มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) เป็นสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ ในการกำกับดูแลของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดการศึกษาวิชาพระพุทธศาสนา และศาสตร์การเรียนรู้แขนงอื่นๆ โดยมีหลักธรรมคำสอนในพระไตรปิฎกสอดแทรกในบทเรียนการศึกษาวิชาชั้นสูงในรูปแบบมหาวิทยาลัย ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนาขึ้นเพื่อถวายแด่คณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย โดยเริ่มจัดการเรียนการสอนด้านพุทธศาสตร์เป็นสาขาแรก แล้วต่อมาได้ขยายการเรียนการสอนไปยังสาขาวิชาอื่นๆ คล้ายกับรูปแบบการก่อตั้ง มหาวิทยาลัยปารีส ประเทศฝรั่งเศส และมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ที่เริ่มต้นจากสาขาด้านศาสนาแล้วขยายไปยังสาขาวิชาอื่นๆ
ชื่อเดิม | มหาธาตุวิทยาลัย ในพระสังฆราชูปถัมภ์ |
---|---|
ชื่อย่อ | มจร / MCU |
คติพจน์ | ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต (ปัญญาเป็นแสงสว่างในโลก) |
ประเภท | สถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ |
สถาปนา | 13 กันยายน พ.ศ. 2439 |
อธิการบดี | พระพรหมวัชรธีราจารย์ (สมจินต์ สมฺมาปญฺโญ) |
อธิการบดี | พระพรหมวัชรธีราจารย์ (สมจินต์ สมฺมาปญฺโญ) |
นายกสภา | พระพรหมวชิราธิบดี (พีร์ สุชาโต) |
ที่ตั้ง | เลขที่ 79 หมู่ที่ 1 หลักกิโลเมตรที่ 55 ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา |
สี | สีชมพู |
เว็บไซต์ | www.mcu.ac.th |
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จัดเป็นสถาบันการศึกษาชั้นสุงยุคแรกแห่งหนึ่งของไทย (ในปี พ.ศ. 2562 มจร. ได้มีอายุครบ 132 ปี) ถือกำเนิดจาก "มหาธาตุวิทยาลัย" ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาขึ้นภายในวัดมหาธาตุฯ เมื่อปี พ.ศ. 2430 โดยเริ่มทำการสอนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2432 ต่อมาได้พระราชทานนามใหม่ว่า "มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย" เมื่อคราวทรงสถาปนาอาคารสังฆิกเสนาสน์ราชวิทยาลัยในปี พ.ศ. 2439 โดยทรงตั้งพระทัยจะให้เป็นสถาบันการศึกษาชั้นสูงของพระสงฆ์ การดำเนินงานของวิทยาลัยได้เริ่มต้นอย่างจริงจังเมื่อ พ.ศ. 2490 โดยพระพิมลธรรม (ช้อย ฐานทตฺตเถร) และมีการดำเนินงานมาตามลำดับจนได้รับการยกฐานะให้เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐในปี พ.ศ. 2540 ตามความในพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ. 2540 อธิการบดีรูปปัจจุบัน คือพระพรหมวัชรธีราจารย์ (สมจินต์ สมฺมาปญฺโญ),ศาสตราจารย์,ดร.
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นมหาวิทยาลัยรัฐที่มีบทบาทโดดเด่นในการส่งเสริมการศึกษาด้านพระพุทธศาสนาที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก และเป็นมหาวิทยาลัยศูนย์กลางการศึกษาด้านพุทธศาสตร์ที่สำคัญของคณะสงฆ์ไทย มีการจัดตั้งวิทยาเขต, วิทยาลัยสงฆ์, ศูนย์วิทยบริการและห้องเรียน กระจายไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ปัจจุบัน เปิดการเรียนการสอนใน 4 คณะ ครอบคลุมทั้งระดับปริญญาพุทธศาสตรบัณฑิตจนถึงปริญญาพุทธศาสตรดุษฏีบัณฑิต หลักสูตรนานาชาติและภาษาอังกฤษ รวมทั้งสิ้น 33 สาขาวิชา นอกจากนี้ ยังได้จัดตั้งสถาบันวิจัยขึ้นภายในมหาวิทยาลัยเพื่อดำเนินการวิจัยในด้านพุทธศาสตร์ประยุกต์ด้วย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดถวาย เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จพระดำเนิน เป็นองค์ประธานในพิธีประสาทปริญญาบัตรแก่บัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ศิษย์เก่าหลายท่าน เมื่อจบจากสถาบันแห่งนี้ได้รับการตอบรับให้เข้าศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาชั้นนำของโลกหลายแห่ง เช่น มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด, มหาวิทยาลัยเยล ประเทศสหรัฐอเมริกา, มหาวิทยาลัยฮ่องกง, มหาวิทยาลัยฟู่ตั้น ประเทศจีน, มหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด, มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์, มหาวิทยาลัยลอนดอน, มหาวิทยาลัยเซ็นปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย ฯลฯ
ด้านอาคารสิ่งปลูกสร้างในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้รับความเมตตานุเคราะห์อุปถัมภ์จาก พระเดชพระคุณ พระพรหมมังคลาจารย์ (ปั่น ปทุมุตฺตโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษดิ์ จังหวัดนนทบุรี เจ้าพระคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) อดีตเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร อดีตผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ตลอดจนท่านทานธนบดีผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคกัปปิยะภัณฑ์เป็นเจ้าภาพสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้าง
ประวัติ
เมื่อกล่าวถึงประวัติและความเป็นมาของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยนั้น สามารถแบ่งออกเป็น 7 ยุค กล่าวคือ ยุคการก่อตั้งมหาวิทยาลัย ยุคเริ่มการจัดการศึกษา ยุคปรับปรุงและขยายการศึกษา ยุครับรองปริญญาบัตรและสถานะของมหาวิทยาลัย ยุคพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ยุคเข้าสู่การเป็นศูนย์กลางมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนานานาชาติ ยุครุ่งเรืองของของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ยุคการก่อตั้งมหาวิทยาลัย
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงสถาปนามหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยขึ้น โดยให้ย้ายการสอนพระปริยัติธรรมจากศาลาบอกพระปริยัติธรรมภายในวัดพระศรีรัตนศาสดารามไปตั้งที่วัดมหาธาตุ เพื่อเป็นที่เล่าเรียนของพระสงฆ์ฝ่ายมหานิกายและคฤหัสถ์ เมื่อ พ.ศ. 2430 และโปรดให้เรียกว่า มหาธาตุวิทยาลัย
มหาธาตุวิทยาลัยได้เปิดทำการสอนเป็นทางการ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2432 ต่อมา พระยาภาสกรวงศ์ เสนาบดีกระทรวงธรรมการ ได้ยกร่างพระราชบัญญัติฉบับแรกของมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เรียกว่าร่างพระราชบัญญัติมหาธาตุวิทยาลัย ร.ศ. 111 (พ.ศ. 2435) ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงนำเข้าปรึกษาในที่ประชุมเสนาบดี ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ยังไม่ได้ลงพระปรมาภิไธย จึงถือว่ายังมิได้เป็นพระราชบัญญัติที่มีผลบังคับใช้แต่อย่างใด
ประเด็นที่น่าสนใจในร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ซึ่งมี 24 มาตราอยู่ที่มาตรา 1 ที่กำหนดให้วิทยาลัยแห่งนี้เป็นสถานศึกษาสำหรับพระภิกษุสามเณรและคฤหัสถ์ดังนี้
“มาตรา 1 มหาธาตุวิทยาลัยนี้ให้ตั้งขึ้นโดยราชูปถัมภกบำรุงพระบรมพุทธศาสนาเป็นที่สั่งสอนพระบาลีคัมภีร์พระไตรปิฎก พุทธพจนภาษิต แก่ภิกษุสามเณร ฝ่ายคณะมหานิกายและคฤหัสถ์ตามแต่มีความศรัทธาจะศึกษาสืบเสาะข้อวัตรปฏิบัติพุทธภาษิตซึ่งจะได้เป็นคณาจารย์สืบไป”
ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดให้คิดแบบสร้างถาวรวัตถุ เรียกว่า “สังฆเสนาสน์ราชวิทยาลัย” ขึ้นในวัดมหาธาตุ เพื่อใช้เป็นสถานที่บำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร และทรงประสงค์จะอุทิศถวายถาวรวัตถุนี้เป็นสังฆิกเสนาสน์สำหรับมหาธาตุวิทยาลัย เพื่อเป็นที่เล่าเรียนพระปริยัติสัทธรรมและวิชาชั้นสูง โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางศิลาก่อพระฤกษ์ เมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2439 และได้พระราชทานเปลี่ยนนามมหาธาตุวิทยาลัยเป็นมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติยศของพระองค์ ตามประกาศพระราชปรารภในการก่อพระฤกษ์สังฆเสนาสน์ราชวิทยาลัย ร.ศ. 115 (พ.ศ. 2439) ความตอนหนึ่งว่า
“จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งวิทยาลัยที่เล่าเรียนพระไตรปิฎกแลวิชาชั้นสูงขึ้น 2 สถานๆ หนึ่งเป็นที่เล่าเรียนของพระสงฆ์ฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ได้ตั้งไว้ที่วัดบวรนิเวศวรวิหาร พระอารามหลวง พระราชทานนามว่า มหามกุฎราชวิทยาลัย ...อีกสถานหนึ่งเป็นที่เล่าเรียนของพระสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ได้ตั้งไว้ที่วัดมหาธาตุ ราชวรมหาวิหาร พระอารามหลวงนี้ มีนามว่ามหาธาตุวิทยาลัย ได้เปิดการเล่าเรียนแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน รัตนโกสินทร์ ศก 108 สืบมา แต่สังฆิกเสนาสน์สำหรับมหาธาตุวิทยาลัยนี้ยังไม่เป็นที่สมควรแก่การเล่าเรียน... เมื่อการบำเพ็ญพระราชกุศส่วนนั้นเสร็จแล้วจะได้ทรงพระราชอุทิศถวายถาวรวัตถุนี้เป็นสังฆิกเสนาสน์สำหรับมหาธาตุวิทยาลัย เพื่อเป็นที่เล่าเรียนพระปริยัติสัทธรรมแลวิชาชั้นสูงสืบไปภายหน้า พระราชทานเปลี่ยนนามใหม่ว่า มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เพื่อให้เป็นที่เฉลิมพระเกียรติยศสืบไป...”
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้จัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนเดิมในนามมหาธาตุวิทยาลัยตลอดมา จนกระทั่งวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2490 พระมหาเถรานุเถระ ฝ่ายมหานิกายจำนวน 57 รูป มีพระพิมลธรรม (ช้อย ฐานทัตตเถร) เป็นประธานได้ประชุมกัน ณ ตำหนักสมเด็จ วัดมหาธาตุฯ ประกาศให้มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ดำเนินการจัดการศึกษาในรูปมหาวิทยาลัย ตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้เปิดการศึกษาในรูปแบบมหาวิทยาลัย ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2490 เป็นต้นมา
ในช่วงเตรียมการประชุมพระมหาเถรานุเถระเพื่อประกาศให้มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยจัดการศึกษาในรูปมหาวิทยาลัยนั้น หลวงวิจิตรวาทการ ได้ทำบันทึกโครงการปรับปรุงมหาธาตุวิทยาลัยหรือมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เพื่อประกอบการพิจารณาของที่ประชุม
บันทึกดังกล่าวนี้ หลวงวิจิตรวาทการเสนอว่า สถานศึกษาในรูปแบบมหาวิทยาลัยที่วัดมหาธาตุนี้ ถ้าใช้ชื่อมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยจะได้ประโยชน์ที่สำคัญคือมีสถานภาพเป็นมหาวิทยาลัยตามกฎหมาย หลวงวิจิตรวาทการได้อ้างประกาศพระราชปรารภในการก่อพระฤกษ์สังฆเสนาสน์ราชวิทยาลัย ร.ศ. 115 (พ.ศ. 2439) แล้วสรุปประเด็นไว้ว่า
“ชื่อมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเป็นชื่อที่มีอยู่ในประกาศรัชกาลที่ 5 ซึ่งมีผลเป็นกฎหมาย ถ้าใช้ชื่อนี้ได้ อาจทำให้สำนักเรามีฐานะเป็นมหาวิทยาลัยตามกฎหมาย การให้ปริญญาจะเป็นการสมบูรณ์และทางบ้านเมืองก็จะต้องรับรองฐานะของมหาวิทยาลัยนี้เท่าเทียมมหาวิทยาลัยของบ้านเมืองเอง”
อย่างไรก็ตาม แม้มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยจะได้เปิดการศึกษาในรูปแบบมหาวิทยาลัยตั้งแต่ พ.ศ. 2490 เป็นต้นมา ทางบ้านเมืองก็มิได้รับรองสถานภาพให้เป็นมหาวิทยาลัยตามกฎหมาย นั่นคงเป็นเพราะว่าประกาศพระราชปรารภในการก่อพระฤกษ์สังฆเสนาสน์ราชวิทยาลัย ร.ศ. 115 (พ.ศ. 2439) ที่หลวงวิจิตรวาทการกล่าวถึงนั้นเป็นเพียงประกาศพระราชปรารภในการวางศิลาฤกษ์อาคารของมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งไม่อาจถือได้ว่า เป็นพระราชบัญญัติมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ด้วยเหตุที่มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยไม่มีพระราชบัญญัติรับรองสถานภาพเป็นมหาวิทยาลัยตามกฎหมาย รัฐบาลและคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยจึงได้ดำเนินการต่างกรรมต่างวาระในช่วงเวลากว่า 40 ปีเพื่อให้มีการตราพระราชบัญญัติรับรองสถานภาพเป็นมหาวิทยาลัยให้แก่มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ยุคริเริ่มการจัดการศึกษา
ตามที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชปณิธานในการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาบุคลากรของประเทศให้มีความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน มีความสามารถในการรักษา และเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้มีความมั่นคงยิ่งขึ้น ในปี พ.ศ. 2489 พระพิมลธรรม (ช้อย ฐานทตฺตเถร) อธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ รูปที่ 15 มีความประสงค์จะปรับปรุงการศึกษา ภายในสถาบันการศึกษาที่เป็นอยู่ในขณะนั้นให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น จึงมอบหมายให้ พระมหาบุญเลิศ ทตฺตสุทฺธิ ป.ธ.8 (สมณศักดิ์สุดท้าย พระสุเมธาธิบดี อธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุ ฯ) อาจารย์แห่งมหาธาตุวิทยาลัย และบรรณารักษ์ห้องสมุดมหาธาตุวิทยาลัย ซึ่งกำลังปรับปรุงกิจการห้องสมุดของมหาธาตุวิทยาลัย ได้ช่วยรวบรวมความเป็นมาด้านการจัดการศึกษาของมหาธาตุวิทยาลัยทั้งปวง เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานทางเอกสารของมหาธาตุวิทยาลัยสืบไป เมื่อพระมหาบุญเลิศ ทตฺตสุทฺธิ ได้ไปติดต่อกับนายธนิต อยู่โพธิ์ หัวหน้าแผนกวรรณคดี ได้ให้ความอนุเคราะห์ด้วยดี และได้ขอความร่วมมือจากนายยิ้ม ปัณฑยางกูร หัวหน้ากองจดหมายเหตุ กรมศิลปากร ช่วยอำนวยความสะดวกอีกต่อหนึ่ง และได้พบเอกสารสำคัญที่เกี่ยวกับ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เอกสารที่พบนี้ คือ ลายพระหัตถ์ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีไปถึงหม่อมเจ้าประภากร ลงวันที่ 23 กันยายน ร.ศ. 115 ดังจะขออัญเชิญ สำเนาลายพระราชหัตถ์ มาแสดงดังต่อไปนี้
เมื่อพระมหาบุญเลิศ ทตฺตสุทฺธิ ได้พบลายพระหัตถ์นี้แล้ว ได้นำสำเนาลายพระหัตถ์ไปถวายพระพิมลธรรม (ช้อย ฐานทตฺตเถร) ซึ่งพระพิมลธรรมได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษาหารือกับพระเถรานุเถระในวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ และต่างวัด โดยทุกรูปเห็นพ้องต้องกันว่า สมควร ที่จะได้จัดการศึกษาของพระสงฆ์ให้เป็นไปตามพระราชปณิธานที่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ได้ทรงพระราชทานไว้* (*ความนี้ปรากฏในส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต ชื่อเรื่อง “พัฒนาการของมหาวิทยาลัยสงฆ์ในประเทศไทย” ของ นายมนัส เกิดปรางค์, พ.ศ. 2527.) จนกระทั่งในที่สุดพระพิมลธรรม (ช้อย ฐานทตฺตเถร) จึงได้มีหนังสือนิมนต์พระเถระทั้งจากวัดมหาธาตุ และวัดอื่นๆ จำนวน 57 รูป และฆราวาสอีกจำนวนหนึ่งมาประชุมกัน ณ หอปริยัติ วัดมหาธาตุฯ ในวันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2489 เวลา 17.00 น. โดยถือเป็นการประชุมที่ด่วนมาก และลับเฉพาะ จะสังเกตเห็นได้ชัดก็คือหนังสือนัดประชุมออก
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม เพื่อนิมนต์เข้าประชุมวันที่ 23 ธันวาคม เป็นการออกหนังสือเชิญล่วงหน้าเพียงหนึ่งวันเท่านั้น โดยผู้ที่ได้รับอาราธนาหรือเชิญเข้าประชุมครั้งนี้ ประกอบด้วยทั้งฝ่ายบรรพชิต 7 รูป และฆราวาส 4 คน ซึ่งทุกท่านจะได้รับ เอกสารบันทึกโครงการปรับปรุงมหาธาตุวิทยาลัย หรือ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จัดทำโดย หลวงวิจิตรวาทการ ซึ่งหลวงวิจิตรวาทการให้ถือว่าบันทึกนี้เป็นความลับ และอ่านได้เฉพาะผู้ที่ได้รับเชิญมาประชุมเท่านั้น
ต่อมาพระพิมลธรรม (ช้อย ฐานทัตตมหาเถร) อธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ในสมัยนั้นจึงจัดประชุมพระเถรานุเถระฝ่ายมหานิกาย จำนวน 57 รูป เมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2490 และประกาศให้มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ดำเนินการจัดการศึกษาพระไตรปิฎกและวิชาชั้นสูงในระดับมหาวิทยาลัย เปิดสอนระดับปริญญาตรี คณะพุทธศาสตร์เป็นคณะแรกเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2490 หลังจากนั้น พ.ศ. 2500 ได้มีการปรับเปลี่ยนระบบการวัดผลมาเป็นระบบหน่วยกิต โดยกำหนดให้นิสิตต้องศึกษา อย่างน้อย 126 หน่วยกิต และปฏิบัติศาสนกิจ 1 ปีก่อนรับปริญญาบัตร
ต่อมาในปี พ.ศ. 2505 เปิดสอนคณะครุศาสตร์ และในปี พ.ศ. 2506 เปิดสอนหลักสูตรแผนกอบรมครูศาสนศึกษา ระดับประกาศนียบัตรและเปิดสอน คณะเอเชียอาคเนย์ และเปลี่ยนเป็นคณะมานุษยสงเคราะห์ศาสตร์ เมื่อ พ.ศ. 2516 และในปี พ.ศ. 2512 ปรับหลักสูตรแผนกอบรมครู ศาสนศึกษาเป็นวิทยาลัยครูศาสนศึกษา และปรับเปลี่ยนหน่วยกิตเป็น 200 หน่วยกิต อย่างไรก็ดี การจัดการเรียนการสอนช่วง 2 ทศวรรษแรก ยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากคณะสงฆ์และรัฐเท่าที่ควร ทำให้ประสบปัญหาด้านสถานะของมหาวิทยาลัย และงบประมาณเป็นอย่างมาก แต่ก็สามารถจัดการศึกษามาได้อย่างต่อเนื่อง
ยุคปรับปรุงและขยายการศึกษา
ความพยายามที่จะให้มีการตราพระราชบัญญัติเกี่ยวกับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกใน พ.ศ. 2500 เมื่อรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงครามได้ยกร่างพระราชบัญญัติรับรองวิทยฐานะปริญญาของมหามกุฏราชวิทยาลัย และมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เพื่อสนองต่อสภาผู้แทนราษฎร แต่รัฐบาลของจอมพล ป. พิบูลสงคราม สิ้นสุดลงเพราะถูกยึดอำนาจการปกครอง ร่างพระราชบัญญัตินี้จึงตกไป
ต่อมา ใน พ.ศ. 2509 คณะสงฆ์ได้เปิดการอบรม “พระธรรมทูตไปต่างประเทศ” ขึ้น โดยสำนักฝึกอบรมตั้งอยู่ที่วัดบวรนิเวศวิหารและมอบให้เจ้าหน้าที่ของมหามกุฏราชวิทยาลัยและมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเป็นผู้ดำเนินงาน และให้ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่งนี้เข้ารับการฝึกอบรมเป็นหลัก เมื่อการดำเนินงานบรรลุวัตถุประสงค์ด้วยดี จึงมีโครงการที่จะขยายการศึกษาของสำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตขึ้นเป็นการศึกษาระดับปริญญาโทและเห็นว่า ควรจัดตั้งบัณฑิตวิทยาลัยขึ้น
คณะอนุกรรมการที่ตั้งขึ้นมาพิจารณาเรื่องนี้ได้พบปัญหาว่า ก่อนที่จะจัดการศึกษาขั้นปริญญาโทได้นั้น การศึกษาระดับปริญญาตรีจะต้องได้รับการรับรองมิฉะนั้น ปริญญาโทก็จะไร้ความหมาย ทุกฝ่ายจึงเห็นพ้องกันว่า “จะต้องให้รัฐบาลไทยรับรองฐานะและปริญญาของมหาวิทยาลัยสงฆ์เสียก่อน” และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างเคยมีประสบการณ์ร่วมกันมาว่า ทุกครั้งที่รัฐบาลพิจารณาเรื่องการรับรองมหาวิทยาลัยสงฆ์ รัฐบาลมักอ้างว่า “มหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้ง 2 แห่งนั้น คณะสงฆ์เองก็ยังไม่รับรอง แล้วจะให้รัฐบาลรับรองได้อย่างไร”
คณะอนุกรรมการจึงตกลงกันว่าจะดำเนินการให้คณะสงฆ์รับรองเสียก่อน จะได้ปูพื้นฐานให้รัฐบาลรับรองต่อไป ในที่สุด ก็ได้มีคำสั่งมหาเถรสมาคมเรื่องการศึกษาของมหาวิทยาลัยสงฆ์ พ.ศ. 2512 โดยมติที่ประชุมมหาเถรสมาคม เมื่อวันอังคารที่ 6 พฤษภาคม 2512 การที่มหาเถรสมาคมได้ออกคำสั่งนี้ถือเป็นการรับรองอย่างเป็นทางการว่ามหามกุฏราชวิทยาลัยและมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์และถือเป็นส่วนหนึ่งของระบบการศึกษาของคณะสงฆ์ไทย
คำสั่งมหาเถรสมาคมฉบับนี้ มี 12 ข้อ สาระสำคัญอยู่ในข้อต่อไปนี้
ข้อ 3 นับแต่วันประกาศใช้คำสั่งนี้ ให้การศึกษาของสภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร และของมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ซึ่งดำเนินการอยู่แล้ว เป็นการศึกษาของคณะสงฆ์
ข้อ 7 ถ้าเป็นการสมควร มหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองจะร่วมกันจัดการศึกษาขั้นบัณฑิตวิทยาลัยอีกส่วนหนึ่ง โดยอนุมัติของสภาการศึกษาของคณะสงฆ์ก็ได้
คำสั่งมหาเถรสมาคมฉบับนี้มีความสำคัญมาก เมื่อมีความพยายามที่จะให้มีการรับรองมหาวิทยาลัยสงฆ์ในระยะต่อมา เหตุผลสำคัญที่บุคคลผู้เกี่ยวข้องยกขึ้นชี้แจงต่อรัฐบาลคือ การอ้างถึงคำสั่งมหาเถรสมาคมฉบับนี้ และการดำเนินงานเกี่ยวกับการศึกษาของมหาวิทยาลัยสงฆ์ ก็ได้อาศัยคำสั่งมหาเถรสมาคม พ.ศ. 2512 เป็นหลักฐาน
ใน พ.ศ. 2515 จอมพลถนอม กิตติขจร เป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติบริหารประเทศหัวหน้าฝ่ายอำนวยการศึกษาและสาธารณสุขของคณะปฏิวัติได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาคณะหนึ่งเพื่อพิจารณาเรื่องมหาวิทยาลัยสงฆ์ ประกอบด้วยอนุกรรมการ 7 ท่าน มี นายจวน เจียรนัย เป็นประธาน นายระบิล สีตสุวรรณ เป็นรองประธานเลขาธิการมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย คือ พระธรรมคุณาภรณ์ (เกี่ยว อุปเสโณ) เป็นอนุกรรมการ พระศรีวิสุทธิโมลี (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) ได้เข้าร่วมประชุม ผลของการประชุมของคณะอนุกรรมการทำให้มีการร่างประกาศคณะปฏิวัติ 10 ข้อเพื่อรับรองสถานภาพมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่ง แต่ในระหว่างที่ดำเนินการอยู่นั้น คณะปฏิวัติได้สิ้นสุดลงเพราะมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2515 ร่างประกาศคณะปฏิวัติฉบับนี้จึงค้างอยู่
จอมพลถนอมได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีในระบบรัฐธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2515 มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติทำหน้ที่ออกพระราชบัญญัติ ได้มีการนำประกาศคณะปฏิวัติ พ.ศ. 2515 กลับมาพิจารณาและปรับเปลี่ยนเป็นร่างพระราชบัญญัติเพื่อรับรองสถานภาพของมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่ง คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2516 แต่ยังไม่ทันได้เสนอสภานิติบัญญัติ รัฐบาลจอมพลถนอม กิตติขจรสิ้นสุดลงเพราะเกิดวันมหาวิปโยคในวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 ร่างพระราชบัญญัตินี้จึงตกไป
สมัยรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีสัญญา ธรรมศักดิ์ ได้มีการเสนอร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2517 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้รอเรื่องนี้ไว้ก่อน ต่อมาเมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2517 คณะรัฐมนตรีมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ โดยกำหนดนโยบายไว้ว่า สถาบันการศึกษาที่จะให้ปริญญาได้ต้องปรับปรุงวิธีการและหลักสูตร
กระทรวงศึกษาธิการจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเรียกว่าคณะกรรมการปรับปรุงวิธีการและหลักสูตรมหาวิทยาลัยสงฆ์ให้สามารถให้ปริญญาได้โดยสมบูรณ์ ประกอบด้วยกรรมการ 14 ท่าน มี นายจรูญ วงศ์สายัณห์ เป็นประธานกรรมการจากมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย คือ พระพรหมคณาภรณ์ (เกี่ยว อุปเสโณ) พระราชวรมุนี (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) พระมหาเสถียร ถิรญาโณ และนายจำนงค์ ทองประเสริฐ
คณะกรรมการชุดนี้ประชุม 8 ครั้ง ได้ยกร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ 2 ฉบับ คือพระราชบัญญัติมหามกุฎราชวิทยาลัยและพระราชบัญญัติมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กล่าวเฉพาะร่างพระราชบัญญัติมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยนั้น มี 45 มาตรา สาระสำคัญคือการรับรองสถานภาพเป็นมหาวิทยาลัย ดังความในมาตรา 5 ว่า “ให้มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเป็นนิติบุคคล มีฐานะเป็นสถาบันการศึกษาของคณะสงฆ์ ได้รับความอุปถัมภ์และอำนาจบริหารงานจากรัฐ โดยทางกระทรวงศึกษาธิการ” คณะรัฐมนตรีมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2517 และส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา เมื่อคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาเสร็จก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์จึงค้างอยู่
ในสมัยรัฐบาลถัดมาซึ่งมี หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี นายนิพนธ์ ศศิธร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้นำเอาร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ที่คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาแล้วในสมัยรัฐบาลนายสัญญา ธรรมศักดิ์ เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองฉบับมีชื่อว่า ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัยและร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พระราชบัญญัติแต่ละฉบับมี 56 มาตรา สาระสำคัญยังคงเป็นเรื่องการรับรองสถานภาพเป็นมหาวิทยาลัย ประเด็นที่น่าสนใจคือมาตรา 41 ความว่า “ผู้สอนในมหาวิทยาลัยมีดังนี้ คือ (1) ปวราจารย์ ซึ่งอาจเป็นปวราจารย์ประจำหรือ ปวราจารย์พิเศษ (2) วราจารย์ (3) อาจารย์ ซึ่งอาจเป็นอาจารย์ประจำหรืออาจารย์พิเศษ”
ในวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2518 สภาผู้แทนราษฎรลงมติในวาระที่ 1 รับหลักการร่างพระราชบัญญัติทั้งสองฉบับด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์และมอบให้คณะกรรมาธิการการศึกษาพิจารณาแปรญัตติ คณะกรรมาธิการการศึกษาซึ่งมีนายปรีชา เพ็ชรสิงห์ เป็นประธานได้ใช้เวลานานถึง 4 เดือนในการประชุมเพียง 4 ครั้ง พิจารณาร่างพระราชบัญญัติทั้งสองฉบับ พระราชวรมุนี (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) รองเลขาธิการมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเป็นผู้แทนจากมหาวิทยาลัยเข้าชี้แจงในที่ประชุมคณะกรรมาธิการ หลังจากพิจารณาแปรญัตติเสร็จแล้ว ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษาได้ทำหนังสือลงวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2518 แจ้งประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า คณะกรรมาธิการได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์เสร็จแล้ว และขอให้เสนอที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป สภาผู้แทนราษฎรไม่มีโอกาสพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เพราะได้มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาเสียก่อน ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองฉบับจึงตกไปอย่างน่าเสียดาย
ในสมัยรัฐบาลของหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2 ท่านคือ นายประมวล กุลมาตย์และนายเปลื้อง พลโยธา ได้ยกร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัยและร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยขึ้นมาคนละ 2 ฉบับ เนื้อหาสาระและหลักการยังคงเป็นเช่นเดียวกับฉบับที่ตกไปในรัฐบาลก่อน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งสองท่านได้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวต่อสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากเป็นร่างพระราชบัญญัติที่เกี่ยวด้วยการเงิน รัฐบาลได้ขอรับร่างพระราชบัญญัตินี้ไปพิจารณาก่อนภายในกำหนดเวลา 6 เดือน ในขั้นตอนหาข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาของรัฐบาลนี้ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้มีหนังสือลงวันที่ 9, 10 และ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2519 แจ้งให้กระทรวงศึกษาธิการเสนอความเห็นเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่งของนายประมวล กุลมาตย์และนายเปลื้อง พลโยธา
กระทรวงศึกษาธิการได้มีคำสั่งที่ 380/2519 ลงวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2519 ตั้งคณะกรรมการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่ง มีกรรมการมหาเถรสมาคมรูปหนึ่งร่วมเป็นกรรมการอยู่ด้วย เรื่องพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์จึงถูกส่งเข้าสู่การพิจารณาของมหาเถรสมาคม
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2519 มหาเถรสมาคมประชุมครั้งที่ 21/2519 ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่ง และได้มีมติตั้งคณะกรรมการคณะหนึ่ง จำนวน 15 ท่าน เพื่อพิจารณาเรื่องนี้โดยเฉพาะ
ต่อมาในวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2519 นายประจวบ คำบุญรัตน์ รองอธิบดีกรมการศาสนา ได้เสนอความเห็นถวายมหาเถรสมาคมว่า สมควรยกร่างพระราชบัญญัติฉบับใหม่ในรูปของพระราชบัญญัติการศึกษาสงฆ์ที่มีเนื้อหาครอบคลุมการศึกษาสงฆ์ทุกระดับ
มหาเถรสมาคมได้ประชุมครั้งพิเศษในวันจันทร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2519 มีมติให้กรมการศาสนาดำเนินการเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งสงฆ์เสนอกระทรวงศึกษาธิการเพื่อตราเป็นพระราชบัญญัติต่อไป ต่อมาในวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 คณะปฏิรูปการปกครองได้ยึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาลหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช การดำเนินการเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งสงฆ์จึงชะงักไป
ในพ.ศ. 2520 สมัยรัฐบาลที่ นายธานินทร์ กรัยวิเชียร เป็นนายกรัฐมนตรี ดร.ภิญโญ สาธร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเห็นว่า พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งสงฆ์ควรให้คณะสงฆ์ดำเนินการจัดทำ จึงมอบหมายให้กรมการศาสนานำร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวกับการศึกษาของสงฆ์ทุกฉบับซึ่งรวมถึงร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่งเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณาเลือกหรือแก้ไขเพิ่มเติมหรือร่างขึ้นใหม่เพียงฉบับเดียว
มหาเถรสมาคมได้พิจารณาในคราวประชุมครั้งที่ 3/2520 เมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2520 มีมติเลือกร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งสงฆ์เพื่อดำเนินการต่อไป ในที่สุดมหาเถรสมาคมได้ประชุมครั้งที่ 11/2520 เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2520 รับหลักการและเสนอร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งสงฆ์ให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการ
กระทรวงศึกษาธิการได้นำร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เสนอในการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2520 คณะรัฐมนตรีมีมติรับหลักการแล้วส่งต่อให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาแก้ไขจากที่มหาเถรสมาคมร่างมา 17 มาตรา เพิ่มเป็น 27 มาตราแล้ว ส่งกลับมาที่มหาเถรสมาคม ที่ประชุมมหาเถรสมาคมพิจารณาเห็นว่ามีการแก้ไขมาก จึงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคณะหนึ่ง จำนวน 9 ท่านเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งสงฆ์ที่คณะกรรมการกฤษฎีกาแก้ไข ร่างพระราชบัญญัตินี้ค้างการพิจารณาของมหาเถรสมาคมนานถึง 3 ปี จนกระทั่งสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีมีหนังสือลงวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2523 แจ้งกระทรวงศึกษาธิการว่า สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้มีหนังสือเตือนเรื่องการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งสงฆ์ 2 ครั้งแล้วยังไม่ได้คำตอบ จึงเห็นสมควรระงับการพิจารณา
ยุครับรองปริญญาบัตรและสถานะของมหาวิทยาลัย
ต่อมาในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2526 สมัยรัฐบาลของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายชำเลือง วุฒิจันทร์ อธิบดีกรมการศาสนา ได้นำเรื่องการรับรองวุฒิเปรียญธรรม 9 ประโยคและปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่งเสนอกระทรวงศึกษาธิการเพื่อพิจารณาดำเนินการ นายสมาน แสงมะลิ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้เสนอเรื่องนี้ต่อที่ประชุมอธิบดี เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2526 ที่ประชุมอธิบดีมีมติเห็นชอบในหลักการที่จะรับรองวุฒิเปรียญธรรม 9 ประโยคและปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่ง และมอบหมายให้กรมการศาสนาดำเนินงานโดยให้ประสานงานกับทบวงมหาวิทยาลัยและสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชพลเรือนเสนอว่า ก่อนที่จะรับรองวุฒิเปรียญธรรม 9 ประโยคและปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่ง กระทรวงศึกษาธิการควรเทียบวุฒิเปรียญธรรมประโยคต่างๆ กับวุฒิการศึกษาตามหลักสูตรมัธยมศึกษาในระบบโรงเรียน จากนั้นก็ได้มีประกาศกระทรวงศึกษาธิการลง วันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2526 เรื่องการเทียบความรู้วุฒิเปรียญธรรม ดังนี้ คือ เปรียญธรรม 3 ประโยค (ป.ธ.3) เทียบเท่ามัธยมศึกษาตอนต้น (ม.3) และเปรียญธรรม 5 ประโยค (ป.ธ.5) เทียบเท่ามัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6)
ต่อมาในวันที่ 9 กันยายน 2526 นายสวัสดิ์ คำประกอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เสนอร่างพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนาเพื่อเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้คล้ายกับพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการทหาร พ.ศ. 2497 และพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการตำรวจ พ.ศ. 2517 สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้คือกำหนดให้เปรียญธรรม 9 ประโยคและปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่งมีศักดิ์และสิทธิเท่าปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยทั่วไป
สำนักงานเลขาธิการรัฐสภาได้ส่งร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณาล่วงหน้า สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ส่งเรื่องให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2526 และกระทรวงศึกษาธิการส่งเรื่องต่อให้กรมการศาสนาพิจารณา เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2526
กรมการศาสนาพิจารณาแก้ไขร่างพระราชบัญญัติแล้วส่งเรื่องกลับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการได้ทำเรื่องเสนอต่อไปยังสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2526
ในวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2527 คณะรัฐมนตรีซึ่งมี พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา พ.ศ....ของกระทรวงศึกษาธิการแล้วมีมติรับหลักการและให้ส่งคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาต่อไป
ในวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2527 สมาคมศิษย์เก่ามหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้จัดประชุมสัมมนาเรื่องสถานภาพของมหาวิทยาลัยสงฆ์ ณ สำนักธรรมวิจัยโดยอาราธนาพระราชวรมุนี (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) บรรยายเรื่อง “ความเป็นมาของพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์” ที่ประชุมได้เสนอให้ตั้งคณะกรรมการประสานงานของพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ขึ้นมาคณะหนึ่ง มีนายจำนงค์ ทองประเสริฐ เป็นประธาน
คณะกรรมการชุดนี้ประชุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2527 ที่ประชุมแสดงความห่วงใยว่าร่างพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนาที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบนั้นไม่มีการรับรองสถานภาพมหาวิทยาลัยสงฆ์สาระสำคัญอยู่ที่การรับรองวุฒิเปรียญธรรม 9 ประโยคและปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่ง ที่ประชุมได้รับทราบมติของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ว่าร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ไม่สามารถรับรองสถานภาพของมหาวิทยาลัยสงฆ์เพราะมีเรื่องการรับรองวุฒิเปรียญธรรม 9 ประโยคพ่วงเข้ามา
ในวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2527 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 11/2527 ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา พ.ศ....ซึ่งมี 4 ฉบับคือร่างพระราชบัญญัติที่เสนอโดยรัฐบาล นายสวัสดิ์ คำประกอบ นายนิยม วรปัญญา นายณรงค์ นุ่นทอง แล้วมีมติรับหลักการและตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญคณะหนึ่งเพื่อพิจารณาโดยใช้ร่างของรัฐบาลเป็นหลัก คณะกรรมาธิการวิสามัญจำนวน 25 ท่าน มีนายสัมพันธ์ ทองสมัคร เป็นประธาน นายชำเลือง วุฒิจันทร์ เป็นเลขานุการ และมีนายจำนงค์ ทองประเสริฐ นายสิริ เพ็ชรไชย นายมาณพ พลไพรินทร์ ร่วมเป็นกรรมาธิการในคณะนี้ คณะกรรมาธิการใช้เวลาพิจารณาเพียง 1 เดือนก็เสนอสภาผู้แทนราษฎร
ในวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2527 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 2/2527 (สมัยวิสามัญ) ได้ลงมติเห็นชอบในวาระที่ 2 และ 3 แล้วให้เสนอต่อวุฒิสภาเพื่อพิจารณา
ในวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2527 วุฒิสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบผ่านร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ พระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธยในร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ โดยมีพลเอกประจวบ สุนทรางกูร รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการเมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2527 พระราชบัญญัติฉบับนี้มี 13 มาตรา ประกาศในราชกิจจานุเบกษาฉบับพิเศษ เล่ม 101 ตอนที่ 140 วันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2527
สาระสำคัญของพระราชบัญญัติฉบับนี้คือรับรองวิทยฐานะเปรียญธรรม 9 ประโยค และปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่งให้มีศักดิ์และสิทธิเท่าปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยทั่วไปและให้มีคณะกรรมการการศึกษาของคณะสงฆ์เป็นผู้ควบคุมดูแลการจัดการศึกษามหาวิทยาลัยสงฆ์
ยุคพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จการศึกษาวิชาพระพุทธศาสนา พ.ศ. 2527 ทำให้มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเติบโตอย่างรวดเร็ว จากที่เคยมีวิทยาเขตเพียงหนึ่งแห่งใน พ.ศ. 2527 ได้มีวิทยาเขตเพิ่มขึ้นเป็น 9 แห่งใน พ.ศ. 2534 มหาวิทยาลัยตั้งบัณฑิตวิทยาลัยใน พ.ศ. 2531 และเปิดการศึกษาระดับปริญญาโทในปีเดียวกัน ปัญหาที่ตามก็คือการที่มหาวิทยาลัยไม่มีสถานภาพเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายทำให้การประสานงานกับวิทยาเขตหละหลวม ทั้งในด้านบริหารทั่วไปและการบริหารงบประมาณ นอกจากนี้ พระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จการศึกษาวิชาการพระพุทธศาสนา พ.ศ. 2527 รับรองวิทยฐานะเฉพาะปริญญาตรี ไม่รับรองวิทยฐานะปริญญาโทที่เปิดสอนแล้วนั้น มหาวิทยาลัยจึงไม่สามารถขยายการศึกษาถึงระดับปริญญาเอก
เพื่อแก้ไขข้อขัดข้องดังกล่าวมา ผู้บริหารมหาวิทยาลัยจึงเห็นพ้องต้องกันว่าจะดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งสถานภาพเป็นมหาวิทยาลัยที่สมบูรณ์ตามกฎหมายจุดเริ่มต้นแห่งความพยายามที่เป็นรูปธรรมคือการกำหนดนโยบายไว้ในแผนพัฒนามหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ระยะที่ 7 (พ.ศ. 2535-2539) ว่า “พัฒนามหาวิทยาลัยให้มีสถานภาพสมบูรณ์ตามกฎหมาย” และมีมาตรารองรับว่า “ดำเนินการให้ตราพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย” แผนพัฒนามหาวิทยาลัยนี้เริ่มใช้ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2535 การดำเนินการที่เป็นระบบเพื่อให้ได้มาซึ่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ยกใหม่จึงเริ่มต้นในปีนั้น
วันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2535 นายปราโมทย์ สุขุม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการของรัฐบาลที่มีนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางพร้อมคณะมาเยี่ยมชมกิจการของมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เพื่อรับทราบปัญหาเกี่ยวกับการบริหารงานของมหาวิทยาลัยด้วยตนเอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้ประชุมร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัยนำโดยพระสุเมธาธิบดี (บุญเลิศ ทตฺตสุทฺธิ) นายกสภามหาวิทยาลัย และพระอมรเมธาจารย์ (นคร เขมปาลี) อธิการบดี ที่ตำหนักสมเด็จ วัดมหาธาตุฯ ผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัยได้ชี้แจงให้ทราบถึงปัญหาสำคัญที่มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยประสบอยู่ในขณะนั้น คือปัญหาเกี่ยวกับสถานภาพของมหาวิทยาลัยที่ยังไม่เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายและปัญหาหลายอย่างที่ตามมา โดยเฉพาะปัญหาด้านงบประมาณและการขยายการศึกษาให้สูงถึงระดับปริญญาโทและปริญญาเอก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการรับว่าจะสนับสนุนการดำเนินการเรื่องพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ต่อมาในวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2535 คณะกรรมาธิการศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม นำโดยนายอำนวย สุวรรณคีรี ประธานกรรมาธิการ และนายดุสิต โสภิตชา รองประธานกรรมาธิการ ได้มาเยี่ยมชมกิจการของมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และประชุมร่วมกับนายกสภามหาวิทยาลัย อธิการบดี รองอธิการบดี และคณบดี ที่ตำหนักสมเด็จ วัดมหาธาตุฯ คณะกรรมาธิการรับว่าจะดำเนินการเรื่องพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2536 มหาวิทยาลัยได้มีคำสั่งที่ 149/2536 แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จำนวน 11 ท่าน มีพระอมรเมธาจารย์ อธิการบดี เป็นประธาน คณะกรรมการได้ประชุมครั้งแรก ณ ตำหนักสมเด็จ วัดมหาธาตุฯ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2536
คณะกรรมาธิการศาสนาศิลปะและวัฒนธรรมมอบหมายให้นายประเทือง เครือหงศ์ เลขานุการคณะกรรมาธิการยกร่างพระราชบัญญัติสถาบันมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยและมหามกุฏราชวิทยาลัย มี 75 มาตรา สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ มหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่งมีสภามหาวิทยาลัยร่วมกันเพียงสภาเดียวเรียกว่า สภาสถาบันเหมือนกับสถาบันราชภัฏ 36 แห่งที่มีสภาสถาบันเพียงสภาเดียว เมื่อยกร่างเสร็จแล้ว นายอำนวย สุวรรณคีรี ได้ส่งร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ถึงนายปราโมทย์ สุขุม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2536 และได้มีหนังสือลงวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2536 แจ้งให้มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยทราบเรื่องร่างพระราชบัญญัตินี้เช่นกัน
ในวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2536 คณะผู้บริหารระดับสูงของมหามกุฏราชวิทยาลัย ประกอบด้วย พระเทพวราจารย์ พระราชธรรมนิเทศ พระกวีวรญาณ และพระอมรโมลี มาประชุม ณ ตำหนักสมเด็จ วัดมหาธาตุฯ ร่วมกับคณะผู้บริหารระดับสูงของมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยนำโดย พระสุเมธาธิบดี พระอมรเมธาจารย์ พระเมธีธรรมาภรณ์ พระครูวรกิจจาภรณ์ และพระมหาสมชัย กุสลจิตฺโต เพื่อกำหนดแนวทางดำเนินการเกี่ยวกับพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ร่วมกัน ที่ประชุมมีมติให้ยกร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองฉบับเหมือนกับที่เคยผ่านสภาผู้แทนราษฎรเมื่อ พ.ศ. 2518
ต่อมา ในวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2536 คณะผู้บริหารมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยและคณะผู้บริหารมหามกุฏราชวิทยาลัยได้เข้าประชุมร่วมกับคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ที่กรมการศาสนา มีนายปราโมทย์ สุขุม เป็นประธาน เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถาบันที่คณะกรรมาธิการได้ยกร่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ที่ประชุมมีมติให้ยกร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์แยกกันเป็นสองฉบับ คือ ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยและร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ในวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2536 คณะผู้บริหารมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้ไปร่วมประชุมกับคณะผู้บริหารมหามกุฏราชวิทยาลัยที่วัดบวรนิเวศวิหาร เพื่อพิจารณากำหนดแนวทางร่วมกันในการผลักดันร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์
ในวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2536 นายประเทือง เครือหงศ์ เลขานุการคณะกรรมาธิการการศาสนาศิลปะและวัฒนธรรมได้ส่งร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์สองฉบับ คือ ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยและร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยที่ปรับปรุงแก้ไขแล้วถึงนายปราโมทย์ สุขุม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ในวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2536 พระเมธีธรรมาภรณ์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ นำเรื่องปรึกษาสภามหาวิทยาลัยในการประชุมครั้งที่ 4/2516 เรื่องตำแหน่งทางวิชาการที่จะกำหนดในพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ สภามหาวิทยาลัยมีมติให้ใช้แบบสากลนิยม คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์
ในวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2536 นายปราโมทย์ สุขุม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้ส่งร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองฉบับถึงนายสัมพันธ์ ทองสมัคร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป นายสัมพันธ์ ทองสมัครได้ทำบันทึกถึงนายโกวิท วรพิพัฒน์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการว่า เรื่องนี้สำคัญละเอียดอ่อนควรขอความเห็นจากคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้ทำบันทึกถึง นายสุรัฐ ศิลปอนันต์ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการให้นิมนต์และเชิญประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เช่น ผู้แทนมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ผู้แทนมหามกุฏราชวิทยาลัย นายอำนวย สุวรรณคีรี อธิบดีกรมการศาสนา อธิบดีกรมวิชาการ อธิบดีกรมสามัญศึกษา เลขาธิการการประถมศึกษาแห่งชาติ ในวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2536 เพื่อพิจารณาเรื่องพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์โดยเฉพาะผู้แทนมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้คือ พระอมรเมธาจารย์ อธิการบดี พระเมธีธรรมาภรณ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ พระครูศรีวรนายก รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร และพระมหาโกวิทย์ สิริวณฺโณ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการวิทยาเขต
ในวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2536 นายอำนวย สุวรรณคีรี ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เสนอร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยและร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยที่คณะกรรมาธิการศาสนาศิลปะและวัฒนธรรมยกร่างไว้นั้นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร
ประธานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองฉบับเป็นร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวด้วยการเงินเพราะรัฐต้องจัดสรรและโอนงบประมาณรายจ่ายของแผ่นดินมาดำเนินกิจการมหาวิทยาลัยสงฆ์ จึงสั่งการให้ส่งเรื่องไปยังนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณารับรอง เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจึงส่งร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองฉบับถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2536 เพื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาล่วงหน้า
ในวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2536 เลขาธิการคณะรัฐมนตรีมีหนังสือถามความเห็นเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ไปที่กระทรวงศึกษาธิการและทบวงมหาวิทยาลัย ทบวงมหาวิทยาลัยมีหนังสือตอบลงวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2536
ในวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2536 นายปราโมทย์ สุขุม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้เสนอร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์สองฉบับต่อเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อถือเป็นร่างของรัฐบาล
ในวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2536 นายวิษณุ เครืองาม เลขาธิการคณะรัฐมนตรีมีหนังสือถามความเห็นเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ไปที่ทบวงมหาวิทยาลัย สำนักงบประมาณกระทรวงการคลังและสำนักนายกรัฐมนตรี
ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2536 กรมการศาสนาทำหนังสือแจ้งปลัดกระทรวงศึกษาธิการว่า กรมการศาสนาได้นำเรื่องพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่งเสนอที่ประชุมมหาเถรสมาคมและที่ประชุมคณะกรรมการการศึกษาของคณะสงฆ์ทุกฝ่ายเห็นชอบในหลักการของร่างพระราชบัญญัติทั้งสองฉบับในเดือนตุลาคมนั่นเอง กระทรวงศึกษาธิการแจ้งเลขาธิการคณะรัฐมนตรีว่า ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองฉบับมีความเหมาะสมชอบด้วยหลักการและเหตุผล
ในวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2536 มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง เพิ่มจำนวนกรรมการเป็น 21 ท่าน มีพระอมรเมธาจารย์ อธิการบดีเป็นประธาน มีพระเมธีธรรมาภรณ์และพระครูศรีวรนายก เป็นรองประธาน ทำหน้าที่ติดต่อประสานงานให้ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยผ่านการพิจารณาของรัฐสภา
ในวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2536 นายวิษณุ เครืองาม เลขาธิการคณะรัฐมนตรีมีหนังสือถึงนายบัญญัติ บรรทัดฐาน รองนายกรัฐมนตรี สรุปความว่า ทบวงมหาวิทยาลัย สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง และสำนักนายกรัฐมนตรีพิจารณาแล้วเห็นควรสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ โดยทบวงมหาวิทยาลัยเสนอว่ามหาวิทยาลัยสงฆ์ควรอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของทบวงมหาวิทยาลัย
ในวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2536 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองฉบับ คณะรัฐมนตรีตั้งข้อสังเกตว่า การจะให้มหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่งบริหารด้วยตนเองตามระบบเดิมจะมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกว่าการกำหนดให้อยู่ภายใต้ระบบราชการหรือไม่ และเป็นการสมควรหรือไม่ที่มหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่งจะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของทบวงมหาวิทยาลัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการขอถอนร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ไปแก้ไขปรับปรุงใหม่ก่อนที่จะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง
ในวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2536 เลขาธิการคณะรัฐมนตรี มีหนังสือแจ้งมติคณะรัฐมนตรีไปที่ทบวงมหาวิทยาลัยและกระทรวงศึกษาธิการเพื่อให้พิจารณาตกลงเรื่องหน่วยงานที่จะกำกับดูแลมหาวิทยาลัยสงฆ์
ในวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2537 คณะผู้บริหารระดับสูงของมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มีอธิการบดีเป็นประธาน ได้ประชุม ณ ตำหนักสมเด็จ วัดมหาธาตุ พิจารณาสาเหตุที่ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ไม่ผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ผู้บริหารระดับสูงมีมติให้ส่งผู้แทนมหาวิทยาลัยไปประสานงานกับรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการอย่างใกล้ชิด
ในวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2537 กรมการศาสนาได้เสนอคณะกรรมการการศึกษาของคณะสงฆ์ในการประชุมครั้งที่ 1/2537 ให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการยกร่างหรือปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา พ.ศ. 2527 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ดำเนินการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการดังกล่าว จำนวน 12 ท่าน
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2537 คณะผู้บริหารมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยนำโดยอธิการบดีได้เข้าพบนายสัมพันธ์ ทองสมัคร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเพื่อหาทางออกให้กับร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ ในการพบครั้งนี้ได้มีข้อตกลงให้มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยและมหามกุฏราชวิทยาลัย ส่งผู้แทนแห่งละ 5 ท่าน ไปประชุมปรึกษาหารือกับผู้แทนจากกระทรวงศึกษาธิการและผู้แทนจากทบวงมหาวิทยาลัยเพื่อตกลงในประเด็นเรื่องการกำกับดูแลมาหาวิทยาลัยสงฆ์
วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2537 สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในฐานะองค์ประธานเสนอคณะกรรมการการศึกษาของคณะสงฆ์ มีพระบัญชาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการยกร่างหรือปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา พ.ศ. 2527 จำนวน 12 ท่าน มีพระราชธรรมนิเทศ เป็นประธาน และมีนายมาณพ พลไพรินทร์ ผู้อำนวยการกองศาสนาศึกษา เป็นกรรมการและเลขานุการ
ในวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2537 ผู้แทนมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย 5 รูป นำโดยอธิการบดีและผู้แทนมหามงกุฏราชวิทยาลัย 5 รูป ไปประชุมร่วมกับคณะอนุกรรมการยกร่างหรือปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา พ.ศ. 2527 ที่กรมการศาสนา ที่ประชุมมีมติให้กระทรวงศึกษาธิการมีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการและผู้แทนมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งละ 5 รูปนั้นเป็นกรรมการชุดใหญ่มีหน้าที่พิจารณาพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์และพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ เลขานุการที่ประชุมยังได้เสนอว่า “ควรจะมีการแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา พ.ศ. 2527 เป็นหลัก เพราะนโยบายของท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มหาวิทยาลัยสงฆ์จะไม่มีสองมหาวิทยาลัยอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพราะขณะนี้จะมีมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่งโลกเกิดขึ้นโดยตั้งงบประมาณไว้แล้ว”
ต่อมา ทางฝ่ายเลขานุการในคณะอนุกรรมการยกร่างหรือปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา พ.ศ. 2527 ได้ยกร่างพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา พ.ศ.....ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา พ.ศ. 2527 ร่างพระราชบัญญัติฉบับแก้ไขเพิ่มเติมนี้กำหนดให้ผู้สำเร็จเปรียญธรรม 9 ประโยคมีวิทยฐานะปริญญาเอก พร้อมกับรับรองวิทยฐานะปริญญาโทและปริญญาเอกในมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่ง เลขานุการในคณะอนุกรรมการชุดนี้ได้มีหนังสือเชิญอนุกรรมการไปประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าวในวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2537
เมื่อข่าวเรื่องร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้แพร่ออกไป ผู้บริหารมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเห็นว่าร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้จะทำให้ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์หมดความหมาย อธิการบดีจึงมีหนังสือแจ้งให้เจ้าหน้าที่และคณาจารย์ทั้งหมดเข้าร่วมเสวนาเรื่องพระราชบัญญัติมหาวิทยังสงฆ์ ณ ศูนย์วัดศรีสุดาราม ในวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2537 มหาวิทยาลัยได้เชิญนายอำนวย สุวรรณคีรี ประธานกรรมาธิการศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม และนายดุสิต โสภิตชา รองประธานกรรมาธิการศาสนาศิลปะและวัฒนธรรมมาเป็นวิทยากรบรรยายนำ ผู้เข้าร่วมเสวนามีมติยืนยันให้เสนอร่างพระราชบัญญัติมหามกุฏราชวิทยาลัยและร่างพระราชบัญญัติมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยกลับเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
ในวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2537 ผู้แทนมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่งพร้อมด้วยผู้แทนทบวงมหาวิทยาลัย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติสำนักงานข้าราชการพลเรือน สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และผู้แทนกรมการศาสนาไปประชุมร่วมกับคณะกรรมาธิการศาสนาศิลปะและวัฒนธรรมที่รัฐสภาตามหนังสือเชิญของประธานคณะกรรมาธิการ ที่ประชุมมีมติให้รีบเสนอร่างพระราชบัญญัติมหามกุฏราชวิทยาลัยและร่างพระราชบัญญัติมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพราะเวลาได้ล่วงเลยมานานแล้ว และเห็นควรให้มหาวิทยาลัยสงฆ์อยู่ในความควบคุมดูแลชองมหาเถรสมาคมและกระทรวงศึกษาธิการตามที่เคยเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ประชุมมีมติให้ผู้เกี่ยวข้องประชุมร่วมกันอีกครั้งหนึ่งที่วัดบวรนิเวศวิหารในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2537
ในวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2537 ผู้แทนกรมการศาสนา (นายศิริ ศิริบุตร รองอธิบดีกรมการศาสนา) ได้มีหนังสือรายงานผลการประชุมที่รัฐสภาต่อนายสัมพันธ์ ทองสมัคร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีได้ทำบันทึกท้ายหนังสือว่ามอบให้ ดร.รุ่ง แก้วแดง อธิบดีกรมการศึกษานอกโรงเรียน เป็นผู้ปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ ในฐานะที่ ดร.รุ่ง แก้วแดง เป็นประธานคณะทำงานนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้ทำบันทึกแยกต่างหาก มอบหมายงานปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์แก่ ดร.รุ่ง แก้วแดงว่า
“เรียนคณะทำงาน
ด้วย ครม. ได้ให้ศธ. มาปรับ พ.ร.บ. จัดการศึกษาสงฆ์ ผมมอบเรื่องให้กรมการศาสนาไปนานแล้ว ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ขอดร.รุ่ง ได้ปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ. ดังกล่าวให้ด้วย เมื่อพิจารณาแก้ไขแล้วเสร็จ จะได้สัมมนาหารือร่วมกันอีกสักครั้งก่อนเสนอ ครม.”
ในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2537 ผู้แทนมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่งพร้อมด้วยผู้แทนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประชุมร่วมกับคณะกรรมาธิการศาสนาศิลปะและวัฒนธรรมที่วัดบวรนิเวศวิหารเพื่อพิจารณาปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์โดยเปรียบเทียบกับร่างพระราชบัญญัติสถาบันราชภัฏ
ในวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2537 ดร.รุ่ง แก้วแดง ได้เชิญผู้แทนมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่ง ประธานกรรมาธิการศาสนาศิลปะและวัฒนธรรมและผู้เกี่ยวข้องประชุมครั้งแรกที่กรมการศึกษานอกโรงเรียน เพื่อพิจารณาปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ ในการประชุมครั้งนี้ ดร.รุ่ง ได้กำหนดประเด็นปัญหาไว้ 25 ข้อ เพื่อหาคำตอบให้ตรงกันก่อนว่ามหาวิทยาลัยสงฆ์ต้องการอะไรเมื่อได้ประเด็น คำตอบตรงกันทุกฝ่ายแล้วจึงใช้เป็นหลักการประกอบการร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ พระเมธีธรรมาภรณ์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) เป็นผู้ชี้แจงคำตอบในประเด็นปัญหาเหล่านั้นในนามของมหาวิทยาลัยสงฆ์
ดร.รุ่ง แก้วแดง ได้ประชุมครั้งที่ 2 ในวันที่ 14 กรกฎาคม และครั้งที่ 3 ในวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2537 ผลของการประชุมทำให้ได้หลักการและคำอธิบายประกอบร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์จำนวน 22 ข้อซึ่งที่ประชุมใช้เป็นกรอบในการปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ ร่างพระราชบัญญัติที่ปรับปรุงใหม่นี้ได้ยึดแนวของพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พ.ศ. 2533 และพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ พ.ศ. 2535
ในวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2537 ดร.รุ่ง แก้วแดง เสนอร่างพระราชบัญญัติมหามกุฏราชวิทยาลัยและร่างพระราชบัญญัติมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยที่ได้ปรับปรุงใหม่ต่อที่ประชุมอธิบดีของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ประชุมเห็นชอบตามเสนอ
ต่อมาในวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2537 รัฐมนตรีว่ากระทรวงศึกษาธิการได้ส่งร่างพระราชบัญญัติทั้งสองฉบับถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้มีหนังสือถามความเห็นไปยังกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมและสำนักงบประมาณในวันที่ 8 กันยายน พ.ศ 2537
สำนักงบประมาณทำหนังสือตอบลงวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2537 ยืนยันการสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์
ในวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2537 กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมทำหนังสือตอบเลขาธิการคณะรัฐมนตรีว่า พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ไม่ต้องอยู่ภายใต้บังคับกฎหมายแรงงาน
วันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2538 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยและร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และให้ส่งคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจาราณา
วันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2538 เลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งรางพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา
ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538 มีการประชุมคณะกรรมการกฤษฎีกาชุดเล็กเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์เป็นครั้งแรก มีนางสาวพวงเพชร สารคุณ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นประธานที่ประชุมมีผู้แทนมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย 3 รูป ไปชี้แจง คือ พระอมรเมธาจารย์ พระเมธีธรรมาภรณ์ และพระมหาสุรพล สุจริโต ดร.รุ่ง แก้วแดงเข้าชี้แจงในนามกระทรวงศึกษาธิการพร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานต่างๆ คือ สำนักงบประมาณ กรมธนารักษ์ กรมบัญชีกลาง กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สำนักงานส่งเสริมตุลาการ และสำนักงานปลัดทบวงมหาวิทยาลัย
คณะกรรมการกฤษฎีกาชุดนี้ประชุมครั้งที่ 2 ในวันที่ 3 มีนาคม และประชุมครั้งที่ 3 ในวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2538
ในวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2538 มีประกาศยุบสภา รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชวน หลีกภัยได้สิ้นสุดลง ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองฉบับจึงตกไปในขณะที่ยังค้างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อรัฐบาลที่นายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกรัฐมนตรีเข้ามาบริหารประเทศมหาวิทยาลัยเริ่มดำเนินการเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ต่อไปด้วยการแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการเกี่ยวกับพระราชบัญญัติมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยชุดใหม่ มีพระเมธีธรรมาภรณ์เป็นประธาน พระครูศรีวรนายกเป็นรองประธาน และพระมหาสุรพล สุจริโต เป็นกรรมการและเลขานุการ เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2538
ในวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2538 คณะสังคมศาสตร์ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จัดอภิปรายเรื่อง “แนวทางการสานต่อ พ.ร.บ. มหาวิทยาลัยสงฆ์” ผู้ร่วมอภิปรายประกอบด้วย นายสุขวิช รังสิตพล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ ดร.รุ่ง แก้วแดง นายอำนวย สุวรรณคีรี ร้อยโทกุเทพ ใสกระจ่าง และนายจำนงค์ สวมประคำ โดยมีพระเมธีธรรมาภรณ์ เป็นผู้ดำเนินการอภิปราย คณะวิทยากรและผู้ดำเนินการอภิปรายได้เสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการสานต่อพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ นายสุขวิช รังสิตพล ให้ความมั่นใจแก่ที่ประชุมว่า จะถือเรื่องพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์เป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงศึกษาธิการ
ภายหลังการอภิปรายในวันนั้น พระเมธีธรรมาภรณ์ได้นัดประชุมคณะกรรมการดำเนินการเกี่ยวกับพระราชบัญญัติมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเป็นครั้งแรกเพื่อกำหนดแนวทางการประสานงานเรื่องพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์
ในวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2538 กระทรวงศึกษาธิการส่งร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองฉบับถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
ผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่งได้เข้าพบ ร.ต.ท. เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2538 และได้เข้าพบนายสุขวิช รังสิตพล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2538 เพื่อสอบถามความคืบหน้าของพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์
เลขาธิการคณะรัฐมนตรีมีหนังสือลงวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2538 ถึงเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาให้เร่งพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองฉบับที่ค้างการพิจารณาในสมัยรัฐบาลก่อน
ในวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2538 คณะกรรมการกฤษฎีกาประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ต่อจากที่ค้างไว้จนครบทุกมาตรา
ต่อมาในวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2538 ที่ประชุมคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา พ.ศ. 2527 เพื่อให้สอดคล้องกับร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์
ในวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2538 เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกามีหนังสือถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรายงานผลการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองฉบับและร่างพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม
ในวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2539 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และร่างพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม
ในวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2539 สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี มีหนังสือถึงนายโภคิน พลกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่ให้พิจารณาประเด็นที่ว่ามหาวิทยาลัยสงฆ์ควรมีอำนาจกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาและการวิจัยโดยมีรัฐบาลค้ำประกันหรือไม่
ในวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2539 คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ประกอบด้วยพระครูศรีวรนายก พระมหาสุรพล สุจริโต พระมหาไพเราะ ฐิตสีโล พระมหาไสว โชติโก และดร.พรรษา พ่วงแตง ได้เข้าพบนายบุญเอื้อ ประเสริฐสุวรรณ ประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อขอให้เร่งนำร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์บรรจุในวาระการประชุมของสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาโดยเร็ว
ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2539 คณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎรมีมติสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประธานคณะกรรมาธิการมีหนังสือแจ้งให้พระสุเมธาธิบดี นายกสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยทราบในวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2539
ในวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2539 นายโภคิน พลกุล ได้เพิ่มประเด็นที่ว่าให้กระทรวงการคลังค้ำประกันหนี้ต่างๆ ของมหาวิทยาลัยสงฆ์และได้แจ้งไปยังประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อดำเนินการต่อไป
ในวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2539 นายปองพล อดิเรกสาร ประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรได้นัดประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ที่ทำเนียบรัฐบาล มีผู้แทนมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยไปร่วมประชุมชี้แจง 3 รูป คือ พระราชรัตนโมลี พระเมธีธรรมาภรณ์ และพระมหาสุรพล สุจริโต
ในวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2539 นายบรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีมีหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อส่งร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และร่างพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมเสนอสภาผู้แทนราษฎร
ในวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2539 คณะผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่งได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เพื่อกราบทูลถวายรายงานความคืบหน้าของการเสนอร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองฉบับ สมเด็จพระสังฆราชได้มีลิขิตถึงนายบรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรี นายบุญเอื้อ ประเสริฐสุวรรณ ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายชวน หลีกภัย ผู้นำฝ่ายค้าน และนายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานวุฒิสภา เพื่อให้เร่งดำเนินการเกี่ยวกับ พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองฉบับจนทันประกาศใช้ในปีกาญจนาภิเษก
ในวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2539 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้มีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองฉบับ และร่างพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ พร้อมด้วยร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์อีก 3 ร่างที่นายอำนวย สุวรรณคีรี นายไพจิต ศรีวรขาน และพันตำรวจเอกสุทธี คะสุวรรณ เป็นผู้เสนอ ที่ประชุมได้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแปรญัตติโดยให้ถือร่างของรัฐบาลเป็นหลัก
คณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ประกอบด้วยกรรมาธิการจำนวน 27 ท่าน มี ร.ต.ท. เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ เป็นประธาน นายอำนวย สุวรรณคีรี นายไพจิต ศรีวรขาน และนายดุสิต โสภิตชาเป็นรองประธาน มีกรรมการที่เป็นศิษย์เก่ามหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย 3 ท่าน คือ นายจำนงค์ ทองประเสริฐ ร้อยโทกุเทพ ใสกระจ่าง และนายสนิท ศรีสำแดง ผู้บริหารมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมประชุมชี้แจงในคณะกรรมาธิการ คือ พระเมธีธรรมาภรณ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ และพระมหาสุรพล สุจริโต รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและวางแผน คณะกรรมาธิการประชุมรวม 5 ครั้ง คือ
- ครั้งที่ 1 วันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2539
- ครั้งที่ 2 วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2539
- ครั้งที่ 3 วันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2539
- ครั้งที่ 4 วันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2539
- ครั้งที่ 5 วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2539
ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้บรรจุเรื่องร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จเรียบร้อยแล้วเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2539 เรื่องอยู่ในอันดับที่ 4 แต่ยังไม่ทันได้รับการพิจารณาก็ปิดประชุมเสียก่อน
ในวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2539 ได้มีพระราชกฤษฎีกายุบสภา รัฐบาลซึ่งมีนายบรรหาร ศิลปอาชา ได้สิ้นสุดลง ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์จึงตกไป
ต่อมาในวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2539 สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้มีหนังสือถึงกรมการศาสนาว่า “ถ้ามีความประสงค์จะดำเนินงานต่อ ให้ยืนยันร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์และเสนอไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง
ในวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2539 กรมการศาสนามีหนังสือถึงปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ยืนยันร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองฉบับ เพื่อเสนอนายสุขวิช รังสิตพล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในคณะรัฐบาลที่มีพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี พิจารณาลงนามในหนังสือแจ้งเลขาธิการคณะรัฐมนตรีต่อไป
ในวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2539 รัฐมนตรีว่ากระทรวงศึกษาธิการ ได้มีหนังสือถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ยืนยันร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองฉบับ
ในวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2539 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ และมีมติให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรในวันเดียวกันนั่นเอง โดยไม่ต้องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาอีก
ในวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2540 หลังจากที่ได้บรรจุเรื่องร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์เข้าสู่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรแล้ว คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร มีมติให้เลื่อนระเบียบวาระเรื่องพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ขึ้นมาพิจารณาในอันดับที่ 6.3, 6.4 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 8 ธันวาคม โดยมีผู้เสนอร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสอง คือ คณะรัฐมนตรี นายอำนวย สุวรรณคีรีและคณะ นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ และคณะ นายเปรมศักดิ์ เพียยุระและคณะ
ในวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2540 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองฉบับและร่างพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา (ฉบับที่ 2) และลงมติด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์รับหลักการร่างพระราชบัญญัติทั้งสามฉบับ ที่ประชุมได้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแปรญัตติโดยให้ถือร่างของรัฐบาลเป็นหลัก
คณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ประกอบด้วยกรรมาธิการจำนวน 27 ท่าน มีนายสังข์ทอง ศรีธเรศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธาน นายอำนวย สุวรรณคีรี ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ และนายดุสิต โสภิตชา เป็นรองประธาน มีกรรมการที่เป็นศิษย์เก่ามหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย 3 ท่าน คือ นายจำนงค์ ทองประเสริฐ ร้อยโทกุเทพ ใสกระจ่าง และนายสนิท ศรีสำแดง ผู้บริหารมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมประชุมชี้แจงในคณะกรรมาธิการ คือ พระราชวรมุนี (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ พระมหาสุรพล สุจริโต รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและวางแผน และพระมหาโกวิทย์ สิริวณฺโณ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการวิทยาเขต
คณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ได้ประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ 3 ครั้ง คือ
- ครั้งที่ 1 วันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2540
- ครั้งที่ 2 วันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2540
- ครั้งที่ 3 วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2540
ผลการประชุมพิจารณาในครั้งที่ 3 นี้กล่าวเฉพาะในส่วนพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มีประเด็นสำคัญที่ควรทราบคือ มาตราที่ 6 ความเดิมวรรคหนึ่งมีว่า “ให้จัดตั้งมหาวิทยาลัยขึ้นมหาวิทยาลัยหนึ่ง เรียกว่ามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และเป็นนิติบุคคลอยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์” คณะกรรมาธิการได้ขอแปรญัตติตัดคำว่า “อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์” ที่ประชุมพิจารณาเห็นว่า การจะให้มหาวิทยาลัยอยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ควรเป็นไปตามพระราชวินิจฉัยขององค์พระมหากษัตริย์ การตรากฎหมายกำหนดให้อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์เป็นเรื่องไม่เหมาะสม เมื่อได้อภิปรายกันแล้ว ที่ประชุมมีมติให้ตัดคำว่า “อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์”ออกไป
เมื่อคณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว นายสังข์ทอง ศรีธเรศ ประธานคณะกรรมาธิการได้ส่งร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองฉบับ และร่างพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2540 เพื่อเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2540 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติทั้งสามฉบับซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญได้พิจารณาเสร็จแล้วลงมติในวาระที่ 2 และที่ 3 เห็นชอบกับร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยทั้งสองฉบับและร่างพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนาฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์
ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2540 ที่ประชุมวุฒิสภา ได้ลงมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์และร่างพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา (ฉบับที่ 2) และมอบให้คณะกรรมาธิการการศึกษาและวัฒนธรรมของวุฒิสภาพิจารณาแปรญัตติภายใน 5 วัน
คณะกรรมาธิการชุดนี้จำนวน 17 คน มีนายเกษม สุวรรณกุลเป็นประธาน มีนายสิปปนนท์ เกตุทัต และนายวิจิตร ศรีสอ้านเป็นรองประธาน นายจำนงค์ ทองประเสริฐเป็นเลขานุการ ผู้แทนมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเข้าร่วมประชุมชี้แจงแสดงความเห็น 4 ท่าน คือ พระราชวรมุนี พระมหาสุรพล สุจริโต พระมหาโกวิทย์ สิริวณฺโณ และพระมหาไสว โชติโก คณะกรรมาธิการได้ประชุม 5 ครั้ง คือ
- ครั้งที่ 1 วันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2540
- ครั้งที่ 2 วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2540
- ครั้งที่ 3 วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2540
- ครั้งที่ 4 วันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2540
- ครั้งที่ 5 วันที่ 16พฤษภาคม พ.ศ. 2540
ในวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2540 นายเกษม สุวรรณกุล ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษาและวัฒนธรรมได้ส่งร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองฉบับ และร่างพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะ ผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนาฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ต่อวุฒิสภาเพื่อพิจารณา
ในวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 ที่ประชุมวุฒิสภามีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมาธิการการศึกษาและวัฒนธรรมวุฒิสภาแก้ไขเพิ่มเติม และให้ส่งต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณา
ในวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรรับทราบมติของวุฒิสภาเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้จึงสำเร็จเป็นกฎหมายไปก่อน แต่เนื่องจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเห็นว่า ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ที่ผ่านการพิจารณาของวุฒิสภาแล้วนั้น มีแก้ไขเพิ่มเติม 19 มาตรา บางมาตราเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมในสาระสำคัญ โดยเฉพาะมาตรา 7 ความเดิมมีว่า “มหาวิทยาลัยไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณหรือกฎหมายอื่น” วุฒิสภาได้แก้ไขเป็น “มหาวิทยาลัยไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ” ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรจึงมีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการร่วมกันเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองฉบับ ประกอบด้วยกรรมาธิการจำนวน 22 คน คณะกรรมาธิการชุดนี้มีนายสังข์ทอง ศรีธเรศ เป็นประธาน นายสุรัฐ ศิลปอนันต์ และนายวิจิตร ศรีสอ้าน เป็นรองประธาน ร้อยโทกุเทพ ใสกระจ่าง เป็นเลขานุการ
พระราชวรมุนี อธิการบดีมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้มีหนังสือลงวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 ถึงนายสังข์ทอง ศรีธเรศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการว่า การที่พระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ผ่านรัฐสภาเป็นกฎหมายไปแล้ว ทั้งที่พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ยังค้างอยู่นั้นก่อให้เกิดปัญหาต่อมา ถ้าพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ตกไปเพราะเหตุใดเหตุหนึ่ง จะมีผลให้การดำเนินงานทั้งหมดของมหาวิทยาลัยสงฆ์ไม่มีกฎหมายรองรับ เพราะประเด็นที่เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยสงฆ์ในพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ได้ถูกตัดออกไป
ต่อมาคณะกรรมาธิการร่วมกันเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองฉบับ ได้มีการประชุม 2 ครั้ง คือ
- ครั้งที่ 1 วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2540
- ครั้งที่ 2 วันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2540
ประเด็นเกี่ยวกับมาตรา 7 นั้น ที่ประชุมคณะกรรมาธิการร่วมมีมติแก้ไขเพิ่มเติมว่า “ให้มหาวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ”
ในวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2540 นายสังข์ทอง ศรีธเรศ ได้เสนอร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองฉบับที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมาธิการร่วมแล้วต่อสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งหนึ่ง
ในวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2540 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองฉบับ
ในวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2540 ที่ประชุมวุฒิสภามีมติเห็นชอบ ต่อจากนั้น เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ส่งร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ ทั้งสองฉบับ และร่างพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา (ฉบับที่ 2) ถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ให้นำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย
ในวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2540 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลปัจจุบัน ได้ทรงลงพระปรามาภิไธยในพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองฉบับ คือ พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย พ.ศ. 2540 และพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ. 2540 และพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2540
ในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2540 พระราชบัญญัติทั้งสามฉบับประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 114 ตอนที่ 51
ในที่สุด ความพยายามที่จะให้มีการตราพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยที่เริ่มขึ้นเมื่อ 40 ปีที่แล้วก็ประสบความสำเร็จเพราะความพยายามอย่างต่อเนื่องยาวนานของผู้บริหารมหาวิทยาลัยชุดแล้วชุดเล่าและเพราะความร่วมมือที่ได้รับจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
การได้มาซึ่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยนับเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญอีกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้
เมื่อได้รับการยอมรับสถานภาพว่าเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐเช่นนี้แล้ว ก้าวต่อไป คือ ความพยายามที่จะให้ได้รับการยอมรับว่าเป็นมหาวิทยาลัยระดับภูมิภาคและระดับโลกในที่สุด
ยุคเข้าสู่การเป็นศูนย์กลางมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนานานาชาติ (2541-2558)
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 ที่มหาวิทยาลัยได้รับการรับรองสถานะให้เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐเป็นต้นมา มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการพัฒนา ทั้งในเชิงกายภาพ (Hardware) และเชิงคุณภาพ (Software) อีกทั้งเตรียมคนเพื่อรองรับการพัฒนามหาวิทยาลัยเข้าสู่การเป็นศูนย์กลางการศึกษาพระพุทธศาสนาทั้งในระดับชาติและนานาชาติอย่างต่อเนื่อง ดังนี้
1. การเตรียมพื้นที่รองรับการเป็นศูนย์กลางมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนานานาชาติ
วันที่ 20 พฤษภาคม พุทธศักราช 2542 นายแพทย์รัศมี คุณหญิงสมปอง วรรณิสสรได้ถวายที่ดินจำนวน 84 ไร่ 1 งาน 37 ตารางวา ที่ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยาแก่มหาวิทยาลัย รวมกับที่ดินที่มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการจัดซื้อเพิ่มเติม ปัจจุบันมีเนื้อที่ทั้งหมด 323 ไร่
หลังจากนั้น ในวันที่ 9 กรกฎาคม พุทธศักราช 2542 คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทูลเกล้าถวายโฉนดที่ดินทั้ง 2 แปลงเพื่อพระราชทานแก่มหาวิทยาลัย
ต่อมา ในวันที่ 13 ธันวาคม พุทธศักราช 2542 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ณ ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยทรงวางศิลาฤกษ์อาคารสำนักงานอธิการบดี
จนกระทั่ง ในวันที่ 1 ตุลาคม พุทธศักราช 2551 มหาวิทยาลัยได้ย้ายที่ทำการจากวัดมหาธาตุและวัดศรีสุดาราม กรุงเทพมหานคร มายังที่ทำการแห่งใหม่ ณ กิโลเมตรที่ 55 ถนนพหลโยธิน ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ในที่สุด วันที่ 3 ธันวาคม พุทธศักราช 2553 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดป้ายหอประชุม มวก 48 พรรษา และเปิดป้ายมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการ
2. การขยายสถาบันสมทบไปสู่นานาชาติ
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2544 ขยายการศึกษาไปสู่ต่างประเทศ โดยรับวิทยาลัยพุทธศาสนาดองกุก ชอนบอบ ประเทศเกาหลีใต้เข้าเป็นสถาบันสมทบเป็นแห่งแรก ปัจจุบันมีสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ จำนวน 7 แห่ง ในปี 2547 รับมหาปัญญาวิทยาลัย อ.หาดใหญ่ จ. สงขลา และมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาจิ้ง เจวี๋ย เมืองเกาสง ไชนิสไทเป เป็นสถาบันสมทบ หลังจากนั้น ในปี 2550 มหาวิทยาลัยได้รับวิทยาลัยพระพุทธศาสนานานาชาติ ประเทศศรีลังกา และวิทยาลัยพระพุทธศาสนาสิงคโปร์ เป็นสถาบันสมทบ ต่อมาในปี 2553 มหาวิทยาลัยได้รับมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนา ธรรมะเกต ปูดาเปสท์ ประเทศฮังการี เป็นสถาบันสมทบ
การดำเนินการเปิดรับมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยจาก 6 ประเทศเข้าเป็นสถาบันสมทบนั้น นับเป็นการพัฒนามหาวิทยาลัยให้เป็นที่ยอมรับขององค์กรทางการศึกษาในระดับนานาชาติ จนทำให้องค์กรต่างๆ มุ่งมั่นที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยในการนำระดับ
การจัดการศึกษา และหลักสูตรของมหาวิทยาลัยไปเปิดสอนกลุ่มบุคคลที่เป็นบรรพชิตและคฤหัสถ์ได้ศึกษาและเรียนรู้พระพุทธศาสนาในมิติที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
3. การจัดตั้งหน่วยงานเพื่อรองรับภารกิจการเป็นศูนย์กลางการศึกษาพระพุทธศาสนาระดับนานาชาติ
(1) การจัดตั้งวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ
การขยายตัวของมหาวิทยาลัยนั้น ไม่ได้จำกัดวงอยู่ในพื้นที่ของภาษาไทยเท่านั้น ด้วยเหตุที่มหาวิทยาลัยได้รับการยอมรับจากชาวพุทธทั่วโลก จึงเป็นเหตุให้มหาวิทยาลัยจำเป็นต้องเปิดหลักสูตรนานาชาติ เพื่อรองรับกลุ่มบุคคลที่เป็นบรรพชิตและคฤหัสถ์จากทั่วโลกมาศึกษา ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ในปี พ.ศ. 2551 มหาวิทยาลัยได้อนุมัติโครงการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติเพื่อเป็นที่ศึกษาของบรรพชิตและและคฤหัสถ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยดำเนินการจัดซื้อที่ดิน จำนวน 77 ไร่ 2 งาน 53 ตารางวา ซึ่งตั้งอยู่ติดกับที่ดินของมหาวิทยาลัยด้านทิศตะวันออก ต่อมามหาวิทยาลัยได้ร่างแผนแม่บทการก่อสร้างวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ ในปีงบประมาณ 2553 มหาวิทยาลัยได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อก่อสร้างอาคารเรียนรวมวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ จำนวน 80,000,000 บาท นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค ซื้อวัสดุครุภัณฑ์ประกอบอาคารต่างๆ ซื้อที่ดินเพิ่มเติม ปรับปรุงพื้นที่ ก่อสร้างลานจอดรถ ก่อสร้างป้ายมหาวิทยาลัย งานปรับภูมิทัศน์ต่างๆ โดยรวมงบประมาณในการดำเนินการทั้งสิ้น 2,134,591,206 บาท
2. จัดตั้งสมาคมมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนานานาชาติ
ในวันที่ 18 มิถุนายน 2551 โดยสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) อนุมัติให้ดำเนินการจัดตั้งสมาคมวิทยาลัยพระพุทธศาสนานานาชาติ โดยมีมหาวิทยาลัย และวิทยาลัยพระพุทธศาสนาทั่วโลกเข้าเป็นสมาชิกจำนวน 117 สถาบัน สำหรับวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งนั้น เพื่อสนับสนุนมวลสมาชิก สร้างกรอบการทำงานร่วมกัน รวมไปถึงสร้างความเข้าใจและร่วมมือการทำงานร่วมกันระหว่างมวลสมาชิก ในการการเรียนการสอน การเผยแผ่พระพุทธศาสนา ทั้งนี้ ได้มีการประชุมอธิการบดีและการสัมมนาวิชาการ ระดับนานาชาติ ครั้งที่ 1 ของสมาคมมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนานาชาติ ระหว่าง วันที่ 13-15 กันยายน พ.ศ. 2551 มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ร่วมมือกับสมาคมมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนานาชาติ จัดประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนา และสัมมนาวิชาการระดับนานาชาติ เรื่อง “พระพุทธศาสนากับจริยศาสตร์” ณ อุโบสถกลางน้ำ และอาคารเรียนรวม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีอธิการบดี นักวิชาการทั่วโลกเข้าร่วมประชุมกว่า 1,700 รูป/คน
3. การจัดสมาคมสภาสากลวันวิสาขบูชาโลก
ในวันที่ 29 เมษายน 2552 มหาวิทยาลัยร่วมกันองค์กรพระพุทธศาสนาทั่วโลกได้ร่วมกันลงนามจัดตั้งสมาคมสภาสากลวันวิสาขบูชาโลกขึ้น เพื่อกระตุ้นให้องค์กรพระพุทธศาสนาได้ร่วมกันเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาโลกในฐานะวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระพุทธเจ้า และธำรงไว้ซึ่งความเป็นเอกสาร และความสามัคคีของกลุ่มชาวพุทธทั่วโลก โดยให้มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ทั้งนี้ องค์การสหประชาชาติ (UN) มีมติตั้งสภาสากลวันวิสาขบูชาโลก (International Council for the Day of Vesak) ให้เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ นับเป็นครั้งแรกที่วงการพระพุทธศาสนาไทย ได้รับสิทธิในการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของยูเอ็น
พระพรหมบัณฑิต, ศ.ดร. (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) ประธานสมาคมสภาสากลวันวิสาขบูชาโลก และ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้เป็นกำลังสำคัญในการผลักดันส่งเสริมให้ยื่นเสนอขอรับรองเป็นองค์ที่ปรึกษาพิเศษดังกล่าว และได้มีกิจกรรมส่งเสริมงานของยูเอ็นอย่างต่อเนื่อง โดยการประสานความร่วมมือกับชาวพุทธทั่วโลก เพื่อจัดประชุมวิสาขบูชาโลกแล้ว บูรณาการกับพันธกิจของการจัดตั้ง 4 ด้าน คือ
- การพัฒนาที่ยั่งยืน
- สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง (โดยเฉพาะเรื่องภาวะโลกร้อน)
- การศึกษา
- การสร้างสันติภาพ
สมาคมสภาสากลวิสาขบูชาโลกนี้ นับเป็นสะพานที่จะทำหน้าที่ในการเชื่อมโยงชาวพุทธทั่วโลก ทั้งนิกายมหายาน วัชรยาน และเถรวาท ให้สามารถศึกษา เรียนรู้ และเข้าใจซึ่งกันและกัน อันส่งผลในเชิงบวกต่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนาทั้งในระดับท้องถิ่น (Local) และในระดับโลก (Global) ให้สอดรับกับวิถีชีวิตและความเป็นไปของสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
4. การจัดตั้งสถาบันภาษา
พระพรหมบัณฑิต, ศ.ดร. อธิการบดีได้ให้นโยบายต่อการพัฒนาสถาบันภาษาเพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางการศึกษาพระพุทธศาสนานานาชาติว่า “ภารกิจของมหาวิทยาลัย และกิจกรรมมีสำคัญที่มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการมา นอกเหนือจากกิจกรรมการเรียนการสอนโดยเฉพาะกาประชุมชาวพุทธนานาชาติ เนื่องในวันวิสาขบูชาโลก ซึ่งมหาวิทยาลัยเป็นเจ้าภาพหลักในการประชุม กระทั่งชาวพุทธทั่วโลกมีมติให้พุทธมณฑล เป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลก ผลของการจัดกิจกรรมนี้ ทำให้รู้ว่ามหาวิทยาลัยขาดแคลนบุคลกรที่มีความรู้ ความสามารถในด้านภาษา ดังนั้น มหาวิทยาลัย จึงได้ตั้งสถาบันภาษาขึ้นเพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลก ซึ่งปัจจุบันประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาทั่วโลกของไทย ต่างๆให้ความสนใจส่งบุคคลกรเข้ามาศึกษาในมหาวิทยาลัยมาขึ้น”
จากวิสัยทัศน์ดังกล่าว ในปี 2550 มหาวิทยาลัยจึงได้เริ่มต้นในการจัดตั้งโครงการสอนภาษาอังกฤษขึ้น เพื่อสนองตอบต่อการพัฒนาภาษาอังกฤษเพื่อเสริมสร้างการใช้ภาษาพูดและภาษาเขียนแก่นิสิตต่างประเทศที่เลือกเรียนในระดับปริญญาตรีภาคภาษาอังกฤษ หลังจากนั้น ในวัน
ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2555 จึงมีการจัดตั้งสถาบันภาษาขึ้นอย่างเป็นทางการโดยให้มีสถานะเทียบเท่าคณะ ทั้งนี้ ขณะนี้ สถาบันภาษาได้ดำเนินการรองรับวิสัยทัศน์ของอธิการบดี ทั้งในมิติของการเปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรการแปลภาษา และภาษาอังกฤษเพื่อวิชาชีพ รวมไปถึงการเปิดสอนภาษาต่างๆ คือ ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น ภาษาเกาหลี ภาษาบาฮาซา ภาษาเวียดนาม ภาษาพม่า ภาษาไทย และภาษาบาลี
สถาบันภาษาได้จัดการเรียนการสอนทั้งในระดับประกาศนียบัตร และการสอนภาษาอังกฤษในรายวิชาศึกษาทั่วไปที่เป็นภาษาอังกฤษที่ไม่นับหน่วยกิตของคณะต่างๆ และการบริการด้านภาษาให้แก่หน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยที่เป็นผู้บริหาร คณาจารย์ และเจ้าหน้าที่เพื่อให้สามารถสื่อสารภาษาต่างประเทศรวมไปถึงการให้บริการแก่นิสิตต่างประเทศ ในขณะเดียวกัน ได้ให้บริการแก่หน่วยงานภายนอกทั่วไปที่ประสงค์พัฒนาทักษะการใช้ภาษาอังกฤษและภาษาอาเซียน โดยให้สถาบันภาษาไปดำเนินการจัดการเรียนการสอนให้แก่บุคลากรของหน่วยงานต่างๆ
5. การจัดตั้งศูนย์อาเซียนศึกษา
การพัฒนามหาวิทยาลัยสู่การเป็นศูนย์กลาง (HUB) ของการศึกษาพระพุทธศาสนาในประชาคมอาเซียนนั้น ถือเป็นยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัย ด้วยเหตุนี้ ในวันที่ 25 กันยายน 2556 มหาวิทยาลัยจึงได้จัดตั้งศูนย์อาเซียนศึกษา ให้มีสถานะเทียบเท่ากับคณะ (ศูนย์อาเซียนศึกษา วิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ และวิทยาลัยพระธรรมทูต) เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนโดยให้ศูนย์อาเซียนศึกษา มีภารกิจเกี่ยวกับการบริหารงาน การวางแผนงาน การพัฒนาเครือข่าย การศึกษาวิจัย การจัดระบบสารสนเทศ และการให้บริการวิชาการองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการบริการงานอาเซียน คอยประสานความร่วมมือกับส่วนงานของมหาวิทยาลัยและหน่วยงานอื่น ๆ ในประชาคมอาเซียน แบ่งการบริหารงานออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนงานบริหาร และ ส่วนวิจัย สารสนเทศและบริการวิชาการ
6. การจัดตั้งวิทยาลัยพระธรรมทูต
วิทยาลัยพระธรรมทูตมีพัฒนาการมาจากโครงการฝึกอบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศ โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) กรรมการมหาเถรสมาคม ได้เป็นกรรมการอำนวยการฝึกอบรม โดยมีวัตถุประสงค์ใกล้เคียงกันในการดำเนินงานคือ (1) เพื่อฝึกอบรมพระธรรมทูตให้มีความรู้ความสามารถ จริยาวัตรอันงดงาม และความมั่นใจในการปฏิบัติศาสนกิจในต่างประเทศยิ่งขึ้น (2) เพื่อเตรียมพระธรรมทูต ผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมส่งไปต่างประเทศ (3) เพื่อสนองงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศของคณะสงฆ์ไทย
ด้วยเหตุนี้ ในวันที่ 25 กันยายน 2556 จึงได้จัดตั้งวิทยาลัยพระธรรมทูตขึ้นมาอย่างเป็นทางการ โดยมีภารกิจเกี่ยวกับงานการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาพระธรรมทูต จัดการฝึกอบรมพระธรรมทูต วิจัยพัฒนารูปแบบและวิธีการเผยแผ่พระพุทธศาสนาทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ ได้กำหนดให้มี 2 ส่วนงานทำหน้าที่ในการบริหารและพัฒนาวิทยาลัย กล่าวคือ (1) สำนักงานวิทยาลัย มีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบเกี่ยวกับงานบริหาร และงานสารสนเทศของวิทยาลัย และ (2) สำนักงานวิชาการ มีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบ เกี่ยวกับงานวางแผนและพัฒนาหลักสูตร งานวิจัยและพัฒนา
4. การประชุมในระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันทางการศึกษาที่เป็นศูนย์กลางการศึกษาพระพุทธศาสนาของชาวพุทธทั่วโลก ดังจะเห็นได้จากการที่ผู้นำทางการเมือง ผู้นำทางศาสนาต่างๆ นักวิชาการพระพุทธศาสนาและกลุ่มคนทั่วไปได้เดินทางมาร่วมกิจกรรมนานาชาติที่มหาวิทยาลัยได้จัดขึ้นตามลำดับดังต่อไปนี้
ก. การประชุมเพื่อเสริมสร้างสันติภาพโลก
(1) การจัดประชุมสุดยอดผู้นำชาวพุทธเพื่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งโลก ครั้งที่ 2 ในระหว่างวันที่ 9 – 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ร่วมมือกับคณะสงฆ์นิกายเนนบุตซูชุ ประเทศญี่ปุ่น จัดประชุมสุดยอดผู้นำชาวพุทธเพื่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนา แห่งโลก ครั้งที่ 2 ณ หอประชุมพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม การประชุมครั้งนี้เน้นการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างชาวพุทธทั่วโลก เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการเผยแผ่ศาสนา และเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติในวโรกาส มหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชมมายุครบ 72 พรรษา
(2) การประชุมสภาผู้นำศาสนาแห่งโลก ระหว่าง วันที่ 12 – 14 มิถุนายน พ.ศ. 2544 มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ร่วมมือกับองค์การสหประชาชาติ จัดประชาสภาผู้นำศาสนาโลก ณ หอประชุมพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม และที่ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ
การประชุมครั้งนี้ มุ่งสงเสริมเรื่องความร่วมมือทางศาสนาในการแก้ปัญหาความรุนแรงและสร้าง สันติภาพให้เกิดขึ้นในโลก
(3) การประชุมสุดยอดผู้นำเยาวชนโลกเพื่อสันติภาพ ระหว่างวันที่ 24 – 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2547 มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ร่วมมือกับองค์การสหประชาชาติ จัดประชุมสุดยอดผู้นำเยาวชนโลกเพื่อสันติภาพ ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติกรุงเทพฯ การประชุมครั้งนี้เน้นการสนับสนุนให้เยาวชนได้แลกเปลี่ยนความคิดความเห็น เรื่องสันติภาพและเพื่อสร้างเครือข่ายเยาวชน ให้ทำกิจกรรมส่งเสริมสันติภาพและการพัฒนาที่ยั่งยืน
(4) การประชุมเถรวาทและมหายาน
ระหว่าง วันที่ 16 – 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2547 มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้จัดประชุมนานาชาติว่าด้วยพระพุทธศาสนาเถรวาทและมหายาน ณ หอประชุมพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม และศูนย์ประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพฯ การประชุมครั้งนี้เน้นการสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรทางพระ พุทธศาสนา ในระดับท้องถิ่นและระดับนานาชาติ แสวงหาหนทางทำให้การศึกษาพระพุทธศาสนาเป็นที่สนใจของเยาวชนคนรุ่นใหม่
(5) การสัมมนาร่วมเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาและศาสนาอิสลามในประเด็นความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ศาสนาระหว่างอีหร่านกับไทย ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2552 ทั้งนี้ มีนักวิชาการทั้งสองศาสนาเข้าร่วมกว่า 950 รูป/คน
(6) การประชุมการประชุมผู้นำศาสนาเพื่อสันติภาพในประชาคมอาเซียน ครั้งที่ 1 เรื่อง ขันติธรรมทางศาสนา ระหว่างวันที่ 24-29 กันยายน พ.ศ. 2557 โดยมีผู้นำศาสนา 5 ศาสนาจาก 10 ประเทศในประชาคมอาเซียน 80 คน รวมถึงคนไทยร่วมงานประมาณ 500 คน ซึ่งจัดโดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ภายใต้การดำเนินการของโครงการปริญญาโทหลักสูตรสันติศึกษา มจร. โดยเริ่มอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2557 ที่ มจร.วังน้อย โดยมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธาน
การประชุมครั้งนี้ผู้นำทั้ง 5 ศาสนาเห็นชอบในปฏิญญาที่ตกลงร่วมกัน ดังนี้ คือ
- ส่งเสริมขันติทางศาสนาตามประกาศของยูเนสโก ปี ค.ศ. 1995
- จะดำเนินการเสวนาต่อไปและเสริมสร้างเครือข่ายของผู้นำศาสนา ส่งเสริมกันและกัน
- เพื่อให้ประชาคมอาเซียนมีความรู้ในศาสนาของตนเอง และศาสนาอื่น ๆ
- เพื่อดำเนินแบบต่อเนื่องไม่เหน็ดเหนื่อยเพื่อสันติภาพ เข้าใจถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
จะกระทำให้เกิดความคุ้นเคยระหว่างกันเพื่อความเป็นเอกภาพของผู้นำศาสนา แเพื่อส่งเสริมการอยู่ร่วมกันด้วยความสามัคคี ไม่ให้ศาสนาตกเป็นเครื่องมือของนักการเมืองและสื่อมวลชน
ข. การประชุมเพื่อเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาโลก
(1) การประชุมวิสาขบูชาโลก ครั้งที่ 1
เมื่อ วันที่ 25 พฤษภาคม 2547 มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ร่วมกับมหาเถรสมาคม และรัฐบาลไทย เป็นเจ้าภาพจัดประชุมผู้นำชาวพุทธโลกว่าด้วยวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ณ หอประชุมพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม และศูนย์ประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพฯ
การประชุมครั้งนี้เน้นส่งเสริมการศึกษา การปฏิบัติ การเผยแผ่ และปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา รวมทั้งร่วมกันจัดการเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาทั้งที่ศูนย์ประชุมใหญ่และศูนย์ ประจำภูมิภาค
(2) การประชุมวิสาขบูชาโลกครั้งที่ 2
ระหว่าง วันที่ 18 – 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้จัดประชุมชาวพุทธนานาชาติว่าด้วยวันวิสาขบูชา ณ หอประชุมพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม และศูนย์ประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพฯ
การปะชุมครั้งนี้ เน้นส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน ให้พุทธมณฑลเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาแห่งโลก เป็นศูนย์ประสานงานระหว่างองค์กรทางพระพุทธศาสนาและส่งเสริมแลกเปลี่ยนแหล่ง ข้อมูลทางพระพุทธศาสนา
(3) การประชุมวิสาขบูชาโลกครั้งที่ 3
ระหว่าง วันที่ 7 – 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้จัดประชุมชาวพุทธนานาชาติว่าด้วยวันวิสาขบูชา ณ หอประชุมพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม และศูนย์ประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพฯ การประชุมครั้งนี้เน้นเรื่องสันติภาพโลก ความร่วมมือระหว่างพระพุทธศาสนานิกายต่างๆ การพัฒนาแบบยั่งยืน และเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
(4) การประชุมวิสาขบูชาโลกครั้งที่ 4
ระหว่าง วันที่ 26 – 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ร่วมมือกับมหาเถรสมาคม และรัฐบาลไทย จัดประชุมชาวพุทธนานาชาติว่าด้วยวันวิสาขบูชา วันสำคัญของสหประชาชาติ ณ หอประชุมพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม และศูนย์ประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพฯ
การประชุมปีนี้มีผู้นำชาวพุทธ นักวิชาการ และผู้แทนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก เดินทางมาร่วมประชุมประมาณ 2,000 คน การประชุมปีนี้ เน้นเรื่องพระพุทธศาสนากับธรรมาภิบาล และเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา
(5) การประชุมวิสาขบูชาโลก ครั้งที่ 5
ระหว่าง วันที่ 18 – 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ร่วมมือกับมหาเถรสมาคม และรัฐบาลไทย จัดพิธีฉลองวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ณ หอประชุมพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม และศูนย์ประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพฯ การประชุมนี้มีผู้นำชาวพุทธ นักวิชาการ และผู้แทนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก เดินทางมาร่วมประชุมจำนวน 1,500 คน
(6) การประชุมวิสาขบูชาโลก ครั้งที่ 6
การจัดประชุมชาวพุทธนานาชาติ เนื่องในวันวิสาขบูชาโลก เรื่อง “พระพุทธศาสนากับการแก้วิกฤติการณ์ของโลก” วันที่ 4- 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 ณ หอประชุมพุทธมณฑล อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และศูนย์ประชุมสหประชาชาติ ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพมหานคร
(7) การประชุมวิสาขบูชาโลก ครั้งที่ 7
การจัดประชุมชาวพุทธนานาชาติ เนื่องในวันวิสาขบูชาโลกเรื่อง “การฟื้นตัวจากวิกฤติการณ์ของโลก ตามทัศนะชาวพุทธ ”Global Recovery: The Buddhist Perspective เนื่องในวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ประจำปี 2553 วันที่ 23 - 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และศูนย์ประชุมสหประชาชาติ ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพมหานคร
(8) การประชุมวันวิสาขบูชาโลก ครั้งที่ 8
การจัดประชุมชาวพุทธนานาชาติ เนื่องในวันวิสาขบูชาโลก เรื่อง "พุทธธรรมกับการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ" วันที่ 12-14 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 ณ หอประชุมพุทธมณฑล อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และศูนย์ประชุมสหประชาชาติ ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพมหานคร การประชุมปีนี้มีอธิการบดี มหาวิทยาลัยต่างๆ ผู้นำชาวพุทธ นักวิชาการ และผู้แทนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก เดินทางมาร่วมประชุมประมาณ 5,000 คน
(9) การประชุมวันวิสาขบูชาโลก ครั้งที่ 9
การจัดกิจกรรมวิสาขบูชานานาชาติครั้งที่ 9 เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลอง “พุทธชยันตี : 2600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า”เรื่อง“พระปัญญาตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าเพื่อ ประโยชน์สุขของมวลมนุษยชาติ” วันที่ 31 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพมหานคร และพุทธมณฑล อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม การประชุมปีนี้มีอธิการบดี มหาวิทยาลัยต่างๆ ผู้นำชาวพุทธ นักวิชาการ และผู้แทนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก เดินทางมาร่วมประชุมประมาณ 5,000 คน
(10) การประชุมวิสาขบูชาโลก ครั้งที่ 10
การจัดกิจกรรมวิสาขบูชานานาชาติครั้งที่ 10 เรื่อง “การศึกษากับการเป็นพลเมืองของโลก: มุมมองของพระพุทธศาสนา” ระหว่างวันที่ 21-22 พฤษภาคม ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพมหานคร และพุทธมณฑล อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ในการประชุมปีนี้มีอธิการบดี มหาวิทยาลัยต่างๆ ผู้นำชาวพุทธ นักวิชาการ และผู้แทนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก เดินทางมาร่วมประชุมประมาณ 5,000 คน
(11) การประชุมวันวิสาขบูชาโลก ครั้งที่ 11
การจัดกิจกรรมวิสาขบูชานานาชาติครั้งที่ 11 ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2557 ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ในการประชุมปีนี้มีอธิการบดี มหาวิทยาลัยต่างๆ ผู้นำชาวพุทธ นักวิชาการ และผู้แทนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก เดินทางมาร่วมประชุมประมาณ 1,500 คน
(12) การจัดประชุมวันวิสาขบูชาโลก ครั้งที่ 12
การจัดกิจกรรมวิสาขบูชานานาชาติครั้งที่ 12 เรื่อง “พระพุทธศาสนากับวิกฤติการณ์ของโลก” ระหว่างวันที่ 28-30 พฤษภาคม 2558 ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพมหานคร และพุทธมณฑล อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ในการประชุมปีนี้มีอธิการบดี มหาวิทยาลัยต่างๆ ผู้นำชาวพุทธ นักวิชาการ และผู้แทนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก เดินทางมาร่วมประชุมประมาณ 5,000 คน
ยุคพัฒนาความรุ่งเรืองของการเป็นศูนย์กลางของมหาวิทยาลัย
หลังจากที่มหาวิทยาลัยได้รับการพัฒนาให้เจริญเติบโตทั้งเชิงกายภาย และคุณภาพมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2430 จนถึง พ.ศ. 2553 นั้น ในปี พ.ศ.2553 สิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความรุ่งเรืองของมหาวิทยาลัยสามารถประเมินได้จากผลลัพธ์เชิงประจักษ์ของการบริหารงานในหลายด้าน ทั้งในเชิงปริมาณ และคุณภาพ
(1)จำนวนงบประมาณที่เพิ่มสูงขึ้น
เมื่อวิเคราะห์จากเอกสารของมหาวิทยาลัยที่สามารถสืบค้นได้พบว่า ในปี 2521 ซึ่งเป็นปีที่มหาวิทยาลัยได้เริ่มขยายการจัดการศึกษาไปสู่ภูมิภาค โดยได้ตั้งวิทยาเขตหนองคายเป็นแห่งแรกนั้น มหาวิทยาลัยได้รับการจัดสรรงบประมาณผ่านกรมการศาสนาเป็นจำนวนเงิน 1,798,000 บาท หลังจากได้มีการตราพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จการศึกษาวิชาการพระพุทธศาสนานั้น มหาวิทยาลัยได้รับงบประมาณสนับสนุนผ่านกรมการศึกษาสูงขึ้น จำนวน 2,798,000 บาท หลังจากได้มีการตราพระราชบัญญัติกำาหนดวิทยฐานะผู้สำาเร็จการศึกษาวิชาการพระพุทธศาสนานั้น มหาวิทยาลัยได้รับงบประมาณสนับสนุนผ่านกรมการศึกษาสูงขึ้น จำานวน 2,817,943 บาท ในขณะที่ปี 2540 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายที่มหาวิทยาลัยได้รับงบสนับสนุนผ่านกรมการศาสนา มหาวิทยาลัยได้รับงบประมาณ จำานวน 76,346,800 บาท หลังจากมหาวิทยาลัยมีพระราชบัญญัติแล้ว ได้รับการจัดสรรงบประมาณในจำานวนที่เพิ่มสูงขึ้น โดยในปี พ.ศ. 2558 มหาวิทยาลัยได้รับการจัดสรรงบประมาณที่เพิ่มสูงขึ้น จำานวน 1,715,429,100บาท เมื่อเทียบงบประมาณจากปี 2521 กับปีงบประมาณ 2558 จะพบว่า งบประมาณได้เพิ่มสูงขึ้น 954 เท่าของงบประมาณ ปี 2521
(2) จำนวนส่วนงานที่เพิ่มขึ้น
สำาหรับส่วนงานสนับสนุนการศึกษานั้น เมื่อวิเคราะห์จากข้อมูลตั้งแต่ ปี 2521 พบว่ามีจำานวน 11แห่ง ประกอบด้วยสำานักงานอธิการบดี สำานักส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการสังคม โรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ส่วนธรรมนิเทศ มหาจุฬาอาศรม ศูนย์พัฒนาศาสนามหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ศูนย์พุทธวิปัสสนานานาชาติ โครงการอบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศ นอกจากนี้ มีมัธยมศึกษา 3 แห่ง คือโรงเรียนบาลีเตริยมอุดมศึกษา โรงเรียนบาลีอบรมศึกษา และโรงเรียนบาลีสาธิตศึกษา
ในขณะที่หลังมีพระราชบัญญัตินั้น ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2541-2558 ได้มีส่วนงานขยายเพิ่มเติมเป็นจำานวนมาก โดยเพิ่มจากเดิมเป็น 14 แห่ง สำนักหอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันภาษา สำานักทะเบียนและวัดผล สถาบันวิปัสสนาธุระ ศูนย์อาเซียนศึกษา กองกิจการวิทยาเขต กองคลังและทรัพย์สิน กองนิติการ กองวิเทศสัมพันธ์ กองสื่อสารองค์กร สำานักงานประกันคุณภาพ สำานักงานตรวจสอบภายใน สำานักงานพระสอนศีลธรรม และสำานักงานสภามหาวิทยาลัย
สำาหรับส่วนงานที่จัดการศึกษานั้น หลักฐานที่ค้นพบตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2521-2540พบว่า มีวิทยาเขตจำนวน 10 แห่ง และวิทยาลัยสงฆ์ จำานวน 4 แห่ง ในขณะที่มีพระราชบัญญัติแล้วพบว่า มีวิทยาลัยสงฆ์จำานวน 8 แห่ง ห้องเรียนจำนวน 5 แห่ง หน่วยวิทยบริการ จำานวน 17 แห่ง และ สถาบันสมทบจำานวน 6 สถาบันสมทบ
(3) จำนวนผู้จบการศึกษาเพิ่มมากขึ้น
พุทธศาสตรบัณฑิต 2499-2540 มีจำนวน 5,042 รูป/คน ในขณะที่ พ.ศ. 2541-2558 มีผู้จบการศึกษา จำนวน 34,638 รูป/คน จะเห็นว่า เมื่อเทียบจำานวนของผู้จบการศึกษาก่อนและหลังการมีพระราชบัญญัติของมหาวิทยาลัย ผู้จบการศึกษาจะมีจำานวน 7 เท่าก่อนมีพระราชบัญญัติ ในขณะที่ผู้จบการศึกษาในระดับพุทธศาสตรมหาบัณฑิต ปี พ.ศ. 2499-2540 มีจำนวน 49 รูป/คน ส่วน ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2541-2558 มีจำนวน2910 รูป/คน ในระดับพุทธศาสตรดุษฏีบัณฑิต ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2499-2540 ยังไม่มีการเปิดการศึกษาจึงยังไม่มีจำนวนของผู้จบการศึกษา หลังจากที่มีการเปิดการศึกษาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2541-2558 มีผู้จบการศึกษาจำนวน 216 รูป/คน
(4) จำนวนหลักสูตรเพิ่มมากขึ้น
เมื่อวิเคราะห์จำานวนของหลักสูตรคระยะก่อนมีพระราชบัญญัติ ตั้งแต่ พ.ศ. 2490 –2540 มีหลักสูตรระดับปริญญาตรี จำนวน 13 หลักสูตร ประกอบด้วย คณะพุทธศาสตร์ มี 5 หลักสูตร คือ ปรัชญา ศาสนา พระพุทธศาสนา บาฬีพุทธศาสตร์ บาลี-สันสกฤต คณะครุศาสตร์ มี 2 หลักสูตร คือ การสอนสังคมศึกษา การบริหารการศึกษา คณะมนุษยศาสตร์ มี 3 หลักสูตร คือภาษาอังกฤษ จิตวิทยา ภาษาไทย และคณะสังคมศาสตร์ มี 3 หลักสูตร คือ รัฐศาสตร์ สังคมวิทยา เศรษฐศาสตร์ ในขณะที่บัณฑิตวิทยาลัยได้จัดการศึกษาในระดับ ปริญญาโท 4 หลักสูตรคือ พระพุทธศาสนา ปรัชญา ธรรมนิเทศ และภาษาบาลี ส่วนปริญญาเอกยังไม่มีหลักสูตรปริญญาเอก – หลักสูตร
ในขณะที่หลังยุคที่มีการตราพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย ตั้งแต่ พ.ศ. 2541-2558ระดับปริญญาตรี ปัจจุบันเปิดสอนใน 4 คณะ มีหลักสูตร รวมทั้งสิ้น26 สาขาวิชา คือ คณะพุทธศาสตร์ สาขาวิชา คณะครุศาสตร์ 4 สาขาวิชา คณะมนุษยศาสตร์ 4 สาขาวิชา และคณะสังคมศาสตร์ 7 สาวิชา โดยหลักสูตรทั้งหมดนี้ ยังได้เปิดสอนที่วิทยาเขต วิทยาลัย โครงการขยายห้องเรียน หน่วยวิทยบริการ และสถาบันสมทบของมหาวิทยาลัย
(ก) หลักสูตรคณะพุทธศาสตร์ ประกอบด้วย 11 สาขาวิชา คือ (1) สาขาวิชาพระพุทธศาสนา (2) สาขาวิชาศาสนา (3) สาขาวิชาปรัชญา (4) สาขาวิชาบาลีพุทธศาสตร์ (5) สาขาวิชาภาษาบาลี (6) สาขาวิชาบาลีสันสกฤต (7) สาขาวิชาพุทธศิลปกรรม (8) สาขาวิชามหายานศึกษา (9) สาขาวิชาพระพุทธศาสนามหายาน (10) สาขาวิชาพระพุทธศาสนาจีน(11) สาขาวิชาภาวะผู้นำาทางพระพุทธศาสนา
(ข) หลักสูตรคณะครุศาสตร์ ประกอบด้วย 11 สาขาวิชา คือ (1) สาขาวิชาสังคมศึกษา (2) สาขาวิชาการสอนภาษาไทย (3) สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ (4) สาขาวิชาการสอนพระพุทธศาสนาและจิตวิทยาแนะแนว
(ค) หลักสูตรคณะมนุษยศาสตร์ ประกอบด้วย 4 สาขาวิชา คือ (1) สาขาวิชาภาษาไทย(2) สาขาวิชาภาษาอังกฤษ (3) สาขาวิชาจิตวิทยา (4) สาขาวิชาพุทธจิตวิทยา
(ง) หลักสูตรคณะสังคมศาสตร์ ประกอบด้วย 7 สาขาวิชา คือ (1) สาขาวิชารัฐศาสตร์ (2) [[]] (3) สาขาวิชาการจัดการเชิงพุทธ (4) สาขาวิชาสังคมวิทยา(5) สาขาวิชาสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ (6) สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ (7) สาขาวิชานิติศาสตร์
ในระดับปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเปิดสอน ตั้งแต่พุทธศักราช 2531 เป็นต้นมา และเปิดสอนหลักสูตรนานาชาติ พุทธศักราช 2543 ปัจจุบัน มีหลักสูตรระดับประกาศนียบัตรบัณฑิต จำนวน 2 หลักสูตร และหลักสูตรระดับปริญญาโท จำนวน 22 สาขาวิชา กล่าวคือ
(ก) หลักสูตรระดับประกาศนียบัตรบัณฑิต จำานวน 2 หลักสูตร ประกอบด้วย (1) พระไตรปิฎกศึกษา และ (2) วิชาชีพครู
(ข) หลักสูตรระดับปริญญาโท ประกอบด้วย 22 สาขา วิชา คือ (1) สาขาวิชาพระพุทธศาสนา (2) สาขาวิชาปรัชญา (3) สาขาวิชาธรรมนิเทศ (4) สาขาวิชาวิปัสสนาภาวนา(5) สาขาวิชาสันติศึกษา (6) สาขาวิชาพระไตรปิฎกศึกษา (7) สาขาวิชาศาสนาเปรียบเทียบ (8) สาขาวิชามหายานศึกษา(9) สาขาวิชาการบริหารการศึกษา (10) สาขาวิชาการสอนสังคมศึกษา(11)สาขาวิชาจิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว (12) สาขาวิชาชีวิตและความตาย (13) สาขาวิชาพุทธจิตวิทยา(14) สาขาวิชาพุทธศาสตร์และศิลปะแห่งชีวิต (15) สาขาวิชาภาษาศาสตร์ (16) สาขาวิชาการจัดการเชิงพุทธ (17) สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ (18) สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์การพัฒนาเชิงพุทธ (19) สาขาวิชาการพัฒนาสังคม (20) สาขาวิชาภาษาอังกฤษ(หลักสูตรนานาชาติ) (21) สาขาวิชาพระพุทธศาสนา (หลักสูตรนานาชาติ) และ (22) สาขาวิชาอาเซียนศึกษา (หลักสูตรนานาชาติ)
(ค) ระดับปริญญาเอก มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้เปิดสอน ตั้งแต่ พุทธศักราช 2543 เป็นต้นมา ปัจจุบัน มีหลักสูตรระดับปริญญาเอก จำนวน 11 สาขาวิชา ประกอบด้วย
- สาขาวิชาพระพุทธศาสนา
- สาขาวิชาพระพุทธศาสนา (หลักสูตรนานาชาติ)
- สาขาวิชาปรัชญา
- สาขาวิชาบาลีพุทธศาสตร์
- สาขาวิชาพุทธบริหารการศึกษา
- สาขาวิชาพุทธจิตวิทยา
- สาขาวิชาภาษาศาสตร์
- สาขาวิชาการจัดการเชิงพุทธ
- สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์
- สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ (หลักสูตรนานาชาติ)
- สาขาวิชาการพัฒนาสังคม
(5) การใช้เทคโนโลยีสนับสนุนการบริหาร การเรียนการสอน และการเผยแผ่ (MIS)เทคโนโลยีการศึกษาเป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมศักยภาพให้การเรียนการสอนการศึกษามีความหมายมากขึ้น ผู้เรียนเรียนได้กว้างขวางมากขึ้น เรียนได้เร็วขึ้น เข้าใจได้อย่างสมบูรณ์ สามารถสนองเรื่องความแตกต่างระหว่างบุคคลได้ ผู้เรียนมีอิสระในการเรียนรู้มีความรับผิดชอบ ทำาให้การจัดการศึกษาพระพุทธศาสนาสามารถบูรณาการกับศาสตร์ สมัยใหม่ได้อย่างสมสมัย อีกทังจะช่วยให้การศึกษามีพลังมากขึ้น
ด้วยการตระหนักรู้ในคุณค่าและความสำคัญของเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาในลักษณะดังกล่าว จึงทำาให้มหาวิทยาลัยได้ตัดสินใจ พัฒนา MCUTV มาเป็นเครื่องมือช่วยพัฒนาการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเปิดพื้นที่ให้นิสิตในส่วนภูมิภาคได้เรียนรู้จากอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในส่วนกลางอีกทั้งสามารถเข้าใจถึงวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยที่มุ่งให้นำหลักพระพุทธศาสนาไปบูรณาการกับศาสตร์ใหม่ๆ นอกจากนั้น มหาวิทยาลัยได้พัฒนาอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเพื่อให้ส่วนงานจัดการศึกษา และส่วนงานสนับสนุนการศึกษาสามารถพัฒนาอีบุ๊ค (E-Book) เพื่อเป็นสื่อในการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การนำพัฒนาเทคโนโลยีมิได้มีนัยที่จำากัดตัวเฉพาะในส่วนของการจัดการศึกษาเท่านั้นมหาวิทยาลัยได้นำเอา UNI-Net มาพัฒนาการให้การบริการของห้องสมุด และเป็นเครื่องมือในการบริหารสารสนเทศ โดยการนำาระบบสารสนเทศมาใช้ประกอบการตัดสินใจเพื่อการบริหาร จัดการส่วนงานต่างๆ เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์และความต้องการของนิสิตมากยิ่งขึ้น
(6) พัฒนาคัมภีร์ งานวิจัย ตำรา และหนังสือทางวิชาการอย่างต่อเนื่อง มหาวิทยาลัยได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพัฒนาพระไตรปิฎก ภาษาไทย และภาษาบาลี ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย รวมไปถึง พระไตรปิฎก ภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยบน ซีดี – รอม ตั้งแต่ พ.ศ. 2533 จนแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2542 ซึ่งพระไตรปิฎก ภาษาไทย ฉบับนี้มีอิทธิพลสำคัญต่อการพัฒนางานวิจัย งานตำรา และหนังสือของมหาวิทยาลัยจำนวนมาก ในขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยได้สนับสนุนการการพัฒนาหนังสือพระไตรปิฎกฉบับสากล(Common Buddhist Text) ซึ่งมีเนื้อหาจาก 3 นิกายใหญ่ คือ มหายาน วัชรยานและเถรวาท โดยมีนักวิชาการทั้ง 3 ยานมาร่วมกันพัฒนาและปรับปรุงเนื้อหาภายใต้กรอบ ของพระรัตนตรัย คือ เนื้อหาเกี่ยวกับประวัติของพระพุทธเจ้า เนื้อหาเกี่ยวกับพระธรรม และเนื้อหาเกี่ยวกับบทบาทและความสำาคัญของพระสงฆ์ นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยได้สนับสนุนให้มีโครงการพัฒนาสหบรรณานุกรมพระไตรปิฎก (The Union Catalog of Buddhist Text) เพื่อให้นักวิชาการและผู้สนใจสามารถเข้าถึงเนื้อหาของคัมภีร์พระพุทธศาสนาของนิกายต่างๆได้อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น
กล่าวโดยสรุปแล้ว ความรุ่งเรืองของมหาวิทยาลัยสามารถประเมินการเติบโตและเพิ่มขึ้นขึ้นงบประมาณ หลักสูตร จำนวนนิสิต จำนวนผู้จบการศึกษา จำนวนของส่วนงานจัดการศึกษาและสนับสนุนการศึกษา จำนวนการผลิตผลงานทางวิชาการ ทั้งคัมภีร์ ตำรา หนังสือ และงานเขียนต่างๆ จำนวนมาก สำหรับตัวแปรสำาคัญที่นำไปสู่ความรุ่งเรืองนั้นเกิดจากการที่มหาวิทยาลัยมีพระราชบัญญัติเป็นกรอบในการบริหารจัดการในฐานะเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ การมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการบริหาร การมีทรัพยากรทั้งงบประมาณ และบุคลากรที่พร้อมพลัน การนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อการบริหารและการจัดการเรียนการสอนการสร้างเครือข่ายของชาวพุทธทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศจนทำให้เกิดการยอมรับและร่วมมือกันสร้างนวัตกรรมทางการศึกษา และจัดงานนานาชาติร่วมกัน ดังจะเห็นได้จากการจัดงานเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาโลก และการจัดสัมมนานานาชาติอย่างต่อเนื่อง
ดาวน์โหลด หนังสือประวัติและพัฒนาการมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย 2017-06-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย
- พระจุลมงกุฎ (พระเกี้ยว)
พระราชลัญจกรประจำพระองค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ตรงฐานของพระเกี้ยวมีอักษรย่อว่า ม จ ร และมีรูปธรรมจักรวางเป็นฉากเบื้องหลัง
- เป็นรูปวงกลมครอบธรรมจักรส่วนกลางเป็นพระเกี้ยว
เป็นพระราชลัญจกรประจำพระองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 รอบกรอบด้านบนมีอักษรภาษาบาลีว่า ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต รอบกรอบด้านล่างมีอักษรว่า มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
การศึกษา
คณะในมหาวิทยาลัย
- บัณฑิตวิทยาลัย 2017-08-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- คณะพุทธศาสตร์ 2006-06-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- คณะครุศาสตร์
- คณะมนุษยศาสตร์
- คณะสังคมศาสตร์ ประกอบด้วยส่วนงานจัดการศึกษา จำนวน ๔ ภาควิชา คือ
- ภาควิชารัฐศาสตร์ (สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ สาขาวิชาการจัดการเชิงพุทธ)
- ภาควิชาเศรษฐศาสตร์
- ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา
- ภาควิชานิติศาสตร์
วิทยาเขต
- วิทยาเขตหนองคาย 2016-10-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (วิทยาเขตแห่งแรก)
- วิทยาเขตนครศรีธรรมราช 2017-09-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- วิทยาเขตเชียงใหม่ 2015-06-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- วิทยาเขตขอนแก่น
- วิทยาเขตนครราชสีมา
- วิทยาเขตอุบลราชธานี
- วิทยาเขตแพร่
- วิทยาเขตสุรินทร์
- วิทยาเขตพะเยา 2012-10-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- วิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส นครปฐม
- วิทยาเขตนครสวรรค์
วิทยาลัย
- วิทยาลัยสงฆ์เลย
- วิทยาลัยสงฆ์นครพนม 2017-08-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน 2017-09-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- วิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช
- วิทยาลัยสงฆ์ปัตตานี 2017-09-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- วิทยาลัยสงฆ์บุรีรัมย์
- วิทยาลัยสงฆ์นครน่าน
- วิทยาลัยสงฆ์พุทธโสธร 2017-08-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (โครงการยกระดับให้เป็นวิทยาเขตพุทธโสธร)
- วิทยาลัยสงฆ์เชียงราย (โครงการยกระดับให้เป็นวิทยาเขตเชียงราย)
- วิทยาลัยสงฆ์นครลำปาง 2017-09-21 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- วิทยาลัยสงฆ์ศรีสะเกษ 2017-08-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี
- วิทยาลัยสงฆ์ชัยภูมิ
- วิทยาลัยสงฆ์ร้อยเอ็ด (โครงการยกระดับให้เป็นวิทยาเขตร้อยเอ็ด)
- วิทยาลัยสงฆ์ราชบุรี
- วิทยาลัยสงฆ์พ่อขุนผาเมือง เพชรบูรณ์
- จัดตั้งวิทยาลัยสงฆ์สุราษฎร์ธานี [64]
- วิทยาลัยสงฆ์ระยอง
- วิทยาลัยสงฆ์มหาสารคาม
- วิทยาลัยสงฆ์เพชรบุรี (โครงการยกระดับให้เป็นวิทยาเขตเพชรบุรี)
- วิทยาลัยสงฆ์อุทัยธานี
- วิทยาลัยสงฆ์ชลบุรี
- วิทยาลัยสงฆ์จันทบุรี ข้อกำหนดมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
เรื่อง การจัดตั้งวิทยาลัยสงฆ์จันทบุรี พุทธศักราช 2565 (วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2565)
โครงการขยายห้องเรียน
- โครงการขยายห้องเรียนคณะพุทธศาสตร์ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี 2017-06-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- โครงการขยายห้องเรียนวิทยาเขตนครศรีธรรมราช วัดพัฒนาราม จ.สุราษฎร์ธานี
- โครงการขยายห้องเรียน วัดไชยชุมพลชนะสงคราม จ.กาญจนบุรี
- โครงการวิทยาลัยสงฆ์รัตนบุรี อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์
หน่วยวิทยบริการ
- หน่วยวิทยบริการ วัดหงษ์ประดิษฐาราม จ.สงขลา
- หน่วยวิทยบริการมหาสารคาม 2017-03-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- หน่วยวิทยบริการ วัดใหญ่อินทาราม จ.ชลบุรี 2017-08-21 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- หน่วยวิทยบริการ วัดป่าประดู่ จ.ระยอง 2017-09-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- หน่วยวิทยบริการ จ.จันทบุรี
- หน่วยวิทยบริการ วัดพระรูป จ.เพชรบุรี
- หน่วยวิทยบริการ วัดหนองขุนชาติ จ.อุทัยธานี
- หน่วยวิทยบริการ วัดพระบรมธาตุกำแพงเพชร
- หน่วยวิทยบริการ วัดพฤกษะวันโชติการาม จ.พิจิตร
- หน่วยวิทยบริการ วัดท่านา จ.ตาก
- หน่วยวิทยบริการ วัดหมอนไม้ จ.อุตรดิตถ์
- หน่วยวิทยบริการ วัดป่าเลไลยก์ จ.สุพรรณบุรี
- หน่วยวิทยบริการ วัดสระแก้ว จ.สระแก้ว
- หน่วยวิทยบริการ สาวิกาสิกขาลัย กรุงเทพมหานคร
- หน่วยวิทยบริการ วัดมัชฌิมาวาส จ.อุดรธานี
- หน่วยวิทยาบริการคณะสังคมศาสตร์ วัดอินทาราม จังหวัดสมุทรสงคราม (ตามมมติสภาในการประชุมเมื่อ ๔ ๒๕ู๖๗ เมื่อ ๒๔ เมษายน ๒๕๖๗)
สถาบันสมทบ 7 แห่ง
- วิทยาลัยพระพุทธศาสนาดองกุก ชอนบอบ สาธารณรัฐเกาหลี
- มหาปัญญาวิทยาลัย อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
- มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาซินจู ไต้หวัน(สาธารณรัฐประชาชนจีน)
- ศูนย์การศึกษาพระอาจารย์พรัหม ประเทศสิงคโปร์
- วิทยาลัยพระพุทธศาสนานานาชาติ ประเทศศรีลังกา
- วิทยาลัยพระพุทธศาสนา ประเทศสิงคโปร์
- วิทยาลัยพระพุทธศาสนาธรรมเกท ประเทศอิตาลี
ส่วนงานในมหาวิทยาลัย
สำนักงานอธิการบดี
สถาบันภาษา
สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์
สถาบันวิปัสสนาธุระ
| สำนักทะเบียนและวัดผล
สำนักหอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ
สำนักส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการสังคม
ศูนย์อาเซียนศึกษา
วิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ
วิทยาลัยพระธรรมทูต
หน่วยงานอื่นๆ
|
งานบริการวิชาการแก่สังคม
- งานบริการฝึกอบรมคุณธรรม ส่วนวางแผนและพัฒนาการอบรม 2013-08-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- โครงการพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน 2013-09-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ร.ร.พุทธศาสนาวันอาทิตย์ 2006-06-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- โครงการโรงเรียนวิถีพุทธ ส่วนวางแผนและพัฒนาการอบรม
- การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ส่วนวางแผนและพัฒนาการอบรม สถาบันวิปัสสนาธุระ
การวิจัย
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การรับบุคคลเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย
คุณสมบัติของผู้เข้าศึกษาระดับปริญญาตรี พุทธศาตรบัณฑิต
คุณสมบัติของผู้สมัครเข้าศึกษาที่เป็นพระภิกษุ และสามเณร
- เป็นผู้สอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยคและต้องศึกษาวิชาสามัญเพิ่มเติมตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
- เป็นผู้สอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค และสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น หรือ
- เป็นผู้สอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค และได้รับประกาศนียบัตรอื่นที่มหาวิทยาลัยกำหนด หรือ
- เป็นผู้สำเร็จการศึกษาประโยคมัธยมศึกษาตอนปลายของโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา
- เป็นพระสังฆาธิการหรือครูสอนพระปริยัติธรรมที่สำเร็จการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรการบริหารกิจการคณะสงฆ์ (ป.บส.) หรือ
- เป็นพระสังฆาธิการหรือครูสอนพระปริยัติธรรมที่สอบได้นักธรรมชั้นเอกและสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า
- เป็นผู้สอบได้นักธรรมชั้นเอกและสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า และต้องศึกษาวิชาภาษาบาลี ไม่น้อยกว่า 12 หน่วยกิต ยกเว้นผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรสาขาวิชาบาลีที่มหาวิทยาลัยรับรอง
- เป็นผู้สำเร็จระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือผู้ได้รับประกาศนียบัตรอื่นที่มหาวิทยาลัยรับรอง และต้องศึกษาวิชาภาษาบาลี ไม่น้อยกว่า 24 หน่วยกิต ยกเว้นผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรสาขาวิชาบาลีที่มหาวิทยาลัยรับรอง
- เป็นผู้ที่มหาวิทยาลัยอนุมัติให้เข้าศึกษาเป็นกรณีพิเศษเพื่อขอรับปริญญาตามเกณฑ์ที่สภาวิชาการกำหนด
- ไม่เคยถูกคัดชื่อออกหรือถูกไล่ออกจากสถาบันการศึกษาใดๆ เพราะความผิดทางความประพฤติหรือวินัย
คุณสมบัติของผู้สมัครเข้าศึกษาที่เป็นคฤหัสถ์ หรือประชาชนทั่วไป
- เป็นผู้สอบได้เปรียญธรรมหรือบาลีศึกษา 3 ประโยค และต้องศึกษาวิชาสามัญเพิ่มเติมตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
- เป็นผู้สอบได้เปรียญธรรมหรือบาลีศึกษา 3 ประโยค และสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
- เป็นผู้สอบได้เปรียญธรรมหรือบาลีศึกษา 3 ประโยค และได้รับประกาศนียบัตรอื่นที่มหาวิทยาลัยอื่นรับรอง
- เป็นผู้สำเร็จการศึกษาประโยคมัธยมศึกษาตอนปลายของโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา
- เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือผู้ได้รับประกาศนียบัตรอื่นที่มหาวิทยาลัยรับรอง และต้องศึกษาวิชาภาษาบาลีไม่น้อยกว่า 12 หน่วยกิต ยกเว้นผู้สำเร็จหลักสูตรประกาศนียบัตรสาขาวิชาภาษาบาลีที่มหาวิทยาลัยรับรอง
- เป็นผู้ที่มหาวิทยาลัยอนุมัติให้เข้าศึกษาเป็นกรณีพิเศษเพื่อขอรับปริญญาตามเกณฑ์ที่สภาวิชาการกำหนด
- ไม่เคยถูกคัดชื่อออกหรือถูกไล่ออกจากสถาบันการศึกษาใดๆ เพราะความผิดทางความประพฤติหรือวินัย (ให้เป็นไปตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ว่าด้วยการศึกษาระดับปริญญาตรี พ.ศ. 2542 ข้อบังคับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ว่าด้วยการศึกษาระดับปริญญาตรี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 และข้อบังคับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ว่าด้วยการศึกษาระดับปริญญาตรี (ฉบับที่ 3) แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2551)
สาขาวิชาที่เปิดสอน
ปัจจุบันมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เปิดทำการเรียนการสอนทั้งในระดับประกาศนียบัตร, ปริญญาบัณฑิต, ประกาศนียบัตรบัณฑิต, ปริญญามหาบัณฑิต และปริญญาดุษฎีบัณฑิต กระจายไปตามสาขาวิชาต่าง ๆ ดังนี้
ระดับปริญญาตรี
หลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิต แบ่งเป็น 4 คณะ ได้แก่
- ประกอบด้วย (1) ภาควิชาพระพุทธศาสนา, (2) ภาควิชาศาสนาและปรัชญา และ (3) ภาควิชาบาลีและสันสกฤต
- คณะครุศาสตร์ ประกอบด้วย (1) ภาควิชาจิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว, (2) ภาควิชาบริหารการศึกษา และ (3) ภาควิชาหลักสูตรและการสอน
- ประกอบด้วย (1) ภาควิชาภาษาไทย, (2) ภาควิชาภาษาต่างประเทศ และ (3) ภาควิชาจิตวิทยา
- คณะสังคมศาสตร์ ประกอบด้วย (1) ภาควิชารัฐศาสตร์ (วิชาเอกการปกครอง , วิชาเอกรัฐประศาสนศาสตร์ , วิชาเอกการปกครองระหว่างประเทศ , วิชาเอกการจัดการเชิงพุทธ), (2) ภาควิชาเศรษฐศาสตร์ (3) ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา (4) ภาควิชานิติศาสตร์
ระดับปริญญาโท
หลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต มีทั้งหมด 19 สาขาวิชา ได้แก่
สาขาวิชาธรรมนิเทศ, สาขาวิชาภาษาศาสตร์, สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์, สาขาวิชาศาสนาเปรียบเทียบ, สาขาวิชาการจัดการเชิงพุทธ, สาขาวิชาชีวิตและความตาย, สาขาวิชาปรัชญา, สาขาวิชาพุทธจิตวิทยา, สาขาวิชาพุทธศาสตร์ และศิลปะแห่งชีวิต, สาขาวิชาภาษาอังกฤษ (หลักสูตรนานาชาติ), สาขาวิชาการบริหารการศึกษา (คณะครุศาสตร์), สาขาวิชาวิปัสสนาภาวนา, สาขาวิชาการพัฒนาสังคม, สาขาวิชาพระพุทธศาสนา, สาขาวิชาสันติศึกษา, สาขาวิชาบาลีศึกษา, สาขาวิชามหายานศึกษา, สาขาวิชาสันสกฤต และสาขาวิชาหลักสูตรและการสอน (แขนงวิชาการสอนทั่วไป สำหรับผู้ที่มีใบประกอบวิชาชีพครู, สาขาการสอนสังคมศึกษา การสอนภาษาไทย การสอนภาษาอังกฤษ และการสอนพระพุทธศาสนา)
นอกจากนี้มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มีหลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต (นานาชาติ) คือ Buddhist Studies, Philosophy และ Mahayana Buddhism
ระดับปริญญาเอก
หลักสูตรพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต มีทั้งหมด 18 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาพุทธจิตวิทยา, สาขาวิชาบาลีพุทธศาสตร์, สาขาวิชาพุทธบริหารการศึกษา, สาขาวิชาการจัดการเชิงพุทธ, สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์,สาขาวิชารัฐศาสตร์ (ปร,ด ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต) สาขาวิชาปรัชญา, สาขาวิชาบาลี, สาขาวิชาพระพุทธศาสนา, สาขาวิชาธรรมนิเทศ, สาขาวิชาศาสนาเปรียบเทียบ, สาขาวิชาวิปัสสนาภาวนา, สาขาวิชามหายานศึกษา, สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, สาขาวิชาชีวิตและความตาย, สาขาวิชาสันสกฤต, สาขาวิชาพุทธศาสตร์และศิลปะแห่งชีวิต, สาขาวิชาภาษาศาสตร์ และสาขาวิชาสันติศึกษา
พื้นที่มหาวิทยาลัย
ส่วนกลาง
ส่วนกลาง อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ได้ถวายที่ดินจำนวน 84 ไร่ 1 งาน 37 ตารางวา ที่ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แก่มหาวิทยาลัย รวมกับที่ดินที่มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการจัดซื้อเพิ่มเติม ปัจจุบันมีเนื้อที่ทั้งหมด 323 ไร่ วันที่ 20 พฤษภาคม พุทธศักราช 2542 ต่อมา ในวันที่ 13 ธันวาคม พุทธศักราช 2542 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ณ ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยทรงวางศิลาฤกษ์อาคารสำนักงานอธิการบดี จากนั้นการบริหารมหาวิทยาลัย ได้ย้ายที่ทำการจากวัดมหาธาตุและวัดศรีสุดาราม กรุงเทพมหานคร มายังที่ทำการแห่งใหม่ ณ กิโลเมตรที่ 55 ถนนพหลโยธิน ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในที่ตั้งปัจจุบัน
- สำนักงานอธิการบดี
- สำนักงานห้องสมุด
- พิพิธภัณฑ์พระไตรปิฏก
- อาคารสำนักงานวิปัสสนา
- อาคารเรียนรวม
- อาคารหอประชุม มวก 48 พรรษา
- อาคารหอฉัน
- อาคารบรรณาคาร
- ตึกอาคันตุกะ 92 ปัญญานันทะ
- อุโบสถกลางน้ำ
- วิทยาลัยนานาชาติ
- หอพักนิสิตนานาชาติ
- พอหักนิสิต ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้
ส่วนภูมิภาค
วิทยาเขต
- มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตหนองคาย 2016-10-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (วิทยาเขตแห่งแรก)
- มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช 2008-12-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ 2015-06-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น
- มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครราชสีมา
- มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตอุบลราชธานี 2008-12-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตแพร่ 2008-12-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตสุรินทร์ 2008-12-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตพะเยา 2016-10-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส นครปฐม
- มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์
วิทยาลัยสงฆ์
- วิทยาลัยสงฆ์เลย 2008-12-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- วิทยาลัยสงฆ์นครพนม 2008-12-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน 2008-12-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- วิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช 2008-12-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- วิทยาลัยสงฆ์ปัตตานี
- วิทยาลัยสงฆ์บุรีรัมย์ 2011-09-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- วิทยาลัยสงฆ์นครน่านเฉลิมพระเกียรติ
- วิทยาลัยสงฆ์พุทธโสธร 2008-12-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- วิทยาลัยสงฆ์เชียงราย 2008-12-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- วิทยาลัยสงฆ์นครลำปาง 2008-12-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- วิทยาลัยสงฆ์ศรีสะเกษ 2008-12-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี 2015-05-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- วิทยาลัยสงฆ์ชัยภูมิ
- วิทยาลัยสงฆ์ร้อยเอ็ด
- วิทยาลัยสงฆ์ราชบุรี
- วิทยาลัยสงฆ์พ่อขุนผาเมือง เพชรบูรณ์
- วิทยาลัยสงฆ์มหาสารคาม
- วิทยาลัยสงฆ์ระยอง
- วิทยาลัยสงฆ์สุพรรณบุรีศรีสุวรรณภูมิ จังหวัดสุพรรณบุรี
- วิทยาลัยสงฆ์เพชรบุรี
- วิทยาลัยสงฆ์พิจิตร
- วิทยาลัยสงฆ์อุทัยธานี
- วิทยาลัยสงฆ์สุราษฎร์ธานี
- วิทยาลัยสงฆ์จันทบุรี
- วิทยาลัยสงฆ์กำแพงเพชร
- วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรี ศรีไพบูลย์
- วิทยาลัยสงฆ์ตาก
- วิทยาลัยสงฆ์ชลบุรี
หน่วยวิทยบริการ
- หน่วยวิทยบริการ วัดอินทราราม อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
- หน่วยวิทยบริการสงขลา คณะพุทธศาสตร์ (วัดหงษ์ประดิษฐาราม)
- หน่วยวิทยบริการอุตรดิตถ์ วิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช (วัดหมอนไม้)
- หน่วยวิทยบริการกาฬสินธุ์ วิทยาเขตขอนแก่น (วัดกลาง)
พิธีประสาทปริญญาบัตร
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดถวาย เจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จพระดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีประสาทปริญญาบัตร แก่บัณฑิต มหาบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ณ หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ทำเนียบเลขาธิการมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์
ลำดับ | รูป | รายนาม/สมณศักดิ์ | เริ่มวาระ | สิ้นสุดวาระ | วัด |
1 | สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) | พ.ศ. - | พ.ศ. - | วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร |
ทำเนียบอธิการบดี
ลำดับ | รูป | รายนาม/สมณศักดิ์ | เริ่มวาระ | สิ้นสุดวาระ | วัด |
1 | สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฟื้น ชุตินฺธโร) | พ.ศ. 2490 | พ.ศ. 2491 | วัดสามพระยา | |
2 | สมเด็จพระธีรญาณมุนี (ธีร์ ปุณฺณโก) | พ.ศ. 2491 | พ.ศ. 2496 | วัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร | |
3 | พระธรรมวรนายก (สมบูรณ์ จนฺทโก) | พ.ศ. 2496 | พ.ศ. 2529 | วัดอุดมธานี จังหวัดนครนายก | |
4 | พระราชรัตนโมลี (นคร เขมปาลี) , ดร. | พ.ศ. 2529 | พ.ศ. 2540 | วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ | |
5 | พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต), ศาสตราจารย์ ดร. | พ.ศ. 2540 | พ.ศ. 2561 | วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร | |
6 | พระธรรมวัชรบัณฑิต (สมจินต์ สมฺมาปญฺโญ),ศาสตราจารย์ ดร. | พ.ศ. 2561 | ปัจจุบัน | วัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ |
ทำเนียบนายกสภา
ลำดับ | รูป | รายนาม/สมณศักดิ์ | เริ่มวาระ | สิ้นสุดวาระ | วัด |
1 | พระพิมลธรรม (ช้อย ฐานทตฺโต) | พ.ศ. 2494 | พ.ศ. 2490 | วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ | |
2 | พระพิมลธรรม (อาจ อาสโภ) | พ.ศ. 2490 | พ.ศ. 2503 | วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ | |
3 | พ.ศ. 2503 | พ.ศ. 2523 | วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ | ||
2 | สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสโภ) | พ.ศ. 2523 | พ.ศ. 2532 | วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ | |
4 | พ.ศ. 2533 | พ.ศ. 2547 | วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ | ||
5 | พระพรหมวชิราธิบดี (พีร์ สุชาโต) | พ.ศ. 2549 | ปัจจุบัน | วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ |
ผู้ที่มีคุณูปการต่อมหาวิทยาลัย
- พระพรหมมังคลาจารย์ (ปั่น ปทุมุตฺตโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษดิ์ จังหวัดนนทบุรี
- สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
- สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) อดีตเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร อดีตผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
- นายแพทย์รัศมี คุณหญิงสมปอง วรรณิสสรได้บริจาคที่ดินจำนวน 84 ไร่ 1 งาน 37 ตารางวา ที่ อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้แก่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย รวมกับที่ดิน ที่มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการจัดซื้อเพิ่มเติม ปัจจุบันมีเนื้อที่ทั้งหมด 323 ไร่
ศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียง
- ศาสตราจารย์พิเศษ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) ป.ธ.9,กรรมการมหาเถรสมาคม ,ราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ท่านเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลการศึกษาเพื่อสันติภาพ จากองค์การยูเนสโก (UNESCO Prize for Peace Education)
- ดร.พระพรหมวชิรโมลี (ทองอยู่ ญาณวิสุทฺโธ) ป.ธ.9 อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11,อดีตเจ้าอาวาสพระอารามหลวงวัดศาลาลอย จังหวัดสุรินทร์,อดีตกรรมการสภามหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
- ศาสตราจารย์,ดร. พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) ป.ธ.9, เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร,อาจารย์ประจำหลักสูตรปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- พระพรหมโมลี (สุชาติ ธมฺมรตโน) ป.ธ.9,เจ้าคณะภาค 5,ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ, กรรมการมหาเถรสมาคม,แม่กองบาลีสนามหลวง, เลขานุการแม่กองงานพระธรรมทูต, รองประธานคณะพระธรรมจาริก, หัวหน้าพระธรรมทูตสายที่ 3,อดีตประธานคณะเลขานุการผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช,อดีตเลขาธิการสมัชชามหาคณิสสร
- พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ),(ดร.กิตติมศักดิ์) อดีตเจ้าคณะภาค 10,อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร, อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม,อดีตประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ,อดีตหัวหน้าพระธรรมทูตสายที่ 6,อดีตรองแม่กองธรรมสนามหลวง
- ศาสตราจารย์,ดร. พระพรหมวัชรธีราจารย์ (สมจินต์ สมฺมาปญฺโญ) ป.ธ.9 ป.ธ.9,ดร., ศษ.บ., พธ.ม., Ph.D.(Pali&Buddhist Studies) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ, อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- พระเทพปฏิภาณวาที (สุนทร ญาณสุนฺทโร) ป.ธ.5, ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร เจ้าคณะเขตดุสิต ผู้ช่วยแม่กองธรรมสนามหลวง และนักเทศน์ชื่อดัง
- รองศาสตราจารย์,ดร.พระเทพปวรเมธี (ประสิทธิ์ พฺรหฺมรํสี) รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- รองศาสตราจารย์,ดร.พระราชเขมากร (ประยุทธ ภูริทตฺโต),ป.ธ.9 ผู้จัดการโรงเรียนพุทธโกศัยวิทยา รองอธิการบดี เจ้าคณะจังหวัดแพร่ และเจ้าอาวาสวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร
- ผู้ช่วยศาสตราจารย์,ดร. พระราชวิมลโมลี (มานพ ปิยสีโล) ป.ธ.9 เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์
- พระราชปัญญาสุธี (อุทัย ญาโณทโย) รองเจ้าคณะภาค 11,พระปริยัติธรรมชั้นป.ธ.8-ป.ธ.9
- รองศาสตราจารย์,ดร.พระสุธีวีรบัณฑิต (โชว์ ทสฺสนีโย) ป.ธ.7,พธ.บ(ศาสนา),ศศ.ม.(การบริหารองค์การ),Ph.D.(Phil.),DODT.(ODT.),DM.(Pub.man) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงวัดศรีสุดารามวรวิหาร ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการสังคม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- รองศาสตราจารย์,ดร.พระราชวัชรสารบัณฑิต (ประสาร จนฺทสาโร) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร,รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- ผู้ช่วยศาสตราจารย์ พระศรีปริยัติธาดา (ทองสา ฐานิสฺสโร) ป.ธ.9 รองเจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์,ผู้อำนวยวิทยาลัยสงฆ์บุรีรัมย์
- พระเมธีวชิโรดม (วุฒิชัย วชิรเมธี) ป.ธ.9 ผู้ก่อตั้งสถาบันวิมุตตยาลัย,ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค6,ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง วัดพระสิงห์ (จังหวัดเชียงราย)
- ศาสตราจารย์,ดร. พระธรรมทูตในต่างประเทศ ประเทศรัสเซีย ศาสตราจารย์ประจำ
- รองศาสตราจารย์,ดร. (กลางพนม) ป.ธ.9 ผู้ก่อตั้งอุทยานการศึกษามงคลกานต์ ที่จังหวัดสุรินทร์
- พระครูนิเทศก์ธรรมคุณ เจ้าคณะอำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์
- พระครูปริยัติภัทรคุณ (เสนอ สิริภทฺโท) เจ้าคณะอำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์,ผู้จัดการโรงเรียนสิริภัทรคุณานุสรณ์(โรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนา) จังหวัดบุรีรัมย์
- ,ดร.กุเทพ ใสกระจ่าง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดศรีสะเกษ เขต 2 และอดีตโฆษกพรรคพลังประชาชน
- ศาสตราจารย์,ดร. ประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทฐาน Research & Market จำกัด กิจการวิจัยการจัดการ การตลาดและการลงทุนระดับนานาชาติ
- ศาสตราจารย์พิเศษ,ดร. จำลอง สารพัดนึก อดีตอาจารย์ประจำภาควิชาภาษาตะวันออก คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
- ศาสตราจารย์พิเศษ ราชบัณฑิต สาขาตรรกศาสตร์ ประจำราชบัณฑิตยสถาน
- ศาสตราจารย์,ดร. อาจารย์ประจำคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ศาสตราจารย์,ดร.วัชระ งามจิตเจริญ อาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- รองศาสตราจารย์พิเศษ,ดร. อดิศร เพียงเกษ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พรรคเพื่อไทย
- รองศาสตราจารย์,ดร. อาจารย์ประจำคณะโบราณคดี อดีตผู้อำนวยการศูนย์สันสกฤตศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร
- ผู้ช่วยศาสตราจารย์,,ดร. บรรจบ บรรณรุจิ อาจารย์ประจำคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และภาคีสมาชิก สาขาศาสนศาสตร์ สำนักธรรมศาสตร์และการเมือง ราชบัณฑิตยสถาน
- มานัส ทารัตน์ใจ ป.ธ.6, พธ.บ., M.A. อดีตกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม
- ผู้ประกาศข่าว,พิธีกรนักจัดรายการวิทยุโทรทัศน์,นักสื่อสารมวลชน
- ดร.สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ สาขาวิชาพระพุทธศาสนา, ดารานักแสดง
- ดร.ปภัสรา เตชะไพบูลย์ สาขาวิชาพระพุทธศาสนา,ดารานักแสดง
- คุณหญิง ดร.สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ สาขาวิชาพระพุทธศาสนา,นักการเมือง,อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร,อดีตรัฐมนตรี,พรรคไทยสร้างไทย
- ไพรวัลย์ วรรณบุตร นักวิชาการ,นักแสดง,นักสื่อสารมวลชน
- ส.จ.ต๋อม สมาชิกสภาจังหวัดเลย
สู่มหาวิทยาลัย
เลขที่ 79 หมู่ที่ 1 หลักกิโลเมตรที่ 55 ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รหัสไปรษณีย์ 13170
ลำดับเหตุการณ์ของมหาวิทยาลัย
- พ.ศ. 2432 วันที่ 8 พฤศจิกายน 2432 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯสถาปนาและพระราชทานนามสถาบัน มหาธาตุวิทยาลัย ขึ้นภายในวัดมหาธาตุฯ เพื่อให้เป็นสถานที่บอกพระปริยัติธรรม และเป็นที่เล่าเรียนพระปริยัติธรรมของพระสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ซึ่งจากเดิมเคยใช้พื้นที่บริเวณเก๋งจีนหน้าวัดพระศรีรัตนศาสนาดาราม
- พ.ศ. 2435 วันที่ 18 กันยายน 2435 รัชกาลที่ 5 ทรงมีลายพระหัตถเลขาถึงพระยาภาสกรวงษ์ เสนาบดีกระทรวงธรรมการ ปรารภถึงการที่ทรงจะเปลี่ยนชื่อ มหาธาตุราชวิทยาลัย เป็น มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- พ.ศ. 2439 วันที่ 13 กันยายน 2439 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามใหม่ว่า "มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย" พร้อมสถาปนาอาคารสังฆิกเสนาสน์ราชวิทยาลัยให้เป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ โดยทรงตั้งพระทัยจะให้เป็นสถาบันการศึกษาชั้นสูงของพระสงฆ์
- พ.ศ. 2490 พระพิมลธรรม (ช้อย ฐานทตฺตเถร) ประชุมพระเถรานุเถระฝ่ายมหานิกาย 57 รูป เพื่อประกาศให้มีการจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษา และประกาศใช้ระเบียบมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พุทธศักราช 2490 พร้อมทั้งประกาศแต่งตั้งสมาชิกสภามหาวิทยาลัย คณะแรก [10 มกราคม 2490]
- พ.ศ. 2490 วันที่ 30 มกราคม 2490 ประชุมสภามหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยคร้งแรก เพื่อเลือกตั้งอธิการบดี เลขาธิการและคณบดี รวมทั้งตั้งกรรมาธิการแผนกต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย
- พ.ศ. 2490 วันที่ 18 กรกฎาคม 2490 ประกอบพิธีเปิดเรียนในชั้นอบรมพื้นความรู้ใหม่แก่พระนิสิตรุ่นแรกของมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- พ.ศ. 2490 เปิดบริการมหาจุฬาบรรณาคาร
- พ.ศ. 2492 วันที่ 1 กรกฎาคม 2492 เปิดดำเนินการโรงเรียนแผนกบาลีมัธยมศึกษา ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนบาลีสาธิตศึกษา มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- พ.ศ. 2492 วันที่ 18 กรกฎาคม 2492 เปิดดำเนินการศึกษาแผนกบาลีเตรียมอุดมศึกษา มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อย่างเป็นรูปธรรม
- พ.ศ. 2493 จัดตั้งคณะพุทธศาสตร์ แต่เปิดสอนครั้งแรกในปี พ.ศ. 2494
- พ.ศ. 2497 มีผู้สำเร็จพุทธศาสตรบัณฑิต (พธ.บ.) รุ่นแรก 6 รูป
- พ.ศ. 2498 สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ทรงเป็นประธานในการวางศิลาฤกษ์อาคารเรียนมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย 3 ชั้น เมื่อ 20 กันยายน 2498
- พ.ศ. 2499 เมื่อ 10 ธันวาคม 2499 จัดตั้งสำนักธรรมวิจัย เพื่อสนองงานเผยแผ่และกิจกรรมต่าง ๆ ของ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- พ.ศ. 2500 ประกาศใช้หลักสูตรระบบทวิภาคหรือชีเมสเตอร์และระบบหน่วยกิตเป็นแห่งแรกของประเทศไทย
- พ.ศ. 2501 กำเนิดโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์แห่งแรกในประเทศไทย ที่มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และขยายสาขาออกไปทั้งประเทศและต่างประเทศในช่วงต่อมา (13 กรกฎาคม 2501)
- พ.ศ. 2503 คณะศรัทธานำโดยนายสำราญ กัลยาณรุจ นายปรีดา รามอินทรา และคณะ ได้มอบถวายที่ดินที่บ้านบางปลากด ต.บางปลากด อ.องครักษ์ จ.นครนายก จำนวน 156 ไร่ 2 งาน 60 ตารางวา ให้แก่มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดยในชั้นแรกโอนฝากไว้กับวัดมหาธาตุ (3 มิถุนายน 2503)
- พ.ศ. 2504 เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2504 เปิดคณะครุศาสตร์ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นคณะที่ 2
- พ.ศ. 2506 เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2506 เปิดประชุมครั้งแรกเพื่อดำเนินการสร้างพระไตรปิฎกบาลี มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดยเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต วัดพระเชตุพน ฯ เป็นประธาน 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2506 เปิดแผนกอบรมครูศาสนศึกษาขึ้น เป็นหลักสูตรวิชาสามัญชั้น ป.กศ. และเพิ่มบาลีธรรมและยกฐานะขึ้นเป็น ป.กศ.สูง ต่อมาปี พ.ศ. 2512 ได้ยกฐานะเป็นวิทยาลัยครูศาสนศึกษา และได้ยุบไปรวมกับคณะครุศาสตร์ในปี พ.ศ. 2530
- พ.ศ. 2506 เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2506 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงบริจาคพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 70,000 บาท สมเด็จพระบรมราชินีนาถ บริจาคทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 70,000 บาท สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงบริจาคจำนวน 70,000 บาท เพื่อสมทบทุนการจัดสร้างพระไตรปิฎกบาลี มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- พ.ศ. 2506 เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2506 เปิดการศึกษาคณะเอเซียอาคเนย์ ต่อมาปี 2507 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นคณะมานุษยสงเคราะห์ศาสตร์ จนกระทั่งปีการศึกษา 2529 ได้แยกออกเป็น 2 คณะ คือ คณะมนุษยศาสตร์ และคณะสังคมศาสตร์
- พ.ศ. 2507 เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2507 จัดตั้งมูลนิธิมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ปรากฏเป็นหลักฐานดังประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 82 ตอนที่ 50 ในวันที่ 22 มิถุนายน 2508 หน้า 1695
- พ.ศ. 2507 เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2507 นางบุญรอด ไพสิษฎิ์ บริจาคที่ดินจำนวน 7 ไร่ 2 งาน 32 ตารางวา ตรงบริเวณปากตรอกจรเข้ ต.บางนาเกร็ง จ.สมุทรปราการ แก่มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- พ.ศ. 2511 ก่อตั้งอภิธรรมโชติกวิทยาลัย วัดมหาธาตุ ฯ (ย้ายมาจากวัดระฆังโฆสิตาราม)
- พ.ศ. 2512 เมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2512 ยกฐานะแผนกอบรมครูศาสนศึกษา เป็นวิทยาลัยครูศาสนศึกษา (ป.กศ.สูง)
- พ.ศ. 2512 เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2512 มหาเถรสมาคม มีประกาศคำสั่งเรื่องการศึกษาของมหาวิทยาลัยสงฆ์ให้มหาจุฬา ฯ เป็นการศึกษาของคณะสงฆ์
- พ.ศ. 2513 เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2513 มีการจัดตั้งสมาคมศิษย์เก่ามหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- พ.ศ. 2513 เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2513 ตั้งมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตหนองคาย มีพื้นฐานมาจาก "วิทยาลัยสงฆ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ" [จัดตั้งมูลนิธิวิทยาลัยสงฆ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นนิติบุคคล ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 89 ตอนที่ 106 ง หน้า 1816 ประกาศเมื่อ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2515]
- พ.ศ. 2514 เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2514 ตั้งวิทยาลัยสงฆ์ภาคทักษิณ แต่ต่อมาปี พ.ศ. 2528 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช [จัดตั้ง "มูลนิธิวิทยาลัยสงฆ์ภาคทักษิณ" เป็นนิติบุคคล ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 93 ตอนที่ 148 ง หน้า 3602 ประกาศเมื่อ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2519]
- พ.ศ. 2517 เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2517 ตกลงซื้อที่ดินในามมูลนิธิ มจร. สร้างมหาจุฬาอาศรมที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
- พ.ศ. 2518 เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2518 วางศิลาฤกษ์สร้างหอประชุมศูนย์พัฒนาศาสนา มหาจุฬามหาลงกรณราชวิทยาลัยแคมป์สน ส่วนเจดีย์อิสรภาพนั้นวางศิลาฤกษ์เมื่อ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2518
- พ.ศ. 2522 เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2522 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จมาเป็นองค์ประธานงานอนุสรณ์ครบรอบปีที่ 32 ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- พ.ศ. 2522 เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2522 จัดงานและก่อตั้งสถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ เนื่องในโอกาสที่ มจร.ครบรอบ 90 ปี
- พ.ศ. 2524 เมื่อวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2524 ตั้งสถาบันวิปัสสนาธุระ
- พ.ศ. 2525 มีการจัดตั้งมูลนิธิเพื่อร้องรับการบริหารโรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องให้อำนาจจัดตั้ง "มูลนิธิโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย" เป็นนิติบุคคล ปรากฏตามราชกิจจานุเบกษา เล่ม 99 ตอนที่ 18 ประกาศเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2525
- พ.ศ. 2526 แยกคณะมานุษยสงเคราะห์ศาสตร์ เป็นคณะมนุษย์ศาสตร์ และคณะสังคมศาสตร์
- พ.ศ. 2526 ประกาศใช้หลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิต ไม่น้อยกว่า 150 หน่วยกิต
- พ.ศ. 2527 เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2527 ประกาศใช้พระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา พ.ศ. 2527
- พ.ศ. 2527 เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2527 ตั้งมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่
- พ.ศ. 2528 เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2528 ประกาศจัดตั้งโรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- พ.ศ. 2529 เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2529 ตั้งมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น
- พ.ศ. 2529 เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2529 ตั้งมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครราชสีมา
- พ.ศ. 2530 ตั้งมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตอุบลราชธานี เดิมทีมีการเปิดวิทยาลัยครูศาสนศึกษา มจร. มาตั้งแต่ พ.ศ. 2527
- พ.ศ. 2530 เมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2530 ตั้งมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตแพร่
- พ.ศ. 2531 เมื่อวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2531 ตั้งบัณฑิตวิทยาลัย (ปริญญาโท)
- พ.ศ. 2531 เมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2531 ตั้งมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตสุรินทร์
- พ.ศ. 2532 เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2532 จัดงานมหาจุฬา ฯ ในรอบ ศตวรรษ (100 ปี)
- พ.ศ. 2534 เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2534 ตั้งมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตพะเยา
- พ.ศ. 2535 เมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2535 พระสุเมธาธิบดี นายกสภามหาวิทยาลัย นำคณะผู้บริหารและกรรมการชำระพระไตรปิฎก จำนวน 15 ท่าน เข้าเฝ้าสมเด็จพระเทพพระรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อถวายพระไตรปิฎก จำนวน 9 ชุด และอรรถกถาฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จำนวน 9 ชุด
- พ.ศ. 2535 เมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2535 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาเป็นองค์ประธานงานสัปดาห์สมโภชพระไตรปิฏก ฯ ภาษาบาลี ฉบับมหาจุฬา ฯ
- พ.ศ. 2535 เมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2535 ยกฐานะสถาบันบาฬีพุทธโฆส เป็ฯมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นวิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส นครปฐม
- พ.ศ. 2535-2536 เจ้าอาวาสวัดศรีสุดาราม (พระราชพิพัฒนน์โกศล) สร้างอาคารมหาจุฬา ฯ แห่งที่ 2 ที่วัดศรีสุดาราม กทม.
- พ.ศ. 2537 เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2537 จัดแสดงมุทิตาสักการะพระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตฺโต) เนื่องในโอก
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly mcr epnsthabnxudmsuksainkakbkhxngrth inkarkakbduaelkhxngkrathrwngkarxudmsuksa withyasastr wicyaelanwtkrrm cdkarsuksawichaphraphuththsasna aelasastrkareriynruaekhnngxun odymihlkthrrmkhasxninphraitrpidksxdaethrkinbtheriynkarsuksawichachnsunginrupaebbmhawithyaly idrbphramhakrunathikhuncakphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw thrngsthapnakhunephuxthwayaedkhnasngkhfaymhanikay odyerimcdkareriynkarsxndanphuththsastrepnsakhaaerk aelwtxmaidkhyaykareriynkarsxnipyngsakhawichaxun khlaykbrupaebbkarkxtng mhawithyalyparis praethsfrngess aelamhawithyalyxxksfxrd praethsxngkvs thierimtncaksakhadansasnaaelwkhyayipyngsakhawichaxunmhawithyaly mhaculalngkrnrachwithyalychuxedimmhathatuwithyaly inphrasngkhrachupthmphchuxyxmcr MCUkhtiphcnpy ya olks mi pch ochot pyyaepnaesngswanginolk praephthsthabnxudmsuksainkakbkhxngrthsthapna13 knyayn ph s 2439xthikarbdiphraphrhmwchrthiracary smcint sm mapy oy xthikarbdiphraphrhmwchrthiracary smcint sm mapy oy nayksphaphraphrhmwchirathibdi phir suchaot thitngelkhthi 79 hmuthi 1 hlkkiolemtrthi 55 tabllaithr xaephxwngnxy cnghwdphrankhrsrixyuthyasi sichmphuewbistwww mcu ac thxakharhxprachum mwk 48 phrrsamhawchiralngkrn mcr xaephxwngnxy mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly cdepnsthabnkarsuksachnsungyukhaerkaehnghnungkhxngithy inpi ph s 2562 mcr idmixayukhrb 132 pi thuxkaenidcak mhathatuwithyaly thiphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw thrngphrakrunaoprdekla ihsthapnakhunphayinwdmhathatu emuxpi ph s 2430 odyerimthakarsxntngaetpi ph s 2432 txmaidphrarachthannamihmwa mhaculalngkrnrachwithyaly emuxkhrawthrngsthapnaxakharsngkhikesnasnrachwithyalyinpi ph s 2439 odythrngtngphrathycaihepnsthabnkarsuksachnsungkhxngphrasngkh kardaeninngankhxngwithyalyiderimtnxyangcringcngemux ph s 2490 odyphraphimlthrrm chxy thantht tethr aelamikardaeninnganmatamladbcnidrbkarykthanaihepnmhawithyalyinkakbkhxngrthinpi ph s 2540 tamkhwaminphrarachbyytimhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly ph s 2540 xthikarbdiruppccubn khuxphraphrhmwchrthiracary smcint sm mapy oy sastracary dr mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly epnmhawithyalyrththimibthbathoddedninkarsngesrimkarsuksadanphraphuththsasnathisakhyaehnghnungkhxngolk aelaepnmhawithyalysunyklangkarsuksadanphuththsastrthisakhykhxngkhnasngkhithy mikarcdtngwithyaekht withyalysngkh sunywithybrikaraelahxngeriyn kracayipthwthukphumiphakhkhxngpraeths pccubn epidkareriynkarsxnin 4 khna khrxbkhlumthngradbpriyyaphuththsastrbnthitcnthungpriyyaphuththsastrdustibnthit hlksutrnanachatiaelaphasaxngkvs rwmthngsin 33 sakhawicha nxkcakni yngidcdtngsthabnwicykhunphayinmhawithyalyephuxdaeninkarwicyindanphuththsastrprayuktdwy phrabathsmedcphraecaxyuhw thrngphrakrunaoprdthway ecaphrakhun smedcphraxriywngsakhtyan smedcphrasngkhrach sklmhasngkhprinayk esdcphradaenin epnxngkhprathaninphithiprasathpriyyabtraekbnthit mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly sisyekahlaythan emuxcbcaksthabnaehngniidrbkartxbrbihekhasuksatxinsthabnkarsuksachnnakhxngolkhlayaehng echn mhawithyalyharward mhawithyalyeyl praethsshrthxemrika mhawithyalyhxngkng mhawithyalyfutn praethscin mhawithyalyxxkfxrd mhawithyalyekhmbridc mhawithyalylxndxn mhawithyalyesnpietxrsebirk praethsrsesiy l danxakharsingpluksranginmhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly idrbkhwamemttanuekhraahxupthmphcak phraedchphrakhun phraphrhmmngkhlacary pn pthumut tor xditecaxawaswdchlprathanrngsvsdi cnghwdnnthburi ecaphrakhun smedcphraphuthacary ekiyw xupeson xditecaxawaswdsraeksrachwrmhawihar xditprathankhnaphuptibtihnathismedcphrasngkhrach aela ecaphrakhun smedcphramharchmngkhlacary chwng wrpuy oy xditecaxawaswdpakna phasiecriy krungethphmhankhr xditphuptibtihnathismedcphrasngkhrach tlxdcnthanthanthnbdiphumicitsrththarwmbricakhkppiyaphnthepnecaphaphsrangxakharaelasingpluksrangprawtimhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly swnklang wdmhathatuyuwrachrngsvsdirachwrmhawihar emuxklawthungprawtiaelakhwamepnmakhxngmhawithyalymhaculalngkrnrachwithyalynn samarthaebngxxkepn 7 yukh klawkhux yukhkarkxtngmhawithyaly yukherimkarcdkarsuksa yukhprbprungaelakhyaykarsuksa yukhrbrxngpriyyabtraelasthanakhxngmhawithyaly yukhphrarachbyytimhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly yukhekhasukarepnsunyklangmhawithyalyphraphuththsasnananachati yukhrungeruxngkhxngkhxngmhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly odymiraylaexiyddngtxipni layphrahtthphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw thrngmiphrarachprarphinkarsthapnamhaculalngkrnrachwithyaly emux rs 115yukhkarkxtngmhawithyaly phrabathsmedcphraprminthrmhaculalngkrn phraculcxmeklaecaxyuhw idthrngsthapnamhaculalngkrnrachwithyalykhun odyihyaykarsxnphrapriytithrrmcaksalabxkphrapriytithrrmphayinwdphrasrirtnsasdaramiptngthiwdmhathatu ephuxepnthielaeriynkhxngphrasngkhfaymhanikayaelakhvhsth emux ph s 2430 aelaoprdiheriykwa mhathatuwithyaly mhathatuwithyalyidepidthakarsxnepnthangkar emuxwnthi 8 phvscikayn ph s 2432 txma phrayaphaskrwngs esnabdikrathrwngthrrmkar idykrangphrarachbyytichbbaerkkhxngmhaculalngkrnrachwithyaly eriykwarangphrarachbyytimhathatuwithyaly r s 111 ph s 2435 khunthulekla thwayphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw ephuxthrngnaekhapruksainthiprachumesnabdi rangphrarachbyytichbbniyngimidlngphraprmaphiithy cungthuxwayngmiidepnphrarachbyytithimiphlbngkhbichaetxyangid praednthinasnicinrangphrarachbyytichbbnisungmi 24 matraxyuthimatra 1 thikahndihwithyalyaehngniepnsthansuksasahrbphraphiksusamenraelakhvhsthdngni matra 1 mhathatuwithyalyniihtngkhunodyrachupthmphkbarungphrabrmphuththsasnaepnthisngsxnphrabalikhmphirphraitrpidk phuththphcnphasit aekphiksusamenr faykhnamhanikayaelakhvhsthtamaetmikhwamsrththacasuksasubesaakhxwtrptibtiphuththphasitsungcaidepnkhnacarysubip txma phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw idoprdihkhidaebbsrangthawrwtthu eriykwa sngkhesnasnrachwithyaly khuninwdmhathatu ephuxichepnsthanthibaephyphrarachkuslphrabrmsphsmedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis syammkudrachkumar aelathrngprasngkhcaxuthisthwaythawrwtthuniepnsngkhikesnasnsahrbmhathatuwithyaly ephuxepnthielaeriynphrapriytisththrrmaelawichachnsung odyphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw esdcphrarachdaeninipthrngwangsilakxphravks emuxwnthi 13 knyayn ph s 2439 aelaidphrarachthanepliynnammhathatuwithyalyepnmhaculalngkrnrachwithyaly ephuxepnkarechlimphraekiyrtiyskhxngphraxngkh tamprakasphrarachprarphinkarkxphravkssngkhesnasnrachwithyaly r s 115 ph s 2439 khwamtxnhnungwa xakharthawrwtthu dantukeriynorngeriynbalietriymxudmsuksa mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly cungthrngphrakrunaoprdekla ihtngwithyalythielaeriynphraitrpidkaelwichachnsungkhun 2 sthan hnungepnthielaeriynkhxngphrasngkhfaythrrmyutiknikay idtngiwthiwdbwrniewswrwihar phraxaramhlwng phrarachthannamwa mhamkudrachwithyaly xiksthanhnungepnthielaeriynkhxngphrasngkhfaymhanikay idtngiwthiwdmhathatu rachwrmhawihar phraxaramhlwngni minamwamhathatuwithyaly idepidkarelaeriynaetwnthi 8 phvscikayn rtnoksinthr sk 108 subma aetsngkhikesnasnsahrbmhathatuwithyalyniyngimepnthismkhwraekkarelaeriyn emuxkarbaephyphrarachkusswnnnesrcaelwcaidthrngphrarachxuthisthwaythawrwtthuniepnsngkhikesnasnsahrbmhathatuwithyaly ephuxepnthielaeriynphrapriytisththrrmaelwichachnsungsubipphayhna phrarachthanepliynnamihmwa mhaculalngkrnrachwithyaly ephuxihepnthiechlimphraekiyrtiyssubip wikisxrs mingantnchbbekiywkb prakasphrarachprarphinkarkxphravkssngkhesnasnrachwithyaly r s 115 mhaculalngkrnrachwithyalyidcdkarsuksaphrapriytithrrmaephnediminnammhathatuwithyalytlxdma cnkrathngwnthi 9 mkrakhm ph s 2490 phramhaethranuethra faymhanikaycanwn 57 rup miphraphimlthrrm chxy thanthttethr epnprathanidprachumkn n tahnksmedc wdmhathatu prakasihmhaculalngkrnrachwithyaly daeninkarcdkarsuksainrupmhawithyaly tamphrarachpnithankhxngphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw mhaculalngkrnrachwithyalyidepidkarsuksainrupaebbmhawithyaly tngaetwnthi 18 krkdakhm ph s 2490 epntnma inchwngetriymkarprachumphramhaethranuethraephuxprakasihmhaculalngkrnrachwithyalycdkarsuksainrupmhawithyalynn hlwngwicitrwathkar idthabnthukokhrngkarprbprungmhathatuwithyalyhruxmhaculalngkrnrachwithyaly ephuxprakxbkarphicarnakhxngthiprachum bnthukdngklawni hlwngwicitrwathkaresnxwa sthansuksainrupaebbmhawithyalythiwdmhathatuni thaichchuxmhaculalngkrnrachwithyalycaidpraoychnthisakhykhuxmisthanphaphepnmhawithyalytamkdhmay hlwngwicitrwathkaridxangprakasphrarachprarphinkarkxphravkssngkhesnasnrachwithyaly r s 115 ph s 2439 aelwsruppraedniwwa chuxmhaculalngkrnrachwithyalyepnchuxthimixyuinprakasrchkalthi 5 sungmiphlepnkdhmay thaichchuxniid xacthaihsankeramithanaepnmhawithyalytamkdhmay karihpriyyacaepnkarsmburnaelathangbanemuxngkcatxngrbrxngthanakhxngmhawithyalyniethaethiymmhawithyalykhxngbanemuxngexng xyangirktam aemmhaculalngkrnrachwithyalycaidepidkarsuksainrupaebbmhawithyalytngaet ph s 2490 epntnma thangbanemuxngkmiidrbrxngsthanphaphihepnmhawithyalytamkdhmay nnkhngepnephraawaprakasphrarachprarphinkarkxphravkssngkhesnasnrachwithyaly r s 115 ph s 2439 thihlwngwicitrwathkarklawthungnnepnephiyngprakasphrarachprarphinkarwangsilavksxakharkhxngmhaculalngkrnrachwithyaly sungimxacthuxidwa epnphrarachbyytimhaculalngkrnrachwithyaly dwyehtuthimhaculalngkrnrachwithyalyimmiphrarachbyytirbrxngsthanphaphepnmhawithyalytamkdhmay rthbalaelakhnaphubriharmhawithyalycungiddaeninkartangkrrmtangwarainchwngewlakwa 40 piephuxihmikartraphrarachbyytirbrxngsthanphaphepnmhawithyalyihaekmhaculalngkrnrachwithyaly yukhrierimkarcdkarsuksa tamthiphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwthrngmiphrarachpnithaninkarcdkarsuksaephuxphthnabukhlakrkhxngpraethsihmikhwamru khwamekhaic samarthnamaprayuktichinchiwitpracawn mikhwamsamarthinkarrksa aelaephyaephphraphuththsasnaihmikhwammnkhngyingkhun inpi ph s 2489 phraphimlthrrm chxy thantht tethr xthibdisngkhwdmhathatuyuwrachrngsvsdi rupthi 15 mikhwamprasngkhcaprbprungkarsuksa phayinsthabnkarsuksathiepnxyuinkhnannihecriykawhnayingkhun cungmxbhmayih phramhabuyelis tht tsuth thi p th 8 smnskdisudthay phrasuemthathibdi xthibdisngkhwdmhathatu xacaryaehngmhathatuwithyaly aelabrrnarkshxngsmudmhathatuwithyaly sungkalngprbprungkickarhxngsmudkhxngmhathatuwithyaly idchwyrwbrwmkhwamepnmadankarcdkarsuksakhxngmhathatuwithyalythngpwng ephuxekbiwepnhlkthanthangexksarkhxngmhathatuwithyalysubip emuxphramhabuyelis tht tsuth thi idiptidtxkbnaythnit xyuophthi hwhnaaephnkwrrnkhdi idihkhwamxnuekhraahdwydi aelaidkhxkhwamrwmmuxcaknayyim pnthyangkur hwhnakxngcdhmayehtu krmsilpakr chwyxanwykhwamsadwkxiktxhnung aelaidphbexksarsakhythiekiywkb mhaculalngkrnrachwithyaly exksarthiphbni khux layphrahtth inphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw thrngmiipthunghmxmecapraphakr lngwnthi 23 knyayn r s 115 dngcakhxxyechiy saenalayphrarachhtth maaesdngdngtxipni emuxphramhabuyelis tht tsuth thi idphblayphrahtthniaelw idnasaenalayphrahtthipthwayphraphimlthrrm chxy thantht tethr sungphraphimlthrrmidnaeruxngniippruksaharuxkbphraethranuethrainwdmhathatuyuwrachrngsvsdi aelatangwd odythukrupehnphxngtxngknwa smkhwr thicaidcdkarsuksakhxngphrasngkhihepniptamphrarachpnithanthilneklarchkalthi 5 idthrngphrarachthaniw khwamnipraktinswnhnungkhxngwithyaniphnthkhrusastrmhabnthit chuxeruxng phthnakarkhxngmhawithyalysngkhinpraethsithy khxng naymns ekidprangkh ph s 2527 cnkrathnginthisudphraphimlthrrm chxy thantht tethr cungidmihnngsuxnimntphraethrathngcakwdmhathatu aelawdxun canwn 57 rup aelakhrawasxikcanwnhnungmaprachumkn n hxpriyti wdmhathatu inwncnthrthi 23 thnwakhm ph s 2489 ewla 17 00 n odythuxepnkarprachumthidwnmak aelalbechphaa casngektehnidchdkkhuxhnngsuxndprachumxxk emuxwnthi 22 thnwakhm ephuxnimntekhaprachumwnthi 23 thnwakhm epnkarxxkhnngsuxechiylwnghnaephiynghnungwnethann odyphuthiidrbxarathnahruxechiyekhaprachumkhrngni prakxbdwythngfaybrrphchit 7 rup aelakhrawas 4 khn sungthukthancaidrb exksarbnthukokhrngkarprbprungmhathatuwithyaly hrux mhaculalngkrnrachwithyaly cdthaody hlwngwicitrwathkar sunghlwngwicitrwathkarihthuxwabnthukniepnkhwamlb aelaxanidechphaaphuthiidrbechiymaprachumethann txmaphraphimlthrrm chxy thanthttmhaethr xthibdisngkhwdmhathatuyuwrachrngsvsdi insmynncungcdprachumphraethranuethrafaymhanikay canwn 57 rup emuxwnthi 9 mkrakhm ph s 2490 aelaprakasihmhaculalngkrnrachwithyaly daeninkarcdkarsuksaphraitrpidkaelawichachnsunginradbmhawithyaly epidsxnradbpriyyatri khnaphuththsastrepnkhnaaerkemuxwnthi 18 krkdakhm ph s 2490 hlngcaknn ph s 2500 idmikarprbepliynrabbkarwdphlmaepnrabbhnwykit odykahndihnisittxngsuksa xyangnxy 126 hnwykit aelaptibtisasnkic 1 pikxnrbpriyyabtr txmainpi ph s 2505 epidsxnkhnakhrusastr aelainpi ph s 2506 epidsxnhlksutraephnkxbrmkhrusasnsuksa radbprakasniybtraelaepidsxn khnaexechiyxakheny aelaepliynepnkhnamanusysngekhraahsastr emux ph s 2516 aelainpi ph s 2512 prbhlksutraephnkxbrmkhru sasnsuksaepnwithyalykhrusasnsuksa aelaprbepliynhnwykitepn 200 hnwykit xyangirkdi karcdkareriynkarsxnchwng 2 thswrrsaerk yngimidrbkarsnbsnuncakkhnasngkhaelarthethathikhwr thaihprasbpyhadansthanakhxngmhawithyaly aelangbpramanepnxyangmak aetksamarthcdkarsuksamaidxyangtxenuxng yukhprbprungaelakhyaykarsuksa khwamphyayamthicaihmikartraphrarachbyytiekiywkbmhaculalngkrnrachwithyalypraktkhunepnkhrngaerkin ph s 2500 emuxrthbalcxmphl p phibulsngkhramidykrangphrarachbyytirbrxngwithythanapriyyakhxngmhamkutrachwithyaly aelamhaculalngkrnrachwithyaly ephuxsnxngtxsphaphuaethnrasdr aetrthbalkhxngcxmphl p phibulsngkhram sinsudlngephraathukyudxanackarpkkhrxng rangphrarachbyytinicungtkip txma in ph s 2509 khnasngkhidepidkarxbrm phrathrrmthutiptangpraeths khun odysankfukxbrmtngxyuthiwdbwrniewswiharaelamxbihecahnathikhxngmhamkutrachwithyalyaelamhaculalngkrnrachwithyalyepnphudaeninngan aelaihphusaerckarsuksacakmhawithyalysngkhthngsxngaehngniekharbkarfukxbrmepnhlk emuxkardaeninnganbrrluwtthuprasngkhdwydi cungmiokhrngkarthicakhyaykarsuksakhxngsankfukxbrmphrathrrmthutkhunepnkarsuksaradbpriyyaothaelaehnwa khwrcdtngbnthitwithyalykhun khnaxnukrrmkarthitngkhunmaphicarnaeruxngniidphbpyhawa kxnthicacdkarsuksakhnpriyyaothidnn karsuksaradbpriyyatricatxngidrbkarrbrxngmichann priyyaothkcairkhwamhmay thukfaycungehnphxngknwa catxngihrthbalithyrbrxngthanaaelapriyyakhxngmhawithyalysngkhesiykxn aelaphumiswnekiywkhxngtangekhymiprasbkarnrwmknmawa thukkhrngthirthbalphicarnaeruxngkarrbrxngmhawithyalysngkh rthbalmkxangwa mhawithyalysngkhthng 2 aehngnn khnasngkhexngkyngimrbrxng aelwcaihrthbalrbrxngidxyangir khnaxnukrrmkarcungtklngknwacadaeninkarihkhnasngkhrbrxngesiykxn caidpuphunthanihrthbalrbrxngtxip inthisud kidmikhasngmhaethrsmakhmeruxngkarsuksakhxngmhawithyalysngkh ph s 2512 odymtithiprachummhaethrsmakhm emuxwnxngkharthi 6 phvsphakhm 2512 karthimhaethrsmakhmidxxkkhasngnithuxepnkarrbrxngxyangepnthangkarwamhamkutrachwithyalyaelamhaculalngkrnrachwithyalyepnmhawithyalysngkhaelathuxepnswnhnungkhxngrabbkarsuksakhxngkhnasngkhithy khasngmhaethrsmakhmchbbni mi 12 khx sarasakhyxyuinkhxtxipni khx 3 nbaetwnprakasichkhasngni ihkarsuksakhxngsphakarsuksamhamkutrachwithyaly inphrabrmrachupthmph n wdbwrniewswihar aelakhxngmhaculalngkrnrachwithyaly inphrabrmrachupthmph n wdmhathatuyuwrachrngsvsdi sungdaeninkarxyuaelw epnkarsuksakhxngkhnasngkh khx 7 thaepnkarsmkhwr mhawithyalysngkhthngsxngcarwmkncdkarsuksakhnbnthitwithyalyxikswnhnung odyxnumtikhxngsphakarsuksakhxngkhnasngkhkid khasngmhaethrsmakhmchbbnimikhwamsakhymak emuxmikhwamphyayamthicaihmikarrbrxngmhawithyalysngkhinrayatxma ehtuphlsakhythibukhkhlphuekiywkhxngykkhunchiaecngtxrthbalkhux karxangthungkhasngmhaethrsmakhmchbbni aelakardaeninnganekiywkbkarsuksakhxngmhawithyalysngkh kidxasykhasngmhaethrsmakhm ph s 2512 epnhlkthan in ph s 2515 cxmphlthnxm kittikhcr epnhwhnakhnaptiwtibriharpraethshwhnafayxanwykarsuksaaelasatharnsukhkhxngkhnaptiwtiidtngkhnaxnukrrmkarkhunmakhnahnungephuxphicarnaeruxngmhawithyalysngkh prakxbdwyxnukrrmkar 7 than mi naycwn eciyrny epnprathan nayrabil sitsuwrrn epnrxngprathanelkhathikarmhaculalngkrnrachwithyaly khux phrathrrmkhunaphrn ekiyw xupeson epnxnukrrmkar phrasriwisuththiomli prayuthth pyut ot idekharwmprachum phlkhxngkarprachumkhxngkhnaxnukrrmkarthaihmikarrangprakaskhnaptiwti 10 khxephuxrbrxngsthanphaphmhawithyalysngkhthngsxngaehng aetinrahwangthidaeninkarxyunn khnaptiwtiidsinsudlngephraamikarprakasichrththrrmnuy ph s 2515 rangprakaskhnaptiwtichbbnicungkhangxyu cxmphlthnxmidklbmaepnnaykrthmntriinrabbrththrrmnuykarpkkhrxngrachxanackrithy ph s 2515 misphanitibyytiaehngchatithahnthixxkphrarachbyyti idmikarnaprakaskhnaptiwti ph s 2515 klbmaphicarnaaelaprbepliynepnrangphrarachbyytiephuxrbrxngsthanphaphkhxngmhawithyalysngkhthngsxngaehng khnarthmntrimimtiehnchxbrangphrarachbyytimhawithyalysngkhemuxwnthi 2 tulakhm ph s 2516 aetyngimthnidesnxsphanitibyyti rthbalcxmphlthnxm kittikhcrsinsudlngephraaekidwnmhawipoykhinwnthi 14 tulakhm ph s 2516 rangphrarachbyytinicungtkip smyrthbalkhxngnaykrthmntrisyya thrrmskdi idmikaresnxrangphrarachbyytimhawithyalysngkhekhasuthiprachumkhnarthmntriemuxwnthi 8 mkrakhm ph s 2517 khnarthmntriidmimtiihrxeruxngniiwkxn txmaemuxwnthi 29 mkrakhm ph s 2517 khnarthmntrimimtirbhlkkarrangphrarachbyytimhawithyalysngkh odykahndnoybayiwwa sthabnkarsuksathicaihpriyyaidtxngprbprungwithikaraelahlksutr krathrwngsuksathikarcungidaetngtngkhnakrrmkarkhunmachudhnungeriykwakhnakrrmkarprbprungwithikaraelahlksutrmhawithyalysngkhihsamarthihpriyyaidodysmburn prakxbdwykrrmkar 14 than mi naycruy wngssaynh epnprathankrrmkarcakmhaculalngkrnrachwithyaly khux phraphrhmkhnaphrn ekiyw xupeson phrarachwrmuni prayuthth pyut ot phramhaesthiyr thiryaon aelanaycanngkh thxngpraesrith khnakrrmkarchudniprachum 8 khrng idykrangphrarachbyytimhawithyalysngkh 2 chbb khuxphrarachbyytimhamkudrachwithyalyaelaphrarachbyytimhaculalngkrnrachwithyaly klawechphaarangphrarachbyytimhaculalngkrnrachwithyalynn mi 45 matra sarasakhykhuxkarrbrxngsthanphaphepnmhawithyaly dngkhwaminmatra 5 wa ihmhaculalngkrnrachwithyalyepnnitibukhkhl mithanaepnsthabnkarsuksakhxngkhnasngkh idrbkhwamxupthmphaelaxanacbriharngancakrth odythangkrathrwngsuksathikar khnarthmntrimimtirbhlkkarrangphrarachbyytiemuxwnthi 8 tulakhm ph s 2517 aelasngihkhnakrrmkarkvsdikaphicarna emuxkhnakrrmkarkvsdikaphicarnaesrckidmikarepliynaeplngrthbal rangphrarachbyytimhawithyalysngkhcungkhangxyu insmyrthbalthdmasungmi hmxmrachwngskhukvththi praomch epnnaykrthmntri nayniphnth ssithr rthmntriwakarkrathrwngsuksathikaridnaexarangphrarachbyytimhawithyalysngkhthikhnakrrmkarkvsdikaphicarnaaelwinsmyrthbalnaysyya thrrmskdi esnxtxsphaphuaethnrasdr rangphrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxngchbbmichuxwa rangphrarachbyytimhawithyalymhamkudrachwithyalyaelarangphrarachbyytimhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly phrarachbyytiaetlachbbmi 56 matra sarasakhyyngkhngepneruxngkarrbrxngsthanphaphepnmhawithyaly praednthinasnickhuxmatra 41 khwamwa phusxninmhawithyalymidngni khux 1 pwracary sungxacepnpwracarypracahrux pwracaryphiess 2 wracary 3 xacary sungxacepnxacarypracahruxxacaryphiess inwnthi 22 singhakhm ph s 2518 sphaphuaethnrasdrlngmtiinwarathi 1 rbhlkkarrangphrarachbyytithngsxngchbbdwykhaaennesiyngepnexkchnthaelamxbihkhnakrrmathikarkarsuksaphicarnaaeprytti khnakrrmathikarkarsuksasungminaypricha ephchrsingh epnprathanidichewlananthung 4 eduxninkarprachumephiyng 4 khrng phicarnarangphrarachbyytithngsxngchbb phrarachwrmuni prayuthth pyut ot rxngelkhathikarmhaculalngkrnrachwithyalyepnphuaethncakmhawithyalyekhachiaecnginthiprachumkhnakrrmathikar hlngcakphicarnaaepryttiesrcaelw prathankhnakrrmathikarkarsuksaidthahnngsuxlngwnthi 28 phvscikayn ph s 2518 aecngprathansphaphuaethnrasdrwa khnakrrmathikaridphicarnarangphrarachbyytimhawithyalysngkhesrcaelw aelakhxihesnxthiprachumsphaphuaethnrasdrphicarnatxip sphaphuaethnrasdrimmioxkasphicarnarangphrarachbyytichbbniephraaidmiphrarachkvsdikayubsphaesiykxn rangphrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxngchbbcungtkipxyangnaesiyday insmyrthbalkhxnghmxmrachwngsesniy praomch smachiksphaphuaethnrasdr 2 thankhux naypramwl kulmatyaelanayepluxng phloytha idykrangphrarachbyytimhawithyalymhamkudrachwithyalyaelarangphrarachbyytimhawithyalymhaculalngkrnrachwithyalykhunmakhnla 2 chbb enuxhasaraaelahlkkaryngkhngepnechnediywkbchbbthitkipinrthbalkxn smachiksphaphuaethnrasdrthngsxngthanidesnxrangphrarachbyytidngklawtxsphaphuaethnrasdr enuxngcakepnrangphrarachbyytithiekiywdwykarengin rthbalidkhxrbrangphrarachbyytiniipphicarnakxnphayinkahndewla 6 eduxn inkhntxnhakhxmulephuxprakxbkarphicarnakhxngrthbalni sankelkhathikarkhnarthmntriidmihnngsuxlngwnthi 9 10 aela 11 mithunayn ph s 2519 aecngihkrathrwngsuksathikaresnxkhwamehnekiywkbrangphrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxngaehngkhxngnaypramwl kulmatyaelanayepluxng phloytha krathrwngsuksathikaridmikhasngthi 380 2519 lngwnthi 8 singhakhm ph s 2519 tngkhnakrrmkarphicarnarangphrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxngaehng mikrrmkarmhaethrsmakhmruphnungrwmepnkrrmkarxyudwy eruxngphrarachbyytimhawithyalysngkhcungthuksngekhasukarphicarnakhxngmhaethrsmakhm emuxwnthi 30 singhakhm ph s 2519 mhaethrsmakhmprachumkhrngthi 21 2519 idphicarnarangphrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxngaehng aelaidmimtitngkhnakrrmkarkhnahnung canwn 15 than ephuxphicarnaeruxngniodyechphaa txmainwnthi 21 knyayn ph s 2519 naypracwb khabuyrtn rxngxthibdikrmkarsasna idesnxkhwamehnthwaymhaethrsmakhmwa smkhwrykrangphrarachbyytichbbihminrupkhxngphrarachbyytikarsuksasngkhthimienuxhakhrxbkhlumkarsuksasngkhthukradb mhaethrsmakhmidprachumkhrngphiessinwncnthrthi 27 knyayn ph s 2519 mimtiihkrmkarsasnadaeninkarekiywkbrangphrarachbyytikarsuksaaehngsngkhesnxkrathrwngsuksathikarephuxtraepnphrarachbyytitxip txmainwnthi 6 tulakhm ph s 2519 khnaptirupkarpkkhrxngidyudxanackarpkkhrxngcakrthbalhmxmrachwngsesniy praomch kardaeninkarekiywkbrangphrarachbyytikarsuksaaehngsngkhcungchangkip inph s 2520 smyrthbalthi naythaninthr krywiechiyr epnnaykrthmntri dr phiyoy sathr rthmntriwakarkrathrwngsuksathikarehnwa phrarachbyytikarsuksaaehngsngkhkhwrihkhnasngkhdaeninkarcdtha cungmxbhmayihkrmkarsasnanarangphrarachbyytiekiywkbkarsuksakhxngsngkhthukchbbsungrwmthungrangphrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxngaehngesnxmhaethrsmakhmphicarnaeluxkhruxaekikhephimetimhruxrangkhunihmephiyngchbbediyw mhaethrsmakhmidphicarnainkhrawprachumkhrngthi 3 2520 emuxwnthi 31 mkrakhm ph s 2520 mimtieluxkrangphrarachbyytikarsuksaaehngsngkhephuxdaeninkartxip inthisudmhaethrsmakhmidprachumkhrngthi 11 2520 emuxwnthi 10 phvsphakhm ph s 2520 rbhlkkaraelaesnxrangphrarachbyytikarsuksaaehngsngkhihkrathrwngsuksathikardaeninkar krathrwngsuksathikaridnarangphrarachbyytichbbniesnxinkarprachumkhnarthmntri emuxwnthi 25 phvsphakhm ph s 2520 khnarthmntrimimtirbhlkkaraelwsngtxihkhnakrrmkarkvsdikaphicarna khnakrrmkarkvsdikaphicarnaaekikhcakthimhaethrsmakhmrangma 17 matra ephimepn 27 matraaelw sngklbmathimhaethrsmakhm thiprachummhaethrsmakhmphicarnaehnwamikaraekikhmak cungtngkhnakrrmkarkhunmakhnahnung canwn 9 thanephuxphicarnarangphrarachbyytikarsuksaaehngsngkhthikhnakrrmkarkvsdikaaekikh rangphrarachbyytinikhangkarphicarnakhxngmhaethrsmakhmnanthung 3 pi cnkrathngsanknganelkhathikarkhnarthmntrimihnngsuxlngwnthi 19 singhakhm ph s 2523 aecngkrathrwngsuksathikarwa sankngankhnakrrmkarkvsdikaidmihnngsuxetuxneruxngkarphicarnarangphrarachbyytikarsuksaaehngsngkh 2 khrngaelwyngimidkhatxb cungehnsmkhwrrangbkarphicarnaphaphphithiprasathpriyyabtr mcr khrngthi 1 cxmphl p phibulsngkhram naykrthmntri thwayphdpriyyaaekecaprakhunsmedcsngkhnayk ephuxprathanaekbnthitmhacularunaerkyukhrbrxngpriyyabtraelasthanakhxngmhawithyaly txmainwnthi 25 kumphaphnth ph s 2526 smyrthbalkhxngphlexkeprm tinsulannth naychaeluxng wuthicnthr xthibdikrmkarsasna idnaeruxngkarrbrxngwuthiepriyythrrm 9 praoykhaelapriyyatrikhxngmhawithyalysngkhthngsxngaehngesnxkrathrwngsuksathikarephuxphicarnadaeninkar naysman aesngmali pldkrathrwngsuksathikaridesnxeruxngnitxthiprachumxthibdi emuxwnthi 1 mithunayn ph s 2526 thiprachumxthibdimimtiehnchxbinhlkkarthicarbrxngwuthiepriyythrrm 9 praoykhaelapriyyatricakmhawithyalysngkhthngsxngaehng aelamxbhmayihkrmkarsasnadaeninnganodyihprasanngankbthbwngmhawithyalyaelasankngankhnakrrmkarkharachkarphleruxn k ph sankngankhnakrrmkarkharachphleruxnesnxwa kxnthicarbrxngwuthiepriyythrrm 9 praoykhaelapriyyatricakmhawithyalysngkhthngsxngaehng krathrwngsuksathikarkhwrethiybwuthiepriyythrrmpraoykhtang kbwuthikarsuksatamhlksutrmthymsuksainrabborngeriyn caknnkidmiprakaskrathrwngsuksathikarlng wnthi 22 singhakhm ph s 2526 eruxngkarethiybkhwamruwuthiepriyythrrm dngni khux epriyythrrm 3 praoykh p th 3 ethiybethamthymsuksatxntn m 3 aelaepriyythrrm 5 praoykh p th 5 ethiybethamthymsuksatxnplay m 6 txmainwnthi 9 knyayn 2526 nayswsdi khaprakxb smachiksphaphuaethnrasdridesnxrangphrarachbyytikahndwithythanaphusaercwichakarphraphuththsasnaephuxekhasukarphicarnakhxngsphaphuaethnrasdr rangphrarachbyytichbbnikhlaykbphrarachbyytikahndwithythanaphusaercwichakarthhar ph s 2497 aelaphrarachbyytikahndwithythanaphusaercwichakartarwc ph s 2517 sarasakhykhxngrangphrarachbyytichbbnikhuxkahndihepriyythrrm 9 praoykhaelapriyyatrikhxngmhawithyalysngkhthngsxngaehngmiskdiaelasiththiethapriyyatrikhxngmhawithyalythwip sanknganelkhathikarrthsphaidsngrangphrarachbyytichbbniihsanknganelkhathikarkhnarthmntriphicarnalwnghna sanknganelkhathikarkhnarthmntriidsngeruxngihkrathrwngsuksathikarphicarnaemuxwnthi 28 knyayn ph s 2526 aelakrathrwngsuksathikarsngeruxngtxihkrmkarsasnaphicarna emuxwnthi 2 tulakhm ph s 2526 krmkarsasnaphicarnaaekikhrangphrarachbyytiaelwsngeruxngklbkrathrwngsuksathikar krathrwngsuksathikaridthaeruxngesnxtxipyngsanknganelkhathikarkhnarthmntri emuxwnthi 18 phvscikayn ph s 2526 inwnthi 27 minakhm ph s 2527 khnarthmntrisungmi phlexkeprm tinsulannth epnnaykrthmntri idphicarnarangphrarachbyytikahndwithythanaphusaercwichakarphraphuththsasna ph s khxngkrathrwngsuksathikaraelwmimtirbhlkkaraelaihsngkhnakrrmkarkvsdikaphicarnatxip inwnthi 12 phvsphakhm ph s 2527 smakhmsisyekamhaculalngkrnrachwithyalyidcdprachumsmmnaeruxngsthanphaphkhxngmhawithyalysngkh n sankthrrmwicyodyxarathnaphrarachwrmuni prayuthth pyut ot brryayeruxng khwamepnmakhxngphrarachbyytimhawithyalysngkh thiprachumidesnxihtngkhnakrrmkarprasanngankhxngphrarachbyytimhawithyalysngkhkhunmakhnahnung minaycanngkh thxngpraesrith epnprathan khnakrrmkarchudniprachumkhrngaerkemuxwnthi 27 phvsphakhm ph s 2527 thiprachumaesdngkhwamhwngiywarangphrarachbyytikahndwithythanaphusaercwichakarphraphuththsasnathikhnarthmntriehnchxbnnimmikarrbrxngsthanphaphmhawithyalysngkhsarasakhyxyuthikarrbrxngwuthiepriyythrrm 9 praoykhaelapriyyatricakmhawithyalysngkhthngsxngaehng thiprachumidrbthrabmtikhxngkhnakrrmkarkvsdikathiwarangphrarachbyytichbbniimsamarthrbrxngsthanphaphkhxngmhawithyalysngkhephraamieruxngkarrbrxngwuthiepriyythrrm 9 praoykhphwngekhama inwnthi 4 krkdakhm ph s 2527 thiprachumsphaphuaethnrasdrkhrngthi 11 2527 idphicarnarangphrarachbyytikahndwithythanaphusaercwichakarphraphuththsasna ph s sungmi 4 chbbkhuxrangphrarachbyytithiesnxodyrthbal nayswsdi khaprakxb nayniym wrpyya naynrngkh nunthxng aelwmimtirbhlkkaraelatngkhnakrrmathikarwisamykhnahnungephuxphicarnaodyichrangkhxngrthbalepnhlk khnakrrmathikarwisamycanwn 25 than minaysmphnth thxngsmkhr epnprathan naychaeluxng wuthicnthr epnelkhanukar aelaminaycanngkh thxngpraesrith naysiri ephchrichy naymanph phliphrinthr rwmepnkrrmathikarinkhnani khnakrrmathikarichewlaphicarnaephiyng 1 eduxnkesnxsphaphuaethnrasdr inwnthi 31 singhakhm ph s 2527 thiprachumsphaphuaethnrasdrkhrngthi 2 2527 smywisamy idlngmtiehnchxbinwarathi 2 aela 3 aelwihesnxtxwuthisphaephuxphicarna inwnthi 3 knyayn ph s 2527 wuthisphaphicarnaihkhwamehnchxbphanrangphrarachbyytichbbni phramhakstriythrnglngphraprmaphiithyinrangphrarachbyytichbbni odymiphlexkpracwb sunthrangkur rxngnaykrthmntri epnphurbsnxngphrabrmrachoxngkaremuxwnthi 27 knyayn ph s 2527 phrarachbyytichbbnimi 13 matra prakasinrachkiccanuebksachbbphiess elm 101 txnthi 140 wnthi 8 tulakhm ph s 2527 sarasakhykhxngphrarachbyytichbbnikhuxrbrxngwithythanaepriyythrrm 9 praoykh aelapriyyatrikhxngmhawithyalysngkhthngsxngaehngihmiskdiaelasiththiethapriyyatrikhxngmhawithyalythwipaelaihmikhnakrrmkarkarsuksakhxngkhnasngkhepnphukhwbkhumduaelkarcdkarsuksamhawithyalysngkh yukhphrarachbyytimhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly phrarachbyytikahndwithythanaphusaerckarsuksawichaphraphuththsasna ph s 2527 thaihmhaculalngkrnrachwithyalyetibotxyangrwderw cakthiekhymiwithyaekhtephiynghnungaehngin ph s 2527 idmiwithyaekhtephimkhunepn 9 aehngin ph s 2534 mhawithyalytngbnthitwithyalyin ph s 2531 aelaepidkarsuksaradbpriyyaothinpiediywkn pyhathitamkkhuxkarthimhawithyalyimmisthanphaphepnnitibukhkhltamkdhmaythaihkarprasanngankbwithyaekhthlahlwm thngindanbriharthwipaelakarbriharngbpraman nxkcakni phrarachbyytikahndwithythanaphusaerckarsuksawichakarphraphuththsasna ph s 2527 rbrxngwithythanaechphaapriyyatri imrbrxngwithythanapriyyaoththiepidsxnaelwnn mhawithyalycungimsamarthkhyaykarsuksathungradbpriyyaexk ephuxaekikhkhxkhdkhxngdngklawma phubriharmhawithyalycungehnphxngtxngknwacadaeninkarephuxihidmasungsthanphaphepnmhawithyalythismburntamkdhmaycuderimtnaehngkhwamphyayamthiepnrupthrrmkhuxkarkahndnoybayiwinaephnphthnamhaculalngkrnrachwithyaly rayathi 7 ph s 2535 2539 wa phthnamhawithyalyihmisthanphaphsmburntamkdhmay aelamimatrarxngrbwa daeninkarihtraphrarachbyytimhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly aephnphthnamhawithyalynierimichtngaeteduxntulakhm ph s 2535 kardaeninkarthiepnrabbephuxihidmasungphrarachbyytimhawithyalysngkhykihmcungerimtninpinn wnthi 11 thnwakhm ph s 2535 naypraomthy sukhum rthmntrichwywakarkrathrwngsuksathikarkhxngrthbalthiminaychwn hlikphy epnnaykrthmntri idedinthangphrxmkhnamaeyiymchmkickarkhxngmhaculalngkrnrachwithyaly ephuxrbthrabpyhaekiywkbkarbriharngankhxngmhawithyalydwytnexng rthmntrichwywakarkrathrwngsuksathikaridprachumrwmkbphubriharradbsungkhxngmhawithyalynaodyphrasuemthathibdi buyelis tht tsuth thi nayksphamhawithyaly aelaphraxmremthacary nkhr ekhmpali xthikarbdi thitahnksmedc wdmhathatu phubriharradbsungkhxngmhawithyalyidchiaecngihthrabthungpyhasakhythimhaculalngkrnrachwithyalyprasbxyuinkhnann khuxpyhaekiywkbsthanphaphkhxngmhawithyalythiyngimepnnitibukhkhltamkdhmayaelapyhahlayxyangthitamma odyechphaapyhadanngbpramanaelakarkhyaykarsuksaihsungthungradbpriyyaothaelapriyyaexk rthmntrichwywakarkrathrwngsuksathikarrbwacasnbsnunkardaeninkareruxngphrarachbyytimhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly txmainwnthi 25 thnwakhm ph s 2535 khnakrrmathikarsasnasilpaaelawthnthrrm naodynayxanwy suwrrnkhiri prathankrrmathikar aelanaydusit osphitcha rxngprathankrrmathikar idmaeyiymchmkickarkhxngmhaculalngkrnrachwithyaly aelaprachumrwmkbnayksphamhawithyaly xthikarbdi rxngxthikarbdi aelakhnbdi thitahnksmedc wdmhathatu khnakrrmathikarrbwacadaeninkareruxngphrarachbyytimhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly inwnthi 9 kumphaphnth ph s 2536 mhawithyalyidmikhasngthi 149 2536 aetngtngkhnakrrmkardaeninnganekiywkbrangphrarachbyytimhaculalngkrnrachwithyaly canwn 11 than miphraxmremthacary xthikarbdi epnprathan khnakrrmkaridprachumkhrngaerk n tahnksmedc wdmhathatu emuxwnthi 22 kumphaphnth ph s 2536 khnakrrmathikarsasnasilpaaelawthnthrrmmxbhmayihnaypraethuxng ekhruxhngs elkhanukarkhnakrrmathikarykrangphrarachbyytisthabnmhaculalngkrnrachwithyalyaelamhamkutrachwithyaly mi 75 matra sarasakhykhxngrangphrarachbyytichbbni khux mhawithyalysngkhthngsxngaehngmisphamhawithyalyrwmknephiyngsphaediyweriykwa sphasthabnehmuxnkbsthabnrachpht 36 aehngthimisphasthabnephiyngsphaediyw emuxykrangesrcaelw nayxanwy suwrrnkhiri idsngrangphrarachbyytichbbnithungnaypraomthy sukhum rthmntrichwywakarkrathrwngsuksathikar emuxwnthi 1 minakhm ph s 2536 aelaidmihnngsuxlngwnthi 2 minakhm ph s 2536 aecngihmhaculalngkrnrachwithyalythraberuxngrangphrarachbyytiniechnkn inwnthi 8 minakhm ph s 2536 khnaphubriharradbsungkhxngmhamkutrachwithyaly prakxbdwy phraethphwracary phrarachthrrmnieths phrakwiwryan aelaphraxmromli maprachum n tahnksmedc wdmhathatu rwmkbkhnaphubriharradbsungkhxngmhaculalngkrnrachwithyalynaody phrasuemthathibdi phraxmremthacary phraemthithrrmaphrn phrakhruwrkiccaphrn aelaphramhasmchy kuslcit ot ephuxkahndaenwthangdaeninkarekiywkbphrarachbyytimhawithyalysngkhrwmkn thiprachummimtiihykrangphrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxngchbbehmuxnkbthiekhyphansphaphuaethnrasdremux ph s 2518 txma inwnthi 10 minakhm ph s 2536 khnaphubriharmhaculalngkrnrachwithyalyaelakhnaphubriharmhamkutrachwithyalyidekhaprachumrwmkbkhnakrrmathikarkarsasna silpaaelawthnthrrm thikrmkarsasna minaypraomthy sukhum epnprathan ephuxphicarnarangphrarachbyytisthabnthikhnakrrmathikaridykrangesrceriybrxyaelw thiprachummimtiihykrangphrarachbyytimhawithyalysngkhaeykknepnsxngchbb khux rangphrarachbyytimhawithyalymhamkutrachwithyalyaelarangphrarachbyytimhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly inwnthi 12 minakhm ph s 2536 khnaphubriharmhaculalngkrnrachwithyalyidiprwmprachumkbkhnaphubriharmhamkutrachwithyalythiwdbwrniewswihar ephuxphicarnakahndaenwthangrwmkninkarphlkdnrangphrarachbyytimhawithyalysngkh inwnthi 15 emsayn ph s 2536 naypraethuxng ekhruxhngs elkhanukarkhnakrrmathikarkarsasnasilpaaelawthnthrrmidsngrangphrarachbyytimhawithyalysngkhsxngchbb khux rangphrarachbyytimhawithyalymhamkutrachwithyalyaelarangphrarachbyytimhawithyalymhaculalngkrnrachwithyalythiprbprungaekikhaelwthungnaypraomthy sukhum rthmntrichwywakarkrathrwngsuksathikar inwnthi 22 emsayn ph s 2536 phraemthithrrmaphrn prayur thm mcit ot rxngxthikarbdifaywichakar naeruxngpruksasphamhawithyalyinkarprachumkhrngthi 4 2516 eruxngtaaehnngthangwichakarthicakahndinphrarachbyytimhawithyalysngkh sphamhawithyalymimtiihichaebbsaklniym khux phuchwysastracary rxngsastracary aelasastracary inwnthi 29 emsayn ph s 2536 naypraomthy sukhum rthmntrichwywakarkrathrwngsuksathikaridsngrangphrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxngchbbthungnaysmphnth thxngsmkhr rthmntriwakarkrathrwngsuksathikarephuxphicarnadaeninkartxip naysmphnth thxngsmkhridthabnthukthungnayokwith wrphiphthn pldkrathrwngsuksathikarwa eruxngnisakhylaexiydxxnkhwrkhxkhwamehncakkhnaphubriharmhawithyalysngkhthngsxngaehngekiywkberuxngni pldkrathrwngsuksathikaridthabnthukthung naysurth silpxnnt rxngpldkrathrwngsuksathikarihnimntaelaechiyprachumphuthiekiywkhxngkberuxngni echn phuaethnmhaculalngkrnrachwithyaly phuaethnmhamkutrachwithyaly nayxanwy suwrrnkhiri xthibdikrmkarsasna xthibdikrmwichakar xthibdikrmsamysuksa elkhathikarkarprathmsuksaaehngchati inwnthi 21 phvsphakhm ph s 2536 ephuxphicarnaeruxngphrarachbyytimhawithyalysngkhodyechphaaphuaethnmhaculalngkrnrachwithyalythiekharwmprachuminkhrngnikhux phraxmremthacary xthikarbdi phraemthithrrmaphrn rxngxthikarbdifaywichakar phrakhrusriwrnayk rxngxthikarbdifaybrihar aelaphramhaokwithy siriwn on rxngxthikarbdifaykickarwithyaekht inwnthi 4 phvsphakhm ph s 2536 nayxanwy suwrrnkhiri inthanasmachiksphaphuaethnrasdridesnxrangphrarachbyytimhawithyalymhamkutrachwithyalyaelarangphrarachbyytimhawithyalymhaculalngkrnrachwithyalythikhnakrrmathikarsasnasilpaaelawthnthrrmykrangiwnntxprathansphaphuaethnrasdr prathansphaphuaethnrasdrphicarnaaelwwinicchywa rangphrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxngchbbepnrangphrarachbyytiekiywdwykarenginephraarthtxngcdsrraelaoxnngbpramanraycaykhxngaephndinmadaeninkickarmhawithyalysngkh cungsngkarihsngeruxngipyngnaykrthmntriephuxphicarnarbrxng elkhathikarsphaphuaethnrasdrcungsngrangphrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxngchbbthungelkhathikarkhnarthmntri emuxwnthi 7 phvsphakhm ph s 2536 ephuxkhnarthmntriphicarnalwnghna inwnthi 12 phvsphakhm ph s 2536 elkhathikarkhnarthmntrimihnngsuxthamkhwamehnekiywkbrangphrarachbyytimhawithyalysngkhipthikrathrwngsuksathikaraelathbwngmhawithyaly thbwngmhawithyalymihnngsuxtxblngwnthi 16 mithunayn ph s 2536 inwnthi 27 knyayn ph s 2536 naypraomthy sukhum rthmntrichwywakarkrathrwngsuksathikaridesnxrangphrarachbyytimhawithyalysngkhsxngchbbtxelkhathikarkhnarthmntriephuxthuxepnrangkhxngrthbal inwnthi 4 tulakhm ph s 2536 naywisnu ekhruxngam elkhathikarkhnarthmntrimihnngsuxthamkhwamehnekiywkbrangphrarachbyytimhawithyalysngkhipthithbwngmhawithyaly sankngbpramankrathrwngkarkhlngaelasanknaykrthmntri ineduxntulakhm ph s 2536 krmkarsasnathahnngsuxaecngpldkrathrwngsuksathikarwa krmkarsasnaidnaeruxngphrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxngaehngesnxthiprachummhaethrsmakhmaelathiprachumkhnakrrmkarkarsuksakhxngkhnasngkhthukfayehnchxbinhlkkarkhxngrangphrarachbyytithngsxngchbbineduxntulakhmnnexng krathrwngsuksathikaraecngelkhathikarkhnarthmntriwa rangphrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxngchbbmikhwamehmaasmchxbdwyhlkkaraelaehtuphl inwnthi 16 tulakhm ph s 2536 mhaculalngkrnrachwithyalyidmikhasngaetngtngkhnakrrmkarprasannganrangphrarachbyytimhawithyalykhunmaxikchudhnung ephimcanwnkrrmkarepn 21 than miphraxmremthacary xthikarbdiepnprathan miphraemthithrrmaphrnaelaphrakhrusriwrnayk epnrxngprathan thahnathitidtxprasannganihrangphrarachbyytimhawithyalyphankarphicarnakhxngrthspha inwnthi 28 phvscikayn ph s 2536 naywisnu ekhruxngam elkhathikarkhnarthmntrimihnngsuxthungnaybyyti brrthdthan rxngnaykrthmntri srupkhwamwa thbwngmhawithyaly sankngbpraman krathrwngkarkhlng aelasanknaykrthmntriphicarnaaelwehnkhwrsnbsnunrangphrarachbyytimhawithyalysngkh odythbwngmhawithyalyesnxwamhawithyalysngkhkhwrxyuphayitkarkakbduaelkhxngthbwngmhawithyaly inwnthi 21 thnwakhm ph s 2536 thiprachumkhnarthmntriphicarnarangphrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxngchbb khnarthmntritngkhxsngektwa karcaihmhawithyalysngkhthngsxngaehngbrihardwytnexngtamrabbedimcamiprasiththiphaphaelaehmaasmkwakarkahndihxyuphayitrabbrachkarhruxim aelaepnkarsmkhwrhruximthimhawithyalysngkhthngsxngaehngcaxyuphayitkarkakbduaelkhxngthbwngmhawithyaly rthmntriwakarkrathrwngsuksathikarkhxthxnrangphrarachbyytimhawithyalysngkhipaekikhprbprungihmkxnthicaesnxkhnarthmntriphicarnaxikkhrng inwnthi 24 thnwakhm ph s 2536 elkhathikarkhnarthmntri mihnngsuxaecngmtikhnarthmntriipthithbwngmhawithyalyaelakrathrwngsuksathikarephuxihphicarnatklngeruxnghnwynganthicakakbduaelmhawithyalysngkh inwnthi 10 mkrakhm ph s 2537 khnaphubriharradbsungkhxngmhaculalngkrnrachwithyaly mixthikarbdiepnprathan idprachum n tahnksmedc wdmhathatu phicarnasaehtuthirangphrarachbyytimhawithyalysngkhimphanthiprachumkhnarthmntri phubriharradbsungmimtiihsngphuaethnmhawithyalyipprasanngankbrthmntriaelarthmntrichwywakarkrathrwngsuksathikarxyangiklchid inwnthi 13 mkrakhm ph s 2537 krmkarsasnaidesnxkhnakrrmkarkarsuksakhxngkhnasngkhinkarprachumkhrngthi 1 2537 ihaetngtngkhnaxnukrrmkarykranghruxprbprungaekikhphrarachbyytikahndwithythanaphusaercwichakarphraphuththsasna ph s 2527 thiprachummimtiehnchxbihdaeninkaraetngtngkhnaxnukrrmkardngklaw canwn 12 than wnthi 17 mkrakhm ph s 2537 khnaphubriharmhaculalngkrnrachwithyalynaodyxthikarbdiidekhaphbnaysmphnth thxngsmkhr rthmntriwakarkrathrwngsuksathikarephuxhathangxxkihkbrangphrarachbyytimhawithyalysngkh inkarphbkhrngniidmikhxtklngihmhaculalngkrnrachwithyalyaelamhamkutrachwithyaly sngphuaethnaehngla 5 than ipprachumpruksaharuxkbphuaethncakkrathrwngsuksathikaraelaphuaethncakthbwngmhawithyalyephuxtklnginpraedneruxngkarkakbduaelmahawithyalysngkh wnthi 1 minakhm ph s 2537 smedcphrasngkhrach sklmhasngkhprinayk inthanaxngkhprathanesnxkhnakrrmkarkarsuksakhxngkhnasngkh miphrabychaaetngtngkhnaxnukrrmkarykranghruxprbprungaekikhphrarachbyytikahndwithythanaphusaercwichakarphraphuththsasna ph s 2527 canwn 12 than miphrarachthrrmnieths epnprathan aelaminaymanph phliphrinthr phuxanwykarkxngsasnasuksa epnkrrmkaraelaelkhanukar inwnthi 14 minakhm ph s 2537 phuaethnmhaculalngkrnrachwithyaly 5 rup naodyxthikarbdiaelaphuaethnmhamngkutrachwithyaly 5 rup ipprachumrwmkbkhnaxnukrrmkarykranghruxprbprungaekikhphrarachbyytikahndwithythanaphusaercwichakarphraphuththsasna ph s 2527 thikrmkarsasna thiprachummimtiihkrathrwngsuksathikarmikhasngaetngtngkhnaxnukrrmkaraelaphuaethnmhawithyalysngkhaehngla 5 rupnnepnkrrmkarchudihymihnathiphicarnaphrarachbyytimhawithyalysngkhaelaphrarachbyytithiekiywkhxng nxkcakni elkhanukarthiprachumyngidesnxwa khwrcamikaraekikhprbprungphrarachbyytikahndwithythanaphusaercwichakarphraphuththsasna ph s 2527 epnhlk ephraanoybaykhxngthanrthmntrichwywakarkrathrwngsuksathikar mhawithyalysngkhcaimmisxngmhawithyalyxyangthiepnxyuinpccubn ephraakhnanicamimhawithyalyphraphuththsasnaaehngolkekidkhunodytngngbpramaniwaelw txma thangfayelkhanukarinkhnaxnukrrmkarykranghruxprbprungaekikhphrarachbyytikahndwithythanaphusaercwichakarphraphuththsasna ph s 2527 idykrangphrarachbyytikahndwithythanaphusaercwichakarphraphuththsasna ph s sungepnkaraekikhephimetimphrarachbyytikahndwithythanaphusaercwichakarphraphuththsasna ph s 2527 rangphrarachbyytichbbaekikhephimetimnikahndihphusaercepriyythrrm 9 praoykhmiwithythanapriyyaexk phrxmkbrbrxngwithythanapriyyaothaelapriyyaexkinmhawithyalysngkhthngsxngaehng elkhanukarinkhnaxnukrrmkarchudniidmihnngsuxechiyxnukrrmkaripprachumphicarnarangphrarachbyytichbbdngklawinwnthi 7 mithunayn ph s 2537 emuxkhaweruxngrangphrarachbyytichbbniaephrxxkip phubriharmhaculalngkrnrachwithyalyehnwarangphrarachbyytichbbnicathaihrangphrarachbyytimhawithyalysngkhhmdkhwamhmay xthikarbdicungmihnngsuxaecngihecahnathiaelakhnacarythnghmdekharwmeswnaeruxngphrarachbyytimhawithyngsngkh n sunywdsrisudaram inwnthi 6 mithunayn ph s 2537 mhawithyalyidechiynayxanwy suwrrnkhiri prathankrrmathikarsasnasilpaaelawthnthrrm aelanaydusit osphitcha rxngprathankrrmathikarsasnasilpaaelawthnthrrmmaepnwithyakrbrryayna phuekharwmeswnamimtiyunynihesnxrangphrarachbyytimhamkutrachwithyalyaelarangphrarachbyytimhaculalngkrnrachwithyalyklbekhathiprachumkhnarthmntri inwnthi 14 mithunayn ph s 2537 phuaethnmhawithyalysngkhthngsxngaehngphrxmdwyphuaethnthbwngmhawithyaly sankngankhnakrrmkarkarsuksaaehngchatisankngankharachkarphleruxn sanknganelkhathikarkhnarthmntri aelaphuaethnkrmkarsasnaipprachumrwmkbkhnakrrmathikarsasnasilpaaelawthnthrrmthirthsphatamhnngsuxechiykhxngprathankhnakrrmathikar thiprachummimtiihribesnxrangphrarachbyytimhamkutrachwithyalyaelarangphrarachbyytimhaculalngkrnrachwithyalyekhathiprachumkhnarthmntriephraaewlaidlwngelymananaelw aelaehnkhwrihmhawithyalysngkhxyuinkhwamkhwbkhumduaelchxngmhaethrsmakhmaelakrathrwngsuksathikartamthiekhyesnxekhathiprachumkhnarthmntri thiprachummimtiihphuekiywkhxngprachumrwmknxikkhrnghnungthiwdbwrniewswiharinwnthi 24 mithunayn ph s 2537 inwnthi 15 mithunayn ph s 2537 phuaethnkrmkarsasna naysiri siributr rxngxthibdikrmkarsasna idmihnngsuxraynganphlkarprachumthirthsphatxnaysmphnth thxngsmkhr rthmntriwakarkrathrwngsuksathikar rthmntriidthabnthukthayhnngsuxwamxbih dr rung aekwaedng xthibdikrmkarsuksanxkorngeriyn epnphuprbprungrangphrarachbyytimhawithyalysngkh inthanathi dr rung aekwaedng epnprathankhnathangannoybaykhxngkrathrwngsuksathikar rthmntriwakarkrathrwngsuksathikaridthabnthukaeyktanghak mxbhmaynganprbprungrangphrarachbyytimhawithyalysngkhaek dr rung aekwaedngwa eriynkhnathangan dwy khrm idihsth maprb ph r b cdkarsuksasngkh phmmxberuxngihkrmkarsasnaipnanaelw yngimmixairkhubhna khxdr rung idprbprungaekikh ph r b dngklawihdwy emuxphicarnaaekikhaelwesrc caidsmmnaharuxrwmknxikskkhrngkxnesnx khrm inwnthi 24 mithunayn ph s 2537 phuaethnmhawithyalysngkhthngsxngaehngphrxmdwyphuaethnkhxnghnwynganthiekiywkhxngidprachumrwmkbkhnakrrmathikarsasnasilpaaelawthnthrrmthiwdbwrniewswiharephuxphicarnaprbprungrangphrarachbyytimhawithyalysngkhodyepriybethiybkbrangphrarachbyytisthabnrachpht inwnthi 11 krkdakhm ph s 2537 dr rung aekwaedng idechiyphuaethnmhawithyalysngkhthngsxngaehng prathankrrmathikarsasnasilpaaelawthnthrrmaelaphuekiywkhxngprachumkhrngaerkthikrmkarsuksanxkorngeriyn ephuxphicarnaprbprungrangphrarachbyytimhawithyalysngkh inkarprachumkhrngni dr rung idkahndpraednpyhaiw 25 khx ephuxhakhatxbihtrngknkxnwamhawithyalysngkhtxngkarxairemuxidpraedn khatxbtrngknthukfayaelwcungichepnhlkkarprakxbkarrangphrarachbyytimhawithyalysngkh phraemthithrrmaphrn prayur thm mcit ot epnphuchiaecngkhatxbinpraednpyhaehlanninnamkhxngmhawithyalysngkh dr rung aekwaedng idprachumkhrngthi 2 inwnthi 14 krkdakhm aelakhrngthi 3 inwnthi 25 krkdakhm ph s 2537 phlkhxngkarprachumthaihidhlkkaraelakhaxthibayprakxbrangphrarachbyytimhawithyalysngkhcanwn 22 khxsungthiprachumichepnkrxbinkarprbprungrangphrarachbyytimhawithyalysngkh rangphrarachbyytithiprbprungihmniidyudaenwkhxngphrarachbyytimhawithyalyethkhonolyisurnari ph s 2533 aelaphrarachbyytimhawithyalywlylksn ph s 2535 inwnthi 3 singhakhm ph s 2537 dr rung aekwaedng esnxrangphrarachbyytimhamkutrachwithyalyaelarangphrarachbyytimhaculalngkrnrachwithyalythiidprbprungihmtxthiprachumxthibdikhxngkrathrwngsuksathikar thiprachumehnchxbtamesnx txmainwnthi 5 knyayn ph s 2537 rthmntriwakrathrwngsuksathikaridsngrangphrarachbyytithngsxngchbbthungelkhathikarkhnarthmntriephuxnaesnxkhnarthmntriphicarnatxip elkhathikarkhnarthmntriidmihnngsuxthamkhwamehnipyngkrathrwngaerngnganaelaswsdikarsngkhmaelasankngbpramaninwnthi 8 knyayn ph s 2537 sankngbpramanthahnngsuxtxblngwnthi 14 tulakhm ph s 2537 yunynkarsnbsnunrangphrarachbyytimhawithyalysngkh inwnthi 20 tulakhm ph s 2537 krathrwngaerngnganaelaswsdikarsngkhmthahnngsuxtxbelkhathikarkhnarthmntriwa phrarachbyytimhawithyalysngkhimtxngxyuphayitbngkhbkdhmayaerngngan wnthi 3 mkrakhm ph s 2538 thiprachumkhnarthmntrimimtirbhlkkarrangphrarachbyytimhawithyalymhamkutrachwithyalyaelarangphrarachbyytimhawithyalyculalngkrnrachwithyaly aelaihsngkhnakrrmkarkvsdikaphicarana wnthi 4 mkrakhm ph s 2538 elkhathikarkhnarthmntrisngrangphrarachbyytimhawithyalysngkhihkhnakrrmkarkvsdikaphicarna inwnthi 21 kumphaphnth ph s 2538 mikarprachumkhnakrrmkarkvsdikachudelkephuxphicarnarangphrarachbyytimhawithyalysngkhepnkhrngaerk minangsawphwngephchr sarkhun phuchwyelkhathikarkhnakrrmkarkvsdikaepnprathanthiprachummiphuaethnmhaculalngkrnrachwithyaly 3 rup ipchiaecng khux phraxmremthacary phraemthithrrmaphrn aelaphramhasurphl sucriot dr rung aekwaedngekhachiaecnginnamkrathrwngsuksathikarphrxmdwyphuaethnhnwyngantang khux sankngbpraman krmthnarks krmbychiklang krmswsdikaraelakhumkhrxngaerngngan sankngansngesrimtulakar aelasanknganpldthbwngmhawithyaly khnakrrmkarkvsdikachudniprachumkhrngthi 2 inwnthi 3 minakhm aelaprachumkhrngthi 3 inwnthi 21 minakhm ph s 2538 inwnthi 19 phvsphakhm ph s 2538 miprakasyubspha rthbalkhxngnaykrthmntrichwn hlikphyidsinsudlng rangphrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxngchbbcungtkipinkhnathiyngkhangkarphicarnakhxngkhnakrrmkarkvsdika emuxrthbalthinaybrrhar silpxacha epnnaykrthmntriekhamabriharpraethsmhawithyalyerimdaeninkarekiywkbrangphrarachbyytimhawithyalysngkhtxipdwykaraetngtngkhnakrrmkardaeninkarekiywkbphrarachbyytimhaculalngkrnrachwithyalychudihm miphraemthithrrmaphrnepnprathan phrakhrusriwrnaykepnrxngprathan aelaphramhasurphl sucriot epnkrrmkaraelaelkhanukar emuxwnthi 4 singhakhm ph s 2538 inwnthi 8 singhakhm ph s 2538 khnasngkhmsastr mhaculalngkrnrachwithyaly cdxphiprayeruxng aenwthangkarsantx ph r b mhawithyalysngkh phurwmxphiprayprakxbdwy naysukhwich rngsitphl rthmntriwakarkrathrwngsuksathikarkhnihm dr rung aekwaedng nayxanwy suwrrnkhiri rxyothkuethph iskracang aelanaycanngkh swmprakha odymiphraemthithrrmaphrn epnphudaeninkarxphipray khnawithyakraelaphudaeninkarxphiprayidesnxihrthmntriwakarkrathrwngsuksathikarsantxphrarachbyytimhawithyalysngkh naysukhwich rngsitphl ihkhwammnicaekthiprachumwa cathuxeruxngphrarachbyytimhawithyalysngkhepnnoybaysakhykhxngkrathrwngsuksathikar phayhlngkarxphiprayinwnnn phraemthithrrmaphrnidndprachumkhnakrrmkardaeninkarekiywkbphrarachbyytimhaculalngkrnrachwithyalyepnkhrngaerkephuxkahndaenwthangkarprasannganeruxngphrarachbyytimhawithyalysngkh inwnthi 11 singhakhm ph s 2538 krathrwngsuksathikarsngrangphrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxngchbbthungelkhathikarkhnarthmntriephuxesnxthiprachumkhnarthmntri phubriharradbsungkhxngmhawithyalysngkhthngsxngaehngidekhaphb r t th echawrin lththskdisiri rthmntrichwywakarkrathrwngsuksathikar inwnthi 14 singhakhm ph s 2538 aelaidekhaphbnaysukhwich rngsitphl rthmntriwakarkrathrwngsuksathikarinwnthi 21 singhakhm ph s 2538 ephuxsxbthamkhwamkhubhnakhxngphrarachbyytimhawithyalysngkh elkhathikarkhnarthmntrimihnngsuxlngwnthi 20 singhakhm ph s 2538 thungelkhathikarkhnakrrmkarkvsdikaiherngphicarnarangphrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxngchbbthikhangkarphicarnainsmyrthbalkxn inwnthi 23 singhakhm ph s 2538 khnakrrmkarkvsdikaprachumphicarnarangphrarachbyytimhawithyalysngkhtxcakthikhangiwcnkhrbthukmatra txmainwnthi 16 knyayn ph s 2538 thiprachumkhnakrrmkarkvsdikaphicarnaprbprungrangphrarachbyytikahndwithythanaphusaercwichakarphraphuththsasna ph s 2527 ephuxihsxdkhlxngkbrangphrarachbyytimhawithyalysngkh inwnthi 29 knyayn ph s 2538 elkhathikarkhnakrrmkarkvsdikamihnngsuxthungelkhathikarkhnarthmntriraynganphlkarphicarnarangphrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxngchbbaelarangphrarachbyytikahndwithythanaphusaercwichakarphraphuththsasna chbbaekikhephimetim inwnthi 16 mkrakhm ph s 2539 thiprachumkhnarthmntrimimtiehnchxbrangphrarachbyytimhawithyalymhamkutrachwithyaly rangphrarachbyytimhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly aelarangphrarachbyytikahndwithythanaphusaercwichakarphraphuththsasna chbbaekikhephimetim inwnthi 24 mkrakhm ph s 2539 sankelkhathikarkhnarthmntri mihnngsuxthungnayophkhin phlkul rthmntripracasanknaykrthmntriephuihphicarnapraednthiwamhawithyalysngkhkhwrmixanackuyumenginephuxkarsuksaaelakarwicyodymirthbalkhapraknhruxim inwnthi 30 mkrakhm ph s 2539 khnaphubriharaelaecahnathimhaculalngkrnrachwithyaly prakxbdwyphrakhrusriwrnayk phramhasurphl sucriot phramhaipheraa thitsiol phramhaisw ochtiok aeladr phrrsa phwngaetng idekhaphbnaybuyexux praesrithsuwrrn prathansphaphuaethnrasdrephuxkhxiherngnarangphrarachbyytimhawithyalysngkhbrrcuinwarakarprachumkhxngsphaphuaethnrasdrphicarnaodyerw inwnthi 28 kumphaphnth ph s 2539 khnakrrmathikarkarsuksa sphaphuaethnrasdrmimtisnbsnunrangphrarachbyytimhawithyalysngkh aelanayxphisiththi ewchchachiwa prathankhnakrrmathikarmihnngsuxaecngihphrasuemthathibdi nayksphamhawithyalymhaculalngkrnrachwithyalythrabinwnthi 5 minakhm ph s 2539 inwnthi 29 minakhm ph s 2539 nayophkhin phlkul idephimpraednthiwaihkrathrwngkarkhlngkhapraknhnitang khxngmhawithyalysngkhaelaidaecngipyngprathankhnakrrmkarprasanngansphaphuaethnrasdrephuxdaeninkartxip inwnthi 3 krkdakhm ph s 2539 naypxngphl xdierksar prathankhnakrrmkarprasanngansphaphuaethnrasdridndprachumkhnakrrmkarephuxphicarnarangphrarachbyytimhawithyalysngkhthithaeniybrthbal miphuaethnmhaculalngkrnrachwithyalyiprwmprachumchiaecng 3 rup khux phrarachrtnomli phraemthithrrmaphrn aelaphramhasurphl sucriot inwnthi 11 krkdakhm ph s 2539 naybrrhar silpxacha naykrthmntrimihnngsuxthungprathansphaphuaethnrasdrephuxsngrangphrarachbyytimhawithyalymhamkutrachwithyaly rangphrarachbyytimhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly aelarangphrarachbyytikahndwithythanaphusaercwichakarphraphuththsasna chbbaekikhephimetimesnxsphaphuaethnrasdr inwnthi 12 krkdakhm ph s 2539 khnaphubriharradbsungkhxngmhawithyalysngkhthngsxngaehngidekhaefasmedcphrayansngwr smedcphrasngkhrach sklmhasngkhprinayk ephuxkrabthulthwayrayngankhwamkhubhnakhxngkaresnxrangphrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxngchbb smedcphrasngkhrachidmilikhitthungnaybrrhar silpxacha naykrthmntri naybuyexux praesrithsuwrrn prathansphaphuaethnrasdr naychwn hlikphy phunafaykhan aelanaymichy vchuphnth prathanwuthispha ephuxiherngdaeninkarekiywkb phrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxngchbbcnthnprakasichinpikaycnaphiesk inwnthi 17 krkdakhm ph s 2539 thiprachumsphaphuaethnrasdridmimtirbhlkkarrangphrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxngchbb aelarangphrarachbyytikahndwithythanaphusaercwichakarphraphuththsasna chbbaekikhephimetimthikhnarthmntriepnphuesnx phrxmdwyrangphrarachbyytimhawithyalysngkhxik 3 rangthinayxanwy suwrrnkhiri nayiphcit sriwrkhan aelaphntarwcexksuththi khasuwrrn epnphuesnx thiprachumidtngkhnakrrmathikarwisamyphicarnaaepryttiodyihthuxrangkhxngrthbalepnhlk khnakrrmathikarwisamychudniprakxbdwykrrmathikarcanwn 27 than mi r t th echawrin lththskdisiri epnprathan nayxanwy suwrrnkhiri nayiphcit sriwrkhan aelanaydusit osphitchaepnrxngprathan mikrrmkarthiepnsisyekamhaculalngkrnrachwithyaly 3 than khux naycanngkh thxngpraesrith rxyothkuethph iskracang aelanaysnith srisaaedng phubriharmhawithyalythiekharwmprachumchiaecnginkhnakrrmathikar khux phraemthithrrmaphrn rxngxthikarbdifaywichakar aelaphramhasurphl sucriot rxngxthikarbdifaywicyaelawangaephn khnakrrmathikarprachumrwm 5 khrng khux khrngthi 1 wnthi 24 krkdakhm ph s 2539 khrngthi 2 wnthi 1 singhakhm ph s 2539 khrngthi 3 wnthi 7 singhakhm ph s 2539 khrngthi 4 wnthi 8 singhakhm ph s 2539 khrngthi 5 wnthi 20 singhakhm ph s 2539 prathansphaphuaethnrasdridbrrcueruxngrangphrarachbyytimhawithyalysngkhthikhnakrrmathikarphicarnaesrceriybrxyaelwekhasuraebiybwarakarprachumsphaphuaethnrasdrinwnthi 25 knyayn ph s 2539 eruxngxyuinxndbthi 4 aetyngimthnidrbkarphicarnakpidprachumesiykxn inwnthi 27 knyayn ph s 2539 idmiphrarachkvsdikayubspha rthbalsungminaybrrhar silpxacha idsinsudlng rangphrarachbyytimhawithyalysngkhcungtkip txmainwnthi 3 tulakhm ph s 2539 sankelkhathikarkhnarthmntriidmihnngsuxthungkrmkarsasnawa thamikhwamprasngkhcadaeninngantx ihyunynrangphrarachbyytimhawithyalysngkhaelaesnxipyngsankelkhathikarkhnarthmntrixikkhrng inwnthi 12 thnwakhm ph s 2539 krmkarsasnamihnngsuxthungpldkrathrwngsuksathikar yunynrangphrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxngchbb ephuxesnxnaysukhwich rngsitphl rthmntriwakarkrathrwngsuksathikarinkhnarthbalthimiphlexkchwlit yngicyuthth epnnaykrthmntri phicarnalngnaminhnngsuxaecngelkhathikarkhnarthmntritxip inwnthi 19 thnwakhm ph s 2539 rthmntriwakrathrwngsuksathikar idmihnngsuxthungelkhathikarkhnarthmntri yunynrangphrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxngchbb inwnthi 24 thnwakhm ph s 2539 thiprachumkhnarthmntrimimtirbhlkkarrangphrarachbyytimhawithyalysngkh aelamimtiihesnxsphaphuaethnrasdrinwnediywknnnexng odyimtxngihkhnakrrmkarkvsdikaphicarnaxik inwnthi 6 mkrakhm ph s 2540 hlngcakthiidbrrcueruxngrangphrarachbyytimhawithyalysngkhekhasukarprachumsphaphuaethnrasdraelw khnakrrmkarprasanngansphaphuaethnrasdr mimtiiheluxnraebiybwaraeruxngphrarachbyytimhawithyalysngkhkhunmaphicarnainxndbthi 6 3 6 4 inkarprachumsphaphuaethnrasdrsungcamikhuninwnthi 8 thnwakhm odymiphuesnxrangphrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxng khux khnarthmntri nayxanwy suwrrnkhiriaelakhna naynthwuthi praesrithsuwrrn aelakhna nayeprmskdi ephiyyuraaelakhna inwnthi 8 mkrakhm ph s 2540 thiprachumsphaphuaethnrasdridphicarnarangphrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxngchbbaelarangphrarachbyytikahndwithythanaphusaercwichakarphraphuththsasna chbbthi 2 aelalngmtidwykhaaennesiyngepnexkchnthrbhlkkarrangphrarachbyytithngsamchbb thiprachumidtngkhnakrrmathikarwisamyphicarnaaepryttiodyihthuxrangkhxngrthbalepnhlk khnakrrmathikarwisamychudniprakxbdwykrrmathikarcanwn 27 than minaysngkhthxng srithers rthmntrichwywakarkrathrwngsuksathikarepnprathan nayxanwy suwrrnkhiri r t th echawrin lththskdisiri aelanaydusit osphitcha epnrxngprathan mikrrmkarthiepnsisyekamhaculalngkrnrachwithyaly 3 than khux naycanngkh thxngpraesrith rxyothkuethph iskracang aelanaysnith srisaaedng phubriharmhawithyalythiekharwmprachumchiaecnginkhnakrrmathikar khux phrarachwrmuni prayur thm mcit ot rxngxthikarbdifaywichakar phramhasurphl sucriot rxngxthikarbdifaywicyaelawangaephn aelaphramhaokwithy siriwn on rxngxthikarbdifaykickarwithyaekht khnakrrmathikarwisamychudniidprachumphicarnarangphrarachbyytimhawithyalysngkh 3 khrng khux khrngthi 1 wnthi 15 mkrakhm ph s 2540 khrngthi 2 wnthi 23 mkrakhm ph s 2540 khrngthi 3 wnthi 30 mkrakhm ph s 2540 phlkarprachumphicarnainkhrngthi 3 niklawechphaainswnphrarachbyytimhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly mipraednsakhythikhwrthrabkhux matrathi 6 khwamedimwrrkhhnungmiwa ihcdtngmhawithyalykhunmhawithyalyhnung eriykwamhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly aelaepnnitibukhkhlxyuinphrabrmrachupthmph khnakrrmathikaridkhxaepryttitdkhawa xyuinphrabrmrachupthmph thiprachumphicarnaehnwa karcaihmhawithyalyxyuinphrabrmrachupthmphkhwrepniptamphrarachwinicchykhxngxngkhphramhakstriy kartrakdhmaykahndihxyuinphrabrmrachupthmphepneruxngimehmaasm emuxidxphiprayknaelw thiprachummimtiihtdkhawa xyuinphrabrmrachupthmph xxkip emuxkhnakrrmathikarphicarnaesrcaelw naysngkhthxng srithers prathankhnakrrmathikaridsngrangphrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxngchbb aelarangphrarachbyytikahndwithythanaphusaercwichakarphraphuththsasna chbbaekikhephimetimthungprathansphaphuaethnrasdr inwnthi 5 kumphaphnth ph s 2540 ephuxesnxsphaphuaethnrasdrtxip inwnthi 12 kumphaphnth ph s 2540 thiprachumsphaphuaethnrasdridphicarnarangphrarachbyytithngsamchbbsungkhnakrrmathikarwisamyidphicarnaesrcaelwlngmtiinwarathi 2 aelathi 3 ehnchxbkbrangphrarachbyytimhawithyalythngsxngchbbaelarangphrarachbyytikahndwithythanaphusaercwichakarphraphuththsasnachbbaekikhephimetim dwykhaaennesiyngepnexkchnth inwnthi 20 kumphaphnth ph s 2540 thiprachumwuthispha idlngmtirbhlkkarrangphrarachbyytimhawithyalysngkhaelarangphrarachbyytikahndwithythanaphusaercwichakarphraphuththsasna chbbthi 2 aelamxbihkhnakrrmathikarkarsuksaaelawthnthrrmkhxngwuthisphaphicarnaaepryttiphayin 5 wn khnakrrmathikarchudnicanwn 17 khn minayeksm suwrrnkulepnprathan minaysippnnth ektutht aelanaywicitr srisxanepnrxngprathan naycanngkh thxngpraesrithepnelkhanukar phuaethnmhaculalngkrnrachwithyalyekharwmprachumchiaecngaesdngkhwamehn 4 than khux phrarachwrmuni phramhasurphl sucriot phramhaokwithy siriwn on aelaphramhaisw ochtiok khnakrrmathikaridprachum 5 khrng khux khrngthi 1 wnthi 7 minakhm ph s 2540 khrngthi 2 wnthi 12 minakhm ph s 2540 khrngthi 3 wnthi 4 emsayn ph s 2540 khrngthi 4 wnthi 2 phvsphakhm ph s 2540 khrngthi 5 wnthi 16phvsphakhm ph s 2540 inwnthi 12 mithunayn ph s 2540 nayeksm suwrrnkul prathankhnakrrmathikarkarsuksaaelawthnthrrmidsngrangphrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxngchbb aelarangphrarachbyytikahndwithythana phusaercwichakarphraphuththsasnachbbaekikhephimetim txwuthisphaephuxphicarna inwnthi 11 krkdakhm ph s 2540 thiprachumwuthisphamimtiehnchxbtamthikhnakrrmathikarkarsuksaaelawthnthrrmwuthisphaaekikhephimetim aelaihsngtxsphaphuaethnrasdrephuxphicarna inwnthi 23 krkdakhm ph s 2540 thiprachumsphaphuaethnrasdrrbthrabmtikhxngwuthisphaekiywkbrangphrarachbyytikahndwithythanaphusaercwichakarphraphuththsasna chbbaekikhephimetim rangphrarachbyytichbbnicungsaercepnkdhmayipkxn aetenuxngcakthiprachumsphaphuaethnrasdrehnwa rangphrarachbyytimhawithyalysngkhthiphankarphicarnakhxngwuthisphaaelwnn miaekikhephimetim 19 matra bangmatraepnkaraekikhephimetiminsarasakhy odyechphaamatra 7 khwamedimmiwa mhawithyalyimepnswnrachkarhruxrthwisahkic tamkdhmaywadwywithikarngbpramanhruxkdhmayxun wuthisphaidaekikhepn mhawithyalyimepnswnrachkarhruxrthwisahkic thiprachumsphaphuaethnrasdrcungmimtiihtngkhnakrrmathikarrwmknephuxphicarnarangphrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxngchbb prakxbdwykrrmathikarcanwn 22 khn khnakrrmathikarchudniminaysngkhthxng srithers epnprathan naysurth silpxnnt aelanaywicitr srisxan epnrxngprathan rxyothkuethph iskracang epnelkhanukar phrarachwrmuni xthikarbdimhaculalngkrnrachwithyalyidmihnngsuxlngwnthi 24 krkdakhm ph s 2540 thungnaysngkhthxng srithers rthmntrichwywakarkrathrwngsuksathikarwa karthiphrarachbyytikahndwithythanaphusaercwichakarphraphuththsasna chbbaekikhephimetim phanrthsphaepnkdhmayipaelw thngthiphrarachbyytimhawithyalysngkhyngkhangxyunnkxihekidpyhatxma thaphrarachbyytimhawithyalysngkhtkipephraaehtuidehtuhnung camiphlihkardaeninnganthnghmdkhxngmhawithyalysngkhimmikdhmayrxngrb ephraapraednthiekiywkbmhawithyalysngkhinphrarachbyytikahndwithythanaphusaercwichakarphraphuththsasna chbbaekikhephimetim idthuktdxxkip txmakhnakrrmathikarrwmknephuxphicarnarangphrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxngchbb idmikarprachum 2 khrng khux khrngthi 1 wnthi 31 krkdakhm ph s 2540 khrngthi 2 wnthi 6 singhakhm ph s 2540 praednekiywkbmatra 7 nn thiprachumkhnakrrmathikarrwmmimtiaekikhephimetimwa ihmhawithyalyepnmhawithyalykhxngrth inwnthi 8 singhakhm ph s 2540 naysngkhthxng srithers idesnxrangphrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxngchbbthiphankarphicarnakhxngkhnakrrmathikarrwmaelwtxsphaphuaethnrasdrxikkhrnghnung inwnthi 20 singhakhm ph s 2540 thiprachumsphaphuaethnrasdr mimtiehnchxbrangphrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxngchbb inwnthi 22 singhakhm ph s 2540 thiprachumwuthisphamimtiehnchxb txcaknn elkhathikarsphaphuaethnrasdr idsngrangphrarachbyytimhawithyalysngkh thngsxngchbb aelarangphrarachbyytikahndwithythanaphusaercwichakarphraphuththsasna chbbthi 2 thungelkhathikarkhnarthmntri ihnakhunthulekla ephuxthrnglngphraprmaphiithy inwnthi 21 knyayn ph s 2540 phrabathsmedcphraprminthrmhaphumiphlxdulyedch rchkalpccubn idthrnglngphrapramaphiithyinphrarachbyytimhawithyalysngkhthngsxngchbb khux phrarachbyytimhawithyalymhamkutrachwithyaly ph s 2540 aelaphrarachbyytimhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly ph s 2540 aelaphrarachbyytikahndwithythanaphusaercwichakarphraphuththsasna chbbthi 2 ph s 2540 inwnthi 1 tulakhm ph s 2540 phrarachbyytithngsamchbbprakasinrachkiccanuebksa elm 114 txnthi 51 inthisud khwamphyayamthicaihmikartraphrarachbyytimhawithyalymhaculalngkrnrachwithyalythierimkhunemux 40 pithiaelwkprasbkhwamsaercephraakhwamphyayamxyangtxenuxngyawnankhxngphubriharmhawithyalychudaelwchudelaaelaephraakhwamrwmmuxthiidrbcakthukfaythiekiywkhxng karidmasungphrarachbyytimhawithyalymhaculalngkrnrachwithyalynbepncudepliynthisakhyxikkhrnghnunginprawtisastrkhxngmhawithyalyaehngni emuxidrbkaryxmrbsthanphaphwaepnmhawithyalykhxngrthechnniaelw kawtxip khux khwamphyayamthicaihidrbkaryxmrbwaepnmhawithyalyradbphumiphakhaelaradbolkinthisud yukhekhasukarepnsunyklangmhawithyalyphraphuththsasnananachati 2541 2558 tngaetpi ph s 2540 thimhawithyalyidrbkarrbrxngsthanaihepnmhawithyalykhxngrthepntnma mhawithyalyiddaeninkarphthna thnginechingkayphaph Hardware aelaechingkhunphaph Software xikthngetriymkhnephuxrxngrbkarphthnamhawithyalyekhasukarepnsunyklangkarsuksaphraphuththsasnathnginradbchatiaelananachatixyangtxenuxng dngni mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly xaephxwngnxy cnghwdphrankhrsrixyuthya 1 karetriymphunthirxngrbkarepnsunyklangmhawithyalyphraphuththsasnananachati wnthi 20 phvsphakhm phuththskrach 2542 nayaephthyrsmi khunhyingsmpxng wrrnissridthwaythidincanwn 84 ir 1 ngan 37 tarangwa thitabllaithr xaephxwngnxy cnghwdphrankhrsrixyuthyaaekmhawithyaly rwmkbthidinthimhawithyalyiddaeninkarcdsuxephimetim pccubnmienuxthithnghmd 323 ir hlngcaknn inwnthi 9 krkdakhm phuththskrach 2542 khnaphubriharmhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly idekhaefasmedcphrabrmoxrsathirach syammkudrachkumar thuleklathwayochndthidinthng 2 aeplngephuxphrarachthanaekmhawithyaly txma inwnthi 13 thnwakhm phuththskrach 2542 smedcphrabrmoxrsathirach syammkudrachkumar esdcphrarachdaeninprakxbphithiwangsilavksokhrngkarkxsrangmhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly n tabllaithr xaephxwngnxy cnghwdphrankhrsrixyuthya odythrngwangsilavksxakharsanknganxthikarbdi cnkrathng inwnthi 1 tulakhm phuththskrach 2551 mhawithyalyidyaythithakarcakwdmhathatuaelawdsrisudaram krungethphmhankhr mayngthithakaraehngihm n kiolemtrthi 55 thnnphhloythin tabllaithr xaephxwngnxy cnghwdphrankhrsrixyuthya inthisud wnthi 3 thnwakhm phuththskrach 2553 smedcphrabrmoxrsathirach syammkudrachkumar idesdcphrarachdaeninthrngprakxbphithiepidpayhxprachum mwk 48 phrrsa aelaepidpaymhawithyalyxyangepnthangkar 2 karkhyaysthabnsmthbipsunanachati wnthi 23 kumphaphnth phuththskrach 2544 khyaykarsuksaipsutangpraeths odyrbwithyalyphuththsasnadxngkuk chxnbxb praethsekahliitekhaepnsthabnsmthbepnaehngaerk pccubnmisthabnthnginpraethsaelatangpraeths canwn 7 aehng inpi 2547 rbmhapyyawithyaly x hadihy c sngkhla aelamhawithyalyphraphuththsasnacing ecwiy emuxngekasng ichnisithep epnsthabnsmthb hlngcaknn inpi 2550 mhawithyalyidrbwithyalyphraphuththsasnananachati praethssrilngka aelawithyalyphraphuththsasnasingkhopr epnsthabnsmthb txmainpi 2553 mhawithyalyidrbmhawithyalyphraphuththsasna thrrmaekt pudaepsth praethshngkari epnsthabnsmthb kardaeninkarepidrbmhawithyalyaelawithyalycak 6 praethsekhaepnsthabnsmthbnn nbepnkarphthnamhawithyalyihepnthiyxmrbkhxngxngkhkrthangkarsuksainradbnanachati cnthaihxngkhkrtang mungmnthicarwmepnswnhnungkhxngmhawithyalyinkarnaradb karcdkarsuksa aelahlksutrkhxngmhawithyalyipepidsxnklumbukhkhlthiepnbrrphchitaelakhvhsthidsuksaaelaeriynruphraphuththsasnainmitithihlakhlaymakyingkhun 3 karcdtnghnwynganephuxrxngrbpharkickarepnsunyklangkarsuksaphraphuththsasnaradbnanachati 1 karcdtngwithyalyphuththsastrnanachati karkhyaytwkhxngmhawithyalynn imidcakdwngxyuinphunthikhxngphasaithyethann dwyehtuthimhawithyalyidrbkaryxmrbcakchawphuthththwolk cungepnehtuihmhawithyalycaepntxngepidhlksutrnanachati ephuxrxngrbklumbukhkhlthiepnbrrphchitaelakhvhsthcakthwolkmasuksa n mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly xaephxwngnxy cnghwdphrankhrsrixyuthya inpi ph s 2551 mhawithyalyidxnumtiokhrngkarwithyalyphuththsastrnanachatiephuxepnthisuksakhxngbrrphchitaelaaelakhvhsththnginpraethsaelatangpraeths odydaeninkarcdsuxthidin canwn 77 ir 2 ngan 53 tarangwa sungtngxyutidkbthidinkhxngmhawithyalydanthistawnxxk txmamhawithyalyidrangaephnaembthkarkxsrangwithyalyphuththsastrnanachati inpingbpraman 2553 mhawithyalyidrbkarcdsrrngbpramanephuxkxsrangxakhareriynrwmwithyalyphuththsastrnanachati canwn 80 000 000 bath nxkcakni mhawithyalyiddaeninkarkxsrangrabbsatharnupophkh suxwsdukhruphnthprakxbxakhartang suxthidinephimetim prbprungphunthi kxsranglancxdrth kxsrangpaymhawithyaly nganprbphumithsntang odyrwmngbpramaninkardaeninkarthngsin 2 134 591 206 bath 2 cdtngsmakhmmhawithyalyphraphuththsasnananachati inwnthi 18 mithunayn 2551 odysankngankhnakrrmkarwthnthrrmaehngchati swch xnumtiihdaeninkarcdtngsmakhmwithyalyphraphuththsasnananachati odymimhawithyaly aelawithyalyphraphuththsasnathwolkekhaepnsmachikcanwn 117 sthabn sahrbwtthuprasngkhinkarcdtngnn ephuxsnbsnunmwlsmachik srangkrxbkarthanganrwmkn rwmipthungsrangkhwamekhaicaelarwmmuxkarthanganrwmknrahwangmwlsmachik inkarkareriynkarsxn karephyaephphraphuththsasna thngni idmikarprachumxthikarbdiaelakarsmmnawichakar radbnanachati khrngthi 1 khxngsmakhmmhawithyalyphraphuththsasnanachati rahwang wnthi 13 15 knyayn ph s 2551 mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly idrwmmuxkbsmakhmmhawithyalyphraphuththsasnanachati cdprachumxthikarbdimhawithyalyphraphuththsasna aelasmmnawichakarradbnanachati eruxng phraphuththsasnakbcriysastr n xuobsthklangna aelaxakhareriynrwm mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly tabllaithr xaephxwngnxy cnghwdphrankhrsrixyuthya odymixthikarbdi nkwichakarthwolkekharwmprachumkwa 1 700 rup khn 3 karcdsmakhmsphasaklwnwisakhbuchaolk inwnthi 29 emsayn 2552 mhawithyalyrwmknxngkhkrphraphuththsasnathwolkidrwmknlngnamcdtngsmakhmsphasaklwnwisakhbuchaolkkhun ephuxkratunihxngkhkrphraphuththsasnaidrwmknechlimchlxngwnwisakhbuchaolkinthanawnprasuti trsru aelapriniphphankhxngphraphuththeca aelatharngiwsungkhwamepnexksar aelakhwamsamkhkhikhxngklumchawphuthththwolk odyihmisanknganihytngxyu n mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly thngni xngkhkarshprachachati UN mimtitngsphasaklwnwisakhbuchaolk International Council for the Day of Vesak ihepnthipruksadanesrsthkicaelasngkhmaehngshprachachati nbepnkhrngaerkthiwngkarphraphuththsasnaithy idrbsiththiinkarekharwmkickrrmtang khxngyuexn phraphrhmbnthit s dr prayur thm mcit ot prathansmakhmsphasaklwnwisakhbuchaolk aela xthikarbdimhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly idepnkalngsakhyinkarphlkdnsngesrimihyunesnxkhxrbrxngepnxngkhthipruksaphiessdngklaw aelaidmikickrrmsngesrimngankhxngyuexnxyangtxenuxng odykarprasankhwamrwmmuxkbchawphuthththwolk ephuxcdprachumwisakhbuchaolkaelw burnakarkbphnthkickhxngkarcdtng 4 dan khux karphthnathiyngyun sphaphphumixakasepliynaeplng odyechphaaeruxngphawaolkrxn karsuksa karsrangsntiphaph smakhmsphasaklwisakhbuchaolkni nbepnsaphanthicathahnathiinkarechuxmoyngchawphuthththwolk thngnikaymhayan wchryan aelaethrwath ihsamarthsuksa eriynru aelaekhaicsungknaelakn xnsngphlinechingbwktxkarephyaephphraphuththsasnathnginradbthxngthin Local aelainradbolk Global ihsxdrbkbwithichiwitaelakhwamepnipkhxngsngkhmidxyangmiprasiththiphaphmakyingkhun 4 karcdtngsthabnphasa phraphrhmbnthit s dr xthikarbdiidihnoybaytxkarphthnasthabnphasaephuxrxngrbkarepnsunyklangkarsuksaphraphuththsasnananachatiwa pharkickhxngmhawithyaly aelakickrrmmisakhythimhawithyalyiddaeninkarma nxkehnuxcakkickrrmkareriynkarsxnodyechphaakaprachumchawphuththnanachati enuxnginwnwisakhbuchaolk sungmhawithyalyepnecaphaphhlkinkarprachum krathngchawphuthththwolkmimtiihphuththmnthl epnsunyklangphraphuththsasnakhxngolk phlkhxngkarcdkickrrmni thaihruwamhawithyalykhadaekhlnbukhlkrthimikhwamru khwamsamarthindanphasa dngnn mhawithyaly cungidtngsthabnphasakhunephuxrxngrbkarepnsunyklangphraphuththsasnaolk sungpccubnpraethsthinbthuxphraphuththsasnathwolkkhxngithy tangihkhwamsnicsngbukhkhlkrekhamasuksainmhawithyalymakhun cakwisythsndngklaw inpi 2550 mhawithyalycungiderimtninkarcdtngokhrngkarsxnphasaxngkvskhun ephuxsnxngtxbtxkarphthnaphasaxngkvsephuxesrimsrangkarichphasaphudaelaphasaekhiynaeknisittangpraethsthieluxkeriyninradbpriyyatriphakhphasaxngkvs hlngcaknn inwn thi 27 mithunayn ph s 2555 cungmikarcdtngsthabnphasakhunxyangepnthangkarodyihmisthanaethiybethakhna thngni khnani sthabnphasaiddaeninkarrxngrbwisythsnkhxngxthikarbdi thnginmitikhxngkarepidsxnhlksutrprakasniybtrkaraeplphasa aelaphasaxngkvsephuxwichachiph rwmipthungkarepidsxnphasatang khux phasaxngkvs phasacin phasayipun phasaekahli phasabahasa phasaewiydnam phasaphma phasaithy aelaphasabali sthabnphasaidcdkareriynkarsxnthnginradbprakasniybtr aelakarsxnphasaxngkvsinraywichasuksathwipthiepnphasaxngkvsthiimnbhnwykitkhxngkhnatang aelakarbrikardanphasaihaekhnwynganphayinmhawithyalythiepnphubrihar khnacary aelaecahnathiephuxihsamarthsuxsarphasatangpraethsrwmipthungkarihbrikaraeknisittangpraeths inkhnaediywkn idihbrikaraekhnwynganphaynxkthwipthiprasngkhphthnathksakarichphasaxngkvsaelaphasaxaesiyn odyihsthabnphasaipdaeninkarcdkareriynkarsxnihaekbukhlakrkhxnghnwyngantang 5 karcdtngsunyxaesiynsuksa karphthnamhawithyalysukarepnsunyklang HUB khxngkarsuksaphraphuththsasnainprachakhmxaesiynnn thuxepnyuththsastrkhxngmhawithyaly dwyehtuni inwnthi 25 knyayn 2556 mhawithyalycungidcdtngsunyxaesiynsuksa ihmisthanaethiybethakbkhna sunyxaesiynsuksa withyalyphuththsastrnanachati aelawithyalyphrathrrmthut ephuxrxngrbkarekhasuprachakhmxaesiynodyihsunyxaesiynsuksa mipharkicekiywkbkarbriharngan karwangaephnngan karphthnaekhruxkhay karsuksawicy karcdrabbsarsneths aelakarihbrikarwichakarxngkhkhwamruthiekiywkhxngkbkarbrikarnganxaesiyn khxyprasankhwamrwmmuxkbswnngankhxngmhawithyalyaelahnwynganxun inprachakhmxaesiyn aebngkarbriharnganxxkepn 2 swn khux swnnganbrihar aela swnwicy sarsnethsaelabrikarwichakar 6 karcdtngwithyalyphrathrrmthut withyalyphrathrrmthutmiphthnakarmacakokhrngkarfukxbrmphrathrrmthutsaytangpraeths odysmedcphraphuthacary ekiyw xupeson krrmkarmhaethrsmakhm idepnkrrmkarxanwykarfukxbrm odymiwtthuprasngkhiklekhiyngkninkardaeninngankhux 1 ephuxfukxbrmphrathrrmthutihmikhwamrukhwamsamarth criyawtrxnngdngam aelakhwammnicinkarptibtisasnkicintangpraethsyingkhun 2 ephuxetriymphrathrrmthut phumikhunsmbtiehmaasmsngiptangpraeths 3 ephuxsnxngnganephyaephphraphuththsasnaintangpraethskhxngkhnasngkhithy dwyehtuni inwnthi 25 knyayn 2556 cungidcdtngwithyalyphrathrrmthutkhunmaxyangepnthangkar odymipharkicekiywkbngankareriynkarsxnephuxphthnaphrathrrmthut cdkarfukxbrmphrathrrmthut wicyphthnarupaebbaelawithikarephyaephphraphuththsasnathnginpraethsaelatangpraeths thngni idkahndihmi 2 swnnganthahnathiinkarbriharaelaphthnawithyaly klawkhux 1 sanknganwithyaly mixanachnathiaelakhwamrbphidchxbekiywkbnganbrihar aelangansarsnethskhxngwithyaly aela 2 sanknganwichakar mixanachnathiaelakhwamrbphidchxb ekiywkbnganwangaephnaelaphthnahlksutr nganwicyaelaphthna 4 karprachuminradbnanachatixyangtxenuxng mhawithyalyepnsthabnthangkarsuksathiepnsunyklangkarsuksaphraphuththsasnakhxngchawphuthththwolk dngcaehnidcakkarthiphunathangkaremuxng phunathangsasnatang nkwichakarphraphuththsasnaaelaklumkhnthwipidedinthangmarwmkickrrmnanachatithimhawithyalyidcdkhuntamladbdngtxipni k karprachumephuxesrimsrangsntiphapholk 1 karcdprachumsudyxdphunachawphuththephuxkarephyaephphraphuththsasnaaehngolk khrngthi 2 inrahwangwnthi 9 11 phvscikayn ph s 2543 mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly idrwmmuxkbkhnasngkhnikayennbutsuchu praethsyipun cdprachumsudyxdphunachawphuththephuxkarephyaephphraphuththsasna aehngolk khrngthi 2 n hxprachumphuththmnthl cnghwdnkhrpthm karprachumkhrngniennkarsngesrimkhwamsmphnthxndirahwangchawphuthththwolk ephuxaelkepliynprasbkarninkarephyaephsasna aelaephuxrwmechlimphraekiyrtiinworkas mhamngkhlthiphrabathsmedcphraecaxyuhw thrngecriyphrachmmayukhrb 72 phrrsa 2 karprachumsphaphunasasnaaehngolk rahwang wnthi 12 14 mithunayn ph s 2544 mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly idrwmmuxkbxngkhkarshprachachati cdprachasphaphunasasnaolk n hxprachumphuththmnthl cnghwdnkhrpthm aelathisunyprachumshprachachati karprachumkhrngni mungsngesrimeruxngkhwamrwmmuxthangsasnainkaraekpyhakhwamrunaerngaelasrang sntiphaphihekidkhuninolk 3 karprachumsudyxdphunaeyawchnolkephuxsntiphaph rahwangwnthi 24 29 kumphaphnth ph s 2547 mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly idrwmmuxkbxngkhkarshprachachati cdprachumsudyxdphunaeyawchnolkephuxsntiphaph n sunyprachumshprachachatikrungethph karprachumkhrngniennkarsnbsnuniheyawchnidaelkepliynkhwamkhidkhwamehn eruxngsntiphaphaelaephuxsrangekhruxkhayeyawchn ihthakickrrmsngesrimsntiphaphaelakarphthnathiyngyun 4 karprachumethrwathaelamhayan rahwang wnthi 16 20 krkdakhm ph s 2547 mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly idcdprachumnanachatiwadwyphraphuththsasnaethrwathaelamhayan n hxprachumphuththmnthl cnghwdnkhrpthm aelasunyprachumshprachachati krungethph karprachumkhrngniennkarsrangekhruxkhaykhwamsmphnthrahwangxngkhkrthangphra phuththsasna inradbthxngthinaelaradbnanachati aeswnghahnthangthaihkarsuksaphraphuththsasnaepnthisnickhxngeyawchnkhnrunihm 5 karsmmnarwmekiywkbphraphuththsasnaaelasasnaxislaminpraednkhwamsmphnththangprawtisastrsasnarahwangxihrankbithy inwnthi 6 kumphaphnth 2552 thngni minkwichakarthngsxngsasnaekharwmkwa 950 rup khn 6 karprachumkarprachumphunasasnaephuxsntiphaphinprachakhmxaesiyn khrngthi 1 eruxng khntithrrmthangsasna rahwangwnthi 24 29 knyayn ph s 2557 odymiphunasasna 5 sasnacak 10 praethsinprachakhmxaesiyn 80 khn rwmthungkhnithyrwmnganpraman 500 khn sungcdodymhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly mcr aelasanknganphraphuththsasnaaehngchati phs phayitkardaeninkarkhxngokhrngkarpriyyaothhlksutrsntisuksa mcr odyerimxyangepnthangkar emuxwnthi 26 knyayn ph s 2557 thi mcr wngnxy odymismedcphramharchmngkhlacary phuptibtihnathismedcphrasngkhrach epnprathan karprachumkhrngniphunathng 5 sasnaehnchxbinptiyyathitklngrwmkn dngni khux sngesrimkhntithangsasnatamprakaskhxngyuensok pi kh s 1995 cadaeninkareswnatxipaelaesrimsrangekhruxkhaykhxngphunasasna sngesrimknaelakn ephuxihprachakhmxaesiynmikhwamruinsasnakhxngtnexng aelasasnaxun ephuxdaeninaebbtxenuxngimehndehnuxyephuxsntiphaph ekhaicthungskdisrikhwamepnmnusy cakrathaihekidkhwamkhunekhyrahwangknephuxkhwamepnexkphaphkhxngphunasasna aeephuxsngesrimkarxyurwmkndwykhwamsamkhkhi imihsasnatkepnekhruxngmuxkhxngnkkaremuxngaelasuxmwlchn kh karprachumephuxechlimchlxngwnwisakhbuchaolk 1 karprachumwisakhbuchaolk khrngthi 1 emux wnthi 25 phvsphakhm 2547 mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly rwmkbmhaethrsmakhm aelarthbalithy epnecaphaphcdprachumphunachawphuththolkwadwywnwisakhbucha wnsakhysaklkhxngolk n hxprachumphuththmnthl cnghwdnkhrpthm aelasunyprachumshprachachati krungethph karprachumkhrngniennsngesrimkarsuksa karptibti karephyaeph aelapkpxngkhumkhrxngphraphuththsasna rwmthngrwmkncdkarechlimchlxngwnwisakhbuchathngthisunyprachumihyaelasuny pracaphumiphakh 2 karprachumwisakhbuchaolkkhrngthi 2 rahwang wnthi 18 21 phvsphakhm ph s 2548 mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly idcdprachumchawphuththnanachatiwadwywnwisakhbucha n hxprachumphuththmnthl cnghwdnkhrpthm aelasunyprachumshprachachati krungethph karpachumkhrngni ennsngesrimsnbsnunkarphthnathiyngyun ihphuththmnthlepnsunyklangphraphuththsasnaaehngolk epnsunyprasannganrahwangxngkhkrthangphraphuththsasnaaelasngesrimaelkepliynaehlng khxmulthangphraphuththsasna 3 karprachumwisakhbuchaolkkhrngthi 3 rahwang wnthi 7 10 phvsphakhm ph s 2549 mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly idcdprachumchawphuththnanachatiwadwywnwisakhbucha n hxprachumphuththmnthl cnghwdnkhrpthm aelasunyprachumshprachachati krungethph karprachumkhrngnienneruxngsntiphapholk khwamrwmmuxrahwangphraphuththsasnanikaytang karphthnaaebbyngyun aelaesrsthkicphxephiyngkhxngphrabathsmedcphraecaxyuhw 4 karprachumwisakhbuchaolkkhrngthi 4 rahwang wnthi 26 29 phvsphakhm ph s 2550 mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly idrwmmuxkbmhaethrsmakhm aelarthbalithy cdprachumchawphuththnanachatiwadwywnwisakhbucha wnsakhykhxngshprachachati n hxprachumphuththmnthl cnghwdnkhrpthm aelasunyprachumshprachachati krungethph karprachumpinimiphunachawphuthth nkwichakar aelaphuaethncakpraethstang thwolk edinthangmarwmprachumpraman 2 000 khn karprachumpini enneruxngphraphuththsasnakbthrrmaphibal aelaechlimchlxngenuxnginworkasthiphrabathsmedcphraecaxyuhw ecriyphrachnmphrrsakhrb 80 phrrsa 5 karprachumwisakhbuchaolk khrngthi 5 rahwang wnthi 18 19 phvsphakhm ph s 2551 mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly idrwmmuxkbmhaethrsmakhm aelarthbalithy cdphithichlxngwnwisakhbucha wnsakhysaklkhxngolk n hxprachumphuththmnthl cnghwdnkhrpthm aelasunyprachumshprachachati krungethph karprachumnimiphunachawphuthth nkwichakar aelaphuaethncakpraethstang thwolk edinthangmarwmprachumcanwn 1 500 khn 6 karprachumwisakhbuchaolk khrngthi 6 karcdprachumchawphuththnanachati enuxnginwnwisakhbuchaolk eruxng phraphuththsasnakbkaraekwikvtikarnkhxngolk wnthi 4 6 phvsphakhm ph s 2552 n hxprachumphuththmnthl xaephxphuththmnthl cnghwdnkhrpthm mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly t laithr x wngnxy c phrankhrsrixyuthya aelasunyprachumshprachachati thnnrachdaeninnxk krungethphmhankhr 7 karprachumwisakhbuchaolk khrngthi 7 karcdprachumchawphuththnanachati enuxnginwnwisakhbuchaolkeruxng karfuntwcakwikvtikarnkhxngolk tamthsnachawphuthth Global Recovery The Buddhist Perspective enuxnginwnwisakhbucha wnsakhysaklkhxngolk pracapi 2553 wnthi 23 25 phvsphakhm ph s 2553 n mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly aelasunyprachumshprachachati thnnrachdaeninnxk krungethphmhankhr 8 karprachumwnwisakhbuchaolk khrngthi 8 karcdprachumchawphuththnanachati enuxnginwnwisakhbuchaolk eruxng phuthththrrmkbkarphthnasngkhmaelaesrsthkic wnthi 12 14 phvsphakhm ph s 2554 n hxprachumphuththmnthl xaephxphuththmnthl cnghwdnkhrpthm mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly t laithr x wngnxy c phrankhrsrixyuthya aelasunyprachumshprachachati thnnrachdaeninnxk krungethphmhankhr karprachumpinimixthikarbdi mhawithyalytang phunachawphuthth nkwichakar aelaphuaethncakpraethstang thwolk edinthangmarwmprachumpraman 5 000 khn 9 karprachumwnwisakhbuchaolk khrngthi 9 karcdkickrrmwisakhbuchananachatikhrngthi 9 enuxnginoxkasechlimchlxng phuththchynti 2600 pi aehngkartrsrukhxngphraphuththeca eruxng phrapyyatrsrukhxngphraphuththecaephux praoychnsukhkhxngmwlmnusychati wnthi 31 phvsphakhm 2 mithunayn ph s 2555 n mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly t laithr x wngnxy c phrankhrsrixyuthya sunykarprachumshprachachati thnnrachdaeninnxk krungethphmhankhr aelaphuththmnthl x phuththmnthl c nkhrpthm karprachumpinimixthikarbdi mhawithyalytang phunachawphuthth nkwichakar aelaphuaethncakpraethstang thwolk edinthangmarwmprachumpraman 5 000 khn 10 karprachumwisakhbuchaolk khrngthi 10 karcdkickrrmwisakhbuchananachatikhrngthi 10 eruxng karsuksakbkarepnphlemuxngkhxngolk mummxngkhxngphraphuththsasna rahwangwnthi 21 22 phvsphakhm n mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly t laithr x wngnxy c phrankhrsrixyuthya sunykarprachumshprachachati thnnrachdaeninnxk krungethphmhankhr aelaphuththmnthl x phuththmnthl c nkhrpthm inkarprachumpinimixthikarbdi mhawithyalytang phunachawphuthth nkwichakar aelaphuaethncakpraethstang thwolk edinthangmarwmprachumpraman 5 000 khn 11 karprachumwnwisakhbuchaolk khrngthi 11 karcdkickrrmwisakhbuchananachatikhrngthi 11 inwnthi 10 phvsphakhm 2557 n mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly t laithr x wngnxy c phrankhrsrixyuthya inkarprachumpinimixthikarbdi mhawithyalytang phunachawphuthth nkwichakar aelaphuaethncakpraethstang thwolk edinthangmarwmprachumpraman 1 500 khn 12 karcdprachumwnwisakhbuchaolk khrngthi 12 karcdkickrrmwisakhbuchananachatikhrngthi 12 eruxng phraphuththsasnakbwikvtikarnkhxngolk rahwangwnthi 28 30 phvsphakhm 2558 n mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly t laithr x wngnxy c phrankhrsrixyuthya sunykarprachumshprachachati thnnrachdaeninnxk krungethphmhankhr aelaphuththmnthl x phuththmnthl c nkhrpthm inkarprachumpinimixthikarbdi mhawithyalytang phunachawphuthth nkwichakar aelaphuaethncakpraethstang thwolk edinthangmarwmprachumpraman 5 000 khn yukhphthnakhwamrungeruxngkhxngkarepnsunyklangkhxngmhawithyaly hlngcakthimhawithyalyidrbkarphthnaihecriyetibotthngechingkayphay aelakhunphaphmaxyangtxenuxng tngaet pi ph s 2430 cnthung ph s 2553 nn inpi ph s 2553 singthisathxnihehnthungkhwamrungeruxngkhxngmhawithyalysamarthpraeminidcakphllphthechingprackskhxngkarbriharnganinhlaydan thnginechingpriman aelakhunphaph 1 canwnngbpramanthiephimsungkhun emuxwiekhraahcakexksarkhxngmhawithyalythisamarthsubkhnidphbwa inpi 2521 sungepnpithimhawithyalyiderimkhyaykarcdkarsuksaipsuphumiphakh odyidtngwithyaekhthnxngkhayepnaehngaerknn mhawithyalyidrbkarcdsrrngbpramanphankrmkarsasnaepncanwnengin 1 798 000 bath hlngcakidmikartraphrarachbyytikahndwithythanaphusaerckarsuksawichakarphraphuththsasnann mhawithyalyidrbngbpramansnbsnunphankrmkarsuksasungkhun canwn 2 798 000 bath hlngcakidmikartraphrarachbyytikaahndwithythanaphusaaerckarsuksawichakarphraphuththsasnann mhawithyalyidrbngbpramansnbsnunphankrmkarsuksasungkhun caanwn 2 817 943 bath inkhnathipi 2540 sungepnpisudthaythimhawithyalyidrbngbsnbsnunphankrmkarsasna mhawithyalyidrbngbpraman caanwn 76 346 800 bath hlngcakmhawithyalymiphrarachbyytiaelw idrbkarcdsrrngbpramanincaanwnthiephimsungkhun odyinpi ph s 2558 mhawithyalyidrbkarcdsrrngbpramanthiephimsungkhun caanwn 1 715 429 100bath emuxethiybngbpramancakpi 2521 kbpingbpraman 2558 caphbwa ngbpramanidephimsungkhun 954 ethakhxngngbpraman pi 2521 2 canwnswnnganthiephimkhun saahrbswnngansnbsnunkarsuksann emuxwiekhraahcakkhxmultngaet pi 2521 phbwamicaanwn 11aehng prakxbdwysaanknganxthikarbdi saanksngesrimphraphuththsasnaaelabrikarsngkhm orngeriynphuththsasnawnxathity swnthrrmnieths mhaculaxasrm sunyphthnasasnamhaculalngkrnrachwithyaly sunyphuththwipssnananachati okhrngkarxbrmphrathrrmthutsaytangpraeths nxkcakni mimthymsuksa 3 aehng khuxorngeriynbalietriymxudmsuksa orngeriynbalixbrmsuksa aelaorngeriynbalisathitsuksa inkhnathihlngmiphrarachbyytinn tngaet pi ph s 2541 2558 idmiswnngankhyayephimetimepncaanwnmak odyephimcakedimepn 14 aehng sankhxsmudaelaethkhonolyisarsneths sthabnphasa saankthaebiynaelawdphl sthabnwipssnathura sunyxaesiynsuksa kxngkickarwithyaekht kxngkhlngaelathrphysin kxngnitikar kxngwiethssmphnth kxngsuxsarxngkhkr saanknganpraknkhunphaph saankngantrwcsxbphayin saanknganphrasxnsilthrrm aelasaankngansphamhawithyaly saahrbswnnganthicdkarsuksann hlkthanthikhnphbtngaet pi ph s 2521 2540phbwa miwithyaekhtcanwn 10 aehng aelawithyalysngkh caanwn 4 aehng inkhnathimiphrarachbyytiaelwphbwa miwithyalysngkhcaanwn 8 aehng hxngeriyncanwn 5 aehng hnwywithybrikar caanwn 17 aehng aela sthabnsmthbcaanwn 6 sthabnsmthb 3 canwnphucbkarsuksaephimmakkhun phuththsastrbnthit 2499 2540 micanwn 5 042 rup khn inkhnathi ph s 2541 2558 miphucbkarsuksa canwn 34 638 rup khn caehnwa emuxethiybcaanwnkhxngphucbkarsuksakxnaelahlngkarmiphrarachbyytikhxngmhawithyaly phucbkarsuksacamicaanwn 7 ethakxnmiphrarachbyyti inkhnathiphucbkarsuksainradbphuththsastrmhabnthit pi ph s 2499 2540 micanwn 49 rup khn swn tngaet pi ph s 2541 2558 micanwn2910 rup khn inradbphuththsastrdustibnthit tngaet pi ph s 2499 2540 yngimmikarepidkarsuksacungyngimmicanwnkhxngphucbkarsuksa hlngcakthimikarepidkarsuksatngaet pi ph s 2541 2558 miphucbkarsuksacanwn 216 rup khn 4 canwnhlksutrephimmakkhun emuxwiekhraahcaanwnkhxnghlksutrkhrayakxnmiphrarachbyyti tngaet ph s 2490 2540 mihlksutrradbpriyyatri canwn 13 hlksutr prakxbdwy khnaphuththsastr mi 5 hlksutr khux prchya sasna phraphuththsasna baliphuththsastr bali snskvt khnakhrusastr mi 2 hlksutr khux karsxnsngkhmsuksa karbriharkarsuksa khnamnusysastr mi 3 hlksutr khuxphasaxngkvs citwithya phasaithy aelakhnasngkhmsastr mi 3 hlksutr khux rthsastr sngkhmwithya esrsthsastr inkhnathibnthitwithyalyidcdkarsuksainradb priyyaoth 4 hlksutrkhux phraphuththsasna prchya thrrmnieths aelaphasabali swnpriyyaexkyngimmihlksutrpriyyaexk hlksutr inkhnathihlngyukhthimikartraphrarachbyytimhawithyaly tngaet ph s 2541 2558radbpriyyatri pccubnepidsxnin 4 khna mihlksutr rwmthngsin26 sakhawicha khux khnaphuththsastr sakhawicha khnakhrusastr 4 sakhawicha khnamnusysastr 4 sakhawicha aelakhnasngkhmsastr 7 sawicha odyhlksutrthnghmdni yngidepidsxnthiwithyaekht withyaly okhrngkarkhyayhxngeriyn hnwywithybrikar aelasthabnsmthbkhxngmhawithyaly k hlksutrkhnaphuththsastr prakxbdwy 11 sakhawicha khux 1 sakhawichaphraphuththsasna 2 sakhawichasasna 3 sakhawichaprchya 4 sakhawichabaliphuththsastr 5 sakhawichaphasabali 6 sakhawichabalisnskvt 7 sakhawichaphuththsilpkrrm 8 sakhawichamhayansuksa 9 sakhawichaphraphuththsasnamhayan 10 sakhawichaphraphuththsasnacin 11 sakhawichaphawaphunaathangphraphuththsasna kh hlksutrkhnakhrusastr prakxbdwy 11 sakhawicha khux 1 sakhawichasngkhmsuksa 2 sakhawichakarsxnphasaithy 3 sakhawichakarsxnphasaxngkvs 4 sakhawichakarsxnphraphuththsasnaaelacitwithyaaenaaenw kh hlksutrkhnamnusysastr prakxbdwy 4 sakhawicha khux 1 sakhawichaphasaithy 2 sakhawichaphasaxngkvs 3 sakhawichacitwithya 4 sakhawichaphuththcitwithya ng hlksutrkhnasngkhmsastr prakxbdwy 7 sakhawicha khux 1 sakhawicharthsastr 2 3 sakhawichakarcdkarechingphuthth 4 sakhawichasngkhmwithya 5 sakhawichasngkhmsngekhraahsastr 6 sakhawichaesrsthsastr 7 sakhawichanitisastr inradbpriyyaoth mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyalyepidsxn tngaetphuththskrach 2531 epntnma aelaepidsxnhlksutrnanachati phuththskrach 2543 pccubn mihlksutrradbprakasniybtrbnthit canwn 2 hlksutr aelahlksutrradbpriyyaoth canwn 22 sakhawicha klawkhux k hlksutrradbprakasniybtrbnthit caanwn 2 hlksutr prakxbdwy 1 phraitrpidksuksa aela 2 wichachiphkhru kh hlksutrradbpriyyaoth prakxbdwy 22 sakha wicha khux 1 sakhawichaphraphuththsasna 2 sakhawichaprchya 3 sakhawichathrrmnieths 4 sakhawichawipssnaphawna 5 sakhawichasntisuksa 6 sakhawichaphraitrpidksuksa 7 sakhawichasasnaepriybethiyb 8 sakhawichamhayansuksa 9 sakhawichakarbriharkarsuksa 10 sakhawichakarsxnsngkhmsuksa 11 sakhawichacitwithyakarsuksaaelakaraenaaenw 12 sakhawichachiwitaelakhwamtay 13 sakhawichaphuththcitwithya 14 sakhawichaphuththsastraelasilpaaehngchiwit 15 sakhawichaphasasastr 16 sakhawichakarcdkarechingphuthth 17 sakhawicharthprasasnsastr 18 sakhawichaesrsthsastrkarphthnaechingphuthth 19 sakhawichakarphthnasngkhm 20 sakhawichaphasaxngkvs hlksutrnanachati 21 sakhawichaphraphuththsasna hlksutrnanachati aela 22 sakhawichaxaesiynsuksa hlksutrnanachati kh radbpriyyaexk mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyalyidepidsxn tngaet phuththskrach 2543 epntnma pccubn mihlksutrradbpriyyaexk canwn 11 sakhawicha prakxbdwysakhawichaphraphuththsasna sakhawichaphraphuththsasna hlksutrnanachati sakhawichaprchya sakhawichabaliphuththsastr sakhawichaphuththbriharkarsuksa sakhawichaphuththcitwithya sakhawichaphasasastr sakhawichakarcdkarechingphuthth sakhawicharthprasasnsastr sakhawicharthprasasnsastr hlksutrnanachati sakhawichakarphthnasngkhm 5 karichethkhonolyisnbsnunkarbrihar kareriynkarsxn aelakarephyaeph MIS ethkhonolyikarsuksaepnekhruxngmuxsakhyinkaresrimskyphaphihkareriynkarsxnkarsuksamikhwamhmaymakkhun phueriyneriynidkwangkhwangmakkhun eriyniderwkhun ekhaicidxyangsmburn samarthsnxngeruxngkhwamaetktangrahwangbukhkhlid phueriynmixisrainkareriynrumikhwamrbphidchxb thaaihkarcdkarsuksaphraphuththsasnasamarthburnakarkbsastr smyihmidxyangsmsmy xikthngcachwyihkarsuksamiphlngmakkhun dwykartrahnkruinkhunkhaaelakhwamsakhykhxngethkhonolyiephuxkarsuksainlksnadngklaw cungthaaihmhawithyalyidtdsinic phthna MCUTV maepnekhruxngmuxchwyphthnakarcdkareriynkarsxn odyechphaaxyangying karepidphunthiihnisitinswnphumiphakhideriynrucakxacaryphuechiywchayinswnklangxikthngsamarthekhaicthungwisythsnkhxngmhawithyalythimungihnahlkphraphuththsasnaipburnakarkbsastrihm nxkcaknn mhawithyalyidphthnaxinethxrentkhwamerwsungephuxihswnngancdkarsuksa aelaswnngansnbsnunkarsuksasamarthphthnaxibukh E Book ephuxepnsuxinkareriynkarsxnidxyangmiprasiththiphaphmakyingkhun karnaphthnaethkhonolyimiidminythicaakdtwechphaainswnkhxngkarcdkarsuksaethannmhawithyalyidnaexa UNI Net maphthnakarihkarbrikarkhxnghxngsmud aelaepnekhruxngmuxinkarbriharsarsneths odykarnaarabbsarsnethsmaichprakxbkartdsinicephuxkarbrihar cdkarswnngantang ephuxihsxdrbkbsthankarnaelakhwamtxngkarkhxngnisitmakyingkhun 6 phthnakhmphir nganwicy tara aelahnngsuxthangwichakarxyangtxenuxng mhawithyalyidmikhasngaetngtngkhnakrrmkarephuxphthnaphraitrpidk phasaithy aelaphasabali chbbmhaculalngkrnrachwithyaly rwmipthung phraitrpidk phasaithy chbbmhaculalngkrnrachwithyalybn sidi rxm tngaet ph s 2533 cnaelwesrcsmburninpi ph s 2542 sungphraitrpidk phasaithy chbbnimixiththiphlsakhytxkarphthnanganwicy ngantara aelahnngsuxkhxngmhawithyalycanwnmak inkhnaediywkn mhawithyalyidsnbsnunkarkarphthnahnngsuxphraitrpidkchbbsakl Common Buddhist Text sungmienuxhacak 3 nikayihy khux mhayan wchryanaelaethrwath odyminkwichakarthng 3 yanmarwmknphthnaaelaprbprungenuxhaphayitkrxb khxngphrartntry khux enuxhaekiywkbprawtikhxngphraphuththeca enuxhaekiywkbphrathrrm aelaenuxhaekiywkbbthbathaelakhwamsaakhykhxngphrasngkh nxkcakni mhawithyalyidsnbsnunihmiokhrngkarphthnashbrrnanukrmphraitrpidk The Union Catalog of Buddhist Text ephuxihnkwichakaraelaphusnicsamarthekhathungenuxhakhxngkhmphirphraphuththsasnakhxngnikaytangidxyangkwangkhwangmakyingkhun klawodysrupaelw khwamrungeruxngkhxngmhawithyalysamarthpraeminkaretibotaelaephimkhunkhunngbpraman hlksutr canwnnisit canwnphucbkarsuksa canwnkhxngswnngancdkarsuksaaelasnbsnunkarsuksa canwnkarphlitphlnganthangwichakar thngkhmphir tara hnngsux aelanganekhiyntang canwnmak sahrbtwaeprsaakhythinaipsukhwamrungeruxngnnekidcakkarthimhawithyalymiphrarachbyytiepnkrxbinkarbriharcdkarinthanaepnmhawithyalykhxngrth karmiwisythsnthichdecninkarbrihar karmithrphyakrthngngbpraman aelabukhlakrthiphrxmphln karnaethkhonolyimaprbichephuxkarbriharaelakarcdkareriynkarsxnkarsrangekhruxkhaykhxngchawphuthththnginradbpraethsaelatangpraethscnthaihekidkaryxmrbaelarwmmuxknsrangnwtkrrmthangkarsuksa aelacdngannanachatirwmkn dngcaehnidcakkarcdnganechlimchlxngwnwisakhbuchaolk aelakarcdsmmnananachatixyangtxenuxng dawnohld hnngsuxprawtiaelaphthnakarmhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly 2017 06 15 thi ewyaebkaemchchinsylksnpracamhawithyalyphraculmngkud phraekiyw trapracamhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly aebbthi 1 ichepnsylksntidbnxkkhruywithythana phrarachlyckrpracaphraxngkhphrabathsmedcphraprminthrmhaculalngkrn phraculcxmeklaecaxyuhw rchkalthi 5 trngthankhxngphraekiywmixksryxwa m c r aelamirupthrrmckrwangepnchakebuxnghlng epnrupwngklmkhrxbthrrmckrswnklangepnphraekiywtrangansarbrrnmhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly ichinngansarbrrnkhxngmhawithyaly epnphrarachlyckrpracaphraxngkhphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw rchkalthi 5 rxbkrxbdanbnmixksrphasabaliwa py ya olks mi pch ochot rxbkrxbdanlangmixksrwa mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyalykarsuksakhnainmhawithyaly bnthitwithyaly 2017 08 28 thi ewyaebkaemchchin khnaphuththsastr 2006 06 12 thi ewyaebkaemchchin khnakhrusastr khnamnusysastr khnasngkhmsastr prakxbdwyswnngancdkarsuksa canwn 4 phakhwicha khux phakhwicharthsastr sakhawicharthprasasnsastr sakhawicharthsastr sakhawichakarcdkarechingphuthth phakhwichaesrsthsastr phakhwichasngkhmwithyaaelamanusywithya phakhwichanitisastr withyaekht withyaekhthnxngkhay 2016 10 07 thi ewyaebkaemchchin withyaekhtaehngaerk withyaekhtnkhrsrithrrmrach 2017 09 06 thi ewyaebkaemchchin withyaekhtechiyngihm 2015 06 24 thi ewyaebkaemchchin withyaekhtkhxnaekn withyaekhtnkhrrachsima withyaekhtxublrachthani withyaekhtaephr withyaekhtsurinthr withyaekhtphaeya 2012 10 23 thi ewyaebkaemchchin withyaekhtbalisuksaphuththokhs nkhrpthm withyaekhtnkhrswrrkh withyaly withyalysngkhely withyalysngkhnkhrphnm 2017 08 26 thi ewyaebkaemchchin withyalysngkhlaphun 2017 09 15 thi ewyaebkaemchchin withyalysngkhphuththchinrach withyalysngkhpttani 2017 09 11 thi ewyaebkaemchchin withyalysngkhburirmy withyalysngkhnkhrnan withyalysngkhphuththosthr 2017 08 02 thi ewyaebkaemchchin okhrngkarykradbihepnwithyaekhtphuththosthr withyalysngkhechiyngray okhrngkarykradbihepnwithyaekhtechiyngray withyalysngkhnkhrlapang 2017 09 21 thi ewyaebkaemchchin withyalysngkhsrisaeks 2017 08 10 thi ewyaebkaemchchin withyalysngkhphuththpyyasrithwarwdi withyalysngkhchyphumi withyalysngkhrxyexd okhrngkarykradbihepnwithyaekhtrxyexd withyalysngkhrachburi withyalysngkhphxkhunphaemuxng ephchrburn cdtngwithyalysngkhsurasdrthani 64 withyalysngkhrayxng withyalysngkhmhasarkham withyalysngkhephchrburi okhrngkarykradbihepnwithyaekhtephchrburi withyalysngkhxuthythani withyalysngkhchlburi withyalysngkhcnthburi khxkahndmhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly eruxng karcdtngwithyalysngkhcnthburi phuththskrach 2565 wnthi 25 phvsphakhm ph s 2565 okhrngkarkhyayhxngeriyn okhrngkarkhyayhxngeriynkhnaphuththsastr wdphikulthxng c singhburi 2017 06 25 thi ewyaebkaemchchin okhrngkarkhyayhxngeriynwithyaekhtnkhrsrithrrmrach wdphthnaram c surasdrthani okhrngkarkhyayhxngeriyn wdichychumphlchnasngkhram c kaycnburi okhrngkarwithyalysngkhrtnburi xaephxrtnburi cnghwdsurinthr hnwywithybrikar hnwywithybrikar wdhngspradistharam c sngkhla hnwywithybrikarmhasarkham 2017 03 15 thi ewyaebkaemchchin hnwywithybrikar wdihyxintharam c chlburi 2017 08 21 thi ewyaebkaemchchin hnwywithybrikar wdpapradu c rayxng 2017 09 02 thi ewyaebkaemchchin hnwywithybrikar c cnthburi hnwywithybrikar wdphrarup c ephchrburi hnwywithybrikar wdhnxngkhunchati c xuthythani hnwywithybrikar wdphrabrmthatukaaephngephchr hnwywithybrikar wdphvksawnochtikaram c phicitr hnwywithybrikar wdthana c tak hnwywithybrikar wdhmxnim c xutrditth hnwywithybrikar wdpaelilyk c suphrrnburi hnwywithybrikar wdsraaekw c sraaekw hnwywithybrikar sawikasikkhaly krungethphmhankhr hnwywithybrikar wdmchchimawas c xudrthani hnwywithyabrikarkhnasngkhmsastr wdxintharam cnghwdsmuthrsngkhram tammmtisphainkarprachumemux 4 25u67 emux 24 emsayn 2567 sthabnsmthb 7 aehng withyalyphraphuththsasnadxngkuk chxnbxb satharnrthekahli mhapyyawithyaly xaephxhadihy cnghwdsngkhla mhawithyalyphraphuththsasnasincu ithwn satharnrthprachachncin sunykarsuksaphraxacaryphrhm praethssingkhopr withyalyphraphuththsasnananachati praethssrilngka withyalyphraphuththsasna praethssingkhopr withyalyphraphuththsasnathrrmekth praethsxitaliswnnganinmhawithyaly sanknganxthikarbdi kxngklang mulnithimhaculalngkrnrachwithyaly 2008 12 18 thi ewyaebkaemchchin mhaculabrrnakhar 2008 12 18 thi ewyaebkaemchchin orngphimphmhaculalngkrnrachwithyaly 2017 11 11 thi ewyaebkaemchchin kxngkickarwithyaekht kxngkhlngaelathrphysin 2020 08 06 thi ewyaebkaemchchin kxngnitikar kxngwichakar sankphimphmhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly kxngwiethssmphnth 2008 12 18 thi ewyaebkaemchchin kxngsuxsarxngkhkr kxngaephnngan sanknganpraknkhunphaph sankngantrwcsxbphayin sanknganphrasxnsilthrrm sankngansphamhawithyaly sthabnphasa swnnganbrihar swnwichakar sthabnwicyphuththsastr swnnganbrihar swnwichakar sthabnwipssnathura swnnganbrihar swnwangaephnaelaphthnakarxbrm sankthaebiynaelawdphl swnthaebiynnisit swnpraeminphlkarsuksa sankhxsmudaelaethkhonolyisarsneths swnhxsmudklang 2008 12 18 thi ewyaebkaemchchin swnethkhonolyisarsneths sanksngesrimphraphuththsasnaaelabrikarsngkhm sanknganbrihar swnthrrmnieths xphithrrmochtikawithyaly 2008 12 18 thi ewyaebkaemchchin orngeriynphuththsasnawnxathity faybrikarfukxbrm 2013 08 26 thi ewyaebkaemchchin okhrngkarphrasxnsilthrrminorngeriyn 2013 09 12 thi ewyaebkaemchchin sunyxaesiynsuksa swnnganbrihar swnwicy sarsnethsaelabrikarwichakar withyalyphuththsastrnanachati swnnganbrihar 2020 09 21 thi ewyaebkaemchchin swnwicy sarsnethsaelabrikarwichakar 2020 09 21 thi ewyaebkaemchchin withyalyphrathrrmthut sanknganwithyaly sanknganwichakar hnwynganxun sunyphthnasasna aekhmpsn 2004 08 17 thi ewyaebkaemchchin kxngthunsarxngeliyngchiph smakhmsisyeka mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyalynganbrikarwichakaraeksngkhmnganbrikarfukxbrmkhunthrrm swnwangaephnaelaphthnakarxbrm 2013 08 26 thi ewyaebkaemchchin okhrngkarphrasxnsilthrrminorngeriyn 2013 09 12 thi ewyaebkaemchchin r r phuththsasnawnxathity 2006 06 12 thi ewyaebkaemchchin okhrngkarorngeriynwithiphuthth swnwangaephnaelaphthnakarxbrm karptibtiwipssnakrrmthan swnwangaephnaelaphthnakarxbrm sthabnwipssnathurakarwicyswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidkarrbbukhkhlekhasuksatxinmhawithyalykhunsmbtikhxngphuekhasuksaradbpriyyatri phuththsatrbnthit khunsmbtikhxngphusmkhrekhasuksathiepnphraphiksu aelasamenr epnphusxbidepriyythrrm 3 praoykhaelatxngsuksawichasamyephimetimtamthimhawithyalykahnd epnphusxbidepriyythrrm 3 praoykh aelasaerckarsuksaradbmthymsuksatxntn hrux epnphusxbidepriyythrrm 3 praoykh aelaidrbprakasniybtrxunthimhawithyalykahnd hrux epnphusaerckarsuksapraoykhmthymsuksatxnplaykhxngorngeriynphrapriytithrrmaephnksamysuksa epnphrasngkhathikarhruxkhrusxnphrapriytithrrmthisaerckarsuksahlksutrprakasniybtrkarbriharkickarkhnasngkh p bs hrux epnphrasngkhathikarhruxkhrusxnphrapriytithrrmthisxbidnkthrrmchnexkaelasaerckarsuksaradbmthymsuksatxnplayhruxethiybetha epnphusxbidnkthrrmchnexkaelasaerckarsuksaradbmthymsuksatxnplayhruxethiybetha aelatxngsuksawichaphasabali imnxykwa 12 hnwykit ykewnphusaerckarsuksahlksutrprakasniybtrsakhawichabalithimhawithyalyrbrxng epnphusaercradbmthymsuksatxnplay hruxphuidrbprakasniybtrxunthimhawithyalyrbrxng aelatxngsuksawichaphasabali imnxykwa 24 hnwykit ykewnphusaerckarsuksahlksutrprakasniybtrsakhawichabalithimhawithyalyrbrxng epnphuthimhawithyalyxnumtiihekhasuksaepnkrniphiessephuxkhxrbpriyyatameknththisphawichakarkahnd imekhythukkhdchuxxxkhruxthukilxxkcaksthabnkarsuksaid ephraakhwamphidthangkhwampraphvtihruxwiny khunsmbtikhxngphusmkhrekhasuksathiepnkhvhsth hruxprachachnthwip epnphusxbidepriyythrrmhruxbalisuksa 3 praoykh aelatxngsuksawichasamyephimetimtamthimhawithyalykahnd epnphusxbidepriyythrrmhruxbalisuksa 3 praoykh aelasaerckarsuksaradbmthymsuksatxntn epnphusxbidepriyythrrmhruxbalisuksa 3 praoykh aelaidrbprakasniybtrxunthimhawithyalyxunrbrxng epnphusaerckarsuksapraoykhmthymsuksatxnplaykhxngorngeriynphrapriytithrrmaephnksamysuksa epnphusaerckarsuksaradbmthymsuksatxnplayhruxphuidrbprakasniybtrxunthimhawithyalyrbrxng aelatxngsuksawichaphasabaliimnxykwa 12 hnwykit ykewnphusaerchlksutrprakasniybtrsakhawichaphasabalithimhawithyalyrbrxng epnphuthimhawithyalyxnumtiihekhasuksaepnkrniphiessephuxkhxrbpriyyatameknththisphawichakarkahnd imekhythukkhdchuxxxkhruxthukilxxkcaksthabnkarsuksaid ephraakhwamphidthangkhwampraphvtihruxwiny ihepniptamkhxbngkhbmhawithyalyculalngkrnrachwithyaly wadwykarsuksaradbpriyyatri ph s 2542 khxbngkhbmhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly wadwykarsuksaradbpriyyatri chbbthi 2 ph s 2550 aelakhxbngkhbmhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly wadwykarsuksaradbpriyyatri chbbthi 3 aekikhephimetim ph s 2551 sakhawichathiepidsxnpccubnmhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly epidthakareriynkarsxnthnginradbprakasniybtr priyyabnthit prakasniybtrbnthit priyyamhabnthit aelapriyyadusdibnthit kracayiptamsakhawichatang dngni xakhareriynrwm mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyalyradbpriyyatri hlksutrphuththsastrbnthit aebngepn 4 khna idaek prakxbdwy 1 phakhwichaphraphuththsasna 2 phakhwichasasnaaelaprchya aela 3 phakhwichabaliaelasnskvt khnakhrusastr prakxbdwy 1 phakhwichacitwithyakarsuksaaelakaraenaaenw 2 phakhwichabriharkarsuksa aela 3 phakhwichahlksutraelakarsxn prakxbdwy 1 phakhwichaphasaithy 2 phakhwichaphasatangpraeths aela 3 phakhwichacitwithya khnasngkhmsastr prakxbdwy 1 phakhwicharthsastr wichaexkkarpkkhrxng wichaexkrthprasasnsastr wichaexkkarpkkhrxngrahwangpraeths wichaexkkarcdkarechingphuthth 2 phakhwichaesrsthsastr 3 phakhwichasngkhmwithyaaelamanusywithya 4 phakhwichanitisastrradbpriyyaoth hlksutrphuththsastrmhabnthit mithnghmd 19 sakhawicha idaek sakhawichathrrmnieths sakhawichaphasasastr sakhawicharthprasasnsastr sakhawichasasnaepriybethiyb sakhawichakarcdkarechingphuthth sakhawichachiwitaelakhwamtay sakhawichaprchya sakhawichaphuththcitwithya sakhawichaphuththsastr aelasilpaaehngchiwit sakhawichaphasaxngkvs hlksutrnanachati sakhawichakarbriharkarsuksa khnakhrusastr sakhawichawipssnaphawna sakhawichakarphthnasngkhm sakhawichaphraphuththsasna sakhawichasntisuksa sakhawichabalisuksa sakhawichamhayansuksa sakhawichasnskvt aelasakhawichahlksutraelakarsxn aekhnngwichakarsxnthwip sahrbphuthimiibprakxbwichachiphkhru sakhakarsxnsngkhmsuksa karsxnphasaithy karsxnphasaxngkvs aelakarsxnphraphuththsasna nxkcaknimhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly mihlksutrphuththsastrmhabnthit nanachati khux Buddhist Studies Philosophy aela Mahayana Buddhism radbpriyyaexk hlksutrphuththsastrdusdibnthit mithnghmd 18 sakhawicha idaek sakhawichaphuththcitwithya sakhawichabaliphuththsastr sakhawichaphuththbriharkarsuksa sakhawichakarcdkarechingphuthth sakhawicharthprasasnsastr sakhawicharthsastr pr d prchyadusdibnthit sakhawichaprchya sakhawichabali sakhawichaphraphuththsasna sakhawichathrrmnieths sakhawichasasnaepriybethiyb sakhawichawipssnaphawna sakhawichamhayansuksa sakhawichakarbriharkarsuksa sakhawichachiwitaelakhwamtay sakhawichasnskvt sakhawichaphuththsastraelasilpaaehngchiwit sakhawichaphasasastr aelasakhawichasntisuksaphunthimhawithyalyswnklang swnklang xaephxwngnxy cnghwdphrankhrsrixyuthya idthwaythidincanwn 84 ir 1 ngan 37 tarangwa thitabllaithr xaephxwngnxy cnghwdphrankhrsrixyuthya aekmhawithyaly rwmkbthidinthimhawithyalyiddaeninkarcdsuxephimetim pccubnmienuxthithnghmd 323 ir wnthi 20 phvsphakhm phuththskrach 2542 txma inwnthi 13 thnwakhm phuththskrach 2542 smedcphrabrmoxrsathirach syammkudrachkumar esdcphrarachdaeninprakxbphithiwangsilavksokhrngkarkxsrangmhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly n tabllaithr xaephxwngnxy cnghwdphrankhrsrixyuthya odythrngwangsilavksxakharsanknganxthikarbdi caknnkarbriharmhawithyaly idyaythithakarcakwdmhathatuaelawdsrisudaram krungethphmhankhr mayngthithakaraehngihm n kiolemtrthi 55 thnnphhloythin tabllaithr xaephxwngnxy cnghwdphrankhrsrixyuthya inthitngpccubn sanknganxthikarbdi sanknganhxngsmud phiphithphnthphraitrpitk xakharsanknganwipssna xakhareriynrwm xakharhxprachum mwk 48 phrrsa xakharhxchn xakharbrrnakhar tukxakhntuka 92 pyyanntha xuobsthklangna withyalynanachati hxphknisitnanachati phxhknisit swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidswnphumiphakh withyaekht mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly withyaekhthnxngkhay 2016 10 07 thi ewyaebkaemchchin withyaekhtaehngaerk mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly withyaekhtnkhrsrithrrmrach 2008 12 16 thi ewyaebkaemchchin mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly withyaekhtechiyngihm 2015 06 24 thi ewyaebkaemchchin mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly withyaekhtkhxnaekn mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly withyaekhtnkhrrachsima mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly withyaekhtxublrachthani 2008 12 16 thi ewyaebkaemchchin mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly withyaekhtaephr 2008 12 16 thi ewyaebkaemchchin mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly withyaekhtsurinthr 2008 12 16 thi ewyaebkaemchchin mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly withyaekhtphaeya 2016 10 11 thi ewyaebkaemchchin mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly withyaekhtbalisuksaphuththokhs nkhrpthm mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly withyaekhtnkhrswrrkhwithyalysngkh withyalysngkhely 2008 12 16 thi ewyaebkaemchchin withyalysngkhnkhrphnm 2008 12 16 thi ewyaebkaemchchin withyalysngkhlaphun 2008 12 16 thi ewyaebkaemchchin withyalysngkhphuththchinrach 2008 12 16 thi ewyaebkaemchchin withyalysngkhpttani withyalysngkhburirmy 2011 09 17 thi ewyaebkaemchchin withyalysngkhnkhrnanechlimphraekiyrti withyalysngkhphuththosthr 2008 12 16 thi ewyaebkaemchchin withyalysngkhechiyngray 2008 12 16 thi ewyaebkaemchchin withyalysngkhnkhrlapang 2008 12 16 thi ewyaebkaemchchin withyalysngkhsrisaeks 2008 12 16 thi ewyaebkaemchchin withyalysngkhphuththpyyasrithwarwdi 2015 05 26 thi ewyaebkaemchchin withyalysngkhchyphumi withyalysngkhrxyexd withyalysngkhrachburi withyalysngkhphxkhunphaemuxng ephchrburn withyalysngkhmhasarkham withyalysngkhrayxng withyalysngkhsuphrrnburisrisuwrrnphumi cnghwdsuphrrnburi withyalysngkhephchrburi withyalysngkhphicitr withyalysngkhxuthythani withyalysngkhsurasdrthani withyalysngkhcnthburi withyalysngkhkaaephngephchr withyalysngkhkaycnburi sriiphbuly withyalysngkhtak withyalysngkhchlburihnwywithybrikar hnwywithybrikar wdxinthraram xaephxxmphwa cnghwdsmuthrsngkhram hnwywithybrikarsngkhla khnaphuththsastr wdhngspradistharam hnwywithybrikarxutrditth withyalysngkhphuththchinrach wdhmxnim hnwywithybrikarkalsinthu withyaekhtkhxnaekn wdklang phithiprasathpriyyabtrecaphrakhun smedcphramharchmngkhlacary chwng wrpuy oy phuptibtihnathismedcphrasngkhrach epnprathanphithiprasathpriyyabtrkhxngmhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly phrabathsmedcphraecaxyuhw thrngphrakrunaoprdthway ecaphrakhunsmedcphraxriywngsakhtyan smedcphrasngkhrach sklmhasngkhprinayk esdcphradaeninepnxngkhprathaninphithiprasathpriyyabtr aekbnthit mhabnthit aeladusdibnthit mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly n hxprachumihymhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly tabllaithr xaephxwngnxy cnghwdphrankhrsrixyuthyathaeniybelkhathikarmhaculalngkrnrachwithyaly inphrabrmrachupthmphladb rup raynam smnskdi erimwara sinsudwara wd1 smedcphraphuthacary ekiyw xupeson ph s ph s wdsraeksrachwrmhawiharthaeniybxthikarbdiladb rup raynam smnskdi erimwara sinsudwara wd1 smedcphraphuththokhsacary fun chutin thor ph s 2490 ph s 2491 wdsamphraya2 smedcphrathiryanmuni thir pun nok ph s 2491 ph s 2496 wdckrwrrdirachawaswrmhawihar3 phrathrrmwrnayk smburn cn thok ph s 2496 ph s 2529 wdxudmthani cnghwdnkhrnayk4 phrarachrtnomli nkhr ekhmpali dr ph s 2529 ph s 2540 wdmhathatuyuwrachrngsvsdi5 phraphrhmbnthit prayur thm mcit ot sastracary dr ph s 2540 ph s 2561 wdprayurwngsawaswrwihar6 phrathrrmwchrbnthit smcint sm mapy oy sastracary dr ph s 2561 pccubn wdpakna ekhtphasiecriy krungethphthaeniybnayksphaladb rup raynam smnskdi erimwara sinsudwara wd1 phraphimlthrrm chxy thantht ot ph s 2494 ph s 2490 wdmhathatuyuwrachrngsvsdi2 phraphimlthrrm xac xasoph ph s 2490 ph s 2503 wdmhathatuyuwrachrngsvsdi3 ph s 2503 ph s 2523 wdmhathatuyuwrachrngsvsdi2 smedcphraphuthacary xac xasoph ph s 2523 ph s 2532 wdmhathatuyuwrachrngsvsdi4 ph s 2533 ph s 2547 wdmhathatuyuwrachrngsvsdi5 phraphrhmwchirathibdi phir suchaot ph s 2549 pccubn wdmhathatuyuwrachrngsvsdiphuthimikhunupkartxmhawithyalyphraphrhmmngkhlacary pn pthumut tor xditecaxawaswdchlprathanrngsvsdi cnghwdnnthburi smedcphraphuthacary ekiyw xupeson xditecaxawaswdsraeksrachwrmhawihar xditprathankhnaphuptibtihnathismedcphrasngkhrach smedcphramharchmngkhlacary chwng wrpuy oy xditecaxawaswdpakna phasiecriy krungethphmhankhr xditphuptibtihnathismedcphrasngkhrach nayaephthyrsmi khunhyingsmpxng wrrnissridbricakhthidincanwn 84 ir 1 ngan 37 tarangwa thi xaephxwngnxy cnghwdphrankhrsrixyuthya ihaekmhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly rwmkbthidin thimhawithyalyiddaeninkarcdsuxephimetim pccubnmienuxthithnghmd 323 irsisyekathimichuxesiyngsastracaryphiess smedcphraphuththokhsacary prayuthth pyut ot p th 9 krrmkarmhaethrsmakhm rachbnthitkittimskdi thanepnkhnithykhnaerkthiidrbrangwlkarsuksaephuxsntiphaph cakxngkhkaryuensok UNESCO Prize for Peace Education dr phraphrhmwchiromli thxngxyu yanwisuth oth p th 9 xditthipruksaecakhnaphakh 11 xditecaxawasphraxaramhlwngwdsalalxy cnghwdsurinthr xditkrrmkarsphamhawithyalyrachphtsurinthrsastracary dr phraphrhmbnthit prayur thm mcit ot p th 9 ecaxawaswdprayurwngsawaswrwihar xacarypracahlksutrpriyyaphuththsastrmhabnthit sakhasntisuksa mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly phraphrhmomli suchati thm mrton p th 9 ecakhnaphakh 5 phuchwyecaxawaswdpakna krrmkarmhaethrsmakhm aemkxngbalisnamhlwng elkhanukaraemkxngnganphrathrrmthut rxngprathankhnaphrathrrmcarik hwhnaphrathrrmthutsaythi 3 xditprathankhnaelkhanukarphuptibtihnathismedcphrasngkhrach xditelkhathikarsmchchamhakhnissrphraphrhmsiththi thngchy sukhyaon dr kittimskdi xditecakhnaphakh 10 xditecaxawaswdsraeksrachwrmhawihar xditkrrmkarmhaethrsmakhm xditprathansankngankakbduaelphrathrrmthutiptangpraeths xdithwhnaphrathrrmthutsaythi 6 xditrxngaemkxngthrrmsnamhlwngsastracary dr phraphrhmwchrthiracary smcint sm mapy oy p th 9 p th 9 dr ss b phth m Ph D Pali amp Buddhist Studies phuchwyecaxawaswdpakna xthikarbdimhawithyalymhaculalngkrnrachwithyalydr phraphrhmwchiordm suthsn wrths si p th 9 ecakhnaphakh10 ecaxawaswdomliolkyaramphraethphptiphanwathi sunthr yansun thor p th 5 phuchwyecaxawaswdsuthsnethphwraramrachwrmhawihar ecakhnaekhtdusit phuchwyaemkxngthrrmsnamhlwng aelankethsnchuxdng rxngsastracary dr phraethphpwremthi prasiththi ph rh mrsi rxngxthikarbdifaybrihar mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyalyrxngsastracary dr phrarachekhmakr prayuthth phuritht ot p th 9 phucdkarorngeriynphuththoksywithya rxngxthikarbdi ecakhnacnghwdaephr aelaecaxawaswdphrabathmingemuxngwrwiharphuchwysastracary dr phrarachwimlomli manph piysiol p th 9 ecakhnacnghwdsurinthr phrarachpyyasuthi xuthy yaonthoy rxngecakhnaphakh 11 phrapriytithrrmchnp th 8 p th 9 rxngsastracary dr phrasuthiwirbnthit ochw ths snioy p th 7 phth b sasna ss m karbriharxngkhkar Ph D Phil DODT ODT DM Pub man phuchwyecaxawasphraxaramhlwngwdsrisudaramwrwihar phuxanwykarsanksngesrimphraphuththsasnaaelabrikarsngkhm mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyalyrxngsastracary dr phrarachwchrsarbnthit prasar cn thsaor phuchwyecaxawaswdmhathatuyuwrachrngsvsdirachwrmhawihar rxngxthikarbdifayprachasmphnthaelaephyaeph mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyalyphuchwysastracary phrasripriytithada thxngsa thanis sor p th 9 rxngecakhnacnghwdburirmy phuxanwywithyalysngkhburirmyphraemthiwchiordm wuthichy wchiremthi p th 9 phukxtngsthabnwimuttyaly thipruksaecakhnaphakh6 phuchwyecaxawasphraxaramhlwng wdphrasingh cnghwdechiyngray phuchwysastracary dr phramhawisit thirwos p th 9 ecakhnaxaephxphnmdngrk cnghwdsurinthrsastracary dr phrathrrmthutintangpraeths praethsrsesiy sastracarypracarxngsastracary dr klangphnm p th 9 phukxtngxuthyankarsuksamngkhlkant thicnghwdsurinthrphrakhruniethskthrrmkhun ecakhnaxaephxonndinaedng cnghwdburirmyphrakhrupriytiphthrkhun esnx siriphth oth ecakhnaxaephxnangrxng cnghwdburirmy phucdkarorngeriynsiriphthrkhunanusrn orngeriynkarkuslkhxngwdinphraphuththsasna cnghwdburirmy dr kuethph iskracang xditsmachiksphaphuaethnrasdrcnghwdsrisaeks ekht 2 aelaxditokhskphrrkhphlngprachachnsastracary dr prathankhnakrrmkarbriharbrisththan Research amp Market cakd kickarwicykarcdkar kartladaelakarlngthunradbnanachatisastracaryphiess dr calxng sarphdnuk xditxacarypracaphakhwichaphasatawnxxk khnaobrankhdi mhawithyalysilpakrsastracaryphiess rachbnthit sakhatrrksastr pracarachbnthitysthansastracary dr xacarypracakhnaxksrsastr culalngkrnmhawithyalysastracary dr wchra ngamcitecriy xacarypracakhnasilpsastr mhawithyalythrrmsastrrxngsastracaryphiess dr xdisr ephiyngeks xditsmachiksphaphuaethnrasdrcnghwdkhxnaekn aelaxditrthmntrichwywakarkrathrwngekstraelashkrn xditrthmntrichwywakarkrathrwngkhmnakhm phrrkhephuxithyrxngsastracary dr xacarypracakhnaobrankhdi xditphuxanwykarsunysnskvtsuksa mhawithyalysilpakrphuchwysastracary dr brrcb brrnruci xacarypracakhnaxksrsastr culalngkrnmhawithyaly aelaphakhismachik sakhasasnsastr sankthrrmsastraelakaremuxng rachbnthitysthans s dr niym ewchkama nkkaremuxng phrrkhephuxithymans thartnic p th 6 phth b M A xditkrmkarsasna krathrwngwthnthrrmphuprakaskhaw phithikrnkcdraykarwithyuothrthsn nksuxsarmwlchndr sieriym phkdidarngvththi sakhawichaphraphuththsasna darankaesdngdr pphsra etchaiphbuly sakhawichaphraphuththsasna darankaesdngkhunhying dr sudartn ekyuraphnthu sakhawichaphraphuththsasna nkkaremuxng xditsmachiksphaphuaethnrasdr xditrthmntri phrrkhithysrangithyrxyexk xnusasnacarysasnaphuththkxngthphshrthxemrikasmpxng nkhrithsng nkwichakar nkaesdngiphrwly wrrnbutr nkwichakar nkaesdng nksuxsarmwlchn s c txm smachiksphacnghwdelysumhawithyalyelkhthi 79 hmuthi 1 hlkkiolemtrthi 55 tabllaithr xaephxwngnxy cnghwdphrankhrsrixyuthya rhsiprsniy 13170ladbehtukarnkhxngmhawithyalyph s 2432 wnthi 8 phvscikayn 2432 phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw rchkalthi 5 thrngphrakrunaoprdeklasthapnaaelaphrarachthannamsthabn mhathatuwithyaly khunphayinwdmhathatu ephuxihepnsthanthibxkphrapriytithrrm aelaepnthielaeriynphrapriytithrrmkhxngphrasngkhfaymhanikay sungcakedimekhyichphunthibriewnekngcinhnawdphrasrirtnsasnadaram ph s 2435 wnthi 18 knyayn 2435 rchkalthi 5 thrngmilayphrahtthelkhathungphrayaphaskrwngs esnabdikrathrwngthrrmkar prarphthungkarthithrngcaepliynchux mhathaturachwithyaly epn mhaculalngkrnrachwithyaly ph s 2439 wnthi 13 knyayn 2439 phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw phrarachthannamihmwa mhaculalngkrnrachwithyaly phrxmsthapnaxakharsngkhikesnasnrachwithyalyihepnmhawithyalysngkh odythrngtngphrathycaihepnsthabnkarsuksachnsungkhxngphrasngkh ph s 2490 phraphimlthrrm chxy thantht tethr prachumphraethranuethrafaymhanikay 57 rup ephuxprakasihmikarcdkarsuksaradbxudmsuksa aelaprakasichraebiybmhaculalngkrnrachwithyaly phuththskrach 2490 phrxmthngprakasaetngtngsmachiksphamhawithyaly khnaaerk 10 mkrakhm 2490 ph s 2490 wnthi 30 mkrakhm 2490 prachumsphamhaculalngkrnrachwithyalykhrngaerk ephuxeluxktngxthikarbdi elkhathikaraelakhnbdi rwmthngtngkrrmathikaraephnktang khxngmhawithyaly ph s 2490 wnthi 18 krkdakhm 2490 prakxbphithiepideriyninchnxbrmphunkhwamruihmaekphranisitrunaerkkhxngmhaculalngkrnrachwithyaly ph s 2490 epidbrikarmhaculabrrnakhar ph s 2492 wnthi 1 krkdakhm 2492 epiddaeninkarorngeriynaephnkbalimthymsuksa txmaidepliynchuxepnorngeriynbalisathitsuksa mhaculalngkrnrachwithyaly ph s 2492 wnthi 18 krkdakhm 2492 epiddaeninkarsuksaaephnkbalietriymxudmsuksa mhaculalngkrnrachwithyaly xyangepnrupthrrm ph s 2493 cdtngkhnaphuththsastr aetepidsxnkhrngaerkinpi ph s 2494 ph s 2497 miphusaercphuththsastrbnthit phth b runaerk 6 rup ph s 2498 smedcphrasngkhracheca krmhlwngwchiryanwngs thrngepnprathaninkarwangsilavksxakhareriynmhaculalngkrnrachwithyaly 3 chn emux 20 knyayn 2498 ph s 2499 emux 10 thnwakhm 2499 cdtngsankthrrmwicy ephuxsnxngnganephyaephaelakickrrmtang khxng mhaculalngkrnrachwithyaly ph s 2500 prakasichhlksutrrabbthwiphakhhruxchiemsetxraelarabbhnwykitepnaehngaerkkhxngpraethsithy ph s 2501 kaenidorngeriynphuththsasnawnxathityaehngaerkinpraethsithy thimhaculalngkrnrachwithyaly aelakhyaysakhaxxkipthngpraethsaelatangpraethsinchwngtxma 13 krkdakhm 2501 ph s 2503 khnasrththanaodynaysaray klyanruc nayprida ramxinthra aelakhna idmxbthwaythidinthibanbangplakd t bangplakd x xngkhrks c nkhrnayk canwn 156 ir 2 ngan 60 tarangwa ihaekmhaculalngkrnrachwithyaly odyinchnaerkoxnfakiwkbwdmhathatu 3 mithunayn 2503 ph s 2504 emuxwnthi 1 krkdakhm 2504 epidkhnakhrusastr mhaculalngkrnrachwithyaly epnkhnathi 2 ph s 2506 emuxwnthi 1 minakhm ph s 2506 epidprachumkhrngaerkephuxdaeninkarsrangphraitrpidkbali mhaculalngkrnrachwithyaly odyecaprakhunsmedcphrawnrt wdphraechtuphn epnprathan 9 phvsphakhm ph s 2506 epidaephnkxbrmkhrusasnsuksakhun epnhlksutrwichasamychn p ks aelaephimbalithrrmaelaykthanakhunepn p ks sung txmapi ph s 2512 idykthanaepnwithyalykhrusasnsuksa aelaidyubiprwmkbkhnakhrusastrinpi ph s 2530 ph s 2506 emuxwnthi 21 phvsphakhm 2506 phrabathsmedcphraecaxyuhw thrngbricakhphrarachthrphyswnphraxngkhcanwn 70 000 bath smedcphrabrmrachininath bricakhthrphyswnphraxngkhcanwn 70 000 bath smedcphrasrinkhrinthrabrmrachchnni thrngbricakhcanwn 70 000 bath ephuxsmthbthunkarcdsrangphraitrpidkbali mhaculalngkrnrachwithyaly ph s 2506 emuxwnthi 1 krkdakhm 2506 epidkarsuksakhnaexesiyxakheny txmapi 2507 idepliynchuxepnkhnamanusysngekhraahsastr cnkrathngpikarsuksa 2529 idaeykxxkepn 2 khna khux khnamnusysastr aelakhnasngkhmsastr ph s 2507 emuxwnthi 13 mkrakhm 2507 cdtngmulnithimhaculalngkrnrachwithyaly praktepnhlkthandngprakasinrachkiccanuebksa elmthi 82 txnthi 50 inwnthi 22 mithunayn 2508 hna 1695 ph s 2507 emuxwnthi 23 phvscikayn 2507 nangbuyrxd iphsisdi bricakhthidincanwn 7 ir 2 ngan 32 tarangwa trngbriewnpaktrxkcrekh t bangnaekrng c smuthrprakar aekmhaculalngkrnrachwithyaly ph s 2511 kxtngxphithrrmochtikwithyaly wdmhathatu yaymacakwdrakhngokhsitaram ph s 2512 emuxwnthi 25 knyayn ph s 2512 ykthanaaephnkxbrmkhrusasnsuksa epnwithyalykhrusasnsuksa p ks sung ph s 2512 emuxwnthi 16 phvsphakhm 2512 mhaethrsmakhm miprakaskhasngeruxngkarsuksakhxngmhawithyalysngkhihmhacula epnkarsuksakhxngkhnasngkh ph s 2513 emuxwnthi 17 kumphaphnth ph s 2513 mikarcdtngsmakhmsisyekamhaculalngkrnrachwithyaly ph s 2513 emuxwnthi 7 mithunayn ph s 2513 tngmhaculalngkrnrachwithyaly withyaekhthnxngkhay miphunthanmacak withyalysngkhphakhtawnxxkechiyngehnux cdtngmulnithiwithyalysngkhphakhtawnxxkechiyngehnux epnnitibukhkhl rachkiccanuebksa elmthi 89 txnthi 106 ng hna 1816 prakasemux 11 krkdakhm ph s 2515 ph s 2514 emuxwnthi 29 krkdakhm 2514 tngwithyalysngkhphakhthksin aettxmapi ph s 2528 idepliynchuxepnmhaculalngkrnrachwithyaly withyaekhtnkhrsrithrrmrach cdtng mulnithiwithyalysngkhphakhthksin epnnitibukhkhl rachkiccanuebksa elmthi 93 txnthi 148 ng hna 3602 prakasemux 30 phvscikayn ph s 2519 ph s 2517 emuxwnthi 12 krkdakhm 2517 tklngsuxthidininammulnithi mcr srangmhaculaxasrmthi x pakchxng c nkhrrachsima ph s 2518 emuxwnthi 18 phvscikayn ph s 2518 wangsilavkssranghxprachumsunyphthnasasna mhaculamhalngkrnrachwithyalyaekhmpsn swnecdiyxisrphaphnnwangsilavksemux 25 phvsphakhm ph s 2518 ph s 2522 emuxwnthi 5 singhakhm 2522 smedcphraethphrtnrachsuda syambrmrachkumari idesdcmaepnxngkhprathannganxnusrnkhrbrxbpithi 32 khxngmhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly ph s 2522 emuxwnthi 8 phvscikayn 2522 cdnganaelakxtngsthabnwicyphuththsastr enuxnginoxkasthi mcr khrbrxb 90 pi ph s 2524 emuxwnthi 24 knyayn ph s 2524 tngsthabnwipssnathura ph s 2525 mikarcdtngmulnithiephuxrxngrbkarbriharorngeriynphraphuththsasnawnxathity tamprakaskrathrwngmhadithy eruxngihxanaccdtng mulnithiorngeriynphuththsasnawnxathity mhaculalngkrnrachwithyaly epnnitibukhkhl prakttamrachkiccanuebksa elm 99 txnthi 18 prakasemux 9 kumphaphnth 2525 ph s 2526 aeykkhnamanusysngekhraahsastr epnkhnamnusysastr aelakhnasngkhmsastr ph s 2526 prakasichhlksutrphuththsastrbnthit imnxykwa 150 hnwykit ph s 2527 emuxwnthi 27 knyayn 2527 prakasichphrarachbyytikahndwithythanaphusaercwichakarphraphuththsasna ph s 2527 ph s 2527 emuxwnthi 1 minakhm ph s 2527 tngmhaculalngkrnrachwithyaly withyaekhtechiyngihm ph s 2528 emuxwnthi 20 krkdakhm ph s 2528 prakascdtngorngphimphmhaculalngkrnrachwithyaly ph s 2529 emuxwnthi 1 tulakhm ph s 2529 tngmhaculalngkrnrachwithyaly withyaekhtkhxnaekn ph s 2529 emuxwnthi 30 tulakhm ph s 2529 tngmhaculalngkrnrachwithyaly withyaekhtnkhrrachsima ph s 2530 tngmhaculalngkrnrachwithyaly withyaekhtxublrachthani edimthimikarepidwithyalykhrusasnsuksa mcr matngaet ph s 2527 ph s 2530 emuxwnthi 30 minakhm ph s 2530 tngmhaculalngkrnrachwithyaly withyaekhtaephr ph s 2531 emuxwnthi 23 mkrakhm ph s 2531 tngbnthitwithyaly priyyaoth ph s 2531 emuxwnthi 24 minakhm ph s 2531 tngmhaculalngkrnrachwithyaly withyaekhtsurinthr ph s 2532 emuxwnthi 8 phvscikayn ph s 2532 cdnganmhacula inrxb stwrrs 100 pi ph s 2534 emuxwnthi 20 singhakhm ph s 2534 tngmhaculalngkrnrachwithyaly withyaekhtphaeya ph s 2535 emuxwnthi 13 minakhm ph s 2535 phrasuemthathibdi nayksphamhawithyaly nakhnaphubriharaelakrrmkarcharaphraitrpidk canwn 15 than ekhaefasmedcphraethphphrartnrachsuda syambrmrachkumari ephuxthwayphraitrpidk canwn 9 chud aelaxrrthkthachbbmhaculalngkrnrachwithyaly canwn 9 chud ph s 2535 emuxwnthi 12 knyayn ph s 2535 smedcphraethphrtnrachsuda syambrmrachkumari esdcphrarachdaeninmaepnxngkhprathannganspdahsmophchphraitrpitk phasabali chbbmhacula ph s 2535 emuxwnthi 1 knyayn ph s 2535 ykthanasthabnbaliphuththokhs epmhaculalngkrnrachwithyaly epnwithyaekhtbalisuksaphuththokhs nkhrpthm ph s 2535 2536 ecaxawaswdsrisudaram phrarachphiphthnnoksl srangxakharmhacula aehngthi 2 thiwdsrisudaram kthm ph s 2537 emuxwnthi 22 thnwakhm 2537 cdaesdngmuthitaskkaraphrathrrmpidk p x pyut ot enuxnginoxk