พนัสนิคม เป็นอำเภอของจังหวัดชลบุรี พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม ประชากรส่วนใหญ่นับถือพุทธศาสนา อดีตมีสถานะเป็นเมืองชั้นจัตวา ชื่อเมืองพนัสนิคม สังกัดกรมท่า ต่อมาย้ายไปสังกัดกระทรวงมหาดไทย และมาเป็นอำเภอพนัสนิคมขึ้นกับเมืองชลบุรี มณฑลปราจีน ในปัจจุบันเป็นอำเภอในจังหวัด
อำเภอพนัสนิคม | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Amphoe Phanat Nikhom |
คำขวัญ: พระพนัสบดีคู่บ้าน จักสานคู่เมือง ลือเลื่องบุญกลางบ้าน ตำนานพระรถ-เมรี ศักดิ์ศรีเมืองสะอาด เก่งกาจการทายโจ๊ก | |
แผนที่จังหวัดชลบุรี เน้นอำเภอพนัสนิคม | |
พิกัด: 13°27′6″N 101°10′36″E / 13.45167°N 101.17667°E | |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | ชลบุรี |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 450.9 ตร.กม. (174.1 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2566) | |
• ทั้งหมด | 125,851 คน |
• ความหนาแน่น | 279.11 คน/ตร.กม. (722.9 คน/ตร.ไมล์) |
รหัสไปรษณีย์ | 20140, 20240 (เฉพาะหมู่ที่ 4-5, 8-11, 14-15 ตำบลนาเริก และหมู่ที่ 4-6, 10-11 ตำบลนาวังหิน) |
รหัสภูมิศาสตร์ | 2006 |
ที่ตั้งที่ว่าการ | ที่ว่าการอำเภอพนัสนิคม ถนนเมืองเก่า ตำบลพนัสนิคม อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี 20140 |
ส่วนหนึ่งของ |
ชลบุรี
ที่ตั้งและอาณาเขต
อำเภอพนัสนิคมตั้งอยู่ทางทิศเหนือของจังหวัดชลบุรี ห่างจากตัวจังหวัดไปทางตะวันออกประมาณ 22 กิโลเมตรตามเส้นทางถนนศุขประยูร มีอาณาเขตติดต่อกับพื้นที่การปกครองข้างเคียงดังต่อไปนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอแปลงยาวและอำเภอบ้านโพธิ์ (จังหวัดฉะเชิงเทรา)
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอเกาะจันทร์
- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอบ่อทองและอำเภอบ้านบึง
- ทิศตะวันตก จรดอำเภอพานทอง
ประวัติศาสตร์
อนึ่งเมืองพนัสนิคมเดิมเป็นอำเภอที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดชลบุรี ปัจจุบันมีอาณาเขตเดิมอยู่ในอำเภออื่น ดังนี้
1.บ้านท่าตะกูด เป็นหมู่บ้านขึ้นกับเมืองพนัสนิคม สังกัดกรมท่า ในปี พ.ศ. 2441 มีการปฏิรูปการปกครองจัดตั้งมณฑลเทศาภิบาล ยกฐานะเป็นอำเภอท่าตะกูดและในปี พ.ศ. 2460 เปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอพานทอง
2.ตำบลหนองอิรุณและตำบลคลองพลู เป็นตำบลขึ้นกับอำเภอพนัสนิคม ในปี พ.ศ. 2481 ได้โอนย้ายมาขึ้นกับอำเภอบ้านบึง ในปี พ.ศ. 2517 จัดตั้งตำบลหนองใหญ่โดยแบ่งเขตการปกครองจากตำบลหนองอิรุณและตำบลคลองพลู ในปี พ.ศ. 2524 ยกฐานะเป็นอำเภอหนองใหญ่
3.ตำบลบ่อทอง เป็นตำบลขึ้นกับอำเภอพนัสนิคม ในปี พ.ศ. 2528 ยกฐานะเป็นอำเภอบ่อทอง
4.ตำบลท่าบุญมี เป็นตำบลขึ้นกับอำเภอพนัสนิคม ในปี พ.ศ. 2550 ยกฐานะเป็นอำเภอเกาะจันทร์
ยุคก่อนประวัติศาสตร์ช่วงเก่าที่สุดที่พบในพนัสนิคมคือแหล่งโบราณคดีโคกพนมดี สมัยหินใหม่ 3,500-4,000 ปีมาแล้ว บริเวณบ้านโคกพนมดี ตำบลท่าข้าม โดยนักโบราณคดีขุดพบโครงกระดูกเจ้าแม่แห่งโคกพนมดี มีลูกปัดนับแสนเม็ดฝังรวมอยู่ และแหล่งโบราณคดีหนองโน สมัยสำริด 2,700-3,100 ปีมาแล้ว บริเวณตำบลไร่หลักทอง
สมัยทวารวดี พบเมืองโบราณอายุราว 1,500 ปี บริเวณตำบลหน้าพระธาตุ ต่อมาเรียกสมัยหลังว่าเมืองพระรถ (ชื่อสมมุติจากรถเสนชาดกในปัญญาสชาดก เป็นที่แพร่หลายในชาวลาว) อายุอยู่ในราวหลัง พ.ศ. 1000 เมืองโบราณยุคทวารวดีที่พนัสนิคมนี้ได้ลดความสำคัญลงและในที่สุดรกร้างไปราวหลัง พ.ศ. 1500 เพราะเส้นทางคมนาคมเปลี่ยนไป แล้วมีบ้านเมืองแห่งใหม่ใกล้ทะเลเติบโตมีความสำคัญแทนที่
สมัยเมืองพนัสนิคม ในปี พ.ศ. 2371 กำเนิดเมืองขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชานุญาตให้กลุ่มลาวอาสาปากน้ำมาสร้างภูมิลำเนาขึ้นในพื้นที่รกร้างระหว่างเมืองชลบุรีกับเมืองฉะเชิงเทรา พระราชทานนามเมืองว่าพนัสนิคม (บางเอกสารเขียน“พนัศนิคม”) มีฐานะเป็นเมืองจัตวา ขึ้นกับกรมท่า กรุงเทพมหานคร ให้ท้าวอินทิสาร (บางเอกสารเขียน”อินทพิศาล”) หรือ ท้าวทุม ปลัดลาว เมืองสมุทรปราการ บุตรชายคนโตของท้าวไชย (บางเอกสารเขียน”ศรีวิไชย”) อุปราชเมืองนครพนม ให้เป็นเจ้าเมืองพนัสนิคมคนแรกและพระราชทานราชทินนามและบรรดาศักดิ์ที่พระอินทอาษา (บางเอกสารเขียน“อินทรอาษา, อินทอาสา, อินทราษา“) มีข้อความในพระราชพงศาวดารว่า “พวกลาวอาสาปากน้ำ ตั้งขึ้นเมื่อครั้งในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าสุลาลัย ภายหลังเมื่อปีชวดสัมฤทธิศก พวกลาวไม่สบาย ขอไปตั้งอยู่ที่เมืองพระรถ จึงโปรดให้ตัดเอาแขวงเมืองชลบุรี เมืองฉะเชิงเทรา มาตั้งเป็นเมืองขึ้นชื่อเมืองพนัศนิคม เจ้าเมืองชื่อพระอินทอาษา” (พระราชพงศาวดาร กรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3 เล่ม 2 ของ เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ฉบับคุรุสภา พิมพ์ครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. 2504 หน้า 180) โดยลาวบุกเบิกเมืองพนัสนิคม เป็นลาวเมืองนครพนม อ้างถึงการอพยพมาสยามครั้งแรกนำโดยท้าวไชย อุปราชเมืองนครพนม เป็นโอรสในพระบรมราชา (ท้าวกู่แก้ว) เจ้าเมืองนครพนม (เมืองนครพนมในอดีต เป็นหัวเมืองในราชอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ ประเทศราชของสยาม) ไม่สมัครใจอยู่ในปกครองของพระบรมราชา (มัง) เจ้าเมืองนครพนมคนใหม่ จึงอพยพพาสมัครพรรคพวก บุตรหลาน ท้าวเพี้ย ขอพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2352 และโปรดเกล้าฯให้ตั้งบ้านเรือนอยู่คลองมหาวงษ์ เมืองสมุทรปราการ ยุคนั้นจึงเรียกคนกลุ่มนี้ว่าพวกลาวอาสาปากน้ำ แต่ทนสภาพแวดล้อมไม่ไหว เพราะเป็นชาวดอนน้ำจืด ถูกให้ไปอยู่เมืองลุ่มน้ำกร่อยและเค็ม เลยขอเปลี่ยนไปอยู่ที่อื่น ซึ่งสภาพใกล้เคียงที่ดอน ลาวนครพนมกลุ่มนี้ได้บุกเบิกสร้างเมืองพนัสนิคม
พ.ศ. 2372 ภายหลังเหตุการณ์กบฏเจ้าอนุวงศ์ พระอินทอาษา เจ้าเมืองพนัสนิคม ได้ไปเกลี้ยกล่อมครอบครัวลาวเมืองนครพนม ย้ายมาอยู่ที่เมืองพนัสนิคมอีกจำนวนหนึ่ง
พ.ศ. 2391 พระอินทอาษา เจ้าเมืองพนัสนิคม คุมลาวเมืองพนัสนิคมยกไปทางบกปราบกบฏจีนตั้วเหี่ย เมืองฉะเชิงเทรา มีพรรณนาไว้ในพระราชพงศาวดารฯ เรื่องเจ้าพระยาพระคลังกับเจ้าพระยาบดินทรเดชาปราบจีนตั้วเหี่ย เมืองฉะเชิงเทรา
พ.ศ. 2394 พระอินทอาษา เจ้าเมืองพนัสนิคม คุมลาวเมืองพนัสนิคมร่วมเป็นกองกำลังอารักขาสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ามงกุฎสมมติวงศ์ วัดบวรนิเวศวิหาร เสด็จขึ้นเสวยราชย์เป็นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยได้มีพรรณนาในพระราชพงศาวดารฯ
พ.ศ. 2437 (ร.ศ.113) รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงปฏิรูปการปกครองโดยการจัดตั้งมณฑลเทศาภิบาลแทนระบบกินเมือง (เจ้าเมืองสืบตระกูล) ทรงให้หัวเมืองทั้งหมดอยู่ภายใต้บังคับบัญชาของกระทรวงมหาดไทย เมืองพนัสนิคมจึงโอนย้ายจากกรมท่า มาสังกัดมณฑลปราจีน มีบันทึกว่า “รวมหัวเมืองทางลำน้ำบางปะกง คือ เมืองปราจีนบุรี 1 เมืองนครนายก 1 เมืองพนมสารคาม 1 เมืองฉะเชิงเทรา 1 รวม 4 หัวเมือง เป็นเมืองมณฑล 1 เรียกว่า มณฑลปราจีน ตั้งที่ว่าการมณฑล ณ เมืองปราจีน ต่อเมื่อโอนหัวเมืองในกรมท่ามาขึ้นกระทรวงมหาดไทย จึงย้ายที่ทำการมณฑลลงมาตั้งที่เมืองฉะเชิงเทรา เพราะขยายอาณาเขตมณฑลต่อลงไปทางชายทะเล รวมเมืองพนัสนิคม เมืองชลบุรี และเมืองบางละมุง เพิ่มให้อีก 3 รวมเป็น 7 เมืองด้วยกัน แต่คงเรียกชื่อว่ามณฑลปราจีนอยู่ตามเดิม”
พ.ศ. 2441 ประกาศข้อบังคับลักษณะการปกครองหัวเมือง ร.ศ.117 เมืองพนัสนิคมเปลี่ยนเป็นอำเภอพนัสนิคม ขึ้นกับเมืองชลบุรี (ในปี พ.ศ. 2460 เปลี่ยนจากเมืองเป็นจังหวัดชลบุรี) มณฑลปราจีน โดยเมืองพนัสนิคมมีเจ้าเมืองสืบทอดตำแหน่ง รวม 3 คน คือ 1.พระอินทอาษา (ท้าวอินทิสาร หรือ ท้าวทุม ทุมมานนท์) 2.หลวงภักดีสงคราม (ท้าวนิล ทุมมานนท์) 3.หลวงภักดีสงคราม (ท้าวบุญจันทร์ ทุมมานนท์) และมีนายอำเภอพนัสนิคมคนแรกคือ หลวงสัจจพันธ์คีรี ศรีรัตนไพรวัน เจฏิยาสัน คามวาสี นพ-คูหาพนมโขลน (บัว ไม่ทราบนามสกุล)
การแบ่งเขตการปกครอง
การปกครองส่วนภูมิภาค
อำเภอพนัสนิคมแบ่งการปกครองท้องที่เป็น 20 ตำบล 185 หมู่บ้าน ได้แก่
1. | พนัสนิคม | (Phanat Nikhom) | - | 11. | ท่าข้าม | (Tha Kham) | 7 หมู่บ้าน | ||||||||
2. | หน้าพระธาตุ | (Na Phra That) | 11 หมู่บ้าน | 12. | หนองปรือ | (Nong Prue) | 10 หมู่บ้าน | ||||||||
3. | วัดหลวง | (Wat Luang) | 7 หมู่บ้าน | 13. | หนองขยาด | (Nong Khayat) | 8 หมู่บ้าน | ||||||||
4. | บ้านเซิด | (Ban Soet) | 8 หมู่บ้าน | 14. | ทุ่งขวาง | (Thung Khwang) | 10 หมู่บ้าน | ||||||||
5. | นาเริก | (Na Roek) | 15 หมู่บ้าน | 15. | หนองเหียง | (Nong Hiang) | 16 หมู่บ้าน | ||||||||
6. | หมอนนาง | (Mon Nang) | 12 หมู่บ้าน | 16. | นาวังหิน | (Na Wang Hin) | 11 หมู่บ้าน | ||||||||
7. | สระสี่เหลี่ยม | (Sa Si Liam) | 11 หมู่บ้าน | 17. | บ้านช้าง | (Ban Chang) | 7 หมู่บ้าน | ||||||||
8. | วัดโบสถ์ | (Wat Bot) | 11 หมู่บ้าน | 18. | โคกเพลาะ | (Khok Phlo) | 8 หมู่บ้าน | ||||||||
9. | กุฎโง้ง | (Kut Ngong) | 6 หมู่บ้าน | 19. | ไร่หลักทอง | (Rai Lak Thong) | 11 หมู่บ้าน | ||||||||
10. | หัวถนน | (Hua Thanon) | 9 หมู่บ้าน | 20. | นามะตูม | (Na Matum) | 7 หมู่บ้าน |
การปกครองส่วนท้องถิ่น
ท้องที่อำเภอพนัสนิคมประกอบด้วยการปกครองส่วนท้องถิ่น 20 แห่ง ได้แก่
- เทศบาลเมืองพนัสนิคม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลพนัสนิคมทั้งตำบล
- เทศบาลตำบลหมอนนาง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหมอนนางทั้งตำบล
- เทศบาลตำบลกุฎโง้ง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลกุฎโง้งทั้งตำบล
- เทศบาลตำบลหัวถนน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหัวถนนทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลหน้าพระธาตุ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหน้าพระธาตุทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลวัดหลวง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลวัดหลวงทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเซิด ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านเซิดทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลนาเริก ครอบคลุมพื้นที่ตำบลนาเริกทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลสระสี่เหลี่ยม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลสระสี่เหลี่ยมทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลวัดโบสถ์ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลวัดโบสถ์ทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลท่าข้าม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลท่าข้ามทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลหนองปรือ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองปรือทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลหนองขยาด ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองขยาดทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งขวาง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลทุ่งขวางทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลหนองเหียง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองเหียงทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลนาวังหิน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลนาวังหินทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านช้าง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านช้างทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลโคกเพลาะ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลโคกเพลาะทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลไร่หลักทอง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลไร่หลักทองทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลนามะตูม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลนามะตูมทั้งตำบล
พระพุทธรูปประจำเมือง
- พระพนัสบดี (ประกอบด้วยสัตว์ 3. ชนิด ครุฑ โค หงส์)
ประเพณีท้องถิ่น
- ประเพณีงานบุญกลางบ้าน
- ประเพณีไหว้พระจันทร์
สถานที่สำคัญ โบราณสถาน โบราณวัตถุ และแหล่งโบราณคดี
- พระพนัสบดี
- พระพุทธมิ่งเมือง
- หลวงพ่อติ้ว (พระติ้ว พนัสนิคม)
- โบราณสถานเมืองพระรถ พนัสนิคม
- ศาลหลักเมืองพนัสนิคม (ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองพนัสนิคม)
- โบราณสถานสระน้ำสระสี่เหลี่ยม
- โบราณสถานเนินดินโคกพนมดี
- โบราณสถานวัดโบสถ์
- โบราณสถานหอไตร วัดใต้ต้นลาน
- แหล่งโบราณคดีหนองโน
- แหล่งโบราณคดีที่ฝังศพโบราณบ้านเหนือ
- แหล่งโบราณคดีบ้านบนเนิน
- แหล่งโบราณคดีโคกพุทรา
- แหล่งค้างคาวแม่ไก่ วัดหลวงพรหมาวาส
- ถ้ำนางสิบสอง
- อนุสรณ์สถานชาตรี ศรีชล
สถานศึกษา
นามสกุลพระราชทานที่เกี่ยวข้องกับเมืองพนัสนิคม
- ตระกูลทุมมานนท์ เป็นนามสกุลพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นนามสกุลพระราชทานที่ ๑๔๐๕ "ทุมมานนท์" (เขียนแบบโรมันว่า Dummananda) อันสืบเชื้อสายมาจากพระอินทอาษา (ท้าวอินทิสาร ทุมมานนท์) เจ้าเมืองพนัสนิคมคนแรก พระราชทานแก่หลวงประพิธวยาการ (ภิรมย์ ทุมมานนท์) เลฃานุการกรมไปรษณีย์โทรเลข, นายร้อยโทพินิจ ทุมมานนท์ ผู้บังคับกองร้อยที่ ๑ กรมทหารม้าที่ ๕ (น้องชาย) และนายวัณณี ทุมมานนท์ (บิดา) ปู่นายวัณณีชื่อพระอินทราสา (ทุม)
อนึ่งตระกูลทุมมานนท์ เป็นตระกูลเจ้าเมืองพนัสนิคมและเป็นสายเครือญาติกลุ่มตระกูลเจ้านายเมืองนครพนม ในอดีตเมืองนครพนมเป็นหัวเมืองในราชอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ ประเทศราชของสยาม โดยท้าวไชย (ศรีวิไชย) อุปราชเมืองนครพนม บิดาของพระอินทอาษา (ท้าวอินทิสาร ทุมมานนท์) เจ้าเมืองพนัสนิคมนั้น สืบเชื้อสายมาจากบิดานามว่าพระบรมราชา (ท้าวกู่แก้ว) เจ้าเมืองมรุกขนคร (ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็นเมืองนครพนม), พี่ชายนามว่าพระบรมราชา (ท้าวพรหมา) เจ้าเมืองนครพนม ซึ่งทายาทได้เป็นเจ้าเมืองมหาไชยกองแก้วและเจ้าเมืองสกลนคร ต้นตระกูล "พรหมสาขา ณ สกลนคร", พี่เขยนามว่าพระบรมราชา (สุดตา) เจ้าเมืองนครพนม กลุ่มตระกูลสาย "ณ นครพนม" และหลานนามว่าพระบรมราชา(มัง) เจ้าเมืองนครพนม
โดยตระกูลทุมมานนท์ เชื้อสายเจ้าเมืองพนัสนิคม มีการสืบตำแหน่งเจ้าเมืองพนัสนิคม 3 ชั่วอายุคน ได้แก่
1.พระอินทอาษา (ท้าวอินทิสาร หรือ ท้าวทุม ทุมมานนท์)
2.หลวงภักดีสงคราม (ท้าวนิล ทุมมานนท์)
3.หลวงภักดีสงคราม (ท้าวบุญจันทร์ ทุมมานนท์)
โดยหลวงภักดีสงคราม (ท้าวบุญจันทร์ ทุมมานนท์) เจ้าเมืองพนัสนิคมคนสุดท้าย บุตรชายของหลวงภักดีสงคราม (ท้าวนิล ทุมมานนท์) ได้สละบรรดาศักดิ์ให้อานามว่าหลวงภักดีสงคราม (ท้าวเปลี่ยน ทุมมานนท์)
ดูเพิ่ม
- กระทรวงสาธารณสุข
- อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี
- สนามกีฬาและศูนย์เยาวชนเทศบาลเมืองพนัสนิคม
- ศาลเจ้าแปะกง
- มูลนิธิสว่างกุศลธรรมสถานเม่งเต็กเซียงตั๊ว(พนัสนิคม) ชลบุรี
- โรงเจเว่งฮกตั๊ว (เป็นโรงเจเก่าแก่ที่มีอายุยาวนานกว่าร้อยปี)
- ศาลเจ้าเล่งฉือปุ้ยเสี่ยว(ศาลเจ้าพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ปางนั่งขัดสมาธิเพชร)
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์จังหวัดชลบุรี 2007-04-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- อำเภอพนัสนิคม
