บทความนี้ยังต้องการเพิ่มเพื่อ |
มหาอำมาตย์เอก เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี นามเดิม สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา (1 มกราคม พ.ศ. 2419 – 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2486) นามปากกา ครูเทพ เป็นขุนนางชาวไทย เคยเป็นเสนาบดีกระทรวงธรรมการ และเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรคนแรก ผู้วางรากฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานและอาชีวศึกษา ทั้งได้ร่วมดำริให้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศ คือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงเรียนช่างก่อสร้างแห่งแรกของประเทศไทย คือ โรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย และยังเป็นผู้แปลกติกาฟุตบอลมาเผยแพร่ในประเทศไทย นอกจากนี้ ยังเป็นนักประพันธ์ งานประพันธ์เลื่องชื่อ คือ เพลงกราวกีฬา และเพลงชาติไทยฉบับก่อนปัจจุบัน
เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา) | |
---|---|
ประธานรัฐสภาไทย และ ประธานสภาผู้แทนราษฎร | |
ดำรงตำแหน่ง 28 มิถุนายน พ.ศ. 2475 – 1 กันยายน พ.ศ. 2475 | |
กษัตริย์ | พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว |
ก่อนหน้า | สถาปนาตำแหน่ง |
ถัดไป | เจ้าพระยาพิชัยญาติ |
ดำรงตำแหน่ง 15 ธันวาคม พ.ศ. 2476 – 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2477 | |
กษัตริย์ | พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว |
ก่อนหน้า | เจ้าพระยาพิชัยญาติ |
ถัดไป | พระยาศรยุทธเสนี |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมการ | |
ดำรงตำแหน่ง 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 – 16 ธันวาคม พ.ศ. 2476 | |
นายกรัฐมนตรี | พระยามโนปกรณนิติธาดา พระยาพหลพลพยุหเสนา |
ก่อนหน้า | ตนเอง (ในฐานะ เสนาบดี) |
ถัดไป | พระยาพหลพลพยุหเสนา |
เสนาบดีกระทรวงธรรมการ | |
ดำรงตำแหน่ง 19 เมษายน พ.ศ. 2459 – 3 สิงหาคม พ.ศ. 2469 | |
กษัตริย์ | พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว |
ก่อนหน้า | เจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี (หม่อมราชวงศ์เปีย มาลากุล) |
ถัดไป | พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าธานีนิวัต |
ดำรงตำแหน่ง 1 กันยายน พ.ศ. 2475 – 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 | |
กษัตริย์ | พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว |
ก่อนหน้า | พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าธานีนิวัต |
ถัดไป | ตนเอง (ในฐานะ รัฐมนตรี) |
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบประเภทที่ 2 | |
ดำรงตำแหน่ง 9 ธันวาคม พ.ศ. 2476 – 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2477 | |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | สนั่น 1 มกราคม พ.ศ. 2419 จังหวัดพระนคร ประเทศสยาม |
เสียชีวิต | 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2486 (67 ปี) จังหวัดพระนคร ประเทศไทย |
ศาสนา | พุทธ |
คู่สมรส | ถวิล สาลักษณ |
บุตร | 18 คน; รวมถึงปรียา ฉิมโฉม |
บุพการี |
|
ปฐมวัยและการศึกษา
เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี เกิดที่บ้านหลังศาลเจ้าหัวเม็ด จังหวัดพระนคร เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2419 (นับแบบปัจจุบันคือปี 2420)[] ตรงกับวันจันทร์ เดือนยี่ แรม 2 ค่ำ ปีชวดเป็นบุตรคนที่ 18 จากบุตร-ธิดา 32 คนของ กับคุณหญิงอยู่ ไชยสุรินทร์ โดยพระยาไชยสุรินทร์ (หม่อมหลวงเจียม เทพหัสดิน) สืบสายตระกูลจาก โอรสหม่อมเจ้าฉิม ในสมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงเทพหริรักษ์
เมื่ออายุได้ 8 ขวบ ท่านบิดาก็ถึงแก่อนิจกรรม ชีวิตของท่านจึงผกผันจากการเป็นครอบครัวคนชั้นสูง จากการเป็นบุตรขุนนางชั้นผู้ใหญ่ (พระยาไชยสุรินทร์ดำรงตำแหน่งเจ้ากรมพระคลังข้างที่ในต้นรัชกาลที่ 5) ต้องมาช่วยมารดาทำสวน ค้าขายและรับจ้างเย็บรังดุมตั้งแต่ยังเด็ก ความยากลำบากทำให้ท่านมีความอดทนไม่ท้อถอยและมีอุปนิสัยอ่อนโยน มัธยัสถ์ ซึ่งเป็นสิ่งเกื้อหนุนให้ท่านมีความเจริญรุ่งเรืองในการศึกษาและการทำงาน
การศึกษา
เริ่มการศึกษาที่โรงเรียนวัดบพิตรพิมุข พระตำหนักสวนกุหลาบ และโรงเรียนสุนันทาลัย แล้วเข้าศึกษาต่อ ณ โรงเรียนฝึกหัดอาจารย์ระหว่างปี พ.ศ. 2435 - 2437 ได้รับประกาศนียบัตรครู และสอบไล่ได้เป็นที่ 1 ของผู้สำเร็จวิชาครูชุดแรกและทำหน้าที่สอนประมาณ 2 ปี
- พ.ศ. 2431 เมื่ออายุ 12 ปี เข้าเรียนประโยคหนึ่งที่โรงเรียนบพิตรพิมุข มีพระมหาหนอหรือขุนอนุกิจวิธูร (น้อย จุลลิธูร) เป็นครูคนแรก
- พ.ศ. 2432 จบประโยคสอง โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบเมื่ออายุ 12 ปี
- พ.ศ. 2435 จบประโยคมัธยมศึกษาชั้น 5 ภาษาอังกฤษหลักสูตรหลวงโรงเรียนตัวอย่างสุนันทาลัยเข้าแล้วศึกษาในโรงเรียนฝึกหัดอาจารย์ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าให้ตั้ง โดยเป็นนักเรียนรุ่นแรกเพียง 3 คน สอบประกาศนียบัตรครูรุ่นแรกของกรมศึกษาธิการได้อันดับที่ 1 เมื่ออายุ 16 ปี แล้วทำหน้าที่เป็นนักเรียนสอนในกรมศึกษาธิการ
- พ.ศ. 2437 เป็นผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่โรงเรียนฝึกหัดอาจารย์
- พ.ศ. 2439 เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม จึงได้เป็นนักเรียนทุนหลวงกระทรวงธรรมการไปศึกษาวิชาครูต่อที่ประเทศอังกฤษ ณ วิทยาลัยฝึกหัดครูเบอโรโรด (Borough Road College) ณ เมืองไอส์ลเวิซท์ (Isleworth) ทางใต้ของกรุงลอนดอน ภายใต้การดูแลของเซอร์ โรเบิร์ต มอแรน จบแล้วได้เดินทางไปดูงานด้านการศึกษาที่ประเทศอินเดียและพม่าเป็นเวลา 3 เดือน
ชีวิตการทำงานและผลงาน
- พ.ศ. 2441 จบการศึกษาและการดูงานกลับมาอุปสมบทในพระพุทธศาสนา 1 พรรษา โดยมีโดย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าให้เป็นนาคหลวง อุปสมบท ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม จำพรรษา ณ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร มีสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงเป็นอุปัชฌาย์
- พ.ศ. 2442 กลับเข้ารับราชการกระทรวงธรรมการเมื่อวันที่ 9 มกราคม โดยเป็นครูสอนวิชาครูและคำนวณวิธีในโรงเรียนฝึกหัดอาจารย์ ก่อนเป็นพนักงานแต่งแบบเรียนประจำศาลาว่าการกรมศึกษาธิการ
- 9 กันยายน พ.ศ. 2442 (พ.ศ. 2443 ในปัจจุบัน) ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น "หลวงไพศาลศิลปศาสตร์" ถือศักดินา 800 รับหน้าที่เป็นเป็นผู้ช่วยหัวหน้ากองตรวจกรมศึกษาธิการและทำหน้าที่สอนในขณะเดียวกัน
- พ.ศ. 2444 จัดให้มีการแข่งขันฟุตบอลระหว่างโรงเรียนประเภทอายุไม่เกิน 20 ปีเป็นครั้งแรกที่สนามหลวง โรงเรียนชนะเลิศจะได้รับโล่ไว้ครอบครองเป็นเวลาหนึ่งปี และการจารึกชื่อบนโล่เป็นเกียรติประวัติ เรียกว่า "การแข่งขันฟุตบอลชิงโล่ของกระทรวงธรรมการ"
- พ.ศ. 2445 เดินทางไปดูงานการศึกษา ณ ประเทศญี่ปุ่น โดยมีผู้ร่วมเดินทางในครั้งนั้นคือ ขุนอนุกิจวิทูร (สันทัด เทพหัสดิน ณ อยุธยา) และพระชำนิบรรณาคม (อ่อน สาริบุตร) โดยใช้เวลาดูงาน 72 วัน และในโอกาสนี้ ได้คอยเฝ้ารับเสด็จนิวัติประเทศสยามของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร (พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว) ซึ่งสำเร็จการศึกษาจากประเทศอังกฤษแล้ว
- พ.ศ. 2453 ร. 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม (ร.ศ. 129) เพื่อรับกระแสพระราชดำริเรื่องการวางแนวทางการจัดการศึกษาของชาติโดยมีพระราชดำริว่า
- “ความเจริญแห่งประเทศบ้านเมืองในสมัยต่อไปนี้ที่จะเป็น ปึกแผ่นแน่นหนาได้แท้จริง ก็ด้วยอาศรัยศิลปวิทยาเป็นที่ตั้งหรือเปนรากเหง้าเค้ามูลจึงมีพระราชประสงค์จะทรงทำนุบำรุงการศึกษาของชาติบ้านเมืองให้รุ่งเรืองทันเขาอื่น”
- การจัดตั้งโรงเรียนมหาดเล็กหลวงแล้วเสร็จเปิดสอนเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม
- 4 มิถุนายน พ.ศ. 2454 รั้งตำแหน่งปลัดทูลฉลอง กระทรวงธรรมการและเป็น “พระยาธรรมศักดิ์มนตรี”
- พ.ศ. 2457 รั้งตำแหน่งผู้บัญชาการโรงเรียนข้าราชการพลเรือนเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม อีกตำแหน่งหนึ่ง
- เขียนบทความแสดงความคิดเห็นใน "หนังสือพิมพ์ล้อมรั้ว พ.ศ. 2457" เสนอให้จัดตั้งมหาวิทยาลัยโดยใช้ที่ดินระหว่างสนามม้ากับถนนพญาไทและถนนพญาไทถึงคลองสวนหลวง ส่วนหนึ่งของบทความ
- "มหาวิทยาลัยเป็นอาภรณ์สำหรับมหานครที่รุ่งเรืองแล้ว มหานครใดมีมหาวิทยาลัยที่ขึ้นชื่อเสียงสมจะอวดได้ ก็ย่อมเป็นเครื่องเชิดชูเกียรติคุณของมหานครนั้น ก็ย่อมได้ชื่อเสียงปรากฏความรุ่งเรืองแผ่ไพศาลไปในทิศทั้งปวงด้วย"
- พ.ศ. 2459 ได้เป็นเสนาบดีกระทรวงธรรมการ ได้รับพระราชทานยศเป็น “จางวางโท” และ “จางวางเอก” ในปีเดียวกัน
- ในปีเดียวกันนี้ ได้มีพระราชหัตถ์เลขาพระราชทานเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีว่า
- "ถึงพระยาธรรมศักดิ์มนตรี ได้รับหนังสือลงวันที่ 21 เดือนนี้ หาฤๅเรื่องจะรวมโรงเรียนข้าราชการพลเรือนกับโรงเรียนแพทยาลัย ขึ้นเปนมหาวิทยาลัย และบรรจุตำแหน่งน่าที่ทางกระทรวงธรรมการนั้นทราบแล้ว ตามความเห็นที่ชี้แจงมานั้น เห็นชอบด้วยแล้วให้จัดการไปตามนี้”
- พ.ศ. 2464 รับพระบรมราชโองการทำจดหมายถึงมูลนิธิร็อกกีเฟลเลอร์ ให้มาช่วยปรับปรุงการศึกษาแพทย์ โดยมูลนิธิฯ ส่งนายแพทย์ ริชาร์ด เอม เพียร์ส ประธานกรรมการฝ่ายแพทยศาสตร์ศึกษาเข้ามาดูกิจการของการศึกษาแพทย์ในประเทศสยามและได้กราบทูลเชิญสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมขุนสงขลานครินทร์ ทรงรับเป็นผู้แทนฝ่ายไทย
- ในปีเดียวกันนี้ ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติประถมศึกษาฉบับแรกของประเทศ
- พ.ศ. 2468 แต่งเพลงกราวกีฬา
- พ.ศ. 2469 ลาออกจากราชการเพื่อรับบำเหน็จบำนาญมาช่วยสอนในโรงเรียนสตรีจุลนาคซึ่งคุณไฉไล เทพหัสดิน ณ อยุธยา บุตรีลาออกจากครูโรงเรียนราชินีและโรงเรียนวชิราวุธมาจัดตั้งขึ้นที่บ้านหลานหลวง
- พ.ศ. 2475 เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรคนแรกในระบอบประชาธิปไตยระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน – 1 กันยายน และต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้ไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการระหว่างวันที่ 1 กันยายน - 27 ธันวาคม
- พ.ศ. 2476 รัฐสภามีมติเลือกกลับไปเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม และขอลาออกเมื่อวันที่ 6 เดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากเห็นว่าเหตุการณ์ในระยะนั้นไม่อาจรักษาความเป็นประชาธิปไตยตามครรลองที่ท่านคิดว่าควรเป็นไว้ได้ จึงลาออกมาพักผ่อนอยู่กับบ้านจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต
- พ.ศ. 2477 ก่อตั้งโรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย และโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมแม่โจ้ เชียงใหม่ (ดำเนินการในระหว่างเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2476)
งานด้านการศึกษา
เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีได้ประกอบกิจการทางการศึกษาอันเป็นคุณูปการไว้แก่ประเทศไว้มากมาย โดยเฉพาะในการวางรากฐานอย่างสมัยใหม่ เริ่มตั้งแต่การเป็นครู ผู้ตรวจการศึกษา เป็นเจ้ากรมราชบัณฑิต เจ้ากรมตรวจ จนถึงเสนาบดี โดยเริ่มนำเอาความรู้แผนใหม่เข้ามาในวงการครู เริ่มพัฒนาด้านพุทธิศึกษาอย่างจริงจัง เขียนตำรา เริ่มตั้งแต่ด้านสุขาภิบาลและสำหรับครอบครัว รวมทั้งเน้นด้านปลูกฝังธรรมจรรยาอย่างแท้จริง อบรมสั่งสอนให้คนมีคุณธรรมและจรรยามรรยาท จัดทำแบบสอน-อ่าน-เขียนด้านธรรมจริยาขึ้นใช้ในโรงเรียนทั่วประเทศ นำพลศึกษาและการกีฬาเข้ามาในโรงเรียนเพื่อสร้างลักษณะนิสัยให้เยาวชนรู้จักรู้แพ้ รู้ชนะ รู้จักอภัยซึ่งกันและกัน
เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีได้จัดให้มีการศึกษาภาคบังคับ เพื่อให้ประชาชนได้รับการศึกษาทั่วถึงกันโดยท่านเชื่อว่า เมื่อให้มวลชนได้รับการศึกษาอย่างกว้างขวางแล้ว บุคคลที่มีความสามารถก็จะปรากฏขึ้นมาให้เห็นเอง ได้จัดตั้งโรงเรียนขึ้นทั่วประเทศรวมทั้งโรงเรียนประชาบาลเพื่อรองรับการจัดการศึกษาภาคบังคับ มีการเริ่มงานด้าน คือ นำเอาวิชาอาชีพต่าง ๆ เข้ามาสอนในโรงเรียน เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้รับทั้งด้านวิชาความรู้เพื่อไปรับราชการ และทางด้านวิชาชีพสำหรับผู้ที่ต้องการนำไปประกอบอาชีพทั่วไป ผลงานของเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี อาจสรุปเป็นข้อ ๆ ได้ดังนี้
- นำวิธีการจัดการศึกษาของต่างประเทศ ทั้งในยุโรปและเอเชียบางประเทศมาใช้เป็นแนวทางในการจัดการศึกษาของประเทศไทย
- เป็นกรรมการโรงเรียนข้าราชการพลเรือน เป็นผู้บัญชาการโรงเรียนจนกระทั่งได้รับการสถาปนาเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- เป็นกรรมการจัดการโรงเรียนมหาดเล็กหลวง
- เป็นผู้ตรวจการลูกเสือมณฑลกรุงเทพฯ คนแรก
- เป็นผู้ดำเนินการเพื่อให้ได้มีการประกาศใช้ พ.ศ. 2461
- เป็นผู้ดำเนินการเพื่อห้ได้มีการประกาศใช้ พ.ศ. 2464
- ริเริ่มให้มีการฝึกหัดเล่นฟุตบอลในโรงเรียนและให้มีการแข่งขันฟุตบอลระหว่างโรงเรียน
- ตั้ง เป็นผู้บรรยายวิชาครูและวิธีสอนที่สมาคมและที่โรงเรียนฝึกหัดอาจารย์และเริ่มออกหนังสือ “วิทยาจารย์”
- ริเริ่มส่งเสริมวิชาช่างและหัตถกรรมเพื่อส่งเสริมให้เห็นความสำคัญของการช่างสาขาต่าง ๆ และจัดตั้งโรงเรียนเพาะช่างขึ้นเพื่อรองรับและเพาะขยายศิลปะและการช่าง ซึ่งต่อมาได้แตกออกไปเป็นโรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวายและคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในภายหลัง
- ริเริ่มการศึกษาด้านเกษตรกรรมโดยการจัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมแห่งแรก ขึ้นที่บริเวณหอวังหรือบ้านสวนหลวง สระปทุมเมื่อ พ.ศ. 2460 ได้จัดส่งนักเรียนทุนไปศึกษาเกษตรกรรมต่างประเทศและได้กลับมาเป็น “สามเสือเกษตร" เป็นฉายาที่เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี ใช้เรียกแทน บุคคลทั้ง 3 คือหลวงสุวรรณวาจกกสิกิจ หลวงอิงคศรีกสิการ และพระช่วงเกษตรศิลปการ ภายหลังท่านเหล่านี้ล้วนมีคุณูปการต่อวงการเกษตร
- ด้านการค้าได้ริเริ่มจัดตั้งโรงเรียนพาณิชยการขึ้นที่วัดมหาพฤฒารามวรวิหาร
ด้านการประพันธ์
นอกจากปราชญ์ด้านการศึกษาแล้ว เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีได้รับการยกย่องเป็นนักประพันธ์คนสำคัญท่านหนึ่งของประเทศไทย ท่านได้แต่งตำราและหนังสือเป็นจำนวนมากซึ่งมีทั้งความเรียงร้อยแก้ว และบทร้อยกรอง ซึ่งอาจแบ่งเป็นกลุ่มได้ดังนี้
- 1. แบบเรียน มีตั้งแต่แบบเรียนอนุบาล แบบเรียนวิชาครู ตรรกวิทยา เรขาคณิต พีชคณิต แบบสอนอ่านธรรมจริยา สุขาภิบาลสำหรับครอบครัว สมบัติผู้ดี และอื่น ๆ อีกมาก
- 3. บทความ ว่าด้วยการศึกษา จรรยา การสมาคม เศรษฐกิจและการเมือง และปรัชญา โดยใช้นามปากกาว่า “ครูเทพ” บ้าง “เขียวหวาน” บ้าง
- 4. ละครพูด แต่งขึ้นรวม 4 เรื่อง ได้แก่ บ๋อยใหม่ แม่ศรีครัว หมั้นไว้ และตาเงาะ
ด้านดนตรี
ได้เป็นผู้ประพันธ์ “เพลงกราวกีฬา” ในนาม “ครูเทพ” เพื่อจูงใจให้นักกีฬารู้จักการแพ้ชนะและรู้จักการให้อภัย ทั้งนี้สืบเนื่องจากการการรณรงค์ให้มีการออกกำลังกายและการแข่งขันกีฬาในโรงเรียนทั่วประเทศ รวมทั้งการริเริ่มให้มีการแข่งขันฟุตบอลซึ่งเป็นกีฬาที่รุนแรง ซึ่งในเวลาต่อมาที่มักเกิดการวิวาทกันอยู่เนือง ๆ
- หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อ พ.ศ. 2475 เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีได้เป็นผู้แต่งเนื้อร้องเพลงชาติโดยใช้ทำนองเพลงมหาฤกษ์มหาชัยเพื่อใช้เป็นเพลงประจำชาติชื่อ “เพลงชาติมหาชัย” อยู่ระยะหนึ่งก่อนที่จะเปลี่ยนใหม่โดยมีเนื้อร้องดังนี้
“สยามอยู่คู่ฟ้าอย่าสงสัย เพราะชาติไทยเป็นไทยไปทุกเมื่อ
ชาวสยามนำสยามเหมือนนำเรือ ผ่านแก่งเกาะเพราะเพื่อชาติพ้นภัย
เราร่วมใจร่วมรักสมัครหนุน วางธรรมนูญสถาปนาพาราใหม่
ยกสยามยิ่งยงธำรงชัย ให้คงไทยตราบสิ้นดินฟ้า”
ชีวิตครอบครัวและชีวิตในบั้นปลาย
เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีมีพี่น้องร่วมและต่างมารดาที่ได้ทำคุณประโยชน์แก่บ้านเมืองหลายท่านและหลายด้าน มีที่ทำคุณประโยชน์ด้านการศึกษาสองท่านคือ มหาอำมาตย์ตรี พระยาอนุกิจวิธูร (สันทัด เทพหัสดิน ณ อยุธยา) และ รวมทั้งผู้มีศักดิ์เป็นหลานแต่อ่อนอายุกว่าเพียงปีเดียว ที่ทำคุณประโยชน์ด้านการทหารคือ พลเอก พระยาเทพหัสดิน (ผาด เทพหัสดิน ณ อยุธยา) หัวหน้าคณะทูตทหารไทยที่เข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 1
ท่านได้สมรสกับท่านผู้หญิงถวิล ธิดาของมหาเสวกโท พระยาศรีภูริปรีชา (กมล สาลักษณ) กับคุณหญิงพึ่ง ศรีภูริปรีชา และมีภริยาอีก 4 คน มีบุตร-ธิดารวม 20 คน ได้อบรมสั่งสอนให้บุตร-ธิดาทุกคนให้มีความอดทนและมัธยัสถ์ สนับสนุนให้ทุกคนเรียนถึงชั้นสูงสุดเท่าที่มีความสามารถ และด้วยการมีส่วนผลักดันการศึกษาด้านการช่างและได้สนับสนุนให้มีการเปิดสอนวิชาสถาปัตยกรรมขึ้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ท่านจึงแนะนำให้บุตรี 2 คน สอบเข้าเรียนเป็นนิสิตรุ่นแรกในคณะนี้เป็นรุ่นแรกเพื่อแสดงให้เห็นว่าสตรีก็สามารถเป็นช่างได้
หลังจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีได้ถวายบังคมลาออกจากราชการเมื่อ พ.ศ. 2469 มาอยู่ที่บ้านพักตำบลนางเลิ้ง ถนนนครสวรรค์ กรุงเทพมหานคร และช่วยบุตรีคือ คุณไฉไลเปิดโรงเรียนสตรีจุลนาค และได้ช่วยสอนโดยวิธีใหม่ที่ท่านพยายามเผยแพร่ด้วย ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเขียนบทความ หนังสือและบทประพันธ์ต่าง ๆ รวมทั้งบทเพลงดังที่กล่าวมาแล้ว บ้านพักของท่านที่ถนนนครสวรรค์สร้างขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกับพระที่นั่งอนันตสมาคม แม้จะมีขนาดเล็กและเรียบง่ายแต่ก็มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมแบบยุโรปที่เป็นที่นิยมในสมัยนั้น
บุตร-ธิดา
- ไฉไล เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตครูใหญ่โรงเรียนสตรีจุลนาคและผู้อุปถัมภ์มูลนิธิเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2538
- ธารี เทพหัสดิน ณ อยุธยา
- ยาหยี สาวนายน สมรสกับ เล็ก สาวนายน โดยมีบุตรคือ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
- กำธร เทพหัสดิน ณ อยุธยา สมรสกับ สายสวาสดิ์ ธรรมสโรช มีบุตรีคือ ผกาวดี เทพหัสดิน ณ อยุธยา (ภายหลังเปลี่ยนเป็นอุตตโมทย์) เป็นผู้ประพันธ์ “ครูไหวใจร้าย” และผู้ก่อตั้งสำนักพิมพ์ผีเสื้อ
แม้น เทพหัสดิน ณ อยุธยา
- ปรียา ฉิมโฉม สมรสกับ สนิท ฉิมโฉม
อสัญกรรม
เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคหัวใจวายเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2486 ที่บ้านพัก ณ ถนนนครสวรรค์ จังหวัดพระนคร[]
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเขียนไว้ใน สาส์นสมเด็จ ว่า สาเหตุที่เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีหัวใจวาย คือ กิน "ยาฝรั่ง" มากเกินไป
บรรดาศักดิ์
- 21 กันยายน พ.ศ. 2446 ได้รับบรรดาศักดิ์เป็น พระไพศาลศิลปศาสตร์ ถือศักดินา 800
- 6 มกราคม พ.ศ. 2452 ได้รับบรรดาศักดิ์เป็น พระยาไพศาลศิลปศาสตร ถือศักดินา 1000
- 4 มิถุนายน พ.ศ. 2454 ได้รับบรรดาศักดิ์เป็น พระยาธรรมศักดิ์มนตรี สรรพศึกษาวิธียุโรปการ
- 31 ธันวาคม พ.ศ. 2460 ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ ตามที่จารึกในหิรัญบัตร ว่า เจ้าพระยาธรรมศักดิมนตรี ศรีสาสนวโรปกร สุนทรธรรมจริยานุวาท พิศาสศิลปศาสตร์ศึกษาธิการโกศล พิมลพงศ์เทพหัสดิน บรมนรินทรรามาธิราชสวามิภักดิ์ เสมาธรรมจักรมุรธาธร ราชกิจจานุสรสุทธสมาจาร ไตรรัตนสรณาลังการเมตตาชวาธยศรัย อภัยพิริยบรากรมพาหุ ศักดินา 10000 เมื่ออายุได้เพียง 41 ปี
ยศ
ยศกรมมหาดเล็ก
- จางวางเอก
ยศกองเสือป่า
- – นายหมู่โท
- 3 มกราคม 2456 – นายหมู่ใหญ่
- นายกองตรี
- นายกองโท
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
ธรรมเนียมยศของ เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี | |
---|---|
การเรียน | ใต้เท้ากรุณา |
การแทนตน | เกล้ากระหม่อม/ดิฉัน |
การขานรับ | ขอรับกระผม/เจ้าค่ะ |
- พ.ศ. 2459 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์รัตนวราภรณ์ (ร.ว.) (ฝ่ายหน้า)
- พ.ศ. 2460 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 1 ปฐมจุลจอมเกล้า (ป.จ.) (ฝ่ายหน้า)
- พ.ศ. 2459 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)
- พ.ศ. 2455 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์วชิรมาลา (ว.ม.ล.)
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.)
- พ.ศ. ไม่ปรากฎ – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 5 ชั้นที่ 3 (จ.ป.ร.3)
- พ.ศ. 2461 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 6 ชั้นที่ 2 (ว.ป.ร.2)
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 7 ชั้นที่ 2 (ป.ป.ร.2)
ลำดับสาแหรก
ลำดับสาแหรกของเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
เชิงอรรถ
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดชั่วคราว ตั้งแต่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2475 – 9 ธันวาคม พ.ศ. 2476
อ้างอิง
- ประกาศการแต่งตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2
- พระราชทานสัญญาบัตรขุนนาง (หน้า 352)
- พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งตำแหน่งรองเสนาบดีและผู้รั้งปลัดทูลฉลองกระทรวงธรรมการ (หน้า 102)
- กรมศิลปากร (ผู้รวบรวม). (2503). สาสน์สมเด็จ ลายพระหัตถ์สมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ และสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ (ภาคที่ 55). พระนคร: โรงพิมพ์รุ่งเรืองธรรม. (พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพคุณแม่เต็ม ชวลิตธำรง ณ ฌาปนสถานวัดหัวลำโพง 28 เมษายน 2503). หน้า 29.
- พระราชทานสัญญาบัตรขุนนาง
- พระราชทานสัญญาบัตรขุนนาง (หน้า 2312)
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศตั้งเจ้าพระยา, 3 มกราคม 2460, หน้า 511-7
- ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานยศ, เล่ม ๓๓ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๑๙๓๔, ๒๙ ตุลาคม ๒๔๕๙
- เลื่อนและตั้งยศนายกองนายหมู่เสือป่า
- พระราชทานยศเสือป่า (หน้า 3328)
- "พระราชทานตรารัตนวราภรณ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 33: 1929. 29 ตุลาคม 2459. สืบค้นเมื่อ 24 มกราคม 2564.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "พระราชทานตราจุลจอมเกล้า" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 34: 3173. 27 มกราคม 2460. สืบค้นเมื่อ 24 มกราคม 2564.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 33: 1837. 22 ตุลาคม 2459. สืบค้นเมื่อ 24 มกราคม 2564.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - พระราชทานตราวชิรมาลา
- "พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 25: 3015. 2 กุมภาพันธ์ 2461. สืบค้นเมื่อ 24 มกราคม 2564.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help))
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniyngtxngkarephimaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxngkhunsamarthphthnabthkhwamniidodyephimaehlngxangxingtamsmkhwr enuxhathikhadaehlngxangxingxacthuklbxxk haaehlngkhxmul ecaphrayathrrmskdimntri snn ethphhsdin n xyuthya khaw hnngsuxphimph hnngsux skxlar JSTOR eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir mhaxamatyexk ecaphrayathrrmskdimntri namedim snn ethphhsdin n xyuthya 1 mkrakhm ph s 2419 1 kumphaphnth ph s 2486 nampakka khruethph epnkhunnangchawithy ekhyepnesnabdikrathrwngthrrmkar aelaepnprathansphaphuaethnrasdrkhnaerk phuwangrakthankarsuksakhnphunthanaelaxachiwsuksa thngidrwmdariihkxtngmhawithyalyaehngaerkkhxngpraeths khux culalngkrnmhawithyaly aelaorngeriynchangkxsrangaehngaerkkhxngpraethsithy khux orngeriynchangkxsrangxuethnthway aelayngepnphuaeplktikafutbxlmaephyaephrinpraethsithy nxkcakni yngepnnkpraphnth nganpraphntheluxngchux khux ephlngkrawkila aelaephlngchatiithychbbkxnpccubnmhaxamatyexkecaphrayathrrmskdimntri snn ethphhsdin n xyuthya r w p c p ch p m w m l prathanrthsphaithy aela prathansphaphuaethnrasdrdarngtaaehnng 28 mithunayn ph s 2475 1 knyayn ph s 2475kstriyphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhwkxnhnasthapnataaehnngthdipecaphrayaphichyyatidarngtaaehnng 15 thnwakhm ph s 2476 26 kumphaphnth ph s 2477kstriyphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhwkxnhnaecaphrayaphichyyatithdipphrayasryuththesnirthmntriwakarkrathrwngthrrmkardarngtaaehnng 10 thnwakhm ph s 2475 16 thnwakhm ph s 2476naykrthmntriphrayamonpkrnnitithada phrayaphhlphlphyuhesnakxnhnatnexng inthana esnabdi thdipphrayaphhlphlphyuhesnaesnabdikrathrwngthrrmkardarngtaaehnng 19 emsayn ph s 2459 3 singhakhm ph s 2469kstriyphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw phrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhwkxnhnaecaphrayaphraesdcsuernthrathibdi hmxmrachwngsepiy malakul thdipphrawrwngsethx phraxngkhecathaniniwtdarngtaaehnng 1 knyayn ph s 2475 10 thnwakhm ph s 2475kstriyphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhwkxnhnaphrawrwngsethx phraxngkhecathaniniwtthdiptnexng inthana rthmntri smachiksphaphuaethnrasdr aebbpraephththi 2darngtaaehnng 9 thnwakhm ph s 2476 26 kumphaphnth ph s 2477khxmulswnbukhkhlekidsnn 1 mkrakhm ph s 2419 cnghwdphrankhr praethssyamesiychiwit1 kumphaphnth ph s 2486 67 pi cnghwdphrankhr praethsithysasnaphuththkhusmrsthwil salksnbutr18 khn rwmthungpriya chimochmbuphkariphrayaichysurinthr hmxmhlwngeciym ethphhsdin bida khunhyingichysurinthr xyu ethphhsdin n xyuthya marda pthmwyaelakarsuksaecaphrayathrrmskdimntri ekidthibanhlngsalecahwemd cnghwdphrankhr emuxwnthi 1 mkrakhm 2419 nbaebbpccubnkhuxpi 2420 txngkarxangxing trngkbwncnthr eduxnyi aerm 2 kha pichwdepnbutrkhnthi 18 cakbutr thida 32 khnkhxng kbkhunhyingxyu ichysurinthr odyphrayaichysurinthr hmxmhlwngeciym ethphhsdin subsaytrakulcak oxrshmxmecachim insmedcphrasmphnthwngsethx ecafakrmhlwngethphhrirks emuxxayuid 8 khwb thanbidakthungaekxnickrrm chiwitkhxngthancungphkphncakkarepnkhrxbkhrwkhnchnsung cakkarepnbutrkhunnangchnphuihy phrayaichysurinthrdarngtaaehnngecakrmphrakhlngkhangthiintnrchkalthi 5 txngmachwymardathaswn khakhayaelarbcangeybrngdumtngaetyngedk khwamyaklabakthaihthanmikhwamxdthnimthxthxyaelamixupnisyxxnoyn mthysth sungepnsingekuxhnunihthanmikhwamecriyrungeruxnginkarsuksaaelakarthangan karsuksa erimkarsuksathiorngeriynwdbphitrphimukh phratahnkswnkuhlab aelaorngeriynsunnthaly aelwekhasuksatx n orngeriynfukhdxacaryrahwangpi ph s 2435 2437 idrbprakasniybtrkhru aelasxbilidepnthi 1 khxngphusaercwichakhruchudaerkaelathahnathisxnpraman 2 pi ph s 2431 emuxxayu 12 pi ekhaeriynpraoykhhnungthiorngeriynbphitrphimukh miphramhahnxhruxkhunxnukicwithur nxy cullithur epnkhrukhnaerk ph s 2432 cbpraoykhsxng orngeriynphratahnkswnkuhlabemuxxayu 12 pi ph s 2435 cbpraoykhmthymsuksachn 5 phasaxngkvshlksutrhlwngorngeriyntwxyangsunnthalyekhaaelwsuksainorngeriynfukhdxacarythiphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwoprdeklaihtng odyepnnkeriynrunaerkephiyng 3 khn sxbprakasniybtrkhrurunaerkkhxngkrmsuksathikaridxndbthi 1 emuxxayu 16 pi aelwthahnathiepnnkeriynsxninkrmsuksathikar ph s 2437 epnphuchwyxacaryihyorngeriynfukhdxacary ph s 2439 emuxwnthi 4 phvsphakhm cungidepnnkeriynthunhlwngkrathrwngthrrmkaripsuksawichakhrutxthipraethsxngkvs n withyalyfukhdkhruebxorord Borough Road College n emuxngixslewisth Isleworth thangitkhxngkrunglxndxn phayitkarduaelkhxngesxr orebirt mxaern cbaelwidedinthangipdungandankarsuksathipraethsxinediyaelaphmaepnewla 3 eduxnchiwitkarthanganaelaphlnganecaphrayathrrmskdimntriinwythanganph s 2441 cbkarsuksaaelakardunganklbmaxupsmbthinphraphuththsasna 1 phrrsa odymiody phrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhwoprdeklaihepnnakhhlwng xupsmbth n wdphrasrirtnsasdaram caphrrsa n wdbwrniewsrachwrwihar mismedcphramhasmneca krmphrayawchiryanworrs thrngepnxupchchay ph s 2442 klbekharbrachkarkrathrwngthrrmkaremuxwnthi 9 mkrakhm odyepnkhrusxnwichakhruaelakhanwnwithiinorngeriynfukhdxacary kxnepnphnknganaetngaebberiynpracasalawakarkrmsuksathikar 9 knyayn ph s 2442 ph s 2443 inpccubn idrbphrarachthanbrrdaskdiepn hlwngiphsalsilpsastr thuxskdina 800 rbhnathiepnepnphuchwyhwhnakxngtrwckrmsuksathikaraelathahnathisxninkhnaediywkn ph s 2444 cdihmikaraekhngkhnfutbxlrahwangorngeriynpraephthxayuimekin 20 piepnkhrngaerkthisnamhlwng orngeriynchnaeliscaidrboliwkhrxbkhrxngepnewlahnungpi aelakarcarukchuxbnolepnekiyrtiprawti eriykwa karaekhngkhnfutbxlchingolkhxngkrathrwngthrrmkar ph s 2445 edinthangipdungankarsuksa n praethsyipun odymiphurwmedinthanginkhrngnnkhux khunxnukicwithur snthd ethphhsdin n xyuthya aelaphrachanibrrnakhm xxn saributr odyichewladungan 72 wn aelainoxkasni idkhxyefarbesdcniwtipraethssyamkhxngsmedcphrabrmoxrsathirach syammkudrachkumar phrabathsmedcphramngkuteklaecaxyuhw sungsaerckarsuksacakpraethsxngkvsaelwph s 2453 r 6 thrngphrakrunaoprdekla ihekhaefathullaxxngthuliphrabath n phrathinngckrimhaprasath emuxwnthi 28 thnwakhm r s 129 ephuxrbkraaesphrarachdarieruxngkarwangaenwthangkarcdkarsuksakhxngchatiodymiphrarachdariwa khwamecriyaehngpraethsbanemuxnginsmytxipnithicaepn pukaephnaennhnaidaethcring kdwyxasrysilpwithyaepnthitnghruxepnrakehngaekhamulcungmiphrarachprasngkhcathrngthanubarungkarsuksakhxngchatibanemuxngihrungeruxngthnekhaxun karcdtngorngeriynmhadelkhlwngaelwesrcepidsxnemuxwnthi 29 thnwakhm4 mithunayn ph s 2454 rngtaaehnngpldthulchlxng krathrwngthrrmkaraelaepn phrayathrrmskdimntri ph s 2457 rngtaaehnngphubychakarorngeriynkharachkarphleruxnemuxwnthi 15 krkdakhm xiktaaehnnghnung ekhiynbthkhwamaesdngkhwamkhidehnin hnngsuxphimphlxmrw ph s 2457 esnxihcdtngmhawithyalyodyichthidinrahwangsnammakbthnnphyaithaelathnnphyaiththungkhlxngswnhlwng swnhnungkhxngbthkhwam mhawithyalyepnxaphrnsahrbmhankhrthirungeruxngaelw mhankhridmimhawithyalythikhunchuxesiyngsmcaxwdid kyxmepnekhruxngechidchuekiyrtikhunkhxngmhankhrnn kyxmidchuxesiyngpraktkhwamrungeruxngaephiphsalipinthisthngpwngdwy ph s 2459 idepnesnabdikrathrwngthrrmkar idrbphrarachthanysepn cangwangoth aela cangwangexk inpiediywkninpiediywknni idmiphrarachhtthelkhaphrarachthanecaphrayathrrmskdimntriwa thungphrayathrrmskdimntri idrbhnngsuxlngwnthi 21 eduxnni havieruxngcarwmorngeriynkharachkarphleruxnkborngeriynaephthyaly khunepnmhawithyaly aelabrrcutaaehnngnathithangkrathrwngthrrmkarnnthrabaelw tamkhwamehnthichiaecngmann ehnchxbdwyaelwihcdkariptamni ph s 2464 rbphrabrmrachoxngkarthacdhmaythungmulnithirxkkieflelxr ihmachwyprbprungkarsuksaaephthy odymulnithi sngnayaephthy richard exm ephiyrs prathankrrmkarfayaephthysastrsuksaekhamadukickarkhxngkarsuksaaephthyinpraethssyamaelaidkrabthulechiysmedcphraecanxngyaethx ecafamhidlxdulyedch krmkhunsngkhlankhrinthr thrngrbepnphuaethnfayithyinpiediywknni idmikarprakasichphrarachbyytiprathmsuksachbbaerkkhxngpraethsph s 2468 aetngephlngkrawkilaph s 2469 laxxkcakrachkarephuxrbbaehncbanaymachwysxninorngeriynstriculnakhsungkhunichil ethphhsdin n xyuthya butrilaxxkcakkhruorngeriynrachiniaelaorngeriynwchirawuthmacdtngkhunthibanhlanhlwngph s 2475 epnprathansphaphuaethnrasdrkhnaerkinrabxbprachathipityrahwangwnthi 28 mithunayn 1 knyayn aelatxmaidrbkaraetngtngihipepnrthmntriwakarkrathrwngsuksathikarrahwangwnthi 1 knyayn 27 thnwakhmph s 2476 rthsphamimtieluxkklbipepnprathansphaphuaethnrasdrxikkhrnghnungemuxwnthi 15 thnwakhm aelakhxlaxxkemuxwnthi 6 eduxnkumphaphnth enuxngcakehnwaehtukarninrayannimxacrksakhwamepnprachathipitytamkhrrlxngthithankhidwakhwrepniwid cunglaxxkmaphkphxnxyukbbancnkrathngwarasudthaykhxngchiwitph s 2477 kxtngorngeriynchangkxsrangxuethnthway aelaorngeriynfukhdkhruprathmksikrrmaemoc echiyngihm daeninkarinrahwangepnrthmntriwakarkrathrwngsuksathikar ph s 2476 ngandankarsuksaecaphrayathrrmskdimntriidprakxbkickarthangkarsuksaxnepnkhunupkariwaekpraethsiwmakmay odyechphaainkarwangrakthanxyangsmyihm erimtngaetkarepnkhru phutrwckarsuksa epnecakrmrachbnthit ecakrmtrwc cnthungesnabdi odyerimnaexakhwamruaephnihmekhamainwngkarkhru erimphthnadanphuththisuksaxyangcringcng ekhiyntara erimtngaetdansukhaphibalaelasahrbkhrxbkhrw rwmthngenndanplukfngthrrmcrryaxyangaethcring xbrmsngsxnihkhnmikhunthrrmaelacrryamrryath cdthaaebbsxn xan ekhiyndanthrrmcriyakhunichinorngeriynthwpraeths naphlsuksaaelakarkilaekhamainorngeriynephuxsranglksnanisyiheyawchnruckruaeph ruchna ruckxphysungknaelakn ecaphrayathrrmskdimntriidcdihmikarsuksaphakhbngkhb ephuxihprachachnidrbkarsuksathwthungknodythanechuxwa emuxihmwlchnidrbkarsuksaxyangkwangkhwangaelw bukhkhlthimikhwamsamarthkcapraktkhunmaihehnexng idcdtngorngeriynkhunthwpraethsrwmthngorngeriynprachabalephuxrxngrbkarcdkarsuksaphakhbngkhb mikarerimngandan khux naexawichaxachiphtang ekhamasxninorngeriyn ephuxihprachachnthwipidrbthngdanwichakhwamruephuxiprbrachkar aelathangdanwichachiphsahrbphuthitxngkarnaipprakxbxachiphthwip phlngankhxngecaphrayathrrmskdimntri xacsrupepnkhx iddngni nawithikarcdkarsuksakhxngtangpraeths thnginyuorpaelaexechiybangpraethsmaichepnaenwthanginkarcdkarsuksakhxngpraethsithy epnkrrmkarorngeriynkharachkarphleruxn epnphubychakarorngeriyncnkrathngidrbkarsthapnaepnculalngkrnmhawithyaly epnkrrmkarcdkarorngeriynmhadelkhlwng epnphutrwckarlukesuxmnthlkrungethph khnaerk epnphudaeninkarephuxihidmikarprakasich ph s 2461 epnphudaeninkarephuxhidmikarprakasich ph s 2464 rierimihmikarfukhdelnfutbxlinorngeriynaelaihmikaraekhngkhnfutbxlrahwangorngeriyn tng epnphubrryaywichakhruaelawithisxnthismakhmaelathiorngeriynfukhdxacaryaelaerimxxkhnngsux withyacary rierimsngesrimwichachangaelahtthkrrmephuxsngesrimihehnkhwamsakhykhxngkarchangsakhatang aelacdtngorngeriynephaachangkhunephuxrxngrbaelaephaakhyaysilpaaelakarchang sungtxmaidaetkxxkipepnorngeriynchangkxsrangxuethnthwayaelakhnasthaptykrrmsastr culalngkrnmhawithyalyinphayhlng rierimkarsuksadanekstrkrrmodykarcdtngorngeriynfukhdkhruprathmksikrrmaehngaerk khunthibriewnhxwnghruxbanswnhlwng srapthumemux ph s 2460 idcdsngnkeriynthunipsuksaekstrkrrmtangpraethsaelaidklbmaepn samesuxekstr epnchayathiecaphrayathrrmskdimntri icheriykaethn bukhkhlthng 3 khuxhlwngsuwrrnwackksikic hlwngxingkhsriksikar aelaphrachwngekstrsilpkar phayhlngthanehlanilwnmikhunupkartxwngkarekstr dankarkhaidrierimcdtngorngeriynphanichykarkhunthiwdmhaphvtharamwrwihardankarpraphnthnxkcakprachydankarsuksaaelw ecaphrayathrrmskdimntriidrbkarykyxngepnnkpraphnthkhnsakhythanhnungkhxngpraethsithy thanidaetngtaraaelahnngsuxepncanwnmaksungmithngkhwameriyngrxyaekw aelabthrxykrxng sungxacaebngepnklumiddngni 1 aebberiyn mitngaetaebberiynxnubal aebberiynwichakhru trrkwithya erkhakhnit phichkhnit aebbsxnxanthrrmcriya sukhaphibalsahrbkhrxbkhrw smbtiphudi aelaxun xikmak2 okhlng klxn aetngiwepncanwnmak aelaidrbkarrwbrwmtiphimphepnhnngsuxchux okhlngklxnkhxngkhruethph 3 bthkhwam wadwykarsuksa crrya karsmakhm esrsthkicaelakaremuxng aelaprchya odyichnampakkawa khruethph bang ekhiywhwan bang4 lakhrphud aetngkhunrwm 4 eruxng idaek bxyihm aemsrikhrw hmniw aelataengaadandntriidepnphupraphnth ephlngkrawkila innam khruethph ephuxcungicihnkkilaruckkaraephchnaaelaruckkarihxphy thngnisubenuxngcakkarkarrnrngkhihmikarxxkkalngkayaelakaraekhngkhnkilainorngeriynthwpraeths rwmthngkarrierimihmikaraekhngkhnfutbxlsungepnkilathirunaerng sunginewlatxmathimkekidkarwiwathknxyuenuxng hlngkarepliynaeplngkarpkkhrxngemux ph s 2475 ecaphrayathrrmskdimntriidepnphuaetngenuxrxngephlngchatiodyichthanxngephlngmhavksmhachyephuxichepnephlngpracachatichux ephlngchatimhachy xyurayahnungkxnthicaepliynihmodymienuxrxngdngni syamxyukhufaxyasngsy ephraachatiithyepnithyipthukemux chawsyamnasyamehmuxnnaerux phanaekngekaaephraaephuxchatiphnphy erarwmicrwmrksmkhrhnun wangthrrmnuysthapnapharaihm yksyamyingyngtharngchy ihkhngithytrabsindinfa nxkcakniecaphrayathrrmskdimntriyngidaetngephlngchux khidthung emux ph s 2477 bnthukesiyngkhrngaerk ph s 2494 odyechla prasbsastr chiwitkhrxbkhrwaelachiwitinbnplayecaphrayathrrmskdimntrimiphinxngrwmaelatangmardathiidthakhunpraoychnaekbanemuxnghlaythanaelahlaydan mithithakhunpraoychndankarsuksasxngthankhux mhaxamatytri phrayaxnukicwithur snthd ethphhsdin n xyuthya aela rwmthngphumiskdiepnhlanaetxxnxayukwaephiyngpiediyw thithakhunpraoychndankarthharkhux phlexk phrayaethphhsdin phad ethphhsdin n xyuthya hwhnakhnathutthharithythiekharwmrbinsngkhramolkkhrngthi 1 thanidsmrskbthanphuhyingthwil thidakhxngmhaeswkoth phrayasriphuripricha kml salksn kbkhunhyingphung sriphuripricha aelamiphriyaxik 4 khn mibutr thidarwm 20 khn idxbrmsngsxnihbutr thidathukkhnihmikhwamxdthnaelamthysth snbsnunihthukkhneriynthungchnsungsudethathimikhwamsamarth aeladwykarmiswnphlkdnkarsuksadankarchangaelaidsnbsnunihmikarepidsxnwichasthaptykrrmkhunthiculalngkrnmhawithyaly thancungaenanaihbutri 2 khn sxbekhaeriynepnnisitrunaerkinkhnaniepnrunaerkephuxaesdngihehnwastriksamarthepnchangid