กองทัพบกพม่า (อังกฤษ: Myanmar Army พม่า: တပ်မတော် (ကြည်း), ออกเสียง: [taʔmədɔ̀ tɕí]) เป็นเหล่าทัพที่ใหญ่ที่สุดของกองทัพพม่า (ตะมะดอ) (เมียนมาร์) รับผิดชอบปฏิบัติการทางทหารบนบก กองทัพบกพม่ายังคงเป็นกองกำลังประจำการที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากกองทัพประชาชนเวียดนาม ซึ่งกองทัพบกพม่ามีการปะทะกับกลุ่มก่อความไม่สงบทางชาติพันธุ์และการเมืองตั้งแต่ปี พ.ศ. 2491
กองทัพบกพม่า | |
---|---|
တပ်မတော် (ကြည်း) (พม่า) แปลว่า กองทัพ (กองทัพบก) | |
ตราสัญลักษณ์กองทัพพม่า | |
ประจำการ | พ.ศ. 2488 |
ประเทศ | พม่า (ที่รู้จักในชื่อ เมียนมาร์) |
รูปแบบ | กองทัพภาคพื้นดิน |
กำลังรบ | ทหารประจำการ 325,000 นาย กำลังสำรอง:
|
ขึ้นกับ | พม่า |
สมญา | Tatmadaw Kyi |
คำขวัญ |
|
สีหน่วย |
|
วันสถาปนา | 27 มีนาคม พ.ศ. 2488 |
ปฏิบัติการสำคัญ | ความขัดแย้งภายในพม่า การทัพตามแนวชายแดนจีน-พม่า |
ผู้บังคับบัญชา | |
โซ วิน | |
ผบ. สำคัญ | |
เครื่องหมายสังกัด | |
ธงประจำกองทัพพม่า | |
เครื่องหมายอาร์มสำนักงานผู้บัญชาการทหารบก | |
เครื่องหมายอาร์มทหารราบและทหารราบเบา | |
อดีตธง (พ.ศ. 2491-2537) |
กองกำลังดังกล่าวนำโดย ปัจจุบันเป็นคือรองพลเอกอาวุโส รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดพม่า พร้อมด้วย พลเอกอาวุโส มี่นอองไลง์ ซึ่งเป็น ตำแหน่งสูงสุดของกองทัพบกพม่าคือพลเอกอาวุโส เทียบเท่ากับจอมพลในกองทัพบกตะวันตก และปัจจุบันดำรงตำแหน่งโดย มี่นอองไลง์ หลังจากเลื่อนจากตำแหน่งรองพลเอกอาวุโส
ในปี พ.ศ. 2554 หลังจากการเปลี่ยนจากรัฐบาลทหารมาเป็นรัฐบาลรัฐสภาพลเรือน กองทัพพม่าได้บังคับใช้ร่างกฎหมายทหารกับพลเมืองทุกคน โดยผู้ชายทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ถึง 35 ปี และผู้หญิงทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ถึง 27 ปี สามารถเกณฑ์เข้ารับราชการทหารได้ 2 ปีในช่วงภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ ส่วนอายุสำหรับทหารอาชีพคือไม่เกิน 45 ปี สำหรับผู้ชาย และ 35 ปี สำหรับผู้หญิง โดยประจำการ 3 ปี ในการรับราชการทั้งในระดับชั้นสัญญาบัตรและชั้นประทวน
รัฐกิจจานุเบกษา รายงานว่างบประมาณปี 2554 เป็นงบประมาณทางการทหาร 1.8 ล้านล้านจั๊ต (ประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือร้อยละ 23.6 ของงบประมาณแผ่นดิน
ประวัติโดยย่อ
การปกครองของสหราชอาณาจักรและญี่ปุ่น
ในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 1930 ในช่วงที่สหราชอาณาจักรปกครอง องค์กรหรือพรรคการเมืองของพม่าจำนวนหนึ่งได้ก่อตั้งพันธมิตรชื่อกลุ่ม Htwet-Yet (ปลดปล่อย) ของพม่า หนึ่งในนั้นคือสมาคมเราชาวพม่า (Dobama Asiayone) เนื่องจากสมาชิกส่วนใหญ่เป็นคอมมิวนิสต์ พวกเขาจึงต้องการความช่วยเหลือจากคอมมิวนิสต์จีน แต่เมื่อ ทขิ่น อองซาน และคู่หูแอบไปจีนเพื่อขอความช่วยเหลือ พวกเขาพบเพียงนายพลญี่ปุ่นและได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับกองทัพญี่ปุ่น ในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1940 อองซานและผู้เข้าร่วมอีก 29 คนแอบไปฝึกทหารภายใต้กองทัพญี่ปุ่น และคน 30 คนเหล่านี้ ต่อมาเป็นที่รู้จักในชื่อ "30 ทหาร" ในประวัติศาสตร์พม่า และถือได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของกองทัพบกพม่าสมัยใหม่
เมื่อญี่ปุ่นพร้อมบุกพม่า กลุ่ม 30 ทหารจึงเกณฑ์ชาวพม่าในประเทศไทยและก่อตั้ง (Burma Independence Army: BIA) ซึ่งเป็นระยะแรกของกองทัพบกพม่า ในปี พ.ศ. 2485 กองทัพเพื่อเอกราชพม่าได้ช่วยเหลือกองทัพญี่ปุ่นในการพิชิตพม่าซึ่งการรบครั้งนั้นประสบความสำเร็จ หลังจากนั้นกองทัพญี่ปุ่นได้เปลี่ยนกองทัพเพื่อเอกราชพม่าเป็นกองทัพป้องกันพม่า (Burmese Defence Army: BDA) ซึ่งเป็นระยะที่ 2 ต่อมาในปี พ.ศ. 2486 ญี่ปุ่นได้ประกาศให้พม่าเป็นประเทศเอกราชอย่างเป็นทางการ แต่รัฐบาลพม่าชุดใหม่ไม่ได้ครอบครองการปกครองประเทศโดยพฤตินัย
ขณะช่วยเหลือกองทัพสหราชอาณาจักรในปี พ.ศ. 2488 กองทัพบกพม่าได้เข้าสู่ระยะที่ 3 ในฐานะกองกำลังรักชาติพม่า (Patriotic Burmese Force: PBF) และประเทศก็ตกอยู่ภายใต้การปกครองของสหราชอาณาจักรอีกครั้ง ต่อมาโครงสร้างของกองทัพตกอยู่ภายใต้อำนาจของสหราชอาณาจักร ด้วยเหตุนี้ สำหรับผู้ที่ยินดีรับใช้ชาติแต่ไม่ได้อยู่ในกองทัพนั้น นายพลอองซานจึงได้จัดตั้งกองกำลังสหายประชาชน (People's Comrades force) ขึ้น
ยุคหลังได้รับเอกราช
ช่วงที่พม่าได้รับเอกราชในปี พ.ศ. 2491 กองทัพพม่ายังคงอ่อนแอ เล็ก และมีความแตกแยก รอยแตกปรากฏขึ้นตามภูมิหลังทางชาติพันธุ์ ความเกี่ยวข้องทางการเมือง ที่มาขององค์กร และบริการต่าง ๆ ความสามัคคีและประสิทธิภาพการดำเนินงานของกองทัพอ่อนแอลงอีกจากการแทรกแซงของพลเรือนและนักการเมืองในกิจการทหาร และช่องว่างระหว่างนายทหารเสนาธิการและผู้บังคับบัญชาภาคสนาม
ตามข้อตกลงที่บรรลุในการประชุมแคนดี้ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2488 กองทัพพม่าได้รับการจัดระเบียบใหม่โดยผสมผสานกองทัพบริติชพม่าและกองทัพรักชาติพม่า (PBF) เข้าด้วยกัน นายทหารในแต่ละเหล่าจะมาจากอดีตนายทหารกองทัพรักชาติพม่า และนายทหารจากกองทัพบริติชพม่า และกองทัพขององค์การกำลังสำรองพม่า (Army of Burma Reserve Organisation: ARBO) รัฐบาลอาณานิคมในเวลานั้นยังได้ตัดสินใจที่จะจัดตั้งสิ่งที่เรียกว่า "กองพันชนชาติ" ตามเชื้อชาติ ในช่วงเวลาที่ได้รับเอกราชมีกองพันปืนเล็กยาวทั้งหมด 15 กองพัน และสี่กองพันประกอบด้วยอดีตสมาชิกของกองทัพรักชาติพม่า (PBF) ตำแหน่งที่มีอำนาจทั้งหมดภายในสำนักงานสงครามและการบังคับบัญชาได้รับการดูแลจากนายทหารที่ไม่ใช่กองทัพรักชาติพม่า (PBF) บริการทั้งหมดรวมทั้งวิศวกรทหาร การจัดหาและขนส่ง อาวุธยุทโธปกรณ์และบริการทางการแพทย์ กองทัพเรือและกองทัพอากาศ ล้วนได้รับคำสั่งจากอดีตนายทหารจากกองทัพขององค์การกำลังสำรองพม่า (ABRO) และกองทัพบริเตนพม่า
กองพัน | การประกอบกำลัง |
---|---|
ที่ 1 | ชาวพม่า () |
ปืนเล็กยาวพม่าที่ 2 | ชาวกะเหรี่ยงส่วนใหญ่ + ชนชาติอื่นที่ไม่ใช่ชาวพม่า (ได้รับคำสั่งจากพันโทซอ ชิต คิน [นายทหารกะเหรี่ยงจากกองทัพบริติชพม่า]) |
ปืนเล็กยาวพม่าที่ 3 | ชาวพม่า / อดีตสมาชิกของกองกำลังพม่ารักชาติ (Patriotic Burmese Force) |
ปืนเล็กยาวพม่าที่ 4 | ชาวพม่า / อดีตสมาชิกของกองกำลังพม่ารักชาติ (Patriotic Burmese Force) – ได้รับคำสั่งจากพันโทเนวี่นในขณะนั้น |
ปืนเล็กยาวพม่าที่ 5 | ชาวพม่า / อดีตสมาชิกของกองกำลังพม่ารักชาติ (Patriotic Burmese Force) |
ปืนเล็กยาวพม่าที่ 6 | ชาวพม่า / อดีตสมาชิกของกองกำลังพม่ารักชาติ (Patriotic Burmese Force) |
ปืนเล็กยาวกะเหรี่ยงที่ 1 | ชาวกะเหรี่ยง / อดีตสมาชิกของกองทัพบริติชพม่าและ ABRO |
ปืนเล็กยาวกะเหรี่ยงที่ 2 | ชาวกะเหรี่ยง / อดีตสมาชิกของกองทัพบริติชพม่าและ ABRO |
ปืนเล็กยาวกะเหรี่ยงที่ 3 | ชาวกะเหรี่ยง / อดีตสมาชิกของกองทัพบริติชพม่าและ ABRO |
ปืนเล็กยาวกะชีนที่ 1 | / อดีตสมาชิกของกองทัพบริติชพม่าและ ABRO |
ปืนเล็กยาวกะชีนที่ 2 | ชาวกะชีน / อดีตสมาชิกของกองทัพบริติชพม่าและ ABRO |
ปืนเล็กยาวชีนที่ 1 | ชาวชีน / อดีตสมาชิกของกองทัพบริติชพม่าและ ABRO |
ปืนเล็กยาวชีนที่ 2 | ชาวชีน / อดีตสมาชิกของกองทัพบริติชพม่าและ ABRO |
กรมทหารพม่าที่ 4 | |
กองพันเทือกเขาชีน | ชาวชีน |
รูปขบวนและโครงสร้าง
กองทัพบก ถือเป็นกองทัพที่ใหญ่ที่สุดในพม่ามาโดยตลอด และได้รับส่วนแบ่งงบประมาณด้านการป้องกันประเทศสูงมาโดยตลอด กองกำลังนี้มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้ของพม่าต่อกลุ่มก่อความไม่สงบ 40 กลุ่ม หรือมากกว่านั้นนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2491 และได้รับชื่อเสียงว่าเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งและมีไหวพริบสูง ในปี พ.ศ. 2524 ได้รับการขนานนามว่าเป็น "กองทัพบกที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกเหนือจากเวียดนาม" คำตัดสินดังกล่าวสะท้อนให้เห็นในปี พ.ศ. 2526 เมื่อผู้สังเกตการณ์อีกคนหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่า "โดยทั่วไปแล้ว ทหารราบของพม่าถูกจัดว่าเป็นหนึ่งในทหารที่แข็งแกร่งที่สุดและมีประสบการณ์การรบมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" ในปี พ.ศ. 2528 นักข่าวต่างประเทศผู้มีประสบการณ์ได้มีโอกาสเห็นทหารพม่าต่อสู้กับกลุ่มก่อความไม่สงบชาติพันธุ์และกองทัพค้ายาเสพติด "ประทับใจอย่างมากกับทักษะการต่อสู้ ความอดทน และวินัยของพวกเขา" ผู้สังเกตการณ์คนอื่น ๆ ในช่วงเวลานั้นระบุว่ากองทัพบกพม่าเป็น "กองกำลังทหารราบเบาที่แข็งแกร่งที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดที่ปฏิบัติการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" แม้แต่คนไทยซึ่งไม่รู้จักกองทัพบกพม่ามากนักยังกล่าวถึงกองทัพบกพม่าว่า "เชี่ยวชาญด้านศิลปะ"
การจัดหน่วย
กองทัพบกพม่ามีกำลังประจำการประมาณ 370,000 นายจากทุกยศ ในปี พ.ศ. 2543 มี 337 กองพัน ซึ่งรวมถึงกองพันทหารราบเบา 266 กองพัน ณ พ.ศ. 2543 แม้ว่าโครงสร้างหน่วยของกองทัพบกพม่าจะอิงตามระบบ แต่การดำเนินกลยุทธ์ขั้นพื้นฐานและหน่วยรบก็อยู่ที่กองพันที่รู้จักกันในชื่อ ตาดยิน (တပ်ရင်း) ในภาษาพม่า ประกอบด้วยกองบัญชาการ กองร้อยปืนเล็กยาวจำนวน 5 กองร้อย เรียกว่า ตาดเขว (တပ်ခွဲ) พร้อมด้วยหมวดปืนเล็กยาว 3 หมวด เรียกว่า ตาดซู (တပ်စု) ในแต่ละกองร้อยบริหาร (administrative company) มีหน่วยการแพทย์, การขนส่ง, การส่งกำลังบำรุง และการสื่อสาร ในกองร้อยอาวุธหนักประกอบไปด้วย ปืนครก, ปืนกล และหมวดปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลัง แต่ละกองพันอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของ พันโท Du Ti Ya Bo Hmu Gyi หรือ Du Bo Hmu Gyi โดยมี พันตรี (bo hmu) เป็นผู้บังคับบัญชาเป็นอันดับสอง มีกำลังนายทหารทั้งหมด 27 นาย และระดับอื่น ๆ อีก 723 นาย กองพันทหารราบเบาในกองทัพบกพม่ามีกำลังการจัดตั้งที่ต่ำกว่ามากประมาณ 500 นาย ทำให้ผู้ตรวจการณ์มักระบุหน่วยเหล่านี้ผิดว่าเป็นกองพันทหารราบที่มีกำลังรบที่ต่ำกว่า
ด้วยจำนวนบุคลากร อาวุธ และความคล่องตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ กองทัพบกพม่า หรือ ทัดมาดอว์ จี (Tatmadaw Kyee, တပ်မတော် (ကြည်း)) ในปัจจุบันจึงเป็นกองกำลังป้องกันประเทศตามแบบที่น่าเกรงขามสำหรับสหภาพพม่า ทหารที่มีความพร้อมรบมีจำนวนสูงขึ้นอย่างน้อยสองเท่านับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 โครงสร้างพื้นฐานด้านลอจิสติกส์และการสนับสนุนการยิงปืนใหญ่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ยุทโธปกรณ์ทางทหารที่ได้มาใหม่นี้ถูกนำมาใช้งานอย่างเปิดเผยในปฏิบัติการช่วงฤดูแล้งของกองทัพพม่าต่อฐานที่มั่นของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ในเมืองมาเนอปลอว์และคอมูรา ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ในการสู้รบเหล่านี้มาจากการโจมตีอย่างของกองทัพบกพม่า ปัจจุบัน กองทัพพม่ามีขนาดใหญ่กว่าก่อนปี พ.ศ. 2531 อย่างมาก มีความคล่องตัวมากขึ้น และมีการปรับปรุงยานเกราะ ปืนใหญ่ และการป้องกันภัยทางอากาศ ระบบ C3I (การบังคับบัญชา, ควบคุม, สื่อสาร, คอมพิวเตอร์ และข่าวกรอง) ได้รับการขยายและปรับปรุง โดยกองทัพบกพม่ากำลังพัฒนารูปแบบที่ใหญ่ขึ้นและบูรณาการมากขึ้น และพึ่งพาตนเองได้ เพื่อปรับปรุงการปฏิบัติการประสานกันด้วยอาวุธต่อสู้ต่าง ๆ กองทัพบกอาจจะมีอาวุธที่ค่อนข้างเรียบง่ายเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีขนาดกองทัพใหญ่กว่า แต่กองทัพบกพม่านั้นอยู่ในจุดที่ดีกว่าในการยับยั้งการรุกรานจากภายนอกและตอบสนองต่อภัยคุกคามต่าง ๆ หากเกิดขึ้น แม้ว่าทหารเด็กอาจทำงานได้ไม่ดีนักในการต่อสู้กับศัตรู
การขยายตัว
กองพลแรกที่จะจัดตั้งขึ้นหลังจากการรัฐประหาร พ.ศ. 2531 คือ กองพลทหารราบเบาที่ 11 (Light Infantry Division: LID) ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2531 โดยมี พันเอก วิน มี้น เป็นผู้บัญชาการ ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2533 ได้มีการจัดตั้ง กองบัญชาการภูมิภาคทหาร (Regional Military Command: RMC) ใหม่ขึ้นในเมืองโมนยวา โดยมี พลจัตวา จ่อ มิน เป็นผู้บัญชาการ และตั้งชื่อองบัญชาการภูมิภาคทหารภาคตะวันตกเฉียงเหนือ (กองทัพน้อยภาคตะวันตกเฉียงเหนือ) หนึ่งปีต่อมา กองพลทหารราบเบาที่ 101 ได้ก่อตั้งขึ้นที่ปะโคะกู โดยมี พันเอก ซอ ตุน เป็นผู้บัญชาการ มีการจัดตั้ง หน่วยบัญชาการยุทธการภูมิภาค (Regional Operations Commands: ROC) จำนวน 2 หน่วยขึ้นในเมืองมะริดและลอยกอ เพื่อปรับปรุงการบังคับบัญชาและการควบคุม พวกเขาได้รับคำสั่งจาก พลจัตวา โซ ติน และ พลจัตวา หม่องจี ตามลำดับ ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2538 กองทัพพม่ามีการขยายตัวอย่างมาก โดยได้จัดตั้ง หน่วยบัญชาการยุทธการทหาร (Military Operation Command: MOC) ขึ้น 11 หน่วยในเดือนนั้น หน่วยบัญชาการยุทธการทหาร (MOC) มีความคล้ายคลึงกับกองพลทหารราบยานเกราะ (Mechanized infantry division) ในโลกตะวันตก โดยแต่ละหน่วย มีกองพันทหารราบประจำการจำนวน 10 กองพัน (Chay Hlyin Tatyin) โดยมีกองบัญชาการและหน่วยสนับสนุนขึ้นตรงและปืนใหญ่สนามในแต่ละหน่วย ในปี พ.ศ. 2539 มีการก่อตั้งกองบัญชาการภูมิภาคทหาร (RMC) ขึ้นใหม่ 2 แห่ง ได้แก่ กองบัญชาการภูมิภาคทหารภาคชายฝั่ง (กองทัพน้อยชายฝั่ง) ในเมืองมะริด โดยมี พลจัตวา ซิท เมือง เป็นผู้บังคับบัญชา และกองบัญชาการภูมิภาคทหารภาคสามเหลี่ยม (กองทัพน้อยภาคสามเหลี่ยม) ในเมืองเชียงตุง โดยมีนายจัตวา เต้นเซน เป็นผู้บัญชาการ นอกจากนี้หน่วยบัญชาการยุทธการภูมิภาค (ROC) ใหม่ 3 แห่งถูกสร้างขึ้น ในกะเล่, บะมอ, และเมืองสาด ปลายปี พ.ศ. 2541 มีการจัดตั้งหน่วยบัญชาการยุทธการทหาร (MOC) ใหม่ 2 แห่ง ที่เมืองบกเปี้ยนและเมืองสาด
การขยายตัวที่สำคัญที่สุด หลังจากการปรับปรุงระบบทหารราบในกองทัพบกร่วมกับยานเกราะและปืนใหญ่ เริ่มต้นในปี พ.ศ. 2533 กองทัพพม่าได้จัดหารถถังหลัก ไทป์ 69II จำนวน 18 คัน และรถถังเบาสะเทินน้ำสะเทินบก ไทป์ 63 จำนวน 48 คันจากประเทศจีน มีการจัดซื้อเพิ่มเติมรวมทั้งรถลำเลียงพลหุ้มเกราะ ไทป์ 85 และ ไทป์ 92 หลายร้อยคัน เมื่อต้นปี พ.ศ. 2541 กองทัพพม่ามีรถถังหลัก ไทป์ 69II ประมาณ 100 คัน รถถังเบาสะเทินน้ำสะเทินบก ไทป์ 63 จำนวนใกล้เคียงกัน และรถถัง T-59D หลายคัน รถถังและรถหุ้มเกราะเหล่านี้ถูกกระจายไปตามกองพันทหารราบยานเกราะ 5 กองพัน และกองพันรถถัง 5 กองพัน และได้จัดตั้งกองพลยานเกราะชุดแรกของกองทัพพม่าขึ้น เป็นหน่วยบัญชาการยุทธการยานเกราะที่ 71 (71st Armoured Operations Command) โดยมีกองบัญชาการอยู่ที่เมืองปยอ-บแว
กองยุทธการพิเศษ (BSO)
กองยุทธการพิเศษ (Bureau of Special Operation: BSO, ကာကွယ်ရေးဌာန စစ်ဆင်ရေး အထူးအဖွဲ့) ในกองทัพบกพม่าถือเป็นหน่วยภาคสนามระดับสูงเทียบเท่ากับกองทัพสนามในนิยามของตะวันตก และประกอบด้วยกองบัญชาการภูมิภาคทหาร (RMC) ตั้งแต่ 2 หน่วยขึ้นไป ซึ่งบัญชาการโดยพลโท 1 นายและนายทหารเสนาธิการจำนวน 6 นาย
หน่วยเป็นที่รู้จักภายใต้สังกัดสำนักงานฝ่ายเสนาธิการเมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2521 และ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2522 ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2521 นายพล เน วิน ประธานพรรคโครงการสังคมนิยมพม่า (BSPP) ได้เดินทางเยือนกองบัญชาการกองทัพน้อยภาคตะวันออกเฉียงเหนือในเมืองลาเสี้ยวเพื่อรับการบรรยายสรุปเกี่ยวกับการกำเริบของพรรคคอมมิวนิสต์พม่า (BCP) และการปฏิบัติการทางทหาร เขาเดินทางมาพร้อมกับ พลจัตวา ตุน เย่ จากกระทรวงกลาโหม พลจัตวา ตุน เย่ ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการส่วนภูมิภาคของกองทัพน้อยภาคตะวันออกเป็นเวลา 3 ปี และก่อนหน้านั้นเขารับราชการในพื้นที่กองทัพน้อยภาคตะวันออกเฉียงเหนือในตำแหน่งผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการยุทธการทางยุทธศาสตร์ (SOC) และผู้บัญชาการกองพลทหารราบเบาเป็นเวลา 4 ปี เนื่องจากการปฏิบัติการทางทหารของพรรคคอมมิวนิสต์พม่ากระจายไปทั่วพื้นที่ 3 กองบัญชาการภูมิภาคทหาร (RMC) (ภาคเหนือ ตะวันออก และตะวันออกเฉียงเหนือ) พลจัตวา ตุน เย จึงเป็นผู้บัญชาการที่เชี่ยวชาญมากที่สุดเกี่ยวกับการรบของพรรคคอมมิวนิสต์พม่าในกองทัพบกพม่าในขณะนั้น ในการบรรยายสรุป พลเอก เน วิน รู้สึกประทับใจกับ พลจัตวา ตุน เย่ และตระหนักว่าการประสานงานระหว่างกองบัญชาการภูมิภาคทหาร (RMC) ต่าง ๆ เป็นสิ่งจำเป็น จึงได้ตัดสินใจจัดตั้งกองดังกล่าวขึ้นที่กระทรวงกลาโหม
เดิมทีกองนี้มีไว้สำหรับ "ยุทธการพิเศษ" ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม ซึ่งต้องการการประสานงานระหว่างกองบัญชาการภูมิภาคทหาร (RMC) ต่าง ๆ ต่อมามีการนำกองอื่นมาแบ่งเขตบังคับบัญชา กองยุทธการพิเศษที่ 1 (BSO-1) จะทำหน้าที่ดูแลการปฏิบัติการภายใต้กองทัพน้อยภาคเหนือ, กองทัพน้อยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, กองทัพน้อยภาคตะวันออก, และกองทัพน้อยภาคตะวันตกเฉียงเหนือ กองยุทธการพิเศษที่ 2 (BSO-2) มีหน้าที่ดูแลการปฏิบัติงานภายใต้กองทัพน้อยภาคตะวันออกเฉียงใต้, กองทัพน้อยภาคตะวันตกเฉียงใต้, กองทัพน้อยภาคตะวันตกเฉียงใต้ และกองบัญชาการภาคกลาง.
