บทความนี้ยังต้องการเพิ่มเพื่อ |
พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว (พระราชสมภพ 4 กันยายน พ.ศ. 2351 — สวรรคต 7 มกราคม พ.ศ. 2408 (นับแบบปัจจุบันเป็น พ.ศ. 2409)) เป็นสมเด็จพระอนุชาธิราชในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้รับบวรราชาภิเษกเป็นสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามพระองค์ที่สอง รองจากสมเด็จพระเชษฐาธิราช ทรงศักดิ์สูงกว่ากรมพระราชวังบวรสถานมงคล (พระมหาอุปราช) พระองค์ใดในอดีต โดยพระองค์ได้รับพระอิสริยยศเป็นกษัตริย์พระองค์ที่ 2 ในรัชกาลที่ 4 แห่งราชวงศ์จักรี
พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว | |||||
---|---|---|---|---|---|
พระเจ้ากรุงสยามพระองค์ที่สอง | |||||
ดำรงพระยศ | 2 เมษายน พ.ศ. 2394 - 7 มกราคม พ.ศ. 2408 (นับแบบปัจจุบันเป็น พ.ศ. 2409) (14 ปี 280 วัน) | ||||
บวรราชาภิเษก | 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2394 | ||||
ก่อนหน้า | สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ | ||||
ถัดไป | กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ | ||||
พระราชสมภพ | 4 กันยายน พ.ศ. 2351 พระราชวังเดิม เมืองธนบุรี ประเทศสยาม | ||||
สวรรคต | 7 มกราคม พ.ศ. 2409 (57 พรรษา) พระที่นั่งอิศเรศราชานุสรณ์ จังหวัดพระนคร ประเทศสยาม | ||||
พระมเหสี | เจ้าจอมมารดากลีบ | ||||
ชายา | เจ้าคุณพระชนนี (เจ้าคุณจอมมารดาเอม) | ||||
พระราชบุตร | 58 พระองค์ | ||||
| |||||
ราชวงศ์ | จักรี | ||||
พระราชบิดา | พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย | ||||
พระราชมารดา | สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี |
พระราชประวัติ
ขณะยังทรงพระเยาว์
พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นพระราชบุตรลำดับที่ 50 หรือพระราชโอรสพระองค์ที่ 27 ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และเป็นพระราชโอรสลำดับที่ 5 ที่ประสูติแต่สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี แต่เป็นพระองค์ที่ 3 ที่ได้ประสูติเป็นพระองค์ เสด็จพระราชสมภพในรัชกาลที่ 1 เมื่อวันอาทิตย์ เดือน 10 ขึ้น 15 ค่ำ ปีมะโรง ตรงกับวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2351 ณ พระราชวังเดิม คลองบางกอกใหญ่ อันเป็นที่ประทับของสมเด็จพระราชบิดา ซึ่งในครั้งนั้นเรียกว่าพระบวรราชวังใหม่ เนื่องมาจากในขณะนั้นพระราชบิดายังดำรงพระอิสริยยศที่กรมพระราชวังบวรสถานมงคล โดยมีคุณหญิงนก (ไม่ทราบสกุล) เป็นพระพี่เลี้ยง พระองค์มีพระโสทรเชษฐารวมทั้งสิ้น 3 พระองค์ ได้แก่ เจ้าฟ้าราชกุมาร (สิ้นพระชนม์เมื่อประสูติ) เจ้าฟ้ามงกุฏ (ภายหลังได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) และพระองค์เป็นเจ้าฟ้าพระองค์น้อย (เนื่องจากไม่ได้รับพระสุพรรณบัฏเฉลิมพระนาม)
ภายหลังพระองค์ประสูติได้ประมาณ 1 ปี พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเสด็จสวรรคต สมเด็จพระราชบิดาของพระองค์เสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 2 แห่งราชวงศ์จักรี ก่อนบรมราชาภิเษกได้ 10 วัน เจ้าฟ้าพระองค์น้อยได้เสด็จตามสมเด็จพระราชบิดามาประทับในพระบรมมหาราชวัง เมื่อพระองค์มีพระชนมายุได้ 12 พรรษา 6 เดือน มีการพระราชพิธีโสกันต์อย่างธรรมเนียมสำหรับสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้า หลังจากนั้นเมื่อพระชนมายุได้ 13 พรรษา ผนวชเป็นสามเณร ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อศึกษาศีลธรรมและพระศาสนา เมื่อพระองค์ลาผนวชทรงได้ศึกษาวิชาตามแบบแผนราชสกุลที่จัดให้เจ้านายเรียน โดยพระองค์ทรงศึกษาอักษรสยามในสำนัก วัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร ร่วมพระอาจารย์เดียวกับสมเด็จพระเชษฐาของพระองค์
เมื่อพระชนมายุได้ 16 พรรษา พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงพระประชวรและเสด็จสวรรคต พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ พระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์จึงเสด็จกลับไปประทับ ณ พระราชวังเดิม พร้อมกับพระราชมารดา ส่วนสมเด็จพระเชษฐาของพระองค์นั้นทรงสมณเพศประทับอยู่ ณ วัดมหาธาตุและวัดสมอราย เมื่อพระองค์มีพระชนมายุได้ 21 พรรษา ผนวชเป็นพระภิกษุ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และเสด็จไปประทับ ณ วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร หลังจากลาผนวชพระองค์จึงเข้ารับราชการในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงรับราชการ
พระองค์ทรงเข้ารับราชการในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ต่อมาสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพเสด็จสวรรคต เป็นเหตุให้ข้าไทในเจ้านายต่าง ๆ คาดว่าเจ้านายของตนจะได้รับการสถาปนาที่กรมพระราชวังบวรสถานมงคล พระยาศรีพิพัฒน์ราชโกษา (ต่อมาคือสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิไชยญาติ (ทัต บุนนาค)) จึงกราบทูลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวว่า ถ้าไม่ทรงตั้งกรมพระราชวังฯ แล้ว ขอให้ยกเจ้าต่างกรมผู้ใหญ่เลื่อนขึ้นเป็นกรมหลวง กรมขุน เพื่อให้ข้าไทเห็นว่าเจ้านายของตัวได้เลื่อนยศเพียงนั้น จะได้หายตื่น ทรงพระราชดำริเห็นด้วย จึงโปรดให้เลื่อนกรมและตั้งกรมเจ้านายรวม 8 พระองค์ด้วยกัน โดยทรงตั้งเจ้าฟ้าพระองค์น้อยเป็นสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรังสรรค์ ได้รับสุพรรณบัฏในวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2375 ในขณะที่พระองค์มีพระชนมายุได้ 24 พรรษา ได้ทรงบังคับบัญชากรมทหารปืนใหญ่ กรมทหารแม่นปืนหน้าปืนหลัง และญวนอาสารบแขก อาสาจาม
พระเจ้าแผ่นดินที่ 2
เมื่อพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวใกล้สวรรคต เจ้าพระยาพระคลัง (ดิศ บุนนาค) เดินทางไปเข้าเฝ้าสมเด็จเจ้าฟ้ามงกุฎซึ่งทรงผนวชอยู่วัดบวรนิเวศวิหาร กราบทูลว่าจะเชิญเสด็จขึ้นครองราชย์ สมเด็จเจ้าฟ้ามงกุฎตรัสว่าท่านฟากข้างโน้น (หมายถึงเจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรังสรรค์) มีพระชะตาแรงต้องเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ให้ถวายราชสมบัติแก่ท่านนั้นด้วย เพราะหากพระองค์รับราชสมบัติเพียงพระองค์เดียวจะเกิดอัปมงคล ด้วยไปกีดกันบารมีของสมเด็จพระอนุชา ถ้ามีพระเจ้าแผ่นดินสองพระองค์เหมือนอย่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราชสถาปนาสมเด็จพระเอกาทศรถเป็นพระเจ้าแผ่นดินด้วยก็จะพ้นจากอัปมงคล เจ้าพระยาพระคลังจึงไปเข้าเฝ้าเจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรังสรรค์ ณ พระราชวังเดิมตามรับสั่ง เมื่อพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตในวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2394 สมเด็จพระอนุชาธิราชเจ้าทั้ง 2 พระองค์ได้เสด็จยังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เหล่าขุนนางมาประชุมพร้อมกันแล้วกราบทูลเชิญทั้งสองพระองค์เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ เมื่อเสร็จสิ้นพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวแล้ว จึงมีพระราชดำริว่าสมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรังสรรค์ ก็ทรงพระปรีชารอบรู้กิจการต่าง ๆ มีผู้ใหญ่ผู้น้อยนิยมนับถือมาก สมควรที่จะพระราชทานยศใหญ่กว่ากรมพระราชวังบวรสถานมงคลแต่ก่อน ๆ แต่เจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศฯ ยังไม่ได้รับพระสุพรรณบัฏตั้งพระนาม ทำให้ไม่มีพระนามเดิม ดูเป็นการต่ำทรามไป จึงพระราชทานพระสุพรรณบัฏตั้งพระนามเป็น สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าอิศเรศจุฑามณี ชั้นหนึ่งก่อน แล้วจึงพระราชทานพระสุพรรณบัฏในการพระราชพิธีบวรราชาภิเษกในวันที่ 25 พฤษภาคม ว่า
"พระบาทสมเด็จพระปวเรนทราเมศวร์ มหิศเรศรรังสรรค์ มหันตวรเดโช ไชยมโหฬารคุณอดุลยเดช สรรพเทเวศรานุรักษ บวรจุลจักรพรรดิราชสังกาศ อุภโตสุชาติสังสุทธเคราะหณีจักรีบรมนารถ อิศวรราชรามวรังกูร บรมมงกุฎนเรนทรสูรยโสทรานุชาธิบดินทร เสนางคนิกรินทรบวราธิเบศร พลพยุหเนตรนเรศวรมหิทธิวรนายก สยามาทิโลกดิลกมหาบุรุษรัตน ไพบูลยพิพัฒนสรรพศิลปาคม สุนทโรดมกิจโกศล สัตปดลเศวตฉัตร สิริรัตนบวรมหาราชาภิเศกาภิสิต สรรพทศทิศพิชิตไชย อุดมมไหสวริยมหาสวามินทร สเมกธรณินทรานุราช บวรนารถชาติอาชาวศรัย ศรีรัตนไตรสรณารักษ อุกฤษฐศักดิสรรพรัษฎาธิเบนทร ปวเรนทรธรรมมิกราชบพิตร พระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว"
สวรรคต
หลังจากพระราชพิธีบวรราชาภิเษกแล้ว พระองค์ก็เริ่มทรงพระประชวรบ่อยครั้ง หาสมุฏฐานของพระโรคไม่ได้ จนกระทั่งประชวรด้วยวัณโรคและเสด็จสวรรคตเมื่อวันอาทิตย์ เดือน 2 แรม 6 ค่ำ เวลาเช้าย่ำรุ่ง ตรงกับวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2408 (นับแบบปัจจุบันเป็น พ.ศ. 2409) สิริพระชนมายุ 58 พรรษา ทรงอยู่ในบวรราชสมบัติทั้งสิ้น 15 ปี มีพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2409 โดยมีการจัดการแห่พระเมรุมาศพระบรมศพเช่นเดียวกับพระศพสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์ แต่เพิ่มเติมพระเกียรติยศพิเศษขึ้นหลายประการตามพระยศที่ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 2
ภายหลังพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตแล้ว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ยังมิได้ทรงแต่งตั้งผู้ใดขึ้นดำรงตำแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคล เพราะในขณะนั้นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่คือสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ กรมขุนพินิตประชานารถ ยังทรงพระเยาว์ มีพระชนมายุเพียง 12 พรรษา ทำให้เสี่ยงต่อการถูกแย่งชิงราชบัลลังก์ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) จึงเสนอพระองค์เจ้ายอดยิ่งเพื่อให้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชวินิจฉัย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนาพระองค์เจ้ายอดยิ่งเป็นเพียงแค่ กรมหมื่นบวรวิไชยชาญ เท่านั้น ก่อนที่สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจะทรงแต่งตั้งกรมหมื่นบวรวิไชยชาญขึ้นเป็นกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ กรมพระราชวังบวรสถานมงคลพระองค์สุดท้าย
พระราชอัชฌาสัยและพระปรีชาสามารถ
พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชอัธยาศัยต่างจากพระเชษฐามาก เพราะฝ่ายแรกชอบสนุกเฮฮา ไม่มีพิธีรีตองอะไร ส่วนฝ่ายหลังค่อนข้างเงียบขรึม ฉะนั้นจึงมักโปรดในสิ่งที่ไม่ค่อยจะตรงกันนัก แต่ถ้าเป็นความสนิทสนมส่วนพระองค์แล้วพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อทรงทำอะไรก็มักนึกถึงพระราชอนุชาอยู่เสมอ เช่น คราวหนึ่งเสด็จขึ้นไปปิดทองพระพุทธรูปใหญ่วัดพนัญเชิง ก็ทรงปิดเฉพาะพระพักตร์ เว้นพระศอไว้พระราชทาน พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ ทรงปิดต่อ นอกจากนี้ทั้ง 2 พระองค์ ก็ทรงล้อเลียนกันอย่างไม่ถือพระองค์ และส่วนมากพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ จะเป็นฝ่ายเย้าแหย่มากกว่า
พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระปรีชาสามารถมาก ทรงรอบรู้งานใน ด้านต่าง ๆ มากมาย เช่น งานด้านกองทัพบก กองทัพเรือ ด้านต่างประเทศ วิชาช่างจักรกล และวิชาการปืนใหญ่ ทรงรอบรู้ภาษาอังกฤษเป็นอย่างดีจนสามารถที่จะทรงเขียนโต้ตอบจดหมายเป็นภาษาอังกฤษกับเซอร์จอห์น เบาริง ราชทูตอังกฤษ ที่เดินทางมาเจริญพระราชไมตรีกับประเทศไทย เมื่อ พ.ศ. 2398 (ค.ศ. 1855) ซึ่งข้อความในสนธิสัญญานั้น ถ้าเอ่ยถึง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจะมีคำกำกับว่า The First King ส่วนพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวจะมีคำกำกับว่า The Second King สำหรับในภาษาไทยนั้น ตามสนธิสัญญา ทางไมตรีกับประเทศอังกฤษ ในบทภาค ภาษาไทยจะแปลคำว่า The First King ว่า พระเจ้ากรุงสยามพระองค์เอก ส่วนคำว่า The Second King นั้นจะแปลว่า พระเจ้ากรุงสยามพระองค์ที่ 2 พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระนามปรากฏอยู่ในประกาศในอารัมภบทให้ดำเนินการเจรจาทำสนธิสัญญาฉบับนี้ด้วย ในฐานะพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 2 คู่กับพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์มีสายพระเนตรที่กว้างไกล ในด้านการ ต่างประเทศ ทรงรอบรู้ข่าวสารในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นอย่างดี ทรงทราบพระราชหฤทัยดีว่า ถ้าหากทรง ดำเนินนโยบายที่แข็งกร้าวแล้วไซร้ ไทยเราจะเสียประโยชน์ ส่วนบรรดาฝรั่งที่รู้จักมักคุ้นกับวังหน้ามักจะยกย่องชมเชยว่า ทรงเป็นสุภาพบุรุษเพราะพระองค์มีพระนิสัยสุภาพ โดยเฉพาะกับพระราชชนนี กรมสมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์ด้วยแล้ว ทรงแสดงความเคารพเกรงกลัวเป็นอันมาก
นอกจากนี้โปรดการท่องเที่ยวไปตามหัวบ้านหัวเมือง ทั้งเหนือและใต้ สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะมีพระอาการประชวรกระเสาะกระแสะอยู่เสมอ จึงต้องเสด็จไปเที่ยวรักษาพระองค์ตามหัวเมือง อยู่เนือง ๆ กล่าวกันว่า มักเสด็จไปประทับตามถิ่น ที่มีบ้านลาว เสด็จไปประทับที่บ้านสัมปะทวน แขวงบ้าง ทางเมืองพนัสนิคมบ้าง แต่เสด็จไปประทับที่ตำหนัก บ้านสีทา จังหวัดสระบุรีเสียโดยมาก แต่แท้ที่จริงแล้ว พระองค์ได้เคยเสด็จไปเที่ยวประพาสตามหัวเมือง ต่างๆ มาตั้งแต่ครั้งยังดำรงพระยศเป็น เจ้าฟ้าจุฑามณี กรมขุนอิสเรศรังสรรค์แล้ว เพราะทรงประจักษ์แจ้งแก่พระปรีชาญาณว่า การเสด็จประพาสหัวเมืองเป็นประโยชน์แก่ราชการบ้านเมือง ด้วยสามารถทรงทราบทุกข์สุขของไพร่ฟ้าประชาชนได้เป็น อย่างดีซึ่งดีกว่ารายงานในกระดาษมากนัก
พระราชกรณียกิจด้านการทหารเรือ
พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงใฝ่พระราชหฤทัยในวิชาการด้านจักรกลมาก และเพราะเหตุที่พระองค์โปรดการทหาร จึงทรงสนพระราชหฤทัยเกี่ยวกับอาวุธยุทธภัณฑ์เป็นพิเศษ เท่าที่ค้นพบพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์นั้น ก็มักจะทรงฉลองพระองค์เครื่องแบบทหาร และเป็นเครื่องแบบทหารเรือด้วย แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าไม่มีการบันทึกพระราชประวัติในส่วนที่ทรงสร้างหรือวางแผนงานเกี่ยวกับกิจการทหารใด ๆ ไว้บ้างเลย แม้ในพระราชพงศาวดาร หรือในจดหมายเหตุต่าง ๆ ก็ไม่มีการบันทึกผลงานพระราชประวัติในส่วนนี้ไว้เลย และแม้พระองค์เองก็ไม่โปรดการบันทึก ไม่มีพระราชหัตถเลขา หรือมีแต่ไม่มีใครเอาใจใส่ทอดทิ้ง หรือทำลายก็ไม่อาจทราบได้ แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีงานเด่นที่มีหลักฐานทั้งของฝรั่งและไทยกล่าวไว้ แม้จะน้อยนิดแต่ก็แสดงให้เห็นถึงการริเริ่มที่ล้ำหน้ากว่าประเทศเพื่อนบ้าน
ผลงานนั้นคือการทหารเรือของไทยเรานั้น เริ่มมีเค้าเปลี่ยนจากสมัยโบราณเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และผู้ที่เป็นกำลังสำคัญ ในกิจการด้านทหารเรือในสมัยนั้น คือ เจ้าฟ้าจุฑามณี กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ และ จมื่นไวยวรนาถ (สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค)) ด้วยทั้ง 2 ท่านนี้มีความรู้ในวิชาการต่อเรือในสมัยนั้น เป็นอย่างดี จึงได้รับหน้าที่ปกครอง บังคับบัญชาการทหารเรือในสมัยนั้น
ต่อมาได้แบ่งหน้าที่กันโดยพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฯ ทรงบังคับบัญชา ส่วนอยู่ในปกครองบังคับบัญชาของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ในยามปกติทั้ง 2 ฝ่าย นี้ ไม่ขึ้นแก่กันแต่ขึ้นตรงต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฯ ทรงฝึกฝนทหารของพระองค์ โดยใช้ทั้งความรู้และความสามารถ และ ยังทรงมุ่งพระราชหฤทัยในเรื่องการค้าขายให้มีกำไร สู่แผ่นดินด้วยมิใช่สร้าง แต่เรือรบเพราะได้ทรงสร้างเรือเดินทะเล เพื่อการค้าระหว่างประเทศอีกด้วย นอกจากนี้พระองค์ได้ทรงนำเอาวิทยาการ สมัยใหม่ของยุโรป มาใช้ฝึกทหารให้มีสมรรถภาพเป็นอย่างดี ทรงให้ร้อยเอก โทมัส น็อกส์ (Thomas George Knox) เป็นครูฝึกทหารวังหน้า ทำให้ทหารไทยได้รับวิทยาการอันทันสมัยตามแบบ ทหารเกณฑ์หัดอย่างยุโรป
การฝึกหัดใช้คำบอกทหารเป็น ภาษาอังกฤษทั้งหมดเริ่มมีเรือรบกลไฟเป็นครั้งแรก ชื่อเรืออาสาวดีรส3 และเรือยงยศอโยชฌิยา4 (หรือยงยศอโยธยา) ซึ่งเมื่อครั้งเรือยงยศอโยชฌิยา ได้เดินทางไปราชการที่สิงคโปร์ ก็ได้รับคำชมเชยจากต่างประเทศเป็นอันมาก ว่าพระองค์มี พระปรีชาสามารถทรงต่อเรือได้ และการเดินทางในครั้งนั้นเท่ากับเป็นการไปอวดธงไทยในต่างประเทศ ธงไทยได้ถูกชัก ขึ้นคู่กับธงอังกฤษ ที่ฟอร์ทแคนนิ่งด้วย และแม้พระเจ้าลูกยาเธอหลายพระองค์ก็โปรด ฯ ให้เป็นทหารเรือเช่นกัน ประวัติของเรือที่พระองค์ทรงมีใช้ในสมัยนั้น ตามที่พลเรือตรี แชน ปัจจุสานนท์ ได้รายงานเล่าไว้ในหนังสือ ประวัติทหารเรือไทย มีดังนี้
- เรือพุทธอำนาจ (Fairy) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2379 เป็นเรือชนิด (Barque) ขนาด 200 ตัน มีอาวุธปืนใหญ่ 10 กระบอก เรือลำนี้เป็นของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฯ เมื่อ พ.ศ. 2384 ไปราชการทัพรบกับญวน ใช้เป็นเรือพระที่นั่งของแม่ทัพ คือพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ เมื่อครั้งทรงเป็นกรมขุนอิศเรศรังสรรค์ ยกกองทัพไปรบกับญวน ตีเมืองบันทายมาศ (ฮาเตียน)
- เรือราชฤทธิ์ (Sir Walter Scott) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2379 เป็นเรือแบบเดียวกันกับพุทธอำนาจ เมื่อ พ.ศ. 2384 ไปราชการทัพรบกับญวน
- เรืออุดมเดช (Lion) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2384 เป็นเรือชนิดบาร์ก (Bark) ขนาด 300 ตัน เรือลำนี้เป็นของพระบาทสมเด็จ พระปิ่นเกล้า ฯ เมื่อ พ.ศ. 2384 ได้ใช้ไปราชการทัพรบกับญวน พ.ศ. 2387 ได้นำสมณทูตไปลังกา
- เรือเวทชงัด (Tiger) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2386 เป็นเรือชนิด (Schooner) ขนาด 200 ตัน เรือลำนี้เป็นของพระบาท สมเด็จพระปิ่นเกล้า ฯ
- เรือพุทธสิงหาศน์ (Cruizer) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2398 เป็นเรือชนิดชิพ ขนาด 400 ตัน เรือลำนี้เป็นของพระบาทสมเด็จ พระปิ่นเกล้า ฯ
- เรือมงคลราชปักษี (Falcon) ซื้อเมื่อ พ.ศ. 2400 เดิมเป็นเรือของชาวอเมริกัน ชนิดสกูเนอร์ (Schooner) ขนาด 100 ตัน พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฯ ทรงซื้อมา แล้วดัดแปลงใช้เป็นเรือรบ เรือพระที่นั่งของพระองค์
เกียรติประวัติของการทหารเรือไทยสมควรจะต้องยกถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เพราะพระองค์เป็น ผู้ที่ทรงสนพระราชหฤทัยในกิจการทหารเรือในสมัยนั้นเป็นอย่างมาก เมื่อปรากฏว่ามีเรือรบต่างประเทศเข้ามาเยี่ยม ประเทศไทยคราวใดพระองค์ก็มักหาโอกาสเสด็จไปเยี่ยมเยียนเรือรบเหล่านั้นเสมอ เพื่อจะได้ทรงทราบว่าเรือรบต่าง ประเทศเขาตกแต่งและจัดระเบียบเรือกันอย่างไร แล้วนำมาเป็นแบบอย่างให้กับเรือรบของไทยในเวลาต่อมา
จากพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว จะเห็นได้ว่าพระองค์ทรงเป็นผู้นำในเรื่องเรือสมัยใหม่ ซึ่งผู้คนในสมัยนั้นไม่มีใครเชื่อเลยว่าเหล็กจะลอยน้ำได้แต่พระองค์ได้ทรงแสดงพระปรีชาสามารถให้ปรากฏ ทรงต่อเรือรบ กลไฟขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทย มีพระปรีชาสามารถหลายด้าน ทรงแตกฉานเชี่ยวชาญภาษาอังกฤษจนสามารถติดต่อ กับชาวต่างประเทศได้เป็นอย่างดีพระสหาย และพระอาจารย์ เป็นชาว อเมริกันเสียเป็นส่วนมากทรงหมกมุ่นกับกิจการทหารเรือมาตั้งแต่ต้น ด้วยเหตุนี้จึงถือได้ว่าพระองค์ทรงเป็น ผู้บัญชาการ ทหารเรือ พระองค์แรก และควรถวายพระนามว่า ผู้บัญชาการทหารเรือวังหน้า สมควรได้รับการถวายพระเกียรติยศขั้นสูงสุด จากชาวกองทัพเรือ ตั้งแต่นี้และตลอดไป
พระราชสันตติวงศ์
พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชโอรสและพระราชธิดาที่ประสูติแต่เจ้าจอมมารดารวมทั้งสิ้น 58 พระองค์ โดยประสูติก่อนบวรราชาภิเษก 33 พระองค์ และประสูติหลังจากบวรราชาภิเษก 25 พระองค์
พระเกียรติยศและพระราชอิสริยยศ
ธรรมเนียมพระยศของ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว | |
---|---|
พระราชลัญจกร | |
ธงประจำพระอิสริยยศ | |
การทูล | ใต้ฝ่าละอองพระบาท |
การแทนตน | ข้าพระพุทธเจ้า |
การขานรับ | พระพุทธเจ้าข้า/เพคะ |
พระอิสริยยศ
- เจ้าฟ้าพระองค์น้อย (4 กันยายน พ.ศ. 2351 - 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2375)
- สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรังสรรค์ (13 พฤษภาคม พ.ศ. 2375 - 15 พฤษภาคม 2394)
- สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าอิศเรศจุฑามณี ตรีพิธเพ็ชรรัตนาลงกฎ อรรคราโชรสวรสศวิบุลย อดุลยเดชมหาสุขุมาลย์ วงศวโรดม บรมราชกุมาร (15 พฤษภาคม 2394 - 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2394)
- พระบาทสมเด็จพระปวเรนทราเมศมหิศเรศรังสรรค์ พระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว (25 พฤษภาคม พ.ศ. 2394 - 7 มกราคม พ.ศ. 2409)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์ (น.ร.) (ฝ่ายหน้า)
- (เครื่องต้น)
- ดาราไอยราพต (องค์รอง)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ
- ฝรั่งเศส :
- พ.ศ. 2406 - เครื่องอิสริยาภรณ์เลฌียงดอเนอร์ ชั้นกร็องตอฟีซีเย
พงศาวลี
พงศาวลีของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
แผนผัง
อ้างอิง
- เชิงอรรถ
- (PDF). วิทยาลัยเทคนิคจันทบุรี. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2019-10-09. สืบค้นเมื่อ 9 ตุลาคม 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - ปรากฏในพระราชหัตถเลขาของรัชกาลที่ 4 ความว่า "วังหน้า เปนหนุ่มแข็งแรง ขี่ช้างน้ำมัน ขี่ม้าเทศสูงสามศอกเศษ ยิงปืนทุกวัน ชอบการทหารมาก มีวิทยาคมดี ฤๅษีมุนี แพทย์หมอมีวิทยานับถือเข้าอยู่ด้วยมาก ผู้หญิงก็รักมาก เลี้ยงลูกเมียดี เจ้ากลีบเปนพระมเหษี เฮอมายิสตีข้างใน..." ดู วิบูล วิจิตรวาทการ. สตรีสยามในอดีต. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ:เดือนตุลา. 2542, หน้า 245
- กรมเสมียนตรา. พระราชประวัติ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว กษัตริย์สองพระองค์[]. เรียกดูเมื่อ 15 เมษายน 2556
- ชุมนุมพระบรมราชาธิบายในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ฉบับ พ.ศ. ๒๔๕๗, หน้า 157
- ชุมนุมพระบรมราชาธิบายในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ฉบับ พ.ศ. ๒๔๕๗, หน้า 155
- อนุสรณ์งานฌาปนกิจศพ นายวีระ ปัทมาคม
- ชุมนุมพระบรมราชาธิบายในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ฉบับ พ.ศ. ๒๔๕๗, หน้า 156
- พระราชพงศาวดาร กรุงรัตนโกสินทร์ รัชชกาลที่ ๓ : ๗๑. กรมพระราชวังบวรสถานมงคลทรงประชวรสวรรคต
- จดหมายเหตุเรื่องทรงตั้งพระบรมวงศานุวงศ์กรุงรัตนโกสินทร์ เล่ม 1, หน้า 66
- จดหมายเหตุเรื่องทรงตั้งพระบรมวงศานุวงศ์กรุงรัตนโกสินทร์ เล่ม 1, หน้า 68
- นิทานโบราณคดี : นิทานที่ ๑๙ เรื่องเมืองไทยมีพระเจ้าแผ่นดิน ๒ พระองค์
- พระราชพงศาวดาร กรุงรัตนโกสินทร์ รัชชกาลที่ ๔ : ๒. กราบทูลอัญเชิญสมเด็จฯ เจ้าฟ้ามงกุฎฯ ขึ้นเสวยราชย์
- พระราชพงศาวดาร กรุงรัตนโกสินทร์ รัชชกาลที่ ๔ : ๗. เสด็จเลียบพระนครทางชลมารค
- "พระบรมราชโองการ ประกาศ การสมโภชในงานรับพระสุพรรณบัตร" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 8 (39): 349–352. 27 ธันวาคม ร.ศ. 110. สืบค้นเมื่อ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
((help)) - พระราชพงศาวดาร กรุงรัตนโกสินทร์ รัชชกาลที่ ๔ : ๘. พระราชพิธีบวรราชาภิเศก
- ราชสกุลวงศ์, หน้า 31
- วันนี้ในอดีต จาก
- บรรณานุกรม
- ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยา (2459). "พระราชพงษาวดาร กรุงรัตนโกสินทร รัชกาลที่ ๒". ห้องสมุดดิจิทัลวชิรญาณ. สืบค้นเมื่อ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2561.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - ทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาค), เจ้าพระยา (2481). "พระราชพงศาวดาร กรุงรัตนโกสินทร์ รัชชกาลที่-๓". ห้องสมุดดิจิทัลวชิรญาณ. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2561.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) [ที่ระลึก ในงานพระราชทานเพลิงศพ ท่านผู้หญิงวงษานุประพัทธ์ (ตาด สนิทวงศ์ ณอยุธยา)] - ทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาค), เจ้าพระยา (2477). "พระราชพงศาวดาร กรุงรัตนโกสินทร์ รัชชกาลที่ ๔". ห้องสมุดดิจิทัลวชิรญาณ. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2561.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) [ที่ระลึก ในงานพระราชทานเพลิงศพ คุณหญิงธรรมสารเนติ (อบ บุนนาค)] - จดหมายเหตุเรื่องทรงตั้งพระบรมวงศานุวงศ์กรุงรัตนโกสินทร์ เล่ม 1. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2545. 508 หน้า. ISBN
- ธำรงศักดิ์ อายุวัฒนะ. ราชสกุลจักรีวงศ์ และราชสกุลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช. กรุงเทพ : สำนักพิมพ์บรรณกิจ, พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2544. 490 หน้า. ISBN
- พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว. ชุมนุมพระบรมราชาธิบายในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ฉบับ พ.ศ. ๒๔๕๗. กรุงเทพ : ต้นฉบับ, พ.ศ. 2554. 189 หน้า. หน้า 154-158. ISBN ข้อผิดพลาดพารามิเตอร์ใน {{}}: invalid prefix
- ศุภวัฒย์ เกษมศรี, พลตรี หม่อมราชวงศ์, และรัชนี ทรัพย์วิจิตร. พระอนุวงศ์ชั้นหม่อมเจ้าในพระราชวงศ์จักรี. กรุงเทพ : สำนักพิมพ์บรรณกิจ, พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2549. 360 หน้า. ISBN
- สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร. ราชสกุลวงศ์. พิมพ์ครั้งที่ 14, กรุงเทพฯ : สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร, 2554. 296 หน้า. หน้า 57. ISBN
แหล่งข้อมูลอื่น
- พระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว www.wangdermpalace.com 2007-09-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- สูจิบัตรงาน”ปี่พาทย์เสภาที่วังหน้า” ครั้งที่ ๕ วันเสาร์ที่ ๗ มกราคม ๒๕๔๙ ของสำนักการสังคีต กรมศิลปากร 2011-11-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- สูจิบัตรงาน”ปี่พาทย์เสภาที่วังหน้า” ครั้งที่ ๗ วันพุธที่ ๗ มกราคม ๒๕๕๒ ของสำนักการสังคีต กรมศิลปากร 2010-08-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯและปี่พาทย์เสภาที่วังหน้า ๗ ม.ค.๕๒ x.thaikids.com []
ก่อนหน้า | พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ | กรมพระราชวังบวรสถานมงคล (ราชวงศ์จักรี) (พ.ศ. 2394 - พ.ศ. 2408) | กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ | ||
- | ผู้บัญชาการทหารเรือวังหน้า (พ.ศ. 2394 - พ.ศ. 2408) | กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniyngtxngkarephimaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxngkhunsamarthphthnabthkhwamniidodyephimaehlngxangxingtamsmkhwr enuxhathikhadaehlngxangxingxacthuklbxxk haaehlngkhxmul phrabathsmedcphrapineklaecaxyuhw khaw hnngsuxphimph hnngsux skxlar JSTOR eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir phrabathsmedcphrapineklaecaxyuhw phrarachsmphph 4 knyayn ph s 2351 swrrkht 7 mkrakhm ph s 2408 nbaebbpccubnepn ph s 2409 epnsmedcphraxnuchathirachinphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw idrbbwrrachaphieskepnsmedcphraecakrungsyamphraxngkhthisxng rxngcaksmedcphraechsthathirach thrngskdisungkwakrmphrarachwngbwrsthanmngkhl phramhaxuprach phraxngkhidinxdit odyphraxngkhidrbphraxisriyysepnkstriyphraxngkhthi 2 inrchkalthi 4 aehngrachwngsckriphrabathsmedcphrapineklaecaxyuhwphraecakrungsyamphraxngkhthisxngdarngphrays2 emsayn ph s 2394 7 mkrakhm ph s 2408 nbaebbpccubnepn ph s 2409 14 pi 280 wn bwrrachaphiesk25 phvsphakhm ph s 2394kxnhnasmedcphrabwrrachecamhaskdiphlesphthdipkrmphrarachwngbwrwiichychayphrarachsmphph4 knyayn ph s 2351 phrarachwngedim emuxngthnburi praethssyamswrrkht7 mkrakhm ph s 2409 57 phrrsa phrathinngxisersrachanusrn cnghwdphrankhr praethssyam phramehsiecacxmmardaklib chayaecakhunphrachnni ecakhuncxmmardaexm phrarachbutr58 phraxngkhphranametmphrabathsmedcphrapwernthrraemsr mhisersrrngsrr mhnttwredoch ichymohlarkhunxdulyphiess srrphethewsranurks bwrthrrmikrach bwrnathbphitr phrapineklaecaxyuhwrachwngsckriphrarachbidaphrabathsmedcphraphuththelishlanphalyphrarachmardasmedcphrasrisurieynthrabrmrachiniphrarachprawtikhnayngthrngphraeyaw phrabathsmedcphrapineklaecaxyuhwepnphrarachbutrladbthi 50 hruxphrarachoxrsphraxngkhthi 27 inphrabathsmedcphraphuththelishlanphaly aelaepnphrarachoxrsladbthi 5 thiprasutiaetsmedcphrasrisurieynthrabrmrachini aetepnphraxngkhthi 3 thiidprasutiepnphraxngkh esdcphrarachsmphphinrchkalthi 1 emuxwnxathity eduxn 10 khun 15 kha pimaorng trngkbwnthi 4 knyayn ph s 2351 n phrarachwngedim khlxngbangkxkihy xnepnthiprathbkhxngsmedcphrarachbida sunginkhrngnneriykwaphrabwrrachwngihm enuxngmacakinkhnannphrarachbidayngdarngphraxisriyysthikrmphrarachwngbwrsthanmngkhl odymikhunhyingnk imthrabskul epnphraphieliyng phraxngkhmiphraosthrechstharwmthngsin 3 phraxngkh idaek ecafarachkumar sinphrachnmemuxprasuti ecafamngkut phayhlngidrbkarsthapnakhunepnphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw aelaphraxngkhepnecafaphraxngkhnxy enuxngcakimidrbphrasuphrrnbtechlimphranam phayhlngphraxngkhprasutiidpraman 1 pi phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharachesdcswrrkht smedcphrarachbidakhxngphraxngkhesdckhunkhrxngrachsmbtiepnphramhakstriyrchkalthi 2 aehngrachwngsckri kxnbrmrachaphieskid 10 wn ecafaphraxngkhnxyidesdctamsmedcphrarachbidamaprathbinphrabrmmharachwng emuxphraxngkhmiphrachnmayuid 12 phrrsa 6 eduxn mikarphrarachphithioskntxyangthrrmeniymsahrbsmedcphraecalukyaethxecafa hlngcaknnemuxphrachnmayuid 13 phrrsa phnwchepnsamenr n wdphrasrirtnsasdaram ephuxsuksasilthrrmaelaphrasasna emuxphraxngkhlaphnwchthrngidsuksawichatamaebbaephnrachskulthicdihecanayeriyn odyphraxngkhthrngsuksaxksrsyaminsank wdomliolkyaramrachwrwihar rwmphraxacaryediywkbsmedcphraechsthakhxngphraxngkh emuxphrachnmayuid 16 phrrsa phrabathsmedcphraphuththelishlanphalythrngphraprachwraelaesdcswrrkht phraecalukyaethx krmhmunecsdabdinthr phrarachoxrsphraxngkhihyinphrabathsmedcphraphuththelishlanphalyesdckhunkhrxngrachsmbtiepnphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw phraxngkhcungesdcklbipprathb n phrarachwngedim phrxmkbphrarachmarda swnsmedcphraechsthakhxngphraxngkhnnthrngsmnephsprathbxyu n wdmhathatuaelawdsmxray emuxphraxngkhmiphrachnmayuid 21 phrrsa phnwchepnphraphiksu n wdphrasrirtnsasdaram aelaesdcipprathb n wdrakhngokhsitaramwrmhawihar hlngcaklaphnwchphraxngkhcungekharbrachkarinphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw thrngrbrachkar phraxngkhthrngekharbrachkarinphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw txmasmedcphrabwrrachecamhaskdiphlesphesdcswrrkht epnehtuihkhaithinecanaytang khadwaecanaykhxngtncaidrbkarsthapnathikrmphrarachwngbwrsthanmngkhl phrayasriphiphthnrachoksa txmakhuxsmedcecaphrayabrmmhaphiichyyati tht bunnakh cungkrabthulphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhwwa thaimthrngtngkrmphrarachwng aelw khxihykecatangkrmphuihyeluxnkhunepnkrmhlwng krmkhun ephuxihkhaithehnwaecanaykhxngtwideluxnysephiyngnn caidhaytun thrngphrarachdariehndwy cungoprdiheluxnkrmaelatngkrmecanayrwm 8 phraxngkhdwykn odythrngtngecafaphraxngkhnxyepnsmedcphraecanxngyaethx ecafakrmkhunxisersrngsrrkh idrbsuphrrnbtinwnthi 13 phvsphakhm ph s 2375 inkhnathiphraxngkhmiphrachnmayuid 24 phrrsa idthrngbngkhbbychakrmthharpunihy krmthharaemnpunhnapunhlng aelaywnxasarbaekhk xasacam phraecaaephndinthi 2 wikisxrs mingantnchbbekiywkb emuxngithymiphraecaaephndinsxngphraxngkh ody krmphrayadarngrachanuphaph emuxphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhwiklswrrkht ecaphrayaphrakhlng dis bunnakh edinthangipekhaefasmedcecafamngkudsungthrngphnwchxyuwdbwrniewswihar krabthulwacaechiyesdckhunkhrxngrachy smedcecafamngkudtrswathanfakkhangonn hmaythungecafakrmkhunxisersrngsrrkh miphrachataaerngtxngepnphraecaaephndin ihthwayrachsmbtiaekthannndwy ephraahakphraxngkhrbrachsmbtiephiyngphraxngkhediywcaekidxpmngkhl dwyipkidknbarmikhxngsmedcphraxnucha thamiphraecaaephndinsxngphraxngkhehmuxnxyangsmedcphranerswrmharachsthapnasmedcphraexkathsrthepnphraecaaephndindwykcaphncakxpmngkhl ecaphrayaphrakhlngcungipekhaefaecafakrmkhunxisersrngsrrkh n phrarachwngedimtamrbsng emuxphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhwesdcswrrkhtinwnthi 2 emsayn ph s 2394 smedcphraxnuchathirachecathng 2 phraxngkhidesdcyngphraxuobsthwdphrasrirtnsasdaram ehlakhunnangmaprachumphrxmknaelwkrabthulechiythngsxngphraxngkhesdcethlingthwlyrachsmbti emuxesrcsinphrarachphithibrmrachaphieskphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhwaelw cungmiphrarachdariwasmedcphraxnuchathirach ecafakrmkhunxisersrngsrrkh kthrngphrapricharxbrukickartang miphuihyphunxyniymnbthuxmak smkhwrthicaphrarachthanysihykwakrmphrarachwngbwrsthanmngkhlaetkxn aetecafakrmkhunxisers yngimidrbphrasuphrrnbttngphranam thaihimmiphranamedim duepnkartathramip cungphrarachthanphrasuphrrnbttngphranamepn smedcphraecanxngyaethx ecafaxiserscuthamni chnhnungkxn aelwcungphrarachthanphrasuphrrnbtinkarphrarachphithibwrrachaphieskinwnthi 25 phvsphakhm wa phrabathsmedcphrapwernthraemswr mhisersrrngsrrkh mhntwredoch ichymohlarkhunxdulyedch srrphethewsranurks bwrculckrphrrdirachsngkas xuphotsuchatisngsuththekhraahnickribrmnarth xiswrrachramwrngkur brmmngkudnernthrsuryosthranuchathibdinthr esnangkhnikrinthrbwrathiebsr phlphyuhentrnerswrmhiththiwrnayk syamathiolkdilkmhaburusrtn iphbulyphiphthnsrrphsilpakhm sunthordmkicoksl stpdleswtchtr sirirtnbwrmharachaphieskaphisit srrphthsthisphichitichy xudmmihswriymhaswaminthr semkthrninthranurach bwrnarthchatixachawsry srirtnitrsrnarks xukvsthskdisrrphrsdathiebnthr pwernthrthrrmmikrachbphitr phrapineklaecaxyuhw swrrkht hlngcakphrarachphithibwrrachaphieskaelw phraxngkhkerimthrngphraprachwrbxykhrng hasmutthankhxngphraorkhimid cnkrathngprachwrdwywnorkhaelaesdcswrrkhtemuxwnxathity eduxn 2 aerm 6 kha ewlaechayarung trngkbwnthi 7 mkrakhm ph s 2408 nbaebbpccubnepn ph s 2409 siriphrachnmayu 58 phrrsa thrngxyuinbwrrachsmbtithngsin 15 pi miphrarachphithithwayphraephlingphrabrmsphemuxwnthi 7 kumphaphnth ph s 2409 odymikarcdkaraehphraemrumasphrabrmsphechnediywkbphrasphsmedcphrabwrrachecamhaesnanurks aetephimetimphraekiyrtiysphiesskhunhlayprakartamphraysthithrngepnphramhakstriyphraxngkhthi 2 phayhlngphrabathsmedcphrapineklaecaxyuhwesdcswrrkhtaelw phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhwkyngmiidthrngaetngtngphuidkhundarngtaaehnngkrmphrarachwngbwrsthanmngkhl ephraainkhnannphrarachoxrsphraxngkhihykhuxsmedcphraecalukyaethx ecafaculalngkrn krmkhunphinitprachanarth yngthrngphraeyaw miphrachnmayuephiyng 12 phrrsa thaihesiyngtxkarthukaeyngchingrachbllngk smedcecaphrayabrmmhasrisuriywngs chwng bunnakh cungesnxphraxngkhecayxdyingephuxihphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhwthrngmiphrarachwinicchy sungphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhwthrngsthapnaphraxngkhecayxdyingepnephiyngaekh krmhmunbwrwiichychay ethann kxnthismedcecaphrayabrmmhasrisuriywngs chwng bunnakh phusaercrachkaraethnphraxngkhinphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwcathrngaetngtngkrmhmunbwrwiichychaykhunepnkrmphrarachwngbwrwiichychay krmphrarachwngbwrsthanmngkhlphraxngkhsudthayphrarachxchchasyaelaphraprichasamarthphrabathsmedcphrapineklaecaxyuhw miphrarachxthyasytangcakphraechsthamak ephraafayaerkchxbsnukehha immiphithiritxngxair swnfayhlngkhxnkhangengiybkhrum channcungmkoprdinsingthiimkhxycatrngknnk aetthaepnkhwamsnithsnmswnphraxngkhaelwphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw emuxthrngthaxairkmknukthungphrarachxnuchaxyuesmx echn khrawhnungesdckhunippidthxngphraphuththrupihywdphnyeching kthrngpidechphaaphraphktr ewnphrasxiwphrarachthan phrabathsmedcphrapinekla thrngpidtx nxkcaknithng 2 phraxngkh kthrnglxeliynknxyangimthuxphraxngkh aelaswnmakphrabathsmedcphrapinekla caepnfayeyaaehymakkwa phrabathsmedcphrapineklaecaxyuhwthrngphraprichasamarthmak thrngrxbrunganin dantang makmay echn ngandankxngthphbk kxngthpherux dantangpraeths wichachangckrkl aelawichakarpunihy thrngrxbruphasaxngkvsepnxyangdicnsamarththicathrngekhiynottxbcdhmayepnphasaxngkvskbesxrcxhn ebaring rachthutxngkvs thiedinthangmaecriyphrarachimtrikbpraethsithy emux ph s 2398 kh s 1855 sungkhxkhwaminsnthisyyann thaexythung phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhwcamikhakakbwa The First King swnphrabathsmedcphrapineklaecaxyuhwcamikhakakbwa The Second King sahrbinphasaithynn tamsnthisyya thangimtrikbpraethsxngkvs inbthphakh phasaithycaaeplkhawa The First King wa phraecakrungsyamphraxngkhexk swnkhawa The Second King nncaaeplwa phraecakrungsyamphraxngkhthi 2 phrabathsmedcphrapineklaecaxyuhwmiphranampraktxyuinprakasinxarmphbthihdaeninkarecrcathasnthisyyachbbnidwy inthanaphramhakstriyphraxngkhthi 2 khukbphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw phraxngkhmisayphraentrthikwangikl indankar tangpraeths thrngrxbrukhawsarindankhwamsmphnthrahwangpraethsepnxyangdi thrngthrabphrarachhvthydiwa thahakthrng daeninnoybaythiaekhngkrawaelwisr ithyeracaesiypraoychn swnbrrdafrngthiruckmkkhunkbwnghnamkcaykyxngchmechywa thrngepnsuphaphburusephraaphraxngkhmiphranisysuphaph odyechphaakbphrarachchnni krmsmedcphrasrisurieynthramatydwyaelw thrngaesdngkhwamekharphekrngklwepnxnmak nxkcaknioprdkarthxngethiywiptamhwbanhwemuxng thngehnuxaelait saehtuhnungxacepnephraamiphraxakarprachwrkraesaakraaesaxyuesmx cungtxngesdcipethiywrksaphraxngkhtamhwemuxng xyuenuxng klawknwa mkesdcipprathbtamthin thimibanlaw esdcipprathbthibansmpathwn aekhwngbang thangemuxngphnsnikhmbang aetesdcipprathbthitahnk bansitha cnghwdsraburiesiyodymak aetaeththicringaelw phraxngkhidekhyesdcipethiywpraphastamhwemuxng tang matngaetkhrngyngdarngphraysepn ecafacuthamni krmkhunxisersrngsrrkhaelw ephraathrngpracksaecngaekphraprichayanwa karesdcpraphashwemuxngepnpraoychnaekrachkarbanemuxng dwysamarththrngthrabthukkhsukhkhxngiphrfaprachachnidepn xyangdisungdikwaraynganinkradasmaknkphrarachkrniykicdankarthhareruxphrabwrrachanusawriyphrabathsmedcphrapineklaecaxyuhw thihnaornglakhraehngchati echingsaphanphrapinekla krungethphmhankhr phrabathsmedcphrapineklaecaxyuhwthrngifphrarachhvthyinwichakardanckrklmak aelaephraaehtuthiphraxngkhoprdkarthhar cungthrngsnphrarachhvthyekiywkbxawuthyuththphnthepnphiess ethathikhnphbphrabrmchayalksnkhxngphraxngkhnn kmkcathrngchlxngphraxngkhekhruxngaebbthhar aelaepnekhruxngaebbthhareruxdwy aetepnthinaesiydaywaimmikarbnthukphrarachprawtiinswnthithrngsranghruxwangaephnnganekiywkbkickarthharid iwbangely aeminphrarachphngsawdar hruxincdhmayehtutang kimmikarbnthukphlnganphrarachprawtiinswnniiwely aelaaemphraxngkhexngkimoprdkarbnthuk immiphrarachhtthelkha hruxmiaetimmiikhrexaicisthxdthing hruxthalaykimxacthrabid aetthungkrannkyngminganednthimihlkthanthngkhxngfrngaelaithyklawiw aemcanxynidaetkaesdngihehnthungkarrierimthilahnakwapraethsephuxnban phlngannnkhuxkarthhareruxkhxngithyerann erimmiekhaepliyncaksmyobranekhasuyukhsmyihm insmyphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw aelaphuthiepnkalngsakhy inkickardanthhareruxinsmynn khux ecafacuthamni krmkhunxisersrngsrrkh aela cmuniwywrnath smedcecaphrayabrmmhasrisuriywngs chwng bunnakh dwythng 2 thannimikhwamruinwichakartxeruxinsmynn epnxyangdi cungidrbhnathipkkhrxng bngkhbbychakarthhareruxinsmynn txmaidaebnghnathiknodyphrabathsmedcphrapinekla thrngbngkhbbycha swnxyuinpkkhrxngbngkhbbychakhxngsmedcecaphrayabrmmhasrisuriywngs inyampktithng 2 fay ni imkhunaekknaetkhuntrngtxphrabathsmedcphraecaxyuhw phrabathsmedcphrapinekla thrngfukfnthharkhxngphraxngkh odyichthngkhwamruaelakhwamsamarth aela yngthrngmungphrarachhvthyineruxngkarkhakhayihmikair suaephndindwymiichsrang aeteruxrbephraaidthrngsrangeruxedinthael ephuxkarkharahwangpraethsxikdwy nxkcakniphraxngkhidthrngnaexawithyakar smyihmkhxngyuorp maichfukthharihmismrrthphaphepnxyangdi thrngihrxyexk othms nxks Thomas George Knox epnkhrufukthharwnghna thaihthharithyidrbwithyakarxnthnsmytamaebb thhareknthhdxyangyuorp karfukhdichkhabxkthharepn phasaxngkvsthnghmderimmieruxrbklifepnkhrngaerk chuxeruxxasawdirs3 aelaeruxyngysxoychchiya4 hruxyngysxoythya sungemuxkhrngeruxyngysxoychchiya idedinthangiprachkarthisingkhopr kidrbkhachmechycaktangpraethsepnxnmak waphraxngkhmi phraprichasamarththrngtxeruxid aelakaredinthanginkhrngnnethakbepnkaripxwdthngithyintangpraeths thngithyidthukchk khunkhukbthngxngkvs thifxrthaekhnningdwy aelaaemphraecalukyaethxhlayphraxngkhkoprd ihepnthhareruxechnkn prawtikhxngeruxthiphraxngkhthrngmiichinsmynn tamthiphleruxtri aechn pccusannth idraynganelaiwinhnngsux prawtithhareruxithy midngni eruxphuththxanac Fairy srangemux ph s 2379 epneruxchnid Barque khnad 200 tn mixawuthpunihy 10 krabxk eruxlaniepnkhxngphrabathsmedcphrapinekla emux ph s 2384 iprachkarthphrbkbywn ichepneruxphrathinngkhxngaemthph khuxphrabathsmedcphrapinekla emuxkhrngthrngepnkrmkhunxisersrngsrrkh ykkxngthphiprbkbywn tiemuxngbnthaymas haetiyn eruxrachvththi Sir Walter Scott srangemux ph s 2379 epneruxaebbediywknkbphuththxanac emux ph s 2384 iprachkarthphrbkbywn eruxxudmedch Lion srangemux ph s 2384 epneruxchnidbark Bark khnad 300 tn eruxlaniepnkhxngphrabathsmedc phrapinekla emux ph s 2384 idichiprachkarthphrbkbywn ph s 2387 idnasmnthutiplngka eruxewthchngd Tiger srangemux ph s 2386 epneruxchnid Schooner khnad 200 tn eruxlaniepnkhxngphrabath smedcphrapinekla eruxphuththsinghasn Cruizer srangemux ph s 2398 epneruxchnidchiph khnad 400 tn eruxlaniepnkhxngphrabathsmedc phrapinekla eruxmngkhlrachpksi Falcon suxemux ph s 2400 edimepneruxkhxngchawxemrikn chnidskuenxr Schooner khnad 100 tn phrabathsmedcphrapinekla thrngsuxma aelwddaeplngichepneruxrb eruxphrathinngkhxngphraxngkh ekiyrtiprawtikhxngkarthhareruxithysmkhwrcatxngykthwayaedphrabathsmedcphrapineklaecaxyuhw ephraaphraxngkhepn phuthithrngsnphrarachhvthyinkickarthhareruxinsmynnepnxyangmak emuxpraktwamieruxrbtangpraethsekhamaeyiym praethsithykhrawidphraxngkhkmkhaoxkasesdcipeyiymeyiyneruxrbehlannesmx ephuxcaidthrngthrabwaeruxrbtang praethsekhatkaetngaelacdraebiyberuxknxyangir aelwnamaepnaebbxyangihkberuxrbkhxngithyinewlatxma cakphrarachprawtikhxngphrabathsmedcphrapineklaecaxyuhw caehnidwaphraxngkhthrngepnphunaineruxngeruxsmyihm sungphukhninsmynnimmiikhrechuxelywaehlkcalxynaidaetphraxngkhidthrngaesdngphraprichasamarthihprakt thrngtxeruxrb klifkhunepnkhrngaerkinprawtisastrchatiithy miphraprichasamarthhlaydan thrngaetkchanechiywchayphasaxngkvscnsamarthtidtx kbchawtangpraethsidepnxyangdiphrashay aelaphraxacary epnchaw xemriknesiyepnswnmakthrnghmkmunkbkickarthhareruxmatngaettn dwyehtunicungthuxidwaphraxngkhthrngepn phubychakar thharerux phraxngkhaerk aelakhwrthwayphranamwa phubychakarthhareruxwnghna smkhwridrbkarthwayphraekiyrtiyskhnsungsud cakchawkxngthpherux tngaetniaelatlxdipphrarachsnttiwngsphrabathsmedcphrapineklaecaxyuhwmiphrarachoxrsaelaphrarachthidathiprasutiaetecacxmmardarwmthngsin 58 phraxngkh odyprasutikxnbwrrachaphiesk 33 phraxngkh aelaprasutihlngcakbwrrachaphiesk 25 phraxngkhphraekiyrtiysaelaphrarachxisriyysthrrmeniymphrayskhxng phrabathsmedcphrapineklaecaxyuhwphrarachlyckrthngpracaphraxisriyyskarthulitfalaxxngphrabathkaraethntnkhaphraphuththecakarkhanrbphraphuththecakha ephkhatraklmtraxarm thrngichinexksarswnphraxngkh traphracuthamni ichepnphrarachlyckrpracaphraxngkhphrabathsmedcphrapineklaecaxyuhw phraxisriyys ecafaphraxngkhnxy 4 knyayn ph s 2351 13 phvsphakhm ph s 2375 smedcphraecanxngyaethx ecafakrmkhunxisersrngsrrkh 13 phvsphakhm ph s 2375 15 phvsphakhm 2394 smedcphraecanxngyaethx ecafaxiserscuthamni triphithephchrrtnalngkd xrrkhraochrswrsswibuly xdulyedchmhasukhumaly wngswordm brmrachkumar 15 phvsphakhm 2394 25 phvsphakhm ph s 2394 phrabathsmedcphrapwernthraemsmhisersrngsrrkh phrapineklaecaxyuhw 25 phvsphakhm ph s 2394 7 mkrakhm ph s 2409 ekhruxngrachxisriyaphrn ekhruxngrachxisriyaphrnithy ph s imprakt ekhruxngrachxisriyaphrnxnepnobranmngkhlnphrtnrachwraphrn n r fayhna ekhruxngtn daraixyrapht xngkhrxng ekhruxngrachxisriyaphrntangpraeths frngess ph s 2406 ekhruxngxisriyaphrnelchiyngdxenxr chnkrxngtxfisieyphngsawliphngsawlikhxngphrabathsmedcphrapineklaecaxyuhw 16 28 phrayarachnikul thxngkha 8 14 smedcphrapthmbrmmhachnk 4 phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach 9 15 phraxkhrchaya hyk 2 phrabathsmedcphraphuththelishlanphaly 20 phr n bangchang 10 thxng n bangchang 21 chi n bangchang 5 smedcphraxmrinthrabrmrachini 22 phlxy n bangchang 11 smedcphrarupsiriosphakhymhanakhnari 23 thi n bangchang 1 phrabathsmedcphrapineklaecaxyuhw 12 chawhkekiynaestnimpraktnam 6 engin aestn 3 smedcphrasrisurieynthrabrmrachini 28 16 phrayarachnikul thxngkha 14 8 smedcphrapthmbrmmhachnk 7 smedcphraecaphinangethx ecafakrmphrasrisudarks 15 9 phraxkhrchaya hyk aephnphngsmedcphrapthmbrmmhachnk 1 phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach smedcphrabwrrachecamhasursinghnath smedcphraecanxngyaethx ecafakrmhlwngckrecsda 2 phrabathsmedcphraphuththelishlanphaly smedcphrabwrrachecamhaesnanurks smedcphrabwrrachecamhaskdiphlesph 3 phrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw 4 phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw phrabathsmedcphrapineklaecaxyuhw smedcphraecabrmwngsethx ecafaxaphrn smedcphraecabrmwngsethx ecafamhamala krmphrayabarabprpks smedcphraecabrmwngsethx ecafapiw smedcphraecabrmwngsethx ecafaosmns 5 phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw smedcphraecabrmwngsethx ecafacaturntrsmi krmphrackrphrrdiphngs smedcphrarachpitula brmphngsaphimukh ecafaphanurngsiswangwngs krmphrayaphanuphnthuwngswredch smedcphraecabrmwngsethx ecafakrmphrayanrisranuwdtiwngs krmphrarachwngbwrwiichychay smedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis syammkudrachkumar smedcphraecabrmwngsethx ecafaxisriyalngkrn 6 phrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw smedcphraecabrmwngsethx ecafabriphtrsukhumphnthu krmphrankhrswrrkhwrphinit smedcphraecabrmwngsethx ecafatriephchrutmtharng smedcphraecabrmwngsethx ecafasmmtiwngsworthy krmkhunsrithrrmrachtharngvththi smedcphraecabrmwngsethx ecafackrphngsphuwnath krmhlwngphisnuolkprachanath smedcphraecabrmwngsethx ecafayukhlthikhmphr krmhlwnglphburiraemswr smedcphraecabrmwngsethx ecafasirirachkkuthphnth smedcphraxnuchathirach ecafaxsdangkhedchawuth krmhlwngnkhrrachsima smedcphramhitlathiebsr xdulyedchwikrm phrabrmrachchnk smedcphraecabrmwngsethx ecafacuthathuchthradilk krmkhunephchrburnxinthraichy 7 phrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw 8 phrabathsmedcphrapremnthrmhaxannthmhidl phraxthmramathibdinthr 9 phrabathsmedcphramhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitr 10 phrabathsmedcphrawchireklaecaxyuhwxangxingechingxrrth PDF withyalyethkhnikhcnthburi khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2019 10 09 subkhnemux 9 tulakhm 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help praktinphrarachhtthelkhakhxngrchkalthi 4 khwamwa wnghna epnhnumaekhngaerng khichangnamn khimaethssungsamsxkess yingpunthukwn chxbkarthharmak miwithyakhmdi visimuni aephthyhmxmiwithyanbthuxekhaxyudwymak phuhyingkrkmak eliynglukemiydi ecaklibepnphramehsi ehxmayistikhangin du wibul wicitrwathkar strisyaminxdit phimphkhrngthi 3 krungethph eduxntula 2542 hna 245 krmesmiyntra phrarachprawti phrabathsmedcphrapineklaecaxyuhw kstriysxngphraxngkh lingkesiy eriykduemux 15 emsayn 2556 chumnumphrabrmrachathibayinphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw chbb ph s 2457 hna 157 chumnumphrabrmrachathibayinphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw chbb ph s 2457 hna 155 xnusrnnganchapnkicsph naywira pthmakhm chumnumphrabrmrachathibayinphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw chbb ph s 2457 hna 156 phrarachphngsawdar krungrtnoksinthr rchchkalthi 3 71 krmphrarachwngbwrsthanmngkhlthrngprachwrswrrkht cdhmayehtueruxngthrngtngphrabrmwngsanuwngskrungrtnoksinthr elm 1 hna 66 cdhmayehtueruxngthrngtngphrabrmwngsanuwngskrungrtnoksinthr elm 1 hna 68 nithanobrankhdi nithanthi 19 eruxngemuxngithymiphraecaaephndin 2 phraxngkh phrarachphngsawdar krungrtnoksinthr rchchkalthi 4 2 krabthulxyechiysmedc ecafamngkud khuneswyrachy phrarachphngsawdar krungrtnoksinthr rchchkalthi 4 7 esdceliybphrankhrthangchlmarkh phrabrmrachoxngkar prakas karsmophchinnganrbphrasuphrrnbtr PDF rachkiccanuebksa 8 39 349 352 27 thnwakhm r s 110 subkhnemux 30 phvscikayn ph s 2561 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a trwcsxbkhawnthiin accessdate aela date help phrarachphngsawdar krungrtnoksinthr rchchkalthi 4 8 phrarachphithibwrrachaphiesk rachskulwngs hna 31 wnniinxdit cak brrnanukrmdarngrachanuphaph smedcphraecabrmwngsethx krmphraya 2459 phrarachphngsawdar krungrtnoksinthr rchkalthi 2 hxngsmuddicithlwchiryan subkhnemux 13 singhakhm ph s 2561 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help thiphakrwngs kha bunnakh ecaphraya 2481 phrarachphngsawdar krungrtnoksinthr rchchkalthi 3 hxngsmuddicithlwchiryan subkhnemux 15 singhakhm ph s 2561 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help thiraluk innganphrarachthanephlingsph thanphuhyingwngsanupraphthth tad snithwngs nxyuthya thiphakrwngs kha bunnakh ecaphraya 2477 phrarachphngsawdar krungrtnoksinthr rchchkalthi 4 hxngsmuddicithlwchiryan subkhnemux 15 singhakhm ph s 2561 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help thiraluk innganphrarachthanephlingsph khunhyingthrrmsarenti xb bunnakh cdhmayehtueruxngthrngtngphrabrmwngsanuwngskrungrtnoksinthr elm 1 krungethph krmsilpakr 2545 508 hna ISBN 974 417 527 3 tharngskdi xayuwthna rachskulckriwngs aelarachskulsmedcphraecataksinmharach krungethph sankphimphbrrnkic phimphkhrngthi 3 ph s 2544 490 hna ISBN 974 222 648 2 phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw chumnumphrabrmrachathibayinphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw chbb ph s 2457 krungethph tnchbb ph s 2554 189 hna hna 154 158 ISBN 974 616 7176 06 2 khxphidphladpharamietxrin ISBN invalid prefix suphwthy eksmsri phltri hmxmrachwngs aelarchni thrphywicitr phraxnuwngschnhmxmecainphrarachwngsckri krungethph sankphimphbrrnkic phimphkhrngthi 3 ph s 2549 360 hna ISBN 974 221 818 8 sankwrrnkrrmaelaprawtisastr krmsilpakr rachskulwngs phimphkhrngthi 14 krungethph sankwrrnkrrmaelaprawtisastr krmsilpakr 2554 296 hna hna 57 ISBN 978 974 417 594 6aehlngkhxmulxunphrarachprawtiphrabathsmedcphrapineklaecaxyuhw www wangdermpalace com 2007 09 28 thi ewyaebkaemchchin sucibtrngan piphathyesphathiwnghna khrngthi 5 wnesarthi 7 mkrakhm 2549 khxngsankkarsngkhit krmsilpakr 2011 11 18 thi ewyaebkaemchchin sucibtrngan piphathyesphathiwnghna khrngthi 7 wnphuththi 7 mkrakhm 2552 khxngsankkarsngkhit krmsilpakr 2010 08 05 thi ewyaebkaemchchin phrabathsmedcphrapineklaaelapiphathyesphathiwnghna 7 m kh 52 x thaikids com lingkesiy wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb phrabathsmedcphrapineklaecaxyuhw kxnhna phrabathsmedcphrapineklaecaxyuhw thdipsmedcphrabwrrachecamhaskdiphlesph krmphrarachwngbwrsthanmngkhl rachwngsckri ph s 2394 ph s 2408 krmphrarachwngbwrwiichychay phubychakarthhareruxwnghna ph s 2394 ph s 2408 krmphrarachwngbwrwiichychay