บทความนี้ได้รับแจ้งให้ปรับปรุงหลายข้อ กรุณาช่วยปรับปรุงบทความ หรืออภิปรายปัญหาที่
|
เจ้าจอมแว่น พระนามเดิม เจ้านางคำแว่น ชาวลาวสองฝั่งโขงเรียกฉายานามว่า เจ้านางเขียวค้อม เจ้านางท่านแรกในราชวงศ์จักรี เป็นพระบรมวงศานุวงศ์จากราชวงศ์เวียงจันทน์อดีตของสมเด็จพระเจ้าสิริบุญสาร (ครองราชย์ พ.ศ. 2294-2322) แห่งนครหลวงเวียงจันทน์ ต่อมารับสถาปนาเป็นพระสนมเอกใน ร. 1 รับใช้พระยุคลบาทอย่างใกล้ชิดแต่สมัยจนผลัดราชวงศ์ใหม่ นับเป็นพระสนมเอกผู้ทรงอิทธิพลต่อราชสำนักสยามฝ่ายในอย่างสูงจนชาววังยกย่องเป็นสมเด็จพระบรมราชินี และเป็นเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ซึ่งอภิบาลที่ทรงพระเยาว์อย่างเข้มงวดจนรับฉายาว่า
เจ้านางคำแว่น | |
---|---|
เกิด | พ.ศ. 2312 |
ถึงแก่อนิจกรรม | พ.ศ. 2352 (40 ปี) |
พระสนมเอกใน | พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช |
บิดา |
พระประวัติ
ราชตระกูลจากราชวงศ์เวียงจันทน์
เจ้านางคำแว่นเป็นเจ้านายองค์แรกที่เชื่อมสัมพันธ์ทางเครือญาติกับราชวงศ์จักรีของสยาม เดิมเป็นชาวนครหลวงเวียงจันทน์ สันนิษฐานว่าประสูติที่ (พันพร้าว หรือ ธารพร้าว) ปัจจุบันคือ ต.พันพร้าว จ.หนองคาย ตรงข้ามนครหลวงเวียงจันทน์ เป็นธิดา (ท้าวศักดิ์ หรือ ท้าวพัน) หรือผู้ว่าราชการเมืองขอนแก่นองค์แรก พระนครศรีบริรักษ์เป็นต้นสกุลเสนอพระ นครศรีบริรักษ์ แพนพา อุปฮาด สุนทรพิทักษ์ ฯลฯ ใน จ.ขอนแก่น เจ้านางคำแว่นเป็นพระนัดดาหรือท้าวแสนแก้วบุฮม(นักประวัติศาสตร์บางคนสันนิษฐานว่าท่านคือเจ้าศรีวิชัย บุตรพระเจ้าธรรมิกราชซึ่งในพื้นเมืองท่งและเมืองมุกดาหาร กล่าวว่า ท่านเป็นบิดาของเจ้าแก้วมงคลและเจ้าจันทรสุริยวงศ์) บ้านเพี้ยปู่ (เมืองทุละคม) นครหลวงเวียงจันทน์ เป็นพระราชปนัดดา (สมเด็จพระเจ้าสิริบุญสาร) พระมหากษัตริย์แห่งนครหลวงเวียงจันทน์ และเป็นพระราชนัดดา (หลานลุง) เจ้าแก้วมงคล (เจ้าแก้วบุรม) ผู้สร้าง ปัจจุบันคือ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด
แต่มีเนื้อความขัดแย้งกับพงสาวดารเมืองท่ง (พื้นเมืองท่ง) กล่าวคือ เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าแก้วมงคลจะเป็นพี่น้องกับเพี้ยเมืองแพนหากเป็น ปู่-หลาน จะมีความน่าเชื่อถือมากกว่าเนื่องจากเจ้าแก้วมงคล ประสูติ ณ. ปี พ.ศ. 2184 ส่วนเพี้ยเมืองแพนเป็นเจ้าเมืองในปี พ.ศ. 2340 ซึ่งห่างกัน 156 ปี บ้างว่าพระนครศรีบริรักษ์ (ศักดิ์) บิดาเป็นบุตรพระรัตนวงศามหาขัติยราช (ภู) เจ้าเมืองสุวรรณภูมิ พระรัตนวงศาฯ เป็นอนุชาพระยาขัติยวงศ์พิสุทธิบดี (สีลัง ต้นสกุล ธนสีลังกูร) เจ้าเมืองร้อยเอ็ด ทั้ง 2 เป็นบุตรพระขัติยวงศา (ทนต์ หรือ สุทนต์) เจ้าเมืองร้อยเอ็ดองค์แรก และมีศักดิ์เป็นพระราชนัดดาเจ้าแก้วมงคล ทัศนะนี้เจ้านางคำแว่นจึงเป็นพระราชปนัดดาเจ้าแก้วมงคล มีหลักฐานที่เชื่อว่าเป็นบันทึกเก่าแก่ซึ่งน่าจะมีอายุและความน่าเชื่อถือกว่า ทั้ง 2 กรณี(ทัศนะ) ข้างต้น
จากเอกสารพื้นเมืองท่ง-เอกสารฝ่ายทายาทเมืองสุวรรณภูมิ (ทัศนะที่3) มีกล่าวว่า เจ้ามืดดำโดน มีโอรส 3 องค์ คือ เจ้าเชียง เจ้าสูน เจ้าอุ่น (ปลัดเมืองขุขันธ์ซึ่งต่อมาได้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าเมืองศีร์ษะเกษท่านแรก นามว่า พระยารัตนวงศา อีกทั้งยังเป็นลูกเขยของพระยาไกรภักดีศรีนครลำดวนหรือตากะจะเจ้าเมืองขุขันธ์ท่านแรกและเป็นบิดาของพระประจันตประเทศหรือเจ้าเมืองชลบถวิบูลย์ท่านแรก) ส่วนเจ้าเซียงบุตรท้าวมืด มีบุตร 3 คน คือ ท้าวเพ (เจ้าเมืองหนองหานท่านแรก), ท้าวโอ๊ะ (เจ้าเมืองสุวรรณภูมิ), ท้าวพร และธิดาไม่ทราบนามอีก 2 คน ในพื้นเมืองท่ง ระบุว่าท้าวพรซึ่งเป็นบุตรของท้าวเซียงมีบุตรชาย 2 คน คือ เพี้ยเมืองแพน (พระนครศรีบริรักษ์ เจ้าเมืองขอนแก่นท่านแรก) เพี้ยศรีปาก (พระเสนาสงคราม เจ้าเมืองพุทไธสงท่านแรก และเป็นบิดาของพระยานครภักดี เจ้าเมืองแปะหรือบุรีรัมย์ท่านแรก)
ราชตระกูลฝ่ายบิดาเจ้านางคำแว่นปกครองเมืองขอนแก่นตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์จนยกเลิกระบบกินเมืองหลัง พ.ศ. 2444 ราชวงศ์และกลุ่มเครือญาติเป็นต้นตระกูลสำคัญของภาคอีสานหลายสายและแยกย้ายตั้งบ้านเมืองในหัวเมืองลาวมากถึง 23 หัวเมืองคือ (ท่งศรีภูมิ) (สุวรรณภูมิ) เมืองร้อยเอ็ดราชบุรีศรีสาเกต (ร้อยเอ็ด) (ชลบถ) เมืองขอนแก่น เมืองเพี้ย (บ้านเมืองเพี้ย) เมืองรัตนนคร (โคกพระ) (หนองหานน้อย) (โพนแพง) เมืองพนมไพรแดนมฤค (พนมไพร) (บ้านเมืองเสือ) (บ้านเมืองหงษ์) เมืองขามเฒ่า เมืองเปือยใหญ่ (บ้านค้อ) และเมืองน่าน (นันทบุรี)
พี่น้อง
เจ้านางคำแว่นมีพี่น้องร่วมบิดา 5 ท่านคือ
- เจ้านางคำแว่น (เจ้าจอมแว่น)
- พระนครศรีบริรักษ์ (จาม) เจ้า
- ท้าวผาม
- เพียวรบุตร บิดา (อุ หรือ อู๋ ต้นสกุล นครศรีบริรักษ์ ) เจ้าเมืองขอนแก่นองค์สุดท้าย ท่านแรก และจางวางราชการ
- หญิงไม่ปรากฏนาม หม่อมใน (คำบ้ง หรือ คำบัง) เจ้า
เชลยศึก
เดิมเจ้านางคำแว่นอาศัยอยู่กับบิดาที่นครหลวงเวียงจันทน์แต่ครั้งบิดาบรรดาศักดิ์เพียเมืองแพน ทำราชการขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่ 3 (สมเด็จพระเจ้าสิริบุญสาร) ต่อมาบิดาเลื่อนเป็นเจ้าเมือง แต่ในหลักฐานทางฝั่งเมืองหนองคายกลับมีข้อขัดแย้งกับประวัติเมืองธุรคมหงส์สถิตของเพี้ยเมืองแพน เนื่องจากเมืองธุรคมหงษ์สถิตย์ถูกตั้งเมื่อสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยมีพระวิชิตหงษ์พิไสย บุตรพระปทุมเทวาภิบาล เจ้าเมืองหนองคาย เป็นเจ้าเมืองธุรคมหงษ์สถิตย์ท่านแรก โดยขึ้นกับเมืองหนองคาย ซึ่งในขณะนั้นเมืองเวียงจันทน์มิได้คงความเป็นเมืองอยู่แต่ประการใดเนื่องจากถูกทัพสยามทำลายและยุบอาณาจักร์ลงและหากแต่เป็นเพียงเมืองร้างขึ้นตรงกับเมืองหนองคายด้วยเฉกเช่นเดียวกันกับเมืองธุรคมหงษ์สถิตย์ เพราะฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่เพี้ยเมืองแพนจะมาจากเมืองธุรคมและเคยเป็นกรมการเมืองหรือเป็นหน่อเนื้อเชื้อเจ้าเมืองธุรคมหงษ์สถิตย์
ถ้าหากอิงจากการอพยพมาจากในกำแพงเมืองเวียงจันทน์ ก็มิได้เป็นเชื้อเจ้าเชื้อกษัตริย์แต่ประการใดหากแต่เป็นเพียงเชื้อสายขุนนางเวียงจันทน์ชั้นผู้น้อยที่ส่งบุตรสาว อย่างนางคำแว่น ให้ไปเป็นนางกำนัลหรือบาทจาริกาแก่กษัตริย์ลาวเวียงจันทน์ ซึ่งมักเป็นที่นิยมของเหล่าขุนนางที่มักจะพึงกระทำกันเพื่อประโยชน์ทางตำแหน่งการเมือง พ.ศ. 2321 เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (ร. 1) เป็นยกทำลายนครหลวงเวียงจันทน์พร้อมกวาดต้อนครัวลาว พระราชโอรส พระราชธิดา พระบรมวงศานุวงศ์ ขุนนาง และทรัพย์สมบัติสิ่งของ ช้างม้าเป็นอันมากมาธนบุรี พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) พระบาง และพระพุทธรูปมีค่าจำนวนมากของลาวถูกอัญเชิญมาสยามในสงครามครั้งนี้ด้วย เจ้านางคำแว่นในฐานะเชลยศึกจึงตามเสด็จสู่แผ่นดินสยามเช่นกัน
ฝ่ายเพียเมืองแพนบิดาอพยพพลข้ามโขงตั้งบ้านเรือนกระจายหลายแห่งในภาคอีสานคือ บ้านโพธิ์ตาก (ปัจจุบันคือ บ.โพธิ์ตาม ต.บ้านกง อ.เมืองขอนแก่น) บ้านยางเดี่ยว บ้านโพธิ์ศรี (ปัจจุบันคือ บ.โพธิ์ศรี ต.บ้านโน อ.กระนวน จ.ขอนแก่น) บ้านโพธิ์ชัย (ปัจจุบันคือ บ.โพธิ์ชัย อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น) จากนั้นอพยพพลบางส่วนมาตั้งที่แขวง (สุวรรณภูมิ) แล้วอพยพไพร่พลตั้งเป็นที่บ้านโนนกระยอม (ดอนพยอม) (ปัจจุบันคือ บ.เมืองเพี้ย ต.เมืองเพี้ย อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น) 9 ปีต่อมา พ.ศ. 2331 จึงพาไพร่พลประมาณ 330 คนขอแยกตัวจากไปตั้งที่ฝั่ง
ในทัศนะที่ 1 ที่กล่าวมาข้างต้นความน่าจะเป็นไปได้น้อยมากเนื่องจากมีความขัดแย้งกับพื้นเมืองจากหลาย ๆ ฉบับ มีนักประวัติศาสตร์หลายท่านมองว่าบันทึกประวัติเมืองขอนแก่นในทัศนะที่1พึ่งถูกบันทึกขึ้นใหม่อายุของเอกสารการบันทึกยังมีมาไม่นาน อาจเนื่องด้วยความขัดแย้งภายในราชวงศ์เจ้าจารย์แก้ว ระหว่างท้าวอ่อนเจ้าเมืองสุวรรณภูมิกับเพี้ยเมืองแพนจึงทำให้ผู้บันทึกข้อมูลประวัติเมืองขอนแก่นและประวัติของเพี้ยเมืองแพนบันทึกคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริงและต่างจากเอกสารพื้นเมืองอื่นๆ (ทัศนะที่2-3) ที่มีอายุการบันทึกของเอกสารที่มีอายุที่ยาวนานกว่า
ผู้อยู่เบื้องหลังการตั้งเมืองขอนแก่น
หลัง ร. 1 เป็นราชวงศ์จักรีได้สถาปนาเจ้านางคำแว่นเป็นเจ้าจอมแว่นแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ต่อมา กรมการเมืองสุวรรณภูมิญาติเพียเมืองแพน (ศักดิ์) วิวาทกับกรมการเมืองเดิมจึงแยกไปตั้งไพร่พลที่และรับโปรดเกล้าฯ เป็น (ปัจจุบันคือ อ.ชนบท จ.ขอนแก่น) ขึ้นเมืองนครราชสีมา ฝ่ายเพียเมืองแพน (ศักดิ์) บิดาอยากเป็นบ้างจึงปรึกษาเจ้านางคำแว่นธิดาซึ่งเห็นดีด้วย ต่อมาเจ้านางคำแว่นทูลโปรดเกล้าฯ ให้บิดาซึ่งยกพลแยกจากมาตั้งที่ (ปัจจุบันคือ บ.เมืองเก่า ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น) แต่ พ.ศ. 2332 ขึ้นเป็นเจ้าเมือง พ.ศ. 2340 ร. 1 จึงโปรดเกล้าฯ ให้เพียเมืองแพนเป็นพระนครศรีบริรักษ์องค์แรก ตั้งนามเมืองตามนามที่ตั้งพระธาตุขามแก่น ทำราชการขึ้นเมืองนครราชสีมาด้วยประชากรเพียง 330 ครัวเท่านั้น ใบบอกเมืองขอนแก่น 28 เมษายน ร.ศ. 109 ระบุโดยละเอียดว่า
เขียนที่ว่าราชการเมืองขอนแก่นฝ่ายเมืองเดิม วันที่ 28 เมษายน รัตนโกสินทร์ศก 109 ข้าพเจ้าอุปฮาต ราชวงษ์ ราชบุตร หลวงพรหมภักดีผู้ช่วย เมืองแสน เมืองจัน ท้าวเพี้ยกรมการเมืองขอนแก่น บอกปรนนิบัติคำนับมายังท่านออกพันนายเวร ขอให้นำขึ้นกราบเรียน พณหัวเจ้าท่านลูกขุน ณ ศาลาทรงทราบ ด้วยเดิมจะตั้งเป็นเมืองขอนแก่น เจ้านางคำแว่นกราบบังคมทูลให้เมืองแพน พาสมัครพรรคพวกแยกออกจากเมืองสุวรรณภูมิ จึงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมตั้งเมืองแพนเป็นที่เจ้าเมืองขอนแก่น หาทันมีอุปฮาต ราชวงษ์ ราชบุตรไม่ เมืองแพนเจ้าเมืองถึงแก่กรรมไป จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ท้าวคำบ้งบุตรเขยเมืองแพนเจ้าเมือง ขึ้นเป็นที่พระนครเจ้าเมือง โปรดให้ท้าวคำยวงเป็นที่ราชบุตร แต่ที่อุปฮาตราชวงษ์นั้นหาทันตั้งไม่ พระนครคำบ้งถึงแก่กรรมไปจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ตั้งราชบุตรคำยวงเป็นที่พระนครเจ้าเมือง ตั้งท้าวสุวันบุตรพระนครคำบ้งเป็นที่อุปฮาต ตั้งพระราชวงษาบุตรหลานเจ้าเมืองแผนเป็นที่ราชวงษ์ ตั้งท้าวคำพางบุตรพระนครคำยวงเป็นที่ราชบุตร ขึ้นไปครอบครองบ้านเมืองก็โดยยุติธรรม คุมส่วยผลเร่วลงมาทูลเกล้าฯ เสมอทุกปีมิได้ทศค้าง ครั้นอยู่หลายปีราชวงษ์ถึงแก่กรรมไป จึงโปรดเกล้าให้ท้าวอินบุตรพระนครคำยวงเป็นที่ราชวงษ์ ครั้นพระนครเจ้าเมือง อุปฮาต และราชบุตรถึงแก่กรรมไป จึงโปรดเกล้าฯ ให้ท้าวหนูเข้ามาเป็นเจ้าเมืองขอนแก่น โปรดเกล้าฯ ให้ราชวงษ์อินบุตรพระนครคำยวงเป็นที่อุปฮาต ท้าวมุ่งบุตรพระนครคำยวงที่เป็นพี่ชายอุปฮาตอินเป็นที่ราชวงษ์ ท้าวจันชมภูบุตรอุปฮาตสุวันคนเก่าเป็นที่ราชบุตร อยู่มาได้สามปีจึงโปรดเกล้าฯ ให้พระนครหนู หนีจากเมืองขอนแก่นไปเป็นเจ้าเมืองมุกดาหาร แล้วจึงทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้งอุปฮาตอินเป็นที่พระนครศรีบริรักษ์เจ้าเมือง ราชวงษ์มุ่งเป็นที่อุปฮาต ท้าวขติยะบุตรเขยพระนครคำยวงเป็นที่ราชวงษ์ แต่ราชบุตรยังคงที่ พระนครศรีบริรักษ์พาท้าวเพียประพฤติราชการบ้านเมืองก็เป็นสัจจเป็นธรรม คุมเงินส่วยผลเร่วเมืองขอนแก่น จำนวนปีละยี่สิบแปดช่างแปดตำลึง ลงมาทูลเกล้าฯ เสมอทุกปี ฯลฯ
ของหม่อมอมรวงศ์วิจิตร () ระบุเหตุการณ์ตั้งว่า ...ลุจุลศักราช 1159 ปีมเสง นพศก (พ.ศ. 2340) ฝ่าย เห็นว่าได้เป็น ก็อยากจะได้เป็นบ้าง จึงเกลี้ยกล่อมผู้คนให้อยู่ในบังคับสามร้อยคนเศษ จึงสมัครขึ้นอยู่ใน แล้วขอตั้งเป็นเมือง ได้มีใบบอกมายังกรุงเทพฯ จึงโปรดเกล้าฯ ตั้งให้เป็นที่ ยกขึ้นเป็น ขึ้นกับเมืองนครราชสีมา... เหตุการณ์เดียวกันยังถูกระบุใน ด้วยว่า ...ได้ทราบข่าวว่า แขวง พาราษฎร ไพร่พลประมาณ 330 คน แยกจากไปขอตั้งฝั่งเป็นเมือง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็น ...
ฉายาเจ้านางเขียวค้อมแห่งลาว
เป็นฉายานามในอุดมคติของเจ้าหญิงพระราชธิดาของพระมหากษัตริย์ลาวที่ถือกำเนิดเป็นเจ้าฟ้า หรือหมายถึงเจ้าหญิงในราชวงศ์ลาวที่ได้รับกับพระมหากษัตริย์เมืองอื่นแล้วได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมเด็จพระบรมราชินีหรือ ในรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าสิริบุญสารแห่งนครเวียงจันทน์ (พ.ศ. 2294 - พ.ศ. 2322) ได้ปรากฏพระนามเจ้าหญิงที่ได้รับฉายาว่า อยู่ 4 พระองค์ ดังนี้
- เจ้านางคำแว่น (เจ้าจอมแว่น) พระธิดาใน ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1)
- เจ้านางคำสุก (เจ้าจอมมารดาทองสุก) พระราชธิดาในพระเจ้าอินทวงศ์แห่งเวียงจันทน์ พระราชนัดดาในพระเจ้าสิริบุญสาร ทรงเป็นพระสนมในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1)
- เจ้านางแก้วยอดฟ้า (เจ้านางแก้วยอดฟ้ากัลยาณีศรีกษัตริย์) พระราชธิดาในพระเจ้าสิริบุญสารแห่งเวียงจันทน์
- เจ้านางเขียวค้อม (ไม่ปรากฏพระนามเดิม) พระราชธิดาใน พระราชอนุชาของสมเด็จพระเจ้าสิริบุญสาร พระองค์เป็นพระสนมในสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี เจ้าหญิงพระองค์นี้ปรากฏพระนามในพงศาวดารเท่านั้น
ขัดแย้งกับสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี
ความขัดแย้งของเจ้านางคำแว่นกับสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช บันทึกในหนังสือ ว่า ...เมื่อเจ้านางคำแว่นมาอยู่ในทำเนียบสมเด็จเจ้าพระยาฯ แล้ว คุณหญิง (สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี) ก็หึงหวงมาก มีปากเสียงกับสมเด็จเจ้าพระยาฯ ด้วยเรื่องเจ้านางคำแว่นนี้อยู่บ่อย ๆ จนคืนวันหนึ่ง คุณหญิงถือดุ้นแสมไปยืนดักคอยอยู่ในที่มืด บนนอกชานเรือน พอเจ้านางคำแว่นเดินออกมาจากเรือนหลังใหญ่ อันเป็นที่อยู่ของสมเด็จเจ้าพระยาฯ คุณหญิงก็เอาดุ้นแสมตีหัว เจ้านางคำแว่นก็ร้องขึ้นว่า คุณพี่เจ้าคะ คุณหญิงตีหัวดิฉัน สมเด็จเจ้าพระยาฯ ก็โกรธยิ่งนัก ฉวยได้ดาบออกจากเรือนจะมาฟันคุณหญิง ฝ่ายคุณหญิงก็วิ่งเข้าเรือนที่ท่านอยู่ แล้วปิดประตูลั่นดาลไว้ สมเด็จเจ้าพระยาฯ ก็เอาดาบฟันประตูอยู่โครม ๆ ...
เรื่องมีอยู่ว่า ครั้ง ร. 1 ยังไม่ทรงเสน่ห์หาเจ้านางคำแว่นมากด้วยหน้าตาสวยงามหมดจดและเป็น แต่เกรงคุณหญิงนาค (สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี) ที่มีปากเสียงกับพระองค์เรื่องบาทบริจาริกาและหญิงบำเรอบ่อยจึงได้แต่ให้เจ้านางดูแลงานเรือนทั่วไป รอเวลาคุณหญิงประทับในพระราชวังเป็นเพื่อนธิดาที่เป็นพระยาตากสิน คุณหญิงรู้ทันสามีจึงสั่งนางกลัดข้าใช้ซึ่งมีหน้าที่บีบนวดสามีทุกคืนว่า หากสมเด็จเจ้าพระยาฯ สั่งหาเจ้านางให้มาเคาะบอกท่านก่อนแล้วค่อยไปตามเจ้านางมา ส่วนคุณหญิงก็ไม่ค้างแรมในพระราชวังนาน 2 เดือน คืนหนึ่งสมเด็จเจ้าพระยาฯ ทนไม่ไหวจึงสั่งนางกลัดตามหาเจ้านางนางคำแว่นมาพบ นางกลัดทำตามที่คุณหญิงสั่งคือเคาะบอกก่อนจึงไปตามเจ้านางมา
ฝ่ายคุณหญิงถือดุ้นแสมยืนดักในที่มืดบนนอกชานเรือน ครั้นเจ้านางคำแว่นทาแป้งและน้ำอบเสร็จแล้วเดินมาทางเรือนหลังใหญ่ซึ่งเป็นห้องสมเด็จเจ้าพระยาฯ คุณหญิงเอาดุ้นแสมตีกลางศีรษะเจ้านางจนเลือดท่วม เจ้านางนางจึงร้องหาสมเด็จเจ้าพระยาฯ ฝ่ายคุณหญิงเห็นเลือดออกมากก็ตกใจวิ่งเข้าเรือนปิดประตูลั่นดาล สมเด็จเจ้าพระยาฯ ออกมาเห็นเจ้านางคำแว่นเจ็บก็โกรธมาก ฉวยดาบออกจากเรือนจะฟันคุณหญิง เมื่อมาถึงเรือนถีบประตูไม่ออกก็เอาดาบฟันประตูเสียงดังอึกทึกคึกโครม คุณฉิม (ร. 2 ในกาลต่อมา) บุตรคนโตได้ยินเหตุการณ์คิดว่าพ่อโมโหใหญ่โตหากปล่อยไว้เกรงแม่รับอันตราย จึงช่วยกันกับคุณจุ้ยและพี่เลี้ยงเข็นครกตำข้าวหลายใบมาต่อใต้หน้าต่างเรือนคุณหญิงพลางเรียกให้หนีลงมา และพาหลบไปอยู่ในวังหลวงโดยอาศัยอยู่ตำหนักพระราชธิดาซึ่งเป็นพระสนมเอกพระยาตากสิน
เมื่อสมเด็จเจ้าพระยาฯ เข้ามาเห็นดังนั้นจึงให้เจ้านางคำแว่นรับตำแหน่งดูแลข้าทาสและความเรียบร้อยในเรือนทั้งหมดแทนคุณหญิง สมเด็จเจ้าพระยาฯ ปราบดาภิเษกและสถาปนาพระบรมมหาราชวัง คุณหญิงก็ไม่เคยเสด็จประทับในพระบรมมหาราชวัง แต่ประทับอยู่พระราชวังเดิมฝั่งธนบุรีกับพระราชโอรส เสด็จมาเยี่ยมพระราชธิดาในพระบรมมหาราชวังเพียงครั้งคราวตราบสวรรคต เจ้านางคำแว่นจึงรับสถาปนาเป็นพระสนมเอก โปรดฯ ให้รับใช้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทตลอดรัชกาลจนชาววังยกย่องเป็นสมเด็จพระบรมราชินี
ความใจกล้า
เจ้านางคำแว่นกล้าหาญและมีศิลปะในการเพ็ดทูลเรื่องต่าง ๆ ที่ไม่มีผู้ใดกล้านำขึ้นกราบบังคมทูล ร. 1 หากเรื่องนั้นสมควรและถูกต้องก็กราบทูลทันทีไม่กลัวพระราชอาญา ความกล้าหาญประจักษ์เมื่อ พ.ศ. 2339 คราว ร. 1 ทรงเหน็ดเหนื่อยพระวรกายจากว่าราชการงานเมือง ขณะบรรทมเกิดพระสุบินทรงข้าราชบริพารตกใจไม่ทราบจะทำอย่างไร เจ้านางคำแว่นตัดสินใจกัดจมูกจนรู้สึกพระองค์และตื่นพระบรรทม จึงได้รับความดีความชอบเป็นที่โปรดปรานของพระองค์มากจนไม่พิโรธ ความกล้าหาญปรากฏอีกครั้งดังนี้ ...ที่น่าเห็นว่าเป็นคนดี ก็เพราะท่านจงรักต่อสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าเป็นที่สุด เป็นผู้ปฏิบัติในเวลาทรงพระชราอยู่จนสิ้นรัชกาล เมื่อทรงสร้างพระโกษทองใหญ่ไว้สำหรับพระองค์นั้น ครั้งสร้างเสร็จแล้ว ก็โปรดให้ยกเข้าไปตั้งไว้ถวายทอดพระเนตรในพระที่นั่งไพศาลฯ ทอดพระเนตรแล้วก็มิได้ตรัสให้ยกไปเก็บเข้าคลัง ให้ตั้งไว้บนพระที่นั่งหลายวัน พระสนมเอกเสือไม่สบายใจเห็นเป็นลาง ก็ทูลวิงวอนว่า เป็นอัปมงคลให้ยกไปเสีย ตรัสตอบว่า กูทำสำหรับใส่ตัวกูเองจะเป็นอัปมงคลทำไม แต่ก็โปรดให้ยกพระโกษไป พระสนมเอกเสือเป็นคนได้รับพระราชทานอภัย ทูลอะไรทูลได้จึงมีเรื่องเล่าต่อไป...
อภิบาลสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ
เจ้านางคำแว่นรับราชการใน ร. 1 อย่างใกล้ชิดแต่ไม่ได้ประสูติพระราชโอรสพระราชธิดา จึงถวายการอภิบาล หรือ ใน ร. 1 กับอย่างใกล้ชิดด้วยเป็นราชวงศ์ลาวเวียงจันทน์เหมือนกันและเป็นพระญาติใกล้ชิดโดยมีพระราชปัยกา (ทวด) พระองค์เดียวกัน นอกจากนี้ยังถวายการอภิบาลสมเด็จพระเจ้าลูกเธอใน ร. 2 ที่ประสูติแต่เจ้าฟ้ากุณฑลทิพยวดีอีก 3 พระองค์คือ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าชายอาภรณ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าชายกลาง (สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระยาบำราบปรปักษ์) และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าชายปิ๋ว ตลอดถวายการอภิบาลพระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้าหญิงบุญรอด (สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี) ด้วย
งานฝีมือในราชสำนัก
เจ้านางคำแว่นหรือเจ้าจอมแว่นมีฝีมือในการปรุงอาหารลาวอย่างการปรุงน้ำยาเข้าปุ้นหรือขนมเส้น (สยามเรียกขนมจีน) สันนิษฐานว่าเป็นน้ำยาแบบลาวและเป็นผู้ประดิษฐ์ขนมไข่เหี้ย สาเหตุจาก ร. 1 มีพระราชประสงค์เสวยไข่เหี้ยกับมังคุดแต่หาไม่ได้เนื่องจากไม่ใช่ฤดูวางไข่ เจ้านางคำแว่นจึงประดิษฐ์ขนมไข่เหี้ยถวายแทนโดยเลียนแบบรูปร่างไข่เหี้ยจนพอพระราชหฤทัย ต่อมาสยามเปลี่ยนชื่อใหม่ว่าไข่หงส์
การพระศาสนา
สร้างวัดดาวดึงษาสวรรค์
ครั้งหนึ่ง ร. 1 แสดงพระอาการว่าสบายพระราชหฤทัยจึงตรัสและทรงพระสรวลอย่างสนุกสนาน เจ้านางคำแว่นจึงเข้าไปทูลว่า (คงทูลด้วยภาษาลาว) "เสด็จพี่เจ้าขา ดีฉันจะทูลความสักเรื่องหนึ่ง แต่เสด็จพี่อย่ากริ้วหนา" พระองค์ตรัสตอบว่า "จะพูดอะไรก็พูดไปเถิด ไม่กริ้วดอก" เจ้านางคำแว่นจึงทูลว่า "ถ้ายังงั้น เสด็จพี่สบถให้ดีฉันเสียก่อน ดีฉันจึงจะทูล" พระองค์ก็ตรัสด้วยถ้อยความอันหยาบคายว่า "อีอัปรีย์ บ้านเมืองลาวของมึง เคยให้เจ้าชีวิตจิตสันดานสบถหรือ กูไม่สบถ พูดไปเถิด กูไม่โกรธดอก" เจ้านางคำแว่นกระเถิบหาพระองค์แล้วกระซิบทูลว่า "เดี๋ยวนี้ แม่รอดท้องได้ 4 เดือน" พระองค์ทรงอึ้งครู่หนึ่งแล้วตรัสว่า "ท้องกับใคร" เจ้านางคำแว่นทูลว่า "จะมีกะใครเสียอีกเล่า ก็พ่อโฉมเอกของเสด็จพี่น่ะซี"
ร. 1 ทรงกริ้วนิ่ง ๆ หลายวันจึงไม่มีผู้ใดทราบว่าจะทรงทำอย่างไรแน่และพากันเกรงพระราชอาญาแทนเจ้าฟ้าทั้งสองไปตามกัน เจ้านางคำแว่นร้อนใจกว่าผู้ใดจึงหาโอกาสทูลถามว่าทารกในพระครรภ์จะเป็นเจ้าฟ้าหรือไม่ พระองค์ตรัสว่าเป็นเจ้าฟ้า เจ้านางคำแว่นและเหล่าเจ้านายก็โล่งใจตามกัน ในที่สุดกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทก็เข้าไปขอพระพระราชทานโทษแทนพระเจ้าหลานทั้งสองซึ่งก็คือ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร (ร. 2) กับพระธิดา ซึ่งสมัย ร. 4 ทรงโปรดเกล้าฯ เป็นสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี เจ้านางคำแว่นรักใคร่เจ้าฟ้าทั้งสองเป็นพิเศษถึงกับบนว่า หากเรื่องคลี่คลายในทางที่ดีจะสร้างวัดหนึ่งวัด ในที่สุดก็สร้างวัดขึ้นกลางสวนวัดในตำบลบางยี่ขัน ธนบุรี (เชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า) เรียกว่าวัดขรัวอิน
พระอุโบสถวัดก่ออิฐสูงพ้นดินราว 2 ศอก ใช้เสาไม้แก่นเป็นประธาน หลังคามุงกระเบื้อง ผนังใช้ไม้สักเป็นฝารอบมีบานประตูหน้าต่าง กุฎีทำด้วยเสาไม้แก่นหลังคามุงบังสัณฐานเรือนโบราณ ต่อมาสมัย ร. 2 เมื่อเจ้านางคำแว่นอนิจกรรมแล้ว ญาติสตรีท่านหนึ่งเป็นข้าราชการฝ่ายนามว่า อิน มีจิตศรัทธาปฏิสังขรณ์ใหม่ทั้งวัด โดยรื้อสถานที่เก่าทิ้งทั้งหมดแล้วสร้างใหม่ โดยสร้างเป็นอุโบสถขนาดเล็กก่ออิฐปูนใหม่ เสนาสนะก่ออิฐถือปูนแต่เครื่องบนใช้ไผ่สานเป็นแกน เสร็จแล้วกราบถวายบังคมทูล ร. 2 จึงทรงดำริว่า "วัดขรัวอินนี้แปลก สมภารเจ้าวัดชื่อ อิน ผู้ศรัทธาปฏิสังขรณ์ก็ชื่อ อิน ไม่แต่เท่านั้น ชาวบ้านก็อุตส่าห์ให้เรียกว่า วัดขรัวอิน เสียอีก" จึงได้พระราชทานนามใหม่ว่า วัดดาวดึงษาสวรรค์ หมายถึงสวรรค์ชั้นที่พระอินทร์สถิตย์อยู่
สร้างกุฏิและอุทิศที่ดินถวายวัดสังข์กระจาย
เป็นวัดโบราณในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ต่อมาเจ้าจอมแว่นได้มอบทุนให้จำนวนหนึ่งเพื่อสร้างกุฏิ4 คณะด้านใต้ เป็นกุฏิถือปูนทั้งหมด ปัจจุบันกลายเป็นเขตบ้านเช่า ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดให้กรมหมื่นไกรสรวิชิตเป็นนายงานควบคุมสร้างพระอุโบสถโดยให้หันหน้าวัดไปทางอยู่เคียงกับกุฏิของเดิม พร้อมสร้างกุฏิขึ้นใหม่บริเวณพระอุโบสถด้านใต้ เล่ากันว่าเมื่อขุดพื้นที่เพื่อสร้างพระอุโบสถได้ขุดพบหล่อด้วยสำริด ขนาดหน้าตักกว้าง 10นิ้วไม่มีฐาน และขุดพบสังข์]]ด้วยตัวหนึ่งแต่สังข์ได้ชำรุด ส่วนได้เก็บรักษาไว้เป็นคู่พระอาราม ครั้นเมื่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงถือนิมิตเหตุอันนี้ พระราชทานนามว่า วัดสังข์กระจาย]
ต่อมา ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) โปรดให้ปฏิสังขรณ์พระอุโบสถโดยเจ้าจอมแว่นได้อุทิศสวนของตนซึ่งอยู่ติดกับเขตวัดให้แก่
ในตำนานกล่าวถึงความสัมพันธ์ของวัดกับเจ้าจอมแว่นไว้ว่า ภายหลังการสร้างวัดเสร็จเจ้าจอมแว่นได้ส่งข้าหลวงสนิทคนหนึ่งเป็นหญิงมดชื่อจ่ายให้ไปเฝ้าสวนของพระองค์ ซึ่งมีเนื้อที่ติดกับที่ของนายสังข์ ด้วยเจ้าจอมแว่นเห็นเหมาะที่จะเฝ้าสวนจึงได้ส่งมา ภายหลังไม่นานนางจ่ายกับนายสังข์มีความสนิทชอบพอกันมาก จึงดำริร่วมใจกันที่จะสร้างวัดนี้ต่อไป นางจ่ายถึงกับขันอาสาไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าจอมแว่น ในที่สุดความปรารถนาของทั้งสองก็สมประสงค์ เจ้าจอมแว่นได้มอบทุนให้มาจำนวนหนึ่ง ครั้งหลังก็ได้สร้างเพิ่มเติมขึ้นอีกหลายอย่าง คือ สร้างกุฏิขึ้น 4 คณะ ทางมุมด้านใต้เป็นกุฏิตึกถือปูนทั้งหมด แต่ละคณะก็มีกุฏิ 4 หลัง หลังหนึ่งๆ มี 2 ห้อง กุฏิเจ้าอาวาสปลูกอยู่ทางทิศตะวันออกของคณะ ได้สร้างถนนผ่านระหว่างช่องกุฏิ แล้วก่อกำแพงอิฐล้อมรอบสูง 1 วา มีประตูเข้าออกทั้ง 4 ทิศ บริเวณที่หมู่กุฏินี้ตั้งอยู่ บัดนี้กลายเป็นเขตบ้านเช่าไปหมดแล้ว
ครั้นแล้วเสร็จ เมื่อจะขอพระราชทานวิสุงคามสีมาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นตอนที่จะเชิดหน้าชูตาผู้สร้าง ก็เกิดทะเลาะเบาะแว้งเป็นปากเสียงเกี่ยงแย่งกันจะเอาชื่อ นางจ่ายก็ปรารถนาขอพระราชทานในนามของตนเพราะตนอุตส่าห์วิ่งหาเงินหาทองมาสร้าง ฝ่ายนายสังข์ก็ไม่ยอม ปรารถนาจะขอในนามของตนเช่นกัน เพราะตนก็สละหยาดเหงื่อและแรงกายทุ่มเทมาตั้งแต่แรกเริ่ม เมื่อต่างมาเกิดแตกคอกันขึ้นในเรื่องนี้ นางจ่ายจึงวิ่งเข้าหาเจ้าจอมแว่นนายของตน แล้วเล่าความเป็นมาให้ทราบ โดยฐานะที่เจ้าจอมแว่นเป็นที่พระสนมเอก พระเจ้าอยู่หัวโปรดปรานมาก จะทูลสิ่งใดก็ทูลได้ ครั้นเมื่อได้นำความกราบบังคมทูลเพื่อขอให้พระราชทานวิสุงคามสีมา พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมีพระราชดำรัสว่า วัดที่นายสังข์นางจ่ายสร้างขึ้นนั้น ไม่สวยสมเกียรติกับพระสนมเอกเช่นเจ้าจอมแว่น ทรงรับจะสร้างพระราชทานใหม่ จึงโปรดเกล้าฯ ให้กรมหมื่นไกสรวิชิตมาเป็นนายงานควบคุมสร้างพระอุโบสถขึ้น ให้หันหน้าไปทางคลองบางวัวทองอยู่เคียงกับกุฏิสงฆ์ของเดิม พร้อมกับได้สร้างกุฏิขึ้นใหม่อีกหมู่หนึ่งตรงมุมพระอุโบสถด้านใต้อีกด้วย เล่ากันว่า แรกขุดพระอุโบสถนั้น พบพระกัจจายน์องค์หนึ่งกับสังข์ตัวหนึ่ง เฉพาะสังข์ชำรุดเพราะแรงจอบเสียมที่ขุด วัดนี้มีความแปลกประการหนึ่ง ด้วยวัดนี้นายสังข์กับนางจ่ายเป็นผู้ริเริ่มสร้าง เมื่อนำเอาชื่อของคนทั้งสองมาเข้าคู่กันเป็น สังข์-จ่าย ก็ฟังใกล้เคียงกับคำว่า สังข์กระจายน์ ตามนามที่พระราชทานเป็นที่สุด
ทำบุญเลี้ยงพระ
หลักฐานในจดหมายเหตุความทรงจำของกรมหลวงนรินทรเทวีกล่าวว่า เจ้าจอมแว่นเป็นเจ้านายท่านหนึ่งในบรรดาพระบรมวงศานุวงศ์และเจ้านายที่ร่วมกันจัดอาหารคาวหวานถวายพระภิกษุสงฆ์และเลี้ยงผู้คนในคราวพระราชพิธีสำคัญต่างๆ เช่น เมื่อครั้งทำบุญใหญ่ฉลองวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) ได้ทรงโปรดให้เลิกนำข้าวถวายพระ แต่ให้ทำขนมจีนสงฆ์นับพันรูปโดยใช้แป้งขนมจีนจำนวนมากถึงวันละ ในงานนี้เจ้าจอมแว่นผู้มีชื่อเสียงในการปรุงที่สุดในสมัยนั้น ได้เป็นผู้ปรุงถวายพระในใหญ่ครั้งนี้เอง
องค์ราชูปถากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
เจ้าจอมแว่นรับราชการในพระองค์โดยมิได้มีพระองค์เจ้า (พระราชโอรสหรือพระราชธิดา) แม้พระองค์เดียว ทรงทำหน้าที่ดูแลบรรดาพระเจ้าลูกเธอที่ยังทรงพระเยาว์อย่างเข้มงวดจนเป็นที่เกรงกลัวและได้รับฉายาว่า คุณเสือ โดยส่วนตัวนั้นเจ้าจอมแว่นคงต้องการมีพระองค์เจ้า ดังปรากฏความในสาส์นสมเด็จ เล่ม 14 ว่า
…ที่ในวิหารพระโลกนาถมีรูปจำหลักด้วยศิลาอ่อนทำเป็นเด็กแต่งเครื่องอาภรณ์ติดฝาผนังไว้ 2 ข้างพระพุทธรูป เล่ากันมาว่าเมื่อสร้างวัดพระเชตุพนนั้น เจ้าจอมแว่นพระสนมเอกผู้เป็นราชูปถาก ซึ่งเจ้านายลูกเธอเกรงกลัวเรียกกันว่า คุณเสือ อีกนาม 1 กราบทูลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ว่า อยากจะทำบุญอธิษฐานขอให้มีลูก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทำรูปเด็ก 2 รูป อย่างเป็นเครื่องประดับพระวิหาร…
การทำเช่นนี้เป็นความในที่รู้กันในหมู่คนใกล้ชิด ไม่ได้เป็นที่เปิดเผย แต่มีความปรากฏในคำโคลงใต้ภาพเด็ก ข้างพระพุทธรูปในวิหารพระโลกนาถ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ว่า
รจนาสุดารัตนแก้วกุมารี หนึ่งฤๅ เสนออธิบายบุตรี ลาภไซร้ บูชิตเชษฐชินศรีเฉลาฉลัก หินเฮย บุญส่งจงลุได้เสด็จด้วยดั่งถวิล กุมารหนึ่งพึงฉลักตั้ง ติดผนัง สถิตย่อยู่เบื้องหลัง พระไว้ คุณเสือสวาดิหวังแสวงบุตร ชายเฮย เฉลยเหตุธิเบศร์ให้ สฤษดิแสร้งแต่งผล
โดยปกติแล้ว ผู้คนมักนิยมไปกราบไหว้บูชาพระพุทธโลกนาถที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เพราะเชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องให้บุตร และจะประสบผลสำเร็จหากขอในคืนวันเพ็ญซึ่งเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนา นอกจากสร้างรูปเด็กถวายประดับในวิหารพระโลกนาถแล้ว ในงานครั้งหนึ่ง เจ้าจอมแว่นยังทำกระจาดใหญ่ใส่เด็กผมจุกแต่งเครื่องหมดจดงดงาม ติดกัณฑ์เทศน์ถวายเป็นสิทธิขาด นับเป็นความคิดแปลกแหวกแนว อาจจะสืบเนื่องมาจากความต้องการมีพระองค์เจ้าเป็นอย่างยิ่งก็เป็นได้
ถึงแก่อนิจกรรม
เจ้านางคำแว่น ถึงแก่อนิจกรรมในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) ประชาชนได้สร้างพระธาตุบรรจุของพระองค์ไว้ ณ เรียกว่า อนึ่ง และ (ในเขตจังหวัดหนองคายปัจจุบัน) เป็นที่เจ้านางคำแว่นได้ขอร้องให้พระราชสวามีห้ามทำลาย เมื่อครั้งยกทัพไปเผานครเวียงจันทน์สมัยพระเจ้าตากสิน
เกียรติยศ
ธรรมเนียมยศของ เจ้าจอมแว่น ในรัชกาลที่ 1 | |
---|---|
การเรียน | ไหว้สาบาทเจ้า |
การแทนตน | กระผม/ดิฉัน |
การขานรับ | ครับผม/ค่ะ |
บรรดาศักดิ์
- พ.ศ. 2312 : เจ้านางคำแว่น
- ไม่ปรากฏ : หม่อมแว่น ในสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก
- พ.ศ. 2325 : เจ้าจอมแว่น ในรัชกาลที่ 1
พงศาวลี
พงศาวลีทรรศนะที่ 1
พงศาวลีของเจ้าจอมแว่น ในรัชกาลที่ 1 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
พงศาวลีทรรศนะที่ 2
พงศาวลีของเจ้าจอมแว่น ในรัชกาลที่ 1 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
พงศาวลีทรรศนะที่ 3
พงศาวลีของเจ้าจอมแว่น ในรัชกาลที่ 1 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
- http://pantip.com/topic/32458543
- https://www.gotoknow.org/posts/233054
- http://ps8921.blogspot.com/2011/09/blog-post.html
- https://www.facebook.com/722488218128250/posts/1180913005619100/
- https://www.facebook.com/722488218128250/posts/1185849368458797/
- https://www.facebook.com/notes/350419951739054/
- http://board.postjung.com/783480.html
- https://m.facebook.com/permalink.php?story_fbid=679651548780760&id=679296892149559
- https://th.m.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9B%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A0%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A5_(%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%8D%E0%B8%A1%E0%B8%B2_%E0%B8%93_%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A2)
- http://www.silpathai.net/
- http://www.sujitwongthes.com/2011/02/
- http://esanwisdom.kku.ac.th/esandb/en/[]
- ดูรายละเอียดใน ประมวล พิมพ์เสน, สิ่งแวดล้อม ศิลปกรรม นำเที่ยวขอนแก่น, (ขอนแก่น: ขอนแก่นการพิมพ์, 2540).
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-12-23. สืบค้นเมื่อ 2016-04-06.
- กองจดหมายเหตุแห่งชาติ, เอกสาร ร.5 ม.2. 12 ก/1 (92) ใบบอกเมืองขอนแก่น ลงวันที่ 28 เมษายน ร.ศ. 109. อ้างใน ประมวล พิมพ์เสน (ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น โรงเรียนกัลยาณวัตร), บันทึกประวัติศาสตร์เมืองขอนแก่น: เปิดเผยหลักฐานข้อมูลการตั้งเมืองขอนแก่น วิวัฒนาการของเมืองขอนแก่น ฯลฯ, (ขอนแก่น: โรงพิมพ์พระธรรมขันต์, 2541), หน้า 77-78.
- หม่อมอมรวงษ์วิจิตร (หม่อมราชวงศ์ปฐม คเนจร) (เรียบเรียง), (2458). "พงษาวดารหัวเมืองมณฑลอิสาณ: คัดจากประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 4 อำมาตย์เอก พระยาศรีสำรวจ (ชื่น ภัทรนาวิก) ม.ม, ท.ช, รัตน ว,ป,ร.4 พิมพ์แจกในงานศพ พัน ภัทรนาวิก ผู้มารดา เมื่อปีเถาะสัปตศก พ.ศ. 2458", วิกิซอร์ซ [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://th.wikisource.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%[] [9 มกราคม 2563].
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-09-29. สืบค้นเมื่อ 2016-04-06.
- http://thaimisc.pukpik.com/freewebboard/php/vreply.php?user=nongkhaicity&topic=259[]
- ดูรายละเอียดใน มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช, โครงกระดูกในตู้, พิมพ์ครั้งที่ 8, (กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์สยามรัฐ, 2547), 109 หน้า ISBN=974-690-131-1
- http://www.oknation.net/blog/bongbongstory/2009/08/08/entry-2
- http://bangkrod.blogspot.com/2011/12/blog-post_27.html
- ดูรายละเอียดใน สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร, สตรีสำคัญในประวัติศาสตร์ไทย, (กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร, 2547), 360 หน้า ISBN=974-9527-87-9
- ดูรายละเอียดใน พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ (นมส., นามแผง), สามกรุง, (กรุงเทพฯ: ศิลปาบรรณาคาร, 2514).
- ดูรายละเอียดใน สภาพระธรรมกถึก-สหภูมิอยุธยา และคณะศิษย์, ประวัติวัดดาวดึงษาราม: สภาพระธรรมกถึก-สหภูมิอยุธยา และคณะศิษย์ จัดพิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ ท่านพระครูโวทานธรรมาจารย์ ณ เมรุวัดดาวดึงษาราม ธนบุรี 1 พฤษภาคม 2503, (กรุงเทพฯ: การพิมพ์สตรีสาร, 2503).
- http://www.oknation.net/blog/surasakc/2010/06/11/entry-1
- (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2018-12-23. สืบค้นเมื่อ 2021-08-10.
- https://nunut005.wordpress.com/
- http://2g.pantip.com/cafe/library/topic/K8512326/K8512326.html
- ศิลปวัฒนธรรม (SILPA-MAG.COM ), (19 ตุลาคม 2562). "ต้นตอ "ลาวบางกอก" ลาวจากเวียงจันยุคต้นรัตนโกสินทร์ บริวารเจ้าสู่รุ่นสุดท้ายที่เข้ามา", LINE TODAY [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://today.line.me/th/pc/article/%E0%B8%95%[] [9 มกราคม 2563].
- http://www.silpathai.net/
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniidrbaecngihprbprunghlaykhx krunachwyprbprungbthkhwam hruxxphipraypyhathihnaxphipray bthkhwamnitxngkarcdrupaebbkhxkhwam karcdhna karaebnghwkhx karcdlingkphayin aelaxun bthkhwamnitxngkarphisucnxksr xacepndankarichphasa karsakd iwyakrn rupaebbkarekhiyn hruxkaraeplcakphasaxun bthkhwamnitxngkaraehlngxangxingephimephuxphisucnkhxethccring ecacxmaewn phranamedim ecanangkhaaewn chawlawsxngfngokhngeriykchayanamwa ecanangekhiywkhxm ecanangthanaerkinrachwngsckri epnphrabrmwngsanuwngscakrachwngsewiyngcnthnxditkhxngsmedcphraecasiribuysar khrxngrachy ph s 2294 2322 aehngnkhrhlwngewiyngcnthn txmarbsthapnaepnphrasnmexkin r 1 rbichphrayukhlbathxyangiklchidaetsmycnphldrachwngsihm nbepnphrasnmexkphuthrngxiththiphltxrachsanksyamfayinxyangsungcnchawwngykyxngepnsmedcphrabrmrachini aelaepnecanaychnphuihysungxphibalthithrngphraeyawxyangekhmngwdcnrbchayawaecanangkhaaewnekidph s 2312thungaekxnickrrmph s 2352 40 pi phrasnmexkinphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharachbidaphraprawtirachtrakulcakrachwngsewiyngcnthn ecanangkhaaewnepnecanayxngkhaerkthiechuxmsmphnththangekhruxyatikbrachwngsckrikhxngsyam edimepnchawnkhrhlwngewiyngcnthn snnisthanwaprasutithi phnphraw hrux tharphraw pccubnkhux t phnphraw c hnxngkhay trngkhamnkhrhlwngewiyngcnthn epnthida thawskdi hrux thawphn hruxphuwarachkaremuxngkhxnaeknxngkhaerk phrankhrsribrirksepntnskulesnxphra nkhrsribrirks aephnpha xuphad sunthrphithks l in c khxnaekn ecanangkhaaewnepnphranddahruxthawaesnaekwbuhm nkprawtisastrbangkhnsnnisthanwathankhuxecasriwichy butrphraecathrrmikrachsunginphunemuxngthngaelaemuxngmukdahar klawwa thanepnbidakhxngecaaekwmngkhlaelaecacnthrsuriywngs banephiypu emuxngthulakhm nkhrhlwngewiyngcnthn epnphrarachpndda smedcphraecasiribuysar phramhakstriyaehngnkhrhlwngewiyngcnthn aelaepnphrarachndda hlanlung ecaaekwmngkhl ecaaekwburm phusrang pccubnkhux x suwrrnphumi c rxyexd aetmienuxkhwamkhdaeyngkbphngsawdaremuxngthng phunemuxngthng klawkhux epnipimidthiecaaekwmngkhlcaepnphinxngkbephiyemuxngaephnhakepn pu hlan camikhwamnaechuxthuxmakkwaenuxngcakecaaekwmngkhl prasuti n pi ph s 2184 swnephiyemuxngaephnepnecaemuxnginpi ph s 2340 sunghangkn 156 pi bangwaphrankhrsribrirks skdi bidaepnbutrphrartnwngsamhakhtiyrach phu ecaemuxngsuwrrnphumi phrartnwngsa epnxnuchaphrayakhtiywngsphisuththibdi silng tnskul thnsilngkur ecaemuxngrxyexd thng 2 epnbutrphrakhtiywngsa thnt hrux suthnt ecaemuxngrxyexdxngkhaerk aelamiskdiepnphrarachnddaecaaekwmngkhl thsnaniecanangkhaaewncungepnphrarachpnddaecaaekwmngkhl mihlkthanthiechuxwaepnbnthukekaaeksungnacamixayuaelakhwamnaechuxthuxkwa thng 2 krni thsna khangtn cakexksarphunemuxngthng exksarfaythayathemuxngsuwrrnphumi thsnathi3 miklawwa ecamuddaodn mioxrs 3 xngkh khux ecaechiyng ecasun ecaxun pldemuxngkhukhnthsungtxmaiddarngtaaehnngepnecaemuxngsirsaeksthanaerk namwa phrayartnwngsa xikthngyngepnlukekhykhxngphrayaikrphkdisrinkhrladwnhruxtakacaecaemuxngkhukhnththanaerkaelaepnbidakhxngphrapracntpraethshruxecaemuxngchlbthwibulythanaerk swnecaesiyngbutrthawmud mibutr 3 khn khux thaweph ecaemuxnghnxnghanthanaerk thawoxa ecaemuxngsuwrrnphumi thawphr aelathidaimthrabnamxik 2 khn inphunemuxngthng rabuwathawphrsungepnbutrkhxngthawesiyngmibutrchay 2 khn khux ephiyemuxngaephn phrankhrsribrirks ecaemuxngkhxnaeknthanaerk ephiysripak phraesnasngkhram ecaemuxngphuthithsngthanaerk aelaepnbidakhxngphrayankhrphkdi ecaemuxngaepahruxburirmythanaerk rachtrakulfaybidaecanangkhaaewnpkkhrxngemuxngkhxnaekntngaettnkrungrtnoksinthrcnykelikrabbkinemuxnghlng ph s 2444 rachwngsaelaklumekhruxyatiepntntrakulsakhykhxngphakhxisanhlaysayaelaaeykyaytngbanemuxnginhwemuxnglawmakthung 23 hwemuxngkhux thngsriphumi suwrrnphumi emuxngrxyexdrachburisrisaekt rxyexd chlbth emuxngkhxnaekn emuxngephiy banemuxngephiy emuxngrtnnkhr okhkphra hnxnghannxy ophnaephng emuxngphnmiphraednmvkh phnmiphr banemuxngesux banemuxnghngs emuxngkhametha emuxngepuxyihy bankhx aelaemuxngnan nnthburi phinxng ecanangkhaaewnmiphinxngrwmbida 5 thankhux ecanangkhaaewn ecacxmaewn phrankhrsribrirks cam eca thawpham ephiywrbutr bida xu hrux xu tnskul nkhrsribrirks ecaemuxngkhxnaeknxngkhsudthay thanaerk aelacangwangrachkar hyingimpraktnam hmxmin khabng hrux khabng ecaechlysuk edimecanangkhaaewnxasyxyukbbidathinkhrhlwngewiyngcnthnaetkhrngbidabrrdaskdiephiyemuxngaephn tharachkarkhuninrchsmysmedcphraecaichyechsthathirachthi 3 smedcphraecasiribuysar txmabidaeluxnepnecaemuxng aetinhlkthanthangfngemuxnghnxngkhayklbmikhxkhdaeyngkbprawtiemuxngthurkhmhngssthitkhxngephiyemuxngaephn enuxngcakemuxngthurkhmhngssthitythuktngemuxsmyrchkalthi 3 aehngkrungrtnoksinthr odymiphrawichithngsphiisy butrphrapthumethwaphibal ecaemuxnghnxngkhay epnecaemuxngthurkhmhngssthitythanaerk odykhunkbemuxnghnxngkhay sunginkhnannemuxngewiyngcnthnmiidkhngkhwamepnemuxngxyuaetprakaridenuxngcakthukthphsyamthalayaelayubxanackrlngaelahakaetepnephiyngemuxngrangkhuntrngkbemuxnghnxngkhaydwyechkechnediywknkbemuxngthurkhmhngssthity ephraachannepnipimidthiephiyemuxngaephncamacakemuxngthurkhmaelaekhyepnkrmkaremuxnghruxepnhnxenuxechuxecaemuxngthurkhmhngssthity thahakxingcakkarxphyphmacakinkaaephngemuxngewiyngcnthn kmiidepnechuxecaechuxkstriyaetprakaridhakaetepnephiyngechuxsaykhunnangewiyngcnthnchnphunxythisngbutrsaw xyangnangkhaaewn ihipepnnangkanlhruxbathcarikaaekkstriylawewiyngcnthn sungmkepnthiniymkhxngehlakhunnangthimkcaphungkrathaknephuxpraoychnthangtaaehnngkaremuxng ph s 2321 ecaphrayamhakstriysuk r 1 epnykthalaynkhrhlwngewiyngcnthnphrxmkwadtxnkhrwlaw phrarachoxrs phrarachthida phrabrmwngsanuwngs khunnang aelathrphysmbtisingkhxng changmaepnxnmakmathnburi phraphuththmhamnirtnptimakr phraaekwmrkt phrabang aelaphraphuththrupmikhacanwnmakkhxnglawthukxyechiymasyaminsngkhramkhrngnidwy ecanangkhaaewninthanaechlysukcungtamesdcsuaephndinsyamechnkn fayephiyemuxngaephnbidaxphyphphlkhamokhngtngbaneruxnkracayhlayaehnginphakhxisankhux banophthitak pccubnkhux b ophthitam t bankng x emuxngkhxnaekn banyangediyw banophthisri pccubnkhux b ophthisri t banon x kranwn c khxnaekn banophthichy pccubnkhux b ophthichy x mycakhiri c khxnaekn caknnxphyphphlbangswnmatngthiaekhwng suwrrnphumi aelwxphyphiphrphltngepnthibanonnkrayxm dxnphyxm pccubnkhux b emuxngephiy t emuxngephiy x baniph c khxnaekn 9 pitxma ph s 2331 cungphaiphrphlpraman 330 khnkhxaeyktwcakiptngthifng inthsnathi 1 thiklawmakhangtnkhwamnacaepnipidnxymakenuxngcakmikhwamkhdaeyngkbphunemuxngcakhlay chbb minkprawtisastrhlaythanmxngwabnthukprawtiemuxngkhxnaekninthsnathi1phungthukbnthukkhunihmxayukhxngexksarkarbnthukyngmimaimnan xacenuxngdwykhwamkhdaeyngphayinrachwngsecacaryaekw rahwangthawxxnecaemuxngsuwrrnphumikbephiyemuxngaephncungthaihphubnthukkhxmulprawtiemuxngkhxnaeknaelaprawtikhxngephiyemuxngaephnbnthukkhladekhluxnipcakkhwamepncringaelatangcakexksarphunemuxngxun thsnathi2 3 thimixayukarbnthukkhxngexksarthimixayuthiyawnankwaphuxyuebuxnghlngkartngemuxngkhxnaeknhlng r 1 epnrachwngsckriidsthapnaecanangkhaaewnepnecacxmaewnaehngkrungrtnoksinthr txma krmkaremuxngsuwrrnphumiyatiephiyemuxngaephn skdi wiwathkbkrmkaremuxngedimcungaeykiptngiphrphlthiaelarboprdekla epn pccubnkhux x chnbth c khxnaekn khunemuxngnkhrrachsima fayephiyemuxngaephn skdi bidaxyakepnbangcungpruksaecanangkhaaewnthidasungehndidwy txmaecanangkhaaewnthuloprdekla ihbidasungykphlaeykcakmatngthi pccubnkhux b emuxngeka t inemuxng x emuxngkhxnaekn aet ph s 2332 khunepnecaemuxng ph s 2340 r 1 cungoprdekla ihephiyemuxngaephnepnphrankhrsribrirksxngkhaerk tngnamemuxngtamnamthitngphrathatukhamaekn tharachkarkhunemuxngnkhrrachsimadwyprachakrephiyng 330 khrwethann ibbxkemuxngkhxnaekn 28 emsayn r s 109 rabuodylaexiydwa ekhiynthiwarachkaremuxngkhxnaeknfayemuxngedim wnthi 28 emsayn rtnoksinthrsk 109 khaphecaxuphat rachwngs rachbutr hlwngphrhmphkdiphuchwy emuxngaesn emuxngcn thawephiykrmkaremuxngkhxnaekn bxkprnnibtikhanbmayngthanxxkphnnayewr khxihnakhunkraberiyn phnhwecathanlukkhun n salathrngthrab dwyedimcatngepnemuxngkhxnaekn ecanangkhaaewnkrabbngkhmthulihemuxngaephn phasmkhrphrrkhphwkaeykxxkcakemuxngsuwrrnphumi cungoprdeklaoprdkrahmxmtngemuxngaephnepnthiecaemuxngkhxnaekn hathnmixuphat rachwngs rachbutrim emuxngaephnecaemuxngthungaekkrrmip cungthrngphrakrunaoprdeklaoprdkrahmxmihthawkhabngbutrekhyemuxngaephnecaemuxng khunepnthiphrankhrecaemuxng oprdihthawkhaywngepnthirachbutr aetthixuphatrachwngsnnhathntngim phrankhrkhabngthungaekkrrmipcungthrngphrakrunaoprdeklaoprdkrahmxm tngrachbutrkhaywngepnthiphrankhrecaemuxng tngthawsuwnbutrphrankhrkhabngepnthixuphat tngphrarachwngsabutrhlanecaemuxngaephnepnthirachwngs tngthawkhaphangbutrphrankhrkhaywngepnthirachbutr khunipkhrxbkhrxngbanemuxngkodyyutithrrm khumswyphlerwlngmathulekla esmxthukpimiidthskhang khrnxyuhlaypirachwngsthungaekkrrmip cungoprdeklaihthawxinbutrphrankhrkhaywngepnthirachwngs khrnphrankhrecaemuxng xuphat aelarachbutrthungaekkrrmip cungoprdekla ihthawhnuekhamaepnecaemuxngkhxnaekn oprdekla ihrachwngsxinbutrphrankhrkhaywngepnthixuphat thawmungbutrphrankhrkhaywngthiepnphichayxuphatxinepnthirachwngs thawcnchmphubutrxuphatsuwnkhnekaepnthirachbutr xyumaidsampicungoprdekla ihphrankhrhnu hnicakemuxngkhxnaeknipepnecaemuxngmukdahar aelwcungthrngphramhakrunaoprdekla tngxuphatxinepnthiphrankhrsribrirksecaemuxng rachwngsmungepnthixuphat thawkhtiyabutrekhyphrankhrkhaywngepnthirachwngs aetrachbutryngkhngthi phrankhrsribrirksphathawephiypraphvtirachkarbanemuxngkepnsccepnthrrm khumenginswyphlerwemuxngkhxnaekn canwnpilayisibaepdchangaepdtalung lngmathulekla esmxthukpi l khxnghmxmxmrwngswicitr rabuehtukarntngwa luculskrach 1159 pimesng nphsk ph s 2340 fay ehnwaidepn kxyakcaidepnbang cungekliyklxmphukhnihxyuinbngkhbsamrxykhness cungsmkhrkhunxyuin aelwkhxtngepnemuxng idmiibbxkmayngkrungethph cungoprdekla tngihepnthi ykkhunepn khunkbemuxngnkhrrachsima ehtukarnediywknyngthukrabuin dwywa idthrabkhawwa aekhwng pharasdr iphrphlpraman 330 khn aeykcakipkhxtngfngepnemuxng cungthrngphrakrunaoprdekla ihepn chayaecanangekhiywkhxmaehnglawepnchayanaminxudmkhtikhxngecahyingphrarachthidakhxngphramhakstriylawthithuxkaenidepnecafa hruxhmaythungecahyinginrachwngslawthiidrbkbphramhakstriyemuxngxunaelwidrbkaraetngtngihepnsmedcphrabrmrachinihrux inrchsmykhxngsmedcphraecasiribuysaraehngnkhrewiyngcnthn ph s 2294 ph s 2322 idpraktphranamecahyingthiidrbchayawa xyu 4 phraxngkh dngni ecanangkhaaewn ecacxmaewn phrathidain inphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach rchkalthi 1 ecanangkhasuk ecacxmmardathxngsuk phrarachthidainphraecaxinthwngsaehngewiyngcnthn phrarachnddainphraecasiribuysar thrngepnphrasnminphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach rchkalthi 1 ecanangaekwyxdfa ecanangaekwyxdfaklyanisrikstriy phrarachthidainphraecasiribuysaraehngewiyngcnthn ecanangekhiywkhxm impraktphranamedim phrarachthidain phrarachxnuchakhxngsmedcphraecasiribuysar phraxngkhepnphrasnminsmedcphraecakrungthnburi ecahyingphraxngkhnipraktphranaminphngsawdarethannkhdaeyngkbsmedcphraxmrinthrabrmrachinikhwamkhdaeyngkhxngecanangkhaaewnkbsmedcphraxmrinthrabrmrachini hmxmrachwngskhukvththi praomch bnthukinhnngsux wa emuxecanangkhaaewnmaxyuinthaeniybsmedcecaphraya aelw khunhying smedcphraxmrinthrabrmrachini khunghwngmak mipakesiyngkbsmedcecaphraya dwyeruxngecanangkhaaewnnixyubxy cnkhunwnhnung khunhyingthuxdunaesmipyundkkhxyxyuinthimud bnnxkchaneruxn phxecanangkhaaewnedinxxkmacakeruxnhlngihy xnepnthixyukhxngsmedcecaphraya khunhyingkexadunaesmtihw ecanangkhaaewnkrxngkhunwa khunphiecakha khunhyingtihwdichn smedcecaphraya kokrthyingnk chwyiddabxxkcakeruxncamafnkhunhying faykhunhyingkwingekhaeruxnthithanxyu aelwpidpratulndaliw smedcecaphraya kexadabfnpratuxyuokhrm eruxngmixyuwa khrng r 1 yngimthrngesnhhaecanangkhaaewnmakdwyhnataswyngamhmdcdaelaepn aetekrngkhunhyingnakh smedcphraxmrinthrabrmrachini thimipakesiyngkbphraxngkheruxngbathbricarikaaelahyingbaerxbxycungidaetihecanangduaelnganeruxnthwip rxewlakhunhyingprathbinphrarachwngepnephuxnthidathiepnphrayataksin khunhyingruthnsamicungsngnangkldkhaichsungmihnathibibnwdsamithukkhunwa haksmedcecaphraya snghaecanangihmaekhaabxkthankxnaelwkhxyiptamecanangma swnkhunhyingkimkhangaerminphrarachwngnan 2 eduxn khunhnungsmedcecaphraya thnimihwcungsngnangkldtamhaecanangnangkhaaewnmaphb nangkldthatamthikhunhyingsngkhuxekhaabxkkxncungiptamecanangma faykhunhyingthuxdunaesmyundkinthimudbnnxkchaneruxn khrnecanangkhaaewnthaaepngaelanaxbesrcaelwedinmathangeruxnhlngihysungepnhxngsmedcecaphraya khunhyingexadunaesmtiklangsirsaecanangcneluxdthwm ecanangnangcungrxnghasmedcecaphraya faykhunhyingehneluxdxxkmakktkicwingekhaeruxnpidpratulndal smedcecaphraya xxkmaehnecanangkhaaewnecbkokrthmak chwydabxxkcakeruxncafnkhunhying emuxmathungeruxnthibpratuimxxkkexadabfnpratuesiyngdngxukthukkhukokhrm khunchim r 2 inkaltxma butrkhnotidyinehtukarnkhidwaphxomohihyothakplxyiwekrngaemrbxntray cungchwyknkbkhuncuyaelaphieliyngekhnkhrktakhawhlayibmatxithnatangeruxnkhunhyingphlangeriykihhnilngma aelaphahlbipxyuinwnghlwngodyxasyxyutahnkphrarachthidasungepnphrasnmexkphrayataksin emuxsmedcecaphraya ekhamaehndngnncungihecanangkhaaewnrbtaaehnngduaelkhathasaelakhwameriybrxyineruxnthnghmdaethnkhunhying smedcecaphraya prabdaphieskaelasthapnaphrabrmmharachwng khunhyingkimekhyesdcprathbinphrabrmmharachwng aetprathbxyuphrarachwngedimfngthnburikbphrarachoxrs esdcmaeyiymphrarachthidainphrabrmmharachwngephiyngkhrngkhrawtrabswrrkht ecanangkhaaewncungrbsthapnaepnphrasnmexk oprd ihrbichiklchidebuxngphrayukhlbathtlxdrchkalcnchawwngykyxngepnsmedcphrabrmrachinikhwamicklaecanangkhaaewnklahayaelamisilpainkarephdthuleruxngtang thiimmiphuidklanakhunkrabbngkhmthul r 1 hakeruxngnnsmkhwraelathuktxngkkrabthulthnthiimklwphrarachxaya khwamklahaypracksemux ph s 2339 khraw r 1 thrngehndehnuxyphrawrkaycakwarachkarnganemuxng khnabrrthmekidphrasubinthrngkharachbriphartkicimthrabcathaxyangir ecanangkhaaewntdsinickdcmukcnrusukphraxngkhaelatunphrabrrthm cungidrbkhwamdikhwamchxbepnthioprdprankhxngphraxngkhmakcnimphiorth khwamklahaypraktxikkhrngdngni thinaehnwaepnkhndi kephraathancngrktxsmedcphraphuththyxdfaepnthisud epnphuptibtiinewlathrngphrachraxyucnsinrchkal emuxthrngsrangphraoksthxngihyiwsahrbphraxngkhnn khrngsrangesrcaelw koprdihykekhaiptngiwthwaythxdphraentrinphrathinngiphsal thxdphraentraelwkmiidtrsihykipekbekhakhlng ihtngiwbnphrathinnghlaywn phrasnmexkesuximsbayicehnepnlang kthulwingwxnwa epnxpmngkhlihykipesiy trstxbwa kuthasahrbistwkuexngcaepnxpmngkhlthaim aetkoprdihykphraoksip phrasnmexkesuxepnkhnidrbphrarachthanxphy thulxairthulidcungmieruxngelatxip xphibalsmedcphraecalukethxecanangkhaaewnrbrachkarin r 1 xyangiklchidaetimidprasutiphrarachoxrsphrarachthida cungthwaykarxphibal hrux in r 1 kbxyangiklchiddwyepnrachwngslawewiyngcnthnehmuxnknaelaepnphrayatiiklchidodymiphrarachpyka thwd phraxngkhediywkn nxkcakniyngthwaykarxphibalsmedcphraecalukethxin r 2 thiprasutiaetecafakunthlthiphywdixik 3 phraxngkhkhux smedcphraecalukethx ecafachayxaphrn smedcphraecalukethx ecafachayklang smedcphraecabrmwngsethx ecafamhamala krmphrayabarabprpks aelasmedcphraecalukethx ecafachaypiw tlxdthwaykarxphibalphrarachoxrsinsmedcphraecahlanethx ecafahyingbuyrxd smedcphrasrisurieynthrabrmrachini dwynganfimuxinrachsankecanangkhaaewnhruxecacxmaewnmifimuxinkarprungxaharlawxyangkarprungnayaekhapunhruxkhnmesn syameriykkhnmcin snnisthanwaepnnayaaebblawaelaepnphupradisthkhnmikhehiy saehtucak r 1 miphrarachprasngkheswyikhehiykbmngkhudaethaimidenuxngcakimichvduwangikh ecanangkhaaewncungpradisthkhnmikhehiythwayaethnodyeliynaebbruprangikhehiycnphxphrarachhvthy txmasyamepliynchuxihmwaikhhngskarphrasasnasrangwddawdungsaswrrkh khrnghnung r 1 aesdngphraxakarwasbayphrarachhvthycungtrsaelathrngphrasrwlxyangsnuksnan ecanangkhaaewncungekhaipthulwa khngthuldwyphasalaw esdcphiecakha dichncathulkhwamskeruxnghnung aetesdcphixyakriwhna phraxngkhtrstxbwa caphudxairkphudipethid imkriwdxk ecanangkhaaewncungthulwa thayngngn esdcphisbthihdichnesiykxn dichncungcathul phraxngkhktrsdwythxykhwamxnhyabkhaywa xixpriy banemuxnglawkhxngmung ekhyihecachiwitcitsndansbthhrux kuimsbth phudipethid kuimokrthdxk ecanangkhaaewnkraethibhaphraxngkhaelwkrasibthulwa ediywni aemrxdthxngid 4 eduxn phraxngkhthrngxungkhruhnungaelwtrswa thxngkbikhr ecanangkhaaewnthulwa camikaikhresiyxikela kphxochmexkkhxngesdcphinasi r 1 thrngkriwning hlaywncungimmiphuidthrabwacathrngthaxyangiraenaelaphaknekrngphrarachxayaaethnecafathngsxngiptamkn ecanangkhaaewnrxnickwaphuidcunghaoxkasthulthamwatharkinphrakhrrphcaepnecafahruxim phraxngkhtrswaepnecafa ecanangkhaaewnaelaehlaecanaykolngictamkn inthisudkrmphrarachwngbwrmhasursinghnathkekhaipkhxphraphrarachthanothsaethnphraecahlanthngsxngsungkkhux smedcphraecalukyaethx ecafakrmhlwngxisrsunthr r 2 kbphrathida sungsmy r 4 thrngoprdekla epnsmedcphrasrisurieynthrabrmrachini ecanangkhaaewnrkikhrecafathngsxngepnphiessthungkbbnwa hakeruxngkhlikhlayinthangthidicasrangwdhnungwd inthisudksrangwdkhunklangswnwdintablbangyikhn thnburi echingsaphansmedcphrapinekla eriykwawdkhrwxin phraxuobsthwdkxxithsungphndinraw 2 sxk ichesaimaeknepnprathan hlngkhamungkraebuxng phnngichimskepnfarxbmibanpratuhnatang kudithadwyesaimaeknhlngkhamungbngsnthaneruxnobran txmasmy r 2 emuxecanangkhaaewnxnickrrmaelw yatistrithanhnungepnkharachkarfaynamwa xin micitsrththaptisngkhrnihmthngwd odyruxsthanthiekathingthnghmdaelwsrangihm odysrangepnxuobsthkhnadelkkxxithpunihm esnasnakxxiththuxpunaetekhruxngbnichiphsanepnaekn esrcaelwkrabthwaybngkhmthul r 2 cungthrngdariwa wdkhrwxinniaeplk smpharecawdchux xin phusrththaptisngkhrnkchux xin imaetethann chawbankxutsahiheriykwa wdkhrwxin esiyxik cungidphrarachthannamihmwa wddawdungsaswrrkh hmaythungswrrkhchnthiphraxinthrsthityxyu srangkutiaelaxuthisthidinthwaywdsngkhkracay epnwdobraninrchsmyphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach txmaecacxmaewnidmxbthunihcanwnhnungephuxsrangkuti4 khnadanit epnkutithuxpunthnghmd pccubnklayepnekhtbanecha txmaphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharachoprdihkrmhmunikrsrwichitepnnayngankhwbkhumsrangphraxuobsthodyihhnhnawdipthangxyuekhiyngkbkutikhxngedim phrxmsrangkutikhunihmbriewnphraxuobsthdanit elaknwaemuxkhudphunthiephuxsrangphraxuobsthidkhudphbhlxdwysarid khnadhnatkkwang 10niwimmithan aelakhudphbsngkh dwytwhnungaetsngkhidcharud swnidekbrksaiwepnkhuphraxaram khrnemuxsrangesrceriybrxyaelw phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach thrngthuxnimitehtuxnni phrarachthannamwa wdsngkhkracay txma inrchsmyphrabathsmedcphraphuththelishlanphaly rchkalthi 2 oprdihptisngkhrnphraxuobsthodyecacxmaewnidxuthisswnkhxngtnsungxyutidkbekhtwdihaek intananklawthungkhwamsmphnthkhxngwdkbecacxmaewniwwa phayhlngkarsrangwdesrcecacxmaewnidsngkhahlwngsnithkhnhnungepnhyingmdchuxcayihipefaswnkhxngphraxngkh sungmienuxthitidkbthikhxngnaysngkh dwyecacxmaewnehnehmaathicaefaswncungidsngma phayhlngimnannangcaykbnaysngkhmikhwamsnithchxbphxknmak cungdarirwmicknthicasrangwdnitxip nangcaythungkbkhnxasaipkhxkhwamchwyehluxcakecacxmaewn inthisudkhwamprarthnakhxngthngsxngksmprasngkh ecacxmaewnidmxbthunihmacanwnhnung khrnghlngkidsrangephimetimkhunxikhlayxyang khux srangkutikhun 4 khna thangmumdanitepnkutitukthuxpunthnghmd aetlakhnakmikuti 4 hlng hlnghnung mi 2 hxng kutiecaxawasplukxyuthangthistawnxxkkhxngkhna idsrangthnnphanrahwangchxngkuti aelwkxkaaephngxithlxmrxbsung 1 wa mipratuekhaxxkthng 4 this briewnthihmukutinitngxyu bdniklayepnekhtbanechaiphmdaelw khrnaelwesrc emuxcakhxphrarachthanwisungkhamsimatxphrabathsmedcphraecaxyuhw sungepntxnthicaechidhnachutaphusrang kekidthaelaaebaaaewngepnpakesiyngekiyngaeyngkncaexachux nangcaykprarthnakhxphrarachthaninnamkhxngtnephraatnxutsahwinghaenginhathxngmasrang faynaysngkhkimyxm prarthnacakhxinnamkhxngtnechnkn ephraatnkslahyadehnguxaelaaerngkaythumethmatngaetaerkerim emuxtangmaekidaetkkhxknkhunineruxngni nangcaycungwingekhahaecacxmaewnnaykhxngtn aelwelakhwamepnmaihthrab odythanathiecacxmaewnepnthiphrasnmexk phraecaxyuhwoprdpranmak cathulsingidkthulid khrnemuxidnakhwamkrabbngkhmthulephuxkhxihphrarachthanwisungkhamsima phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmiphrarachdarswa wdthinaysngkhnangcaysrangkhunnn imswysmekiyrtikbphrasnmexkechnecacxmaewn thrngrbcasrangphrarachthanihm cungoprdekla ihkrmhmuniksrwichitmaepnnayngankhwbkhumsrangphraxuobsthkhun ihhnhnaipthangkhlxngbangwwthxngxyuekhiyngkbkutisngkhkhxngedim phrxmkbidsrangkutikhunihmxikhmuhnungtrngmumphraxuobsthdanitxikdwy elaknwa aerkkhudphraxuobsthnn phbphrakccaynxngkhhnungkbsngkhtwhnung echphaasngkhcharudephraaaerngcxbesiymthikhud wdnimikhwamaeplkprakarhnung dwywdninaysngkhkbnangcayepnphurierimsrang emuxnaexachuxkhxngkhnthngsxngmaekhakhuknepn sngkh cay kfngiklekhiyngkbkhawa sngkhkracayn tamnamthiphrarachthanepnthisud thabuyeliyngphra hlkthanincdhmayehtukhwamthrngcakhxngkrmhlwngnrinthrethwiklawwa ecacxmaewnepnecanaythanhnunginbrrdaphrabrmwngsanuwngsaelaecanaythirwmkncdxaharkhawhwanthwayphraphiksusngkhaelaeliyngphukhninkhrawphrarachphithisakhytang echn emuxkhrngthabuyihychlxngwdphrasrirtnsasdaram wdphraaekw phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach rchkalthi 1 idthrngoprdiheliknakhawthwayphra aetihthakhnmcinsngkhnbphnrupodyichaepngkhnmcincanwnmakthungwnla innganniecacxmaewnphumichuxesiynginkarprungthisudinsmynn idepnphuprungthwayphrainihykhrngniexng xngkhrachupthakwdphraechtuphnwimlmngkhlaram ecacxmaewnrbrachkarinphraxngkhodymiidmiphraxngkheca phrarachoxrshruxphrarachthida aemphraxngkhediyw thrngthahnathiduaelbrrdaphraecalukethxthiyngthrngphraeyawxyangekhmngwdcnepnthiekrngklwaelaidrbchayawa khunesux odyswntwnnecacxmaewnkhngtxngkarmiphraxngkheca dngpraktkhwaminsasnsmedc elm 14 wa thiinwiharphraolknathmirupcahlkdwysilaxxnthaepnedkaetngekhruxngxaphrntidfaphnngiw 2 khangphraphuththrup elaknmawaemuxsrangwdphraechtuphnnn ecacxmaewnphrasnmexkphuepnrachupthak sungecanaylukethxekrngklweriykknwa khunesux xiknam 1 krabthulphrabathsmedcphraphuththyxdfa wa xyakcathabuyxthisthankhxihmiluk cungthrngphrakrunaoprdekla ihtharupedk 2 rup xyangepnekhruxngpradbphrawihar karthaechnniepnkhwaminthirukninhmukhniklchid imidepnthiepidephy aetmikhwampraktinkhaokhlngitphaphedk khangphraphuththrupinwiharphraolknath wdphraechtuphnwimlmngkhlaram wa rcnasudartnaekwkumari hnungvi esnxxthibaybutri laphisr buchitechsthchinsriechlachlk hinehy buysngcngluidesdcdwydngthwil kumarhnungphungchlktng tidphnng sthityxyuebuxnghlng phraiw khunesuxswadihwngaeswngbutr chayehy echlyehtuthiebsrih svsdiaesrngaetngphl odypktiaelw phukhnmkniymipkrabihwbuchaphraphuththolknaththiwdphraechtuphnwimlmngkhlaram ephraaechuxknwaskdisiththiineruxngihbutr aelacaprasbphlsaerchakkhxinkhunwnephysungepnwnsakhythangphuththsasna nxkcaksrangrupedkthwaypradbinwiharphraolknathaelw inngankhrnghnung ecacxmaewnyngthakracadihyisedkphmcukaetngekhruxnghmdcdngdngam tidknthethsnthwayepnsiththikhad nbepnkhwamkhidaeplkaehwkaenw xaccasubenuxngmacakkhwamtxngkarmiphraxngkhecaepnxyangyingkepnidthungaekxnickrrmecanangkhaaewn thungaekxnickrrminrchkalphrabathsmedcphraphuththelishlanphaly rchkalthi 2 prachachnidsrangphrathatubrrcukhxngphraxngkhiw n eriykwa xnung aela inekhtcnghwdhnxngkhaypccubn epnthiecanangkhaaewnidkhxrxngihphrarachswamihamthalay emuxkhrngykthphipephankhrewiyngcnthnsmyphraecataksinekiyrtiysthrrmeniymyskhxng ecacxmaewn inrchkalthi 1kareriynihwsabathecakaraethntnkraphm dichnkarkhanrbkhrbphm khabrrdaskdiph s 2312 ecanangkhaaewn imprakt hmxmaewn insmedcecaphrayamhakstriysuk ph s 2325 ecacxmaewn inrchkalthi 1phngsawliphngsawlithrrsnathi 1 phngsawlikhxngecacxmaewn inrchkalthi 1 smedcphraecaichyechsthathirachthi 3 phraecasiribuysar kstriynkhrewiyngcnthn ecaaesnpccuthum thawaesnaekwburm krmkaremuxngthurkhmhngssthit phrachayaimpraktphranam phrankhrsribrirksbrmrachphkdi skdi ecaemuxngkhxnaekn phrachayaimpraktphranam ecacxmaewn hmxmimpraktphranam phngsawlithrrsnathi 2 phngsawlikhxngecacxmaewn inrchkalthi 1 ecaaekwmngkhl aekwbrm ecaemuxngthngsriphumixngkhaerk phrakhtiywngsphisuththibdi suthnt ecaemuxngrxyexdxngkhaerk phrachayaimpraktphranam phrartnwngsamhakhtiyrach phu ecaemuxngsuwrrnphumirachburi phrachayaimpraktphranam phrankhrsribrirksbrmrachphkdi skdi ecaemuxngkhxnaekn phrachayaimpraktphranam ecacxmaewn hmxmimpraktphranam phngsawlithrrsnathi 3 phngsawlikhxngecacxmaewn inrchkalthi 1 thawmuddadl ecaemuxngthngsriphumi oxrsecaaekwmngkhl aekwbrm thawechiyng ecaemuxngthngsriphumiphumi phrachaya ecarachwngs phr emuxngsuwrrnphumi phrachaya phrankhrsribrirksbrmrachphkdi skdi ecaemuxngkhxnaekn hmxmimpraktnam ecacxmaewn hmxmimpraktphranam xangxinghttp pantip com topic 32458543 https www gotoknow org posts 233054 http ps8921 blogspot com 2011 09 blog post html https www facebook com 722488218128250 posts 1180913005619100 https www facebook com 722488218128250 posts 1185849368458797 https www facebook com notes 350419951739054 http board postjung com 783480 html https m facebook com permalink php story fbid 679651548780760 amp id 679296892149559 https th m wikipedia org wiki E0 B8 9E E0 B8 A3 E0 B8 B0 E0 B8 9B E0 B8 97 E0 B8 B8 E0 B8 A1 E0 B9 80 E0 B8 97 E0 B8 A7 E0 B8 B2 E0 B8 A0 E0 B8 B4 E0 B8 9A E0 B8 B2 E0 B8 A5 E0 B8 9A E0 B8 B8 E0 B8 8D E0 B8 A1 E0 B8 B2 E0 B8 93 E0 B8 AB E0 B8 99 E0 B8 AD E0 B8 87 E0 B8 84 E0 B8 B2 E0 B8 A2 http www silpathai net http www sujitwongthes com 2011 02 http esanwisdom kku ac th esandb en lingkesiy duraylaexiydin pramwl phimphesn singaewdlxm silpkrrm naethiywkhxnaekn khxnaekn khxnaeknkarphimph 2540 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 12 23 subkhnemux 2016 04 06 kxngcdhmayehtuaehngchati exksar r 5 m 2 12 k 1 92 ibbxkemuxngkhxnaekn lngwnthi 28 emsayn r s 109 xangin pramwl phimphesn sunywthnthrrmcnghwdkhxnaekn orngeriynklyanwtr bnthukprawtisastremuxngkhxnaekn epidephyhlkthankhxmulkartngemuxngkhxnaekn wiwthnakarkhxngemuxngkhxnaekn l khxnaekn orngphimphphrathrrmkhnt 2541 hna 77 78 hmxmxmrwngswicitr hmxmrachwngspthm khencr eriyberiyng 2458 phngsawdarhwemuxngmnthlxisan khdcakprachumphngsawdar phakhthi 4 xamatyexk phrayasrisarwc chun phthrnawik m m th ch rtn w p r 4 phimphaeckinngansph phn phthrnawik phumarda emuxpiethaasptsk ph s 2458 wikisxrs xxniln aehlngthima https th wikisource org wiki E0 B8 9E E0 lingkesiy 9 mkrakhm 2563 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2020 09 29 subkhnemux 2016 04 06 http thaimisc pukpik com freewebboard php vreply php user nongkhaicity amp topic 259 lingkesiy duraylaexiydin mrw khukvththi praomch okhrngkradukintu phimphkhrngthi 8 krungethph sankphimphsyamrth 2547 109 hna ISBN 974 690 131 1 http www oknation net blog bongbongstory 2009 08 08 entry 2 http bangkrod blogspot com 2011 12 blog post 27 html duraylaexiydin sankwrrnkrrmaelaprawtisastr krmsilpakr strisakhyinprawtisastrithy krungethph krmsilpakr 2547 360 hna ISBN 974 9527 87 9 duraylaexiydin phrarachwrwngsethx krmhmunphithyalngkrn nms namaephng samkrung krungethph silpabrrnakhar 2514 duraylaexiydin sphaphrathrrmkthuk shphumixyuthya aelakhnasisy prawtiwddawdungsaram sphaphrathrrmkthuk shphumixyuthya aelakhnasisy cdphimphepnxnusrninnganphrarachthanephlingsph thanphrakhruowthanthrrmacary n emruwddawdungsaram thnburi 1 phvsphakhm 2503 krungethph karphimphstrisar 2503 http www oknation net blog surasakc 2010 06 11 entry 1 PDF khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2018 12 23 subkhnemux 2021 08 10 https nunut005 wordpress com http 2g pantip com cafe library topic K8512326 K8512326 html silpwthnthrrm SILPA MAG COM 19 tulakhm 2562 tntx lawbangkxk lawcakewiyngcnyukhtnrtnoksinthr briwarecasurunsudthaythiekhama LINE TODAY xxniln aehlngthima https today line me th pc article E0 B8 95 lingkesiy 9 mkrakhm 2563 http www silpathai net bthkhwamchiwprawtiniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk