พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมเขตรมงคล (10 มีนาคม พ.ศ. 2435 – 23 มกราคม พ.ศ. 2500) เป็นพระธิดาในสมเด็จพระราชปิตุลา บรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช กับหม่อมแม้น ภาณุพันธุ์ ณ อยุธยา และเป็นพระชายาในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมเขตรมงคล | |
---|---|
พระเจ้าวรวงศ์เธอ ชั้น 4 พระองค์เจ้าชั้นโท | |
ประสูติ | 10 มีนาคม พ.ศ. 2435 |
สิ้นพระชนม์ | 23 มกราคม พ.ศ. 2500 (64 ปี) |
พระราชทานเพลิง | 26 มิถุนายน พ.ศ. 2500 พระเมรุ วัดเทพศิรินทราวาส |
พระสวามี | สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ |
พระบุตร | |
ราชสกุล | ภาณุพันธุ์ (ประสูติ) ยุคล (เสกสมรส) |
ราชวงศ์ | จักรี |
พระบิดา | สมเด็จพระราชปิตุลา บรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช |
พระมารดา | หม่อมแม้น ภาณุพันธุ์ ณ อยุธยา |
พระประวัติ
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมเขตรมงคล (พระยศเดิม หม่อมเจ้าเฉลิมเขตรมงคล) เป็นพระธิดาในสมเด็จพระราชปิตุลา บรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ประสูติแต่หม่อมแม้น ภาณุพันธุ์ ณ อยุธยา (สกุลเดิม บุนนาค) มีพระโสทรเชษฐา 2 พระองค์ ได้แก่
พระองค์เป็นพระธิดาที่ใกล้ชิดกับพระบิดา ด้วยความที่ทรงกำพร้าพระมารดาตั้งแต่พระชันษาได้เพียง 2 ปี จึงเลี้ยงไว้ไม่ห่างพระองค์ ด้วยความรักในพระธิดา สิ่งใดที่เป็นความสุขและความปรารถนาของพระธิดา ถ้าไม่เหลือความสามารถแล้วพระองค์หญิงเป็นต้องได้ ทั้งนี้มีพี่เลี้ยงเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์คือ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าคำรบ ซึ่งเป็นนายทหารคนสนิทของพระบิดา โดยพระองค์ทรงเรียกพระองค์เจ้าคำรบว่า "แม่"
ในปีที่พระองค์ประสูตินั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงฉลองสิริราชสมบัติครบ 25 ปี จึงมีเจ้านายทูลขอพระราชทานพระนามสำหรับพระโอรส-ธิดาในเวลาไล่เลี่ยกันสามองค์ คือ
- หม่อมเจ้าเฉลิมเขตรมงคล
- หม่อมเจ้ารัชลาภจีระฐิต (พระโอรสในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ)
- หม่อมเจ้ารัชฎาภิเศก (พระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนพิทยลาภพฤฒิธาดา)
ต่อมาในวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2436 พระองค์ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็น พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า และเมื่อวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2443 สถาปนาขึ้นเป็น พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า พร้อมกับพระโสทรเชษฐาทั้งสองพระองค์
เสกสมรส
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมเขตรมงคล ทรงพบกับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ ครั้งแรกในงานออกร้านวัดเบญจมบพิตร ดังที่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ ทรงเล่าให้หม่อมเจ้าพูนพิศมัย ดิศกุลฟัง ความว่า
“...ในงานออกร้านวัดเบ็ญจมบพิตร เจ้านายหนุ่ม ๆ อยากดูผู้หญิงก็ไม่กล้า เราต้องจัดการให้ ลุงนั่งอยู่กับพวกหนุ่ม ๆ หน้าร้านเรียกสาว ๆ ให้เข้าไปรับแจก บางคนทำดัดจริตกระมิตกระเมี้ยนเพราะมีหนุ่ม ๆ อยู่ด้วย แต่พอถึงยายบี้ [พระองค์เจ้าเฉลิมเขตรมงคล] แกก็ทำหน้าเป๋อไปหมอบกราบเอาเงินแจก แล้วยังซ้ำกราบเจ้านายหนุ่ม ๆ นั้นเสียด้วย สมเด็จชายก็เลยพอพระทัยว่าไม่มีจริต...”