ในเบื้องต้นผู้บัญชาการกองยุทธการพิเศษ จะมียศเป็น พลจัตวา ต่อมาได้ปรับเป็นอัตรายศพลตรี เมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2522 และในปี พ.ศ. 2533 ได้ยกระดับเป็นพลโท ระหว่างปี พ.ศ. 2538 ถึง พ.ศ. 2545 เสนาธิการทหารบก (ทบ.) ควบตำแหน่งผู้บัญชาการกองยุทธการพิเศษ อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2545 มีการเพิ่มกองบัญชาการกองยุทธการพิเศษอีก 2 แห่งในสำนักงานฝ่ายเสนาธิการ จึงทำให้กองยุทธการพิเศษมี 4 แห่ง จากนั้นกองยุทธการพิเศษแห่งที่ 5 ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2548 และแห่งที่ 6 ในปี พ.ศ. 2550
ปัจจุบันมีกองยุทธการพิเศษ 6 แห่งในของพม่า
กองยุทธการพิเศษ | กองบัญชาการภูมิภาคทหาร (RMC) | ผู้บัญชาการกองยุทธการพิเศษ | หมายเหตุ |
---|---|---|---|
กองยุทธการพิเศษที่ 1 | กองทัพน้อยภาคกลาง (Central Command) กองทัพน้อยภาคตะวันตกเฉียงเหนือ (Northwestern Command) กองทัพน้อยภาคเหนือ (Northern Command) | พลโท เทย์ ซาร์ จ่อ | |
กองยุทธการพิเศษที่ 2 | กองทัพน้อยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (Northeastern Command) กองทัพน้อยภาคตะวันออก (Eastern Command) กองทัพน้อยภาคสามเหลี่ยม (Triangle Region Command) กองทัพน้อยภาคตะวันออกกลาง (Eastern Central Command) | พลโท ออง ซอว์ เอ | |
กองยุทธการพิเศษที่ 3 | กองทัพน้อยภาคตะวันตกเฉียงใต้ (Southwestern Command) กองทัพน้อยภาคใต้ (Southern Command) กองทัพน้อยภาคตะวันตก (Western Command) | พลโท โฟน มยัต | |
กองยุทธการพิเศษที่ 4 | กองทัพน้อยชายฝั่ง (Coastal Command) กองทัพน้อยภาคตะวันออกเฉียงใต้ (Southeastern Command) | พลโท ออง โซ | |
กองยุทธการพิเศษที่ 5 | กองทัพน้อยย่างกุ้ง (Yangon Command) | พลโท เท ปอน | |
กองยุทธการพิเศษที่ 6 | กองทัพน้อยภาคเนปยีดอ (Naypyidaw Command) | พลโท ธัน หล่าย |
กองบัญชาการภูมิภาคทหาร (RMC)
เพื่อให้การบังคับบัญชาและการสื่อสารดีขึ้น กองทัพพม่าได้จัดตั้งกองบัญชาการภูมิภาคทหาร (Regional Military Commands: RMC, တိုင်း စစ်ဌာနချုပ်) ในปี พ.ศ. 2501 จนกระทั่งปี พ.ศ. 2504 มีเพียง 2 หน่วยบัญชาการระดับภูมิภาคเท่านั้น โดยได้รับการสนับสนุนจากกองพลน้อยทหารราบ 13 หน่วยและกองพลทหารราบ ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2504 กองบัญชาการภูมิภาคทหารใหม่ได้ถูกจัดตั้งขึ้น และเหลือกองพลน้อยทหารราบอิสระเพียง 2 หน่วย ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2506 กองทัพน้อยภาคเนปยีดอได้รับการจัดตั้งขึ้นชั่วคราวในย่างกุ้ง โดยมีรองผู้บัญชาการและเสนาธิการทหารบางส่วนจากกองบัญชาการกลาง ได้รับการจัดหน่วยใหม่และเปลี่ยนชื่อเป็น กองบัญชาการภาคกลาง เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2508
กองพันทหารราบและกองพันทหารราบเบารวม 337 หน่วยจัดอยู่ในหน่วยบัญชาการยุทธการทางยุทธวิธี กรมทหารปืนใหญ่สนามอิสระ 37 หน่วยที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยสนับสนุนในกรม รวมถึงกองพันลาดตระเวนยานเกราะและกองพันรถถัง กองบัญชาการภูมิภาคทหารนั้นคล้ายคลึงกับในกองทัพตะวันตก กองบัญชาการภูมิภาคทหารได้รับคำสั่งจาก พลตรี และจัดกรอบอัตรากำลังจากกองยุทธการพิเศษ (BSO) ซึ่งเทียบเท่ากับกลุ่มกองทัพสนามในนิยามของตะวันตก
กองบัญชาการภูมิภาคทหาร (RMC) | ตรา | รัฐและภาค | กองบัญชาการ | กำลัง |
---|---|---|---|---|
กองทัพน้อยภาคเหนือ (Northern Command) (မြောက်ပိုင်းတိုင်းစစ်ဌာနချုပ်) | รัฐกะชีน | มยิจีนา | 32 × กองพันทหารราบ | |
กองทัพน้อยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (Northeastern Command) (အရှေ့မြောက်ပိုင်းတိုင်းစစ်ဌာနချုပ်) | รัฐฉานเหนือ | ล่าเสี้ยว | 30 × กองพันทหารราบ | |
กองทัพน้อยภาคตะวันออก (Eastern Command) (အရှေ့ပိုင်းတိုင်းစစ်ဌာနချုပ်) | รัฐฉานใต้ และ รัฐกะยา | ตองจี | 42 × กองพันทหารราบ ประกอบด้วย 16 × กองพันทหารราบเบา ภายใต้ หน่วยบัญชาการยุทธการภูมิภาค (ROC) ซึ่งประจำอยู่ที่ลอยกอ | |
กองทัพน้อยภาคตะวันออกเฉียงใต้ (Southeastern Command) (အရှေ့တောင်တိုင်းစစ်ဌာနချုပ်) | รัฐมอญ และ รัฐกะเหรี่ยง | มอละมไยน์ | 40 × กองพันทหารราบ | |
กองทัพน้อยภาคใต้ (Southern Command) (တောင်ပိုင်းတိုင်းစစ်ဌာနချုပ်) | ภาคพะโค และ ภาคมะกเว | ตองอู | 27 × กองพันทหารราบ | |
กองทัพน้อยภาคตะวันตก (Western Command) (အနောက်ပိုင်းတိုင်းစစ်ဌာနချုပ်) | รัฐยะไข่ และ รัฐชีน | 31 × กองพันทหารราบ | ||
กองทัพน้อยภาคตะวันตกเฉียงใต้ (Southwestern Command) (အနောက်တောင်တိုင်းစစ်ဌာနချုပ်) | ภาคอิรวดี (เอยาวะดี) | พะสิม (ปะเตน) | 11 × กองพันทหารราบ | |
กองทัพน้อยภาคตะวันตกเฉียงเหนือ (Northwestern Command) (အနောက်မြောက်တိုင်းစစ်ဌာနချုပ်) | ภาคซะไกง์ | โมนยวา | 25 × กองพันทหารราบ | |
กองทัพน้อยย่างกุ้ง (Yangon Command) (ရန်ကုန်တိုင်းစစ်ဌာနချုပ်) | ภาคย่างกุ้ง | , โคน มิ้นต์ ธาร์ | 11 × กองพันทหารราบ | |
กองทัพน้อยชายฝั่ง (Coastal Region Command) (ကမ်းရိုးတန်းတိုင်းစစ်ဌာနချုပ်) | ภาคตะนาวศรี | มะริด (เมอร์กวี) | 43 × กองพันทหารราบ รวมทั้งกองพันภายใต้ 2 หน่วยบัญชาการยุทธการทหาร (MOC) ซึ่งประจำอยู่ที่ทวาย | |
กองทัพน้อยภาคสามเหลี่ยม (Triangle Region Command) (တြိဂံတိုင်းစစ်ဌာနချုပ်) | รัฐฉานตะวันออก | เชียงตุง | 23 × กองพันทหารราบ | |
กองทัพน้อยภาคกลาง (Central Command) (အလယ်ပိုင်းတိုင်းစစ်ဌာနချုပ်) | ภาคมัณฑะเลย์ | มัณฑะเลย์ | 31 × กองพันทหารราบ | |
กองทัพน้อยภาคเนปยีดอ (Naypyidaw Command) (နေပြည်တော်တိုင်းစစ်ဌာနချုပ်) | เนปยีดอ | ปยี่นมะน่า | ก่อตั้งปี 2549 –? × กองพันทหารราบ | |
กองทัพน้อยภาคตะวันออกกลาง (Eastern Central Command) (အရှေ့အလယ်ပိုင်းတိုင်းစစ်ဌာနချုပ်) | รัฐฉานตอนกลาง | ก่อตั้งปี 2554 – 7 × กองพันทหารราบ |
ผู้บัญชาการภูมิภาคทหาร
กองบัญชาการภูมิภาคทหาร (RMC) | ก่อตั้ง | ผู้บัญชาการคนแรก | คนปัจจุบัน | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|
กองทัพน้อยภาคตะวันออก | 2504 | พลจัตวา ซาน ยู | พลจัตวา นี ลิน อ่อง | ในช่วง พ.ศ. 2504 ซาน ยู ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ผู้บัญชาการกองทัพน้อยภาคตะวันออก แต่ถูกย้ายไปที่ กองทัพน้อยภาคตะวันตกเฉียงเหนือ และถูกแทนที่ด้วย พันเอก หม่อง ฉ่วย |
กองทัพน้อยภาคตะวันออกเฉียงใต้ | 2504 | พลจัตวา เซน วิน | พลตรี โก โก เมือง | พ.ศ. 2504 เมื่อมีการจัดตั้ง กองทัพน้อยภาคตะวันออกเฉียงใต้ เซน วิน ถูกย้ายจากอดีตกองทัพน้อยภาคใต้ มาประจำการ แต่ต่อมาถูกย้ายไปที่ กองทัพน้อยภาคกลาง และแทนที่ด้วย ตอง ยี ในตอนนั้น |
กองทัพน้อยภาคกลาง | 2504 | พันเอก ตอง ยี | พลตรี โก โก อู | กองทัพน้อยภาคตะวันตกเฉียงเหนือเดิม ประจำอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์ โดยได้เปลี่ยนชื่อเป็น กองทัพน้อยภาคกลาง ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2533 และ กองทัพน้อยภาคกลางเดิม ได้เปลี่ยนชื่อเป็น กองทัพน้อยภาคใต้ |
กองทัพน้อยภาคตะวันตกเฉียงเหนือ | 2504 | พลจัตวา จ่อ มิน | พลตรี ธาน ติเก | ส่วนภาคใต้เป็นส่วนหนึ่งของ กองทัพน้อยภาคตะวันตกเฉียงเหนือเดิม ในมัณฑะเลย์ โดยเปลี่ยนชื่อเป็น กองทัพน้อยภาคกลาง ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2533 และส่วนภาคเหนือเป็นส่วนหนึ่งของ กองทัพน้อยภาคตะวันตกเฉียงเหนือเดิม ได้เปลี่ยนชื่อเป็น กองทัพน้อยภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ในปี พ.ศ. 2533 |
กองทัพน้อยภาคตะวันตกเฉียงใต้ | 2504 | พันเอก จี หม่อง | พลตรี ออง ออง | จี หม่อง ถูกไล่ออกในปี พ.ศ. 2506 และถูกจำคุกสองสามครั้ง เขาดำรงตำแหน่งรองประธานพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยในคริสต์ทศวรรษ 1990 |
กองทัพน้อยย่างกุ้ง | 2512 | พันเอก ทูรา จอ ถิ่น | พลตรี ยุ้น วิน ส่วย | ก่อตั้งเป็น กองทัพน้อยภาคเนปยีดอ เมื่อปี พ.ศ. 2506 โดยมีรองผู้บัญชาการและเจ้าหน้าที่บางส่วนจาก กองทัพน้อยภาคกลาง ต่อมาปฏิรูปและเปลี่ยนชื่อเป็น กองทัพน้อยย่างกุ้ง เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2512 |
กองทัพน้อยภาคตะวันตกเฉียงใต้ | 2512 | พันเอก หล่า ตุน | พลตรี ถิ่น ลัตต์ อู | |
กองทัพน้อยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ | 2515 | พันเอก อาย โก้ | พลจัตวา นาย นาย อู | |
กองทัพน้อยภาคเหนือ | 2490 | พลจัตวา เน วิน | พลจัตวา มัต เตต อู | กองทัพน้อยภาคเหนือเดิม แบ่งออกเป็น กองทัพน้อยภาคตะวันออก และ กองทัพน้อยภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ในปี พ.ศ. 2504 กองทัพน้อยภาคเหนือ ในปัจจุบัน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2512 โดยเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ และจัดตั้งขึ้นทางตอนเหนือของอดีตที่ตั้ง กองทัพน้อยภาคตะวันตกเฉียงเหนือ |
กองทัพน้อยภาคตะวันตกเฉียงใต้ | 2490 | พลจัตวา ซอค ย่า โด้ | พลจัตวา เต็ง วิน | กองทัพน้อยรภาคใต้เดิม ในมัณฑะเลย์ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น กองทัพน้อยภาคกลาง ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2533 |
กองทัพน้อยภาคตะวันออก | 2539 | พลจัตวา เต้นเซน | พลจัตวา เมียว มิน ตุน | ต่อมา เต้นเซน ได้เป็นนายกรัฐมนตรีและได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีในปี พ.ศ. 2554 |
กองทัพน้อยชายฝั่ง | 2539 | พลจัตวา ธีฮา ทูรา ทูรา ซิท หม่อง | พลตรี เลื่อย ท่าน หล่าย | |
กองทัพน้อยภาคเนปยีดอ | 2548 | พลจัตวา เว่ย ลวิน | พลตรี ซอ ไฮน์ | |
กองทัพน้อยภาคตะวันออกกลาง | 2554 | พลจัตวา เมีย ตุน อู | พลจัตวา หล่า โม่ |
หน่วยบัญชาการยุทธการภูมิภาค (ROC)
หน่วยบัญชาการยุทธการภูมิภาค (Regional Operations Commands: ROC; ဒေသကွပ်ကဲမှု စစ်ဌာနချုပ်) ได้รับคำสั่งจาก พลจัตวา คล้ายกับกองพลน้อยทหารราบในกองทัพตะวันตก แต่ละกองประกอบด้วยกองพันทหารราบ 4 กองพัน (Chay Hlyin Tatyin) กองบัญชาการและหน่วยสนับสนุนขึ้นตรง ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการยุทธการภูมิภาคเป็นตำแหน่งระหว่างผู้บังคับการกองพลทหารราบเบา/ผู้บังคับการหน่วยบัญชาการยุทธการทหาร (LID/MOC) และผู้บังคับการหน่วยบัญชาการยุทธการทางยุทธวิธี (TOC) ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชากองพันทหารราบ 3 กองพัน ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการยุทธการภูมิภาคมีอำนาจทางการเงิน การบริหาร และตุลาการ ในขณะที่ผู้บังคับการหน่วยบัญชาการยุทธการทหาร (MOC) และกองพลทหารราบเบา (LID) ไม่มีอำนาจตุลาการ
หน่วยบัญชาการยุทธการภูมิภาค (ROC) | กองบัญชาการ | หมายเหตุ |
---|---|---|
หน่วยบัญชาการยุทธการภูมิภาคลอยกอ | ลอยกอ (လွိုင်ကော်), รัฐกะยา | |
หน่วยบัญชาการยุทธการภูมิภาคเล่าไก่ | เล่าไก่ (လောက်ကိုင်), รัฐฉาน | |
หน่วยบัญชาการยุทธการภูมิภาคกะเล่ | กะเล่ (ကလေး), ภาคซะไกง์ | |
หน่วยบัญชาการยุทธการภูมิภาคซิตตเว | ซิตตเว (စစ်တွေ), รัฐยะไข่ | |
หน่วยบัญชาการยุทธการภูมิภาคแปร | แปร (ပြည်), ภาคพะโค | |
หน่วยบัญชาการยุทธการภูมิภาคตะไนง์ | ตะไนง์ (တနိုင်း), รัฐกะชีน | ชื่อเดิม ROC บะมอ |
หน่วยบัญชาการยุทธการภูมิภาควานห์เซิง | วานห์เซิง, รัฐฉาน | ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2554 |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหาร (MOC)
หน่วยบัญชาการยุทธการทหาร (Military Operations Commands: MOC, စစ်ဆင်ရေးကွပ်ကဲမှုဌာနချုပ်) รับคำสั่งจาก พลจัตวา มีความคล้ายคลึงกับกองพลทหารราบในกองทัพตะวันตก แต่ละหน่วยประกอบด้วย กองพันทหารราบยานเกราะ 10 กองพัน ประกอบไปด้วยรถลำเลียงพลหุ้มเกราะบีทีอาร์-3 กองบัญชาการ และหน่วยสนับสนุน รวมถึงกองพันทหารปืนใหญ่สนาม กองพันทั้ง 10 กองพันนี้ แบ่งออกเป็น 3 หน่วยหน่วยบัญชาการยุทธการทางยุทธวิธี ได้แก่ หน่วยบัญชาการยุทธการทางยุทธวิธียานเกราะ 1 หน่วย พร้อมด้วยรถลำเลียงพลหุ้มเกราะบีทีอาร์-3 และหน่วยบัญชาการยุทธการทางยุทธวิธียานยนต์ 2 หน่วย พร้อมด้วยรถบรรทุก 6x6 EQ-2102
หน่วยบัญชาการยุทธการทหาร (MOC) มีสถานะเทียบเท่ากับกองพลทหารราบเบา (LID) ในทำเนียบกำลังรบของกองทัพบกพม่า โดยทั้งสองหน่วยบังคับบัญชากองพันทหารราบ 10 กองพัน ผ่านทางหน่วยบัญชาการยุทธการทางยุทธวิธี 3 หน่วย อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างจากกองพลทหารราบเบา หน่วยบัญชาการยุทธการทหารเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของกองบังคับการกองบัญชาการภูมิภาคทหาร (RMC) สมาชิกของหน่วยบัญชาการยุทธการทหารจะไม่สวมเครื่องหมายแขนที่โดดเด่น และใช้เครื่องหมายแขนของกองบัญชาการภูมิภาคทหารแทน ตัวอย่างเช่น หน่วยบัญชาการยุทธการทหารที่ 20 ที่เกาะสอง สวมเครื่องหมายกองทัพน้อยชายฝั่ง
หน่วยบัญชาการยุทธการทหาร (MOC) | กองบัญชาการ | หมายเหตุ |
---|---|---|
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารที่ 1 (MOC-1) | , รัฐฉาน | |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารที่ 2 (MOC-2) | , รัฐฉาน | |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารที่ 3 (MOC-3) | , รัฐกะชีน | เปลี่ยนชื่อเป็น กองพลน้อยทหารราบที่ 3 |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารที่ 4 (MOC-4) | , ภาคย่างกุ้ง | กำหนดเป็นกองพลส่งทางอากาศ. เปลี่ยนชื่อเป็น กองพลน้อยทหารราบที่ 4 |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารที่ 5 (MOC-5) | , รัฐยะไข่ | |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารที่ 6 (MOC-6) | ปยี่นมะน่า (ပျဉ်းမနား), ภาคมัณฑะเลย์ | |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารที่ 7 (MOC-7) | (ဖယ်ခုံ), รัฐฉาน | |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารที่ 8 (MOC-8) | ทวาย (ထားဝယ်), ภาคตะนาวศรี | |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารที่ 9 (MOC-9) | (ကျောက်တော်), รัฐยะไข่ | ยึดโดยกองทัพยะไข่เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 บัญชาการโดยพลจัตวาซอ มิน ทุน |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารที่ 10 (MOC-10) | (ကျီကုန်း (ကလေးဝ)), ภาคซะไกง์ | |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารที่ 11 (MOC-11) | ||
