พระไตรปิฎกภาษาบาลี หรือ พระบาลี (บาลี: Tipiṭaka; สิงหล: ත්රිපිටකය; เทวนาครี: त्रिपिटक; อังกฤษ: Pali Canon) เป็นพระไตรปิฎกของนิกายเถรวาท คำว่าพระไตรปิฎกมาจากภาษาบาลี ติปิฏก แปลว่า สามใบ หรือคำสอนสามหมวด (ติ หมายถึง สาม ปิฏก หมายถึง คัมภีร์ หรือ) สันนิษฐานว่าที่มาของคำว่าพระไตรปิฎกน่าจะมาจากการที่พระภิกษุจดจารึกคัมภีร์ใส่ลงในใบตระกูลปาล์มและใส่ลงในตะกร้า ถ้าอาศัยหลักฐานทางวิชาการ เชื่อว่าไตรปิฎกเป็นชื่อที่ใช้กันมาก่อนจะสังคายนาครั้งที่ 3 เพราะมีการใช้คำพูดว่า "ไตรปิฎก" ในประวัติศาสตร์ยุคพระเจ้าอโศกก่อนการสังคายนาครั้งที่ 3 จึงเชื่อได้ว่าหลังสังคายนาครั้งที่ 2 พระสงฆ์มีการแยกพระอภิธรรมออกจากพระสูตรแล้วเมื่อสังคายนาครั้งที 3 จึงแยกอย่างเป็นเรื่องเป็นราวจริง ซึ่งคำสอนสามหมวดนี้ ได้แก่
- พระวินัยปิฎก หรือ พระวินัย ได้แก่ประมวลระเบียบข้อบังคับของบรรพชิตที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้สำหรับภิกษุและภิกษุณี
- พระสุตตันตปิฎก หรือ พระสูตร ได้แก่ประมวลพระพุทธพจน์ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงยังที่ต่าง ๆ ให้เหมาะกับบุคคล สถานที่ และเหตุการณ์ มีเรื่องราวประกอบ
- พระอภิธรรมปิฎก หรือ พระอภิธรรม ได้แก่ประมวลคำสอนที่เป็นหลักวิชาการล้วน ๆ ไม่เกี่ยวด้วยบุคคลหรือเหตุการณ์ ไม่มีเรื่องราวประกอบ
พระไตรปิฎกมีเนื้อหารวมทั้งสิ้น 84,000 ธรรมขันธ์ ฉบับพิมพ์ภาษาไทยนิยมจัดแยกเป็น 45 เล่ม เพื่อหมายถึงระยะเวลา 45 แห่ง
พระโคตมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ครั้งหนึ่งว่า พระธรรมวินัยจะเป็นศาสดาแทนพระองค์ภายหลังที่พระองค์ล่วงลับไปแล้ว พระไตรปิฎกจึงเปรียบเสมือนตัวแทนของพระพุทธองค์ และเป็นที่ที่ชาวพุทธสามารถเข้าเฝ้าพระศาสดาของตน พุทธศาสนิกชนสามารถศึกษาปริยัติธรรมจากพระไตรปิฎก เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติตนให้พ้นจากทุกข์ อันเป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิตตามนัยแห่งพระพุทธศาสนาสืบไป
พระไตรปิฎกมีจุดเริ่มต้นมาจากการจัดรวบรวมคำสอนของพระพุทธเจ้า ออกเป็นหมวดหมู่ และซักซ้อมทบทวนกันจนลงตัว ในระยะแรก พระไตรปิฎกถ่ายต่อกันมาโดยการท่องจำปากเปล่า จนกระทั่งราว พ.ศ. 460 จึงมีการจารึกลงเป็นลายลักษณ์อักษร กล่าวได้ว่าพระพุทธศาสนาสืบทอดมาพร้อมกับพระไตรปิฎก จากสมัยพุทธกาลจนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 2,500 ปี พระไตรปิฎกบาลีของฝ่ายเถรวาท เป็นที่ยอมรับกันว่า เป็นบันทึกคำสอนของพระพุทธเจ้าที่เก่าแก่ที่สุด ดั้งเดิมที่สุด สมบูรณ์ที่สุด และถูกต้องแม่นยำที่สุด ที่ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน
หมวดหมู่ในพระไตรปิฎก
ในพระไตรปิฎก นอกจากจะเป็นที่รวบรวมคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว ยังได้จัดหมวดหมู่คำสอนเหล่านั้นให้เป็นระเบียบพร้อม ๆ กันไปด้วย ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการท่องจำ ความง่ายต่อการแบ่งหน้าที่รักษา และความไม่ลำบากในการศึกษาค้นคว้า
คำสอนทั่วไปในพระพุทธศาสนาสามารถแบ่งได้กว้าง ๆ เป็น วินัย และ ธรรม โดย วินัย จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับบทบัญญัติของคณะสงฆ์ สำหรับเป็นข้อบังคับในการปฏิบัติตัวของผู้ออกบวชเท่านั้น ส่วน ธรรม เป็นคำสอนที่ครอบคลุมพุทธบริษัททั้งหมด ซึ่งสามารถแยกได้อีกเป็นสองชนิด คือ
- ธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสแสดงไปตาม โต้ตอบกับบุคคลต่าง ๆ เป็นเรื่อง ๆ ในแต่ละเรื่องจะเรียกว่า สุตตะ หรือ สูตร หนึ่ง ๆ ในพระไตรปิฎกจะรวบรวมธรรมแบบนี้ไว้พวกหนึ่ง เรียกว่า สุตตันตะ หรือ พระสูตร
- ธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสแสดงไปตามเนื้อหา ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคลหรือเหตุการณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น เรียกว่าเป็นวิชาการล้วน ๆ เช่น เมื่อยกเรื่องขันธ์ 5 มา ก็อธิบายโดยละเอียดว่าขันธ์ 5 คืออะไร แบ่งออกเป็นอะไรบ้าง แต่ละอย่างนั้นเป็นอย่างไร จนจบเรื่องขันธ์ 5 ธรรมที่แสดงเอาเนื้อหาเป็นหลักอย่างนี้ ในพระไตรปิฎกจะจัดอยู่ในประเภท อภิธัมมะ หรือ พระอภิธรรม
เมื่อรวม พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก และ พระอภิธรรมปิฎก เข้าด้วยกัน ก็จะเกิดสามหมวดหมู่ใหญ่ ประกอบกันได้กลายเป็นพระไตรปิฏก
ความเป็นมาของพระไตรปิฎก
สมัยพุทธกาล
การรวบรวมคำสอนของพระพุทธศาสนาเริ่มมีขึ้นเมื่อครั้งที่ ศาสดาของศาสนาเชนสิ้นชีวิตลง และสาวกของท่านไม่ได้เก็บรวบรวมคำสอนไว้ ทำให้เหล่าผู้นับถือศาสนาเชนจึงเกิดการแตกแยก และถกเถียงกันว่าแท้จริงแล้วศาสดาของตนสอนไว้เช่นไร ทราบเรื่องจึงนำความขึ้นกราบทูลพระพุทธเจ้า พระองค์จึงได้ตรัสแนะนำให้พระสงฆ์ทั้งปวงร่วมกันทำสังคายนา เพื่อรักษาคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธศาสนาให้คงอยู่สืบไป
เมื่อพระสารีบุตรทราบถึงเรื่องราวปัญหาของศาสนาเชน ก็ได้แสดงวิธีสังคายนาไว้เป็นตัวอย่างต่อหน้าที่ประชุมคณะสงฆ์ โดยรวบรวมข้อธรรมต่าง ๆ ให้อยู่ตามลำดับหมวด ตั้งแต่หมวดหนึ่ง ไปจนถึงหมวดสิบ เมื่อพระสารีบุตรแสดงธรรมจบแล้ว พระพุทธเจ้าก็ทรงประทานสาธุการแก่หลักธรรมที่พระสารีบุตรแสดงไว้
ทั้งนี้ ในสมัยพุทธกาลยังไม่มีการรวบรวมคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นพระไตรปิฎก แต่ก็มีคำเรียกพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าว่า พฺรหฺมจริย หรือพรหมจรรย์ และ ธมฺมวินย หรือธรรมวินัย
ปฐมสังคายนา
การทำสังคายนาครั้งแรก เกิดขึ้นภายหลังจากที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน 3 เดือน ที่ ข้าง ใกล้กรุงราชคฤห์ ประเทศอินเดีย ในพระราชูปถัมภ์ของพระเจ้าอชาตศัตรู โดยมีพระมหากัสสปเถระทำหน้าที่เป็นประธาน และเป็นผู้คอยซักถาม มีพระอุบาลีเป็นผู้นำในการวิสัชนาข้อวินัย และมีพระอานนท์เป็นผู้นำในการวิสัชนาข้อธรรม การทำสังคายนาครั้งนี้มีพระอรหันต์มาประชุมร่วมกันทั้งหมด 500 รูป ดำเนินอยู่เป็นเวลา 7 เดือน จึงเสร็จสิ้น
มูลเหตุในการทำสังคายนาครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อพระมหากัสสปเถระทราบข่าวการปรินิพพานของพระพุทธเจ้าหลังจากพระองค์ปรินิพพานแล้วได้ 7 วัน บรรดาลูกศิษย์พระมหากัสสปเถระ เมื่อได้ทราบข่าวต่างพากันร้องไห้คร่ำครวญ แต่มีภิกษุอยู่รูปหนึ่งชื่อสุภัททะ ซึ่งเป็นภิกษุแก่ กล่าวว่า ท่านทั้งหลายจะร้องไห้กันไปทำไม เมื่อสมัยที่พระพุทธเจ้ายังอยู่ พระองค์ทรงเข้มงวดกวดขัน คอยชี้ว่านี่ถูก นี่ผิด นี่ควร นี่ไม่ควร ทำให้พวกเราลำบาก บัดนี้พระองค์ปรินิพพานไปแล้ว พวกเราจะได้ทำอะไรตามใจชอบเสียที เมื่อพระมหากัสสปเถระได้ฟังดังนี้ก็รู้สึกสลดใจ ดำริว่าแม้พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปใหม่ๆ ยังปรากฏผู้มีใจวิปริตจากธรรมวินัยถึงเพียงนี้ ถ้าปล่อยไว้นานเข้า คำสอนทางพระพุทธศาสนาอาจถูกบิดเบือนไปได้ จึงริเริ่มวางแผนการทำสังคายนา
พระวินัยปิฎก | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
พระสุตตันตปิฎก | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
พระอภิธรรมปิฎก | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
การสังคายนาครั้งที่สอง
การทำสังคายนาครั้งที่สองเกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 100 ที่ เมืองเวสาลี แคว้นวัชชี ประเทศอินเดีย โดยมี เป็นผู้ชักชวน ผู้ใหญ่ที่เข้าร่วมทำสังคายนาครั้งนี้ได้แก่ (ทั้งสี่รูปนี้เป็น) พระยสะ กากัณฑกบุตร และ (ทั้งสี่รูปนี้เป็น) ในการนี้พระเรวตะทำหน้าที่เป็นประธานผู้คอยซักถาม และพระสัพพกามีเป็นผู้นำในการวิสัชนาข้อวินัย การทำสังคายนาครั้งนี้มีพระสงฆ์มาประชุมร่วมกัน 700 รูป ดำเนินการอยู่เป็นเวลา 8 เดือน จึงเสร็จสิ้น
ข้อปรารภในการทำสังคายนาครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อ พระยสะ กากัณฑกบุตร พบเห็นข้อปฏิบัติย่อหย่อน 10 ประการทางพระวินัยของภิกษุ เช่น ควรเก็บเกลือไว้ในเพื่อรับประทานได้ ควรฉันอาหารยามวิกาลได้ ควรรับเงินทองได้ เป็นต้น พระยสะ กากัณฑกบุตรจึงชวนพระเถระต่างๆ ให้ช่วยกันวินิจฉัย แก้ความถือผิดครั้งนี้
โดยรายละเอียดของปฐมสังคายนาและการสังคายนาครั้งที่สอง มีกล่าวถึงในพระวินัยปิฎก จุลลวรรค แม้ในวินัยปิฎกจะไม่กล่าวถึงคำว่าพระไตรปิฎกในการปฐมสังคายนา และการสังคายนาครั้งที่สองเลย แต่ในสมันตัปปาสาทิกา ซึ่งเป็นอรรถกถาอธิบายวินัยปิฎกนั้น บอกว่าการจัดหมวดหมู่คำสอนของพระพุทธศาสนา ให้เป็นรูปเป็นร่างอย่างพระไตรปิฎกนั้น มีมาตั้งแต่ครั้งปฐมสังคายนาแล้ว
การสังคายนาครั้งที่สาม
การทำสังคายนาครั้งที่สามเกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 235 ที่ กรุงปาฏลีบุตร ประเทศอินเดีย โดยมี เป็นประธาน การทำสังคายนาครั้งนี้มีพระสงฆ์มาประชุมร่วมกัน 1,000 รูป ดำเนินการอยู่เป็นเวลา 9 เดือน จึงเสร็จสิ้น
ข้อปรารภในการทำสังคายนาครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อ มีพวกเดียรถีย์ หรือนักบวชศาสนาอื่นมาปลอมบวช แล้วแสดงลัทธิศาสนาและความเห็นของตนว่าเป็นพระพุทธศาสนา พระโมคคัลลีบุตร ติสสเถระ จึงได้ขอความอุปถัมภ์จากพระเจ้าอโศกมหาราชสังคายนาพระธรรมวินัยเพื่อกำจัดความเห็นของพวกเดียรถีย์ออกไป
ในการทำสังคายนาครั้งนี้ พระโมคคัลลีบุตร ติสสเถระ ได้แต่งคัมภีร์กถาวัตถุ ซึ่งเป็นคัมภีร์หนึ่งในพระอภิธรรมไว้ด้วย และเมื่อทำสังคายนาเสร็จแล้ว ก็มีการส่งคณะทูตไปประกาศพระพุทธศาสนาในประเทศต่างๆ ในที่นี้มี ผู้เป็นโอรสของพระเจ้าอโศกมหาราช ที่นำพระพุทธศานาไปประดิษฐานในลังกา รวมทั้งและ ที่นำพระพุทธศาสนามาเผยแผ่ยังดินแดนสุวรรณภูมิด้วย
การสังคายนาครั้งที่สี่
การทำสังคายนาครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 643 ที่เมือง แต่บางหลักฐานก็กล่าวว่าทำที่กัศมีร์หรือแคชเมียร์ การสังคายนาครั้งนี้มีลักษณะของศาสนาพราหมณ์และพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายานเข้ามาผสม ทำให้ฝ่ายเถรวาทไม่นับว่าเป็นหนึ่งในการสังคายนา
การสังคายนาครั้งที่ห้า
การสังคายนาครั้งนี้ กระทำเมื่อ พ.ศ. 460 ณ อาโลกเลณสถาน ในมลยชนบท ลังกาทวีป เหตุเพราะพระสงฆ์แตกกันเป็น ๒ พวกคือ พวกมหาวิหารกับพวกอภัยคีรีวิหาร และคำนึงว่าสืบไปภายหน้า กุลบุตรจะถอยปัญญา ควรจารึกพระธรรมวินัยลงในใบลาน ณ อาโลกเลณสถานในมลยชนบท ในลังกาทวีป เมื่อพุทธศักราช ๔๕๐ โดยพระเจ้าวัฎฎคามณีอภัยเป็นศาสนูปถัมภก ถึงแม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่เกิดความแตกแยกขึ้นในคณะสงฆ์ลังกาทวีปในด้านทิฏฐิ แต่ทางวินัยต่างฝ่ายต่างก็พร้อมกันรักษาดีอยู่อย่างน่าสรรเสริญ บางคัมภีร์ว่า สังคายนาครั้งนี้จัดขึ้นในความคุ้มครองของคนที่เป็นใหญ่ในท้องถิ่น
ปัญหาการนับครั้งการสังคายนา
การนับครั้งการสังคายนามีความแตกต่างกันในพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาทกับพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน นอกจากนี้ แม้ประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาทด้วยกันเองก็ยังนับครั้งการสังคายนาไม่ตรงกัน ซึ่งพอจะสรุปได้ดังนี้
- ประเทศศรีลังกา นับการสังคายนาสามครั้งแรกที่ประเทศอินเดีย และการสังคายนาที่ประเทศตนเองอีก 3 ครั้ง โดยครั้งสุดท้ายกระทำเมื่อ พ.ศ. 2408 โดยการสังคายนาครั้งนี้เป็นที่รู้กันเฉพาะในประเทศศรีลังกาเท่านั้น