ด้วยความที่พระองค์ไม่มีจริตและน้ำพระทัยอันบริสุทธิ์ ประกอบกับการแสดงออกทางอากัปกิริยาที่เป็นธรรมชาติ คือสิ่งที่ดึงดูดพระทัยสมเด็จชายที่กำลังทรงอยู่ในแวดวงของเหล่าสตรีที่มีจริต และด้วยความสมน้ำสมเนื้อดังกล่าว ความรักของทั้งสองพระองค์ก็ดำเนินไปอย่างราบรื่น
เมื่อพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมเขตรมงคล มีพระชนมายุได้ 16 พรรษา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทรงเสกสมรสกับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลฑิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศร์ และได้รับการยกย่องจากรัชกาลที่ 5 ในฐานะสะใภ้หลวง สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ทรงเล่าถึงงานอภิเษกสมรสนี้ ความว่า
“...ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าคุณจอมมารดาแพ [เจ้าคุณพระประยูรวงศ์] พาพระบุตรีของพระองค์ คือพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมเขตรมงคลไปพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ายุคลฑิฆัมพร กรมขุนลพบุรีราเมศวร์ เป็นนางห้ามสะใภ้หลวงตามธรรมเนียมพิธีอย่างใหม่ที่ใช้กันไม่มีการซู่ซ่าอันใด เมื่อวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๕๐...”
ทั้งนี้สมเด็จชายและพระองค์หญิงทรงครองชีวิตคู่ ที่เรียกอย่างสามัญว่า "ผัวเดียวเมียเดียว" โดยมีพระโอรสด้วยกัน 3 พระองค์ ได้แก่
- พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล (27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2453 – 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538) เสกสมรสกับหม่อมหลวงสร้อยระย้า (ราชสกุลเดิม สนิทวงศ์), หม่อมบุญล้อม (สกุลเดิม นาตระกูล), หม่อมปริม (สกุลเดิม บุนนาค) และหม่อมไฉไล (สกุลเดิม ถาวร) มีพระโอรส-ธิดาทั้งหมด 6 องค์
- พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร (29 เมษายน พ.ศ. 2456 – 1 ตุลาคม พ.ศ. 2534) เสกสมรสกับหม่อมราชวงศ์กุลปราโมทย์ (ราชสกุลเดิม สวัสดิกุล), หม่อมสมเชื้อ (สกุลเดิม ชมเสวี), หม่อมทองไพ (สกุลเดิม ประยูรโต), หม่อมทองแถม (สกุลเดิม ประยูรโต) และหม่อมบัวทอง (สกุลเดิม ไตลังคะ) มีพระโอรส-ธิดาทั้งหมด 6 องค์
- พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ (1 เมษายน พ.ศ. 2458 – 2 มกราคม พ.ศ. 2541) เสกสมรสกับหม่อมฟองจันทร์ (เดิม: เจ้าฟองจันทร์ อินทขัติย์) และหม่อมอุบล (สกุลเดิม สุฤทธิ์) มีพระโอรส-ธิดาทั้งหมด 7 องค์
พระจริยวัตร
พระองค์ทรงออกพระนามพระองค์เองว่า "แม่หนูเฉลิมเขตร" ส่วนเจ้านายชั้นผู้ใหญ่พระองค์อื่น ๆ ออกพระนามว่า "ยายบี้" ด้วยมีพระนาสิกแบน และพระราชนัดดาองค์อื่น ๆ ในรัชกาลที่ 5 ออกพระนามว่า "ยิบหยี" เพราะโปรดทำพระเนตรหยี
พระองค์ไม่สันทัดในงานบ้านงานเรือนนัก แต่ก็ทำหน้าที่ของบุตรที่ดีโดยมิขาดตกบกพร่อง โดยพระองค์เองเคยกล่าวเกี่ยวกับความไม่สันทัดดังกล่าว ความว่า "เกิดมาเป็นลูกเจ้าฟ้า มาแต่งงานก็เป็นเมียเจ้าฟ้า จะให้รู้จักเช็ดกระไดไชรูท่ออย่างไร"
หม่อมเจ้าพูนพิศมัย ดิศกุล ได้กล่าวถึงอุปนิสัย และพระจริยวัตรโดยรวมของพระองค์ไว้ ความว่า "พระองค์หญิงเฉลิมเขตรมงคลมีพระรูปโฉมเหมือนสมเด็จพระบิดาเป็นอย่างยิ่ง ทั้งพระอัธยาศัยก็คล้ายกันเป็นอันมาก กล่าวคือไม่มีใครเกลียดและไม่มีศัตรู เพราะไม่เป็นภัยกับใครเลย ไม่มีการเล่นพวก ไม่ด่าว่าค่อนแคะผู้ใด ไม่ดูถูกเหยียดหยามผู้ใด มีแต่ความซื่อสัตย์สุจริตและตามพระทัยพระองค์เอง เช่นเด็กที่เป็น Spoiled Child มาตั้งแต่เกิดเพราะไม่เคยมีใครขัดใจเท่านั้น ถ้ามีสิ่งใดที่เสียก็เป็นเรื่องที่ท่านทำพระองค์ท่านเอง ไม่มีผู้ใดต้องมาเสียหายด้วย เช่น ทรงใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ก็เป็นเงินของท่านเอง ไม่ได้ไปหยิบยืมใครมาให้เขาสูญทรัพย์"
ความสนพระทัย
พระองค์หญิงก็ทรงสนพระทัยในงานด้านศิลปะ การแสดง และทรงริเริ่มในการฝึกละครข้าหลวงตั้งเป็นคณะนาฏดุริยศิลปินจัดแสดงภายในวัง เมื่อตามเสด็จพระสวามีไปประทับยังมณฑลปักษ์ใต้ก็ทรงจัดตั้งวงดนตรี มีข้าหลวงเป็นนักดนตรีประจำคณะ ส่วนพระองค์ทรงซอด้วง
ภายหลังพระสวามีสิ้นพระชนม์ เสด็จพระองค์หญิงฯทรงย้ายมาประทับที่วังมังคละสถาน ริมถนนสุขุมวิท ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานทูตสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เสด็จพระองค์หญิงฯ ทรงสนพระทัยในนาฏยศิลป์และดุริยางค์ของไทย และโปรดจัดการแสดงต่าง ๆ ขึ้นตลอดพระชนม์ชีพ ทรงจัดการแสดงครั้งแรก ณ วังมังคละสถานเป็นโขนเฉลิมวันประสูติในปี พ.ศ. 2485 ต่อมาทรงตั้งคณะชูนาฏดุริยางค์ศิลป์ขึ้น เพื่อแสดงเป็นประจำในวังโดยอาศัยสถานที่ต่าง ๆ ในวังเป็นฉาก และจัดการแสดงตามที่ต่าง ๆ ในโอกาสสำคัญ เช่น งานฉลองเปิดหอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นอกจากการแสดงตามแบบแผนเดิมของไทยแล้วเสด็จพระองค์หญิงฯได้ทรงประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ในเรื่องเครื่องแต่งกายและฉาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรงคิดแบบละครขึ้นใหม่ชนิดหนึ่งเรียกว่า ละครพูดสลับรำ ละครของพระองค์มีคนดูจำนวนมาก และมีทุกระดับชั้น
ต่อมาทรงหันมาสนพระทัยด้านศิลปะรำไทย ทรงตั้งคณะชูนาฏดุริยศิลป ทั้งนี้ทรงมีความสามารถในการเขียนบทละคร ทั้งละครรำละละครพันทางซึ่งเป็นที่นิยมในสมัยนั้น บทละครดังกล่าวได้แก่ ปันหยีมิสาหรัง และบทละครจากนวนิยายเรื่อง รุ่งฟ้าดอยสิงห์ เป็นต้น
คณะชูนาฏดุริยางค์ศิลป์แสดงอยู่ 15 ปี มีการแสดงอยู่ 4ประเภท คือ โขนละครต่าง ๆ รำเบ็ดเตล็ด และการแสดงเบ็ดเตล็ดมีผู้แสดงทั้งผู้มีบรรดาศักดิ์และสามัญชนนักแสดงหลายคนเริ่มอาชีพที่นี่ และหลายคนได้รับอิทธิพลจากที่นี่และมีชื่อเสียงอยู่จนปัจจุบัน ครั้นเสด็จพระองค์หญิงฯ สิ้นพระชนม์ในปี พ.ศ. 2500 พระนามชื่อคณะและสิ่งที่พระองค์สร้างเสริมไว้ให้แก่วงการนาฏยศิลป์ไทยก็จางหายไปและถูกลืมเลือน
สิ้นพระชนม์
ในบั้นปลายพระชนม์ชีพ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมเขตรมงคล ประชวรและไม่สามารถเสด็จออกงานพระราชพิธีต่าง ๆ ได้ โดยได้ย้ายไปประทับที่วังมังคละ และหมดพระกำลัง สิ้นพระชนม์ลงด้วยโรคพระวักกะพิการเมื่อวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2500 สิริพระชันษา 64 ปี โดย พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานเพลิงพระศพ ณ เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส เมื่อช่วงบ่ายวันพุธที่ 26 มิถุนายน ปี พ.ศ. 2500 ก่อนหน้านั้นในช่วงบ่ายของวันอังคารที่ 25 มิถุนายน ได้เสด็จพระราชดำเนินไปยังวังมงคลสถาน เพื่อวางพวงดอกไม้ที่หน้าโกศพระศพและประทับเป็นประธานในพิธีการพระราชกุศลพระราชทานพระศพ พระนามของพระองค์ ถูกนำมาใช้เป็นชื่อของ
พระเกียรติยศ
พระอิสริยยศ
- หม่อมเจ้าเฉลิมเขตรมงคล (10 มีนาคม พ.ศ. 2435 – 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2436)
- พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมเขตรมงคล (26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2436 – 11 เมษายน พ.ศ. 2443)
- พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมเขตรมงคล (12 เมษายน พ.ศ. 2443 – 23 มกราคม พ.ศ. 2500)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2450 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 2 ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ท.จ.ว.) (ฝ่ายใน)
- พ.ศ. 2451 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 5 ชั้นที่ 3 (จ.ป.ร.3)
- พ.ศ. 2458 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 6 ชั้นที่ 2 (ว.ป.ร.2)
- พ.ศ. 2469 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 7 ชั้นที่ 3 (ป.ป.ร.3)
- พ.ศ. 2489 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 8 ชั้นที่ 2 (อ.ป.ร.2)
- พ.ศ. 2496 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 9 ชั้นที่ 1 (ภ.ป.ร.1)
- พ.ศ. 2469 – เหรียญบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 7 (ร.ร.ศ.7)
- พ.ศ. 2493 – เหรียญบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 9 (ร.ร.ศ.9)
- พ.ศ. 2475 – เหรียญเฉลิมพระนคร 150 ปี (ร.ฉ.พ.)
พงศาวลี
พงศาวลีของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมเขตรมงคล | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
- ศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย. ลูกท่านหลานเธอ ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในราชสำนัก. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ:มติชน. 2555, หน้า 308
- สัจธรรม. อาทิตย์อุไทย. กรุงเทพฯ:ดีเอ็มจี. 2551, หน้า 189
- สัจธรรม. อาทิตย์อุไทย. กรุงเทพฯ:ดีเอ็มจี. 2551, หน้า 188
- สัจธรรม. อาทิตย์อุไทย. กรุงเทพฯ:ดีเอ็มจี. 2551, หน้า 187
- ศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย. ลูกท่านหลานเธอ ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในราชสำนัก. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ:มติชน. 2555, หน้า 310
- สัจธรรม. อาทิตย์อุไทย. กรุงเทพฯ:ดีเอ็มจี. 2551, หน้า 185
- ธงทอง จันทรางศุ. ในกำแพงแก้ว. กรุงเทพฯ:เอส.ซี.พริ้นท์แอนด์แพค. 2550, หน้า 105
- ธงทอง จันทรางศุ. ในกำแพงแก้ว. กรุงเทพฯ:เอส.ซี.พริ้นท์แอนด์แพค. 2550, หน้า 101
- ศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย. ลูกท่านหลานเธอ ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในราชสำนัก. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ:มติชน. 2555, หน้า 311
- ข่าวในพระราชสำนัก
- สัจธรรม. อาทิตย์อุไทย. กรุงเทพฯ:ดีเอ็มจี. 2551, หน้า 190
- พระอิสริยยศ
- ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าฝ่ายใน, เล่ม 24, ตอน 0 ฉบับพิเศษ, 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2450, หน้า 883
- ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลปัจจุบันฝ่ายใน 2011-11-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม 25, ตอน 39, 27 ธันวาคม พ.ศ. 2451, หน้า 1153
- ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ฝ่ายใน 2011-11-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม 43, ตอน 0 ง, 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2469, หน้า 3114
- ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์, เล่ม 63, ตอน 17 ง, 26 มีนาคม พ.ศ. 2489, หน้า 426
- ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์, เล่ม 70, ตอน 20 ง, 24 มีนาคม พ.ศ. 2496, หน้า 1255
