พระพุทธชินราช ประดิษฐานอยู่ ณ วิหารด้านตะวันตกในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1900 ตรงกับรัชสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไทย) พระมหากษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัย พร้อมกับพระพุทธชินสีห์ พระศรีศาสดา และพระเหลือ พระพุทธชินราชได้รับการยอมรับว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดองค์หนึ่งและยังเป็นพระพุทธรูปที่นิยมจำลองกันมากที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้ยังเป็นพระพุทธรูปที่ประชาชนชาวไทยศรัทธาและนิยมเดินทางมากราบไหว้มากที่สุดองค์หนึ่งด้วย
พระพุทธชินราช | |
---|---|
พระพุทธชินราช วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.พิษณุโลก | |
ชื่อเต็ม | พระพุทธชินราช |
ชื่อสามัญ | หลวงพ่อใหญ่ |
พระพุทธรูป | |
ศิลปะ | ปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย หมวดพระพุทธชินราช |
ความกว้าง | 5 ศอก 1 คืบ 5 นิ้ว |
ความสูง | 7 ศอก |
วัสดุ | สำริด ลงรักปิดทอง |
สถานที่ประดิษฐาน | พระวิหารด้านทิศตะวันตก วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร |
ความสำคัญ | พระพุทธรูปสำคัญ |
หมายเหตุ | มีซุ้มเรือนแก้ว ได้รับถวาย เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์ เมื่อ พ.ศ. 2469 |
ส่วนหนึ่งของ |
ประวัติ
พระพุทธชินราช ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างในสมัยใด คงมีแต่พงศาวดารเหนือ ซึ่งเป็นเอกสารที่เล่าถึงตำนานเมืองเหนือเรื่องต่าง ๆ สมัยกรุงศรีอยุธยา ถูกเรียบเรียงขึ้นใหม่โดยพระวิเชียรปรีชา (น้อย) ในปี พ.ศ. 2350 ที่อ้างถึงกษัตริย์เชียงแสนพระนามพระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎกเป็นผู้สร้าง พร้อมกับการสร้างเมืองพิษณุโลกและพระพุทธรูปอีก 2 องค์คือพระพุทธชินสีห์และพระศรีศาสดา
พ.ศ. 2409 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีพระราชนิพนธ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติการสร้างพระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดา ในชื่อ "ตำนานพระพุทธชินราช พระพุทธชินศรี และพระศรีศาสดา" ในหนังสือวชิรญาณวิเศษ โดยใช้พงศาวดารเหนือในการอ้างอิงจึงทำให้มีเนื้อหาหลักคล้ายคลึงกัน แต่เพิ่มเติมการสร้างพระเหลือเข้าไป และมีการระบุศักราชในการสร้างพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ไว้ดังนี้ พระพุทธชินสีห์และพระศรีศาสดาหล่อในปี พ.ศ. 1498 และพระพุทธชินราชหล่อขึ้นในปี พ.ศ. 1500 (หย่อนอยู่ 7 วัน)
พ.ศ. 2423 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ได้ทรงแต่งตำนานการสร้างพระพุทธชินราชขึ้นอีกสำนวนหนึ่ง ชื่อ "พงษาวดารเหนือ : เป็นลิลิตเรื่องนิทานพระร่วง แลนิทานพระเจ้าธรรมไตรปิฎก นิทานพระชินศรี พระชินราช พระศาสดา" ซึงมีเนื้อเรื่องเช่นเดียวกับพงศาวดารเหนือและพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่เพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างพระบรมราชจักรีวงศ์กับพระพุทธชินราชเข้าไปด้วย
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้มีพระดำริเกี่ยวกับประวัติการสร้างพระพุทธชินราชจากหลักฐานทางพุทธศิลป์นำมาเปรียบเทียบกับพงศาวดารเหนือว่าพระพุทธชินราช ถูกสร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย เนื่องจากพุทธศิลป์อย่างพระพุทธรูปสุโขทัยระคนกับพุทธศิลป์เชียงแสนแต่มีพัฒนาการไปกว่าพระพุทธรูปที่มีอยู่เดิม และช่างผู้สร้างพระพุทธชินราชกับพระพุทธชินสีห์นั้นเป็นช่างเดียวกัน หากแต่พระศรีศาสดาเป็นช่างอื่นจากลักษณะประติมากรรมของพระพุทธรูปทั้ง ๓ องค์ที่ปรากฏ แต่จะสร้างพร้อมกันทั้ง 3 องค์หรือไม่นั้นไม่ทราบแน่ชัด และเมื่อพิจารณาช่วงเวลาการสร้างแล้วทรงคาดว่าพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์น่าจะสร้างในรัชสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1 ในปี พ.ศ. 1900 มิใช่พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎก โดยประทานเหตุผลว่า "พระเจ้าแผ่นดินซึ่งปรากฏพระเกียรติในเรื่องพระไตรปิฎกนั้นมีแต่พระองค์เดียวคือพระมหาธรรมราชาลิไทย...พระมหาธรรมราชานี้เองที่พงศาวดารเหนือเรียกว่า พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎก"
นอกจากนี้ยังมีการสันนิษฐานเกี่ยวกับประวัติการสร้างพระพุทธชินราชว่าน่าจะถูกสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาโดยพิชญา สุ่มจินดา ซึ่งได้กำหนดอายุเวลาของพระพุทธชินราชขึ้นใหม่จากพุทธลักษณะขององค์พระพุทธรูปจากรูปแบบของเรือนแก้ว โดยเทียบเคียงกับลวดลายบนซุ้มเรือนแก้วที่วัดพระบรมธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช อายุเวลาของลวดลายดังกล่าวอาจกำหนดได้ในช่วงสมัยอยุธยาตอนปลาย และจากสถาปัตยกรรมของพระวิหาร ในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พ.ศ. 2199-2232)
อย่างไรก็ตามความเห็นที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด ณ ขณะนี้คือความเห็นในแนวทางเดียวกับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ที่เชื่อว่าพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์นี้ถูกสร้างขึ้นในราว พ.ศ. 1900 ในรัชสมัยของพระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไทย)
หมายเหตุ: ซุ้มเรือนแก้ว รูปหล่ออาฬวกยักษ์และท้าวเวสสุวัณเป็นประติมากรรมที่สร้างขึ้นคนละยุคกับองค์พระโดยเชื่อว่าน่าจะสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาโดยสังเกตจากลักษณะลวดลายและลักษณะทางสถาปัตยกรรม นอกจากนี้ยังมีการบูรณะพระพุทธชินราชโดยการเพิ่มอุณาโลมบริเวณพระนลาฏในสมัยหลัง (คาดว่าน่าจะทำขึ้นในสมัยอยุธยา เนื่องจากไม่ปรากฏหลักฐานการบูรณะเพิ่มเติม)
การลงรักปิดทอง
เดิมพระพุทธชินราชเป็นพระพุทธรูปสำริดมิได้มีการลงรักปิดทองตั้งแต่แรกสร้าง ต่อมาในปี พ.ศ. 2146 สมเด็จพระเอกาทศรถได้เสด็จแปรพระราชฐานมายังเมืองพิษณุโลกและพระราชดำเนินมานมัสการ พร้อมทั้งโปรดให้มีการนำเครื่องราชูปโภคมาตีแผ่เป็นทองคำเปลวสำหรับปิดทองพระพุทธชินราช ครั้งนั้นจึงถือเป็นการลงรักปิดทองครั้งแรก ต่อมายังมีการลงรักปิดทองอีก 2 ครั้งใน พ.ศ. 2444 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการถวายสังวาลย์เพชรเป็นพุทธบูชาพร้อมกับการหล่อพระพุทธชินราช (จำลอง) เพื่อนำไปประดิษฐานเป็นพระประธาน ณ พระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร และ พ.ศ. 2547 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
การสงคราม
พระพุทธชินราชเป็นพระพุทธรูปสำคัญที่ประดิษฐานอยู่ ณ วิหารด้านตะวันตกของหมู่พระวิหารและระเบียงคต ทำให้เมื่อมีการศึกสงครามโดยเฉพาะในศึกอะแซหวุ่นกี้ พ.ศ. 2318 เมื่ออะแซหวุ่นกี้และทัพพม่าสามารถตีเมืองพิษณุโลกได้ จึงเผาทำลายพระราชวังจันทน์กับพระวิหารประธานด้านตะวันออกที่ประดิษฐานพระอัฏฐารสเท่านั้น พระพุทธชินราชและพระวิหารที่ประดิษฐานไม่ได้โดนเผาทำลายไปด้วย
การเคลื่อนย้ายที่ประดิษฐานและการจำลอง
พ.ศ. 2442 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการสถาปนาวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามขึ้นเป็นพระอารามหลวงประจำพระราชวังดุสิต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชประสงค์ที่จะอัญเชิญพระพุทธชินราชไปประดิษฐานเป็นพระประธาน ณ พระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ดังข้อความในพระราชปรารภ "เห็นพระพุทธลักษณะแห่งพระพุทธชินราชว่างาม หาพระพุทธรูปองค์ใดเปรียบมิได้ ครั้นเมื่อสร้างวัดเบญจมบพิตรขึ้น ได้พยายามหาพระพุทธรูปซึ่งจะเป็นพระประธาน ทั้งในกรุงแลหัวเมือง...ก็ไม่เป็นที่พอใจ จึงคิดเห็นว่าจะหาพระพุทธรูปองค์ใดให้สวยงามเสมอพระพุทธชินราชนั้นไม่มีแล้ว..."
