บัสรา, แบสรา (อังกฤษ: Basra) หรือ อัลบัศเราะฮ์ (อาหรับ: ٱلْبَصْرَة) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนชัฏฏุลอะร็อบ มีการประมาณการว่ามีประชากรใน ค.ศ. 2018 ที่ 1.4 ล้านคน เมืองนี้ยังเป็นเมืองหน้าด่านทางทะเล แต่ไม่มีท่าเรือน้ำลึกเหมือนเมือง (أم قصر) ที่อยู่ใกล้ ๆ กัน
บัสรา ٱلْبَصْرَة อัลบัศเราะฮ์ | |
---|---|
เมือง | |
ธง ตรา | |
สมญา: เวนิสตะวันออก | |
บัสรา ที่ตั้งของบัสราในประเทศอิรัก | |
พิกัด: 30°30′54″N 47°48′36″E / 30.51500°N 47.81000°E | |
ประเทศ | อิรัก |
เขตผู้ว่าการ | |
ก่อตั้ง | ค.ศ. 636 |
การปกครอง | |
• ประเภท | |
• นายกเทศมนตรี | As'ad Al Eidani |
พื้นที่ | |
• เมือง | 50−75 ตร.กม. (21 ตร.ไมล์) |
• รวมปริมณฑล | 181 ตร.กม. (70 ตร.ไมล์) |
ความสูง | 5 เมตร (16 ฟุต) |
ประชากร (2018) | |
• เมือง | 1,326,564 คน |
เขตเวลา | () |
รหัสพื้นที่ | (+964) 40 |
เว็บไซต์ | http://www.basra.gov.iq/ |
เมืองนี้เป็นหนึ่งในเมืองท่าที่ ตัวละครสมมติ เดินทางมา เมืองนี้สร้างขึ้นใน ค.ศ. 636 และมีบทบาทสำคัญในยุคทองของอิสลาม บัสราถือเป็นหนึ่งในเมืองที่ร้อนที่สุดในประเทศอิรัก โดยมีอุณหภูมิในฤดูร้อนสูงถึง 50 องศาเซลเซียส (122 องศาฟาเรนไฮต์) ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2017 กำหนดให้เมืองบัสราเป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญขอประเทศ
ศัพทมูลวิทยา
เมืองนี้มีชื่อหลายชื่อมาตลอดทั้งประวัติศาสตร์ โดยทั่วไปรู้จักตามชื่อในภาษาอาหรับว่า บัศเราะฮ์ แปลว่า "การแลเห็น" (the overwatcher) ซึ่งอาจเป็นปฏิรูปพจน์ถึงต้นกำเนิดของเมืองในฐานะฐานทัพทหารชาวอาหรับที่มีไว้กันฝ่ายจักรวรรดิซาเซเนียน ในขณะที่บางส่วนโต้แย้งว่าชื่อเมืองมาจากศัพท์ภาษาแอราเมอิกว่า basratha หมายถึง "สถานที่ของกระท่อม, ที่อยู่อาศัย"
ประวัติ
เมืองบัสราตั้งขึ้นราว ๆ พ.ศ. 1179 ในเวลานั้นเป็นเพียงค่ายพักสำหรับชนเผ่าอาหรับ ต่อมาเคาะลีฟะฮ์อุมัรแห่งรอชิดูน ตั้งเมืองนี้ขึ้นโดยแบ่งออกเป็นห้าตำบลด้วยกัน มีอะบู มูซา อัลอัชอะรี (أبو موسى الأشعري) เป็นเจ้าเมืองซึ่งยึดดินแดนจากคูซิสตาน (خوزستان) ซึ่งปัจจุบันอยู่ในประเทศอิหร่าน ต่อมาเมื่อเคาะลีฟะฮ์อุษมานครองตำแหน่ง เมืองนี้จึงถูกยกสถานะเป็นเมืองหน้าด่าน และตั้งให้อับดุลลอห์ อิบนุลอะมีร์เป็นเจ้าเมือง ต่อมาเจ้าเมืองบัสราได้โจมตีทำลายล้างกองทัพพระเจ้ายัซดิญะริดที่สาม (يزدجرد الثالث, ยัซดิญะริด อัษษาลิษ) กษัตริย์ราชวงศ์ซาซานียะฮ์ ซึ่งนับถือศาสนาโซโรอัสเตอร์ ล่วงปี พ.ศ. 1199 อุษมานถูกสังหาร และอะลีขึ้นครองตำแหน่งเคาะลีฟะฮ์ อะลีได้ตั้งให้อุษมาน อิบนุลหะนิฟ เป็นเจ้าเมือง และต่อมาก็เปลี่ยนเป็นอับดุลลอห์ อิบนุลอับบาส จวบจนถึงการวายชนม์ของอะลีเอง อันเป็นการสิ้นสุดราชวงศ์รอชิดูน ต่อมาเมื่อรัฐคอลีฟะฮ์อุมัยยะฮ์มีอำนาจ มีอับดุลลอห์ ผู้นำทหารที่ไร้ความสามารถทางปกครองเป็นเจ้าเมือง ต่อมาสั่งถอดอับดุลลอห์ออกแล้วเปลี่ยนเป็นซิยาด บิน อะบีซุฟยาน (زياد بن أبي سفيان) ผู้ปกครองด้วยความโหดร้ายเป็นเจ้าเมือง ครั้นซิยาดถึงแก่กรรมในปี พ.ศ. 1207 อุบัยดุลลอห์ อิบนุลซิยาด (عبيد الله بن زياد) บุตรของซิยาดขึ้นครองอำนาจ ระหว่างนั้นเองฮุซัยน์บุตรอะลี ในฐานะหลานของศาสดามุฮัมมัดได้รับความนิยมจากปวงชนทั้งหลายขึ้นมาก อุบัยดุลลอห์จึงเข้ายึดเมือง ฮุซัยน์ส่งมุสลิม อิบน์ อะกีล (مسلم بن عقيل) ไปเป็นทูต แต่กลับถูกประหารชีวิตจนเกิดขึ้น ผลของการยุทธในครั้งนั้นทำให้ฮุซัยน์และพรรคพวกถูกตัดศีรษะทั้งหมดจนเกิดพิธีอัรบะอีนขึ้นจนถึงทุกวันนี้ แต่กาลต่อมาราชวงศ์อุมัยยะฮ์ล่มสลายลงโดยการปฏิวัติ
ล่วงสมัยอับบาซียะฮ์ บัสราเป็นศูนย์กลางการศึกษา อาทิ เป็นเมืองที่อยู่ของอิบนุลฮัยษัม เราะบีอะฮ์แห่งบัสรา รวมถึงนักวิชาการนานาสาขาวิชา ผ่านยุครุ่งเรืองไปไม่นาน เมืองบัสราก็ถูกกบฏซันจญ์ (ثورة الزنج, เตาเราะตุลซันจญ์) เข้าปล้นสะดมในปี พ.ศ. 1414 และถูกทำลายล้างโดยกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงเกาะรอมิเฎาะฮ์ (قرامطة) ในปี พ.ศ. 1466 ต่อมาราชวงศ์บูญิฮียะฮ์ (بويهية) ซึ่งเป็นราชวงศ์อิหร่านนับถือศาสนาอิสลามนิกายชีอะฮ์ เข้ายึดครองเมืองบัสรารวมถึงเมืองแบกแดด และประเทศอิรักส่วนใหญ่อีกด้วย ล่วงปี พ.ศ. 2206 จักรวรรดิอุษมานียะฮ์ยึดเมืองบัสราได้ โดยระหว่าง พ.ศ. 2318-2322 ราชวงศ์ซันดียะฮ์ (زندية) เข้ายึดเมืองเป็นระยะเวลาสั้น ๆ สารานุกรมบริตานิกา รายงานว่าในปี พ.ศ. 2454 มีประชาชนชาวยิวประมาณ 4000 คน และชาวคริสต์อีก 6000 คน อาศัยในเมือง ต่อมาเข้าสมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง อังกฤษยึดเมืองบัสราจากจักรวรรดิอุษมานียะฮ์ได้ แล้วจัดผังเมืองให้ดีกว่าที่เป็นอยู่
ราว พ.ศ. 2490 ประชากรในเมืองบัสรามีจำนวน 101,535 คน สิบปีให้หลังประชากรเพิ่มขึ้นเป็น 219,167 คน จึงได้มีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยบัสราขึ้นในปี พ.ศ. 2507 ประชากรที่มีอยู่แล้วก็เพิ่มจำนวนเรื่อยมา ต่อมาเกิดสงครามอิรัก-อิหร่าน ขึ้น จนประชากรลดลงมาก ระหว่างนี้เองมียุทธการที่สำคัญ อาทิ ปฏิบัติการเราะมะฎอน และปฏิบัติการกัรบะลาอ์ 5 ศอดดาม ฮุซัยน์ ก็ขึ้นครองอำนาจกดขี่ประชาชน แม้จะมีการกบฏสักเท่าใด ศอดดามก็ใช้ความรุนแรงจัดการทั้งหมด
ล่วงเข้าสงครามอิรักเมื่อปี พ.ศ. 2546 เมืองบัสราถูกกองทัพสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรยึดใช้เป็นฐานทำการ เมื่อวันที่ 21 เมษายนปีถัดมา มีการทิ้งระเบิดทั่วเมืองจนมีคนตายไป 74 คน ในใจกลางเมืองมีกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาลอิรักอยู่อย่างเหนียวแน่นแม้ว่าจะมีการต่อต้านโดยกลุ่มมุสลิมนิกายซุนนีและชาวเคิร์ด ในการนี้มีผู้สื่อข่าวถูกลักพาตัวและสังหารด้วย ต่อมาในเดือนกันยายน พ.ศ. 2548 ทหารกรมปฏิบัติการพิเศษทางอากาศแห่งสหราชอาณาจักรสองนายปลอมตนเป็นพลเรือนชาวอาหรับ เมื่อถูกตรวจค้นโดยด่านตรวจ ทหารทั้งสองก็ยิงตำรวจได้รับบาดเจ็บเสียชีวิตและถูกจับกุมส่งเรือนจำจังหวัดบัสรา เป็นผลให้กองทัพอังกฤษตัดสินใจบุกเรือนจำเพื่อช่วยเหลือ ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ล่วง พ.ศ. 2550 อำนาจการปกครองทั้งหมดกลับคืนสู่รัฐบาลอิรักหลังจากที่ศอดดาม ฮุซัยน์ ถูกประหารชีวิต เมืองได้รับความเสียหายอย่างมาก แต่ก็ถูกฟื้นฟูขึ้นมาในภายหลังจนกระทั่งมีศูนย์กีฬาบัสราสปอร์ตซิตี
ภูมิประเทศ
เมืองบัสราตั้งอยู่ในเขตชัฏฏุลอะร็อบ หรือบริเวณที่แม่น้ำไทกริสและแม่น้ำยูเฟรทีสบรรจบกัน บริเวณเมืองประกอบไปด้วยคลองชลประทานทำให้เอื้อต่อการทำเกษตรกรรม และในอดีตก็ใช้ในการขนส่งสินค้าด้วย ตัวเมืองตั้งห่างจากอ่าวเปอร์เซียประมาณ 110 กิโลเมตร (68 ไมล์)
ภูมิอากาศ
บัสรามีสภาพร้อน (เคิพเพิน BWh) ซึ่งคล้ายกับบริเวณข้างเคียง ถึงกระนั้นตัวเมืองมีฝนตกมากกว่าพื้นที่ตอนในแผ่นดิน เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้ชายฝั่งมากกว่าที่อื่น ๆ ระหว่างช่วงฤดูร้อน คือเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม อุณหภูมิโดยทั่วไปจะขึ้นสูงถึง 50 องศาเซลเซียส (122 องศาฟาเรนไฮต์) ในกรกฎาคมถึงสิงหาคม ส่วนในฤดูหนาวจะมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยที่ 20 องศาเซลเซียส (68 องศาฟาเรนไฮต์) ในบางคืนของฤดูหนาว อุณหภูมิอาจลดต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส (32 องศาฟาเรนไฮต์)
อุณหภูมิที่สูงสุดตลอดกาลบันทึกในวันที่ 22 กรกฎาคม ค.ศ. 2016 โดยมีอุณหภูมิในช่วงกลางวันสูงถึง 53.8 องศาเซลเซียส (128.8 องศาฟาเรนไฮต์) และในเวลากลางคืน อุณหภูมิต่ำสุดคือ 38.8 องศาเซลเซียส (101.8 องศาฟาเรนไฮต์) อุณหภูมิที่ต่ำที่สุดเท่าที่บันทึกมาในบัสราอยู่ที่ −4.7 องศาเซลเซียส (23.5 องศาฟาเรนไฮต์) ในวันที่ 22 มกราคม ค.ศ. 1964.
ข้อมูลภูมิอากาศของบัสรา | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เดือน | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ทั้งปี |
อุณหภูมิสูงสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | 34 (93) | 39 (102) | 39 (102) | 42 (108) | 48 (118) | 51 (124) | 53.8 (128.8) | 52.2 (126) | 49.6 (121.3) | 46 (115) | 37 (99) | 30 (86) | 53.8 (129) |
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) | 18.4 (65.1) | 21.7 (71.1) | 27.7 (81.9) | 33.9 (93) | 40.7 (105.3) | 45.3 (113.5) | 46.9 (116.4) | 47.1 (116.8) | 43.2 (109.8) | 36.8 (98.2) | 25.9 (78.6) | 19.8 (67.6) | 33.95 (93.11) |
อุณหภูมิเฉลี่ยแต่ละวัน °C (°F) | 12.9 (55.2) | 15.7 (60.3) | 21.0 (69.8) | 27.2 (81) | 33.9 (93) | 38.3 (100.9) | 40.0 (104) | 39.8 (103.6) | 35.7 (96.3) | 29.6 (85.3) | 20.1 (68.2) | 14.4 (57.9) | 27.38 (81.29) |
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) | 7.6 (45.7) | 9.5 (49.1) | 13.9 (57) | 19.7 (67.5) | 25.9 (78.6) | 30.4 (86.7) | 32.3 (90.1) | 31.9 (89.4) | 27.8 (82) | 22.4 (72.3) | 14.5 (58.1) | 9.2 (48.6) | 20.43 (68.77) |
อุณหภูมิต่ำสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | -4.7 (23.5) | -4 (25) | 1.9 (35.4) | 2.8 (37) | 8.2 (46.8) | 18.2 (64.8) | 22.2 (72) | 20 (68) | 13.1 (55.6) | 6.1 (43) | 1 (34) | -2.6 (27.3) | −4.7 (23.5) |
หยาดน้ำฟ้า มม (นิ้ว) | 34 (1.34) | 19 (0.75) | 23 (0.91) | 11 (0.43) | 4 (0.16) | 0 (0) | 0 (0) | 0 (0) | 0 (0) | 7 (0.28) | 30 (1.18) | 31 (1.22) | 159 (6.26) |
วันที่มีฝนตกโดยเฉลี่ย | 4 | 2 | 2 | 2 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | 1 | 2 | 3 | 17 |
จำนวนชั่วโมงที่มีแดด | 186 | 198 | 217 | 248 | 279 | 330 | 341 | 310 | 300 | 279 | 210 | 186 | 3,084 |
แหล่งที่มา 1: Climate-Data.org | |||||||||||||
แหล่งที่มา 2: Weather2Travel for rainy days and sunshine |
หมายเหตุ
- นิยมเรียกทั่วไปว่าบัสราหรือบาสรา แม้ว่าการเขียนคำทับศัพท์ภาษาอาหรับฉบับราชบัณฑิตยสภาจะให้เป็น อัลบัศเราะฮ์ หรือนักวิชาการมุสลิมบางท่านก็ใช้ อัลบัศเราะฮฺ ก็ตาม จึงควรใช้ชื่อที่นิยมกว่าเป็นหลัก
อ้างอิง
- Sam Dagher (18 September 2007). "In the 'Venice of the East,' a history of diversity". . สืบค้นเมื่อ 2 January 2014.
- Central Statistics Organization Iraq. "Population Projection 2015-2018" (PDF). สืบค้นเมื่อ 31 August 2020.
- "Al-Baṣrah (District, Iraq) - Population Statistics, Charts, Map and Location".
- "Iraqi parliament recognizes Basra as economic capital". 27 April 2017.
- Abdullah, Thabit (1 January 2001). Merchants, Mamluks, and Murder: The Political Economy of Trade in Eighteenth-Century Basra. SUNY Press. ISBN – โดยทาง Google Books.
- Andre Wink, Al-Hind: The Making of the Indo-Islamic World, Vol.2, (Brill, 2002), 17. – โดยทาง (ต้องรับบริการ)
- Andre Wink, Al-Hind: The Making of the Indo-Islamic World, Vol.2, 17. – โดยทาง (ต้องรับบริการ)
- . สารานุกรมบริตานิกา ค.ศ. 1911. Vol. 3 (11 ed.). 1911. p. 489.
- "Population of capital city and cities of 100,000 or more inhabitants". Demographic Yearbook 1955. New York: .
- (PDF). CIA. 1960. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2017-08-24. สืบค้นเมื่อ 2017-09-17.
- "Steven Vincent". Committee to Protect Journalists. 2005.
- "UK soldiers 'freed from militia'". BBC. 20 September 2005. สืบค้นเมื่อ 17 March 2012.
- "British smash jail walls to free 2 arrested soldiers". San Francisco Gate. 20 September 2005. สืบค้นเมื่อ 17 March 2012.
- "UK troops return Basra to Iraqis". BBC News. 16 December 2007. สืบค้นเมื่อ 1 January 2010.
- (PDF). Iraqi Meteorological Department. 1970. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2020-08-22. สืบค้นเมื่อ 2022-03-15.
- "Climate: Basra – Climate graph, Temperature graph, Climate table". Climate-Data.org. สืบค้นเมื่อ 22 August 2013.
- "Basra Climate and Weather Averages, Iraq". Weather2Travel. สืบค้นเมื่อ 22 August 2013.
บรรณานุกรม
- Floor, Willem M. (2008). Titles and Emoluments in Safavid Iran: A Third Manual of Safavid Administration, by Mirza Naqi Nasiri. Washington, DC: Mage Publishers. ISBN .
- Hallaq, Wael. The Origins and Evolution of Islamic Law. Cambridge University Press, 2005
- Hawting, Gerald R. The First Dynasty of Islam. Routledge. 2nd ed, 2000
- Longrigg, Steven Helmsley; Lang, Katherine H. (2015). "Basra from the Mongol conquest to modern period". ใน Fleet, Kate; ; Matringe, Denis; Nawas, John; (บ.ก.). Encyclopaedia of Islam (3rd ed.). Brill Online. doi:10.1163/1573-3912_ei3_COM_23813. ISSN 1873-9830.
- Madelung, Wilferd. "Abd Allah b. al-Zubayr and the Mahdi" in the Journal of Near Eastern Studies 40. 1981. pp. 291–305.
- Matthee, Rudi (2006a). "Between Arabs, Turks and Iranians: The Town of Basra, 1600-1700". Bulletin of the School of Oriental and African Studies, University of London. 69 (1): 53–78. doi:10.1017/S0041977X06000036. JSTOR 20181989. S2CID 159935186.
- Matthee, Rudi (2006b). "IRAQ iv. RELATIONS IN THE SAFAVID PERIOD". Encyclopaedia Iranica (Vol. XIII, Fasc. 5 and Vol. XIII, Fasc. 6). pp. 556–560, 561.
- Tillier, Mathieu. Les cadis d'Iraq et l'Etat abbasside (132/750-334/945). Institut Français du Proche-Orient, 2009
- Vincent, Stephen. Into The Red Zone: A Journey into the Soul of Iraq. ISBN .
แหล่งข้อมูลอื่น
- . สารานุกรมบริตานิกา ค.ศ. 1911. Vol. 3 (11 ed.). 1911.
- Reports, Maps and Assessments of Iraq's Governorates from the UN Inter-Agency Information & Analysis Unit
- Iraq Image – Basra Satellite Observation 2009-04-19 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- 2003 Basra map (NIMA)
- Muhammad and the Spread of Islam by Sanderson Beck
- The Textual History of the Qur'an, Arthur Jeffery, 1946
- Codex of Abu Musa al-Ashari, Arthur Jeffery, 1936
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bsra aebsra xngkvs Basra hrux xlbseraah xahrb ٱل ب ص ر ة epnemuxngthitngxyubnchttulxarxb mikarpramankarwamiprachakrin kh s 2018 thi 1 4 lankhn emuxngniyngepnemuxnghnadanthangthael aetimmithaeruxnalukehmuxnemuxng أم قصر thixyuikl knbsra ٱل ب ص ر ة xlbseraahemuxngthngtrasmya ewnistawnxxkbsrathitngkhxngbsrainpraethsxirkphikd 30 30 54 N 47 48 36 E 30 51500 N 47 81000 E 30 51500 47 81000praeths xirkekhtphuwakarkxtngkh s 636karpkkhrxng praephth naykethsmntriAs ad Al Eidaniphunthi emuxng50 75 tr km 21 tr iml rwmprimnthl181 tr km 70 tr iml khwamsung5 emtr 16 fut prachakr 2018 emuxng1 326 564 khnekhtewlaUTC 3 rhsphunthi 964 40ewbisthttp www basra gov iq emuxngniepnhnunginemuxngthathi twlakhrsmmti edinthangma emuxngnisrangkhunin kh s 636 aelamibthbathsakhyinyukhthxngkhxngxislam bsrathuxepnhnunginemuxngthirxnthisudinpraethsxirk odymixunhphumiinvdurxnsungthung 50 xngsaeslesiys 122 xngsafaerniht ineduxnemsayn kh s 2017 kahndihemuxngbsraepnemuxngesrsthkicsakhykhxpraethssphthmulwithyaphaphemuxngbsrapraman kh s 1695 ody nkekhiynaephnthichawdtch emuxngnimichuxhlaychuxmatlxdthngprawtisastr odythwiprucktamchuxinphasaxahrbwa bseraah aeplwa karaelehn the overwatcher sungxacepnptirupphcnthungtnkaenidkhxngemuxnginthanathanthphthharchawxahrbthimiiwknfayckrwrrdisaeseniyn inkhnathibangswnotaeyngwachuxemuxngmacaksphthphasaaexraemxikwa basratha hmaythung sthanthikhxngkrathxm thixyuxasy prawtitladxachr praman ph s 2458 emuxngbsratngkhunraw ph s 1179 inewlannepnephiyngkhayphksahrbchnephaxahrb txmaekhaalifahxumraehngrxchidun tngemuxngnikhunodyaebngxxkepnhatabldwykn mixabu musa xlxchxari أبو موسى الأشعري epnecaemuxngsungyuddinaedncakkhusistan خوزستان sungpccubnxyuinpraethsxihran txmaemuxekhaalifahxusmankhrxngtaaehnng emuxngnicungthukyksthanaepnemuxnghnadan aelatngihxbdullxh xibnulxamirepnecaemuxng txmaecaemuxngbsraidocmtithalaylangkxngthphphraecaysdiyaridthisam يزدجرد الثالث ysdiyarid xssalis kstriyrachwngssasaniyah sungnbthuxsasnaosorxsetxr lwngpi ph s 1199 xusmanthuksnghar aelaxalikhunkhrxngtaaehnngekhaalifah xaliidtngihxusman xibnulhanif epnecaemuxng aelatxmakepliynepnxbdullxh xibnulxbbas cwbcnthungkarwaychnmkhxngxaliexng xnepnkarsinsudrachwngsrxchidun txmaemuxrthkhxlifahxumyyahmixanac mixbdullxh phunathharthiirkhwamsamarththangpkkhrxngepnecaemuxng txmasngthxdxbdullxhxxkaelwepliynepnsiyad bin xabisufyan زياد بن أبي سفيان phupkkhrxngdwykhwamohdrayepnecaemuxng khrnsiyadthungaekkrrminpi ph s 1207 xubydullxh xibnulsiyad عبيد الله بن زياد butrkhxngsiyadkhunkhrxngxanac rahwangnnexnghusynbutrxali inthanahlankhxngsasdamuhmmdidrbkhwamniymcakpwngchnthnghlaykhunmak xubydullxhcungekhayudemuxng husynsngmuslim xibn xakil مسلم بن عقيل ipepnthut aetklbthukpraharchiwitcnekidkhun phlkhxngkaryuththinkhrngnnthaihhusynaelaphrrkhphwkthuktdsirsathnghmdcnekidphithixrbaxinkhuncnthungthukwnni aetkaltxmarachwngsxumyyahlmslaylngodykarptiwti lwngsmyxbbasiyah bsraepnsunyklangkarsuksa xathi epnemuxngthixyukhxngxibnulhysm eraabixahaehngbsra rwmthungnkwichakarnanasakhawicha phanyukhrungeruxngipimnan emuxngbsrakthukkbtsncy ثورة الزنج etaeraatulsncy ekhaplnsadminpi ph s 1414 aelathukthalaylangodyklummuslimhwrunaerngekaarxmiedaah قرامطة inpi ph s 1466 txmarachwngsbuyihiyah بويهية sungepnrachwngsxihrannbthuxsasnaxislamnikaychixah ekhayudkhrxngemuxngbsrarwmthungemuxngaebkaedd aelapraethsxirkswnihyxikdwy lwngpi ph s 2206 ckrwrrdixusmaniyahyudemuxngbsraid odyrahwang ph s 2318 2322 rachwngssndiyah زندية ekhayudemuxngepnrayaewlasn saranukrmbritanika raynganwainpi ph s 2454 miprachachnchawyiwpraman 4000 khn aelachawkhristxik 6000 khn xasyinemuxng txmaekhasmysngkhramolkkhrngthihnung xngkvsyudemuxngbsracakckrwrrdixusmaniyahid aelwcdphngemuxngihdikwathiepnxyu raw ph s 2490 prachakrinemuxngbsramicanwn 101 535 khn sibpiihhlngprachakrephimkhunepn 219 167 khn cungidmikarcdtngmhawithyalybsrakhuninpi ph s 2507 prachakrthimixyuaelwkephimcanwneruxyma txmaekidsngkhramxirk xihran khun cnprachakrldlngmak rahwangniexngmiyuththkarthisakhy xathi ptibtikareraamadxn aelaptibtikarkrbalax 5 sxddam husyn kkhunkhrxngxanackdkhiprachachn aemcamikarkbtskethaid sxddamkichkhwamrunaerngcdkarthnghmd lwngekhasngkhramxirkemuxpi ph s 2546 emuxngbsrathukkxngthphshrthxemrikaaelashrachxanackryudichepnthanthakar emuxwnthi 21 emsaynpithdma mikarthingraebidthwemuxngcnmikhntayip 74 khn inicklangemuxngmiklumthisnbsnunrthbalxirkxyuxyangehniywaennaemwacamikartxtanodyklummuslimnikaysunniaelachawekhird inkarnimiphusuxkhawthuklkphatwaelasnghardwy txmaineduxnknyayn ph s 2548 thharkrmptibtikarphiessthangxakasaehngshrachxanackrsxngnayplxmtnepnphleruxnchawxahrb emuxthuktrwckhnodydantrwc thharthngsxngkyingtarwcidrbbadecbesiychiwitaelathukcbkumsngeruxncacnghwdbsra epnphlihkxngthphxngkvstdsinicbukeruxncaephuxchwyehlux thaihmiphuesiychiwitcanwnmak lwng ph s 2550 xanackarpkkhrxngthnghmdklbkhunsurthbalxirkhlngcakthisxddam husyn thukpraharchiwit emuxngidrbkhwamesiyhayxyangmak aetkthukfunfukhunmainphayhlngcnkrathngmisunykilabsraspxrtsitiphumipraethsbsrainewlaklangkhunsunykarkhabsraithmsaekhwr emuxngbsratngxyuinekhtchttulxarxb hruxbriewnthiaemnaithkrisaelaaemnayuefrthisbrrcbkn briewnemuxngprakxbipdwykhlxngchlprathanthaihexuxtxkarthaekstrkrrm aelainxditkichinkarkhnsngsinkhadwy twemuxngtnghangcakxawepxresiypraman 110 kiolemtr 68 iml phumixakasbsramisphaphrxn ekhiphephin BWh sungkhlaykbbriewnkhangekhiyng thungkranntwemuxngmifntkmakkwaphunthitxninaephndin enuxngcaktngxyuiklchayfngmakkwathixun rahwangchwngvdurxn khuxeduxnmithunaynthungsinghakhm xunhphumiodythwipcakhunsungthung 50 xngsaeslesiys 122 xngsafaerniht inkrkdakhmthungsinghakhm swninvduhnawcamixunhphumisungsudechliythi 20 xngsaeslesiys 68 xngsafaerniht inbangkhunkhxngvduhnaw xunhphumixacldtakwa 0 xngsaeslesiys 32 xngsafaerniht xunhphumithisungsudtlxdkalbnthukinwnthi 22 krkdakhm kh s 2016 odymixunhphumiinchwngklangwnsungthung 53 8 xngsaeslesiys 128 8 xngsafaerniht aelainewlaklangkhun xunhphumitasudkhux 38 8 xngsaeslesiys 101 8 xngsafaerniht xunhphumithitathisudethathibnthukmainbsraxyuthi 4 7 xngsaeslesiys 23 5 xngsafaerniht inwnthi 22 mkrakhm kh s 1964 khxmulphumixakaskhxngbsraeduxn m kh k ph mi kh em y ph kh mi y k kh s kh k y t kh ph y th kh thngpixunhphumisungsudthiekhybnthuk C F 34 93 39 102 39 102 42 108 48 118 51 124 53 8 128 8 52 2 126 49 6 121 3 46 115 37 99 30 86 53 8 129 xunhphumisungsudechliy C F 18 4 65 1 21 7 71 1 27 7 81 9 33 9 93 40 7 105 3 45 3 113 5 46 9 116 4 47 1 116 8 43 2 109 8 36 8 98 2 25 9 78 6 19 8 67 6 33 95 93 11 xunhphumiechliyaetlawn C F 12 9 55 2 15 7 60 3 21 0 69 8 27 2 81 33 9 93 38 3 100 9 40 0 104 39 8 103 6 35 7 96 3 29 6 85 3 20 1 68 2 14 4 57 9 27 38 81 29 xunhphumitasudechliy C F 7 6 45 7 9 5 49 1 13 9 57 19 7 67 5 25 9 78 6 30 4 86 7 32 3 90 1 31 9 89 4 27 8 82 22 4 72 3 14 5 58 1 9 2 48 6 20 43 68 77 xunhphumitasudthiekhybnthuk C F 4 7 23 5 4 25 1 9 35 4 2 8 37 8 2 46 8 18 2 64 8 22 2 72 20 68 13 1 55 6 6 1 43 1 34 2 6 27 3 4 7 23 5 hyadnafa mm niw 34 1 34 19 0 75 23 0 91 11 0 43 4 0 16 0 0 0 0 0 0 0 0 7 0 28 30 1 18 31 1 22 159 6 26 wnthimifntkodyechliy 4 2 2 2 1 0 0 0 0 1 2 3 17canwnchwomngthimiaedd 186 198 217 248 279 330 341 310 300 279 210 186 3 084aehlngthima 1 Climate Data orgaehlngthima 2 Weather2Travelfor rainy days and sunshinehmayehtuniymeriykthwipwabsrahruxbasra aemwakarekhiynkhathbsphthphasaxahrbchbbrachbnthitysphacaihepn xlbseraah hruxnkwichakarmuslimbangthankich xlbseraah ktam cungkhwrichchuxthiniymkwaepnhlkxangxingSam Dagher 18 September 2007 In the Venice of the East a history of diversity subkhnemux 2 January 2014 Central Statistics Organization Iraq Population Projection 2015 2018 PDF subkhnemux 31 August 2020 Al Baṣrah District Iraq Population Statistics Charts Map and Location Iraqi parliament recognizes Basra as economic capital 27 April 2017 Abdullah Thabit 1 January 2001 Merchants Mamluks and Murder The Political Economy of Trade in Eighteenth Century Basra SUNY Press ISBN 9780791448083 odythang Google Books Andre Wink Al Hind The Making of the Indo Islamic World Vol 2 Brill 2002 17 odythang txngrbbrikar Andre Wink Al Hind The Making of the Indo Islamic World Vol 2 17 odythang txngrbbrikar Basra saranukrmbritanika kh s 1911 Vol 3 11 ed 1911 p 489 Population of capital city and cities of 100 000 or more inhabitants Demographic Yearbook 1955 New York PDF CIA 1960 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2017 08 24 subkhnemux 2017 09 17 Steven Vincent Committee to Protect Journalists 2005 UK soldiers freed from militia BBC 20 September 2005 subkhnemux 17 March 2012 British smash jail walls to free 2 arrested soldiers San Francisco Gate 20 September 2005 subkhnemux 17 March 2012 UK troops return Basra to Iraqis BBC News 16 December 2007 subkhnemux 1 January 2010 PDF Iraqi Meteorological Department 1970 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2020 08 22 subkhnemux 2022 03 15 Climate Basra Climate graph Temperature graph Climate table Climate Data org subkhnemux 22 August 2013 Basra Climate and Weather Averages Iraq Weather2Travel subkhnemux 22 August 2013 brrnanukrmFloor Willem M 2008 Titles and Emoluments in Safavid Iran A Third Manual of Safavid Administration by Mirza Naqi Nasiri Washington DC Mage Publishers ISBN 978 1933823232 Hallaq Wael The Origins and Evolution of Islamic Law Cambridge University Press 2005 Hawting Gerald R The First Dynasty of Islam Routledge 2nd ed 2000 Longrigg Steven Helmsley Lang Katherine H 2015 Basra from the Mongol conquest to modern period in Fleet Kate Matringe Denis Nawas John b k Encyclopaedia of Islam 3rd ed Brill Online doi 10 1163 1573 3912 ei3 COM 23813 ISSN 1873 9830 Madelung Wilferd Abd Allah b al Zubayr and the Mahdi in the Journal of Near Eastern Studies 40 1981 pp 291 305 Matthee Rudi 2006a Between Arabs Turks and Iranians The Town of Basra 1600 1700 Bulletin of the School of Oriental and African Studies University of London 69 1 53 78 doi 10 1017 S0041977X06000036 JSTOR 20181989 S2CID 159935186 Matthee Rudi 2006b IRAQ iv RELATIONS IN THE SAFAVID PERIOD Encyclopaedia Iranica Vol XIII Fasc 5 and Vol XIII Fasc 6 pp 556 560 561 Tillier Mathieu Les cadis d Iraq et l Etat abbasside 132 750 334 945 Institut Francais du Proche Orient 2009 Vincent Stephen Into The Red Zone A Journey into the Soul of Iraq ISBN 1 890626 57 0 aehlngkhxmulxunwikithxngethiyw mikhaaenanakarthxngethiywsahrb bsra wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb bsra Basra saranukrmbritanika kh s 1911 Vol 3 11 ed 1911 Reports Maps and Assessments of Iraq s Governorates from the UN Inter Agency Information amp Analysis Unit Iraq Image Basra Satellite Observation 2009 04 19 thi ewyaebkaemchchin 2003 Basra map NIMA Muhammad and the Spread of Islam by Sanderson Beck The Textual History of the Qur an Arthur Jeffery 1946 Codex of Abu Musa al Ashari Arthur Jeffery 1936