- ประเทศพม่า นับการสังคายนาสามครั้งแรกที่ประเทศอินเดีย และนับการสังคายนาครั้งที่ 2 ที่ลังกาเป็นครั้งที่ 4 ที่ประเทศพม่า และนับการสังคายนาที่ประเทศตนเองอีก 2 ครั้ง โดยครั้งสุดท้าย หรือครั้งที่ 6 ในพม่า มีชื่อเรียกว่า เริ่มกระทำเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2497 เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2499 การทำสังคายนาครั้งนี้ทำขึ้นเนื่องในโอกาสฉลอง 25 พุทธศตวรรษ เพื่อพิมพ์พระไตรปิฎก อรรถกถา และคำแปลเป็นภาษาพม่า โดยได้เชิญพุทธศาสนิกชนจากหลายประเทศเข้าร่วมพิธี โดยเฉพาะจากประเทศ พม่า ศรีลังกา ไทย ลาว และกัมพูชา
- ประเทศไทย นับการสังคายนาสามครั้งแรกที่ประเทศอินเดีย และครั้งที่ 1-2 ที่ลังกา แต่ในหนังสือสังคีติยวงศ์ หรือประวัติแห่งการสังคายนา ของสมเด็จพระวันรัต ได้นับเพิ่มอีก 4 ครั้ง คือ
- ครั้งที่ 6 เมื่อ พ.ศ. 956 ในลังกา โดยพระพุทธโฆสะได้แปลและเรียบเรียงอรรถกถา ซึ่งถือว่าเป็นการชำระอรรถกถา ไม่ใช่พระไตรปิฎก ทางลังกาจึงไม่นับเป็นการสังคายนา
- ครั้งที่ 7 เมื่อ พ.ศ. 1587 ในลังกา โดยเป็นประธานรจนาฎีกาต่างๆ ซึ่งถือว่าเป็นการชำระฎีกา ไม่ใช่พระไตรปิฎก ทางลังกาจึงไม่นับเป็นการสังคายนาเช่นกัน
- ครั้งที่ 8 เมื่อ พ.ศ. 2020 ในประเทศไทย โดยการอุปถัมภ์ของพระเจ้าติโลกราชแห่งอาณาจักรล้านนา
- ครั้งที่ 9 เมื่อ พ.ศ. 2331 ในประเทศไทย โดยการอุปถัมภ์ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
เชิงอรรถ
- พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค มหาปรินิพพานสูตร . พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก[1]. เข้าถึงเมื่อ 9-7-52
- เสถียร โพธินันทะ, ประวัติพระไตรปิฎกฉบับจีนพากย์, มรดกธรรมของเสถียร โพธินันทะ, 2548, หน้า 82-3
- โย โว อานนฺท มยา ธมฺโม จ วินโย จ เทสิโต ปญฺญตฺโต โส โว มมจฺจเยน สตฺถา
ดูก่อนอานนท์ ธรรมและวินัยใด ที่เราได้แสดงแล้ว และบัญญัติแล้ว แก่เธอทั้งหลาย ธรรมและวินัยนั้น จักเป็นศาสดาของเธอทั้งหลาย โดยกาลที่เราล่วงลับไป
(สุตตันตปิฎก ฑีฆนิกาย มหาวรรค มหาปรินิพพานสูตร ข้อ 141)
- โย ธมฺมํ ปสฺสติ โส มํ ปสฺสติ
ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา
(สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตกะ สังฆาฎิสูตร ข้อ 272)
- การทำสังคายนา คือการรวบรวมคำสอนทั้งหลายที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ พร้อมจัดหมวดหมู่ให้จดจำได้ง่าย และซักซ้อมทบทวน สวดสาธยายพร้อมกันเพื่อเป็นแบบแผนในการทรงจำสืบต่อมา โดยคำว่า สังคายนา หรือ สังคีติ นี้ เป็นภาษาบาลี แปลว่า สวดพร้อมกัน (สํ หมายถึง พร้อมกัน คายน หรือ คีติ หมายถึง การสวด)
- เรื่องนี้มีปรากฏอยู่ใน ปาสาทิกสูตร (สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค)
- เรื่องนี้มีปรากฏอยู่ใน สังคีติสูตร (สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค)
- จรถ ภิกฺขเว จาริกํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ เทเสถ ธมฺมํ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสถ
ภิกษุทั้งหลาย เธอจงจาริกไปเพื่อประโยชน์และความสุขแก่คนหมู่มาก เพื่ออนุเคราะห์โลก เพื่อประโยชน์เกื้อกูลและความสุขแก่ทวยเทพและมนุษย์ จงแสดงธรรมงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด จงประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถทั้งพยัญชนะ อันบริสุทธิ์บริบูรณ์โดยสิ้นเชิง (สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย)
ดูเพิ่ม
- คัมภีร์อรรถกถา คัมภีร์ชั้นรอง อธิบายความในพระไตรปิฎก
- คัมภีร์ฎีกา คัมภีร์ชั้นสาม อธิบายความในอรรถกถา
- พระไตรปิฎกภาษาจีน
- พระไตรปิฎกภาษาทิเบต
- พระไตรปิฎกภาษาอังกฤษ
อ้างอิง
www.Google.go.th
หนังสืออ่านเพิ่มเติม
- ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์, ข้อสังเกตบางประการเกี่ยวแก่ปิฎก (บาลี-สันสกฤตวิชาการ) , มูลนิธิมหามกุฏฯ, หน้า 56-89
- พระธรรมปิฎก (ป. อ. ปยุตฺโต), พระไตรปิฎก สิ่งที่ชาวพุทธต้องรู้, เอส. อาร์. พริ้นติ้ง แมส โปรดักส์, 2546. .
