were garrison troops and home defense militia and 427 000 were in the field army Long E B The Civil War Day by Day An Almanac 1861 1865 Garden City NY Doubleday 1971 OCLC 68283123 p 705 The war of the rebellion a compilation of the official records of the Union and Confederate armies Series 4 Volume 2 United States War Dept 1900 Fox William F Regimental losses in the American Civil War 1889 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2017 12 06 subkhnemux 2015 05 03 John W Chambers II ed in chief The Oxford Companion to American Military History Oxford University Press 1999 ISBN 978 0 19 507198 6 P 849 gt Time Life Books 1st edition 1987 ASIN B000LF840C 1 Howard Jones Abraham Lincoln and a New Birth of Freedom The Union and Slavery in the Diplomacy of the Civil War 1999 p 154 Frank J Williams Doing Less and Doing More The President and the Proclamation Legally Militarily and Politically in Harold Holzer ed The Emancipation Proclamation 2006 pp 74 5 Huddleston 2002 p 3 Paul Boyer aelakhna 2010 The Enduring Vision Volume I To 1877 Cengage Learning p 343 Laurence F Jones Edward C Olson 1996 Political Science Research A Handbook of Scope and Methods HarperCollins College Publishers p 143 ISBN 978 0 06 501637 6 Then in the buildup to the Civil War large numbers of Americans began thinking of themselves as something other than American for example southerners Catton 1960 p 10 Coates Ta Nehisi 22 June 2015 What This Cruel War Was Over The Atlantic subkhnemux 21 December 2016 Catton 1960 pp 7 8 U S Constitution Art IV sec 2 Cl 3 Arrington Benjamin T Industry and Economy during the Civil War National Park Service phasaxngkvs PRIGG V PENNSYLVANIA 41 U S 539 Volume 41 1842 US Supreme Court Cases from Justia amp Oyez Baker H Robert Personal Liberty Laws ESSENTIAL CIVIL WAR CURRICULUM phasaxngkvs subkhnemux 14 September 2017 Murray Williamson Wayne Hsieh 2016 A savage War A Military History of the Civil War Princetn Univ Press Catton 1960 p 11 Missouri Compromise phasaxngkvs History Channel subkhnemux 14 September 2017 Wilmot Proviso phasaxngkvs History Channel subkhnemux 14 September 2017 James Munro McPherson Drawn With the Sword Reflections on the American Civil War Oxford University Press 1997 p 29 Uncle Tom s Cabin by Harriet Beecher Stowe Vintage Books Modern Library Edition 1991 p 150 The most dreadful part of slavery to my mind is its outrages of feelings and affections the separating of families for example Jordan Lake Joy 2005 Whitewashing Uncle Tom s Cabin Nineteenth Century Women Novelists Respond to Stowe Vanderbilt University Press Catton 1960 p 13 Dunne amp Regan 2015 pp 30 31 sfn error no target CITEREFDunne amp Regan2015 Watts Dale 1995 How Bloody Was Bleeding Kansas Political Killings in Kansas territory 1854 1861 Kansas History A Journal of the Central Plains 18 2 116 29 Finkelman Paul 2007 Scott v Sandford The Court s Most Dreadful Case and How it Changed History PDF Chicago Kent Law Review 82 3 41 Dred Scott v Sandford 60 U S 393 1857 Address to the people of Illinois in Collected Works of Abraham Lincoln I p 315 House Divided Speech Lincoln Home last visited Sep 15 2017 Faragher John Mack aelakhna 2005 Out of Many A History of the American People Revised Printing 4th Ed ed Englewood Cliffs N J Prentice Hall p 388 ISBN 0 13 195130 0 Party Divisions of the House of Representatives United States House of Representatives subkhnemux 15 knyayn 2017 Dunn amp Regan 2015 p 36 sfn error no target CITEREFDunn amp Regan2015 Catton 1960 p 19 Date of Secession Related to 1860 Black Population America s Civil War McPherson 1988 p 24 http www presidency ucsb edu ws index php pid 29501 Buchanan James Fourth Annual Message to Congress on the State of the Union December 3 1860 Rhodes James Ford History of the United States from the compromise of 1850 to the McKinley Bryan campaign of 1896 Volume III 1920 pp 41 66 First Inaugural Address of Abraham Lincoln xngkvs The Avalon Project ibid Potter amp Fehrenbacher 1976 p 572 73 Catton 1960 pp 25 26 Allan Nevins The War for the Union The Improvised War 1861 1862 1959 pp 74 75 McClintock Russell 1959 Lincoln and the Decision for War The Northern Response to Secession Chapel Hill The University of North Carolina Press p 254 74 ISBN 978 0 8078 3188 5 Rhodes James Ford History of the United States from the compromise of 1850 to the McKinley Bryan campaign of 1896 Volume III 1920 pp 291 92 McPherson 1988 p 274 Howard Louis Conard 1901 Encyclopedia of the History of Missouri p 45 Catton 1960 p 26 McPherson 1988 pp 276 307 Catton 1960 p 33 Albert Bernhardt Faust The German Element in the United States 1909 v 1 p 523 online Judith Lee Hallock The Role of the Community in Civil War Desertion Civil War History 1983 29 2 pp 123 34 online Bearman Peter S 1991 Desertion as localism Army unit solidarity and group norms in the U S Civil War Social Forces 70 2 321 42 Tucker Pierpaoli amp White 2010 p 462 Welles 1865 p 152 Bourne 1961 p 623 25 sfn error no target CITEREFBourne1961 Sven Beckert Emancipation and empire Reconstructing the worldwide web of cotton production in the age of the American Civil War American Historical Review 109 5 2004 1405 1438 in JSTOR Beckert Empire of cotton A new history of global capitalism 2014 pp 241 73 Appletons annual cyclopaedia and register of important events of the year 1862 New York D Appleton amp Company 1863 p 604 U S Navy Maritime History of Massachusetts A National Register of Historic Places Travel Itinerary nps gov subkhnemux 31 October 2015 Bulloch 1884 p 2 sfn error no target CITEREFBulloch1884 Scharf 1894 p 53 54 sfn error no target CITEREFScharf1894 American Civil War The Blockade and the War at Sea historyofwar org subkhnemux 31 October 2015 Nelson 2005 p 345 Sondhaus Naval Warfare 1815 1914 p 85 McPherson 1988 pp 424 27 McPherson 1988 pp 538 44 McPherson 1988 pp 528 33 McPherson 1988 pp 557 558 McPherson 1988 pp 571 74 McPherson 1988 pp 639 45 Noyalas Jonathan A 2010 Stonewall Jackson s 1862 Valley Campaign Arcadia Publishing p 93 McPherson 1988 pp 653 663 McPherson 1988 p 664 McPherson 1988 pp 404 05 McPherson 1988 pp 418 20 McPherson 1988 pp 480 83 McPherson 1988 pp 405 13 McPherson 1988 pp 637 38 McPherson 1988 pp 677 80 Keegan 2009 p 270 Keegan 2009 p 100 James B Martin Third War Irregular Warfare on the Western Border 1861 1865 Combat Studies Institute Leavenworth Paper series number 23 2012 Michael Fellman Inside War The Guerrilla Conflict in Missouri during the Civil War 1989 aekhechphaainmissurikmikarekhahahnknkwa 1 000 khrng rahwanghnwyrbpracakar kbhnwyrbkxngocrthisnbsnunsmaphnthrth sungmiepncanwnmakindinaedntawntkthiephingidrbkarbukebikihm Bohl Sarah 2004 A War on Civilians Order Number 11 and the Evacuation of Western Missouri Prologue 36 1 44 51 Graves William H 1991 Indian Soldiers for the Gray Army Confederate Recruitment in Indian Territory Chronicles of Oklahoma 69 2 134 145 Neet J Frederick Jr 1996 Stand Watie Confederate General in the Cherokee Nation Great Plains Journal 6 1 36 51 Davis 1999 p 94 sfn error no target CITEREFDavis1999 Maritime Activity Reports 1942 Marine News vol 29 U S Grant 1990 Personal Memoirs of U S Grant Selected Letters Library of America p 247 ISBN 0 940450 58 5 Field Ron 2013 Petersburg 1864 65 The Longest Siege Osprey Publishing p 6 lingkesiy McPherson 1988 pp 723 24 American Battlefield Protection Program National Park Service c 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2017 11 11 subkhnemux December 12 2016 McPherson 1988 pp 778 79 McPherson 1988 pp 