อะบู สุไลมาน คอลิด อิบน์ อัลวะลีด อิบน์ อัลมุฆีเราะฮ์ อัลมัคซูมี (อาหรับ: أبو سليمان خالد بن الوليد بن المغيرة المخزومي; 585–642) รู้จักกันในชื่อ ซัยฟุลลอฮ์ อัลมัสลูล (อาหรับ: سيف الله المسلول; ดาบแห่งแสงอรุณของอัลลอฮ์) เป็นผู้ติดตามของมุฮัมมัด เขาเป็นผู้มีทักษะในการรบและเป็นผู้บัญชาการภายใต้การควบคุมของมุฮัมมัด, และอุมัร คอลิดได้สู้รบมากกว่า 100 สนามรบ ในระหว่างจักรวรรดิไบแซนไทน์, จักรวรรดิแซสซานิด และกบฏในจักรวรรดิเคาะลีฟะฮ์ในช่วงปี ค.ศ. 632 ถึงปี ค.ศ. 636 จนกระทั่งในปีค.ศ. 638 เขาถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหาร ในระหว่างที่คอลิดเป็นผู้บัญชาการนั้น เขาได้ฐานะเป็นหนึ่งในของโลก
คอลิด อิบน์ อัลวะลีด خالد بن الوليد | |
---|---|
เกิด | 585 มักกะฮ์ คาบสมุทรอาหรับ |
เสียชีวิต | พฤษภาคม 642 (57 ปี) ฮอมส์ รัฐเคาะลีฟะฮ์รอชิดีน ปัจจุบันคือประเทศซีเรีย |
สุสาน | |
รับใช้ | รัฐเคาะลีฟะฮ์รอชิดีน |
แผนก/ | |
ประจำการ | มิถุนายน 632– 638 |
ชั้นยศ | จอมทัพ |
หน่วย | |
บังคับบัญชา | จอมทัพ (632–634) แม่ทัพทหารราบ (634–638) แม่ทัพของ (634–638) ผู้บัญชาการทหารประจำเมืองอิรัก (633–634) เมิอง (637–638) |
ชีวิตช่วงต้น
คอลิดเกิดในปี ค.ศ. 585 ในเมืองมักกะฮ์ พ่อของเขาชื่อ ผู้นำของเผ่า แม่ของเขาชื่อลูบาบะฮ์ อัลซุครอ บินต์ อัลฮาริษ
หลังจากที่เขาเกิด รายงานจากประเพณีชาวกุเรช คอลิดถูกส่งไปยังแม่นมชาวเบดูอินกลางทะเลทราย จนกระทั่งอายุ 5 - 6 ปี เขาถูกนำกลับบ้านที่มักกะฮ์ ในขณะที่ยังเป็นเด็กนั้นเขาเกิดเป็นโรคอีสุกอีใส ซึ่งเขารอดมาได้ แต่ได้ทิ้งร่องรอยบนแก้มซ้ายของเขา
สมัยมุฮัมมัด (ค.ศ. 610–632)
ก่อนเข้ารับอิสลาม
ไม่มีใครรู้ว่าคอลิดเป็นอย่างไรก่อนที่จะเข้ารับอิสลาม แต่มีรายงานว่าคอลิดไม่ได้เข้าร่วมสงครามบะดัร หลังจากนั้นเขานำชัยชนะให้กับชาวมักกะฮ์ในสงครามอุฮุด (ค.ศ. 625) และสงครามสุดท้ายที่เข้าร่วมกับชาวกุเรชคือสงครามสนามเพลาะในปี ค.ศ. 627
หลังจากสงครามบะดัรคอลิดและฮาชาม อิบน์ วะลีด ไปที่มะดีนะฮ์เพื่อจ่ายค่าไถ่วะลีด อิบน์ วะลีด แต่หลังจากนั้นวะลีดได้กลับมักกะฮ์แล้ว เขาได้หลบหนีไปยังมะดีนะฮ์เพื่อเข้ารับอิสลาม
เข้ารับอิสลาม
หลังจากทำสนธิสัญญาฮุดัยบิยะฮ์ในปีค.ศ. 628 มีรายงานว่าศาสดามุฮัมมัดได้กล่าวกับวะลีด อิบน์ วะลีดว่า: "คนอย่างคอลิด ไม่สามารถอยู่ห่างจากอิสลามได้นานแน่" วะลีดได้เขียนจดหมายไปยังคอลิดเพื่อเข้ารับอิสลาม คอลิดตัดสินใจเข้ารับอิสลามและได้พูดเรื่องนี้ให้กับ คอลิดถูกทำร้ายโดย แต่ถูกอิกริมะฮ์ขวางและพูดว่า: "ระวังให้ดี โอ้ อบูซุฟยาน! ความโกรธของเจ้าอาจจะนำฉันเข้าร่วมกับมุฮัมมัด คอลิดจะนับศาสนาอะไรก็ได้ตามที่เขาต้องการ"
ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 629 คอลิดเริ่มเดินทางไปมะดีนะฮ์ แล้วพบกับและอุสมาน อิบน์ ฏอลฮะฮ์ ที่กำลังไปมะดีนะฮ์เพื่อเข้ารับอิสลามด้วย พวกเขามาถึงมะดีนะฮ์ในวันที่ 31 พฤษภาคม ค.ศ. 629
คอลิดได้ทักทายมูฮัมหมัดและสัญญาว่าจะจงรักภักดีต่อท่าน มุฮัมมัดจึงกล่าวกับคอลิดว่า:
ฉันแน่ใจว่า...ปัญญาและความหวังของเจ้าทำให้วันหนึ่งต้องรับอิสลามเป็นศาสนาของตนเอง
— ศาสดามุฮัมมัด
การทหารในสมัยมุฮัมมัด
ในเดือนกันยายน ค.ศ. 629 ได้มีการเคลื่อนทัพไปรบที่ รัฐประเทศราชของจักรวรรดิโรมันตะวันออก โดยก่อซึ่งเป็นสงครามระหว่างชาวมุสลิมและกองทัพของจักรวรรดิไบเซนไทน์ มุฮัมมัดได้ให้เป็นแม่ทัพ ถ้าซัยด์เสียชีวิต จึงรับหน้าที่ต่อ ถ้าญะฟัรเสียชีวิต จึงรับหน้าที่ต่อ ถ้าทั้งสามถูกฆ่าแล้ว ให้เลือกคนที่เหมาะสมเอง ตอนที่สู้รบนั้น แม่ทัพทั้งสามถูกฆ่าหมดแล้ว พวกเขาจึงเลือกคอลิดมารับหน้าที่นี้ต่อ แล้วสู้รบจนชนะ
หลังจากเหตุการณ์ในปี ค.ศ. 630 คอลิดได้นำกองทัพไปสู้รบในและ จนชนะการต่อสู้ คอลิดได้รับบาดแผลขนาดใหญ่ในตอนสู้รบ มุฮัมมัดได้มาเยี่ยมเขาแล้วบอกว่าขอให้หายเร็วๆ
เขาได้เข้าร่วมภายใต้การนำทัพโดยมุฮัมมัด คอลิดถูกส่งไปที่ดุมาตุลญันดัลพร้อมกับต่อสู้และจับเจ้าชายแห่ง พร้อมกับบังคับให้ทำสัญญา
การทหารขณะเป็นผู้บัญชาการ
ในเดือนมกราคม ค.ศ. 630 (เดือนรอมฎอน ฮ.ศ.8)คอลิดถูกส่งให้ไปทำลายเทวรูปอัลอุซซา แล้วสังหาร์ผู้หญิงที่มุฮัมมัดบอกว่านั่นคืออัลอุซซา
คอลิดถูกส่งไปที่เผ่าให้เข้ารับอิสลาม พวกเขากล่าวว่า ซาบะอฺนา ซาบะอฺนา (เรามาจากสะบาอ์) แต่คอลิดเข้าใจผิด จึงกักขังและทรมานพวกเขาจนต้องบอกให้หยุด มุฮัมมัดรู้สึกเสียใจเกี่ยวกับการกระทำของเขา แล้วจ่ายสินไหมให้กับคนในครอบครัวที่เสียชีวิตและทรัพยสินที่ถูกทำลาย พร้อมกับพูดว่า: "โอ้อัลลอฮ์ ฉันบริสุทธิ์ (ไม่ได้เกี่ยวข้อง) กับสิ่งที่คอลิด อิบน์ วะลีดทำลงไป!"
