บทความนี้ต้องการการจัดหน้า หรือ ให้ คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้เพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |
พอล แอร์ดิช (Paul Erdős บางครั้งสะกด Erdos หรือ Erdös; ฮังการี: Erdős Pál [ˈɛrdøːʃ ˈpaːl]; 26 มี.ค. พ.ศ. 2456 - 20 ก.ย. พ.ศ. 2539) เป็นนักคณิตศาสตร์ผู้โดดเด่น ทั้งในด้านผลงาน และพฤติกรรมอันแปลกประหลาด ผลงานตีพิมพ์ของเขามีจำนวนมหาศาล มีผู้ร่วมตีพิมพ์รวมแล้วนับร้อยคน และเกี่ยวพันกับหลาย ๆ สาขาในคณิตศาสตร์ อาทิ คณิตศาสตร์เชิงการจัด ทฤษฎีกราฟ ทฤษฎีจำนวน ทฤษฎีเซต และ ทฤษฎีความน่าจะเป็น
พอล แอร์ดิช Paul Erdős | |
---|---|
พอล แอร์ดิช ที่งานสัมมนาในเมืองบูดาเปสต์ ฤดูใบไม้ร่วงปีค.ศ. 1992 | |
เกิด | 26 มีนาคม ค.ศ. 1913 บูดาเปสต์, จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี |
เสียชีวิต | 20 กันยายน ค.ศ. 1996 วอร์ซอ, ประเทศโปแลนด์ | (83 ปี)
สัญชาติ | ฮังกาเรียน |
ศิษย์เก่า | |
มีชื่อเสียงจาก | คณิตศาสตร์เชิงการจัด ทฤษฎีกราฟ ทฤษฎีจำนวน |
รางวัล | (1983/84) (1951) |
อาชีพทางวิทยาศาสตร์ | |
สาขา | นักคณิตศาสตร์ |
สถาบันที่ทำงาน | แมนเชสเตอร์ พรินซ์ตัน เพอร์ดู นอเตอร์เดม ไม่เป็นหลักแหล่ง |
อาจารย์ที่ปรึกษาในระดับปริญญาเอก | |
ลูกศิษย์ในระดับปริญญาเอก | |
หมายเหตุ | |
แอร์ดิชมีหมายเลขแอร์ดิชเป็นศูนย์เพียงคนเดียว |
ประวัติ
แอร์ดิช เกิดในเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี โดยมีชื่อเขียนตามภาษาท้องถิ่นว่า Erdős Pál (ที่จริงแล้ว คำว่า Erdős ควรออกเสียงว่า "แอร์-เดิร์ช" ซึ่งตรงกับคำภาษาอังกฤษว่า "Air-dersh") พ่อแม่ของเขาเป็นยิวที่ไม่เคร่งครัดนัก ไม่เพียงแต่แอร์ดิชเท่านั้น ที่เป็นผลผลิตของสังคมยิวในบูดาเปสต์ยุคนั้น, แต่ยังมีนักคิดชื่อดังอีกอย่างน้อย 5 คน ได้แก่ (Eugene Wigner) นักฟิสิกส์ และวิศวกร, เอ็ดเวิร์ด เทลเลอร์ (Edward Teller) นักฟิสิกส์ และการเมือง, (Leó Szilárd) นักเคมี ฟิสิกส์ และการเมือง, จอห์น วอน นอยแมน (John von Neumann) นักคณิตศาสตร์ และผู้รู้รอบด้าน, และ (Georg Lukács) นักปรัชญา แอร์ดิชได้เผยความเป็นเด็กมหัศจรรย์ออกมา ตั้งแต่อายุยังน้อย และในเวลาต่อมาไม่นานนัก ก็ได้รับการยอมรับจากคนในวัยเดียวกัน ว่าเป็นทางคณิตศาสตร์
ถึงแม้ว่าเขาจะมีชื่อเสียงโด่งดัง และยังได้รับรางวัลจำนวนมาก ซึ่งช่วยให้เขาสามารถอยู่ได้อย่างสุขสบายไปตลอดชีวิต แอร์ดิชกลับใช้ชีวิตอย่าง "คนจรจัด" โดยการร่อนเร่ไปตามงานประชุมทางวิทยาศาสตร์ และบ้านของเพื่อนนักคณิตศาสตร์ตามที่ต่าง ๆ ทั่วโลก เป็นเวลาถึง 50 ปี ที่เพื่อนนักคณิตศาสตร์ของเขา จะต้องถูกปลุกขึ้นมากลางดึก โดยผู้มาเยือนที่ไม่ได้คาดฝัน พอล แอร์ดิช ชายผู้ไร้บ้าน และมีถุงใบใหญ่เพียงใบเดียว สำหรับใส่สิ่งของจำเป็น เขามักจะปรากฏตัวที่หน้าประตูบ้านเพื่อน พร้อมกับคำพูด "หัวผมเปิดอยู่" ("my brain is open") แล้วพักอยู่ที่บ้านของเพื่อนคนนั้น นานพอที่จะมีงานวิจัยตีพิมพ์ร่วมกันสองสามชิ้นจึงจากไป ในหลาย ๆ ครั้ง เขามักจะขอให้เพื่อนที่กำลังร่วมงานกันอยู่ปัจจุบัน ช่วยคิดว่าควรจะไปหาใครต่อดี ลักษณะการทำงานของเขานั้น มีผู้นำไปเปรียบเทียบอย่างขำขันว่า เป็นเช่นเดียวกับการวิ่งไปในรายการโยง (เมื่อเขาแก้ปัญหาอันหนึ่งได้ เขาก็จะกระโดดจากปัญหานั้น ไปยังสู่อีกปัญหาหนึ่งเสมอ ไม่รู้จบ) ข้าวของเครื่องใช้ รวมถึงสิ่งที่มีค่าในทางโลก ไม่มีความหมายกับเขา โดยเขาได้บริจาคเงินที่ได้จากรางวัล หรือแหล่งทุนต่าง ๆ ให้กับผู้คนที่ต้องการในหลาย ๆ โอกาส
เขาเคยกล่าวเล่น ๆ ว่า "นักคณิตศาสตร์ คือเครื่องจักรสำหรับเปลี่ยนกาแฟ ให้กลายเป็นทฤษฎีบท" แอร์ดิชดื่มกาแฟจัด และหลังจากปี พ.ศ. 2514 เขาเริ่มใช้สารแอมเฟตามีน แม้ว่าเพื่อน ๆ ของเขาจะทักท้วงจนกระทั่งได้มีการพนันด้วยเงิน 500 ดอลลาร์สหรัฐ ว่าแอร์ดิชจะไม่สามารถหยุดใช้แอมเฟตามีนได้ถึงหนึ่งเดือน แอร์ดิชก็ชนะการพนันครั้งนั้น แต่เขาก็ได้ตัดพ้อว่า มันทำให้คณิตศาสตร์ต้องหยุดการพัฒนาไปถึงหนึ่งเดือนเต็ม ๆ เขากล่าวว่า "ก่อนหน้านี้ เมื่อมองกระดาษ หัวของผมก็เต็มไปด้วยไอเดีย ตอนนี้ผมเห็นแค่กระดาษเปล่า ๆ เท่านั้นเอง" หลังจากที่ชนะพนัน เขาก็กลับไปทำเช่นเดิมทันที
แอร์ดิช ได้บัญญัติศัพท์เฉพาะตัว อยู่จำนวนหนึ่ง เขาพูดถึง "the Book" ว่าเป็นหนังสือ (ในจินตนาการ) ซึ่งพระเจ้าได้บันทึกทางคณิตศาสตร์ที่ดี และสวยงามที่สุดเอาไว้ (จริง ๆ แล้วเขาไม่นับถือเทพเจ้า และมักแทนพระเจ้าเล่น ๆ ด้วยคำว่า "อภิฟาสซิสต์ - Supreme Fascist") เมื่อเขาเห็นเป็นพิเศษ เขาก็จะร้องออกมาว่า "บทพิสูจน์อันนี้ต้องมาจาก the Book แน่ ๆ " คำประหลาดอื่น ๆ ของแอร์ดิช มีทั้ง "เอปซิลอน" ซึ่งหมายถึงเด็ก, "เจ้านาย" หมายถึงผู้หญิง (แน่นอนว่า "ทาส" ก็จะต้องหมายถึงผู้ชาย), คนที่เลิกทำงานด้านคณิตศาสตร์ไปแล้ว เรียกว่า "ตายแล้ว", คนที่ตายไปจริง ๆ เรียกว่า "จากไป", เครื่องดื่มแอลกอฮอล์คือ "ยาพิษ", ดนตรีคือ "เสียงรบกวน", การสอนเล็คเชอร์เกี่ยวกับคณิตศาสตร์ คือการไป "แสดงธรรม" นอกจากนี้ ประเทศต่าง ๆ ที่เขาเห็นว่า ไม่ได้ให้อิสรภาพแก่ประชาชนอย่างพอเพียง ก็จะถูกพิจารณาว่า เป็นพวกจักรวรรดินิยม และได้รับชื่อเล่น ซึ่งจะต้องขึ้นต้นด้วยตัวอักษรตัวเล็กเท่านั้น เช่น สหรัฐอเมริกา คือ "samland", สหภาพโซเวียต เป็น "joedom" (ตามชื่อ โจเซฟ สตาลิน), และ อิสราเอล เป็น "israel" ในของเขา เขาได้บอกให้เขียนข้อความว่า "Végre nem butulok tovább" ("ในที่สุด ข้าพเจ้าก็ไม่เขลาลงอีกต่อไป")
เขา"จากไป"ด้วยโรคหัวใจ ในวันที่ 20 ก.ย. พ.ศ. 2539 ขณะเข้าร่วมการประชุมวิชาการ ในเมืองวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์
ผลงานทางคณิตศาสตร์
แอร์ดิช เป็นคนหนึ่ง ที่มีผลงานตีพิมพ์ออกมามหาศาล ทั้งชีวิตเขาเขียนบทความทางคณิตศาสตร์ ถึงประมาณ 1,500 ชิ้น (เกือบจะมากที่สุด ในประวัติศาสตร์ของวงการคณิตศาสตร์ เป็นรองเพียงแค่ เลออนฮาร์ด ออยเลอร์) ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นการร่วมทำกับผู้อื่น เขามีผู้ร่วมตีพิมพ์รวมแล้วราว 500 คน และได้ทำให้การร่วมงานกันทางคณิตศาสตร์ กลายเป็นการสมาคมแบบหนึ่ง ซึ่งนักคณิตศาสตร์หลาย ๆ คนชื่นชอบ และพยายามเลียนแบบวิธีการทำงานของเขา ในเวลาต่อมา
จากการที่เขามีผลงานจำนวนมากนั้นเอง เพื่อน ๆ ของเขาจึงได้ร่วมกันกำหนด หมายเลขแอร์ดิช (Erdős number) ขึ้นมาเล่น ๆ โดยการนับนั้นเริ่มต้นที่หมายเลข 0 ซึ่งให้กับแอร์ดิชคนเดียวเท่านั้น ในขณะที่หมายเลข 1 จะให้กับผู้ที่มีผลงานตีพิมพ์ร่วมกับแอร์ดิช ส่วนผู้ที่มีผลงานร่วมกับเหล่าหมายเลข 1 นี้ก็จะได้รับหมายเลข 2 และตัวเลขก็จะวิ่งในลักษณะนี้ไปเรื่อย ๆ ประมาณ 90% ของนักคณิตศาสตร์ทั้งโลก มีหมายเลขแอร์ดิชต่ำกว่า 10 (ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอย่างใด เพราะมองได้ว่าเป็นแบบหนึ่ง) มีเรื่องเล่าตลก ๆ ว่า นักเบสบอลระดับตำนาน ผู้มีชื่ออยู่ใน (Hank Aaron) มีหมายเลขแอร์ดิชหมายเลข 1 เพราะทั้งคู่เซ็นชื่อลงในลูกเบสบอลลูกเดียวกัน เมื่อ ให้ปริญญากิตติมศักดิ์กับทั้งคู่ในวันเดียวกัน
ต่อไปนี้คือรายชื่อของผู้ที่มีผลงานร่วมกับแอร์ดิชมากที่สุดส่วนหนึ่ง
- (หนึ่งในผู้ร่วมตีพิมพ์ อันโด่งดัง)
อ้างอิง
- "N is a Number – a portrait of Paul Erdos". Zala Films. สืบค้นเมื่อ 2008-09-28.
- พอล แอร์ดิช 2007-05-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Paul Erdös
- J. J. O'Connor and E.F. Robertson. Paul Erdös 2004-04-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (at the MacTutor History of Mathematics archive 2004-08-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน)
- Paul Hoffman. The man who loved only numbers. Hyperion, 1998. ISBN (see also Hoffman's web site: Paul Erdős 2005-12-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน)
- Bruce Schechter. My brain is open. Touchstone, 2000. ISBN (biography)
- N is a Number: a portrait of Paul Erdos
- Jerry Grossman at Oakland University. The Erdős Number Project
- ฮอฟฟ์แมน, พอล. ผู้ชายที่หลงรักตัวเลข: The Man Who Loved Only Numbers. นรา สุภัคโรจน์, ผู้แปล. มติชน, 2548.
แหล่งข้อมูลอื่น
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnitxngkarkarcdhna cdhmwdhmu islingkphayin hruxekbkwadenuxha ihmikhunphaphdikhun khunsamarthprbprungaekikhbthkhwamniid aelanapayxxk phicarnaichpaykhxkhwamxunephuxchichdkhxbkphrxng phxl aexrdich Paul Erdos bangkhrngsakd Erdos hrux Erdos hngkari Erdos Pal ˈɛrdoːʃ ˈpaːl 26 mi kh ph s 2456 20 k y ph s 2539 epnnkkhnitsastrphuoddedn thngindanphlngan aelaphvtikrrmxnaeplkprahlad phlngantiphimphkhxngekhamicanwnmhasal miphurwmtiphimphrwmaelwnbrxykhn aelaekiywphnkbhlay sakhainkhnitsastr xathi khnitsastrechingkarcd thvsdikraf thvsdicanwn thvsdiest aela thvsdikhwamnacaepnphxl aexrdich Paul Erdosphxl aexrdich thingansmmnainemuxngbudaepst vduibimrwngpikh s 1992ekid26 minakhm kh s 1913 1913 03 26 budaepst ckrwrrdixxsetriy hngkariesiychiwit20 knyayn kh s 1996 1996 09 20 83 pi wxrsx praethsopaelndsychatihngkaeriynsisyekamichuxesiyngcakkhnitsastrechingkarcd thvsdikraf thvsdicanwnrangwl 1983 84 1951 xachiphthangwithyasastrsakhankkhnitsastrsthabnthithanganaemnechsetxr phrinstn ephxrdu nxetxredm imepnhlkaehlngxacarythipruksainradbpriyyaexkluksisyinradbpriyyaexkhmayehtuaexrdichmihmayelkhaexrdichepnsunyephiyngkhnediywprawtiaexrdich ekidinemuxngbudaepst praethshngkari odymichuxekhiyntamphasathxngthinwa Erdos Pal thicringaelw khawa Erdos khwrxxkesiyngwa aexr edirch sungtrngkbkhaphasaxngkvswa Air dersh phxaemkhxngekhaepnyiwthiimekhrngkhrdnk imephiyngaetaexrdichethann thiepnphlphlitkhxngsngkhmyiwinbudaepstyukhnn aetyngminkkhidchuxdngxikxyangnxy 5 khn idaek Eugene Wigner nkfisiks aelawiswkr exdewird ethlelxr Edward Teller nkfisiks aelakaremuxng Leo Szilard nkekhmi fisiks aelakaremuxng cxhn wxn nxyaemn John von Neumann nkkhnitsastr aelaphururxbdan aela Georg Lukacs nkprchya aexrdichidephykhwamepnedkmhscrryxxkma tngaetxayuyngnxy aelainewlatxmaimnannk kidrbkaryxmrbcakkhninwyediywkn waepnthangkhnitsastr thungaemwaekhacamichuxesiyngodngdng aelayngidrbrangwlcanwnmak sungchwyihekhasamarthxyuidxyangsukhsbayiptlxdchiwit aexrdichklbichchiwitxyang khncrcd odykarrxneriptamnganprachumthangwithyasastr aelabankhxngephuxnnkkhnitsastrtamthitang thwolk epnewlathung 50 pi thiephuxnnkkhnitsastrkhxngekha catxngthukplukkhunmaklangduk odyphumaeyuxnthiimidkhadfn phxl aexrdich chayphuirban aelamithungibihyephiyngibediyw sahrbissingkhxngcaepn ekhamkcaprakttwthihnapratubanephuxn phrxmkbkhaphud hwphmepidxyu my brain is open aelwphkxyuthibankhxngephuxnkhnnn nanphxthicaminganwicytiphimphrwmknsxngsamchincungcakip inhlay khrng ekhamkcakhxihephuxnthikalngrwmnganknxyupccubn chwykhidwakhwrcaiphaikhrtxdi lksnakarthangankhxngekhann miphunaipepriybethiybxyangkhakhnwa epnechnediywkbkarwingipinraykaroyng emuxekhaaekpyhaxnhnungid ekhakcakraoddcakpyhann ipyngsuxikpyhahnungesmx imrucb khawkhxngekhruxngich rwmthungsingthimikhainthangolk immikhwamhmaykbekha odyekhaidbricakhenginthiidcakrangwl hruxaehlngthuntang ihkbphukhnthitxngkarinhlay oxkas ekhaekhyklaweln wa nkkhnitsastr khuxekhruxngckrsahrbepliynkaaef ihklayepnthvsdibth aexrdichdumkaaefcd aelahlngcakpi ph s 2514 ekhaerimichsaraexmeftamin aemwaephuxn khxngekhacathkthwngcnkrathngidmikarphnndwyengin 500 dxllarshrth waaexrdichcaimsamarthhyudichaexmeftaminidthunghnungeduxn aexrdichkchnakarphnnkhrngnn aetekhakidtdphxwa mnthaihkhnitsastrtxnghyudkarphthnaipthunghnungeduxnetm ekhaklawwa kxnhnani emuxmxngkradas hwkhxngphmketmipdwyixediy txnniphmehnaekhkradasepla ethannexng hlngcakthichnaphnn ekhakklbipthaechnedimthnthi aexrdich idbyytisphthechphaatw xyucanwnhnung ekhaphudthung the Book waepnhnngsux incintnakar sungphraecaidbnthukthangkhnitsastrthidi aelaswyngamthisudexaiw cring aelwekhaimnbthuxethpheca aelamkaethnphraecaeln dwykhawa xphifassist Supreme Fascist emuxekhaehnepnphiess ekhakcarxngxxkmawa bthphisucnxnnitxngmacak the Book aen khaprahladxun khxngaexrdich mithng expsilxn sunghmaythungedk ecanay hmaythungphuhying aennxnwa thas kcatxnghmaythungphuchay khnthielikthangandankhnitsastripaelw eriykwa tayaelw khnthitayipcring eriykwa cakip ekhruxngdumaexlkxhxlkhux yaphis dntrikhux esiyngrbkwn karsxnelkhechxrekiywkbkhnitsastr khuxkarip aesdngthrrm nxkcakni praethstang thiekhaehnwa imidihxisrphaphaekprachachnxyangphxephiyng kcathukphicarnawa epnphwkckrwrrdiniym aelaidrbchuxeln sungcatxngkhuntndwytwxksrtwelkethann echn shrthxemrika khux samland shphaphosewiyt epn joedom tamchux ocesf stalin aela xisraexl epn israel inkhxngekha ekhaidbxkihekhiynkhxkhwamwa Vegre nem butulok tovabb inthisud khaphecakimekhlalngxiktxip ekha cakip dwyorkhhwic inwnthi 20 k y ph s 2539 khnaekharwmkarprachumwichakar inemuxngwxrsx praethsopaelndphlnganthangkhnitsastraexrdich epnkhnhnung thimiphlngantiphimphxxkmamhasal thngchiwitekhaekhiynbthkhwamthangkhnitsastr thungpraman 1 500 chin ekuxbcamakthisud inprawtisastrkhxngwngkarkhnitsastr epnrxngephiyngaekh elxxnhard xxyelxr sungswnihymkepnkarrwmthakbphuxun ekhamiphurwmtiphimphrwmaelwraw 500 khn aelaidthaihkarrwmnganknthangkhnitsastr klayepnkarsmakhmaebbhnung sungnkkhnitsastrhlay khnchunchxb aelaphyayameliynaebbwithikarthangankhxngekha inewlatxma cakkarthiekhamiphlngancanwnmaknnexng ephuxn khxngekhacungidrwmknkahnd hmayelkhaexrdich Erdos number khunmaeln odykarnbnnerimtnthihmayelkh 0 sungihkbaexrdichkhnediywethann inkhnathihmayelkh 1 caihkbphuthimiphlngantiphimphrwmkbaexrdich swnphuthimiphlnganrwmkbehlahmayelkh 1 nikcaidrbhmayelkh 2 aelatwelkhkcawinginlksnaniiperuxy praman 90 khxngnkkhnitsastrthngolk mihmayelkhaexrdichtakwa 10 sungimicheruxngaeplkxyangid ephraamxngidwaepnaebbhnung mieruxngelatlk wa nkebsbxlradbtanan phumichuxxyuin Hank Aaron mihmayelkhaexrdichhmayelkh 1 ephraathngkhuesnchuxlnginlukebsbxllukediywkn emux ihpriyyakittimskdikbthngkhuinwnediywkn txipnikhuxraychuxkhxngphuthimiphlnganrwmkbaexrdichmakthisudswnhnung hnunginphurwmtiphimph xnodngdng xangxing N is a Number a portrait of Paul Erdos Zala Films subkhnemux 2008 09 28 phxl aexrdich 2007 05 28 thi ewyaebkaemchchin Paul Erdos J J O Connor and E F Robertson Paul Erdos 2004 04 02 thi ewyaebkaemchchin at the MacTutor History of Mathematics archive 2004 08 12 thi ewyaebkaemchchin Paul Hoffman The man who loved only numbers Hyperion 1998 ISBN see also Hoffman s web site Paul Erdos 2005 12 30 thi ewyaebkaemchchin Bruce Schechter My brain is open Touchstone 2000 ISBN biography N is a Number a portrait of Paul Erdos Jerry Grossman at Oakland University The Erdos Number Project hxffaemn phxl phuchaythihlngrktwelkh The Man Who Loved Only Numbers nra suphkhorcn phuaepl mtichn 2548 ISBN 974 323 346 6aehlngkhxmulxunwikikhakhmphasaxngkvs English mikhakhmthiklawody hruxekiywkb Paul Erdos wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb phxl aexrdich