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phraecawrwngsethx phraxngkhecaechlimekhtrmngkhl 10 minakhm ph s 2435 23 mkrakhm ph s 2500 epnphrathidainsmedcphrarachpitula brmphngsaphimukh ecafaphanurngsiswangwngs krmphrayaphanuphnthuwngswredch kbhmxmaemn phanuphnthu n xyuthya aelaepnphrachayainsmedcphraecabrmwngsethx ecafayukhlthikhmphr krmhlwnglphburiraemswrphraecawrwngsethx phraxngkhecaechlimekhtrmngkhlphraecawrwngsethx chn 4 phraxngkhecachnothprasuti10 minakhm ph s 2435sinphrachnm23 mkrakhm ph s 2500 64 pi phrarachthanephling26 mithunayn ph s 2500 phraemru wdethphsirinthrawasphraswamismedcphraecabrmwngsethx ecafayukhlthikhmphr krmhlwnglphburiraemswrphrabutrphraecawrwngsethx phraxngkhecaphanuphnthuyukhlphraecawrwngsethx phraxngkhecaechlimphlthikhmphrphraecawrwngsethx phraxngkhecaxnusrmngkhlkarrachskulphanuphnthu prasuti yukhl esksmrs rachwngsckriphrabidasmedcphrarachpitula brmphngsaphimukh ecafaphanurngsiswangwngs krmphrayaphanuphnthuwngswredchphramardahmxmaemn phanuphnthu n xyuthyaphraprawtiphraecawrwngsethx phraxngkhecaechlimekhtrmngkhl phraysedim hmxmecaechlimekhtrmngkhl epnphrathidainsmedcphrarachpitula brmphngsaphimukh ecafaphanurngsiswangwngs krmphrayaphanuphnthuwngswredch prasutiaethmxmaemn phanuphnthu n xyuthya skuledim bunnakh miphraosthrechstha 2 phraxngkh idaek phraecawrwngsethx krmhmunphanuphngsphiriyedch phraecawrwngsethx phraxngkhecasiriwngswthnedch phraxngkhepnphrathidathiiklchidkbphrabida dwykhwamthithrngkaphraphramardatngaetphrachnsaidephiyng 2 pi cungeliyngiwimhangphraxngkh dwykhwamrkinphrathida singidthiepnkhwamsukhaelakhwamprarthnakhxngphrathida thaimehluxkhwamsamarthaelwphraxngkhhyingepntxngid thngnimiphieliyngemuxkhrngyngthrngphraeyawkhux phrawrwngsethx phraxngkhecakharb sungepnnaythharkhnsnithkhxngphrabida odyphraxngkhthrngeriykphraxngkhecakharbwa aem inpithiphraxngkhprasutinn phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwthrngchlxngsirirachsmbtikhrb 25 pi cungmiecanaythulkhxphrarachthanphranamsahrbphraoxrs thidainewlaileliyknsamxngkh khux hmxmecaechlimekhtrmngkhl hmxmecarchlaphcirathit phraoxrsinsmedcphraecabrmwngsethx krmphrayadarngrachanuphaph hmxmecarchdaphiesk phraoxrsinphraecabrmwngsethx krmkhunphithylaphphvthithada txmainwnthi 26 phvscikayn ph s 2436 phraxngkhidrbphrakrunaoprdekla sthapnakhunepn phrawrwngsethx phraxngkheca aelaemuxwnthi 12 emsayn ph s 2443 sthapnakhunepn phraecawrwngsethx phraxngkheca phrxmkbphraosthrechsthathngsxngphraxngkhesksmrsphraecawrwngsethx phraxngkhecaechlimekhtrmngkhl thrngphbkbsmedcphraecabrmwngsethx ecafayukhlthikhmphr krmhlwnglphburiraemswr khrngaerkinnganxxkranwdebycmbphitr dngthiphraecabrmwngsethx krmhlwngsrrphsatrsuphkic thrngelaihhmxmecaphunphismy diskulfng khwamwa innganxxkranwdebycmbphitr ecanayhnum xyakduphuhyingkimkla eratxngcdkarih lungnngxyukbphwkhnum hnaraneriyksaw ihekhaiprbaeck bangkhnthaddcritkramitkraemiynephraamihnum xyudwy aetphxthungyaybi phraxngkhecaechlimekhtrmngkhl aekkthahnaepxiphmxbkrabexaenginaeck aelwyngsakrabecanayhnum nnesiydwy smedcchaykelyphxphrathywaimmicrit dwykhwamthiphraxngkhimmicritaelanaphrathyxnbrisuththi prakxbkbkaraesdngxxkthangxakpkiriyathiepnthrrmchati khuxsingthidungdudphrathysmedcchaythikalngthrngxyuinaewdwngkhxngehlastrithimicrit aeladwykhwamsmnasmenuxdngklaw khwamrkkhxngthngsxngphraxngkhkdaeninipxyangrabrun emuxphraecawrwngsethx phraxngkhecaechlimekhtrmngkhl miphrachnmayuid 16 phrrsa phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwidthrngphrakrunaoprdekla ihthrngesksmrskbsmedcphraecabrmwngsethx ecafayukhlthikhmphr krmhlwnglphburiraemsr aelaidrbkarykyxngcakrchkalthi 5 inthanasaiphhlwng smedc ecafakrmphrayaphanuphnthuwngswredch thrngelathungnganxphiesksmrsni khwamwa thrngphrakrunaoprdekla ihecakhuncxmmardaaeph ecakhunphraprayurwngs phaphrabutrikhxngphraxngkh khuxphraecawrwngsethx phraxngkhecaechlimekhtrmngkhlipphrarachthansmedcphraecalukyaethx ecafayukhlthikhmphr krmkhunlphburiraemswr epnnanghamsaiphhlwngtamthrrmeniymphithixyangihmthiichknimmikarsusaxnid emuxwnthi 22 phvscikayn ph s 2450 thngnismedcchayaelaphraxngkhhyingthrngkhrxngchiwitkhu thieriykxyangsamywa phwediywemiyediyw odymiphraoxrsdwykn 3 phraxngkh idaek phraecawrwngsethx phraxngkhecaphanuphnthuyukhl 27 phvscikayn ph s 2453 5 kumphaphnth ph s 2538 esksmrskbhmxmhlwngsrxyraya rachskuledim snithwngs hmxmbuylxm skuledim natrakul hmxmprim skuledim bunnakh aelahmxmichil skuledim thawr miphraoxrs thidathnghmd 6 xngkh phraecawrwngsethx phraxngkhecaechlimphlthikhmphr 29 emsayn ph s 2456 1 tulakhm ph s 2534 esksmrskbhmxmrachwngskulpraomthy rachskuledim swsdikul hmxmsmechux skuledim chmeswi hmxmthxngiph skuledim prayurot hmxmthxngaethm skuledim prayurot aelahmxmbwthxng skuledim itlngkha miphraoxrs thidathnghmd 6 xngkh phraecawrwngsethx phraxngkhecaxnusrmngkhlkar 1 emsayn ph s 2458 2 mkrakhm ph s 2541 esksmrskbhmxmfxngcnthr edim ecafxngcnthr xinthkhtiy aelahmxmxubl skuledim suvththi miphraoxrs thidathnghmd 7 xngkhphracriywtrphraxngkhthrngxxkphranamphraxngkhexngwa aemhnuechlimekhtr swnecanaychnphuihyphraxngkhxun xxkphranamwa yaybi dwymiphranasikaebn aelaphrarachnddaxngkhxun inrchkalthi 5 xxkphranamwa yibhyi ephraaoprdthaphraentrhyi phraxngkhimsnthdinnganbannganeruxnnk aetkthahnathikhxngbutrthidiodymikhadtkbkphrxng odyphraxngkhexngekhyklawekiywkbkhwamimsnthddngklaw khwamwa ekidmaepnlukecafa maaetngngankepnemiyecafa caihruckechdkraidichruthxxyangir hmxmecaphunphismy diskul idklawthungxupnisy aelaphracriywtrodyrwmkhxngphraxngkhiw khwamwa phraxngkhhyingechlimekhtrmngkhlmiphrarupochmehmuxnsmedcphrabidaepnxyangying thngphraxthyasykkhlayknepnxnmak klawkhuximmiikhrekliydaelaimmistru ephraaimepnphykbikhrely immikarelnphwk imdawakhxnaekhaphuid imduthukehyiydhyamphuid miaetkhwamsuxstysucritaelatamphrathyphraxngkhexng echnedkthiepn Spoiled Child matngaetekidephraaimekhymiikhrkhdicethann thamisingidthiesiykepneruxngthithanthaphraxngkhthanexng immiphuidtxngmaesiyhaydwy echn thrngichcayfumefuxy kepnenginkhxngthanexng imidiphyibyumikhrmaihekhasuythrphy khwamsnphrathyphraxngkhhyingkthrngsnphrathyinngandansilpa karaesdng aelathrngrieriminkarfuklakhrkhahlwngtngepnkhnanatduriysilpincdaesdngphayinwng emuxtamesdcphraswamiipprathbyngmnthlpksitkthrngcdtngwngdntri mikhahlwngepnnkdntripracakhna swnphraxngkhthrngsxdwng phayhlngphraswamisinphrachnm esdcphraxngkhhyingthrngyaymaprathbthiwngmngkhlasthan rimthnnsukhumwith sungpccubnepnsthanthutsatharnrthfilippins esdcphraxngkhhying thrngsnphrathyinnatysilpaeladuriyangkhkhxngithy aelaoprdcdkaraesdngtang khuntlxdphrachnmchiph thrngcdkaraesdngkhrngaerk n wngmngkhlasthanepnokhnechlimwnprasutiinpi ph s 2485 txmathrngtngkhnachunatduriyangkhsilpkhun ephuxaesdngepnpracainwngodyxasysthanthitang inwngepnchak aelacdkaraesdngtamthitang inoxkassakhy echn nganchlxngepidhxprachumculalngkrnmhawithyaly nxkcakkaraesdngtamaebbaephnedimkhxngithyaelwesdcphraxngkhhyingidthrngpradisthkhidkhnsingihm ineruxngekhruxngaetngkayaelachak odyechphaaxyangyingthrngkhidaebblakhrkhunihmchnidhnungeriykwa lakhrphudslbra lakhrkhxngphraxngkhmikhnducanwnmak aelamithukradbchn txmathrnghnmasnphrathydansilparaithy thrngtngkhnachunatduriysilp thngnithrngmikhwamsamarthinkarekhiynbthlakhr thnglakhrralalakhrphnthangsungepnthiniyminsmynn bthlakhrdngklawidaek pnhyimisahrng aelabthlakhrcaknwniyayeruxng rungfadxysingh epntn khnachunatduriyangkhsilpaesdngxyu 15 pi mikaraesdngxyu 4praephth khux okhnlakhrtang raebdetld aelakaraesdngebdetldmiphuaesdngthngphumibrrdaskdiaelasamychnnkaesdnghlaykhnerimxachiphthini aelahlaykhnidrbxiththiphlcakthiniaelamichuxesiyngxyucnpccubn khrnesdcphraxngkhhying sinphrachnminpi ph s 2500 phranamchuxkhnaaelasingthiphraxngkhsrangesrimiwihaekwngkarnatysilpithykcanghayipaelathuklumeluxnsinphrachnminbnplayphrachnmchiph phraecawrwngsethx phraxngkhecaechlimekhtrmngkhl prachwraelaimsamarthesdcxxknganphrarachphithitang id odyidyayipprathbthiwngmngkhla aelahmdphrakalng sinphrachnmlngdwyorkhphrawkkaphikaremuxwnthi 23 mkrakhm ph s 2500 siriphrachnsa 64 pi ody phrabathsmedcphramhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitr idesdcphrarachdaeninipphrarachthanephlingphrasph n emruhlwnghnaphlbphlaxisriyaphrn wdethphsirinthrawas emuxchwngbaywnphuththi 26 mithunayn pi ph s 2500 kxnhnanninchwngbaykhxngwnxngkharthi 25 mithunayn idesdcphrarachdaeninipyngwngmngkhlsthan ephuxwangphwngdxkimthihnaoksphrasphaelaprathbepnprathaninphithikarphrarachkuslphrarachthanphrasph phranamkhxngphraxngkh thuknamaichepnchuxkhxngphraekiyrtiysphraxisriyys hmxmecaechlimekhtrmngkhl 10 minakhm ph s 2435 26 phvscikayn ph s 2436 phrawrwngsethx phraxngkhecaechlimekhtrmngkhl 26 phvscikayn ph s 2436 11 emsayn ph s 2443 phraecawrwngsethx phraxngkhecaechlimekhtrmngkhl 12 emsayn ph s 2443 23 mkrakhm ph s 2500 ekhruxngrachxisriyaphrn ph s 2450 ekhruxngrachxisriyaphrnculcxmekla chnthi 2 thutiyculcxmeklawiess th c w fayin ph s 2451 ehriyyrtnaphrn rchkalthi 5 chnthi 3 c p r 3 ph s 2458 ehriyyrtnaphrn rchkalthi 6 chnthi 2 w p r 2 ph s 2469 ehriyyrtnaphrn rchkalthi 7 chnthi 3 p p r 3 ph s 2489 ehriyyrtnaphrn rchkalthi 8 chnthi 2 x p r 2 ph s 2496 ehriyyrtnaphrn rchkalthi 9 chnthi 1 ph p r 1 ph s 2469 ehriyybrmrachaphiesk rchkalthi 7 r r s 7 ph s 2493 ehriyybrmrachaphiesk rchkalthi 9 r r s 9 ph s 2475 ehriyyechlimphrankhr 150 pi r ch ph phngsawliphngsawlikhxngphraecawrwngsethx phraxngkhecaechlimekhtrmngkhl 16 phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach 8 phrabathsmedcphraphuththelishlanphaly 17 smedcphraxmrinthrabrmrachini 4 phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw 18 engin aestn 9 smedcphrasrisurieynthrabrmrachini 19 smedcphraecaphinangethx ecafakrmphrasrisudarks 2 smedcphrarachpitula brmphngsaphimukh ecafaphanurngsiswangwngs krmphrayaphanuphnthuwngswredch 20 phrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw 10 smedcphrabrmrachmatamhykaethx krmhmunmatyaphithks 21 ecacxmmardathrphy 5 smedcphraethphsirinthrabrmrachini 22 busy 11 hmxmnxy siriwngs n xyuthya 23 aecm 1 phraecawrwngsethx phraxngkhecaechlimekhtrmngkhl 24 smedcecaphrayabrmmhaprayurwngs dis bunnakh 12 smedcecaphrayabrmmhasrisuriywngs chwng bunnakh 25 thanphuhyingcnthr bunnakh 6 ecaphrayasurwngsiwywthn wr bunnakh 26 hlwngaekwxayti cat bunnakh 13 thanphuhyingklin bunnakh 27 lim bunnakh 3 hmxmaemn phanuphnthu n xyuthya 7 thanphuhyingxim surwngsiwywthn xangxingsnsniy wirasilpchy lukthanhlanethx thixyuebuxnghlngkhwamsaercinrachsank phimphkhrngthi 6 krungethph mtichn 2555 hna 308 scthrrm xathityxuithy krungethph diexmci 2551 hna 189 scthrrm xathityxuithy krungethph diexmci 2551 hna 188 scthrrm xathityxuithy krungethph diexmci 2551 hna 187 snsniy wirasilpchy lukthanhlanethx thixyuebuxnghlngkhwamsaercinrachsank phimphkhrngthi 6 krungethph mtichn 2555 hna 310 scthrrm xathityxuithy krungethph diexmci 2551 hna 185 thngthxng cnthrangsu inkaaephngaekw krungethph exs si phrinthaexndaephkh 2550 hna 105 thngthxng cnthrangsu inkaaephngaekw krungethph exs si phrinthaexndaephkh 2550 hna 101 snsniy wirasilpchy lukthanhlanethx thixyuebuxnghlngkhwamsaercinrachsank phimphkhrngthi 6 krungethph mtichn 2555 hna 311 khawinphrarachsank scthrrm xathityxuithy krungethph diexmci 2551 hna 190 phraxisriyys rachkiccanuebksa phrarachthanekhruxngrachxisriyaphrnculcxmeklafayin elm 24 txn 0 chbbphiess 28 phvscikayn ph s 2450 hna 883 rachkiccanuebksa phrarachthanehriyyrtnaphrn rchkalpccubnfayin 2011 11 20 thi ewyaebkaemchchin elm 25 txn 39 27 thnwakhm ph s 2451 hna 1153 rachkiccanuebksa phrarachthanehriyyrtnaphrnfayin 2011 11 20 thi ewyaebkaemchchin elm 43 txn 0 ng 26 phvscikayn ph s 2469 hna 3114 rachkiccanuebksa aecngkhwamsanknaykrthmntri eruxng phrarachthanehriyyrtnaphrn elm 63 txn 17 ng 26 minakhm ph s 2489 hna 426 rachkiccanuebksa aecngkhwamsanknaykrthmntri eruxng phrarachthanehriyyrtnaphrn elm 70 txn 20 ng 24 minakhm ph s 2496 hna 1255 bthkhwamchiwprawtiniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk