บทความนี้ยังต้องการเพิ่มเพื่อ |
พระมหาธรรมราชาที่ 1 (สวรรคต พ.ศ. 1911) บางแห่งออกพระนามว่า ลือไทย (บ้างสะกด ฦๅไทย) หรือ ลิไทย เป็นพระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรสุโขทัยในราชวงศ์พระร่วง ครองราชย์ระหว่างปี พ.ศ. 1890–1911 เป็นพระราชโอรสของพระยาเลอไทย และพระราชนัดดาของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
พระมหาธรรมราชาที่ 1 | |
---|---|
(พระมหากษัตริย์สุโขทัย) | |
ครองราชย์ | พ.ศ. 1890–1911 |
ก่อนหน้า | พระยางั่วนำถุม |
ถัดไป | พระมหาธรรมราชาที่ 2 |
พระราชสมภพ | ไม่ปรากฏ อาณาจักรสุโขทัย |
สวรรคต | พ.ศ. 1911 อาณาจักรสุโขทัย |
อัครมเหสี | สมเด็จพระราชชนนีศรีธรรมราชมาดา |
พระราชบุตร | พระมหาธรรมราชาที่ 2 |
ราชวงศ์ | พระร่วง |
พระราชบิดา | พระยาเลอไทย |
ศาสนา | พุทธ |
พระราชประวัติ
พระมหากษัตริย์ราชวงศ์พระร่วง | |
---|---|
พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ | |
พ่อขุนบานเมือง | |
พ่อขุนรามคำแหงมหาราช | |
พระยาเลอไทย | |
พระยางั่วนำถุม | |
พระมหาธรรมราชาที่ 1 | |
พระมหาธรรมราชาที่ 2 | |
พระมหาธรรมราชาที่ 3 | |
พระมหาธรรมราชาที่ 4 | |
พระมหาธรรมราชาที่ 1 เป็นหลานปู่ของพ่อขุนรามคำแหงมหาราชพระยาลิไทยเป็นกษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งอาณาจักรสุโขทัย มีพระนามเดิมว่าฦๅไทย (ลือไทย) ซึ่งภาษาบาลีสะกดว่า ลิเทยฺย (ลิไทย) ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระยางั่วนำถุม เดิมทรงปกครองเมืองศรีสัชนาลัย ในฐานะอุปราชหรือรัชทายาทเมืองสุโขทัย เมื่อปี พ.ศ. 1882
เมื่อพระยาเลอไทยเสด็จสวรรคตใน พ.ศ. 1884 พระยางั่วนำถุมได้ขึ้นครองราชย์จนเสด็จสวรรคตใน พ.ศ. 1890 พระยาลิไทยโดยต้องใช้กำลังทหารเข้ามายึดอำนาจเพราะที่สุโขทัยเกิดการกบฏการสืบราชบัลลังก์ ไม่เป็นไปตามครรลองครองธรรม พระยาลิไทยยกทัพมาแย่งชิงราชสมบัติได้ และขึ้นครองราชย์ใน พ.ศ. 1890 ทรงพระนามว่า พระบาทกมรเตงอัญศรีสุริยพงษ์รามมหาธรรมราชาธิราช
พระองค์ทรงรวบรวมหัวเมืองต่าง ๆ ที่แยกเป็นอิสระให้กลับมารวมตัวอีกครั้ง อาณาเขตในรัชสมัยของพระองค์ได้แก่ เมืองต่าง ๆ ระหว่างแม่น้ำปิง แม่น้ำน่านและแควป่าสัก มีเชียงทอง (ตาก) กำแพงเพชร พระบาง (นครสวรรค์) ปากยม (พิจิตร) สองแคว สระหลวง (พิษณุโลก) ขึ้นไปถึงกลุ่มเมืองราด เมืองสะค้า เมืองลุมบาจา เมืองน่านและเชาบุรี (หลวงพระบาง)
พระราชกรณียกิจ
ศาสนา
พระยาลิไทยทรงเลื่อมใสในศาสนาพุทธเป็นอย่างมากนโยบายการปกครองที่ใช้ศาสนา เป็นหลักรวมความเป็นปึกแผ่นจึงเป็นนโยบายหลักในรัชสมัยนี้ ด้วยทรงดำริว่าการจะขยายอาณาเขตต่อไปเช่นเดียวกับในรัชกาลพ่อขุนรามคำแหง พระอัยกา ก็จักต้องนำไพร่พลไปล้มตายอีกเป็นอันมาก พระองค์จึงทรงมีพระราชประสงค์ที่จะปกครองบ้านเมืองเช่นเดียวกับพระเจ้าอโศกมหาราชที่ทรงปกครองอินเดียให้เจริญได้ด้วยการส่งเสริมพระพุทธศาสนา และสั่งสอนชาวเมืองให้ตั้งอยู่ในศีลธรรมอันจะเป็นวิธีรักษาเมืองให้ยั่งยืนอยู่ได้
ทรงสร้างเจดีย์ที่เมืองนครชุม (กำแพงเพชร) ผนวชในพระพุทธศาสนาเมื่อ พ.ศ. 1905 ที่วัดป่ามะม่วงการที่ทรงออกผนวช นับว่าทำความมั่นคงให้พุทธศาสนามากขึ้น ดังกล่าวแล้วว่า หลังรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชแล้ว บ้านเมืองแตกแยก วงการสงฆ์เองก็แตกแยก แต่ละสำนักแต่ละเมืองก็ปฏิบัติแตกต่างกันออกไป เมื่อผู้นำทรงมีศรัทธาแรงกล้าถึงขั้นออกบวช พสกนิกรทั้งหลายก็คล้อยตามหันมาเลื่อมใสตามแบบอย่างพระองค์ กิตติศัพท์ของพระพุทธศาสนาในสุโขทัยจึงเลื่องลือไปไกล พระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่หลายรูปได้ออกไปเผยแพร่ธรรมในแคว้นต่าง ๆ เช่น อโยธยา หลวงพระบาง เมืองน่าน แม้แต่พญากือนาแห่งอาณาจักรล้านนาก็นิมนต์พระสุมณเถระจากสุโขทัยไปเพื่อเผยแพร่ธรรมที่อาณาจักรล้านนา
นอกเมืองสุโขทัยทางทิศตะวันตก ทรงอาราธนาพระสามิสังฆราชจากลังกาเข้ามาเป็นสังฆราชในกรุงสุโขทัย เผยแพร่เพิ่มความเจริญให้แก่พระศาสนามากยิ่งขึ้น ทรงสร้างและบูรณะวัดมากมายหลายแห่ง รวมทั้งการสร้างพระพุทธรูปเป็นจำนวนมาก เช่น พระพุทธชินสีห์ พระศรีศาสดา และพระพุทธรูปองค์สำคัญองค์หนึ่งของประเทศคือ พระพุทธชินราช ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
พระยาลิไทย ทรงปราดเปรื่องในความรู้ในพระพุทธศาสนา ทรงมีความรู้แตกฉานในพระไตรปิฎกภาษาบาลี พระองค์ได้ทรงแบ่งพระสงฆ์ออกเป็น 2 ฝ่ายคือฝ่าย "คามวาสี" และฝ่าย "อรัญวาสี" โดยให้ฝ่ายคามวาสีเน้นหนักการสั่งสอนราษฎรในเมืองและเน้นการศึกษาพระไตรปิฎก ส่วนฝ่ายอรัญวาสีเน้นให้หนักด้านการวิปัสสนาและประจำอยู่ตามป่าหรือชนบท ด้วยทรงเป็นองค์อุปถัมภ์พระศาสนาตลอดพระชนม์ชีพ ราษฎรจึงถวายพระนามว่า "พระมหาธรรมราชา"
พระยาลิไท ได้สร้างและบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในพระธาตุช่อแฮ (วัดพระธาตุช่อแฮปัจจุบัน) เมื่อปี พ.ศ. 1902
นอกจากศาสนาพุทธแล้ว พญาลิไทยยังทรงอุปถัมภ์ศาสนาฮินดูด้วยโดยทรงสร้างเทวรูปขนาดใหญ่หลายองค์ซึ่งยังเหลือปรากฏให้ศึกษาในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในกรุงเทพมหานครและที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดพิษณุโลก
ภาษาและวรรณคดี
ด้านทรงพระปรีชาสามารถนิพนธ์หนังสือไตรภูมิพระร่วงที่นับเป็นงานนิพนธ์ที่เก่าแก่ที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย ด้วยทรงเชี่ยวชาญในพระไตรปิฎกจึงทรงนิพนธ์ถึงเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ประเพณีในพระพุทธศาสนา โลกมนุษย์ สวรรค์ และนรก
นอกจากพระเจ้าลิไทยจะทรงนิพนธ์วรรณคดีเล่มแรกของไทยแล้ว ยังทรงดัดแปลงการเขียนหนังสือไทยที่พ่อขุนรามคำแหงทรงสร้างไว้ โดยกำหนดให้มีสระข้างบน ข้างล่าง ข้างหน้า ข้างหลัง รวมทั้งแก้ไขรูปพยัญชนะให้อ่านเขียนสะดวกขึ้น
การสร้างเมือง
ทรงทำนุบำรุงบ้านเมืองให้เจริญหลายประการ เช่น สร้างถนนพระร่วงตั้งแต่เมืองศรีสัชนาลัยผ่านกรุงสุโขทัยไปถึงเมืองนครชุม (กำแพงเพชร) บูรณะเมืองนครชุม
ทรงสร้างเมืองสองแคว (พิษณุโลก) เป็นโดยการย้ายเมืองซึ่งเคยอยู่ที่สองแควซึ่งเดิมอยู่ทางใต้ (วัดจุฬามณีในปัจจุบัน) แต่ยังคงเรียกว่าเมืองสองแควตามเดิม
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
นับแต่พระยาลิไทยได้ครองราชย์มา 2 ปี สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ผู้ครองกรุงศรีอยุธยา ได้ให้สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1ยกทัพมาตีเมืองชัยนาท หัวเมืองชั้นในของกรุงสุโขทัยด้วยขณะนั้นกรุงสุโขทัยอ่อนแอจากทุพภิกขภัย ข้าวกล้าในนาเสียหาย ชาวเมืองอดอยาก
ต่อมาพระยาลิไทยได้ส่งทูตไปเจรจาให้กรุงศรีอยุธยาคืนเมืองชัยนาทแต่โดยดี และจะยินยอมให้เป็นประเทศอิสระและมีไมตรีกันเช่นเดียวกับขอมที่ครองเมืองลพบุรี กรุงศรีอยุธยาเห็นควรด้วยเกรงว่าขอมจะร่วมมือกับกรุงสุโขทัยจัดทัพกระหนาบมาตี กรุงศรีอยุธยาจึงคืนเมืองชัยนาทให้พระยาลิไทย
หลังจากสัมพันธไมตรีระหว่าง 2 กรุงดำเนินมาได้ราว 10 ปี เมื่อพระเจ้าอู่ทองสวรรคต ไมตรีระหว่างกรุงสุโขทัยกับกรุงศรีอยุธยาก็เริ่มตึงเครียดขึ้น และเมื่อขุนหลวงพระงั่ว (พระบรมราชาธิราช) ได้ราชสมบัติครองกรุงศรีอยุธยา ก็ได้กรีธาทัพไปตีกรุงสุโขทัย สงครามระหว่าง 2 กรุงดำเนินไปถึง 6 ปีเศษ ขุนหลวงพระงั่วก็ไม่อาจเอาชัยทัพพระยาลิไทย กรุงสุโขทัยได้
พงศาวลี
พงศาวลีของพระมหาธรรมราชาที่ 1 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
- เชิงอรรถ
- มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา (2011, p. 33)
- ศานติ ภักดีคำ. "พระนามกษัตริย์สุโขทัย : ความสัมพันธ์กับเขมรโบราณ". ดำรงวิชาการ. 6:1 (มกราคม-มิถุนายน 2550), หน้า 92
- พจนานุกรมศัพท์วรรณคดีไทย สมัยสุโขทัย ไตรภูมิกถา, หน้า 3
- ศิริสาร เหมือนโพธิ์ทอง. "การกัลปานาในจารึกสุโขทัย อยุธยา และธนบุรี-รัตนโกสินทร์" (PDF). มหาวิทยาลัยศิลปากร. p. 29.
- บรรณานุกรม
- มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา (2011). นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย. กรุงเทพฯ: มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา. ISBN .
- ราชบัณฑิตยสถาน (2554). พจนานุกรมศัพท์วรรณคดีไทย สมัยสุโขทัย ไตรภูมิกถา. กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสถาน. p. 3.
ดูเพิ่ม
ก่อนหน้า | พระมหาธรรมราชาที่ 1 | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระยางั่วนำถุม | พระยาสุโขทัย (พ.ศ. 1890–1911) | พระมหาธรรมราชาที่ 2 |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniyngtxngkarephimaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxngkhunsamarthphthnabthkhwamniidodyephimaehlngxangxingtamsmkhwr enuxhathikhadaehlngxangxingxacthuklbxxk haaehlngkhxmul phramhathrrmrachathi 1 khaw hnngsuxphimph hnngsux skxlar JSTOR eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir phramhathrrmrachathi 1 swrrkht ph s 1911 bangaehngxxkphranamwa luxithy bangsakd liithy hrux liithy epnphramhakstriyaehngxanackrsuokhthyinrachwngsphrarwng khrxngrachyrahwangpi ph s 1890 1911 epnphrarachoxrskhxngphrayaelxithy aelaphrarachnddakhxngphxkhunramkhaaehngmharachphramhathrrmrachathi 1phrabrmrachanusawriyphramhathrrmrachathi 1 n wdphrabrmthatu xaephxemuxngkaaephngephchr cnghwdkaaephngephchrphramhakstriysuokhthykhrxngrachyph s 1890 1911kxnhnaphrayangwnathumthdipphramhathrrmrachathi 2phrarachsmphphimprakt xanackrsuokhthyswrrkhtph s 1911 xanackrsuokhthyxkhrmehsismedcphrarachchnnisrithrrmrachmadaphrarachbutrphramhathrrmrachathi 2rachwngsphrarwngphrarachbidaphrayaelxithysasnaphuththphrarachprawtiphramhakstriyrachwngsphrarwngphxkhunsrixinthrathityphxkhunbanemuxngphxkhunramkhaaehngmharachphrayaelxithyphrayangwnathumphramhathrrmrachathi 1phramhathrrmrachathi 2phramhathrrmrachathi 3phramhathrrmrachathi 4dk phramhathrrmrachathi 1 epnhlanpukhxngphxkhunramkhaaehngmharachphrayaliithyepnkstriyxngkhthi 6 aehngxanackrsuokhthy miphranamedimwaliithy luxithy sungphasabalisakdwa liethy y liithy khunkhrxngrachytxcakphrayangwnathum edimthrngpkkhrxngemuxngsrischnaly inthanaxuprachhruxrchthayathemuxngsuokhthy emuxpi ph s 1882 emuxphrayaelxithyesdcswrrkhtin ph s 1884 phrayangwnathumidkhunkhrxngrachycnesdcswrrkhtin ph s 1890 phrayaliithyodytxngichkalngthharekhamayudxanacephraathisuokhthyekidkarkbtkarsubrachbllngk imepniptamkhrrlxngkhrxngthrrm phrayaliithyykthphmaaeyngchingrachsmbtiid aelakhunkhrxngrachyin ph s 1890 thrngphranamwa phrabathkmretngxysrisuriyphngsrammhathrrmrachathirach phraxngkhthrngrwbrwmhwemuxngtang thiaeykepnxisraihklbmarwmtwxikkhrng xanaekhtinrchsmykhxngphraxngkhidaek emuxngtang rahwangaemnaping aemnananaelaaekhwpask miechiyngthxng tak kaaephngephchr phrabang nkhrswrrkh pakym phicitr sxngaekhw srahlwng phisnuolk khunipthungklumemuxngrad emuxngsakha emuxnglumbaca emuxngnanaelaechaburi hlwngphrabang phrarachkrniykicsasna phrayaliithythrngeluxmisinsasnaphuththepnxyangmaknoybaykarpkkhrxngthiichsasna epnhlkrwmkhwamepnpukaephncungepnnoybayhlkinrchsmyni dwythrngdariwakarcakhyayxanaekhttxipechnediywkbinrchkalphxkhunramkhaaehng phraxyka kcktxngnaiphrphliplmtayxikepnxnmak phraxngkhcungthrngmiphrarachprasngkhthicapkkhrxngbanemuxngechnediywkbphraecaxoskmharachthithrngpkkhrxngxinediyihecriyiddwykarsngesrimphraphuththsasna aelasngsxnchawemuxngihtngxyuinsilthrrmxncaepnwithirksaemuxngihyngyunxyuid thrngsrangecdiythiemuxngnkhrchum kaaephngephchr phnwchinphraphuththsasnaemux ph s 1905 thiwdpamamwngkarthithrngxxkphnwch nbwathakhwammnkhngihphuththsasnamakkhun dngklawaelwwa hlngrchsmyphxkhunramkhaaehngmharachaelw banemuxngaetkaeyk wngkarsngkhexngkaetkaeyk aetlasankaetlaemuxngkptibtiaetktangknxxkip emuxphunathrngmisrththaaerngklathungkhnxxkbwch phsknikrthnghlaykkhlxytamhnmaeluxmistamaebbxyangphraxngkh kittisphthkhxngphraphuththsasnainsuokhthycungeluxngluxipikl phrasngkhchnphuihyhlayrupidxxkipephyaephrthrrminaekhwntang echn xoythya hlwngphrabang emuxngnan aemaetphyakuxnaaehngxanackrlannaknimntphrasumnethracaksuokhthyipephuxephyaephrthrrmthixanackrlanna nxkemuxngsuokhthythangthistawntk thrngxarathnaphrasamisngkhrachcaklngkaekhamaepnsngkhrachinkrungsuokhthy ephyaephrephimkhwamecriyihaekphrasasnamakyingkhun thrngsrangaelaburnawdmakmayhlayaehng rwmthngkarsrangphraphuththrupepncanwnmak echn phraphuththchinsih phrasrisasda aelaphraphuththrupxngkhsakhyxngkhhnungkhxngpraethskhux phraphuththchinrach pccubnpradisthanxyuthiwdphrasrirtnmhathatuwrmhawihar phrayaliithy thrngpradepruxnginkhwamruinphraphuththsasna thrngmikhwamruaetkchaninphraitrpidkphasabali phraxngkhidthrngaebngphrasngkhxxkepn 2 faykhuxfay khamwasi aelafay xrywasi odyihfaykhamwasiennhnkkarsngsxnrasdrinemuxngaelaennkarsuksaphraitrpidk swnfayxrywasiennihhnkdankarwipssnaaelapracaxyutampahruxchnbth dwythrngepnxngkhxupthmphphrasasnatlxdphrachnmchiph rasdrcungthwayphranamwa phramhathrrmracha phrayaliith idsrangaelabrrcuphrabrmsaririkthatuinphrathatuchxaeh wdphrathatuchxaehpccubn emuxpi ph s 1902 nxkcaksasnaphuththaelw phyaliithyyngthrngxupthmphsasnahindudwyodythrngsrangethwrupkhnadihyhlayxngkhsungyngehluxpraktihsuksainphiphithphnthsthanaehngchatiinkrungethphmhankhraelathiphiphithphnthsthanaehngchaticnghwdphisnuolk phasaaelawrrnkhdi danthrngphraprichasamarthniphnthhnngsuxitrphumiphrarwngthinbepnnganniphnththiekaaekthisuderuxnghnunginprawtisastrithy dwythrngechiywchayinphraitrpidkcungthrngniphnththungeruxngrawekiywkbphraphuththsasna praephniinphraphuththsasna olkmnusy swrrkh aelanrk nxkcakphraecaliithycathrngniphnthwrrnkhdielmaerkkhxngithyaelw yngthrngddaeplngkarekhiynhnngsuxithythiphxkhunramkhaaehngthrngsrangiw odykahndihmisrakhangbn khanglang khanghna khanghlng rwmthngaekikhrupphyychnaihxanekhiynsadwkkhun karsrangemuxng thrngthanubarungbanemuxngihecriyhlayprakar echn srangthnnphrarwngtngaetemuxngsrischnalyphankrungsuokhthyipthungemuxngnkhrchum kaaephngephchr burnaemuxngnkhrchum thrngsrangemuxngsxngaekhw phisnuolk epnodykaryayemuxngsungekhyxyuthisxngaekhwsungedimxyuthangit wdculamniinpccubn aetyngkhngeriykwaemuxngsxngaekhwtamedim khwamsmphnthrahwangpraeths nbaetphrayaliithyidkhrxngrachyma 2 pi smedcphraramathibdithi 1 phukhrxngkrungsrixyuthya idihsmedcphrabrmrachathirachthi 1ykthphmatiemuxngchynath hwemuxngchninkhxngkrungsuokhthydwykhnannkrungsuokhthyxxnaexcakthuphphikkhphy khawklainnaesiyhay chawemuxngxdxyak txmaphrayaliithyidsngthutipecrcaihkrungsrixyuthyakhunemuxngchynathaetodydi aelacayinyxmihepnpraethsxisraaelamiimtriknechnediywkbkhxmthikhrxngemuxnglphburi krungsrixyuthyaehnkhwrdwyekrngwakhxmcarwmmuxkbkrungsuokhthycdthphkrahnabmati krungsrixyuthyacungkhunemuxngchynathihphrayaliithy hlngcaksmphnthimtrirahwang 2 krungdaeninmaidraw 10 pi emuxphraecaxuthxngswrrkht imtrirahwangkrungsuokhthykbkrungsrixyuthyakerimtungekhriydkhun aelaemuxkhunhlwngphrangw phrabrmrachathirach idrachsmbtikhrxngkrungsrixyuthya kidkrithathphiptikrungsuokhthy sngkhramrahwang 2 krungdaeninipthung 6 piess khunhlwngphrangwkimxacexachythphphrayaliithy krungsuokhthyidphngsawliphngsawlikhxngphramhathrrmrachathi 1 8 phxkhunsrixinthrathity 4 phxkhunramkhaaehngmharach 9 nangesuxng 2 phrayaelxithy 1 phramhathrrmrachathi 1 xangxingechingxrrthmulnithismedcphraethphrtnrachsuda 2011 p 33 santi phkdikha phranamkstriysuokhthy khwamsmphnthkbekhmrobran darngwichakar 6 1 mkrakhm mithunayn 2550 hna 92 phcnanukrmsphthwrrnkhdiithy smysuokhthy itrphumiktha hna 3 sirisar ehmuxnophthithxng karklpanaincaruksuokhthy xyuthya aelathnburi rtnoksinthr PDF mhawithyalysilpakr p 29 brrnanukrmmulnithismedcphraethphrtnrachsuda 2011 namanukrmphramhakstriyithy krungethph mulnithismedcphraethphrtnrachsuda ISBN 9786167308258 rachbnthitysthan 2554 phcnanukrmsphthwrrnkhdiithy smysuokhthy itrphumiktha krungethph rachbnthitysthan p 3 duephimrayphranamphramhakstriyithywikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb phramhathrrmrachathi 1 kxnhna phramhathrrmrachathi 1 thdipphrayangwnathum phrayasuokhthy ph s 1890 1911 phramhathrrmrachathi 2