เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส เป็นฌาปนสถานสำหรับพระราชทานเพลิงพระราชวงศ์ที่ไม่ได้สร้างพระเมรุที่ท้องสนามหลวง พระศพเจ้านายฝ่ายใน ราชนิกุล ขุนนางข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่ได้รับพระราชทานโกศเป็นเกียรติยศ
โดยเมื่อใช้ในการพระราชทานเพลิงพระศพเจ้านายจะออกหมายเรียกว่า "พระเมรุ" และถ้าเป็นเจ้านายที่มีพระเกียรติยศสูง เป็นที่นับถือของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อาจมีการปรับปรุงประดับตกแต่งโดยรอบให้สมพระเกียรติยศ เช่น กางกั้นด้วยฉัตรตามพระเกียรติยศ มีการประดับด้วยฉัตรดอกไม้สดโดยรอบ สร้างซ่างไว้สำหรับพระพิธีธรรมสวด จัดตกแต่งสวนหย่อมให้เป็นป่าหิมพานต์ นอกจากนี้ ยังใช้เป็นพระเมรุถวายเพลิงพระบุพโพของพระบรมวงศ์สำคัญที่บรรจุพระบรมศพหรือพระศพลงพระโกศ เพื่อจะได้ไม่ต้องไปสร้างพระเมรุดาดผ้าขาวที่วัดมหาธาตุ เช่น พระบุพโพ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 พระบุพโพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี และ พระบุพโพ พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ในรัชกาลที่ 6
ประวัติ
ยุคเริ่มแรก
นับแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นต้นมาจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นประเพณีของบ้านเมืองมาแต่โบราณ เมื่อพระเจ้าแผ่นดินสวรรคตย่อมต้องจัดสร้างพระเมรุมาศ เป็นที่ถวายพระเพลิงที่ท้องสนามหลวงเป็นพระเกียรติยศ นับเป็นธรรมเนียมมาแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เป็นประเพณีที่ถวายพระเพลิง ณ พระเมรุมาศ ท้องสนามหลวงนั้น สำหรับพระเจ้าแผ่นดินและเจ้าฟ้า ส่วนพระศพเจ้านายก็ดี ขุนนางก็ดี มีพระราชประเพณีต้องนำออกไปพระราชทานเพลิงในวัดนอกกำแพงเมืองชั้นนอกในเมรุปูน ซึ่งกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ทรงสร้างสถานปลงศพเป็นวัตถุถาวรถวาย เรียกสามัญ ว่า “เมรุปูน” ที่วัดสุวรรณาราม สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงสันนิษฐานว่า เมื่อแรกสร้างเมรุปูนขึ้นนั้น สำหรับพระศพเจ้านาย ที่มียศไม่สูงศักดิ์ถึงกับสร้างเมรุกลางเมือง ส่วนขุนนางจะเผาในเมรุปูนได้ก็ต่อเมื่อได้รับพระบรมราชานุญาตพิเศษ ดังนั้นเมื่อต้องเผาศพขุนนางนอกกำแพงเมือง จึงต้องนำศพออกไปทางสำราญราษฎร์ออกประตูกำแพงเมืองที่เวลานั้นเรียก “ประตูผี” คือประตูที่นำศพออกไปฝัง หรือเผานอกกำแพงเมือง
ในรัชกาลที่ 1 เกิดอหิวาต์ระบาด ผู้คนตายประมาณ 30,000 รายในเวลาครึ่งเดือน ต้องนำศพออกนอกกำแพงเมืองไปทิ้งในป่าช้า และ ศาลาดิน วัดสระเกศ วัดปทุมคงคา เผาไม่ทัน แร้งมารุมทึ้งกันมากมาย จนลือชื่อ แร้งวัดสระเกศ ผู้คนหวาดกลัวเป็นอันมาก พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โปรดเกล้าให้ตั้งพิธี “อาพาธพินาศ” และโปรดเกล้าฯ ให้ทำเงินพดด้วง ตราเฉลวด้วย ต่อมารัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิไชยญาติครั้งเป็น พระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษา เป็น นายงานสร้างเมรุด้วยอิฐปูน เรียก เมรุปูน สำหรับพระราชทานเพลิงศพเจ้านาย และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เมรุปูนนี้นับเป็นเกียรติยศสำหรับผู้ตายซึ่งพระเจ้าแผ่นดินเสด็จไปพระราชทานเพลิงศพแต่รัชกาลที่ 3