แต่ด้วยเหตุที่พระพุทธชินราชไม่เคยถูกอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ ที่แห่งใดเลย และทรงเกรงว่าเมื่อราษฎรชาวพิษณุโลกทราบข่าวการอัญเชิญพระพุทธชินราชไปประดิษฐานยังกรุงเทพมหานครจะพากันเศร้าโศกเหมือนเมื่อครั้งที่สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพโปรดให้อัญเชิญพระพุทธชินสีห์ลงไปประดิษฐานยังกรุงเทพมหานครในปี พ.ศ. 2372 และในเวลาไล่เลี่ยกันมีพระสงฆ์รูปหนึ่งได้อัญเชิญพระศรีศาสดาลงไปประดิษฐานยังกรุงเทพมหานครเช่นเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงมีพระราชดำริที่จะหล่อพระพุทธชินราช (จำลอง) ขึ้นแทน ดังความในพระราชปรารภที่ว่า "ครั้นจะเชิญพระพุทธชินราชลงมาก็เห็นว่าเป็นหลักเป็นศิริของเมืองพิศณุโลก...จึงได้ปรารภที่จะคิดหล่อขึ้นใหม่ให้เหมือนพระพุทธชินราช..." ในปี พ.ศ. 2444 จึงได้มีการหล่อพระพุทธชินราช (จำลอง) ณ บริเวณเดิม (โพธิ์ 3 เส้า) ที่มีการหล่อพระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดา และอัญเชิญพระพุทธชินราช (จำลอง) ลงแพแล้วล่องลงมายังกรุงเทพมหานครต่อไป
ลักษณะทางพุทธศิลป์และการจัดหมวดหมู่
ลักษณะทางพุทธศิลป์
พระเกศรัศมียาวเป็นเปลวเพลิง พระเกศาขดเป็นก้นหอยขนาดใหญ่ วงพระพักตร์ค่อนข้างกลมไม่ยาวรีเหมือนผลมะตูมเช่นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยหมวดใหญ่ มีพระอุณาโลมผลิกอยู่ระหว่างพระขนง พระวรกายอวบอ้วนมีสังฆายาวปลายหยักเป็นเขี้ยวตะขาบฝังด้วยแก้ว นิ้วพระหัตถ์ทั้งสี่ยาวเสมอกัน (ทีฆงคุลี) ฝ่าพระบาทแบนราบค่อนข้างแคบเมื่อเทียบกับพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยหมวดใหญ่ ส้นพระบาทยาว มีรูปอาฬวกยักษ์และรูปท้าวเวสสุวัณหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์เฝ้าอยู่ที่พระเพลาเบื้องขวาและซ้ายขององค์ตามลำดับ มีซุ้มเรือนแก้วและสลักด้วยไม้สักลงรักปิดทองประดับเบิ้องพระปฤษฎางค์ปราณีตอ่อนช้อยช่วยเน้นให้พระวรกายของพระพุทธชินราชมีความงดงามยิ่งขึ้น
การจัดหมวดหมู่
พระพุทธชินราช ถูกจัดให้อยู่ในพระพุทธรูปหมวดพระพุทธชินราช (พระพุทธรูปสกุลช่างเมืองพิษณุโลก ซึ่งมีลักษณะต่างจากหมวดใหญ่เล็กน้อย คือพระพักตร์ที่อวบอ้วนมากกว่าและที่สำคัญคือการทำปลายนิ้วพระหัตถ์ทั้ง 4 ยาวเสมอกัน ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของพระพุทธรูปหมวดนี้) ถือเป็น 1 ใน 4 หมวดของพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย
พระมหากษัตริย์ที่เสด็จพระราชดำเนินมานมัสการ
- สมเด็จพระราเมศวร
- สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
- สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2
- สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4
- สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช
- สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
- สมเด็จพระเอกาทศรถ
- สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
- สมเด็จพระเพทราชา
- สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
- สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
- พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
- พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
- พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
- พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
- พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
- พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
- พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
หมายเหตุ: รายพระนามตามที่ปรากฏมาในพระราชพงศาวดาร
คำสรรเสริญที่มีต่อพระพุทธชินราช
พระพุทธชินราชพระพุทธชินศรีสองพระองค์นั้นงามแหลมแก่ตามมากกว่าพระพุทธรูปใหญ่น้อยบรรดามีในแผ่นดินสยามทั้งปักษ์ใต้ ฝ่ายเหนือ และตลอดกาลนานมาถึง 900 ปีมีผู้เลียนปั้นเอาอย่างไปมากก็หลายตำบล จะมีพระพุทธรูปที่คนเป็นอันมากดูเห็นว่าเป็นดีเป็นงามกว่าพระพุทธชินราชพระพุทธชินศรีสองพระองค์นี้ก็ไม่มี
— พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เห็นพระพุทธลักษณะแห่งพระพุทธชินราชว่างามหาพระพุทธรูปองค์ใดเปรียบมิได้ ครั้นเมื่อสร้างวัดเบญจมบพิตรขึ้น ได้พยายามหาพระพุทธรูปซึ่งจะเป็นพระประธาน ทั้งในกรุงแลหัวเมือง...ก็ไม่เป็นที่พอใจ จึงคิดเห็นว่าจะหาพระพุทธรูปองค์ใดให้สวยงามเสมอพระพุทธชินราชนั้นไม่มีแล้ว
— พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระพุทธชินราช ตั้งแต่ข้าพเจ้าได้เห็นพระพุทธมานักแล้ว ไม่เคยรู้สึกว่าดูปลื้มใจจำเริญตาเท่าพระพุทธชินราชเลย...ถ้าพระพุทธชินราชยังคงอยู่ที่เมืองพิษณุโลกตราบใด เมืองพิษณุโลกจะเป็นเมืองที่ควรไปเที่ยวอยู่ตราบนั้น ถึงในเมืองพิษณุโลกจะไม่มีชิ้นอะไรเหลืออีกเลย ขอให้มีแต่พระพุทธชินราชเหลืออยู่แล้ว ยังคงจะอวดได้อยู่แล้ว ยังคงจะอวดได้อยู่เสมอว่ามีของควรดูควรชมอย่างยิ่งอย่างหนึ่งในเมืองเหนือหรือจะว่าในเมืองไทยทั้งหมดก็ว่าได้
— พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
พวกฝรั่งพากันออกปากว่ายังไม่เคยเห็นของโบราณที่แห่งอื่นในเมืองไทยจับใจ Impressive เหมือนพระชินราช
— สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ข้าพเจ้าเคยไปราชการที่จังหวัดพิษณุโลกกับฝรั่งหลายคราว เขาเคยกล่าวแก่ข้าพเจ้าว่า พระพุทธรูปองค์นี้สวยเหลือเกิน เขาอาจนั่งนั่งดูอยู่ในวิหารได้โดยไม่เบื่อตั้ง ๒-๓ ชั่วโมง บางคนถึงกับกล่าวว่าเขารู้สึกอิจฉาคนไทยมากที่มีพระพุทธรูปงามเช่นนี้ ฯลฯ ถ้าท่านเป็นคนไทย...ความงามของพระพุทธชินราชจะปรากฏแก่ท่านในขณะที่นั่งอยู่ในวิหาร ถึงทำให้น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้สึกตัว
— หลวงบริบาลบุรีภัณฑ์
ประเพณี
งานสมโภชพระพุทธชินราช ช่วงวันมาฆบูชา (วันเพ็ญเดือน 3 ของทุกปี) รวมเวลา 7 วัน 7 คืน
การขึ้นทะเบียน
- กรมศิลปากร ขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุสถาน ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 53 ตอนที่ 34 หน้า 1526 วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2479
- กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศเป็นพระพุทธรูปสำคัญ ตามบัญชีแนบท้ายระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการก่อสร้างอนุสาวรีย์แห่งชาติ และการจำลองพระพุทธรูปสำคัญ พ.ศ. 2520
อ้างอิง
- บัญชีแนบท้ายระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการก่อสร้างอนุสาวรีย์แห่งชาติ และการจำลองพระพุทธรูปสำคัญ พ.ศ. 2520
- พิริยะ ไกรฤกษ์. (2551). ลักษณะไทย ๑ พระพุทธปฏิมา อัตลักษณ์พุทธศิลป์ไทย. กรุงเทพฯ : บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน).
- ชาตรี ปีะกิตนนทการ. (2551). พระพุทธชินราชในประวัติศาสตร์สมบูรณาญาสิทธิราชย์. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มติชน.
- ดำรงราชานุภาพ. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอฯ กรมพระยา. (2548). ตำนานพระพุทธรูปสำคัญ. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มติชน.
แหล่งข้อมูลอื่น
- พระสมุห์วันชัย เกสรธมฺโม (มีมาก). (๒๕๕๐). การศึกษาศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพระพุทธชินราชจังหวัดพิษณุโลก ในฐานะสื่อพุทธศิลป์ 2017-02-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. วิทยานิพนธ์ พธ.ม. (พุทธศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาธรรมนิเทศ). กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. อัดสำเนา.
- ศูนย์วิทยบริการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา 2006-10-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของ พระพุทธชินราช
- ภาพถ่ายดาวเทียมจากวิกิแมเปีย หรือกูเกิลแมปส์
- แผนที่จากลองดูแมป หรือเฮียวีโก
- ภาพถ่ายทางอากาศจากเทอร์ราเซิร์ฟเวอร์
16°49′25″N 100°15′44″E / 16.82372°N 100.26226°E
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phraphuththchinrach pradisthanxyu n wihardantawntkinwdphrasrirtnmhathatuwrmhawihar cnghwdphisnuolk snnisthanwasrangkhuninpi ph s 1900 trngkbrchsmyphramhathrrmrachathi 1 liithy phramhakstriyaehngkrungsuokhthy phrxmkbphraphuththchinsih phrasrisasda aelaphraehlux phraphuththchinrachidrbkaryxmrbwaepnphraphuththrupthimiphuththlksnangdngamthisudxngkhhnungaelayngepnphraphuththrupthiniymcalxngknmakthisudinpraethsithy nxkcakniyngepnphraphuththrupthiprachachnchawithysrththaaelaniymedinthangmakrabihwmakthisudxngkhhnungdwyphraphuththchinrachphraphuththchinrach wdphrasrimhathatuwrmhawihar x emuxng c phisnuolkchuxetmphraphuththchinrachchuxsamyhlwngphxihyphraphuththrupsilpapangmarwichy silpasuokhthy hmwdphraphuththchinrachkhwamkwang5 sxk 1 khub 5 niwkhwamsung7 sxkwsdusarid lngrkpidthxngsthanthipradisthanphrawihardanthistawntk wdphrasrirtnmhathatuwrmhawiharkhwamsakhyphraphuththrupsakhyhmayehtumisumeruxnaekw idrbthway ekhruxngrachxisriyaphrnxnepnobranmngkhlnphrtnrachwraphrn emux ph s 2469swnhnungkhxngsaranukrmphraphuththsasnaprawtiphraphuththchinrach imprakthlkthanaenchdwasranginsmyid khngmiaetphngsawdarehnux sungepnexksarthielathungtananemuxngehnuxeruxngtang smykrungsrixyuthya thukeriyberiyngkhunihmodyphrawiechiyrpricha nxy inpi ph s 2350 thixangthungkstriyechiyngaesnphranamphraecasrithrrmitrpidkepnphusrang phrxmkbkarsrangemuxngphisnuolkaelaphraphuththrupxik 2 xngkhkhuxphraphuththchinsihaelaphrasrisasda ph s 2409 phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhwidmiphrarachniphnthephimetimekiywkbprawtikarsrangphraphuththchinrach phraphuththchinsih aelaphrasrisasda inchux tananphraphuththchinrach phraphuththchinsri aelaphrasrisasda inhnngsuxwchiryanwiess odyichphngsawdarehnuxinkarxangxingcungthaihmienuxhahlkkhlaykhlungkn aetephimetimkarsrangphraehluxekhaip aelamikarrabuskrachinkarsrangphraphuththrupthng 3 xngkhiwdngni phraphuththchinsihaelaphrasrisasdahlxinpi ph s 1498 aelaphraphuththchinrachhlxkhuninpi ph s 1500 hyxnxyu 7 wn ph s 2423 inrchsmyphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw smedcphramhasmneca krmphrayapwerswriyalngkrn idthrngaetngtanankarsrangphraphuththchinrachkhunxiksanwnhnung chux phngsawdarehnux epnliliteruxngnithanphrarwng aelnithanphraecathrrmitrpidk nithanphrachinsri phrachinrach phrasasda sungmienuxeruxngechnediywkbphngsawdarehnuxaelaphrarachniphnthinphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw aetephimkhwamsmphnthrahwangphrabrmrachckriwngskbphraphuththchinrachekhaipdwy smedcphraecabrmwngsethx krmphrayadarngrachanuphaph idmiphradariekiywkbprawtikarsrangphraphuththchinrachcakhlkthanthangphuththsilpnamaepriybethiybkbphngsawdarehnuxwaphraphuththchinrach thuksrangkhuninsmysuokhthy enuxngcakphuththsilpxyangphraphuththrupsuokhthyrakhnkbphuththsilpechiyngaesnaetmiphthnakaripkwaphraphuththrupthimixyuedim aelachangphusrangphraphuththchinrachkbphraphuththchinsihnnepnchangediywkn hakaetphrasrisasdaepnchangxuncaklksnapratimakrrmkhxngphraphuththrupthng 3 xngkhthiprakt aetcasrangphrxmknthng 3 xngkhhruximnnimthrabaenchd aelaemuxphicarnachwngewlakarsrangaelwthrngkhadwaphraphuththrupthng 3 xngkhnacasranginrchsmyphramhathrrmrachathi 1 inpi ph s 1900 miichphraecasrithrrmitrpidk odyprathanehtuphlwa phraecaaephndinsungpraktphraekiyrtiineruxngphraitrpidknnmiaetphraxngkhediywkhuxphramhathrrmrachaliithy phramhathrrmrachaniexngthiphngsawdarehnuxeriykwa phraecasrithrrmitrpidk nxkcakniyngmikarsnnisthanekiywkbprawtikarsrangphraphuththchinrachwanacathuksrangkhuninsmykrungsrixyuthyaodyphichya sumcinda sungidkahndxayuewlakhxngphraphuththchinrachkhunihmcakphuththlksnakhxngxngkhphraphuththrupcakrupaebbkhxngeruxnaekw odyethiybekhiyngkblwdlaybnsumeruxnaekwthiwdphrabrmthatu cnghwdnkhrsrithrrmrach xayuewlakhxnglwdlaydngklawxackahndidinchwngsmyxyuthyatxnplay aelacaksthaptykrrmkhxngphrawihar inrchsmykhxngsmedcphranaraynmharach ph s 2199 2232 xyangirktamkhwamehnthiidrbkaryxmrbmakthisud n khnanikhuxkhwamehninaenwthangediywkbsmedcphraecabrmwngsethx krmphrayadarngrachanuphaph thiechuxwaphraphuththrupthng 3 xngkhnithuksrangkhuninraw ph s 1900 inrchsmykhxngphramhathrrmrachathi 1 liithy hmayehtu sumeruxnaekw ruphlxxalwkyksaelathawewssuwnepnpratimakrrmthisrangkhunkhnlayukhkbxngkhphraodyechuxwanacasrangkhuninsmyxyuthyaodysngektcaklksnalwdlayaelalksnathangsthaptykrrm nxkcakniyngmikarburnaphraphuththchinrachodykarephimxunaolmbriewnphranlatinsmyhlng khadwanacathakhuninsmyxyuthya enuxngcakimprakthlkthankarburnaephimetim karlngrkpidthxng edimphraphuththchinrachepnphraphuththrupsaridmiidmikarlngrkpidthxngtngaetaerksrang txmainpi ph s 2146 smedcphraexkathsrthidesdcaeprphrarachthanmayngemuxngphisnuolkaelaphrarachdaeninmanmskar phrxmthngoprdihmikarnaekhruxngrachupophkhmatiaephepnthxngkhaeplwsahrbpidthxngphraphuththchinrach khrngnncungthuxepnkarlngrkpidthxngkhrngaerk txmayngmikarlngrkpidthxngxik 2 khrngin ph s 2444 rchsmyphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw mikarthwaysngwalyephchrepnphuththbuchaphrxmkbkarhlxphraphuththchinrach calxng ephuxnaippradisthanepnphraprathan n phraxuobsthwdebycmbphitrdusitwnaramrachwrwihar krungethphmhankhr aela ph s 2547 inrchsmyphrabathsmedcphramhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitr karsngkhram phraphuththchinrachepnphraphuththrupsakhythipradisthanxyu n wihardantawntkkhxnghmuphrawiharaelaraebiyngkht thaihemuxmikarsuksngkhramodyechphaainsukxaaeshwunki ph s 2318 emuxxaaeshwunkiaelathphphmasamarthtiemuxngphisnuolkid cungephathalayphrarachwngcnthnkbphrawiharprathandantawnxxkthipradisthanphraxttharsethann phraphuththchinrachaelaphrawiharthipradisthanimidodnephathalayipdwy karekhluxnyaythipradisthanaelakarcalxng ph s 2442 rchsmyphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw idmikarsthapnawdebycmbphitrdusitwnaramkhunepnphraxaramhlwngpracaphrarachwngdusit phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwmiphrarachprasngkhthicaxyechiyphraphuththchinrachippradisthanepnphraprathan n phraxuobsthwdebycmbphitrdusitwnaram dngkhxkhwaminphrarachprarph ehnphraphuththlksnaaehngphraphuththchinrachwangam haphraphuththrupxngkhidepriybmiid khrnemuxsrangwdebycmbphitrkhun idphyayamhaphraphuththrupsungcaepnphraprathan thnginkrungaelhwemuxng kimepnthiphxic cungkhidehnwacahaphraphuththrupxngkhidihswyngamesmxphraphuththchinrachnnimmiaelw aetdwyehtuthiphraphuththchinrachimekhythukxyechiyippradisthan n thiaehngidely aelathrngekrngwaemuxrasdrchawphisnuolkthrabkhawkarxyechiyphraphuththchinrachippradisthanyngkrungethphmhankhrcaphaknesraoskehmuxnemuxkhrngthismedcphrabwrrachecamhaskdiphlesphoprdihxyechiyphraphuththchinsihlngippradisthanyngkrungethphmhankhrinpi ph s 2372 aelainewlaileliyknmiphrasngkhruphnungidxyechiyphrasrisasdalngippradisthanyngkrungethphmhankhrechnediywkn phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwcungmiphrarachdarithicahlxphraphuththchinrach calxng khunaethn dngkhwaminphrarachprarphthiwa khrncaechiyphraphuththchinrachlngmakehnwaepnhlkepnsirikhxngemuxngphisnuolk cungidprarphthicakhidhlxkhunihmihehmuxnphraphuththchinrach inpi ph s 2444 cungidmikarhlxphraphuththchinrach calxng n briewnedim ophthi 3 esa thimikarhlxphraphuththchinrach phraphuththchinsih aelaphrasrisasda aelaxyechiyphraphuththchinrach calxng lngaephaelwlxnglngmayngkrungethphmhankhrtxiplksnathangphuththsilpaelakarcdhmwdhmulksnathangphuththsilp phraeksrsmiyawepneplwephling phraeksakhdepnknhxykhnadihy wngphraphktrkhxnkhangklmimyawriehmuxnphlmatumechnphraphuththrupsmysuokhthyhmwdihy miphraxunaolmphlikxyurahwangphrakhnng phrawrkayxwbxwnmisngkhayawplayhykepnekhiywtakhabfngdwyaekw niwphrahtththngsiyawesmxkn thikhngkhuli faphrabathaebnrabkhxnkhangaekhbemuxethiybkbphraphuththrupsmysuokhthyhmwdihy snphrabathyaw mirupxalwkyksaelarupthawewssuwnhlxdwythxngsmvththiefaxyuthiphraephlaebuxngkhwaaelasaykhxngxngkhtamladb misumeruxnaekwaelaslkdwyimsklngrkpidthxngpradbebixngphrapvsdangkhpranitxxnchxychwyennihphrawrkaykhxngphraphuththchinrachmikhwamngdngamyingkhun karcdhmwdhmu phraphuththchinrach thukcdihxyuinphraphuththruphmwdphraphuththchinrach phraphuththrupskulchangemuxngphisnuolk sungmilksnatangcakhmwdihyelknxy khuxphraphktrthixwbxwnmakkwaaelathisakhykhuxkarthaplayniwphrahtththng 4 yawesmxkn sungepnlksnaechphaakhxngphraphuththruphmwdni thuxepn 1 in 4 hmwdkhxngphraphuththrupsmysuokhthyphramhakstriythiesdcphrarachdaeninmanmskarsmedcphraraemswr smedcphrabrmitrolknath smedcphraramathibdithi 2 smedcphrabrmrachathirachthi 4 smedcphramhathrrmrachathirach smedcphranerswrmharach smedcphraexkathsrth smedcphranaraynmharach smedcphraephthracha smedcphraecaxyuhwbrmoks smedcphraecakrungthnburi phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw phrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw phrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw phrabathsmedcphramhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitr phrabathsmedcphrawchireklaecaxyuhw hmayehtu rayphranamtamthipraktmainphrarachphngsawdarkhasrresriythimitxphraphuththchinrachphraphuththchinrachphraphuththchinsrisxngphraxngkhnnngamaehlmaektammakkwaphraphuththrupihynxybrrdamiinaephndinsyamthngpksit fayehnux aelatlxdkalnanmathung 900 pimiphueliynpnexaxyangipmakkhlaytabl camiphraphuththrupthikhnepnxnmakduehnwaepndiepnngamkwaphraphuththchinrachphraphuththchinsrisxngphraxngkhnikimmi phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw ehnphraphuththlksnaaehngphraphuththchinrachwangamhaphraphuththrupxngkhidepriybmiid khrnemuxsrangwdebycmbphitrkhun idphyayamhaphraphuththrupsungcaepnphraprathan thnginkrungaelhwemuxng kimepnthiphxic cungkhidehnwacahaphraphuththrupxngkhidihswyngamesmxphraphuththchinrachnnimmiaelw phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw phraphuththchinrach tngaetkhaphecaidehnphraphuththmankaelw imekhyrusukwaduplumiccaeriytaethaphraphuththchinrachely thaphraphuththchinrachyngkhngxyuthiemuxngphisnuolktrabid emuxngphisnuolkcaepnemuxngthikhwripethiywxyutrabnn thunginemuxngphisnuolkcaimmichinxairehluxxikely khxihmiaetphraphuththchinrachehluxxyuaelw yngkhngcaxwdidxyuaelw yngkhngcaxwdidxyuesmxwamikhxngkhwrdukhwrchmxyangyingxyanghnunginemuxngehnuxhruxcawainemuxngithythnghmdkwaid phrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw phwkfrngphaknxxkpakwayngimekhyehnkhxngobranthiaehngxuninemuxngithycbic Impressive ehmuxnphrachinrach smedcphraecabrmwngsethx krmphrayadarngrachanuphaph khaphecaekhyiprachkarthicnghwdphisnuolkkbfrnghlaykhraw ekhaekhyklawaekkhaphecawa phraphuththrupxngkhniswyehluxekin ekhaxacnngnngduxyuinwiharidodyimebuxtng 2 3 chwomng bangkhnthungkbklawwaekharusukxicchakhnithymakthimiphraphuththrupngamechnni l thathanepnkhnithy khwamngamkhxngphraphuththchinrachcapraktaekthaninkhnathinngxyuinwihar thungthaihnataihlxxkmaodyimrusuktw hlwngbribalburiphnthpraephningansmophchphraphuththchinrach chwngwnmakhbucha wnephyeduxn 3 khxngthukpi rwmewla 7 wn 7 khunkarkhunthaebiynkrmsilpakr khunthaebiynobranwtthusthan inrachkiccanuebksa elm 53 txnthi 34 hna 1526 wnthi 27 knyayn ph s 2479 krathrwngsuksathikar prakasepnphraphuththrupsakhy tambychiaenbthayraebiybkrathrwngsuksathikar wadwykarkxsrangxnusawriyaehngchati aelakarcalxngphraphuththrupsakhy ph s 2520xangxingbychiaenbthayraebiybkrathrwngsuksathikar wadwykarkxsrangxnusawriyaehngchati aelakarcalxngphraphuththrupsakhy ph s 2520 phiriya ikrvks 2551 lksnaithy 1 phraphuththptima xtlksnphuththsilpithy krungethph bristh xmrinthrphrintingaexndphblichching cakd mhachn chatri piakitnnthkar 2551 phraphuththchinrachinprawtisastrsmburnayasiththirachy krungethph sankphimphmtichn darngrachanuphaph smedcphraecabrmwngsethx krmphraya 2548 tananphraphuththrupsakhy krungethph sankphimphmtichn aehlngkhxmulxunphrasmuhwnchy eksrthm om mimak 2550 karsuksasrththakhxngprachachnthimitxphraphuththchinrachcnghwdphisnuolk inthanasuxphuththsilp 2017 02 15 thi ewyaebkaemchchin withyaniphnth phth m phuththsastrbnthit sakhawichathrrmnieths krungethph bnthitwithyalymhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly xdsaena sunywithybrikar mhawithyalyrachphtswnsunntha 2006 10 04 thi ewyaebkaemchchin aephnthiaelaphaphthaythangxakaskhxng phraphuththchinrach phaphthaydawethiymcakwikiaemepiy hruxkuekilaemps aephnthicaklxngduaemp hruxehiywiok phaphthaythangxakascakethxrraesirfewxr 16 49 25 N 100 15 44 E 16 82372 N 100 26226 E 16 82372 100 26226 wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb phraphuththchinrach wikisxrs mingantnchbbekiywkb phngsawdar phraphuththchinrach phraphuththchinsriaelaphrasrisasda