- สุชีพ ปุญญานุภาพ, พระไตรปิฎก ฉบับสำหรับประชาชน, มหามกุฏราชวิทยาลัยฯ, 2539.
- พระไตรปิฎก : ประวัติและความสำคัญ, มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยฯ, 2535. .
- เสฐียรพงษ์ วรรณปก, พระไตรปิฎกวิเคราะห์, ช่อมะไฟ, 2530. .
- เสฐียรพงษ์ วรรณปก, เพลงรักจากพระไตรปิฎก, อุษณา, 2531. .
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์แปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์. พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐออนไลน์
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phraitrpidkphasabali hrux phrabali bali Tipiṭaka singhl ත ර ප ටකය ethwnakhri त र प टक xngkvs Pali Canon epnphraitrpidkkhxngnikayethrwath khawaphraitrpidkmacakphasabali tipitk aeplwa samib hruxkhasxnsamhmwd ti hmaythung sam pitk hmaythung khmphir hrux snnisthanwathimakhxngkhawaphraitrpidknacamacakkarthiphraphiksucdcarukkhmphirislnginibtrakulpalmaelaislngintakra thaxasyhlkthanthangwichakar echuxwaitrpidkepnchuxthiichknmakxncasngkhaynakhrngthi 3 ephraamikarichkhaphudwa itrpidk inprawtisastryukhphraecaxoskkxnkarsngkhaynakhrngthi 3 cungechuxidwahlngsngkhaynakhrngthi 2 phrasngkhmikaraeykphraxphithrrmxxkcakphrasutraelwemuxsngkhaynakhrngthi 3 cungaeykxyangepneruxngepnrawcring sungkhasxnsamhmwdni idaekphrawinypidk hrux phrawiny idaekpramwlraebiybkhxbngkhbkhxngbrrphchitthiphraphuththecathrngbyytiiwsahrbphiksuaelaphiksuni phrasuttntpidk hrux phrasutr idaekpramwlphraphuththphcnthiphraphuththecathrngaesdngyngthitang ihehmaakbbukhkhl sthanthi aelaehtukarn mieruxngrawprakxb phraxphithrrmpidk hrux phraxphithrrm idaekpramwlkhasxnthiepnhlkwichakarlwn imekiywdwybukhkhlhruxehtukarn immieruxngrawprakxbpraktphraphuththdarsinwa emuxthrngpriniphanipaelw phrathrrmwinythiidthrngsngsxniwaelw ckepnsasdakhxngethxthnghlay phraitrpidkmienuxharwmthngsin 84 000 thrrmkhnth chbbphimphphasaithyniymcdaeykepn 45 elm ephuxhmaythungrayaewla 45 aehng phraokhtmphuththecaidtrsiwkhrnghnungwa phrathrrmwinycaepnsasdaaethnphraxngkhphayhlngthiphraxngkhlwnglbipaelw phraitrpidkcungepriybesmuxntwaethnkhxngphraphuththxngkh aelaepnthithichawphuththsamarthekhaefaphrasasdakhxngtn phuththsasnikchnsamarthsuksapriytithrrmcakphraitrpidk ephuxichepnaenwthanginkarptibtitnihphncakthukkh xnepnepahmaysungsudkhxngchiwittamnyaehngphraphuththsasnasubip phraitrpidkmicuderimtnmacakkarcdrwbrwmkhasxnkhxngphraphuththeca xxkepnhmwdhmu aelasksxmthbthwnkncnlngtw inrayaaerk phraitrpidkthaytxknmaodykarthxngcapakepla cnkrathngraw ph s 460 cungmikarcaruklngepnlaylksnxksr klawidwaphraphuththsasnasubthxdmaphrxmkbphraitrpidk caksmyphuththkalcnthungwnniepnewlakwa 2 500 pi phraitrpidkbalikhxngfayethrwath epnthiyxmrbknwa epnbnthukkhasxnkhxngphraphuththecathiekaaekthisud dngedimthisud smburnthisud aelathuktxngaemnyathisud thiyngkhngmixyuinpccubnhmwdhmuinphraitrpidkinphraitrpidk nxkcakcaepnthirwbrwmkhasxnkhxngphraphuththecaaelw yngidcdhmwdhmukhasxnehlannihepnraebiybphrxm knipdwy thngniephuxkhwamsadwkinkarthxngca khwamngaytxkaraebnghnathirksa aelakhwamimlabakinkarsuksakhnkhwa khasxnthwipinphraphuththsasnasamarthaebngidkwang epn winy aela thrrm ody winy caepneruxngekiywkbbthbyytikhxngkhnasngkh sahrbepnkhxbngkhbinkarptibtitwkhxngphuxxkbwchethann swn thrrm epnkhasxnthikhrxbkhlumphuththbrisththnghmd sungsamarthaeykidxikepnsxngchnid khux thrrmthiphraphuththecatrsaesdngiptam ottxbkbbukhkhltang epneruxng inaetlaeruxngcaeriykwa sutta hrux sutr hnung inphraitrpidkcarwbrwmthrrmaebbniiwphwkhnung eriykwa suttnta hrux phrasutr thrrmthiphraphuththecatrsaesdngiptamenuxha imekiywkhxngkbbukhkhlhruxehtukarnid thngsin eriykwaepnwichakarlwn echn emuxykeruxngkhnth 5 ma kxthibayodylaexiydwakhnth 5 khuxxair aebngxxkepnxairbang aetlaxyangnnepnxyangir cncberuxngkhnth 5 thrrmthiaesdngexaenuxhaepnhlkxyangni inphraitrpidkcacdxyuinpraephth xphithmma hrux phraxphithrrm emuxrwm phrawinypidk phrasuttntpidk aela phraxphithrrmpidk ekhadwykn kcaekidsamhmwdhmuihy prakxbknidklayepnphraitrpitkkhwamepnmakhxngphraitrpidksmyphuththkal phraitrpidkchbbsyamrth karrwbrwmkhasxnkhxngphraphuththsasnaerimmikhunemuxkhrngthi sasdakhxngsasnaechnsinchiwitlng aelasawkkhxngthanimidekbrwbrwmkhasxniw thaihehlaphunbthuxsasnaechncungekidkaraetkaeyk aelathkethiyngknwaaethcringaelwsasdakhxngtnsxniwechnir thraberuxngcungnakhwamkhunkrabthulphraphuththeca phraxngkhcungidtrsaenanaihphrasngkhthngpwngrwmknthasngkhayna ephuxrksakhasxnthiaethcringkhxngphraphuththsasnaihkhngxyusubip emuxphrasaributrthrabthungeruxngrawpyhakhxngsasnaechn kidaesdngwithisngkhaynaiwepntwxyangtxhnathiprachumkhnasngkh odyrwbrwmkhxthrrmtang ihxyutamladbhmwd tngaethmwdhnung ipcnthunghmwdsib emuxphrasaributraesdngthrrmcbaelw phraphuththecakthrngprathansathukaraekhlkthrrmthiphrasaributraesdngiw thngni insmyphuththkalyngimmikarrwbrwmkhasxnkhxngphraphuththecaepnphraitrpidk aetkmikhaeriykphrathrrmkhasxnkhxngphraphuththecawa ph rh mcriy hruxphrhmcrry aela thm mwiny hruxthrrmwiny pthmsngkhayna karthasngkhaynakhrngaerk ekidkhunphayhlngcakthiphraphuththecaesdcdbkhnthpriniphphan 3 eduxn thi khang iklkrungrachkhvh praethsxinediy inphrarachupthmphkhxngphraecaxchatstru odymiphramhaksspethrathahnathiepnprathan aelaepnphukhxysktham miphraxubaliepnphunainkarwischnakhxwiny aelamiphraxannthepnphunainkarwischnakhxthrrm karthasngkhaynakhrngnimiphraxrhntmaprachumrwmknthnghmd 500 rup daeninxyuepnewla 7 eduxn cungesrcsin mulehtuinkarthasngkhaynakhrngni ekidkhunemuxphramhaksspethrathrabkhawkarpriniphphankhxngphraphuththecahlngcakphraxngkhpriniphphanaelwid 7 wn brrdaluksisyphramhaksspethra emuxidthrabkhawtangphaknrxngihkhrakhrwy aetmiphiksuxyuruphnungchuxsuphththa sungepnphiksuaek klawwa thanthnghlaycarxngihknipthaim emuxsmythiphraphuththecayngxyu phraxngkhthrngekhmngwdkwdkhn khxychiwanithuk niphid nikhwr niimkhwr thaihphwkeralabak bdniphraxngkhpriniphphanipaelw phwkeracaidthaxairtamicchxbesiythi emuxphramhaksspethraidfngdngnikrusuksldic dariwaaemphraphuththecapriniphphanipihm yngpraktphumiicwipritcakthrrmwinythungephiyngni thaplxyiwnanekha khasxnthangphraphuththsasnaxacthukbidebuxnipid cungrierimwangaephnkarthasngkhayna khmphirhlkinphraphuththsasna phraitrpidkethrwath 45 elm phrawinypidk khmphir suttwiphngkhkhmphir khnthkakhmphir priwar phrasuttntpidk khmphir thikhnikaykhmphir mchchimnikay phraxphithrrmpidk pu kthaptthanpkrn karsngkhaynakhrngthisxng karthasngkhaynakhrngthisxngekidkhunemux ph s 100 thi emuxngewsali aekhwnwchchi praethsxinediy odymi epnphuchkchwn phuihythiekharwmthasngkhaynakhrngniidaek thngsirupniepn phraysa kaknthkbutr aela thngsirupniepn inkarniphraerwtathahnathiepnprathanphukhxysktham aelaphrasphphkamiepnphunainkarwischnakhxwiny karthasngkhaynakhrngnimiphrasngkhmaprachumrwmkn 700 rup daeninkarxyuepnewla 8 eduxn cungesrcsin khxprarphinkarthasngkhaynakhrngniekidkhunemux phraysa kaknthkbutr phbehnkhxptibtiyxhyxn 10 prakarthangphrawinykhxngphiksu echn khwrekbekluxiwinephuxrbprathanid khwrchnxaharyamwikalid khwrrbenginthxngid epntn phraysa kaknthkbutrcungchwnphraethratang ihchwyknwinicchy aekkhwamthuxphidkhrngni odyraylaexiydkhxngpthmsngkhaynaaelakarsngkhaynakhrngthisxng miklawthunginphrawinypidk cullwrrkh aeminwinypidkcaimklawthungkhawaphraitrpidkinkarpthmsngkhayna aelakarsngkhaynakhrngthisxngely aetinsmntppasathika sungepnxrrthkthaxthibaywinypidknn bxkwakarcdhmwdhmukhasxnkhxngphraphuththsasna ihepnrupepnrangxyangphraitrpidknn mimatngaetkhrngpthmsngkhaynaaelw karsngkhaynakhrngthisam karthasngkhaynakhrngthisamekidkhunemux ph s 235 thi krungpatlibutr praethsxinediy odymi epnprathan karthasngkhaynakhrngnimiphrasngkhmaprachumrwmkn 1 000 rup daeninkarxyuepnewla 9 eduxn cungesrcsin khxprarphinkarthasngkhaynakhrngniekidkhunemux miphwkediyrthiy hruxnkbwchsasnaxunmaplxmbwch aelwaesdnglththisasnaaelakhwamehnkhxngtnwaepnphraphuththsasna phraomkhkhllibutr tissethra cungidkhxkhwamxupthmphcakphraecaxoskmharachsngkhaynaphrathrrmwinyephuxkacdkhwamehnkhxngphwkediyrthiyxxkip inkarthasngkhaynakhrngni phraomkhkhllibutr tissethra idaetngkhmphirkthawtthu sungepnkhmphirhnunginphraxphithrrmiwdwy aelaemuxthasngkhaynaesrcaelw kmikarsngkhnathutipprakasphraphuththsasnainpraethstang inthinimi phuepnoxrskhxngphraecaxoskmharach thinaphraphuththsanaippradisthaninlngka rwmthngaela thinaphraphuththsasnamaephyaephyngdinaednsuwrrnphumidwy karsngkhaynakhrngthisi karthasngkhaynakhrngniekidkhunemuxpraman ph s 643 thiemuxng aetbanghlkthankklawwathathiksmirhruxaekhchemiyr karsngkhaynakhrngnimilksnakhxngsasnaphrahmnaelaphraphuththsasnafaymhayanekhamaphsm thaihfayethrwathimnbwaepnhnunginkarsngkhayna karsngkhaynakhrngthiha karsngkhaynakhrngni krathaemux ph s 460 n xaolkelnsthan inmlychnbth lngkathwip ehtuephraaphrasngkhaetkknepn 2 phwkkhux phwkmhawiharkbphwkxphykhiriwihar aelakhanungwasubipphayhna kulbutrcathxypyya khwrcarukphrathrrmwinylnginiblan n xaolkelnsthaninmlychnbth inlngkathwip emuxphuththskrach 450 odyphraecawddkhamnixphyepnsasnupthmphk thungaemwacaepnkhrngaerkthiekidkhwamaetkaeykkhuninkhnasngkhlngkathwipindanthitthi aetthangwinytangfaytangkphrxmknrksadixyuxyangnasrresriy bangkhmphirwa sngkhaynakhrngnicdkhuninkhwamkhumkhrxngkhxngkhnthiepnihyinthxngthin pyhakarnbkhrngkarsngkhayna karnbkhrngkarsngkhaynamikhwamaetktangkninphraphuththsasnafayethrwathkbphraphuththsasnafaymhayan nxkcakni aempraethsthinbthuxphraphuththsasnafayethrwathdwyknexngkyngnbkhrngkarsngkhaynaimtrngkn sungphxcasrupiddngni praethssrilngka nbkarsngkhaynasamkhrngaerkthipraethsxinediy aelakarsngkhaynathipraethstnexngxik 3 khrng odykhrngsudthaykrathaemux ph s 2408 odykarsngkhaynakhrngniepnthiruknechphaainpraethssrilngkaethann praethsphma nbkarsngkhaynasamkhrngaerkthipraethsxinediy aelanbkarsngkhaynakhrngthi 2 thilngkaepnkhrngthi 4 thipraethsphma aelanbkarsngkhaynathipraethstnexngxik 2 khrng odykhrngsudthay hruxkhrngthi 6 inphma michuxeriykwa erimkrathaemuxwnthi 17 phvsphakhm ph s 2497 esrcsinemuxwnthi 24 phvsphakhm ph s 2499 karthasngkhaynakhrngnithakhunenuxnginoxkaschlxng 25 phuththstwrrs ephuxphimphphraitrpidk xrrthktha aelakhaaeplepnphasaphma odyidechiyphuththsasnikchncakhlaypraethsekharwmphithi odyechphaacakpraeths