812 15 McPherson 1988 pp 825 30 McPherson 1988 pp 846 McPherson 1988 pp 847 48 McPherson 1988 pp 848 McPherson 1988 pp 849 February 7 2016 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 02 07 subkhnemux 2017 09 21 Web Retrieved February 6 2016 Morris John Wesley 1977 Ghost towns of Oklahoma University of Oklahoma Press pp 68 69 ISBN 0 8061 1420 7 McPherson 1988 p 861 khwamyawesnthangrthifmacak Chauncey Depew ed One Hundred Years of American Commerce 1795 1895 p 111 sahrbcanwnprachakr du 1860 U S Census PDF Carter Susan B b k 2006 The Historical Statistics of the United States Millennial Edition 5 vols Martis Kenneth C The Historical Atlas of the Congresses of the Confederate States of America 1861 1865 Simon amp Schuster 1994 ISBN 0 13 389115 1 p 27 At the beginning of 1865 the Confederacy controlled one third of its congressional districts which were apportioned by population The major slave populations found in Louisiana Mississippi Tennessee and Alabama were effectively under Union control by the end of 1864 Digital History Reader U S Railroad Construction 1860 1880 Virginia Tech Retrieved August 21 2012 Total Union railroad miles aggregates existing track reported 1860 21800 plus new construction 1860 1864 5000 plus southern railroads administered by USMRR 2300 brrnanukrm Ahlstrom Sydney E 1972 A Religious History of the American People New Haven Connecticut Yale University Press ISBN 978 0 300 01762 5 Anderson Bern 1989 By Sea and By River The naval history of the Civil War New York New York Da Capo Press ISBN 978 0 306 80367 3 lingkesiy Asante Molefi Kete Mazama Ama 2004 Encyclopedia of Black Studies Thousand Oaks California SAGE Publications ISBN 978 0 7619 2762 4 Beringer Richard E Archer Jones and Herman Hattaway 1986 Why the South Lost the Civil War influential analysis of factors an abridged version is The Elements of Confederate Defeat Nationalism War Aims and Religion 1988 Bestor Arthur 1964 The American Civil War as a Constitutional Crisis 69 2 327 52 doi 10 2307 1844986 JSTOR 1844986 Canney Donald L 1998 Lincoln s Navy The Ships Men and Organization 1861 65 Annapolis Maryland Naval Institute Press ISBN 978 1 55750 519 4 Chambers John W Anderson Fred 1999 The Oxford Companion to American Military History Oxford New York Oxford University Press ISBN 978 0 19 507198 6 Dincaslan M Bahadirhan 2022 Amerikan Ic Savasi El Kitabi US Civil War Handbook Ankara Turkey Altinordu Yayinlari Press ISBN 978 6 257 61066 7 1995 Lincoln New York Simon amp Schuster ISBN 978 0 684 80846 8 Dunkerly Robert M 2015 To the Bitter End Appomattox Bennett Place and the Surrenders of the Confederacy El Dorado Hills CA Savas Beatie ISBN 978 1 61121 252 5 1981 Politics and Ideology in the Age of the Civil War Oxford New York Oxford University Press ISBN 978 0 19 502926 0 subkhnemux April 20 2012 Foner Eric 2010 The Fiery Trial Abraham Lincoln and American Slavery New York W W Norton amp Co ISBN 978 0 393 34066 2 Foote Shelby 1974 New York Vintage Books ISBN 978 0 394 74623 4 Frank Joseph Allan Reaves George A 2003 Seeing the Elephant Raw Recruits at the Battle of Shiloh Urbana Illinois University of Illinois Press ISBN 978 0 252 07126 3 Fuller Howard J 2008 Clad in Iron The American Civil War and the Challenge of British Naval Power Annapolis Maryland Naval Institute Press ISBN 978 1 59114 297 3 Gallagher Gary W 1999 The Confederate War Cambridge Massachusetts Harvard University Press ISBN 978 0 674 16056 9 2011 The Union War Cambridge Massachusetts Harvard University Press ISBN 978 0 674 06608 3 Gara Larry 1964 The Fugitive Slave Law A Double Paradox in Essays on the Civil War and Reconstruction New York Holt Rinehart and Winston 1970 originally published in Civil War History Vol 10 No 3 September 1964 pp 229 240 Hacker J David December 2011 A Census Based Count of the Civil War Dead Civil War History 57 4 307 48 doi 10 1353 cwh 2011 0061 PMID 22512048 Heidler David S Heidler Jeanne T Coles David J 2002 Encyclopedia of the American Civil War A Political Social and Military History Santa Barbara California ABC CLIO ISBN 978 1 57607 382 7 Herring George C 2011 From Colony to Superpower U S Foreign Relations since 1776 Oxford New York Oxford University Press ISBN 978 0 19 976553 9 lingkesiy 1938 The Tariff Issue on the Eve of the Civil War 44 1 50 55 doi 10 2307 1840850 JSTOR 1840850 Gabbard Sara Vaughn b k 2007 Lincoln and Freedom Slavery Emancipation and the Thirteenth Amendment Carbondale Illinois Southern Illinois University Press ISBN 978 0 8093 2764 5 Hunt Jeffrey Wm 2015 The Last Battle of the Civil War Palmetto Ranch Austin TX University of Texas Press ISBN 978 0 292 73461 6 Johannsen Robert W 1973 Stephen A Douglas New York Oxford University Press ISBN 978 0 19 501620 8 Johnson Timothy D 1998 Winfield Scott The Quest for Military Glory Lawrence Kansas University Press of Kansas ISBN 978 0 7006 0914 7 Jones Howard 2002 Crucible of Power A History of American Foreign Relations to 1913 Wilmington Delaware Rowman amp Littlefield ISBN 978 0 8420 2916 2 Jones Terry L 2011 Historical Dictionary of the Civil War Scarecrow Press ISBN 978 0 8108 7953 9 Keegan John 2009 The American Civil War A Military History New York Alfred A Knopf ISBN 978 0 307 26343 8 Krannawitter Thomas L 2008 Vindicating Lincoln defending the politics of our greatest president Lanham Maryland Rowman amp Littlefield Publishers ISBN 978 0 7425 5972 1 Long E B 1971 The Civil War Day by Day An Almanac 1861 1865 Garden City NY Doubleday OCLC 68283123 McPherson James M 1988 Oxford New York Oxford University Press ISBN 978 0 19 503863 7 McPherson James M 1997 For Cause and Comrades Why Men Fought in the Civil War Oxford New York Oxford University Press ISBN 978 0 19 974105 2 2007 This Mighty Scourge Perspectives on the Civil War Oxford New York Oxford University Press ISBN 978 0 19 539242 5 Mendelsohn Adam 2012 Samuel and Saul Isaac International Jewish Arms Dealers Blockade Runners and Civil War Profiteers PDF Journal of the Southern Jewish Historical Society Southern Jewish Historical Society 15 41 79 ekb PDF cakaehlngedimemux 2022 10 09 Murray Williamson Bernstein Alvin Knox MacGregor 1996 The Making of Strategy Rulers States and War Cabmbridge New York Cambridge University Press ISBN 978 0 521 56627 8 1993 Confederate Bastille Jefferson Davis and Civil Liberties Milwaukee Wisconsin Marquette University Press ISBN 978 0 87462 325 3 Neff Stephen C 2010 Justice in Blue and Gray A Legal History of the Civil War Cambridge MA Harvard University Press ISBN 978 1 61121 252 5 lt ref gt Nelson James L 2005 Reign of Iron The Story of the First Battling Ironclads the Monitor and the Merrimack New York HarperCollins ISBN 978 0 06 052404 3 an 8 volume set 1947 1971 the most detailed political economic and military narrative by Pulitzer Prize winner 1 Fruits of Manifest Destiny 1847 1852 online 2 A House Dividing 1852 1857 3 Douglas Buchanan and Party Chaos 1857 1859 4 Prologue to Civil War 1859 1861 vols 5 8 have the series title War for the Union 5 The Improvised War 1861 1862 6 online War Becomes Revolution 1862 1863 7 The Organized War 1863 1864 8 The Organized War to Victory 1864 1865 Olsen Christopher J 2002 Political Culture and Secession in Mississippi Masculinity Honor and the Antiparty Tradition 1830 1860 Oxford New York Oxford University Press ISBN 978 0 19 516097 0 Potter David M 1962b The Historian s Use of Nationalism and Vice Versa 67 4 924 50 doi 10 2307 1845246 JSTOR 1845246 Potter David M Fehrenbacher Don E 1976 The Impending