มุฮัมมัดได้ส่งคอลิดเพื่อโจมตีปราสาทของเจ้าชายอุกัยดิรที่นับถือศาสนาคริสต์ จนยึดได้ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 631 (เดือนซุลกิอฺดะฮฺ ฮ.ศ.9) โดยคอลิดได้นำตัวประกันและขู่ว่าถ้าไม่เปิดประตูปราสาทแล้วเขาจะฆ่าตัวประกัน หลังจากนั้นศาสดามุฮัมมัดได้จ่ายค่าไถ่โดยมีอูฐ 2000 ตัว, แกะ 800 ตัว, ชุดเกราะ 400 ชุด, หอก 400 อัน และสัญญาว่าจะจ่าย
ในเดือนเมษายน ค.ศ. 631 มุฮัมมัดได้ส่งคอลิดเพื่อทำลายเทวรูป คอลิดได้ทำลายเทวรูปพร้อมกับสถานที่บูชาและสังหารทุกคนที่ต่อต้านการทำลายเทวรูป
สมัยอบูบักร์ (ค.ศ. 632–634)
ครอบครองทั้งคาบสมุทรอาหรับ
หลังจากมุฮัมมัดเสียชีวิต เผ่าอาหรับหลายเผ่าได้ก่อกบฏต่อรัฐเคาะลีฟะฮ์ เคาะลีฟะฮ์ได้ส่งทหารไปปราบกบฎและ คอลิดจึงเป็นหนึ่งในแม่ทัพที่อบูบักร์สั่งให้มีการวางแผนในสงครามริดดะฮ์โดยให้คำแนะนำว่าเขาต้องเป็นแม่ทัพนำชาวมุสลิมไปที่คาบสมุทรอาหรับตอนกลาง บริเวณที่เป็นศูนย์กลางของกบฎ และมีความเสี่ยงที่พวกเขาจะโจมตีมะดีนะฮ์ได้ง่าย
ในช่วงกลางเดือนกันยายน ค.ศ. 632 คอลิดรบหนึ่งในกบฎที่อ้างตนเองว่าเป็นศาสดาเพื่อที่จะให้ผู้คนสนับสนุนตนเอง จนอำนาจของตนเองได้หมดลงหลังจากแพ้ใน หลังจากนั้นคอลิดได้ไปที่นัคราและกำจัดกบฎจากบนูซาลีมใน สุดท้ายคอลิดได้ครอบครองทั้งแคว้นหลังจากโดยสู้รบชนะซัลมาในเดือนตุลาคม ค.ศ. 632
ตอนนี้แคว้นรอบเมืองมะดีนะฮ์เป็นของมุสลิมแล้ว คอลิดจึงนำทัพไปที่แคว้น ที่มั่นของเผ่า. มีหลายพวกที่ยอมพบคอลิดและกฎหมายของเคาะลีฟะฮ์ แต่ หัวหน้าเผ่าบนูยัรบูอ์เลี่ยงการติดต่อกับคอลิดและบอกให้ผู้ติดตามแยกย้ายกันหนี โดยที่ครอบครัวของเขาจะหนีไปทางทะเลทราย พร้อมกับประกาศเป็นศัตรูกับรัฐเคาะลีฟะฮ์โดยมีความร่วมมือกับซัจญะฮ์ ผู้หญิงที่อ้างตนเองว่าเป็นศาสดา หลังจากนั้นมาลิกถูกจับพร้อมกับผู้คนของเขา และคอลิดถามว่าทำไมถึงทำอย่างนี้ เขาได้ตอบว่า: "นายของเจ้าได้พูดอย่างนี้ นายของเจ้าได้พูดอย่างนั้น" คอลิดจึงประกาศว่ามาลิกเป็นกบฎผู้ละทิ้งศาสนาพร้อมกับประหารชีวิต
หลังจากการเสียชีวิตของมาลิกแล้ว คอลิดได้จับ ทำให้เกิดข้อโต้แย้ง ทหารของเขาซึ่งรวมไปถึงอบูกอตออะฮ์เชื่อว่าคอลิดฆ่ามาลิกเพื่อเอาภรรยามาเป็นของเขา จนเรื่องนี้ถึงหูของอุมัรที่ปรึกษาของอบูบักร์ แล้วอบูบักรได้เรียกคอลิดให้เข้าพบเพื่ออธิบายว่าทำไมถึงเป็นอย่างนี้
คอลิดได้รบชนะมุซัยลิมะฮ์ คนที่อ้างตนเองว่าเป็นศาสดาในเมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ. 632 มุซัยลีมะฮ์ถูกฆ่าในสนามรบ และเผ่าที่เป็นกบฏก็ถูกทำลายหมดสิ้น
การรุกรานจักรวรรดิเปอร์เชีย
หลังจากที่ทำลายกบฏหมดแล้วทั้งคาบสมุทรอาหรับจึงอยู่ภายใต้รัฐเคาะลีฟะฮ์ อบูบักร์ต้องการที่จะขยายอาณาจักร จึงส่งคอลิดไปที่อาณาจักรเปอร์เซียพร้อมกับทหาร 18,000 นาย เพื่อยึดครองเมโสโปเตเมียตอนล่าง (ปัจจุบันคือประเทศอิรัก) โดยก่อนที่จะสู้รบนั้น เขาได้เขียนจดหมายไปยังฝ่ายเปอร์เซียว่า:
จงยอมรับอิสลามแล้วเจ้าจะปลอดภัย หรือจะยอมจ่ายจิซยะฮ์ (ภาษี) คุณและผู้คนของเจ้าจะอยู่ในการป้องกันของเรา ไม่เช่นนั้นเจ้าจะต้องโทษแต่ตนเองสำหรับผลที่ตามมา เนื่องจากฉันจะเป็นผู้ทำให้เจ้าตายสมกับที่เจ้ามีชีวิต
— คอลิด อิบน์ วะลีด
เขาได้รับชัยชนะอย่างรวดเร็วในสี่สมรภูมิ ได้แก่: ในเดือนเมษายน ค.ศ. 633; ในช่วงสามสัปดาห์ของเดือนเมษายน ค.ศ. 633; ในช่วงเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 633 และ ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 633 ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 633 เมืองหลวงประจำแคว้นเมโสโปเตเมียตอนล่าง โดยชาวเมืองยอมจ่าย (ภาษี) และสัญญาว่าจะช่วยฝ่ายมุสลิม หลังจากให้กองทัพพักผ่อนแล้ว คอลิดได้นำกองทัพบุกเมืองในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 633 แล้วจนกระทั่งพวกเขายอมแพ้ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 633 แล้วไปทางตอนได้พร้อมกับในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 633
ตอนนี้เกือบทั้งเมโสโปเตเมียตอนล่าง (แคว้นยูเฟรทีสตอนเหนือ) อยู่ภายใต้การควบคุมของคอลิดแล้ว แต่มีจดหมายถึงคอลิดว่าที่ดุมาตุลญันดัล อิยาด อิบน์ คันม์ ถูกล้อมรอบโดยพวกกบฎ คอลิดจึงต้องลงไปในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 633 ในตอนที่เขาคอลิดกำลังกลับไปที่เมโสโปเตเมีย คอลิดได้บอกว่า เขาแอบไปที่มักกะฮ์เพื่อไปทำ ฮัจญ์
ในตอนที่เขากลับมาจากอารเบีย คอลิดได้รู้จากคนสอดแนมว่ามีกองกำลังทหารเปอร์เซียและชาวอาหรับคริสเตียนขนาดใหญ่ประจำค่ายอยู่สี่ที่ในแคว้นยูเฟรติส ได้แก่เมือง ฮานาฟิซ, ซูมัยล์, ซานิย์ และบริเวณที่ทหารมากที่สุดคือเมืองมูซัยยะฮ์ คอลิดจึงพยายามเลี่ยงสงครามแบบประชันชิดกับกองทัพเปอร์เซียและตัดสินใจบุกทำลายค่ายแต่ละค่ายในเวลากลางคืนโดยการแบ่งทหารเป็นสามหน่วย แล้วจัดการกับกองทัพเปอร์เซียตอนกลางคืน โดยเริ่มที่, และในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 633
ชาวมุสลิมชนะชาวเปอร์เซียในการยึดเมโสโปเตเมียตอนล่างและเมือง (Ctesiphon) ที่ไม่มีทหารเฝ้าเมืองอยู่ ก่อนที่จะโจมตีเมืองหลวงของเปอร์เซีย คอลิดตัดสินใจว่าต้องจัดการทหารทางทิศใต้และตะวันตก พร้อมกับเคลื่อนทัพไปที่ชายเมืองฟิราซ แล้วรบชนะกองทหารผสมที่มีทหารเปอร์เซีย, ไบเซนไทน์ และอาหรับคริสเตียนพร้อมกับยึดป้อมปราการใน ช่วงเดือนธันวาคม ค.ศ. 633 นี่จึงเป็นสงครามสุดท้ายเพื่อที่ครอบครองเมโสโปเตเมียตอนล่าง
ระหว่างที่อยู่ในอิรัก คอลิดได้ตำแหน่งผู้ว่าราชการทหารในบริเวณที่ครอบครอง
การรุกรานจักรวรรดิไบแซนไทน์
หลังจากยึดแคว้นในจักรวรรดิเปอร์เซียได้แล้ว เคาะลีฟะฮ์อบูบักร์จึงมีรับสั่งให้ไปบุกรุกที่ซีเรีย โดยให้มีการแบ่งทหารเป็นสี่ส่วน แต่ละกลุ่มมีจุดหมายที่แตกต่างกัน ส่วนฝั่งไบเซนไทน์ได้รวบรวมทหารจากทุกค่าย สิ่งนี้ทำให้ทหารมุสลิมไม่สามารถเดินแถวไปยึดซีเรียตอนกลางหรือเหนือได้
เส้นทางที่จะไปซีเรียมีสองทาง โดยเส้นทางแรกเป็นทางไปเดามะตุลญันดัล (ปัจจุบันคือ ซะกากา) และอีกทางคือผ่านเมโสโปเตเมียทางเมืองรักกา ตอนนี้ทหารมุสลิมอยู่ที่ซีเรียแล้ว คอลิดจึงเลี่ยงเส้นทางไปเดามะตุลญันดัล เนื่องจากระยะทางไกลและใช้เวลาหลายสัปดาห์ที่จะไปถึงซีเรีย และเลี่ยงเส้นทางผ่านเมโสโปเตเมีย เพราะมีค่ายทหารโรมันอยู่ที่ซีเรียตอนเหนือและเมโสโปเตเมีย คอลิดจึงเลือกทางไปซีเรียโดยผ่าน และสั่งให้เดินขบวนผ่านทะเลทรายโดยไม่ต้องดื่มน้ำเป็นเวลาสองวัน ก่อนที่จะถึงโอเอซิส คอลิดได้บอกให้พวกเขาเก็บน้ำไว้ใช้ในยามจำเป็น แล้วให้อูฐดื่มน้ำทันทีหลังจากไม่ได้ดื่มเป็นเวลานาน โดยอูฐจะเก็บน้ำไว้ในท้องของมัน ซึ่งจะทำให้พวกเขาอาจจะต้องฆ่าอูฐเพื่อที่จะเอาน้ำ ถ้าจำเป็น
คอลิดเข้าไปที่ซีเรียในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 634 แล้วยึดเมืองซาวา , , และสู้รบเพื่อยึดครองเมือง และ หลังจากนั้นจึงไปต่อที่บัสรา เมืองที่อยู่ใกล้ชายแดนซีเรีย-และเป็นศูนย์กลางของอาณาจักร ประเทศราชของจักรวรรดิไบเซนไทน์ตะวันออก เขาข้ามเมืองดามัสกัสโดยการข้ามทางภูเขาเพื่อจะไปที่มะราจ อัลราฮาต เพื่อ
เมื่อข่าวมาถึงคอลิดแล้ว อบูอุบัยดะฮ์จึงสั่งให้ หนึ่งในสี่แม่ทัพไปโจมตีเมืองบัสราโดยมีทหาร 4,000 นาย โดยที่ทหารไบเซนไทน์และอาหรับคริสเตียนไม่สามารถต้านทานได้ และยึดเมืองได้ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 634 ทำให้ราชวงศ์คอสซานิดต้องถึงจุดจบ หลังจากยึดเมืองบัสราได้แล้ว คอลิดจึงนำทหารทั้งหมดไปที่อัจนาดัยน์แล้วสู้กับทหารไบเซนไทน์ในวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 634
หลังจากทหารไบเซนไทน์พ่ายแพ้ใน คอลิดตัดสินใจยึดเมืองดามัสกัส ที่ยึดมั่นของทหารไบเซนไทน์ ในขณะเดียวกันที่ดามัสกัส โทมัส ลูกเขยของจักรพรรดิเฮราคลิอุส กำลังเสริมการป้องกันในเมือง รู้ว่าคอลิดกำลังมาที่นี่ เขาจึงเขียนจดหมายไปยังจักรพรรดิเฮราคลิอุสเพื่อต้องการทหารเพิ่ม และที่มากกว่านั้น เขาต้องการที่จะหยุดการเดินทางของคอลิดโดยนำกองทัพออกไปรบ พร้อมกับแบ่งไปที่เมืองยากูซาและมาราจ อัส-ซัฟฟารในวันที่ 19 สิงหาคม. โดยขณะเดียวกัน กองทัพของเฮราคลีอุสได้มาถึงดามัสกัสในวันที่ 20 สิงหาคม คอลิดจึงแยกกองทัพโดยให้ส่วนหนึ่งไปทางตอนใต้ (ทางไปปาเลสไตน์) ,ตอนเหนือ (ทางไปดามัสกัส-เอมีซา) และกองทัพเล็กๆ ไปที่ดามัสกัส ทหารของจักรพรรดิเฮราคลิอุสได้รู้เรื่องนี้แล้วเดินทางไปทางของคอลิดแล้วก่อสงครามที่ซานิตา อัลอุกอบ ซึ่งอยู่ห่างจากดามัสกัสไป 30 กม.
คอลิดจึงสู้และในวันที่ 18 กันยายน ค.ศ. 634 หลังจากล้อมเมืองไป 30 วัน มีรายงานว่า ยุทธวิธีครั้งนี้อาจจใช้เวลาประมาณ 4 - 6 เดือน จักรพรรดิเฮราคลีอุสได้ข่าวมาว่าเมืองซีเรียถูกยึดแล้ว จึงเหลือแค่เมืองแอนติออกในเอมีซา หลังจากสู้รบแล้ว คอลิดจึงใช้ทางลัดที่ไม่รู้จักเพื่อที่จะ โดยอยู่ห่างจากดามัสกัสทางตอนเหนือไป 150 กม. ในขณะเดียวกัน อบูบักร์เสียชีวิตในระหว่างสงครามดามัสกัส แล้วอุมัรกลายเป็นเคาะลีฟะฮ์คนต่อไป
สมัยอุมัร (634–642)
ถอดถอนจากการเป็นจอมทัพ
หลังจากอบูบักร์เสียชีวิตในวันที่ 22 สิงหาคม ค.ศ. 634 จึงทำให้อุมัร ลูกพี่ลูกน้องของคอลิด เป็นเคาะลีฟะฮ์คนต่อไป สิ่งแรกที่อุมัรทำนั้นคือย้ายคอลิดออกจากผู้บัญชาการทางทหารสูงสุดให้เป็นผู้บัญชาการและให้ทำหน้าที่นี้แทน คอลิดเริ่มที่จะไม่เชื่ออุมัร (เนื่องจากเขาไม่เคยแพ้สงครามใดๆ ทั้งสิ้น) อุมัรจึงบอกว่า:"ฉันไม่ได้ถอดถอนคอลิดเพราะความโกรธของฉันหรือความไม่ซื่อสัตย์จากเขา แต่เหตุผลที่ฉันถอดถอนเพราะฉันต้องการให้พวกเขารู้ว่าอัลลอฮ์เท่านั้นที่ให้ชัยชนะให้กับพวกเรา"
ครอบครองซีเรียตอนกลาง
หลังจากที่อบูอุบัยดะฮ์เป็นจอมทัพแล้ว เขาจึงส่งกองทัพเล็กไปที่อบูอัลกุดส์ (ปัจจุบันคือเมืองอับลา) โดยอยู่ใกล้เมืองประมาณ 50 กม. ทางตะวันออกของเบรุต เพื่อทำลายป้อมทหารในวันที่ 15 ตุลาคม ค.ศ. 634 พร้อมกับได้ทรัพย์สินและนักโทษโรมันอีกร้อยคน
ตอนนี้ซีเรียตอนกลางถูกครอบครอง และเส้นทางเชื่อมระหว่างซีเรียตอนเหนือกับปาเลสไตน์ถูกตัดขาดแล้ว อบูอุบัยดะฮ์จึงนำกองทัพไปที่ฟะฮัล () ที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล500 ft (150 m) และเป็นที่กองทหารและผู้รอดชีวิตจากสงครามอัจนาดัยน์ของไบเซนไทน์อาศัยอยู่ แล้ววางแผนข้ามแม่น้ำจอร์แดนในบริเวณที่พวกเขาขวางกั้นน้ำ แล้วสู้รบจนในคืนวันที่ 23 มกราคม ค.ศ. 635
สงครามยัรมูก
ขณะเดียวกัน จักรพรรดิเฮราคลีอุสทรงแต่งตั้งกองทัพเพื่อยึดซีเรียกลับมาอีกครั้ง โดยใช้เส้นทางที่เลี่ยงทหารมุสลิมในช่วงเดือนมิถุนายน ค.ศ. 636 ต่อมา คอลิดเริ่มห่วงว่าทหารมุสลิมอาจถูกแยกและกำจัดโดยง่าย จึงแนะนำให้อบูอุบัยดะฮ์รวมกองทัพมุสลิมให้เป็นหนึ่ง เพื่อรับมือกับกองทัพไบเซนไทน์
อบูอบัยดะฮ์สั่งให้ทหารมุสลิมในซีเรียทั้งหมดให้เคลื่อนตัวไปที่ญาบิยะฮ์ตามคำแนะนำของคอลิด ซึ่งทำให้แผนของเฮราคลีอุสล้มเหลว เนื่องจากเขาไม่ต้องการที่จะเผชิญหน้ากับชาวมุสลิม ซึ่งอาจจะทำให้กองทัพของพระองค์ถูกทำลายได้
อบูอบัยดะฮ์สั่งให้กองทัพมุสลิมเรียงตัวตามพื้นที่ราบของ ซึ่งจะทำเป็นแหล่งผลิตหญ้าและน้ำได้ดีและสามารถใช้ทหารม้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมให้ทุกคนทำตามคำสั่งของคอลิด
ณ วันที่ 15 สิงหาคม ได้เกิดขึ้นและกินเวลาไป 6 วัน โดยที่ฝ่ายไบเซนไทน์พ่ายแพ้อย่างหนัก
ครอบครองเมืองเยรูซาเลม
ในขณะที่ทหารไบเซนไทน์กำลังสับสนอยู่นั้น ชาวมุสลิมสามารถยึดเมืองยัรมูคได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงไปทางตอนใต้เพื่อยึดเมืองเยรูซาเลม ที่ซึ่งทหารไบเซนไทน์หลบภัยมาอยู่ที่นี่ จึงมีสงครามอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 4 เดือน หลังจากนั้นชาวเมืองจึงยอมแพ้แต่ต้องให้เคาะลีฟะฮ์มาที่นี่ด้วยตนเอง จึงแนะนำคอลิดให้รับสั่งเคาะลีฟะฮ์มาที่นี่ ดังนั้นอุมัรจึงมาที่นี่แล้วในเดือนเมษายน ค.ศ. 637
ครอบครองซีเรียตอนเหนือ
ตอนนี้เมืองเอมีซาอยู่ในกำมือแล้ว อบูอุบัยดะฮ์และคอลิดจึงนำทัพไปที่กอดีซียะฮ์ เป็นบริเวณที่ทหารไบเซนไทน์ป้องกันอานาโตเลีย บ้านเกิดของจักรพรรดิเฮราคลีอุส, อาร์มีเนียและเมืองแอนติออก อบูอุบัยดะฮ์ได้ส่งคอลิดไปที่กินนัสริน โดยที่ป้อมมีทหารกรีกภายใต้คำสั่งแม่ทัพเมนาส โดยที่เขามีแผนที่จะทำลายทหารของคอลิดก่อนที่พวกเขาจะรวมตัวกันที่ฮาซิรที่ห่างออกไป 5 กม. ทางตะวันออกของกินนัสริน แต่กลับพ่ายแพ้ใน
อบูอุบัยดะฮ์ได้เข้าร่วมกับคอลิดหลังจากชนะสงครามที่กินนัสรินในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 637 จึงทำให้ทางตอนเหนือของกินนัสรินเหมาะที่จะเดินทัพไปจากไบเซนไทน์ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 637
ก่อนที่จะยกทัพไปแอนติออก คอลิดและอบูอุบัยดะฮ์ตัดสินใจแยกเมืองรอบๆ อานาโตเลีย โดยการยึดฐานทัพที่ตั้งไว้รอบๆ ทางไปแอนติออก และมีสงครามเกิดขึ้นโดยที่นักรบชาวแอนติออกได้ตั้งทัพอยู่ใกล้ โดยรู้จักในชื่อ
อบูอุบัยดะฮ์ได้ส่งคอลิดให้ไปทางเหนือ ในขณะที่เขาไปทางใต้แล้วยึดเมืองลัซเกีย, ญับลา, และชายทะเลของ ส่วนคอลิดได้บุกรุกที่ (เกอเซอเลอมาก) ในอานาโตเลีย แต่จักรพรรดิเฮราคลีอุสได้หนีออกจากแอนติออก แล้วไปที่ก่อนที่ชาวมุสลิมจะมาถึง พร้อมกับจัดกองทัพไว้ที่ และอาร์มีเนีย จากนั้นจึงไปที่คอนสแตนติโนเปิลโดยเกือบที่จะถูกคอลิดจับได้ หลังจากที่เขาได้แล้วไปทางตอนใต้ไปที่ จักรพรรดิเฮราคลีอุสทรงใช้ทางภูเขาแล้วผ่านพร้อมกับตรัสว่า:
ลาก่อน แล้วลาลับให้กับซีเรีย จังหวัดของข้าได้ตกไปยังน้ำมือของศัตรูแล้ว ...โอ้ซีเรีย – แผ่นดินที่สวยงามที่กำลังตกอยู่ในกำมือของศัตรู
— จักรพรรดิเฮราคลีอุส
การต่อสู้ในอาร์มีเนียและอานาโตเลีย
อุมัรได้สั่งให้ไปยึดเมือง โดยทำสำเร็จในช่วงปลายฤดูร้อน ปีค.ศ. 638 หลังจากยึดเมืองญาซีราแล้ว อบูอุบัยดะฮ์ได้ส่งคอลิดและไปยึดครองบริเวณทางเหนือของญาซิรา โดยพวกเคลื่อนทัพไปอย่างอิสระ และยึดเมืองเอเดสซา (ดิยาบาเกิร), พร้อมบุกรุกไปถึง, และอานาโตเลียตอนกลาง เฮราคลีอุสได้ทิ้งป้อมทั้งหมดที่อยู่ระหว่างแอนติออกกับ เพื่อสร้างระหว่างบริเวณที่ชาวมุสลิมควบคุมและเขตอานาโตเลีย
ตอนนั้นเองอุมัรได้กล่าวไว้ว่า: "ฉันหวังว่าเราจะมีกำแพงไฟระหว่างเรากับชาวโรมัน นั่นจะทำให้พวกเขาเข้ามาไม่ได้ และเราก็ไปต่อไม่ได้เช่นกัน"
ถูกถอดถอนจากการเป็นทหาร
ตอนนี้ คอลิด เป็นโด่งดังและมีคนชื่นชอบเขามาก สำหรับชาวมุสลิมแล้ว เขาคือวีรบุรุษของชาติ และรู้จักกันในสมญานามว่า ซัยฟุลลอฮ์ ("ดาบของอัลลอฮ์")
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากยึดเมือง (คาฮ์รามามันมาราช)ในฤดูใบไม้ร่วงปีค.ศ. 638 โดยมีคนแต่งกวีให้กับคอลิดพร้อมกับรับเงินจำนวน 10,000 จากเขา โดยเงินนี้ได้มาจากกองคลังของเคาะลีฟะฮ์
อุมัรได้พูดกับอบูอุบัยดะฮ์ว่าคอลิดนำเงินมาจากไหนให้นักกวีคนนั้น: เป็นเงินจากกระเป๋าของเขาหรือของกองคลัง? ถ้าเขาบอกว่าใช้เงินของกองคลัง เขาจะมีความผิดฐานไม่ซื่อสัตย์ ถ้าบอกว่าใข้เงินในกระเป๋าของเขา ก็มีความผิดฐานฟุ่มเฟือย แต่ถ้าไม่ใข่ทั้งคู่เขาสมควรถูกปลดแล้วให้อบูอุบัยดะฮ์ทำหน้าที่นี้แทน
คอลิดได้ไปที่และกล่าวลากับของเขาแล้วไปที่มะดีนะฮ์เพื่อไปพบกับอุมัร พร้อมกับอธิบายว่าเขาทำอะไรผิด อุมัรจึงกล่าวคำสรรเสริญให้กับเขาว่า: "เจ้าได้ทำแล้ว และไม่มีชายคนใดเคยทำได้มาก่อน แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนทำ นั่นเป็นสิ่งที่อัลลออ์กำหนด..."
หลังจากนั้นอุมัรได้อธิบายให้เข้าใจว่า:
ฉันไม่ได้ถอดถอนคอลิดเพราะความโกรธของฉันหรือความไม่ซื่อสัตย์จากเขา แต่เพราะผู้คนได้สรรเสริญเขา และฉันจึงกลัวว่าผู้คนคนจะพึ่งพาเขา ฉันต้องการให้พวกเขารู้ว่าอัลลอฮ์เท่านั้นที่ให้ชัยชนะให้กับพวกเรา และแผ่นดินจะได้ไม่มีผู้หวังร้ายแน่นอน
— เคาะลีฟะฮ์อุมัร
และด้วยเหตุนี้เองทำให้ความสำเร็จทางทหารของคอลิดได้มาถึงจุดจบ
เสียชีวิต
หลังจากถูกถอดถอนออกจากการเป็นทหารมา 4 ปี คอลิดก็เสียชีวิตและถูกฝังที่เอมีซาในปีค.ศ. 642 ปัจจุบันสุสานของเขาอยู่ใน ป้ายสุสานของคอลิดแสดงรายชื่อสงครามมากกว่า 50 ครั้งโดยที่เขาไม่เคยแพ้ (ไม่รวมสงครามย่อยๆ) มีรายงานว่าเขาต้องการที่จะเสียชีวิตในฐานะในสงคราม แต่ได้รับความผิดหวังเมื่อเขารู้ว่าจะต้องเสียชีวิตบนเตียงนอน คอลิดจึงรู้สึกเศร้าเสียใจ แล้วพูดว่า:
ข้าได้เข้ารบหลายครั้ง เพื่อที่จะเป็นผู้พลีชีพ ร่างกายของข้าไม่มีรอยจุด, แผลเป็น และรอยแผลที่เกิดจากหอกหรือดาบเลย และตอนนี้ข้าต้องนอนตายเหมือนกับอูฐแก่...
— คอลิด อิบน์ วะลีด
เมื่อเห็นเขารู้สึกเศร้า เพื่อนของคอลิดจึงบอกว่า:
เจ้าต้องเข้าใจนะ โอ้คอลิด เมื่อศาสนทูตของอัลลอฮ์ (มุฮัมมัด) ขอความสันติจงมีแด่ท่าน ได้ให้สมญานามเจ้าว่า ซัยฟุลลอฮฺ และท่านกำหนดไว้ว่าเจ้าจะไม่แพ้สมรภูมิใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าเจ้าถูกฆ่าโดยผู้ปฏิเสธศรัทธาแล้ว นั่นหมายความว่าดาบของอัลลอฮ์ได้ถูกทำลายลงโดยศัตรูของอัลลอฮ์; และนั่นไม่สมควรที่จะเกิดขึ้น
— เพื่อนเก่าของคอลิด
นี่คือคำพูดที่พูดไว้แค่วันเดียวก่อนที่คอลิดจะเสียชีวิต อุมัรได้ร้องไห้หนักมากและกล่าวว่า:
ขอให้พระองค์ทรงเมตตาเจ้า อบู สุไลมาน (คอลิด) สิ่งที่เจ้าทำตอนนี้ดีกว่าสิ่งที่เจ้ามีในวันนี้ ตอนนี้เจ้าอยู่กับองค์อัลลอฮ์แล้ว...
— อุมัร อิบน์ คอฏฏอบ
ครอบครัว
คอลิดมีภรรยาและลูกหลายคน รายชื่อด้านล่างนี้คือลูกที่มีในบันทึกทางประวัติศาสตร์
- ลูกชายของวะลีด ได้แก่:
- ฮิชาม อิบน์ วะลีด
- วะลีด อิบน์ วะลีด
- อับดุลชาม อิบน์ วะลีด
- ลูกสาวของวะลีด ได้แก่:
- ฟัคตะฮ์ บินต์ วะลีด
- ฟาติมะฮ์ บินต์ วะลีด
- (เป็นข้อโต้เถียง)[]
ไม่มีใครรู้ว่าคอลิดมีลูกกี่คน แต่มีอยู่สามคนที่ถูกกล่าวในประวัติศาสตร์ ได้แก่:
- สุไลมาน อิบน์ วะลีด
- อับดุลเรมาน อิบน์ วะลีด
- มุฮาญิร อิบน์ วะลีด
สุไลมาน ลูกชายที่แก่ที่สุดของคอลิดถูกฆ่าใน แต่มีบางรายงานเขียนว่าเขาถูกฆ่าในสงครามในปี ค.ศ. 639 มุฮาญิร อิบน์ วะลีดเสียชีวิตใน และยังคงเป็นผู้ว่าราชการเมืองเอมีซาในสมัยเคาะลีฟะฮ์อุสมาน แล้วเข้าร่วมสงครามซิฟฟินโดยเป็นหนึ่งในแม่ทัพของมุอาวิยะฮ์ที่ 1, เข้าร่วมในปี ค.ศ. 674 จึงกลายเป็นคนที่จะเป็นกษัตริย์คนต่อไป แต่มีรายงานว่าเขาโดนวางยาพิษของมุอาวิยะฮ์ เพราะว่าเขาต้องการให้ ลูกชายของเขาเป็นกษัตริย์คนต่อไปแทน
อ้างอิง
- Khalid ibn al-Walid, Encyclopædia Britannica. Retrieved. 17 October 2006.
- Akram 2004, p. 496
- Akram 2004, p. 499
- Alkhateeb, Firas (2017). Lost Islamic History: Reclaiming Muslim Civilisation from the Past (ภาษาอังกฤษ). . p. 43. ISBN .
- Akram 2004, p. 2
- Muhammad ibn Saad, Tabaqat vol. 8. Translated by Bewley, A. (1995). The Women of Madina pp. 195-196. London: Ta-Ha Publishers.
- Akram 2004, p. 3
- Weston 2008, p. 41
- Akram 2004, p. 70
- Akram 2004, p. 14
- Akram 2004, p. 75
- Al-Waqidi & 8th century, p. 321
- Walton 2003, p. 208
- Ghadanfar, Mahmood Ahmad (2001). The Commanders of Muslim Army (ภาษาอังกฤษ). Darussalam Publishers. p. 31.
- Nicolle 2009, p. 22
- Akram 2004, p. 80
- Ghadanfar, Mahmood Ahmad (2001). The Commanders of Muslim Army (ภาษาอังกฤษ). Darussalam Publishers. p. 42.
- Akram 2004, p. 128
- "List of Battles of Muhammad". Military.hawarey.org. 28 ตุลาคม 2005. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 มิถุนายน 2011. สืบค้นเมื่อ 28 สิงหาคม 2011.
- The sealed nectar, By S.R. Al-Mubarakpuri, Pg256. Books.google.co.uk. มกราคม 2002. สืบค้นเมื่อ 28 สิงหาคม 2011.
- . Witness-pioneer.org. 16 กันยายน 2002. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 กันยายน 2011. สืบค้นเมื่อ 28 สิงหาคม 2011.
- The life of Mahomet and history of Islam, Volume 4, By Sir William Muir, Pg 135 See bottom, Notes section
- The life of Mahomet and history of Islam, Volume 4, By Sir William Muir, Pg 135. Books.google.co.uk. 1861. สืบค้นเมื่อ 28 สิงหาคม 2011.
- , (Life of Muhammad), trans. Guillaume, Oxford 1955, pp. 561–562
- , Victory of Islam, trans. Fishbein, Albany 1997, pp. 188 ff.
- In the Footsteps of the Prophet:Lessons from the Life of Muhammad, By Tariq Ramadan Page 179 [1]
- Tafsir Ibn Kathir all 10 volumes By IslamKotob Page
- The Meaning And Explanation Of The Glorious Qur’an (Vol 2) 2nd Edition By Muhammad Saed Abdul-Rahman Page 241 [2]
- Abu Khalil, Shawqi (1 มีนาคม 2004). Atlas of the Prophet's biography: places, nations, landmarks. Dar-us-Salam. p. 239. ISBN .
- Abū Khalīl, Shawqī (2003). Atlas of the Quran. Dar-us-Salam. p. 244. ISBN .
- Rahman al-Mubarakpuri, Saifur (2005), The Sealed Nectar, Darussalam Publications, p. 277
- Muir, William (10 สิงหาคม 2003). Life of Mahomet. Kessinger Publishing Co. p. 458. ISBN . A full online version of it is available here [3][]
- Muir, William (10 สิงหาคม 2003). Life of Mahomet. Kessinger Publishing Co. p. 458. ISBN .
- Nicolle 2009, p. 25
- Akram 2004, p. 167
- Walton 2003, p. 17
- Akram 2004, p. 178
- Al-Tabari 915, pp. 501–502
- Al-Tabari 915, p. 496
- Al-Tabari 915, p. 502
- Tabari: Vol. 2, Page no: 5
- Akram 2004, p. 183
- Akram 2004, p. 188
- Morony 2005, p. 223
- History of the World, Volume IV [Book XII. The Mohammedan Ascendency], page 463, by John Clark Ridpath, LL.D. 1910.
- Morony 2005, p. 224
- Morony 2005, p. 233
- Morony 2005, p. 192
- Jaques 2007, p. 18 harvnb error: multiple targets (2×): CITEREFJaques2007 ()
- Akram 2004, p. 215
- Akram 2004, p. 217
- Morony 2005, p. 225
- Morony 2005, p. 230
- Morony 2005, p. 149
- Allenby 2003, p. 68
- Gil 1997, p. 40
- Akram 2004, p. 267
- Gil 1997, p. 43
- Gil 1997, p. 41
- Akram 2004, p. 270
- Jaques 2007, p. 155 harvnb error: multiple targets (2×): CITEREFJaques2007 ()
- Jaques 2007, p. 20 harvnb error: multiple targets (2×): CITEREFJaques2007 ()
- Nicolle 1994, p. 58
- Jaques 2007, p. 636 harvnb error: multiple targets (2×): CITEREFJaques2007 ()
- Nicolle 1994, p. 57
- Walton 2003, p. 28
- Nicolle 1994, p. 59
- Allenby 2003, p. 70
- Akram 2004, p. 305
- Nicolle 1994, p. 52
- Akram 2004, p. 409
- Gil 1997, p. 45
- Weston 2008, p. 50
- Nicolle 1994, p. 63
- Walton 2003, p. 29
- Walton 2003, p. 30
- Gil 1997, p. 51
- Gil 1997, p. 53
- Nicolle 1994, p. 84
- Akram 2004, p. 429
- Jaques 2007, p. 28 harvnb error: multiple targets (2×): CITEREFJaques2007 ()
- Akram 2004, p. 445
- Haykal 1990, p. 145
- Akram 2004, p. 448
- Haykal 1990, p. 146
- Haykal 1990, pp. 146–47
- Haykal 1990, p. 147
- Weston 2008, p. 43
- Gil 1997, p. 49
- Akram 2004, p. 481
- Weston 2008, p. 45
- Akram 2004, p. 487
- Akram 2004, p. 488
- Akram 2004, p. 501
- Akram 2004, p. 494
- Ibn Qutaybah & 9th century, p. 267
- Akram 2004, p. 303
- Muhammad Khalid, Khalid (2004). (ภาษาอังกฤษ). Islamic Book Service. p. 128. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 ตุลาคม 2018. สืบค้นเมื่อ 21 พฤศจิกายน 2018.
- Akram 2004, p. 497
- Ring and Salkin, 1996, p.193.
บรรณานุกรม
ข้อมูลปฐมภูมิ
- (9th century),
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|year=
((help)) - (915),
- (8th century), Fatuh al Sham (Conquest of Syria)
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|year=
((help)) - (774),
- (9th century), As-Sirah an-Nabawiyyah (Biography of Prophet Muhammad)
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|year=
((help)) - (750),
- (9th century), ‘Uyūn al-Akhbār (In history)
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|year=
((help)) - , 664
- Palmer, Andrew; Brock, Sebastian P; Hoyland, Robert (637 & 819), "Chronicles of 637 and 819", West-Syrian Chronicles, ISBN
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|year=
((help)) - Khalid Bin Waleed, Sword of Allah, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 มกราคม 2013
ข้อมูลทุติยภูมิ
- Akram, Agha Ibrahim (2004), The Sword of Allah: Khalid bin al-Waleed – His Life and Campaigns, , ISBN
- Allenby, Viscount (2003), Conquerors of Palestine Through Forty Centuries, , ISBN
- Eggenberger, David (1985), An encyclopedia of battles: accounts of over 1,560 battles from 1479 B.C. to the present, , ISBN
- (1990), Al-Faruq, 'Umar, Dār al-Maʻārif Publishers, ISBN
- (1997), A history of Palestine, 634–1099, , ISBN
- Harkavy, Robert E (2001), Warfare and the Third World, , ISBN
- (1997), , Darwin Press, ISBN , OCLC 36884186
- Jaques, Tony (2007), Dictionary of Battles and Sieges: A-E, , ISBN
- Jaques, Tony (2007), Dictionary of Battles and Sieges:F-O, , ISBN
- Jandora, John W. (1986), "Developments in Islamic Warfare: The Early Conquests", , Maisonneuve & Larose (64): 101–113, JSTOR 1596048
- Kaegi, Walter Emil (1995), Byzantium and the Early Islamic Conquests, , ISBN
- Malik, S. K. (1968), Khalid bin Walid: the general of Islam: a study in Khalid's generalship, Ferozsons publishers, Lahore
- (2005), Iraq After the Muslim Conquest, Gorgias Press LLC, ISBN
- (1994), Yarmuk 636 A.D.: The Muslim Conquest of Syria #31, , ISBN
- Nicolle, David (2009), The Great Islamic Conquests AD 632–750, , ISBN
- Palmer, Andrew (1993), The Seventh Century in the West-Syrian Chronicles, , ISBN
- Pratt, Fletcher (2000), The Battles That Changed History, , ISBN
- Ring, Trudy; Salkin, Robert M. (1994). International Dictionary of Historic Places. Taylor & Francis. ISBN .
- Walton, Mark W. (2003), Islam at war: a history, , ISBN
- Weston, Mark (2008), Prophets and Princes: Saudi Arabia from Muhammad to the Present, , ISBN
แหล่งข้อมูลอื่น
- Sword of Allah Biography of Khalid bin Al-Waleed Book by A.I. Akram
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
xabu suilman khxlid xibn xlwalid xibn xlmukhieraah xlmkhsumi xahrb أبو سليمان خالد بن الوليد بن المغيرة المخزومي 585 642 ruckkninchux syfullxh xlmslul xahrb سيف الله المسلول dabaehngaesngxrunkhxngxllxh epnphutidtamkhxngmuhmmd ekhaepnphumithksainkarrbaelaepnphubychakarphayitkarkhwbkhumkhxngmuhmmd aelaxumr khxlididsurbmakkwa 100 snamrb inrahwangckrwrrdiibaesnithn ckrwrrdiaesssanid aelakbtinckrwrrdiekhaalifahinchwngpi kh s 632 thungpi kh s 636 cnkrathnginpikh s 638 ekhathukthxdthxnxxkcaktaaehnngphubychakarthhar inrahwangthikhxlidepnphubychakarnn ekhaidthanaepnhnunginkhxngolkkhxlid xibn xlwalid خالد بن الوليدekid585 mkkah khabsmuthrxahrbesiychiwitphvsphakhm 642 57 pi hxms rthekhaalifahrxchidin pccubnkhuxpraethssieriysusanhxms praethssieriyrbichrthekhaalifahrxchidinaephnk wbr sngkdpracakarmithunayn 632 638chnyscxmthphhnwybngkhbbychacxmthph 632 634 aemthphthharrab 634 638 aemthphkhxng 634 638 phubychakarthharpracaemuxngxirk 633 634 emixng 637 638 chiwitchwngtnkhxlidekidinpi kh s 585 inemuxngmkkah phxkhxngekhachux phunakhxngepha aemkhxngekhachuxlubabah xlsukhrx bint xlharis hlngcakthiekhaekid rayngancakpraephnichawkuerch khxlidthuksngipyngaemnmchawebduxinklangthaelthray cnkrathngxayu 5 6 pi ekhathuknaklbbanthimkkah inkhnathiyngepnedknnekhaekidepnorkhxisukxiis sungekharxdmaid aetidthingrxngrxybnaekmsaykhxngekhasmymuhmmd kh s 610 632 kxnekharbxislam immiikhrruwakhxlidepnxyangirkxnthicaekharbxislam aetmiraynganwakhxlidimidekharwmsngkhrambadr hlngcaknnekhanachychnaihkbchawmkkahinsngkhramxuhud kh s 625 aelasngkhramsudthaythiekharwmkbchawkuerchkhuxsngkhramsnamephlaainpi kh s 627 hlngcaksngkhrambadrkhxlidaelahacham xibn walid ipthimadinahephuxcaykhaithwalid xibn walid aethlngcaknnwalididklbmkkahaelw ekhaidhlbhniipyngmadinahephuxekharbxislam ekharbxislam hlngcakthasnthisyyahudybiyahinpikh s 628 miraynganwasasdamuhmmdidklawkbwalid xibn walidwa khnxyangkhxlid imsamarthxyuhangcakxislamidnanaen walididekhiyncdhmayipyngkhxlidephuxekharbxislam khxlidtdsinicekharbxislamaelaidphuderuxngniihkb khxlidthuktharayody aetthukxikrimahkhwangaelaphudwa rawngihdi ox xbusufyan khwamokrthkhxngecaxaccanachnekharwmkbmuhmmd khxlidcanbsasnaxairkidtamthiekhatxngkar ineduxnphvsphakhm kh s 629 khxliderimedinthangipmadinah aelwphbkbaelaxusman xibn txlhah thikalngipmadinahephuxekharbxislamdwy phwkekhamathungmadinahinwnthi 31 phvsphakhm kh s 629 khxlididthkthaymuhmhmdaelasyyawacacngrkphkditxthan muhmmdcungklawkbkhxlidwa chnaenicwa pyyaaelakhwamhwngkhxngecathaihwnhnungtxngrbxislamepnsasnakhxngtnexng sasdamuhmmd karthharinsmymuhmmd ineduxnknyayn kh s 629 idmikarekhluxnthphiprbthi rthpraethsrachkhxngckrwrrdiormntawnxxk odykxsungepnsngkhramrahwangchawmuslimaelakxngthphkhxngckrwrrdiibesnithn muhmmdidihepnaemthph thasydesiychiwit cungrbhnathitx thayafresiychiwit cungrbhnathitx thathngsamthukkhaaelw iheluxkkhnthiehmaasmexng txnthisurbnn aemthphthngsamthukkhahmdaelw phwkekhacungeluxkkhxlidmarbhnathinitx aelwsurbcnchna hlngcakehtukarninpi kh s 630 khxlididnakxngthphipsurbinaela cnchnakartxsu khxlididrbbadaephlkhnadihyintxnsurb muhmmdidmaeyiymekhaaelwbxkwakhxihhayerw ekhaidekharwmphayitkarnathphodymuhmmd khxlidthuksngipthidumatulyndlphrxmkbtxsuaelacbecachayaehng phrxmkbbngkhbihthasyya karthharkhnaepnphubychakar ineduxnmkrakhm kh s 630 eduxnrxmdxn h s 8 khxlidthuksngihipthalayethwrupxlxussa aelwsngharphuhyingthimuhmmdbxkwannkhuxxlxussa khxlidthuksngipthiephaihekharbxislam phwkekhaklawwa sabax na sabax na eramacaksabax aetkhxlidekhaicphid cungkkkhngaelathrmanphwkekhacntxngbxkihhyud muhmmdrusukesiyicekiywkbkarkrathakhxngekha aelwcaysinihmihkbkhninkhrxbkhrwthiesiychiwitaelathrphysinthithukthalay phrxmkbphudwa oxxllxh chnbrisuththi imidekiywkhxng kbsingthikhxlid xibn walidthalngip muhmmdidsngkhxlidephuxocmtiprasathkhxngecachayxukydirthinbthuxsasnakhrist cnyudidineduxnminakhm kh s 631 eduxnsulkix dah h s 9 odykhxlididnatwpraknaelakhuwathaimepidpratuprasathaelwekhacakhatwprakn hlngcaknnsasdamuhmmdidcaykhaithodymixuth 2000 tw aeka 800 tw chudekraa 400 chud hxk 400 xn aelasyyawacacay ineduxnemsayn kh s 631 muhmmdidsngkhxlidephuxthalayethwrup khxlididthalayethwrupphrxmkbsthanthibuchaaelasngharthukkhnthitxtankarthalayethwrupsmyxbubkr kh s 632 634 khrxbkhrxngthngkhabsmuthrxahrb aephnthiesnthangthikhxlidkhrxbkhrxngthngkhabsmuthrxahrb hlngcakmuhmmdesiychiwit ephaxahrbhlayephaidkxkbttxrthekhaalifah ekhaalifahidsngthharipprabkbdaela khxlidcungepnhnunginaemthphthixbubkrsngihmikarwangaephninsngkhramriddahodyihkhaaenanawaekhatxngepnaemthphnachawmuslimipthikhabsmuthrxahrbtxnklang briewnthiepnsunyklangkhxngkbd aelamikhwamesiyngthiphwkekhacaocmtimadinahidngay inchwngklangeduxnknyayn kh s 632 khxlidrbhnunginkbdthixangtnexngwaepnsasdaephuxthicaihphukhnsnbsnuntnexng cnxanackhxngtnexngidhmdlnghlngcakaephin hlngcaknnkhxlididipthinkhraaelakacdkbdcakbnusalimin sudthaykhxlididkhrxbkhrxngthngaekhwnhlngcakodysurbchnaslmaineduxntulakhm kh s 632 txnniaekhwnrxbemuxngmadinahepnkhxngmuslimaelw khxlidcungnathphipthiaekhwn thimnkhxngepha mihlayphwkthiyxmphbkhxlidaelakdhmaykhxngekhaalifah aet hwhnaephabnuyrbuxeliyngkartidtxkbkhxlidaelabxkihphutidtamaeykyayknhni odythikhrxbkhrwkhxngekhacahniipthangthaelthray phrxmkbprakasepnstrukbrthekhaalifahodymikhwamrwmmuxkbscyah phuhyingthixangtnexngwaepnsasda hlngcaknnmalikthukcbphrxmkbphukhnkhxngekha aelakhxlidthamwathaimthungthaxyangni ekhaidtxbwa naykhxngecaidphudxyangni naykhxngecaidphudxyangnn khxlidcungprakaswamalikepnkbdphulathingsasnaphrxmkbpraharchiwit hlngcakkaresiychiwitkhxngmalikaelw khxlididcb thaihekidkhxotaeyng thharkhxngekhasungrwmipthungxbukxtxxahechuxwakhxlidkhamalikephuxexaphrryamaepnkhxngekha cneruxngnithunghukhxngxumrthipruksakhxngxbubkr aelwxbubkrideriykkhxlidihekhaphbephuxxthibaywathaimthungepnxyangni khxlididrbchnamusylimah khnthixangtnexngwaepnsasdainemuxeduxnthnwakhm kh s 632 musylimahthukkhainsnamrb aelaephathiepnkbtkthukthalayhmdsin karrukranckrwrrdiepxrechiy aephnthiaesdngkarphichidemosopetemiytxnlang xirk khxngkhxlid hlngcakthithalaykbthmdaelwthngkhabsmuthrxahrbcungxyuphayitrthekhaalifah xbubkrtxngkarthicakhyayxanackr cungsngkhxlidipthixanackrepxresiyphrxmkbthhar 18 000 nay ephuxyudkhrxngemosopetemiytxnlang pccubnkhuxpraethsxirk odykxnthicasurbnn ekhaidekhiyncdhmayipyngfayepxresiywa cngyxmrbxislamaelwecacaplxdphy hruxcayxmcaycisyah phasi khunaelaphukhnkhxngecacaxyuinkarpxngknkhxngera imechnnnecacatxngothsaettnexngsahrbphlthitamma enuxngcakchncaepnphuthaihecataysmkbthiecamichiwit khxlid xibn walid ekhaidrbchychnaxyangrwderwinsismrphumi idaek ineduxnemsayn kh s 633 inchwngsamspdahkhxngeduxnemsayn kh s 633 inchwngeduxnphvsphakhm kh s 633 aela inchwngklangeduxnphvsphakhm kh s 633 inspdahsudthaykhxngeduxnphvsphakhm kh s 633 emuxnghlwngpracaaekhwnemosopetemiytxnlang odychawemuxngyxmcay phasi aelasyyawacachwyfaymuslim hlngcakihkxngthphphkphxnaelw khxlididnakxngthphbukemuxngineduxnmithunayn kh s 633 aelwcnkrathngphwkekhayxmaephineduxnkrkdakhm kh s 633 aelwipthangtxnidphrxmkbinchwngplayeduxnkrkdakhm kh s 633 txnniekuxbthngemosopetemiytxnlang aekhwnyuefrthistxnehnux xyuphayitkarkhwbkhumkhxngkhxlidaelw aetmicdhmaythungkhxlidwathidumatulyndl xiyad xibn khnm thuklxmrxbodyphwkkbd khxlidcungtxnglngipineduxnsinghakhm kh s 633 intxnthiekhakhxlidkalngklbipthiemosopetemiy khxlididbxkwa ekhaaexbipthimkkahephuxiptha hcy intxnthiekhaklbmacakxarebiy khxlididrucakkhnsxdaenmwamikxngkalngthharepxresiyaelachawxahrbkhrisetiynkhnadihypracakhayxyusithiinaekhwnyuefrtis idaekemuxng hanafis sumyl saniy aelabriewnthithharmakthisudkhuxemuxngmusyyah khxlidcungphyayameliyngsngkhramaebbprachnchidkbkxngthphepxresiyaelatdsinicbukthalaykhayaetlakhayinewlaklangkhunodykaraebngthharepnsamhnwy aelwcdkarkbkxngthphepxresiytxnklangkhun odyerimthi aelaineduxnphvscikayn kh s 633 chawmuslimchnachawepxresiyinkaryudemosopetemiytxnlangaelaemuxng Ctesiphon thiimmithharefaemuxngxyu kxnthicaocmtiemuxnghlwngkhxngepxresiy khxlidtdsinicwatxngcdkarthharthangthisitaelatawntk phrxmkbekhluxnthphipthichayemuxngfiras aelwrbchnakxngthharphsmthimithharepxresiy ibesnithn aelaxahrbkhrisetiynphrxmkbyudpxmprakarin chwngeduxnthnwakhm kh s 633 nicungepnsngkhramsudthayephuxthikhrxbkhrxngemosopetemiytxnlang rahwangthixyuinxirk khxlididtaaehnngphuwarachkarthharinbriewnthikhrxbkhrxng karrukranckrwrrdiibaesnithn aephnthiaesdngkarrukkhxngrthekhaalifahrxchidinthiliaewnt hlngcakyudaekhwninckrwrrdiepxresiyidaelw ekhaalifahxbubkrcungmirbsngihipbukrukthisieriy odyihmikaraebngthharepnsiswn aetlaklummicudhmaythiaetktangkn swnfngibesnithnidrwbrwmthharcakthukkhay singnithaihthharmuslimimsamarthedinaethwipyudsieriytxnklanghruxehnuxid esnthangthicaipsieriymisxngthang odyesnthangaerkepnthangipedamatulyndl pccubnkhux sakaka aelaxikthangkhuxphanemosopetemiythangemuxngrkka txnnithharmuslimxyuthisieriyaelw khxlidcungeliyngesnthangipedamatulyndl enuxngcakrayathangiklaelaichewlahlayspdahthicaipthungsieriy aelaeliyngesnthangphanemosopetemiy ephraamikhaythharormnxyuthisieriytxnehnuxaelaemosopetemiy khxlidcungeluxkthangipsieriyodyphan aelasngihedinkhbwnphanthaelthrayodyimtxngdumnaepnewlasxngwn kxnthicathungoxexsis khxlididbxkihphwkekhaekbnaiwichinyamcaepn aelwihxuthdumnathnthihlngcakimiddumepnewlanan odyxuthcaekbnaiwinthxngkhxngmn sungcathaihphwkekhaxaccatxngkhaxuthephuxthicaexana thacaepn aephnthiaesdngesnthangthikhxlidbukrukthisieriy khxlidekhaipthisieriyineduxnmithunayn kh s 634 aelwyudemuxngsawa aelasurbephuxyudkhrxngemuxng aela hlngcaknncungiptxthibsra emuxngthixyuiklchayaednsieriy aelaepnsunyklangkhxngxanackr praethsrachkhxngckrwrrdiibesnithntawnxxk ekhakhamemuxngdamsksodykarkhamthangphuekhaephuxcaipthimarac xlrahat ephux emuxkhawmathungkhxlidaelw xbuxubydahcungsngih hnunginsiaemthphipocmtiemuxngbsraodymithhar 4 000 nay odythithharibesnithnaelaxahrbkhrisetiynimsamarthtanthanid aelayudemuxngidinchwngklangeduxnkrkdakhm kh s 634 thaihrachwngskhxssanidtxngthungcudcb hlngcakyudemuxngbsraidaelw khxlidcungnathharthnghmdipthixcnadynaelwsukbthharibesnithninwnthi 30 krkdakhm kh s 634 hlngcakthharibesnithnphayaephin khxlidtdsinicyudemuxngdamsks thiyudmnkhxngthharibesnithn inkhnaediywknthidamsks othms lukekhykhxngckrphrrdiehrakhlixus kalngesrimkarpxngkninemuxng ruwakhxlidkalngmathini ekhacungekhiyncdhmayipyngckrphrrdiehrakhlixusephuxtxngkarthharephim aelathimakkwann ekhatxngkarthicahyudkaredinthangkhxngkhxlidodynakxngthphxxkiprb phrxmkbaebngipthiemuxngyakusaaelamarac xs sffarinwnthi 19 singhakhm odykhnaediywkn kxngthphkhxngehrakhlixusidmathungdamsksinwnthi 20 singhakhm khxlidcungaeykkxngthphodyihswnhnungipthangtxnit thangippaelsitn txnehnux thangipdamsks exmisa aelakxngthphelk ipthidamsks thharkhxngckrphrrdiehrakhlixusidrueruxngniaelwedinthangipthangkhxngkhxlidaelwkxsngkhramthisanita xlxukxb sungxyuhangcakdamsksip 30 km khxlidcungsuaelainwnthi 18 knyayn kh s 634 hlngcaklxmemuxngip 30 wn miraynganwa yuththwithikhrngnixaccichewlapraman 4 6 eduxn ckrphrrdiehrakhlixusidkhawmawaemuxngsieriythukyudaelw cungehluxaekhemuxngaexntixxkinexmisa hlngcaksurbaelw khxlidcungichthangldthiimruckephuxthica odyxyuhangcakdamsksthangtxnehnuxip 150 km inkhnaediywkn xbubkresiychiwitinrahwangsngkhramdamsks aelwxumrklayepnekhaalifahkhntxipsmyxumr 634 642 thxdthxncakkarepncxmthph hlngcakxbubkresiychiwitinwnthi 22 singhakhm kh s 634 cungthaihxumr lukphiluknxngkhxngkhxlid epnekhaalifahkhntxip singaerkthixumrthannkhuxyaykhxlidxxkcakphubychakarthangthharsungsudihepnphubychakaraelaihthahnathiniaethn khxliderimthicaimechuxxumr enuxngcakekhaimekhyaephsngkhramid thngsin xumrcungbxkwa chnimidthxdthxnkhxlidephraakhwamokrthkhxngchnhruxkhwamimsuxstycakekha aetehtuphlthichnthxdthxnephraachntxngkarihphwkekharuwaxllxhethannthiihchychnaihkbphwkera khrxbkhrxngsieriytxnklang esnthangthikhxlidbukrukinsieriytxnklang hlngcakthixbuxubydahepncxmthphaelw ekhacungsngkxngthphelkipthixbuxlkuds pccubnkhuxemuxngxbla odyxyuiklemuxngpraman 50 km thangtawnxxkkhxngebrut ephuxthalaypxmthharinwnthi 15 tulakhm kh s 634 phrxmkbidthrphysinaelankothsormnxikrxykhn txnnisieriytxnklangthukkhrxbkhrxng aelaesnthangechuxmrahwangsieriytxnehnuxkbpaelsitnthuktdkhadaelw xbuxubydahcungnakxngthphipthifahl thixyutakwaradbnathael500 ft 150 m aelaepnthikxngthharaelaphurxdchiwitcaksngkhramxcnadynkhxngibesnithnxasyxyu aelwwangaephnkhamaemnacxraedninbriewnthiphwkekhakhwangknna aelwsurbcninkhunwnthi 23 mkrakhm kh s 635 sngkhramyrmuk khnaediywkn ckrphrrdiehrakhlixusthrngaetngtngkxngthphephuxyudsieriyklbmaxikkhrng odyichesnthangthieliyngthharmusliminchwngeduxnmithunayn kh s 636 txma khxliderimhwngwathharmuslimxacthukaeykaelakacdodyngay cungaenanaihxbuxubydahrwmkxngthphmuslimihepnhnung ephuxrbmuxkbkxngthphibesnithn xbuxbydahsngihthharmusliminsieriythnghmdihekhluxntwipthiyabiyahtamkhaaenanakhxngkhxlid sungthaihaephnkhxngehrakhlixuslmehlw enuxngcakekhaimtxngkarthicaephchiyhnakbchawmuslim sungxaccathaihkxngthphkhxngphraxngkhthukthalayid xbuxbydahsngihkxngthphmuslimeriyngtwtamphunthirabkhxng sungcathaepnaehlngphlithyaaelanaiddiaelasamarthichthharmamiprasiththiphaphmakkhun phrxmihthukkhnthatamkhasngkhxngkhxlid n wnthi 15 singhakhm idekidkhunaelakinewlaip 6 wn odythifayibesnithnphayaephxyanghnk khrxbkhrxngemuxngeyrusaelm inkhnathithharibesnithnkalngsbsnxyunn chawmuslimsamarthyudemuxngyrmukhidxyangrwderw caknncungipthangtxnitephuxyudemuxngeyrusaelm thisungthharibesnithnhlbphymaxyuthini cungmisngkhramxyuthinnepnewla 4 eduxn hlngcaknnchawemuxngcungyxmaephaettxngihekhaalifahmathinidwytnexng cungaenanakhxlidihrbsngekhaalifahmathini dngnnxumrcungmathiniaelwineduxnemsayn kh s 637 khrxbkhrxngsieriytxnehnux aephnthiaesdngthangthikhxlidbukrukthisieriytxnehnux txnniemuxngexmisaxyuinkamuxaelw xbuxubydahaelakhxlidcungnathphipthikxdisiyah epnbriewnthithharibesnithnpxngknxanaoteliy banekidkhxngckrphrrdiehrakhlixus xarmieniyaelaemuxngaexntixxk xbuxubydahidsngkhxlidipthikinnsrin odythipxmmithharkrikphayitkhasngaemthphemnas odythiekhamiaephnthicathalaythharkhxngkhxlidkxnthiphwkekhacarwmtwknthihasirthihangxxkip 5 km thangtawnxxkkhxngkinnsrin aetklbphayaephin xbuxubydahidekharwmkbkhxlidhlngcakchnasngkhramthikinnsrinineduxnmithunayn kh s 637 cungthaihthangtxnehnuxkhxngkinnsrinehmaathicaedinthphipcakibesnithnineduxntulakhm kh s 637 kxnthicaykthphipaexntixxk khxlidaelaxbuxubydahtdsinicaeykemuxngrxb xanaoteliy odykaryudthanthphthitngiwrxb thangipaexntixxk aelamisngkhramekidkhunodythinkrbchawaexntixxkidtngthphxyuikl odyruckinchux xbuxubydahidsngkhxlidihipthangehnux inkhnathiekhaipthangitaelwyudemuxnglsekiy ybla aelachaythaelkhxng swnkhxlididbukrukthi ekxesxelxmak inxanaoteliy aetckrphrrdiehrakhlixusidhnixxkcakaexntixxk aelwipthikxnthichawmuslimcamathung phrxmkbcdkxngthphiwthi aelaxarmieniy caknncungipthikhxnsaetntionepilodyekuxbthicathukkhxlidcbid hlngcakthiekhaidaelwipthangtxnitipthi ckrphrrdiehrakhlixusthrngichthangphuekhaaelwphanphrxmkbtrswa lakxn aelwlalbihkbsieriy cnghwdkhxngkhaidtkipyngnamuxkhxngstruaelw oxsieriy aephndinthiswyngamthikalngtkxyuinkamuxkhxngstru ckrphrrdiehrakhlixus kartxsuinxarmieniyaelaxanaoteliy aephnthiaesdngesnthangthikhxlidbukipthixarmieniyaelaxanaoteliy xumridsngihipyudemuxng odythasaercinchwngplayvdurxn pikh s 638 hlngcakyudemuxngyasiraaelw xbuxubydahidsngkhxlidaelaipyudkhrxngbriewnthangehnuxkhxngyasira odyphwkekhluxnthphipxyangxisra aelayudemuxngexedssa diyabaekir phrxmbukrukipthung aelaxanaoteliytxnklang ehrakhlixusidthingpxmthnghmdthixyurahwangaexntixxkkb ephuxsrangrahwangbriewnthichawmuslimkhwbkhumaelaekhtxanaoteliy txnnnexngxumridklawiwwa chnhwngwaeracamikaaephngifrahwangerakbchawormn nncathaihphwkekhaekhamaimid aelaerakiptximidechnkn thukthxdthxncakkarepnthhar txnni khxlid epnodngdngaelamikhnchunchxbekhamak sahrbchawmuslimaelw ekhakhuxwirburuskhxngchati aelaruckkninsmyanamwa syfullxh dabkhxngxllxh ehtukarnniekidkhunxyangrwderwhlngcakyudemuxng khahramamnmarach invduibimrwngpikh s 638 odymikhnaetngkwiihkbkhxlidphrxmkbrbengincanwn 10 000 cakekha odyenginniidmacakkxngkhlngkhxngekhaalifah xumridphudkbxbuxubydahwakhxlidnaenginmacakihnihnkkwikhnnn epnengincakkraepakhxngekhahruxkhxngkxngkhlng thaekhabxkwaichenginkhxngkxngkhlng ekhacamikhwamphidthanimsuxsty thabxkwaikhengininkraepakhxngekha kmikhwamphidthanfumefuxy aetthaimikhthngkhuekhasmkhwrthukpldaelwihxbuxubydahthahnathiniaethn khxlididipthiaelaklawlakbkhxngekhaaelwipthimadinahephuxipphbkbxumr phrxmkbxthibaywaekhathaxairphid xumrcungklawkhasrresriyihkbekhawa ecaidthaaelw aelaimmichaykhnidekhythaidmakxn aetniimichsingthiphukhntha nnepnsingthixllxxkahnd hlngcaknnxumridxthibayihekhaicwa chnimidthxdthxnkhxlidephraakhwamokrthkhxngchnhruxkhwamimsuxstycakekha aetephraaphukhnidsrresriyekha aelachncungklwwaphukhnkhncaphungphaekha chntxngkarihphwkekharuwaxllxhethannthiihchychnaihkbphwkera aelaaephndincaidimmiphuhwngrayaennxn ekhaalifahxumr aeladwyehtuniexngthaihkhwamsaercthangthharkhxngkhxlididmathungcudcbesiychiwitsusankhxngkhxlidin hxms praethssieriysusankhxngkhxlid hlngcakthukthxdthxnxxkcakkarepnthharma 4 pi khxlidkesiychiwitaelathukfngthiexmisainpikh s 642 pccubnsusankhxngekhaxyuin paysusankhxngkhxlidaesdngraychuxsngkhrammakkwa 50 khrngodythiekhaimekhyaeph imrwmsngkhramyxy miraynganwaekhatxngkarthicaesiychiwitinthanainsngkhram aetidrbkhwamphidhwngemuxekharuwacatxngesiychiwitbnetiyngnxn khxlidcungrusukesraesiyic aelwphudwa khaidekharbhlaykhrng ephuxthicaepnphuphlichiph rangkaykhxngkhaimmirxycud aephlepn aelarxyaephlthiekidcakhxkhruxdabely aelatxnnikhatxngnxntayehmuxnkbxuthaek khxlid xibn walid emuxehnekharusukesra ephuxnkhxngkhxlidcungbxkwa ecatxngekhaicna oxkhxlid emuxsasnthutkhxngxllxh muhmmd khxkhwamsnticngmiaedthan idihsmyanamecawa syfullxh aelathankahndiwwaecacaimaephsmrphumiid thngsin thaecathukkhaodyphuptiesthsrththaaelw nnhmaykhwamwadabkhxngxllxhidthukthalaylngodystrukhxngxllxh aelannimsmkhwrthicaekidkhun ephuxnekakhxngkhxlid nikhuxkhaphudthiphudiwaekhwnediywkxnthikhxlidcaesiychiwit xumridrxngihhnkmakaelaklawwa khxihphraxngkhthrngemttaeca xbu suilman khxlid singthiecathatxnnidikwasingthiecamiinwnni txnniecaxyukbxngkhxllxhaelw xumr xibn khxttxbkhrxbkhrwkhxlidmiphrryaaelalukhlaykhn raychuxdanlangnikhuxlukthimiinbnthukthangprawtisastr lukchaykhxngwalid idaek hicham xibn walid walid xibn walid xbdulcham xibn walidluksawkhxngwalid idaek fkhtah bint walid fatimah bint walid epnkhxotethiyng txngkarxangxing immiikhrruwakhxlidmilukkikhn aetmixyusamkhnthithukklawinprawtisastr idaek suilman xibn walid xbdulerman xibn walid muhayir xibn walid suilman lukchaythiaekthisudkhxngkhxlidthukkhain aetmibangraynganekhiynwaekhathukkhainsngkhraminpi kh s 639 muhayir xibn walidesiychiwitin aelayngkhngepnphuwarachkaremuxngexmisainsmyekhaalifahxusman aelwekharwmsngkhramsiffinodyepnhnunginaemthphkhxngmuxawiyahthi 1 ekharwminpi kh s 674 cungklayepnkhnthicaepnkstriykhntxip aetmiraynganwaekhaodnwangyaphiskhxngmuxawiyah ephraawaekhatxngkarih lukchaykhxngekhaepnkstriykhntxipaethnxangxingKhalid ibn al Walid Encyclopaedia Britannica Retrieved 17 October 2006 Akram 2004 p 496 Akram 2004 p 499 Alkhateeb Firas 2017 Lost Islamic History Reclaiming Muslim Civilisation from the Past phasaxngkvs p 43 ISBN 9781849046893 Akram 2004 p 2 Muhammad ibn Saad Tabaqat vol 8 Translated by Bewley A 1995 The Women of Madina pp 195 196 London Ta Ha Publishers Akram 2004 p 3 Weston 2008 p 41 Akram 2004 p 70 Akram 2004 p 14 Akram 2004 p 75 Al Waqidi amp 8th century p 321harvnb error no target CITEREFAl Waqidi8th century Walton 2003 p 208 Ghadanfar Mahmood Ahmad 2001 The Commanders of Muslim Army phasaxngkvs Darussalam Publishers p 31 Nicolle 2009 p 22 Akram 2004 p 80 Ghadanfar Mahmood Ahmad 2001 The Commanders of Muslim Army phasaxngkvs Darussalam Publishers p 42 Akram 2004 p 128 List of Battles of Muhammad Military hawarey org 28 tulakhm 2005 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 11 mithunayn 2011 subkhnemux 28 singhakhm 2011 The sealed nectar By S R Al Mubarakpuri Pg256 Books google co uk mkrakhm 2002 subkhnemux 28 singhakhm 2011 Witness pioneer org 16 knyayn 2002 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 27 knyayn 2011 subkhnemux 28 singhakhm 2011 The life of Mahomet and history of Islam Volume 4 By Sir William Muir Pg 135 See bottom Notes section The life of Mahomet and history of Islam Volume 4 By Sir William Muir Pg 135 Books google co uk 1861 subkhnemux 28 singhakhm 2011 Life of Muhammad trans Guillaume Oxford 1955 pp 561 562 Victory of Islam trans Fishbein Albany 1997 pp 188 ff In the Footsteps of the Prophet Lessons from the Life of Muhammad By Tariq Ramadan Page 179 1 Tafsir Ibn Kathir all 10 volumes By IslamKotob Page The Meaning And Explanation Of The Glorious Qur an Vol 2 2nd Edition By Muhammad Saed Abdul Rahman Page 241 2 Abu Khalil Shawqi 1 minakhm 2004 Atlas of the Prophet s biography places nations landmarks Dar us Salam p 239 ISBN 978 9960 897 71 4 Abu Khalil Shawqi 2003 Atlas of the Quran Dar us Salam p 244 ISBN 978 9960 897 54 7 Rahman al Mubarakpuri Saifur 2005 The Sealed Nectar Darussalam Publications p 277 Muir William 10 singhakhm 2003 Life of Mahomet Kessinger Publishing Co p 458 ISBN 978 0 7661 7741 3 A full online version of it is available here 3 lingkesiy Muir William 10 singhakhm 2003 Life of Mahomet Kessinger Publishing Co p 458 ISBN 978 0 7661 7741 3 Nicolle 2009 p 25 Akram 2004 p 167 Walton 2003 p 17 Akram 2004 p 178 Al Tabari 915 pp 501 502 Al Tabari 915 p 496 Al Tabari 915 p 502 Tabari Vol 2 Page no 5 Akram 2004 p 183 Akram 2004 p 188 Morony 2005 p 223 History of the World Volume IV Book XII The Mohammedan Ascendency page 463 by John Clark Ridpath LL D 1910 Morony 2005 p 224 Morony 2005 p 233 Morony 2005 p 192 Jaques 2007 p 18harvnb error multiple targets 2 CITEREFJaques2007 Akram 2004 p 215 Akram 2004 p 217 Morony 2005 p 225 Morony 2005 p 230 Morony 2005 p 149 Allenby 2003 p 68 Gil 1997 p 40 Akram 2004 p 267 Gil 1997 p 43 Gil 1997 p 41 Akram 2004 p 270 Jaques 2007 p 155harvnb error multiple targets 2 CITEREFJaques2007 Jaques 2007 p 20harvnb error multiple targets 2 CITEREFJaques2007 Nicolle 1994 p 58 Jaques 2007 p 636harvnb error multiple targets 2 CITEREFJaques2007 Nicolle 1994 p 57 Walton 2003 p 28 Nicolle 1994 p 59 Allenby 2003 p 70 Akram 2004 p 305 Nicolle 1994 p 52 Akram 2004 p 409 Gil 1997 p 45 Weston 2008 p 50 Nicolle 1994 p 63 Walton 2003 p 29 Walton 2003 p 30 Gil 1997 p 51 Gil 1997 p 53 Nicolle 1994 p 84 Akram 2004 p 429 Jaques 2007 p 28harvnb error multiple targets 2 CITEREFJaques2007 Akram 2004 p 445 Haykal 1990 p 145 Akram 2004 p 448 Haykal 1990 p 146 Haykal 1990 pp 146 47 Haykal 1990 p 147 Weston 2008 p 43 Gil 1997 p 49 Akram 2004 p 481 Weston 2008 p 45 Akram 2004 p 487 Akram 2004 p 488 Akram 2004 p 501 Akram 2004 p 494 Ibn Qutaybah amp 9th century p 267harvnb error no target CITEREFIbn Qutaybah9th century Akram 2004 p 303 Muhammad Khalid Khalid 2004 phasaxngkvs Islamic Book Service p 128 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 16 tulakhm 2018 subkhnemux 21 phvscikayn 2018 Akram 2004 p 497 Ring and Salkin 1996 p 193 brrnanukrmkhxmulpthmphumi 9th century a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Citation title aemaebb Citation citation a trwcsxbkhawnthiin year help 915 8th century Fatuh al Sham Conquest of Syria a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Citation title aemaebb Citation citation a trwcsxbkhawnthiin year help 774 9th century As Sirah an Nabawiyyah Biography of Prophet Muhammad a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Citation title aemaebb Citation citation a trwcsxbkhawnthiin year help 750 9th century Uyun al Akhbar In history a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Citation title aemaebb Citation citation a trwcsxbkhawnthiin year help 664 Palmer Andrew Brock Sebastian P Hoyland Robert 637 amp 819 Chronicles of 637 and 819 West Syrian Chronicles ISBN 9780853232384 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Citation title aemaebb Citation citation a trwcsxbkhawnthiin year help Khalid Bin Waleed Sword of Allah khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 28 mkrakhm 2013khxmulthutiyphumi Akram Agha Ibrahim 2004 The Sword of Allah Khalid bin al Waleed His Life and Campaigns ISBN 0 19 597714 9 Allenby Viscount 2003 Conquerors of Palestine Through Forty Centuries ISBN 0 7661 3984 0 Eggenberger David 1985 An encyclopedia of battles accounts of over 1 560 battles from 1479 B C to the present ISBN 0 486 24913 1 1990 Al Faruq Umar Dar al Maʻarif Publishers ISBN 977 02 3092 8 1997 A history of Palestine 634 1099 ISBN 0 521 59984 9 Harkavy Robert E 2001 Warfare and the Third World ISBN 0 312 24012 0 1997 Darwin Press ISBN 0 87850 125 8 OCLC 36884186 Jaques Tony 2007 Dictionary of Battles and Sieges A E ISBN 0 313 33537 0 Jaques Tony 2007 Dictionary of Battles and Sieges F O ISBN 0 313 33538 9 Jandora John W 1986 Developments in Islamic Warfare The Early Conquests Maisonneuve amp Larose 64 101 113 JSTOR 1596048 Kaegi Walter Emil 1995 Byzantium and the Early Islamic Conquests ISBN 0 521 48455 3 Malik S K 1968 Khalid bin Walid the general of Islam a study in Khalid s generalship Ferozsons publishers Lahore 2005 Iraq After the Muslim Conquest Gorgias Press LLC ISBN 1 59333 315 3 1994 Yarmuk 636 A D The Muslim Conquest of Syria 31 ISBN 1 85532 414 8 Nicolle David 2009 The Great Islamic Conquests AD 632 750 ISBN 1 84603 273 3 Palmer Andrew 1993 The Seventh Century in the West Syrian Chronicles ISBN 0 85323 238 5 Pratt Fletcher 2000 The Battles That Changed History ISBN 0 486 41129 X Ring Trudy Salkin Robert M 1994 International Dictionary of Historic Places Taylor amp Francis ISBN 1 884964 03 6 Walton Mark W 2003 Islam at war a history ISBN 0 275 98101 0 Weston Mark 2008 Prophets and Princes Saudi Arabia from Muhammad to the Present ISBN 0 470 18257 1aehlngkhxmulxunSword of Allah Biography of Khalid bin Al Waleed Book by A I Akram