orngeriynstriculnakh khwamuxinrup aelabanecaphrayathrrmskdimntri say hlngcakphrabathsmedcphramngkuteklaecaxyuhwesdcswrrkht ecaphrayathrrmskdimntriidthwaybngkhmlaxxkcakrachkaremux ph s 2469 maxyuthibanphktablnangeling thnnnkhrswrrkh krungethphmhankhr aelachwybutrikhux khunichilepidorngeriynstriculnakh aelaidchwysxnodywithiihmthithanphyayamephyaephrdwy ichewlaswnihyinkarekhiynbthkhwam hnngsuxaelabthpraphnthtang rwmthngbthephlngdngthiklawmaaelw banphkkhxngthanthithnnnkhrswrrkhsrangkhuninewlaileliykbphrathinngxnntsmakhm aemcamikhnadelkaelaeriybngayaetkmirupaebbthangsthaptykrrmaebbyuorpthiepnthiniyminsmynn butr thida ichil ethphhsdin n xyuthya xditkhruihyorngeriynstriculnakhaelaphuxupthmphmulnithiecaphrayathrrmskdimntri emuxwnthi 21 phvscikayn 2538 thari ethphhsdin n xyuthya yahyi sawnayn smrskb elk sawnayn odymibutrkhux nayxuttm sawnayn rthmntriwakarkrathrwngkarkhlng kathr ethphhsdin n xyuthya smrskb sayswasdi thrrmsorch mibutrikhux phkawdi ethphhsdin n xyuthya phayhlngepliynepnxuttomthy epnphupraphnth khruihwicray aelaphukxtngsankphimphphiesuxaemn ethphhsdin n xyuthya priya chimochm smrskb snith chimochmxsykrrmoksecaphrayathrrmskdi tng n banphkthithnnnkhrswrrkh ecaphrayathrrmskdimntrithungaekxsykrrmdwyorkhhwicwayemuxwnthi 1 kumphaphnth ph s 2486 thibanphk n thnnnkhrswrrkh cnghwdphrankhr txngkarxangxing smedcphraecabrmwngsethx krmphrayadarngrachanuphaph thrngekhiyniwin sasnsmedc wa saehtuthiecaphrayathrrmskdimntrihwicway khux kin yafrng makekinipbrrdaskdi21 knyayn ph s 2446 idrbbrrdaskdiepn phraiphsalsilpsastr thuxskdina 800 6 mkrakhm ph s 2452 idrbbrrdaskdiepn phrayaiphsalsilpsastr thuxskdina 1000 4 mithunayn ph s 2454 idrbbrrdaskdiepn phrayathrrmskdimntri srrphsuksawithiyuorpkar 31 thnwakhm ph s 2460 idrbphrarachthanbrrdaskdi tamthicarukinhirybtr wa ecaphrayathrrmskdimntri srisasnworpkr sunthrthrrmcriyanuwath phisassilpsastrsuksathikaroksl phimlphngsethphhsdin brmnrinthrramathirachswamiphkdi esmathrrmckrmurthathr rachkiccanusrsuththsmacar itrrtnsrnalngkaremttachwathysry xphyphiriybrakrmphahu skdina 10000 emuxxayuidephiyng 41 piysyskrmmhadelk cangwangexkyskxngesuxpa nayhmuoth 3 mkrakhm 2456 nayhmuihy naykxngtri naykxngothekhruxngrachxisriyaphrnthrrmeniymyskhxng ecaphrayathrrmskdimntrikareriynitethakrunakaraethntneklakrahmxm dichnkarkhanrbkhxrbkraphm ecakhaph s 2459 ekhruxngrachxisriyaphrnrtnwraphrn r w fayhna ph s 2460 ekhruxngrachxisriyaphrnculcxmekla chnthi 1 pthmculcxmekla p c fayhna ph s 2459 ekhruxngrachxisriyaphrnxnepnthiechidchuyingchangephuxk chnthi 1 prathmaphrnchangephuxk p ch ph s 2455 ekhruxngrachxisriyaphrnwchirmala w m l ph s imprakt ekhruxngrachxisriyaphrnxnmiekiyrtiysyingmngkudithy chnthi 1 prathmaphrnmngkudithy p m ph s imprakd ehriyyrtnaphrn rchkalthi 5 chnthi 3 c p r 3 ph s 2461 ehriyyrtnaphrn rchkalthi 6 chnthi 2 w p r 2 ph s imprakt ehriyyrtnaphrn rchkalthi 7 chnthi 2 p p r 2 ladbsaaehrkladbsaaehrkkhxngecaphrayathrrmskdimntri snn ethphhsdin n xyuthya 16 smedcphrasmphnthwngsethx ecafakrmhlwngethphhrirks 8 hmxmecachim ethphhsdin 4 phrayarachphkdi hmxmrachwngschang ethphhsdin 2 phrayaichysurinthr hmxmhlwngeciym ethphhsdin 1 ecaphrayathrrmskdimntri snn ethphhsdin n xyuthya 3 khunhyingxyu ichysurinthr echingxrrthsmachiksphaphuaethnrasdrchudchwkhraw tngaet 28 mithunayn ph s 2475 9 thnwakhm ph s 2476xangxingwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb ecaphrayathrrmskdimntri snn ethphhsdin n xyuthya prakaskaraetngtngsmachiksphaphuaethnrasdrpraephththi 2 phrarachthansyyabtrkhunnang hna 352 phrabrmrachoxngkar prakas tngtaaehnngrxngesnabdiaelaphurngpldthulchlxngkrathrwngthrrmkar hna 102 krmsilpakr phurwbrwm 2503 sasnsmedc layphrahtthsmedcecafa krmphrayanrisranuwdtiwngs aelasmedckrmphrayadarngrachanuphaph phakhthi 55 phrankhr orngphimphrungeruxngthrrm phimphepnxnusrninnganchapnkicsphkhunaemetm chwlittharng n chapnsthanwdhwlaophng 28 emsayn 2503 hna 29 phrarachthansyyabtrkhunnang phrarachthansyyabtrkhunnang hna 2312 rachkiccanuebksa prakastngecaphraya 3 mkrakhm 2460 hna 511 7 rachkiccanuebksa phrarachthanys elm 33 txnthi 0 ng hna 1934 29 tulakhm 2459 eluxnaelatngysnaykxngnayhmuesuxpa phrarachthanysesuxpa hna 3328 phrarachthantrartnwraphrn PDF rachkiccanuebksa 33 1929 29 tulakhm 2459 subkhnemux 24 mkrakhm 2564 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a trwcsxbkhawnthiin accessdate help phrarachthantraculcxmekla PDF rachkiccanuebksa 34 3173 27 mkrakhm 2460 subkhnemux 24 mkrakhm 2564 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a trwcsxbkhawnthiin accessdate help phrarachthanekhruxngrachxisriyaphrn PDF rachkiccanuebksa 33 1837 22 tulakhm 2459 subkhnemux 24 mkrakhm 2564 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a trwcsxbkhawnthiin accessdate help phrarachthantrawchirmala phrarachthanehriyyrtnaphrn PDF rachkiccanuebksa 25 3015 2 kumphaphnth 2461 subkhnemux 24 mkrakhm 2564 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a trwcsxbkhawnthiin accessdate help