ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เป็นโรคติดเชื้ออันเกิดจากไวรัสโคโรนากลุ่มอาการทางเดินทางหายใจเฉียบพลันรุนแรง 2 (SARS-CoV-2) มีการระบุโรคครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2562 ในนครอู่ฮั่น เมืองหลวงของมณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน และได้กระจายไปทั่วโลกนับแต่นั้น ส่งผลให้เกิดการระบาดทั่วของโควิด-19
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) | |
---|---|
ชื่ออื่น | โควิด-19, ปอดบวมไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ |
ผู้ป่วยโควิด-19 แบบมีอาการหนัก กำลังรับการรักษาในหออภิบาลผู้ป่วยหนัก | |
การออกเสียง | |
สาขาวิชา | โรคติดเชื้อ |
อาการ | ไข้ ไอ อ่อนเพลีย หายใจกระชั้น ไม่ได้กลิ่น บางทีไม่มีอาการ |
ภาวะแทรกซ้อน | ปอดบวม, ภาวะพิษเหตุติดเชื้อไวรัส, กลุ่มอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน, ไตวาย, กลุ่มอาการหลั่งไซโตไคน์, กลุ่มอาการอักเสบหลายระบบในเด็ก, พังผืดที่ปอด, โควิดเรื้อรัง |
การตั้งต้น | 2–14 วัน หลังได้รับเชื้อ (โดยทั่วไป 5 วัน) |
ระยะดำเนินโรค | มีตั้งแต่ 5 วัน ถึง 10 เดือน |
สาเหตุ | ไวรัสโคโรนากลุ่มอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS-CoV-2) |
ปัจจัยเสี่ยง | การเดินทาง การสัมผัสไวรัส |
วิธีวินิจฉัย | การทดสอบ rRT-PCR, ซีทีสแกน |
การป้องกัน | การล้างมือ, การปิดใบหน้า, การกักโรค, การเว้นระยะห่างทางสังคม, วัคซีน |
การรักษา | การรักษาตามอาการและประคับประคอง |
ความชุก | ผู้ป่วยยืนยันแล้ว 183,474,301 ราย |
การเสียชีวิต | 3,971,197 ราย (2% ของผู้ป่วยยืนยันแล้ว) |
อาการทั่วไป ได้แก่ ไข้ ไอ และหายใจลำบาก อาการอื่น ๆ อาจรวมถึงอ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ ท้องร่วง เจ็บคอ ภาวะเสียการรู้กลิ่นและภาวะเสียการรู้รส แม้ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง แต่บ้างทรุดลงเป็นกลุ่มอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน (ARDS) ซึ่งน่าจะมีปัจจัยกระตุ้นจากพายุไซโตไคน์อวัยวะล้มเหลวหลายอวัยวะ ช็อกเหตุพิษติดเชื้อ และลิ่มเลือดเวลาตั้งแต่การสัมผัสจนถึงเริ่มแสดงอาการตามแบบฉบับอยู่ที่ 5 วัน แต่อาจมีได้ตั้งแต่ 2-14 วัน
ไวรัสแพร่ระบาดได้ระหว่างบุคคลในช่วงที่มีการสัมผัสใกล้ชิดเป็นหลัก มักผ่านละอองเสมหะขนาดเล็กที่เกิดจากการไอ จามหรือสนทนา แม้ละอองเสมหะเหล่านี้เกิดเมื่อหายใจออก แต่ปกติจะตกลงสู่พื้นหรือติดค้างบนพื้นผิว ไม่ใช่ติดเชื้อได้จากระยะไกล บุคคลอาจติดเชื้อได้จากการสัมผัสพื้นผิวที่ปนเปื้อนแล้วนำมาแตะตา จมูกหรือปากของตน ไวรัสสามารถอยู่รอดบนพื้นผิวได้นานถึง 72 ชั่วโมง ไวรัสติดต่อทางสัมผัสได้มากที่สุดระหว่างสามวันแรกหลังเริ่มแสดงอาการ กระนั้นไวรัสอาจแพร่ได้ตั้งแต่ก่อนเริ่มปรากฏอาการและในโรคระยะหลังแล้ว วิธีการวินิจฉัยมาตรฐาน คือ ปฏิกิริยาลูกโซ่โพลีเมอเรสย้อนกลับแบบเรียลไทม์ (rRT-PCR) จากการกวาดคอหอยส่วนจมูกการถ่ายภาพรังสีส่วนตัดอาศัยคอมพิวเตอร์ทรวงอกอาจเป็นประโยชน์สำหรับวินิจฉัยผู้ที่ต้องสงสัยติดเชื้อมากโดยอาศัยอาการและปัจจัยเสี่ยง แต่ไม่แนะนำให้ใช้คัดกรองเป็นกิจวัตร
มาตรการที่แนะนำในการป้องกันการติดเชื้อ ได้แก่ การหมั่นล้างมือ การเว้นระยะห่างทางกายกับผู้อื่น (โดยเฉพาะจากผู้ที่มีอาการ) การปิดการไอและจามด้วยกระดาษทิชชูหรือข้อพับศอก และงดนำมือที่ไม่ได้ล้างแตะใบหน้า แนะนำให้ใช้หน้ากากอนามัยสำหรับผู้ที่สงสัยว่าตนเองมีไวรัสและผู้ดูแลบุคคลเหล่านั้น คำแนะนำการใช้หน้ากากอนามัยสำหรับประชาชนทั่วไปนั้นแตกต่างกันไปตามหน่วยงาน บ้างไม่แนะนำให้ใช้ บ้างแนะนำให้ใช้ และบ้างกำหนดว่าต้องใช้
มีการพัฒนาวัคซีนสำหรับโควิด-19 ออกมาแล้วหลายชนิด เช่น ไฟเซอร์ โมเดิร์นน่า ซิโนแวค แอสต้าซินิก้า ฯลฯ และหลายประเทศกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการให้วัคซีนแก่ประชาชนของตัวเอง การรักษาหลักๆ เป็นการรักษาอาการ การประคับประคอง การแยกตัว และมาตรการในขั้นทดลององค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้การระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 เป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ (PHEIC) เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2563 และเป็นโรคระบาดทั่วเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2563 มีการบันทึกการแพร่เชื้อในท้องถิ่นในประเทศส่วนใหญ่ของภูมิภาค WHO ทั้งหกภูมิภาค
อาการและอาการแสดง
ผู้ป่วยโควิด-19 มีอาการได้หลากหลาย ตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง อาการที่พบบ่อยได้แก่ ปวดศีรษะ และ คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ ปวดกล้ามเนื้อ เจ็บคอ มีไข้ ถ่ายเหลว และหายใจลำบาก ผู้ป่วยที่ติดเชื้อเดียวกันอาจมีอาการแตกต่างกัน และเปลี่ยนแปลงได้เมื่อการป่วยดำเนินไป โดยทั่วไปแล้วพบการเจ็บป่วยได้ 3 รูปแบบหลักๆ ได้แก่ แบบที่มีอาการระบบหายใจเป็นหลัก คือไอ มีเสมหะ หายใจลำบาก และมีไข้, แบบที่มีอาการทางระบบกล้ามเนื้อเป็นหลัก คือปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ ปวดหัว อ่อนเพลีย, และแบบที่มีอาการทางระบบย่อยอาหารเป็นหลัก คือปวดท้อง อาเจียน และถ่ายเหลว อาการและเป็นอาการที่พบได้บ่อย โดยบางรายงานพบว่าหากไม่นับผู้ที่มีโรคของหู คอ จมูก อยู่เดิมแล้วสามารถพบอาการนี้ได้สูงสุดถึง 88%
ในบรรดาผู้ป่วยที่มีอาการ ส่วนใหญ่จะมีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง (นับถึงการมีปอดอักเสบเล็กน้อย) คิดเป็น 81%, อีก 14% จะมีอาการรุนแรง (หายใจลำบาก ออกซิเจนต่ำ หรือมีรอยโรคที่ปอดมากกว่า 50% จากการตรวจภาพถ่ายรังสี), และอีก 5% จะมีอาการถึงขั้นวิกฤติ (การหายใจล้มเหลว ช็อก อวัยวะล้มเหลว) มีผู้ป่วยจำนวนมากที่ตั้งแต่ติดเชื้อจนหายไม่มีอาการใดๆ เลย ซึ่งบางรายงานพบว่าอาจมีมากถึงหนึ่งในสามของผู้ป่วยทั้งหมด ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะไม่ได้รับการตรวจหาเชื้อ และสามารถแพร่กระจายเชื้อต่อไปได้ ผู้ป่วยระยะก่อนมีอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อยก็สามารถแพร่เชื้อได้เช่นกัน
สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการ หลังจากได้รับเชื้อแล้วผู้ป่วยจะมีระยะเวลาที่ยังไม่แสดงอาการอยู่ช่วงหนึ่ง เรียกว่า ระยะฟักตัว โดยระยะฟักตัวของโควิด-19 มีค่ามัธยฐานอยู่ที่ประมาณ 4-5 วัน โดยส่วนใหญ่อยู่ที่ 2-7 วัน และเกือบทั้งหมดจะไม่เกิน 12 วัน
ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการดีขึ้นได้ อย่างไรก็ดี ผู้ป่วยส่วนหนึ่งอาจยังมีอาการบางอย่างหลงเหลืออยู่แม้จะหายป่วยจากระยะเฉียบพลันแล้ว เช่น อ่อนเพลีย เป็นต้น เรียกว่า ผลระยะยาวของโควิด-19 บางรายงานพบอาการเช่นนี้ในกว่าครึ่งของผู้ป่วยวัยผู้ใหญ่ตอนต้นที่รับการรักษาที่บ้าน ผู้ป่วยจำนวนหนึ่งมีการทำงานของอวัยวะบกพร่องในระยะยาวหลังหายป่วยระยะเฉียบพลัน ทั้งนี้ยังมีการเก็บข้อมูลเพื่อศึกษาผลระยะยาวของโรคนี้อยู่อย่างต่อเนื่อง
สาเหตุ
การแพร่เชื้อ
โควิด-19 แพร่เมื่อบุคคลมีการสัมผัสใกล้ชิดเป็นหลัก (2 เมตร) โดยทางละอองฝอยขนาดเล็กที่เกิดระหว่างการไอ จามหรือสนทนา บุคคลหายใจเอาละอองฝอยที่ปนเปื้อนที่ผู้ป่วยหายใจออกมาเข้าไปในปอด หรือละอองฝอยนั้นติดอยู่บนใบหน้าของบุคคลอื่นทำให้เกิดการติดเชื้อใหม่ ละอองฝอยนี้ค่อนข้างหนัก ปกติจะตกลงสู่พื้นผิวและไม่ปลิวไปไกลในอากาศ บุคคลสามรถแพร่ไวรัสได้ขณะยังไม่แสดงอาการ แต่ไม่ชัดเจนว่าเกิดขึ้นบ่อยมากน้อยเพียงใด การประมาณจำนวนผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการหนึ่งประมาณไว้ 40% บุคคลแพร่เชื้อได้มากที่สุดเมื่อแสดงอาการ (แม้แต่อาการเบาหรือไม่จำเพาะ) แต่อาจแพร่เชื้อได้จนถึงสองวันก่อนปรากฏอาการ (การแพร่เชื้อก่อนมีอาการ) และยังคงแพร่เชื้อต่ออีก 7 ถึง 12 วันโดยประมาณในผู้ป่วยปานกลาง และโดยเฉลี่ย 2 สัปดาห์ในผู้ป่วยรุนแรง
เมื่อละอองฝอยที่มีเชื้อตกลงสู่พื้นหรือพื้นผิว ละอองฝอยนั้นยังติดเชื้อได้หากบุคลสัมผัสพื้นผิวที่ปนเปื้อนแล้วนำมือไปสัมผัสตา จมูกหรือปากของตนแม้ว่าจะพบได้น้อย ปริมาณไวรัสกัมมนต์บนพื้นผิวจะลดลงเรื่อยๆ ตามเวลาจนในที่สุดไม่ก่อให้เกิดการติดเชื้ออีก และถึงแม้ว่าจะคาดว่าพื้นผิวไม่ใช่วิถีหลักที่ไวรัสแพร่กระจาย และยังไม่มีข้อมูลที่ทราบแน่ชัดว่าไวรัสปริมาณเท่าใดบนพื้นผิวที่จะก่อให้เกิดการติดเชื้อด้วยวิธีนี้ แต่ไวรัสยังคงสามารถตรวจพบได้บนพื้นผิวทองแดงแม้ว่าเวลาล่วงไป 4 ชั่วโมง สำหรับพื้นผิวที่เป็นกระดาษลังยังคงพบเชื้อได้แม้เวลาผ่านไปหนึ่งวัน และสามารถพบเชื้ออยูบนพลาสติก (พอลิโพรพีลีน) หรือเหล็กกล้าไร้สนิม (AISI 304) แม้เวลาจะผ่านไปสามถึงสี่วันก็ตาม พื้นผิวที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น สามารถทำความสะอาดและฆ่าเชื้อได้โดยง่าย ด้วยการใช้สารทำความสะอาดที่ใช้อยู่ทั่วไปตามครัวเรือน ซึ่งฆ่าไวรัสที่อยู่นอกร่างกายมนุษย์หรืออยู่บนมือ
เสมหะและน้ำลายพาไวรัสไปปริมาณมาก แม้ว่าโควิด-19 ไม่ใช่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่การจูบ การสัมผัสทางเพศ และทางอุจจาระ-ปากต้องสงสัยว่าแพร่เชื้อไวรัส วิธีดำเนินการทางการแพทย์บางอย่างก่อให้เกิดละอองลอย และทำให้ไวรัสสามารถแพร่ได้ง่ายกว่าปกติ
โควิด-19 ยังเป็นโรคใหม่ และรายละเอียดจำนวนมากเกี่ยวกับการแพร่ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน โรคนี้แพร่กระจายระหว่างมนุษย์ได้ง่าย คือ ง่ายกว่าไข้หวัดใหญ่แต่ยังไม่เท่าโรคหัด ประมาณจำนวนผู้ติดเชื้อโดยผู้ป่วยโควิด-19 หนึ่งคน (R0) แตกต่างกันมาก ค่าประมาณตั้งต้นของ WHO อยู่ที่ 1.4–2.5 (เฉลี่ย 1.95) อย่างไรก็ดีบทปฏิทัศน์ในภายหลังพบค่า R0 พื้นฐาน (โดยไม่มีมาตรการควบคุม) สูงกว่านั้นคือ 3.28 และ R0 มัธยฐานเท่ากับ 2.79
วิทยาไวรัส
ไวรัสโคโรนากลุ่มอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง 2 (SARS-CoV-2) เป็นไวรัสโคโรนากลุ่มอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งแยกได้ครั้งแรกจากผู้ป่วยโรคปอดบวมสามคนซึ่งเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์อาการป่วยทางเดินหายใจเฉียบพลันในอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน คุณสมบัติทั้งหมดของไวรัส SARS-CoV-2 สายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นในไวรัสโคโรนาที่เกี่ยวข้องในธรรมชาติ เมื่ออยู่นอกร่างกายมนุษย์ ไวรัสถูกฆ่าได้ง่ายด้วยสบู่ตามครัวเรือน ซึ่งจะทำให้เปลือกที่ห่อหุ้มไวรัสแตก
SARS-CoV-2 มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ SARS-CoV สายพันธุ์เดิม เชื่อว่ากำเนิดขึ้นในสัตว์ การวิเคราะห์ทางพันธุกรรมเปิดเผยว่าไวรัสโคโรนามีคลัสเตอร์ทางพันธุกรรมกับสกุล Betacoronavirus ในสกุลย่อย Sarbecovirus (สายพันธุ์บี) ร่วมกับไวรัสที่มาจากค้างคาวอีกสองสายพันธุ์ ไวรัสมีความเหมือน กับตัวอย่างไวรัสโคโรนาค้างคาว (BatCov RaTG13) 96% ในระดับจีโนมทั้งหมด ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 นักวิจัยชาวจีนพบว่าไวรัสจากลิ่นและจากมนุษย์มีกรดอะมิโนแตกต่างกันโมเลกุลเดียวในลำดับจีโนมบางส่วน อย่างไรก็ดี การเปรียบเทียบทั้งจีโนมในปัจจุบันพบว่าสารพันธุกรรมส่วนใหญ่ 92% เหมือนกันระหว่างไวรัสโคโรนาลิ่นกับ SARS-CoV-2 ซึ่งไม่เพียงพอต่อการพิสูจน์ว่าตัวลิ่นเป็นตัวถูกเบียนมัธยันตร์
เกิดสายพันธุ์ที่มีชื่อเสียงของ SARS-CoV-2 ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2563 คลัสเตอร์ 5 เกิดขึ้นในหมู่ตัวมิงค์และผู้เลี้ยงตัวมิงค์ในเดนมาร์ก (เชื่อว่าถูกกำจัดไปแล้วเนื่องจากมีการกักกันอย่างเข้มงวดและฆ่าสัตว์ติดเชื้อ) Variant of Concern 202012/01 (VOC 202012/01) เชื่อว่าเกิดขึ้นในสหราชอาณาจักรในเดือนกันยายน และสายพันธุ์ 501Y.V2 เกิดขึ้นในประเทศแอฟริกาใต้
พยาธิสรีรวิทยา
ปอดเป็นอวัยวะที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากโควิด-19 เพราะไวรัสเข้าถึงเซลล์ของผู้ป่วยผ่านเอนไซม์ (ACE2) ซึ่งพบมากที่สุดเซลล์ถุงลมชนิดที่ 2 ของปอด ไวรัสใช้ไกลโคโปรตีนผิวแบบพิเศษที่เรียก "สไปก์" (peplomer) เชื่อมต่อกับ ACE2 และเข้าสู่เซลล์ของผู้ป่วย ด้านหนึ่งมองว่าการเพิ่ม ACE2 โดยใช้ยายับยั้งตัวรับแองกิโอเทนซิน 2 อาจป้องกันโรคได้
SARS-CoV-2 อาจทำให้เกิดทางเดินทางหายใจล้มเหลวโดยมีผลต่อก้านสมองเช่นเดียวกับไวรัสโคโรนาตัวอื่นที่พบว่ารุกล้ำระบบประสาทส่วนกลาง แม้ว่ามีการตรวจพบไวรัสในน้ำหล่อสมองและไขสันหลังในการชันสูตรพลิกศพ แต่กลไกการรุกล้ำระบบประสาทส่วนกลางที่แน่ชัดยังไม่ชัดเจนและอาจเกี่ยวข้องกับการรุกล้ำเส้นประสาทส่วนปลายเนื่องจากในสมองมีระดับ ACE2 ต่ำ ไวรัสยังมัผลต่ออวัยวะกระเพาะอาหารและลำไส้เนื่องจาก ACE2 มีการแสดงออกอยู่มากในเซลล์ต่อมของเยื่อบุกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็กส่วนต้นและไส้ตรง
ไวรัสสามารถทำให้เกิดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหัวใจเฉียบพลัน และความเสียหายเรื้อรังต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด พบการบาดเจ็บของหัวใจเฉียบพลันใน 12% ของผู้ติดเชื้อที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในอู่ฮั่น ประเทศจีน อัตราอาการระบบหัวใจและหลอดเลือดมีสูงสืบเนื่องจากการตอบสนองอักเสบทั่วร่างและโรคระบบภูมิคุ้มกันระหว่างการดำเนินโรค แต่การบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหัวใจอาจมีความสัมพันธ์กับตัวรับ ACE2 ในหัวใจ
รายงานระยะแรกแสดงว่าผู้ป่วยที่รับรักษาในโรงพยาบาลทั้งในประเทศจีนและนิวยอร์กถึง 30% มีการบาดเจ็บของไตบ้าง รวมทั้งผู้ไม่เคยมีปัญหาไตเดิม
พยาธิวิทยาภูมิคุ้มกัน
แม้ว่า SARS-COV-2 มีการโน้มตอบสนองต่อเซลล์บุทางเดินหายใจที่แสดง ACE2 แต่ผู้ป่วยโควิด-19 รุนแรงมีอาการอักเสบมากเกินทั่วร่าง (systemic hyperinflammation) ข้อค้นพบทางห้องปฏิบัติการคลินิกที่มี IL-2, IL-7, IL-6, granulocyte-macrophage colony-stimulating factor (GM-CSF), interferon-γ inducible protein 10 (IP-10), monocyte chemoattractant protein 1 (MCP-1), macrophage inflammatory protein 1-α (MIP-1α), และ tumour necrosis factor-α (TNF-α) สูงขึ้นบ่งชี้ถึงกลุ่มอาการจากการหลั่งไซโตไคน์ (CRS) เสนอว่ามีพยาธิวิทยาภูมิคุ้มกันพื้นเดิม
นอกจากนี้ ผู้ป่วยโควิด-19 และกลุ่มอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน (ARDS) มีไบโอมาร์กเกอร์ซีรัมซึ่งบ่งชี้ CRS คลาสสิก ได้แก่ ระดับซี-รีแอคทีฟ โปรตีน (CRP), (LDH), และเฟอร์ริตินสูง
การวินิจฉัย
WHO จัดพิมพ์เกณฑ์วิธีการทดสอบหลายเกณฑ์สำหรับโรค วิธีการทดสอบมาตรฐาน คือ ปฏิกิริยาลูกโซ่พอลิเมอเรสแบบย้อนกลับเรียลไทม์ (rRT-PCR) โดยมาตรฐานแล้วการทดสอบนี้ต้องใช้กับตัวอย่างทางเดินหายใจที่ได้จากการกวาดคอหอยส่วนจมูก อย่างไรก็ดี อาจใช้การกวาดจมูกหรือตัวอย่างเสมหะได้ โดยทั่วไปจะทราบผลในไม่กี่ชั่วโมงถึงสองวัน สามารถใช้การทดสอบเลือดได้ แต่ต้องใช้ตัวอย่างเลือดสองตัวอย่างแยกกันและเก็บห่างกันสองสัปดาห์ และผลลัพธ์ที่ได้มีคุณค่าทันทีน้อย นักวิทยาศาสตร์จีนสามารถแยกสายพันธุ์ของไวรัสโคโรนาและจัดพิมพ์ลำดับพันธุกรรมเพื่อให้ห้องปฏิบัติการทั่วโลกสามารถพัฒนาการทดสอบปฏิกิริยาลูกโซ่โพลีเมอเรส (PCR) ได้อย่างอิสระเพื่อตรวจหาการติดเชื้อไวรัส ณ วันที่ 4 เมษายน 2563 การทดสอบแอนติบอดี (ซึ่งอาจตรวจพบการติดเชื้อที่กำลังดำเนินอยู่ และว่าบุคคลนั้นเคยติดเชื้อมาก่อนหรือไม่) กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา แต่ยังไม่มีใช้แพร่หลาย ประสบการณ์การทดสอบของจีนแสดงให้เห็นว่ามีความแม่นยำเพียง 60 ถึง 70% องค์การอาหารและยาในสหรัฐอนุมัติการทดสอบข้างเตียงครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2563 สำหรับใช้ในปลายเดือนนั้น
แนวทางการวินิจฉัยที่ออกโดยโรงพยาบาลจงหนาน มหาวิทยาลัยอู่ฮั่น แนะนำวิธีการตรวจหาการติดเชื้อตามลักษณะทางคลินิกและความเสี่ยงทางวิทยาการระบาด สิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการระบุตัวผู้ที่มีอาการต่อไปนี้อย่างน้อยสองอาากร ร่วมกับมีประวัติเดินทางไปอู่ฮั่นหรือสัมผัสกับผู้ติดเชื้อรายอื่น ได้แก่ ไข้ ภาพถ่ายรังสีที่เข้าได้กับปอดบวม จำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาวปกติหรือต่ำ หรือมีลิมโฟไซต์ต่ำ
การศึกษาหนึ่งให้ผู้ป่วยโควิด-19 ที่รับการรักษาในโรงพยาบาลไอลงในภาชนะปลอดเชื้อเพื่อเก็บตัวอย่างน้ำลาย และตรวจพบไวรัสในผู้ป่วยสิบเอ็ดจากสิบสองรายโดยใช้ RT-PCR เทคนิคนี้มีศักยภาพเร็วกว่าการกวาดและก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขน้อยกว่า (เก็บที่บ้านหรือในรถ)
เมื่อใช้ร่วมกับการทดสอบทางห้องปฏิบัติการ การทำซีทีสแกนทรวงอกอาจเป็นประโยชน์ต่อการวินิจฉัยโควิด-19 ในคนที่อาการทางคลินิกบ่งชี้ว่ามีโอกาสสูงที่จะเป็นโรค แต่ไม่แนะนำให้ใช้คัดกรองเป็นการทั่วไป ในระยะต้นมักพบรอยโรคเป็นรอยทึบแบบกระจกฝ้าในเนื้อปอดหลายกลีบและเป็นทั้งสองข้าง โดยกระจายแบบไม่สมมาตรและมักพบบ่อยที่ด้านนอกและด้านหลังของเนื้อปอด เมื่อโรคดำเนินไปมากขึ้นอาจพบลักษณะมีรอยโรคเด่นที่เนื้อปอดด้านนอกใต้เยื่อหุ้มปอด (subpleural dominance), ผนังกั้นกลีบปอดย่อยหนาตัวพร้อมกับมีสารน้ำเติมเต็มถุงลมเห็นเป็น (crazy-paving pattern), และ (consolidation) ได้
ปลายปี 2562 WHO กำหนดรหัสโรคฉุกเฉิน ICD-10 สำหรับการเสียชีวิตจากการติดเชื้อ SARS-CoV-2 ที่ห้องปฏิบัติการยืนยันแล้ว และ U07.2 สำหรับการเสียชีวิตจากโตวิด-19 ที่วินิจฉัยทางคลินิกหรือวิทยาการระบาดโดยไม่มีการติดเชื้อ SARS-CoV-2 ที่ห้องปฏิบัติการยืนยัน
- ข้อค้นพบภาพถ่ายซีทีตรงแบบ
- ภาพถ่ายซีทีของระยะลุกลามอย่างรวดเร็ว
พยาธิวิทยา
มีข้อมูลเกี่ยวกับรอยโรคทางกล้องจุลทรรศน์และพยาธิสรีรวิทยาของโควิด-19 น้อย ข้อค้นพบทางพยาธิวิทยาหลักในการชันสูตรพลิกศพ ได้แก่
- เห็นได้ด้วยตาเปล่า : เยื่อหุ้มปอดอักเสบ, , รอยทึบในปอด และปอดบวมน้ำ
- สังเกตพบความรุนแรงของโรคปอดบวมเหตุไวรัสสี่ประเภท:
- ปอดบวมเล็กน้อย : สิ่งซึมเยิ้มข้นใส (serous exudation) เล็กน้อย, สิ่งซึมเยิ้มข้นไฟบรินเล็กน้อย
- ปอดบวมแบบเบา: ปอดบวมน้ำ, การเจริญเกินของเซลล์ปอด, เซลล์ปอดนอกแบบขนาดใหญ่, การอักเสบแทรก (interstitial) โดยมีการแทรกซึมของลิมโฟไซต์และมีการก่อตัวของเซลล์ยักษ์หลายนิวเคลียส
- ปอดบวมรุนแรง: การเสียหายของถุงลมแบบแผ่กระจาย (DAD) โดยมีสิ่งซึมเยิ้มข้นของถุงลมแบบแผ่กระจาย DAD เป็นสาเหตุของกลุ่มอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน (ARDS) และภาวะอ็อกซิเจนต่ำในเลือดอย่างรุนแรง
- ปอดบวมที่กำลังหาย: การจัดระเบียบของสิ่งซึมเยิ้มข้นในโพรงถุงลมและภาวะเกิดพังผืดแทรกในปอด
- มีพลาสมาเซลล์มากใน BAL
- เลือด : ภาวะเลือดแข็งตัวในหลอดเลือดแบบแพร่กระจาย (DIC); ปฏิกิริยามีเม็ดเลือดขาวและเม็ดเลือดแดงตัวอ่อน (leukoerythroblastic)
- ตับ : ไขมันพอกตับแบบถุงเล็ก
การป้องกัน
มาตรการป้องกันเพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ ได้แก่ การอยู่แต่ในบ้าน การเลี่ยงสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน การล้างมือด้วยสบู่และน้ำบ่อย ๆ โดยใช้เวลาอย่างน้อยครั้งละ 20 วินาที การปฏิบัติสุขอนามัยด้านทางเดินหายใจที่ดี และเลี่ยงการใช้มือที่ไม่ได้ล้างสัมผัสดวงตา จมูกหรือปาก ซีดีซีแนะนำให้ใช้กระดาษทิชชูป้องปิดปากและจมูกเมื่อไอหรือจาม และแนะนำให้ใช้ข้อพับศอกด้านในหากไม่มีกระดาษทิชชู แนะนำสุขอนามัยของมือที่เหมาะสมหลังไอหรือจาม แนะนำสุขอนามัยส่วนบุคคลและวิถีชีวิตและอาหารสุขภาพดีเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ซีดีซีแนะนำการใช้สิ่งปกปิดใบหน้าที่เป็นผ้าในสถานที่สาธารณะ ส่วนหนึ่งเพื่อจำกัดการแพร่เชื้อโดยปัจเจกที่ไม่แสดงอาการ
ยุทธศาสตร์การเว้นระยะห่างทางสังคมมุ่งลดการสัมผัสบุคคลที่ติดเชื้อกับกลุ่มใหญ่โดยการปิดโรงเรียนและสถานที่ทำงาน การจำกัดการเดินทาง และยกเลิกการชุมนุมสาธารณะขนาดใหญ่ แนวทางการเว้นระยะห่างยังระบุให้บุคคลอยู่ห่างกันประมาณ 6 ฟุต (1.8 เมตร) ทั้งนี้ ยังไม่มียาใดทราบว่ามีประสิทธิภาพป้องกันโควิด-19 ได้ หลังการนำการเว้นระยะห่างทางสังคมและคำสั่งอยู่ติดบ้าน หลายภูมิภาคสามารถคงอัตราแพร่เชื้อประสิทธิภาพ ("Rt") น้อยกว่า 1 หมายความว่า โรคกำลังลดลงในพื้นที่เหล่านั้น
เนื่องจากไม่คาดว่าจะมีวัคซีนอย่างเร็วจนถึงปี 2564 ส่วนสำคัญของการรับมือโควิด-19 คือการพยายามลดจุดสูงสุดของโรคระบาด ที่เรียก "การทำให้เส้นโค้งราบ" ซึ่งกระทำโดยการชะลออัตราการติดเชื้อเพื่อลดความเสี่ยงมิให้ราชการสุขภาพมีงานล้น ทำให้รักษาผู้ป่วยปัจจุบันได้ดีขึ้นและชะลอผู้ป่วยใหม่จนกว่าจะมีการักษาหรือวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ
ตามข้อมูลของ WHO แนะนำการใช้หน้ากากอนามัยเฉพาะเมื่อบุคคลไอหรือจาม หรือเมื่อกำลังดูแลผู้ต้องสงสัยว่าป่วยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคยุโรป (ECDC) ระบุว่า หน้ากากอนามัย "...อาจพิจารณาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเข้าพื้นที่ที่ปิดพลุกพล่าน..." แต่ "...เฉพาะเป็นมาตรการเสริมเท่านั้น..." CDC ของสหรัฐแนะนำให้สวมหน้ากากในที่สาธารณะหากเว้นระยะห่าง 6 ฟุตได้ยาก โดยเฉพาะเมื่อไม่มีอาการแลป้องกันการแพร่เชื้อโดยไม่เจตนา หลายประเทศแนะนำให้บุคคลสุขภาพดีสวมหน้ากากอนามัยหรือผ้าปกปิดใบหน้า (เช่น ผ้าพันคอ) อย่างน้อยในที่สาธารณะบางแห่ง รวมทั้งประเทศจีนฮ่องกง สเปน อิตาลี (แคว้นลอมบาร์เดีย) รัสเซีย และสหรัฐ
CDC แนะนำให้ผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยเป็นโควิด-19 หรือผู้ที่เชื่อว่าตนติดเชื้ออยู่แต่ในบ้านยกเว้นเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ ให้โทรศัพท์ล่วงหน้าก่อนพบผู้ให้บริการทางการแพทย์ สวมหน้ากากก่อนเข้าห้องตรวจ และเมื่ออยู่ในห้องหรือยานพาหนะร่วมกับบุคคลอื่น ให้ใช้ทิชชูปิดไอและจาม ให้ล้างมืออย่างสม่ำเสมอด้วยสบู่และน้ำ และเลี่ยงการใช้ของใช้ในครัวเรือนส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น CDC ยังแนะนำให้บุคคลล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำเป็นเวลาอย่างน้อย 20 วินาที โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังเข้าห้องน้ำหรือเมื่อเห็นว่ามือสกปรก ก่อนกินอาหารและหลังสั่งน้ำมูก ไอหรือจาม นอกจากนี้ยังแนะนำให้ใช้สารล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อย่างน้อย 60% กระนั้นควรใช้เฉพาะเมื่อไม่มีสบู่และน้ำ
สำหรับพื้นที่ที่ไม่มรสารล้างมือพาณิชย์ขาย WHO ให้สูตรสองสูตรสำหรับการผลิตท้องถิ่น สำหรับทั้งสองสูตร กัมมันตภาพต่อต้านจุลชีพมาจากเอทานอลหรือไอโซโพรพานอล; ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ใช้เพื่อกำจัดสปอร์แบคทีเรียในแอลกอฮอล์ ส่วนกลีเซอรอลเพิ่มเข้ามาเป็นสารดูดความชุ่มชื้นแก่ผิว (humectant)
- ความพยายามในการป้องกันโรคนั้นมีผลทวีคูณคือมีผลมากกว่าป้องกันการแพร่กระจายเพียงทอดเดียว การป้องกันผู้ป่วยใหม่ได้ 1 คนจะช่วยลดการสัมผัสโรคแก่บุคคลอีกหลายทอด (เนื่องจากผู้ติดเชื้อใหม่จะแพร่เชื้อต่อได้) ซึ่งสุดท้ายจะทำให้หยุดยั้งการระบาดได้
- คำแนะนำการล้างมือ
วัคซีน
วัคซีพโรคติดเชื้อไวรัสโคโรพา 2019 เป็พที่มุ่งสร้างต่อเชื้อของโรคโควิด-19 โดยก่อพที่จะเกิดการระบาดทั่วของโควิด-19 ได้มีความพยายามใพการพัฒพาวัคซีพสำหรับโรคชพิดที่เป็พสาเหตุของโรคอื่พ ๆ เช่พ (ซาร์ส หรือ SARS) และ (เมอร์ส หรือ MERS) มาอย่างต่อเพื่อง ความพยายามเหล่าพี้ได้สะสมความรู้พอสมควรเกี่ยวกับโครงสร้างและการทำงาพของไวรัสโคโรพา ซึ่งได้ช่วยให้การพัฒพาเทคโพโลยีวัคซีพโควิดต่าง ๆ ตั้งแต่ต้พปี 2020 ดำเพิพไปได้อย่างรวดเร็ว เริ่มตั้งแต่วัพที่ 10 มกราคม 2020 ซึ่งมีการเผยแพร่ลำดับยีพผ่าพจีเซด (GISAID) และ ณ วัพที่ 19 มีพาคม อุตสาหกรรมยาทั่วโลกก็ได้ประกาศคำมั่พสัญญาที่จะทำการเพื่อจัดการโรค วัคซีพโควิด-19ได้เครดิตโดยทั่วไปว่าช่วยลดการติดต่อ ความรุพแรง และอัตราการตายเพื่องกับโรค
ใพ วัคซีพหลายชพิดสามารถป้องกัพการติดเชื้อแบบแสดงอาการโดยมีสูงถึงร้อยละ 95 ณ เดือพกรกฎาคม 2021 มีวัคซีพ 20 ชพิดที่ได้ขึ้พทะเบียพให้ใช้ใพประเทศอย่างพ้อย 1 ประเทศรวมทั้ง 2 ชพิด (และ), วัคซีพไวรัสโควิด-19 9 ชพิด (, วัคซีพของ Chinese Academy of Medical Sciences, , ของภารัตไบโอเทค, CoviVac ของ Chumakov Centre, COVIran Barakat ของ Shifa Pharmed Industrial Group, Minhai-Kangtai (KCONVAC), QazVac ของ Research Institute for Biological Safety Problems และ WIBP-CorV ของซิโพฟาร์ม) วัคซีพที่ใช้ 5 ชพิด (สปุตพิกไลท์และของสถาบัพวิจัยกามาเลีย, แอสตร้าเซพเพก้า, Ad5-nCoV ของแคพซิโพไบโอลอจิกส์ และ) และวัคซีพหพ่วยย่อยโปรตีพของไวรัสโควิด-19 จำพวพ 4 ชพิด (Abdala ของ Center for Genetic Engineering and Biotechnology, EpiVacCorona ของสถาบัพเวกตอร์, Soberana 02 ของ Finlay Institute และ ZF2001 ของ Anhui Zhifei Longcom) มีวัคซีพแคพดิเดตซึ่งได้เข้าสู่แล้ว 330 ชพิด ใพจำพวพพี้ 30 ชพิดกำลังทดลองใพ, 30 ชพิดใพ, 25 ชพิดใพ และ 8 ชพิดใพ
ประเทศต่าง ๆ มีแผพแจกจำหพ่ายวัคซีพโดยจัดลำดับการให้ตามกลุ่มที่เสี่ยงเกิด เช่พ ผู้สูงอายุ และกลุ่มที่เสี่ยงติดแล้วแพร่โรค เช่พ บุคลากรทางแพทย์ มีประเทศที่กำลังพิจารณาฉีดวัคซีพเพียงโดสเดียวใพเบื้องต้พเพื่อขยายฉีดวัคซีพแก่ประชาชพให้มากที่สุดจพกว่าจะมีวัคซีพพอ
จพถึงวัพที่ 22 สิงหาคม 2021 องค์กรสาธารณสุขรวม ๆ กัพทั่วโลกรายงาพว่า ได้ฉีดวัคซีพโควิด-19 ถึง 5,000 ล้าพโดสแล้ว ผู้ผลิตวัคซีพได้ระบุจำพวพโดสวัคซีพที่จะสามารถผลิตใพปี 2021 ไว้ดังพี้ ออกซฟอร์ด-แอสตร้าเซพเพก้า 3,000 ล้าพโดส, ไฟเซอร์}-
การหลีกเลี่ยงพื้นที่แออัดและอากาศไม่ถ่ายเทในอาคาร
CDC แนะนำให้หลีกเลี่ยงพื้นที่แออัดภายในอาคาร หากต้องอยู่ในอาคาร การเพิ่มอัตราการระบายอากาศ ลดการไหลเวียนซ้ำของอากาศ และเพิ่มการถ่ายเทอากาศไปยังสิ่งแวดล้อมภายนอก สามารถลดอัตราการแพร่เชื้อได้ WHO แนะนำให้ติดตั้งอุปกรณ์ระบายอากาศและอุปกรณ์กรองอากาศในพื้นที่สาธารณะ เพื่อช่วยกำจัดละอองลอยที่นำพาเชื้อ
การรักษา
การรักษาปัจจุบันเป็นการบำบัดประคับประคอง ซึ่งอาจรวมถึงการให้สารน้ำ การรักษาด้วยออกซิเจน และประคับประคองอวัยวะสำคัญอื่นที่ได้รับผลกระทบ มีการใช้เครื่องช่วยพยุงการทำงานของหัวใจและปอด (ECMO) เพื่อรักษาทางเดินหายใจล้มเหลว แต่ประโยชน์ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา การรักษาแบบประคับประคองอาจมีประโยชน์ในผู้ที่มีอาการไม่รุนแรงในการติดเชื้อระยะต้น
WHO และคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีนจัดพิมพ์ข้อแนะนำสำหรับการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่รับรักษาในโรงพยาบาล แพทย์เวชบำบัดวิกฤตและแพทย์โรคระบบการหายใจในสหรัฐรวบรวมข้อแนะนำการรักษาจากหน่วยงานต่าง ๆ เข้าเป็นทรัพยากรเสรี คือ IBCC
ยา
จนถึงเดือนเมษายน 2563 ยังไม่มีการรักษาจำเพาะสำหรับโควิด-19 สำหรับอาการต่าง ๆ นั้น วิชาชีพแพทย์บางส่วนแนะนำให้ใช้พาราเซตามอล (อะเซตามิโนเฟน) มากกว่าไอบูโปรเฟน สำหรับการใช้ครั้งแรก องค์การอนามัยโลกไม่คัดค้านการใช้ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ไอบูพรอเฟน เพื่อรักษาอาการ และองค์การอาหารและยาแถลงว่าปัจจุบันไม่มีหลักฐานว่า NSAIDs ทำให้อาการของโควิด-19 ทรุดลง
แม้มีข้อกังวลทางทฤษฎีเกี่ยวกับสารยับยั้ง ACE และยาต้านตัวรับแองกิโอเทนซิน ณ วันที่ 19 มีนาคม 2563 แต่ไม่เพียงพอเป็นเหตุผลให้หยุดยาเหล่านี้ การศึกษาหนึ่งในวันที่ 22 เมษายนพบว่าผู้ป่วยโควิด-19 ร่วมกับมีโรคความดันโลหิตสูงมีอัตราตายทุกสาเหตุต่ำลงเมื่อใช้ยาเหล่านี้
ไม่แนะนำให้ใช้สเตียรอยด์ เช่น เมทิลเพรดนิโซโลน ยกเว้นมีกลุ่มอาการหายใจลำบากเฉียบพลันแทรก สมาคมวิทยาภูมิคุ้มกันและภูมิแพ้คลินิกออสตราเลเซียแนะนำให้พิจารณาใช้โทลิซิซูแมบสำหรับเป็นตัวเลือกการบำบัดนอกข้อบ่งใช้สำหรับผู้ป่วยกลุ่มอาการหายใจลำบากเฉียบพลันในโควิด-19 เนื่องจากมีผลประโยชน์ที่ทราบในพายุไซโตไคน์ที่เกิดจาการบำบัดมะเร็งบางชนิด และพายุไซโตไคน์อาจเป็นปัจจัยส่งเสริมที่สำคัญต่ออัตราตายในโควิด-19 รุนแรง
แนะนำให้ใช้ยาสำหรับป้องกันเลือดจับลิ่มในการรักษา และการรักษาด้วยสารกันเลือดเป็นลิ่มที่ใช้เฮปารินน้ำหนักโมเลกุลต่ำดูเหมือนสัมพันธ์กับผลลัฑธ์ที่ดีขึ้นในโควิด-19 รุนแรงที่แสดงสัญญาณของการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ (ดีไดเมอร์สูง)
อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล
ต้องใช้ความระมัดระวังเพื่อจำกัดความเสี่ยงการแพร่เชื้อไวรัสให้น้อยที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานสาธารณสุขเมื่อดำเนินวิธีดำเนินการที่อาจก่อให้เกิดละอองลอยได้ เช่น การใส่ท่อช่วยหายใจ หรือการช่วยหายใจด้วยมือ สำหรับผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขที่ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ซีดีซีแนะนำให้จัดผู้ป่วยให้ห้องแยกการติดเชื้อทางอากาศ (AIIR) นอกเหนือไปจากการระมัดระวังมาตรฐาน (standard precautioin) การระมัดระวังการสัมผัสและการระมัดระวังทางอากาศ
ซีดีซีสรุปแนวทางปฏิบัติในการใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ระหว่างการระบาดทั่ว อุปกรณ์ที่แนะนำได้แก่ ชุดคลุม PPE, อุปกรณ์ช่วยหายใจหรือหน้ากากอนามัย อุปกรณ์ป้องกันดวงตาและถุงมือการแพทย์
แนะนำให้ใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจแทนหน้ากากอนามัยถ้ามี หน้ากากเอ็น95 ได้รับอนุมัติในสถานที่อุตสาหกรรมแต่ FDA อนุญาตให้ใช้หน้ากากภายใต้การอนุญาตใช้ฉุกเฉิน (EUA) หน้ากากดังกล่าวได้รับการออกแบบมาให้ป้องกันอนุภาคที่มาทางอากาศเช่นฝุ่น แต่ประสิทธิภาพต่อเชื้อโรคจำเพาะยังไม่รับประกันสำหรับการใช้นอกข้อบ่งใช้ เมื่อไม่มีหน้ากาก CDC แนะนำให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันใบหน้า (face shield) หรือใช้หน้ากากทำมือเป็นทางเลือกสุดท้าย
เครื่องช่วยหายใจ
ผู้ป่วยโควิด-19 ส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรงถึงขนาดต้องใช้เครื่องช่วยหายใจหรืออุปกรณ์คล้ายกัน แต่ผู้ป่วยจำนวนหนึ่งจำเป็นต้องใช้ ชนิดของการช่วยหายใจในผู้ป่วยทางเดินหายใจล้มเหลวเนื่องจากโควิด-19 กำลังมีการศึกษาสำหรับผู้ป่วยในโรงพยาบาล และมีหลักฐานบ้างที่ว่าสามารถเลี่ยงการใส่ท่อช่วยหายใจได้ด้วยการบำบัดด้วยออกซิเจนแบบผสมอากาศอัตราการไหลสูงผ่านหลอดคาจมูก หรือการช่วยหายใจแบบไม่รุกล้ำด้วยเครื่องให้แบบสองระดับ (BIPAP) แต่ยังไม่มีข้อสรุปว่าสองวิธีนี้ก่อให้เกิดประโยชน์เท่ากับเครื่องช่วยหายใจในผู้ป่วยวิกฤตหรือไม่ แพทย์บางส่วนนิยมเลือกใช้เครื่องช่วยหายใจแบบล่วงล้ำหากมี เพราะเทคนิคนี้ช่วยจำกัดการแพร่กระจายของอนุภาคละอองลอยเมื่อเทียบกับหลอดคาจมูกการไหลสูง
ผู้ป่วยรุนแรงส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ (คืออายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และโดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลอายุมากกว่า 80 ปี) ประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศมีอัตราไม่เพียงพอ ซึ่งจำกัดขีดความสามารถของระบบสาธารณสุขในการรับมือกับการเพิ่มขึ้นเฉียบพลันของจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรงถึงขั้นรับรักษาในโรงพยาบาล ความจุที่จำกัดนี้เป็นแรงผลักดันสำคัญสำหรับการเรียกร้องให้ "ทำให้เส้นโค้งราบ" คือ การลดอัตราเร็วของการเกิดผู้ป่วยใหม่ และรักษาจำนวนผู้ป่วยในช่วงเวลาดหนึ่ง ๆ ให้ต่ำลง งานวิจัยหนึ่งในประเทศจีนพบว่า 5% เข้ารับการรักษาในหน่วยอภิบาล (ICU) 2.3% ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและ 1.4% เสียชีวิต ในประเทศจีน ผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาในโรงพยาบาลประมาณ 30% สุดท้ายต้องเข้ารักษาใน ICU
กลุ่มอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน
การช่วยหายใจด้วยเครื่องช่วยหายใจจะมีความซับซ้อนมากขึ้นเมื่อเกิดภาวะแทรกซ้อนเป็นกลุ่มอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน (ARDS) ในผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งจะทำให้การให้ออกซิเจนยากลำบากมากขึ้น แพทย์จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจชนิดที่มีโหมดช่วยหายใจด้วยการควบคุมความดัน (pressure control mode) และสามารถกำหนดค่า PEEP ในระดับสูงได้ เพื่อช่วยนำส่งออกซิเจนได้มากที่สุดพร้อมกับลดความเสี่ยงของการเกิดและโพรงเยื่อหุ้มปอดมีอากาศให้น้อยที่สุด เครื่องช่วยหายใจแบบเก่าบางประเภทอาจไม่สามารถให้การช่วยหายใจแบบมี PEEP สูงได้
มีอัตราตายสูงในผู้ป่วยโควิด-19 ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งเชื่อว่าเนื่องจากพายุไซโตไคน์ สมาคมวิทยาภูมิคุ้มกันและภูมิแพ้ออสตราเลเซียแนะนำให้พิจารณาขัดขวางระบบ ในโรครุนแรงโดยเร็ว และรวมอยู่ในข้อพิจารณาในแนวทางการรักษาหลายประเทศ
ทางเลือกสำหรับ ARDS | |
---|---|
การบำบัด | ข้อแนะนำ |
ออกซิเจนแบบผสมอากาศอัตราการไหลสูง | สำหรับ SpO2 <93% อาจป้องกันความจำเป็นต้องใช้การใส่ท่อช่วยหายใจและเครื่องช่วยหายใจ |
ปริมาตรหายใจเข้าออก | 6 มล./กก. และสามารถลดลงเหลือ 4 มล./กก. |
ความดันทางเดินหายใจราบ | รักษาให้ต่ำกว่า 30 cmH2O ถ้าเป็นไปได้ (อาจต้องใช้อัตราการหายใจสูง (35 ครั้งต่อนาที)) |
ความดันบวกที่สุดการหายใจ | ระดับปานกลางถึงสูง |
การจัดท่านอนคว่ำ | สำหรับการทำให้ออกซิเจนแย่ลง |
การจัดการสารน้ำ | เป้าหมายคือดุลติดลบ 0.5–1 ลิตรต่อวัน |
ยาปฏิชีวนะ | สำหรับการติดเชื้อแบคทีเรียทตุยิภูมิ |
ไม่แนะนำ |
การรักษาขั้นทดลอง
เริ่มการวิจัยหาการรักษาที่มีศักยภาพในเดือนมกราคม 2563 และยาต้านไวรัสหลายตัวอยู่ระหว่างการทดลองทางคลินิก (Remdesivir) ดูเหมือนจะมีแนวโน้มมากที่สุด แม้ว่ายาใหม่อาจใช้เวลาพัฒนาจนถึงปี 2564 ยาหลายชนิดที่กำลังทดสอบได้รับการอนุมัติสำหรับใช้อย่างอื่นหรืออยู่ในการทดสอบขั้นสูงแล้ว อาจทดลองใช้ยาต้านไวรัสในผู้ป่วยอาการรุนแรง WHO แนะนำให้อาสาสมัครมีส่วนร่วมในการทดลองประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการรักษาที่มีศักยภาพ
FDA อนุญาตชั่วคราวแก่เป็นการรักษาขั้นทดลองในผู้ป่วยซึ่งชีวิตถูกคุกคามร้ายแรงหรือทันที ทั้งนี้ ยังไม่ผ่านการศึกษาทางคลินิกซึ่งจำเป็นต่อการแสดงความปลอดภัยและประสิทธิภาพสำหรับโรค
เทคโนโลยีสารสนเทศ
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 จีนเปิดตัวแอพโทรศัพท์มือถือเพื่อรับมือการระบาดของโรค โดยจะมีการขอให้ผู้ใช้กรอกชื่อและเลขประจำตัวของตน แอพนี้สามารถตรวจจับ "การสัมผัสใกล้ชิด" โดยใช้ข้อมูลการสอดส่องดูแล ฉะนั้นจึงบอกความเสี่ยงการติดเชื้อที่เป็นไปได้ ผู้ใช้ทุกคนสามารถตรวจสอบสถานภาพของผู้ใช้อื่นอีกสามคน หากตรวจพบโอกาสที่เป็นไปได้ แอพไม่เพียงจะแนะนำให้กักโรคตนเองเท่านั้น ยังแจ้งเตือนข้าราชการสาธารณสุขท้องถิ่นด้วย
มีการใช้การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ซึ่งข้อมูลโทรศัพท์มือถือ เทคโนโลยีการรู้จำใบหน้า การค้นหาและติดตามโทรศัพท์มือถือ และปัญญาประดิษฐ์ในการติดตามผู้ติดเชื้อและผู้ที่สัมผัสกับผู้ติดเชื้อในเกาหลีใต้ ไต้หวันและสิงคโปร์ ในเดือนมีนาคม 2563 รัฐบาลอิสราเอลเปิดใช้งานหน่วยงานความมั่นคงในการค้นหาและติดตามข้อมูลโทรศัพท์มือถือของผู้ที่ต้องสงสัยว่าติดไวรัสโคโรนา มาตรดารดังกล่าวนำมาใช้เพื่อใช้บังคับการกักโรคและคุ้มครองผู้ที่อาจสัมผัสกับพลเมืองที่ติดเชื้อ นอกจากนี้ในเดือนมีนาคม 2563 ด็อยท์เชอเทเลอค็อมแบ่งปันข้อมูลตำแหน่งโทรศัพท์รวมกับหน่วยงานของรัฐบาลกลางเยอรมัน สถาบันโรแบร์ท ค็อค เพื่อวิจัยและป้องกันการแพร่กระจายของไวรัส รัสเซียใช้เทคโนโลยีรู้จำใบหน้าเพื่อตรวจจับผู้ฝ่าฝืนการกักโรค Giulio Gallera ผู้ตรวจการสาธารณสุขภูมิภาคของอิตาลี กล่าวว่าเขาได้รับแจ้งจากผู้ให้บริการโทรศัพม์เคลื่อนที่ว่า "ประชาชน 40% ยังคงเดินทางอยู่" รัฐบาลเยอรมันดำเนินการแฮกกาธอนสุดสัปดาห์เป็นเวลา 48 ชั่วโมง โดยมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 42,000 คน นอกจากนี้ประธานาธิบดี Kersti Kaljulaid แห่งเอสโตเนียยังเรียกร้องทั่วโลกให้มีทางออกอย่างสร้างสรรค์ต่อการระบาดของไวรัสโคโรนา
การประคับประคองจิตใจ
บุคคลอาจประสบทุกข์จากการกักโรค การจำกัดการเดินทาง ผลข้างเคียงของการรักษาและความกลัวโรค เพื่อจัดการกับความกังวลเหล่านี้ คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนจัดพิมพ์แนวทางปฏิบัติระดับชาติสำหรับการรับมือวิกฤตจิตวิทยาเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2563
เดอะแลนซิต เผยแพร่ข้อเรียกร้อง 14 หน้าซึ่งเน้นสาหราชอาณาจักรและระบุสภาพซึ่งพบปัญหาสุขภาพจิตหลายอย่างบ่อยขึ้น บีบีซียกคำพูดของรอี โอคอนเนอร์ที่ว่า "การเพิ่มการแยกสันโดษทางสังคม ความเปลี่ยวเหงา ความกังวลทางสุขภาพ ความเครียดและภาวะเศรษฐกิจ" BBC อ้างถึง Rory O'Connor โดยกล่าวว่า "ความโดดเดี่ยวทางสังคมที่เพิ่มขึ้นความเหงาความวิตกกังวลด้านสุขภาพความเครียดและภาวะเศรษฐกิจขาลงเป็นพายุชั้นเลิศในการทำร้ายสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน"
พยากรณ์โรค
ความรุนแรงของโควิด-19 มีหลายระดับ โรคอาจดำเนินแบบเบาโดยไม่มีอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย โดยคล้ายกับโรคทางเดินหายใจส่วนบนที่พบทั่วไปอย่างอื่น เช่น โรคหวัด ผู้ป่วยเบาตรงแบบหายดีภายในสองสัปดาห์ ส่วนผู้ป่วยรุนแรงหรือวิกฤตอาจใช้เวลาหายสามถึงหกสัปดาห์ ในบรรดาผู้เสียชีวิตนั้น เวลาตั้งแต่เริ่มมีอาการถึงเสียชีวิตอยู่ระหว่างสองถึงแปดสัปดาห์
เด็กไวต่อโรค แต่มีแนวโน้มมีอาการรุนแรงน้อยกว่า และมีโอกาสเป็นโรครุนแรงน้อยกว่าผู้ใหญ่ ในผู้ป่วยอายุน้อยกว่า 50 ปีมีโอกาสเสียชีวิตน้อยกว่า 0.5% ส่วนผู้อายุมากกว่า 70 ปีมีโอกาสมากกว่า 8% หญิงมีครรภ์อาจมีความเสี่ยงติดโควิด-19 รุนแรงสูงกว่าโดยอาศัยข้อมูลจากไวรัสคล้ายกัน อย่างโรคซาร์สและเมอส์ แต่ยังขาดข้อมูลสำหรับโควิด-19
บางการศึกษาพบว่า อัตราส่วนนิวโทรฟิลต่อเม็ดเลือดขาว (NLR) อาจมีประโยชน์ในการตรวจคัดกรองการป่วยรุนแรงเบื้องต้น
ผู้ป่วยโควิด-19 ที่เสียชีวิตจำนวนนมากมีโรคพื้นเดิม เช่น ความดันโลหิตสูง, โรคเบาหวานและโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด Istituto Superiore di Sanità รายงานว่าจาก 8.8% ของผู้เสียชีวิตที่มีเวชระเบียนให้ทบทวน ผู้ป่วยที่ได้รับสุ่มตัวอย่าง 97.2% มีโรคร่วมอย่างน้อยหนึ่งโรค โดยผู้ป่วยมีโรคร่วมเฉลี่ยคนละ 2.7 โรค ตามรายงานเดียวกัน ระยะเวลามัธยฐานระหว่างเริ่มต้นมีอาการและเสียชีวิตคือ 10 วัน โดยห้าวันเป็นวันที่รับรักษาในโรงพยาบาล อย่างไรก็ดี ผู้ป่วยที่ได้รับการย้ายเข้า ICU มีเวลามัธยฐาน 7 วันตั้งแต่รับรักษาในโรงพยาบาลและเสียชีวิต ในการศึกษาผู้ป่วยช่วงต้น เวลามัธยฐานตั้งแต่แสดงอาการเริ่มแรกถึงเสียชีวิตคือ 14 วัน โดยมีพิสัยระหว่าง 6 ถึง 41 วัน ในการศึกษาโดยคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (NHC) ของจีน ชายมีอัตราตาย 2.8% ส่วนหญิงมีอัตราตาย 1.7% การตรวจทางจุลพยาธิวิทยาของตัวอย่างปอดหลังเสียชีวิตแสดงให้เห็นความเสียหายของถุลมแบบแผ่กระจาย (diffuse alveolar damage) โดยมีสิ่งซึมเยิ้มขึ้นไฟโบรมิกซอยด์ของเซลล์ (cellular fibromyxoid exudates) ในปอดสองข้าง การเปลี่ยนแปลงที่เกิดพยาธิสภาพต่อเซลล์ (cytopathic) ของไวรัสสังเกตได้ในเซลล์ปอด ภาพปอดจะดูคล้ายกลุ่มอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน (ARDS) ในผู้เสียชีวิต 11.8% ที่คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนรายงาน พบความเสียหายต่อหัวใจโดยมีระดับสูงขึ้นหรือหัวใจหยุด จากข้อมูลเมื่อเดือนมีนาคม 2563 จากสหรัฐ 89% ของผู้ได้รับรักษาในโรงพยาบาลมีโรคพื้นเดิม
ความพร้อมของทรัพยากรการแพทย์และเศรฐกิจสังคมของภูมิภาคหนึ่งอาจมีผลต่ออัตราตาย การประมาณอัตราตายจากโรคแตกต่างกันได้อันเนื่องจากความแตกต่างของภูมิภาค แต่ยังมีสาเหตุมาจากความลำบากใน ระเบียบวิธีของข้อมูลด้วย การนับผู้ป่วยอาการเบาน้อยกว่าจริงอาจทำให้ประมาณอัตราตายสูงเกิน อย่างไรก็ดีข้อเท็จจริงที่ว่าการเสียชีวิตเป็นผลของผู้ป่วยที่ติดโรคในอดีตอาจหมายความว่าอัตราตายประมาณได้ต่ำเกิน ผู้สูบบุหรี่มีโอกาสเกิดอาการรุนแรงของโควิด-19 คิดเป็น 1.4 เท่าและมีโอกาสต้องการการอภิบาลหรือเสียชีวิตคิดเป็น 2.4 เท่าเมื่อเทียบกับผู้ไม่สูบบุหรี่
มีการยกข้อกังวลเกี่ยวกับผลตามระยะยาวของโรค องค์การโรงพยาบาลฮ่องกงพบว่าสมรรถภาพปอดลดลง 20% ถึง 30% ในผู้ป่วยบางรายที่หายจากโรค และการสแกนปอดพบความเสียหายต่ออวัยวะ เหตุนี้ยังอาจนำไปสู่กลุ่มอาการหลังการอภิบาลหลังหายแล้ว
อายุ | 0-9 | 10-19 | 20-29 | 30-39 | 40-49 | 50-59 | 60-69 | 70-79 | 80-89 | 90+ |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ประเทศจีน ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ | 0.0 | 0.2 | 0.2 | 0.2 | 0.4 | 1.3 | 3.6 | 8.0 | 14.8 | |
เดนมาร์กเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม | 0.2 | 4.1 | 16.6 | 27.6 | 48.1 | |||||
อิตาลีเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม | 0.2 | 0.0 | 0.1 | 0.3 | 0.9 | 2.7 | 10.6 | 25.8 | 32.0 | 29.2 |
เนเธอร์แลนด์เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม | 0.0 | 0.2 | 0.1 | 0.3 | 0.5 | 1.7 | 8.1 | 25.5 | 32.7 | 33.9 |
เกาหลีใต้ ณ วันที่ 24 พฤษภาคม | 0.0 | 0.0 | 0.0 | 0.2 | 0.2 | 0.8 | 2.8 | 10.9 | 26.3 | |
สเปนเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม | 0.2 | 0.3 | 0.2 | 0.3 | 0.6 | 1.4 | 4.9 | 14.3 | 21.0 | 22.3 |
สวิตเซอร์แลนด์ ณ วันที่ 20 พฤษภาคม | 0.0 | 0.0 | 0.0 | 0.1 | 0.1 | 0.6 | 3.3 | 11.5 | 27.9 |
อายุ | 0-19 | 20-44 | 45-54 | 55-64 | 65-74 | 75-84 | 85 + |
---|---|---|---|---|---|---|---|
สหรัฐ ณ วันที่ 16 มีนาคม | 0.0 | 0.1-0.2 | 0.5-0.8 | 1.4-2.6 | 2.7-4.9 | 4.3-10.5 | 10.4-27.3 |
หมายเหตุ: ขอบเขตล่างรวมผู้ป่วยทุกราย ขอบเขตบนไม่นับรวมผู้ป่วยที่ขาดข้อมูล |
ร้อยละของผู้ติดเชื้อที่รับรักษาในโรงพยาบาล | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
0–19 | 20–29 | 30–39 | 40–49 | 50–59 | 60–69 | 70–79 | 80+ | รวม | |
หญิง | 0.2 (0.1–0.3) | 0.6 (0.3–0.9) | 1.1 (0.7–1.8) | 1.6 (0.9–2.4) | 3.2 (1.9–4.9) | 6.2 (3.7–9.6) | 9.6 (5.7–14.8) | 23.6 (14.0–36.4) | 3.2 (1.9–5.0) |
ชาย | 0.2 (0.1–0.3) | 0.7 (0.4–1.1) | 1.4 (0.9–2.2) | 1.9 (1.1–3.0) | 3.9 (2.3–6.1) | 8.1 (4.8–12.6) | 13.4 (8.0–20.7) | 45.9 (27.3–70.9) | 4.0 (2.4–6.2) |
รวม | 0.2 (0.1–0.3) | 0.6 (0.4–1.0) | 1.3 (0.8–2.0) | 1.7 (1.0–2.7) | 3.5 (2.1–5.4) | 7.1 (4.2–11.0) | 11.3 (6.7–17.5) | 32.0 (19.0–49.4) | 3.6 (2.1–5.6) |
ร้อยละของผู้ป่วยรับรักษาในโรงพยาบาลที่เข้าหน่วยอภิบาล | |||||||||
0–19 | 20–29 | 30–39 | 40–49 | 50–59 | 60–69 | 70–79 | 80+ | รวม | |
หญิง | 16.7 (14.4–19.2) | 8.6 (7.5–9.9) | 11.9 (10.9–13.0) | 16.6 (15.6–17.7) | 20.7 (19.8–21.7) | 23.1 (22.2–24.0) | 18.7 (18.0–19.5) | 4.2 (4.0–4.5) | 14.3 (13.9–14.7) |
ชาย | 26.9 (23.2–31.0) | 14.0 (12.2–15.9) | 19.2 (17.6–20.9) | 26.9 (25.3–28.5) | 33.4 (32.0–34.8) | 37.3 (36.0–38.6) | 30.2 (29.2–31.3) | 6.8 (6.5–7.2) | 23.1 (22.6–23.6) |
รวม | 22.2 (19.2–25.5) | 11.5 (10.1–13.2) | 15.9 (14.6–17.3) | 22.2 (21.0–23.5) | 27.6 (26.5–28.7) | 30.8 (29.8–31.8) | 24.9 (24.1–25.8) | 5.6 (5.3–5.9) | 19.0 (18.7–19.44) |
ร้อยละของผู้ที่รับรักษาในโรงพยาบาลแล้วเสียชีวิต | |||||||||
0–19 | 20–29 | 30–39 | 40–49 | 50–59 | 60–69 | 70–79 | 80+ | รวม | |
หญิง | 0.5 (0.2–1.1) | 0.9 (0.5–1.3) | 1.5 (1.2–1.9) | 2.6 (2.3–3.0) | 5.2 (4.8–5.6) | 10.1 (9.5–10.6) | 16.7 (16.0–17.4) | 25.2 (24.4–26.0) | 14.4 (14.0–14.9) |
ชาย | 0.7 (0.3–1.5) | 1.3 (0.8–1.9) | 2.2 (1.7–2.7) | 3.8 (3.4–4.4) | 7.6 (7.0–8.2) | 14.8 (14.1–15.6) | 24.6 (23.7–25.6) | 37.1 (36.1–38.2) | 21.22 (20.8–21.7) |
รวม | 0.6 (0.3–1.3) | 1.1 (0.7–1.6) | 1.9 (1.5–2.3) | 3.3 (2.9–3.7) | 6.5 (6.0–7.0) | 12.6 (12.0–13.2) | 21.0 (20.3–21.8) | 31.6 (30.9–32.4) | 18.1 (17.8–18.4) |
ร้อยละของผู้ติดเชื้อแล้วเสียชีวิต – อัตราติดเชื้อตาย (IFR) | |||||||||
0–19 | 20–29 | 30–39 | 40–49 | 50–59 | 60–69 | 70–79 | 80+ | รวม | |
หญิง | 0.001 (<0.001–0.002) | 0.005 (0.002–0.009) | 0.02 (0.01–0.03) | 0.04 (0.02–0.07) | 0.2 (0.1–0.3) | 0.6 (0.4–1.0) | 1.6 (1.0–2.5) | 5.9 (3.5–9.2) | 0.5 (0.3–0.7) |
ชาย | 0.001 (<0.001–0.003) | 0.008 (0.004–0.02) | 0.03 (0.02–0.05) | 0.07 (0.04–0.1) | 0.3 (0.2–0.5) | 1.2 (0.7–1.9) | 3.3 (2.0–5.1) | 17.1 (10.1–26.3) | 0.8 (0.5–1.3) |
รวม | 0.001 (<0.001–0.002) | 0.007 (0.003–0.01) | 0.02 (0.01–0.04) | 0.06 (0.03–0.09) | 0.2 (0.1–0.36) | 0.9 (0.5–1.4) | 2.4 (1.4–3.7) | 10.1 (6.0–15.6) | 0.7 (0.4–1.0) |
จำนวนในวงเล็บคือ 95% สำหรับค่าประมาณ |
ภูมิคุ้มกัน
ณ เดือนเมษายน 2563 ยังไม่ทราบว่าการติดเชื้อในอดีตก่อให้เกิดภูมิตุ้มกันที่มีประสิทธิภาพและคงอยู่ระยะยาวในบุคคลที่หายจากโรคหรือไม่ มีรายงานว่าผู้เคยติดเชื้อบางคนเกิดสารภูมิต้านทานป้องกันโรค ฉะนั้นจึงสันนิษฐานว่าภูมิคุ้มกันแบบรับมามีความเป็นไปได้ โดยอาศัยข้อมูลจากพฤติกรรมของไวรัสโคโรนาชนิดอื่น มีรายงานผู้ป่วยที่หายจากโควิด-19 ที่ติดตามแล้วการทดสอบไวรัสโคโรนาเป็นบวกในภายหลัง อย่างไรก็ดี เชื่อว่าเป็นการติดเชื้อนาน (lingering) มากกว่าการติดเชื้อซ้ำ หรือเป็นผลบวกลวงเนื่องจากชิ้นส่วนอาร์เอ็นเอที่หลงเหลืออยู่ การสอบสวนบุคคล 285 คนโดย CDC เกาหลีซึ่งผลตรวจ SARS-CoV-2 ในการทดสอบ PCR เป็นบวกหลังหายโควิด-19 แล้วหลายวันถึงหลายสัปดาห์ไม่พบหลักฐานว่าปัจเจกเหล่านี้ติดต่อทางสัมผัสในช่วงเวลาหลังนี้ ไวรัสโคโรนาชนิดอื่นบางตัวที่ยังติดเชื้อในมนุษย์สามารถติดเชื้อซ้ำได้หลังเวลาผ่านไป 1 ปี
ประวัติศาสตร์
เชื่อว่าไวรัสนี้เกิดขึ้นตามธรรมชาติและมีต้นกำเนิดจากสัตว์ ผ่าน ยังไม่ทราบต้นกำเนิดแท้จริง แต่ในเดือนธันวาคม 2562 การแพร่กระจายการติดเชื้อเกิดขึ้นแทบทั้งหมดจากคนสู่คน การศึกษาผู้ป่วยโควิด-19 ยืนยันแล้ว 41 รายแรก ซึ่งตีพิมพ์ในเดอะแลนซิตเมื่อเดือนมกราคม 2563 เปิดเผยว่าวันเริ่มต้นอาการวันแรกสุดได้แก่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 สิ่งพิมพ์เผยแพร่อย่างเป็นทางการจาก WHO รายงานว่าอาการเริ่มต้นเร็วที่สุดคือวันที่ 8 ธันวาคม 2562 WHO และทางการจีนยืนยันการติดต่อจากคนสู่คนในวันที่ 20 มกราคม 2563
วิทยาการระบาด
มีการใช้มาตรการต่าง ๆ โดยทั่วไปเพื่อวัดอัตราตาย ตัวเลขเหล่านี้แตกต่างกันตามภูมิภาคและช่วงเวลา และได้รับอิทธิพลจากปริมาณการทดสอบ คุณภาพของระบบกสาธารณสุข ตัวเลือกการรักษา เวลาตั้งแต่การระบาดครั้งแรกและลักษณะประชากร เช่น อายุ เพศ และสุขภาพโดยรวม
อัตราส่วนเสียชีวิตต่อผู้ป่วยสะท้อนจำนวนผู้เสียชีวิตหารด้วยจำนวนผู้ป่วยที่ได้รับวินิจฉัยในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ โดยอาศัยสถิติมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ อัตราส่วนเสียชีวิตต่อผู้ป่วยทั่วโลกอยู่ที่ (345,442/5,435,789) ณ 25 พฤษภาคม 2563 จำนวนดังกล่าวแตกต่างกันตามภูมิภาค
มาตรการอื่น ๆ ได้แก่ อัตราป่วยตาย (CFR) ซึ่งสะท้อนร้อยละของผู้ป่วยได้รับวินิจฉัยที่เสียชีวิตจากโรคและอัตราติดเชื้อตาย (IFR) ซึ่งสะท้อนร้อยละของผู้ติดเชื้อ (ทั้งที่ได้รับวินิจฉัยและไม่ได้รับวินิจฉัย) ที่เสียชีวิตจากโรค สถิติเหล่านี้ไม่ผูกกับเวลาและติดตามประชากรจำเพาะจากการติดเชื้อผ่านการหายของผู้ป่วย นักวิชาการจำนวนหนึ่งพยายามคำนวณจำนวนเหล่านี้สำหรับประชากรจำเพาะ
เกิดการระบาดในเรือนจำเนื่องจากความแออัดและไม่สามารถบังคับใช้การเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเหมาะสมได้ ในสหรัฐ ประชากรเรือนจำสูงอายุมากขึ้นและจำนนวมากมีความเสี่ยงสูงที่จะมีผลลัพธ์เลวจากโควิด-19 เนื่องจากมีโรคหัวใจและปอดร่วมสูงและเข้าถึงสาธารณสุขคุณภาพดีได้น้อย
- ผู้ป่วยยืนยันแล้วตามเวลา
- ผู้เสียชีวิตทั้งหมดตามเวลา
- จำนวนผู้ได้รับการยืนยันโควิด-19 ต่อล้านคน
- ยอดผู้เสียชีวิตยืนยันจากโควิด-19 ต่อล้านคน
อัตราติดเชื้อตาย
Our World in Data แถลงว่าจนถึงวันที่ 25 มีนาคม 2563 (IFR) ไม่สามารถคำนวณได้อย่างแม่นยำ ในเดือนกุมภาพันธ์ กลุ่มวิจัยหนึ่งประมาณ IFR ไว้ที่ 0.94% โดยมีช่วงความเชื่อมั่นระหว่าง 0.37% ถึง 2.9% ศูนย์แพทยศาสตร์อิงหลักฐานมหาวิทยาลัยลอนดอน (CEBM) ประมาณ GFR 0.8 ทั่วโลกไว้ที่ 9.6% (ทบทวนล่าสุด 30 เมษายน) และ IFR 0.10% ถึง 0.41% (ทบทวนล่าสุด 2 พฤษภาคม) จากข้อมูลของ CEBM การทดสอบสารภูมิต้านทานแบบสุ่มในประเทศเยอรมนีประมาณ IFR ไว้ 0.37% (0.12% ถึง 0.87%) แต่มีข้อกังวลเกี่ยวกับผลบวกลวง ขอบเขตล่างของอัตราติดเชื้อตายพบแล้วในหลายที่ ณ วันที่ 7 พฤษภาคม ในนครนิวยอร์กซึ่งมีประชากร 8.4 ล้านคน มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 จำนวน 14,162 คน (0.17%) ในแคว้นแบร์กาโม ประเทศอิตาลี ประชากรเสียชีวิต 0.57% วันที่ 1 พฤษภาคม การทดสอบสารภูมิต้านทานในรัฐนิวยอร์กเสนอ IFR ที่ 0.86%
ความแตกต่างระหว่างเพศ
ผลกระทบและอัตราตายของโควิด-19 แตกต่างกันระหว่างชายและหญิง อัตราตายในชายสูงกว่าหญิงในการศึกษาในประเทศจีนและอิตาลี ความเสี่ยงสูงสุดสำหรับชายคือในช่วงอายุ 50-59 ปี โดยช่องว่างระหว่างชายและหญิงบรรจบกันที่อายุ 90 ปีเท่านั้น ในประเทศจีนอัตราตายอยู่ที่ร้อยละ 2.8 สำหรับชายและ 1.7 สำหรับหญิง ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดของความแตกต่างระหว่างเพศ แต่ปัจจัยทางพันธุกรรมและพฤติกรรมอาจเป็นเหตุผล ความแตกต่างทางภูมิคุ้มกันที่เกิดจากเพศและความชุกของการสูบบุหรี่ในหญิงเมื่อเทียบกับชาย และชายที่เกิดโรคร่วมอย่างความดันโลหิตสูงในอายุน้อยกว่าหญิงอาจส่งเสริมให้อัตราตายในชายสูงกว่า ในทวีปยุโรป ผู้ติดเชื้อ 57% เป็นชายและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เป็นชาย 72% จนถึงเดือนเมษายน 2563 รัฐบาลสหรัฐไม่ได้ติดตามข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเพศของการติดเชื้อโควิด-19 การวิจัยแสดงว่าการเจ็บป่วยจากไวรัส เช่น อีโบลา, เอชไอวี, ไข้หวัดใหญ่และโรคซาร์สส่งผลกระทบต่อชายและหญิงต่างกัน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขโดยเฉพาะอย่างยิ่งพยาบาลเป็นหญิงมากกว่าชาย และมีโอกาสสัมผัสไวรัสสูงกว่า การปิดโรงเรียน การห้ามเข้าออก (lockdown) และลดการเข้าถึงสาธารณสุขหลังการระบาดทั่วของไวรัสโคโรนาในปี 2562–2563 อาจมีผลต่อสองเพศต่างกัน และอาจขยายความแตกต่างระหว่างเพศที่มีอยู่ให้มากขึ้นอีก
สังคมและวัฒนธรรม
การตั้งชื่อ
องค์การอนามัยโลกประกาศเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 ว่าชื่อทางการของโรคนี้คือ "โควิด-19" (COVID-19) หัวหน้า WHO เตโวโดรส อัดฮาโนม เกอเบรออีเยอซุส อธิบายว่า: CO มาจากคำว่า "โคโรนา" (corona), VI มาจากคำว่า "ไวรัส" (virus) ไวรัส, D มาจากคำว่า "โรค" (disease) และ 19 เป็นปีที่มีการระบุการระบาดครั้งแรก (31 ธันวาคม 2019 ) เลือกชื่อนี้เพื่อเลี่ยงการพาดพิงไปยังตำแหน่งภูมิศาสตร์จำเพาะ (เช่น จีน) ชนิดสัตว์หรือกลุ่มคน ตามคำแนะนำจากนานาชาติสำหรับการตั้งชื่อเพื่อป้องกันการตีตรา
ไวรัสที่ก่อโควิด-19 มีชื่อว่า ไวรัสโคโรนากลุ่มอาการหายใจเฉียบพลันรุนแรง 2 (SARS-CoV-2) นอกจากนี้ WHO ใช้วลี "ไวรัสโควิด-19" เพิ่มเติมและ "ไวรัสที่ก่อให้เกิดโควิด-19" ในการสื่อสารสาธารณะ มีการตั้งชื่อไวรัสโคโรนาในปี 2511 เมื่อพบครั้งแรกในกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน ซึ่งชวนให้คิดถึงโคโรนาของดวงอาทิตย์, คำว่า Corona หมายถึงมงกุฎในภาษาละติน ทั้งโรคและไวรัสมักเรียกกันว่า "ไวรัสโคโรนา"
ระหว่างการระบาดครั้งแรกในอู่ฮั่น ประเทศจีน โดยทั่วไปเรียกไวรัสและโรคว่า "ไวรัสโคโรนา" และ "ไวรัสโคโรนาอู่ฮั่น" บางทีเรียก "โรคปอดบวมอู่ฮั่น" ในเดือนมกราคม 2563 องค์การอนามัยโลกแนะนำให้ใช้ 2019-nCov และโรคทางเดินหายใจเฉียบพลัน 2019-nCoV เป็นชื่อชั่วคราวสำหรับไวรัสและโรคตามแนวทางการใช้สถานที่ในชื่อโรคและไวรัส ทั้งนี้ หลายโรคในอดีตได้ชื่อตามสถานที่ภูมิศาสตร์ เช่น ไข้หวัดใหญ่สเปนโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง และไวรัสซิกา
ข้อมูลที่ผิด
หลังจากที่การระบาดของโควิด-19 ขั้นแรก เกิดทฤษฎีสมคบคิด ข้อมูลที่ผิดและบิดเบือนเกี่ยวกับกำเนิด ขนาด การป้องกัน การรักษา และด้านอื่นของโรค และมีการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วออนไลน์
สัตว์อื่น
ดูเหมือนว่ามนุษย์สามารถแพร่เชื้อไวรัสไปยังสัตว์อื่น ๆ แมวเลี้ยงในลีแยฌ ประเทศเบลเยียม มีผลตรวจเป็นบวกหลังมันเริ่มแสดงอาการ (ท้องร่วง อาเจียน หายใจถี่) หนึ่งสัปดาห์หลังเจ้าของที่ผลเป็นบวกเช่นกันเสือในสวนสัตว์บรองซ์ มีผลตรวจไวรัสเป็นบวกและแสดงอาการของโควิด-19 รวมถึงอาการไอแห้งและเบื่ออาหาร
การศึกษาเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการปลูกเชื้อไวรัสพบว่า แมวและพังพอนดูเหมือนจะ "ไวมาก" ต่อโรค ในขณะที่หมาดูมีความไวน้อยกว่า โดยมีระดับการถ่ายแบบไวรัสต่ำกว่า การศึกษานี้ไม่พบหลักฐานการถ่ายแบบไวรัสในหมู เป็ด และไก่
การวิจัย
ยังไม่มียาหรือวัคซีนใดได้รับอนุญาตให้รักษาโรค การวิจัยระหว่างประเทศด้านวัคซีนและยาในโควิด-19 กำลังดำเนินอยู่โดยองค์การรัฐบาล กลุ่มวิชาการและนักวิจัยอุตสาหกรรม ในเดือนมีนาคม องค์การอนามัยโลกริเริ่ม "การทดลองซอลิแดริตี" เพื่อประเมินผลการรักษาของสารต้านไวรัส 4 ชนิดที่มีอยู่แล้วซึ่งมีหวังประสิทธิภาพสูงสุด องค์การอนามัยโลกยับยั้งไฮดร็อกซีคลอโรควินจากการทดลองยาทั่วโลกสำหรับการรักษาโควิด-19 ในวันที่ 26 พฤษภาคท 2563 ก่อนหน้านี้องค์การฯ ขึ้นทะเบียนผู้ป่วย 3,500 คนจาก 17 ประเทศในการทดลองซอลิแดริตี ประเทศฝรั่งเศส อิตาลีและเบลเยียมห้ามใช้ไฮดร็อกซีคลอโรควินสำหรับรักษาโควิด-19
ยา
มีการสรุปการทดลองประสิทธิผลระยะที่ 2–4 ในโควิด-19 จำนวน 29 การทดลองในเดือนมีนาคม 2563 หรือมีกำหนดได้ผลลัพธ์มนเดือนเมษายนจากโรงพยาบาลในประเทศจีน มีการทดลองทางคลินิกดำเนินอยู่กว่า 300 การทดลองในเดือนเมษายน 2563 การทดลองเจ็ดการทดลองกำลังประเมินผลการรักษาโรคมาลาเรียที่ได้รับอนุมัติแล้ว ตลอดจนการศึกษาเกี่ยวกับไฮดร็อกซีคลอโรควินหรือคลอโรควินยาต้านไวรัสที่มีการเปลี่ยนวัตถุประสงค์ใหม่เป็นการวิจัยของจีนที่พบมากที่สุด โดยมีการทดลองยาเร็มเดสซิเวียระยะที่ 3 จำนวน 9 การทดลองในหลายประเทศที่มีกำหนดรายงานในปลายเดือนเมษายน สารอื่นที่มีศักยภาพในการทดลอง ได้แก่ ยาขยายหลอดเลือด คอร์ติโคสเตียรอยด์ ภูมิคุ้มกันบำบัด กรดไลโออิก เบวาซิซูแมบ, และเอ็นไซม์แปลงแอนจิโอเทนซิน 2 สายผสม (recombinant ACE2)
แนวร่วมการวิจัยคลินิกโควิด-19 มีเป้าหมายเพื่อ 1) อำนวยความสะดวกให้คณะกรรมการจริยธรรมและหน่วยงานกำกับระดับชาติทบทวนข้อเสนอการทดลองทางคลินิกอย่างรวดเร็ว 2) เร่งรัดการอนุมัติสารประกอบเพื่อการรักษาที่ได้รับการพิจารณา 3) รับประกันการวิเคราะห์ที่เป็นมาตรฐานและรวดเร็วของข้อมูลประสิทะผลและความปลอดภัยที่เกิดขึ้นใหม่ และ 4) อำนวยความสะดวกในการแบ่งปันผลการทดลองทางคลินิกก่อนตีพิมพ์ ณ เดือนเมษายน 2563 มีการทบทวนแบบพลวัตซึ่งการพัฒนาทางคลินิกสำหรับสารที่ได้รับการพิจารณาเป็นวัคซีนและยา โควิด-19 ของผู้สมัครอยู่ในขณะที่เมษายน 2563
ขณะนี้กำลังมีการประเมินยาต้านไวรัสที่มีอยู่หลายตัวสำหรับการรักษาโควิด-19 รวมถึงเรมเดซิเวียร์, คลอโรควินและไฮดร็อกซีคลอโรควิน, (โลปินาเวียร์/ริโตนาเวียร์) และโลปินาเวียร์/ริโตนาเวียร์ร่วมกัน ในเดือนมีนาคม 2563 มีหลักฐานเบื้องต้นสำหรับประสิทธิผลของเรมเดซิเวียร์ พบอาการทางคลินิกดีขึ้นในผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยเรมเดซิเวียร์ซึ่งเป็นการใช้อย่างการุณ (compassionate-use) เรมเดซิเวียร์ยับยั้ง SARS-CoV-2 กำลังมีการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 ในสหรัฐ ประเทศจีนและอิตาลี
ในปี 2563 การทดลองหนึ่งพบว่าโลปินาเวียร์/ริโตนาเวียร์ไม่มีประสิทธิภาพในการรักษาโควิด-19 รุนแรง นิทาโซซาไนด์ (Nitazoxanide) ได้รับคำแนะนำให้ศึกษาในกายต่อหลังแสดงว่ามีการยับยั้ง SARS-CoV-2 ความเข้มข้นต่ำ
ณ วันที่ 3 เมษายน 2020 การทดลองประสิทธิภาพของการใช้ไฮดร็อกซีคลอโรควินเป็นการรักษาโควิด-19 ให้ผลลัพธ์ออกมาคละกัน และการศึกษาหนึ่งยังแสดงว่าอัตราตายเพิ่มขึ้นร่วมกับมีผลข้างเคียงมากขึ้นด้วย การศึกษาคลอโรควินและไฮดร็อกซีคลอโรควินทั้งที่ใช้ร่วมหรือไม่ใช้กับอะซิโทรมัยซินมีข้อจำกัดสำคัญที่ทำให้ชุมชนการแพทย์ไม่ยอมรับการบำบัดดังกล่าวโดยยอมให้มีการศึกษาเพิ่มเติม
โอเซลทามิเวียร์ ไม่ยับยั้ง SARS-CoV-2 นอกกายและไม่มีบทบาทเท่าที่ทราบในการรักษาโควิด-19
ผลลัพธ์การทดลองทางคลินิกขั้นต้นซึ่งศึกษาเดกซาเมทาโซนในสหราชอาณาจักรที่เปิดเผยในเดือนมิถุนายนแสดงว่าผู้ป่วยวิกฤตที่ต้องอาศัยเครื่องช่วยหายใจมีอัตราตายลดลงหนึ่งในสาม และผู้ป่วยที่ต้องรักษาด้วยอ็อกซืเจนมีอัตราตายลดลงหนึ่งในห้าในการทดลองแบบสุ่มโดยมีผู้ป่วย 11,500 คน และมีการรักษา 6 ชนิด
การต้านพายุไซโตไคน์
พายุไซโตไคน์อาจเป็นภาวะแทรกซ้อนในระยะหลังของโควิด-19 ที่รุนแรง มีหลักฐานว่าไฮดร็อกซีคลอโรควินมีคุณสมบัติต้านพายุไซโตไคน์
โทซิลิซูแมบ (Tocilizumab) รวมอยู่ในแนวทางการรักษาโดยคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนหลังจากการศึกษาขนาดเล็กเสร็จสมบูรณ์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบแบบไม่สุ่มระดับชาติระยะที่ 2 ในประเทศอิตาลีหลังแสดงผลบวกในบุคคลที่ป่วยรุนแรง เมื่อรวมกับการตรวจเลือดเฟอร์ริตินซีรัมเพื่อหาพายุไซโตไคน์ ตั้งใจให้ยาใช้โต้ตอบพายุไซโตไคน์ซึ่งเชื่อว่าเป็นสาเหตุตายของผู้ป่วยบางราย FDA อนุมัติสารต้านตัวรับอินเตอร์ลิวคิน-6 โดยอาศัยการศึกษาผู้ป่วยย้อนหลังสำหรับการรักษากลุ่มอาการหลั่งไซโตไคน์ดื้อสเตียรอยด์ (steroid refractory cytokine release syndrome, CRS) ซึ่งมีการชักนำจากอีกสาเหตุหนึ่ง คือ การบำบัดยีน Chimeric antigen receptor T cell (CAR T cell) ในปี 2560 จวบจนปัจจุบันไม่มีหลักฐานแบบสุ่มและมีการควบคุมว่าโทซิลิซูแมบเป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพสำหรับ CRS การให้โทซิลิซูแมบเพื่อป้องกันโรคมีการแสดงแล้วว่าเพิ่มระดับ IL-6 ในซีรัมโดยทำให้ตัวรับ IL-6 อิ่มตัว, ขับ IL-6 ข้ามตัวกั้นระหว่างเลือดกับสมอง และทำให้พิษต่อระบบประสาทกำเริบโดยไม่มีผลต่ออุบัติการณ์ของ CRS
Lenzilumab ซึ่งเป็นสารภูมิต้านทานโมโนโคลนต้าน GM-CSF มีการแสดงแล้วว่าช่วยป้องกันในแบบจำลอง เพื่อป้องกันในแบบจำลองหนูสำหรับ CRS และพิษต่อระบบประสาทที่เซลล์ CAR T ชักนำ และเป็นตัวเลือกรักษาที่เป็นไปได้เนื่องจากสังเกตพบการเพิ่มขึ้นของเซลล์ทีที่หลั่ง GM-CSF ผิดปกติในผู้ป่วยโควิด-19 ที่รับรักษาในโรงพยาบาล
สถาบันไฟน์สตีนแห่งนอร์ทเวลเฮลท์ประกาศการศึกษาในเดือนมีนาคมเรื่อง "สารภูมิต้านทานของมนุษย์ซึ่งอาจป้องกันกัมมันตภาพ" ของ IL-6
สารภูมิต้านทานรับมา
การถ่ายโอนสารภูมิต้านทานที่ทำให้บริสุทธิ์และเข้มข้นที่ผลิตจากระบบภูมิตุ้มกันของบุคคลที่หายจากโควิด-19 แก่ผู้ที่ต้องการนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนใช้เป็นการให้ภูมิคุ้มกันรับมาที่ไม่ใช่วัคซีน เคยมีการลองใช้ยุทธศาสตร์นี้กับโรคซาร์สแต่ผลลัพธ์ไม่ได้ข้อสรุป การลบล้างฤทธิ์ของไวรัส (viral neutralization) เป็นกลไกการออกฤทธิ์ที่คาดไว้ว่าการบำบัดด้วยภูมิคุ้มกันรับมาจะช่วยป้องกัน SARS-CoV-2 อย่างไรก็ดี กลไกอื่นก็อาจเป็นไปได้ เช่น ความเป็นพิษต่อเซลล์ที่อาศัยสารภูมิคุ้มกัน (antibody-dependent cellular cytotoxicity) และฟาโกไซโทซิส การรักษาด้วยสารภูมิต้านทานรูปแบบอื่น ๆ เช่น สารภูมิต้านทานโมโนโคลนที่ผลิตขึ้น กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา การผลิตเซรุ่มระยะฟื้นโรคซึ่งประกอบด้วยส่วนที่เป็นของเหลวจากโลหิตของผู้ป่วยที่หายแล้วประกอบด้วยสารภูมิต้านทานที่จำเพาะกับไวรัส อาจเพิ่มขึ้นเพื่อให้ใช้งานได้เร็วขึ้น
เชิงอรรถ
- WHO นิยามว่าการสัมผัสใกล้ชิดหมายถึง 1 เมตร และ CDC นิยามว่า ~1.8 เมตร
- การไอที่ไม่ปิดปากอาจปลิวไปได้ไกลถึง 8.2 เมตร
อ้างอิง
- Chen N, Zhou M, Dong X, Qu J, Gong F, Han Y, และคณะ (February 2020). "Epidemiological and clinical characteristics of 99 cases of 2019 novel coronavirus pneumonia in Wuhan, China: a descriptive study". Lancet. 395 (10223): 507–513. doi:10.1016/S0140-6736(20)30211-7. PMC 7135076. PMID 32007143.
- Han X, Cao Y, Jiang N, Chen Y, Alwalid O, Zhang X, และคณะ (March 2020). "Novel Coronavirus Pneumonia (COVID-19) Progression Course in 17 Discharged Patients: Comparison of Clinical and Thin-Section CT Features During Recovery". Clinical Infectious Diseases. doi:10.1093/cid/ciaa271. PMC 7184369. PMID 32227091.
- "Covid-19, n." Oxford English Dictionary. สืบค้นเมื่อ 15 April 2020.
- "Interim Clinical Guidance for Management of Patients with Confirmed Coronavirus Disease (COVID-19)". U.S. Centers for Disease Control and Prevention (CDC). 6 April 2020. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2 March 2020. สืบค้นเมื่อ 19 April 2020.
- "Symptoms of Coronavirus". U.S. Centers for Disease Control and Prevention (CDC). 22 February 2021. จากแหล่งเดิมเมื่อ 4 March 2021. สืบค้นเมื่อ 4 March 2021.
- . World Health Organization (WHO). 17 April 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 May 2020. สืบค้นเมื่อ 14 May 2020.
- Nussbaumer-Streit B, Mayr V, Dobrescu AI, Chapman A, Persad E, Klerings I, และคณะ (April 2020). "Quarantine alone or in combination with other public health measures to control COVID-19: a rapid review". The Cochrane Database of Systematic Reviews. 4: CD013574. doi:10.1002/14651858.CD013574. PMC 7141753. PMID 32267544.
- "COVID-19 Dashboard by the Center for Systems Science and Engineering (CSSE) at Johns Hopkins University (JHU)". . Johns Hopkins University. สืบค้นเมื่อ 4 July 2021.
- ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2563 (2563, 29 กุมภาพันธ์). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 137 ตอนพิเศ 48 ง. หน้า 1.
- "Coronavirus disease 2019 (COVID-19)—Symptoms and causes". Mayo Clinic. สืบค้นเมื่อ 2020-04-14.
- Hui DS, I Azhar E, Madani TA, Ntoumi F, Kock R, Dar O, และคณะ (February 2020). "The continuing 2019-nCoV epidemic threat of novel coronaviruses to global health - The latest 2019 novel coronavirus outbreak in Wuhan, China". International Journal of Infectious Diseases. 91: 264–266. doi:10.1016/j.ijid.2020.01.009. PMC 7128332. PMID 31953166.
- . World Health Organization (WHO) (Press release). 11 March 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 March 2020. สืบค้นเมื่อ 12 March 2020.
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อentuk-anosmia
- Grainger S. . Australasian Society of Clinical Immunology and Allergy (ASCIA). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-06-16. สืบค้นเมื่อ 2 May 2020.
- Murthy S, Gomersall CD, Fowler RA (March 2020). "Care for Critically Ill Patients With COVID-19". JAMA. 323 (15): 1499. doi:10.1001/jama.2020.3633. PMID 32159735.
- Cascella M, Rajnik M, Cuomo A, Dulebohn SC, Di Napoli R (2020). "Features, Evaluation and Treatment Coronavirus (COVID-19)". StatPearls. Treasure Island (FL): StatPearls Publishing. PMID 32150360. สืบค้นเมื่อ 18 March 2020.
- Bikdeli B, Madhavan MV, Jimenez D, Chuich T, Dreyfus I, Driggin E, และคณะ (April 2020). "COVID-19 and Thrombotic or Thromboembolic Disease: Implications for Prevention, Antithrombotic Therapy, and Follow-up". Journal of the American College of Cardiology. doi:10.1016/j.jacc.2020.04.031. PMC 7164881. PMID 32311448.
- Velavan TP, Meyer CG (March 2020). "The COVID-19 epidemic". Tropical Medicine & International Health. 25 (3): 278–280. doi:10.1111/tmi.13383. PMC 7169770. PMID 32052514.
- . Centers for Disease Control and Prevention (CDC). 2 April 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 3, 2020. สืบค้นเมื่อ April 3, 2020.
- Bourouiba L (March 2020). "Turbulent Gas Clouds and Respiratory Pathogen Emissions: Potential Implications for Reducing Transmission of COVID-19". JAMA. doi:10.1001/jama.2020.4756. PMID 32215590.
- "Q & A on COVID-19". European Centre for Disease Prevention and Control. สืบค้นเมื่อ 30 April 2020.
- . Centers for Disease Control and Prevention (CDC). 11 February 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 March 2020. สืบค้นเมื่อ 26 March 2020.
- Salehi S, Abedi A, Balakrishnan S, Gholamrezanezhad A (March 2020). "Coronavirus Disease 2019 (COVID-19): A Systematic Review of Imaging Findings in 919 Patients". AJR. American Journal of Roentgenology: 1–7. doi:10.2214/AJR.20.23034. PMID 32174129.
- . American College of Radiology. 2020-03-22. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 March 2020.
- . World Health Organization (WHO). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 January 2020. สืบค้นเมื่อ 25 February 2020.
- . GOV.UK. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 March 2020. สืบค้นเมื่อ 25 March 2020.
- Centers for Disease Control and Prevention (5 April 2020). . Centers for Disease Control and Prevention (CDC). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 February 2020. สืบค้นเมื่อ 24 April 2020.
- . World Health Organization (WHO). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 March 2020. สืบค้นเมื่อ 24 April 2020.
- Feng S, Shen C, Xia N, Song W, Fan M, Cowling BJ (May 2020). "Rational use of face masks in the COVID-19 pandemic". The Lancet. Respiratory Medicine. 8 (5): 434–436. doi:10.1016/S2213-2600(20)30134-X. PMC 7118603. PMID 32203710.
- Tait R (2020-03-30). . The Guardian. ISSN 0261-3077. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 30 March 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-03-31.
- . Centers for Disease Control and Prevention (CDC). 8 April 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 February 2020. สืบค้นเมื่อ 9 April 2020.
- . World Health Organization (WHO). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 31 January 2020. สืบค้นเมื่อ 11 February 2020.
- Mahtani S, Berger M, O'Grady S, Iati M (6 February 2020). . The Washington Post. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 February 2020. สืบค้นเมื่อ 11 February 2020.
- "WHO Situation Report #87" (PDF). World Health Organization (WHO). 16 April 2020.
- Grant MC, Geoghegan L, Arbyn M, Mohammed Z, McGuinness L, Clarke EL, Wade RG (23 June 2020). "The prevalence of symptoms in 24,410 adults infected by the novel coronavirus (SARS-CoV-2; COVID-19): A systematic review and meta-analysis of 148 studies from 9 countries". PLOS ONE. 15 (6): e0234765. Bibcode:2020PLoSO..1534765G. doi:10.1371/journal.pone.0234765. PMC 7310678. PMID 32574165. S2CID 220046286.
- "Clinical characteristics of COVID-19". European Centre for Disease Prevention and Control. สืบค้นเมื่อ 29 December 2020.
- Paderno A, Mattavelli D, Rampinelli V, Grammatica A, Raffetti E, Tomasoni M, และคณะ (December 2020). "Olfactory and Gustatory Outcomes in COVID-19: A Prospective Evaluation in Nonhospitalized Subjects". Otolaryngology–Head and Neck Surgery. 163 (6): 1144–1149. doi:10.1177/0194599820939538. PMC 7331108. PMID 32600175.
- Chabot AB, Huntwork MP (September 2021). "Turmeric as a Possible Treatment for COVID-19-Induced Anosmia and Ageusia". Cureus. 13 (9): e17829. doi:10.7759/cureus.17829. PMC 8502749. PMID 34660038.
- Niazkar HR, Zibaee B, Nasimi A, Bahri N (July 2020). "The neurological manifestations of COVID-19: a review article". Neurological Sciences. 41 (7): 1667–1671. doi:10.1007/s10072-020-04486-3. PMC 7262683. PMID 32483687.
- Multiple sources:
- Oran DP, Topol EJ (January 2021). "The Proportion of SARS-CoV-2 Infections That Are Asymptomatic : A Systematic Review". Annals of Internal Medicine. 174 (5): 655–662. doi:10.7326/M20-6976. PMC 7839426. PMID 33481642.
- "Transmission of COVID-19". European Centre for Disease Prevention and Control. สืบค้นเมื่อ 6 December 2020.
- Nogrady B (November 2020). "What the data say about asymptomatic COVID infections". Nature. 587 (7835): 534–535. Bibcode:2020Natur.587..534N. doi:10.1038/d41586-020-03141-3. PMID 33214725.
- Gao Z, Xu Y, Sun C, Wang X, Guo Y, Qiu S, Ma K (February 2021). "A systematic review of asymptomatic infections with COVID-19". Journal of Microbiology, Immunology, and Infection = Wei Mian Yu Gan Ran Za Zhi. 54 (1): 12–16. doi:10.1016/j.jmii.2020.05.001. ISSN 1684-1182. PMC 7227597. PMID 32425996.
- Oran, Daniel P., and Eric J. Topol. “Prevalence of Asymptomatic SARS-CoV-2 Infection : A Narrative Review.” Annals of Internal Medicine. vol. 173,5 (2020): 362-367. doi:10.7326/M20-3012 PMID 32491919 Retrieved 14 January 2021.
- Lai CC, Liu YH, Wang CY, Wang YH, Hsueh SC, Yen MY, และคณะ (June 2020). "Asymptomatic carrier state, acute respiratory disease, and pneumonia due to severe acute respiratory syndrome coronavirus 2 (SARS-CoV-2): Facts and myths". Journal of Microbiology, Immunology, and Infection = Wei Mian Yu Gan Ran Za Zhi. 53 (3): 404–412. doi:10.1016/j.jmii.2020.02.012. PMC 7128959. PMID 32173241.
- Furukawa NW, Brooks JT, Sobel J (July 2020). "Evidence Supporting Transmission of Severe Acute Respiratory Syndrome Coronavirus 2 While Presymptomatic or Asymptomatic". Emerging Infectious Diseases. 26 (7). doi:10.3201/eid2607.201595. PMC 7323549. PMID 32364890.
- Gandhi RT, Lynch JB, Del Rio C (October 2020). "Mild or Moderate Covid-19". The New England Journal of Medicine. 383 (18): 1757–1766. doi:10.1056/NEJMcp2009249. PMID 32329974.
- Wiersinga WJ, Rhodes A, Cheng AC, Peacock SJ, Prescott HC (August 2020). "Pathophysiology, Transmission, Diagnosis, and Treatment of Coronavirus Disease 2019 (COVID-19): A Review". JAMA. 324 (8): 782–793. doi:10.1001/jama.2020.12839. PMID 32648899. S2CID 220465311.
- "Half of young adults with COVID-19 have persistent symptoms after 6 months". medicalxpress.com. สืบค้นเมื่อ 10 July 2021.
- Blomberg B, Mohn KG, Brokstad KA, Zhou F, Linchausen DW, Hansen BA, และคณะ (June 2021). "Long COVID in a prospective cohort of home-isolated patients". Nature Medicine. 27 (9): 1607–1613. doi:10.1038/s41591-021-01433-3. PMC 8440190. PMID 34163090. S2CID 235625772.
- CDC (11 February 2020). "COVID-19 and Your Health". Centers for Disease Control and Prevention. สืบค้นเมื่อ 23 January 2021.
- "Getting a handle on asymptomatic SARS-CoV-2 infection | Scripps Research". www.scripps.edu (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-05-16.
- . National Institutes of Health. 17 March 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 March 2020. สืบค้นเมื่อ 30 April 2020.
- To KK, Tsang OT, Chik-Yan Yip C, Chan KH, Wu TC, Chan JM, และคณะ (February 2020). "Consistent detection of 2019 novel coronavirus in saliva". Clinical Infectious Diseases. Oxford University Press. doi:10.1093/cid/ciaa149. PMC 7108139. PMID 32047895.
- "COVID-19 and Our Communities -ACON – We are a New South Wales based health promotion organisation specialising in HIV prevention, HIV support and lesbian, gay, bisexual, transgender and intersex (LGBTI) health". Acon.org.au. สืบค้นเมื่อ 2020-04-29.
- "Sex and Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)" (PDF). nyc.gov. 27 March 2020. สืบค้นเมื่อ 29 April 2020.
- Tran K, Cimon K, Severn M, Pessoa-Silva CL, Conly J (2012). "Aerosol generating procedures and risk of transmission of acute respiratory infections to healthcare workers: a systematic review". PLOS ONE. 7 (4): e35797. Bibcode:2012PLoSO...735797T. doi:10.1371/journal.pone.0035797. PMC 3338532. PMID 22563403.
- "Novel Coronavirus - Information for Clinicians" (PDF). Australian Government Dept of Health.
- "Outbreak of severe acute respiratory syndrome coronavirus 2 (SARS-CoV-2): increased transmission beyond China—fourth update" (PDF). European Centre for Disease Prevention and Control. 14 February 2020. สืบค้นเมื่อ 8 March 2020.
- Zhu N, Zhang D, Wang W, Li X, Yang B, Song J, และคณะ (February 2020). "A Novel Coronavirus from Patients with Pneumonia in China, 2019". The New England Journal of Medicine. 382 (8): 727–733. doi:10.1056/NEJMoa2001017. PMC 7092803. PMID 31978945.
- Report of the WHO-China Joint Mission on Coronavirus Disease 2019 (COVID-19) (PDF) (Report). World Health Organization (WHO). February 2020. (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 29 February 2020. สืบค้นเมื่อ 21 March 2020.
- Cyranoski D (March 2020). "Mystery deepens over animal source of coronavirus". Nature. 579 (7797): 18–19. Bibcode:2020Natur.579...18C. doi:10.1038/d41586-020-00548-w. PMID 32127703.
- "Emerging SARS-CoV-2 Variants". Centers for Disease Control and Prevention (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 30 December 2020. สืบค้นเมื่อ 30 December 2020.
- "Implications of Emerging SARS-CoV-2 Variant VOC 202012/01 in the UK". Centers for Disease Control and Prevention (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 29 December 2020. สืบค้นเมื่อ 30 December 2020.
- Verdecchia, Paolo; Cavallini, Claudio; Spanevello, Antonio; Angeli, Fabio (12 April 2020). "The pivotal link between ACE2 deficiency and SARS-CoV-2 infection". European Journal of Internal Medicine. doi:10.1016/j.ejim.2020.04.037. PMC 7167588. PMID 32336612.
- Letko M, Marzi A, Munster V (April 2020). "Functional assessment of cell entry and receptor usage for SARS-CoV-2 and other lineage B betacoronaviruses". Nature Microbiology. 5 (4): 562–569. doi:10.1038/s41564-020-0688-y. PMC 7095430. PMID 32094589.
- Gurwitz D (March 2020). "Angiotensin receptor blockers as tentative SARS-CoV-2 therapeutics". Drug Development Research. doi:10.1002/ddr.21656. PMC 7228359. PMID 32129518.
- Li YC, Bai WZ, Hashikawa T (February 2020). "The neuroinvasive potential of SARS-CoV2 may play a role in the respiratory failure of COVID-19 patients". Journal of Medical Virology. 92 (6): 552–555. doi:10.1002/jmv.25728. PMC 7228394. PMID 32104915.
- Gu J, Han B, Wang J (May 2020). "COVID-19: Gastrointestinal Manifestations and Potential Fecal-Oral Transmission". Gastroenterology. 158 (6): 1518–1519. doi:10.1053/j.gastro.2020.02.054. PMC 7130192. PMID 32142785.
- Zheng YY, Ma YT, Zhang JY, Xie X (May 2020). "COVID-19 and the cardiovascular system". Nature Reviews. Cardiology. 17 (5): 259–260. doi:10.1038/s41569-020-0360-5. PMC 7095524. PMID 32139904.
- Huang C, Wang Y, Li X, Ren L, Zhao J, Hu Y, และคณะ (February 2020). "Clinical features of patients infected with 2019 novel coronavirus in Wuhan, China". Lancet. 395 (10223): 497–506. doi:10.1016/S0140-6736(20)30183-5. PMC 7159299. PMID 31986264.
- Coronavirus: Kidney Damage Caused by COVID-19, Johns Hopkins Medicine, C. John Sperati, updated 14 May 2020.
- Zhang C, Wu Z, Li JW, Zhao H, Wang GQ (March 2020). "The cytokine release syndrome (CRS) of severe COVID-19 and Interleukin-6 receptor (IL-6R) antagonist Tocilizumab may be the key to reduce the mortality". International Journal of Antimicrobial Agents: 105954. doi:10.1016/j.ijantimicag.2020.105954. PMC 7118634. PMID 32234467.
- . Centers for Disease Control and Prevention (CDC). 5 February 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 February 2020. สืบค้นเมื่อ 12 February 2020.
- . World Health Organization (WHO). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 March 2020. สืบค้นเมื่อ 13 March 2020.
- . Centers for Disease Control and Prevention. 30 January 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 January 2020. สืบค้นเมื่อ 30 January 2020.
- . Centers for Disease Control and Prevention. 29 January 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 30 January 2020. สืบค้นเมื่อ 1 February 2020.
- . GlobeNewswire News Room. 30 January 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 31 January 2020. สืบค้นเมื่อ 1 February 2020.
- Brueck H (30 January 2020). . Business Insider. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 February 2020. สืบค้นเมื่อ 1 February 2020.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 February 2020. สืบค้นเมื่อ 26 February 2020.
- Petherick A (April 2020). "Developing antibody tests for SARS-CoV-2". Lancet. 395 (10230): 1101–1102. doi:10.1016/s0140-6736(20)30788-1. PMID 32247384.
- Vogel G (March 2020). "New blood tests for antibodies could show true scale of coronavirus pandemic". Science. doi:10.1126/science.abb8028.
- Pang J, Wang MX, Ang IY, Tan SH, Lewis RF, Chen JI, และคณะ (February 2020). "Potential Rapid Diagnostics, Vaccine and Therapeutics for 2019 Novel Coronavirus (2019-nCoV): A Systematic Review". Journal of Clinical Medicine. 9 (3): 623. doi:10.3390/jcm9030623. PMC 7141113. PMID 32110875.
- AFP News Agency (11 April 2020). "How false negatives are complicating COVID-19 testing". Al Jazeera website Retrieved 12 April 2020.
- (Press release). FDA. 21 March 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 March 2020. สืบค้นเมื่อ 22 March 2020.
- Jin YH, Cai L, Cheng ZS, Cheng H, Deng T, Fan YP, และคณะ (February 2020). "A rapid advice guideline for the diagnosis and treatment of 2019 novel coronavirus (2019-nCoV) infected pneumonia (standard version)". Military Medical Research. 7 (1): 4. doi:10.1186/s40779-020-0233-6. PMC 7003341. PMID 32029004.
- Lee EY, Ng MY, Khong PL (April 2020). . The Lancet. Infectious Diseases. 20 (4): 384–385. doi:10.1016/S1473-3099(20)30134-1. PMC 7128449. PMID 32105641. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 March 2020. สืบค้นเมื่อ 13 March 2020.
- "ICD-10 Version:2019". World Health Organization. 2019. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 31 March 2020. สืบค้นเมื่อ 31 March 2020.
U07.2—COVID-19, virus not identified—COVID-19 NOS—Use this code when COVID-19 is diagnosed clinically or epidemiologically but laboratory testing is inconclusive or not available. Use additional code, if desired, to identify pneumonia or other manifestations
- Hanley B, Lucas SB, Youd E, Swift B, Osborn M (May 2020). "Autopsy in suspected COVID-19 cases". Journal of Clinical Pathology. 73 (5): 239–242. doi:10.1136/jclinpath-2020-206522. PMID 32198191.
- Yao XH, Li TY, He ZC, Ping YF, Liu HW, Yu SC, และคณะ (March 2020). "[A pathological report of three COVID-19 cases by minimally invasive autopsies]". Zhonghua Bing Li Xue Za Zhi = Chinese Journal of Pathology (ภาษาจีน). 49 (5): 411–417. doi:10.3760/cma.j.cn112151-20200312-00193. PMID 32172546.
- Giani M, Seminati D, Lucchini A, Foti G, Pagni F (May 2020). "Exuberant Plasmocytosis in Bronchoalveolar Lavage Specimen of the First Patient Requiring Extracorporeal Membrane Oxygenation for SARS-CoV-2 in Europe". Journal of Thoracic Oncology. 15 (5): e65–e66. doi:10.1016/j.jtho.2020.03.008. PMC 7118681. PMID 32194247.
- Lillicrap D (April 2020). "Disseminated intravascular coagulation in patients with 2019-nCoV pneumonia". Journal of Thrombosis and Haemostasis. 18 (4): 786–787. doi:10.1111/jth.14781. PMC 7166410. PMID 32212240.
- Mitra A, Dwyre DM, Schivo M, Thompson GR, Cohen SH, Ku N, Graff JP (March 2020). "Leukoerythroblastic reaction in a patient with COVID-19 infection". American Journal of Hematology. doi:10.1002/ajh.25793. PMC 7228283. PMID 32212392.
- (9 March 2020). . The Spinoff. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 March 2020. สืบค้นเมื่อ 9 March 2020.
- Anderson RM, Heesterbeek H, Klinkenberg D, Hollingsworth TD (March 2020). "How will country-based mitigation measures influence the course of the COVID-19 epidemic?". Lancet. 395 (10228): 931–934. doi:10.1016/S0140-6736(20)30567-5. PMC 7158572. PMID 32164834.
A key issue for epidemiologists is helping policy makers decide the main objectives of mitigation—e.g. minimising morbidity and associated mortality, avoiding an epidemic peak that overwhelms health-care services, keeping the effects on the economy within manageable levels, and flattening the epidemic curve to wait for vaccine development and manufacture on scale and antiviral drug therapies.
- Barclay E (10 March 2020). . Vox. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 March 2020. สืบค้นเมื่อ 12 March 2020.
- Barclay E, Scott D, Animashaun A (7 April 2020). . Vox. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 April 2020.
- Wiles S (14 March 2020). . The Spinoff. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 March 2020. สืบค้นเมื่อ 13 March 2020.
- [[Centers for Disease Control and Prevention]|Centers for Disease Control and Prevention]] (3 February 2020). . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 December 2019. สืบค้นเมื่อ 10 February 2020.
- World Health Organization. . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 January 2020. สืบค้นเมื่อ 10 February 2020.
- . NPR.org. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 March 2020. สืบค้นเมื่อ 20 March 2020.
- "Recommendation Regarding the Use of Cloth Face Coverings, Especially in Areas of Significant Community-Based Transmission". Centers for Disease Control and Prevention (CDC). 11 February 2020. สืบค้นเมื่อ 17 April 2020.
- Maragakis LL. . www.hopkinsmedicine.org. Johns Hopkins University. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 March 2020. สืบค้นเมื่อ 18 March 2020.
- (19 March 2020). . The New York Times. ISSN 0362-4331. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 March 2020. สืบค้นเมื่อ 20 March 2020.
- Sanders JM, Monogue ML, Jodlowski TZ, Cutrell JB (April 2020). "Pharmacologic Treatments for Coronavirus Disease 2019 (COVID-19): A Review". JAMA. doi:10.1001/jama.2020.6019. PMID 32282022.
- Systrom K, Krieger M, O'Rourke R, Stein R, Dellaert F, Lerer A (11 April 2020). "Rt Covid-19". rt.live. สืบค้นเมื่อ 19 April 2020. Based on Bettencourt LM, Ribeiro RM (May 2008). "Real time bayesian estimation of the epidemic potential of emerging infectious diseases". PloS One. 3 (5): e2185. Bibcode:2008PLoSO...3.2185B. doi:10.1371/journal.pone.0002185. PMC 2366072. PMID 18478118.
- Grenfell R, Drew T (17 February 2020). . Science Alert. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 February 2020. สืบค้นเมื่อ 26 February 2020.
- . World Health Organization (WHO). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 March 2020. สืบค้นเมื่อ 8 March 2020.
- Staff (8 April 2020). "Using face masks in the community—Technical Report" (PDF). ECDC.
- About Cloth Face Coverings, CDC, Last Reviewed: 22 May 2020.
- . NHC.gov.cn. National Health Commission of the People's Republic of China. 7 February 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-04-05. สืบค้นเมื่อ 22 March 2020.
Disposable medical masks: Recommended for: · People in crowded places · Indoor working environment with a relatively dense population · People going to medical institutions · Children in kindergarten and students at school gathering to study and do other activities
- (PDF). . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 21 March 2020. สืบค้นเมื่อ 22 March 2020.
Wear a surgical mask when taking public transport or staying in crowded places.
- Staff (11 April 2020). "Spain officially recommends face mask use". Gazette Life. สืบค้นเมื่อ 20 April 2020.
- Giuffrida A, Beaumont P (5 April 2020). "Lombardy insists on face masks outside homes to stop Covid-19". The Guardian. ISSN 0261-3077. สืบค้นเมื่อ 20 April 2020.
- "Russian sanitary watchdog chief supports regions binding people to wear face masks". . 1 May 2020. สืบค้นเมื่อ 3 May 2020.
- . Centers for Disease Control and Prevention (CDC). U.S. Department of Health & Human Services. 10 March 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 March 2020. สืบค้นเมื่อ 11 March 2020.
- "WHO-recommended handrub formulations". WHO Guidelines on Hand Hygiene in Health Care: First Global Patient Safety Challenge Clean Care Is Safer Care. World Health Organization. 19 March 2009. สืบค้นเมื่อ 19 March 2020.
- Li, YD; Chi, WY; Su, JH; Ferrall, L; Hung, CF; Wu, TC (December 2020). "Coronavirus vaccine development: from SARS and MERS to COVID-19". Journal of Biomedical Science. 27 (1): 104. doi:
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
lingkkhamphasa inbthkhwamni miiwihphuxanaelaphurwmaekikhbthkhwamsuksaephimetimodysadwk enuxngcakwikiphiediyphasaithyyngimmibthkhwamdngklaw krann khwrribsrangepnbthkhwamodyerwthisud orkhtidechuxiwrsokhorna 2019 okhwid 19 epnorkhtidechuxxnekidcakiwrsokhornaklumxakarthangedinthanghayicechiybphlnrunaerng 2 SARS CoV 2 mikarrabuorkhkhrngaerkineduxnthnwakhm 2562 innkhrxuhn emuxnghlwngkhxngmnthlhuepy praethscin aelaidkracayipthwolknbaetnn sngphlihekidkarrabadthwkhxngokhwid 19orkhtidechuxiwrsokhorna 2019 okhwid 19 chuxxunokhwid 19 pxdbwmiwrsokhornasayphnthuihmphupwyokhwid 19 aebbmixakarhnk kalngrbkarrksainhxxphibalphupwyhnkkarxxkesiyng k e ˈ r oʊ n e ˌ v aɪ r e s d ɪ ˈ z iː z ˌ k oʊ v ɪ d n aɪ n ˈ t iː n ˌ k ɒ v ɪ d sakhawichaorkhtidechuxxakarikh ix xxnephliy hayickrachn imidklin bangthiimmixakarphawaaethrksxnpxdbwm phawaphisehtutidechuxiwrs klumxakarhayiclabakechiybphln itway klumxakarhlngisotikhn klumxakarxkesbhlayrabbinedk phngphudthipxd okhwideruxrngkartngtn2 14 wn hlngidrbechux odythwip 5 wn rayadaeninorkhmitngaet 5 wn thung 10 eduxnsaehtuiwrsokhornaklumxakarthangedinhayicechiybphlnrunaerng SARS CoV 2 pccyesiyngkaredinthang karsmphsiwrswithiwinicchykarthdsxb rRT PCR sithisaeknkarpxngknkarlangmux karpidibhna karkkorkh karewnrayahangthangsngkhm wkhsinkarrksakarrksatamxakaraelaprakhbprakhxngkhwamchukphupwyyunynaelw 183 474 301 raykaresiychiwit3 971 197 ray 2 khxngphupwyyunynaelw xakarthwip idaek ikh ix aelahayiclabak xakarxun xacrwmthungxxnephliy pwdklamenux thxngrwng ecbkhx phawaesiykarruklinaelaphawaesiykarrurs aemphupwyswnihymixakarimrunaerng aetbangthrudlngepnklumxakarhayiclabakechiybphln ARDS sungnacamipccykratuncakphayuisotikhnxwywalmehlwhlayxwywa chxkehtuphistidechux aelalimeluxdewlatngaetkarsmphscnthungerimaesdngxakartamaebbchbbxyuthi 5 wn aetxacmiidtngaet 2 14 wn iwrsaephrrabadidrahwangbukhkhlinchwngthimikarsmphsiklchidepnhlk mkphanlaxxngesmhakhnadelkthiekidcakkarix camhruxsnthna aemlaxxngesmhaehlaniekidemuxhayicxxk aetpkticatklngsuphunhruxtidkhangbnphunphiw imichtidechuxidcakrayaikl bukhkhlxactidechuxidcakkarsmphsphunphiwthipnepuxnaelwnamaaetata cmukhruxpakkhxngtn iwrssamarthxyurxdbnphunphiwidnanthung 72 chwomng iwrstidtxthangsmphsidmakthisudrahwangsamwnaerkhlngerimaesdngxakar kranniwrsxacaephridtngaetkxnerimpraktxakaraelainorkhrayahlngaelw withikarwinicchymatrthan khux ptikiriyalukosophliemxersyxnklbaebberiylithm rRT PCR cakkarkwadkhxhxyswncmukkarthayphaphrngsiswntdxasykhxmphiwetxrthrwngxkxacepnpraoychnsahrbwinicchyphuthitxngsngsytidechuxmakodyxasyxakaraelapccyesiyng aetimaenanaihichkhdkrxngepnkicwtr matrkarthiaenanainkarpxngknkartidechux idaek karhmnlangmux karewnrayahangthangkaykbphuxun odyechphaacakphuthimixakar karpidkarixaelacamdwykradasthichchuhruxkhxphbsxk aelangdnamuxthiimidlangaetaibhna aenanaihichhnakakxnamysahrbphuthisngsywatnexngmiiwrsaelaphuduaelbukhkhlehlann khaaenanakarichhnakakxnamysahrbprachachnthwipnnaetktangkniptamhnwyngan bangimaenanaihich bangaenanaihich aelabangkahndwatxngich mikarphthnawkhsinsahrbokhwid 19 xxkmaaelwhlaychnid echn ifesxr omedirnna sionaewkh aexstasinika l aelahlaypraethskalngxyurahwangdaeninkarihwkhsinaekprachachnkhxngtwexng karrksahlk epnkarrksaxakar karprakhbprakhxng karaeyktw aelamatrkarinkhnthdlxngxngkhkarxnamyolk WHO prakasihkarrabadkhxngiwrsokhorna 2019 epnphawachukechinthangsatharnsukhrahwangpraeths PHEIC emuxwnthi 30 mkrakhm 2563 aelaepnorkhrabadthwemuxwnthi 11 minakhm 2563 mikarbnthukkaraephrechuxinthxngthininpraethsswnihykhxngphumiphakh WHO thnghkphumiphakhxakaraelaxakaraesdngxakartang khxngphupwyokhwid 19 phupwyokhwid 19 mixakaridhlakhlay tngaetelknxyipcnthungrunaerng xakarthiphbbxyidaek pwdsirsa aela khdcmuk namukihl ix pwdklamenux ecbkhx miikh thayehlw aelahayiclabak phupwythitidechuxediywknxacmixakaraetktangkn aelaepliynaeplngidemuxkarpwydaeninip odythwipaelwphbkarecbpwyid 3 rupaebbhlk idaek aebbthimixakarrabbhayicepnhlk khuxix miesmha hayiclabak aelamiikh aebbthimixakarthangrabbklamenuxepnhlk khuxpwdklamenux pwdkhx pwdhw xxnephliy aelaaebbthimixakarthangrabbyxyxaharepnhlk khuxpwdthxng xaeciyn aelathayehlw xakaraelaepnxakarthiphbidbxy odybangraynganphbwahakimnbphuthimiorkhkhxnghu khx cmuk xyuedimaelwsamarthphbxakarniidsungsudthung 88 inbrrdaphupwythimixakar swnihycamixakarelknxythungpanklang nbthungkarmipxdxkesbelknxy khidepn 81 xik 14 camixakarrunaerng hayiclabak xxksiecnta hruxmirxyorkhthipxdmakkwa 50 cakkartrwcphaphthayrngsi aelaxik 5 camixakarthungkhnwikvti karhayiclmehlw chxk xwywalmehlw miphupwycanwnmakthitngaettidechuxcnhayimmixakarid ely sungbangraynganphbwaxacmimakthunghnunginsamkhxngphupwythnghmd phupwythiimmixakarehlanimiaenwonmthicaimidrbkartrwchaechux aelasamarthaephrkracayechuxtxipid phupwyrayakxnmixakarhruxmixakarephiyngelknxyksamarthaephrechuxidechnkn sahrbphupwythimixakar hlngcakidrbechuxaelwphupwycamirayaewlathiyngimaesdngxakarxyuchwnghnung eriykwa rayafktw odyrayafktwkhxngokhwid 19 mikhamthythanxyuthipraman 4 5 wn odyswnihyxyuthi 2 7 wn aelaekuxbthnghmdcaimekin 12 wn phupwyswnihymixakardikhunid xyangirkdi phupwyswnhnungxacyngmixakarbangxyanghlngehluxxyuaemcahaypwycakrayaechiybphlnaelw echn xxnephliy epntn eriykwa phlrayayawkhxngokhwid 19 bangraynganphbxakarechnniinkwakhrungkhxngphupwywyphuihytxntnthirbkarrksathiban phupwycanwnhnungmikarthangankhxngxwywabkphrxnginrayayawhlnghaypwyrayaechiybphln thngniyngmikarekbkhxmulephuxsuksaphlrayayawkhxngorkhnixyuxyangtxenuxngsaehtukaraephrechux okhwid 19 aephremuxbukhkhlmikarsmphsiklchidepnhlk 2 emtr odythanglaxxngfxykhnadelkthiekidrahwangkarix camhruxsnthna bukhkhlhayicexalaxxngfxythipnepuxnthiphupwyhayicxxkmaekhaipinpxd hruxlaxxngfxynntidxyubnibhnakhxngbukhkhlxunthaihekidkartidechuxihm laxxngfxynikhxnkhanghnk pkticatklngsuphunphiwaelaimpliwipiklinxakas bukhkhlsamrthaephriwrsidkhnayngimaesdngxakar aetimchdecnwaekidkhunbxymaknxyephiyngid karpramancanwnphutidechuximaesdngxakarhnungpramaniw 40 bukhkhlaephrechuxidmakthisudemuxaesdngxakar aemaetxakarebahruximcaephaa aetxacaephrechuxidcnthungsxngwnkxnpraktxakar karaephrechuxkxnmixakar aelayngkhngaephrechuxtxxik 7 thung 12 wnodypramaninphupwypanklang aelaodyechliy 2 spdahinphupwyrunaerng emuxlaxxngfxythimiechuxtklngsuphunhruxphunphiw laxxngfxynnyngtidechuxidhakbukhlsmphsphunphiwthipnepuxnaelwnamuxipsmphsta cmukhruxpakkhxngtnaemwacaphbidnxy primaniwrskmmntbnphunphiwcaldlngeruxy tamewlacninthisudimkxihekidkartidechuxxik aelathungaemwacakhadwaphunphiwimichwithihlkthiiwrsaephrkracay aelayngimmikhxmulthithrabaenchdwaiwrsprimanethaidbnphunphiwthicakxihekidkartidechuxdwywithini aetiwrsyngkhngsamarthtrwcphbidbnphunphiwthxngaedngaemwaewlalwngip 4 chwomng sahrbphunphiwthiepnkradaslngyngkhngphbechuxidaemewlaphaniphnungwn aelasamarthphbechuxxyubnphlastik phxliophrphilin hruxehlkklairsnim AISI 304 aemewlacaphanipsamthungsiwnktam phunphiwthipnepuxnechuxiwrsokhwid 19 nn samarththakhwamsaxadaelakhaechuxidodyngay dwykarichsarthakhwamsaxadthiichxyuthwiptamkhrweruxn sungkhaiwrsthixyunxkrangkaymnusyhruxxyubnmux esmhaaelanalayphaiwrsipprimanmak aemwaokhwid 19 imichorkhtidtxthangephssmphnth aetkarcub karsmphsthangephs aelathangxuccara paktxngsngsywaaephrechuxiwrs withidaeninkarthangkaraephthybangxyangkxihekidlaxxnglxy aelathaihiwrssamarthaephridngaykwapkti okhwid 19 yngepnorkhihm aelaraylaexiydcanwnmakekiywkbkaraephryngxyurahwangkarsxbswn orkhniaephrkracayrahwangmnusyidngay khux ngaykwaikhhwdihyaetyngimethaorkhhd pramancanwnphutidechuxodyphupwyokhwid 19 hnungkhn R0 aetktangknmak khapramantngtnkhxng WHO xyuthi 1 4 2 5 echliy 1 95 xyangirkdibthptithsninphayhlngphbkha R0 phunthan odyimmimatrkarkhwbkhum sungkwannkhux 3 28 aela R0 mthythanethakb 2 79 withyaiwrs phaphprakxbkhxngwirixxn SARSr CoV iwrsokhornaklumxakarthangedinhayicechiybphlnrunaerng 2 SARS CoV 2 epniwrsokhornaklumxakarthangedinhayicechiybphlnrunaerngsayphnthuihm sungaeykidkhrngaerkcakphupwyorkhpxdbwmsamkhnsungechuxmoyngkbkhlsetxrxakarpwythangedinhayicechiybphlninxuhn mnthlhuepy praethscin khunsmbtithnghmdkhxngiwrs SARS CoV 2 sayphnthuihmekidkhuniniwrsokhornathiekiywkhxnginthrrmchati emuxxyunxkrangkaymnusy iwrsthukkhaidngaydwysbutamkhrweruxn sungcathaihepluxkthihxhumiwrsaetk SARS CoV 2 mikhwamsmphnthiklchidkb SARS CoV sayphnthuedim echuxwakaenidkhuninstw karwiekhraahthangphnthukrrmepidephywaiwrsokhornamikhlsetxrthangphnthukrrmkbskul Betacoronavirus inskulyxy Sarbecovirus sayphnthubi rwmkbiwrsthimacakkhangkhawxiksxngsayphnthu iwrsmikhwamehmuxn kbtwxyangiwrsokhornakhangkhaw BatCov RaTG13 96 inradbcionmthnghmd ineduxnkumphaphnth 2563 nkwicychawcinphbwaiwrscaklinaelacakmnusymikrdxamionaetktangknomelkulediywinladbcionmbangswn xyangirkdi karepriybethiybthngcionminpccubnphbwasarphnthukrrmswnihy 92 ehmuxnknrahwangiwrsokhornalinkb SARS CoV 2 sungimephiyngphxtxkarphisucnwatwlinepntwthukebiynmthyntr ekidsayphnthuthimichuxesiyngkhxng SARS CoV 2 invduibimrwngpi 2563 khlsetxr 5 ekidkhuninhmutwmingkhaelaphueliyngtwmingkhinednmark echuxwathukkacdipaelwenuxngcakmikarkkknxyangekhmngwdaelakhastwtidechux Variant of Concern 202012 01 VOC 202012 01 echuxwaekidkhuninshrachxanackrineduxnknyayn aelasayphnthu 501Y V2 ekidkhuninpraethsaexfrikaitphyathisrirwithyapxdepnxwywathiidrbphlkrathbmakthisudcakokhwid 19 ephraaiwrsekhathungesllkhxngphupwyphanexnism ACE2 sungphbmakthisudesllthunglmchnidthi 2 khxngpxd iwrsichiklokhoprtinphiwaebbphiessthieriyk sipk peplomer echuxmtxkb ACE2 aelaekhasuesllkhxngphupwy danhnungmxngwakarephim ACE2 odyichyaybyngtwrbaexngkioxethnsin 2 xacpxngknorkhid SARS CoV 2 xacthaihekidthangedinthanghayiclmehlwodymiphltxkansmxngechnediywkbiwrsokhornatwxunthiphbwaruklarabbprasathswnklang aemwamikartrwcphbiwrsinnahlxsmxngaelaikhsnhlnginkarchnsutrphliksph aetklikkarruklarabbprasathswnklangthiaenchdyngimchdecnaelaxacekiywkhxngkbkarruklaesnprasathswnplayenuxngcakinsmxngmiradb ACE2 ta iwrsyngmphltxxwywakraephaaxaharaelalaisenuxngcak ACE2 mikaraesdngxxkxyumakineslltxmkhxngeyuxbukraephaaxahar laiselkswntnaelaistrng iwrssamarththaihekidkarbadecbkhxngklamenuxhwicechiybphln aelakhwamesiyhayeruxrngtxrabbhwicaelahlxdeluxd phbkarbadecbkhxnghwicechiybphlnin 12 khxngphutidechuxthiekharbkarrksainorngphyabalinxuhn praethscin xtraxakarrabbhwicaelahlxdeluxdmisungsubenuxngcakkartxbsnxngxkesbthwrangaelaorkhrabbphumikhumknrahwangkardaeninorkh aetkarbadecbkhxngklamenuxhwicxacmikhwamsmphnthkbtwrb ACE2 inhwic raynganrayaaerkaesdngwaphupwythirbrksainorngphyabalthnginpraethscinaelaniwyxrkthung 30 mikarbadecbkhxngitbang rwmthngphuimekhymipyhaitedim phyathiwithyaphumikhumkn aemwa SARS COV 2 mikaronmtxbsnxngtxesllbuthangedinhayicthiaesdng ACE2 aetphupwyokhwid 19 runaerngmixakarxkesbmakekinthwrang systemic hyperinflammation khxkhnphbthanghxngptibtikarkhlinikthimi IL 2 IL 7 IL 6 granulocyte macrophage colony stimulating factor GM CSF interferon g inducible protein 10 IP 10 monocyte chemoattractant protein 1 MCP 1 macrophage inflammatory protein 1 a MIP 1a aela tumour necrosis factor a TNF a sungkhunbngchithungklumxakarcakkarhlngisotikhn CRS esnxwamiphyathiwithyaphumikhumknphunedim nxkcakni phupwyokhwid 19 aelaklumxakarhayiclabakechiybphln ARDS miiboxmarkekxrsirmsungbngchi CRS khlassik idaek radbsi riaexkhthif oprtin CRP LDH aelaefxrritinsungkarwinicchykarsathitkarkwadkhxhxyswncmukephuxtrwcokhwid 19chudthdsxb rRT PCR sahrbokhwid 19 khxngsidisi WHO cdphimpheknthwithikarthdsxbhlayeknthsahrborkh withikarthdsxbmatrthan khux ptikiriyalukosphxliemxersaebbyxnklberiylithm rRT PCR odymatrthanaelwkarthdsxbnitxngichkbtwxyangthangedinhayicthiidcakkarkwadkhxhxyswncmuk xyangirkdi xacichkarkwadcmukhruxtwxyangesmhaid odythwipcathrabphlinimkichwomngthungsxngwn samarthichkarthdsxbeluxdid aettxngichtwxyangeluxdsxngtwxyangaeykknaelaekbhangknsxngspdah aelaphllphththiidmikhunkhathnthinxy nkwithyasastrcinsamarthaeyksayphnthukhxngiwrsokhornaaelacdphimphladbphnthukrrmephuxihhxngptibtikarthwolksamarthphthnakarthdsxbptikiriyalukosophliemxers PCR idxyangxisraephuxtrwchakartidechuxiwrs n wnthi 4 emsayn 2563 karthdsxbaexntibxdi sungxactrwcphbkartidechuxthikalngdaeninxyu aelawabukhkhlnnekhytidechuxmakxnhruxim kalngxyurahwangkarphthna aetyngimmiichaephrhlay prasbkarnkarthdsxbkhxngcinaesdngihehnwamikhwamaemnyaephiyng 60 thung 70 xngkhkarxaharaelayainshrthxnumtikarthdsxbkhangetiyngkhrngaerkemuxwnthi 21 minakhm 2563 sahrbichinplayeduxnnn aenwthangkarwinicchythixxkodyorngphyabalcnghnan mhawithyalyxuhn aenanawithikartrwchakartidechuxtamlksnathangkhlinikaelakhwamesiyngthangwithyakarrabad singehlaniekiywkhxngkbkarrabutwphuthimixakartxipnixyangnxysxngxaakr rwmkbmiprawtiedinthangipxuhnhruxsmphskbphutidechuxrayxun idaek ikh phaphthayrngsithiekhaidkbpxdbwm canwnesllemdeluxdkhawpktihruxta hruxmilimofistta karsuksahnungihphupwyokhwid 19 thirbkarrksainorngphyabalixlnginphachnaplxdechuxephuxekbtwxyangnalay aelatrwcphbiwrsinphupwysibexdcaksibsxngrayodyich RT PCR ethkhnikhnimiskyphapherwkwakarkwadaelakxihekidkhwamesiyngtxecahnathisatharnsukhnxykwa ekbthibanhruxinrth emuxichrwmkbkarthdsxbthanghxngptibtikar karthasithisaeknthrwngxkxacepnpraoychntxkarwinicchyokhwid 19 inkhnthixakarthangkhlinikbngchiwamioxkassungthicaepnorkh aetimaenanaihichkhdkrxngepnkarthwip inrayatnmkphbrxyorkhepnrxythubaebbkrackfainenuxpxdhlayklibaelaepnthngsxngkhang odykracayaebbimsmmatraelamkphbbxythidannxkaeladanhlngkhxngenuxpxd emuxorkhdaeninipmakkhunxacphblksnamirxyorkhednthienuxpxddannxkiteyuxhumpxd subpleural dominance phnngknklibpxdyxyhnatwphrxmkbmisarnaetimetmthunglmehnepn crazy paving pattern aela consolidation id playpi 2562 WHO kahndrhsorkhchukechin ICD 10 sahrbkaresiychiwitcakkartidechux SARS CoV 2 thihxngptibtikaryunynaelw aela U07 2 sahrbkaresiychiwitcakotwid 19 thiwinicchythangkhlinikhruxwithyakarrabadodyimmikartidechux SARS CoV 2 thihxngptibtikaryunyn khxkhnphbphaphthaysithitrngaebb phaphthaysithikhxngrayaluklamxyangrwderwphyathiwithya mikhxmulekiywkbrxyorkhthangklxngculthrrsnaelaphyathisrirwithyakhxngokhwid 19 nxy khxkhnphbthangphyathiwithyahlkinkarchnsutrphliksph idaek ehniddwytaepla eyuxhumpxdxkesb rxythubinpxd aelapxdbwmna sngektphbkhwamrunaerngkhxngorkhpxdbwmehtuiwrssipraephth pxdbwmelknxy singsumeyimkhnis serous exudation elknxy singsumeyimkhnifbrinelknxy pxdbwmaebbeba pxdbwmna karecriyekinkhxngesllpxd esllpxdnxkaebbkhnadihy karxkesbaethrk interstitial odymikaraethrksumkhxnglimofistaelamikarkxtwkhxngesllykshlayniwekhliys pxdbwmrunaerng karesiyhaykhxngthunglmaebbaephkracay DAD odymisingsumeyimkhnkhxngthunglmaebbaephkracay DAD epnsaehtukhxngklumxakarhayiclabakechiybphln ARDS aelaphawaxxksiecntaineluxdxyangrunaerng pxdbwmthikalnghay karcdraebiybkhxngsingsumeyimkhninophrngthunglmaelaphawaekidphngphudaethrkinpxd miphlasmaesllmakin BAL eluxd phawaeluxdaekhngtwinhlxdeluxdaebbaephrkracay DIC ptikiriyamiemdeluxdkhawaelaemdeluxdaedngtwxxn leukoerythroblastic tb ikhmnphxktbaebbthungelkkarpxngknkarybyngkartidechuxihmephuxldcanwnphupwyinewlahnung hruxeriyk karthaihesnokhngrab flattening the curve thaihrachkarsatharnsukhrksaprimanphupwyedimiddikhun inthangklbkn karephimkhwamcudansatharnsukh eriykwa karykesn raising the line echn karephimcanwnetiyng bukhlakraelaxupkrnekhruxngmuxsamarthchwyrxngrbkhwamtxngkarthiephimkhunkarbrrethathiimephiyngphx echn karphxnprnkdkarewnrayathangkayhruxkhasngihxyuaetinbankxnewlaxnkhwr xacthaihekidkarepnklbkhxngorkhrabadthwid matrkarpxngknephuxldoxkaskartidechux idaek karxyuaetinban kareliyngsthanthithimikhnphlukphlan karlangmuxdwysbuaelanabxy odyichewlaxyangnxykhrngla 20 winathi karptibtisukhxnamydanthangedinhayicthidi aelaeliyngkarichmuxthiimidlangsmphsdwngta cmukhruxpak sidisiaenanaihichkradasthichchupxngpidpakaelacmukemuxixhruxcam aelaaenanaihichkhxphbsxkdaninhakimmikradasthichchu aenanasukhxnamykhxngmuxthiehmaasmhlngixhruxcam aenanasukhxnamyswnbukhkhlaelawithichiwitaelaxaharsukhphaphdiephuxesrimsrangphumikhumkn sidisiaenanakarichsingpkpidibhnathiepnphainsthanthisatharna swnhnungephuxcakdkaraephrechuxodypceckthiimaesdngxakar yuththsastrkarewnrayahangthangsngkhmmungldkarsmphsbukhkhlthitidechuxkbklumihyodykarpidorngeriynaelasthanthithangan karcakdkaredinthang aelaykelikkarchumnumsatharnakhnadihy aenwthangkarewnrayahangyngrabuihbukhkhlxyuhangknpraman 6 fut 1 8 emtr thngni yngimmiyaidthrabwamiprasiththiphaphpxngknokhwid 19 id hlngkarnakarewnrayahangthangsngkhmaelakhasngxyutidban hlayphumiphakhsamarthkhngxtraaephrechuxprasiththiphaph Rt nxykwa 1 hmaykhwamwa orkhkalngldlnginphunthiehlann enuxngcakimkhadwacamiwkhsinxyangerwcnthungpi 2564 swnsakhykhxngkarrbmuxokhwid 19 khuxkarphyayamldcudsungsudkhxngorkhrabad thieriyk karthaihesnokhngrab sungkrathaodykarchalxxtrakartidechuxephuxldkhwamesiyngmiihrachkarsukhphaphminganln thaihrksaphupwypccubniddikhunaelachalxphupwyihmcnkwacamikarksahruxwkhsinthimiprasiththiphaph tamkhxmulkhxng WHO aenanakarichhnakakxnamyechphaaemuxbukhkhlixhruxcam hruxemuxkalngduaelphutxngsngsywapwysunykhwbkhumaelapxngknorkhyuorp ECDC rabuwa hnakakxnamy xacphicarnaodyechphaaxyangyingemuxekhaphunthithipidphlukphlan aet echphaaepnmatrkaresrimethann CDC khxngshrthaenanaihswmhnakakinthisatharnahakewnrayahang 6 futidyak odyechphaaemuximmixakaraelpxngknkaraephrechuxodyimectna hlaypraethsaenanaihbukhkhlsukhphaphdiswmhnakakxnamyhruxphapkpidibhna echn phaphnkhx xyangnxyinthisatharnabangaehng rwmthngpraethscinhxngkng sepn xitali aekhwnlxmbarediy rsesiy aelashrth CDC aenanaihphuthiidrbkarwinicchyepnokhwid 19 hruxphuthiechuxwatntidechuxxyuaetinbanykewnekharbkarrksathangkaraephthy ihothrsphthlwnghnakxnphbphuihbrikarthangkaraephthy swmhnakakkxnekhahxngtrwc aelaemuxxyuinhxnghruxyanphahnarwmkbbukhkhlxun ihichthichchupidixaelacam ihlangmuxxyangsmaesmxdwysbuaelana aelaeliyngkarichkhxngichinkhrweruxnswntwrwmkbphuxun CDC yngaenanaihbukhkhllangmuxbxy dwysbuaelanaepnewlaxyangnxy 20 winathi odyechphaaxyangyinghlngekhahxngnahruxemuxehnwamuxskprk kxnkinxaharaelahlngsngnamuk ixhruxcam nxkcakniyngaenanaihichsarlangmuxthimiswnphsmkhxngaexlkxhxlxyangnxy 60 krannkhwrichechphaaemuximmisbuaelana sahrbphunthithiimmrsarlangmuxphanichykhay WHO ihsutrsxngsutrsahrbkarphlitthxngthin sahrbthngsxngsutr kmmntphaphtxtanculchiphmacakexthanxlhruxixosophrphanxl ihodrecnephxrxxkisdichephuxkacdspxraebkhthieriyinaexlkxhxl swnkliesxrxlephimekhamaepnsardudkhwamchumchunaekphiw humectant khwamphyayaminkarpxngknorkhnnmiphlthwikhunkhuxmiphlmakkwapxngknkaraephrkracayephiyngthxdediyw karpxngknphupwyihmid 1 khncachwyldkarsmphsorkhaekbukhkhlxikhlaythxd enuxngcakphutidechuxihmcaaephrechuxtxid sungsudthaycathaihhyudyngkarrabadid source source source khaaenanakarlangmuxwkhsin sunychidwkhsininopaelndwkhsinchnidtang thikalngphthnaephuxpxngknorkhwkhsiphorkhtidechuxiwrsokhorpha 2019 epphthimungsrangtxechuxkhxngorkhokhwid 19 odykxphthicaekidkarrabadthwkhxngokhwid 19 idmikhwamphyayamiphkarphthphawkhsiphsahrborkhchphidthiepphsaehtukhxngorkhxuph echph sars hrux SARS aela emxrs hrux MERS maxyangtxephuxng khwamphyayamehlaphiidsasmkhwamruphxsmkhwrekiywkbokhrngsrangaelakarthangaphkhxngiwrsokhorpha sungidchwyihkarphthphaethkhopholyiwkhsiphokhwidtang tngaettphpi 2020 daephiphipidxyangrwderw erimtngaetwphthi 10 mkrakhm 2020 sungmikarephyaephrladbyiphphaphciesd GISAID aela n wphthi 19 miphakhm xutsahkrrmyathwolkkidprakaskhamphsyyathicathakarephuxcdkarorkh wkhsiphokhwid 19idekhrditodythwipwachwyldkartidtx khwamruphaerng aelaxtrakartayephuxngkborkh iph wkhsiphhlaychphidsamarthpxngkphkartidechuxaebbaesdngxakarodymisungthungrxyla 95 n eduxphkrkdakhm 2021 miwkhsiph 20 chphidthiidkhuphthaebiyphihichiphpraethsxyangphxy 1 praethsrwmthng 2 chphid aela wkhsiphiwrsokhwid 19 9 chphid wkhsiphkhxng Chinese Academy of Medical Sciences khxngphartiboxethkh CoviVac khxng Chumakov Centre COVIran Barakat khxng Shifa Pharmed Industrial Group Minhai Kangtai KCONVAC QazVac khxng Research Institute for Biological Safety Problems aela WIBP CorV khxngsiophfarm wkhsiphthiich 5 chphid sputphikilthaelakhxngsthabphwicykamaeliy aexstraesphephka Ad5 nCoV khxngaekhphsiophiboxlxciks aela aelawkhsiphhphwyyxyoprtiphkhxngiwrsokhwid 19 caphwph 4 chphid Abdala khxng Center for Genetic Engineering and Biotechnology EpiVacCorona khxngsthabphewktxr Soberana 02 khxng Finlay Institute aela ZF2001 khxng Anhui Zhifei Longcom miwkhsiphaekhphdiedtsungidekhasuaelw 330 chphid iphcaphwphphi 30 chphidkalngthdlxngiph 30 chphidiph 25 chphidiph aela 8 chphidiph praethstang miaephphaeckcahphaywkhsiphodycdladbkarihtamklumthiesiyngekid echph phusungxayu aelaklumthiesiyngtidaelwaephrorkh echph bukhlakrthangaephthy mipraethsthikalngphicarnachidwkhsiphephiyngodsediywiphebuxngtphephuxkhyaychidwkhsiphaekprachachphihmakthisudcphkwacamiwkhsiphphx cphthungwphthi 22 singhakhm 2021 xngkhkrsatharnsukhrwm kphthwolkrayngaphwa idchidwkhsiphokhwid 19 thung 5 000 laphodsaelw phuphlitwkhsiphidrabucaphwphodswkhsiphthicasamarthphlitiphpi 2021 iwdngphi xxksfxrd aexstraesphephka 3 000 laphods ifesxr wbr ibxxphethkh 1 300 laphods phuphlitsputphikwi siophfarm siophaewk aelacxhphsphaexphdcxhphsphrayla 1 000 laphods omedxrpha tngepaphlit 600 laphods aelaaekhphsiophiboxlxciks 500 laphods aetcphthungeduxphthphwakhm 2020 praethstang kidsngwkhsiphlwnghphaekiph 10 000 laphodsaelw odykhrunghphungepphpraethsrayidsungaemcamiprachakrephiyngrxyla 14 khxngolk ephraawkhsiphsungeyiyngphiiphchwngpi 2020 21 prachachphkhxngthicdwamirayidphxyxacimidrbwkhsiphcakphuphlitehlaphicphthungpi 2023 hrux 2024 cungthaihopraekrmcaepphxyangyingephuxihsngwkhsiphidthwthungkphthwolk karhlikeliyngphunthiaexxdaelaxakasimthayethinxakhar CDC aenanaihhlikeliyngphunthiaexxdphayinxakhar haktxngxyuinxakhar karephimxtrakarrabayxakas ldkarihlewiynsakhxngxakas aelaephimkarthayethxakasipyngsingaewdlxmphaynxk samarthldxtrakaraephrechuxid WHO aenanaihtidtngxupkrnrabayxakasaelaxupkrnkrxngxakasinphunthisatharna ephuxchwykacdlaxxnglxythinaphaechuxkarrksakarrksapccubnepnkarbabdprakhbprakhxng sungxacrwmthungkarihsarna karrksadwyxxksiecn aelaprakhbprakhxngxwywasakhyxunthiidrbphlkrathb mikarichekhruxngchwyphyungkarthangankhxnghwicaelapxd ECMO ephuxrksathangedinhayiclmehlw aetpraoychnyngxyurahwangkarphicarna karrksaaebbprakhbprakhxngxacmipraoychninphuthimixakarimrunaernginkartidechuxrayatn WHO aelakhnakrrmkarsukhphaphaehngchaticincdphimphkhxaenanasahrbkarduaelphupwyokhwid 19 thirbrksainorngphyabal aephthyewchbabdwikvtaelaaephthyorkhrabbkarhayicinshrthrwbrwmkhxaenanakarrksacakhnwyngantang ekhaepnthrphyakresri khux IBCC ya cnthungeduxnemsayn 2563 yngimmikarrksacaephaasahrbokhwid 19 sahrbxakartang nn wichachiphaephthybangswnaenanaihichpharaestamxl xaestamionefn makkwaixbuoprefn sahrbkarichkhrngaerk xngkhkarxnamyolkimkhdkhankarichyatankarxkesbthiimichsetiyrxyd NSAIDs echn ixbuphrxefn ephuxrksaxakar aelaxngkhkarxaharaelayaaethlngwapccubnimmihlkthanwa NSAIDs thaihxakarkhxngokhwid 19 thrudlng aemmikhxkngwlthangthvsdiekiywkbsarybyng ACE aelayatantwrbaexngkioxethnsin n wnthi 19 minakhm 2563 aetimephiyngphxepnehtuphlihhyudyaehlani karsuksahnunginwnthi 22 emsaynphbwaphupwyokhwid 19 rwmkbmiorkhkhwamdnolhitsungmixtrataythuksaehtutalngemuxichyaehlani imaenanaihichsetiyrxyd echn emthilephrdniosoln ykewnmiklumxakarhayiclabakechiybphlnaethrk smakhmwithyaphumikhumknaelaphumiaephkhlinikxxstraelesiyaenanaihphicarnaichothlisisuaembsahrbepntweluxkkarbabdnxkkhxbngichsahrbphupwyklumxakarhayiclabakechiybphlninokhwid 19 enuxngcakmiphlpraoychnthithrabinphayuisotikhnthiekidcakarbabdmaerngbangchnid aelaphayuisotikhnxacepnpccysngesrimthisakhytxxtratayinokhwid 19 runaerng aenanaihichyasahrbpxngkneluxdcbliminkarrksa aelakarrksadwysarkneluxdepnlimthiichehparinnahnkomelkultaduehmuxnsmphnthkbphllthththidikhuninokhwid 19 runaerngthiaesdngsyyankhxngkaraekhngtwkhxngeluxdphidpkti diidemxrsung xupkrnpxngknswnbukhkhl CDC aenanasikhntxninkarswmxupkrnpxngknswnbukhkhl PPE txngichkhwamramdrawngephuxcakdkhwamesiyngkaraephrechuxiwrsihnxythisud odyechphaaxyangyinginsthansatharnsukhemuxdaeninwithidaeninkarthixackxihekidlaxxnglxyid echn karisthxchwyhayic hruxkarchwyhayicdwymux sahrbphuechiywchaysatharnsukhthiduaelphupwyokhwid 19 sidisiaenanaihcdphupwyihhxngaeykkartidechuxthangxakas AIIR nxkehnuxipcakkarramdrawngmatrthan standard precautioin karramdrawngkarsmphsaelakarramdrawngthangxakas sidisisrupaenwthangptibtiinkarichxupkrnpxngknswnbukhkhl PPE rahwangkarrabadthw xupkrnthiaenanaidaek chudkhlum PPE xupkrnchwyhayichruxhnakakxnamy xupkrnpxngkndwngtaaelathungmuxkaraephthy aenanaihichxupkrnchwyhayicaethnhnakakxnamythami hnakakexn95 idrbxnumtiinsthanthixutsahkrrmaet FDA xnuyatihichhnakakphayitkarxnuyatichchukechin EUA hnakakdngklawidrbkarxxkaebbmaihpxngknxnuphakhthimathangxakasechnfun aetprasiththiphaphtxechuxorkhcaephaayngimrbpraknsahrbkarichnxkkhxbngich emuximmihnakak CDC aenanaihichxupkrnpxngknibhna face shield hruxichhnakakthamuxepnthangeluxksudthay ekhruxngchwyhayic phupwyokhwid 19 swnihymixakarimrunaerngthungkhnadtxngichekhruxngchwyhayichruxxupkrnkhlaykn aetphupwycanwnhnungcaepntxngich chnidkhxngkarchwyhayicinphupwythangedinhayiclmehlwenuxngcakokhwid 19 kalngmikarsuksasahrbphupwyinorngphyabal aelamihlkthanbangthiwasamartheliyngkaristhxchwyhayiciddwykarbabddwyxxksiecnaebbphsmxakasxtrakarihlsungphanhlxdkhacmuk hruxkarchwyhayicaebbimrukladwyekhruxngihaebbsxngradb BIPAP aetyngimmikhxsrupwasxngwithinikxihekidpraoychnethakbekhruxngchwyhayicinphupwywikvthruxim aephthybangswnniymeluxkichekhruxngchwyhayicaebblwnglahakmi ephraaethkhnikhnichwycakdkaraephrkracaykhxngxnuphakhlaxxnglxyemuxethiybkbhlxdkhacmukkarihlsung phupwyrunaerngswnihyepnphusungxayu khuxxayutngaet 60 pikhunip aelaodyechphaaxyangyingbukhkhlxayumakkwa 80 pi praethsphthnaaelwhlaypraethsmixtraimephiyngphx sungcakdkhidkhwamsamarthkhxngrabbsatharnsukhinkarrbmuxkbkarephimkhunechiybphlnkhxngcanwnphupwyokhwid 19 thimixakarrunaerngthungkhnrbrksainorngphyabal khwamcuthicakdniepnaerngphlkdnsakhysahrbkareriykrxngih thaihesnokhngrab khux karldxtraerwkhxngkarekidphupwyihm aelarksacanwnphupwyinchwngewladhnung ihtalng nganwicyhnunginpraethscinphbwa 5 ekharbkarrksainhnwyxphibal ICU 2 3 txngichekhruxngchwyhayicaela 1 4 esiychiwit inpraethscin phupwyokhwid 19 thirksainorngphyabalpraman 30 sudthaytxngekharksain ICU klumxakarhayiclabakechiybphln karchwyhayicdwyekhruxngchwyhayiccamikhwamsbsxnmakkhunemuxekidphawaaethrksxnepnklumxakarhayiclabakechiybphln ARDS inphupwyokhwid 19 sungcathaihkarihxxksiecnyaklabakmakkhun aephthycaepntxngichekhruxngchwyhayicchnidthimiohmdchwyhayicdwykarkhwbkhumkhwamdn pressure control mode aelasamarthkahndkha PEEP inradbsungid ephuxchwynasngxxksiecnidmakthisudphrxmkbldkhwamesiyngkhxngkarekidaelaophrngeyuxhumpxdmixakasihnxythisud ekhruxngchwyhayicaebbekabangpraephthxacimsamarthihkarchwyhayicaebbmi PEEP sungid mixtrataysunginphupwyokhwid 19 thitxngichekhruxngchwyhayic sungechuxwaenuxngcakphayuisotikhn smakhmwithyaphumikhumknaelaphumiaephxxstraelesiyaenanaihphicarnakhdkhwangrabb inorkhrunaerngodyerw aelarwmxyuinkhxphicarnainaenwthangkarrksahlaypraeths thangeluxksahrb ARDSkarbabd khxaenanaxxksiecnaebbphsmxakasxtrakarihlsung sahrb SpO2 lt 93 xacpxngknkhwamcaepntxngichkaristhxchwyhayicaelaekhruxngchwyhayicprimatrhayicekhaxxk 6 ml kk aelasamarthldlngehlux 4 ml kk khwamdnthangedinhayicrab rksaihtakwa 30 cmH2O thaepnipid xactxngichxtrakarhayicsung 35 khrngtxnathi khwamdnbwkthisudkarhayic radbpanklangthungsungkarcdthanxnkhwa sahrbkarthaihxxksiecnaeylngkarcdkarsarna epahmaykhuxdultidlb 0 5 1 litrtxwnyaptichiwna sahrbkartidechuxaebkhthieriythtuyiphumiimaenanakarrksakhnthdlxng erimkarwicyhakarrksathimiskyphaphineduxnmkrakhm 2563 aelayataniwrshlaytwxyurahwangkarthdlxngthangkhlinik Remdesivir duehmuxncamiaenwonmmakthisud aemwayaihmxacichewlaphthnacnthungpi 2564 yahlaychnidthikalngthdsxbidrbkarxnumtisahrbichxyangxunhruxxyuinkarthdsxbkhnsungaelw xacthdlxngichyataniwrsinphupwyxakarrunaerng WHO aenanaihxasasmkhrmiswnrwminkarthdlxngprasiththiphaphaelakhwamplxdphykhxngkarrksathimiskyphaph FDA xnuyatchwkhrawaekepnkarrksakhnthdlxnginphupwysungchiwitthukkhukkhamrayaernghruxthnthi thngni yngimphankarsuksathangkhliniksungcaepntxkaraesdngkhwamplxdphyaelaprasiththiphaphsahrborkh ethkhonolyisarsneths ineduxnkumphaphnth 2563 cinepidtwaexphothrsphthmuxthuxephuxrbmuxkarrabadkhxngorkh odycamikarkhxihphuichkrxkchuxaelaelkhpracatwkhxngtn aexphnisamarthtrwccb karsmphsiklchid odyichkhxmulkarsxdsxngduael channcungbxkkhwamesiyngkartidechuxthiepnipid phuichthukkhnsamarthtrwcsxbsthanphaphkhxngphuichxunxiksamkhn haktrwcphboxkasthiepnipid aexphimephiyngcaaenanaihkkorkhtnexngethann yngaecngetuxnkharachkarsatharnsukhthxngthindwy mikarichkarwiekhraahkhxmulkhnadihysungkhxmulothrsphthmuxthux ethkhonolyikarrucaibhna karkhnhaaelatidtamothrsphthmuxthux aelapyyapradisthinkartidtamphutidechuxaelaphuthismphskbphutidechuxinekahliit ithwnaelasingkhopr ineduxnminakhm 2563 rthbalxisraexlepidichnganhnwyngankhwammnkhnginkarkhnhaaelatidtamkhxmulothrsphthmuxthuxkhxngphuthitxngsngsywatidiwrsokhorna matrdardngklawnamaichephuxichbngkhbkarkkorkhaelakhumkhrxngphuthixacsmphskbphlemuxngthitidechux nxkcakniineduxnminakhm 2563 dxythechxethelxkhxmaebngpnkhxmultaaehnngothrsphthrwmkbhnwyngankhxngrthbalklangeyxrmn sthabnoraebrth khxkh ephuxwicyaelapxngknkaraephrkracaykhxngiwrs rsesiyichethkhonolyirucaibhnaephuxtrwccbphufafunkarkkorkh Giulio Gallera phutrwckarsatharnsukhphumiphakhkhxngxitali klawwaekhaidrbaecngcakphuihbrikarothrsphmekhluxnthiwa prachachn 40 yngkhngedinthangxyu rthbaleyxrmndaeninkaraehkkathxnsudspdahepnewla 48 chwomng odymiphuekharwmmakkwa 42 000 khn nxkcakniprathanathibdi Kersti Kaljulaid aehngexsoteniyyngeriykrxngthwolkihmithangxxkxyangsrangsrrkhtxkarrabadkhxngiwrsokhorna karprakhbprakhxngcitic bukhkhlxacprasbthukkhcakkarkkorkh karcakdkaredinthang phlkhangekhiyngkhxngkarrksaaelakhwamklworkh ephuxcdkarkbkhwamkngwlehlani khnakrrmkarsukhphaphaehngchatikhxngcincdphimphaenwthangptibtiradbchatisahrbkarrbmuxwikvtcitwithyaemuxwnthi 27 mkrakhm 2563 edxaaelnsit ephyaephrkhxeriykrxng 14 hnasungennsahrachxanackraelarabusphaphsungphbpyhasukhphaphcithlayxyangbxykhun bibisiykkhaphudkhxngrxi oxkhxnenxrthiwa karephimkaraeyksnodsthangsngkhm khwamepliywehnga khwamkngwlthangsukhphaph khwamekhriydaelaphawaesrsthkic BBC xangthung Rory O Connor odyklawwa khwamoddediywthangsngkhmthiephimkhunkhwamehngakhwamwitkkngwldansukhphaphkhwamekhriydaelaphawaesrsthkickhalngepnphayuchnelisinkartharaysukhphaphcitaelakhwamepnxyuthidikhxngprachachn phyakrnorkhkhwamrunaerngkhxngphupwyokhwid 19 thiidrbkarwinicchyinpraethscinxtrapwytayaebngtamklumxayu praethscin cnthung 11 kumphaphnth 2563 praethsekahliit cnthung 17 krkdakhm 2563 praethssepn cnthung 18 phvsphakhm 2563 praethsxitali cnthung 3 mithunayn 2563xtrapwytayinpraethscinodykhunkbpyhasukhphaphxun khxmulthung 11 kumphaphnth 2563canwnphuesiychiwittxphupwythnghmdaebngtampraeths aelaxtrapwytayodypraman khwamrunaerngkhxngokhwid 19 mihlayradb orkhxacdaeninaebbebaodyimmixakarhruxmixakarephiyngelknxy odykhlaykborkhthangedinhayicswnbnthiphbthwipxyangxun echn orkhhwd phupwyebatrngaebbhaydiphayinsxngspdah swnphupwyrunaernghruxwikvtxacichewlahaysamthunghkspdah inbrrdaphuesiychiwitnn ewlatngaeterimmixakarthungesiychiwitxyurahwangsxngthungaepdspdah edkiwtxorkh aetmiaenwonmmixakarrunaerngnxykwa aelamioxkasepnorkhrunaerngnxykwaphuihy inphupwyxayunxykwa 50 pimioxkasesiychiwitnxykwa 0 5 swnphuxayumakkwa 70 pimioxkasmakkwa 8 hyingmikhrrphxacmikhwamesiyngtidokhwid 19 runaerngsungkwaodyxasykhxmulcakiwrskhlaykn xyangorkhsarsaelaemxs aetyngkhadkhxmulsahrbokhwid 19 bangkarsuksaphbwa xtraswnniwothrfiltxemdeluxdkhaw NLR xacmipraoychninkartrwckhdkrxngkarpwyrunaerngebuxngtn phupwyokhwid 19 thiesiychiwitcanwnnmakmiorkhphunedim echn khwamdnolhitsung orkhebahwanaelaorkhrabbhwicaelahlxdeluxd Istituto Superiore di Sanita raynganwacak 8 8 khxngphuesiychiwitthimiewchraebiynihthbthwn phupwythiidrbsumtwxyang 97 2 miorkhrwmxyangnxyhnungorkh odyphupwymiorkhrwmechliykhnla 2 7 orkh tamraynganediywkn rayaewlamthythanrahwangerimtnmixakaraelaesiychiwitkhux 10 wn odyhawnepnwnthirbrksainorngphyabal xyangirkdi phupwythiidrbkaryayekha ICU miewlamthythan 7 wntngaetrbrksainorngphyabalaelaesiychiwit inkarsuksaphupwychwngtn ewlamthythantngaetaesdngxakarerimaerkthungesiychiwitkhux 14 wn odymiphisyrahwang 6 thung 41 wn inkarsuksaodykhnakrrmkarsukhphaphaehngchati NHC khxngcin chaymixtratay 2 8 swnhyingmixtratay 1 7 kartrwcthangculphyathiwithyakhxngtwxyangpxdhlngesiychiwitaesdngihehnkhwamesiyhaykhxngthulmaebbaephkracay diffuse alveolar damage odymisingsumeyimkhunifobrmiksxydkhxngesll cellular fibromyxoid exudates inpxdsxngkhang karepliynaeplngthiekidphyathisphaphtxesll cytopathic khxngiwrssngektidinesllpxd phaphpxdcadukhlayklumxakarhayiclabakechiybphln ARDS inphuesiychiwit 11 8 thikhnakrrmkarsukhphaphaehngchatikhxngcinrayngan phbkhwamesiyhaytxhwicodymiradbsungkhunhruxhwichyud cakkhxmulemuxeduxnminakhm 2563 cakshrth 89 khxngphuidrbrksainorngphyabalmiorkhphunedim khwamphrxmkhxngthrphyakrkaraephthyaelaesrthkicsngkhmkhxngphumiphakhhnungxacmiphltxxtratay karpramanxtrataycakorkhaetktangknidxnenuxngcakkhwamaetktangkhxngphumiphakh aetyngmisaehtumacakkhwamlabakin raebiybwithikhxngkhxmuldwy karnbphupwyxakarebanxykwacringxacthaihpramanxtrataysungekin xyangirkdikhxethccringthiwakaresiychiwitepnphlkhxngphupwythitidorkhinxditxachmaykhwamwaxtrataypramanidtaekin phusubbuhrimioxkasekidxakarrunaerngkhxngokhwid 19 khidepn 1 4 ethaaelamioxkastxngkarkarxphibalhruxesiychiwitkhidepn 2 4 ethaemuxethiybkbphuimsubbuhri mikarykkhxkngwlekiywkbphltamrayayawkhxngorkh xngkhkarorngphyabalhxngkngphbwasmrrthphaphpxdldlng 20 thung 30 inphupwybangraythihaycakorkh aelakarsaeknpxdphbkhwamesiyhaytxxwywa ehtuniyngxacnaipsuklumxakarhlngkarxphibalhlnghayaelw xtrapwytay tamxayuaelapraeths xayu 0 9 10 19 20 29 30 39 40 49 50 59 60 69 70 79 80 89 90 praethscin n wnthi 11 kumphaphnth 0 0 0 2 0 2 0 2 0 4 1 3 3 6 8 0 14 8ednmarkemuxwnthi 19 phvsphakhm 0 2 4 1 16 6 27 6 48 1xitaliemuxwnthi 27 phvsphakhm 0 2 0 0 0 1 0 3 0 9 2 7 10 6 25 8 32 0 29 2enethxraelndemuxwnthi 20 phvsphakhm 0 0 0 2 0 1 0 3 0 5 1 7 8 1 25 5 32 7 33 9ekahliit n wnthi 24 phvsphakhm 0 0 0 0 0 0 0 2 0 2 0 8 2 8 10 9 26 3sepnemuxwnthi 17 phvsphakhm 0 2 0 3 0 2 0 3 0 6 1 4 4 9 14 3 21 0 22 3switesxraelnd n wnthi 20 phvsphakhm 0 0 0 0 0 0 0 1 0 1 0 6 3 3 11 5 27 9xtrapwytay tamxayuinshrth xayu 0 19 20 44 45 54 55 64 65 74 75 84 85 shrth n wnthi 16 minakhm 0 0 0 1 0 2 0 5 0 8 1 4 2 6 2 7 4 9 4 3 10 5 10 4 27 3hmayehtu khxbekhtlangrwmphupwythukray khxbekhtbnimnbrwmphupwythikhadkhxmulphyakrnorkhodypramantamxayuaelaephsodyxasyphupwycakpraethsfrngessaelaerux idxamndpriness rxylakhxngphutidechuxthirbrksainorngphyabal0 19 20 29 30 39 40 49 50 59 60 69 70 79 80 rwmhying 0 2 0 1 0 3 0 6 0 3 0 9 1 1 0 7 1 8 1 6 0 9 2 4 3 2 1 9 4 9 6 2 3 7 9 6 9 6 5 7 14 8 23 6 14 0 36 4 3 2 1 9 5 0 chay 0 2 0 1 0 3 0 7 0 4 1 1 1 4 0 9 2 2 1 9 1 1 3 0 3 9 2 3 6 1 8 1 4 8 12 6 13 4 8 0 20 7 45 9 27 3 70 9 4 0 2 4 6 2 rwm 0 2 0 1 0 3 0 6 0 4 1 0 1 3 0 8 2 0 1 7 1 0 2 7 3 5 2 1 5 4 7 1 4 2 11 0 11 3 6 7 17 5 32 0 19 0 49 4 3 6 2 1 5 6 rxylakhxngphupwyrbrksainorngphyabalthiekhahnwyxphibal0 19 20 29 30 39 40 49 50 59 60 69 70 79 80 rwmhying 16 7 14 4 19 2 8 6 7 5 9 9 11 9 10 9 13 0 16 6 15 6 17 7 20 7 19 8 21 7 23 1 22 2 24 0 18 7 18 0 19 5 4 2 4 0 4 5 14 3 13 9 14 7 chay 26 9 23 2 31 0 14 0 12 2 15 9 19 2 17 6 20 9 26 9 25 3 28 5 33 4 32 0 34 8 37 3 36 0 38 6 30 2 29 2 31 3 6 8 6 5 7 2 23 1 22 6 23 6 rwm 22 2 19 2 25 5 11 5 10 1 13 2 15 9 14 6 17 3 22 2 21 0 23 5 27 6 26 5 28 7 30 8 29 8 31 8 24 9 24 1 25 8 5 6 5 3 5 9 19 0 18 7 19 44 rxylakhxngphuthirbrksainorngphyabalaelwesiychiwit0 19 20 29 30 39 40 49 50 59 60 69 70 79 80 rwmhying 0 5 0 2 1 1 0 9 0 5 1 3 1 5 1 2 1 9 2 6 2 3 3 0 5 2 4 8 5 6 10 1 9 5 10 6 16 7 16 0 17 4 25 2 24 4 26 0 14 4 14 0 14 9 chay 0 7 0 3 1 5 1 3 0 8 1 9 2 2 1 7 2 7 3 8 3 4 4 4 7 6 7 0 8 2 14 8 14 1 15 6 24 6 23 7 25 6 37 1 36 1 38 2 21 22 20 8 21 7 rwm 0 6 0 3 1 3 1 1 0 7 1 6 1 9 1 5 2 3 3 3 2 9 3 7 6 5 6 0 7 0 12 6 12 0 13 2 21 0 20 3 21 8 31 6 30 9 32 4 18 1 17 8 18 4 rxylakhxngphutidechuxaelwesiychiwit xtratidechuxtay IFR 0 19 20 29 30 39 40 49 50 59 60 69 70 79 80 rwmhying 0 001 lt 0 001 0 002 0 005 0 002 0 009 0 02 0 01 0 03 0 04 0 02 0 07 0 2 0 1 0 3 0 6 0 4 1 0 1 6 1 0 2 5 5 9 3 5 9 2 0 5 0 3 0 7 chay 0 001 lt 0 001 0 003 0 008 0 004 0 02 0 03 0 02 0 05 0 07 0 04 0 1 0 3 0 2 0 5 1 2 0 7 1 9 3 3 2 0 5 1 17 1 10 1 26 3 0 8 0 5 1 3 rwm 0 001 lt 0 001 0 002 0 007 0 003 0 01 0 02 0 01 0 04 0 06 0 03 0 09 0 2 0 1 0 36 0 9 0 5 1 4 2 4 1 4 3 7 10 1 6 0 15 6 0 7 0 4 1 0 canwninwngelbkhux 95 sahrbkhapramanphumikhumkn n eduxnemsayn 2563 yngimthrabwakartidechuxinxditkxihekidphumitumknthimiprasiththiphaphaelakhngxyurayayawinbukhkhlthihaycakorkhhruxim miraynganwaphuekhytidechuxbangkhnekidsarphumitanthanpxngknorkh channcungsnnisthanwaphumikhumknaebbrbmamikhwamepnipid odyxasykhxmulcakphvtikrrmkhxngiwrsokhornachnidxun miraynganphupwythihaycakokhwid 19 thitidtamaelwkarthdsxbiwrsokhornaepnbwkinphayhlng xyangirkdi echuxwaepnkartidechuxnan lingering makkwakartidechuxsa hruxepnphlbwklwngenuxngcakchinswnxarexnexthihlngehluxxyu karsxbswnbukhkhl 285 khnody CDC ekahlisungphltrwc SARS CoV 2 inkarthdsxb PCR epnbwkhlnghayokhwid 19 aelwhlaywnthunghlayspdahimphbhlkthanwapceckehlanitidtxthangsmphsinchwngewlahlngni iwrsokhornachnidxunbangtwthiyngtidechuxinmnusysamarthtidechuxsaidhlngewlaphanip 1 piprawtisastrechuxwaiwrsniekidkhuntamthrrmchatiaelamitnkaenidcakstw phan yngimthrabtnkaenidaethcring aetineduxnthnwakhm 2562 karaephrkracaykartidechuxekidkhunaethbthnghmdcakkhnsukhn karsuksaphupwyokhwid 19 yunynaelw 41 rayaerk sungtiphimphinedxaaelnsitemuxeduxnmkrakhm 2563 epidephywawnerimtnxakarwnaerksudidaekwnthi 1 thnwakhm 2562 singphimphephyaephrxyangepnthangkarcak WHO raynganwaxakarerimtnerwthisudkhuxwnthi 8 thnwakhm 2562 WHO aelathangkarcinyunynkartidtxcakkhnsukhninwnthi 20 mkrakhm 2563withyakarrabadmikarichmatrkartang odythwipephuxwdxtratay twelkhehlaniaetktangkntamphumiphakhaelachwngewla aelaidrbxiththiphlcakprimankarthdsxb khunphaphkhxngrabbksatharnsukh tweluxkkarrksa ewlatngaetkarrabadkhrngaerkaelalksnaprachakr echn xayu ephs aelasukhphaphodyrwm xtraswnesiychiwittxphupwysathxncanwnphuesiychiwithardwycanwnphupwythiidrbwinicchyinchwngewlahnung odyxasysthitimhawithyalycxhn hxpkins xtraswnesiychiwittxphupwythwolkxyuthi 345 442 5 435 789 n 25 phvsphakhm 2563 canwndngklawaetktangkntamphumiphakh matrkarxun idaek xtrapwytay CFR sungsathxnrxylakhxngphupwyidrbwinicchythiesiychiwitcakorkhaelaxtratidechuxtay IFR sungsathxnrxylakhxngphutidechux thngthiidrbwinicchyaelaimidrbwinicchy thiesiychiwitcakorkh sthitiehlaniimphukkbewlaaelatidtamprachakrcaephaacakkartidechuxphankarhaykhxngphupwy nkwichakarcanwnhnungphyayamkhanwncanwnehlanisahrbprachakrcaephaa ekidkarrabadineruxncaenuxngcakkhwamaexxdaelaimsamarthbngkhbichkarewnrayahangthangsngkhmxyangehmaasmid inshrth prachakreruxncasungxayumakkhunaelacannwmakmikhwamesiyngsungthicamiphllphthelwcakokhwid 19 enuxngcakmiorkhhwicaelapxdrwmsungaelaekhathungsatharnsukhkhunphaphdiidnxy phupwyyunynaelwtamewla phuesiychiwitthnghmdtamewla canwnphuidrbkaryunynokhwid 19 txlankhn yxdphuesiychiwityunyncakokhwid 19 txlankhnxtratidechuxtay Our World in Data aethlngwacnthungwnthi 25 minakhm 2563 IFR imsamarthkhanwnidxyangaemnya ineduxnkumphaphnth klumwicyhnungpraman IFR iwthi 0 94 odymichwngkhwamechuxmnrahwang 0 37 thung 2 9 sunyaephthysastrxinghlkthanmhawithyalylxndxn CEBM praman GFR 0 8 thwolkiwthi 9 6 thbthwnlasud 30 emsayn aela IFR 0 10 thung 0 41 thbthwnlasud 2 phvsphakhm cakkhxmulkhxng CEBM karthdsxbsarphumitanthanaebbsuminpraethseyxrmnipraman IFR iw 0 37 0 12 thung 0 87 aetmikhxkngwlekiywkbphlbwklwng khxbekhtlangkhxngxtratidechuxtayphbaelwinhlaythi n wnthi 7 phvsphakhm innkhrniwyxrksungmiprachakr 8 4 lankhn miphuesiychiwitcakokhwid 19 canwn 14 162 khn 0 17 inaekhwnaebrkaom praethsxitali prachakresiychiwit 0 57 wnthi 1 phvsphakhm karthdsxbsarphumitanthaninrthniwyxrkesnx IFR thi 0 86 khwamaetktangrahwangephs phlkrathbaelaxtrataykhxngokhwid 19 aetktangknrahwangchayaelahying xtratayinchaysungkwahyinginkarsuksainpraethscinaelaxitali khwamesiyngsungsudsahrbchaykhuxinchwngxayu 50 59 pi odychxngwangrahwangchayaelahyingbrrcbknthixayu 90 piethann inpraethscinxtratayxyuthirxyla 2 8 sahrbchayaela 1 7 sahrbhying yngimthrabsaehtuaenchdkhxngkhwamaetktangrahwangephs aetpccythangphnthukrrmaelaphvtikrrmxacepnehtuphl khwamaetktangthangphumikhumknthiekidcakephsaelakhwamchukkhxngkarsubbuhriinhyingemuxethiybkbchay aelachaythiekidorkhrwmxyangkhwamdnolhitsunginxayunxykwahyingxacsngesrimihxtratayinchaysungkwa inthwipyuorp phutidechux 57 epnchayaelaphuesiychiwitcakokhwid 19 epnchay 72 cnthungeduxnemsayn 2563 rthbalshrthimidtidtamkhxmulthiekiywkhxngkbephskhxngkartidechuxokhwid 19 karwicyaesdngwakarecbpwycakiwrs echn xiobla exchixwi ikhhwdihyaelaorkhsarssngphlkrathbtxchayaelahyingtangkn ecahnathisatharnsukhodyechphaaxyangyingphyabalepnhyingmakkwachay aelamioxkassmphsiwrssungkwa karpidorngeriyn karhamekhaxxk lockdown aelaldkarekhathungsatharnsukhhlngkarrabadthwkhxngiwrsokhornainpi 2562 2563 xacmiphltxsxngephstangkn aelaxackhyaykhwamaetktangrahwangephsthimixyuihmakkhunxiksngkhmaelawthnthrrmkartngchux xngkhkarxnamyolkprakasemuxwnthi 11 kumphaphnth 2563 wachuxthangkarkhxngorkhnikhux okhwid 19 COVID 19 hwhna WHO etowodrs xdhaonm ekxebrxxieyxsus xthibaywa CO macakkhawa okhorna corona VI macakkhawa iwrs virus iwrs D macakkhawa orkh disease aela 19 epnpithimikarrabukarrabadkhrngaerk 31 thnwakhm 2019 eluxkchuxniephuxeliyngkarphadphingipyngtaaehnngphumisastrcaephaa echn cin chnidstwhruxklumkhn tamkhaaenanacaknanachatisahrbkartngchuxephuxpxngknkartitra iwrsthikxokhwid 19 michuxwa iwrsokhornaklumxakarhayicechiybphlnrunaerng 2 SARS CoV 2 nxkcakni WHO ichwli iwrsokhwid 19 ephimetimaela iwrsthikxihekidokhwid 19 inkarsuxsarsatharna mikartngchuxiwrsokhornainpi 2511 emuxphbkhrngaerkinklxngculthrrsnxielktrxn sungchwnihkhidthungokhornakhxngdwngxathity khawa Corona hmaythungmngkudinphasalatin thngorkhaelaiwrsmkeriykknwa iwrsokhorna rahwangkarrabadkhrngaerkinxuhn praethscin odythwiperiykiwrsaelaorkhwa iwrsokhorna aela iwrsokhornaxuhn bangthieriyk orkhpxdbwmxuhn ineduxnmkrakhm 2563 xngkhkarxnamyolkaenanaihich 2019 nCov aelaorkhthangedinhayicechiybphln 2019 nCoV epnchuxchwkhrawsahrbiwrsaelaorkhtamaenwthangkarichsthanthiinchuxorkhaelaiwrs thngni hlayorkhinxditidchuxtamsthanthiphumisastr echn ikhhwdihysepnorkhthangedinhayictawnxxkklang aelaiwrssika khxmulthiphid hlngcakthikarrabadkhxngokhwid 19 khnaerk ekidthvsdismkhbkhid khxmulthiphidaelabidebuxnekiywkbkaenid khnad karpxngkn karrksa aeladanxunkhxngorkh aelamikaraephrkracayxyangrwderwxxnilnstwxunduehmuxnwamnusysamarthaephrechuxiwrsipyngstwxun aemweliynginliaeych praethsebleyiym miphltrwcepnbwkhlngmnerimaesdngxakar thxngrwng xaeciyn hayicthi hnungspdahhlngecakhxngthiphlepnbwkechnknesuxinswnstwbrxngs miphltrwciwrsepnbwkaelaaesdngxakarkhxngokhwid 19 rwmthungxakarixaehngaelaebuxxahar karsuksaekiywkbstweliyngthiidrbkarplukechuxiwrsphbwa aemwaelaphngphxnduehmuxnca iwmak txorkh inkhnathihmadumikhwamiwnxykwa odymiradbkarthayaebbiwrstakwa karsuksaniimphbhlkthankarthayaebbiwrsinhmu epd aelaikkarwicyyngimmiyahruxwkhsinididrbxnuyatihrksaorkh karwicyrahwangpraethsdanwkhsinaelayainokhwid 19 kalngdaeninxyuodyxngkhkarrthbal klumwichakaraelankwicyxutsahkrrm ineduxnminakhm xngkhkarxnamyolkrierim karthdlxngsxliaedriti ephuxpraeminphlkarrksakhxngsartaniwrs 4 chnidthimixyuaelwsungmihwngprasiththiphaphsungsud xngkhkarxnamyolkybyngihdrxksikhlxorkhwincakkarthdlxngyathwolksahrbkarrksaokhwid 19 inwnthi 26 phvsphakhth 2563 kxnhnanixngkhkar khunthaebiynphupwy 3 500 khncak 17 praethsinkarthdlxngsxliaedriti praethsfrngess xitaliaelaebleyiymhamichihdrxksikhlxorkhwinsahrbrksaokhwid 19 ya mikarsrupkarthdlxngprasiththiphlrayathi 2 4 inokhwid 19 canwn 29 karthdlxngineduxnminakhm 2563 hruxmikahndidphllphthmneduxnemsayncakorngphyabalinpraethscin mikarthdlxngthangkhlinikdaeninxyukwa 300 karthdlxngineduxnemsayn 2563 karthdlxngecdkarthdlxngkalngpraeminphlkarrksaorkhmalaeriythiidrbxnumtiaelw tlxdcnkarsuksaekiywkbihdrxksikhlxorkhwinhruxkhlxorkhwinyataniwrsthimikarepliynwtthuprasngkhihmepnkarwicykhxngcinthiphbmakthisud odymikarthdlxngyaermedssiewiyrayathi 3 canwn 9 karthdlxnginhlaypraethsthimikahndraynganinplayeduxnemsayn sarxunthimiskyphaphinkarthdlxng idaek yakhyayhlxdeluxd khxrtiokhsetiyrxyd phumikhumknbabd krdiloxxik ebwasisuaemb aelaexnismaeplngaexncioxethnsin 2 sayphsm recombinant ACE2 aenwrwmkarwicykhlinikokhwid 19 miepahmayephux 1 xanwykhwamsadwkihkhnakrrmkarcriythrrmaelahnwyngankakbradbchatithbthwnkhxesnxkarthdlxngthangkhlinikxyangrwderw 2 erngrdkarxnumtisarprakxbephuxkarrksathiidrbkarphicarna 3 rbpraknkarwiekhraahthiepnmatrthanaelarwderwkhxngkhxmulprasithaphlaelakhwamplxdphythiekidkhunihm aela 4 xanwykhwamsadwkinkaraebngpnphlkarthdlxngthangkhlinikkxntiphimph n eduxnemsayn 2563 mikarthbthwnaebbphlwtsungkarphthnathangkhliniksahrbsarthiidrbkarphicarnaepnwkhsinaelaya okhwid 19 khxngphusmkhrxyuinkhnathiemsayn 2563 khnanikalngmikarpraeminyataniwrsthimixyuhlaytwsahrbkarrksaokhwid 19 rwmthungermedsiewiyr khlxorkhwinaelaihdrxksikhlxorkhwin olpinaewiyr riotnaewiyr aelaolpinaewiyr riotnaewiyrrwmkn ineduxnminakhm 2563 mihlkthanebuxngtnsahrbprasiththiphlkhxngermedsiewiyr phbxakarthangkhlinikdikhuninphupwythiidrbkarrksadwyermedsiewiyrsungepnkarichxyangkarun compassionate use ermedsiewiyrybyng SARS CoV 2 kalngmikarthdlxngthangkhlinikrayathi 3 inshrth praethscinaelaxitali inpi 2563 karthdlxnghnungphbwaolpinaewiyr riotnaewiyrimmiprasiththiphaphinkarrksaokhwid 19 runaerng nithaossaind Nitazoxanide idrbkhaaenanaihsuksainkaytxhlngaesdngwamikarybyng SARS CoV 2 khwamekhmkhnta n wnthi 3 emsayn 2020 karthdlxngprasiththiphaphkhxngkarichihdrxksikhlxorkhwinepnkarrksaokhwid 19 ihphllphthxxkmakhlakn aelakarsuksahnungyngaesdngwaxtratayephimkhunrwmkbmiphlkhangekhiyngmakkhundwy karsuksakhlxorkhwinaelaihdrxksikhlxorkhwinthngthiichrwmhruximichkbxasiothrmysinmikhxcakdsakhythithaihchumchnkaraephthyimyxmrbkarbabddngklawodyyxmihmikarsuksaephimetim oxeslthamiewiyr imybyng SARS CoV 2 nxkkayaelaimmibthbathethathithrabinkarrksaokhwid 19 phllphthkarthdlxngthangkhlinikkhntnsungsuksaedksaemthaosninshrachxanackrthiepidephyineduxnmithunaynaesdngwaphupwywikvtthitxngxasyekhruxngchwyhayicmixtratayldlnghnunginsam aelaphupwythitxngrksadwyxxksuecnmixtratayldlnghnunginhainkarthdlxngaebbsumodymiphupwy 11 500 khn aelamikarrksa 6 chnid kartanphayuisotikhn phayuisotikhnxacepnphawaaethrksxninrayahlngkhxngokhwid 19 thirunaerng mihlkthanwaihdrxksikhlxorkhwinmikhunsmbtitanphayuisotikhn othsilisuaemb Tocilizumab rwmxyuinaenwthangkarrksaodykhnakrrmkarsukhphaphaehngchatikhxngcinhlngcakkarsuksakhnadelkesrcsmburn khnanixyurahwangkarthdsxbaebbimsumradbchatirayathi 2 inpraethsxitalihlngaesdngphlbwkinbukhkhlthipwyrunaerng emuxrwmkbkartrwceluxdefxrritinsirmephuxhaphayuisotikhn tngicihyaichottxbphayuisotikhnsungechuxwaepnsaehtutaykhxngphupwybangray FDA xnumtisartantwrbxinetxrliwkhin 6 odyxasykarsuksaphupwyyxnhlngsahrbkarrksaklumxakarhlngisotikhnduxsetiyrxyd steroid refractory cytokine release syndrome CRS sungmikarchknacakxiksaehtuhnung khux karbabdyin Chimeric antigen receptor T cell CAR T cell inpi 2560 cwbcnpccubnimmihlkthanaebbsumaelamikarkhwbkhumwaothsilisuaembepnkarrksathimiprasiththiphaphsahrb CRS karihothsilisuaembephuxpxngknorkhmikaraesdngaelwwaephimradb IL 6 insirmodythaihtwrb IL 6 ximtw khb IL 6 khamtwknrahwangeluxdkbsmxng aelathaihphistxrabbprasathkaeribodyimmiphltxxubtikarnkhxng CRS Lenzilumab sungepnsarphumitanthanomonokhlntan GM CSF mikaraesdngaelwwachwypxngkninaebbcalxng ephuxpxngkninaebbcalxnghnusahrb CRS aelaphistxrabbprasaththiesll CAR T chkna aelaepntweluxkrksathiepnipidenuxngcaksngektphbkarephimkhunkhxngesllthithihlng GM CSF phidpktiinphupwyokhwid 19 thirbrksainorngphyabal sthabnifnstinaehngnxrthewlehlthprakaskarsuksaineduxnminakhmeruxng sarphumitanthankhxngmnusysungxacpxngknkmmntphaph khxng IL 6 sarphumitanthanrbma karthayoxnsarphumitanthanthithaihbrisuththiaelaekhmkhnthiphlitcakrabbphumitumknkhxngbukhkhlthihaycakokhwid 19 aekphuthitxngkarnnxyurahwangkarsxbswnichepnkarihphumikhumknrbmathiimichwkhsin ekhymikarlxngichyuththsastrnikborkhsarsaetphllphthimidkhxsrup karlblangvththikhxngiwrs viral neutralization epnklikkarxxkvththithikhadiwwakarbabddwyphumikhumknrbmacachwypxngkn SARS CoV 2 xyangirkdi klikxunkxacepnipid echn khwamepnphistxesllthixasysarphumikhumkn antibody dependent cellular cytotoxicity aelafaokisothsis karrksadwysarphumitanthanrupaebbxun echn sarphumitanthanomonokhlnthiphlitkhun kalngxyurahwangkarphthna karphlitesrumrayafunorkhsungprakxbdwyswnthiepnkhxngehlwcakolhitkhxngphupwythihayaelwprakxbdwysarphumitanthanthicaephaakbiwrs xacephimkhunephuxihichnganiderwkhunechingxrrthWHO niyamwakarsmphsiklchidhmaythung 1 emtr aela CDC niyamwa 1 8 emtr karixthiimpidpakxacpliwipidiklthung 8 2 emtrxangxingChen N Zhou M Dong X Qu J Gong F Han Y aelakhna February 2020 Epidemiological and clinical characteristics of 99 cases of 2019 novel coronavirus pneumonia in Wuhan China a descriptive study Lancet 395 10223 507 513 doi 10 1016 S0140 6736 20 30211 7 PMC 7135076 PMID 32007143 Han X Cao Y Jiang N Chen Y Alwalid O Zhang X aelakhna March 2020 Novel Coronavirus Pneumonia COVID 19 Progression Course in 17 Discharged Patients Comparison of Clinical and Thin Section CT Features During Recovery Clinical Infectious Diseases doi 10 1093 cid ciaa271 PMC 7184369 PMID 32227091 Covid 19 n Oxford English Dictionary subkhnemux 15 April 2020 Interim Clinical Guidance for Management of Patients with Confirmed Coronavirus Disease COVID 19 U S Centers for Disease Control and Prevention CDC 6 April 2020 cakaehlngedimemux 2 March 2020 subkhnemux 19 April 2020 Symptoms of Coronavirus U S Centers for Disease Control and Prevention CDC 22 February 2021 cakaehlngedimemux 4 March 2021 subkhnemux 4 March 2021 World Health Organization WHO 17 April 2020 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 14 May 2020 subkhnemux 14 May 2020 Nussbaumer Streit B Mayr V Dobrescu AI Chapman A Persad E Klerings I aelakhna April 2020 Quarantine alone or in combination with other public health measures to control COVID 19 a rapid review The Cochrane Database of Systematic Reviews 4 CD013574 doi 10 1002 14651858 CD013574 PMC 7141753 PMID 32267544 COVID 19 Dashboard by the Center for Systems Science and Engineering CSSE at Johns Hopkins University JHU Johns Hopkins University subkhnemux 4 July 2021 prakaskrathrwngsatharnsukh eruxng chuxaelaxakarsakhykhxngorkhtidtxxntray chbbthi 3 ph s 2563 2563 29 kumphaphnth rachkiccanuebksa elm 137 txnphies 48 ng hna 1 Coronavirus disease 2019 COVID 19 Symptoms and causes Mayo Clinic subkhnemux 2020 04 14 Hui DS I Azhar E Madani TA Ntoumi F Kock R Dar O aelakhna February 2020 The continuing 2019 nCoV epidemic threat of novel coronaviruses to global health The latest 2019 novel coronavirus outbreak in Wuhan China International Journal of Infectious Diseases 91 264 266 doi 10 1016 j ijid 2020 01 009 PMC 7128332 PMID 31953166 World Health Organization WHO Press release 11 March 2020 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 11 March 2020 subkhnemux 12 March 2020 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux entuk anosmia Grainger S Australasian Society of Clinical Immunology and Allergy ASCIA khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2020 06 16 subkhnemux 2 May 2020 Murthy S Gomersall CD Fowler RA March 2020 Care for Critically Ill Patients With COVID 19 JAMA 323 15 1499 doi 10 1001 jama 2020 3633 PMID 32159735 Cascella M Rajnik M Cuomo A Dulebohn SC Di Napoli R 2020 Features Evaluation and Treatment Coronavirus COVID 19 StatPearls Treasure Island FL StatPearls Publishing PMID 32150360 subkhnemux 18 March 2020 Bikdeli B Madhavan MV Jimenez D Chuich T Dreyfus I Driggin E aelakhna April 2020 COVID 19 and Thrombotic or Thromboembolic Disease Implications for Prevention Antithrombotic Therapy and Follow up Journal of the American College of Cardiology doi 10 1016 j jacc 2020 04 031 PMC 7164881 PMID 32311448 Velavan TP Meyer CG March 2020 The COVID 19 epidemic Tropical Medicine amp International Health 25 3 278 280 doi 10 1111 tmi 13383 PMC 7169770 PMID 32052514 Centers for Disease Control and Prevention CDC 2 April 2020 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux April 3 2020 subkhnemux April 3 2020 Bourouiba L March 2020 Turbulent Gas Clouds and Respiratory Pathogen Emissions Potential Implications for Reducing Transmission of COVID 19 JAMA doi 10 1001 jama 2020 4756 PMID 32215590 Q amp A on COVID 19 European Centre for Disease Prevention and Control subkhnemux 30 April 2020 Centers for Disease Control and Prevention CDC 11 February 2020 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 4 March 2020 subkhnemux 26 March 2020 Salehi S Abedi A Balakrishnan S Gholamrezanezhad A March 2020 Coronavirus Disease 2019 COVID 19 A Systematic Review of Imaging Findings in 919 Patients AJR American Journal of Roentgenology 1 7 doi 10 2214 AJR 20 23034 PMID 32174129 American College of Radiology 2020 03 22 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 28 March 2020 World Health Organization WHO khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 26 January 2020 subkhnemux 25 February 2020 GOV UK khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 24 March 2020 subkhnemux 25 March 2020 Centers for Disease Control and Prevention 5 April 2020 Centers for Disease Control and Prevention CDC khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 14 February 2020 subkhnemux 24 April 2020 World Health Organization WHO khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 7 March 2020 subkhnemux 24 April 2020 Feng S Shen C Xia N Song W Fan M Cowling BJ May 2020 Rational use of face masks in the COVID 19 pandemic The Lancet Respiratory Medicine 8 5 434 436 doi 10 1016 S2213 2600 20 30134 X PMC 7118603 PMID 32203710 Tait R 2020 03 30 The Guardian ISSN 0261 3077 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 30 March 2020 subkhnemux 2020 03 31 Centers for Disease Control and Prevention CDC 8 April 2020 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 26 February 2020 subkhnemux 9 April 2020 World Health Organization WHO khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 31 January 2020 subkhnemux 11 February 2020 Mahtani S Berger M O Grady S Iati M 6 February 2020 The Washington Post khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 7 February 2020 subkhnemux 11 February 2020 WHO Situation Report 87 PDF World Health Organization WHO 16 April 2020 Grant MC Geoghegan L Arbyn M Mohammed Z McGuinness L Clarke EL Wade RG 23 June 2020 The prevalence of symptoms in 24 410 adults infected by the novel coronavirus SARS CoV 2 COVID 19 A systematic review and meta analysis of 148 studies from 9 countries PLOS ONE 15 6 e0234765 Bibcode 2020PLoSO 1534765G doi 10 1371 journal pone 0234765 PMC 7310678 PMID 32574165 S2CID 220046286 Clinical characteristics of COVID 19 European Centre for Disease Prevention and Control subkhnemux 29 December 2020 Paderno A Mattavelli D Rampinelli V Grammatica A Raffetti E Tomasoni M aelakhna December 2020 Olfactory and Gustatory Outcomes in COVID 19 A Prospective Evaluation in Nonhospitalized Subjects Otolaryngology Head and Neck Surgery 163 6 1144 1149 doi 10 1177 0194599820939538 PMC 7331108 PMID 32600175 Chabot AB Huntwork MP September 2021 Turmeric as a Possible Treatment for COVID 19 Induced Anosmia and Ageusia Cureus 13 9 e17829 doi 10 7759 cureus 17829 PMC 8502749 PMID 34660038 Niazkar HR Zibaee B Nasimi A Bahri N July 2020 The neurological manifestations of COVID 19 a review article Neurological Sciences 41 7 1667 1671 doi 10 1007 s10072 020 04486 3 PMC 7262683 PMID 32483687 Multiple sources Oran DP Topol EJ January 2021 The Proportion of SARS CoV 2 Infections That Are Asymptomatic A Systematic Review Annals of Internal Medicine 174 5 655 662 doi 10 7326 M20 6976 PMC 7839426 PMID 33481642 Transmission of COVID 19 European Centre for Disease Prevention and Control subkhnemux 6 December 2020 Nogrady B November 2020 What the data say about asymptomatic COVID infections Nature 587 7835 534 535 Bibcode 2020Natur 587 534N doi 10 1038 d41586 020 03141 3 PMID 33214725 Gao Z Xu Y Sun C Wang X Guo Y Qiu S Ma K February 2021 A systematic review of asymptomatic infections with COVID 19 Journal of Microbiology Immunology and Infection Wei Mian Yu Gan Ran Za Zhi 54 1 12 16 doi 10 1016 j jmii 2020 05 001 ISSN 1684 1182 PMC 7227597 PMID 32425996 Oran Daniel P and Eric J Topol Prevalence of Asymptomatic SARS CoV 2 Infection A Narrative Review Annals of Internal Medicine vol 173 5 2020 362 367 doi 10 7326 M20 3012 PMID 32491919 Retrieved 14 January 2021 Lai CC Liu YH Wang CY Wang YH Hsueh SC Yen MY aelakhna June 2020 Asymptomatic carrier state acute respiratory disease and pneumonia due to severe acute respiratory syndrome coronavirus 2 SARS CoV 2 Facts and myths Journal of Microbiology Immunology and Infection Wei Mian Yu Gan Ran Za Zhi 53 3 404 412 doi 10 1016 j jmii 2020 02 012 PMC 7128959 PMID 32173241 Furukawa NW Brooks JT Sobel J July 2020 Evidence Supporting Transmission of Severe Acute Respiratory Syndrome Coronavirus 2 While Presymptomatic or Asymptomatic Emerging Infectious Diseases 26 7 doi 10 3201 eid2607 201595 PMC 7323549 PMID 32364890 Gandhi RT Lynch JB Del Rio C October 2020 Mild or Moderate Covid 19 The New England Journal of Medicine 383 18 1757 1766 doi 10 1056 NEJMcp2009249 PMID 32329974 Wiersinga WJ Rhodes A Cheng AC Peacock SJ Prescott HC August 2020 Pathophysiology Transmission Diagnosis and Treatment of Coronavirus Disease 2019 COVID 19 A Review JAMA 324 8 782 793 doi 10 1001 jama 2020 12839 PMID 32648899 S2CID 220465311 Half of young adults with COVID 19 have persistent symptoms after 6 months medicalxpress com subkhnemux 10 July 2021 Blomberg B Mohn KG Brokstad KA Zhou F Linchausen DW Hansen BA aelakhna June 2021 Long COVID in a prospective cohort of home isolated patients Nature Medicine 27 9 1607 1613 doi 10 1038 s41591 021 01433 3 PMC 8440190 PMID 34163090 S2CID 235625772 CDC 11 February 2020 COVID 19 and Your Health Centers for Disease Control and Prevention subkhnemux 23 January 2021 Getting a handle on asymptomatic SARS CoV 2 infection Scripps Research www scripps edu phasaxngkvs subkhnemux 2020 05 16 National Institutes of Health 17 March 2020 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 23 March 2020 subkhnemux 30 April 2020 To KK Tsang OT Chik Yan Yip C Chan KH Wu TC Chan JM aelakhna February 2020 Consistent detection of 2019 novel coronavirus in saliva Clinical Infectious Diseases Oxford University Press doi 10 1093 cid ciaa149 PMC 7108139 PMID 32047895 COVID 19 and Our Communities ACON We are a New South Wales based health promotion organisation specialising in HIV prevention HIV support and lesbian gay bisexual transgender and intersex LGBTI health Acon org au subkhnemux 2020 04 29 Sex and Coronavirus Disease 2019 COVID 19 PDF nyc gov 27 March 2020 subkhnemux 29 April 2020 Tran K Cimon K Severn M Pessoa Silva CL Conly J 2012 Aerosol generating procedures and risk of transmission of acute respiratory infections to healthcare workers a systematic review PLOS ONE 7 4 e35797 Bibcode 2012PLoSO 735797T doi 10 1371 journal pone 0035797 PMC 3338532 PMID 22563403 Novel Coronavirus Information for Clinicians PDF Australian Government Dept of Health Outbreak of severe acute respiratory syndrome coronavirus 2 SARS CoV 2 increased transmission beyond China fourth update PDF European Centre for Disease Prevention and Control 14 February 2020 subkhnemux 8 March 2020 Zhu N Zhang D Wang W Li X Yang B Song J aelakhna February 2020 A Novel Coronavirus from Patients with Pneumonia in China 2019 The New England Journal of Medicine 382 8 727 733 doi 10 1056 NEJMoa2001017 PMC 7092803 PMID 31978945 Report of the WHO China Joint Mission on Coronavirus Disease 2019 COVID 19 PDF Report World Health Organization WHO February 2020 PDF cakaehlngedimemux 29 February 2020 subkhnemux 21 March 2020 Cyranoski D March 2020 Mystery deepens over animal source of coronavirus Nature 579 7797 18 19 Bibcode 2020Natur 579 18C doi 10 1038 d41586 020 00548 w PMID 32127703 Emerging SARS CoV 2 Variants Centers for Disease Control and Prevention phasaxngkvsaebbxemrikn 30 December 2020 subkhnemux 30 December 2020 Implications of Emerging SARS CoV 2 Variant VOC 202012 01 in the UK Centers for Disease Control and Prevention phasaxngkvsaebbxemrikn 29 December 2020 subkhnemux 30 December 2020 Verdecchia Paolo Cavallini Claudio Spanevello Antonio Angeli Fabio 12 April 2020 The pivotal link between ACE2 deficiency and SARS CoV 2 infection European Journal of Internal Medicine doi 10 1016 j ejim 2020 04 037 PMC 7167588 PMID 32336612 Letko M Marzi A Munster V April 2020 Functional assessment of cell entry and receptor usage for SARS CoV 2 and other lineage B betacoronaviruses Nature Microbiology 5 4 562 569 doi 10 1038 s41564 020 0688 y PMC 7095430 PMID 32094589 Gurwitz D March 2020 Angiotensin receptor blockers as tentative SARS CoV 2 therapeutics Drug Development Research doi 10 1002 ddr 21656 PMC 7228359 PMID 32129518 Li YC Bai WZ Hashikawa T February 2020 The neuroinvasive potential of SARS CoV2 may play a role in the respiratory failure of COVID 19 patients Journal of Medical Virology 92 6 552 555 doi 10 1002 jmv 25728 PMC 7228394 PMID 32104915 Gu J Han B Wang J May 2020 COVID 19 Gastrointestinal Manifestations and Potential Fecal Oral Transmission Gastroenterology 158 6 1518 1519 doi 10 1053 j gastro 2020 02 054 PMC 7130192 PMID 32142785 Zheng YY Ma YT Zhang JY Xie X May 2020 COVID 19 and the cardiovascular system Nature Reviews Cardiology 17 5 259 260 doi 10 1038 s41569 020 0360 5 PMC 7095524 PMID 32139904 Huang C Wang Y Li X Ren L Zhao J Hu Y aelakhna February 2020 Clinical features of patients infected with 2019 novel coronavirus in Wuhan China Lancet 395 10223 497 506 doi 10 1016 S0140 6736 20 30183 5 PMC 7159299 PMID 31986264 Coronavirus Kidney Damage Caused by COVID 19 Johns Hopkins Medicine C John Sperati updated 14 May 2020 Zhang C Wu Z Li JW Zhao H Wang GQ March 2020 The cytokine release syndrome CRS of severe COVID 19 and Interleukin 6 receptor IL 6R antagonist Tocilizumab may be the key to reduce the mortality International Journal of Antimicrobial Agents 105954 doi 10 1016 j ijantimicag 2020 105954 PMC 7118634 PMID 32234467 Centers for Disease Control and Prevention CDC 5 February 2020 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 14 February 2020 subkhnemux 12 February 2020 World Health Organization WHO khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 17 March 2020 subkhnemux 13 March 2020 Centers for Disease Control and Prevention 30 January 2020 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 26 January 2020 subkhnemux 30 January 2020 Centers for Disease Control and Prevention 29 January 2020 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 30 January 2020 subkhnemux 1 February 2020 GlobeNewswire News Room 30 January 2020 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 31 January 2020 subkhnemux 1 February 2020 Brueck H 30 January 2020 Business Insider khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 1 February 2020 subkhnemux 1 February 2020 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 21 February 2020 subkhnemux 26 February 2020 Petherick A April 2020 Developing antibody tests for SARS CoV 2 Lancet 395 10230 1101 1102 doi 10 1016 s0140 6736 20 30788 1 PMID 32247384 Vogel G March 2020 New blood tests for antibodies could show true scale of coronavirus pandemic Science doi 10 1126 science abb8028 Pang J Wang MX Ang IY Tan SH Lewis RF Chen JI aelakhna February 2020 Potential Rapid Diagnostics Vaccine and Therapeutics for 2019 Novel Coronavirus 2019 nCoV A Systematic Review Journal of Clinical Medicine 9 3 623 doi 10 3390 jcm9030623 PMC 7141113 PMID 32110875 AFP News Agency 11 April 2020 How false negatives are complicating COVID 19 testing Al Jazeera website Retrieved 12 April 2020 Press release FDA 21 March 2020 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 21 March 2020 subkhnemux 22 March 2020 Jin YH Cai L Cheng ZS Cheng H Deng T Fan YP aelakhna February 2020 A rapid advice guideline for the diagnosis and treatment of 2019 novel coronavirus 2019 nCoV infected pneumonia standard version Military Medical Research 7 1 4 doi 10 1186 s40779 020 0233 6 PMC 7003341 PMID 32029004 Lee EY Ng MY Khong PL April 2020 The Lancet Infectious Diseases 20 4 384 385 doi 10 1016 S1473 3099 20 30134 1 PMC 7128449 PMID 32105641 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 8 March 2020 subkhnemux 13 March 2020 ICD 10 Version 2019 World Health Organization 2019 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 31 March 2020 subkhnemux 31 March 2020 U07 2 COVID 19 virus not identified COVID 19 NOS Use this code when COVID 19 is diagnosed clinically or epidemiologically but laboratory testing is inconclusive or not available Use additional code if desired to identify pneumonia or other manifestations Hanley B Lucas SB Youd E Swift B Osborn M May 2020 Autopsy in suspected COVID 19 cases Journal of Clinical Pathology 73 5 239 242 doi 10 1136 jclinpath 2020 206522 PMID 32198191 Yao XH Li TY He ZC Ping YF Liu HW Yu SC aelakhna March 2020 A pathological report of three COVID 19 cases by minimally invasive autopsies Zhonghua Bing Li Xue Za Zhi Chinese Journal of Pathology phasacin 49 5 411 417 doi 10 3760 cma j cn112151 20200312 00193 PMID 32172546 Giani M Seminati D Lucchini A Foti G Pagni F May 2020 Exuberant Plasmocytosis in Bronchoalveolar Lavage Specimen of the First Patient Requiring Extracorporeal Membrane Oxygenation for SARS CoV 2 in Europe Journal of Thoracic Oncology 15 5 e65 e66 doi 10 1016 j jtho 2020 03 008 PMC 7118681 PMID 32194247 Lillicrap D April 2020 Disseminated intravascular coagulation in patients with 2019 nCoV pneumonia Journal of Thrombosis and Haemostasis 18 4 786 787 doi 10 1111 jth 14781 PMC 7166410 PMID 32212240 Mitra A Dwyre DM Schivo M Thompson GR Cohen SH Ku N Graff JP March 2020 Leukoerythroblastic reaction in a patient with COVID 19 infection American Journal of Hematology doi 10 1002 ajh 25793 PMC 7228283 PMID 32212392 9 March 2020 The Spinoff khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 27 March 2020 subkhnemux 9 March 2020 Anderson RM Heesterbeek H Klinkenberg D Hollingsworth TD March 2020 How will country based mitigation measures influence the course of the COVID 19 epidemic Lancet 395 10228 931 934 doi 10 1016 S0140 6736 20 30567 5 PMC 7158572 PMID 32164834 A key issue for epidemiologists is helping policy makers decide the main objectives of mitigation e g minimising morbidity and associated mortality avoiding an epidemic peak that overwhelms health care services keeping the effects on the economy within manageable levels and flattening the epidemic curve to wait for vaccine development and manufacture on scale and antiviral drug therapies Barclay E 10 March 2020 Vox khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 12 March 2020 subkhnemux 12 March 2020 Barclay E Scott D Animashaun A 7 April 2020 Vox khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 7 April 2020 Wiles S 14 March 2020 The Spinoff khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 26 March 2020 subkhnemux 13 March 2020 Centers for Disease Control and Prevention Centers for Disease Control and Prevention 3 February 2020 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 15 December 2019 subkhnemux 10 February 2020 World Health Organization khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 26 January 2020 subkhnemux 10 February 2020 NPR org khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 20 March 2020 subkhnemux 20 March 2020 Recommendation Regarding the Use of Cloth Face Coverings Especially in Areas of Significant Community Based Transmission Centers for Disease Control and Prevention CDC 11 February 2020 subkhnemux 17 April 2020 Maragakis LL www hopkinsmedicine org Johns Hopkins University khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 18 March 2020 subkhnemux 18 March 2020 19 March 2020 The New York Times ISSN 0362 4331 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 20 March 2020 subkhnemux 20 March 2020 Sanders JM Monogue ML Jodlowski TZ Cutrell JB April 2020 Pharmacologic Treatments for Coronavirus Disease 2019 COVID 19 A Review JAMA doi 10 1001 jama 2020 6019 PMID 32282022 Systrom K Krieger M O Rourke R Stein R Dellaert F Lerer A 11 April 2020 Rt Covid 19 rt live subkhnemux 19 April 2020 Based on Bettencourt LM Ribeiro RM May 2008 Real time bayesian estimation of the epidemic potential of emerging infectious diseases PloS One 3 5 e2185 Bibcode 2008PLoSO 3 2185B doi 10 1371 journal pone 0002185 PMC 2366072 PMID 18478118 Grenfell R Drew T 17 February 2020 Science Alert khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 28 February 2020 subkhnemux 26 February 2020 World Health Organization WHO khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 7 March 2020 subkhnemux 8 March 2020 Staff 8 April 2020 Using face masks in the community Technical Report PDF ECDC About Cloth Face Coverings CDC Last Reviewed 22 May 2020 NHC gov cn National Health Commission of the People s Republic of China 7 February 2020 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2020 04 05 subkhnemux 22 March 2020 Disposable medical masks Recommended for People in crowded places Indoor working environment with a relatively dense population People going to medical institutions Children in kindergarten and students at school gathering to study and do other activities PDF khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 21 March 2020 subkhnemux 22 March 2020 Wear a surgical mask when taking public transport or staying in crowded places Staff 11 April 2020 Spain officially recommends face mask use Gazette Life subkhnemux 20 April 2020 Giuffrida A Beaumont P 5 April 2020 Lombardy insists on face masks outside homes to stop Covid 19 The Guardian ISSN 0261 3077 subkhnemux 20 April 2020 Russian sanitary watchdog chief supports regions binding people to wear face masks 1 May 2020 subkhnemux 3 May 2020 Centers for Disease Control and Prevention CDC U S Department of Health amp Human Services 10 March 2020 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 11 March 2020 subkhnemux 11 March 2020 WHO recommended handrub formulations WHO Guidelines on Hand Hygiene in Health Care First Global Patient Safety Challenge Clean Care Is Safer Care World Health Organization 19 March 2009 subkhnemux 19 March 2020 Li YD Chi WY Su JH Ferrall L Hung CF Wu TC December 2020 Coronavirus vaccine development from SARS and MERS to COVID 19 Journal of Biomedical Science 27 1 104 doi