- หนังสือพิทยานุสรณ์ พ.ศ. 2499 2011-08-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- สถานที่ท่องเที่ยว อำเภอพนัสนิคม 2008-06-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนT
- สถานที่ต่างๆ อำเภอพนัสนิคม 2008-06-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- โรงเรียนพนัสพิทยาคาร 2009-08-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- พระรถเมรี[]
- สุจิตต์ วงษ์เทศ ลาวพนัสนิคมฯ[]
- วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ปีที่24 ฉบับที่ 45[]
- การตั้งถิ่นฐานและพัฒนาการชองกลุ่มชาติพันธุ์ลาวในภาคคะวันออก : พลวัตในบริบทสังคมไทย 2019-07-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- พงศาวดารเมืองนครพนมสังเขป ฉบับพระยาจันทร์โงนคำ
- นามสกุลพระราชทาน มูลนิธิอนุรักษ์พระราชวังพญาไท 2020-07-31 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phnsnikhm epnxaephxkhxngcnghwdchlburi phunthiswnihyepnthirablum prachakrswnihynbthuxphuththsasna xditmisthanaepnemuxngchnctwa chuxemuxngphnsnikhm sngkdkrmtha txmayayipsngkdkrathrwngmhadithy aelamaepnxaephxphnsnikhmkhunkbemuxngchlburi mnthlpracin inpccubnepnxaephxincnghwdxaephxphnsnikhmxaephxkarthxdesiyngxksrormn xksrormnAmphoe Phanat Nikhomkhakhwy phraphnsbdikhuban cksankhuemuxng luxeluxngbuyklangban tananphrarth emri skdisriemuxngsaxad ekngkackarthayockaephnthicnghwdchlburi ennxaephxphnsnikhmphikd 13 27 6 N 101 10 36 E 13 45167 N 101 17667 E 13 45167 101 17667praeths ithycnghwdchlburiphunthi thnghmd450 9 tr km 174 1 tr iml prachakr 2566 thnghmd125 851 khn khwamhnaaenn279 11 khn tr km 722 9 khn tr iml rhsiprsniy 20140 20240 echphaahmuthi 4 5 8 11 14 15 tablnaerik aelahmuthi 4 6 10 11 tablnawnghin rhsphumisastr2006thitngthiwakarthiwakarxaephxphnsnikhm thnnemuxngeka tablphnsnikhm xaephxphnsnikhm cnghwdchlburi 20140swnhnungkhxngsaranukrmpraethsithy chlburithitngaelaxanaekhtxaephxphnsnikhmtngxyuthangthisehnuxkhxngcnghwdchlburi hangcaktwcnghwdipthangtawnxxkpraman 22 kiolemtrtamesnthangthnnsukhprayur mixanaekhttidtxkbphunthikarpkkhrxngkhangekhiyngdngtxipni thisehnux tidtxkbxaephxaeplngyawaelaxaephxbanophthi cnghwdchaechingethra thistawnxxk tidtxkbxaephxekaacnthr thisit tidtxkbxaephxbxthxngaelaxaephxbanbung thistawntk crdxaephxphanthxngprawtisastrxnungemuxngphnsnikhmedimepnxaephxthimikhnadihythisudincnghwdchlburi pccubnmixanaekhtedimxyuinxaephxxun dngni 1 banthatakud epnhmubankhunkbemuxngphnsnikhm sngkdkrmtha inpi ph s 2441 mikarptirupkarpkkhrxngcdtngmnthlethsaphibal ykthanaepnxaephxthatakudaelainpi ph s 2460 epliynchuxepnxaephxphanthxng 2 tablhnxngxirunaelatablkhlxngphlu epntablkhunkbxaephxphnsnikhm inpi ph s 2481 idoxnyaymakhunkbxaephxbanbung inpi ph s 2517 cdtngtablhnxngihyodyaebngekhtkarpkkhrxngcaktablhnxngxirunaelatablkhlxngphlu inpi ph s 2524 ykthanaepnxaephxhnxngihy 3 tablbxthxng epntablkhunkbxaephxphnsnikhm inpi ph s 2528 ykthanaepnxaephxbxthxng 4 tablthabuymi epntablkhunkbxaephxphnsnikhm inpi ph s 2550 ykthanaepnxaephxekaacnthr yukhkxnprawtisastrchwngekathisudthiphbinphnsnikhmkhuxaehlngobrankhdiokhkphnmdi smyhinihm 3 500 4 000 pimaaelw briewnbanokhkphnmdi tablthakham odynkobrankhdikhudphbokhrngkradukecaaemaehngokhkphnmdi milukpdnbaesnemdfngrwmxyu aelaaehlngobrankhdihnxngon smysarid 2 700 3 100 pimaaelw briewntablirhlkthxng smythwarwdi phbemuxngobranxayuraw 1 500 pi briewntablhnaphrathatu txmaeriyksmyhlngwaemuxngphrarth chuxsmmuticakrthesnchadkinpyyaschadk epnthiaephrhlayinchawlaw xayuxyuinrawhlng ph s 1000 emuxngobranyukhthwarwdithiphnsnikhmniidldkhwamsakhylngaelainthisudrkrangiprawhlng ph s 1500 ephraaesnthangkhmnakhmepliynip aelwmibanemuxngaehngihmiklthaeletibotmikhwamsakhyaethnthi phrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw thrngphrakrunaoprdeklaphrarachthannamemuxngwaphnsnikhm smyemuxngphnsnikhm inpi ph s 2371 kaenidemuxngkhuninsmyrtnoksinthr phrabathsmedcphranngeklaecaxyuhwmiphrabrmrachanuyatihklumlawxasapaknamasrangphumilaenakhuninphunthirkrangrahwangemuxngchlburikbemuxngchaechingethra phrarachthannamemuxngwaphnsnikhm bangexksarekhiyn phnsnikhm mithanaepnemuxngctwa khunkbkrmtha krungethphmhankhr ihthawxinthisar bangexksarekhiyn xinthphisal hrux thawthum pldlaw emuxngsmuthrprakar butrchaykhnotkhxngthawichy bangexksarekhiyn sriwiichy xuprachemuxngnkhrphnm ihepnecaemuxngphnsnikhmkhnaerkaelaphrarachthanrachthinnamaelabrrdaskdithiphraxinthxasa bangexksarekhiyn xinthrxasa xinthxasa xinthrasa mikhxkhwaminphrarachphngsawdarwa phwklawxasapakna tngkhunemuxkhrnginaephndinphrabathsmedcphraphuththelishlasulaly phayhlngemuxpichwdsmvththisk phwklawimsbay khxiptngxyuthiemuxngphrarth cungoprdihtdexaaekhwngemuxngchlburi emuxngchaechingethra matngepnemuxngkhunchuxemuxngphnsnikhm ecaemuxngchuxphraxinthxasa phrarachphngsawdar krungrtnoksinthr rchkalthi 3 elm 2 khxng ecaphrayathiphakrwngs chbbkhuruspha phimphkhrngthihnung ph s 2504 hna 180 odylawbukebikemuxngphnsnikhm epnlawemuxngnkhrphnm xangthungkarxphyphmasyamkhrngaerknaodythawichy xuprachemuxngnkhrphnm epnoxrsinphrabrmracha thawkuaekw ecaemuxngnkhrphnm emuxngnkhrphnminxdit epnhwemuxnginrachxanackrlanchangewiyngcnthn praethsrachkhxngsyam imsmkhricxyuinpkkhrxngkhxngphrabrmracha mng ecaemuxngnkhrphnmkhnihm cungxphyphphasmkhrphrrkhphwk butrhlan thawephiy khxphungphrabrmophthismpharphrabathsmedcphraphuththelishlanphaly emuxkumphaphnth ph s 2352 aelaoprdeklaihtngbaneruxnxyukhlxngmhawngs emuxngsmuthrprakar yukhnncungeriykkhnklumniwaphwklawxasapakna aetthnsphaphaewdlxmimihw ephraaepnchawdxnnacud thukihipxyuemuxnglumnakrxyaelaekhm elykhxepliynipxyuthixun sungsphaphiklekhiyngthidxn lawnkhrphnmklumniidbukebiksrangemuxngphnsnikhm ph s 2372 phayhlngehtukarnkbtecaxnuwngs phraxinthxasa ecaemuxngphnsnikhm idipekliyklxmkhrxbkhrwlawemuxngnkhrphnm yaymaxyuthiemuxngphnsnikhmxikcanwnhnung ph s 2391 phraxinthxasa ecaemuxngphnsnikhm khumlawemuxngphnsnikhmykipthangbkprabkbtcintwehiy emuxngchaechingethra miphrrnnaiwinphrarachphngsawdar eruxngecaphrayaphrakhlngkbecaphrayabdinthredchaprabcintwehiy emuxngchaechingethra ph s 2394 phraxinthxasa ecaemuxngphnsnikhm khumlawemuxngphnsnikhmrwmepnkxngkalngxarkkhasmedcphraecanxngyaethx ecafamngkudsmmtiwngs wdbwrniewswihar esdckhuneswyrachyepnphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw odyidmiphrrnnainphrarachphngsawdar ph s 2437 r s 113 rchsmyphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwidthrngptirupkarpkkhrxngodykarcdtngmnthlethsaphibalaethnrabbkinemuxng ecaemuxngsubtrakul thrngihhwemuxngthnghmdxyuphayitbngkhbbychakhxngkrathrwngmhadithy emuxngphnsnikhmcungoxnyaycakkrmtha masngkdmnthlpracin mibnthukwa rwmhwemuxngthanglanabangpakng khux emuxngpracinburi 1 emuxngnkhrnayk 1 emuxngphnmsarkham 1 emuxngchaechingethra 1 rwm 4 hwemuxng epnemuxngmnthl 1 eriykwa mnthlpracin tngthiwakarmnthl n emuxngpracin txemuxoxnhwemuxnginkrmthamakhunkrathrwngmhadithy cungyaythithakarmnthllngmatngthiemuxngchaechingethra ephraakhyayxanaekhtmnthltxlngipthangchaythael rwmemuxngphnsnikhm emuxngchlburi aelaemuxngbanglamung ephimihxik 3 rwmepn 7 emuxngdwykn aetkhngeriykchuxwamnthlpracinxyutamedim ph s 2441 prakaskhxbngkhblksnakarpkkhrxnghwemuxng r s 117 emuxngphnsnikhmepliynepnxaephxphnsnikhm khunkbemuxngchlburi inpi ph s 2460 epliyncakemuxngepncnghwdchlburi mnthlpracin odyemuxngphnsnikhmmiecaemuxngsubthxdtaaehnng rwm 3 khn khux 1 phraxinthxasa thawxinthisar hrux thawthum thummannth 2 hlwngphkdisngkhram thawnil thummannth 3 hlwngphkdisngkhram thawbuycnthr thummannth aelaminayxaephxphnsnikhmkhnaerkkhux hlwngsccphnthkhiri srirtniphrwn ectiyasn khamwasi nph khuhaphnmokhln bw imthrabnamskul karaebngekhtkarpkkhrxngkarpkkhrxngswnphumiphakh xaephxphnsnikhmaebngkarpkkhrxngthxngthiepn 20 tabl 185 hmuban idaek 1 phnsnikhm Phanat Nikhom 11 thakham Tha Kham 0 7 hmuban2 hnaphrathatu Na Phra That 11 hmuban 12 hnxngprux Nong Prue 10 hmuban3 wdhlwng Wat Luang 0 7 hmuban 13 hnxngkhyad Nong Khayat 0 8 hmuban4 banesid Ban Soet 0 8 hmuban 14 thungkhwang Thung Khwang 10 hmuban5 naerik Na Roek 15 hmuban 15 hnxngehiyng Nong Hiang 16 hmuban6 hmxnnang Mon Nang 12 hmuban 16 nawnghin Na Wang Hin 11 hmuban7 srasiehliym Sa Si Liam 11 hmuban 17 banchang Ban Chang 0 7 hmuban8 wdobsth Wat Bot 11 hmuban 18 okhkephlaa Khok Phlo 0 8 hmuban9 kudongng Kut Ngong 0 6 hmuban 19 irhlkthxng Rai Lak Thong 11 hmuban10 hwthnn Hua Thanon 0 9 hmuban 20 namatum Na Matum 0 7 hmubankarpkkhrxngswnthxngthin thxngthixaephxphnsnikhmprakxbdwykarpkkhrxngswnthxngthin 20 aehng idaek ethsbalemuxngphnsnikhm khrxbkhlumphunthitablphnsnikhmthngtabl ethsbaltablhmxnnang khrxbkhlumphunthitablhmxnnangthngtabl ethsbaltablkudongng khrxbkhlumphunthitablkudongngthngtabl ethsbaltablhwthnn khrxbkhlumphunthitablhwthnnthngtabl xngkhkarbriharswntablhnaphrathatu khrxbkhlumphunthitablhnaphrathatuthngtabl xngkhkarbriharswntablwdhlwng khrxbkhlumphunthitablwdhlwngthngtabl xngkhkarbriharswntablbanesid khrxbkhlumphunthitablbanesidthngtabl xngkhkarbriharswntablnaerik khrxbkhlumphunthitablnaerikthngtabl xngkhkarbriharswntablsrasiehliym khrxbkhlumphunthitablsrasiehliymthngtabl xngkhkarbriharswntablwdobsth khrxbkhlumphunthitablwdobsththngtabl xngkhkarbriharswntablthakham khrxbkhlumphunthitablthakhamthngtabl xngkhkarbriharswntablhnxngprux khrxbkhlumphunthitablhnxngpruxthngtabl xngkhkarbriharswntablhnxngkhyad khrxbkhlumphunthitablhnxngkhyadthngtabl xngkhkarbriharswntablthungkhwang khrxbkhlumphunthitablthungkhwangthngtabl xngkhkarbriharswntablhnxngehiyng khrxbkhlumphunthitablhnxngehiyngthngtabl xngkhkarbriharswntablnawnghin khrxbkhlumphunthitablnawnghinthngtabl xngkhkarbriharswntablbanchang khrxbkhlumphunthitablbanchangthngtabl xngkhkarbriharswntablokhkephlaa khrxbkhlumphunthitablokhkephlaathngtabl xngkhkarbriharswntablirhlkthxng khrxbkhlumphunthitablirhlkthxngthngtabl xngkhkarbriharswntablnamatum khrxbkhlumphunthitablnamatumthngtablphraphuththruppracaemuxngphraphnsbdi prakxbdwystw 3 chnid khruth okh hngs hxphraphnsbdi xaephxphnsnikhm cnghwdchlburiphraphnsbdipraephnithxngthinpraephninganbuyklangban praephniihwphracnthrsthanthisakhy obransthan obranwtthu aelaaehlngobrankhdiphraphnsbdi phraphuththmingemuxng hlwngphxtiw phratiw phnsnikhm obransthanemuxngphrarth phnsnikhm salhlkemuxngphnsnikhm salecaphxhlkemuxngphnsnikhm obransthansranasrasiehliym obransthanenindinokhkphnmdi obransthanwdobsth obransthanhxitr wdittnlan aehlngobrankhdihnxngon aehlngobrankhdithifngsphobranbanehnux aehlngobrankhdibanbnenin aehlngobrankhdiokhkphuthra aehlngkhangkhawaemik wdhlwngphrhmawas thanangsibsxng xnusrnsthanchatri srichlsthansuksaorngeriynphnsphithyakhar orngeriynxnubalphnssuksaly orngeriynethphsirinthrchlburi xuthk xupthmph withyalykarxachiphphnsnikhm orngeriynthakhamphithyakhmnamskulphrarachthanthiekiywkhxngkbemuxngphnsnikhmtrakulthummannth epnnamskulphrarachthancakphrabathsmedcphramngkuteklaecaxyuhw sungepnnamskulphrarachthanthi 1405 thummannth ekhiynaebbormnwa Dummananda xnsubechuxsaymacakphraxinthxasa thawxinthisar thummannth ecaemuxngphnsnikhmkhnaerk phrarachthanaekhlwngpraphithwyakar phirmy thummannth elkhanukarkrmiprsniyothrelkh nayrxyothphinic thummannth phubngkhbkxngrxythi 1 krmthharmathi 5 nxngchay aelanaywnni thummannth bida punaywnnichuxphraxinthrasa thum xnungtrakulthummannth epntrakulecaemuxngphnsnikhmaelaepnsayekhruxyatiklumtrakulecanayemuxngnkhrphnm inxditemuxngnkhrphnmepnhwemuxnginrachxanackrlanchangewiyngcnthn praethsrachkhxngsyam odythawichy sriwiichy xuprachemuxngnkhrphnm bidakhxngphraxinthxasa thawxinthisar thummannth ecaemuxngphnsnikhmnn subechuxsaymacakbidanamwaphrabrmracha thawkuaekw ecaemuxngmrukkhnkhr kxnepliynchuxepnemuxngnkhrphnm phichaynamwaphrabrmracha thawphrhma ecaemuxngnkhrphnm sungthayathidepnecaemuxngmhaichykxngaekwaelaecaemuxngsklnkhr tntrakul phrhmsakha n sklnkhr phiekhynamwaphrabrmracha sudta ecaemuxngnkhrphnm klumtrakulsay n nkhrphnm aelahlannamwaphrabrmracha mng ecaemuxngnkhrphnm odytrakulthummannth echuxsayecaemuxngphnsnikhm mikarsubtaaehnngecaemuxngphnsnikhm 3 chwxayukhn idaek 1 phraxinthxasa thawxinthisar hrux thawthum thummannth 2 hlwngphkdisngkhram thawnil thummannth 3 hlwngphkdisngkhram thawbuycnthr thummannth odyhlwngphkdisngkhram thawbuycnthr thummannth ecaemuxngphnsnikhmkhnsudthay butrchaykhxnghlwngphkdisngkhram thawnil thummannth idslabrrdaskdiihxanamwahlwngphkdisngkhram thawepliyn thummannth duephimkrathrwngsatharnsukh xaephxphnsnikhm cnghwdchlburi snamkilaaelasunyeyawchnethsbalemuxngphnsnikhm salecaaepakng mulnithiswangkuslthrrmsthanemngetkesiyngtw phnsnikhm chlburi orngecewnghktw epnorngecekaaekthimixayuyawnankwarxypi salecaelngchuxpuyesiyw salecaphraophthistwxwolkietswr pangnngkhdsmathiephchr aehlngkhxmulxunewbistcnghwdchlburi 2007 04 30 thi ewyaebkaemchchin xaephxphnsnikhm hnngsuxphithyanusrn ph s 2499 2011 08 18 thi ewyaebkaemchchin sthanthithxngethiyw xaephxphnsnikhm 2008 06 02 thi ewyaebkaemchchinT sthanthitang xaephxphnsnikhm 2008 06 25 thi ewyaebkaemchchin orngeriynphnsphithyakhar 2009 08 03 thi ewyaebkaemchchin phrarthemri lingkesiy sucitt wngseths lawphnsnikhm lingkesiy warsarmnusysastraelasngkhmsastr pithi24 chbbthi 45 lingkesiy kartngthinthanaelaphthnakarchxngklumchatiphnthulawinphakhkhawnxxk phlwtinbribthsngkhmithy 2019 07 13 thi ewyaebkaemchchin phngsawdaremuxngnkhrphnmsngekhp chbbphrayacnthrongnkha namskulphrarachthan mulnithixnurksphrarachwngphyaith 2020 07 31 thi ewyaebkaemchchin