Crisis 1848 1861 New York Harper amp Row ISBN 978 0 06 013403 7 Richter William L 2009 The A to Z of the Civil War and Reconstruction Lanham Scarecrow Press ISBN 978 0 8108 6336 1 Russell Robert R 1966 Constitutional Doctrines with Regard to Slavery in Territories 32 4 466 86 doi 10 2307 2204926 JSTOR 2204926 Sheehan Dean Aaron A Companion to the U S Civil War 2 vol April 2014 Wiley Blackwell New York ISBN 978 1 444 35131 6 1232pp 64 Topical chapters by scholars and experts emphasis on historiography 1990 America in 1857 A Nation on the Brink Oxford New York Oxford University Press ISBN 978 0 19 503902 3 1962 The Confederate Navy Doubleday amp Company Inc Clipson William J 2001 The Naval Institute Historical Atlas of the U S Navy Naval Institute Press ISBN 978 1 55750 984 0 Thornton Mark Ekelund Robert Burton 2004 Tariffs Blockades and Inflation The Economics of the Civil War Rowman amp Littlefield Tucker Spencer C Pierpaoli Paul G White William E 2010 The Civil War Naval Encyclopedia Santa Barbara California ABC CLIO ISBN 978 1 59884 338 5 2008 Disunion The Coming of the American Civil War 1789 1859 Chapel Hill North Carolina University of North Carolina Press ISBN 978 0 8078 3232 5 Vinovskis Maris 1990 Toward a Social History of the American Civil War Exploratory Essays Cambridge England Cambridge University Press ISBN 978 0 521 39559 5 Ward Geoffrey R 1990 The Civil War An Illustrated History New York Alfred A Knopf ISBN 978 0 394 56285 8 Weeks William E 2013 The New Cambridge History of American Foreign Relations Cambridge New York Cambridge University Press ISBN 978 1 107 00590 7 Weigley Frank Russell 2004 A Great Civil War A Military and Political History 1861 1865 Bloomington Indiana Indiana University Press ISBN 978 0 253 33738 2 1865 Secretary of the Navy s Report Vol 37 38 American Seamen s Friend Society Winters John D 1963 The Civil War in Louisiana Baton Rouge Louisiana ISBN 978 0 8071 0834 5 Wise Stephen R 1991 Lifeline of the Confederacy Blockade Running During the Civil War University of South Carolina Press ISBN 978 0 8724 97993 Borrow book at archive org Woodworth Steven E 1996 The American Civil War A Handbook of Literature and Research Wesport Connecticut Greenwood Press ISBN 978 0 313 29019 0 duephim 1960 The Civil War New York American Heritage Distributed by Houghton Mifflin ISBN 978 0 8281 0305 3 1983 Stand in the Day of Battle The Imperiled Union 1861 1865 Garden City New York Doubleday ISBN 978 0 385 14895 5 Donald David Baker Jean H Holt Michael F 2001 The Civil War and Reconstruction New York W W Norton amp Company ISBN 978 0 393 97427 0 Davis William C 2003 Look Away A History of the Confederate States of America New York Free Press ISBN 978 0 7432 3499 3 1981 Slavery Law and Politics The Dred Scott Case in Historical Perspective Oxford New York Oxford University Press ISBN 978 0 19 502883 6 Fellman Michael Sunderland Daniel E 2007 This Terrible War The Civil War and its Aftermath 2nd ed New York Pearson ISBN 978 0 321 38960 2 Green Fletcher M 2008 Constitutional Development in the South Atlantic States 1776 1860 A Study in the Evolution of Democracy Chapel Hill North Carolina University of North Carolina Press ISBN 978 1 58477 928 5 2009 Lincoln A Very Short Introduction Oxford New York Oxford University Press ISBN 978 0 19 536780 5 Guelzo Allen C 2012 Fateful Lightning A New History of the Civil War and Reconstruction Oxford New York Oxford University Press ISBN 978 0 19 984328 2 Holt Michael F 2005 The Fate of Their Country Politicians Slavery Extension and the Coming of the Civil War New York Hill and Wang ISBN 978 0 8090 4439 9 Huddleston John 2002 Killing Ground The Civil War and the Changing American Landscape Baltimore Maryland Johns Hopkins University Press