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารที่ 12 (MOC-12) | ก่อกะเระ (ကော့ကရိတ်), รัฐกะเหรี่ยง | ก่อนหน้านี้ได้รับคำสั่งจากนายพลจัตวา ออง ซอ ลิน ผู้บัญชาการคนปัจจุบัน พันเอก เมียว มิน เตว |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารที่ 13 (MOC-13) | (ဘုတ်ပြင်း), ภาคตะนาวศรี | |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารที่ 14 (MOC-14) | (မိုင်းဆတ်), รัฐฉาน | |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารที่ 15 (MOC-15) | (ဘူးသီးတောင်), รัฐยะไข่ | |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารที่ 16 (MOC-16) | แสนหวี (သိန်းနီ), รัฐฉาน | ถูกยึดโดยเมื่อวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2567 ก่อนหน้านี้ได้รับคำสั่งจากพลจัตวา ทอ ซิน อู ปัจจุบันได้รับคำสั่งจากพันเอกหม่องหม่องเล เปลี่ยนชื่อหน่วยเป็นกองพลน้อยทหารราบที่ 16 |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารที่ 17 (MOC-17) | (မိုင်းပန်), รัฐฉาน | |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารที่ 18 (MOC-18) | (မိုင်းပေါက်), รัฐฉาน | |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารที่ 19 (MOC-19) | เย่ (ရေး), รัฐมอญ | |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารที่ 20 (MOC-20) | (ကော့သောင်း), ภาคตะนาวศรี | |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารที่ 21 (MOC-21) | บะมอ (ဗန်းမော်), รัฐกะชีน |
กองพลทหารราบเบา (LID)
กองพลทหารราบเบา (Light Infantry Division: LID, ခြေမြန်တပ်မ or တမခ) บัญชาการโดย พลจัตวา แต่ละกองพลมีกองพันทหารราบเบา 10 กองพัน สังกัด 3 หน่วยบัญชาการยุทธการทางยุทธวิธี บัญชาการโดย พันเอก (3 กองพัน และกองหนุน 1 กองพัน) กองพันทหารปืนใหญ่สนาม 1 กองพัน กองพันทหารม้ายานเกราะ 1 กองพัน และหน่วยสนับสนุนอื่น ๆ
กองพลทหารราบเบาถูกใช้ครั้งแรกในกองทัพบกพม่าเมื่อปี พ.ศ. 2509 เพื่อเป็นกองกำลังเคลื่อนที่ตอบโต้เร็วสำหรับปฏิบัติการโจมตี กองพลทหารราบเบาที่ 77 ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2509 ตามด้วยกองพลทหารราบเบาที่ 88 และกองพลทหารราบเบาที่ 99 ในสองปีถัดมา กองพลทหารราบเบาที่ 77 เป็นหน่วยหลักที่สร้างความพ่ายแพ้ให้กับกองกำลังคอมมิวนิสต์ของพรรคคอมมิวนิสต์พม่า (CBP) ซึ่งมีฐานตั้งอยู่ในเนินเขาที่มีสภาพเป็นป่าของเทือกเขาพะโคตอนกลางในช่วงกลางคริสต์ทศวรรษ 1970 กองพลทหารราบเบาอีกสามแห่งได้รับการก่อตั้งในช่วงครึ่งหลังของคริสต์ทศวรรษ 1970 (กองพลทหารราบเบาที่ 66, 55 และ 44) โดยมีกองบังคับการอยู่ที่เมืองแปร, อองบัน และสะเทิม ตามมาด้วยการก่อตั้งกองพลทหารราบเบาอีกสองแห่งในช่วงก่อนรัฐประหาร พ.ศ. 2531 (กองพลทหารราบเบาที่ 33 มีกองบังคับการอยู่ที่ซะไกง์ และกองพลทหารราบเบาที่ 22 มีกองบังคับการอยู่ที่พะอัน) กองพลทหารราบเบาที่ 11 ก่อตั้งขึ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2531 โดยมีกองบังคับการอยู่ที่ อินดีน, ภาคพะโค และกองพลทหารราบเบาที่ 101 ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2534 โดยมีกองบังคับการอยู่ที่ปะโคะกู
กองพลทหารราบเบาแต่ละแห่งได้รับคำสั่งจากนายทหารระดับ พลจัตวา (Bo hmu gyoke) ประกอบด้วยกองพันทหารราบเบา 10 กองพัน ที่ได้รับการฝึกมาเป็นพิเศษในการต่อต้านการก่อความไม่สงบ ปฏิบัติการ "ค้นหาและทำลาย" เพื่อต่อต้านกลุ่มก่อความไม่สงบทางชาติพันธุ์และกองกำลังค้ายาติดยาเสพติด กองพันเหล่านี้จัดอยู่ภายใต้ 3 หน่วยบัญชาการยุทธการทางยุทธวิธี (TOC; Nee byu har) หน่วยบัญชาการยุทธการทางยุทธวิธีแต่ละแห่งจะได้รับคำสั่งจาก พันเอก (Bo hmu gyi) ประกอบด้วยกองพันรบตั้งแต่ 3 หน่วยขึ้นไป โดยมีการจัดหน่วยบังคับบัญชาและการสนับสนุนที่คล้ายคลึงกับกองพลน้อยในกองทัพตะวันตก กองพันทหารราบหนึ่งกองอยู่ในสถานะของกองหนุน ในปี พ.ศ. 2543 กองพลทหารราบเบาทั้งหมดมีหน่วยปืนใหญ่สนามเป็นหน่วยสนับสนุนของตนเอง ตัวอย่างเช่น ตอนนี้กองร้อยทหารปืนใหญ่สนามที่ 314 เป็นส่วนหนึ่งของกองพันทหารราบเบาที่ 44 แล้ว กองพันทหารราบเบาบางแห่งได้รับการฝึกปฏิบัติการกระโดดร่มและส่งทางอากาศ และกองพลทหารราบเบา 2 กองพลได้ถูกดัดแปรสภาพเป็นทหารราบยานเกราะด้วยกองพลปืนใหญ่ กองพันลาดตระเวนยานเกราะ และกองพันรถถัง
กองพลทหารราบเบาถือเป็นกองกำลังเชิงยุทธศาสตร์ของกองทัพบกพม่า และหลังจากการปรับโครงสร้างหน่วยและการปรับโครงสร้างการบังคับบัญชาของกองทัพพม่าใหม่ในปี พ.ศ. 2533 ในปัจจุบันกองพลทหารราบเบาอยู่ภายใต้การรับผิดชอบโดยตรงจากเสนาธิการทหารบก (กองทัพบก)
กองพลทหารราบเบา (LID) | ตรา | ปีก่อตั้ง | หน่วยบัญชาการ | ผู้บัญชาการคนแรก | คนปัจจุบัน | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|---|---|
กองพลทหารราบเบาที่ 11 | 2531 | อินดีน | พันเอก วิน มิ้นท์ | เกิดขึ้นหลังรัฐประหาร พ.ศ. 2531 | ||
กองพลทหารราบเบาที่ 22 | 2530 | พะอัน | พันเอก ติน หล่า | เกี่ยวข้องกับการปราบปรามผู้ประท้วงที่ไม่มีอาวุธระหว่างการลุกฮือในระบอบประชาธิปไตย การก่อการกำเริบ 8888 | ||
กองพลทหารราบเบาที่ 33 | 2527 | มัณฑะเลย์/ต่อมาไปที่ ซะไกง์ | พันเอก จ่อ บา | เกี่ยวข้องกับการปราบปรามชาวโรฮีนจาในรัฐยะไข่ทางตอนเหนือ มีส่วนร่วมในความขัดแย้งในรัฐกะชีน | ||
กองพลทหารราบเบาที่ 44 | 2522 | สะเทิม | พันเอก มยัต ถิน | ผู้บัญชาการคนก่อน พลจัตวา เอ มิน นอง ถูกสังหารหลังจากเฮลิคอปเตอร์ถูกยิงตกในปี 2566 | ||
กองพลทหารราบเบาที่ 55 | 2523 | ซะไกง์/ต่อมาไปที่ กาลอ | พันเอก โฟน มิ้นท์ | ยอมแพ้ต่อกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2566 ซึ่งรวมถึง ผู้บัญชาการ พลจัตวา ซอ เมียว วิน | ||
กองพลทหารราบเบาที่ 66 | 2519 | อินน์มา | พันเอก ตอง ซาร์ ไคง | |||
กองพลทหารราบเบาที่ 77 | 2509 | มอบี/ต่อมาไปที่ พะโค | พันเอก ทิน สวี | |||
กองพลทหารราบเบาที่ 88 | 2510 | มะกเว | พันเอก ธัน ติน | |||
กองพลทหารราบเบาที่ 99 | 2511 | เมะทีลา | พันเอก จอ ถิ่น | เกี่ยวข้องกับการปราบปรามชาวโรฮีนจาในรัฐยะไข่ทางตอนเหนือ | ||
กองพลทหารราบเบาที่ 101 | 2534 | ปะโคะกู | พันเอก ซอว์ ตุน | กองพลทหารราบเบาที่ 101 ถูกส่งไปในระหว่างการกวาดล้างฝ่ายข่าวกรองทางทหารในปี พ.ศ. 2547 ผู้บัญชาการกองพลจัตวา มิน มิน ทุน ถูกจับโดยกองทัพปลดปล่อยชาติตะอ้อง |
หน่วยขีปนาวุธ ปืนใหญ่ และรถหุ้มเกราะ
หน่วยขีปนาวุธ ปืนใหญ่ และรถหุ้มเกราะไม่ได้ใช้ถูกใช้งานในบทบาทอิสระ แต่กระทรวงกลาโหมได้นำไปใช้ในการสนับสนุนทหารราบตามการร้องขอ กรมการทหารปืนใหญ่และเหล่ายานเกราะก็ถูกแบ่งออกเป็นเหล่าแยกกันในปี พ.ศ. 2544 กรมการทหารปืนใหญ่และเหล่าทหารขีปนาวุธก็แบ่งออกเป็นเหล่าที่แยกจากกันในปี พ.ศ. 2552 การขยายกำลังภายใต้กรมทหารเหล่านี้ตามมาด้วยอุปกรณ์ที่จัดหาจากจีน รัสเซีย ยูเครนและอินเดีย
กรมการทหารขีปนาวุธ (หน่วยปืนใหญ่ขีปนาวุธพม่า)
หน่วยบัญชาการยุทธการขีปนาวุธที่ 1
หน่วยบัญชาการยุทธการขีปนาวุธที่ 1 (Missile Operational Command: MOC) ประกอบไปด้วย
- กองบัญชาการกองพันขีปนาวุธ
- 10 × ขีปนาวุธ
กรมการทหารปืนใหญ่ (หน่วยทหารปืนใหญ่พม่า)
กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2495 โดยมีปืนใหญ่จำนวน 3 กระบอก อยู่ภายใต้กองอำนวยการของเหล่าทหารปืนใหญ่ มีการจัดตั้งกองพันปืนใหญ่อีก 3 กองพันในปลายปี พ.ศ. 2495 รูปแบบนี้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจนกระทั่ง พ.ศ. 2531 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 กรมการทหารปืนใหญ่ได้ดูแลการขยายหน่วยบัญชาการยุทธการทหารปืนใหญ่ (Artillery Operations Command: AOC) จาก 2 เป็น 10 หน่วย ความตั้งใจที่ระบุไว้ของกองทัพพม่าคือการจัดตั้งหน่วยบัญชาการยุทธการทหารปืนใหญ่ที่ขึ้นตรงต่อทั้ง 12 กองบังคับการกองบัญชาการภูมิภาคทหาร (RMC)
ในปี พ.ศ. 2543 ทหารปืนใหญ่ของกองทัพพม่ามีกองพันประมาณ 60 กองพัน และกองร้อยทหารปืนใหญ่อิสระอีก 37 กองร้อย สังกัดกองบัญชาการภูมิภาคทหาร (RMC) กองพลทหารราบเบา (LID) หน่วยบัญชาการยุทธการทหาร (MOC) และหน่วยบัญชาการยุทธการภูมิภาค (ROC) เช่น กองร้อยทหารปืนใหญ่ที่ 314 อยู่ภายใต้กองพลทหารราบเบาที่ 44, กองร้อยทหารปืนใหญ่ที่ 326 สังกัดหน่วยบัญชาการยุทธการทหารที่ 5, กองร้อยทหารปืนใหญ่ที่ 074 อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของหน่วยบัญชาการยุทธการภูมิภาค (บะโม) และกองร้อยทหารปืนใหญ่ที่ 076 อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของกองทัพน้อยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กองพันทหารปืนใหญ่จำนวน 20 กองพันนี้จัดกลุ่มอยู่ภายใต้หน่วยบัญชาการยุทธการทหารปืนใหญ่ที่ 707 (Artillery Operations Command: AOC) ในเมืองเจาะปะด้อง และหน่วยบัญชาการยุทธการทหารปืนใหญ่ที่ 808 (AOC) ในเมืองโอ๊คทวิน ใกล้เมืองตองอู กองพันที่เหลืออีก 30 กองพัน รวมถึงกองพันทหารปืนใหญ่ต่อต้านอากาศยาน 7 กองพัน อยู่ภายใต้กองอำนวยการกองทัพน้อยทหารปืนใหญ่
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารปืนใหญ่ (AOC)
- กองบัญชาการกองพัน
- กองพันทหารปืนใหญ่ 13 กองพัน:
- กองพันทหารปืนใหญ่สนามเบา 6 กองพัน ประกอบด้วย ขนาด 105 มม. 76 มม. 75 มม. และ
- กองพันทหารปืนใหญ่สนามกลาง 3 กองพัน ประกอบด้วย ขนาด 155 มม. 130 มม. 122 มม. และ
- กองพันเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง 1 กองพัน ประกอบด้วย เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องขนาด 122 มม. และ 240 มม. เครื่องยิงอัตตาจรและแบบลากจูง
- กองพันทหารปืนใหญ่ป้องกันภัยทางอากาศ 1 กองพัน ประกอบด้วย ปืนต่อต้านอากาศยานขนาด 37 มม., 57 มม. หรือ SA 18 IGLA) อาวุธปล่อยผิวพื้นสู่อากาศแบบพกพา และ
- กองพันทหารปืนใหญ่ค้นหาเป้าหมาย 1 กองพัน
- หน่วยสนับสนุน
กองพันทหารปืนใหญ่สนามเบา ประกอบด้วย กองร้อยทหารปืนใหญ่สนาม 3 กองร้อย พร้อมด้วยปืนใหญ่สนามหรือปืนใหญ่วิถีโค้ง 36 กระบอก (12 กระบอกต่อกองร้อย) กองพันทหารปืนใหญ่ขนาดกลาง ประกอบด้วย กองร้อยทหารปืนใหญ่ขนาดกลาง 3 กองร้อย พร้อมด้วยปืนใหญ่สนามหรือปืนใหญ่วิถีโค้ง 18 กระบอก (ปืน 6 กระบอกต่อ 1 กองร้อย) ในปี พ.ศ. 2554 ปืนใหญ่สนามทั้งหมดของกองทัพน้อยทหารปืนใหญ่พม่ากำลังอยู่ระหว่างโครงการเพิ่มประสิทธิภาพ รวมถึงระบบควบคุมการยิงด้วยจีพีเอส
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารปืนใหญ่ (AOC) | กองบัญชาการ | หมายเหตุ |
---|---|---|
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารปืนใหญ่ที่ 505 | มะริด (မြိတ်) | |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารปืนใหญ่ที่ 707 | (ကျောက်ပန်းတောင်း) | |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารปืนใหญ่ที่ 606 | สะเทิม (သထုံ) | |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารปืนใหญ่ที่ 808 | ออคทวิน (အုပ်တွင်းမြို့) | |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารปืนใหญ่ที่ 909 | มองคอน--เชียงตุง | |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารปืนใหญ่ที่ 901 | บอ เน็ท จี (ဘောနက်ကြီး--ပဲခူးတိုင်း) | |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารปืนใหญ่ที่ 902 | นุ้งกิ้ว | |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารปืนใหญ่ที่ 903 | ||
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารปืนใหญ่ที่ 904 | โม่ญี่น (မိုးညှင်း) | |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารปืนใหญ่ที่ 905 | ปาเดอิน-งาเป |
กรมการทหารยานเกราะ (เหล่ายานเกราะพม่า)
กองร้อยยานเกราะที่ 1 และกองร้อยยานเกราะที่ 2 ก่อตั้งขึ้นในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2493 ภายใต้กองอำนวยการกองทัพน้อยทหารยานเกราะและปืนใหญ่ พร้อมด้วยรถถังเชอร์แมน รถถังเบาสจวร์ต รถสเกาท์ฮัมเบอร์ รถหุ้มเกราะเฟอร์เรต และยูนิเวอร์เซล แคริเออร์ ทั้งสองกองร้อยนี้รวมกันเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2493 กลายเป็นกองพันยานเกราะที่ 1 มีกองบัญชาการอยู่ที่มีนกะลาโดน เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2495 กองพันรถถังได้ก่อตั้งขึ้นพร้อมกับรถถังคอเมตจำนวน 25 คันที่ได้มาจากสหราชอาณาจักร
กองพลทหารยานเกราะหรือที่เรียกว่า หน่วยบัญชาการยุทธการทหารยานเกราะ (Armoured Operations Command: AROC) ภายใต้การบังคับบัญชาของกองอำนวยการกองทัพน้อยทหารยานเกราะ ได้มีการขยายหน่วยจาก 1 เป็น 2 หน่วย แต่ละหน่วยมีกองพันรบยานเกราะ 4 กองพัน ประกอบไปด้วย และรถลำเลียงพลหุ้มเกราะ กองพันรถถัง 3 กองพัน ประกอบไปด้ววย รถถังหลัก และกองพันรถถัง 3 กองพัน ประกอบไปด้วย รถถังเบา ในกลางปี พ.ศ. 2546 กองทัพพม่าได้ซื้อรถถังหลักที-72 จำนวน 139 คันจากยูเครน และลงนามในสัญญาสร้างและก่อสร้างโรงงานในพม่าเพื่อผลิตและประกอบรถลำเลียงพลหุ้มเกราะบีทีอาร์ 1,000 คัน ในปี พ.ศ. 2547 ในปี พ.ศ. 2549 รัฐบาลอินเดียได้โอนรถถังหลัก ที-55 ไม่ระบุจำนวนที่กำลังถูกปลดประจำการไปยังกองทัพพม่า พร้อมด้วยปืนใหญ่สนามเบา 105 มม. รถลำเลียงพลหุ้มเกราะ และเฮลิคอปเตอร์รบเบา HAL เพื่อแลกกับการสนับสนุนและความร่วมมือของกองทัพพม่าในการกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธอินเดียที่ปฏิบัติการจากฐานในพม่า
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารยานเกราะ (AROC)
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารยานเกราะ (Armoured Operations Command: AROC) เทียบเท่ากับกองพลยานเกราะอิสระในประเทศตะวันตก ปัจจุบันมีหน่วยบัญชาการยุทธการทหารยานเกราะ 5 หน่วย สังกัดกองอำนวยการกองทัพน้อยทหารยานเกราะ ตามทำเนียบกำลังรบของกองทัพพม่า กองทัพพม่าวางแผนที่จะจัดตั้งหน่วยบัญชาการยุทธการทหารยานเกราะ (AROC) ในแต่ละหน่วยใน 7 กองบัญชาการภูมิภาคทหาร ตามรูปแบบของกองพลทหารยานเกราะในกองทัพบกพม่า ประกอบด้วย กองบัญชาการ หน่วยบัญชาการยุทธการทางยุทธวิธียานเกราะ 3 หน่วย – แต่ละหน่วยมีกองพันทหารราบยานเกราะ 1 กองพัน ประกอบไปด้วย บีเอ็มพี-1 จำนวน 44 คัน หรือรถรบทหารราบ เอ็มเอวี-1, กองพันรถถัง 2 กองพัน ประกอบด้วย รถถังหลัก 44 คัน ในแต่ละกองพัน, กองพันลาดตระเวนยานเกราะ 1 กองพัน ประกอบด้วย รถถังเบาสะเทินน้ำสะเทินบก ไทป์-63A จำนวน 32 คัน, กองพันทหารปืนใหญ่สนาม 1 กองพัน และกองพันสนับสนุน 1 กองพัน กองพันสนับสนุนประกอบด้วยกองร้อยทหารช่าง กองร้อยส่งกำลังบำรุง 2 กองร้อย และกองร้อยทหารสื่อสาร 1 กองร้อย
