มหาวิทยาลัยกลาสโกว์ (อังกฤษ: The University of Glasgow ; ละติน: Universitatis Glasguensis) ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1451 เป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในสามมหาวิทยาลัยในเมืองกลาสโกว์ สกอตแลนด์ สหราชอาณาจักร มีชื่อเสียงในด้านการสอนและการวิจัย และเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยโบราณของสก็อตแลนด์ และเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในสหราชอาณาจักร
มหาวิทยาลัยกลาสโกว์ถูกก่อตั้งขึ้นอาณัติจากพระสันตปาปานิโคลัสที่ห้าโดยพระประสงค์ของพระเจ้าเจมส์ที่สอง เพื่อให้สก็อตแลนด์มีมหาวิทยาลัยสองแห่งเช่นเดียวกันกับอังกฤษที่มีออกซฟอร์ดและเคมบริดจ์ ซึ่งทำให้กลาสโกว์เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดอันดับสี่ในสหราชอาณาจักร และยังเป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับเงินบริจาคมากเป็นอันดับสี่ในบริเทนรองจากออกซฟอร์ด เคมบริดจ์ และเอดินบะระ อีกด้วย มหาวิทยาลัยกลาสโกว์นั้นมีสัดส่วนนักเรียนต่างชาติค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ โดยประมาณครึ่งหนึ่งเป็นคนในกลาสโกว์เอง อีก 40% เป็นนักเรียนจากเมืองต่างๆภายใน UK มีเพียงประมาณ 13 เปอร์เซ็นต์ที่มาจากต่างชาติ
มหาวิทยาลัยกลาสโกว์นั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของ UK มาหลายศตวรรษ เช่นเดียวกับเอดินเบอระและเซนต์แอนดรูส์ กลาสโกว์เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกใน UK ที่ก่อตั้งภาควิชาวิศวกรรมศาสตร์ และ ปัจจุบันเป็นมหาวิทยาลัยนอกเขตลอนดอนที่มีคณะวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร เมืองกลาสโกว์นั้นมีอัตราส่วนวิศวกรต่อประชากรสูงมากเป็นอันดับสามของโลก มหาวิทยาลัยกลาสโกว์ได้ให้กำเนิดนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกเป็นจำนวนมาก อาทิ ลอร์ดเคลวิน – หนึ่งในผู้พัฒนากฎข้อสองของเทอร์โมไดนามิคส์ และภายหลังได้รับเกียรติให้นำชื่อไปให้เป็นหน่วยวัดอุณหภูมิเคลวิน เจมส์ วัตต์ – ผู้พัฒนากลจักรไอน้ำจนก่อให้เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมของสหราชอาณาจักร จอห์น โลกี แบรด – ผู้ประดิษฐ์โทรทัศน์ โจเซฟ ลิสเตอร์ – หนึ่งในผู้ริเริ่มการผ่าตัดแบบสมัยใหม่ และ โจเซฟ แบลค – นักเคมีที่มีผลงานมากมายรวมไปถึงการค้นพบก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ฯลฯ
มหาวิทยาลัยกลาสโกว์ยังมีชื่อเสียงทางด้านสังคมศาสตร์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าด้านวิศวกรรมศาสตร์เลยแม้แต่น้อย กลาสโกว์นั้นถือได้ว่าเป็นจุดกำเนิดของยุคแสงสว่างอย่างแท้จริง ศาสตราจารย์ฟรานซิส ฮัทชิสัน แห่งมหาวิทยาลัยกลาสโกว์เป็นผู้ริเริ่มทฤษฎีอรรถประโยชน์ (Utilitarian principle) ซึ่งเป็นหนึ่งในทฤษฎีพื้นฐานภายใต้เศรษฐศาสตร์สำนักคลาสสิก (Classical Economics) อดัม สมิธ ศิษย์เก่าที่โด่งดังที่สุดของมหาวิทยาลัยกลาสโกว์นั้นได้ผสมผสานทฤษฎีนี้ผนวกกับแนวคิดของเดวิด ฮูม (นักปรัชญาชาวเอดินเบอระ) ก่อให้เกิดทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์สมัยใหม่ เศรษฐศาสตร์การเมือง และทฤษฎีการค้าเสรี ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของโลกอย่างมหาศาลมาจนถึงยุคปัจจุบัน
คณะวิชา
ปัจจุบันมหาวิทยาลัยกลาสโกว์มีทั้งหมด 9 คณะ ได้แก่
- ศิลปศาสตร์
- ชีววิทยาและวิทยาศาสตร์ชีวภาพ
- ครุศาสตร์ (ตั้งขึ้นหลังจากมหาวิทยาลัยรวมเข้ากับ ) ;
- วิศวกรรมศาสตร์
- สารสนเทศและคณิตศาสตร์
- นิติศาสตร์ และสังคมศาสตร์
- แพทยศาสตร์ (รวม ทันตแพทยศาสตร์ และพยาบาลศาสตร์)
- วิทยาศาสตร์กายภาพ
นอกจากคณะวิศวกรรมศาสตร์และวิทยาศาสตร์แล้ว โรงเรียนสัตวแพทยศาสตร์เป็นคณะที่มีชื่อเสียงมากที่สุดที่หนึ่งของกลาสโกว์ มีศิษย์เก่าที่เป็นชื่อเสียงจำนวนมาก อาทิ และมีจุดเด่นตรงที่วุฒิของที่นี่ไม่เพียงจะได้รับการยอมรับในสหราชอาณาจักรเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ และอีกหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งมีน้อยสถาบันที่จะได้รับการยอมรับเช่นนี้
โรงเรียนแพทยศาสตร์ก็เป็นจุดเด่นที่สุดอย่างหนึ่งของกลาสโกว์ ได้รับการยอมรับมายาวนานว่าเป็นโรงเรียนอันดับต้นในสหราชอาณาจักร เมื่อ ค.ศ. 2004 โรงเรียนถูกจัดเป็นอันดับ 1 ในการจัดอันดับคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร โดย ไทมส์ไฮเออร์เอดูเคชันซัปพลีเมนต์
ศิษย์เก่าชาวไทย
- ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร อดีตเลขาธิการ สกอ. อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.)
อ้างอิง
- University of Glasgow
แหล่งข้อมูลอื่น
- มหาวิทยาลัยกลาสโกว์ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
- Thai Student Society in Glasgow 2013-01-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน สมาคมนักเรียนในในกลาสโกว์
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
mhawithyalyklasokw xngkvs The University of Glasgow latin Universitatis Glasguensis kxtngemuxpi kh s 1451 epnmhawithyalythiihythisudinsammhawithyalyinemuxngklasokw skxtaelnd shrachxanackr michuxesiyngindankarsxnaelakarwicy aelaepnhnunginmhawithyalyobrankhxngskxtaelnd aelaepnhnunginmhawithyalythiihyaelamichuxesiyngthisudinshrachxanackrmhawithyalyklasokw mhawithyalyklasokwthukkxtngkhunxanticakphrasntpapaniokhlsthihaodyphraprasngkhkhxngphraecaecmsthisxng ephuxihskxtaelndmimhawithyalysxngaehngechnediywknkbxngkvsthimixxksfxrdaelaekhmbridc sungthaihklasokwepnmhawithyalythiekaaekthisudxndbsiinshrachxanackr aelayngepnmhawithyalythiidrbenginbricakhmakepnxndbsiinbriethnrxngcakxxksfxrd ekhmbridc aelaexdinbara xikdwy mhawithyalyklasokwnnmisdswnnkeriyntangchatikhxnkhangnxyemuxethiybkbmhawithyalyxun odypramankhrunghnungepnkhninklasokwexng xik 40 epnnkeriyncakemuxngtangphayin UK miephiyngpraman 13 epxresntthimacaktangchati mhawithyalyklasokwnnidrbkarykyxngwaepnmhawithyalychnnakhxng UK mahlaystwrrs echnediywkbexdinebxraaelaesntaexndrus klasokwepnmhawithyalyaehngaerkin UK thikxtngphakhwichawiswkrrmsastr aela pccubnepnmhawithyalynxkekhtlxndxnthimikhnawithyasastraelawiswkrrmsastrihythisudinshrachxanackr emuxngklasokwnnmixtraswnwiswkrtxprachakrsungmakepnxndbsamkhxngolk mhawithyalyklasokwidihkaenidnkwithyasastrthimichuxesiyngradbolkepncanwnmak xathi lxrdekhlwin hnunginphuphthnakdkhxsxngkhxngethxromidnamikhs aelaphayhlngidrbekiyrtiihnachuxipihepnhnwywdxunhphumiekhlwin ecms wtt phuphthnaklckrixnacnkxihekidkarptiwtixutsahkrrmkhxngshrachxanackr cxhn olki aebrd phupradisthothrthsn ocesf lisetxr hnunginphurierimkarphatdaebbsmyihm aela ocesf aeblkh nkekhmithimiphlnganmakmayrwmipthungkarkhnphbkaskharbxnidxxkisd l mhawithyalyklasokwyngmichuxesiyngthangdansngkhmsastrimyinghyxnipkwadanwiswkrrmsastrelyaemaetnxy klasokwnnthuxidwaepncudkaenidkhxngyukhaesngswangxyangaethcring sastracaryfransis hthchisn aehngmhawithyalyklasokwepnphurierimthvsdixrrthpraoychn Utilitarian principle sungepnhnunginthvsdiphunthanphayitesrsthsastrsankkhlassik Classical Economics xdm smith sisyekathiodngdngthisudkhxngmhawithyalyklasokwnnidphsmphsanthvsdiniphnwkkbaenwkhidkhxngedwid hum nkprchyachawexdinebxra kxihekidthvsdithangesrsthsastrsmyihm esrsthsastrkaremuxng aelathvsdikarkhaesri thisngphlkrathbtxesrsthkickhxngolkxyangmhasalmacnthungyukhpccubnkhnawichapccubnmhawithyalyklasokwmithnghmd 9 khna idaek silpsastr chiwwithyaaelawithyasastrchiwphaph khrusastr tngkhunhlngcakmhawithyalyrwmekhakb wiswkrrmsastr sarsnethsaelakhnitsastr nitisastr aelasngkhmsastr aephthysastr rwm thntaephthysastr aelaphyabalsastr withyasastrkayphaph nxkcakkhnawiswkrrmsastraelawithyasastraelw orngeriynstwaephthysastrepnkhnathimichuxesiyngmakthisudthihnungkhxngklasokw misisyekathiepnchuxesiyngcanwnmak xathi aelamicudedntrngthiwuthikhxngthiniimephiyngcaidrbkaryxmrbinshrachxanackrethann aetyngrwmthungshrthxemrika xxsetreliy aekhnada niwsiaelnd aelaxikhlaypraethsthwolk sungminxysthabnthicaidrbkaryxmrbechnni orngeriynaephthysastrkepncudednthisudxyanghnungkhxngklasokw idrbkaryxmrbmayawnanwaepnorngeriynxndbtninshrachxanackr emux kh s 2004 orngeriynthukcdepnxndb 1 inkarcdxndbkhnaaephthysastrkhxngmhawithyalyinshrachxanackr ody ithmsihexxrexduekhchnspphliemntsisyekachawithydr kvsnphngs kirtikr xditelkhathikar skx xditxthikarbdimhawithyalyethkhonolyiphracxmeklathnburi mcth xangxingUniversity of Glasgowaehlngkhxmulxunmhawithyalyklasokw ewbistxyangepnthangkar Thai Student Society in Glasgow 2013 01 09 thi ewyaebkaemchchin smakhmnkeriynininklasokw bthkhwamniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk