พระเจ้าซาร์เฟร์ดินันท์ที่ 1 แห่งบัลแกเรีย (26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2404 — 10 กันยายน พ.ศ. 2491; พระนามเมื่อประสูติ: เจ้าชายแฟร์ดีนันท์ มัคซีมีลีอาน คาร์ล เลออพ็อลท์ มาเรียแห่งแซ็กซ์-โคบูร์กและก็อตธา-โคฮารี) ทรงเป็นเจ้าชายแห่งบัลแกเรีย และหลังจากนั้นทรงดำรงเป็นพระเจ้าซาร์แห่งบัลแกเรีย ทรงเป็นทั้งนักประพันธ์,นักพฤกษาศาสตร์,นักกีฏวิทยาและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแสตมป์
พระเจ้าซาร์เฟอร์ดินานด์ที่ 1 แห่งบัลแกเรีย | |||||
---|---|---|---|---|---|
สมเด็จพระเจ้าซาร์แห่งบัลแกเรีย | |||||
ครองราชย์ | 5 ตุลาคม ค.ศ. 1908 – 3 ตุลาคม ค.ศ. 1918 | ||||
ก่อนหน้า | พระองค์เองในฐานะ เจ้าชาย | ||||
ถัดไป | บอริสที่ 3 | ||||
เจ้าชายแห่งบัลแกเรีย | |||||
ครองราชย์ | 7 กรกฎาคม ค.ศ. 1887 – 5 ตุลาคม ค.ศ. 1908 | ||||
ก่อนหน้า | อาแลกซันเดอร์ | ||||
ถัดไป | พระองค์เองในฐานะ ซาร์ | ||||
พระราชสมภพ | 26 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1861 เวียนนา จักรวรรดิออสเตรีย | ||||
สวรรคต | 10 กันยายน ค.ศ. 1948 (87 พรรษา) โคบวร์ค เยอรมนี | ||||
พระมเหสี | เจ้าหญิงมารี หลุยส์แห่งบูร์บง-ปาร์มา | ||||
พระราชบุตร | พระเจ้าซาร์บอริสที่ 3 แห่งบัลแกเรีย เจ้าชายคิริลแห่งบัลแกเรีย เจ้าหญิงยูโดเซียแห่งบัลแกเรีย เจ้าหญิงนาเด็จดาแห่งบัลแกเรีย | ||||
| |||||
ราชวงศ์ | ราชวงศ์แซ็กซ์-โคบูร์กและโกธา | ||||
พระราชบิดา | |||||
พระราชมารดา | |||||
ศาสนา | โรมันคาทอลิก | ||||
ลายพระอภิไธย |
ภูมิหลังราชวงศ์
เจ้าชายแฟร์ดีนันท์ประสูติที่กรุงเวียนนา ทรงเป็นเจ้าชายแห่ง สายราชวงศ์แซ็กซ์-โคบูร์กและโกธา พระองค์ทรงเจริญพระชันษาในจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี ทรงเป็นเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงและพระราชวงศ์ทรงมีดินแดนในสโลวาเกียและเยอรมนี ซึ่งได้รับการสืบทอดจากบรรพบุรุษ เชื้อสายราชวงศ์โคฮารีมาจากตระกูลขุนนางจากฮังการี ที่ซึ่งมีความมั่นคั่ง ดังเช่นพระราชวงศ์ทรงมีและ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในสโลวาเกีย ทรัพย์สินของพระราชวงศ์ได้รับการเพิ่มอีกจากราชทรัพย์ของ
พระองค์เป็นพระโอรสในกับ ซึ่งเป็นพระธิดาในพระเจ้าหลุยส์-ฟิลิปป์ที่ 1 แห่งฝรั่งเศส เจ้าชายแฟร์ดีนันท์เป็นพระนัดดาใน และสมเด็จพระเจ้าเลออปอลที่ 1 แห่งเบลเยียม ซึ่งเป็นกษัตริย์องค์แรกของเบลเยียม เจ้าชายออกุสต์ ผู้เป็นพระบิดาของพระองค์เป็นพระอนุชาในพระเจ้าฟือร์นังดูที่ 2 แห่งโปรตุเกสและเป็นพระญาติชั้นหนึ่งในสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร,เจ้าฟ้าชายอัลเบิร์ต เจ้าชายพระราชสวามี,สมเด็จพระจักรพรรดินีการ์โลตาแห่งเม็กซิโกและสมเด็จพระเจ้าเลออปอลที่ 2 แห่งเบลเยียม ทั้งพระเจ้าเลออปอลและจักรพรรดินีการ์โลตายังเป็นพระญาติชั้นหนึ่งของเจ้าชายแฟร์ดีนันท์ผ่านทางพระมารดาของพระองค์อีกด้วย ราชวงศ์แซ็กซ์-โคบูร์กและโกธาจึงเป็นราชวงศ์ที่เข้มแข็งโดยการที่มีดินแดนในปกครองมาก รวมทั้งการอภิเษกสมรสระหว่างราชวงศ์ ตามมาด้วยการที่เจ้าชายแฟร์ดีนันท์ทรงสถาปนาราชวงศ์แซ็กซ์-โคบูร์กและโกธาในบัลแกเรีย อีกทั้งเจ้าชายแฟร์ดีนันท์ยังทรงมีเชื้อสายของผู้ปกครองบัลแกเรียตั้งแต่สมัยยุคกลาง
เจ้าชายแห่งบัลแกเรีย