กองทัพบกพม่าได้ซื้อรถหุ้มเกราะ EE-9 Cascavel ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ประมาณ 150 คันจากบริษัทอิสราเอลในปี พ.ศ. 2548 ซึ่งจัดอยู่ในประจำการกองทัพบกว่าเป็นรถถังเบา ปัจจุบัน Cascavel ประจำการอยู่ในรัฐฉานตะวันออกและบริเวณภาคสามเหลี่ยมใกล้กับชายแดนไทย
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารยานเกราะ (ArOC) | กองบัญชาการ | หมายเหตุ |
---|---|---|
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารยานเกราะที่ 71 | ปยอ-บแว (ပျော်ဘွယ်) | |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารยานเกราะที่ 72 | โอนทอว์ (အုန်းတော) | |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารยานเกราะที่ 73 | มาลุน (မလွန်) | |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารยานเกราะที่ 74 | อินเทง (အင်းတိုင်) | |
หน่วยบัญชาการยุทธการทหารยานเกราะที่ 75 | ทาการา (သာဂရ) |
สำนักงานผู้บัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ (ปืนใหญ่ป้องกันภัยทางอากาศพม่า)
สำนักงานผู้บัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ (Office of the chief of Air Defence, လေကြောင်းရန်ကာကွယ်ရေးတပ်ဖွဲ့အရာရှိချုပ်ရုံး) เป็นหนึ่งในเหล่าหลักของกองทัพพม่า ก่อตั้งขึ้นเป็นกองบัญชาการป้องกันทางอากาศ (Air Defence Command) ในปี พ.ศ. 2540 แต่ไม่ได้ปฏิบัติการอย่างเต็มรูปแบบจนกระทั่งปลายปี พ.ศ. 2542 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นสำนักป้องกันทางอากาศในต้นปี พ.ศ. 2543 กระทั่งในช่วงต้นปี พ.ศ. 2543 กองทัพพม่าได้จัดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบบูรณาการแห่งพม่า (Myanmar Integrated Air Defence System: MIADS, မြန်မာ့အလွှာစုံပေါင်းစပ်လေကြောင်းရန်ကာကွယ်ရေးစနစ်) ด้วยความช่วยเหลือจากรัสเซียและจีน เป็นสำนักบริการร่วมที่มีหน่วยจากกองทัพทั้งสามเหล่า ยุทโธปกรณ์ป้องกันภัยทางอากาศทั้งหมด ยกเว้นกองพันปืนใหญ่ต่อต้านอากาศยานของกองทัพบก จะรวมอยู่ในระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบบูรณาการแห่งพม่า (MIADS)
กรมการทหารสื่อสาร (เหล่าทหารสื่อสารพม่า)
ไม่นานหลังได้รับเอกราชในปี พ.ศ. 2491 เหล่าทหารสื่อสารพม่าได้ก่อตั้งขึ้นโดยมีหน่วยจากหน่วยสื่อสารพม่า หรือที่รู้จักในชื่อเหล่า "เอ็กซ์" ประกอบด้วยกองบัญชาการสื่อสารพม่า กองร้อยการฝึกสัญญาณพม่า (Burma Signal Training Squadron: BSTS) และกองร้อยสัญญาณพม่า (Burma Signals Squadron: BSS) กองบัญชาการสัญญาณพม่าตั้งอยู่ภายในสำนักงานสงคราม กองร้อยการฝึกสัญญาณพม่าซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเมืองปยีนอู้ลวีน ก่อตั้งขึ้นโดยมีกองฝึกอบรมปฏิบัติการการเข้ารหัส, กองฝึกอบรมการสื่อสารเร่งด่วน, กองฝึกอบรมการสื่อสารด้วยสาย, กองกำลังฝึกอบรมช่างวิทยุ และกองกำลังฝึกอบรมสัญญาณกรมทหาร กองร้อยสัญญาณพม่ามีฐานอยู่ในมีนกะลาโดน ประกอบด้วย 9 แผนก ได้แก่
- หน่วยสารบรรณ
- หน่วยซ่อมบำรุง
- หน่วยปฏิบัติการ
- หน่วยการเข้ารหัส
- หน่วยสื่อสารด้วยสายและการสื่อสารเร่งด่วน
- หน่วยทหารสัญญาณ NBSD
- หน่วยทหารสัญญาณ SBSD
- หน่วยสัญญาณกองพลน้อยเคลื่อนที่ และ
- หน่วยทหารสัญญาณยะไข่
หัวหน้าเจ้าหน้าที่สัญญาณ (Chief of Signal Staff Officer: CSO) ในขณะนั้นคือ พันโท ซอ ออง ดิน ภายหลังเปลี่ยนชื่อกองร้อยการฝึกสัญญาณพม่า (BSTS) และกองร้อยสัญญาณพม่า (BSS) เป็นกองพันทหารสื่อสารที่ 1 และกองพันฝึกอบรมทหารสื่อสารที่ 1 ในปี พ.ศ. 2495 กรมทหารสื่อสารกองพลทหารราบได้ถูกก่อตั้งขึ้น และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น กองพันทหารสื่อสารที่ 2 กองบัญชาการทหารสื่อสารพม่าได้รับการจัดรูปแบบใหม่และกลายเป็น กรมการทหารสื่อสาร และผู้บัญชาการได้รับการยกระดับการบัญชาการเป็นพันเอก ในปี พ.ศ. 2499 กองพันรักษาความปลอดภัยทหารสื่อสาร 1 ได้รับการจัดตั้งขึ้น ตามมาด้วยกองพันทหารสื่อสารที่ 3 ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2501 และกองพันทหารสื่อสารที่ 4 ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2502
พ.ศ. 2504 ได้มีการจัดกองพันทหารสื่อสารใหม่ให้อยู่ในกองบัญชาการภูมิภาคทหาร (RMC) เป็น กองพันทหารสื่อสารที่ 11 สังกัดกองทัพน้อยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, กองพันทหารสื่อสารที่ 121 สังกัดกองทัพน้อยภาคตะวันออก, กองพันทหารสื่อสารที่ 313 สังกัดกองทัพน้อยภาคกลาง, กองพันทหารสื่อสารที่ 414 สังกัดกองทัพน้อยภาคตะวันตกเฉียงใต้ และกองพันทหารสื่อสารที่ 515 สังกัดกองทัพน้อยภาคตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่กองพันฝึกอบรมทหารสื่อสารที่ 1 เปลี่ยนชื่อเป็น โรงฝึกทหารสื่อสารพม่า (บาโฮ-เซตเวเย-ตาด)
ภายในปี พ.ศ. 2531 กรมการทหารสื่อสารประกอบไปด้วยโรงฝึกทหารสื่อสาร 1 แห่ง กองพันทหารสื่อสาร 8 กองพัน กองพันรักษาความปลอดภัยทหารสื่อสาร 1 กองพัน คลังทหารสื่อสาร 1 แห่ง และโรงปฏิบัติการทหารสื่อสาร 2 แห่ง เหล่าทหารสื่อสารภายใต้กรมการทหารสื่อสารได้มีการปรับขยายขนาดหน่วยอีกในช่วงปี พ.ศ. 2533 โดยขยายและการปรับโครงสร้างเข้าไปไปในกองทัพพม่า ภายในปี พ.ศ. 2543 กองพันทหารสื่อสารนั้นมีประจำอยู่ในแต่ละกองบัญชาการภูมิภาคทหาร (RMC) และกองร้อยทหารสื่อสารจะประจำอยู่ในกองพลทหารราบเบา (LID) และหน่วยบัญชาการยุทธการทหาร (MOC)
ในปี พ.ศ. 2543 ระบบบัญชาการ การควบคุม และการสื่อสารของกองทัพบกพม่าได้รับการยกระดับครั้งใหญ่ โดยการจัดตั้งเครือข่ายการสื่อสารใยแก้วนำแสงของกองทัพ ซึ่งจัดการโดยกรมการทหารสื่อสารทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 กองบัญชาการภูมิภาคทหารของกองทัพบกพม่าทั้งหมดใช้ระบบโทรคมนาคมของตนเอง นอกจากนี้ ยังมีการเชื่อมต่อการสื่อสารผ่านดาวเทียมไปยังกองพันทหารราบส่วนหน้า อย่างไรก็ตาม ระบบการสื่อสารภายในสนามรบยังคงย่ำแย่ หน่วยทหารราบยังคงใช้วิทยุสื่อสารแบบ TRA 906 และ PRM 4051 ซึ่งได้มาจากสหราชอาณาจักรในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1980 กองทัพบกพม่ายังใช้ชุดวิทยุแบบ TRA 906 Thura และ XD-D6M ของจีนที่ผลิตในท้องถิ่น ชุดแฮนด์เซ็ตแบบกระโดดความถี่ที่ได้รับการติดตั้งไว้กับหน่วยในแนวหน้าทั้งหมด
ระหว่างปี พ.ศ. 2543 ถึง พ.ศ. 2548 กองทัพบกพม่าซื้อชุดวิทยุ Brett 2050 Advanced Tech จำนวน 50 เครื่องจากออสเตรเลียผ่านบุคคลที่สามจากสิงคโปร์ วิทยุเหล่านั้นจะถูกแจกจ่ายให้กับหน่วยบัญชาการยุทธการภูมิภาค (ROC) ในภาคกลางและตอนบนเพื่อใช้ในการปฏิบัติการต่อต้านการก่อความไม่สงบ
กรมการแพทย์
ในช่วงที่ได้รับเอกราชในปี พ.ศ. 2491 เหล่าทหารแพทย์มีโรงพยาบาลทหารประจำฐานสองแห่ง แต่ละแห่งมีเตียง 300 เตียงในมีนกะลาโดนและปยีนอู้ลวีน ซึ่งเป็นคลังการแพทย์ในย่างกุ้ง หน่วยทันตกรรม 1 แห่ง และสถานีรับรองของค่าย 6 แห่ง ตั้งอยู่ในมยิจีนา, ซิตตเว, ตองอู, ปยี่นมะน่า, พะโค และเมะทีลา ระหว่างปี พ.ศ. 2501 ถึง พ.ศ. 2505 เหล่าทหารแพทย์ได้รับการปรับโครงสร้างใหม่ และสถานีรับรองของค่ายทั้งหมดได้รับการจัดระเบียบใหม่เป็นกองพันทหารเสนารักษ์
ในปี พ.ศ. 2532 กรมการแพทย์ได้ขยายขีดความสามารถไปพร้อมกับทหารราบอย่างมีนัยสำคัญ ในปี พ.ศ. 2550 มีโรงพยาบาลกองทัพ (Defence Services General Hospital) ขนาด 1,000 เตียงจำนวน 2 แห่ง (มีนกะลาโดนและเนปยีดอ), โรงพยาบาลขนาด 700 เตียงจำนวน 2 แห่ง ในเมืองปยีนอู้ลวีนและอองบัน, โรงพยาบาลทหารขนาด 500 เตียงจำนวน 2 แห่ง ในเมืองเมะทีลาและย่างกุ้ง, โรงพยาบาลกองทัพด้านกระดูกและข้อขนาด 500 เตียง 1 แห่ง ในมีนกะลาโดน, โรงพยาบาลกองทัพด้านสูตินรีเวชและเด็ก ขนาด 300 เตียงจำนวน 2 แห่ง (มีนกะลาโดนและเนปยีดอ), โรงพยาบาลทหารขนาด 300 เตียงจำนวน 3 แห่ง (มยิจีนา, แอน และเชียงตุง), โรงพยาบาลทหารขนาด 100 เตียงจำนวน 18 แห่ง (เมืองเพชร, บาน, อินไดง์, บาทู , มะริด, แปร, ลอยกอ, น้ำซำ, ล่าเสี้ยว, กะเล, มองสาด, ทวาย, เกาะสอง, เล่าไก่, ตานดอง, มะกเว, ซิตตเว และหอมมาลิน) กองพันทหารเสนารักษ์สนามจำนวน 14 กองพัน ซึ่งสังกัดกองบัญชาการภูมิภาคทหารต่าง ๆ ทั่วประเทศ กองพันทหารเสนารักษ์สนามแต่ละกองพันประกอบด้วยกองร้อยทหารเสนารักษ์สนาม 3 กองร้อย โดยมีหน่วยทหารเสนารักษ์สนาม 3 หน่วย และทีมผู้เชี่ยวชาญแต่ละหน่วย หน่วยควบคุมโรคและสุขภาพ (HDCU) มีหน้าที่ป้องกัน ควบคุม และขจัดโรค
หน่วย | กองบัญชาการ | กองบัญชาการภูมิภาคทหาร |
---|---|---|
ศูนย์เหล่าทหารแพทย์ | กองทัพน้อยย่างกุ้ง | |
กองพันทหารเสนารักษ์สนามที่ 1 | มัณฑะเลย์ | กองบัญชาการภาคกลาง |
กองพันทหารเสนารักษ์สนามที่ 2 | ตองจี | กองทัพน้อยภาคตะวันออก |
กองพันทหารเสนารักษ์สนามที่ 3 | ตองอู | กองทัพน้อยภาคตะวันตกเฉียงใต้ |
กองพันทหารเสนารักษ์สนามที่ 4 | พะสิม | กองทัพน้อยภาคตะวันตกเฉียงใต้ |
กองพันทหารเสนารักษ์สนามที่ 5 | มอละมไยน์ | กองทัพน้อยภาคตะวันออกเฉียงใต้ |
กองพันทหารเสนารักษ์สนามที่ 6 | มอบี | กองทัพน้อยย่างกุ้ง |
กองพันทหารเสนารักษ์สนามที่ 7 | โมนยวา | กองทัพน้อยภาคตะวันตกเฉียงเหนือ |
กองพันทหารเสนารักษ์สนามที่ 8 | ซิตตเว | กองทัพน้อยภาคตะวันตกเฉียงใต้ |
กองพันทหารเสนารักษ์สนามที่ 9 | โม่ญี่น | กองทัพน้อยภาคเหนือ |
กองพันทหารเสนารักษ์สนามที่ 10 | ล่าเสี้ยว | กองทัพน้อยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ |
กองพันทหารเสนารักษ์สนามที่ 11 | บะมอ | กองทัพน้อยภาคเหนือ |
กองพันทหารเสนารักษ์สนามที่ 12 | เชียงตุง | กองทัพน้อยภาคตะวันออก |
กองพันทหารเสนารักษ์สนามที่ 13 | มะริด | กองทัพน้อยชายฝั่ง |
กองพันทหารเสนารักษ์สนามที่ 14 | กองทัพน้อยย่างกุ้ง | |
หน่วยควบคุมโรคและสุขภาพ | กองทัพน้อยย่างกุ้ง |
การฝึก
สถาบันและวิทยาลัยป้องกันประเทศ
สถาบันการศึกษา | ที่ตั้ง |
---|---|
(National Defence College: NDC) | เนปยีดอ (နေပြည်တော်) |
(Defence Services Command and General Staff College: DSCGSC) | (ကလော) |
(Defence Services Academy – DSA) | ปยีนอู้ลวีน (ပြင်ဦးလွင်) |
(Defence Services Technological Academy – DSTA) | ปยีนอู้ลวีน (ပြင်ဦးလွင်) |
(Defence Services Medical Academy – DSMA) | ย่างกุ้ง (ရန်ကုန်) |
(Military Institute of Nursing and Paramedical Science: MINP) | ย่างกุ้ง (ရန်ကုန်) |
(Military Computer And Technological Institute – MCTI) (อดีตวิทยาลัยเทคโนโลยีการทหาร MTC, ปยีนอู้ลวีน) | (ဟိုပုံး) |
โรงเรียนฝึกทหาร
โรงเรียนฝึกทหาร | ที่ตั้ง |
---|---|
(Officer Training School: OTS) | |
โรงเรียนฝึกการรบขั้นพื้นฐาน | ค่ายบาทู |
โรงเรียนกำลังรบทหารบกที่ 1 | ค่ายบาทู |
โรงเรียนกำลังรบทหารบกที่ 2 | |
โรงเรียนฝึกทหารปืนใหญ่ | โมนไท |
โรงเรียนฝึกทหารยานเกราะ | เมืองเมา |
โรงเรียนสงครามอิเล็กทรอนิกส์ | ปยีนอู้ลวีน |
โรงเรียนทหารช่าง | ปยีนอู้ลวีน |
โรงเรียนสงครามสารสนเทศ | ย่างกุ้ง |
โรงเรียนฝึกอบรมทางอากาศ ทางบก และพลร่ม | |
โรงเรียนกองกำลังพิเศษ |
เครื่องหมายยศ
ยศทหารชั้นสัญญาบัตร
เครื่องหมายยศของ
กลุ่มชั้นยศ | นายพล / นายทหารชั้นนายพล | นายทหารสัญญาบัตรอาวุโส | นายทหารสัญญาบัตร | นักเรียนนายร้อย | ||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
กองทัพบกพม่า | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ဗိုလ်ချုပ်မှူးကြီး Builʻkhyupʻmhūʺkrīʺ | ဒုတိယ ဗိုလ်ချုပ်မှူးကြီး Dutiya builʻkhyupʻmhūʺkrīʺ | ဗိုလ်ချုပ်ကြီး Builʻkhyupʻkrīʺ | ဒုတိယ ဗိုလ်ချုပ်ကြီး Dutiya builʻkhyupʻkrīʺ พลโท | ဗိုလ်ချုပ် Builʻkhyupʻ พลตรี | ဗိုလ်မှူးချုပ် Builʻmhūʺkhyupʻ พลจัตวา | ဗိုလ်မှူးကြီး Builʻmhūʺkrīʺ พันเอก | ဒုတိယ ဗိုလ်မှူးကြီး Dutiya builʻmhūʺkrīʺ พันโท | ဗိုလ်မှူး Builʻmhūʺ พันตรี | ဗိုလ်ကြီး Builʻkrīʺ ร้อยเอก | ဗိုလ် Builʻ ร้อยโท | ဒုတိယ ဗိုလ် Dutiyabuilʻ ร้อยตรี | ဗိုလ်လောင်း Builʻloṅʻʺ นักเรียนนายร้อย |
ยศทหารชั้นประทวน
เครื่องหมายยศของ
กลุ่มชั้นยศ | นายทหารประทวนอาวุโส | นายทหารประทวน | พลสมัคร และพลทหาร | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
กองทัพบกพม่า | ไม่มีเครื่องหมาย | ไม่มีเครื่องหมาย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||
အရာခံဗိုလ် ’araākhaṃ bauilaʻ นายดาบเอก | ဒုတိယအရာခံဗိုလ် dautaiya ’araākhaṃ bauilaʻ นายดาบโท | တပ်ခွဲတပ်ကြပ်ကြီး tapaʻ khavai tapaʻ karpaʻ karīʺ จ่ากองร้อย | တပ်ကြပ်ကြီး tapaʻ karpaʻ karīʺ สิบเอก | တပ်ကြပ် tapaʻ karpaʻ สิบโท | ဒုတိယတပ်ကြပ် dautaiya tapaʻ karpaʻ สิบตรี | တပ်သား tapaʻ saāʺ พลทหาร | တပ်သားသစ် tapaʻ saāʺ sacaʻ ทหารใหม่ |
ทำเนียบกำลังรบ
- 14 × กองบัญชาการภูมิภาคทหาร (RMC) จัดอยู่ใน 6 กองยุทธการพิเศษ (BSO)
- 6 × หน่วยบัญชาการยุทธการภูมิภาค (ROC)
- 20 × หน่วยบัญชาการยุทธการทหาร (MOC) รวมถึง 1 × กองพลทหารราบส่งทางอากาศ
- 10 × กองพลทหารราบเบา (LID)
- 5 × หน่วยบัญชาการยุทธการทหารยานเกราะ (AOC) (แต่ละหน่วยประกอบไปด้วยกองพันรถถัง 6 กองพัน และกองพันทหารราบยานเกราะ 4 กองพัน ( / รถลำเลียงพลหุ้มเกราะ)
- 10 × หน่วยบัญชาการยุทธการทหารปืนใหญ่ (AOC) (พร้อมด้วยกองพันทหารปืนใหญ่สนาม 113 กองพัน)
- 9 × หน่วยบัญชาการยุทธการป้องกันภัยทางอากาศ
- 1 × หน่วยบัญชาการยุทธการขีปนาวุธ
- 40+ × กองร้อยรักษาความปลอดภัยกิจการทหาร (หน่วยรักษาความปลอดภัยกิจการทหาร เข้ามาแทนที่หน่วยข่าวกรองทางทหารในอดีต หลังจากการยุบกองอำนวยการหน่วยข่าวกรองกลาโหม (Directorate of Defence Service Intelligence: DDSI))
- 45 × กองพันทหารสื่อสารขั้นสูง
- 54 × กองพันทหารช่างสนาม
- 4 × กองพันทหารช่างยานเกราะ
- 14 × กองพันทหารเสนารักษ์
ยุทโธปกรณ์
ดูเพิ่ม
หมายเหตุ
- ตราสัญลักษณ์นี้ยังเป็นอาร์มติดไหล่ (SSI) ของสำนักงาน
อ้างอิง
- "Official site of Commander-in-Chief's Office of the Myanmar Armed Forces". จากแหล่งเดิมเมื่อ 14 June 2022. สืบค้นเมื่อ 17 June 2022.
- (15 February 2023). The Military Balance 2023. London: . p. 275. ISBN .
- "Border Guard Force Scheme". Myanmar Peace Monitor. 11 January 2013. จากแหล่งเดิมเมื่อ 21 August 2020. สืบค้นเมื่อ 8 August 2020.
- Maung Zaw (18 March 2015). . Myanmar Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 February 2021. สืบค้นเมื่อ 8 August 2020.
- The Asian Conventional Military Balance 2006 (PDF), , 26 มิถุนายน 2006, p. 4, (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 29 เมษายน 2011, สืบค้นเมื่อ 20 มีนาคม 2011
- . Associated Press. 1 มีนาคม 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 มิถุนายน 2011. สืบค้นเมื่อ 9 มีนาคม 2011.
- Working Papers – Strategic and Defence Studies Centre, Australian National University
- Selth, Andrew (2002) : Burma's Armed Forces: Power Without Glory, Eastbridge. ISBN
- , 20 May 1981
- , 7 July 1983
- , Land of Jade
- Asiaweek 21 February 1992
- The Defence of Thailand (Thai Government issue), p.15, April 1995
- . . 7 ตุลาคม 2006. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 พฤษภาคม 2011. สืบค้นเมื่อ 28 กรกฎาคม 2010.
{{}}
: CS1 maint: unfit URL () - WP 342. Australian National University
- "พม่าเปลี่ยนผบ.กองยุทธการพิเศษ คาดรับหน้าที่กล่อมกลุ่มหยุดยิง". prachatai.com.
{{}}
: CS1 maint: url-status () - "จัดใหม่ "ครม.พม่า" แยก ก.พลังงาน-ไฟฟ้า โยก พล.ท.ตานหล่าย จาก มท.กลับกองทัพ". mgronline.com. 2022-05-04.
- "Myanmar-Army Regional Military Commands". Global Security. GlobalSecurity.org. จากแหล่งเดิมเมื่อ 24 August 2021. สืบค้นเมื่อ 23 September 2021.
- Myoe, Maung Aung: Building the tatmadaw – Myanmar Armed Forces Since 1948, Institute of SouthEast Asian Studies. ISBN
- "Junta Expands Military". จากแหล่งเดิมเมื่อ 2 มีนาคม 2011. สืบค้นเมื่อ 6 มีนาคม 2011.
- "မြန်မာစစ်တပ် ဘာကြောင့် အားနည်းသွားသလဲ" (ภาษาพม่า). BBC News မြန်မာ. 2024-01-02. สืบค้นเมื่อ 2024-04-07.
- မိုးဦး, ရောင်နီ (2024-02-08). "စကခ (၉) လက်အောက်ခံ ခြေမြန်တပ်ရင်း ၁၀ ရင်းလုံး AA သိမ်းယူ". Myanmar Now. สืบค้นเมื่อ 2024-04-07.
- "ရက္ခိုင်တပ်တော်၏ ၃ လတာ တိုက်ပွဲအတွင်း တပ်မမှူးနှင့် ဗျူဟာမှူးအဆင့် ၂ ဦးအား အရှင်ဖမ်းမိပြီး ၂ ဦးအားအသေမိ". Narinjara News (ภาษาพม่า). สืบค้นเมื่อ 2024-04-07.
- "လောက်ကိုင်မှာ လက်နက်ချတဲ့ တပ်မှူးတွေ သေဒဏ်တကယ်ပေးခံရသလား" (ภาษาพม่า). BBC News မြန်မာ. 2024-01-24. สืบค้นเมื่อ 2024-04-07.
- views, MLAT in သတင်း | သတင်းတို 19 January 2024 • 1110. "ရှမ်းမြောက်မှာ လက်နက်ချ၊ ဖမ်းဆီးခံရတဲ့ ဗိုလ်မှူးချုပ်တွေနေရာကို လူစားထိုးခန့်". myaelattathan.org. สืบค้นเมื่อ 2024-04-07.
- "Myanmar's Brotherhood Alliance Seizes Two More Towns in Shan State".
- "သိန္နီမြို့၌ သဘာဝဘေးအန္တရာယ်ကြိုတင်ကာကွယ်ရေး ပြင်ဆင်စုဖွဲ့ခြင်းလုပ်ငန်းဆောင်ရွက် | Information and Public Relations Department". moi.gov.mm. สืบค้นเมื่อ 2024-04-07.
- "How Myanmar's shock troops led the assault that expelled the Rohingya". Reuters (ภาษาอังกฤษ). 26 มิถุนายน 2018. จากแหล่งเดิมเมื่อ 17 กรกฎาคม 2018. สืบค้นเมื่อ 28 สิงหาคม 2018.
- "Myanmar Infantry Division Surrenders in Laukkai, Shan State: Reports".
- "လောက်ကိုင်မှာ လက်နက်ချတဲ့ တပ်မှူးတွေ သေဒဏ်တကယ်ပေးခံရသလား" (ภาษาพม่า). BBC News မြန်မာ. 2024-01-24. สืบค้นเมื่อ 2024-04-07.
- ကိုထက်မြတ်ပြောတဲ့ (၁၀၁) တပ်မမှူးမင်းမင်းထွန်းအကြောင်း. สืบค้นเมื่อ 2024-04-07 – โดยทาง YouTube.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 มิถุนายน 2011. สืบค้นเมื่อ 13 กันยายน 2011.
- "Defense19". จากแหล่งเดิมเมื่อ 24 กันยายน 2015. สืบค้นเมื่อ 29 พฤศจิกายน 2014.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 December 2014. สืบค้นเมื่อ 12 March 2015.
{{}}
: CS1 maint: unfit URL () - IndraStra Global Editorial Team (30 ตุลาคม 2020). "Myanmar Integrated Air Defense System". จากแหล่งเดิมเมื่อ 31 ตุลาคม 2020. สืบค้นเมื่อ 7 ธันวาคม 2015.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 ธันวาคม 2014. สืบค้นเมื่อ 29 พฤศจิกายน 2014.
- "โรงเรียนนายร้อย…กองทัพเมียนมา". www.matichon.co.th.
{{}}
: CS1 maint: url-status ()
- Air Defense: Stealth Killer Missile Sales Soar
- Explore Our Collection of Study Guides - eNotes.com
บรรณานุกรม
- Samuel Blythe, 'Army conditions leave Myanmar under strength,' , Vol. 43, Issue 14, 5 April 2006, 12.
- Beech, Hannah (4 April 2021). "Inside Myanmar's Army: 'They See Protesters as Criminals'". New York Times. สืบค้นเมื่อ 11 April 2021.
แหล่งข้อมูลอื่น
- Role of officers in Burmese Army (Part 1) 25 กุมภาพันธ์ 2012 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Bo Htet Min, , 23 January 2010
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
kxngthphbkphma xngkvs Myanmar Army phma တပ မတ က ည xxkesiyng taʔmedɔ tɕi epnehlathphthiihythisudkhxngkxngthphphma tamadx emiynmar rbphidchxbptibtikarthangthharbnbk kxngthphbkphmayngkhngepnkxngkalngpracakarthimikhnadihythisudepnxndbsxnginexechiytawnxxkechiyngit rxngcakkxngthphprachachnewiydnam sungkxngthphbkphmamikarpathakbklumkxkhwamimsngbthangchatiphnthuaelakaremuxngtngaetpi ph s 2491kxngthphbkphmaတပ မတ က ည phma aeplwa kxngthph kxngthphbk trasylksnkxngthphphmapracakarph s 2488 79 pithiaelw 2488 praeths phma thiruckinchux emiynmar rupaebbkxngthphphakhphundinkalngrbthharpracakar 325 000 nay kalngsarxng kxngkalngpxngknchayaedn BGF 23 kxngphn klumkxngkalngtidxawuthprachachn PMG 46 klum kxngthphnxyfukxbrmmhawithyaly UTC 5 kxngthphnxy khunkb phmasmyaTatmadaw Kyikhakhwyရ သ မသ သ သ ငရ မလ ရ ရ တက ရ ရ တ က ရ ရ ခ မ န sihnwy siekhiywmakxk siekhiywxxn siaedngwnsthapna27 minakhm ph s 2488ptibtikarsakhykhwamkhdaeyngphayinphma karthphtamaenwchayaedncin phmaphubngkhbbychaos winphb sakhyphltri xxngsanphlexk enwintanchewhmxngexekhruxnghmaysngkdthngpracakxngthphphmaekhruxnghmayxarmsanknganphubychakarthharbkekhruxnghmayxarmthharrabaelathharrabebaxditthng ph s 2491 2537 bthkhwamnimixksrphiess hakxupkrnkhxngkhunimsamarthernedxrxksrniid khunxacehnekhruxnghmaykhatham xksrphiess klxng hruxsylksnxun kxngkalngdngklawnaody pccubnepnkhuxrxngphlexkxawuos rxngphubychakarthharsungsudphma phrxmdwy phlexkxawuos minxxngilng sungepn taaehnngsungsudkhxngkxngthphbkphmakhuxphlexkxawuos ethiybethakbcxmphlinkxngthphbktawntk aelapccubndarngtaaehnngody minxxngilng hlngcakeluxncaktaaehnngrxngphlexkxawuos inpi ph s 2554 hlngcakkarepliyncakrthbalthharmaepnrthbalrthsphaphleruxn kxngthphphmaidbngkhbichrangkdhmaythharkbphlemuxngthukkhn odyphuchaythukkhnthimixayutngaet 18 thung 35 pi aelaphuhyingthukkhnthimixayutngaet 18 thung 27 pi samartheknthekharbrachkarthharid 2 piinchwngphawachukechinaehngchati swnxayusahrbthharxachiphkhuximekin 45 pi sahrbphuchay aela 35 pi sahrbphuhying odypracakar 3 pi inkarrbrachkarthnginradbchnsyyabtraelachnprathwn rthkiccanuebksa raynganwangbpramanpi 2554 epnngbpramanthangkarthhar 1 8 lanlanct praman 2 phnlandxllarshrth hruxrxyla 23 6 khxngngbpramanaephndinprawtiodyyxkxngthharphmakalngsarwcchayaednphma cin pramaneduxnemsayn ph s 2497 ephuxkhnhakxngthharchatiniymcinthihlbhniipyngphmaphayhlngkhwamphayaephinsngkhramklangemuxngcinkarpkkhrxngkhxngshrachxanackraelayipun inchwngplaykhristthswrrs 1930 inchwngthishrachxanackrpkkhrxng xngkhkrhruxphrrkhkaremuxngkhxngphmacanwnhnungidkxtngphnthmitrchuxklum Htwet Yet pldplxy khxngphma hnunginnnkhuxsmakhmerachawphma Dobama Asiayone enuxngcaksmachikswnihyepnkhxmmiwnist phwkekhacungtxngkarkhwamchwyehluxcakkhxmmiwnistcin aetemux thkhin xxngsan aelakhuhuaexbipcinephuxkhxkhwamchwyehlux phwkekhaphbephiyngnayphlyipunaelaidekharwmepnphnthmitrkbkxngthphyipun inchwngtnkhristthswrrs 1940 xxngsanaelaphuekharwmxik 29 khnaexbipfukthharphayitkxngthphyipun aelakhn 30 khnehlani txmaepnthiruckinchux 30 thhar inprawtisastrphma aelathuxidwaepntnkaenidkhxngkxngthphbkphmasmyihm emuxyipunphrxmbukphma klum 30 thharcungeknthchawphmainpraethsithyaelakxtng Burma Independence Army BIA sungepnrayaaerkkhxngkxngthphbkphma inpi ph s 2485 kxngthphephuxexkrachphmaidchwyehluxkxngthphyipuninkarphichitphmasungkarrbkhrngnnprasbkhwamsaerc hlngcaknnkxngthphyipunidepliynkxngthphephuxexkrachphmaepnkxngthphpxngknphma Burmese Defence Army BDA sungepnrayathi 2 txmainpi ph s 2486 yipunidprakasihphmaepnpraethsexkrachxyangepnthangkar aetrthbalphmachudihmimidkhrxbkhrxngkarpkkhrxngpraethsodyphvtiny khnachwyehluxkxngthphshrachxanackrinpi ph s 2488 kxngthphbkphmaidekhasurayathi 3 inthanakxngkalngrkchatiphma Patriotic Burmese Force PBF aelapraethsktkxyuphayitkarpkkhrxngkhxngshrachxanackrxikkhrng txmaokhrngsrangkhxngkxngthphtkxyuphayitxanackhxngshrachxanackr dwyehtuni sahrbphuthiyindirbichchatiaetimidxyuinkxngthphnn nayphlxxngsancungidcdtngkxngkalngshayprachachn People s Comrades force khun yukhhlngidrbexkrach chwngthiphmaidrbexkrachinpi ph s 2491 kxngthphphmayngkhngxxnaex elk aelamikhwamaetkaeyk rxyaetkpraktkhuntamphumihlngthangchatiphnthu khwamekiywkhxngthangkaremuxng thimakhxngxngkhkr aelabrikartang khwamsamkhkhiaelaprasiththiphaphkardaeninngankhxngkxngthphxxnaexlngxikcakkaraethrkaesngkhxngphleruxnaelankkaremuxnginkickarthhar aelachxngwangrahwangnaythharesnathikaraelaphubngkhbbychaphakhsnamkxngthharekiyrtiyskhxngkxngthphbkphmathakhwamekharphkarmathungkhxngkhnaphuaethnithyineduxntulakhm ph s 2553 tamkhxtklngthibrrluinkarprachumaekhndiineduxnknyayn ph s 2488 kxngthphphmaidrbkarcdraebiybihmodyphsmphsankxngthphbritichphmaaelakxngthphrkchatiphma PBF ekhadwykn naythharinaetlaehlacamacakxditnaythharkxngthphrkchatiphma aelanaythharcakkxngthphbritichphma aelakxngthphkhxngxngkhkarkalngsarxngphma Army of Burma Reserve Organisation ARBO rthbalxananikhminewlannyngidtdsinicthicacdtngsingthieriykwa kxngphnchnchati tamechuxchati inchwngewlathiidrbexkrachmikxngphnpunelkyawthnghmd 15 kxngphn aelasikxngphnprakxbdwyxditsmachikkhxngkxngthphrkchatiphma PBF taaehnngthimixanacthnghmdphayinsankngansngkhramaelakarbngkhbbychaidrbkarduaelcaknaythharthiimichkxngthphrkchatiphma PBF brikarthnghmdrwmthngwiswkrthhar karcdhaaelakhnsng xawuthyuthothpkrnaelabrikarthangkaraephthy kxngthpheruxaelakxngthphxakas lwnidrbkhasngcakxditnaythharcakkxngthphkhxngxngkhkarkalngsarxngphma ABRO aelakxngthphbrietnphma karprakxbkalngkhxngkxngthphphmainpi ph s 2491 kxngphn karprakxbkalngthi 1 chawphma punelkyawphmathi 2 chawkaehriyngswnihy chnchatixunthiimichchawphma idrbkhasngcakphnothsx chit khin naythharkaehriyngcakkxngthphbritichphma punelkyawphmathi 3 chawphma xditsmachikkhxngkxngkalngphmarkchati Patriotic Burmese Force punelkyawphmathi 4 chawphma xditsmachikkhxngkxngkalngphmarkchati Patriotic Burmese Force idrbkhasngcakphnothenwininkhnannpunelkyawphmathi 5 chawphma xditsmachikkhxngkxngkalngphmarkchati Patriotic Burmese Force punelkyawphmathi 6 chawphma xditsmachikkhxngkxngkalngphmarkchati Patriotic Burmese Force punelkyawkaehriyngthi 1 chawkaehriyng xditsmachikkhxngkxngthphbritichphmaaela ABROpunelkyawkaehriyngthi 2 chawkaehriyng xditsmachikkhxngkxngthphbritichphmaaela ABROpunelkyawkaehriyngthi 3 chawkaehriyng xditsmachikkhxngkxngthphbritichphmaaela ABROpunelkyawkachinthi 1 xditsmachikkhxngkxngthphbritichphmaaela ABROpunelkyawkachinthi 2 chawkachin xditsmachikkhxngkxngthphbritichphmaaela ABROpunelkyawchinthi 1 chawchin xditsmachikkhxngkxngthphbritichphmaaela ABROpunelkyawchinthi 2 chawchin xditsmachikkhxngkxngthphbritichphmaaela ABROkrmthharphmathi 4kxngphnethuxkekhachin chawchinrupkhbwnaelaokhrngsrangkxngthphbk thuxepnkxngthphthiihythisudinphmamaodytlxd aelaidrbswnaebngngbpramandankarpxngknpraethssungmaodytlxd kxngkalngnimibthbathsakhyinkartxsukhxngphmatxklumkxkhwamimsngb 40 klum hruxmakkwannnbtngaetpi ph s 2491 aelaidrbchuxesiyngwaepnkxngkalngthiaekhngaekrngaelamiihwphribsung inpi ph s 2524 idrbkarkhnannamwaepn kxngthphbkthidithisudinexechiytawnxxkechiyngit nxkehnuxcakewiydnam khatdsindngklawsathxnihehninpi ph s 2526 emuxphusngektkarnxikkhnhnungtngkhxsngektwa odythwipaelw thharrabkhxngphmathukcdwaepnhnunginthharthiaekhngaekrngthisudaelamiprasbkarnkarrbmakthisudinexechiytawnxxkechiyngit inpi ph s 2528 nkkhawtangpraethsphumiprasbkarnidmioxkasehnthharphmatxsukbklumkxkhwamimsngbchatiphnthuaelakxngthphkhayaesphtid prathbicxyangmakkbthksakartxsu khwamxdthn aelawinykhxngphwkekha phusngektkarnkhnxun inchwngewlannrabuwakxngthphbkphmaepn kxngkalngthharrabebathiaekhngaekrngthisudaelamiprasiththiphaphmakthisudthiptibtikarinexechiytawnxxkechiyngit aemaetkhnithysungimruckkxngthphbkphmamaknkyngklawthungkxngthphbkphmawa echiywchaydansilpa karcdhnwy kxngthphbkphmamikalngpracakarpraman 370 000 naycakthukys inpi ph s 2543 mi 337 kxngphn sungrwmthungkxngphnthharrabeba 266 kxngphn n ph s 2543 aemwaokhrngsranghnwykhxngkxngthphbkphmacaxingtamrabb aetkardaeninklyuththkhnphunthanaelahnwyrbkxyuthikxngphnthiruckkninchux tadyin တပ ရင inphasaphma prakxbdwykxngbychakar kxngrxypunelkyawcanwn 5 kxngrxy eriykwa tadekhw တပ ခ phrxmdwyhmwdpunelkyaw 3 hmwd eriykwa tadsu တပ စ inaetlakxngrxybrihar administrative company mihnwykaraephthy karkhnsng karsngkalngbarung aelakarsuxsar inkxngrxyxawuthhnkprakxbipdwy punkhrk punkl aelahmwdpuniraerngsathxnthxyhlng aetlakxngphnxyuphayitkarbngkhbbychakhxng phnoth Du Ti Ya Bo Hmu Gyi hrux Du Bo Hmu Gyi odymi phntri bo hmu epnphubngkhbbychaepnxndbsxng mikalngnaythharthnghmd 27 nay aelaradbxun xik 723 nay kxngphnthharrabebainkxngthphbkphmamikalngkarcdtngthitakwamakpraman 500 nay thaihphutrwckarnmkrabuhnwyehlaniphidwaepnkxngphnthharrabthimikalngrbthitakwa dwycanwnbukhlakr xawuth aelakhwamkhlxngtwthiephimkhunxyangminysakhy kxngthphbkphma hrux thdmadxw ci Tatmadaw Kyee တပ မတ က ည inpccubncungepnkxngkalngpxngknpraethstamaebbthinaekrngkhamsahrbshphaphphma thharthimikhwamphrxmrbmicanwnsungkhunxyangnxysxngethanbtngaetpi ph s 2531 okhrngsrangphunthandanlxcistiksaelakarsnbsnunkaryingpunihyephimkhunxyangmak yuthothpkrnthangthharthiidmaihmnithuknamaichnganxyangepidephyinptibtikarchwngvduaelngkhxngkxngthphphmatxthanthimnkhxngshphaphaehngchatikaehriyng KNU inemuxngmaenxplxwaelakhxmura phuesiychiwitswnihyinkarsurbehlanimacakkarocmtixyangkhxngkxngthphbkphma pccubn kxngthphphmamikhnadihykwakxnpi ph s 2531 xyangmak mikhwamkhlxngtwmakkhun aelamikarprbprungyanekraa punihy aelakarpxngknphythangxakas rabb C3I karbngkhbbycha khwbkhum suxsar khxmphiwetxr aelakhawkrxng idrbkarkhyayaelaprbprung odykxngthphbkphmakalngphthnarupaebbthiihykhunaelaburnakarmakkhun aelaphungphatnexngid ephuxprbprungkarptibtikarprasankndwyxawuthtxsutang kxngthphbkxaccamixawuththikhxnkhangeriybngayemuxethiybkbpraethsephuxnbanthimikhnadkxngthphihykwa aetkxngthphbkphmannxyuincudthidikwainkarybyngkarrukrancakphaynxkaelatxbsnxngtxphykhukkhamtang hakekidkhun aemwathharedkxacthanganidimdinkinkartxsukbstru karkhyaytw kxngphlaerkthicacdtngkhunhlngcakkarrthprahar ph s 2531 khux kxngphlthharrabebathi 11 Light Infantry Division LID ineduxnthnwakhm ph s 2531 odymi phnexk win min epnphubychakar ineduxnminakhm ph s 2533 idmikarcdtng kxngbychakarphumiphakhthhar Regional Military Command RMC ihmkhuninemuxngomnywa odymi phlctwa cx min epnphubychakar aelatngchuxxngbychakarphumiphakhthharphakhtawntkechiyngehnux kxngthphnxyphakhtawntkechiyngehnux hnungpitxma kxngphlthharrabebathi 101 idkxtngkhunthipaokhaku odymi phnexk sx tun epnphubychakar mikarcdtng hnwybychakaryuththkarphumiphakh Regional Operations Commands ROC canwn 2 hnwykhuninemuxngmaridaelalxykx ephuxprbprungkarbngkhbbychaaelakarkhwbkhum phwkekhaidrbkhasngcak phlctwa os tin aela phlctwa hmxngci tamladb ineduxnminakhm ph s 2538 kxngthphphmamikarkhyaytwxyangmak odyidcdtng hnwybychakaryuththkarthhar Military Operation Command MOC khun 11 hnwyineduxnnn hnwybychakaryuththkarthhar MOC mikhwamkhlaykhlungkbkxngphlthharrabyanekraa Mechanized infantry division inolktawntk odyaetlahnwy mikxngphnthharrabpracakarcanwn 10 kxngphn Chay Hlyin Tatyin odymikxngbychakaraelahnwysnbsnunkhuntrngaelapunihysnaminaetlahnwy inpi ph s 2539 mikarkxtngkxngbychakarphumiphakhthhar RMC khunihm 2 aehng idaek kxngbychakarphumiphakhthharphakhchayfng kxngthphnxychayfng inemuxngmarid odymi phlctwa sith emuxng epnphubngkhbbycha aelakxngbychakarphumiphakhthharphakhsamehliym kxngthphnxyphakhsamehliym inemuxngechiyngtung odyminayctwa etnesn epnphubychakar nxkcaknihnwybychakaryuththkarphumiphakh ROC ihm 3 aehngthuksrangkhun inkael bamx aelaemuxngsad playpi ph s 2541 mikarcdtnghnwybychakaryuththkarthhar MOC ihm 2 aehng thiemuxngbkepiynaelaemuxngsad karkhyaytwthisakhythisud hlngcakkarprbprungrabbthharrabinkxngthphbkrwmkbyanekraaaelapunihy erimtninpi ph s 2533 kxngthphphmaidcdharththnghlk ithp 69II canwn 18 khn aelarththngebasaethinnasaethinbk ithp 63 canwn 48 khncakpraethscin mikarcdsuxephimetimrwmthngrthlaeliyngphlhumekraa ithp 85 aela ithp 92 hlayrxykhn emuxtnpi ph s 2541 kxngthphphmamirththnghlk ithp 69II praman 100 khn rththngebasaethinnasaethinbk ithp 63 canwniklekhiyngkn aelarththng T 59D hlaykhn rththngaelarthhumekraaehlanithukkracayiptamkxngphnthharrabyanekraa 5 kxngphn aelakxngphnrththng 5 kxngphn aelaidcdtngkxngphlyanekraachudaerkkhxngkxngthphphmakhun epnhnwybychakaryuththkaryanekraathi 71 71st Armoured Operations Command odymikxngbychakarxyuthiemuxngpyx baew kxngyuththkarphiess BSO kxngbychakarphumiphakhthhar RMC inpi ph s 2553 kxngyuththkarphiess Bureau of Special Operation BSO က က ယ ရ ဌ န စစ ဆင ရ အထ အဖ inkxngthphbkphmathuxepnhnwyphakhsnamradbsungethiybethakbkxngthphsnaminniyamkhxngtawntk aelaprakxbdwykxngbychakarphumiphakhthhar RMC tngaet 2 hnwykhunip sungbychakarodyphloth 1 nayaelanaythharesnathikarcanwn 6 nay hnwyepnthiruckphayitsngkdsanknganfayesnathikaremuxwnthi 28 emsayn ph s 2521 aela 1 mithunayn ph s 2522 inchwngtnpi ph s 2521 nayphl en win prathanphrrkhokhrngkarsngkhmniymphma BSPP idedinthangeyuxnkxngbychakarkxngthphnxyphakhtawnxxkechiyngehnuxinemuxnglaesiywephuxrbkarbrryaysrupekiywkbkarkaeribkhxngphrrkhkhxmmiwnistphma BCP aelakarptibtikarthangthhar ekhaedinthangmaphrxmkb phlctwa tun ey cakkrathrwngklaohm phlctwa tun ey darngtaaehnngphubychakarswnphumiphakhkhxngkxngthphnxyphakhtawnxxkepnewla 3 pi aelakxnhnannekharbrachkarinphunthikxngthphnxyphakhtawnxxkechiyngehnuxintaaehnngphubychakarhnwybychakaryuththkarthangyuththsastr SOC aelaphubychakarkxngphlthharrabebaepnewla 4 pi enuxngcakkarptibtikarthangthharkhxngphrrkhkhxmmiwnistphmakracayipthwphunthi 3 kxngbychakarphumiphakhthhar RMC phakhehnux tawnxxk aelatawnxxkechiyngehnux phlctwa tun ey cungepnphubychakarthiechiywchaymakthisudekiywkbkarrbkhxngphrrkhkhxmmiwnistphmainkxngthphbkphmainkhnann inkarbrryaysrup phlexk en win rusukprathbickb phlctwa tun ey aelatrahnkwakarprasannganrahwangkxngbychakarphumiphakhthhar RMC tang epnsingcaepn cungidtdsiniccdtngkxngdngklawkhunthikrathrwngklaohm edimthikxngnimiiwsahrb yuththkarphiess imwacaxyuthiidktam sungtxngkarkarprasannganrahwangkxngbychakarphumiphakhthhar RMC tang txmamikarnakxngxunmaaebngekhtbngkhbbycha kxngyuththkarphiessthi 1 BSO 1 cathahnathiduaelkarptibtikarphayitkxngthphnxyphakhehnux kxngthphnxyphakhtawnxxkechiyngehnux kxngthphnxyphakhtawnxxk aelakxngthphnxyphakhtawntkechiyngehnux kxngyuththkarphiessthi 2 BSO 2 mihnathiduaelkarptibtinganphayitkxngthphnxyphakhtawnxxkechiyngit kxngthphnxyphakhtawntkechiyngit kxngthphnxyphakhtawntkechiyngit aelakxngbychakarphakhklang inebuxngtnphubychakarkxngyuththkarphiess camiysepn phlctwa txmaidprbepnxtraysphltri emuxwnthi 23 emsayn ph s 2522 aelainpi ph s 2533 idykradbepnphloth rahwangpi ph s 2538 thung ph s 2545 esnathikarthharbk thb khwbtaaehnngphubychakarkxngyuththkarphiess xyangirktam inchwngtnpi ph s 2545 mikarephimkxngbychakarkxngyuththkarphiessxik 2 aehnginsanknganfayesnathikar cungthaihkxngyuththkarphiessmi 4 aehng caknnkxngyuththkarphiessaehngthi 5 kxtngkhunemuxpi ph s 2548 aelaaehngthi 6 inpi ph s 2550 pccubnmikxngyuththkarphiess 6 aehnginkhxngphma kxngyuththkarphiess kxngbychakarphumiphakhthhar RMC phubychakarkxngyuththkarphiess hmayehtukxngyuththkarphiessthi 1 kxngthphnxyphakhklang Central Command kxngthphnxyphakhtawntkechiyngehnux Northwestern Command kxngthphnxyphakhehnux Northern Command phloth ethy sar cxkxngyuththkarphiessthi 2 kxngthphnxyphakhtawnxxkechiyngehnux Northeastern Command kxngthphnxyphakhtawnxxk Eastern Command kxngthphnxyphakhsamehliym Triangle Region Command kxngthphnxyphakhtawnxxkklang Eastern Central Command phloth xxng sxw exkxngyuththkarphiessthi 3 kxngthphnxyphakhtawntkechiyngit Southwestern Command kxngthphnxyphakhit Southern Command kxngthphnxyphakhtawntk Western Command phloth ofn mytkxngyuththkarphiessthi 4 kxngthphnxychayfng Coastal Command kxngthphnxyphakhtawnxxkechiyngit Southeastern Command phloth xxng oskxngyuththkarphiessthi 5 kxngthphnxyyangkung Yangon Command phloth eth pxnkxngyuththkarphiessthi 6 kxngthphnxyphakhenpyidx Naypyidaw Command phloth thn hlaykxngbychakarphumiphakhthhar RMC ephuxihkarbngkhbbychaaelakarsuxsardikhun kxngthphphmaidcdtngkxngbychakarphumiphakhthhar Regional Military Commands RMC တ င စစ ဌ နခ ပ inpi ph s 2501 cnkrathngpi ph s 2504 miephiyng 2 hnwybychakarradbphumiphakhethann odyidrbkarsnbsnuncakkxngphlnxythharrab 13 hnwyaelakxngphlthharrab ineduxntulakhm ph s 2504 kxngbychakarphumiphakhthharihmidthukcdtngkhun aelaehluxkxngphlnxythharrabxisraephiyng 2 hnwy ineduxnmithunayn ph s 2506 kxngthphnxyphakhenpyidxidrbkarcdtngkhunchwkhrawinyangkung odymirxngphubychakaraelaesnathikarthharbangswncakkxngbychakarklang idrbkarcdhnwyihmaelaepliynchuxepn kxngbychakarphakhklang emuxwnthi 1 mithunayn ph s 2508 kxngphnthharrabaelakxngphnthharrabebarwm 337 hnwycdxyuinhnwybychakaryuththkarthangyuththwithi krmthharpunihysnamxisra 37 hnwythiidrbkarsnbsnuncakhnwysnbsnuninkrm rwmthungkxngphnladtraewnyanekraaaelakxngphnrththng kxngbychakarphumiphakhthharnnkhlaykhlungkbinkxngthphtawntk kxngbychakarphumiphakhthharidrbkhasngcak phltri aelacdkrxbxtrakalngcakkxngyuththkarphiess BSO sungethiybethakbklumkxngthphsnaminniyamkhxngtawntk kxngbychakarphumiphakhthhar RMC tra rthaelaphakh kxngbychakar kalngkxngthphnxyphakhehnux Northern Command မ က ပ င တ င စစ ဌ နခ ပ rthkachin myicina 32 kxngphnthharrabkxngthphnxyphakhtawnxxkechiyngehnux Northeastern Command အရ မ က ပ င တ င စစ ဌ နခ ပ rthchanehnux laesiyw 30 kxngphnthharrabkxngthphnxyphakhtawnxxk Eastern Command အရ ပ င တ င စစ ဌ နခ ပ rthchanit aela rthkaya txngci 42 kxngphnthharrab prakxbdwy 16 kxngphnthharrabeba phayit hnwybychakaryuththkarphumiphakh ROC sungpracaxyuthilxykxkxngthphnxyphakhtawnxxkechiyngit Southeastern Command အရ တ င တ င စစ ဌ နခ ပ rthmxy aela rthkaehriyng mxlamiyn 40 kxngphnthharrabkxngthphnxyphakhit Southern Command တ င ပ င တ င စစ ဌ နခ ပ phakhphaokh aela phakhmakew txngxu 27 kxngphnthharrabkxngthphnxyphakhtawntk Western Command အန က ပ င တ င စစ ဌ နခ ပ rthyaikh aela rthchin 31 kxngphnthharrabkxngthphnxyphakhtawntkechiyngit Southwestern Command အန က တ င တ င စစ ဌ နခ ပ phakhxirwdi exyawadi phasim paetn 11 kxngphnthharrabkxngthphnxyphakhtawntkechiyngehnux Northwestern Command အန က မ က တ င စစ ဌ နခ ပ phakhsaikng omnywa 25 kxngphnthharrabkxngthphnxyyangkung Yangon Command ရန က န တ င စစ ဌ နခ ပ phakhyangkung okhn mint thar 11 kxngphnthharrabkxngthphnxychayfng Coastal Region Command ကမ ရ တန တ င စစ ဌ နခ ပ phakhtanawsri marid emxrkwi 43 kxngphnthharrab rwmthngkxngphnphayit 2 hnwybychakaryuththkarthhar MOC sungpracaxyuthithwaykxngthphnxyphakhsamehliym Triangle Region Command တ ဂ တ င စစ ဌ နခ ပ rthchantawnxxk echiyngtung 23 kxngphnthharrabkxngthphnxyphakhklang Central Command အလယ ပ င တ င စစ ဌ နခ ပ phakhmnthaely mnthaely 31 kxngphnthharrabkxngthphnxyphakhenpyidx Naypyidaw Command န ပ ည တ တ င စစ ဌ နခ ပ enpyidx pyinmana kxtngpi 2549 kxngphnthharrabkxngthphnxyphakhtawnxxkklang Eastern Central Command အရ အလယ ပ င တ င စစ ဌ နခ ပ rthchantxnklang kxtngpi 2554 7 kxngphnthharrabphubychakarphumiphakhthhar kxngbychakarphumiphakhthhar RMC kxtng phubychakarkhnaerk khnpccubn hmayehtukxngthphnxyphakhtawnxxk 2504 phlctwa san yu phlctwa ni lin xxng inchwng ph s 2504 san yu idrbkaraetngtngihepn phubychakarkxngthphnxyphakhtawnxxk aetthukyayipthi kxngthphnxyphakhtawntkechiyngehnux aelathukaethnthidwy phnexk hmxng chwykxngthphnxyphakhtawnxxkechiyngit 2504 phlctwa esn win phltri ok ok emuxng ph s 2504 emuxmikarcdtng kxngthphnxyphakhtawnxxkechiyngit esn win thukyaycakxditkxngthphnxyphakhit mapracakar aettxmathukyayipthi kxngthphnxyphakhklang aelaaethnthidwy txng yi intxnnnkxngthphnxyphakhklang 2504 phnexk txng yi phltri ok ok xu kxngthphnxyphakhtawntkechiyngehnuxedim pracaxyuthiemuxngmnthaely odyidepliynchuxepn kxngthphnxyphakhklang ineduxnminakhm ph s 2533 aela kxngthphnxyphakhklangedim idepliynchuxepn kxngthphnxyphakhitkxngthphnxyphakhtawntkechiyngehnux 2504 phlctwa cx min phltri than tiek swnphakhitepnswnhnungkhxng kxngthphnxyphakhtawntkechiyngehnuxedim inmnthaely odyepliynchuxepn kxngthphnxyphakhklang ineduxnminakhm ph s 2533 aelaswnphakhehnuxepnswnhnungkhxng kxngthphnxyphakhtawntkechiyngehnuxedim idepliynchuxepn kxngthphnxyphakhtawntkechiyngehnux inpi ph s 2533kxngthphnxyphakhtawntkechiyngit 2504 phnexk ci hmxng phltri xxng xxng ci hmxng thukilxxkinpi ph s 2506 aelathukcakhuksxngsamkhrng ekhadarngtaaehnngrxngprathanphrrkhsnnibataehngchatiephuxprachathipityinkhristthswrrs 1990kxngthphnxyyangkung 2512 phnexk thura cx thin phltri yun win swy kxtngepn kxngthphnxyphakhenpyidx emuxpi ph s 2506 odymirxngphubychakaraelaecahnathibangswncak kxngthphnxyphakhklang txmaptirupaelaepliynchuxepn kxngthphnxyyangkung emuxwnthi 1 mithunayn ph s 2512kxngthphnxyphakhtawntkechiyngit 2512 phnexk hla tun phltri thin ltt xukxngthphnxyphakhtawnxxkechiyngehnux 2515 phnexk xay ok phlctwa nay nay xukxngthphnxyphakhehnux 2490 phlctwa en win phlctwa mt ett xu kxngthphnxyphakhehnuxedim aebngxxkepn kxngthphnxyphakhtawnxxk aela kxngthphnxyphakhtawntkechiyngehnux inpi ph s 2504 kxngthphnxyphakhehnux inpccubn kxtngkhunemuxpi ph s 2512 odyepnswnhnungkhxngkarprbokhrngsrangxngkhkrihm aelacdtngkhunthangtxnehnuxkhxngxditthitng kxngthphnxyphakhtawntkechiyngehnuxkxngthphnxyphakhtawntkechiyngit 2490 phlctwa sxkh ya od phlctwa etng win kxngthphnxyrphakhitedim inmnthaely idepliynchuxepn kxngthphnxyphakhklang ineduxnminakhm ph s 2533kxngthphnxyphakhtawnxxk 2539 phlctwa etnesn phlctwa emiyw min tun txma etnesn idepnnaykrthmntriaelaidrbeluxkepnprathanathibdiinpi ph s 2554kxngthphnxychayfng 2539 phlctwa thiha thura thura sith hmxng phltri eluxy than hlaykxngthphnxyphakhenpyidx 2548 phlctwa ewy lwin phltri sx ihnkxngthphnxyphakhtawnxxkklang 2554 phlctwa emiy tun xu phlctwa hla omhnwybychakaryuththkarphumiphakh ROC hnwybychakaryuththkarphumiphakh Regional Operations Commands ROC ဒ သက ပ က မ စစ ဌ နခ ပ idrbkhasngcak phlctwa khlaykbkxngphlnxythharrabinkxngthphtawntk aetlakxngprakxbdwykxngphnthharrab 4 kxngphn Chay Hlyin Tatyin kxngbychakaraelahnwysnbsnunkhuntrng phubychakarhnwybychakaryuththkarphumiphakhepntaaehnngrahwangphubngkhbkarkxngphlthharrabeba phubngkhbkarhnwybychakaryuththkarthhar LID MOC aelaphubngkhbkarhnwybychakaryuththkarthangyuththwithi TOC sungepnphubngkhbbychakxngphnthharrab 3 kxngphn phubychakarhnwybychakaryuththkarphumiphakhmixanacthangkarengin karbrihar aelatulakar inkhnathiphubngkhbkarhnwybychakaryuththkarthhar MOC aelakxngphlthharrabeba LID immixanactulakar hnwybychakaryuththkarphumiphakh ROC kxngbychakar hmayehtuhnwybychakaryuththkarphumiphakhlxykx lxykx လ င က rthkayahnwybychakaryuththkarphumiphakhelaik elaik လ က က င rthchanhnwybychakaryuththkarphumiphakhkael kael ကလ phakhsaiknghnwybychakaryuththkarphumiphakhsittew sittew စစ တ rthyaikhhnwybychakaryuththkarphumiphakhaepr aepr ပ ည phakhphaokhhnwybychakaryuththkarphumiphakhtainng tainng တန င rthkachin chuxedim ROC bamxhnwybychakaryuththkarphumiphakhwanhesing wanhesing rthchan kxtngemuxpi ph s 2554hnwybychakaryuththkarthhar MOC hnwybychakaryuththkarthhar Military Operations Commands MOC စစ ဆင ရ က ပ က မ ဌ နခ ပ rbkhasngcak phlctwa mikhwamkhlaykhlungkbkxngphlthharrabinkxngthphtawntk aetlahnwyprakxbdwy kxngphnthharrabyanekraa 10 kxngphn prakxbipdwyrthlaeliyngphlhumekraabithixar 3 kxngbychakar aelahnwysnbsnun rwmthungkxngphnthharpunihysnam kxngphnthng 10 kxngphnni aebngxxkepn 3 hnwyhnwybychakaryuththkarthangyuththwithi idaek hnwybychakaryuththkarthangyuththwithiyanekraa 1 hnwy phrxmdwyrthlaeliyngphlhumekraabithixar 3 aelahnwybychakaryuththkarthangyuththwithiyanynt 2 hnwy phrxmdwyrthbrrthuk 6x6 EQ 2102 hnwybychakaryuththkarthhar MOC misthanaethiybethakbkxngphlthharrabeba LID inthaeniybkalngrbkhxngkxngthphbkphma odythngsxnghnwybngkhbbychakxngphnthharrab 10 kxngphn phanthanghnwybychakaryuththkarthangyuththwithi 3 hnwy xyangirktam mikhwamaetktangcakkxngphlthharrabeba hnwybychakaryuththkarthharepnphuitbngkhbbychakhxngkxngbngkhbkarkxngbychakarphumiphakhthhar RMC smachikkhxnghnwybychakaryuththkarthharcaimswmekhruxnghmayaekhnthioddedn aelaichekhruxnghmayaekhnkhxngkxngbychakarphumiphakhthharaethn twxyangechn hnwybychakaryuththkarthharthi 20 thiekaasxng swmekhruxnghmaykxngthphnxychayfng hnwybychakaryuththkarthhar MOC kxngbychakar hmayehtuhnwybychakaryuththkarthharthi 1 MOC 1 rthchanhnwybychakaryuththkarthharthi 2 MOC 2 rthchanhnwybychakaryuththkarthharthi 3 MOC 3 rthkachin epliynchuxepn kxngphlnxythharrabthi 3hnwybychakaryuththkarthharthi 4 MOC 4 phakhyangkung kahndepnkxngphlsngthangxakas epliynchuxepn kxngphlnxythharrabthi 4hnwybychakaryuththkarthharthi 5 MOC 5 rthyaikhhnwybychakaryuththkarthharthi 6 MOC 6 pyinmana ပ ဉ မန phakhmnthaelyhnwybychakaryuththkarthharthi 7 MOC 7 ဖယ ခ rthchanhnwybychakaryuththkarthharthi 8 MOC 8 thway ထ ဝယ phakhtanawsrihnwybychakaryuththkarthharthi 9 MOC 9 က က တ rthyaikh yudodykxngthphyaikhemuxwnthi 10 kumphaphnth ph s 2567 bychakarodyphlctwasx min thunhnwybychakaryuththkarthharthi 10 MOC 10 က က န ကလ ဝ phakhsaiknghnwybychakaryuththkarthharthi 11 MOC 11 hnwybychakaryuththkarthharthi 12 MOC 12 kxkaera က ကရ တ rthkaehriyng kxnhnaniidrbkhasngcaknayphlctwa xxng sx lin phubychakarkhnpccubn phnexk emiyw min etwhnwybychakaryuththkarthharthi 13 MOC 13 ဘ တ ပ င phakhtanawsrihnwybychakaryuththkarthharthi 14 MOC 14 မ င ဆတ rthchanhnwybychakaryuththkarthharthi 15 MOC 15 ဘ သ တ င rthyaikhhnwybychakaryuththkarthharthi 16 MOC 16 aesnhwi သ န န rthchan thukyudodyemuxwnthi 7 mkrakhm ph s 2567 kxnhnaniidrbkhasngcakphlctwa thx sin xu pccubnidrbkhasngcakphnexkhmxnghmxngel epliynchuxhnwyepnkxngphlnxythharrabthi 16hnwybychakaryuththkarthharthi 17 MOC 17 မ င ပန rthchanhnwybychakaryuththkarthharthi 18 MOC 18 မ င ပ က rthchanhnwybychakaryuththkarthharthi 19 MOC 19 ey ရ rthmxyhnwybychakaryuththkarthharthi 20 MOC 20 က သ င phakhtanawsrihnwybychakaryuththkarthharthi 21 MOC 21 bamx ဗန မ rthkachinkxngphlthharrabeba LID kxngphlthharrabeba Light Infantry Division LID ခ မ န တပ မ or တမခ bychakarody phlctwa aetlakxngphlmikxngphnthharrabeba 10 kxngphn sngkd 3 hnwybychakaryuththkarthangyuththwithi bychakarody phnexk 3 kxngphn aelakxnghnun 1 kxngphn kxngphnthharpunihysnam 1 kxngphn kxngphnthharmayanekraa 1 kxngphn aelahnwysnbsnunxun kxngphlthharrabebathukichkhrngaerkinkxngthphbkphmaemuxpi ph s 2509 ephuxepnkxngkalngekhluxnthitxboterwsahrbptibtikarocmti kxngphlthharrabebathi 77 kxtngkhunemuxwnthi 6 mithunayn ph s 2509 tamdwykxngphlthharrabebathi 88 aelakxngphlthharrabebathi 99 insxngpithdma kxngphlthharrabebathi 77 epnhnwyhlkthisrangkhwamphayaephihkbkxngkalngkhxmmiwnistkhxngphrrkhkhxmmiwnistphma CBP sungmithantngxyuineninekhathimisphaphepnpakhxngethuxkekhaphaokhtxnklanginchwngklangkhristthswrrs 1970 kxngphlthharrabebaxiksamaehngidrbkarkxtnginchwngkhrunghlngkhxngkhristthswrrs 1970 kxngphlthharrabebathi 66 55 aela 44 odymikxngbngkhbkarxyuthiemuxngaepr xxngbn aelasaethim tammadwykarkxtngkxngphlthharrabebaxiksxngaehnginchwngkxnrthprahar ph s 2531 kxngphlthharrabebathi 33 mikxngbngkhbkarxyuthisaikng aelakxngphlthharrabebathi 22 mikxngbngkhbkarxyuthiphaxn kxngphlthharrabebathi 11 kxtngkhunineduxnthnwakhm ph s 2531 odymikxngbngkhbkarxyuthi xindin phakhphaokh aelakxngphlthharrabebathi 101 kxtngkhuninpi ph s 2534 odymikxngbngkhbkarxyuthipaokhaku kxngphlthharrabebaaetlaaehngidrbkhasngcaknaythharradb phlctwa Bo hmu gyoke prakxbdwykxngphnthharrabeba 10 kxngphn thiidrbkarfukmaepnphiessinkartxtankarkxkhwamimsngb ptibtikar khnhaaelathalay ephuxtxtanklumkxkhwamimsngbthangchatiphnthuaelakxngkalngkhayatidyaesphtid kxngphnehlanicdxyuphayit 3 hnwybychakaryuththkarthangyuththwithi TOC Nee byu har hnwybychakaryuththkarthangyuththwithiaetlaaehngcaidrbkhasngcak phnexk Bo hmu gyi prakxbdwykxngphnrbtngaet 3 hnwykhunip odymikarcdhnwybngkhbbychaaelakarsnbsnunthikhlaykhlungkbkxngphlnxyinkxngthphtawntk kxngphnthharrabhnungkxngxyuinsthanakhxngkxnghnun inpi ph s 2543 kxngphlthharrabebathnghmdmihnwypunihysnamepnhnwysnbsnunkhxngtnexng twxyangechn txnnikxngrxythharpunihysnamthi 314 epnswnhnungkhxngkxngphnthharrabebathi 44 aelw kxngphnthharrabebabangaehngidrbkarfukptibtikarkraoddrmaelasngthangxakas aelakxngphlthharrabeba 2 kxngphlidthukddaeprsphaphepnthharrabyanekraadwykxngphlpunihy kxngphnladtraewnyanekraa aelakxngphnrththng kxngphlthharrabebathuxepnkxngkalngechingyuththsastrkhxngkxngthphbkphma aelahlngcakkarprbokhrngsranghnwyaelakarprbokhrngsrangkarbngkhbbychakhxngkxngthphphmaihminpi ph s 2533 inpccubnkxngphlthharrabebaxyuphayitkarrbphidchxbodytrngcakesnathikarthharbk kxngthphbk kxngphlthharrabeba LID tra pikxtng hnwybychakar phubychakarkhnaerk khnpccubn hmayehtukxngphlthharrabebathi 11 11th Light Infantry Division 2531 xindin phnexk win minth ekidkhunhlngrthprahar ph s 2531kxngphlthharrabebathi 22 22nd Light Infantry Division 2530 phaxn phnexk tin hla ekiywkhxngkbkarprabpramphuprathwngthiimmixawuthrahwangkarlukhuxinrabxbprachathipity karkxkarkaerib 8888kxngphlthharrabebathi 33 33rd Light Infantry Division 2527 mnthaely txmaipthi saikng phnexk cx ba ekiywkhxngkbkarprabpramchaworhincainrthyaikhthangtxnehnux miswnrwminkhwamkhdaeynginrthkachinkxngphlthharrabebathi 44 44th Light Infantry Division 2522 saethim phnexk myt thin phubychakarkhnkxn phlctwa ex min nxng thuksngharhlngcakehlikhxpetxrthukyingtkinpi 2566kxngphlthharrabebathi 55 55th Light Infantry Division 2523 saikng txmaipthi kalx phnexk ofn minth yxmaephtxkxngthphphnthmitrprachathipityaehngchatiemiynma emuxwnthi 26 thnwakhm ph s 2566 sungrwmthung phubychakar phlctwa sx emiyw winkxngphlthharrabebathi 66 66th Light Infantry Division 2519 xinnma phnexk txng sar ikhngkxngphlthharrabebathi 77 77th Light Infantry Division 2509 mxbi txmaipthi phaokh phnexk thin swikxngphlthharrabebathi 88 88th Light Infantry Division 2510 makew phnexk thn tinkxngphlthharrabebathi 99 99th Light Infantry Division 2511 emathila phnexk cx thin ekiywkhxngkbkarprabpramchaworhincainrthyaikhthangtxnehnuxkxngphlthharrabebathi 101 101st Light Infantry Division 2534 paokhaku phnexk sxw tun kxngphlthharrabebathi 101 thuksngipinrahwangkarkwadlangfaykhawkrxngthangthharinpi ph s 2547 phubychakarkxngphlctwa min min thun thukcbodykxngthphpldplxychatitaxxnghnwykhipnawuth punihy aelarthhumekraa hnwykhipnawuth punihy aelarthhumekraaimidichthukichnganinbthbathxisra aetkrathrwngklaohmidnaipichinkarsnbsnunthharrabtamkarrxngkhx krmkarthharpunihyaelaehlayanekraakthukaebngxxkepnehlaaeykkninpi ph s 2544 krmkarthharpunihyaelaehlathharkhipnawuthkaebngxxkepnehlathiaeykcakkninpi ph s 2552 karkhyaykalngphayitkrmthharehlanitammadwyxupkrnthicdhacakcin rsesiy yuekhrnaelaxinediy krmkarthharkhipnawuth hnwypunihykhipnawuthphma hnwybychakaryuththkarkhipnawuththi 1 hnwybychakaryuththkarkhipnawuththi 1 Missile Operational Command MOC prakxbipdwy kxngbychakarkxngphnkhipnawuth 10 khipnawuthkrmkarthharpunihy hnwythharpunihyphma kxngphnthharpunihythi 1 kxtngkhuninpi ph s 2495 odymipunihycanwn 3 krabxk xyuphayitkxngxanwykarkhxngehlathharpunihy mikarcdtngkxngphnpunihyxik 3 kxngphninplaypi ph s 2495 rupaebbniyngkhngimepliynaeplngcnkrathng ph s 2531 tngaetpi ph s 2543 krmkarthharpunihyidduaelkarkhyayhnwybychakaryuththkarthharpunihy Artillery Operations Command AOC cak 2 epn 10 hnwy khwamtngicthirabuiwkhxngkxngthphphmakhuxkarcdtnghnwybychakaryuththkarthharpunihythikhuntrngtxthng 12 kxngbngkhbkarkxngbychakarphumiphakhthhar RMC inpi ph s 2543 thharpunihykhxngkxngthphphmamikxngphnpraman 60 kxngphn aelakxngrxythharpunihyxisraxik 37 kxngrxy sngkdkxngbychakarphumiphakhthhar RMC kxngphlthharrabeba LID hnwybychakaryuththkarthhar MOC aelahnwybychakaryuththkarphumiphakh ROC echn kxngrxythharpunihythi 314 xyuphayitkxngphlthharrabebathi 44 kxngrxythharpunihythi 326 sngkdhnwybychakaryuththkarthharthi 5 kxngrxythharpunihythi 074 xyuphayitkarbngkhbbychakhxnghnwybychakaryuththkarphumiphakh baom aelakxngrxythharpunihythi 076 xyuphayitbngkhbbychakhxngkxngthphnxyphakhtawnxxkechiyngehnux kxngphnthharpunihycanwn 20 kxngphnnicdklumxyuphayithnwybychakaryuththkarthharpunihythi 707 Artillery Operations Command AOC inemuxngecaapadxng aelahnwybychakaryuththkarthharpunihythi 808 AOC inemuxngoxkhthwin iklemuxngtxngxu kxngphnthiehluxxik 30 kxngphn rwmthungkxngphnthharpunihytxtanxakasyan 7 kxngphn xyuphayitkxngxanwykarkxngthphnxythharpunihy hnwybychakaryuththkarthharpunihy AOC kxngbychakarkxngphn kxngphnthharpunihy 13 kxngphn kxngphnthharpunihysnameba 6 kxngphn prakxbdwy khnad 105 mm 76 mm 75 mm aela kxngphnthharpunihysnamklang 3 kxngphn prakxbdwy khnad 155 mm 130 mm 122 mm aela kxngphnekhruxngyingcrwdhlaylaklxng 1 kxngphn prakxbdwy ekhruxngyingcrwdhlaylaklxngkhnad 122 mm aela 240 mm ekhruxngyingxttacraelaaebblakcung kxngphnthharpunihypxngknphythangxakas 1 kxngphn prakxbdwy puntxtanxakasyankhnad 37 mm 57 mm hrux SA 18 IGLA xawuthplxyphiwphunsuxakasaebbphkpha aela kxngphnthharpunihykhnhaepahmay 1 kxngphn hnwysnbsnun kxngphnthharpunihysnameba prakxbdwy kxngrxythharpunihysnam 3 kxngrxy phrxmdwypunihysnamhruxpunihywithiokhng 36 krabxk 12 krabxktxkxngrxy kxngphnthharpunihykhnadklang prakxbdwy kxngrxythharpunihykhnadklang 3 kxngrxy phrxmdwypunihysnamhruxpunihywithiokhng 18 krabxk pun 6 krabxktx 1 kxngrxy inpi ph s 2554 punihysnamthnghmdkhxngkxngthphnxythharpunihyphmakalngxyurahwangokhrngkarephimprasiththiphaph rwmthungrabbkhwbkhumkaryingdwyciphiexs hnwybychakaryuththkarthharpunihy AOC kxngbychakar hmayehtuhnwybychakaryuththkarthharpunihythi 505 marid မ တ hnwybychakaryuththkarthharpunihythi 707 က က ပန တ င hnwybychakaryuththkarthharpunihythi 606 saethim သထ hnwybychakaryuththkarthharpunihythi 808 xxkhthwin အ ပ တ င မ hnwybychakaryuththkarthharpunihythi 909 mxngkhxn echiyngtunghnwybychakaryuththkarthharpunihythi 901 bx enth ci ဘ နက က ပ ခ တ င hnwybychakaryuththkarthharpunihythi 902 nungkiwhnwybychakaryuththkarthharpunihythi 903hnwybychakaryuththkarthharpunihythi 904 omyin မ ည င hnwybychakaryuththkarthharpunihythi 905 paedxin ngaepkrmkarthharyanekraa ehlayanekraaphma kxngrxyyanekraathi 1 aelakxngrxyyanekraathi 2 kxtngkhunineduxnkrkdakhm ph s 2493 phayitkxngxanwykarkxngthphnxythharyanekraaaelapunihy phrxmdwyrththngechxraemn rththngebascwrt rthsekathhmebxr rthhumekraaefxrert aelayuniewxresl aekhriexxr thngsxngkxngrxynirwmknemuxwnthi 1 phvscikayn ph s 2493 klayepnkxngphnyanekraathi 1 mikxngbychakarxyuthiminkalaodn emuxwnthi 15 phvsphakhm ph s 2495 kxngphnrththngidkxtngkhunphrxmkbrththngkhxemtcanwn 25 khnthiidmacakshrachxanackr kxngphlthharyanekraahruxthieriykwa hnwybychakaryuththkarthharyanekraa Armoured Operations Command AROC phayitkarbngkhbbychakhxngkxngxanwykarkxngthphnxythharyanekraa idmikarkhyayhnwycak 1 epn 2 hnwy aetlahnwymikxngphnrbyanekraa 4 kxngphn prakxbipdwy aelarthlaeliyngphlhumekraa kxngphnrththng 3 kxngphn prakxbipdwwy rththnghlk aelakxngphnrththng 3 kxngphn prakxbipdwy rththngeba inklangpi ph s 2546 kxngthphphmaidsuxrththnghlkthi 72 canwn 139 khncakyuekhrn aelalngnaminsyyasrangaelakxsrangorngnganinphmaephuxphlitaelaprakxbrthlaeliyngphlhumekraabithixar 1 000 khn inpi ph s 2547 inpi ph s 2549 rthbalxinediyidoxnrththnghlk thi 55 imrabucanwnthikalngthukpldpracakaripyngkxngthphphma phrxmdwypunihysnameba 105 mm rthlaeliyngphlhumekraa aelaehlikhxpetxrrbeba HAL ephuxaelkkbkarsnbsnunaelakhwamrwmmuxkhxngkxngthphphmainkarkwadlangklumtidxawuthxinediythiptibtikarcakthaninphma hnwybychakaryuththkarthharyanekraa AROC hnwybychakaryuththkarthharyanekraa Armoured Operations Command AROC ethiybethakbkxngphlyanekraaxisrainpraethstawntk pccubnmihnwybychakaryuththkarthharyanekraa 5 hnwy sngkdkxngxanwykarkxngthphnxythharyanekraa tamthaeniybkalngrbkhxngkxngthphphma kxngthphphmawangaephnthicacdtnghnwybychakaryuththkarthharyanekraa AROC inaetlahnwyin 7 kxngbychakarphumiphakhthhar tamrupaebbkhxngkxngphlthharyanekraainkxngthphbkphma prakxbdwy kxngbychakar hnwybychakaryuththkarthangyuththwithiyanekraa 3 hnwy aetlahnwymikxngphnthharrabyanekraa 1 kxngphn prakxbipdwy biexmphi 1 canwn 44 khn hruxrthrbthharrab exmexwi 1 kxngphnrththng 2 kxngphn prakxbdwy rththnghlk 44 khn inaetlakxngphn kxngphnladtraewnyanekraa 1 kxngphn prakxbdwy rththngebasaethinnasaethinbk ithp 63A canwn 32 khn kxngphnthharpunihysnam 1 kxngphn aelakxngphnsnbsnun 1 kxngphn kxngphnsnbsnunprakxbdwykxngrxythharchang kxngrxysngkalngbarung 2 kxngrxy aelakxngrxythharsuxsar 1 kxngrxy kxngthphbkphmaidsuxrthhumekraa EE 9 Cascavel thiidrbkarprbprungihmpraman 150 khncakbristhxisraexlinpi ph s 2548 sungcdxyuinpracakarkxngthphbkwaepnrththngeba pccubn Cascavel pracakarxyuinrthchantawnxxkaelabriewnphakhsamehliymiklkbchayaednithy hnwybychakaryuththkarthharyanekraa ArOC kxngbychakar hmayehtuhnwybychakaryuththkarthharyanekraathi 71 pyx baew ပ ဘ ယ hnwybychakaryuththkarthharyanekraathi 72 oxnthxw အ န တ hnwybychakaryuththkarthharyanekraathi 73 malun မလ န hnwybychakaryuththkarthharyanekraathi 74 xinethng အင တ င hnwybychakaryuththkarthharyanekraathi 75 thakara သ ဂရ sanknganphubychakarpxngknphythangxakas punihypxngknphythangxakasphma sanknganphubychakarpxngknphythangxakas Office of the chief of Air Defence လ က င ရန က က ယ ရ တပ ဖ အရ ရ ခ ပ ရ epnhnunginehlahlkkhxngkxngthphphma kxtngkhunepnkxngbychakarpxngknthangxakas Air Defence Command inpi ph s 2540 aetimidptibtikarxyangetmrupaebbcnkrathngplaypi ph s 2542 idepliynchuxepnsankpxngknthangxakasintnpi ph s 2543 krathnginchwngtnpi ph s 2543 kxngthphphmaidcdtngrabbpxngknphythangxakasaebbburnakaraehngphma Myanmar Integrated Air Defence System MIADS မ န မ အလ စ ပ င စပ လ က င ရန က က ယ ရ စနစ dwykhwamchwyehluxcakrsesiyaelacin epnsankbrikarrwmthimihnwycakkxngthphthngsamehla yuthothpkrnpxngknphythangxakasthnghmd ykewnkxngphnpunihytxtanxakasyankhxngkxngthphbk carwmxyuinrabbpxngknphythangxakasaebbburnakaraehngphma MIADS krmkarthharsuxsar ehlathharsuxsarphma imnanhlngidrbexkrachinpi ph s 2491 ehlathharsuxsarphmaidkxtngkhunodymihnwycakhnwysuxsarphma hruxthiruckinchuxehla exks prakxbdwykxngbychakarsuxsarphma kxngrxykarfuksyyanphma Burma Signal Training Squadron BSTS aelakxngrxysyyanphma Burma Signals Squadron BSS kxngbychakarsyyanphmatngxyuphayinsankngansngkhram kxngrxykarfuksyyanphmasungmisanknganihyinemuxngpyinxulwin kxtngkhunodymikxngfukxbrmptibtikarkarekharhs kxngfukxbrmkarsuxsarerngdwn kxngfukxbrmkarsuxsardwysay kxngkalngfukxbrmchangwithyu aelakxngkalngfukxbrmsyyankrmthhar kxngrxysyyanphmamithanxyuinminkalaodn prakxbdwy 9 aephnk idaek hnwysarbrrn hnwysxmbarung hnwyptibtikar hnwykarekharhs hnwysuxsardwysayaelakarsuxsarerngdwn hnwythharsyyan NBSD hnwythharsyyan SBSD hnwysyyankxngphlnxyekhluxnthi aela hnwythharsyyanyaikh hwhnaecahnathisyyan Chief of Signal Staff Officer CSO inkhnannkhux phnoth sx xxng din phayhlngepliynchuxkxngrxykarfuksyyanphma BSTS aelakxngrxysyyanphma BSS epnkxngphnthharsuxsarthi 1 aelakxngphnfukxbrmthharsuxsarthi 1 inpi ph s 2495 krmthharsuxsarkxngphlthharrabidthukkxtngkhun aelatxmaidepliynchuxepn kxngphnthharsuxsarthi 2 kxngbychakarthharsuxsarphmaidrbkarcdrupaebbihmaelaklayepn krmkarthharsuxsar aelaphubychakaridrbkarykradbkarbychakarepnphnexk inpi ph s 2499 kxngphnrksakhwamplxdphythharsuxsar 1 idrbkarcdtngkhun tammadwykxngphnthharsuxsarthi 3 ineduxnphvscikayn ph s 2501 aelakxngphnthharsuxsarthi 4 ineduxntulakhm ph s 2502 ph s 2504 idmikarcdkxngphnthharsuxsarihmihxyuinkxngbychakarphumiphakhthhar RMC epn kxngphnthharsuxsarthi 11 sngkdkxngthphnxyphakhtawnxxkechiyngehnux kxngphnthharsuxsarthi 121 sngkdkxngthphnxyphakhtawnxxk kxngphnthharsuxsarthi 313 sngkdkxngthphnxyphakhklang kxngphnthharsuxsarthi 414 sngkdkxngthphnxyphakhtawntkechiyngit aelakxngphnthharsuxsarthi 515 sngkdkxngthphnxyphakhtawnxxkechiyngit khnathikxngphnfukxbrmthharsuxsarthi 1 epliynchuxepn orngfukthharsuxsarphma baoh estewey tad phayinpi ph s 2531 krmkarthharsuxsarprakxbipdwyorngfukthharsuxsar 1 aehng kxngphnthharsuxsar 8 kxngphn kxngphnrksakhwamplxdphythharsuxsar 1 kxngphn khlngthharsuxsar 1 aehng aelaorngptibtikarthharsuxsar 2 aehng ehlathharsuxsarphayitkrmkarthharsuxsaridmikarprbkhyaykhnadhnwyxikinchwngpi ph s 2533 odykhyayaelakarprbokhrngsrangekhaipipinkxngthphphma phayinpi ph s 2543 kxngphnthharsuxsarnnmipracaxyuinaetlakxngbychakarphumiphakhthhar RMC aelakxngrxythharsuxsarcapracaxyuinkxngphlthharrabeba LID aelahnwybychakaryuththkarthhar MOC inpi ph s 2543 rabbbychakar karkhwbkhum aelakarsuxsarkhxngkxngthphbkphmaidrbkarykradbkhrngihy odykarcdtngekhruxkhaykarsuxsariyaekwnaaesngkhxngkxngthph sungcdkarodykrmkarthharsuxsarthwpraeths tngaetpi ph s 2545 kxngbychakarphumiphakhthharkhxngkxngthphbkphmathnghmdichrabbothrkhmnakhmkhxngtnexng nxkcakni yngmikarechuxmtxkarsuxsarphandawethiymipyngkxngphnthharrabswnhna xyangirktam rabbkarsuxsarphayinsnamrbyngkhngyaaey hnwythharrabyngkhngichwithyusuxsaraebb TRA 906 aela PRM 4051 sungidmacakshrachxanackrinchwngkhristthswrrs 1980 kxngthphbkphmayngichchudwithyuaebb TRA 906 Thura aela XD D6M khxngcinthiphlitinthxngthin chudaehndestaebbkraoddkhwamthithiidrbkartidtngiwkbhnwyinaenwhnathnghmd rahwangpi ph s 2543 thung ph s 2548 kxngthphbkphmasuxchudwithyu Brett 2050 Advanced Tech canwn 50 ekhruxngcakxxsetreliyphanbukhkhlthisamcaksingkhopr withyuehlanncathukaeckcayihkbhnwybychakaryuththkarphumiphakh ROC inphakhklangaelatxnbnephuxichinkarptibtikartxtankarkxkhwamimsngb krmkaraephthy inchwngthiidrbexkrachinpi ph s 2491 ehlathharaephthymiorngphyabalthharpracathansxngaehng aetlaaehngmietiyng 300 etiynginminkalaodnaelapyinxulwin sungepnkhlngkaraephthyinyangkung hnwythntkrrm 1 aehng aelasthanirbrxngkhxngkhay 6 aehng tngxyuinmyicina sittew txngxu pyinmana phaokh aelaemathila rahwangpi ph s 2501 thung ph s 2505 ehlathharaephthyidrbkarprbokhrngsrangihm aelasthanirbrxngkhxngkhaythnghmdidrbkarcdraebiybihmepnkxngphnthharesnarks inpi ph s 2532 krmkaraephthyidkhyaykhidkhwamsamarthipphrxmkbthharrabxyangminysakhy inpi ph s 2550 miorngphyabalkxngthph Defence Services General Hospital khnad 1 000 etiyngcanwn 2 aehng minkalaodnaelaenpyidx orngphyabalkhnad 700 etiyngcanwn 2 aehng inemuxngpyinxulwinaelaxxngbn orngphyabalthharkhnad 500 etiyngcanwn 2 aehng inemuxngemathilaaelayangkung orngphyabalkxngthphdankradukaelakhxkhnad 500 etiyng 1 aehng inminkalaodn orngphyabalkxngthphdansutinriewchaelaedk khnad 300 etiyngcanwn 2 aehng minkalaodnaelaenpyidx orngphyabalthharkhnad 300 etiyngcanwn 3 aehng myicina aexn aelaechiyngtung orngphyabalthharkhnad 100 etiyngcanwn 18 aehng emuxngephchr ban xinidng bathu marid aepr lxykx nasa laesiyw kael mxngsad thway ekaasxng elaik tandxng makew sittew aelahxmmalin kxngphnthharesnarkssnamcanwn 14 kxngphn sungsngkdkxngbychakarphumiphakhthhartang thwpraeths kxngphnthharesnarkssnamaetlakxngphnprakxbdwykxngrxythharesnarkssnam 3 kxngrxy odymihnwythharesnarkssnam 3 hnwy aelathimphuechiywchayaetlahnwy hnwykhwbkhumorkhaelasukhphaph HDCU mihnathipxngkn khwbkhum aelakhcdorkh hnwy kxngbychakar kxngbychakarphumiphakhthharsunyehlathharaephthy kxngthphnxyyangkungkxngphnthharesnarkssnamthi 1 mnthaely kxngbychakarphakhklangkxngphnthharesnarkssnamthi 2 txngci kxngthphnxyphakhtawnxxkkxngphnthharesnarkssnamthi 3 txngxu kxngthphnxyphakhtawntkechiyngitkxngphnthharesnarkssnamthi 4 phasim kxngthphnxyphakhtawntkechiyngitkxngphnthharesnarkssnamthi 5 mxlamiyn kxngthphnxyphakhtawnxxkechiyngitkxngphnthharesnarkssnamthi 6 mxbi kxngthphnxyyangkungkxngphnthharesnarkssnamthi 7 omnywa kxngthphnxyphakhtawntkechiyngehnuxkxngphnthharesnarkssnamthi 8 sittew kxngthphnxyphakhtawntkechiyngitkxngphnthharesnarkssnamthi 9 omyin kxngthphnxyphakhehnuxkxngphnthharesnarkssnamthi 10 laesiyw kxngthphnxyphakhtawnxxkechiyngehnuxkxngphnthharesnarkssnamthi 11 bamx kxngthphnxyphakhehnuxkxngphnthharesnarkssnamthi 12 echiyngtung kxngthphnxyphakhtawnxxkkxngphnthharesnarkssnamthi 13 marid kxngthphnxychayfngkxngphnthharesnarkssnamthi 14 kxngthphnxyyangkunghnwykhwbkhumorkhaelasukhphaph kxngthphnxyyangkungkarfuksthabnaelawithyalypxngknpraeths sthabnkarsuksa thitng National Defence College NDC enpyidx န ပ ည တ Defence Services Command and General Staff College DSCGSC ကလ Defence Services Academy DSA pyinxulwin ပ င ဦ လ င Defence Services Technological Academy DSTA pyinxulwin ပ င ဦ လ င Defence Services Medical Academy DSMA yangkung ရန က န Military Institute of Nursing and Paramedical Science MINP yangkung ရန က န Military Computer And Technological Institute MCTI xditwithyalyethkhonolyikarthhar MTC pyinxulwin ဟ ပ orngeriynfukthhar orngeriynfukthhar thitng Officer Training School OTS orngeriynfukkarrbkhnphunthan khaybathuorngeriynkalngrbthharbkthi 1 khaybathuorngeriynkalngrbthharbkthi 2orngeriynfukthharpunihy omnithorngeriynfukthharyanekraa emuxngemaorngeriynsngkhramxielkthrxniks pyinxulwinorngeriynthharchang pyinxulwinorngeriynsngkhramsarsneths yangkungorngeriynfukxbrmthangxakas thangbk aelaphlrmorngeriynkxngkalngphiessekhruxnghmayysysthharchnsyyabtr ekhruxnghmayyskhxng klumchnys nayphl naythharchnnayphl naythharsyyabtrxawuos naythharsyyabtr nkeriynnayrxy kxngthphbkphma dkဗ လ ခ ပ မ က Builʻkhyupʻmhuʺkriʺ ဒ တ ယ ဗ လ ခ ပ မ က Dutiya builʻkhyupʻmhuʺkriʺ ဗ လ ခ ပ က Builʻkhyupʻkriʺ ဒ တ ယ ဗ လ ခ ပ က Dutiya builʻkhyupʻkriʺ phloth ဗ လ ခ ပ Builʻkhyupʻ phltri ဗ လ မ ခ ပ Builʻmhuʺkhyupʻ phlctwa ဗ လ မ က Builʻmhuʺkriʺ phnexk ဒ တ ယ ဗ လ မ က Dutiya builʻmhuʺkriʺ phnoth ဗ လ မ Builʻmhuʺ phntri ဗ လ က Builʻkriʺ rxyexk ဗ လ Builʻ rxyoth ဒ တ ယ ဗ လ Dutiyabuilʻ rxytri ဗ လ လ င Builʻloṅʻʺ nkeriynnayrxyysthharchnprathwn ekhruxnghmayyskhxng klumchnys naythharprathwnxawuos naythharprathwn phlsmkhr aelaphlthhar kxngthphbkphma dk immiekhruxnghmay immiekhruxnghmayအရ ခ ဗ လ araakhaṃ bauilaʻ naydabexk ဒ တ ယအရ ခ ဗ လ dautaiya araakhaṃ bauilaʻ naydaboth တပ ခ တပ က ပ က tapaʻ khavai tapaʻ karpaʻ kariʺ cakxngrxy တပ က ပ က tapaʻ karpaʻ kariʺ sibexk တပ က ပ tapaʻ karpaʻ siboth ဒ တ ယတပ က ပ dautaiya tapaʻ karpaʻ sibtri တပ သ tapaʻ saaʺ phlthhar တပ သ သစ tapaʻ saaʺ sacaʻ thharihmthaeniybkalngrb14 kxngbychakarphumiphakhthhar RMC cdxyuin 6 kxngyuththkarphiess BSO 6 hnwybychakaryuththkarphumiphakh ROC 20 hnwybychakaryuththkarthhar MOC rwmthung 1 kxngphlthharrabsngthangxakas 10 kxngphlthharrabeba LID 5 hnwybychakaryuththkarthharyanekraa AOC aetlahnwyprakxbipdwykxngphnrththng 6 kxngphn aelakxngphnthharrabyanekraa 4 kxngphn rthlaeliyngphlhumekraa 10 hnwybychakaryuththkarthharpunihy AOC phrxmdwykxngphnthharpunihysnam 113 kxngphn 9 hnwybychakaryuththkarpxngknphythangxakas 1 hnwybychakaryuththkarkhipnawuth 40 kxngrxyrksakhwamplxdphykickarthhar hnwyrksakhwamplxdphykickarthhar ekhamaaethnthihnwykhawkrxngthangthharinxdit hlngcakkaryubkxngxanwykarhnwykhawkrxngklaohm Directorate of Defence Service Intelligence DDSI 45 kxngphnthharsuxsarkhnsung 54 kxngphnthharchangsnam 4 kxngphnthharchangyanekraa 14 kxngphnthharesnarksyuthothpkrnduephimenwin tamadx kxngthphxakasphma kxngkalngtarwcphmahmayehtutrasylksnniyngepnxarmtidihl SSI khxngsanknganxangxing Official site of Commander in Chief s Office of the Myanmar Armed Forces cakaehlngedimemux 14 June 2022 subkhnemux 17 June 2022 15 February 2023 The Military Balance 2023 London p 275 ISBN 9781032508955 Border Guard Force Scheme Myanmar Peace Monitor 11 January 2013 cakaehlngedimemux 21 August 2020 subkhnemux 8 August 2020 Maung Zaw 18 March 2015 Myanmar Times khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 19 February 2021 subkhnemux 8 August 2020 The Asian Conventional Military Balance 2006 PDF 26 mithunayn 2006 p 4 PDF cakaehlngedimemux 29 emsayn 2011 subkhnemux 20 minakhm 2011 Associated Press 1 minakhm 2011 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 28 mithunayn 2011 subkhnemux 9 minakhm 2011 Working Papers Strategic and Defence Studies Centre Australian National University Selth Andrew 2002 Burma s Armed Forces Power Without Glory Eastbridge ISBN 1 891936 13 1 20 May 1981 7 July 1983 Land of Jade Asiaweek 21 February 1992 The Defence of Thailand Thai Government issue p 15 April 1995 7 tulakhm 2006 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 13 phvsphakhm 2011 subkhnemux 28 krkdakhm 2010 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint unfit URL WP 342 Australian National University phmaepliynphb kxngyuththkarphiess khadrbhnathiklxmklumhyudying prachatai com a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint url status lingk cdihm khrm phma aeyk k phlngngan iffa oyk phl th tanhlay cak mth klbkxngthph mgronline com 2022 05 04 Myanmar Army Regional Military Commands Global Security GlobalSecurity org cakaehlngedimemux 24 August 2021 subkhnemux 23 September 2021 Myoe Maung Aung Building the tatmadaw Myanmar Armed Forces Since 1948 Institute of SouthEast Asian Studies ISBN 978 981 230 848 1 Junta Expands Military cakaehlngedimemux 2 minakhm 2011 subkhnemux 6 minakhm 2011 မ န မ စစ တပ ဘ က င အ နည သ သလ phasaphma BBC News မ န မ 2024 01 02 subkhnemux 2024 04 07 မ ဦ ရ င န 2024 02 08 စကခ ၉ လက အ က ခ ခ မ န တပ ရင ၁၀ ရင လ AA သ မ ယ Myanmar Now subkhnemux 2024 04 07 ရက ခ င တပ တ ၃ လတ တ က ပ အတ င တပ မမ န င ဗ ဟ မ အဆင ၂ ဦ အ အရ င ဖမ မ ပ ၂ ဦ အ အသ မ Narinjara News phasaphma subkhnemux 2024 04 07 လ က က င မ လက နက ခ တ တပ မ တ သ ဒဏ တကယ ပ ခ ရသလ phasaphma BBC News မ န မ 2024 01 24 subkhnemux 2024 04 07 views MLAT in သတင သတင တ 19 January 2024 1110 ရ မ မ က မ လက နက ခ ဖမ ဆ ခ ရတ ဗ လ မ ခ ပ တ န ရ က လ စ ထ ခန myaelattathan org subkhnemux 2024 04 07 Myanmar s Brotherhood Alliance Seizes Two More Towns in Shan State သ န န မ သဘ ဝဘ အန တရ ယ က တင က က ယ ရ ပ င ဆင စ ဖ ခ င လ ပ ငန ဆ င ရ က Information and Public Relations Department moi gov mm subkhnemux 2024 04 07 How Myanmar s shock troops led the assault that expelled the Rohingya Reuters phasaxngkvs 26 mithunayn 2018 cakaehlngedimemux 17 krkdakhm 2018 subkhnemux 28 singhakhm 2018 Myanmar Infantry Division Surrenders in Laukkai Shan State Reports လ က က င မ လက နက ခ တ တပ မ တ သ ဒဏ တကယ ပ ခ ရသလ phasaphma BBC News မ န မ 2024 01 24 subkhnemux 2024 04 07 က ထက မ တ ပ တ ၁၀၁ တပ မမ မင မင ထ န အက င subkhnemux 2024 04 07 odythang YouTube khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 5 mithunayn 2011 subkhnemux 13 knyayn 2011 Defense19 cakaehlngedimemux 24 knyayn 2015 subkhnemux 29 phvscikayn 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 5 December 2014 subkhnemux 12 March 2015 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint unfit URL IndraStra Global Editorial Team 30 tulakhm 2020 Myanmar Integrated Air Defense System cakaehlngedimemux 31 tulakhm 2020 subkhnemux 7 thnwakhm 2015 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 6 thnwakhm 2014 subkhnemux 29 phvscikayn 2014 orngeriynnayrxy kxngthphemiynma www matichon co th a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint url status lingk Air Defense Stealth Killer Missile Sales Soar Explore Our Collection of Study Guides eNotes combrrnanukrmSamuel Blythe Army conditions leave Myanmar under strength Vol 43 Issue 14 5 April 2006 12 Beech Hannah 4 April 2021 Inside Myanmar s Army They See Protesters as Criminals New York Times subkhnemux 11 April 2021 aehlngkhxmulxunRole of officers in Burmese Army Part 1 25 kumphaphnth 2012 thi ewyaebkaemchchin Bo Htet Min 23 January 2010