ครั้นมาถึง ร.ศ. 112 พ.ศ. 2436 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างเมรุอิสริยยศ ณ วัดเทพศิรินทราวาส ด้วยมีพระราชประสงค์จะให้ปลงศพได้ทุกชั้นบรรดาศักดิ์ สุดแต่ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตพิเศษเป็นสำคัญ และที่สุสานหลวงนี้โปรดเกล้าฯ ให้ทำการปลงพระศพพระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าอิศริยาภรณ์ เมื่อ ร.ศ. 113 พ.ศ. 2437 เป็นครั้งแรก และครั้งนั้นทรงสร้างที่ตั้งพระศพเป็นพลับพลาถาวร พระราชทานนามว่า “พลับพลาอิศริยาภรณ์” สำหรับใช้เป็นที่ประทับเมื่อเสด็จไปพระราชทานเพลิงศพงานอื่น ๆ ต่อมาในปี ร.ศ. 114 พ.ศ. 2438 ได้พระราชทานเพลิงพระศพพระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าหญิงวิมลนาคนพีสีเป็นองค์ที่สอง ในครั้งนั้นพระเมรุหรือเมรุที่ใช้พระราชทานเพลิงพระศพและศพเป็นพระเมรุหรือเมรุชั่วคราวก่อสร้างด้วยไม้ เวลาเผาพระศพหรือศพจริงก็จะเผาบนจิตกาธานที่รับพระราชทานเพลิงเกียรติยศ
การเผาพระศพและศพลักษณะดังกล่าวเป็นไปตามธรรมเนียมที่มีมาแต่เดิม ด้วยในขณะนั้น บริเวณรอบ ๆ วัดเทพศิรินทราวาส ยังไม่มีผู้คนมาตั้งบ้านเรือนหนาแน่น ครั้นต่อมา บ้านเมืองเจริญขึ้น เกิดอาคารบ้านเรือนก่อสร้างขึ้นรอบ ๆ วัดเทพศิรินทราวาส โดยเฉพาะแถบที่ใกล้ชิดติดต่อกับสุสานหลวง การเผาศพแบบเก่าทำให้เกิดควันและกลิ่นฟุ้งกระจายไปตามลม ผู้ที่อาศัยในบริเวณนั้นต้องเดือดร้อนและเสียสุขภาพมาก แม้ว่าต่อมาจะมีเทศบัญญัติควบคุมการเผาศพในเขตกรุงเทพฯ ไม่ให้มีการเผาศพบนจิตกาธาน ให้ย้ายศพไปเผาในเตาที่มีปล่องควันสูง แต่ที่สุสานหลวงวัดเทพศิรินทราวาสยังคงเผาศพตามธรรมเนียมเก่าตลอดมา อีกทั้งตัวเมรุหลวงของเดิมที่ก่อสร้างด้วยไม้นั้นค่อนข้างสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการสร้าง ซ่อมแซม และตกแต่งเมรุทุกครั้งมีการพระราชทานเพลิงพระศพและศพ และยังดูไม่งามเท่าที่ควร แต่ครั้นจะสร้างพระเมรุหรือเมรุขึ้นในที่อื่นก็เป็นการสิ้นเปลืองมาก
ยุคหลัง
พลตรี หม่อมทวีวงศ์ถวัลยศักดิ์ (หม่อมราชวงศ์เฉลิมลาภ ทวีวงศ์) อดีตเลขาธิการพระราชวัง ได้เล็งเห็นปัญหาดังกล่าว จึงมีความคิดที่จะก่อสร้างเมรุถาวรขึ้นที่สุสานหลวงวัดเทพศิรินทราวาส โดยให้มีเตาเผาสำหรับเผาศพโกศ ท่านจึงได้ลองเอาความคิดดังกล่าวไปสอบถามความเห็นบุคคลหลายฝ่าย ซึ่งตอบรับความคิดพลตรี หม่อมทวีวงศ์ถวัลยศักดิ์
โดยได้ลอกแบบมาจากพระเมรุ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส แต่ปรับเปลี่ยนให้บริเวณมุขที่เป็นที่เทียบพระราชยานและหอเปลื้องในแบบเดิม ให้เป็นที่ตั้งของเตาสุมเพลิง ภายในตั้งจิตกาธานสี่เหลี่ยมจตุรัส มีตาข่ายดอกไม้ประดับ และมีฉากบังเพลิงแบบบานเฟี้ยมเขียนลายช่อชัยพฤกษ์ติดไว้ทั้งสี่ด้าน ครั้นเมื่อเมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ก่อสร้างเสร็จได้ติดตั้งเครื่องพ่นไฟในเตาเผาศพโกศ ก็ได้มีการทดลองเผากระดาษ ผ้า และไม้ในเตาเผาก่อน การทดลองเผาทำให้เกิดเหตุขลุกขลักขัดข้องที่น่ากลัว เช่น ควันที่เกิดจากการเผาลอยออกไปตามปล่องไม่สะดวก เกิดความดันขึ้นในเตาเผาทำให้ไฟจากเครื่องพ่นไฟย้อนกลับออกมาทางช่องเครื่องเผาและทางช่องมองศพในเตาเผา ทำเอาเจ้าหน้าที่ที่ทดลองดังกล่าวแสบร้อนหน้าแทบพอง เมื่อได้ลงมือสำรวจหาสาเหตุปัญหาความขัดข้องที่เกิดขึ้นในการทดลองเผา ก็พบว่ามีน้ำเข้าไปขังอยู่ในท่อปล่องใต้ดิน ทำให้ควันไปตามท่อไม่สะดวก เมื่อสูบน้ำที่ขังในท่อออกหมด ควันก็สามารถลอยออกไปตามปล่องได้สะดวก ปล่องควันเมรุหลวงที่สร้างใหม่นี้ใช้ท่อเคลือบ ไม่ใช้ท่อโลหะ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดสนิมผุกร่อนในภายหน้า ส่วนการรั่วซึมในท่อจนทำให้น้ำเข้ามาขังอยู่นั้นได้ตรวจสอบพบในภายหลังว่าเป็นเพราะปูนซีเมนต์ที่ยาแนวท่อตรงข้อต่อแต่ละท่อนมีรอยรั่วอยู่ จึงได้รื้อแก้ไขใหม่ ในที่สุดก็สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งหมด สามารถประกอบพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ เมื่อปี พ.ศ. 2503 ได้อย่างเรียบร้อย และได้ใช้เมรุหลวงถาวรนี้ในการพระราชทานเพลิงศพที่มีเกียรติยศได้รับพระราชทานโกศเรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบัน
การพระราชทานการเพลิงศพที่เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาสนั้น ในกรณีอยู่ในพระโกศหรือโกศจะเชิญพระศพหรือศพออกมาบรรจุไว้ในลุ้งที่ทำด้วยไม้เป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสก่อน จากนั้นจึงนำเข้าเตาสุมเพลิงต่อไป ลุ้งนี้ถ้าเป็นเจ้านายชั้นสูงจะมีการปิดด้วยกระดาษทอง แต่ถ้าเป็นชั้นศพทั่วไปจะเป็นเพียงลุ้งไม้สีขาว
ปัจจุบัน เมรุหลวงนี้ได้เปลี่ยนเตาสุมเพลิงแบบพ่นไฟธรรมดามาเป็นเตาสุมเพลิงด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งมีมลพิษน้อยกว่า ใช้เวลาในการสุมเพลิงเร็วกว่าเตาพ่นไฟ และทำให้อัฐิหลังจากการเผามีสีขาว
การปรับปรุงเพื่อใช้เป็นพระเมรุ
เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์นี้ เมื่อใช้พระราชทานเพลิงพระศพเจ้านายสามัญ จะเปลี่ยนมาออกเรียกชื่อเป็น พระเมรุวัดเทพศิรินทราวาส ถ้าเป็นเจ้านายผู้ใหญ่เป็นที่เคารพนับถือของเหล่าพระบรมวงศ์ มีพระอิสริยยศสูงเป็นที่ยกย่อง โดยเฉพาะสมเด็จพระสังฆราช จะมีการปรับปรุงบางส่วนให้สมพระเกียรติยศของเจ้านายพระองค์นั้นๆ เช่น มีการสร้างสำซ่างสำหรับพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม ทั้งสี่มุมพระเมรุภายในพระเมรุเหนือพระจิตกาธานจะกางกั้นด้วยฉัตรตามพระอิสริยยศ โดยรอบพระเมรุมีการประดับด้วยฉัตร อาจเป็นฉัตรปรุหรือฉัตรดอกไม้สด เปลี่ยนฉากบังเพลิงเป็นลายต้นไม้ทอง มีการเพิ่มชั้นเรือนยอดจิตกาธานเป็น 5 ชั้นหรือ 3 ชั้น จัดสวนหย่อมรอบพระเมรุให้เป็นป่าหิมพานต์ หรือมีการติดพระวิสูตรที่พระเมรุ ทั้งนี้ การปรับปรุงพระเมรุจะทำเมื่อใช้ออกพระเมรุเจ้านายชั้นรองที่มีพระยศสูง หรืองานที่พระมหากษัตริย์ทรงรับเป็นพระราชธุระ ส่วนเจ้านายทั่วไปอาจมีเพียงการตกแต่งด้วยดอกไม้สดเท่านั้น
อ้างอิง
- คณะกรรมการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์. หนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ พลตรี หม่อมทวีวงศ์ถวัลยศักดิ์ (หม่อมราชวงศ์เฉลิมลาภ ทวีวงศ์). กรุงเทพ : [ม.ป.พ.], พ.ศ. 2514. 280 หน้า.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
emruhlwnghnaphlbphlaxisriyaphrn wdethphsirinthrawas epnchapnsthansahrbphrarachthanephlingphrarachwngsthiimidsrangphraemruthithxngsnamhlwng phrasphecanayfayin rachnikul khunnangkharachkarchnphuihy thiidrbphrarachthanoksepnekiyrtiysemruhlwnghnaphlbphlaxisriyaphrn wdethphsirinthrawas odyemuxichinkarphrarachthanephlingphrasphecanaycaxxkhmayeriykwa phraemru aelathaepnecanaythimiphraekiyrtiyssung epnthinbthuxkhxngphrabathsmedcphraecaxyuhw xacmikarprbprungpradbtkaetngodyrxbihsmphraekiyrtiys echn kangkndwychtrtamphraekiyrtiys mikarpradbdwychtrdxkimsdodyrxb srangsangiwsahrbphraphithithrrmswd cdtkaetngswnhyxmihepnpahimphant nxkcakni yngichepnphraemruthwayephlingphrabuphophkhxngphrabrmwngssakhythibrrcuphrabrmsphhruxphrasphlngphraoks ephuxcaidimtxngipsrangphraemrudadphakhawthiwdmhathatu echn phrabuphoph smedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachiniinrchkalthi 7 phrabuphoph smedcphraecaphkhiniethx ecafaephchrrtnrachsuda siriosphaphnnwdi aela phrabuphoph phranangecasuwthna phrawrrachethwi inrchkalthi 6prawtiyukherimaerk phraemruphrarachthanephlingphrasphphraecalukyaethx phraxngkhecaxisriyaphrn n lanhnaphlbphlaxisriyaphrn wdethphsirinthrawas emux ph s 2437 nbaetsmykrungsrixyuthyaepntnmacnthungsmykrungrtnoksinthr epnpraephnikhxngbanemuxngmaaetobran emuxphraecaaephndinswrrkhtyxmtxngcdsrangphraemrumas epnthithwayphraephlingthithxngsnamhlwngepnphraekiyrtiys nbepnthrrmeniymmaaetrchsmyphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach epnpraephnithithwayphraephling n phraemrumas thxngsnamhlwngnn sahrbphraecaaephndinaelaecafa swnphrasphecanaykdi khunnangkdi miphrarachpraephnitxngnaxxkipphrarachthanephlinginwdnxkkaaephngemuxngchnnxkinemrupun sungkrmphrarachwngbwrmhasursinghnath thrngsrangsthanplngsphepnwtthuthawrthway eriyksamy wa emrupun thiwdsuwrrnaram smedcphraecabrmwngsethx krmphrayadarngrachanuphaph thrngsnnisthanwa emuxaerksrangemrupunkhunnn sahrbphrasphecanay thimiysimsungskdithungkbsrangemruklangemuxng swnkhunnangcaephainemrupunidktxemuxidrbphrabrmrachanuyatphiess dngnnemuxtxngephasphkhunnangnxkkaaephngemuxng cungtxngnasphxxkipthangsarayrasdrxxkpratukaaephngemuxngthiewlanneriyk pratuphi khuxpratuthinasphxxkipfng hruxephanxkkaaephngemuxng inrchkalthi 1 ekidxhiwatrabad phukhntaypraman 30 000 rayinewlakhrungeduxn txngnasphxxknxkkaaephngemuxngipthinginpacha aela saladin wdsraeks wdpthumkhngkha ephaimthn aerngmarumthungknmakmay cnluxchux aerngwdsraeks phukhnhwadklwepnxnmak phrabathsmedcphraphuththelishlanphaly oprdeklaihtngphithi xaphathphinas aelaoprdekla ihthaenginphddwng traechlwdwy txmarchsmyphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw oprdekla ih smedcecaphrayabrmmhaphiichyyatikhrngepn phrayasriphiphthnrtnrachoksa epn nayngansrangemrudwyxithpun eriyk emrupun sahrbphrarachthanephlingsphecanay aelakharachkarchnphuihy emrupunninbepnekiyrtiyssahrbphutaysungphraecaaephndinesdcipphrarachthanephlingsphaetrchkalthi 3 khrnmathung r s 112 ph s 2436 inrchsmyphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw oprdekla ihsrangemruxisriyys n wdethphsirinthrawas dwymiphrarachprasngkhcaihplngsphidthukchnbrrdaskdi sudaetidrbphrarachthanphrabrmrachanuyatphiessepnsakhy aelathisusanhlwngnioprdekla ihthakarplngphrasphphraecalukyaethx phraxngkhecaxisriyaphrn emux r s 113 ph s 2437 epnkhrngaerk aelakhrngnnthrngsrangthitngphrasphepnphlbphlathawr phrarachthannamwa phlbphlaxisriyaphrn sahrbichepnthiprathbemuxesdcipphrarachthanephlingsphnganxun txmainpi r s 114 ph s 2438 idphrarachthanephlingphrasphphraecalukethx phraxngkhecahyingwimlnakhnphisiepnxngkhthisxng inkhrngnnphraemruhruxemruthiichphrarachthanephlingphrasphaelasphepnphraemruhruxemruchwkhrawkxsrangdwyim ewlaephaphrasphhruxsphcringkcaephabncitkathanthirbphrarachthanephlingekiyrtiys karephaphrasphaelasphlksnadngklawepniptamthrrmeniymthimimaaetedim dwyinkhnann briewnrxb wdethphsirinthrawas yngimmiphukhnmatngbaneruxnhnaaenn khrntxma banemuxngecriykhun ekidxakharbaneruxnkxsrangkhunrxb wdethphsirinthrawas odyechphaaaethbthiiklchidtidtxkbsusanhlwng karephasphaebbekathaihekidkhwnaelaklinfungkracayiptamlm phuthixasyinbriewnnntxngeduxdrxnaelaesiysukhphaphmak aemwatxmacamiethsbyytikhwbkhumkarephasphinekhtkrungethph imihmikarephasphbncitkathan ihyaysphipephainetathimiplxngkhwnsung aetthisusanhlwngwdethphsirinthrawasyngkhngephasphtamthrrmeniymekatlxdma xikthngtwemruhlwngkhxngedimthikxsrangdwyimnnkhxnkhangsinepluxngkhaichcayinkarsrang sxmaesm aelatkaetngemruthukkhrngmikarphrarachthanephlingphrasphaelasph aelayngduimngamethathikhwr aetkhrncasrangphraemruhruxemrukhuninthixunkepnkarsinepluxngmak yukhhlng phlbphlaxisriyaphrnaelaemruhlwnghnaphlbphlaxisriyaphrn wdethphsirinthrawas phltri hmxmthwiwngsthwlyskdi hmxmrachwngsechlimlaph thwiwngs xditelkhathikarphrarachwng idelngehnpyhadngklaw cungmikhwamkhidthicakxsrangemruthawrkhunthisusanhlwngwdethphsirinthrawas odyihmietaephasahrbephasphoks thancungidlxngexakhwamkhiddngklawipsxbthamkhwamehnbukhkhlhlayfay sungtxbrbkhwamkhidphltri hmxmthwiwngsthwlyskdi odyidlxkaebbmacakphraemru smedcphramhasmneca krmphrayawchiryanworrs aetprbepliynihbriewnmukhthiepnthiethiybphrarachyanaelahxepluxnginaebbedim ihepnthitngkhxngetasumephling phayintngcitkathansiehliymcturs mitakhaydxkimpradb aelamichakbngephlingaebbbanefiymekhiynlaychxchyphvkstidiwthngsidan khrnemuxemruhlwnghnaphlbphlaxisriyaphrnkxsrangesrcidtidtngekhruxngphnifinetaephasphoks kidmikarthdlxngephakradas pha aelaiminetaephakxn karthdlxngephathaihekidehtukhlukkhlkkhdkhxngthinaklw echn khwnthiekidcakkarephalxyxxkiptamplxngimsadwk ekidkhwamdnkhuninetaephathaihifcakekhruxngphnifyxnklbxxkmathangchxngekhruxngephaaelathangchxngmxngsphinetaepha thaexaecahnathithithdlxngdngklawaesbrxnhnaaethbphxng emuxidlngmuxsarwchasaehtupyhakhwamkhdkhxngthiekidkhuninkarthdlxngepha kphbwaminaekhaipkhngxyuinthxplxngitdin thaihkhwniptamthximsadwk emuxsubnathikhnginthxxxkhmd khwnksamarthlxyxxkiptamplxngidsadwk plxngkhwnemruhlwngthisrangihmniichthxekhluxb imichthxolha enuxngcakekrngwacaekidsnimphukrxninphayhna swnkarrwsuminthxcnthaihnaekhamakhngxyunnidtrwcsxbphbinphayhlngwaepnephraapunsiemntthiyaaenwthxtrngkhxtxaetlathxnmirxyrwxyu cungidruxaekikhihm inthisudksamarthaekpyhaidthnghmd samarthprakxbphrarachphithiphrarachthanephlingphrasphsmedcphrasngkhracheca krmhlwngwchiryanwngs emuxpi ph s 2503 idxyangeriybrxy aelaidichemruhlwngthawrniinkarphrarachthanephlingsphthimiekiyrtiysidrbphrarachthanokseruxymacnkrathngpccubn karphrarachthankarephlingsphthiemruhlwnghnaphlbphlaxisriyaphrn wdethphsirinthrawasnn inkrnixyuinphraokshruxokscaechiyphrasphhruxsphxxkmabrrcuiwinlungthithadwyimepnthrngsiehliymcturskxn caknncungnaekhaetasumephlingtxip lungnithaepnecanaychnsungcamikarpiddwykradasthxng aetthaepnchnsphthwipcaepnephiynglungimsikhaw pccubn emruhlwngniidepliynetasumephlingaebbphnifthrrmdamaepnetasumephlingdwyrabbiffa sungmimlphisnxykwa ichewlainkarsumephlingerwkwaetaphnif aelathaihxthihlngcakkarephamisikhaw karprbprungephuxichepnphraemru emruhlwnghnaphlbphlaxisriyaphrnni emuxichphrarachthanephlingphrasphecanaysamy caepliynmaxxkeriykchuxepn phraemruwdethphsirinthrawas thaepnecanayphuihyepnthiekharphnbthuxkhxngehlaphrabrmwngs miphraxisriyyssungepnthiykyxng odyechphaasmedcphrasngkhrach camikarprbprungbangswnihsmphraekiyrtiyskhxngecanayphraxngkhnn echn mikarsrangsasangsahrbphraphithithrrmswdphraxphithrrm thngsimumphraemruphayinphraemruehnuxphracitkathancakangkndwychtrtamphraxisriyys odyrxbphraemrumikarpradbdwychtr xacepnchtrpruhruxchtrdxkimsd epliynchakbngephlingepnlaytnimthxng mikarephimchneruxnyxdcitkathanepn 5 chnhrux 3 chn cdswnhyxmrxbphraemruihepnpahimphant hruxmikartidphrawisutrthiphraemru thngni karprbprungphraemrucathaemuxichxxkphraemruecanaychnrxngthimiphrayssung hruxnganthiphramhakstriythrngrbepnphrarachthura swnecanaythwipxacmiephiyngkartkaetngdwydxkimsdethannxangxingkhnakrrmkarsanknganthrphysinswnphramhakstriy hnngsuxxnusrnnganphrarachthanephlingsph phltri hmxmthwiwngsthwlyskdi hmxmrachwngsechlimlaph thwiwngs krungethph m p ph ph s 2514 280 hna bthkhwamxakhar hrux sthanthisakhyniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldk