มัคส์ คาร์ล แอนสท์ ลูทวิช พลังค์ (อังกฤษ: Max Karl Ernst Ludwig Planck) เป็นนักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน ผู้บุกเบิกการศึกษาทฤษฎีควอนตัม อันเป็นส่วนสำคัญในการศึกษาฟิสิกส์สมัยใหม่ แม้ในชีวิตตอนแรกของเขาจะดูราบรื่น โดยเขามีความสามารถทั้งทางดนตรีและฟิสิกส์ แต่เขากลับเดินไปในเส้นทางแห่งนักฟิสิกส์ทฤษฎี จนเขาได้ตั้งทฤษฎีทางฟิสิกส์ที่สำคัญต่อฟิสิกส์สมัยใหม่ นั่นคือ กฎการแผ่รังสีของวัตถุดำของพลังค์ รวมถึงค่าคงตัวของพลังค์ ซึ่งนับว่าขาดไม่ได้เลยสำหรับการศึกษากลศาสตร์ควอนตัม ทว่าบั้นปลายกลับเต็มไปด้วยความสิ้นหวังจากภัยสงคราม เขาต้องสูญเสียภรรยาคนแรก และบุตรที่เกิดกับภรรยาคนแรกไปทั้งหมด จนเหลือเพียงตัวเขา ภรรยาคนที่สอง และบุตรชายที่เกิดกับภรรยาคนที่สองเพียงคนเดียว ถึงกระนั้น พลังค์ก็ยังไม่ออกจากประเทศเยอรมนีอันเป็นบ้านเกิดของเขาไปยังดินแดนอื่น
มัคส์ พลังค์ | |
---|---|
มัคส์ พลังค์ ค.ศ. 1933 | |
เกิด | มัคส์ คาร์ล แอนสท์ ลูทวิช พลังค์ 23 เมษายน ค.ศ. 1858 คีล, สมาพันธรัฐเยอรมัน |
เสียชีวิต | 4 ตุลาคม ค.ศ. 1947 เกิททิงเงิน, ประเทศเยอรมนี | (89 ปี)
สัญชาติ | เยอรมัน |
ศิษย์เก่า | มหาวิทยาลัยลูทวิช-มัคซีมีลีอานแห่งมิวนิก |
มีชื่อเสียงจาก | ค่าคงตัวของพลังค์ กฎของพลังค์ กฎข้อที่สามของอุณหพลศาสตร์ |
คู่สมรส | Marie Merck (1887–1909) Marga von Hösslin (1911–1947) |
รางวัล | รางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ (1918) |
อาชีพทางวิทยาศาสตร์ | |
สาขา | ฟิสิกส์ |
สถาบันที่ทำงาน | |
ลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียง | ลีเซอ ไมท์เนอร์ |
ลายมือชื่อ | |
พลังค์ได้รับรางวัลโนเบล สาขาฟิสิกส์ ประจำปี พ.ศ. 2461 (มอบให้เมื่อปี พ.ศ. 2462) นอกจากนี้ ได้นำชื่อเขาไปตั้งชื่อรางวัล "เหรียญมัคส์ พลังค์" (Max Planck Medal) ซึ่งเขาเป็นผู้ได้รับในปีแรกร่วมกับ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เมื่อปี พ.ศ. 2471
ชีวิตวัยเยาว์
พลังค์เกิดในตระกูลปัญญาชน โดยที่ทวดและปู่ของเขาเป็นศาสตราจารย์ด้านเทววิทยา สอนที่เมืองเกิททิงเงิน บิดาของเขาเป็นศาสตราจารย์ด้านนิติศาสตร์ในเมืองคีล และมิวนิก และลุงฝ่ายพ่อของเขาก็เป็นผู้พิพากษา
มัคส์เป็นบุตรคนที่ 6 ของ โยฮันน์ ยูเลียส วิลเฮล์ม พลังค์ (Johann Julius Wilhelm Planck) ที่เกิดกับภรรยาคนที่สองชื่อ เอมมา พัตซิก (Emma Patzig) โดยก่อนหน้านี้โยฮันน์มีบุตรกับภรรยาคนก่อนมาแล้วสองคน ต่อมาเมื่อมัคส์อายุได้ 9 ปี ครอบครัวพลังค์ได้ย้ายไปอาศัยอยู่ที่มิวนิก และมัคส์เริ่มเข้าโรงเรียนที่นี่ ต่อมา แฮร์มันน์ มึลเลอร์ (Hermann Müller) อาจารย์ของมัคส์ ได้สอนวิชาดาราศาสตร์ กลศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ให้แก่มัคส์ โดยมัคส์ก็ได้เรียนเรื่องกฎการอนุรักษ์พลังงานจากอาจารย์ของเขาเป็นเรื่องแรก จนสนใจในวิชาฟิสิกส์มาก มัคส์จบการศึกษาเมื่ออายุได้เพียง 16 ปี
การศึกษา
แม้ว่าพลังค์จะมีความสามารถด้านดนตรี ถึงขนาดร้องเพลง เล่นเปียโน, ออร์แกน, เชลโล หรือแม้กระทั่งแต่งเพลงได้ แต่เขากลับเลือกที่จะเรียนฟิสิกส์ แทนที่จะเป็นดนตรี พลังค์เข้าศึกษาต่อด้านฟิสิกส์ในมหาวิทยาลัยลูทวิช-มัคซีมีลีอานแห่งมิวนิก ต่อมาเมื่ออายุได้ 19 ปี เขาเดินทางไปกรุงเบอร์ลิน เพื่อศึกษากับนักฟิสิกส์ที่มีชื่อเสียงชื่อ แฮร์มันน์ ฟอน เฮล์มโฮลทซ์ กับกุสทาฟ คีร์ชฮอฟฟ์ และนักคณิตศาสตร์ชื่อ คาร์ล ไวแยร์สตราสส์ มัคส์เคยบันทึกไว้ว่า แฮร์มันน์เป็นคนที่ไม่ค่อยเตรียมตัว มักคำนวณเลขผิดอยู่เสมอ พูดจาเชื่องช้า แต่กุสตาฟเป็นคนที่ชอบวางแผนและมีบุคลิกเคร่งขรึม แต่ต่อมาพลังค์กลับได้เป็นเพื่อนสนิทกับแฮร์มันน์ นอกจากนี้พลังค์ยังศึกษางานเขียนของ รูดอล์ฟ เคลาซิอุส นักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน จนทำให้เขาสนใจศึกษาในด้าน
เดือนตุลาคม พ.ศ. 2421 พลังค์ผ่านการสอบวิชาที่เรียน ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2422 พลังค์ผ่านการป้องกันวิทยานิพนธ์เรื่อง "ว่าด้วยหลักพื้นฐานข้อที่สองของทฤษฎีกลความร้อน" ทำให้เขาได้รับปริญญาเอกในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2422 ด้วยวัยเพียง 21 ปี หลังจากนั้นพลังค์กลับไปสอนวิชาคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ที่มหาวิทยาลัยเก่าของเขาในเมืองมิวนิกเป็นเวลาสั้น ๆ
ต่อมาในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2423 พลังค์ได้เสนอวิทยานิพนธ์ฉบับที่ 2 เรื่อง "ภาวะสมดุลของวัตถุชนิดเดียวกัน ณ อุณหภูมิที่ต่างกัน" ซึ่งทำให้เขามีสิทธิเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย
ชีวิตการงาน
ครั้นต่อมา พลังค์ได้เข้าเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย ในตอนแรกเขาก็ยังไม่เป็นที่เด่นชัดในแวดวงวิชาการ แต่เขาก็ดำเนินการวิจัยด้านทฤษฎีความร้อน โดยมีแนวคิดเอนโทรปีของรูดอล์ฟ คลอเซียสเป็นหลักในการวิจัย
ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2428 พลังค์ได้เป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์สาขาฟิสิกส์ทฤษฎีใน ต่อมาเขาก็มีผลงานในด้าน เอนโทรปีกับการประยุกต์ในเคมีฟิสิกส์ นอกเหนือจากนี้ เขายังได้เสนอหลักอุณหพลศาสตร์ที่เป็นพื้นฐาน ของทฤษฎีว่าด้วยการแตกตัวของสารอิเล็กโทรไลต์ของสวานเต อาร์เรเนียส นักเคมีชาวสวีเดน
ในช่วงสี่ปีต่อมา พลังค์ได้รับตำแหน่งทางวิชาการต่อจากกุสตาฟ คีคฮอฟฟ์ ในมหาวิทยาลัยเบอร์ลิน และในปี พ.ศ. 2435 เขาก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์ ในอีก 15 ปีต่อมา เขาถูกเสนอให้ไปอยู่ที่กรุงเวียนนา เพื่อสืบทอดตำแหน่งทางวิชาการของลุดวิก โบลทซ์มันน์ นักฟิสิกส์ชาวออสเตรีย ที่ได้ฆ่าตัวตายไปเมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2449 แต่พลังค์กลับไม่สนใจ ช่วงระหว่างปี 2452 เขาได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์ผู้บรรยายในมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย สหรัฐอเมริกา จวบจนกระทั่งวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2469 เขาก็ลาออกจากตำแหน่งศาสตราจารย์ และเออร์วิน ชเรอดิงเงอร์ นักฟิสิกส์ชาวออสเตรีย ก็เข้ามารับตำแหน่งแทน
ครั้งหนึ่งที่พลังค์อาศัยอยู่ที่เบอร์ลิน พลังค์ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกสมาคมฟิสิกส์ท้องถิ่น ต่อมาเขาได้เขียนถึงช่วงเวลานั้นว่า
ในวันที่ผ่านมานั้น ข้าพเจ้าเป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎีเพียงคนเดียวที่อยู่ที่นี่ ดังนั้นมันจึงไม่ง่ายเลยสำหรับตัวข้าพเจ้า และข้าพเจ้ากล่าวถึงเอนโทรปีเป็นอันดับแรก ซึ่งมันก็เป็นเพียงแค่ปีศาจตัวเลขในสายตาของคนอื่น ๆ
ในเวลาต่อมา สมาคมฟิสิกส์ท้องถิ่นในเยอรมันก็ได้รวมกันเป็นสมาคมฟิสิกส์เยอรมัน และพลังค์ก็ได้เป็นนายกสมาคมช่วงปี พ.ศ. 2448 ถึง พ.ศ. 2452
ชีวิตครอบครัว และชีวิตบั้นปลาย
ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2430 พลังค์ได้สมรสกับมารี เมอร์ค (Marie Merck, พ.ศ. 2404 - 2452) มีบุตรธิดาด้วยกัน 4 คน อาศัยด้วยกันในห้องเช่าแห่งหนึ่งในเมืองคีล ต่อมาเมื่อเขาได้ย้ายไปอยู่กรุงเบอร์ลิน ครอบครัวพลังค์ได้อาศัยอยู่ในบ้านพักตากอากาศในเขตกรึนเนอวาลด์ ชานกรุงเบอร์ลิน ซึ่งมีศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยเบอร์ลินหลายคนอาศัยอยู่แถบนั้น ไม่ช้า บ้านของเขาก็มีแขกมาเยือนตลอด ในจำนวนนั้นได้แก่ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์, ออทโท ฮาน นักเคมีชาวเยอรมัน, และลีเซอ ไมท์เนอร์ นักฟิสิกส์ลูกครึ่งออสเตรีย-สวีเดน
หลังจากที่พลังค์มีความสุขกับชีวิตครอบครัวมาสักระยะเวลาหนึ่งแล้ว เรื่องน่าเศร้าก็เกิดขึ้น มารี พลังค์ ภรรยาคนแรกของเขาถึงแก่กรรมด้วยวัณโรคในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2452 พลังค์จึงสมรสกับมาร์กา ฟอน เฮิสสลิน (Marga von Hoesslin, พ.ศ. 2425 - 2491) มีบุตรชายหนึ่งคน ในเดือนธันวาคม ปีเดียวกับที่มารี ภรรยาคนแรกถึงแก่กรรม
ไม่ช้าไม่นาน สงครามโลกครั้งที่ 1 ก็ปะทุขึ้น บุตรชายคนโตของพลังค์ ชื่อ คาร์ล พลังค์ (Karl Planck) ถูกสังหารในสนามรบ เออร์วิน พลังค์ (Erwin Planck) ถูกฝรั่งเศสจับตัวไปจองจำเมื่อ พ.ศ. 2457 เกรต พลังค์ (Grete Planck) ถึงแก่กรรมขณะคลอดบุตร และเอมมา พลังค์ (Emma Planck) บุตรสาวที่เหลืออยู่ของเขาก็ถึงแก่กรรมด้วยสาเหตุเดียวกับเกรต
ต่อมา เออร์วิน พลังค์ ถูกสังหารโดยพวกนาซี โทษฐานสมรู้ร่วมคิดในการพยายามสังหารอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ที่ไม่สำเร็จ และระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง บ้านของพลังค์ถูกถล่มด้วยระเบิดจนเสียหายหมด ทำให้พลังค์เหลือเพียงภรรยาคนที่สองกับบุตรอีกหนึ่งคน เขารู้สึกสิ้นหวังมาก และก็ได้ย้ายไปอาศัยยังเมืองเกิททิงเงิน และถึงแก่กรรมที่นั่น รวมอายุได้ 89 ปีเศษ
ผลงานทางวิทยาศาสตร์
การศึกษาการแผ่รังสีของวัตถุดำ
ในปี พ.ศ. 2437 พลังค์เริ่มให้ความสนใจปัญหาการแผ่รังสีของวัตถุดำ โดยในตอนแรก กุสตาฟ คีร์คฮอฟฟ์ ได้ตั้งคำถามว่า "ความเข้มของการแผ่รังสีของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าโดยวัตถุดำ ขึ้นอยู่กับความถี่ของการแผ่รังสีกับอุณหภูมิของวัตถุอย่างไร?" พลังค์ได้ศึกษากฎของเรย์เล-จีน (ซึ่งอธิบายได้ดีที่ความถี่ต่ำ ๆ) และกฎของเวียน (ซึ่งอธิบายได้ดีที่ความถี่สูง ๆ) จากนั้น เขาจึงนำข้อดีของกฎทั้งสองมาสรุปเป็นกฎการแผ่รังสีของวัตถุดำของพลังค์ (Planck black-body radiation law) โดยใช้แนวคิดว่า พลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าต้องถูกปลดปล่อยในรูปของอนุภาคเล็ก ๆ เรียกว่า ควอนตา (มาจากภาษาละตินแปลว่า "เท่าไร?") มิได้ถูกปลดปล่อยเป็น"ก้อน"พลังงานใหญ่ ๆ เลย (สังเกตได้จากการเผาลวดโลหะ จะพบว่าโลหะนั้นเปล่งแสงไม่เท่ากัน และการที่เป็นเช่นนี้เองทำให้มีพลังงานไม่เท่ากันด้วย) และมีพลังงานอยู่ค่าหนึ่ง ขึ้นอยู่กับความถี่ของการแผ่รังสี และหาได้จากสมการอันเลื่องชื่อ E (พลังงาน) = h (ค่าคงตัวของพลังค์) × ν (ความถี่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า) ต่อมาพลังค์ได้เสนอกฎของเขาในที่ประชุมสมาคมฟิสิกส์เยอรมัน เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2443 และในปีถัดมางานของเขาก็ถูกตีพิมพ์ จากผลงานนี้เองทำให้พลังค์ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ นอกเหนือจากนี้ งานของเขาเป็นพื้นฐานของแบบจำลองอะตอมของนีลส์ บอร์ เมื่อปี พ.ศ. 2448 และการอธิบายปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริกของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เมื่อปี พ.ศ. 2456 แม้ว่าพลังค์จะเคยปรารภเกี่ยวกับการแบ่งส่วนพลังงานออกเป็นควอนตาว่า
มันก็แค่เป็นสิ่งสมมุติขึ้นมาเท่านั้น...จริง ๆ แล้วข้าพเจ้าไม่ได้คิดอะไรกับมันมากหรอก...
แต่ต่อมา สิ่งที่เขา "สมมุติ" ได้กลายเป็นจุดกำเนิดของฟิสิกส์ควอนตัม ที่มีแนวคิดแผกไปจากฟิสิกส์ดั้งเดิม
การถกเถียงเรื่องทฤษฎีควอนตัม
ช่วงท้ายทศวรรษที่ 1920 โวล์ฟกัง เพาลี นักฟิสิกส์ชาวออสเตรีย แวร์เนอร์ ไฮเซนแบร์ก นักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน และนีลส์ บอร์ นักฟิสิกส์ชาวเดนมาร์ก ได้ร่วมกันเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการแปลความหมายของกลศาสตร์ควอนตัม แต่ถูกมัคส์ พลังค์ คัดค้าน เช่นเดียวกับเออร์วิน ชเรอดิงเงอร์ แม้แต่อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ก็ยังค้านแนวคิดในเบื้องต้น พลังค์ได้กล่าววิจารณ์ไว้ว่า กลศาสตร์เมทริกซ์ของไฮเซนเบิร์ก "น่าเกลียดมาก" และกล่าวว่าสมการของชเรอดิงเงอร์ "พอรับได้" พลังค์ยังหวังอีกด้วยว่า กลศาสตร์คลื่นจะช่วยอธิบายทฤษฎีควอนตัมให้กระจ่างกว่านี้ แต่ด้วยความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน จึงตัดความกังวลข้อนี้ของเขาออกไปได้ ครั้งหนึ่งพลังค์เคยกล่าวว่า
ความจริงทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่นั้น เกิดขึ้นมาโดยมิได้ทำให้คู่กัด (วิทยาศาสตร์สมัยเก่า) ปรับตัวให้เหมาะสมเลยสักนิด แต่มันจะค่อย ๆ โตขึ้น และปล่อยให้คู่กัดตายไปอย่างช้า ๆ จนมันอธิบายความจริงได้ตั้งแต่ต้นแทนที่คู่กัดของมัน
ไอน์สไตน์กับทฤษฎีสัมพัทธภาพ
ในปี พ.ศ. 2448 อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ กล่าวถึงทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษในนิตยสาร Annalen der Physik โดยที่ไอน์สไตน์ได้ให้ข้อสมมติฐานว่าแสงมีส่วนย่อย ๆ เรียกว่า ควอนตา (โฟตอน) โดยยึดหลักจากการค้นพบปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริกของฟิลลิป เลนาร์ด ซึ่งพลังค์ก็ไม่ยอมรับในตอนแรก เพราะเขาไม่ต้องการทิ้งทฤษฎีพลศาสตร์ไฟฟ้าของแมกซ์เวลล์ไป เขากล่าวอีกด้วยว่า
ทฤษฎีของแสงควรจะถูกโละทิ้งไป ไม่เพียงแค่สิบปี แต่ขอให้เป็นหลายร้อยปี ไปจนตอนที่คริสตียาน เฮยเคินส์ ต่อสู้กับทฤษฎีของไอแซก นิวตัน
ในปี พ.ศ. 2453 ไอน์สไตน์ได้ชี้พฤติกรรมที่ผิดปกติของความร้อนจำเพาะ ณ อุณหภูมิที่ต่ำมาก ๆ ซึ่งนับว่าเป็นผลการทดลองที่ท้าทายฟิสิกส์แผนเดิมเป็นอย่างยิ่ง พลังค์จึงได้จัดให้มีการประชุมโซลเวย์ครั้งที่ 1 ที่กรุงบรัสเซลส์ เมื่อปี พ.ศ. 2454 เพื่อไขความกระจ่างของข้อโต้แย้ง ณ ที่นี่ไอน์สไตน์ได้โน้มน้าวมัคส์ พลังค์ ได้เป็นผลสำเร็จ ในขณะเดียวกัน พลังค์ได้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเบอร์ลิน เป็นที่คาดกันว่าเขาน่าจะเชิญตัวไอน์สไตน์มาเป็นศาสตราจารย์ในสองปีต่อมา จนกระทั่งทั้งสองคนกลายเป็นเพื่อนสนิทกันในที่สุด
เกียรติประวัติ
มัคส์ พลังค์ ได้รับรางวัลและการเชิดชูเกียรติดังต่อไปนี้
- "Pour le Mérite" for Science and Arts ในปี พ.ศ. 2458
- รางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ประจำปี พ.ศ. 2461 (มอบเมื่อ พ.ศ. 2462)
- เหรียญลอเรนตซ์ ในปี พ.ศ. 2470
- Adlerschild des Deutschen Reiches ในปี พ.ศ. 2471
- เหรียญมัคส์ พลังค์ ในปี พ.ศ. 2471 พร้อมกับอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
- ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จาก มิวนิก เบอร์ลิน เคมบริดจ์ ลอนดอน และกลาสโกว์
- ชื่อดาวเคราะห์น้อย 1069 ได้ถูกตั้งชื่อว่า "Stella Planckia" เมื่อปี พ.ศ. 2481
- สมาคมส่งเสริมการวิจัยวิทยาศาสตร์ของประเทศเยอรมนี ถูกตั้งชื่อว่าสมาคมมัคส์ พลังค์ เมื่อปี ค.ศ. 1948
ผลงานหนังสือ
- Planck, Max. (1900). “Entropy and Temperature of Radiant Heat 2006-09-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน.” Annalen der Physick, vol. 1. no 4. April, pg. 719-37.
- Planck, Max. (1901). "On the Law of Distribution of Energy in the Normal Spectrum 2008-04-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน". Annalen der Physik, vol. 4, p. 553 ff.
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- Planck discovers the quantum nature of energy (อังกฤษ)
- Brainyquote : Max Planck Quotes (อังกฤษ)
- ประวัติและผลงานโดยย่อของมัคส์ พลังค์ 2007-01-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ประวัติและผลงานโดยย่อ โดยเว็บไซต์มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ[]
- Max Planck The Nobel Prize in Physics 1918-ประวัติมัคส์ พลังค์ จากเว็บไซต์ทางการของรางวัลโนเบล (อังกฤษ)
- ประวัติมัคส์ พลังค์ โดย nobel-winner.com (อังกฤษ)
- A Science Odyssey: People and Discoveries: Max Planck (อังกฤษ)
- ประวัติมัคส์ พลังค์ ที่เว็บไซต์สมาคมมัคส์ พลังค์ (อังกฤษ)
หนังสือ
- Heilbron, J. L. The Dilemmas of an Upright Man: Max Planck and the Fortunes of German Science (Harvard, 2000)
- Rosenthal-Schneider, Ilse Reality and Scientific Truth: Discussions with Einstein, von Laue, and Planck (Wayne State University, 1980)
แหล่งข้อมูลอื่น
- ชีวประวัติของมัคส์ พลังค์ ในสารานุกรมเอ็นไซโคลพีเดีย บริตเตนิกา
- Annotated bibliography for Max Planck 2006-08-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน from the Alsos Digital Library for Nuclear Issues
- Max Planck, Planck's constant, and Schrodinger's Cat 2012-02-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Kragh, Helge Max Planck: The reluctant revolutionary 2007-07-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Physics World December 2000
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
mkhs kharl aexnsth luthwich phlngkh xngkvs Max Karl Ernst Ludwig Planck epnnkfisikschaweyxrmn phubukebikkarsuksathvsdikhwxntm xnepnswnsakhyinkarsuksafisikssmyihm aeminchiwittxnaerkkhxngekhacadurabrun odyekhamikhwamsamarththngthangdntriaelafisiks aetekhaklbedinipinesnthangaehngnkfisiksthvsdi cnekhaidtngthvsdithangfisiksthisakhytxfisikssmyihm nnkhux kdkaraephrngsikhxngwtthudakhxngphlngkh rwmthungkhakhngtwkhxngphlngkh sungnbwakhadimidelysahrbkarsuksaklsastrkhwxntm thwabnplayklbetmipdwykhwamsinhwngcakphysngkhram ekhatxngsuyesiyphrryakhnaerk aelabutrthiekidkbphrryakhnaerkipthnghmd cnehluxephiyngtwekha phrryakhnthisxng aelabutrchaythiekidkbphrryakhnthisxngephiyngkhnediyw thungkrann phlngkhkyngimxxkcakpraethseyxrmnixnepnbanekidkhxngekhaipyngdinaednxunmkhs phlngkhmkhs phlngkh kh s 1933ekidmkhs kharl aexnsth luthwich phlngkh 23 emsayn kh s 1858 1858 04 23 khil smaphnthrtheyxrmnesiychiwit4 tulakhm kh s 1947 1947 10 04 89 pi ekiththingengin praethseyxrmnisychatieyxrmnsisyekamhawithyalyluthwich mkhsimilixanaehngmiwnikmichuxesiyngcakkhakhngtwkhxngphlngkh kdkhxngphlngkh kdkhxthisamkhxngxunhphlsastrkhusmrsMarie Merck 1887 1909 Marga von Hosslin 1911 1947 rangwlrangwloneblsakhafisiks 1918 xachiphthangwithyasastrsakhafisikssthabnthithanganmhawithyalyekiththingenginluksisythimichuxesiyngliesx imthenxrlaymuxchux phlngkhidrbrangwlonebl sakhafisiks pracapi ph s 2461 mxbihemuxpi ph s 2462 nxkcakni idnachuxekhaiptngchuxrangwl ehriyymkhs phlngkh Max Planck Medal sungekhaepnphuidrbinpiaerkrwmkb xlebirt ixnsitn emuxpi ph s 2471chiwitwyeyawphlngkhekidintrakulpyyachn odythithwdaelapukhxngekhaepnsastracarydanethwwithya sxnthiemuxngekiththingengin bidakhxngekhaepnsastracarydannitisastrinemuxngkhil aelamiwnik aelalungfayphxkhxngekhakepnphuphiphaksa mkhsepnbutrkhnthi 6 khxng oyhnn yueliys wilehlm phlngkh Johann Julius Wilhelm Planck thiekidkbphrryakhnthisxngchux exmma phtsik Emma Patzig odykxnhnanioyhnnmibutrkbphrryakhnkxnmaaelwsxngkhn txmaemuxmkhsxayuid 9 pi khrxbkhrwphlngkhidyayipxasyxyuthimiwnik aelamkhserimekhaorngeriynthini txma aehrmnn mulelxr Hermann Muller xacarykhxngmkhs idsxnwichadarasastr klsastr aelakhnitsastr ihaekmkhs odymkhskideriyneruxngkdkarxnurksphlngngancakxacarykhxngekhaepneruxngaerk cnsnicinwichafisiksmak mkhscbkarsuksaemuxxayuidephiyng 16 pikarsuksamkhs phlngkh inwyhnum khnannxayuid 20 pi ph s 2421 aemwaphlngkhcamikhwamsamarthdandntri thungkhnadrxngephlng elnepiyon xxraekn echlol hruxaemkrathngaetngephlngid aetekhaklbeluxkthicaeriynfisiks aethnthicaepndntri phlngkhekhasuksatxdanfisiksinmhawithyalyluthwich mkhsimilixanaehngmiwnik txmaemuxxayuid 19 pi ekhaedinthangipkrungebxrlin ephuxsuksakbnkfisiksthimichuxesiyngchux aehrmnn fxn ehlmohlths kbkusthaf khirchhxff aelankkhnitsastrchux kharl iwaeyrstrass mkhsekhybnthukiwwa aehrmnnepnkhnthiimkhxyetriymtw mkkhanwnelkhphidxyuesmx phudcaechuxngcha aetkustafepnkhnthichxbwangaephnaelamibukhlikekhrngkhrum aettxmaphlngkhklbidepnephuxnsnithkbaehrmnn nxkcakniphlngkhyngsuksanganekhiynkhxng rudxlf ekhlasixus nkfisikschaweyxrmn cnthaihekhasnicsuksaindan eduxntulakhm ph s 2421 phlngkhphankarsxbwichathieriyn txmaineduxnkumphaphnth ph s 2422 phlngkhphankarpxngknwithyaniphntheruxng wadwyhlkphunthankhxthisxngkhxngthvsdiklkhwamrxn thaihekhaidrbpriyyaexkineduxnkrkdakhm ph s 2422 dwywyephiyng 21 pi hlngcaknnphlngkhklbipsxnwichakhnitsastraelafisiksthimhawithyalyekakhxngekhainemuxngmiwnikepnewlasn txmaineduxnmithunayn ph s 2423 phlngkhidesnxwithyaniphnthchbbthi 2 eruxng phawasmdulkhxngwtthuchnidediywkn n xunhphumithitangkn sungthaihekhamisiththiepnxacarysxninmhawithyalychiwitkarngankhrntxma phlngkhidekhaepnxacaryinmhawithyaly intxnaerkekhakyngimepnthiednchdinaewdwngwichakar aetekhakdaeninkarwicydanthvsdikhwamrxn odymiaenwkhidexnothrpikhxngrudxlf khlxesiysepnhlkinkarwicy ineduxnemsayn ph s 2428 phlngkhidepnphuchwysastracarysakhafisiksthvsdiin txmaekhakmiphlnganindan exnothrpikbkarprayuktinekhmifisiks nxkehnuxcakni ekhayngidesnxhlkxunhphlsastrthiepnphunthan khxngthvsdiwadwykaraetktwkhxngsarxielkothriltkhxngswanet xarereniys nkekhmichawswiedn inchwngsipitxma phlngkhidrbtaaehnngthangwichakartxcakkustaf khikhhxff inmhawithyalyebxrlin aelainpi ph s 2435 ekhakideluxntaaehnngepnsastracary inxik 15 pitxma ekhathukesnxihipxyuthikrungewiynna ephuxsubthxdtaaehnngthangwichakarkhxngludwik oblthsmnn nkfisikschawxxsetriy thiidkhatwtayipemuxwnthi 15 knyayn ph s 2449 aetphlngkhklbimsnic chwngrahwangpi 2452 ekhaidrbtaaehnngsastracaryphubrryayinmhawithyalyokhlmebiy shrthxemrika cwbcnkrathngwnthi 10 mkrakhm ph s 2469 ekhaklaxxkcaktaaehnngsastracary aelaexxrwin cherxdingengxr nkfisikschawxxsetriy kekhamarbtaaehnngaethn khrnghnungthiphlngkhxasyxyuthiebxrlin phlngkhidekharwmepnsmachiksmakhmfisiksthxngthin txmaekhaidekhiynthungchwngewlannwa inwnthiphanmann khaphecaepnnkfisiksthvsdiephiyngkhnediywthixyuthini dngnnmncungimngayelysahrbtwkhapheca aelakhaphecaklawthungexnothrpiepnxndbaerk sungmnkepnephiyngaekhpisactwelkhinsaytakhxngkhnxun inewlatxma smakhmfisiksthxngthinineyxrmnkidrwmknepnsmakhmfisikseyxrmn aelaphlngkhkidepnnayksmakhmchwngpi ph s 2448 thung ph s 2452chiwitkhrxbkhrw aelachiwitbnplayineduxnminakhm ph s 2430 phlngkhidsmrskbmari emxrkh Marie Merck ph s 2404 2452 mibutrthidadwykn 4 khn xasydwykninhxngechaaehnghnunginemuxngkhil txmaemuxekhaidyayipxyukrungebxrlin khrxbkhrwphlngkhidxasyxyuinbanphktakxakasinekhtkrunenxwald chankrungebxrlin sungmisastracarymhawithyalyebxrlinhlaykhnxasyxyuaethbnn imcha bankhxngekhakmiaekhkmaeyuxntlxd incanwnnnidaek xlebirt ixnsitn xxthoth han nkekhmichaweyxrmn aelaliesx imthenxr nkfisikslukkhrungxxsetriy swiedn hlngcakthiphlngkhmikhwamsukhkbchiwitkhrxbkhrwmaskrayaewlahnungaelw eruxngnaesrakekidkhun mari phlngkh phrryakhnaerkkhxngekhathungaekkrrmdwywnorkhineduxntulakhm ph s 2452 phlngkhcungsmrskbmarka fxn ehisslin Marga von Hoesslin ph s 2425 2491 mibutrchayhnungkhn ineduxnthnwakhm piediywkbthimari phrryakhnaerkthungaekkrrm imchaimnan sngkhramolkkhrngthi 1 kpathukhun butrchaykhnotkhxngphlngkh chux kharl phlngkh Karl Planck thuksngharinsnamrb exxrwin phlngkh Erwin Planck thukfrngesscbtwipcxngcaemux ph s 2457 ekrt phlngkh Grete Planck thungaekkrrmkhnakhlxdbutr aelaexmma phlngkh Emma Planck butrsawthiehluxxyukhxngekhakthungaekkrrmdwysaehtuediywkbekrt txma exxrwin phlngkh thuksngharodyphwknasi othsthansmrurwmkhidinkarphyayamsngharxdxlf hitelxr thiimsaerc aelarahwangsngkhramolkkhrngthisxng bankhxngphlngkhthukthlmdwyraebidcnesiyhayhmd thaihphlngkhehluxephiyngphrryakhnthisxngkbbutrxikhnungkhn ekharusuksinhwngmak aelakidyayipxasyyngemuxngekiththingengin aelathungaekkrrmthinn rwmxayuid 89 piessphlnganthangwithyasastrkarsuksakaraephrngsikhxngwtthuda inpi ph s 2437 phlngkherimihkhwamsnicpyhakaraephrngsikhxngwtthuda odyintxnaerk kustaf khirkhhxff idtngkhathamwa khwamekhmkhxngkaraephrngsikhxngkhlunaemehlkiffaodywtthuda khunxyukbkhwamthikhxngkaraephrngsikbxunhphumikhxngwtthuxyangir phlngkhidsuksakdkhxngeryel cin sungxthibayiddithikhwamthita aelakdkhxngewiyn sungxthibayiddithikhwamthisung caknn ekhacungnakhxdikhxngkdthngsxngmasrupepnkdkaraephrngsikhxngwtthudakhxngphlngkh Planck black body radiation law odyichaenwkhidwa phlngngankhlunaemehlkiffatxngthukpldplxyinrupkhxngxnuphakhelk eriykwa khwxnta macakphasalatinaeplwa ethair miidthukpldplxyepn kxn phlngnganihy ely sngektidcakkarephalwdolha caphbwaolhanneplngaesngimethakn aelakarthiepnechnniexngthaihmiphlngnganimethakndwy aelamiphlngnganxyukhahnung khunxyukbkhwamthikhxngkaraephrngsi aelahaidcaksmkarxneluxngchux E phlngngan h khakhngtwkhxngphlngkh n khwamthikhlunaemehlkiffa txmaphlngkhidesnxkdkhxngekhainthiprachumsmakhmfisikseyxrmn emuxwnthi 19 tulakhm ph s 2443 aelainpithdmangankhxngekhakthuktiphimph cakphlnganniexngthaihphlngkhidrbrangwloneblsakhafisiks nxkehnuxcakni ngankhxngekhaepnphunthankhxngaebbcalxngxatxmkhxngnils bxr emuxpi ph s 2448 aelakarxthibaypraktkarnofotxielkthrikkhxngxlebirt ixnsitn emuxpi ph s 2456 aemwaphlngkhcaekhyprarphekiywkbkaraebngswnphlngnganxxkepnkhwxntawa mnkaekhepnsingsmmutikhunmaethann cring aelwkhaphecaimidkhidxairkbmnmakhrxk aettxma singthiekha smmuti idklayepncudkaenidkhxngfisikskhwxntm thimiaenwkhidaephkipcakfisiksdngedim karthkethiyngeruxngthvsdikhwxntm chwngthaythswrrsthi 1920 owlfkng ephali nkfisikschawxxsetriy aewrenxr ihesnaebrk nkfisikschaweyxrmn aelanils bxr nkfisikschawednmark idrwmknesnxaenwkhidekiywkbkaraeplkhwamhmaykhxngklsastrkhwxntm aetthukmkhs phlngkh khdkhan echnediywkbexxrwin cherxdingengxr aemaetxlebirt ixnsitnkyngkhanaenwkhidinebuxngtn phlngkhidklawwicarniwwa klsastremthrikskhxngihesnebirk naekliydmak aelaklawwasmkarkhxngcherxdingengxr phxrbid phlngkhynghwngxikdwywa klsastrkhluncachwyxthibaythvsdikhwxntmihkracangkwani aetdwykhwamkawhnathangwithyasastrinpccubn cungtdkhwamkngwlkhxnikhxngekhaxxkipid khrnghnungphlngkhekhyklawwa khwamcringthangwithyasastrsmyihmnn ekidkhunmaodymiidthaihkhukd withyasastrsmyeka prbtwihehmaasmelysknid aetmncakhxy otkhun aelaplxyihkhukdtayipxyangcha cnmnxthibaykhwamcringidtngaettnaethnthikhukdkhxngmn ixnsitnkbthvsdismphththphaph phaphhmunkwithyasastr n thiprachumoslewy casngektehnmkhs phlngkh xyuaethwyunkhnthisxng inpi ph s 2448 xlebirt ixnsitn klawthungthvsdismphththphaphphiessinnitysar Annalen der Physik odythiixnsitnidihkhxsmmtithanwaaesngmiswnyxy eriykwa khwxnta oftxn odyyudhlkcakkarkhnphbpraktkarnofotxielkthrikkhxngfillip elnard sungphlngkhkimyxmrbintxnaerk ephraaekhaimtxngkarthingthvsdiphlsastriffakhxngaemksewllip ekhaklawxikdwywa thvsdikhxngaesngkhwrcathukolathingip imephiyngaekhsibpi aetkhxihepnhlayrxypi ipcntxnthikhristiyan ehyekhins txsukbthvsdikhxngixaesk niwtn inpi ph s 2453 ixnsitnidchiphvtikrrmthiphidpktikhxngkhwamrxncaephaa n xunhphumithitamak sungnbwaepnphlkarthdlxngthithathayfisiksaephnedimepnxyangying phlngkhcungidcdihmikarprachumoslewykhrngthi 1 thikrungbrsesls emuxpi ph s 2454 ephuxikhkhwamkracangkhxngkhxotaeyng n thiniixnsitnidonmnawmkhs phlngkh idepnphlsaerc inkhnaediywkn phlngkhiddarngtaaehnngxthikarbdimhawithyalyebxrlin epnthikhadknwaekhanacaechiytwixnsitnmaepnsastracaryinsxngpitxma cnkrathngthngsxngkhnklayepnephuxnsnithkninthisudekiyrtiprawtimkhs phlngkh idrbrangwlaelakarechidchuekiyrtidngtxipni Pour le Merite for Science and Arts inpi ph s 2458 rangwloneblsakhafisikspracapi ph s 2461 mxbemux ph s 2462 ehriyylxernts inpi ph s 2470 Adlerschild des Deutschen Reiches inpi ph s 2471 ehriyymkhs phlngkh inpi ph s 2471 phrxmkbxlebirt ixnsitn idrbpriyyadusdibnthitkittimskdicak miwnik ebxrlin ekhmbridc lxndxn aelaklasokw chuxdawekhraahnxy 1069 idthuktngchuxwa Stella Planckia emuxpi ph s 2481 smakhmsngesrimkarwicywithyasastrkhxngpraethseyxrmni thuktngchuxwasmakhmmkhs phlngkh emuxpi kh s 1948phlnganhnngsuxPlanck Max 1900 Entropy and Temperature of Radiant Heat 2006 09 23 thi ewyaebkaemchchin Annalen der Physick vol 1 no 4 April pg 719 37 Planck Max 1901 On the Law of Distribution of Energy in the Normal Spectrum 2008 04 18 thi ewyaebkaemchchin Annalen der Physik vol 4 p 553 ff duephimkhakhngtwkhxngphlngkh xlebirt ixnsitn smakhmmkhs phlngkhxangxingPlanck discovers the quantum nature of energy xngkvs Brainyquote Max Planck Quotes xngkvs prawtiaelaphlnganodyyxkhxngmkhs phlngkh 2007 01 17 thi ewyaebkaemchchin prawtiaelaphlnganodyyx odyewbistmhawithyalyhwechiywechlimphraekiyrti lingkesiy Max Planck The Nobel Prize in Physics 1918 prawtimkhs phlngkh cakewbistthangkarkhxngrangwlonebl xngkvs prawtimkhs phlngkh ody nobel winner com xngkvs A Science Odyssey People and Discoveries Max Planck xngkvs prawtimkhs phlngkh thiewbistsmakhmmkhs phlngkh xngkvs hnngsux Heilbron J L The Dilemmas of an Upright Man Max Planck and the Fortunes of German Science Harvard 2000 ISBN 0 674 00439 6 Rosenthal Schneider Ilse Reality and Scientific Truth Discussions with Einstein von Laue and Planck Wayne State University 1980 ISBN 0 8143 1650 6aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb mkhs phlngkh chiwprawtikhxngmkhs phlngkh insaranukrmexnisokhlphiediy britetnika Annotated bibliography for Max Planck 2006 08 28 thi ewyaebkaemchchin from the Alsos Digital Library for Nuclear Issues Max Planck Planck s constant and Schrodinger s Cat 2012 02 18 thi ewyaebkaemchchin Kragh Helge Max Planck The reluctant revolutionary 2007 07 02 thi ewyaebkaemchchin Physics World December 2000