ซีตาแห่งบูร์บง-ปาร์มา (ซีตา มารีอา เดลเล กราซี อาเดลกอนดา มิคาเอลา ราฟาเอลลา กาเบรียลลา จูเซปปินา อันโตเนีย หลุยซา แอ็กเนเซ; 9 พฤษภาคม ค.ศ. 1892 – 14 มีนาคม ค.ศ. 1989) เป็นพระมเหสีในจักรพรรดิคาร์ล ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์สุดท้ายของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี ดังนั้นพระองค์จึงดำรงพระอิสริยยศเป็นจักรพรรดินีแห่งออสเตรียและพระองค์สุดท้ายเช่นเดียวกัน นอกจากนี้พระองค์ยังทรงได้รับการประกาศให้เป็นผู้รับใช้พระเป็นเจ้าโดยสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 อีกด้วย
ซีตาแห่งบูร์บง-ปาร์มา | |||||
---|---|---|---|---|---|
จักรพรรดินีแห่งออสเตรีย | |||||
ดำรงพระยศ | 21 พฤศจิกายน 1916 – 11 พฤศจิกายน 1918 | ||||
ราชาภิเษก | 30 ธันวาคม 1916 | ||||
พระราชสมภพ | 9 พฤษภาคม ค.ศ. 1892 วิลล่าบูร์บง, แคว้นตอสคานา, ราชอาณาจักรอิตาลี | ||||
สวรรคต | 14 มีนาคม ค.ศ. 1989 , รัฐเกราบึนเดิน, ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ | (96 ปี)||||
ฝังพระศพ | 1 เมษายน ค.ศ. 1989
| ||||
คู่อภิเษก | จักรพรรดิคาร์ลที่ 1 แห่งออสเตรีย (สมรส 1911; เสียชีวิต 1922) | ||||
พระราชบุตร | |||||
| |||||
ราชวงศ์ | บูร์บง-ปาร์มา | ||||
พระราชบิดา | |||||
พระราชมารดา | |||||
ลายพระอภิไธย |
พระองค์เป็นพระธิดาพระองค์ที่สิบเจ็ดใน และภริยาองค์ที่สอง พระองค์ทรงอภิเษกสมรสกับอาร์ชดยุกคาร์ลแห่งออสเตรียใน ค.ศ. 1911 โดยใน ค.ศ. 1914 อาร์ชดยุกคาร์ลทรงได้รับการสถาปนาเป็นทายาทโดยสันนิษฐานของจักรพรรดิฟรันทซ์ โยเซ็ฟที่ 1 แห่งออสเตรีย ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังเหตุการณ์ลอบปลงพระชนม์พระมาตุลาของพระองค์ อาร์ชดยุกฟรันทซ์ แฟร์ดีนันท์แห่งออสเตรีย และทรงขึ้นครองราชสมบัติใน ค.ศ. 1916 ภายหลังการเสด็จสวรรคตของจักรพรรดิฟรันทซ์ โยเซ็ฟที่ 1
ภายหลังการสิ้นสุดลงของสงครามโลกครั้งที่หนึ่งใน ค.ศ. 1918 ราชวงศ์ฮาพส์บวร์คถูกล้มล้างและดินแดนของจักรวรรดิได้แตกสลายกลายเป็นรัฐต่าง ๆ ได้แก่ ออสเตรีย, ฮังการี, และเชโกสโลวาเกีย เป็นต้น ในขณะที่ดินแดนส่วนอื่น ๆ ถูกผนวกรวมเข้ากับราชอาณาจักรแห่งชาวเซิร์บ โครแอต และสโลวีน, อิตาลี, โรมาเนีย, และโปแลนด์ที่พึ่งได้รับเอกราช จักรพรรดิคาร์ลและจักรพรรดินีซีตาทรงเสด็จลี้ภัยไปยังสวิตเซอร์แลนด์ และภายหลังความล้มเหลวของความพยายามในการฟื้นฟูระบอบราชาธิปไตยในฮังการี ทั้งสองพระองค์จึงทรงเสด็จประทับอยู่ที่เกาะมาเดราตามคำร้องขอของฝ่ายสัมพันธมิตร ซึ่งเป็นที่สวรรคตของจักรพรรดิคาร์ลใน ค.ศ. 1922 ภายหลังการสวรรคตของพระราชสวามี จักรพรรดินีซีตาและพระราชโอรสของพระองค์ เจ้าชายอ็อทโท ทรงเป็นสัญลักษณ์แห่งความปรองดองของราชวงศ์ออสเตรียที่ลี้ภัยอยู่ต่างแดน ในฐานะที่เป็นชาวคาทอลิกที่เคร่งครัด พระองค์ทรงแบกรับภาระ ดูแลครอบครัวใหญ่หลังจากเป็นม่ายขณะมีพระชนมายุ 29 พรรษา และยังคงซื่อสัตย์ต่อความทรงจำเกี่ยวกับพระสวามีตลอดพระชนม์ชีพ
ขณะทรงพระเยาว์
เจ้าหญิงซีตาแห่งบูร์บง-ปาร์มาพระราชสมภพเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ. 1892 ณ วิลลาปีอานอเร จังหวัดลุกกา ประเทศอิตาลี: 1 โดยพระนามว่า ซีตา (Zita) ตั้งตามชื่อของนักบุญซีตาผู้โด่งดังที่ซึ่งอาศัยอยู่ในแคว้นตอสคานาสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 13: 16 พระองค์เป็นพระธิดาพระองค์ที่สามและพระราชบุตรพระองค์ที่ห้าใน และพระชายาพระองค์ที่สอง ผู้ซึ่งเป็นพระราชธิดาในพระเจ้ามีแกลแห่งโปรตุเกสและพระมเหสีเจ้าหญิงอาเดิลไฮท์แห่งเลอเวนชไตน์-แวร์ทไฮม์-โรเซินแบร์ค พระบิดาของเจ้าหญิงซีตาทรงถูกขับออกจากราชบัลลังก์เมื่อทรงพระเยาว์ เนื่องจากความเคลื่อนไหวในการรวมชาติอิตาลีที่เกิดขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1859: 1 พระองค์ทรงเป็นพระบิดาของพระโอรสและธิดา 12 พระองค์ จากการอภิเษกสมรสครั้งแรกกับ (หกพระองค์ทรงมีปัญหาพัฒนาการทางด้านจิตใจและสามพระองค์สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์): 1 ดยุกโรแบร์โตทรงเป็นม่ายใน ค.ศ. 1882 และอีกสองปีต่อมาทรงอภิเษกสมรสกับอิงฟังตามารีอา อันตอนียูแห่งโปรตุเกส พระมารดาในเจ้าหญิงซีตา: 1 การอภิเษกสมรสครั้งที่สองนี้ได้ให้กำเนิดพระโอรสและธิดาเพิ่มอีก 12 พระองค์ โดยเจ้าหญิงซีตาเป็นพระธิดาพระองค์ที่ 17 ในจำนวนพระโอรสธิดาจำนวนทั้งหมด 24 พระองค์ของดยุกโรแบร์โต พระองค์และครอบครัวเสด็จแปรพระราชฐานประทับทั้งที่วิลลาปีอานอเร (อยู่ระหว่างเมืองและเมือง) และปราสาทชวาร์เซาในภูมิภาคโลเวอร์ออสเตรีย: 5–6 เจ้าหญิงซีตาทรงเจริญพระชนม์ในพระราชฐานทั้งสองแห่งนี้ ครอบครัวของเจ้าหญิงประทับในออสเตรียเป็นส่วนใหญ่และจะย้ายไปประทับที่เมืองปีอานอเรในช่วงฤดูหนาวและกลับมาในฤดูร้อน: 2 ในการเดินทางจะต้องใช้รถไฟขบวนพิเศษที่มีจำนวนสิบหกตู้เพื่อรองรับสมาชิกในครอบครัวและสิ่งของเครื่องใช้ของทุกพระองค์ได้ทั้งหมด: 7
เจ้าหญิงซีตาและพระเชษฐา พระเชษฐภคินี พระอนุชาและพระขนิษฐาได้รับการอภิบาลให้ตรัสภาษาอิตาลี ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน ภาษาสเปน ภาษาโปรตุเกส และภาษาอังกฤษ: 2 พระองค์ทรงเล่าว่า:
“ | พวกเราเติบโตมาแบบนานาชาติ เสด็จพ่อคิดว่าท่านเป็นฝรั่งเศสอย่างแรกเลย และใช้เวลาประทับอยู่กับพวกพี่ ๆ ที่ช็องบอร์ ซึ่งคือพระราชฐานของเสด็จพ่อริมแม่น้ำลัวร์ ข้าพเจ้าเคยถามเสด็จพ่อครั้งหนึ่งว่าพวกเราจะแนะนำตัวเองเช่นไรดี ท่านกล่าวกลับว่า 'พวกเราเป็นเจ้านายชาวฝรั่งเศสที่ปกครองดินแดนในอิตาลี' แต่ที่จริงแล้ว ในพี่น้องจำนวนยี่สิบสี่คน มีเพียงข้าพเจ้าและพี่น้องอีกสองเท่านั้นคนที่เกิดในอิตาลีจริง ๆ | ” |
เมื่อพระองค์มีพระชนมายุได้สิบพรรษา เจ้าหญิงซีตาทรงเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนประจำแห่งหนึ่งในเมืองซันแบร์ค ภูมิภาคโอเบอร์ไบเอิร์น ซึ่งเน้นการศึกษาและการสอนศาสนาที่เคร่งครัด: 3 พระองค์ต้องเสด็จกลับพระราชฐานอย่างกะทันหันในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ค.ศ. 1907 อันเนื่องจากการสิ้นพระชนม์ของพระบิดา พระอัยกาจึงส่งพระองค์และเจ้าหญิงฟรันเซสกา พระเชษฐภคินีไปประทับในสำนักชีที่ไอล์ออฟไวต์จนพระองค์สำเร็จการศึกษา: 19 เหล่าพระโอรสธิดาในราชวงศ์ซึ่งเป็นคาทอลิกที่เคร่งครัด ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจนานัปการแก่คนยากจน ส่วนในเมืองชวาร์เซา ครอบครัวของเจ้าหญิงซีตาได้นำผ้าที่เหลือมาทำฉลองพระองค์ พระองค์และเจ้าหญิงฟรันเซสกาทรงแจกจ่ายอาหาร เสื้อผ้าและยารักษาโรคแก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากในเมืองปีอานอเร: 7–8 พระเชษฐภคินีสามพระองค์ทรงเป็นแม่ชี และครั้งหนึ่งพระองค์ทรงเคยคิดที่จะดำเนินรอยตาม: 20 แต่ด้วยพระพลานามัยที่ไม่ค่อยแข็งแรง พระองค์จึงทรงเข้ารับการรักษาแบบดั้งเดิมในสปาของทวีปยุโรปเป็นเวลาสองปี: 15
อภิเษกสมรส
บริเวณใกล้เคียงของปราสาทชวาร์เซาเป็นคือ วิลลาวอร์ทโฮลซ์ ที่ประทับของอาร์ชดัชเชสมารีอา เทเรซีอาแห่งออสเตรีย พระมาตุจฉาของเจ้าหญิงซีตา พระองค์เป็นพระมารดาเลี้ยงของอาร์ชดยุกอ็อทโทแห่งออสเตรีย ซึ่งสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1906 และพระอัยยิกาเลี้ยงของอาร์ชดยุกคาร์ลแห่งออสเตรีย-เอ็สเทอ ซึ่งในขณะนั้นเป็นรัชทายาทลำดับที่สองแห่งราชบัลลังก์ออสเตรีย-ฮังการี พระธิดาสองพระองค์ของอาร์ชดัชเชสมารีอา เทเรซีอาแห่งออสเตรียเป็นพระญาติของเจ้าหญิงซีตา และอาร์ชดยุกคาร์ล ทั้งสองพระองค์ทรงพบกันเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์และไม่ได้เจอกันอีกเป็นเวลาเกือบสิบปี เนื่องจากต่างก็ไปศึกษาเล่าเรียน ในปี ค.ศ. 1909 กองร้อยดรากูนของอาร์ชดยุกคาร์ลได้ประจำการที่เมืองบรันไดส์ บนแม่น้ำเอลเบ ซึ่งพระองค์เสด็จไปเยี่ยมพระมาตุจฉาที่เมืองฟรันเซนบาด ในช่วงนี้เองที่อาร์ชดยุกคาร์ลและเจ้าหญิงซีตาทรงสร้างความคุ้นเคยกันอีกครั้ง พระองค์ทรงอยู่ภายใต้ความกดดันเรื่องการอภิเษกสมรส (เพราะว่าอาร์ชดยุกฟรันทซ์ แฟร์ดีนันท์ พระปิตุลา ทรงอภิเษกสมรสต่างฐานันดรศักดิ์กับสามัญชนและพระโอรสธิดาหมดสิทธิสืบราชสมบัติ) และเจ้าหญิงซีตาทรงมาจากสายราชตระกูลที่เหมาะสม เจ้าหญิงทรงเล่าต่อมาในภายหลังว่า "เราสองคนดีใจมากที่พบกันอีกครั้งและกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน ความรู้สึกส่วนของข้าพเจ้าพัฒนาขึ้นเป็นลำดับตลอดเวลาสองปี พระองค์ดูเหมือนจะตัดสินใจได้เร็วมากกว่า และชัดเจนมากขึ้นเมื่อในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี ค.ศ. 1910 ได้มีข่าวลือแพร่สะพัดออกไปว่าข้าพเจ้าได้หมั้นกับ ซึงเป็นญาติสายห่างจากสเปน เมื่อทราบเรื่องนี้ อาร์ชดยุกคาร์ลได้รีบเสด็จมาจากกองร้อยที่ประจำการอยู่ที่เมืองบรันไดส์และพบแกรนด์ดัชเชสมารีอา เทเรซีอา พระอัยยิกา ซึ่งเป็นเสด็จป้าของข้าพเจ้าและทีปรึกษาเรื่องการอภิเษกสมรส พระองค์ตรัสถามว่าข่าวลือเป็นจริงหรือไม่และเมื่อทรงทราบว่าไม่เป็นจริง จึงตรัสตอบว่า 'งั้นหม่อมฉันควรจะช้าไม่ได้เสียแล้ว มิเช่นนั้นซีตาจะหมั้นกับคนอื่นแทน'"
อาร์ชดยุกคาร์ลเสด็จไปยังวิลล่าพีอานอเร่เพื่อสู่ขอเจ้าหญิงซีตา และราชสำนักออสเตรียได้ประกาศพิธีหมั้นเมื่อในวันที่ 13 มิถุนายน ค.ศ. 1911 และอีกหลายปีต่อมาเจ้าหญิงซีตาทรงเล่าว่าหลังจากพิธีหมั้นแล้ว พระองค์ทรงแสดงความกังวลกับอาร์ชดยุกคาร์ลเกี่ยวกับโชคชะตาของจักรวรรดิออสเตรีย รวมทั้งความท้าท้ายของพระราชวงศ์ด้วย ทั้งสองพระองค์อภิเษกสมรสเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ค.ศ. 1911 ณ ปราสาทชวาร์เซา ประเทศออสเตรีย โดยมีจักรพรรดิฟรันทซ์ โยเซ็ฟ ขณะนั้นพระชนมพรรษา 81 พรรษา เสด็จมาเข้าร่วมพิธีด้วยความโล่งพระทัยเมื่อเห็นรัชทายาทอภิเษกสมรสกับเจ้าสาวที่เหมาะสม และยังคงมีพระพลานามัยที่สมบูรณ์ ถึงกับสามารถกล่าวนำดื่มอวยพรในงานเลี้ยงพระกระยาหารเช้าของวันอภิเษกสมรสได้ จากนั้นไม่นานเจ้าหญิงซีตาทรงพระครรภ์พระโอรสและอาร์ชดยุกอ็อทโท ประสูติในวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1912 และตามมาด้วยพระราชโอรสธิดาอีกเจ็ดพระองค์ในอีกทศวรรษต่อมา
พระชายาในรัชทายาทแห่งออสเตรีย
ในเวลานั้น อาร์ชดยุกคาร์ลมีพระชนมายุยี่สิบเศษและไม่ทรงคาดคิดว่าจะได้เป็นรัชทายาทในราชบัลลังก์ โดยเฉพาะขณะที่อาร์ชดยุกฟรันทซ์ แฟร์ดีนันท์ ยังมีพระพลานามัยที่สมบูรณ์ แต่เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 1914 เมื่อพระองค์และเจ้าหญิงโซฟี พระชายาถูกลอบปลงพระชนม์ที่เมืองซาราเยโว โดยกลุ่มชาตินิยมชาวเซิร์บในแคว้นบอสเนีย อาร์ชดยุกคาร์ลและอาร์ชดัชเชสซีตาทรงทราบข่าวจากโทรเลขในวันเดียวกัน พระองค์ตรัสถึงพระสวามีว่า "แม้ว่าจะเป็นวันที่อากาศแจ่มใส ข้าพเจ้าเห็นพระพักตร์ของพระองค์ซีดขาวในแสงแดด"
การลอบปลงพระชนม์ครั้งนี้ทำให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 อาร์ชดยุกคาร์ลทรงได้รับการแต่งตั้งเป็นนายพลแห่งกองทัพออสเตรียบัญชาการกองร้อยที่ 20 เตรียมพร้อมรบในเมืองไทรอล สงครามสร้างความลำบากใจแก่อาร์ชดัชเชสซีตา เนื่องจากพระเชษฐาและพระอนุชาสู้รบในฝ่ายตรงข้ามกัน (เจ้าชายเฟลิกซ์ และเจ้าชายเรอเน ทรงเข้าร่วมกองทัพออสเตรีย ในขณะที่ และ ประทับอยู่ในประเทศฝรั่งเศสและเข้าร่วมกองทัพเบลเยียม) นอกจากนี้ ประเทศอิตาลีซึ่งเป็นบ้านเกิดของอาร์ชดัชเชสซีตา ได้เข้าร่วมสงครามต่อต้านออสเตรียในปี ค.ศ. 1914 และเป็นเหตุให้ข่าวลือของอาร์ชดัชเชสซีตา"ที่เป็นอิตาลี" เริ่มเป็นที่ซุบซิบกัน แม้แต่ในช่วงปลายปี ค.ศ. 1917 เคานต์อ็อทโท ฟ็อน เวเดิล ทูตเยอรมันประจำกรุงเวียนนา เขียนจดหมายไปยังราชสำนักในกรุงเบอร์ลินว่า "จักรพรรดินีทรงสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์อิตาลี... ประชาชนไม่เชื่อชาวอิตาลีและเหล่าญาติของพระนางสักเท่าใดนัก"
ตามพระราชโองการของจักรพรรดิฟรันทซ์ โยเซ็ฟ อาร์ชดัชเชสซีตาและพระราชโอรสธิดาเสด็จออกจากพระราชฐานในเมืองเฮ็ทเซ็นดอร์ฟไปประทับในพระราชวังเชินบรุน พระองค์ปฏิบัติพระราชภารกิจอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการร่วมกับจักรพรรดิเป็นเวลาหลายชั่วโมง ซึ่งพระองค์ตรัสเล่าถึงเรื่องความกลัวต่อเหตุการณ์ในอนาคตแก่อาร์ชดัชเชสซีตา จักรพรรดิฟรันทซ์ โยเซ็ฟ เสด็จสวรรคตด้วยโรคหลอดพระวาโยอักเสบและพระปัปผาสะบวมเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 1916 ขณะมีพระชนมพรรษา 86 พรรษา อาร์ชดัชเชสซีตาทรงเล่าในภายหลังว่า "ข้าพเจ้าจำรูปร่างพ่วงพีของเจ้าชายล็อบโควิตซ์ก้าวเข้ามาหาสวามีของข้าพเจ้า และด้วยน้ำตาที่เอ่อเต็มสองตา ได้ทำสัญลักษณ์รูปไม้กางเขนบนหน้าผากของคาร์ล แล้วพูดว่า 'ขอพระผู้เป็นเจ้าโปรดประทานพรแก่ฝ่าพระบาท' นับเป็นครั้งแรกที่ได้ยินการใช้พระอิสริยยศกษัตริย์กับเราทั้งสอง"
จักรพรรดินีและสมเด็จพระราชินี
จักรพรรดิคาร์ลและจักรพรรดินีซีตาทรงทำพีระราชพิธีบรมราชาภิเษกเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ค.ศ. 1916 ณ กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ต่อจากนั้นมีพิธีพระราชทานเลี้ยงพระกระยาหารฉลองการครองราชสมบัติ แต่ไม่นานงานสังสรรค์ได้สิ้นสุดลง ด้วยสองพระองค์ทรงตระหนักว่าไม่ควรจัดงานเฉลิมฉลองอย่างเอิกเกริกในช่วงสงครามอันเลวร้าย เมื่อเริ่มต้นรัชกาลแล้ว จักรพรรดิคาร์ลไม่ได้เสด็จออกนอกกกรุงเวียนนาบ่อยนัก จึงได้มีรับสั่งให้ติดตั้งสายโทรศัพท์จากเมืองบาเดิน (ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองบัญชาการทหารในพระองค์) มายังพระราชวังฮอฟบวร์ค พระองค์ทรงโทรศัพท์หาพระจักรพรรดินีซีตาหลายครั้งเมื่อใดที่ประทับห่างไกลกัน จักรพรรดินีทรงมีอิทธิพลต่อพระราชสวามีอยู่บ้างและมีโอกาสร่วมในการเข้าเฝ้าของอัครมหาเสนาบดีหรือการประชุมทางการทหารอย่างไม่โจ่งแจ้งมากนัก และพระองค์ยังทรงมีความสนพระทัยในนโยบายด้านสังคมเป็นพิเศษ แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องของกิจการทหารยกให้เป็นสิทธิของจักรพรรดิคาร์ลแต่เพียงผู้เดียว ด้วยความแข็งขันและแน่วแน่ พระองค์ได้โดยเสด็จพระราชสวามีไปยังมณฑลต่างๆ และแนวรบ รวมทั้งอุทิศพระวรกายให้กับพระราชกรณียกิจการกุศลและการเสด็จเยี่ยมโรงพยาบาลของผู้ได้รับบาดเจ็บจากสงคราม
กรณีซิกซ์ตัส
ในขณะนี้ สงครามโลกได้ก้าวย่างเข้าสู่ปีที่สี่ และ พระเชษฐาในจักรพรรดินีซีตา ซึ่งร่วมรบในกองทัพเบลเยียม เป็นผู้เสนอญัตติสำคัญเบื้องหลังแผนการให้จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีสร้างสันติภาพกับฝรั่งเศส จักรพรรดิคาร์ลทรงเริ่มติดต่อกับเจ้าชายซิกซ์ทัสผ่านทางเส้นสายในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่เป็นกลาง และจักรพรรดินีซีตามีพระราชหัตถเลขาเชิญพระเชษฐามายังกรุงเวียนนา โดยมีอิงฟังตามารีอา อันตอนียู พระมารดาเป็นผู้ส่งจดหมายให้ด้วยพระองค์เอง
เจ้าชายซิกซ์ทัสเสด็จมาพร้อมด้วยเงื่อนไขที่เห็นชอบจากประเทศฝรั่งเศสเพื่อการเจรจา เช่น การคืนเมืองอัลซาสและลอร์แรนให้กับฝรั่งเศส (ซึ่งผนวกกับประเทศเยอรมนีภายหลังจากสงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซียเมื่อปี ค.ศ. 1870) การคืนเอกราชให้กับประเทศเบลเยียม และราชอาณาจักรเซอร์เบีย และการมอบเมืองคอนสแตนติโนเปิลให้แก่ประเทศรัสเซีย จักรพรรดิคาร์ลทรงเห็นชอบด้วยในหลักการกับประเด็นสามข้อแรกและมีพระราชหัตถเลขาถึงเจ้าชายซิกซ์ทัสลงวันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 1917 ให้แจ้ง "ข้อความที่เป็นความลับและไม่เป็นทางการซึ่งเราจะดำเนินการทุกวิถีทางและอิทธิพลของเราเองทั้งหมด" แก่ประธานาธิบดีแห่งฝรั่งเศส ในที่สุดความพยายามในการทูตระดับพระราชวงศ์ไม่ประสบผลสำเร็จ ประเทศเยอรมนีปฏิเสธการเจรจาเรื่องดินแดนอัลซาสและลอแรน และลังเลที่จะยุติสงครามเมื่อเห็นว่าการล่มสลายของจักรวรรดิรัสเซียรออยู่ตรงหน้า เจ้าซิกซ์ทัสทรงพยายามต่อไป โดยเข้าพบกับลอยด์ จอร์จ ในกรุงลอนดอน เกี่ยวกับเรื่องความต้องการดินแดนออสเตรียของประเทศอิตาลีตามสนธิสัญญาลอนดอน แต่นายกรัฐมนตรีอังกฤษไม่สามารถโน้มน้าวให้นายทหารอังกฤษสร้างสันติภาพกับออสเตรียได้ จักรพรรดินีซีตาสามารถสร้างความสำเร็จด้วยพระองค์เองในช่วงเวลานี้ โดยหยุดยั้งแผนการของเยอรมันที่จะส่งเครื่องบินไปทิ้งระเบิดยังพระราชฐานของพระมหากษัตริย์และสมเด็จพระราชินีแห่งเบลเยียมในวันเฉลิมพระนามของทั้งสองพระองค์
ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1918 หลังจากการลงนามระหว่างเยอรมนีกับรัสเซีย เคานต์อ็อทโทคาร์ แซร์นิน รัฐมนตรีต่างประเทศของออสเตรียได้กล่าวปราศรัยโจมตีนายจอร์จ เคลม็องโซ นายกรัฐมนตรีของฝรั่งเศสที่กำลังเข้ามาร่วมประชุมว่าเป็นอุปสรรคสำคัญในการสร้างสันติภาพระหว่างฝ่ายมหาอำนาจกลาง นายเคลม็องโซรู้สึกโมโหอย่างมากและได้นำจดหมายลงวันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 1917 ของจักรพรรดิคาร์ล ที่ค้นเจอออกมาตีพิมพ์ ในไม่ช้า พระชนม์ชีพของเจ้าชายซิกซ์ทัสดูเหมือนจะตกอยู่ในอันตรายและเกิดความกลัวกันว่าเยอรมนีอาจจะเข้ายึดครองออสเตรีย เคานต์แซร์นินได้เร่งให้จักรพรรดิส่ง "คำมั่นสัญญา" ไปยังเหล่าพันธมิตรของออสเตรียว่า เจ้าชายซิกซ์ทัสมิได้ทรงรับพระบรมราชานุญาตให้แสดงจดหมายฉบับนั้นต่อรัฐบาลฝรั่งเศส ไม่มีการกล่าวถึงประเทศเบลเยียมเลย และนายเคลม็องได้โกหกการพูดถึงเรื่องดินแดนอัลซาส เคานต์แซร์นินได้ติดต่อกับสถานทูตเยอรมันมาโดยตลอดระยะที่เกิดวิกฤตการณ์ครั้งนี้ และพยายามโน้มน้าวให้จักรพรรดิสละราชสมบัติเนื่องจากเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ เขาจึงได้ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศไป
จุดจบของจักรวรรดิ
ในชาวงเวลานี้ สงครามโลกครั้งที่ 1 กำลังจะสิ้นสุดลงกับจักรพรรดิที่ทรงพร้อมรบ สหภาพคณะมนตรีเช็กได้สาบานตนในการตั้งเป็นรัฐเอกราชเชโกสโลวัก ภายใตัจักรวรรดิฮาพส์บวร์คเมื่อวันที่ 13 เมษายน ค.ศ. 1918 แต่กองทัพเยอรมันยังคงแสดงแสนยานุภาพก่อความรุนแรงในสงครามอาเมียง และเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ค.ศ. 1918 พระเจ้าซาร์เฟอร์ดินานด์ที่ 1 แห่งบัลแกเรีย ได้แยกตัวออกจากพันธมิตรในฝ่ายมหาอำนาจกลางและฟ้องร้องเพื่อสันติภาพด้วยตนเอง จักรพรรดินีซีตาประทับอยู่กับจักรพรรดิคาร์ลเมื่อทรงได้รับโทรเลขเรื่องการล่มสลายของราชอาณาจักรบัลแกเรีย พระองค์ทรงเล่าว่า "ทำให้มีความเร่งด่วนมากขึ้นในการเจรจาเพื่อสันติภาพกับมหาอำนาจตะวันตกในขณะที่ยังมีเรื่องให้เจรจากันอยู่" ในวันที่ 16 ตุลาคม จักรพรรดิทรงออก "แถลงการณ์ประชาชน" เสนอให้มีการปรับโครงสร้างจักรวรรดิบนแนวทางตามแบบสหพันธรัฐโดยแต่ละเชื้อชาติจะมีรัฐเป็นของตนเอง แต่แต่ละประเทศพยายามแยกตัวออกไปและจักรวรรดิจึงล่มสลายโดยสิ้นเชิง
เมื่อทรงปล่อยให้พระราชโอรสธิดาอยู่ทีพระราชวังเกอเดลโล ประเทศฮังการีแล้ว จักรพรรดิคาร์ลและจักรพรรดินีซีตาเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระราชวังเชินบรุนน์ ในเวลานี้รัฐมนตรีๆ ต่างได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐใหม่ "เยอรมัน-ออสเตรีย" และในวันที่ 11 พฤศจิกายน คณะรัฐมนตรีพร้อมกับโฆษกประจำองค์จักรพรรดิได้เตรียมแถลงการณ์เพื่อให้พระองค์ลงพระปรมาภิไธย เมื่อทอดพระเนตรเห็นครั้งแรก จักรพรรดินีซีตาเข้าพระทัยว่าเป็นแถลงการณ์เพื่อสละราชสมบัติและมีพระราชดำรัสอันเป็นที่เลื่องลือว่า
“ | พระประมุขจะสละราชสมบัติไม่ได้ พระองค์อาจถูกปลดออกราชสมบัติได้... ไม่เป็นไร เพราะเป็นอำนาจบังคับ แต่จะให้สละราชสมบัติอย่างนั่นหรือ ไม่มีวัน ไม่มีวัน ไม่มีวันอย่างเด็ดขาด ข้าพเจ้าจะยอมตายข้างพวกท่านเสียดีกว่า แล้วก็ยังคงมีอ็อทโทอยู่อีก หากพวกท่านสังหารพวกเราทั้งหมด จะยังคงมีสมาชิกราชวงศ์ฮาพส์บวร์คคนอื่นเหลืออยู่ดี | ” |
จักรพรรดิพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ตีพิมพ์เอกสารเผยแพร่สู่สาธารณชน และพระองค์พร้อมทั้งครอบครัวและข้าราชบริพารในราชสำนักเสด็จออกจากตำหนักล่าสัตว์ในเมืองเอ็กคาร์ทเซา ซึ่งใกล้กับชายแดนประเทศฮังการีและสโลวาเกีย หลังจากนั้นได้มีการประกาศก่อตั้งสาธารณรัฐเยอรมัน-ออสเตรียในวันต่อมา
การลี้ภัยนอกประเทศ
หลังจากช่วงหลายเดือนที่ยากลำบากในเมืองเอ็กคาร์ทเซา เหล่าพระราชวงศ์ได้รับความช่วยเหลือจากผู้ที่ไม่เคยคาดคิด เจ้าชายซิกซ์ตัสทรงเข้าพบกับสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 และขอให้พระองค์ทรงช่วยเหลือสมาชิกราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค สมเด็จพระเจ้าจอร์จทรงรู้สึกเห็นใจกับคำขอร้องนี้ (นับเป็นเพียงไม่กี่เดือนตั้งแต่พวกปฏิวัติสังหารจักรพรรดินิโคลัสที่ 2 แห่งรัสเซีย พระญาติสนิท) และให้สัญญาว่า "ข้าพเจ้าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นโดยทันที"
สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 ทรงส่งทหารอังกฤษหลายนายไปช่วยเหลือจักรพรรดิคาร์ลและพระราชวงศ์ นำโดยร้อยโทเอ็ดเวิร์ด ลิสเล สตรัทท์ ในวันที่ 19 มีนาคม ค.ศ. 1919 ได้มีคำสั่งจาก กระทรวงกลาโหมให้ "นำจักรพรรดิออกจากออสเตรียโดยด่วน" แม้มีความยุ่งยากบางประการ สตรัทท์ได้จัดรถไฟพระที่นั่งไปยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และสามารถให้พระองค์เสด็จออกนอกประเทศอย่างสมพระเกียรติและไม่มีการสละราชสมบัติ จักรพรรดิคาร์ล จักรพรรดินีซีตา พระราชโอรสธิดาและเหล่าข้าราชบริพารเสด็จออกจากประเทศออสเตรียในวันที่ 24 มีนาคม
ประเทศฮังการี และการลี้ภัยบนเกาะมาเดรา
ที่ประทับแห่งแรกระหว่างการลี้ภัยของครอบครัวเป็นปราสาทวาร์เท็กในเมืองรอสชาช ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของราชวงศ์บูร์บง-ปาร์มา แต่องค์กรรัฐบาลของสวิส ซึ่งกังวลเกี่ยวกับนัยแอบแฝงของราชวงศ์ฮาพส์บวร์คที่ประทับอยู่ใกล้กับชายแดนออสเตรีย ได้บังคับให้สมาชิกทุกพระองค์ย้ายไปประทับทางด้านฝั่งตะวันตกของประเทศแทน ในอีกหนึ่งเดือนต่อมา ครอบครัวจักรพรรดิจึงได้ย้ายไปประทับที่วิลลาพรันกินส์ ใกล้กับทะเลสาบเจนีวา โดยดำรงพระชนม์ชีพอย่างเงียบสงบ ชีวิตอันสงบมีอันต้องสิ้นสุดลงโดยทันทีในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1920 เมื่อนายมิคลอส ฮอร์ธี ได้รับเลือกให้เป็นผู้สำเร็จราชการ หลังจากช่วงเวลาแห่งความไร้เสถียรภาพในประเทศฮังการี จักรพรรดิคาร์ลยังคงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งฮังการีโดยทางปฏิบัติ (พระเจ้ากาโรยที่ 4) แต่ฮอร์ธีได้ส่งผู้แทนมาเข้าเฝ้าพระองค์ที่วิลลาพรันกินส์ เพื่อกราบทูลไม่ให้เสด็จไปยังฮังการีจนกว่าเหตุการณ์ต่างๆ จะสงบลงแล้ว หลังจากสนธิสัญญาทรีอานง ความทะเยอทะยานของฮอร์ธีก็เพิ่มมากขึ้น จักรพรรดิคาร์ลทรงเป็นกังวลและขอความช่วยเหลือจากร้อยโทสตรัทท์ให้พาพระองค์เสด็จไปยังฮังการี พระองค์ทรงพยายามเข้าควบคุมสถานการณ์อยู่สองครั้ง โดยครั้งแรกในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1921 และอีกครั้งในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1922 แต่ล้มเหลวหมดทุกครั้ง แม้ว่าจะได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากจักรพรรดินีซีตา (พระองค์ได้โดยเสด็จจักรพรรดิคาร์ลด้วยรถไฟพระที่นั่งเป็นครั้งสุดท้ายไปยังกรุงบูดาเปสต์ด้วย)
จักรพรรดิคาร์ลและจักรพรรดินีซีตาประทับอยู่ที่ปราสาทตาตร ซึ่งเป็นที่พำนักของเคานต์เอสเตอร์ฮาซี จนกว่าจะสามารถหาที่ลี้ภัยถาวรที่เหมาะสมได้ มีการแนะนำให้ประทับลี้ภัยที่เกาะมอลตาแต่ได้รับการปฏิเสธจาก รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ และดินแดนฝรั่งเศสก็ได้ถูกห้ามเนื่องจากความเป็นไปได้ในการสมคบคิดวางแผนร้ายของพระเชษฐาและพระอนุชาในจักรพรรดินีซีตาในนามจักรพรรดิ ในที่สุดสถานที่ลี้ภัยถาวรจึงเป็นเกาะมาเดราของโปรตุเกส ในวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ. 1921 ทั้งสองพระองค์เสด็จโดยรถไฟพระที่นั่งจากเมืองทิฮานีไปที่เมืองบอยอ ซึ่งมีเรือตรวจการณ์ HMS Glow-worm รอรับเสด็จอยู่ และได้เสด็จมาถึงเมืองฟุงฌาล ประเทศโปรตุเกส ในวันที่ 19 พฤศจิกายน ส่วนพระราชโอรสธิดายังคงประทับที่ปราสาทวาร์เท็กในประเทศสวิตเซอร์แลนด์กับอาร์ชดัชเชสมารีอา เทเรซีอา พระราชอัยยิกาในจักรพรรดิคาร์ล แต่จักรพรรดินีซีตาได้เสด็จไปพบกับพระราชโอรสธิดาทุกพระองค์ในเมืองซูริค เมื่ออาร์ชดยุกโรแบร์ท พระราชโอรสทรงเข้ารับการผ่าตัดโรคไส้ติ่งอักเสบ พระราชโอรสธิดาทุกพระองค์เสด็จไปประทับร่วมกับพระราชบิดาและพระราชที่เกาะมาเดราในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1922
การสวรรคตของพระราชสวามี
จักรพรรดิคาร์ลมีพระพลานามัยไม่ดีมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง หลังจากเสด็จไปซื้อของเล่นให้กับอาร์ชดยุกคาร์ล ลูทวิช พระราชโอรสในวันที่อากาศเย็นจัดในเมืองฟุงฌาล พระองค์ประชวรด้วยโรคหลอดพระวาโยอักเสบ และลุกลามกลายเป็นโรคพระปัปผาสะบวมอย่างรวดเร็ว ซึ่งในสมัยนั้นยังไม่มีการรักษาด้วยการแพทย์สมัยใหม่ได้ พระราชโอรสธิดาและข้าราชบริพารหลายคนล้มป่วยด้วยเช่นกัน และจักรพรรดินีซีตา (ซึ่งในขณะนั้นมีพระครรภ์แปดเดือน) ทรงรักษาพยาบาลทุกพระองค์ จักรพรรดิมีพระอาการแย่ลงเป็นลำดับและเสด็จสวรรคคเมื่อวันที่ 1 เมษายน โดยมีพระราชดำรัสสุดท้ายกับจักรพรรดินีว่า "เรารักเจ้ามากเหลือเกิน" หลังจากงานพระศพเสร็จสิ้น ผู้ร่วมงานคนหนึ่งได้กล่าวถึงจักรพรรดินีซีตาว่า "สตรีผู้นี้ควรเป็นที่ชื่นชมจริงๆ พระองค์ไม่สูญเสียความสุขุมเยือกเย็นแม้แต่สักวินาทีเดียวเลย พระองค์ทรงทักทายผู้คนรอบด้านและพูดคุยกับคนทีมาช่วยเหลืองานพระศพด้วย ทุกคนประทับใจเสน่ห์ของพระองค์กันทุกคน" จักรพรรดินีซีตาทรงฉลองพระองค์สีดำไว้ทุกข์ให้กับพระราชสวามีตลอดระยะ 67 ปีของการเป็นม่าย
เมื่อทรงเป็นม่าย
หลังจากการเสด็จสวรรคตของจักรพรรดิคาร์ล อดีตราชวงศ์ออสเตรียจะต้องย้ายอีกครั้งในไม่ช้า พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 13 แห่งสเปนได้พยายามติดต่อกระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษผ่านทางเอกอัครราชทูตสเปนในกรุงลอนดอน ซึ่งอนุญาตให้จักรพรรดินีซีตาและพระโอรสธิดาเจ็ดพระองค์ (จะเป็นแปดในอีกไม่นาน) ประทับในประเทศสเปนได้ สมเด็จพระราชาธิบดีอัลฟอนโซทรงส่งเรือบรบหลวง Infanta Isabel ไปยังเมืองฟุงชาลเพื่อรับทุกพระองค์มายังเมืองคาดิซ เมื่อมาถึงแล้วได้เสด็จไปยังในกรุงมาดริด ซึ่งอีกต่อมาไม่นานจักรพรรดินีซีตาได้ประสูติพระราชธิดาพระองค์สุดท้ายคือ อาร์ชดัชเชสเอลีซาเบ็ท พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 13 พระราชทานพระราชวังอูรีบารเร็นในเมืองเลกิติโอบนอ่าวบิสเคย์ให้เป็นที่ลี้ภัยแก่พระญาติในราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค สร้างความซาบซึ้งแก่จักรพรรดินีซีตาซึ่งไม่ประสงค์จะเป็นภาระอันหนักอึ้งแก่ประเทศที่ให้ที่หลบภัยแก่พระองค์ จักรพรรดินีประทับอยู่ในเมืองเลกิติโออีกเป็นระยะเวลาหกปี และได้เริ่มต้นการเลี้ยงดูและให้การศึกษาแก่พระโอรสธิดาอย่างเต็มที่ ทุกพระองค์ดำรงพระชนม์ชีพด้วยการเงินที่จำกัด โดยมีรายได้หลักจากทรัพย์สินส่วนพระองค์ในออสเตรีย ไร้องุ่นในเมืองโยฮันนิสแบร์ก และเงินที่เรี่ยไรได้ด้วยความสมัครใจ แต่ส่วนสมาชิกในราชวงศ์ฮาพส์บวร์คที่ลี้ภัยพระองค์อื่นๆ อ้างสิทธิในเงินจำนวนมาก และมีการยื่นคำร้องขอความช่วยเหลือจากอดีตข้าราชการในราชสำนักด้วย
การย้ายไปเบลเยียม
ในปี ค.ศ. 1929 พระราชโอรสธิดาหลายพระองค์เจริญพระชนมายุใกล้จะเข้ามหาวิทยาลัยและครอบครัวได้พยายามจะย้ายไปประทับที่อื่นซึงมีบรรยากาศทางการศึกษาที่น่าอภิรมย์มากกว่าสเปน ในเดือนกันยายนปีนั้น ทุกพระองค์ทรงย้ายไปประทับที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมืองสตีน็อคเคอร์ซีล ใกล้กับกรุงบรัสเซลส์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสมาชิกหลายพระองค์ในราชวงศ์ จักรพรรดินีซีตายังคงดำเนินการล็อบบี้ทางการเมืองในนามราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค แม้แต่หยั่งเชิงสายสัมพันธ์กับมุสโสลินีในประเทศอิตาลี นอกจากนี้ยังมีหนทางในการฟื้นฟูราชวงศ์ฮาพส์บวร์คภายใต้นายกรัฐมนตรีออสเตรียสองคนคือ เอ็งเกลแบร์ต ดอลฟุส และเคิร์ท ชุสชนิก และด้วยการเสด็จเยือนออสเตรียหลายครั้งของมกุฎราชกุมารอ็อทโทอีกด้วย การเริ่มต้นทั้งหมดมีอันต้องสิ้นสุดลงทันทีด้วยการผนวกออสเตรียเป็นส่วนหนึ่งของนาซีเยอรมนีในปี ค.ศ. 1938 ในฐานะผู้ลี้ภัย ราชวงศ์ฮาพส์บวร์คเป็นผู้นำการต่อต้านทหารนาซีในออสเตรีย แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จเนื่องมาจากความขัดแย้งระหว่างผู้นิยมระบอบกษัตริย์และระบอบสังคมนิยม
การเสด็จหนีไปอเมริกา
หลังจากนาซีเยอรมนีบุกเข้ายึดประเทศเบลเยียมในวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 1940 จักรพรรดินีซีตาและครอบครัวทรงกลายเป็นผู้ลี้ภัยสงคราม ทุกพระองค์ทรงรอดจากการถูกสังหารอย่างฉิวเฉียดจากการโดนระเบิดที่ปราสาทอย่างจังโดยเครื่องบินทิ้งระเบิดของเยอรมันและเสด็จหนีไปยังปราสาทที่ประทับของเจ้าชายซาเวียร์ในเมืองบอสซ์ เมื่อรัฐบาลที่คบคิดกับฝ่ายศัตรูของฟีลิป เปแต็งขึ้นมามีอำนาจ สมาชิกราชวงศ์ฮาพส์บวร์คต้องเสด็จไปยังชายแดนเมื่อวันที 18 พฤษภาคม จากนั้นเสด็จต่อไปยังโปรตุเกสซึ่งรัฐบาลสหรัฐได้ออกหนังสือตรวจลงตราให้ออกนอกประเทศในวันที่ 9 กรกฎาคม หลังจากการเดินทางที่เสี่ยงภัย ทุกพระองค์เสด็จถึงนครนิวยอร์กในวันที่ 27 กรกฎาคม และประทับอยู่ในลองไอส์แลนด์ และเมืองนวร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ ในช่วงหนึ่งจักรพรรดินีซีตาและพระราชโอรสธิดาหลายพระองค์ประทับในฐานะอาคันตุกะระยะยาวที่เมืองซัฟเฟิร์น รัฐนิวเจอร์ซีย์
สวรรคต
หลังจากการฉลองวันพระราชสมภพครบรอบ 90 พรรษา พระองค์ทรงเป็นที่รักของพระราชวงศ์ทั่วไป แต่สุขภาพที่แข็งแรงของพระองค์เริ่มไม่สู้ดีแล้ว ซึ่งขณะนั้น พระราชวงศ์จัดงานฉลองวันพระราชสมภพครบรอบ 95 พรรษาที่เมืองซีเซอร์ ประเทศออสเตรีย คณะแพทย์ได้แจ้งว่า จักรพรรดินีทรงเริ่มเป็นโรคปอดบวม โดยเป็นเชื้อโรคสะสมในร่างกายของพระองค์ตั้งแต่ลี้ภัยอยู่ในเกาะมาไดร่าแล้ว ก่อนที่พระองค์จะสวรรคต พระราชวงศ์ทั้งหมดได้เสด็จเข้ามาเฝ้าพระอาการเรื่อยมา จวบจนวาระสุดท้ายของพระชนม์ชีพ จักรพรรดินีซีตาทรงสวรรคต ณ วันที่14 มีนาคม ค.ศ. 1989 สิริอายุได้ 97 พรรษา ถือว่าเป็นพระราชวงศ์ที่พระชนม์ชีพยืนยาวที่สุด...
งานพระศพถูกจัดขึ้นอย่างสมพระเกียรติในกรุงเวียนนา ในวันที่ 1 เมษายน โดยรัฐบาลได้เข้ามาช่วยในการจัดพระราชพิธีศพด้วย โดยมีพระราชวงศ์อิมพีเรียลออสเตรีย-ฮังการี และ พระราชวงศ์บูร์บง-ปาร์มา เข้ามาร่วมในพระราชพิธีพระศพด้วย พระราชพิธีได้รับความสนใจเป็นอย่างมากของสื่อ โดยเฉพาะการเมือง เพราะอาจเป็นแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศก็เป็นได้ พระศพถูกฝังที่วิหารฮาพส์บวร์ค อิมพีเรียล คริปต์ในกรุงเวียนนา ซึ่งเป็นสถานที่ฝังพระศพพระราชวงศ์ฮาพส์บวร์คมาช้านาน
พระราชโอรสและธิดา
จักรพรรดิคาร์ลและเจ้าหญิงซีตา มีพระราชโอรสและธิดารวมทั้งสิ้น 8 พระองค์ ดังนี้
พระนาม | ประสูติ | สิ้นพระชนม์ | อภิเษกสมรส |
---|---|---|---|
มกุฎราชกุมาร อ็อทโท ฟ็อน ฮาพส์บวร์ค | 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1912 | 4 กรกฎาคม ค.ศ. 2011 | อภิเษกสมรส (ค.ศ. 1951) กับเจ้าหญิงเรกีนาแห่งซัคเซิน-ไมนิงเงิน (6 มกราคม ค.ศ. 1925 – 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2010) มีพระบุตร 7 พระองค์ พระนัดดา 22 องค์ และพระปนัดดา 10 คน |
อาร์ชดัชเชส อาเดิลไฮท์ | 3 มกราคม ค.ศ. 1914 | 2 ตุลาคม ค.ศ. 1971 | ไม่ได้อภิเษกสมรส ไม่มีพระบุตร |
โรแบร์ท อาร์ชดยุกแห่งออสเตรีย-เอ็สเทอ | 8 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1915 | 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1996 | อภิเษกสมรสกับ เจ้าหญิงมาร์เกรีตาแห่งซาวอย-ออสตา (ค.ศ. 1953) (7 เมษายน ค.ศ. 1930 – 10 มกราคม ค.ศ. 2022) มีพระบุตร 3 พระองค์ มีพระนัดดา 19 องค์ และพระปนัดดา 3 คน |
อาร์ชดยุกฟีลิซแห่งออสเตรีย | 31 พฤษภาคม ค.ศ. 1916 | 6 กันยายน ค.ศ. 2011 | อภิเษกสมรส (ค.ศ. 1952) กับ (5 กรกฎาคม ค.ศ. 1925 – 9 มิถุนายน ค.ศ. 1997) มีพระโอรส-ธิดา 7 พระองค์ และพระนัดดาอีก 22 องค์ |
อาร์ชดยุก คาร์ล ลูทวิช | 10 มีนาคม ค.ศ. 1918 | 11 ธันวาคม ค.ศ. 2007 | อภิเษกสมรส (ค.ศ. 1950) กับเจ้าหญิงอียอล็องด์แห่งลีญ (ประสูติ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1923) มีพระบุตร 4 พระองค์ พระนัดดา 19 องค์ และพระปนัดดา 10 คน |
อาร์ชดยุกรูด็อล์ฟ | 5 กันยายน ค.ศ. 1919 | 15 พฤษภาคม ค.ศ. 2010 | อภิเษกสมรส (ค.ศ. 1953) กับ (11 มิถุนายน ค.ศ. 1929 – 20 กันยายน ค.ศ. 1968) มีพระบุตร 4 พระองค์ พระนัดดา 13 องค์ และพระปนัดดา 3 คน อภิเษกสมรส (ครั้งที่สอง) (ค.ศ. 1971) กับ (ประสูติ 11 กันยายน ค.ศ. 1940) มีพระธิดา 1 พระองค์ และพระนัดดา 3 องค์ |
อาร์ชดัชเชส ชาร์ล็อทเทอ | 1 มีนาคม ค.ศ. 1921 | 23 กรกฎาคม ค.ศ. 1989 | อภิเษกสมรส (ค.ศ. 1956) กับ (5 ตุลาคม [ตามปฎิทินเก่า: 22 กันยายน] ค.ศ. 1899 – 6 กรกฎาคม ค.ศ. 1963) ไม่มีพระบุตร |
อาร์ชดัชเชส | 31 พฤษภาคม ค.ศ. 1922 | 6 มกราคม ค.ศ. 1993 | อภิเษกสมรส (ค.ศ. 1949) กับ (5 สิงหาคม ค.ศ. 1916 – 17 เมษายน ค.ศ. 1991) มีพระบุตร 5 พระองค์ พระนัดดา 7 องค์ และพระปนัดดา 6 คน |
พระราชอิสริยยศ
- 9 พฤษภาคม ค.ศ. 1892 – 21 ตุลาคม ค.ศ. 1911: เจ้าหญิงซีตาแห่งบูร์บง-ปาร์มา (Her Royal Highness Princess Zita of Bourbon-Parma)
- 21 ตุลาคม ค.ศ. 1911 – 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 1916: อาร์ชดัชเชสซีตาแห่งออสเตรีย (Her Imperial and Royal Highness Archduchess Zita of Austria)
- 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 1916 – 14 มีนาคม ค.ศ. 1989: จักรพรรดินีซีตาแห่งออสเตรีย สมเด็จพระราชินีแห่งฮังการี (Her Imperial and Royal Apostolic Majesty The Empress of Austria, Apostolic Queen of Hungary)
ราชตระกูล
ซีตาแห่งบูร์บง-ปาร์มา | พระราชบิดา: | พระอัยกาฝ่ายพระราชบิดา: | พระปัยกาฝ่ายพระราชชนก: |
พระปัยยิกาฝ่ายพระราชบิดา: | |||
พระอัยยิกาฝ่ายพระราชบิดา: | พระปัยกาฝ่ายพระราชบิดา: | ||
พระปัยยิกาฝ่ายพระราชบิดา: | |||
พระราชมารดา: | พระอัยกาฝ่ายพระราชมารดา: พระเจ้ามีแกลแห่งโปรตุเกส | พระปัยกาฝ่ายพระราชมารดา: พระเจ้าฌูเอาที่ 6 แห่งโปรตุเกส | |
พระปัยยิกาฝ่ายพระราชมารดา: การ์โลตา โฆอากินาแห่งสเปน | |||
พระอัยยิกาฝ่ายพระราชมารดา: | พระปัยกาฝ่ายพระราชมารดา: | ||
พระปัยยิกาฝ่ายพระราชมารดา: |
หมายเหตุ
- แปลจาก "We grew up internationally. My father thought of himself first and foremost as a Frenchman, and spent a few weeks every year with the elder children at Chambord, his main property on the Loire. I once asked him how we should describe ourselves. He replied, 'We are French princes who reigned in Italy.' In fact, of the twenty-four children only three including me, were actually born in Italy.": 2
อ้างอิง
- Beeche.
- Bogle.
- Brook-Shepherd.
บรรณานุกรม
- Beeche, Arturo & McIntosh, David. (2005). Empress Zita of Austria, Queen of Hungary (1892-1989) Eurohistory. ASIN: B000F1PHOI
- Bogle, James and Joanna. (1990). A Heart for Europe: The Lives of Emperor Charles and Empress Zita of Austria-Hungary, Fowler Wright, 1990,
- Brook-Shepherd, Gordon. (1991). The Last Empress - The Life and Times of Zita of Austria-Hungary 1893-1989. Harper-Collins.
- Harding, Bertita. (1939). Imperial Twilight: The Story of Karl and Zita of Hungary. Bobbs-Merrill Company Publishers. ASIN: B000J0DDQO
ก่อนหน้า | เจ้าหญิงซีตาแห่งบูร์บง-ปาร์มา | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
เอลีซาเบ็ทในบาวาเรีย | จักรพรรดินีแห่งออสเตรีย (21 พฤศจิกายน ค.ศ. 1916 – 1 เมษายน ค.ศ. 1922) | เรกีนาแห่งซัคเซิน-ไมนิงเงิน | ||
เอลีซาเบ็ทในบาวาเรีย | สมเด็จพระราชินีแห่งฮังการี | เรกีนาแห่งซัคเซิน-ไมนิงเงิน | ||
ไม่มี | อาร์ชดัชเชสแห่งออสเตรีย-เอ็สเทอ (21 พฤศจิกายน ค.ศ. 1916 - 29 ธันวาคม ค.ศ. 1953) | อาร์ชดัชเชสมาร์เกรีตา |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
sitaaehngburbng parma sita marixa edlel krasi xaedlkxnda mikhaexla rafaexlla kaebriylla cuesppina xnoteniy hluysa aexkenes 9 phvsphakhm kh s 1892 14 minakhm kh s 1989 epnphramehsiinckrphrrdikharl sungepnphramhakstriyphraxngkhsudthaykhxngckrwrrdixxsetriy hngkari dngnnphraxngkhcungdarngphraxisriyysepnckrphrrdiniaehngxxsetriyaelasmedcphrarachiniaehnghngkariphraxngkhsudthayechnediywkn nxkcakniphraxngkhyngthrngidrbkarprakasihepnphurbichphraepnecaodysmedcphrasntapapaebendiktthi 16 xikdwysitaaehngburbng parmackrphrrdiniaehngxxsetriy smedcphrarachiniaehnghngkaridarngphrays21 phvscikayn 1916 11 phvscikayn 1918rachaphiesk30 thnwakhm 1916phrarachsmphph9 phvsphakhm kh s 1892 1892 05 09 willaburbng aekhwntxskhana rachxanackrxitaliswrrkht14 minakhm kh s 1989 1989 03 14 96 pi rthekrabunedin praethsswitesxraelndfngphrasph1 emsayn kh s 1989 phrawrkay phrahthy khuxphieskckrphrrdikharlthi 1 aehngxxsetriy smrs 1911 esiychiwit 1922 phrarachbutrxxthoth mkudrachkumaraehngxxsetriy xarchdchechsxaedilihth oraebrth xarchdyukaehngxxsetriy exsethx xarchdyukfilis xarchdyukkharl luthwich xarchdyukrudxlf charlxthethx dchechsaehngemkhelinbwrkh chetrlithsphranametmsita marixa edlel krasi xaedlkxnda mikhaexla rafaexlla kaebriylla cuesppina xnoteniy hluysa aexkenesrachwngsburbng parmaphrarachbidaphrarachmardalayphraxphiithy phraxngkhepnphrathidaphraxngkhthisibecdin aelaphriyaxngkhthisxng phraxngkhthrngxphiesksmrskbxarchdyukkharlaehngxxsetriyin kh s 1911 odyin kh s 1914 xarchdyukkharlthrngidrbkarsthapnaepnthayathodysnnisthankhxngckrphrrdifrnths oyesfthi 1 aehngxxsetriy sungekidkhunphayhlngehtukarnlxbplngphrachnmphramatulakhxngphraxngkh xarchdyukfrnths aefrdinnthaehngxxsetriy aelathrngkhunkhrxngrachsmbtiin kh s 1916 phayhlngkaresdcswrrkhtkhxngckrphrrdifrnths oyesfthi 1 phayhlngkarsinsudlngkhxngsngkhramolkkhrngthihnungin kh s 1918 rachwngshaphsbwrkhthuklmlangaeladinaednkhxngckrwrrdiidaetkslayklayepnrthtang idaek xxsetriy hngkari aelaechoksolwaekiy epntn inkhnathidinaednswnxun thukphnwkrwmekhakbrachxanackraehngchawesirb okhraext aelasolwin xitali ormaeniy aelaopaelndthiphungidrbexkrach ckrphrrdikharlaelackrphrrdinisitathrngesdcliphyipyngswitesxraelnd aelaphayhlngkhwamlmehlwkhxngkhwamphyayaminkarfunfurabxbrachathipityinhngkari thngsxngphraxngkhcungthrngesdcprathbxyuthiekaamaedratamkharxngkhxkhxngfaysmphnthmitr sungepnthiswrrkhtkhxngckrphrrdikharlin kh s 1922 phayhlngkarswrrkhtkhxngphrarachswami ckrphrrdinisitaaelaphrarachoxrskhxngphraxngkh ecachayxxthoth thrngepnsylksnaehngkhwamprxngdxngkhxngrachwngsxxsetriythiliphyxyutangaedn inthanathiepnchawkhathxlikthiekhrngkhrd phraxngkhthrngaebkrbphara duaelkhrxbkhrwihyhlngcakepnmaykhnamiphrachnmayu 29 phrrsa aelayngkhngsuxstytxkhwamthrngcaekiywkbphraswamitlxdphrachnmchiphkhnathrngphraeyawecahyingsitaaehngburbng parmaphrarachsmphphemuxwnthi 9 phvsphakhm kh s 1892 n willapixanxer cnghwdlukka praethsxitali 1 odyphranamwa sita Zita tngtamchuxkhxngnkbuysitaphuodngdngthisungxasyxyuinaekhwntxskhanasmykhriststwrrsthi 13 16 phraxngkhepnphrathidaphraxngkhthisamaelaphrarachbutrphraxngkhthihain aelaphrachayaphraxngkhthisxng phusungepnphrarachthidainphraecamiaeklaehngoprtueksaelaphramehsiecahyingxaedilihthaehngelxewnchitn aewrthihm oresinaebrkh phrabidakhxngecahyingsitathrngthukkhbxxkcakrachbllngkemuxthrngphraeyaw enuxngcakkhwamekhluxnihwinkarrwmchatixitalithiekidkhunemux kh s 1859 1 phraxngkhthrngepnphrabidakhxngphraoxrsaelathida 12 phraxngkh cakkarxphiesksmrskhrngaerkkb hkphraxngkhthrngmipyhaphthnakarthangdanciticaelasamphraxngkhsinphrachnmtngaetyngthrngphraeyaw 1 dyukoraebrotthrngepnmayin kh s 1882 aelaxiksxngpitxmathrngxphiesksmrskbxingfngtamarixa xntxniyuaehngoprtueks phramardainecahyingsita 1 karxphiesksmrskhrngthisxngniidihkaenidphraoxrsaelathidaephimxik 12 phraxngkh odyecahyingsitaepnphrathidaphraxngkhthi 17 incanwnphraoxrsthidacanwnthnghmd 24 phraxngkhkhxngdyukoraebrot phraxngkhaelakhrxbkhrwesdcaeprphrarachthanprathbthngthiwillapixanxer xyurahwangemuxngaelaemuxng aelaprasathchwaresainphumiphakholewxrxxsetriy 5 6 ecahyingsitathrngecriyphrachnminphrarachthanthngsxngaehngni khrxbkhrwkhxngecahyingprathbinxxsetriyepnswnihyaelacayayipprathbthiemuxngpixanxerinchwngvduhnawaelaklbmainvdurxn 2 inkaredinthangcatxngichrthifkhbwnphiessthimicanwnsibhktuephuxrxngrbsmachikinkhrxbkhrwaelasingkhxngekhruxngichkhxngthukphraxngkhidthnghmd 7 ecahyingsitaprathbnngxyukhwasud chayphraruprwmkbkhrxbkhrwin kh s 1906 ecahyingsitaaelaphraechstha phraechsthphkhini phraxnuchaaelaphrakhnisthaidrbkarxphibalihtrsphasaxitali phasafrngess phasaeyxrmn phasasepn phasaoprtueks aelaphasaxngkvs 2 phraxngkhthrngelawa phwkeraetibotmaaebbnanachati esdcphxkhidwathanepnfrngessxyangaerkely aelaichewlaprathbxyukbphwkphi thichxngbxr sungkhuxphrarachthankhxngesdcphxrimaemnalwr khaphecaekhythamesdcphxkhrnghnungwaphwkeracaaenanatwexngechnirdi thanklawklbwa phwkeraepnecanaychawfrngessthipkkhrxngdinaedninxitali aetthicringaelw inphinxngcanwnyisibsikhn miephiyngkhaphecaaelaphinxngxiksxngethannkhnthiekidinxitalicring emuxphraxngkhmiphrachnmayuidsibphrrsa ecahyingsitathrngekharbkarsuksathiorngeriynpracaaehnghnunginemuxngsnaebrkh phumiphakhoxebxribexirn sungennkarsuksaaelakarsxnsasnathiekhrngkhrd 3 phraxngkhtxngesdcklbphrarachthanxyangkathnhninchwngvduibimrwng kh s 1907 xnenuxngcakkarsinphrachnmkhxngphrabida phraxykacungsngphraxngkhaelaecahyingfrnesska phraechsthphkhiniipprathbinsankchithiixlxxfiwtcnphraxngkhsaerckarsuksa 19 ehlaphraoxrsthidainrachwngssungepnkhathxlikthiekhrngkhrd thrngptibtiphrakrniykicnanpkaraekkhnyakcn swninemuxngchwaresa khrxbkhrwkhxngecahyingsitaidnaphathiehluxmathachlxngphraxngkh phraxngkhaelaecahyingfrnesskathrngaeckcayxahar esuxphaaelayarksaorkhaekphutkthukkhidyakinemuxngpixanxer 7 8 phraechsthphkhinisamphraxngkhthrngepnaemchi aelakhrnghnungphraxngkhthrngekhykhidthicadaeninrxytam 20 aetdwyphraphlanamythiimkhxyaekhngaerng phraxngkhcungthrngekharbkarrksaaebbdngediminspakhxngthwipyuorpepnewlasxngpi 15 xphiesksmrsecahyingsitaemuxthrngekhaphithixphiesksmrskbxarchdyukkharl briewniklekhiyngkhxngprasathchwaresaepnkhux willawxrthohls thiprathbkhxngxarchdchechsmarixa ethersixaaehngxxsetriy phramatucchakhxngecahyingsita phraxngkhepnphramardaeliyngkhxngxarchdyukxxthothaehngxxsetriy sungsinphrachnminpi kh s 1906 aelaphraxyyikaeliyngkhxngxarchdyukkharlaehngxxsetriy exsethx sunginkhnannepnrchthayathladbthisxngaehngrachbllngkxxsetriy hngkari phrathidasxngphraxngkhkhxngxarchdchechsmarixa ethersixaaehngxxsetriyepnphrayatikhxngecahyingsita aelaxarchdyukkharl thngsxngphraxngkhthrngphbknemuxkhrngyngthrngphraeyawaelaimidecxknxikepnewlaekuxbsibpi enuxngcaktangkipsuksaelaeriyn inpi kh s 1909 kxngrxydrakunkhxngxarchdyukkharlidpracakarthiemuxngbrnids bnaemnaexleb sungphraxngkhesdcipeyiymphramatucchathiemuxngfrnesnbad inchwngniexngthixarchdyukkharlaelaecahyingsitathrngsrangkhwamkhunekhyknxikkhrng phraxngkhthrngxyuphayitkhwamkddneruxngkarxphiesksmrs ephraawaxarchdyukfrnths aefrdinnth phrapitula thrngxphiesksmrstangthanndrskdikbsamychnaelaphraoxrsthidahmdsiththisubrachsmbti aelaecahyingsitathrngmacaksayrachtrakulthiehmaasm ecahyingthrngelatxmainphayhlngwa erasxngkhndiicmakthiphbknxikkhrngaelaklayepnephuxnsnithkn khwamrusukswnkhxngkhaphecaphthnakhunepnladbtlxdewlasxngpi phraxngkhduehmuxncatdsiniciderwmakkwa aelachdecnmakkhunemuxinchwngvduibimrwngpi kh s 1910 idmikhawluxaephrsaphdxxkipwakhaphecaidhmnkb sungepnyatisayhangcaksepn emuxthraberuxngni xarchdyukkharlidribesdcmacakkxngrxythipracakarxyuthiemuxngbrnidsaelaphbaekrnddchechsmarixa ethersixa phraxyyika sungepnesdcpakhxngkhaphecaaelathipruksaeruxngkarxphiesksmrs phraxngkhtrsthamwakhawluxepncringhruximaelaemuxthrngthrabwaimepncring cungtrstxbwa ngnhmxmchnkhwrcachaimidesiyaelw miechnnnsitacahmnkbkhnxunaethn xarchdyukkharlesdcipyngwillaphixanxerephuxsukhxecahyingsita aelarachsankxxsetriyidprakasphithihmnemuxinwnthi 13 mithunayn kh s 1911 aelaxikhlaypitxmaecahyingsitathrngelawahlngcakphithihmnaelw phraxngkhthrngaesdngkhwamkngwlkbxarchdyukkharlekiywkbochkhchatakhxngckrwrrdixxsetriy rwmthngkhwamthathaykhxngphrarachwngsdwy thngsxngphraxngkhxphiesksmrsemuxwnthi 21 tulakhm kh s 1911 n prasathchwaresa praethsxxsetriy odymickrphrrdifrnths oyesf khnannphrachnmphrrsa 81 phrrsa esdcmaekharwmphithidwykhwamolngphrathyemuxehnrchthayathxphiesksmrskbecasawthiehmaasm aelayngkhngmiphraphlanamythismburn thungkbsamarthklawnadumxwyphrinnganeliyngphrakrayaharechakhxngwnxphiesksmrsid caknnimnanecahyingsitathrngphrakhrrphphraoxrsaelaxarchdyukxxthoth prasutiinwnthi 20 phvscikayn kh s 1912 aelatammadwyphrarachoxrsthidaxikecdphraxngkhinxikthswrrstxmaphrachayainrchthayathaehngxxsetriyinewlann xarchdyukkharlmiphrachnmayuyisibessaelaimthrngkhadkhidwacaidepnrchthayathinrachbllngk odyechphaakhnathixarchdyukfrnths aefrdinnth yngmiphraphlanamythismburn aetekidkhwamepliynaeplngkhunemuxwnthi 28 mithunayn kh s 1914 emuxphraxngkhaelaecahyingosfi phrachayathuklxbplngphrachnmthiemuxngsaraeyow odyklumchatiniymchawesirbinaekhwnbxseniy xarchdyukkharlaelaxarchdchechssitathrngthrabkhawcakothrelkhinwnediywkn phraxngkhtrsthungphraswamiwa aemwacaepnwnthixakasaecmis khaphecaehnphraphktrkhxngphraxngkhsidkhawinaesngaedd karlxbplngphrachnmkhrngnithaihekidsngkhramolkkhrngthi 1 xarchdyukkharlthrngidrbkaraetngtngepnnayphlaehngkxngthphxxsetriybychakarkxngrxythi 20 etriymphrxmrbinemuxngithrxl sngkhramsrangkhwamlabakicaekxarchdchechssita enuxngcakphraechsthaaelaphraxnuchasurbinfaytrngkhamkn ecachayefliks aelaecachayerxen thrngekharwmkxngthphxxsetriy inkhnathi aela prathbxyuinpraethsfrngessaelaekharwmkxngthphebleyiym nxkcakni praethsxitalisungepnbanekidkhxngxarchdchechssita idekharwmsngkhramtxtanxxsetriyinpi kh s 1914 aelaepnehtuihkhawluxkhxngxarchdchechssita thiepnxitali erimepnthisubsibkn aemaetinchwngplaypi kh s 1917 ekhantxxthoth fxn ewedil thuteyxrmnpracakrungewiynna ekhiyncdhmayipyngrachsankinkrungebxrlinwa ckrphrrdinithrngsubechuxsaymacakrachwngsxitali prachachnimechuxchawxitaliaelaehlayatikhxngphranangskethaidnk tamphrarachoxngkarkhxngckrphrrdifrnths oyesf xarchdchechssitaaelaphrarachoxrsthidaesdcxxkcakphrarachthaninemuxngehthesndxrfipprathbinphrarachwngechinbrun phraxngkhptibtiphrarachpharkicxyangepnthangkaraelaimepnthangkarrwmkbckrphrrdiepnewlahlaychwomng sungphraxngkhtrselathungeruxngkhwamklwtxehtukarninxnakhtaekxarchdchechssita ckrphrrdifrnths oyesf esdcswrrkhtdwyorkhhlxdphrawaoyxkesbaelaphrappphasabwmemuxwnthi 21 phvscikayn kh s 1916 khnamiphrachnmphrrsa 86 phrrsa xarchdchechssitathrngelainphayhlngwa khaphecacaruprangphwngphikhxngecachaylxbokhwitskawekhamahaswamikhxngkhapheca aeladwynatathiexxetmsxngta idthasylksnrupimkangekhnbnhnaphakkhxngkharl aelwphudwa khxphraphuepnecaoprdprathanphraekfaphrabath nbepnkhrngaerkthiidyinkarichphraxisriyyskstriykberathngsxng ckrphrrdiniaelasmedcphrarachinickrphrrdiaelackrphrrdiniemuxthrngekhaphithibrmrachaphieskinpi kh s 1916 ckrphrrdikharlaelackrphrrdinisitathrngthaphirarachphithibrmrachaphieskemuxwnthi 30 thnwakhm kh s 1916 n krungbudaepst praethshngkari txcaknnmiphithiphrarachthaneliyngphrakrayaharchlxngkarkhrxngrachsmbti aetimnanngansngsrrkhidsinsudlng dwysxngphraxngkhthrngtrahnkwaimkhwrcdnganechlimchlxngxyangexikekrikinchwngsngkhramxnelwray emuxerimtnrchkalaelw ckrphrrdikharlimidesdcxxknxkkkrungewiynnabxynk cungidmirbsngihtidtngsayothrsphthcakemuxngbaedin sungepnthitngkhxngkxngbychakarthharinphraxngkh mayngphrarachwnghxfbwrkh phraxngkhthrngothrsphthhaphrackrphrrdinisitahlaykhrngemuxidthiprathbhangiklkn ckrphrrdinithrngmixiththiphltxphrarachswamixyubangaelamioxkasrwminkarekhaefakhxngxkhrmhaesnabdihruxkarprachumthangkarthharxyangimocngaecngmaknk aelaphraxngkhyngthrngmikhwamsnphrathyinnoybaydansngkhmepnphiess aetxyangirktam eruxngkhxngkickarthharykihepnsiththikhxngckrphrrdikharlaetephiyngphuediyw dwykhwamaekhngkhnaelaaenwaen phraxngkhidodyesdcphrarachswamiipyngmnthltang aelaaenwrb rwmthngxuthisphrawrkayihkbphrarachkrniykickarkuslaelakaresdceyiymorngphyabalkhxngphuidrbbadecbcaksngkhram krnisiksts inkhnani sngkhramolkidkawyangekhasupithisi aela phraechsthainckrphrrdinisita sungrwmrbinkxngthphebleyiym epnphuesnxyttisakhyebuxnghlngaephnkarihckrwrrdixxsetriy hngkarisrangsntiphaphkbfrngess ckrphrrdikharlthrngerimtidtxkbecachaysiksthsphanthangesnsayinpraethsswitesxraelndthiepnklang aelackrphrrdinisitamiphrarachhtthelkhaechiyphraechsthamayngkrungewiynna odymixingfngtamarixa xntxniyu phramardaepnphusngcdhmayihdwyphraxngkhexng ecachaysiksthsesdcmaphrxmdwyenguxnikhthiehnchxbcakpraethsfrngessephuxkarecrca echn karkhunemuxngxlsasaelalxraernihkbfrngess sungphnwkkbpraethseyxrmniphayhlngcaksngkhramfrngess prsesiyemuxpi kh s 1870 karkhunexkrachihkbpraethsebleyiym aelarachxanackresxrebiy aelakarmxbemuxngkhxnsaetntionepilihaekpraethsrsesiy ckrphrrdikharlthrngehnchxbdwyinhlkkarkbpraednsamkhxaerkaelamiphrarachhtthelkhathungecachaysiksthslngwnthi 25 minakhm kh s 1917 ihaecng khxkhwamthiepnkhwamlbaelaimepnthangkarsungeracadaeninkarthukwithithangaelaxiththiphlkhxngeraexngthnghmd aekprathanathibdiaehngfrngess inthisudkhwamphyayaminkarthutradbphrarachwngsimprasbphlsaerc praethseyxrmniptiesthkarecrcaeruxngdinaednxlsasaelalxaern aelalngelthicayutisngkhramemuxehnwakarlmslaykhxngckrwrrdirsesiyrxxyutrnghna ecasiksthsthrngphyayamtxip odyekhaphbkblxyd cxrc inkrunglxndxn ekiywkberuxngkhwamtxngkardinaednxxsetriykhxngpraethsxitalitamsnthisyyalxndxn aetnaykrthmntrixngkvsimsamarthonmnawihnaythharxngkvssrangsntiphaphkbxxsetriyid ckrphrrdinisitasamarthsrangkhwamsaercdwyphraxngkhexnginchwngewlani odyhyudyngaephnkarkhxngeyxrmnthicasngekhruxngbinipthingraebidyngphrarachthankhxngphramhakstriyaelasmedcphrarachiniaehngebleyiyminwnechlimphranamkhxngthngsxngphraxngkh ineduxnemsayn kh s 1918 hlngcakkarlngnamrahwangeyxrmnikbrsesiy ekhantxxthothkhar aesrnin rthmntritangpraethskhxngxxsetriyidklawprasryocmtinaycxrc ekhlmxngos naykrthmntrikhxngfrngessthikalngekhamarwmprachumwaepnxupsrrkhsakhyinkarsrangsntiphaphrahwangfaymhaxanacklang nayekhlmxngosrusukomohxyangmakaelaidnacdhmaylngwnthi 24 minakhm kh s 1917 khxngckrphrrdikharl thikhnecxxxkmatiphimph inimcha phrachnmchiphkhxngecachaysiksthsduehmuxncatkxyuinxntrayaelaekidkhwamklwknwaeyxrmnixaccaekhayudkhrxngxxsetriy ekhantaesrniniderngihckrphrrdisng khamnsyya ipyngehlaphnthmitrkhxngxxsetriywa ecachaysiksthsmiidthrngrbphrabrmrachanuyatihaesdngcdhmaychbbnntxrthbalfrngess immikarklawthungpraethsebleyiymely aelanayekhlmxngidokhkkarphudthungeruxngdinaednxlsas ekhantaesrninidtidtxkbsthanthuteyxrmnmaodytlxdrayathiekidwikvtkarnkhrngni aelaphyayamonmnawihckrphrrdislarachsmbtienuxngcakeruxngthiekidkhun aetkimprasbphlsaerc ekhacungidlaxxkcaktaaehnngrthmntritangpraethsip cudcbkhxngckrwrrdi ckrphrrdinisitaaelaphrarachswami inchawngewlani sngkhramolkkhrngthi 1 kalngcasinsudlngkbckrphrrdithithrngphrxmrb shphaphkhnamntriechkidsabantninkartngepnrthexkrachechoksolwk phayitckrwrrdihaphsbwrkhemuxwnthi 13 emsayn kh s 1918 aetkxngthpheyxrmnyngkhngaesdngaesnyanuphaphkxkhwamrunaernginsngkhramxaemiyng aelaemuxwnthi 25 phvscikayn kh s 1918 phraecasarefxrdinandthi 1 aehngblaekeriy idaeyktwxxkcakphnthmitrinfaymhaxanacklangaelafxngrxngephuxsntiphaphdwytnexng ckrphrrdinisitaprathbxyukbckrphrrdikharlemuxthrngidrbothrelkheruxngkarlmslaykhxngrachxanackrblaekeriy phraxngkhthrngelawa thaihmikhwamerngdwnmakkhuninkarecrcaephuxsntiphaphkbmhaxanactawntkinkhnathiyngmieruxngihecrcaknxyu inwnthi 16 tulakhm ckrphrrdithrngxxk aethlngkarnprachachn esnxihmikarprbokhrngsrangckrwrrdibnaenwthangtamaebbshphnthrthodyaetlaechuxchaticamirthepnkhxngtnexng aetaetlapraethsphyayamaeyktwxxkipaelackrwrrdicunglmslayodysineching emuxthrngplxyihphrarachoxrsthidaxyuthiphrarachwngekxedlol praethshngkariaelw ckrphrrdikharlaelackrphrrdinisitaesdcphrarachdaeninipyngphrarachwngechinbrunn inewlanirthmntri tangidrbkaraetngtngodyrthihm eyxrmn xxsetriy aelainwnthi 11 phvscikayn khnarthmntriphrxmkbokhskpracaxngkhckrphrrdiidetriymaethlngkarnephuxihphraxngkhlngphraprmaphiithy emuxthxdphraentrehnkhrngaerk ckrphrrdinisitaekhaphrathywaepnaethlngkarnephuxslarachsmbtiaelamiphrarachdarsxnepnthieluxngluxwa phrapramukhcaslarachsmbtiimid phraxngkhxacthukpldxxkrachsmbtiid imepnir ephraaepnxanacbngkhb aetcaihslarachsmbtixyangnnhrux immiwn immiwn immiwnxyangeddkhad khaphecacayxmtaykhangphwkthanesiydikwa aelwkyngkhngmixxthothxyuxik hakphwkthansngharphwkerathnghmd cayngkhngmismachikrachwngshaphsbwrkhkhnxunehluxxyudi ckrphrrdiphrarachthanphrabrmrachanuyatihtiphimphexksarephyaephrsusatharnchn aelaphraxngkhphrxmthngkhrxbkhrwaelakharachbripharinrachsankesdcxxkcaktahnklastwinemuxngexkkharthesa sungiklkbchayaednpraethshngkariaelasolwaekiy hlngcaknnidmikarprakaskxtngsatharnrtheyxrmn xxsetriyinwntxmakarliphynxkpraethshlngcakchwnghlayeduxnthiyaklabakinemuxngexkkharthesa ehlaphrarachwngsidrbkhwamchwyehluxcakphuthiimekhykhadkhid ecachaysikststhrngekhaphbkbsmedcphraecacxrcthi 5 aelakhxihphraxngkhthrngchwyehluxsmachikrachwngshaphsbwrkh smedcphraecacxrcthrngrusukehnickbkhakhxrxngni nbepnephiyngimkieduxntngaetphwkptiwtisngharckrphrrdiniokhlsthi 2 aehngrsesiy phrayatisnith aelaihsyyawa khaphecacathathukxyangthicaepnodythnthi smedcphraecacxrcthi 5 thrngsngthharxngkvshlaynayipchwyehluxckrphrrdikharlaelaphrarachwngs naodyrxyothexdewird lisel strthth inwnthi 19 minakhm kh s 1919 idmikhasngcak krathrwngklaohmih nackrphrrdixxkcakxxsetriyodydwn aemmikhwamyungyakbangprakar strththidcdrthifphrathinngipyngpraethsswitesxraelnd aelasamarthihphraxngkhesdcxxknxkpraethsxyangsmphraekiyrtiaelaimmikarslarachsmbti ckrphrrdikharl ckrphrrdinisita phrarachoxrsthidaaelaehlakharachbripharesdcxxkcakpraethsxxsetriyinwnthi 24 minakhm praethshngkari aelakarliphybnekaamaedra thiprathbaehngaerkrahwangkarliphykhxngkhrxbkhrwepnprasathwarethkinemuxngrxschach praethsswitesxraelnd sungepnthrphysinkhxngrachwngsburbng parma aetxngkhkrrthbalkhxngswis sungkngwlekiywkbnyaexbaefngkhxngrachwngshaphsbwrkhthiprathbxyuiklkbchayaednxxsetriy idbngkhbihsmachikthukphraxngkhyayipprathbthangdanfngtawntkkhxngpraethsaethn inxikhnungeduxntxma khrxbkhrwckrphrrdicungidyayipprathbthiwillaphrnkins iklkbthaelsabecniwa odydarngphrachnmchiphxyangengiybsngb chiwitxnsngbmixntxngsinsudlngodythnthiineduxnminakhm kh s 1920 emuxnaymikhlxs hxrthi idrbeluxkihepnphusaercrachkar hlngcakchwngewlaaehngkhwamiresthiyrphaphinpraethshngkari ckrphrrdikharlyngkhngepnphramhakstriyaehnghngkariodythangptibti phraecakaorythi 4 aethxrthiidsngphuaethnmaekhaefaphraxngkhthiwillaphrnkins ephuxkrabthulimihesdcipynghngkaricnkwaehtukarntang casngblngaelw hlngcaksnthisyyathrixanng khwamthaeyxthayankhxnghxrthikephimmakkhun ckrphrrdikharlthrngepnkngwlaelakhxkhwamchwyehluxcakrxyothstrththihphaphraxngkhesdcipynghngkari phraxngkhthrngphyayamekhakhwbkhumsthankarnxyusxngkhrng odykhrngaerkineduxnminakhm kh s 1921 aelaxikkhrngineduxntulakhm kh s 1922 aetlmehlwhmdthukkhrng aemwacaidrbkarsnbsnunxyangaekhngkhncakckrphrrdinisita phraxngkhidodyesdcckrphrrdikharldwyrthifphrathinngepnkhrngsudthayipyngkrungbudaepstdwy ckrphrrdikharlaelackrphrrdinisitaprathbxyuthiprasathtatr sungepnthiphankkhxngekhantexsetxrhasi cnkwacasamarthhathiliphythawrthiehmaasmid mikaraenanaihprathbliphythiekaamxltaaetidrbkarptiesthcak rthmntritangpraethsxngkvs aeladinaednfrngesskidthukhamenuxngcakkhwamepnipidinkarsmkhbkhidwangaephnraykhxngphraechsthaaelaphraxnuchainckrphrrdinisitainnamckrphrrdi inthisudsthanthiliphythawrcungepnekaamaedrakhxngoprtueks inwnthi 31 tulakhm kh s 1921 thngsxngphraxngkhesdcodyrthifphrathinngcakemuxngthihaniipthiemuxngbxyx sungmieruxtrwckarn HMS Glow worm rxrbesdcxyu aelaidesdcmathungemuxngfungchal praethsoprtueks inwnthi 19 phvscikayn swnphrarachoxrsthidayngkhngprathbthiprasathwarethkinpraethsswitesxraelndkbxarchdchechsmarixa ethersixa phrarachxyyikainckrphrrdikharl aetckrphrrdinisitaidesdcipphbkbphrarachoxrsthidathukphraxngkhinemuxngsurikh emuxxarchdyukoraebrth phrarachoxrsthrngekharbkarphatdorkhistingxkesb phrarachoxrsthidathukphraxngkhesdcipprathbrwmkbphrarachbidaaelaphrarachthiekaamaedraineduxnkumphaphnth kh s 1922 karswrrkhtkhxngphrarachswami ckrphrrdikharlmiphraphlanamyimdimachwngrayaewlahnung hlngcakesdcipsuxkhxngelnihkbxarchdyukkharl luthwich phrarachoxrsinwnthixakaseyncdinemuxngfungchal phraxngkhprachwrdwyorkhhlxdphrawaoyxkesb aelaluklamklayepnorkhphrappphasabwmxyangrwderw sunginsmynnyngimmikarrksadwykaraephthysmyihmid phrarachoxrsthidaaelakharachbripharhlaykhnlmpwydwyechnkn aelackrphrrdinisita sunginkhnannmiphrakhrrphaepdeduxn thrngrksaphyabalthukphraxngkh ckrphrrdimiphraxakaraeylngepnladbaelaesdcswrrkhkhemuxwnthi 1 emsayn odymiphrarachdarssudthaykbckrphrrdiniwa erarkecamakehluxekin hlngcaknganphrasphesrcsin phurwmngankhnhnungidklawthungckrphrrdinisitawa striphunikhwrepnthichunchmcring phraxngkhimsuyesiykhwamsukhumeyuxkeynaemaetskwinathiediywely phraxngkhthrngthkthayphukhnrxbdanaelaphudkhuykbkhnthimachwyehluxnganphrasphdwy thukkhnprathbicesnhkhxngphraxngkhknthukkhn ckrphrrdinisitathrngchlxngphraxngkhsidaiwthukkhihkbphrarachswamitlxdraya 67 pikhxngkarepnmayemuxthrngepnmayhlngcakkaresdcswrrkhtkhxngckrphrrdikharl xditrachwngsxxsetriycatxngyayxikkhrnginimcha phraecaxlfxnosthi 13 aehngsepnidphyayamtidtxkrathrwngkartangpraethskhxngxngkvsphanthangexkxkhrrachthutsepninkrunglxndxn sungxnuyatihckrphrrdinisitaaelaphraoxrsthidaecdphraxngkh caepnaepdinxikimnan prathbinpraethssepnid smedcphrarachathibdixlfxnosthrngsngeruxbrbhlwng Infanta Isabel ipyngemuxngfungchalephuxrbthukphraxngkhmayngemuxngkhadis emuxmathungaelwidesdcipynginkrungmadrid sungxiktxmaimnanckrphrrdinisitaidprasutiphrarachthidaphraxngkhsudthaykhux xarchdchechsexlisaebth phraecaxlfxnosthi 13 phrarachthanphrarachwngxuribarerninemuxngelkitioxbnxawbisekhyihepnthiliphyaekphrayatiinrachwngshaphsbwrkh srangkhwamsabsungaekckrphrrdinisitasungimprasngkhcaepnpharaxnhnkxungaekpraethsthiihthihlbphyaekphraxngkh ckrphrrdiniprathbxyuinemuxngelkitioxxikepnrayaewlahkpi aelaiderimtnkareliyngduaelaihkarsuksaaekphraoxrsthidaxyangetmthi thukphraxngkhdarngphrachnmchiphdwykarenginthicakd odymirayidhlkcakthrphysinswnphraxngkhinxxsetriy irxnguninemuxngoyhnnisaebrk aelaenginthieriyiriddwykhwamsmkhric aetswnsmachikinrachwngshaphsbwrkhthiliphyphraxngkhxun xangsiththiinengincanwnmak aelamikaryunkharxngkhxkhwamchwyehluxcakxditkharachkarinrachsankdwy karyayipebleyiym inpi kh s 1929 phrarachoxrsthidahlayphraxngkhecriyphrachnmayuiklcaekhamhawithyalyaelakhrxbkhrwidphyayamcayayipprathbthixunsungmibrryakasthangkarsuksathinaxphirmymakkwasepn ineduxnknyaynpinn thukphraxngkhthrngyayipprathbthihmubanaehnghnunginemuxngstinxkhekhxrsil iklkbkrungbrsesls sungxyuimiklcaksmachikhlayphraxngkhinrachwngs ckrphrrdinisitayngkhngdaeninkarlxbbithangkaremuxnginnamrachwngshaphsbwrkh aemaethyngechingsaysmphnthkbmusosliniinpraethsxitali nxkcakniyngmihnthanginkarfunfurachwngshaphsbwrkhphayitnaykrthmntrixxsetriysxngkhnkhux exngeklaebrt dxlfus aelaekhirth chuschnik aeladwykaresdceyuxnxxsetriyhlaykhrngkhxngmkudrachkumarxxthothxikdwy karerimtnthnghmdmixntxngsinsudlngthnthidwykarphnwkxxsetriyepnswnhnungkhxngnasieyxrmniinpi kh s 1938 inthanaphuliphy rachwngshaphsbwrkhepnphunakartxtanthharnasiinxxsetriy aetkimprasbphlsaercenuxngmacakkhwamkhdaeyngrahwangphuniymrabxbkstriyaelarabxbsngkhmniym karesdchniipxemrika hlngcaknasieyxrmnibukekhayudpraethsebleyiyminwnthi 10 phvsphakhm kh s 1940 ckrphrrdinisitaaelakhrxbkhrwthrngklayepnphuliphysngkhram thukphraxngkhthrngrxdcakkarthuksngharxyangchiwechiydcakkarodnraebidthiprasathxyangcngodyekhruxngbinthingraebidkhxngeyxrmnaelaesdchniipyngprasaththiprathbkhxngecachaysaewiyrinemuxngbxss emuxrthbalthikhbkhidkbfaystrukhxngfilip epaetngkhunmamixanac smachikrachwngshaphsbwrkhtxngesdcipyngchayaednemuxwnthi 18 phvsphakhm caknnesdctxipyngoprtuekssungrthbalshrthidxxkhnngsuxtrwclngtraihxxknxkpraethsinwnthi 9 krkdakhm hlngcakkaredinthangthiesiyngphy thukphraxngkhesdcthungnkhrniwyxrkinwnthi 27 krkdakhm aelaprathbxyuinlxngixsaelnd aelaemuxngnwrk rthniwecxrsiy inchwnghnungckrphrrdinisitaaelaphrarachoxrsthidahlayphraxngkhprathbinthanaxakhntukarayayawthiemuxngsfefirn rthniwecxrsiyswrrkhtphrarachwngsxxsetriy hngkari n praethseyxrmni yuncaksayipkhwa xarchdyukkharl luthwich rudxlf aela oraebrth aethwklang xaedilihth exlisaebth aela charlxthethx aelaxarchdyukfilis swnaethwhnasud ckrphrrdinisita aelamkudrachkumarxxthoth hlngcakkarchlxngwnphrarachsmphphkhrbrxb 90 phrrsa phraxngkhthrngepnthirkkhxngphrarachwngsthwip aetsukhphaphthiaekhngaerngkhxngphraxngkherimimsudiaelw sungkhnann phrarachwngscdnganchlxngwnphrarachsmphphkhrbrxb 95 phrrsathiemuxngsiesxr praethsxxsetriy khnaaephthyidaecngwa ckrphrrdinithrngerimepnorkhpxdbwm odyepnechuxorkhsasminrangkaykhxngphraxngkhtngaetliphyxyuinekaamaidraaelw kxnthiphraxngkhcaswrrkht phrarachwngsthnghmdidesdcekhamaefaphraxakareruxyma cwbcnwarasudthaykhxngphrachnmchiph ckrphrrdinisitathrngswrrkht n wnthi14 minakhm kh s 1989 sirixayuid 97 phrrsa thuxwaepnphrarachwngsthiphrachnmchiphyunyawthisud nganphrasphthukcdkhunxyangsmphraekiyrtiinkrungewiynna inwnthi 1 emsayn odyrthbalidekhamachwyinkarcdphrarachphithisphdwy odymiphrarachwngsximphieriylxxsetriy hngkari aela phrarachwngsburbng parma ekhamarwminphrarachphithiphrasphdwy phrarachphithiidrbkhwamsnicepnxyangmakkhxngsux odyechphaakaremuxng ephraaxacepnaenwonmthicaepliynaeplngkarpkkhrxngkhxngpraethskepnid phrasphthukfngthiwiharhaphsbwrkh ximphieriyl khriptinkrungewiynna sungepnsthanthifngphrasphphrarachwngshaphsbwrkhmachananphrarachoxrsaelathidackrphrrdikharlaelaecahyingsita miphrarachoxrsaelathidarwmthngsin 8 phraxngkh dngni phranam prasuti sinphrachnm xphiesksmrsmkudrachkumar xxthoth fxn haphsbwrkh 20 phvscikayn kh s 1912 4 krkdakhm kh s 2011 xphiesksmrs kh s 1951 kbecahyingerkinaaehngskhesin imningengin 6 mkrakhm kh s 1925 3 kumphaphnth kh s 2010 miphrabutr 7 phraxngkh phrandda 22 xngkh aelaphrapndda 10 khnxarchdchechs xaedilihth 3 mkrakhm kh s 1914 2 tulakhm kh s 1971 imidxphiesksmrs immiphrabutroraebrth xarchdyukaehngxxsetriy exsethx 8 kumphaphnth kh s 1915 7 kumphaphnth kh s 1996 xphiesksmrskb ecahyingmarekritaaehngsawxy xxsta kh s 1953 7 emsayn kh s 1930 10 mkrakhm kh s 2022 miphrabutr 3 phraxngkh miphrandda 19 xngkh aelaphrapndda 3 khnxarchdyukfilisaehngxxsetriy 31 phvsphakhm kh s 1916 6 knyayn kh s 2011 xphiesksmrs kh s 1952 kb 5 krkdakhm kh s 1925 9 mithunayn kh s 1997 miphraoxrs thida 7 phraxngkh aelaphranddaxik 22 xngkhxarchdyuk kharl luthwich 10 minakhm kh s 1918 11 thnwakhm kh s 2007 xphiesksmrs kh s 1950 kbecahyingxiyxlxngdaehngliy prasuti 6 phvsphakhm kh s 1923 miphrabutr 4 phraxngkh phrandda 19 xngkh aelaphrapndda 10 khnxarchdyukrudxlf 5 knyayn kh s 1919 15 phvsphakhm kh s 2010 xphiesksmrs kh s 1953 kb 11 mithunayn kh s 1929 20 knyayn kh s 1968 miphrabutr 4 phraxngkh phrandda 13 xngkh aelaphrapndda 3 khn xphiesksmrs khrngthisxng kh s 1971 kb prasuti 11 knyayn kh s 1940 miphrathida 1 phraxngkh aelaphrandda 3 xngkhxarchdchechs charlxthethx 1 minakhm kh s 1921 23 krkdakhm kh s 1989 xphiesksmrs kh s 1956 kb 5 tulakhm tampdithineka 22 knyayn kh s 1899 6 krkdakhm kh s 1963 immiphrabutrxarchdchechs 31 phvsphakhm kh s 1922 6 mkrakhm kh s 1993 xphiesksmrs kh s 1949 kb 5 singhakhm kh s 1916 17 emsayn kh s 1991 miphrabutr 5 phraxngkh phrandda 7 xngkh aelaphrapndda 6 khnphrarachxisriyys9 phvsphakhm kh s 1892 21 tulakhm kh s 1911 ecahyingsitaaehngburbng parma Her Royal Highness Princess Zita of Bourbon Parma 21 tulakhm kh s 1911 21 phvscikayn kh s 1916 xarchdchechssitaaehngxxsetriy Her Imperial and Royal Highness Archduchess Zita of Austria 21 phvscikayn kh s 1916 14 minakhm kh s 1989 ckrphrrdinisitaaehngxxsetriy smedcphrarachiniaehnghngkari Her Imperial and Royal Apostolic Majesty The Empress of Austria Apostolic Queen of Hungary rachtrakulphrarachtrakulinsamrunkhxngsitaaehngburbng parma sitaaehngburbng parma phrarachbida phraxykafayphrarachbida phrapykafayphrarachchnk phrapyyikafayphrarachbida phraxyyikafayphrarachbida phrapykafayphrarachbida phrapyyikafayphrarachbida phrarachmarda phraxykafayphrarachmarda phraecamiaeklaehngoprtueks phrapykafayphrarachmarda phraecachuexathi 6 aehngoprtueksphrapyyikafayphrarachmarda karolta okhxakinaaehngsepnphraxyyikafayphrarachmarda phrapykafayphrarachmarda phrapyyikafayphrarachmarda hmayehtuxngkvs Zita of Bourbon Parma eyxrmn Zita von Bourbon Parma hngkari Zita magyar kiralyne aeplcak We grew up internationally My father thought of himself first and foremost as a Frenchman and spent a few weeks every year with the elder children at Chambord his main property on the Loire I once asked him how we should describe ourselves He replied We are French princes who reigned in Italy In fact of the twenty four children only three including me were actually born in Italy 2 xangxingBeeche Bogle Brook Shepherd brrnanukrmwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb ecahyingsitaaehngburbng parma Beeche Arturo amp McIntosh David 2005 Empress Zita of Austria Queen of Hungary 1892 1989 Eurohistory ASIN B000F1PHOI Bogle James and Joanna 1990 A Heart for Europe The Lives of Emperor Charles and Empress Zita of Austria Hungary Fowler Wright 1990 ISBN 0 85244 173 8 Brook Shepherd Gordon 1991 The Last Empress The Life and Times of Zita of Austria Hungary 1893 1989 Harper Collins ISBN 0 00 215861 2 Harding Bertita 1939 Imperial Twilight The Story of Karl and Zita of Hungary Bobbs Merrill Company Publishers ASIN B000J0DDQOkxnhna ecahyingsitaaehngburbng parma thdipexlisaebthinbawaeriy ckrphrrdiniaehngxxsetriy 21 phvscikayn kh s 1916 1 emsayn kh s 1922 erkinaaehngskhesin imningenginexlisaebthinbawaeriy smedcphrarachiniaehnghngkari erkinaaehngskhesin imningenginimmi xarchdchechsaehngxxsetriy exsethx 21 phvscikayn kh s 1916 29 thnwakhm kh s 1953 xarchdchechsmarekrita