เจ้าชายแห่งราชรัฐบัลแกเรียที่ 3 พระองค์แรก คือ เจ้าชายอเล็กซานเดอร์แห่งบาทเทนเบิร์ก พระองค์ทรงสละราชบัลลังก์ในปีพ.ศ. 2429 ซึ่งเป็นเวลาเพียง 7 ปีหลังจากทรงได้รับเลือกให้เป็นเจ้าชายแห่งบัลแกเรีย เจ้าชายแฟร์ดีนันท์ได้รับเลือกให้สืบราชสมบัติต่อโดยสมัชชาแห่งชาติของประเทศในวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2430 ตามปฏิทินเกรกอเรียน ซึ่งได้สิทธิจากการต่อต้านอิทธิพลของรัสเซียอย่างรุนแรง ได้มีการเสนอบัลลังก์แก่ราชนิกุลอื่นก่อนเจ้าชายแฟร์ดีนันท์ จากเจ้าชายเดนมาร์กถึงแถบคอเคซัสและแม้แต่กษัตริย์แห่งโรมาเนีย การขึ้นครองราชย์ของพระองค์ได้รับการไม่ยอมรับจากหลายๆราชวงศ์ในยุโรป สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักรซึ่งเป็นพระญาติชั้นหนึ่งของพระบิดาของพระองค์ได้กล่าวกับนายกรัฐมนตรีของพระนางว่า "เขาไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ... ละเอียดอ่อน,นอกรีต,อ่อนแอ เราต้องหยุดยั้งความคิดของเขาเดี๋ยวนี้" แม้ว่าในช่วงต้นเจ้าชายแฟร์ดีนันท์ทรงถูกให้ร้ายต่างๆแต่พระองค์ก็ประสบความสำเร็จในการครองราชย์ครบรอบ 10 ปีครั้งแรก
บทบาททางการเมืองของพระองค์ในช่วงแรกทรงถูกครอบงำโดยผู้นำพรรคเสรีนิยม ซึ่งมีนโยบายห่างเหินกับรัสเซียและสนับสนุนออสเตรีย
ชีวิตส่วนพระองค์
เจ้าชายเฟร์ดินันท์แห่งบัลแกเรียทรงถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกรักร่วมสองเพศ เนื่องจากพระอิริยาบถในบางครั้งของพระชนม์ชีพของพระองค์จะทรงหนักไปทางสตรีเสียมากกว่า
เจ้าชายเฟร์ดินันท์แห่งบัลแกเรียทรงอภิเษกสมรสโดยการถูกคลุมถุงชนกับ พระราชธิดาใน ในวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2436 ที่วิลลา พิเอนอร์ ในลูคคา ประเทศอิตาลี ทั้ง 2 พระองค์มีพระโอรส-ธิดารวมกัน 4 พระองค์ ได้แก่
- พระเจ้าซาร์บอริสที่ 3 แห่งบัลแกเรีย
- เจ้าชายคิริลแห่งบัลแกเรีย
- เจ้าหญิงยูโดเซียแห่งบัลแกเรีย
- เจ้าหญิงนาเด็จดาแห่งบัลแกเรีย
เจ้าหญิงมารี หลุยส์สิ้นพระชนม์ในวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2442 หลังจากมีพระประสูติกาลพระธิดาองค์สุดท้อง เจ้าชายเฟร์ดินันท์ทรงไม่อภิเษกสมรสอีกจนกระทั่งเจ้าหญิงคลีเมนทีน พระชนนีสิ้นพระชนม์ในปีพ.ศ. 2450 เพื่อสร้างความมั่นคงแก่พระราชวงศ์และพระโอรสธิดาต้องการผู้ดูแล เจ้าชายเฟอร์ดินานด์ทรงอภิเษกสมรสกับ ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2451
เจ้าชายเฟร์ดินันท์ทรงนิยมไปพักผ่อนที่ชายหาด ประเทศอิตาลี ทรงมีความสำราญพระทัยมาก ซึ่งพระองค์ได้เป็นต้นแบบของราชวงศ์ยุโรปที่ไม่เป็นไปตามธรรมเนียม
จุดตกต่ำของสตัมโบลอฟและนำไปสู่การลอบสังหารเขาในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2438 นำไปสู่การปรองดองกันอีกครั้งระหว่างรัสเซียและบัลแกเรียในกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2439 และการเปลี่ยนแปลงนิกายทางศาสนาของเจ้าชายบอริส พระโอรสจากโรมันคาทอลิกสู่ออร์ทอด็อกซ์ซึ่งได้รับการชมเชยจากรัสเซีย แต่ได้รับการต่อต้านจากพระญาติของพระองค์สายออสเตรียซึ่งเป็นโรมันคาทอลิก โดยเฉพาะสร้างความเกลียดชังให้แก่ สมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟที่ 1 แห่งออสเตรียพระปิตุลาของพระองค์
พระเจ้าซาร์แห่งบัลแกเรีย
เจ้าชายเฟร์ดินันท์ได้สถาปนาพระองค์ขึ้นเป็นพระเจ้าซาร์แห่งบัลแกเรีย ซึ่งมาจากการประกาศเอกราชอย่างสมบูรณ์จากจักรวรรดิออตโตมันในวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2451 และเฉลิมฉลองการประกาศเอกราชในวันที่ 22 กันยายน คำประกาศอิสรภาพได้ประกาศขึ้นที่(Saint Forty Martyrs Church)ในทูร์โนโว และได้รับการยอมรับจากตุรกีและมหาอำนาจอื่นๆในยุโรป
พระเจ้าซาร์เฟร์ดินันท์ทรงมีอำนาจในการปกครองอย่างสมบูรณ์ ในการเสด็จพบปะกับสมเด็จพระจักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 2 แห่งเยอรมนี พระญาติของพระองค์ทั้ง 2 พระองค์ได้ถูกปลดจากตำแหน่ง ในปีพ.ศ. 2452 พระเจ้าซาร์เฟร์ดินันท์ทรงประทับพิงอยู่ที่หน้าต่างในพระราชวังที่พอตสดัม เมื่อจักรพรรดิได้ทรงพระดำเนินมาข้างหลังพระองค์และทรงตบพระปฤษฎางค์พระองค์ พระเจ้าซาร์เฟร์ดินันท์ทรงรู้สึกถึงการถูกดูหมิ่นจากอิริยาบถครั้งนี้และพระจักรพรรดิทรงขอโทษพระองค์ อย่างไรก็ตามพระเจ้าซาร์เฟร์ดินันท์ทรงแค้นพระทัย พระองค์ทรงแก้แค้นโดยการพระราชทานตราเยอรมันที่มีค่ามากไปที่โรงงานครุฟฟ์ในเอสเซน เพื่อเปลี่ยนเป็นตราฝรั่งเศส ซึ่งเป็นศัตรูกับเยอรมนี เหตุการณ์อื่นเช่น เมื่อขณะที่พระองค์ทรงเดินทางไปร่วมพระราชพิธีพระบรมศพของพระญาติชั้นสองของพระองค์ซึ่งก็คือสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งสหราชอาณาจักร ในวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2453 เกิดเหตุต่อสู้ แย่งชิงของชาวบ้านซึ่งขวางขบวนเสด็จรถไฟของพระองค์ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นในจุดขบวนของอาร์ชดยุกฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์แห่งออสเตรีย รัชทายาทแห่งออสเตรีย-ฮังการี แต่อาร์ชดยุกทรงได้รับการเสด็จไปก่อนพระองค์โดยพวกข้าราชบริพารได้นำเชื้อเพลิงจากขบวนของพระเจ้าซาร์ไปเติมแก่ขบวนของอาร์ชดยุก ทำให้พระเจ้าซาร์เสด็จไปหลังสุด ในภายหลังรถของอาร์ชดยุกถูกขวางโดยรถอาหารของพระเจ้าซาร์ พระองค์ทรงแก้แค้นโดยปฏิเสธที่จะให้รถของอาร์ชดยุกเสด็จผ่านก่อนรถอาหารของพระองค์ ในวันที่ 15 กรกฎาคม ปีเดียวกันระหว่างเสด็จประพาสเบลเยียม พระองค์ได้กลายเป็นพระประมุขของรัฐพระองค์แรกทีทรงขับเครื่องบินด้วยพระองค์เอง
พระองค์มีพระดำริเหมือนกับประมุขประเทศที่นับถือนิกายออร์ทอด็กซ์ คือ "การสถาปนาจักรวรรดิไบแซนไทน์ยุคใหม่" ในปีพ.ศ. 2455 พระเจ้าซาร์เฟอร์ดินานด์ทรงร่วมมือกับรัฐบอลข่านต่างๆในการโจมตีจักรวรรดิออตโตมันเพื่อยึดครองดินแดน พระองค์ทรงมีความเชื่อว่าสงครามนี้คือสงครามครูเสดยุคสมัยใหม่ พระองค์มีพระราชโองการว่า "นี่คือการศึกครั้งยิ่งใหญ่และอำนาจแห่งกางเขนจะสามารถต้านทานอำนาจแห่งจันทราเสี้ยว" ชาวบัลแกเรียสนับสนุนการศึกครั้งนี้มากที่สุดและสูญเสียทหารมากที่สุดด้วย มหาอำนาจยืนยันที่จะให้อิสระแก่แอลเบเนีย ไม่ช้าไม่นานบัลแกเรียได้โจมตีอดีตพันธมิตรเซอร์เบียและกรีซ และบัลแกเรียถูกโรมาเนียและจักรวรรดิออตโตมันโจมตีและบัลแกเรียพ่ายแพ้ อย่างไรก็ตามในการลงนามใน บัลแกเรียได้ดินแดนไปบางส่วน คือพื้นที่เล็กๆทำให้ได้มีชายฝั่งติดต่อกับทะเลอีเจียน
สงครามโลกครั้งที่ 1 และการสละราชบัลลังก์
ในวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2458 กองทัพบัลแกเรียได้โจมตีเซอร์เบียหลังจากบัลแกเรียได้ลงนามสนธิสัญญากับจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีและเยอรมนี ที่ซึ่งสัญญาจะให้ดินแดนของเซอร์เบียเป็นการตอบแทนบัลแกเรีย เรียกศึกนี้ว่า พระเจ้าซาร์เฟอร์ดินานด์มิได้ชื่นชอบแนวทางของจักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 2 แห่งเยอรมนี ผู้เป็นพระญาติหรือสมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟที่ 1 แห่งออสเตรีย พระปิตุลา พระเจ้าซาร์ตรัสถึงจักรพรรดิออสเตรียว่า "ฟรานซิส โจเซฟเป็นตาแก่ที่บ้าและขี้หลงขี้ลืม" แต่เนื่องจากทรงต้องการผลประโยชน์ในดินแดนต่างๆหลังจากพ่ายแพ้ในสงครามบอลข่าน ทำให้พระองค์ต้องผูกสัมพันธไมตรีกับศัตรูเก่าคือ จักรวรรดิออตโตมัน
ในช่วงที่สงครามกำลังดำเนินอยู่ เซอร์เบียพ่ายแพ้สงคราม และบัลแกเรียได้ครอบครองดินแดนมาซิโดเนีย 2 ปีต่อมาบัลแกเรียต้องต่อสู้กับกองทัพสัมพันธมิตรที่ประจำการอยู่ในกรีซ และทหารบัลแกเรียอีกส่วนหนึ่งสามารถโจมตีและยึดครองโรมาเนียในปีพ.ศ. 2459
จากนั้น ในฤดูใบไม้ร่วง พ.ศ. 2461 กองทัพบัลแกเรียได้ถูกโจมตีโดยกองทัพสัมพันธมิตรในกรีซ ด้วยที่ทรงทำให้กองทัพพ่ายแพ้ พระเจ้าซาร์เฟร์ดินันท์ทรงแสดงความรับผิดชอบโดยสละราชบัลลังก์เพื่อปกปักษ์รักษาบัลแกเรียไว้ พระโอรสของพระองค์ได้ครองราชย์สืบต่อพระนามว่า พระเจ้าซาร์บอริสที่ 3 แห่งบัลแกเรียในวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2461 ภายใต้การนำของรัฐบาลใหม่ บัลแกเรียได้ประกาศยอมแพ้สงครามต่อฝ่ายพันธมิตร เป็นผลให้สูญเสียดินแดนเพียงเล็กน้อย และยังได้รับดินแดนที่ต่อสู้แล้วได้รับมาตั้งแต่สมัยสงครามบอลข่านคืนมาและเข้าถึงทะเลอีเจียน
การเนรเทศและเสด็จสวรรคต
หลังจากทรงสละราชสมบัติ พระเจ้าซาร์เฟร์ดินันท์เสด็จกลับไปพำนักที่ โคบูร์ก ประเทศเยอรมนี พระองค์ได้จัดการกอบกู้ทรัพย์ของพระองค์ และทรงดำรงพระชนม์ชีพอย่างมีแบบแผน พระองค์ทรงเห็นว่าการเนรเทศกษัตริย์เป็นการสร้างความไม่มั่นคงของระบอบกษัตริย์ พระองค์ทรงเสนอความคิดเห็นว่า
การเนรเทศกษัตริย์ถือเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรมมากจนกลายเป็นความผิดพลาดของบุคคล แต่ปรัชญาของกษัตริย์นั้นเป็นหลักธรรมและจรรยา และอย่าลืมเลือนความภาคภูมิใจที่เป็นสิ่งสำคัญแห่งระบอบกษัตริย์ เรามีระเบียบวินัยตั้งแต่กำเนิดมาและได้รับการสอนให้หลีกเลี่ยงกิริยาที่เป็นสัญญาณถึงอารมณ์ โครงกระดูกจะนั่งอยู่กับเราตลอดไปแม้เป็นงานรื่นเริง มันอาจหมายถึง อาจมีการฆาตกรรมหรือหมายถึง การล้มล้างบัลลังก์ แต่มันช่วยเป็นเครื่องเตือนใจให้เราเตรียมพร้อมตลอดเวลาแม้เป็นสิ่งที่เราไม่คาดคิด ดังนั้นเราจึงต้องเตรียมใจยอมรับสิ่งนั้นแม้อาจจะไม่มาในรูปแบบภัยพิบัติ สิ่งสำคัญในชีวิตคือการสนับสนุนสถานภาพทางสังคม หรือการขับไล่สิ่งทางใจด้วยความมีเกรียติ ถ้ามื้ออาหารนั้นมีความโศกเศร้า เราไม่จำเป็นต้องเชิญโลกมาดูคุณทานอาหารมื้อนั้น
— พระเจ้าซาร์เฟร์ดินันท์ที่ 1 แห่งบัลแกเรีย
พระองค์ทรงดีพระทัยที่พระโอรสได้ครองราชย์สืบต่อจากพระองค์ แต่ทรงไม่พอพระทัยที่ถูกเนรเทศ และพระองค์ทรงใช้เวลากับศิลปะ การทำสวน การท่องเที่ยว และประวัติธรรมชาติ อย่างไรก็ตามพระองค์ทรงได้รับรู้ถึงหายนะขณะที่ทรงดำรงพระชนมชีพอยู่ พระโอรสของพระองค์ พระเจ้าซาร์บอริสที่ 3 แห่งบัลแกเรีย เสด็จสวรรคตอย่างลึกลับหลังจากเข้าพบปะกับฮิตเลอร์ที่เยอรมนี ในปีพ.ศ. 2486 พระโอรสของพระเจ้าซาร์บอริสได้ครองราชย์ พระนาม พระเจ้าซาร์ซิเมออนที่ 2 แห่งบัลแกเรีย และพระราชวงศ์ถูกล้มล้างในปีพ.ศ. 2489 ถือเป็นจุดสิ้นสุดระบอบกษัตริย์แห่งบัลแกเรีย ราชอาณาจักรบัลแกเรียถูกเปลี่ยนเป็น สาธารณรัฐประชาชนบัลแกเรีย เจ้าชายคิริลแห่งบัลแกเรีย พระโอรสของพระองค์เอง ได้ถูกตัดสินประหารชีวิต เมื่อพระองค์ทรงทราบข่าวการประหารเจ้าชายคิริล ตรัสว่า "ทุกๆสิ่งรอบตัวฉันล้วนเป็นหายนะ" พระองค์ได้เสด็จสวรรคตในวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2491 ที่โคบูร์ก ประเทศเยอรมนี ความปรารถนาสุดท้ายของพระองค์คือ การฝังพระบรมศพพระองค์ในบัลแกเรีย แต่รัฐบาลคอมมิวนิสต์ไม่ยินยอมจึงต้องฝังพระบรมศพของพระองค์ไว้ที่โคบูร์ก
อ้างอิง
- (1986). Crowns In Conflict: The Triumph And The Tragedy Of European Monarchy, 1910-1918. London: . ISBN .
- (1981). The Last Courts of Europe. London: . ISBN .
- (1981). Lines of Succession. London: . ISBN .
{{}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|coauthors=
ถูกละเว้น แนะนำ (|author=
) ((help)) - (1986). Foxy Ferdinand, 1861-1948, Tsar of Bulgaria. London: . ISBN .
{{}}
: ตรวจสอบค่า|isbn=
: checksum ((help)) - (1978). The Kaiser: Warlord Of The Second Reich. London: . ISBN .
ก่อนหน้า | พระเจ้าซาร์เฟอร์ดินานด์ที่ 1 แห่งบัลแกเรีย | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
เจ้าชายอเล็กซานเดอร์แห่งบัลแกเรีย | เจ้าชายแห่งบัลแกเรีย (บัลแกเรีย) (7 กรกฎาคม พ.ศ. 2430 – 5 ตุลาคม พ.ศ. 2451) | ตำแหน่งพระเจ้าซาร์แห่งบัลแกเรีย ประกาศเอกราชจากจักรวรรดิออตโตมัน | ||
ตำแหน่งใหม่ | พระเจ้าซาร์แห่งบัลแกเรีย (บัลแกเรีย) (5 ตุลาคม พ.ศ. 2451 – 3 ตุลาคม พ.ศ. 2461) | พระเจ้าซาร์บอริสที่ 3 แห่งบัลแกเรีย |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phraecasarefrdinnththi 1 aehngblaekeriy 26 kumphaphnth ph s 2404 10 knyayn ph s 2491 phranamemuxprasuti ecachayaefrdinnth mkhsimilixan kharl elxxphxlth maeriyaehngaesks okhburkaelakxttha okhhari thrngepnecachayaehngblaekeriy aelahlngcaknnthrngdarngepnphraecasaraehngblaekeriy thrngepnthngnkpraphnth nkphvksasastr nkkitwithyaaelaepnphuechiywchaydanaestmpphraecasarefxrdinandthi 1 aehngblaekeriysmedcphraecasaraehngblaekeriykhrxngrachy5 tulakhm kh s 1908 3 tulakhm kh s 1918kxnhnaphraxngkhexnginthana ecachaythdipbxristhi 3ecachayaehngblaekeriykhrxngrachy7 krkdakhm kh s 1887 5 tulakhm kh s 1908kxnhnaxaaelksnedxrthdipphraxngkhexnginthana sarphrarachsmphph26 kumphaphnth kh s 1861 ewiynna ckrwrrdixxsetriyswrrkht10 knyayn kh s 1948 87 phrrsa okhbwrkh eyxrmniphramehsiecahyingmari hluysaehngburbng parmaphrarachbutrphraecasarbxristhi 3 aehngblaekeriy ecachaykhirilaehngblaekeriy ecahyingyuodesiyaehngblaekeriy ecahyingnaedcdaaehngblaekeriyphranametmeyxrmn aefrdinnth mkhsimilixan kharl elxxphxlthrachwngsrachwngsaesks okhburkaelaokthaphrarachbidaphrarachmardasasnaormnkhathxliklayphraxphiithyphumihlngrachwngsecachayaefrdinnthprasutithikrungewiynna thrngepnecachayaehng sayrachwngsaesks okhburkaelaoktha phraxngkhthrngecriyphrachnsainckrwrrdixxsetriy hngkari thrngepnechuxphrawngschnsungaelaphrarachwngsthrngmidinaedninsolwaekiyaelaeyxrmni sungidrbkarsubthxdcakbrrphburus echuxsayrachwngsokhharimacaktrakulkhunnangcakhngkari thisungmikhwammnkhng dngechnphrarachwngsthrngmiaela sungpccubnxyuinsolwaekiy thrphysinkhxngphrarachwngsidrbkarephimxikcakrachthrphykhxng phraxngkhepnphraoxrsinkb sungepnphrathidainphraecahluys filippthi 1 aehngfrngess ecachayaefrdinnthepnphranddain aelasmedcphraecaelxxpxlthi 1 aehngebleyiym sungepnkstriyxngkhaerkkhxngebleyiym ecachayxxkust phuepnphrabidakhxngphraxngkhepnphraxnuchainphraecafuxrnngduthi 2 aehngoprtueksaelaepnphrayatichnhnunginsmedcphrarachininathwiktxeriyaehngshrachxanackr ecafachayxlebirt ecachayphrarachswami smedcphrackrphrrdinikaroltaaehngemksiokaelasmedcphraecaelxxpxlthi 2 aehngebleyiym thngphraecaelxxpxlaelackrphrrdinikaroltayngepnphrayatichnhnungkhxngecachayaefrdinnthphanthangphramardakhxngphraxngkhxikdwy rachwngsaesks okhburkaelaokthacungepnrachwngsthiekhmaekhngodykarthimidinaedninpkkhrxngmak rwmthngkarxphiesksmrsrahwangrachwngs tammadwykarthiecachayaefrdinnththrngsthapnarachwngsaesks okhburkaelaokthainblaekeriy xikthngecachayaefrdinnthyngthrngmiechuxsaykhxngphupkkhrxngblaekeriytngaetsmyyukhklangecachayaehngblaekeriyecachayaehngrachrthblaekeriythi 3 phraxngkhaerk khux ecachayxelksanedxraehngbathethnebirk phraxngkhthrngslarachbllngkinpiph s 2429 sungepnewlaephiyng 7 pihlngcakthrngidrbeluxkihepnecachayaehngblaekeriy ecachayaefrdinnthidrbeluxkihsubrachsmbtitxodysmchchaaehngchatikhxngpraethsinwnthi 7 krkdakhm ph s 2430 tamptithinekrkxeriyn sungidsiththicakkartxtanxiththiphlkhxngrsesiyxyangrunaerng idmikaresnxbllngkaekrachnikulxunkxnecachayaefrdinnth cakecachayednmarkthungaethbkhxekhssaelaaemaetkstriyaehngormaeniy karkhunkhrxngrachykhxngphraxngkhidrbkarimyxmrbcakhlayrachwngsinyuorp smedcphrarachininathwiktxeriyaehngshrachxanackrsungepnphrayatichnhnungkhxngphrabidakhxngphraxngkhidklawkbnaykrthmntrikhxngphranangwa ekhaimehmaasmxyangying laexiydxxn nxkrit xxnaex eratxnghyudyngkhwamkhidkhxngekhaediywni aemwainchwngtnecachayaefrdinnththrngthukihraytangaetphraxngkhkprasbkhwamsaercinkarkhrxngrachykhrbrxb 10 pikhrngaerk bthbaththangkaremuxngkhxngphraxngkhinchwngaerkthrngthukkhrxbngaodyphunaphrrkhesriniym sungminoybayhangehinkbrsesiyaelasnbsnunxxsetriychiwitswnphraxngkhecachayefrdinnthaehngblaekeriythrngthukklawhawaepnphwkrkrwmsxngephs enuxngcakphraxiriyabthinbangkhrngkhxngphrachnmchiphkhxngphraxngkhcathrnghnkipthangstriesiymakkwa phraecasarefrdinnthkbecahyingmari hluys phramehsixngkhaerk ecachayefrdinnthaehngblaekeriythrngxphiesksmrsodykarthukkhlumthungchnkb phrarachthidain inwnthi 20 emsayn ph s 2436 thiwilla phiexnxr inlukhkha praethsxitali thng 2 phraxngkhmiphraoxrs thidarwmkn 4 phraxngkh idaek phraecasarbxristhi 3 aehngblaekeriy ecachaykhirilaehngblaekeriy ecahyingyuodesiyaehngblaekeriy ecahyingnaedcdaaehngblaekeriy ecahyingmari hluyssinphrachnminwnthi 31 mkrakhm ph s 2442 hlngcakmiphraprasutikalphrathidaxngkhsudthxng ecachayefrdinnththrngimxphiesksmrsxikcnkrathngecahyingkhliemnthin phrachnnisinphrachnminpiph s 2450 ephuxsrangkhwammnkhngaekphrarachwngsaelaphraoxrsthidatxngkarphuduael ecachayefxrdinandthrngxphiesksmrskb inwnthi 28 kumphaphnth ph s 2451 ecachayefrdinnththrngniymipphkphxnthichayhad praethsxitali thrngmikhwamsarayphrathymak sungphraxngkhidepntnaebbkhxngrachwngsyuorpthiimepniptamthrrmeniym cudtktakhxngstmoblxfaelanaipsukarlxbsngharekhaineduxnkrkdakhm ph s 2438 naipsukarprxngdxngknxikkhrngrahwangrsesiyaelablaekeriyinkumphaphnth ph s 2439 aelakarepliynaeplngnikaythangsasnakhxngecachaybxris phraoxrscakormnkhathxliksuxxrthxdxkssungidrbkarchmechycakrsesiy aetidrbkartxtancakphrayatikhxngphraxngkhsayxxsetriysungepnormnkhathxlik odyechphaasrangkhwamekliydchngihaek smedcphrackrphrrdifrans ocesfthi 1 aehngxxsetriyphrapitulakhxngphraxngkhphraecasaraehngblaekeriyecachayefrdinnthidsthapnaphraxngkhkhunepnphraecasaraehngblaekeriy sungmacakkarprakasexkrachxyangsmburncakckrwrrdixxtotmninwnthi 5 tulakhm ph s 2451 aelaechlimchlxngkarprakasexkrachinwnthi 22 knyayn khaprakasxisrphaphidprakaskhunthi Saint Forty Martyrs Church inthuronow aelaidrbkaryxmrbcakturkiaelamhaxanacxuninyuorp phithixphiesksmrs phraecasarefrdinnththi 1 aehngblaekeriykbphramehsiphraxngkhthi 2 ecahyingexelnxr rxs phraecasarefrdinnththrngmixanacinkarpkkhrxngxyangsmburn inkaresdcphbpakbsmedcphrackrphrrdiwilehlmthi 2 aehngeyxrmni phrayatikhxngphraxngkhthng 2 phraxngkhidthukpldcaktaaehnng inpiph s 2452 phraecasarefrdinnththrngprathbphingxyuthihnatanginphrarachwngthiphxtsdm emuxckrphrrdiidthrngphradaeninmakhanghlngphraxngkhaelathrngtbphrapvsdangkhphraxngkh phraecasarefrdinnththrngrusukthungkarthukduhmincakxiriyabthkhrngniaelaphrackrphrrdithrngkhxothsphraxngkh xyangirktamphraecasarefrdinnththrngaekhnphrathy phraxngkhthrngaekaekhnodykarphrarachthantraeyxrmnthimikhamakipthiorngngankhruffinexsesn ephuxepliynepntrafrngess sungepnstrukbeyxrmni ehtukarnxunechn emuxkhnathiphraxngkhthrngedinthangiprwmphrarachphithiphrabrmsphkhxngphrayatichnsxngkhxngphraxngkhsungkkhuxsmedcphraecaexdewirdthi 7 aehngshrachxanackr inwnthi 6 phvsphakhm ph s 2453 ekidehtutxsu aeyngchingkhxngchawbansungkhwangkhbwnesdcrthifkhxngphraxngkhsungehtukarnniidekidkhunincudkhbwnkhxngxarchdyukfrans efxrdinandaehngxxsetriy rchthayathaehngxxsetriy hngkari aetxarchdyukthrngidrbkaresdcipkxnphraxngkhodyphwkkharachbripharidnaechuxephlingcakkhbwnkhxngphraecasaripetimaekkhbwnkhxngxarchdyuk thaihphraecasaresdciphlngsud inphayhlngrthkhxngxarchdyukthukkhwangodyrthxaharkhxngphraecasar phraxngkhthrngaekaekhnodyptiesththicaihrthkhxngxarchdyukesdcphankxnrthxaharkhxngphraxngkh inwnthi 15 krkdakhm piediywknrahwangesdcpraphasebleyiym phraxngkhidklayepnphrapramukhkhxngrthphraxngkhaerkthithrngkhbekhruxngbindwyphraxngkhexngsngkhrambxlkhanphraecasarefxrdinandthi 1 aehngblaekeriy phraxngkhmiphradariehmuxnkbpramukhpraethsthinbthuxnikayxxrthxdks khux karsthapnackrwrrdiibaesnithnyukhihm inpiph s 2455 phraecasarefxrdinandthrngrwmmuxkbrthbxlkhantanginkarocmtickrwrrdixxtotmnephuxyudkhrxngdinaedn phraxngkhthrngmikhwamechuxwasngkhramnikhuxsngkhramkhruesdyukhsmyihm phraxngkhmiphrarachoxngkarwa nikhuxkarsukkhrngyingihyaelaxanacaehngkangekhncasamarthtanthanxanacaehngcnthraesiyw chawblaekeriysnbsnunkarsukkhrngnimakthisudaelasuyesiythharmakthisuddwy mhaxanacyunynthicaihxisraaekaexlebeniy imchaimnanblaekeriyidocmtixditphnthmitresxrebiyaelakris aelablaekeriythukormaeniyaelackrwrrdixxtotmnocmtiaelablaekeriyphayaeph xyangirktaminkarlngnamin blaekeriyiddinaednipbangswn khuxphunthielkthaihidmichayfngtidtxkbthaelxieciynsngkhramolkkhrngthi 1 aelakarslarachbllngkinwnthi 11 tulakhm ph s 2458 kxngthphblaekeriyidocmtiesxrebiyhlngcakblaekeriyidlngnamsnthisyyakbckrwrrdixxsetriy hngkariaelaeyxrmni thisungsyyacaihdinaednkhxngesxrebiyepnkartxbaethnblaekeriy eriyksukniwa phraecasarefxrdinandmiidchunchxbaenwthangkhxngckrphrrdiwilehlmthi 2 aehngeyxrmni phuepnphrayatihruxsmedcphrackrphrrdifrans ocesfthi 1 aehngxxsetriy phrapitula phraecasartrsthungckrphrrdixxsetriywa fransis ocesfepntaaekthibaaelakhihlngkhilum aetenuxngcakthrngtxngkarphlpraoychnindinaedntanghlngcakphayaephinsngkhrambxlkhan thaihphraxngkhtxngphuksmphnthimtrikbstruekakhux ckrwrrdixxtotmn inchwngthisngkhramkalngdaeninxyu esxrebiyphayaephsngkhram aelablaekeriyidkhrxbkhrxngdinaednmasiodeniy 2 pitxmablaekeriytxngtxsukbkxngthphsmphnthmitrthipracakarxyuinkris aelathharblaekeriyxikswnhnungsamarthocmtiaelayudkhrxngormaeniyinpiph s 2459 caknn invduibimrwng ph s 2461 kxngthphblaekeriyidthukocmtiodykxngthphsmphnthmitrinkris dwythithrngthaihkxngthphphayaeph phraecasarefrdinnththrngaesdngkhwamrbphidchxbodyslarachbllngkephuxpkpksrksablaekeriyiw phraoxrskhxngphraxngkhidkhrxngrachysubtxphranamwa phraecasarbxristhi 3 aehngblaekeriyinwnthi 3 tulakhm ph s 2461 phayitkarnakhxngrthbalihm blaekeriyidprakasyxmaephsngkhramtxfayphnthmitr epnphlihsuyesiydinaednephiyngelknxy aelayngidrbdinaednthitxsuaelwidrbmatngaetsmysngkhrambxlkhankhunmaaelaekhathungthaelxieciynkarenrethsaelaesdcswrrkhtphrarachwngskhxngphraecasarefrdinnthphraecasarefrdinnth xditphraecasaraehngblaekeriyinpiph s 2471 hlngcakthrngslarachsmbti phraecasarefrdinnthesdcklbipphankthi okhburk praethseyxrmni phraxngkhidcdkarkxbkuthrphykhxngphraxngkh aelathrngdarngphrachnmchiphxyangmiaebbaephn phraxngkhthrngehnwakarenrethskstriyepnkarsrangkhwamimmnkhngkhxngrabxbkstriy phraxngkhthrngesnxkhwamkhidehnwa karenrethskstriythuxepneruxngthiphidsilthrrmmakcnklayepnkhwamphidphladkhxngbukhkhl aetprchyakhxngkstriynnepnhlkthrrmaelacrrya aelaxyalumeluxnkhwamphakhphumiicthiepnsingsakhyaehngrabxbkstriy eramiraebiybwinytngaetkaenidmaaelaidrbkarsxnihhlikeliyngkiriyathiepnsyyanthungxarmn okhrngkradukcanngxyukberatlxdipaemepnnganrunering mnxachmaythung xacmikarkhatkrrmhruxhmaythung karlmlangbllngk aetmnchwyepnekhruxngetuxniciheraetriymphrxmtlxdewlaaemepnsingthieraimkhadkhid dngnneracungtxngetriymicyxmrbsingnnaemxaccaimmainrupaebbphyphibti singsakhyinchiwitkhuxkarsnbsnunsthanphaphthangsngkhm hruxkarkhbilsingthangicdwykhwammiekriyti thamuxxaharnnmikhwamoskesra eraimcaepntxngechiyolkmadukhunthanxaharmuxnn phraecasarefrdinnththi 1 aehngblaekeriy phraxngkhthrngdiphrathythiphraoxrsidkhrxngrachysubtxcakphraxngkh aetthrngimphxphrathythithukenreths aelaphraxngkhthrngichewlakbsilpa karthaswn karthxngethiyw aelaprawtithrrmchati xyangirktamphraxngkhthrngidrbruthunghaynakhnathithrngdarngphrachnmchiphxyu phraoxrskhxngphraxngkh phraecasarbxristhi 3 aehngblaekeriy esdcswrrkhtxyangluklbhlngcakekhaphbpakbhitelxrthieyxrmni inpiph s 2486 phraoxrskhxngphraecasarbxrisidkhrxngrachy phranam phraecasarsiemxxnthi 2 aehngblaekeriy aelaphrarachwngsthuklmlanginpiph s 2489 thuxepncudsinsudrabxbkstriyaehngblaekeriy rachxanackrblaekeriythukepliynepn satharnrthprachachnblaekeriy ecachaykhirilaehngblaekeriy phraoxrskhxngphraxngkhexng idthuktdsinpraharchiwit emuxphraxngkhthrngthrabkhawkarpraharecachaykhiril trswa thuksingrxbtwchnlwnepnhayna phraxngkhidesdcswrrkhtinwnthi 10 knyayn ph s 2491 thiokhburk praethseyxrmni khwamprarthnasudthaykhxngphraxngkhkhux karfngphrabrmsphphraxngkhinblaekeriy aetrthbalkhxmmiwnistimyinyxmcungtxngfngphrabrmsphkhxngphraxngkhiwthiokhburkxangxingAronson 1986 Crowns In Conflict p 175 1986 Crowns In Conflict The Triumph And The Tragedy Of European Monarchy 1910 1918 London ISBN 0 7195 4279 0 1981 The Last Courts of Europe London ISBN 0 460 04519 9 1981 Lines of Succession London ISBN 0 460 04519 9 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a imruckpharamietxr coauthors thuklaewn aenana author help 1986 Foxy Ferdinand 1861 1948 Tsar of Bulgaria London ISBN 0 238 98515 1 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a trwcsxbkha isbn checksum help 1978 The Kaiser Warlord Of The Second Reich London ISBN 0 297 77393 3 kxnhna phraecasarefxrdinandthi 1 aehngblaekeriy thdipecachayxelksanedxraehngblaekeriy ecachayaehngblaekeriy blaekeriy 7 krkdakhm ph s 2430 5 tulakhm ph s 2451 taaehnngphraecasaraehngblaekeriy prakasexkrachcakckrwrrdixxtotmntaaehnngihm phraecasaraehngblaekeriy blaekeriy 5 tulakhm ph s 2451 3 tulakhm ph s 2461 phraecasarbxristhi 3 aehngblaekeriy