phma srilngka ithy law aelakmphucha praethsithy nbkarsngkhaynasamkhrngaerkthipraethsxinediy aelakhrngthi 1 2 thilngka aetinhnngsuxsngkhitiywngs hruxprawtiaehngkarsngkhayna khxngsmedcphrawnrt idnbephimxik 4 khrng khux khrngthi 6 emux ph s 956 inlngka odyphraphuththokhsaidaeplaelaeriyberiyngxrrthktha sungthuxwaepnkarcharaxrrthktha imichphraitrpidk thanglngkacungimnbepnkarsngkhayna khrngthi 7 emux ph s 1587 inlngka odyepnprathanrcnadikatang sungthuxwaepnkarcharadika imichphraitrpidk thanglngkacungimnbepnkarsngkhaynaechnkn khrngthi 8 emux ph s 2020 inpraethsithy odykarxupthmphkhxngphraecatiolkrachaehngxanackrlanna khrngthi 9 emux ph s 2331 inpraethsithy odykarxupthmphkhxngphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharachaehngkrungrtnoksinthrechingxrrthphraitrpidk elmthi 10 phrasuttntpidk elmthi 2 thikhnikay mhawrrkh mhapriniphphansutr phraitrpidkchbbsyamrth xxniln ekhathungidcak 1 ekhathungemux 9 7 52 esthiyr ophthinntha prawtiphraitrpidkchbbcinphaky mrdkthrrmkhxngesthiyr ophthinntha 2548 hna 82 3 oy ow xann th mya thm om c winoy c ethsiot py yt ot os ow mmc ceyn st tha dukxnxannth thrrmaelawinyid thieraidaesdngaelw aelabyytiaelw aekethxthnghlay thrrmaelawinynn ckepnsasdakhxngethxthnghlay odykalthieralwnglbip suttntpidk thikhnikay mhawrrkh mhapriniphphansutr khx 141 oy thm m ps sti os m ps sti phuidehnthrrm phunnehnera suttntpidk khuththknikay xitiwuttka sngkhadisutr khx 272 karthasngkhayna khuxkarrwbrwmkhasxnthnghlaythiphraphuththecaidtrsiw phrxmcdhmwdhmuihcdcaidngay aelasksxmthbthwn swdsathyayphrxmknephuxepnaebbaephninkarthrngcasubtxma odykhawa sngkhayna hrux sngkhiti ni epnphasabali aeplwa swdphrxmkn s hmaythung phrxmkn khayn hrux khiti hmaythung karswd eruxngnimipraktxyuin pasathiksutr suttntpidk thikhnikay patikwrrkh eruxngnimipraktxyuin sngkhitisutr suttntpidk thikhnikay patikwrrkh crth phik khew carik phhuchnhitay phhuchnsukhay olkanukm pay xt thay hitay sukhay ethwmnus san ethesth thm m xathikl yan mch echkl yan prioysankl yan sat th sph yy chn ekwlpripun n prisuth th ph rh mcriy pkaesth phiksuthnghlay ethxcngcarikipephuxpraoychnaelakhwamsukhaekkhnhmumak ephuxxnuekhraaholk ephuxpraoychnekuxkulaelakhwamsukhaekthwyethphaelamnusy cngaesdngthrrmngaminebuxngtn ngaminthamklang ngaminthisud cngprakasphrhmcrryphrxmthngxrrththngphyychna xnbrisuththibriburnodysineching suttntpidk sngyuttnikay duephimkhmphirxrrthktha khmphirchnrxng xthibaykhwaminphraitrpidk khmphirdika khmphirchnsam xthibaykhwaminxrrthktha phraitrpidkphasacin phraitrpidkphasathiebt phraitrpidkphasaxngkvsxangxingwww Google go thhnngsuxxanephimetimpthmphngs ophthiprasiththinnth khxsngektbangprakarekiywaekpidk bali snskvtwichakar mulnithimhamkut hna 56 89 phrathrrmpidk p x pyut ot phraitrpidk singthichawphuththtxngru exs xar phrinting aems oprdks 2546 ISBN 974 91539 1 X suchiph puyyanuphaph phraitrpidk chbbsahrbprachachn mhamkutrachwithyaly 2539 phraitrpidk prawtiaelakhwamsakhy mhaculalngkrnrachwithyaly 2535 ISBN 974 575 231 2 esthiyrphngs wrrnpk phraitrpidkwiekhraah chxmaif 2530 ISBN 974 8356 91 4 esthiyrphngs wrrnpk ephlngrkcakphraitrpidk xusna 2531 ISBN 974 8357 31 7 aehlngkhxmulxunwikisxrs mingantnchbbekiywkb phraitrpidk wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb phraitrpidkphasabali ewbistaepdhmunsiphnphrathrrmkhnth phraitrpidkchbbsyamrthxxniln